สวัสดีคร้าบบบบ FC ทุกท่าน วันนี้มาต่อให้แล้วค้าบบบ ช่วงนี้น้ำท่วมดูแลตัวเองกันให้ดีๆ นะคับบบบ สู้ๆๆ น้า
tawan : ฮ่าๆๆ มาต่อให้แล้วคร้าบบบบ
เฉาก๊วย : นั่นซิ เจ็บทั้งส่วนล่างและส่วนบนเลยอะ อิอิ
ChiOln : หึงเว่อร์มากๆ ครับ น่ากลัวเลยอะ
โจ๊กกุ้ง : เป๊บเป็นคนใจร้อนอะครับ แต่เดี๋ยวนี้อายุมากเกิน เบาๆ ลงแล้วละ อิอิ
ปาย : ฮ่าๆๆๆ มาต่อให้แล้วครับบบบบ
maruko : ได้สองแผลพร้อมกันเลยง่า มามะ...กอดๆๆๆๆ อิอิ
bbyuqin : ฮ่าๆๆ มาต่อให้ไม่ค้างแล้วค้าบบบบบ
aofaof : มาต่อแล้วคร้าบบบบ
anukul : ใช่ค้าบ น่ากลัวมากๆๆ เวลาเป๊บโมโห ไม่อยากเข้าใกล้เลยอะ ขอบคุณที่รอนะค้าบบบ
ao16 : ค้าบหึงโหดมากกกก
yeyong : ใช่ค้าบบบ คุมไม่ได้เลยอะ แต่ตอนนี้คุมอยู่หมัดแล้วค้าบบบ อิอิ
hunnanoii : ขอบคุณคร้าบบบบ
malula : ฮ่าๆๆๆ ถึงได้เล่าตอนแรกๆ ว่าคิงคองไงค้าบบบ รอดตายมาแล้วคร้าบบบบ
ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะค้าบบบ อ่านแล้วเม้นๆ ให้กำลังใจบ้างน้าาาาาา
Chapter 31 เกาะเสม็ดเสร็จทุกรายภาค 3.2 (เจ็บตัวและเจ็บใจ)“โอ๊ยยยยยยยยย....”
ร่างกายของผมปลิวไปตามแรงเหวี่ยงของเป๊บ จนหน้าผากไปโขกกับขอบเตียง ด้วยการโขกที่แรงมาก ทำให้ผมมึนๆ เอามือแตะที่หน้าผากเลือดไหลออกมาเต็มเลยละครับ
ในช่วงจังหวะนั่นเอง ประตูห้องก็เปิดเข้ามาพอดี คนแรกที่ก้าวเข้ามาในห้องคือ ฉัตรครับ
“เฮ้ยพวกเมิงทะเลาะอะไร....ว้ายยยยยยยยย อีโจ้วววววววววว เมิงเป็นอะไรเนี่ยยยย” คือฉัตรอ้าปากถามเป๊บเพราะเสียงทะเลาะที่ดังมากๆ จนพนักงานของโรงแรมเห็นสถานการณ์ไม่ดีเลยไปตามพวกเพื่อนๆ ครับ แต่พอฉัตรกับพวกเพื่อนๆมาถึง ก็เจอผมทรุดนั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับเลือดไหลออกมาเต็มมือ
“เฮ้ยยยย...โจ้.....ไอ้เหี้ยเป๊บ เมิงทำอะไรโจ้มันเนี่ย” เบิดวิ่งปรี่ตามฉัตรมา พร้อมกับถามและหันไปมองเป๊บ
เป๊บไม่ตอบคำถามครับ วิ่งปรี่มาที่ผมนั่งทรุดเร็วมาก พร้อมกับสีหน้าที่ซีดเหมือนไก่ต้มเลยอะครับ
“โจ้...โจ้..ปะ...เป๊บ...ไม่ได้ตั้งใจนะ” เป๊บพูดด้วยเสียงสั่นๆ ครับ พร้อมกับโอบกอดผม
“อะไรของเมิงเนี่ยไอ้เหี้ยเป๊บ...อีโอ๊ตเมิงไปบอกพวกพนักงานให้ตามหมอมา...อีทรายเมิงไปหาทิชชู่มา...ไป๊...” ฉัตรตะโกนสั่งด้วยเสียงที่ดังแบบฉุนเฉียวมากๆ จนโอ๊ตกับทรายกุลีกุจอไม่ทันเลยละครับ
“โจ้...เป๊บ..ขอโทษ..ฮึกๆๆ..เป๊บขอโทษษษษษ” เป๊บตกใจจนตัวสั่นครับ พร้อมกับกอดผมและบอกขอโทษไม่ขาดปาก
ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากผมเลยละครับ ณ เวลานั้น ตอนนั้น ผมรู้สึกแย่และก็เสียใจมากๆ เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ เจ็บกายยังทนได้ แต่เจ็บใจที่เป๊บไม่เชื่อใจ บวกกับ เป๊บหยาบคายกับผมครั้งแรกด้วยครับ
ด้วยอาการกระแทกที่ศรีษะบริเวณหน้าผากกับเลือดที่ไหลออกมาเยอะพอสมควร ผมรู้สึกมึนๆ และในที่สุดก็หมดสติไปครับ
ไม่รู้ว่านอนหมดสติไปนานแค่ไหน มารู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินบทสนทนาที่เป๊บกับเพื่อนๆ คุยกันครับ ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าผมฟื้นขึ้นมาแล้ว แอบฟังซะเลย ฮิฮิ
“ไอ้ควายเอ้ยยยย...เมิงคิดได้ยังไงวะอีบ้า คนอย่างอีโจ้มันจะนอกใจเมิงไปทำไม” เสียงแรกที่ได้ยินคือเสียงฉัตรครับ
“ก็...กรูหึงนี่เมิง...กรูยอมรับว่ากรูผิด...กรูรักโจ้มาก..มากกว่าชีวิตกรูอีก...กรูกลัวเสียโจ้ไป..ฮึกๆๆ..”
“เออกรูรู้ว่าเมิงรักโจ้มันมาก..แต่ไม่ถึงขั้นต้องใช้ความรุนแรงนี่วะ” ฉัตรด่ากลับมาครับ
“กรูไม่ได้ตั้งใจ..ฮึกๆๆ..ฮือๆๆ...”
“นั่นไง...คำอ้างยอดฮิต...แล้วถ้าเมิงตั้งใจไอ้โจ้มันไม่ตายคามือหรือไง” เบิดด่าซ้ำครับ
“ใช่...เมิงก็ดูโจ้ดิ..ตัวเล็กนิดนึง..บอบบางจะตายห่า...เหวี่ยงสองทีก็คอหักตายคาที่แล้ว” ทรายด่าซ้ำครับ...แต่...ฟังดูแปร่งๆ เหมือนด่าผมด้วยอะ...อีนี่งูพิษจริงกัดผมได้ทุกสถานการณ์...ฮ่าๆๆๆ
“กรู.....ฮึกๆๆๆๆ....ฮือๆๆๆ......” เป๊บนั้งร้องไห้น้ำตาไหลอยู่ครับ
ทุกคนไม่พูดอะไร...บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะหนึ่งครับ จน.................
“เป๊บ...กรูอาจจะไม่ได้สนิทกับโจ้มากนะ...แต่กรูอยากเตือนสติไว้ซักเรื่องนึง....หลังจากที่โจ้หายจากการบาดเจ็บแล้ว การใช้ชีวิตของเมิงกับโจ้ย่อมเหมือนลิ้นกับฟันที่กระทบกันบ้าง..ทุกครั้งที่กระทบกัน ขอให้เมิงนึกถึงวันที่เมิงแทบจะขาดใจตอนที่โจ้บาดเจ็บ...นึกถึงวันที่โจ้บาดเจ็บนานนับเดือน...นึกถึงวันที่เมิงดูแลเอาใจใส่จนโจ้หายเป็นปกติ...นึกถึงวันที่เมิงดีใจสุดชีวิตที่โจ้มันไม่ตาย...กรูว่าถ้าเมิงมีสตินึกถึงได้แค่นี้ เมิงจะรักโจ้มากดูแลซึ่งกันและกัน รักษาน้ำใจกันไปตลอดชีวิต....กรูบอกเมิงแค่นี้แหละ” โอ๊ตร่ายยาวเลยครับ
คำเอื้อนเอ่ยที่โอ๊ตพูดออกมา ทำให้ทุกคนรวมถึงเป๊บและตัวผม ต่างอึ้งไปตามๆ กัน เป็น วาทะที่กินใจมากๆ เลยละครับ ไม่น่าเชื่อ คนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดเหมือนโอ๊ต จะมีความคิดที่ลึกซึ้งขนาดนี้.....เงียบได้ซักพัก....
“ขอบใจวะโอ๊ต....กรูจะมีสติและจำคำที่เมิงแนะนำกรูไว้” เป๊บหายสะอื้น และบอกขอบใจโอ๊ตครับ
“อือ...อื้ออออ....อืมมมม....” รู้สึกว่าเงียบนานเกิน ผมเลยแกล้งส่งเสียงออกมาแล้วละครับ
“เฮ้ย...อีโจ้ฟื้นแล้ววววว” ฉัตรได้ยินเสียงหันมามองและตะโกนเรียกทุกคนครับ
“ที่รักๆๆๆ....เป็นยังไงบ้างครับ...เป๊บขอโทษนะ...” เป๊บเป็นคนแรกที่วิ่งพุ่งมาหาผมถึงเตียงก่อนคนอื่นๆ เลยละครับ
เป๊บมาถึงเตียงคนแรกก็จริง แต่อารมณ์ตอนนั้นยังงอนๆ อยู่ครับ เลยคิดแกล้งเป๊บให้รู้สึกสำนึกซะบ้าง ผมเริ่มทำด้วยการไม่สบสายตาและไม่พูดคุยด้วยครับ
“ฉัตร....กรูกลับไปนานแค่ไหนเนี่ย...โอยยยย” ผมหันหน้าหนีเป๊บ เอ่ยปากถามฉัตรพร้อมกับเอามือจับหน้าผากก็พบว่าแปะผ้าก๊อตอยู่ครับ
“เจ็บหรือเมิง....สามชั่วโมงได้...หมอบอกว่าไม่ต้องเย็บ แผลไม่แตก แต่ที่เลือดออกเยอะเพราะไปโดนพวกเส้นเลือดฝอยประมาณนั้น” ฉัตรตอบผมครับ
“อืม.....” ผมตอบรับคำฉัตรไป แต่ไม่มองหน้าเป๊บครับ
“ฉัตร...กรูอยากกลับแล้ว..” ผมบอกฉัตรครับ
“เออดี...เที่ยวครั้งนี้แม่มไม่มันส์...มีแต่เรื่อง..เอ้ากลับ” ฉัตรบ่นพร้อมสั่งทุกคน เพื่อนๆ ก็เดินทะยอยออกจากห้องไปครับ
ผมลุกขึ้นจากเตียงไปจัดเสื้อผ้า...เจ็บแผลแต่ไม่มึนเท่าไหร่แล้วครับ...มาเสม็ดครั้งนี้ เจ็บทั้งกายและใจจริงๆ เล้ยยยยย
“ที่รักๆ..นอนพักเถอะครับ...เดี๋ยวพวกเสื้อผ้าเป๊บจัดเอง”
“ไม่ต้อง...ผมจัดของตัวเองได้..คุณไปจัดการของคุณเถอะ” ผมพูดกับเป๊บด้วยเสียงแข็งๆ ห่างเหินและเย็นชา
สีหน้าเป๊บดูตกใจมากที่ผมทำน้ำเสียงและกิริยาที่เย็นชาใส่ครับ
“ทะ..ที่รัก..เป๊บ..ขอโทษ...”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกคุณ...ไปจัดของเถอะ...เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯค่ำเกินไป” ผมไม่สนใจเป๊บ และจัดกระเป๋าเสื้อผ้าต่อครับ
หลังจากที่พวกเราเช็คเอ้าท์เสร็จก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ครับ ตลอดการเดินทางผมไม่สนใจและพูดอะไรกับเป๊บแม้แต่คำเดียว บรรยากาศในรถก็ดูเงียบๆ ครับ เพื่อนๆ คนอื่นพยายามชวนผมคุย แต่ผมก็ทำเพียงแค่ การถามคำตอบคำเท่านั้น จนกระทั่งลงจากมอเตอร์เวย์เข้าตัวเมืองกรุงเทพฯ ครับ
“ศักดิ์...แวะปั้มข้างทางด้านหน้าด้วย” ผมสั่งศักดิ์ซึ่งเป็นคนขับรถของฉัตรครับ
“ครับ..ได้ครับ..” ศักดิ์ตอบรับคำสั่งครับ
“เมิงจะเข้าห้องน้ำหรือ” ฉัตรถามผมครับ
“เออ” ผมตอบฉัตรไป เป๊บจะอ้าปากถามผมบ้าง แต่ผมไม่มองหน้า ไม่คุยด้วยครับ
เมื่อถึงปั้มน้ำมัน ทุกคนก็ลงจากรถเพื่อเข้าห้องน้ำด้วย การที่ผมสั่งให้แวะปั้มผมไม่ได้ปวดเข้าห้องน้ำหรอกครับ ในจังหวะที่ทุกคนเผลอ ผมเดินไปหลังรถกดสวิทซ์เปิดด้านหลัง แล้วหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าและเดินออกมา โดยศักดิ์ตะโกนถามแต่ผมไม่ตอบครับ
ผมรีบเดินกึ่งวิ่งออกมาหน้าปั๊ม โบกแท็กซี่ เพื่อกลับบ้านครับ
“พี่ครับ..ไปสุขุมวิทซอย XXX ครับ ขึ้นทางด่วนและไปให้เร็วที่สุดเลยนะครับ”
“ได้ครับๆ”
พี่แท็กซี่ก็ทำตามใจผมจริงๆ เลยนะ ซิ่งซะเต็มที่ ในระหว่างการเดินทางที่อยู่บนแท็กซี่ หน้าจอโทรศัพท์ที่ตั้งเสียงเงียบไว้ โชว์เบอร์เป๊บ ฉัตร เบิด ทราย หลายสิบสายเลยละครับ โดยเฉพาะเป๊บโทรเข้ามาแทบไม่ได้หยุดเลยอะ ไม่เกินยี่สิบนาทีจากปั๊มน้ำมัน ผมก็เดินทางมาถึงบ้านครับ ผมเดินเข้าไปในบ้านก็พบพ่อกับแม่และจิมกำลังตั้งโต๊ะทานอาหารเย็นพอดีครับ
“อ้าวลูกกกกก....เที่ยวสนุก....ว้ายยยยย...ลูกกกกกก...หน้าผากไปโดนอะไรมา” แม่ผมตกใจมากเมื่อเห็นสำลีแปะที่หน้าผากครับ แม่รีบวิ่งเข้ามาหาผมทันที ด้วยเสียงที่ตกใจของแม่ ทำให้พ่อกับจิมวิ่งตามออกมาดูด้วยครับ
การแสดงความห่วงใยของแม่ ทำให้ผมกลายเป็นคนบ่อน้ำตาตื้นอีกแล้วอะครับ
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมร้องไห้ออกมาดังมากๆ แม่ผมตกใจกอดผมแน่นเลยละครับ พ่อกับเจ้าจิมก็ตกใจไม่แพ้กัน จนผมเริ่มตั้งสติได้ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทุกคนฟังกัน
“แล้วลูกจะทำยังไงต่อไปละ” พ่อถามขึ้นมาครับ
“ยังไม่รู้เหมือนกันครับ โจ้คิดอะไรไม่ออกเลยอะ”
“ลูกยังรักเป๊บมั้ย..หรือยังไง...” แม่ผมถามซ้ำ แต่ผมไม่ตอบครับ
“พี่เป๊บนี่จริงๆ เลยน้า...เจอหน้าจะต่อยให้คว่ำ” จิมโมโหแทนผมครับ
“อย่านะจิม...ช่างเค้า” ผมห้ามจิมครับ เพราะถ้าไม่ห้าม จิมทำจริงๆ แน่อะ
“เอาละๆๆ มันเป็นเรื่องระหว่างลูกกับเป๊บนะ..พ่อแม่และน้องคงไปก้าวก่ายไม่ได้ ลูกคิดให้ดีๆ นะ” พ่อแนะนำผมครับ
“ครับพ่อ”
“แม่ว่าทานข้าวก่อนเถอะลูก..จะได้นอนพัก...เดี๋ยวแม่ให้ป้าศรีจัดยาแก้อีกเสบให้”
“ครับแม่”
พวกเราก็เริ่มทานข้าวเย็นกันครับ ระหว่างทานข้าวไปเรื่อยๆ ก็ยังคุยเรื่องผมกับเป๊บบ้าง เรื่องนั้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง จนผมเริ่มสบายใจ เชื่อจริงๆ เลยครับว่า ไม่มีใครให้ความอบอุ่นกับเราได้เท่าพ่อกับแม่แล้วละครับ
ทานข้าวเย็นจนเกือบเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเครื่องรถยนต์เร่งเข้ามาในซอยบ้านผมเร็วมากๆ เสียงเบรกดังเอี๊ยดจอดตรงประตูรั้วหน้าบ้าน พ่อ แม่ และจิม ต่างก็มองไปที่หน้าบ้านด้วยความสงสัยว่าใครมา แต่ผมรู้แล้วละครับว่าใคร สไตล์การขับรถแบบนี้ เป๊บ มาแน่นอนครับ
ประตูรั้วบ้านเปิดออก เป๊บ รีบเดินเข้ามา
“พี่โจ้...พี่เป๊บมา..มาทำไมเนี่ย...จะต่อยให้คว่ำเลย” จิมบอกผมพร้อมกับกำลังจะลุกขึ้นไปหาเป๊บครับ
“จิม..หยุดนะ...อย่าไปยุ่งเรื่องของพี่เค้า” พ่อห้ามจิม จิมก็หยุดไม่กล้าขัดคำสั่งครับ
พ่อกับแม่ลุกขึ้นไปที่หน้าบ้าน เพื่อดักเป๊บก่อนที่จะเดินเข้ามาในตัวบ้านครับ เป๊บเห็นพ่อกับแม่แล้วก็ยกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” เป๊บยกมือไหว้ด้วยอาการสั่นๆ เหมือนกันครับ รู้ตัวละซิว่าทำอะไรผิดอะ ชิ
“พ่อกับแม่ทราบเรื่องหมดแล้ว...พ่อไม่อยากเข้าไปยุ่งกับความสัมพันธ์กับลูกๆ ทั้งสองนะ คุยกันให้เข้าใจจะดีกว่าการหนีกันแบบนี้” พ่อผมเอ่ยขึ้นมาก่อนครับ
“ใช่จ๊ะ...เป๊บเองก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้นจัดการแก้ไขให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีละกันนะ” แม่ผมพูดซ้ำครับ
“ลูกกกก....ออกมาคุยปรับความเข้าใจกับเป๊บได้แล้ว” พ่อเรียกผมครับ
ผมเดินออกมาตามที่พ่อเรียก เดินมาถึงบริเวณที่ยืนคุยกัน พ่อกับแม่ก็เดินกลับเข้าไปข้างใน หน้าบ้านจึงเหลือผมกับเป๊บครับ
เราสองคนสบตากัน เป๊บดูตาแดงๆ ครับ แต่ผมเฉยๆ ใจแข็งมาก อาจจะเป็นเพราะเสียใจที่เจอเหตุการณ์ร้ายๆ
“เอ่อ....ที่รัก....เป๊บขอ....”
“เราเลิกกันเถอะเป๊บ......”
ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบบ