บันทึกของนายนพรัตน์ (ช่วงที่6)
10 ตุลาคม 254x
วันนี้สอบโอเน็ตวันสุดท้ายล่ะ ผม เอ้ เชษฐ์ ชวนกันไปกินข้าวแล้วไปร้องคาราโอเกะกันต่อจนเกือบสองทุ่มเลย เอ้บอกว่าเสียงผมได้ที่แล้วนะ เดี๋ยวหาวันหยุดนัดไปอัดเสียงกัน เชษฐ์เลยบอกว่าอัดแล้วเอามาแบ่งกันฟังบ้าง เอ้บอกว่าไม่ได้ เพลงนี้ร้องให้คนพิเศษ แหม... จะร้องเพลงจีบสาว ยังต้องใช้เสียงเพื่อนอีกนะเนี่ย แต่เอาเถอะ ช่วยมันก็ไม่เสียหายอะไร
------------------------------------------------
24 ตุลาคม 254x
ได้ฤกษ์เอ้พาผมไปอัดเสียง รู้จักกับมันมาสามปี เพิ่งเคยมาห้องมันนี่แหละ อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ แต่รกสุดๆ ยิ่งกว่าห้องผมอีกนะ เปิดเข้าไปนี่แทบจะหาทางเดินไม่ได้ เราเลยลงเอยกันบนเตียง เพราะที่อื่นนั่งไม่ได้แล้ว ใช้เครื่องเอ็มพีสามของมันนั่นแหละอัด เอ้เล่นกีตาร์ ส่วนผมร้อง ร้องไปรอบหนึ่ง เอามาเปิดฟังกัน ผมแอบขนลุกนะเนี่ย เสียงใครก็ไม่รู้ เหมือนจะเพราะหรอกนะ ถ้าไม่คิดว่าเป็นเสียงตัวเองน่ะ เราร้องเพลงกันจนฟ้ามืด เลยออกมากินข้าว เอ้บอกว่าไปนั่งรถเล่นกับมันรอบเมืองสักหนสิ ผมดูนาฬิกาแล้วบอกว่าได้ แต่มันห้ามขับเร็วนะ ผมกลัวตาย มันหัวเราะแล้วบอกว่าไม่อยากตายพร้อมผมหรอก ผมเลยตกลงซ้อนมัน
เอ้ขับมอเตอร์ไซต์เวียนรอบกรุงจริงๆ มันขี่วนรอบวัดพระแก้ว ภูเขาทอง ปากคลองตลาด เราแวะเดินเล่นตลาดสะพานพุทธด้วยล่ะ กว่าจะกลับกันมาได้ก็เกือบสี่ทุ่ม เพราะพี่นพโทรตาม เราเที่ยวกันจนลืมกลับบ้านกันเลยล่ะ เอ้บอกว่าเที่ยวไว้ก่อน ไม่แน่หลังจากนี้พอเข้ามหาวิทยาลัย ผมกับมันอาจจะไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้แล้วก็ได้ ฟังมันพูดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย
----------------------------------------------------
9 พฤศจิกายน 254x
ปีนี้ผมไม่ได้ไปลอยกระทงกับพวกพี่นพล่ะ แต่เห็นกระทงที่พี่นพซื้อเผื่อพี่นัทแล้ว คาดว่าคงไม่ล่มและไม่ไฟไหม้แน่นอน ครูพิสุทธิ์ชวนผมไปลอยกระทงที่บ้าน แอบเขินอยู่เหมือนกันนะ ครูบอกว่ามาเถอะ พ่อแม่ครูอยากเห็นตัว ดูสิ แบบนี้ไม่ให้ผมเขินได้ไง
บ้านครูเป็นบ้านทรงโบราณเลยล่ะ แต่ไม่ได้มีกาแลหรืออะไรแบบนั้นนะ เป็นบ้านทรงปั้นหยา ด้านหลังติดคลอง มีสวนร่มรื่นดี แต่ผมไปน่ะพลบค่ำแล้ว เลยมองอะไรไม่ค่อยจะชัดหรอก พ่อแม่ครูอายุสักหกสิบเจ็ดสิบแล้วมั้ง แต่ยังดูแข็งแรงดีทั้งคู่นะ ผมยกมือไหว้อย่างดี ไม่ใช่จะประจบอะไรหรอก แต่ครูเป็นม.ล. เพราะฉะนั้น พ่อแม่ครู ผมยิ่งต้องรักษามารยาทให้มากๆ
แม่ครูเห็นผมแล้วบอกว่าน่ารักดี แล้วหันไปถามพ่อครูเลยนะว่าจะรับเป็นลูกบุญธรรมดีไหม ผมรีบบอกเลยว่าอย่าดีกว่า ผมไม่น่าเลี้ยงขนาดนั้นหรอก เกรงใจน่ะ ครูพิสุทธิ์เลยบอกว่า ไม่เอาหรอก ไม่อยากมีน้องแล้ว ครูเป็นลูกคนที่สามนะ ยังมีน้องสาวอีกคน เรียนอยู่ต่างประเทศ ส่วนพี่สาวสองคนแต่งงานออกไปหมดแล้ว บ้านนี้เลยเหลือครูอยู่กับพ่อแม่ แต่มีคนเก่าคนแก่อยู่ด้วยอีกสองสามคนล่ะ เรียกว่าอะไรดี ข้ารับใช้เก่าล่ะมั้ง
คุยกับพ่อแม่ครูสักพัก ครูก็ชวนทานข้าว ผมนั่งตัวเกร็งเลยล่ะ บนโต๊ะมีพ่อกับแม่ครู ครู แล้วก็ผม สามคนเอง เวลาครูคุยกับพ่อกับแม่ ครูเรียกตัวเองว่าน้อยตลอดเลย น่ารักดี
กินข้าวเสร็จพ่อแม่ครูก็ชวนผมไปลอยกระทง ปีนี้กระทงครูทำกับกลีบบัวล่ะ แม่ครูบอกว่าครูทำกระทงเองทุกปี แต่ต้องฝากคนอื่นลอย เพราะครูลอยเองไม่ได้ นั่งต่ำๆ พอลุกขึ้นแล้วอันตราย เลยได้แต่นั่งมองคนอื่นลอยกระทงตัวเองมาตลอดเลย กระทงผมทำสวยกว่าปีที่แล้วหน่อยหนึ่ง เพราะรู้ว่าจะต้องมาลอยกับครู แต่ก็แค่หน่อยเดียวล่ะนะ ฝีมือทางงานประดิษฐ์พวกนี้ผมไม่เอาอ่าวซะด้วยสิ
หลังบ้านครูมีท่าน้ำ นอกจากผม ครู พ่อแม่ครูแล้ว ยังมีคุณป้าอีกสองคนที่ครูบอกว่าเป็นแม่บ้าน เดินตามมาด้วย คนในบ้านครูท่าทางเรียบร้อยสมเป็นผู้ดีทั้งนั้นเลย ผมเลยพลอยต้องเดินตัวลีบตามไปด้วย
ผมลงไปนั่งลอยกระทงตรงท่าน้ำ เอาของครูไปลอยด้วย ส่วนของพ่อแม่ครู คุณป้าอีกสองคนช่วยลอยให้ ครูยืนอยู่หลังผม คอยลุ้นว่าผมจะทำกระทงคว่ำรึเปล่าล่ะมั้ง แล้วจู่ๆ ครูก็นั่งลงข้างผม ทุกคนตกใจหมดเลย ผมก็ตกใจ ครูบอกว่าปีนี้ครูลอยกระทงเองดีกว่า เพราะมีคนช่วยแบกครูแล้ว ผมเลยส่งกระทงให้ครู คอยจับครูไว้ตอนที่ครูก้มลงไป ครูลอยเสร็จก็หันมายิ้มให้ผมแล้วบอกว่าขอบใจนะ ขาลุกขึ้นผมเลยช่วยประคองครูเอาไว้ ผมว่าครูตัวเบามากเลยล่ะ พ่อแม่กับแม่บ้านครูคงลุ้นเหนื่อย กว่าครูจะลุกขึ้นมาได้ แต่ทุกคนก็ดูมีความสุขนะ คงเพราะครูดูมีความสุขล่ะมั้ง ผมว่าทุกคนในบ้านรักครูมากนะเนี่ย
ลอยกระทงเสร็จผมก็ลากลับ พ่อครูบอกว่าว่างๆ ก็แวะมาเยี่ยมบ้าง อวยพรให้ผมสอบติดคณะที่หวังไว้ด้วยล่ะ ผมเลยบอกขอบคุณไปไม่รู้กี่หน ครูจะขับรถไปส่งผมด้วย ผมเลยบอกครูว่า ครูอยู่บ้านเถอะ วันนี้ผมอยากแน่ใจว่าครูปลอดภัยดี ผมกลับเองได้นะ แต่ผมอยากเจอครูตอนเปิดเทอม เพราะบ้านครูกับบ้านผมห่างกันพอดู ครูไปส่งผมแล้วต้องขับรถกลับอีก ผมเป็นห่วงนะ ครูยืนลังเลอยู่พักหนึ่งก็พยักหน้า ผมจับมือครูไว้สักพัก แล้วก็ออกมา เวลาของผมกับครูเหลือน้อยลงทุกทีแล้วสินะ
-----------------------------------------------------
10 ธันวาคม 254x
เอ้ชวนผมไปเที่ยวพัทยา ผลสอบผมออกมาแล้วนะ สอบติดโควตาล่ะ สบายเลย ส่วนเอ้ บอกว่าคะแนนใช้ได้อยู่ แต่เพื่อความไม่ประมาท ปีหน้ามันจะลงสอบอีก จะได้ติดชัวร์ๆ
มันชวนผมไปสองคนนะ บอกว่า ไปกับผมนี่แหละ สบายใจดี เอาล่ะ ผมก็ตามใจมัน เพราะไปกับมันก็ไม่เสียหายอะไร
เอ้ไปยืมรถคนรู้จักมา ผมเลยช่วยหารค่าน้ำมัน มันทำใบขับขี่แล้วนะ ไปทำไม่บอกผมบ้างเลย เราไปเช้าเย็นกลับ ใช้เวลาอยู่บนรถกันมากกว่า เพราะหลง แต่ก็สนุกดี ได้เห็นนั่นเห็นนี่ เห็นฝรั่งแก้ผ้าอาบแดดแบบที่เขาลือกันด้วยล่ะ แต่ผมไม่พิสวาสฝรั่ง ทั้งผู้หญิงผู้ชายอ่ะแหละ ผมชอบคนไทยมากกว่า ตัวเล็กๆ น่ารักดี
ผมกลับมาถึงบ้านสักสามทุ่มกว่าได้ พี่นพบอกไปทะเลทำไมไม่ค่อยดำ ผมเลยเล่าให้ฟังว่าหลงอยู่เป็นส่วนใหญ่ พี่นพก็ขำ บอกว่าเอ้มันตลกดี ผมก็ว่ามันตลกดีนะ ถึงมันจะไม่ค่อยพูดก็เถอะ แต่อีกไม่กี่เดือนก็คงต้องแยกจากมันแล้วล่ะ
----------------------------------------------------------
31 ธันวาคม 254x
ปีนี้ผมไปฉลองปีใหม่ต่างประเทศล่ะ พี่นพพาผมไปเที่ยวเกนติ้ง ไปเล่นรถไฟเหาะกัน ที่สำคัญ ไม่ได้ไปแค่ผมด้วยนะ พี่นพพาแฟนกับครอบครัวแฟนไปด้วย แหม... จริงๆ มากันแค่สองคนผมก็ไม่ว่าหรอก แฟนพี่นพชื่อพี่แตง แมนมาก ผมเขียนไม่ผิดหรอก พี่แตงเท่เหมือนผู้ชายเลย แต่เป็นผู้หญิงที่ดีนะ เป็นเพื่อนที่ทำงานของพี่นพล่ะ จำได้ว่าผมเคยเจอนานแล้วตั้งแต่ตอนเรียนม.ต้นมั้ง ผมแอบถามพี่นพเลยนะว่าจีบได้ไง พี่นพก็ไม่ยอมเล่าสักที สงสัยจะเขิน ผมเลยถามว่าแล้วจะแต่งงานกันมั้ย พี่นพบอกว่าตั้งใจจะขออยู่ แต่รอผมเรียนจบก่อน ผมเลยบอกว่ารอทำไม แต่งเลยๆ พี่นพก็ไม่ยอม บอกก่อนแต่งอยากเห็นผมเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้ก่อน นี่ขนาดผมได้โควตาแล้วนะเนี่ย
----------------------------------------------------------
16 มกราคม 254x
วันนี้วันครูล่ะ หลังจากจบพิธีของโรงเรียนตอนเช้าแล้ว ผม เอ้ เชษฐ์ก็นัดกันเอาพวงมาลัยไปให้ครูพิสุทธิ์ ค่าที่แกให้ความรู้กับพวกเรามาตั้งแต่เรียนม.4 เผลอแป๊บๆ ก็จะจบกันแล้ว เอ้ไหว้ครูซะสวยเชียว ทั้งๆ ที่ปกติมันเป็นคนตรงๆ ทื่อๆ นะเนี่ย สงสัยมันจะนับถือครูจริงๆ เชษฐ์หนักกว่าอีก ไหว้เสร็จน้ำตาซึมเลย ผมไหว้คนสุดท้าย บอกครูว่าขอบคุณนะครับที่สอนอะไรผมหลายอย่าง ครูก็ไม่พูดอะไร แต่ลูบหัวผมเบาๆ จากนั้นก็ใช้ให้ผมไปซื้อน้ำ
ผมกลับมาอีกที ครูมีรูปเตรียมไว้ให้อีกแล้วล่ะ คราวนี้เป็นรูปผมใส่ชุดนศท. กำลังยืนเกาหัวอยู่ด้วยแน่ะ ครูบอกว่าได้ยินว่าเขาชนไก่โหด แต่ครูไม่เคยไปเองหรอกนะ เพราะร่างกายเป็นแบบนี้มาแต่เกิด ผมเข้าใจครูล่ะ อย่าว่าแต่เรียนนศท.เลย วิชาพละครูได้เรียนบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ครูบอกว่าดูแลตัวเองดีๆ นะ ผมก็บอกว่า ไม่มีปัญหาแน่ครู เขาส่งผมไปเข้าค่ายนะ ไม่ใช่ไปรบจริง ไม่มีอะไรหรอก
----------------------------------------------------
22 กุมภาพันธ์ 254x
เขาชนไก่โหดจริง ผมกลับมานอนไปสองวันถึงเริ่มเขียนบันทึกได้ ห้าวันทำเอาพี่นพเกือบจำผมไม่ได้ ขนาดพี่นพเคยเข้ามาก่อนผมแล้วนะ
ผมเตรียมตัวอย่างดีก่อนไปค่าย เพราะได้ยินคำร่ำลือมาหลายอย่าง ที่แน่ๆ เลย เรื่องเพื่อนร่วมเต้นท์ ผมกับเอ้เลยนัดแนะกันอย่างดี พอเขาให้จับคู่ก็รีบมาจับคู่กันเลย กันพลาด ได้นอนคู่กับกระเทยจะซวยทั้งคู่ เอ้น่ะไม่ค่อยมีปัญหานะ แต่ผมนี่สิ เป็นเป้าสายตากระเทยมาก แย่จริงผม
ผมถูกเลือกเป็นหัวหน้าหมู่นะ นอกจากจะต้องคุมลูกหมู่และเผชิญกับครูฝึกหฤโหดแล้ว ยังต้องเผชิญกระเทยในหมู่อีก พอผมเป็นหัวหน้าหมู่เลยหาเรื่องมาเข้าใกล้ผมใหญ่ ถ้าจับแล้วของมันสึกมันหรอกันได้นะ ผมคงต้องอัพเครื่องเคราใหม่เลยล่ะ
ห้าวันของผมต้องระวังทั้งครูฝึก ระวังทั้งกระเทย ไอ้พวกนี้มันกะจะจับผมทำผัวให้ได้ตอนปีสามเลยใช่ไหมเนี่ย ผมว่าครูฝึกไม่ต้องสร้างสถานการณ์ว่ามีศัตรูบุกหรอก คืนๆ หนึ่งผมก็แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นั่งถ่างตาเฝ้าลูกหมู่ไม่ให้บุกมาปลุกปล้ำตัวเองนี่แหละ เออ ผมชอบผู้ชายก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าขอให้เป็นผู้ชายแล้วก็โอเค ห้าวันผมเกือบจะต่อยกระเทยไปแล้วสิ
----------------------------------------------------------
14 มีนาคม 254x
สอบวันสุดท้ายแล้ว ใจหายแวบเลย นี่ผมจบม.6แล้วหรือนี่ นี่วันสุดท้ายในโรงเรียนของผมแล้วหรือ? พวกเราเอาปากกามาเขียนเสื้อแลกกันใหญ่หลังสอบเสร็จ ของผมเต็มเสื้อไปหมด สารพัด ทั้งรูปวาด ทั้งตัวอักษร หนังสือเฟรนด์ชิพที่ส่งเวียนๆ กันก็เขียนกันครบแล้ว บ้าๆ บอๆ แต่ก็ตลกดี เอ้มีรูปให้ผมอีกแล้ว คราวนี้มันใส่ซองกระดาษมา ปิดอย่างดี บอกผมว่า ปิดเทอมสองอาทิตย์ค่อยแกะ เป็นเซอร์ไพรส์ แกะก่อนตัดเพื่อนแน่ ผมก็บอกมันว่า ระวังผมลืมแกะไปเลยนะ มันบอกว่าไม่เป็นไร มันไม่รีบ อย่าเพิ่งแกะก็พอ นั่น.. เอากะมันสิ แนวดีจริงๆ เพื่อนผม
ผมแวะไปหาครูพิสุทธิ์ตอนเย็น ครูนั่งรอผมอยู่ล่ะ เพราะในห้องไม่มีใครเลย วันนี้พี่นัทบอกว่าจะเลี้ยงฉลองที่ผมจบม.6ตอนค่ำๆ ผมเลยมีเวลาอยู่กับครูไม่นาน
พอคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่กับครูแล้ว ผมใจหายมากจริงๆ คราวนี้ครูไม่มีรูปวาดให้ผม แต่ให้รูปที่ผมวาดแทน งานผมที่เรียนวิชาครูตั้งแต่ม.4 นั่นแหละ ครูเก็บใส่แฟ้มเอาไว้ เอ้กับเชษฐ์คงมารับไปก่อนแล้ว เหลือแต่ของผม
ผมรับแฟ้มงานมาแล้วเปิดดู บางงานขำเลยนะ ผมวาดอะไรของผมเนี่ย ครูก็อุตส่าห์ให้สี่ผมมาได้ตั้งหกเทอม ครูบอกว่าศิลปะมันอยู่ที่ใจกับความคิด ความสวยงามมันอยู่ที่คนจะมอง ครูปล่อยให้ผมดูรูปของตัวเองอยู่สักพักก็บอกว่า รูปที่ผมวาดรูปหนึ่งครูขอนะ ผมก็ถามเลยว่าครูอยากได้รูปไหน เพราะงานผมห่วยสนิท ไม่คิดว่าครูอยากได้นะเนี่ย ครูเลยบอกว่าขอรูปแรก รูปที่ผมวาดครูนั่งหลับนั่นแหละ
ผมเขินเลยนะ ไม่คิดว่าครูจะติดใจรูปนี้จริงๆ หยิบให้ครูไปใจก็เต้นตึกๆ เลยถามครูว่าครูชอบผมเพราะรูปนี้รึเปล่า ครูไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มๆ แล้วถามผมกลับว่ารูปที่ครูวาดให้เก็บดีอยู่รึเปล่า ผมพยักหน้า บอกว่าใส่แฟ้มไว้อย่างดีเลย ครูบอกว่าขอบใจมาก ให้ผมเก็บให้ดีตลอดไปนะ เพราะนั่นแหละความรักของครู
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง ครูนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนผมยืน เราอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่เอง ผมมองครู ครูผอมเหมือนเดิม สามปีครูแทบไม่มีอะไรเปลี่ยน ที่เปลี่ยนดูจะเป็นแววตาของครูที่ดูสดใสขึ้นล่ะมั้ง ผมมองครูอยู่พัก แล้วถามครูว่า ขอผมกอดได้มั้ย ครูบอกว่าถ้ากอดเฉยๆ ได้ ถ้าทำอย่างอื่นไม่ได้นะ ผมบอกว่าผมไม่ทำอะไรหรอก ขอกอดอย่างเดียว ครูก็พยักหน้า ผมเลยกอดครู ครูก็กอดตอบผม ผมน้ำตาไหลเลยล่ะ ไม่รู้สิ ตอนที่คบกับครู ผมรู้แล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึง ผมรู้แล้วว่าเราไปกันไม่ได้ตลอด ผมมีความสุขตอนอยู่กับครู คิดไว้ว่าคงไม่เสียใจอะไร แต่พอถึงเวลาจริงๆ น้ำตาผมก็ไหล
ครูส่งกระดาษทิชชู่ให้ผมแล้วแซวผมว่าผมตัวโตจะชนกรอบประตูอยู่แล้วยังขี้แยอีก ผมบอกว่าผมจะเป็นหวัดต่างหาก ครูก็ยิ้มๆ มองผมอยู่พักแล้วยกมือขึ้นลูบหัวผม บอกว่าอนาคตผมต้องได้เจอคนดีๆ แน่ แต่อาจจะมีอายุสักหน่อย ผมเลยบอกครูว่า ถ้าเป็นคนรุ่นพ่อผมยอมเป็นโสด ผมยังจำแม่นอยู่นะเนี่ย ครูดูดวงอะไรไม่รู้ น่ากลัวจริงๆ เลย ครูหัวเราะหึๆ แล้วบอกว่าต่อจากนี้ผมคงต้องเจอใครอีกหลายคน จะลืมครูก็ได้ แต่อย่าลืมรูปที่ครูวาดให้นะ ผมบอกครูว่าผมไม่ลืมหรอก ทั้งรูปที่ครูวาดแล้วก็ตัวครู เพราะผมรักครู รักทั้งๆ ที่รู้ว่าครูกับผมรักกันไม่ได้ตลอดนี่แหละ
แล้วผมก็กอดครูอีกครั้ง กราบอกครูงามๆ แล้วก็ออกมา ผมน้ำตาซึมมาตลอดทางเลยล่ะ ความรักนี่ทั้งสวยงาม แล้วก็เศร้าจริงๆ นะ
คืนนี้งานเลี้ยงของพี่นัทเลยกร่อย เพราะผมไม่มีอารมณ์รื่นเริงสักเท่าไหร่ พวกพี่นัทเลยถามใหญ่ว่าผมเป็นอะไร ผมขี้เกียจอธิบายเลยบอกว่าอกหัก พวกพี่นัทก็หันไปถามพี่นพเลยว่าผมอกหักจากผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมว่าพี่นพเริ่มปลงกับผมนานแล้วล่ะ เลยบอกว่าผู้ชาย คงรู้หรอกว่าผมคบกับครูอยู่ สรุปว่างานเลี้ยงเลยกลายเป็นงานอบรมผมแทน พวกพี่ๆ สารพัดจะหาข้อเสียของการชอบคนอายุเยอะกว่ามากๆ มาบอกผม เออ ผมรู้แล้วล่ะ ดีนะที่พวกพี่ไม่รู้ว่าครูพิสุทธิ์ดูดวงว่าผมจะได้คู่อายุเยอะสุดๆ ขืนรู้ไม่รู้จะทำหน้ายังไงกัน แต่ผมคงไม่อยากรักใครไปอีกพักใหญ่แหละ ถ้าต้องรักกับคนอายุรุ่นราวคราวพ่อ ผมยอมเป็นโสดดีกว่า
-------------------------------------------------
9 มิถุนายน 254x
วันนี้ผมมาทำใบขับขี่ คนที่สอบบอกว่าผมขับรถเก่งดี หัดนานหรือยัง ผมบอกว่าสามเดือน พี่ชายสอนให้
พี่นพเตรียมจะแต่งงานเลยซื้อรถคันใหม่ ยกรถคันเก่าให้ผม ให้ผมขับไปมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยที่ผมสอบติดอยู่ห่างจากบ้านพอสมควรเลยล่ะ ผมว่าแรกๆ อาจจะไปกลับได้ แต่พวกพี่นัทบอกว่า พอปีหลังๆ สงสัยผมต้องไปอยู่หอ พี่นพเลยบอก งั้นขับรถไปกลับก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่า เพราะติดแก๊สแล้วจ่ายถูกกว่าน้ำมัน ถูกกว่าค่าหอ ผมเลยตกลง
อ้อ ผมเพิ่งเปิดซองที่เอ้ให้มาก่อนปิดเทอม ก่อนหน้านี้ได้ข่าวแล้วว่ามันสอบติดมหาวิทยาลัยที่หวัง คณะตรงเสียด้วย บอกแล้วว่ามันเก่ง ในซองที่มันให้มามีซีดีแผ่นหนึ่ง กับกระดาษไข มีกระดาษแนบมาว่าผมยังจำรูปนางในฝันของมันได้รึเปล่า ถ้ายังไม่ทิ้งเอากระดาษไขไปทาบดู แล้วบอกว่าอย่าลืมฟังนะ เพลงที่มันแต่งให้นางในฝัน ผมเลยทำพร้อมกันทั้งสองอย่าง ผมรื้อแฟ้มเก็บภาพที่เอ้วาดให้ออกมา รูปนางในฝันของมันอยู่บนสุดเลยล่ะ เพราะผมเห็นว่าสวยดี เลยสอดไว้หน้าแฟ้มเลย สามปีมันวาดแต่รูปผมสอดไว้ในสมุด มีรูปนี้รูปเดียวที่เป็นรูปผู้หญิง ผมเลยเอากระดาษไขทาบลงไป
สามปีมันวาดแต่รูปผมจริงๆ แม้กระทั่งรูปนี้ก็ยังเป็นรูปผม ผมได้ยินเสียงตัวเองร้องเพลงที่มันแต่งให้ เห็นภาพเลยว่านั่งร้องกับมันบนเตียงในห้อง เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์กับมัน เคยไปเที่ยวด้วยกัน ห้องปกครองยังเคยไปนั่งรอมันมาแล้ว เออ.. มันเป็นเพื่อนรักของผมจริงๆ เล่นเอาผมเขียนบันทึกต่อไม่ออกเลยนะเนี่ย เจอมันอีกทีคงต้องกอดแล้วทุบหลังมันแรงๆ บอกว่า กูก็รักมึงว่ะ ซะแล้วล่ะ
-------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------
16 มิถุนายน 255x
วันรับปริญญาผมคึกคักไปด้วยคนหลากหลายอายุมาก นี่คือคำพูดที่พี่นัทพูดกับผมนะ เรียนสี่ปีผมไม่ริจีบครูแล้วล่ะ กลัวอกหัก แล้วก็ยังไม่มีใครที่ผมอยากจะชอบจริงๆ จังๆ เพราะรู้ว่าคนอายุมากกว่าเขาไม่จริงจังกับผมหรอก แต่ผมยังไม่มีรสนิยมชอบรอยตีนกานะ ผมยังชอบหน้าตึงๆ หุ่นดีๆ เหมือนเดิม พยายามมองคนรุ่นเดียวกันแต่ก็เหลว คบๆ เลิกๆ สงสัยผมจะกลายเป็นเพลย์บอยซะละมั้งนี่
พี่นพมางานรับปริญญาผมด้วยล่ะ ขนาดว่ายุ่งๆ นะ ผมไปทำงานเป็นผู้ช่วยพี่นพได้สามเดือนแล้ว งานรับปริญญาน้องชายและผู้ช่วยทั้งที พี่นพคงไม่พลาด แต่ไม่ยอมเหน็บใบหม่อนมา หลานผมจะสี่ขวบแล้วนะ พี่นพแต่งงานไม่กี่เดือนก็ได้ลูก พี่ผมซะอย่าง แข็งแรงอยู่แล้ว ส่วนครูพิสุทธิ์ให้คนส่งดอกไม้มาให้ ลูกครูก็เกือบสี่ขวบแล้วล่ะ เป็นเด็กผู้ชายเหมือนกัน ครูเคยให้ภรรยาส่งรูปมาให้ น่ารักเหมือนแม่เลย มีเค้าตาง่วงๆ ของครูนิดหน่อย แต่ไม่เป็นโรคแบบครู ดีจัง ลูกครูทำผสมเทียมเอา แต่ครูกับภรรยาก็ดูจะไปกันได้ดีนะ ผมเคยไปเยี่ยมมาหนหนึ่ง ดูครูมีความสุขดีเชียวล่ะ ลาออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงลูกแล้ว ลูกครูก็ชอบวาดรูปเหมือนครูเลย พอผมได้ดอกไม้ ผมเลยโทรหาครู บอกครูว่า ครูครับ ผมเรียนจบแล้วนะ ผมยังไม่มีแฟนนะ ผมไม่ปลื้มอาจารย์มหาวิทยาลัยที่อายุมากแถมมีรอยตีนกานะครู ครูหัวเราะหึๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว แล้วบอกว่าเดี๋ยวถึงเวลา เลี่ยงยังไงก็เลี่ยงไม่พ้นหรอก ตอนนี้ยังไม่ถึงเท่านั้นเอง อยู่ใกล้ๆ ผมกระโดดกัดครูไปแล้วนะเนี่ย
---------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
**
แถมรูปคุณไพฑูรย์ค่ะ ก่อนนพเจอตัวจริงตอนหน้า อิอิ
รูปตอนใส่ชุดสีชมพูที่นพเลือกให้นะ...(นพนี่เลือกชุดอะไรไม่รู้ เขินแทนคุณไพจริงๆ)
