บันทึกของนายนพรัตน์ (ช่วงที่8)
7 พฤษภาคม 255x
เมื่อคืนจู่ๆ ก็ฝนตกล่ะ ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะฟ้าผ่า นึกถึงคุณไพฑูรย์เหมือนกัน เพราะตอนออกมาไม่ได้ปิดหน้าต่าง ตอนเช้าเลยรีบบึ่งรถไปหาเขาเลย เอากุญแจไปคืนด้วย ไปดูอาการเขาด้วย ปรากฏว่าคุณไพฑูรย์เป็นหวัดล่ะ เจอหน้าผมก็จามเลย น่าสงสารจัง สงสัยเพราะผมไม่ได้ปิดหน้าต่างให้แน่ๆ
คราวนี้คุณไพฑูรย์เลยทั้งเจ็บก้น ทั้งไข้เลย แถมไม่ยอมไปหาหมออีก ดื้อจริงๆ ด้วย ผมก็อยากจะหยุดงานมาดูแลเขานะ แต่เขาคงไม่ชอบใจเท่าไหร่ ผมเลยซื้อโจ๊กเข้าไปทิ้งไว้ให้ แล้วออกมาทำงาน
พอรู้ว่าคุณไพฑูรย์ไม่อยู่ สารพัดคนก็เข้ามาหาผมเลยล่ะ แจ้งนั่นแจ้งนี่วุ่นวายไปหมด ดีนะ คุณไพฑูรย์เตือนผมไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกนี้เป็นคนยังไงบ้าง เฮ้อ ผมทึ่งคุณไพฑูรย์จริงๆ นะ นี่ขนาดผมรับมือแค่วันเดียวยังแทบจะหนีกลับบ้าน เขาทนมาได้ยังไงตั้งเป็นสิบปีนะเนี่ย
พอเที่ยงผมเลยซื้อกับข้าวแล้วแวะไปที่บ้านคุณไพฑูรย์อีกรอบ ซื้อไปทั้งโจ๊กทั้งข้าวสวยนั่นแหละ เผื่อเขาจะอยากกินอย่างอื่นนอกจากโจ๊กบ้าง แล้วผมก็กะจะกินข้าวกับเขาด้วยน่ะ
คุณไพฑูรย์ดูท่าทางดีขึ้นล่ะ ไข้คงลดแล้ว ดีแล้วที่ผมซื้อข้าวสวยเผื่อมา เพราะดูเขาจะหิว ก็ตั้งแต่เย็นวานเพิ่งกินโจ๊กไปแค่ชามเดียวเองนี่นา
ผมกินข้าวเสร็จก็ขอตัวออกมา กลับไปทำงานต่อ ตอนเลิกงานสงสัยผีเข้า แต่ก็เป็นห่วงเขาด้วยนั่นแหละ เลยแวะบ้านไปเอาเสื้อออกมา กะว่าจะไปค้างเลย กลัวนะ เห็นเขาทั้งเจ็บทั้งป่วยแบบนี้ ผมไม่อยากทิ้งเอาไว้คนเดียวเลยล่ะ
ผมนั่งกินข้าวกับเขา อาการเขาแย่ลงอีกแล้ว สงสัยไข้จะขึ้น แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่กล้าพูดว่าจะขอค้างสักที กลัวเขารู้ไต๋นะ ถึงเขาจะไม่สบายอยู่ก็เถอะ ผมสันหลังหวะแล้วล่ะ เพราะคิดว่าอาการผมมันออกนอกหน้าไปหลายอย่างแล้วเหมือนกัน แต่ดูฟ้าฝนจะเป็นใจนะ เพราะจู่ๆ ก็ตกลงมาห่าใหญ่ คุณไพฑูรย์เลยบอกให้ผมอยู่ต่อก่อน ผมเลยกลั้นใจบอกว่าจะค้างไปเสียเลย เขาดูงงๆ แต่ก็ยอมให้ผมค้างล่ะ เขาใจดีจริงๆ ด้วยนะเนี่ย
พอสักสามทุ่มเขาก็เริ่มจะนั่งไม่ไหวแล้ว ผมเลยต้องพาเขาไปนอน ไข้สูงขนาดนี้ยังไม่ยอมไปหาหมออีก คุณไพฑูรย์นี่ดื้อจริงๆ นะ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงเรื่องที่หลับที่นอนของผม แถมยังห่วงว่าผมจะไข้ด้วยนะ บอกให้ผมหยิบผ้าห่มหยิบหมอน ผมเลยบอกว่าผมจะไปนอนโซฟาด้านล่างแล้วกัน เพราะขืนบอกว่าอยากนอนเตียงเดียวกับเขามีหวังได้ถูกเขาถีบก่อนแน่
คุณไพฑูรย์ไข้สูงมากเลยล่ะ ผมปิดไฟ เดินลงข้างล่างไปได้สักพัก ก็อดไม่ได้ต้องขึ้นมาดูเขาอีก เขาหลับไปแล้ว ตัวร้อนจี๋เลย ผมเลยไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เขา แล้วแอบหอมแก้มเขาเบาๆ ทีหนึ่ง บอกว่าหายไวๆ นะ
ผมไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามเขานะ แค่อยากให้เขาหายไวๆ เท่านั้นเอง
-------------------------------------------------------
13 พฤษภาคม 255x
วันนี้ผมเอาของที่ซื้อมาเมื่อวานมาให้คุณไพฑูรย์เลือกล่ะ คุณไพฑูรย์ป่วยอยู่อาทิตย์หนึ่งเต็มๆ น่าสงสารจัง แต่ตอนนี้ดูท่าทางเขาจะหายดีแล้วล่ะ ผมเลยช่วเขาเนียนด้วยการซื้อของฝากของญี่ปุ่นมาให้เขา พอดีว่าเห็นขายอยู่ในห้างน่ะ เรื่องแต่งที่คุณพงษ์โพยมบอกว่าเขาไปดูงานที่ญี่ปุ่นจะได้สมเหตุสมผลขึ้นไง
คุณไพฑูรย์ดูงงๆ กับของที่ผมซื้อไป ผมเลยอธิบายให้เขาฟัง สุดท้ายก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำงานขายตรงเลย แต่เขาก็ดูสนุกไปกับผมนะ ผมเลยพูดใหญ่เลย จนเขาบอกว่าน่าจะย้ายไปทำงานฝ่ายการตลาด นั่นแหละผมถึงหยุด ผมแค่อยากทำให้เขามีความสุข แต่ไม่อยากย้ายตำแหน่งนะ ผมอยากอยู่ใกล้ๆ เขา ผมอยากได้ตำแหน่งนี้ ตำแหน่งอื่นผมไม่เอาหรอก
ผมขายของฝากให้คุณไพฑูรย์เรียบร้อย ก็ดูเขายังเกรงใจผมอยู่นะ คงเห็นว่าผมยังเด็ก มาทำอะไรให้คนรุ่นเขาขนาดนี้จะรับไว้เฉยๆ ก็คงไม่เหมาะล่ะมั้ง ผมเลยใจกล้าหน้าด้านอีกแล้วล่ะ บอกว่ามีตั๋วฟรีละครเวที ถ้าเขาเกรงใจผม ก็ไปดูเป็นเพื่อนผมนะ แต่จริงๆ ผมยังไม่ได้ซื้อหรอก เห็นใบประกาศเมื่อวานนี้เอง พอเห็นแล้วก็นึกถึงคุณไพฑูรย์ ดารารุ่นเก่าแบบนี้เขาน่าจะสนใจนะ พอได้โอกาสก็เลยลองถามเขาน่ะ ปรากฏว่าเขาตกลงล่ะ แต่ก็ทักเหมือนกันนะว่าทำไมผมได้ตั๋วฟรีบ่อย แหม.. คุณไพฑูรย์ก็จำแม่นนะเนี่ย ผมเลยโกหกเขาไปว่าใช้บัตรพี่ชายแลกมา ขืนให้เขารู้ว่าผมซื้อเตรียมไปดูกับเขา เขาคงไม่ไปกับผมแน่ ที่เขาตกลงนี่คงเห็นว่าผมยังเด็กล่ะมั้ง เอาล่ะ ถึงรู้ว่าเขาไม่คิดอะไรแบบที่ผมคิดแน่ แต่ขอผมมีโอกาสได้ไปไหนมาไหนกับเขาก่อนแล้วกัน
จากนั้นผมเลยอาสาจะทำอาหารให้เขา ไปซื้อเตรียมมาแล้วล่ะ กะว่าทำไม่ยาก ไม่รบกวนเขาแน่ๆ เพราะเขาเพิ่งหายป่วยเอง ผมเลยอยากจะทำอะไรให้เขาประทับใจบ้าง แต่ปรากฏว่าผมโดนว่าอีกแล้วล่ะ สงสัยผมจะทำครัวไม่เอาอ่าวจริงๆ เลยเดือดร้อนคุณไพฑูรย์ต้องมาทำเองอีก แต่คุณไพฑูรย์ทำครัวคล่องมากเลยนะ คล่องเหมือนพี่หนิงเลย คุณไพฑูรย์เคยทำกับข้าวให้ใครกินมาก่อนรึเปล่านะเนี่ย แอบอิจฉาคนนั้นจัง คนต่อไปจะได้เป็นผมรึเปล่านะ แต่เอาเถอะ วันนี้ผมก็ได้กินอาหารฝีมือเขาล่ะ กินจนเกลี้ยงเลย เขาเลยบอกว่าถ้าผมชอบวันหลังจะทำให้ทานอีก ผมล่ะปลื้มจริงๆ นะเนี่ย ถึงจะพยายามคิดว่าเขาพูดเพราะมารยาท แต่ก็อดดีใจไม่ได้อยู่ดี
ก่อนกลับผมเอาตุ๊กตาแมวที่เจอมาเมื่อวานฝากเขาด้วย เห็นว่าน่ารักดี เลยซื้อให้เขาดีกว่า เผื่อเขาเห็นแล้วจะคิดถึงผม ผมคิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้วล่ะ ตอนให้ผมฉวยโอกาสจับมือคุณไพฑูรย์ด้วย แอบเขินเหมือนกันนะ แต่คุณไพฑูรย์ดูเฉยๆ มาก ไม่ได้คิดอะไรกับผมจริงๆ ด้วย แต่ช่างเถอะ ไม่ไล่ผมก็บุญแล้ว ตอนนี้ขอผมได้อยู่ใกล้ๆ เขาก่อนแล้วกัน เขายังไม่คิดอะไรกับผมก็ไม่เป็นไร
---------------------------------------------
14 พฤษภาคม 255x
วันนี้คุณไพฑูรย์กลับมาทำงานได้แล้วล่ะ มาถึงเขาก็ตรวจงานผมเลย ปรากฏว่าผมทำงานพลาดเยอะ เลยโดนเอ็ดยาว จนผมกลัวเขาจะไล่ผมออกเลยนะ ผมเพิ่งมาทำงานได้แค่เดือนกว่าเอง ยังไม่อยากออกตอนนี้ ยังจีบเขาไม่สำเร็จเลย ไม่อยากถูกเขาเกลียดด้วยน่ะ ผมว่าผมเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยล่ะ ไม่ไหวเลยผม อายุตั้งยี่สิบกว่าแล้วนะเนี่ย
ผมซึมไปครึ่งวันเลย คิดมากน่ะ สงสัยคุณไพฑูรย์เห็นแล้วนึกสงสารผมมั้ง ตอนเย็นเขาเลยชวนผมไปทานข้าว ตั้งแต่ทำงานกันมาเขาไม่เคยชวนผมทานข้าวก่อนเลยนะ ผมดีใจจนลืมเศร้าเลย รีบตกลงรับปากเขาทันที เขาใจดีจริงๆ นั่นแหละ แบบนี้คงไม่เกลียดผมหรอก
พอถึงร้านอาหาร เขาก็พูดถึงเรื่องค่ารถ เพราะช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่เขาไม่สบาย ผมเป็นธุระพาเขาไปหาหมอ ขับรถซื้อข้าวซื้ออะไรมาให้ แหม.. คุณไพฑูรย์นี่ขี้เกรงใจจริงๆ เลยนะ เขาคงไม่รู้ว่าปกติผมก็ขับรถเวียนตามเขาอยู่แล้ว ผมเลยบอกเขาว่าให้ผมขับรถไปรับไปส่งเขาแทนแท็กซี่เลยแล้วกัน เพราะไหนๆ บ้านเขากับบ้านผมก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว เขาอึ้งๆ แต่ก็ยอมตกลงล่ะ สำเร็จ ในที่สุดผมก็ได้ขับรถไปรับไปส่งเขาแล้ว ผมถือว่าตัวเองเป็นคนพิเศษของเขาอีกขั้นล่ะ แต่ผมคิดของผมเองน่ะนะ เขาคงไม่คิดอะไรหรอก...
กินข้าวกันอยู่ เขาก็ถามว่าทำไมวันนั้นผมจำเขาได้ วันที่เขาใส่ชุดพนักงานทำความสะอาดเดินไปที่โรงอาหารน่ะ จริงๆ ผมก็อยากถามกลับนะว่าเขาใส่ชุดแบบนั้นไปทำไม แต่ผมพอจะเดาออกหรอก เขาคงอยากติดตามพฤติกรรมพนักงานล่ะมั้ง ผมไม่กล้าบอกเขาตามตรงว่าผมจำเขาได้เพราะจ้องเขามาเป็นปีๆ จำได้จะทุกส่วนแล้ว เลยบอกว่าจำท่าทางเขาได้ เขาก็ดูจะตกใจ กลัวว่าคนอื่นจะจำได้ด้วย ผมเลยปลอบเขาว่าคนอื่นคงจำไม่ได้หรอก แหม.. ใครมันจะสังเกตทุกส่วนของเขาเหมือนผมกันล่ะ
หลังจากนั้นผมชวนเขาคุยถึงเรื่องความรักล่ะ สงสัยบรรยากาศเป็นใจ ไม่ก็แรงเก็บกดที่อั้นไว้เป็นแรมปีล่ะมั้ง แต่ก็ไม่ได้พูดตรงๆ นะ เพราะกลัวถูกด่าอยู่เหมือนกัน เลยแอบแยบๆ ว่ามีเพื่อนมีปัญหาเรื่องความรักอยากจะปรึกษา เขาก็ใจดีนะ บอกว่าจะรับปรึกษาให้ผม แต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ ผมพูดไปสักพัก ชักเขินเอง เขาก็เหมือนจะรู้ทันนะ พอเห็นสายตาที่เขามองผมแล้ว ผมไม่กล้าพูดต่อเลยล่ะ กลัวโดนเขาตอกหน้า เขาอายุปูนนี้แล้วคงรู้ทันผมแน่ๆ แต่ผมสิ ไม่กล้ารุกเขาตรงๆ เลย กลัวถูกถีบหัวส่งน่ะ
ตอนกินข้าวเสร็จผมเห็นว่ายังหัวค่ำอยู่ เลยหาโอกาสอยู่กับเขาต่อด้วยการชวนไปนั่งรถเล่น เขาก็บอกว่าอยากจะเดินมากกว่า ผมนึกถึงสะพานที่ครูพิสุทธิ์เคยพาผมไปเลยนะ ก็เลยบอกเขาไป ไม่รู้สิ เกิดรู้สึกว่าถ้าได้ไปเดินกับคุณไพฑูรย์บนนั้นคงโรแมนติกดี ตอนครูพิสุทธิ์ครูไม่ยอมเดินกับผมนี่ ปล่อยให้ผมเดินอยู่คนเดียว วันนี้ผมคงได้เดินคู่ใครสักที
คุณไพฑูรย์ดูงงๆ แต่ก็ยอมตกลงนะ ผมชอบเวลาเขาทำหน้างงจัง เขาจะเลิกคิ้วขึ้นหน่อยหนึ่ง จากนั้นถ้าไม่ถามต่อคำสองคำก็พยักหน้าเงียบๆ ถ้าไม่สังเกตให้ดีไม่รู้นะเนี่ย หน้าเขานิ่งจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมว่าเขาน่ารักดีนะ
แล้วผมก็พาคุณไพฑูรย์มาที่สะพานจนได้ คุณไพฑูรย์ดูจะชอบนะ ยิ้มด้วยล่ะ เวลายิ้มคุณไพฑูรย์น่ารักสุดๆ เลย เพราะตาจะเยิ้มหน่อยๆ แต่เขาไม่ค่อยยิ้มนี่สิ เอาแต่ทำหน้าตายตลอดเวลา
เดินไปสักพักบรรยากาศชักเป็นใจ ผมเลยชวนเขาคุยเรื่องความรักต่อ เนียนเล่าเรื่องผมกับครูพิสุทธิ์นี่แหละ สุดท้ายก็ถามเขาว่าเขามีคนที่ชอบรึเปล่า คุณไพฑูรย์ตอบว่ามีนะ เคยมีน่ะ แต่ไม่ได้คบกันแล้ว เพราะคนนั้นไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมแอบใจแป้วเหมือนกันนะ เพราะตอนเขาพูดถึงคนคนนั้นน่ะ ท่าทางเขาจะรักของเขานะ เพราะเขายิ้มนิดๆ ด้วย แต่เศร้าๆ น่ะ ผมทั้งหึงทั้งอิจฉาเลยนะเนี่ย หัวใจเขามีคนอื่นอยู่ก่อนผมแล้ว ผมจะเข้าไปแทนที่ได้ไหมเนี่ย แต่ผมก็สู้ของผมล่ะนะ ไหนๆ ผมก็ตกหลุมรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนี้แล้วนี่นา
ตอนไปส่งเขากลับบ้านผมเลยบอกไปว่าอาจารย์ที่ผมชอบน่ะเป็นผู้ชาย อยากให้เขารู้สึกตัวสักนิดหนึ่ง เพราะท่าทางเขาจะเข้าใจผมว่าชอบผู้หญิง เขาฟังแล้วก็พยักหน้าเฉยๆ นะ เขาจะรู้ตัวบ้างรึเปล่าเนี่ยว่าถูกผมตามจีบอยู่
-------------------------------------------------------
16 พฤษภาคม 255x
พี่นัทตกใจกับพัฒนาการของผมและคุณไพฑูรย์มากเลยล่ะ วันนี้หลังส่งคุณไพฑูรย์ที่บ้าน พี่เขาก็โทรมา ลากผมออกไปสอบสวนข้างนอกอีกแล้ว ผมว่าพักหลังๆ นี่ พวกพี่เขาเริ่มสนุกกับการลุ้นเรื่องผมกับคุณไพฑูรย์แล้วล่ะ คราวนี้มากันเกือบสิบคนเลย
ผมเลยเล่าให้พวกพี่เขาฟัง ถือโอกาสปรึกษาเสียเลยว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี พี่นัทที่เคยทำงานกับเขามาก่อนก็รับไปเต็มๆ เลยล่ะ พี่เขาอึ้งๆ อยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็บอกว่าคุณไพฑูรย์เขาอายุเยอะแล้ว แถมเป็นจอมวางมาด ทางทีดีผมอย่าไปเล่นตรงๆ ทื่อๆ กับเขาดีกว่า คนอื่นก็เห็นด้วยนะ เพราะคนมีอายุแล้วฐานะการงานขนาดนั้นเขาระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่อยากจะสนใจเด็กแบบผมหรอก ผมก็ว่างั้นแหละ เพราะบางทีเขาก็ทำเหมือนผมไม่สำคัญอะไรเลย พี่นัทเลยบอกว่าพยายาแซะๆ ไปก็แล้วกัน จากนั้นทุกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยนะ บอกว่าเปี๊ยกเอ๊ย ไม่น่าเลย คนดีๆ ให้ชอบมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องไปชอบคนรุ่นพ่อที่ดุขนาดนั้นด้วยนะ แหม.. ก็ทุกคนยังไม่เคยเห็นคุณไพฑูรย์นี่ ฟังแต่พี่นัทเล่า เล่าอะไรก็ไม่รู้ คุณไพฑูรย์เสียหายหมดเลย คุณไพฑูรย์เขาเป็นคนน่ารักนะ เพราะทุกคนไม่ได้เห็นเขาแบบที่ผมเห็นด้วยล่ะมั้ง แต่ผมไม่กล้าเล่าหรอก เดี๋ยวพวกพี่เขาหาว่าผมบ้า แล้วผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ความน่ารักของคุณไพฑูรย์ด้วย ให้ผมรู้คนเดียวก็พอ ผมจะได้เป็นคนพิเศษแบบที่ผมคิดของผมเองต่อไปนี่แหละ อาการหนักจริงๆ เลยนะ ผมเนี่ย
----------------------------------------------------------
19 พฤษภาคม 255x
ผมเพิ่งรู้ว่าคุณไพฑูรย์ไปว่ายน้ำตอนเช้าด้วยล่ะ วันนี้ไปหาเขาที่บ้านเพราะจะรับไปดูละครเวที ไม่เห็นเขาอยู่โทรไปก็ไม่รับ แอบเป็นห่วง ยืนรออยู่พักเห็นเขาเดินมาจากอีกทางก็เลยได้รู้ อยากเห็นตอนว่ายน้ำจัง
พอเห็นหน้าผม ผมถึงได้รู้ว่าคุณไพฑูรย์ลืมนัดกับผมอีกแล้ว แอบน้อยใจเหมือนกันนะเนี่ย สำหรับเขาแล้ว การตกลงกับเด็กอย่างผมนี่คงเหมือนการปลอบใจเด็กเล็กๆ ให้หยุดงอแงล่ะมั้ง ผมเลยตื้อเขาต่อ ยืนยันว่าเขาสัญญากับผมแล้ว สุดท้ายเขาก็ตกลงล่ะ ไม่เป็นไร ถึงเขาจะยอมผมเพราะอยากปลอบใจ ผมก็ยอมล่ะ เขาอยากปลอบใจผม ผมก็ดีใจแล้ว
ไปโรงละครคราวนี้ ผมไม่ซื้ออะไรเข้าไปกินล่ะ อยากทำตัวให้ดูโตขึ้นสักหน่อย ละครเล่นดีนะ ดูแล้วอินเลยล่ะ บางตอนก็ซึ้งจนผมแทบน้ำตาไหล แต่พอหันไปดูคุณไพฑูรย์ ท่าทางคุณไพฑูรย์ดูเครียดสุดๆ
ดูละครจบแล้ว คุณไพฑูรย์ยังหน้าตึงๆ อยู่เลย สงสัยเพิ่งโดนงานที่บริษัทรุม เพราะผมด้วยแหละที่ทำงานไม่ดี แล้วเนื้อหาละครก็เครียดใช้ได้ ก็เลยยิ่งทำให้คุณไพฑูรย์หงุดหงิดล่ะมั้ง กลายเป็นว่าผมพลาดซ้ำพลาดซากอีกแล้ว เลยรีบชวนเขาไปร้านอาหารสบายๆ แบบที่เขาชอบ พยายามชวนคุยนั่นคุยนี่ ใจหนึ่งชวนคุยมากๆ ก็กลัวเขารำคาญเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงนี่นา ผมไม่อยากให้เขาหงุดหงิดนานๆ น่ะ
ชวนๆ คุยเรื่องละครอยู่ดีๆ เขาก็ทักผมเรื่องชอบคนอายุมากกว่า บอกว่าชอบคนอายุมากไม่ดีหรอกนะ ผมงี้สะดุ้งเลยล่ะ นี่เขารู้ตัวแล้วรึเปล่านะ จากนั้นคุณไพฑูรย์ก็อธิบายให้ผมฟังว่าชอบคนอายุมากกว่าไม่ดีตรงไหนบ้าง แล้วก็ลงท้ายด้วยการแขวะเรื่องผมกับครูพิสุทธิ์ ผมว่าเขาอาจจะรู้ตัวแล้วนะ ว่าถูกผมตามจีบอยู่ แต่.. ไม่รู้สิ... เขารู้ตัว แต่ก็ไม่ได้บอกปฏิเสธผมตรงๆ อาจจะเพราะเขายังไม่แน่ใจเท่าไหร่ก็ได้ งั้นผมก็จะทำเนียนๆ ไปแล้วก็กัน ในเมื่อเขาไม่ปฏิเสธชัดๆ ผมจะไม่ถอยเหมือนกันล่ะ ผมหลงเขามาเป็นปีๆ แล้ว แค่นี้ผมไม่ถอยง่ายๆ หรอก
ฟังเขาจบ ผมเลยบอกเขาไปว่าผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ แล้วก็ทำหน้าด้านมองหน้าเขาตรงๆ แต่ในใจน่ะกลัวสุดๆ เลยล่ะ กลัวโดนเขาหักอกดังเปาะ ถ้าเขาบอกปฏิเสธใส่หน้าผมนะ ผมจบแน่เลย
ผมลุ้นใจสั่น ดูว่าคุณไพฑูรย์จะว่าไง แต่เขาแค่มองหน้าผม เลิกคิ้วนิดๆ แล้วเสไปพูดเรื่องอื่น เขาหลบตาด้วยนะ ผมว่าเขาเขินนะเนี่ย เขาเขินผมล่ะ น่ารักจังเลย
คุณไพฑูรย์เริ่มมีใจให้ผมแล้วรึเปล่านะ ผมไม่อยากจะคิดเองเออเองเพราะเห็นเขาเขินแบบแปลกๆ หรอกนะ แต่ผมว่าผมน่ะ รักเขายิ่งกว่าเดิมอีก หวังว่าสักวันเขาคงจะรักผมบ้าง
----------------------------------------------------
14 สิงหาคม 255x
ช่วงนี้ผมมีความสุขสุดๆ เล่าให้พวกพี่นัทฟังยังไม่ค่อยยอมเชื่อกันเลย แล้วจะเรียกผมไปคุยทำไมนะเนี่ย
ผมได้กินข้าวกับคุณไพฑูรย์แทบทุกมื้อเลย แถมคุณไพฑูรย์ยอมให้ผมไปนอนค้างที่บ้านช่วงวันศุกร์วันเสาร์ด้วยล่ะล่ะ ผมได้เข้าๆ ออกๆ บ้านเขาโดยไม่ต้องปั้มกุญแจสมใจแล้ว เพราะเขาเปิดให้ผมเข้าไปเองเลย แต่เมื่อไหร่เขาจะเปิดใจให้ผมเข้าไปอยู่เต็มๆ สักทีนะ
-----------------------------------------------------