EP.31 (END) ♠ 04/08/15 M ♠ M 『 ▷ ▷ ▷ ▸ ครูผมเป็นมาเฟีย (จริงดิ!!!?) 』
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EP.31 (END) ♠ 04/08/15 M ♠ M 『 ▷ ▷ ▷ ▸ ครูผมเป็นมาเฟีย (จริงดิ!!!?) 』  (อ่าน 356010 ครั้ง)

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อัยยะ หักมุม พี่เมฆเทพมากๆๆ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แต่ละตอน ใจหายใจคว่ำกับอิพี่เมฆมาก เฮ้อออ
อ่านตอนนี้แล้วก็ให้รู้สึกสะท้อนใจ ใช้ชีวิตกันเปลืองจริงๆ อย่างที่อิพี่เมฆว่านั่นล่ะ T_T

ขอบคุณนะค๊าบบบ หวังว่าจะได้อ่านตอนต่อไปเร็วๆนี้ อิอิ ^^

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
คมตายอ่ะ คมตายจริงๆ เหรอ ขอบคุณที่ไม่บรรยายตอนคมตายนะคะ ไม่งั้นได้เป่าปี่แข่งกับนีออนแน่เลย

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
M M
27.5

คืนนั้นพี่เมฆไข้ขึ้นสูง แล้วก็มีเพ้ออะไรไม่รู้ด้วย ฟังไม่ออก แต่ดูพี่เขาทรมานมาก ผมคอยเช็ดหน้าเช็ดตัวให้เขาทั้งคืน รู้สึกหน่วงในอกมหาศาลเพราะไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย คนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย เหมือนทุกคนต้องเป็นเบี้ยล่างเขา คนบ้าที่ชอบทำอะไรตามใจไม่ดูสถานการณ์ คนที่ผมไม่คิดว่าเขาจะล้มได้แม้สักครั้ง ตอนนี้นอนเจ็บหมดสภาพบนเตียง นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เห็นเขาหลับสนิท แต่เป็นการหลับในแบบที่ผมปวดใจที่สุด

ก่อนหน้านี้พี่เมฆทำผมทั้งเจ็บทั้งเสียใจเจียนตายเลยล่ะ นึกว่าเขาจะทิ้งผมไปแล้วจริงๆ นึกว่าเขาจะฆ่าแม่กับพี่ไม้จริงๆ คืนนั้นที่พวกพี่เมฆแอบหลบออกไปผมรู้ตัวนะ มันเสียใจและผิดหวังจนข่มตาหลับไม่ลง ผมสับสนจนหัวแทบระเบิด ในใจคิดอยากแก้แค้นที่เขาทำแบบนั้นกับผม แต่ให้พยายามยังไงก็ห้ามใจไปทำร้ายเขากลับไม่ได้ ทั้งที่โกรธมากขนาดนั้น โกรธจนแทบอยากจะฆ่าเลยแต่ก็ทำไม่ลง

หลังจากพี่เมฆไปได้ไม่นาน ผมก็ลุกขึ้นกะจะตามพวกเขาไปห่างๆ แต่นึกได้อีกที กลับไปดูศพแม่กับพี่ไม้ก่อนดีกว่า ตอนมาก็ปล่อยนอนทิ้งไว้แบบนั้น อย่างน้อยต้องฝังแล้วทำพิธีทางศาสนาสักหน่อย สวดให้ทั้งคู่ไปสู่สุขคติ ส่วนผม...ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าจะแก้แค้นยังไง แต่ผมต้องให้พี่เมฆตอบแทนกับการทำร้ายผมอย่างเจ็บปวดที่สุดนี้ให้ได้   

น้ำตาไหลลงมาอีกแล้ว คิดว่ามันจะแห้งเหือดไปแล้วนะเนี่ย ต้องมาเสียใจกับคนบ้าๆ แบบนั้นอีก ไม่น่าเลย ทั้งที่ก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง แต่ก็ยังดื้อไปรักเขาทั้งที่เขาไม่เห็นเคยจะบอกว่ารักเราเลยสักนิด การกระทำก็ไม่ชัดเจน เห็นผมเด็กกว่า เห็นผมอ่อนกว่า เห็นว่าหลอกง่าย พูดอะไรก็เชื่อเลยไม่เคยใส่ใจ

ตอนนี้โดนเขาทิ้ง โดนทำร้ายก็สมควรกับความโง่ของผม โง่จนไม่รู้จะเปรียบกับอะไร สุดท้ายก็เลยต้องเหลือตัวคนเดียว...

ผมเดินลากขา พร้อมหัวใจที่บอบช้ำเดินกลับไปทางเดิม แต่มาได้ไม่ถึงสิบเก้า ก็มีคนกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมาดักทางผมไว้ ทุกคนแต่งชุดทหารพรานหน้าเปื้อนสีจนมองไม่ชัด ผมไม่มีอาวุธติดตัวสักชิ้น ความเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจทำให้ไม่คิดตอบโต้หากเป็นศัตรู ผมไม่มีพรรคพวกตัวคนเดียว

ช่างเถอะ
ไหนๆ ก็ไม่เหลือใคร ตายๆ ไปซะได้ก็ดี ผมคิดได้อย่างนั้นก็เลยยืนนิ่ง หลับตา ก้มหน้า หากว่าพวกมันจะฆ่า ผมก็ยอม...

"มายด์ใช่ไหม?" ผมเบิกตามองทันที เมื่อหนึ่งในนั้นถามขึ้น
"ไอ้เมฆให้มารับ อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ ไว้พาไปที่ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยว่ากัน" ผมตาโตเข้าไปอีก

อะไร!? ยังไง!? พวกเขาเป็นใคร เกี่ยวอะไรกับพี่เมฆ!?

"ไม่ กูไม่ไป!" มือที่มาจับแขนโดนผมสบัดหลุด แค่ได้ยินชื่อพี่เมฆก็โกรธและเสียใจจนตัวสั่นแทบทนไม่ไหวแล้ว จะให้ไปไหนอีกล่ะ ไหนว่าทิ้งแล้วจะตามมาเก็บไปอีกเพื่ออะไร
ผมไม่คิดจะยอม และกะแย่งปืนพกที่เหน็บไว้กับเอวทหารคนหนึ่งที่อยู่ใกล้สุด แต่พวกนี้ไวเหลือเชื่อ จับผมลอยเอาตัวพาดบ่าขึ้นง่ายๆ เลย

"เด็กดื้อเหรอ อยู่นิ่งๆ!" ผมทั้งดิ้นทั้งทุบ แต่แค่นั้นมันไม่ปล่อยหรอก คราวนี้ผมเลยโหนตัวเอาเท้ายันลำตัวเขาถีบแล้วหมุนออกมา ที่เหลืออีกสี่คนเข้ามารุมช่วยจับผมทันทีแบบไม่รอให้ตั้งตัวกันเลย แต่ละคนก็ตัวควายๆ ทั้งนั้น แรงเยอะแล้วก็ทักษะสูงมาก ผมหนีหลุดได้ไม่กี่วิ เขาก็จับได้ใหม่ สู้ไม่ไหวจริงๆ โดนกดให้นอนหมอบกับพื้นแล้วด้วย

"เด็กไอ้เมฆทำไมมันดื้ออย่างนี้วะ"
"เห็นหน้าอ่อนๆ แม่งที่ไหนได้..."
"เอาน่ะ อย่าบ่น รีบพาเขาไปหาลุงพิได้แล้ว" ผมโดนจับมัดแล้วยกขึ้นพาดบ่าเหมือนเดิม แต่ตลอดทางก็ไม่คิดจะยอมหรอก ดิ้นหลุดลงพื้นได้อีกที เอาวะ คราวนี้ผมเอาหัวโหม่งเลย เป็นไงเป็นกัน

"โอ้ย แม่ง.." โถมไปทั้งตัวจนคนหนึ่งล้มหงายหลังลงพื้น ผมจะซ้ำ แต่มันยกแขนกันไว้ได้ กำปั้นหนักๆ กำลังจะพุ่งเข้ากระแทกหน้าผมอยู่รอมร่อแต่ก็คนเดิมที่พาดบ่านั่นแหล่ะ ช่วยห้ามไว้ก่อน

"อย่ารังแกเด็กสิวะไอ้นี่" เขาบ่นเพื่อนนิดๆ แล้วจับผมมาอยู่ท่าเดิมเป็นครั้งที่สี่
"พวกมึงเป็นใคร?" ผมถามทั้งที่โดนจับห้อยหัวเดิน
"ขึ้นมึงเลยเหรอ ถามดีๆ สิ เดี๋ยวจับตบปากเลย" ไอ้ที่เดินตามง้างมือใส่หน้าผม
"จะให้พูดดีกับคนที่อยู่ๆ ก็จับกูมัดแบบนี้อ่ะนะ?"
"สงสัยต้องจับเด็กมันไปสอนมารยาทว่ะ แม่ง...ก้าวร้าวพอกันเลย" ผมดิ้นแรงขึ้น ทั้งดิ้นทั้งด่าเลยล่ะ ตัวเองมารยาทดีตาย จนสักคนต้องเอามืออุดปากเลยทีเดียว
 
"พวกพี่มาช่วยครับ เดี๋ยวไปถึงที่พักจะอธิบายทุกอย่างเอง ใจเย็นๆ ก่อนนะ" ไอ้คนที่อุ้มผมพยายามพูดดีด้วย พวกมันพาผมเดินลัดเลาะแนวป่ามาไกลพอสมควร

จนมาถึงที่พักที่พวกมันบอก มันก็พาผมเข้าไปในเต็นท์หลังใหญ่เต็นท์นึง...ซึ่งมีลุงแก่ๆ คนนึงกำลังนั่งจิ้มไอแพดอยู่
"ลุงพิ ผมพาเด็กไอ้เมฆมาแล้วครับ" ไอ้คนที่อุ้มปล่อยผมลงยืนที่พื้น แถมจับไหล่บังคับให้อยู่นิ่งๆ ด้วย
"โหแฮะ....เด็กกว่าที่คิดไว้เยอะ" ลุงนั่นจ้องผมเขม็งจนรู้สึกหนาวสันหลังยังไงไม่รู้
"ไม่ต้องกลัวนะ ลุงชื่อพิทักษ์ มาทำงานให้รัฐ มาจับโจร แล้วก็มาช่วยคนด้วย" ลุงพิลุกขึ้นมายืนหน้าผม คำพูดหลอกล่อเหมือนว่าผมเด็กมาก มาพร้อมลูกอมสตรอเบอร์รี่หนึ่งเม็ดยื่นให้

นี่ผมไม่ใช่เด็กนะ...!

"กินสิ มีเนื้อสตรอเบอร์รี่ข้างในด้วยนะ แล้วก็มีแยมกับผงไอซ์ซิ่งโรยด้วย"
"ผมไม่กิน! รีบบอกมาเลยดีกว่าว่าจับผมมาที่นี่ทำไม พวกลุงเป็นใคร แล้วเกี่ยวไรกับพี่เมฆ?" ผมจ้องอย่างเอาเรื่อง จังหวะนี้ไม่กลัวตายแล้ว เพราะตอนนี้อยู่หรือตายก็มีค่าเท่ากันนั่นแหล่ะ

"ใจเย็นๆ ก่อน เรื่องนี้เราต้องคุยกันยาว แต่เดี๋ยวลุงบอกเรื่องสำคัญก่อนแล้วกันมายด์จะได้สบายใจ" รู้ชื่อผมด้วย!?
"แม่กับพี่ชายมายด์ยังไม่ตายนะ ลุงให้หน่วยแพทย์รักษาเบื้องต้นแล้ว ทั้งคู่พ้นขีดอันตราย ตอนนี้กำลังส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองไทยอยู่" ผมยืนอึ้ง จนลุงพิเอารูปแม่กับพี่ไม้ที่มีหมอพยาบาลช่วยชีวิต ก่อนเอาขึ้น ฮ.ให้ดู ผมถึงกับยืนนิ่งไปเลย
"เป็นไง ทีนี้พอจะสบายใจขึ้นมาหรือยัง?" เขายิ้มใจดีให้ผม ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนไม่รู้จัก ผมคงร้องไห้โล่งใจไปแล้ว แต่...ก็ยังเชื่อได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก

"จะไว้ใจได้ยังไงว่าลุงจะเอาแม่ผมไปรักษาจริงๆ"
"เอาเป็นว่าถ้าทั้งคู่ฟื้นเมื่อไหร่จะให้ต่อสายคุยกับมายด์แล้วกัน อ้อ เกือบลืม ลุงเป็นหน่วยสืบราชการลับ นี่ตรากรม... ไม่ใช่ผู้ร้ายหรือมาเฟียที่ไหนจริงๆ นะ พวกเราเป็นคนของประชาชน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทำร้ายประชาชนมั่วๆ เด็ดขาด" ผมไม่เห็นจะเคยเห็นตราแบบนี้เลย อาจจะเคยได้ยินแต่ก็ไม่เคยสนใจว่าทำงานอะไรแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็ทหารกับตำรวจ แต่คนพวกนี้ดูจะแปลกออกไปหน่อย แล้วพี่เมฆอ่ะ เป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ แล้วมารู้จักกับคนพวกนี้ได้ยังไง ผมงงไปหมดแล้ว

"เอาล่ะ อย่าเพิ่งคิดอะไรให้มากความเลย เดี๋ยวให้ติณพาไปอาบน้ำ กินข้าว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อนนะ แล้วลุงจะค่อยๆ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องไอ้บ้าเมฆ คงต้องใช้เวลานานหน่อย"

ผมถูกดันให้ออกจากเต็นท์มาทำธุระส่วนตัวอย่างงงๆ พยายามจะถามจากพี่ติณอะไรนี่ เขาก็ให้รอฟังลุงพิอธิบายทีเดียว

จนได้เวลารู้ความจริงว่าพี่เมฆเป็นสายลับของ กอ.รมน.เนี่ยแหล่ะ ผมถึงกับช้อค ครูผมไม่ได้เป็นมาเฟียจริงๆ แต่เขาเป็นสายลับ!
ผมไม่อยากจะเชื่อมาก่อน ไม่รู้สินะ พี่เมฆดูกลมกลืนมากสุดๆ จนผมคิดว่าเขาเนี่ยแหล่ะเป็นยิ่งกว่ามาเฟียอีก

ลุงพิยังเล่าอีกว่า พี่เมฆไม่ได้เป็นคนของรัฐหรอก ไม่ได้เป็นทั้งทหาร ไม่ได้เป็นทั้งตำรวจ ไม่ได้มียศบนบ่าเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาเป็นคนธรรมดาที่ถูกฝึกเพื่อใช้ให้เป็นสายตั้งแต่ยังเด็ก แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ใครจะเป็นก็เป็นได้ และยิ่งไม่ใช่อยู่ๆ ใครจะเข้าไปเป็นคนของมาเฟียกลุ่มของไอ้ฤทธิ์ได้ง่ายๆ เช่นกัน มันต้องใช้เส้นสาย และความสัมพันธ์ที่ต้องบ่มเพาะเป็นปีๆ เพื่อแทรกซึมเข้าไปให้เป็นส่วนหนึ่ง

หลายคนถูกจับแล้วโดนฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็น แต่พี่เมฆไม่ใช่... เขาอยู่ได้ และอยู่ได้นานด้วย นานจะทุกคนไว้ใจและให้มีอำนาจตัดสินในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ ต้องมีเขาช่วยจัดการ

พี่เมฆต้องใช้ฝีมือและต้องฆ่าเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ลุงพิพูดด้วยความเจ็บปวดว่าแรกๆ พี่เมฆทนฆ่าใครไม่ได้หรอก เขาออกจะเป็นประสาทนิดๆ ด้วยซ้ำที่ต่อหน้าต้องทำเป็นเลือดเย็น แต่ลับหลังก็ต้องกอดตัวเองจากฝันร้ายและความหวาดกลัว ผมสงสารพี่เมฆและเข้าใจเขา เพราะอดีตผมก็เป็น แบบนั้น แต่พอนานๆ ไปทำใจได้ มันก็กลายเป็นความเคยชินและเฉยชา

ผมนั่งฟังลุงพิพูดเรื่องพี่เมฆทั้งคืนจนมาถึงอีกวัน โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ผมตั้งใจฟังและถามทุกอย่างที่ตัวเองสงสัย
"ที่จริงหน่วยลุงจะไม่เข้าไปบู๊นะ เราจะหาข้อมูลโดยใช้คนแทรกซึมเข้าไปเฉยๆ ส่วนเรื่องชกต่อย ยิงกันเปรี้ยงปร้างน่ะ ปล่อยให้ทหารตำรวจเขาจัดการ"
"แต่ข้างนอกก็มีทหารนี่ครับ?"
"ในหน่วยก็ต้องมีคนเป็นงานอยู่แล้วล่ะ ถึงจะทำเกี่ยวกับข้อมูล แต่เวลาจะเข้าไปล้วงความลับเนี่ย มันก็ไม่ใช่ง่ายๆ นะ มันต้องมีไหวพริบและฝีมือกันบ้างอยู่แล้ว อย่างไอ้ติณน่ะ มันก็เก่งนะ สูสีไอ้เมฆเลยล่ะ" ผมนึกเปรียบเทียบพี่เมฆกับพี่ติณนี่ยังกับอยู่คนละโลก

"เรื่องที่ไอ้เมฆเป็นสายเนี่ย เป็นความลับสุดยอดมาก ก่อนหน้านี้มีคนรู้แค่สามคนเองนะ คือลุง เด็กรับข้อมูล แล้วก็ท่าน ผอ. ขนาดพวกสายทหารยังไม่รู้เลย แต่ที่มาบอกให้มายด์ฟัง ก็เพราะไอ้เมฆมันจะเลิกทำงานนี้แล้ว" ผมตกใจ
"เลิก!?.....เลิกได้เหรอครับ?" ลุงพิหัวเราะ
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เมื่อกี้เพิ่งได้รับข่าว พวกไอ้ฤทธิ์ตายเรียบ อีกไม่นานเดี๋ยวเจ้าพ่อก็คงโดนเช็คบิลด้วยเหมือนกัน กว่ามันจะรู้ตัวว่าใครเป็นหนอนก็คงสายไปแล้ว"
"แต่พี่เมฆบอกว่าจะไม่เลิก..." ผมยังจำได้นะ ตอนนั้นบอกเขา แต่เขาไม่ยอม
"เมื่อไหร่ล่ะ นานหรือยัง?"
"ก็...นานแล้วครับ"
"ฮ่าๆ ตอนนั้นงานมันยังไม่เสร็จนี่ แต่ละคนปล่อยได้ที่ไหน ไอ้โซ่ ไอ้เป็ดนี่ตัวดีเลย ถ้าอยู่ๆ ออกมาไอ้เมฆโดนตามเก็บอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ" ผมก้มหน้างุด ตอนที่ลุงพิยิ้มล้อมาให้

"ไอ้เมฆมันบอกลุงว่าอยากหยุดแล้ว มันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากไปอยู่ไกลๆ หนีความวุ่นวาย หนีจากคนที่มันรู้จัก แล้วใช้ชีวิตแบบสงบ แถมมันยังบอกด้วยนะ..ว่าจะเอาสุดที่รักของมันไปอยู่ด้วย" ทำหน้ายิ้มๆ ใส่ตาผมแบบนี้คงไม่ต้องบอกแล้วมั้งว่าคนนั้นคือใคร
"ผมไม่เคยบอกนะว่าจะไปอยู่ด้วย" ฮึ สุดที่รักอะไร เคยพูดด้วยเหรอ?
"ลุงก็ไม่รู้สิ ไอ้เมฆมันไม่ได้บอกชื่อเสียด้วย" นั่นไง ว่าแล้ว
"แต่ถ้าเป็นมายด์ ถึงไม่อยากไป มันก็คงบ้าตื๊อเอาไปอยู่ด้วยจนได้นั่นแหล่ะ ไอ้หมอนี่นะ ลูกบ้ามันเยอะ ฮ่าๆๆ"
       




ผมนั่งมองพี่เมฆที่นอนหลับบนเตียงในความมืด... นึกถึงที่ลุงพิบอกก็ได้แต่สงสัยและคาดหวังอีกแล้ว ว่าคนที่พี่เมฆต้องการจะให้ไปอยู่ด้วยเนี่ย เป็นผมหรือเปล่า? ถึงผมจะโกรธเคืองพี่เมฆแค่ไหน แต่ก็อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะครับ รีบๆ หายแล้วก็รีบๆ ตื่นมาบอกผมด้วย ว่าเราจะไปอยู่ด้วยกัน

"เมฆยังไม่ฟื้นอีกเหรอ?" พี่ติณ กับพี่คนอื่นๆ ที่ผมเพิ่งจำชื่อได้ว่าคือพี่เจี๊ยบ พี่ตั้ม พี่โอม พวกนี้คือคนที่ฝึกมากับพี่เมฆตั้งแต่เด็กๆ เลย แต่ว่าไม่ได้เลือกที่จะมาเป็นสายในแก็งค์มาเฟีย เดินเข้ามาดูที่ห้องพัก ลุงพิขึ้น ฮ. กลับประเทศไปเคลียร์งานต่อแล้ว เหลือแค่พวกเราที่เตรียมกลับพร้อมคนป่วยเหมือนกัน
"ยังเลยครับ" พี่เมฆยังไม่ฟื้นเลยตั้งแต่วันนั้น
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันยังไม่ตายสักหน่อย ปล่อยให้หลับงี้แหล่ะดีแล้ว ตื่นมาก็กวนตีนชาวบ้านเขาไปทั่ว" พี่โอมเดินมาตบไหล่ปลอบใจ
"ไม่รู้สิครับ เห็นพี่เขาเป็นแบบนี้แล้วมันไม่ชิน พี่เมฆต้องกวนตีน ต้องบ้าบอ ต้องชอบกวนประสาท แบบนั้นต่างหากที่เป็นเขา"
"นั่นสินะ ตอนพามันมาทำแผลยังตกใจเลย สปายของลุงพิเป็นไอ้เมฆ! แม่งเอ้ย โลกจะถล่ม กิตติศัพท์มันในวงการมีแต่เรื่องเชี่ยๆ ทั้งนั้น ตกใจกันเป็นแถวดิ แล้วพอรู้ว่ามันเป็นคนบ๊องๆ ไม่ใช่โหดเหี้ยอย่างที่คิดยิ่งอึ้งไปกันใหญ่" พี่เจี๊ยบร่ายยาว ซึ่งฟังๆ ดูแล้วมีแต่คนไม่อยากจะเชื่อกันทั้งนั้นว่าสายลับเป็นพี่เมฆ แสดงว่าอยู่ได้เนียน สมบทบาทมาก



"คุยไรกันวะ หนวกหู" เสียงแหบแห้งดังขึ้นข้างหลัง ผมสะดุ้งรีบหันไปมองแต่ช้ากว่าพี่ๆ คนอื่นที่ไปยืนมุงดูกันรอบเตียงแล้ว
ผมเห็นพี่เมฆขมวดคิ้วมองทีละคนๆ ผมอยากจะแทรกไปยืนข้างๆ เขา อยากเป็นคนแรกที่เขาตื่นมาเห็น เหมือนที่เคยสัญญาไว้ แต่มันก็ไม่ทันแล้ว
"มองเหี้ยไร อยากเป็นเมียกูเหรอ จ้องเอาๆ สัส" พูดจบเขาก็ไอโขลกๆ จนผมต้องหันไปเทน้ำใส่แก้วให้
"มายด์ อยู่ไหนอ่ะ?" เขาด่าคนอื่น ก่อนเรียกหาผม

พี่ๆ รีบเปิดทางให้ ผมเลยได้โอกาสยื่นแก้วน้ำไปที่พี่เมฆ
"หายไปไหนมา?" เขาขมวดคิ้วมองแบบเคืองๆ
"ไม่ได้หายไปไหนครับ ผมก็อยู่นี่ตลอด พี่เมฆจิบน้ำก่อนนะ" ผมจะป้อน แต่เขาบอก
"ไม่ต้อง จะกินเอง"

เออ ก็ได้วะ

"ปวดกบาลแบบเหี้ยๆ เลย กูนอนไปกี่นาทีวะ" พี่เมฆบ่น เอามือกุมหัว
"นอนสองคืน"
"หา?"
"เดี๋ยวเตรียมขึ้น ฮ. กลับเมืองไทย หมอบอกเข็นขึ้นได้เลยแผลไม่เป็นไรแล้ว แต่ถ้าปวดหัวก็เตรียมยาไว้เรียบร้อยแต่หลังจากนี้ต้องกินทุกสี่ชั่วโมงนะ" พี่ติณพูดยาวพรืดเดียว พี่เมฆเหลือบตามองเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ
"ใครใช้ให้มึงมาพ่นใส่กูเป็นวรรคเป็นเวร หา? ไอ้พวกปลายแถวไปให้ไกลๆ ตีนเลยไป กูไม่รักพวกมึง" ทุกคนพอได้ยินก็ทำหน้าประหลาดๆ ผมเริ่มเข้าใจความคิดพวกเขาแล้วสิ ที่ว่า... อิมเมจมาเฟียแบบพี่เมฆ ที่แท้จริงคือคนบ๊องๆ เป็นอย่างไร

"พวกพี่เขาเป็นคนของลุงพิ" ผมช่วยพูดให้ "ของๆ พี่เมฆผมเก็บให้หมดแล้ว เดี๋ยวเราจะได้กลับบ้านกันแล้วนะ" ผมกุมมือเขาเบาๆ พี่เมฆมองนิดนึงก่อนสบัดหน้าหนี 
"รู้ตั้งแต่ยังไม่เกิดว่าพวกมันเป็นใคร มีแต่พวกมันนั่นแหล่ะสมองหมาปัญญาไอ้ตูบไม่รู้จักผม และผมไม่มีบ้านให้กลับว่ะ" เอิ่ม
"บ้านผมไง"
"บ้านคุณก็มีคุณแม่กับพี่ชายห่วยๆ อยู่แล้วไง ผมไม่อยู่ร่วมกับคนห่วยๆ ผมกลัวติดเชื้อความห่วยไปด้วย เข้าใจป่ะ?"
"คือจะว่าผมห่วย?"
"อืม ก็ใช่" จะโกรธดีไหม แต่โบราณว่าไว้ อย่าถือสาคนบ้า...
และเรื่องนี้ผมเพิ่งนึกขึ้นได้เลย ที่พี่เมฆแกล้งยิงเพื่อตบตาพวกพี่เป็ด

"ขอบคุณนะครับ ที่ไม่ได้ทำอะไรแม่กับพี่ไม้จริงๆ" ถ้าเขาไม่ทำแล้วคนอื่นทำ สงสัยได้เสียทั้งคู่ไปจริงๆ แน่ ถึงจะเป็นแค่ครอบครัวปลอมๆ เคยหลอกใช้กันมาบ้าง แต่อย่างน้อยเขาก็เคยเลี้ยงผมมาอ่ะ   
"ผมจะฆ่าคนที่ผมอยากฆ่าเฉยๆ แล้วจะอยู่กับคนที่อยากอยู่ด้วยเท่านั้น เคนะ?"
"เอ่อ ครับ"
"ผมจะไม่อยู่แล้วนะบางกอก เบื่อโคตร วิ่งหนีเมียเก่าไม่ทัน ผมจะไปอยู่ที่ไกลๆ สงบๆ ไม่ให้มีใครมาวุ่นวายได้อีก"

"พี่เมฆจะไปอยู่ไหนเหรอ?"

"ไม่บอก"
"อ้าว ทำไมล่ะ?"
"คนที่รู้ต้องไปอยู่กับผม เป็นเมียผมดิ ถ้าใครไม่อยากเป็นเมียกู ก็กรุณาไปไกลๆ ส้นตีนกูด้วย" คนอื่นๆ พากันสะดุ้งโหยง เมื่อเจอสายตาของพี่เมฆเข้าไป

"เออ เดี๋ยวไปเตรียมตัวก่อน สิบนาทีตามไปแล้วกันนะมายด์" พี่ติณบอกผม พร้อมกับที่ทุกคนรีบเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ผมหันไปมองพี่เมฆเขายังมีสีหน้าขัดอกขัดใจอยู่ แถมตอนนี้ก็ลุกจากออกจากเตียงลงมายืนแล้วด้วย
"เฮ้ย พี่ รอรถเข็นก่อนสิ รีบลุกออกมาทำไม" ผมจะดันตัวเขาไปนั่ง แต่พี่เมฆกลับอ้อมมือมากอดผมไว้แทน
"มายด์ผิดสัญญา" เสียงงอนมากครับ ผมแอบอึ้งปนอายนิดๆ แต่ก็ดีใจ เลยกอดตอบเขา
"ขอโทษนะครับ" รู้ว่าหมายถึงเรื่องอะไร แต่มันช่วยไม่ได้อ่ะ ก็คนอื่นเร็วมาก อยากจะเป็นคนแรกที่พี่เมฆลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นจริงๆ นะ

ผมผละออกมาเงยหน้าขึ้นบอกเขา
"ใครจะไปรู้ว่าพวกพี่ติณจะเข้ามาตอนพี่ตื่นพอดี"
"เห็นหน้าพวกมันแล้วผมแทบร่วงอีกรอบ ดูพวกแม่งดิ มองผมยังกับมองมาริโอ้ นี่ถ้าเซลฟี่ด้วยได้คงทำไปแล้วมั้ง คุณน่ะก็ไม่หวงผมบ้างเลย ผมโดนจ้องขนาดนั้น แทนที่จะกระโดดถีบมันไปมั่ง นี่อะไร ยืนเฉยอยู่ไหนก็ไม่รู้ ปล่อยพวกมันลวนลามผมทางสายตาอยู่ได้ตั้งนาน นี่ถ้าผมเป็นปลาทองเนี่ยผมท้องไปแล้วนะ!" พี่เมฆยังงอน ทำแก้มพองแบบไม่เข้ากับเขาอีก ผมเห็นแล้วสยองไงไม่รู้ 
"ปลาทองมองหน้ากันแล้วไม่ท้อง! ต้องปลากัดต่างหาก" แก้ความเข้าใจผิดหน่อย ชอบมั่วอยู่เรื่อย
"เออ อยากกัดพอดี" 
"อื้อ" พี่เมฆเอาฟันมางับปากผม แล้วคนอย่างเขานะคงไม่เบาไม่เป็น 
"เจ็บ" แล้วก็มากัดแก้ม กัดจมูก กัดหู กัดคอผม...

"โอ้ย พี่อ่ะ ยังไม่หายป่วยเลย" เริ่มรู้สึกเปียกๆ และได้ยินเสียงดูดด้วย
"หายแล้ว หึหึ" มือเขาลูบไล้หลังผมไปมา และค่อยๆ ลามไปแถวสะโพก ผมอ้อมไปตะปบมือที่กำลังบีบนวดก้นผมอยู่

"ยังไม่หายดี อยู่เฉยๆ! พวกพี่เขาออกไปรอแล้วนะ"
"รอนิดรอหน่อยมันไม่ชักตายหรอก"
"แล้วพี่จะปล่อยให้เขารอทำไมล่ะ น้ำมัน ฮ. ไม่ใช่ถูกๆ"
"อยากกอดเมีย" ผมชะงักไปนิด ก่อนพูดต่อ
"แต่มายด์ไม่อยากกอดพี่เมฆ ไม่อาบน้ำมาสองวันแล้วนะ ตัวเหม็นตุๆ"
"โห แล้วตอนผมหลับ คุณไม่อุ้มผมไปอาบหล่ะ?"
"พี่เมฆตัวเบามากครับ! เบาจนมายด์อุ้มวิ่งรอบเกาะได้เลย" ประชด แล้วแผลเต็มตัวจะอาบยังไง หมอห้าม
"เช็ดตัวก็ได้ ปล่อยผมนอนเน่างั้นจริงดิ ทำไมใจร้ายจัง" เขาทำหน้าเศร้า แต่หลอกผมไม่ได้หรอก แกล้งทำชัวร์
แต่ตอนเขาไข้ขึ้นผมก็อยู่เช็ดตัวให้ตลอดนะ พี่เมฆไม่เหม็นหรอก

เราสองคนโดนพวกข้างนอกตะโกนเรียกจนได้ หลังจากเถียงกันอยู่นานจนเขาทนรอไม่ไหว
ผมเพิ่งเคยนั่ง ฮ.เป็นครั้งแรก แอบตื่นเต้น ส่วนพี่เมฆพอตื่นได้ มาดก็ไม่เหมือนคนป่วยเลย เขาไปคุย หยอกเล่นกับพวกพี่ติณ จนโดนด่าว่ากวนตีนเหี้ย เหี้ยกวนตีนอยู่หลายครั้ง วนไปวนมา
ฟังแล้วก็ขำดี

"ให้กูไปส่งไหนวะเมฆ?" พี่ติณหลังจากเริ่มคุ้นเคยได้ระดับนึงก็เริ่มใช้กูมึงแล้ว ส่วนพี่เมฆ คุ้นไม่คุ้น เขาก็หยาบใส่คนอื่นประจำ ยกเว้นตอนเป็นครูนั่นแหล่ะ ที่พูดจาสุภาพขัดกับหน้าตา จนตอนนี้เขายังเรียกผม 'คุณ' เหมือนตอนเป็นนักเรียนอยู่เลย ส่วนใหญ่ อ.ในโรงเรียนจะเรียกชื่อจริงหรือไม่ก็เรียก 'เธอ' มากกว่า แต่พี่เมฆเรียก 'คุณ' อาจจะเพราะเขาปลอมตัวเป็นครูมั้ง

จะว่าไปก็ตลกดีเหมือนกัน ตอนที่รู้ครั้งแรก
'ครูผมเป็นมาเฟีย จริงดิ!!!?'

ผมไม่อยากจะเชื่อเลย แล้วตัวผมที่เกี่ยวข้องกับสายลับอะไรนั่นอีก...โชคดีที่เราไม่ได้อยู่คนละฝ่ายอย่างที่คิด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ผมกล้าพนันเลยว่าเมื่อมายืนอยู่ในจุดที่ต้องห้ำหั่นกัน เขาคงไม่ปล่อยให้ฝ่ายผมมีชีวิตรอดแน่

พี่เมฆหันมามองหน้าผม ก่อนตอบพี่ติณ
"กูจะไปเชียงใหม่"
"บ้านมึงอยู่นั่น?"
"ไม่มีบ้าน จะไปนอนโรงแรมสัก 2 คืน แล้วเดี๋ยวค่อยบินไปญี่ปุ่น"

ผมยืนอึ้ง และทุกคนทำหน้างงกันเป็นแถว
"เดี๋ยวจองเครื่องให้แล้วกัน.." พี่ติณทำท่าจะถามอะไรสักอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้ถาม จนกระทั่งถึงลานจอด ฮ. แล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่นี่ที่ไหน แต่มองรอบๆ ไม่มีบ้านคนเลย มีแต่ต้นไม้แห้งตาย ช่วงที่ลง ฮ. แล้วเดินตามพวกพี่ติณไปต่อรถ ผมรีบดึงมือพี่เมฆเอาไว้

"ไปอยู่กับผมนะ" พี่เมฆดึงมือออก แล้วบอกน้ำเสียงกวนตีนว่าไม่ไป
"บอกแล้วไง ไม่อยากอยู่กับคนห่วยๆ"
"สรุปว่าผมห่วยจริงใช่ไหม? เออ ผมมันห่วย แต่ไม่เห็นต้องทิ้งกันนี่!" ผมตะคอกไม่พอ ยังผลักหลังพี่เมฆเต็มแรงอีก แต่เขาก็ไม่ค่อยสะเทือนมากเท่าไรนัก

ทุกคนหยุดหันมามองเสียงทะเลาะของพวกเรา
"ห้ามทิ้ง เข้าใจไหม ถ้าทิ้งเดี๋ยวยิงแน่!" ผมมีปืนแล้วนะตอนนี้ เขาให้พกไว้ทุกคนในกระเป๋าเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
"เฮ้อ... จินตนาการก้าวไกล ไม่แพ้เมียชาติใดในโลกจริงๆ เมียกู" พี่เมฆทำท่าหน่ายๆ ขยี้หัวแล้วเดินต่อ

ผมพุ่งเข้าไปต่อยไหล่ข้างที่ไม่เจ็บของเขาให้หยุด ทำมึนสักที
"ผมจะตามพี่ไป ไม่ปล่อยให้ไปหาคนอื่นหรอก ทำใจไว้เลย!"
"เออ ก็รู้เรื่องนี่" พี่เมฆทำหน้าโอดครวญเหมือนแรงเมื่อกี้มันกะเทือนไปถึงแผล
ซึ่งปกติเขาจะโวยวาย แต่คราวนี้ไม่แฮะ สงสัยจะเจ็บจริง ผมเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา บวกกับที่เขาบอกว่า รู้เรื่องด้วย.....



ผมรู้อะไรเหรอ?

ผมยืนทำหน้างง ส่วนพี่เมฆยักคิ้วยิ้มมุมปากแล้วเดินต่อ พี่ติณเห็นผมโง่อยู่นาน เลยมาช่วยบอกว่า

"ไอ้เมฆมันซึน มันอยากให้น้องไปด้วยนั่นแหล่ะ แต่มันไม่ยอมพูดตรงๆ" ผมกระพริบตาปริบๆ เรียบเรียงคำพูดใหม่ ทวนคำพูดพี่ติณซ้ำไปซ้ำมา...
พี่เมฆไม่ได้จะทิ้งผม แต่เขาอยากให้ผมพูดว่าจะไปด้วย

กรรม!


ไอ้พี่เมฆ



ไอ้บ้า!





wtf
  :katai1:

       
   

H
ใกล้จบแล้ว T T

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ซึนตลอดเลยอ่ะพี่เมฆ มีผัวแบบนี้ต้องทำใจอ่ะมายด์

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
อีกข้อของพี่เมฆกับน้องมยด์ พี่มันหื่น

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
จะไม่มีการฆ่าฟันกันอีกแล้ว ชิม๊ายยยยย อิชั้นหัวใจอ่อนแอ T_T

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ดีอกดีใจ  เตรียมฉลอง :angellaugh2: :mc2:

และแอบหวังว่าจะรวมเล่มเร็วๆนี้  ซื้อแน่ๆ อิอิ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ไม่อยากให้คมตายเลย นึกว่าจะเป็นคู่หูเมฆซะอีก อึ้งเลย อิเมฆเป็นสายลับ 555
ทั้งมึนทั้งบ้า มายด์เตรียมยาไว้แก้ปวดหัวเยอะ ๆ นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
มีผัวแบบพี่เมฆต้องทำใจให้ชินนะมายด์ :laugh:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
เข้ามาให้กำลังใจพี่เมฆและน้องมายด์ และคุณโบว์+แบงค์ค่าา ขอบคุณที่มาต่อนะคะ ช่วงนี้งานรัดตัว ขอเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
หักมุมสุดๆเลย เรื่องในแก๊งค์มาเฟียเป็นเหมือนความฝัน
ไอ้เราก็แอบภาวนาว่าหนูท้อปจะมีคู่  :hao5:

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
M M
28


นีออนขอแวะไปบ๊ายบายญาติพี่น้อง เพราะเขามีความคิดที่จะหนีตามผู้ชายระดับตำนานอย่างผมไปแสวงหาโชคลาภที่เชียงใหม่ ตบท้ายตีตั๋วไปญี่ปุ่น เพราะตอนนี้วีซ่าไม่ต้องขอ

ถุย!
ไม่ใช่

ทำไมต้องญี่ปุ่น?
ก็ไม่ทำไม แค่จะไปหาหนังเอวี แวะร้านเซ็กซ์ทอยแล้วซื้อตุ๊กตายางมาเป่าลมเล่นสักตัวสองตัว แค่นี้... ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ส่วนตัวของคนที่ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรอ่ะ

นีออนใช้เวลาล่ำลาญาติกับเตรียมตัวเก็บข้าวของ 2 วัน
กูว่ามันก็ค่อนข้างนานอยู่นะ

นานจนทำความคิดผมฟุ้งซ่านไม่ใช่น้อย
   
ผมนั่งมองซองบุหรี่ที่ไม่ได้สูบมานานหลายอาทิตย์ ดูดเข้าไปหนึ่งปรี๊ด ก็เสือกนึกถึงคนที่แม่งผมชอบใช้ให้ไปซื้อบ่อยๆ




ปัง!


“เวรเอ๊ย” หางตาทันเห็นคนๆ หนึ่งร่วงลงไปพอดี ผมพุ่งเข้าไปกระโดดถีบเข้าก้านคอไอ้คนที่แม่งยังมีฤทธิ์หลงเหลือจนมันล้มตึงนอนจูบดินไป

หันมองให้ชัดๆ อีกที คนที่โดนยิงคือไอ้คม แม่งร่วงขนาดนั้นจะตายไหมเนี่ยสัด
ผมรีบวิ่งไปดูเพราะบริเวณนี้ไม่มีใครรอดแล้วนอกจากผมกับมัน แต่ดูท่าอาการสาหัสว่ะ เพราะมันเอาแต่นอนกุมท้องตัวสั่น อกกระเพื่อมแรง เลือดแม่งก็ไหลทะลักยังกับท่อประปาแตก

“ล...ลูกพี่ ผม” มันนอนหงายมองหน้าผม เลือดเริ่มไหลทะลักออกมาทางปากด้วย ผมจับมือมันที่ยื่นออกมา
“เหี้ย อย่ามาตายต่อหน้ากูสิวะ!” ไม่คิดว่ามันจะพลาดง่ายขนาดนี้ ที่ผ่านมามึงรอดตลอดเลยนะไอ้เวรเอ๊ย   
“โทษที ผม..ต.ตาย อึก! แน่แล้วคราวนี้” 
“พกมอร์ฟีนมาไหม?” สีหน้ามันเจ็บปวดมาก ใจนึงก็อยากฆ่ามันให้หายทรมานไปเลย แต่อีกใจกูขอฟังคำลาของมัน เผื่ออยากสั่งเสียอะไร

ไอ้คม ที่จริงไม่ได้มีคำสั่งเป็นเรื่องเป็นราวให้เก็บมันหรอก มันไม่ได้อยู่ในประเด็น จะอยู่หรือตาย ลุงมันให้เป็นความพอใจของผม

“อ..ยู่ในกระเป๋า แต่...ลูกพี่...ม...ไม่ต้องแล้ว” ตามันไม่ได้มองผม แต่มองไปที่ด้านหลังผมแทน

ผมหันมองบ้างก็เจอพวกไอ้ติณยืนอยู่ มันส่งสัญญาณมือบอกให้ผมรีบตามไป ผมไม่ได้ตอบ แต่หันกลับมามองไอ้คมที่ดูท่าจะรู้เรื่องแล้วว่าผมหักหลังพวกมัน

“โทษทีว่ะ” มันจ้องผมเขม็งทั้งที่ปากมีแต่เลือด ไอ้คมปล่อยมือทำหน้าผิดหวังในตัวผมเป็นครั้งแรก

ช่างเหอะ
ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากจะให้มันหวังอะไรหรอก

“กูไม่ใช่พวกมึง...แต่มึงเป็นน้องกู” ผมบอกมัน น้ำตาไอ้คมไหลลงข้างแก้ม ไม่รู้เพราะมันเจ็บเหี้ยๆ หรือมันซึ้งกับคำพูดผม
“เสียดายว่ะ....อึก...อยากอยู่เป็นน้องพี่ฉิบหาย...เลย”
“มึงก็เป็นอยู่แล้วไอ้หอกหัก” แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด มันยิ้ม แล้วเลือดก็ทะลักออกมาอีก พอรู้ชะตากรรม...ไอ้คมชักนิดหน่อยก่อนจะแน่นิ่งไป




คนเรา...เกิดได้ก็ตายได้
มันก็แค่นี้




ผมยกมือปิดตามันให้หลับสนิท
“...ชาติหน้านะ มึงค่อยเกิดเป็นน้องกู กูจะให้มึงเป็นน้องแท้ๆ ของกูเลยว่ะ”




บางทีก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ไอ้คม ไอ้เป็ด ไอ้โซ่ ไอ้ท้อป และทุกคนที่ผมเคยอยู่ด้วย เคยแดกข้าว เคยด่า เคยตบหัวกัน บางทีมันก็ผูกพันกันไปซะอย่างงั้น

ผมไม่อยากเอาเรื่องเก่ามาคิดให้รกสมองหรอกว่ะ แต่ถ้าต้องหลอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยผมคงไม่ใช่คนแล้ว ถึงไอ้พวกนั้นมันจะเหี้ย จะชั่วขนาดไหน
ผมเองก็ชั่วไม่ต่างจากพวกมันหรอก ชั่วเพื่อให้พวกคนดีๆ เขาได้อยู่กันอย่างแฮปปี้

ถึงผลลัพธ์จะดี แต่ยังไงมันก็หนีไม่พ้นบาปที่ก่อไว้

มากจนกูนึกไม่ออกเลยมันแค่ไหน จะไปวัดเอาน้ำมนต์ราดตัวสามวันเจ็ดวันแม่งก็ลบไม่ออกหรอกว่ะ

แล้วนี่ผมออกจากวงการตอนนี้ไม่รู้ยังจะเป็นตำนานให้พวกสวะมาตามสอยตูดอีกรึเปล่า ที่ไปญี่ปุ่นนี่คือกะอยู่ยาวเลยนะ ยังไม่ได้บอกนีออนหรอก กะฉุดลูกเขามาเลย จะได้ไม่ต้องรอแย่จังทั้งหลายมาเทศน์ใส่ผมอีก ผมเลว! ผมรู้ตัวครับ

“โห นี่คุณหอบบ้านมาทั้งหลังเลยเหรอวะ สัมภาระจะเยอะไปไหน” เห็นสภาพนีออนแล้วกลัวอนาคตเมียกูหลังค่อมจัง
“ก็จะไปญี่ปุ่นด้วยไม่ใช่เหรอครับ ผมขี้หนาวอ่ะ เลยเตรียมเสื้อกันหนาวไปเยอะๆ กะใส่หลายๆ ชั้นเลยอ่ะ”
“ถามยัง ไปโอกินาวะนะ รู้ยัง”
“โอกินาวะ...อืม......เฮ้ย!” ตรัสเลยสิเมียกู

“หิมะตกหนักมากนะ รู้ยัง”
“ไม่มีหิมะ!!! โห ไรว้า ยังไม่เคยเห็นหิมะเลยอ่ะ”
“มาๆ เดี๋ยวพาไปเปิดตู้เย็น”
“อยากเห็นหิมะของจริงอ่ะ”
“น้ำแข็งใสข้างโรงเรียนยังเปิดอยู่” นีออนเบ้หน้า ปากแบะ หน้างอ คอหัก น้ำลายไหลยืด เอ้ย นั่นไม่ใช่เมียผมละ

แต่ถึงงอนก็ไม่คิดจะง้อหรอก ผมน่ะ
“ครับๆ อยากไปไหนตามใจท่านผู้นำ เดี๋ยวผมพาไปเอง อยากดูเพนกวินด้วยไหม หรือจะเอาหมีแพนด้า จิงโจ้ก็มีนะ”
“อยากดูหมดเลย..! แต่ถ้าไม่มีอย่างที่พูดนะ เดี๋ยวเจอนี่” นีออนชูกำปั้นขึ้นมา
แหม ขู่เหรอยังเร็วไปสองร้อยล้านปี

ไม่กลัวว่ะ! ผมยักคิ้วขำขำ นีออนเลยต่อยแขนผมทีนึงโทษฐานที่ทำตัวน่ารักใส่

“อ่ะ ยอมให้ต่อย” ยื่นแขนให้เลย แต่แอบเกร็งเอาไว้ อิอิ
“เป็นไง?” ไม่เจ็บเลยว่ะ
“แรงอีก ชกดิ มาสะกิดทำไม วู้” คราวนี้โถมมาเต็มๆ เลยครับพี่น้อง แต่ก็ไม่เจ็บเหมือนเดิม มีแต่คนต่อยนั่นแหล่ะสะบัดมือเจ็บซะเอง

“อ่อนจริง เมียกู ไปฝึกมาใหม่ไป!” เศร้าแทนนีออนว่ะ ไม่แมนเลย   
“ใครมันจะไปถึกเหมือนพี่ ต่อยทียังกับต่อยเสาเข็ม” ฟังแล้วกูขำ
“อ๊ะๆ เสาเข็มต้นนี้ไม่ได้ถึกอย่างเดียวนะครับขอบอก...ยังตอกลึกด้วยนะ อยากโดนตอกเสาเข็มไหมล่ะ?” ไม่รู้ผมทำหน้ายังไง นีออนถึงถอยไปตั้งหลักซะห่างขนาดนั้น

แต่แป้บเดียวเหมือนคิดได้ เขาก็เดินกลับมาที่เดิม
“พี่สอนผมดิ เก่งไม่ใช่เหรอ ตัวเองจะเก่งคนเดียว แต่ไม่ให้แฟนเก่งด้วย มันใช้ได้เหรอ?”
“แฟน...?” เลิกคิ้วมอง รู้สึกประหลาดสัดๆ กับคำๆ นี้
“แฟนไม่มี มีแต่เมีย”
“เหมือนกันแหล่ะ”
“ไม่เหมือน เกิดมาไม่เคยมีแฟนสักที เท่าที่รู้คือได้เมียก่อนหาแฟนทุกที”
“น่าเกลียด” โห คำนี้เจ็บปวดมาก

“พี่เมฆจะบอกผมว่าไม่เคยจีบใคร ไม่เคยขอคบใคร พอเจอหน้าก็เอาเลยงั้นใช่ไหม?” ทำไมต้องทำหน้าบึ้งใส่
“ผมไม่ได้เสี้ยนขนาดนั้น แล้วผมก็ไม่เคยไปจีบใครก่อน มีแต่ผู้หญิงสวยๆ กับผู้ชายน่ารักมาจับผมปล้ำก่อนทั้งนั้นนะ”
“เชื่อตาย! ใครจะไปกดพี่เมฆลง แรงก็ไม่ใช่น้อยๆ”
“คุณไง มายด์อ่ะ ชอบกดพี่ บอกว่า อย่าๆๆ ก็ไม่ยอม กดพี่ไม่พอด้วยนะ ยังขย่ม เขย่า จน...”
“อ๊ากกกกก หยุดพูดได้ไหม!!!!” นีออนฟัสโรด้าใส่ผม สองมือยกขึ้นปิดหูส่ายหน้า ทำเป็นไม่ยอมรับความจริง
“ที่พี่เมฆพูดมันตรงข้ามหมดเลย!!! ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้น มีแต่พี่นั่นแหล่ะ พี่นั่นแหล่ะ ผมบอกให้สอนป้องกันตัว แต่พี่ดันสอนบ้าอะไรให้ก็ไม่รู้ ไม่เห็นอยากจะรู้เลย”



“แล้วชอบไหมล่ะ?”
เงียบ
ผมจ้องหน้าเขา เขาจ้องหน้าผม แต่สงสัยทนมองความหล่อเจิดจ้าผมไม่ไหว เลยต้องหลบสายตา

“ไม่ชอบเหรอ?”
“เอ่อ...ก็.........” ผมแกล้งทำหน้าเศร้า จนนีออนเริ่มลังเล การแกล้งเมียนี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผัวจริงๆ นะ ยิ่งน่าแกล้งด้วยแล้วความสุขกู LV.200 เลย

“ไม่ชอบ ก็จะทำ ฮ่าๆๆ” เฉลยไปเหอะว่ะ
“ทุเรศ” ด่าผมแต่ยิ้มเขินนี่หมายความว่าไง? 
 



ตั๋วเครื่องบินที่ไอ้ติณ รุ่นน้องผู้สำเร็จโทษไอ้ท้อป จองให้ผมคือชั้น ECONOMY กูโกรธมาก ให้ไปสองหมื่น แม่งเสือกจอง LOW COST ให้
เก่งซะเปล่า แต่ไหวพริบปฏิภาณมึงเป็นศูนย์เลย ดีหน่อยมันเช่ารถให้ ไม่งั้นกูได้นั่งรถแดงไปหาเฮียลู่แน่ๆ เลย

เฮียลู่ คือ คนรับสาร คนคอยส่งสารให้ผมตอนอยู่ในแก็งค์มาเฟีย อย่าถามว่าทำไม เฮียลู่ กับ ลุงพิ ไม่อยู่ด้วยกัน


ก็สองคนนี้ไม่ได้เป็นผัวเมียกัน จะอยู่ด้วยกันทำเพื่อ!

สมัยนี้เขาใช้ระบบดาวเทียมสื่อสารกันแล้ว

“มายด์ ผมจะไปตีมอน ความโหดมัน Lv.300 ได้ ผมคนเดียวไม่รู้จะตีมันไหวไหม คุณต้องช่วยผมนะ”
“สรุปที่มาเชียงใหม่นี่คือ มาเก็บคู่อริ?” นีออนเหวอ เอ๋อแดกไปชั่วขณะ คิดว่าผมพามาไหว้พระธาตุดอยสุเทพหรือยังไง กูไม่ได้ชิวขนาดนั้นนะ
“ไม่ได้มาล่อมันถึงตายหรอก แค่จะมาเอาของๆ ผมคืน แต่ขอดีๆ มันไม่ให้แน่ ต้องใช้กำลังเข้าสู้ ผมจะใช้โหมดเซียนนะ ส่วนคุณใช้เนตรวงแหวน”
“ประสาท”

นีออนเดินหนีไปเคลียร์เรื่องเช่ารถที่เคาน์เตอร์ ผมเดินตามไปกอดคอ หน้าซุกหัวหอมๆ
“พี่ๆ เมียผมมีผัวประสาท” ไหนๆ ก็ด่าแล้ว ขอโฆษณาหน่อย
“ทำอะไรอ่ะ บ้า!” เขาหันมาดันหน้าผมออก ยิ่งดันผมยิ่งกอดแน่นเอาดิๆ
“เออ บ้าด้วยพี่ ผมค่อนข้างบ้านิดๆ” ไม่รู้ไอ้พี่ที่เคาน์เตอร์มันจะคิดยังไง แต่เห็นยิ้มคิกคักกัน สงสัยจะฟินนาเร่น่าดู
“ค่าเช่าไม่ขอส่วนลดได้ป่ะพี่ แต่ขอเปลี่ยนคันใหญ่กว่านี้ เมียผมชอบเอ้าท์ดอร์อ่ะ...โอ้ย!” นีออนเอากบาลมาโขกหน้าผากผมเลยครับ หงายเงิบสิกู

“แฟนผมไม่ค่อยเต็มครับพี่ อย่าไปสนใจ คันเดิมนั่นแหล่ะ”
“อร๊าย ยอมรับด้วยอ่ะ เปลี่ยนคันให้ก็ได้นะคะ พี่ไม่ชาร์จเพิ่มหรอก”
“ไม่เอาครับ”
“เอาครับ บ่อยด้วย” ผมพุ่งไปกอดคอนีออนอีกที ยักคิ้วยิ้มให้ คนมันมีดีก็ต้องแสดงให้คนอื่นศึกษาดิ ไม่ชอบเก็บความรู้ไว้คนเดียว 
“อร๊าย ดูๆ แก้มแดงเลย ไปแกล้งน้องเขา เห็นไหมเขินหน้าแดงหมดแล้ว”
“พี่อย่าแซวผม...” พูดงี้คือยอมรับนะ ฮ่าๆ นีออนก้มเอามือปิดหน้า ผมขยี้หัวเขาแล้วแบมือขอกุญแจรถ
“แฟนน่ารักจังเลยค่ะ”
“ไม่ใช่แฟนครับ เมีย...”


“บ้าอ่ะ ทำไมต้องไปบอกคนอื่นด้วย” นีออนโวยวายตอนอยู่ในรถ ผมเปิดขวดน้ำให้เขาซดเผื่อจะหายโมโห
“เขาอยากรู้ ผมก็บอก ผิดตรงไหนอ่ะ?”
“ผมไม่เห็นได้ยินพี่เขาพูดอะไรสักคำ มีแต่พี่เมฆนั่นแหล่ะ มายั้วเยี้ยใส่ผมต่อหน้าเขา คนตั้งเยอะตั้งแยะ อย่าหน้าด้านดิ” พูดซะกูเป็นกิ้งกือใส้เดือน
“งั้นถ้าอยู่กันสองคน คุณจะยั้วเยี้ยผมแทนเหรอ”
“อ้ากกก อยากจะบ้า!” นีออนเอามือทึ้งผมใหญ่เลย 
“ทำไรนั่น คันหัวเหรอ ใจเย็น เดี๋ยวพาไปสระผม” จบคำ นีออนกระโดดกัดคอผมเลย เต็มคำสิครับ อร่อยไหมนั่น

ผมพาเขาไปพักโรงแรมก่อน เรื่องเฮียลู่ค่อยพรุ่งนี้เช้า ปูทางนีออนไว้แล้ว หวังว่าไอ้เฮียมันจะยอมให้ของผมนะ

“พี่เมฆ... ไม่ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพจริงเหรอ?” นั่นไง คิดไว้ยังไม่ทันข้ามวัน ถ้าทัวร์ไม่ลงดอยสุเทพนี่ถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่ว่างั้น
“เดี๋ยวนะมายด์ แป้ป ทิศเหนือ อยู่นี่... ตะวันออกทางนี้ นู่นไง!!” ผมชี้นิ้ว นีออนมองตาม
“ดอยสุเทพไง ไหว้ซะ ท่องนะโมด้วย ผมจำคาถาชาบูพระธาตุได้ด้วย เดี๋ยวว่าตามนะ”
“ไอ้บ้า!!! ถ้าไม่พาไปก็พูดมาตรงๆ ผมไปเองคนเดียวก็ได้”
“ยังไม่ได้พูดสักคำว่าไม่ไป” นีออนกอดอกหน้าบูดหน้าบึ้ง เห็นแล้วตลกดีว่ะ 

“ก็มัวแต่กวนตีนอยู่นั่นแหล่ะ เลิกกวนสักนาทีจะตายไหม!?”
“ก็เลิกน่ารักสักนาทีดิ จะตายอยู่แล้ว” เงิบสิครับ เจอย้อนดื้อๆ แบบนี้ นี่กำลังรอฟังคำชมกลับอยู่นะอย่างเช่น พี่เมฆเลิกหล่อสักที เดี๋ยวมายด์ก็อดใจไม่ไหวหรอก อะไรแบบนั้น

แต่รอนานแล้ว เขาก็ไม่เห็นจะพูดอะไรว่ะ
ไม่พูดไม่ว่า แต่พุ่งเข้ามากระโดดถีบผมนี่คือ?


ไหนๆ กำหนดการปะทะเฮียลู่ก็คือวันพรุ่งนี้ ก่อนวัดปิด ผมคงต้องรีบขับขึ้นดอยให้เร็วที่สุด
“ว๊ากกกกก อย่าขับเร็ว ระวัง!!! อ๊าก เสียว โอ้ย งื้อออออ เสียว” ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมายด์ อะไรมันจะเสียวขนาดนั้นวะ นี่ผมขับรถนะเว้ย ไม่ได้ล่อประตูหลังคุณ
“แวะๆๆ จอดๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว ผมจะอ้วก” ตบไฟสิครับ จอดข้างทางโลดอย่าไปรอ ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาแวะร้านคาร์แคร์ให้เขาล้างอ้วกนีออนหรอก

พอจอดรถได้ปั๊บ นีออนรีบลงรถไปโก่งคอ... ผมรีบวิ่งไปดูผลงาน
แต่ไม่เห็นมีไรออกมา   
“ไม่ออกอ่ะ” นีออนเบ้หน้า ผมเลยเทน้ำใส่มือลูบหน้าลูบตาให้เขา เผื่อจะได้สดชื่นขึ้นบ้าง

“ขับรถแย่อ่ะ” เขาเอามือฟาดอกผม เดี๋ยวนี้ชอบใช้กำลังจัง
“รถมันห่วยเอง” นีออนทุบผมอีกที
“อาๆ กลัววัดปิดก่อน ถ้าคุณไปไม่ถึง เดี๋ยวก็มางอนผมอีก”
“พรุ่งนี้ก็ได้”
“พรุ่งนี้ไปตีมอนไง”
“งั้นมะรืนก่อนกลับ”
“ไฟล์ทเช้าครับคุณ ไม่ทันหรอก ผมตื่นสาย”
“ถ้าพี่เมฆไม่มัวแต่โอ้เอ้ก็คงมาถึงตั้งนานแล้ว”
“อึดก็ผิดอีก” ผมมองรอยแดงจางๆ บนคอนีออนแล้วยกนิ้วลูบเบาๆ

ก่อนจะมาผมจัดให้เขานิดหน่อย ทำไงได้เขาเรียกร้องผมเองอ่ะ ปกติของเด็กวัยกำลังเห่อของแข็งดิ้นได้ ก็คิดดูอัดอั้นเป็นเดือนบนเกาะเหี้ย พอมีโอกาสเขาก็อยากปลดปล่อยแล้วผมช่วยมันผิดตรงไหน

เออ แล้วไม่ต้องอยากรู้ด้วยนะว่าช่วยยังไง เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้ดูอีกที 


นีออนได้ไหว้พระธาตุสมใจ เหมือนเขาจะปิดจะปิด แต่พอเจอหน้าแบ๊วเป็นบัตรผ่านทางนี่ถึงกับยอม...
อย่าว่าแต่นีออนเลย ถึงเป็นผมก็ผ่านได้เหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าหล่อลากไส้อย่างเดียวหรอก กูจะเหยียบคันเร่งฝ่าเข้าไปเลยเนี่ยแหล่ะ
คนอย่างผม ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้อยู่แล้วว่ะพูดเลย

“หิวยัง?” ผมถามนีออนตอนกำลังเดินลงเกือบถึงตีนบันได
“ก็หิวนิดๆ อ่ะครับ”
“ไข่ปิ้งไหม?” มีป้าเข็นผ่านไปพอดี รอนีออนพยักหน้า เลยซื้อมาลองกินคนละสองลูก นี่ปกติผมไม่กินนะไข่ปิ้ง ผมกินไข่ย่าง

“คุณอย่าบดไข่ผมสิ มันเสียว” นีออนมองผมด้วยหางตา แหม ก็มันไข่ผมซื้อให้เขาจริงๆ อ่ะ เล่นบดกับซอสจนเละแบบนั้นผมเห็นนี่เสียวแทนเลยจริงๆ
“................”
“ไข่ผม อร่อยป่ะ?” อย่าคิดว่าผมจะหยุดนะ ความเงียบไม่ใช่คำตอบของไอ้เมฆ
“ก็งั้นๆ” นีออนกัดเข้าไปอีกคำ คำใหญ่ซะด้วย
“อ้าปากกว้างๆ ดิ เดี๋ยวยัดไม่ลง ไข่ผมเจ็บแย่”
“ไอ้บ้า เดี๋ยวไม่ได้เจ็บอย่างเดียว จะขาดด้วย”


“งั้นไม่ให้ใช้ปากแล้ว เดี๋ยวผมกินคุณเอง”     
“ฮึ่ยยยยยย!!!”



H
คุยกับตานี่แล้วปวดหัวแทน 555         
 :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2015 21:46:38 โดย foyer »

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
เข้ามาเฮ!  :วู้วว1:  จะจบแล้วจ้า... จะได้แฮบปี้ซะที รอมานานมาก

ค่อนข้างดีใจที่คมมันจากไปด้วยดี  คนอื่นช่างมัน...

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อิพี่เมฆนี่เกรียนเสมอต้นเสมอปลาย
บุคลิกที่แผงตัวไปเป็นมาเฟียก็คือของจริงไม่ได้แกล้งทำเลยสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มีสามีแบบอิพี่เมฆ. ไมเกรนคงขึ้นทั้งวัน55555

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
นีออนมีผัวประสาทแถมยังเกรียนอีก 555 ปวดหัวแท้ เมฆฆ่าไม่ตาย

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
เรียกว่าฮันนิมูนทริปได้ปะ ฮ่าๆๆๆๆ
พี่เมฆ เกรียนเสมอต้น เสมอปลายดีจิงๆๆ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อ่านตอนคมแล้วเศร้าอ่ะ ขอให้ไปดีนะ T_T

ส่วนอิพี่เมฆ กวนติงจริงๆว่ะ ปวดหัวแทนน้องมายด์ -_-;;

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
M ♠ M
28.5

พี่เมฆบอกว่า


'วันนี้จะไปตีมอน'

-*- เหนื่อยกับคุณพี่เขาเสียจริง
พูดแล้วต้องแปล แปลเสร็จก็เกรียนใส่ทันที

ไม่แปลกใจที่ทำไมมีแต่คนอยากแจกตีนให้เขา เพราะบางทีผมก็หมดความอดทน ต้องลงไม้ลงมือเหมือนกัน
แต่ที่กล้าทำเพราะรู้ว่าเขาหลบได้นะ พริ้วล่ะเก่งเป็นที่ 1 เชียวแหล่ะ ถึงบางทีจะยอมเสแสร้งโดนผมทุบเอาคืนบ้าง แต่เพราะความด้านเป็นทุนเดิม ก็เลยทำให้เขาไม่สะทกสะท้านอะไรเลย   

ที่ผ่านมาชีวิตผมค่อนข้างซีเรียส พอมาเจอคนแบบพี่เมฆ....แม่งเครียดยิ่งกว่าเดิมอีกตรู -*-

ไอ้พี่เมฆคนบ้าเอ๊ย!
รู้ไหมผมด่าพี่ในใจวันนึงตั้งไม่รู้กี่ครั้ง จะด่าออกเสียงเขาก็โต้กลับมาได้ทุกครั้งให้ผมหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า ไม่รู้จะใช้วิธีไหนกับคุณพี่เขาดีแล้วครับ

"ไอ้เฮียลู่มันอยู่ในบ้านหลังนั้นแหล่ะ พอเจอนะคุณปล่อยจิตสังหารใส่มัน ส่วนผมจะใช้วิชา....."
"พอๆ พี่บอกผมรอบที่ร้อยล้านแล้วมั้ง แถมบอกแต่ล่ะครั้งก็ไม่เหมือนกัน สรุปจะให้ทำยังไงแน่ แล้วถ้าจะบ้าการ์ตูนขนาดนี้นะ ก็กลับบ้านไปนอนดูเลยดีไหมครับ!?"

ตื่นมาแต่เช้า ได้มาแอบหลังกำแพงดูบ้านเป้าหมายแล้ว ยังจะมาบ้าบอใส่อีก ตกลงพี่เมฆจะมาแก้แค้นคนอื่นเขาหรือจะมาเพื่อกวนประสาทผมเฉยๆ วะ?

"ผมไม่เคยดูการ์ตูนแล้วผมจะพูดเป็นหนังการ์ตูนได้ไง โถ อย่าหน้าบูดอย่างนั้นสิ เดี๋ยวคอลลาเจนที่ทาให้เมื่อคืนจะเสื่อมสภาพหมดนะ" เขาดึงหัวผมไปกอด แต่ผมผลักออกทันที
"ไม่ต้องพูดได้ไหม!" ความร้อนลามขึ้นใบหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน

ไอ้พี่เมฆบ้ามันทำผมอีกแล้ว T T

ถ้าแบบธรรมดาทั่วไปจะไม่ว่าไม่ด่าไม่บ่นสักคำ แต่นี่เล่นทำทุเรศกับหน้าผมด้วย ผมอยากจะร้องไห้


"ต่อไปจะไม่ให้พี่เมฆทำแล้ว จะให้อดจนตายไปเลย!!!" หลับหูหลับตาบอกไปด้วยความโกรธ โกรธอยู่คนเดียว ส่วนตัวต้นเหตุทำหน้าตาเฉยๆ
"ปากไม่ตรงกับใจทุกที เห็นพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่พอถึงเวลาก็........พี่เมฆแรงอีก เข้ามา อ๊ะ ตรงนั้น แรงๆ มายด์เสียว อ๊ะ จะแตกแล้ว...."
"ไม่ต้องพูดเลย!" ผมทนดูหน้าตาประกอบท่าทางไม่ได้อีกต่อไปแล้วครับ ต้องประเคนหมัดใส่ลิ้นปี่ให้จุกกันไปข้าง

"เขินรุนแรงจัง" เขายกมือกุมทำท่าเหมือนเจ็บมาก
"เป็นเมียผมทั้งทีต้องอย่าอายสื่อมวลชนสิ ดูด้วยผมเป็นใคร ผมเป็นซุปเปอร์สตาร์นะ ยังไงเรื่องของเราก็ต้องโด่งดังไปทั่วโลกอยู่แล้ว ไม่รู้คุณจะอายไปทำไม" ด่าก็ไม่รู้สึก ต่อยก็ไม่รู้สา แล้วยังมายิ้มหน้าทะเล้น เอามือมาหยิกแก้มผมอีก แล้วพอผมจะหยิกคืน เขาก็พลิกเข้ามากอดผมจากด้านหลัง
"ไม่ไปหาเฮียลู่แล้วใช่ไหม!?" รู้สึกเสียวแปล็บที่ใบหูตอนพูดเพราะเขากัดหูผม ยิ่งหันหน้าหนียิ่งเจ็บ ก็เลยยืนนิ่งๆ รอจังหวะ
"ก็ไปสิ"
"ก็ปล่อยดิ ปล่อย.....!!!" อยู่ท่านี้ผมทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะกระทืบเท้า
"แน่ใจ? ถ้าไม่ให้ก็ไม่ทำแล้วนะ" ผมโกรธจนควันออกหู ดิ้นแรงจนพี่เมฆปล่อยออกมา

"ไม่ทำก็อย่าทำ!" เวลาอยากให้กอดไม่กอด ชอบทำอะไรสวนทางอยู่เรื่อย สงสัยถ้าไม่ได้ทำตัวขวางโลกสักวันจะตายมั้ง ผมพยายามระงับอารมณ์ เพราะหาวิธีรับมือกับเขาไม่ได้สักที
"สรุปพี่เมฆจะมาเอาอะไร?"
"อ้าว ยังไม่ได้บอกเหรอ?"
"ยัง!!" พอจะเข้าประเด็นแล้วเคยตอบที่ไหน

พี่เมฆชี้นิ้ว ผมมองตาม
"บ้านหลังนั้น"
"บ้านของเฮียลู่?" ผมงงหนัก "ทำไมต้องอยากได้บ้านคนอื่นด้วย?"
"บ้านผมแต่มันมายึดไปต่างหากเล่า! ของๆ ผม ยังไงก็ต้องเอาคืน"

ผมอยากจะถามรายละเอียดเหมือนกัน แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลามาอธิบาย ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะบอกอะไรผมก่อนอยู่แล้ว บางทีถ้าเป็นคนปกติคนอื่นผมคงน้อยใจ แต่นี่เป็นพี่เมฆ ผมเลยไม่อยากจะคิดอะไรมาก เพราะถ้าคิดมาก ป่านนี้สมองผมคงจะระเบิดไปแล้ว

"ผมช่วยแล้วต้องเล่าให้ฟังนะว่าเรื่องมันเป็นมายังไง" ดักทางไว้ก่อนเลยกันพลาด
"แล้วผมเคยไม่บอกคุณเหรอ? ผมไม่เคยมีเรื่องปิดบังอะไรคุณเลยนะ" เขาทำหน้าราวกับผมทำตัวไม่เชื่อใจงั้นแหล่ะ

ก็มันจริงไหมล่ะ...!

"พี่จะให้เฮียลู่ออกไปจากบ้านหลังนั้นใช่ไหม?" ว่าก็ว่าเถอะ เฮียลู่นี่เขาเป็นใครอ่ะ? ให้เดาคงศัตรูตัวฉกาจของพี่เมฆเลยมั้ง เพราะเล่นยึดบ้านพี่แกได้เลยนี่ แสดงว่าไม่ธรรมดา
"ใช่ ทำไงก็ได้ให้มันไสศีรษะออกไป มายด์ผมพูดเลยนะ นี่บ้านของเรา..."


......บ้านของเรา......



ฟังแล้วหัวใจพองโตเลยครับ! รู้สึกดีจัง แสดงว่าถ้าได้บ้านคืน เราจะได้มาอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน

ผมกับพี่เมฆวางแผนบุกเข้าไปโดยเขาจะเป็นตัวล่อเบี่ยงเบนความสนใจ ส่วนผมก็อ้อมเข้าข้างหลัง มันเป็นวิธีเบสิคมาก แต่ก็มักได้ผลเมื่อศัตรูมีเพียงคนเดียว


เพล้ง!! โครม!!!



ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงต่อสู้กันแล้ว มันดังขึ้นครั้งเดียวแล้วเงียบ
ผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยตามแผน แต่บริเวณหน้าบ้านที่พี่เมฆเดินเข้ามากลับไม่มีใคร

สงสัยได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลัง
ผมชักปืนเล็งเข้าหาทันที ภาพตรงหน้าทำเอาตกตะลึงไม่น้อย

"พี่เมฆ!" ไม่อยากจะเชื่อ พี่เมฆโดนจับล็อคคอจนขยับแทบไม่ได้


คนนี้เหรอวะ เฮียลู่! LV.300 ที่พูดถึง เก่งขนาดจับพี่เมฆได้เลยเหรอ เป็นไปได้ไง!?
"อยากจะเป็นฮีโร่ให้เมียมึงเห็นแล้วจะเอากูเป็นตัวร้ายสินะ" เขาพูดกับพี่เมฆที่ทำท่าเหมือนจะขาดอากาศหายใจอยู่ร่อมร่อ

"ปล่อยเขา!" ผมแทบไม่เสียเวลายิงแจกันที่ตั้งอยู่ข้างๆ เพื่อขู่ให้รู้ว่าผมยิงเร็วและแม่นยำ

เฮียลู่เบิกตาเล็กๆ ขึ้นหน่อยนึงอย่างแปลกใจ เขาเป็นผู้ชายหน้าตี๋สุดๆ ตัวสูงประมาณพี่เมฆ แต่ไม่แก่อย่างที่คิด

"ปล่อยสิ! ไม่งั้นไหล่นายจะโดนกระสุนเจาะเป็นที่แรก!!" ผมขู่เขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
"ไม่กลัวโดนไอ้เมฆหรือไง?" เขายกมืออีกข้างที่อยู่ข้างหลังขึ้นให้เห็นปืน
ผมตกใจที่เฮียลู่เอาปืนกระบอกนั้นมาจ่อที่ขมับพี่เมฆ

"อย่านะ..." ใจผมสั่นเมื่อเห็นภาพนี้ แต่ด้วยสายตาผมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว มันรู้สึกว่าปืนกระบอกที่เฮียลู่ถือมันแปลกๆ
"ทิ้งปืนแล้วเขี่ยมานี่" เขาสั่ง ผมมองพี่เมฆที่ยังโดนรัดคอแน่น

อะไรกัน ทำไมแค่นี้เขาหลุดออกมาไม่ได้ ทั้งที่น่าจะไม่ยากนี่

"เร็วๆ สิวะ!!!" เสียงตะคอกทำเอาผมสะดุ้งรีบทำตามคำสั่ง แม้นั่นจะเป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียว

"ให้ปืนแล้วก็ปล่อยเขาสิ!" ผมบอก
"มาหาเรื่องกูถึงที่ จะให้ปล่อยเลยมันง่ายไปมั้ง"
"จะให้ผมทำอะไรก็ได้ ปล่อยเขาสักที!!!" แขนที่รัดคงแน่นมาก พี่เมฆเลยไม่พูดอะไรสักคำได้แต่ทำท่าเหมือนเจ็บมาก หรือว่าเขาบาดเจ็บอยู่แต่ผมมองไม่เห็น?

"รักมันมากเหรอ ไปหลงเสน่ห์อะไรไอ้เหี้ยนี่เข้าล่ะ ถึงยอมเพื่อมันขนาดนี้?" เฮียลู่เอาท่อนแขนฟาดเข้าหน้าพี่เมฆเต็มแรง ผมโกรธจัดจนต้องรีบพูด

"ผมยอมได้ทุกอย่างนั่นแหล่ะ พี่เมฆเหี้ยแล้วไง!? เขาช่วยชีวิตผม ช่วยครอบครัวผม ถึงเขาจะเหี้ยจริงแต่ผมก็รักเขา!!" 
"ฮ่าๆๆ" เฮียลู่หัวเราะ สักพักเขาก็ผลักพี่เมฆออกแถมยกตีนถีบจนแทบถลาเข้ามาหาผม

"เออๆ กูยอมละ เด็กมึงนี่แม่งหลอกง่าย เหมือนที่เล่าให้ฟังเลยว่ะ"




ผมขมวดคิ้วมองคนทั้งคู่ไปมาอย่างงงๆ


"กูบอกแล้วว่าเขารักกู มึงก็ไม่เชื่อ" พี่เมฆเกาหัวทำท่าเซ็ง
"เชื่อไม่ลงจนกว่าจะเห็นกับตาว่ะ แต่เห็นแล้วก็สงสารน้องเขานะ ต้องมาอยู่กับไอ้บ้าอย่างมึง ขนาดกูแค่คุยกับมึงไม่กี่นาทีก็ปวดหัวจะตายห่า"
"แหม แล้วถามยัง กูอยากคุยกับมึงไหม หน้าแม่งก็เหมือนเพิ่งไปโดนตรีนมา กูอยากเสวนาด้วยตายล่ะ"
"ปากมึงนี่หมาไม่เคยเปลี่ยนนะสัด!" เฮียลู่ส่ายหัวแล้วเดินมาหาผม

"อ่ะให้" เขายื่นปืนที่ก่อนหน้านี้เอายกจ่อขมับพี่เมฆให้ผม พอรับไว้ถึงรู้ว่ามันคือปืนฉีดน้ำ....ฮึ่ม!
"ทำใจนะ อยู่กับคนอย่างมัน แต่ถ้าจะให้ดีอย่าไปตามใจมาก ตบกบาลมันได้ก็ตบ ตบเผื่อพี่ด้วย"

"เฮียลู่กับพี่เมฆเป็นอะไรกันครับ?" ผมอดถามไม่ได้จริงๆ มันงงไปหมด
"เพื่อนร่วมงาน คอยส่งข่าวลับให้มัน"
"อ้าว งั้นก็ไม่ใช่ศัตรู.....?" ผมโดนหลอกเหรอ หันไปถลึงตาใส่พี่เมฆที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"ถ้าไม่ต้องทำงานด้วยกันพี่กระทืบมันไปแล้ว กวนส้นตีนซะขนาดนี้"

"ทำได้?" พี่เมฆย้อนถาม
"ข้ามศพเมียกูไปก่อนเหอะ" -''- เลว

"เดี๋ยวมึงได้เป็นศพก่อน แกล้งเขาไว้เยอะระวังนะมึง"

เฮียลู่ทิ้งท้ายก่อนจะกอดคอลากผมเดินออกมาจากบ้าน
"เดี๋ยวๆ จะไปไหนครับ?" 
"หมั่นไส้ไอ้เมฆ เราเองก็เหมือนกัน อย่าไปยอมมันมาก ทำเหมือนลูกไก่ในกำมือมันไปได้"

คำนี้ผมเจ็บจี๊ดเลยอ่ะ ผมยอมเพราะผมรักเหอะ
แต่ไอ้พี่เมฆ มันรักผมไหม ไม่เคยบอก แต่ถ้าเดาเข้าข้างตัวเองจากที่เคยช่วยผมก็คงรักมั้ง

เฮียลู่พาผมขับรถออกมาจากบ้าน โดยที่พี่เมฆออกมาถามนิดหน่อย พอเฮียลู่บอกว่าจะไปหาซื้อของกินโดยเอาผมไปเป็นเพื่อน เขาก็ฝากซื้อเย็นตาโฟ เกาเหลาไปอีก 


ฮึ นี่ไม่คิดห่วงผมเลยใช่ไหม?


แต่เฮียลู่ก็นิสัยดีเกินคาด ไม่เหมือนที่พี่เมฆโม้ว่าโหด LV.300 เลย และที่น่าตกใจอีกอย่าง เฮียลู่เป็นคนจีน 100% ชื่อจริง 'ลู่อี้ฟาน' พี่เมฆฝึกเป็นสายลับกับประชากรชาวจีน ส่วนรอยสักไอ้ที่อยู่บนแผ่นหลังเขาก็มาจากฝีมือประชากรชาวจีนอีกนั่นแหล่ะ

มิน่าล่ะ...ถึงเรียกเฮียลู่

แต่ฝีมือขั้นเทพเพราะใช้ครูชาวต่างชาตินี่มาเหนือเมฆเลยแฮะ


เฮียลู่เล่าเรื่องพี่เมฆให้ผมฟังเยอะแยะ หรือเรียกง่ายๆ ว่า 'เผา' นั่นแหล่ะครับ ผมพอรู้ประวัติเขามาบ้างแล้ว แต่เรื่องความหลังลึกๆ หรือรายละเอียดปลีกย่อยยังไม่เท่าไหร่ จนมารู้จากเฮียลู่เนี่ยแหล่ะ

"มันไปเป็นสายลับตั้งแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ อยู่ๆ ก็มาทิ้งภาระให้พี่ช่วยดูแลบ้านแทน ตอนแรกก็นึกว่ามันจะไม่ได้กลับมาหรอก สถานการณ์ในกลุ่มมาเฟียมันแน่นอนที่ไหน ลองคิดดูสิ ถึงแม้จะโค่นเจ้าพ่อได้คนนึง แต่กลุ่มอิทธิพลที่เหลือมันยังอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ไอ้เมฆก็สร้างชื่อไว้ซะขนาดนั้น ไม่ช้าต้องมีคนตามมาบี้มันแน่นอน นี่ถ้าให้เดาสักพักพี่ว่ามันต้องหนีออกไปอยู่ต่างประเทศก่อน ไม่งั้นคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"

"พรุ่งนี้พวกผมต้องกลับเตรียมตัวไปญี่ปุ่นต่อแล้วครับ เป็นไปได้ไหมว่าที่เฮียลู่พูดเมื่อกี้คือ...พี่เมฆจะหนี?"
"เหรอ งั้นก็คงใช่" ผมอ้าปากค้าง ก็พี่เมฆไม่เคยบอกเลย

"กลับไปเดี๋ยวผมจะลองถามเขาดู"
"ไม่ต้องถามหรอก เสียอารมณ์เปล่าๆ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อมก็พอ มันไม่พามายด์กลับเมืองไทยแน่จนกว่าเรื่องจะซาลง" ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆ แต่เห็นพี่เมฆไม่เดือดร้อนอะไร ผมก็นึกว่าเขาไม่ได้คิดหาทางแก้ปัญหา

"อย่าน้อยใจล่ะ ที่ไอ้เมฆมันไม่คิดจะบอกอะไร" เฮียลู่พูดปลอบใจผม
"บางทีก็น้อยใจเหมือนกันครับ แต่ผมไม่คิดมากหรอก"
"มันพาไปด้วย อย่างน้อยก็คงห่วงความปลอดภัยเรา"
"....ครับ"
"แต่ก็หมั่นไส้ไอ้เหี้ยนั่นจริงๆ ให้ตายเหอะ"
"ผมก็เหมือนกัน" มาแกล้งกันได้

"งั้นเอางี้ไหม?" เฮียลู่หันมามองหน้าผมจริงจัง
"พี่รู้จักคนที่ญี่ปุ่น... ถ้าอยากแก้เผ็ดมันล่ะก็ ทำตามที่บอก เดี๋ยวได้เห็นอะไรสนุกๆ แน่"
 

คืนนั้นเรานอนค้างที่บ้านเฮียลู่ หรือบ้านเก่าพี่เมฆนั่นแหล่ะ บ้านไม้สักสองชั้นหลังขนาดกะทัดรัด มีสองห้องนอนสองห้องน้ำ ห้องนอนอีกห้องเฮียลู่ทำความสะอาดประจำอยู่แล้ว เลยแทบไม่ต้องปัดกวาดเพิ่มก็นอนได้เลย

"ของยังเตรียมไม่ครบอีกเหรอ จะขนบ้านไปทั้งหลังเลยก็ได้นะ" พี่เมฆกลิ้งไปมาบนเตียงถามผมที่กำลังเช็คของอีกที
"ได้เหรอครับ?"
"ได้ดิ แต่ผมไม่ช่วยถือนะ เคป่ะ"
"ชิ" ผมหันไปจัดของต่อ

"มามะ มานอนกอดกัน" พี่เมฆมาจากไหนไม่รู้ เขาช้อนตัวผมขึ้นอุ้มไปที่เตียงหน้าตาเฉย
"ผมยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จ!"
"แต่ผมอยากเสร็จอ่ะ" ตัวผมนอนแผ่บนเตียงโดยมีเขาขึ้นทาบทับ พี่เมฆถอดเสื้อออกทางหัวอย่างรวดเร็ว แล้วก้มลงมาทำท่าจะจูบปาก ไอ้เราก็เตรียมรับเต็มที่ แต่ไม่...

เขาจ้องหน้าผมแล้วยิ้ม

"บ้านไม้มันไม่ค่อยเก็บเสียง เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวเฮียลู่มันได้ฟังซาวน์แทร็ค"
"พรุ่งนี้จะเดินทางแล้ว ทำไมพี่ไม่นอนพักผ่อน"
"ก็พรุ่งนี้ต้องไปแล้วไง อยากทิ้งทวนที่บ้านเกิดสักหน่อย"
"ไม่เอาอ่ะ" ผมลุกขึ้นแต่พี่เมฆผลักให้นอนลงไปเหมือนเดิม

ทำแบบนี้อยู่สามสี่ครั้ง ไม่เอาอ่ะ ถึงยังไงคืนนี้ผมก็จะไม่ยอม ไม่อยากเป็นลูกไก่ในกำมือเหมือนที่เฮียลู่บอก

อาจจะจริงก็ได้ ผมตามใจเขาจนเหลิง


"ถ้าผมไม่ยอมก็จะเอาให้ได้เหรอ!?" เสียงตะคอกทำพี่เมฆชะงักไปนิดเดียวเท่านั้น พอตั้งตัวได้เขาก็ยิ้มแล้วเลื้อยมือเข้ามาในเสื้อนอนผม ลูบไล้เบาๆ ที่สะดือก่อนโฉบไปสะกิดที่ยอดอก
"เดี๋ยวก็ยอม จะดื้อไปทำไม ที่นี่เป็นบ้านจริงๆ ของผมเลยนะ ผมเป็นคนเชียงใหม่นะเจ้า... ฮู้ก่อ?" พี่เมฆก้มลงไซร้หลังหู เรื่อยมาที่ซอกคอ เขาเอามือคลึงและเขี่ยยอดอกผมไปด้วย อีกมือจับขาแยกออกแล้วแทรกตัวบดส่วนกลางที่เริ่มแข็งตัวเข้ากับของผม

แรงขยับขึ้นลงหนักๆ กับทุกส่วนที่เขาสัมผัสอย่างเชี่ยวชาญ ถึงจะอยากปฏิเสธแต่ก็ยากเหลือเกิน

พี่เมฆปลุกปั่นอารมณ์ผมจนลมหายใจเริ่มติดขัด พออ้าปากจะบอกให้ถอย ก็กลายเป็นว่าเขาฉกลิ้นเข้ามาข้างใน เกี่ยวรัดและสอดเข้ามาลึกจนบางทีต้องกลั้นหายใจอย่างลืมตัว

ผมไม่รู้ว่าเสื้อกับกางเกงหลุดออกไปตอนไหน สมองว่างเปล่าไม่รับรู้สิ่งใดนอกจากความเสียวซ่านที่ได้รับการปรนเปรอจากทุกส่วนที่ไวสัมผัสสลับกันไปมา

"ลืมฝากซื้อเจลด้วยสิ" พี่เมฆพูดขึ้นทั้งร่างเปลือยเปล่าของเราแนบสนิทกัน
"ส่วนถุงไม่ต้องหรอกเนอะ ก็เราจะทำลูกด้วยกัน" พูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย พอๆ กับทำเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยนั่นแหล่ะ ทำไมต้องมีแต่ผมที่ต้องมาอายอยู่คนเดียวด้วยเนี่ย

"อื้อ" พี่เมฆจับขาผมแนบอกแล้วเขาก็กดไอ้แท่งร้อนๆ มาถูไถที่ประตูหลัง ผมเสียวจนต้องซี๊ดปาก ความคิดที่จะไม่ให้ กลับเป็นตรงข้าม ตอนนี้ผมอยากให้เขาเข้ามาจนแทบทนไม่ไหว

พี่เมฆยังใช้เวลาหมดไปกับการจูบไซร้ไปทั่วตัวผม บางทีก็เอานิ้วมาสะกิดที่ปากทางเข้า แต่ก็ไม่ล่วงล้ำเข้ามาสักที

"ไม่ทำเหรอ? ไม่ทำเพราะพี่เมฆ..." ผมถามด้วยเสียงที่ฟังเองยังตกใจ ส่วนมือก็ไปคว้าของเขามาจับแล้วกระเถิบตัวเองให้ตรงกับทางเข้า ไม่ว่าจะมองยังไงก็ตรงข้ามกับอาการอยากปฏิเสธ
พี่เมฆยิ้มมุมปาก คงสมใจเขาแล้วล่ะมั้งที่ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้

เขาจูบผมหนักๆ ไปทีแล้วบอก
"กลัวคุณเจ็บอ่ะ"
"ไม่เป็นไรผมทนได้" เขายิ้มจนเกือบจะหัวเราะ
"เข้าเองไหม จะได้ไม่เจ็บมาก"

หืมมมมมมมม?


ไม่ทันได้คิดต่อ พี่เมฆก็ส่งนิ้วเข้ามาในปากผม เขาขยับเข้าออกและหมุนวนอยู่สักพักสลับกับจูบ จนแน่ใจว่านิ้วชุ่มไปด้วยน้ำลาย เขาก็กดนิ้วนั้นเข้ามาข้างหลัง
ผมร้องเสียงหลงแต่เขาก็ประกบปากได้ทัน ลิ้นร้อนทำหน้าที่สลับกับมืออีกข้างที่ช่วยขยับกึ่งกลางลำตัวของผมเพื่อบรรเทาความเจ็บ

แรงครูดภายในทำผมทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่าน รู้สึกว่ามันตึงและแน่นไปหมด จนกระทั่งพี่เมฆดึงนิ้วออกมากะทันหัน ผมลืมตามองเขาอย่างเบลอๆ รู้สึกตัวอีกทีเขาก็จับผมพลิกมาคล่อมทับตัวเขาที่ไม่รู้ว่าลงไปนอนหงายตั้งแต่เมื่อไหร่

"เอาใส่สิ" พี่เมฆขยับให้แท่งร้อนของเขาถูไถที่สะโพก ผมหันไปมอง ความกลัวก็มีอยู่ แต่ไอ้ความอยากมันดันมีมากกว่า...




จบกัน
ทีหลังจะไม่พูดว่าไม่ยอมแล้ว


ผมกล้าเอาสิ่งนั้นใส่เข้ามาตัวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ ถึงจะจุกจะเจ็บยังไง ผมก็พยายามกดมันเข้าไปจนได้แต่แค่ครึ่งลำ ความเจ็บก็ทำให้ไม่กล้าขยับตัวอีก
"ยังไม่มิดเลย" หน้าพี่เมฆเริ่มมีเหงื่อซึมและขึ้นสีนิดๆ ผมสงสัยว่าฝ่ายรุกเนี่ย จะมีใครทำหน้าเฉยได้เท่าพี่แกอีกไหม ขนาดในหนังผู้ใหญ่ที่ผมเคยดู เขายังไม่เฉยเท่าพี่เมฆเลยนะ
"อ๊ะ อ..อย่า เจ็บๆ" ผมยกก้นขึ้นเพราะพี่เมฆทิ่มของเขาเข้ามาจนเกือบสุด
"ขยับได้แล้ว แน่นเชี่ยๆ" เขายึดสะโพกผมไว้แล้วเริ่มโยกเอง
"เดี๋ยว...พี่ ช..ช้า......อ๊ะ อ๊ะ" พี่เมฆไม่รอเสียงห้ามเขาใส่มาเต็มจนผมทรงตัวไม่อยู่ต้องนอนราบทับตัวเขา พี่เมฆเอื้อมมือมากอดทันที เขาจูบขมับและหลังหู

"ลืมแล้วเหรอว่าอย่าเสียงดัง" เขากระซิบเบาๆ ผมพยายามเม้มปากตัวเองไว้แต่มันเสียวมากจนกลั้นไม่อยู่
"หรืออยากให้เฮียลู่ได้ยิน?" ผมส่ายหน้า
"อ๊า!" พี่เมฆกระทุ้งขึ้นมาอีกจนผมหุบปากไม่ทัน เขาเอามือนวดบั้นท้ายผมแล้วแกล้งเอานิ้วไปสะกิดตรงส่วนที่เชื่อมกันอยู่

"เหมือนได้ยินเสียงรถ" ผมลองเงี่ยหูฟังบ้างก็ได้ยินเหมือนคนขับรถออกจากบ้านจริงๆ
"เฮียลู่มันออกไปแล้ว สงสัยทนอิจฉาเราไม่ไหว" พี่เมฆยิ้มล้อเลียน
"อย่าแหย่นิ้วเข้ามาสิ!" ผมทุบอกพี่เมฆแล้วจะยกตัวเองออก แต่เขาไม่ยอมให้หลุดออกจากกันง่ายๆ ยังตะแคงตามผมมาแล้วซอยเอวถี่ยิบ


ผมร้องแบบไม่กลัวใครได้ยินแล้ว และพี่เมฆก็ดูมีความสุขที่เห็นผมทรมานด้วยความเสียวซ่านแบบนี้

"พี่เมฆ.." ผมส่งสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมาย พี่เมฆจับผมนอนแยกขาออกกว้างแล้วกระแทกกายเข้ามาลึกจนโดนจุดกระสันของผมหลายครั้ง

โดยไม่ต้องสัมผัสสักนิด น้องชายของผมก็ปลดปล่อยส่วนที่อัดแน่นออกมา มันพุ่งแรงจนถึงหมอน
ผมนอนหอบหายใจถี่ หัวใจเต้นรัว พร้อมทั้งกระตุกเพราะความสยิวอีกครั้งที่เห็นพี่เมฆถอนกายออกแล้วขยับลงไปใช้ปากช่วยรีดน้ำให้ผมอีก

สะโพกผมขยับ ขาสองข้างอ้อมมาเกี่ยวคอเขาแล้วแอ่นอกบิดตัวด้วยความสุขสมสุดขีด
ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรแล้ว พี่เมฆช่วยปลุกอารมณ์เพื่อเริ่มต้นรอบใหม่ไปกับเขาที่ยังไม่ถึงสักรอบ นิ้วเขาสอดเข้าไปใหม่ขณะที่ปากยังขยับดูดจนของผมเริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

"จะไปกี่รอบ รอผมด้วยดิครับเมีย" ผมสะดุ้งหน้าเชิดไปข้างหลัง เพราะเขาใส่กลับเข้ามามิดทีเดียว ช่องทางที่เริ่มชินกับสิ่งแปลกปลอมแต่ไม่ชินกับขนาดเริ่มตอดรัดเขาอีกครั้ง
"กอด...ผมหน่อย" รอยยิ้มจุดที่มุมปากเขา พร้อมเหงื่อเม็ดนึงหยดลงมาจากขมับ ผมยกมือกอดคอเขา ส่วนพี่เมฆก็ตอบรับโดยการกอดเข้ามาที่หลังผม ริมฝีปากที่แนบกับแก้มทำให้ผมยิ้มได้
ผมหอมแก้มเขาคืน
"รักพี่นะครับ"
"รู้อยู่แล้ว"



ค่ำคืนอันยาวนานคงจะไม่จบลงง่ายๆ ถ้าเฮียลู่ไม่กลับมาตอนตีสาม...
พี่เมฆพอได้ยินเสียงรถก็รีบเร่งจนกระทั่งปลดปล่อยความต้องการอัดแน่นไปจนเต็มช่องทางของผม


เหนื่อยจนไม่มีแรงลืมตา...
ผมปล่อยให้เขาเช็ดทำความสะอาดร่างกายผมตามแต่ต้องการ

พี่เมฆหาเสื้อผ้าให้ผมใส่แล้วห่มผ้าให้เรียบร้อยจนถึงคอ
"นอนซะ" เขาลูบหัวแล้วก้มลงจูบหน้าผากและขมับ แล้วทำท่าจะเดินไปที่ประตู
"ไปไหนอ่ะ?" ผมรีบถาม เสียงแหบแห้งหมดไปกับเสียงครางหลายชั่วโมง

พี่เมฆทำมือบอกว่าจะไปสูบบุหรี่ ผมยกมือยื่นไปหาเขา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องการสัมผัสจากเขาขนาดนี้

พี่เมฆเดินกลับมาจับมือผม
"ห่างกันแป้บเดียวก็คิดถึงผมแล้วเหรอครับเมีย?"
"อื้ม..." ผมพยักหน้ายอมรับตรงๆ ก็ไม่อยากให้เขาไปไหนนี่
พี่เมฆนั่งลงขอบเตียงแล้วยกมือผมขึ้นมาหอมแรงๆ

"พี่เมฆ 1 คน... พี่เมฆ 2 คน... พี่เมฆ 3 คน..." เขาท่องชื่อตัวเองแล้วนับไปเรื่อยๆ ผมอมยิ้มขำ ถึงเขาจะไม่เข้ามานอนกอดก็ไม่เป็นไร แค่พี่เมฆจับมือผมไว้แบบนี้ก็มีความสุขมากแล้ว












H
นับพี่เมฆได้กี่คน?
NC ที่ไม่ได้เขียนมาแสนนาน... :mew3:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตอนท้ายนี่ดีมากกกกก
อยากมีโมเม้นแบบมายด์อ่ะ

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
เขินแทนนีออน งุงิงุงิ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ดีใจจังนึกว่าตาฝาดอัพตอนใหม่แล้ว พี่เมฆก็ยังกวนตีนนนนไปเรื่อยๆ ตามสไตล์เค้าล่ะน่ะไม่รู้ว่ามายด์ทนได้ไง แต่ชอบตอนท้ายนะมีนับพี่เมฆแทนแกะด้วย พี่เมฆน่ารักอ่ะ แล้วพี่เมฆเมื่อไหร่จะบอกรักน้องให้น้องได้ชื่นใจบ้างเนี่ยะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อิพี่เมฆกวนตรีนตลอด
เดี๋ยวไปญี่ปุ่นยุให้น้องมายด์มีกิ๊กซะ ชิ

แต่ตอนท้ายอิพี่เมฆน่ารักอ่ะ นับพี่เมฆแทนแกะน่าร๊ากกก ><

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
555 มายด์หลงผัวหล่ะ อิพี่เมฆมันทำเสน่ห์ใส่

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2

M ♠ M
29


กล่อมเมียเสร็จ นับตัวกูได้ตั้ง 339 คน โห มันช่างหลับยากหลับเย็นแท้วะนีออน

ผมเดินลงมาชั้นล่าง กะแล้วว่าไอ้ลู่มันต้องรอมอบโชคผมอยู่ เห็นโขลกหมากรุกป้อกๆ อยู่คนเดียว แหม่ มันชอบหาว่าผมบ้า แต่ไม่ดูเบ้าหน้าตัวเองเลยเนอะว่ามึงอ่ะบ้ากว่ากูไหม?

   ผมนั่งโซฟาตรงข้ามมัน แล้วเดินหมากรุกต่อจากมันทันทีสามตารวด
      “ไอ้เหี้ยนี่ ทำหมากกูเสียหมด!” ไม่สนใจหรอก คิดเสียว่าเสียงสุนัขโดนสิบล้อเหยียบ

         “ทำหน้ากวนตีนอีกนะมึง”
         “เอ้า กูทำอะไรก็ผิด แต่ไม่เป็นไรหรอก ..ถูกในสายตาเมียกูก็พอ” ไอ้เฮียลู่ทำหน้าเหมือนหมาตาย
            “เอากันไม่สนใจห่าอะไรเลยนะพวกมึง กูจะนอนก็ไม่ได้นอนต้องมาฟังเสียงสยิวเด็กมึง ยังไม่หายหลอนเลยสัด”
            “อิจฉาก็บอก”
            “เหี้ยๆ แบบมึงกูไม่อิจฉาหรอก”
            “ขนาดว่ากูเหี้ย ยังได้เมียน่ารักขนาดนี้ แล้วไม่เหี้ยอย่างมึง ไม่มีใครเอาเลย หมายความว่าไร?”
            
   “พอๆ จะคุยธุระมึงไหม?” โถ นึกว่าจะแน่
      พอผมพูดความจริงทีไร ทำเป็นรับไม่ได้กันทุกที เบื่อพวกมั่นใจในหนังหน้าตัวเองแต่ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา ว่าพวกมึงหล่อได้ไม่เท่าขี้เล็บกูเลย เพราะงั้น ไอ้ที่ด่าๆ ผมอ่ะ ผมไม่สนใจหรอก พวกขี้อิจฉา ทั้งนั้น 
      
ผมเดินหมากรุกอีกตา ไอ้เฮียลู่เหมือนจะรู้ว่าผมไม่ฮาแล้ว ก็เลยเริ่มตั้งจิตอธิษฐานขอหวยจากตัวขุนฝั่งมัน
   “จากนี้มึงจะไปไหน?” เฮียลู่ถาม
   “ดูซากุระ แดกปลาดิบ แช่ออนเซ็น”
   “บอกใครที่นั่นหรือยัง?” มันเริ่มเดินหมากต่อจากผมได้แล้ว
   “ไม่บอก กูรำคาญ เดี๋ยวสื่อ เดี๋ยวกล้องมาเต็มอีกล่ะ กูรับมือไม่ไหว” ได้ยินเสียงมันถอนหายใจเฮือกพอผมพูดจบ

      นี่ไง มาและไง อาการของคนขี้อิจฉา

         “ลุงพิช่วยมึงแค่ไหน?” ผมมองเห็นช่องทางแดกม้าไอ้เฮียลู่ แต่พอเดินไป แม่งเสือกดักได้เฉย
         “ลบประวัติกูกับมายด์ คงต้องใช้เวลาสักพัก อ้อ มึงอยู่นี่ก็ช่วยกูจัดการไอ้พวกเดนสังคมหน่อยดิ ไม่อยากกลับมาแล้วต้องเสียอารมณ์ไปฌาปนกิจมันอีกว่ะ”
         “งั้นมึงบวกไปได้เลย อย่างน้อย 10 ปี หาที่เหมาะๆ อยู่ให้ได้ละกันมึง”
         “ถ้าญี่ปุ่นเดี๋ยวกูไปเป็นพระเอกหนัง x คงเหมาะกับกูที่สุดแล้ว”
         “ไอ้เวร! แล้วมันเหมาะกับเมียมึงเหรอ? คิดหน่อย ไปฉกลูกเขามาไม่พอ ยังทำให้ชีวิตเขาบัดซบอีกนะมึง”

   เห็นไอ้เฮียลู่ทำหน้าจริงจังแล้วขำ ผมพูดเล่นหรอก พูดเหี้ยๆ ไปแล้วเคยทำจริงที่ไหน นีออนผมแทบจะหล่อสำริดปิดทองแล้วกราบไหว้เช้าเย็นอยู่แล้ว จะไปทำเหี้ยๆ ใส่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวชีวิตก็ไม่เจริญกันพอดี


      “เพ้อเจ้ออะไรเนี่ย อยู่กับกูไม่มีคำว่าบัดซบเว้ย ถ้าจะห่วงมายด์ มึงห่วงกูดีกว่า เพราะกูจะดูแลชีวิตแทนเขาทุกอย่างเอง”




      “........................” พูดจบเฮียลู่มองหน้าผมนิ่งเลยว่ะ




ไม่ต้องพูดถึงสายตา

            ส่อว่าผมตอแหลฉิบหายเลย ทั้งที่กูพูดความจริง!       

   “เออ ก็น่าเป็นห่วงจริงๆ นั่นแหล่ะ” สายตายังคงจ้องจับผิดอยู่
“แต่ห่วงว่ามึงจะดีแต่ปากนะ แล้วไม่ต้องมาบรรยายสรรพคุณมึงให้กูฟัง กูรู้ไส้มึงทุกอย่างแล้ว มึงอยากดูแลเด็กนั่นมึงก็ดูแลไป แต่อย่าเอาสันดานในแก็งค์มาเฟียมาใช้กับเขา มึงไม่มีอำนาจ ไม่มีลูกน้อง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีผลประโยชน์อะไรแล้ว มีอะไร รู้สึกยังไงก็บอกเขาไปตรงๆ อย่าปล่อยให้เขาไม่รู้หรือให้คนอื่นบอกให้เขารู้ ตอนกูนั่งรถไปซื้อของกับเขา ก็พอดูออกว่าเขาไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรจากปากมึง ถ้ารักกันจริง ก็อย่ามีความลับต่อกัน มึงเข้าใจไหม?”     









“ยาวไป มึงพูดไรวะ กูลืม”


“สัด!!! ว่าแล้วมึงต้องกวนตีน เดี๋ยวกูไปคุยกับมายด์ดีกว่า คนอย่างมึงนี่ต้องมีบทเรียนก่อนถึงจะสำนึก” จะมาปลูกจิตสำนึกเชี้ยไรกับผมอีกเนี่ย เท่าที่มีก็นี่ก็คนดีได้มา 10 กว่าลูกโลกทองคำแล้วนะเว้ย
“เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วไม่ทนคือกู เมฆจะไม่ทนนะครับ ถ้าใครมันกล้ามาสร้างบทเรียนให้กู ปริญญาเอกกู 4 ใบแล้ว ไม่ต้องมาสอน ถ้ามันสมองแม่งเหลือเฟือขนาดนั้นก็ไปเป็นอาจารย์ออกซ์ฟอร์ดเหอะไป!” ผมทำท่าจะลุกแต่โดนเฮียลู่ดักไว้อีก

   “ไอ้เวร...สรุปมึงมาหากูทำไมวะ?”
   “ฝากบ้านดิ ฝากงานด้วย ส่งข่าวกูด้วยถ้ามีใครจะตามไปขอลายเซ็นกู ถ้าจะให้ดีมึงเปิดแฟนเพจไปเลยก็ได้ ถ้าจะมีคนรักกูเยอะขนาดนั้น เชื่อดิ ไม่พ้นพรุ่งนี้มีแฟนคลับกูมาเยี่ยมมึงแน่”



   “เฮ้อ...เออๆ ด่ามึงไปก็เท่านั้น” เฮียลู่ยอมรับในชะตากรรม
      เอาน่า ช่วยๆ กัน ไหนๆ ผมกับมันก็เคยเป็นเพื่อนร่วมสำนักกันมาก่อน ทำพิธีดื่มน้ำสาบานเป็นพี่น้องกันแล้วด้วย ไอ้รอยสักผมมันก็เป็นคนสักให้สมัยฝึกวิชาด้วยกันที่เมืองจีน ส่วนที่หลังมันผมเป็นคนสักให้เอง ความสวยนี่ถ้าไปวัดกับศิลปินชื่อดัง อ.เฉลิมชายก็อ.เฉลิมชายเหอะวะ เจอ อ.เมฆลงยันต์หน่อยเป็นไง ฟันแทงไม่เข้า แต่ถ้าเจอลูกปลายเป่าก็จอดเหมือนกัน

         อันที่จริงต้องขอบใจท่านเจ้าสำนักของผม และเพื่อนๆ บางคนในนั้นที่ทำให้ผมมีใบผ่านทางเข้าไปอยู่ในแก็งค์มาเฟียข้ามชาติได้ ถ้าไม่ได้มาเมืองไทย ผมก็คงไม่ได้มาเจอนีออนแบบนี้หรอกว่ะ
   
“กูคงไม่เจอมึงอีกนานเลยนะเฮียลู่ เผลอๆ อาจไม่ได้กลับมาด้วย” ชีวิตกู...เสียสละไปไหมเนี่ย ทำถึงขนาดนี้ก็มีแต่คนด่า คงไม่มีใครเห็นค่าผมเท่านีออนแล้วล่ะ
“กูว่ามึงคงคิดไว้บ้างแล้ว จะให้กวาดล้างพวกมันให้หมดคงไม่มีทางเป็นไปได้” เฮียลู่พูดขึ้นบ้าง
“มึงอย่าไปสร้างเรื่องที่เมืองอื่นอีกก็พอ ที่นี่กูจัดการต่อเอง”
   ผมยิ้มมุมปากใส่มัน
      
“ไม่อยากเห็นมึงวิ่งไล่สอยใครเลยว่ะ เอ๊ะ หรือมึงจะโดนสอยวะ?”
   “ไอ้เวร...ปากวอนส้นตีนกูแล้วไหมล่ะ”
      
ผมหัวเราะ ลุกขึ้นยืนได้สักที
   “ลู่อี้ฟาน รักษาตัวด้วย” ปลายกำปั้นของผมกับมันแตะกัน   
   “อืม รักษาตัวด้วย”

รุ่งขึ้นนีออนรีบปลุกผมไปสนามบิน ไฟล์ทเช้าเหี้ยกูเพิ่งได้นอนไม่ถึงสองชั่วโมง ผมหงุดหงิดนิดหน่อย แล้วยิ่งหงุดหงิดขั้นอีโว เพราะแม่งรู้สึกจะมีหน่วยวอนส้นเท้า แอบสะกดรอยตามผมแล้ว

   มันจะเร็วขั้นเทพไปไหน?

ผมไม่ได้อยู่บายเฮียลู่ นีออนก็เลยงอนที่รีบมาเกินเหตุ แต่เขาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เพราะรู้สึกว่าถูกตามอยู่เหมือนกัน

   “เดี๋ยวแยกกันก่อนไหมพี่เมฆ ผมไปดักมันไว้ก่อน” นั่นมันหน้าที่ผมนะ อย่าแย่งผลงานเถอะขอร้อง
      “ไม่ได้ อยู่ด้วยกันนี่แหล่ะ เดี๋ยวค่อยไปจัดมันที่กรุงเทพฯ” ตามได้ตามไปเถอะไอ้สัด เจอของจริงแล้วมึงจะกรี๊ด

         “ใครมันตามเรามาอีกเนี่ย?” นีออนสงสัย พอหาที่นั่งบนเครื่องได้แล้ว
         “แฟนคลับผม ขนาดออกจากวงการแล้วผมก็ยังฮอตไม่เลิกอีกนะเนี่ย ลำบากใจฉิบหายเลย” นีออนหรี่ตา ทำหน้านิ่ง
         “ไม่ไปเจอแฟนคลับหน่อยล่ะ เดี๋ยวก็เรตติ้งตกหรอก”
         “ก็ว่าจะไปเจออยู่ แต่กลัวคุณหึงอ่ะดิ ผมยิ่งดังในหมู่ผู้ชายอยู่ด้วย ผู้หญิงก็เยอะนะ เกิดมาหล่อก็เหนื่อยแบบนี้แหล่ะ”
         “แล้วพี่เมฆไม่คิดว่าจะเป็นแฟนคลับผมบ้างเหรอ?”
         “โอ๊ย หน้าอ่อนเป็นดักแด้เรืองแสงอย่างคุณ ไม่มีใครเขาสนใจหรอก ถ้าเทียบดิวิชั่นก็อยู่ท้ายตารางโน่นแหล่ะ”
            
            พูดจบนีออนฟาดฝ่ามือลงบนต้นแขนผมทีนึงด้วยความมันเขี้ยว
      
               “แต่ผมก็ยังมีดีพอที่จะทำให้คนอยู่เหนือตารางลดตัวลงมาสนใจคนท้ายตารางแบบผมได้ก็แล้วกัน” มั่นใจจริงนะ หึหึ
                  “นั่นสิ มีดีอะไร สงสัยต้องรอคุณมาพิสูจน์ว่ะ” ผมแกล้งทำหน้ายียวนใส่ การแกล้งนีออนเป็นอะไรที่ชอบนี่หว่า มีความสุขในการหยอกเขา จะให้ทำไงได้วะ เห็นหน้าหมดทางสู้ของนีออนแล้วมันปลุกความเป็นชายในตัวผมซะจริง

ตอนแรกก็ว่าจะไปจัดการเรื่องคนสะกดรอยเองนั่นแหล่ะ แต่คิดดีๆ ไม่อยากให้นีออนต้องมาเสียสุขภาพจิตกับเรื่องไร้สาระ ก็เลยจัดการโทรบอกลุงพิก่อนเครื่องเทคออฟว่าให้ไปจัดพวกมันสักดอกสิ รำคาญฉิบหายเลยว่ะ

ลุงพิรับปาก แต่ก่อนวางก็ไม่พ้นด่า และเทศนาผมอีกละ
   เป็นไรมากเปล่าวะ กูนี่ไม่เป็นคนดีในสายตาใครเลยใช่ไหม น้อยใจแล้วนะเว้ย

      “หน้าบูดเป็นไรครับ หูอื้อเหรอ?” นีออนแกะหมากฝรั่งที่แวะซื้อมายื่นให้ผม
      “ป้อน”
      “มือก็มี”
      “ใครบอกให้ใช้มือ เอาปากคุณป้อนดิ นะๆ” นีออนเอานิ้วชี้แตะปากให้ผมเบาหรือหยุดพูด เขามองรอบๆ เหมือนกลัวใครได้ยิน
เท่าที่เห็นแถวหน้าผมเนี่ยมีแต่ฝรั่ง ข้างๆก็จีน ไม่มีใครเข้าใจที่ผมพูดหรอก
      
“#)($*#@_)#” ผมแกล้งพูดภาษาจีนล้อนีออน ดังพอให้ไอ้พวกที่ล้งเล้งกันอยู่หยุดมองหน้าได้ก็แล้วกัน
   นีออนตาโตมองผมสลับกับคนจีนข้างๆ ที่อยู่ๆ ก็เงียบเสียงลงซะงั้น
      “พูดอะไรครับเมื่อกี้?”
         “พูดว่าหิวข้าวจัง”
            “ไม่เชื่อ! ทำไมคนข้างๆ เขาเงียบมองหน้าเราแบบนั้นล่ะ บอกมาเลยนะพี่เมฆ เมื่อกี้พูดว่าอะไร แล้วพูดภาษาจีนได้ด้วยเหรอ?”

   “ได้ดิ ปู่ทวดผมสอนตอนแกไปเรียนอยู่เยอรมัน”
      “เอาดีๆ” นีออนทำเสียงโหดด้วยเว้ย ตาดุๆ นี่มองยังไงก็น่าแกล้งมากกว่าน่ากลัวว่ะ
         “ก็ได้ เดี๋ยวคืนนี้ผมแก้ตัวใหม่ จะเอาให้ดีกว่าเดิมเลย”
            “ฮึ่ยยย!!” นีออนกระแทกหลังกับเบาะอย่างแรง กอด-อกหน้าหงิก แต่ผมว่าน่ารักว่ะ ฮ่าๆๆ

“หมากฝรั่งผัวล่ะครับ?” ผมกระซิบแถมเอามือสะกิดแขนเบาๆ อย่างน่าสงสาร
นีออนหันมาทำตาขวางใส่ แล้วโยนกล่องหมากฝรั่งมาให้เฉย
   ผมไม่ถือ จัดการแกะใส่ปาก แล้วเป่าลูกโป่งเล่นให้มันไปแตกที่ปากนีออน
      “พี่เมฆ!!! จะหยุดไม่หยุด”
         “เฮ้ย!” ตาผมแทบเหลือก นีออนอยู่ๆ ก็เอามือมาบีบจรวดผมซะงั้น
            “ปล่อยก่อน เดี๋ยวเป็นหมัน ผมยังอยากมีลูกกับคุณอยู่นะ” พูดจบแรงบีบมากกว่าเดิม ผมรีบยกมือยอมแพ้
               “ไม่พูดแล้วครับๆ”
                  “อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง ห้ามกวนผม! ไม่งั้นผมจะบิดๆๆ ของพี่เมฆเป็นทีวี 360 องศาเลย!!!” โห ถ้าจะขนาดนั้นก็เอากูไปเล่นกายกรรมเลยไหม



ถึงสนามบิน ในสภาพซอมบี้เพราะนอนไม่หลับ ปกติผมก็คนหลับยากอยู่แล้ว ยิ่งนอนรวมกับคนเป็นดงแบบนี้ไม่ต้องพูดถึง
   “พี่เมฆ ปลอมพาสปอร์ตเป็นคนญี่ปุ่นแต่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้สักคำเลยอ่ะ  ทำไงดี?” นีออนเพิ่งจะมาตื่นเต้นตอนจะเดินเข้า ตม. ความรู้สึกไวจริงๆ เมียกู
   “ทำไมจะพูดไม่ได้ ก็ คิมูจี้ อิคึ อิคึ อิไต อิไต ไง”
   “พูดให้มันเป็นประโยคสิ ถ้าเขาถามล่ะ จะทำไง?”
   “ก็ตอบแบบเป็นประโยคดิ ..ชาลา! เฮด ชาลา! นางิ กา โอคิเต โมกิบุน วา” นีออนหรี่ตาทำหน้าเหมือนปวดตูด
     “ไม่ถามหรอกน่า หน้าตาผมกับคุณก็พอจะเนียนได้อยู่นะ ผมเป็นซาสึเกะ ส่วนคุณเป็นซาดาโกะไง”

   “ถามจริง เราไม่ได้มาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนใช่ไหม?”
   “ถามแบบนี้เดี๋ยวตบด้วยปาก กระชากด้วยจูบซะหรอก”
   “ก็พี่เมฆไม่ยอมบอกอะไรผมเลย ผมไม่รู้ พอถามพี่ก็ไม่ยอมบอก” ผมก็ตอบทุกคำถามนะ ทำไมว่างั้นล่ะ
   “เราเป็นพระเอก จะมาในฐานะผู้ร้ายได้ยังไง แต่ถ้าใช้วีซ่านักท่องเที่ยวมันอยู่ได้ไม่นาน ปลอมสัญชาติไปแบบนี้ล่ะชัวร์สุด อยากจะทำอะไรก็ทำได้ ไม่ต้องพูดญี่ปุ่นได้หรอก บอกว่าโตที่ซานฟรานไรก็ว่าไป ที่สำคัญคือจำชื่อปลอม วันเกิดปลอม ประวัติปลอม อย่างที่ผมบอกก่อนลงเครื่องให้ได้ก็พอแล้ว ไม่ต้องตื่นเต้น ถ้ามันจับคุณเข้าห้องสอบสวนเดี๋ยวมันได้แดกโมโลทอฟ คอกเทลของผมจนอิ่มแน่”
      นีออนทำหน้าไม่สบายใจอย่างสุดซึ้ง ผมก็ได้แต่จ้องตา ยืนยันไปว่ามันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ผมเช็คมาแล้วว่าปลอดภัย ไม่งั้นคงไม่เลือกมาตายที่นี่ให้ควายหัวเราะหรอก




“เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าหน้าตาเรามันอินเตอร์” ผ่าน ตม. มาได้แบบไม่โดนถามอะไรสักอย่าง ผมก็คุยได้ดิ
“อินเตอร์ตรงไหน กะเหรี่ยงชัดๆ” ตอนนี้เราสองคนมายืนนิ่งอยู่ที่สถานีรถไฟ ถ้าจะให้พูดตรงๆ นะ ประเทศนี้แม่งไม่คิดจะมีป้ายที่เป็นสากลให้กูอ่านออกมั่งเลยใช่ป่ะ?


   แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับกูหรอกครับ กูอ่านคันจิออกเว้ย แต่ถ้ามีตัวญี่ปุ่นปนกูก็จอดเหมือนกัน



      และไม่ต้องห่วงว่าผมมาถึงที่นี่แล้วจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว

อีกไม่ถึงสามก้าวผมกับนีออนกำลังจะได้เปิดประตูเข้าสู่เรือนหอ 



แต่...ไอ้กุ๊ยใส่สูทควายๆ ห้าหกตัวที่ยืนดักอยู่นี่คือไร?




 ผมไม่ชะงัก เดินฝ่าวงล้อมที่พวกมันดักอยู่ปากทางเข้าไปเฉยๆ และก็คงไม่ทักนะ เพราะมันไม่ใช่ญาติกู
   ผมเดินจับมือนีออนดึงเข้าไป คิดไว้นิดๆ เหมือนกันว่ามันอาจจะบวกกับผมก็ได้ ก็เล่นจ้องกันซะขนาดนั้น แต่...ไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่ะ มันปล่อยเราเดินผ่านไปเฉยๆ
      ระแวงน่ะ มันก็ของแน่อยู่แล้ว กับประวัติอันงดงามที่ผ่านมาของผม แต่เท่าที่รู้ ผมก็ไม่ได้ดังข้ามมาถึงประเทศนี้นะ ไอ้เรื่องจะมาวัดไรกันที่นี่ ตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบ คงไม่มีทางเป็นไปได้

         ผมเดินขึ้นบันไดมาชั้นสอง ไขกุญแจเปิดเข้าไปในห้องชุด ขนาดย่อม 1 นอน 1 น้ำ 1 นั่งเล่น มีครัวเล็กๆ ระเบียง กับห้องซักรีด คนที่อยู่ห้องขนาดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในญี่ปุ่นนะเว้ย พูดเลย

            “คุณจะนอนห้องไหน?” ผมถามนีออน ที่กำลังเดินสำรวจนั่นนี่อยู่
            “ห้องนอนมีห้องเดียวนี่ครับ?” หน้าเขาดูงงๆ
            “อืม ผมจองห้องนอนแล้ว แล้วคุณนอนไหน?” คราวนี้คิ้วเริ่มขมวดแล้วว่ะ
            “พี่เมฆไม่ให้ผมนอนด้วยเหรอ เตียงก็ตั้งกว้าง”
            “ผมชอบนอนคนเดียว”
            “.............................” นีออนดูจะอึ้ง เขาหน้าซีดเลยว่ะ ผมได้แต่แอบขำ พอเห็นนีออนก้มหน้านิ่งเลยรีบเดินไปกอดเขาไว้
            
               “ผม...ผมนอนโซฟาก็ได้” เสียงสั่นเลย
                  นีออนที่ดูอ่อนแอแบบนี้ผมชอบ! ไปถือปืนหนักเป็นกิโล เที่ยวส่องยิงชาวบ้านแบบที่ผ่านมา บอกเลยผมรับไม่ได้

“ล้อเล่นน่า ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย” สะอื้นตัวสั่นเหมือนโดนเข้าทรงซะงั้น แต่อย่าเข้มแข็งเลย ผมไม่ชอบเท่าไหร่ ไอ้นิสัยแบบนั้นมันรู้สึกเหมือนพร้อมจะไปจากกันได้ทุกเมื่อ
   ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ผมอยากให้เขาอยู่แบบขาดผมไม่ได้แล้วกัน   
            

               
      

    
 
H
 :pig4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กรี๊ดดด นึกว่าตาฝาด มาอัพแล้ว 555
อิพี่เมฆขี้แกล้งจริงๆ มันน่านัก!!!

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เกือบลืมหมดแล้วอ่ะ นานเกิ๊น ตอนนี้พี่เมฆก็กวนเหมือนเดิม ชอบแกล้งน้อง เดี๋ยวน้องก็หนีหรอกพี่เมฆ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ให้น้องมันเข้มแข็งหน่ะดีแล้ว...เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจิได้ป้องกันตัวเองได้
ปล. ปวดหัวกะอิพี่เมฆ กวนประสาท55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด