เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน ลิปมัน..ไม่ใช่ลิปเรา "อันนี้นี่มันอะไรวะ...เออน่าใช้ดีเว้ย"
ฮวยกำลังยืนพินิจพิจารณาบางสิ่งบางอย่างที่แขวนอยู่บนชั้นวางของในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
ส่วนใครอีกคนกำลังยืนรอให้พนักงานร้านสะดวกซื้ออุ่นอาหารในไมโครเวฟ
"เรียนได้จริงเหรอวะมึง เด็กช่างโว้ยเด็กช่าง หน้าไม่ให้เลย เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์กับเขาหรือยังวะไอ้สน ติดต่อมึงไม่เคยได้เลยนะยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่าเนี่ย ใครไม่รู้เขาก็คงคิดว่ามึงตัวคนเดียวแล้วแหละมั๊ง ไม่มีตังค์บอกกูนะกูพร้อมเก็บดอกเบี้ยกับมึงเสมอ"
ต้นสนกำลังยืนอมยิ้มและส่ายหัวกับคำพูดบ้า ๆ บอ ๆ ของเพื่อน
นั่นแหละลูกขาขาประจำ ขยันมาพูดจากวนประสาทได้ทุกวัน ที่จริงไอ้เดียร์มันนิสัยดี รักเพื่อนฝูง เคยเรียนด้วยกันสมัย ม. ต้นเพิ่งแยกกันเมื่อต่างคนต่างไปเรียนต่อ สมัยก่อน เคยปีนห้องน้ำหญิงด้วยกัน ที่จริงไม่อยากทำแบบนั้น ไม่อยากมีเรื่องกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง แต่ไอ้ตัวแสบนี่มันชวนประจำ ก็เอาซะหน่อย โดนท้าเข้าไปก็คะนองไปตามวัย ไม่เคยบอกใครหรอก ขืนบอกไป คนคงคิดว่าเป็นพวกโรคจิตแน่ ๆ
"เฮ้ย แถมหน่อยไม่ได้เหรอวะ ไส้กรอกอ่ะ อะไรวะเพื่อนมาซื้อทั้งที ไม่เคยแถมเลยนะมึง กูล่ะเซ็ง"
ให้มันจริงเถอะ บอกให้แถมแล้วพอจะแถมให้จริง ๆ ไอ้เดียร์มันก็แหกปากร้องโวยวายบอกว่าไม่เอา แค่นี้ก็อิ่มแล้ว
เป็นไงล่ะ ปากดีเหลือเกินนะมึง ให้จริง ๆ ก็ไม่เอาอีก มันคงรู้นั่นแหละว่าเพื่อนต้องโดนหักเงิน มันเลยไม่รับเอาไว้
"เอาจริงมั้ยล่ะ ให้แล้วก็ไม่เอาอีก เห็นกูเป็นคนจนล่ะสิ ถึงไม่อยากรับน้ำใจจากกูอ่ะ"
แกล้งตัดพ้อเล็ก ๆ แล้วไอ้คนหน้าขาวซีดเป็นไก่ต้มอย่างเดียร์ก็ทำตาโต หน้าบูดหน้าบึ้ง
"เนี่ย คิดแต่เบบนี้แหละมึง กูไม่ได้คบคนที่ฐานะโว้ย กูคบที่ใจ อย่ามาดูถูกน้ำใจกูหน่อยเลยไอ้สนมึงอ่ะ ประจำเลย"
มันบ่น ไอ้เดียร์มันบ่น
ต้นสนยืนหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน แล้วก็เดินไปหยิบของที่อุ่นไว้ออกมาจากเตาไมโครเวฟ
"รีบ ๆ ไปซะทีสิวะ เกะกะลูกค้าคนอื่นเขา..จะมาซื้อก็มัวแต่เกะกะมึงนี่แหละไอ้เดียร์"
ได้ทีมันไล่เลยนะ เออ ก็ได้วะ ไปก็ไป
แล้วไอ้เฮงซวยนั่นมันยืนเลือกอะไรของมันอยู่วะนั่น เห็นเล็งอยู่ได้ตั้งนาน สายตาพิฆาตจับจ้องมองตรงไปที่ของที่ฮวยหยิบขึ้นมา แล้วเมื่อคนตัวโตเดินถือของสิ่งนั้นมาวางที่หน้าเคาร์เตอร์เพื่อคิดเงิน เดียร์ก็เลยได้โอกาสแซว
"แม่เจ้าโว้ย ลิปมัน....กลิ่นเลมอนซะด้วย เอาไปทำอะไรเหรอจ๊ะน้องสาว..แจ่มจริง ๆ เลยโว้ยคนเรา"
เออ เอาเข้าไป
ก็เห็นมันน่าซื้อดี แสบปากจะตายเวลาหน้าหนาว ปากแตกเป็นขุย ๆ ไอ้เดียร์นี่ก็เห็นเป็นของประหลาดไปได้
มันแปลกมากนักหรือไงวะ ของแค่นี้
ฮวยปรายตามองหน้าของใครอีกคนที่ยืนทำหน้าทะเล้นอยู่ข้าง ๆ แล้วก็เลยหยิบธนบัตรมาจ่ายเงินค่าสินค้า
"ไส้กรอกด้วยครับ..รวมกัน"
โห ใจป้ำซะด้วยเว้ย คนมันมีตังค์ แหม้รู้งี้กูเอาสามชิ้นก็ดี งั้นไม่เกรงใจนะพี่ฮวยของน้องเดียร์ หึ หึ ของฟรีกูชอบ
เดียร์ยิ้มระรื่นแล้วก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตากับเพื่อนที่กำลังเก็บเงินเข้าลิ้นชัก แล้วก็โบกมือให้หนึ่งครั้งเป็นการร่ำลา
แต่ปากก็ยังคงพูดไม่หยุด ยังไม่เลิกแซวคนตัวโตที่เดินนำหน้า
"เก็บปากไว้แตกหน้าหนาวมันเป็นแบบนี้นี่เองนะ เลมอนซะด้วย"
เอ้า ไอ้เดียร์นี่มันเป็นอะไรของมัน ยังไม่เลิกพูดอีก กะอีแค่ลิปมันแท่งเดียวมันจะเป็นอะไรนักหนาวะ
ดูมัน เดินกินไส้กรอกรมควันสบายอารมณ์ ไร้สาระจริง ๆ เลยคนเรา
"ที่ซื้อมาก็ไม่ใช่อะไรหรอก เดี๋ยวเวลาจูบปากน้องนาเดียร์แล้วพี่ฮวยกลัวเดียร์เจ็บไง พี่ก็เลยต้องซื้อพกติดตัวเอาไว้นี่ยังไม่หมดนะ ถุวยางกลิ่นเลมอนพี่ก็มี พี่ฮวยกะว่าจะเอาไว้ใช้กับน้องเดียร์คนเดียวเลย จะลองตอนนี้เลยมั้ยล่ะจ๊ะ"
เหี้ยแล้วมั้ยล่ะ
พูดจาแบบนี้ออกมาได้ยังไง ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ ถึงอยากจะพูดอะไรก็พูดได้น่ะ
พูดแบบนี้กูไม่ขำด้วยหรอกนะจะบอกให้
เดียร์ชะงักมือที่กำลังถือถุงไส้กรอกไว้ชั่วขณะ แล้วก็โยนถุงทิ้งลงถังขยะทันที ไม่กงไม่กินแม่งแล้ว
ไม่สนใจอยากจะฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไร รู้แต่ว่า ไอ้ฮวยมันพูดจาดูถูกอย่างแรง ไม่ชอบเลยนะไอ้การล้อเล่นแบบนี้
เป็นใคร ใครก็ไม่ชอบทั้งนั้น แน่นอนว่ากำลังโมโห และฮวยก็รับรู้ได้ว่าคนที่เดินลิ่ว ๆ ห่างออกไปกำลังโมโหจริง ๆ
ขาก้าวเดินตามคนที่เดินนำหน้ามาถึงหน้าห้อง กุญแจถูกไขและไฟกลางห้องก็ถูกเปิดให้สว่างขึ้น
เดียร์โยนกระเป๋าเป้ไว้บนเตียงนอน และเดินไปล้างมือล้างเท้าในห้องน้ำ
ไม่พูด ไม่สนใจ คนที่เดินตามมาและวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะพับเตี้ย ๆ กลางห้องที่มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุควางเอาไว้
"เฮ้ย....เปิดได้เลยเหรอคอมมึงเนี่ย"
ฮวยตะโกนถามออกไปและก็ได้รับคำตอบกลับมา
"เออ..."
โห คำเดียวเลยเหรอวะน้องนาเดียร์ตาขวาง โกรธจริงเหรอวะเนี่ย ปกติมันต้องด่าว่าโง่ หรืออะไรสักอย่างแล้วนะ
แต่นี่มันตอบมาคำเดียวเลย โกรธจริงเหรอวะเนี่ย
ก็แล้วไง ไอ้เดียร์มันก็เป็นแบบนี้ออกบ่อย โมโหก็บ่อย โวยวายก็บ่อย
มันจะโมโหอีกก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่หว่า
"มาช่วยกูเรียงกระดาษนะไอ้เดียร์ ไม่ใช่กินแรงอีก นั่งนี่เลยเนี่ยเรียงเนื้อหาเลย เดี๋ยวกูพิมพ์เอง"
ฮวยเอ่ยบอกออกไปแล้ว และรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
มัน.....ไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียว
มานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำหน้าเฉย นิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรเลย มือเรียงกระดาษและเนื้อหาที่จะนำเข้าเป็นส่วนประกอบของรายงาน
แต่ไม่ถาม ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ส่วนหน้าไม่ต้องให้พูดถึง........นิ่ง.......และเฉยจนฮวยชักไม่มั่นใจแล้วว่าจะทำเป็นไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่ายได้
"ดอกกุหลาบในกระเป๋าล่ะ ไม่เอาไปแช่น้ำเหรอ เดี๋ยวมันเหี่ยวนะ"
ถามออกไปแล้ว และทำเป็นสนใจอยู่กับการพิมพ์รายงาน แต่ตาแอบลอบมองปฏิกิริยาของคนที่นั่งเรียงกระดาษอยู่ข้าง ๆ
"ก็ช่างหัวแม่งสิ...เหี่ยวก็เหี่ยวไปไม่เกี่ยวกับกู"
อ่อ
ยังพูดได้อยู่ แสดงว่าไม่โกรธมาก แบบนี้พอรับมือไหว แหย่นิดหยอกหน่อยเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
ประเมินสถานการณ์ดีแล้ว และฮวยก็ลุกขึ้น ถือวิสาสะเปิดกระเป๋าที่วางทิ้งไว้บนเตียงแล้วก็คว้าช่อกุหลาบที่ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เอาไว้ ยืนมองช่อดอกไม้ที่เริ่มเฉา แล้วก็ลอบมองท่าทางของเดียร์ที่กำลังใจจดใจจ่อกับการเรียงเอกสาร
เปล่า...ไอ้ที่มองนี่ไม่ได้คิดอะไร
แล้วก็ไม่ได้คิดจะง้ออะไรมันด้วย
ก็โกรธไปสิ ไม่เห็นสนใจเลย ไอ้เดียร์มันโมโหมากกว่านี้บ่อย ๆ ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย
ตลกดีจะตายไป
สมองบอกให้คิดอย่างนั้น แต่ใจกลับคิดไปอีกทาง
ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่า ไม่อยากโกรธกันนาน ๆ จะยอมพูดจาดี ๆ กับไอ้เดียร์มันซะหน่อยก็ได้วะ
เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศในการทำงานแค่นั้นเอง
ฮวยเดินไปค้นหาแก้วน้ำที่วางอยู่บนหลังตู้เย็นแล้วก็เดินไปหมุนน้ำในก๊อกใส่ลงไปในแก้ว ช่อกุหลาบถูกแกะออกจากกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วหย่อนลงไปในแก้วน้ำ ก่อนจะถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะที่ใช้เป็นที่วางเอกสาร
"ไม่ค่อยสวยเลยว่ะ มันเป๋ไปกันคนละทิศละทาง สงสัยแก้วมันเตี้ยไปหรือเปล่าวะ"
เอ่ยขอความเห็น และก็ได้รับคำตอบที่เป็นงานเป็นการไม่มีเค้าว่าต้องการจะย้อนถามให้เจ็บ ๆ แสบ ๆ เหมือนปกติ เพียงแค่นี้ฮวยก็ชักเริ่มรู้สึกแล้วว่าคนตัวเล็กหน้าเฉยตรงหน้า โกรธขึ้นมาจริง ๆ
"แก้วใส่ไม่ได้ก็ใช้กระปุกน้ำในตู้เย็นสิ ใส่ได้พอดีแหละ"
โห
เดียร์
เดียร์เล่นพูดแบบนี้กับพี่ฮวยเลยเหรอ
ไม่ย้อนหน่อยเหรอ แบบว่า.........ของแค่นี้มึงยังไม่มีปัญญาอีกเหรอ..โง่หรือเปล่า
หรือไม่ก็.....ด่าอะไรมาก็ได้สักคำสองคำเถอะ แบบนี้มัน....ชักไม่ค่อยดีแล้วนะ
คนที่เริ่มเกิดอาการเกร็ง และทำตัวไม่ถูกคือฮวย
ไม่ได้นำแก้วน้ำไปเปลี่ยน แต่ลงมานั่งอยู่กับที่และค่อย ๆ ลงมือพิมพ์รายงานที่เดียร์ส่งกระดาษแยกแต่ละหัวข้อมาให้
สายตาแอบลอบชำเลืองจ้องมองใบหน้าที่นิ่งเฉยเป็นพัก ๆ แล้วก็ลอบถอนหายใจด้วยความเครียด
ไม่เล่นอะไรหน่อยเหรอ กวนประสาทหน่อยก็ได้มั้ง เผื่อมันจะดีขึ้น
"นาเดียร์จ๋า...ทำไมหน้างอแบบนั้นล่ะจ๊ะ...โกรธอะไรพี่ฮวยหรือเปล่ายาหยี เมื่อยมือจังเลย ขอพักแป๊บนะ พิมพ์มาตั้งเกือบสองชั่วโมงแล้ว ขอพักหน่อยนะจ๊ะ"
นั่งเครียดอยู่นาน พิมพ์จนมือแทบหัก แล้วฮวยก็หยุดพิมพ์
แหย่ไปนิดเดียวเอง ไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมาเลย เอาไงดีวะ
"เฮ้ย ไอ้เดียร์กลิ่นเลมอนนะเนี่ย เออมันก็ใช้ดีนะ น้องสาวกูมันบอกว่าใช้ดี ลองหน่อยเปล่า ยี่ห้อนี้ปากไม่ลอกจริง ๆ เย็นดีด้วย...ลองเอาไปใช้ดีมั้ย มึงจะได้หล่อ ๆ กว่านี้ไง"
หัวเราะ และหัวเราะ และหัวเราะ....และหัวเราะแบบไม่มีเหตุผล...หัวเราะ.......เพื่อกลบเกลื่อน
แต่เดียร์ก็ยังคงเฉย
แท่งลิปมันถูกวางลงบนโต๊ะ แล้วฮวยก็เริ่มหน้าเสีย ไม่พูดอะไรหน่อยเลยเหรอ โกรธจริงเหรอเนี่ย โกรธนานจริงโว้ย
"เดี๋ยวกูไปเยี่ยวก่อนนะ...ขอพักแป๊บเดียว เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อ"
เออ ไม่เล่นก็ไม่เล่น ไม่เล่นก็ได้ กูก็ขี้เกียจง้อมึงแล้วเหมือนกัน อยากจะโกรธก็เอาเลย ไม่สนใจหรอก
ฮวยลุกขึ้นยืนและเดินทำหน้าเครียดไปเข้าห้องน้ำ
ส่วนเดียร์ที่ยังคงนิ่งเฉย กลับมองไปที่บางสิ่งบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ
มัน.........
ทำให้ปากไม่ลอกจริงเหรอวะ......
เอ่อ...เย็นจริงเปล่า...
ไม่กล้าซื้อเอง...แต่ว่า...
ก็.........น่าลอง
อยู่เหมือนกัน
ปรายตามองไปที่ห้องน้ำ แล้วก็รีบคว้าลิปมันมาเปิดฝาออก ก่อนจะใช้ความเร็วที่มีอยู่ถือลิปมันกลิ่นเลมอนเอาไว้ในมือและแตะ ๆ ไปที่ริมฝีปากอย่างรวดเร็ว
หอมดีเว้ย
เย็น ๆ ดีด้วย
หวานเปล่าวะ ไหนลองชิมหน่อย
เดียร์แลบลิ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเองและพบรสหวาน ๆ ที่ปลายลิ้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้ยิ้มออก
เฮ้ยแม่งน่าสนว่ะ
เดี๋ยวไปซื้อมั่งดีกว่าเว้ย อร่อยดี เย็น ๆ แล้วก็หอมด้วย
เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้เดียร์ต้องรีบวางของที่แอบลองใช้ไว้บนโต๊ะ แล้วก็ทำทีเป็นสนใจกับการเปิดสมุดจดไปเรื่อย แต่คนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เหมือนเห็นอะไรบางอย่างก่อนหน้านี้
แต่ก็ไม่คิดจะสนใจอะไรมากนัก
ไอ้เดียร์มันโกรธ
แล้วตอนนี้มันก็ยังโกรธอยู่ ขี้เกียจสนใจ ขี้เกียจยุ่งด้วย ทำงานให้เสร็จ ๆ แล้วกลับบ้านนอนดีกว่า
รำคาญ ไม่อยากจะอะไรกับมันมากมายหรอก เบื่อ
"เอาอีกแผ่นมาสิ หมดปึกนี้แล้วก็หมดของวันนี้แล้วใช่เปล่า เที่ยงคืนก็เสร็จ กูจะได้กลับบ้านนอนซะที"
ฮวยกำลังลงมือพิมพ์รายงาน และไม่สนใจจะอยากรู้ความรู้สึกของคนเดียร์อีก
แผ่นแล้วแผ่นเล่า ที่ถูกเก็บเข้าไปในหน่วยความจำของตัวเคริ่อง เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่ากำลังจะหยิบกระดาษแผ่นสุดท้ายขึ้นมาพิมพ์
แต่นัยน์ตาเหลือบมองไปเห็นคนที่ซบหน้าลงบนโต๊ะ และหลับตานิ่ง ๆ อยู่ข้าง ๆ
อ้าว
ทำไมเป็นงั้นไปได้วะ
มันหลับ
ไอ้เดียร์มันหลับไปตอนไหนวะ
กินแรงเห็น ๆ
แค่เรียงกระดาษแค่นี้มันเสือกหลับ
ปล่อยกูนั่งพิมพ์จนมือหงิกคนเดียวอยู่ได้ เอาเปรียบนี่หว่า ทำแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนวะเนี่ย
ฮวยละมือจากแป้นพิมพ์แล้ว และค่อย ๆ ขยับกายมานั่งอยู่ข้าง ๆ คนที่ยังหลับใหล
นัยต์ตาจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ๆ แล้วก็ลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"อะไรวะ...วันนี้ยังรบกันไม่ทันไรเลยนะ เสือกชิงหลับไปก่อนแล้วเหรอวะไอ้เดียร์..."
ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังยิ้มกว้างมากแค่ไหน แต่ปลายนิ้วกำลังแตะลงที่ข้างแก้มของคนหลับและเกลี่ยเล่นเหมือนอยากจะแกล้งให้คนหลับรู้สึกตัว
"เฮ้ย ตื่น..กินแรงกูเหรอมึง...ไอ้เดียร์มึงกล้ากินแรงกูเหรอ"
เอ่ยถามออกไปและก็หัวเราะกับตัวเองเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำเสียงงัวเงีย เหมือนไม่อยากตื่น
ปลายนิ้วเกลี่ยไล้จากข้างแก้มลงมาที่ริมฝีปากและสัมผัสเล่นแผ่วเบา ก่อนจะก้มหน้าลงไปหาเมื่อรู้สึกได้ถึงความนุ่มหยุ่นของริมฝีปากบางแดงเรื่อคู่นั้น
อือ คุ้น ๆ นะ นี่มัน
เฮ้ย......
กลิ่นเลมอนนี่หว่า
..............................ไหนว่า....................................
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แอบขโมยใช้เหรอไอ้เดียร์
ทำแบบนี้ได้ไง
ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ แบบนี้มันต้องเอาคืน
มือเอื้อมลงแตะที่ไหล่ของคนหลับและเริ่มเขย่าอย่างรุนแรง
"เฮ้ยทำแบบนี้ได้ไงวะ ลิปมันกูซื้อมายังไม่ได้ใช้เลย มึงเอาไปใช้ก่อนเลยเหรอไอ้เดียร์มึงตื่นนะโว้ย ตื่นเดี๋ยวนี้เลย"
เพราะถูกตะโกนใส่ และเพราะแรงเขย่าที่ต้นแขนทำให้เดียร์ที่ยังงัวเงีย ปรือตาตื่นขึ้นและอยากจะเตะไอ้คนบ้าที่มาปลุก คนกำลังหลับ มาโวยวายทำไมวะเนี่ย กะอีแค่ลิปมันแท่งเดียว ทำโวยวายไปได้
"มึงเอาอะไรมาพูดว่ากูเอาของมึงไปใช้ ไอ้บ้านี่ โอ้ยยยยยย กูจะนอน ง่วงจะตายห่าแล้วนะ ปลุกมาทำไมเนี่ย กูไม่ได้เอาไปใช้หรอก ของกระเทยใช้แบบนี้ ใครจะอยากใช้วะ มีแต่มึงคนเดียวแหละไอ้ฮวยที่ใช้..แม่งน่ารำคาญคนจะหลับจะนอน โวยวายเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ อยูได้"
แน่ะ มันยังแถ ไม่เห็นกับตาแต่กูรู้ก็แล้วกันว่ามึงนี่แหละที่ใช้ของกู
"อย่ามาปฏิเสธนาเดียร์จ๋า ยืมใช้พี่ฮวยไม่ได้ว่าเลย ทำไมไม่บอกพี่ฮวยล่ะจ๊ะว่าอยากได้ พี่ฮวยจะได้ซื้อให้"
อ๊วก
กูอยากได้ของจากมึงตายเลย
"มึงอย่ามาโมเม เอาที่ไหนมาพูดว่ากูไปใช้ของแบบนี้ของมึง ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ซะหน่อย"
นั่น ไอ้เดียร์มันยังปากดี
อยากพิสูจน์มากนักหรือไง กล้าหรือเปล่าล่ะ
"อยากพิสูจน์เหรอ...ไม่กลัวหรือไง....แน่จริงกล้าพิสูจน์มั้ยล่ะ"
ถามมาได้ มันจะเอาอะไรมาพิสูจน์วะ ของแค่นี้ ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ได้หรอก ห้องกูแท้ ๆ มึงจะอัดวีดีโอเก็บไว้หรือไงไม่มีทางหรอก อย่ามาตลกกับกูหน่อยเลย
เดียร์ลอยหน้าลอยตา แล้วก็หัวเราะออกมา เพราะไม่มีทางที่ฮวยจะหาข้อพิสูจน์อะไรได้อยู่แล้ว
ก็ได้แต่เห่าแหละวะ หมาเห่ามันก็ไม่กัด ก็เอาสิ ได้แต่พูดแบบนี้จะไปมีประโยชน์อะไร
"เอาสิ จะพิสูจน์ก็เอา จะได้รู้ว่ากูไม่ได้ใช้ อยากได้ตายเลยของแบบนี้"
พูดออกไปทั้งที่ไม่ได้คิด และก็ไม่ทันสังเกตใบหน้าของอีกฝ่ายที่ลอบยิ้มนิด ๆ
"แน่ใจนะ"
ถูกถามย้ำเพื่อความมั่นใจ แล้วเดียร์ก็พยักหน้าตอบรับ
"ไม่เสียใจนะ"
อะไรของมัน กะอีแค่พิสูจน์ลิปมันบ้า ๆ บอ ๆ จะเอาห่าอะไรมากมายวะ
"เออ จะพิสูน์อะไรก็เอา..กูไม่.....อื้อออออออออออ ไอ้อึก อื้อ"
ตะโกนตอบออกไป และในนาทีต่อมากลับหายใจไม่ออก เพราะถูกกดแนบริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรง หันหน้าหนีไม่ได้ เพราะถูกฝ่ามือของคนที่แรงเยอะกว่า กดต้นคอเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้สะบัดหน้าหนี
"อื้ก ไอ้..อื้อ"
ทั้งที่พยายามจะดิ้นรนขัดขืน แต่เพราะถูกยึดแขนเอาไว้ และยังถูกกดต้นคอเอาไว้ไม่ให้ขยับ เดียร์กำลังหมดทางสู้ และแทบจะหายใจไม่ออก
เป็นนานที่ริมฝีปากถูกบดเบียดเคล้าคลึ่งอย่างรุนแรงให้ไม่มีทางหนี และเมื่อริมฝีปากร้อนรุ่มถูกถอนออก จึงได้หายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่
"ถุย เหี้ยฮวย แม่ง กูจะอ้วก ไอ้เหี้ยเอ้ย พิสูจน์ห่าอะไรของมึงวะ โอ้ย กูจะอ้วก ขยะแขยงโว้ยยยย"
ฝ่ามือเช็ดถูไปที่ริมฝีปากของตัวเอง ทั้งขัดทั้งถูและยังโวยวายไม่เลิก
ส่วนฮวยใช้หลังมือเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเองอย่างลวก ๆ และหัวเราะร่า ด้วยความสะใจที่ได้เอาชนะอีกฝ่ายได้
"กลิ่นเลมอน...เย็นซะด้วย..เพิ่งแอบใช้ตอนกูเข้าไปเยี่ยว...คราวหลังอยากใช้ก็บอก ไม่ต้องขโมย..นิสัยไม่ดีนะเรานาเดียร์...เดี๋ยวพี่ฮวยตีเลยนะเด็กไม่ดี"
TBC....
มุกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะ
แล้วมาติดดามกันต่อไป จุ๊บไปแล้วจะเป็นงัยต่อ