^^
“ตาย ตาย ไอ้วินตายแน่” ชายหนุ่มร่างบอบบางผิวขาว กำลังวิ่งขาขวิดพร้อมแฟ้มเอกสารเต็มอ้อมแขน
เมื่อคืนก็เร่งงานจนลืมกินลืมนอนอยู่ที่ห้องสำนักงาน กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาเกือบแปดโมงเช้าเข้าไปแล้วยังต้องห้อหน้าตั้งเอางานไปส่งหัวหน้าที่ประชุมใหญ่ที่อยู่อีกชั้นของอีกฟากตึก ซึ่งลิฟท์ ก็ช่างเป็นใจไม่มีตัวไหนมีไฟติดเลยซักตัว ตอนนี้ ‘ทีนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน’ ขุนวิ่งหน้าตั้งจนส่งงานเข้าสู่อ้อมแขนอันมั่นคงของคนจ่ายเงินเดือน จนเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะกระปลกกระเปลี้ยลากสังขารโทรมๆ กลับมาเก็บของที่กระจายเกลื่อนอยู่บนพื้น บนโต๊ะ และโต๊ะเพื่อนร่วมงาน วันเสาร์อย่างนี้ไม่มีใครเข้ามาทำงานซักคน ยกเว้น วินที่ยังไม่ได้กลับและเจ้านายที่ต้องใช้งานในส่วนรับผิดชอบของวินอย่างเร่งด่วน อย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้แต่จะเพราะอะไรก็ช่างเมื่อเจ้านายสั่งว่าวันนี้ก็ต้องวันนี้เพราะ เจ้านายก็คือเจ้านาย
มือขาวๆ ค่อยเก็บของต่างมารวบรวมเข้าด้วยกันจนทำให้มองเห็นปฏิทินตั้งโต๊ะที่โดนกองกระดาษทับอยู่ สติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีแดงแปร๊ดดวงโต ที่แปะทับวันที่เมื่อวานเอาไว้สะดุดตาและสะดุดใจวินเข้าอย่างแรง
“ตาย ตาย กุตาย” เมื่อวานวันวาเลนไทน์ วินเอามือกุมหัวตัวเอง
“ลืมได้ไงวะ” วินเอามือเขกหัวตัวเอง
“กุ ลืมวันวาเลนไทน์” วินเอามือกุมคอตัวเอง
“ตายหยังเขียดแน่กุ ของไม่ได้ซื้อไม่เป็นไร แต่ถึงขั้นไม่กลับบ้าน ไม่รับ ไม่โทรหา สุดที่รักนี่....
ตาย ตาย ตาย วินอยากตาย” เมื่อคร่ำครวญจนพอใจ วินก็โกยอ้าวกลับบ้านอย่างรีบด่วน ลิฟท์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะใช้ได้ วินจึงต้องพึ่ง ทีนตนอีกรอบ จากชั้น สิบห้า วินก็เลยลงมานั่งหอบเป็นสุนัขหอบแดดอยู่ที่หน้าลิฟท์ ที่ชั้นหนึ่งเพื่อดูคำตอบที่แปะหลาด้วยกระดาษ A4 ‘ปิดปรับปรุงวันที่ 15-16 ก.พ.’
“อ้อ กุลืม” เมื่อได้คำตอบและหายเหนื่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วินก็รีบโกยอ้าวกลับบ้านอย่างรีบด่วน ระหว่างทางกลับ ก็เจอเอาร้านช็อกโกแล็ตที่เอาช็อกโกแล็ตวาเลนไทน์มาเลหลังขาย วินเลยแวะซื้อเอา ช็อกโกแล็ตรูปหัวใจอันใหญ่กว่าหน้าติดมือไปหนึ่งก้อน ก่อนจะหาแท็กซี่ ซิ่ง
ด่วนกลับบ้าน จากตลอดทางทุกอย่างต้องเร่งต้องรีบ แต่พอยิ่งใกล้ประตูบ้านมาขึ้นเท่าไหร่ ความเร่งรีบกลับค่อยลดระดับลง กลายเป็นคืบคลานอย่างช้าๆ แม้ใจของวินจะโลดแล่นเข้าไปถึงในห้องแล้วก็ตาม เท้าแต่ละข้างกลับค่อย ช้าลง ช้าลง ด้วยความรู้สึกผิด ราวกับมีหินหนักมาคอยถ่วงแต่จนแล้วจนรอด วินก็กลับมาถึงจนได้ วินที่มือข้างนึงหนีบช็อกโกแล็ตรูปหัวใจดวงยักไว้ มืออีกข้างก็หยิบคีย์การ์ด ออกมาเสียบลงไปในช่อง เมื่อจอLCD แสดงตัวเลขเก้าตัว วินก็กดรหัสลงไป ประตูเปิดออก วินค่อยเอาหัวสอดเข้าประตูไปก่อน สิ่งที่เห็นด้านในทำให้วินแทบอย่างเอาหัวตัวเองโขกข้างฝาแต่ก็กลัวว่าจะทำให้คนในห้องตื่น เลยได้แต่ย่องกริบเข้าไปด้านใน สายรุ้งสีสันต่าง พาดไขว้กันไปมาอย่างสวยงาม บางสายก็ห้อยย้อย เป็นเส้นเหมือนเถาวัลย์ ลูกโป่งลูกกลมๆ กลิ้งเกลื่อนตามพื้นห้อง มีบางส่วนที่ลอยได้ก็ลอยอยู่ตามมุมบ้าง ตรงโน้นนี้บ้างทิ้งหางยาวเอาไว้ให้ดึงลงมาเล่นได้ ตรงกลางห้องมาโต๊ะกินข้าวที่มีเก้าอี้สองตัว กลางโต๊ะตอนนี้ว่างเปล่า ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟามีแก้วแชมเปญสองใบ กับขวดแชมเปญเปล่าที่ล้มอยู่
วินค่อยก้าวไปที่ห้องนอน แง้มประตูอย่างเบามือ มองเข้าไปเห็นสุดที่รักยังนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มอันอบอุ่น จึงงับประตูปิดอีกครั้ง
“วินขอโทษ” วินพูดกับประตูเบา ก่อนเดินไปเดินมาหาวิธีขอโทษที่จะทำให้ จั๊กใจอ่อน
ปิ๊งง... วินลงมือปลดกระดุมเสื้อ แล้วถอดออกจากตัวอย่างไม่ใยดี ตามด้วยกางเกง และชั้นใน เอื้อมมือไปดึงเอาริบบิ้น ที่ระโยงรยางค์อยู่มา สองสามเส้น ก่อนเอามาผูกหลวมๆ เป็นโบว์ที่รอบลำคอ ก่อนกลับไปยืนสูดหายใจเข้าลึกๆ ที่หน้าประตูห้องนอนอีกครั้ง
ร่างเปลือยเปล่าเปิดประตูอย่างแผ่วเบาก่อนเดินเข้ามาในห้อง ความเย็นทำเอาคนเดินเข้ามาถึงกับขนลุก ก่อนจะมาหยุดยืนมองหน้าคนหลับอยู่ที่ข้างเตียง คนยืนจดจ้องอยู่ข้างเตียงพักนึงก่อนตัดสินใจเดินไปทางปลายเท้า แล้วจึงมุดเข้าไปในผ้าห่ม จัดการถอดกางเกงคนนอนออกโยนทิ้งออกมา แล้วจากนั้นก็เริ่มมาตรการปลุกปั่น ทำอะไรยุกยิกๆ จนคนนอนถึงกับซู๊ด ปากอย่างลืมตัว
“อ๊ะ อื่อม” คนในผ้าห่มก็ยัง ขยับยุกยิกๆ อยู่แถวกลางตัวคนนอน
“อ๊ะ”
“อือม”
คนนอนถึงกับตื่น มือทั้งสองข้างกำผ้าห่มแน่น กัดฟัน กลั้นเสียงครางเป็นพักๆ
“อ๊า ซี๊ดดด อ๊า” เมื่อคนบุกรุก ยุกยิกจนเป็นที่พอใจจึงโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่ด้านบนของคนนอนที่ตอนนี้ตื่นเต็มที่แล้ว
“อือม วิน อ๊ะ” วินปฏิบัติการอยู่บนเพื่อขอโทษอย่างไม่ยั่งมือ
“จั๊ก อ๊ะ วินขอโทษ อึก นะ อ๊า”
“อือม อ๊า”
จากความที่วินไม่ค่อยได้เป็นฝ่ายลงมือทำเองบ่อยนัก แต่ความพยายามเต็มร้อย ทำเอาจั๊กถึงกับพูดไม่ออก กับวิธีขอโทษของวินเลยที่เดียว
“อ๊ะ จั๊ก อือม” จั๊กได้แต่ปล่อยให้วินทำไปตามแต่ใจ
“อ๊า อู๊วว วินไม่ไหวแล้ว อ๊า”
“อือม ที่รัก ดี”
“อะ อย่างงั้น”
“แรงอีกวิน อ๊ะ”
“จั๊ก อ๊ะอือม” เมื่อจั๊กจับตัววินกดลงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะจบปฏิบัติการขอโทษลงพร้อมๆ กันก็เล่นเอาวินถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรงกันเลยเชี่ยว กว่าวินจะมีแรงจนอ้าปากพูดกับจั๊กได้ก็ต้องนอนซบอกจั๊กอยู่เป็นนาน ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ กับเสียงหอบหายใจ จั๊กเอามือดึงเบาที่หางโบว์ที่รอบคอวิน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“จั๊ก..” พอวินอ้าปากคำแรกก็โดนเบรกด้วยจูบจนแทบละลายไปหนึ่งจูบ
“วินให้ตัวเองเป็นของขวัญกับจั๊กหรอ”
“อื่ม” วินเอาหน้าซุกอกจั๊กเพราะยังไม่อยากมองหน้ากลัวเขิน
“แล้ว ไอ้ที่ทำไปเมื่อกี้เพราะอยากขอโทษจั๊กหรอ”
“อื่ม” วินที่เอาหน้าซุกอยู่ก็พยักหน้ากับอกแต่ก็ยังไม่เงยขึ้นมาอยู่ดี
“แต่จั๊กไม่ได้โกรธวินนี่หน่า งั้นวินก็ขอโทษฟรีซิเนี่ย” วินถึงกับเงยหน้าขึ้นมองคนพูดทันควัน มองตาคนพูดเพื่อจับพิรุธ แต่ก็ไม่มีความโกรธอยู่ในนั้นเลย
“จั๊กไม่โกรธวินหรอที่วินลืมวันวาเลนไทน์อะ”
“จั๊กไม่โกรธวินหรอก จั๊กแค่เป็นห่วง”
“หือ ไมอะ เป็นวิน วินก็โกรธนะ ลืมวันแห่งความรักได้ไง”
“อื่ม จั๊กจะจำไว้นะ”
“แล้วไม่โกรธจริงอะ”
“ไม่นี่ ทำไมต้องโกรธด้วยหละ มันก็แค่วันนึ่งที่คนเราหาข้ออ้างจะหวีดกันเท่านั้นเอง ส่วนจั๊กกับวินมันไม่จำเป็นมั้ง เพราะเราวิ้ดวิ้วกันแทบทุกวันอยู่แล้ว ยิ่งวันที่ไอ้เต๋ไม่อยู่ยิ่งหยิวกี้อะ..โอ้ย” วินหยิบเบาที่อกจั๊กที่ชอบล้อเล่นอยู่เรื่อย
“งั้นแล้วสายรุ้ง กับลูกโป่งข้างนอกนั้นล่ะ”
“อ๋อ ก็เห็นเค้าขายกันให้เกลื่อน ก็เลยซื้อมาไปงั้นแหละ จั๊กรู้นะว่าวินอะชอบ ใช่มั้ยล่ะ ไอ้ลูกโป่งกลมๆ อ้วนๆ นั้นหนะ จั๊กเคยเห็นวินชอบมองเด็กที่ถือลูกโป่งตาละห้อยอยู่บ่อยๆ ....อ๊ะ อย่าบอกนะว่ามองแต่เด็ก” วินซัดจั๊กด้วยกำปั้นไปตุ๊บนึง
“บ้าซิ แล้วดอกกุหลาบอีกล่ะ” วินโพล่งออกมาอย่างจับผิด
“วันแห่งความรักไง เดินไปไหนก็เจอ เห็นมันสวยดี แล้ววินก็ช๊อบชอบนี่หน่า เห็นชอบเอามาปักแจกันในห้องน้ำประจำเลย”
เอิ่มอันนั้นกุซื้อมาเสียงทาย อะ จั๊ก...แต่หยวนๆ
“ก็จริง อ๊ะ แล้วแชมเปญ ล่ะ จั๊กไม่ได้เตรียมอาหารอื่นไว้ด้วยหรอ ไงซะวินก็ทำให้จั๊กเตรียมของเก้ออยู่ดีนั้นแหละ”
“หึ หึ ไม่ได้เตรียมอะไรเลย ข้าวที่ทำเมื่อเย็นก็แค่ผัดกระเพราไข่ดาวของโปรดวิน ส่วนไอ้ขวดนั้น ก็ใครล่ะบอกว่าอยากลองดื่มแชมเปญ พอดีเมื่อวานเดินผ่านร้านขายก็เลยซื้อมา แล้วเมื่อวานมันว่างวินก็ไม่กลับมาซักที ห่วงก็ห่วงเลยลองเปิดชิมแก้ห่วง ชิมไปชิมมาเลยหมดขวดอย่างที่เห็นนั้นแหละ อ้อ แต่มีเค้กด้วยนะยังไม่ได้กิน....”
“เห็นมั้ย จั๊กก็เตรียมนั้นแหละ ซื้อเค้กมาด้วย”คนพูดน้ำตาคลอ ซุกหน้ากับอกอุ่นๆ อย่าออดอ้อน
“ เอิ่ม วิน” จั๊กเอามือลูบหัวปลอบใจวินเป็นการใหญ่
“น่าๆ ไม่เป็นไรน่า เค้กที่ว่า พอดีน้องจ๋า ที่ทำร้านเบเกอรี่ใต้ถุนคอนโดเค้าขอให้ช่วยซื้อเท่านั้นเอง น้องเค้าจะรีบปิดร้านไปหาแฟน จั๊กก็เลยช่วยเค้าซื้อมา ก็จั๊กรู้ว่าวินขอบกินเค้กร้านน้องจ๋าอยู่แล้วถึงจะน้อยกว่าเค้กที่จั๊กทำก็เถอะ” จั๊กยิ้มปลอบใจคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้เริ่มงงว่าควรจะรู้สึกยังไงดีกันแน่ หลังจากได้ฟังมาทั้งหมดจากที่สำนึกผิดอยู่ก็เริ่มกรุ่น ไรวะแล้ววาเลนไทน์มันเตรียมไรให้กุบางวะเนี่ย
แต่เดี๋ยวก่อนจากที่ฟังมาทั้งหมด
‘สายรุ้งกะลูกโป่ง ซื้อมาเพราะรู้ว่าเราชอบ อื่ม เพื่อเรา
กุหลาบ ซื้อมาเพราะนึกว่าเราชอบ อื่ม เพื่อเรา
แชมเปญ ซื้อมาเพราะเราบอกอยากลอง อื่ม เพื่อเรา
กระเพราไข่ดาว ทำไว้เพราะเราชอบ อื่ม ก็เพื่อเรา
เค้ก ซื้อมาเพราะเราชอบ อื้ม ก็เพื่อเราอีก’
‘ฮิ้วว ปั๋วใครวะ น่ารักโครต เอิ่มปั๋วกุเองนี่หว่า วิ้วๆ’ หลังจากสมองความไวระดับเต่า(ถึงจะช้าแต่มั่นคงเว้ย) ประมวลผลเสร็จ วินก็ส่งสายตาวิ้บวับไปออดอ้อนจั๊ก อย่าสำนึกผิดแต่คราวนี้หวานเชื่อมหยดย้อยมากกว่าที่เคยทำมา
“ทำหน้าอย่างงั้นระวังจะไม่ให้ลงจากเตียงสองวันสองคืนเลยนะวิน”
‘อะ จัดมาเลยปั๋วจ๋า’
“เค้าเพิ่มให้อีกวันเลยจั๊ก” วินบอกเสียงเบาอย่างเขินๆ งานการช่างมัน ก็กุ ลาหยุดไว้แล้วนี่หน่า วินคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
แล้วจั๊กหรือจะปฏิเสธวินลง อุอุ.............................
........................
.........
..
.
“เออ สามวันสามคืน ก็เรื่องของพวกมึงแต่วันที่สี่มึงอย่าลืมมาเก็บห้องให้เรียบร้อยด้วยนะโว้ย ไอ้จั๊ก ไอ้วิน เพราะกูจะกลับจากบ้านแฟนกูวันนั้นพอดีเลย กูไปหละ” เต๋ยืนพูดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนที่วินไม่ได้ปิดเพราะมัวแต่จดจ่อจะรีบเข้ามาปฏิบัติการขอโทษวิน
“ไอ้เอี้ยเต๋......” สองคนบนเตียงต่างรีบดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายกันจ้าระหวั่น
“กุไปหละ กุเห็นพวกมึงจนเบื่อละ” ............
.....
..
.
The end
ลืมค่ะ ลืม สามคนนี้มาจาก(ตอนที่ 32 เรื่องไอ้โรคจิต) อะค่ะ