ูู^^
หนุ่มสิบหกหน้าใสอย่างศิลป์ ใครจะรู้ว่ามีอะไรที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใน ศิลป์ขาด ขาดความรักเค้าอยากได้ความรักจากคนเป็นพ่อที่เค้าโหยหาแต่ไม่เคยได้ สิ่งที่ทำได้คือแอบมองเพื่อนๆ กับพ่อของพวกเขา
“ศิลป์” เสียงเล็กเรียก
“อ้าวหยวน ไปไหนมา” ...ใช่โดยเฉพาะ พ่อของเจ้าคนตรงหน้านี่...
“หนีพ่อ เบื่อว่ะ พ่อไม่เข้าใจเราเลย วันวันเอาแต่ดุแต่ด่า” หยวนบอกอย่างเซ็งๆ
“บ่นนิดบ่นหน่อยน่า จะเป็นไร” ...เราจะเอามาเป็นของเราให้จงได้....
“เฮอะ นายลองมาเป็นเราสิ แล้วจะรู้ บ่นยิ่งกว่าป้าวัยทองซะอีก เออ คืนนี้ไปค้างบ้านเรานะ นายไปด้วยพ่อจะได้สนใจแต่นายไม่มายุ่งกะเรา”
“หือ ได้ซิ ไปได้ อยู่คนเดียวเหงาจะตาย แล้วมีเรื่องอยากปรึกษาลุงเมฆอยู่พอดีเลย”
“ดีดี คืนนี้เรากะว่าจะหนีเที่ยวซะหน่อย พวกไอ้ฉุยมันชวน มีนายไปดึงความสนใจจะได้หลบง่ายๆ” หยวนหมายมาด
“เฮ้ยจะดีเหรอ” ศิลป์แอบดีใจที่จะไม่มีก้างชิ้นใหญ่มาขวางทาง
“ดีซิ พ่อนะพอนายมาทีไรลืมเราทุกทีแหละ ไม่ต้องห่วงน่าเรากลับเช้าเลย เดี๋ยวจะหิ้วโจ๊กเจ้าอร่อยมาฝากน่า พ่อถามก็บอกไปซื้อโจ๊กตั้งกะเช้า จับไม่ได้อยู่แล้ว”
“ตามใจนาย” ศิลป์ตามหยวนกลับไปบ้าน ลุงเมฆกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว ยิ่งมองก็ยิ่งหลง ผู้ชายที่อายุเกือบขึ้นเลขสี่ ร่างสูงใหญ่กล้ามเป็นมัด ไม่มีไขมันส่วนเกิน ผิวแทน จากการทำงานกลางแจ้งและการออกกำลัง ใส่กางเกงยีนสีซีด ไม่ใส่เสื้อคาบบุหรี่ สวมผ้ากันเปื้อน ทำกับข้าวอย่างคล่องแคล้ว เพราะที่บ้านเหลือกันแค่พ่อกับลูกชายมานานกว่าสี่ปี
“พ่อวันนี้หยวนไม่กินนะ กินข้างนอกมาแล้ว จะนอนเลย ศิลป์มันมีเรื่องจะคุยด้วยแน่ะ” หยวนบอกพ่อเสร็จก็แยกเข้าห้องปิดประตูดังลั่น
“เออไอ้ลูกบังเกิดเกล้า” เมฆงึมงำ
”ศิลป์มีอะไร รีบหรือเปล่า” เมฆหันมายิ้มแล้วพูดกับศิลป์อย่างใจดี
“ไม่รีบหรอกครับลุงเมฆ กินข้าวก่อนก็ได้วันนี้หยวนชวนมาค้างด้วยคงไม่กวนลุงนะครับ”
“โอ้ยไม่เลย ดีซะอีกลุงจะได้มีเพื่อนคุย ไอ้หยวนวันวัน มันเอาแต่หมกอยู่ในห้องไม่ออกมาคุยกับลุงหรอก มันว่าคนละรุ่นคุยกันไม่รู้เรื่อง”
“แต่ศิลป์ว่าคุยกับลุงสนุกออก คุยกับไอ้พวกนั้นไร้สาระ” ลุงเมฆยิ้มตอบ งั้นวันนี้ก็กินข้าวด้วยกันแล้วค่อยคุยหรือจะคุยไปทำไปดี”
“คุยไปทำไปก็ได้ครับ ลุงเมฆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ศิลป์อยากลองดื่มเหล้า อะครับ”
“หือ” เมฆหันไปมองหน้าเด็กหนุ่ม
“คือเห็นเพื่อนมันลองกัน แต่ศิลป์ไม่อยากไปลองกับพวกมันครับมันดูไม่น่าไว้ใจ อยากลองแบบมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำหนะครับ ก็เลยว่ามาขอลองที่บ้านลุงดีกว่าดูปลอดภัยดี แต่ถ้าไม่ได้ก็...”
“อ๋อ ได้ ได้สิ เป็นผู้ชายรู้ไว้ก็ดี กินได้แต่ให้มีสติ อย่าไปมัวเมากับมันเพราะลุงเองยังไม่ค่อยจะชอบเลย แค่ติดบุหรี่อย่างเดียวก็ว่าแย่แล้วแต่มันก็เลิกไม่ได้ซักที” เมฆบ่นตัวเองอย่างเซ็งๆ มือก็ง่วนกับการหยิบจับทำโน่นนี่ไม่ได้หันหน้ามาคุยด้วย ทางด้านหลังศิลป์เหลือบเห็นแว็บๆ ว่าหยวนกำลังหิ้วรองเท้าไว้แล้วย่องเงียบๆ เพื่อแอบหนีออกไปจากบ้าน หยวนหันมาบ้ายบายศิลป์ก่อนรีบวิ่งจู้ดออกไป
“เอ้าชน ลุงว่านาศิลป์ ลุงว่า ลุงก็ออกจะเข้าใจคนรุ่นลูกอย่างไอ้หยวนมันซะขนาดนี้ แล้วดูมันซิ ทามม้ายไม่เคยข้าวใจลุงเลย” เมฆเอามือตบอกเปลือยของตัวเอง
“เตือนอะไรมันนิดก็หนีออกจากบ้าน ว่าอะไรมันหน่อยก็หนีออกจากบ้าน ทำไม ทำม้าย มันเข้าใจว่าพ่อคนนี้รักมัน เป็นห่วงมานแค่หนายกาน” เมฆบ่นไปก็น้ำตาไหล เอื้อมมือมาโอบไหล่แล้วเอาหัวซบไหล่ของศิลป์
“นี่พ่อมันนะ พ่อนะ พ่อ ศิลป์เข้าใจใช่มั้ยลูก” เมฆมองสบตากับศิลป์สายตาหยาดเยิ้ม ก่อนจะยกมือที่ถือแก้วขึ้น
“เอ้าชน” มือนึงโอบไหล่ อีกมือก็ถือแก้วไล่ชนแก้วในมือศิลป์ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ลุงเมฆ...”
“โน โน ไม่อาว ไม่อาว เรียกพ่อซิ พ่อเมฆงาย”
“ผมว่าพ่อเมฆไม่ได้ผิดหรอกครับแต่หยวนมันดื้อเองมากกว่า”
“ใช่มั้ย ใช่มั้ย พ่องี้ดีแสนดี ไอ้หยวนมันดื้อ พ่อ ดี้ซะขนาดนี้มันยัง กระดีดกระดิ้น น่าหมั่นไส้” เมฆเอามือที่ถือแก้วโอบกอดศิลป์แล้วดึงให้หันหน้าเข้าหาหน้าตน
“หยั่งงี้นา ให้ศิลป์มาเป็นลูกพ่อซะดีกว่าโน้ะ ลูกศิลป์ ไอ้ลูกรัก” เมฆตบหลังศิลป์ ป้าบๆ แล้วเลื้อยลงไปนอนแผ่กับพื้น
“ครับพ่อ”
“หึหึ คอยดูนะ เดี๋ยวปั้ดหาแม่ใหม่มันซะเลยนี่” เมฆพึมพำเสียงเบาก่อนหลับไป ศิลป์มองเมฆที่ลงไปนอนหมดสภาพอยู่กับพื้น จัดการเก็บล้างของทุกอย่างจนเรียบร้อย แล้วกลับมาเขย่าปลุกเมฆให้ไปนอนที่ห้อง
“พ่อ พ่อครับ ไปนอนที่ห้องดีกว่าครับ”
“อืออ ไป ไป เอิ๊ก ไป” เมฆพยายามลุกแต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน
“เค้าลุกม่ายหวาย อะ” เมฆเอามือปัดป่ายไปมา
“งั้นเดี๋ยวศิลป์พยุงนะครับ ค่อยๆ ลุกนะ” ศิลป์พยุงเมฆให้ลุกขึ้นจนได้
“เค้าเก๊าะยางเดินม่ายหวายอะ” เมฆก็ไร้เรี่ยวแรงหันเข้ามากอดศิลป์ไว้ทั้งตัว
“อ้า อุ่นจัง” แล้วเมฆจุ๊ปข้างแก้มศิลป์
“อื้ม ห้อมหอม” มือที่โอบแผ่นหลังก็เลื่อนลงไปที่บั้นท้ายงอน ทำเอาศิลป์ถึงกับอึ้ง
“อ๊า นุ้มนุ่ม” เมฆลืมตัวขยำก้นศิลป์อย่างมันมือ
“อ๊ะ” เมฆดันให้สะโพกด้านหน้าของศิลป์กดแนบเข้ากับส่วนที่กำลังมีความรู้สึกของตัวเองอย่างลืมตัว ศิลป์ถึงกับเคลิ้ม
“อ๊ะ” ศิลป์ครางเบาๆ เสื้อที่ใส่อยู่ถูกถอดออกจากตัวไป
“พ่อเมฆ ไหนๆ ก็เปลี่ยน อ๊ะ จากลุงเป็นพ่อแล้ว อ๊า ก็เปลี่ยนซะอีกที เถอะนะ อ๊า อือม”
“อือม อ๊า ได้เลย อยากได้อะไรให้โหมดเลยจ้า” เมฆบอกขณะที่ปากก็ยังเมามันอยู่กับยอดอกของศิลป์ ศิลป์ค่อยถอยหนีล่อให้เมฆตามจนเข้าไปในห้องนอนได้สำเร็จ
“จับได้แล้ว” เมฆคว้าตัวศิลป์เอาไว้ ก่อนจะพากันล้มไปบนที่นอน ในสภาพที่เกือบเปลือยด้วยกันทั้งคู่ ก่อนที่ศิลป์จะดันให้เมฆเป็นฝ่ายนอนหงายลงกับที่นอนแล้วเป็นฝ่ายคร่อมทับอยู่ด้านบน เมฆยิ้มน้อยๆ ยกสะโพกอย่างยั่วๆ
โอ้วว คุณพ่อหมาดๆ คนนี้จะยั่วกิเลสไปถึงไหนกัน.... ศิลป์รีบขจัดกางเกงในตัวจิ๋วออกไปอย่างไม่ใยดี เจ้าส่วนนั้นก็ เผยโฉมให้เห็นอย่าเต็มตัว อวดความอลังการ ศิลป์ความอยากลิ้มลองเจ้าไอติมแท่งอวบนั้นอย่างเหลือเกิน ได้แต่อดใจไว้ก่อน ศิลป์ซุกไซ้ที่ซอกคอ กัดที่ติ่งหู
“อ๊า อือม” เมฆครางเสียงกระเส่า ศิลป์เลื่อนตัวลงจัดการจู่โจมหัวนมที่แข็งเป็นไต ขบกัดเล็กน้อย จนเมฆได้แต่นอนกระสับกระส่ายอย่างเสียวสยิว ศิลป์ลากลิ้นไปอีกข้าง ขบกัดและระรัวลิ้นตามมา จากนั้น ละเรื่อยลงมาทั่วหน้าท้อง จนมาถึงสะดือและต่ำลงเรื่อยๆ จนพบกับจุดหมายที่อยากนักหนาเข้าจนได้..............
........
.
“อ๊า อือม อ็วว อ๊า พอ พอก่อน ซี๊ดด อือม” เมฆถึงกับเกร็งตัวสยิว ครางเสียงดังทีเดียว พ่อเมฆดันหัวศิลป์ออก
“พะ พอก่อน ซี๊ดด อ๊า ที่รัก” เมฆดึงตัวศิลป์ขึ้นมาประกบปากจูบทันที คราวนี้เปลี่ยนกันเป็นพ่อเมฆเริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอของศิลป์บ้าง
“อ๊ะ ซี๊ดด อ๊า อือม” ศิลป์ถึงกับเอียงคอหนี พ่อเมฆจัดการอย่างชำนาญ ทำให้ศิลป์แทบคลั่ง
“อ๊ะ” เมฆพลิกตัวให้ศิลป์เป็นฝ่ายไปอยู่ด้านล่างบ้าง ก่อนจะปฏิบัติการชวนเคลิ้มจนศิลป์ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆอย่างลืมตัว จนกระทั้งความเจ็บ จุก ปวดแสบ ประดังเข้ามา
“อึ๊ก อือ ซี๊ดด เจ็บครับ พ่อเมฆ อือม อือ”
“คนดี ที่รัก ทนหน่อยนะ อือม ดี อย่าเกร็ง อือม ซี๊ดด อ๊า นั้น...” พ่อเมฆพยายามพูดปลอบใจไปเรื่อย
“ซี๊ดด อ๊า นั้น อือออย่างนั้นครับ”
“โอ๊ยย อืออ” มันเจ็บจนแทบทนไม่ไหวแต่เมฆก็ไม่ได้หยุดที่จะรุกรานต่อ
“ผม เจ็บ ฮือ” น้ำตาไหลพราก มือก็พยายามผลักไสไปเรื่อย มันเจ็บปวดทรมาน อย่างแสนสาหัส
“อ๊ะ อดทนหน่อยนะครับ คนดี ที่รัก” พ่อเมฆหยุดแช่เอาไว้อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ความอึดอัดทรมานก็ค่อยๆ เลือนหายไป กลายเป็นความรู้สึกสุขอย่างประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ พ่อเมฆจึงเริ่มขยับสะโพกเบาๆ อีกครั้ง
“โอ๊ย..อ๊า อือ” คราวนี้เป็นเสียวของความซ่านเสียว จากที่เริ่มเบาๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นแรงขึ้น แรงขึ้น ...................
..................
......
..
.
เช้าวันใหม่มาเยือนอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง คนบนเตียงยังนอนก่ายกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่คนอดนอนอย่างหยวนกลับเป็นฝ่ายต้องสมองตีบตันอ้าปากผะงาบๆ
“ พะ พะ พ่อ” พอหาเสียงตัวเองเจอหยวนก็ตะโกนออกมาลั่นบ้าน ทำเอาคนนอนถึงกับสะดุ้งตื่น
“ไอ้หยวน เป็นบ้าอะ....วะ...เฮ้ยยย” ............................
สองพ่อลูกนั่งกุมขมับอยู่กันคนละมุมเก้าอี้รับแขก
“พ่อ ฆ่าปิดปากมันดีมั้ย...”
“ไอ้....”
“แล้วจะเอาไงล่ะ หรือพ่อจะให้มันมาเป็นแม่ใหม่หยวน”
“ก็คง.... งั้น...มั้ง”
“พ่ออออออ”
“เออ จะตะโกนหาแม่แกหรือไงไอ้หยวน” เมฆปรามลูกเสียงเหี่ยว
“ก็.....อืออออ หยวนไม่ยอม ไม่เอา ไม่เอา” หยวนลงไปดิ้นอยู่กับพื้น
“เป็นไรหยวน” คนที่ทุกคนรอคอยอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยออกมาจากห้องแม้ท่าเดินจะแปลกๆ หน้าซี้ดๆ แต่ละก้าวดูก็รู้ว่าต้องกัดฟันทนมากอยู่ แต่ก็ยังทำหน้าเฉย
“ไหนโจ๊ก ที่สัญญา” เรื่องโจ๊กทำเอาหยวนหยุด สติกลับคืน ก่อนหันไปมองหน้า ศิลป์ที่กำลังยิ้มน้อยๆ ราวพ่อพระ ประมาณว่า ‘ถ้าแกเรื่องมาก เรื่องราวที่แกได้ทำมาในอดีตจนปัจจุบันได้ผุดออกจากปากข้าแน่ เหอ เหอ’
“โจ๊กใส่ไข่สองฟองตามสั่งครับแม่”
“เฮ้ยย ไอ้หยวน” เมฆร้องเสียงหลง
“น่าพ่อ ลูกผู้ชาย กล้าทำก็กล้ารับ” หยวนกุลีกุจอเอาโจ๊กใส่ชามอย่างขะมักเขม้น
“ที่รักมากินโจ๊ก” ศิลป์หันไปเรียกเมฆ เสียงอ่อน อย่างอายๆ
“มะ มะ ไม่ดีมั้งศิลป์ เรียกลุงเหมือนเดินดีกว่า”
“ก็เมื่อวานนน.....” ศิลป์ลากเสียงยาว
“พ่อเมฆให้ศิลป์เปลี่ยนจากลุงไปเรียกพ่อ แล้วตอนที่พ่อเมฆอยู่ในตัวศิลป์ พ่อเมฆก็ให้ศิลป์เปลี่ยนเป็นเรียกที่รัก แล้วพอเค้าไม่เรียกก็ทำโทษ เค้าร้องให้หยุดก็ไม่ฟัง ตอนอาบน้ำมีเลือดออกด้วย....” ศิลป์ก้มหลบอย่างอายๆ หยวนได้แต่อ้าปากค้าง เมฆแทบลมใส่ มีเสียงก้องในหัวดังคุก คุก คุกอยู่ตลอดเวลา
...................
......
.
“ตะ ตามใจศิลป์เถอะ ยะ อยากเรียกอะไรก็...” ....ในเมื่อไอ้หยวนมันไม่เห็นมีปัญหา....
“งั้นศิลป์ย้ายมาอยู่บ้านนี้ด้วยนะ”
“ตะ ตามใจครับ” ....งั้นเรา....
“นอนห้องที่รักนะ”
“ตะ ตะ ตามใจครับ” ....จะมีปัญหาทำไม...
“เรียกเค้าที่รักเหมือนเมื่อคืนด้วยซิ” .....
“ตะ ตะ ตะ ตามใจคะ ครับ ทะ ทะ ที่รัก” ศิลป์ได้แต่ก้มหน้าลงปิดซ่อนรอยยิ้มอย่างสมใจ กลั่นหัวเราะจนตัวสั่น
The end