เรไรร่ำไรหา เมื่อแก้วตามาเมินหมาง
มะลิหอมยังบ่จาง กรุ่นกลิ่นแก้มเจ้าเนื้อนวล...
ขออีกรอบครับ....นายไผทขอกดปุ่ม Replay ทบทวนเหตุการณ์แปลกประหลาดโลกต้องตะลึงเมื่อกี้อีกสักรอบ
ฟอดดด~~“เฮ้ย!!!”“อะไร....ตกใจอะไรครับ?”
ดูมันยังมีหน้ามาถาม มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ก็ไอ้ที่จะนิ่มก็ไม่นิ่ม จะแข็งก็ไม่แข็ง แต่ว่าสูบลมได้เมื่อกี้นี้มันจมูกชัดๆนี่ครับ แล้วยังมีหน้ามาถามอีกว่าตกใจอะไร พุทธโธพุทธถังกะละมังตกแตก!! เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นแหละ นั่งอยู่ดีดีมีลิงหัวแห้วเพศผู้เอาจมูกมาชนแก้มอ้ะ
“ก็.....ก็ เมื่อกี้....มะ....มัน...มันอะไร?”
“หึๆๆ น้องหมายถึงแบบนี้.....
” ฟอดดดดดดด~~ “...ใช่มั้ยครับ?”
“มะ...ไม่ใช่อะ เมื่อกี้มัน...มันเบากว่านี้นี่ ......เง้ออออออออ!!”
อึ๋ยยยยยยย มันมาอีกแล้วอะครับ แถมรอบสองนี่มันเพิ่มความรุนแรงและระยะเวลาการเทียบท่าด้วย ตั้งแต่จ่าหินไปสวรรค์แก้มของน้องก็ไม่เคยถูกมือถูกตะหมูกชายใดเลยนะครับพี่น้อง
“หึๆๆๆ ก็ครั้งแรกนั่น เป็นหอมแก้มรับปากไงครับ ว่าถึงทำงานแล้วพี่อ๋องก็จะยังมาบ้านนี้.....แต่ครั้งหลังน่ะ เป็นหอมแก้มเพราะน้องน่ารักมาก....”
บ้าไปแล้ว ผู้ชายด้วยกันถึงจะน่ารักแบบน้องตัวต่อเขาก็ไม่มาหอมแก้มกันหรอก!!
....แหะๆ นี่ผมไม่ได้หลงตัวเองนะครับ แต่ไอ้เรื่องความน่ารักเนี่ยผมมั่นใจมากมายอะครับ ก็รุ่นพี่ผู้หญิงทั้งที่คณะ ทั้งที่ทำงานน่ะชอบมาจิ้มแก้มน้องตัวต่อเล่นกันทั้งนั้นแหละ บางทีวันไหนขายดีเกินผมยังเคยคิดเลยจะคิดราคาค่าจิ้มแก้ม....เอาสัก จิ้มละห้าบาท แค่นั้นก็ได้ค่าข้าวทุกวันแล้วล่ะผมว่า
แล้ว....แล้วนี่จะทำไงกันครับ ไม่ใช่ว่าไอ้ลิงหน้าตี๋มันผิดผีน้องแบบนี้แล้วน้องต้องยอมเลยตามเลยไปกับมันนะครับ เดี๋ยวก่อน.....งั้น งั้นไอ้พี่อ๋องก็ไม่ใช่ผู้ชายอะดิ?!!
“พะ....พี่อ๋อง”
“ครับผม....ว่าไงครับ?”
เฮ้ย....อย่ามายิ้มอย่างนี้ดิ ใครสั่งใครสอนให้มายิ้มใส่ตาระยะประชิดแบบนี้วะไอ้บ้าพี่อ๋อง ไม่ได้ๆ น้องตัวต่อต้องรวบรวมสติให้มั่นแล้วจับคั้นให้ตาย เรื่องแบบนี้มันต้องคุยกันให้รู้เรื่องครับ ไม่งั้นปล่อยให้ไอ้ลิงนี่มาหอมเอาๆแบบนี้ผมก็เสียเปรียบแย่ดิครับ
“พี่.....ไม่ใช่ผู้ชาย..คือแบบ ไม่ใช่ผู้ชาย แบบผู้ชายๆ อ้ะ ใช่มั้ย?” เออเว้ย.....น้องตัวต่อถามเองยังงงเองเลยครับ ตกลงว่าไม่ใช่หรือใช่ แล้วไอ้ผู้ชายแบบไม่ผู้ชายนี่มันยังไงอะไรกันแน่หว่า??!!
“หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ พี่ก็ผู้ชายนี่แหละครับ แค่เป็นผู้ชายที่ตกหลุมน้องไปเต็มที่แล้วเท่านั้นเอง”
โอ้....ไอ้-หน้า-ด้าน!!!!!
มันพูดออกมาได้ไงเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น ต่อไปนี้ผมจะไม่เรียกมันด้วยฉายาอื่นอีกแล้วครับ ไม่ว่าจะกล้ามปู หรือเคราจิ๋ม เพราะว่าฉายาที่สมตัวไอ้พี่อ๋องมากที่สุดคือไอ้หน้าด้าน!
ตอนนี้จิตที่หลุดไปจากการถูกตัวผู้ด้วยกันเอาจมูกมาชนแก้มสองครั้งซ้อนของนายไผทกลับมาแล้วครับ และความสามารถในการคำนวณรายรับรายจ่าย ต้นทุนกำไร กำลังกลับคืนมา
ถ้า....มีชายไม่ใช่ชายมาบอกว่าตกหลุมเรา มันแปลว่าเราเป็นผู้เหนือกว่า...และ....ถ้าเราคงสถานะนี้ไว้ได้ ก็จะหมายความว่าเรามีสิทธิ์บริหารจัดการให้เกิดกำไรสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ใช่มั้ยครับ?
ดีล่ะ...ในเมื่อไอ้พี่อ๋องหาญกล้ามาขโมยเวอร์จิ้นแก้มของลูกชายแม่ผ่อง ลูกชายแม่ผ่องก็ต้องเอาคืนให้สาสม ยังไงซะน้องตัวต่อก็ไม่ยอมเป็นนางเอกของใครหรอกครับ เพราะถ้ายอมรับบทนางเอก ในเรื่องที่จบแบบสุขนาฏกรรม...สุดท้ายแล้วก็ต้องคู่กับพระเอกของเรื่องน่ะสิ
อีกอย่าง น้องตัวต่อไม่อยากเป็นตัวละครในเรื่องแบบโศกนาฏกรรมนี่ครับ ชีวิตหดหู่กันพอดี
ดังนั้น...ถ้าไม่อยากคู่กับพระเอกในตอนจบของเรื่อง ผมก็ต้องรับบทตัวร้าย.....ด้วยจิตวิญญาณของนักเรียนการแสดง ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า จะเล่นไปตามบทบาทที่ได้รับให้ดีที่สุด ต่อจากนี้ไป น้องตัวต่อจะเป็นตัวร้ายในเรื่องที่มีไอ้พี่อ๋องเป็นพระเอกให้ดีที่สุด ให้ไอ้พี่อ๋องมันเลิกชอบน้องตัวต่อไปเองและไม่โผล่หัวแห้วเคราจิ๋มกลับมาเหยียบบ้านนี้อีกเลย....
ฮี่ๆๆ ตอนนี้น้องตัวต่อต้องการเวลาเพื่อวางโครงเรื่องและบทละครในองก์ต่างๆให้พร้อมครับ เพราะงั้น.....
"พี่อ๋อง.....ที่พูดอย่างนั้น แปลว่า...พี่อ๋องชอบน้องใช่มั้ย?” เยี่ยมมากตัวต่อ คุมโทนเสียงให้แผ่วต่ำ เครือนิดๆเหมือนกำลังไม่มั่นใจแบบนี้แหละ แล้วก็หรุบตาลงมองต่ำเข้าว่า อย่าเพิ่งไปสบตากับพ่อพระเอกของเรื่องเข้าเชียว
“....ครับ พี่ชอบน้อง แล้วพี่ก็ไม่ขอโทษด้วยที่หอมแก้มน้องไปแบบนั้น เพราะพี่ตั้งใจทำจริงๆ” เฮ้ยๆๆ โห....นี่มันไม่ได้เรียนการแสดงมาแบบน้องใช่มั้ยครับ? ทำไมมันช่างเลือกประโยคพูดโต้ตอบได้โคตรๆพระเอกแบบนี้ล่ะครับ นี่ขนาดน้องตัวต่อเตรียมพร้อมขนาดนี้ยังรู้สึกได้เลยอะครับว่าหน้ากำลังร้อนขึ้นแบบแปลกๆ นี่ผมไม่ได้อายนะครับ ก็แค่อินกับบทมากไปหน่อยเท่านั้นแหละ
“พี่อ๋อง......ขอเวลาน้องหน่อยนะ...น้อง...งงไปหมดแล้ว.......”
“ได้สิครับ พี่เต็มใจรอน้อง....จะนานเท่าไหร่ก็ได้ แค่ให้พี่ดูแลน้องไปอย่างนี้ก็พอ”
หึๆๆ แหม....มันช่างตรงตามที่ผมคาดการณ์ แต่ไม่ได้ครับ เพื่อความสมเหตุสมผลของเรื่องราว และวัดระดับความรู้สึกของตัวละคร ตัวร้ายชั้นดีต้องไม่รีบฮุบเหยื่อ
“คือ.....พรุ่งนี้พี่อ๋องอย่าเพิ่งมาได้มั้ย?”
“ว่าไงนะครับ? ทำไม.....หรือคุณน้องรังเกียจผม”
แหม....ไอ้บ้านี่อินเว้ย ถึงกับเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวกันเลยทีเดียว ดีแล้วๆ อย่างนี้ค่อยสนุกหน่อย
ผมยื่นนิ้วชี้ไปแตะปากที่กำลังโวยวายไว้เบาๆ เพิ่งสังเกตแฮะว่าไอ้พี่อ๋องนี่ปากมันบ๊างบาง สงสัยจะทำบุญมาน้อย ก๊ากกกกกกกกก
“จุ๊ๆ ชู่วววว น้องไม่ได้รังเกียจ....แต่น้องอยากรู้ว่า..ตัวเองคิดยังไง ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้เจอกัน น้องจะคิดถึงพี่อ๋องแค่ไหน.....พี่อ๋อง น้องไม่เคยรักใครมาก่อน น้องแค่....อยากมีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง....”
เป็นไงครับ ดูเป็นไดอะล็อกนางเอกวัยใสหวานแหววพอรึเปล่า? ให้มันรู้ไปสิว่าไอ้พี่อ๋องจะไม่ยิ่งถลำหัวทิ่มอยู่ในหลุมตัวต่อ
“พ่ออ๋อง......ว่าแล้วเชียวต้องอยู่ในสวนกับน้อง เดี๋ยววันนี้ก่อนกลับอย่าลืมหยิบขนมที่แม่จัดใส่ถุงไว้ให้กลับไปด้วยนะลูก เอาไปฝากที่บ้านด้วย ก็แป้งเรไรที่พ่ออ๋องช่วยแม่นวดไว้นั่นแหละ แม่กดพิมพ์หมดแล้ว แต่แบ่งมานึ่งให้พ่อเอากลับบ้านวันนี้ก่อน แป้งที่เหลือนั่นไว้ค่อยลุกมานึ่งตอนเช้าไว้ขายหน้าร้าน.....”
แม่ผ่องเดินเข้ามาอย่างกับรู้คิวแน่ะครับ ผมกำลังจะหาทางบอกแบบแอ๊บคนดีให้ไอ้พี่อ๋องกลับบ้านไปก่อนอยู่เชียว เอ....ว่าแต่นี่มันเพิ่งจะสี่โมงเย็น คุณนายผ่องพรรณแต่งตัวสวยจะออกไปไหนละเนี่ย