ร้านเติมรัก♥♥...โดย จันทน์กะพ้อ(อวสาน) "เปิดเผยภาพลับที่นี่ที่เเรก "110610
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้านเติมรัก♥♥...โดย จันทน์กะพ้อ(อวสาน) "เปิดเผยภาพลับที่นี่ที่เเรก "110610  (อ่าน 163897 ครั้ง)

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามประกาศเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆนะครับ จะอัพเดทบ่อยๆ
ถ้าผู้ใดตั้งกระทู้ไปแล้ว รบกวนแก้ไขโดยการกด modify ที่รีพลายแรกหน้าแรกของกระทู้ตัวเอง
จะเข้าไปแก้ไขรีพลายและชื่อกระทู้แรกได้นะครับ

1.นักเขียน  นักโพสทุกท่านกรุณานำข้อความใต้เส้นขึ้นต้นเรื่องด้วยนะครับ
จะได้เป็นการเตือนให้คนอ่าน รู้และตระหนักถึงความสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบนะครับ
จะได้ไม่มีเรื่องผิดใจ อื่นๆตามาภายหลังนะครับ

2.กรณีที่เป็นเรื่องสั้น  ให้ขึ้นต้นหัวกระทู้ว่า (เรื่องสั้น) ทุกเรื่องนะครับ   เรื่องสั้นเอาแค่ว่าใช้กับเรื่องที่ยาวไม่มาก

3.ถ้า เป็นเรื่องที่ไม่ได้แต่งเอง ให้ขออนุญาตคนเขียนจนกว่าคนเขียนจะอนุญาตจึงจะนำมาโพส และให้ต่อท้ายด้วย by ชื่อคนเขียน เช่น by somebazaay

****************************************************


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


****************************************************
อะเเฮ่ม เเฮ่ม เเฮ่ม ( เสียงจากฟากฟ้า ไม่ทราบว่า ปลาหมึก 5 หนวดใครติดคอ ) มาจะกล่าวบทไป  เวิ่นมากเกินว่าเหตุแระ  เริ่มเลยละกัน
 

  สวัสดีค่ะ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่แวะเข้ามาในนี้ นิยายเรื่องนี้ เรามิได้แต่งเองหรือมีส่วนรู้เห็นไดๆทั้งสิ้น ( จันทน์กะพ้อ ชักมีดอยู่ข้างหลัง) เราได้ไปอ่านและชอบมากมาย ดราม่าอย่างแรงเลยแล คนแต่งได้ว่าจ้างด้วย ไอศกรีมแม็ค 2 โคน เราจึงต้อง จรลีรีบมาลงให้ ทักทายกันพอหอมปากหอมคอเราไปทำความรู้จักกับร้านเติมรัก♥♥ และ จันทน์กระพ้อกันเถอะค่ะ ฮี่ฮี่ฮี่

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2011 16:39:40 โดย butajang »

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ร้านเติมรัก♥♥


         แม่บอกว่าผู้ชายน่ะเลี้ยงง่าย แค่มีอาหารถูกปาก มีที่หลับที่นอนให้ได้นอนหลับสบาย เท่านี้....ผู้ชายก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

         อ้อ.....นั่นไม่ใช่คำสอนที่แม่มีให้ผมหรอกนะครับ นั่นมันสิ่งที่แม่พูดกรอกหูพี่สาวผมตั้งแต่เริ่มระแคะระคายว่าพี่ผึ้งมีผู้ชายมาจีบต่างหาก และจนกระทั่งวันนี้ที่พี่ผึ้งกำลังจะแต่งงานออกเรือน ผมก็ยังได้ยินแม่พร่ำสอนประโยคนี้อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่มันพ่วงด้วยคำสอนยาวยืดที่แม่พูดออกมาอย่างต่อเนื่องเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เรื่องที่ว่า...


         ‘ตรงนี้แหละคือหน้าที่ของผู้หญิงเรา แม่รู้ว่าผึ้งเองก็ทำงานนอกบ้าน แต่จะอย่างไร ผู้ชายนะลูก...ต่อให้หัวสมัยใหม่แค่ไหน เขาก็ยังหวังจะได้แม่ศรีเรือน....คุณโชคเขายิ่งมีกิจการใหญ่โต บ้านช่องห้องหอที่หนูจะย้ายเข้าไปอยู่แม่ก็เห็นว่ามันกว้างขวางสมฐานะหน้าตาของคุณโชคเขา แล้วแม่ก็รู้ว่าที่บ้านเขามีทั้งแม่บ้าน ทั้งเด็กรับใช้ แต่พอผึ้งแต่งงานเป็นภรรยาของเขา แม่ก็เชื่อว่าเรื่องอะไรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ในบ้านก็ไม่พ้นที่เขาจะหวังให้หนูเป็นคนดูแล....’


         แม่ยังสั่งสอนอะไรอีกยืดยาว ยาวมากจนผมแทบจะหลับคากองดอกรักที่ถูกสั่งให้ร้อยเข้าก้านทางมะพร้าวเตรียมใช้ประดับแจกันดอกไม้สดให้เข้ากับพวงอุบะหลายสิบที่ตอนนี้ห้อยประดับอยู่ตามกรอบหน้าต่างกรอบประตูทุกบานตั้งแต่ซุ้มบันไดหน้าบ้านเข้ามาเลยทีเดียว....

         ไม่ต้องถามนะครับ ว่าแรงงานใครที่ต้องปีนป่ายขึ้นไปผูก เพราะผมเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน

         คิดแล้วก็เสียดาย....ที่แม่ไม่มีโอกาสแสดงให้เราพี่น้องเห็นด้วยตา ว่าคำสอนของแม่จริงแท้แค่ไหน เพราะผู้ชายที่ควรจะอยู่ให้แม่รู้สึกว่าเลี้ยงง่ายนั้นมีแค่ผมคนเดียว นี่ถ้าพ่อไม่ด่วนจากพวกเราไปเสียตั้งแต่ยังหนุ่ม ผมก็คงจะมีโอกาสได้พิสูจน์.....ว่าคำสอนจากแม่นี่มันน่าเชื่อถือ

         ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ผมก็ไม่ได้อยู่บ้านให้แม่เลี้ยงทุกวันเสียด้วยสิครับ ตั้งแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯได้เมื่อห้าปีที่แล้วผมก็ออกมาอยู่หอพัก พอขึ้นปีสองจากหอพักในของมหาวิทยาลัยผมก็ย้ายไปหอพักเอกชน จนตอนนี้ที่ทำงานมาได้จะครบปีแล้ว ผมก็ย้ายตัวเองมาเช่าอพาร์ตเม้นต์เพื่อให้เดินทางไปทำงานสะดวก แล้วก็ไม่ต้องต่อรถหลายต่อจนสุขภาพเสื่อมแถมประสาทเสียจากภาวะวิกฤติของการจราจรกลางกรุงเทพมหานครด้วย

“น้อง......น้องงงงงงงงงงง”
“อะ...ฮะ? ว่าไงพี่ผึ้ง?”

         นี่แหละ ชื่อเล่นนี่ก็อีก เพราะพี่สาวสุดที่รักแท้ๆที่ทำให้ผมมีชื่อเล่นน่ารักกุ๊กกิ๊กแบบนี้ ทั้งๆที่พ่อกับแม่เตรียมชื่อเล่นไว้ให้ผมออกจะแมนว่า ‘ตัวต่อ’ เอาให้มีพิษไม่แพ้หนูผึ้งอย่างพี่สาวแท้ๆ แต่เพราะตอนเด็กๆพอผมเกิดแล้วถูกคุณพยาบาลห่อเหมือนดักแด้น้อยนอนหลับสบายอยู่ในคอกใสๆ พ่อก็อุ้มพี่ผึ้งที่ตอนนั้นยังไม่เต็มสองขวบดีไปเกาะกระจกดูผมที่อยู่ในห้องสำหรับทารกแรกเกิดแล้วชี้ให้ดูว่านั่นไงน้อง....ตัวเล็กๆแดงๆที่เพิ่งออกมาจากพุงป่องๆของแม่นั่นน่ะคือน้องของหนูผึ้ง

         เท่านั้นแหละ....หลังจากนั้นไม่ว่าพ่อหรือแม่จะพยายามอธิบายว่าน้องแปลว่าน้อง....แบบว่าคนตัวเล็กกว่าที่มีพ่อกับแม่คนเดียวกับเราแต่ตามมาทีหลังนั่นแหละ แต่คำที่ใช้เรียกน้องคือตัวต่อ พี่สาวผมก็ปฏิเสธข้อมูลใหม่โดยสิ้นเชิง

         แล้วใครล่ะที่รับกรรมจนต้องมาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์สาวแบบนี้!!

         ถ้าไม่ใช่ผม....นายไผท  เถลิงศก ลูกชายคนเล็กของแม่ผ่องพรรณ เจ้าของกิจการขนมหวานแม่ผ่องที่ไม่มีสาขาหรือแฟรนไชส์ที่ไหน แม่ผ่องผู้ตั้งแต่ผมจำความได้ก็ตื่นก่อนไก่มาจุดฟืนตั้งไฟทำขนมชั้น ขนมสาลี่ แถมพอขนมที่อยู่บนเตายังไม่สุกดีก็จัดการยกโถแก้วที่มีขนมจำพวกทองทั้งหลายอบกลิ่นดอกไม้หอมออกมาตั้งบนโต๊ะไม้ตัวเก่าคร่ำคร่าหน้าประตูบ้านของเราหลังนี้

         แน่ล่ะ โดยมีจ่าหินนายตำรวจต๊อกต๋อยพ่อผมเองไปนั่งหน้าง่วงเฝ้าขนมหน้าร้านกันพวกมาแอบหยิบกินฟรีทุกเช้าที่ไม่ได้เข้าเวร

        แม่ผ่องผู้ให้นิยามของความรักว่า...ความรักก็เหมือนสาลี่นั่นแหละ!!

“ตลอด เหม่อตลอด.....เดินไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยดิ”
“ไปไหนอ่า.....มืดแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นเจ้าสาวแล้วนะพี่ผึ้ง นอนน้อยเดี๋ยวก็ขอบตาดำคล้ำ หน้าเหี่ยว ผิวพรรณซีดเซียว ยิ่งถ้าแถมสิวเม็ดเป้งๆนะ ต่อให้คุณช่างแกตบแป้งหนาเป็นนิ้วก็กลบไม่มิดเน้อ”

         จบประโยคแสดงความเป็นห่วงในสวัสดิภาพความงามของพี่ผึ้งจากผม แรงงานเพื่อนผมอีกสองชีวิตที่พอโทรเรียกจิกมาช่วยงานด้วยวิธีจองตัวข้ามเดือนเพราะต่างคนต่างเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาแบบไม่เกรงใจใคร....หัวเราะเสียงดังไม่สมเป็นกุลสตรีเล้ย...ไอ้สองหญิงนี่

         แต่อย่างว่านะครับ ถ้ามันสองคนเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ มันจะมาคบกับผมได้ยังไง

         ดูสิครับ ขนาดลูกพี่ลูกน้องผม....ผู้ชายแท้ๆอีกคนที่นอนแผ่อยู่กลางชานเรือนยังทำแค่ส่งเสียงหัวเราะสองหึเอง

“พอเลยไอ้คุณน้อง พี่แค่จะชวนให้เดินไปที่ห้องเป็นเพื่อนแค่นั้นแหละ เผื่อจะอยากล่ำลานางสาวผาณิตเป็นครั้งสุดท้ายไง......ง่วงแทบโงกแล้วไม่ใช่เหรอเราน่ะ?”
“ง่วงจริง....แต่น้องไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ต้องเสร็จคืนนี้แหละ ว่าแต่...แม่ไปไหนแล้วอะ?”

         ผมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองครับว่าเสียงหวานๆที่ใช้สั่งสอนพวกเรามาตั้งแต่เล็กจนโตแบบที่เขาว่าหมาเลียตูดไม่ถึงเงียบไปแล้ว....แถมเจ้าของเสียงที่เมื่อกี้ยังนั่งคัดกลีบกุหลาบมาสอนให้เพื่อนผมเย็บแบบอยู่ห่างไปไม่ถึงช่วงตัวเมื่อกี้ก็หายไปแล้วด้วย

         อ้อ...อย่าได้ถามเชียวนะครับ ว่าแล้วไอ้คนปีนขึ้นไปตัดใบตองงามๆจากต้นกล้วยตานีหลังบ้าน แถมยังมานั่งเช็ดเสียจนขึ้นเงาน่ะมันใคร เพราะมันไม่มีใครหรอกครับ นอกจากผู้ชายคนเดียวของบ้านอย่างผม ก็แม่เล่นจะทำเองทุกอย่าง

         อย่างเย็บแบบนี่ ทั้งผมทั้งพี่ผึ้งบอกให้ซื้อเขาเอาก็ได้ แต่แม่ก็ไม่ยอม บอกแค่ว่า งานของหนูผึ้ง.....ลูกสาวคนเดียวของแม่ แม่อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยงดงามที่สุด
เฮ้อ......เล่นพูดขนาดนั้น.....แล้วใครจะไปกล้าขัดท่านล่ะครับ หรือคุณกล้า!?

“เข้าไปดูแม่จ๋ากับพวกพี่ๆในครัวแล้ว”

         เสียงตอบแทนที่จะดังจากปากนางเอกของงานกลับมาจากคนที่นอนแผ่อยู่กลางเรือนทางขวาของผม.....พี่ชมพู ลูกพี่ลูกน้อง ลูกชายคนเล็กของป้าแดงซึ่งเป็นคู่สะใภ้กับแม่ผมที่ส่งเสียงหัวเราะสองหึเมื่อกี้แหละครับ พี่แกเพิ่งจะขับรถพาป้าแดงกับพี่เค้กแฟนแกมาถึงเมื่อเย็นนี้เอง แล้วพอมาถึงก็นั่งหน้าเหนื่อยเพราะทำงานติดกันเจ็ดวันรวดเพื่อให้ได้หยุดต่อเนื่องสองวันมาช่วยงานแต่งของพี่ผึ้งโดยเฉพาะ

         ดูสิครับ บอกจะมาช่วยงาน แต่มาถึงด้วยสภาพโทรมแบบนี้ ใครจะไปใช้งานลง นอกจากผม!

“พี่ภพ มาช่วยกันดิ ไรวะ....มาถึงก็นอนแผ่ แล้วบอกจะมาช่วยงาน”
“อ้าวไอ้นี่....พี่เชื้อมาเหนื่อยๆ จะให้ทำอะไร?”

         พี่ชมพูที่จริงแกชื่อว่าพิภพครับ แต่เฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันในครอบครัวหรอกนะถึงเรียกชื่อเล่นแกได้ แกขอไว้น่ะครับว่าถ้ามีคนนอกอยู่ต้องเรียกว่าพี่ภพ ขอกันซื่อๆด้วยเหตุผลว่าอายชื่อตัวเอง ฮ่าๆๆๆๆ

“ก็นั่นน่ะ ที่ไอ้พวกนั้นมันเย็บเสร็จพี่เอาไปแช่ไว้ในลังน้ำแข็งทีดิ แล้วหยิบดอกรักในลังมาเพิ่มให้น้องด้วย แล้วก็...คืนนี้คงไม่มีใครมาแล้วมั้ง พี่ฟ้าจะมาพรุ่งนี้พร้อมพี่ป่วนใช่ป้ะ? งั้นพี่ภพช่วยเดินเลยไปปิดประตูหน้าเลยนะ พวกเพื่อนพี่ผึ้งนี่ก็กะว่ามาสวยอย่างเดียวเลยวันงาน ไรวะ แทนที่จะมาช่วยเตรียมงานกันบ้าง”

         ผมเห็นหรอกนะที่ไอ้พี่ชมพูมันทำเป็นหันไปอีกทางแล้วถอนหายใจเฮือกพร้อมเหลือกตาขึ้นด้านบนแบบว่ากูไม่น่าเกิดมาเป็นพี่เป็นน้องกับมันเลยน่ะ โห่ว....แต่นี่มันงานพี่ผึ้งนะครับพี่น้อง....แล้วทำไมแรงงานหลักถึงกลายเป็นผมกับเพื่อนน้องชายอย่างผมไปได้วะ?!

         สักพักก้านมะพร้าวก็หมด ผมจัดการนำก้านมะพร้าวร้อยดอกรักจัดใส่แจกันวางไว้ตามมุมต่างๆของเรือน แล้วเดินเข้าไปในครัว พอเข้าไปถึงครัวหลังบ้าน กลิ่นหอมหวานของขนมจำพวกทองที่ถือว่าเป็นขนมมงคลทั้งหลายก็โชยมาทักทาย กลิ่นงาคั่วชวนน้ำลายสอ พี่ชมพูที่พอเดินไปปิดประตูใหญ่หน้าบ้านตามคำขอเสร็จแล้วหายไปเลยกำลังนั่งปั้นถั่วเขียวบดที่กวนและปรุงรสเรียบร้อยใส่ถาดใบโตเป็นรูปหัวใจอยู่กับพี่เค้กสองคน เตรียมไว้รอระบายสีและจะได้เคลือบวุ้นบางๆเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อทำลูกชุบรูปหัวใจตามคำสั่งของผมเอง.....

         ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่ถ้าปล่อยตามใจแม่ผ่องแกทำเป็นรูปผลไม้งดงามตามธรรมเนียมล่ะก็ กว่าจะระบายสีแต่ละชนิดอีก พรุ่งนี้เช้าก็คงไม่เสร็จ ที่จริงรายการลูกชุบนี่ผมบอกให้ทำตั้งแต่เมื่อเช้าด้วยซ้ำ แม่ก็บอกว่าเอาไว้ให้ใกล้เวลาใช้งานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดีกว่า ขนมสดๆใหม่ๆ ยังไงก็ชวนอร่อยกว่าขนมเก่าเก็บ ดูสิครับจรรยาบรรณแม่ค้าขนมหวานอย่างแม่ผ่องพรรณ เฮ้อ....

“น้องไปล้างมือแล้วจัดทองหยิบใส่โถสิลูก เดี๋ยวแม่จัดทองหยอดเสร็จจะได้อบควันเทียนเลย”

         ผมเดินเข้าไปกอดป้าแดงอีกรอบ ตอนนี้ป้าแดงกับลุงผา...แม่จ๋ากับพ่อจ๋าของพี่ฟ้ากับพี่ชมพูเริ่มไล่ที่พวกขนมหวานไปรวมกันมุมห้องแล้ว เพราะกำลังลงมือทำของคาว

         ที่แม่รีบร้อนจัดขนมใส่โถก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะถ้าลุงผาเริ่มเอาเครื่องแกงลงกระทะเมื่อไหร่กลิ่นคงหอมฉุนจนลงไปผสมกลิ่นขนมของแม่จนกลายเป็นขนมที่ให้รสสัมผัสแบบเครื่องคาวไปแน่ๆ จากที่ผมเห็นนั่นก็มีเครื่องเทศกลิ่นจัดเยอะแยะเลยด้วย

         ผมล้างมือรอบที่เกินสิบของวันแล้วไปนั่งหยิบทองหยิบออกจากถ้วยตะไลที่แม่บอกว่าใช้มาตั้งแต่คุณยายยังสาว ค่อยๆเรียงลงโถแก้วเนื้อหนาอย่างเป็นระเบียบไปทีละชั้น...ทีละชั้น อุณหภูมิอุ่นจัดของเนื้อขนมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตจนปลายนิ้วที่ขยับต่อเนื่องของผมเป็นสีชมพูเข้มจัดไม่ต่างจากแม่....

        ผมได้แต่คิดในใจ ให้งานพรุ่งนี้เป็นไปด้วยดี งดงาม เป็นขั้นเป็นตอนตามที่แม่หวัง....เรียบร้อยสวยงามเหมือนกับสีทองของขนมที่เราช่วยกันทำเพื่อพี่ผึ้ง ให้พี่ผึ้งได้เป็นเจ้าสาวที่มีความสุขและยิ้มได้หวานที่สุด.....ให้พี่สาวคนเดียวของผมเป็นนางเอกของงานอย่างสมบูรณ์
~~~~~~♥♥~~~~~~

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 13:04:11 โดย butajang »

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป

มากดบวกให้น้องสาว อิอิ
แล้ว...
ฟาดดดดดดด ก๊ากกกกกกกกกก

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
น่าสนุกค่ะ :mc4: :call:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ผงะเมื่อเจอประโยคนี้ .........ดราม่าอย่างแรงเลย
เอ่ออ หมายถึงเรื่องนี้ชวนกินมาม่าทั้งเรื่องเลยรึ??
หวังว่าเราจะเข้าใจผิดนะ >_<

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

กดบวกต้อนรับค่ะ :L2:
ญาติพี่ฟ้ากะพี่ชมพูเหรอเนี่ย

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบ  มีกลิ่นอายไทยๆและขนมไทยมาเลย  เยี่ยมคร้าบ

 +ไป o13

ออฟไลน์ august_may

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กด +1 ให้เรื่องใหม่ ดูน่าติดตามมากๆเลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
นายเอกเป็นแม่บ้าน แม่เรือนมากๆ

debubly

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกอบอุ่นจังค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anajulia

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เราอ่านแล้ว แต่จะอ่านอีก
คริคริ มีแต่ขนมแสนอร่อย ขอบคุณคุณบูตะจังนะคะ ^o^

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
รับเรื่องใหม่  :mc4:
ญาติพี่ฟ้า -ชมพู และน้องป่วน  :L2:
อยากอ่านต่อ
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 17:36:23 โดย Little Devil »

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ถ้วยฟูเจ้าฟูฟ่อง   ราวเมฆล่องละลอยฟ้า
เหมือนเมื่อพบสบตา   ครั้งแรกพาใจพี่ลอย....

 

“โห่........ฮี้ โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โห่......โฮ้ยยย......”

“ฮิ้ววววววววววววววว”
   
   
           เสียงโห่นำจากลุงมหาและเสียงลูกคู่รับ    ตามมาด้วยเสียงบรรเลงของวงกลองยาวเป็นท่วงทำนองเพลงแห่ขันหมากที่คุ้นเคยดังลั่นมาแต่ไกล   ตั้งแต่ผมที่ชะเง้ออยู่แถวชานพักบันไดหน้าเรือนยังไม่ทันเห็นหัวขบวนแห่ขันหมากเลยด้วยซ้ำ   ตอนนี้พี่ผึ้งที่ถูกเก็บตัวอยู่ในห้องด้านในโดยมีเพื่อนเจ้าสาวอีกสองคนอยู่ด้วยคงกำลังตื่นเต้นมากแน่ๆ
   

           เช้านี้ผมตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่งด้วยเสียงปลุกและแรงเขย่าเบาๆที่หัวไหล่จากแม่ มองไปด้านขวาก็เห็นพี่ผึ้งยังหลับสบายส่งเสียงหายใจเบาๆสม่ำเสมออยู่ แม่แตะปลายนิ้วชี้เข้ากับริมฝีปากเป็นเชิงส่งสัญญาณให้ผมลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบที่สุด เพื่อปล่อยให้พี่ผึ้งนอนต่ออีกสักพัก แล้วค่อยปลุกก่อนช่างแต่งหน้าทำผมที่นัดไว้ในเวลาตีห้าจะมาถึงสักครึ่งชั่วโมง


   เมื่อคืนเราสามคนแม่ลูกนอนเตียงเดียวกัน  ไม่ได้กะจะทำซึ้งหรอกนะครับ แต่เพราะบ้านเราเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูงธรรมดาๆมีห้องนอนสองห้อง พอพวกเพื่อนๆผมแล้วก็บ้านลุงผาป้าแดงมาช่วยงานแบบนี้เลยยกห้องนอนผมให้สาวๆสามคนซึ่งก็คือพี่เค้ก ไอ้อ่อน แล้วก็ไอ้ก๋อยเพื่อนผมอีกสองคนไปเสีย

          ตอนแรกเราสามคนจะให้ลุงผากับป้าแดงแล้วเข้ามานอนในห้องนี้  แต่ลุงกับป้าไม่ยอม บอกแต่ว่าจะให้ว่าที่เจ้าสาวมานอนข้างนอกได้ไง เดี่ยวเผื่อหลับไม่สบายแล้ววันงานตาโหลขึ้นมาก็แย่กันพอดี  แม่ก็เลยไล่พี่ผึ้งมาไหว้ขอบคุณลุงกับป้าที่อุตส่าห์มาช่วยงานแล้วยังต้องนอนกันแบบไม่สะดวกสบายเท่าที่ควรอีก

         แม่เคยเล่าว่าตอนผมยังเล็กบ้านเรามีห้องกั้นฝาด้วยไม้อัดบางๆอยู่แค่ห้องเดียวนอกนั้นก็ปล่อยโล่งหมด  ตอนนั้นมีคุณยายอยู่กับเราอีกคนแต่ท่านเสียตอนผมยังไม่ทันรู้ความ  คุณยายนี่แหละที่เป็นครูขนมหวานของแม่  ทุกวันนี้ที่ผมกับพี่ผึ้งโตมาได้หลักๆก็เพราะเงินจากกิจการขนมหวานแม่ผ่อง
ก็จ่าหินแกเล่นจากโลกนี้ไปอย่างไม่ทันให้พวกเราได้ทันตั้งตัวด้วยอุบัติเหตุถูกรถหกล้อชนแล้วหนีนี่ครับ  ชนแล้วหนี  ตามจับก็ไม่ได้  แต่แม่ก็ย้ำอยู่เสมอว่าถึงตัวพ่อจะไม่อยู่กับเราแล้ว แต่ก็เพราะที่พ่อเป็นคนดี ทำงานถึงจะไม่ได้มีตำแหน่งสูงแต่ทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งเจ้านายก็รักพ่อ  ตอนพ่อตายเลยมีคนช่วยงานมากมาย  แถมยังเงินอีกไม่น้อยที่ได้มาจากสวัสดิการของพ่อ  ซึ่งพอให้ผมกับพี่ผึ้งใช้เป็นค่าเล่าเรียนตั้งแต่ตอนนั้นจนจบปริญญา
    
          เมื่อวานตอนเช้าที่เราอยู่บ้านกันแค่สามคนแม่ก็ชวนพี่ผึ้งกับผมเข้าไปนั่งไหว้พ่อ  ให้พี่ผึ้งบอกพ่อว่าจะแต่งงานแล้วนะ  จะพ้นอกแม่แล้ว  แล้วก็กราบขอพรพ่อด้วย ส่วนผม...ทั้งที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแท้ๆ แม่กลับเขกกะโหลกดังโป๊กก่อนจะร่วมมือร่วมใจกับพี่ผึ้งฟ้องพ่อซะได้

    ‘พี่หิน.....เจ้าน้องตัวต่อลูกชายพี่หินใจร้ายจริงๆ แม่ขอให้กลับมาทำงานแถวบ้านเราจะได้มาอยู่กับแม่ก็ไม่ยอม ดูซิ เมื่อก่อนแม่ก็ยังมีหนูผึ้งอยู่ด้วย แต่พรุ่งนี้หนูผึ้งจะออกเรือนแล้ว....แต่น้องยังไม่ยอมย้ายกลับมาบ้านเลย.....’

     ป่วยการจะแก้ตัวครับ ถึงผมจะไม่สนุกกับงานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้นัก แต่ผมก็ยังไม่อยากกลับมาอยู่บ้านโดยที่ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรสักอย่างที่ดูยิ่งใหญ่...เช่นการอยู่ด้วยตัวเองคนเดียวได้สำเร็จเลยนี่ครับ มันอาจจะเป็นทิฐิผสมกับความงี่เง่าของผมเอง แต่จะทำไงได้ล่ะครับในเมื่อผมคิดแบบนี้จริงๆ
   ผมย่องลงจากเตียง เกาะแม่เป็นหลักแถมแกล้งทิ้งน้ำหนักตัวไม่เบานักฝากแม่เอาไว้ตลอดทางเดินไปจนถึงบันไดหลังเรือนแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายก้าวนำลงไปก่อนแล้วจึงหันกลับมาคอยรับมือแม่แทน ยังไม่ทันโผล่หน้าเข้าไปในครัวก็ได้ยินเสียงปะทุเปรี๊ยะปร๊ะของฟืนจากเตาถ่านดังออกมาเตะหูแล้ว
   
        “แม่....ลงมาก่อนแล้วเหรอ?”

        “อือ....ก็ลงมาตั้งไฟต้มน้ำไว้ก่อนไง แล้วถึงได้ขึ้นไปปลุกน้อง”

   ที่จริงผมก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่เห็นแสงไฟลอดออกมาจากผนังที่ออกแบบให้ระบายอากาศได้ดีของครัวใต้ถุนบ้านที่ก่อผนังด้วยอิฐบล็อกแล้วตีไม้เข้าฝาแต่ละแผ่นให้เว้นระยะห่างกันลักษณะเดียวกับระแนงแล้วล่ะครับ แต่คงเพราะเมื่อกี้แม้จะเดินลงจากเรือนมาแล้วผมก็ยังไม่ตื่นเต็มตาเลยยังประมวลความคิดได้ไม่เต็มร้อย
   
        ผมเดินตามแม่เข้าครัวต้อยๆ แต่ก่อนจะลงมือนวดแป้งผสมกับน้ำลอยดอกไม้สำหรับทำขนมถ้วยฟูให้กล้ามขึ้น และต้มขนมต้มที่ปั้นไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก่อนเข้านอนตามคำสั่งก็หากำไรสักนิดตามประสาเด็กขาดความอบอุ่น ด้วยการกอดแฟนจ่าหินแน่นๆแล้วหอมแก้มอีกสองฟอดซ้ายขวาให้เท่าเทียมกัน.....เอ่อ จริงๆนะครับ ก็พ่อตายตั้งแต่ผมยังไม่สิบขวบเลย จะขอเป็นหนึ่งในเด็กขาดความอบอุ่นบ้างผิดตรงไหน

   “โห่........ฮี้ โห่ ฮี้ โห่....ฮี้ โฮ โฮ้ยยยยยย.......ฮิ้ววววววว”
   

         “ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาว.....ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย......เอาวะเอาเหวยลูกเขยกลองยาว.....ตะละลา......”

         เสียงเพลงขันหมากที่ดังกระชั้นปลุกผมขึ้นจากภวังค์ให้มองลงไปเห็นว่าตอนนี้ว่าที่พี่เขยมาหยุดยืนอยู่หน้าบันไดขั้นแรกแล้ว   และเจ้าลูกหมูตัวกระเปี๊ยกที่เป็นเด็กเล็กเพียงคนเดียวที่บ้านเราพอจะนับเป็นญาติได้ทั้งที่ห่างกันจนไม่มีสายเลือดเดียวกับทั้งผมและพี่ผึ้งเลยด้วยซ้ำก็กำลังล้างเท้าให้พี่โชคเจ้าบ่าวตามธรรมเนียม
   
         ตอนแรกที่รู้ว่าพี่ผึ้งคบกับใครอยู่ผมก็ไม่ชอบใจนักหรอกครับ ก็พี่โชคแก่กว่าพี่ผึ้งของผมตั้งสิบปี ตอนนั้นพี่ผึ้งเพิ่งเข้าปีหนึ่งเอกคหกรรม พี่สาวผมอายุยังไม่เต็มสิบแปดเลย กลับมีผู้ชายที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามากขับเบนซ์ใส่สูทมาเทียวรับเทียวส่ง
 
   ถึงบ้านเราจะอยู่ในตัวอำเภอ และแม้ว่าเราจะบอกว่าเราอยู่ในสังคมของอารยชนผู้เจริญ ชาวบ้านร้านตลาดผู้เจริญแล้วทั้งหลายก็ไม่เคยหยุดอาการปากยื่นปากยาวพูดถึงพี่ผึ้งคนดีของผมแบบเสียๆหายๆได้เลย

   แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งผมก็ต้องยอมรับ ว่าพี่สาวของผมรักผู้ชายคนนี้ และตัวเขาเองก็จริงใจกับพี่ผึ้งและครอบครัวของเรา อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังไม่ชอบใจกับความร่ำรวยเกินคำว่าชนชั้นกลางของพี่โชคเลยสักนิด

   “ขอพี่ผ่านทางหน่อยสิน้อง”

   เจ้าบ่าวในชุดเสื้อราชปะแตนกับผ้าม่วงสีเข้มห้อยพระสมเด็จเลี่ยมทองล่อตาล่อใจโจรเอ่ยปากขอผ่านประตูทองประตูสุดท้ายที่ผมยืนประจำอยู่กับแฟนพี่ฟ้าพี่ชายแท้ๆของพี่ชมพูที่เพิ่งมาถึงเมื่อเช้า พร้อมส่งยิ้มกว้างขวางราวกับโลกนี้เป็นของตนแนบซองสีขาวที่พอผมยกขึ้นส่องกับแดดก็เห็นเงาสีม่วงๆอยู่ด้านในมาให้

   “ประตูใหญ่นะพี่โชค สร้อยทองของเก่าของแม่ผ่องเชียวนา......อะไร แค่ซองเดียวพอที่ไหน ประตูสุดท้ายแล้วก็เอามาหมดนั่นแหละ ไม่งั้นเข้าไปไม่ทันฤกษ์สวมแหวนผมไม่รู้ด้วยนะเว้ย”

   ผมว่าผมพูดออกไปแค่เบาๆพอให้พี่โชคได้ยินคนเดียวแล้วเชียวนะครับ ไม่รู้ใครมันหูผีจมูกมดมาสอดหูได้ยินด้วย เสียงหัวเราะหึๆนี่ก็กวนประสาทชะมัด พอเหลือบตาไปมองก็เจอกับผู้ชายอีกสองคนสวมเสื้อราชปะแตนกับนุ่งผ้าม่วงสำเนาถูกต้องเหมือนปั๊มมาจากพี่โชค สองคนนั้นก็ปิดปากฉับหยุดหัวเราะทันที แต่เสียงหึๆที่ผมรู้สึกว่ากวนประสาทชิบเป๋งที่มันยังไม่ยอมหยุดเลยนี่ครับ มันน่าท้าต่อยกันสักตั้ง!

       อ้อ! เจอตัวแล้ว ไอ้ช่างกล้องฝ่ายเจ้าบ่าวนี่เอง ดูมันนะครับ ขนาดผมหันกลับไปเลิกคิ้วใส่มองหน้าหาเรื่องเต็มที่แล้วมันยังไม่หยุดเลย มันปล่อยมือที่ประคองกล้องออกข้างหนึ่งแล้วยกมือยอมแพ้ทั้งๆที่กำลังกลั้นยิ้มราวกับขำเสียเต็มประดา แต่ผมไม่สนหรอกครับ

     “ว่าไงพี่โชค.....หรือจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะเว้ยพี่ ผมไม่ได้บังคับ ไม่อยากผ่านประตูก็ไม่ต้องจ่ายก็ได้....วันนี้พี่ผึ้งสวยมากอะ ชุดไทยเปิดไหล่สีทอง ผ่องยิ่งกว่าแม่ผ่องอีก.....”

     “พอแล้วๆ เอ้า! เอาไปหมดนี่แหละ ช้านิดหน่อยนี่กะไม่ให้พี่เข้าบ้านเลยเรอะเรา ร้ายจริงๆ”

        เจ็ดซองที่ได้มาผมแบ่งให้พี่ตัวป่วนไปสาม แต่ในมือสี่ซองก็ได้ครึ่งหนึ่งของค่าอพาร์ทเมนท์รายเดือนกลางกรุงของผมแล้วล่ะครับ แหม.....นี่ผมไม่ได้งกนะ ผมแค่รู้จักคว้าโอกาสผ่อนแรงตัวเอง....มันก็แค่นั้น ฮ่าๆๆๆๆ

        แอบสงสารคุณลุงที่มาเป็นเถ้าแก่ให้พี่โชคเหมือนกันแหละครับ แกเล่นมองมายิ้มๆไม่มีปากเสียงอะไรเลย  แถมพอเข้าไปในงานจนถึงขั้นตอนของการสู่ขอการหมั้นผมก็ได้ยินว่าแกพูดไปเขินไปดูตะกุกตะกักพิกล  สงสัยงานนี้จะงานแรกแหงๆ

        จากนั้นผมได้รับรู้ว่าเกิดอะไรในพิธีการบ้างก็จากเสียงเท่านั้นเองครับ  เพราะพอกั้นประตูทองได้สองพันมาอุ่นๆในกระเป๋าก็ต้องรี่เข้าครัวไปจัดขนมหวานลงพานปูใบตองและกระทงใบตองฝีมือเย็บของแม่ผ่องผู้นั่งจุ้มปุ๊กจัดโน่นจัดนี่จนหยดสุดท้าย  ก่อนป้าแดงจะมาลากกึ่งบังคับให้ขึ้นบ้านไปแต่งตัวให้สวยเช้งสมกับเป็นแม่เจ้าสาว

        ขนมหวานชื่อมงคลเก้าอย่างที่ปริมาณเหลือจะพอสำหรับประกอบเข้าเครื่องภัตตาหารถวายพระสงฆ์  เพียงพอสำหรับแขกช่วงเช้าที่มากันเหยียบร้อยชีวิต  แล้วแม่ยังอยากให้ทุกคนมีโอกาสหิ้วกลับบ้านไปเผื่อคนติดธุระไม่ว่างมางานด้วยนี่ปริมาณมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับ   แต่เพื่อพี่ผึ้ง.....น้องตัวต่อยอมครับ   แถมพี่ตัวป่วนก็คงยอมด้วย เพราะพอช่วยกันกั้นประตูเสร็จแทนที่จะเข้าไปนั่งในงานพี่แกก็กลับเดินตามผมเข้าครัวมาช่วยงานซะงั้น

        ต่างกันตรงที่ผมเร่งมือทำงาน แต่แฟนพี่ฟ้าคนนี้กลับนั่งไม่ติดที่ ทำได้เดี๋ยวๆก็วิ่งขึ้นไปแอบมองลอดประตูดูสถานการณ์ข้างบนเรือนแล้วก็กลับลงมารายงานด้วยสีหน้าตื่นเ  ต้นได้ตลอดเวลา  พลังงานล้นเหลือจริงๆ นี่ขนาดแก่กว่าผมเกือบสองปีนะครับ  แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนรุ่นเดียวกันแถมบางทียิ่งกว่านั้นอีก รู้สึกเหมือนพี่แกเป็นน้องไปเสียด้วยซ้ำ
        ผมกะว่าสักเก้าโมงยี่สิบก็จะแวบขึ้นไปส่องดูตอนสวมแหวนอยู่เหมือนกัน   พี่ผึ้งคงจะยิ้มหวานมีความสุขน่าดูชม  แต่ยังไม่ทันถึงเวลาที่ผมกะไว้ก็ได้ยินเสียงแหลมๆแว้ดแหวดังมาจากบนเรือน   แล้วเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กที่ดังคลอกับเสียงมโหรีจากเครื่องเสียงที่เปิดไว้เบาๆมาตั้งแต่เช้าก็กลับเงียบสนิท  ผมละมือจากงานตรงหน้าแล้วเร่งก้าวขึ้นบันไดก็สวนกับพี่ป่วนที่หน้าตาตื่นลงมาตามพอดี   ยังไม่ทันถามอะไรก็ถูกดึงมือให้เร่งก้าวขึ้นเรือนลิ่วๆแล้ว ภาพหญิงสาวในชุดคลุมท้องสีชมพูอ่อน  มีส่วนพุงกลมๆแข็งๆยื่นออกมากำลังร่ำไห้อยู่ตรงหน้า  ใกล้กับคู่บ่าวสาวที่ตอนนี้หน้าซีดจนแทบจะเป็นกระดาษทั้งคู่ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดาเหตุการณ์ให้ยาก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 18:16:36 โดย butajang »

butajang

  • บุคคลทั่วไป
          เกือบจะเครียดอยู่แล้วเชียว พี่ป่วนก็เข้ามากระซิบบอกผมว่าที่เห็นนั่นท้องปลอมแน่นอน  ก็พี่แกทำงานในโรงพยาบาลนี่ครับ  ถึงจะไม่ใช่แผนกที่ต้องไปเกี่ยวข้องเกี่ยวกับแม่ๆหรือเด็กๆสักเท่าไหร่   แต่ก็เห็นผู้หญิงท้องระยะใกล้มาเป็นร้อยเป็นพันรายแล้ว

“งั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง”

          ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนออกเยอะแยะถึงได้มัวแต่ตลึงกันอยู่ได้  ดูซิ....แม่ผ่องของผมซีดแล้วซีดอีกจนจะเป็นลมอยู่แล้วมั้งนั่นแต่กลับเป็นคนแรกที่ก้าวไปทางผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้การครับ เกิดยายบ้านั่นเฮี้ยนจัดทำร้ายร่างกายแม่ผมขึ้นมาล่ะ

“แม่ไม่ต้อง เดี๋ยวน้องจัดการเอง”

          ผมดึงแขนแม่แล้วส่งให้พี่ป่วนที่เดินตามเข้ามาด้วย แล้วจึงเข้าไปจนถึงตัวผู้หญิงท้องปลอมที่จนตอนนี้ก็ยังเล่นละครปล่อยน้ำตาไหลเป็นทางไม่หยุด

“คุณ...พอเหอะ เลิกเล่นได้แล้ว”

          ผมเริ่มด้วยการกระซิบเบาๆก่อนครับ ด้วยความสงสารกลัวว่าเธอจะเสียหน้า ไม่ได้สิครับ เรามันลูกผู้ชาย ทำผู้หญิงเขาเสียหน้ามันจะดูไม่ดีนะครับ

“คุณพูดอะไร ฉันไม่ได้......ฮึก....เล่นนะคะ ฮือ.....”

          โอเคครับ เตือนดีๆไม่ฟังงั้นก็ได้ น้องตัวต่อไม่ใช่พระเอกนะครับ   และถึงน้องตัวต่อจะมั่นใจว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็เลือกคนที่จะสุภาพใส่เหมือนกัน....อีกอย่าง อีกแค่สามนาทีจะ ๙ โมง ๒๙ นาที   จวนได้ฤกษ์สวมแหวนเต็มแก่แล้วด้วย

         ผมยื่นมือเข้าไปคลำๆที่พุงกลมๆของคุณผู้หญิงที่กำลังเล่นบทโศกอย่างเงียบเชียบ แหม....พี่ป่วนนี่เชื่อได้แท้จริง   ก็ไอ้ที่ผมลูบๆคลำอยู่นี่มันยางชัดๆนี่ครับ
แถม.....ทั้งลูบทั้งคลำไปขนาดนั้นว่าที่คุณแม่ในชุดชมพูนี่แกยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด เฮ้อ........


--พรึ่บ--



“เฮ้ยยยยยยยย!!/กรี๊ดดดดดดด!!/ว้ากกกกกกกก!!”

          เอ่อ...นั่นแหละครับ ก่อนผมจะทำผมก็แน่ใจแล้วล่ะว่าพระท่านไม่ผิดศีลข้อไหนแน่ เพราะจากการคลำทำให้แน่ใจได้ว่านอกจากชุดคลุมท้องแล้วก็พุงยางราคาถูกนี่เธอคนนี้ต้องมีชุดอื่นอยู่อีกชั้นแน่ๆ

        เมื่อคุยกันดีดีไม่เข้าใจ ผมก็ก้มลงจับชายกระโปรงคุณเธอตลบขึ้นซะเลย แถมยังใจดีดึงสูงจนบังหน้าให้เรียบร้อย ก็เผื่อว่าเธอจะอายไงครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด แก!!”


--เพียะ—


“อ๊อย...ซี้ด...อูย”


              บ้าไปแล้ว......ผมโดนตบอะ ยัยป้านี่ไม่ตบธรรมดาแต่แถมข่วนลงมาบนหน้าด้วย คนท้องบ้าอะไรแรงวัวแรงควายตบทีเซได้ขนาดนี้วะครับเนี่ย

              ......อ้าว เอ๊ะ! ทำไมไม่มีเสียงดังแบบกระแทกพื้นหรือความรู้สึกเจ็บที่อวัยวะส่วนอื่นนอกจากใบหน้าเลยหว่า?!?

              หวาๆๆๆ พอผมเปิดตามองก็รู้แล้วล่ะครับว่าเพราะอะไร เพราะผมเซเข้าไปในอ้อมแขนแข็งๆของใครอีกคนนั่นเอง แต่จะมามัวเสียเวลาไม่ได้แล้วครับ อีกหนึ่งนาทีเท่านั้นจะถึงฤกษ์สวมแหวนแล้ว


“อย่าแตกตื่นไปครับทุกท่าน ใครไม่รู้จ้างนางเอกงิ้วมาแสดงละครมันเลยไม่เนียน.....พี่โชคได้ฤกษ์แล้ววู้”

              ผมประกาศเสียงดังตามหน้าที่ผู้ช่วยนางเอกที่ดี แล้วเดินดุ่มเข้าไปยกตัวนางเอกงิ้วขึ้นพาดบ่าแล้วแบกลงบันไดหลังบ้านทันที จากหางตาผมเห็นผู้ชายคนที่ซวยโดนผมล้มใส่ขยับเหมือนจะตามมา แต่ก็ต้องหยุดอยู่ที่เดิมแล้วทำหน้าที่เก็บภาพในพิธีการสวมแหวนต่อ.....

             ......หืม?! ทำหน้าที่ถ่ายภาพ งั้นไอ้คนดวงซวยเมื่อกี้ก็เป็นคนเดียวกับที่ส่งเสียงหัวเราะกวนประสาทน่ะสิครับ ฮ่าๆๆ งั้นดีแล้ว จะได้ไม่ต้องไปขอโทษที่เซไปทับ สมน้ำหน้า อยากหัวเราะกวนโทสะผมแต่เช้าเอง กรรมตามสนองมันแหงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

~~~~~~♥♥~~~~~~


                  จบบริบูรณ์ *0* ไม่ใช่เเระ  ตอน 2 ของร้านเติมรัก ฮี่ฮี่ฮี่  (ปาดเหงื่อ เเละเลือดที่อาบหน้า เนื่องจาก โดนจันทน์กระพ้อทำร้าย เเง้ๆๆๆ)  ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ  :กอด1: รวบเเละ บวก 1 ให้ทุกคนนะคะ   ร้ากที่สุดเลยดีใจที่มีคนอ่าน   ถ้าไม่โดนถีบมาก็คงยังไม่ได้ลงตอน 2 เรื่องนี้ ดราม่าจัดหนักจริงๆค่ะ เเต่ไม่มีมาม่าให้กินนะคะรับประกันไม่มีเลย  มีเเต่อย่างอื่นที่ไม่ใช่มาม่าให้กิน ส่วนเป็นอะไรนั้น ฮี่ฮี่ฮี่ ไม่บอกค่ะ ติดตามอ่านเอาเองละกันนะจ๊ะ...... วู้ เเล้วก็ถูกค่ะ น้องตัวต่อ เป็นญาติกับพี่ฟ้าเเละ พี่ชมพู จันทน์กระพ้อเค้าขอซื้อตัวค่ะ เนื่องจากทนความดราม่าจัดหนักของ น้องตัวต่อไม่ไหว เเล้วก็สุดท้าย ขอโทษนะคะที่ลงตอน 2 ไม่จบ ตอนนี้จบเเล้วนะคะ  มีอะไรเมนท์ได้ ถามได้เราจะไปล็อคคอ จันทน์กระพ้อให้นะคะ ฮี่ฮี่ฮี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 18:31:31 โดย butajang »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
บูตะจัง ทำร้ายคนแก่
ดูพี่ลิตเติ้ล เดวิลจิ๊ ก๊ากกกกกกกกกก

ไปเลย ไปหาโหลดสุนัขจิ้งจอกไฟมาโลด

แง้วววววววววววววว
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 18:01:45 โดย anajulia »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
^
คุณนาย  :z13:
ไม่มี๊ ไม่มีนะครับ
คนแถวนี้ young at heart ตลอด.. o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 17:58:49 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
จบแล้วเหรอ :really2:


นึกว่าเรื่องยาวซะอีก  สนุกดีๆชอบๆ :L1:

butajang

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
^
จิ้ม จึ๊กๆๆ ทู้บน

คนลงรั่ว ยังไม่จบนะคะ เเค่ตอน 2 เอ๊ง เดี๋ยวเอามาลงอีก  รอนะคะ  +1 นิ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
โดนใจหลายๆ จิ้มบวก 1 ให้นะค่า ^_^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
มารอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เพิ่งมาอ่านแต่ชอบน้องแล้ว ยังมีตัวป่วนมาแจมด้วยชอบ
จะรออ่านนะค่ะ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ถ้ารับประกันว่าไม่มีมาม่า ก็จะติดตามอ่านต่อค่า
ช่วงนี้กินมาม่าเยอะแล้ว ไม่อยากกินอีกแล้ว >_<

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

น้องตัวต่อพี่ตัวป่วน :กอด1:

ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักกกกก
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ แต่ไม่ดร่าม่านะค่ะ ม่าม่าก็ไม่ดี เอาหวานนนนเลยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ขออ่านด้วยคนนนนนนน
ไม่มีมาม่าแล้วมีอะไรอ่า แหะๆ

บวกๆ จ้า

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แวะมาแล้วครับผม  รู้สึกจะมีผู้อ่านเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ

เห็นแล้วก็อยากกินขนมอ่ะ 555 o13

เดี๋ยวสักพรุ่งนี้ + ได้แล้วจะมา + ให้นะครับ

butajang

  • บุคคลทั่วไป
สังขยาเนื้อละมุน   ราวเนื้ออุ่นเจ้าน้องน้อย
ได้แตะเพียงปลายก้อย   พี่ครวญเพ้อละเมอหา...


“น้อง....เสร็จแล้วยัง พระท่านฉันภัตตาหารคาวจวนอิ่มแล้วนะ”

             พี่ฟ้า....ลูกพี่ลูกน้องอีกคนของผม พี่ชายของพี่ชมพูเดินลงมาถามเองเลยครับ แปลว่าใกล้เวลาแล้วจริงๆ พอได้ยินอย่างนั้นพวกผมที่อยู่ในครัวเลยยิ่งเร่งมือกันใหญ่
แหม นี่ถ้าไม่มีเรื่องยัยป้านางเอกงิ้วนั่นผมกับเพื่อนแถมพี่ๆคงไม่ต้องมาเร่งงานกันจนมือเป็นระวิงแบบนี้หรอกครับ เพราะพอแบกป้าแกลงมาแทนที่แกจะอายแกกลับโวยวายตลอดทาง
 
            พี่เค้กนี่ไม่ยอมเข้าใกล้เลยนะครับ สายตาที่พี่เค้กใช้มองป้าท้องปลอมนั่นถ้าผมเป็นป้าแกคงจะอายแทบแทรกแผ่นดินหนีอ้ะ รู้จักกันมาหลายปีผมเพิ่งเคยเห็นพี่เค้กมองคนอื่นแบบที่เรียกว่ามองกราดหัวจรดเท้าแถมด้วยจากเท้าขึ้นไปจรดหัวอีกรอบแบบนี้เป็นครั้งแรก

....อึ๋ยยยย คิดแล้วยังขนลุกซู่ไม่หาย กระซิบเบาๆรู้กันแค่เราๆนะครับ....สงสัยเพราะพี่เค้กดุอย่างนี้เอง พี่ชมพูถึงอยู่ในโอวาทขนาดนี้ ฮี่ๆๆ

“จะเสร็จแล้วพี่ฟ้า ชุดสำหรับพระเรียบร้อยตั้งนานแล้ว นี่กำลังจัดให้แขกอยู่”

           ผมเงยหน้าขึ้นตอบ แล้วเลยได้เห็น ว่าไอ้พี่ชายคนดีปากมันก็ถามผมหรอก แต่ตางี้...โฮ้ย ไม่อยากจะพูด ถ้าพี่ป่วนเป็นน้ำตาลก็คงละลายกลายเป็นน้ำเชื่อมโดยไม่ต้องเสียพลังงานยกตั้งเตาอะ

“ตัวป่วน.....เข้ามาช่วยหรือเข้ามาซน.....หรือว่าเข้าครัวมาขโมยขนมกิน?”

          โอย....ผมจะบ้า จะหวานใส่กันก็ขอให้เกรงใจสายตาน้องตาดำๆบ้างเฮอะ!!

         ให้ตายสิ....ยังไงๆผมก็ไม่ชินซะที ไม่ใช่เพราะพี่สองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่นะครับ แต่เรื่องแบบนี้ ไอ้การที่คนรักมาทำหวานใส่กันต่อหน้าต่อตานี่....ต่อให้เป็นคู่หญิงกับชายแบบพี่ผึ้งพี่โชค แล้วก็พี่เค้กพี่ชมพู ผมก็ไม่ไหวที่จะดูอะครับ.....แบบว่ามันเลี่ยน!

“แหม...รู้ใจ ป่วนมาขโมยขนม อร่อยทุกอย่างเลยพี่ฟ้า”

         ทำไมทั้งๆที่พี่ฟ้ายังยืนอยู่ตรงกรอบประตูครัว ห่างจากพี่ป่วนที่นั่งอยู่ข้างผมเกือบสองเมตร แต่ผมถึงรู้สึกหลอนๆเห็นประกายอะไรสักอย่างสีชมพูวิ้งๆมันเชื่อมลูกกะตาสองคู่เข้าด้วยกันได้ครับพี่น้องงงงงง!!

“ไปกันน้อง ลำเลียงขึ้นไปรอเลย...ของคนไว้ก่อน เอาของพระยกขึ้นไปก่อน ไหน....จานนี้รึเปล่า?”

         พอผมพยักหน้ารับว่าใช่พี่ฟ้าก็ยกขึ้นไปทันที พี่ป่วนเลยพลอยเปลี่ยนหน้าที่ไปเป็นลำเลียงของหวานขึ้นเรือน สองคนเดินตามหลังกันต้อยๆ โดยมีไอ้อ่อนกับไอ้ก๋อยเพื่อนผมมองตามตาโตแถมอ้าปากหวอ

“พวกแกอย่าอ้าปากค้างนานดิ เดี๋ยวน้ำจิ้มหยดลงขนมแม่ผ่องขึ้นมาให้ผิดสูตรล่ะเสียชื่อแย่....ถ้าเหนื่อยจะพักก่อนก็ได้นะ   เหลืออีกแค่นิดเดียว   ฉันยกสองจานนี้ขึ้นไปแล้วเดี๋ยวกลับมาจัดต่อเอง”

          ผมรีบสาวเท้ายาวๆยกขนมหวานที่เหลืออีกสองจานออกจากครัว ได้ยินเสียงด่าเพราะเขินตามไล่หลังมาด้วย
 
          ฮ่าๆๆๆ ทำไมถึงรู้ว่าด่าเพราะเขินน่ะหรือครับ....เรื่องนี้มันง่ายนิดเดียวเองครับ ก็เพราะเวลาคนเราโดยเฉพาะผู้หญิงด่าน่ะ ลักษณะคำที่เลือกมาใช้เวลาโกรธจริงๆเกลียดจริงๆกับเวลาเขินมันต่างกันน่ะสิครับ

          อย่างคำว่า ‘บ้า’ เนี่ย ฟังกี่ทีผมก็รู้สึกว่ามันไม่เห็นจะเหมือนคำด่าเลยสักครั้ง ยิ่ง ‘คนบ้า’ แล้วเสียงแผ่วๆก้มหน้าหลบตานะครับ หึๆๆ ชัดเลยล่ะ ว่าพวกคุณผู้หญิงเธอกำลังเขิน แล้วผมก็ช้อบชอบนะครับเวลาผู้หญิงเขินเนี่ย เพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงเวลาอยู่ในอารมณ์ไหนน่ามองเท่าเวลาเขินเลย

          พิธีการที่เหลือผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด ขั้นตอนต่างๆเรียบร้อยงดงามตรงตามฤกษ์ทุกประการ
 
          แต่ผมก็สังหรณ์นะครับ ว่าคืนนี้พอถึงฤกษ์ส่งตัวพี่โชคคงไม่ได้เข้าหอหวานชื่นอย่างเจ้าบ่าวคนอื่นๆเขาแน่ๆ เพราะพี่หนูผึ้งของผมเรียบร้อยน่ารักใจดีที่หนึ่งเลยก็จริง แต่เจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไป....ร้อยทั้งร้อยแหละครับ เพราะผู้หญิงเขาคิดมากเรื่องแบบนี้กันนักนี่ครับ....แหม อย่าเพิ่งมองว่าทำไมผมถึงทำตัวเป็นกูรูรู้เรื่องผู้หญิงดีนักนะครับ ก็ผมใช้ชีวิตแทบทั้งชีวิตอยู่กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนี่นา

          โชคยังดีนะครับ ที่แขกกว่าร้อยชีวิตที่มาร่วมงานช่วงเช้านี่มีแต่ญาติๆเรากับเพื่อนสนิทเท่านั้น แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรให้แสลงหู แม้จากหางตาผมจะเห็นมีพวกปากไม่อยู่สุขซุบซิบอะไรกันบ้างก็เหอะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นะครับ มีนางงิ้วมาเต้นเร่าๆร้องกรี๊ดๆเสียดประสาทขนาดนั้นต่อหน้าต่อตา แถมโลเกชั่นและเวลายังเป๊ะๆแบบเตรียมการมาดีแบบนั้นอีก

          ผมล่ะเสียดายแทน นี่ถ้าป้าแกลงทุนอีกสักนิด แต่งให้เนียนอีกหน่อย พี่ผึ้งอาจจะสติแตกลุกขึ้นมาเล่นบทบู๊ให้ผมดูเป็นขวัญตาก็ได้

“ไม่เอาดีกว่า ผมไม่ชอบของหวาน”

         หืม.....ใครบังอาจมาพูดคำต้องห้ามในบ้านแม่ผ่องครับ?

“ไม่ชอบจริงๆครับ ยิ่งไอ้นั่นอ้ะ ผมเคยลองครั้งนึง มันหวานมากเลย ทนกินไม่ไหวจริงๆ”

        ไอ้นั่น??? อ้า.....สังขยาฟักทอง

        ไอ้ตัวโตๆผมทรงหัวแห้วนั่นมันช่างไม่รู้อะไรเลย สังขยานี่ก่อนจะใส่นึ่งในฟักทองผมเป็นคนผสมเองนะครับ นั่งตีไข่เองกับมือเพราะแม่ผ่องไม่ยอมให้ใช้เครื่อง ที่สำคัญมันคือสังขยาถั่วหวานน้อยๆ แต่หอม มัน อร่อย น้ำตาลปี๊บเราก็ใช้น้ำตาลโตนดของแท้ ไม่ใช่ที่ยกปี๊บมาจากตลาดสดธรรมดาๆ

        แล้วไอ้บ้านี่มาปฏิเสธว่าจะไม่กินแถมชี้ๆด้วยท่ารังเกียจขนาดนี้ได้ยังไงกันครับ!!?

“.....ถึงจะเป็นของที่บ้านนี้ทำเองผมว่าก็คงไม่ไหวอยู่ดีแหละครับ ผมว่าเดี๋ยวผมไปขอกาแฟดำด้านในดีกว่า เมื่อเช้าตื่นออกมากันตั้งแต่มืด กินข้าวอิ่มแล้วเดี๋ยวจะหนังท้องตึงหนังตาหย่อน”

        ฮึ่ม....ได้สิ กาแฟดำใช่มั้ย ผมว่าถึงเวลาที่จะต้องไปทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีแล้วสิครับ

“คุณ....อยากดื่มกาแฟเหรอ? ตามผมมาสิ”

        ผมเก็บแววตาเพชฌฆาตซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าไร้เดียงสาบริสุทธิ์ดุจผ้าขาวซักใหม่ด้วยโอโม่ เดินเข้าไปด้านหลังแล้วยื่นนิ้วจิ้มจึกบนบ่าหนาเวอร์แบบพวกเล่นเวทที่ชุ่มเหงื่อจนเห็นเงาเนื้อใต้เสื้อยืดชมพูอ่อน ผมล่ะเกลียดจริงๆพวกกล้ามปูเนี่ย จริงๆนะครับ ไม่ได้อิจฉาเลยพูดออกมาแบบนี้นะ ก็มันตลกจะตายเวลาที่พวกนี้ใส่เสื้อยืดแล้วแขนเสื้อมันป่องๆน่ะ แล้วเวลาเดินนะครับพวกนี้ก็จะต้องเดินกางๆกางแขนกางขา น่าเกลียดจะตาย

       สู้ผมก็ไม่ได้ น้องตัวต่อมีกล้ามนิดๆ กับอกอุ่นๆกำลังเหมาะจะให้สาวๆมาเอนซบนะครับ แบบที่ไม่ต้องกลัวจะถูกรัดจนกระดูกซี่โครงแตกด้วย

“เอ่อ....”

       อ้าว!! นี่มันไอ้ช่างกล้องกวนประสาทนี่ครับ พอไอ้กล้ามปูนี่หันกลับมาผมถึงได้เห็นว่าบนตักมันมีกระเป๋ากล้องวางอยู่ ที่จำไม่ได้ตั้งแต่แรกก็เพราะมันถอดแจ๊คเก็ตสูทตัวนอกออกวางพาดไว้กับตักนี่เอง

      .....บุญคุณความแค้นระหว่างเราที่ผมตัดใจว่าจะให้มันหักลบกลบหนี้จากการเป็นที่รองรับตอนล้มไปทับนั่นถือว่าหายกันไป แต่หนี้ใหม่ที่มันสบประมาทขนมหวานแม่ผ่องใต้ชายคาบ้านแม่ผ่องนี่ผมยอมไม่ได้ครับ

“ไม่ต้องเอ่อหรอกคุณ จะเอากาแฟก็ลุกดิ เอ่ออะไรล่ะ? ไม่ต้องเกรงใจหรอก มาสิ”

น้องตัวต่อเรียนจบเอกอังกฤษ โทการแสดงครับ ถึงเกรดเฉลี่ยสะสมจะไม่ถึงขั้นเกียรตินิยม แต่ผมก็ได้สองจุดสูงๆแบบไม่ต้องลุ้นว่าจะไม่ได้เป็นบัณฑิตนะเออ เพราะงั้น....กะอีแค่เรียกยิ้มใสซื่อโคตรเป็นมิตรมาแปะประดับใบหน้าน่ะ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะอีก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2011 09:55:44 โดย butajang »

butajang

  • บุคคลทั่วไป
        ไอ้กล้ามปูแว่นดำนี่มันก็ว่าง่ายนะครับ มันปลดแว่นออกมาพับเสียบไว้ที่คอเสื้อแล้วก็ยิ้มตอบมาได้หน้าซื่อตาใสยิ่งกว่าผมอีก แต่น้องตัวต่อดูออกครับ ว่าแบบนี้ยิ้มจริงใจ ไม่ใช่ยิ้มการค้าแน่นอน พอผมเร่งโดยกระตุกมืออีกนิด มันก็ลุกขึ้นสะพายกล้องไว้กับไหล่เอาเสื้อนอกพาดแขนก้าวตามมาแล้วครับ หึๆๆๆๆ

        ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วครับ พี่ฟ้ากับพี่ชมพูที่ทำหน้าที่ขับรถรับส่งพระก็กลับมาแล้ว แขกส่วนใหญ่ก็กลับกันไปแล้ว รอเวลาไปงานเลี้ยงช่วงหัวค่ำที่โรงแรมอีกที
ฝ่ายบ้านผมจะเหลือก็แค่เพื่อนพี่ผึ้งไม่กี่คนกับบ้านลุงผาป้าแดงที่มาค้างตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวก็มีพี่โชคที่พอแขกเริ่มกลับไปได้สักพักก็ตามไปเคาะประตูห้องขอคุยกับพี่ผึ้งตั้งนานแล้ว ป่านนี้ไม่รู้พี่ผึ้งจะใจอ่อนแล้วรึยัง แต่เรื่องอย่างนี้มันต้องรีบๆเคลียร์นะครับ ไอ้ที่จะโกรธงอนไม่ยอมฟังกันนั่นบ้านผมไม่นิยมครับ

        จากกลางใต้ถุนเรือนที่ตั้งโต๊ะไว้ให้แขกกินมื้อกลางวัน ผมเดินนำไอ้ช่างกล้องมันเข้ามาในครัว.....ถูกต้องแล้วครับ อาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเรา หึๆๆ
ผมหันกลับไปเงยหน้านิดๆ ส่งยิ้มให้ตามประสาเจ้าบ้าน พร้อมทั้งพยักหน้าเชื้อเชิญให้คนอยากดื่มกาแฟดำนั่งลงบนตั่งเตี้ยที่ตอนนี้มีทั้งเครื่องคาวเครื่องหวานที่เหลือจากมื้อกลางวันตั้งเรียงรายอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ

        ผมเดินไปทางเตาจัดการหยิบถ้วยแก้วเนื้อหนาออกมาถือไว้ในมือข้างหนึ่ง จากหางตามองเห็นไอ้หัวแห้วเลื่อนสำรับที่ไม่เป็นระเบียบหลบเข้าไปจนเหลือที่ว่างแล้วทรุดตัวลงนั่งพร้อมทั้งวางเสื้อนอกที่ม้วนๆลงแล้วจึงวางกระเป๋ากล้องทับอีกที

“อืม....คุณเหนื่อยแล้วยัง? ถ้ายังไหวช่วยจัดกระทงขนมพวกเดียวกันใส่ถาดให้ผมหน่อยได้มั้ย?”

“อ๋อ ได้ครับได้”

“แต่ถ้าชิ้นไหนดูไม่สวยแล้วแยกออกไว้ต่างหากเลยนะครับ”

       เสียงการเคลื่อนไหวทางด้านหลังทำให้ผมรับรู้ว่าตอนนี้ไอ้กล้ามปูหัวแห้วกำลังปฏิบัติตามคำขอร้องของน้องเจ้าสาวผู้น่ารักแสนดีอยู่

       ผมวางถ้วยที่ควรจะบรรจุกาแฟไว้ข้างเตา เปิดฝาซึ้งขึ้นช้าๆ แล้วจ้วงช้อนลงไปตักขนมหวานสีเหลืองอ่อนหน้าขึ้นสวยงามเป็นสีเดียวกับน้ำตาลปี๊บและเนื้อด้านล่างเนียนละเอียดสีนวลกว่าขึ้นมาจนพูนช้อน วางฝาซึ้งเข้าที่เบากริบ แล้วค่อยๆจรดปลายเท้าเข้าหาเหยื่ออย่างใจเย็นด้วยสัญชาตญาณนักล่า...อาฮ่า ผมควรจะได้งานเขียนบทละครโทรทัศน์ดีๆเสียทีคุณว่ามั้ยครับ?

      เพียงสามก้าวผมก็ไปยืนรอจังหวะอยู่ด้านหลังของเหยื่อ รอจนเหยื่อจัดการวางกระทงบรรจุฝอยทองในมือลงถาดเรียบร้อย ผู้สวมวิญญาณนักล่าอย่างผมก็เข้าล็อคคอไอ้หัวแห้วจากด้านหลัง ออกแรงเพียงนิดดันให้ชายหนุ่มผู้น่าสงสารที่ไร้ทางสู้เงยหน้าขึ้น.....แล้วก็....

“อุ้ก อื้อ....คุณจะ.....อือ อื้อ.....”

      อื้ม......กลิ่นเจลใส่ผมของไอ้กล้ามปูนี่ไม่เหม็นแฮะ สงสัยมันจะใช้ยี่ห้อเดียวกับผมเลยมั้งเนี่ย อี๋.....แต่เหงื่อมันออกเยอะชะมัด ถ้าผมไม่เลือกเข้าข้างหลังสงสัยปฏิบัติการณ์บังคับชิมขนมคงไม่สำเร็จแหงๆ ก็คางประดับเคราจิ๋มของไอ้คุณหัวแห้วนี่ชื้นเหงื่อไปหมดแล้วก็ลื่นจะตาย

      ตอนนี้สังขยาถั่วติดเนื้อฟักทองนิดหน่อยฝีมือผมแต่สูตรแม่ผ่องเข้าไปอยู่ในปากไอ้กล้ามปูหัวแห้วเรียบร้อยแล้วครับ และเหยื่อผู้น่าสงสารที่ไร้ทางสู้ก็กำลังถูกมือของน้องตัวต่ออุดปากไว้แน่นป้องกันการคายทิ้งโดยเด็ดขาด

“เคี้ยว! เคี้ยวเดี๋ยวนี้เลยนะ เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนด้วย!!”

      น้องตัวต่อไม่ได้โหดร้ายเกินไปใช่มั้ยครับ ผมก็แค่อยากให้คุณหัวแห้วนี่ได้ลองลิ้มรสขนมหวานแม่ผ่องแสนอร่อยแค่นั้นเองอะ.....ใครใช้ให้มาทำหน้ายี้เหมือนเหม็นตุ่ยหมาเน่าเวลามองสังขยาฝีมือผมล่ะ

“กลืนด้วยนะ ห้ามคายเข้าใจมั้ย!! อืม....ดีมาก เก่งนะเราเนี่ย......เดี๋ยวปล่อยแล้วต้องนั่งเฉยๆ ห้ามลุกหนีล่ะ แล้วก็ห้ามไปฟ้องใครด้วย ตกลงมั้ย?”

      โฮ่.....เหยื่อผู้หน้าสงสารของผมพยักหน้า แล้วก็พยักหน้า แต่แล้วก็ส่ายหน้า และสุดท้ายก็กลับมาพยักหน้าอีกรอบ.....นี่จะให้ผมเข้าใจว่ายังไงดีครับ? จะแปลเอาสามจากสี่ว่าเขาตกลงดีมั้ย?

      เอาเหอะครับ ผมตัดสินใจแล้วว่าแค่ทำให้เหยื่อกินขนมได้โดยไม่พยายามจะแหวะออกมาก็ถือว่าปฏิบัติการณ์ครั้งนี้สำเร็จก็พอแล้ว ผมคลายแขนที่รัดใต้คางของคุณช่างกล้องกล้ามปูหัวแห้วเคราจิ๋มออก แล้วถอยไปหยิบน้ำเย็นจากตู้เย็นมาเทใส่ฝากระบอกพลาสติกนั่นแหละยื่นส่งให้เหยื่อผู้ตอนนี้มองตามการเคลื่อนไหวของผมตาปริบๆ

“อร่อยมั้ย? หวานจนทนไม่ไหวรึเปล่า?”

“เอ่อ.....อร่อยครับ ไม่หวานจนทนไม่ไหวด้วย”


      แน้......ท่าทางจะอร่อยจริงนะครับเนี่ย ตอบเสร็จแล้วส่งยิ้มกว้างขวางมาเชียว ติดใจสังขยาฝีมือน้องตัวต่ออีกรายแล้วล่ะซี้ ไม่ใช่จะได้กินกันบ่อยๆหรอกนา......ฮ่าๆๆๆๆๆ

“มันแน่นอนอยู่แล้ว คุณน่ะโชคดีรู้มั้ยที่ได้กิน นานๆทีหรอกนะผมถึงจะทำ เอาล่ะ กินน้ำเสร็จก็ออกไปได้แล้ว แล้วห้ามไปฟ้องใครเชียวนะ....ไม่งั้นจะมาหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้ด้วย”


“ผม....ผมยังจัดของตรงนี้ไม่เสร็จเลย”

“ฮะๆๆๆๆๆ นั่นมันแค่ข้ออ้างจะให้คุณเผลอเท่านั้นแหละ แม่จ้างเด็กๆแถวนี้ไว้แล้ว เดี๋ยวเด็กๆล้างจานชามด้านนอกเสร็จก็เข้ามาจัดเองแหละ ฮะๆๆๆๆๆ คุณนี่ซื่อจังเลยน้า......ต้องระวังตัวไว้บ้างรู้เปล่า อย่าเชื่อคนง่ายนัก ออกไปเหอะ ในครัวมันร้อน เหงื่อออกจนชุ่มไปทั้งตัวแล้วมั้งคุณ..อ้ะ”

เห็นมั้ยครับ น้องตัวต่อใจดีจะตาย พอเห็นว่าเป็นมิตรกันได้ แถมคุณช่างกล้องแกยังเชื่อคนง่ายขนาดนี้ก็เลยต้องตักเตือนให้ระวังตัวกันบ้าง แล้วยังแถมเดินไปหยิบกระดาษทิชชูมายื่นส่งให้เช็ดเหงื่อถึงมือเลยด้วย

เฮ้อ.....ผมรู้สึกดีจังครับ ได้ช่วยคนอื่นแบบนี้ แหม.....อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มบุญแต่วันเลย........


~~~~~~♥♥~~~~~~


  สวัสดีค่ะ ขอเปิดร้านอีกวันนะคะ เห็นคนอ่านเข้ามา น่ารักเเล้วทนไม่ได้ ขอบคุณนะคะ ทั้งคนเก่าที่ยังอยู่ จนถึงตอนนี้ เเละ ยินดีต้อนรับคนใหม่ หวังเป็นอย่างสูงว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนตอนสุดท้ายนะคะ ฮี่ฮี่ฮี่ เป็นไงมั่งคะ เรื่องนี้ "ดราม่าจัดหนัก"จริงค่ะ  โดย นายไผท เถลิงศก เเต่ไม่มี มาม่า รับประกัน โดย นามสกุลเถลิงศกค่ะ ฮี่ฮี่ฮี่ ขอให้มีความสุข กับ สังขยาฟักทองนะคะ  +1 ทุกคนเลยค่ะ

♥♥คำเตือนประจำตอนนี้♥♥  ห้ามพูดคำต้องห้ามเด็ดขาด “ไม่เอาดีกว่า ไม่ชอบของหวาน” ถ้าไม่อยากเจอน้องตัวต่อ จัดหนัก กรั๊กกกกกกก  


♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

[/color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2011 09:57:59 โดย butajang »

yellowriver

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้นายเอกนุ่มมากเลยอ่ะ อ่านแล้วก็อยากทำขนมบวกอาหารได้มั่ง
แง้วๆ ดีจัง อยากกินสังขยาด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด