เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part 36
หึง...เหรอ...
.
.
.
.
หึ..หึ..!!...จะบอกว่าไงดี ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
ไม่รู้จะตรงคำพังเพยนี้หรือเปล่า ไอ้ครั้นจะบอกว่าหนีเสือปะจระเข้ก็ดูจะห่างไกลไปเยอะ
เอาเป็นว่าผมเลือกเอาอันแรกดีกว่า ใกล้เคียงหน่อย ที่มาที่ไปก็ไม่ใช่อะไรหรอก
หลังจากส่งพี่จอยลงตามจุดที่แกบอกแล้ว ยอดชายนายกล
เค้าก็ออกรถให้ไวเพื่อจะพาผมมาซื้อของซุปเปอร์ โดยบอกให้ผมปีนข้ามมานั่งคู่เขาด้านหน้า...
“วี..มึงข้ามมานั่งหน้านี่”
“ไม่ดีกว่า กูนั่งหลังเนี๊ยะแหละ เดี๋ยวก็ถึงแล้วนี่” ไอ้ผมก็หวังดีบอกนั่งหลังเนี๊ยะแหละ
เพราะเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ไม่อยากเกะกะมัน กลัวตอนปีนข้ามไปอาจรบกวนการขับรถเอาได้หนะ
แต่กลับโดนมันใส่อารมณ์กลับมาอีกงั้น...
“มึงบ้าป่าวเนี๊ยะ!...กูบอกให้ข้ามมาก็ข้ามมาดิ เกิดมาหึงอะไรกูตอนนี้ นั่งมาตั้งนานดันไม่งอน
กูไม่ใช่คนขับรถมึงนะ ต้องบอกหรือเปล่าว่ากูเป็นอะไรกะมึง” เวร..มันคิดไปไหนของมันเล่านั้น
ผมไม่ได้คิดแบบที่มันเข้าใจเลยด้วยซ้ำ แต่เห็นมันเริ่มออกอาการหงุดหงิดเสียงห้วน
ก็ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวจะพาลรมณ์เสียกันไปใหญ่ เลยปีนข้ามมานั่งข้างมันตามต้องการซะ
จังหวะรถติดแยกไฟแดงพอดี ไม่ใช่ผมกลัวไรหรอกนะครับ แค่ไม่อยากให้
มาเดินซื้อของแล้วอารมณ์บูดใส่กัน พอผมยอมทำตามมันสั่งแล้ว เริ่มหน้าดีขึ้นหละ
แถมมีพูดต่อท้ายอีกว่า
“ที่หลังจะงอน..จะหึงกู..หัดมีเหตุผลด้วย มึงก็เห็นกูไม่ได้อะไรกับยัยจอยนี่เลย
ที่กูไม่ใส่รมณ์เค้าให้ กลัวมึงลำบากใจ ต้องเจอหน้ากันอีกนานไม่ใช่นิ..รุ่นพี่มึงนี่” เอาเข้าไป
ไอ้โรคหลงตัวเองของมันเนี๊ยะ ถ้าจะเป็นอีกข้อที่คงจะแก้ยาก ผมไม่รู้ว่าหน้าตาอาการอะไรของผม...
แสดงให้มันเข้าใจว่าผมไม่พอใจมันกับพี่จอย จนมันคิดไปไกลโพด..ว่าผมหึงมัน......
เอ๋!...หรือหน้าผมเป็นแบบมันว่า ลองมองหน้าตัวเองในกระจกส่องหลัง
มันก็งง ๆ หันมาถามผมทันที
“เป็นไร อะไรเข้าตาเหรอ?” อืม..สงสัยข้อเสียอย่างใหญ่หลวงระหว่างผมกับกลสิทธิ์...
คงเรื่องการสื่อสารที่ไปคนละเรื่องเดียวกันนี่แหละ
“ป่าว!...กูแค่อยากดูว่าหน้าตากูมันเป็นแบบไหน มึงถึงคิดว่ากูหึงมึงจนงอนมึงนะ” ตัดปัญหา
ตรง ๆ ทะลุปล้องแม่งเลย จะได้ไม่ต้องพูดไทยแปลเป็นไทยอีก แต่....
“เชี้ย!...นี่มึงประชดกูหรือไง” อ้าว!...เวร..ไปใหญ่แล้ว
“ป่าวววว!..กูไม่ได้ประชด ก็กูงงว่ากูออกอาการอะไร...มึงถึงคิดว่ากูหึงมึง กูก็หาที่มาที่ไปดิ”
ผมพยายามอธิบาย มันกลับหงุดหงิด กระชากรถออกตัวซะกระตุก
เมื่อเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟเขียว แถมสบถเสียงห้วนใส่ผมอีก
“ห่า!.แม่งเอ้ย!....ตกลงมึงไม่คิดจะหึงกูเลยว่างั้น” น้าน!..หนักเข้าไปใหญ่
พอผมออกอาการว่าไม่หึง มันกลับหงุดหงิดใหญ่เลย..บ๊ะ!..ไอ้ห่านี่...ผมงงกับมันจริง ๆ
จู่ ๆเสือกไม่พอใจหงุดหงิดผมขึ้นมาอีกหละ หน้าตาถมึงทึงเลยตอนนี้ บอกอาการไม่สบอารมณ์สุด ๆ
ตกลงมันต้องการไรของมัน อยากให้ผมหึงมันหรือไม่อยากให้ผมหึงมัน ผมตามรมณ์มันไม่ถูกจริง ๆ
“นี่มึงเป็นห่าไรเนี๊ยะ....จู่ ๆก็รมณ์เสีย ขับให้มันดีดีสิว่ะ!...เดี๋ยวเค้าก็ได้ด่าพ่อล่อแม่เต็มถนนหรอก”
ผมก็เริ่มหงุดหงิดมันเหมือนกัน ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต เลยว่าเข้าให้ มีเหลือบตามองหน้าผม
สายตาเหมือนผิดหวังซะงั้น ไม่พูดไม่จาก่อนหันไปมองถนนต่อ เริ่มขับดีขึ้นหละ
แต่หน้านี่..ไม่ต้องบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน ผมเห็นแบบนั้น เลยต้องเป็นฝ่ายใจเย็นลง
จะไปร้อนตามมันไม่ได้ รู้ ๆ อยู่ว่ากลสิทธิ์ยี่ห้อนี้แรงด้วยไม่ได้ ต้องอ่อนใส่เค้าหน่อย
“กูไม่รู้มึงหงุดหงิดไรกล ถ้าเรื่องที่กูไม่ยอมข้ามมานั่งคู่มึงแต่แรก กูไม่ได้คิดไรกูแค่ไม่อยากเกะกะมึง
ตัวกูก็ใช่จะเล็ก...จนข้ามไปข้ามมาสะดวกขนาดนั้น กูคิดว่าไหน ๆ เดี๋ยวก็ถึงลงทีเดียวเลยดีกว่า
ไม่ได้คิดไปไกลดูถูกว่ามึงเป็นคนขับรถห่าไรให้กูเหมือนที่มึงพูดหรอก” ผมอธิบายช้า ๆนิ่ม ๆ
เพื่อให้มันเย็นลง มันกลับถามขึ้นมาว่า
“มึงหึงกูป่าว?” ตกลงคุยเรื่องเดียวกันใช่ไหม กูงงกับมึงจริง ๆ ต้องการคำตอบว่าผมหึงมันหรือเปล่า
ไอ้ผมก็พาซื่อถาม มันตรง ๆทันที
“หึงมึงกับใคร?”
“ยัยจอยไง” มันบอก
“ไม่นี่...กูไม่รู้สึกไร ทำไมมึงไม่พอใจกลัวว่ากูหึงมึงงั้น.” เคยเป็นไหม เหมือนเราต้องการเคลียร์
ให้มันสบายใจ..และเลิกเข้าใจผิดซะที แต่สุดท้ายคำตอบมันกลายเป็นเราตะหากที่เข้าใจผิดไปเต็ม ๆ
“ใช่!...กูไม่พอใจ มากด้วย....แต่ไม่ใช่เพราะมึงหึงกู...ที่กูไม่พอใจเพราะมึงไม่หึงกูตะหาก
ถามจริงเหอะ...กูกับมึงเป็นไรกันแน่ว่ะ!....มึงคิดว่ากูเป็นแฟนมึงป่าว?...” เป็นไงพอเฉลยออกมาแบบนี้
ผมอึ้งเลย...ตกลงมันโกรธที่ผมไม่หึงมัน มันอยากให้ผมหึงซะงั้น แล้วคำถามมันก็นะ
เสือกมาถามห่าไรตอนนี้...ทั้งที่แม่งก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าอะไรยังไง
ไม่เป็นแฟนมันแล้วผมจะยอมให้มันทำเหี้ย ๆ อย่างที่มันขอทำเกือบทุกคืนอีกหรือ
ไอ้ควายเอ้ย!...ได้แต่สบถด่ามันในใจ ไม่กล้าไปเติมไฟให้มันหรอก กลัวมันหักรถพาทัวร์นรก
ยิ่งบ้า ๆ อยู่เอาแน่กะอารมณ์มันไม่ได้ด้วย
“ก็..ปะ..เป็น..เป็นแฟนไง..บ้าป่าว?..ถามห่าไรไม่คิด” มีแก้เขิน..เหวมันกลับอีก..
สัดนิ..กูอายหรอกให้มาพูดยอมรับไรกันตอนนี้ ใช่ที่เปล่าเนี๊ยะ...ได้ผลมันเริ่มอมยิ้มขึ้นมาแล้ว
คงเห็นอาการผมที่ไปไม่เป็นมั้ง ก่อนจะพูดมาอีกว่า
“แน่ใจว่ากูเป็นแฟนมึง ไมมึงไม่หึงกูเลยว่ะ!...แฟนมึง...ไม่สิ...ต้องพูดว่า
ผัวมึง..แม่ง..ผู้หญิงจะลากขึ้นเตียงอยู่ร่อมร่อ...เสือกไม่หึงสักนิด มันใช่ป่าวเนี๊ยะ!”
นรกจริง....แค่แฟนกูก็อยากหน้ามุดคอนโซลรถอยู่แล้ว นี่มึงเล่นผัวเลย..ทำเอาผม
อยากเอาหัวโขกกระจกตายไปเลยตอนนี้ มันยิ่งเห็นผมนั่งหน้าแดงหูแดงเถือกไปทั้งหน้าแบบนี้
เสือกรมณ์ดีหน้าระรื่นซะงั้น อยากโบกหน้าแม่งจริงเชียว
ผมละเกลียดไอ้หน้าตาท่าทางแบบนี้ของมันชะมัด ได้แต่เมินมองไปนอกรถ
ไม่พูดต่อปากต่อประโยคกับมันอีก ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว....
“หึ..หึ..กูชอบหน้ามึงตอนนี้จริงหวะ!...กูว่าเปลี่ยนใจกลับหอกันเถอะ มึงยั่วกูหละ”
เฮ่อ!..ผมละหน่ายกับห่ากลมันจริง ๆ พอดี๊ด๊าได้..แม่งกลับหื่นขึ้นมาซะงั้น
ว่าจะไม่พูดกับมันแล้วนะ แต่พอฟังแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้เลยต้องแว๊ดแม่งไปหละ....
“มึงเลิกหื่นได้ป่าว!...ทุกวันนี้มึงก็ทำยอดจนกูขี้ไม่ต้องเบ่งแล้ว...จะเอาไรอีกว่ะ!..สัด”
ไม่รู้ผมเผลอหมดยางอาย หลุดพูดออกไปได้ไง แต่...........
“ห่ะ..ห่ะ..ห่ะ!...อะไรกัน...กูเพิ่งรู้เมียกูขี้ไม่ต้องเบ่งเลยหรือว่ะ!....กร๊ากกกๆๆๆ!!..
แต่นะ...วี...กูว่าก็ดีไม่ใช่รึไง...มึงจะได้ไม่ต้องท้องผูก...ฮ่าๆๆๆ!!!!” นรกสาด..มันขำท้องคัดท้องแข็ง
มือจับพวกมาลัยซะสั่นเลย แม่ง...คำพูดผมไปกระตุ้นต้อมขำมันเข้าให้ ผมบอกไปแล้วใช่ไหม
ว่าเหี้ยนี่มันชอบดูตลก และก็เส้นตื้นมาก ๆไม่รู้มันขำห่าไรผมหนักหนา
เล่นขำจนหน้าดำหน้าแดงน้ำตาเล็ดซะงั้น
บรรยากาศหลังจากมันขำจนพอใจ แถมส่งยิ้มสายตาล้อเลียนให้ผมอีกตะหาก
มันก็พารถมาจอดสนิทที่ลานจอดในห้างโรบินสันxxxx เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นผมกับมันก็พากันลงไปเดินซื้อของตามรายการที่จดมา ตรงดิ่งไปซุปเปอร์ทันที
มันก็ทำหน้าที่เข็นรถใส่ของเดินตาม ผมก็เลือกเดินหยิบเอาตามล๊อกต่าง ๆ
มันก็มองผมไปด้วยอมยิ้มไปด้วย ยังไม่หยุดรมณ์ดีอีก อะไรจะเส้นขำยาวนานปานนี้ก็ไม่รู้
แล้วจู่ ๆ ก็มีสาวน้อยสามนางเดินเข้ามาหามัน ขณะที่ผมยื่นเลือกกาแฟ..โอวัลตินคอฟฟี่เมทและน้ำตาล
ผมกินโอวัลติน กลสิทธิ์เค้าดื่มกาแฟ สาวน้อยกลุ่มนั้นส่งเสียงทักทาย คุ้นเคยและลึกซึ้งมาก
“พี่กลค่ะ..พี่กลจริง ๆด้วย...โอ้ย!...หน่า...คิดว่าจะไม่ใช่ซะแล้ว กลัวทักผิดด้วย
คิดไงไปไว้ผมทรงสกินเฮดค่ะเนี๊ยะ หล่อจนหน่าไม่แน่ใจเลยว่าจะใช่พี่กล” เพราะคำพูดที่ได้ยิน
ทำให้ผมละความสนใจ เหลียวกลับไปดูตามธรรมชาติทั่วไปอะนะ
“อืม..น้อยหน่ามาทำอะไรครับ” มันก็ทักตอบยิ้ม ๆให้กับสาวน้อยไป
ก่อนที่คนที่ผมได้ยินมันเรียกน้อยหน่า จะแนะนำเพื่อน ๆอีกสองคนให้มันรู้จัก
“หน่ามาเดินซื้อของกับเพื่อนค่ะ นี่กลอย..และนี่จูน เพื่อนหน่าค่ะ” เธอแนะนำสองสาวให้กลสิทธิ์รู้จัก
ซึ่งน้องสองคนก็ยิ้มทักทายมัน..มันก็ยิ้มตอบ ยอมรับเด็ก ๆสามคนนี้หน้าตาดีเลยทีเดียว
ก่อนที่น้องที่ชื่อหน่า..จะถามมันขึ้นมาว่า
“พี่กลมาซื้อของหรือค่ะ มาคนเดียวหรือเปล่า”
“พี่มากับเพื่อนพี่นะ วี..วี..มารู้จักกับน้อง ๆ เค้าหน่อยดิ” มันเรียกผม
ไอ้ผมเลยต้องวางมือเดินเข้าไปหามัน
“นี่พี่วี...เพื่อนพี่นะ” ผมก็ยิ้มทักทายให้สาว ๆทันที น้อง ๆเค้าก็ยิ้มตอบ
ก่อนที่น้องหน่าจะพูดขึ้นมาว่า
“พี่กล..ซื้อของเสร็จไปหาไรกินกับพวกหน่าก่อนไหม” เธอชวนขึ้น
“ไม่ดีกว่าครับ พี่จะรีบกลับไปอาบน้ำนะ ออกกำลังกายมาดองเค็มอยู่เลย ไว้วันหลังดีกว่าไหมครับ”
มันตอบปฏิเสธน้อง ๆเค้าไป ก็จริงของมัน ทั้งมันทั้งผมเพิ่งออกกำลังมา
เสื้อแห้งจากเหงื่อแล้วก็จริงอยู่ แต่ตัวยังเหนียวอยู่เลย
“ไม่เอาอ่ะ....อาบน้ำยังไงพี่กลก็ต้องอาบอยู่ดี ไปกับหน่าก่อนน้า..พี่กลน๊า...
เราไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้วเหอะ...หน่าเจอพี่กลแล้วไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆแน่..
ไงก็ไปนั่งกินกับพวกหน่าก่อน...เอางี้ถ้าพี่กลอยากอาบน้ำแวะอาบหอหน่าก่อนเอาไหม....
อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง...ตกลงนะ..นะ..นะ” น้องเค้าเข้าไปจับมือถือแขนมันเขย่าเหมือนเด็กเลย
เพื่อให้มันตกลงไปด้วยให้ได้ มันก็อึก ๆอัก ๆ..หันมามองหน้าผม เหมือนจะขอความเห็น
แต่ผมพอเห็นภาพที่น้องเค้าถึงเนื้อถึงตัวมันแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..ทำไมจู่ ๆ
เกิดรู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมาซะงั้น ถึงขนาดน้องเค้าชวนให้ไปอาบน้ำที่หอเค้าด้วยเนี๊ยะ
คงไม่ธรรมดาละมั้ง เลยพูดแทนมันแบบไม่ต้องคิดไรทันที
“เอ่อ!...พี่ต้องขอโทษน้องหน่าด้วยนะครับ บังเอิญวันนี้พี่กับพี่กลไม่ว่างจริง ๆครับ
เราต้องรีบซื้อของเอาไปให้ผู้ใหญ่ด้วยนะครับ เค้าฝากมาซื้อ ไม่งั้นเค้ารออยู่มันดูไม่ค่อยดีนะครับ
น้อง ๆคงเข้าใจความจำเป็นของพวกพี่วันนี้นะครับ” น้องเค้าหันมามองผม หน้าเศร้า ๆไปหน่อย
ผมก็แม่งแหลเอาโล่ห์เลยกู ทำไปได้เหี้ยกลมันมองผมยิ้ม ๆมันรู้ผมหาข้ออ้าง
ส่วนน้องหน่าคงคิดว่า...ถึงขนาดนี้แล้วคงไม่สามารถที่จะตื้อให้กลมันไปด้วยได้แน่ ๆ
ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ก็ได้ค่ะ...วันนี้พี่กลไม่ว่างไม่เป็นไร แต่พี่กลต้องโทรหาหน่าด้วย..แล้วต้องนัดหน่าครั้งหน้า
ตกลงไหม” น้องเค้ายังมีข้อต่อรองกับมันอีก ผมคิดว่าหากไม่รับปากไปคงไม่ได้ไปต่อกันง่าย ๆ
เพราะน้องเค้ายังไม่ปล่อยแขนมันที่เกาะอยู่เลย ผมเลยส่งสายตาให้มันรับปากเค้าไปจะได้จบ ๆ
มันเลยยิ้ม ๆ ให้น้องเค้าก่อนตอบไปว่า
“ตกลงครับ แล้วไงพี่โทรไปนะครับ เบอร์เดิมหรือเปล่า...” กลมันก็พูดออกไป
“เบอร์เดิมค่ะ หน่ายังไม่ได้เปลี่ยนหอ...พี่กลสัญญาแล้วนะค่ะ...ห้ามเบี้ยวด้วย” มันเลยยิ้มยักหน้าให้
น้องเค้าถึงได้มีรอยยิ้มก่อนจะขอตัวแยกไปกับเพื่อนเค้าต่อ เห็นมีซุบซิบยิ้ม ๆกันกะเพื่อน..
พร้อมหันมายิ้มหวานส่งท้ายให้กลสิทธิ์มันอีก ผมเห็นแล้วหงุดหงิดพิลึก
คือไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน กับสาว ๆ คนอื่นของกลผมเฉย ๆนะ แต่กับน้องน้อยหน่าไงดีละ
คือน้องเค้าดูใส ๆเด็ก ๆน่ารัก ๆ แถมคำพูดคำจาก็เหมือนเด็ก ๆนะ มีอ้อนมีอะไรกลมัน...
เห็นแล้วทำให้คิด ดูน้องเค้าภาษีดีกว่าคนอื่น ๆ...ที่ผมเคยเห็นเด็กในสังกัดกลมันจะว่างั้นก็ได้
จากนั้นเราก็เดินซื้อของกันต่อ จนเรียบร้อยหิ้วของมาใส่ในรถ ขับกลับหอ
ระหว่างทางมันรมณ์ดีมาก ถึงขนาดเอื้อมไปเปิดเพลงฟังอีก แล้วเพลงที่มันเลือกเปิดนะก็นี่เลย
ของอ๊อด..คีรีบูน ตอนนั้นเค้าเป็นเพลงดังวงคีรีบูน ชื่อเพลงปลูกรัก เนื้อเพลงประมาณนี้
ปลูกรัก คำร้อง อ๊อด วงคีรีบูนปลูกรัก อุตส่าห์พิทักษ์รักษาไว้
ชื่นช่อชูใบ ปลูกรักไว้หมายดอมดม
พรวนดินรดน้ำเช้าค่ำ พร่ำชม
แดดลมมิให้ พัดส่องดอกใบ
ฉันถนอมกล่อมไว้ ชื่นชู้ชูใจมิได้หมางเมิน.......มีร้องฮัมเพลงไปในคออีกตะห่าง รมณ์ดีลัลล้าเกินเหตุ จนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้
เหลือบค้อนมันเค้าให้ไม่รู้ตัว มันเลยอมยิ้มยักคิ้วใส่ซะงั้นก่อนพูดขึ้นมาว่า
“กูโครตมีความสุขเลยว่ะ! มึงหึงกูด้วย” อ่าห่ะ!...ที่มันรมณ์ดีลัลล้าเกินงามตอนนี้
เพราะมันดีใจที่เข้าใจว่าผมหึงมันซะงั้น ไอ้บ้านี่ตกลงมันชอบให้ผมหึงมันหรือไง
แล้วผมหึงมันจริงป่าวหว่า?....ผมรู้ว่ารู้สึกไม่ค่อยพอใจตอนเห็นน้องหน่าเค้าจับมือถือแขนมัน
แถมเซ้าซี้ให้มันไปด้วยให้ได้ หรือความรู้สึกนี้เค้าเรียกว่าหึง มันถึงได้ดีใจขนาดนั้น
ถ้าใช่..แสดงว่าผมหึงมัน...
ตาย..ตาย..กูตาย...นายกวี...กูหึงมันแล้วหรือนี่....อร๊ากกกกๆๆๆ.....อายโว้ย!......
มุมน่ารัก..น่ารัก..ของพี่กลกับพี่วี...สัญญา..เดี๋ยวจะจัดตอนพิเศษ
ที่ฟังพี่วีเล่าให้ฟังแล้วตลกมาก มาให้กันได้อ่านนะ รับรองต้องขำกันกระจาย
เพราะแค่นู๋ฟังพี่เค้าเล่านู๋ยังหัวเราะซะน้ำตาเล็ด

Luk.[/b]