(เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT  (อ่าน 322367 ครั้ง)

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :impress:
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งในความประทับใจ ดีใจที่เห็นมีคนเอามา post ใน board นี้ให้เพื่อนๆ อ่านกัน
เรื่องราวยังอีกยาววววว กว่าจะถึงบทสรุป....เสียน้ำตาไปมากกกกกเหลือเกินกับเรื่องนี้  :m8:
อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้เค้าโครงเรื่องกว่า 80% เป็นเรื่องจริง ตัวคุณเอ้เองก็มีตัวตนจริง ๆ ...
หลายอย่างที่เอ้คิด ทำ หรือแม้แต่ประสบพบเจอก็คล้าย ๆ กัน....เกย์  หนทางรักมันลำบาก...  :undecided:
แม้จะอ่านจนจบไปแล้วจากเวปอื่นก็ตาม พอเห็นมาลงในเวปนี้ก็ยังแวะมาอ่านอยู่ ความรู้สึกก็ยังคงเดิม
แง่คิดต่าง ๆ ที่เอ้ได้เรียนรู้ จากบทชีวิตตนเอง  :m26:
แฟนคลับที่ติดตามอ่านเรื่องนี้คงได้เก็บและนำไปปรับใช้เพื่อชีวิตรักของแต่ละคน....เอาใจช่วยครับ :a2:
ขอบคุณผู้ post ผู้เขียน และที่สำคัญผู้อ่านทุกคน...ติดตามกันต่อไป...หนทางรักของเอ้จะลงเอยยังไง  :เฮ้อ:
 :bye2:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :try2:
จะเสียมารยาทไหมอ่ะครับ ถ้าจะช่วยลงต่อ เห็นเงียบไป อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านต่อเพราะเรื่องยังอีกยาวนัก... ขออนุญาติตรงนี้ละกันนะครับ...ถ้าเห็นว่าไม่ว่างหายไปหลายวันจะมาช่วย post ให้ครับบบบบ......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2 The Emancipation of Amy

…..วันปฐมนิเทศ พวกผมนัดกันที่สี่แยกใกล้มหาลัย พอมาครบทุกคนก็เข้าไปพร้อมกัน.....วันนี้ผมได้จอดรถที่เดิมอีกแล้ว ทำเลดีมาก มีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ แต่คาดว่าถ้าช่วงหน้าฝนต้องย้าย เพราะกลัวกิ่งไม้หล่นมาโดนรถแม่ผม.....ที่ผมจอดตรงนี้ได้ ต้องขอขอบคุณลุงยามที่กันที่ไว้ให้ผม ลุงแกจำผมได้โบกมือเรียกผมให้ไปจอดที่ประจำเลยครับ ก็วันลงทะเบียนครั้งที่แล้ว ผมซื้อขนมไปฝากแก ด้วยความสงสารจริง ๆ ไม่ได้มีความคิดเรื่องที่ให้แกกันที่จอดรถให้ผม.....เห็นแกดีอย่างนี้แล้ว ผมไม่มีอะไรตอบแทน ไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมาเลย......ผมเปิดกระจกไปขอบคุณแก.....แกยิ้มซื่อ ๆ บอกว่าให้ผมจอดที่นี่ได้ทุกวัน แกจดทะเบียนรถผม และบอกยามคนอื่นแล้ว........ผมขอบคุณแกอีกครั้ง......อีพวกนั้นกัดผมว่าทำยังกะเป็นอธิการบดี ต้องมีที่จอดรถประจำตำแหน่ง........
........ขณะที่กำลังเดินเม้าธือยู่ข้างทางเตรียมเข้าหอประชุม ก็มีเสียงบีบแตรดังมากมาจากข้างหลัง พวกผมตกใจมีอีนันคนเดียวเท่านั้นที่คุมสติอยู่ไม่แหกปากร้องกรี๊ด แล้วตามด้วยคำด่าพ่อล่อแม่อีกชุดใหญ่......รถยุโรปราคาโคตรแพง สีดำคันยาว ป้ายแดง ใหม่เอี่ยมเงาวับ ถนนตั้งกว้างทำไมต้องขับเบียดพวกผมด้วย มองหน้าคนขับไม่ชัด รู้แต่ว่าเป็นผู้ชายเพราะผูกไท คงเป็นเด็กปี 1 เหมือนกัน พอเคลื่อนมาใกล้ ๆ ไอ้คนขับดันมองพวกผมด้วยหางตา หล่อเลยแหละ ขาว ตาโต ดูดีมีสกุล.....อีเต็มหุบปากที่กำลังด่าทันที......
........ไปถึงหน้าหอประชุม มีโต๊ะให้ลงทะเบียนเช็คชื่อ พวกผมหาคณะ หาสาขาเจอก็เข้าไปเซ็นชื่อ ยังไม่ทันจะเดินไปไหน พวกรุ่นพี่ก็ต้อนพวกผมไปรวมตัวกันที่ซุ้มสาขา ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน คิดว่าจะโดดรับน้องช่วงบ่าย ที่ไหนได้ มาดักไว้ตั้งแต่เช้า อย่างนี้จะหนีไปไหนได้วะ......พวกพี่ ๆ ตรวจเครื่องแบบทุกคน ให้เอาเสื้อใส่ในกางเกง ต้องให้เห็นหัวเข็มขัด อะไรยังไงเนี่ย กูอุตสาห์หนีฝ่ายปกครองที่โรงเรียนเก่าพ้นแล้ว คิดว่ามหาลัยไม่มีการตรวจเครื่องแบบ.....เอาก็เอาวะ คงเป็นแค่ช่วงแรก ๆ .........
.......มองไปรอบ ๆ ก็เจอสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาทางผมอยู่ ไอ้แว่นคนนั้นเอง เรายิ้มให้กันนิดนึง อีกุ้งกระทุ้งผมให้สนใจกับเรื่องที่พวกพี่ ๆ กำลังพูดอยู่ จับใจความได้ว่า ปฐมนิเทศเสร็จให้เด็กปี 1 มารวมตัวกันที่นี่ มีข้าวให้กิน มีการเช็คชื่อ และรุ่นพี่จะพาไปเดินดูรอบ ๆ มหาลัย เป็นการขอความร่วมมือกึ่งบังคับ (ด้วยน้ำเสียง)......กำลังนั่งฟังเพลิน ๆ อีนันก็สะกิดให้ผมดูนักศึกษาผู้ชายคนนึงที่กำลังเดินเข้ามาใหม่.....
“.....ใครวะ....หน้าคุ้น ๆ .....” ผมพยายามนึก
“.....ก็ไอ้คนที่มันขับรถจะชนพวกเราเมื่อเช้าไง.....” อีเต็มมองตาเยิ้ม
“.....หล่อเนอะ แต่กูว่าดูแปลก ๆ ยังไงไม่รู้......” ผมพูด พวกเพื่อนผมเริ่มมองอย่างพิจารณา
“.....กูว่าอีแอบ....” กุ้งโพล่งออกมา ตอนนั้นคนอื่นเงียบกันหมด เสียงอีกุ้งดังพอที่จะทำให้เจ้าตัวคนที่กำลังโดนเม้าธ์หันมามองที่กลุ่มผม ด้วยสายตาเหมือนมองลงมาจากหลังม้า
“.....มองแบบนี้.....เพื่อนสาวแน่นอน.....อ๊ะ ๆ มีค้อนด้วย.....” อีเต็มเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ พวกผมต้องปรามให้มันเบา ๆ
“.....น้องที่เข้ามาใหม่ อย่าเพิ่งไปนั่ง มานี่ก่อน.....” รุ่นพี่เรียกไอ้หน้าขาวคนนั้นให้ออกไปยืนข้างหน้า “.....น้องสองคนนั้นด้วย......” พี่คนเดิมชี้มาที่ผมกับกุ้ง เราลุกแล้วเดินออกไปอย่างงง ๆ ตามด้วยผู้ชายและผู้หญิงอีก 6-7 คน ไอ้แว่นนั่นก็โดนเรียกเหมือนกัน เค้าออกมายืนข้าง ๆ ผม เรายิ้มให้กันอีกแล้ว......
“......น้องที่อยู่ข้างหน้านี่......พี่ขอชื่อไว้ก่อน เย็นนี้พี่ขอคุยเป็นการส่วนตัว” พี่คนนั้นพูดเสียงจริงจัง ผมยิ่งกังวลว่าทำอะไรผิดไปหรือเปล่า มีพี่อีกหลายคนมาช่วยกันจดชื่อจริง ชื่อเล่น เบอร์โทรศัพท์ เบอร์เพจ เสร็จแล้วปล่อยไปนั่งที่เดิม ไม่ถึง 10 นาที รุ่นพี่ก็สั่งให้ลุกขึ้นยืน
“.....เอาล่ะ.....น่าจะครบแล้ว.....เดินตามพี่ไปหอประชุมเลยละกัน......” พวกผมเดินชักแถวไปอย่างเป็นระเบียบ
........หอประชุมอลังการมาก เหมือนในโรงหนังเลย เก้าอี้หนานุ่ม เอนหลังได้แทบจะกลายเป็นนอนฟังอาจารย์พูด แอร์เย็นเฉียบ บรรยากาศน่าหลับมาก แต่ผมหลับไม่ลงหรอกครับ ข้างซ้ายนั่งติดกับอีกุ้งที่คอยหาเรื่องคุย ส่วนที่นั่งติดกับผมอีกด้านดันเป็นไอ้แว่นคนนั้นอ่ะดิ อาการเขินที่ห่างหายมานาน กลับมาแล้วครับ นั่งเกร็ง พยายามไม่ให้แขนไปโดนเค้า ไม่กล้าคุย ไม่กล้าทัก ดีนะที่ไฟในห้องมืดมาก ผมได้แต่แอบมองโครงหน้าหล่อ ๆ มองแว่นบนสันจมูกโด่ง ๆ ตอนที่เค้าเผลอ เค้าอาจจะรู้สึกตัวมั้งว่ามีคนมอง หันมาปุ๊บ ผมก็หลับตาปั๊บ.......ฟังไปฟังมาเริ่มง่วงจริง ๆ ซะแล้ว ไอ้แว่นนั่นก็กระพริบตาถี่ ๆ สักพักก็หลับยาว ผมก็เคลิ้มไปหลายที พอนั่งพิงได้ตำแหน่งเหมาะ ๆ ผมก็หลับไปในที่สุด........
“......เอ้.....ตื่นได้แล้ว......” กุ้งเขย่าแขนผมเบา ๆ ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมา เย็นสบายเหมือนนอนอยู่บ้านเลย แต่เอ๊ะ ใครพิงหัวกูเนี่ย ผมขยับตัวแรงขึ้น ไอ้แว่นคนนั้นก็ลืมตามองหน้าผม ในระยะประชิดขนาดนี้ ถึงมืดก็เถอะ ผมเขินมาก ๆ คนอะไรวะ น่ารักชิบหาย
“.....ขอโทษครับ.....” เค้ายิ้มให้ผม
“.....ไม่เป็นไร....” ผมตอบเบา ๆ ได้ยินอีพวกนั้นทำเสียงหมั่นไส้
“....ไปคณะเลยมั๊ย....” อีกุ้งชวน จริง ๆ แล้วตั้งใจชวนไอ้แว่นนี่ต่างหาก เค้าพยักหน้าพร้อมกับผม พวกเราลุกขึ้นเดินออกไปนอกหอประชุมพร้อมกัน
.......ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นประตู พวกรุ่นพี่ก็ต้อนหน้าต้อนหลัง เหมือนกลัวพวกผมจะหนี.....ในที่สุดก็ถึงคณะ พี่ ๆ หาข้าวกล่องให้พวกผมกินกัน ไม่ต้องเดาเลย กระเพราไก่ ไข่ดาวสุก ๆ ตามระเบียบ ไม่เป็นไรครับ พวกผมกินง่ายอยู่ง่าย อีเต็มขอเบิ้ลด้วย แต่ดันกินไม่หมด พวกเราต้องช่วยกันกิน......
“......มาจากโรงเรียนเดียวกันเหรอครับ....” ไอ้แว่นที่นั่งใกล้ ๆ ถาม
“....เปล่าครับ....เพิ่งมารู้จักกันที่นี่.....” กุ้งตอบ
“....โห....ดูสนิทกันดีนะครับ.....” เป็นใครก็คงแปลกใจที่เห็นพวกผมเข้าขากันขนาดนี้
“....แล้ว....ชื่ออะไรครับ.....” อีเต็มถาม
“....โมทย์ครับ....”
“.....จบมาจากไหนครับ.....” อีเต็มซักต่อ
“.....xxxxx…. สอบเทียบมาอ่ะ”
“.....อ้าวรุ่นน้องเหรอ.....” อีนันทำเสียงผิดหวัง แต่อีเต็มตาลุก
........ยังไม่ทันที่จะได้คุยหาข้อมูลมากกว่านี้ รุ่นพี่ก็แจกป้ายห้อยคอคนละ 1 อัน และให้ปากกาเมจิกหัวแถว สั่งให้เขียนชื่อตัวใหญ่ ๆ ถามว่าใครมีโรคประจำตัว และให้ป้ายแบบพิเศษ รุ่นพี่ให้เวลาพวกผมทำความรู้จักกัน ก่อนจะพาเดินรอบมหาวิทยาลัย พวกผมเดินร่อนไปคุยกับคนนั้นที คนนี้ที แต่มีอยู่คนเดียวที่ไม่สุงสิงกับใคร ไอ้ไฮโซเมื่อเช้า นั่งเชิดอยู่ไม่ไกลจากพวกผม มองป้ายชื่อมันก็รู้ว่าชื่ออะไร แต่พวกผมพร้อมใจกันเรียกมันว่า “อีแอ๊บ” เวลาต่อมาท่ามกลางผู้คน ผมจะใช้ชื่อ “น้องเปิ้ล ย่อมาจากแอ๊บเปิ้ล” แทนตัวมัน เพื่อสะดวกในการเม้าธ์ระยะเผาขน บ่อยครั้งที่เราสบตากัน แต่เป็นสายตาที่เฉยเมย ไม่มีแววของความเป็นมิตร.....สักพักรุ่นพี่ก็บอกว่าให้นั่งเข้าแถวกันเหมือนเดิม และแจกกระดาษ ส่วนปากกาพวกเรามีกันอยู่แล้ว.....คำสั่งต่อไปคือให้เขียนชื่อเพื่อนเท่าที่จำได้ ห้ามมั่ว เพราะรุ่นพี่รายชื่อเด็กปี 1 ในสาขาทุกคน ใครได้น้อยที่สุดจะต้องโดนทำโทษ หลังจากที่กลับมาจากเดินรอบมหาวิทยาลัย......พวกผมก็ยิ้มสิครับ แอบลอกกันบ้าง ผมเหลือบตาไปเห็นอีแอ๊บนั่งหน้าเครียด แต่ยังดีที่มีกลุ่มชะนีไฮโซมาคุยด้วย......
.......กลับจากเดินรอบมหาวิทยาลัย ร้อนมาก เมื่อยด้วย พักแป๊บนึง แล้วก็ให้นั่งเข้าแถวเหมือนเดิม......ต่อไปจะเป็นการทำโทษคนที่ได้ชื่อเพื่อนน้อยที่สุด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีแอ๊บ.....รุ่นพี่เรียกมันให้ออกมาข้างหน้า มันก็ไม่ลุกครับ พี่ว๊ากจึงต้องมาตะคอกใกล้ ๆ มันถึงได้ลุกออกมาแบบไม่เต็มใจ.......รุ่นพี่สั่งให้มันเต้นท่าประหลาด ๆ มันก็ไม่ยอมเต้น......มีไอ้พวกผู้ชายห่าม ๆ ที่เริ่มจะเข้าขากัน ตะโกนแซวเป็นระยะ พวกผมก็หัวเราะกันสนุกสนาน แม้แต่โมทย์ยังนั่งอมยิ้มมองท่าเต้นที่รุ่นพี่สั่งให้อีแอ๊บทำ......
“......เอ้า.....สี่คนนั้นน่ะ มัวแต่ขำเพื่อน ออกมาเต้นด้วยกันเลย.....” ซวยแล้วกู โดนตั้งแต่วันแรก พวกผมมองหน้ากันงง ๆ แต่ก็ออกไปโดยดี
“.....ทำอย่างนี้นะ......” รุ่นพี่สอน อีเต็มเอาก่อนเลยครับ พวกผมเริ่มสนุกด้วย เอาก็เอาวะ ถอยไม่ได้แล้วนี่หว่า......เป็นที่ฮือฮามาก อาการอายไม่มีในกลุ่มผมครับ.....ยิ่งพวกผมกล้าเท่าไหร่ พี่ ๆ ก็ยิ่งกดดันอีแอ๊บเท่านั้น.....ในที่สุด อีแอ๊บก็ต้องเต้นทั้ง ๆ ที่หน้าหงิกหน้างอ แสดงทีท่าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“......พวกนั้นด้วย.....ออกมา......ซ่านัก.....” รุ่นพี่เรียกกลุ่มผู้ชายที่ค่อนข้างจะเกเรออกมาร่วมวงด้วย......
.........ยิ่งกล้ายิ่งสนุกครับ เสียงกลอง เสียงร้องเพลง เสียงเชียร์ เสียงกรี๊ด จากรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันดังลั่น พวกผมปล่อยลูกบ้าออกมาเกินค่าตัว ซักพักรุ่นพี่ต้องบอกให้กลับไปนั่งที่......ต่อไปเป็นการแนะนำตัวของรุ่นพี่ และการพูดถึงการเรียนในมหาลัย ความสำคัญของการรับน้อง การแต่งกาย การปฎิบัติตัวต่ออาจารย์ และรุ่นพี่ รวมทั้งการนัดแนะเวลาในการรับน้องเมื่อถึงวันเปิดเทอมจริง ๆ วันนั้นรุ่นพี่ปล่อยให้กลับบ้านตอนเกือบ 4 โมงเย็น......แต่คนที่พี่เรียกเมื่อตอนกลางวันต้องอยู่ต่อ ผมกับกุ้งเดินไปที่โต๊ะของพี่คนนั้น เพิ่งสังเกตว่ามีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย......เมื่อเช็คชื่อครบแล้ว พี่จึงบอกเหตุผลที่เรียกพวกผมมา เค้าให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของสาขา เพื่อไปแข่งกับสาขาอื่นของคณะบริหารธุรกิจในวันกีฬาเฟรชชี่......พี่ ๆ พยายามหว่านล้อม ผมมองหน้ากุ้งเป็นเชิงปรึกษาว่าจะเอาดีมั๊ย......ใจนึงก็อยากอ่ะนะ แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า มีอย่างอื่นให้ทำอีกตั้งเยอะ ไม่ใช่ไม่อยากทำกิจกรรมนะครับ รู้ตัวว่าผมไม่เหมาะ และไม่พร้อมเรื่องมาซ้อม เพราะผมต้องดูแลบ้านทั้งหลัง ยังปรับตัวไม่ได้เลย......ท่าทางกุ้งก็ไม่อยากเป็นลีดเหมือนกัน เรากระซิบกระซาบกันซักพัก......ผมเป็นคนเอ่ยปากปฏิเสธพี่ ๆ ให้เหตุผลว่าไม่ว่าง อีกุ้งบอกเต้นไม่เป็น ทั้ง ๆ ที่มันเคยเป็นลีดมาแล้ว 3 ปีรวดตอนเรียนพาณิชย์.....ตอนแรกพวกรุ่นพี่ไม่ยอม ขู่บังคับพวกผมให้ทำกิจกรรม คงคิดว่าพวกผมจะกลัว หรือเกรงใจ.....แต่ผมกับกุ้งเริ่มโวยวาย วีนกลับบาง จากที่ตั้งใจว่าจะไม่แสดงออกให้ใครรู้ว่าเป็นเกย์ แต่ตอนนี้พวกพี่ ๆ อ้าปากค้างมองผมกับอีกุ้งรวมหัวกันโวย (วิธีนี้น้องใหม่อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าทำนะครับ ต้องมั่นใจว่าเราถือไพ่เหนือกว่า.....ไอ้โยแนะนำมา)......ในที่สุดพี่ ๆ ก็ต้องยอม และยิ้มหัวเราะให้พวกผม 2 คนยังกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังบอกอีกว่าพวกผมกล้าดีพวกพี่ ๆ ชอบ โล่งอก ผมขอตัวกลับบ้าน และหันไปยิ้มให้เพื่อนร่วมรุ่นทุกคน ได้รับรอยยิ้มตอบทันที ยกเว้นอีแอ๊บ......
........ผมกับกุ้งเดินกลับไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ไม่ไกล.....เรานั่งเม้าธ์ถึงวีรกรรมที่เพิ่งทำเมื่อสักครู่ และบอกอีนันกับอีเต็มว่า ต่อไปคงปิดไม่มิดแล้ว พี่ ๆ เค้าต้องรู้ว่าพวกเราไม่ใช่ผู้ชาย 100 เปอร์เซ็นต์......อีพวกนั้นไม่เห็นกังวลอะไรเลย มีผมคนเดียวที่เครียด แต่....เอ๊ะ....เราโตแล้วนี่หว่า ที่บ้านเราก็ใหญ่ที่สุด ไม่ใครฟ้องพ่อแม่เราได้ด้วย เต็มที่ดีกว่า สนุกกับชีวิตมหาลัย ครั้งหนึ่งในชีวิต......ผมยิ้มออก.....พากันเดินหาขนมกิน แล้วไปที่จอดรถ.......
“.......เฮ้ย.....นั่นมันรถอีแอ๊บปะวะ......” อีกุ้งพูดเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงในรถ
“.......น่าจะใช่.......” ผมจำไม่ได้หรอก รถรุ่นนี้มีตั้งเยอะแยะ
“......อีเอ้.....แซงไปดูหนังหน้ามันหน่อยดิ......” อีเต็มยุ ก็ได้ รถว่าง ๆ ไม่อันตราย ผมเร่งเครื่องแซงรถคันข้างหน้า จนรถผมขนาบอยู่ข้าง ๆ
“.....พวกมึงดูดิ.....ไอ้น้องโมทย์มันอยู่ในรถอีแอ๊บ.....มันกลับด้วยกัน......” อีเต็มตีโพยตีพาย เหมือนเห็นผัวไปกับเมียน้อย
“......เห็นเงียบ ๆ อย่างนี้ แรงไม่ใช่เล่น......” อีนันพูดเสียงเรียบ
“.....ตาม....อีเอ้ตาม...... กูอยากรู้ว่ามันไปไหนกัน......” อีกุ้งเผลอสั่งผม
“.....เออ กูจะพยายาม......” แต่ไม่ได้ผลครับ อีแอ๊บมันคงรู้ว่าพวกผมกำลังจะขับตาม มันเหยียบทีเดียวรถพุ่งไปเร็วจนผมตามไม่ทัน อีพวกนั้นได้แต่นั่งบ่นเสียดาย ไม่รุ้ว่าเสียดายที่ตามไม่ทัน หรือเสียดายน้องโมทย์
......หลังจากที่ตระเวนส่งพวกมันจนครบ......อารมณ์เหงามันก็เข้ามาอีกแล้วครับ เกลียดจริง ๆ ช่วงเย็นวันอาทิตย์เนี่ย.....มองแดดอ่อน ๆ มองคนที่เดินข้างทาง มองคู่รักที่ซ้อนมอไซค์พากันไปเที่ยว.....เมื่อก่อนไอ้วุธกับผมก็ขี่รถเล่นกันเวลานี้ประจำ.....ตอนนี้มันเป็นยังไงมั่งก็ไม่รู้......แต่ลึก ๆ ดันไปคิดถึงไอ้โมทย์ที่นั่งรถไปกับอีแอ๊บ มันจะไปถึงไหน ไปทำอะไรกัน.....จะว่าอิจฉาก็ไม่ใช่.....เสียดายผู้ชายหน้าตาดีมั้ง......
.......เหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะเปิดเทอมแล้ว ตื่นเต้นจังเลย คุยกับไอ้โยทุกวันตอนดึก ๆ ปรึกษาเรื่องรับน้องซึ่งผมกลัวที่สุด และเพิ่งจะทำเรื่องเอาไว้ ไม่รู้พี่ ๆ จะเกลียดขี้หน้าหรือเปล่า.....ไอ้โยคอนเฟิร์มจากประสบการณ์การเป็นรุ่นพี่ มันบอกว่าพี่ ๆ เค้าไม่ถือสาอะไรหรอก อาจจะมีการแกล้งพวกผมเป็นพิเศษ แต่มันมั่นใจว่าพวกผมจะต้องเป็นขวัญใจของรุ่นพี่แน่ ๆ.......
.......ไม่มีอะไรทำเลยครับ....อยู่บ้านก็เบื่อ เพื่อนพาณิชย์ก็เปิดเรียนกันแล้ว......นึกได้ว่ายังมีพี่มิ้นท์อีกคนที่ผมไม่ได้เจอซะนาน อยากไปหา ไปคุยถึงเรื่องที่ติดค้างกันไว้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าผมไม่รู้ว่าบ้านพี่แกหลังไหน รู้แค่ว่าใกล้ ๆ บ้านไอ้วุธ เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี.....จะเข้าไปแถวนั้นได้ยังไง เอารถไปก็กลัวเจอไอ้วุธ มันต้องจำรถแม่ผมได้แน่ เพราะเคยช่วยกันล้างมาก่อน......เอามอไซค์ไปดีกว่า ใส่หมวกกันน๊อค ใส่เสื้อกันลมซะหน่อย มันอาจจะเข้าใจว่าเป็นน้องชายผมก็ได้.....แต่ถ้ามันเข้ามาทักล่ะ.....โอ๊ย ผมคิดไปสารพัด.....สุดท้ายก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่ซวยขนาดเจอมันหรอก........
........ตอนค่ำ ๆ ผมคิดว่าพี่มิ้นต้องกลับมาแล้วแน่ กลับมาซื้อข้าวบ้านไอ้วุธ......ผมขี่มอไซค์ไปจอดซุ่มอยู่ในซอย หมวกกันน็อคก็ไม่ถอด คนเดินผ่านไปผ่านมามองผมแปลก ๆ ชักเริ่มอาย ตัดสินใจถามคนแถวนั้นว่าบ้านพี่มิ้นท์อยู่ไหน ไม่มีใครรู้จัก ผมนึกได้ว่า อีพี่มิ้นฺท์ ชื่อจริง ๆ เค้าชื่อแมน ผมเลยถามใหม่ ทีนี้เค้าร้องอ๋อเลย บอกทางไปบ้านพี่มิ้นท์อย่างละเอียด ผมฝากมอไซค์ไว้แล้วเดินเข้าไป ไอ้วุธมันคงไม่เดินมาแถวนี้หรอก ป่านนี้มันก็ใกล้จะปิดร้านแล้ว.....เมื่อตอนขี่รถผ่านบ้านมัน ผมไม่กล้าหันไปมองเลยครับ กลัวมันเห็นผม กลัวก๊อกแตกเมื่อเห็นหน้ามันด้วย.......บรรยากาศเดิม ๆ มันทำให้ผมยิ่งคิดถึงมันมากขึ้น......ต้องหักห้ามใจตัวเองอย่างแรงที่จะไม่คิดเรื่องมัน.......
........บ้านพี่มิ้นท์เป็นบ้านเช่า เข้าซอยไปไม่ลึกนัก ในบ้านเปิดไฟสว่างโร่ มีคนอยู่แน่นอน มองหาออดจะกดเรียก ไม่มีอ่ะ ตะโกนเรียกก็ได้วะ......
“.......พี่มิ้นท์.......อุ๊ย......ไม่ใช่.......พี่แมน.....พี่แมน.......” ผมเกาะรั้วเรียกด้วยเสียงที่เข้มกว่าปกตินิดนึง
“......ใครวะ......” เสียงอีพี่มิ้นท์ตะโกนออกมาจากข้างใน สักพักก็โผล่หัวออกมา “.....เฮ้ย.....เข้ามาดิ ประตูไม่ได้ล็อค......” อีพี่มิ้นท์ยิ้มแฉ่ง ผมเปิดประตูเหล็กออก แล้วแทบวิ่งเข้าไปหา
“......ใครมาอ่ะพี่......” ผมเงยหน้ามองตามเสียงคุ้น ๆ ขณะถอดรองเท้าหน้าบ้าน
“....................” เงียบ......ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงสายตาที่ประสานกัน มีความรู้สึกหลาย ๆ อย่างในแววตาคู่นั้น มันยังดูหล่อเถื่อน ๆ เหมือนเดิม ผมยาวขึ้นกว่าเดิม แต่ดูล่ำขึ้น อีออยคงเลี้ยงดี
“......วุธ......” ผมพูดกับตัวเองเบา ๆ ผมเห็นปากมันขยับเป็นชื่อผมเหมือนกัน
“......มัวแต่มองกันอยู่นั่นแหละ.....จะยืนคุยกันตรงนี้หรือไง....” พี่มิ้นท์ทำลายความเงียบ
“.....เอ้กลับก่อนดีกว่าพี่.....” ผมพูดกับพี่มิ้นท์เสียงเรียบ ไม่มองหน้าไอ้วุธอีก
“.....อ้าว....ทำไมล่ะ.....ขึ้นมากินน้ำก่อนดิ.....” อีพี่พิ้นท์มันโง่จริงหรือแกล้งโง่เนี่ย กูไม่อยากเห็นหน้าไอ้วุธ
“.....ไม่อ่ะ.....วันหลังมาใหม่นะ......” ผมฝืนยิ้มให้พี่มิ้นท์
“.....เออ ๆ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง.....” อีพี่มิ้นท์เดินลงมาใส่รองเท้า “.....เฝ้าบ้านด้วยนะ.....” แกหันไปสั่งไอ้วุธ
“.....มีธุระอะไรหรือเปล่าเอ้.....”
“....ไม่มีหรอกพี่.....แค่เบื่อ ๆ ก็เลยมาหา.....” คันปากยิบ ๆ อยากถามว่าไอ้วุธมันมาทำอะไรที่บ้านชี แต่ถามไม่ได้ กลัวเค้าเข้าใจผิดว่าผมหึง
“.....ไอ้วุธมันเข้าไปคุยประจำแหละ นี่ยังไม่หายงอนมันอีกเหรอ.....” แหม เหมือนรู้เลยว่าผมคิดอะไร แต่ผมไม่ได้งอนไอ้วุธนะ เค้าเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าโกรธย่ะ ผมเถียงในใจ......ถ้าตอนที่มันยังคบกับผมอยู่ ผมคงหึงอ่ะนะ แต่นาทีนั้น ไม่เลย....เราเดินคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันจนถึงหน้านที่ผมจอดรถไว้
“.....พี่มิ้นท์.....นี่เบอร์เพจเอ้ มีอะไรก็เพจมานะ.....” ผมล้วงกระเป๋าหยิบปากกากระดาษ ก้มลงจดเบอร์ที่เบาะมอไซค์ พี่มิ้นท์รับไปดู แล้วพับใส่กระเป๋า “.....แล้วไม่ต้องเอาเบอร์เอ้ไปแจกใครนะ......” ผมกำชับ ผมแน่ใจว่าเค้ารู้ว่าผมหมายถึงไอ้วุธ.....
“.....จ้า.....กลับบ้านดี ๆ นะ......” พี่มิ้นท์โบกมือให้ ผมขี่มอไซค์ไปช้า ๆ หมวกกันน็อคห้อยไว้ที่แฮนด์ สมัยนั้นไม่เข้มงวดกับหมวกกันน็อคอ่ะครับ
.......ปลายเดือนพฤษภาคม อากาศร้อนอบอ้าว ฟ้าแลบเป็นระยะอยู่ไกล ๆ อีกสักพักฝนคงตก.....ผมขี่รถกลับบ้านชิดเลนซ้ายตลอด ไม่มีการแซง ในหัวมีแต่หน้าไอ้วุธลอยไปลอยมา ผมไม่น่าไปเจอมันเลย กำลังจะทำใจให้ลืม พอเห็นหน้ามัน ก็ยิ่งรู้ตัวว่าลืมมันไม่ลงแน่ ๆ มีอยู่แค่ทางเดียว คือ หาคนใหม่มาแทนมัน (นี่เป็นความคิดของคนที่อายุ 17 ย่าง 18 นะครับ)


nartch

  • บุคคลทั่วไป
3 Little War

.........การรับน้องไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่คิด สนุกมาก ๆ ได้รู้จักคนเยอะแยะ ถึงจะจำชื่อได้ไม่หมดก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็จำหน้าได้ รู้ว่าคนนี้เรียนสาขาเดียวกับเรา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ซักวันเราอาจจะต้องพึ่งพาพวกเค้าก็ได้.......
.......โดนมาหมดแล้วครับ ไอ้ท่าเต้นน่าเกลียด เพลงอุบาทว์ การลงโทษที่ทำให้ผมต้องหน้าด้านกว่าเดิม.....เรียกว่าการรับน้องนี่เป็นการดึงเอาตัวตนที่แท้จริงของคนออกมาให้ได้เห็นกัน สปิริต คือเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าเพื่อนทำได้ ผมต้องทำได้เช่นกัน......โชคดีที่เพื่อนของผมเป็นประเภทลุย ๆ เหมือนกัน ถ้าเข้าขาครบแก้งค์กันเมื่อไหร่ การรับน้องเย็นนั้นจะมีสีสันขึ้นมาทันที......หลัง ๆ มานี่รุ่นพี่จะพยายามให้พวกผมกระจายตัวกันไปแถวอื่น ให้รู้จักคนอื่นมากขึ้น......แต่ผมซวยที่สุด เพราะต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับอีแอ๊บ และโมทย์.....
.......เย็นนี้ หลังการว๊าก และเล่นอะไรกันนิดหน่อย รุ่นพี่พาพวกผมเดินไปเข้าห้องเรียนรวมขนาดใหญ่......ในนั้นมีรุ่นพี่เยอะมาก ๆ มีทั้งที่จบไปแล้ว และทุกคนตั้งแต่ปี 2 ถึงปี 4 สงสัยอยู่ไม่นาน พี่เค้าก็เฉลยว่า วันนี้จะมีการจับน้องรหัส และประชุมเรื่องไปรับน้องต่างจังหวัด......โห โคตรตื่นเต้นเลย ในใจแอบคิดอยู่ลึก ๆ ว่าอยากได้พี่รหัสหล่อ ๆ เผื่อจะได้มีใครสักคนที่ทำให้ผมลืมไอ้วุธ.......
........ฝันเป็นจริง......พี่รหัสผมเป็นคนที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่เข้ารับน้องวันแรก เสียงกรี๊ดดังถล่มถลาย หนึ่งในนั้นเป็นเสียงอีกุ้ง ผมจำได้แม่น พี่รหัสผมหล่อเนี้ยบไปทั้งตัว หลับตามองก็รู้ว่าเป็นเกย์ คราวนี้คงลืมได้วุธได้แน่ ๆ....... แต่ฝันของผมก็ต้องพังทลาย เพราะหลังจากที่ได้พี่รหัสน้องรหัสกันเรียบร้อย พี่ว๊ากก็บอกกฎเหล็กว่า ห้ามพี่รหัส และน้องรหัสเป็นแฟนกัน......ผมได้แต่นั่งทำใจ เสียดายชิบเป๋ง แต่ไม่เป็นไร คิดซะว่า คบกันแบบพี่น้องคงยาวนานกว่า......
“.......ต่อไปจะเป็นเรื่องการรับน้องต่างจังหวัด ปีนี้เราจะไปกันที่ระยอง พี่ขอความร่วมมือให้น้อง ๆ ไปกันทุกคน ปีนึงมีครั้งเดียว.....เราจะค้างที่นั่น 1 คืน ไปเช้าวันเสาร์นี้ กลับวันอาทิตย์.....ถ้าใครไม่มีปัญหาอะไรก็ลุกขึ้นมาลงชื่อตรงนี้เลย......” สิ้นเสียงพี่คนนั้น ผมก็มองหน้าเพื่อนในกลุ่มที่ตอนนี้โดนแยกไปนั่งอีกแถวนึง.......เสียงคุยกันดังมาก มีคนทยอยเดินออกไปลงชื่อหน้าห้อง ผมอาศัยช่วงชุลมุน ลุกขึ้นไปนั่งกับกลุ่มผม......ปรึกษากันว่าจะไปหรือเปล่า พวกพี่เค้าไม่ได้บังคับนี่นา.......คุยกันสักพัก ก็ตกลง เอาไงเอากัน ไปก็ไป (วะ)
“.....ดีมากเอ้......” พี่รหัสผมยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง มองพวกผมลงชื่อไปรับน้อง
“.....พี่ก้องดูแลเพื่อนผมดี ๆ ด้วยละกัน.....” อีกุ้งปากไวแซวพี่เค้า
“.....ได้สิครับ.....พี่จะดูแลอย่างดีเลย.....” พี่ก้องพูดกับผม แต่มองอีกุ้ง หมายความว่าไงเนี่ย.....อีกุ้งหลบตาวูบ
“.....กุ้ง....กูว่าพี่เค้าแปลก ๆ นะ....” ผมพูดขณะเดินกลับไปนั่งที่
“....ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย.....” อีกุ้งพูดเสียงเรียบ แต่หน้าแดงเชียว
“....เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าแปลกหรือเปล่า.....เดินมานี่แล้ว.....” เพื่อนผมฉีกยิ้มให้พี่ก้องเต็มที่ ยกเว้นอีกุ้งที่นั่งมองไปทางอื่น
“.....เย็นนี้รีบกลับบ้านหรือเปล่าครับ.....”
“....ถามใครอ่ะพี่....” อีเต็มกวน
“.....เออ.....พี่ว่าจะชวน......เอ้ไป.....ไปกินข้าว.....พี่รหัสคนอื่นก็พาน้องไปกินอย่างนี้แหละ.....” พี่ก้องพูดติด ๆ ขัด ๆ
“.....โห....ทำไมพี่ผมไม่เห็นชวนอย่างนี้เลยล่ะ.....” อีนันพูดยิ้ม ๆ
“.....อาจจะเป็นวันหลังก็ได้.....” พี่เค้าแก้ตัวให้เพื่อน
“.....เฮ้ย.....นัน.....เต็ม.....เย็นนี้ไปกินกับพี่.....อย่าหนีไปไหนนะ......” พี่ก้องยังแก้ตัวไม่จบ พี่รหัสของนันกับเต็มก็ส่งเสียงชวนไปกินกับพวกเค้า คาดว่าน่าจะเป็นกินเหล้าซะมากกว่า ก็พี่เค้าเถื่อนจะตาย ......อีสองคนนั่นพยักหน้ารับแบบไม่ต้องคิดเลย
“.....อ้าว.....ไปกันหมดเลย.....แล้วกูล่ะ......” อีกุ้งพูดงอน ๆ
“.....พี่รหัสของกุ้งไม่ว่างเย็นนี้อ่ะ.....งั้นไปกับพี่ก็ได้นะ.....” พี่ก้องชวน
“.....รู้ได้ไงพี่.....”
“.....ก็เค้าฝากกุ้งกับพี่แล้วอ่ะดิ.....” เพื่อนผมอึ้ง
“.....เออ ๆ ไปด้วยกันเถอะ หลายคนสนุกดี.....” ผมกระทุ้งมัน
“.....ไม่ไป.....” ผมรู้ว่าอีกุ้งเขิน
“....มึงจะให้กูไปกับเค้าสองคนได้ยังไง....ไปเป็นเพื่อนกันเลย.....” ผมกระซิบแกมบังคับ อีกุ้งมองหน้าผม ก่อนที่มันจะปฏิเสธครั้งที่สอง ผมหันไปตกลงกับพี่ก้อง
“.....โอเคพี่.....ไปกันสามคนนี่แหละ.....”
“.....ครับ.....เลิกแล้วเจอกันที่โต๊ะนะ.....” พี่เค้าหมายถึงโต๊ะประจำของสาขา
“.....อ้าว....ทำไมไม่ไปล่ะ......” อีว๊ากพูดเสียงดัง ขณะพวกผมกำลังเม้าธ์กันอยู่ ต้องหยุดเพื่อหันไปดูว่าแกหมายถึงใคร
“.....ไม่อยากไปครับ.....” อีแอ๊บนี่เอง
“.....มีอะไร ทำไมไม่อยากไป....หา.....” พี่เค้ายังเซ้าซี้ ก็คงเหลือแต่มันล่ะมั้งที่ยังไม่ลงชื่อ
“.....ไม่อยากไปร่วมกิจกรรมกับคนบางคน.....” อีแอ๊บพูดเสียงเรียบ แต่ในห้องตอนนี้เงียบกริบ ทำให้ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่อย่างชัดเจน
“.....ใคร.....” พี่ว๊ากถามต่อ.....อีแอ๊บไม่ตอบ แต่ปรายสายตามาทางพวกผม คนอื่นไม่รู้คิดอะไร แต่สำหรับผม หน้าร้อนวูบ
“.....ใคร.....มีปัญหากับใคร......” พี่เค้ามองตามสายตา ถ้าเค้าไม่เซ่อเกินไปนัก เค้าต้องรู้ว่าใคร
“.....เอ้....เหรอ.....” มันพยักหน้าช้า ๆ
“....อ้าว....อีดอก.....กูไปทำอะไรให้แม่งวะ.....” ผมพูดเสียงดัง
“....เฮ้ย...เอ้....ใจเย็น ๆ .....” อีนันจับมือผม เสียงฮือฮาดังขึ้นกลบเสียงที่พี่เค้าคุยกับอีแอ๊บ คุยกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ ซักพัก อีแอ๊บก็ยอมลงชื่อไปรับน้อง
“.....มีปัญหาอะไรกันเหรอ....” พี่ก้องถามระหว่างรอพี่เค้าเปิดประตูรถไล่ความร้อนจากการจอดรถตากแดดไว้ทั้งวัน
“.....ไม่รู้ดิ....เอ้ยังไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย....” ผมตอบเสียงหงุดหงิด
“....เออ....ไม่ต้องคิดมาก.....กินอะไรกันดีล่ะ.....” ตกลงถามใครกันแน่วะ ผมเป็นน้องรหัสนะ แต่มองไปข้างหลังเหมือนถามอีกุ้ง
“.....พี่อยากกินอะไรอ่ะ....” ผมถามกลับ
“......ตามใจเอ้เถอะ....” แน่ะ เอาอีกแล้ว พูดกับผมแต่มองอีกุ้ง อย่างนี้ต้องแกล้งซะหน่อย
“.....ไปร้าน XXXX ร้านประจำเอ้ดีกว่า อร่อยดี ไม่แพงด้วย ป่านนี้เปิดแล้วหละ....ดีปะวะ....” ผมหันไปถามกุ้ง มันได้แต่พยักหน้า “.....มึงจำทางได้ใช่ปะ.....” ผมถามอีก มันก็พยักหน้า ไม่พูดอะไร
“.....งั้นมึงไปกับพี่ก้องนะ.....จะได้ไม่ต้องขับตามกัน เดี๋ยวพี่เค้าหลงทาง.....” ผมรีบเดินจ้ำ ๆ ไปที่จอดรถตัวเอง ไม่รอฟังเสียงอีกุ้งโวยวาย
......เห็นเพื่อนมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วย....ไม่รู้ว่าระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันสองคน เค้าคุยอะไรกันบ้าง พอลงมาจากรถ เป็นคนละเรื่องกับก่อนขึ้นรถเลย......เล่นคุยกันอยู่สองคน เหมือนรู้จักกันมานาน......ผมเป็นน้องรหัสนะ.....ผมแอบแซวเป็นระยะ พี่ก้องถึงได้รู้ตัว....หัวเราะแฮ่ ๆ กินข้าวไปคุยเรื่องเรียน เรื่องรับน้อง พี่ก้องให้คำแนะนำดี ๆ หลายอย่าง.....จากตอนแรกที่ผมเข้าใจว่าเค้าเป็นคนขี้เก๊ก ประมาณว่าหล่อแล้วเก๊ก.....พอได้มาคุยกันอย่างนี้แล้ว เค้าน่ารักมาก take care พวกผมดีมาก แต่ทำไมต้องตักกับข้าวให้อีกุ้งด้วยก็ไม่รู้ แล้วทำไมไม่ตักให้ผมบ้าง......สงสัยไปงั้นแหละ ของอย่างนี้มองตาก็รู้แล้ว......
“.....อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ.....ขอบคุณนะครับพี่ก้อง.....เอ้กลับเลยล่ะกัน หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ ตามธรรมเนียมของการรับน้อง อายุไม่ต่างกันมากก็ต้องไหว้
“.....ครับ.....กลับดี ๆ นะ....” พี่ก้องรับไหว้
“....รอกูด้วย....” อีกุ้งร้องเรียก
“....มึงก็กลับกะพี่เค้าดิ.....ทางเดียวกันนี่นา....ฝากเพื่อนผมด้วยนะพี่.....” ผมตั้งใจเป็นพ่อสื่อเลยแหละ พี่ก้องยิ้มให้ผมเป็นทำนองขอบใจ
“.....อ้าว.....ทิ้งเพื่อนเลยนะมึง.....” มันทำท่าจะงอน ผมต้องเดินกลับมากระซิบข้างหูมัน
“.....อย่าบอกนะว่าไม่ชอบ.....โอกาสดี ๆ อย่างนี้หายาก.....ขอให้มีความสุขนะเพื่อน.....” พูดเสร็จก็ตบบ่ามันเบา ๆ อีกุ้งยิ้ม โบกมือให้ผม
........ในที่สุดวันที่ผมรอคอยก็มาถึง......พวกเรานัดรวมตัวกันที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุน ดังนั้นเราจึงนัดกันที่หน้ามหาลัยไม่ได้......ผมหอบสมบัติไปเยอะตามเคย ได้รับคำแนะนำจากไอ้โย และพี่รหัสหลายอย่าง.....โดยเฉาะเรื่องที่ผมกลัวที่สุด คือการให้แต่งตัวเป็นซุปเปอร์แมน เอากางเกงในไว้ข้างนอก นั่นหมายความว่าผมต้องแก้ผ้า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ จะโหดแค่ไหนไม่ว่า แต่เรื่องให้แก้ผ้านี่ยังไงก็ไม่ยอม......โชคดีที่ได้พี่ก้องมาเป็นพี่รหัส พี่เค้าสอนการป้องกันตัวไม่ให้โดนแกล้งแรง ๆ แถมยังแย้ม ๆ ให้ฟังเรื่องฐานต่าง ๆ อีกด้วย พวกผมจึงได้เตรียมตัวกันมาอย่างดี.....เสื้อผ้าเก่า ๆ หนา ๆ เป็นเสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์เก่า ๆ ที่สามารถทิ้งได้ทันทีที่การรับน้องสิ้นสุด.......
......อีแอ๊บสร้างความฮือฮาด้วยการมีรถตู้จากทางบ้านมาส่ง และลงจากรถพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มากกกกกก เหมือนชีจะไปยุโรปซัก 2 เดือน มีแว่นกันแดดยี่ห้อดังคาดผมไว้ อีนี่มันจะไปพักร้อนหรือมันจะไปรับน้องกันวะ พวกผมเห็นก็ขำกันก๊าก ไม่สนใจสายตาจิก ๆ ของมัน......
.......บนรถ......บอกแล้วว่าอย่าให้พวกผมรวมกันได้ ไม่งั้นมันส์......พอรถเริ่มออก เพลงในรถเริ่มดัง.....แรก ๆ ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นเต้น แต่พอได้ยินเสียงกลองที่รุ่นพี่ตีแข่งกับเสียงในลำโพง......พวกผมก็หน้าด้านลุกก่อนใคร ตามมาด้วยพวกฮา ๆ ทั้งหลาย.....รถไปได้ประมาณชลบุรี พวกผมก็เริ่มหมดแรง.....คราวนี้หากิจกรรมอื่นแทน เล่นไพ่ไงครับ ของถนัด......คติประจำใจเดิม ๆ เงินเรากินกัน ความสัมพันธ์เหมือนเดิม......กำลังลุ้นกันเพลิน ๆ รถก็หยุดลงหน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง พี่ ๆ ที่เล่นกันสนุกสนานเมื่อซักครู่เปลี่ยนเป็นคนละคน......สั่งให้พวกผมเก็บของให้หมด แยกของมีค่า กระเป๋าเงิน กล้องถ่ายรูป สร้อยทอง ฝากไว้ที่พี่อีกกลุ่มนึง......ทีนี้หน้าตาของพวกผมก็โดนลิปสติก โดนสีละเลงจนเละไปหมด.......
......ตามคาดครับ กลุ่มผมโดนแยกอีกแล้ว พี่ ๆ จับแยกออกเป็น 10 กลุ่ม ดีอย่างที่ไม่แยกระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง แน่ใจได้เลยว่างานนี้ไม่มีลามก......ผมอยู่กลุ่มสุดท้าย น่าเบื่อมาก เพราะต้องรอต่อคิวไปเข้าฐานจากกลุ่มแรก ๆ แต่ที่สร้างความหงุดหงิดให้ผมมากที่สุดก็คือ พี่ ๆ ตั้งใจให้ผมอยู่กลุ่มเดียวกับอีแอ๊บ ได้แต่หวังว่าผมคงไม่เตะปากอีนี่ซะก่อน......ระหว่างนั่งรอ....ผมเข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว ถึงจะไม่สนิทกันก็เถอะ....ผมเริ่มคุยกับคนโน้นที คนนี้ที เป็นการสร้างความคุ้นเคย ทุกคนก็เฮฮาตามประสาคนวัยเดียวกัน มีแต่อีแอ๊บที่นั่งหน้าเป็นตูดอยู่คนเดียว.....หลายครั้งที่ผมมองไปทางมัน ผมจะเห็นสายตาเชิด ๆ มองผมเหมือนผมเป็นขี้ข้ามัน อารมณ์ขึ้นเอาง่าย ๆ อากาศร้อนด้วยมั้งครับ ตบะแตกขณะที่เหลือกลุ่มผมเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะเข้าฐานแรกต่อไป......
“.....เป็นเหี้ยอะไร.....ถ้าจะมองก็มองดี ๆ หน่อย.....” ผมตะโกนด่ามัน
“....กูไม่ได้มองมึง.....” ผมจะไม่โกรธถ้ามันไม่ต่อด้วย “....ไม่อยากมองให้เสียสายตาหรอก....”
“....ไอ้สัตว์....” ผมเขวี้ยงขวดน้ำพลาสติกที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งนึง เฉียดหน้ามันไปนิดเดียว มันลุกขึ้น ผมก็ลุกเดินไปหามัน
“.....เฮ้ย....เอ้.....พอ ๆ .....” เพื่อน ๆ ดึงแขนผมไว้ ผมจะสะบัดแต่พอเห็นหน้าพวกเค้าแล้วต้องหยุด
“....อะไรกัน....” รุ่นพี่เข้ามาไกล่เกลี่ย แยกผมกับอีแอ๊บไปคนละทาง ดีนะที่ทุกคนเข้าข้างผม พวกเค้าเห็นมาตลอดว่าอีแอ๊บมันมองผมด้วยสายตาอย่างนั้นจริง ๆ และไม่มีใครชอบอีแอ๊บด้วย ในข้อหาที่มันหยิ่ง แถมยังถามผมอีกว่าตกลงแล้วอีแอ๊บนี่มันเป็นผู้ชายเต็มตัวหรือเปล่า ผมไม่ตอบครับ ถึงผมจะไม่ชอบมันก็เถอะ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผมบอกว่าไม่รู้....เรื่องนี้ผมจะคุยกันเฉพาะในกลุ่มผมเท่านั้น
.......ไม่นานนัก พี่ ๆ ก็เรียกให้พวกผมเข้าแถวเตรียมตัวเข้าซุ้ม อีแอ๊บเดินหน้าหงิกเข้ามา ผมมองหน้ามันกวน ๆ มันก็เชิด ๆ ทำเป็นไม่สนใจ......ฐานแรกก็หนักเลยครับ ทั้งเปียก ทั้งเหม็น เป็นอะไรก็ไม่รู้เหนียว ๆ มีเม็ดแมงลักผสมอยู่ด้วย พี่ ๆ ให้จับคู่ ผู้ชายกับผู้ชาย ละเลงตัวเพื่อนให้หมดถัง....ผมได้คู่แล้ว แต่รุ่นพี่ดันจับอีแอ๊บมาคู่กับผม.....เรามองหน้ากันเป็นการหยั่งเชิง.....พอรุ่นพี่บอกให้เริ่ม ทั้งผมและอีแอ๊บก็ล้วง จ้วงกันเต็ม ๆ ผมละเลงหัวมันก่อนเลยครับ เป็นการตัดกำลัง เพราะมันมัวแต่ปาดส่วนที่ไหลเยิ้มมาโดนหน้า พอมันจะละเลงหัวผมบ้าง ผมก็หลบครับ โดนแค่ไหล่ มันก็โน้มตัวผมพยายามจะกดหัวผมให้ได้ ตอนนี้เราสองคนเละไปทั้งตัวแล้วครับ.....มันมัวแต่จะละเลงหน้าผม ไอ้ผมก็หลบไม่ให้มันทำได้ มองไกล ๆ เหมือนคนกำลังทะเลาะกันมากกว่า ส่วนคู่อื่น ๆ เค้าละเลงกันไปก็หัวเราะกันไป พี่ ๆ เค้าก็ลุ้นคู่ผมอยู่ มีเสียงบอกให้หยุด แต่ไม่ทันครับมือผมคว้าถังที่น้ำเหนียว ๆ นั่นไว้ มันใกล้จะหมดแล้วล่ะครับ......พอมันเผลอ ผมก็ยกถังคว่ำครอบหัวมันไปเต็ม ๆ เลยครับ แค่นี้ไม่พอนะครับ ผมตบถังดังปัง อีแอ๊บที่นั่งยอง ๆ อยู่หงายท้องลงไปนอนเลยครับ......เสียงหัวเราะดังลั่น ตามด้วยเสียงตบมือจากพี่กะเทยสาวนางหนึ่ง......อีแอ๊บเอาถังออกจากหัว มองหน้าผมตาแดงกล่ำ โกรธจนตัวสั่น ลึก ๆ ผมก็สงสารมันอยู่นะ แต่ที่ทำตอนนั้นคือยิ้มเยาะเป็นนางมารร้าย......
.......ผมกับมันเดินห่างกัน ไม่มีการมองหน้า ไม่พูดไม่คุย ต่างคนต่างทำกิจกรรม จนถึงฐานที่ 4 เป็นฐานที่ทำให้น้อง ๆ รักกัน ให้ป้อนลูกอมให้กัน แต่ไม่ใฃ่อย่างที่เคยได้ยินกันมานะครับ.....ให้จับคู่ และใฃ้ปากป้อนกัน.....เราก็ใช้ปากเม้มไว้ ไม่ได้อมนะครับ แล้วป้อนให้เพื่อนผู้ชายที่จับคู่ไว้.....หางตาเหลือบไปเห็นอีแอ๊บที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อต้องประกบปากกับผู้ชายด้วยกัน......มันไม่ยอมให้คนอื่นช่วย ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยความสงสาร ผมจึงเดินไปประจันหน้ากับมัน บอกให้มันป้อนผม และผมยังสอนให้มันเม้มไว้แน่น ๆ พอผ่านมาได้ ยังไม่จบครับ พี่ ๆ บอกว่า รักกันก็ต้องจูบกันได้ แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือ กลุ่มผมเป็นกลุ่มสุดท้าย พลาสติกที่เตรียมไว้หมดแล้ว กลุ่มอื่น เค้าจะให้ผู้ชายกับผู้หญิงจูบกันโดยมีพลาสติกบาง ๆ กั้นไว้ แต่สำหรับกลุ่มผม ให้ผู้ชาย กับผู้ชายจูบกัน ปากต่อปาก......โอ๊ย......กำไรชีวิต ผู้ชายทุกคนต่อคิวกันจูบผม แค่จูบนะครับ ไม่ใช่ดูด แค่จุ๊บ ๆ เท่านั้น.....อีแอ๊บทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ พี่ ๆ จึงยกเว้นให้......
“.......เอ้......เรารู้ว่าเอ้ไม่ชอบเรา......เราก็ไม่ค่อยชอบเอ้......แต่ต่อจากนี้ไปเราเป็นเพื่อนกันได้มั๊ย......” ผมงง ที่จู่ ๆ อีแอ๊บก็มาพูดกับผมอย่างนี้
“.....อืม.....เรายังไงก็ได้.......” ผมตอบขณะที่ยังงงไม่หาย อีแอ๊บยิ้ม แล้วยื่นมือมาให้ผมจับ ผมก็ต้องจับมือมันตามมารยาทอ่ะนะ
........ฐานที่เรากำลังจะเข้าต่อไปนี้ คือฐานที่ผมกลัวที่สุด ซุปเปอร์แมน รุ่นพี่ให้พวกผมหาที่เปลี่ยนเอากางเกงในไว้ข้างนอก มองไปรอบ ๆ มีแต่ต้นไม้เล็ก ๆ ปิดยังไงก็ไม่มิด พวกผู้หญิงก็โดนแยกไปอีกทาง.....อีแอ๊บจับมือผม กลางแดดแท้ ๆ แต่มือมันเย็นเฉียบเลยครับ.....ผมลากอีแอ๊บไปอีกทางหาพุ่มไม้เตี้ย ๆ ทำตามที่ไอ้โยสอน ในที่สุดผมก็ใส่กางเกงเสร็จโดยที่ไม่ต้องแก้ผ้าเลย อีแอ๊บมองผมอย่างทึ่ง ๆ ถึงคราวมันต้องทำบ้างแล้ว.....ยังไงมันก็ไม่ยอมแก้ผ้า เสียงพี่ ๆ เร่งแล้ว.....ผมตัดสินใจบอกวิธีที่พี่รหัสผมสอน มันก็ยอมทำแต่โดยดี.......
.......ในที่สุดก็ถึงด่านสุดท้าย เป็นฐานง่าย ๆ ริมทะเล เป็นเหมือนการผ่อนคลายหลังจากโดนมาเต็ม ๆ 10 ฐาน พอรุ่นพี่ปล่อยให้พวกผมลงทะเลล้างเนื้อล้างตัว เล่นน้ำกันตามสบาย....ผมก็วิ่งจู๊ดลงน้ำถอดกางเกงในใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เพื่อไม่ให้อุจาดตา พอล้างสี ล้างสิ่งสกปรกหมด ถึงได้เห็นว่าทั้งเสื้อทั้งกางเกง ไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว ตรงข้อศอก และตรงหัวเข่าเกือบขาด เพราะต้องคลานในหลายฐานที่ผ่านมา......อีแอ๊บก็เกาะติดผมแน่น ช่วยกันล้างตัวอีกต่างหาก เห็นสภาพมันแล้วสงสาร เนื้อตัวถลอกปอกเปิกไปหมด เสื้อกางเกงราคาแพงของมันคงเอาไปเลหลังขายไม่ได้แล้วแน่ ๆ.......
“......เฮ้ย....เป็นไงมั่งมึง.....” อีกุ้งเดินมากับพี่รหัสผม
“.....ก็ดี.....สนุกดี.....” ผมพูดไปเอาทรายขัดสีที่ติดแขนขาออก แสบนะ แต่ต้องทน
“.....เห็นมั๊ย....ไม่มีอะไรซักหน่อย.....” พี่ก้องยิ้ม
“.....กูเอากระเป๋ามึงไปไว้บนห้องแล้วนะ.....พวกนั้นคงกำลังแต่งตัวอยู่.....” กุ้งมันได้อยู่กลุ่มแรกก็เลยได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อนคนอื่น
“.....เอ้.....ขอเรานอนด้วยนะ.....” อีแอ๊บมาจากไหนไม่รู้ อยู่ดี ๆ ก็พรวดพราดเข้ามา อีกุ้งมองงง ๆ
“.....อืม.....ห้องไหนวะกุ้ง....” ผมหันไปถามอีกุ้งที่ทำหน้าเหวอ
“....ห้อง XXX ....” มันตอบอย่างเสียไม่ได้
“.....งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ.....” อีแอ๊บเดินจ้ำ ๆ ไปที่ห้องทันที
“....มึงไปญาติดีกับอีแอ๊.....กับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่.....” อีกุ้งเกือบหลุดชื่อที่พวกเราตั้งให้อีแอ๊บ ก็พี่ก้องยังยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
“....เมื่อกี้นี้เอง.....เค้าก็ไม่มีอะไรหรอก....” ผมตอบไม่เต็มปาก
“.....อีเอ้....อีกุ้ง.....แย่แล้ว.....” เสียงอีเต็มโวยวายก่อนจะวิ่งมาถึงตัวผม อีนันที่เดินเช็ดผมตามมาช้า ๆ
“.....อะไรของมึง.....”
“.....อีแอ๊.....” อีเต็มชะงักเมื่อเห็นพี่ก้อง “.....มีคนไม่ได้รับเชิญเข้าไปในห้องเรา.....” อีเต็มพูดเสียงหอบ
“.....เค้าขอนอนด้วยคืนนึง....” อีกุ้งทำเสียงนุ่ม เป็นนางเอกเชียวนะ
“.....แล้วมึงยอมเหรอ.....” อีเต็มกระฟัดกระเฟียด พี่ก้องมองพวกผมยิ้ม ๆ
“....อืม....เพื่อนกันน่า.....กูไปอาบน้ำมั่งดีกว่า” ผมตัดบท
........สุดยอด.....อีแอ๊บอาบน้ำนานมาก ผมยืนใส่ผ้าขนหนู รอจนตัวแห้งแล้ว เคาะประตูเรียกก็แล้ว มันยังไม่เสร็จซะที.....เสียงรุ่นพี่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้เวลาพวกผมอีก 15 นาที ได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว.....ผมตัดสินใจเดินไปขอห้องข้าง ๆ อาบน้ำ หอบสมบัติส่วนตัวไปด้วย......เสร็จทันภายใน 15 นาที กลับเข้าห้องตัวเองอีกครั้ง เพื่อนผมอยู่กันพร้อมหน้า พยักเพยิดให้ผมดูกระเป๋าอีแอ๊บที่กระจัดกระจาย เหมือนโดนระเบิด มีแป้งแคร์กระป๋องใหญ่ มีไดร์เป่าผมแบบที่ใช้กันในร้านทำผม มีเสื้อผ้าอีกหลายชุด มีกระเป๋าใส่ยาคงเป็นพวกยาแต้มสิว มีเครื่องสำอางประเภทบำรุงผิวก่อนนอน อีกหลายกระปุก.....ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมกระเป๋ามันถึงได้ใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น......

......อีแอ๊บออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเต็มยศ.....นี่มันเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไม่ใช่ที่บ้านนะจ๊ะ แดกเสร็จแล้วนอนเลย.....พวกผมมองมันแล้วแอบอมยิ้ม ไม่มีใครทักท้วง....ปล่อยให้มันเดินลอยชายไปข้างล่างโดยที่กระเป๋ากระจัดกระจายอย่างนั้น......

“......อีเหี้ย.....พวกมึงมานี่เลย.....” เสียงอีเต็มแหกปากร้องดังออกมาจากห้องน้ำ ยังกะจะโดนข่มขืน
“.....อะไรของมึง......ว๊าย.....อีแอ๊บ.....อีเวร......” อีกุ้งกรี๊ดอีกคน
“......โห......กูไม่อยากเชื่อ......นี่ผู้ดีนะเนี่ย.....” อีนันส่ายหน้า สภาพห้องน้ำเขรอะมาก เสื้อผ้าอีแอ๊บกองอยู่ข้างชักโครก เศษทราย สีที่โดนน้ำละลาย กระเซ็นเปรอะข้างฝาไปหมด ทุกคนมองมาที่ผมเป็นตาเดียว
“......เออ ๆ เดี๋ยวกูไปเรียกอีแอ๊บมาจัดการให้.....” ผมเดินลงไปตามหามัน ในที่สุดก็เจอมันกำลังนั่งคุยกับน้องโมทย์สุดหล่อของผมอยู่
“......ตามเราไปห้องหน่อย.....” ผมเรียกอีแอ๊บ
“....มีอะไรเหรอ....” มันไม่ลุก
“.....เออน่า....มาเหอะ.....”
“....พูดตรงนี้ก็ได้....” มันทำท่าเหมือนสั่ง
“.....ก็ได้.....เสื้อผ้าที่กองอยู่ในห้องน้ำน่ะ จะเก็บไปใส่อีกหรือเปล่า.....ถ้าไม่เก็บจะทิ้งนะ....” อีแอ๊บหน้าเสีย
“.....อืม ก็ว่าจะทิ้งอยู่เหมือนกัน แต่ลืมอ่ะ.....ฝากทิ้งด้วยนะ.....” มันลอยหน้าลอยตาพูด
“....โอเค....” ผมกระแทกเสียงตอบ
.......ผมกลับห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด ไม่พูดกับใคร หาถุงที่เตรียมมาจากบ้าน เดินเข้าห้องน้ำ เอาเท้าเขี่ย ๆ เสื้อผ้าของอีแอ๊บให้เข้าถุง เติมน้ำนิดหน่อยให้มันฉ่ำ ๆ ผูกอย่างดี.......
“.... ทำไมมึงต้องเก็บให้มันด้วยวะ.....” อีกุ้งพูดเสียงไม่พอใจ
“.....กูไม่ทำให้มันฟรี ๆ หรอก....”
“.....แล้วมึงจะเอาเสื้อผ้ามันไปไหน.....” อีนันถาม เสียงรุ่นพี่เรียกให้ไปรวมตัวกันที่โรงอาหาร
“.....พวกมึงคอยดูละกัน.....” ผมเดินไปที่ระเบียง ห้องผมอยู่ชั้นสาม มองลงไปเห็นคนทำกำลังทยอยเดินผ่านไปกินข้าว.....ไม่นาน อีแอ๊บก็เดินมาพร้อมน้องโมทย์
“.....เฮ้ย.....ไปกินข้าวเหรอ.....” อีแอ๊บเงยหน้ามามองผม
“.....พี่เรียกแล้ว.....ยังไม่ลงมาอีก เดี๋ยวโดนซ่อมหรอก.....” อีแอ๊บตะโกนพูดกับผม
“....กำลังจะลง.....เก็บของให้อยู่ไง.....เสร็จพอดี......งั้นเอาไปทิ้งเองละกันนะ....” ผมพูดจบก็โยนถุงเสื้อผ้าอีแอ๊บลงไปเลย มันรับไม่ได้อย่างที่คาดไว้ ถุงแตกเสื้อผ้ากระจาย น้ำในนั้นก็กระเด็นเต็มขากางเกงมัน โชคดีที่น้องโมทย์ของผมหลบทัน เสียงกรี๊ดกร๊าดดังทั้งข้างล่าง และบนห้องผม อีพวกนั้นขำกันก๊าก.....อีแอ๊บต้องค่อย ๆ ก้มลงเก็บเสื้อผ้ามันเอานิ้วคีบไว้ ทำท่าเหมือนเป็นขยะสกปรก มันเดินหน้าหงิกเอาไปทิ้งลงถังขยะไม่ไกลจากตรงนั้น........


nartch

  • บุคคลทั่วไป
4 Sweet Destinies

.......ก่อนกินข้าวเย็นมีการเล่นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ซีเรียส พออาหารพร้อม พี่รหัสของทุกคนต้องตักมาให้น้องของตัวเอง......พี่ก้องนั่งยอง ๆ ตรงหน้าผมในมือมีจานข้าวที่มีกับ 2 อย่างราดอยู่.......รุ่นพี่ปี 3 สั่งให้รุ่นน้องป้อนข้าวรุ่นพี่ที่ถือมาให้ เป็นการขอบคุณ.....ไอ้ผมน่ะไม่คิดอะไรหรอก ห่วงแต่อีกุ้งที่ชะเง้อมองซะคอยาวไม่สนใจพี่รหัสผู้หญิงของตัวเอง.....ผมป้อนข้าวให้พี่ก้องคำไม่ใหญ่มากนัก....แกล้งเขินนิดนึงให้กุ้งมันหึงเล่น....พี่ก้องยิ้มหวาน เรามองตากันก็รู้ว่าไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นได้.....พี่ก้องป้อนข้าวผมบ้าง แต่แค่คำเดียวนะครับ ทุกคนเค้าก็ทำกัน.....เราคุยกันนิดนึง พี่เค้าก็ลุกไปกินข้าวกับเพื่อน....ซักพักเค้าก็เดินถือขนมมาให้....ไม่ได้ให้ผมนะ....ให้อีกุ้งโน่น....กูเป็นน้องรหัสนะโว้ย ผมคิดในใจ.....กุ้งเขินจนหน้าแดง ดู ๆ ไปเค้าก็เหมาะสมกันดีนะ พี่ก้องหล่อ ล่ำ กุ้งมันก็น่ารัก ขาว ตี๋.......
.......อิ่มแล้ว ไม่อิ่มไม่ได้ เพราะต้องกินให้หมด ไม่ให้ข้าวเหลือแม้แต่เม็ดเดียว.....คงหิวด้วยมั่ง ผมเลยกินซะเกลี้ยงจาน......พี่ ๆ ให้เวลาพัก 1 ชั่วโมง ระหว่างนี้ให้เตรียมการแสดง เหมือนรอบกองไฟสมัยเรียนลูกเสือ......เอาแล้วไง....ไม่รู้จะเล่นอะไร.....นี่ผมก็อยู่กับเพื่อนในกลุ่มที่เข้าฐานด้วยกัน.....ถึงแม้ตอนนี้จะสนิทขึ้นมาอีกนิดก็เถอะ....แต่ผมยังรู้สึกเกร็ง ๆ อยู่.....นี่ถ้าให้อยู่กับกลุ่มผมล่ะก็....ไม่ต้องคิดนานขนาดนี้หรอก......
......ในที่สุดก็ตัดสินใจให้อีแอ๊บร้องเพลงโชว์ โดยมีเพื่อนผู้ชายอีกคนเล่นกีต้าร์ เพลงสากลซะด้วย.....อีแอ๊บที่เริ่มผ่อนคลาย ดูเป็นผู้เป็นคน ไม่ค่อยเชิดเหมือนเมื่อก่อน รับอาสาร้องเพลงหากินเพลงนี้ด้วยความเต็มใจ......ทุกคนถึงกับฮือฮาเมื่อเห็นว่ามันเป็นคนที่ออกมาเป็นตัวแทนของกลุ่ม.....เพื่อนผมบอกในตอนหลังว่า มันคิดว่าต้องเป็นผมแน่ ๆ ที่ออกมาแสดง แต่ไม่อ่ะ หมดมุขซะแล้ว......ผมก็เพิ่งรู้ว่าเสียงมันก็เพราะเหมือนกัน....อาจจะมีหลงคีย์บ้าง แต่ก็ซึ้งดีในบรยากาศริมทะเลอย่างนี้......
......ใช้เวลาซักพัก การแสดงของทุกกลุ่มก็เสร็จสิ้น.....ผมไม่รู้หรอกว่ากี่โมงกี่ยามแล้ว เพราะไม่มีใครใส่นาฬิกาออกมา แต่คงดึกพอสมควร.....ลมทะเลพัดแรงขึ้น เริ่มหนาวนิด ๆ ยังดีที่มีเสื้อแขนยาวคลุมไว้ อันนี้รุ่นพี่สั่งให้เอามาทุกคน.....ระหว่างนั่งดูการแสดงสนุกบ้าง ฝืดบ้าง สายตาผมก็สอดส่ายไปเรื่อยเปื่อย พยายามไม่มองคู่ของอีกุ้งกับพี่ก้องที่นั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงไม่ไกล......อีนัน กับอีเต็มก็มัวแต่เม้าธ์กับเพื่อนใหม่ในกลุ่ม......ผมมองออกไปข้างนอก เห็นหลายทีแล้วหละว่ามีมหาลัยอื่นมารับน้องที่รีสอร์ตใกล้ ๆ แต่คงจะเป็นเด็กวิศวะซะละมั้ง เพราะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เห็นเดี๋ยววิ่ง เดี๋ยวคลาน เดี๋ยวบูม เสียงดังมาก แต่จับใจความไม่ได้ว่ามาจากไหน......ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกกันอีกเหรอวะ.....มองไกล ๆ ยังเห็นว่าคนพวกนั้นเหนื่อยอ่อนกันแล้ว.....ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมด ถอดเสื้อ ใส่แต่กางเกงยีนส์ ไม่ใส่รองเท้า มีแต่ผ้าโพกหัวเท่านั้นที่สีต่างกัน......นี่ผมเห็นวิ่งไป คลานมา ตั้งแต่ก่อนกินข้าว จนตอนนี้พี่ ๆ เริ่มเข้าสู่พิธีกรรมผูกข้อมือ.....ผมจึงได้ละสายตาจากผู้ชายพวกนั้นมาสนใจกับเทียนที่จุดตรงหน้า.......
......เป็นพิธีที่ดีมาก ๆ ในความรู้สึกผม....รุ่นพี่ให้รุ่นน้องนั่งเป็นล้อมวงกันเป็นวงใหญ่ ตอนนี้ผมได้นั่งกับเพื่อนผมแล้ว......ข้างหน้ามีเทียนพร้อมที่บังลมตั้งไว้......รุ่นพี่จะค่อยๆ เดินเข้ามาทีละคน โดยมาที่น้องรหัสตัวเองก่อน.....ตอนแรกจะเป็นพี่ปีสอง......พี่ ๆ ทุกคนอวยพรให้เรียนจบภายในสี่ปี ให้ข้อคิดหลาย ๆ อย่าง บางคนก็แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ บางคนอยากพูดอะไรก็พูด จะว่าซึ้งก็ซึ้งอ่ะนะ ผมน้ำตาซึมหลายทีเหมือนกัน พี่ ๆ น่ารักมาก ทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่เลย รุ่นพี่จะผูกสายสิญจน์สีขาวให้รุ่นน้อง....ผมให้สายรหัส และพี่คนที่ผมรู้สึกดีด้วยผูกข้อมือขวา ส่วนคนอื่น ๆ ผูกที่ข้อมือซ้าย กว่าจะครบทุกคนตั้งแต่ ปี 2 ถึง ปีสี่ รวมทั้งคนที่จบแล้ว กินเวลานานพอสมควร......
.......จากนี้ไป ใครจะนอนก็นอน ใครจะเต้นก็เต้น ใครจะดริ้งค์ก็เต็มที่ ไม่มีอั้น.....การรับน้องสิ้นสุดลงแล้ว.....เป็นช่วงเวลาสนุกกันแบบพี่น้อง.....เด็กเรียนบางคนก็ขึ้นนอน....ส่วนพวกผมน่ะเหรอ....มือข้างนึงถือเหล้า....อีกข้างลุ้นไพ่.....พอชักมึน ๆ อีเต็มบอกว่าต้องแดนซ์ ไม่งั้นจะเมา.....เอาก็เอาวะ.....เราย้ายที่ไปแดนซ์กันริมทะเล ลมเย็นมาก แต่ในตัวผมร้อนไปหมด อาจจะเพราะเหล้าก็ได้.....ไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่างไปทั้งหาด.....เต้นกันตีนเปล่าอย่างนี้แหละ สนุกดี......อีแอ๊บคงโดนโมทย์มอม เห็นเต้นยิก ๆ หน้าแดงก่ำอยู่ข้างเวที......อีเต็มลากพวกผมขึ้นไปเต้นบนเวที ซึ่งตอนนี้ไม่มีคน เพราะเค้าเปิดเพลงจากเครื่องเสียง ไฟอลังการมาก ถึงจะเป็นเวทีเล็ก ๆ ก็เถอะ.....อีแอ๊บแจ้งเกิดกับการร้องเพลงเมื่อหัวค่ำ.....แต่กลุ่มผมสร้างความฮือฮา ทำให้พวกที่อยู่ในวงเหล้า และวงไพ่ออกมาดูกันสลอน.....อีเต็มเป็นคนนำเต้น......พวกผมรูดเสากันซะเสาแทบหัก.....ยางอายหายหมด แต่ยังมีสติไม่แตกสาวมากนะครับ.......ซักพักทั้งรุ่นพี่ และรุ่นเดียวกันขึ้นมาแจมกันสนุกสนาน......
.......ตี 2 ครึ่ง ทางรีสอร์ตบอกว่าต้องปิดเครื่องเสียงเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น....พวกผมก็ต้องจำใจลงมานั่งเล่นนั่งคุยกันบนห้อง.....แม้ว่าจะเหนื่อยก็เถอะนะ แต่มันผิดที่ นอนไม่หลับหรอก.....อีแอ๊บมันยังไม่มาเลย สมบัติมันก็กระจายเหมือนเดิม.....เราตัดสินใจลงไปแจมกับคนอื่นต่อ.....อีกุ้งยิ้มหน้าบานเชียว ผมรู้ว่ามันต้องไปคุยกับพี่ก้องแน่ ๆ และก็จริงตามคาด....พอมันเจอพี่เค้าปุ๊บ....มันก็ทิ้งเพื่อนเลย.....อีเต็มนั่งกินเหล้ากับรุ่นพี่ต่อ....อีนันเล่นไพ่ในห้องเพื่อนที่เพิ่งสนิทกันตอนเข้าฐาน.....อารมณ์ตอนนั้นมันเหงา ๆ ปนโล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ไม่ต้องรอรับน้อง ไม่ต้องกลับบ้านเย็น.....อ้าว กลับบ้านเร็วจะไปทำอะไรล่ะ.....คิดถึงไอ้วุธอีกแล้ว.......เดินเหม่อไปเรื่อย ๆ จนถึงริมทะเลแบบไม่รู้ตัว.....ไฟสว่างโร่ขนาดนี้ เสียงคนยังดังแว่ว ๆ ไม่ไกลนักก็มีคนเดินเล่นริมทะเลหลายคู่ หนึ่งในนั้น มีคู่อีกุ้งกับพี่ก้องด้วย จำท่าเดินมันได้......ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ไม้มุมสุดของรีสอร์ต มีจาน ชาม แก้วเหล้าวางอยู่ คาดว่าคงเมาแล้วขึ้นไปนอนกันหมดแล้ว......
“.....มารับน้องเหรอ.....” ผมสะดุ้ง หันไปตามเสียงแหบ ๆ ข้างหลัง แทบจะแหกปากร้องด้วยความตกใจ คิดดูดิ ริมทะเล ตอนประมาณตี 3 อากาศเย็นมาก ๆ ถึงแม้ว่าจะมีไฟสว่าง มีคนเดินไม่ไกลจากแถวนั้นก็เหอะ.....ไอ้ที่ผมตกใจแทบช็อคก็เพราะมีผู้ชายสูง ๆ ล่ำ ๆ เนื้อตัวมอมแมม ไม่ใส่เสื้อ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ยืนอยู่ข้างหลังห่างไปซัก 2 ก้าว.....พอผมเพ่งชัด ๆ ผมต้องตกใจอีกรอบ
“.....วุธ....วุธหรือเปล่าอ่ะ....” ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“.....แล้วคิดว่าใช่ปะหละ.....” มันยิ้มให้ผมแบบที่เคยทำบ่อย ๆ แต่แววตามันอ่อนล้ามาก.....ความลับนะครับ....ตอนนั้นผมขนลุกซู่.....ในใจคิดว่าไม่เจอมันนาน มันอาจจะตาย แล้วเป็นผีมาหลอกผมก็ได้....บรรยากาศมันให้จริง ๆ นะครับ
“.....มะ มะ มา.....มาทำอะไรแถวนี้....” เสียงผมสั่นเลยแหละ กะว่าถ้ามันเป็นผีจริง ๆ ผมจะทำบุญไปให้ วันนั้นพระก็ไม่ได้ห้อย ถอดเก็บไว้บนห้อง ผมกระเถิบหนี มันเดินเข้ามาแล้วชะงัก ผมยิ่งกลัว
“.....มารับน้องเหมือนกัน.....ที่ xxxxx ตรงนี้เอง….” มันบอกชื่อรีสอร์ตติดกัน....ผมเริ่มเก็ทแล้วว่า....มันเป็นหนึ่งในนักศึกษากลุ่มนั้น แล้วสภาพที่ดูไม่ได้ข้างหน้านี้ คงเป็นเพราะการรับน้องโคตรโหดของที่นั่นแน่ ๆ
“.....เป็นไงมั่ง....สบายดีมั๊ย....” ผมถามทำลายความเงียบ....พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ก็มันเล่นมองหน้าผมไม่พูดไม่จา
“.....ก็ดี.....แล้วเอ้ล่ะ.....” มันถามกลับ
“.....ช่วงนี้เหนื่อยหน่อย.....แต่กลับไปคงดีขึ้นแล้วหละ.....” พูดจบ ก็เงียบ ผมอึดอัดมาก กลัวจะมีคนเห็นผมคุยกับมันด้วย
“....แล้วนี่ออกมาได้ด้วยเหรอ....” ผมถามไปงั้นแหละ
“.....แอบพี่เค้าออกมา....ป่านนี้คงเมาไม่รู้เรื่องกันแล้ว.....”
“....อืม....” ผมทำเป็นไม่สนใจ มองทะเลข้างหน้า
“....เราเห็นเอ้เมื่อตอนหัวค่ำ....เราจำกางเกงได้....” ผมก้มมองกางเกงตัวเองทันที เป็นกางเกงขาก๊วยสีบานเย็นตัวที่ไอ้วุธมันเคยใส่ตอนที่ไปบ้านผมครั้งแรก
“....ความจำดีเนอะ....” ผมประชด “....กางเกงแบบนี้เราไม่ได้มีคนเดียวซะหน่อย....”
“......ใครใส่ก็ไม่เหมือนเอ้.....” ผมมองหน้ามันอึ้ง ๆ มาอารมณ์ไหนวะเนี่ย
“.....ทำไมไม่เรียน ปวส. ต่อล่ะ....ไม่มีรับน้องด้วย.....” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“.....ยังไงก็ต้องเรียนจนจบตรีอยู่แล้ว จะเข้าตอนนี้หรืออีกสองปีข้างหน้าก็ไม่ต่างกันหรอก.....” มันเว้นระยะแป๊บนึง “......เอ้ชอบเด็กมหาลัย.....ชอบคนผมยาวด้วยไม่ใช่เหรอ.....” วุธพูดเสียงเบา
“.....ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย.....” ผมพูดเสียงเรียบ
“.....จริงด้วย....ไม่เกี่ยวกันจริง ๆ ด้วย.....อืม....เรากลับก่อนละกัน....เดี๋ยวพี่เค้าจับได้....โดนซ่อมแน่ ๆ .....” มันพยายามทำเสียงให้สดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“.....วุธ.....” ผมตัดสินใจเรียกมันก่อนที่มันจะเดินไปไกลกว่านี้
“....อะไรเหรอ....” มันหันมายิ้มแห้ง ๆ
“....เจ็บมั๊ย....” ผมเดินไปใกล้ ๆ จับมือมันขึ้นมาดูแผลถลอกที่เกิดจากการคลานบนทราย มันขยับหนี ผมชะงัก ขมวดคิ้ว
“....อย่าเข้ามา....ไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว.....เป็นห่วงเหรอ....” มันยังมีหน้ามาล้อผมอีก แค่นั้นแหละ.....น้ำตาผมหยดแหมะ ๆ
“.....เฮ้ย.....เป็นอะไร.....” มันตกใจที่อยู่ดี ๆ ผมร้องไห้ ผ้าเช็ดหน้าก็ไม่มี เอาแขนเสื้อนี่แหละเช็ดน้ำตา
“.....เปล่า.....” ผมไม่บอกมันหรอกว่าผมเห็นสภาพมันอย่างนี้แล้วสงสารมันมาก ผมโดนน้อยกว่ามันหลายเท่า ผมยังเจ็บ ยังแสบแทบแย่ ถึงมันจะไม่ได้เป็นอะไรกับผมอีกแล้ว แต่ผมก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้หรอก ว่าผมไม่รักมัน ไม่ห่วงมัน
“.....แผลแค่นี้เอง....อีก 2-3 วันก็หาย.....” มันมองมือผมที่จับแขนมันพลิกไปพลิกมา ดูรอยเขียวเป็นจ้ำ ๆ ตามหน้าอก และหลัง มันดูตัวใหญ่กว่าเมื่อก่อน แต่ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ นะครับ
“....ที่จริงถ้าไม่ไหวก็บอกรุ่นพี่ได้นี่นา.....” ผมคงปิดอาการเป็นห่วงมันไม่ได้
“.....ไม่เป็นไรหรอก.....คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ดิ.....” มันหัวเราะ แต่ดันแถมไอแค่ก ๆ
“.....กลับเมื่อไหร่เนี่ย....”
“....พรุ่งนี้.....” วันเดียวกับผมเลย แต่ใครจะกลับก่อนกันล่ะเนี่ย
“.....ถึงบ้านแล้วกินยาซะ.....แผลนี่ก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดดี ๆ ล่ะ....” ผมเผลอพูดกับมันเหมือนไม่เคยโกรธกันมาก่อน
“.....ถ้ามีคนช่วยดูแลก็ดีสิเนอะ.....” มันพูดไป ไอไป ไอ้ผมก็ปากหนักไม่ถามเรื่องอีออย
“....กลับไปได้แล้ว เสื้อก็ไม่ใส่ เดี๋ยวไม่สบายหรอก....” ผมทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดประโยคนั้น ไอ้วุธพยักหน้า โบกมือให้ผม หันหลังเดินออกไป......
.......ผมมองส่งมันจนลับตา ทรุดตัวลงนั่งที่เดิม.....พออยู่คนเดียว.....น้ำตาก็ไหลออกมาอีกแล้ว....โมโหตัวเอง....ทำไมลืมมันไม่ได้....ทำไมไม่หยุดคิดถึงมัน.....ทำไมต้องเจอมันอีก.....ทำไมยังอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้......แต่ยังไงก็คงไม่มีทางได้เจอกันอีกหรอก.....ความบังเอิญมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยขนาดนั้น.....แต่ผมพลาดที่ไปทำดีกับมัน.....มันอาจจะคิดว่าผมหายโกรธแล้วก็ได้......พยายามบอกกับตัวเอง เตือนไว้ว่ามันเคยทำเราเจ็บแค่ไหน.....
......กลับไปนอนดีกว่า.....ชักเริ่มเสียวสันหลังวาบ.....หลายคนทยอยขึ้นห้องกันแล้ว.....ประตูมันยังล็อคอยู่ แสดงว่าไม่มีใครในห้อง ลองเคาะดูก็ไม่มีเสียงตอบรับ.....ผมเดินลงไปข้างล่างที่วงไพ่.....อยู่กันครบทุกคนยกเว้นอีกุ้ง......
“....เฮ้ย....กุ้งมันไปไหนวะ....” ผมกระซิบถามอีเต็ม
“....มันไปมีความสุข....” อีเต็มตอบโดยไม่ละสายตาจากไพ่ในมือ
“....หมายความว่าไงมึง....” ผมอยากรู้
“....มันก็อยู่กับพี่ก้องไง....ในห้องนั่นแหละ....”
“....ห้องเราอ่ะนะ....” ผมตกใจ
“....เออ....ป๊อก 9 สองเด้งครับ.....เจ้า....” อีเต็มวางไพ่ลงให้เจ้ามือเห็น
“....นัน....มึงรู้เรื่องอีกุ้งปะวะ....” ผมหันไปหาอีนันบ้าง ท่าทางอีเต็มจะเล่นถึงเช้าแน่ ๆ
“....มันมาขอใช้ห้องกับพวกกูเองแหละ....แล้วมึงหายหัวไปไหนมาล่ะ....”
“....กูไปเดินเล่นมา....มันขึ้นไปนานยังวะ.....เมื่อกี้กูดันไปเคาะประตู มันกำลังเข้าด้วยเข้าเข็มกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้.....” ผมดีใจแทนเพื่อนที่ได้คนดีเป็นแฟน
“....ขึ้นไปซักพักแล้ว....มึงน่ะ.....ไม่เท่าไหร่หรอก....กูห่วงแต่อีแอ๊บ....แม่งเมาเหมือนหมา....มาดคุณหนูไม่เหลือเลยมึง....นี่กูพยายามกันไม่ให้มันขึ้นไปขัดจังหวะอีกุ้งบนห้อง.....” ผมหันไปดูที่วงเหล้า ตามสายตาอีนัน เห็นอีแอ๊บนั่งพิงไหล่โมทย์ ตาปรือ
“...นินทาอะไรกู....” อีกุ้งเดินยิ้มร่าทักทายพวกผม
“....เป็นไงมั่งมึง....” ผมถามยิ้ม ๆ พออีเต็มเห็นเพื่อนลงมาปุ๊บก็ลุกมาหาทันที
“....พี่เค้าน่ารักมาก คุยกันตั้งนาน....” อีกุ้งพูดไปยิ้มไป
“....อีดอก....ที่มึงขึ้นไปตั้งนานเนี่ย อย่าบอกนะว่าแค่นอนคุยกัน....”
“....อีหื่น....กูไม่เหมือนมึงหรอก....อีนี่....กูยังไม่พร้อมโว้ย....” มิน่า มันถึงไม่มีร่องรอยการร่วมเพศ หรือเดินขาถ่าง ๆ เลย
“.....ไปนอนกันเถอะ....เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว....” อีนั้นตัดบท
“....แล้วอีแอ๊บล่ะ...” ผมถามทุกคน
“.....มึงก็ไปลากมันมานอนเองละกัน....อีนางเอก.....” เต็มยังมีอคติกับอีแอ๊บอยู่
“....ไปนอนได้แล้ว....” ผมเขย่าแขนอีแอ๊บ
“....เดี๋ยวผมช่วยพยุงเอง....” โมทย์มันเป็นคนที่พูดเพราะมาก พูดจบก็พยุงหิ้วปีกอีแอ๊บที่อ้อแอ้ ไม่มีสติ อีตอนขึ้นบันไดนี่โคตรลำบากเลย
“.....เฮ้ย....กูเอง....เปิดประตูดิ.....” ผมตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ในห้องมือไม่ว่าง เลยเอาเท้าแตะที่ประตูเบา ๆ อีนันลุกมาเปิดให้ ผมลากอีแอ๊บไปนอนบนเตียงติดกับกำแพง กลัวมันดิ้นตกลงมา อีแอ๊บก็โวยวาย ตะเกียกตะกาย จนผมต้องปล่อยมือ มันหล่นตุบลงมานอนกับพื้น
“.....ขอบใจนะ....” ผมบอกโมทย์
“....ขอนอนด้วยได้มั๊ยครับ....” เพื่อนผมโดยเฉพาะอีเต็มตาโต
“....ตามสบาย....นอนกันหลายคนอึดอัดหน่อยนะ....” ผมมองกระเป๋าที่วางระเกะระกะบนพื้น
“....ดีครับ....ผมชอบ....”
“....กลัวผีอ่ะดิ....” อีนันดักคอ โมทย์หัวเราะแฮ่ะ ๆ
ก๊อก ๆ ๆ ทุกคนหันไปมองที่ประตูเป็นตาเดียว เอาแล้วไง....อีนัน....เสือกพูดเรื่องผีตอนนี้....ไม่มีใครกล้าถามว่าใครเคาะ....
“....กุ้ง....นอนยัง.....” เสียงพี่ก้องนี่หว่า ผมเดินไปเปิดประตูแง้มดู ใช่พี่ก้องจริง ๆ ด้วย
“....มีอะไรเหรอพี่....” ผมถามหลังจากที่ให้เค้าเข้ามาในห้อง
“....ขอนอนด้วย....” ตายแล้ว จะนอนเข้าไปได้ยังไง พวกผมก็สี่คน อีแอ๊บหนึ่ง ไอ้โมทย์หนึ่ง นี่พี่ก้องอีก 7 คน มีเตียงเดี่ยว 2 เตียง
“.....เอาเลยพี่.....เลือกเอาเลยจะนอนมุมไหน....” อีเต็มกระดี้กระด้า
“.....เอ้....ไปเอากระเป๋ากับผมหน่อยดิ....” โมทย์ชวน ผมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“....ได้สิ....” ผมเดินนำหน้าออกมา บอกเพื่อนไม่ต้องล็อคประตู ท่าทางโมทย์มันจะกลัวผีจริง ๆ มันยังเด็กอยู่นี่นา ในห้องเก่าของมันมีคนนอนกันแค่ 3 คน หลับปุ๋ย ไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนออกจากห้องโมทย์มันล็อคห้องให้ด้วย
“....จะนอนกันยังไงล่ะเนี่ย....” ผมพูดทันทีที่เข้ามาในห้อง กระเป๋าเสื้อผ้าถูกย้ายไปกองไว้ที่เดียวกัน โมทย์ขอตัวไปแปรงฟันในห้องน้ำ
“.....กูนอนพื้นนี่แหละ....” อีเต็มกับอีนันจองที่ว่างตรงทางเดิน นอนเอาหัวหนุนกระเป๋า
“.....โมทย์นอนบนเตียงเถอะ....” ผมหมายถึงเตียงด้านที่ติดกำแพง โมทย์มันก็เช็ดมือเช็ดเท้าขึ้นไปนอนอย่างว่าง่าย
“.....ยังนอนได้อีกคนนะ....เอ้นอนนี่เหอะ....” โมทย์มันเขยิบให้ผม จะบ้าเหรอ มีแค่ไอ้วุธคนเดียวที่ผมกล้านอนด้วย จะปฎิเสธก็ไม่ได้ อีกุ้งกับพี่ก้องก็นอนเบียดกันบนเตียงข้าง ๆ อีแอ๊บเมาหลับไม่รู้เรื่องตรงที่ว่างระหว่างสองเตียง ไม่มีที่เหลือให้ผมแล้ว
“.....เออ....เดี๋ยวเข้าห้องน้ำก่อนละกัน....” ผมถ่วงเวลา แปรงฟัน ล้างหน้า ให้นานที่สุด อยากจะอาบน้ำ แต่ก็เกรงใจเพราะต้องเปิดไฟหาเสื้อผ้าใหม่ อีพวกนั้นนอนหลับทับกระเป๋าผมอยู่ด้วย ออกมาอีกทีกะว่าโมทย์มันคงหลับไปแล้ว ที่ไหนได้ นอนลืมตาแป๋วมองผมอยู่
“.....ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ....” ผมล้มตัวลงนอน พยายามนอนให้ชิดขอบเตียงที่สุด กลัวตกลงไปทับอีแอ๊บเหมือนกัน
“....นอนไม่หลับ....” มันถอดแว่นแล้วน่ารักมาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันถอดแว่น
“....ไม่ต้องกลัว....เราอยู่ตรงนี้ ไม่หลับง่าย ๆ หรอก....เรารอให้โมทย์หลับก่อนก็ได้....” วิธีนี้พ่อผมเคยใช้ตอนที่ผมเป็นเด็ก ไปนอนค้างที่อื่น ผมก็กลัวผีเหมือนเด็กทั่วไป แต่พอรู้ว่าคนข้าง ๆ ยังไม่นอน ทำให้สบายใจไปอีกหน่อย
“....เกรงใจจัง....”
“....นอนเหอะ....” ผมขยับผ้าห่มให้มัน ตอนนี้ทั้งห้องได้ยินแต่เสียงแอร์ครางเบา ๆ เสียงนกกาเหว่า เสียงไก่ขันดังไกล ๆ อีกไม่นานก็เช้าแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :pigwrite:
คิดว่าจะลงให้ 2 ตอน แต่เห็นว่าอยากได้ข่าวคราววุธกัน ก็เลยลงเพิ่มให้อีกตอนครับ สนุกกับเรื่องราวต่อไปนะครับ
มีโอกาสจะมา post ให้อีกกกก    :bye2:

JaeTae

  • บุคคลทั่วไป


 สรุปใครจะได้เป็นพระเอกเนี้ย  เห้อ  :a6:

napho

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ....สนุกมาก ๆ...........รีบมาต่อนะครับ
 :m18: :m18: :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ดีใจได้อ่านต่อสักที ยังไงถ้าคุณเจ้าของกระทู้ไม่ว่างมาโพสท์

คุณnartch รบกวนมาลงให้บ้างนะค้าบบบบบ เพราะเห็นว่าเรื่องยาวมากกว่าจะจบ

พออ่านแล้ว ไม่ได้อ่านต่อมันจะลงแดงเอาอ่ะคับ อิอิ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาไหลเลย ตอนที่เจอวุธอ่ะคับ สิ่งเก่าๆมันก้เหมือนหวนกลับมาอีกครั้ง

อยากใหเค้าสองคนได้รักกันจัง เฮ้ออออ 

เลิฟนิยาย

รออ่านนะคับ

nartch

  • บุคคลทั่วไป

 สรุปใครจะได้เป็นพระเอกเนี้ย  เห้อ  :a6:

อันนี้ต้องติดตามมมมม บอกไปก็เสียอรรถรสแย่สิ ต้องลุ้นกันอีกเยอะครับบบบบบบบบบ

ดีใจได้อ่านต่อสักที ยังไงถ้าคุณเจ้าของกระทู้ไม่ว่างมาโพสท์

คุณnartch รบกวนมาลงให้บ้างนะค้าบบบบบ เพราะเห็นว่าเรื่องยาวมากกว่าจะจบ

พออ่านแล้ว ไม่ได้อ่านต่อมันจะลงแดงเอาอ่ะคับ อิอิ

ถ้ามันไม่เป็นการเสียมารยาทเกินไปก็จะมา post ให้บ่อย ๆ ครับ
เข้าใจความรู้สึกครับ ว่าอ่านแล้วมันก็อยากรู้จนกว่าจะจบบบบ 
แต่แหมถึงขั้นลงแดงนี่มันไม่ใช่ติดนิยายละมั้งงงงงงง หุหุหุ

น้ำตาไหลเลย ตอนที่เจอวุธอ่ะคับ สิ่งเก่าๆมันก้เหมือนหวนกลับมาอีกครั้ง

อยากใหเค้าสองคนได้รักกันจัง เฮ้ออออ 

เลิฟนิยาย

รออ่านนะคับ

อย่าเพิ่งเสียเยอะล่ะครับน้ำตาน่ะ ยังมีต้องเสียมากกว่านี้อีกกกกกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2007 21:02:48 โดย nartch »

bigynew

  • บุคคลทั่วไป
 :m3: :m3: :m1: :m1:
คุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ แล้ววุธจะกลับมาเป็นพระเอกอีกหรอเนี้ย
อยากรู้จัก มาต่อไวไวนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






a22a

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณ คุณ nartch นะคับ ที่มาชั่วยลงต่อให้ได้อ่านสนุกมากคับสมกับที่รอ คุณเอ้กับวุธต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆเลย ขนาดรับน้องตั้งไกลยังมาเจอกันได้บุเพจิงๆ

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณ nartch มากเลยครับแหะ
แบบว่าผมไม่ว่างจริงช่วงนี้ ต้องไปยืนคุมสอบนักศึกษาอะ
เลยไม่ได้อยู่หน้าจอคอมเลยเฮ้อขอบคุณมากมายเลยคับ

มาอ่านต่อตอน 5เลยครับ
5 How could I get him out of my mind?

..........กว่าจะได้หลับได้นอนก็ตอนที่เห็นแสงแดดรำไรลอดจากผ้าม่านบาง ๆ นอนมองหน้าไอ้โมทย์เพลินไปเลย.....ตอนมันหลับนี่น่ารักดีจัง ขนตางอนยาวเป็นแผง ท่าทางจะหนากว่าของเราอีก.....คงจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าไม่มีหน้าไอ้วุธลอยเข้ามาในหัวเป็นระยะ.......ถึงแม้ว่าจะลืมมันไม่ได้ก็เถอะ แต่การไม่พบ ไม่เจอ ไม่ได้ยินเรื่องราวของมัน ก็สามารถทำให้ผมค่อย ๆ ทำใจได้.......ความคิดตอนนั้น มีอยู่วิธีเดียวที่จะทำให้ผมลืมมันได้ คือ หาใครสักคนแทนที่มัน ไม่ต้องเลือกมากก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ไอ้โยก็พอ.....ไอ้นั่น....ผมรู้สึกกระดากเวลาเล่นกับมัน แถมมันยังชอบทำที่เล่นทีจริงซะด้วย.....แต่ผมว่าผมได้กำไรนะ......


“....อีเอ้...ตื่น ๆ.....พี่เค้าเรียกไปรวมข้างล่าง....” อีนันเขย่าตัวผมเบา ๆ

“.....อะไรวะ....” ผมลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

“....ไปออกกำลังกาย...” พี่ก้องพูดยิ้ม ๆ

“....โห....พี่....ไม่ได้ไปเข้าค่ายนะ....” อีเต็มสะลึมสะลือ

“....แค่ไปเดิน ๆ วิ่ง ๆ นิดเดียวน่า....” อีกุ้งที่หน้าตาสดชื่นกว่าเพื่อนพูดพลางลุกไปเข้าห้องน้ำ

“....รอกูด้วย....” ผมเดินตามอีกุ้งเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน

*
*

“....อ้าว....ตื่นแล้วเหรอ....” ผมทักโมทย์ที่ลุกขึ้นมานั่งมองพวกผมแย่งกันส่องกระจก

“....ครับ....ทำไมตื่นกันเร็วจัง....” อย่าทำหน้าตาใสซื่ออย่างนี้ได้มั๊ย มันน่า.....มาก ๆ ผมคิดในใจ

“....พี่เค้าให้ลงไปออกกำลังกาย...” อีนันพูดขำ ๆ

“....งั้นผมไปเข้าห้องน้ำที่ห้องเดิมนะครับ....ที่นี่คนเยอะแล้ว....” โมทย์เดินไปคว้ากระเป๋าตัวเองแล้วหันมายิ้มให้พวกผมนิดนึง ก่อนออกจากห้องไป

“....อีแอ๊บล่ะมึง....” อีกุ้งพูดเบา ๆ กลัวมันแกล้งหลับ

“....ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ....ให้มันโดนซ่อมออกไปวิ่งคนเดียว.....” แต่อีเต็มพูดซะดังเชียว

“....ลองเรียกมันก่อนดีกว่า....” ผมกับอีกุ้งเขย่าขามันคนละข้าง นอกจากมันจะไม่ตื่นแล้ว มันยังสะบัดขาแทบจะโดนหน้าผม

“.....อุ๊ย....อีนี่....กูปลุกแล้วนะโว้ย....ไม่ตื่นเอง.....อย่าว่ากูแกล้งล่ะ....” อีกุ้งเขยิบตัวหนีขาอีแอ๊บ ไอ้ยินเสียงรุ่นพี่ใช้โทรโข่งเรียกเด็กปี 1 อีกที แถมมีการนับถอยหลังอีก พวกผมวิ่งกระเซอะกระเซิงลงไปทันพอดี


.......รุ่นพี่จดชื่อคนที่ไม่ลงมาออกกำลังกายไว้เพื่อซ่อมทีหลัง.....จริงอย่างที่อีกุ้งพูด.....พี่เค้าแค่ให้เดิน ๆ วิ่ง ๆ ที่ชายหาดแค่นั้น.....อากาศตอนเช้าดีมาก ๆ น้ำทะเลใสแจ๋ว มีคลื่นเล็ก ๆ แดดอ่อน ๆ ขนาดได้นอนแค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ผมยังรู้สึกดีขนาดนี้ มิน่าโมทย์มันถึงได้ดูร่าเริง ลงไปลุยน้ำทะเลเล่นอยู่คนเดียว......ซักพักรุ่นพี่ก็ปล่อยพวกผมให้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย และนัดเวลาอาหารเช้าตอน 9 โมง.....อากาศดีแค่ไหนก็เถอะ ง่วงมาก ขอขึ้นไปนอนก่อนละกัน....ผมเดินตามรุ่นพี่ไปที่รีสอร์ท.....เดินไปไม่ถึง 3 ก้าว ผมต้องตกใจแทบร้องกรี๊ด.....โมทย์กับอีเพื่อนผม 3 ตัวจับผมยกจนตัวลอย แล้วโยนลงทะเล ถ้าไม่ติดว่าไอ้โมทย์ร่วมแผนการณ์นี้ด่าอีพวกนั้นกระเจิงแน่ ๆ แรก ๆ โมโหมาก ที่พวกมันแกล้งผมอย่างนี้......คิดดูดิครับ กางเกงขาก๊วยตอนเปียกน้ำนี่มันมันทั้งบาง ทั้งแนบเนื้อ ดีนะว่าใส่กางเกงในนอน ไม่งั้นผมคงไม่กล้าขึ้นจากน้ำแน่ ๆ ......แต่พอพวกมันลงมาเล่นน้ำด้วย ผมกลัยรู้สึกสนุกไปด้วย ห่วงอยู่อย่างเดียวคือ กลัวกางเกงหลุด.....เป็นครั้งแรกที่ผมเล่นกับโมทย์อย่างถึงเนื้อถึงตัว.....เห็นหน้าใส ๆ อย่างนี้ แต่เวลามันเล่นโคตรโหดเลยครับ เล่นแรงมาก จับผมเหวี่ยงในน้ำอย่างงี้ กระโดดขี่หลังผมอย่างงี้.....พอเริ่มเหนื่อย ผมก็ขึ้นมานั่งดูพวกมันเล่นน้ำบนชายหาด นั่งขุดทราย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย.....ซักพักโมทย์เดินตามขึ้นมานั่งข้าง ๆ ผม


“.....ผู้ชายเมื่อคืนน่ะ....ใครเหรอ....” ผมงง โมทย์มันหมายถึงใครวะ

“....ผู้ชายที่ไหน....” เอ๊ะ...หรือว่ามันเห็นตอนนั้น

“.....ที่ยืนคุยกับเอ้ตรงนั้นอ่ะ.....” มันชี้ไปทางโต๊ะที่ผมนั่งเมื่อคืน

“....อ๋อ....เพื่อนเก่า....” ผมหลบตาวูบ

“....คงดีใจที่ได้เจอกันเนอะ....แต่ทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ...” เซ้าซี้เหมือนกันนะไอ้แว่น

“....ก็....ก็....ก็....ดีใจมากไปหน่อยมั้ง....” ไม่รู้จะตอแหลอะไรแล้วกู

“....เหรอครับ....” มันมองหน้าผม คงรู้แหละว่าผมโกหก

“....โมทย์....อยู่นี่เอง....หาตั้งนาน....” เป็นครั้งแรกที่ผมดีใจเมื่อเห็นหน้าอีแอ๊บ มาได้จังหวะพอดีเลยมึง

“....ไปอาบน้ำก่อนนะ....” ผมหันไปบอกโมทย์ แล้วเดินลิ่ว ๆ ขึ้นห้อง

*
*
*

......สรุปไม่ต้องได้นอนครับ กว่าจะอาบน้ำ เป่าผมที่เริ่มยาวขึ้นเพราะการกระตุ้นทุกทาง เสียงรุ่นพี่ประกาศผ่านโทรโข่งอีกครั้ง ให้ไปรวมตัวกันเพื่อกินข้าวเช้า.....ผมค่อนข้างงง แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เมื่ออีแอ๊บเดินเข้ามาให้ห้อง ไม่พูดไม่จา เก็บของที่กองเป็นพะเนิน แบกออกไปนอกห้อง ไม่มีใครถามมันซักคนว่าจะไปไหน......


......หลังอาหารเช้า รุ่นพี่เรียกชื่อคนที่ไม่ลุกไปออกกำลังกายเมื่อเช้านี้ แน่นอนมีชื่ออีแอ๊บ รวมกับไอ้พวกที่เมาเละ......เป็นการลงโทษซ่อมในโทษฐานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง พวกมันโดนให้เก็บจานชามของทุกคนไปทำความสะอาด......คนอื่นเค้าก็ยอมทำด้วยความเต็มใจ.....มีแต่อีแอ๊บคนเดียวที่กระฟัดกระเฟียดไม่ยอมทำ ยืนหน้าหงิก มาดคุณหนูกลับมาอีกแล้ว.....แต่เมื่อโดนรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันมองด้วยสายตาเหมือนมันเป็นตัวประหลาด มันถึงได้เก็บจานชามไปล้างอย่างเสียไม่ได้.......


“.....ทำไมไม่ปลุก....” อีแอ๊บกระชากเสียงถาม ผมและเพื่อนหันไปมองมันไปตาเดียว ตอนนี้รุ่นพี่ปล่อยให้พัก ใครอยากทำอะไรก็ทำ พวกผมไปนั่งเล่นที่ริมทะเล หาวิวสวย ๆ ถ่ายรูปกัน

“....ปลุกแล้วนะ....” ผมพยายามพูดกับมันดี ๆ

“....ใช่....ปลุกตั้งหลายที.....แต่คุณไม่ตื่นเอง.....” อีกุ้งช่วย

“....เมาเหมือนหมา....” อีเต็มพูดลอย ๆ

“....ว่าใคร....” อีแอ๊บมองหน้าอีเต็ม

“....ก็ว่ามึงน่ะแหละ....จะทำไมกู....” อีเต็มตะคอก อีแอ๊บหน้าเจื่อนเมื่อเห็นว่าอีเต็มเอาจริง มันมองหน้าพวกผมทีละคน แล้วสะบัดหน้าเดินขึ้นห้องไปเลย

“....อีดอก...อีนี่อีกหน่อยมันต้องสาวกว่าพวกเราแน่เลยว่ะ....” อีกุ้งพูดขำ ๆ พวกผมก็หัวเราะไปด้วย

*
*
*

.......ระหว่างที่พวกผมกำลังระรื่น โพสท่าถ่ายรูปกันสนุกสนาน ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องโดนดึงมาถ่ายด้วย.....ไม่เว้นแม้แต่โมทย์ อีพวกนั้นกระดี้กระด้า ขอถ่ายรูปคู่กันใหญ่ มีอีกุ้งคนเดียวที่ไม่ได้ถ่าย เพราะพี่ก้องนั่งประกบตลอดเวลา ไม่ต้องบอกก็รู้กันเกือบทั้งสาขาแล้ว ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน......ส่วนผม.....อีพวกนั้นคะยั้นคะยอให้ถ่ายรูปคู่กับโมทย์ เขินจะตาย ใครจะกล้าปฏิเสธ ถ่ายก็ถ่ายวะ รูปคนอื่น โมทย์จะโดนลวนลามทุกรูป แต่ถ่ายกับผม ตอนที่นับ 1 2 ยืนห่างกันแทบตกเฟรม แต่พอนับ 3 โมทย์มันดันดึงผมเข้าไปหา ตอนล้างรูปออกมาผมต้องเก็บไว้ไม่ให้ใครเห็น ภาพหลุด ๆ อย่างนี้ หน้าผมจะออกมาเป็นยังไงก็ไม่รู้.....โมทย์ขอถ่ายกับผมอีกรูป โดยจะไม่แกล้ง.....ใช่ ไม่แกล้ง แต่กอดไหล่ผมซะแน่นเชียว.....เป็นไงเป็นกันวะ....ถ้าทำเขินให้อีพวกนันเห็น ผมต้องโดนล้อไม่เลิกแน่ ๆ .......หางตาผมเห็นอีแอ๊บยืนจ้องพวกผมเขม็งอยู่ไม่ไกล.....ผมขยับเข้าไปชิดไอ้โมทย์อีก ยิ้มซะปากแทบฉีกถึงหู อีพวกนั้นกรี๊ดกร๊าดกัน ตกลงผมได้ถ่ายรูปคู่กับโมทย์มากกว่าคนอื่น.....แต่รูปในฟิล์มส่วนใหญ่ เป็นรูปอีกุ้งกับพี่ก้องซะนี่.....


“.....อีนัน....ซูม.....ถ่ายด่วน.....โน่น.....ผู้ชายวิ่ง......ไม่ใส่เสื้อด้วย.....มาเป็นฝูงเลย.....” เสียงอีเต็มทำให้พวกผมต้องหันไปมองรีสอร์ตใกล้ ๆ เป็นตาเดียว.....ชิบหาย......มหาลัยไอ้วุธมันยังไม่เลิกรับน้องอีกเหรอวะ

“.....เออ.....เดี๋ยวรอมาใกล้ ๆ ก่อน....” อีนันตั้งท่าจะถ่ายรูป ผมนั่งกระสับกระส่าย กลัวไอ้วุธเห็น.....ยังไงมันก็ต้องเห็นแน่นอน ถ้าผมยังนั่งอยู่ตรงนี้

“......ไปไหน.....” โมทย์ดึงมือผมไว้ ขณะที่ผมค่อย ๆ ลุกหนี

“.....ไปห้องน้ำ.....” ผมหน้าไอ้โมทย์ สลับกับมองกลุ่มไอ้วุธที่วิ่งเข้ามาใกล้ทุกที

“.....ไปห้องน้ำ หรือจะหนีใคร....” โมทย์ทำหน้ารู้ทัน ผมนั่งลงอย่างเดิม หลบไม่ทันแล้วหล่ะ ก้มหน้าก้มตาเอาก็ได้วะ มันคงไม่สังเกตหรอก.....ผมทำเป็นดูขากางเกงตัวเองไม่มองไปทางกลุ่มคนที่กำลังวิ่งผ่าน แต่ต้องสะดุ้งเมื่อไอ้โมทย์เอามือมาพาดไหล่ผมอีกแล้ว

“.....เฮ้ย.....พวกมึง.....กูจองคนที่หันมาทางนี้.....เค้ามองกูด้วย.....หล่อชิบหายเลยมึง.....” อีเต็มระริกระรี้

“.....อีเอ้....มึงดูดิ.....เค้าหันมามองจริง ๆ ด้วย....” อีนันสะกิดให้ผมมอง

“.....ไม่ทักทายเพื่อนเก่าหน่อยเหรอ....” ไอ้โมทย์กระซิบ ผมเผลอเงยหน้ามอง เห็นไอ้วุธมองมาทางผมเต็ม ๆ บอกแล้วว่ายังไงมันต้องจำผมได้ ขนาดเมื่อคืน มืดขนาดนั้น มันยังจำได้ นี่กลางวันแสก ๆ ผมกับกางเกงขาก๊วยสีฟ้า แถมยังมีเสียงกรี๊ดกร๊าดของอีเต็มอีก.....คนอื่นเค้าก็หันมามองนะครับ แต่ไอ้วุธนี่มองผมแบบไม่ละสายตาเลย ผมรู้สึกตัว ขยับตัวให้แขนของโมทย์หลุดจากบ่าผม “.....กลัวอะไร.....ไหนบอกเพื่อนเก่าไง....” มันพูดไปยิ้มไป ไอ้วุธวิ่งเลยไปแล้วแต่ยังหันหลังกลับมามอง ลึก ๆ แล้วกลัวมันจะเข้าใจผิดเหมือนกัน.....แต่มันไม่ได้เป็นอะไรกับเราแล้วนี่หว่า.....ทำไมต้องแคร์มันด้วยวะ


*
*
*

.......ได้เวลากลับซะที.....คิดถึงเตียงนุ่ม ๆ ผ้าห่มหอม ๆ เสียงโมบายที่หน้าต่าง คอยดูนะ กูจะนอน ๆ ๆ ๆ ๆ ชดเชยที่เมื่อคืนนอนไปได้นิดเดียว.....ง่วงมากกกกกก.....รู้สึกตัวลอย ๆ ยังไงไม่รู้ ตาก็สู้แสงแดดไม่ไหว ต้องเอาแว่นกันแดดมาใส่จึงค่อยยังชั่ว......รถบัสกำลังแล่นผ่านรีสอร์ตที่ไอ้วุธพักอยู่.....เสียงอีเต็มอีกแล้วครับ.....มันบอกให้ดูข้างล่าง.....ผู้ชายพวกนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเดินทางกลับกันแล้ว ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนหน่อย......

“.....เฮ้ย.....คนนั้นไง....ที่มองกูอ่ะ....” อีเต็มเรียกให้เพื่อนดู ไอ้วุธแน่ ๆ ผมสังหรณ์ แล้วก็จริงด้วยครับ ผมจำลักษณะมันได้ทุกอย่าง

“.....มองมาทางนี้อีกแล้ว....อีเต็ม....เรียกเลยมึง....” อีกุ้งยุ

“....เธอ....เธอ....คนนั้นน่ะ....” อีนี่มันยุขึ้นจริง ๆ ลืมไปแล้วมั้งว่าพวกเราไม่ใช่เด็กพาณิชย์แล้ว เก็บอาการนิดนึง ผมคิดในใจ ผมชายหางตาที่ใส่แว่นกันแดดมองไปทางไอ้วุธ....มันมองขึ้นมาทางผม....ถนนก็แคบ รถบัส 3 คันค่อย ๆ คลานตามกันออกสู่ถนนใหญ่ ผมขยับผ้าม่านสีตุ่น ๆ จะปิดไม่ให้มันเห็น แต่ไม่ทันครับ มันเดินมา ชี้ผม แล้วทำท่าโทรศัพท์เป็นการส่งซิก ที่ผมกับมันรู้กัน สมัยที่ผมคบกับมันอยู่

“....เค้าขอเบอร์กู....” อีเต็มยิ้มแฉ่ง “.....เดี๋ยวนะ....กระดาษไปไหนหมดวะ....” อีเต็มค้นกระเป๋าใส่ของจุกจิก ยิ่งรีบ ยิ่งรน ของในกระเป๋ากระจัดกระจายเรี่ยราด รถบัสค่อย ๆ เคลื่อนไกลออกไป อีเต็มก็หากระดาษปากกาไม่เจอซะที “.....โอ๊ย....ไม่หาแม่งแล้ว.....02 XXX XXXX อีเต็มตัดสินใจตะโกนบอกเบอร์ คนบนรถและข้างล่างหัวเราะกับท่าทางหื่นกามของมัน ผมอายแทนจริง ๆ “....เค้าโบกมือให้กูด้วย....” ผมแอบหันไปมองไอ้วุธ......ใช่ มันโบกมือ....แต่เป็นทำนองว่า ไม่เอา....(กู) ไม่เอาเบอร์ (มึง) ผมยังอดอมยิ้มกับการเข้าใจผิดของอีเต็มไม่ได้

*
*

“.....ขอนั่งด้วยนะ....” ผมสะดุ้ง กำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อีเต็มมันลุกไปเล่นไพ่หลังรถ ตั้งแต่รถออกถนนใหญ่ได้ไม่นาน

“....อืม....” ผมขยับตัวให้ติดหน้าต่าง

“....ไม่ต้องกลัวผมหรอก....” โมทย์พูดขำ ๆ ใครกลัววะ แค่อยากให้มันนั่งสบาย ๆ ต่างหาก

“....คุณน่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวซะหน่อย....แต่กลัวเพื่อนคุณเข้าใจผิดมากกว่า.....” ผมพยักเพยิดให้โมทย์มองอีแอ๊บที่จ้องผมจนอึดอัด

“....เค้าไม่มีอะไรหรอกครับ....” โมทย์พูดแบบไม่ใส่ใจ หลับตา เอนหัวมาซบไหล่ผม อีแอ๊บตาโต ผมแน่ใจเลยครับว่า อีนี่มันต้องชอบไอ้โมทย์แน่ ๆ แกล้งมันเล่นดีกว่า....ผมหลับตา พิงหัวโมทย์บ้าง.....ลมเย็น ๆ จากหน้าต่าง เสียงเพลงเบา ๆ จากลำโพงรถคลอกับเสียงพูดคุยหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ ในวงไพ่ กลิ่นแชมพูหอมบาง ๆ จากผมโมทย์ ประกอบกับความง่วง.....ผมเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว แว่นกันแดดยังไม่ได้ถอดด้วยซ้ำ

*
*
*

......รู้สึกตัวอีกที่เมื่อรถจอด.....ผมคิดว่าถึงกรุงเทพแล้ว....ทำไมมันถึงเร็วจังวะ....อ๋อ....เพิ่งถึงแค่ท่าเรือที่จะไปเกาะเสม็ด.....รุ่นพี่ให้แวะจอดซื้อของฝาก....ผมปลุกโมทย์.....มันงัวเงียทำท่าไม่อยากลุก แต่ก็ต้องลุก เพราะบนรถจะร้อนมาก บิดขี้เกียจนิดหน่อย ผมหยิบกระเป๋าตังค์ เดินไปหาพวกเพื่อน ๆ ช็อปปิ้งกันดีกว่า.....สนุกมาก....เดินไป ชิมไป ซื้อของฝากเยอะมาก.....ฝากหลายบ้าน.....ซื้อกุ้งแห้งไปตุนไว้ด้วย อยากกินมะม่วงน้ำปลาหวาน....อีแอ๊บสร้างความฮือฮาอีกแล้วครับ.....หล่อนซื้อแทบทุกร้าน ของพะรุงพะรังเต็มมือ.....ผมว่าผมซื้อเยอะแล้วนะ แต่ผมให้แม่ค้าจัดใส่ถุงพร้อมฝาก....ไม่ได้แยกถุงจนดูรุงรัง.....สุดท้ายโมทย์ก็ต้องช่วยมันถือตามระเบียบ.....ทีนี้หล่อนก็เดินเชิด ๆ มีผู้ชายหน้าตาดีเดินถือของตามหลัง......


......ขึ้นรถอีกที.....ตอนนี้คนไม่เยอะเหมือนเดิมแล้วครับ.....มีหลายคนขอลงไปเที่ยวกันต่อบนเกาะเสม็ด แล้วจะกลับกันเอง.....รถโล่งไปถนัดตา.....อีกุ้งแยกกับพี่ก้อง เพราะพี่ก้องเอารถมา แต่เค้าต้องกลับกับเพื่อนที่มาด้วยกัน.....อีกุ้งเดินยิ้มขึ้นมานั่งเล่นไพ่ต่ออย่างมีความสุข.....สงสารก็แต่อีแอ๊บ....ชื้อของมาเยอะ ไม่มีที่วาง ต้องวางไว้ข้างตัว ส่วนโมทย์ก็มานั่งข้างผมเหมือนเดิม.....พอรถออกตัวไปสักพัก....ง่วงอีกแล้ว....ผมเอนหัวพิงหน้าต่าง ยังไม่ทันจะหลับ....โมทย์มันก็เอนมาซบไหล่ผมในท่าเดิม....ตอนนั้นเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แล้วครับ แต่ยังไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง......


*
*
*
*

.......เฮ้อ.....ในที่สุดก็ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ......หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทาง โมทย์มันหลับแบบรวดเดียวยาวเลยครับ.....ตื่นขึ้นมาใส่แว่น.....ขอโทษขอโพยผมเป็นการใหญ่ นอนพิงตลอดทาง.....ผมบอกมันว่าไม่เป็นไรแล้วยิ้มให้มันนิดนึง.....มันยิ้มตอบ.....ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมากกว่านี้.....อีแอ๊บเรียกโมทย์ให้ไปช่วยยกของ....โมทย์มันก็เดินไปช่วยตามเคย......ผมเดินถือของพะรุงพะรัง.....กระเป๋า 2 ใบ.....ถุงของฝากอีกหลายถุง


.....รอเรียกแท็กซี่ตั้งนาน.....กว่าจะถึงบ้านก็เกือบ 6 โมงเย็น.....ขี่มอไซค์ออกไปซื้อของกิน.....กลับมาอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว นั่งเล่นดูโทรทัศน์อีกแป๊บนึง.....ขอนอนตั้งแต่ 2 ทุ่มละกัน เหนื่อยมาก.....กำลังเคลิ้ม ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น.....เฮ้ย....หรือว่าไอ้วุธมันจะโทรมาวะ....ภาพที่มันทำท่าโทรศัพท์นี่มีความหมาย 2 อย่างนะ มันจะโทรมา หรือให้เราโทรกลับ....จะรับดีมั๊ย....ไอ้น้องเวรก็ยังไม่กลับบ้าน ไม่งั้นก็ให้มันรับแล้วเช็คว่าใครโทรมาก่อนได้.....นั่งมองโทรศัพท์จนมันหลุดไปเอง.....ผมตัดสินใจดึงแจ็คหลังเครื่องออก....ไม่รับดีกว่า....เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วนี่นา.....ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง....ทั้ง ๆ ที่เหนื่อยและง่วง แต่ทำไมไม่หลับวะเอ้.....ในหัวมีแต่เรื่องไอ้วุธแวบไป แวบมา สลับกับท่าทางแปลก ๆ ของโมทย์ด้วย......ต้องหลับตา นอนนิ่ง ๆ บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไรอีก....ในที่สุดก็หลับไปเองด้วยความเพลีย.......


***************************************ที*บี*ซี**************************

Electrolyte

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
วุธจะเข้าใจผิดมั้ยเนี่ย

anston

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ..ก็หนีไม่พ้น..โลกกลมจริงๆ
สงสัยจะเป็นเนื้อคู่กันจริงๆซะละมั้ง..

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
สวัดดีกันก่อน


อยากบอกว่าเคยอ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง

และก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ฝังใจผมมาตลอด

ผมนับถือความรักของคุณเอ้และคุณวุธจริงๆครับ

เป้นอีกหนึ่งเรื่องที่อ่านกี่ครั้ง ก็ยังคงบรรยากาศและความรู้สึกดีๆที่มีให้เรื่องนี้เหมือนเดิมเสมอ


เป็นกำลังใจให้กับความรักของทั้งสองคนนะครับ!!!!


stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยย  โดน น้ำตาซำ

กะฮา เจ๊เต็มมากๆ อ๊ากๆๆๆ

ติดตามนะคับผม   เลิฟๆ

a22a

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากนะคับที่มาลงต่อให้ได้อ่านคับผม สนุกดีคับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

 :เฮ้อ: หนีไรหนีได้ อย่าหนีใจตัวเองเลยเอ้

ลองคุยกันดีดีก่อนดีกว่าไหมจ๊ะน้องเอ้

ขอบคุณนะที่มาต่อ และก็รออ่านตอนต่อไปด้วยคับ

 o15

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงวุธคงเป็นพระเอกใช่ปะ เรื่องยังอีกยาวหรอ งั้นรีบๆมาช่วยกันโพสนะ ใครที่มีเรื่องนี้อ่ะ  :m23: :m23: :m23:


ชอบมั่กมากกกกกกกกกกกกกกกก :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






papae

  • บุคคลทั่วไป

papae

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องเล่า)"อด$
«ตอบ #351 เมื่อ01-10-2007 17:51:05 »

:m3: :m3: :m1: :m1:
คุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ แล้ววุธจะกลับมาเป็นพระเอกอีกหรอเนี้ย
อยากรู้จัก มาต่อไวไวนะครับ
:m15: :m8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2007 16:58:18 โดย papae »

blach

  • บุคคลทั่วไป

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วครับช่วงนี้อยู่ในช่วงสอบ
อะไรมานก็ดูวุ่นๆๆหมดเลยเนอะ
ถ้าเห็นผมหายไปหลายวันมาลงต่อเลยก็ได้นะครับ
จะได้ไม่ขาดช่วง ขอโทดนะครับที่ทำให้ช้าลง :m5:
ไปอ่านต่อเลยนะครับ


6 Unforgettable Night Part I

.....หลังจากช่วงเวลาของการรับน้องสิ้นสุดลง.....งานกีฬาเฟรชชี่ก็ตามมาในวันเสาร์ปลายเดือน.....รุ่นพี่ขอความร่วมมือทุกคนให้ไปร่วมงานในตอนกลางวัน มีการแข่งกีฬาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไฮไลท์จะเป็นการประกวดเชียร์ลีดเดอร์ในช่วงเย็น.....ส่วนงานกลางคืน จะมีการแสดงคอนเสิร์ต ปิดท้ายด้วยการประกวดเดือนและดาวมหาวิทยาลัย.....


.....สมัยนั้นการเป็นเกย์ยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก แม้ว่าสังคมมหาลัยจะให้อิสระกับคนกลุ่มนี้มากกว่าตอนเรียนมัธยมก็เถอะ.....ผมและกุ้งได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนไปประกวดเดือนคณะ และตัองคัดเลือกอีกทีเพื่อประกวดเดือนมหาลัย.....ใครไม่รู้อุตริเสนอชื่อพวกเราสองคนด้วยคะแนนหลายเสียงเลยครับ จะว่าเป็นเพื่อนเราก็ไม่น่าจะใช่ เพราะมันรู้ว่าพวกผมไม่ชอบเรื่องอย่างนี้......และรู้เลยว่ายังไงก็ไม่มีทางได้ตำแหน่ง ......อีกอย่างรู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับการเป็นตัวแทนของสาขา......ปล่อยให้ชายจริงหญิงแท้เค้าฟาดฟันกันเองเหอะ.....


.....ในจำนวนผู้ชาย 5 คนที่ได้รับการเสนอชื่อมากที่สุด มีอีแอ๊บและโมทย์ด้วย.....ผมกับอีกุ้งยกมือสละสิทธิ์.....

“.....เอ้กับกุ้งไม่เอาด้วยนะพี่.....” ผมพูดเสียงจริงจัง

“.....ลองดูดิ.....มันไม่ใช่แค่การประกวดอย่างเดียวนะโว้ย.....มันต้องมีการแสดงโชว์ด้วย....แกสองคนน่ะเหมาะแล้ว.....”

“.....แหม....พี่....ถ้าเอาหน้าตาอย่างเดียวก็พอลุ้น....” อีกุ้งปล่อยมุข เสียงเพื่อนและรุ่นพี่โห่ดังลั่น

“.....แต่พี่ว่า.....ไม่โกรธกันนะ.....เอ้กับกุ้งมันหน้าหวานเกินผู้ชายไปหน่อยว่ะ.....” พี่ประธานปี 3 แย้งพี่ที่พูดคนแรก พวกผมรีบพยักหน้ารับทันที

“.....ใช่.....งั้นให้เราประกวดดาว แล้วให้ป๋องมันประกวดเดือนดีมั๊ยพี่.....” อีกุ้งหมายถึงทอมประจำรุ่น.....เพิ่งเคยเห็นทอมอายก็งานนี้แหละ

“.....พอ ๆ เลิกเล่นกันได้แล้ว.....เอางี้....ถ้ากุ้งกับเอ้สละสิทธิ์ก็ไม่เป็นไร.....พวกเราโหวตให้สามคนที่เหลือก็ได้.....” พวกผมถอนหายใจโล่งอก

.....สปิริตน่ะมันก็มีอะนะ....แต่ผมรู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับการประกวดอย่างนี้.....ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนก็เถอะ แต่มันรู้สึกยังไงไม่รู้ ขอช่วยงานอย่างอื่นละกัน.....พวกผมยกมือโหวตให้โมทย์ทั้งกลุ่มเลยครับ......ผลปรากฏว่าโมทย์ได้เป็นตัวแทนสาขาไปแข่งกับสาขาอื่นในคณะบริหารอีกที.....ส่วนเพื่อนผู้หญิงที่ได้เป็นดาวก็น่ารักดี.....ดูมั่นใจ.....ให้ทำอะไรก็ทำ.....พิสูจน์ได้จากการรับน้องที่ผ่านมา และนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่เค้าได้เสียงโหวตเยอะขนาดนี้......ดูอีแอ๊บจะผิดหวังมากที่คะแนนน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ.....ในรอบแรกที่ให้เลือกเพื่อนชายห้า หญิงห้า ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษ แต่พอโหวตจริง ๆ ใช้ยกมือนับเอา โชคดีจริง ๆ ที่ถอนตัวออกมาก่อน.....


*
*
*


.....เย็นวันประกวดดาวและเดือนคณะ.....พวกผมพากันไปให้กำลังใจโมทย์ทั้งสาขา.....วันนี้ทั้งวันไม่ได้เห็นหน้ามันเลย จะเตรียมตัวอะไรกันเยอะแยะวะ ผู้ชายนะโว้ย ผมคิดในใจ......หงุดหงิดที่เห็นเดือนและดาวของสาขาอื่นมาเก๊กสวยหล่อพร้อมกันหมดแล้ว ทำไมของเรามาช้าจัง.....คนเยอะมาก ๆ ไม่ได้มีแค่คณะเราแล้วหล่ะ ผมเห็นคณะอื่นมากันเกือบหมดมหาลัย ก็ แหม คณะบริหารธุรกิจ ไม่ว่าที่ไหนก็มีคนสวย หล่อ เยอะพอ ๆ กับคณะนิเทศ แต่มักจะสวยกันคนละแบบ.....


“.....มาแล้วโว้ย.....” อีเต็มตาดีกว่าเพื่อน

“.....เฮ้ย....หล่อชิบหายเลยมึง.....” อีกุ้งกรี๊ด พี่ก้องที่ยืนข้าง ๆ ต้องสะกิด มันถึงได้เบาลง

“.....โห.....ไปทำอะไรมาวะ.....” ขนาดผมยังอดเพ้อไม่ได้

“.....พอถอดแว่นออกแล้วเป็นคนละคนเลยวุ้ย.....” อีนันชมบ้าง โมทย์หันมาเห็นพวกผมพอดี มันยิ้มให้ พวกผมยิ้มแล้วยกนิ้วโป้งให้มัน......อีแอ๊บที่เดินประกบโมทย์ตลอดเวลา มองพวกผมเหยียด ๆ เหมือนเคย แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่านี่คือคาแรคเตอร์ประจำตัวมันแล้ว

.....จากประสบการณ์เคยขึ้นประกวดมาก่อน รู้เลยว่ามันจะตื่นเต้นขนาดไหน นี่ไม่ใช่เวทีเล็ก ๆ แล้วนะครับ นักศึกษาจากคณะอื่นเริ่มทยอยกันเข้ามาดูการประกวดมากขึ้น สาขาอื่นก็ตอบคำถาม และ present ตัวเองกันดี ๆ ทั้งนั้น พวกผมมองเห็นโมทย์มันยืนหน้าเครียดอยู่คนเดียว อีนันชวนให้เดินเข้าไปหา ไม่มีใครอยากเบียดคนไปกับมันเลย แต่สุดท้ายมันก็ลากผมไปจนได้.....

“.....เครียดเหรอโมทย์.....” อีนันสะกิด มันพยักหน้า

“.....เฮ้ย.....Take it easy.....ทำตัวตามสบาย เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด.....เราเข้าใจว่าโมทย์รู้สึกยังไง.....พี่เค้าให้ตอบตามสคริปใช่มั๊ย.....” มันพยักหน้าอีก

“.....ตื่นเต้นว่ะ.....” เป็นครั้งแรกที่มันพูดอย่างนี้ ปกติมันจะมีครับตามหลังเสมอ

“.....ถ้ากลัวจำสคริปไม่ได้.....เวลาตอบคำถามก็ตอบตามความรู้สึกจริง ๆ ดิ เชื่อเรา....ทุกคนเป็นกำลังใจให้.....เต็มที่นะ.....” ผมจับมือมันบีบเบา ๆ มือเย็นเจี๊ยบเลยครับ

“.....ขอบคุณครับ.....” มันยิ้มออกมาได้ โอ๊ย คอนแท็คเลนส์สีน้ำตาล เข้ากับสีผมของมัน ทำให้หน้ามันเด่นขึ้นจริง ๆ

“.....โมทย์.....ขึ้นเวทีได้แล้ว.....” อีแอ๊บเดินเข้ามาเรียกโมทย์โดยที่ไม่ชายตามองพวกผมเลย

“.....โชคดีนะ.....” อีนันพูด โมทย์มันกำลังจะอ้าปากพูดอะไรซักอย่าง แต่อีแอ๊บมันดันลากตัวไปซะก่อน


*
*

.....ผมเดินกลับมาดูการประกวดต่อ.....โมทย์ขึ้นเวทีคราวนี้ ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ยิ่งเวลามันกวาดตามองคนที่อยู่ข้างล่างด้วยแล้ว โอ๊ย เสียงกรี๊ดถล่มทลาย มันไปหัดบริหารเสน่ห์ที่ไหนวะ ผมพูดกับอีนันเบา ๆ อีนันได้แต่ยิ้มอย่างเดียว มองดูอีเต็มที่กรี๊ดโมทย์จนเสียงแหบ กรี๊ดจนเกินค่าตัว......ตอนตอบคำถามมันก็ทำได้ดีกว่าที่คิด.....ดูมันผ่อนคลายลงไปเยอะ.....ชอบจังเลยตอนมันยิ้มไปด้วยพูดไปด้วยเนี่ย.....ฟันก็สวย ตาก็สวย.....ผมที่เพิ่งไปตัดและทำสีน้ำตาอ่อน ๆ มาก็ทำให้มันดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก.....


.....โมทย์และเพื่อนผู้หญิงที่เข้าประกวดยืนยิ้มอยู่ตรงกลางวงล้อมของเพื่อน ๆ ที่กำลังบูมสาขา และบูมคณะ ในที่สุดพวกเค้าสองคนก็ทำชื่อเสียงให้สาขา แต่นี่เป็นแค่การเริ่มต้น อีกสองวันต้องเป็นตัวแทนประกวดระดับมหาวิทยาลัย.....มีเวลาน้อยเหลือเกินสำหรับเตรียมการแสดงโชว์บนเวที.....เย็นนั้นกว่าพวกผมเด็กปี 1 จะได้กลับบ้านก็เกือบสองทุ่ม ประชุมร่วมกับสาขาอื่นตกลงหาการแสดงให้กับเดือนและดาวคณะ.....นึกว่ารับน้องจบ ก็คือจบ ได้ไปเที่ยวบ้าง แต่ไม่เลย กลับบ้านมืดทุกวัน แต่สนุกดีนะครับ.....


.....กลับถึงบ้าน อาบน้ำ กินข้าว ปิดบ้าน ตรวจดูความเรียบร้อย ขึ้นไปนั่งดูโทรทัศน์บนห้องสักพัก เริ่มง่วงนิด ๆ นอนดีกว่า.....ขณะกำลังหาคลื่นวิทยุเพื่อฟังเพลงก่อนนอน เสียงเพจก็ดังขึ้น ผมกดอ่าน ชิบหาย....ลืมเสียบสายโทรศัพท์บนห้องตั้งแต่วันที่กลับจากรับน้อง.....ไอ้โยเพจมาต่อว่า มันพยายามโทรเข้าบ้านผมหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับเลย.....ผมลุกขึ้นเปิดไฟ หาสายต่อเข้าเครื่องเหมือนเดิม เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทันทีที่ผมเสียบแจ็คเสร็จ ผมยกหูรับรู้เลยว่าต้องเป็นไอ้โย......


“.....เป็นอะไรวะเอ้.....โทรมาตั้งหลายครั้งไม่มีคนรับเลย.....น้องมึงไปไหนวะ.....ไม่มีคนอยู่เลยเหรอ....แล้วมึงไปแรดไหนทุกวันเนี่ย.....ขนาดโทรดึก ๆ ก็ไม่มีคนรับ....กูนึกว่ามึงเป็นอะไรไปซะแล้ว.....” มันใส่ผมเป็นชุด

“.....ขอโทษ....กูก็อยู่บ้านเนี่ยแหละ.....แต่กูดึงปลั๊กโทรศัพท์ออกตั้งแต่กูไปรับน้อง....แล้วลืมเสียบกลับอ่ะ.....” ผมพูดเสียงอ่อย ๆ

“.....เวร.....ถ้าใครเป็นอะไรจะติดต่อมึงยังไง....หา....” มันยังบ่นต่อ

“.....ก็เพจมาดิ....” ผมเถียง

“.....ถ้าเค้าไม่รู้เบอร์เพจมึงล่ะ.....”

“.....นั่นหมายความว่ากูไม่อยากติดต่อด้วย.....” ผมแอบคิดถึงไอ้วุธ

“.....เออ....ดีนะมึง.....รับน้องเป็นไงมั่งวะ.....”

“.....สนุกดี....กูมีเรื่องเล่าให้ฟังตั้งเยอะ.................................” รวดเดียว Non Stop ไอ้โยหัวเราะเป็นระยะ แต่ผมไม่บอกเรื่องที่เจอไอ้วุธหรอก

“.....ช่วงนี้ก็ว่างแล้วดิ.....ไปหาอะไรกินกันปะ.....” โยชวน

“.....ว่างห่าอะไรล่ะ....วันเสาร์นี้มีงานเฟรชชี่.....มีประกวดเดือนดาวด้วยนะโว้ย.....”

“.....จริงดิ....งั้นขอไปดูด้วยนะ....” อ้าว....ซวยเลยกู จะเอามันไปดูได้ยังไงวะ เพื่อน ๆ ผมมันยิ่งชอบจ้องว่าผมแอบซุ่มแฟน.....ถ้าเอาไอ้โยไป พวกมันต้องคิดว่าไอ้โยเป็นแฟนผมแน่ ๆ จะปฏิเสธยังไงดีวะเนี่ย

“.....คือว่า.....กูไม่มีเวลาเทคแคร์นะ....”

“.....กูไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะโว้ย.....ทำไม....ไม่อยากให้กูไปอ่ะดิ....” มันจับเสียงผมได้ มันพูดเหมือนน้อยใจ

“.....เปล่า.....ไม่ใช่อย่างนั้น.....”

“.....ไม่ต้องมาตอแหลเลย.....มึงมีใครซ่อนไว้ที่มหาลัย.....หรือว่านัดใครไว้แล้ว.....ไอ้วุธใช่มั๊ย.....”

“.....อย่าพูดชื่อนี้ให้ได้ยินอีกนะ.....เออ....อยากไปก็ไป.....เจอกันกี่โมง ที่ไหน ยังไง ว่ามา.....” ผมตัดบทด้วยการตามใจมัน เรานัดเวลา สถานที่ และคุยกันอีกนิดหน่อย ผมก็ต้องวางเพราะง่วงมากแล้ว

*
*
*

.....สองวันที่เหลือ ผมกับโมทย์แทบไม่ได้ใกล้กันเลย มีอีแอ๊บตามประกบไม่ห่าง จนคนในสาขาแซวว่ามันสองคนเป็นแฟนกัน.....โมทย์ทำหน้าเจื่อน ๆ แต่อีแอ๊บยิ้มหน้าบาน มองพวกผมห้วยหางตาเหมือนเคย.....

“.....เอ้.....อย่าลืมมาเชียร์ผมนะ.....” โมทย์หลบอีแอ๊บมาพูดกับผมที่โรงอาหารใหม่ใกล้คณะ

“.....คุยอะไรกัน.....” อีเต็มเดินถือจานข้าวเข้ามานั่งตรงข้ามกับผม

“.....เต็มด้วย.....วันเสาร์นี้อย่าลืมนะครับ....”

“.....โมทย์....กินอะไรดี....” อีแอ๊บชะงักที่เห็นโมทย์นั่งโต๊ะเดียวกับผม

“....เหมือนเดิมครับ....”

“.....แล้วมานั่งทำไมตรงนี้.....” อีแอ๊บทำเสียงแข็ง ราวกับว่าเป็นเมียโมทย์

“.....หึงเหรอจ๊ะ....” อีกุ้งที่เพิ่งเดินเข้ามา ได้ยินพอดี ก็เลยกัดซะ

“....เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย.....” โมทย์รีบปฏิเสธทันที อีแอ๊บหน้าเสีย เดินตัวตรงหน้าเชิดไปนั่งอีกมุมนึงของโรงอาหาร ซักพักโมทย์ก็ขอตัวไปหาอีแอ๊บ

“.....พฤติกรรมน่าสงสัย.....” อีนันเปิดประเด็น

“.....อืม.....” หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็เป็นหัวข้อในการเม้าธ์ระหว่างมื้อกลางวัน


*
*
*

.....วันที่รอคอยก็มาถึง พวกผมนัดกันไม่ไปดูงานกีฬาในช่วงกลางวัน เนื่องจากอากาศร้อนมาก ไม่อยากขึ้นเชียร์ กลัวจะร้องไม่ออกเวลาเห็นอีแอ๊บเต้นอยู่ข้างสนาม.....ส่งอีกุ้งไปคนเดียวก็พอ อีนี่มันกำลังอินเลิฟ พี่ก้องอยู่ไหนมันก็อยู่ตรงนั้น....ก่อนเวลานัดไอ้โย ตอนหกโมงเย็น....ผมแวะไดร์ผม นาน ๆ ออกงานที ขอหน่อยละกัน เพิ่งรู้ว่าผมยาวเร็วเหมือนกัน ผมข้างหลังใกล้ปรกคอ ผมข้างหน้ายาวเกือบถึงคางแล้ว.....มองกระจกตรงหน้า อืม ใช้ได้ คืนนี้เต็มที่แน่นอน.....


“.....โห...ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นนะมึง.....” โยพูดหลังจากมองผมอึ้ง ๆ

“.....ปากดีนะมึง.....หล่อโว้ย ไม่ใช่สวย.....” ผมเขิน ไม่ชอบให้ใครชมว่าสวยเลยจริง ๆ

“.....เป็นแฟนกูเถอะ.....”

“.....โคตรโรแมนติกเลยมึง....” ผมขำ

“.....ซีเรียสนะโว้ย....” มันทำหน้าขึงขัง

“.....อย่ามาบ้า....จะไปได้ยัง.....” ผมเดินนำขึ้นรถ

*
*

“.....มองอะไร.....” ผมชักเริ่มรำคาญที่ไอ้โยมองหน้าผมตั้งแต่ขึ้นรถ

“.....มีแฟนยังวะ.....”

“.....ยัง.....กูมีหัวใจไว้ทำลาย ไม่ได้มีไว้รัก.....” ผมพูดยิ้ม ๆ

“.....ไม่เชื่อหรอก....มึงยังลืมไอ้วุธไม่ได้ใช่มั๊ย.....” ผมอึ้ง

“.....ถ้าพูดชื่อนี้อีกครั้งกูจะถีบให้ตกรถเลย....”

“.....โหดว่ะ....” มันเขยิบออกห่าง ผมทำเป็นใช้สมาธิในการขับรถ ไม่คุยกับมันอีกจนถึงมหาลัย

“....ถ้าเจอเพื่อนกูก็กรุณาสงบปากสงบคำหน่อยนะ.....” ผมพูดกับโยก่อนลงรถ มันพยักหน้าหงึก ๆ


.....ระหว่างทางเดินไปคณะ เพื่อรวมตัวกับเพื่อน ๆ ที่รออยู่....ไอ้โยเดินใกล้ซะไหล่ชนกัน ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายยี่ห้อดังระเหยออกมาจากตัวมัน....ผมแอบมองมัน เฮ้อ ทำไมกูไม่ชอบมันวะ รูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวก็ดี การศึกษายิ่งดี ที่สำคัญเราไม่ต้องปรับตัวเข้าหากันเลย.....เดินผ่านซุ้มหลายซุ้ม คนก็มองจนผมสงสัยว่ารูดซิปหรือเปล่า แอบเอามือคลำ ก็รูดปกติดีนี่หว่า มองอะไรกันวะ.....


“.....อีเอ้มาแล้ว.....เอาแฟนมาด้วยโว้ย....” เสียงอีเต็มดังขึ้นก่อนที่ผมจะถึงซุ้ม

“.....กะจะเปิดตัวกันคืนนี้เลยเหรอวะ.....” อีนันแซว สายตาทุกคู่จ้องมาที่ผมกับไอ้โย

“.....มานี่เลย.....ทำเป็นซุ่มนะมึง.....” อีกุ้งลุกขึ้นมาลากผมเข้าไปนั่ง ทำให้ผมต้องจับมือโยไปนั่งด้วย

“.....ฟังก่อนมึง.....นี่เพื่อนกู ชื่อโย....ไม่ใช่แฟน.....เนอะ.....” ผมหันไปพยักเพยิดกับมัน

“.....เอ้เค้าอายอ่ะครับ....ตอนนี้ไม่ใช่แฟนหรอกครับ แต่เมื่อกี้น่ะใช่.....” เสียงเพื่อนผมกรี๊ดกร๊าดถูกใจ ไอ้โยเล่นผมแล้วไง ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ไหน

“.....ไอ้บ้า.....” ผมตบหลังมันดังพลั่ก

“.....ไม่ต้องอายเพื่อนหรอก.....” มันขยิบตาให้ผม เล่นไม่เลิกนะมึง ผมด่ามันในใจ

“.....ไปดูโมทย์กันเถอะ....” ผมลุกเดินหนี โมโห อุตสาห์บอกมันแล้วว่าให้สงบปากสงบคำ

“.....เค้าเขินอ่ะครับ....” ผมหันขวับ เห็นไอ้โยกำลังชี้มาที่ผม หัวเราะกับเพื่อน ๆ

“.....ตามมานี่เลย.....” ผมลากไอ้โยไปตกลงกันใหม่

“.....ไปไหนวะ....” อีนันตะโกนถาม

“.....เดี๋ยวเจอกันที่เวทีเลยนะโว้ย.....” ผมตะโกนกลับ


.....ผมลากไอ้โยไปให้พ้นที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่สนใจสายตาคนมองด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังเห็นดินด้วยกันดี ๆ.....ก้มหน้าก้มตาดึงมันมาจนจะพ้นตึกเรียน ด้วยความที่โมโห เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ผมชนคนที่เดินเลี้ยวมาแรงจนเซแถ่ด ๆ ๆ ดีนะว่าไอ้โยมันจับผมไว้ ไม่งั้นผมต้องล้มไปกองกับพื้นแล้ว.....


“.....ขอโทษครับ....” ผมกับคนที่เดินชนพูดพร้อมกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากเราทั้งคู่อีกเลย มีแค่สายตาที่มองจ้องกันด้วยความตกใจ

“.....มาเที่ยวเหรอครับ....” ไอ้โยทำลายความเงียบ

“.....อืม....” คนถูกถามตอบโดยใช้เสียงในคอ สายตาจับจ้องที่มือไอ้โยที่ประคองผมอยู่

“.....เวทีอยู่ตรงโน่น.....เดินไปตามทาง เดี๋ยวก็เจอ.....” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“.....ขอบใจ.....” พูดจบก็เดินเลี่ยงผมกับโยไป ผมอดไม่ได้ที่จะมองตามไหล่กว้าง ๆ นั่นจนลับสายตา

“.....ถ่านไฟเก่าจะคุมั๊ยน้า.....” ผมหันไปทำตาดุ ไอ้โยถึงได้เงียบปาก

“.....มันจะมาทำไมวะ.....แม่ง....แล้วเมื่อไหร่กูจะลืมได้เนี่ย” ผมบ่นเบา ๆ กับตัวเอง

“.....นัดกันไว้อ่ะดิ....” ไอ้โยแหย่

“.....มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูเรียนที่นี่.....”

“.....แล้วมึงจะพากูไปไหนเนี่ย.....” ไอ้โยมองมือผมที่ยังจับมือมันอยู่ ผมปล่อยทันที

“.....ไปดูเพื่อนกูดีกว่า....ไม่มีอารมณ์จะคุยแล้ว.....จำไว้นะมึง อย่าทำให้ใครคิดว่ากูเป็นแฟนกับมึงอีก.....” ผมย้ำไอ้โยระหว่างทางเดินกลับไปเวที

“....กลัวขายไม่ออกเหรอ....”

“.....เออ ๆ มึงจะทำอะไรก็ทำเหอะ.....ยังไงกูกับมึงก็เป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้อยู่แล้ว.....” ผมพูดปลง ๆ


***************************************TBC**********************************


a22a

  • บุคคลทั่วไป
คุณเอ้กับวุธต้องเป็นเนื้อคู่กระดูกคู่กันแน่ๆเลยไปที่ไหนไม่เคยพ้นกันเลยเจอกันแบบบังเอินตลอดนะคับ รอลุ้นตอนต่อไปคับ

Electrolyte

  • บุคคลทั่วไป
 :a1:มาต่อเร็วๆๆนะคร้าบ

papae

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มานั่งลุ้นคู่นี้ด้วยอีกคน

คู่แล้วย่อมม่ายแคล้วกัน  อะกิ้วๆๆ  :give2:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
นั่นดิ หนีกันไม่พ้นจริงๆ  :m9:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

จะคุยกันดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงเนี่ย

ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่น๊า......

ถ้าเวลาหมดก็อดกันพอดี

 o15

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด