มาแล้วครับช่วงนี้อยู่ในช่วงสอบ
อะไรมานก็ดูวุ่นๆๆหมดเลยเนอะ
ถ้าเห็นผมหายไปหลายวันมาลงต่อเลยก็ได้นะครับ
จะได้ไม่ขาดช่วง ขอโทดนะครับที่ทำให้ช้าลง
ไปอ่านต่อเลยนะครับ
6 Unforgettable Night Part I
.....หลังจากช่วงเวลาของการรับน้องสิ้นสุดลง.....งานกีฬาเฟรชชี่ก็ตามมาในวันเสาร์ปลายเดือน.....รุ่นพี่ขอความร่วมมือทุกคนให้ไปร่วมงานในตอนกลางวัน มีการแข่งกีฬาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไฮไลท์จะเป็นการประกวดเชียร์ลีดเดอร์ในช่วงเย็น.....ส่วนงานกลางคืน จะมีการแสดงคอนเสิร์ต ปิดท้ายด้วยการประกวดเดือนและดาวมหาวิทยาลัย.....
.....สมัยนั้นการเป็นเกย์ยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก แม้ว่าสังคมมหาลัยจะให้อิสระกับคนกลุ่มนี้มากกว่าตอนเรียนมัธยมก็เถอะ.....ผมและกุ้งได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนไปประกวดเดือนคณะ และตัองคัดเลือกอีกทีเพื่อประกวดเดือนมหาลัย.....ใครไม่รู้อุตริเสนอชื่อพวกเราสองคนด้วยคะแนนหลายเสียงเลยครับ จะว่าเป็นเพื่อนเราก็ไม่น่าจะใช่ เพราะมันรู้ว่าพวกผมไม่ชอบเรื่องอย่างนี้......และรู้เลยว่ายังไงก็ไม่มีทางได้ตำแหน่ง ......อีกอย่างรู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับการเป็นตัวแทนของสาขา......ปล่อยให้ชายจริงหญิงแท้เค้าฟาดฟันกันเองเหอะ.....
.....ในจำนวนผู้ชาย 5 คนที่ได้รับการเสนอชื่อมากที่สุด มีอีแอ๊บและโมทย์ด้วย.....ผมกับอีกุ้งยกมือสละสิทธิ์.....
“.....เอ้กับกุ้งไม่เอาด้วยนะพี่.....” ผมพูดเสียงจริงจัง
“.....ลองดูดิ.....มันไม่ใช่แค่การประกวดอย่างเดียวนะโว้ย.....มันต้องมีการแสดงโชว์ด้วย....แกสองคนน่ะเหมาะแล้ว.....”
“.....แหม....พี่....ถ้าเอาหน้าตาอย่างเดียวก็พอลุ้น....” อีกุ้งปล่อยมุข เสียงเพื่อนและรุ่นพี่โห่ดังลั่น
“.....แต่พี่ว่า.....ไม่โกรธกันนะ.....เอ้กับกุ้งมันหน้าหวานเกินผู้ชายไปหน่อยว่ะ.....” พี่ประธานปี 3 แย้งพี่ที่พูดคนแรก พวกผมรีบพยักหน้ารับทันที
“.....ใช่.....งั้นให้เราประกวดดาว แล้วให้ป๋องมันประกวดเดือนดีมั๊ยพี่.....” อีกุ้งหมายถึงทอมประจำรุ่น.....เพิ่งเคยเห็นทอมอายก็งานนี้แหละ
“.....พอ ๆ เลิกเล่นกันได้แล้ว.....เอางี้....ถ้ากุ้งกับเอ้สละสิทธิ์ก็ไม่เป็นไร.....พวกเราโหวตให้สามคนที่เหลือก็ได้.....” พวกผมถอนหายใจโล่งอก
.....สปิริตน่ะมันก็มีอะนะ....แต่ผมรู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับการประกวดอย่างนี้.....ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนก็เถอะ แต่มันรู้สึกยังไงไม่รู้ ขอช่วยงานอย่างอื่นละกัน.....พวกผมยกมือโหวตให้โมทย์ทั้งกลุ่มเลยครับ......ผลปรากฏว่าโมทย์ได้เป็นตัวแทนสาขาไปแข่งกับสาขาอื่นในคณะบริหารอีกที.....ส่วนเพื่อนผู้หญิงที่ได้เป็นดาวก็น่ารักดี.....ดูมั่นใจ.....ให้ทำอะไรก็ทำ.....พิสูจน์ได้จากการรับน้องที่ผ่านมา และนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่เค้าได้เสียงโหวตเยอะขนาดนี้......ดูอีแอ๊บจะผิดหวังมากที่คะแนนน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ.....ในรอบแรกที่ให้เลือกเพื่อนชายห้า หญิงห้า ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษ แต่พอโหวตจริง ๆ ใช้ยกมือนับเอา โชคดีจริง ๆ ที่ถอนตัวออกมาก่อน.....
*
*
*
.....เย็นวันประกวดดาวและเดือนคณะ.....พวกผมพากันไปให้กำลังใจโมทย์ทั้งสาขา.....วันนี้ทั้งวันไม่ได้เห็นหน้ามันเลย จะเตรียมตัวอะไรกันเยอะแยะวะ ผู้ชายนะโว้ย ผมคิดในใจ......หงุดหงิดที่เห็นเดือนและดาวของสาขาอื่นมาเก๊กสวยหล่อพร้อมกันหมดแล้ว ทำไมของเรามาช้าจัง.....คนเยอะมาก ๆ ไม่ได้มีแค่คณะเราแล้วหล่ะ ผมเห็นคณะอื่นมากันเกือบหมดมหาลัย ก็ แหม คณะบริหารธุรกิจ ไม่ว่าที่ไหนก็มีคนสวย หล่อ เยอะพอ ๆ กับคณะนิเทศ แต่มักจะสวยกันคนละแบบ.....
“.....มาแล้วโว้ย.....” อีเต็มตาดีกว่าเพื่อน
“.....เฮ้ย....หล่อชิบหายเลยมึง.....” อีกุ้งกรี๊ด พี่ก้องที่ยืนข้าง ๆ ต้องสะกิด มันถึงได้เบาลง
“.....โห.....ไปทำอะไรมาวะ.....” ขนาดผมยังอดเพ้อไม่ได้
“.....พอถอดแว่นออกแล้วเป็นคนละคนเลยวุ้ย.....” อีนันชมบ้าง โมทย์หันมาเห็นพวกผมพอดี มันยิ้มให้ พวกผมยิ้มแล้วยกนิ้วโป้งให้มัน......อีแอ๊บที่เดินประกบโมทย์ตลอดเวลา มองพวกผมเหยียด ๆ เหมือนเคย แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่านี่คือคาแรคเตอร์ประจำตัวมันแล้ว
.....จากประสบการณ์เคยขึ้นประกวดมาก่อน รู้เลยว่ามันจะตื่นเต้นขนาดไหน นี่ไม่ใช่เวทีเล็ก ๆ แล้วนะครับ นักศึกษาจากคณะอื่นเริ่มทยอยกันเข้ามาดูการประกวดมากขึ้น สาขาอื่นก็ตอบคำถาม และ present ตัวเองกันดี ๆ ทั้งนั้น พวกผมมองเห็นโมทย์มันยืนหน้าเครียดอยู่คนเดียว อีนันชวนให้เดินเข้าไปหา ไม่มีใครอยากเบียดคนไปกับมันเลย แต่สุดท้ายมันก็ลากผมไปจนได้.....
“.....เครียดเหรอโมทย์.....” อีนันสะกิด มันพยักหน้า
“.....เฮ้ย.....Take it easy.....ทำตัวตามสบาย เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด.....เราเข้าใจว่าโมทย์รู้สึกยังไง.....พี่เค้าให้ตอบตามสคริปใช่มั๊ย.....” มันพยักหน้าอีก
“.....ตื่นเต้นว่ะ.....” เป็นครั้งแรกที่มันพูดอย่างนี้ ปกติมันจะมีครับตามหลังเสมอ
“.....ถ้ากลัวจำสคริปไม่ได้.....เวลาตอบคำถามก็ตอบตามความรู้สึกจริง ๆ ดิ เชื่อเรา....ทุกคนเป็นกำลังใจให้.....เต็มที่นะ.....” ผมจับมือมันบีบเบา ๆ มือเย็นเจี๊ยบเลยครับ
“.....ขอบคุณครับ.....” มันยิ้มออกมาได้ โอ๊ย คอนแท็คเลนส์สีน้ำตาล เข้ากับสีผมของมัน ทำให้หน้ามันเด่นขึ้นจริง ๆ
“.....โมทย์.....ขึ้นเวทีได้แล้ว.....” อีแอ๊บเดินเข้ามาเรียกโมทย์โดยที่ไม่ชายตามองพวกผมเลย
“.....โชคดีนะ.....” อีนันพูด โมทย์มันกำลังจะอ้าปากพูดอะไรซักอย่าง แต่อีแอ๊บมันดันลากตัวไปซะก่อน
*
*
.....ผมเดินกลับมาดูการประกวดต่อ.....โมทย์ขึ้นเวทีคราวนี้ ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ยิ่งเวลามันกวาดตามองคนที่อยู่ข้างล่างด้วยแล้ว โอ๊ย เสียงกรี๊ดถล่มทลาย มันไปหัดบริหารเสน่ห์ที่ไหนวะ ผมพูดกับอีนันเบา ๆ อีนันได้แต่ยิ้มอย่างเดียว มองดูอีเต็มที่กรี๊ดโมทย์จนเสียงแหบ กรี๊ดจนเกินค่าตัว......ตอนตอบคำถามมันก็ทำได้ดีกว่าที่คิด.....ดูมันผ่อนคลายลงไปเยอะ.....ชอบจังเลยตอนมันยิ้มไปด้วยพูดไปด้วยเนี่ย.....ฟันก็สวย ตาก็สวย.....ผมที่เพิ่งไปตัดและทำสีน้ำตาอ่อน ๆ มาก็ทำให้มันดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก.....
.....โมทย์และเพื่อนผู้หญิงที่เข้าประกวดยืนยิ้มอยู่ตรงกลางวงล้อมของเพื่อน ๆ ที่กำลังบูมสาขา และบูมคณะ ในที่สุดพวกเค้าสองคนก็ทำชื่อเสียงให้สาขา แต่นี่เป็นแค่การเริ่มต้น อีกสองวันต้องเป็นตัวแทนประกวดระดับมหาวิทยาลัย.....มีเวลาน้อยเหลือเกินสำหรับเตรียมการแสดงโชว์บนเวที.....เย็นนั้นกว่าพวกผมเด็กปี 1 จะได้กลับบ้านก็เกือบสองทุ่ม ประชุมร่วมกับสาขาอื่นตกลงหาการแสดงให้กับเดือนและดาวคณะ.....นึกว่ารับน้องจบ ก็คือจบ ได้ไปเที่ยวบ้าง แต่ไม่เลย กลับบ้านมืดทุกวัน แต่สนุกดีนะครับ.....
.....กลับถึงบ้าน อาบน้ำ กินข้าว ปิดบ้าน ตรวจดูความเรียบร้อย ขึ้นไปนั่งดูโทรทัศน์บนห้องสักพัก เริ่มง่วงนิด ๆ นอนดีกว่า.....ขณะกำลังหาคลื่นวิทยุเพื่อฟังเพลงก่อนนอน เสียงเพจก็ดังขึ้น ผมกดอ่าน ชิบหาย....ลืมเสียบสายโทรศัพท์บนห้องตั้งแต่วันที่กลับจากรับน้อง.....ไอ้โยเพจมาต่อว่า มันพยายามโทรเข้าบ้านผมหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับเลย.....ผมลุกขึ้นเปิดไฟ หาสายต่อเข้าเครื่องเหมือนเดิม เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทันทีที่ผมเสียบแจ็คเสร็จ ผมยกหูรับรู้เลยว่าต้องเป็นไอ้โย......
“.....เป็นอะไรวะเอ้.....โทรมาตั้งหลายครั้งไม่มีคนรับเลย.....น้องมึงไปไหนวะ.....ไม่มีคนอยู่เลยเหรอ....แล้วมึงไปแรดไหนทุกวันเนี่ย.....ขนาดโทรดึก ๆ ก็ไม่มีคนรับ....กูนึกว่ามึงเป็นอะไรไปซะแล้ว.....” มันใส่ผมเป็นชุด
“.....ขอโทษ....กูก็อยู่บ้านเนี่ยแหละ.....แต่กูดึงปลั๊กโทรศัพท์ออกตั้งแต่กูไปรับน้อง....แล้วลืมเสียบกลับอ่ะ.....” ผมพูดเสียงอ่อย ๆ
“.....เวร.....ถ้าใครเป็นอะไรจะติดต่อมึงยังไง....หา....” มันยังบ่นต่อ
“.....ก็เพจมาดิ....” ผมเถียง
“.....ถ้าเค้าไม่รู้เบอร์เพจมึงล่ะ.....”
“.....นั่นหมายความว่ากูไม่อยากติดต่อด้วย.....” ผมแอบคิดถึงไอ้วุธ
“.....เออ....ดีนะมึง.....รับน้องเป็นไงมั่งวะ.....”
“.....สนุกดี....กูมีเรื่องเล่าให้ฟังตั้งเยอะ.................................” รวดเดียว Non Stop ไอ้โยหัวเราะเป็นระยะ แต่ผมไม่บอกเรื่องที่เจอไอ้วุธหรอก
“.....ช่วงนี้ก็ว่างแล้วดิ.....ไปหาอะไรกินกันปะ.....” โยชวน
“.....ว่างห่าอะไรล่ะ....วันเสาร์นี้มีงานเฟรชชี่.....มีประกวดเดือนดาวด้วยนะโว้ย.....”
“.....จริงดิ....งั้นขอไปดูด้วยนะ....” อ้าว....ซวยเลยกู จะเอามันไปดูได้ยังไงวะ เพื่อน ๆ ผมมันยิ่งชอบจ้องว่าผมแอบซุ่มแฟน.....ถ้าเอาไอ้โยไป พวกมันต้องคิดว่าไอ้โยเป็นแฟนผมแน่ ๆ จะปฏิเสธยังไงดีวะเนี่ย
“.....คือว่า.....กูไม่มีเวลาเทคแคร์นะ....”
“.....กูไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะโว้ย.....ทำไม....ไม่อยากให้กูไปอ่ะดิ....” มันจับเสียงผมได้ มันพูดเหมือนน้อยใจ
“.....เปล่า.....ไม่ใช่อย่างนั้น.....”
“.....ไม่ต้องมาตอแหลเลย.....มึงมีใครซ่อนไว้ที่มหาลัย.....หรือว่านัดใครไว้แล้ว.....ไอ้วุธใช่มั๊ย.....”
“.....อย่าพูดชื่อนี้ให้ได้ยินอีกนะ.....เออ....อยากไปก็ไป.....เจอกันกี่โมง ที่ไหน ยังไง ว่ามา.....” ผมตัดบทด้วยการตามใจมัน เรานัดเวลา สถานที่ และคุยกันอีกนิดหน่อย ผมก็ต้องวางเพราะง่วงมากแล้ว
*
*
*
.....สองวันที่เหลือ ผมกับโมทย์แทบไม่ได้ใกล้กันเลย มีอีแอ๊บตามประกบไม่ห่าง จนคนในสาขาแซวว่ามันสองคนเป็นแฟนกัน.....โมทย์ทำหน้าเจื่อน ๆ แต่อีแอ๊บยิ้มหน้าบาน มองพวกผมห้วยหางตาเหมือนเคย.....
“.....เอ้.....อย่าลืมมาเชียร์ผมนะ.....” โมทย์หลบอีแอ๊บมาพูดกับผมที่โรงอาหารใหม่ใกล้คณะ
“.....คุยอะไรกัน.....” อีเต็มเดินถือจานข้าวเข้ามานั่งตรงข้ามกับผม
“.....เต็มด้วย.....วันเสาร์นี้อย่าลืมนะครับ....”
“.....โมทย์....กินอะไรดี....” อีแอ๊บชะงักที่เห็นโมทย์นั่งโต๊ะเดียวกับผม
“....เหมือนเดิมครับ....”
“.....แล้วมานั่งทำไมตรงนี้.....” อีแอ๊บทำเสียงแข็ง ราวกับว่าเป็นเมียโมทย์
“.....หึงเหรอจ๊ะ....” อีกุ้งที่เพิ่งเดินเข้ามา ได้ยินพอดี ก็เลยกัดซะ
“....เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย.....” โมทย์รีบปฏิเสธทันที อีแอ๊บหน้าเสีย เดินตัวตรงหน้าเชิดไปนั่งอีกมุมนึงของโรงอาหาร ซักพักโมทย์ก็ขอตัวไปหาอีแอ๊บ
“.....พฤติกรรมน่าสงสัย.....” อีนันเปิดประเด็น
“.....อืม.....” หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็เป็นหัวข้อในการเม้าธ์ระหว่างมื้อกลางวัน
*
*
*
.....วันที่รอคอยก็มาถึง พวกผมนัดกันไม่ไปดูงานกีฬาในช่วงกลางวัน เนื่องจากอากาศร้อนมาก ไม่อยากขึ้นเชียร์ กลัวจะร้องไม่ออกเวลาเห็นอีแอ๊บเต้นอยู่ข้างสนาม.....ส่งอีกุ้งไปคนเดียวก็พอ อีนี่มันกำลังอินเลิฟ พี่ก้องอยู่ไหนมันก็อยู่ตรงนั้น....ก่อนเวลานัดไอ้โย ตอนหกโมงเย็น....ผมแวะไดร์ผม นาน ๆ ออกงานที ขอหน่อยละกัน เพิ่งรู้ว่าผมยาวเร็วเหมือนกัน ผมข้างหลังใกล้ปรกคอ ผมข้างหน้ายาวเกือบถึงคางแล้ว.....มองกระจกตรงหน้า อืม ใช้ได้ คืนนี้เต็มที่แน่นอน.....
“.....โห...ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นนะมึง.....” โยพูดหลังจากมองผมอึ้ง ๆ
“.....ปากดีนะมึง.....หล่อโว้ย ไม่ใช่สวย.....” ผมเขิน ไม่ชอบให้ใครชมว่าสวยเลยจริง ๆ
“.....เป็นแฟนกูเถอะ.....”
“.....โคตรโรแมนติกเลยมึง....” ผมขำ
“.....ซีเรียสนะโว้ย....” มันทำหน้าขึงขัง
“.....อย่ามาบ้า....จะไปได้ยัง.....” ผมเดินนำขึ้นรถ
*
*
“.....มองอะไร.....” ผมชักเริ่มรำคาญที่ไอ้โยมองหน้าผมตั้งแต่ขึ้นรถ
“.....มีแฟนยังวะ.....”
“.....ยัง.....กูมีหัวใจไว้ทำลาย ไม่ได้มีไว้รัก.....” ผมพูดยิ้ม ๆ
“.....ไม่เชื่อหรอก....มึงยังลืมไอ้วุธไม่ได้ใช่มั๊ย.....” ผมอึ้ง
“.....ถ้าพูดชื่อนี้อีกครั้งกูจะถีบให้ตกรถเลย....”
“.....โหดว่ะ....” มันเขยิบออกห่าง ผมทำเป็นใช้สมาธิในการขับรถ ไม่คุยกับมันอีกจนถึงมหาลัย
“....ถ้าเจอเพื่อนกูก็กรุณาสงบปากสงบคำหน่อยนะ.....” ผมพูดกับโยก่อนลงรถ มันพยักหน้าหงึก ๆ
.....ระหว่างทางเดินไปคณะ เพื่อรวมตัวกับเพื่อน ๆ ที่รออยู่....ไอ้โยเดินใกล้ซะไหล่ชนกัน ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายยี่ห้อดังระเหยออกมาจากตัวมัน....ผมแอบมองมัน เฮ้อ ทำไมกูไม่ชอบมันวะ รูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวก็ดี การศึกษายิ่งดี ที่สำคัญเราไม่ต้องปรับตัวเข้าหากันเลย.....เดินผ่านซุ้มหลายซุ้ม คนก็มองจนผมสงสัยว่ารูดซิปหรือเปล่า แอบเอามือคลำ ก็รูดปกติดีนี่หว่า มองอะไรกันวะ.....
“.....อีเอ้มาแล้ว.....เอาแฟนมาด้วยโว้ย....” เสียงอีเต็มดังขึ้นก่อนที่ผมจะถึงซุ้ม
“.....กะจะเปิดตัวกันคืนนี้เลยเหรอวะ.....” อีนันแซว สายตาทุกคู่จ้องมาที่ผมกับไอ้โย
“.....มานี่เลย.....ทำเป็นซุ่มนะมึง.....” อีกุ้งลุกขึ้นมาลากผมเข้าไปนั่ง ทำให้ผมต้องจับมือโยไปนั่งด้วย
“.....ฟังก่อนมึง.....นี่เพื่อนกู ชื่อโย....ไม่ใช่แฟน.....เนอะ.....” ผมหันไปพยักเพยิดกับมัน
“.....เอ้เค้าอายอ่ะครับ....ตอนนี้ไม่ใช่แฟนหรอกครับ แต่เมื่อกี้น่ะใช่.....” เสียงเพื่อนผมกรี๊ดกร๊าดถูกใจ ไอ้โยเล่นผมแล้วไง ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ไหน
“.....ไอ้บ้า.....” ผมตบหลังมันดังพลั่ก
“.....ไม่ต้องอายเพื่อนหรอก.....” มันขยิบตาให้ผม เล่นไม่เลิกนะมึง ผมด่ามันในใจ
“.....ไปดูโมทย์กันเถอะ....” ผมลุกเดินหนี โมโห อุตสาห์บอกมันแล้วว่าให้สงบปากสงบคำ
“.....เค้าเขินอ่ะครับ....” ผมหันขวับ เห็นไอ้โยกำลังชี้มาที่ผม หัวเราะกับเพื่อน ๆ
“.....ตามมานี่เลย.....” ผมลากไอ้โยไปตกลงกันใหม่
“.....ไปไหนวะ....” อีนันตะโกนถาม
“.....เดี๋ยวเจอกันที่เวทีเลยนะโว้ย.....” ผมตะโกนกลับ
.....ผมลากไอ้โยไปให้พ้นที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่สนใจสายตาคนมองด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังเห็นดินด้วยกันดี ๆ.....ก้มหน้าก้มตาดึงมันมาจนจะพ้นตึกเรียน ด้วยความที่โมโห เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ผมชนคนที่เดินเลี้ยวมาแรงจนเซแถ่ด ๆ ๆ ดีนะว่าไอ้โยมันจับผมไว้ ไม่งั้นผมต้องล้มไปกองกับพื้นแล้ว.....
“.....ขอโทษครับ....” ผมกับคนที่เดินชนพูดพร้อมกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากเราทั้งคู่อีกเลย มีแค่สายตาที่มองจ้องกันด้วยความตกใจ
“.....มาเที่ยวเหรอครับ....” ไอ้โยทำลายความเงียบ
“.....อืม....” คนถูกถามตอบโดยใช้เสียงในคอ สายตาจับจ้องที่มือไอ้โยที่ประคองผมอยู่
“.....เวทีอยู่ตรงโน่น.....เดินไปตามทาง เดี๋ยวก็เจอ.....” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“.....ขอบใจ.....” พูดจบก็เดินเลี่ยงผมกับโยไป ผมอดไม่ได้ที่จะมองตามไหล่กว้าง ๆ นั่นจนลับสายตา
“.....ถ่านไฟเก่าจะคุมั๊ยน้า.....” ผมหันไปทำตาดุ ไอ้โยถึงได้เงียบปาก
“.....มันจะมาทำไมวะ.....แม่ง....แล้วเมื่อไหร่กูจะลืมได้เนี่ย” ผมบ่นเบา ๆ กับตัวเอง
“.....นัดกันไว้อ่ะดิ....” ไอ้โยแหย่
“.....มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูเรียนที่นี่.....”
“.....แล้วมึงจะพากูไปไหนเนี่ย.....” ไอ้โยมองมือผมที่ยังจับมือมันอยู่ ผมปล่อยทันที
“.....ไปดูเพื่อนกูดีกว่า....ไม่มีอารมณ์จะคุยแล้ว.....จำไว้นะมึง อย่าทำให้ใครคิดว่ากูเป็นแฟนกับมึงอีก.....” ผมย้ำไอ้โยระหว่างทางเดินกลับไปเวที
“....กลัวขายไม่ออกเหรอ....”
“.....เออ ๆ มึงจะทำอะไรก็ทำเหอะ.....ยังไงกูกับมึงก็เป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้อยู่แล้ว.....” ผมพูดปลง ๆ
***************************************TBC**********************************