(เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT  (อ่าน 322365 ครั้ง)

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้จะเป็น........อะไรอะไม่บอกหรอกไปอ่านเอง
(แต่จะเริ่มเครียดและ) :m15:

24 Suspect

.......ตั้งแต่กลับจากกาญจนบุรีทริปเถื่อนคราวนั้น วุธเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม มันมาหาผมที่บ้านทุกวัน เย็น ๆ กินข้าวเสร็จก็กลับไปช่วยที่บ้านปิดร้าน สามทุ่มกว่า ๆ โทรมาคุย บางวันไม่มีอะไรคุยก็นั่งฟังเพลงด้วยกัน คลื่นเดียวกันผ่านสายโทรศัพท์ จะเรียกว่ามันเป็นแฟน ผมก็พูดได้ไม่เต็มปาก มีความรู้สึกว่า ผมกับมันมีเส้นบาง ๆ คั่นระหว่างกัน......


........วันนึงมันบอกว่า มันมาหาผมบ่อยไม่ได้แล้ว ผมใจหายวาบ แต่ก็ต้องยิ้มแก้มตุ่ย เมื่อมันพูดต่อว่า ให้ผมไปบ้านมันแทน ไปช่วยกันเสิร์ฟ ช่วยกันจัดร้าน เนื่องจากว่า ที่บ้านมันเริ่มไม่พอใจที่มันออกมาตะลอนทุกวันไม่ช่วยงาน ผมรีบตกลง ไม่คิดค่าจ้างด้วย......ความคิดชั่วร้ายก็เข้าหัว พ่อผมไม่ยอมให้ออกไปเที่ยวทุกวันแน่ ๆ ผมเลยโกหกพ่อว่าจะไปเรียนพิเศษ พ่อให้เงินมาจำนวนนึง เป็นค่าเรียน และเงินรายวันตามปกติ ซึ่งถ้าอยู่บ้าน ผมแทบไม่ได้ใช้เงินสักบาท จะซื้ออะไรทีก็ต้องแบมือขอ......ผมออกจากบ้านทุกวันได้เงินทุกวันดีกว่า.......


..........วันแรกที่ไปบ้านมัน ผมตื่นเต้นมาก กลัวกังวลไปหมด กลัวว่าเค้าจะรู้ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัว กลัวว่าเค้าจะรู้ว่าผมกับวุธสนิทกันเกินไป กลัวเข้าหน้าพ่อกับแม่ไม่ได้ กลัวว่าจะทำงานได้ไม่ดี .......ฯลฯ ...... ผมนั่งหน้าเครียดตลอดทางจนไอ้วุธแหย่ให้ด่านั่นแหละ อารมณ์ค่อยเป็นปกติ.......ตอนแรกเข้าใจว่าร้านของมันคงเป็นร้านเล็ก ๆ ในครอบครัวที่ต้องให้ลูก ๆ ช่วยงาน ที่ไหนได้ พอไปถึง ผมถึงกับร้องอ๋อ ร้านนี้ตอนเด็ก ๆ พ่อกับแม่เคยพามากิน เป็นร้านขนาด 3 คูหา ถือว่าใหญ่เลยแหละในย่านนั้น ไม่ได้มีแค่อาหารตามสั่งอย่างเดียว มีอาหารสารพัดชนิด ก๋วยเตี๋ยว ขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง มีร้านชา กาแฟ น้ำผลไม้ปั่น และขนมปังสังขยาอยู่หน้าร้าน แถมยังมีหมูสะเต๊ะที่ส่งกลิ่นและควันอยู่ที่ฟุตบาทริมถนนอีก ผมมองรอบ ๆ แล้วไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ไอ้วุธพาเข้าไปไหว้พ่อกับแม่มัน.......ผิดคาดแฮะ.....ไอ้ที่ผมกลัว ๆ ไม่มีเลย พ่อกับแม่มันชอบผมซะอีก เค้าบอกให้ไอ้วุธทำตัวเรียบร้อยอย่างผม พอเค้ารู้ว่าผมเรียนพาณิชย์กับเรียนภาษาเพิ่ม ยิ่งชมผมซะตัวแทบลอย ตามประสาคนค้าขายอ่ะครับ ที่อยากให้ลูกเรียนพาณิชย์ แต่ไอ้วุธดันไปเรียนช่าง ยังดีที่ลูกคนอื่น ๆ มาช่วยงานได้บ้าง......ตลอดช่วงเช้า ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเป็นเพื่อนคุยกับแม่ของมัน ดูมันวิ่งเสิร์ฟอาหารแล้วได้แต่นั่งอมยิ้ม.....แม่เล่าประวัติของร้าน การสู้ชีวิต การเลี้ยงดูลูก ๆ ทุกคนจนจบปริญญา ไอ้วุธนี่เป็นลูกคนสุดท้อง ถูกตามใจมาก พอเกิดมาก็มีกินแล้ว ไม่ค่อยลำบากอย่างพี่ ๆ มันถึงได้เรียนช่างสมใจอยาก......ทุกร้านที่แยกออกมาพ่อแม่และพวกพี่ ๆ ของมันเป็นคนดูแล ตอนนี้อยู่ตัวแล้วไม่ต้องลงมือทำเอง ได้แต่คอยเก็บเงิน ซื้อของเข้าร้าน เตรียมของนิด ๆ หน่อย ๆ ข้างบนร้านเป็นที่พักคนงานและพี่ชายและพี่สะใภ้ ส่วนคนอื่นอยู่บ้านในซอยที่ถัดออกไป.......รายได้เค้ายังมีค่าเช่าห้องที่แบ่งไว้บนชั้น 3-4 อีกหลายห้อง.......แม่มันยังมีอาชีพเสริมปล่อยกู้ด้วยนะครับ แต่ตอนนี้คงเลิกไปแล้วมั้ง.......


“.....เฮ้ย....เอ้....มาได้ไงเนี่ย.....” อีพี่มิ้นท์เดินเข้าร้านมาซื้อของกินเวลาเดิม คือตอนที่ร้านจะปิด ซึ่งไอ้วุธมักจะอยู่ทุกวัน

“.....มาช่วยวุธมัน.....” ผมพยายามเก็กแมนให้มากกว่าอีพี่มิ้นท์

“.....แหม....ห่างกันไม่ได้เลยนะ.....” ดูปากมันดิ ทุกคนเริ่มหันมามอง

“.....กินอะไรพี่.....” ไอ้วุธีบตัดบท

“.....เหมือนเดิม.....แบบว่าเป็นคนชอบอะไร ชอบใครแล้วชอบจริงอ่ะ ไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ ......” เท่าที่ฟังดู คงเป็นแค่หมาหยอกไก่ ไอ้วุธได้แต่ยิ้มแหย ๆ

“......ไปเที่ยวบ้านพี่มั๊ย.....” พี่มิ้นท์ถามผมหลังจากที่ของที่สั่งเสร็จเรียบร้อย ผมหันไปมองไอ้วุธนิดนึง

“.....อย่าเลยพี่.....เดี๋ยวผมต้องให้เอ้สอนภาษาอีก.....” มันปฏิเสธแทนผม

“.....ไม่เป็นไร....วันหลังก็ได้.....มาทุกวันปะ....” ผมหันไปมองไอ้วุธอีก

“.......ก็จนกว่าโรงเรียนเปิดมั้ง.....” มันตอบให้

“.....โอเค...งั้นวันหลังเจอกัน....” อีพี่มิ้นท์หันหลังเดินไปปุ๊บ ผมกับวุธมองหน้ากันแล้วขำกับท่าทางแมน ๆ ของหล่อน “.....วุธ.....เกือบลืมบอกแล้วมั๊ยล่ะ......” พี่มิ้นท์เดินกลับเข้ามาใหม่

“....อะไรครับพี่.....” มันถามยิ้ม ๆ

“.....ออยฝากเบอร์โทรศัพท์มาให้.....” อีพี่มิ้นท์ยื่นกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ลายน่ารักให้ ไอ้วุธหุบยิ้ม แล้วมองหน้าผมแบบลังเล ผมทำเป็นไม่สนใจ ไอ้วุธจึงรับมากำไว้ในมือ

“....พี่....แล้วออยเอาเบอร์ฝากมาให้ได้ไงอ่ะ....” ต่อมเสือกทำงาน

“.....เค้าฝากเพื่อนของเพื่อนมา.....อีนี่ก็แรงจริง ๆ .....ถ้าอยากเป็นผัวคนที่ร้อยกว่า ๆ ของออยก็โทรไปนะ.....” แหม อีพี่มิ้นท์นี่น่ารักจริง ๆ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแม่สื่อให้ซะอีก

*
*
*

.........ผมเข้าไปลาพ่อกับแม่วุธที่บ้านข้างในซอย.....วุธบอกว่าผมจะมาช่วยงานทุกวัน และจะติวภาษาให้ด้วย ทุกคนดีกับผมมาก จนผมอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเราจะเป็นสะใภ้บ้านนี้แน่ ๆ ......และสิ่งที่ทำให้ผมสบายใจที่สุดน่ะเหรอ ผมเห็นไอ้วุธขยำเบอร์โทรศัพท์ของออยลงถังขยะไปแล้วอ่ะดิ.......กลับบ้านได้สบายตัว ไร้กังวล......

*
*
*

........ช่วงเทศกาลสงกรานต์.....ร้านไอ้วุธหยุดตั้งแต่วันที่ 11 ยาวไปถึง 16 ให้คนงานได้กลับบ้านกัน พวกผมมีนัดไปเล่นน้ำในวันที่ 13 โดยเอารถไอ้วุธไป จริง ๆ แล้วจะไปตั้งแต่วันที่ 12 แต่ไอ้วุธบอกว่าไม่ว่าง......ผมไม่สงสัยอะไรหรอกครับว่ามันจะไปไหน ทำอะไร........ผมไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของมัน ไม่เคยเซ้าซี้ อยากไปไหนก็ไป ไม่บอกก็ได้ แต่ถ้าจะบอกต้องพูดความจริงอย่าโกหก นิสัยอย่างนี้มั้ง ที่ทำให้ผมกับวุธคบกันได้นาน.......


........บ่าย ๆ ของวันที่ 12 ครอบครัวผมไปซื้อของที่ห้าง เป็นของฝากน่ะ พ่อกับแม่มีโปรแกรมจะไปเยี่ยมญาติ ๆ และจะฝากพวกเค้าช่วยดูแลพวกผมทางนี้ด้วย เพราะพ่อกับแม่กำลังจะทำเรื่องลาออก และเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวที่ภาคเหนือ โดยที่พ่อจะไปบุกเบิกก่อน พอเข้าที่เข้าทางแม่ค่อยตามไป กว่าจะถึงตอนนั้น ผมก็เข้ามหาวิทยาลัยพอดี......ขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่ ผมเพิ่งสังเกตเห็นรถคันข้างหน้า มันคุ้นตาผมอีกแล้ว มองป้ายทะเบียน....ใช่เลย รถไอ้วุธ ตอนนี้มันเอามาใช้ทุกวันเหมือนรถตัวเองแล้ว เพราะหลวงพี่ของมันท่าทางจะไม่ยอมสึกอีกนาน ผมสงสัยว่ามันเอาถังน้ำใบใหญ่ใส่ไว้บนกระบะทำไม มันจะไปเล่นน้ำที่ไหน หรือว่าเตรียมไว้พรุ่งนี้........ ผมนั่งอยู่เบาะหลัง ชะเง้อจนพ่อรำคาญ.....

“.....นั่งดี ๆ หน่อยได้มั๊ย....” พ่อหันมาดุ ผมไม่สนใจ

“......พ่อ.....เปิดไฟกระพริบเรียกคันหน้าหน่อยดิ.....” พ่องง ไม่ยอมทำ ผมต้องเอื้อมมือยาว ๆ ไปกระพริบไฟเอง ไม่มีทีท่าจากรถคันข้างหน้า ผมก็กดแตรเรียกซะเลย แต่ไม่แรงมากนะครับ

“.....ใครน่ะ.....คนรู้จักหรือเปล่า.....ไม่ดีนะลูก” แม่ถาม พ่อกับแม่ผมจำรถไอ้วุธไม่ได้หรอกครับ ถึงมันจะมาบ้านผมบ่อยก็เถอะ เวลามามันจะจอดไว้ข้างรั้วมากกว่า เพราะเสียงท่อมันดัง ตอนถอยเข้าบ้านต้องเร่งเครื่องอ่ะครับ

“.....เพื่อนครับ....พ่อไฟเขียวแล้ว แซงโลด.....” ไม่มีใครใช้รถคันนี้ นอกจากมันแน่ ในใจแค่อยากจะทักทายเฉย ๆ แต่ที่ไหนได้ พอไฟเขียวปุ๊บ มันก็กระชากตัวออกไปเลย ขับปาดซ้ายขวาจนน่าหวาดเสียว พ่อไม่บ้าจี้ตามผม แถมยังด่าให้อีก

“......ทำไมขับรถอย่างนี้ล่ะ.....อันตราย....เอ้จำไว้เลยนะ ห้ามขับรถอย่างนี้เด็ดขาด ถ้าพ่อเห็นหรือมีคนมาฟ้อง พ่อจะไม่ให้ขับรถอีกเลย....” ดุผมเสร็จยังไปพาลน้อง ๆ ทั้งสองคนด้วย เรื่องที่พวกมันชอบขี่มอไซค์กันแบบคึกคะนอง

*
*
*

......เดี๋ยวคืนนี้ก่อนเถอะจะถามให้ได้ว่าใช่มันหรือเปล่า ดูสิมันจะตอบยังไง แต่คิดไปคิดมา มันไม่โทรมาหาเราตั้งหลายวันแล้วนี่หว่า ไอ้ผมก็เหนื่อยจากการตะลอนไปช่วยงานมันทั้งวัน กลับบ้านก็แทบสลบ เค้าไม่ได้ใช้งานหนักขนาดนั้นหรอกนะครับ แต่ผมเต็มใจช่วยเค้าเองมากกว่า.....ผมนี่แหละเป็นคนบอกไม่ให้มันโทรมาเอง เพราะเจอกันทั้งวันแล้ว ขอเวลาส่วนตัวพักผ่อนมั่งละกัน.......ไม่เป็นไร.....คืนนี้เราโทรไปเองก็ได้ กะจะ confirm นัดไปเล่นน้ำในวันรุ่งขึ้น แต่ที่จริงแล้วนัดกันเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อน .....โทรไม่ติดครับ.....สายไม่ว่าง.....ดึก ๆ ค่อยโทรใหม่ โทรศัพท์อยู่ในห้องมันคนเดียว อีกเครื่องอยู่ข้างล่าง ไม่รบกวนใครแน่ ....5 ทุ่มโทรอีกที สายไม่ว่าง อะไร...ยังไง หรือมันวางสายไม่สนิทวะ........ไม่โทรแล้ว นอนดีกว่า.......


........ไม่ได้อยากจะเล่นน้ำหรอกครับ แต่พก Sun Block ติดกระเป๋าไว้ เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วยเผื่อคึก.........เรานัดกันที่บ้านไอ้ตั้ม ผมขอยืมรถแม่ออกมาเพราะไม่อยากเปียกระหว่างทาง และไม่ให้ไอ้วุธมารับ กลัวเพื่อน ๆ จะรู้ว่ไอ้วุธไปบ้านผมอีก กลัวมันน้อยใจอ่ะครับ ถึงขนาดนี้พวกมันยังไม่ได้ไปบ้านผมซักที.......พวกเรารวมตัวกันครบ กำลังเม้าธ์กันอย่างเมามัน ก็ไม่ได้เจอกันมานานนี่นา.....สักพัก ไอ้วุธก็มาถึง พร้อมถังใส่น้ำใบเดิมเลย พวกเราเฮกันขึ้นรถ ทั้ง ๆ ที่มันยังจอดไปเข้าที่.....ผมขึ้นไปนั่งหน้า กะว่าตอนเย็น ๆ แดดร่มก่อนค่อยไปเล่นกระบะข้างหลัง.....ปิดประตูปุ๊บ ยังไม่ทันจะพูดอะไร ไอ้วุธก็รีบดักคอผมไว้ก่อน


“......เมื่อวานเห็นเหมือนรถพ่อเอ้แวบ ๆ” ผมมองหน้ามัน มันกลับทำเป็นสนใจกับถนนข้างหน้า

“......ไม่เหมือนหรอก....ใช่เลย.....ไปไหนมา.....” อยากจะตบปากตัวเองจัง ไม่ชอบให้คนมาถามอย่างนี้ แต่เราดันกลับถามซะเอง มันยิ้มนิด ๆ

“.....ไปธุระ....ด่วน....” คำว่าไปธุระ หมายความว่าไม่อยากให้รู้ว่าไปไหน โอเค ได้ ไม่ว่ากัน (อย่าให้ถึงทีกูมั่งนะ) ผมคิดในใจ เราสองคนนั่งกันเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงพวกข้างหลังกรี๊ดกร๊าด เล่นน้ำสาดกันเอง......ผมเปิดวิทยุฟัง กำลังกดหาสถานี ก็มีเสียงดัง ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ ดังมาจากที่เก็บเทปข้างตัวผม......ไอ้วุธลนลานหาใหญ่เลย พอมันหยิบได้ ผมถึงเห็นว่ามันเป็นเพจอันใหญ่ ๆ รุ่นแรก ๆ เลยอ่ะครับ

“.....เพจใครอ่ะ.....” เป็นใครก็ต้องอยากรู้เนอะ

“.....ของเพื่อน.....ลืมไว้......” เพื่อนคนไหนวะ ผมได้แต่คิดไม่กล้าถาม มันดูหน้าจอแวบนึงแล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ มันใส่เสื้อเชิ้ตไว้ข้างนอกอ่ะครับ ตุงเชียว วางไว้ก็ได้กูกดดูไม่เป็นหรอก ผมสงสัยพฤติกรรมของมัน อีกสักพัก เอาอีกแล้ว.......ดังอีก......คราวนี้มันอ่านไปยิ้มไป ผมยิ่งสงสัย แต่หน้าผมนิ่งมาก......

*
*
*

.........เราไปกันจนถึงซอยที่เล่นน้ำมากที่สุดแห่งนึง ไม่ไกลจากบ้านมากนัก แต่เป็นที่เลื่องลือว่าสนุกมาก ซอยนี้ทะลุได้หลายซอย เป็นทางลัด และจะเล่นน้ำกันตลอดทั้งสาย ตอนแรกที่คุยโทรศัพท์กันตั้งใจว่าจะไม่เล่น ทั้งสองคนแหละ แต่พอไปเห็นบรรยากาศคึกคัก ไอ้วุธชักเริ่มกระสับกระส่าย อยากลงไปเล่นบ้างแล้ว

“.....เอ้.....อยากเล่นน้ำอ่ะ.....” มันพูดเสียงอ่อย หลังจากที่บ่นพึมพำเป็นระยะ

“....แล้วใครจะขับรถล่ะ...” ผมถาม มันมองหน้าผมด้วยสายตาที่บอกว่า......มึงนั่นแหละ

“......เอ้ขับได้ไม่ใช่เหรอ.....” มันอ้อน

“.....ไม่เคยขับรถกระบะ......” มันเงียบสักพัก

“.....ก็ลองดูดิ.....ไม่ยากหรอก......รถติด ๆ แบบนี้ แทบไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์....” ไอ้วุธโน้มน้าว เห็นหน้ามันแล้วสงสาร

“.....เออ....ได้ลงไปดิ.....” มันยิ้มแฉ่ง รีบถอดเสื้อตัวนอกออก ข้างในมันมีเสื้อยืดสีขาวบาง ๆ กางเกงก็เป็นกางเกงขาสั้นอยู่แล้ว


........ทันทีที่มันลงจากรถก็โดนประเดิมด้วยเพื่อน ๆ มันนี่แหละครับที่ทั้งสาดน้ำ ทั้งละเลงหน้ามันด้วยแป้งดินสอพอง........ผมขยับมานั่งที่คนขับ....ตื่นเต้นนิด ๆ ไม่คุ้นเคยกับรถกระบะซะด้วย.....รถเริ่มเคลื่อน ผมกดเท้าที่แป้นคลัช เคยแต่เลี้ยงคลัชตอนขับรถแม่ แต่นี้ครั้งแรก รถดับเลยครับ......เสียงอีพวกข้างหลังมันโห่ดังลอดเข้ามาข้างใน ผมอายคนแถวนั้นอย่างแรง สตาร์ทเครื่องใหม่ ใจเย็น ๆ ในที่สุดผมก็เริ่มชินกับไอ้คลัชแข็ง ๆ เหยียบเกร็งจนแทบจะเป็นตะคริว....มองกระจกหลังเห็นไอ้พวกนั้นเล่นน้ำกันสนุกสนาน.....ผมนึกได้ว่าเสื้อไอ้วุธอยู่กับผม แถมเพจอันนั้นก็อยู่ในกระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม.....ผมค่อย ๆ ล้วงไปจนเจอ เอาออกมาพิจารณา ใหม่เอี่ยม แบบเพิ่งแกะกล่อง มี 5-6 ปุ่ม กดไม่เป็น ไม่งั้นคงได้รู้แล้วว่าใครส่งอะไรมาทำไมไอ้วุธมันถึงอ่านข้อความของเพื่อนได้ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เจ้าของ ถ้าเป็นเราคงไม่กล้าเปิดอ่านหรอก.....ผมพลิกไปพลิกมาอยู่ในมือ ไม่เห็นว่าได้ประโยชน์อะไรก็เก็บไว้อย่างเดิม....แต่สักพัก ไอ้วุธมันเคาะกระจกฝั่งคนนั่งทำท่าให้ผมเปิดประตูที่ล็อคอยู่ให้มัน.....ผมก็เปิด มันก้มตัวลงเอื้อมมือไปหยิบถุงพลาสติกแบบใส่แกงที่ลิ้นชักคอนโซลหน้า พร้อมหนังยาง ไม่กล้าเข้ามาทั้งตัวกลัวเบาะเปียก......แล้วมันทำอะไรต่อรู้มั๊ยครับ.....มันหยิบเพจเครื่องนั้นขึ้นมา เอาใส่ถุงผูกหนังยางกันน้ำ แล้วใส่กระเป๋ากางเกงเฉยเลย ผมมองอ้าปากค้าง ถามไม่ทันว่าทำไมต้องเอาออกไปข้างนอกด้วย แต่มันดันปิดประตูออกไปเล่นน้ำต่อซะก่อน.......

*
*
********************************************

.........อย่าว่าผมโง่เลยนะ......สมัยนั้น หนังสือนิยายก็ไม่ค่อยได้อ่าน หนังละครน้ำเน่าก็ไม่ได้ดู มัวแต่คุยโทรศัพท์ วัน ๆ ก็แรดไปโน่นไปนี่ ไม่ได้ระแวงอะไรเลย แต่ด้วยสัญชาตญาณ ผมรู้ว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลซะแล้ว.......เห็นหน้ามันกำลังหัวเราะเล่นหัวกับเพื่อนอยู่แล้ว อดนึกไม่ได้ว่าถ้ามันทำผิดกับผมอีกครั้ง ผมจะยอมยกโทษให้มันมั๊ย......แต่อย่างที่เคยบอกอ่ะนะครับ...ผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีไว้ก่อน เรื่องนี้อาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้.......แต่ถ้ามีผมจะรับมือได้หรือไม่ ตอนหน้ามาเล่าต่อ


ขอบคุณทุกรีพายนะครับ
และขอบคุณพี่เอ้คนสวยด้วยนะครับ

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

ออฟไลน์ สาวเครือฟ้า

  • "IF I WERE A BOY"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 607
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
    • http://images.forstudent.com/
อ่านกี่รอบยังสนุกเหมือนเดิมครับ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
วุธทำไมทำแบบนี้อ่ะ

นึกถึงสมัยเพทกำลังฮิตๆจังแฮะ

anston

  • บุคคลทั่วไป
ชักจะได้กลิ่นไม่ค่อยดีเลยเนอะ.. o12
อยากรู้จริงว่า..จะจับได้ยังไง.. :m28:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

ชีวิตมันคงต้องมีอุปสรรคบ้างนะ

แต่สุดท้ายยังไงก็ขอให้ลงเอยกันอย่างมีความสุขและกัน

รออ่านต่อไปน๊า............

 o15

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
วุธนี่ชักจะยังไงซะแล้ว อย่าให้เสียแรงที่อุตสาห์เชียร์เลยน้า เฮ้อ กลัวจัง

bigynew

  • บุคคลทั่วไป
 o12 o12 วุธทำงี้ได้ไง ต้องเป็นเพจที่นังผู้หญิงนั่นซื้อให้แน่เลย
วุธนะวุธ เราอุตสาลุ้นมาตั้งนาน

ถ้าวุธนอกใจนะเลิกครับเลิกสถานเดียว o12  o12

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
กว่าจะตามอ่านทัน หายไปนาน .......

พอทันก็  :a6:  :a6:  :a6: แล้วก็  :sad2:  :sad2:

วุธนะ วุธ ทำงี้ได้ไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






verayuth

  • บุคคลทั่วไป

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
25 Can you handle this? (Part I)

........สงกรานต์ปีนั้นผมไม่ได้โดนน้ำซักหยด.....จริง ๆ แล้วเพื่อนผมก็ชวนเล่น แต่ผมไม่มีอารมณ์เล่นเองต่างหาก....ยอมเป็นสารถีขับรถจนปวดขาไปหมด ได้แต่นั่งมองไอ้วุธเล่นน้ำผ่านกระจกหลัง......เห็นมันยิ้ม หัวเราะ ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรปิดบัง......แต่ผมเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเองมากกว่า.....ผมว่าเป็นกันทุกคนด้วย เรื่องระแคะระคาย และพฤติกรรมแปลก ๆ ของคนที่เราสนใจ.......ระหว่างทางที่พวกเราขับรถวนเล่นน้ำ.....ไอ้วุธมักจะลงจากรถตอนรถติดไปปะแป้งผู้หญิงที่เดินแถวนั้น หรือบนรถคันที่จอดข้าง ๆ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด จากฝ่ายผมและฝ่ายที่โดนไอ้วุธปะแป้ง สูง ขาว ใส่เสื้อบาง ๆ เปียกแนบไปทั้งตัว ที่เห็นแล้วขัดตาก็ไอ้เพจที่มันตุง ๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกงเนี่ย มันทำให้อะไรที่ควรจะเห็นชัด ๆ กลับไม่เห็นซะ......


.........กว่าจะเลิกเล่นก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่ม ไอ้วุธก็ยังยืนกับเพื่อนบนกระบะหลัง ปล่อยให้ผมขับรถคนเดียว มันบอกว่าผมขับได้แล้ว อีกอย่างตัวมันเปียก ไม่อยากเข้าไปในตัวรถ ผมก็ต้องยอมตามใจอย่างเสียไม่ได้ เพราะจำนนในเหตุผล......มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รถกำลังติดไปแดงระหว่างทางจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำกันที่บ้านไอ้ตั้ม.....ผมมองมันผ่านกระจกหลังตามปกติ แต่ผมก็ต้องหันหลังมองให้เห็นชัด ๆ ว่ามันหยิบเพจเครื่องนั้นออกมาจากกระเป๋า แสงสีเขียว ๆ จากหน้าจอ และไฟจากรถคันอื่นสว่างพอที่ทำให้ผมเห็นสีหน้ามันตอนอ่านข้อความบนนั้นได้ชัด ๆ มันอมยิ้ม และถ้าผมเดาไม่ผิด อีอ๋าปากไวเพื่อนผมคงแซวอะไรมันซักอย่าง......มันถึงกับอายจนทำอะไรไม่ถูก......ไฟเขียวแบบไม่รู้ตัวเลยครับ.....รถคันหลังบีบแตรไล่.....ผมออกตัวกระชากด้วยความลืมตัว ดีนะว่าพวกมันมีถังน้ำให้เกาะกัน ไม่งั้นคงมีใครซักคนกระเด็นตกลงไปแล้ว......ไอ้ยินเสียงเพื่อน ๆ ตะโกนด่า สติผมถึงได้กลับคืนมา.....รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ถ้ามีใครต้องได้รับบาดเจ็บเพราะผม.......ผมคงต้องเสียใจไปตลอดแน่ ๆ .......


*
*
*


อย่า.......เธออย่าปิดบังฉัน
เพราะว่ามันอาจทำให้ฉันเข้าใจเธอผิด
อย่าให้ความรักนั้นกระทบกระเทือน
ย้ำเตือนให้คิด
ปิดบังเท่าไร ยิ่งทรมานหัวใจ

เหตุ......คงเกิดจากวันนั้น
เขาเข้ามาเกี่ยวพันเธอนั้นก็มีเยื่อใย
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็รู้ตัวดี เห็นเธอเปลี่ยนไป
สบตาครั้งใด ยิ่งดูเหมือนคนห่างไกล

แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก
ใจที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแหลก
แตกสลาย ไม่มีวันเหมือนเดิม

อยู่.....มีแต่ความเจ็บช้ำ
ทุกถ้อยคำพูดจาตอกย้ำซ้ำเติมที่เก่า
บาดให้รอยร้าวลึกลงลึกลงไป
เหลือเพียงแต่เรา
สิ่งเดียวรับเอา คือรอยร้าวในหัวใจ

อยู่อย่างตายทั้งเป็น
มันคงจบเกมในไม่ช้า.....คงจบลง


..........เอาอีกแล้ว......ไม่เข้าใจตัวเองทำไมเวลาอยู่คนเดียวแล้วเป็นอย่างนี้......ไม่เข้าใจว่าทำไมเปิดเพลงฟัง จะต้องมีเพลงที่โดนอย่างจัง.....ฟังแค่ประโยคแรกน้ำตาเล็ด ซักพักทะลักจนต้องควานหากระดาษทิชชู่ในรถมันมาเช็ดน้ำตา.......อยากจะเปลี่ยนคลื่นหนี ใจมันก็ไม่ยอมให้เปลี่ยน ดีนะว่าผมขับช้า ๆ อยู่เลนซ้ายตลอด ไอ้พวกนั้นมันเคาะกระจกบอกให้ผมขับช้า ๆ เพราะมันหนาว.......ในที่สุดก็ถึงบ้านไอ้ตั้ม เจ้าของบ้านกับอีตาลที่ใส่ชุดคลุมท้องเดินออกมาเปิดประตูรับพวกผม.......เป็นเพื่อนที่แสนดีจริง ๆ ที่เตรียมของกินไว้เรียบร้อย......พวกผู้หญิงทยอยเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไอ้พวกผู้ชายก็ลากสายยางมายืนอาบกันหน้าบ้านนั่นแหละ......ไอ้วุธดูมีความสุขมากกว่าคนอื่นเลยครับ.....ถอดเสื้อเล่นน้ำต่อด้วยซ้ำ........


“......กินข้าวดิ.....” อีตาลเรียกผมที่นั่งเหม่ออยู่หน้าบ้านรอพวกมันกินข้าวพร้อมกัน

“......เออ....เดี๋ยวตามไป.....” ผมตอบเซ็ง ๆ

“.....เป็นอะไรมึง.....ไม่สนุกเหรอ.......ไม่ต้องมาตอแหลเลย.....มีอะไรเล่าด่วน......” มันดักคอผม

“.....อีนี่.....ไม่มีอะไรซักหน่อย.....กูหิวเฉย ๆ ขับรถเหนื่อยจะตาย.....” ผมหาข้ออ้าง อีตาลไม่เชื่อหรอก ผมรู้ แต่มันรู้นิสัยผมว่าผมไม่พูดเรื่องที่ไม่อยากพูดง่าย ๆ

“......ไปแดกก่อนก็ได้นะโว้ย.....อีพวกนั้นคงใกล้จะเสร็จแล้ว.....”

“......มึงจะคลอดเมื่อไหร่วะ.....” ผมเปลี่ยนเรื่อง

“.....ไม่น่าจะเกินปลายเดือนนะ.....” มันเอามือลูบท้องโต ๆ ด้วยความทะนุถนอม

“......มึงก็สบายไปเลยเนอะ....ไม่ต้องฝึกงาน แถมได้เกรดอีก.....ถ้ากูฝึกงานแล้วกูก็ไม่รู้จะมีเวลามาดูหลานหรือเปล่า.....” อีตาลเอาชื่อไปทำที่บริษัทของเพื่อนแม่มัน บอกถึงปัญหาของมันที่ต้องเลี้ยงลูกอ่อน เค้าก็ยอมให้อีตาลไปฝึกงาน แค่ชื่อ แต่ตัวไม่ต้องไป

“.......แล้วมึงไปทำงานคนเดียวได้หรือเปล่าวะ….” อีตาลถามด้วยเสียงเป็นห่วง

“.....สบายมาก....” ผมตอบยิ้ม ๆ แต่ที่จริงแล้วผมกังวลอยู่เหมือนกัน


*
*
*


“.....เสร็จแล้ว.....อีดอก....ไปแดกข้าวเร็ว.....มานั่งอ่อยใครแถวนี้ยะ......” เสียงอีอ๋ามาก่อนตัว

“......อีเหี้ย.....อยู่ในรั้วบ้านอย่างนี้จะให้อ่อยใคร.....ไอ้วุธมั้ง.....” ผมเห็นไอ้วุธเดินมาพอดีก็เลยแกล้งพูดเล่น ๆ

“.....อีเอ้....อีเสร่อ....ตกข่าวอีกแล้ว......” อีอ๋ามันชอบว่าคนที่รู้ทีหลังสุดว่าเสร่อ ก็ใครจะเสือกได้ทุกเรื่องอย่างมันล่ะ ผมคิดในใจ

“......ข่าวอะไรของมึง.....” ผมขำกับท่าทางอยากเล่าของมัน

“......ไอ้วุธมันมีแฟนแล้ว.....” ไอ้วุธเดินมาหยุดข้างหลังอีอ๋าโดยที่มันไม่รู้ตัว ยังเพล่มต่อ “......ก็อีออยที่เจอบนแพนั่นไง.....ไอ้วุธมันไม่รู้หรือไงวะว่าอีนี่มันร้อยK.....เห็นผู้ชายหน้าตาดี ๆ ไม่ได้.......ถ้าไอ้วุธเอาอีนี่นะ......กูว่าให้มันเปิดซิงมึงซะยังจะดีกว่า.......” อีอ๋าชะงักเมื่อได้ยินเสียงกระแอมข้างหลัง ผมนั่งหน้าเฉยอยู่ข้าง ๆ อีตาล......อีอ๋าไม่สะท้าน เพราะมันสนิทกับไอ้วุธถึงขนาดด่าพ่อล่อแม่กันได้

“......ผู้หญิงกับผู้ชายมันเป็นเรื่องธรรมชาติโว้ย.....” ไอ้วุธพูดกับอ๋า ผมฝืนยิ้มเล่นมุขไปด้วย

“......ช่าย.....ไอ้วุธมันไม่เอากูหรอก.......เนอะ......” ผมหันไปพยักเพยิดกับมัน

“......แหม.....ได้ข่าวว่าไปไหว้พ่อแม่กัน.......เปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราว.....” อีอ๋ากัด

“......ไม่ใช่......” “.....เปล่านะโว้ย.....” ผมกับไอ้วุธปฏิเสธพร้อมกัน

“......แล้วไป.....งั้นเรื่องอีออยไฮโซนั่นล่ะ.....” อีอ๋าได้ทีเสือกต่อ ผมกลั้นใจฟังคำตอบ ไอ้วุธมองหน้าผมนิดนึง

“......ไม่มีอะไรซักหน่อย......แค่คนรู้จักกัน.....”

“.....คนรู้จัก....ทำไมต้องส่งเพจหวาน ๆ มา แล้วมึงก็อายซะขนาดนั้นวะ....” ไอ้แม็คพูด มันเดินออกมาตามอีอ๋าไปกินข้าวได้ยินพอดี

“......ลงทุนซื้อเพจใหม่...ไม่บอกใคร......” อีอ๋ากัดต่อ ผมนั่งหน้าชา ขอบตาร้อนผ่าว ไอ้วุธเงียบไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

“......ไปกินข้าวกันเถอะ.....” ผมลุกพรวดเดินนำเข้าบ้าน อีพวกนั้นตั้งวงกินกันไปบ้างแล้ว


*
*
*

........กินไม่ลงจริง ๆ ครับ ผมตักข้าวแจกคนอื่น ระหว่างนั้นก็หาข้ออ้างกลับบ้าน นึกออกแล้ว....ผมขอไอ้ตั้มโทรกลับบ้าน ผมแกล้งกด ๆ ไปงั้นแหละ พูดเองเออเอง

“......ฮัลโหล.....แม่.....เอ้กลับช้าหน่อยนะครับ.....ขอกินข้าวกับเพื่อนก่อนหิว......โห.....รู้แล้ว......แป๊บเดียวเอง......นะ....แม่.....นะ...................................โอเค.....กลับก็ได้......” ผมพูดเสียงค่อนข้างดัง ไอ้พวกนั้นฟังผมอยู่แน่ ๆ มันรู้ว่าที่บ้านผมเข้มงวดมากในเรื่องเที่ยว เรื่องเรียน พวกมันเคยโดนพ่อผมด่าตอนที่ผมให้ลองโทรเข้าบ้านชวนผมไปเที่ยวกลางคืน แม้จะอ้างว่าไปกินข้าวก็เถอะ พ่อบอกว่าข้าวบ้านก็มีกิน ทำไมต้องไปกินข้างนอก ฯลฯ เทศน์อีกชุดใหญ่ พวกนั้นมันเลยเข็ดไม่กล้าโทรเข้าบ้านผมอยู่พักนึง

“.....เฮ้ย.....กูต้องกลับบ้านเลยว่ะ.....” ผมตีหน้าเศร้า.....เศร้าจริง ๆ น่ะแหละ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลับบ้านก่อน

“.......เออ....กลับบ้านดี ๆ นะ.....” อีแจนรู้ว่ารั้งไม่อยู่แน่ ๆ ผมโบกมือลาเพื่อน ๆ

*
*
*

.......เดินออกมาจนจะถึงรถแล้ว......นึกได้ว่าลืมกระเป๋าไว้ในรถไอ้วุธ.....เดินกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง ได้ยินพวกมันกำลังคุยกันอยู่ ผมขยับเข้าไปใกล้ประตูมองผ่านช่องเล็ก ๆ เห็นหน้าทุกคนชัดเจน.......ผมยืนฟังเงียบ ๆ จับใจความได้ว่า ไอ้วุธเคลียร์เรื่องผมกับมัน ในเรื่องที่เพื่อน ๆ ตั้งข้อสงสัยว่าไอ้วุธชอบผู้ชายด้วยกันหรือเปล่า....

“......พวกมึงเลิกแซวกูเรื่องเอ้ได้มั๊ย......กูอายนะโว้ย......”

“.....กูแค่แซวเล่น ๆ ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรก็เฉย ๆ ไว้ดิ......” ไอ้นพพูด

“.....ไม่แน่นะโว้ย.....เมื่อก่อนคุยกันทุกคืน....กูคิดว่ามึงหลงชอบตุ๊ดเข้าจริง ๆ ซะแล้ว.........เดี๋ยวนี้ยังโทรคุยกันอยู่หรือเปล่าวะ......” ไอ้แม็คแซวไม่เลิก

“......ไอ้สัตว์.....คุยเหี้ยอะไรล่ะ.....กูคุยกับออยทุกคืน......” ไอ้วุธพูดยิ้ม ๆ

“......ไอ้วุธ.....มึงจะเอาอีนั้นจริง ๆ เหรอ.....” อีอ๋าถาม

“......เป็นใครก็เอา.....ใช่ปะวะ.....” มันหันไปถามเพื่อน ๆ มัน ไอ้พวกนั้นพยักหน้ากันหงึก ๆ พวกผู้หญิงมองค้อน

“......ถามจริง.....มึงได้กันยังวะ.....” อั้มถามกลางวง

“......เกือบอยู่เหมือนกัน.....เมื่อวานนี้แม่งยั่วกูทั้งวันเลย......” ไอ้วุธเล่าขำ ๆ

“......แล้วทำไมไม่เอาล่ะ.....” ไอ้นพสงสัย……ไม่มีคำตอบจากปากมัน

“.....เอาไม่เป็นอ่ะดิ.....” อีนัทกัดบ้าง

“.....โห....ดูถูกว่ะ.....อีกไม่นานหรอก......” ผมทนฟังต่อไม่ได้แล้ว เดินเข้าไปหาไอ้วุธพยายามทำหน้าเฉยเหมือนไม่รู้ไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่

“...วุธ....เปิดรถให้หน่อย......ลืมกระเป๋า.....” พยายามแล้วนะครับ หน้าได้ แต่เสียงไม่ได้ มันแข็งกระด้างจนเพื่อน ๆ ทุกคนมองผมอย่างสงสัยว่าผมจะได้ยินที่พวกมันคุยกันหรือเปล่า.....มันมองผมอึ้ง ๆ แล้วลุกไปหยิบกุญแจเดินไปเปิดรถให้.....ผมไม่พูดกับมันซักคำ ที่จริงแล้วตั้งแต่กลับถึงบ้านไอ้ตั้ม ผมกับมันก็ยังไม่ได้คุยกันเลย.....ผมก้มลงไปหยิบกระเป๋าเสร็จก็เดินคอแข็งไปที่รถแม่ผมที่จอดไว้ใกล้ ๆ กัน.......ผมสตาร์ทเครื่องมองกระจกเห็นมันยังยืนอยู่ที่เดิม......ผมแน่ใจในนาทีนั้นเลยครับว่าผมกับมันไม่เป็นเหมือนเดิมแน่........
*
*
*

........ความรู้สึกตอนนั้นมันชาไปหมด......ไม่มีน้ำตาซักหยด......มันเจ็บจนจุก.....ปลอบตัวเองว่ามันไม่ได้เป็นเกย์.....มันไม่ได้ชอบผู้ชาย.......มันแค่สับสนชั่วคราว......มันคงสนุกที่ได้แกล้งเรา......มันทำดีกับเราก็คงเพราะต้องการไถ่โทษ......แหวนมันที่อยู่ในกระเป๋าตังค์ผมตลอดเวลาน่ะเหรอ.....มันก็แค่แหวนรุ่นที่ใครก็มีได้....สั่งได้คนละหลาย ๆ วงผมเองยังมีแหวนรุ่นพาณิชย์สองวงไว้กันหายเลย......มันแค่บอกว่ามีความสุขที่คุยกับเรา....ตอนนี้มีคนที่ทำให้มันมีความสุขได้มากกว่าเรา......คงรวมทั้งความสุขทางเพศที่เราให้ไม่ได้ด้วยสิ ผมพาลคิดไปถึงโน่น........

*
*
*

.......กลับถึงบ้าน......พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรซักคำที่ผมกลับดึก เพียงแค่ย้ำว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปเยี่ยมญาติ ๆ ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินไปหาของกินในครัว.....ไม่มีอะไรเหลือเลย ผมไม่มีแรงจะทำอะไรกินแล้ว......กินนมดีกว่า......ผมรินนมใส่แก้ว หยิบขนมห่อ ๆ ของน้องเดินออกไปนั่งดูละครกับพ่อแม่......

“.....อ้าว.....ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ.....” พ่อถาม

“.....กินแล้วครับ....อยากกินขนมเฉย ๆ” ผมโกหก

“.....พรุ่งนี้อย่าตื่นสายนะลูก.....ต้องไปหลายบ้าน.....” แม่ย้ำ

“.....แล้วแม่จะขึ้นเหนือเมื่อไหร่อ่ะครับ.....” ผมหมายถึงเรื่องที่พ่อกับแม่จะขึ้นไปดูกิจการที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง ได้ยินมาว่าจะไปดูเร็ว ๆ นี้

“......วันมะรืนนี้.....ถามทำไมล่ะ.....จะไปด้วยเหรอ.....” แม่ยิ้ม ผมพยักหน้า พ่อกับแม่มองผมแปลก ๆ ก็ผมไม่ชอบไปไหนกับพ่อแม่มานานแล้ว

“.....ไปนานนะ.....พ่อกับแม่ลาพักร้อนไว้แล้ว กลับมาอีกทีก็ปลายเดือนเลย....หนูจะไปได้ยังไง......เรื่องฝึกงานล่ะ”

“.....ไม่เป็นไรหรอกแม่.....เอ้ฝากให้เพื่อนดูให้ก็ได้.....เอ้เช็คชื่อที่บริษัทแล้ว....ไม่มีปัญหา....”

“....นึกยังไงจะไปลำบากลำบน.....” พ่อถาม

“....อยากไป.....” ผมตอบสั้น ๆ

*
*
*

.........ไอ้วุธเปลี่ยนไปจริง ๆ ด้วย เปลี่ยนไปเร็วมาก เร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันต้องโทรมาถามเซ้าซี้แล้วว่าผมเป็นอะไรที่เฉยชากับมัน แต่คืนนั้น.....ไม่เลย ไม่มีเสียงเรียกเข้าซักครั้ง......ผมนอนมองโทรศัพท์จนหลับไปด้วยความเพลีย.......

..........ครอบครัวผมตระเวนไปเยี่ยมญาติรอบกรุงเทพฯ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะไปเมื่อตอนปีใหม่ แต่จุดประสงค์ที่ไปคราวนี้คือฝากฝังผมไว้ให้ญาติโกโหติกา ทั้งฝ่ายพ่อและแม่ช่วยดูแลพวกผมตอนที่พวกเค้าขึ้นไปทำธุรกิจ และขอคำปรึกษาหลาย ๆ เรื่องด้วย พวกผมกับน้องก็ได้แต่นั่งมองตากันปริบ ๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราว.......

.......กลับบ้านซะที....ผมอาบน้ำแต่งตัว เก็บสมบัติเข้ากระเป๋า ขนาดไปค้างบ้านอาเล็กแค่คืนเดียว ผมยังหอบสมบัติเยอะแยะ คราวนี้อยู่เกือบครึ่งเดือน ผมเก็บของแทบจะหมดห้อง ทยอยเอาลงมายัดใส่รถพ่อไว้ก่อน ไม่อยากให้เค้าเห็นตอนเช้า เดี๋ยวโดนด่า.....น้อง ๆ ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะติดเรียนพิเศษ อาเล็กจะมานอนเฝ้าบ้านให้ทุกคืน นอนห้องผมนี่แหละ วันนี้คุยกันแล้ว ผมบอกอาเล็กด้วยว่า ผมไม่ได้บอกใครว่าไปไหน ถ้ามีใครถาม ให้บอกว่าผมไปต่างจังหวัดก็พอ ตอนนี้ผมมีปัญหานิดหน่อย.......ผมกับอาเล็กต่างคนต่างยุ่งกับการเก็บกระเป๋า จึงไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก.......


*
*
*

........ตลอดสองสัปดาห์ที่ผมอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อแม่.....ผมใช้เวลาไปกับการเที่ยว พักผ่อน.........อึดอัดบ้างในช่วง 2-3 วันแรก แต่พอได้เห็นคนงานชาวเหนือหล่อ ๆ ก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้........ผมชอบขี่มอไซค์ของคนงานไปเที่ยวตอนเย็น ๆ จนแทบจะทั่วจังหวัดแล้วครับ ไปคนเดียวนั่นแหละ ไม่กลัวอะไรเลย ความเหงามันบอกให้ผมอยู่นิ่งไม่ได้ พอตกกลางคืนก็แอบพ่อลงไปเที่ยวเธคใต้ถุนโรงแรมที่พัก สนุกมาก มีเรื่องตื่นเต้นที่เกือบจะทำให้เสียซิงหลายหน แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง....... ผมไม่อยากให้ถึงตอนที่ผมต้องนอนเลย มันรู้สึกยังไงไม่รู้ ช่วงแรก ๆ กลัวผีจนไม่มีหัวไปคิดถึงเรื่องอื่น.....แต่พอเริ่มชินกับห้องใหม่ ปัญหาเดิม ๆ ก็ตามมาหลอกหลอนผมต่อ.....หน้าไอ้วุธกับอีออย ลอยเข้ามาในหัวผมตอนเคลิ้ม ๆ จนผมสะดุ้งตื่นทุกคืน แล้วมันก็จะอยู่ในหัวผมไปอย่างต่ำ 1 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก นอนพลิกตัวกระสับกระส่ายคิดไปสารพัด.....คิดจนปวดหัว ข่มตาหลับจนปวดกระบอกตา ปวดขมับ ต้องใช้วิธีนอนนับแกะแบบตอนเด็ก ๆ คิดถึงตอนนั้นแล้วสมเพชตัวเองจัง.......

*
*
*
*
*

.........ในที่สุดก็เปิดเทอม.....แต่ผมไม่ต้องไปโรงเรียนนะครับ....ไปฝึกงานเลย.....อย่างที่บอกว่าผมต้องไปฝึกงานคนเดียวไม่มีเพื่อน ไม่ได้ปรึกษาใคร เพื่อนในกลุ่มฝึกงานทีเดียวกันหมด......ผมไปรายงานตัวแต่เช้า......พี่ ๆ ทุกคนใจดีมาก....ผมได้เพื่อนใหม่หลายคน ทั้งจากโรงเรียนเดียวกัน และจากพาณิชย์อื่น เป็นงานขายของครับ อยู่ในร้านสาขาไม่ใหญ่มาก ดูแลกันแบบครอบครัว วันแรกหัวหน้าก็ถามความสมัครใจให้ทำโอต่อถึง 2 ทุ่ม ไอ้เงินเป็นสองเท่า......ผมเสนอตัวคนแรกเลยครับ ในฐานะที่บ้านไม่ไกลมาก.....เป็นผู้ชาย กลับบ้านมืดได้......และงกครับ อยากได้เงินเยอะ ๆ แต่เหตุผลส่วนตัวเหรอครับ.....ก็ไม่อยากอยู่ว่างอ่ะ เดี๋ยวฟุ้งซ่าน........ผมมีความสุขกับงานที่นี่มาก ตอนเช้าตอกบัตรเสร็จก็ออกไปหาขนมกินแถวนั้น.......ตอนเที่ยงสั่งข้าว ก๋วยเตี๋ยวขึ้นมากินที่โต๊ะ ........ตอนบ่าย ๆ ก็ออกไปเดินตลาดนัด.........ตอนเย็นของขายหน้าร้านเยอะมาก เลือกกินกันไม่ไหว......เลิกงานก็ไปเที่ยวห้างใกล้ ๆ .......ผมสนุกกับงานจนลืมเรื่องไอ้วุธได้ชั่วคราว......

*
*
*

.......จำได้มั๊ยครับ ที่ผมเคยบอกว่าที่ทำงานผมใกล้กับโรงเรียนไอ้โยมัน แต่ผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่บอกใคร เพราะต้องการจะ Surprise มันตอนที่ยังไม่รู้ว่าไอ้โยที่คุยกันทุกวันน่ะเป็นตัวปลอม ไอ้วุธก็เคยถามผมเรื่องสถานที่ฝึกงาน ผมก็ตอบเลี่ยง ๆ ไป ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมอยู่ใกล้ไอ้โย แต่เพื่อนผมคงบอกแล้วมั้ง เพราะผมไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลยตั้งแต่วันสงกรานต์.....โทรศัพท์ก็ดึงสายออก ไม่รับโทรศัพท์ทุกกรณี ตัดขาดจากเพื่อนฝูงไปง่าย ๆ ........


“......เฮ้ย.....เอ้.....ฝึกงานที่นี่เหรอ......” ไอ้โยทักเสียงดัง ทันทีที่มันเห็นหน้าผม

“...เออ....แล้วทำไมมึง......” ผมสงสัยที่เห็นมันเดินกับเพื่อนที่ใส่ชุดนักเรียนมอปลาย แต่ตัวมันใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กับกางเกงขายาวสีดำ

“.....กูสอบเทียบได้แล้วโว้ย....ตอนนี้กูเรียนมหา’ลัย XXXXX ....เป็นไง....หล่อดิ...มองตาค้างเลย....” มันกวน พูดอยู่คนเดียว ไม่สนใจเพื่อนทีมาด้วย

“.....ไอ้บ้า.....” ผมเขิน ก็มันหล่อจริง ๆ นี่หว่า ผมยาวขึ้นเยอะ “.....ไม่เรียนรด. เหรอ....” ผมถามแก้เขิน

“.....เลิกเรียนแล้ว.....เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า......เดี๋ยวค่อยลุ้นตอนจับสลาก......” มันพูดง่าย ๆ เรื่องทหารนี่เป็นเรื่องใหญ่ของผมนะ

“......ฝึกงานอีกนานปะ.....” มันถามหลังจากที่เพื่อนมันสะกิดชวนกลับ

“......อีก 2 เดือน.....”

“.....งั้นวันหลังมาหานะ.....แต่ช่วงนี้ต้องรับน้อง...ไม่ค่อยมีเวลา......” ผมพยักหน้ารับคำ มันโบกมือให้ แล้วเดินกึ่งวิ่งตามเพื่อนออกไป

“......ใครวะ.....” เพื่อนใหม่ผมเข้ามารุมถามกันใหญ่

“.....เพื่อนเก่า.....” ผมตอบยิ้ม ๆ

“......หล่อเนอะ.....เค้ามีแฟนยังวะ......เรียนที่ไหน....ชื่ออะไรอ่ะ” สารพันคำถามเกี่ยวกับไอ้โย ผมตอบเท่าที่จะตอบได้


*
*
*
*
*


........อีกไม่กี่วันผมก็จะจบหลักสูตรการฝึกงานโดยสมบูรณ์........ไม่อยากไปโรงเรียนเลย.....อยู่นี่ผมเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ....เงินทางบ้านก็ยังให้อยู่ เพราะพ่อคิดว่าฝึกงานไม่ได้เงิน แต่ผมได้ทั้งเงินเดือนประจำและล่วงเวลา......ไอ้โยหายไปเลย......ผมคิดว่ามันคงยุ่งกับการรับน้อง หรือไม่ก็ลืมผมไปแล้ว ที่ไหนได้......เย็นก่อนวันสุดท้ายที่ผมต้องทำงานที่นี่ ไอ้โยวิ่งกระหืดกระหอบมาหา

“......โอ๊ย.....นึกว่ากลับบ้านไปแล้ว.....” มันพูดปนหอบ

“.....ยังโว้ย.....ทำโอต่อด้วย.....” ผมพามันเดินไปอีกมุมที่ไม่ค่อยมีลูกค้ามายุ่ง

“.....ไปกินข้าวกันเถอะ.....” มันชวน อย่างที่บอกร้านไม่ใหญ่ เสียงมันก็ดังอยู่ เพื่อนผมหันขวับ พยักหน้าทำท่าให้ผมไปกับกับมัน

“.....เออ....เดี๋ยวไปบอกหัวหน้าก่อน.....” ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้เจอมันมานานแล้ว ไปกินข้าว ไปคุยเรื่องเรียนมหาลัยด้วย หัวหน้าผมอนุญาต ผมให้มันยืนรอที่หน้าร้าน ตอกบัตรกลับเสร็จ ผมก็เดินไปหามัน เพื่อน ๆ ผมชะเง้อมองกันอยู่ที่หน้าต่าง ผมบอกไอ้โย มันหันไปมองนิดนึง แล้วมันก็จับมือผมเดินเฉยเลย ป่านนี้ในร้านคงกรี๊ดกันสนั่น


*
*

.......ไอ้โยพาผมนั่งแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ปกติผมไม่ค่อยชอบไปอ่ะครับ เพราะมันไม่มีรถเมล์สายที่ผ่านบ้านผมเลย......มันพาผมไปนั่งร้าน ๆ นึงครับ บรรยากาศดีมาก สลัว ๆ จัดร้านเป็นแบบจำลองป่า มีเวทีเล็ก ๆ มีเปียโนสีดำ และนักร้อง ที่ทั้งเล่นทั้งร้อง ให้ขอเพลงได้ด้วยนะครับ......ผมกำลังกางเมนูออกมาเพ่งเพราะมองไม่เห็น ตัวหนังสือมันเล็กไง.....รู้สึกว่า มีใครมอง ผมหันซ้าย หันขวา โอ๊ย แทบอยากจะลุกกลับบ้านเดี๋ยวนั้น.....ไอ้วุธมันมองเหล่ผมอยู่โต๊ะเยื้อง ๆ กัน.....มันมากับผู้หญิงคนนึง มองข้างหลังก็รู้ว่าใคร......โยลดเมนูลงจากหน้า มองตามสายตาผม มันตกใจเหมือนกันที่เห็นไอ้วุธ.......


“.....เฮ้ย.....แฟนมึงอ่ะ.....” ไอ้โยพูดเสียงรอดไรฟัน

“.....ไอ้เหี้ย.....ไม่ใช่โว้ย.....คนเคยรู้จักกันต่างหาก....”

“.....หมายความว่ามึงเลิกคบกับมันแล้วเหรอ.....” ไอ้โยถามงง ๆ

“.....กูไม่เคยคบกับมัน....” ผมกระแทกเสียงตอบ มันเงียบ คงรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง

“.....แล้วมันมองมึงทำไมวะ....”

“.....กูจะไปรู้มันเหรอ.....หิวแล้ว.....จะแดกอะไร.....” ผมทำเป็นสนใจกับเมนูตรงหน้า ไอ้โยลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมานั่งข้าง ๆ ผม

“.....ดูซิว่ามันจะอยากมองอยู่อีกมั๊ย.....” ไอ้โยขยับเข้ามาใกล้ หน้ามันแทบจะชนกับหน้าผม มองเมนูด้วยกัน......ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงไม่ให้มันทำอย่างนี้หรอกครับ กลัวคนจะแอบด่า แต่ตอนนี้สถานการณ์มันพาไป

“......มองเห็นเหรอ.....” ผมเอามือไปเสยผมไอ้โย......ทำให้เพราะความรำคาญที่เห็นผมมันลงมาปิดตา มันเงยหน้ามามองผมตาเยิ้ม.....ผมชะงักกึก

“......ทำไมมองกูแบบนี้.....หา.....” ผมพูดในคอ กลัวไอ้วุธที่มองจ้องเขม็งจะอ่านปากได้ มันไม่ตอบ เอาแต่ยิ้ม......ผมก็เขินทำอะไรไม่ถูกเลย


*************************************TBC*************************************

 :m8: :m8:
ขอบคุณพี่เอ้ครับป๋ม มาเศร้าอะตอนนี้T^T

JaeTae

  • บุคคลทั่วไป



   ดันจ้า ดัน แล้วมาต่ออีกเน้อว รออยู่อ่านเรยเนี่ย  :a2:

a22a

  • บุคคลทั่วไป
งงกับวุธจังเลยเขาเล่นอะไรของเขาหรือว่าวุธกำลังสับสนตัวเอง

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
เป็นไปได้อย่างที่รีบนคิดอ่ะ วุธอาจกำลังสับสนกับตัวเอง แล้วก็อาจอายเพื่อนด้วย ที่โดนเพื่อนล้อ เลยทำเป็นคบออยบังหน้า แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเอ้ อ่ะ :m17:


ขอให้กลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะ  :m5:ได้โปรด

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

อ่านแล้วเครียด

จะเป็นไงต่อไปหว่า

ขอบคุณนะครับที่มาต่อ และจะรออ่านต่อไปครับ

 o15

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
อารายกันเนี่ย งง


เกิดไรขึ้นอ่ะ

JaeTae

  • บุคคลทั่วไป


 มาช่วยดันอีกรอบอ่า  อึ้บๆ :m23:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
คนเราต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ผมรับไม่ได้น่ะ เลิกยุ่งไปเหอะคนแบบนั้น

นายโยเองก็ดูท่าจะมีใจให้ด้วยนี้ น่าจะดีกว่าเยอะเลยอ่ะ

anston

  • บุคคลทั่วไป
เชื่อเลยว่า..เวลาทำให้ใจคนเปลี่ยน.. :m17:แต่..
สำหรับเอ้แล้ว..เวลาไม่ได้ช่วยอะไรเลย.. :m8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






JaeTae

  • บุคคลทั่วไป



 ยังมะมาต่ออีกหรอเนี้ย  o9  แต่ยังไงก็จะรา  :m14:

dejavu_boyz

  • บุคคลทั่วไป
 :a4:   ขออนุญาตช่วยลงหน่อยนะครับ

26 Can you handle this? (Part II)
..........อาหารเย็นมื้อนั้นมันจะอร่อยกว่านี้.....ถ้า.....ไม่มีสายตาไอ้วุธที่คอยแอบมองผมเวลาที่ผู้หญิงคนนั้นเผลอ.....ไอ้โยก็นัวเนียแทบจะป้อนข้าวป้อนน้ำ ดีที่โต๊ะของผมค่อนข้าวจะลับตาคน......มีหินปลอมก้อนใหญ่บังไว้ด้านหลังไม่งั้นผมคงอายคนอื่นแย่....มุมที่ไอ้วุธนั่งก็เงียบเหมือนกัน.....ตอนเดินเข้ามามัวแต่มองการตกแต่งของร้านเพลิน ไอ้โยดันพามานั่งโต๊ะนี่อีก แต่มันคงไม่ได้สังเกตไอ้วุธหรอก ผมว่ามันจำไอ้วุธไม่ได้ด้วยซ้ำ.......ระหว่างกินผมนึกได้ว่าห้างนี้มันใกล้โรงเรียนของอีออยนี่เอง มันคงไปรับไปส่งกันทุกวันเลยสิเนี่ย แปลกนะครับที่ผมไม่รู้สึกอะไรมาก มันปลงอ่ะครับ ไม่อยากเจ็บซ้ำเจ็บซาก.....แต่ที่ไม่ชอบใจอย่างแรง คือ มันมองมาทางโต๊ะผมบ่อยจนน่าอึดอัด......พอผมจ้องมันกลับบ้าง มันก็หลบตา ทำเป็นเอาใจอีนั่น นั่งมองตากันหวานจนเลี่ยน......ผมไม่รู้จะทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้......แกล้งทำเป็นดีกับไอ้โย ก็กลัวว่ามันจะคิดว่าผมทำเพื่อประชด.....จะลุกหนี ก็กลัวมันเข้าใจว่าผมทนดูไม่ได้ ผมนั่งเครียดอยู่สักพัก......เอาวะ.....เป็นตัวกูเองนี่แหละดีที่สุด.....สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อย่าไปวอกแวก อย่าไปสนใจมัน เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว....ไม่สิ....ไม่เคยเป็นอะไรกันต่างหาก.....
*
*
*
“....เอ้....โอเคปะวะ....” ไอ้โยเห็นผมนั่งนิ่ง
“.....OK…No matter what happen, I will survive.” ผมยิ้มออกแล้วครับ
“.....อย่ามาเวอร์.....ขอให้ Survive จริง ๆ เหอะ ไม่ใช่กลับถึงบ้านแล้ว Cry a lot นะโว้ย” มันดักคอผม มองไปทางโต๊ะไอ้วุธบ้าง
“.....No….Never….For me he’s nothing but trouble.” ผมดัดจริตพูดภาษาอังกฤษ ไอ้โยหัวเราะ ผมก็หัวเราะไปด้วย ถ้ามองไกล ๆ ดูเหมือนผมมีความสุขหัวเราะต่อกระซิกกับผู้ชายตรงหน้า.....ผมพยายามไม่สนใจโต๊ะไอ้วุธ.....ไม่แม้แต่จะชายหางตาไปมอง.....

*
*

“......ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ.....” เสียงคุ้นหู พูดอยู่ใกล้ ๆ เห็นแต่มือของมันที่วางบนโต๊ะผม
“......ที่จริงไม่น่าจะเจอกันด้วยซ้ำ.....” ผมพูดโดยที่ไม่มองหน้าคู่สนทนา
“......ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ.....” ยัง....มันยังไม่หยุด....ผมเงยหน้ามองมันด้วยสายตาว่างเปล่า
“.....คุณทักคนผิดหรือเปล่า.....เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ.....” ผมปล่อยมุข แอบเห็นไอ้โยอมยิ้ม....ไอ้วุธขมวดคิ้ว ท่าทางมันจะเริ่มโมโหแล้ว
“.....เอ้....เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ....” มันเอื้อมมือจะมาจับมือผม แต่ก็ต้องชะงัก และหันไปมองอีออยที่นั่งจ้องมันอยู่
“....ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วหล่ะ......เสียเวลาเปล่า.....ลืมไปได้เลยว่าเราเคยรู้จักกัน......” ผมพูดเสียงเย็นชา
“.....กลับกันเลยมั๊ย.....” ไอ้โยถามด้วยความหวังดี
“.....โห.....ยังไม่อิ่มเลยอ่ะ....โยกินนี่ดิ.....อร่อยดี....เมนูหลักเลยนะเนี่ยไปไหนต้องสั่ง.....” ผมตักปลาหมึกผัดไข่เค็มใส่จานไอ้โย.....ไม่สนใจไอ้วุธที่ยืนเอ๋ออยู่ข้างโต๊ะ ทำเหมือนมันไม่มีตัวตน ในที่สุดมันก็กระฟัดกระเฟียดเดินกลับไปหาแฟนมัน
*
*
*
.....ผมอิ่มจนแทบจะคลานกลับบ้าน เสแสร้งแกล้งทำเป็นมีความสุข ผมเข้าใจเลยว่า หน้าชื่นอกตรมมันเป็นยังไง .....ผมรอให้ไอ้วุธกับแฟนมันลุกออกไปก่อน พอลับหลังมันเท่านั้นแหละ ผมซึมลงอย่างเห็นได้ชัด กะว่าจะไม่ร้องไห้แล้วนะ.....แค่ไอ้โยถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า.....ไหวมั๊ย” พร้อมจับมือผมแบบให้กำลังใจ...... เท่านั้นแหละ ก๊อกแตกเลยครับ น้ำตาทะลัก พยายามกลั้นเสียงสะอื้น ไอ้โยตกใจ ทำอะไรไม่ถูก กล้า ๆ กลัว ๆ ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด โอบไหล่ผมหลวม ๆ ผมไม่คุ้นกับความรู้สึกนี้เท่าไหร่.......มันยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ผมเช็ดน้ำตา ผมมองหน้ามันงง ๆ แต่ก็รับมาแต่โดยดี.....มัวแต่เช็ดน้ำตาอยู่ เงยหน้ามาอีกที แทบร้องจ๊าก ไอ้วุธยืนอยู่ตรงหน้าผม มิน่าล่ะ ไอ้โยมันถึงได้เขยิบออกไป.......
*
*
*

“......ขอคุยอะไรกับเอ้สองคนแป๊บนึงได้มั๊ย....” ไอ้วุธพูดกับโย มันพยักหน้า ลุกขึ้นทันที
“....ไม่ต้อง....” ผมดึงมือโยไว้ ไอ้วุธเม้มปากแน่น มันไม่พอใจแน่ ๆ ผมรู้ท่าทางมัน
“.....ห่างกันไม่ได้เลยเหรอ.....” มันเริ่มพาล
“.....มีอะไรก็พูดมาดิ.....ถึงยังไงเราก็ต้องเล่าให้โยฟังอยู่แล้ว....” ผมพูดเสียงเรียบ ไม่มองหน้ามัน ไอ้วุธอึ้ง มองหน้าผมสลับกับโย มองมือผมที่ยังจับเกาะแน่นที่มือไอ้โย มันไม่ยอมพูดอะไร เดินคอตกออกไปจากร้าน ถ้าผมตาไม่ฝาด ผมเห็นแววตาเศร้า ๆ ของมันด้วย
“.....ไปเดินเล่นกันต่อมั๊ย.....” ไอ้โยถาม.....ผมส่ายหน้าเบา ๆ เป็นคำตอบ
*
*
*
.......ระหว่างทางกลับบ้าน ไอ้โยติดรถแท็กซี่ไปลงทางแยกที่ไปบ้านมัน ผมเล่าเหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของผมกับไอ้วุธให้โยฟังอย่างคร่าว ๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย เหมือนได้ระบาย เพราะผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อน ยกเว้นอาเล็ก แต่มันเป็นคนละความรู้สึกกัน เพราะนี่มันเพื่อนผม ผมสามารถใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาได้ ไม่ต้องประดิษฐ์คำที่ดูดี มันได้ความรู้สึกมากกว่า.....เสียดายที่ไอ้โยต้องลงซะก่อน แต่มันบอกว่าจะโทรหาผมคืนนี้......
.
........แล้วมันก็โทรมาจริง ๆ ครับ สามทุ่มแป๊ะ ผมให้น้องผม สกรีนสายก่อน พอมันบอกว่าคนชื่อโยโทรมา ผมถึงเดินไปรับบนห้องนอน เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน นับตั้งแต่ไอ้วุธไม่โทรมา ผมคุยโทรศัพท์กับไอ้โยถึงเที่ยงคืนกว่า.....ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกระบายออกมาจนหมด.....มันรับฟัง และแสดงความคิดเห็นในแบบของมัน ผมเพิ่งสังเกตว่ามันมีความคิดแบบผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด อาจเป็นเพราะว่ามันได้เข้าไปเรียนในรั้วมหาลัยแล้ว ความคิดความอ่านของมันถึงได้แตกต่างจากผมที่ยังคิดอะไรแบบเด็ก ๆ อยู่......ไอ้โยพูดทิ้งท้ายไว้ว่าพรุ่งนี้ให้รอมันไปรับที่ทำงาน เวลาเดิม ผมปฏิเสธ เพราะผมมีนัดเลี้ยงฉลองฝึกงานเสร็จ เกรด 4 ลอยมาเห็น ๆ ก็พี่คนที่ให้คะแนนดันเอาสมุดบันทึกการให้คะแนนมาเขียนตรงหน้าผม มีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสียแม้แต่ข้อเดียว.......

*
*
*
“......เอ้......” เสียงคุ้นหูเรียกชื่อผมดังมาจากข้างหลัง ขณะผมก้มหน้าก้มตาเก็บสมบัติใส่กล่องเพื่อเอากลับบ้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะฝึกงานที่นี่
“......มาทำไม.....” เป็นคำทักทายที่ดีที่สุดของผมตอนนั้น
“......มารับกลับบ้านไง.....” ไอ้วุธพูดหน้าตาเฉย เพื่อนร่วมงานผมเริ่มให้ความสนใจกับเด็กช่างในชุดเสื้อช็อป ที่ผมเคยบอกมันว่า มันใส่แล้วหล่อมาก ๆ
“.....ไม่จำเป็น....กลับเองได้.....” ผมไม่สนใจก้มลงนั่งยอง ๆ เก็บของต่อ นึกว่ามันเดินหายไปแล้ว ที่ไหนได้ เงยหน้ามาอีกที มันก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
“.....จะซื้ออะไรหรือเปล่า.....ถ้าไม่ซื้อก็อย่ายืนแกะกะ...” ผมตั้งใจพูดให้มันโกรธ มันก็ยังยิ้มได้อยู่
“.....เลิกงานกี่โมง......”
“...........” ผมไม่ตอบ ทำเป็นไม่ได้ยิน อีก 5 นาทีก็เลิกแล้ว ผมต้องหาทางไล่มันกลับให้เร็วที่สุด
“......เอ้......เรารู้ว่าเอ้โกรธ.....แต่ให้เราพูดบ้างได้มั๊ย......” มันพูดเสียงอ่อน ใช้ได้ผลทุกครั้ง แต่คราวนี้ไม่แน่ ๆ ครับ
“.....โอ๊ย....รำคาญว่ะ....บอกแล้วไง....ไม่มีประโยชน์.....จะไปไหนก็ไป...ไป๊....” ผมระเบิดอารมณ์ใส่มัน แต่ต้องหันหลังให้ทันทีที่พูดจบ ผมไม่อยากเห็นสายตาของมัน กลัวใจตัวเองอ่ะครับ
“.....เอ้.....อ้าว....” ไอ้โยมาพอดี มันจะมาทำไมวะ ก็บอกแล้วว่าวันนี้ผมมีนัด แต่มาก็ดีแล้ว
“......โย.....รอแป๊บนะ จะเสร็จแล้ว.....” ผมหันไปยิ้มให้ไอ้โย หันไปมองไอ้วุธนิดนึง แล้วทำหน้าเซ็ง ๆ ให้มันเห็น......มันยืนอึ้ง แล้วเดินออกไปช้า ๆ
“......ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเจอกันอีกเลย.....” ผมพูดไล่หลัง
“.....เอ้....ชวนแฟนไปกินเลี้ยงด้วยกันดิ.....” พี่แผนกใกล้ ๆ ตะโกนชวน ไอ้วุธชะงักกึก หันมามองผมแวบนึง ผมรีบรับมุข
“.....ชวนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว.....” ผมหันไปขยิบตาให้ไอ้โย ไม่แคร์กับสายตาละห้อยของไอ้วุธ

*
*
*
........ถ้าไอ้วุธไม่มาเมื่อเย็นผมคงกินได้มากกว่านี้ ต้องมีใครซักคนในกลุ่มผมบอกมันว่าผมฝึกงานที่นี่....แต่จะไปว่าอะไรเพื่อนก็ไม่ได้ มันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนี่นา.....ส่วนไอ้โยไปกินเลี้ยงส่งกับผมจริง ๆ ด้วย มันเข้ากับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้เป็นอย่างดี ทุกคนเข้าใจว่าผมกับโยเป็นแฟนกัน รู้สึกดีเหมือนกันนะครับ ไม่ต้องปิดบัง ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนตอนอยู่กับไอ้วุธ......ไอ้โยนี่ก็มือไวดีจริง ๆ เดี๋ยวจับ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวโอบ พวกเค้าก็กรี๊ดกร๊าดกันสนุกสนาน ดีนะว่าพวกผมไปร้องคาราโอเกะห้อง VIP กัน มันดูเป็นส่วนตัวดีอ่ะครับ......
*
*
*
........เปิดเทอมแล้วครับ ทันทีที่พวกผมเจอกัน ก็แย่งกันคุย แย่งกันพูด แทบไม่มีใครฟังใคร ผมไม่โกรธหรือเคืองเพื่อนผมแม้แต่นิดเดียว......ผมทำผิดกับพวกมันมากกว่า......ปิดบังเรื่องผมกับวุธ ผมไม่บอกพวกมันว่าไอ้วุธเคยไปบ้านผม แม้แต่เรื่องที่มันค้างบ้านผม ยังนึกไม่ออกเลย ถ้าพวกมันรู้จะเป็นยังไง พวกมันต้องโกรธผมแน่ ๆ ในข้อหาเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน……พาผู้ชายไปบ้านได้ แต่พาเพื่อนไปไหว้พ่อแม่ไม่ได้.....แล้วที่พวกมันรู้ว่าผมไปบ้านไอ้วุธก็เพราะว่าเพื่อนในห้องไอ้วุธดันขี่รถผ่านร้านมัน แล้วเห็นผมคุยกับไอ้วุธอย่างสนิทสนม แถมยังเอาเล่าให้คนอื่นฟังอีก ความเลยแตก ไอ้วุธถึงทำตัวแปลก ๆ ดูห่าง ๆ ผมไป ก็อย่างที่บอกอ่ะครับ ไอ้วุธมันสเปกเกย์ กะเทย มันโดนล้ออยู่บ่อย ๆ แต่คนที่มันพาไปบ้านแล้วมีคนเห็นดันเป็นผมซะนี่ ก็เลยกลายเป็นเรื่องจนได้......

........ตั้งแต่วันที่ผมไล่มันเหมือนหมูเหมือนหมาวันนั้น ผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย ไอ้โยก็ด้วย ผมให้เวลากับเพื่อนผมมากขึ้น ใครชวนไปไหนก็ไป ช่วงนี้มันแยกกันไปเที่ยวแล้ว ไม่ค่อยไปกันเป็นกลุ่มเหมือนเดิม ผมไปกับคนนู่นที คนนี้ที......จนเย็นวันนึงหลังจากที่เดินห้างเดิมกันจนเมื่อย อีพวกนี้เสือกอยากกินเหล้ากัน หาข้ออ้างว่าฉลองให้ลูกอีตาลกับไอ้ตั้ม........ดีเหมือนกัน ผมยังไม่เคยเห็นหน้าหลานเลย พวกผมเดินวนหาซื้อกับแกล้มกันอีกรอบ...หอบของพะรุงพะรังขึ้นแท็กซี่ 2 คัน.......ไปจนจะถึงบ้านมันแล้วเพิ่งนึกได้ว่าไอ้วุธมันจะไปด้วยหรือเปล่า แล้วถ้ามันไป เจอกันผมจะทำหน้ายังไง......ถอยหลังกลับไม่ทันแล้วครับ......รถทั้งสองคันจอดหน้าบ้านไอ้ตั้ม และมองเข้าไปข้างในก็เห็นรถของไอ้วุธก็จอดนิ่งในบ้านแล้วด้วย.......ผมเดินใจเต้นตุบ ๆ เข้าไปในบ้านเป็นคนสุดท้าย ภาพที่ผมไม่อยากเห็นก็ต้องเห็น.....ไอ้วุธนอนหนุนตักอีออยอยู่บนโซฟารับแขก มองผมด้วยหางตานิดนึง.....ผมเดินเลี่ยงไปในครัวตามเคย..... ...

.......วันนี้เป็นทีของมัน.....ผมต้องทนฟังคำหวาน ๆ ของมันกับอีออยนั่นตลอดเวลา.....บางทีก็มีคำพูดเสียดสีว่าแดกผมอยู่เป็นระยะ.....ผมทำได้ก็แค่เพียงนั่งฟังเงียบ ๆ ทนไม่ได้ก็ออกไปสูดลมหายใจลึก ๆ ข้างนอก เงยหน้ามองฟ้า กลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลได้ทุกนาที......ผมสงบจิตสงบใจได้ก็เดินหน้าระรื่นเข้าบ้านไปนั่งฟัง นั่งดูภาพบาดตาต่อ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของเพื่อน ๆ......บ่อยครั้งที่ไอ้วุธมันจะพูดกระแทกผม โดยที่คนอื่นเห็นเป็นเรื่องตลก เพราะไม่เข้าใจความหมายจริง ๆ ของคำพูดมัน......ผมก็ไม่ยอมครับ ถ้ามันมีช่องให้ผมหลอกด่ามันได้ ผมก็ปล่อยเต็มที่เลยครับ.....ทุกคนขำ ไม่เว้นแม้แต่แฟนของมัน.......

*
*
*
*
*

“.......พี่เอ้.....โทรศัพท์......พี่วุธโทรมา.....” น้องชายคนเล็กของผมตะโกนเรียก
“......ไม่รับ....ไม่ว่าง.....” ผมตะโกนตอบ
“.....พี่เอ้.....พี่วุธบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย.....” มันยังตะโกนเรียกผมอยู่ ผมโมโห เดินมาใกล้ ๆ โทรศัพท์แล้วพูดเสียงดังใส่
“......ไม่ว่างโว้ย.....วางหูไปเลย......ถ้าเค้าโทรมาอีกบอกไปว่าพี่ไม่อยู่......ถึงอยู่ก็ไม่รับ......เข้าใจมั๊ย......” ผมพูดกับน้องแต่ต้องการให้ไอ้วุธได้ยินด้วย
“.....ฮัลโหล.....พี่วุธ....อ้าว....วางไปแล้ว....” น้องชายผมส่ายหัวเบา ๆ แล้วเดินไประบายสีเล่นต่อ
*
*
.......ปี๊น......ปี๊นนนนนนน....... ผมเดินไปแง้มผ้าม่านดูว่าใครมาบีบแตรรถหน้าบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ชิบหาย ไอ้วุธมา หรือว่ามันโกรธผมเรื่องโทรศัพท์เมื่อตอนหัวค่ำ....ก่อนที่มันจะทำเสียงดังมากกว่านี้ ผมรีบวิ่งลงไปหามันทันที.....ดีนะว่าวันนี้พ่อผมไม่อยู่ ไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกลับวันพรุ่งนี้เช้า.....

“......เป็นเหี้....เป็นบ้าอะไร.....” ผมเกือบหลุดปากด่ามัน
“....เรามีเรื่องต้องคุยกัน.....” มันเดินเข้ามาใกล้ ใกล้จนได้กลิ่นเหล้าจากตัวมัน
“.....ถามจริงเหอะ....จะเอายังไงกันแน่......นายมีแฟนแล้วจะมายุ่งอะไรกับเรา....” ผมขยับถอยหลัง แต่ยังปากดีอยู่
“.....เข้ามาคุยกันในรถดิ.....”
“......ไม่ต้องอ่ะ....มีอะไรก็พูดกันตรงนี้แหละ.....” มันกระอักกระอ่วน
“.....ทำไมเราไม่พูดกันดี ๆ เหมือน.....เหมือนเมื่อก่อนล่ะ.....”
“......ไม่อ่ะ......เราอย่าเจอกัน....ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลยดีกว่า.....ความรู้สึกมันไม่ได้แล้วอ่ะ.....”
“.....แค่เรามีแฟนอ่ะนะ.....ต้องโกรธถึงขนาดนี้เลยเหรอ.....” ไอ้เหี้ย.....พูดมาได้ไงเนี่ย
“.....เราไม่ได้โกรธเรื่องนายมีแฟน.....มันก็เป็นเรื่องปกตินี่.....เพื่อนนายก็มีแฟนกันหมดแล้ว.....ยินดีด้วยนะที่มีแฟนทั้งสวย ทั้งเซ็กซ์......” ปากก็ชมหรอก แต่หน้าผมสะอิดสะเอียนเต็มที่
“......เอ้ก็เหมือนกัน ดีใจด้วยนะที่มีเด็กมหาลัย ทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง มาคอยดูแล.....” ผมไม่ยอมให้มันพูดจบ รีบแทรกซะก่อน
“.....ขอบใจ.....เพิ่งรู้ว่ามีแฟนเนี่ย มันมีความสุขยังไง โยเค้าดีจะตาย ไม่แคร์สายตาใคร ไม่ต้องกลัวว่าใครจะพูดยังไง......ใครไม่รักก็บ้าแล้ว....” สมัยนั้นมอสกำลังดัง มันเงียบไป
“.....เราจะเป็นเหมือนเดิมไม่ได้จริง ๆ ใช่มั๊ย....” มันมองผมด้วยสายตาที่จะทำให้ผมใจอ่อนอีกแล้ว
“.....อืม......” ผมกลั้นใจตอบ
“.....โอเค.....โชคดีนะ.....” มันเดินขึ้นรถ
“.....เดี๋ยว....” ผมเรียกมันไว้ มันยิ้มแฉ่งเลยครับ คิดว่าผมจะใจอ่อนล่ะสิ
“.....อย่าเพิ่งไป....รอก่อน.....” ผมวิ่งกลับไปบนห้อง เอากล่องที่ใส่ของ ๆ ไอ้วุธที่ผมแพ็คไว้ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ ของจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้กระทั่งแปรงสีฟันที่มันเคยบอกให้ผมเก็บไว้ เผื่อมันจะมานอนบ้านผมอีก......ผมเก็บใส่กล่องเอาไว้ตั้งแต่วันที่กลับจากเหนือ อารมณ์ประมาณว่าไม่อยากเห็นของ ๆ มัน
“....อะไรอ่ะ....” มันมองกล่องในมือผมอย่างงง ๆ
“.....เอาคืนไป....” ผมเปิดประตูด้านคนนั่ง เอากล่องวางไว้บนเบาะ
“.....หมายความว่าไงเนี่ย.....” มันเริ่มพูดเสียงแข็ง
“.....ของที่เราเคยให้ ไม่ต้องคืนนะ ทิ้งไปได้เลย.....” ผมไม่ตอบ แต่พูดเรื่องที่ผมอยากพูดแทน มันจ้องหน้าผมนิ่ง ผมไม่หลบตา มันเดินขึ้นรถสตาร์ทแล้วยังเบิ้ลเครื่องอีก ผมเกลียดเสียงอย่างนี้จริง ๆ
“.....เดี๋ยว.....” ผมเคาะกระจกเรียกมันอีกครั้ง มันหันมามองแวบนึง ผมเอาแหวนรุ่นที่มันให้ไว้ออกมาจากกระเป๋าตังค์ มันเห็นปุ๊บก็รีบออกรถกระชากไป ผมไม่รู้จะทำไงก็เลยเขวี้ยงแหวนไปโดนกระจกด้านหลังแคป กระเด็นลงกระบะท้ายรถมัน มันเบรกเอี๊ยดดดด......แต่ไม่ลงมาจากรถนะครับ.....ผมหันหลังเดินเข้าบ้านล็อคกุญแจ ไม่มองกลับไปหามันอีกเลย......


------------------------------------------------

เห็นหายไปนานไง ก็เลยช่วยมาต่อให้ไม่ว่ากันนะครับ lanlan

bigynew

  • บุคคลทั่วไป
 o7 :o12: โอ้ยเศร้า ๆ ๆ
วุธไม่น่าเลย ปล่อยมัน คนไม่รักเราปล่อยมัน รักคนที่รักเราดีกว่าเอ้ เอ้ย อย่าใจอ่อนนะ

อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2007 22:35:01 โดย bigynew »

jedi2543

  • บุคคลทั่วไป
สงสารเอ้ โกรธวุธ

เข้าใจอยู่หรอกว่าสับสน แต่ก็นะ การเล่นกับความรู้สึกของคนยังไงก็ให้อภัยไม่ได้

เชียร์เอ้ต่อไปให้แก้คืนให้สาสม อย่ายอมให้วุธเอาความรู้สึกของเรามาเล่นแบบนี้อีกนะ

ตามมาดู

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาท่วมจอแล้วคับ... ต่อไวๆ น้า..

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

เฮ้ย เหนื่อยใจจัง อ่านแล้วกลุ้ม

จะเป็นไงต่อไปหว่า

รออ่านต่อไปน๊า........

 o15

ปล. รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วนะ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อ่านแล้ววุธเองแหละที่ผิด พูดมาได้ไงว่าเป็นเหมือนเก่า ในเมื่อตัวเองก็มีคนอื่นแล้ว เชี้ยจิงๆ

JaeTae

  • บุคคลทั่วไป


 ถ้ามันเลือก อีนังร่าน นั่นก็เอาไปเหอะ ยังยอมรับเต็มปากเต็มคำกันว่าเป็น แฟน อีก แล้วที่เคยกันจูบกันในผ้าห่มล่ะมันหมายความว่าไง ให้ เอ้เป็นเครื่องทดลงว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่ งั้นหรอ เอาโยดีกว่า เชียร์ๆ :m19:

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้ อ่านมา 3 เรื่อง

เศร้า หมด 3 เรื่อง กะเอาให้ตายเลยหรอเนี่ย




เศร้ามากมายยยยยย

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับรีบน วันนี้อ่านเรื่องไหน เรื่องนั้นเข้าโหมดเศร้าตลอด เฮ้อ ทำใจไม่ได้  :m15: :m15: :m15:


มาต่อเร็วๆน้า ใครก็ได้ มีก็มาลงเถอะ ได้โปรด  :m5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด