ชอบตอนนี้มากมายน่ารักอะ
23 First Kiss
.......ผมกับเพื่อนเคลียร์กันเรียบร้อย ทุกเรื่องถูกพูดถึงวันนั้น พวกมันเองก็โกรธผมที่ทำท่าสนิทกับเพื่อนใหม่ที่เรียนพิเศษจนเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญและลืมพวกมัน.....แถมไม่ยอมบอกเรื่องไอ้วุธไปบ้านผม ก็น้อยใจตามประสาผู้หญิงนั้นแหละครับ อีอ๋าดันพูดว่าเห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อน ฯลฯ เท่าที่ฟังมันด่า พวกมันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวุธเคยมานอนบ้านผม....ตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไปดีกว่า......
.........ไอ้วุธได้เบอร์ผมมาจากอีแจนครับ มันเห็นในสมุดจดเบอร์เล่มเล็ก ๆ ที่อีแจนใส่ไว้ในกระเป๋าสำหรับใส่ปากกา มันขออีแจนเปิดดู อีแจนไม่คิดอะไรก็เลยให้ดู ที่ไหนได้ มันแอบจดเบอร์ผม เพื่อแกล้งโดยเฉพาะ พวกเพื่อนผมก็รู้หลังจากที่มันโทรมาหาผมหลายวันอยู่เหมือนกัน.....ยิ่งฟังพวกมันพูดก็ยิ่งอาย.....ไม่น่าโง่เลยกู เสียฟอร์มอย่างแรง......
*
*
*
“....เฮ้ย....ไอ้วุธ....มึงบอกพวกเอ้เรื่องพี่มิ้นท์ยังวะ” ไอ้นพพูดขึ้นมาตอนที่พวกเรานั่งกินข้าวเย็นที่ ฟู้ดคอร์ท ในห้างประจำที่ไปทุกวัน ผมหันขวับไปมองมันทันที
“.....พวกพี่มิ้นท์เค้าจะจัดไปเที่ยวกัน....” มันพูดหลังจากที่ยิ้มแหย ๆ ให้ผม
“....ไปไหนอ่ะ...” พูดเรื่องเที่ยวอีนัทหูผึ่ง อีนี่มันไม่ชอบอยู่บ้าน มันบอกว่าอึดอัด
“....เมืองกาญ...ไปค้างบนแพคืนนึง.....”
“.....ไปปะวะ....” อีนัทหันมาถามพวกผม
“....คนละกี่บาท....” เรื่องเงินนี่ต้องอีอ๋า
“....500....รวมทุกอย่าง รถ อาหาร.....ที่สำคัญ......เหล้า ไม่อั้น....” ไอ้นพตอบแทน ท่าทางกระดี้กระด้า เดาได้ว่าพวกมันไปกันแน่นอน
“.....เมื่อไหร่.....” ผมถามไอ้วุธ
“.....หลังพวกเค้าสอบเสร็จ....ก็ประมาณกลางเดือนหน้าอ่ะ.....” ผมมองเพื่อน ๆ ทุกคน เริ่มหนักใจแล้ว พวกมันมีทีท่าสนใจ แต่พูดตรง ๆ ผมไม่อยากไป
“......แล้วจะไปกันปะ.....” ไม่ต้องให้ถามอีก เรื่องเที่ยวพวกมันไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว.......เฮ้อ...เครียด แต่เอาวะ....ไปไหนไปกัน
*
*
*
........โรงเรียนผมปิดเทอมก่อนโรงเรียนเอกชน แต่ปิดเทอมนี้พวกผมไม่ต้องทำงานกัน เพราะเปิดเทอมหน้าจะต้องฝึกงานกันแล้ว เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรเลยแหละ......ตัดเกรดด้วย และเพราะไอ้วุธหลอกให้ผมชอบมันในฐานะไอ้โย ผมเลือกสถานที่ฝึกงานใกล้ ๆ โรงเรียนไอ้โยโดยที่ไม่ได้บอกหรือปรึกษาใครกะว่าจะ surprise โยมัน และชื่อผมก็ไปถึงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ด้วย.......
.........พวกผมหาเงินมาจ่ายค่าบัตรให้พวกพี่มิ้นท์ได้ครบตามจำนวน สมัยนั้นเงิน 500 บาทนี่ถือว่าเยอะนะครับ.....ที่โรงเรียนพี่มิ้นท์เค้าจะจัดนำเที่ยวอย่างนี้ทุกปี เมื่อปีก่อนไปน้ำตกวังตะไคร้.....เรื่องนี้ดังมาถึงโรงเรียนผมเพราะมันสนุกมาก มีเพื่อนของเพื่อนผมได้ไปด้วย.....นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่พวกเพื่อนผมไม่ต้องคิดมากกับการไปเที่ยวครั้งนี้......ไม่ใช่เฉพาะโรงเรียนผมและพี่มิ้นท์นะครับที่ไปกัน...เนื่องจากต้องขายบัตรให้หมดถึงจะคุ้มทุน พวกพี่มิ้นท์เจอใครรู้จักใครก็ชวนหมด ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง พอดีมาเจอไอ้วุธ ผมว่าจงใจมาหามันเลยหละ (แอบหึง) ชีบอกให้ไอ้วุธชวนเพื่อนไปหลาย ๆ คน ไม่ลืมให้ชวนพวกผมด้วย
*
*
*
.........สุดยอด.....ผมว่าเด็กพาณิชย์มีความเถื่อนอยู่ในตัวนะครับ แต่สภาพที่ผมกำลังเผชิญอยู่ตอนนั้นผมแทบขอกลับบ้านเลย......รถบัสคันใหญ่ มีเธคอยู่ช่วงหลังรถ มีเด็กวัยรุ่น อายุไล่เลี่ยกับพวกผมทั้งนั้น บางคนก็กินเหล้าตั้งแต่รถยังไม่ออก.....แน่นอนพี่มิ้นท์เป็นพวกคนจัดทัวร์ รีบจับจองที่นั่งด้านหลัง และพวกไอ้วุธกับพวกผมก็โดนต้อนไปรวมอยู่ตรงนั้นด้วย อีพวกนั้นก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เข้าขากันดีเหลือเกิน ผมคิดในใจ.....ไอ้วุธคงรู้ว่าผมอึดอัด แต่มันทำอะไรไม่ได้ เพราะเราอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อน......ผมนั่งติดหน้าต่างโดยมีอีตูนนั่งข้าง ๆ รถออกสักพักอีตูนก็ลุกขึ้นไปเต้นกับคนอื่น ผมมองออกไปข้างนอก พยายามไม่สนใจกับเสียงเพลงที่ถูกมิกซ์ขึ้นมาใหม่ เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนแทบจำของเดิมไม่ได้.......
“...ไม่สนุกเหรอ....” เสียงไอ้วุธอยู่ข้าง ๆ หู คนอื่นคงไม่แปลกใจนัก ก็เสียงเพลงบ้า ๆ นี่มันดังจะตาย
“....ก็....ก็ดีนะ นาน ๆ ได้ออกต่างจังหวัดซะที....” ผมโกหก มันก็คงรู้
“...กินอะไรมั๊ย....” มันหมายถึงขนมห่อ ๆ ที่ไอ้พวกนั้นมันเอาไว้แกล้มเหล้า ผมส่ายหัวเบา ๆ มันหน้าเจื่อน ผมรู้สึกผิดที่ทำให้มันกังวล กลัวผมจะไม่สนุก
“....ง่วง.....” ผมหาข้ออ้าง แกล้งปิดปากหาว
“....เสียงดังอย่างนี้จะนอนได้เหรอ...”
“....สบายมาก....นี่ไง...” ผมเอนตัวลงนิดนึง หลับตาทันที แต่ต้องสะดุ้งเมื่อมันเอามือมาจับหัวผมให้พิงกับไหล่มัน ตาผมหลับอยู่ แต่ข้างในน่ะไม่เลย สักพักผมรู้สึกว่าไอ้วุธจะนอนเหมือนกัน มันเอาหน้าซบกับหัวผม บรรยากาศเริ่มดีขึ้น เสียงเพลงจะดังยังไงก็ไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงลมหายใจของมัน....บุหรี่น่ะเหรอ.....
ไม่ได้กลิ่นเลยทั้ง ๆ ที่ควันคลุ้งขนาดนั้น จมูกผมรับได้แต่กลิ่นหอม ๆ จากตัวมัน อยากให้ทัวร์นี้ไปถึงภูเก็ตจัง จะได้นั่งอย่างนี้นาน ๆ นี่อะไร ยังไม่ถึง 2 ชั่วโมง รถจอดที่ท่าแพซะแล้ว
*
*
*
........บนรถว่าเถื่อนแล้วนะ.....บนแพยิ่งเถื่อนกว่า เป็นแพ 3 ตอน ช่วงแรกเป็นแพเธค.....ช่วงกลางเป็นแพนอน.....ส่วนช่วงท้ายสุดเป็นแพเสบียง ทุกตอนจะมีห้องน้ำ 1 ห้อง ผมสำรวจห้องน้ำเป็นอย่างแรก.....แทบจะขอโบกรถกลับบ้าน มันก็สะอาดดีนะครับ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราปล่อยออกมา จะหล่นลงแม่น้ำแควทั้งหมด อย่างนี้ถ้าแพจอดนี่ห้ามเข้าห้องน้ำเด็ดขาด.......
........กลางวันแสก ๆ แพเริ่มออกแล้ว มีเรือจูงอยู่ข้างหน้า เสียงเพลงจากแพเธคก็ดังขึ้น ไม่รวมเสียงจากแพข้าง ๆ ที่ออกพร้อมกัน ลึก ๆ แล้วผมไม่ค่อยชอบไปเที่ยวที่ที่ต้องลงน้ำอ่ะครับ มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ พอโตขึ้นนี่ค่อยยังชั่วแล้ว......อีพวกนั้นกระโดดโลดเต้นอยู่ที่แพเธค ส่วนผมนั่งเล่นบนระเบียงบนแพนอน โชคดีที่แดดไม่ส่องมาทางที่ผมนั่ง ไอ้วุธก็เดินด้อม ๆ มอง ๆ ผมอยู่แต่ไม่เข้ามา เพราะผมอยู่กับว่าที่คุณแม่อย่างอีตาล เราเม้าธ์กันสองคน เพื่อนคนอื่นก็เดินมาหาเป็นระยะ เป็นการพักเหนื่อยจากการแดนซ์มาราธอน เห็นพวกมันสนุกแล้ว ผมก็อดสนุกไปด้วยไม่ได้
.....หลังกินข้าวเย็นที่ทางแพเตรียมไว้ให้เสร็จ ฟ้าเริ่มมืด ผมนึกคึกขึ้นมาแล้ว คว้าแก้วเหล้าของอีอ๋ามากระดก ตอนแรกนึกว่าจะมีคนห้าม ที่ไหนได้ กรี๊ดกันสนั่น จนพวกพี่มิ้นท์หันมามอง และลากผมออกไปเต้นด้วย พอเหล้าเข้าปาก ความกระดากก็หดหายไป ผมทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นเต้นแบบลืมตัวเลยครับ ไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นเพลงอะไร ผมกับพี่มิ้นท์สามัคคีกันเต้นจนคนอื่นให้ความสนใจหยุดเต้นยืนดูเรารูดเสาต้นเดียวกัน ไม่รู้ตอนนั้นทำท่าอุบาทว์อะไรออกไปมั่ง เริ่มมึน ๆ แล้วด้วยไงครับ แต่ผมไม่ได้ดริ้งอะไรมากมายนะครับ อีพี่มิ้นท์ยังแซวว่าระวังยุงจะวางไข่ในแก้วเหล้าของผมเลย.......สงสัยจะเมาดิบ.......
*
*
*
.......กินเหล้า....เต้น.....เหนื่อย.....ดึกแล้วด้วย ไอ้พวกผู้ชายที่ผมไม่รู้จักเมากลิ้งนอนกันระเกะระกะ พวกผู้หญิงที่เมาก็ถูกเพื่อน ๆ พยุงเข้าไปนอนชั้นบน นอนเรียงกันเป็นแถวเชียว แล้วผมล่ะ......นอนยังไง ตอนเข้าค่ายลูกเสือก็อึดอัดจะแย่ นี่ก็มีแค่กลุ่มไอ้วุธเท่านั้นที่สนิทด้วย เสียงเพลงเริ่มแผ่วลงเป็นเพลงช้า ไม่มีคนเต้นกันแล้ว.....ตอนนี้แพเธคกลายเป็นบ่อนแล้วครับ มีหลายวง เล่นป๊อกแปดป๊อกเก้า สมสิบ กบดำกบแดง เก้าเก รัมมี่ ผมเลือกเล่นวงไพ่ป๊อกตามถนัด แต่เล่นได้แป๊บเดียว กะว่าได้แล้วเลิก มีความรู้สึกว่าเจ้ามือทำไพ่ ไอ้คนนั้นก็ทำท่าไม่พอใจเมื่อผมจะเลิกเล่นหลังจากได้ไปหลายร้อย ผมบอกว่าให้ผมเป็นเจ้าสิ แล้วผมจะเล่นต่อ เค้าไม่ยอม ผมก็เลิก เชิ่ด ๆ ไม่สนใจ เดินไปที่แพเสบียงคนเดียวเพื่อหาอะไรกิน เห็นเงาตะคุ่ม ๆ คุ้นตาอยู่นะ.......ไอ้วุธนี่นา คุยกับใครวะ ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ......อ๋อ.....เด็กผู้หญิงพาณิชย์เอกชนไฮโซ ค่าเทอมเกือบสองหมื่นนี่เอง เค้าหลงมาเที่ยวกับพวกผมเพราะเพื่อนแถวบ้านชวนมา.....ขาว....สวย...หมวย....อึ๋ม.....ท่าทางเรียบร้อยเป็นคุณหนู ไม่แตะเหล้าซักหยด ได้แต่นั่งเอาขาห้อยลงไปในแม่น้ำมองดูพวกผมเฮฮาปาร์ตี้กัน แม้ว่าพวกพี่มิ้นท์จะพยายามชวนให้มาสนุกกัน หล่อนก็ยังเก็กหน้าสวยใส ปฏิเสธทุกคำชวน.....แล้วนี่ไอ้วุธมันรู้จักกับยัยนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ....ผมเสือกซุ่มซ่ามเดินสะดุดครกหินที่วางอยู่บนพื้น ครกน่ะไม่สะเทือน แต่ที่ทำให้สองคนนั้นหันมา ก็เสียงผมร้องจ๊ากด้วยความเจ็บต่างหาก......
“.....อ้าว...เอ้มาทำอะไรที่นี่อ่ะ” มันถามหน้าตาเฉย กูควรจะถามมึงมากกว่านะ ผมพูดในใจ
“.....มาหาอะไรกินหิว...” ผมตอบมันแต่ตาสังเกตผู้หญิงคนนี้ใกล้ ๆ สวย โอเคกูยอมรับ แต่สายตาที่ระยิบระยับเวลามองไอ้วุธนี่สิ มันไม่ธรรมดาเลย
“.....ไม่มีอะไรเหลือซักอย่าง....” มันหันซ้ายหันขวาช่วยผมหาของกิน.....ผมเดินเลี่ยงไปที่ถังน้ำแข็งที่แช่ของสด โชคดีที่มีเนื้อหมูหั่นไว้ถุงใหญ่ เมื่อเย็นผมแอบมาช่วยแม่ครัวทำกับข้าว เค้าบอกว่าถ้าหิวดึก ๆ ก็ทำอะไรกินเองได้ตลอด ผมจึงถือวิสาสะเอาหมูออกมา ตั้งกระทะบนเตาปิกนิก
“....ทำอะไรทานคะ....” อีดอก พูดซะเพราะเชียว ผมหงุดหงิด
“....ทำหมูกระเทียมพริกไทย.....ง่ายดี....ทานด้วยกันมั๊ย....เดี๋ยวเราทำเผื่อ....” ผมตอบไปดี ๆ ไอ้วุธพยักหน้าเป็นทำนองว่ามันจะกินด้วย
“.....ขอบคุณค่ะ.....แต่มันดึกแล้วกินตอนนี้ต้องอ้วนแน่ ๆ เลย....” พูดจบชีก็หันไปหัวเราะเบา ๆ กับไอ้วุธที่ยืนดูผมสับกระเทียม
“....มา...เอ้...เราทำให้กินเอง.....” ไอ้วุธหยิบตะหลิว คว้าหมูโยนลงกระทะด้วยความคล่องแคล่ว
“.....วุธทำเองเหรอ....งั้นออยต้องขอชิมหน่อยแล้ว....” อีช้างลาก.....เมื่อกี้บอกว่ากลัวอ้วน ทีตอนนี้เสือกอยากจะแดก ในใจผมร้อนรุ่ม แต่หน้ายังยิ้มอยู่
“....โชว์ฝีมือเต็มทีเลยนะ....แต่ไม่ต้องทำเผื่อเราแล้วหล่ะ....คลื่นไส้...สงสัยกินเหล้ามากไปนิด....” ผมพยายามรักษามารยาทไม่ให้น่าเกลียดไปนัก.....ไอ้วุธมองผมงง ๆ ก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากตรงนั้น ผมเห็นสายตาแปลก ๆ ของนังชะนีคนนั้นอีกแล้ว ไอ้วุธทำท่าจะเรียกผม แต่ไม่ทันครับผมเดินลิ่ว ๆ ข้ามมาที่แพนอนเรียบร้อยแล้ว
“....อีแจน....หลับยังวะ....” ผมเดินย่อง ๆ เข้าไปในห้องนอนของพวกผู้หญิง…..อีแจนตกใจว่าผมเข้ามาได้ยังไง
“.....เฮ้ย...อีเอ้....มึงขึ้นมาทำไม...”
“...กูขอนอนด้วย...” มันอ้าปากค้าง แต่ผมไม่สนใจซุกตัวนอนข้าง ๆ มัน ไม่แปลกครับผมกับเพื่อนกินนอนด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว ตอนปี 1 เราก็ไปเที่ยวทะเลกันมา....คืนที่สองพวกมันยังแย่งกันนอนติดกับผมเลย เพราะผมนอนไม่ดิ้น
“.....อีเอ้.....มึงต้องตื่นก่อนคนอื่นนะโว้ย.....ยังไงมึงก็ยังเป็นผู้ชาย.....ใครเห็นเข้ามันไม่ดี...” อีแจนนอนลง ปากก็บ่นไปด้วย ผมพยายามข่มตาให้หลับ แต่ใจกระวนกระวายถึงไอ้วุธ ป่านนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง แล้วอีออยอะไรนั่นจะคุยกับไอ้วุธอีกนานมั๊ย โอ๊ย....เครียด....ยังดีว่าบนนี้มันทำอะไรกันไม่ได้แน่ ๆ หมดห่วงไปอย่างนึง ผมหลับลงด้วยความอ่อนเพลีย
*
*
*
......เช้ามืด.....ผมจำใจตื่นก่อนทุกคน รู้สึกว่าแพหยุดนิ่งอยู่กับที่....ผมค่อย ๆ คลานออกไปนอกห้องนอน เมื่อถึงระเบียงผมจึงเห็นว่า แพจอดอยู่ติดชายฝั่ง ข้างบนเป็นร้านอาหาร มีแสงสว่างของไฟนีออน มองไกล ๆ เห็นว่าเป็นป้ายบอกทางไปห้องน้ำ....เออ ดีจัง เราตื่นก่อน เข้าห้องน้ำ เตรียมตัวก่อน ไม่มีใครบนแพผมตื่นซักคน อากาศเย็นมาก ผมลงมาที่ห้องนอนผู้ชาย แสงสว่างที่ลอดเข้ามาทำให้ผมเห็นทางเดินไปที่เก็บกระเป๋าของผม.....ไอ้วุธนอนอยู่ข้างกระเป๋าผม....เห็นหน้ามันแล้วหงุดหงิด ผมรื้อกระเป๋าหยิบสมบัติส่วนตัวเบา ๆ แต่มันตื่นจนได้....
“....ตื่นแล้วเหรอ....” มันงัวเงียถาม ผมไม่ตอบ หอบสัมภาระเดินย่อง ๆ ออกไป
......น้ำโคตรเย็นเลย....ผมอาบน้ำที่รองจากก๊อก ตัวสั่นผับ ๆ รีบอาบน้ำแปรงฟัน ทำธุระให้เสร็จในทีเดียว.....พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคนเริ่มทยอยเดินขึ่นมาจากแพ แต่ไม่ใช่ที่แพผมสักคน....ผมเดินสำรวจนิดหน่อยจึงรู้ว่า นี่เป็นสถานที่จอดแพของหลายแพ มีห้องน้ำ ห้องส้วมไว้ให้บริการ มีร้านอาหารเล็ก ๆ หลายร้าน พ่อค้าแม่ค้าเริ่มย่างไก่กันแล้ว ฟ้ายังมืดอยู่ อากาศก็เย็นจนผมต้องเอามือซุกในเสื้อแจ๊คเก็ตกันลมที่เอาติดกระเป๋ามาด้วย เริ่มเคว้งครับ ตื่นมาตอนเช้าไม่มีอะไรทำ เพื่อนก็ยังไม่มีใครตื่น เมื่อคืนเมากันเละ.....เกือบทั้งแพ.......
“.....เอ้.....” ผมสะดุ้ง กำลังนั่งกอดอกทอดอารมณ์อยู่บนระเบียงชั้นสองด้านหลังของห้องนอนผู้หญิง ถ้าไม่สังเกตไม่เห็นผมหรอก มันค่อนข้างลับตาคน แต่มองจากบนฝั่งจะเห็นผมอย่างชัดเจน นี่แหละผมถึงกล้านั่งคนเดียว เพราะผมมองเห็นคนเดินไปเดินมาบนนั้น .....เอาขาห้อยลงมาทั้งสองข้าง มองขอบฟ้าที่เริ่มมีสีส้มอ่อน ๆ ของดวงอาทิตย์
“....ทำไมตื่นแต่เช้าอ่ะ...” ผมถามเสียงเรียบ
“....เมื่อคืนนอนไหน.....” มันไม่ตอบแต่ดันถามผมกลับ
“.....แถวนี้แหละ....” ผมกวน มันอึ้ง
“...ถามจริง.....นอนไหน เมื่อคืนมันมืด หาไม่เจอ....” มันถามเสียงเครียด
“.....ก็บอกแล้วไง...แถวนี้...แพมันก็มีที่อยู่แค่นี้....ถ้าอยากหาจริง ๆ ทำไมจะไม่เจอ....” ผมกวนอีก
“....เป็นอะไรหรือเปล่า...” มันจับไหล่ผม
“....เปล่า....” ผมเอามือมันออก
“.....มีอะไร...ไม่พอใจอะไรก็บอกดิ....” มันทำท่าร้อนรน
“.....ไม่มีอะไรหรอก.....เราคงคิดมากไปเอง....” ผมพูดเบา ๆ
“....รู้แล้ว...เรื่องออยใช่มั๊ย....” มันหัวเราะอารมณ์ดี....ยิ่งยั่วโมโหผมมากขึ้น
“.....เออ....ชอบอะดิ.....ไปคุยกันลับ ๆ ล่อ ๆ ถ้าไม่ใช่บนแพคงล่อกันจริง ๆ แล้วมั้ง....” ผมว่าแดกมัน
“....หึงเหรอจ๊ะ....” อย่ามาพูดจ๊ะจ๋ากับกูตอนนี้นะ.....ผมใจอ่อนวูบ มันไม่ได้พูดอย่างเดียว แถมเอามือมาดึงผมให้ไปนั่งอีกด้านของแพ ซี่งมันลับตาคนกว่า
“....เดี๋ยวมา....อย่าซนนะจ๊ะ...” ไอ้นี่....กูไม่ใช่เด็ก ๆ นะ มันเดินลงไปข้างล่าง สักพักก็ขึ้นมาพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ นั่งแปะลงข้าง ๆ เอาผ้าห่มคลุมตัวเราสองคนไว้....อุ่นดีเหมือนกันแฮะ
“.....หนาวเนอะ....ไปอาบน้ำทำไมไม่ชวน......แล้วอาบทำไมแต่เช้า....ไม่กลัวเป็นหวัดเหรอ....” มันพูด
“.....รู้ได้ไง....”
“.....ก็เดินตามไป....” เออว่ะ....ตอนนั้นรู้สึกว่ามีคนเดินตามไปจนถึงห้องน้ำห้องข้าง ๆ เหมือนกัน แต่ไม่กล้าหันไปมอง กลัวว่าจะไม่ใช่คนอ่ะดิ
“.....ออยน่ะเค้าน่าสงสารนะ.....เพื่อนที่มาด้วยก็ไม่สนใจเค้าเลย.....” อยู่ ๆ ไอ้วุธก็พูดเรื่องนี้อีก
“....นายก็เลยช่วยเทคแคร์ซะ....” ผมต่อให้
“.....เอ้ลองคิดว่าถ้าเอ้หลงไปกับคนอื่นแล้วไม่มีใครสนใจจะเป็นยังไง” มันทำหน้าขึงขัง ผมหลบตามัน......ก็ตอนมันทำหน้าอย่างนี้แม่งหล่อชิบหาย ยิ่งมองใกล้ ๆ ด้วยนะ.....โอ๊ยยยย....
“....ทำไมจะไม่มีใครสนใจ....พวกเราก็ชวนเค้าคุยแล้วนะ....พวกพี่มิ้นท์ด้วย...” ผมเถียง
“.....เพื่อน ๆ บอกเรื่องเพลงที่มีคนขอให้หรือยัง...” ไอ้วุธเปลี่ยนเรื่อง
“....อ๋อ....ตั้งนานแล้วนี่.....”
“.....ไม่ได้ฟังเองใช่มั๊ย คืนนั้นน่ะ.....เราจำได้ว่าเอ้ไปบ้านอาเล็ก....” ผมพยักหน้า
“....ทั้งแหวน...ทั้งเพลง.....ทั้งเวลาที่เรารู้จักกันมา.....ไม่ได้ทำให้เอ้ไว้ใจเราเลยเหรอ....” อ้าว...ชิบหาย...กลายเป็นว่ากูผิดซะนี่
“....ก็....ก็....ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา.....” ผมพูดเสียงอ่อย ๆ มันยังนั่งก้มหน้าเงียบ “....วุธ.....” มันหันมามองผมแวบนึง แต่ไม่มีเสียงอือออ อะไรเลย ท่าทางจะงอนจริง ๆ ด้วย ผมเขย่าแขนมันใต้ผ้าห่ม
“....อะไร....” ในที่สุดมันก็หันมาถาม ผมไม่ตอบ.....มองซ้ายมองขวา ไม่มีคนวุ๊ย.....อาศัยความไว หอมแก้มมันไปทีนึง.....อายก็อายนี่เป็นครั้งแรกทีผมหอมแก้มผู้ชายด้วยกัน เคยแต่โดนหอมอ่ะครับ มันตะลึง....ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็ยิ้มซะตาหยี
“.....อีกข้างด้วย.....” มันยื่นแก้มอีกข้างมาให้ผม
“....ไม่เอา....” ผมเขิน
“.....ไม่เอาเหรอ....” มันพูดเสียงหมั่นเขี้ยว เอาผ้าห่มคลุมหัว ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในผ้าห่มนั่นแหละ แต่ดิ้นมากไม่ได้เดี๋ยวตกแพ ในผ้ามันก็มืดอ่ะนะ ไอ้วุธจับหน้าผมให้อยู่นิ่ง ๆ โดยที่ผมไม่ได้ระวังตัวอะไร ปากบาง ๆ ของมันก็ประกบเข้ากับปากผมพอดี ผมตัวชาวาบ หมดแรงดิ้นเลยครับ......แน่นอน....ผมไม่เคย....ตัวมันท่าทางก็ไม่เคยเหมือนกัน แต่มันก็พยายามอยู่.....จูบนี้จึงเป็นจูบแรกที่ผมประทับใจที่สุด.....ก่อนทีเราจะทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้.....ผมดึงผ้าห่มให้หลุดออกจากหัว....หายใจไม่ออกอ่ะคับ....ทันทีที่เราสบตากันภายนอกผ้าห่ม.....ไอ้วุธยิ้มเขิน ๆ ส่วนผมก็พอ ๆ กัน ผมขยับผ้าห่มให้เข้าทีเข้าทาง มันจับปลายไว้ข้างนึง อีกปลายผมจับไว้ โผล่ออกมาแต่หัว นั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นพ้นยอดเขาด้วยกัน.......
**************************************************************************
......อย่าเพิ่งเลี่ยนนะครับ.....ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์.....ผมไม่ได้ทำบุญมาดีขนาดที่จะมีความสุขตลอดเวลาหรอกครับ.....ผมมีบทเรียนมาแล้ว....ปัจจุบันนี้เวลาผมมีความสุข ผมจะตักตวงไว้ให้มากที่สุด โดยไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะครับ เพราะผมไม่รู้ว่าความสุขนี้มันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แล้วความทุกข์ที่ตามมามันจะหนักขนาดไหน......
.......ขอบคุณทุก Reply ที่เข้ามาให้กำลังใจ.....พวกคุณคือส่วนหนึ่งของความสุขที่ผมได้รับจากโลกอินเทอร์เนต......ขอบคุณมากครับ.....