ตอนที่ 24 ถึงเวลาเดินหน้าสุดกำลัง
“พะพอเถอะครับ.....อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ!”ผมผลักพี่ทิวาที่พยายามกอดรัดผมจนจะหายใจไม่ออกและแถมยังพยายามจูบผมเป็นรอบที่สองครับ มันน่าอายซะจนผมไม่รู้จะทำยังไง
“ไม่และก็ไม่! กรูจะทำแบบนี้จนกว่ามึงจะใจอ่อน....มึงยังรู้สึกโกรธกรูเรื่องเมื่อคราวก่อนอยู่ใช่รึมั้ยล่ะ”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วจะรื้อฟื้นทำไมครับ....แล้วก็ปล่อยผมได้แล้วนะครับใครมาเห็นเข้ามันไม่ดี”วงแขนแน่นคอยแต่จะกระชับให้ผมชิดใกล้ทุกวินาทีที่ผมขยับตัว พี่ทิวาพยายามยื่นหน้าเข้าใกล้ผมซะจนเกินเหตุจนผมต้องเอียงหน้าหนีและไม่กล้าสบตาคู่คมกริบนั่น ไหนจะยังหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์จูบเมื่อครู่อีกล่ะ...ทำเอาผมวางตัวไม่ถูก
“ก็บอกกรูหน่อยสิ....กรูไม่เคยได้ยินจากปากมึงเลยว่าโกรธรึเปล่า”
“ผมจะไปโกรธอะพี่ได้ล่ะครับ...”
“หันหน้ามาแล้วพูด กรูไม่ชอบให้หลบหน้าเวลาพูด....”
“ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาสั่งด้วยเหมือนกันครับ”
“เจ้าเด็กดื้อด้าน!”
“พี่ก็เหมือนกันล่ะครับ!”
“เห้อ......กรูยอมแพ้มึง! มึงคือคนแรกที่กรูยอมแพ้โดยที่ไม่ทันสู้”พี่ทิวาถอนหายใจลากยาวจนผมมองหน้า เท่าที่ผมสังเกตรอยฟกช้ำบนใบหน้าที่พี่ไนท์ฝากไว้ดูมันจะหายไปหมดแล้วล่ะครับก็ยังเห็นอยู่บ้างแต่เล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่ได้“มองหน้าแสดงว่ารักกรูใช่มั้ย...”
“อะ...อะไรครับ! มันไม่ได้สื่อความหมายแบบนั้นสักหน่อยอย่าขี้ตู่นะครับ!”
“แล้วโกรธกรูรึเปล่า....”พี่ทิวาพูดแล้วกระชับแขนกอดเอวผมแนบเข้าหาตัวจนหน้าผมแนบกับอกกว้างจนได้กลิ่นโคโลนอ่อนๆ จากตัวพี่ทิวา
ละ..ละแล้วทำไมหัวใจผมถึงต้องเต้นรัวและดังขนาดนี้ด้วยนะ มันดังซะจนผมกลัวว่าพี่ทิวาจะได้ยินมัน
“แน่นเกินไปแล้วนะครับ!”
“ตอบคำถามก่อน....”
“ตอบแล้วจะปล่อยผมใช่มั้ยครับ”ผมก้มหน้างุดยังแกรงต่อเสียงหัวใจของตัวเองไม่วายครับ ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้จะโกรธจะแค้นอะไรพี่ทิวาหรอกครับ หากพูดกันตามตรงผมรู้สึกน้อยใจเสียมากกว่า
เห๋.....ทะทำไมผมถึงคิดอย่างกับพวกสาวน้อย ไม่ใช่ว่าผมกำลังเข้าโหมดสาวน้อยอยู่หรอกนะครับ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดเลยครับ!
“ตอบมาก่อนกรูถึงจะบอก”ผมเงยหน้ามองพี่ที่ว่าที่ยิ้มกริ่มมองผมตาเป็นประกาย จนผมต้องเผลอจ้องมองลงไปในดวงตาสีน้ำทะเลลึกนั่น ทำให้ผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่พี่ทิวาสร้างมันขึ้นมาอย่างกู่ไม่กลับ แต่เพราะผมตั้งสติได้เลยรีบหลบสายตาเมินมองไปทางอื่นซะแทน จะให้รู้ได้ยังไงครับว่าผมมองพี่ทิวาและดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นอีกครังนึง ซึ่งมันนานมาแล้วที่ผมแทบจะไม่ได้เห็นมันเลย
“เอ่อ...คะคือผม”ยิ่งอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ นี้นานๆ ผมเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาซะเลยครับหวั่นๆ ไปหมด แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยังแอบดีใจอยู่ลึกๆ กับความรู้สึกมีความสุขที่ได้เจอกันอีก ถ้าไม่มีเรื่องหลายๆ อย่างให้ผมต้องคิด ไม่มีปัญหาที่ผมต้องแก้ ผมคงจะสามารถเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้มากกว่านี้....ไม่ต้องปิดบัง ไม่ต้องกลัวผลที่ตามมา ไม่ต้องกลัวเรื่องอะไรทั้งนั้น.....
“พูดมาสิกรูรอฟังอยู่.....”
ปี๊น ปี๊นนนนน!
แย่ล่ะครับ....นั่นเสียงรถพี่ไนท์นี่ครับ ทำไมวันนี้กลับมาเร็ว! ถ้าพี่ไนท์มาเห็นพี่ทิวาอยู่ที่บ้านล่ะก็เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เลยครับ
“พี่ทิวาครับกลับก่อนเถอะนะครับพี่!”ผมหันไปมองพี่ทิวาที่ยืนนิ่งไม่ไหวตัวแถมยังกอดผมแน่นไม่เปลี่ยนแปลง พี่ทิวากำลังท้าทายต่อชีวิตตัวเองรึไงครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ไนท์ไม่ไว้หน้าพี่ทิวาแน่ๆ
“กรูไม่กลับ....ให้มันมาเห็นเลยว่ากรูคิดถึงมึงกรูมาหามึงที่บ้าน”พี่ทิวามองไปทางประตูทางเข้ามาในบ้านเหมือนท้าทาย ส่วนผมก็ร้อนใจจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับมือไม่สั่นไปหมด ผมยังไม่อยากให้เกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นมาอีก
“พี่ไนท์ไม่ฟังหรอกครับ! กลับไปก่อนนะครับพี่ทิวาถือว่าผมขอร้อง ถ้าพี่ไนท์เห็นพี่อยู่ที่นี่ล่ะก็พี่เองนั่นแหละครับที่จะเจ็บตัว ไม่เข็ดรึไงครับ”
“ไม่! ตอนนั้นกรูยังไม่สู้นี่หว่า เพราะกรูมันไม่ดีเลยยอม แต่ตอนนี้กรูไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วเป็นไงเป็นกัน”สีหน้านิ่งเฉยไม่ทุกไม่ร้อนของพี่ทิวามันยิ่งทำให้ผมแทบอยากจะเป็นบ้าครับ
“ทำไมถึงไม่เข้าใจผมบ้างเลยครับทั้งๆ ที่ผมเป็นห่วงพี่ทิวาแท้ๆ!”ผมพูดออกไปแล้ว!
“หึ! ในที่สุดก็ยอมพูดความรู้สึกของตัวเอง”
“นี่ไม่ใช่เวลามาดีอกดีใจนะครับพี่ทิวา ขอร้องล่ะครับกลับไปก่อน....จะเอายังไงก็ค่อยว่ากัน อย่าเจอพี่ไนท์ในตอนนี้เลยนะครับมันคงยังไม่เหมาะ”
“โกรธกรูรึเปล่า....ตอบมาก่อน”นี่ยังจะมาถามคำถามเดิมอยู่อีก จะแกล้งให้ผมหัวใจวายตายรึไงกันครับเนี้ย
“ไม่โกรธครับ! คราวนี้พี่ก็ได้ยินแล้วงั้นก็รีบไปเถอะครับ!”ผมเขย่าตัวพี่ทิวาที่กอดเอวผมหลวมๆ ให้เร่งรีบ พลางมองทางเข้าบ้านด้วยใจระทึก แต่ในขณะที่ผมมัวกังวลพี่ทิวากลับยิ้มระรื่นมองผมด้วยความดีใจ
เอาไว้ยิ้มหลังจากรอดไปจากเงื้อมมือพี่ไนท์ก่อนจะดีกว่านะครับ!
“จุ๊บทีก่อน....กรูถึงจะไป ตรงแก้มนี่”
“อย่าล้อเล่นนะครับ! ผมเป็นผู้ชายจะให้ทำเรื่องน่าอายแบบนั้นได้ยังไงครับ!”ผมพยายามดันตัวพี่ทิวาให้ออกไปแต่เจ้าตัวกลับยืนกอดอกแล้วยื่นแก้มขาวให้ผมอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำสีหน้าทะเล้นยียวนจนผมสุดจะทนจริงๆ ครับ ไม่รู้ว่าทำไมพี่ทิวาถึงได้ดื้อนัก ชอบแกล้งกันแบบนี้มันไม่ไหวนะครับ....ยิ่งในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ด้วย
“งั้นกรูไม่ไป.....”
“ฟอด!.....พะพอใจยังครับ!”ผมแขยงปลายเท้าก่อนจะทำตามคำขอของพี่ทิวาโดยยื่นหน้าไปหอมแก้มคนหัวรั้นตรงหน้าอย่างไม่มีทางเลือก พี่ทิวาหันมาส่งยิ้มกริ่มอย่างพออกพอใจให้ผมที่กำลังหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกอยู่ใกล้ๆ สิ่งที่ผมทำเหมือนจะแค่แก้ไขสถานการณ์เพราะจำเป็น แต่สลับกัน.....สิ่งที่ผมได้คือความรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังพองโตขึ้นมาอีกครั้งอย่างบอกไม่ถูกครับ...มันทำให้ผมยิ่งถลำลึกและมองเห็นความรู้สึกของตัวเองชัดเจนเข้าทุกทีๆ
ตึก ตึก ตัก ตัก! แถมทำเอาใจดวงน้อยๆ ของผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับ....
“พี่กลับมาแล้ว!!!!”เสียงตะโกนของพี่ไนท์ดังเข้ามาในบ้านผมหัวขวับไปมองพี่ไนท์ที่เดินบิดขี้เกียจมทางผมอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปหาพี่ทิวาซึ่ง.........ตอนนี้หายตัวไปแล้วครับ!
.....ทำไมพี่ทิวาถึงชอบทำให้ผมรู้สึกเหมือนความเดือดร้อนกำลังมาเยือนได้ทุกเมื่อแบบนี้นะครับ ><;;
“กรูเหมือนได้ยินเสียงมึงคุยกับใคร”
“ปะเปล่านะครับ พี่คงหูฟาดผมเพิ่งมาจากรดน้ำต้นไม่หน้าบ้านไม่เจอใครเลยนะครัว”ผมโบกมือปฏิเสธพัลวันครับ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่ต้องมาโกหกพี่ไนท์แบบนี้ แต่มันเป็นเรื่องตื่นเต้นที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกแน่นอนครับ
“เหรอ....สงสัยกรูจะหูฝาดไปแน่ๆ”
“หืม.....กลิ่นเหม็นหึ่งเลยนะครับดื่มมาอีกแล้วใช่มั้ยครับพี่”
“ก็นิดหน่อยอานะ......อย่าบอกแม่ล่ะ”
“.....ผมจะไม่บอกถ้าแม่ไม่ถามครับ แต่ถ้าแม่ถามผมก็คงต้องตอบ....”
“ใจร้ายๆ กรูดื่มนิดๆ หน่อยเอง”พี่ไนท์เดินผ่านผมไปแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ยังคลุ้งอยู่เลยครับ นิดหน่อยของพี่ไนท์มักจะกลับมาแบบนี้ทุกครั้งเลย
“พี่ครับจะกินอะไรรองท้องรึเปล่าครับก่อนเข้านอน”
“ไม่ดีกว่ากินมาแล้วนิดหน่อย เดี๋ยวจะลงมาดูหนังที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันก่อน....มาดูด้วยกันล่ะ”
“ครับ....พี่ครับเดี๋ยว!”พี่ไนท์ทำท่าจะเดินขึ้นบันใดไปข้างบน แต่ผมส่งเสียงห้ามไว้ซะก่อนครับเพราะเห็นความผิดปกติบางอย่างบนตัวพี่ไนท์
“มีอะไร......”
“ที่ซอกคอนั่นรอยอะไรครับ”ผมหรี่ตามองเหมือนมีสีอะไรสักอย่างติดอยู่ครับแต่ไม่แน่ใจ ก่อนที่พี่ไนท์จะปาดมันออกมาผมเลยรู้ทันทีครับว่ามันสีลิปสติก ส่วนพี่ไนท์ก็ยักคิ้วอมยิ้มเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนมันเป็นเรื่องปกติประมานนั้นครับ
“สาวๆ คงฝากอำลามาน่ะ ^^”
“=_= ระวังสุขภาพไว้บ้างก็ดีนะครับพี่ผมเตือนเพราะเป็นห่วง”
“มึงไม่ต้องห่วงหรอกกรูป้องกันน่ะ นี่ไง!”จู่ๆ พี่ไนท์ก็ควักไอ้เจ้าถุงยางอนามัยสองสามชิ้นออกมาจากกระเป๋ายื่นให้ผมดู
“พะพี่ครับ! อย่าเอาของแบบนั้นมาโชว์กันสิครับ!”ผมหน้าแดงหันหลังให้พี่ชายตัวดีด้วยความเขิลครับ ของแบบนั้นมันไม่ใช่ของปกติที่เห็นกันทุกวันจนชินชากับสายตาสำหรับผมหรอกครับ ยังไงก็เป็นของน่าอายอยู่ดี
“ฮาๆ ฮาๆ มึงนี่ยังเหมือนเดิมจริงๆ กรูไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่.....แปะ”พี่ไนท์เดินมาจับมือผมให้ผงายขึ้นก่อนจะยัดอะไรสักอย่างใส่ฝ่ามือให้แล้วเดินขึ้นไปข้างบนก่อนจะตะโกนลงมา
“กรูให้ไปทำความคุ้นเคยสักคืนแล้วกัน ฮาๆ ฮาๆ !”ผมเอาของที่ถูกยัดใส่ในมือมาดูมันคือดูเร็กซ์ครับ! O////O
“พี่ไนท์!!!!!!!!!!!!”
ไหนบอกจะไม่แกล้งแล้วยังไงล่ะครับ! พี่ใจร้ายที่สุดเลย!
“เฮ้ย! ไม่มาดูกับกรูให้จบก่อนล่ะ”พี่ไนท์เดินตามผมมาถึงหน้าห้องผมครับ เพราะผมลุกออกมาตั้งแต่หนังเล่นไปไม่ถึงครึ่งเรื่อง
“ไม่ครับ...พี่อยากดูก็ดูเองคนเดียวเถอะครับผมจะนอนแล้ว”ผมจะปิดประตูแต่พี่ไนท์เอามือมาดึงไว้
“ยังไม่จบเลยนะเว้ยดูเป็นเพื่อนกรูหน่อยดิ”
“ไม่ครับ! ถ้าพี่เอาเรื่องอื่นมาฉายที่ไม่มีฉากอย่างว่าปาเข้าไปครึ่งเรื่องแบบนั้นมาผมถึงจะไปดูด้วย”
“ไอ้น้องใจร้าย!”
“ฝันดีครับ! ปึ้ง!”
เห้อ.....ทำไมผมถึงต้องมานั่งทนดูหนังแบบนั้นทั้งเรื่องด้วยครับเนี่ย พี่ไนท์ก็เหลือเกินซื้อมาทำไมตั้งสามสี่เรื่อง ผมรู้ครับว่ามันเป็นหนังปกติทั่วไปแต่มันไม่ปกติตรงที่ตัวเอกชายกับชายเล่นกายกรรมอนาจรารกันกลางบ้านทั้งๆ ที่ต่างคนก็มีแฟนเป็นผู้หญิงจะให้ผมทนนั่งดูจนจบเรื่องหน้าชื่นตาบานได้ยังไง.....ผมไม่ใช่พี่ไนท์นะครับ....-_-+ ถึงมันจะเป็นแค่ซีนสั้นๆ ก็เถอะ
“....ทำไมต้องรู้สึกเหนื่อยใจด้วยนะ”ผมล้มตัวลงนอนหลังจากปิดไฟปิดม่านระเบียงแล้วเรียบร้อย ก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่ผมคิดอะไรหลายๆ อย่างก่อนจะข่มตาหลับมากที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และจะเกิดขึ้นในพรุ่งนี้ แต่แค่วันนี้วันเดียวก็รู้สึกเหมือนผ่านอะไรมามากมายเลยครับ
วูบ.....
“เฮ้ย!” เพียงวูบหนึ่งที่ผมเผลอนึกถึงเรื่องของพี่ทิวาและสิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อตอนเย็น มันทำให้ผมอายตัวเองจนต้องเผลอมวนตัวเองเป็นแยมโรลกับผ้าห่มเลยครับ(แทบหายใจไม่ออก) รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจนได้....ตอนนี้พี่ทิวากำลังทำอะไรอยู่นะ หวังว่าคงไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนลับหลังผมหรอกนะครับ......
“คัมปายยยยย! เคร้ง เคร้ง!”เสียงโห่ร้องในวงล้อมที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มหน้าหล่อหลากสไตล์ในยามราตรีมืดลง เสียงกระหึ่มจากดนตรีในคลับเปิดเพลงมันส์ให้เหล่านักท่องราตรีได้โยกย้ายส่วนเว้าส่วนโค้งใส่ลีลาสะเด็ดกันเต็มที แสงไฟสีรุ้งสาดไปทั่วเพิ่มสีสันให้ในความมืดของทุกๆ คืน
“ยินดีด้วยสำหรับเพื่อนกรูที่ในที่สุดก็ใกล้จะสมหวังหมดทุกข์โศกเสียที”เสียงหนุ่มหล่อหน้าหวานมาดทะเล้นยกแก้วสูงอวยพรเพื่อนหนุ่มเนื้อหอมก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันในแก้วทรงเตี้ยจนหมด
“ไอ้กรณ์วันนี้มึงพูดดีเท่าที่กรูเคยเป็นเพื่อนมึงมาเลยว่ะ”ชายหนุ่มร่างสูงที่นิสัยใจร้อนและเจ้าของอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายเอ่ยปากชมเพื่อนสนิทที่ยิ้มแป้นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“กรูก็หวังว่ามึงจะไม่ทำอะไรที่ไม่รู้จักคิดอีกก็แล้วกัน”เสียงทุ่มเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะขยับกรอบแว่นสีขาวให้เข้าที่แล้วจัดการกระดกแอลกอฮอล์ในมืออย่างนิ่มนวลจนหมดแก้ว แล้ววางลงบนโต๊ะขอรินอีก นิสัยนิ่งๆ ขรึมๆ และดูวางใจได้เป็เจ้าของชือว่าธีรวัชหรือเพื่อนๆ มักเรียวว่า‘วัช’กันหมด
“ตามหลักการแล้ว....มื้อนี้ไอ้ทิวาสมควรจะเลี้ยงพวกเราเพราะมันเป็นเจ้าภาพฉลองนี่!”น้ำเสียงใสซื่อตะโกนแสดงความเห็นพร้อมกับยืนขึ้นทำตาเป็นประกายมองทิวาอย่างมีความหวัง
“เออ....กรูจ่ายให้เองแต่พวกมึงทั้งหลายต้องช่วยกรูถ้ากรูมีปัญหา”
“ได้! กรูรับปากว่ากรูจะอาสาช่วยมึงเป็นคนแรกเลยบอกมาได้....แก้วนี้ถือเป็นคำสัญญาสำหรับกรูแล้วกัน”เจ้าของท่าทีไฮเปอร์โอเวอร์เอคติ้งของกลุ่มลุกขึ้นพรวดเป็นรอบที่สองก่อนจะถือแก้วใบใหญ่กว่าใครในกลุ่มขึ้นมา ซึ่งในแก้วบรรจุแอลกอฮอล์ชนิดเดียวกันของทุกคนในกลุ่มก่อนจะยกมันขึ้นมาเงยหน้ากระดกแฮลกอฮอล์เข้าปากรวดเดียวจนเพื่อนทั้งกลุ่มมองตาค้าง
ตึ้ง! (OoO )(OoO )(OoO )(OoO )
“(- - ; )”ทิวา
“เชี่ยแล้วไงล่ะไอ้กร๊วกเอ้ย! =_=;”กรณ์
“แม่งสร้างภาระให้พวกกรูอีกแล้ว”วัช
เหล่าเพื่อนๆ มองดูบดินทร์หรือที่เพื่อนๆ เรียกกันจนติดปากว่าไอ้ดิน ตอนนี้ได้หงายหลังลงไปนอนหลับสนิทพร้อมกับการดื่มแก้วสุดท้ายเสมือนตายไปพร้อมกับคำม่นสัญญาซะแล้ว เพื่อนๆ ในกลุ่มก็ต่างพากันมองหน้าอย่างเอือมระอา แต่ก็ไม่วายหมุนปากขวดเสี่ยงดวงว่าใครจะได้รับภาระครั้งนี้ไปครอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ทุกทีเลยไอ้ดิน คออ่อนแต่เสือกทำอย่างกับตัวเองคอทองแดง -_-”ทิวาพูดพลางกระดกแฮลกอฮอล์ในมือแก้เซ็งอย่างไม่สะทกสะท้าน
“มันเป็นศักดิ์ศรีของมันที่ผู้ชายต้องแกร่งแม้กระทั่งในเรื่องดื่ม.....แต่แม่ง! มันไม่ดูตัวเองเลยว่าข้อนี้มันทำไม่ได้แต่เสือกแดกมาก แล้วเป็นไงล่ะ!”
“ไอ้กรณ์มึงก็พูดแรงไป ไอ้ดินได้ยินเดี๋ยวมันก็โกรธอีก”
“กรูไม่แคร์....เพราะมันหลับอยู่ ฮาๆ ๆ เอ้า! ฉลองต่อ ช่างแม่งมันเดี๋ยวจะกลับมึงค่อยแบกไปแล้วกัน ปากขวดชี้ที่มึงว่ะ!
“หึหึๆ โชดดีว่ะไอ้วัช”
“อะไรก็กรู.....”วัชมองเพื่อนที่นอนแน่นิ่งหลับน้ำลายไหลอยู่บนพื้นด้วยสายตาเอือมระอา ภาระอันหนักหนาต้องตกอยู่ที่เขาซึ่งไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย เพราะหลังอาการเมาที่หนักหน่วงมักตามด้วยการสำรอกของเหลือจะกินออกมาจากปาก ประสบการร์ครั้งก่อนเจ้าตัวก็ยังไม่เคยจะลืมมัน “อนาคตกรูจะเอามึงมาเป็นทาสกรูบ้าง......”สายตาเย็นชาเหมือนจะเคียดแค้นเพื่อนรักมองลอดผ่านกรอบแว่นสีขาวก่อนจะหันไปฉลองต่อตามอารมณ์ที่เหลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วปล่อยให้ตัวภาระนอนแผ่อยู่บนพื้นต่อไปไร้การแยแส
เช้าวันต่อมา
“วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอครับพี่”
“ไม่....กรูต้องอยู่กับมึงสามวันต่อสัปดาห์ แบ่งเวลาให้มึงแล้วอย่าพยายามพูดเหมือนขับไล่กรูจะได้มั้ย”
“ผมไม่ด้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกครับพี่ก็....เอาข้าวเพิ่มรึเปล่าครับ”
“นิดเดียวเดี๋ยวลงพุง”มือนี้ผมเป็นคนทำอาหารครับ ไม่มีอะไรมากนอกจากไข่เจียว ไม่มากของแท้เลยล่ะครับ เพราะวันนี้ป้ายุพินลาบอกว่าอาการหลานสาวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ผมเลยอนุญาตครับ หลานใครใครก็รักใช่มั้ยล่ะครับ
“เยอะก็ไม่อ้วนหรอกครับ”ผมพูดพลางตักข้าวให้พี่ไนท์ที่กินกับมากกว่าข้าวเสียอีก
“มึงก็กินเข้าไปเยอะๆ จะได้ไม่ผอมไปมากกว่านี้”
“ผมไม่ได้ผอมนะครับน้ำหนักผมขึ้นตั้งสองกิโล”ผมบ่นงุบงิบลูบท้องตัวเองที่ตอนนี้เริ่มจะมีพุงแล้วละครับ แถมแขนก็บวมๆ ตามสภาพ
กริ้ง กริ้งงงงง!
“ใครมาวะ ?”เสียงกริ่งดังขึ้นจนผมสะดุ้งครับ ปกติมีใครมาหาซะที่ไหน
“งั้นเดี๋ยวผมออกไปดูเองพี่กินข้าวไปเถอะครับ”
“อืม....”พี่ไนท์เคี้ยวข้าวเต็มปากเต็มคำจนผมอมยิ้ม ไหนบอกว่าไม่อยากกินเยอะแต่เมื่อกี้ก็เห็นแอบตักข้าวในจานผมไป
ผมเดินมาที่ประตูรั้วทางเข้าของบ้าน ลักษณะและสีของรถมันเริ่มทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคยและหวั่นๆ ร่วมไปด้วย ผมเดินเข้ามาใกล้ประตูรั้วบ้านก่อนจะออกไปดูทางประตูเล็กนอกบ้าน และนั่นก็ทำให้ผมแปลกใจเป็นอย่างมาก
“พี่ทิวา!”ผมถึงกับต้องเหลียวหลังมองว่าพี่ไนท์ตามมาด้วยรึเปล่าอย่างระแวงก่อนจะปิดประตูเล็กแล้วลากพี่ทิวาไปข้างๆ ให้พ้นทางที่พี่ไนท์จะมองออกมาได้
“ถึงกับต้องลากขนาดนี้คิดถึงมากสินะ....”
“พี่ไนท์อยู่บ้านผมไม่อยากให้พี่ไนท์เห็นครับ”ผมตอบออกไปตรงๆ พี่ทิวาเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจครับ แต่ผมก็ไม่รู้ต้องทำยังไง
“อยู่แล้วไง ทำไมกรูต้องหลบๆ แอบๆ มันด้วยวะ”
“ก็เพราะตอนนี้พี่ไนท์ไม่ชอบพี่”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกรู”
“เกี่ยวสิครับเพราะพี่ไนท์จะทำร้ายพี่อีก”
“กรูจะสู้”
“สู้เหรอครับ!....แต่พี่ไนท์เป็นพี่ของผม ผมคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นแน่ ผมว่าพี่ทิวากลับไปเถอะนะครับ”
“มึงจะกลัวอะไรนักหนา! หรือมึงคิดจะตัดกรูไปจากชีวิตแล้วเอาพี่มึงมาอ้างรึไง”พี่ทิวาเริ่มไม่ฟังเหตุผลอีกแล้วครับ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ....แต่ผมไม่อยากให้เกิดปัญหา....”
“แล้วจะให้กรูหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ไปตลอดรึไง เฮอะ! ไม่มีทางหรอก กรูไม่ทำแน่...และกรูก็ไม่กลัวพี่มึงด้วย”
“ผมรู้ครับว่าพี่ทิวาไม่กลัว....แต่ผมกลัว กลัวว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีกผมกับพี่.....เราคงจะไม่ได้เจอกันอีกนะครับ”ผมหลบตาต่ำกลัวที่สุดที่จะเป็นไปตามที่ผมพูด พี่ไนท์ไม่ใช่เป็นคนที่ยอมใครง่ายๆ หรอกครับ แต่พี่ไนท์เวลาใจดีกับใครแล้ว ก็จะจริงใจถึงที่สุด แต่ถ้าเกลียดใครแล้ว.....ก็เกลียดถึงที่สุดเหมือนกัน
หมับ!
มืออุ่นๆ ของพี่ทิวาวางลงบนหัวของผมเบาๆ ก่อนจะลูบหัวของผมอย่างทะนุถนอม ผมเงยหน้าขึ้นมาหน้าพี่ทิวาที่ทำทีเป็นมองอย่างอื่นมันทำให้ผมยิ้มกริ่มออกมา เพราะท่าทีที่ดูอ่อนโยนของพี่ทิวาเลยทำให้ผมรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว แค่พี่ทิวาสัมผัสผมเพียงเล็กน้อย ตัวผมมันก็รู้สึกวูบวาบไปหมด ร้อนผ่าวไปทั้งตัวเลยล่ะครับ
“แล้วจะให้กรูทำยังไง....กรูทนไม่ได้หรอกนะที่ต้องปิดบังหรือแอบซ่อนสิ่งที่กรูอย่ากจะแสดงเอาไว้ตลอด มึงก็รู้ว่ากรูยอมเพราะมึงคนเดียว....เพราะฉะนั้น”
“อะไรเหรอครับ....”ผมมองพี่ทิวาที่เอามือทั้งสองวางไว้บนบ่าผมแล้วบีบเบาๆ
“สัญญาได้รึเปล่าว่าจะรอกรู....จะให้กรูเป็นคนแรก”
ฉ่า! o/////o จู่ๆ หน้าผมก็ร้อนจนเหงือแทบแตกเลยครับ
“ผม ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยครับ....พะพี่ทิวาพูดอะไร ผมคือ...ผมเข้าบ้านก่อนดีกว่าครับ”ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องรีบหันหลังให้คนตรงหน้าด้วย แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมกำลังจะละลายแล้วครับ ต้องหาที่เย็นๆ ด่วน!
“เดี๋ยว! จะหนีกรูง่ายๆ ขนาดนั้นเลยรึไง”พี่ทิวาจับไหล่ผมหมุ่นให้หันกลับมาประจันหน้าอีกครั้งครับจนผมต้องเอามือปิดหน้าตัวเอง ไม่รู้ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ตึก ตึก ตัก ตัก! ไม่ไหวครับ.....เสียงหัวใจมันเต้นแรงแทบจะออกมานอกอกอยู่แล้ว
“หึหึๆ ทำไมต้องปิดหน้า”
“ผม ผมไม่รู้ครับ!”
“งั้นก็เอามือออกแล้วมองหน้ากรู”พี่ทิวาแกะมือผมออกก่อนจะช้อนค้างผมให้เงยขึ้น พี่ทิวาก้มลงมาใกล้หน้าผมมากก่อนจะกระตุกมุมปากยิ้มแล้วมองหน้าผมไม่วางตา ความรู้สึกของผมตอนนี้เรียกได้ว่ากำลังจะตายเพราะอึดอัดจนหายใจไม่ออกครับ จะเรียกว่าตื่นเต้นจนหัวใจวายก็คงจะถูก
“บอกว่าสัญญาสิ.....ขืนยืนทำหน้าแบบนี้อยู่อีกกรูจะทนไม่ไหว”
“สะ...สะสัญญาเรื่องอะไรครับ”
“.....ว่าจะรอกรู และให้กรูเป็นคนแรก”
“ผม ผมไม่มีอะไรจะให้พี่หรอกครับ!”ผมอยากจะหลบตาพี่ทิวาแต่มือหน้าก็ประคองหน้าผมไว้ไม่ไหวผมได้มองอย่างอื่นนอกจากใบหน้าพี่ทิวา....ก็รู้ว่าพี่ทิวาหล่อครับและเป็นที่ป๊อบปูล่า แต่ผมก็อยากจะมองอย่างอื่นแก้ความตึงเครียดบ้างนี่ครับ แถมมาให้ผมสัญญาเรื่องแบบนี้ผม...ผมสัญญาไม่ได้หรอกครับ ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะควรทำนี่ครับ
“มีสิ...”
“ไม่มีหรอกครับ!”
“ก็ตัวมึงไง ทั้งร่างกายและหัวใจ ทั้งหมดที่เป็นของมึงกรูขอ....ได้มั้ย?”ทำไมต้องทำสีหน้าจริงจังแบบนั้นด้วยล่ะครับ มันทำให้ผมกดดัน จนตาลายคล้ายจะเป็นลม หัวใจก็เต้นเอาๆ จนผมห้ามไว้ไม่อยู่ ยิ่งพี่ทิวาใกล้ผมเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกมีปฏิกิริยาโต้ตอบมากเท่านั้น
“เอ่อ.....คะคือ จะ...จะเอาไปทำไมครับ ผม..ผม....”ปากสั่นครับ พูดอะไร เถียงอะไรแทบไม่ออก
“จะให้กรูบอกจริงๆ งั้นเหรอ.....”เสียงทุ้มที่เบียดเข้ามาประชิดตัวผมด้วยร่างกายสูงโปร่งมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าไม่อยากได้คำตอบนั่นเลยครับ มันคงจะไม่ได้เป็นการแนะนำเชิญชวนให้ผมไปบริจากร่างกายหรืออวัยวะเพื่อการกุศลแน่นอน แล้วตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ ผมก็ออกมานานเกินไปพี่ไนท์ต้องออกมาตามแน่ๆ
“อย่าครับพี่ทิวา! มะไม่ต้องบอก!”ผมเอามือไปปิดปากคนตรงหน้าซะแล้วครับ ผมทำอะไรลงไปเนี่ย
กริ้งงงงงง!
“พี่ทิวากดกริ่งทำไมครับเดี๋ยวพี่ไนท์ออกมา!”ผมมองดูการกระทำของพี่ทิวาอย่างสงสัย สายตาเจ้าเล่ห์ฉายแววบอกผมว่ามันต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแน่นอนครับ
“เดย์ใครวะ!”สะเสียงพี่ไนท์ครับ ตะโกนดังมาจากในตัวบ้าน
“พูดว่าสัญญาก่อนแล้วกรูจะไป...โอเครึเปล่า”เจ้าเล่ห์จริงๆ ด้วยครับ
“ไม่โอเคครับ ผมไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น!”
กริ้งงงงง! กริ้งงงงงง! พี่ทิวาเอื้อมมือไปกดกริ่งตรงประตูเล็กอีกแล้วครับ ผมพยายามห้ามแล้วแต่ไม่ทัน แบบนี้ต้อนให้จนมุมชัดๆ เลยนี่ครับจะขี้โกงไปถึงไหนกัน ><;;;;
“หึหึๆ”
“เดย์มีอะไรรึเปล่าวะ เสียงกริ่งยังดัง!”
“อะเอ่อ...ไม่มีครับพี่ผมเอามือไปโดนกริ่ง!”ผมตะโกนเข้าไปแก้ขัด แต่ถ้ามีอีกครั้งคงไม่ไหวแน่ๆ ครับ
“จะให้กดอีกรึเปล่า –O-”มือพี่ทิวาเตรียมเอื้อมเต็มที่ผมก็พยายามกุมมือพี่ทิวาไว้ ผมจะปกป้องกริ่งสุดชีวิตครับ
“พอแล้วครับก็ได้ๆ ผมสัญญา”
“หึหึๆ สัญญาแล้วห้ามกลับคำล่ะ แล้วกรูจะมาทวงสัญญาแล้วกัน ^^”
ปึง! บรืนนนนนนนนนน!
“=O=;”
ทะ...ทะทำไมไปง่ายอย่างนี้ล่ะครับ แถมยังทิ้งรอยยิ้มสยดสยองแบบนั้นไว้ให้ผมอีก พี่ทิวากำลังคิดอะไรกันน่ะครับทำไมผมรู้สึกหวั่นใจแบบนี้นะ....
แอบเอาตอนนี้มาส่งดึกๆ จนถึงดึกมากตามเคย
ยังไงก็ขอโทษที่ให้รอนานนะฮับ ^^
ช่วงนี้มันร้อนมากจนไม่เป็นอันทำอะไร อยากจะนอนกลิ้งทั้งวันเลยทีเดียว
แต่ยังไงซะก็ไม่ลืมพยายามอัพนิยายตัวเองที่ยังคงมีคนนับล้านชีวิตรอคอย(ฮาๆๆ เว่อร์ของแท้)
ปล.1 ขอบคุณทุกรีมากๆ ฮับที่อดทนรอคอยการมาของตอนใหม่(เน่าหน่อยๆ แฮะ =o=;)
ปล.2
:กอด1:ด้วยความคิดถึงเป็นอย่างยิ่งฮับ
ปล.3 ขอบคุณทุกกำลังใจนะฮับที่คอยเชียร์อยู่ไม่งั้นไม่รอดจะมีตอนใหม่แน่ๆ ^^
แล้วเจอกันอีกตอนหน้านะฮับ