ตอนที่ 23 ฟ้าหลังฝน
“เก็บของเรียบร้อยแล้ว ไม่ลืมอะไรใช่มั้ย”
“ไม่ลืมครับ....”วันนี้ผมได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ พี่ไนท์มาแต่เช้าเพื่อมารับผมดูท่าทางพี่ไนท์ยังอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะไม่ยิ้มกับผมเลยครับ ส่วนพี่ทิวาผมบอกให้ออกไปอยู่ข้างนอกห้องเพราะทั้งคืนพี่ทิวาไม่ยอมกลับครับ บอกจะอยู่เฝ้าผม พอตอนเช้าพี่ไนท์มาผมเลยขอร้องให้อยู่ห่างๆ กันไว้ก่อนผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อวานอีก
“งั้นก็ดี”
“พี่โกรธผมเหรอครับ....”ผมไปยืนข้างหน้าพี่ไนท์ที่หมุนซ้ายขวาสำรวจสิ่งของตกค้าง
“หลบไปก่อนพี่จะดูของเผื่อลืม”
“แต่ผมอยากรู้ว่าพี่โกรธผมรึเปล่า.....โกรธใช่มั้ยล่ะครับ”ผมจ้องมองเข้าไปในแววตาที่บ่งบอกได้เลยครับว่าคนตรงหน้ากำลังงอนผมยกใหญ่ หน้าหล่อเหลากำลังขมวดคิ้วหลบตาผมร่ำไปแบบนั้นจะไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะครับ
“พี่ไม่ได้โกรธ!”
“พี่โกรธผมอยู่ ผมรู้ว่าพี่โกรธ....เพราะพี่กำลังทำท่าทีเย็นชาใส่ผม”
“ไม่ได้โกรธ....รีบเก็บของไปๆ กันได้แล้ว”
“อย่าโกรธผมเลยนะครับพี่ไนท์”ผมพยายามส่งสายตาอ้อนวอนครับ อยากให้ได้ผลจริงๆ หรือผมไม่แบ๊วไม่น่าสงสารพอครับ
“หรือจะอยู่ต่ออีกรึไง....”
“นั่นไงพี่โกรธผมจริงๆ ด้วย.....พี่ไม่รักผมแล้วใช่มั้ยล่ะครับ”ผมแสร้งก้มหน้าเศร้า และแอบดูท่าทีพี่ไนท์ที่ตอนนี้ชะงักกึกทุกพฤติกรรมเลยครับ
“ให้ตายเถอะ.....มึงไปเอานิสัยตื้อและขี้อ้อนแบบนี้มากจากไหนวะ....เห้อออออ...”พี่ไนท์หันมาจับไหล่ผมสองข้างก่อนจะก้มหน้าพูดแล้วถอนหายใจยาว อย่างอ่อนใจ ผมอมยิ้มเงยหน้าขึ้นมาพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
“ก็จากพี่ไง....พี่ชอบทำแบบนี้กับสาวๆ ไม่ใช่เหรอครับ”
“เจ้าเด็กแก่แดด.....”
“หรือไม่จริงล่ะครับ ^^”
“เอาเถอะๆ กรูขี้เกียจงอนมึงเหมือนกัน แต่คราวหลังถ้ามึงทำให้กรูงอนอีกล่ะก็....กรูจะไม่รับง้อแล้วนะเว้ย”
“ครับพี่! ^^”
“เออ! -_- ”
กริก!
“ยุฮูวววววว! พวกพี่มารับเดย์กลับบะ.....”ประตูเปิดออกพร้อมเสียงสดใสแต่เสียงนั่นกลับหยุดชะงักลงทันทีที่พี่ไนท์หันขวับไปมองผู้มาเยือน
ตุ๊บ!
ตุ๊บ!
พี่ดินชนพี่กรณ์ที่เดินหยุดกระทันหันส่วนพี่วัชก็ชนพี่ดินอีกทีเหมือนกันครับ
“แม่ง! หยุดทำไมไม่บอกกรูบ้างวะ”พี่ดินโวย
“มีอะไรรึเปล่า”พี่วัชถาม ก่อนจะหันไปมองพี่กรณ์ที่ยืนขนชี้ทำท่าเหมือนแมวขู่ฟ่อๆ พอเห็นหมา
“มากันได้ยังไงครับเนี่ย?”
“ไอ้ทิวามันโทรมาบอกว่าเดย์ออกจากโรงพยาบาลเช้านี้ พวกพี่เลยมารับ....แต่ทำไมไอ้ทิวาถึงวนเวียนอยู่หน้าห้องไม่เข้ามาล่ะ”พี่วัชถามผมอย่างสงสัย
“กรูไม่ให้มันเข้ามาเองแหละ! เพื่อนมึงคิดไม่ซื่อกับน้องกรู!”
“พี่ครับ!”ผมกระตุกแขนพี่ไนท์ให้หยุดพูดครับ“เอ่อ....ขอบคุณมากครับที่อุตส่าห์มารับ แต่ผมคงจะกลับกับพี่ไนท์นะครับ”
“มีพี่ชายที่แย่ก็แบบนี้ล่ะนะ เลยดูแลน้องไม่ได้น้องก็ป่วยเพราะพี่มันนั่นแหละ.....”
“มึงพูดให้ดีนะไอ้เตี้ย!”
“มึงก็พูดใหม่ดิ๊ไอ้ปากมอม!”
“อย่าเพิ่งทะเลาะเลยนะครับผมขอร้อง....ที่นี่โรงพยาบาลนะครับ”ทั้งสองคนหยุดครับแล้วเชิดหน้าใส่กัน
“แล้วนี่จะกลับบ้าน.....”
“ผมตั้งใจไว้แล้วว่าผมจะกลับบ้านตัวเองแล้วครับ....เพราะพี่ไนท์จะมาอยู่ด้วย”ผมกอดเป้ที่มีน้องต่ายแน่นแล้วบอกพี่วัช แล้วเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้บอกพี่ทิวาด้วย
ปึ้ง!
“ไม่ได้! กรูไม่ให้กลับ”
“ไอ้ทิวา!”พี่ดินกระโดดหลบประตูที่จะกระแทกใส่แทบไม่ทันเมื่อพี่ทิวาเหมือนจะได้ยินเรื่องที่ผมบอกเลยเข้ามา
“มึงเข้ามาทำเชี่ยไร! ไปไกลๆ น้องกรูเลยหรืออยากโดนกรูอัดอีกรอบ!”
“ยังไงกรูก็ไม้ให้เดย์กลับบ้าน!”
“เฮ่! ไอ้ทิวาใจเย็นๆ ดูสภาพมึงตอนนี้ซะ ก่อนดีกว่าก่อนที่จะปากดีไม่บันยะบันยัง”พี่ดินเข้าไปตบบ่าพี่ทิวาเป็นการเตือนสติ ผมว่าเรื่องทุกอย่างพี่ทิวาคงบอกพวกพี่ๆ หมดแล้วล่ะครับทุกคนดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องราวก่อนหน้านี้
“เดย์จะกลับบ้านมึงก็มีเหตุผลหน่อย...นั่นบ้านน้องเค้า น้องเค้าจะกลับมึงไม่มีสิทธิ์ห้าม ข้อนี้ให้เข้าใจด้วย”พี่วัชพูดอีกที
.....ผมมองพี่ทิวาแต่ก็ไม่กล้าสบตาตรงๆ ครับ เพราะแววตาของพี่ทิวาอาจทำให้ผมลังเลที่จะทำในสิ่งที่ควรอีก
“มันเป็นความต้องการของผมครับพี่ทิวา....เพราะที่นั่นคือบ้านของผมที่ๆ ผมอยู่มาตั้งแต่แรกแล้ว”
“มึงจะกลับไปจริงๆ เหรอ แล้วกรูล่ะ”พี่ทิวาพูดเสียงเศร้าคิ้วหนาขมวดไร้แววตาของความรู้สึก ผมมองดูร่างกายแข็งแรงที่บัดนี้ดูอ่อนล้า ใบหน้าที่ขาวใสถูกแทนด้วยรอยแดงและบาดแผลฟกช้ำ ปลายจมูกที่เชิดรั้นเป็นสันถูกแปะพาสเตอร์เอาไว้ โหนกแก้มใต้ตาดูช้ำเขียวเสียจนผมใจหาย
“ครับ....”
“ไปกันได้แล้ว ของใช้สำคัญๆ กรูเก็บมาให้มึงหมดแล้วจะได้ไม่ต้องกลับไปบ้านนั้นอีก”พี่ไนท์พูดขึ้นแล้วโอบผมเดินผ่านพี่ทิวาไป
ผมรู้สึกใจหายครับที่จู่ๆ ก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม แต่มันน่าดีใจไม่ใช่เหรอครับเพราะผมก็ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว ความสงบสุขของชีวิตเด็กมัธยมปลายอย่างผมที่ควรจะมี.....
“แล้วว่างๆ พี่จะไปเยี่ยมน้องเดย์นะ!”พี่กรณ์ตะโกนตามหลังผมมา ผมหันไปมองแล้วโบกมือให้ จึงเหลือบไปสบตาคู่ที่ดูเศร้าของพี่ทิวา พี่ทิวามองผมแล้วยิ้มระคนเจ็บปวดส่งมาให้ผม
“มึงไม่ต้องมา! กรูไม่ต้อนรับมึงไอ้เตี้ย!”พี่ไนท์ยังมีกระจิตกระใจตะโกนไปด่าพี่กรณ์ครับ ไม่รู้ว่าโกรธอะไรกันนักหนาถึงต้องชิงชังกันด้วย
สิ้นสุดแล้วสินะครับสำหรับทุกอย่าง ผมเลยรู้สึกโล่งไปหมด...โล่งจนเริ่มจะหาความรู้สึกของตัวเองไม่เจอ โล่งจนคิดว่าตัวเองจะดำเนินชีวิตต่อไปได้ยังไงในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับความรู้สึกวูบวาบที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและยังไม่ยอมจากไปง่ายๆ ผมควรจะจัดการยังไงความความรู้สึกที่ยังคั่งค้างในหัวใจ....เพื่อที่จะเปิดรับความรู้สึกใหม่ๆ ที่จะเข้ามาแทนที่ได้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมคงทำได้ยากพอๆ กับเอาหัวใจคืนกลับมาจากใครบางคน.......
เกือบจะสองอาทิตย์มาแล้วครับที่ผมกลับมาอยู่บ้าน ในอาทิคย์หนึ่งพี่ไนท์จะอยู่กับผมที่บ้านไม่ไปค้างอ้างแรมที่ไหนสามวันครับ สวนสี่วันที่เหลือก็แล้วแต่ใจพี่ไนท์จะพาไป -*- ตอนนี้ผมอยู่บ้านกับป้ายุพินครับ แม่บ้านประจำบ้านผมที่คอยมาทำควาสะอาดดูแลบ้านให้ในเวลาที่ใครไม่อยู่ พอผมกลับมาอยู่บ้านก็ได้ป้ายุพินนี่แหละครับที่ทำกับข้าวให้ผมกินเอาชีวิตรอดไปวันๆ พอตกเย็นผมก็จะเอาจักรยานไปปั่นเล่นที่สวนแถวหมู่บ้านครับแก้เบื่อแถมได้ออกกำลังกายด้วย มันทำให้ผมไม่คิดฟุ้งซ่าน
“คุณเดย์วันนี้ป้าทำกับข้าวไว้ให้แล้วอยู่ในตู้นะคะ อยากทานเมื่อไหร่ก็เอาไปอุ่นได้เลย”
“ครับไม่ต้องเป็นห่วง กลับบ้านปลอดภัยนะครับ”
“ค่ะ....แล้วอย่าลืมปิดบ้านให้ดีนะคะ วันนี้คุณไนท์ก็ไม่อยู่ด้วย”
“ครับป้า”ขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นไม้ต้นที่เพิ่งซื้อมาปลูก ก็กล่าวลาป้ายุพินที่กำลังจะออกไป ทุกทีป้าจะนอนที่บ้านเป็นเพื่อนผมครับแต่สองวันนี้ป้าแกจะต้องไปกลับระหว่างที่บ้านกับที่นี้ เพราะหลานสาวป้ายุพินป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเห็นบอกว่าเป็นโรคหอบหืด ป้ายุพินเคยบอกว่าลูกชายคนเล็กของป้าแกก็เสียชีวิตเพราะโรคนี้แหละครับ แกเลยเป็นห่วงหลานสาวเป็นพิเศษไม่อยากให้เป็นเหมือนลูกชายป้าแกเหมือนเมื่อสมัยก่อน
“เห้อ....ไปกันหมดแบบนี้ก็อยู่คนเดียวอีกแล้วสิเรา....”
ผมถอนหายใจพลางเดินไปหยิบพลั่วที่พิงอยู่ข้างกำแพงไปเก็บ ไม่ใช่ว่าบ้านผมไม่มีคนดูแลสวนหรอกนะครับ แต่โปรดเข้าใจว่าผมว่างจัดติวก็ไม่ได้ลงเพราะอยากอ่านหนังสือเอง เวลาว่างเหลือมากมายจนต้องมาทำอะไรที่มันสร้างสรรค์และรักษ์โลกบ้าง อย่างเช่นปลูกต้นไม้ไงครับ แต่ที่เอามาปลูกก็แค่ต้นดอกมะละครับ เอามาปลูกไว้ริมๆ กำแพงประมาณสิบต้น เพราะผมชอบกลิ่นดอกเวลาบานจะหอมเย็นใจดี ตอนแรกกะจะซื้อต้นดอกแก้วมา แต่สองจิตสองใจเลยเลือกดอกมะลิดีกว่า วันแม่ผมจะได้ถอนรากถอนโคนเอาไปให้แม่ทั้งต้นไงล่ะครับ แต่ไม่รู้จะอีกกี้อาทิตย์ถึงจะออกดอก ผมก็ดูแลมันมาก็เกือบจะสองอาทิตย์แล้วเหมือนกันครับ....
“หรือเราควรจะไปซื้อปุ๋ยที่ร้านมาใส่ดี....เอาที่มันมีฟอสฟอรัสสูงก็น่าจะใช้ได้.....แต่เร่งดอกเวลามันออกดอก ดอกมันจะเล็กรึเปล่านะ?”
ฟุ๊บ!
“เฮ้ย! OoO!”
ขณะที่ผมกำลังยืนกอดด้ามพลั่วมองเจ้าต้นดอกมะลิที่แสนทะนุถนอมอย่างใช้ความคิดนั้น จู่ๆ ก็มีคนกระโดดลงมาจากกำแพงสูงต่อหน้าต่อตาผมครับ ผมตกใจจนถอยหลังสะดุดล้มไปกองกับพื้นหญ้าก้นกระแทกเต็มๆ แล้วเจ้าคนที่ย่างกรายผ่านเข้ามาในบ้านผมอย่างพละการกำลังนั่งชันเข่าในท่ากระโดดลงแล้วก้มหน้านิ่ง
แล้ว....เจ้าหมอนั่นเป็นใครครับโจรรึเปล่า! ยามเฝ้าบ้านไปซื้อโอเลี้ยงยังไม่กลับมาเลยครับแล้วแบบนี้ผมจะร้องขอความช่วยเหลือจากใคร!!!!! ><;
“ประตูบ้านมึงปิด กรูเข้าไม่ได้ –O-”ชายร่างสูงสง่า ท่าทางเป็นเอกลักษณ์เงยหน้ามองผมแล้วแยกยิ้มโชว์เขี้ยวก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นเศษใบไม้ออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมองคนๆ นั้นด้วยอาการช๊อคไปจนปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี แถมหัวใจผมมันก็เริ่มกระหน่ำเต้นเข้าจังหวะสามช่าเป็นบ้าเป็นหลัง อุณภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้นจนความร้อนทำให้หน้าผมร้อนฉ่า สายตาของผมเบิกกว้างมองภาพคนตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
“O_O+++”
......ทำไมครับ? ทำไมถึงต้องพังทลายความคิดที่จะลืมของผมลงไปด้วย!
“เป็นอะไรมากรึเปล่า?”
“พี่ทิวา!!!!!”
“กรูรู้ว่าคิดถึง.....ไม่ต้องเรียกซะตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้”คนตรงหน้ากระตุกคิ้วซ้ายมองผม แล้วถือวิสาสะคว้าตัวผมให้ลุกขึ้น ก่อนที่ผมจะผลักออก
“พี่...พี่ทิวามาได้ยังไงครับ!”ผมถอยสามก้าวแสดงระยะห่างที่ชัดเจน
“ทำไม...กรูจะมาเพราะคิดถึงมึงไม่ได้รึยังไง”
คำพูดที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้มันหวานหยดย้อย แต่กลับทำให้ผมรู้สึกวูบเข้าไปในอก ผมยอมรับครับว่าผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ เกือบสองอาทิตย์เต็มๆ ที่ผมขังตัวเองภายในรั้วบ้านพยายามหาโน้นนี้ให้ตัวเองรู้สึกไม่ว่างเพื่อจะลืมคิดถึงใครบางคน แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมพยายามทำมันกำลังสูญเปล่า เพียงเพราะผมเห็นหน้าพี่ทิวาเท่านั้น
“พี่ไม่ควรมาที่นี้นะครับ กลับไปเถอะ!”ผมบอกพี่ทิวาก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าบ้านไปซะ
“ทำไม!”
“ผมจะลืมพี่! และพี่ก็จะต้องลืมผมนั่นคือสิ่งที่เราควรทำ!”ในที่สุดผมก็โพล่งความรู้สึกที่อยากจะพูดของตัวเองออกไปครับ นั่นมันดีที่สุดแล้วเพราะความรักที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่ทิวามันไม่ปกติ ยังไงซะเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน!
“ลืมงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอกกรูไม่ลืมแน่ๆ”
“แต่ผมเป็นผู้ชายพี่ก็เป็นผู้ชายมันไม่ปกติพี่ก็รู้!”
“รู้แล้วทำไม...กรูไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ถ้ามึงลืมกรู กรูก็จะทำให้มึงจำ!”
“ผมไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเก่าอีกแล้วครับ”ผมตัดสินใจพูดก่อนจะวิ่งเข้าบ้านตัวเอง ด้วยความรู้สึกเหมือนโดนฟาดกับไม่หน้าสามลงกลางอก เจ็บจนจวนจะขาดใจ
หมับ!
“อย่าหนี! ถ้ามึงหนีกรูก็จะวิ่งตาม กรูบอกแล้วไงว่ากรูรักมึง!”พี่ทิวาวิ่งเข้ามาคว้าต้นแขนผมไว้แล้วกระชากให้ผมหันไปประจันหน้า
“พี่รักผมแล้วผมต้องรักพี่ด้วยงั้นเหรอครับ!”
“ถ้ามึงไม่รักกรู กรูก็จะทำให้มึงรักกรูให้ได้!”
“พี่ครับ!”ผมรู้สึกตกใจกับประโยคที่จริงจังของพี่ทิวาเข้าให้แล้วครับแต่ผมต้องตั้งสติไม่หวั่นไหวเด็ดขาด!
“กรูไม่อยากเป็นพี่มึง!”น้ำเสียงเอาแต่ใจของคนตรงหน้าทำให้ผมเหมือนเจอทางตันที่ไม่มีวันข้ามมันไปได้
“ผมขอร้อง!”
“กรูไม่ให้!”ยิ่งผมพูดคนตรงหน้าก็ยิ่งกระชากตัวผมให้ใกล้มากขึ้น ผมพยายามแข็งขืนไม่โอนอ่อนผ่อนปรนให้คนตรงหน้านี้อีกเด็ดขาด!
“พี่ไม่เข้าใจอะไรเลยใช่มั้ยครับ ทำไมถึงไม่ฟังผมบ้างเลย ไร้เหตุผลที่สุด!”ผมตะคอกใส่คนตรงหน้า แต่ในใจไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นลงไป
“เข้าบ้านมืดแล้ว.....”คนตรงหน้าทำทีเป็นไม่สนใจในสิ่งที่ผมพูดแต่กลับทำตามอำเภอใจกระชากผมเดินตามเข้าบ้านผม ทั้งๆ ที่ผมเป็นเจ้าของบ้านแท้ๆ
“หยุดนะครับพี่ทิวา! พี่จะมาบังคับผมเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว!”
“ทำไมกรูจะทำไม่ได้!”
“ก็เพราะว่าผมไม่ชอบยังไงล่ะครับ!”
“ไม่ชอบแล้วยังดื้อด้านให้ต้องบังคับ”
“นี่ไม่เรียกว่าดื้อด้านหรอกครับที่ผมทำมันถูกต้องแล้ว พี่ต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไร ดันทุรังรั้นที่จะทำตามใจตัวเองเคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างรึเปล่าครับ!”
“ทำไมต้องคิดด้วย....ก็กรูรู้ว่ากรูทำแบบนี้แล้วกรูต้องได้ในสิ่งที่ต้องการมันไม่ถูกรึไง!”
“ไม่เลยครับ!”
“แล้วแบบไหนถึงจะถูก”ทำไมผมถึงต้องมาอธิบายอะไรพวกนี้ด้วยครับ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนเราแท้ๆ
“พี่ก็หัดเข้าใจในสิ่งที่คนอื่นต้องการสิครับ ผมต้องการอะไรพี่ควรจะให้ผมนั่นคือสิ่งแรกทีพี่ควรจะทำและเรียนรู้!”
“กรูรู้ว่ามึงต้องการอะไร....”เสียงทุ้มพูดพร้อมกับมองผมลึกเข้ามาในดวงตา ผมต้องหลบสายตาอย่างไร้สาเหตุ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงดู้สึกกลัวที่พี่ทิวาจะมองตาผม ไม่อยากให้เห็นไม่อยากสบตาเลยจริงๆ ครับ
“กะก็ดีครับ.....”ผมหันหลังให้พี่ทิวา และพยายามบอกตัวเองว่าถ้าไม่เข้มแข็งผมก็จะกลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนเดิม ผมควรจะทำแบบนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว...
ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปซะเถอะครับ....นั่นคือสิ่งที่เราควรจะทำ
“กรูจะทำ....”
“ครับ.....อ่ะ!....จะทำอะไรน่ะครับ!!!!”จู่ๆ ผมก็ถูกกระชากแขนจากทางด้านทั้งๆ ที่กำลังจะเดินไปแล้วแท้ๆ แรงกระชากที่ไม่ทันตั้งตัวมันทำให้ผมเสียสมดุลการยืน ตัวผมเลยหันเซแทบจะล้มก่อนที่พี่ทิวาจะเข้ามาคว้าเอวผมไว้แล้วดึงผมเข้าหาตัว ผมรู้สึกเลยครับว่าตัวผมกระแทกแผงอกพี่ทิวาอย่างจัง
“กรูยังพูดไม่จบ....ที่กรูบอกว่ากรูจะทำคือ.....เอามึงมาเป็นเมียให้ได้”
“อะไรนะครั......อุ๊บ!”ประโยคที่อุทานถูกกลบด้วยริมฝีปากของคนตรงหน้าในขณะที่ผมไม่ทันจะตั้งตัว หัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรับรู้ถึงรสจูบที่โถมเข้ามาอย่างกระหายและเร่าร้อน รุนแรงจนผมอยากจะพลักตัวเองออกมาจากการกระทำเช่นนั้น แต่ยิ่งผมต่อต้านเท่าไหร่แรงบดขยี้ที่ริมฝีปากก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บจนรับรสกลิ่นคาวเลือด ลิ้นอุ่นแทรกผ่านริมฝีปากผมเข้ากระหวัดตักตวงเอาความเสน่หารสหวานอย่างหลงใหล ร่างกายของผมมันเสียววาบไปหมดจนแทบจะยืนหยัดไม่ไหว
“ฮื้อ....อือออออออ.....”ผมหลับตาสนิทสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดใบหน้าของผมที่บัดนี้ร้อนผ่าวราวกับโดนแผดเผา จากจูบที่รุ่นแรงค่อยๆ อ่อนโยนขึ้นอย่างที่ผมไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว เมื่อตัวผมเองกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่ไม่อยากถอดถอน ความรู้สึกของผมที่อยากจะลืมความรู้สึกบ้าๆ เหล่านี้มันกำลังโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้งอย่างที่ผมไม่อยากเป็น คนตรงหน้าที่ผมเผลอแบ่งใจไปให้กำลังทำให้ผมแทบคลั่ง ทั้งๆ ที่บอกกับตัวเองแล้วแท้ๆ ว่าผมจะต้องลืมไปให้ได้ แต่ทำไมหัวใจผมถึงยังเต้นระรัวทุกครั้งเพียงเขาสัมผัส
ทำไมครับทำไมหัวใจของผมถึงไม่ซื่อตรงต่อปณิธานของตัวเองเอาซะเลย ทำไมครับ!
“.........นี่แหละที่กรูอยากจะทำมากที่สุดในตอนนี้ อยากทำมากกว่านี้ ให้ลึกซึ้งกว่านี้....กรูจะรอจนถึงวันนั้น วันที่กรูจะทำให้มึงรักกรูเต็มหัวใจโดยที่ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น”
.......ไม่ต้องหรอกครับ.....เพราะผมให้หัวใจกับพี่ที่ไม่ควรให้ไปนานแล้ว
สวัสดีฮับ...เอ่อ....จะว่าอะไรดีหว่า......
เอาเป็นว่าขอตัวไปนอนก่อนนะฮับ ตอนนี้ปั่นถึงเช้ากันเลยทีเดียว มองดูเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว =_=
ปล.1(ง่วงขนาดไหนก็ไม่มีลืม =_= ปล.) เพราะรักถึงเอามาให้อ่าน เพราะฉะนั้น อ่านแล้วก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะฮับ
ทั้งกำลังใจลับๆ และเปิดเผยให้เห็น เพราะตอนนี้เหมือนขุดหลุมฝังตัวเอง ไม่มีการสำรองตอนใดๆ ฮัพลสดๆ อย่างเดียว
โหดกับตัวเองและนักอ่านจริงๆ
ปล.2 ขอบคุณทุกกำลังใจเลยนะฮับ
ซาบซึ้งหลงไหลได้ปลื้มมาตลอดกับทุกรีที่รีพลายกัน
แล้วติดตามตอนต่อไปนะฮับ