Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2379529 ครั้ง)

Inuy888

  • บุคคลทั่วไป
ฮากระจายยยยย NC น่ารักมากมายค่ะ

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ขนาดเป็นตอน nc ไปป์ก็ยังฮาได้ตลอด  :laugh:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ขนาด จุดๆๆๆๆกันก็ยังฮา

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย

แบบว่ารอตอนนี้มานานในที่สุดเจ่ก็ได้มาแล้ว   :haun4:    :haun4:   :haun4:

ถือว่าเป็นของขวัญวันปีใหม่  2555  เลยก็ว่าได้

เพราะนู๋ไปป์ได้ภคินเป็นสามี   :-[    :-[   :-[

นู๋ไปป์ก็ยั่วสะ  ภคินก็เลยหื่นแตก    :pighaun:    :pighaun:  :pighaun:


ออฟไลน์ OitJi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ตอนนี้มัน................. สุโค่ยยยยยยยยยย :m25: ครบทุกรสชาติเลยทั้งซึ้ง น่ารัก เฮฮา โรแมนติก ดุเดือด เลือดพุ่ง#@#!!!


ปล. ฮ่าๆๆ คู่นี้มันน่าัรักโคตรๆเลยอ่าาาาาาาา >///< ขนาดตอนได้กันมันยังรั่ว+ฮากันได้เลย  :กอด1:

ออฟไลน์ hikikomori

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-4
โอ้ ในที่สุดก็มาถึงวันที่ไปป์เสียซิง 55
ก็ดีนะคะ ไม่ฝืนใจทำไปก่อน รอความพร้อมอีกฝ่าย
ไม่ว่าจะโดนเกรียนใส่มากแค่ไหนก็ตาม 5555

รักกันยาวๆเลยนะคิน-ไปป์

KiissHy

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

ฉลองปีใหม่ด้วยเวอร์จิ้นน้องไปป์ และยินดีกับภคินที่ได้สูบไปป์แท่งใหญ่555555555555555555555*  :o8:

ภคินหวังฟันไปป์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก๊ากกกกกกกกกกก

กำลังเสียตัวก็ยังปากกรรไกรเนอะ เกรียนมากกกกกกก จะเขินก็ขำ จะหื่นก็ฮา >< :laugh: :m20:

ในที่สุดก็ได้กันสักทีไม่ต้องดูดจนคอบวมแล้วฮ่าๆๆๆ  o18

ในเมื่อมันมีครั้งแรกแล้ว... มันก็ย่อมมีครั้งต่อไปใช่มั้ยคะ ก๊ากกกกกกกกกก o18

ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ภคินกับแม่เริ่มต้นใหม่ด้วยสิ่งดีๆเนอะ^^

รอตอนหน้าคุ่เมียน้อยยยยยยยยยยยยยยยยย-w-

ขอบคุณค่าาาา

ออฟไลน์ หอยทาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อร๊ากกก
น่ารักสุโค่ย
ไม่ไหวแร๊น

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
แอร๊ยยย กรี๊ดดด และแล้น ในที่สรวดดดด ก้อมีวันนี้  :m4:
เป็นแฟนกันตั่งแต่สงกรานต์ นอนด้วยกันทุกวัน มาได้กันตอนปีใหม่ ภคิ๊นนน อิพระเอก อิพระอิฐพระปูน อิใช้โอกาสเปลือง แกร๊ทำได้แล้ว  o7
เป็นการอ่าน NC ที่ลุ้นมาก กลัวจะล่ม ถ้าจะทั้งคู่เค้าฮากันขนาดนั้น คนอ่านก้อเคลิ้มไป ขำไป ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
น้องไปป์คะรู้ป่าวโบราณเค้าว่าได้รับมังกรทองตั้งแต่ต้นปีอย่างนี้ จะได้รับต่อไปอีกทั้งปี รุ่งเรืองแน่ๆค่ะน้องขา อะจึ๊ยอะจึ๊ย  o8

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
555 ไปป์เวลาแบบนี้ยังฮาได้อีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






wutgood

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดด+++++

ออฟไลน์ anuyasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
555555555 เป็น NC ที่อ่านไปยิ้มไปแบบไม่เคยเป้นมาก่อนเลยจริงๆ
ชอบมากกก ค่ะ >w< น่ารักมากเลย

QUE1

  • บุคคลทั่วไป
จนได้...คึคึ แอบกรี๊ดเบาๆให้ภคิน
อ่านภาคของภคินแล้วกรี๊ด
มันรักมันหลงไปป์กว่าที่คิด
เค้าชอบอ่ะคึคึ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :mc4: ฉลองกับภคินที่ไปป์ยอมเสียที

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
มาร่วมเป็นสักขีพยานการเสียตัวของไปป์หนึ่งเดียวของคินด้วยคนค่ะ :oo1:  กร๊ากกกกกกกกก+ :laugh:  So good~~ o13

kimsoyeon

  • บุคคลทั่วไป
5555555
ไม่เคยอ่านเอ็นซีไหนที่ฮาขนาดนี้มาก่อนเลย
ไปป์ฮาไม่เลือกสถานการณ์จริงๆ >///<


ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ในที่สุด พี่คินก็ได้เผด็จศึกซะที
สมกับที่รอคอยมานานเลยซะนะ
แบบนี้ เพื่อนคงไม่ล้อว่าป๊อดแล้วชิมิ  :laugh:

Gyoza

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากที่หายไปนานเพราะเน็ตเจ๊ง....กลับมาเราก็เจอฉากที่รอคอยมานาน....โอวววววววววว :impress2:
[จริงๆโดนเพื่อนที่อ่านแล้วสปอยด์ใส่มาแล้วล่ะ...ทรมาณจิตสุดๆ กว่าจะได้อ่าน  :o12:]

อนึ่ง. เป็นNCที่ฮาแตกจริงอะไรจริงอะ = =d

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Special Room  04 [Far’s chapter]

   “เฮีย ๆ ๆ” แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับเสียงดังปึงปังเสมอ “เฮีย! ทำไรอยู่อะ”
   “เปิดประตูให้มันเบา ๆ หน่อยสิเนียร์” ผมบ่นอุบอิบกับนิสัยเสียของไอ้น้องชาย
   “เปิดเบาเฮียก็รู้ตัวสิ  ทำอะไรน่ะ... แอบแชทกับแฟนเหรอเฮีย”
   “แฟนอะไร... ไม่มีหรอกเว่ย”

   ผมยกมือขึ้นกุมขมับในขณะที่เด็กชายตัวสูง ๆ มาด้อม ๆ มอง ๆ แถวหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ค้างหน้าเวิร์ดไว้หรา...   คือผมคงจะมาแชทกับแฟนในนี้ได้หรอกนะ  ไม่รู้เด็กสมองตันอย่างมันเอาอะไรคิดกันเนี่ย...

   “เฮียแอบปิดก่อนผมเข้ามาใช่ปะ”
   “คิดว่ากูว่างขนาดนั้น?” ผมเลิกคิ้วถาม  เป็นผลให้ไอ้ตัวสูงทำหน้าบู้ใส่  บางทีเนียร์มันก็ชอบทำอะไรเป็นเด็ก ๆ คิดอะไรก็แสดงออกมาแบบนี้แหละครับ  อายุก็ตั้งเท่าไหร่แล้วทำไมไม่รู้จักโตซะทีก็ไม่รู้
   “เฮียมีไรปิดบังผมอยู่แน่ ๆ เลย  ไม่รู้ล่ะผมจะนั่งเฝ้าเฮียแบบนี้แหละ” เนียร์เดินวนไปวนมาแถว ๆ เตียงนอนผมก่อนจะทิ้งตัวลงนอนพร้อมการ์ตูนที่หนีบมาด้วย  ผมเหลือบมองภาพเด็กผู้ชายตัวสูงแต่สมองไม่เจริญตามตัวแล้วถอนหายใจ

   มันติดผมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว... เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเงาตามตัวเลยทีเดียว  เรามีกันสองคนพี่น้องมาตั้งแต่เด็กเพราะไม่มีญาติคนอื่นที่อายุเท่ากันเลย  เราเลยเล่นกันสองคนมาตั้งแต่เด็ก  เนียร์มันเป็นเด็กที่ชอบทำอะไรขัดกับตัวเองอยู่เรื่อย  เห็นปัญญาอ่อนง้องแง้งแต่อยู่โรงเรียนมันเป็นหนุ่มฮ็อทเลยนะครับ  สูงหล่อมาดกวนนิด ๆ  สาวตามกรี๊ดกันให้วุ่น  แต่รับรองใครมาเห็นมันสภาพนี้รับรองกรี๊ดไม่ออกแน่ ๆ

   “เฮีย ๆ” มันว่าพลางกระดิกเท้านอนอ่านการ์ตูน “เฮียว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน”

   ทำไมคำถามมึงคุ้น ๆ วะ...

   “จะไปรู้มั้ยล่ะ  ไม่ใช่มนุษย์คนแรกบนโลก” ผมทำเสียงดุ “อย่ากวนได้มั้ย  กำลังทำงานไม่เห็นเรอะ”
   “เฮียอะ!  ระหว่างไอ้จอสี่เหลี่ยมนั่นกับผมเฮียจะเลือกใคร” นั่นไง... เริ่มออกอาการปัญญาอ่อนแล้ว
   “คอมฯ”
   “เฮียใจร้าย” ไม่ต้องหันไปก็รู้ว่ามันต้องทำหน้ายู่ใส่ผม “เฮียแม่งไร้หัวใจ  น้องตัวเองแท้ ๆ ยังไม่รัก”
   “เยอะนะมึง” ผมด่าไปขำไป “แล้วระหว่างกูกับบุหรี่จะเลือกอะไร”
   “เลือกเฮียสิ!” น้องชายผู้น่ารักตอบเสียงดังฟังชัด  มันยักคิ้วกวน ๆ ให้ผม “เดี๋ยวผมไปพี้กัญชาแทนก็ได้”

   แก๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง...

   ปากการาคาถูกในมือผมหล่นจากมือตามแรงโน้มถ่วงของโลก  มือที่กำลังควงปากกาเล่นค้างเต่ออยู่กลางอากาศ  พอตั้งสติได้ผมก็ค่อย ๆ ก้มลงไปเก็บช้า ๆ  รู้สึกถึงออร่าบางอย่างเบื้องหลัง  เฮ้ย ไม่มั้ง...  เนียร์มันอ่านการ์ตูนอยู่นะ  มันจะมาปล่อยออร่าใส่ผมได้ยังไง...

   ผมเด้งตัวขึ้นมาทำเป็นควงปากกาเล่นต่อแบบเนียน ๆ  สมองก็ประมวลผลไปด้วยว่าผมไปทำพิรุธอะไรตอนไหน?  บ้าน่า...  คุยโทรศัพท์แล้วมันได้ยินงั้นเหรอ?  มันแอบฟังผมเหรอ?

   “นี่เฮีย...” เสียงเย็น ๆ ดังขึ้นด้านหลังผม  ทำไมมันไม่อ่านการ์ตูนเงียบ ๆ ไปคนเดียววะ
   “ทำไม”
   “คราวหน้าชวนเฮียไปป์มาบ้านอีกนะ” มันปิดการ์ตูนแล้ววางไว้บนพุง  ผมเลยหันไปมองหน้ามันแบบงง ๆ “พวกเฮียนี่คุยกันสนุกดีเนอะ”

   กู-รู้-แล้ว!

   อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...  อยากจะทึ้งหัวให้สปอร์กระจุย  ยิ่งมาเจอไอ้น้องเวรนั่นยักคิ้วรัว ๆ ใส่ยิ่งอ้าปากค้างกว่าเดิม  บ้าเอ๊ย! ไม่น่าพาไอ้ไปป์มาบ้านเลยจริง ๆ  รู้กันไปสามบ้านแปดบ้านแล้วมั้ง!

   “หึหึหึหึ” โอ๊ย... ขนลุก “แล้วมันจะได้เห็นดีกับผม...  บังอาจมายุ่งกับเฮีย” เนียร์ว่าแล้วนอนตะแคงหันหน้ามาทางผม  แถมยังจ้องตาแป๋วพร้อมจะจับผิดทุกเมื่อ “ทำงานไปดิเฮีย...  ผมจะนอนเนี่ยแหละ”
   “เออ!” ตอบได้แค่นั้นแหละ...  สติสตางค์กูกระจายออกจากแมคบุ๊คไปหมดแล้ว...

   แล้วมันจะทำงานรู้เรื่องมั้ยล่ะแม่ง!

…………………………………………………
……………………………………..
…………………………
………..

   “อยู่ไหนครับ”
   “ชมรม”
   “เดี๋ยวผมไปรับ”
   “ไม่ต้อง”
   “งั้นมาหาผมที่คณะหน่อย”
   “ไม่ไป”
   “ครับ... ไม่ต้องมาก็ได้  ไหนก้มลงมามองข้างล่างหน่อยครับ” ผมชะโงกหน้าลงไปจากชั้นสามก็เจอไอ้หน้ามึนยืนโบกมือป้อย ๆ แล้ว  โอ๊ย... อยากจะตบหน้าผากตัวเองให้กะโหลกยุบ...  หลอกหลอนไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ

   ไม่รู้เมื่อไหร่ที่มันเข้ามาวนเวียนเป็นวัฏสงสารไม่ยอมนิพพานเสียที  ไม่รู้ว่าคนจืดจางอย่างผมมันมีอะไรให้น่าคบหานักนา  วัน ๆ พูดกับคนอื่นแทบจะนับคำได้ (ผมใช้วิธีพูดในใจเอาครับ)  อยู่ด้วยแล้วไม่เห็นจะมีความสุขตรงไหนเลย  ถ้าผมเป็นคนอื่นผมก็คงไม่คบกับคนแบบตัวเองหรอก (อย่าไปนับไปป์มันเลยครับ...  อันนั้นเรารู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว)

   ปีใหม่ที่ผ่านมาเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นล่ะครับ  มือถือราคาแพงแต่มูลค่าการโทรออกต่ำของผมมีเมจเสจเข้าอันแรกของปีตอนเที่ยงคืนหนึ่งวินาทีเป๊ะ ๆ  ส่งมาว่า ‘สวัสดีปีใหม่ครับ’  อืม... แค่นั้นแหละ  แค่นั้นล่ะครับ  ทั้งที่มันน่าจะแค่นั้นแต่ผมดันห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มตามไม่ได้เลยนี่สิ  น่าเจ็บใจชะมัดเลย

   ไม่ได้ซื่อบื้อเสียจนไม่รู้ว่าถูกจีบอยู่  แต่ก็ไม่ได้ฉลาดเสียจนรู้ความรู้สึกตัวเอง

   บางทีให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปก็ดีเหมือนกันนะ  อาจดูเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมกระโดดลงไปในกับดักทั้งตัว  ทำแต่เพียงแค่ยื้อเวลาออกไปเรื่อย ๆ เท่านั้น  บางทีผมอาจจะเข็ดหลาบกับความรักจนไม่อยากทักทายมันอีกก็เป็นได้...

   เรายังอยู่ในช่วงหยุดปีใหม่และผมมีนัดซ้อมกับชมรมไม่ได้ว่างเว้นแต่ละวัน  นี่ขนาดว่าพี่พลแกหยุดวันสิ้นปีกับวันปีใหม่ให้แล้วนะ  เมื่อวานผมไปฉลองงานเลี้ยงสละโสดให้เพลงกับกลุ่มแก๊งนรกแตก (ผมเรียกตามไปป์มัน)  คินร้องเพลงบอกรักมันกลางร้านด้วยล่ะครับ  ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเปิดเรียนมาข่าวมันจะไปไวแบบไฟลามทุ่งขนาดไหน  นี่ขนาดว่าเป็นช่วงหยุดนะ  พอเมื่อเช้าผมโผล่หน้ามาที่ชมรมปุ๊บก็โดนเค้นคอซะยกใหญ่เพราะเห็นว่าผมเป็นเพื่อนไอ้ไปป์มัน  ไอ้ผมก็ตอบปัดไปปัดมานั่นแหละ  ใครจะไปกล้าพูดล่ะ...  เกิดไปป์มันรู้มีหวังโดนด่าไม่ได้เกิดชาติหน้าพอดี

   “อ้าว... กลับแล้วเหรอ” หนุ่มผมยาวที่ยกมือถือแนบหูกล่าวทักทายผม “กลับบ้านดี ๆ นะ”
   “อืม... บาย” ผมยิ้มบาง ๆ โบกมือให้เล็ก ๆ  ได้ยินเสียงเขาแว่วคุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงไม่เคยใช้กับผมมาก่อน
   “อะไรเล่า  อยากรู้ไปทำไม หือ?” ไม่อยากเสียมารยาทแอบฟังต่อ (ผมมั่นใจมากว่าถ้าไปป์อยู่มันคงรีดความลับออกมาจนหมดตัวแน่ๆ) ผมคว้ากระเป๋าเป้เก่า ๆ ขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินเตาะแตะ ๆ ลงบันไดไปช้า ๆ ด้วยสายตาเหม่อลอย...

   “จะตกบันไดแล้วครับ”
   “เฮ้ย!” พระเจ้า...  มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง  จะตกบันไดก็เพราะมึงโผล่มานี่แหละ  ตัวต้นเหตุยืนยิ้มเย็น ๆ ให้ผมที่บันไดขั้นแรกสุด  ใครจะคิดว่ามันจะเดินจากหน้าตึกมาอยู่ตรงนี้กันล่ะ  ไอ้หนุ่มหน้ามึนหัวเราะเบา ๆ กับหน้าตาเหรอหราของผม
   “มาทำไมวะเนี่ย”
   “มารับครับ”
   “ไปไหน... อย่าบอกว่าไอ้โจ้สละโสดอีกนะคราวนี้”
   “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” หัวเราะหาป้ามันรึไง “ฟาร์นี่ตลกดีเหมือนกันนะครับ” โอเค... ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะ  โอ๊ย... ฟังแล้วดีใจน้ำตาแทบไหลพราก
   “อย่ามากวน  ตกลงมาทำไม”
   “มาชวนไปกินข้าวครับ” มันตอบผมพร้อมกับอมยิ้มนิด ๆ  ดูโรคจิตน้อยลงเยอะแต่ชวนขนลุกเหมือนเดิม “เดี๋ยวเย็นนี้ผมต้องซ้อมละครที่คณะต่อ”

   อ๊อ... ผมพยักหน้ากับตัวเองเบา ๆ  ภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อตอนอาทิตย์ที่แล้วย้อนวาบเข้าหัวเหมือนหนังเก่า  อาร์ทมันโทรหาผมตามปกตินั่นแหละ  แต่เสือกมาบอกว่าไปรับเล่นละครคณะ  แถมยังเป็นบทพระเอกอีก!  ฟังแล้วแทบปล่อยมือถือร่วงลงพื้น  ถ้าไม่ติดว่ามันแพงอะนะ

   ใครจะคิดว่าคนที่ดูไม่เต็มเต็งอย่ามันจะได้รับเลือกเป็นพระเอกล่ะ  มันบอกผมว่าเขามาขอมันก็เป็น... จบ!  จบบ้าอะไรเล่า  นี่มึงไม่แคสต์บทอะไรสักหน่อยเรอะ  คือเข้าใจว่าไอ้อาร์ทมันก็ไม่ได้หน้าตาแย่อะไร  แต่ไอ้บุคลิกเบลอ ๆ ล่องลอยเป็นคนเมายาแบบนี้  เอาไปเล่นละครมันจะดีเหรอวะ

   มันไม่รอให้ผมตัดสินใจอะไรหรอก  ส่วนไอ้ผมก็ขี้เกียจเถียงเพราะเดี๋ยวโดนไสยศาสตร์  เรามานั่งกินข้าวกันที่ร้านข้าวราดแกงไม่ไกลจากรั้วมหาลัยนัก  ไอ้หนุ่มกัญชาก็พยายามชวนผมคุยนู่นนี่ไปเรื่อยไปเปื่อยเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ  ตอนแรกผมก็ถามคำตอบคำอยู่หรอกนะ  แต่ไม่รู้อยู่กับมันทีไรแล้วต้องเปลืองน้ำลายพูดมากทุกที

   “แล้วไม่อยากรู้เหรอว่าผมเป็นพระเอกเรื่องอะไรน่ะ”
   “ก็เห็นโปสเตอร์โปรโมทอยู่แล้วไง  จะถามทำไมล่ะ”
   “อืม...” มันขมวดคิ้ว “ไม่อยากรู้เหรอครับว่าบทมันเป็นยังไง  ไม่อยากให้ผมเล่าให้ฟังเหรอ”
   “ไม่ล่ะ...  กูไม่ชอบดูละคร”
   อาร์ทยิ้มกับคำตอบอันเฉยชาของผม “คนไม่เสพงานศิลป์อาจารย์ผมเรียกว่าคนโง่นะครับ”

   มึงด่ากูมาตรง ๆ ก็ได้นะ!  โยกโย้หาพระแสงอะไรวะ

   “กูไม่ชอบคนเยอะ” ผมว่าพลางยกน้ำขึ้นดื่ม “มันวุ่นวายน่ารำคาญ  อึดอัดหายใจไม่ออก”
   “ไม่ชอบเพราะว่ามันอึดอัดหรือเพราะมันทำให้รู้สึกว้าเหว่กว่าเดิมเหรอครับ”

   ผมค้อนให้แววตารู้ทันที่จับจ้องมา  มันรู้ว่าผมเป็นคนยังไง...  ไอ้มนุษย์กัญชานี่มันฉลาดเสียจนน่ากลัว  ไม่แปลกใจที่คินเคยบอกว่าอาร์ทมันอ่านขาดในทุกเรื่องจนไม่กล้าเป็นศัตรูด้วย

   ใช่แล้ว... ผมไม่ชอบคนเยอะ ๆ  เพราะมันทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ที่ยืนอยู่มันกว้างขึ้น  ตลกดีใช่มั้ยล่ะ  แทนที่คนเยอะจะอบอุ่น  แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จักกันเดินผ่านเหมือนเราเป็นธาตุอากาศน่ะ  ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่มีตัวตนและว่างเปล่า...

   “เอาเป็นว่า  นี่ครับ!” มันล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วเลื่อนมันมาบนโต๊ะกินข้าว   มันเงยหน้ายิ้มหวานสยองโลก “ไปดูผมด้วยนะครับ  อาทิตย์หน้าแล้ว”
   “ไม่ไปโว้ย!” ผมชักจะอยากล้มโต๊ะให้แม่งทับหน้าไปเลย “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงวะ”
   “รู้เรื่องครับ  ที่พูดกับฟาร์อยู่นี่ก็ภาษาคนไม่ใช่เหรอครับ” มันเลิกคิ้ว “หรือผมเข้าใจผิด?”
   “ฮื้ยยยยยยยยยยยยยยย... มึงนี่มัน!” โอ๊ย... ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่า  ขอเวลานอกโทรถามไอ้ไปป์ได้มั้ยครับกรรมการ
   “ไม่เคยได้ยินเหรอครับ  ชนใดไม่มีดนตรีกาล  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก”
   “ไม่ต้องมาเจ้าบทเจ้ากลอนเลยนะ  ไม่ไปก็คือไม่ไปโว้ย” ตื๊อหาพ่อหาแม่เถอะ
   “รู้มั้ยครับ  นี่น่ะ” มันว่าพลางจิ้มลงไปบนบัตรเข้าชมละครเวทีสีดำทึม ๆ “มันไม่ใช่บัตรธรรมดานะครับ”
   “ทำไม... มันเป็นวีไอพีรึไง”
   “เปล่าครับ” รอยยิ้มบาง ๆ เผยขึ้นบนริมฝีปาก “เขาเป็นบัตรที่มีของนะครับ  เขาบอกกับผมทุกวันว่าอยากโดนเจาะจะแย่  ผมก็บอกแล้วนะว่าให้รอก่อน ๆ เขาก็ไม่ค่อยฟังหรอก  ดึก ๆ ก็ชอบออกมาเดินเพ่นพ่านนอกกระเป๋า...  แถมบางทีเรียกเพื่อนมาอีก...  เมื่อคืนก่อน...”
   “พอ!” ผมเสียงดังจนเกือบเรียกว่าตะโกน “กะ... กูเก็บแล้วก็ได้แม่ง” ว่าแล้วก็เอื้อมไปหยิบมาอย่างไม่เต็มใจ
   “ดีมากครับ” มันปรบมือ “ผมเกือบปลุกเสกเลยนะเนี่ย”
   “เวรเอ๊ย!  ไม่ต้องมาหลอกกูเลยนะ”
   “เอ้า... ไม่เชื่อกันอีก” มันถอนหายใจ
   “แค่นี้พอใจแล้วใช่มั้ย  จะกลับบ้านแล้ว”
   “กลับดี ๆ นะครับ” อีกฝ่ายโบกมือหยอย ๆ มาให้  จะดีมากถ้าไม่มีประโยคต่อมา “หนูดีไปส่งพี่เค้าหน่อยสิครับ”
   “ไม่ต้องมาเลยนะ!” สิ้นเสียงผมไอ้คนบนโต๊ะมันหัวเราะแทบจะกลิ้งลงไปนอนกับพื้น  โอ๊ยยยยยย... โดนมันปั่นหัวทุกวันจนผมจะบ้าตายแล้วเนี่ย

   ผมเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาหาลูกรักที่จอดเทียบฟุตบาทอยู่หน้าร้าน  กระจกหลังยังเป็นรอยสติ๊กเกอร์อยู่เลยอะ...  ที่ผมไปว้ากใส่ไอ้คู่หูนรกแตกวันนั้นคงไม่สาสมแก่ใจซะแล้วมั้ง  ผมยกมือลูบรอยตำหนิบนลูกรักเบา ๆ ด้วยความแค้นที่พรั่งพรู...  เจอกันคราวหน้ามึงต้องไม่ตายดีแน่... ไอ้โจ้ไอ้กัน!

   ด่าทอในใจเสร็จก็บรรจงปิดลูกรักเบา ๆ แล้วสตาร์ทรถ  ผมล้วงกระดาษแข็งสีดำที่เพิ่งได้รับออกมาจากกระเป๋าเอามาอ่านรายละเอียดเสียหน่อย  อืม... ละคร’ถาปัตย์ปีนี้ชื่อเรื่อง ‘แหลมคม’ ดูเนื้อเรื่องน่าสนใจไม่ใช่น้อย  เพราะไม่ใช่แนวละครรักวัยรุ่นแบบที่คณะอื่นเขาชอบทำกัน  อาร์ตเวิร์คบนบัตรดูลึกลับเป็นกราฟิกสีขาว  ลายคดโค้งซ้อนกันไปมา  อย่างว่าล่ะคณะศิลป์นี่นา  เรื่องธีมอะไรมันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว  ส่วนเรื่องคนแสดงน่ะมันอีกเรื่อง...

   ถ้าชิ่งแล้วน้องหนูดีมันจะตามมาหักคอกูถึงบ้านมั้ยวะ...

.....................................................................
............................................................
........................................
.......................

   “วันนี้เฮียมีอะไรผิดปกติไปรึเปล่า”

   นั่นเป็นประโยคแรกของวันที่ไอ้น้องชายตัวดีใช้ทักทายผม  เนียร์ในชุดนักเรียนเอกชนเสื้อขาวกางเกงน้ำเงินหนีบกระเป๋าหนังแบน ๆ ไว้ที่รักแร้ข้างนึงก่อนจะมองสำรวจผมหัวจรดตีน  ส่วนมืออีกข้างถือนมกล่องรสกล้วยหอม

   “อะไรผิดปกติวะ?  กูสูงขึ้นเหรอ  หรือหล่อขึ้น”
   “โห... ข้อสันนิฐานที่ไม่มีวันเป็นจริง” เอามีดปาดคอน้องตัวเองนี่ติดคุกกี่ปีครับ
   “แล้วอะไรมันเปลี่ยนล่ะวะ”
   “อืมมมมมมม...” มันเดินลูบคางเวียนขวาสามรอบรอบตัวผม  เฮ้ย ๆ นี่คนครับไม่ใช่วัดให้มาเดินเวียนเทียน “เฮียดูแบบ... ลน ๆ อะ  ตื่นเต้นไรปะ”
   “ตื่นเต้นอะไร?  ที่มึงจะไปโรงเรียนอะเหรอ”
   “อย่ามามุกน่าเฮีย  มีอะไรปกปิดผม... บอกมาเดี๋ยวนี้” ไอ้เด็กเปรตชี้หน้าคาดโทษผม...  เอ้า! อะไรของมันวะเนี่ย
   “ก็มันไม่มีอะไรจริง ๆ นี่หว่า  เมาป้ะเนี่ยมึง”
   “ผมไม่ดื่มเฮียก็รู้” ครับ...  สาเหตุเดียวกับผมคือเรื่องฝังใจในวัยเยาว์ “เฮียอย่ามาชวนผมนอกเรื่องเรื่องนะ...  วันนี้เฮียดูเหมือน... ตื่นเต้นปะ?  แบบประหม่าอะไรสักอย่าง...  แล้วก็...” มันก้มเอาจมูกเข้ามาดมฟุดฟิดแถวบ่าผม “เฮียเปลี่ยนกลิ่นแชมพูใหม่ด้วยอะมันต้องมีอะไรแน่ ๆ เลย”
   “เอ้า!  ก็ขวดเก่ามันหมด!” นี่มันมาจับผิดอะไรวะเนี่ย
   “เฮียจะไปเดทกับมันใช่มั้ย  อ๊ากกกกกกกกกก... ผมไม่ไปเรียนซ่อมแล้วผมจะไปกับเฮียด้วย!”
   “ตลกแล้วมึงยิ่งโง่ ๆ อยู่เสือกจะมาโดดเรียน!” ไอ้เนียร์มันแทบจะลงไปดิ้นพราด ๆ กับพื้นบ้านแล้ว “โดดเรียนเดี๋ยวกูฟ้องป๊านะ”
   “อ่อก...” มันสำลักนมกล้วยจนไอค่อกแค่ก “ฮะ... เฮียไม่ปฏิเสธด้วยอะ  ฮือออออ  เฮียจะทิ้งผมเหรอ  คอยดูนะ  ผมจะตามไปหลอกหลอนเฮียไม่ให้ชีวิตเป็นสุขเลย”

   “ตรงนั้นเสียงดังอะไรกันน่ะ  แล้วนั่นเนียร์ยังไม่ออกจากบ้านอีกเหรอ  เดี๋ยวก็ไปเรียนสายพอดี”

   เงียบครับ... เงียบ

   ไอ้เนียร์มันทำท่ากัดลิ้นตัวเองตาย  เสียงป๊าน่ะบงการชีวิตคนได้ทั้งบ้านเลยล่ะ  พูดจบปุ๊บ  เนียร์มันวิ่งออกไปใส่รองเท้าหนังทันที  ก่อนจะพ้นประตูบ้านมันหันมาทำท่าเชือดคอใส่ผมอีกต่างหาก  ฮ่า ๆ ๆ ๆ  ปัญญาอ่อนไร้สาระจริง ๆ  นี่มันอยู่ม.5 แล้วนะ  ช่วยทำอะไรให้รู้สึกถึงสติปัญญาบ้างจะได้มั้ย...

   ผมยังอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นเดินโต๋เต๋วนเวียนอยู่ในบ้าน  ช่วงเช้า ๆ บ้านผมจะต้องมากินข้าวเช้าร่วมกันทุกวัน  ถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้  กับข้าวส่วนใหญ่ก็เป็นข้าวต้มนั่นแหละครับ  ป๊า ม้าผมมีเชื้อจีนด้วยกันทั้งคู่  ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เหอะ

   เมื่ออาทิตย์ที่แล้ววันเปิดเรียนวันแรก  ไอ้ไปป์สร้างความฮือฮาให้กับชาวโลกมากครับ  มันมาเรียนแบบซูบเซียวประหนึ่งชีวิตนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว (จากที่ผมรู้ภายหลัง...  ครับ... ไม่เหลือแล้วจริง ๆ)  แทบจะคลานขึ้นตึกเรียน  แถมยังใส่เสื้อคอเต่ามาอีก (มึงไม่เนียนอะไปป์... คิดว่ากรุงเทพนี่มันหนาวมากรึไง)  แน่ล่ะครับ  ประกอบกับข่าวหน้าหนึ่งมหา’ลัยวันนั้น  คนมองกันให้รึ่ม  มันบอกผมว่ามันเข้าใจแล้วว่าการตกเป็นขี้ปากชาวบ้านมันเป็นยังไง  ฮ่า ๆ ๆ  กรรมตามสนองเลยครับ

   ไม่พอยังถูกไอ้คู่หูนรกแซวจนมันด้านชาไปเลยครับ  หลัง ๆ มีการตอบโต้ด้วย  อืม... เพื่อนกูปากร้ายไม่เคยเปลี่ยน  ไม่เคยยอมเสียดุลการค้า  มันโทรมไปหลายวันเลยครับ  ผมหมายถึงร่างกายโทรมนะ  ปากมันยังใช้งานได้ดี  ด่ากับแม็กซ์ไฟแทบลุกท่วมคณะ...

   วันนี้เป็นวันเสาร์  แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าวันนี้เป็นวันแสดงของละคร’ถาปัตย์น่ะสิ...  บัตรสีดำนอนแอ้งแม้งอยู่ในลิ้นชักโต๊ะมาร่วมอาทิตย์กว่าแล้ว  ผมแกล้งทำเป็นลืม ๆ มันไปซะ  ทั้ง ๆ ที่หลอกตัวเองไม่ได้ว่าเกิดความลังเลในใจมากขนาดไหน...  จะไปไม่ไปดีวะ...

   “ฟาร์... เอาหนังสือพิมพ์ไปเก็บให้ป๊าหน่อย”
   “ครับป๊า”

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
   ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตบ้าง  แต่พอมารู้ตัวอีกที  ผมที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีเทามีฮู้ดกับกางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีดำพร้อมด้วยรองเท้าผ้าใบ  ก็มานั่งอยู่บนรถคันงามแล้วหมุนพวงมาลัยไปมาในสถานการณ์ที่การจราจรแม่งวุ่นวายชิบหาย  หรือว่ามันลงอาคมอะไรไว้ในไอ้บัตรดำ ๆ นี่จริง ๆ วะ?  สถานที่จัดงานคือหอประชุมใหญ่ของมหาลัยผมเอง  ใช้เวลาร่วมชั่วโมงก็หาที่จอดรถได้เสียที  ผมลงรถโดยไม่ลืมคว้ากระดาษลงยันต์นั่นมาด้วย

   คนเยอะอย่างที่คิดไว้จริง ๆ  ภาพฝูงชนกลุ่มใหญ่ทำเอาผมกุมขมับ  แทบจะวิ่งกลับขึ้นรถแล้วสตาร์ทบึ่งหนีไปให้เร็วที่สุด  ถ้าไม่ใช่ว่า...

   “อ้าวเฮ้ย! ทางนี้ ๆ ๆ” ไอ้ผู้ชายผอมสูงนั่นเป็นไอ้โจ้ไม่ผิดแน่  มันโบกมือแขนแทบหลุดก่อนจะส่งไอ้กันพุ่งตัวมาตะครุบผมไว้ได้ทัน
   “เฮ้ยยยยยยย  มาจับทำไมวะ”
   “ก็มึงทำท่าจะวิ่งหนีอะ  ไอ้อาร์ทส่งพวกกูมารับเลยนะเนี่ย” ไอ้หนุ่มเมืองใต้ลากผมครืด ๆ ไปตามทาง
   “โอ๊ย... ไม่หนีหรอกน่า  เดินเองได้เว่ย” เดี๋ยวนะ... มีบางอย่างมีผมเกือบลืม “เออ  เจอพวกมึงแล้วก็ดีเลย  กระจกกูมีคราบสติ๊กเกอร์สิบล้อนั่นแปะอยู่เลย  พวกมึงจะรับผิดชอบยังไงไม่ทราบ”
   “เอางี้เดี๋ยวกูหาลายใหม่ไปแปะทับให้  เอาอันนี้มั้ย ‘เรียนไปปวดหัว มีผัวดีกว่า’ ”
   “ไอ้กัน!”
   “โอเค ๆ  ไม่ต้องทำเสียงดุแบบนั้นก็ได้นี่นา”
   “พวกมึงรู้มั้ยว่ารถกูราคาเท่าไหร่  ครึ่งชีวิตของพวกมึงคงชดใช้ไม่หมดหรอก” มันสองคนเตรียมตัวอุดหู “ไม่ต้องมากวนตีนเลยนะ  แม่งเล่นอะไรไม่รู้จักคิด  มึงรู้มั้ยว่ากูดูแลรถกูดีขนาดไหน”
   “กูรู้ละ... กูจะไปบอกไอ้อาร์ทให้ขูดรถมึงมั่ง  มึงจะได้พูดกับมันเยอะ ๆ” ไอ้โจ้เสนอความเห็นนรกมาให้ผมด่าต่ออีกเป็นชุด

สวดพวกมันยับคาที่ตรงนั้นแหละ  แม่งเสือกมาเล่นอะไรควาย ๆ ใส่ลูกกู  งานนี้ต้องมีตายกันไปข้างนึง  สวดจนพอใจแล้วมันสองคนก็เดินจูงผมไปเข้างานผ่านฝูงชนปริมาณมหาศาล  ได้กลิ่นตัวกลิ่นเท้าเสียจนเวียนหัว  โอย... อยากจะบ้า!  น้ำท่าไม่อาบกันรึไง  ไม่รู้ว่าผมจมูกดีหรือกลิ่นเหงื่อเขาแรงเกินล่ะนะ

   ผมยื่นบัตรให้คนเก็บบัตรหน้าโหดอย่างงง ๆ  เห็นไอ้คู่หูนรกทักทายอย่างสนิทสนมเชียว  อ๋อ... นี่ปีเดียวกันเหรอ หน้านี่นึกว่าเรียนปีแปด  จากนั้นไอ้ลูกกรอกก็เดินนำผมไปนั่งแหมะไว้ตรงเก้าอี้ที่ระบุไว้บนบัตร  เป็นแถวที่สองจากหน้าเวทีเรียกได้ว่าเห็นนักแสดงเต็ม ๆ แน่ ๆ งานนี้

   พอทิ้งผมได้ปุ๊บ  มันสองคนก็รีบวิ่งหนีออกไปเลย  เออ ให้มันได้แบบนี้สิ  กูชิ่งหนีซะตอนนี้ดีมั้ยฮะ!?  ไอ้ไปป์ก็ดันไม่ยอมมาเป็นเพื่อนผมซะอีก  มันบอกว่าช่วงนี้งดออกงาน  ไม่อยากจะเจอหน้าใคร  ไม่มีแก่ใจพบคน...  อืม ยิ่งงานคณะพ่อพระเอกของมันซะด้วย  ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีไปป์แล้ว  เงาตามตัวมันอย่างคินก็ไม่โผล่หัวมาเช่นกัน...

   ผมนั่งแกว่งเท้าฟังเพลงจากไอพอดแก้เซ็ง  แอร์ในโถงหอประชุมหนาวซะจนมือเย็นไปหมด  นั่งรอไปราว ๆ ยี่สิบนาทีไฟก็ถูกหรี่ลง  เลทไปสิบนาทีสมเป็นประเทศไทยจริง ๆ  ผมก่นด่าเรื่องเวลาในใจเป็นจังหวะเดียวกับที่เพลงเปิดตัวเริ่มขึ้น

   ละครเปิดม่านออกแล้ว...  ฉากแรกของเรื่องเริ่มต้นด้วยผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินอยู่ในซอยเปลี่ยว...  เดินไปช้า ๆ ... ช้า ๆ  ...  จนกระทั่งมีเสียงวัตถุบางอย่างกลิ้งอยู่บนพื้นถนน...  ค่อย ๆ  กลิ้งมาหยุดอยู่ที่เท้าของเธอ...  จากนั้นเสียงกรีดร้องชวนขนหัวลุกก็ดังก้อง  ทุกคนขนลุกซู่ก่อนที่ม่านจะเลื่อนปิดลงช้า ๆ และเปิดออกมาเพื่อพบว่าเธอกลายเป็นศพไปเสียแล้ว...

   นี่มันละครบ้าอะไรวะ...

   ผมยกมือลูบแขนตัวเองเบา ๆ ให้ขนที่ตั้งอยู่ราบไปกับผิวหนัง  มันเปิดตัวได้มีพลังมากครับ  เล่นเอาคนเหวอกันทั้งห้องเลย  ผู้ชายด้านซ้ายกับผู้หญิงด้านขวาของเก้าอี้ผมเองก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก  ตำรวจปลอม ๆ เข้ามาตรวจสอบศพของเธอ  ผมมองน้ำแดงที่ข้นเหมือนเลือดแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างบอกไม่ถูก

   ไอ้อาร์ทเปิดตัวในฉากต่อมา  มันแสดงเป็นนักสืบที่ชื่อ ‘แหลม’ ผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไร้สาเหตุนี้  การตายต่อเนื่องแทบจะรายสัปดาห์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้ร่วมเดือนกว่า ๆ แล้ว  แต่ตำรวจก็ไม่อาจจับมือใครดมได้  ผมแอบเห็นสายตาไอ้นักสืบจอมปลอมนั่นกวาดมาตรวจสอบด้วยว่าผมเบี้ยวมันรึเปล่า  พอเห็นผมนั่งอยู่มันก็กลับไปจดจ่อกับบทต่อ

   ที่ว่าคณะมันไม่แคสต์คนนี่เห็นจะไม่ได้แล้วล่ะครับ  ‘แหลม’ เป็นผู้ชายมาดนิ่งที่ดูสุขุมไม่สนใจสิ่งรอบข้าง  และเอาจริงเอาจังกับงานมาก  ไอ้อาร์ทแสดงได้ดีจนผมยังอดจะแปลกใจไม่ได้  เพราะทุกครั้งที่เข้าฉากสืบคดีหรือพบศพแววตาของนักสืบจำเป็นจะเปลี่ยนไปทันที

   ละครดำเนินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด  ฉากการใช้สมองห้ำหั่นกันระหว่างนักสืบกับคนร้ายสร้างความตื่นตาตื่นใจให้มาก  ทั้ง ๆ ที่คนร้ายไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแท้ ๆ  แต่การหักหน้าฆ่าชายหนุ่มเพิ่มอีกคนหนึ่งทั้ง ๆ ที่อยู่ใต้จมูกของตำรวจ  สร้างความเดือดดาลให้นักสืบแหลมเป็นอย่างมาก  ผู้คนที่นั่งชมอยู่ไม่ได้หยุดพักสมองเลยเพราะเนื้อเรื่องมันพลิกผันไปมาสุด ๆ  ผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนต่างมีพิรุธบางอย่างให้ชวนมาขบคิด  ผมขมวดคิ้วหน้านิ่วคิดตามเป็นเวลาราว ๆ ชั่วโมงครึ่ง  เดาว่าใครจะเป็นคนร้ายในคดีนี้กันแน่

   และแล้วละครก็ดำเนินมาถึงโค้งสุดท้าย...  แหลมวิ่งเข้าไปในซอยเปลี่ยวที่คนร้ายทิ้งหลักฐานท้าทายเหมือนจะเป็นแหล่งนัดพบ  เขาเปิดประตูขึ้นสนิมเขรอะเข้าไปพร้อมด้วยเอฟเฟคต์เสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดชวนแสบแก้วหู...  คนร้ายยืนรอเขาอยู่ในห้องแล้ว...  มันคือ...

   กระจก...

   ทุกคนในหอประชุมแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นสิ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้า...  ลมหายใจของผมสะดุดลงเมื่อนักสืบหนุ่มค่อย ๆ หันคอมาช้า ๆ

   “ไม่เจอกันนานเลยนะ” เขาพูดกับกระจกบานที่อยู่ตรงหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ผมคุ้นเคย...
   “นายตามหาฉันอยู่เหรอ”
   “ถูกแล้ว...  หามาทั้งชีวิต”

   ภาพชายหนุ่มที่พูดโต้ตอบกับตัวเองในกระจกชวนให้ขนหัวลุกยิ่งกว่าตอนผมดูคนอวดผีกับไอ้เนียร์เสียอีก  แหลมคว้าไม้ที่พื้นขึ้นมาทุบกระจกแตกยับ  ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นเอฟเฟคต์แต่คนก็สะดุ้งกันถ้วนหน้า

   เขาขว้างไม้ลงกับพื้นก่อนจะเดินมาถึงด้านหน้าสุดของเวที  กวาดมองสายตาไปยังเก้าอี้ทุกตัวเหมือนจะพยายามสบสายตากับทุกคนให้ได้มากที่สุด  มันจะไม่อะไรเลยถ้ามันไม่มาหยุดอยู่ที่ผม...  ดวงตาเรียวคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาข้างในดวงตาผมเหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง  ผมมองตอบกลับไปในดวงตาคู่นั้นที่สะท้อนภาพของผมออกมา  มันกรีดรอยยิ้มขึ้นสูงที่มุมปาก  ความกดดันลอยเคว้งอยู่ในนั้น  แล้วทุกคนก็เงียบ...

   “ผมฆ่าคุณเพราะผมรักคุณ...  ผมรักคุณได้ยินมั้ย!?  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” มันระเบิดเสียวหัวเราะดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งหอประชุม  ผมกระตุกขาเบา ๆ ห้ามตัวเองไม่ให้เผลอใจสั่น  เฮ้ย... มันเป็นบทละครน่า... ผู้หญิงคนที่นั่งข้าง ๆ ผมกลัวจนแทบจะร้องไห้เลย... 

   แหลมเป็นคนสองบุคลิก...  นอกจากเป็นนักสืบผู้ชาญฉลาดแล้ว  เขายังเป็นฆาตกรต่อเนื่องโดยเหยื่อของเขาทุกคนจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขา  ไม่ว่าจะเป็นไฝใต้ตา  ผมยาวตรง  หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เขาคิดถึงเธอขึ้นมา  ตัวเขาอีกคนก็จะออกมา...

   ตอนจบของเรื่องเป็นฉากโต๊ะทำงานของแหลม  เขากำลังจัดเอกสารจำนวนมาก  แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา  เขาตอบคำถามด้วยประโยคสั้น ๆ ที่ออกมาพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก...

   “ครับ... มันตายแล้ว...”

.....................................................
......................................
...........................
.........

   บางทีที่ละครชื่อเรื่อง ‘แหลมคม’ อาจจะเป็นการเล่นคำระหว่าง ‘สติปัญญาที่แหลมคม’ กับ ‘คมแหลม’ ของใบมีดที่ใช้กรีดร่างเหยื่อก็เป็นได้...

   เสียงจ้อกแจ้กดังไม่หยุด  หัวข้อหลัก ๆ เลยก็คือละครที่จบลงไปเมื่อครู่  คงเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยล่ะ  ทำเอาคนพูดถึงซะขนาดนี้  ผมนั่งแกว่งขาอยู่บนเก้าอี้พลาสติกแข็ง ๆ ไม่ค่อยสบายตูดเท่าไหร่นัก  หลังจากม่านสีแดงถูกปล่อยลงมาผมก็ถูกคู่หูนรกลากมานั่งรอแถว ๆ สวนหย่อมหน้างาน  จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน  ขืนกลับตอนนี้มีหวังรถติดจนประสาทเสียแน่ ๆ

   นั่งฟังเพลงเพลิน ๆ ไปสักครึ่งชั่วโมงก็เริ่มจะเพลินไม่ออกแล้ว  นี่ใจคอมึงจะให้กูรอทั้งชีวิตเลยรึไงวะ  ก้มมองนาฬิกาจนข้อมือจะพลิกตามอยู่แล้วนะโว้ย!

   “รอนานมั้ยครับ?”

   เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

   ผมสะดุ้งเฮือกสุดตัวจนแทบจะตกเก้าอี้  ถึงมันจะชอบปรากฏตัวแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงทุกครั้ง  แต่ผมก็ยังไม่ชินซะที  โอ๊ย... หัวใจจะวาย  ไม่ได้เล่นจ๊ะเอ๋กับเด็กนะเว่ย

   ผมส่งสายตาไม่พอใจนิด ๆ “นานมาก”
   “โทษทีครับ  ผมมัวแต่รับคำชม”

   ถ้ามีการโหวตผู้ชายที่กวนตีนหน้าตายที่สุดในโลก  ผมมั่นใจมากว่าไอ้กัญชานี่มันต้องซิวรางวัลมาแหงม ๆ  หมั่นไส้ซะจนอยากจะตะบันหน้าสักที!

   “แล้วนี่ไม่ไปฉลองกับเพื่อนในคณะต่อเหรอ”
   “เดี๋ยวไปครับ  แต่ออกมาหาฟาร์ก่อน”
   “นี่ตกลงให้กูรอตั้งนานเพื่อ?” มันน่ามั้ยล่ะ...
   “ก็คนมันอยากเห็นหน้านี่ครับ”

   บ้าเอ๊ย...  ผมเกลียดรอยยิ้มบาง ๆ บนริมฝีปากนั่นชะมัด  อยากจะคว้ายางลบมาลบ ๆ ๆ ๆ ออกไปให้หมด  อย่ามาทำให้รู้สึกแบบนี้ได้มั้ยวะ...  ผมก้มหน้าหลบตามัน  บอกตรง ๆ ว่าไม่พร้อมจะสบสายตาด้วย

   “ตกลงที่อยากจะพูดมีแค่นี้ใช่มั้ย  จะได้กลับบ้านแล้ว”
   “พูดมากกว่านี้ได้ด้วยเหรอครับ?” ช่วยอย่าถามอะไรที่มันไม่ต้องการคำตอบได้มั้ย  แม่งเอ๊ยยย!

   ในเมื่อไม่อยากจะพูดอะไร  ผมเลยเลือกที่จะเงียบไปซะเฉย ๆ  รองเท้าผ้าใบขยี้ลงกับพื้นไปมา...  ใช่ ผมกำลังหาโอกาสชิ่งกลับอยู่

   “กะ... กลับแล้วนะ”
   “อ้าว... จะกลับแล้วเหรอครับ  ไม่อยู่ให้ผมมองหน้าก่อนล่ะ” ผมตอบมันด้วยความเงียบ “วันนี้แต่งตัวน่ารักดีนะครับ”

   บ้าเอ๊ย... ไอ้หัวใจที่ควบคุมไม่ได้ตรงอกซ้ายมันจะมาเต้นแรงทำไมตอนนี้เนี่ย...

   “อ้าว... ไม่ตอบผมอีกแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” หัวเราะทำซากอะไร “งั้นก็กลับบ้านดี ๆ นะครับ”

   อาร์ทเอามือขยี้ผมทรงเห็ดของผมเบา ๆ จนมันยุ่งนิดหน่อย  อ่า... ทำตัวเป็นมนุษย์ปกติกับเขาก็เป็นนี่หว่า  นึกว่าจะเสพยาจนเพ้อแบบพี่เสกเป็นอย่างเดียวซะอีก  ผมรีบก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวออกมาทันที  ถ้าไม่มีมือมันมาฉุดแขนไว้ก่อนนะ...

   “อะไรอีก”
   “เมื่อกี้... ผมพูดจริง ๆ นะ”
   “เมื่อกี้...” ผมขมวดคิ้ว “มันตอนไหนกันล่ะ...”
   “ว้า... จำไม่ได้แล้วเหรอครับ” มันหัวเราะเสียงน่าขนลุก “ผมเสียใจแย่นะเนี่ย”
   “แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะ”
   “ในละครครับ  ที่ผมบอก... ฟาร์”

“ผมฆ่าคุณเพราะผมรักคุณ...  ผมรักคุณได้ยินมั้ย!?  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

   ช่วยบอกผมทีว่าไม่ใช่ประโยคนี้!  มัน... ประ... ประโยคบอกรักงั้นรึ...

   “หน้าแดงแล้วครับ ฮะ ๆ ๆ” มันจะมีคนบ้าที่ไหนบอกรักด้วยประโยคแบบนี้วะ!  ผมไม่เสียเวลาเถียงให้อับอายเล่น ๆ  ต้องรีบเดินสิ

   “เริ่มหวั่นไหวแล้วใช่มั้ยล่ะครับ” ผมหันควับมามองไอ้คนพูด  อาร์ทยิ้มระรื่นจนตาปิด...  ผมหลับตาลงสัมผัสถึงหัวใจตัวเองที่เต้นแรงขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
   “อืม... ก็นิดหน่อย”


   นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมยอมเปิดปากพูดก่อนจะวิ่งขึ้นรถไป...


   TBC


ลูกเมียน้อยมาแล้วค่ะ มาแบบเบลอๆ :z3:
อัดบทให้น้องเนียร์มากอ่ะ จะเด่นกว่าอาร์ทอยู่แล้ว บังเอิญคนเขียนชอบคาแรคเตอร์เด็กหัวเกรียนกางเกงน้ำเงินค่ะ/ปาดน้ำหมาก/
ตอนหน้าเจอกันที่ลุงนะคะ (ใครยังไม่เคยอ่านบังคับให้อ่านซะนะคะ ฮ่าๆๆๆๆ)

PS.อยู่ๆก็ฝนตกอากาศเย็นขึ้นมาอีกแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ  :กอด1:
PS.ตอนที่แล้วคอมเม้นถล่มทลายมากอ่ะ จดบันทึกไว้ว่ากระทู้รันเร็วที่สุด ฮ่าๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ในเมื่อคนเขียนชอบหัวเกรียนงั้นจัดคู่ให้น้องเนียร์ด้วยได้ป่ะ

ออฟไลน์ หอยทาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ฆาตกรโรคจิตสองบุคลิก กับ เห็ดเอ๋อขี้เหงา
ช่างเป็นการจับคู่ที่ลงตัวเสียนี่กระไร
ว่าแต่เนียร์นี่ดูจะหวงเฮียอย่างหนัก
อยากเห็นฉากปะทะกันจริงๆ ฮี่ฮี่ฮี่

ออฟไลน์ momoshiro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-1
บร๊ะเฮ้ยยย เมียน้อยแต้เมียน้อยว่า!!

แล้วเมียน้อยโคตรๆอย่างอ้ายค่าเลาะม่าไดจะมา?? (ไม่ได้เกี่ยวเลยนะ???)

นี่คือมันรักกันหรือกูเมากัญชากับน้องหนูแดงวะคะ เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ พอดีพักนี้จิตใจด้านชาต่อความรัก (อินี่เวิ่นนนน)

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
 ชอบอาร์ทวะ ใครก็ไม่กล้าเป็นศัตรูด้วย ! :) :กอด1: :z2:

น่ารักดีอ่า ฟาร์ :z1:

the_pupae

  • บุคคลทั่วไป
อ้ายยยยย :-[น่ารักกกกกกอ่ะนู๋ฟาร์

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
P'art suu tor pai kha phii,,p'far kor jai orn hai p'art rew rew na kha~kon aan ror lun yuu,,hu hu hu...

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
พี่อาร์ทททท เอร๊ยยย คิดถึงอ่ะ!!
คิดถึงคู่หูนรกแตกนั่นด้วย
ออกๆหายๆนะคู่นั้น แต่ออกตัวแรงตลอด 555
เนียร์น่ารักอ่ะ ดันบทขึ้นแข่งกับอาร์ทเลย 555
ฟาร์หวั่นไหวแล้ว ฮิ้ววว~ เอาใจช่วยพี่อาร์ทค่า
รอตอนต่อไปน้า~♥ 

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
น่ารักดีครับ   ติดตาม ติดตาม

อาร์ท นายต้องทำให้ความว้าเหว่ของฟาร์ หายไปโดยเร็วนะครับ
“ก็คนมันอยากเห็นหน้านี่ครับ”>>คำนี้อาจจะดูเก่ามาก แต่โดนอ่ะ
(ทำไมฟาร์พูดไม่เพราะเลยอ่ะ หรืออาร์ทมันพูดเพราะไปเอง ฮ่าๆ งง)
ยอมรับอาร์ทเป็นแฟนเถอะนะครับฟาร์ ตามตลอดเลย น่ารักอ่า


เป็นกำลังใจให้คนแต่งทุกเมื่อ เชื่อวันนะครับ
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2012 20:37:43 โดย day9day »

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
เนียร์น่ารักอ่ะ, หวงเฮียมากมาย!
อาร์ทเป็นผู้ชายที่แปลก แปลกมากๆ อะ 55.

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อาร์ทเป็นคนที่ไม่จนด้วยคำพูดเลย ทันคน ทันปาก
คนแต่งใส่มุกไปหลายช้อตนะ สนุกดีค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด