"รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw  (อ่าน 570898 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ไม่คิดเลยว่าหมอจะหื่นได้ขนาดนี้
ส่วนฟ้าก็ยังทำใจยอมรับเรื่องของนนท์ไม่ได้สักที เมื่อไหร่ฟ้าจะสมหวังกับความรักซะทีนะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เวลาคุณฟ้าบอกว่ายังรักนนท์อยู่นะ สงสารคุณหมอทุกที มาทีหลังก็ต้องรอไปก่อน

atommic

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกสงสารคุณหมอจัง :m15: :m15:


เมื่อไหร่คุณฟ้าจะตัดใจจากรักแรกที่แสนเจ็บปวดได้สักทีน้าาา :เฮ้อ:


ทั้งๆ ที่คุณหมอได้เปิดซิงคุณฟ้าก่อนเป็นคนแรกแท้ๆ  เพลียยยย :serius2:


รอตอนต่อไปนะครับ สู้ๆๆๆครับคุณนักเขียน :กอด1:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ มาให้ได้อ่านเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ถึงจะเรื่อย ๆ ไป แต่อ่านแล้วนอกจากรู้สึกสงสารคุณหมอ ยังรู้สึกว่าคุณฟ้าใจร้ายมาก ๆ

แอบเห็นคำผิด

ตะกล้า >>>> ตะกร้า


ขนาดว่าตรวจทานอีกรอบแล้วยังมีผิด  ขอบคุณมากนะค่ะ  บวก 1ให้ค่ะ   และสำหรับทุกๆเม้นท์ของตอนนี้ด้วยเหมือนกันแทนคำขอบคุณนะค่ะ 



Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อนะ
ลุ้นจริงคู่นี้ :z2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านแล้วรู้สึกหม่นๆ
ไม่ใช่ความผิดของใครเลย แต่ฟ้าปล่อยชีวิตไหลตามน้ำมากไป
ชอบนนท์หรือว่าแค่สนิทที่สุดกันแน่? เหมือนชินที่จะมีนนท์

พอคิดแบบนี้แล้วสงสารนนท์แฮะ

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :monkeysad:น่าสงสารคุณหมอนะเหมือนรักเค้าข้างเดียวฟ้าน่าจะหันมามองคนทีเค้ารักเรานะมองคนทีเห็นค่าเราดีกว่าหมอสู้ๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
คุณฟ้าหยุดหลอกตัวเองเห้อะ

บวกค่า

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
น้ำหยดลงหินสักวันหินยังกร่อน นับปะสาอะไรกับใจคุณฟ้าลาะเนอะคุณหมอ
พยายามเข้าคุณหมอ เชียร์คุณหมอเต็มที่

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คุณหมอสู้สู้เน้อ :กอด1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
เหมือนจะสงสารคุณหมอนะ แต่ก็หมั่นใส้มากกว่าอ่ะ ทำซ๊ะคุ้มเลย :jul1:

ฟ้า กับนนท์  อาจจะแค่ผูกพันกันมานานหรือเปล่า เลยตัดกันไม่ขาดซ๊ะที

แต่นนท์ใจร้ายจริงๆอ่ะ ถึงไม่ได้รักฟ้า ก็ไม่น่าทำแบบนี้ เลววววววววววว (รับผู้ชายแบบนี้ไม่ค่อยได้)

คุณหมอ ก็ขยันทำการบ้านหน่อย  รักแท้แพ้ใกล้ชิด (แนบสนิท)น่าจะเอามาใช้ได้นะแบบนี้ :m25:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป




สามครั้งครับ...

วันนี้ผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกันถึงสามครั้ง ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้ว คุณฟ้ายอมให้ผมกกกอด ทอดร่างกายให้ผมเชยชม แต่ไม่ยอมให้ผมรัก!

เรียวนิ้วที่จิ้มตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง แล้วบอกกับผม น้ำเสียงเบา แต่ตอกย้ำให้ผมเจ็บจี๊ดๆ ที่ใจ

‘ผมให้ได้แค่นี้นะครับคุณหมอ ส่วนตรงนี้.....คุณหมอเข้าไปไม่ได้’

คำพูดจากปากบางที่ใกล้อยู่แค่เอื้อมจูบ ทำผมเจ็บได้อีกครั้ง ไม่มากแต่มันก็เจ็บเช่นทุกครั้ง ยอมรับว่าผมระบายความเจ็บนั้นใส่กลีบปากบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตักตวงเหมือนคนไม่รู้จักพอ เหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้แนบชิดกับปากนี้ เรือนกายเรือนนี้ ร่างบอบบางที่เร้าร้อนทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสแตะต้องไม่ได้เลย มันชวนให้หลงใหล เผลอติดกับ ทั้งที่เจ้าของร่างกายนี้ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย

อย่างที่รู้ๆ คุณฟ้าแค่ยอมให้ผมสัมผัส ลึกซึ้งด้วย กอบโกยเอาเท่าที่ผมต้องการ ไม่ได้ปฏิเสธหรือต่อต้าน ไม่ได้อ้อนวอนให้ผมหยุด ยินยอมให้ความร่วมมือที่แสนหวาน ทว่าเร่าร้อนกว่าตัวตนที่เห็นอยู่ภายนอก แต่หลังทุกอย่างผ่านพ้นไป สิ่งเดียวที่คุณฟ้าให้ผมได้...

...คือร่างกาย

และไม่ยินยอมใดๆ ไม่แม้จะเปิดทางให้ผมเข้าไปอยู่ในนั้น ในทีที่คุณฟ้าชี้นิ้วบอกผมว่า

...ผมเข้าไปไม่ได้


ผมควรจะเชื่อใช่ไหม?

ผมรู้ว่าผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น...

ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อคำพูดของคุณฟ้า!

ต่อให้โลกถล่มมาตรงหน้า ต่อให้คนรักของคุณฟ้ากลับมา ต่อให้คุณฟ้าจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน ต่อให้อะไรๆ ที่คุณฟ้ายัดเยียดใส่ผมว่าไม่ได้  ต่อให้ผมต้องกลายเป็นคนหน้าด้านก็ตาม

ผมไม่มีวันเชื่อคุณฟ้าเด็ดขาด!

เมื่อผมได้ครอบครอง ผมต้องเป็นเจ้าของ  แล้วก็จะเข้าไปอยู่ในที่ตรงนั้น  ทีที่คุณฟ้าบอกว่าผมเข้าไปไม่ได้ คอยดูเถอะ  ผมจะเข้าไปตรงนั้นให้ได้สักวันหนึ่ง เข้าไปแล้วจะไม่ยอมออกอีกด้วย

ผมถึงได้หน้าด้านยืนอยู่ข้างคุณฟ้าหน้าประตูห้องบนคอนโดหรูใจกลางเมืองของคุณนนท์อยู่นี่ไงครับ 

หึ...หึ...

ผมหน้าด้านมากพอที่จะมายืนคุมคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ ผมสมบูรณ์แบบ  ถึงจะข้ามขั้นตอนของการเป็น ‘คนรัก’ ก็ตาม  ว่างๆ ผมค่อยพาคุณฟ้ากลับไปทักทายมันล่ะกัน

รู้ไหมครับว่าสมองของผมตอนนี้  มันคิดไปถึงคืนนี้ที่ได้เข้านอนพร้อมกับคุณฟ้า เช้าที่ตื่นมาแล้วเจอหน้าคุณฟ้าเป็นคนแรก และคืนต่อไป เช้าต่อไป อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า สองเดือนข้างหน้า สามเดือนข้างหน้า ปีหน้า ปีต่อไป อีกสิบปี อีกยี่สิบปี และตลอดไป ผมจะมีคนๆ นี้ ร่วมใช้ชีวิตไปด้วยกัน

ผมวาดหวังอย่างนั้นครับ...และหวังว่าความพยายามของผมจะไม่สูญเปล่า อย่างน้อยความหน้าด้านของผมก็คงช่วยกันคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณฟ้าออกไปได้หมด  คุณฟ้าจะไม่มีใคร คุณฟ้าจะมีผมเพียงคนเดียว เชื่อเถอะ...

เมื่อคุณฟ้าไม่มีใคร คุณฟ้าคงจะเห็นใจผมบ้าง...

ผมหวังว่าอย่างนั้นนะ

“คุณหมอกลับไปก่อนดีกว่านะครับ”  ประโยคเดิมที่ผมฟังมาเกือบสิบรอบ นับตั้งแต่จอดรถไว้ที่ใต้คอนโดแล้ว

“.............” ผมไม่ตอบ เพราะถือว่าตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่ายังไงๆ ก็ไม่กลับ

“ดื้อ”  บ่นเบาๆ ผมทำหูทวนลมไม่สนใจ

ผมมองมือที่เล็กๆ ที่เปิดประตูห้องเข้าไป หลังจากใช้การ์ดเปิดประตูแล้ว ไม่แปลกที่คุณฟ้าจะเข้าออกคอนโดคนรักเก่าของตัวเองแบบสบายๆ  แม้กระทั่งเปิดเข้าไปในห้องนอนทันที ที่เสียงตะโกนของเด็กแดนดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนที่ปิดสนิทมาก่อนหน้านี้

“ฟ้า”

“บอส!!!”

ผมทันเห็นร่างเล็กของแดนจมอยู่ใต้ร่างของคุณนนท์  ก่อนจะดีดตัวเด้งขึ้นมาด้วยอาการหน้าถอดสี  ปากบวมเจ่อ ผิวเนื้อที่ไม่ได้ขาวมากเป็นจ้ำแดงเต็มแผ่นอก  หรืออาจจะทั่วตัวก็ได้  เพราะผมไม่ทันจะเห็นอะไรมาก  เด็กแดนก็คว้าผ้าห่มมาคลุมร่างกายตัวเองเสียก่อน มีคุณนนท์ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆ ซึ่งผมคิดว่าคงเซ็งที่ถูกขัดจังหวะจากคนรักเก่า

“มาทำไมฟ้า?”

“มาดูให้เห็นกับตา”

คุณนนท์ถาม ขณะที่คุณฟ้ายืนนิ่งตอบคำถามนั้นเหมือนคนจะร้องไห้

“เห็นแล้วก็กลับไปได้”

“นนท์....ทำไม ทำไมทำแบบนี้”

“ทำแบบไหน”

“นนท์กับ......” คุณฟ้าเหมือนจะพูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ

“เราเลิกกันแล้วนะฟ้า  ผมจะอะไรกับใคร มันไม่เกี่ยวกับฟ้าอีกแล้ว”

“แต่แดน....”

“แดนคือคนที่ผมรัก”

“นนท์...”

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณฟ้ามองหน้าคุณนนท์หรือเด็กแดนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ  คือเด็กแดนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่อยู่ในอ้อมแขนของคุณนนท์  ที่ดึงตัวเข้าไปกอดโดยไม่คิดจะแคร์สายตาคุณฟ้า เด็กแดนพยายามสุดกำลัง ทั้งจิกทั้งข่วนให้อีกฝ่ายปล่อย

“อยู่นิ่งๆ เหมือนเมื่อกี้ได้ไหม”

“แล้วใครใช้ให้มึงมากอดกู”

“บอกแล้วใช่ไหมให้เรียก ‘พี่’”

“กูไม่เรียก!!”

“แดน!!”

“จะทำไม กูจะเรียก......อื้ออออ”

เอิ่ม... จูบโชว์ผมกันเลยทีเดียว เด็กแดนทั้งดิ้นทั้งตี  แต่คนตัวเล็กกว่าจะสู้คนตัวโตได้ยังไง เป็นนานกว่าที่คุณนนท์จะปล่อยปากเด็กแดนให้เป็นอิสระ  แต่ยังคงเหนี่ยวร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน เด็กแดนดูเหมือนจะหมดฤทธิ์ พูดอะไรไม่ออก

“ต่อไปอย่าดื้อ  ไม่งั้นจะไม่ใช่แค่นี้ จะทำต่อหน้าบอสของเราด้วย  แล้วเรื่องเมื่อก่อนอีก จะบอกให้หมด”  ถือว่าเป็นคำขู่ที่ได้ผลครับ  แดนสงบกว่าเดิม  ก้มหน้าต่ำคางแทบจะชิดอก  แล้วตัวก็สั่นเหมือนกำลังกั้นแรงสะอื้นจากเนื้อตัวด้านใน

สำหรับผมไม่เป็นไรหรอก  แต่ผมห่วงความรู้สึกของคุณฟ้าที่ยืนนิ่งเป็นก้อนหินไปแล้วต่างหาก  สิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าคุณฟ้ายังมีชีวิตคือน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม  ผมไม่ได้เดินเข้าไปหา รู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาของตัวเอง ผมถึงยืนนิ่งๆ มองดูอยู่ห่างๆ ในที่ของตัวเอง

“แดนมานี่”

“บอส”  เด็กแดนเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมองคุณฟ้า  ผมเห็นแล้วสงสาร เข้าใจว่าแดนรู้สึกยังไง คงกลัวคุณฟ้าจะโกรธจะเกลียดตัวเองมั้ง  ตอนคุณฟ้าเปิดประตูเข้ามา เด็กแดนก็ทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้อยู่แล้ว

“กลับบ้านกับพี่”

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“แต่นนท์ไม่มีสิทธิ์ทำกับน้องแบบนี้”

“ทำไมจะไม่ได้”

“นนท์ ปล่อยน้อง”

“ไม่ปล่อย”

และแล้วแดนก็กลายเป็นคนที่ถูกดึงทั้งซ้ายและขวา

คุณฟ้าแขนซ้าย คุณนนท์แขนขวา ส่วนคนกลางทำท่าเหมือนอยากจะลุกไปหาคุณฟ้า แต่คงติดที่เนื้อตัวด้านล่างที่มีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดอยู่   เจ้าตัวถึงได้พยายามที่จะไม่เคลื่อนตัวไปทางไหนมากนัก คงกลัวมันจะหลุด

“นนท์ ฟ้าบอกให้ปล่อยน้องไง”

“ฟ้านั่นแหละปล่อย  จะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร”

“แดนเป็นน้องฟ้านะ”

“แต่แดนเป็นเมียนนท์”

“ไอ้เลว!!  กูไปเป็นเมียมึงตอนไหน”  แดนตะโกนด่าทันทีที่คุณนนท์พูดจบ

“นนท์....” คุณฟ้าหน้าถึงกับถอดสี ปล่อยมือแดนแทบจะทันที  แดนเลยถูกดึงไปอยู่ในอ้อมแขนคุณนนท์อีกครั้ง  แต่ไม่วายดิ้นปกป้องตัวเอง

“บอสครับ อย่าไปเชื่อมัน ผม...ผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน  มันปากหมา ไอ้คนปากหมา!!”  แดนตะโกนด่าเสียงดัง  ด่าทั้งน้ำตา พยายามสุดแรงที่จะดึงตัวเองออกมาจากคนที่ตัวใหญ่กว่า ผมอยากเข้าไปช่วย แต่ผมคิดว่ามันไม่สมควร  ผมถึงได้ยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนอากาศที่วนเวียนอยู่ในห้อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่างและคงไม่มีใครอยากให้ผมเข้าไปร่วมวงด้วย

สถานการณ์ตอนนี้ รักสามเศร้าชัดๆ  ผมเป็นคนนอกที่ได้แต่ยืนมอง

“ต้องให้บอกบอสของเราไหม  ว่าคนที่เขาเปิดประตูเข้ามาเจอเมื่อสี่ปีก่อนเป็นใคร?”

“ไอ้เลว มึงมันเลว มึงมันชั่ว กูจะฆ่า”   เด็กแดนทำเหมือนอย่างปากว่า พยายามจะชกจะตีคุณนนท์ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการร้องไห้น้ำตานองหน้า  เมื่อมือทั้งสองถูกรวบไว้แน่น แทบกระดิกไม่ได้

“พอเห็นหน้าบอสตัวเองมาก ทำซ่าออกฤทธิ์เยอะเลยนะ”

“ทำไม กูจะทำ”

“หึ งั้นเหรอ....” ผมเห็นคุณนนท์ยิ้มอย่างคนถือแต้มเหนือกว่ากับแล้ว แล้วหันมาทางคุณฟ้า

“ฟ้าจำเช้าวันเสาร์ที่ 17 เดือนเมษาวันเกิดนนท์เมื่อสี่ปีก่อนได้ไหม  ตอนที่ฟ้าเปิดประตู...”

“หยุด! ไม่ต้องพูด”  เด็กแดนตะโกนห้ามทั้งน้ำตา

“อายเหรอ?”

“กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมึง ไอ้เลวไปตายซะ ....... บอส ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผม...ผม....ขอโทษ”

“แดนมาหาพี่นี่  นนท์ปล่อยน้องก่อน”

ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่  หลังจากที่ยืนนิ่งไปนาน  ท่าทางที่จะร้องไห้เมื่อครู่ก็ไม่มีให้เห็นแล้ว คุณฟ้านั่งลงใกล้ๆ คนทั้งคู่ แล้วดึงเด็กแดนเข้ามากอด โดยที่คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี

“ไม่ร้องนะ”

“พี่ฟ้า....ผมขอโทษ”  ครั้งแรกที่ผมได้ยินเด็กแดนเรียกคุณฟ้าว่าพี่ฟ้า  ทุกทีจะเรียกบอสตลอด

“นนท์  ถ้าไม่รักน้องจริง  อย่าทำกับน้องแบบนี้ ถือว่าฟ้าขอ”

“พูดยังกับไม่รู้จักนนท์”

คุณฟ้าเบือนหน้าหนีสายตาจริงจังของคุณนนท์   เหมือนไม่อยากยอมรับสิ่งที่คุณนนท์กำลังบอกผ่านสายตาคู่นั้น

“ฟ้าจะพาน้องกลับ”

“ฟ้า นี่ฟ้าไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจกันแน่”

“ฟ้าเข้าใจว่าน้องไม่อยากอยู่ที่นี่”

“ฟ้า”

คุณนนท์เริ่มหงุดหงิด  ทำท่าเหมือนจะดึงเอาตัวเด็กแดนกลับ  แต่คุณฟ้าไม่ยอม  ดึงตัวแดนให้ลุกขึ้นตาม แต่อย่างว่าครับ              แดนคงไม่กล้าลุกขึ้นยืนต่อหน้าคุณฟ้าแน่ๆ เลยขืนตัวเองไว้

“แดน”  คิ้วคุณฟ้าจะหมวดเข้าหากัน ส่วนคุณนนท์ยิ้มอย่างพอใจผลงานก่อนหน้านี้ของตัวเอง ที่ผมพอรู้ครับว่าอะไร

“พี่ฟ้า คือ....คือ....”

ผมว่าคุณฟ้าคงลืมดูรอบๆ  เตียงไปครับว่ามีเสื้อผ้าหลายชิ้นหล่นอยู่  ถ้าเห็นคงนึกสภาพของแดนออกบ้างล่ะครับ  ไม่ใช่ยืนทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอยู่อย่างนี้

“บอกไปสิว่ากำลังโป๊ แล้วก่อนหน้านี้ เรากับพี่กำลังทำอะไรกันอยู่”

“หุบปากมึงไปเลย ไอ้เลว แม่ง...กูไม่เคยเห็นใครเลวเท่ามึงมาก่อน กูไม่น่าเกิดมาเจอมึงเลย”

“งั้นเหรอ?  แต่พี่จำได้ว่าสี่ปีก่อน ไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ เอ๋...พูดว่าอะไรน้า.....พี่ครับช่วยผมด้วย ผมไม่ไหวแล้ว เอาอีก แรงอีก...หึหึ”

“ไอ้เลว มึงอย่าอยู่เลย!”  เด็กแดนโผเข้าไปใส่คุณนนท์ครับ  เป้าหมายคงเป็นบริเวณคอ ถ้าผมเดาไม่ผิด แล้วผมก็เดาถูกอีกว่า  ไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิดหรอก แค่พุ่งตัวเข้าไปหาก็ถูกจับทุ่มลงบนเตียง ก่อนจะถูกรวบมือไว้เหนือหัว  (ท่าที่ผมเคยทำกับคุณฟ้ามาแล้ว) เอาตัวเข้าคร่อมทับ กักขังไม่ดิ้นไปไหนง่ายๆ


“นนท์! อย่าทำน้อง”  คุณฟ้าพยายามจะช่วยเด็กแดน  ด้วยการดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดน

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“ไม่ยุ่งได้ไง นนท์กำลังทำร้ายน้อง”

“นนท์ไม่ได้ทำร้าย  แค่จะสอนให้จำว่าอย่างมาอวดเก่ง.....แล้วปากน่ะ  หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อย ให้รู้ซะบ้างใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง”

“ไอ้ห่า กูไปเป็นน้องมึงตอนไหน  คนอย่างกูไม่เคยมีพี่เลวๆ  แบบมึง จำใส่หัวสมองเลวๆ ของมึงเอาไว้ กู....ไม่....ใช่....น้อง....มึง”

“เอ่อ...ลืมไป เราน่ะไม่ใช่น้อง แต่...เป็น...เมีย....”

“ไอ้เลว!!”

ผมว่า เด็กแดนคงอยากวางมวยกับคำพูดย้ำชัดๆ ของคุณนนท์  แต่ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ฟึดฟัด มองคนที่อยู่ด้านบนแบบอาฆาตแค้น

“ช่วยกลับไปก่อนนะฟ้า เอาไว้นนท์เคลียร์กับลูกน้องของฟ้าเสร็จเมื่อไรจะไปหา”

“กูไม่มีอะไรจะเคลียร์กับมึงโว้ย....พี่ฟ้า พี่ฟ้าช่วยผมด้วย ผมเกลียดมัน เกลียดมันยังกะกิ้งกือไส้เดือน....กูเกลียดมึง ได้ยินไหม กู....เกลียด....มึง”

“แล้วใครสน”

“ไอ้หน้าด้าน”

“ถ้ายังไม่หยุดด่าจะทำให้มันมากกว่า เอาต่อหน้าบอสของเราเลยเป็นไง เหมือนตอนนั้นไง ดีไหม?”

“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว”

“เราบังคับพี่เอง”

สองคนนั่นเล่นจ้องตากันอยู่นานครับ กว่าที่คุณฟ้าพูดทำลายบรรยากาศมาคุนั้นลง

“นนท์ปล่อยน้องเถอะ”

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“ไม่ได้!”

ตอนนี้คุณฟ้าไม่ใช่แค่พูดบอก  เจ้าตัวลงมือดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดนอีกครั้ง น่าจะใช้แรงมากพอสมควร ส่วนเด็กแดนก็พยายามดิ้นให้หลุด กลายเป็นว่าอีรุงตุงนังกันอยู่ตรงนั้น โดยที่ผมยังยืนนิ่ง ไม่กล้าทำอะไรมาก  รู้สึกว่าตัวเป็นธาตุอากาศที่ไม่มีใครเห็น จนกระทั่ง

~~ ตุ๊บ~~

“โอ๊ยยย.....”

“ฟ้า....โอ๊ะ โอ๊ยย....”

“คุณฟ้า”

จังหวะที่ยื้อกันอยู่นั้น คุณนนท์คงพลาดใช้แรงมากเกินไปจนทำให้คุณฟ้าเสียหลักล้มลงก้นกระแทกพื้น  แล้วเป็นคุณนนท์คงตกใจจนเผลอปล่อยมือเด็กแดน  เลยโดนเด็กแดนชกเข้าที่ปากไปสองมัด ส่วนผมรีบพุ่งตัวไปประคองตัวคุณฟ้าให้ลุกขึ้นมา

“เจ็บไหมครับ”  คุณฟ้าสายหน้า แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ หน้าตาบอกชัดเจนว่าเจ็บสุดๆ  น้ำตาถึงกับเล็ด ของเดิมมันเจ็บมากก่อนแล้วไงครับ มาผลักให้ล้มก้นจ้ำไปพื้นอีก


“ไอ้เลว มึงกล้าทำพี่ฟ้าเหรอ มึงอย่าอยู่เลย”

เด็กแดนโผเข้าใส่คุณนนท์อีกครั้ง  ได้จังหวะต่อยไม่ยั้งมือเพราะคุณนนท์กำลังอึ้งกับการกระทำของตนเองอยู่     กว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็โดนไปหลายหมัด ถึงรวบเด็กซ่าไว้ในมือได้

“อย่าซ่าให้มันมากนะแดน”

“ไอ้เลวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ตะโกนด่าซ้ำ  เด็กแดนก็ทำได้แค่นั้นแหละครับ  ผมกลัวว่าเรื่องมันจะวนเวียนซ้ำซากไม่ไปไหนสักที เลยต้องขอยุ่งกับรักสามเศร้าเราสามคนของคุณฟ้า คุณนนท์ แล้วก็เด็กแดนสักหน่อย

“กลับกันเถอะครับคุณฟ้า”

 “พี่หมอ!”

“คุณหมอ”

แต่ละคนที่เรียกชื่อผม ยังกับเพิ่งเห็นผมอยู่ในห้องนี้  ผมเดาไว้ไม่มีผิดเลย ทั้งคุณนนท์ทั้งเด็กแดนเพิ่งรู้ตัวว่ามีผมอยู่ในห้องนี้ด้วย ดีนะครับที่คุณฟ้าไม่ร่วมแปลกใจไปด้วย

“หมอมากับคุณฟ้าครับ...แต่คงไม่มีใครเห็น”  ผมตอบคำถามที่มาจากสายตาของคนทั้งคู่   คุณนนท์กับเด็กแดน คงอยากรู้ว่าผมเข้ามาได้ยังไง

“ฟ้า  นนท์ว่า เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ”  ชักไม่ค่อยดีครับ คุณนนท์เหมือนจะพูดกับคุณฟ้าแต่ตามองที่ผม  ไม่ได้มองที่คุณฟ้าเลยแม้แต่น้อย

“อย่าแม้แต่จะคิดลงจากเตียง ไม่อย่างนั้น  เรื่องก่อนหน้าที่เราตกลงกันไว้ ถือว่าเป็นโฆษะ....คุณหมอเหมือนกันนะครับ อยู่ในห้องนี้ก่อน  ผมเรียกแล้วค่อยออกไป”

เอ่อ....ผมพูดไม่ออกครับ  ไม่ได้กลัวคำขู่ของคุณนนท์เหมือนที่เด็กแดนกำลังกลัวอยู่  เพราะขนาดถูกปล่อยตัวแล้วแท้ๆ  เด็กแดนยังนั่งนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับตัวไปทางไหนเหมือนตอนแรก ที่ร้องป่าวๆ ว่าให้อีกฝ่ายปล่อยตัว  แต่ที่ผมปล่อยให้คุณนนท์เดินจูงมือคุณฟ้าออกไปนอกห้อง  เพราะ....เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่มันดีไปกว่านี้ได้  ในเมื่อคุณฟ้าอยากจะคุยกับคุณนนท์อยู่แล้ว  มันเป็นโอกาสที่ของคุณฟ้าที่ผมไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง

แต่...

ผมให้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น

วันอื่น...

อย่าหวัง!!

ถึงแม้หมอพิษณุคนนี้จะไม่ใช่คน  ‘ขี้หึง’  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ ‘ขี้หวง’ นะครับ



“พี่หมอ”

เสียงเด็กแดนเรียกผมจากด้านหลัง  ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมกำลังยืนจ้องประตูอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว

“ครับ” ผมหันไปตอบ เห็นเด็กแดนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

“มันไม่ใช่อย่างที่พี่หมอคิดนะครับ เอ่อ...ผม คือผม...คือผมกับไอ้เลวนั่น   ไม่ได้เป็นอะไรกันนะครับ แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ทำให้บอสถูกทิ้งด้วย   ไอ้เลวนั่นมันบังคับผมเอง แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ยังไม่ได้มีอะไรกับมัน  มันกำลังจะทำผม  แต่คุณหมอกับบอสเข้ามาซะก่อน”  เด็กแดนว่า

“มันไม่สำคัญว่าหมอจะคิดอะไรนะแดน  มันสำคัญอยู่ที่คนโน่น”  มือผมชี้ไปด้านนอก เด็กแดนคงรู้ว่าผมหมายถึงใคร

“แล้วผมจะทำไงดี  ผมจะเอาหน้าไปสู้บอสได้ยังไง” คนพูดถอนหายใจหนัก

“ชอบคุณฟ้าเหรอ?”  ผมถาม เด็กแดนดูจะอึ้งไปนิด มองหน้าผมอยู่พักถึงได้พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ

“ครับ”

“ชอบมากหรือเปล่า?”  ผมถามอีก เดินเข้าไปใกล้

“ไม่รู้ครับ”

“งั้นแปลว่าไม่มาก”

“ก็มากอยู่ครับ”  ตอบแล้วก็หน้าแดง

“งั้นก็เลิกคิดชอบซะ  เพราะคุณฟ้าเป็นของหมอ”  ผมพูดเบาๆ ครับ แต่หนักแน่นและย้ำชัด

“.........” เด็กแดนไม่พูดอะไร แต่สายตาที่มองผม มันลุกวาว คงทั้งโมโหทั้งโกรธ แต่เพราะผมไม่ใช่คุณนนท์มั้ง   เจ้าตัวถึงไม่กระโดดมาขย้ำคอ ทั้งที่กำหมัดซะแน่นขนาดนั้น

“คนของหมอ หมอก็ต้องหวงใช่ไหม”

“ผมไม่เชื่อ”  สงสารเด็กครับ เมื่อกี้ทำท่าโกรธ มาตอนนี้ทำเหมือนจะร้องไห้

“หมอไม่ได้พูดให้เชื่อ หมอแค่บอกให้รู้  คนที่เขามีเจ้าของแล้ว เราไม่ควรไปยุ่ง”    ผมพูดเหมือนสอนครับ แต่ความจริงยอมรับเลยว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่แฟร์คนหนึ่ง  เพราะผมไม่อยากมีคู่แข่งเยอะ เลยต้องกันท่าเอาไว้ก่อน

“บอสมีไอ้เลวนั่นแล้ว หมอยังไปยุ่งเลย”

อ้าวว...คำว่า ‘พี่’ หายไปไหนล่ะเด็กแดน

“คุณฟ้าเลิกกับคุณนนท์แล้ว หมอถึงเข้าไปยุ่งได้  แต่ตอนนี้คุณฟ้ามีหมอ แดนก็ไม่ควรเข้ามายุ่ง เข้าใจใช่ไหม?”

“ไม่เข้าใจ” เสียงแข็งซะ

“ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ หมอไม่ได้ว่าอะไร  ไม่มีสิทธิ์ห้ามแดนอยู่แล้ว  แต่หมออยากบอกว่าคุณฟ้าเป็นของหมอ  แล้วหมอก็ไม่มีวันปล่อยให้คุณฟ้าไปเป็นของคนอื่น  หรือแม้แต่จะยอมให้คนอื่นมายุ่งกับคนของหมอ”

ถึงคำพูดของผมจะเรื่อยๆ  แต่ผมก็สู้ตากับเด็กแดนไม่ถอย  ดูๆ แล้วเด็กแดนไม่น่าจะเป็นคู่แข่งผมได้เลย ตัวก็เล็กนิดเดียว        จะกอดอะไรคุณฟ้าได้ รึคิดจะให้คุณฟ้ากอด  เฮ้อ...คิดผิดแล้วเด็กแดนเอ๋ย อย่างคุณฟ้าน่ะ กอดใครไม่ได้หรอก  นอกจากจะให้คนอื่นกอด แล้วคนๆ นั้นก็ถูกจองโดยหมอคนนี้ไปแล้ว

“คุณหมอกับพี่ฟ้า....มีอะไรกันแล้ว” เป็นนานกว่าที่เด็กแดนจะกลั่นกรองคำพูดออกมาได้

“เรื่องนี้หมอไม่ขอพูดนะ”

“.....”


“แดน”

ไม่ใช่ผมครับที่เรียกเด็กแดน  แต่เป็นคุณฟ้าที่เปิดประตูเข้ามา  หน้าแดง ตาบวม ไม่บอกก็รู้ว่าผ่านอะไรมา เดินเข้ามาแบบไม่สนใจผมเลย  ไม่ใช่สิ ไม่ถึงกับว่าไม่สนใจ แวบหนึ่งที่คุณฟ้ากับมองตากัน ก่อนที่จะเดินเลยผมไปหาเด็กแดน ดึงมือให้ลุกขึ้น

“กลับบ้าน”

“แต่....” เด็กแดนเอนตัวมองไปข้างหลังคุณฟ้า มองไปหาคุณนนท์ที่เดินทำหน้ายุ่งเข้ามา

“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”

พูดอย่างนี้แปลว่าอนุญาตให้คุณฟ้าพาตัวเด็กแดนกลับได้แล้วมั้ง

“ใครขอให้มึงมา ไม่ต้องมาเลยนะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง จำเอาไว้ กู...ไม่...อยาก....เห็น...หน้า....มึง!”

ยังไม่สิ้นฤทธิ์อีกนะเด็กแดน ไปยั่วโมโหเขาอีก เดี๋ยวก็ไม่ได้กลับกันพอดี

“งั้นเหรอ?....”

“อย่าเข้ามานะโว้ย”

ว่าแล้วไง คุณนนท์ย่างสามขุมมาหาเด็กแดนซะแล้ว  ท่าทางจะยาว แล้วผมจะได้กลับไปนอนกอดคุณฟ้าเมื่อไรกันละเนี้ย

“ไอ้เลว! มึงจะทำอะไรกู.....บอสช่วยผม....ดะ........อื้อ....”

ไม่ต้องสงสัยครับว่าประโยคสุดท้ายมันหายไปไหน ปากดีอย่างนี้ไง  ถึงโดนคุณนนท์กระชากตัวเอาไปจูบ ผมหันไปมองคุณฟ้า เลยรู้ว่าคุณฟ้ามองหน้าผมอยู่เหมือนกัน

“พอเถอะนนท์”  คุณฟ้าพูดเสียงอ่อนเหมือนเหนื่อยใจกับอะไรบางอย่าง คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี

“จำเอาไว้ว่าอย่าปากเก่งกับพี่  แล้วจำให้ขึ้นใจด้วยว่าเราน่ะเป็นอะไรกับพี่  ที่ผ่านพี่ใจเย็นกับเรามากพอแล้ว  ต่อไปนี้ถ้ายังดื้อ ยังพูดไม่เพราะกับพี่อีก อย่าหาว่าพี่ใจร้ายกับเราก็แล้วกัน”

น้ำเสียงที่ขู่เด็ดขาดมาก ทำเอาเด็กแดนหงอย  ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะร้องไห้  จนต้องถูกดึงตัวเข้าไปกอดอีกครั้ง คราวนี้ดูอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้เยอะ  กอดอยู่นานไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ผมหันไปมองคุณฟ้าเห็นคุณฟ้ายืนนิ่ง  ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่  ผมห่วงความรู้สึกคุณฟ้านะ วันทั้งวันเจอแต่เรื่องทำร้ายจิตใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากให้คุณฟ้าเจ็บให้พอ

....เจ็บแล้วจะได้จบ


ผมคิดว่าหูผมไม่ได้ผาด เมื่อผมได้ยินคำพูดเบาๆ ของคุณนนท์ที่กระซิบบอกข้างหูของเด็กแดน

‘พี่รักเรานะ...เด็กดื้อ’

ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเด็กแดนคืนให้คุณฟ้า

“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”

“ไม่ต้อง”

ผมโล่งอกครับที่เด็กแดนไม่แผลงฤทธิ์ต่ออีกรอบ

“ป่ะ...กลับบ้าน” คุณฟ้าจับแขนเด็กแดนแล้วพาเดินออกไป ผมที่กำลังจะเดินตามออกไปได้ต้องชะงักครับ เมื่อคุณนนท์รั้งแขนผมไว้

“เสื้อตัวนี้ของผม”

ชี้มาที่เสื้อตัวที่ผมใส่อยู่  ก่อนใส่ผมก็พอรู้ครับว่ามันเป็นของคุณนนท์  เสื้อไซด์ขนาดนี้เป็นของคุณฟ้าไม่ได้หรอก

“วันเกิดผมปีที่แล้วฟ้าซื้อให้ ฉะนั้น....อย่าใส่มันเป็นครั้งที่สอง”

“ครับ” ผมไม่ใช่คนประเภทที่อีกคนแรงมาแล้วต้องแรงกลับ  ผมเป็นคนไทยที่รักสงบ ในเมื่อมันเป็นเสื้อของคุณนนท์ เจ้าตัวไม่อยากให้ผมใส่ ผมก็เข้าใจ

“แล้วอีกเรื่อง...”

“......”

มีเรื่องอะไรอีก?

“อย่าอาศัยช่วงที่ฟ้าอ่อนแอแล้วมาทำร้ายเค้า”  ดูจากสายตาแล้ว ผมว่าคุณนนท์น่าจะห่วงคุณฟ้า  มากกว่าหวง  อันนี้ผมก็เข้าใจอีกเหมือนกันครับ  อดีตคนรักของคุณฟ้าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เท่าที่ผมเห็นนะ   จะดูเลวร้ายก็ตรงที่ทิ้งคุณฟ้าไปนั่นแหละ      แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ  ถ้าคุณนนท์ไม่ทิ้งคุณฟ้าไป ผมกับคุณฟ้าจะมีวันนี้ได้เหรอ?

“ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนครับ”  ผมยืนยันหนักแน่น ไม่ต้องให้คุณนนท์ขู่หรอกครับ ยังไงผมก็ไม่มีวันทำร้ายคุณฟ้าอยู่แล้ว  ผมน่ะ มันเป็นคนรักใครแล้วรักจริง ไม่คิดทำให้เสียใจ

“ผมจะเชื่อ แต่อย่าให้ผมเห็นว่าฟ้าร้องไห้เพราะคุณหมอ ไม่อย่างนั้นผมไม่เอาคุณหมอไว้แน่”

“ครับ”

คุณนนท์คงเป็นคนประเภทชอบขู่  ส่วนผมก็ไม่ใช่คนใจร้อน ไม่ได้โกรธคุณนนท์ด้วยที่ทำเหมือนจะกล่าวหาว่าผมจะทำให้คุณฟ้าเสียใจ  อย่างว่าล่ะครับ คุณนนท์ยังไม่รู้จักผม คงยังไม่อยากไว้ใจผมนัก

“ฟ้าเป็นคนน่ารัก”

อันนี้ผมรู้

“ขี้สงสาร”

อันนี้ผมพอเดาออก

“ผมอยากให้คุณหมอระวังหัวใจตัวเองเอาไว้ให้ดี”

ผมเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่า อีกฝ่ายต้องการบอกอะไรผม

“บางที....การที่ฟ้ายอมให้คุณหมอมากขนาดนี้  เป็นเพราะนิสัยขี้สงสารของเค้าเอง  ไม่ใช่เพราะสิ่งที่อยู่ข้างในใจเค้า”

ชัดเจนแล้วละครับ ว่าคุณนนท์ต้องการบอกอะไรผม

“ผมรู้”

“แม้แต่ผมเอง ตั้งแต่คบกันมา  ผมยังไม่รู้เลยว่าฟ้ารักผมจริงหรือเปล่าหรือแค่ผูกพัน  เพราะที่ผ่านมา เค้ามีแต่ผมข้างๆ ตลอดเวลา  เค้าไม่มีโอกาสมองใครนอกจากผม ผมเป็นคนตีกรอบล้อมเค้าไว้ จนมันเป็นความเคยชินที่เค้าต้องมีผม  จนเค้าคิดว่ามันเป็นความรัก ฝังจำมาจนทุกวันนี้”

“.......”

“บางที....การที่ฟ้าร้องไห้ มันอาจจะเป็นเพราะเค้าคิดว่าจะเสียผมไป  แต่ไม่ใช่เพราะผมทิ้งเค้า คุณหมอเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอกใช่ไหมครับ”

“ครับ...แต่ผมจะพยายาม”  ใช่แล้วครับ ผมเข้าใจว่าคุณนนท์ต้องการจะบอกอะไรผม

“ระวังเค้าจะแค่สงสาร”

“........”

“แต่เค้าจะไม่รัก”

“.......”

“ความจริง ผมคิดว่าคนที่จะถูกทำร้ายน่าจะเป็นคุณหมอมากกว่า”

มันไม่ใช่คำขู่แล้วครับ ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว คุณนนท์อยากเตือนผมมากกว่า

“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ”  ผมยิ้ม แต่ใจมันก็อดแฟ่บไม่ได้ คุณนนท์พูดเหมือนตาเห็น

“แต่ผมก็ยืนยันนะครับคุณหมอ  ถ้าคุณหมอทำฟ้าร้องไห้  ผมเอาคุณหมอตายแน่  ถึงฟ้าจะไม่ใช่คนรักของผม  แต่เค้าเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด หวังว่าคุณหมอจะเข้าใจนะครับ”

“ครับ”  ผมเป็นคนพูดน้อยครับ จะให้พูดอะไรมากเกินไปก็ไม่ใช่นิสัย  ให้ระยะเวลาพิสูจน์สิ่งที่ผมกำลังคิดทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า

ผมไม่กลัวหรอก....ถ้าต้องเจ็บ

แต่สิ่งที่ผมกลัวคือ...กลัวตัวเองจะพลาดโอกาสที่จะรักคุณฟ้ามากกว่า



 :impress2:>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<< :impress2:

คนเขียนอยากคุย :: ตอนนี้มันเรื่อยๆ ไปหน่อยนะคะ แต่มันก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้จริงๆ อิอิ
      ขอให้มีความสุขกับการอ่าน รัก...เชิญครับ นะคะ ^___^ o18


Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ลืมบอกค่ะ แทนคำขอบคุณที่แวะมาเยือน  รัก  เชิญครับ    บวกหนึ่งให้ทุกๆเม้นท์ ในหน้า 38 นะค่ะ  :L2:


ปล  ระบบมันยังฟ้องว่า IP น้อยกว่า 90 วิอยู่เลย   จะแก้ไขรีเดิมก็ข้อความอักษรเกิน 
:angry2:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

จะ..เจ็บง่ะ แอบเจ็บแทนคุณฟ้า
เห็นแบบนั้นเต็มตา ใครไม่อ่อนแอให้มันรู้ไป
เหนื่อยใจแทนจริงๆ ถ้าเป็นคุณหมอ
เราก็แอบท้อเหอะ! เจอกับตัวเอง
แล้วไหนนนท์จะบอกอีก
แต่ก็เนอะ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก ว่าเราจะเข้าไปได้ไหม ?

สู้ๆคะคุณหมอ(สัตว์) 55555
+1 เป็นกำลังให้ทั้งคุณหมอกับคนแต่งเลยจ้า

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ขนาดว่าตรวจทานอีกรอบแล้วยังมีผิด  ขอบคุณมากนะค่ะ  บวก 1ให้ค่ะ   และสำหรับทุกๆเม้นท์ของตอนนี้ด้วยเหมือนกันแทนคำขอบคุณนะค่ะ 

ยินดีค่ะ บางทีเราก็พลาดกันง่าย ๆ ค่ะ ไม่เป็นไรช่วย ๆ กันดูค่ะ

มาตอบเม้นท์นี้ก่อน เดี๋ยวจะไปอ่านนิยายตอนใหม่ค่ะ


ไปอ่านมาแล้วค่ะ ถึงจะบอกว่าตอนนี้เรื่อย ๆ แต่ก็เปิดเผยแง่ปมปัญหามากขึ้นนะคะ

คุณหมอ "ขี้หวง" มาก แหม....แล้วบอกว่าตัวเองไม่ "ขี้หึง" จ้างก็ไม่เชื่อเพราะ "หวง" มาพร้อมกับ "หึง" เสมอ

อย่างที่เคยเข้าใจ คุณฟ้า รัก นนท์จาก "ความเคยชิน" คิดว่า "รัก" แต่จริง ๆ แล้วตัวคุณฟ้าเองก็คงไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร (คนอ่านก็ไม่รู้ เพราะคนเขียนยังไม่ได้บอก....หุหุ)

ถ้าเปลี่ยนตัวเรากับคุณหมอ คงไม่มีกำลังใจจะ "รัก" คุณฟ้า ต่อไปแน่ ๆ เล่นมาบอกตรง ๆ ว่าให้แค่ "ร่างกาย" แต่ไม่ให้ "หัวใจ"  :เฮ้อ: แต่เพราะเราไม่ใช่คุณหมอ และคุณหมอไม่ใช่เรา ดังนั้นคุณหมอคงจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทั้ง ร่างกายและหัวใจ ของคุณฟ้า

เอาใจช่วยคุณหมอ :L2: ค่ะ

ปัจฉิมลิขิต  ความสงสาร นานไปก็อาจเปลี่ยนเป็นความรักได้นะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2011 12:27:44 โดย dawnthesky »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เจ็บแต่จบ :กอด1:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
อ่านแล้ว เหนื่อย....ใจ !

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
สงสาร แต่ไม่รัก เจ็บดีจริงๆ

บวกให้คุณพี่หมอค่า สู้ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
หมอพยายามเข้านะ เจ็บแต่อย่าท้อ
คุณฟ้าก็เปิดใจเร็วๆด้วย

อืม...เริ่มอยากอ่านคู่นนท์แล้วซิ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :เฮ้อ:ไม่รู้จะสงสารใครดีระหว่างกับหมอ :z3:

atommic

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง............ :เฮ้อ:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 15

ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ข้างคุณหมอ มีแดนนั่งอยู่เบาะด้านหลัง รถกำลังเล่นไปข้างหน้า แต่ทำไมสมองของผมมันถึงแล่นกลับหลัง กลับไปยังเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นมาเมื่อครู่ ผมไม่รู้ว่าหัวสมองของตัวเองยังใช้การได้ดีอยู่หรือเปล่า ไม่กี่เรื่องที่สมองผมรับรู้ ทำเอาหัวผมแทบแตก ไม่สินะ มันก็แค่เรื่องเดียว คือเรื่องระหว่างนนท์กับแดน ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผมทองตัวเล็กๆ ที่ผมเคยเปิดประตูเข้าไปเจอ เช้ามืดวันเสาร์เมื่อสี่ปีก่อน ตอนวันเกิดของนนท์...จะเป็นแดน

เด็กผมทองที่ผมเห็นว่ากำลังมีอะไรกับนนท์ ในคอนโดของนนท์ ในห้องของนนท์ บนเตียงของนนท์...บนตัวของนนท์ กับเสียงครางกระเส่า ที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร

ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำเหตุการณ์วันนั้น ถ้านนท์ไม่พูดถึงมัน แล้วผมก็จำไม่ได้เลยว่าเด็กผมทองคนนั้นคือแดน

ยอมรับครับว่าวันนั้นที่เปิดประตูเข้าไปเจอ ผมเห็นแค่ด้านหลังของเด็กผมทองที่นั่งอยู่บนตัวของนนท์ (ไม่ต้องพูดหรอกใช่ไหมครับ ว่ามันเป็นท่าอะไร)  ไม่ทันเห็นหน้าด้วยซ้ำ ผมก็ต้องรีบปิดประตู ทิ้งภาพและเสียงครางระงมไปทั่วห้องนั้นไว้ด้านหลัง ผมยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงหน้าห้อง ภาพที่เห็นยังฉายชัดเป็นภาพนิ่งอยู่ในหัว เสียงครางกระเส่ายังลอดออกมาให้ได้ยิน ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะเข้าไป ผมเตรียมใจว่าแล้วครับว่าต้องเจอภาพแบบไหน เพราะเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินตั้งแต่เดินเข้าห้องมา นานครับกว่าผมจะพาตัวเองออกมาจากห้องของนนท์ได้ แล้วใช้วิธีส่งข้อความไปหานนท์ บอกว่าผมตักบาตรคนเดียวก็ได้ ถ้านนท์ไม่สะดวก แล้วตอนเย็นค่อยมารับผมตามที่นัดกันไว้ แต่วันนั้นนนท์ก็ไม่ได้มาหาผมครับ หายไปหลายวันกว่าจะโผล่หน้ามาให้ผมเห็นและคำขอโทษที่พูดให้ผมฟัง


ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผมทองคนนั้นคือแดน ตอนที่นนท์ดึงตัวผมออกไปคุยกันข้างนอก ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ แม้นนท์จะเปลี่ยนเรื่องมาที่เรื่องของคุณหมอกับผม แต่สมองผมก็เหมือนจะไม่รับรู้อะไรนอกจากเรื่องของนนท์กับแดน เสื้อผ้าของนนท์ที่ผมเอาให้คุณหมอใส่ กลายเป็นเรื่องที่ทำให้นนท์รู้ว่า ผมกับคุณหมอ ไม่ใช่แค่เจ้าของร้านกับลูกค้ากันอีกแล้ว

‘นั่นมันเสื้อนนท์ ฟ้าเอาให้คุณหมอใส่ทำไม’

‘......’ ผมไม่ได้ตอบคำถามของนนท์ เพราะสมองมันยังวนเวียนอยู่กับเรื่องของนนท์กับแดน เมื่อสี่ปีที่แล้ว กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อเนื้อตัวมันเย็นวาบเพราะนนท์ดึงเสื้อยืดของผมขึ้น

...น่าจะเห็นรอยจ้ำสีแดงช้ำที่คุณหมอทำเอาไว้

‘ทำประชดนนท์เหรอ?” ไม่กล้าสบสายตาคาดคั้นจากนนท์เลย ผมเป็นคนโกหกไม่เก่งเสียด้วย เลยได้แต่นิ่ง ปิดปากเงียบ ซึ่งมันคงเป็นคำตอบของคำถามได้ดีกว่าอะไรทั้งสิ้น ในเมื่อผมไม่ได้ปฏิเสธออกมา

‘……’

นนท์ถอนหายใจยาว ดึงเสื้อผมลง ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด น้ำตาของผมไหลทันทีราวกับมันรอจังหวะนี้มานาน

‘นนท์รักฟ้านะ นนท์ไม่อยากให้ฟ้าเป็นแบบนี้เลย ’ มือใหญ่ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน แต่ผมรู้สึกถึงความเหินห่างจากไออุ่นของอ้อมกอด น้ำตามันยิ่งไหลชุ่มอยู่ตรงอกที่คุ้นเคยมากกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโยน อ้อมแขนที่กอดรัดยิ่งรัดแน่นขึ้น โยกตัวผมไปมาเหมือนปลอบเด็ก

‘รัก...แล้วทำไม...ทำไมถึง...ทิ้ง...’ พยายามมากกว่าที่จะหลุดประโยคนั้นออกมาให้ได้

‘เราไม่ได้รักกันแล้วมั้ง’

‘ฟ้ารักนนท์ ตอนนี้ก็ยังรัก มีแต่นนท์ที่ไม่รักฟ้าแล้ว’ ผมเถียง นนท์ถอนหายใจหนักๆ คลายวงแขนจากตัวผม มือของนนท์จับไหล่ผมแล้วดันออก เพื่อให้มองหน้ากันได้ถนัด

‘ความผูกพัน มันไม่ใช่ความรักนะฟ้า ฟ้าต้องแยกให้ออก’

นนท์กำลังจะบอกอะไรผม

‘ตลอดเวลานนท์รักฟ้า รักมาก แต่ฟ้าไม่เคยรักนนท์แบบที่นนท์อยากให้ฟ้ารัก ฟ้าไม่เคยหึง ไม่เคยหวงนนท์ นนท์จะทำอะไร ฟ้าก็ไม่เคยห่วง นนท์จะไประยำตำบออะไรกับใคร ฟ้าก็ยังเป็นฟ้าคนเดิม นนท์อยากได้สิ่งนั้นมาตลอด นนท์อยากให้ฟ้ารักนนท์เหมือนที่นนท์รักฟ้า นนท์อยากให้ฟ้าหึงหวงนนท์บ้าง อยากให้ฟ้าตะโกนด่าตอนที่เห็นนนท์เดินกับคนอื่น นนท์อยากให้ฟ้าตบตีนนท์ตอนที่นนท์นอนกอดกับคนอื่นบนเตียง นนท์อยากให้ฟ้ายื่นคำขาดว่าจะเลิกกับนนท์ ถ้านนท์ยังไม่เลิกทำตัวเจ้าชู้ นนท์อยากให้ฟ้าโกรธนนท์บ้าง น้อยใจนนท์บ้าง...’

‘.....’ ผมงงกับสิ่งที่นนท์พูด แต่ผมก็ฟังทุกคำที่นนท์พูดมันออกมา

‘นนท์แค่อยากเป็นคนที่สำคัญสำหรับฟ้า สำคัญมากกว่านนท์คนที่เป็นเพื่อนของฟ้า แต่รู้ไหม ไม่ว่าตอนไหนนนท์ก็ยังรู้สึกว่านนท์เป็นแค่เพื่อนคนสำคัญของฟ้า ไม่ใช่คนที่ฟ้า’

‘......’

ผมงง ยอมรับว่าผมงงจริงๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่นนท์พูด ผมไม่รักนนท์ตรงไหน ตรงไหนกันที่บอกว่าผมไม่ได้รักนนท์ ทั้งชีวิตของผมมันมีแต่นนท์นะ นนท์แทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตผมอยู่แล้ว

‘นนท์อยากให้ฟ้าเจอคนที่ฟ้ารักจริงๆ ไม่ใช่คนที่พยายามจะขังฟ้าไว้อย่างนนท์’ มือนนท์ละจากไหล่ผมขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่แก้มผม

‘นนท์ไม่ได้รักฟ้าแล้วก็บอกมาเถอะ’

‘ตอนนี้น่ะใช่ แต่เมื่อก่อนไม่ใช่ เมื่อก่อนนนท์รักฟ้าจริงๆ’

‘แล้วนนท์รักใคร’

‘…..’ แทนคำตอบ นนท์มองไปที่ประตูห้อง ห้องที่เราเพิ่งเดินออกมา

‘นนท์รักแดนจริงๆ เหรอ?’ ผมอยากรู้ อยากรู้จริงๆ

‘.......คิดว่านะ’

‘ฟ้าไม่อยากให้แดนเสียใจ’ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆครับ คือนนท์น่ะเจ้าชู้ กลัวว่านนท์จะแค่ถูกใจแดน พอเบื่อก็จะทิ้งไป ยังไงแดนก็เป็นน้องที่ผมรัก ห่วงมากด้วย ไม่อยากเห็นแดนเสียใจ

‘แล้วฟ้าอยากให้นนท์เสียใจหรือไง’ น้ำเสียงของนนท์บอกว่าไม่ค่อยจะพอใจกับคำพูดของผมเท่าไหร่นัก

‘เปล่า’

‘ถ้าไม่อยากให้นนท์เสียใจก็อย่าขัดขวางนนท์...เข้าใจไหม?’ นนท์ไม่พูดเปล่าแต่ใช้มือขี้หัวผมไปมาก ทำยังกับว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนที่นนท์กำลังจะทิ้งไปหาคนใหม่อย่างนั้นแหละ

‘แต่แดนไม่ได้รักนนท์ น้องเกลียดนนท์’ ผมไม่ได้กันท่านะครับ ผมแค่พูดตามความจริงที่เห็น


‘เกลียดได้ก็รักได้น่า’  นนท์พูดสบายๆ

รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ว่าแดนไม่ชอบหน้านนท์ ถึงขั้นเกลียดด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นเข้าใจแค่ว่าเกลียดเพราะนนท์เจ้าชู้ตามที่แดนพูดกรอกหูผมทุกวัน  ไม่ได้เกรงใจด้วยซ้ำว่าคนที่กำลังด่าคือแฟนของผม มาตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันมีเหตุมากจากเหตุการณ์เมื่อสี่ปีที่แล้วด้วยหรือเปล่า

‘เรื่องตอนนั้น นนท์บังคับน้องใช่ไหม’ ผมถาม นึกเดาเรื่องได้ลางๆ แดนเกลียดนนท์ขนาดนั้น เพราะวันนั้นถูกนนท์บังคับขืนใจหรือเปล่า

‘อย่างนนท์นี่นะ จะไปขืนใจใคร มีแต่คนเสนอ’

‘แต่....’ ผมจะท้วงว่าถ้าแดนเต็มใจ แดนก็ไม่น่าจะโกรธเกลียดนนท์ขนาดนี้ เรื่องมันตั้งสี่ปีมาแล้ว แดนยังแค้นฝังใจเลย

‘พอๆ แล้ว เอาไว้วันหลังค่อยคุยเรื่องนี้กัน กลับบ้านไปก่อนนะ ขอเวลานนท์กับน้องของฟ้าคุยกันให้เข้าใจก่อน’

‘ไม่เอา ฟ้าจะเอาแดนกลับ’

‘ที่คุยกันมานาเนี้ย ฟ้าไม่เข้าใจเลยใช่ไหม’ น้ำเสียงนนท์หงุดหงิด

‘ขืนฟ้าปล่อยแดนไว้กับนนท์ นนท์ก็รังแกน้องน่ะสิ’

‘สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร’

“ไม่เชื่อ” เมื่อกี้ถ้าผมมาไม่ทัน ก็ไม่ต้องเดาแล้วละครับว่าแดนจะตกอยู่ในสภาพไหน

ตอนแรกผมไม่ทันเห็นหรอกครับว่าแดนอยู่ไหนสภาพไหน เปิดประตูเข้ามาก็หูอื้อตาลายไปหมดแล้ว เห็นแต่นนท์กดแดนบนเตียง พอเห็นว่าผมเปิดประตูเข้ามา แดนก็รีบผลักนนท์ออกแล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมตัว ผมไม่มีเวลาจับรายละเอียดมากว่าอะไรเป็นอะไร จนกระทั่งตอนที่แย่งแดนจากนนท์นั่นแหละ ถึงได้รู้ ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าชุดพนักร้านของร้านเชิญครับ หล่นอยู่ข้างเตียง ผมแทบจะเหยียบด้วยซ้ำ

“ถ้านนท์ยังเห็นว่าฟ้าเป็น.....เอ่อ...เป็นเพื่อน ต้องให้น้องกลับกับฟ้า ถ้านนท์อยากเคลียร์กับน้องก็ไปคุยกันที่ร้านของฟ้า” ผมต้องยอมรับแล้วใช่ไหม ว่าผมไม่คนที่นนท์รัก เราไม่ใช่แฟนกัน นนท์รักคนอื่น นนท์รักแดน

“ก็ได้ๆ” นนท์ทำเหมือนจะไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ยอมเสียไม่ได้


ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ตอนที่นนท์ลากผมไปคุยนอกห้อง แล้วผมก็เอาตัวแดนกลับออกมาได้ ก่อนกลับผมก็ไม่รู้ว่านนท์คุยอะไรกับคุณหมอ คนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ตอนนี้


“บอสครับ ผม...”

“เข้าบ้านก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” ผมบอก เมื่อคุณหมอจอดรถตรงประตูรั้วหน้าบ้านของแดน แดนคงอยากคุยกับผม เพราะหลังจากออกจากคอนโดนนท์ได้ เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย แต่ผมยังไม่อยากคุยกับแดนตอนนี้ ยังไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ขอผมกลับไปพักสมองก่อน พรุ่งนี้สมองผมอาจจะโล่งกว่านี้ก็เป็นไปได้

“ครับ” แดนตอบรับหงอยๆ ก้าวลงจากรถไป เจ้าตัวคงคิดว่าผมโกรธ ถ้าถามว่าโกรธไม่ ผมไม่ได้โกรธอะไรแดนเลย แดนไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม นนท์โน่นต่างหาก

“พี่ไม่ได้โกรธเรานะ” ผมเลื่อนกระจกลง กวักมือเรียกให้แดนเดินเข้ามาใกล้

“ผมขอโทษ” แดนเดินเข้ามา ทำเหมือนจะร้องไห้

“จะขอโทษพี่ทำไม ไอ้คนผิดน่ะ มันนนท์ ไม่ใช่เรา แล้วไม่ต้องห่วงนะ ถ้าแดนไม่ชอบนนท์ เดี๋ยวพี่ช่วยเอง จะไม่ให้นนท์มายุ่งกับแดนได้”

“ผมเกลียดมันด้วยซ้ำ มันทำ....”

“พอก่อนๆ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่า ตอนนี้พี่ไม่ไหวจริงๆ” ผมรีบห้าม ยังไม่อยากรู้อะไรไปมากกว่านี้ ขอกลับไปคิด กลับไปพักสมองก่อน

“ครับ” แดนกลับมาหน้าหงอยอีกครั้ง

“คิดมากน่า ไม่ใช่พี่โกรธเรา แต่ตอนนี้พี่ปวดหัว ขอพี่กลับไปพักก่อนนะ”

“ครับ...แต่ผมเกลียดมันจริงๆ นะครับบอส”

“อืมๆๆ เข้าบ้านได้แล้ว”

“ครับ”

แดนเดินเข้าบ้านไปแล้ว ผมถึงได้เลื่อนกระจกรถขึ้น ระบายลมหายใจหนักๆ ที่มันอัดอั้นอยู่ข้างในมาตลอดทาง ล้อรถหมุนไปข้างหน้า พร้อมกับที่ผมปิดเปลือกตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความคิดไหลไปเรื่อยๆ คิดถึงเรื่องที่เคยผ่านมาระหว่างผมกับนนท์ตลอดเวลากว่าสิบปี

นนท์บอกว่าผมไม่ได้รักนนท์

...ผมไม่ได้รักนนท์งั้นเหรอ?

นนท์บอกผมว่า ผมแค่ผูกพันกับนนท์

...ผมแค่ผูกพันกับนนท์งั้นเหรอ?

นนท์บอกผมว่าไม่เคยหึง ไม่เคยหวงนนท์

...การที่ผมไม่หึงไม่ห่วงนนท์ มันแปลว่าผมไม่ได้รักนนท์เหรอ?

ผมเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ตรงหน้าเป็นสี่แยก สัญญาณไฟแดงกำลังทำงาน ดึกแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังรถติดอยู่ ผมแปลกใจ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องหาคำตอบ เพราะผมกำลังมีเรื่องที่อยากถามคนข้างๆ ที่นั่งเงียบมาตลอดทาง จะว่าไปเราสามคม รวมถึงแดนด้วย ตั้งแต่เข้ามานั่งในรถก็เหมือนไม่มีใครอยากจะพูดอะไร นอกจากผมที่พูดบอกทางไปบ้านของแดนให้คุณหมอรู้ นอกนั้น เราทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย แม้ตอนนี้เหลือกันสองคน ผมกับคุณหมอ ความเงียบก็ยังเป็นแขกรับเชิญสำหรับเราทั้งสองคนแบบไม่ยอมหนีไปไหน

“คุณหมอครับ” ผมเรียกคุณหมอเบาๆ หน้าคมเข้มแบบไทยๆ หันมามองหน้าผม ก่อนจะหันกลับเพราะสัญญาณไฟเปลี่ยนสี

“ครับ” แต่ก็ยังคิดจะขานรับคำเรียกของผมอยู่

“คุณหมอเคยหึง เคยหวงใครไหมครับ”

“เคยครับ”

“เพราะอะไรครับ ทำไมถึงต้องหึงต้องหวงกันด้วย”

“เพราะรักมั้งครับ”

“หรือครับ...” ผมปล่อยความคิดให้ไหลไปสู่อดีต ที่ผ่านมาผมไม่เคยหึงนนท์ไม่ว่านนท์จะไปกิ๊กกับใคร ผมไม่เคยหวงนนท์ไม่ว่านนท์จะจับมือใครเดินให้ผมเห็นตำตา ผมก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจากความรู้สึกที่ว่า...

มันเป็นเรื่องของนนท์...

มันเป็นนิสัยเจ้าชู้ของนนท์...

มันเป็นอะไรที่ผมห้ามไม่ได้ แล้วก็ไม่คิดอยากจะห้าม...

ผมผิดจริงๆ เหรอ? ผิดที่ไม่รู้สึกอยากหึงหรือหวงนนท์เลยสักครั้ง


...ก็จะให้ทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ ผมกับนนท์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนกันก่อนจะมาเป็นแฟน ก่อนเป็นแฟนกันกับหลังเป็นแฟนกัน มันต้องเปลี่ยนความรู้สึกกันด้วยหรือไง...

เฮ้อออ...

ผมไม่เข้าใจจริงๆ

“คุณหมอครับ”

“ครับ”

รถยังแล่นไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่เร็วนัก ผมมองเสี้ยวหน้าคมที่ดวงตาสีเข้มจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า รถเลี้ยวไปทางซ้าย เข้ามาในซอยที่ผมคุ้นเคย ด้านซ้ายมือเป็นร้านกาแฟของผม ร้านเชิญครับ

“ว่าไงครับ” คุณหมอถาม เมื่อจอดรถเสร็จ คงเพราะก่อนหน้านี้ที่ผมเรียกคุณหมอ แต่ผมไม่ยอมพูดอะไรต่อ ผมไม่รู้จะพูดอะไรไงครับ ที่เรียกคุณหมอไปก็ไม่รู้ตัวว่าจะเรียกไปทำไม

“ไม่มีอะไรครับ” ผมบอกก่อนจะรถจากรถ หยุดรอคุณหมอที่ก้าวตามออกมา

“คิดอะไรอยู่หรือเปล่า” คุณหมอถามขณะที่ก้าวตามผมมา

“เปล่า”

“.....”

“.....”

เราต่างคนต่างเงียบครับ จนกระทั่งเข้ามาในห้อง ผมถึงรู้ตัวว่าผมลืมอะไรสำคัญไปบางอย่าง...

เรื่องสำคัญที่ผมลืมนึก กว่าจะนึกออกมาได้ก็ตอนหันกลับไปเห็นคุณหมอเดินตามเข้ามาในห้องนอนของผมนั่นแหละครับ ผมถึงรู้ตัวเองว่า...

“ผมว่าคุณหมอกลับบ้านได้แล้วมั้งครับ”

ผมลืมไล่คุณหมอกลับบ้าน ...

ให้ตายเถอะ สมองผมเบลอจนลืมไปแล้วหรือไง ว่าคุณหมอไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับผม ไม่ใช่คนที่จะเดินตามผมเข้ามาในห้องนอนได้ง่ายๆ แบบนี้

“มันดึกแล้วครับ” ดูพูดเข้าครับ มันใช่เหตุผลไหมเล่า

“ไม่ใช่ประเด็นครับ ดึกก็ขับกลับได้” ผมว่า

“ผมง่วงมาก” คุณหมอปิดปากหาว ทำอย่างกับผมจะเชื่อ ตาเป็นประกายวิบวับงี้ เด็กปอสามยังดูออกครับว่าโกหก

“จะนอนให้ได้ใช่ไหมครับ” ผมเริ่มปลง เข้าใจว่าคุณหมอทั้งด้านทั้งดื้อ เกินจะสู้รบปรบมือด้วย

“ครับ”

“ตามใจละกัน”

คุณหมอยิ้มแก้มจะฉีกอยู่แล้ว ตอนที่ผมพูดจบ ความจริงคือผมไม่อยากเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้วต่างหาก  ผมอยากนอน อยากหลับ อยากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรื่องที่เจอวันนี้เป็นแค่ความฝัน

....มันไม่ใช่เรื่องจริง



“ไม่อาบน้ำก่อนหรือครับ”

คำถามที่ถามเมื่อผมทิ้งตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ฝังหน้าตัวเองเอาไว้กับหมอนใบใหญ่ ผ้าปูที่นอนผืนใหม่ถูกปูแทนที่ผืนเก่าที่เปื้อนคราบจากกิจกรรมเอาแต่ใจของคุณหมอ ที่ผมเหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะห้าม แต่ก็ยอมรับว่าช่วงเวลานั้นทำให้ผมลืมเรื่องต่างๆ ไปจากสมอง ไม่เหลืออะไรนอกจากร่างกายของคุณหมอที่ผมรับรู้ว่ามันเคลื่อนไหวอยู่ในช่องทางด้านหลัง ตัวตนของผมที่มันร้อนระอุ รอเวลาปลดปล่อย แผ่นหลังที่ผมโอบกอดจิกนิ้วลงไป บางครั้งก็ข่วน เพื่อระบายความเจ็บปวดและเสียวซ่าน เสียงครางเครือจากปากของตัวเองและครางกระเส่าของคุณหมอ สติของผมที่หลุดลอย ช่วงเวลานั้นผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...

เหมือนกับโลกทั้งโลก มีแค่ผมกับคุณหมอสองคน...

“ไม่อาบน้ำหรือครับ” คำถามเดิมตามมาคลอเคลียอยู่ข้างหู หลังจากที่มือใหญ่ดึงตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งซ้อนอยู่ด้านหน้า

“เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว” ผมปล่อยตัวให้อิงกับแผ่นอกนั้น ราวกับจะให้มันเป็นที่พักพิงแทนเตียงนอนนุ่ม

“เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ดีไหมครับ” ความคิดของคุณหมอก็ไม่เลวเหมือนกัน ผมเลยพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ แค่พูดก็จะเหนื่อยแล้วครับตอนนี้ พอคุณหมอลุกไปแล้ว ผมก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง พลิกตัวไปมาอยู่หลายตลบ เผื่ออะไรจะดีขึ้น เผื่อว่าอะไรๆ ในสมองของผมมันจะหลุดออกไปซะที

“ถอดเสื้อก่อนครับ”

คุณหมอกลับมาพร้อมชามใบใหญ่ใส่น้ำและผ้าขนหนูผืนเล็ก (มันเป็นชามแก้วใบใหญ่มากที่ผมมักเอาไว้ใส่ผลไม้) วางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนจะดึงตัวผมให้ลุกขึ้นนั่ง

“จะถอดเองหรือให้ผมช่วยถอดให้ครับ” คุณหมอถาม คงเห็นผมทำท่าเหมือนไม่อยากลุกเมื่อกี้ด้วยมั้ง ผมชูแขนสองข้างขึ้นเหนือหัว บอกแทนคำตอบครับ พอเห็นผมยกแขนขึ้นคุณหมอก็จัดการดึงเสื้อผมออกทันที วางเสื้อผมไว้บนพื้นข้างเตียง ก่อนจะหันมาจัดการกับส่วนล่างของผม

เข็มขัดถูกถอดออก กระดุมเหล็กถูกปลดจากรังดุม ซิบถูดรูดลงจนสุดทาง

“เอาแค่ตัวนอกนะครับ ตัวในไม่ต้อง ผมไม่อยากเหนื่อยไปมากกว่านี้ ข้างหลังก็ยังเจ็บไม่หาย”

คุณหมอยิ้มเขิน คงอายที่ผมรู้ทันความคิดครับ คงหวังจะปลอกเปลือกผมอยู่แน่ๆ

“ครับ”

ผมทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เมื่อกางเกงตัวนอกของผมหลุดออกไปจากตัว แล้วขยับตัวเข้ามาด้านในเพื่อให้คุณหมอนั่งได้สะดวก ความเย็นจากผ้าที่ผ่านจากใบหน้า ซอกคอ และกำลังอยู่บนผิวกายส่วนบน ทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นเยอะ มองดูคุณหมอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้บริการผมแบบนี้ แอบถอนหายใจเบาๆ ในใจครับ หน่ายตัวเองที่ยอมคุณหมอไปง่ายๆ แต่เห็นหน้าแล้วไม่อยากขัดครับ ไม่รู้เพราะอะไร

แขนผมถูกยกขึ้น ความเย็นจากน้ำเริ่มจากหัวไหล่สู่ปลายนิ้ว จากความเย็นของเนื้อผ้ากลายมาเป็นความอุ่นของปากหนาที่กดแนบลงมา ผมมองการกระทำนั้น ใบหน้ามันวูบวาบขึ้นมาเฉยๆ เมื่อเจ้าของริมฝีปากช้อนตาขึ้นมามองสบกับสายตาผม ปากนั่นก็ยังฝังแน่นอยู่กับอุ้งมือ ผมไม่รู้จะทำอะไรตัวยังไง หน้ามันร้อนเหมือนมีใครเอาไฟมารน ต้องหันหนีสายตาหวานเยิ้มนั้น แต่ต้องหันกลับมาอีกครั้ง เมื่อมือใหญ่ที่เคยถือผ้าอยู่ในมือกลับละขึ้นมาช้อนหน้าของผมให้ไปรับจูบแสนหวาน

...ทำเอาสติผมกระเจิง

ลิ้นร้อนกวาดลึกเข้าไปในโพรงปาก ต้อนให้ผมสัมผัสตอบ หัวผมหมุนไปหมดเพราะรสจูบที่ดูยาวนานไม่สิ้นสุด ต้องรั้งต้นคอหนาเอาไว้แนบแน่น 

“....อื้อออ” คุณหมอละปากออกมา เพียงแค่จะมองสบกับผมในระยะใกล้ เพื่อจะให้ผมเห็นแววตาหวานเยิ้มคู่นี้ แล้วแนบจูบลงมาอีกครั้ง หัวผมหมุน แต่ผมก็ตอบสนองลิ้นร้อนที่เกี่ยวพันราวกับไม่เหน็ดเหนื่อย

มือใหญ่นั่นยังคงประคองใบหน้าผมเอาไว้ ปรับมุมองศาใบหน้าของผมไปมาเพื่อให้ตอบสนองรสจูบที่สังสรรค์บรรจงมอบให้ ผมนึกขอบคุณที่มือคุณหมอยังประคองหน้าผมเอาไว้ ไม่ปล่อยไประรานเนื้อตัวที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มของผม ไม่งั้น...

มันคงไม่จบแค่จูบ...แน่ๆ

“พะ...พอ...ก่อน...” มือที่เคยคล้องต้นคอแกร่งเปลี่ยนมาผลักไหล่เจ้าของมันให้ถอนตัวออกห่างแล้วครับ ไม่ไหว มันเหนื่อยจนต้องหอบแฮ่กๆ รสชาติของจูบมันดีเยี่ยมครับ แต่ถ้าต้องหมดอากาศหายใจละก็ ผมก็ขอบายครับ จำต้องหยุดคุณหมอจอมเจ้าเล่ห์เอาไว้ก่อน บอกว่าจะเช็ดตัวให้ผม แต่ไหงมันกลายเป็นจูบแสนหวาน ก่อนจะลามเป็นจูบดุเดือนได้ถึงเพียงนี้

ผมเป็นคน...

ต้องการอากาศหายใจอยู่นะครับ...

ไม่ใช่สิ่งประหลาด หายใจทางน้ำลายได้เหมือนคุณหมอ!


“นึกว่าจะไม่ห้ามซะแล้ว” คุณหมอว่า ตาเยิ้มกลายเป็นตายิ้ม นึกอยากจะดีดตาให้บอดจริงๆ แต่ที่ทำได้คือจิกตาใส่ครับ ก่อนขยับตัวหนี ไม่ชงไม่เช็ดมันแล้ว เดี๋ยวจะได้อาบเหงื่อต่างน้ำซะก่อน ผมมันก็คนประเภทจุดติดง่ายเสียด้วย นึกรำคาญตัวเองจริงๆ

“ยังไม่ได้เช็ดตัวด้านหลังกับด้านล่างเลยครับ” เสียงคุณหมอตามมาใกล้ๆ ผมรีบดึงผ้าห่มคลุมหัวเลยครับ ไม่อยากพูดด้วย ที่สำคัญไม่อยากแพ้สายตาของคุณหมอด้วย เกิดแพ้ขึ้นมามีหวังพรุ่งนี้เช้าผมเดินไม่ได้แน่ๆ ผมว่า ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับว่า แต่ละครั้งที่ทำอะไรกับเนื้อตัวผมเนี้ย มันดูจะแรงขึ้นทุกครั้งสิน่า

คุณหมอลุกไปแล้วครับ ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก แล้วเปิดเข้าในเวลาไม่นานนัก แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำอีกพักใหญ่ จนผมเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับนั่นแหละ ถึงรู้สึกว่าที่ว่างข้างๆ ยุบลงตามน้ำหนักตัวของคุณหมอ

คร้านจะพูดอะไรแล้วครับ เมื่อเนื้อตัวเปล่าๆ แทรกเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน ท่อนแขนใหญ่วางพาดบนเอวของผมแล้วดึงรั้งให้เข้าไปแนบกับผิวเนื้อเย็นๆ

อืม...

คุณหมอไม่ใส่อะไรเลย

....สักชิ้น!!

^
^
มีต่อ

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ


ไม่ต้องบอกนะครับว่าผมรู้เพราะอะไร ทั้งๆ ที่ในห้องมืดสนิท ก็เพราะเนื้อตัวที่โอบกอดผมแทบจะกลืนกินนี่แหละ มันยืนยันชัดเจน

บนหน้าคมเข้มนั้นคงวางอยู่บนซอกคอของผม ลมหายใจอุ่นเป่ารดสร้างความรู้สึกที่คุ้นเคย สัมผัสเบื้องล่างเหมือนจะพยายามกระตุ้นให้ผมสติขาดหาย มือใหญ่ที่เคยโอบไว้เฉยๆ กับระรานไปบนเนื้อตัวของผม จนผมต้อง

“อะ...โอ๊ยยย ...เจ็บนะครับ”

จิกเล็บบนหลังมือเช่นเคยครับ จะได้หยุดสักที

“นอนครับ”

“ยังไม่ง่วงนี่ครับ” ปากว่า มือขยับเนี้ย ต้องยกให้คุณหมอแล้วครับ

“โอ๊ยๆๆๆๆ หยุดแล้วครับๆๆ”

หึ..หึ...สิบนิ้วเลยครับที่จิกลงไป มือปลาหมึกเลยหยุดเอาไว้แค่ที่เอวของผม


“คุณหมอครับ” ในความเงียบที่ผ่านมาหลายนาที ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ผมลืมถามคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างไป

“ครับ”

“ตอบอย่างเดียวก็ได้ครับ มือไม่ต้องลูบ” ผมละเหนื่อยใจจริงๆ จะลูบหน้าท้องผมให้มันได้อะไรขึ้นมา

“ครับๆๆ”

“กับนนท์ คุณหมอคุยอะไรกันหรือครับ” เป็นเรื่องที่ผมอยากรู้ แต่ก่อนหน้านี้ผมดันลืมถาม

“....” ไม่มีคำตอบจากปากคุณหมอ นอกจากปากหนาแนบสัมผัสอุ่นที่ซอกคอของผม ผมเอนคอน้อยๆ เปิดทางและปล่อยตามใจคุณหมอ

“จะไม่บอกหน่อยหรือครับ มันคงไม่ใช่ความลับที่ผมไม่ควรรู้ใช่ไหมครับ คุณหมอ” ไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงต้องเอามือตัวเองไปวางบนมือคุณมือ ลูบเบาๆ แล้วสอดนิ้วประสานเข้ากับมือใหญ่

“คุณนนท์แค่บอกว่า เสื้อตัวที่ผมใส่เป็นของเขา คุณฟ้าซื้อให้ตอนวันเกิดปีที่แล้ว ไม่อยากให้ผมใส่มันอีก”

เรื่องนี้อีกแล้วเหรอ? นนท์ซีเรียสเกินไปหรือเปล่า กับแค่เรื่องเสื้อ พูดกับผมยังไม่พอ ต้องบอกคุณหมออีก เดี๋ยวเหอะจะให้คุณหมอใส่ให้หมดทุกตัวเลย

“แล้วมีอะไรอีกไหมครับ” ผมคิดว่าคงไม่มีเฉพาะเรื่องเสื้อเรื่องเดียวหรอก เพราะเวลาตั้งนานที่ผมกับแดนยืนรอคุณหมออยู่นอกห้อง หมายถึงห้องด้านนอกเลยนะครับ ไม่ใช่แค่นอกห้องนอน คือตอนนั้นแดนยืนยันจะออกมาให้พ้นห้องของนนท์ครับ คงกลัวนนท์จะลากตัวกลับ รออยู่นานมากกว่าคุณหมอจะเดินออกมา หน้าตาคุณหมอก็ดูเครียดๆ ด้วย

“อยากรู้เหรอครับ”

“ไม่อยากจะตอบหรือครับคุณหมอ”

“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ”

“ไม่มากก็ต้องบอก” เพราะมันต้องเกี่ยวกับผมแน่ๆ

“ขอค่าจ้างก่อนนะครับแล้วจะบอก”

ค่าจ้างของคุณหมอคือการที่คุณหมอวางมือคร่อมตัวผม ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำลงมาใกล้ ปากหนาซับจูบเบาๆ ตรงปากผม ลิ้นร้อนไล่ชิมกลีบปากก่อนจะกระตุ้นให้ผมเปิดรับลิ้นร้อนเข้าสู่ภายใน กวาดต้อนเช่นทุกครั้ง จงใจหยอกล้อให้ผมตอบกลับ เป็นนานครับกว่าคุณหมอจะถอนปากออก แต่ไม่ถึงกับว่าผมต้องดิ้นหนีเพราะขาดอากาศหายใจเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

“บอกได้หรือยังครับ” ผมถาม ตอนนี้เราสองคนหันหน้าเข้าหากันแล้วครับ สายตาของผมปรับเข้ากับความมืดได้แล้ว เห็นหน้าของคุณหมอชัดเจนเท่าที่จะชัดได้ในความมืด ในดวงตาคู่ที่อยู่ใกล้แวววับระยิบระยับ ปากหนาฉีกกว้าง บ่งบอกว่าถูกอกถูกใจในหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น น่าจะรวมถึงมือของผมที่วางอยู่บนเอวหนาของคุณหมอด้วยมั้ง ไม่ต่างจากมือของคุณหมอที่พาดอยู่บนเอวไม่หนาของผมด้วยแหละ ร่างกายที่ขยับชิดใกล้กันเท่าที่จะทำได้ และต้นขาแกร่งที่แทรกเข้ามาตรงกลางด้านล่าง เรียกได้ว่าแทบจะเกยทับกันอยู่แล้ว

ผมเป็นคนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากเกิดไป...หรือเปล่านะ?

ไม่หรอกมั้ง...

สถานการณ์มันพาไปต่างหาก โทษความดื้อด้านของคุณหมอด้วยแหละ ปกติผมก็ไม่เคยไปนอนทอดกายให้ใครเขากอดง่ายๆ ซะทีไหนล่ะ

“ทำไมคุณฟ้าถึงยอมให้ผมกอด” ความหมายของคำว่า ‘กอด’ คงไม่ได้แปลตรงตามตัวหรอก น่าจะหมายถึงการที่ผมยอมมีอะไรๆ กับคุณหมอมากกว่า

“คนละเรื่องกันเลยครับ ผมถามคุณหมอเรื่องที่คุยกับนนท์นะครับ” ผมเลี่ยงที่จะตอบ วกเข้าเรื่องก่อนหน้านี้ดีกว่า

“ผมอยากรู้” คุณหมอยังเซ้าซี้  มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังของผม ราวกับกระตุ้นเอาคำตอบ ผมไม่ได้ห้ามปราบ ยังคงปล่อยให้มือนั้นมอบสัมผัสวาบวิวให้ผมรู้สึกวูบวาบ แล้วก็ไม่หลบสายตาคู่ที่อยู่ใกล้ๆ แม้จะทำให้ผมใจสั่นบ้างเล็กน้อย

“ก็ไม่รู้จะขัดขืนไปทำไม”

นั่นสินะ ไม่รู้ผมจะขัดขืนไปทำไม ในเมื่อครั้งแรกผมก็เริ่มก่อน ครั้งที่สองถึงคุณหมอจะเริ่มแถมยังใช้กำลัง แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายเรียกร้องเพราะความต้องการของตนเอง ครั้งต่อๆ มาก็เหมือนจะปล่อยให้มันเลยตามเลย

“แล้วถ้าเป็นคนอื่นคุณฟ้าก็ไม่ขัดขืนหรือครับ” น้ำเสียงที่ถามเรียบๆ แต่ผมรู้สึกเหมือนถูกเข็มเล่มเล็กทิ่มที่อกซ้าย

ผมกำลังโดนดูถูกหรือเปล่า?

คุณหมอกำลังหาว่าผมง่ายใช่ไหม?

ผมไม่รู้ว่าผมใช้แรงแค่ไหนกว่าจะผลักตัวคุณหมอที่ยืดยุดฉุดผมเอาไว้ในอ้อมแขนให้ละออกไป ผมลุกขึ้นในทันที หัวสมองมันสั่งให้ผมไปจากตรงนี้ ไม่ต้องมานอนทอดเนื้อตัวเปลือยเปล่าให้คนร่วมเตียงลูบคล้ำเอาแต่ได้ แล้วถามคำถามที่ทำผมหน้าชา

คุณหมอตบหน้าผมด้วยคำพูดง่ายๆ...แต่มันเจ็บสำหรับคนฟัง

“คุณฟ้า”

“ปล่อยผม ไม่ต้องมาจับ บอกให้ปล่อยไง” ผมโวยวาย เมื่อถูกดึงให้กลับลงไปนอนอยู่ใต้ร่างหนาที่กดทับไม่ให้ผมออกแรงดิ้นหนี

“อย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวมันจะ....”

อืม...ผมหยุดเลยครับ ถึงจะโกรธจนไม่อยากเห็นหน้าคุณหมอ อยากจะหนีไปให้พ้น อยากจะดิ้นให้หลุด แต่ผมก็ห่วงตัวเองครับ ก็ท่าของเราสองคนมันล่อแหลม แล้วมันก็...ก็จะทำให้อะไรๆ มันจุดติดง่าย

“ออกไปก่อน” ผมบอกคนที่ทับผมไว้ทั้งตัว อะไรๆ ด้านล่างมันก็ดันอยู่ที่ต้นขาของผม คุณหมอชักหื่นเกินไปแล้ว ผิดกับหน้าตาภายนอกลิบลับ

“สัญญาก่อนว่าจะไม่หนีไปไหน” ดูครับยังมีมาต่อรอง ตางี้เป็นประกายวิบๆ ดูออกเลยว่ากำลังคิดลามกอะไรอยู่

“สัญญา”

“คุณฟ้าน่ารัก อย่างนี้จะไม่ให้ผมรักได้ไง” คุณหมอว่า เสียงทุ้มกระซิบติดกับปากของผม

“...อะ...อ่า....” โอ๊ยให้ตายเถอะ ผมหลุดครางเบาๆ ออกมาจนได้ คุณหมอทำผมแสบอีกแล้ว แทนที่จะลุกออกจากตัวผม กลับแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง ดึงสะโพกผมให้เกยอยู่บนตัก ตัวตนร้อนๆ ของคุณหมอสัมผัสอยู่เบื้องหลังชิดช่องทางที่ยังคงรู้สึกได้ว่ามันยังคงเจ็บเกินกว่าจะปล่อยให้อะไรๆ มันสอดเข้าไป

ผมยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งบนตักคุณหมอ ก่อนที่คุณหมอจะโน้มตัวลงมาหา ใช้ผ่ามือต้านแผ่นอกเอาไว้ กดเสียงพูดให้ต่ำลง บอกความรู้สึกที่คุณหมอควรจะเข้าใจ

“ผมกำลังโกรธคุณหมออยู่นะครับ” คุณหมอชอบชวนให้ผมเขว จำได้ว่าตอนแรกผมถามคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องที่คุณหมอคุยกับนนท์ไม่ใช่เหรอไง แล้วเมื่อกี้ผมก็โกรธคุณหมอมาก มากจนไม่อยากเห็นหน้า แล้วไงทำไมเรื่องมันกลายเป็นว่าคุณหมอตั้งท่าจะกินผมไปได้

ผมอร่อยขนาดนั้นเลยหรือไง?

แล้วอารมณ์โกรธเมื่อตะกี้ มันก็ดันหายวับไปตอนไหนแล้วไม่รู้ รู้แต่ตัวตัวเองละมือจากแผ่นอกคุณหมอขึ้นมาคล้องต้นคอแกร่งแทน เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอกระซิบคำพูดเอากับปากผม

“กำลังจะขอโทษไงครับ”   

“ขอโทษบ้าอะไร จะกินผมมากกว่า” ผมว่าไม่ได้จริงจังนัก คนฟังเลยยิ้ม ทำตาหวานใส่ มือนั้นรั้งเอวผมเข้าไปใกล้กว่าเดิม ด้านบนมันแนบชิด แล้วด้านล่างมันจะเหลืออะไร

“....อะ...คุณหมอ ไม่เอาครับ ยังเจ็บอยู่เลย” จำได้ว่าครั้งนั้นก็เคยพูดไปที ไม่เห็นคุณหมอจะสน ยังตั้งหน้าตั้งตาทำ รุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ยังเจ็บอยู่เหรอครับ” ถามเหมือนไม่เชื่อว่าผมพูดจริง หมอบ้าเห็นแก่ตัวชัดๆ ตัวเองสุข แต่ผมเจ็บ...ก็..ก็ยอมรับนะว่าผมก็รู้สึกดีกับกิจกรรมที่เราทำด้วยกัน แต่มันก็เจ็บนะ ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ

“เจ็บสิ”

“เสียดาย” น้ำเสียงบอกชัดเจนเท่ากับคำพูดเลยครับ ผมเลยหยิกต้นคอไปที

“โอ๊ยยย....คุณฟ้าชอบเล่นเจ็บๆ”

“ก็ทำผมเจ็บก่อนไม่ใช่หรือครับ แค่นี้ยังน้อยกว่าที่ผมเจ็บอีก”

“เจ็บมากหรือครับ” ฟังๆ ดูแล้วคุณหมอน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงนะครับ ถ้า...ถ้ามือนั่นจะไม่ซุกซนอยู่ตรงด้านหลังของผม

“ไม่เอาครับ” ผมบอกคุณหมอ ตะครุบมือซนๆ เอาไว้ ไม่ให้ไปไกลกว่านั้น ขณะที่ยังประสานสายตากันในความสลัว

‘…..’

‘…..’

เราสองคนนั่งจ้องตากัน เหมือนเล่นเกม ใครหลบสายตาก่อนคนนั้นเป็นคนแพ้และจะถูกลงโทษ ถ้าผมแพ้ ผมต้องยอมให้คุณหมอกิน แต่ถ้าคุณหมอแพ้ก็อดได้แอ้มผมครับ ไม่มีใครพูดถึงกติกาอันนี้ แต่มันเหมือนเป็นกติกาสากลบัญญัติขึ้นมาเพื่อเราสองคนในชั่วโมงนี้

‘….’

‘….’

ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังกว่าทุกครั้ง มันเต้นเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่นัก แต่มันเต้นดังมาก แทบทะลุออกมานอกอก

และในความเงียบเช่นกัน ผมได้ยินเสียงลมหายใจของคุณหมอที่ไต่รดอยู่บนหน้า

หน้าผากของเราสองคนเคลื่อนเข้าหากันช้าๆ สายตาไม่ได้ละไปไหน คงเพราะกลัวเป็นฝ่ายแพ้ แม้กระทั้งตอนที่ปรับองศาของหน้าให้รับกับปากของอีกฝ่าย ผมก็ยังจ้องมองดวงตาคู่นั้นอยู่


ผมกับคุณหมอ เราจูบกัน จูบกันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้ว ผมจำไม่ได้ แปลกที่ครั้งนี้ไม่ได้เนิ่นนานอย่างเช่นทุกครั้ง คุณหมอถอนจูบออก หลังจากที่ลิ้นของเราเกี่ยวกันเพียงนิด สร้างความแปลกใจให้กับผมมาก แล้วมันก็คงทำให้คุณหมอจับได้ ถึงได้หัวเราะเบาๆ ออกมา

“หัวเราะอะไรครับ”

“ดีใจครับที่ได้จูบคุณฟ้า” ตอบได้น่าหยิกปากมากครับ พูดมาได้ว่าดีใจได้จูบผม ยังกะได้จูบผมเป็นครั้งแรกงั้นแหละ

“เชื่อตายล่ะ” ไม่ได้โง่นี่ครับ ถึงจะดูไม่ออกว่าคุณหมอหัวเราะเพราะอะไร ถูกใจที่ได้แกล้งผมล่ะไม่ว่า ผมเลยเอาคืนด้วยวิธีที่ฉลาดมากของตัวเอง (คิดได้แค่นี้ครับ) อะไรที่คุณหมออยากได้จากผมล่ะ  หึหึ...

“ฮื้มม...อ่า...คุณฟ้า...”

หึหึ คุณหมอหลุดครางเสียงพร่า เมื่อผมขยับตัวด้านล่างช้าๆ ไปมา เสียดสีให้คุณหมอรู้สึกมากยิ่งขึ้น ยืนยันจากพิษณุน้อยที่แข็งขันกว่าเดิม

“....อ่า...”

“....อะ....”

มารู้ตัวอีกทีว่าคิดผิดก็ตอนที่ตัวเองหลุดครางออกมาด้วยนี่แหละครับ ผมเลยต้องหยุด ขืนตัวเองไม่ให้ถูกผลักจากร่างใหญ่ให้จมไปบนเตียง

“เจ็บจริงๆ นะครับ” ผมบอกเสียงอ่อน จะแกล้งเค้ากลายเป็นตัวเองจะเสียบเปรียบแทน

“เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย” คุณหมอว่า ผมเลยแยกเขี้ยวใส่

“เก่งแต่ไม่สู้คนครับ”

คุณหมอหลุดขำ ได้โอกาสผมเลยรีบลงจากตักคุณหมอ ล้มตัวลงนอนดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ ยังกะมันจะช่วยป้องกันการประทุษร้ายจากคุณหมอได้งั้นแหละ

“นอนครับ” ผมสั่ง อีกคนก็ว่าง่ายครับ ล้มตัวลงนอน เอามือมาเกี่ยวเอวผมให้เข้าไปใกล้ ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

ผมปิดเปลือกตาลงช้าๆ ไม่ห่วงว่าจะไม่ปลอดภัยแล้วครับ เพราะท่าทางคุณหมอก็ไม่น่าจะทำอะไรมากไปกว่าเกี่ยวเอวผมเอาไว้ ซบหน้าไว้กับซอกคอผม

ผมกำลังคิดว่า ผมควรจะหลับลงไปพร้อมกับเรื่องของนนท์กับแดนดีไหม คิดเผื่อว่าพรุ่งนี้ผมจะทำยังไง ต้องเผชิญหน้ากับคนสองคนนั้นยังไงดี แต่เสียงทุ้มฟังสบายๆ ที่กระซิบกับใบหูของผมก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ว่าควรจะหลับไปพร้อมกับเรื่องอะไร...

“ฝันดีนะครับคุณฟ้า...”

“ครับ” ผมตอบรับเบาๆ ผมรู้แล้วว่าควรจะหลับฝันดีสักคืนหนึ่ง....ได้แล้วมั้ง


>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
 :z1:ไม่คิดว่าคุณหมอจะหื่นขนาดนี้

ตอนนี้เหมือนคุณฟ้ากำลังพยายามทำความเข้าใจกับตัวเองอยู่นะ

 :กอด1:เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
จิ้มบวกๆ ค่าาาาาาาาาาา

ฟ้ารู้ตัวเถอะ นนท์บอกขนาดนั้นแล้ว ^^

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
นนท์รู้ใจฟ้านานแล้ว
ฟ้าก็รีบรู้ใจตัวเองไวไวนะ
ปล.รักคนแต่ง ยิ้มได้เมื่อวันฝนตก

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :impress2:น่ารักมากเลยชอบคุณหมอกับฟ้าอ่านไปยิ้มไป :-[

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
สงสารนนท์ไงชอบกล
สงสารฟ้าด้วย
เหมือนสองคนนี้สับสนกับความรักมานานมาก ไม่รู้ว่าที่ตัวเองอยู่ด้วยกันมันรักหรือเปล่า

พอนนท์เจอคนที่รักเลย เหมือนต้องทำร้ายอีกฝ่าย
รักนี่เข้าใจยากดีแท้

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สงสารนนท์เหมือนกันนะนี่
ต่างคนก็ต่างแสดงออกถึงความรักที่ต่างกัน
เห้อ ...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด