สามครั้งครับ...
วันนี้ผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกันถึงสามครั้ง ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้ว คุณฟ้ายอมให้ผมกกกอด ทอดร่างกายให้ผมเชยชม แต่ไม่ยอมให้ผมรัก!
เรียวนิ้วที่จิ้มตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง แล้วบอกกับผม น้ำเสียงเบา แต่ตอกย้ำให้ผมเจ็บจี๊ดๆ ที่ใจ
‘ผมให้ได้แค่นี้นะครับคุณหมอ ส่วนตรงนี้.....คุณหมอเข้าไปไม่ได้’
คำพูดจากปากบางที่ใกล้อยู่แค่เอื้อมจูบ ทำผมเจ็บได้อีกครั้ง ไม่มากแต่มันก็เจ็บเช่นทุกครั้ง ยอมรับว่าผมระบายความเจ็บนั้นใส่กลีบปากบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตักตวงเหมือนคนไม่รู้จักพอ เหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้แนบชิดกับปากนี้ เรือนกายเรือนนี้ ร่างบอบบางที่เร้าร้อนทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสแตะต้องไม่ได้เลย มันชวนให้หลงใหล เผลอติดกับ ทั้งที่เจ้าของร่างกายนี้ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย
อย่างที่รู้ๆ คุณฟ้าแค่ยอมให้ผมสัมผัส ลึกซึ้งด้วย กอบโกยเอาเท่าที่ผมต้องการ ไม่ได้ปฏิเสธหรือต่อต้าน ไม่ได้อ้อนวอนให้ผมหยุด ยินยอมให้ความร่วมมือที่แสนหวาน ทว่าเร่าร้อนกว่าตัวตนที่เห็นอยู่ภายนอก แต่หลังทุกอย่างผ่านพ้นไป สิ่งเดียวที่คุณฟ้าให้ผมได้...
...คือร่างกาย
และไม่ยินยอมใดๆ ไม่แม้จะเปิดทางให้ผมเข้าไปอยู่ในนั้น ในทีที่คุณฟ้าชี้นิ้วบอกผมว่า
...ผมเข้าไปไม่ได้
ผมควรจะเชื่อใช่ไหม?
ผมรู้ว่าผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น...
ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อคำพูดของคุณฟ้า!
ต่อให้โลกถล่มมาตรงหน้า ต่อให้คนรักของคุณฟ้ากลับมา ต่อให้คุณฟ้าจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน ต่อให้อะไรๆ ที่คุณฟ้ายัดเยียดใส่ผมว่าไม่ได้ ต่อให้ผมต้องกลายเป็นคนหน้าด้านก็ตาม
ผมไม่มีวันเชื่อคุณฟ้าเด็ดขาด!
เมื่อผมได้ครอบครอง ผมต้องเป็นเจ้าของ แล้วก็จะเข้าไปอยู่ในที่ตรงนั้น ทีที่คุณฟ้าบอกว่าผมเข้าไปไม่ได้ คอยดูเถอะ ผมจะเข้าไปตรงนั้นให้ได้สักวันหนึ่ง เข้าไปแล้วจะไม่ยอมออกอีกด้วย
ผมถึงได้หน้าด้านยืนอยู่ข้างคุณฟ้าหน้าประตูห้องบนคอนโดหรูใจกลางเมืองของคุณนนท์อยู่นี่ไงครับ
หึ...หึ...
ผมหน้าด้านมากพอที่จะมายืนคุมคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ ผมสมบูรณ์แบบ ถึงจะข้ามขั้นตอนของการเป็น ‘คนรัก’ ก็ตาม ว่างๆ ผมค่อยพาคุณฟ้ากลับไปทักทายมันล่ะกัน
รู้ไหมครับว่าสมองของผมตอนนี้ มันคิดไปถึงคืนนี้ที่ได้เข้านอนพร้อมกับคุณฟ้า เช้าที่ตื่นมาแล้วเจอหน้าคุณฟ้าเป็นคนแรก และคืนต่อไป เช้าต่อไป อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า สองเดือนข้างหน้า สามเดือนข้างหน้า ปีหน้า ปีต่อไป อีกสิบปี อีกยี่สิบปี และตลอดไป ผมจะมีคนๆ นี้ ร่วมใช้ชีวิตไปด้วยกัน
ผมวาดหวังอย่างนั้นครับ...และหวังว่าความพยายามของผมจะไม่สูญเปล่า อย่างน้อยความหน้าด้านของผมก็คงช่วยกันคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณฟ้าออกไปได้หมด คุณฟ้าจะไม่มีใคร คุณฟ้าจะมีผมเพียงคนเดียว เชื่อเถอะ...
เมื่อคุณฟ้าไม่มีใคร คุณฟ้าคงจะเห็นใจผมบ้าง...
ผมหวังว่าอย่างนั้นนะ
“คุณหมอกลับไปก่อนดีกว่านะครับ” ประโยคเดิมที่ผมฟังมาเกือบสิบรอบ นับตั้งแต่จอดรถไว้ที่ใต้คอนโดแล้ว
“.............” ผมไม่ตอบ เพราะถือว่าตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่ายังไงๆ ก็ไม่กลับ
“ดื้อ” บ่นเบาๆ ผมทำหูทวนลมไม่สนใจ
ผมมองมือที่เล็กๆ ที่เปิดประตูห้องเข้าไป หลังจากใช้การ์ดเปิดประตูแล้ว ไม่แปลกที่คุณฟ้าจะเข้าออกคอนโดคนรักเก่าของตัวเองแบบสบายๆ แม้กระทั่งเปิดเข้าไปในห้องนอนทันที ที่เสียงตะโกนของเด็กแดนดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนที่ปิดสนิทมาก่อนหน้านี้
“ฟ้า”
“บอส!!!”
ผมทันเห็นร่างเล็กของแดนจมอยู่ใต้ร่างของคุณนนท์ ก่อนจะดีดตัวเด้งขึ้นมาด้วยอาการหน้าถอดสี ปากบวมเจ่อ ผิวเนื้อที่ไม่ได้ขาวมากเป็นจ้ำแดงเต็มแผ่นอก หรืออาจจะทั่วตัวก็ได้ เพราะผมไม่ทันจะเห็นอะไรมาก เด็กแดนก็คว้าผ้าห่มมาคลุมร่างกายตัวเองเสียก่อน มีคุณนนท์ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆ ซึ่งผมคิดว่าคงเซ็งที่ถูกขัดจังหวะจากคนรักเก่า
“มาทำไมฟ้า?”
“มาดูให้เห็นกับตา”
คุณนนท์ถาม ขณะที่คุณฟ้ายืนนิ่งตอบคำถามนั้นเหมือนคนจะร้องไห้
“เห็นแล้วก็กลับไปได้”
“นนท์....ทำไม ทำไมทำแบบนี้”
“ทำแบบไหน”
“นนท์กับ......” คุณฟ้าเหมือนจะพูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ
“เราเลิกกันแล้วนะฟ้า ผมจะอะไรกับใคร มันไม่เกี่ยวกับฟ้าอีกแล้ว”
“แต่แดน....”
“แดนคือคนที่ผมรัก”
“นนท์...”
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณฟ้ามองหน้าคุณนนท์หรือเด็กแดนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือเด็กแดนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่อยู่ในอ้อมแขนของคุณนนท์ ที่ดึงตัวเข้าไปกอดโดยไม่คิดจะแคร์สายตาคุณฟ้า เด็กแดนพยายามสุดกำลัง ทั้งจิกทั้งข่วนให้อีกฝ่ายปล่อย
“อยู่นิ่งๆ เหมือนเมื่อกี้ได้ไหม”
“แล้วใครใช้ให้มึงมากอดกู”
“บอกแล้วใช่ไหมให้เรียก ‘พี่’”
“กูไม่เรียก!!”
“แดน!!”
“จะทำไม กูจะเรียก......อื้ออออ”
เอิ่ม... จูบโชว์ผมกันเลยทีเดียว เด็กแดนทั้งดิ้นทั้งตี แต่คนตัวเล็กกว่าจะสู้คนตัวโตได้ยังไง เป็นนานกว่าที่คุณนนท์จะปล่อยปากเด็กแดนให้เป็นอิสระ แต่ยังคงเหนี่ยวร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน เด็กแดนดูเหมือนจะหมดฤทธิ์ พูดอะไรไม่ออก
“ต่อไปอย่าดื้อ ไม่งั้นจะไม่ใช่แค่นี้ จะทำต่อหน้าบอสของเราด้วย แล้วเรื่องเมื่อก่อนอีก จะบอกให้หมด” ถือว่าเป็นคำขู่ที่ได้ผลครับ แดนสงบกว่าเดิม ก้มหน้าต่ำคางแทบจะชิดอก แล้วตัวก็สั่นเหมือนกำลังกั้นแรงสะอื้นจากเนื้อตัวด้านใน
สำหรับผมไม่เป็นไรหรอก แต่ผมห่วงความรู้สึกของคุณฟ้าที่ยืนนิ่งเป็นก้อนหินไปแล้วต่างหาก สิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าคุณฟ้ายังมีชีวิตคือน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ผมไม่ได้เดินเข้าไปหา รู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาของตัวเอง ผมถึงยืนนิ่งๆ มองดูอยู่ห่างๆ ในที่ของตัวเอง
“แดนมานี่”
“บอส” เด็กแดนเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมองคุณฟ้า ผมเห็นแล้วสงสาร เข้าใจว่าแดนรู้สึกยังไง คงกลัวคุณฟ้าจะโกรธจะเกลียดตัวเองมั้ง ตอนคุณฟ้าเปิดประตูเข้ามา เด็กแดนก็ทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้อยู่แล้ว
“กลับบ้านกับพี่”
“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”
“แต่นนท์ไม่มีสิทธิ์ทำกับน้องแบบนี้”
“ทำไมจะไม่ได้”
“นนท์ ปล่อยน้อง”
“ไม่ปล่อย”
และแล้วแดนก็กลายเป็นคนที่ถูกดึงทั้งซ้ายและขวา
คุณฟ้าแขนซ้าย คุณนนท์แขนขวา ส่วนคนกลางทำท่าเหมือนอยากจะลุกไปหาคุณฟ้า แต่คงติดที่เนื้อตัวด้านล่างที่มีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดอยู่ เจ้าตัวถึงได้พยายามที่จะไม่เคลื่อนตัวไปทางไหนมากนัก คงกลัวมันจะหลุด
“นนท์ ฟ้าบอกให้ปล่อยน้องไง”
“ฟ้านั่นแหละปล่อย จะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร”
“แดนเป็นน้องฟ้านะ”
“แต่แดนเป็นเมียนนท์”
“ไอ้เลว!! กูไปเป็นเมียมึงตอนไหน” แดนตะโกนด่าทันทีที่คุณนนท์พูดจบ
“นนท์....” คุณฟ้าหน้าถึงกับถอดสี ปล่อยมือแดนแทบจะทันที แดนเลยถูกดึงไปอยู่ในอ้อมแขนคุณนนท์อีกครั้ง แต่ไม่วายดิ้นปกป้องตัวเอง
“บอสครับ อย่าไปเชื่อมัน ผม...ผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน มันปากหมา ไอ้คนปากหมา!!” แดนตะโกนด่าเสียงดัง ด่าทั้งน้ำตา พยายามสุดแรงที่จะดึงตัวเองออกมาจากคนที่ตัวใหญ่กว่า ผมอยากเข้าไปช่วย แต่ผมคิดว่ามันไม่สมควร ผมถึงได้ยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนอากาศที่วนเวียนอยู่ในห้อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่างและคงไม่มีใครอยากให้ผมเข้าไปร่วมวงด้วย
สถานการณ์ตอนนี้ รักสามเศร้าชัดๆ ผมเป็นคนนอกที่ได้แต่ยืนมอง
“ต้องให้บอกบอสของเราไหม ว่าคนที่เขาเปิดประตูเข้ามาเจอเมื่อสี่ปีก่อนเป็นใคร?”
“ไอ้เลว มึงมันเลว มึงมันชั่ว กูจะฆ่า” เด็กแดนทำเหมือนอย่างปากว่า พยายามจะชกจะตีคุณนนท์ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการร้องไห้น้ำตานองหน้า เมื่อมือทั้งสองถูกรวบไว้แน่น แทบกระดิกไม่ได้
“พอเห็นหน้าบอสตัวเองมาก ทำซ่าออกฤทธิ์เยอะเลยนะ”
“ทำไม กูจะทำ”
“หึ งั้นเหรอ....” ผมเห็นคุณนนท์ยิ้มอย่างคนถือแต้มเหนือกว่ากับแล้ว แล้วหันมาทางคุณฟ้า
“ฟ้าจำเช้าวันเสาร์ที่ 17 เดือนเมษาวันเกิดนนท์เมื่อสี่ปีก่อนได้ไหม ตอนที่ฟ้าเปิดประตู...”
“หยุด! ไม่ต้องพูด” เด็กแดนตะโกนห้ามทั้งน้ำตา
“อายเหรอ?”
“กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมึง ไอ้เลวไปตายซะ ....... บอส ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผม...ผม....ขอโทษ”
“แดนมาหาพี่นี่ นนท์ปล่อยน้องก่อน”
ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากที่ยืนนิ่งไปนาน ท่าทางที่จะร้องไห้เมื่อครู่ก็ไม่มีให้เห็นแล้ว คุณฟ้านั่งลงใกล้ๆ คนทั้งคู่ แล้วดึงเด็กแดนเข้ามากอด โดยที่คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี
“ไม่ร้องนะ”
“พี่ฟ้า....ผมขอโทษ” ครั้งแรกที่ผมได้ยินเด็กแดนเรียกคุณฟ้าว่าพี่ฟ้า ทุกทีจะเรียกบอสตลอด
“นนท์ ถ้าไม่รักน้องจริง อย่าทำกับน้องแบบนี้ ถือว่าฟ้าขอ”
“พูดยังกับไม่รู้จักนนท์”
คุณฟ้าเบือนหน้าหนีสายตาจริงจังของคุณนนท์ เหมือนไม่อยากยอมรับสิ่งที่คุณนนท์กำลังบอกผ่านสายตาคู่นั้น
“ฟ้าจะพาน้องกลับ”
“ฟ้า นี่ฟ้าไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจกันแน่”
“ฟ้าเข้าใจว่าน้องไม่อยากอยู่ที่นี่”
“ฟ้า”
คุณนนท์เริ่มหงุดหงิด ทำท่าเหมือนจะดึงเอาตัวเด็กแดนกลับ แต่คุณฟ้าไม่ยอม ดึงตัวแดนให้ลุกขึ้นตาม แต่อย่างว่าครับ แดนคงไม่กล้าลุกขึ้นยืนต่อหน้าคุณฟ้าแน่ๆ เลยขืนตัวเองไว้
“แดน” คิ้วคุณฟ้าจะหมวดเข้าหากัน ส่วนคุณนนท์ยิ้มอย่างพอใจผลงานก่อนหน้านี้ของตัวเอง ที่ผมพอรู้ครับว่าอะไร
“พี่ฟ้า คือ....คือ....”
ผมว่าคุณฟ้าคงลืมดูรอบๆ เตียงไปครับว่ามีเสื้อผ้าหลายชิ้นหล่นอยู่ ถ้าเห็นคงนึกสภาพของแดนออกบ้างล่ะครับ ไม่ใช่ยืนทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอยู่อย่างนี้
“บอกไปสิว่ากำลังโป๊ แล้วก่อนหน้านี้ เรากับพี่กำลังทำอะไรกันอยู่”
“หุบปากมึงไปเลย ไอ้เลว แม่ง...กูไม่เคยเห็นใครเลวเท่ามึงมาก่อน กูไม่น่าเกิดมาเจอมึงเลย”
“งั้นเหรอ? แต่พี่จำได้ว่าสี่ปีก่อน ไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ เอ๋...พูดว่าอะไรน้า.....พี่ครับช่วยผมด้วย ผมไม่ไหวแล้ว เอาอีก แรงอีก...หึหึ”
“ไอ้เลว มึงอย่าอยู่เลย!” เด็กแดนโผเข้าไปใส่คุณนนท์ครับ เป้าหมายคงเป็นบริเวณคอ ถ้าผมเดาไม่ผิด แล้วผมก็เดาถูกอีกว่า ไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิดหรอก แค่พุ่งตัวเข้าไปหาก็ถูกจับทุ่มลงบนเตียง ก่อนจะถูกรวบมือไว้เหนือหัว (ท่าที่ผมเคยทำกับคุณฟ้ามาแล้ว) เอาตัวเข้าคร่อมทับ กักขังไม่ดิ้นไปไหนง่ายๆ
“นนท์! อย่าทำน้อง” คุณฟ้าพยายามจะช่วยเด็กแดน ด้วยการดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดน
“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”
“ไม่ยุ่งได้ไง นนท์กำลังทำร้ายน้อง”
“นนท์ไม่ได้ทำร้าย แค่จะสอนให้จำว่าอย่างมาอวดเก่ง.....แล้วปากน่ะ หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อย ให้รู้ซะบ้างใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง”
“ไอ้ห่า กูไปเป็นน้องมึงตอนไหน คนอย่างกูไม่เคยมีพี่เลวๆ แบบมึง จำใส่หัวสมองเลวๆ ของมึงเอาไว้ กู....ไม่....ใช่....น้อง....มึง”
“เอ่อ...ลืมไป เราน่ะไม่ใช่น้อง แต่...เป็น...เมีย....”
“ไอ้เลว!!”
ผมว่า เด็กแดนคงอยากวางมวยกับคำพูดย้ำชัดๆ ของคุณนนท์ แต่ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ฟึดฟัด มองคนที่อยู่ด้านบนแบบอาฆาตแค้น
“ช่วยกลับไปก่อนนะฟ้า เอาไว้นนท์เคลียร์กับลูกน้องของฟ้าเสร็จเมื่อไรจะไปหา”
“กูไม่มีอะไรจะเคลียร์กับมึงโว้ย....พี่ฟ้า พี่ฟ้าช่วยผมด้วย ผมเกลียดมัน เกลียดมันยังกะกิ้งกือไส้เดือน....กูเกลียดมึง ได้ยินไหม กู....เกลียด....มึง”
“แล้วใครสน”
“ไอ้หน้าด้าน”
“ถ้ายังไม่หยุดด่าจะทำให้มันมากกว่า เอาต่อหน้าบอสของเราเลยเป็นไง เหมือนตอนนั้นไง ดีไหม?”
“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว”
“เราบังคับพี่เอง”
สองคนนั่นเล่นจ้องตากันอยู่นานครับ กว่าที่คุณฟ้าพูดทำลายบรรยากาศมาคุนั้นลง
“นนท์ปล่อยน้องเถอะ”
“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”
“ไม่ได้!”
ตอนนี้คุณฟ้าไม่ใช่แค่พูดบอก เจ้าตัวลงมือดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดนอีกครั้ง น่าจะใช้แรงมากพอสมควร ส่วนเด็กแดนก็พยายามดิ้นให้หลุด กลายเป็นว่าอีรุงตุงนังกันอยู่ตรงนั้น โดยที่ผมยังยืนนิ่ง ไม่กล้าทำอะไรมาก รู้สึกว่าตัวเป็นธาตุอากาศที่ไม่มีใครเห็น จนกระทั่ง
~~ ตุ๊บ~~
“โอ๊ยยย.....”
“ฟ้า....โอ๊ะ โอ๊ยย....”
“คุณฟ้า”
จังหวะที่ยื้อกันอยู่นั้น คุณนนท์คงพลาดใช้แรงมากเกินไปจนทำให้คุณฟ้าเสียหลักล้มลงก้นกระแทกพื้น แล้วเป็นคุณนนท์คงตกใจจนเผลอปล่อยมือเด็กแดน เลยโดนเด็กแดนชกเข้าที่ปากไปสองมัด ส่วนผมรีบพุ่งตัวไปประคองตัวคุณฟ้าให้ลุกขึ้นมา
“เจ็บไหมครับ” คุณฟ้าสายหน้า แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ หน้าตาบอกชัดเจนว่าเจ็บสุดๆ น้ำตาถึงกับเล็ด ของเดิมมันเจ็บมากก่อนแล้วไงครับ มาผลักให้ล้มก้นจ้ำไปพื้นอีก
“ไอ้เลว มึงกล้าทำพี่ฟ้าเหรอ มึงอย่าอยู่เลย”
เด็กแดนโผเข้าใส่คุณนนท์อีกครั้ง ได้จังหวะต่อยไม่ยั้งมือเพราะคุณนนท์กำลังอึ้งกับการกระทำของตนเองอยู่ กว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็โดนไปหลายหมัด ถึงรวบเด็กซ่าไว้ในมือได้
“อย่าซ่าให้มันมากนะแดน”
“ไอ้เลวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ตะโกนด่าซ้ำ เด็กแดนก็ทำได้แค่นั้นแหละครับ ผมกลัวว่าเรื่องมันจะวนเวียนซ้ำซากไม่ไปไหนสักที เลยต้องขอยุ่งกับรักสามเศร้าเราสามคนของคุณฟ้า คุณนนท์ แล้วก็เด็กแดนสักหน่อย
“กลับกันเถอะครับคุณฟ้า”
“พี่หมอ!”
“คุณหมอ”
แต่ละคนที่เรียกชื่อผม ยังกับเพิ่งเห็นผมอยู่ในห้องนี้ ผมเดาไว้ไม่มีผิดเลย ทั้งคุณนนท์ทั้งเด็กแดนเพิ่งรู้ตัวว่ามีผมอยู่ในห้องนี้ด้วย ดีนะครับที่คุณฟ้าไม่ร่วมแปลกใจไปด้วย
“หมอมากับคุณฟ้าครับ...แต่คงไม่มีใครเห็น” ผมตอบคำถามที่มาจากสายตาของคนทั้งคู่ คุณนนท์กับเด็กแดน คงอยากรู้ว่าผมเข้ามาได้ยังไง
“ฟ้า นนท์ว่า เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ” ชักไม่ค่อยดีครับ คุณนนท์เหมือนจะพูดกับคุณฟ้าแต่ตามองที่ผม ไม่ได้มองที่คุณฟ้าเลยแม้แต่น้อย
“อย่าแม้แต่จะคิดลงจากเตียง ไม่อย่างนั้น เรื่องก่อนหน้าที่เราตกลงกันไว้ ถือว่าเป็นโฆษะ....คุณหมอเหมือนกันนะครับ อยู่ในห้องนี้ก่อน ผมเรียกแล้วค่อยออกไป”
เอ่อ....ผมพูดไม่ออกครับ ไม่ได้กลัวคำขู่ของคุณนนท์เหมือนที่เด็กแดนกำลังกลัวอยู่ เพราะขนาดถูกปล่อยตัวแล้วแท้ๆ เด็กแดนยังนั่งนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับตัวไปทางไหนเหมือนตอนแรก ที่ร้องป่าวๆ ว่าให้อีกฝ่ายปล่อยตัว แต่ที่ผมปล่อยให้คุณนนท์เดินจูงมือคุณฟ้าออกไปนอกห้อง เพราะ....เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่มันดีไปกว่านี้ได้ ในเมื่อคุณฟ้าอยากจะคุยกับคุณนนท์อยู่แล้ว มันเป็นโอกาสที่ของคุณฟ้าที่ผมไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง
แต่...
ผมให้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น
วันอื่น...
อย่าหวัง!!
ถึงแม้หมอพิษณุคนนี้จะไม่ใช่คน ‘ขี้หึง’ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ ‘ขี้หวง’ นะครับ
“พี่หมอ”
เสียงเด็กแดนเรียกผมจากด้านหลัง ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมกำลังยืนจ้องประตูอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว
“ครับ” ผมหันไปตอบ เห็นเด็กแดนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
“มันไม่ใช่อย่างที่พี่หมอคิดนะครับ เอ่อ...ผม คือผม...คือผมกับไอ้เลวนั่น ไม่ได้เป็นอะไรกันนะครับ แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ทำให้บอสถูกทิ้งด้วย ไอ้เลวนั่นมันบังคับผมเอง แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ยังไม่ได้มีอะไรกับมัน มันกำลังจะทำผม แต่คุณหมอกับบอสเข้ามาซะก่อน” เด็กแดนว่า
“มันไม่สำคัญว่าหมอจะคิดอะไรนะแดน มันสำคัญอยู่ที่คนโน่น” มือผมชี้ไปด้านนอก เด็กแดนคงรู้ว่าผมหมายถึงใคร
“แล้วผมจะทำไงดี ผมจะเอาหน้าไปสู้บอสได้ยังไง” คนพูดถอนหายใจหนัก
“ชอบคุณฟ้าเหรอ?” ผมถาม เด็กแดนดูจะอึ้งไปนิด มองหน้าผมอยู่พักถึงได้พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ
“ครับ”
“ชอบมากหรือเปล่า?” ผมถามอีก เดินเข้าไปใกล้
“ไม่รู้ครับ”
“งั้นแปลว่าไม่มาก”
“ก็มากอยู่ครับ” ตอบแล้วก็หน้าแดง
“งั้นก็เลิกคิดชอบซะ เพราะคุณฟ้าเป็นของหมอ” ผมพูดเบาๆ ครับ แต่หนักแน่นและย้ำชัด
“.........” เด็กแดนไม่พูดอะไร แต่สายตาที่มองผม มันลุกวาว คงทั้งโมโหทั้งโกรธ แต่เพราะผมไม่ใช่คุณนนท์มั้ง เจ้าตัวถึงไม่กระโดดมาขย้ำคอ ทั้งที่กำหมัดซะแน่นขนาดนั้น
“คนของหมอ หมอก็ต้องหวงใช่ไหม”
“ผมไม่เชื่อ” สงสารเด็กครับ เมื่อกี้ทำท่าโกรธ มาตอนนี้ทำเหมือนจะร้องไห้
“หมอไม่ได้พูดให้เชื่อ หมอแค่บอกให้รู้ คนที่เขามีเจ้าของแล้ว เราไม่ควรไปยุ่ง” ผมพูดเหมือนสอนครับ แต่ความจริงยอมรับเลยว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่แฟร์คนหนึ่ง เพราะผมไม่อยากมีคู่แข่งเยอะ เลยต้องกันท่าเอาไว้ก่อน
“บอสมีไอ้เลวนั่นแล้ว หมอยังไปยุ่งเลย”
อ้าวว...คำว่า ‘พี่’ หายไปไหนล่ะเด็กแดน
“คุณฟ้าเลิกกับคุณนนท์แล้ว หมอถึงเข้าไปยุ่งได้ แต่ตอนนี้คุณฟ้ามีหมอ แดนก็ไม่ควรเข้ามายุ่ง เข้าใจใช่ไหม?”
“ไม่เข้าใจ” เสียงแข็งซะ
“ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ หมอไม่ได้ว่าอะไร ไม่มีสิทธิ์ห้ามแดนอยู่แล้ว แต่หมออยากบอกว่าคุณฟ้าเป็นของหมอ แล้วหมอก็ไม่มีวันปล่อยให้คุณฟ้าไปเป็นของคนอื่น หรือแม้แต่จะยอมให้คนอื่นมายุ่งกับคนของหมอ”
ถึงคำพูดของผมจะเรื่อยๆ แต่ผมก็สู้ตากับเด็กแดนไม่ถอย ดูๆ แล้วเด็กแดนไม่น่าจะเป็นคู่แข่งผมได้เลย ตัวก็เล็กนิดเดียว จะกอดอะไรคุณฟ้าได้ รึคิดจะให้คุณฟ้ากอด เฮ้อ...คิดผิดแล้วเด็กแดนเอ๋ย อย่างคุณฟ้าน่ะ กอดใครไม่ได้หรอก นอกจากจะให้คนอื่นกอด แล้วคนๆ นั้นก็ถูกจองโดยหมอคนนี้ไปแล้ว
“คุณหมอกับพี่ฟ้า....มีอะไรกันแล้ว” เป็นนานกว่าที่เด็กแดนจะกลั่นกรองคำพูดออกมาได้
“เรื่องนี้หมอไม่ขอพูดนะ”
“.....”
“แดน”
ไม่ใช่ผมครับที่เรียกเด็กแดน แต่เป็นคุณฟ้าที่เปิดประตูเข้ามา หน้าแดง ตาบวม ไม่บอกก็รู้ว่าผ่านอะไรมา เดินเข้ามาแบบไม่สนใจผมเลย ไม่ใช่สิ ไม่ถึงกับว่าไม่สนใจ แวบหนึ่งที่คุณฟ้ากับมองตากัน ก่อนที่จะเดินเลยผมไปหาเด็กแดน ดึงมือให้ลุกขึ้น
“กลับบ้าน”
“แต่....” เด็กแดนเอนตัวมองไปข้างหลังคุณฟ้า มองไปหาคุณนนท์ที่เดินทำหน้ายุ่งเข้ามา
“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”
พูดอย่างนี้แปลว่าอนุญาตให้คุณฟ้าพาตัวเด็กแดนกลับได้แล้วมั้ง
“ใครขอให้มึงมา ไม่ต้องมาเลยนะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง จำเอาไว้ กู...ไม่...อยาก....เห็น...หน้า....มึง!”
ยังไม่สิ้นฤทธิ์อีกนะเด็กแดน ไปยั่วโมโหเขาอีก เดี๋ยวก็ไม่ได้กลับกันพอดี
“งั้นเหรอ?....”
“อย่าเข้ามานะโว้ย”
ว่าแล้วไง คุณนนท์ย่างสามขุมมาหาเด็กแดนซะแล้ว ท่าทางจะยาว แล้วผมจะได้กลับไปนอนกอดคุณฟ้าเมื่อไรกันละเนี้ย
“ไอ้เลว! มึงจะทำอะไรกู.....บอสช่วยผม....ดะ........อื้อ....”
ไม่ต้องสงสัยครับว่าประโยคสุดท้ายมันหายไปไหน ปากดีอย่างนี้ไง ถึงโดนคุณนนท์กระชากตัวเอาไปจูบ ผมหันไปมองคุณฟ้า เลยรู้ว่าคุณฟ้ามองหน้าผมอยู่เหมือนกัน
“พอเถอะนนท์” คุณฟ้าพูดเสียงอ่อนเหมือนเหนื่อยใจกับอะไรบางอย่าง คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี
“จำเอาไว้ว่าอย่าปากเก่งกับพี่ แล้วจำให้ขึ้นใจด้วยว่าเราน่ะเป็นอะไรกับพี่ ที่ผ่านพี่ใจเย็นกับเรามากพอแล้ว ต่อไปนี้ถ้ายังดื้อ ยังพูดไม่เพราะกับพี่อีก อย่าหาว่าพี่ใจร้ายกับเราก็แล้วกัน”
น้ำเสียงที่ขู่เด็ดขาดมาก ทำเอาเด็กแดนหงอย ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะร้องไห้ จนต้องถูกดึงตัวเข้าไปกอดอีกครั้ง คราวนี้ดูอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้เยอะ กอดอยู่นานไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ผมหันไปมองคุณฟ้าเห็นคุณฟ้ายืนนิ่ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ผมห่วงความรู้สึกคุณฟ้านะ วันทั้งวันเจอแต่เรื่องทำร้ายจิตใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากให้คุณฟ้าเจ็บให้พอ
....เจ็บแล้วจะได้จบ
ผมคิดว่าหูผมไม่ได้ผาด เมื่อผมได้ยินคำพูดเบาๆ ของคุณนนท์ที่กระซิบบอกข้างหูของเด็กแดน
‘พี่รักเรานะ...เด็กดื้อ’
ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเด็กแดนคืนให้คุณฟ้า
“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”
“ไม่ต้อง”
ผมโล่งอกครับที่เด็กแดนไม่แผลงฤทธิ์ต่ออีกรอบ
“ป่ะ...กลับบ้าน” คุณฟ้าจับแขนเด็กแดนแล้วพาเดินออกไป ผมที่กำลังจะเดินตามออกไปได้ต้องชะงักครับ เมื่อคุณนนท์รั้งแขนผมไว้
“เสื้อตัวนี้ของผม”
ชี้มาที่เสื้อตัวที่ผมใส่อยู่ ก่อนใส่ผมก็พอรู้ครับว่ามันเป็นของคุณนนท์ เสื้อไซด์ขนาดนี้เป็นของคุณฟ้าไม่ได้หรอก
“วันเกิดผมปีที่แล้วฟ้าซื้อให้ ฉะนั้น....อย่าใส่มันเป็นครั้งที่สอง”
“ครับ” ผมไม่ใช่คนประเภทที่อีกคนแรงมาแล้วต้องแรงกลับ ผมเป็นคนไทยที่รักสงบ ในเมื่อมันเป็นเสื้อของคุณนนท์ เจ้าตัวไม่อยากให้ผมใส่ ผมก็เข้าใจ
“แล้วอีกเรื่อง...”
“......”
มีเรื่องอะไรอีก?
“อย่าอาศัยช่วงที่ฟ้าอ่อนแอแล้วมาทำร้ายเค้า” ดูจากสายตาแล้ว ผมว่าคุณนนท์น่าจะห่วงคุณฟ้า มากกว่าหวง อันนี้ผมก็เข้าใจอีกเหมือนกันครับ อดีตคนรักของคุณฟ้าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เท่าที่ผมเห็นนะ จะดูเลวร้ายก็ตรงที่ทิ้งคุณฟ้าไปนั่นแหละ แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณนนท์ไม่ทิ้งคุณฟ้าไป ผมกับคุณฟ้าจะมีวันนี้ได้เหรอ?
“ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนครับ” ผมยืนยันหนักแน่น ไม่ต้องให้คุณนนท์ขู่หรอกครับ ยังไงผมก็ไม่มีวันทำร้ายคุณฟ้าอยู่แล้ว ผมน่ะ มันเป็นคนรักใครแล้วรักจริง ไม่คิดทำให้เสียใจ
“ผมจะเชื่อ แต่อย่าให้ผมเห็นว่าฟ้าร้องไห้เพราะคุณหมอ ไม่อย่างนั้นผมไม่เอาคุณหมอไว้แน่”
“ครับ”
คุณนนท์คงเป็นคนประเภทชอบขู่ ส่วนผมก็ไม่ใช่คนใจร้อน ไม่ได้โกรธคุณนนท์ด้วยที่ทำเหมือนจะกล่าวหาว่าผมจะทำให้คุณฟ้าเสียใจ อย่างว่าล่ะครับ คุณนนท์ยังไม่รู้จักผม คงยังไม่อยากไว้ใจผมนัก
“ฟ้าเป็นคนน่ารัก”
อันนี้ผมรู้
“ขี้สงสาร”
อันนี้ผมพอเดาออก
“ผมอยากให้คุณหมอระวังหัวใจตัวเองเอาไว้ให้ดี”
ผมเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่า อีกฝ่ายต้องการบอกอะไรผม
“บางที....การที่ฟ้ายอมให้คุณหมอมากขนาดนี้ เป็นเพราะนิสัยขี้สงสารของเค้าเอง ไม่ใช่เพราะสิ่งที่อยู่ข้างในใจเค้า”
ชัดเจนแล้วละครับ ว่าคุณนนท์ต้องการบอกอะไรผม
“ผมรู้”
“แม้แต่ผมเอง ตั้งแต่คบกันมา ผมยังไม่รู้เลยว่าฟ้ารักผมจริงหรือเปล่าหรือแค่ผูกพัน เพราะที่ผ่านมา เค้ามีแต่ผมข้างๆ ตลอดเวลา เค้าไม่มีโอกาสมองใครนอกจากผม ผมเป็นคนตีกรอบล้อมเค้าไว้ จนมันเป็นความเคยชินที่เค้าต้องมีผม จนเค้าคิดว่ามันเป็นความรัก ฝังจำมาจนทุกวันนี้”
“.......”
“บางที....การที่ฟ้าร้องไห้ มันอาจจะเป็นเพราะเค้าคิดว่าจะเสียผมไป แต่ไม่ใช่เพราะผมทิ้งเค้า คุณหมอเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอกใช่ไหมครับ”
“ครับ...แต่ผมจะพยายาม” ใช่แล้วครับ ผมเข้าใจว่าคุณนนท์ต้องการจะบอกอะไรผม
“ระวังเค้าจะแค่สงสาร”
“........”
“แต่เค้าจะไม่รัก”
“.......”
“ความจริง ผมคิดว่าคนที่จะถูกทำร้ายน่าจะเป็นคุณหมอมากกว่า”
มันไม่ใช่คำขู่แล้วครับ ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว คุณนนท์อยากเตือนผมมากกว่า
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ” ผมยิ้ม แต่ใจมันก็อดแฟ่บไม่ได้ คุณนนท์พูดเหมือนตาเห็น
“แต่ผมก็ยืนยันนะครับคุณหมอ ถ้าคุณหมอทำฟ้าร้องไห้ ผมเอาคุณหมอตายแน่ ถึงฟ้าจะไม่ใช่คนรักของผม แต่เค้าเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด หวังว่าคุณหมอจะเข้าใจนะครับ”
“ครับ” ผมเป็นคนพูดน้อยครับ จะให้พูดอะไรมากเกินไปก็ไม่ใช่นิสัย ให้ระยะเวลาพิสูจน์สิ่งที่ผมกำลังคิดทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า
ผมไม่กลัวหรอก....ถ้าต้องเจ็บ
แต่สิ่งที่ผมกลัวคือ...กลัวตัวเองจะพลาดโอกาสที่จะรักคุณฟ้ามากกว่า

>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<
คนเขียนอยากคุย :: ตอนนี้มันเรื่อยๆ ไปหน่อยนะคะ แต่มันก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้จริงๆ อิอิ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน รัก...เชิญครับ นะคะ ^___^ 