"รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw  (อ่าน 512927 ครั้ง)

crazy Y

  • บุคคลทั่วไป
หนึ่ง กะ อิง  ไม่น่าเป็นไปได้ 

ได้ข่าวอิงมีคู่หมั้นแล้วไม่ใช่เหรอ

น้ำฟ้าผิดคาดมาก  อ่านแรกๆว่าเป็นคนพูดน้อย  แต่ตอนนี้ต้องบอกว่า

พูดน้อยต่อยหนัก 555

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
คุณหมอสู้ๆ
ชนะใจฟ้าให้ได้ไวๆน๊า

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
หูยยย
ตอนหลังๆเครียดจริงๆ
คุณฟ้าใจร้าย
และหมอก็น่าสงสารเหมือนเดิม
อิงกะหนึ่ง เฮ้ย ตกใจอ่ะ
ไม้ได้นึกมาก่อนเลยนะเนี่ย
แต่โหดร้ายเกินไปนะ

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 11  ผมยังรักเขา

หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เกิดขึ้น จนกระทั่งผมเข้ามานั่งในรถข้างคุณหมอ มุ่งตรงสู่กรุงเทพ บอกตามตรง ผมเคืองคุณอิงมาก ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าโกรธมากแทบไม่อยากมองหน้า กับเรื่องที่เกิดขึ้นที่คุณอิงทำกับคุณหนึ่งแบบนั้น ชายหนุ่มที่ผมเห็นว่าสุขุม  มีมาด ดูเป็นผู้นำ และเป็นมิตร ทำไมเขาถึงกล้าทำกับคนเป็นลูกน้องได้ มันโหดร้ายมาก ข่มขืนคนที่ไม่มีทางสู้ คุณหนึ่งไม่ใช่ผู้ชายตัวโตอะไรเลย หากเทียบกับคุณอิงแล้วต่างกันมาก ผมถึงบอกว่าคุณหนึ่งไม่มีทางสู้คุณอิงได้แน่ๆ ในเรื่องของพละกำลัง

คุณอิงตัวใหญ่ ทั้งหนา ทั้งสูง สูงและหนากว่าคุณหมอด้วยซ้ำ ส่วนคุณหนึ่งตัวก็แค่นั้นเอง แล้วเรื่องที่ทำกับคุณหนึ่งไปถึงห้าครั้ง ผมแทบไม่อยากเชื่อ คิดไปถึงความเจ็บปวดที่คุณหนึ่งได้รับ แค่ครั้งเดียวของผมก็เจ็บจะแย่อยู่แล้ว แต่นั้นตั้งห้าครั้ง ร่างกายก็ต่างกันซะขนาดนั้น

มันคงจะเจียนตายอย่างที่คุณหนึ่งว่า น้ำตาที่เกือบจะเป็นสายเลือดอย่างที่คุณหนึ่งตะโกนใส่หน้าคุณติน    แต่ความจริงคงอยากซัดมันใส่คุณอิงมากกว่า ผมนึกภาพตามได้เลยว่ามันจะเจียนตายังไง

“เป็นอะไรไปครับ”  คนข้างตัวผมที่ขับรถอยู่หันมาถาม น้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะชะลอรถเข้าจอดข้างทาง

“เปล่าครับ” ผมบอก สูดลมหายใจเข้าไปอย่างยากลำบาก เพราะอาการติดขัดที่จมูก ผลจากน้ำตาที่ไหลเพราะสงสารคุณหนึ่ง

“เห็นอยู่ครับว่าร้องไห้”

คุณหมอว่า หยิบทิซซู่ส่งให้ผม แต่แล้วเปลี่ยนใจ มือใหญ่ถือทิซซู่ซับน้ำตาบนแก้มของผมเบาๆ   ยิ้มของคุณหมอทำให้รู้สึกดีขึ้น  จากส่วนลึกข้างในผมอยากขอบคุณคุณหมอมากที่ไม่ทำกับผมเหมือนที่คุณอิงทำกับหนึ่ง  เพราะมันเป็นครั้งแรกของผม
คุณหมอรู้ ถึงใจเย็นแล้วอดทนกับผมมาก ผมถึงไม่เจ็บปวดเจียนตายอย่างที่คุณหนึ่งเป็น

“ผมสงสารคุณหนึ่ง...”

ผมพูดออกมา ยั้งคำว่าโกรธคุณหมอไว้แค่ในความคิด อย่างน้อยคุณหมอคงรู้สึกไม่ดีหากผมพูดมันออกไป ยังไงคุณหมอก็เป็นเพื่อนคุณอิง เพื่อนต้องอยู่ข้างเพื่อนใช่ไหม จะถูกจะผิดยังไง คุณหมอก็ต้องพยายามเข้าใจในสิ่งที่คุณอิงทำ แต่ผมไม่ใช่เพื่อนคุณอิงไง ผมถึงไม่เข้าใจและไม่พยายามเข้าใจว่าทำไมคุณอิงถึงทำ เหตุผลมาจากอะไร  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร คุณอิงก็ไม่ควรทำ

“อิงมันไม่ได้ตั้งใจ”  ว่าแล้วไง เข้าข้างเพื่อนจริงๆ ด้วย ทั้งที่ผมรู้ว่าคุณหมอต้องเข้าข้างเพื่อน  ผมอดที่จะไม่พอใจไม่ได้

“นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะครับคุณหมอ ถ้าตั้งใจมันจะไม่มากกว่านี้เหรอ”

“อิงอาจจะมีเหตุผลที่ทำลงไป”

“สรุปแล้วยังไงแน่ครับคุณหมอ ที่คุณอิงทำไปเพราะไม่ตั้งใจหรือทำไปเพราะมีเหตุผล  หรือเพราะคุณอิงเห็นคุณหนึ่งไม่ใช่คน”  ประชดครับ แก้ตัวแทนเพื่อนอยู่ได้

“โธ่..คุณฟ้าครับ อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ  อิงมันไม่ใช่คนแบบนั้น  อิงมันรักหนึ่งนะครับ  ที่ผ่านมามันตามใจหนึ่งมาก คุณฟ้าไม่รู้หรอกครับ”

“ใช่สิครับ ผมจะรู้ได้ไง ผมไม่ใช่เพื่อนของคุณอิงนี่ครับ   จะได้รู้จักนิสัยด้านดีของคุณอิงที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น  ผมมันก็แค่คนที่เดินเข้าไปเจอผู้ชายคนหนึ่งตะโกนบอกคนทั้งห้องว่าเขาถูกข่มขืน  โดนกระทำเหมือนไม่ใช่คน  อ้อนวอนขอร้องให้หยุด ร้องไห้จนน้ำตาจะเป็นสายเลือด  อีกคนก็ไม่สนใจ ทำราวกับเขาไม่ใช่คน”

พูดแล้วน้ำตามันไหลเลย คุณหมอต้องดึงทิซซู่มาซับน้ำตาให้อีกรอบ  อารมณ์ตอนนี้มันทั้งโมโห ทั้งโกรธ เข้าใกล้คำว่าเกลียดอีกนิด มันเลยพาลเอากับคุณหมอไปอย่างห้ามไม่อยู่

“แล้วที่บอกว่ารักน่ะ  คนรักกันเค้าทำกันอย่างนี้เหรอครับคุณหมอ  รักมากเลยต้องข่มขืนใจเขางั้นเหรอ?” พูดไปก็สะอื้นไปครับ น้ำม่งน้ำมูกไหลเลย รอให้คุณหมอเช็ดให้ก็ไม่อยาก หยิ่งครับ  เลยดึงทิซซู่ขึ้นมาเช็ดเองดีกว่า

“โธ่...คุณฟ้า มันไม่ใช่อย่างนั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วอย่างไหนครับ”

“โธ่...”

“ไม่ต้องมาโธ่ครับ หรือคุณหมอเคยทำแบบคุณอิง”

“เปล่านะครับ เปล่าๆๆ  ผมไม่เคยปล้ำใคร  คุณฟ้าอย่าใส่ร้ายผมสิครับ”

“ผมไม่ได้ใส่ร้าย  ผมพูดตามที่คิด”

“โธ่...คุณฟ้าครับ อย่าคิดสิครับ สาบานเลยก็ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยจับใครมาปล้ำเลยครับ ด้วยเกียรติของหมอรักษาสัตว์เลยครับ”

“แต่เพื่อนคุณหมอทำ”

“อิงมันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ”

“แต่ก็ทำ”

“มันมีเหตุผลที่ทำ เชื่อผมนะครับ อิงทำอะไรลงไป มันรับผิดชอบอยู่แล้ว  ผมก็เหมือนกัน ทำอะไรลงไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ”  ไหงเปลี่ยนเรื่องได้เร็วแท้ครับคุณหมอ อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่ากำลังคิดจะพูดอะไร

“ไม่เกี่ยวกัน”

“เกี่ยวครับ”

“ไม่เกี่ยว”

“เกี่ยวสิครับคุณฟ้า”

“ไม่เกี่ยว เรื่องของคุณอิงกับคุณหนึ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณหมอกับผมเลยสักนิด อย่าเอามารวมกัน”  เพราะผมไม่ได้ถูกข่มขืน  เพราะผมตั้งใจให้เกิดต่างหาก แล้วเพราะผมไม่ต้องการความรับผิดชอบใดๆ      แม้แต่น้อยจากคุณหมอ  ต่อให้คุณหมอร่ำร้องให้ผมรับผิดชอบตัวคุณหมอ ผมก็ไม่ทำครับ  ผมคิดต่อในใจ ยังไม่กล้าพูดไปตรงๆ ไม่อยากทำร้ายคุณหมอด้วยคำพูดของตัวเอง

“ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แต่เรื่องเมื่อคืน ผมจะรับผิดชอบนะครับ”

“ไม่ต้อง” ชักฉุน พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว

“ต้องสิครับ ผมรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมทำเสมอ”

“แต่ผมไม่ต้องการ”

“คุณฟ้า” น้ำเสียงเว้าวอน

“ผมว่าก่อนคุณหมอจะมาเรียกร้องขอรับผิดชอบตัวผม  ผมว่าให้คุณหมอไปบอกคุณอิงให้รับผิดชอบคุณหนึ่งก่อนเถอะ”  เริ่มไม่อยากมีหางเสียงคงๆ ครับๆ อะไรมันแล้ว

เพราะผมโกรธครับ  โกรธทั้งตัวคุณหมอที่พูดไม่รู้เรื่อง  โกรธคุณอิงเพื่อนของคุณหมอด้วย แต่คุณอิงไม่อยู่ ผมเลยพาลได้แต่คุณหมอคนเดียว  ไม่อยากเห็นหน้าคุณหมอ  เห็นแล้วหงุดหงิด ดูต้นไม้ใบหญ้าข้างทางยังดีซะกว่า

“โกธรผมเหรอครับ”

คำถามตรงกับคำตอบของผมเลยครับ แต่ผมไม่ตอบ

“ผมขอโทษ”

“คุณหมอไม่ผิดนี่ครับ”  ความจริงผิดเต็มๆ ผมพูด ยังไม่ยอมหันกลับมาคุยด้วย

“ไม่ผิด แต่คุณฟ้าก็โกรธ”

“ไม่ได้โกรธครับ” ผมหันกลับมาบอก หน้าคุณหมอเหมือนไม่เชื่อ แน่ล่ะ หน้าผมมันฟ้องว่าโกรธอยู่นี่น่า อารมณ์โกรธ อารมณ์โมโหของผมมันหายกันได้ง่ายที่ไหน   ผมน่ะเป็นคนโกรธยาก แต่อย่าให้โกรธขึ้นมาล่ะ มันจะเป็นฟืนเป็นไฟทันที

“แต่คุณฟ้าโกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“คุณฟ้าโกรธ”

“บอกว่าไม่ได้โกรธ” โกรธครับ แต่ปากแข็ง

“คุณโกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“คุณโกรธ”

เฮ้อ~~

ผมระบายลมหายใจเหมือนคนที่พยายามจะทำให้ใจเย็นลง  หันหน้าออกไปมองต้นไม้ใบหญ้าอีกครั้ง สงบสติอารมณ์ไปสองอึดใจ   ใจเย็นขึ้นมานิด ถึงได้หันกลับมาคุยกับคนในรถอีกครั้งอย่างใจเย็น

“ครับ ผมโกรธ แต่ตอนนี้ผมหายโกรธแล้ว พอใจยัง แล้วก็ไปได้แล้วครับ”  คุณหมอยิ้มออกมาได้ เปลี่ยนหน้าได้ไวจริงๆ  คงเห็นว่าน้ำเสียงของผมมันลดระดับลงบ้างแล้ว แล้วมองมาที่มือบนตักผมทำไม อ๋อมองขวดนน้ำในมือผม (ผมถือค้างไว้แต่แรกแล้วครับ) สายตานี่ก็ประหลาด มันระยิบระยับแพรวพราวจนหน้าหมั่นไส้

“หิวน้ำ” อยากน้ำว่างั้น

ผมยื่นขวดน้ำในมือให้คุณหมอ แค่หิวน้ำ อยากดื่มน้ำ ทำไมต้องทำหูตาแพรวพราวขนาดนั้นด้วย ผมไม่เข้าใจ มาเข้าใจอีกทีก็ประโยคต่อมาของคุณหมอที่ว่า

“ป้อนหน่อย”

ผมมองหน้าคนพูด ‘ป้อนหน่อย’  แล้วเลิกโกรธได้สนิทแต่มันดันหมั่นไส้แทนนี่สิครับ ท่าทางก็ว่าน่าหมั่นไส้แล้วนะครับ  น้ำเสียงเนี้ย ยิ่งน่าหมั่นไส้มากกว่าอีกหลายเท่า

“ดื่มเองครับ”  ผมยื่นขวดน้ำให้อีกครั้ง คุณหมอไม่ยอมรับ แถมทำหน้างอน ไม่ได้น่ารักเลยสักนิด อยากหากระจกให้ส่องครับ  ผู้ชายตัวใหญ่ทำหน้างอน  มันไม่ได้น่ารักเลยจริงๆ

“ป้อนนะครับ”

“ทำไมครับ”

“วันก่อนยังป้อนเลย”

“วันนั้นคุณหมอขับรถ”

“ตอนนี้ก็ขับ”

“แต่ตอนนี้รถจอดอยู่”

“ป้อนหน่อยนะครับ”

“ไม่ครับ” ผมย้ำเสียงหนัก ไอ้อาการโกรธมันกำเริบขึ้นมาทันที เพิ่งหายไปเมื่อกี้  โดนคุณหมอยั่วให้มันมาอีกจนได้

ผมไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นนะครับ  ก่อนหน้านี้ขามา ผมยังเต็มใจป้อนน้ำถึงปากคุณหมออยู่เลย เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกหรือหนักหนาอะไร  คุณหมอขับรถ ดื่มน้ำเองไม่สะดวกผมก็ช่วย  ไม่ได้คิดอะไร มาตอนนี้ไม่คิดไม่ได้ครับ  เพราะการกระทำของคุณหมอมันไม่บริสุทธิ์ใจ

 ไม่ใช่ไม่รู้นี่ครับ  ว่าคุณหมอกำลังคิดอะไรกับผม  คุณหมอกำลังอ้อนผม  กำลังพยายามใช้สิทธิ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  มันคล้ายกับว่าเราสองคนกระโดดข้ามขั้นตอนไปไกลกันมาแล้ว  แต่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะโอนอ่อนไปด้วยล่ะ คนเรามีอะไรกันไปแล้ว ใช่ว่าจะต้องเป็นของกันและกันตลอดไปนี่น่า มันก็เรื่องอย่างว่าที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรัก  มีแค่ตัณหาเป็นตัวกำหนดแล้วผลักดันให้ดำเนินไป ตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ที่มีความต้องการอยู่เหนือเหตุผล

ระหว่างผมกับคุณหมอ เรื่องที่เกิดขึ้น  มันไม่ได้เกิดจากความรักเสียหน่อย...

สำหรับผม ความรักเป็นเรื่องสำคัญครับ ผมอยากมีชีวิตอยู่ด้วยความรัก อยากอยู่กับคนที่ผมรักไปตลอดชีวิต ไม่ใช่คว้าใครคนไหนก็ได้มาร่วมใช้ชีวิตด้วย โดยที่ไม่ได้รัก ผมทำไม่ได้หรอกและไม่มีวันทำอย่างเด็ดขาด

ผมไม่ได้รักคุณหมอ แล้วผมจะใช้ชีวิตต่อไปกับคุณหมอได้ยังไง...

คุณหมอหน้าจ๋อยกว่าเดิม คงไม่อยากดื่มน้ำแล้ว ถึงได้หันหน้าหนีผม เข้าเกียร์พารถแล่นไปข้างหน้าตามทางมุ่งสู่กรุงเทพ

ระหว่างทางเงียบ ชวนอึดอัดกว่าตอนมามาก เราไม่ได้พูดอะไรกัน คุณหมอเงียบ ผมก็เงียบ ทิวทัศน์ด้านนอกสวยงามเพราะความเขียวขจีเช่นเดียวกับตอนขามา  แต่ผมกลับไม่มีอารมณ์นั่งมองมัน ก็เพราะอะไรล่ะ มันเพราะความเงียบชวนอึดอัดนี่น่ะสิ

เฮ้ออออ...

ผมใจร้ายเกินไปหรือเปล่า?

ผมไม่ใช่คนใจร้ายสักหน่อย  แค่ไม่อยากเอาใจคนที่มีความคิดไม่บริสุทธิ์กับผมต่างหาก ถ้าผมเอาใจคุณหมอก็เท่ากับผมให้โอกาสคุณหมอ  เอาเรื่องเมื่อคืนมาผูกมัดผมน่ะสิ  ผมไม่ยอมหรอก ผมยังรักนนท์อยู่ ยังรออย่างมีความหวังว่านนท์จะกลับมาหาผม

ผมยังมีหวังเพราะผมยังรักนนท์ไงครับ...

ผมหวังว่านนท์จะกลับมา

ความรักทำให้ผมมีหวัง


แต่ผมก็ไม่อยากใจร้ายกับคุณหมอที่ขับรถพาผมมาและกำลังขับพาผมกลับ แค่ ‘ป้อนน้ำ’ มันไม่ได้ยากเย็นเข็ญใจอะไรมาก แค่เปิดฝา ใส่หลอด ยื่นเข้าไปใกล้ปาก รอจนดูดจนเสร็จ ก็เก็บคืนเท่านั้นเอง เหมือนที่ผมทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะครับ

“น้ำครับ”  ผมจับหลอดดูดไปจอที่ปากคุณหมอ ทำคุณหมอสะดุ้งนิดหนึ่ง คงไม่คิดว่าผมจะเปลี่ยนใจ รถที่แล่นช้าอยู่แล้วยิ่งช้าลง ก่อนจะชะลอจอดข้างทางอีกครั้ง

“ขอบคุณครับ”  คุณหมอบอก เสียงทุ้มนุ่มชวนฟัง ตาพราวระยับท้าสายตาผมที่จ้องตอบไม่ยอมหลบ  ถ้าหลบก็แปลว่าผมหวั่นไหวสิครับ

“หิวน้ำไม่ใช่เหรอครับ” ผมเตือน ไม่อยากเล่นจ้องตานานเกินไป  ไม่ได้หวั่นไหวนะครับ ใจผมยังแข็งพอ ทนทานกับสายตาของคุณหมอได้ดี  แค่อยากกลับไปถึงกรุงเทพเร็วๆ ต่างหาก

“เขาว่าคนน่ารัก มักใจร้าย”  คุณหมอพูด จะพูดเพื่อ?

“ไม่น่ารักก็ใจร้ายได้ครับ ถ้ายังจะลีลาเยอะ”  ผมพูดจบ คุณหมอหลุดขำ ไม่เข้าใจว่าขำทำไม หน้าตาตอนผมพูด มันจริงจังนะครับ ไม่ได้ทำหน้าตลกให้คุณหมอขำ

“ขำอะไรครับ?”

“ไม่มีไรครับ”

“ไม่มีก็ดี แล้วนี่จะ....” ผมยื่นขวดน้ำใกล้ปากคุณหมอ

“ครับๆ”

คุณหมอคงเห็นท่าไม่ดีครับ ผมไม่เล่นด้วย เลยก้มหน้าดูดน้ำจากหลอดดูที่ผมจับยื่นให้ แปลกนะครับ คุณหมอก็จอดรถไว้ข้างทางแล้ว ทำไมผมยังจับหลอดบริการน้ำถึงปากคุณหมอด้วย ไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจไปกว่านั้นคือ ทำไมผมถึงยอมปล่อยให้คุณหมอกุมมือของผมที่ถือขวดน้ำอยู่ได้ เพราะมันอุ่นหรือไงนะ

“ยิ้มอะไรครับคุณหมอ ส่วนมือน่ะ ปล่อยได้แล้วครับ”  หมั่นไส้ครับ ดื่มน้ำจนหมดขวด ยิ้มตาพราว ไม่ยอมปล่อยมือผมอีก จนผมต้องดึงออกแต่ก็กว่าจะดึงได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน คนอะไรแรงเยอะซะมัด

“เมื่อคืนยังได้เลย” ดูคุณหมอตอกกลับผมครับ ตอกกลับได้น่าใช้ขวดน้ำเปล่าฟาดหัวจริงๆ

“นั่นมันเมื่อคืน แต่ตอนนี้ไม่ใช่”

“เมื่อคืนคุณฟ้าน่ารักมากเลยนะครับ”  อืม...ยังจะพูดอีก จะย้ำเพื่อ?  แต่ขอโทษคิดว่าผมจะอายม้วนละก็ คิดผิดครับ

“หรือครับ ผมไม่เห็นจำได้”

“แต่ผมจำได้  จำได้ทุกอย่างที่เป็นคุณฟ้า”

“แต่ผมจำไม่ได้”  ผมจ้องตาที่แพรวพราวระยิบระยับของคุณหมอ ราวกับจะชวนผมไปท่องยามค่ำคืนนั้นอีกครั้ง  เหอะ...หวังมากไปนะครับคุณหมอ  เมื่อคืนมันก็แค่ผมหาสติตัวเองไม่เจอ ฟุ้งซ่านไปมากเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้สติผมอยู่ครบ

“งั้นผมช่วยนะครับ เผื่อคุณฟ้าจะจำได้” แทบจะทันทีที่พูดจบ ผมถอยหนีใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ชนิดทันทีทันใด  แทบจะจมไปกับประตูรถแล้วเมื่อคุณหมอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ปลายจมูกเห็นอยู่ใกล้ ปากก็ใกล้พอกัน

ผมหลับตาลง กลั้นหายใจ สองมือผลักอกหนาของคุณหมอไว้สุดกำลัง มันคงช่วยได้หรอก เมื่อปากผมกำลังถูกบุกรุก ลิ้นร้อนๆ กำลังเลาะชิมกับกลีบปากของผม และมันยังพยายามจะเข้ามาเข้าในให้ได้ ผมพยายามเม้มปากไว้แน่น ไม่ยอมง่ายๆ

“ใจร้าย”  ดูเถอะครับ ผมไม่ยอมก็หาว่าผมใจร้าย พอผมลืมตา อ้าปากจะด่ากลับกลายเป็นว่าผม...ถูกหลอก เสียทีคุณหมอจนได้

“แล้วใคร...ชะ....อื่ออออออ”  คุณหมอเจ้าเล่ห์หลอกผมให้เปิดปากด่า แล้วก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้ามาบุกรุก พันเกี่ยวเอากับสิ้นของผม ที่พยายามจะหลบหนีแต่ก็จนมุม

ไอ้หมอบ้า...ทำผมเคลิ้ม

ผมแค่เคลิ้มนะครับ ไม่ได้ให้ความร่วมมือ คุณหมอฝืนใจผม บังคับลิ้นของผมให้ตอบสนองอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พะ...พะ...พอได้แล้ว”  ผมกลั้นใจ รวบเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี  ผลักอกหนาให้ถอยห่าง มันง่ายขึ้น เพราะคุณหมอพอใจกับผลงานตัวเองแล้วต่างหาก

คนบ้า ทำเอาผมแทบขาดอากาศหายใจ ยังจะมีหน้ามายิ้มอีกนะ   ยิ้มได้กวนมาก!! ขอบอก!

“ไม่ต้องมายิ้ม” ผมชี้หน้าครับ ไม่ได้โกรธจริงจัง ทำไมไม่รู้ ก็มันไม่โกรธจริงๆ นี่ครับ

“ครับ”  คงพอใจแล้วมั้งครับ ถึงได้ยิ้มอารมณ์ดี

“อย่าทำอีก ผมไม่ชอบ”  ถึงไม่โกรธก็ไม่ได้แปลว่าชอบนะครับ

“ไม่รับปากครับ”

“คุณหมอ!”

“คุณฟ้า~~~”

“....................”

ผมพูดไม่ออกครับ ไม่ได้โกรธจนอยากจะด่า เลยไม่รู้จะด่าอะไรคุณหมอ เงียบดีกว่า ไม่อยากต่อปากต่อคำ รู้สึกว่าคุณหมอเป็นคนพูดน้อย (มาก) ที่พูดไม่รู้เรื่อง   ผมว่าผมหน้าด้านที่ไปยั่วคุณหมอเมื่อคืน แต่ผมว่า คุณหมอหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทนกว่าผมเยอะ

“จะไปได้หรือยัง ผมยังอยากกลับกรุงเทพอยู่นะครับ”  เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ขืนนั่งให้คุณหมอจ้องอยู่อย่างนี้ คงไม่ได้กลับมันแล้วครับ

“ครับ” จะกว้างไปไหนครับคุณหมอ ยิ้มของคุณหมอน่ะ  ผมละอ่อนใจ แต่ก่อนที่คุณหมอจะออกรถ โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมาเสียก่อน

02-…………………..

เบอร์ที่ร้าน

“ว่าไง แดนหรือยีนเนี้ย” ผมรับแล้วถามตามความเคยชิน คนที่ใช้เบอร์ของร้านโทรมาหาผม มันก็มีอยู่แค่สองคนแหละครับ ไม่เด็กแดนก็สาวยีน

“ยีนค่ะพี่ฟ้า”

“ที่ร้านยุ่งมากเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ เนี้ยพี่กำลังจะกลับพอดี น่าจะอีกสามชั่วโมงคงถึง”  ทั้งที่มันน่าจะใช้เวลาน้อยกว่านี้   ถ้าคนขับรถไม่ใช่คุณหมอที่ขับได้ช้ามากเหมือนขับอยู่บนถนนกรุงเทพ แถมยังขับๆ จอดๆ อีก

“ร้านไม่ยุ่งเท่าไหร่ค่ะพี่ฟ้า แต่มีเรื่องเกิดขึ้น” เสียงของยีนไม่ดีเท่าที่ควรเลย ผมชักใจคอไม่ดีขึ้นมา หรือว่าร้านถูกงัด

“ร้านถูกงัดเหรอ?”  ร้านน่ะไม่ห่วงเท่าไหร่หรอก ผมห่วงแดนมากกว่า รายนั่นนะพักอยู่ชั้นบนของร้าน

“เปล่าค่ะพี่ฟ้า แต่ว่า.....” ยีนเหมือนลำบากใจที่จะพูด

“เปล่าแล้วอะไร”

“คือ...คือ....”

“เอาแต่คือ พี่จะรู้ไหม” ผมร้อนใจครับ ไม่ใช่โจรงัดร้านก็ดีไป แต่เรื่องที่เกิดมันก็คงเลวร้ายไม่ต่างกันมาก ไม่งั้นยีนคงไม่อึกอักแบบนี้

“มีเรื่องเกิดที่ร้านสองเรื่องค่ะพี่ฟ้า  พี่ฟ้าอยากฟังเรื่องไหนก่อน เรื่องแรกหรือเรื่องที่สอง” ถามมาอย่างนี้คงไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ละมั้ง

“เรื่องแรกก่อนก็ได้” ผมเบาใจขึ้นเยอะแล้วครับ

“ยีนเล่าเรื่องที่สองก่อนดีกว่าค่ะ” เอาเข้าไปนะยีน

“ว่ามา”

“คือว่าพี่นนท์....”

“นนท์เป็นอะไร” เริ่มหนักใจอีกแล้ว เรื่องอะไรเกี่ยวกับนนท์  ถึงขั้นที่ยีนต้องโทรมาบอกผม ทั้งที่ยีนไม่ค่อยชอบหน้านนท์เท่าไหร่ คงไม่อยากเอาเรื่องอะไรเกี่ยวกับนนท์มาบอกผม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

“พี่นนท์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“พี่นนท์มาที่ร้าน”

“นนท์มาหาพี่เหรอ”  ผมดีใจครับ นนท์มาหาผม หรือว่านนท์จะมาขอคืนดี ผมดีใจมากครับ ยิ้มจนแก้มจะฉีกแล้วเนี้ย

“น่าจะคะ  แต่เรื่องที่ยีนจะบอกพี่คือว่า พี่นนท์มาที่ร้านแล้วรับพนักงานสองคนเข้าทำงานในร้านค่ะพี่ฟ้า ยีนไม่รู้จะทำยังไง  บอกว่าให้รอพี่ฟ้าก่อน แต่พี่นนท์ไม่สนใจ  เค้าบอกว่าถ้าพี่ฟ้าไม่จ่ายเงินเดือนให้ เดี๋ยวพี่เค้าจะจ่ายให้เอง”

“แล้วนนท์มายุ่งอะไรด้วย ไหนพี่ขอคุยกับนนท์หน่อย”  ผมรักนนท์ก็จริง แต่ผมก็ไม่ชอบให้นนท์มาตัดสินใจอะไรแทนผม เรื่องนี้ก็เหมือนกัน มารับคนเข้าทำงานแทนผมได้ไง ลูกน้องของผม  ผมต้องเลือกด้วยตัวเองสิครับ จะได้รู้ว่าสามารถทำงานด้วยกันได้หรือเปล่า 

“พี่นนท์ไปแล้วค่ะ”

“ไอ้บ้านนท์นี่นะ ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว”  นิสัยนนท์ก็แบบนี้แหละครับ เอาแต่ใจตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ

“จะเอายังไงดีคะ น้องเค้ายังอยู่ที่นี่อยู่เลย”  ยีนคงหมายถึงคนที่มาสมัครงงาน
 
“ยีนบอกเขาไปนะว่า เดี๋ยวพี่กลับไปสัมภาษณ์ให้รอก่อน ยังไม่ต้องทำอะไร”  ความจริงผมก็อยากจะรับคนเพิ่มครับ  แต่รับทีเดียวถึงสองคนคงไม่ไหวหรอก กะว่าเดี๋ยวกลับไปจะทดลองงานดูก่อน ขอเลือกแค่คนเดียว  ส่วนคนที่ไม่ผ่านผมคงจะให้ค่าเสียเวลาไปบ้าง สงสารน่ะครับ ถูกหลอกให้ดีใจเก้อ

“คงไม่ได้แล้วล่ะค่ะพี่ฟ้า ตอนนี้น้องเค้าทำงานแทนแดนไปแล้ว” ยีนบอกเสียงเบาเหมือนกลัวถูกผมดุ

“ทำงานแทนแดน หมายความว่าไง”

“ก็เรื่องนี้ค่ะเป็นเรื่องที่สอง แดนมีเรื่องกับพี่นนท์ แล้วก็โดนลากไปแล้วค่ะพี่ฟ้า”

“ห๊า มันเกิดเรื่องอะไร แดนไปทำอะไรนนท์”  ผมร้อนใจครับ นนท์กับแดนไม่ถูกกัน นนท์ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้อะไรกับแดนมาก เป็นแดนที่ตั้งท่าเกลียดขี้หน้านนท์

“แดนสาดกาแฟใส่หน้าพี่นนท์ค่ะ พี่นนท์โกรธ ลากแดนออกไปเลย ยีนเป็นห่วงแดน พี่ฟ้าโทรหาพี่นนท์ได้ไหมคะ ยีนโทรหาแดนไม่รับ  สงสัยโดนพี่นนท์ยึดโทรศัพท์ โทรหาพี่นนท์ พี่นนท์ก็ไม่ยอมรับ ยีนจะโทรหาพี่ป้องก็กลัวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”    ป้องพี่ชายของแดนอีกคนครับ

“พี่ฟ้าคะ ทำไงดี ยีนห่วงแดน แล้วยีนก็ไม่ไว้ใจพี่นนท์ด้วย กลัวพี่นนท์จะทำอะไรแดน”

“นนท์คงไม่ทำอะไรแดนหรอก” ผมเชื่อว่างั้นนะครับ นนท์เป็นผู้ใหญ่พอนะผมว่า คงไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายแดนหรอก อาจจะแค่พาไปเคลียร์กันนอกร้าน

“แต่พี่ฟ้าคะ คือ...เอ่อ...ยีนไม่อยากบอกพี่ฟ้านะคะ แต่ยืนว่ายีนต้องบอกแล้วล่ะค่ะ คือยีนรู้สึกแปลกๆ กับสายตาพี่นนท์ที่มองแดน ยีนว่ามัน...เอ่อ....มัน....”

“มันอะไร?”

“มันเหมือนมีอะไร”

“ยังไง” ผมลุ้นมาก มีอะไรที่ผมไม่เห็นแต่ยีนเห็น

“เหมือนพี่นนท์จะชอบแดน” เสียงยีนเบามาก แต่ผมได้ยินชัด แล้วหูมันก็อื้อ ตามันก็ลายไปหมด ไม่อยากเชื่อเรื่องที่ยีนบอก

“แน่ใจเหรอยีน” ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก คิดว่าถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติแล้วนะ แต่ยีนกลับไม่ได้ยิน

“พี่ฟ้าคะ ฟังยีนอยู่หรือเปล่า พี่ฟ้า พี่ฟ้า”

“แค่นี้ก่อนนะยีน ดะ...เดี๋ยวค่อยคุยกัน”  ผมพยายามพูดให้ดังกว่าเดิม กลัวยีนจะไม่ได้ยิน มันยากเย็นครับกว่าจะตะโกนบอกยีนไปได้  หากผมก็รู้ครับเสียงมันก็คงได้อยู่แค่ลำคอ  ไม่หลุดออกมาเป็นถ้อยคำที่ชัดเจนนัก

“พี่ฟ้า ยีนไม่ได้ยิน” เสียงยีนว่ามา ผมจนปัญญาที่จะตอบ หาเสียงของตัวเองไม่เจอ ลำคอมันตีบตัน หายใจยิ่งติดขัด  ยังดีที่ยังคงมีแรงเหลือที่จะถือโทรศัพท์ไว้แนบใบหู ฟังเสียงยีนที่เฝ้าบอกผมว่า...

“พี่ฟ้า ยีนไม่ได้ยินเลย พี่ฟ้า พี่ฟ้าได้ยินยีนพูดไหม พี่ฟ้า....สงสัยสัญญาณไม่ดีแน่ๆ เลย แล้วใครจะช่วยแดนได้ แดนเอ้ยแดน ไม่น่าเลย........”

ตุ๊ด...ตุ๊ดดดดด

วางสายไปแล้วครับ ยีนวางสายไปแล้ว แล้ว...แล้ว...แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ถ้าเรื่องที่ยีนพูดเป็นความจริง  ยีนไม่ได้คิดไปเอง นนท์ชอบแดน แล้วผมล่ะ ความรักของผมล่ะ ความหวังของผมล่ะ มันหายไปแล้วใช่ไหม?

ผมกำลังหมดหวังแล้วใช่ไหม?

ถ้าคนที่นนท์ทิ้งผมไปหาเขา คนๆ นั้นคือแดน

แล้วผม แล้วผมจะกล้าโกรธ กล้าเกลียดคนๆ นั้นได้ไหม

แดนไม่ใช่แค่เด็กในร้าน ไม่ใช่ลูกน้องตัวดีของผม แต่แดนเป็นน้องที่ผมคิดว่าเป็นน้องจริงๆ  ผมรักแดน เหมือนที่พี่ๆ ทุกคนของแดนรักแดน รักและหวังดีกับแดน   แต่ตอนนี้แดนคือคนที่แย่งความรักของนนท์ไปจากผม

แดนผิดเหรอ?

มันคือคำถามที่มีคำตอบอยู่แล้ว แดนจะผิดอะไร ในเมื่อแดนอยู่ของแดน แทบจะเกลียดขี้หน้านนท์ด้วยซ้ำ แดนรักผมมากแค่ไหนก็คงเกลียดขี้หน้านนท์เท่านั้น ข้อนี้ผมรู้ดี

แต่...

แต่...

แต่....

นนท์ก็เลือกแดน เลือกรักแดนมากกว่าผม นนท์ทิ้งผมไปเพราะต้องการจริงจังกับแดน การกระทำของนนท์มันแสดงออกว่าอย่างนั้น   ถ้าเป็นแค่ความหลง อารมณ์ชั่ววูบ นนท์คงไม่บอกเลิกผมเพื่อไปหาแดน เหมือนทุกครั้งที่ต่อให้นนท์ไปมีใคร มีอะไรกับใคร  สุดท้ายนนท์ก็เลือกผม ไม่เคยจะเอ่ยปากขอเลิกกับผมเลย

ครั้งนี้กับแดน มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย...



“คุณฟ้า”

มีคนเรียกชื่อผม คุณหมอเรียกชื่อผม  ผมถึงรู้ตัวว่ากำลังร้องไห้  ไม่มีเสียงสะอื้น มีเพียงน้ำที่ไหลจากดวงตาสู่ผิวแก้ม มือใหญ่เอื้อมมาเช็ดมันออกจากแก้มทั้งสองข้าง  ไม่ได้ใช้ทิซซู่  ผมอยากจะยิ้มตอบความห่วงใยที่ส่งมาทางสายตาและมืออุ่นของคุณหมอ ทว่าผมฝืนยิ้มไม่ได้เลย ไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ ที่จะยิ้มออกมา แค่จะให้ปากขยับ ผมยังทำไม่ได้เลย

“ไม่ร้องนะครับ”

ไม่รู้ว่าคุณหมอรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม  เรื่องที่ได้ยินก็มีเพียงจากปากผมคนเดียว ส่วนปลายสายนั้นคุณหมอไม่มีวันรู้ได้ ว่าเนื้อหาทั้งหมดส่งมาหาผมยังไงบ้าง ทำไมถึงทำให้ผมร้องไห้

ผมใช้อกของคุณหมอเป็นที่รองรับน้ำตา เมื่อคุณหมอดึงผมเข้ามากอด รัดแน่นขึ้น เหมือนจะเพิ่มกำลังใจให้กับผม หรือไม่ก็ต้องการบอกกับผมว่า ผมยังมีคุณหมอนะ

แต่...

แต่...

แต่...คุณหมอไม่ใช่นนท์ ผมอยากให้นนท์กอดปลอบผม ไม่ใช่คุณหมอ   มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด อ้อมกอดของคุณหมอกับอ้อมกอดของนนท์

ผมอยากให้นนท์กอดปลอบ แล้วบอกว่าสิ่งที่ยีนพูด ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีวันที่มันจะเป็นไปได้ นนท์ไม่ได้รักแดน นนท์รักผม...

ผมอยากได้ยินคำพูดพวกนี้ต่างหาก ไม่ใช่คำพูดจากคุณหมอที่ว่า...

“อย่าร้องนะครับ”

ผมจะร้อง จะร้องให้ขาดใจตายไปเลย

“คุณฟ้ายังมีผมนะครับ”

ผมไม่ต้องการคุณหมอ คนเดียวที่ผมต้องการคือนนท์

คนเดียวที่ผมต้องการคือนนท์ คุณหมอเข้าใจไหมครับ คนๆ นั้นไม่ใช่คุณหมอ คนที่ผมรักไม่ใช่คุณหมอแต่เป็นนนท์

ผมได้แต่บอกประโยคนั้นซ้ำซากอยู่ในใจ ไม่ใช่เพราะห่วงความรู้สึกคุณหมอ แต่เป็นเพราะผมไม่มีแรงแม้แต่จะพูดออกอะไรออกมาต่างหาก

“นิ่งนะครับ”

ผมไม่ได้เชื่อคุณหมอ ผมแค่นิ่ง นิ่งเพื่อจะฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ว่ามันยังคงเต้นอยู่หรือเปล่า?  คุณหมอยังคงปลอบผมต่อไปโดยไม่รู้อะไรเลยว่าผมทำอย่างที่คุณหมอพูดไม่ได้สักอย่างเดียว

“ลืมเขาไปเถอะครับ”

คุณหมอบอกให้ผมลืม ผมอยากเถียงว่าจะลืมได้ยังไง  นนท์คือคนที่ผมรัก ผมจะลืมคนที่ผมรักได้ยังไง  กี่ปีที่ผมมีนนท์อยู่ข้างตัวมาตลอด  มันไม่ง่ายเลยที่จะลืมนนท์ ให้ตายยังไง ผมก็ลืมนนท์ไม่ได้

ผมร้องไห้เงียบๆ ไม่มีเสียง มีเพียงน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสายบนอกของคุณหมอ  มือใหญ่โอบกอดผมแน่นขึ้น ตามแรงสะอื้นที่หนักขึ้นเรื่อยๆ   ผมอึดอัดกับอ้อมกอดของคุณหมอ แต่ไม่เท่ากับภายในใจที่มันแทบระเบิดอยู่ตอนนี้

ทำไมต้องเป็นแดนด้วย?


>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<



ปล  บวก 1 ให้ทุกเม้นท์แทนคำขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2011 22:05:36 โดย Aphrodite »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ฟ้าเลิกสะกดจิตตัวเองเถอะ ฟ้าไม่ได้รักคนคนนั้นแล้วล่ะ ธ่อ คุณหมอ จะไหวมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
>>>>>>Still NOT Happy<<<<<<

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
จุกอก ไม่น่าเป็นน้องแดนเลย

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
สงสารคุณหมอ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ทุกทีด้วย
เรื่องชักจะพันกันไปกันมาจนยุ่งแล้วนะเนี่ย
แถมยังมีปัญหาเกือบทุกคู่เลยด้วย

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนฟ้าจะยึดติด เป็นความเคยชิน และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

และ นนท์เองก็สร้างความเคยชินนั้นให้กับฟ้าด้วย

ปอลอ

สงสาร คุณหมอ มีแววว่าจะอกหักซ้ำสอง

สงสาร หนึ่ง อิง และอีก 2 สาว ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร แต่ต้องมาเสียคนรักไป (เพราะผู้ชาย)

ขอบคุณที่ +1 ให้นะคะ ตอบแทนด้วย +1 เหมือนกัน  :L2:

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 :monkeysad:อยากให้ฟ้าลองเปิดใจให้กับคุณหมอให้โอกาศตัวเองดูอย่าใจร้ายกับหมอมากค่อยๆเริ่มต้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เอิ้วว...พลิกล็อก แดน กะ นนท์ ง้านเรอะ ...

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
โอะ โอ เป็นอย่างงี้ไปเสียได้

ไม่รู้จะสงสารใครดี :m28: o7

รออ่านนะคะ :z2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น้ำฟ้ารักมากเจ็บมาก :กอด1:
 :กอด1:ปลอบคุณหมอ
+1จ๊า

crazy Y

  • บุคคลทั่วไป
มารับ บวก   อ๊ะ อะ  ล้อเล่น  :m20:

มาเชียรคุณหมอสัตว์

ขอบคุณค่ะ ยาวสะใจมาก   ยังบวกคืนไม่ได้ งั้นเอาลูกเป็ดไปนะค่ะ :กอด1:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12

เกือบกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วครับที่ผมดึงเอาตัวคุณฟ้าเข้ามากอด ลูบกลุ่มผมนุ่มหนาไปมา เพื่อปลุกปลอบให้คนๆ นี้อาการดีขึ้น เหมือนไม่ได้ผล คุณฟ้ายังร้องไห้เงียบๆ กับอกผม น้ำตาที่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าตรงหน้าอก มันฟ้องว่าคนๆ นี้ยังไม่หยุดร้องไห้ แม้ไม่มีเสียงที่ส่งผ่านมาให้ได้ยิน แต่รอยสะอึกและอาการสั่นของเนื้อตัวบอบบางทำให้ผมรู้

“ขอบคุณ....ครับคุณ...หมอ ผม...อึก.. ผมไม่เป็นไร ....อึก...แล้ว”

แล้วร่างบางนั้นก็ฝืนตัวออกจากอ้อมกอด ผมปล่อยคุณฟ้าให้เป็นอิสระ หลังจากฟังประโยคกระท่อนกระแท่นนั้นจบ หน้าของคุณฟ้าแดงช้ำด้วยรอยน้ำตา ตาบวมเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างนัก ปากบางเม้มเข้าหากันเหมือนพยายามกลั้นก้อนสะอื้น นั่งมองผมด้วยสายตาเรียบเฉย เมื่อผมเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะแก้มออกให้ ไม่มีแล้วครับน้ำตา คงมีแค่แรงสะอื้นน้อยๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากปากที่เม้มแน่น

ผมไม่รู้จะพูดอะไร ไม่มีคำปลอบโยนใดๆ อีกแล้ว เพราะคุณฟ้าคงไม่ต้องการ   ผมรู้ เพราะก่อนหน้านี้ถ้อยคำที่ผมพยายามเฝ้าบอก  ไม่ได้ทำให้น้ำตาจากดวงตาคู่ที่ผมมองสบอยู่นี้หยุดไหลได้เลย บางครั้งคุณฟ้าก็ต่อต้านคำปลอบของผม ด้วยการฝืนตัวจะออกจากอ้อมแขน แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ เมื่อผมไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังรัดให้แน่นกว่าที่เคย

ทำไมคุณฟ้าถึงต่อต้านผม  คงเพราะผมบอกให้คุณฟ้าลืมผู้ชายคนนั้นไปเสียที  ลืมคุณนนท์ไปซะ หรือคำพูดอะไรทำนองนี้แหละ ผมพูดเยอะมาก จนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่นั่นแหละ คุณฟ้าไม่ชอบคำพูดพวกนั้นของผม  ถึงต่อต้านด้วยการฝืนตัวออกจากอ้อมกอดผมทุกครั้งที่ผมบอก

ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลืม คุณฟ้ากับคุณนนท์คบกันมานานเท่าไหร่ ผมไม่รู้ระยะเวลาที่แน่นอน แต่คาดว่าน่าจะนานมากพอสมควร   ตามคำบอกเล่าของยีน ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก ถึงจำไม่ได้ว่ามันยาวนานถึงกี่ปี

 แต่สิ่งที่ผมอยากรู้มากในตอนนี้คือ เกิดอะไรขึ้นกับคุณฟ้า สาวยีนลูกน้องในร้านเชิญครับโทรมาพูดเรื่องอะไรบ้าง ถึงทำให้เจ้านายของเธอร้องไห้กว่าครึ่งชั่วโมง

เรื่องราวที่ผมประติดประต่อจากการฟังที่คุณฟ้าพูด  เรื่องที่ทำให้คุณฟ้านิ่งไปในทันทีคือเรื่องของคุณนนท์กับเด็กแดน ที่ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร พอรู้บ้างจากที่ได้ยินแค่ว่า คุณฟ้าดีใจมากเมื่อถามน้องยีนว่า ‘นนท์มาหาพี่เหรอ?   น้ำเสียงนั้นตื่นเต้นและดีใจมาก จนผมรู้สึกแปลบที่อกด้านซ้าย ถึงจะเจ็บแต่ทำไงได้ ผมรู้ตัวว่ามาทีหลัง  มาช้าไปและมาช้ามาก  ยังไงคุณนนท์ก็คือคนที่คุณฟ้ารัก  ผมว่าถึงตอนนี้คุณฟ้าก็ยังคงรักอยู่ เขาสองคนเพิ่งเลิกรากันไปแค่สามวันเอง  คุณฟ้าคงยังไม่เข้มแข็งพอที่จะเลิกรักคุณนนท์ได้ในเวลาแค่สามวัน  อันนี้ผมเข้าใจ เข้าใจจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ความเข้าใจมันก็มาพร้อมกับเจ็บแปลบๆ อยู่ดี

หากถามผมว่า ผมรักคุณฟ้าเหรอ? ผมคงโกหกไม่ได้ว่า

‘ผมรักคุณฟ้า’

ความรู้สึกตอนนี้มันอาจยังไม่ใช่ความรัก  มันเป็นแค่ความถูกตาต้องใจ มันเป็นจังหวะที่คุณฟ้าไม่มีใคร แล้วเป็นโอกาสที่ผมได้ใกล้ชิดและทำความรู้จัก

เราทั้งคู่เป็นอิสระ...

ถ้ากรณีน้องลมนั้น ยอมรับเลยครับว่าผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ  แต่กับคุณฟ้า ผมไม่ได้มีอาการตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลย  มันอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นผมเฝ้ารอความรักจากน้องลม และคุณฟ้าเองก็มีคุณนนท์อยู่ข้างกายเสมอ  มันจึงเป็นจังหวะที่ไม่พอดีกัน ไม่มีทางไหนที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกรักคุณฟ้าขึ้นมาได้ ความรู้สึกตอนนั้นก็คงแค่ว่า....

‘ผู้ชายคนนี้น่ารัก มีรอยยิ้มที่สดใส ดวงตากลมๆ ชวนมอง’

......เท่านั้นเอง

แต่ว่าตอนนี้ ผมไม่ได้รักน้องลมแล้ว ผมเก็บเอาความรักที่เคยให้น้องลมกลับมาหมด ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว  แค่ยังมีความรู้สึกดีๆ จากคนที่เคยรักให้ไป แล้วเมื่อผมมาเจอคุณฟ้าอีกครั้ง ในจังหวะที่พอดีแบบนี้ มันจึงทำให้ผมอยากเรียนรู้และไม่อยากปล่อยคุณฟ้าให้หลุดมือไป

ถ้าผมทำได้นะ....

และถ้าคุณฟ้าจะยอม...

มันอาจเป็นความรู้สึกเริ่มต้นของ ‘ความรัก’ ก็ได้ ผมว่าอย่างนั้นนะครับ

“ออกไปสูดอากาศข้างนอกดีไหมครับ” ผมถาม เพราะเราสองคนนั่งอยู่ในรถนานมาก อาการตอนสายๆ ใต้ร่มไม้ข้างทาง ลมเย็นๆ พัดผ่าน น่าจะทำให้คุณฟ้าอาการดีขึ้นบ้างก็ได้

“ผมอยากกลับกรุงเทพ” คุณฟ้าบอก

“ครับ”

“ขอโทษนะครับ ที่ผมรบกวนคุณหมอ”  ตาช้ำบวมมองมาที่หน้าอกของผม ผมใส่เสื้อยืดสีขาว เห็นรอยน้ำตาชัดเลยครับ มันซึมเลอะไปทั้งหน้าอกผมแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดยิ้มๆ

“..............”

“อย่าคิดมาครับ”

พอผมพูดจบก็เหมือนคุณฟ้าจะนึกอะไรออก  รีบหยิบโทรศัพท์ที่หล่นบนเบาะข้างตัวขึ้นมา กดปุ่มแล้วยกขึ้นแนบชิดกับใบหูเล็กๆ รอนานมาก แต่คนปลายสายไม่รับ ผมรู้เพราะคุณฟ้าลดโทรศัพท์ลง แล้วกดโทรออกไปอีกครั้ง เดาว่าน่าจะเป็นเบอร์เดิม  และเป็นแบบนี้อีกห้าถึงหกครั้ง ปากบางสีซีดกัดเม้มอย่างรอคอย คนตรงหน้าผมคงทั้งเสียใจทั้งหงุดหงิด  ใบหน้าแดงช้ำบอกอย่างนั้น นานมากครับที่คุณฟ้าเฝ้าโทรหาคนปลายสาย ผมว่าเกือบยี่สิบครั้งแล้วครับที่คุณฟ้ายกโทรศัพท์ขึ้นแนบใบหู  ทว่าก็ไร้ความหมายเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์

ผมเดาว่าคนๆ นั้นคือคุณนนท์ เพราะคงไม่มีใครที่ทำให้คุณฟ้าทั้งร้อนรนและเป็นทุกข์ได้มากอย่างนี้

คุณฟ้าไม่ละความพยายาม  ส่วนผมก็เอาใจช่วย ไม่อยากให้คุณฟ้าทรมานเพราะการที่ใครอีกคนไม่ยอมรับโทรศัพท์

ในที่สุดความพยายามของคุณฟ้าก็สำเร็จในครั้งนี้

ใช่คุณนนท์จริงๆ ด้วยครับ เมื่อคุณฟ้าเรียกชื่อนั้นออกมา

“นนท์” เสียงของคุณฟ้าแหบมาก จนผมเกรงว่าอีกคนหนึ่งจะไม่ได้ยิน

“ทำอะไรอยู่” คุณฟ้าดูกล้าๆ กลัวๆ ที่จะถาม

“........................”

“นนท์....” เหมือนจะพูด แต่ก็หยุด

“นนท์....” อีกครั้งที่คุณฟ้าทำชั่งใจในคำพูดของตนเอง

“นนท์....”

คุณฟ้าเรียกชื่อคนปลายสายถึงสามครั้ง แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่แล้วก็พูดในสิ่งที่ผมรู้ดีอยู่แล้วและทำให้ผมเจ็บแปลบอีกครั้ง

“ฟ้ารักนนท์นะ”  เจ็บแต่ไม่มาก เพราะเข้าใจว่ายังไงคุณฟ้าก็ยังเลิกรักคุณนนท์ไม่ได้

“........................”

“แต่ฟ้ารักนนท์”  ไม่รู้อีกฝ่ายพูดว่าอะไร คุณฟ้าถึงพูดคำเดิมอีกครั้ง แต่ด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิมมาก ชนิดที่ว่าน่าจะพูดออกมาจากความรู้สึกร้าวรานข้างใน

“.....................”

“ทำไมถึงพูดอย่างนั้น”

“.......................”

“นนท์....”

“.......................”

“ดะ...เดี๋ยวนนท์ เดี๋ยวนนท์ อย่าเพิ่งวาง อย่าเพิ่ง...” ฝ่ายนั้นคงไม่อยากคุยกับคุณฟ้า

ผมสงสารคุณฟ้าจับใจแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากระบายความอัดอั้นผ่านมือที่กำพวงมาลัยรถไว้แน่น  ถ้าผู้ชายคนนั้นอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ แล้วทำให้คุณฟ้าเสียใจจนร้องไห้ ผมจะชกเขาให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับคุณฟ้า   แล้วตอนนี้คนๆ นั้นจะรู้ไหมว่าคุณฟ้าต้องบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่ให้หลุดเสียงสะอื้นให้ได้ยิน ต้องฝืนบังคับตัวเองแค่ไหน เพื่อให้คุยกับคนๆ นั้น ด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด

“แดน.....” คุณฟ้ายังพูดต่อ แปลว่าอีกคนยังไม่วางสาย

“...แดน  แดนอยู่กับ...นนท์   หรือเปล่า?”

“................” ผมไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นตอบว่าอะไร คุณฟ้าถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ กัดปากกั้นก้อนสะอื้น จนตัวสั่นเทา  ผมอยากดึงร่างนั้นเข้ามากอดปลอบ แต่ต้องฝืนตัวเองเอาไว้

“ทำไมถึงอยู่ด้วยกัน”

“.......................”

“นนท์...อย่าทำอะไรแดนนะ”

“....................”

“นนท์รัก...ระ...รัก...อึก...อึก...รักแดน....เหรอ” น้ำตาคุณฟ้าไหล ผมมองด้วยใจที่เจ็บปวดแทน

“...................”

“ทำไมนนท์  ทำไมต้องเป็นแดน”

“.....................”

“นนท์...อื่อออออ” แล้วคุณฟ้าก็ปล่อยโฮออกมา  ไม่ใช่การร้องไห้ที่ไม่มีเสียงอีกต่อไป มือที่กำโทรศัพท์สั่นระริก  แล้วมันก็ร่วงลงพื้น เมื่อมือทั้งสองถูกยกขึ้นมารองรับน้ำตาที่ไหลอย่างรุนแรงราวกับเขื่อนแตก

ไม่แล้วครับ ผมไม่ได้ดึงคุณฟ้าเข้ามากอด ผมรู้ว่าไม่ได้ผล ผมเพียงแต่ปล่อยให้คุณฟ้าร้องไห้ ปล่อยโฮให้ดังก้องอยู่ในรถที่แล่นไปข้างหน้า  ผมไม่ได้เหลียวมองคุณฟ้าเลย ไม่กล้ามอง ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปหา ได้แต่ปล่อยให้คุณฟ้าจมอยู่กับความเสียใจเพียงลำพัง

ผมว่า...

คุณฟ้าคงต้องการอย่างนั้น

.
.
.
.
.

เที่ยงนิดๆ ครับที่ผมจอดไว้ข้างซอยที่กั้นระหว่างร้านเชิญครับกับคลินิกของผม  คุณฟ้ายังไม่รู้สึกตัว เพราะหลังจากที่ร้องไห้มานานกว่าชั่วโมง  ด้วยความเหนื่อยและจิตใจที่อ่อนแอเกินกว่าจะต้านไหว คุณฟ้าก็เผลอหลับไป จนถึงตอนนี้เสียงลมหายใจที่ได้ยินแผ่วเบายังดังเป็นจังหวะ เบาะที่ผมปรับให้คุณฟ้าก่อนหน้านี้ทำให้คุณฟ้านอนได้สบายขึ้น

ใบหน้าแดงช้ำแต่ความน่ารักยังคงอยู่ ชวนให้ผมต้องก้มหน้าเข้าไปใกล้ แตะปากของตัวเข้ากับแก้มนุ่มที่มีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อน

คุณฟ้าน่ารักขนาดนี้ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงทิ้งไป ผมไม่เข้าใจ...

เด็กแดน...คือสาเหตุ หากผมฟังไม่ผิด

ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าไม่ใช่เด็กแดน คุณฟ้าจะเสียใจมากมายขนาดนี้ไหม

ช่างมันเถอะครับ เรื่องบางอย่างผมก็ไม่ควรรู้ ผมควรสนใจเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องที่ว่าผมควรจะทำยังไงให้รอยยิ้มของคุณฟ้ากลับมา  ทำยังไงให้คุณฟ้าลืมผู้ชายที่ไม่ได้รักคุณฟ้าไปเสีย แล้วทำยังไงให้ผมเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณฟ้าแทนคนๆ นั้น

.....แทนคุณนนท์

ผมค่อยๆ ปิดประตูรถ ไม่อยากให้มันรบกวนหรือทำคุณฟ้าสะดุ้ง เดินตามทางเส้นเล็กๆ   ที่เชื่อมระหว่างถนนในซอยกับร้านเชิญครับ   ไม่กี่ก้าวผมก็ผลักประตูกระจกเข้าไปในร้าน ยีนเงยหน้าขึ้นมามองผม เธอยิ้มแก้มแถบจะฉีก   คงไม่รู้ตัวว่าทำให้เจ้านายร้องไห้หนักมาแล้ว ด้วยเรื่องที่เธอบอกเมื่อตอนเช้า

“สวัสดีตอนเที่ยงค่ะคุณหมอ  พี่ฟ้าล่ะค่ะ”  เธอชะโงกหน้ามองไปที่ประตูร้าน

“นอนอยู่ในรถ”  ยีนทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมต้องบอกอธิบายต่อ “คุณฟ้าของยีนไม่สบายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องเป็นห่วง  เดี๋ยวหมอจะพากลับไปนอนที่คอนโด”

“ไปเที่ยวทะเลกลับมาป่วยเลยรึคะเนี้ย”  ยีนทำหน้าเป็นห่วง

“แล้วเรื่องเด็กสองคนนั่นล่ะ”  ผมหมายถึงเด็กผู้ชายคนที่กำลังยืนเก็บแก้วกาแฟและจานเค้กที่ลูกค้าเพิ่งเดินออกไป  และเด็กผู้หญิงที่กำลังเดินยืนรับออเดอร์จากลูกค้าอยู่อีกมุมหนึ่ง

“นั่นสิค่ะ เนี่ยยีนก็รอพี่ฟ้ามาคุยเรื่องนี้อยู่ แต่ถ้าพี่ฟ้าไม่สบาย ยีนคงต้องให้น้องเค้ามาอีกทีพรุ่งนี้”

“แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหมที่ต้องให้คุณฟ้าทำ”  ผมถาม เผื่อว่ามันมีเรื่องสำคัญต้องรอการตัดสินใจจากคุณฟ้า ถ้ามีและสำคัญจริงๆ ก็จะเดินไปปลุกคุณฟ้า

“ไม่มีแล้วค่ะ เอ่อ...จะมีก็แต่เรื่องแดน”  ยีนบอก หน้าซึมลงทันที

“คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง  หมอเห็นคุณฟ้าโทรคุยกับคุณนนท์”  ความจริงผมไม่อยากให้คุณฟ้าตื่นมารับรู้เรื่องนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สามของวัน

“รึคะพี่หมอ แล้วว่ายังไงบ้างคะ แดนปลอดภัยไหมอ่ะ”

“หมอว่าคงไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก”  ผมบอกให้ยีนสบายใจ เพราะมันไม่มีอะไรให้น่าคิดมาก นนท์คงไม่ทำร้ายอะไรแดน

“แต่ยีนกลัวว่าพี่นนท์จะ....เดี๋ยวก่อนนะคะ ...แดนโทรมา แดนโทรมาแล้ว.....แดนนนนนน เป็นไงบ้าง” น้ำเสียงบอกว่าเธอดีใจมากที่อีกฝ่ายโทรมา

“ไม่เป็นห่วงได้ไง ก็โดนพี่นนท์ลากไปแบบนั้น  แล้วปลอดภัยแน่นะแดน ฉันเป็นห่วง”  ผมยืนฟังยีนคุยโทรศัพท์กับแดนครับ จะได้เก็บข้อมูลไปด้วยว่าเด็กแดนเป็นยังไงบ้าง

“พี่ยีน คิดเงินโต๊ะห้าครับ” เด็กตัวขาวหน้าตาจิ้มลิ้ม อายุน่าจะสักสิบสี่สิบห้าเดินเข้ามาบอกยีน คงที่ผมเห็นว่าเช็ดโต๊ะอยู่เมื่อครู่

“เดี๋ยวนะแดน ขอคิดเงินลูกค้าก่อน เฮ้ย..อะไรอ่ะ ถือสายรอไม่ได้เลยรึไง....ก็ได้ๆๆๆ แล้วถ้าพี่ป้องถามหาล่ะ....ได้ๆๆ แต่ฉันบอกคุณแดนไว้ก่อนนะคะว่า ถ้าคุณแดนไม่มาทำงานพรุ่งนี้ ขาเก้าอี้ของคุณแดนต้องโดนเลื่อยแน่ๆ  เพราะฉันจะให้พี่ฟ้ารับเด็กใหม่สองคนนั้นเข้ามาทำงานแทนคุณแดนเลย อะไรยะ...วางก็ได้”

ยีนวางโทรศัพท์ไว้ที่เคาท์เตอร์ แล้วหันกลับไปคิดเงินตามคำบอกของพนักงานคนใหม่

“สองร้อยสี่สิบจ๊ะตาม”  ยีนบอก พร้อมกับยื่นถามไม้สีเหลือง มีบิลวางอยู่ให้กับเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มชื่อตาม ผมนึกสภาพออกเลยครับ  ถ้าน้องตามคนนี้ทำงานอยู่ที่ร้านเชิญครับจะเป็นยังไง คงกลายเป็นดาวพอๆ กับเด็กแดนและคุณฟ้า ความน่ารักสูสีกัน แต่ถ้าที่สุดเนี่ย ผมให้คุณฟ้านะ   ด้วยวัยและคุณภาพ คุณภาพที่ผมสัมผัสมาแล้วเมื่อคืน

“สบายใจแล้วนะที่แดนโทรมา งั้นหมอไปก่อนนะ ทิ้งคุณฟ้าไว้ในรถนานแล้ว”  ผมบอก ยีนพยักหน้ารับทราบ แล้วยิ้มปากแทบจะฉีก ก่อนพูดแกมฝากกับผมว่า

“ดูแลพี่ฟ้าให้ดีๆ นะคะคุณหมอ เพราะยีนยกพี่ฟ้าให้คุณหมอแล้ว  ห้ามทำพี่ฟ้าเสียใจเด็ดขาด  ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะได้กินกาแฟอร่อยๆ ฝีมือสุดยอดนักชงอย่างยีนอีก”

ผมไม่ตอบว่าอะไร ยิ้มให้แล้วเดินออกมา จะให้ผมตอบรับอะไรได้ล่ะ ในเมื่อการตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณฟ้าคนเดียว ถึงผมจะพยายามมากแค่ไหน มันก็อาจเป็นแค่ความพยายาม หากคุณฟ้ายังปฏิเสธผมต่อไป

.
.
.
.
.

“คุณฟ้าครับ ไหวไหมครับ” ผมปลุกคุณฟ้าเมื่อจอดรถไว้ใต้คอนโดเจ้าตัว โชคดีที่ยามเคยเห็นหน้าผมและคงเห็นคุณฟ้านอนอยู่เบาะข้างๆ ด้วย ถึงยอมให้ผมขับรถเข้ามาข้างใน

“อื้อออ....” คุณฟ้าตอบรับผมด้วยเสียงครางในลำคอ เหมือนคนไม่อยากตื่น ผมเลยไม่คิดจะปลุกคุณฟ้าอีก

ดูจากสภาพแล้วผมว่าคุณฟ้าน่าจะปวดหัวเอามากๆ เนื่องจากร้องไห้หนักมากและอาจจะป่วยได้ ก่อนแวะร้านของคุณฟ้า ผมก็แวะซื้อยาจากร้านเพื่อนของผมเองที่อยู่ตรงทางผ่านพอดี

ผมค้นเอากุญแจห้องของคุณฟ้าจากกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่ด้านหลังรถ  แล้วจัดการอุ้มคุณฟ้าแทนที่จะปลุกให้ตื่น  คุณฟ้าเป็นผู้ชายตัวสูงเกือบๆ จะเท่าผม แต่รูปร่างแล้วต่างกันมาก ผมหุ่นผู้ชายปกติ มีกล้ามเนื้อ มีซิกแพ็ค แข็งแรงอยู่ไม่น้อย ต่างกับคุณฟ้าที่ติดจะผอมนิดๆ  แต่ไม่ได้ผอมมากมายอะไร น่าจะเรียกได้ว่าสูงโปร่งมากกว่า ทำให้ผมอุ้มคุณฟ้าได้ไม่ลำบากเท่าไหร่

โชคดีที่ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน คนในคอนโดส่วนมากน่าจะไปทำงานหมดแล้ว  ผมกดลิฟท์ชั้น 14 จำได้เพราะเมื่อวานเพิ่งมากับคุณฟ้า  แล้วก็จำเลขห้องของคุณฟ้าได้เช่นกัน กว่าจะเปิดห้องคุณฟ้าได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะต้องอุ้มคุณฟ้าไปด้วยเปิดประตูไปด้วย พอเปิดประตูห้องได้ผมก็ตรงดิ่งอุ้มคุณฟ้าไปวางไว้ที่เตียง

แตะหน้าผากดู อืม...ตัวร้อน แต่ไม่มาก เลยเดินหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้า คอ และแขนคุณฟ้า แล้วใช้เจลลดไข้ที่ซื้อมาพร้อมกับยาลดไว้แปะไว้ที่หน้าผากเกลี้ยงๆ นั้น หวังว่าตื่นมาไข้น่าจะลดจนเป็นปกติ จากนั้นจึงลงไปที่รถเอากระเป๋าของคุณฟ้าขึ้นมา เก็บเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วเอาไปใส่ในตะกล้าข้างห้องน้ำ

ผมเดินกลับมาที่เตียง ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างเตียง  หลังจากเดินสำรวจนอนคุณฟ้าแทบจะทุกซอกทุกมุมแล้ว รูปถ่ายคู่ของคุณฟ้ากับคุณนนท์วางตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงข้างโคมไฟกระดาษสา  ทั้งคู่กอดกันแล้วยิ้มให้กล้อง น่าจะเป็นรูปตอนงานปีใหม่ของปีนี้เพราะมีตัวเลขด้านหลังบอก  รูปบนโต๊ะเขียนหนังสือที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ เป็นรูปเมื่อตอนเป็นเด็กมัธยม  ไม่ได้ยืนกอดกันแต่ก็เป็นรูปที่คุณนนท์นั่งมองหน้าคุณฟ้า ส่วนคุณฟ้านั้นยืนยิ้มกว้างให้กล้อง  ดูน่ารักครับ ส่วนอีกสามรูปที่แขวนอยู่ข้างพนังห้องเป็นรูปสมัยอนุบาล ตอนมหาลัยและรูปวันเปิดร้านเชิญครับ  วันนั้นผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยังไม่รู้สึกอะไรเลย มาตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าอยากเอาไปโยนทิ้งให้หมด รวมทั้งอีกหลายรูปด้านนอกนั้นด้วย

ไม่อยากเห็น...

ไม่อยากให้คุณฟ้าเห็นมันอีก...

ผมดึงสายตาจากรูปบนโต๊ะหัวเตียงมาที่คนหลับสนิทบนเตียงอีกครั้ง เท้าคางมองใบที่หลับใหลด้วยพิษไข้จากการร้องไห้อย่างนักอยู่อย่างนั้น  ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมืออุ่นๆ มาแตะที่ต้นแขน

“คุณหมอ คุณหมอครับ คุณหมอ”

“ครับ” ผมยืดตัวตรงขึ้นมา บิดตัวเล็กน้อยเพราะเมื่อยจากการนั่งฟุบอยู่ข้างเตียง

“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วผมเป็นอะไร” ในมือคุณฟ้าถือแผ่นเจล สงสัยคงตื่นขึ้นมาแล้วดึงเอาออก

“คุณฟ้ามีไข้นิดหน่อยครับ ผมเลยเช็ดตัวให้ แล้วก็ใช้แผ่นเจลแปะลดไข้ รู้สึกดีขึ้นมาหรือยังครับ”

“ไม่เห็นรู้ตัวเลย แล้วจะมาเช็ดตัวให้ทำไมเนี้ย” เหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่า แต่ผมได้ยินเต็มสองหู

“เช็ดแค่หน้า คอ แล้วก็แขนครับ ส่วนอื่นไม่ได้แตะต้อง ไม่ต้องห่วง”  รู้สึกน้อยใจมาก บอกไม่ถูก

“ไม่ได้ว่านี่ครับ แค่บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอนะครับ”  คงรู้ว่าผมรู้สึกยังไง ถึงรีบแก้ตัว แต่ผมรู้หรอก คุณฟ้ายังหวงตัวกับผมมาก  ทั้งที่เราก็ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้วแท้ๆ เห็นยิ่งกว่าเห็น สัมผัสยิ่งกว่าสัมผัส   ได้ครอบครองเป็นเจ้าของคนแรกด้วยซ้ำ

มันน่าน้อยใจ

“แล้วคุณหมอจะไปไหนครับ” คุณฟ้ารีบถาม เมื่อผมลุกขึ้นยืนเตรียมท่าว่าจะเดินออกไปจากห้อง

“กลับบ้าน” ผมบอก พูดสั้นๆ แค่สองคำ แต่น้ำเสียงคงบอกอารมณ์น้อยใจออกมายาวเป็นห่างว่าวมั้ง คนหวงตัวถึงรีบลุกจากเตียง   เดินมาคว้ามือผมเอาไว้ขณะที่ผมกำลังจะจับลูกบิดประตู

“โกรธหรือครับ”

“เปล่า”

จริงๆ ครับ ไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจและน้อยใจมาก  ผมไม่ได้หวังให้คุณฟ้ามารักผมในตอนนี้ รู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก  ผมแค่หวังให้คุณฟ้าอย่าตัดรอนผมมากจนเกินไปเท่านั้นเอง  แต่ที่คุณฟ้าทำ มันยิ่งกว่าตัดรอนด้วยซ้ำ

“ถ้าผมทำให้คุณหมอไม่สบายใจ ผมก็ขอโทษ”

คนตรงหน้าผมยืนนิ่ง มือเล็กปล่อยข้อมือของผมลง  เรามองสบตากันอยู่นาน ผมรู้ว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่  ตากลมสวยฉายชัดให้เห็นความยุ่งยากใจ  ปนเปไปกับความสับสนที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับผม คนที่คุณฟ้าพยายามสลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดไปไหน

คงนึกเสียใจอยู่มั้งครับ  ที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมในคืนนั้น  ถ้าไม่เกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นมา ผมอาจจะไม่ถือสิทธิ์แสดงตัวก่อกวนคุณฟ้าได้มากขนาดนี้

แสดงว่าผมมีสิทธิ์...

ผมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ในเมื่อคุณฟ้าเป็นของผมแล้ว  ในเมื่อคนรักของคุณฟ้าทิ้งคุณฟ้าไปแล้ว คุณฟ้าเป็นอิสระพอที่ผมจะแสดงตนเป็นเจ้าของอย่างชอบธรรมที่สุด ไม่ได้ถือสิทธิ์ แต่ผมมีสิทธิ์

“เอ๊ะ..คุณหมอ”  คุณฟ้าคงตกใจ เมื่อจู่ๆ ผมรวบตัวเข้ามากอด

“ปะ...ปล่อยนะคุณหมอ จะ...จะทำอะไรผม”  ตอนนี้คงทั้งตกใจทั้งกลัวครับ เมื่อผมช้อนตัวคุณฟ้าขึ้นแนบอก  ก้าวเท้าพาไปวางบนเตียงก่อนจะขึ้นคล่อมร่างนั้นไว้  กักขังไว้ในกรงแขนที่ปิดทางหนีทั้งสองด้าน

“จะทำอะไร”

“ทำเหมือนเมื่อคืน”  ผมบอก พยายามยิ้มเหี้ยมให้คุณฟ้ากลัว แต่คงไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะคุณฟ้าตะโกนลั่นห้อง คงทั้งอาย ทั้งเขิน แล้วก็โกรธจัด หน้าถึงได้แดงจัดมาก

“คุณหมอ!!”

“ครับ”

“ออกไปเลยนะ”  คงหมายถึงให้ผมลุกออกจากตัวคุณฟ้า ยากหน่อย ผมไม่ใช่คนดื้อแต่ตอนนี้ขอหน่อยเถอะ ไม่ได้คิดทำอะไรมากครับ  ขอชื่นใจสักนิดสักหน่อย

“ออกไป”

“ไม่”

“คุณหมอ”

“ครับ”

“ไม่เอานะ”  ไม่เอาอะไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย

“ไม่รับปาก”

“คุณหมอ!!”  คุณฟ้าโกรธใหญ่เลย แต่ผมคิดว่าไม่โกรธจริงจังเท่าไหร่ เพราะไม่งั้นคงทั้งผลักทั้งดันผมออกไปจากตัวแล้ว  นี่ทำอะไร นอกจากนอนหน้าดำหน้าแดงล่อหูล่อตาผมให้อดใจไม่ไหว เลยก้มไปงับปากเล็กๆ ไปเบาๆ หนึ่งที่

“คุณหมอ!!!”  ยังพยายามโกรธ ไม่กลัวหรอก มากกว่านี้ยังยอมให้ผมทำมาแล้ว

“มากกว่านี้ก็เคย”  ว่าแล้วก็แกล้งสอดมือเข้าไปใต้เสื้อตัวบาง ยังไม่ทันสัมผัสผิวเนื้อเนียนเลย มือก็ถูกดึงออกมาเสียก่อน

“คุณหมอ!” ระดับเสียงลดลงมาหน่อย คงกลัวผมจะเอาจริง

“ครับ”

“ไม่เอานะครับคุณหมอ  ผมต้องกลับไปที่ร้าน  นัดยีนเอาไว้ นะครับ ปล่อยผมเถอะนะครับ”  นั่นไง พูดเสียงอ้อนได้อีก

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ ผมคุยกับยีนเรียบร้อยแล้ว นัดเด็กสองคนที่มาสมัครงานให้มาใหม่พรุ่งนี้”

“.....................” เงียบไปเลยครับ คิดว่าน่าจะคิดหาทางเอาตัวรอดจากการรุกรานของผมอยู่

“คุณหมอ.....” คุณฟ้าเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรออกมา หลังจากที่หันหน้าหนีสายตาแกล้งเอาจริงของผม

“ครับ”

“แค่ครั้งเดียว....” คุณฟ้าหยุดไป หลังจากหันหน้ามาพูดกับผม
 



ปล
มีต่อนะค่ะ แต่โพสไม่ได้ มีข้อความขึ้นว่า โพสของคุณจาก IP เดียวกันน้อยกว่า 90วินาที  :z3: :z3: :z3: งง อ่า ปกติก้โพสทีสองรีได้นี่นาเวลา

 รอแป๊ปนะค่ะแล้วจะรีบมาต่อทันทีที่โพสได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2011 12:37:23 โดย Aphrodite »

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
^
^


“..................” ผมกำลังรอฟัง คำพูดต่อจากนั้น มือมันเลื่อนกำข้อมือเล็กโดยอัตโนมัติ

“.....แค่ครั้งเดียว  มันไม่ทำให้คุณหมอมีสิทธิ์ในตัวผมหรอกนะครับ  ผมไม่ได้รักคุณหมอ  เราไม่ได้เป็นอะไรกัน  อย่าทำแบบนี้เลย”

น้ำเสียงเรียบ พูดเรื่อยๆ เหมือนต้องการให้ผมเข้าใจ

“เรื่องเมื่อคืนให้มันผ่านไปเถอะนะครับ  ถ้าผมทำให้คุณหมอรู้สึกแย่หรือทำให้คุณหมอเข้าใจผิดอะไรไป  ผมก็ขอโทษ  ผมไม่ตั้งใจจริงๆ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอีก ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”

พูดจนผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรสักอย่าง  ที่คุณฟ้าไม่เคยพยายามจะมองด้วยซ้ำ มันเจ็บ เจ็บมากด้วย เจ็บจนเผลอบีบข้อมือเล็กนั้น จนคุณฟ้าต้องร้องเตือน

“เจ็บครับ ปล่อยผมก่อน”

“เจ็บเท่าที่ผมเจ็บหรือเปล่า...” ผมถาม ไม่ยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ คุณฟ้าพยายามจะดึงมันออก จะสู้แรงผมได้เหรอ  คนที่กำลังโกรธอยู่มันจะมีแรงเยอะเป็นพิเศษเสียด้วยสิ

“คุณหมอ ผมเจ็บ ปล่อยผม ปล่อยผม...ดะ...อื้ออออออ”

ผมส่งผ่านทุกความรู้สึกจากปากที่บดจูบบนกลีบปากนุ่ม  บดขยี้ให้สมใจ  สาสมกับสิ่งที่คุณฟ้าพูดออกมา เอาให้พอใจกับความผิดที่คุณฟ้าทำกับผม  ทั้งที่ผมไม่คิดจะทำอะไรมากกว่าการหยอกเล่นในนาทีก่อนหน้านี้  แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่  ผมอยากจะตักตวงความสุขที่ผมเคยได้จากร่างกายบอบบางขอคุณฟ้า  อยากจะตีตราจองว่าผมเป็นเจ้าของ  ไม่ใช่คนไม่มีสิทธิ์  จะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ผมจะทำ ผมจะทำให้คุณฟ้าไม่กล้าพูดว่า  ‘แค่ครั้งเดียว’  เมื่อตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

คุณฟ้าปิดปากแน่น จูบที่บดเบียดและเสียดสีทำได้แค่ภายนอก ไม่เผลอให้ให้ผมรุกรานไปมากกว่าความแห้งผากด้านนอก ไม่สน ไม่ได้ตรงนี้ ผมก็จะเอาตรงอื่น มือยังกำข้อมือเล็กไว้แน่น กดให้แนบกับพื้นเตียง หมดโอกาสที่จะผลักร่างกายของผมให้ถอยห่าง กดจูบข้างแก้มใส จนมันชื้นเปียกเพราะลิ้นที่ลงระเลงทั้งซ้ายขวา เจ้าของใบหน้าพยายามจะหลบหนี ตากลมสวยปิดสนิท คงไม่อยากเห็นหน้าผม ไม่มองผมก็ไม่สน ขอทำตามใจตัวเองอย่างเดียว

ผมพาทั้งปากและจมูกมาจากใบหน้าน่ารักมาที่ซอกคอหอมๆ ดูดกลืนเอาผิวเนื้อขาวๆ เข้าปอด สร้างรอยที่พอผ่านเหตุการณ์นี้ไป  มันจะขึ้นสีช้ำเป็นตราประทับให้คุณฟ้ารู้ตัวว่าเป็นของผมไปอีกหลายวัน

“อือออ .... คะ...คุณหมอ...มะ...ไม่เอา” ไม่เอาอะไร แต่ผมจะเอา

“อื้ออออ..........” พอคุณฟ้าอ้าปากพูด ผมก็ไม่รออะไรทั้งนั้น ส่งลิ้นร้อนที่มันอยากสำรวจโพลงปากหวานตั้งแต่แรกทันที ลิ้นเล็กต่อต้าน ไม่เหมือนเมื่อคืนเลย พยายามหลบหลีก ไม่ยอมให้ความร่วมมือ มีหรือผมจะสน ความหน้ามืดมันทำให้หน้าด้านเกินจะคิดว่าคุณฟ้าไม่ยินยอม

พอผมพอใจกับปากหวานๆ ผมถึงทิ้งให้คุณฟ้าอยู่กับการสูดเอาอาการเข้าปอด แล้วหันมาสนใจผิวแก้ม ซอกคอ ไหล่ลาด รวบมือทั้งสองข้างของคุณฟ้าด้วยมือข้างเดียวของผม แล้วดันขึ้นไว้เหนือหัว มือข้างที่เหลือดึงชายเสื้อให้ร่นขึ้นไปจนสุดทางตันที่ช่วงอกด้านบน เพื่อที่จะได้ใช้ปากกับผิวขาวเนียนได้สะดวก

“ไม่เอาคุณหมอ ไม่...มะ...ไม่เอา...อย่า...อะ...อ่า...อ่า”

ผมเงยหน้ามองคนที่พยายามห้ามผม แต่ทำอะไรไม่มากไปกว่าร้องบอก ก่อนจะกัดปากตัวเองแน่นกั้นเสียงครางเล็กๆ ไม่ให้หลุดออกมา เมื่อปากของผมเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ยอดเล็กๆ บนอกด้านซ้าย ใช้ลิ้นหยอกล้อกับมัน แล้วเปลี่ยนไปอีกข้าง ส่วนอีกมือที่ว่างก็ไล่ต่ำลงลงที่เป้าตรงกลางที่มีเหมือนกันแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ผมคลึงเบาๆ บนส่วนนั้นผ่านกางเกงผ้าเนื้อดี

“คะ...คุณ...หมอ...มะ...ไม่...อ่า...อา...”

ผมไม่สน ยังคลึงส่วนที่เริ่มขยายตัวของคุณฟ้าใต้อุ้งมือของผม ลิ้นร้อนหยุดหยอกล้อกับอกเล็ก แล้วไล่กลืนความหวานของผิวเนื้อด้วยปลายจมูก ตีตราจองด้วยปากและลิ้น ต่ำลงมาเรื่อยจนเจอหลุมเล็ก ผมเพียงแค่ผ่านมันลงไป หลังจากหยอกล้อด้วยปลายลิ้นนิดหน่อย ดึงข้อมือเล็กที่เคยรวบไว้ให้มาพักไว้ที่หน้าท้องเรียบ เพื่อให้ผมจัดท่าทางได้สะดวกขึ้น

ผลละมือที่กอบกุมเนื้อร้อนที่ขยายและเริ่มไม่อ่อนปวกเปียก มาที่ขอบกางกาง ดึงรวดเดียวหลุดไปทั้งสองชิ้น แล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของคุณฟ้า ต้นขาทั้งสองของผมรับหน้าที่เป็นเบาะรองรับขาเนียนสวย

ว่าแล้วครับว่า ไอ้อะไรที่ผมกับคุณฟ้ามีเหมือนกัน มันให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ถ้าผมมองของตัวเอง คงไม่มีอารมณ์ขับแน่นภายใต้ปราการห่อหุ้มอย่างนี้หรอก  พิษณุน้อยกำลังมีความรู้เพิ่มมากขึ้น มากกว่าเดิม จนแทบทนไม่ไหว

ผมว่าอารมณ์โกรธก่อนหน้านี้ของผม มันสลายไปจนหมด ตามระยะทางจากปากหวาน ไต่มาถึงผิวเนื้อหวานๆ และมาถึงความร้อนระอุในกำมือ

เมื่อไม่มีความโกรธมาบดบัง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็โผล่ตัวออกมาอย่างรวดเร็ว การกระทำที่ผมเคยเห็นเป็นตัวอย่างจากเมื่อเช้า เรื่องของอิงกับหนึ่ง มันยังติดหู คำที่หนึ่งตะโกนบอกทุกคนว่าถูกข่มขืน

แล้วผมกำลังทำกับคุณฟ้าเหมือนที่อิงทำกับหนึ่ง...

ผมหยุดมือ ดึงตัวเองออกมาจากจุดล่อแหลม ลุกขึ้นนั่งข้างเตียง หันหลังให้กับร่างกายที่ทำให้ผมหมดสติควบคุมได้ง่ายๆ  เมื่อคืนผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกันในความมืดที่เห็นเพียงลางๆ แต่เด่นชัดในการสัมผัสแตะต้องไปในแต่ละจุด  ทว่าตอนนี้มันสว่างแจ้ง เป็นเวลากลางวันที่ไม่ต้องเปิดไฟก็เห็นชัดไปทุกรูขุมขน ร่างกายขาว ผิวเนื้อสะอาด สัดส่วนที่สวยงาม บอบบางราวกับกลีบดอกไม้สีขาว มันชวนให้กลืนกิน...

“ผมขอโทษ”  ไม่รู้ว่าผมกับคุณฟ้าจะเปลี่ยนบทกันขอโทษไปจนถึงเมื่อไหร่  ก่อนหน้านี้คุณฟ้าพูดกับผม แล้วตอนนี้กลายเป็นผมที่พูดมันกับคุณฟ้า

“คุณหมอ...” เสียงคุณฟ้าดูแหบๆ ผมรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก็คงรู้สึกค้างคานั่นแหละ เพราะผมหยุดกลางคัน

แล้วคุณฟ้าก็จุดติดง่าย....


“..............” ผมนิ่ง วัดใจคุณฟ้า รออย่างมีความหวัง ว่าผมจะได้ตีตราจองร่างกายบอบบางน่าสัมผัส ชวนหลงใหลนี้หรือไม่ ไม่ใช่ผมไม่รู้สึก ตัวตนมันตีกันจนอึดอัดอยู่ใต้ปราการที่ปกปิด

มันอยากเป็นเจ้าของคุณฟ้าจะแย่อยู่แล้ว...ให้ตายเถอะ

“คุณหมอ...” เริ่มมีความหวังแล้วครับ

“................”

“คุณหมอ!!!!” ยิ่งกว่าตะโกนลั่นห้องอีกครับ เรียกว่าตะโกนให้ลั่นคอนโดก็ได้ ผมยังไม่ทันหันกลับไปยิ้มด้วยชัยชนะเลยด้วยซ้ำ  ก็ถูกมือเล็กกระชากตัวให้หันกลับไปรับจูบที่ดูดดื่ม ลิ้นเล็กเป็นฝ่ายสอดแทรกเข้ามาเชิญชวนให้ผมสอดปลายลิ้นเกาะเกี่ยว

จากอ่อนหวานเป็นรุนแรง ด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกส่งผ่านเรียวลิ้นที่เกี่ยวพัน เกาะเกี่ยวอย่างไม่มีใครยอมใคร เหมือนอากาศที่ใช้หายใจก็ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย

ผมรู้...

นอกจากคุณฟ้าจะจุดติดง่ายแล้ว

คุณฟ้ายังร้อนแรงได้อย่างน่ารัก ทั้งที่เมื่อคืนคือครั้งแรก แต่คุณฟ้าก็ทำให้ผมหลงใหล ในความไร้เดียงสาหากก็เร่าร้อนชวนให้รุกไล่ และกินเวลานานกว่าทุกอย่างจะถึงจุดสิ้นสุด

“ขอนะครับ”

“อืม....อื้ออออออ”


ผมตีตราจองคุณฟ้าสำเร็จแล้ว  โดยไม่ต้องฝืนหรือขืนใจให้กลายเป็นความผิดที่ติดข้างอยู่ในใจ จนยากจะลบลืมระหว่างเราสองคน  ในเมื่อคุณฟ้าเปิดโอกาสให้ผมถึงขนาดนี้ เชิญชวนผมโลดแล่นอยู่บนผิวกายหวานและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันจนนาทีสุดท้าย....



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

คนเขียนขอคุย :: ว่าจะหายไปนานสักหน่อย แต่มันอดใจไม่ไหว 555+
ว่าแต่ว่า ตอนนี้เขียนยากมาก ใช้เวลาสามคืน  เอิ่มมมม...แบบว่าอาจจะติดขัดไปบ้าง
ทั้งที่มันก็ไม่ได้ Nc อะไรเลย แค่เบบี๋อ่ะนะ แต่ก็ยากทางอารมณ์ทั้งของคุณฟ้ากะคุณหมอ
กว่าจะบังคับขืนใจกันได้ เหงื่อตก ห้าห้า คนเขียนนะคะที่เหงื่อตก

ไม่พูดมากแล้วนะคะ เอาไว้จะปั่นมาเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดแล้ว เครียดจากงานประจำมะไหร่ ก็จะเอาตัวเองมาลงกับคุณฟ้ากะคุณหมอต่อ อิอิ

ปล.แอบๆ คร้า แอบถามว่า ถ้าจบเรื่องคุณฟ้ากะคุณหมอแล้ว อยากได้เรื่องของนนท์กะแดน หรือ อิงกะหนึ่ง หรือจะข้ามไปหาพี่ป้องกะน้องปั้น (แว๊กก ได้ข่าวว่าน้องปั้นยังไม่โผล่ พี่ป้องก็มาแต่ชื่อ อิอิ) ให้เลือกคร้า แล้วคนเขียนจะนับผลโหวตเท่าที่มี ถ้าเสมอกันก็ให้พี่เอ๋คนโพสเป็นคนตัดสินใจนะคะ บอกกันหน่อยน้า คนเขียนจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า

สุดท้ายก็คือ ขอบคุณที่ติดตามซีรี่ส์รัก -- เรื่องรัก...เชิญครับ นะคะ  :pig4:

Aeaw Na Ka

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ยอมทั้งตัวทั้งหัวใจเลยนะน้ำฟ้า :z1:
ปล.ขออิงกะหนึ่งค๊า
+1ให้จ๊า

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านนะคะ

รีบๆมาต่อนะ :z2:

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
คุณฟ้านี่จุดติดง่ายจัง แบบนี้คุณหมอก็กำไรเห็นๆ อิอิ
เรื่องจะจบแล้วหรอ แอบเสียดาย แต่คงอีกสักพักมั้งคะ เห็นตอนนี้ยังสู้รบกัน(ทางใจ)อยู่เลย

คู่ต่อไป อยากอ่าน นนท์แดน อ่ะค่ะ แต่ก็นะ อดใจทิ้ง อิงหนึ่ง ไม่ได้
แล้ว พี่ป้องน้องปั้น ก็น่าสน ดูท่าพี่ป้องจะเป็นพี่ชายแสนโหดแหงๆ น่าอ่านมากกกก

รอติดตามผลกันต่อไปจ้า

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ไปที่ละ step ดีกว่า เอาเรื่องของ คุณอิง กับ หนึ่ง ก่อนนะ แล้วค่อยมาเรื่องของ นนท์ กับแดน

ว่าไป คุณหมอนี่แอบเจ้าเล่ห์นะ  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คุณหมอใช้ใจซื้อใจคุณฟ้า คงได้ใจคุณฟ้าในไม่ช้านี่แหละ
ตอนหน้าหวังว่าเป็น นนท์+แดนนะคะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สงสารฟ้า เรื่องต่อไปก็ขออิงกับหนึ่งแล้วกันค่ะ
ตอนนี้ยังทำใจอ่านนนท์ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ squalo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งอนฟ้าสามนาที. -3-
คุณหมอก็น่ะเจ้าเลห์นะนี่ หึหึ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
รักคู่นี้ คุณหมอน่าร้ากมากๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
คุณหมอแอบเจ้าเล่ห์นะเนี่ย  :oo1:

อิง-หนึ่ง อีกเสียงครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
สงสารคุณฟ้าจังเลย

atommic

  • บุคคลทั่วไป
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด.............. :m15:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 13

ผมว่า...
คนที่นอนเอาแขนพาดอยู่บนตัวผมแล้วเกี่ยวเอวผมไว้แน่  ช่างเป็นผู้ชายที่ดื้อด้านเหลือเกิน  คนที่ผมไม่รู้จะสลัดให้หลุดออกไปจากชีวิตได้ยังไง  ทั้งที่เพิ่งสนิทสนมกันได้ไม่กี่วัน แต่เขากลับเหมือนมีสิทธิ์ในตัวผมซะเต็มประดา  ทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการเลย ผมไม่ได้รักคุณหมอ มันคือความจริง  แล้วคนที่ไม่ได้รักกันจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงอย่างมีความสุขได้เหรอ?

ผมขยับเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยมากกว่าเมื่อวานช้าๆ  ดึงมือใหญ่ออกจากเอวให้มันคืนไปอยู่ข้างตัวของเจ้าของแล้วลุกขึ้นนั่ง ลำบากนิดหน่อยกับความเจ็บตรงสะโพก  กล่องถุงยางกับเจลยังวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง จำได้ครั้งหนึ่งมันเคยอยู่ในลิ้นชักโต๊ะตัวนั้น  และหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้  ขณะที่ผมและคุณหมอกำลังจ้องตากันอยู่ เหมือนวัดใจกันว่าจะเอายังไงต่อไปกับสิ่งที่กำลังดุดันอยู่เบื้องล่าง ทั้งของผมและของคุณหมอ

ในที่สุดเป็นผมเองที่บอกออกไปว่า....

‘ในลิ้นชัก’

ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าอะไรในลิ้นชัก  คุณหมอเข้าใจทันที แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาด้วยดี ด้วยสภาพที่ผมต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บจากเบื้องล่าง  ส่วนอีกคนหนึ่งกลับนอนหลับด้วยใบหน้าที่มีความสุข

เฮ้อ....

ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว ผ่านมาเป็นครั้งที่สอง ที่ผมยอมมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รัก

มันก็แค่...

อารมณ์เผลอไผล ที่ยากควบคุม


เสื้อผ้าของผมและของคุณหมอเรี่ยราดอยู่ข้างเตียง  ผมก้มลงเก็บอย่างช้าๆ ไม่ถนัดนักเพราะยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ  ที่สะโพกด้านหลัง  คุณหมอรุนแรงกว่าเมื่อคืนวาน ไม่รู้เพราะอะไรหรือเพราะยังโกรธผมเรื่องที่ผมพูดออกไป  ทำไมต้องโกรธ มันเป็นความจริง ผมไม่ใช่เด็กสาวที่ตกเป็นของใครแล้วต้องร้องไห้กระซิกๆ ให้ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบ  แล้วก็ไม่ใช่ใครที่จะยอมเป็นให้คนอื่นมายึดเอาเป็นของตนเอง โดยที่ผมไม่ยินยอม

ความจริงคุณหมอเป็นคนดี ดีมากๆ ด้วยแหละ แต่ทำไงได้ ผมไม่ได้รักคุณหมอสักหน่อย  แล้วจะให้ผมฝืนรักคุณหมอเพราะเรามีอะไรกันแค่ครั้งสองครั้ง  มันตลกเกินไปแล้วล่ะ ชีวิตของผมทั้งชีวิตนะครับ ถ้าไม่ได้รัก ผมก็ไม่คิดจะเลือก

โยนเสื้อผ้าทั้งของผมแล้วก็ของคุณหมอลงตระกร้า เห็นเสื้อผ้าชุดที่ผมใส่ไปเที่ยวทะเลอยู่ในนั้น คุณหมอคงเป็นคนจัดการให้ตอนที่ผมนอนไม่สบายตามคำบอกของคุณหมอ  หรือไม่ก็ตอนที่เรามีอะไรกันไปแล้ว แล้วผมเหนื่อยและเจ็บเกินกว่าจะลุกไปอาบน้ำ  มีเพียงคุณหมอที่เข้าไปอาบน้ำ แต่ก่อนอาบก็หาผ้ามาเช็ดเนื้อตัวให้ผมอย่างดี  มีแปะแป้งให้ผมด้วย ผมไม่ได้ขัดขืนครับ อยากทำอะไรก็ทำไป เหนื่อยเกินจะห้ามปราม จนเผลอหลับไป ไม่รู้ว่าคุณหมออาบน้ำเสร็จตอนไหนด้วยซ้ำ

ผมหันหลังกลับไปมองคนที่ขยับตัวแล้วพลิกไปอีกด้านหนึ่ง คว้าหมอนข้างของผมขึ้นมากอด ถ้าเปลี่ยนจากคุณหมอเป็นนนท์ ผมคงจะมีความสุขอยู่ในอ้อมแขนที่เห็น สุขทั้งกายสุขทั้งใจที่เราได้ก้าวข้ามมาอีกขั้นด้วยกัน

อย่างที่เคยบอก...

ผมกับนนท์ เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลย

แล้วจะตลกไหม ถ้าผมจะบอกว่า ถุงยางกับเจลนั่นน่ะ ผมเป็นคนซื้อมาเองเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน คงรู้กันนะครับ ว่าผมคงไม่ซื้อมันเอามาดูเล่นแน่ๆ

ใช่ครับ....

ผมซื้อเตรียมไว้ให้นนท์เอามาใช้กับผม  คิดมาตลอดครับกับความสัมพันธ์ของผมและนนท์  ที่มันยังไปไม่ถึงจุดที่ว่านั้นซะที

แต่สุดท้าย...

กลับเป็นว่า คุณหมอเป็นคนใช้


พูดถึงนนท์แล้ว ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมต้องไปหานนท์สิ ไปให้เห็นกับตาว่านนท์และแดนอยู่ด้วยกัน แล้วคำพูดของนนท์เมื่อตอนสายก็ดังวนเวียนอยู่ในหัวของผมอีกครั้ง เมื่อผมถามนนท์ไปว่า

‘นนท์รักแดนเหรอ?’

นนท์ตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด ไม่แม้จะรักษาน้ำใจของผม คนที่นนท์เพิ่งทิ้งไปเมื่อวันก่อน

‘รัก  รักมาก’

คำพูดง่ายๆ ไม่ต้องหยุดคิด แต่มันบาดลึกให้ผมเสียน้ำตา หัวใจมันเจ็บ เจ็บที่กลายเป็นคนที่นนท์ไม่ได้รักแล้ว

แค่คำพูดผ่านมาทางโทรศัพท์ คงไม่ทำให้ผมเจ็บมากพอมั้ง  ผมถึงต้องอยากไปเห็นว่าคนทั้งคู่อยู่ด้วยกัน นนท์บอกว่าแดนอยู่กับเขา นอนอยู่ด้วยกัน ผมไม่ต้องเดาเลยว่า  นอนน่ะ มันนอนยังไง นอนท่าไหน เพราะเท่าที่ผ่านมา ทั้งก่อนและหลังเริ่มคบกันของผมกับนนท์ ผมเห็นบ่อย เจอมาเยอะว่าไอ้การนอนของนนท์กับคนอื่น มันเป็นยังไง

ก็แน่ล่ะ เปิดประตูไปเจอก็หลายทีนี่น่า

คิดมากไปทำไม บางทีนนท์อาจจะแค่หลงเหมือนครั้งอื่น ๆ แค่ตอนนี้มันพิเศษขึ้นมาหน่อย ถึงได้บอกเลิกผม ผมจะไม่คิดมาเลย ถ้าคนใหม่ของนนท์จะไม่ใช่แดน....

ผมเปิดฝักบัว ให้สายน้ำเย็นไหลชำระคราบน้ำตา สะอื้นเบาๆ เพราะมันไม่มีแรงจะสะอื้นดังกว่านี้แล้ว

ทำไมต้องเป็นแดน?

คำถามนี้มันดังวนเวียนตีกันยุ่งกับความคิดอื่นๆ ของผม ถ้าไม่ใช่แดน ผมจะเสียใจเท่านี้ไหม

ผมรักนนท์

แต่ผมก็ห่วงแดน

ถ้านนท์จะเพียงแค่นนท์จะล้อเล่นกับแดน เมื่อสมใจแล้วนนท์จะทิ้งแดนไปไหม?

ผมไม่อยากให้แดนเสียใจ พอๆ กับที่ไม่อยากให้ตัวเองเสียใจเหมือนกัน

.

.

.

.

.

ผมเดินออกมาจากห้องน้ำเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอพลิกตัวกลับมาทางผม พร้อมกับหมอนข้างที่ยังหอบหิ้วติดมือมาด้วย  ผมไม่ได้สนใจสายตาคมๆ ที่มองตามผมตลอด ตั้งแต่จับไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้แห้ง ใส่เสื้อแขนยาวลายทาง พอผมเปลี่ยนจากผ้าพันตัวเป็นกางเกงยีนขายาวเท่านั้นแหละ เจ้าตัวถึงกับลุกพรวดขึ้นมานั่งทำหน้ายุ่ง ถามผมว่า

“จะไปไหนครับคุณฟ้า”

“ไปหานนท์ครับ”

ผมตอบความจริง  มือทาครีมที่หน้า มองสบสายตากับคุณหมอ โดยมีกระจกเงาเป็นสื่อกลาง คุณหมอมีสีหน้าไม่พอใจเพียงวูบหนึ่ง  ก่อนจะเปลี่ยนมาทำหน้าเศร้า ลุกขึ้นนั่งห้อยขากับมองหาเสื้อผ้าตัวเองมั้งครับแล้วไม่เจอ จะเจอได้ไงในเมื่อผมเก็บใส่ตะกร้าผ้าหมดแล้ว ผมเลยวางมือที่ทาครีมเสร็จพอดี เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ เดินเอาไปให้คุณหมอ ยังไม่อยากเห็นชีเปลือยครับ แต่เป็นชีเปลือยที่หุ่นดีเอามากๆ ครับ

อืมมม....

ทำไมผมรู้สึกร้อนวูบวาบที่หน้าไม่รู้ ตอนที่ส่งผ้าเช็ดตัวให้คุณหมอ แล้วเจ้าตัวลุกขึ้นมารับ ไม่คิดจะช่วยเกรงใจผมเลยครับ

“เป็นอะไรไปครับ หน้าแดงๆ” ถามจริงหรือแกล้งถามให้ผมอายก็ไม่รู้

“เป็นไข้”

ผมบอกแล้วก็รีบเดินกลับมาที่เดิมครับหน้าโต๊ะกระจก  ไม่ได้สนใจอีกคนที่เดินตามมาข้างหลัง กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดไปก็เมื่อท่อนแขนแข็งแรงโอบผมจากด้านหลัง  ฝังปลายจมูกเข้าที่ซอกคอผม  ยังไม่ทันจะโวยวายก็โดนพลิกตัว  จับคางให้อ้าปากรับเอาลิ้นร้อนๆ เข้าปากไปจนได้  ทั้งผลักทั้งตีตัวชีเปลือยก็เหมือนไม่สนใจเลย จนผมทำท่าเหมือนจะหายไม่ทันนั่นแหละ  ถึงได้ปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ แต่ไม่วายดึงผมไปนอนแปะอยู่บนเตียงในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งที่ผมยังไม่ทันงับเอาอากาศเข้าปอดเลยด้วยซ้ำ

ตามสูตรเดิมเป๊ะ...

ขึ้นคล่อม

ก้มจูบ

ลิ้นร้อนรุนแรงเหมือนร่างกายที่บดเบียนลงมาก เนื้อตัวของผมมันเหมือนจะแตก เมื่อเนื้อกายเปล่าแนบลงมา

กว่าผมจะหายใจได้อีกครั้งก็เมื่อฝ่ายบ้าพลังปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ  ผมหายใจผะงาบๆ มองคนที่จ้องดูผลงานตัวเองอย่างโมโห

“ยังจะไปอีกไหม?”  หน้าเข้มดูเรียบเรื่อยต่างจากจูบที่รุนแรงเมื่อครู่  มือแกะกระดุมออกจากรังดุม ผมตะคุบเอาไว้ทัน แต่โดนดึงออกด้วยแรงที่มากกว่า สุดท้ายก็ถูกรวบเอาข้อมือทั้งสองไว้ด้วยกันบนหน้าท้องของตัวเอง

“คุณหมออย่า”  ห้ามได้แต่ปาก เมื่อมือใหญ่รูดซิบกางเกงผมลง พร้อมกับดึงลงพ้นจากสะโพกผมไปทั้งสองตัว

“อย่าอะไรครับ ยังไม่ได้แต่งเลย” คุณหมอว่าแล้วยิ้ม  แต่ผมขำไม่ออกกับมุกเก่ารุ่นดึก แล้วอะไรแข็งๆ แทงผมอยู่ด้านลงนั่นอีก มันทำให้ขำไม่ออก สะโพกยังไม่หายเจ็บดีด้วยซ้ำ ขาก็ลอยขึ้นสูง

“คุณหมอ...เอ่ออ...เอาออกไปก่อนได้ไหมครับ”  บอกเสียงอ่อนครับ ห่วงสวัสดิภาพตัวเอง  เมื่อตัวตนของคุณหมอกำลังจดจ่ออยู่ช่องทางด้านหลังขอผม โดยที่ขาทั้งสองข้างของผมลอยสูง กางกางก็ยังคาอยู่อย่างนั้น

“ไม่ได้ครับ”  ตอบได้นิ่มนวลมากครับ แต่มันขัดกับการกระทำ ผมละอยากชกหน้ายั่วๆ นั่น เสียแต่ว่าผมเป็นคนไม่ชอบใช้กำลัง ให้ดิ้นหนีด้วยการเตะหรือถีบคุณหมอ ผมก็ทำไม่เป็น เลยต้องใช้คำพูดห้ามปรามเท่านั้นครับ

เหอๆๆ แล้วลมปาก มันจะสู้น้ำมือคุณหมอได้เหรอ?

“ผมหิว”  ใช้ไม้นี่ล่ะกัน คุณหมอคงรู้อยู่ว่าผมไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้าแล้ว

“ผมก็หิว....แต่หิวคุณฟ้า” อืมมม...สายตาคุณหมอบอกว่ากินผมได้ก็คงกินไปแล้วครับ

“คุณหมอครับ นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะครับ”

“ก็ไม่ได้พูดเล่นครับ จะทำจริง”  ไม่ได้พูดเล่นจริงๆ ครับ ไอ้อะไรแข็งๆ มันกำลังแทงผมอยู่ด้านหลัง ต้องขยับสะโพกหนี แต่หนีได้ไม่มาก คุณหมอยังตามราวีไม่เลิก

“คุณหมอ!”

“ครับ” ยังยิ้มสู้หน้าผมอยู่ครับ คนอะไรด้านที่สุด

“จะไม่หยุดใช่ไหม”

“ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นดีแท้

“ถุงด้วยครับ” จำต้องพูดออกไปจนได้

ไม่อยากเถียงอยู่ทั้งที่ขาผมชี้ฟ้าครับ มันเมื่อย  ท่าทางคุณหมอก็เอาจริงซะด้วย  ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ไม่อยากอะไรมาก  เคยมาแล้วสองครั้ง อีกครั้งจะเป็นอะไรไป เรื่องแค่นี้ ถือว่ามีความสุขร่วมกันก็ได้

“คร้าบบบบบบบบบบบบ”

เถอะ...ยิ้มร่าเลยนะคุณหมอหมา!!


ร่างแกร่งที่ขยับลุกออกไปเพียงไม่กี่อึดใจกลับมาพร้อมกับของในมือ แล้ววางไว้ข้างตัว จากนั้นถึงได้ดึงกางเกงผมให้พ้นไปจากขา

“คุณฟ้าน่ารักจังครับ” ผมไม่อยากน่ารักก็ตอนนี้แหละครับ เกลียดตัวเองอยู่เหมือนกันครับ ที่อะไรๆ ในตัวมันจุดติดง่ายเหลือเกิน  ถ้าท่อนล่างถูกถอดด้วยมือคุณหมอ ท่อนบนก็เป็นผมเลยล่ะครับที่ถอดมันด้วยมือของตัวเอง

“จะทำก็รีบทำ” ผมบอก ไม่อยากสบสายตาเยิ้มๆ นานนัก

“ครับ”  แล้วผมก็ถูกจับพลิกให้หันหลัง ซบหน้าลงกับหมอน ร่างหนาตามลงมา สะโพกผมถูกยกขึ้นสูง มือใหญ่ล้วงเข้ามาด้านหน้า ตัวตนของผมมันร้อนระอุอยู่ในมือที่ขยับขึ้นลงช้าๆ แล้วค่อยๆ เร็วขึ้น ผมวูบวาบ สันหลังมันเสียวไปหมด

“คุณฟ้าครับ”

“อื้อออ...” ผมครางรับในลำคอ ถูกจับให้หันหน้าไปรับจูบที่บดเบียดลงมา  ลิ้นร้อนชื้นพันเกี่ยวอยู่ในโพลงปาก เกาะเกี่ยวไม่ลดละ  ผมไม่หนีครับ เกี่ยวมาก็เกาะไป อารมณ์ตอนนี้มันเตลิดไปไกลแล้ว อะไรๆ ก็ดูพร่ามัวไปหมด มีเพียงความต้องการที่เต้นร่าอยู่ในกายที่สั่นเทา

“อ่า.....”

ปากหนาและลิ้นร้อนไต่ไล่จากแก้ม กกหู คอ มาไหล่ แล้ววนเวียนอยู่ที่แผ่นหลัง จูบซ้ำๆ ย้ำเหมือนจะเอาเข้าปากไปให้ได้  มือนั้นยังคงทำหน้าที่กระตุ้นความยากของผมให้ลุกโลด ตัวผมแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เมื่อคุณหมอคลายมือออก  ผมหันไปมองเห็นคุณหมอกำลังฉีกซองถุงยาง ต้องรีบหันหลังกลับครับ กัดปากตัวเอง ห้ามความรู้สึกที่วิ่งแล่นไปทุกรูขุมขน


“หึ หึ ...” เสียงหัวเราะที่ทำเอาผมต้องหันหลังไปค้อน

“คุณหมอ!”

“คร้าบบบบ” อารมณ์ดีเหลือเกิน

แล้วอึดใจต่อมาก้นของผมจะถูกยกให้ลอยสูงขึ้น ตามความเย็นวาบจากช่องทางด้านหลัง ผมสะดุ้งเล็กน้อย เตรียมตัวเตรียมใจกับอะไรที่จะใส่เข้ามาทักทายภายใน

“อ๊า...อ่า.......” มันเจ็บปนเสียว จนต้องจิกเล็บเอากับพื้นเตียง

“นิ้วเดียวอยู่นะครับ”

“คุณหมอ!! อ๊า...อ๊าาา“ จะพูดทำไม มันใช่เวลาไหม ค้อนไปก็เจ็บไป จุกไป

“นิ้วที่สองแล้วครับ” อะไรๆ ที่หมุนควงอยู่ด้านหลังผมมันเพิ่มจำนวมตามคำบอกครับ แต่มันใช่เรื่องไหม หน้าด้านจริงคุณหมอ

“สามแล้วครับ” ไม่ต้องบอกผมก็รู้

“คะ...คุณ....อื้อออ...อะ...อ๊ะะะ”  ไม่มีแรงด่าแล้วครับ  ร่างกายมันตุ๊บๆ ความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด แยกไม่ออก  รู้เพียงว่าผมจะไม่ไหวแล้ว นิ้วของคุณหมอทำเอาผมปั่นป่วน กระตุกตามทุกครั้งที่เคลื่อนไหว

“อ่าาา คุณหมอ...ผม....เข้ามา....อะ....”

ผมซบหน้าลงกับหมอน หลุดเสียงครางบอกออกไปอย่างไม่อาย อะไรก็ดูเหมือนไม่ทันใจ ยิ่งคุณหมอพลิกตัวผมกลับมาเผชิญหน้ากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของตนเอง เห็นแล้วหมั่นไส้ แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหลับตาหนีสายตาคู่นั้นมันซะเลย

“จะเข้าไปแล้วนะครับ”

“จะเข้าก็เข้า จะพูดเพื่อ...” อารมณ์เสียวมันจะหด อารมณ์โกรธมันจะทำงานแล้วครับ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นขาตัวเองพาดอยู่บนไหล่หนาแล้ว

“คุณฟ้าน่ารัก”

ผมเขิน....

จู่ๆ มันก็เขินขึ้นมา มันมีสายเหตุจากสายตาคุณหมอนั่นแหละ

โอ้ยยย...ผมวูบไปทั้งหน้าแล้ว ร้อนวูบวาบ จนต้องหลบสายตาที่แทบจะกลืนกินผมไปทั้งตัว   ผมไม่ใช่สตอเบอร์รี่บนหน้าเค้กนะครับ

“อ๊ะ.....อ๊าา....” คุณหมอไม่ทันให้ผมตั้งตัวครับ นิ้วที่ถอนออกมาถูกแทนที่เข้ามาทีเดียว ไม่ถึงกับมิดด้าม แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมจุกแล้วเจ็บ ร้าวไปทั้งสะโพก

“อื้อออออ....”

ปากหนาก้มลงมาจูบ บดเบียดเพื่อคลายความเจ็บปวดด้านล่างที่ขยับช้าๆ เข้ามาให้ร่างกายผมดูดกลืน มือใหญ่นั้นก็ขยับตัวตนของผมให้ตื่นตัวกลับมาอีกครั้ง

มันเจ็บจนร้าวไปหมด มือที่จิกลงบนที่นอนเหมือนจะไม่ช่วยผ่อนปรนความเจ็บปวดได้เลย คุณหมอเหมือนรู้ ดึงมือผมให้เกาะที่แผ่นหลัง

“ตรงนี้ก็ได้ครับ”  ผมพยักหน้ารับ ลงความเจ็บปวดที่มีผ่านนิ้วสู่แผ่นหลังกว้าง ทั้งจิกทั้งข่วน

“อ๊า....อ่า....อา......” มันลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนสุด ผมรู้เมื่อคุณหมอหยุดเคลื่อนไหว

“เข้าไปหมดแล้วครับ”

หน้าด้านไม่เลิกครับ มีหน้ามากระซิบเสียงพร่าข้างหูผมอีก  ผมตอบแทนคำพูดด้านๆ นั้นด้วยการดึงเอาปากหนามาบดจูบ เป็นฝ่ายดูดกลืนลิ้นหนาอย่าลืมตัว  ตัวตนเบื้องล่างโอบล้อมด้วยมือใหญ่ที่ปรนเปรอให้มันร้อนระอุแทบดิ้นพล่าน  ช่องทางด้านหลังบีบรัดสิ่งที่แช่ค้างอยู่ในนั้น ไม่ยอมขยับ

ผู้ชายคนนี้ เจ้าเล่ห์นัก!!

“อื้อออ.....จะทำไหมคุณหมอ....” เมื่อคุณหมอหน้าด้านมา ผมก็หน้าด้านกลับครับ

“หึ...” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังอยู่ตรงหน้า ตาพราวยิ้มเหมือนคนที่ถือแต้มเหนือกว่า

“อยากขยับเองไหมครับ”

“คุณหมอ!!” ผมตะโกนใส่หน้าเลยครับ คนบ้าอะไรพูดได้ไม่อาย จะให้ผมขยับเอง งั้นให้ผมเป็นคนใส่เลยไหมล่ะ

“คงไม่อยาก”

“ก็ใช่นะสิ......อื๊อ....อื๊ออออ.....อ่า” เอาแล้วไง ผมเสียววูบ เมื่อสิ่งนั้นมันเริ่มขยับช้าๆ เป็นจังหวะเนิบนาบ

“อ่า....ชอบไหมครับ” เสียงครางต่ำในลำคอ บอกอารมณ์คนที่อยู่เหนือร่างของผมได้อย่างดี ไม่ได้แตกต่างจากผมเท่าไหรหรอก....มั้ง

“จะถามเพื่อ...”

“หรือไม่ชอบ”

“ไม่ชอบ” ปากบอกไปเพราะฉุนที่คุณหมอเอาแต่พูดเรื่องน่าอาย

“อ๊ะะะ ...เบาๆ อ่าาา”   ผมตีแขนคนที่เปลี่ยนจากเนิบนาบเป็นเร็วและถี่ จนเนื้อตัวผมสั่นคลอนไปหมด ต้องเกาะบ่าหนาที่โน้มมาใกล้ไว้แน่น

“เห็นว่าไม่ชอบ นึกว่าอยากได้แบบนี้”  คุณหมอเคลื่อนตัวช้าลง

เพี้ย!!   เพี้ย!!

ตีเข้าที่ต้นแขนไปหลายทีเลยครับ ชอบพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง หยุดพูดแล้วทำอย่างเดียวไม่ได้หรือไง คุณหมอ

“ทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องพูด....อื้ออออ”

แค่นั้นแหละครับ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากคุณหมอและผม   นอกจากเสียงที่เกิดจากความรู้สึกภายในที่ร้อนรุ้ม  จากการกลืนกิน จากธรรมชาติที่สรรค์สร้าง จากร่างกายที่ถูกกระทำและตอบสนองการกระทำแทบจะระเบิดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

.

.

^
^
^
มีต่อนะค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2011 20:17:21 โดย Aphrodite »

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ
^
^
^


“ลุกครับ” ผมดันร่างหนาที่ยังคงโอบกอดผมไว้ หลังจากผ่านจุดนั้นมาด้วยกัน เมื่อหลายนาทีก่อน เนื้อตัวเหนอะเหนาะด้วยเม็ดเหงื่อและคราบจากการปลดปล่อย

“อะไรกันครับ”  คุณหมอถาม ยังฝืนตัวจะกอดผมเอาไว้ ไม่ปล่อย ปากก็วนเวียนอยู่ทั่วใบหน้า มืออยู่ไม่สุข ลูบคลำไปทั่วเนื้อตัวผม

“พอแล้วครับ”  ผมห้ามมือนั้น พลิกตัวหนี เจ็บจี๊ดเลยครับ ครั้งนี้ คุณหมอรุนแรงขึ้นอีกกว่าเดิม สะโพกผมคงระบมไปหมดแล้ว

“ไม่อยากพอเลย”  คนตัวโตตามมากอดผมจากด้านหลัง ซบหน้าลงกับซอกคอผม ลมหายใจคลอเคลียอยู่ข้างแก้ม

“คุณฟ้าหวาน....หวานไปทั้งตัว”


“ผมว่าตอนนี้จะเน่ามากกว่า ปล่อยครับ เหนียวตัว อยากอาบน้ำ”  ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุดครับ รัดแน่นยังกะครีมเหล็ก

“ไม่อยากปล่อย”

“แต่ผมอยากอาบน้ำ เหนียวตัวมาก  เอ๊ะ! คุณหมอ หยุดเลยนะ”  ให้ตายเถอะ มือคุณหมออยู่ไม่สุขเลยครับ มาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงส่วนกลางร่างกายของผม

“โอ๊ยยยย คุณฟ้า เจ็บนะครับ”

“ดี สม”  เป็นไงล่ะ โดนผมจิกเล็บลงบนหลังมือ ไอ้อะไรที่จับๆ คลึงๆ เล่นอยู่ ปล่อยเลยทันที

“คนน่ารักแต่ใจร้าย” ว่าเข้าไป ผมไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ แต่ไอ้อะไรที่แทงอยู่ด้านหลังผมนี่สิ มันยังแข็งขันไม่เลิก ชักกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะมีรอบต่อไป

“ไม่เอาแล้วนะครับคุณหมอ เจ็บจะแย่อยู่แล้ว”  ผมว่า พลิกตัวกลับมาหาคุณหมอ ไอ้นั่นของคุณหมอเปลี่ยนจากทิ่มหลังเป็นทิ่มหน้าท้องแทน  ผมใช้มือดันหน้าอกกว้างเอาไว้ ไม่ให้ใกล้มากกว่านี้ พูดสีหน้าจริงจังว่า

“ผมให้ได้แค่นี้นะครับคุณหมอ ส่วนตรงนี้”

ผมชี้มาที่อกด้านซ้ายของตัวเอง ตรงที่ก้อนเนื้อเท่ากำมือมันเต้นอยู่ข้างใน

“คุณหมอเข้าไปไม่ได้”

แทนคำพูดทั้งหมดที่คุณหมอพูดออกมา เพื่อร้องขอให้ผมเห็นใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณหมอดื้อด้านจะให้ผมยอมรับ คือมือที่ดึงหน้าผมเข้าไปใกล้ แนบจูบลงมาบนปากผม ผมเปิดรับลิ้นร้อนที่สอดเข้ามา ไม่ได้เต็มใจ  แต่ไม่อยากฝืนมากนัก อยากทำอะไรก็ทำ  อย่างที่บอก ห้ามคุณหมอคงไม่ได้แล้ว คนตัวโตถือสิทธิ์ในตัวผมไปแล้ว ไล่ให้ตายยังไงก็คงไม่ยอม เลยต้องเลยตามเลย


“ถุงด้วยครับ”

ประโยคเดิมๆ

มันก็แค่เนื้อตัว...

ถึงจะป่าวประกาศว่าครอบครองตัวผมไปทั้งหมดแล้ว  แต่ข้างในนี้  ก้อนเนื้อที่ยังเต้นไปตามจังหวะของลมหายใจ  มันยังคงมีเพียงนนท์ที่เข้าไปครอบครองเพียงคนเดียว

.

.

.

.

.

.

“นี่ครับ”

ผมเดินถือเสื้อกับกางเกงมาให้คุณหมอที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา เสื้อผ้านนท์ทั้งหมดครับ คิดว่าคุณหมอน่าจะใส่ได้พอดี พอคุณหมอรับไปแล้ว  ผมก็ถอยออกมานั่งรอคุณหมอข้างนอก ถ้าคุณหมอแต่งตัวเสร็จจะได้เชิญกลับบ้าน แล้วผมก็จะได้ไปหานนท์ซะที


ตอนเดินผมเจ็บสะโพกมาครับ แต่ยังดีที่ยังเดินได้อยู่ เอาเป็นว่าผมคงจะอึดอยู่บ้าง  เลยไม่ถึงกับต้องคลานแล้วปลงกับสังขารตัวเอง พอออกจากห้องมาก็นั่งดูทีวี ไม่นานเท่าไหร่ผมก็ได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูห้องของตัวเอง พร้อมกับร่างสูงของคุณหมอที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ดูนาฬิกาตั้งโต๊ะข้างจอทีวี มันบอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว หิวมาก ตั้งแต่เช้าไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลย แถมยังเสียพลังงานไปเยอะมากตั้งแต่บ่ายยังค่ำ

“ผมจะไปหาอะไรทาน คุณหมอก็กลับเลยละกัน”  ผมบอก แล้วลุกเดินไปหยิบกระเป๋าเงินในห้อง เมื่อกี้ลืมหยิบออกมาครับ  ไม่ได้สนใจหน้าที่บึ้งไปทันทีที่ผมพูดจบ พอออกมาก็เห็นคุณหมอยืนหน้าบึ้งอยู่เหมือนเดิม

“จะไปด้วยกันไหมล่ะครับ”  ผมถาม คนถูกถามยิ้มทันที ทั้งที่ก่อนหน้าหน้าบึ้ง บูดจะเป็นตูดห่านได้แล้วครับ

“นึกว่าจะไม่ชวน”  คุณหมอว่ายิ้มๆ เดินเข้ามาใกล้ ทำท่าจะกอด ผมเบี่ยงตัวหนี

“นึกว่าคุณหมอไม่หิว”

“หิวสิครับ”

“เหรอครับ นึกว่าไม่หิว เห็นกินอิ่มแล้วนี่ครับ”

แน่ล่ะ ผมประชดครับ ทำไมน่ะเหรอ  ก็เพราะไอ้เรื่องบนเตียงไงครับ  ไม่รู้บ้าพลังอะไรนักหนา วันนี้เกือบจะมีรอบที่สี่ ถ้าผมไม่พูดห้ามไว้ก่อนว่า  ‘ถ้ายังจะทำอีกรอบ อย่าหวังจะมีครั้งหน้า’  นั่นแหละครับถึงยอมหยุด แต่ไม่วายทำตัวเป็นปลาหมึก  มืออยู่ไม่สุข ลูบโน่นนี่นั่นไปทั่ว ทำเอาผมเกือบกู่ไม่กลับ  โชคดีที่ถุงยางมันหมดเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีรอบที่สี่แน่ๆ

“อิ่มครับ แต่ยังกินได้อีกเยอะ” พูดได้ชัดมาก ตาเยิ้มได้อีกครับ แต่ผมไม่สน

“ระวังท้องแตกตาย” ว่าแล้วก็หยิบกุญแจรถในตะกร้าใกล้มือ แล้วรีบเดินออกมาครับ ไม่อยากพูดให้เข้าตัวเอง รู้อยู่ว่าคุณหมอหน้าด้าน พูดไม่เคยอายอะไรเลย

“ราดหน้า ร้านหน้าคอนโดล่ะกันนะครับ”  ผมหันไปบอกคุณที่เดินออกมาจากลิฟท์ด้วยกัน ราดหน้าเจ้านี้อร่อยครับ  ร้านประจำของผมกินแทบทุกเย็น ผมติดใจคะน้าครับ เพราะมันกรอบมาก แต่แล้วก็เกิดขัดใจขึ้นมาครับ เมื่อคนที่ผมหันไปพูดด้วย เอาแต่ยิ้ม

“ยิ้มอะไรครับ”  หยุดเดินครับ ไม่ไหว เห็นยิ้มตั้งแต่เดินออกจากห้องมาแล้ว จนจะเดินออกจากคอนโดอยู่แล้ว ยังยิ้มอยู่ได้ บ้าหรือไง

“ยิ้มเพราะมีความสุขครับ”  คุณหมอว่า ยิ้มกว้างกว่าเดิม หูตางี้แพรวพราว ผิดกับคุณหมอที่เคยเห็นครั้งก่อนๆ ก่อนจะชิดเชื้อกันขนาดนี้

“ระวังจะทุกข์ถนัดตา” หมั่นไส้ครับ

“แต่ตอนนี้ผมมีความสุข”

“เหอะ...” ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแหละ ไม่อยากพูดกับคนหน้าทน ถ้าผมบอกยีนว่าคุณหมอแสนดีของเธอ ไม่ได้ดีอย่างที่เห็นภายนอกเลย หมอหนุ่มใจดี สุขุม พูดจาน่าฟัง มีมาด เป็นสุภาพบุรุษสุดชีวิต แล้วก็อะไรอีกหลายๆ อย่างที่สาวยีนเพ้อให้ผมฟังอยู่ทุกวัน มันก็แค่ภาพลวงตา  ตัวตนน่ะเป็นหมอหมาโรคจิต มือปลาหมึก แล้วเป็นพวกไม่รู้จักพอซะด้วย

ผมเดินเร็วไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านราดหน้าเจ้าประจำสุดอร่อย   ร้านนี้พิเศษตรงที่ว่าจะขายแต่ราดหน้าเส้นใหญ่หมูเท่านั้น เส้นเล็กเส้นหมี่หรือเส้นอะไรก็แล้วแต่ไม่ขายครับ แล้วก็ตามนั่นครับมีแต่เนื้อหมู ไม่มีเนื้อไก่หรือทะเลอะไรเลย ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ   ที่ไม่มีเนี้ยเพราะเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้ร้านริมฟุตบาทของตัวเองครับ ว่ามีขายแต่แบบนี้นะ   มาถึงก็สั่งเลยว่าเอากี่จาน ไม่ต้องยุ่งยากจำว่าใครสั่งอะไรมั้ง  แล้วที่สำคัญแกก็แก่แล้วด้วย คงไม่อยากวุ่นวายกับลูกค้าที่จะสั่งโน่นนี่นั่น จนแก่จำไม่ได้ครับ

“ราดหน้า 2 ครับ”  เพราะเหตุนี้ไงครับ ผมเลยไม่ต้องถามคุณหมอว่าจะเอาราดหน้าเส้นอะไร  เนื้อหมู ไก่ หรือทะเล ปล่อยคุณหมอให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะเหล็กตัวสุดท้าย แล้วมายืนสั่งราดหน้ากับคุณป้า  ที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทายตามประสาคนคุ้นเคย

“มากับใครล่ะนั่น”  คุณป้าถาม คงเห็นตอนผมเดินมากับคุณหมอแล้ว

“คุณหมอเจ้าของคลินิกพี่หมาน้องแมวหน้าปากซอยครับคุณป้า”

“เหรอ...แฟนใหม่เหรอลูก”

“มะ...ไม่ใช่ครับ” ผมปฏิเสธทันทีครับ เสียงดังจนโต๊ะใกล้ๆ หันมามอง น่าจะเป็นคนในคอนโดเดียวกับผมนี่ล่ะครับ ผมเลยหันไปยิ้มแบบขอโทษ

“ก็เห็นเดินยิ้มแป้นมาด้วยกัน นึกว่าแฟนใหม่ของเรา”  คุณป้าครับไอ้คนที่ยิ้มแป้นไม่ใช่ผมครับ มันไอ้คุณหมอโน่น

“ป้าไม่เห็นมากินกับพ่อนนท์  นึกว่าเลิกกันไปแล้ว”  คุณป้าว่า พลางยื่นจานราดหน้าให้ผม

“เปล่าครับ”  ผมบอกเสียงเบา ยังไม่อยากยอมรับว่าเราสองคน ผมกับนนท์ เราเลิกกันแล้ว ที่คุณป้าแกถาม เพราะแกรู้ครับ คนแก่ อายุมาก ผ่านโลกมาเยอะ คงดูออกว่าอะไรเป็นอะไร

จ่ายเงินให้คุณป้าแล้ว ผมก็เดินถือจานราดหน้ากลับมาที่โต๊ะ  เห็นคุณหมอตักน้ำเปล่าไว้รอแล้ว ผมวางราดหน้าให้คุณหมอแล้วบอก

“ไม่ต้องปรุงก็ได้นะครับ อร่อยอยู่แล้ว” ใช่ครับ คุณป้าทำอร่อยมากขอบอก ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย เส้น น้ำ ผัก อร่อยในตัวของมันอยู่แล้ว

“อร่อยเหมือนคุณฟ้าหรือเปล่า”

“คุณหมอ หุบปากแล้วกินซะ” ผมกดเสียงให้ต่ำกว่าอารมณ์โมโหครับ ถ้าไม่เกรงใจคุณป้าเจ้าของร้านที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ผมคงได้ล้มโต๊ะเหล็กโต๊ะนี้แน่ๆ

“ป้าแถม”  จานผักคะน้าของโปรดผมครับ ที่คุณป้าบอกว่าเป็นของแถม

“ขอบคุณครับ” ของโปรดของผม

“ป้าว่า พ่อนนท์หล่อกว่านะ”  พอคุณป้าว่า ผมหลุดขำเลยครับ ไม่คิดว่าป้าแกจะกล้าพูด  แกเดินกลับไปทันทีหลังจากพูดจบ ทิ้งให้คนที่หล่อน้อยกว่าหน้าหงิกไปตามเรื่อง

“กินสิครับ”  คุณหมอว่า เมื่อผมยังหัวเราะไม่เลิก แล้วตัวเองก็ก้มหน้าก้มตากินจนหมดจานในพริบตา     ผมว่าคงหิวมากอยู่เหมือนกัน ใช้พลังงานไปเยอะนี่ครับ  เยอะกว่าผมอีกมั้ง

“อีกจานไหมครับ”  ผมถาม คุณหมอไม่ตอบ เดินถือจานเปล่าไปหาคุณป้าแทนครับ

ความจริงผมว่าคุณป้าก็พูดไม่ถูกหรอกครับ  ระหว่างนนท์กับคุณหมอเทียบความหล่อกันไม่ได้หรอก       อยู่ที่ใครชอบแบบไหนมากกว่า คุณป้าอาจจะชอบหน้าตาแบบนนท์ ถึงชมว่าหล่อกว่า เพราะนนท์น่ะ หน้าตาออกจะลูกครึ่งนิดๆ  ผมหยักศกนิดๆ ของนนท์ก็ดูดี เข้ากับใบหน้าที่หล่อเหมือนพระเอกหนัง      นนท์ผิวขาวกว่าคุณหมอ ไม่ใช่ว่าคุณหมอดำนะครับ แค่นนท์ขาวกว่า  อาจมีส่วนมาจากการเป็นลูกครึ่งด้วย ส่วนคุณหมอ ผมว่า ตาสีดำสนิทกับคิ้วเข้มๆ ทำให้หน้าดูคมเข้ม หล่อแบบหนุ่มไทยครับ

คุณหมอกลับมาพร้อมสีหน้าที่ดีกว่าเดิมมากครับ ไม่รู้ไปทำอะไรมา หรือจะไปเคลียร์กับคุณป้าเจ้าของร้านมาแล้ว  อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ สนใจผักคะน้ากรอบสีเขียวน่ากินตรงหน้าดีกว่าครับ  ส่วนราดหน้าน่ะ หมดไปแล้วแต่ไม่ต่อจานสอง เพราะส่วนตัวผมเป็นคนกินไม่เยอะอยู่แล้ว จานเดียวก็อิ่ม

คีบคะน้าเข้าปากไปเรื่อยๆ ดูรถที่แล่นผ่านไปมอง สลับกับมองคุณหมอที่กินไปยิ้มไปแล้วหมั่นไส้ ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบตอนคุณหมอยิ้มเลย ชักอยากรู้ว่าไปคุยอีท่าไหน ถึงกลับมายิ้มแป้นแบบนี้

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยปากขอบคุณเมื่อคุณหมอคีบผักคะน้ามาใส่จานผม เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ผมรีบคีบใส่ปากทันที ความจริง คะน้าในจานผมมันหมดไปแล้ว ได้จากคุณหมอมาเลยโชคดีมีให้กินต่อ

“พอแล้วครับ”  คุณหมอทำท่าจะคีบผักทั้งหมดมาให้ผม ผมเกรงใจเดี๋ยวคุณหมอได้สารอาหารไม่ครบล่ะแย่เลย

“เห็นว่าชอบ” คุณหมอว่างั้น ก็ชอบจริงแหละครับ

งั้นไม่ขัดศรัทธาครับ ให้มาก็กินไป อิ่มแล้วจะได้มีพลังไปหานนท์  จะได้รู้จริงจังซะทีว่าจะเอาไงดีกับชีวิตดี

“แยกกันตรงนี้นะครับคุณหมอ”  ผมบอก เมื่อผมกับคุณหมอเดินมาที่ลาดจอดรถ  รถคุณหมอจอดอยู่ข้างรถผมพอดี

“คุณฟ้าจะไปไหน”  ถามซะ ทำเอาผมไม่อยากตอบ กลัวจะเป็นแบบตอนนั้นอีก เกิดหน้ามืดทำอะไรผมตรงนี้ ได้มุดดินกลับห้องแน่ๆ

“ขับรถเล่น”  โม้ไปครับ

“ไม่เชื่อ”

“ทำธุระ”

“ไปหาคุณนนท์หรือครับ” นั่นไง รู้แล้วจะถามตั้งแต่แรกทำไม

“ครับ”  ผมบอกไปเบาๆ พยายามไม่สนใจสายตาที่มองมา

“ผมไปด้วย” ไม่ใช่การร้องขอ หรืออ้อนขอตามไปด้วยครับ แต่มันเป็นคำบอก พร้อมกับกุญแจรถผมที่โดนแย่งไปจากมือ

ทำไงได้ ผมได้แต่ตามขึ้นไปนั่งในรถของตัวเอง ประจำตำแหน่งข้างคนขับ

ช่างเถอะครับ ไม่อยากห้ามอะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำไป

>>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุย ::: เรื่องอาจจะเรื่อยๆ ไปหน่อยนะคะ แต่ตั้งใจเขียนสุดชีวิตแล้วน้า อิอิ :o8: :o8:
ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ จะพยายามมาบ่อยๆ คนโพสบอกว่าต้องมาบ่อยๆ ห้าห้า

บับบายนะคะ ขอไปปั้นตอนที่ 14 ต่อก่อน ^_____^
Aeaw Na Ka



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2011 20:16:44 โดย Aphrodite »

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ มาให้ได้อ่านเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ถึงจะเรื่อย ๆ ไป แต่อ่านแล้วนอกจากรู้สึกสงสารคุณหมอ ยังรู้สึกว่าคุณฟ้าใจร้ายมาก ๆ

แอบเห็นคำผิด

ตะกล้า >>>> ตะกร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด