รังสิมันต์นั่งดื่มอยู่ตรงโต๊ะฝั่งเพื่อนเจ้าบ่าว... และที่ตรงอีกฟากหนึ่งบนพื้นก็มีบรรดาเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าสาวเองกำลังรุมล้อมเด็กน้อยหน้าตาน่ารักอยู่สองสามคนด้วยอาการกระดี๊กระด๊ามาก... งานปาร์ตี้สละโสดวันนี้เหล่าผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เป็นของหนุ่มๆสาวๆโดยเฉพาะ... แต่มีข้อแม้ว่าห้ามมีแอลกอฮอล์ เพราะเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวบางคนก็พาลูกเล็กเด็กแดงมาด้วย... กิจกรรมส่วนใหญ่ภายในงานจึงเน้นไปทางร้องเพลง เล่นเกมส์ และ 'เผา' เพื่อนกันเสียมากกว่า...
"ไอโตไหนตอนอยู่ม.ต้นบอกว่าจะมีเมียทั้งทีเมียแกต้องอายุมากกว่าซักห้าปีไงว่ะ...ต้องเป็นรุ่นพี่สาวดาวมหาลัยอะไรอย่างนี้... แล้วนี่อะไร... ทำไมยอมกลับคำเพิ่มอายุตัวเองมากกว่าเจ้าสาวซะหลายขวบปีแบบนี้ว่ะเนี่ย...ฮ่าๆๆ"
"ปากมากไอ้โจ้..." พูดแล้วคนโดนแซวก็คว้ามันฝรั่งทอดรูปแท่งสีเหลืองนวลในจานปาข้ามโต๊ะใส่คนแซว... ก่อนหยิบอีกชิ้นยัดเข้าปากตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ...เพราะตั้งแต่เริ่มงานมาเรื่องราวของตัวเองก็กลายเป็นหัวข้อหลักในการถูกขุดคุ้ยเสียอย่างนั้น... ใครบอกว่าผู้หญิงเม้าท์เป็นอย่างเดียว... มาลองดูเวลาผู้ชายจับกลุ่มเม้าท์กันบ้างสิ... บางทีมันก็ยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก... แล้วนี่ยิ่งเป็นพวกที่รู้ไส้รู้พุงกันดียิ่งไปกันใหญ่... ไม่รู้ม่านจะโดนพวกเพื่อนสาวๆของเขากรอกหูวีรกรรมเด็ดๆของเขาอะไรไปบ้าง... แต่ดีนะที่ยังเห็นหล่อนยกยิ้มได้อยู่ในกลุ่มวงสาวๆตรงนั้น...
ไอนี่ก็อีกคน... มองไปมองมาไม่หยุด ใจไม่อยู่เนื้อกับตัวเชียวนะ...
"เป็นไรว่ะตะวัน... ยุกยิกไม่หยุดเลยนะ... หาใครว่ะ..."
"เปล่า..."
"อย่าเพิ่งรีบตอบสิ... คิดก่อนซักนิดก็ได้นะก่อนตอบน่ะ..."
"เปล่าจริงๆ...ไม่ได้มองหาใคร..."
"หาแม่แมวไม่เจอล่ะสิท่า...เฮอะ...คิดว่าดูไม่ออกรึไง..." พูดจบโตยธรก็ยกแก้วเปล่าที่มีน้ำแข็งละลายอยู่เล็กน้อยกรอกปาก... ทำเป็นไม่สนใจเพื่อนที่สะดุดกึกแล้วตวัดตามองเขาด้วยแววไม่ค่อยเป็นมิตร... "แน่ะ...ไม่ต้องมองอย่างนั้นเลยนะ... ฉันไม่ได้เอาแม่แมวแกไปซ่อนแน่นอน...ไม่มีความจำเป็นต้องทำเว้ย..."
"ก็ไม่ได้พูดอะไรซักคำ..." รังสิมันต์บอกเพื่อนแล้วทำเป็นไม่สนใจคนพูด ก่อนหันเหสายตาไปมองหนูลินที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากท่ามกลางกลุ่มสาวๆอย่างสบายใจ...
"ข้าวเกรียบครับ... เอาเฟรนช์ฟรายเพิ่มอีกมั้ย... ยังเหลืออีกเยอะเลยนะ..." พร้อมกับที่พูด หมอกก็วางจานข้าวเกรียบลงบนโต๊ะ... มีคุณหมอกานต์ที่อาสาเดินเอาจานข้าวเกรียบไปวางให้กลุ่มสาวๆตามมาด้วย...
หมอกเดินไปเช็คน้ำแข็งในถังและพบว่ามันว่างเปล่าลงแล้วก็เตรียมเก็บ... รังสิมันต์ที่มองมาทางโตยธรอย่างมีความหมายก็ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวต้องถอนหายใจหนักหน่วงกับอาการคนปากแข็งของไอเพื่อนตัวโตคนนี้... อยากรู้แล้วทำไมไม่ถามเองล่ะว่ะ !!
"เอ้อ...ขอบคุณมากนะน้องหมอก... ว่าแต่... นี่น้องฟ้าไปไหนเหรอ...พี่ไม่เห็นเลย... คุณธาดาก็ไม่อยู่นี่..." โตยธรที่ทนอาการรบเร้าของเพื่อนไม่ไหวก็ยอมถามให้ คนถูกถามก็เงยหน้ามามองแล้วยิ้มให้ก่อนบอก...
"อ๋อ... พอดีคุณธาดาไม่ค่อยสบายน่ะครับเลยขอกลับไปพักที่ห้องก่อน... ตะกี๊เจอฟ้าตรงทางเดิน ฟ้าก็เลยอาสาไปทำกับข้าวแล้วก็เอายาไปให้คุณธาดาน่ะครับ... นี่ก็คงอยู่กันที่ห้องละมั้ง..." คุณหมอกก็ตอบพาซื่อ... ไม่รู้เลยซักนิดว่าคำตอบของตัวเองไปจุดประกายชนวนอะไรเข้าในใจของคนบางคน...
"เมื่อไหร่...นานหรือยัง..." รังสิมันต์ที่แผ่รังสีอำมหิตออกมาไม่รู้ตัวถามเสียงเครียด... สายตาก็มองคุณหมอกนิ่ง... คนถูกมองถึงกับผวาวาบไปกับสายตานั้นเลยทีเดียว...
"เอ่อ...ก็ซักพักใหญ่แล้วครับ... นี่ฟ้าก็ฝากให้หมอกานต์มาพาหนูลินไปส่งให้ด้วย... แล้วก็ขอตัวนอนพร้อมหนูลินเลย เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า..."
"พี่หมอก...งั้นเดี๋ยวกานต์พาหนูลินไปส่งคุณแม่ก่อนนะ... เจ้าตัวเล็กตาปรือแล้ววว... โน่ะๆ ~" จบปลายเสียงคุณหมอเด็กก็หันไปจุ๊บแก้มพวงย้อยน่าเอ็นดูของไวโอลินเบาๆ หลังจากใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะพาเจ้าตัวอวบออกมาจากดงหญิงสาวได้... แหมๆ...เจ้าชู้แต่เด็กเลยนะหลานหมอกานต์ ตอนอยู่กับสาวๆล่ะยิ้มตาเยิ้มเชียว...
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันพาไปเอง..." รังสิมันต์กระแทกแก้วน้ำในมือลงกับโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืนเดินไปทางหมอกานต์ ยกสองแขนขึ้นรอรับ หนูลินก็ยอมโอนเอนตัวเองเข้าหาอ้อมแขนแกร่งแต่โดยดี...
รังสิมันต์อุ้มหนูลินเข้าวงแขนอย่างชำนาญ เตโชกับมาคัสก็เดินเข้ามาหาอย่างรู้หน้าที่... รังสิมันต์เอ่ยปากสั่งงานสองสามประโยคก่อนจะเดินออกไป... คุณหมอกานต์จะไม่สนใจเลยถ้าหากประโยคสุดท้ายที่ชายหนุ่มพูดออกมามันจะไม่มีเอี่ยวกับเพื่อนของเขาด้วย...
"ลูกเต้าไม่สนใจ... เดี๋ยวนี้เห็นชู้ดีกว่าครอบครัวตัวเองงั้นเหรอน้ำฟ้า..."
พูดพลางร่างสูงใหญ่ก็เดินก้าวออกไปพร้อมเตโช... ทิ้งมาคัสให้อยู่คอยดูแลคุณหมอกานต์ไว้ตามเดิม...
"นี่คุณ...เดี๋ยวนี้เจ้านายคุณเขาคิดจะญาติดีกับน้ำฟ้าในทางชู้สาวแล้วจริงๆงั้นเหรอ..." คุณหมอกานต์จินตนาการบรรเจิดออกมาเป็นคำพูดบรรยายให้ฝรั่งตัวโตข้างกายฟัง... นายฝรั่งตัวโตก็พยักหน้าเห็นด้วยน้อยๆ
"ก็คงจะอย่างนั้นละมั้ง..."
"นี่ผมควรส่งเสริม...หรือยุให้เขาเลิกยุ่งกันดีเนี่ย... เจ้านายคุณเขาเป็นคนดีหรือไม่ดีกันแน่เนี่ยฮ๊ะ... สงสารน้ำฟ้าว่ะจะรับมือไหวไหมน่ะ"
"แล้วทำไมคุณไม่ตามไปห้ามล่ะ... เจ้านายผมเวลาโกรธก็น่ากลัวมากอยู่นะคุณ..."
"ฮึ...ไม่ล่ะ... คุณน่ะเป็นฝรั่ง คงไม่รู้ว่าคนไทยยึดคติที่ว่า... เรื่องของผัวเมียน่ะเขาห้ามยุ่ง... เรื่องภายในครอบครัวเขาไม่ให้มือที่สามไปป่วนหรอกเดี๋ยวมันจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่..."
"...นี่คุณยอมรับให้บอสผมไปเป็นครอบครัวเดียวกับคุณฟ้าแล้วเหรอ..."
"อ้าว...ก็เจ้านายคุณทั้งพูดทั้งแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นไม่ยอมรับก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว..."
"โฮ่...คุณนี่ยอมรับอะไรง่ายดีนะ... อย่างนี้เขาเรียกว่า... เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามใช่หรือเปล่า..."
"ไม่เกี่ยวกันเลยเถอะนายฝรั่ง... แต่เอ๊... เก่งนี่...! รู้จักสุภาษิตไทยด้วย...เป็นฝรั่งแน่หรือเปล่าเนี่ยนาย... บอกมานะ ไปซื้อคอนแทคส์กับไปย้อมผมที่ไหนมา...เนียนเชียว..."
"ถ้าบอกว่าใส่วิกเอานี่จะเชื่อมั้ย..."
"โอ้...งั้นต้องขอลองดึงดูหน่อยล่ะ... อยากรู้จริงๆว่าสีผมที่แท้จริงของนายน่ะเป็นสีอะไร... ความจริงจะได้เปิดเผยซักทีว่าจริงๆแล้วนายมาคัส ไบรอันเป็นชาวแอฟริกาใต้หรือชาวไทยที่อยากโกอินเตอร์กันแน่..."
"...อยากรู้จริงๆเหรอ... งั้นไป..." พูดจบฝรั่งตัวโตที่กำลังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นชาวต่างชาติทำเนียนก็เนียนตามคำกล่าวหาคว้าข้อมือเล็กๆของหมอกานต์เตรียมฉุดไปที่อื่นทันที... ดีที่คนตัวเล็กสะดุดไปเหยียบเท้าตัวเองเข้าเลยได้หยุดชะงักไว้ได้ที่หน้าประตู...
"เอ๊ยยยย... ไปไหน !! ไม่ไป !!"
"อะไร...ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนปฏิเสธแล้วเหรอคุณ..."
"กับนายน่ะที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้นแหละ... วันก่อนก็อยู่ใกล้ก็เกือบโดนยิง...คราวนี้ผมไม่ต้องเจอกับระเบิดเลยรึไงคุณ..."
"ไม่ขนาดนั้นหรอกที่รัก... แค่จะพาไปดูความจริงไง..."
"ความจริง?...ความจริงอะไร..." ถามกลับแล้วหมอกานต์ก็ย่นคิ้วเข้ามาเล็กน้อย... เห็นแล้วมาคัสชักคันปากยุบยิบอยากเอาลงไปถูให้รอยย่นตรงหน้าผากมนมันหายไปเสียจริงๆ...
"ก็ความจริงที่ว่า... ผมเป็นชาติอะไรไง... เดี๋ยวจะถอดให้ดูทั้งวิกทั้งเสื้อผ้า...ทั้งเนื้อทั้งตัวเลยดีมั้ย...ฮื้ม?" พูดจบยังมีมาแอบเป่าลมใส่ข้างหู... จนหมอกานต์ขนลุกเกรียวชักเท้าขึ้นถีบแทบไม่ทัน...ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่นบ้าน...
"ไอบ้า !! ไอหื่น...ไอลามก... ไอ้... ไอ้...โอ๊ย...ทำไมคำด่ามันมีน้อยจังวะ...คิดไม่ออก !..."
"ฮ่าๆๆ..." มาคัสอดกลั้นแรงขำไม่ไหวจนต้องเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น มองดูคุณหมอเด็กชาวไทยตัวเล็กยืนชี้หน้าแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดเดินเข้าห้องครัว... พอเกือบจะพ้นประตูยังไม่วายหันมาชูนิ้วกลางให้อีกแน่ะ...
ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะคนไทยสมัยนี้... แต่ก็ไม่เท่าเขาหรอก... นิ้วกลางนิ้วเดียวจะสู้อะไรเขาได้... ชายหนุ่มยกกลับส่งให้ตั้งสามนิ้วแน่ะ...นิ้วโป้ง นิ้วชี้...นิ้วก้อย... ดูสินั่น... พอเห็นปุ๊บก็หน้าแดงหนักเข้าไปใหญ่...แถมยกนิ้วกลางส่งกลับมาให้ตั้งสองนิ้วแน่ะ... นี่ถ้ายกนิ้วกลางที่เท้าได้คงทำไปแล้วนะ... ช่างเถอะเอาเป็นว่า... ยกนีเขาชนะขาด...ฮ่าๆๆ...
"หัวเราะร่าเชียวนะครับคุณมาคัส... แกล้งคุณหมอณัฐกานต์อีกแล้วเหรอ..." ตรีภพ...บอดี้การ์ดส่วนตัวของเจ้าของไร่หนุ่มโตยธรเดินสวนมาพร้อมแก้วน้ำในมือถามขึ้น... ฝรั่งตัวโตยกคิ้วให้ก่อนตอบ...
"งานอดิเรกน่ะ... ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ...ต้องทำทุกวัน วันไหนถ้าไม่เห็นคุณหมอทำหน้าแดงนะ ผมก็เหมือนลงแดงแน่ะ ฮ่าๆ..."
"หนักนะเนี่ยคุณมาคัส... แหย่มากๆเดี๋ยวเขาเกลียดจริงจะแย่นะครับ..."
"เฮอะ...ทำเป็นพูด...ที่ของนายเมื่อก่อนโดนแหย่หนักกว่าผมอีกไม่ใช่เหรอ...แล้วตอนนี้เป็นไง...ตกล่องปล่องไฟกันไปเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ..."
"...ตกล่องปล่องชิ้นเถอะครับ...ปล่องไฟบ้านคุณ..." หลังจากยืนหน้าแดงอยู่พักใหญ่ ตรีภพก็แก้ให้ก่อนจะเดินจากไปท่าทางเดียวกับคุณหมอกานต์ของเขาเป๊ะ...
...เออแฮะ... ใครว่าฝรั่งตากแดดตัวแดงได้อย่างเดียว... นี่คนไทยขนาดยังไม่ถูกแดดยังแดงกว่าฝรั่งตั้งร้อยเท่าเลย...
...ชายหนุ่มก็ได้แต่คิดขำๆอยู่ในใจคนเดียว...
-----------------------------------------------------------------------------
แฮ่...เอาไปก่อนสองตอนหวานๆ...
ก่อนจะต้องไปเจอหนักๆ (หรือมาม่า? เอ๊ะ !) ในตอนต่อๆไป...
ที่หายไปที่นานที่เพราะม.เค้าเปิดแล้วจ้าาา ไปตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่...ห้าห้าห้า
แพ้กลิ่นสีว่ะ = = ใครที่เคยทำแลปคงเคยทำแน่เลยไอสีแดงที่ใช้ย้อมสีเซลล์อ่ะ โหยยย
ทำแลปสามวันชั้นเป็นลมไปสี่วันครึ่ง !! บร๊ะเจ้า !!! กรูแพ้สี !!!!
ตอนนี้ว่างแล้วววว ได้ปิดหกวันดีใจมากกกกกกกกกกก
เลยได้กลับมาปั่นนิยายต่อ...ห้าห้าห้า
ไปนอนแล้วนะปวดท้อง...
จะไปนอนคิดว่าฉาก(ตับๆ)จะทำยังไงดี ห้าห้าห้า (ไม่ค่อยหื่นเลยตรู อิอิ) แต่อย่าได้แคร์...
ห้าาาาา ไปแล้ววว จะไปนอนดิ้นทุรนทุรายปวดท้องต่อ... โอ่ยยยยย...ปวดเมนส์ TTT^TTT !!!