@@@โดยLuk {ตะเกียงพิเศษ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@@โดยLuk {ตะเกียงพิเศษ}  (อ่าน 1048622 ครั้ง)

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เรื่องนี้มันไม่ง่ายที่จะเจอแน่ สั้นมากอ่ะค่ะแต่ดีใจมาต่อแล้ว
รออัพต่อค่ะ

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :กอด1: คุณลักษ์ให้หายคิดถึง
 :L2: เป็นกำลังใจให้นะฮ๊าฟฟฟฟ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
เข้าป่าจะเจอโจรอีกป่าวเนี่ย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
พรตกลัวเสือ กร๊ากกกก

แต่เอ  เสือมันก็น่ากลัวนี่นา

jejee2534

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊สสสสสสสสสสสส อ่านมาจนถามทันแล้ว :)

เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะค๊า เรื่องของพี่วีอ่านจบแล้วเลยมาอ่านเรื่องนี้ต่อ เขียนได้ดีมากเลย หนูช๊อบมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก

เอาไปเลย +10

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
พรตรั่วได้ใจจิงจิง

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
 o11 o11 o11 o11 :call: :call: :call: :call:


                             :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
ขออนุญาตโมฯ :pig4:  ในเล้าฯ ทุกท่านนะค่ะ  นู๋ขอใช้กระทู้นี้เคลียร์เรื่องพี่วีก่อนนะค่ะ

แจ้งให้ทุกท่านอ่านนะค่ะ    ยังไม่ UP นิยายนะค่ะ 

Luk.





สวัสดี  นักอ่านที่รักทุกท่าน  และทุกคนที่ลงชื่อจองหนังสือไว้นะค่ะ

วีเองค่ะ...เพิ่งกลับถึงไทยเช้านี้   มีเรื่องต้องรีบเข้ามาแจ้งให้ทุกคนทราบ

รบกวนเวลาติดตามอ่านต่อไปนี้นะค่ะ

1. วีจะงดรับการจองหนังสือตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป   รายชื่อสุดท้ายที่เห็นตอนนี้คือตัดจบเลยนะค่ะไม่รับเพิ่มอีกแล้ว   หวังว่าผู้ที่มาทีหลังเข้าใจกันนะค่ะ

2. รบกวนท่านที่มีรายชื่อจองทุกคน ที่ได้เข้ามาอ่าน  ให้ PM  ยืนยันหลังไมค์ กันอีกครั้งว่าต้องการหนังสือจริงๆ  เพื่อวีจะได้คำนวนยอดทำที่แน่นอน  จะสรุปตัดจบกับเล้าฯ  ภายในอาทิตย์นี้ให้หมด  แล้วจะเร่งทำกับเล้าฯ  ให้หนังสือเสร็จสำเร็จเป็นรูปเล่ม  พร้อมกับ CD ที่วีทำเพิ่มให้เองตะหาก ไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายใดๆ กับทางเล้าฯ  ส่วนนี้ไม่ต้องกังวลจะเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับทุกคนนะค่ะ  วีรับผิดชอบเองค่ะ  จะพยายามให้หนังสือจบสิ้นต้นเดือน กรกฏาคม 2545 นี้ให้ได้เร็วที่สุดค่ะ

3.วีถือว่าท่านที่ไม่ยืนยัน  แจ้งความจำนงค์ให้ทราบอีกครั้ง  เพื่อความชัดเจนถือว่าท่านสละสิทธิ์นะค่ะ

4.เรื่องราวของวีจะไม่มีการทำเพิ่ม พิมพ์ใหม่ หรือรีปริ๊น ใดใดทั้งสิ้น  ครั้งนี้จะเป็นการพิมพ์ครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น  อนาคตเรื่องราวของวีจะอะไรยังไง  วีขอดูเหตุการณ์อีกที  หากมีผลกระทบต่อหลวงพี่ท่านหรือเกิดผลกระทบต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวันปกติของครอบครัว  วีอาจจะตัดสินใจยุตินะค่ะ  ขอแจ้งล่วงหน้าก่อน  ไม่ว่าท่านเหล่านั้นจะประสงค์ดี  หรือมีเหตุผลใดใดก็ตาม  หวังว่าเข้าใจกันนะค่ะ  ขอแจ้งให้ทราบไว้นะที่นี้เช่นกันค่ะ

 สุดท้าย...รักษาสุขภาพกายและใจ   ขอให้มีความสุขกันทุกคนนะค่ะ

ปราณวี.

ออฟไลน์ Goodfellas

  • mgAmuptUF
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • private dating without chat
รับทราบครับผม  หวังว่าคงไม่มีปัญหาอะไรตามมาแล้วนะครับ

ขอบคุณพี่วีมากๆเลยครับ :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Badmiffy

  • บุคคลทั่วไป
อา~ ไม่เป็นไรค่ะเข้าใจ เสียดายที่เราเข้ามาช้าไปหน่อย จองไม่ทัน

อยากจะบอกว่าชอบรันกับพรตมาก คู่นี้น่ารักได้ใจ พรตมันโง่ดี 555+

ออฟไลน์ uaeb

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :กอด1: พี่วี พี่ลักซ์ คิดถึงจัง

รับทราบคะ  o13


ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ถ้าจะยืนยันว่าต้องการหนังสือ PM นี่ต้องทำไงคะ แบบว่าด้อยเทคโนโลยีน่ะ :-[ แบบว่าขอส่ง e-mail แทนไดไหมอ่ะ :sad11:

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
อ้างถึง
Topic Summary
Posted on: 29-05-2011, 21:08:05Posted by: bvan 
Insert Quote
ถ้าจะยืนยันว่าต้องการหนังสือ PM นี่ต้องทำไงคะ แบบว่าด้อยเทคโนโลยีน่ะ  แบบว่าขอส่ง e-mail แทนไดไหมอ่ะ 

ยืนยันให้แล้วค่ะ  PM  คือการเข้าไปโพสฯ ที่ชื่อของเจ้าของกระทู้  หรือของคุณก็ให้ดูที่ Message  ที่กระทู้ตัวเองไงค่ะ

ลองศึกษาดูนะค่ะ  เมื่อก่อนนู๋  ก็โง่โลว์เทคคือกันแหละ..55555!!!!! :pigha2:

Luk.

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
PM ไปแล้วนะคะ

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :-[ หวา....หวา...อายจัง :o8: ขอบคุณค่าที่ยืนยันให้ แฮะๆๆๆ :laugh: แบบว่าไม่เคยใช้ PM ซักที อิอิ o18

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
Part  93
ค้างแรมในป่า...
.
.
.
.
.
                      กูกะไอ้พี่พรต  เดินกันมาจนพระอาทิตย์ตรงกบาลยังไม่เจอแหล่งน้ำเลยวุ้ย    

ทั้งร้อนทั้งคันเพราะเสื้อผ้าที่พวกเราใส่มันไม่ใช่ชุดเดินป่า หิวน้ำชะมัดเลยตอนนี้ ไม่ได้การแล้วหละ  

ขืนยังเดินไม่เจอแหล่งน้ำได้หิวน้ำตายกันพอดี  ที่แน่ๆคืนนี้มีหวังได้ค้างในป่าชัวร์    

แต่ก็นับถือความอดทนไอ้พี่พรตมันเหมือนกัน   คุณชายรูปหล่อออกสำรวยปานนั้น  

หลังจากโหวกเหวกโวยวายเรื่องเสือจบแล้ว   มันไม่เคยบ่นอะไรให้กูหงุดหงิดรำคาญอีกเลย  

ตั้งหน้าตั้งตาเดินตามกูอย่างเดียว แถมมีน้ำใจยามที่เจอกิ่งไม้ขวางหน้า มันก็จัดการใช้มือหักดะเปิดทาง

ให้กูเดินอีกด้วย โครตพระเอกเลยมึงไอ้พี่พรต ดูแล้วมันออกจะสุภาพบุรุษและแมนมาก...นับถือนับถือ


                          “พี่พรต หิวน้ำไหม?”  กูไม่น่าถามอะไรโง่ๆ แต่ก็อีกนั่นแหละ

หาเรื่องชวนมันคุย หลังจากเดินกันเงียบๆมาร่วมกว่าสามชั่วโมงแล้ว เฮ้อ!  หน้าตาไอ้พี่เหยี่ยวหล่อ  

แดงก่ำเพราะร้อนแดด เหงื่อซึมเต็มขมับ  เสื้อยืดที่มันสวมชุ่มไปด้วยเหงื่อ แมนชิบหาย


                           “หิวครับ..แต่ยังพอทนได้ ว่าแต่ตะเกียงเหอะ ไหวไหมเรา พี่ว่าถ้าไง

พักก่อนก็ได้นะ นี่เราเล่นเดินกันมาไกลมากเลย เป็นลมเป็นแร้งไปจะยิ่งแย่เอาได้หนะ

พี่ยอมรับว่าไม่เก่งเรื่องป่าเสียด้วยสิ  หากตะเกียงมาล้มป่วยจะยุ่งไปกันใหญ่”  เอ่อ!..ซึ้งจริงมึง

ห่วงจนกูปลื้มแหละ แต่ดูตัวเองหน่อยเหอะยังไงเสียกูก็โตมากับไร่สวน เรื่องป่าไม่ใช่ปัญหา

สำหรับกูหรอก


                            “ว่าแต่พี่พรตเหอะ ไหวเปล่าพี่..ตะเกียงซำบายมาก แต่พี่ดิยิ่งไม่คุ้น

กับการเดินป่าด้วยตะเกียงว่าพี่จะลำบากกว่าผมอีก  แต่ก็นะ!...พี่แน่ใจหรือว่าไม่คุ้นจริงง่ะ...

พวกป่าไม้เดียวกันก็ไม่คุ้นเลยนิ?...”  กูหาเรื่องแซวมันเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้มันเครียดไปกว่านี้
      

                            “บ้า!..พูดไรเนี่ยะตะเกียง...ป่าหมงป่าไม้ไรพี่ไม่เข้าใจ” แหวะ!..เชื่อตาย

ก็โง่แล้ว ดูดู๋มีหลบตาเขินกูซะขนาดนั้น ยังมาทำแถ เดี๋ยวปั๊ด!..ทิ้งให้เป็นลูกลิงอยู่ในป่าซะนี่


                            “ช่างเหอะ..ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร   นึกว่าจะเป็นผู้สันทัดเชี่ยวชาญซะอีก  

หว้า!...อดมีที่ปรึกษาดีดีเลยผม...ว่าแต่พี่แน่ใจว่าไหวแน่นะ ไอ้จะเป็นลมเป็นแร้งไปหนะ..

ตะเกียงห่วงพี่มากกว่า ไม่เคยลำบากเดินป่าแบบนี้ด้วยดิ เดินนานๆเข้าไม่ไหวก็สะกิดบอกได้นะ..”

นั่นดิ...ขืนเก็กเข้มเป็นพระเอก ทรุดฮวบลงไปยุ่งตายห่าเลยกู


                              “เป็นลมเป็นแร้งพี่ไม่เป็นหรอก  เพราะพี่เป็นเหยี่ยวเรื่องอะไรจะเป็นแร้ง  

ตะเกียงไม่ต้องห่วงสบายมาก”  เห่อ..เห่อ..เหอ..มึงแน่มากไอ้พี่พรต  สวนกูซะจุกเลยหวะ


                             “เออๆ..ลืมไปแหละ..ว่าพี่เป็นเหยี่ยว เอางี้เดินไปอีกสักหน่อย หากตะวันเลยหัว

เราไปแล้วยังไม่เจอลำห้วยหรือธารน้ำ ตะเกียงว่าเราต้องเปลี่ยนแผนหาทำเลเตรียมค้างคืนกันได้เลย  

ถ้าไม่รีบทำก่อนตะวันชิงพลบมืดค่ำมาเสียก่อนจะอันตราย”  กูบอกมันไปแหละ


                              “อือ...เอาไงเอากัน งานนี้บอกแล้วมอบให้ตะเกียงเป็นผู้นำ เพราะพี่ไม่ค่อยรู้

จริงๆให้ทำอะไรก็บอกแล้วกัน”  จากนั้นกูกับมันก็มุ่งหน้าลงใต้กันต่อไป เพราะทิศเหนือกูว่ามันเป็นทาง

เข้าป่าลึก ย้อนลงใต้ตามที่เดินมานั่นแหละต้องมีทางเจอหมู่บ้านคนแน่ๆ


                           กูกะไอ้พี่พรต เดินต่อกันมาอีกร่วมกว่าสองชั่วโมง เพราะขณะนี้ตะวันเคลื่อนเลย

หัวไปพอสมควร น่าจะราวๆบ่ายแก่ๆ โชคก็เข้าข้างพวกเราเข้าเพราะกูได้ยินเสียงน้ำไหล รีบหยุดเท้านิ่ง

ยืนอยู่กับที่เพื่อให้แน่ใจทันที
  

                               “พี่พรตหยุดก่อน..นิ่งๆเงียบไว้หละอย่าส่งเสียง”  บอกมันไปมันก็หยุดกึก  

แต่ไอ้ห้ามไม่ให้ส่งเสียงนี่ดิ   ไม่ได้ผลเหะ...


                                “อะไรหรือตะเกียง...มีอะไร...อย่าบอกมีสัตว์ร้ายมาหละ..ใช่ป่าว?..”  

นั่นไงมันหยุดเดิน  แต่ไม่หยุดถาม


                          “จุ๊..จุ๊..ชี่..เงียบสิ..ขอเวลาแป๊ปหนึ่ง”  กูต้องจุ๊ปากพร้อมทำท่าทางประกอบ

ให้มันหยุดพูด มันรีบหุบปากฉับ เสือกทำท่าเงื้อมหูฟังอีก  พร้อมกับสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ  

หึ..ทำซะเหมือนพรานชำนาญป่าเลยมึง แต่พาลจะเตรียมตัววิ่งหรือเปล่าเนี่ยะ หากกูบอกว่าเสือกำลังมา

                               กูรวบรวมสมาธิ ก่อนจะค่อยๆก้มหัวลงเอาหูแนบกับพื้น ควบคุมพลังลมปราณ  

บังคับโสตประสาทให้นิ่ง   จนกระทั่งได้ยินเสียงชัดเจน


                                    “ซ่าๆๆ!!!...”  ไม่ผิดเสียงน้ำตก คงอยู่ห่างจากตรงนี้ราวๆ

กิโลไม่น่าเกินนี้แน่นอน  ต้องเดินไปทางตะวันตกเฉียงใต้ถึงจะเจอ  เอาหละ..ไปโลด

      
                                    “ป่ะ!..พี่พรต เจอน้ำตกแล้ว ไปทางนี้ตามตะเกียงมา” กูบอกมัน

ก่อนออกเดินนำต่อไป  มันรีบขยับขึ้นมาชิดกู  พร้อมกับถามว่า


                                    “ตะเกียงรู้ได้ไง อย่าบอกที่แนบหูฟังกับพื้นตะกี้ก็รู้แล้วใช่ไหม?”  

มันถามอย่างที่กูคิดไว้ว่ามันต้องถาม


                                   “อืม...ถูกต้องคร๊าบบบ!!!”  กูตอบพร้อมกับยิ้มแฉ่งส่งไปให้  


                                    “โอแหะ!..นี่ตะเกียงมีหูทิพย์  หรือฝึกวิชาหูหมื่นลี้มากันเนี่ยะ!”

ป๊าด!..ล่อกำลังภายในมาเลยเชียวมึง    


                                     “พี่ท่าน....ข้าฯมิได้ฝึกปรือหูทิพย์หมื่นลี้แต่อย่างใดไม่ ที่ข้าฯใช้นั้น

เค้าเรียกว่าลมปราณไทเก็ก  ควบคุมสมาธิให้นิ่ง  ย่อมได้ยินเสียงได้ไม่น้อยกว่ากิโลเป็นอย่างต่ำ    

เพราะฉะนั้นข้าฯขอให้พี่ท่านโปรดทำความเข้าใจซะใหม่..หุหุหุ!” กูก็เล่นกะมันไปด้วย ได้ผลมันยิ้มซะ

ปากแทบฉีก ยิ้มแล้วหล่อได้อีกมึงไอ้พี่พรต  ก่อนจะสวนกูมาว่า


                                    “โอ้!...ศิษย์ผู้น้องข้าฯ เจ้าช่างล้ำเลิศยิ่งนัก  ข้าฯผู้พี่ขอรับการคารวะแก่เจ้า

บัดนี้...ถ้าหากเป็นไปได้ข้าจะบอกเจ้าว่า....โครกๆๆ!!...ครากๆๆ!!...”  เสียงท้องไอ้พี่พรต  

มันดันร้องขึ้นมาซะงั้น กูมองมันอึ้งๆมันคงหิวแน่ เพราะนี่ก็เลยเวลาอาหารเที่ยงเข้ามาบ่ายแก่มากแล้ว  

มันอมยิ้มอายๆ  ก่อนจะพูดต่อว่า


                                     “นั่นแหละ...ที่ข้าฯกำลังจะบอกเจ้า ว่าข้าฯหิวชิบหาย...ไม่รู้ศิษย์น้อง  

จะหาอะไรแดกแก้หิวกันได้เปล่า?”  กูขำพรืดดด!!...ออกมาทันที แม่งตลกชะมัด  นั่นดิ...คงต้องหา

อะไรให้มันกินก่อนแล้วหละงานนี้  รีบบอกมันไปทันทีว่า


                                    “พี่ท่าน....อดทนอีกนิด เมื่อเราถึงธารน้ำแล้ว ข้าฯจะจับปลามาเป็นอาหาร

อันโอชาให้ท่านแดกแกหิว  รับรองอาหารเลิศรสต่อให้มีเงินหมื่นชั่งท่านก็ไม่สามารถหาซื้อมาแดกได้

เป็นแน่แท้”  พูดจบไอ้พี่พรต เสือกทำท่าทางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก  ก่อนจะพูดตอบมาว่า


                                    “โอ้น้องข้าฯ เจ้าพาลทำให้ข้าฯน้ำลายสอ จัดไปได้เลยบุญคุณในครั้งนี้

ไม่ตายคงได้ทดแทน”  พอมันพูดมาแบบนี้  กูหวิวไปเลย ก่อนจะเหวมันไปทันทีว่า


                                    “บ้าแล้วพี่พรต พูดตายได้ไงในป่าในเขา โบราณเค้าถือไม่เอาแล้ว

เลิกเลิก....ทีหลังห้ามพูดเรื่องไม่เป็นมงคลอีกรู้ไหม?”  มันหน้าเสียไปทันที จากที่ยิ้มระรื่นอยู่แหม่บๆ  

ก็จริงนิ..เดินป่าดันพูดเรื่องตายได้ไงกัน


                                     “ขอโทษตะเกียง...พี่ไม่รู้นี่  ไม่ได้หมายความตามนั่นซะหน่อย  

คือพี่ยืมคำพูดในหนังมาไง หนังจีนมักพูดแบบนี้มิใช่”  รีบแก้ตัวหน้าเจื่อนเลยมึง คงกลัวกูโกรธแหละ  


                                      “เอาหละ...จะอะไรก็ช่างเถอะ ทีหน้าทีหลังห้ามพูดสิ่งที่ไม่เป็นมงคล

ในป่ารู้ไหม จำไว้หละ...เคยได้ยินป่าว!...คืบก็ป่าศอกก็ป่า ในป่ามักมีอาถรรณ์ที่เราไม่รู้แฝงอยู่มากมาย

โบราณเค้าถึงห้ามเอาไว้ไม่ให้พูดอะไรที่ไม่ดีไง”  กูอธิบายมันไป


                                        “ตกลง...พี่เข้าใจแล้ว จะไม่พูดอีก...แต่พี่สงสัยอ่ะ..ทำไมต้องมีอาถรรณ์

ด้วยตะเกียง จำเป็นต้องอาถรรณ์ด้วยเหรอ...พ่อถรรณ์แม่ถรรณ์ได้ไหม? นอกจากอาหนะ”  

เวร!...พูดเสร็จดันขำกูอีกซะงั้น  เมื่อเห็นกูเหวอเข้าให้


                                    เราเดินกันมาจนตะวันคล้อยต่ำ ก็ได้ยินเสียงดังฟังชัดแบบไม่ต้องบอก

ว่าหนทางอีกไม่เกินสิบเมตรเราจะเจออะไร


                                      “ครืนๆๆๆๆ!!!...ซ่าๆๆๆๆ!!!.”  เสียงน้ำตกดังกระหึ่มลั่น  


                                     “ตะเกียง..น้ำตก...เสียงน้ำตก.”  เอ่อ!..กูรู้แล้ว...ถึงได้พามานี่ไง


                                 “อืม..น้ำตกอยู่ข้างหน้าเราเนี่ยะแหละ..เดินไม่เกินสิบเมตร ป่ะ!..รีบไปกัน”  

พูดเสร็จกูออกนำไปให้ไว เพราะตอนนี้น่าจะบ่ายสามโมงเข้าไปแล้ว  เดี๋ยวจะไม่ทันการ

ไหนจะต้องจับปลาเตรียมเป็นเสบียงอีก  ไหนจะเตรียมที่ค้างแรม  หลายอย่างต้องเร่งทำ

ก่อนพระอาทิตย์ตก  ในป่าห้าหกโมงเย็นก็มืดแล้ว  มีเวลาไม่มากต้องเร่งมือกันหน่อย


                            เราเดินไม่นานก็มาเจอน้ำตก ซึ่งสวยมากเบื้องหน้า แอ่งน้ำด้านล่าง

ก็ใสยังกะกระจก  แวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้พืชน้ำ  ตะไคร้น้ำ ผลไม้ป่าและผลไม้ที่กินได้

ขึ้นอยู่รายล้อม  สมบูรณ์พอที่จะพาให้รอดตายได้แน่นอน  มีทั้งมะกอกน้ำ  มะดัน  

กล้วย   มะพร้าว  ฯลฯ  


                          “วู้!!!...สุดยอดสวยชะมัด...น้ำตกไรเนี่ยะ...ใช่เราเป็นผู้ค้นพบ

คนแรกเปล่าตะเกียง....ดูเหมือนไม่มีใครเคยเข้ามาเลยนะ”  ไอ้พี่พรตออกอาการกระดี๊กระด๊าดีใจใหญ่  

เสือกนึกอยากเป็นคนแรกแห่งการค้นพบซะงั้น


                          “เอาหละ..พี่พรตเรื่องนั้นพักไว้ก่อน  มีเวลาหาคำตอบอีกทั้งคืน  

ตอนนี้เราแบ่งงานกันทำ  เพื่อปากท้องก่อนดีกว่า   เดี๋ยวตะเกียงจะจัดการหาอาหาร  

พี่พรตไปเก็บฟืน วิธีเก็บต้องเลือกเอาที่เป็นไม้แห้ง  กิ่งเล็กๆไม่ต้องเอามามากพอแค่เป็นเชื่อไฟ  

เลือกเอาท่อนใหญ่ๆ  มาสักสองสามท่อนเป็นอย่างน้อย เข้าใจป่าว?”  กูวางแผนสั่งงานด่วนทันที


                             “ไอ้กิ่งเล็กกะท่อนใหญ่นะ เล็กใหญ่ขนาดไหน กะเอายังไงขอละเอียดอีกครั้ง”  

มันถามกูคิ้วขมวดมุ่น


                              “ท่อนเล็กก็พวกกิ่งไม้แห้ง  ท่อนใหญ่เอาตั้งแต่เท่าแขน  หรือจะเท่าขาพี่ก็ได้

สักท่อนสองท่อนยิ่งดี  เพราะเราต้องสุ่มกองไฟก่อไว้ทั้งคืน ไว้ไล่สัตว์ร้ายด้วย  ที่สำคัญยุงป่าหนะ

ตัวนำมาลาเรียมาเลยเชียวน๊า”  อธิบายมันไป ก่อนมันจะยักหน้าเข้าใจ  จากนั่นกูก็ชี้ให้มันเห็นว่า

เราจะตั้งจุดพักแรมกันตรงนั้น  ชะง้อนผาหลังเนินน้ำตก  มีกำแพงหินกันไว้ทิศหนึ่ง  

ซ้ายมือเป็นน้ำตกทำเลดี ให้มันนำฟืนที่ว่าไปกองรวมไว้   ที่สำคัญอย่าเดินหาไกล  

เพราะจะหลงเอาได้  ให้หาบริเวณโดยรอบนี้เท่านั้น   แล้วเราก็แยกย้ายกันไปทำงาน

                             กูจัดการกับกล้วยเป็นอันดับแรก  เลือกหินที่บางๆ  ฝนเหมือนกับการลับมีด

ให้เกิดความคม  ตัดลงมาทั้งเครือ..กำลังสุกกินพอดี  แบกมากองไว้ตรงจุดพักแรม ไม่ลืมตัดใบตอง

มาด้วยเกือบหมดต้น เพื่อใช้ปูนอนและห่ออาหารที่จะทำ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าแม้แต่กางเกงในกูก็ถอดออก

เชื่อว่าไอ้พี่พรตมันคงไม่แอบดูกูหรอก  เพราะมันไม่รู้ว่ากูอยู่ตรงนี้ ลงไปในน้ำความลึกระดับเอว  

ยืนนิ่งๆสำรวมจิตสมาธิเดินลมปราณไทเก็ก  ตามหลักหยินหยางซึ่งคือหัวใจของไทเก็ก  

กูถูกให้ฝึกแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก  ไม่ใช่เรื่องอยากในการจับปลา  เพราะฝึกถึงหกเดือนก็จับปลาเป็นๆ

ด้วยสองมือได้สบาย    


                                  หลังจากนิ่งสงบกลมกลืนกับสายน้ำแล้ว   ก็เริ่มมองเห็นปลาขาว  

ปลาตะเพียนตัวใหญ่เท่าฝ่ามือ   ปลากระทิงที่แอบหลบอยู่ซอกหิน   เอาหละเมื่อเลือกอาหาร

อันโอชาได้แล้ว   วรเวทย์อัคนีก็เริ่มจัดการทันที  กูสะบัดฝ่ามือจี้สกัดลงไปในแม่น้ำ  

เลือกเอาปลาตะเพียน   ขนาดใหญ่เท่าสองฝ่ามือหงายท้องลอยตัวขึ้นมาห้าตัว  

ตบท้ายด้วยปลากระทิงไฟตัวเท่าแขนอีกหนึ่งตัว   ก่อนจะตะหวัดข้อมือสะบัดน้ำเพื่อให้ปลาเหล่านั้น

กระเด็นขึ้นไปกองอยู่บนเนินดินเป็นที่เรียบร้อย  ถือโอกาสอาบน้ำชำระคราบไคลแล้วกลับขึ้นฝั่ง

ไปใส่เสื้อผ้า ไม่ลืมดึงเอาเถาวัลย์สอยเข้าปากแทงออกทางคลีบร้อยปลาทั้งหมดห้อยเป็นพรวน  

หิ้วกลับไปที่พัก


            






ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2011 21:50:32 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
- 2 -






               พอกูมาถึงเห็นไอ้พี่พรตมันนั่ง  อยู่แล้วเรียบร้อย  พร้อมกับจัดการเอาใบตอง

ที่กูหอบมาปูเรียงซ้อนกันไว้นอนอีกตะหาก   รู้งานด้วยหนะนั่นใช้ได้แสดงว่าวิชาลูกเสือที่เรียนมา

มันคงทำให้ไอ้พี่พรตเข้าใจว่ากูเอาใบตองมากองไว้ทำไม    

                    นอกจากนั้น ข้างตัวมันยังมีท่อนฟืนที่มันไปลากมาอีกขนาดเท่าขากูเนี่ยะ

ยาวเป็นเมตรสองเมตรอยู่สองสามท่อน  พร้อมกับพวกกิ่งไม้เล็กๆวางอยู่ใกล้กัน มันส่งยิ้มมาให้

เมื่อเห็นกูหิ้วปลาเข้าไป  พร้อมกับทำตาโต


                               “โห!..ตะเกียงไปจับมาได้ไงเนี่ยะ ยังเป็นๆอยู่เลย ตัวบ๊ะเอ๊กขนาดนี้

ตะเกียงใช้อะไรจับมานี่?”  มันสงสัยไม่ใช่เรื่องแปลก  เพราะตอนนี้ปลาทุกตัวมันกำลังดิ้นกัน

กระแด่วกระแด่ว  หลังจากจุดที่กูสกัดไว้คลายตัวลง   กูยิ้มให้มันก่อนตอบไปว่า


                               “ใช้เทคนิคนิดหน่อยพี่ ถูกฝึกมาตั้งแต่เล็กเรื่องแค่นี้ซำบายมาก ว่าแต่พี่เหอะ

หิวไม่ใช่เหรอ กินกล้วยรองท้องไปก่อนนะ เสร็จแล้วพี่อยากจะอาบน้ำก็จัดการได้เลย ทางที่ดีที่สุด

อย่าให้เสื้อผ้าเปียกถอดออกให้หมดแล้วอาบ มันจะได้ไม่ชื้น เราพักใกล้กับน้ำตกสวมเสื้อผ้าที่ชื้น

จะเป็นปอดบวมเอาได้”  พูดจบมันยิ้มมาให้กู  พร้อมกับบอกกูว่า


                                “เรื่องกล้วยพี่ซัดไปแล้วกว่าสิบลูก   เห็นว่ามันมีเยอะเลยไม่ได้รอตะเกียง  

ส่วนเรื่องอาบน้ำตกลงให้พี่ไปอาบเลยหรือ  แน่ใจว่าไม่ให้พี่ช่วยอะไรอีก  พี่แก้ผ้าจนหมดอย่าไปแอบดู

เชียวหละ แล้วน้ำที่เรากินหละเอาที่ไหน?” มันถามกูมาเป็นชุด   กูยิ้มให้มันก่อนตอบมันไปว่า


                               “เดี๋ยวตะเกียงจัดการเองพี่  ไปอาบน้ำเถอะ..ไม่ต้องกลัวแอบดูหรอก

ว่าแต่พี่เหอะ..ระวังเหยี่ยวน้อยจะโดนปลาตอนเอานะ...ฮ่าๆๆๆ!!” กูขำซะมันหน้าแดง พูดจบมันก็ว่าง่าย

ลุกไปทันที กำลังเขินด้วยหละ กูจัดการเอาปลาที่จับได้วางไว้  ฉีกใบตองติดมือไปพอประมาณ

ก่อนจะเดินไปตรงริมตลิ่งใช้หินขูดเอาดินเหนียวบริเวณนั้นใส่ใบตองมา จัดการจี้จุดตายปลาทุกตัว

เพราะจำเป็นต้องฆ่ามันแล้ว  ไม่ลืมสวดสัพเพสัพตาขออโหสิกรรมกับพวกมันด้วย  

เอาดินเหนียวที่นำมาโป๊ะลงบนตัวปลาทุกตัวจนมิดมองไม่เห็นว่าเป็นปลาเลยหละ    

นำกิ่งไม้แห้งมากองรวมกัน  โดยนำเอาท่อนฟืนเข้าสุมแทยงไว้เป็นสามมุม  

หยิบใบตองแห้งที่มีอยู่มาขยำบนฝ่ามือ  ก่อนจะนั่งรวบรวมเดินลมปราณวรเวทย์อัคดี  

แผ่ความร้อนไปยังฝ่ามือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  กระทั่งใบตองเริ่มร้อนจนเกิดเป็นควัน  


                           วรเวทย์อัคนีชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไฟ การใช้พลังจี้สกัดจุดก็คือพุ่งพลังความร้อน

ออกจากปลายนิ้ว เข้าหยุดการไหลเวียนของเลือดในจุดสำคัญต่างๆ ของร่างกายคนเราทำให้ร่างกาย

รู้สึกชาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้  หากส่งพลังเข้าจุดตายตัดเส้นเลือดสำคัญต่างๆ ก็ทำให้ตายได้  

สรุปคือพลังชนิดนี้เป็นธาตุไฟ  ในขณะที่ไทเก็กเป็นธาตุน้ำ   สองอย่างผู้ฝึกต้องฝึกควบคู่กัน  

หากฝึกแต่วรเวทย์อัคนีเพียงอย่างเดียวจะไม่สำเร็จถึงขั้นสูงสุด  เพราะธาตุไฟจะเข้าแทรกลมปราณแตก

เสียก่อนไม่ตายก็เสียสติ   เพราะฉะนั้นทีนี้รู้กันแล้วสินะ  ว่าทำไมกูถึงฝึกวรเวทย์อัคนีได้สำเร็จขั้นสูง

เพียงคนเดียว   ก็เพราะกูฝึกไทเก็กสำเร็จมาก่อน  ในขณะที่คนอื่นๆ ฝึกไทเก็กได้แค่พื้นฐาน

ทำให้ไม่สามารถฝึกวรเวทย์อัคนีขั้นสูงได้  แม่แต่พ่อเกริกเองก็ตาม   คุณทวดทั้งสองท่านที่คิดค้น

รวบรวมวิชานี้ขึ้นเป็นเคล็ดลับของตระกูล  ท่านเข้าใจถ่องแท้ถึงหลักการนี้   ทั้งสองท่านจึงเขียน

กำชับเตือนไว้ในวิชาว่า  ห้ามฝึกวรเวทย์อัคนีโดยไม่มีพื้นฐานไทเก็กเป็นอันขาด  

ไม่งั้นชีพจรในร่างกายจะขาดสะบั้น   ธาตุไฟเข้าแทรกไม่พิการสติฟั่นเฟือนก็ถึงตายได้ในที่สุด


                            เอาหละ...เมื่อจัดการก่อไฟจนติดแล้ว   กูก็นำปลาทั้งหมดที่พอกดินเหนียวไว้

เอาเข้าไปย่างในกองไฟทันที วิธีนี้จะทำให้ได้เนื้อปลาสดๆ ไม่คาวและหอมหวานอร่อยแบบธรรมชาติสุดๆ

เพราะดินเหนียวจะดูดซับความคาวของปลา  ตลอดจนเวลาที่เราจะกินก็สามารถลอกเกร็ดปลาที่

ไม่ได้ขอดเกร็ด  ติดออกมากับดินเหนียวอีกด้วย ข้อดีอีกอย่างคือเราจะรู้ได้ทันทีว่าปลาสุกได้ทีหรือยัง

สังเกตุดินเหนียวที่เปียกชื้นจะแห้งเมื่อโดนไฟเผาแล้วมันจะแข็งเหมือนดินเผา หอมกลิ่นดินเผาที่ซึมซับ

เข้าไปในตัวปลา ไอ้หยา!...พูดแล้วชวนน้ำลายสอ สูตรนี้แหละ...รับประกันอาหารฮ่องเต้

ยังสู้ไม่ได้...หึหึหึ!!!


                            กูจัดการเดินสำรวจโดยรอบระหว่างรอปลาสุก  ไม่ลืมหยิบกล้วยสองสามลูกแกะกิน

ไปด้วยเพื่อประทังความหิว มาถึงใต้ต้นมะพร้าวจัดการลากทางมะพร้าวแห้งมาเพื่อสุมไล่ยุงป่าในคืนนี้  

ตอนนี้พระอาทิตย์ลับหายไปจากขอบฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ความสว่างวอมแวมที่เห็นอยู่ตอนนี้  

ได้จากแสงไฟที่กูสุมไว้นั่นแหละ ที่กูเลือกพักตรงเนินหินข้างหลังม่านน้ำตก  เพราะเป็นทิศเหนือลม

เมื่อเราอยู่เหนือลมควันไฟก็จะไม่รบกวนเราตอนหลับ  ที่สำคัญกลิ่นสาปมนุษย์ของพวกเราก็จะไม่ไปแตะ

จมูกสัตว์จำพวกกินเนื้อ  หนำซ้ำยังเป็นมุมอับทำให้ไม่ต้องกลัวหนาวในเวลากลางคืน ไออุ่นจากกองไฟ

จะทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งหมดนี้คือศาสตร์แห่งการพักแรมกลางป่า   ไม่ลืมหยิบมะพร้าวแห้งที่หล่นจาก

ต้นมาด้วยสองลูก   ไม่คิดจะปีนขึ้นไปเอาบนต้นหรอก   เหนื่อยพอแล้วหละวันนี้


                           กลับมาเห็นไอ้พี่พรตมันนั่งแอ่งแม่ง จ้องมองปลาเผาที่พอกดินในกองไฟอย่างทึ่งๆ  

ทำจมุกฟุตฟิตไปมา  คงหิวแน่ๆ  เพราะกินหอมซะขนาดนั้น


                          “ตะเกียง...ทำได้ไงหนะ  ทั้งก่อไฟเผาปลา..สุดยอดเลยตะเกียงน้องรัก  

มีอะไรอีกเนี่ยะที่พี่ไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถของตะเกียง บอกกันบ้างได้เปล่า?” มันถามกูด้วยสายตาทึ่ง

แบบจริงใจ   กูยิ้มให้ก่อนตอบไปว่า


                          “เป็นเรื่องพื้นๆ พี่พรต  หากศึกษาจากตำรับตำรา และฝึกทำซะหน่อยก็ทำได้  

เอาหละ..ทีนี้พี่พรตแสดงความสามารถให้ตะเกียงดูหน่อยดิ  ได้ข่าวคาราเต้ขั้นเทพมิใช่หรือ  

จัดการปลอกมะพร้าวให้หน่อยได้ป่าว?” กูบอกมันไปแหละ


                         “เห้ย!...ไม่ถึงขั้นนั้นนะ ขืนเอาสันมือไปฟันมะพร้าว ไอ้ที่แตกหนะ

มือพี่แน่นอน สับก้านคอคนอะพอได้ แข็งเป็นมะพร้าวแห้งยังงี้ไม่สามารถจริงๆ ไมตะเกียงอยากกิน

น้ำมะพร้าวไม่เลือกลูกอ่อนมาหละ เอามาทำไมลูกแก่ๆ เค้าไว้ใช้ขูดกะทิมิใช่นิ”  เอ่อ!...รู้เหมือนกันเนอะ

นึกว่าจะไม่รู้ซะอีกไอ้คุณชาย


                        “ตะเกียงต้องการกะลามาต้มน้ำกินด้วยไงเล่า  น้ำตกถึงจะกินได้  แต่อย่าเพิ่งแน่ใจ

ว่ากลางคืนมันจะกินได้นะ  เพราะกลางคืนต้นไม่จะคลายคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ออกมา  ต้นไม้บางชนิด

จะปล่อยพิษออกมาด้วย  อาจปะปนมากับน้ำตก  ไม่แน่พิษอาจถึงตายหรือไม่ก็มึนเมา  เหมือนพวก

เห็ดเมานะพอรู้ใช่ไหม? ”  กูอธิบายมันไป  มันพยักหน้าให้เหมือนเข้าใจที่กูพูด   จัดการเขี่ยปลาออก

จากกองไฟเพราะดูแล้วสุกได้ที่จนกินได้แล้วหละ    กลิ่นดินเผากับกลิ่นเนื้อปลาทำให้หอมกรุ่นเรียก

น้ำย่อยในกระเพาะได้เป็นอย่างดี


                                กูจัดการใช้หินกระเทาะดินแตกออก   เกร็ดปลาที่บอกลอกติดดินไปด้วย  

เผยให้เห็นเนื้อปลาสุกขาวจั๊วน่าเจี๊ยะซะจนไอ้พี่พรตที่นั่งมองอยู่กลืนน้ำลายดังเอื้อก...ก่อนจะส่งปลา

ที่กระเทาะเปลือกให้มันไป  ไม่ลืมย้ำมันด้วยว่า


                             “อ่ะพี่...ค่อยทานช้าๆนะ  มันกำลังร้อนอยู่  ที่สำคัญปลาตะเพียนก้างมันเยอะ

ไม่ต้องรีบมีอีกหลายตัวกินจนอิ่มเลยหละ   ปลากระทิงตัวเบ่อเริ่มนั่นขอบอกโอชายิ่งกว่าอะไรอีก  

เคยกินหรือเปล่า?”  มันส่ายหน้าพรืดทันที  ก็แน่หละ บ้านมันออกจะเศรษฐีไม่ใช่เรื่องแปลก

ที่จะไม่เคยกิน  กูเลยลากปลากระทิงมากระเทาะดินออก  ก่อนจะแบ่งให้มันชิม พอเนื้อปลาเข้าปาก

ยิ้มร่าถูกใจกับรสชาดโดยไม่ต้องโฆษณา  บอกแล้วไม่มีผิดหวังการันตรีคุณภาพ  

จากโภชนาการมือหนึ่ง


                            กูใช้หินที่ลับเหลี่ยมค่อยๆ เฉาะปอกเปลือกมะพร้าวหลังจากที่เรากินปลากัน

จนเป็นที่เอร็ดอร่อย   รวบรวมก้างห่อใส่ใบตองไว้ให้สัตว์อื่นกินพรุ่งนี้  ตอนนี้ต้องกำจัดเสียก่อน  

หากทิ้งไว้เรี่ยราดจะกลายเป็นพาหนะนำสัตว์ต่างๆ มารบกวนตอนหลับได้    ไอ้พี่พรตมันเห็นวิธีของกู

เลยแย่งเอามาทำซะเอง   หลังจากเข้าใจหลักการแล้ว  เพราะมันถือว่ามันข้อมือแข็งและแรงดีกว่าเยอะ

บอกกูว่างั้น  กูเลยปล่อยพี่เค้าเป็นพระเอกซะบ้าง หลังจากเฉาะเปลือกเรียบร้อย ก็เฉาะให้กะลาแตก

จนน้ำมะพร้าวกระฉอก  ก่อนจะยกดื่มแบ่งให้มันกิน  ทีแรกมันจะไม่กินเพราะมันบอกเคยกินแต่น้ำ

มะพร้าวอ่อน ไม่เคยกินน้ำมะพร้าวแก่เลยงั้น หารู้ไม่น้ำมะพร้าวแก่รสชาดก็หอมหวานไม่ต่างกันนักหรอก

พอลองกินทีนี้เอาใหญ่ล่อซะน้ำมะพร้าวหมดลูก ไมหละบอกแล้วคนเราบ้างครั้งต้องรับรู้เรื่อง

บางอย่างไว้ด้วย  น้ำมะพร้าวเนี่ยะแหละถือเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ไม่ต้องกลัวมีพิษเจือปน    

จากนั้นกูก็ขยายรูที่เฉาะ  ก่อนจะนำไปรองน้ำตกมาวางแหมะข้างๆ กองไฟเหมือนการอุ่นต้มไปในตัว  

พรุ่งนี้จะได้มีน้ำไว้กิน  


                                เรียบร้อยแล้วก็นำทางมะพร้าวแห้งที่ลากมาด้วย   สุมควันห่างออกไปอีก

กองหนึ่งไว้สำหรับไล่ยุง ทำให้มันเป็นลักษณะไฟสุ่มขอนไม่ให้ลุกเป็นไฟ  เพราะจะไม่มีควัน

แต่จะไหม้แทน   ควันที่พวยพุ่งกระจายตอนนี้ไล่ยุงได้ชะงัดนักแล   กลับมาเตรียมตัวลงนอน  

โดยไม่ลืมนำไอ้พี่พรตไหว้พระสวดมนต์ขอพรจากเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางปกปักษ์รักษาพวกเราด้วย  

บทสวดสุดท้ายคือพระคาถา ‘ชินบัญชร’  เป็นพระคาถาที่กูสวดได้ตั้งกะอายุห้าขวบ   อย่าลืมไอ้ตะเกียง

ไอคิวอัจฉริยะไม่ใช่เรื่องแปลกที่กูสามารถท่องชินบัญชรได้อย่างแคล่วคล่อง   เพราะพระคาถาของ

สมเด็จพุฒาจารย์โต  พรหมรังสี   เป็นเหมือนปราการแก้วที่จะครอบเราตั้งแต่กระหม่อม

ลงมาจนล้อมรอบตัว ไม่ให้ภยันตรายต่างๆ ทั้งที่เห็นตัวหรือไม่เห็นตัว  สิ่งเร้นลับทั้งหลายไม่สามารถ

ผ่านเข้ามากร่ำกลายเราได้ในเวลาที่เราหลับสนิท   ไอ้พี่พรตมันก็สวดตามกูจนจบ  ก่อนจะพากัน

ล้มตัวนอนลงข้างกันนั่นแหละ  จู่ๆไอ้พี่พรตมันพูดขึ้นว่า


                            “ตะเกียง คืนนี้พี่นอนกอดตะเกียงได้ไหม?   กอดเฉยๆบอกตรงๆพี่เคยฝันอยาก

นอนกอดตะเกียงมานานแล้วแหละ  ที่ไหนได้พอนอนจริงๆดันเป็นกลางป่าซะนี่”  กูเหลือบขึ้นมองตามัน

ไม่มีแววหื่นในตามันเลย  จึงถามมันไปว่า


                           “ทำไม..พี่ถึงอยากกอดตะเกียง?..”  ถามไปแหละ


                           “ไม่รู้ดิ...อยากปกป้องบ้างอ่ะ มีแต่ตะเกียงดูแลพี่หมดทุกอย่าง เวลานอน

พี่ตัวโตกว่า ก็อยากกอดตะเกียงเอาไว้  มีอะไรเกิดขึ้นพี่โดนก่อนก็ยังดี  จริงป่ะ!.”  ฟังดูดี  

โคตรแมนอีกตะหาก


                          “อืม!..เอาดิ...พี่น้องกันไม่เป็นไร  ผมไม่คิดมากหรอก   แต่หากเรื่องนี้รู้ถึงหู

พี่รันกับพี่โต๋ เราทั้งคู่ตายหยังเขียดแน่ ว่าไงยังอยากกอดอีกป่าว?”  กูถามย้ำมันไปแหละ


                         “เอ่อๆ..นั่นดิ...ไอ้รันไม่เท่าไหร่ พี่พอจัดการได้...เด็กในโอวาทพี่ซะอย่าง

ไม่มีปัญหาหรอกมันหงอพี่อยู่แล้ว  แต่ไอ้โต๋นี่ดิ..ตายแน่นอนยิ่งหวงตะเกียงยังกะจงอางหวงไข่  

เปลี่ยนใจแล้วไม่เอาดีกว่า..” พอฟังมันพูดกูอดขำไปกะมันไม่ได้   แน่ใจนะว่าไอ้พี่รันเด็กในโอวาท

เชื่อตายละมึงไอ้พี่เหยี่ยวรั่วเอ้ย!....แต่ก็ไม่ได้เบรคไรมันให้รู้สึกเสียหน้าหรอก  ปล่อยมันได้ยืดซะบ้าง  

จู่ๆมันดันถามขึ้นมาอีกว่า


                           “ตกลง ตะเกียงว่าเราค้นพบน้ำตกนี่เป็นคนแรกหรือเปล่า?  ถ้าเป็นแบบนั้นเรามา

ตั้งชื่อกันไว้ก่อนดีกว่าไหม?...พอเราออกไปได้จะได้ดังไง  ว่าพวกเราเป็นคนเจอก่อนใครเค้า”

มันยังติดใจไม่หายอีก  เรื่องค้นพบน้ำตกนี่นะ  ช่างไม่สังเกตุไรเลย กองขี้เถ้าเก่าที่มีคนเค้าก่อไฟทิ้ง

ร้างมานานมันก็ไม่ยักรู้   ดันเสือกคิดว่าตนค้นพบก่อนเค้าอีกซะงั้น  เล่นไปตามน้ำกะมันหน่อยละกัน


                            “อืม..เอาดิ..พี่พรตจะตั้งชื่อว่าอะไรดีหละ?”  ถามมันกลับ


                             “นั่นดิ...เอ้!...พี่ว่าเอาชื่อเราสองคนมาตั้งกันดีกว่า  พี่ชื่อจริงว่าวรพจน์  

ส่วนตะเกียงชื่อสกลเกียง  ชื่อนี้เลยเป็นไง ‘วรเกียง’  น้ำตกวรเกียง เป็นไงเพราะดีไหม?”  เป็นเอามาก

ไอ้พี่พรตรั่ว กูทั้งขำทั้งหน่ายกับความคิดเป็นเด็กของมัน  คิดได้เนอะน้ำตกวรเกียง ตัดปัญหาก่อนจะ

ไม่ได้หลับได้นอน  ตอบมันกลับไปว่า


                              “ตามนั้นพี่ น้ำตกวรเกียงก็วรเกียง แต่ตอนนี้หลับได้รึยัง พรุ่งนี้ต้องเดินป่า

อีกนะ พักผ่อนเก็บแรงไว้กันดีกว่า หลับเถอะพี่ลงตัวแล้วนี่”  พูดจบกูพลิกตัวหันหลังให้มัน  

หลับตาลงทันที  แต่


                              “เดี๋ยวๆ..ตะเกียง แหมๆ..เล่นหันหลังให้พี่แบบนี้คิดไรกะพี่หรือเปล่าเนี่ยะ....

พาให้คิดนะเรา”  บ๊ะ!...ดูมันยังมีทะลึ่งปิดท้ายอีก


                              “อืม..ทางที่ดีตะเกียงว่าพี่ก็หันหลังมาชนกับตะเกียงด้วยดีที่สุด  เพราะข้าศึกบุก

เราจะได้ตั้งรับทันทั้งซ้ายขวา หากหันหน้ามาประกบหลังตะเกียง  ผมมีคนคุ้มหลังให้ปลอดภัยชัวร์  

แต่ตัวพี่ไม่แน่..เสือคาบไปแดกไม่รู้ด้วยน๊า”  กูขู่มันไปทันทีเพราะมันกลัวเสือ  ได้ผลเกินคาด


                              “อึ้ยยย!!!..จริงด้วยขอบใจมากที่เตือนพี่ แต่พี่ว่ามันยัง

รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี แล้วข้างบนกะข้างล่างหละ มันมาเราจะรู้ได้ไง”  เป็นไงหละ มนุษย์เจ้าปัญหา  

ข้างบนก็ติดกำแพงหินยังจะกลัวอีก ปลายตีนก็กองไฟ  มันไม่คิดสักนิดสักแต่จะถาม  

ตัดความรำคาญกูตอบมันไปว่า


                               “หากเป็นเช่นนั้น....ตัวใครตัวมันเลยพี่...”  ก่อนจะแอบอมยิ้มขำกะมัน  

เพราะมันรีบขยับตูดมาชิดกูทันที  ตัวสั่นหงกๆ  พูดเสียงเบาแทบกระซิบ  ไม่รู้จะกระซิบทำไม  

เมื่อกี้ก็ยังพูดปกติอยู่เลย  ยังกะกลัวใครจะได้ยินซะงั้น


                               “ไม่น๊า..ตะเกียงอย่าทิ้งกันเป็นอันขาด   เสือมาต้องพาพี่วิ่งด้วย  

เพราะพี่คงก้าวขาไม่ออกแน่ๆ”  น่าสงสารจริงงงงๆๆๆ....ไอ้พี่เหยี่ยวรั่ว   กูเลยแหย่กลับไปว่า


                                 “พี่พรตคร๊าบบบๆๆ!!...ไม่ต้องกลัวจนขี้ขึ้นหัวขนาดนั้นหรอก ต่อให้เสือมาจริง

มันคงไม่กล้ามางาบพี่ไปแดกหรอกคร๊าบบ”  กูทิ้งท้ายไว้ ไงมันต้องถาม  ได้ผลมันรีบลุกนั่ง  

ชะโงกหน้ามามองกูพร้อมกับถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า


                                “อ้าว!..ทำไมเล่าตะเกียง ทำไมถึงมั่นใจว่าเสือมันจะไม่คาบพี่ไปกิน?.”

เป็นไงกะไว้ไม่ผิด  กูตอบกลับไปทันที


                                “พี่ลืมไปแล้วหรือ  ว่าพี่มีกลิ่นสิงห์อยู่กับตัว เสือที่ไหนมันจะกล้ามากินพี่  

ไม่ใช่สิงห์ธรรมดาซะด้วยนะ แต่เป็นสิงห์รันขั้นเทพ เสือมีแต่หมอบกระแตสยบให้อีกตะหาก..ฮ่าๆๆๆ!!!”

ได้ผลไอ้พี่พรตมันรีบผลุบตัวลงนอนหันหลังให้กูทันที  หุบปากไม่โต้ตอบ  จบบทสนทนา

กูจะได้หลับซะที ไม่ยักรู้ว่าไอ้พี่รันมันเทพถึงขนาดแค่ชื่อก็พาให้ไอ้พี่พรตหุบปากหลับลงได้  

เยี่ยมจริงมึง.....กร๊ากกกกๆๆๆๆ!!!!                
  






มาต่อให้แล้วนะค่ะ...อย่าเพิ่งโวยกันเด้อ....ช่วงนี้งานเยอะสาดดดด....


Luk.
:3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2011 21:44:01 โดย luxilove »

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






nootnoot

  • บุคคลทั่วไป
ใจจ้ารออ่านอย่างใจเย็น

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :mc4: กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ ดีใจคุณลักษณ์มาต่อรอตะเกียงมานาน
และไม่ทำให้ผิดหวังเป็นตะเกียงพิเศษจริงๆด้วย
เหมือนโดเรมอนเลยแต่ไม่ต้องมีกระเป๋าวิเศษก็สามารถได้ด้วยตัวเอง
ปล.มาต่ออีกเร็วๆนะคะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
เมื่อไหร่โตโต๋กะรันจะตามตะเกียงกับพรตเจอซักทีอ่ะ


ปล.มาต่อไวไวนะ

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5

ออฟไลน์ april@tbl

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
พรตยังรั่วเหมือนเดิม
เมื่อไหร่จะเจอกับรันกันล่ะเนี่ย

ปล.PM ไปหลายวันแล้วค่ะ

Badmiffy

  • บุคคลทั่วไป
สองศรีพี่น้องเริงร่ากันกลางป่า ชอบไอ้พี่พรตจริงๆ

เป็นคนที่ฮาแล้วก็น่ารักได้อีก ชอบมากๆเลย 555+

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
รั่วได้ใจจริงๆน๊อพี่พรต แล้วนี่เมื่อไหร่จะเจอกับบรรดาสามีละนี่ หนีกันออกมาซะไกล :เฮ้อ:

SenSei

  • บุคคลทั่วไป
ย๊ากกกกก มีกินสิงห์  :-[ :-[
 
พี่โต๋พี่รันขา รออยู่นะจ๊ะ:bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด