Part 17
..ไม่รอดอยู่ดี..?
.
.
.
.
.
“อร๊ายยยยzzzzzๆๆๆๆ..กรี๊ดดดzzzzz!!...มาแล้ว..มาแล้ว..มาแล้วค๊าาาา.ดาวเด่นของสีเรา”
เข้ามาในห้องชมรม เสียงแหลมปรี๊ดแปดหลอด..ก็เรียกความสนใจสมาชิกของสีแดง ที่อยู่ในนั้นร่วม
กว่าร้อยชีวิต หันมามองพวกกูทันที สายตาทุกคู่มองมาอย่างชื่นชม (หรือเปล่าหว่า?) แล้วคุณเธอที่
เสียงแหลมปรี๊ดตะกี้ ก็ตรงดิ่งเข้ามาทางเรา
“เห้ย!!...เบาๆ ก็ได้อีกิ๊ป...มึงจะตะโกนทำเชี้ยไร..อยู่ใกล้แค่นี้..หูกูแทบแตก” ไอ้บอมย์ มันเห่าใส่
แบบไม่จริงจังไรนัก
“แหม!แหม!...ตลอดแหล่ะ!..คุณสามีที่รัก กล้ามหญ่ายยยๆๆ..ไม่เคยจะหวานใส่เมียเลยอ่ะ”
คุณเธอพูดจบ พวกในห้องพากันฮาตรึม นี่ยังไม่นับเอคติ้งสะดีดสะดิ้งประกอบคำพูด ค้อนไอ้บอมย์
ปะหลับปะเหลือกไปด้วย ดูตลกโครตๆ ท่าทางที่คุณเธอทำ
“มึงอย่ามาก...อีกิ๊ป..เดี๋ยวจะโดนไม่น้อย” ไอ้บอมย์ มันขู่แก้เขิน ก็น่ะหน้าแดงเถือกขนาดนั้น
ใครไม่รู้ว่ามึงเขินก็โง่แล้ว
“ยินดีมากเลยค่ะ..บอมย์ขา..กิ๊ปซี่รอโดนพี่บอมย์จนเหงือกแห้งเป็นปีแล้วน๊า เมื่อไหร่จะจัดให้สักที..
เอ๊ะ! หลายๆ ที่ก็ได้นะค่ะ..สงสารคนขาดพลังชีวิต...กิ๊ปซี่จะทำให้บอมย์เสียวสุขจนขาดใจคาอกเลย
เอ้า!.” ยิ่งเล่นยิ่งขำ หลายคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ไอ้บอมย์หน้าแดงแล้วแดงอีก มันเจอคู่ปรับแบบ
นี้แหล่ะ! เล่นเอาหมาในปากทำงานไม่เป็นเลย
“เอา..เอ้า!...เล่นกันพอหรือยัง เลิกเล่นกันได้แล้ว ไอ้โต๋ ไอ้บอมย์ พาน้องเค้าเข้ามาคุยได้แล้ว”
ระฆังช่วยชีวิตไอ้บอมย์ ก็ดังขึ้น น่าจะใช่พี่ประธานชมรมเกษตร และควบตำแหน่งประธานสี
พี่แกพูดจบ ทุกคนก็กลับไปสนใจที่ค้างกันต่อทันที
“นี่น้องตะเกียงใช่ไหม...ไม่ผิดหวังจริงๆ...สวยอย่างที่คนเค้าพูดเลย” พี่แกเล่นชมแบบนี้ กูควรภูมิใจ
หรือไว้อาลัยกับชีวิต อนาถรูปร่างหน้าตาตัวเอง พวกนั่งในห้องต่างซุบซิบมองมา บ้างยิ้ม
บ้างเขินหน้าแดง โดยรวมแล้วสายตาเป็นมิตรแทบทั้งหมด นี่คงเป็นผลดีของกิจกรรมเป็นทีม
คงรู้ว่ากูก็พวกสีเดียวกัน ไม่มีใครแสดงท่าทางไม่ชอบหน้าใส่กูสักคน ทำให้รู้สึกสบายใจไปเปราะหนึ่ง
“น้องตะเกียงครับ..พี่ชื่อบอยเป็นประธานสี..โทษทีนะครับ..ถ้าพี่จะถามส่วนตัวหน่อย...น้องตะเกียงอายุ
เท่าไหร่ครับ?.น้องหน้าเด็กมาก..พอจะบอกได้ไหมครับ?” แล้วพี่บอยแกก็เปิดบทสัมภาษณ์ กูซะงั้น
ท่ามกลางสายตาอยากรู้ของสมาชิกในห้อง กูไม่คิดปิดบังอะไร เพียงแค่ไม่บอกถ้าไม่มีใครถาม
อยากรู้บอกก็ใช่จะเป็นไรนี่
“สิบสี่ย่างสิบห้าครับ” เสียงฮือฮา..ดังขรมไปทั้งห้อง ไอ้บอมย์มองกู ด้วยสายตาอึ้งๆ มันคงไม่คิด
ว่ากูอายุแค่นี้ ส่วนไอ้โต๋ หน้ามันเฉยมาก ยังกะมันรู้อยู่แล้วว่ากูอายุสิบสี่ ไม่แสดงอาการใดใดเลย
นิ่งตลอดแหล่ะมึง....
“คิดไว้แล้วเชียว..แล้วทำไมถึงเรียนม.4 หล่ะครับ ต่อให้เข้าก่อนเกณฑ์ ก็ไม่น่าจะอยู่ถึงชั้นนี้
เต็มที่น่าจะอยู่ม.3..” ขี้สงสัยจริงวุ้ย! ประธานสีกู
“พ่อผมฝากเรียนก่อนเพื่อนนะ..บังเอิญรู้จักกับ ผอ.โรงเรียน ได้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ” กูโกหกแหล่ะ!..
ตัดความขี้สงสัย ไม่งั้นเดี๋ยวพี่แกถามไม่เลิก ไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกันพอดี จริงแล้วกูพาสชั้นเรียน
ปริญญาโน้นเลยยังได้
“เอาไง..อีกิ๊ป..น้องเค้ามาแล้วมึงคุยกับน้องเค้าเลยแล้วกัน..ส่วนมึงไอ้โต๋ ไอ้บอมย์ มาวางแผนวาง
ตัวนักกีฬากับกู..ปล่อยอีกิ๊ปมันดูแลเรื่องพาเหรด..กับกองเชียร์ไป” พูดจบ พวกก็เข้าไปนั่งคุยกัน
ทิ้งกูไว้กับพี่กิ๊ปและพวกสต๊าปเชียร์อีกยี่สิบกว่าคน
“น้องตะเกียงค่ะ...พี่ชื่อกิ๊ปนะค่ะ..แล้วนี่พี่น้อย...พี่เพ้นท์..พี่บลาๆๆๆๆ...ต่อไปนี้เราต้องทำงานร่วมกัน..
มีอะไรไม่ต้องเกรงใจนะจ่ะ!...ปรึกษาพี่ได้ทุกเรื่อง...ยกเว้นเรื่องตังค์..” พี่แกแนะนำตัวเองและพี่สต๊าป
อีกหลายคน อ่า!..ดีเลยปรึกษาได้ทุกเรื่อง งั้นก็เรื่องนี้เลยแล้วกัน
“อ่า..คือพี่กิ๊ปครับ..ผมไม่อยากนั่งเสลี่ยงอ่ะ...พี่ให้ผมทำอย่างอื่นได้ไหม?” เรื่องแรกเลยที่กูปรึกษา
“อร๊ายยยยๆๆ..น้องตะเกียงขา คงไม่ได้หรอกค่ะ..สำหรับเรื่องนี้ เรากำหนดคนนั่งกันแล้ว
คอนเซ็ปสีเราจับฉลากได้ภาคเหนือ....ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับน้องตะเกียงอีกแล้ว...” นอกจากพี่แก
จะไม่ยอม พวกพี่ทีมสต๊าฟ ต่างสั่นหัวไม่ให้กูปฏิเสธอย่างพร้อมเพรียงกันซะนี่ ตกลงชีวิตกูเรียกร้อง
อะไรกะเค้าไม่ได้เลยนิ
“น้องค่ะ..มันไม่ได้ยากอะไรหรอกค่ะ...แค่แต่งตัวนั่งบนเสลี่ยงของขบวนพาเหรด พี่ว่าน้องไม่ต้องปฏิเสธ
เลยนะค่ะ ถ้าน้องอาย ไม่ต้องกลัวอายหรอกนะค่ะ น้องไม่ได้นั่งบนนั่นคนเดียว ยังมีเพื่อนนั่งด้วย
อีกคน ไม่เห็นต้องอายเลยนี่ค่ะ” อ่านะ!...พี่เพ้นท์...ทำหน้าที่นักการทูตเป่าหู กล่อมกูอีกคน...
กูไม่ได้อาย แต่ไม่อยากเป็นจุดเด่นไรงี้ นี่กูก็ปวดกบาลพอดูแล้ว ขืนทำอะไรไปเยอะ
จะมีห่าไรตามมาให้วุ่นวายอีกไม่รู้ แต่พี่เค้าบอกว่ามีคนนั่งกะกู ใครหว่ะ?
“ผมนั่งกับใครครับ?...” สงสัยไม่ปล่อยผ่าน นิสัยกูแหล่ะ!
“อ้าว!..น้องโต๋ ไม่ได้บอกเหรอ..ว่านั่งเสลี่ยงกะเค้านะ” แจ็คพ๊อต!....จนได้สิกู..ยิ่งจะห่าง
กลับยิ่งใกล้ กูไม่เข้าใจมึงเลยจริงๆ มึงจะปิดกูทำซากอะไรหว่ะ! ไอ้เหี้ยโต๋..
“อ่าครับ..ช่างเถอะครับ..นั่งก็นั่ง แล้วผมต้องทำอะไรบ้างอ่ะครับ” พี่แกก็อธิบาย..บลาาาๆๆๆ..
มากมายว่ากูต้องทำอะไร
.
.
เวลาร่วมบ่ายสามโมง พวกไอ้โต๋ ไอ้บอมย์ก็คุยเสร็จ เดินมาที่กู
“เป็นไง..ไอ้ตะเกียง เรียบร้อยดีไหม” ไอ้บอมย์มันถาม มึงจะเอาคำตอบแบบไหน
เรื่องงานกูเรียบร้อยดี เรื่องใจไม่เรียบร้อยหว่ะ!..เป็นไปได้กูไม่อยากนั่งแม่งเลยเสลี่ยงเหี้ยไรอ่ะ
ยิ่งต้องนั่งกับเชี้ยโต๋อีก ทำไงได้สุดท้ายก็ต้องนั่งอยู่ดี เรียกร้องห่าไรไม่เคยสำเร็จ อย่าจ้างกูไปเป็น
ม็อบเด็ดขาด เพราะมันไม่รุ่งแน่ ๆ
“อือ..” ตอบแม่งได้แค่นี้สั้นๆ
“อือ..เหี้ยไรมึง...โอเคหรือไม่โอเค พูดให้มันเข้าใจหน่อย” สัดบอมย์ มึงจะไรกันนักว่ะ!
“อือ..ก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร โอเค..พอใจย่างงงงงๆๆๆ” กูลากเสียงกวนแม่งแหล่ะ! งี่เง่าดีนัก
“พลั๊ก!!....อย่ามากวนตีน ลามปามใหญ่แล้วมึง มึงน้องกูตั้งสองปี” สัดนิ!..ผลักหัวกูอีก
แม่ง!..เดี๋ยวนี้มือตามแล้ว มึงแหล่ะลามปามหัวกู..เชรี้ยยย ๆ
“อะไรว่ะ!...กวนที่ไหน..ไม่ได้กวนสักหน่อย...ไม่เคยปีนสักครั้ง รึจะให้ปีนหล่ะ...กู..มึงไม่เคยพูดใส่
มีแต่นายแหล่ะ ยังมาว่าเราอีก”
“ไมมึงจะไม่ปีน..เนี๊ยะ!!...มึงกำลังปีนอยู่ ต่อไปนี้ต้องเรียกพวกกูว่าพี่ แม่งหลงนึกว่ารุ่นเดียวกัน
มิน่าว่าทำไมหน้ากะโปโลที่แท้เพิ่งสิบสี่ ทำเป็นคุยเคยแดกพริสตี้ จูบแรกเคยยังมึงนะ”
เหี้ยบอมย์พูดจบ เชี้ยโต๋สบตากูทันที สัด..บอมย์ไอ้แสรดดดด..หมา กูอุตส่าห์ไม่คิด
กลับมาสะกิดซะงั้น ทำหน้ากูเดือดได้อีกมึง
“ไรหว่ะ!..มึงไม่เคยจริงดิ ดูหน้าแดงเถือก กูพูดแทงใจดำใช่ไหมหล่ะ..ห่า.ห่า.ห่าๆ” ไอ้ควายคูโบต้า
ไอ้หมาปากมอม มึงฝังกูเลยดีไหม เชรี้ย!..เอ้ยยยๆๆ..ต้องให้กูบอกมึงเหรอว่ากูเคยจูบแล้ว
เพิ่งโดนไปเมื่อเช้ากับไอ้คนที่ยืนข้างมึงไง
“พอแล้วไอ้บอมย์..แกล้งมันมาก..หน้ามันแดงลามไปถึงหูแล้ว มึงจะรู้ไปทำไม มันเคยจูบรึยังนะ”
ไอ้โต๋ มันพูดขึ้นมา
“ก็นะ..มึงดูมันดิ..น่าแกล้งโครตว่ะ..ทีเรื่องอื่นทำเป็นเก่ง พูดเรื่องจูบ..เขินซะงั้น” มันยังพล่ามไม่หยุด
จะสนใจอะไรกะจูบกูนักหนาว่ะ!..เหลือจะทน...อดไม่ได้เดี๋ยวแม่ง...กดมึงจูบซะเลยดีม้างง..จะได้หยุดเห่า
สักที...ไม่เอา...ไม่เอา..แหว่ะ! ไม่คิด...
“เอาเป็นว่า...มึงไม่ต้องสงสัยหรอก..กูพูดแทนให้มันแล้วกัน.” อย่าบอกนะมึงไอ้เหี้ยโต๋ กูมองหน้ามึงนี่
รู้เปล่า ซิกกู ‘ห้ามพูด’ ดันเสือกจ้องตอบ ยกยิ้มยักคิ้วข้างเดียวให้กูซะงั้น อย่าพูดไปนะโว้ย!!!!
“มัน..เคย...จูบแล้ว..เชี้ยกูดิ...ดูง่ายจะตาย..หน้ามันโกหกซะที่ไหน...หึ.หึ.หึ.หหหหๆๆๆ” ว่าแล้วแม่งดัน
หัวเราะทิ้งท้ายก่อนหันหลังเดินไป ปล่อยไอ้บอมย์ ถลึงตาจ้อมผม เหมือนถาม ‘จริงป่ะ’ ที่ไอ้โต๋พูด
กูเลยตอบมันไปว่า
“ไม่รู้โว้ยยยยๆๆๆๆ.....” แล้วชิ่งตามตูดไอ้เชี้ยโต๋ ไปติดๆ จะอยู่ให้มันซักฟอกทำเชรี้ยไร
กูไม่ใช่จำเลยไอ้บร้าๆๆๆ....
ขอบคุณกำลังใจที่น่ารักทุกคน....จะพยายามขยันโพส สมกับที่เป็นแฟนพันธ์แท้
Luk.