การเดินทางของศิลากับฟ้าคราม : เส้นทางสุดท้าย (.....สู่บทสรุป)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางของศิลากับฟ้าคราม : เส้นทางสุดท้าย (.....สู่บทสรุป)  (อ่าน 242402 ครั้ง)

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.........เข้ามาหั้ยกำลังใจ......

.........หายเร็วๆนะคับ......... o15 o15

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
พักผ่อนมาก ๆ หายไวไวน้า  :a2:  :a2:

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป

คิดถึงจัง  :m1:

====================================================================
ใครอยากได้ "The Missing Piece and The Big O" ทิ้งเมลล์ไว้ได้เลยนะคับ เดี๊ยวจะส่งให้นะ
ถ้ายังไง ก็อย่าลืมไปอ่านเรื่อง "เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้" กับ "เวลาที่เริ่มเดินอีกครั้ง" ด้วยนะคับ
 :m11:

อยากอ่านด้วยยยยย  จิงโจ้น้อยชิวๆ  รบกวนส่งมาให้ด้วยสิคร้าบ นะนะ  :impress: ขอบคุณมากๆเลยยย ninaprakeอย่าแสดงเมลบนบอร์ด นะคร้าบบผม  :m5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2007 13:13:14 โดย BlueWizard »

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
อบอุ่นจังเลยครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 o13

เห็นด้วยคับ .... ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้สึกอบอุ่นจัง   :m18:

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอบคุณทุกคนมากครับ ตอนนี้เริ่มลืมตาได้บ้างแล้ว
แต่ส่วนมากก็ยังใช้ตาขวาได้ข้างเดียวอยู่ดี เลยยังพิมตอนต่อไม่ได้
โชคดีที่ผมพิมล่วงหน้าไว้ค่อนข้างเยอะ
โพสนี้เอาเพลงไปฟังก่อนและกันนะคับ ตอนต่อไปกำลังตามมาติดๆ

why (are we still friends?)

better together

something about us << เพลงบังคับ  :m13:



ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สู้ๆๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

 :a1: :a1: :a1: :a1: :a1:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 6


เทอร์โมมิเตอร์ที่แขวนอยู่บนผนังวัดค่าอุณหภูมิภายในห้องตอนนี้ได้ ยี่สิบองศาเซลเซียส แต่ผมกลับรู้สึกว่าเหงื่อในกายของผมมันกำลังซึมออกจากทั้งทางฝ่ามือทั้งสองและแผ่นหลังจนชื้นไปหมด

แถมยังรู้สึกเหนอะๆที่รักแร้อีกด้วย

ผมยังคงมองหน้าของไอ้ซันราวกับว่ามันเป็นภาพเขียนในงานนิทรรศการภาพวาดและผมเป็นนักวิจารณ์ที่กำลังเพ่งมองหาความหมายของภาพเขียนภาพนั้นอยู่ หรือไม่ผมก็อาจจะกำลังเป็นเสือดาวที่เพิ่งไล่ต้อนกระต่ายมาจนมุมและกำลังจ้องรอจังหวะที่จะตะครุบเหยื่อ....... หรือไม่ก็ผมเองนั่นแหละที่เป็นกระต่าย

“เดี๋ยวกูมานะ” ไอ้ซันพูดขัดจังหวะผมขึ้นและจู่ๆก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเลย ทำเอาผมงงจนแทบตั้งหลักไม่ทันว่าตกลงตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่กันแน่

ผมรวบรวมสมาธิใหม่อีกครั้ง สูดหายใจเข้ายาวๆหนึ่งทีและตัดสินใจว่าจะตัดใจไม่พูดสิ่งที่เกือบจะหลุดปากนั้นออกไปเสียแล้วดีกว่า บางทีการเก็บมันเอาไว้อาจจะดีกว่าก็ได้เพราะถ้าอีกฝ่ายไม่อยากได้ยินคำนั้นขึ้นมาและผลลัพธ์มันออกมาเลวร้ายเกินกว่าที่ผมเคยคาดคิดเอาไว้ล่ะก็ ผมคงต้องแย่ยิ่งกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนนั้นแน่ๆ

ผมเกิดอาการสะดุ้งโดนอัตโนมัติทันทีตอนที่ได้ยินเสียงไอ้ซันเปิดประตูห้องของผมกลับเข้ามา แต่ว่าคราวนี้มันกลับเข้ามาพร้อมกีตาร์อีกหนึ่งตัว และหมอนอีกหนึ่งใบด้วย ผมคิดว่าสีหน้าของผมคงบอกมันได้เป็นอย่างดี

“ไม่ต้องทำงง คืนนี้กูนอนนี่แหละ”

ผมแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป พอไอ้ซันเห็นสีหน้าผมเข้ามันก็เลยพูดออกมาอีกว่า

“มึงไม่อยากให้กูนอนเหรอ”

ผมรีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

“ดีมาก แล้วก็.......... กูมีอะไรอยากให้มึงทำให้กูอย่างนึงด้วย” มันเดินตรงเข้าไปปิดเพลงที่แล็ปท็อปและหลังจากนั้นก็มานั่งลงบนเตียง ผมนั่งนิ่งรอฟังสิ่งที่มันกำลังจะพูด

“กูอยากให้มึงนั่ง และตั้งใจฟังเพลงนี้ให้ดีๆ เพราะว่า.......” มันทิ้งช่วง แต่ผมก็ยังคงไม่พูดอะไร “เพราะมันเป็นเพลงที่กูตั้งใจจะเล่นให้มึงฟังมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่สุดท้ายมึงก็ดันเกิดอุบัติเหตุและเข้าโรงพยาบาลไปเสียก่อน”

ผมกลืนน้ำลาย ไม่สามารถเอ่ยคำพูดใดๆออกมาได้อีก หัวใจของผมเต้นรัว เหงื่อเริ่มซึมออกมามากขึ้น และรู้สึกเหมือนกับต่อมน้ำตาชักอยากจะทำงานแข่งกับต่อมเหงื่อบ้างแล้วด้วย

จะมาอยากแข่งกันขยันอะไรเอาตอนนี้

ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอยู่ชั่วขณะหนึ่งจากนั้นไอ้ซันก็เริ่มลงมือดีดกีตาร์ พออินโทรขึ้นผมก็รู้เลยว่ามันเป็นเพลงที่ผมเองก็รู้จักดี มันคือเพลง วาย อาร์ วี สติล เฟนรด์ส ของ ไนน์ตี้เอ็ท ดีกรีส์ นั่นเอง

ไอ้ซันเริ่มต้นร้องเพลงเบาๆ..............

เราทำเกือบทุกอย่างเช่นเดียวกับที่คนรักเขาทำกัน และนั่นแหละที่ทำให้การเป็นแค่เพื่อนกับเธอมันยากเหลือเกิน
ทุกครั้งที่เธอต้องเจ็บปวดเพราะใคร รู้ไว้ว่าฉันเองก็เจ็บเช่นเดียวกัน................


สายตาของมันจับจ้องไปที่นิ้วมือของตัวเอง แต่บางครั้งมันก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมด้วย แววตาของมันสื่อความหมายบางอย่างซึ่งถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิดไป สิ่งๆนั้นก็คือสิ่งเดียวกับที่ผมพยายามจะบอกมันเมื่อห้านาทีที่แล้ว เมื่อสามวันที่แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อสามเดือนที่แล้ว และเมื่อปีที่แล้วด้วยนั่นเอง........

มันคือความหมายเดียวกับสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลา ทุกๆนาทีที่ผมหายใจ

ไอ้ซันยังคงร้องเพลงต่อไปผมเองก็นั่งตั้งใจฟังอย่างที่มันขอ และจนเมื่อมาถึงท่อนฮุคครั้งที่สองผมจึงเริ่มต้นร้องคลอไปพร้อมๆกับมันด้วย

บอกฉันที ว่าทำไมเราถึงยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ ในเมื่อทุกอย่างก็บ่งบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าเราควรจะเป็นมากกว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้
และบอกฉันที ทุกครั้งที่ฉันตามหาคนที่ฉันรัก ทำไมเราจึงต้องจบลงด้วยคำว่า เพื่อนกัน..............


มันส่งยิ้มให้ผม ผมเองก็ยิ้มตอบให้มันด้วย คราวนี้ผมเริ่มร้องเพลงไปพร้อมๆกับมันจนมาถึงท่อนแยก ไอ้ซันกลับหยุดมือลง และเอานิ้วของมันมาจุ๊ปาก ผมมองมันด้วยความงุนงงแต่ก็ตัดสินใจที่จะนั่งเงียบและตั้งใจฟังมันร้องเพลงต่อเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าคราวนี้ไอ้ซันกลับไม่ดีดกีตาร์ต่อและเริ่มต้นร้องท่อนต่อไปด้วยปากเปล่า

ฉันไม่อยากจะเป็นพี่ชายของเธอ
ฉันไม่อยากจะเป็นเพื่อนทีดีที่สุดของเธอ
ฉันอยากจะเป็นเพียงแค่คนรักเท่านั้น เมื่อไหร่เรื่องนี้มันถึงจะจบลงนะ
ถ้าหากฉันบอกเธอไปว่าฉันอยากจะอยู่ในชีวิตของเธอบ้าง จากนั้นเธอจะเป็นของของฉันได้รึเปล่า............


จากนั้นนิ้วของมันจึงเริ่มต้นดีดกีตาร์ต่ออีกครั้ง และมันก็เริ่มร้องต่อจนจบเพลง เมื่อสิ้นเสียงของมัน ทั่วทั้งห้องก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมรู้สึกยังไงอยู่ในตอนนี้ เพราะทั้งหัวใจของผมตอนนี้มันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจที่ผมเคยหลั่งมาตลอดหนึ่งปี และ สมองของผมก็ท่วมท้นไปด้วยความคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่เราสองคนเคยร่วมเดินผ่านด้วยกันมาจนเต็มไปหมด

ผมอยากจะหาคำพูดใดๆมาบรรยายความรู้สึกของผมออกไปให้มันได้รับรู้บ้าง แต่ผมก็ไม่สามารถทำได้เลย

“นั่นคือเพลงที่กูตั้งใจไว้นานแล้วว่าอยากจะเล่นให้มึงฟังเป็นเพลงสุดท้ายก่อนกูจากมา” ไอ้ซันพูดทำลายความเงียบขึ้น “และต่อจากนี้ จะเป็นเพลงที่กูตั้งใจไว้ว่าจะเล่นให้มึงฟังในวันนี้นี่แหละ”

ผมเผลอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก พร้อมรึยัง”

ผมพยักหน้าช้าๆสองสามที ไอ้ซันเริ่มขยับตัวและประคองกีตาร์ให้อยู่ในท่าที่มันถนัดอีกครั้ง และอีกครั้งเมื่อมันเริ่มต้นดีดกีตาร์ เมื่ออินโทรเพลงนี้เริ่มดังขึ้น ผมก็รู้ได้เลยทันทีว่ามันตั้งใจจะร้องเพลงอะไรให้ผมฟัง  มันคือเพลง เบ็ทเทอร์ ทูเกตเตอร์ ของ แจ็ค จอห์นสัน เป็นเพลงที่ผมชอบมากและมีความหมายดีมากๆเช่นกัน ความหมายของเพลงก็ตรงตามชื่อเพลงนั่นแหละ นั่นคือ “ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น เมื่อมีเราสองคนอยู่ด้วยกัน”

ผมนั่งฟังมันร้องเพลง แต่คราวนี้ผมไม่ร้องตามไปกับมันอีกแล้ว ผมอยากจะฟังแค่เสียงของมันคนเดียวเท่านั้นจริงๆ บางครั้งผมกับมันก็สบตากัน บางครั้งผมกับมันก็ยิ้มให้กัน จนมาถึงช่วงท่อนสุดท้ายของเพลง

และไม่มีเพลงไหนที่ฉันสามารถร้องออกมาได้
และไม่มีคำพูดไหนที่ฉันสามารถเอื้อนเอ่ย
แต่ฉันมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยากจะบอกเธอ
เราสองคนกำลังดีขึ้นไปพร้อมๆกัน


เมื่อเพลงจบลง ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร และผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากจะพูดอะไรออกไป และอีกครั้งที่ไอ้ซันชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ถ้ามีอะไรสักอย่างในชีวิตของกูที่กูจะเรียนรู้ได้นะ ถ้ามีแค่ช่วงเวลาใดสักช่วงหนึ่งในชีวิตที่ทำให้กูได้เรียนรู้ และถ้ามีสิ่งๆนั้นที่กูสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ไอ้ทั้งหมดนั้นก็คงเป็น เมื่อตอนที่กูอยู่มอหกนั่นแหละ...........” มันหยุดมองหน้าของผม “กูเชื่อมาตลอดว่าคนเรามันก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างเดิมทุกๆวันเป็นเรื่องธรรมดา และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่สิ่งปกติธรรมดาที่เราทำอยู่ในทุกๆวัน มันอาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับคนอื่นๆ หรือ คนๆหนึ่งก็ได้ มึงเข้าใจที่กูพูดมั๊ย”

ผมพยักหน้าช้าๆ

“แต่ตอนนั้นกูรู้เลยว่า ถ้าเรามองให้ลึกลงไปอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น นิดเดียวจริงๆ ว่าในระหว่างที่เราใช้ชีวิตธรรมดาๆของเราอยู่นั้น เราอาจจะเผลอไปทำให้ชีวิตของใครคนอื่นผิดไปจากธรรมดาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจได้.......” ไอ้ซันเว้นช่วงแล้วสบตากับผมนิ่ง “ในช่วงที่กูใช้ชีวิตของกู กูหัวเราะ และพูดคุยอย่างปกตินั้น” ผมสังเกตว่ามันเปลี่ยนสรรพนามจากคำว่า เรา มาเป็น กู แสดงความเจาะจงยิ่งขึ้น “คำพูดของกู มันอาจจะไปทำให้รอยยิ้มของใครคนหนึ่งสูญหายไปโดยที่กูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นก็ได้ และเมื่อรู้ตัวอีกทีว่ากูเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาคนนั้นไม่มีรอยยิ้มและต้องจมอยู่กับความเศร้า มันก็สายเกินไปซะแล้ว หลายครั้งที่กูอยากจะแก้ไขสิ่งที่กูทำลงไป แต่กูก็ได้เรียนรู้มาอีกว่า คนเราต่อให้พยายามแค่ไหนก็แก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่ได้ไม่ว่ามึงจะพยายามอ้อนวอนต่อพระเจ้าหรือหลั่งน้ำตาจนเป็นสายเลือดแค่ไหน มึงก็ทำไม่ได้” ไอ้ซันเว้นช่วงอีกครั้ง และสูดลมหายใจเข้าช้าๆ

ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรง

“กูเคยทำให้เขาต้องเจ็บปวด ต้องเสียใจ ถึงกูจะบอกตัวเองว่ากูไม่ได้ตั้งใจ แต่กูก็ทำลงไปแล้วจริงๆ มันเป็นความจริงที่กูไม่สามารถปฏิเสธหรือหลอกตัวเองได้”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น

“กูมันคนหัวดื้อและทิฐิสูง กูมันคนปากไม่ดี พูดอะไรไปทำอะไรไปก็ไม่ค่อยจะคิดก่อน แต่ช่วงเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่เดือนนั้นมันทำให้กูได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่กูทำพลาดมาทั้งชั่วชีวิต มันทำให้กูได้รู้ถึงข้อผิดพลาด ข้อเสียของกูที่กูควรจะแก้ไข........... ถ้ากูไม่อยากจะสูญเสียคนที่กูรักไปอีก”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมากๆ

“กูอยากจะบอกมึงอย่างนึง เมฆ.......” มันเว้นช่วงและสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้ง

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมากๆสุดๆเลย

“กูขอโทษนะ”

ตาของเราประสานกัน ความเงียบกลับเข้ามาปกคลุมภายในห้องอีกครั้ง ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าของผมที่รู้สึกชาและนิ่งจนไร้ความรู้สึกมานานเริ่มกลับมาทำงานได้อีกครั้ง หัวใจของผมเริ่มเต้นช้าลง หูที่รู้สึกตื้อตันเริ่มโล่งขึ้น คอที่เคยแห้งผากเริ่มมีน้ำมาหล่อเลี้ยงอีกครั้ง ผมละสายตาไปจากใบหน้าของมันและลุกขึ้นยืน ไอ้ซันขยับตัวเล็กน้อยแต่ผมไม่ได้ใส่ใจ ผมเดินไปที่แล็ปท็อป นั่งลงบนเก้าอี้ และเลือกเปิดเพลงๆหนึ่งขึ้นด้วยความรวดเร็วก่อนที่มันจะทันพูดอะไรขึ้นมาอีก

เมื่ออินโทรของเพลงดังขึ้น ผมจึงเริ่มพูดประโยคแรกหลังจากเป็นใบ้มานานหลายนาที

“กูเล่นกีตาร์ไม่เป็น แต่กูก็อยากให้มึงได้ฟังเพลงนี้เหมือนกัน” ผมพูดโดยที่ยังไม่ได้หันหน้าออกจากโต๊ะ

มันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ถูกที่ควร
ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่เหมาะสม
แต่มีบางอย่างระหว่างเราที่ฉันอยากจะบอก
เพราะมันมีบางสิ่งระหว่างเรานั่นเอง


ผมหันกลับมามองมองหน้าของมัน และเดินตรงไปที่เตียง

ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่เหมาะสม
มันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ถูกที่ควร
แต่มีบางอย่างระหว่างเราที่ฉันต้องทำ
บางสิ่งที่เหมือนจะเป็นความลับที่ฉันกำลังจะบอกกับเธอ


ผมนั่งลงข้างๆมัน

ฉันปรารถนาเธอมากกว่าสิ่งไหนในชีวิต
ฉันต้องการเธอมากกว่าสิ่งไหนในชีวิต
ฉันคิดถึงเธอมากกว่าสิ่งไหนในชีวิต
ฉันรักเธอมากกว่าใครๆในชีวิต.......................


ผมมองจ้องมองเข้าไปในดวงตาของมัน..........

“กูรักมึง”

ผมพูดขึ้นเมื่อสิ้นเสียงของนักร้อง และส่วนที่เหลือของเพลงอีกหนึ่งนาทีสี่สิบวินาทีจะเป็นเมโลดี้บรรเลงจนจบเพลงเพียงอย่างเดียวไม่มีเนื้อร้องอีก และผมหวังว่าสิ่งที่ผมจะได้ยินหลังจากนี้นั้นคงไม่ใช่มีแค่เสียงดนตรีของเพลงๆนี้อย่างเดียวจนจบเพลงหรอกนะ...............

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:12:30 โดย ExecutioneR »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.............โรแมนติกมากมาย........ :give2: :give2:

.............แต่แอบปนเศร้าเล็กๆ........

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ทำไมฟ้าให้เรารักกัน
แต่ให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป


“ถ้ามีอะไรสักอย่างในชีวิตของกูที่กูจะเรียนรู้ได้นะ ถ้ามีแค่ช่วงเวลาใดสักช่วงหนึ่งในชีวิตที่ทำให้กูได้เรียนรู้ และถ้ามีสิ่งๆนั้นที่กูสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ไอ้ทั้งหมดนั้นก็คงเป็น เมื่อตอนที่กูอยู่มอหกนั่นแหละ...........” มันหยุดมองหน้าของผม

“กูเชื่อมาตลอดว่าคนเรามันก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างเดิมทุกๆวันเป็นเรื่องธรรมดา และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่สิ่งปกติธรรมดาที่เราทำอยู่ในทุกๆวัน มันอาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับคนอื่นๆ หรือ คนๆหนึ่งก็ได้ มึงเข้าใจที่กูพูดมั๊ย”

ผมพยักหน้าช้าๆ

“แต่ตอนนั้นกูรู้เลยว่า ถ้าเรามองให้ลึกลงไปอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น นิดเดียวจริงๆ ว่าในระหว่างที่เราใช้ชีวิตธรรมดาๆของเราอยู่นั้น เราอาจจะเผลอไปทำให้ชีวิตของใครคนอื่นผิดไปจากธรรมดาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจได้.......” ไอ้ซันเว้นช่วง “ในช่วงที่กูใช้ชีวิตของกู กูหัวเราะ และพูดคุยอย่างปกตินั้น” มันเปลี่ยนสรรพนามจากคำว่า เรา มาเป็น กู แสดงความเจาะจงยิ่งขึ้น “คำพูดของกู มันอาจจะไปทำให้รอยยิ้มของใครคนหนึ่งสูญหายไปโดยที่กูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น และเมื่อรู้ตัวอีกทีว่ากูเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาคนนั้นไม่มีรอยยิ้มและต้องจมอยู่กับความเศร้า มันก็สายเกินไปซะแล้ว หลายครั้งที่กูอยากจะแก้ไขสิ่งที่กูทำลงไป แต่กูก็ได้เรียนรู้มาอีกว่า คนเราต่อให้พยายามแค่ไหนก็แก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่ได้ไม่ว่ามึงจะพยายามอ้อนวอนต่อพระเจ้าหรือหลั่งน้ำตาจนเป็นสายเลือดแค่ไหน มึงก็ทำไม่ได้” ไอ้ซันเว้นช่วงอีกครั้ง และสูดลมหายใจเข้าช้าๆ

ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรง

“กูเคยทำให้เขาต้องเจ็บปวด ต้องเสียใจ ถึงกูจะบอกตัวเองว่ากูไม่ได้ตั้งใจ แต่กูก็ทำลงไปแล้วจริงๆ มันเป็นความจริงที่กูไม่สามารถปฏิเสธหรือหลอกตัวเองได้”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น

“กูมันคนหัวดื้อและทิฐิสูง กูมันคนปากไม่ดี พูดอะไรไปทำอะไรไปก็ไม่ค่อยจะคิดก่อน แต่ช่วงเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่เดือนนั้นมันทำให้กูได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่กูทำพลาดมาทั้งชั่วชีวิต มันทำให้กูได้รู้ถึงข้อผิดพลาด ข้อเสียของกูที่กูควรจะแก้ไข........... ถ้ากูไม่อยากจะสูญเสียคนที่กูรักไปอีก”

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมากๆ

“กูอยากจะบอกมึงอย่างนึง เมฆ” มันเว้นช่วงและสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้ง

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมากๆสุดๆเลย

“กูขอโทษนะ”


   o13

สุดยอดเลยมึ้งงงงงงงงงงง

ชอบจังเลย . . . สงสัยต้องหาคนเรียนรู้ซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป

sun

  • บุคคลทั่วไป
o7    โดน คับ โดน  โดนใจอย่างแรง โฮกกส์!~      :m11:

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:   (อาฮึก อาฮึก)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
..
..
..
ไม่รู้จะพูดอะไร

บอกได้คำเดียว สุดยอดครับ

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:





คนแต่งคร้าบบบบ

พักผ่อนเยอะๆ หายไวๆ นะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a1:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ซันเป็นคนละเอียดอ่อนจริง ๆ พูดความรู้สึกได้กินใจจังเลย

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 7


“กูรักมึงนะ ไอ้ซัน มากกว่าคำว่าเพื่อนธรรมดาด้วย” ผมกลั้นหายใจและพูดย้ำออกไปอีกครั้ง

ผมกำลังสบตามันอยู่ก็จริงแต่ผมกลับรู้สึกว่าผมมองอะไรไม่เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว เบื้องหน้าของผมตอนนี้มีเพียงแสงสว่างไฟจากหลอดนีออนบนเพดาน และอะไรสักอย่างที่ดูคล้ายๆกับมนุษย์แต่มีสี่ตา สามหู และสองจมูก......

ผมต้องรีบปรับโฟกัสสายตาของตัวเองใหม่เสียแล้ว

เมื่อภาพตรงหน้าเริ่มกลับมาชัดขึ้นอีกครั้ง ผมจึงมองเห็นใบหน้าของไอ้ซันอย่างชัดเจน ผมบอกไม่ได้ว่าในแววตาของไอ้ซันตอนนี้เป็นอย่างไร ผมบอกไม่ได้ว่าหน้ามันแดงหรือเปล่า และผมก็บอกไม่ได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะผมเองยังไม่เลยรู้ว่าแววตาของผมสื่อความหมายใดออกไป ผมไม่รู้ว่าถ้าหน้าของมันจะแดงก็คงไม่แดงไปกว่าหน้าของผมหรอกหรือเปล่า และผมเองก็ไม่รู้แม้แต่ว่าตอนนี้ผมเองกำลังคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ

“มึงแปรงฟันรึยัง” ไอ้ซันพูดขณะที่กำลังเอี้ยวตัวหันไปวางกีตาร์ลงข้างๆเตียงและแน่นอนว่าไม่ได้กำลังมองหน้าผมอยู่เลยแม้แต่น้อย

“หา เอ่อ แปรงแล้ว” ผมตกใจกับคำพูดและปฏิกิริยาที่คาดไม่ถึงของมัน นี่นะหรือคำตอบของประโยคที่ผมเพิ่งจะบอกมันออกไป แต่ทันใดนั้นเอง ไอ้ซันก็ขยับตัวเข้ามาจูบปากของผมทันที

ใบหน้าของผมร้อนผ่าว หัวใจของผมเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก และผมคิดว่าลูกตาของผมก็คงกำลังจะถลนออกมาจากเบ้าเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็หลับตาลง..........

สัมผัสของไอ้ซันที่ผมรู้สึกได้ผ่านทางริมฝีปาก ลมหายใจอุ่นๆที่กำลังรดอยู่บนใบหน้าของผม จังหวะของชีพจรของมันที่ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนราวกับเป็นชีพจรของผมเองเลยทีเดียว...... ผมเองก็เคยจูบคนอื่นมาแล้วเหมือนกัน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่...... ทั้งสัมผัสและความรู้สึกมันช่างแตกต่าง ราวกับว่าผมไม่เคยได้รู้สึกถึงรสสัมผัสอันนุ่มนวล อ่อนโยน และน่าปรารถนาเช่นนี้มาก่อนเลย ผมเริ่มจูบตอบมันกลับและยกมือขวามาสัมผัสแก้มของมันเบาๆเพื่อเป็นการยืนยันว่าผมสามารถรู้สึกถึงอุณหภูมิของร่างกายของมันได้จริงๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้กำลังฝันไป........

ไอ้ซันเริ่มถอนปากออก และขยับตัวถอยหลังออกไปเล็กน้อย “กูก็แปรงแล้วเหมือนกัน” มันพูดขึ้นหลังจากที่เราผละออกจากกัน

“อืม กูก็ว่าอย่างนั้น” ผมหันหน้าหลบไปอีกทาง ไอ้ซันเองก็ก้มหน้าหลบผมเหมือนกัน “แต่คราวหน้าไม่ต้องพิสูจน์ด้วยวิธีนี้ก็ได้มั๊ง กูว่า” ผมพูดต่อและหันหน้ามาพยายามจะสบตาของมัน แต่มันก็ยังคงก้มหน้าอยู่

ผมรู้สึกตลกกับท่าทางและสีหน้าของมัน เลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ทำเองแล้วอย่ามาเขินได้ป่าววะ” ผมเอามือชันคางของมันแหงนขึ้นเบาๆเพื่อให้มันสบตากับผม

“พูดมากน่า” มันปัดมือผมทิ้งและซุกตัวลงไปในผ้าห่ม “กูนอนแล้วนะ มึงไปปิดคอมปิดไฟด้วย” มันนอนตะแคงหันหลังให้กับผม ผมหัวเราะเบาๆและลุกขึ้นไปปิดแล็ปท็อปและปิดไฟ จากนั้นก็เดินมาที่เตียง

“แล้วใครวะ ที่จูบตอบ” มันพึมพำเบาๆ “โอ๊ย! ทับตีนกู” มันโวย และขยับตัวหนี

“ขอโทษๆ กูมองไม่เห็น” ผมรีบขอโทษ “ก็ปกตินอนคนเดียว คราวนี้มันก็เลยกะระยะไม่ถูกนี่หว่า”

ไอ้ซันสะดุ้งเล็กน้อยและตะแคงตัวเพื่อหันมาหาผม “แปลเป็นนัยๆว่าให้กูกลับไปนอนห้องกูเองใช่มะ”

“อยากกลับมั๊ยละ” ผมท้า

“อยากให้กูกลับก็บอกมาตรงๆเหอะ อย่ามาทำเล่นลิ้น” มันชันตัวขึ้นนั่ง

“ถ้ามึง ‘อยาก’ กลับน่ะนะ” ผมเน้นที่คำว่า อยาก “ก็กลับไปก็ได้ แต่ถ้าไม่อยาก.......” ผมจับมือฉุดมันที่กำลังทำท่าจะลุกขึ้นนั่งเอาไว้ “ก็บอกกูก่อน ว่ามึงรักกูมั๊ย........”

“ไอ้เหี้ย กูกลับและนะ” มันเขยิบตัวทำท่าจะลุกขึ้นจริงๆ ผมเลยออกแรงรั้งแขนมันไว้อีก

“ไม่เอาๆ นอนกะกูนี่แหละ ไม่งั้นกูไม่ยกโทษเรื่องเมื่อปีก่อนให้นะเว้ย” ผมใช้ไม้ตาย และก็ได้ผลจริงๆ มันสบถออกมาเบาๆแต่ก็กลับมาซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับผมเหมือนเดิม มันและผมต่างก็นอนหันหลังให้แก่กัน ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเราทั้งสองอีกเป็นเวลาครู่หนึ่งที่ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกราวกับมันนานมากเหลือเกิน เพราะผมเอาแต่คิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ภาพใบหน้าของมันที่เขยิบเข้ามาใกล้ และสัมผัสที่ผมรู้สึกผ่านจากทางริมฝีปากของมัน.......

ผมยกมือขึ้นเอามือแต่ที่ริมฝีปากเบาๆ แต่แล้วผมก็ถูกปลุกจากภวังค์ด้วยเสียงของไอ้ซัน

“เออ กูรักมึง” มันพูดออกมาเบาๆ ห้วนๆ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนี้ ผมยิ้มกว้างให้กับตัวเองในความมืดและพลิกตัวตะแคงหันไปหามันจากนั้นก็เอื้อมแขนไปโอบรอบตัวมันไว้

ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าผมคงจะไม่อาจรักมันได้เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ไม่สำคัญว่าก่อนนั้นผมจะเคยรักมันยังไงและรักมันมากเท่าใด จากวันนี้ไป ผมจะไม่พูดว่าผมจะรักมันเท่าเดิมและจะรักมันอย่างนี้ตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว

แต่ผมสัญญากับตัวเองอยู่เงียบๆ ว่าผมจะไม่ใช่แค่รักมันเท่าเดิมตลอดไป แต่ผมจะรักมันให้มากขึ้นกว่าเดิมในทุกๆวันที่ผมยังหายใจอยู่....................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:13:05 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ซึ้งเกินบรรยาย  :impress:  :impress:  :impress:  :impress:
ชอบมาก ๆ เลย คุณต้นแต่ง 2 ตอนนี้ได้เยี่ยมมาก  :m13:  :m13:

ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าผมคงจะไม่อาจรักมันได้เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ไม่สำคัญว่าก่อนนั้นผมจะเคยรักมันยังไงและรักมันมากเท่าใด จากวันนี้ไป ผมจะไม่พูดว่าผมจะรักมันเท่าเดิมและจะรักมันอย่างนี้ตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว

แต่ผมสัญญากับตัวเองอยู่เงียบๆ ว่าผมจะไม่ใช่แค่รักมันเท่าเดิมตลอดไป แต่ผมจะรักมันให้มากขึ้นกว่าเดิมในทุกๆวันที่ผมยังหายใจอยู่


 :impress:  :impress:  :impress:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ฝีมือคุณต้นยังเฉียบเหมือนเดิมเลยนะคับ
อ่านแล้วประทับใจมากๆ
 o1

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
แสดงความรู้สึกได้ลึกซึ้งอีกแล้ว  อ่านแล้วมีความสุขจัง :o8:

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยยยยยยยย  อิจจจจจจจฉฉฉฉฉฉฉา o18

"..... จะมีไหมสักคน มาเปลี่ยนชีวิตของฉัน เธอคือใคร ที่จะรักจริง ไม่ทอดทิ้งกัน  อยากจะรู้ ......."

จะมีมั๊ยน้า .....  :undecided:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป

อืม . . .

 o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






aumzaa

  • บุคคลทั่วไป
 o7 o7 o7
ชอบครับ...
ซึ้งมากมาย....

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.........อ่านแล้วอบอุ๊น..อบอุ่น...... o13 o13 o13

.........เขียนได้กินใจเหมือนเดิม........ :m13: :m13:

sun

  • บุคคลทั่วไป
   :m1:   :m1:   :m1:       ดี๊ด๊า...หลั่นล้า...     :m1:   :m1:   :m1:

 :m3:   :m3:     อ่านแย้ว อบอุ่นหัวใจจังเลยค่ะ      :m3:  :m3:

  "กูรักมึง"  ห้วน...สั้น...แต่ได้ใจ   :m11:

 o13     ซู๊ดดยอดค่ะ 

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 8


แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านที่เปิดแง้มไว้ส่องเข้ามาแยงตาของผม อากาศเย็นกำลังดีและแถมด้วยไออุ่นจากร่างกายของคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆทำให้ผมไม่อยากจะลุกขึ้นจากเตียงเลยจริงๆ แต่แล้วสุดท้ายผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงของคนหลายคนดังมาจากชั้นล่าง

ผมลุกขึ้นและหันไปหยิบนาฬิกามาดู มันบอกเวลาเก้าโมงครึ่งแล้ว

“ไอ้ซันๆ ตื่นก่อน มึงบอกกูว่าพวกคุณป้าจะกลับกันมากี่โมงนะ” ผมเขย่าตัวมัน แต่มันก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาดีๆ

“อะไรวะ” มันทำเสียงงัวเงีย

“ก็พ่อกับแม่มึงนะ จะกลับมากี่โมง นี่มันเก้าโมงครึ่งแล้วนะ” ผมเอาเท้าถีบมันเบาๆ “กูว่าเค้ากลับกันมาแล้วด้วย กูได้ยินเสียงมาจากข้างล่างน่ะ มึงฟังสิ” ผมเอาเท้ายันก้นมันแรงๆอีกหนึ่งทีเพื่อให้มันตื่น แต่ยังไม่ทันที่มันจะโต้ตอบ เสียงเคาะประตูห้องของผมก็ดังขึ้น

“ซวยแล้วไงมึง” ผมสบถออกมาเบาๆ ไอ้ซันเองก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งเช่นเดียวกัน ผมกับมันสบตากันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายไอ้ซันก็เป็นคนลุกขึ้นยืนและมันทำท่าจะไปเปิดประตูห้อง ผมรีบห้ามแต่มันก็ไม่สนใจ และเมื่อประตูเปิดออกคนที่ยืนอยู่หน้าห้องของผมคือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นหน้า เขาพูดทักทายเป็นภาษาอังกฤษกับไอ้ซันและพูดบอกว่า แม่ของเขารออยู่ข้างล่าง

เมื่อประตูปิดลง ไอ้ซันก็เดินมาหาผมและตอบคำถามโดยที่ผมยังไม่ต้องเริ่มถามเลยเสียด้วยซ้ำ

ยังไม่ทันได้คบกันถึงหนึ่งวันดี ก็รู้ใจขนาดนี้แล้ว คิดดู

“นั่น ไคล์ ลูกของป้าแอ๊นท์ พวกแม่ๆมาถึงแล้วว่ะ เดี๋ยวกูลงไปหาพวกเค้าก่อนแล้วกัน มึงรีบไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนเหอะ” พูดจบมันก็เดินออกจากห้องไป ไม่มีเวลาให้ผมมายืนงงอยู่แล้ว ผมรีบเดินออกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว.........

ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่หรอก แต่ระหว่างที่ผมกำลังอาบน้ำผมก็อดคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ เรื่องเมื่อคืนทำเอาผมนอนแทบไม่หลับจริงๆ ไม่รู้ว่ามันหลับลงไปได้ยังไง ผมคิดถึงแต่ว่านั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆน่ะหรือ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆรึเปล่า ผมได้บอกมันออกไปว่าผมรักมัน แล้วมันก็จูบผมเนี่ยนะ.......... ต่อจากนี้ไปผมกับมันจะเป็นยังไงกันต่อไปล่ะ นี่ผมกับมันเป็นแฟนกันแล้วงั้นหรือ เราคบกันอยู่หรือยัง แล้วมันก็รักผมเช่นกันจริงๆใช่มั๊ย คำถามร้อยแปดผุดขึ้นมาในหัวของผม แต่ผมต้องรีบสะบัดมันทิ้งออกไปเพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคิด ผมมีเวลาให้คิดอีกเยอะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่พ่อกับแม่ของมันกำลังรอผมอยู่ข้างล่าง

ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในห้องรับแขกผมก็เห็นลุงสันต์กำลังนั่งคุยกับคาร์ลอส สามีของป้าแอ๊นท์ และเห็นป้าแอ๊นท์กำลังคุยอย่างออกรสกับป้ากุ้ง แม่ของไอ้ซันอยู่ และข้างๆป้าแอ๊นท์ เด็กหนุ่มคนนั้นที่ไอ้ซันบอกว่าชื่อไคล์ก็กำลังนั่งคุยอยู่กับไอ้ซันตรงมุมโซฟาที่ผมสองคนเพิ่งนอนดูหนังด้วยกันเมื่อคืน เมื่อไคล์เห็นผมเดินเข้าไปในห้องเขาก็ส่งยิ้มให้ ผมพยักหน้าเบาๆตอบกลับไป ส่วนไอ้ซันเมื่อเห็นผมก็ลุกขึ้นยืนขอตัวทุกคนไปอาบน้ำก่อน มันเดินผ่านผมออกไปโดยที่ไม่ได้มองหน้าผมเลยแม้แต่นิดเดียว

สงสัยเมื่อคืนผมคงจะฝันไปจริงๆ

“มานี่สิเมฆ มานั่งนี่” แม่ของไอ้ซันตบเบาะให้ผมไปนั่งข้างๆ ผมเดินไปไหว้ไปจนครบและนั่งลงบนโซฟาข้างๆป้ากุ้ง

“ทำไมวันนี้ตื่นสายได้แฮะ แปลกนะเรา ปกติเห็นตื่นเช้านี่นา” ป้ากุ้งยิ้มให้ แต่ผมกลับรู้สึกผิดจริงๆ

“ขอโทษครับ เมื่อคืนดูหนังกับไอ้ซันดึกไปหน่อย แล้วก็ผมลืมตั้งนาฬิกาปลุกน่ะครับ ไม่รู้ด้วยว่าควรจะปลุกตอนกี่โมง”

“อ้าว” ป้าแอ๊นท์ทำหน้างง “ซันไม่ได้บอกเหรอ ว่าพวกป้าจะมากันตอนกี่โมงน่ะ”

“เปล่าครับ” ผมรู้สึกแปลกใจ “มันบอกผมแค่ว่าพวกป้าจะมาถึงกันตอนสายๆ แต่ไม่ได้บอกว่ากี่โมง”

“เอ๊ะ แปลกคน ลูกคนนี้ แม่ก็บอกเค้าตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ว่าจะมาถึงตอนประมาณเก้าโมงเช้าน่ะ” คราวนี้แม่ของไอ้ซันหันมาพูดกับผมบ้าง “แล้วนี่ เจ้านั่นเค้าก็ไปนอนอยู่ห้องเมฆงั้นเหรอ” ผมใจหายวาบเมื่อคิดถึงว่าแม่ของมันจะรู้มั๊ยว่าผมกับไอ้ซันมีความรู้สึกยังไงต่อกัน

“เอ่อ ครับ เมื่อคืนดูหนังสยองขวัญกันน่ะครับ แล้วมันกลัวก็เลยมาขอนอนด้วย” ผมตอบตามความจริงไป แต่แค่ครึ่งหนึ่ง

“ต๊าย หลายชายชั้นคนนี้นี่ น่าไม่อายจริงๆ แล้วนอนกันได้มั๊ยน่ะ เตียงก็ไม่ได้ใหญ่โตเลยไม่ใช่เหรอ แถมเราสองคนก็ไม่ได้ตัวเล็กๆเลยนะ” ป้าแอ๊นท์ถาม

“ครับ ก็ได้อ่ะครับ ไม่ได้เบียดอะไรกันนักหนา” ผมหัวเราะแหะๆ

“แล้วนี่รู้จักไคล์เค้ารึยัง ลูกชายป้าเอง ยังไม่เคยได้เจอกันเลยนี่นา” ป้าแอ๊นท์ตบบ่าเด็กหนุ่มเบาๆ ผมเองก็ได้แค่พยักหน้าอีกครั้งส่วนอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบ

เด็กหนุ่มคนนี้ดูๆแล้วท่าทางจะอายุแค่สิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น แถมยังมีโครงหน้าที่หล่อแบบแปลกๆ ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะสามีของป้าแอ๊นท์เองก็เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-เม็กซิกัน พอมาถึงที่ตัวของไคล์ เขาก็เลยได้รับเลือดผสมถึงสามส่วนนั่นคือ ไทย อเมริกัน และ เม็กซิกัน เพราะเหตุนี้ล่ะมั๊ง เขาถึงได้มีโครงหน้าของคนตะวันตก มีผิวสีแทน ผมสีน้ำตาล แต่กลับมีดวงตาสีเขียวเข้มสดใส ผมเผลอจ้องหน้าของเขาอาจจะนานเกินไปจนเขารู้สึกตัวไคล์ก็เลยหัวเราะออกมาเบาๆทำให้ผมรู้สึกตัวและต้องหัวเราะแก้เขินไปด้วย

“สวัสดีครับ” เขาพูดขึ้นเป็นภาษาไทย

“อ่ะ เอ่อ ครับ สวัสดีครับ” ผมแปลกใจที่ได้ยินภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆออกจากปากของเขา เพราะเข้าใจไปเองว่าเขาพูดภาษาไทยไม่ได้

เขายิ้มอีกครั้ง

“ไม่ต้องแปลกใจหรอกจ๊ะ ป้าสอนเขาเองแหละ ให้ลูกชายพูดภาษาบ้านเกิดของแม่ตัวเองไม่ได้เนี่ย ไม่มีทางซะหรอก และเผื่อโตขึ้นจะพากลับไทยไปเป็นนายบ่งนายแบบ รึ ดารา อะไรเทือกนี้สักหน่อย พูดไทยได้จะได้ได้เปรียบไงจ๊ะ ลูกชายป้าเลยพูดได้สามภาษาเลยทีนี้ทั้งอังกฤษ ไทย แล้วก็สเปน” ป้าแอ๊นท์หัวเราะชอบใจ ผมแอบเห็นเด็กหนุ่มอมยิ้มอีกครั้งและแอบส่ายหน้าเบาๆเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า เอือมกับแม่ของตัวเองเสียเหลือเกิน

“เอ่อ แล้วเท้าของคุณป้าเป็นยังไงบ้างแล้วครับ” ผมถามป้าแอ๊นท์

“ก็ไม่เป็นอะไรร้ายแรงหรอกจ๊ะ แต่เวลาเดินเหินก็ต้องระวังหน่อย สวยๆอย่างป้าถ้าล้มหน้าแหกไปคงแย่แน่เลย”

“อ่อ ครับ ช่วงนี้ก็คงต้องเดินน้อยๆหน่อยมั๊งครับ พักผ่อนเยอะๆ”

“ก็นั่นแหละ ป้ามาที่นี่ก็เพราะเรื่องนั้นแหละ” ป้าแอ๊นท์หันไปยิ้มกับป้ากุ้ง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกใจเข้าไปอีก

“แล้วนี่ก็ยังไม่ได้กินข้าวกินปลากันเลยสิ ใช่มั๊ย” แม่ของไอ้ซันหันมาถามผมบ้าง

“ยังครับ แล้วพวกคุณป้าล่ะครับ”

“เรียบร้อยกันหมดแล้วล่ะ แล้วที่บ้านเรามีอะไรกินบ้างรึเปล่าเนี่ย เมื่อวานป้าโทรบอกซันเค้าให้รีบกลับบ้านแล้วแวะซื้อของกินมาไว้ด้วย เค้าซื้ออะไรมามั่งล่ะ”

“เอ่ออ ไม่มีอ่ะครับ แต่ผมซื้อไว้ก่อนแล้วครับ เดี๋ยวผมสองคนทำอะไรง่ายๆทานกันก็ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”

“นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี งั้นเราสองคนไปทานข้าวกันก่อนเลยแล้วกัน และเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” ป้ากุ้งกวักมือเรียกไอ้ซันที่กำลังเดินลงมาให้เข้ามาหา แล้วบอกให้มันกับผมไปหาอะไรกินกันก่อน

เมื่อผมกับไอ้ซันอยู่กันสองคนในครัวแล้วผมก็เริ่มต้นยิงคำถามใส่มันทันที

“มึงรู้อยู่แล้วนี่หว่า ว่าคุณลุงกับคุณป้าจะไปเมื่อไหร่น่ะ ไม่ใช่ว่าเพิ่งรู้เมื่อวานเย็นสักหน่อย” ผมเปิดตู้เย็นและหยิบนมสดออกมาสองขวด พอหันหลับมาไอ้ซันก็ยืนยิ้มอยู่และยื่นมือออกมาจะคว้าขวดนมไป แต่ผมชักมือหลบมัน

“ไม่เอาน่า กูก็แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง” มันโอดครวญ

“ล้ออะไร เล่นอะไรของมึง แล้วถ้ากูไม่ซื้อนมซื้อซีเรียลมาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้มึงจะมีอะไรกินมั๊ย”

“ก็ถ้าไม่มี กูก็กะจะพามึงออกไปกินข้างนอกอยู่แล้วนี่นา”

“หมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่า ถ้าตอนแรกวันนี้ เช้านี้ ที่บ้านไม่มีของกิน กูก็จะขอแม่กูพามึงออกไปกินข้าวข้างนอกน่ะสิ แต่นี่มึงดันซื้อของมาตุนไว้ เลยอดไปเลยเห็นมั๊ยล่ะ” มันตบหัวผมเบาๆหนึ่งที

“กูผิดอีกงั้นสิ”

“ไม่รู้ คิดเอาเอง” มันคว้าขวดนมไปจากมือของผมแล้วก็เดินไปหยิบซีเรียลมาเปิดถุงจากนั้นก็เทลงในชามสองใบ

“เอ้า นี่” มันยื่นมาให้ผมหนึ่งใบ

“ครับ ขอบคุณครับ ฟ้าคราม” ทำไมผมถึงต้องรู้สึกว่าโดนมันนำและชักจูงอยู่ตลอดเวลาเลยด้วยนะ นี่หมายความว่าเรื่องทั้งหมดก็เหมือนกับมันเป็นคนคิดและเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าทั้งหมดแล้วน่ะสิ

“เจ้าเล่ห์นักนะมึง” ผมพูดเบาๆและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆกับมัน

“บ่นอะไร ไอ้ตัวดี”

“เปล่า กินๆไปเหอะ เดี๋ยวแม่มึงบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับเราสองคนนี่”

ไอ้ซันเคี้ยวซีเรียลอยู่เต็มปากและพยักหน้าหงึกๆ

“มึงรู้รึเปล่า ว่าเรื่องอะไร” ผมถาม

“หึ ไม่รู้อ่ะ”

“นึกว่ารู้ซะอีก เห็นรู้ เห็นเตรียมวางแผนไว้แล้วซะทุกอย่างขนาดนั้น” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ

“มึงหมายความว่าไง” ไอ้ซันหยุดกินแล้วมองหน้าผม

“เปล่านิ”

“อ้ออ....... มึงคิดว่า เรื่องเมื่อคืนกูวางแผนไว้ให้มันออกมาเป็นแบบนั้นใช่มั๊ย” ไอ้ซันพูดยิ้มๆ

“ไม่รู้โว้ย” ผมหยุด เริ่มรู้สึกลังเล “แล้วมันใช่มั๊ยล่ะ”

“หึหึหึ ก็ครึ่งนึง” มันทำเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ

“หมายความว่าไง ‘ครึ่งนึง’ ของมึงน่ะ” ผมนิ่วหน้า

“ก็หมายความว่า.....” ไอ้ซันหยุดกิน แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมเห็นสีหน้าแบบเดียวกันกับตอนที่มันเล่นกีตาร์ให้ผมฟังเมื่อคืนอีกครั้ง “กูตั้งใจไว้ส่วนนึง เช่นตั้งใจไว้ว่าจะเล่นกีตาร์ให้มึงฟัง ตั้งใจจะพูดขอโทษมึง อะไรแบบนั้นน่ะ แต่อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ....... กูปล่อยให้มันเป็นไปตามสถานการณ์” มันพูดหน้าแดง จากนั้นก็ก้มหน้ากินซีเรียลในชามต่อ ผมเองก็อดเขินไปด้วยไม่ได้เลยได้แต่นั่งอมยิ้มให้กับคำพูดและท่าทางของมัน

“แล้ว...... ที่มึงบอกว่า ‘รักกู’ ล่ะ อันนั้นมาจากแผนของมึง หรือว่ามาจากความรู้สึก ณ ขณะนั้น” ผมแกล้งแหย่

“กูพูดไปด้วยเหรอวะ” มันกวาดซีเรียลช้อนสุดท้ายเข้าปากและลุกขึ้นหยิบชามไปวางไว้ในอ่าง “แต่ที่แน่ๆกูไม่คิดว่าจะมีใครบางคนบอกว่า ‘กูรักมึงนะ รักมากกว่าแบบรักเพื่อน’ กับกูน่ะสิ” พูดจบมันก็หัวเราะ ทำเอาผมหน้าแดงและรู้สึกอายมาก

“แล้วใครวะ ที่มาทำฟอร์มถามว่า ‘มึงแปรงฟันรึยัง’ แล้วมาขโมยจูบกูน่ะ” ผมสวนกลับ คราวนี้ไอ้ซันหยุดหัวเราะ และหันหน้ากลับมามองหน้าผม หน้าของมันแดงก่ำ

“ก็ กูไม่อยากจูบปากเหม็นๆนี่หว่า” มันรีบแก้ตัว

“หมายความว่ามึงหน้ามืดอยากจะจูบกูแต่ก็ยังพอมีสติอย่างนั้นสิ” ผมสวนกลับ

“ไอ้สัตว์ หยุดเลยมึง เลิกพูด เดี๋ยวข้างนอกเขาได้ยิน” มันปรามทำท่าทางไม่พอใจใส่ผม แต่ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกขำเข้าไปใหญ่

“ก็มึงนั่นแหละ ตัวดี ไอ้จอมวางแผน” ผมลุกขึ้นเดินเอาชามซีเรียลของผมไปยื่นให้มันล้าง “แต่ก็นะ...........” ผมเว้นช่วง

“ก็นะอะไร”

“มึงรักกูจริงๆใช่มั๊ยวะ” ผมกระซิบถามมัน

“พอ เลิกพูดได้แล้ว” มันแสร้งทำหน้าเครียดแต่ใบหน้าแดงก่ำ

“นานยังวะ”

“กูบอกให้พอไง ไอ้เมฆ”

“ตั้งแต่ตอนก่อนเราไปเที่ยวทะเลกันสองคนหรือตอนเรากลับมากันแล้ววะ............ หรือระหว่างนั้น”

“ไอ้เหี้ยนี่ มึงมาล้างของมึงเองเลย” มันดีดน้ำใส่หน้าผม แล้วเดินหนีออกไป

“ไม่เอาๆน่า กูล้อเล่น มาล้างต่อๆ เร็วๆ” ผมหัวเราะแล้วรีบดึงเสื้อมันไว้ มันเองก็หัวเราะและเอามือเปียกๆมาเช็ดที่หน้าของผม

“ซัน” เสียงแหบห้าวที่ผมยังไม่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลังเราสองคน จากนั้นก็ตามด้วยเสียงประตูครัวที่ถูกเปิดออก ไคล์นั่นเอง “น้ากุ้งให้มาตามน่ะ ถ้ากินกันเสร็จแล้ว” คราวนี้เขาพูดเป็นภาษาไทย

“ได้ เดี๋ยวออกไปแล้วล่ะ” ไอ้ซันตอบ จากนั้นไคล์ก็ปิดประตูหายไป

“มึงว่าเค้าได้ยินเราคุยกันป่าววะ” ผมถามไอ้ซัน

“ไม่รู้ คงไม่หรอก ช่างมันเหอะ รีบๆล้างจานให้เสร็จแล้วออกๆไปกันดีกว่า เดี๋ยวจะโดนแม่กูด่าเอา”

ไอ้ซันจึงรีบเก็บล้าง และเดินนำผมออกไปที่ห้องนั่งเล่น

“อ้าว พ่อกับลุงคาร์ลอสล่ะครับ” ไอ้ซันถามแม่ ผมเองก็สังเกตเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้วเช่นกัน

“ขับรถออกไปทำธุระกันน่ะ เดี๋ยวสักพักก็กลับ มานี่สิ มานั่งนี่ทั้งสองคน”

“มีอะไรอ่ะ แม่”

“แม่น่ะไม่มีหรอก แต่ป้าแอ๊นท์เค้ามี” แม่ของไอ้ซันหันไปยิ้มให้กับป้าแอ๊นท์

“แอนนาย่ะ ไม่ใช่แอ๊นท์ บอกจนปากจะฉีกแล้ว เดี๋ยวหลานๆก็จำไปผิดๆหรอก” ป้าแอ๊นท์รีบท้วง แต่ก็คงจะช้าไปเสียแล้ว “ตอนนี้ซันใกล้จะได้หยุดแล้วใช่มั๊ย” ป้าแอ๊นท์หันไปถามไอ้ซัน

“ครับ ก็อีกสองสามวันก็หยุดแล้ว”

“แล้วเมฆล่ะ มีโปรแกรมไปไหนอยู่แล้วรึเปล่า” คราวนี้ป้าแอ๊นท์หันมาถามผม

“ก็ ไม่อ่ะครับ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ซันด้วยความงุนงง

“มีอะไรเหรอครับ” ไอ้ซันชิงถามขึ้นเสียก่อน

“คืองี้ ป้าคนสวยของแกคนนี้เนี่ยนะ มีตั๋วเครื่องบินไป-กลับอเมริกาอยู่สามใบ ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกับกับคาร์ลกับไคล์ แต่ว่าขาสวยๆของคนสวยๆอย่างชั้นเนี่ย ดันมาเดี้ยงไปซะก่อนก็เลยคงไปไม่ได้ เพราะอย่างนั้น........” ป้าแอ๊นท์เว้นช่วง ผมกับไอ้ซันสบตากัน

“ป้าจะให้พวกผมไปแทนงั้นเหรอครับ”

“ถูกต้อง ฉลาดจริงๆหลานรัก และไม่ใช่แค่นั้นนะ ป้ายังจองที่พักเอาไว้เรียบร้อยแล้วด้วย เพราะงั้นก็เลยไม่อยากยกเลิกน่ะสิ เสียดายกะตังค์แถมช่วงนี้ที่นั่นก็กำลังสวยเลยด้วย พูดแล้วยังอยากไปเองเลยนะเนี่ย เสียด๊ายเสียดาย”

“เดี๋ยวๆ นี่ป้าจะให้ผมไปที่ไหนกันครับเนี่ย” ไอ้ซันรีบถาม

ป้าแอ๊นท์ยิ้มราวกับกำลังรอคำถามนี้อยู่แล้ว “อาริโซนา แกรนด์แคนยอนจ้ะ”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:13:44 โดย ExecutioneR »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

...........ปายเที่ยว...ปายเที่ยว..... :a4: :a3:  :a11:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ้าววว มีตัวแปรมาซะง้านนน

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a2:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ฮันนีมูนสวีท...วี๊ดวิ๊ว
บรรยากาศเปลี่ยนไปจากสองภาคแรกเลยทีเดียว
 :m1:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป


“คืองี้ ป้าคนสวยของแกคนนี้เนี่ยนะ มีตั๋วเครื่องบินไป-กลับอเมริกาอยู่สามใบ ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกับกับคาร์ลกับไคล์ แต่ว่าขาสวยๆของคนสวยๆอย่างชั้นเนี่ย ดันมาเดี้ยงไปซะก่อนก็เลยคงไปไม่ได้ เพราะอย่างนั้น........” ป้าแอ๊นท์เว้นช่วง ผมกับไอ้ซันสบตากัน “ป้าจะให้พวกผมไปแทนงั้นเหรอครับ”

“ถูกต้อง ฉลาดจริงๆหลานรัก และไม่ใช่แค่นั้นนะ ป้ายังจองที่พักเอาไว้เรียบร้อยแล้วด้วย เพราะงั้นก็เลยไม่อยากยกเลิกน่ะสิ เสียดายกะตังค์แถมช่วงนี้ที่นั่นก็กำลังสวยเลยด้วย พูดแล้วยังอยากไปเองเลยนะเนี่ย เสียด๊ายเสียดาย”

“เดี๋ยวๆ นี่ป้าจะให้ผมไปที่ไหนกันครับเนี่ย” ไอ้ซันรีบถาม

ป้าแอ๊นท์ยิ้มราวกับกำลังรอคำถามนี้อยู่แล้ว “อาริโซนา แกรนด์ แคนยอนจ้ะ”





 

ภาพแกรนด์แคนยอน . . . เคยเห็นแร่ะ

จากนี้จะเห็นมากกว่าภาพแล้ววุ้ยยยยยยยยยย



ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
^
^

เขาเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ไปทั้งที ได้ข้อมูลกลับมาด้วยเห็นมั๊ย

ต่อจากนี้เลยจะเป็นการเล่าเรื่องโดยมีฉากของที่นั่นเป็นพื้น อ้างอิงมาจากประสบการณ์และควาทรงจำของคนเขียนเองจริงๆ

เจ๋งปะเล่า  :m13:

ปล. มีอะไรจะบอกแหละพี่ ไอ้รักครั้งแรกของผมน่ะ............ ตอนนี้ผมกับมันกำลัง................... หุหุหุหุ  :m26:



ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
รอดูต่อปายยย

 :a2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด