การเดินทางของศิลากับฟ้าคราม : เส้นทางสุดท้าย (.....สู่บทสรุป)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางของศิลากับฟ้าคราม : เส้นทางสุดท้าย (.....สู่บทสรุป)  (อ่าน 242573 ครั้ง)

nattabadin

  • บุคคลทั่วไป


วันก่อน . . . หมอดูไพ่ยิปซีแกมาดู  เลยสนองดูซะ

เป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้น้องเนฯ  มันเดินมายืนใกล้ ๆ  หมอบอกว่า

"ตอนนี้  มีคนเข้ามาในชีวิตสองคน  หญิงหนึ่งชายหนึ่ง  แต่เนื้อคู่จะเป็นผู้ชาย"  ได้แต่นั่งแล้วมองหน้าแม่หมอ  แกทายแม่นหรือ?

"เนื้อคู่เป้นชายแน่ ๆ  แกยิ้ม  เป็นคนรูปร่างเล็ก ๆ  ขาว ๆ  หน้าตาดี"  เลยหันไปมองหน้าน้องเนน  แล้วยิ้มให้ มัน  เหอะ ๆ ๆ ๆ ๆ  มึงตกอันดับไปเลยเพราะมรึงมันดำ  ได้ ใจ  เหอะ ๆ ๆ ๆ ๆ 


ปล.  แค่อยากเล่าให้ฟังเฉย ๆ  นะ

ปล2.  ไม่อยากเดาว่าไคลน์กับสิลา  จะมีไรกันมาก่อนแล้ว  รักสามเศร้าเหรอ?



วันก่อนไปดูหมอกับแม่ หมอทายคล้ายๆๆของคุณน้ำค้าง เล่นเอาผมมองหน้าแม่ไม่ค่อยติดเลย :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ จามีตอนพิเศษอีกมั๊ยน้า  :m3:  :m3:  :m3:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ทำอย่างนี้อีกแล้วคุณต้น ไอ้หนึ่งชั่วโมงก่อนไปอาบน้ำกันน่ะ ทำอะไรเหรอ
ทำไมไม่บอก :m28:

เหอ เหอ จามีตอนพิเศษอีกมั๊ยน้า  :m3:  :m3:  :m3:

อยากให้มีกันมั๊ยอ่ะคับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เขียนไว้
ถ้าอยากได้เดี๋ยวแต่งเพิ่มก้อได้คับ  o13

อยากได้ x กว่าของเดิมอ๊ะป่าวอ่ะ คราวนี้คิดว่าทำได้แล้วนะ แบบ x แตกกันไปข้างเลยคับพี่น้อง
55555

 :laugh:


~Brand New Beat~

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกตอนนี้ซันจะหื่นผิดปกตินะครับ หุหุ

อยากเห็นหน้าซันตอนทำหน้าหื่น  :o8:

sun

  • บุคคลทั่วไป
:o   เอิ้ววววว.. นั่นจิ
ก่อนหน้านั้น หนึ่งชั่วโมง... มันหายไปไหน  ฮ่าๆ    :laugh:

เอ่อ.... ถ้าเขียนให้ ...ก้ออ่านค่ะ    :o8: 


ว่าแย้วก้อ ย่องๆ     :m7:           ออกจากกระทู้ เขิลลลลลลลลลลลล...    :m23:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
มาลงชื่อรอตอน ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ จากคุณต้นคับ
 :m10:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
โอ้ว ภาคนี้ติดเรทนิดนึงนะเนี่ย เหอๆๆ
 :m25:

มาลงชื่อรอตอน ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ จากคุณต้นคับ
 :m10:

กำลังคิดอยู่ว่า เอาแบบ XX ดี หรือว่าจะ XXX (ฮา)

ล้อเล่นคับ จริงๆคือคิดว่าจะเอาแบบ หื่นๆอย่างที่ว่า (เพราะปกติไม่เคยเขียนแบบนั้น จะได้ลองตัวเองไปในตัว)
หรือว่า จะเอาแบบ หื่นๆ แต่ไม่ X ระเบิด ออกแนวอิโรติกดู อาจจะ พอๆกับตอนที่แล้ว แต่สวีทมากกว่า (มั๊ง - ยังไม่เคยลองเขียนนิ)
เพื่อจะเป็นแนวสำหรับงานต่อไปที่กำลังดำเนินการอยู่ดีคับ

เพราะว่าผมไม่รู้ว่าบอร์ดนี้ลง X ลง R ได้ขนาดไหนอ่ะคับ
ชี้ทางไอ้ต้นทีคับ
เพราะถ้าลง X มากไม่ได้ เรื่องหน้าไอต้นเป็นหมัน ไม่ได้คลอดแน่นอน

 :m17:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เอ๋ๆๆๆๆๆๆๆอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าลงได้ถึงระดับไหน

แต่ก็เห็นหลายเรื่องก็ลงแนว x ถึง x มากด้วยอ่ะ สงสัยอันนี้ต้องรอผู้รู้ หรือคนคุมบอร์ดซะแล้ว

แต่เชียร์ให้ลงเลยค้าบบบบบบบบบบบ รอน้ำย้อยแล้ว อิอิ  :laugh:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............มารอด้วยคน...xxx...ด้วยคน....... :m10: :m10:


...........ไม่ได้ต่อนาน.............คิดถึง........... :m18: :m18:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว ภาคนี้ติดเรทนิดนึงนะเนี่ย เหอๆๆ
 :m25:

มาลงชื่อรอตอน ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ จากคุณต้นคับ
 :m10:

กำลังคิดอยู่ว่า เอาแบบ XX ดี หรือว่าจะ XXX (ฮา)

ล้อเล่นคับ จริงๆคือคิดว่าจะเอาแบบ หื่นๆอย่างที่ว่า (เพราะปกติไม่เคยเขียนแบบนั้น จะได้ลองตัวเองไปในตัว)
หรือว่า จะเอาแบบ หื่นๆ แต่ไม่ X ระเบิด ออกแนวอิโรติกดู อาจจะ พอๆกับตอนที่แล้ว แต่สวีทมากกว่า (มั๊ง - ยังไม่เคยลองเขียนนิ)
เพื่อจะเป็นแนวสำหรับงานต่อไปที่กำลังดำเนินการอยู่ดีคับ

เพราะว่าผมไม่รู้ว่าบอร์ดนี้ลง X ลง R ได้ขนาดไหนอ่ะคับ
ชี้ทางไอ้ต้นทีคับ
เพราะถ้าลง X มากไม่ได้ เรื่องหน้าไอต้นเป็นหมัน ไม่ได้คลอดแน่นอน

 :m17:

ถ้าเอ็กซ์มากๆ ก็ส่ง PM เหมือนคราวที่แล้วก็ได้ครับ
แต่ก็อยากอ่านฉากบาดอารมณ์เหมือนภาคแรกเหมือนกันอ่ะคับ
 o1

ขอบคุณล่วงหน้าคับ
 o14 o15





CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
แหม ไม่ได้อยากให้มองมาเป็นเอ็กซ์แตกสตอรี่เลยนะเนี่ย เดี๋ยวเขารู้หมดว่าคนแต่งนิสัยยังไง (ฮา)
แต่งเสร็จแล้วครับ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงนิดๆในการดำเนินการ
ลองอ่านดูนะครับ ว่ามัน"เกิน"ไปหรือเปล่า ถ้าเกินไป ไม่เหมาะไม่ควรผมก็ขอโทษด้วย แล้วคราวหน้าจะส่งหลังไมค์ให้นะครับ
แต่ถ้าแค่นี้ยังพอรับได้ แปะหน้าไมค์ได้ ผมก็จะทำให้อยู่ระดับนี้แล้วแปะข้างหน้าไว้ให้ตลอด

แต่ถ้าอยากได้มากกว่านี้ แต่ส่งหลังไมค์ ก็ได้คับ
หรืออยากให้น้อยกว่านี้ แต่แปะหน้าไมค์ ก็ได้อีก
หรือถ้าอยากได้มากกว่านี้โคตรๆ แต่แปะหน้าไมค์ไปเล้ยยย ก็บอกนะคับ

5555

มาฟังเรื่องราวจากปากของ ซัน กันบ้างนะครับ

ตอนพิเศษ – ซัน


ผมออกจากบ้านไปเรียนด้วยความกระวนกระวายใจอย่างที่สุดแบบที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อผมกับเมฆได้ทำสิ่งที่เราทำกันไปแล้วเมื่อคืน ผมรู้สึกว่าตัวผมเองไม่อยากจะอยู่ห่างจากมันไปเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียว ผมอยากจะใช้เวลากับมัน ผมอยากจะนอนกอดมัน ผมอยากจะจูบมันอีกครั้ง ผมอยากให้มันรู้ว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมอยากให้มันรู้จริงๆว่าผมรักและต้องการมันมากแค่ไหนไม่ใช่ผ่านทางคำพูด แต่เป็นผ่านทางการกระทำและความรู้สึกของผมโดยตรง

“กูกลับบ้านก่อนนะ รู้สึกไม่ค่อยสบายว่ะ” ผมบอกโธมัส เพื่อนของผม

“เออ เอาเหอะ กูก็เห็นมึงดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยมาแต่เช้าแล้ว ตอนบ่ายมันก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้วด้วย เดี๋ยวพวกกูจัดการให้เอง” โธมัสพูด

ผมบอกขอโทษแล้วก็ขอบคุณจากนั้นก็ลุกออกมาจากห้องเรียนแล้วตรงกลับบ้านทันที แต่เมื่อผมกลับมาถึงบ้านก็ต้องประหลาดใจเพราะว่าคนๆเดียวที่ผมเห็นคือริต้าที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ ผมถามเธอว่าไคล์และเมฆไปไหนเธอก็บอกว่าไม่รู้ ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที

เมื่อผมได้ยินเสียงดังมาจากหน้าประตูบ้านก็เป็นเวลาที่ผมกำลังนอนดูทีวีอยู่บนมุมโปรดบนโซฟาของผม เมื่อทั้งคู่เห็นผมนอนดูทีวีอยู่ก็ซักถามกันใหญ่ว่าทำไมผมถึงได้อยู่บ้านได้ในช่วงเวลานี้ มันยิ่งทำให้ผมคิดเข้าไปอีกว่าการที่ผมมาอยู่บ้านผิดเวลาแบบนี้เป็นสิ่งที่พวกมันไม่ได้คาดหมายไว้อย่างนั้นหรือ มันตั้งใจจะออกไปทำอะไรกันโดยที่ไม่อยากให้ผมรู้อย่างนั้นหรอกหรือ

แต่เมื่อผมรู้ว่าทำไมเมฆถึงได้ออกไปกับไคล์ผมก็เริ่มใจเย็นลง มันบอกผมว่าเป็นเพราะไคล์เห็นรอยจูบที่หน้าอกของมันแล้ว มันเลยรับคำชวนของไคล์ไปเล่นบาสเพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่กันอย่างกระอักกระอ่วนและมันยังเล่าให้ผมฟังเรื่องที่มันพนันบาสกันอีกด้วย แต่ก็นะ ผมมันก็เป็นคนแบบนี้ ผมยังคงแกล้งทำเป็นไม่ชอบใจอยู่จนมันถามผมว่าผมชอบที่เห็นมันไม่สบายใจอย่างนั้นหรือผมจึงถึงกับสะอึก

ผมไม่ชอบที่เห็นมันไม่สบายใจหรอก แต่ผมก็ไม่อยากจะยอมรับด้วยนี่นาว่าที่ผมกลับมาเร็วก็เพราะผมอยากจะเจอมัน และที่ผมทำท่าไม่ชอบใจนั้นเป็นเพราะจริงๆแล้วผมงอนมันนั่นเอง

เมฆขยับเข้ามานั่งเบียดกับผมขณะที่มันเล่าเรื่องของมันในวันนี้ ผมนอนฟังอย่างตั้งใจและก็แซวมันออกไปบ้างว่ามันโง่และก็ประมาทเองที่ไปดูถูกฝีมือเล่นบาสของไคล์ แต่ผมรู้ว่าจริงๆแล้วมันก็เล่นเก่งมากๆเช่นกัน แน่นอนล่ะ ผมเคยเห็นมันเล่นมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วนี่ แถมผมยังเคยเล่นกับมันด้วยตัวเองด้วย ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะจำได้บ้างหรือเปล่า เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนนึงที่รู้ฝีมือของมันดีที่สุด แต่ที่ผมพูดออกไปแบบนั้นก็มีเหตุผลในตัวของมันเองด้วย อย่างเช่นว่าผมไม่อยากจะให้มันรู้ว่าจริงๆแล้วตอนนี้สิ่งที่ผมกำลังสนใจมากกว่าเรื่องที่มันพูดก็คือหุ่นท่อนบนที่เปลือยเปล่าและกลิ่นเหงื่อของมันที่กระตุ้นทั้งอารมณ์และน้องชายในกางเกงของผมอย่างที่สุด

ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มีมันเพียงคนเดียวที่ผมชอบสูดกลิ่นมากจริงๆ ไม่ว่าจะกลิ่นตัวและกลิ่นสบู่หอมๆของมันตอนหลังอาบน้ำ กลิ่นตัวตอนปกติของมันที่มีกลิ่นแบบที่ไม่เหมือนใคร เป็นกลิ่นหอมลึกๆที่ผมไม่สามารถอธิบายได้และผมก็ชอบมันมากๆด้วย ส่วนอีกอย่างก็คือกลิ่นเหงื่อของมันที่กระตุ้นอารมณ์ของผมมากที่สุด มีแค่มันคนเดียวเท่านั้นที่ผมชอบที่จะซุกจมูกลงบนตัวของมันแล้วสูดกลิ่นให้เต็มที่ ทั้งๆที่กับผู้ชายคนอื่นผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้ด้วยเลยแม้แต่น้อย

เราสองคนคุยกันเรื่องที่ถ้าจะมีคนอื่นรู้เรื่องที่ผมกับมันคบเป็นแฟนกันจะเป็นอย่างไรรวมไปถึงเรื่องพ่อและแม่ของผมด้วย ผมบอกมันว่าผมไม่แคร์ ตราบเท่าที่มันเองก็ไม่แคร์ ผมภูมิใจที่จะยอมรับว่าผมมีมันเป็นแฟนของผม เพราะฉะนั้นเมื่อเวลามาถึงว่าใครสักคนควรจะรู้หรือเราสองคนควรจะบอกใคร เมื่อนั้นผมก็พร้อมที่จะทำ ถึงแม้ว่าคนแรกที่รู้ไปแล้วคือไคล์ ซึ่งผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะผมไม่คิดว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้ และผมก็ไม่คิดด้วยว่าไคล์จะเป็นฝ่ายเข้าไปคุยกับเมฆแบบนั้น แต่ก็อย่างว่า ผมเองก็คิดและทำใจเอาไว้นานแล้วว่าถ้าจะมีใครสักคนที่รู้เรื่องของผมกับไอ้เมฆ คนๆนั้นก็ย่อมจะต้องเป็นไคล์นี่แหละ

“พูดดีๆอย่างนี้ ขอกูหอมแก้มทีนึง” ไอ้เมฆพูดพลางทำท่าจะหอมแก้มผมเมื่อผมบอกออกไปว่าผมพร้อมที่จะแสดงออกให้คนอื่นรู้ว่าผมรักมันอย่างไม่อายใคร แต่ผมกลับหลบมันเพราะความเขิน

“เหี้ย เหม็น ไม่เอาหรอก เหงื่อออกเต็มตัว สกปรกจะตาย” ผมทำเป็นด่ามัน แต่จริงๆแล้วผมก็ด่าตัวเองอยู่ในใจด้วยที่พูดอะไรงี่เง่าๆแบบนั้นออกไปทั้งๆที่จริงๆแล้วผมต้องการมันมากขนาดไหน

“เออ ตามใจมึง” ไอ้เมฆลุกขึ้นยืนทำท่าไม่ชอบใจผมจึงต้องรีบคว้ามันเอาไว้ก่อน

“กูโกหก” ผมรีบพูดแล้วไซร้เข้ามาที่ซอกคอของมัน กลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นตัวอ่อนๆของมันทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า ผมรู้สึกถึงน้องชายของผมที่ตอดตุบๆและเริ่มมีน้ำหล่อลื่นซึมออกมาเลอะกางเกงในไปหมดแล้ว “นานๆทีได้กลิ่นแบบนี้ของมึงบ้างก็น่ากอดน่าจูบดีจะตาย” ผมไม่สนแล้วว่ามันจะคิดยังไง ผมเริ่มลูบไล้มือไปตามส่วนต่างๆของร่างกายของมัน

“พอๆ ทะลึ่ง เดี๋ยวใครมาเห็น กูไปอาบน้ำแล้วนะ” ไอ้เมฆพูดพลางลุกขึ้นยืน ผมรู้สึกเสียดายจริงๆ ผมไม่อยากให้มันล้างเอากลิ่นนี้ออกไปเลย แต่ผมก็ไม่กล้าบอกมันออกไปตรงๆ

“ถ้าอย่างนั้น........ กูอาบด้วยคน” ผมพูด เพราะคิดว่าแบบนี้อย่างน้อยๆผมก็ยังได้สูดกลิ่นของมันไปด้วยขณะที่มันกำลังทำความสะอาดตัว

“มึงจะบ้าเหรอ” ไอ้เมฆร้องและดันตัวผมออก ดูท่าทางมันจะไม่ชอบให้ผมไปยุ่งกับมันตอนที่มันยังตัวเหนียวๆอยู่แบบนี้จริงๆ ผมจึงตัดใจและบอกมันว่าผมจะไปรออยู่ในห้องแทน

แต่เมื่อเราอยู่ในห้องและผมเห็นมันกำลังจะเดินไปอาบน้ำจริงๆ ผมจึงตัดสินใจรีบเดินไปประกบตัวมันเอาไว้และกอดมันแน่นจากนั้นก็เอาจมูกไซร้ไปตามซอกคอของมันพลางเอาลิ้นเลียเหงื่อที่แห้งไปหมดแล้วของมันด้วย “กูไม่ให้มึงอาบแล้ว”

“ไหนบอกกูตัวเหม็นไง” ไอ้ตัวดีพูดพลางหัวเราะหึๆในลำคอ ดูเหมือนมันจะรู้แล้วว่าผมชอบกลิ่นตัวของมันแบบนี้ที่สุด

“หอมดีออก” ผมพูดพลางออกแรงกอดรัดมันแน่นขึ้นอีกเพราะความอยาก และยิ่งเมื่อผมออกแรงกอดรัดมันแน่นเท่าไหร่ ท่อนลำของผมก็ยิ่งถูกเบียดแน่นติดกับตัวของมันมากเท่านั้น

“ชอบกลิ่นแบบนี้ใช่มั๊ย” มันถามผม

“เปล่าสักหน่อย” ผมโกหก และผมก็รู้ว่ามันรู้ว่าผมโกหก

“งั้นกูไปอาบน้ำนะ” ไอ้เมฆแกล้งทำเป็นลองเชิงผม

พอกันที ไม่ต้องมาเล่นลูกไม้อะไรกันอีกแล้ว ผมทนความเจ็บปวดที่ตรงหว่างขาผมไม่ไหวอีกแล้ว ถ้าผมไม่ได้มันในตอนนี้ผมต้องตายแน่ๆ ผมหันตัวมันมาหาผมจากนั้นก็ซุกหน้าลงไปบนซอกคอของมันแล้วก็เอาลิ้นเลียพลางสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มปอด ไอ้เมฆมีกลิ่นที่เซ็กซี่มากๆ และยิ่งเมื่อมันครางออกมาเมื่อผมทำแบบนั้นแล้วมันก็ยิ่งดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก

ผมเลื่อนลิ้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆจากซอกคอ ลูกกระเดือก สูงไปถึงปลายคางที่มีเคราอ่อนๆของมัน ให้ตายเถอะ ผมอยากจะเลียมันทุกส่วนของร่างกายจริงๆ และเมื่อคิดถึงตรงส่วนระหว่างขาของมันแล้ว ผมยังแทบจะอดไม่ไหวที่จะเอาหน้าซุกลงไปแล้วลงลิ้นให้มันดิ้นพล่านๆเสียที แค่คิดแค่นี้ก็ทำเอาน้ำของผมแทบจะแตกแล้ว

ผมค่อยๆเลื่อนปากขึ้นมาสูงขึ้นๆจนมาถึงริมฝีปากเรียวบางของมัน เมฆเป็นคนที่ผมจูบด้วยแล้วผมชอบมากที่สุดในชีวิตเลย ไม่ใช่แค่รูปปากที่เรียวสวยของมัน ไม่ใช่แค่ความหวานของรสชาติของมัน แต่เป็นเพราะว่ามันคือคนที่ผมรักและรอคอยที่จะได้ลิ้มรสแบบนี้มานานแล้วเหลือเกิน ผมสอดใส่ลิ้นเข้าไปในปากของมันแล้วก็ตวัดขึ้นลงพันกันกับลิ้นของมัน เมฆดูดลิ้นของผมเข้าไปเบาๆแล้วก็ครางออกมาในลำคอ ยิ่งทำให้ผมเตลิดเปิดเปิงมากขึ้นไปอีก

ผมถอนปากออกแล้วก็จัดการถอดกางเกงของตัวเองลงเพราะทนการบีบรัดของกางเกงในของผมไม่ไหวแล้ว ผมค่อยๆสะบัดกางเกงลงไปกองที่ตาตุ่มขณะที่มือของผมก็กำลังถอดเสื้อของไอ้เมฆออกไปด้วย ผมยกแขนของมันขึ้นแล้วเอาหน้าซุกลงไปที่รักแร้ของมัน ไอ้เมฆครางออกมาดังๆทันทีเมื่อผมเอาลิ้นตวัดขึ้นลงไปตามทางยาวและเอาจมูกดุนที่ขนรักแร้อ่อนๆของมัน

“โอ๊ยย ซัน อาาาาา” เมฆร้องออกมาในลำคอ

ผมรู้ทันทีว่าผมเจออีกจุดที่มันชอบแล้ว รักแร้ของมันยังเปียกไปด้วยเหงื่ออยู่ แต่ห้านาทีถัดมา รักแร้ทั้งสองข้างของมันก็เปลี่ยนเป็นเปียกไปด้วยน้ำลายของผมแทน

ผมถอนหน้าออกมาจากนั้นก็ถอดเสื้อของตัวเองออก ไอ้เมฆก็ทำเช่นเดียวกันกับกางเกงของตัวเอง เราสองคนยืนเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้ากันและกัน ผมไม่สนอีกแล้วว่าตอนนี้มันจะมืดหรือสว่าง แต่ผมต้องการมัน เดี๋ยวนี้เลยด้วย

ผมเดินเข้าไปสวมกอดมันแล้วก็จูบอย่างรุนแรงอีกครั้ง เมฆเองก็เป็นนักจูบที่ดีเช่นกัน จะว่าไปแล้ว มันคือคนที่จูบเก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะถอนปากออกจากปากหวานๆของมันเลย แต่สุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายผงะออกไปก่อน แล้วก็เริ่มต้นก้มลงมาเลียหัวนมให้กับผม มันรู้ว่านั่นคือจุดที่ผมเสียวและไวต่อการสัมผัสมากที่สุด เมฆลงลิ้นทั้งหัวนมด้านซ้ายและขวาของผมอย่างเท่าๆกัน นอกจากนั้นมันยังตวัดลิ้นแบบเฉียดๆและวนเป็นวงกลมตรงฐานโดยไม่ให้โดนหัวนมจังๆอีกด้วย ผมรู้สึกตัวเองเริ่มเข่าอ่อนและน้ำหล่อลื่นของผมก็ถูกขับออกมาอีกครั้ง

“อาาาาา เมฆ ดูดเลย ดูดแรงๆ เสียมากเลยเมฆ อาาาา” ผมคราง

เมื่อมันได้ยินดังนั้นมันจึงรีบเล่นกับหัวนมผมมากขึ้นไปอีกจนผมถึงกับทรุดตัวลงบนหัวของมัน

“เข่าอ่อนเลยเหรอที่รัก” ไอ้เมฆพูดยิ้มๆ มันเรียกผมว่าที่รักอย่างนั้นเหรอ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรออกไปนอกจากรอยยิ้มแห่งความสุขนั้น มันก็อุ้มผมขึ้นแล้วก็วางผมลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน ถึงจะเป็นระยะทางไม่ไกลจากประตูห้องมาถึงเตียง แต่ผมก็อดประหลาดใจในความแข็งแรงของมันไม่ได้

แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากเป็นฝ่ายถูกกระทำ ผมอยากจะเป็นฝ่ายกระทำมันมากกว่า ผมอยากจะโลมเลีย และซุกไซร้ทุกส่วนของร่างกายของมันและสูดเอากลิ่นหอมของมันจนกว่ามันจะจืดไปเลยทีเดียว ผมพลิกตัวมันให้อยู่ข้างใต้ผมจากนั้นก็เริ่มเอาลิ้นดุนไปตามทุกส่วนของใบหน้าและซอกคอของมัน ผมรับรสเค็มๆปะแล่มๆของมันจากทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะซอกหู ซอกคอ รักแร้ และหน้าอกอันแข็งแรง ผมไล่ลิ้นลงมาเรื่อยๆจนถึงสะดือและไรขนเป็นทางของมัน ผมเอานิ้วบี้หัวนมของมันไปด้วยขณะที่เอาลิ้นดุนลงไปในรูสะดือของมัน ไอ้เมฆยังคงส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย

เมื่อผมไล่ลิ้นเลยสะดือลงมาเล็กน้อย ครางของผมก็ไปชนเข้ากับส่วนหัวของท่อนลำของมันที่มีน้ำเหนียวๆใสๆเย็นๆเคลือบอยู่เต็มไปหมด ผมละสายตาลงมามองและเห็นว่ามีหยดน้ำใสๆหยดหนึ่งกำลังจะไหลออกมาและเริ่มจะหยดลงบนพุงของมันแล้วด้วย ผมจึงรีบเอาลิ้นไปรองรับ ตวัดและเลียมันเข้าปากไปทันที เมฆตัวเกร็งและร้องออกมาทันทีที่ผมทำอย่างนั้น

“อาาาาาาาาาาาา กูเสียววว ซันน” มันหอบออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

แต่ไม่ใช่แค่น้องชายของมันเท่านั้นที่กำลังมีน้ำเมือกไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ของผมเองก็เช่นกัน ผมรู้สึกถึงแรงขับที่กระตุ้นให้น้ำใสๆไหลออกมาอีกระลอก

ผมซุกหน้าลงที่ขนอุยของมันแล้วก็สูดกลิ่นเข้าไปเต็มจมูก มันไม่มีกลิ่นเหม็นเลยแม้แต่นิดเดียว กลิ่นๆเดียวที่มีอยู่คือกลิ่นเหงื่อจางๆ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าหอมมาก มากกว่ากลิ่นเหงื่อของผู้ชายคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง กลิ่นของมันแตกต่างจากใครๆทั้งหมดที่ผมเคยรับรู้มาเลย ผมค่อยๆเอามือดึงหนังหุ้มของมันลงเผยให้เห็นส่วนหัวของมันที่แดงก่ำและถูกเคลือบไปด้วยน้ำเมือกของมันเอง ผมเอาปากครอบลงไปทันที รสชาติมันเค็มนิดหน่อยแต่ก็หวานและอร่อยยิ่งกว่าที่ผมได้ชิมเมื่อคืนเสียอีก ไอ้เมฆดิ้นพล่านและเอามือจับหัวของผมแน่น นี่ถ้าผมมีผมยาวกว่านี้มันก็คงจะขยุ้มเส้นผมของผมไปแล้วแน่ๆ

ผมใช้ปากให้กับมันอยู่นานจนผมคิดว่ามันคงใกล้จะถึงฝั่งแล้วฟังจากเสียงครางของมันที่ดังขึ้นเรื่อยๆ และท่อนเอ็นของมันที่เริ่มกระตุกถี่ขึ้นๆ ผมจึงถอนปากออกและชะโงกหน้าเข้าไปจูบกับมันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

เมฆพลิกตัวผมลงไปเป็นฝ่ายนอนอยู่ข้างล่างบ้าง และผมเองก็รอให้มันทำแบบนี้อยู่นานแล้วเหมือนกัน มันค่อยๆไซร้และดูดดุนหัวนมของผมจนผมแทบจะแตกโดยไม่ต้องออกแรงชักของตัวเองเลย มันค่อยๆเลื่อนลงไปข้างล่างจนถึงน้องชายของผมจากนั้นก็ครอบปากลงไปมิดเกือบทั้งลำ ไม่เคยมีใครใช้ปากให้ผมได้เก่งเท่ากับมันมาก่อนเลย แต่ก็ใช่ว่าผมจะเคยมีอะไรกับใครมาเยอะแยะหลายคนน่ะนะ

จากนั้นเมฆก็ยกขาผมลอยสูงขึ้นทั้งสองข้างแล้วก็เอาลิ้นเลียพร้อมๆกับออกแรงดูดและขบเข้าที่แก้มก้นทั้งสองข้างของผมเบาๆ

“โอ๊ยยยยย เมฆฆฆ ซี๊ดดดดดดดดดด” ผมร้องออกมาเพราะความเสียวแบบสุดๆ มันเสียวแบบแปลกๆแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย ผมชอบที่มันทำแบบนี้กับผมทุกครั้งจริงๆ และเหมือนมันก็จะรู้ด้วยเพราะมันเริ่มเลื่อนลิ้นอุ่นๆของมันมาวนอยู่ตรงรูก้นของผม ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกและครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย

เมฆเอานิ้วมาแหวกรู้ก้นของผมออกให้กว้างขึ้นจากนั้นก็ใช้ลิ้นดุนเข้าอย่างแรงแรง ทั้งตวัดและทั้งดุนจนมันถูกแหย่เข้าไปในรูก้นของผม มันใช้ลิ้นตวัดและแหย่เข้าออกอยู่ตรงนั้นอยู่นานมากจนผมรู้สึกหน้ามืดและเข่าอ่อนไปหมดแล้ว

“อาาาาา เมฆฆ อยะ อย่า........ ซี๊ดดดดด อย่าหยุดนะ แรงๆเลย แหย่เข้าไปลึกๆเลย” ผมร้อง เรียกร้องให้มันทำมากกว่านี้และทันใดนั้นเองผมก็รู้ตัวแล้วว่าผมต้องการอย่างอื่นมากกว่านั้น

“เมฆ ในตู้เสื้อผ้า เก๊ะตัวที่สองจากข้างล่าง” ผมบอกมันทั้งๆที่ยังหอบอยู่และทั้งๆที่ไม่อยากให้มันถอนลิ้นออกมาจากก้นของผมเลยด้วย

เมฆเดินไปที่ตู้ของผมอย่างว่าง่าย และเมื่อมันเปิดลิ้นชักออกก็พบกับเจลที่ผมเก็บเอาไว้

“นี่ใช่มั๊ย” มันพูดพร้อมยิ้มกริ่ม ผมยอมรับว่าผมอายนะ แต่เมื่อมองจากหน้าของมันแล้วผมก็รู้ว่ามันเองก็เขินไม่แพ้ผมเช่นกัน

เมฆกลับมานั่งอยู่ตรงหว่างขาของผมอีกครั้งจากนั้นก็บีบเจลลงบนมือของตัวเองแล้วก็เอานิ้วที่ชุ่มเจลเย็นๆนั้นทาไปรอบๆรู้ก้นของผมด้วย ทันใดนั้นมันก็เอาปากมาครอบลงบนท่อนลำของผมที่ตอนนี้ขับน้ำเมือกออกมาอีกระลอกแล้ว ในเวลาเดียวกันกับที่มันเอานิ้วชี้ค่อยๆกดลงไปในปากทางเข้านั้น

ผมถึงกับกระตุกเมื่อถูกล่วงล้ำเข้ามาภายในตัวของตัวเองพร้อมๆกับถูกจู่โจมด้วยลิ้นของมันที่ด้านหน้า

“อืมมมม ซี๊ดดดดด เมฆฆฆ เสียวสุดยอดเลยยยยย” ผมครางกระเส่า เมฆเองก็ครางอย่างพอในใจลำคอของตัวเองเช่นกัน มันครางเป็นเสียงอืมๆอู้อี้ๆทั้งที่ปากยังทำงานให้กับน้องชายของผมอยู่

ผมเอามือกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่นเมื่อนิ้วของเมฆเริ่มชักเข้าชักออกช้าๆ ในขณะที่ลิ้นของมันก็ตวัดไปรอบๆหัวหยักของผมไปด้วย มันเสียวสุดๆจริงๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการทำแบบนี้มันจะเสียวได้มากขนาดนี้ จนเมื่อมันแหย่นิ้วเข้ามาลึกขึ้นจนชนเข้ากับอะไรบางอย่างในร่างกายของผม ผมถึงกับสะดุ้งและสำลักอากาศไปเฮือกใหญ่ ผมเกือบจะเสร็จออกมาอยู่แล้ว!

“เมฆ หยุดก่อน กูเสียว จะแตกแล้ว!” ผมร้อง ไอ้เมฆจึงถอนปากออกแต่มันก็ยังคงใช้นิ้วกับผมอยู่ “ไม่....... ไม่ใช่ นะ นิ้วของมึงน่ะ...... หยุด ก่อน.....” ผมร้องอย่างเหนื่อยอ่อน

ไอ้เมฆเหมือนจะรู้ตัวก็เลยหยุดแช่นิ้วเอาไว้อย่างนั้น พร้อมๆกับชำเลืองมองผมด้วยรอยยิ้ม

“เสียวเหรอ” มันยิ้มกว้าง

“อืมมม โคตรๆเลย” ผมตอบ “ไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อนเลยว่ะ” ผมตอบไปตามความเป็นจริง

“อยากเสียวกว่านี้มั๊ย” มันถามอย่างรู้ทัน ผมเองก็รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ผมก็กังวลเช่นเดียวกันเพราะถ้าใช้อะไรที่มันใหญ่กว่านิ้วชี้ของมันโคตรๆแบบนั้นแล้ว ผมเองท่าทางจะเจ็บไม่น้อย

“ไม่ต้องห่วง กูจะค่อยๆนะ กูก็ไม่อยากให้มึงเจ็บหรอก” มันพูดกับผมเบาๆ และผมก็เชื่อ ผมรู้ว่าถ้าผมบอกว่าเจ็บและอยากหยุด มันก็คงหยุดแน่นอน

“ใช้นิ้วไปก่อนแล้วกัน” ผมบอกเป็นนัยๆว่าให้ใช้นิ้วขยายมันให้มากกว่านี้ก่อน

เมฆเองก็เข้าใจ มันเริ่มเอาปากเลียหัวของท่อนลำของผมอีกครั้งพร้อมๆกับบีบเจลมากขึ้นใส่มือของตัวเองและก็ใช้นิ้วชี้นิ้วเดิมซอยเข้าออกช้าๆ ความเสียวเริ่มเข้ามาปกคลุมตัวผมไปหมดอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มใส่นิ้วเพิ่มขึ้นเป็นสองนิ้ว และสามนิ้ว ตอนแรกมันก็เจ็บอยู่หรอก มันเป็นความรู้สึกแน่นๆคับๆ บอกไม่ถูก แต่เมื่อเริ่มชินและเมื่อนิ้วของมันเริ่มกระทุ้งเข้ากับผนังส่วนนั้นของผม มันก็เปลี่ยนเป็นความเสียวแบบสุดๆทันที

“อาาาา เสียวมากเลยเมฆ รู้สึกดีมากเลยยย อืมมม ฟิตมากๆเลยว่ะ!” ผมร้อง

เมฆเองก็ดูท่าทางจะพอใจเช่นเดียวกัน เมื่อมันได้ยินอย่างนั้นมันก็เริ่มซอยนิ้วเร็วขึ้นและแรงขึ้นจนผมเกือบจะเสร็จอีกครั้งเลยต้องร้องห้ามมันออกไปก่อน

“ไม่ไหวแล้วเมฆ กูจะแตกแล้ว มึงพอก่อน” ผมหอบ “ไม่ไหวแล้ว มึงใส่ๆเข้ามาเถอะ กูไม่อยากแตกด้วยนิ้วของมึงนะ ไอ้สัตว์” ผมร้องเพราะทนไม่ไหวแล้ว

เมฆยิ้มกว้างและชะโงกหน้าเข้ามาจูบผมอย่างหนักหน่วง เราสองคนแลกลิ้นกันนานมากขณะที่มือของมันก็กำลังชโลมน้องชายของมันด้วยเจลจนชุ่ม เมื่อมันถอนปากออก มันก็กระซิบกับผมเบาๆ

“มึงพร้อมนะ”

ผมพยักหน้าช้าๆ และหลับตา แต่เมื่อคิดได้ว่าผมอยากจะเห็นใบหน้าของมันด้วย ผมอยากจะเห็นใบหน้าที่เสียวสุดๆของมันที่กำลังจะทำให้กับผม ผมจึงชะโงกหน้าแล้วมองลงไปยังไอ้เมฆที่กำลังจับหัวน้องชายของมันจ่อเข้ามาที่ปากทางของผม

ผมเอามือจับขาของตัวเองให้ถูกยกเอาไว้ และเมื่อผมรู้สึกได้ถึงส่วนหัวที่เริ่มรุกล้ำเข้ามาผมก็ต้องสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่และแอ่นหน้าไปทางด้านหลังเพราะความเจ็บปวดแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิตที่แล่นไปทั่วร่าง ผมหลับตาแน่นและกัดฟันเพราะความเจ็บแสบ แต่ไอ้เมฆกลับสูดลมหายใจเข้าช้าๆยาวๆและครางออกมาเพราะความเสียว

“ซี๊ดดดด แน่นมากเลยซัน ฟิตมากเลย อาาาาาาาา เสียวมากๆเลยว่ะ” มันพูดเบาๆ “มึงเจ็บมั๊ย กูเอาออกก็ได้นะ”

“ไม่เป็นไร กูทนได้” ผมหลับตาแล้วกัดฟันแน่น “แช่ไว้ก่อนก็แล้วกัน”

เมื่อผมเริ่มรู้สึกชินมากขึ้น ผมก็ก้มหน้าลงกลับไปมองสีหน้าของมันอีกครั้งจึงเห็นว่ามันกำลังแหงนหน้าและหลับตาครางเพราะความเสียวขณะที่ค่อยๆดันตัวเข้ามาหาผมช้าๆ ทันใดนั้นเองผมก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ณ ตรงจุดนั้น ความเจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียวแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“มึงเจ็บมากมั๊ย ซัน” เมฆถามผมอย่างเป็นห่วง

ผมส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ ไม่เจ็บแล้ว ซี๊ดดดดดดดด อาาาา” ผมบิดหน้าเพราะความเสียว “มึงใส่เข้ามาเลยเมฆ กูไม่เจ็บแล้ว ใส่เข้ามาแรงๆเลย กระแทกให้มันโดนผนังนั่นเลย”

เมื่อได้ยินดังนั้นไอ้เมฆก็ดันตัวเข้ามาจนเกือบจะสุดลำทันที ผมอ้าปากค้างเพราะความตกใจ ความเจ็บ และความเสียว เมื่อน้องชายของมันกระแทกเข้ากับผนังส่วนนั้นของผม มันเสียวแบบสุดๆไปเลย ผมไม่เคยเสียวมากแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคิดว่าคนที่กำลังทำผมอยู่นั้นคือไอ้เมฆ มันก็ยิ่งทำให้ผมมีความสุขมากเข้าไปใหญ่

ผมพยายามมองหน้าของไอ้เมฆเพราะอยากรู้ว่าผมกำลังทำให้มันมีความสุขอยู่บ้างรึเปล่า และสีหน้าของมันที่ผมเห็นก็เป็นคำตอบให้ผมได้อย่างดี มันมีสีหน้าเหยเกบิดเบี้ยวเพราะความเสียว เหงื่อที่เริ่มไหลออกมาจากไรผมและหน้าผากของมันก็ทำให้มันดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ยิ่งรู้สึกเสียวมากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ เราสองคนแข่งกันครางเสียงดังเพราะความเสียวอย่างไม่อายใครอีกต่อไป

“อาาาา แรงๆเลยเมฆ ใส่เข้ามาเลย กูไม่เจ็บแล้ว เสียวสุดยอดเลยยย” ผมร้อง

“ซัน ของมึงฟิตมากเลย กูจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน กูจะแตกแล้ว ซัน” มันเองก็ร้องออกมาอย่างแหบแห้งเช่นเดียวกัน

ทันใดนั้นผมก็รู้สึกถึงการเคลื่อนตัวของน้ำเชื้อของผมที่ถูกขับออกมาจากถุงอัณฑะของผม ผมเริ่มรู้สึกว่าผมใกล้จะแตกเต็มทีแล้ว มันช่างเสียวแบบสุดยอดจริงๆ และตอนนี้ผมยังไม่ได้แม้แต่จะจับหรือชักให้ตัวเองไปด้วยเลย และเหมือนเมฆเองก็จะรู้ เพราะว่ามันเองก็เริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นๆและแรงขึ้นๆไปเรื่อยๆด้วย

“เมฆ กู จะ จะ.... จะออกแล้ว” ผมร้อง เมื่อสิ้นเสียงของผมเอง ผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำแห่งความสุขที่ถูกฉีดออกมาจนทั่วไปหมด ล็อทแรกนั้นทั้งเยอะและแรงมาก มันกระเด็นมาจากท่อนลำของผมที่กำลังโยกและกระเด้งตามแรงกระแทกของเมฆจนมันไปตกอยู่ที่แก้มซีกซ้ายของผม ส่วนล็อทถัดๆมาก็กระเด็นเรี่ยราดอยู่ทั่วตัวของผมไปหมดไม่ว่าจะที่ลำคอ หน้าอก และหน้าท้อง ผมไม่เคยหลั่งออกมามากมายและมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต และที่สำคัญ ผมไม่ได้แม้แต่แตะต้องตัวผมเองเลยแม้แต่น้อยด้วย

หลังจากที่ผมเสร็จแค่ไม่กี่วินาที เมฆก็เริ่มเกร็งและร้องออกมาเพราะความเสียวเช่นเดียวกัน ผมรู้สึกได้ถึงท่อนลำของมันที่กระตุกและฉีดพ่นน้ำของมันเข้ามาเต็มภายในช่องท้องของผมไปหมด

“อาาาา ซัน กูแตกแล้ว กูแตกแล้วว” มันร้องขณะที่กระแทกเข้ามาแรงขึ้นๆเป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อน้ำหยดสุดท้ายของมันถูกฉีดออกไปมันก็ซบตัวลงมาอยู่บนตัวของผมแล้วหายใจแรง พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด เราสองคนนอนนิ่งกันอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีกำลังขึ้นมาแล้ว เมฆก็ค่อยๆถอนน้องชายที่เริ่มอ่อนตัวลงของมันออกจากจากรูของผมช้าๆ จากนั้นมันก็ชะโงกหน้าเข้ามาหาผม ตอนแรกผมคิดว่ามันจะจูบผม แต่แล้วมันกลับเอาลิ้นมาไล่ไปตามใบหน้าของผมโดยเฉพาะตรงแก้มที่เลอะไปด้วยน้ำของผมเองจากนั้นก็กลืนกืนมันไปจนหมด

“ของมึงหวานดี กูชอบ” มันบอกผมจากนั้นก็ก้มมาจูบปากผมอย่างหนักหน่วง ผมรู้สึกได้ถึงรสชาติเค็มๆหวานๆของน้ำของผมเองที่ยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของมันและนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกถูกกระตุ้นมากขึ้นไปอีก

“เหนื่อยมั๊ย” ผมถามมัน

เมฆทิ้งตัวลงนอนข้างๆผมแล้วกอดผมเอาไว้พร้อมๆกับเอามือละเลงน้ำของผมไปจนทั่วทั้งหน้าอกและกล้ามหน้าท้องของผมจนทั่ว

“เหนื่อย แต่ก็สนุกดี ว่าแต่มึงเถอะ เจ็บรึเปล่า” มันถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ไม่ว่ะ แรกๆก็เจ็บนะ แต่หลังๆไม่แล้ว”

“ก็นั่นน่ะสิ ถึงกับแตกโดยไม่ต้องชักเลยนี่” มันยิ้มกว้าง

ผมรู้สึกหน้าของตัวเองร้อนผ่าวเพราะความอายทันที “เดี๋ยวตามึงมั่งแล้วจะรู้สึก”

แทนที่มันจะรีบปฏิเสธแบบที่ผมคิด มันกลับชะโงกมาจูบผมเบาๆอีกหนึ่งครั้งแล้วพูดเสียงแข็งเป็นเชิงขู่

“ถ้าทำกูไม่เสียวเหมือนที่กูทำให้มึงล่ะก็ เป็นเรื่องแน่”

ผมหัวเราะเบาๆ มันเองก็เช่นกัน ผมเริ่มรู้สึกถึงท่อนลำของผมที่เริ่มจะตั้งตรงขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

“พร้อมจะลองเลยมั๊ยล่ะ” ผมถาม พลางขยำไปที่ท่อนเอ็นของมันที่ก็แข็งขึ้นมาอีกครั้งแล้วเช่นกัน

“พักก่อนหน่อยเถอะ” มันบอก “แต่ว่าซัน..........” มันมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที “เมื่อกี๊ กูกับมึงเอา เอ่ออ เอาสดอ่ะ แล้วกูยังแตกข้างในมึงอีก.........”

“มึงไม่ไว้ใจกูเหรอ กูสะอาดชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มึงไม่ต้องห่วงหรอก กูไม่ค่อยได้มีอะไรกับใครหรอก มีล่าสุดก็นานมาแล้ว แถมใส่ปลอกทุกครั้งด้วย” ผมพูดด้วยความรู้สึกอดน้อยใจนิดๆไม่ได้

“ไม่ๆ กูไม่ได้ห่วงเรื่องมึง แต่กูคิดว่ามึงนั่นแหละ จะกังวลเรื่องของกูรึเปล่า” มันพูดเงียบๆ

“ทำไม มึงจะบอกว่าตอนอยู่ที่ไทย มึงผ่านมาเยอะเหรอ” ผมถามทีเล่นทีจริง ในใจก็ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น มันรู้สึกปวดร้าวๆในใจอย่างไรบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่าถ้ามันไปทำอะไรกับคนอื่นมาเยอะแยะจริงๆ

“มึงก็พูดเกินไป กูมีอะไรแค่กับนัทเท่านั้นแหละ แล้วก็ใส่ถุงทุกครั้งด้วย” มันตอบ ผมเองก็โล่งใจที่ได้ยินอย่างนั้น อย่างน้อย ผมก็เป็นคนที่สองของมันล่ะวะ

“งั้นไปอาบน้ำกันเถอะ ก่อนที่น้ำของมึงมันจะไหลออกมาทำเอาผ้าปูเตียงกูเลอะไปมากกว่านี้” ผมพูดอายๆ เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าน้ำของมันที่ถูกฉีดเข้าไปเต็มรูของผมเริ่มจะไหลย้อนออกมาบ้างแล้ว

หลังจากนั้นเราสองคนก็จูงมือกันเดินออกจากเตียงและเดินผ่านห้องของไคล์ที่ยังคงเปิดเพลงเสียงดังไปเข้าห้องน้ำ และไม่กี่นาทีถัดมา ผมก็สอนให้มันรู้ว่าการที่เสียวจนแตกได้โดยไม่ต้องจับนั้นมันเป็นอย่างไร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:25:44 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ที่ผมต้องถามเพื่อความแน่ใจหลายๆรอบนี่ไม่ใช่อะไรหรอกครับ
เพราะต่อม X แตกของผมมันทำงานผิดพลาดไปแล้วนั่นเอง
สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ และโดยเฉพาะ เรื่องใหม่ที่ผมกำลังดำเนินการอยู่นั้น
คนอื่นอ่านอาจจะมีแข็งมีน้ำ(?)ซึม ผมไม่รู้หรอก แต่ผมอ่านแล้วมันเฉยๆน่ะครับ ยิ่งอ่านกลับยิ่งซึ้งเพราะความโรแมนติก ไม่ใช่เอ็กซ์แตก
ก็เลยอยากให้คนอ่านช่วยๆลองคอนเฟิร์มดูว่าแบบนี้มันเรียกว่าเอ๊กซ์รึยังอ่ะคับ

 :m23:

ช่วงหลังๆนี้ผมอ่านอะไรหลายๆอย่างเยอะมาก (ไม่ใช่ภาษาไทยนะครับ) ก็เลยเห็นว่าการแสดงออกการบรรยายของเขามันต่างกะของเราอยู่มาก
เรื่องใหม่ของผมก็เหมือนกัน มันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแต่ก็จะมีฉากประมาณตอนข้างบนนี้เยอะมากมาย
ก็เลยอยากรู้ความเห็นน่ะครับ ว่านี้มันเอ็กซ์ไปรึยังอ๊ะป่าว อะไรแบบนั้นอ่ะครับ

งงกันมั๊ยป่าวหว่า ผมก็อธิบายอะไรม่ค่อยเก่งซะด้วยสิ
เอาเป็นว่าขอความเห็นหน่อยก็แล้วกันนะครับ

 :m17:


Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วละเอียดยิบเลยทีเดียว
 :m10:

ตอนแรกซันจะเป็นฝ่ายกระทำไม่ใช่หรอครับ
ทำไมเสียท่าเมฆซะงั้นอ่ะ เหอๆๆ
 :m12:

somtamman

  • บุคคลทั่วไป
ยุติธรรมดีไง

จะได้เข้าใจทั้งสองฝ่าย

ว่ากระทำและถูกกระทำ  เป็นยังไง

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ  มันเกิดจากความรักต่างหาก  จะบทบาทไหน ไม่เห็นสำคัญใช่มะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
โอ้วว ได้อ่านในมุมมองของซันบ้างแล้วววว  :give2:  :give2:  :give2:

~Brand New Beat~

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าตอนนี้จะพิเศษสมชื่อเลยนะครับ  :m10:

มารออ่านตอนต่อไปครับผม จะมีตอนพิเศษโผล่มาอีกมั้ยน้า หุหุ

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านความรู้สึกของซันมาตั้งนานแล้ว ดีจังที่คุณต้นเขียนให้อ่าน เพราะบางครั้งคิดไม่ออกจริงๆ ว่าซันมีความรู้สึกยังไงกับเมฆ  รู้สึกลึกซึ้งแค่ไหน  จะลึกเท่าที่กับที่เมฆรู้สึกหรือเปล่า

เรื่องเอกซ์ที่เขียนก็ไม่ได้รุนแรงอะไร สำนวนภาษาก็เรียบร้อยดีนี่ ไม่ได้ดุเดือดประเภทยอดรักนักเลงซะหน่อย

แต่ที่แปลกใจก็คือคิดว่าซันจะเป็นคนทำ ดั๊นไหงกลายเป็นถูกทำซะงั้นละเนี่ย :m28:

sun

  • บุคคลทั่วไป
เอิ้ววววววววว....    :o8:

และแล้ว ซันก้อโดนเมฆ หม่ำก่อนซะแล่ะ คิคิ   :m3:



 :m25:   


จะบอกว่าเรทมั๊ย?...เรทค่ะ แต่เป็นเรท ที่รับได้ ไม่ ล่อนจ้อน แล่ะไม่ได้ ดิบเกินไป   o15
บางทีเราไม่ต้องบรรยาย จนหมดเปลือก แต่ถ้ารู้จักใช้ถ้อยคำภาษา      :teach:
ซินว่า มันสละสลวย สวยงาม ..กว่า.....เขียน ออกมาแบบ โจ่งๆค่ะ    o15

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
อยากอ่านความรู้สึกของซันมาตั้งนานแล้ว ดีจังที่คุณต้นเขียนให้อ่าน เพราะบางครั้งคิดไม่ออกจริงๆ ว่าซันมีความรู้สึกยังไงกับเมฆ  รู้สึกลึกซึ้งแค่ไหน  จะลึกเท่าที่กับที่เมฆรู้สึกหรือเปล่า

เรื่องเอกซ์ที่เขียนก็ไม่ได้รุนแรงอะไร สำนวนภาษาก็เรียบร้อยดีนี่ ไม่ได้ดุเดือดประเภทยอดรักนักเลงซะหน่อย

แต่ที่แปลกใจก็คือคิดว่าซันจะเป็นคนทำ ดั๊นไหงกลายเป็นถูกทำซะงั้นละเนี่ย :m28:





จะบอกว่าเรทมั๊ย?...เรทค่ะ แต่เป็นเรท ที่รับได้ ไม่ ล่อนจ้อน แล่ะไม่ได้ ดิบเกินไป   o15
บางทีเราไม่ต้องบรรยาย จนหมดเปลือก แต่ถ้ารู้จักใช้ถ้อยคำภาษา      :teach:
ซินว่า มันสละสลวย สวยงาม ..กว่า.....เขียน ออกมาแบบ โจ่งๆค่ะ    o15


ขอบคุณมากครับ ช่วยผมได้จริงๆ
เพราะผมก็พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาแบบไอ้อิทเหมือนกันครับ
ไอ้นั่นไม่ไหว แม่งหื่นเกิ๊นนนนน

แถมกลัวถ้าใช้ภาษาแบบมันเดี๋ยวเขารู้หมดว่าตัวริงผมเป็นยังไง (ฮา)  :o8:

ส่วนเรื่องมุมมองของซัน ไม่ต้องห่วงครับ อีกไม่นานเกินรอ
ผมทำทุกอย่างเสร็จไว้เรียบร้อยเกือบหมดแล้ว

ปล. เดี๋ยวพอเข้าห้องน้ำไปเมฆมันก็โด๊นนนนนน ไม่ต้องคิดมากกก 5555


tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป


ขอบคุณมากครับ ช่วยผมได้จริงๆ
เพราะผมก็พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาแบบไอ้อิทเหมือนกันครับ
ไอ้นั่นไม่ไหว แม่งหื่นเกิ๊นนนนน

แถมกลัวถ้าใช้ภาษาแบบมันเดี๋ยวเขารู้หมดว่าตัวริงผมเป็นยังไง (ฮา)  :o8:

ส่วนเรื่องมุมมองของซัน ไม่ต้องห่วงครับ อีกไม่นานเกินรอ
ผมทำทุกอย่างเสร็จไว้เรียบร้อยเกือบหมดแล้ว

ปล. เดี๋ยวพอเข้าห้องน้ำไปเมฆมันก็โด๊นนนนนน ไม่ต้องคิดมากกก 5555


********************





ชีวิตจริงบางช่วงของคนเขียนมะนี่


ชอบนักเรื่องหื่นกามมมมมมมมมมมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ตอนพิเศษอ่านกี่ที ก็................... :m10: อิอิ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page






ชีวิตจริงบางช่วงของคนเขียนมะนี่


ชอบนักเรื่องหื่นกามมมมมมมมมมมมมม


ไม่มีอ่ะ อย่าทำเป็นรู้ดีเหอะพี่ เหอๆ
ผมจะเขียนอะไรไม่ได้หมายความว่าผมต้องทำแบบนั้นนิ เห็นอยากรู้lุดๆเลยไม่ใช่เหรอว่าใครกันแน่จะโดน โดนทั้งคู่ไปเลย พอใจยัง  :m19:

แล้วก็ไม่ต้องไปคิดเลยนะว่าผมจะเคยโดนไปมั่งรึยังเพราะเอามาจากแค่การอ่านเรื่องนี้น่ะ นั้นมันก็เกินไป  o12

ปล. แต่เรื่องหื่นกามนี้ ยอมรับนิสๆก็ด้ะ 5555  o16


gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.............ตอนพิเศษมาแบบนี้อีกแล้ว.......... :m19: :m19:

.............คิดแล้วเหนื่อยแทน.......... :oo1: :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
รู้สึกจะยอมรับตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆกันแล้วนะคู่นี้
 :m3: :m3: :m3: :m3:

ห่างกันแทบไม่ได้แล้ว ขนาดแค่ออกไปโดยไม่บอกก็มีหึงหล่ะ
 :m20: :m20: :m20: :m20:

ปล.ส่วนเรื่องความเรท นั่นอยู่ที่ลักษณะการถ่ายทอด ว่าต้องการสื่อเรื่องราวออกมาในทางใด
ให้คิดดูว่าถ้ามีใครสักคนมาลองอ่านเรื่องตรวจสอบจากเรื่องราวร้อยๆเรื่องบนบอร์ดแล้วไม่สะดุดกับเรื่องดังกล่าวจนเห็นว่ามันผิดปกติก็ไม่น่าเป็นอะไร

พูดขยายความคือ ถ้าเรื่องราวยาวๆ คงไม่มีใครมานั่งอ่านทั้งเรื่อง จึงไม่ค่อยเสี่ยงต่อการตรวจพบ
นอกจากพวกที่เป็นพวกนักอ่านเอง  ถ้าเรื่องดังกล่าวมีแค่เรทบางตอนเพื่อให้เรื่องสมบูรณ์ก็ไม่น่าเป็นไร
ไม่ใช่ว่าเรื่องโผล่มาตอนแรกก็เอากัน และเอากันไปทุกตอน อันนี้ก็อาจเสี่ยงไปหน่อยครับ
 :m27: :m27: :m27: :m27:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007 15:41:55 โดย b|ueBoYhUb »

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
 :m30: โหยยยยยยยย  :m25: ได้ใจมากค้าบบบ ขอบคุณต้นด้วยที่มาต่อเรื่องตาม request แฟนๆอย่างฉับไว  :m4:

อู้ยยยย .... ซี๊ดดดดด ..... นี่ขนาดเรทระดับธรรมดานะเนี่ย  o17 แล้วระดับ Triple X นี่จะระดับไหน  :laugh: อยากอ่านจริงๆ  o7 555+

 :m18: เอาจริงๆแล้วอ่านๆไปก็เหมือนอย่างที่หลายๆคนบอกแหละคับ มันไม่ได้ถูกเขียนมาเพื่อเป็นเรี่อง xxx เพราะฉะนั้นฉากนี้ก็เป็นส่วนประกอบที่เติมเต็มเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกแตกแยก หรือแตกต่างในอารมณ์และความรูสึกแต่อย่างใด ผมว่าโอเคนะครับ  :m4:  ชอบที่ได้รู้ความคิด ความรู้สึกของซันด้วยคับ เพราะก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน ว่าซันจะรู้สึกกับเมฆ เท่าที่เมฆรู้สึกกับซันรึเปล่า? ตอนนี้ได้คำตอบแล้วครับ  :give2:

ว่าแต่ ......ยังจะมีฉาก xxx หลังไมค์มั๊ยคับ อิอิอิ  o17 ถ้ามีก็ไม่ต้องเกรงใจนะ ส่งมาได้เลย 555+


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นแล้วก็ทุกกำลังใจมากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆ  :m23:


ตอนที่ 18


เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว พวกเราสามคนก็ต้องเตรียมการอะไรหลายๆอย่างทั้งเรื่องของการเดินทาง การเตรียมของใช้ เสื้อผ้า การเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยว และการเตรียมความพร้อมที่จะเอาตัวรอดเมื่อไปถึงที่อเมริกาแล้วด้วยลำพังพวกเราเอง เช่นเรื่องที่พัก การเดินทาง แผนที่ และสภาพอากาศ โดยคนที่ดูจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงและดูกังวลมากกว่าใครๆก็คือแม่ของไอ้ซันนั่นเอง ท่านกำชับให้พวกเราสามคนดูแลเรื่องต่างๆนาๆมากมายและยังคอยเป็นธุระให้ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบินรวมไปถึงเงินพ๊อคเก็ตมันนี่ที่จะให้ติดตัวไปด้วย ทั้งแม่ของไอ้ซันและแม่ของไคล์ต่างก็ออกเงินให้กับผมเช่นกันซึ่งผมเองก็ปฏิเสธที่จะรับเอาไว้หลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายไอ้ซันก็เป็นคนที่บังคับให้ผมต้องรับเอาไว้จนได้

หลังจากเรื่องวันนั้น ไคล์เองก็ไม่ได้มีท่าทางอะไรเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ยกเว้นแค่บางครั้งที่ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่เขามองมายังผมสองคนแบบแปลกๆอยู่บ้างเท่านั้นเอง แต่นอกจากนั้นเขาก็ปกติดีกับเราทั้งคู่ เราสามคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้นกันขึ้นมาอีกเลย ทั้งซันก็ไม่เคยถามไคล์ และไคล์ก็ไม่เคยถามผมและซันนอกเหนือไปจากวันที่เราสองคนเคยคุยกันที่สนามบาสนั่น

ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นและกังวลอยู่บ้างที่ต้องเดินทางไกลๆแบบนี้ แต่ความตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวในสถานที่ที่ผมอยากไปมานานแล้วนั้นมันมีมากกว่าจึงเป็นแรงขับให้ผมรู้สึกกระตือรือร้นและจดจ่ออยู่กับวันเดินทางมากกว่าเรื่องอื่นๆ

“ดูตื่นเต้นจริงนะ” ไอ้ซันพูดกับผมขณะที่เรากำลังเช็คของที่จะแพ๊คลงกระเป๋าเป็นครั้งสุดท้ายในวันก่อนวันเดินทาง

“ก็นิดหน่อยว่ะ” ผมตอบ

“ไม่นิดหรอก เพราะมึงน่ะยิ่งเก็บอาการก็ยิ่งดูออกชัด เหมือนเด็กๆไม่มีผิด ต่างกันก็ที่มึงรู้จักทำเป็นวางฟอร์มนิดๆหน่อยๆก็แค่นั้นเอง” ไอ้ซันพูดพลางหัวเราะหึๆอยู่ในลำคอไปด้วย

“เออ กูยอมรับก็ได้ว่ากูตื่นเต้น” ผมรูดซิปกระเป๋าแล้วหยิบแม่กุญแจมาล็อคซิปเอาไว้ “ก็กูจะได้ไปเที่ยวกับคนที่กูรักนี่นา” ผมแสร้งทำเป็นพูดแหย่ออกไป

ไอ้ซันหันมามองหน้าของผมทันที แต่ผมทำเป็นมองไม่เห็นมัน

“กูจะอ้วก” มันหัวเราะ

“เออ อย่าว่าแต่มึงเลย กูคนพูดเองก็ยังจะอ้วกเลยเหมือนกัน” เราสองคนหัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน

“เสียดายเหมือนกันแหละที่ไม่ได้ไปกันสองคนน่ะนะ..........” ไอ้ซันพูดพลางรูดซิปกระเป๋าของตัวเอง “ส่งกุญแจมาซิ” มันพูด ผมจึงโยนแม่กุญแจตัวเล็กที่ใช้สำหรับล็อคกระเป๋าแบบเดียวกับของผมให้มันไป “ทีนี้ก็ไม่ต้องเปิดกันอีกเลยล่ะนะ” มันพูดพลางกดล็อค “.......พอไปถึงที่นั่น กูอยากจะทำอะไรสักอย่างด้วยว่ะ” มันพูดขณะก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับกระเป๋า

“ทำอะไรวะ” ผมถาม

“เอาไว้ไปถึงเดี๋ยวมึงก็รู้เองนั่นแหละ” มันเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม “เอาล่ะ เสร็จแล้วใช่มั๊ย”

ผมพยักหน้า

“ดี งั้นไปหาไคล์กัน ดูซิว่ามันเป็นยังไงแล้วบ้าง”

เราสองคนเดินออกจากห้องไปเคาะที่ห้องของไคล์ ไคล์เดินมาเปิดประตูให้เราสองคนเข้าไป เมื่อผมเข้าไปข้างในก็เห็นว่าเขาเองก็กำลังจัดของเป็นครั้งสุดท้ายอยู่เช่นเดียวกัน

“มีอะไรให้ช่วยมั๊ย” ซันถามขึ้น

“ไม่มีครับ ไม่เป็นไร ใกล้เสร็จแล้วล่ะ ผมแค่กำลังเช็คดูว่าขาดอะไรอีกรึเปล่าเท่านั้น” ไคล์ตอบ

“อืม ก็ดีแล้วล่ะ งั้นคืนนี้อย่าลืมรีบนอนก็แล้วกันนะ” ไอ้ซันพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องทันที ผมเองก็แปลกใจที่มันเข้ามาเพื่อคุยแค่นี้น่ะหรือ แต่ไคล์ก็พูดขึ้นก่อนที่มันจะทันได้เปิดประตูห้องออก

“เดี๋ยวซัน”

ไอ้ซันหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วหันมามองไคล์ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง “ว่าไง”

“คือ ผมขอคุยกับพี่หน่อยได้มั๊ย”

“ก็ได้นี่.....” ซันตอบแล้วหันมามองหน้าผม

“เอ่อ งั้นกูกลับห้องก่อนแล้วกันนะ” ผมพูดขึ้น

“เอางั้นเหรอ” ไอ้ซันถาม

ผมมองหน้าของมันสลับกับไคล์แล้วจึงพยักหน้า “อือดิ่ เดี๋ยวกูไปนอนเลยแล้วกันนะ ราตรีสวัสดิ์นะไคล์” ผมหันไปหาไคล์

“ฝันดีครับ” ไคล์ตอบ ยิ้มและหลิ่วตาให้ผมข้างหนึ่ง ผมไม่เข้าใจหรอกว่าการที่เขาหลิ่วตานั้นหมายถึงอะไร แต่คิดว่าน่าจะแปลว่าไม่ต้องกังวลเรื่องที่เขาจะคุยกับซันหรือไม่ก็แปลว่ามันใช้เวลาไม่นานหรอก หรือไม่ก็คงเป็นไม่ต้องหึงหรอกนะ วางใจได้ อะไรแบบนั้นหรือเปล่า

ผมเดินออกจากห้องแล้วกลับเข้าไปยังห้องของไอ้ซัน ผมเดินไปที่หัวเตียงเปิดโคมไฟอันเดิมขึ้นแล้วจึงเดินไปปิดไฟในห้องจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ถึงผมจะพยายามไม่คิดเรื่องของซันกับไคล์ว่าเขาคุยอะไรกัน แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะคอยแว่บเข้ามารบกวนประสาทของผมอยู่ร่ำไป คำว่า “หึง” มันคงเป็นอย่างนี้ล่ะมั๊ง

ผมนอนลืมตาคิดและพยายามคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องของไคล์ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงปิดประตู ผมรีบหลับตาลงแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมตัวทันที นี่ผมจะแกล้งทำเป็นนอนแล้วแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันเนี่ย หลังจากนั้นประตูห้องของไอ้ซันก็ถูกเปิดออก ผมรู้สึกว่าไอ้ซันหยุดมองมาที่ผมครู่หนึ่งจากนั้นก็ค่อยๆปิดประตูลง แล้วจึงเดินมาหยุดอยู่ที่เตียง ไอ้ซันยังคงไม่นอนหรือนั่งลงแต่กลับยืนมองผมอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ผมไม่เข้าใจว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แต่แล้วมันก็พูดขึ้น

“หลับแล้วเหรอครับ”

นั่นไม่ใช่เสียงของไอ้ซัน แต่เป็นเสียงของไคล์ ด้วยความตกใจผมจึงลืมตาขึ้นมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ใต้ความมืดในบริเวณที่แสงจากโคมไฟส่องไปไม่ถึง ผมเห็นหน้าเขาลางๆแต่นั่นก็คือไคล์ไม่ผิดแน่

“อ้าว ไคล์” ผมร้องด้วยความประหลาดใจ “ซันล่ะ”

“เขาไปห้องของคุณลุงกับคุณป้าน่ะ” เขาตอบ “พี่หลับไปแล้วรึยัง ผมมาปลุกรึเปล่า”

“อ๋อ เปล่าหรอก” ผมชันตัวขึ้นนั่ง “แค่เคลิ้มๆน่ะ มีอะไรรึเปล่า”

“ก็ เรื่องที่ผมคุยกับซันน่ะ........” ไคล์หยุดไปครู่หนึ่งแล้วนั่งลงที่ขอบเตียง “พี่คงไม่ได้คิดมากหรอกใช่มั๊ย” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดยังไง และที่สำคัญทำไมเขาถึงมาถามผมแบบนั้น มันสำคัญขนาดที่ต้องเข้ามาถามผมด้วยตัวเองในเวลาแบบนี้เลยเชียวหรือ เมื่อผมไม่ตอบ ไคล์จึงเริ่มพูดต่อ “อย่าคิดอะไรมากนะ ผมไม่ได้คุยกับเขาเรื่องของพี่ทั้งคู่หรอก”

ผมพยักหน้า “อ่าฮะ”

“ก็” ไคล์ยักไหล่ “ผมกลัวพี่จะคิดมากน่ะ ว่าเอาเรื่องของพี่ไปคุยกับซันหรือเปล่า และทำไมผมถึงต้องคุยกับเขาสองคนอะไรแบบนั้น”

“คือ พูดจริงๆตอนแรกก็มีคิดเหมือนกันแหละ แต่ก็ไม่ได้กังวลใจอะไรนะ จริงๆ” ผมยืนยัน

“ผมรู้ แต่ผมก็แค่.......” เขาหันไปมองทางอื่นแล้วยักไหล่อีกครั้ง “ไม่รู้สิ เอาเป็นว่า ที่แน่ๆผมรู้ว่าซันรักพี่ศิลามากเหมือนกันนั่นแหละ เท่านั้นก็พอมั๊ง”

“อะไรนะ” ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด หรือถ้าพูดให้ถูก คือสิ่งที่เขากำลังจะสื่อออกมามากกว่า

ถึงใบหน้าของไคล์จะถูกซ่อนอยู่ในความมืดสลัวๆแต่ผมก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังยิ้ม “ผมเองน่ะ ก็อยากให้พี่สองคนได้ไปเที่ยวกันสนุกๆเหมือนกันนะ แต่ก็เสียดาย..........”

“เฮ้ย ไม่สิ อย่าคิดแบบนั้น” ผมรีบขัด เริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาพูดมากขึ้น เขาคงจะกังวลเรื่องนี้อยู่นี่เอง “ไปกันสามคนก็ดีแล้ว สนุกดีออก เที่ยวหลายๆคนน่ะสนุกดี อย่าคิดอะไรแบบนั้นสิครับ” ผมท้วง

“ครับ” เขาพยักหน้า

“ไคล์คิดมากเรื่องนี้เหรอ.........” ผมลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง “กลัวว่าจะไปเป็นส่วนเกินอะไรแบบนั้นน่ะนะ” แต่ไคล์ไม่ตอบ เราสองคนเงียบกันไปครู่หนึ่ง “ห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาดนะรู้มั๊ย ไคล์เป็นน้องชายของไอ้ซัน และก็เป็นเพื่อนของผมเช่นกัน ถึงเราจะยังรู้จักกันไม่นาน แต่เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนี่ จริงมั๊ย”

ไคล์หัวเราะ “ศิลานี่เป็นคนดีจริงๆนะ” เขาหันหน้ามองไปทางประตูแล้วจึงหันหลับมาหาผม “ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่แปลกใจเลยจริงๆ ว่าทำไมซันถึงได้รักพี่มากนักน่ะ” เขายิ้มและตบบ่าผมเบาๆส่งท้ายก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป

“จะไปแล้วเหรอ” ผมถามไล่หลังเขา

“อื้ม ฝันดีนะครับ”

“เช่นกันครับ”

ผมเห็นหน้าของไคล์เพราะแสงไฟจากทางเดินหน้าห้อง เขายังคงมีรอยยิ้มในแบบของเขาประทับอยู่บนหน้าจนกระทั่งเขาปิดประตูตามหลังและห้องของผมก็เริ่มกลับสู่ความมืดสลัวอีกครั้ง

หลังจากไคล์ออกจากห้องไปไม่นานซันก็กลับเข้ามาพร้อมกับของสิ่งหนึ่งในมือซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เนื่องจากความมืดมันจึงดูเหมือนกับมันจะเป็นหนังสือหรือสมุดอะไรสักอย่าง ผมถึงกับหายใจติดขัดไปครู่หนึ่งเมื่อคิดว่าหนังสือที่มันถืออยู่นี้คือหนังสือเล่มนั้นที่ผมสงสัยมานานเหลือเกินว่ามันเอาไปเก็บไว้ที่ไหน แต่เมื่อมันเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นผมจึงเห็นว่ามันไม่ใช่หนังสือเล่มนั้น แต่เป็นสมุดเล่มหนึ่ง ผมใจหายวาบอีกครั้งเมื่อคิดไปถึงสมุดของผมเอง แต่เมื่อดูดีๆก็เห็นว่าเล่มที่มันถืออยู่นั้นต่างออกไปจากของผมนิดหน่อย สมุดที่มันถืออยู่นั้นเป็นสมุดเย็บริมลวดปกแข็งที่เล่มหนากว่าและใหญ่กว่าของผมเยอะ

“เมฆ” ไอ้ซันเรียกชื่อผมและนั่งลงบนเตียง มันมองหน้าผมแว่บหนึ่งจากนั้นก็ก้มลงไปดูที่สมุดที่มันถืออยู่ในมือ “กูมีอะไรจะคุยกับมึงนิดหน่อยว่ะ”

ผมพยักหน้า “อะไรวะ”

“คือ.........” มันหยิบสมุดเล่มนั้นชูขึ้นมาให้ผมเห็นได้ชัดขึ้น มันเป็นสมุดปกแข็งที่มีหน้าปกสีน้ำตาลออกแดง ตรงกลางปกถูกตัดออกเป็นช่องลายยาวโค้งคล้ายกับรูปตัวเอส และมันถูกพันไว้ด้วยเชือกสีแดงเส้นหนึ่ง “กูอยากจะให้สมุดเล่มนี้กับมึงว่ะ”

ผมมองหน้าของมันสลับกับสมุดเล่มนั้นด้วยความแปลกใจ และขณะที่ผมกำลังจะยื่นมือออกไปรับนั้น ไอ้ซันก็ชิงพูดขึ้นมาอีก “แต่กูต้องขออะไรมึงอย่างนึง”

ผมชักมือกลับอย่างรวดเร็ว “อะไรวะ”

“มึงไม่ต้องถามกูได้มั๊ยว่านี่คืออะไร” มันชูสมุดเล่มนั้นขึ้นอีกครั้ง ปลายเชือกที่ยาวห้อยลงมาจากส่วนปมที่ถูกมัดเอาไว้เหนือรูปตัวเอสไหวไปตามแรงเขย่าของไอ้ซัน “และอีกอย่าง กูขอมึงว่าอย่าเพิ่งเปิดมันตอนนี้จะได้มั๊ย คือ อย่างน้อยๆก็ช่วงนี้”

ผมไม่รู้ว่าสมุดเล่มนั้นคืออะไร และผมเองก็อยากจะรู้ ผมไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรถูกเขียนเอาไว้บ้าง และผมก็อยากจะอ่านมัน ผมไม่รู้ว่ามันให้สมุดเล่มนี้กับผมทำไม และผมก็อยากที่จะถามมัน ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่มันทำอยู่นี้มีความหมายอะไรสำหรับผมและสำหรับตัวมันเองแค่ไหนแบบไหน และผมก็อยากที่จะรู้ให้ได้จริงๆ แต่ทว่า เมื่อได้ยินเสียงและได้เห็นสีหน้าของมันในตอนนี้แล้ว ผมก็กลับกลืนคำพูดรวมถึงคำถามทุกๆอย่างของผมลงคอไปเสียหมดและได้แต่พยักหน้ารับคำของมันเท่านั้น

“กูสัญญา กูจะยังไม่อ่านมัน” ผมรับปาก

ไอ้ซันยิ้มให้ผมและกุมมือผมเบาๆ มันยกมือของผมมาวางทาบไว้บนสมุดเล่มนั้น “กูอยากจะมอบให้มึงซะตั้งแต่ตอนนี้ แต่กูยังไม่อยากจะให้มึงอ่านมัน กูก็ไม่รู้นะว่าทำไมกูถึงต้องมอบให้มึงในขณะที่กูยังไม่พร้อมที่จะให้มึงอ่าน แต่กูเกิดกลัวว่าสักวันหนึ่งกูอาจจะไม่มีโอกาสได้ให้สิ่งนี้กับมึงก็ได้ และบางทีเมื่อมีโอกาสที่กูอยากจะให้มึง แต่กูก็กลัวมึงจะไม่อยากรับ กูเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ผมพยักหน้าช้าๆ พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่มันพูด ตอนนี้ในใจของผมก็คิดไปถึงสมุดที่ผมเขียนตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลที่ยังถูกเก็บไว้บนชั้นหนังสือในห้องของผมนั่นบ้างแล้วเหมือนกัน หรือว่าสมุดเล่มนี้จะเป็นแบบเดียวกับสมุดของผมที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะให้มันอ่านสักวันหนึ่งเพื่อสื่อความในใจตลอดเวลาที่ผ่านมาของผมกันนะ......... ผมรู้สึกหัวใจของผมเต้นแรงขึ้นอยู่ภายในอก และผมต้องบังคับความอยากรู้นี้เอาไว้ให้ได้ ผมสัญญากับมันแล้วว่าจะไม่เปิดอ่านมันจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร..............

“.........แล้วเมื่อไหร่กูถึงจะอ่านได้ล่ะ” ผมสงสัย

“บอกตามตรง......... กูก็ไม่รู้หรอก” ไอ้ซันหยุดไปครู่หนึ่งและมองจ้องเข้ามาในดวงตาของผม บางอย่างในแววตาของมันสะท้อนความเศร้าที่ผมยังไม่อาจเข้าใจได้  “แต่กูคิดว่า เมื่อเวลามาถึง มึงก็จะรู้และอยากเปิดอ่านมันเองนั่นแหละ”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:26:55 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
มีลางเศร้ามาแต่ไกลเลยวุ้ย  :m17:  :m17:

sun

  • บุคคลทั่วไป
:m21:   เอ่อ.. รู้สึกเหมือนได้กลิ่น อะไร แปล่งๆ มาแล้วอ่ะ    :m28:


เมื่อไหร่ เมฆจะได้อ่าน สมุดเล่มนั้นซะทีล่ะ

ซันรออะไรเหรอ งึมงำๆๆ ในสมุดเล่มนั้น  วันเขียนอะไรไว้หว่า???     o16

ชวนคิดๆ    :a6:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 19 (เรื่องเล่าของฟ้าคราม : ความในใจของท้องฟ้า)

ผมนอนลืมตาในความมืดอีกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้ แต่สัมผัสและความอบอุ่นจากคนที่นอนอยู่ข้างๆก็แผ่ซ่านเข้ามายังหัวใจของผมทำให้ผมได้รู้ ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากเท่าไร และแท้จริงแล้วตัวตนและความรู้สึกของผมนั้นเป็นเช่นไร.............


เมฆ มึงรู้จักกูดีเหลือเกิน มึงน่าจะเป็นคนๆเดียวนอกเหนือจากพ่อแม่ของกูที่รู้จักกูดีขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่มึงเคยรู้เรื่องพวกนี้บ้างมั๊ย...........

กูน่ะเป็นคนขี้รำคาญ และเป็นคนไม่ค่อยพูดนัก กูเชื่อว่าถ้าเราบริสุทธิ์ใจและยึดมั่นกับความคิดของตัวเอง คนอื่นๆก็จะเข้าใจความคิดของเราได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องพูดต้องบรรยายความรู้สึก ไม่จำเป็นต้องพร่ำเพ้อสิ่งต่างๆออกไปสาธยายเพื่อทำให้คนอื่นๆเข้าใจให้เสียเวลา

กูเชื่อว่ากูสามารถที่จะก้าวเดินไปในเส้นทางของกูได้ด้วยตัวเองถ้ากูมีความมั่นใจและแข็งแกร่งเพียงพอ กูไม่ต้องการความเห็นใจจากคนอื่นๆ กูไม่ต้องการให้ใครมาเข้าอกเข้าใจ กูเคยไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนอื่นๆถึงต้องเป็นทุกข์เมื่อเห็นคนรอบข้างมีปัญหาที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว กูไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราต้องรับเอาปัญหาของคนอื่นมาใส่ตัวด้วยในเมื่อเราเองก็มีปัญหาให้ต้องรับมือมากพออยู่แล้ว

กูคิดว่ากูสามารถที่จะวิ่งด้วยสองขาของกูไปได้ไกลตราบเท่าที่กูต้องการ ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะอยู่ไกลแสนไกลเพียงใด กูเชื่อว่ากูสามารถทำได้ และกูก็จะทำมันให้ได้ด้วยตัวผมเอง

แต่นั่นคือตัวกูก่อนที่จะได้มาพบกับมึง

มึงคือคนที่แตกต่างกับกูอย่างสิ้นเชิงในแทบจะทุกๆเรื่อง ไม่ว่ากูจะหันไปมองเห็นมึงกี่ครั้งๆ มึงก็จะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอยู่เสมอจนกูสงสัยว่าคนเรามันจะยิ้มและหัวเราะกับคนอื่นได้มากขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าไม่ใช่ว่านั่นคือหน้ากากที่มึงกำลังสวมใส่อยู่เป็นประจำ

และที่แย่ไปกว่าสิ่งอื่น นั่นก็คือจุดนั้นเองที่ทำให้กูรู้สึกว่ามึงกับกูก็มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่อย่างหนึ่ง....... การใส่หน้ากาก

กูรู้สึกไม่ชอบมึงขึ้นมาในทันที

แต่แล้วหลายๆสิ่งก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราสองคนทั้งๆที่เคยต่างคนก็ต่างไม่ชอบหน้ากันกลับมีเหมือนกับแรงดึงดูดแปลกๆบางอย่างให้ยิ่งเข้าหากัน ให้ยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กูได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากขึ้นจากมึง อย่างน้อยๆก็รู้ว่าการที่มึงหัวเราะร่าเริงกับทุกๆคนนั้นไม่ใช่การสวมใส่หน้ากาก แต่เป็นเสียงหัวเราะที่มาจากใจจริง มาจากความสุขส่วนลึกที่มึงต้องการจะแบ่งปันให้แก่คนอื่นๆ........ รวมทั้งแก่กูด้วย

น่าแปลกนะ ไม่ว่าคนอื่นจะเข้ามาเล่นมาหัวเราะกับกูขนาดไหน กูก็ไม่เคยรู้สึกได้เหมือนกับสิ่งที่มึงนั้นมีให้กับกูเลย พูดแบบนี้มันก็น่าอายนะ เพื่อนฝูงมากมายที่มาห้อมล้อมกูอยู่ต่างก็รักและสนุกที่จะได้อยู่กับกูทั้งนั้น แต่ไม่รู้ทำไม ทำไมกูถึงรู้สึกว่ามันก็ยังมีบางอย่างที่แปลกไปจากมึง เมฆ......... ความรู้สึกหรือความหมายอะไรบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกภายใต้รอยยิ้มของมึงมันแปลกไปจากรอยยิ้มอื่นๆที่กูเคยได้รับมาไม่ว่าจากใครๆตลอดทั้งชีวิตของกู

กูชอบรอยยิ้มของมึงที่สุด

คือ....... ถ้าจะพูดว่าสิ่งแรกที่กูประทับใจและทำให้กูหลงรักมึงก็คงเป็นรอยยิ้มของมึงล่ะมั๊ง
พอมานึกๆดูถึงได้รู้ว่ากูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยจริงๆว่ะ

มึงสอนให้กูรู้จักเรียนรู้จิตใจของกูเอง มึงสอนให้กูรู้จักรอยยิ้มของกู และมึงสอนให้กูรู้จักกับคำว่า “ความรัก” มึงสอนให้กูรู้จักความรักที่กูไม่จำเป็นต้องได้ครอง มึงสอนให้กูรักคนอื่นบ้างนอกเหนือจากตัวเอง และมึงยังคอยย้ำเตือนให้กูเห็นความสำคัญของการที่ “ถูกรัก” ด้วย

มึงทำให้กูรู้จักคำว่า “รัก” ผู้หญิงคนหนึ่งจากใจของกูจริงๆเป็นครั้งแรก

แต่เสียดาย เมฆ น่าเสียดายที่กูไม่ได้ “ถูกรัก” อย่างที่มึงเคยพูดเอาไว้........ และมันก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้กูต้องพบกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของกู

กูเสียใจ ที่เธอคนนั้นไม่รักกูอย่างที่กูรักเขา กูเสียใจ ที่ทำไมกูถึงต้องไปรักเขาด้วย กูเสียใจ กูผิดหวัง และกูโกรธ ที่กูดันไปเชื่อในสิ่งที่มึงพูดในสิ่งที่เขาสอนให้กูเรียนรู้ และที่สำคัญ กูโกรธตัวเองที่ต้องมาเปลี่ยนไปก็เพราะมึง กูเพิ่งรู้ว่าตัวว่ากูได้เปลี่ยนเป็นคนละคนจนกูเองก็เพิ่งรู้สึกได้ก็เพราะมึงนั่นแหละ และกูเริ่มจะรู้สึกไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เสียแล้ว

แต่ความรู้สึกนั้นก็มีอยู่ไม่นานเมื่อทิฐิของกูมันถูกหลอมละลายไปด้วยผู้คนรอบข้างที่มาเยี่ยมกู ความรักความห่วงใยที่พ่อแม่และทุกคนมอบให้กูมันทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองมันช่างงี่เง่าเสียจริงๆ นี่ไง กูกำลัง “ถูกรัก” อยู่ อย่างที่มึงพูด อย่างที่มึงเคยพูดไว้ทุกอย่าง......... กูคือคนที่ถูกรักเช่นกัน

กูเลิกโกรธ เลิกเสียใจ และเลิกผิดหวังกับคนที่ทำให้กูต้องมาเป็นแบบนี้และผมเลิกรู้สึกแบบนั้นกับตัวกูเองด้วยเช่นกัน

มึงคือคนที่ช่วยชีวิตของกู ช่วยทั้งชีวิต และวิญญาณของกู มึงคือคนที่ทำให้กูรู้ว่าการเสียสละ และการได้ช่วยเหลือผู้อื่นมันสำคัญขนาดไหน

มึงคือคนที่รักกู

ถ้าไม่มีมึง ก็คงไม่มีกูในวันนี้

มึงคือก้อนเมฆที่กูเฝ้ารอคอยให้มาลอยอยู่เคียงคู่กับกูแบบนี้มานานแสนนานโดยที่กูไม่เคยรู้ตัว ถ้ากูคือท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ท้องฟ้าที่เชื่อว่าตนเองสามารถบงการและทำอะไรก็ได้ดั่งใจต้องการ มึงก็คือก้อนเมฆที่คอยช่วยย้ำเตือนว่ากูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวและไม่จำเป็นที่จะต้องมุ่งมั่นและดื้อดึงไปเสียทุกๆอย่างแบบที่กูเคยเป็น

กูมันหยาบกระด้างและด้านชา เป็นสีฟ้าที่ถูกป้ายออกไปให้ดูยิ่งใหญ่อย่างไร้ความบรรจง
แต่มึงคือความสวยงาม เป็นสีขาวที่นุ่มนวลและอ่อนโยน เป็นความสวยงามที่เกิดขึ้นโดยที่คนหลายคนมักจะมองข้ามไป

มึงคือคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าท้องฟ้านั้นจะสวยงามได้แค่ไหนและจะสวยงามไปเพื่ออะไร......... เพื่อใคร
และกูก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่มองข้ามมึงไปด้วยเช่นกัน

กูยังไม่แข็งแรงพอ กูหลงทาง กูทำร้ายตัวเองและคนที่กูรัก เพียงแค่ว่าเพราะกูอยากทำ เพียงแค่ว่าเพราะกูอยากจะปฏิเสธสิ่งดีๆหลายๆอย่างที่กูเคยรับเข้ามาด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลเช่นว่า “กูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว”

และสุดท้าย กูก็กลายเป็นพระอาทิตย์ที่หลงทาง แน่นอนว่ากูไม่สามารถฉายแสงได้ในความมืด และตอนนั้นกูไม่แม้แต่สามารถส่องสว่างได้ในยามกลางวัน

กูกลายเป็นท้องฟ้าที่พิการ กูปฏิเสธก้อนเมฆ กูไม่ต้องการมัน กูไม่ต้องการใครนอกจากคนที่กูต้องการจะครอบครอง กูกลายเป็นท้องฟ้าที่ไม่สวยงามและไม่มีใครแหงนมองดู แต่คนๆเดียวที่ยังคงแหงนหน้ามองดูกูอยู่ก็คือมึง ก้อนเมฆที่ถูกกูผลักไสออกไปจนเป็นเม็ดฝนร่วงหล่นสู้พื้นดิน มึงที่เป็นก้อนหินที่ถูกกูทอดทิ้งให้อยู่เดียวดายบนพื้นดินที่แข็งและแห้งแล้งนั่น มึงอาจจะไม่รู้ แต่ตอนนั้นทุกครั้งที่กูมองเห็นมึงกูจะรู้สึกเจ็บแปลบที่ภายในอก จนกูคิดว่าต่อมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของกูมันเริ่มจะกลับมาทำงานอีกครั้งล่ะมั้ง กูจึงเลิกทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ดีกับตัวกูไปจนหมดและเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง..........

กูค่อยๆเริ่มต้นใหม่อีกครั้งโดยที่มึงอาจจะไม่รู้............

กูคิดในใจว่ากูจะเริ่มต้นนับหนึ่งไปพร้อมๆกับมึง

ถึงกูจะพยายามปฏิเสธตัวเองมามากขนาดไหนก็ตาม แต่กูก็รู้แล้ว ว่ากูรักมึง กูเองก็รู้ว่ามึงก็รักกูเช่นเดียวกัน เพียงแต่มันไม่ถูกต้อง มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ กูไม่ควรจะหลงรักเพื่อนของตัวเอง กูไม่ควรจะหลงรักผู้ชาย

กูสับสน กูเสียใจ กูโกรธตัวเองที่กูไม่สามารถหยุดคิดแบบนั้นได้ กูรักมึง กูอยากให้มึงมาเป็นก้อนเมฆที่ลอยอยู่เคียงคู่กับกูไปตลอด กูไม่อยากจะอยู่คนเดียวอีกแล้ว กูขาดมึงไปไม่ได้

แต่สิ่งนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง!

และท้ายสุดแล้ว....... กูก็ต้องไป

มันไม่มีทางเลือกสำหรับกู กูทั้งโกรธแบบที่ไม่เคยโกรธใครเท่านี้มาก่อน กูทั้งเสียใจ และเสียใจมากขึ้นมากขึ้น มากจนถึงขนาดที่อยากจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าทุกๆคน ประกาศให้ใครๆได้เห็นว่าแท้จริงแล้วกูมันอ่อนแอแค่ไหน ให้มันรู้กันไปเลยว่าจริงๆแล้วตัวกูมันน่าสมเพชเช่นไร และมึงรู้มั๊ย กูเจ็บมากกว่าครั้งไหนๆในชีวิตที่กูเคยเจ็บ เจ็บจนแทบอยากจะกรีดร้องออกมาและเดินไปต่อยหน้าใครหรือทำร้ายใครก็ได้ให้มันเจ็บเท่าๆกับที่กูเจ็บ

แต่กูก็ไม่ได้แสดงออกอะไรออกมาเลย
กูถูกสอนให้เก็บความรู้สึกของกูเอาไว้ข้างใน และกูก็คงยังเคยชินกับการทำแบบนั้นอยู่เหมือนกัน

กูเป็นเหมือนภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุแต่ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างอุดเอาไว้ทำให้ภายในของกูมันคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา

กูทำอะไรกับตัวเองไม่ได้เลย กูได้แค่ต้องเก็บมันเอาไว้ในใจและคิดเสียว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนไร้ทางออกแบบกูแล้วก็ได้

กูจะต้องออกเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกลและก็คงจะไม่มีวันได้เจอและใช้ชีวิตร่วมกับมึงแบบนี้อีก

กูจำต้องโกหกต้องปิดบังมึงเอาไว้เพราะกูเกรงว่าถ้ากูพูดออกไป กูเองที่จะเป็นฝ่ายต้องเจ็บและเสียใจ กูกลัวว่ากูเองที่จะเป็นคนต้องร้องไห้และเสียน้ำตา แม้กูจะรู้อยู่แก่ใจว่ามึงจะต้องโกรธและเกลียดกู แต่กูก็จำต้องยอม เพราะกูรักมึง เมฆ กูรักมึง! ถึงกูไม่อยากจะเห็นมึงเสียใจ แต่ก็เพราะว่ากูรักมึงมากเหลือเกิน กูจึงทำในสิ่งที่กูคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้........... แม้ว่ากูจะต้องเสียใจหรือถูกเข้าใจผิดแค่ไหนก็ตาม

แต่ท้ายที่สุดกาลเวลาก็ไม่ช่วยอะไรเลย มันไม่ช่วยเยียวยากูได้เลยแม้แต่น้อย และมันก็คงไม่ได้ช่วยเยียวยามึงได้ด้วยเช่นกัน เราทั้งคู่ห่างเหิน กูเสียใจ มึงเสียใจ แต่มันไม่มีทางออก นั่นเป็นเพียงครั้งเดียวและครั้งแรกนับแต่กูได้รู้จักมึงที่กูคิดตัดสินใจทำอะไรลงไปเพื่อตัวกูและคนที่กูแคร์ด้วยความคิดของกูเพียงคนเดียว เป็นสิ่งที่กูมั่นใจว่ามันควรจะต้องเป็นแบบนี้......... แต่ทำไมกูถึงต้องรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองอยู่ในทุกๆวันด้วยนะ

วันหนึ่งกูหันไปเห็นหน้ามึงที่กำลังยิ้มและหัวเราะอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ กูรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในอกทันที กูหวนนึกไปถึงวันแรกที่กูได้เจอกับมึง รอยยิ้มของมึงแบบวันนั้นมันไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว มึงกลายเป็นคนที่มีรอยยิ้มเหมือนกับคนอื่นๆทั่วๆไปที่อยู่รอบกายกูไปเสียแล้ว กูทำมึงสูญเสียรอยยิ้มไปแล้ว............

กูนั่งนิ่งมองรอยยิ้มของมึง รอยยิ้มที่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่รอยยิ้มของมึง จนน้ำตาของกูมันเริ่มไหลออกมา
กูรีบปาดน้ำตาทิ้งแล้ววิ่งไปเล่นหัวกับเพื่อนคนอื่นเพื่อที่จะได้ลืมรอยยิ้มของมึงและลืมความเจ็บแปลบภายในอกของตัวกูเอง

วันนั้นกูหัวเราะเสียงดังกว่าในทุกๆวันเลย

แต่แล้วสุดท้ายกูก็ต้องร้องไห้ออกมาในที่สุด น้ำตาที่กูทนเก็บไว้มานานแสนนานจนกูจำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่มันถูกหลั่งออกมาเมื่อยามที่กูเห็นมึงนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง เมื่อช่วงเวลาที่กูได้อยู่กับมึงสองคน ใบหน้ายามหลับที่ฟกช้ำเต็มไปด้วยรอยแผลนั้นทำให้กูต้องร้องไห้ออกมาจนแทบจะหยุดไม่ได้ ตอนนั้นกูมีของขวัญมามอบให้มึงด้วยนะ แบบเดียวกับที่มึงตั้งใจจะมอบให้กูนั่นล่ะ มันเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราสองคนต้องกลายเป็นแบบนี้ มันเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิตหรือไรที่ทำให้เรามีชื่อพ้องกัน ทำให้เราคิดและมีความตั้งใจอะไรเหมือนๆกัน มึงมีหนังสือเล่มนั้นที่ตั้งใจจะมอบให้กู แต่มึงก็ไม่สามารถทำได้ กูเองก็มีหนังสือชื่อเดียวกันที่ตั้งใจจะให้มอบมึง แต่มึงก็ไม่สามารถรับมันไปได้...........

กูคิดว่ากูรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าถึงเราสองคนจะต่างกันเหลือเกิน แต่เราก็มีอะไรที่คล้ายกันอยู่มากจนแทบไม่น่าเชื่อ

กูพูดกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามึงคือคนที่จะเกิดมาเพื่อคู่กับกู กูไม่อยากจะเสียมึงไป กูรู้ตัวแล้วว่ากูมันช่างเป็นคนที่งี่เง่าที่สุดในโลกที่ทำร้ายคนที่กูรักได้ลงคอซ้ำแล้วซ้ำเล่า และที่สำคัญ กูโทษตัวเองที่กูไม่น่ารู้สึกสับสนเลย.......... กูรักมึง แล้วอะไรมันจะสำคัญไปกว่านี้อีก จำเป็นด้วยหรือที่กูจะต้องสนใจว่ามึงคือเพื่อนของกู จำเป็นด้วยหรือว่ามึงคือผู้ชาย และจำเป็นด้วยหรือ........ ว่าอีกไม่นานกูจะต้องจากมึงไปไกล

กูรักมึงมาก และกูรักมึงมาจากส่วนที่ลึกที่สุดในใจของกูเลย

แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับทุกๆอย่าง ถ้าเพียงแต่กูซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมากกว่านี้และเร็วกว่านี้สักหน่อยแค่นั้น......... มึงก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้

ถ้าการที่กูได้พบกับมึงคือพรหมลิขิต แล้วทำไมฟ้าต้องเล่นตลกแบบนี้กับเราสองคนด้วย

กูเฝ้ารอ........ รออยู่นานเหลือเกิน แต่กูก็ยังคงเฝ้ารออยู่ทุกๆวันเพื่อที่จะพูดกับมึงด้วยปากของกูเองว่ากูรักมึงและอยากจะขอโทษมึงมากแค่ไหน แต่สุดท้าย โชคชะตาก็ลงโทษกูให้ต้องจากมึงไปแม้ว่ามึงจะยังไม่สามารถรู้ถึงความรู้สึกของกูได้ก็ตาม

เป็นเหมือนตลกร้ายที่น่าเจ็บปวดนะ เราได้เจอกันง่ายดายเหลือเกิน จะทะเลาะกันก็ง่าย จะคืนดีกันก็แปบเดียว
แต่ทำไม..... ทำไมวะ ทำไม!
อีกแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่วันเท่านั้นเอง! สวรรค์จะมอบเวลามาให้กูกับมึงอีกแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อให้กูได้อยู่ต่อกับมึงในวันที่มึงฟื้นขึ้นมา หรือช่วยทำให้มึงฟื้นขึ้นมาเร็วกว่านั้นสักหน่อยไม่ได้เชียวหรือ!!

เราสองคนช่างถูกเล่นตลกกันมากมายหลายหนเหลือเกินเนอะ

แต่กูเองก็ต้องก้าวเดินต่อไปแม้จะเจ็บปวด และมึงเองก็คงต้องอยู่ต่อไปอย่างเจ็บช้ำ กูไม่อยากให้มึงต้องเป็นแบบนั้นเลย แต่ถ้านี่จะเป็นการลงโทษของท้องฟ้าที่ทำให้กูต้องเจ็บปวดมากขึ้นไปอีกที่ต้องรู้ว่ามึงต้องอยู่อย่างเสียใจไปตลอดล่ะก็.......... กูก็คงต้องยอมรับมันเพราะมันเป็นความผิดของกูเองตั้งแต่ต้น

มึงไม่รู้หรอก ว่าการที่มึงต้องอยู่อย่างเศร้าเสียใจนั้นมันทำให้กูที่อยู่ห่างจากมึงไปครึ่งโลกต้องจมอยู่กับความรู้สึกที่ปวดร้าวไม่น้อยกว่ามึงมากแค่ไหน

ถ้าความรักของเรามันเป็นไปตามครรลองนั้นไม่ได้ กูก็คงต้องยอมรับมันเพราะไม่มีอะไรที่กูจะทำเพื่อมึงได้อีกแล้ว กูทำพลาดไว้มากเกินไป กูคงไม่คู่ควรกับมึงอีกต่อไป เพราะฉะนั้นต่อจากนี้กูจะตัดใจและก้าวเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง ถึงแม้กูจะไม่มีมึงอยู่ข้างกาย แต่ความทรงจำและทุกๆสิ่งที่กูได้เรียนรู้มาจากมึงก็ยังคงอยู่ในใจของกูมาตลอดและจะคงอยู่ต่อไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...........

กูเป็นท้องฟ้าที่นิสัยไม่ดี กูเป็นพระอาทิตย์ที่เอาแต่ใจ แต่กูเองก็เป็นแค่คนๆหนึ่งที่รู้จักรักและรู้จักเจ็บ รู้จักเรียนรู้และจดจำ กูไม่สามารถจะทำให้คนที่กูรักมีความสุขได้ กูก็ไม่คู่ควรจะที่ใช้ชีวิตต่อไปโดยมีความสุขอยู่คนเดียวเช่นกัน แต่ถ้าหากก้อนเมฆของกูรู้ว่ากูต้องอยู่อย่างไร้สติและไร้ความคิดแบบนั้นล่ะก็ เขาต้องไม่ชอบใจแน่ๆ ใช่มั๊ย เพราะอย่างนั้นถึงกูจะไม่มีมึงอยู่ข้างกาย ถึงแม้ว่ากูจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของมึงอีก และถึงกูจะต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงมึง แต่กูก็บอกตัวเองว่ากูจะคิดถึงมึงในทุกๆเวลาที่กูเหม่อมองท้องฟ้า กูจะนึกถึงมึงในทุกๆครั้งที่เห็นรอยยิ้มของคนที่อยู่รอบกาย และกูจะเติบโตต่อไปแม้ว่ามึงจะไม่ได้อยู่ข้างกายของกูก็ตาม............ เพราะว่ามึงนั้นอยู่ในใจของกูไปเรียบร้อยแล้ว เมฆ


.
.
.


ทว่าท้องฟ้าที่ขาดเมฆนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก ถึงบางครั้งฟ้าสีครามจะโปร่งโล่งไร้หมู่เมฆลอยอยู่เคียงข้าง แต่ว่าอีกไม่นาน ก้อนเมฆก็จะกลับมาอยู่ในที่ๆของมันอยู่ดีนั่นเอง

กูแทบไม่อยากจะเชื่อ เมื่อรู้ว่าก้อนเมฆของกูก็จะออกเดินทางมาตามหาท้องฟ้าเช่นเดียวกัน

โอเค กูยอมรับว่าหลงตัวเองไปหน่อยที่คิดว่ามึงนั้นจะมาหากู

เวลาเกือบหนึ่งปีนี้มันนานก็จริง อะไรหลายๆอย่างมันก็คงเปลี่ยนไป ทั้งกูและมึง โดยเฉพาะกูเองนั้นที่เปลี่ยนไปมากเหลือเกินจนบางครั้งกูรู้สึกได้เลยว่ากูนั้นมีมึงซ้อนทับอยู่จนจะเกินครึ่งตัวเข้าไปแล้ว กูเริ่มคิดแบบมึง เริ่มเข้าใจสิ่งที่มึงเคยเป็นและเคยพูดเอาไว้มากขึ้น จนแม่กับพ่อของกูยังสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของกูเลย

และตอนนี้มึงที่ทำให้กูเป็นแบบนี้ก็กำลังนอนอยู่เคียงข้างกับกูอีกครั้ง

ถึงช่องว่างมันอาจจะกว้าง ถึงกูจะไม่รู้ว่ามึงนั้นคิดอย่างไรอยู่ ถึงมึงจะไม่รู้ว่ากูนั้นคิดอย่างไรอยู่ ถึงกูจะเคยผ่ายอุปสรรคและความผิดพลาดบางอย่างมา ถึงมึงจะเคยผ่านความโศกเศร้าและต้องต่อสู้กับอะไรมากมายเพียงใดมา และถึงเราสองคนจะต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เป็นการนับหนึ่งที่เราสองคนจะเริ่มนับไปพร้อมๆกัน

กูจะให้โอกาสแก่เวลาอีกครั้ง....... เวลาที่จะเยียวยาทุกสิ่งทุกอย่างและลบเลือนบาดแผลของเราสองคนให้จางหายไป

กูหวังว่ามึงจะรักผมมากพอที่จะให้อภัยกู และกูเองก็หวังว่ากูจะรักมึงมากพอที่จะเริ่มต้นพูดความจริงกับมึงได้ทุกๆเรื่องไม่มัวแต่ปิดบังทำพลาดเหมือนเมื่อครั้งในอดีตและต้องทำให้เราทั้งคู่เจ็บช้ำอีก

กูหวังจริงๆนะ เมฆ ว่ากูจะรักมึงและเข้มแข็งได้มากพอไปพรอ้มๆกัน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มึงต่างหากที่เป็นคนที่เข้มแข็งเหลือเกินสำหรับเราสองคน

แต่ว่าในตอนนี้ คืนนี้ที่กูมองเห็นมึงนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกายกู กูก็ไม่หวัง และไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว

แค่ได้นอนมองดูมึงที่กำลังนอนหลับตาอยู่ข้างๆในความมืดนี่ก็เพียงพอที่จะทำให้กูรู้ว่า ชีวิตของกูนั้นมันยังอีกยาวไกล และในเส้นทางเดินนั้นกูจะฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อให้มีมึงนอนอยู่กับกูแบบนี้เรื่อยไปตราบนานเท่านาน...............

.
.
.


ท้องฟ้าอาจจะเปลี่ยนสีไม่เคยซ้ำไม่ว่ายามเช้า กลางวัน เย็น หรือ ยามมีพายุ มีหิมะ ลมแรง หรือยามฝนตก
แต่ผมหวังว่าเขาจะรู้ว่าผมนั้นรักเขาคนเดียวจริงๆแบบนี้ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือในช่วงเวลายากลำบากเพียงใดก็ตาม

ผมเป็นคนพูดไม่เก่งและแสดงความรู้สึกออกมาไม่ได้เรื่อง แต่ผมคิดว่าผมเองก็คงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกไปอีกแล้ว เพราะตอนนี้ผมขอแค่เพียงสิ่งเดียว................


“ขอให้หลับฝันดีนะ ก้อนเมฆของกู แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้ กูกับมึงจะออกเดินทางไปพร้อมๆกัน”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2007 16:27:45 โดย ExecutioneR »

kissazazel

  • บุคคลทั่วไป
อ่านะ พอได้อ่านตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนว่าความเศร้าค่อยๆ เข้ามาเลยอะ

อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย -*-

อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกของซันมากขึ้นเยอะเลยอะครับ

อาจเป็นเพราะปกติมักจะเป็นมุมมองของเมฆ

เลยทำให้ไม่ค่อยรับรู้ความรู้สึกของซันเท่าไหร่

 ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แต่งอะไรดีๆ มาให้อ่านกัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด