ลมเหนือที่รัก
ตอน48
------------------
Lom’s
วันรุ่งขึ้น ...วันเสาร์
“ใส่เสื้อ นะครับ”
ผมเงียบเฉย มองเสื้อแขนยาวสีขาวครีม ที่ฮู๊ดมีระบายขนนุ่มสีขาวฟูฟ่อง ถ้าอากาศเย็นๆก็น่าอยู่หรอก แต่ตอนนี้อารมณ์บ่จอยสุด ๆ
ก็เล่นป่วนตั้งแต่ลืมตาตื่นกันเลย ---จะไม่ยอมตื่น อ้อนให้นวดตัวให้ นี่จะ 10 โมงแล้ว นัดแม่ไว้ 11จะพาไปคุยเรื่องเซ้งร้านที่ห้าง Cen นัดคือนัด เรื่องสายไม่ใช่นิสัยผมเด็ดขาด
“ลมคร้าบ นวดให้หน่อย ...เอานิ่มๆ” นิ่มบ้าไรเล่า เมื่อคืนแทงกันกี่รอบ เจ็บช่วงล่างระบมไปทั้งตัวแบบนี้ยังจะเอาแต่ใจอีก
ผมลุกอาบน้ำ แต่งตัว กำลังจะเดินลงไปข้างล่าง ไอ้นกกระปูดหัวฟูวิ่งมาขวางประตู
“น่า นะครับ รอพี่แป๊บนึง ไปหาคุณแม่ด้วยกัน” ยังจำได้เน๊าะคนเรา ...กอดหอมจนช้ำ ผมปล่อยให้ทำจนหนำใจ ยกนาฬิกาข้อมือที่คนนี้ซื้อให้ขึ้นมอง
“อีก15 นาทีไม่เห็นที่ประตู ลมออกไปทันที” เงียบแฮะ หยุดสูดเส้นผมที่ศรีษะทำท่าคิดหนัก
“คร๊าบบบบบ---ตามสั่งคร๊าบ” วิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำ ประตูก็ไม่ปิด
"........" ดี ให้มันรู้เรื่องมั่ง
“ลมจ๋า หยิบเสื้อให้หน่อยยยย...” ตะโกนจากในห้อง ผมปิดประตูปังแทนคำตอบ ไม่สน อยากทำไร---เชิญ!!!
ลงมารอโซฟาข้างล่างยิ่งกริ้วจัด เก้าอี้แบบม้านั่งยาวเดย์เบดตัวใหม่เอี่ยมของมัน สีขาวมุกออกครีม ตั้งใกล้ผนังกลับโดดเด่นท่ามกลางโซฟาสีดำ
มัน---มีคราบเปื้อน เลอะแห้งแข็ง สีขาวขุ่นๆ ผ้าที่เบาะเป็นด่างดวง...พร้อย!
ผม---มึนหัวตึบ ปวดท้องน้อยขึ้นมาเฉยๆ เมื่อคืนเสร็จสมอารมณ์หวงที่ผมป้อนไอติมคนอื่น โดนล่อที่เก้าอี้ตัวนี้ 3 รอบ หิ้วขึ้นไปในห้องน้ำข้างบนจะต่ออีกดอก ผมไม่ยอม บอกฟ้าเหลืองไม่มีแรงทำธุระพรุ่งนี้จะไม่ยอมคุยด้วยเลยยอมแบบงอนๆ อัดรอยที่คอพร้อยแทน...ไอ้ตุ๊กแกเอาแต่ใจ!!!
...ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม ภาพซ้อนในหัวตามมาอายตัวเอง
เดินดุ่มเข้าห้องน้ำ ลำคอเรื่อยลงมาถึงทรวงอก ปรากฎรอยคิสมาร์คชัดเจน
---แค้น ต้องดัดนิสัยหน่อยแล้ว
2-3 สัปดาห์ก่อนช่วงปิดเทอม ไปขลุกอยู่บ้านพี่เจฟฟรี่ตลอดวันยังทำให้อดได้เป็นอาทิตย์ คราวนี้ก็ต้องได้ซิน่า---ผมคิดแผนการ
(ไว้เล่าตอนว่างๆ ผมทำอีท่าไหน

!!!)
.....................................
...........................................
“แต่งตัวแบบนี้ได้ไง ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก่อน!” กันผมไม่ให้เปิดประตู ดันตัวจะลากขึ้นไปข้างบน
“ทำไมล่ะครับ” เสื้อยืดขาวรัดพอดีตัวนิดๆ แต่คอวีลึกเห็นรอยที่ทิ้งไว้ชัดเต็มตายิ่งกว่าพลาสมา LCD
“ก็จะไปหาคุณแม่ ต้องไปคุยธุระที่ห้างด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“...ครับใช่” ยังเนียนทำหน้าเหรอหรา ตรูผิดตรงไหนจ๊ะ
“พี่ว่าเปลี่ยนเสื้อดีกว่านะครับ” ตัวเองเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มเริ่มอยู่ไม่สุข
“เร็วเถอะครับ สายแล้ว ไม่อยากพลาดนัด” ผมยิ้มแกล้งเร่ง คราวนี้งุ่นง่านชัด
“...งั้นรอนี่” วิ่งเป็นจรวดขึ้นไปชั้น 2 เสียงโครมคราม กระหืดกระหอบลงมาพร้อมเสื้อสีขาวครีมๆ ขอบฮู๊ดมีขนฟูฟ่องสีขาว
...ทำไมจะจำไม่ได้ ตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ผมใส่จับปลาในห้องนอนนั่น แค้นฝังหุ่นตามมาหยามให้เห็นอีก
ขึ้นรถได้ดันเปิดแอร์เย็นจัด ผมหลับตาหลบลมเย็น ....เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
-----------------------------------------------------
ตื่นเพราะถนนขรุขระทางเข้าหมู่บ้านพอดี แอร์ในรถแทบเรียกว่าปิดไปเลยก็ว่าได้ อ้อ---บนตัวมีเสื้อเจ้ากรรมนายเวรคลุมอยู่ เฮ้อ---คงหนีไม่พ้นละมั้ง
ชะลอรถ ...ฝ่ามือใหญ่นิ้วยาวสวยอังหน้าผาก
“ใส่เสื้อนะครับ ...พี่เหยี่ยวเป็นห่วง” เสียงนุ่มชวนละลาย ผมเสมองทาง เห็นรั้วบ้านลิบๆ ถอนใจ หยิบเสื้อมาสวม
"..........." เฮ้อ...
“ไอ้บิ๊ก---มึงงง...cayenne กู!” ฮึ่มฮั่มในรถ ผมกลั้นหัวร่อ มัวแต่ติดกระดุมเสื้อให้ไม่เปิดประตูลงไปซะที
บรรดาลูกสมุนรายล้อมไม่เห่ากรรโชกแต่ครางหงิงๆ กระดิกหางรอรับสลอน ตัวหัวโจกห้าวๆ กำลังตะกุยประตูรถ
โผล่หน้ามายิ้มเผล่ลิ้นแดงแจ๋ ต้อนรับ !!!
รถยนต์คันใหญ่ยักษ์คันนี้ ผมเป็นตุ๊กตาหน้ารถช่วงไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล บอกคันใหญ่จุคน จุของได้เยอะ ตอนเย็นก็เอาไว้รับส่งน้าอรกับน้องผู้หญิงและบรรดาเพื่อนแม่ที่ไปเยี่ยมคราวผ่าตัดซีสต์-ขวัญบินนั่น
มิน่า...พวกไอ้สี่ขาถึงจำได้
นึกสงสัย ...ไปญาติดีกับนกกระปูดทรงผมสุดเท่ห์ตอนไหน ทุกทีแฮ่ๆ ใส่กันไม่มียอมทั้งคนทั้งหมา
“ลูกลมของแม่...” มากอดหอมถึงหน้าบ้าน ยังไม่ลงจากรถดีด้วยซ้ำ ความคิดถึง ความรักความอบอุ่นซึมผ่าน โอบกอดแม่จนพอใจถึงได้เข้าบ้าน
..................................
............................................
ตอนนี้บ้านผมมีน้องมาเพิ่ม เบ็ดเสร็จมีผู้หญิงนับคุณแม่ด้วยก็รวมกัน 8 คน ในบ้านเต็มไปด้วยสิ่งของแต่จัดเป็นระเบียบหมวดหมู่ อุตสาหกรรมในครัวเรือนของแท้ เห็นแล้วชื่นใจ คุณแม่ลงมือทำจริง และดูมีความสุขมาก คุยโม้ตลอด 10-15 นาทีที่ลงจากรถแล้ว ท่าทางต้องฟังยาวแน่ ผมคิดขณะเข้าไปนั่งในรถจะออกไปห้าง Cen
วันนี้คนตัวสูงหล่อเหลาแบบนักธุรกิจมาดเท่ห์ กำลังจูงคุณแม่มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ porche คันใหญ่ ให้ผมกับน้องผู้หญิงนั่งเบียดอยู่เบาะหลัง
‘ปิ๊นๆๆ’ รถเบนซ์คันใหญ่สีบอร์นโฉบเข้ามา
“...พี่กาย?” เป็นพี่กายที่เปิดประตูลงมาหา ยกมือไหว้คุณแม่ มองเข้ามาเห็นผมในรถ
จะออกก็ไม่ได้รถหรูหราคันใหญ่จริงแต่ติดล็อคประตูเด็ก นั่งหลังคนขับ (เสียงดังคลิ๊กเมื่อกี้ ทันท่วงทีไม่มีโอ้เอ้เจรงๆ เล๊ย) น้องผู้หญิง 3 คนก็ไม่ขยับ เบียดติดแน่น
“คุณกาย พี่น้องเก็ทนี่เอง นึกว่าใคร ...ดีเหมือนกัน ได้พาพวกเด็กไปเปิดหูเปิดตายกบ้าน” คุณแม่คุยให้ฟังขณะเริ่มออกรถ
“เค้ามาทำไมครับ?” ผมถาม ลอบมองคนขับในกระจก หน้าบึ้งแต่เก็บอาการเว้ย---ข้างหลังรถพี่กายบรรทุกน้องผู้หญิงปิดบ้านไปเที่ยวห้างด้วยกันหมด
“ว่าจะมาช่วย ร้านที่เราจะไปทำสัญญาเป็นญาติกับหนูบีแต่ทางแม่บีเค้าไม่ว่าง คุณกายเลยอาสามาช่วยพูดให้อีกแรงค่ะ” อ้อ---ช่างบังเอิญ แต่ก็ดี...พี่กายถือว่าเป็นพี่เขยไอ้บีแล้ว ยังเผื่อแผ่มาหาเพื่อนอย่างผม
ได้สามีแล้วไม่ลืมเพื่อน ---ใช้ได้ๆ
---------------------------------------------------------------------
เกิดเหตุให้พี่กายต้องหายหัว ...มาส่งแค่หน้าห้างเพราะโดนพี่เมี่ยงคำขอให้ไปรับด่วนจี๋ตั้งแต่กลางทาง บอกรถเสียหรือไงนี่แหละ ตอนแรกจะไม่ยอมไป ทว่า-ทางแม่พี่กายโทรมากำชับเลยจำยอม
แม่บอกไม่เป็นไร ถึงจะไม่ได้ช่วยพูดแต่แค่มาส่งน้องๆ ก็ถือว่าได้แสดงน้ำใจแล้ว และทางโน้นเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินต้องรีบช่วยเหลือมากกว่า 'ได้เรื่องไงจะโทรไปแจ้งนะคะ' ผมเห็นพี่กายหน้ายุ่งจากไปอย่างเสียมิได้
พวกน้องเลยแฮปปี้ขออยู่เดินเล่นจนเย็นค่อยกลับเอง แอบเห็นนักธุรกิจมาดเข้มยิ้มกริ่มสะใจยังไงพิกล...รึผมตาฝาดหว่า?
....................................
............................................
ตอนนั่งคุยเรื่องเซ้งร้าน...
กลายเป็นนกกระปูดแย่งซีนไปคนเดียว ได้ใจคุณแม่เต็มๆ อธิบายสัญญาให้ฟังด้วยภาษาง่ายๆ ข้อดีข้อเสียดักทางได้หมด ต่อรองกับเค้าชนิดวินๆ ทั้งสองฝ่าย ผมล่ะทึ่ง
---ไม่ยักรู้ วิศวะโยธาสอนเศรษฐศาสตร์ ติวเข้มเรื่องธุรกิจด้วย
“ไปหาอะไรกินกันครับ เที่ยงกว่าแล้ว ...ขออนุญาตเป็นเจ้ามือเลี้ยงฉลองว่าที่เจ้าของร้านคนใหม่เอง คุณแม่คงไม่ขัดนะครับ”
“ดีเลยค่ะ งั้นคุณแม่ไม่เกรงใจที่ปรึกษาคนสำคัญล่ะนะ” ชมกันเข้าไป โลกส่วนตัวกันสองคนคุณแม่กับคุณลูกชายป้ายแดง
หัวโด่อยู่นี่ไม่ใช่ลมเหนือของคุณนายรมย์ฤดีแล้วหรือครับ!!!
“เด็กๆ อยากกินอะไร ไปลม—ลูก หิวแล้ว” อ้อ เพิ่งเห็นว่าผมก็มาด้วยแล้วเหรอ แค่นั้นล่ะครับ ทำทีควงแขนผม แต่อีกฝั่งควงลูกชายสุดหล่อหันหน้าคุยจ้อกันสองคนอยู่ดี
------------------------------------------
สรุปเด็ก 7 ผู้ใหญ่ 3 เดินเข้าร้านโออิชิบุฟเฟ่ต์ครับ น้องๆ กรี๊ดกร๊าด เดินตักอาหารให้ว่อน ผมกับแม่นั่งง่อยคาโต๊ะกันสองคน ...ได้ฤกษ์คุยกันซะที
“สนุกมั้ยคะ เปิดเทอมอาทิต์แรก?” ยิ้มสดชื่น นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่หน้าผากที่เริ่มยาวของผมให้พ้นตา--- รักคุณแม่จัง
“สนุกมากครับ เพื่อนใหม่ แถมบีกับเก็ทยังเรียนต่อด้วยกันอีก วันหลังจะพาคุณแม่ไปดูคณะที่ลมเรียน”
“เสียงใสเชียวเรา แบบนี้คุณแม่หายห่วงได้แล้วซิ”
“ห่วงหน่อยนะครับ ...ลมคิดถึงคุณแม่” ก้มหอมต้นแขน กอดรอบพุงคนแก่
“ฮิๆ...ปากหวานนะเรา ลูกใครเนี่ย”
“ก็คุณแม่หวานกับลมก่อน แม่ยังไงลูกก็อย่างนั้นครับ” แบบนี้ประจำครับ กับคุณนายเราคุยกันกระหนุงกระหนิง ได้อ้อนแบบนี้บ่อยๆ ก็ดีซิ
"อ้อ พี่นิ ป้าสุนิศาที่เป็นเพื่อนทำบุญกับคุณแม่โทรมาเล่าว่าพี่ชายเค้าสอนลูกเหรอ" แก๊งค์ป้าๆ ทัวร์ทำบุญ ทัวร์นั่งวิปัสสนากรรมฐาน
"อ๋อ ใช่ครับจะเล่าให้ฟังอยู่เชียว อาจารย์สุนิศครับ เมื่อวานเรียกลมไปหา บอกน้องสาวรู้จักกับคุณแม่ให้ช่วยดูแลให้หน่อย แล้วก็คณบดีสั่งให้สอนพิเศษลมตอนเพื่อนไปซ้อมเชียร์-รับน้องด้วยครับ"
"ที่คณบดีบอกคราวก่อนน่ะเหรอคะ" ตอนผมเข้าโรงพยาบาลเรื่องแพ้ผงชูรส
"ครับ ลมนึกว่าจะสบายแล้ว ที่ไหนได้-ไม่รอด"
"ฮิๆ ก็ดีแล้วไงคะ ลูกลมของแม่จะได้เก่งๆ"
"อูยยยย คุณแม่อ่ะ ไม่สงสารลูก" แกล้งเย้ายิ้มๆ ชอบอยู่แล้วเรื่องเปียโนสุดที่รักเต็งหนึ่ง เต็มที่!!!
"ไว้คุณแม่บอกน้องจัดกระเช้าของขวัญไปให้อาจารย์ด้วยดีกว่า เอาไปพร้อมของบ้านพี่กายเลยนะ ฝากให้หนูผู้หญิงที่เป็นแฟนพี่กายด้วย บ้านเค้าทำร้านสปานี่เผื่อเค้าชอบสินค้าจะได้สั่งร้านเราต่อไง" โหย ไม่ค่อยเห่อร้านใหม่เล๊ย หาลูกค้าซะแล้วครับคุณนาย
นึกได้ว่าศุกร์บ่ายเลิกเรียนต้องไปเป็นแบบถ่ายรูปลงโบร์ชัวร์ร้านสปาแม่พี่เมี่ยงคำนี่หว่า ไม่น่าตกปากรับคำกับพี่โจ๊กเลยจริงๆ
"คุณแม่จัดเลยครับ ผมให้คนที่บ้านรับไปส่งให้ถึงมือ ให้ผมหรือลมส่งให้-ฝากกันไปฝากกันมายุ่งเปล่าๆ ...อาจารย์สุนิศที่ว่าเก่งเปียโนมากแต่ก็เคี่ยวมากด้วย น้องคงต้องซ้อมหนัก-ไม่มีเวลาแน่" นกตัวร้ายวางซุบเนื้อตุ๋นให้คุณแม่ สั่งการเสร็จสรรพ...รู้ดีจริงแต่ก็นะ พี่โจ๊กกับพี่เจฟฟรี่ก็บอกงั้นเหมือนกัน
"เอางั้นก็ดีเหมือนกัน ลมจะได้ไม่กังวล ...ต้องรบกวนพี่เหยี่ยวแล้วนะคะ"
"ยินดีครับ" นกเจ้ากี้เจ้าการยิ้มแต้ แม่เผลอยังส่งตีคิ้วให้ผมดิ๊กๆ ได้แต่แอบค้อนส่งๆ กลับด้วยความหมั่นไส้!!!
“เจอกันครั้งนี้คุณแม่ดูสวย สดใส แล้วก็มีชีวิตชีวาขึ้นมากเลยนะครับ” ลูกชายคนใหม่เอ่ยชมพลางวางแซลมอลย่างซีอิ้ว ปลาไข่ย่างเกลือกับสลัดผักชามโตให้ผม ตาโตซิครับ ---ของโปรด รู้ได้หว่า!?
“นี่—พี่เหยี่ยว คุณแม่ยังคุยไม่จบ---” ผละไปหา ทิ้งผมเป็นนางทาสจิ้มอาหารเข้าปากรับฟังอย่างเดียว โปรเจคพันแปดร้อยล้านสารพัดสารเพ เล่าไปยิ้มไป ---
ยอมก็ได้ฟะ ค่าเป็นผู้ฟังที่ดีของคุณแม่ ค่าปิดปากผมด้วยของอร่อยถูกใจ ...ช่างเป็นช่วงเวลาที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุข
**************************************************TBC by puppyluv
ขอบคุณเล้าที่พยายามแก้ไขจนลุล่วง ได้มีที่วิ่งเล่น...อรุณสวัสดิ์!!!