Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54  (อ่าน 159667 ครั้ง)

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ก็ชื่อเรื่องมัน เต็น-แชมป์ อะคะ

นพต้องโทรไปคุยกับแชมป์แน่ๆๆๆๆๆๆๆเลย

ฟันธง
 :m15:




Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12

จากวันนั้นเต็นต้องทนอยู่กับความไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่โดนบอกเลิกกะทันหัน เด็กหนุ่มทนอยู่กับความร้อนใจเป็นสัปดาห์กับการตามหาเหตุผลที่แท้จริงจากการถูกทอดทิ้ง แต่แล้วเหมือนตนเองตามหาอะไรสักอย่างที่ใม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ เมื่อฝ่ายนั้นได้ตัดขาดการติดต่อจากตนในทุกทาง ทั้งทางโทรศัพท์ที่ได้ติดต่อไปวันละหลายๆ รอบแต่ไม่มีการตอบรับกลับมาใดๆ หรือข้อความที่ส่งไปก็ไร้ซึ่งการส่งกลับมา วันนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเป็นวันที่มีนัดกับทางโรงพยาบาลเพื่อเอาผ้าที่ปิดนัยน์ตาออก เด็กหนุ่มตัดสินใจติดต่อไปหาคนที่พยายามตามหาตัวมาเป็นสัปดาห์อีกครั้ง คราวนี้ลองใช้วิธีเดิมที่เคยใช้กับคนรักเก่าอย่างนพคือใช้เบอร์ตู้สาธารณะโทรไป
เสียงเพลงรอสายดังขึ้นให้ได้ยิน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยว่าตนเองติดต่อไปผิดเบอร์หรือไม่ เพราะปรกติฝ่ายนั้นไม่ตั้งการรอสายเป็นเสียงเพลง สายตาเหลือบมองตัวเองที่แสดงบนแป้นเพื่อความแน่ใจ เห็นไม่ผิดเบอร์จึงตั้งใจฟังเสียงเพลงที่ได้ยิน
“ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตาถึงแม้ว่ามันโหดร้าย ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งดูมืดมน ยิ่งเราอดและทนแค่ไหน ไม่อยากให้คิดว่าผิดที่ใคร ไม่มีประโยชน์ตอนนี้ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อกัน เธอและฉันก็รู้ตัวดี...”
เสียงเพลงจบลงแค่นั้นแล้วมีเสียงพูดทักดังมาแทนที่
“สวัสดีครับ”
เต็นรู้สึกรื้นในใจขึ้นมาแทบน้ำตาใหลเมื่อได้ยินเสียงแรกของคนที่ห่างหายจากตนไปเป็นสัปดาห์ หัวใจเด็กหนุ่มเต้นผิดจังหวะ เมื่อนึกประหม่าขึ้นมาดื้อๆ จนไม่รู้จะพูดคำไหนทักออกไปดี
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงฝ่ายนั้นดังมาให้ได้ยินอีกครั้งเด็กหนุ่มจึงพยามรวบรวมกำลังใจว่าต้องกล้า แล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ
“หวัดดีแชมป์”
“ใครอ่ะ” ฝั่งนั้นถามมาเสียงดุ คงจะยังไม่ชินเสียงสั่นๆ ของตน
“เต็น” เด็กหนุ่มบอกชื่อออกไป ก่อนจะใจหายวาบอย่างตั้งรับไม่ทันเมื่อสัญญาณการติดต่อถูกตัดลงแค่ตรงนั้น
เต็นถือโทรศัพท์อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กันจะกระทำใส่กันแบบนี้ หรือเมื่อกี้สายมันหลุดเอง มันคงเป็นความขัดข้องของระบบ ไม่มีทางหรอก คนๆ นั้นคงไม่ใจร้ายกับตนได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองแล้วจัดการติดต่อไปใหม่
เพลงรอสายเพลงเดิมดังขึ้นมาตอนต่อติดสัญญาณ แต่คราวนี้เด็กหนุ่มได้ฟังสั้นกว่าเดิมเพราะมีการตัดสัญญาณทิ้งอีกครั้ง เมื่อแน่ชัดแล้วว่าไม่ได้เป็นที่ระบบการสื่อสารขัดข้อง แต่เป็นการตั้งใจตัดขาดการติดต่อจากเจ้าของหมายเลขเอง หัวใจเจ้ากรรมเหมือนกับโดนเข็มนับพันทิ่มแทงจนไม่มีเหลือที่ว่างเลยสักแห่ง
เด็กหนุ่มวางโทรศัพท์ลงที่แป้นดังเดิมก่อนจะปล่อยให้ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงยืนไหวทรุดนั่งลงไปที่พื้น ไม่สนใจว่าจะมีสายตาใครคนไหนมองมาบ้าง น้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลออกจากตาหนึ่งข้างที่ไม่ได้ปิดผ้าเอาไว้ ส่วนข้างที่ปิดผ้าน้ำหยดนั้นแค่ซึมอยู่ที่ขอบตา ซึ่งมันสร้างความแสบร้าวให้กับทั้งดวงตาจนต้องยกมือขึ้นปิดไว้แข็งใจลุกขึ้นพาตัวเองไปยังโรงพยาบาลตามที่หมอรักษาได้นัดไว้
เต็นใช้เวลาไม่นานในการให้หมอดูอาการ เด็กหนุ่มโดนตำหนินิดๆ ที่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้มากมายจนแผลที่ตาเกือบไม่หายตามกำหนด
สองขาก้าวออกมาจากห้องตรวจ รู้สึกอ้างว้างอย่างประหลาดเมื่อสถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยมีคนมารอรับทุกครั้งหากตนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือไปสถานที่ใดที่เป็นกิจธุระจำเป็นไม่เป็นกิจวัตร แน่ล่ะ คนๆ นั้นคือคนรักเก่าอย่างนพนั่นเอง ความรู้สึกเหงาถาโถมเข้ามายังจิตใจจนยากจะทานไหวเมื่อได้มองเห็นคนหลายคู่ หลายกลุ่มต่างก็เดินมาด้วยกัน พูดคุยกัน และหยอกล้อกันให้ได้เห็น เด็กหนุ่มเดินไปหามุมเงียบๆ เพื่อนั่งพัก เมื่อรู้สึกห่อเหี่ยวในใจจนไม่อยากที่จะกลับไปอยู่ในห้องที่เคยคิดว่าจะเต็มไปด้วยความสุขของตน
น้ำในตากำลังจะไหลออกมาอีกครั้งเมื่อเกิดรู้สึกสะทือนหัวใจไม่หายตอนคิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เคยผ่านมาทั้งกับคนรักเก่าอย่างนพ และคนที่กำลังจะคบกันอย่างแชมป์ เด็กหนุ่มกำมือแน่นพร้อมเม้มริมฝีปากเอาไว้จนสั่นระริกเพื่อต้องการควบคุมน้ำในตาไม่ไหลออกมา เมื่อรู้สึกจะต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าหลับตานิ่งแล้วย้อนคิดถึงแต่ความทรงจำดีๆ
อาการปวดร้าวในใจทะเลาลงบ้างในตอนที่ได้นึกถึงแต่เรื่องราวดีๆ เมื่อคิดว่าน้ำในตาจะไม่ไหลแล้วจึงกลับมานั่งท่าเดิม นั่งอยู่อย่างนั้นจนฟ้ามืดถึงได้กลับไปยังหอพัก ระหว่างทางที่กลับก็ไม่วายที่จะคิดถึงคนที่ทำให้ใจเจ็บปวด นึกถึงภาพวันที่เริ่มต้นรู้จักกัน นึกถึงภาพการออกเดตในวันแรก นึกถึงบรรยากาศโรแมนติกบนดาดฟ้า นึกถึงคำสนทนาหวานๆ ผ่านทางโทรศัพท์ ความทรงจำทั้งหมดมันทำให้หัวใจสุขล้นจนต้องยอมบอกเลิกคนรักที่คบกันมากว่า 4 ปีอย่างนพที่ทำตัวห่างเหินไปในตอนแรกและกำลังจะกลับมาเป็นคนรักที่ดีในตอนหลัง แต่แล้วโอกาสนั้นกลับไม่มีเพราะเขาได้เลือกที่จะเปิดหัวใจให้กับคนที่ทำให้หัวใจสุขได้ในทุกนาทีที่อยู่ใกล้กัน แล้วทำไมทุกอย่างมันต้องกลับตาลปัตรแบบนี้ ความสุขที่เขาถวิลหาทำไมถึงต้องหลุดลอยไปตั้งแต่ยังไม่ได้เอื้อมมือคว้ามาครอบครองด้วย
“ทำไมเหรอแชมป์ ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหวนนึกถึงเสียงเพลงรอสายที่ตนได้ยินตอนติดต่อไปหาคนนั้น
หลังจากถึงหอพักสิ่งแรกที่เต็นทำตอนขึ้นไปถึงห้องคือการเปิดคอมพิวเตอร์เข้าอินเตอร์เน็ตสืบค้นหาบทเพลงที่ตนได้ฟังแค่บางส่วนมา เสียงนั้นเด็กหนุ่มรับรู้ว่าเป็นเสียงนักร้องคนไหนจึงได้ตัดสินใจค้นหาเพลงนั้นในชื่อนักร้องคนนี้ สุดท้ายก็เจอ
 
   เราเลิกกันนะ
ปาน ธนพร แวกประยูร
แม้ยังอยากจะเดินร่วมกัน แม้ยังอยากให้นานกว่านี้
แต่ใจลึก ๆ รู้สึกทุกที ว่าไปด้วยกันไม่ไหว
ก็ที่ฝืนยิ่งทำให้กลัว อุ่นแค่ตัว แต่หนาวหัวใจ
ยิ่งเราอยากประคองมันสักเท่าไร ยิ่งทำให้ใจเหนื่อยล้า

หยุดเอาไว้ตรงนี้ เมื่อวันนี้ เหลือแค่ความเฉยชา ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ

ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตา ถึงแม้ว่ามันโหดร้าย
ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ

เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งดูมืดมน ยิ่งเราอดเราทนแค่ไหน
ไม่อยากให้คิดว่าผิดที่ใคร ไม่มีประโยชน์ตอนนี้
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อกัน เธอและฉันก็รู้ตัวดี
ช้าหรือเร็วต้องถึง วันหนึ่งต้องมี อย่างไรก็คงจากลา
 
หยุดเอาไว้ตรงนี้ เมื่อวันนี้ เหลือแค่ความเฉยชา ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ

ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตา ถึงแม้ว่ามันโหดร้าย
ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ

บทเพลงนี้ดังวนอยู่เป็นรอบที่เท่าไหร่คนเปิดฟังก็ไม่อาจนับได้ เด็กหนุ่มพยายามจับความหมายในเนื้อเพลงจนพอจะคิดไปเองได้ว่าที่แท้แล้วเป็นเหตุผลใดที่ตนถูกบอกเลิก คนนั้นคงจะรู้สึกผิดจริงๆ สินะที่เป็นคนเข้ามาแทรกความสัมพันธ์ระหว่างตนกับคนรักจนต้องเลิกรากัน แต่ทำไมถึงเลือกที่จะห่างเหินกับเขาด้วยวิธีนี้ล่ะ ไม่ดูไม่เป็นผลดีกับความรู้สึกใครสักเท่าไหร่เลยสักนิด เด็กหนุ่มเชื่อเหลือเกินว่าการกระทำเช่นนี้เจ้าตัวคงจะปวดใจอยู่ไม่น้อยนักหรอก
โทรศัพท์ถูกหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง เด็กหนุ่มปิดเสียงเพลงคอมพิวเตอร์ตัดสินใจติดต่อไปหาคนที่ตนคิดว่าคงจะจมอยู่กับความเจ็บปวดเหมือนอย่างตนอีกครั้ง ขอให้ฝ่ายนั้นรับสายทีเถอะ คราวนี้เขาจะพูดจาดีๆ อย่างคนเข้าใจเหตุผล จะไม่มีการต่อว่า การประชด และการร้องขอให้เจ้าตัวรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นอีกแล้ว
เสียงเพลงรอสายเพลงเดิมดังมาให้ได้ยิน ก่อนจะดับไปเพราะการถูกตัดสัญญาณ ไม่เป็นไรหรอก เต็นพยายามปลอบใจตัวเองแล้วลองใหม่ ก็ยังเป็นเช่นเดิม คราวนี้เด็กหนุ่มเลยเขียนข้อความแสดงความเข้าใจส่งไปแทน
“แชมป์ เต็นพอจะเข้าใจเหตุผลของแชมป์แล้วล่ะ รับสายเต็นสักครั้งได้มั้ย เต็นอยากคุยกับแชมป์ แม้เราจะคบกันอย่างคนรักไม่ได้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา เถอะนะ รับสายเต็นเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย มันเป็นผลดีต่อใครเลยนะ”
ข้อความถูกส่งไปนานแล้วจนคิดว่าฝ่ายนั้นคงเปิดอ่านจนครบทุกตัวอักษรเจ้าของข้อความจึงตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อไปใหม่ ในใจหวังไว้ว่าคราวนี้คงจะได้รับการตอบรับเป็นแน่
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” ประโยคนี้ดังขึ้นให้ได้ยิน หัวใจเด็กหนุ่มวาบไหวอีกครั้ง นี่มันหมายความว่ายังไง ข้อความที่ตนส่งไปเมื่อครู่เพื่อหวังให้ฝ่ายนั้นยอมคุยกับตนทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ เป็นไปได้เหรอที่คนๆ นั้นจะปิดเครื่องหนีตนแบบนี้ ที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยทำขนาดนี้เลยนี่นา มีแต่ตัวเขาเองที่ท้อจนไม่มีแรงติดต่อไปหลังจากที่เจ้าตัวไม่เคยรับสายสักครั้ง
“ทำไมนายถึงเป็นไปได้ขนาดนี้แชมป์”เด็กหนุ่มเอ่ยออกมารู้สึกเสียใจปนน้อยใจ เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างใจนึก ตกลงนี่เขาคิดเข้าข้างตัวเองใช่มั้ยว่าคนๆ รู้สึกผิดจนต้องเลิกรากับตนไป แท้จริงแล้วเหตุผลจริงๆ มันจะเป็นที่ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชายที่ไม่ต้องการคบเกย์อย่างเขาจริงๆ น่ะเหรอ แล้วทำไมที่ผ่านมาถึงแสดงออกว่ามีใจให้เขานักหนาล่ะ
หยดน้ำตาทำท่าจะไหลอีกครั้ง คนคิดสับสนจึงรีบแหงนหน้าขึ้นมองเพดานห้องหลับตานิ่งข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ไม่ได้แน่ การที่ต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มันคงทำให้เขาฟุ้งซ่านไม่จบ และอาจจะเสียสติไปได้จากความคิดที่สับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
เมื่อน้ำในตาไม่ไหลออกมาแล้ว การหาทางออกเพื่อระบายความสับสนภายในใจที่เด็กหนุ่มเลือกทำคือเข้าโปรแกรมแชททางอินเตอร์เน็ต ค้นหาเพื่อนที่ต้องการพูดคุยด้วยสักพักจึงพบตามต้องการ คนๆ นั้นใช้ชื่อเรียกในโลกออนไลน์ว่า Mac ในขณะที่เด็กหนุ่มใช้ชื่อของตัวเอง
Mac: หวัดดี
Ten: หวัดดี
Mac: ชื่อไร
Ten: เต็น
Mac: เราแม็คนะ นายอายุเท่าไหร่
Ten: 22
Mac: เท่ากันเลย เล่นที่ไหนเหรอ มีรูปมั้ย
Ten: หอ รูปที่ดิสย์
Mac: แถวไหนล่ะ
Ten: รัชโยฯ
Mac: เราลาดพร้าวนะ
Ten: อืม
Mac: ท่าทางนายไม่อยากคุยเลย
Ten: เปล่า
Mac: แล้วทำไมถามคำตอบคำ
Ten: มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย
Mac: เรื่องอะไรเหรอ
Ten: ทะเลาะกับเพื่อน
Mac: เพื่อนหรือแฟน
Ten: ไม่รู้เหมือนกัน
Mac: อ้าว
Ten: คือเราเพิ่งรู้จักกัน
Mac: เหรอ เล่าให้ฟังหน่อยดิ
Ten: นายอยากฟังเหรอ
Mac: อืม เผื่อช่วยอะไรได้
Ten: เรากับเขาเหมือนจะคบกันเป็นแฟนแต่แล้วเขาก็ขาดการติดต่อ
Mac: ย่อความส่งอาจารย์หรือไง เล่าให้มันยาวๆ หน่อยดิ
Ten: เรากับเขาเจอกันโดยบังเอิญในวันที่เรารู้สึกไม่ดีกับแฟน
Mac: ตกลงแฟนนายมีแฟนอยู่ก่อนแล้ว
Ten: อืม
Mac: เล่าต่อ
Ten: เราสองคนคบกันหลังจากนั้น
Mac: แล้วแฟนนายล่ะ
Ten: เราก็ยังคบอยู่
Mac: ทำไปได้
Ten: เรากับคนนั้นยังไม่ได้มีอะไรกันนะเราคบกันเป็นเพื่อน แต่อาจจะสนิทกันเร็วไปหน่อย
Mac: แล้วไงต่อ
Ten: เราก็คบกันมาเรื่อยๆ เขาดีกับเราจนเรามีใจให้ในที่สุด
Mac: แล้วแฟนล่ะ
Ten: ตอนนั้นแฟนเราก็ห่างเหินกับเราอยู่พอดี
Mac: แล้วนายจึงตัดสินใจเลิกกับแฟนเพื่อมาคบกับคนนี้ แต่แล้วคนนี้กับทิ้งนายไปในตอนที่นายเลือกแล้ว ประเด็นหลักที่นายกำลังไม่สบายใจคือเรื่องนี้ใช่มั้ย
Ten: เดาเก่งนิ
Mac: ไม่เห็นต้องเดาเลย ถ้านายลงเอยกับแฟนใหม่นายคงไม่มาอมทุกข์แบบนี้หรอก
Ten: ก็จริง ตอนนี้เราสับสนมากไม่รู้จะทำยังไง โทรไปเขาก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปเขาก็ไม่ส่งกลับ เป็นมาอาทิตย์แล้ว
Mac: เข้าใจ คนมันจะเลิกทำยังไงมันก็ไม่ฟังเราหรอก
Ten: นายพูดเหมือนมีประสบการณ์
Mac: เจอจนเป็นบ้ามาเกือบปีเลยล่ะ
Ten: เหรอ แล้วตอนนี้นายเป็นไงบ้าง
Mac: ปรกติดีแล้ว เลิกคิด เลิกแคร์ แค่นี้ก็จบ
Ten: มันทำง่ายขนาดนี้เลยเหรอ
Mac: แรกๆ มันก็ต้องมีตัวช่วยบ้าง
Ten: อะไรเหรอ
Mac: อยากรู้ก็มาหาที่ห้องสิ
Ten: ห้องนายน่ะเหรอ
Mac: อืม
Ten: ตอนนี้เหรอ
Mac: ใช่แล้ว อยากลืมเร็วก็ต้องมาเร็วๆ
Ten: ไม่ได้หรอกมันมืดแล้ว
Mac: ของแบบนี้ยิ่งมืดมันก็ยิ่งดี
Ten: นายหมายถึงอะไรล่ะ
Mac: บอกไม่ได้นายต้องมาดูเอง เล่นเอง
Ten: พูดแปลกๆ แค่นี้นะ
Mac: เฮ้ย เดี๋ยวดิ
Ten: ทำไม
Mac: นายไม่อยากลืมความเจ็บปวดแล้วเหรอ
Ten: ก็นายไม่ยอมบอกว่าต้องทำยังไง
Mac: มาหาเราก่อน มันไม่มีอะไรหรอก เราไม่หลอกนายมาเชือดทิ้งหรอก น่ารักๆ แบบนี้ เรามีของเย็นๆ เพื่อดับให้ใจนายหายร้อนได้น่า มาเล่นกันสนุกนะ
Ten: บอกก่อนไม่ได้เหรอว่ามันคืออะไร
Mac: พูดขนาดนี้แล้วนายยังไม่รู้อีกเหรอ
Ten: ไม่อ่ะ
Mac: ไม่อยากจะเชื่อ
Ten: ทำไม
Mac: เปล่าไม่มีอะไร ตกลงมาหาเรานะ เชื่อเถอะว่าของสิ่งนี้มันจะทำให้นายลืมความสับสนปนเจ็บปวดทั้งหมด เราการันตีได้เพราะลองมาแล้ว
Ten: บอกหน่อยสิว่ามันคืออะไร ยาเสพติดหรือเปล่า
Mac: บอกไม่ได้ สนใจก็มาเลย เดี๋ยวมันจะดึกมาก มันไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า เราเข้าใจอารมณ์นายเลยอยากช่วยให้หายดี มานะ นี่เอาเบอร์โทรไป ถ้าจะไปโทรหาเราไปเลย 08.............. แค่นี้นะ ชีวิตเรามีค่าอย่าไปจมอยู่กับความทุกข์ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ มาสนุกกันแล้วนายจะตลกกับสิ่งที่นายเป็นในวันนี้”
ฝ่ายนั้นออกจากโปรแกรมแชทนี้ไปแล้ว เต็นถือกระดาษที่จดหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าตัวขึ้นมาดู คิดอยู่ว่าจะติดต่อไปเพื่อหาใครสักคนช่วยปลอบให้หายเศร้า หรือจะเข้านอนเพื่อจะได้ลืมความรู้สึกนี้ซะ แต่วิธีหลังมันก็แค่ลืมได้แค่ช่วงเวลาหลับ แล้วถ้าหากวิธีแรกมันทำให้ลืมได้ตลอดไป ลองดูสักหน่อยไม่น่าจะเป็นอะไรเลยนี่นา
เด็กหนุ่มตัดสินใจติดต่อไปหาเจ้าของหมายเลขที่ถืออยู่ทันที ตัดสินใจบอกออกไปเมื่อฝ่ายนั้นรับสาย
“ตกลงเราจะไปหานายแม็ค”
ที่ๆ เต็นมาหาเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตเป็นคอนโดต้นๆ ถนนลาดพร้าว ที่ตัดสินใจมาเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรง ดูจากหน้าตาเพื่อนใหม่คนนี้ทางดิสเพลย์ของโปรแกรมแชทก็ไม่ได้ดุดันหรือน่ากลัวอะไร ยิ่งพอได้มายืนอยู่หน้าสถานที่พักเจ้าตัวก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองคงไม่ได้โดนแก็งค์ตุ้มตุ๋นหลอกมาทำอะไรแน่ๆ
เด็กหนุ่มมาถึงที่นี่ตอนห้าทุ่มเศษ หลังจากโทรศัพท์แจ้งเจ้าของห้องว่ามาถึงแล้ว จึงยืนรอคนนั้นสักพัก เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีคนที่รอก็เดินออกมารับในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามสีขาวเท่านั้น
“นึกว่านายจะไม่มาซะอีก” เจ้าตัวเอ่ยทักพลางเดินนำเข้าไปในตึก เต็นใช้ช่วงเวลานั้นพินิจมองเพื่อนใหม่ซึ่งก็ดูดีในแบบวัยรุ่นธรรมดา ไม่ได้สะดุดตาเท่าแชมป์เท่าไหร่นัก
“ชั้น 9 นะ ต้องขึ้นลิฟต์” เจ้าตัวหันมาบอกตอนอยู่หน้าลิฟต์ เต็นเพียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะทำหน้าที่เป็นผู้ตามอย่างเงียบๆ จนมาถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง
“ถึงแล้วสวรรค์ของเรา” เพื่อนใหม่พูดจาแปลกๆ ให้ได้ยินตอนเปิดประตู เต็นไม่ตอบว่าอะไรนอกจากมองเข้าไปในห้องนั้นที่เปิดไฟเพียงสลัวๆ เท่านั้น
“ทำไมมืดจัง” เด็กหนุ่มทักเพราะไม่ชินกับแสงสว่างที่ริบหรี่
“แบบนี้แหละดี ได้บรรยากาศ เข้าไปข้างในกันเถอะ” เจ้าของห้องบอกแล้วเดินนำเข้าไปด้านใน เต็นก้าวขาเดินตาม มองสังเกตรอบห้อง
“สำรวจอะไรเหรอ อาบน้ำมาหรือยัง อาบน้ำก่อนมั้ย” เจ้าของห้องเอ่ยขึ้นอีก
“เปล่าสำรวจ นี่นายอยู่คนเดียวเหรอ” เด็กหนุ่มถาม
“อืม เมื่อก่อนอยู่กับแฟน”
“คนที่ทำนายเป็นบ้ามาเกือบปีน่ะเหรอ”
“ถูกต้องแล้วครับ”
“แล้วไหนล่ะสิ่งที่ทำให้นายหายจากอาการนั่น”
“อยู่ตรงกลางห้องนั่นไง มองไม่เห็นเหรอ”
“ไม่อ่ะ บอกแล้วไงห้องมันมืด”
ไม่มีคำพูดตอบกลับนอกจากคู่สนทนาเดินไปเปิดไฟให้สว่างขึ้นกว่าเดิม เต็นมองไปตรงกลางห้องทันที ที่ตรงนั้นรองด้วยฟูกบางๆ สำหรับนั่งล้อมวงเท่านั้น สิ่งที่สะดุดตาอยู่ที่ขวดแก้วใสขนาดกลางที่วางอยู่กับหลอดแก้วพร้อมไฟแช็ก ขวดน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายอย่างที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นตา
“ของพวกนั้นคืออะไร” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเจ้าของห้อง
“นายไม่รู้จริงๆ เหรอ” ฝ่ายนั้นถามกลับจึงส่ายหน้าแทนคำตอบเพราะไม่รู้จักจริงๆ
“ไม่รู้ก็ไม่รู้ แต่ของพวกนี้แหละที่จะทำให้นายลืมความเจ็บปวดเสียใจในทุกๆ เรื่อง”
“มันคือยาเสพติดใช่มั้ย”
“ก็กึ่งๆ อ่ะนะ แต่ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่รุนแรง ไม่มีพิษสงอะไรเลย มีแต่ผลดีเท่านั้นแหละ”
“แน่ใจนะ”
“อ้าว นายก็ดูเราสิ มีลักษณะเหมือนคนติดยาหรือเปล่าล่ะ ทั้งๆ ที่เราใช้มันเป็นประจำ เหอะน่า อย่าเซ้าซี้ถามเลย ไปอาบน้ำให้สบายตัวเถอะไป แล้วมาลองเล่นกัน มันไม่มีอะไรจริงๆ เราเคยอกหักมาก่อน เราเข้าใจนาย เราไม่ทำร้ายนายหรอก เราอยากให้นายหายจากอาการพวกนั้นต่างหากล่ะ”
เต็นไม่ถามอะไรต่ออีกเมื่อคนพูดเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ เด็กหนุ่มรับผ้าผืนนั้นมาช้าๆ คิดทบทวนว่าจะเอายังไงดี เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เพื่อนใหม่คนนี้จะทำให้ตนลืมทุกอย่างได้คือสารเสพติดที่ตนไม่รู้จักชนิดของมัน

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
“มันไม่ร้ายแรงจริงๆ นะ” เด็กหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจเมื่อจิตใจเกิดอยากลองขึ้นมาเพื่อประชดกับความผิดพลาดในเรื่องความรักที่คนบางคนฝากรอยแผลเอาไว้ให้จนลึกฉกรรจ์
“บอกแล้วไงว่าเราไม่ทำร้ายนาย ยานี้มันไม่มีผลอะไรถ้าเราอยู่เหนือมัน” คนนั้นเอ่ยตอบก่อนจะผลักร่างให้เดินไปทางห้องน้ำ เด็กหนุ่มเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย อะไรจะเป็นไปต่อจากนี้ก็ช่าง เขาไม่เหลือใครให้ต้องแคร์อีกแล้วนี่
อารมณ์เคลิบเคลิ้ม สนุกสนาน สดชื่น และกระปรี้กระเปร่าค่อยๆ เกิดขึ้นกับร่างกายหลังจากที่เด็กหนุ่มได้รับสารเสพติดชนิดที่ตนไม่รู้จักเข้าร่างกายตามวิธีการที่เพื่อนใหม่ในโลกอินเตอร์เน็ตสอนให้ ความทรงจำต่างๆ ระหว่างวันที่เคยเสียใจเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไปจากความรู้สึกทีละนิดๆ จนไม่หลงเหลือให้ได้คิดถึง สิ่งที่จิตใจกำลังจดจ่ออยู่ตอนนี้คือการเรียนรู้วิธีการเสพสารเสพติดที่ทำให้จิตใจรู้สึกสนุกสนานเบิกบาน
“ใจเย็นๆ พวก พอชินแล้วเอาใหญ่เลยนะ ชักติดใจแล้วสิ” เสียงคนสอนเสพเอ่ยขึ้นในตอนที่เด็กหนุ่มกำลังสูบเอาไอระเหยจากสารเสพติดชนิดนี้ผ่านไอร้อนจากน้ำ
“สนุกดีว่ะ มิน่านายถึงบอกว่ามันทำให้ลืมความเสียใจได้” เต็นอ้าปากเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างคนลืมความเจ็บปวดหมดสิ้น ไม่สนใจกับการที่ร่างกายโดยมือคนที่นั่งข้างๆ เอื้อมมาลูบไล้ส่วนต่างๆ
“อยากลองสนุกให้มันสุขสุดเหวี่ยงมากกว่านี้มั้ยล่ะ” ฝ่ายนั้นขยับตัวเข้ามาชิดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าส่งสายตาหยาดเยิ้มให้
“เอาสิ มีอะไรที่ทำให้มันสุขได้กว่านี้นายก็ทำเลย” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางตอบสอนการถูกซุกไซ้ซอกคอจากคนที่ตรงเข้าประชิดร่างกายด้วยการส่งเสียงครางอย่างสยิว
คนซุกไซ้ไม่ได้หยุดการกระทำอยู่ที่ซอกคอเท่านั้นแต่ยังลามไล้ขั้นมาถึงริมฝีปากแล้วประกบจูบอย่างดูดดื่ม ซึ่งคนที่ควบคุมสติไม่ได้แล้วก็ตอบสนองอย่างเร่าร้อนเช่นกัน โดยยอมให้ทุกอย่างเลยเถิดไปถึงการเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวจนเปลือยเปล่าแล้วจึงเข้าสู่กิจกรรมสัมพันธ์สวาทกันอย่างถึงรสถึงชาติด้วยความรู้สึกซาบซ่านและสนุกอย่างที่ไม่อยากให้กิจกรรมนั้นจบลง
เต็นลืมตาขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า รู้ลำคอแห้งผากไม่ต่างจากริมฝีปากที่รู้สึกว่ามันเหือดแห้งไร้ซึ่งน้ำมาหล่อเลี้ยง เด็กหนุ่มรู้สึกตัวหวิวๆ ในตอนที่ลุกนั่ง ในหัวหนักอึ้งจนอยากที่จะล้มตัวลงไปนอนใหม่ แต่เอ๊ะ นี่มันที่ไหน แล้วมันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว คิดคำถามให้ตัวเองได้แบบนั้นจึงรีบกระโจนลุกออกจากเตียงนอนหนานุ่ม ตกใจสุดขีดตอนเห็นสภาพตัวเองในกระจกเงาตรงหน้าบานตู้เสื้อผ้า ภาพที่เห็นคือร่างกายตัวเองเปล่าเปลือย ผมเผ้าอยู่ในสภาพรุงรัง ขอบตาสองข้างคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาซีดเซียวไร้ซึ่งสีเลือด ร้ายไปกว่านั้นคือริมฝีปากตอนนี้แห้งผากจนกลายเป็นสีขาวอย่างน่าตกใจ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งจำได้แค่เพียงว่าตนได้มาหาเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตที่คอนโดเจ้าตัว พูดคุยกันสักพัก ตนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ออกมานั่งร่วมวงเสพสารเสพติดชนิดหนึ่งที่คนพาเสพบอกมันไม่มีฤทธิ์ร้ายแรงอะไร ลักษณะของเม็ดยาเป็นผลึกคล้ายน้ำแข็ง นำเข้าร่างกายโดยการสูดดมไอระเหยโดยการเผาผ่านหลอดแก้ว แม้ในตอนแรกจะยังไม่ชินจนสำลักออกมาหลายหน แต่ตอนท้ายๆ ก็จำได้ดีว่ารู้สึกสนุกไปกับมันจนภาพต่างๆ รางเลือนออกจากความทรงจำไปในที่สุด ใช่สินาทีสุดท้ายก่อนจะผลอยหลับจิตใจจำได้ว่าได้ว่าร่างกายโดนลามเลียนี่ ไม่จริง นี่เขายังอยู่คอนโดของเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตอย่างงั้นเหรอ แล้วเจ้าตัวหายไปไหน แล้วตอนนี้มันเช้าแล้วหรือ
“ตื่นแล้วเหรอที่รัก” หนึ่งเสียงร้องทักมาให้ได้ยิน เด็กหนุ่มมือไวคว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่มองเห็นใกล้ๆ มาพันร่างกายท่อนล่างเอาไว้
“สภาพนายดูไม่ดีเลย ไปอาบน้ำก่อนมั้ย” คนนั้นเอ่ยบอกพลางเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้ม
“นี่มันกี่โมงแล้ว” เต็นเอ่ยถามเพราะยังรู้สึกมึนๆ
“จะห้าทุ่มของอีกวันแล้ว”
“นายว่าไงนะ!” เต็นอุทานถามอย่างตกใจ ถ้าหากว่านี่มันห้าทุ่มก็เท่ากับว่าเขามาอยู่ที่นี่ครบรอบหนึ่งวันแล้วสิ แล้วนี่ทำไมเขาไม่รู้ตัวเรื่องวันเวลาเลย
“ไม่ต้องตกใจหรอก เราไม่ได้อำ นายจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าเราเล่นน้ำแข็งจนถึงเช้า แล้วก็มีอะไรกันต่อจนถึงเที่ยง นายเพิ่งจะผลอยหลับไปเมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”
เต็นยืนไม่ติดเมื่อได้ฟังคำบอกกล่าวของคนตรงหน้า เด็กหนุ่มรีบเดินไปทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเลื่อนลอย ก็ไหนคนๆ นี้บอกฤทธิ์ยาที่เล่นไปมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรไง แล้วทำไมมันถึงแผลงฤทธิ์ร้ายให้เขาจำอะไรแทบไม่ได้
“ยานั่นมันคือยาอะไรแม็ค นายโกหกเราใช่มั้ยว่ามันไม่มีฤทธิ์ร้ายแรง” เด็กหนุ่มหันไปถามเจ้าของห้อง
“ยาไอซ์” คนนั้นเฉลยออกมา คนได้ยินยังไม่รู้สึกอะไรเพราะยังไม่คุ้นกับชื่อมันอยู่ดี
“นายไม่รู้จักไอซ์เหรอ” เจ้าของห้องถามต่อ เต็นส่ายหน้าช้าๆ ก่อนบอก
“เราไม่ได้สนใจเรื่องสารเสพติด”
“กรรม ทีแรกก็นึกว่าแกล้งทำเนียนไร้เดียงสา” อีกคนยกมือกุมขมับ เต็นเห็นภาพนั้นรู้สึกประหลาดใจจึงถาม
“หมายความว่าไง”
“นายลองไปเสริชหาทางอินเตอร์เน็ตแล้วกันว่ายานี้มันออกฤทธิ์ยังไง”
“นายพูดยังกับว่ายานี้มันร้ายแรงอย่างนั้นล่ะ” เต็นถามขึ้นใจสั่น
“นายดูสภาพตัวเองแล้วยังไม่รู้ถึงฤทธิ์ของมันอีกเหรอ” คำตอบที่ได้ทำให้ต้องลุกขึ้นมาส่องกระจกอีกครั้ง
“ยานี้ถ้าคุมตัวเองอยู่เราก็จะสนุกกับมันไปได้เรื่อยๆ แต่หากยอมให้มันควบคุมเราเมื่อไหร่ พูดง่ายๆ ว่าติดมันอย่างที่นายเป็นเมื่อคืน สภาพก็จะเป็นอย่างที่นายเป็นตอนนี้แหละ” คนในห้องเอ่ยบอกอีกทำเอาเด็กหนุ่มตัวชาวูบ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ตนสูดดมเอาสารพิษนี้เข้าร่างกายแบบหยุดไม่อยู่จนสติกระเจิดกระเจิงกระทั่งควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วรู้สึกตกใจอย่างสุดขีด ไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหวจึงปล่อยให้ร่างกายทรุดนั่งลงกับพื้น
“เฮ้ย เป็นไรวะ” อีกคนในห้องวิ่งเข้าประคอง
“ทำไมล่ะแม็ค ทำไมนายไม่บอกเราถึงพิษของมันตรงๆ นายโกหกเราทำไม” เต็นฮึดเรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีโวยวายออกมา
“ก็เห็นว่านายอยากลืมความเสียใจก็เลยจัดให้ ก็ไม่คิดว่าจะนายจะเล่นมันเยอะขนาดนี้” คนประคองตัวให้คำตอบ
“แล้วทำไมนายไม่ห้ามเรา”
“จะห้ามยังไงล่ะ เราก็สะลึมสะลือเหมือนกัน แต่ดีหน่อยที่เราใช้มันมานานเลยไม่ถึงขนาดที่นายเป็น”
“แล้วที่เรามีอะไรกันนายป้องกันหรือเปล่า”
“ร้อยทั้งร้อยคนที่เล่นยานี้สดแทบทั้งนั้น เราก็เป็นหนึ่งในนั้น”
เต็นแทบปล่อยโฮออกมา นึกหวาดกลัวถึงผลร้ายต่างๆ นาๆ เมื่อตาสว่างขึ้นแล้วว่าตนเองได้ทำสิ่งเลวร้ายและผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไป
“ไม่ต้องกลัวหรอก เราคลีนอยู่แล้ว” อีกคนเอ่ยบอกให้เบาใจบ้างเกี่ยวกับเรื่องโรค แต่แล้วคำพูดที่ทำให้หนักใจกลับดังตามหลังมา
“แต่ต่อจากนี้ไปนายต้องระวังเรื่องการโดนจับตรวจฉี่ไว้หน่อยละกัน”
“หมายความว่าไง” เด็กหนุ่มถามกลับทันควัน
“อ้าว ก็นี่มันยาเสพติดนะ ตรวจเจอก็โดนซิวสิครับ” อีกคนตอบให้หนักใจ
“แล้วโทษมันคืออะไร”
“ก็ร้ายแรงพอที่จะทำให้นายเสียอนาคตได้ เตือนด้วยความหวังดีว่าต่อจากนี้เป็นไปได้เลี่ยงจากการตรวจฉี่ซะ อย่างน้อยก็เดือน สองเดือน หรือสามเดือนแล้วแต่ว่าสารในกายนายจะเจือจางเร็วหรือช้า นี่ไม่นับรวมถึงที่นายจะเล่นมันอีกนะ”
เล่นอีกเหรอ เต็นทวนประโยคหลังในใจ ไม่มีทาง เขาไม่มีทางกลับมาวังวนนี้อีกแน่ แต่จากวันนี้ล่ะ เขาจะทำยังไงเพื่อลบมลทินนี้ออกจากกายให้หมดไปเร็วๆ
“มีวิธีขับมันออกมั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างร้อนรน
“ก็ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วกัน จะได้ฉี่ออกมามากๆ ตอนนี้ฉี่นายอาจจะมีสีเข้มหน่อย อย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ เฮ้อ ขอโทษด้วยว่ะ ไม่คิดว่านายจะมือใหม่จริงๆ”
“มีเหตุผลอะไรที่เราจะโกหกนายว่าเราไม่รู้จักมัน ทำไมนายไม่บอกเราตั้งแต่ต้น ทำไมล่ะแม็ค ทำไมนายถึงไม่บอกเรา” เต็นโวยวายเสียงดังลั่นอย่างนึกโกรธเคืองคนเอ่ยขอโทษเมื่อครู่ เด็กหนุ่มร้องไห้เสียน้ำตาอีกครั้งเมื่อนึกหวาดกลัวถึงผลร้ายต่างๆ ที่จะตามติดชีวิตตนหลังจากนี้
“ใจเย็นๆ ก็เราบอกแล้วไงว่านึกว่านายแกล้งไม่รู้จักไอ้ยานี่เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น” คนถูกโวยใส่เอ่ยบอกก่อนจะคว้าร่างเด็กหนุ่มเข้ามากอดปลอบ เต็นจึงปล่อยให้ร่างของตนสะอื้นอยู่ภายใต้อกนั่น ก่อนจะสะดุ้งกับเสียงร้องทักที่แผดกล้าเข้ามาในโสตประสาท
“กล้าดียังไงถึงได้พากิ๊กมามั่วถึงในห้องของเราแม็ค!”
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป


Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
ไม่แน่ใจว่าจะมีคนรับตอนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่เหตุการณ์มันเป็นไปแล้ว เหอๆ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:



อ่านแรกๆก็ยิ้มได้อยู่ ไปๆชักจะยิ้มไม่ออกแล้ว ว่าแต่ใครนะที่เข้ามา

นพ?
แชมป์?
อื่นๆ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2011 11:17:02 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เต็นเอ้ย....

ถ้าเค้าไม่รักก็ปล่อยเค้าไป ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วย

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

/กิต. เกร็ง
๕๓ + ๑ = ๕๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries


yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เนี่ยป้าไม่อยากสงสารเต็นเลยนะ เรียนตั้งมหาวิทยาลัยแล้ว
ยังไม่ฉลาด ไม่รู้อะไรกับเรื่องแบบนี้ เค้าให้ความรู้กัน สอนกันตั้งกะมัธยมต้นแล้ว
เอ๊ะ รึตั้งกะประถมเลยหว่า ไอ้เรื่องยาเนี่ย
มีเพศสัมพันธ์กัน แล้วเล่นสดกันแบบนี้ ไว้ใจได้ไงว่าคลีนจริงไรจริง
เพื่อนรู้จักกันทางเน็ตแป๊บๆเองแท้ๆ เฮ้อ เป็นบทเรียนอันหาค่ามิได้สำหรับเต็นจริงๆ
แต่ก็ดี เรื่องของเต็นตอนนี้คงป็นอุทาหรณ์ให้คนหลายคนได้
คนเราเสียใจได้แต่อย่าขาดสติ เต็นนี่ขาดสติจนประมาทพลาดพลั้งอย่างใหญ่หลวงเลย

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :laugh5: :laugh5:สรุปแล้วใจง่ายเองใช่มั้ยเต็น ทุกเรื่องใช่มั้ย

ออฟไลน์ primmi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คนที่เข้ามาจะเป็นแชมป์ หรือ นพ ป่าว
แต่แชมป์ไม่ชอบผู้ชาย อาจเป็นนพ แต่ถ้าเป็นนพก็ดีอย่างน้อยเต็นจะได้รู้สึกผิดน้อยลง555

อ่านแล้วรู้สึกเต็นทำตัวเองทั้งนั้น แถมยังชอบคิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ
บ้างทีก็รู้สึกสมเพชนะ
แต่คนโดนความรักบังตาก็คงโง่ประมาณนี้มั่ง
ไม่รู้ว่าจริงๆแชมป์มีเหตุผลอื่นป่าว
แต่เราเข้าใจอารมณ์แชมป์นะ แบบบ้างคนเราเข้าไปเล่นๆด้วย แต่พอเห็นเขาจริงจังกลับมาขนาดนั้น
บางทีก็อึดอัดถึงขั้นกลัวเหมือนกัน 555 แถมเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง เป็นเรา เราก็ชิ่งหนีอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
คงไม่ใช่แชมป์น่ะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

 :m16: เต็น เหอะๆ

หลงมัวเมา เขลาโง่ โมโหบ้า
รักบังตา มืดมิด สนิทแน่น
ไร้สติ ไร้ปัญญา ครอบงำแทน
ก็ไอ่แค่ ไม่มีแฟน แสนเดียวดาย

รักตัวเอง ให้ดีก่อน รักคนอื่น
ห่วงหวานชื่น เลยลืมขม จะจมหาย
รักคนอื่น แทบจะเป็น แทบจะตาย
แต่ตัวเอง ทุกข์ไม่วาย ตายทั้งเป็น


 :a5: เครียด แต้..แต้

 :กอด1: ขอบคุณครับ คุณบอย


ป้อล่อ  :sad4: มานั่งจิตตก..ต่อ

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
เอ่อม...

เต็นมันเรียนมหาลัยแล้วไม่ใช่เหรอ..
บทนี้ เหมือนเด็ก ม.ต้นหรือไม่ก็เด็กประถมเลย

ยังมีหน้าไปตีโพยตีพายใส่คนอื่นเค้าอีกแน่ะ =[]=!

ก๊าซซซ สภาพจิตทำให้คนเราสมองลดอายุได้เหรอเนี่ย...

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อ่านไปไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชเต็นดี

ทำตัวเองแท้ๆหละน้า แล้วใครมาหว่า ขอเดาว่าแชมป์หละกัน


ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
 :laugh:
อะไรกันว่ะเนี่ย


กรูจะบ้าตายอยู่แล้ว


เรียกข้าว่าอิแรด

  • บุคคลทั่วไป
ห๊ะ ทะเลแล้ว

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เต็น นี่ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองเลยเหรอ
เป็นบุคคลที่น่าสงสารจริงๆ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เอิ่มมมม

Go so big แล้วละคร้าบบบบ

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
อืม........จะว่าไงดีละ  ทำมัยเรืองมันเหมือนจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆๆๆ  :m15:

 :เฮ้อ:  เต็นเอ้ย  สุ้ต่อไป  



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:พี่บอย


 :L2: :L2: :L2: :L2:

+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2011 22:47:18 โดย konnarak »

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้แล้วเครียดอ่ะ
ทำไมเต็นถึงได้อ่อนไหวขนาดนี้
ถูกล่อลวงได้ง่ายๆ ทั้งคำพูดของแชมป์ ไหนจะเชื่อคนง่ายๆอีก
ดูแล้วคงจบไม่สวย  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 13
เต็นหันไปมองยังที่มาของเสียง พบเด็กหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวจัดยืนจ้องเขม็งมาที่ตนกับคนที่โอบกอดร่าง เด็กหนุ่มรีบผละร่างออกจากคนนั้นทันที แล้วยืนขึ้นยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ
   “สภาพดูไม่ได้เลยนะนาย ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องนี้ซะ” เสียงคนมาใหม่ออกคำสั่ง เต็นหันไปมองหน้าคนที่ชวนตนมาที่นี่ซึ่งกำลังจ้องไปที่ร่างคนมาใหม่
   “จะมาทำไมไม่บอกล่ะกาย” เจ้าตัวเอ่ยถามคนนั้น
   “ถ้าบอกก็ไม่เห็นภาพดีๆ น่ะสิ” ฝ่ายนั้นตอบกลับ เต็นจึงยืนมองสองคนพูดคุยกัน
   “ไม่ต้องประชดหรอก ที่มานี่เพราะเขาไม่ว่างใช่มั้ย”
   “แม็คหมายถึงใคร”
   “คบกิ๊กใหม่กี่คนล่ะ ถึงได้ถามว่าหมายถึงใคร”
   “อย่ามาว่ากายนะ ทีตัวเองล่ะ พาคู่ขามาล่อถึงห้องแบบนี้มันก็ไม่ดีไปกว่ากายเท่าไหร่หรอก”
   “ห้องนี้มันห้องแม็ค กายเก็บข้าวของย้ายออกไปตั้งนานแล้ว จะมาถือสิทธิ์หวงห้ามไม่ให้แม็คพาใครมาเพื่ออะไร”
   “นี่แม็คกล้าพูดแบบนี้กับกายเหรอ”
   “ทำไมแม็คจะพูดไม่ได้ ก็ในเมื่อแม็คพูดเรื่องจริง การที่แม็คยอมให้กายเทียวมาเทียวไปแบบนี้มันก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
   “ไอ้แม็ค มึงเห็นคู่คู่ขานั่นดีกว่ากูที่เคยเป็นคบมึงเป็นปีๆ หรือไง”
   “อย่ามาหยาบคายใส่แม็คนะกาย แม็คคบกับกายเป็นปีๆ ก็ใช่ แต่กายก็ทิ้งแม็คไปเป็นปีๆ แล้วไม่ใช่เหรอ”
   “พูดแบบนี้ใช่มั้ย ได้รู้จักคนอย่างไอ้กายน้อยไป หลงคู่ขาใหม่นักใช่มั้ย หลงมันนักใช่มั้ย”
   เต็นถอยฉากหน่อยๆ เมื่อเห็นร่างของคนที่ตนเพิ่งรับรู้ว่าชื่อกายเดินย่างกายเข้ามาหา เด็กหนุ่มพอจะรู้เจตนาฝ่ายนั้นว่าคงตรงมาทำร้ายตน
   “อย่ามาทำกร่างที่ห้องนี้นะแม็ค กลับไปหาคู่ขาอันธพาลนายเลยไป อย่ายุ่งกับเต็นเด็ดขาด”
   เต็นตกใจเมื่อเห็นร่างของคนที่เดินเข้ามาหาตนกระเด็นถอยกลับทางเดิมจากแรงผลักของคนที่เข้าปกป้องตน
   “เห็นเสื้อผ้าเรามั้ยแม็ค เราจะกลับล่ะ” เด็กหนุ่มเห็นท่าไม่ดีเลยเอ่ยถามคนนั้น
   “ไปค้นในตู้แล้วหยิบเสื้อผ้าเราไปใส่ก่อน ของเต็นเราเอาไปซักแล้ว” เจ้าตัวหันกลับมาบอก แต่ยังระแวดระวังถึงพฤติกรรมของอีกคนในห้องอยู่ด้วยการหันกลับไปมองฝ่ายนั้นเป็นระยะ
   “ถึงขนาดค้นตู้เสื้อผ้ากันได้ มันไม่มากไปหน่อยเหรอแม็ค” เสียงคนนั้นดังมาให้ได้ยิน
   “น้อยไปด้วยซ้ำ นี่มันเพียงแค่เริ่ม ถ้าเต็นยอมรับว่าแม็คเป็นแฟนเมื่อไหร่ เขาทำได้มากกว่าค้นตู้เสื้อผ้าอีก”
   เต็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน จังหวะนั้นคนพูดหันมาสบตาเข้าพอดี เด็กหนุ่มรีบหลบตาเลี่ยงไปหาเสื้อผ้าที่ตู้ด้านหลัง โดยไม่ทันระแวงระวังเพราะมัวแต่อึ้งในสิ่งที่ได้ยิน เด็กหนุ่มต้องตกใจในตอนที่หยิบชุดหนึ่งชุดขึ้นมาแล้วโดนมือหนึ่งยื่นเข้ามากระชากจนหลุดจากมือ
   “มาชุดไหนก็กลับไปชุดนั้น อย่ามายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าผัวกู”
   เต็นตอบโต้ไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดหยาบคายจากปากคนที่แลดูแล้วไม่น่าจะพูดออกมาได้ สักพักจึงเห็นอีกคนเข้ามาปกป้องตนเช่นเดิม
   “ถ้าชุดนั้นเขาหวงนักก็ไปหยิบเอาชุดใหม่ก็ได้เต็น”
   “ชุดไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าขืนไม่ฟังกูต่อยหน้าแหกแน่” คนขี้หวงขึงขังเข้าใส่ ถึงตอนนี้เต็นจึงต้องเอ่ยบ้าง
   “อย่ามาอันธพาลใส่ผม เราไม่รู้จักกัน”
“งั้นมึงอยากรู้จักกูมั้ย” ฝ่ายนั้นถลึงตาใส่พลางยกมือขึ้นผลักอก เมื่อโดนร้ายใส่ซึ่งๆ หน้าแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เต็นจะอดทน เด็กหนุ่มจึงกำหมัดขึ้นชกเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าคนอันธพาล จนเจ้าตัวเซล้มไปกองที่พื้น
   “กูก็คนนะโว้ย ความอดทนมันมี ถ้าขืนมึงยังกร่างไม่หายตัวต่อตัวกะกูเลยมั้ย”
   เงียบ ไม่มีเสียงโต้กลับจากฝ่ายนั้นเต็นจึงหันไปคว้าเอาเสื้อผ้าในตู้เดินหายเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้สองคนในห้องเคลียร์กันเอาเอง
   เต็นออกมาจากห้องน้ำในเสื้อผ้าชุดใหม่และสภาพร่างกายที่สดชื่นขึ้น เด็กหนุ่มหันมองรอบห้องเมื่อไม่เห็นร่างคนกร่างยืนรวมอยู่กับเจ้าของห้อง
   “เราบอกให้เขากลับไปแล้ว” เสียงเจ้าของห้องเอ่ยบอก
   “แล้วเขายอมง่ายๆ เลยเหรอ” เต็นถาม
   “โดนต่อยปากเลยหายซ่ามั้ง” คนนั้นตอบ เต็นจึงถามต่อ
   “เขาเป็นใคร แฟนนายเหรอ”
   “ก็คนที่เราบอกว่าทำเราบ้ามาเกือบปีน่ะแหละ”
   “แต่ท่าทางเขายังรักยังแคร์นายอยู่นี่”
   “กิ๊กใหม่ไม่ว่างอ่ะดิ เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วจนเราเฉยๆ”
   “โกรธหรือเปล่าที่เราต่อยเขาเมื่อครู่”
   “ก็เขาวอนเองนี่ ช่างเขาเถอะ อย่าพูดถึงเขาเลย สนุกกันต่อมั้ย ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว”
 เต็นจึงรีบถอยร่างออกห่างเมื่อคนพูดเดินเข้าหาทำท่าจะโอบกอด ฝ่ายนั้นจึงร้องทัก
   “เฮ้ย เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะเต็น”
   “แค่อารมณ์ชั่ววูบ อย่ามานับเป็นความผูกผัน” เต็นตอบอย่างเฉยชา
   “แรงแฮะ โอเค อารมณ์ชั่ววูบก็ชั่ววูบ งั้นยังไงดีล่ะ จากนี้จะเอาไงบอกมา”
   “เราจะกลับห้อง”
   “ไปดิ เดี๋ยวขับรถไปส่ง”
   “ไม่ต้องอ่ะ เรากลับเองดีกว่า”
   “อย่าทำเป็นเก่งน่าเต็นกลับไม่ไหวหรอก ที่ยืนไหวนี่แค่อาบน้ำมาใหม่หรอกนะ ลองไปยืนรอรถข้างนอกนานๆ สิ ล้มแน่รับรองได้”
เต็นตวัดสายตามองคนพูด บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรตอนนี้ โกรธก็โกรธที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกถึงพิษร้ายของไอ้ยานรกนี่ แต่จะโทษเจ้าตัวฝ่ายเดียวก็คงจะไม่ถูกนักเพราะตัวเองก็ดันโง่ อยากประชดชีวิตจนไม่คิดหหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วน
“เฮ้ย อย่ามองแม็คแบบนั้นดิ กลัวนะโว้ย” คนโดนมองร้องทักขำๆ สรรพนามแทนตัวและท่าทีที่เห็นทำเอาเต็นแอบคิดถึงคนอีกคนไม่ได้ ทำไมคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่คนชื่อแชมป์นะ ถ้าเป็นแบบนั้นนาทีนี้เขาคงจะมีความสุขที่สุด
“อ้าว เมื่อกี้ตาดุๆ แล้วไหงตอนนี้คล้ายคนจะร้องไห้ซะงั้น” เสียงทักดังมาให้ได้ยิน จึงรีบปรับอารมณ์บอก
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“คิดถึงเขาเหรอ” คนนั้นถาม
“ใคร”
“ก็คนที่ทิ้งนายไป”
“เปล่า”
“อย่าปฏิเสธเลย แม็คดูออกน่า”
“ช่างเถอะ อย่ามาสนใจเราเลย ขอตัวนะ”
“ขอตัวไปไหนล่ะ ก็บอกว่าจะไปส่ง”
“นายพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องลำบากหรอก”
“ลำบากอะไร บอกแล้วไงว่าเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
“บอกไม่ต้องก็ไม่ต้องสิ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง” เต็นขึ้นเสียงเมื่ออีกคนไม่ฟังเสียงค้าน
“โอเค ไม่ก็ไม่ งั้นกลับดีๆ ล่ะ” ที่สุดเจ้าตัวก็ยอมฟัง เต็นมองดูแค่แวบจึงเลี่ยงไปเก็บของที่ติดตัวมาเดินออกจากห้องไป
**********************************************************
บรรยากาศรอบตัวไม่ได้มืดมิดเท่าใดนัก เพราะที่ยืนอยู่เป็นป้ายรถประจำทางติดถนนใหญ่ ดึกๆ  แบบนี้ถนนโล่งจนดูเงียบเหงาอย่างรู้สึกได้ เต็นทรุดกายนั่งลงที่ตรงม้านั่ง เมื่อรู้สึกหนักอึ้งที่หัวขึ้นมา เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ บีบเค้นไล่อาการนั่นออกไป แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ มองรอบตัวที่ตรงนี้ไม่มีใครที่นั่งรวมอยู่ด้วย ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว่างจึงแล่นเข้าสู่กลางใจอีกครั้ง อาการปวดหนึบยังไม่ทันจางหายอาการวูบไหวก็แล่นเข้ามาผสมโรงจนร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ใช่สินะ ข้าวสักเม็ดยังไม่ทันได้ตกถึงท้องเลยนี่ตั้งแต่มาที่นี่ ในร่างกายตอนนี้คงเต็มไปด้วยสารพิษจากยานรกนั่นเป็นแน่ นี่มันคงเริ่มแผลงฤทธิ์ร้ายแล้วสินะ นึกถึงตอนนี้เด็กหนุ่มแทบอยากจะลุกวิ่งไปกลางถนนให้รถสักคันเฉี่ยวชนให้หมดลมหายใจไปซะให้ได้ เพราะไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่ตัวเองพลาดพลั้งทำลงไป แต่แล้วความคิดนั้นก็พลันสะดุดลงเพราะเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น
“นพ” เด็กหนุ่มครางชื่อคนโทรเข้ามาเบาๆ เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้ว นึกชั่งใจสักพักจึงกดรับสัญญาณ
“เต็นเหรอ อยู่ไหนน่ะ” เสียงฝ่ายนั้นทักมาตามสาย
“อยู่ อยู่ อยู่แถวลาดพร้าวน่ะ” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง แต่สุดท้ายบอกออกไปตรงๆ
“ไปทำอะไรแถวนั้นเหรอ” คนรักเก่าถามกลับ
“มาหาเพื่อนน่ะ”
“คนนั้นหรือเปล่า”
   เต็นนิ่งเงียบ เข้าใจว่าคนนั้นที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงเจ้าตัวหมายถึงใคร
   “เปล่าหรอก” เด็กหนุ่มตอบ
   “อืม ช่างมันเถอะ จริงๆ นพก็ไม่ควรจะถามหรอก นพแค่โทรมาถามว่าตาเป็นไงบ้าง พอดียุ่งๆ อยู่เลยไม่มีเวลาโทรถาม”
   ได้ยินคำพูดนี้คนวูบไหวถึงกลับกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่ไหว ทำไมคนรักเก่าจะต้องมาดีกับเขาเอาตอนนี้ด้วย
   “ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ ขอบใจนะ” ด้วยการเก็บกลั้นจึงได้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
   “เสียงไม่ดีเลยอ่ะเต็น มีอะไรหรือเปล่า” ฝ่ายนั้นเอ่ยถามมา
   “เปล่า ไม่มีอะไร แค่นี้นะ เต็นไม่สะดวกคุย” เด็กหนุ่มรีบตัดสัญญานทิ้งไปเมื่อข่มอารมณ์รื้นในใจต่อไปไม่ไหว น้ำตาจึงไหลอาบสองแก้มอีกครั้งปนด้วยอาการสะอื้นที่ฝืนเอาไว้ไม่ได้เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์และวันเวลาเก่าๆ ที่ผ่านมา อาการนั้นเป็นอยู่ไม่กี่นาที ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีก เป็นคนๆ เดิมที่โทรกลับเข้ามาใหม่ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดน้ำตา ระงับอารมณ์อ่อนแออ่อนไหวแล้วกดรับสัญญาณ
   “ท่าทางเต็นไม่ค่อยดีเลย มีอะไรหรือเปล่า ตอนนี้นพอยู่ข้างนอก ให้นพแวะไปหามั้ย” คนโทรเข้ามาเอ่ยทักทันที
   “เต็นไม่เป็นอะไร ดึกมากแล้ว นพเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ” เด็กหนุ่มปฏิเสธออกไปเพราะละอายใจที่จะเจอคนนั้น ไม่รู้จะตอบคำถามเจ้าตัวว่าอย่างไรหากว่าเจ้าตัวเอ่ยถามถึงคนต้นเหตุที่ทำให้ตนตกอยู่ในสภาพนี้
   “อืม ไม่สะดวกเจอก็ไม่เป็นไร งั้นก็ตามสบายนะ นพไม่กวนแล้ว มีอะไรก็โทรมาละกัน”
   คนนั้นวางสายไปแล้ว เต็นจึงนั่งอยู่ต่ออย่างเลื่อนลอยสักพักจึงตัดสินใจลุกขึ้นเรียกแท็กซี่นั่งกลับห้อง ระหว่างทางจิตใจก็หวนนึกไปถึงคนที่เย็นชากับตนอีกจนได้ จึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาเจ้าตัวอีกรอบ หวังเพียงจะได้คำพูดดีๆ เพื่อช่วยลดทอนความรู้สึกเลวร้ายที่ฝังอยู่ในใจตอนนี้ให้ทุเลาลง
   เสียงเพลงรอสายดังให้ได้อยู่เป็นนานจนเกือบจะท้อใจ แต่แล้วกลับมีเสียงทักทายดังมาให้ใจชื้นตอนกำลังจะวางสายทิ้ง
   “ฮัลโหล”
   “แชมป์เหรอนี่เต็นนะ” เด็กหนุ่มทักทายออกไปอย่างรู้สึกดีใจ
   “อืม มีอะไร” เสียงห้วนสั้นดังมาตามสาย แต่นั่นก็ไม่ได้บั่นทอนความรู้สึกดีใจให้น้อยลงได้
   “ขอบคุณนะแชมป์ที่ยอมคุยกับเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยออกไปตามความรู้สึก แต่แล้วกลับตัวชาวูบกับสิ่งที่ฝ่ายนั้นตอบกกลับมา
   “ไม่หลับไม่นอนหรือครับ คุณดูจะล้ำเส้นกับผมมากเกินไปแล้วนะ”
   “เต็นขอโทษ เต็นแค่อยากคุยกับแชมป์”
   “แต่นี่มันเป็นเวลานอนนะครับ”
   “ก็ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยรับสายเต็นเลย”
   “ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าติดต่อมาหาผม ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”
   “แล้วถ้าตอนนี้เต็นบอกว่าเต็นจำเป็นล่ะ”
   “จำเป็นยังไง”
   “เต็นเหงา เต็นโดดเดี่ยว แชมป์รู้มั้ยว่าเต็นไปเจออะไรมาบ้างระหว่างที่แชมป์หายไป”
   “เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันไม่จำเป็นเลยที่ผมจะรับรู้เรื่องของคุณ”
   “ทำไมแชมป์ถึงร้ายกับเต็นได้ขนาดนี้”
   “ผมจะร้ายกว่านี้อีกถ้าคุณยังดึงดันที่จะติดต่อผมอยู่”
   “สรุปว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็กลับมาคุยกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย”
   “ก็น่าจะเป็นยังงั้น”
   “แชมป์ไม่เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เราทำด้วยกันบ้างเหรอ”
   “คุณครับ เรารู้จักกันกี่วันกันครับ วันดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะ มันจะน่าจดจำและน่านึกถึงขนาดไหนกัน”
   “แชมป์”
   “โทษผมไม่ได้นะ คุณบังคับให้ผมพูดเอง แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
   เสียงสัญญาณขาดหายไปในนาทีนั้น เต็นเอนกายพิงเบาะรถอย่างหมดเรี่ยวแรง เด็กหนุ่มปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง
   จากคนหนึ่งถึงอีกคน
คนหนึ่งอยากจะรู้ อีกคนไม่อยากให้ถาม
คนหนึ่งคอยวิ่งไล่ตาม อีกคนก็เดินหนีไป
คนหนึ่งคอยตรงนี้ อีกคนไปอยู่ที่ไหน
คนหนึ่งบอกว่าเหงาใจ อีกคนว่าน่าระอา

คนหนึ่งอยากไปหา อีกคนก็กลับห่างเหิน
คนหนึ่งอยากนั่งใกล้ๆ อีกคนไม่ยอมสบตา
คนหนึ่งโทรทุกครั้ง อีกคนไม่เคยโทรหา
คนหนึ่งแบกรักเต็มบ่า อีกคนไม่แคร์อะไร

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

คนหนึ่งบอกว่ารัก อีกคนไม่อยากจะรู้
คนหนึ่งยังเหมือนเดิมอยู่ อีกคนทำไมเปลี่ยนไป
คนหนึ่งห่วงเสมอ อีกคนหนึ่งห่วงอยู่ไหม
คนหนึ่งยังนั่งร้องไห้ อยากรู้หัวใจอีกคน

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

ขณะที่ฉันรักมากมาย แต่ว่าเธอทำไมน้อยลง
   วันใหม่เต็นตื่นขึ้นมาจนเกือบจะเที่ยง เด็กหนุ่มจำเป็นต้องเกเรหยุดเรียนอีกวันเพราะสภาพร่างกายตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกไปทำอะไรได้ ขนาดต้องค่อยๆ คลานลุกจากที่นอนตะเกียกตะกายหาน้ำดื่มเพื่อประทังร่างกายที่อิดโรย เพราะหลังจากที่กลับถึงห้องเมื่อคืนเด็กหนุ่มมัวแต่นั่งจมกับความรู้สึกเจ็บปวดในทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจนลืมไปว่าตัวเองยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกายเลยสักนิด
   ร่างอิดโรยนอนราบอยู่บนพื้นห้องอย่างคนทรมาน เมื่อรู้สึกลมหายใจขาดหายเป็นช่วงๆ เพราะเกิดจากอาการหวิวไหวของหัวใจ สุดท้ายเมื่อคิดว่าร่างกายอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้จึงฮึดกำลังใจเฮือกสุดท้ายพาตัวเองไปคว้าโทรศัพท์เพื่อติดต่อไปหาคนรักเก่า
   “นพช่วยเต็นด้วย” เสียงแหบพร่าดังไปตามสายเมื่อมีเสียงกดรับสัญญาณ สักพักจึงมีเสียงทักกลับมา
   “เต็น เต็นเป็นอะไร แล้วตอนนี้อยู่ไหน”
   “เต็นอยู่ที่ห้อง ไม่ไหวแล้ว เต็นเหนื่อยใจจะขาด” เด็กหนุ่มบอกออกไปในเฮือกสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้ร่างกายสลบไปในที่สุด มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีคนมาเขย่าร่าง จึงปรือสายตาขึ้นมอง
   “นพ” น้ำเสียงแสนเบาเอ่ยเรียกคนนั้น
   “เต็น เต็นเป็นอะไรไป ไปโรงพยาบาลนะ” เจ้าตัวพยามยามจะประคองลุก แต่สถานที่ที่ถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่ทำให้ต้องยั้งตัวเองเอาไว้
   “ไม่นพ เต็นไม่ไปโรงพยาบาล”
   “ทำไมล่ะเต็น เต็นเป็นขนาดนี้เต็นต้องไปหาหมอนะ”
   “ไม่นพ เต็นไปหาหมอไม่ได้ เต็นไปไม่ได้” ถึงตอนนี้น้ำตาเด็กหนุ่มไหลพราก โผเข้ากอดคนประคองตัวดั่งต้องการหาที่ยึด
   “มันเกิดอะไรขึ้นน่ะเต็น” คนนั้นกอดปลอบพลางเอ่ยถาม จึงตัดสินใจเอ่ยบอกอย่างกระท่อนกระแท่น
   “เต็น เต็น เต็นเสพยามานพ เต็นเสพยามา ที่เต็นเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะฤทธิ์ของมัน”
   “หา! เต็นว่าไงนะ” ฝ่ายนั้นร้องถามอย่างตกใจ เต็นไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงได้แต่ร้องไห้สะอื้น
   “หยุดร้องก่อนเต็นแล้วบอกนพซิ เต็นไปเสพยาอะไรมา” อีกคนคาดคั้นเอาคำตอบถึงชนิดยา
   “ยาไอซ์” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบสั้นๆ แต่ทำเอาคนฟังตกใจต่อว่า
   “บ้าไปแล้ว เต็นไปยุ่งกับมันได้ไง”
   “เต็นไม่รู้ เต็นไม่รู้” เด็กหนุ่มร้องไห้หนัก
   “ไม่รู้แล้วมันเกิดขึ้นได้ไง”
   “เต็นแชทเอ็ม แล้วมีคนชวนไปเต็นกำลังสับสนอยู่เต็นเลยไปหาเขาสุดท้ายเขาชวนเล่นมัน”
   “แล้วเต็นเล่นมันทำไม”
   “บอกแล้วไงว่าเต็นไม่รู้”
   “แล้วต่อจากนั้นล่ะ”
   “เต็นไม่อยากพูดถึงแล้ว เต็นอยากลืมมันเต็นไม่อยากพูดถึง”
   “แค่นี้นพก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น โธ่เอ้ยเต็นทำไมถึงได้เหลวไหลแบบนี้นะ”
   “เต็นไม่รู้จะทำยังไงแล้วนพ เต็นกลัว เต็นกลัว”
   “ใจเย็นๆ นะ ตอนนี้ดูเต็นแย่มาก ขึ้นไปนอนพักบนเตียงก่อนไปเดี๋ยวนพเช็ดตัวให้ยังไม่ได้ทานอะไรเลยใช่มั้ยร่างกายถึงได้เป็นแบบนี้”
   เต็นพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะปล่อยให้คนรักเก่าจัดการกับร่างกายตนทุกอย่างจนรู้สึกดีขึ้น มีเรี่ยวแรงพอที่จะถามถึงเรื่องอื่นๆ
   “นพลางานมาเหรอ”
   “อืม”
   “เต็นขอโทษ เต็นไม่รู้จะโทรหาใครแล้วจริงๆ”
   “ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่เขารู้มั้ยว่าเต็นเป็นแบบนี้”
   “ใคร”
   “ก็คนนั้นไง”
   “อย่าถามถึงเขาเลย”
   “ทำไมล่ะ”
   “เพราะเต็นไม่รู้จะตอบนพว่ายังไง”
   “ก็ตอบตามความจริงสิ ไม่เห็นยาก”
   “เราสองคนไปกันไม่รอด”
   “เฮ้ย เพิ่งจะคบกันเองไม่ใช่เหรอ”
   “ยังไม่ทันได้คบหรอก เขาบอกเลิกเต็นถัดจากวันที่เต็นบอกเลิกนพ”
   “กรรม อย่างนี้ก็แย่นะ”
   “ช่างมันเถอะ”
   “นี่ใช่มั้ยเป็นสาเหตุให้เต็นต้องทำตัวเหลวไหลแบบนี้”
   “อืม”
   “โธ่เอ้ย แล้วเรื่องเรียนเป็นไงบ้างเนี่ย”
   “หยุดไปหลายวันแล้ว”
   “ไม่ได้นะเต็น ใกล้จะจบแล้วก็ต้องเอาให้จบให้ได้นะ นพเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าใช้เวลากับเรื่องไร้สาระให้มันมากนัก”
   “ต่อไปเต็นคงเริ่มทำใจแล้วล่ะ บาปกรรมมันตามสนองเต็นแล้วที่บอกเลิกนพ”
   “เรื่องนั้นนพทำใจไว้แล้วล่ะว่ามันต้องมีสักวันตั้งแต่ที่นพกลับมาเห็นว่าเต็นพาเขามาที่ห้อง”
   “แต่ก่อนหน้านั่นนพก็ห่างไปจากเต็นจริงๆ ไม่ใช่เหรอนพจะมารู้สึกได้ไง”
   “นพยังยืนยันนะว่านพหายไปเพราะเรื่องงาน”
   “นพคงยังไม่รู้สินะว่าเต็นเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋ากางเกงที่นพฝากเต็นซักให้”
   “เจอแล้วไง มันก็แค่ของเขาแจก นพไม่ได้ตั้งใจเอาไปใช้กับใคร”
   “นพพูดจริงเหรอ”
   “นพจะโกหกเต็นไปทำไม ถุงยางนั่นมีหน่วยงานเขามาแจกจริงๆ ระหว่างทางที่นพมาหาเต็นที่ห้อง”
   “นพพูดแบบนี้ยิ่งทำให้เต็นรู้สึกผิดนะ”
   “ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก นพรู้ว่าการกระทำของนพมันก็ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าถ้าเต็นก้าวเข้ามาในสังคมคนทำงานเต็นก็จะรู้เองว่าทำไมนพถึงเปลี่ยนไปบ้างในบางเวลา”
   “เต็นขอโทษที่มองนพผิดไป”
   “ช่างมันเถอะ ตอนนี้ก็ลุกขึ้นมาจัดการกับชีวิตตัวเองใหม่ได้แล้วนะ เป็นไปได้ติดต่อกับไอ้คนที่มันพาไปเล่นยาให้มันไปตรวจเลือดซะ เพื่อความสบายใจ”
   “เต็นไม่อยากไปเจอหน้าหรือพูดคุยกับเขาอีก”
   “ถ้างั้นระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงอีกก็แล้วกัน ครบสามเดือนก็ไปตรวจเลือดซะ”
   “เต็นกลัวจังนพ”
   “อดีตมันกลับไปแก้ไขไม่ได้อยู่แล้ว ต่อไปในอนาคตนี่สิเป็นเรื่องที่ต้องระวัง”
   “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด นพกลับไปทำงานต่อเถอะ เต็นไม่เป็นไรแล้ว”
   “แน่นะ”
   “อืม”
   “ถ้างั้นมีอะไรก็โทรหานพแล้วกัน อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใคร”
   “ขอบใจนะนพ”
   “ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยเราก็เคย เฮ้อ ช่างมันเถอะ นพไปนะ”
   ร่างสูงเดินออกจากห้องไปแล้ว คนในห้องมองตามจนลับตา เด็กหนุ่มเอนกายหลับตานึกคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่มีเหตุการณ์วุ่นวายและเลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิตจนเผลอพลาดพลั้งทำอะไรผิดๆ ลงไป ถึงเวลาแล้วสินะกับการยืนขึ้นใหม่แล้วก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างคนที่เจ็บแล้วจำ
   จากวันนั้นเต็นพยามยามทำใจให้ลืมเรื่องเก่าๆ แม้มันจะยากในระยะแรกแต่ที่สุดก็ทนมาได้จนถึงครบกำหนดการไปตรวจเลือด
หน้าคลินิกนิรนามเต็นเดินยิ้มออกมาทั้งน้ำตาหลังจากรับทราบว่าผลการตรวจเลือดของตัวเองยังปกติดีทุกอย่าง น้ำตาที่ไหลออกมาในตอนนี้มันเต็มตื้นออกมาด้วยความปีติยินดีที่ว่าหลังจากนี้ตนจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงดังเช่นสามเดือนที่ผ่านมาอีกแล้ว ระยะเวลากว่าเก้าสิบวันมันนานเหลือเกินกับการที่ต้องทนอยู่กับภาพความทรงจำอันเลวร้าย ช่วงเวลานั้นเด็กหนุ่มจัดการกับตัวเองเสียใหม่โดยการพักฟื้นร่างกายให้หายขาดจากเชื้อของยานรกตามคำแนะนำจากข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตรวมทั้งมีคนรักเก่าอย่างนพคอยให้กำลังใจและช่วยเป็นพี่เลี้ยงคอยควบคุมพฤติกรรมให้มีระเบียบในเรื่องเรียนจนกำลังจะกลายเป็นบัณฑิตเต็มตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้ความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มกับคนนั้นจะเป็นได้แค่เพื่อนกันแล้วก็ตามแต่นั่นมันกลับสวยงามและผูกพันกันมากกว่าการเป็นคนรักกันเสียอีก เพราะสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะมีฝ่ายใดแง่งอน
   คนที่พาชีวิตไปเสพติดยานรกอย่างแม็คติดต่อมาหาบ้างเป็นระยะๆ แต่ด้วยความที่ไม่อยากพูดคุยด้วยแล้วจึงตัดปัญหาโดยการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสียใหม่ การเปลี่ยนหมายเลขติดต่อครั้งนั้นเด็กหนุ่มได้ลบคนชื่อแชมป์ให้หายไปจากชีวิตตนเช่นกัน ด้วยการไม่ติดต่อไปรบกวนเจ้าตัวอีกไม่ว่าจะมีบางเวลาที่ยังคิดถึงอยู่ก็ตาม
   สายลมต้นฤดูหนาวพัดมากระทบร่าง เด็กหนุ่มปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองดูใบไม้แห้งบนต้นไม้ริมถนนที่ปลิวหล่อนตามแรงลม นึกคิดในใจว่าจากนี้จะปลดปล่อยควมทุกข์ทั้งหมดที่จมอยู่กับชีวิตมากว่า 3 เดือนให้ปลิวหายไปดังเช่นใบไม้แห้งนั่น สองขาออกก้าวเดินพร้อมรอยยิ้มอิ่มเอมที่ผุดแต้มเต็มใบหน้า แต่พลันต้องตกใจเมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวร่างทั้งร่างกลับได้ชนเข้ากับใครบางคน
   “แชมป์” เด็กหนุ่มเรียกชื่อฝ่ายนั้นเมื่อมองเห็นว่าเป็นใคร

โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณครับ

Boy


ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
มาๆๆๆ  จิ้มไรเตอร์  :z13:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แชมป์พูดมา เป็นเหตุผลจริงๆรึเปล่า
แต่ทำให้เต็นช้ำหนักขนาดนี้ ก็ตัดใจไปเหอะ
ยืนได้ด้วยตัวเองซะทีนะเต็น  :เฮ้อ:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้สาเหตุทำไมแชมป์ถึงเป็นงี้ หรือจริงๆแล้วไม่มีสาเหตุ เป้นเพราะความเลวในสันดาร

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
แชมป์  ตกลงแกเลวโดยสันดานใช่ไหม

จบไปแล้ว ก็ให้จบไปเลยได้ไหม อย่ามาทำให้เต็นไหวหวั่นนะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เม้นท์ไม่ออก
บอกไม่ถูก
พูดได้คำเดียว "เศร้า"

+1 ขอบคุณครับ คุณบอย .... กาซิกๆ


ป้อล่อ คุณบอยเขียนกลอน กินใจมากกกกก อ่านแล้วเศร้า แต้ๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2011 23:10:36 โดย broke-back »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
น้ำตาจะไหล สงสารเต็น

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

/กิต. ยื่นแก้วน้ำส้มให้เต็น
“นี่จ้ะ ดื่มซะ แม่นางเอก”
 :fcuk:
(บ้องหูซะ)

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries


Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป

เม้นท์ไม่ออก
บอกไม่ถูก
พูดได้คำเดียว "เศร้า"

+1 ขอบคุณครับ คุณบอย .... กาซิกๆ


ป้อล่อ คุณบอยเขียนกลอน กินใจมากกกกก อ่านแล้วเศร้า แต้ๆๆๆๆ


จึ๋ย! กลอนไหนเหรอครับ ถ้าเป็น "จากคนหนึ่งถึงอีกคน" เป็นเพลงของปาน ธนพร ครับ สารภาพว่าขี้เกี่ยจแปะโค๊ตเพลงก็เลยลงแค่เนื้อ แหะๆ

ท้ายๆ เรื่องจะมีเครดิตบอกทุกการอ้างอิง พร้อมการตอบเม้นต์ครับ


ขอบคุณครับ

Boy

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แชมป์พูดมา เป็นเหตุผลจริงๆรึเปล่า
แต่ทำให้เต็นช้ำหนักขนาดนี้ ก็ตัดใจไปเหอะ
ยืนได้ด้วยตัวเองซะทีนะเต็น  :เฮ้อ:

เห็นด้วยกับรีของคุณ ♥10♥KK♥23♥ค่ะ
เต็นอย่าลืมนะว่าบทเรียนครั้งที่ผ่านมานี่ของเต็น เกือบใช้ทั้งชีวิตแลกมา
เต็นอย่าเป็นไม้เลื้อย ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่มีรากแก้วแข็งแรง และหยั่งลึก
ใช้บทเรียนที่ผ่านมานั่นแหละ หล่อเลี้ยง และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้มแข็งและแข็งแกร่ง
เป็นกำลังใจให้เต็น 
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด