6.1
มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย...
ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรเขามากไปกว่าการนอนคุยและเล่นกีต้าร์ให้ฟัง....อ่ะๆ ยอมพูดความจริง ให้อีกอย่างก็แค่จูบ มากสุดก็ขอดีพคิส แต่เหตุการณ์ทุกอย่างมันเป็นไปเพราะสิ่งเดียว “ผมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้”
ฝุ่นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยยามถูกผมกกกอดเอาไว้กับอก เมื่อโดนผมเลิกเสื้อยืดขึ้นไปม้วนไว้แถวๆ คอก็ได้แต่ยอมขยับให้มันขึ้นไปง่ายขึ้น ยิ่งผมจูบไล่ไปตามซอกคอ แผ่นอก ระเรื่อยลงมาที่หัวนมเขา ฟันผมขบลงเบาๆ ฝุ่นก็ได้แต่ครางหวิวและแอ่นอกขึ้นรับด้วยความเสียวซ่าน
“มึง..จะแกล้งกูทำไม” น้องถามผมแบบนั้น เสียงฝุ่นสั่นมาก เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแววตาหวาดหวั่นคล้ายกำลังไม่มั่นใจในหน่วยตาซึมๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ ของเด็กดื้อเขา
ผมไม่อยากตอบคำถามนี้ แต่ก็เกรงว่าฝุ่นอาจจะเร่งเร้าเอาคำตอบได้ในตอนที่ผม “หยุดไม่อยู่” อีกต่อไป จึงได้ละมือที่กำลังรูดซิปกางเกงเขาเปลี่ยนไปจับเข้าเต็มๆ ที่สิ่งที่กำลังตื่นตัวเต็มที่จนลมหายใจฝุ่นกระตุกเยือก เจ้าตัวเล็กหน้าแดงก่ำ
“กูไม่ได้อยากมีเซ็กส์ แต่กูอยากทำรักกับมึง” แต่ก่อนหน้านั้นกูอยากให้มึงวางใจในความรักของกูบ้าง....
ผมหยุดบทสนทนาทุกสิ่งอย่างด้วยการกดจูบเขาอีกครั้งในขณะที่มือก็เริ่มล่วงล้ำเข้าไปในชั้นในตัวบางของเขา นาทีนี้ผมว่าผมสัมผัสได้ถึงร่างกายผอมๆ ที่เริ่มสั่น ผมรู้...การสัมผัสแบบนี้ไม่ใช่ผมคนแรกที่มอบให้เขา แต่ก็ยังดูคล้ายว่าฝุ่นเองก็ไมได้คุ้นชินกับมันมากเท่าใดนัก เด็กน้อยรู้สึกตัวไวกว่าใจผมเสียอีก
ผมเริ่มบรรเลงลวดลายลีลาที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกับร่างกายของฝุ่น จูบ สัมผัส มอบให้ทุกส่วนที่คิดว่าเขาจะรู้สึกดีจนกายผอมนั้นบิดเร่าไปมาบนเตียงนอนนุ่ม ผมก้มลงกัดปลายจมูกฝุ่นเบาๆ อย่างหยอกล้อ น้องมองผมด้วยสายตาเคืองนิดๆ มีหยาดน้ำตาจากแรงอารมณ์คลอหน่วย ตอนนี้มือผมยังไม่หยุดมอบความสุขให้เขาแม้แต่วินาทีเดียวจนมันเริ่มแฉะเต็มมือผม
“ดีไหม..ฝุ่น” ผมกระซิบถามชิดริมฝีปากอุ่นนุ่ม กดย้ำจูบอีกครั้งจนมันแดงเจ่อ อยากจะผสมความเร่าร้อนมากกว่านี้แต่ก็กลัวฝุ่นจะตื่นตกใจเลยขอจูบแค่ความหื่นระดับสอง
“ทีม...กูไม่เอา..พอแล้ว” เขาห้าม...ตามมารยาท
แหม ผู้ชายด้วยกันผมรู้หรอก โดนปลุกเร้าจนน้องจะร้องไห้อยู่รอมร่อใครบ้างอยากให้หยุดกัน ใจนึงก็อยากล้อแต่อีกใจก็เกรงว่าฝุ่นจะอายแล้วครั้งที่สองสามสี่อินฟินิตี้จะไม่มีให้ผมได้ชื่นใจอีก สงบปากสงบคำบ้างในบางทีก็คงไม่ทำให้ผมกระอักเลือดตาย เร่งมือให้เขาถึงปลายทางเร็วขึ้นในขณะที่ผมขอทีเถอะ...ก้มลงไปจูบเน้นแถวๆ หน้าอกเขา
ตรงตำแหน่งหัวใจแหละครับ แหมะ ตอนจูบลงไปนี่เหมือนจูบกับหัวใจฝุ่นเองเลย เต้นบึบๆ อยู่ที่ปาก...ผมกดเม้มตั้งใจให้มันเป็นรอยแดง ไม่รู้แหละ อาจจะโดนฝุ่นด่าถึงบรรพบุรุษ แต่นาทีนี้พี่ทีมไม่ทนแล้วครับ!!
“อะ..อา ทีม..ทีม! อื้อ!” เท่านั้นแหละครับ เด็กดื้อของผมก็สุขสมอารมณ์หมาย เขานอนหอบมองผมตาปรือ อื้อหือ ได้ทีสิครับ ปีศาจร้ายในใจยิ่งรอคอยวันจะได้กำเริบอยู่ เจอมองตาปรอยแบบนี้มีหรือพี่ทีมจะทนไหว วันนี้ไม่ได้เสียเหงื่อออกกำลังกายบนเตียงก็อย่าเรียกผมไอ้เหี้ยทีมเลยครับ!
Rrrrr!!
เสียงมารเหี้ยที่ไหนวะ!!!!!!
อ่อ...โทรศัพท์กูเองครับ...แหะๆ
ผมอยากจะทำเมินหูหนวกไม่สนใจเสียงโทรศัพท์ที่แผดร้องเหมือนทวดใครเสียแต่แม่ง เจอสายตาจิกๆ ของเด็กดื้อที่เพิ่งทำตาปรอยใส่เมื่อกี้แล้วก็ต้องยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์อย่างเสียไม่ได้...
เห็นชื่อคนที่โทรมาแล้วผมก็อยากจะสบถด่าให้อายไปถึงบรรพบุรุษของมันสมัยต้นกรุงสุโขทัยเลย..ไอ้เชี่ยไกด์! มึงขัดจังหวะกูกับ(ว่าที่)เมีย!!
“ญาติใครตายครับ ไอ้เหี้ย” สรรเสริญมันหน่อย จะได้รู้ว่าโทรมาถูกเบอร์
“เอ่อ...ทีม นะโมเอง” หืมมมม กำลังจะเที่ยงคืน แต่นะโมอยู่กับไอ้เชี่ยไกด์???? ไม่ได้กินเหล้าก็ต้องมีอะไรแล้วครับแบบนี้
“แป๊ปนะ นะโม” ผมบอกปลายสายไปแบบนั้น แล้วหันมาดึงเสื้อเด็กดื้อเขาให้เข้าที่ ฝุ่นมันปัดมือผมออกเบาๆ แล้วหันหน้าหนีเข้ากำแพง นี่คืออายหรืองอน?? แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทีมง้อให้ถึงใจเลยจ้ะฮันหนี (ยิ้มหื่น)
“มีอะไรรึเปล่า” ผมถามเมื่อเดินหนีมาคุยโทรศัพท์ที่ห้องน้ำข้างๆ นี่แหละครับ ขี้เกียจเดินไปเดินมาหลายรอบเปลืองพลังงาน เก็บไว้ผลาญบนสนามรักดีกว่า ฮิ้ววว
“กูโทรไปขัดจังหวะมึงเหรอเชี่ยทีม” เออะ สรรพนามขนาดนี้ นะโมคงไม่กล้าใช้กับผมมั้งครับ ที่จริงเธอก็เป็นสาวห้าวๆ นะใช้กูมึงกับคนอื่น แต่ไม่เคยใช้ศัพท์พ่อขุนพวกนี้กับผมหรอกครับ ส่วนใหญ่เก็บไว้ด่าเชี่ยไกด์ซะมากกว่า
“มึงมีอะไรวะ กูไม่ว่าง” ผมเริ่มโวยวายใส่
“เฮ้ยๆ ใจเย็นเพื่อนฝูง กูอะไม่ได้มีอะไรหรอก แต่วันนี้ไอ้ตะกวดไกด์กับพี่รหัสมึงโดนตีนมา นี่พวกกูรอมันทำแผลกันอยู่ที่โรงพยาบาลxxx เนี่ย ถ้าเสร็จภารกิจระดับชาติก็ขอความกรุณาขับหวานใจของมึงออกมาหาพวกกูหน่อยครับ” บอลมันสาธยายครับ ผมยิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันมากขึ้น นี่กูไม่ใช่ตำรวจหรือพ่อมึงนะ มีเรื่องแล้วต้องโทรหากูเนี่ย!! อารมณ์เสียโว้ย โดนขัดจังหวะ
“ห่า กูไปพรุ่งนี้เช้าไม่ได้เหรอ เดี๋ยวกูทบต้นทบดอกให้”
“กูเกรงว่าจะไม่ได้ครับ เรื่องนี้เกี่ยวกับมึงโดยตรงเลยครับ กูให้เวลาสิบห้านาที มึงไม่มาเหยียบโรงบาล กูจะโทรเข้าบ้านมึงไปบอกน้องฝุ่นว่ามึงมีชู้”
“ค-ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมแหกปากด่าเต็มเสียง แม่ง งงครับ พักนี้ติดบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปเสเพลกับเดอะแก๊งค์จนขวดเหล้าเริ่มงอนๆ แต่แล้วเรื่องมาถึงตัวกูได้ไงนี่คนหน้าตาดีสงสัย
เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วกูต้องออกไปสินะ...ผมตัดสินใจอดเปรี้ยวไว้กินหวาน พยายามทำใจปลอบตัวเองว่าไม่ได้วันนี้ วันหน้ายังมี เดินไปบอกเด็กดื้อเขาหน่อยว่าผมกำลังจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปฝุ่นกำลังยืนเปลี่ยนเสื้ออยู่ครับ สงสัยจะเข้าไปอาบน้ำ
ผมเดินเข้าไปกอดจากข้างหลัง แผ่นอกที่เปลือยเปล่าของผมเสียดสีเข้าเต็มๆ กับหลังเรียบเนียนของเขา กลิ่นผิวเนื้อหอมๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า ... แม่งเอ๊ย เร้าใจชิหายยยยยยยยย
“ปล่อย กูร้อน” ยังเป็นฝุ่นคนเดิมครับ ด่าผมเต็มปากเต็มคำอีกละ คงอยากจะหันมาฟาดหน้าผม แต่สุดหล่อรู้ทันครับ จับมือฝุ่นกำเอาไว้รวมกันด้วยมือข้างเดียว อีกข้างก็จับคางให้คนดีเขาหันมาเจอกับหน้าผม
“มาจูบที” เด็กดื้อเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรหรอกครับ แต่ผมจูบได้นิดเดียวฝุ่นมันก็พลิกหน้าหนี แล้วพึมพำคล้ายๆ ว่าจะไปอาบน้ำ ผมเลยบอก
“เดี๋ยวกูออกไปโรงบาลก่อนนะ”
“ไปทำไม” ฝุ่นชะงักมือที่กำลังจะโยนเสื้อตัวเก่าลงตะกร้าแล้วหันมาถามผมงงๆ
“พี่อ๋องกับไอ้เชี่ยไกด์โดนตีนใครมาไม่รู้ วันนี้อาจจะกลับดึกหรืออาจจะกลับพรุ่งนี้เลย” ผมบอกไปตามความจริง ฝุ่นมันพยักหน้างึกงักรับคำ ใจนึงก็อยากให้มันไปด้วยนะครับ เพิ่งผ่านสถานการณ์หวิดเสียตัว(ให้ผม)มาหมาดๆ แบบนั้น ผมไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว กลัวมันจะคิดมาก ยิ่งคนหัวดื้ออย่างฝุ่น ถ้าปล่อยให้คิดไปคนเดียว ท่าทางจะแก้ปัญหายากด้วย แต่มาคิดอีกที ถ้าเกิดผมต้องไปจัดการเรื่อง แล้วไปถวายฝ่าเท้าเข้าหน้าใคร ฝุ่นมันก็อาจจะไม่ปลอดภัยได้ เพราะงั้นเอาเด็กดื้อเขาไว้ที่บ้านแล้วค่อยกลับมาโอ๋พรุ่งนี้ดีกว่า
“อย่าเพิ่งคิดว่ากูได้มึงแล้วทิ้งนะ กูออกไปจัดการเรื่องแป๊ปเดียวนะจ๊ะ” ผมยิ้มกว้างให้เมื่อฝุ่นมันหันมาสะบัดนิ้วกลางด่าผม ก่อนจะเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ตัดตรงนี้แหละ see you in 6.2
Eiizes’s talk
หวัดดีค่า
ซอรี่มากๆ ที่มาช้าแล้วยังให้สั้นเว่อ แบบนี้อีก แต่ตอนนี้คนเขียนกำลังเป็นไข้แหละ
ไม่รู้ไข้กายหรือไข้ใจ เอิ้กกก

ตอนนี้แอบเห็นเลขวิว ประมาณ 4000 แล้ว แต่คอมเม้นมีอยู่ร้อยหกสิบกว่า....งืม

ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ถือซะว่าเป็นกำลังใจให้คนเขียนเถอะนะคะ จะได้รู้ว่ามีคนติดตามมากน้อยแค่ไหน โนะ
เขียนมาสั้นๆ ก็ได้ค่ะ

ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ฮ่าๆ ปวดหัวมากเลย เอาเป็นว่าจะรีบมาลงตอน 6.2 เร็วๆ นี้ละกันค่ะ ไม่นานแน่ๆ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
Eiizes
