พิมพ์หน้านี้ - บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: eiizes ที่ 02-12-2010 23:25:47

หัวข้อ: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 02-12-2010 23:25:47
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0















   ความรัก...




   เป็นคำจำกัดความของกับดักที่วาบหวามทว่าอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด ใครที่ติดอยู่กับวังวนนี้ยากที่จะหลุดออกมาโดยปราศจากรอยแผล หลายคนได้รับบาดเจ็บทางกาย แต่หลายคนกลับเจ็บลึกที่ตรงจิตใจ



   ถึงอย่างนั้น...คนส่วนใหญ่กลับยอมเจ็บตัวเพียงเพื่อให้ได้รู้จักลิ้มลองกับมันสักครั้ง...


   ตัวผมในตอนนั้นก็เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่ไม่รู้จักกับพิษสงที่ร้ายแรงของความรัก มัวแต่หลงใหลเมามัวไปกับรสสัมผัสที่น่าลิ้มลอง หลงผิดไปว่าความรักคือความสวยงามของชีวิต ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความวาบหวามที่ไม่เคยได้รับ กว่าจะทันได้รู้ตัวว่าความรักเป็นเพียงอีกหนึ่งใยแมงมุมที่ยึดแมงเม่าแสนโง่อย่างผมไว้เป็นเหยื่อ...




   ผมก็ได้รับบาดเจ็บจากมันเสียแล้ว


   .


   .


   แม้ผมจะเป็นเพียง “ฝุ่น” ที่ไม่มีใครสังเกตหรือมองเห็น...แต่ผมก็ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าความรัก มันสวยงามและเจ็บปวดเพียงไร


   .


   .


   .



   มีนาคม 2550


   ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน


   ไม่เพียงแค่วันนี้ แต่ในทุกๆ วันตั้งแต่ผมเริ่มเรียนรู้กับคำว่า หายใจ ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงสัตว์โลกที่เกิดขึ้นมาและพร้อมจะตายลงในนาทีใดนาทีหนึ่งข้างหน้า ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครสนใจ เหมือนกับชื่อของผมเอง


   ครับ...ผมชื่อ “ฝุ่น” เพียงแค่เศษฝุ่นที่ไม่มีใครสนใจเสมอมา และคงเป็นแบบนี้ตลอดไป


   แม้แต่ในงานแต่งงานของผู้หญิงที่เคยเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมเกิดจนถึงก่อนช่วงที่ผมจะไปอเมริกาอย่างน้าอิ่ม ผมก็ยังคงรู้สึกเช่นนั้น ทุกคนในงานแย้มยิ้มด้วยความยินดีและเปี่ยมสุข เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแลดูเหมาะกันอย่างมาก ด้วยความที่ครอบครัวของผมแต่เดิมนั้นนับถือศาสนาคริสต์ ทำให้เจ้าบ่าวของน้าอิ่มตัดสินใจจัดพิธีแต่งงานในโบสถ์เพื่อคนที่เขารัก ผู้ชายคนนี้ หรือชื่อที่น้าอิ่มแนะนำผมว่าเขาชื่อลุงสิน อายุมากกว่าน้าอิ่มถึงสิบสองปี แต่กลับดูไม่แก่ตามอายุเท่าใดนัก อาชีพการงานก็ดี เสียแค่ว่าเขาเคยแต่งงานและมีลูกชายวัยไล่เรี่ยกับผมติดมาอีกหนึ่งคน


   สถานที่จัดพิธีแต่งงานนั้น เป็นโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในย่านสามเสน มันต้องเข้าซอยไปลึกมากพอสมควรจนผมคิดว่าเราจะไปโผล่ที่ใจกลางโลกกันเสียแล้ว แต่กลับมีโบสถ์ขนาดใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ สองข้างขนาบด้วยโรงเรียนประถมและมัธยม ตามที่น้าอิ่มบอกมาคร่าวๆ ว่า หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีแต่คนนับถือศาสนาคริสต์แบบเดียวกับเราแทบทั้งหมด โบสถ์ที่นี่เลยค่อนข้างใหญ่เพราะชาวบ้านแถวนี้ต่างมีจุดศูนย์รวมที่โบสถ์


   หลังจากพิธีทางศาสนาจบลงแล้ว ทุกคนก็เริ่มทยอยกันออกมาที่ด้านนอกซึ่งเป็นลานกว้าง ตัวลุงสินและน้าอิ่มยังยืนอยู่บนบันไดโบสถ์เพื่อเตรียมจะโยนดอกไม้ แน่นอนว่ามีแต่สาวๆ และเพื่อนๆ ของน้าอิ่มเข้าไปยืนออกันเพื่อเตรียมรับ


   เท่าที่ได้ยินมา ถ้าใครได้ดอกไม้ช่อนี้ไป จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป...มันก็คงดี ถ้ามีคนที่เรารักอยู่ข้างๆ นะผมว่า แต่ถ้ามองอีกที...อยู่ตัวคนเดียวมันก็อาจจะดีกว่าก็ได้


   ตัวผมที่ใส่สูทเป็นกึ่งทางการในตอนนั้นก็ทำได้แค่ยืนเป็นตัวประกอบอยู่ที่มุมหนึ่งเท่านั้น ไม่แม้แต่จะเข้าไปแย่งดอกไม้หรือว่าถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้นผมไม่มีความรู้สึกใดๆ เกี่ยวกับพิธีการแต่งงานบ้าบออะไรนี่ มันก็แค่พิธีอีกอย่างหนึ่งที่บอกทุกคนที่มาร่วมงานว่าต่อจากนี้ไป ฉันไม่โสดแล้วนะ


   ผมมองเพื่อนของน้าอิ่มที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความสุขและสนุกสนานยามเธอได้ดอกไม้ไปครองสมใจ พวกเขายืนถ่ายรูปกันอีกพักใหญ่ กว่าน้าอิ่มจะเริ่มรู้ตัวว่าตัวประกอบในงานแต่งงานของเธอหายไปจากฉาก น้าสาวของผมที่ยังยืนอยู่บนบันไดโบสถ์ข้างๆ ว่าที่สามี หันรีหันขวางจนเธอหันสบตากับผมที่ยืนห่างออกไป ร่างเล็กในชุดเข้าสาวแสนสวยถึงได้วิ่งลงจากบันได


   ไม่เกินอึดใจ ข้อมือที่ถูกล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกงของผม ก็ถูกนางเอกของงานดึงขึ้นพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุข เธอบอกผมว่า


   “ฝุ่น! มาถ่ายรูปกับน้าสิ”


   ผมนึกอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียจริงๆ ยิ่งทุกคนที่แหวกทางให้เจ้าสาววิ่งตรงเข้ามาดึงผมไปร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดีกับเธอนั้น ต่างยิ้มอย่างขำขันให้กับความน่ารักปนซนๆ ของน้าอิ่ม


   บอกตามตรง...ผมไม่ชอบการถ่ายรูป เพราะผม...รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าพอจะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของใครทั้งนั้น...


    ใช่ว่าผมจะไม่ยินดีที่น้าตัวเองแต่งงาน กลับกัน ผมกลับยินดีมาก ที่จะมีใครสักคนเข้ามาดูแลน้าอิ่มผู้แสนดีของผมอย่างจริงใจ ไม่ว่าเขาจะเคยแต่งงานหรือมีลูกมาก่อนก็ตามที
   


   งานเลี้ยงรับรองแขกหลังจากพิธีสำคัญในโบสถ์จบลงถูกจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนข้างๆ นั่นเอง เพลงรักหวานแหววแบบที่เคยได้ยินจากในละคร หรือภาพยนตร์ถูกเปิดบรรเลงคลอเบาๆ ตลอดงาน น้าอิ่มกับลุงสินเดินถ่ายรูปกับแขกทุกโต๊ะ พร้อมทักทายทุกคนอย่างสนิทสนม เป็นผมอีกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินที่แปลกแยกออกมาจากทุกคน


   ผมสะอิดสะเอียนกับความอึดอัดจนทนไม่ไหวถึงได้ลุกออกมาจากงานเสียดื้อๆ และในครั้งนี้น้าอิ่มก็คงออกมาตามผมไม่ได้ เพราะเธอเองก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นกัน


   ผมล้วงบุหรี่ที่ถือติดมาจากอเมริกาออกมาจุดสูบอย่างไม่คิดจะสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ใกล้ๆ กันมีสุนัขจรจัดอยู่ตัวหนึ่ง มันเดินเข้ามาดมๆ ใจจริงก็นึกอยากจะเตะให้มันไปไกลๆ แต่มันเองก็คงหดหู่ในความเป็นหมาอยู่แล้ว ก็...ช่างมันเถอะครับ โปรดสัตว์บ้าง



   “ฝุ่น..ใช่ไหม”


   เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทักอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ทำให้ผมพ่นควันบุหรี่ใส่อากาศเบื้องหน้า แล้วหันกลับไปมอง...ลูกชายของน้าสินนั่นเอง ผมจำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร ทิว? ทิม? ทีม? หรือห่าอะไรนี่แหละ


   ที่จริงหน้ามันผมก็เคยเห็นก่อนหน้าวันนี้ก็แค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นเอง แต่ที่จำได้ก็เพราะน้าอิ่มชอบพูดถึงมันเสมอ ว่าไอ้เหี้ยนี่จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีให้ผมได้แน่ๆ


   “มีอะไร” ผมถามออกไป ก็รู้นะครับว่ามารยาทของประเทศไทยเราต้องเคารพคนที่อายุมากกว่า แต่จากการสังเกตโดยรวมบวกสันดานเหี้ยๆ ของผมแล้ว ต่อให้มันอายุมากกว่าผมก็ไม่ได้มากไปกว่ากันสักเท่าไหร่นัก ผมจะพูดห้วนๆ แล้วมันจะทำไม


   “เปล่า ก็เห็นนายเดินออกมาเฉยๆ ข้างในเพิ่งเริ่มเสิร์ฟอาหารหลักเองนะ ยังมีขนมหวานอีก ไม่เข้าไปทานหน่อยเหรอ เห็นน้าอิ่มบอกว่านายชอบกินทับทิมกรอบ เลยสั่งมามากเป็นพิเศษเพื่อนาย” มันยิ้มกว้างตอนบอกผม...นี่มึงพูดติดๆ กันโดยไม่เว้นช่วงหายใจแบบนี้ เอาผิวหนังหายใจรึไงวะ


   “เรื่องของกู” ผมตอบไปเนิบๆ เหมือนเป็นประโยคเช่นว่า..ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากกิน แต่ดูจากท่าทางแล้วฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่คุณหนูอะไรมาก เพราะมันก็ไม่ได้สะเทือนกับคำหยาบของผมแม้แต่น้อย


   “หึ..ก็จริง แต่วันนี้วันดี ก็ยิ้มบ้าง หน้าตาก็ไม่ได้แย่อะไร ทำไมไม่ค่อยยิ้มเลย”


   นี่มึงด่าหรือชมกูเนี่ย...


   “ไอ้เหี้ย กูบอกว่าเรื่องของกู อยากแดกของหวานก็เข้าไปแดกคนเดียว ปากมึงไม่ได้ดูดอยู่กับปากกู กูจะดูดบุหรี่ อย่ามากวน” ผมพูดยาวๆ ใส่มัน แม่งพูดมากน่ารำคาญจริง


   “ฝุ่น...มึงด่ากูเนี่ย รู้จักชื่อกูรึยัง” รู้ทันกูอีก...


   “กูต้องจำด้วยเหรอ ชื่อมึงเนี่ย” น้ำจะขุ่นก็ปล่อยมัน อย่าได้แคร์


   “มึงจำไม่ได้ก็บอกมา” มันบอกพร้อมหัวเราะ แล้วแบมือมาตรงหน้าผม “ขอบุหรี่มวนนึง”


   “เด็กดีเค้าไม่สูบบุหรี่กัน” ผมบอกแล้วกระตุกยิ้มเย็นๆ แต่ไอ้เหี้ยทิว ทิมอะไรนั่นแม่งกลับยังแบมืออยู่ต่อหน้า แล้วกลอกตากลับไปกลับมา ระหว่างมือมันกับหน้าผมอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกเซ็ง เลยกระแทกซองบุหรี่พร้อมไฟแช็คใส่มือมันอย่างจำใจ


   “มึงดีใจมั้ย ที่ได้กลับมาไทย” อยู่ๆ มันก็เปลี่ยนเรื่องคุยเสียอย่างนั้น เป็นรถนี่คว่ำแล้วนะ ไอ้ห่า


   “ทำไมกูต้องบอกเรื่องของกูกับคนที่กูไม่รู้จักชื่อด้วย” กร๊ากก หลุดปาก


   “หึหึ กูชื่อทีม...จำไว้นะฝุ่น กูจะบอกมึงแค่ครั้งเดียว” มันยิ้มกว้าง ก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นจดปาก แล้วพ่นควันออกมาช้าๆ “มึงยังไม่ตอบกูเลย ว่าดีใจมั้ย ได้กลับมาบ้านที่ไทย”


   “ถ้ามึงหมายถึงกูดีใจมั้ยได้เปลี่ยนที่ซุกหัวนอนใหม่...กูตอบมึงไม่ได้หรอก ไว้ให้กูลองไปซุกหัวนอนที่บ้านแสนสุขของมึงก่อนนะ แล้วกูจะบอกอีกที”


   ผมจบบทสนทนาแค่นั้น แล้วหันไปใส่ใจกับมวนบุหรี่ต่อ ไอ้คนข้างๆ ก็แค่หัวเราะเบาๆ กับคำตอบของผม มันคงพอใจแล้วหรือไม่ก็คงรู้ว่าผมไม่คิดจะตอบอะไรมันอีก ถึงได้เลิกทำตัวเป็นนักข่าว ยุติการซักถามเอาไว้แค่นั้น

   

   พิธีแต่งงานตลอดจนงานเลี้ยงฉลองจบลงด้วยรอยยิ้มของทุกคน ตอนท้ายงานผมถูกไอ้เหี้ยทีมกับน้าอิ่มลากเข้าไปถ่ายรูปรวมกับแขกเหรื่อที่เหลือกว่าครึ่งอีกครั้ง อันที่จริงมันควรจะจบอยู่แค่นั้นแต่ลุงสินกลับเอ่ยปากบอกช่างกล้องและทุกคนในที่นั้นว่า


   “ผมขอถ่ายรูปกับว่าที่ภรรยา และลูกชายทั้งสองของผมเป็นความทรงจำนิดนึงนะครับ” ...ไอ้เหี้ยทีม มันมีพี่น้องด้วยเหรอวะ ทำไมน้าอิ่มไม่เคยบอกผม??


   แต่ผมก็ได้คำตอบในนาทีต่อมา เมื่อไอ้ทีมมันลากผมเข้าไปถ่ายรูปกับพ่อมัน


   “ทีม มึงจะลากกูไปไหน พ่อมึงบอกว่าจะถ่ายรูปกับลูกชายของเค้า ไม่ใช่กู” ผมบอกพอให้ได้ยินกันสองคน ทีมมันขมวดคิ้วฉับทันทีแล้วบอกผมกลับมาว่า


   “พ่อกูหมายถึงมึงนั่นแหละ”


   ไม่รู้ทำไม แต่ผมกลับรู้สึกคล้ายๆ ว่าหัวใจมันพองโตขึ้นนิดหน่อยเพราะคำพูดสั้นๆ นั้น แต่ปากก็ยังไวเกินที่จะห้าม ผมพึมพำกลับไป


   “....กูไม่ใช่คนในครอบครัวของมึง”




   กว่าเที่ยงคืนแล้วที่ผมกับครอบครัวใหม่ของน้าอิ่มกลับมาถึงบ้าน


   ความจริงแล้วบ้านของลุงสินก็เรียกได้ว่าใหญ่พอสมควร ตัวบ้านเป็นอาคารสองชั้น ออกแบบได้สมกับที่ลุงสินแกทำงานเป็นสถาปนิก มีสวนขนาดย่อมอยู่ด้านหน้า ทันทีที่ประตูบ้านใหญ่เปิด ก็มีเสียงหมาเห่าดังแทรกขึ้นมา...นี่บ้านนี้คงเลี้ยงหมาด้วยสินะ ครอบครัวแสนสุขเหมือนในละครจริงๆ...


   ผมสะพายกระเป๋าเป้ที่บรรจุเสื้อผ้าเอาไว้บนไหล่ เพราะตั้งแต่กลับมาถึงไทย ผมก็นอนโรงแรมมาตลอดเกือบสัปดาห์ ที่จริงน้าอิ่มก็อยากให้ผมย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอตั้งแต่วันแรกที่ผมเหยียบแผ่นดินสยามนี้ แต่เพราะผมอ้างว่าผมไม่อยากเก็บของเพื่อย้ายบ้านหลายๆ รอบ น้าอิ่มเลยต้องยอมจำนน


   ผมคิดว่าน้าอิ่มเองก็รู้ ว่าผมอึดอัดใจกับการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของคนที่ผมไม่คุ้นเคย มันเป็นสันดานเก่าของผมอยู่แล้วที่ไม่ชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้า แต่ผมเองก็ไม่มีทางเลือก เงินเก็บที่มีไม่ได้มากพอที่จะทำให้ผมเลือกที่อยู่ของตัวเองได้ ตัวเลือกสุดท้ายที่ได้รับก็คือบ้านของลุงสินนั่นเอง


   ถัดจากประตูบ้านเข้ามาก็เป็นห้องรับแขก พื้นกระเบื้องสีขาวแลดูสะอาดตา แม้จะเป็นเวลากลางดึกแล้ว แต่เพราะไฟที่ถูกเปิดขึ้นทำให้ผมเห็นบรรยากาศรอบตัวได้ชัดเจน การตกแต่งแม้มันจะดูเรียบง่ายแต่ก็สะอาดตาไปอีกแบบ บันไดบ้านอยู่ขยับไปทางซ้ายมือของห้อง ติดกันเป็นทางเดินโล่งๆ ที่ผมคาดว่ามันน่าจะเป็นห้องครัวอยู่สุดปลาย


   น้าอิ่มจูงมือผมให้ไปนั่งที่โซฟาก่อน เธอเดินไปหยิบน้ำมาทั้งหมดสี่แก้ว วางลงบนโต๊ะตรงกลาง ตรงข้ามผมเป็นลุงสินที่นั่งอยู่เคียงข้างภรรยาคนใหม่ของเขา ไม่ต้องแปลกใจว่าโซฟาเดี่ยวข้างๆ ผมจะเป็นใคร..ไอ้เหี้ยทีมนั่งหน้าแป้นแล้นพร้อมยกน้ำขึ้นดื่ม



   “ไง บ้านกู พอที่จะเป็นที่ซุกหัวนอนของมึงได้มั้ยวะฝุ่น” มันพูดขำๆ พร้อมทำท่าแบบกูพราวด์ลี่ทูพรีเซ้นต์


   ห่านี่ ลามปาม...


   “ทีม” ลุงสินแกเรียกลูกชายด้วยเสียงปรามๆ ก่อนจะหันมาสนใจเอากับผมที่แม้แต่แก้วน้ำก็ยังไม่ได้แตะ“ฝุ่น ห้องเราอยู่ชั้นสองนะ เดี๋ยวให้ทีมพาไปก็แล้วกัน”


   ลุงสินบอกผมอย่างเอ็นดู ถ้าทำได้เขาคงเอามือมาลูบหัวผมแล้วมั้ง


   “ต่อจากนี้ให้คิดว่าที่นี่คือบ้านอีกหลังของเรานะฝุ่น ลุงไม่ได้บังคับให้ฝุ่นคิดว่าลุงเป็นพ่อของฝุ่น แต่ลุงอยากให้ฝุ่นคิดว่าที่นี่คือบ้าน อยากให้ฝุ่นรู้สึกว่าถ้าวันไหนฝุ่นเหนื่อย ท้อแท้ก็กลับมาที่นี่...บ้านของฝุ่น”


   “ขอบคุณครับ...แต่ผมขึ้นไปนอนได้รึยัง” ผมตัดบทห้วนๆ แบบนั้น น้าอิ่มหน้าเสียไปนิดหน่อย แต่ลุงสินแกก็ไม่ได้ถือสาเอาความอะไร กลับบอกให้ไอ้ทีมมันพาผมขึ้นไปบนห้องนอน ฝ่ายนั้นก็ดีเสีย ตอบรับอย่างว่าง่าย เดินนำผมขึ้นไปบนห้องนอน มันบอกผมว่า


   “ห้องกูกับมึงติดกัน ตรงกลางมีห้องน้ำคั่น แต่ประตูที่อยู่ในห้องมันเชื่อมถึงกัน ล็อคไม่ได้ด้วย ที่จริงพ่อกูก็ไม่ได้กะจะมีลูกชายเพิ่มอีกคนหรอก แต่เค้าคงสร้างไว้เผื่อกูมีเมียน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” ดูแม่ง...ดึกป่านนี้ยังจะมีอารมณ์มาขำ เดี๋ยวกูก็ศอกตกบันไดซะนี่


   “ฝันดีนะมึง ฝันถึงกูด้วย” มันสั่งผมแบบนั้น เมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มันบุ้ยใบ้ทำท่าว่านี่คือห้องนอนใหม่ของผม


   “ฝันถึงมึง เค้าเรียกฝันร้าย” ผมบอกมันไปอย่างนั้น แล้วเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจเสียงบ่นหงุงหงิงของมัน..ทำตัวแอ๊บแบ๊วนะมึง



   ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่แน่ใจในอายุที่แน่นอนของไอ้ทีมเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าจากหนังหน้าและท่าทาง อายุมันกับผมก็คงไม่มากไปกว่ากันเกินสองปีหรอกครับ


   เท่าที่สมองมึนๆ ของผมจะจำได้ น้าอิ่มเคยเปรยให้ผมฟังในเอ็มเอสเอ็น ตอนก่อนที่ผมจะกลับมาไทยว่าลูกชายของลุงสินเป็นนักเทควันโดมาตั้งแต่สมัยประถม ดังนั้นภาพที่ผมนึกจินตนาการเอาไว้สำหรับไอ้ทีมก็คือ ผู้ชายไทยรูปร่างเหมือนหมีป่าตัวใหญ่ๆ ดำถึกและเถื่อน แต่พอมาเจอตัวจริงก็ยอมรับว่าผิดคาดไปมาก


   ไอ้เหี้ยทีมตัวจริงสูงกว่าผมก็จริง หุ่นมันหนากว่าผู้ชายปกติแต่ก็ไม่ได้บึ้กแบบนักกีฬาทีมชาติอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้ หน้ามันคมคาย ตายาวรี จมูกสวย อ่อ มีเขี้ยวเล็กๆ ด้วย แล้วตัวมันก็ไม่ได้ดำ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่แน่ใจว่ามันถึกและเถื่อนแน่รึเปล่าก็ตามที


   ผมเหวี่ยงกระเป๋าสะพายที่เอาติดกลับมาแค่ไม่กี่ชุดลงบนพื้นแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที ห้องที่ลุงสินเตรียมไว้ให้ ใหญ่กว่าห้องเก่าของผมที่อเมริกาเสียอีก สะอาดกว่า น่าอยู่กว่า ถึงแม้มันจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมเรียบๆ ธรรมดา แต่การวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เข้ามุม และการฝังพวกตู้เสื้อผ้า เข้าไปในผนังก็ทำให้มันดูหรูไม่น้อย กระจกหน้าต่างที่สูงจรดเพดานมองออกไปก็เห็นสวนด้านล่างได้รางๆ ผมกวาดตามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง


   ประตูที่คาดว่าน่าจะเปิดไปเป็นห้องน้ำที่ไอ้ทีมมันบอกเมื่อกี้อยู่ทางด้านซ้ายมือ แต่แน่นอนว่าผมยังไม่คิดจะเปิดเข้าไปหรอก เพราะอีกฝ่ายต้องเข้าไปทำความสะอาดร่างกายแน่ๆ ส่วนผมน่ะหรือ...วันนี้ขอเน่านอนทั้งเสื้อตัวนี้เลยก็แล้วกัน






To be continued in บาป...หวาน ตอน ๒




สวัสดีค่ะทุกท่าน!!

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราเพิ่งเข้ามาใหม่ และ “บาป..หวาน” ก็เป็นเรื่องแรกที่ลงที่นี่เลย

ถึงจะเคยสอดส่องอยู่ที่บอร์ดนี้มาซักพักแล้ว แต่ในที่สุดก็ เอ้า...เอาวะ ลองลงนิยายดูบ้างดีกว่า ฮี่ๆ

ฝากตัวด้วยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่า~~ ฝากบาป..หวาน ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยน้า~~ :D

ตอนแรกอาจจะยังงงๆ กันอยู่บ้างว่าทำไมน้องฝุ่นดูเกรี๊ยนเกรียน (ฮา) ก็ดูกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ฮี่ๆๆ




ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ!   


หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 02-12-2010 23:33:38
มาเจิมเรื่องใหม่ค่ะ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 02-12-2010 23:35:52
 :mc4: :mc4:
มีเรื่องใหม่มาให้อ่านแล้วดูน่าสนใจดีค่ะ ท่าทางทีมจะติดใจฝุ่นนะ
แต่ฝุ่นมีอะไรในใจอ่ะ ทำไมรู้สึกว่าเศร้าจังเลยคนนี้

เป็นกำลังใจให้นะค๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 02-12-2010 23:42:15
หงะ มาม่าต้มยำมาอีกเรื่องแล้วแหงเลย
คุณคนเขียนอย่าโหดร้ายกับตัวละครนักนะคะ

เฮ้อ......................รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-12-2010 23:58:41
 :mc4: :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 02-12-2010 23:59:20
มาปูเสือรอ ตอนต่อไป...
อืม..ดูไม่ออกเลย ใครเป็น ตัวพระ ตัวนาย  :z2:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 03-12-2010 00:01:10
+1ให้พี่คนแต่งค่ะ  น่าสนุกค่ะ  สู้ๆนะคะ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-12-2010 01:47:14
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเรื่องใหม่มาอีกแล้ว ท่าทางดูอึนๆดีค่ะ นาติดตามมากๆ นายทีมจะเป็นคนเปลี่ยนความคิดของ ฝุ่นได้ไหมหละหนอ ว่าแต่ทำไมต้องบาทหวานหน๊า อยากรู้จริงๆว่ามันจะไปบาปตอนไหนหนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 03-12-2010 01:58:15
 :mc4: :mc4:

มาอัพเร็วนะค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-12-2010 13:45:48
 :mc4:   รอค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 03-12-2010 23:50:02
มาต่อเร็วๆนะคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 04-12-2010 00:43:18
ฝุ่นเศร้าจิตกับการคิดว่าการเป็นส่วนเกิน


เปิดใจแล้วจะดีเองน่ะฝุ่น


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Papoonn ที่ 04-12-2010 01:40:03
ฝุ่นสมชื่ออ่ะ   ~
แต่ยังงี้ดูมีเอกลักษณ์  ฮ่า ๆ
มาต่อไว ๆ น่ะจ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 04-12-2010 02:19:13
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ ท่าทางจะสนุกนะครับ

รอตอนต่อไปน่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-12-2010 08:38:57
มาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคนจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 04-12-2010 09:06:18
มาต่ออีกนะ

ฝุ่นเกรียนจริงค่ะ เเต่จะรออ่านต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-12-2010 09:29:23
เรื่องน่ารักดี

คงจะเป็นเรื่องที่จบอย่างมีความสุขนะ

ไม่ชอบความเศร้า

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 04-12-2010 10:07:32
แวะมาอ่านขอรับ :man1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: blackyoyo ที่ 04-12-2010 16:00:42
รออ่านด้วยคนฮับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 04-12-2010 16:34:12
ยาววววว เนื้อหาอ่ะ ขนาดตอนแรกนะเนี่ย ฮ่าๆๆ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 04-12-2010 16:50:22
อ่าาา เปิดเรื่องมาได้น่าติดตามมากก

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-12-2010 17:16:40
มาเป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่ค่ะ
อืม...อยากรู้จัง ฝุ่นเค้ามีปมอะไรในใจรึ
ถึงได้ทำตัวแบบมีอารมณ์เหมือนกับโกรธคนเค้าทั้งโลกแบบนี้
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 04-12-2010 18:12:38
   ตอนเช้า...อันที่จริงก็ไม่ได้เช้ามากหรอกครับ เกือบเที่ยงแล้วกว่าผมจะลืมตาตื่นขึ้นมา ไหนจะอาบน้ำแต่งตัวล้างความเน่าที่หลงค้างจากเมื่อวานอีกก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่า เสียงพูดคุยและหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุขดังลอดมาจากในห้องนั่งเล่น ทำให้ผมเผลอ...ยั้งฝีเท้าและเบาเสียงเดินลงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้..”ด้วยความเคยชิน”


   ผมไม่รู้ว่าอาการนี้มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช่ว่าตอนอยู่อเมริกาผมจะไม่มีเพื่อนฝูง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ก็ตามที แต่กว่าผมจะทันได้รู้ตัว ผมก็มีอาการ “ไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ” เข้าไปเสียแล้ว ตอนก่อนผมจะบินกลับมาไทยตามคำขอของน้าอิ่มผมก็เหลือเพื่อนสนิทที่ยอมทนกับอาการไม่ปกติดีของผม..แค่คนเดียว


   “อ้าว ตื่นแล้วเหรอฝุ่น น้ากำลังจะขึ้นไปปลุกเราเชียว” น้าอิ่มหันมาให้ความสนใจกับสิ่งมีชีวิตแปลกแยกที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างผม ทำให้บทสนทนาของทุกคนหยุดชะงักลง แล้วเบนความสนใจมาที่ผมแทน


   “หิวหรือยังล่ะเรา ลุงกับน้าอิ่มรอทานข้าวอยู่นะ” ลุงสินบอกผมอย่างนั้น


   “ทานกันไปก่อนก็ได้ครับ ผมตื่นไม่ค่อยเป็นเวลา” ผมแก้ตัวไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงผมก็แค่ไม่อยากต้องทนนั่งคุยหรือตอบคำถามใดๆ บนโต๊ะกินข้าวก็เท่านั้น


   “ได้ไงวะ บ้านกูนิยมกินข้าวทั้งครอบครัว ขาดมึง โต๊ะก็ว่างดิ...แล้วกูก็ไม่ได้ใจดีพอจะเหลือกับข้าวให้มึงนะไอ้ฝุ่น” ไอ้เหี้ยทีมที่โผล่มาจากไหนไม่รู้อยู่ๆ ก็ไซด์คิกพูดออกมาอย่างนั้น สงสัยอยากกินตีนแต่เช้า


   “ต่อให้มึงเหลือไว้ กูก็ไม่กินของเหลือของใคร” ผมหันไปตอบมันเรียบๆ


   “พอๆ ทั้งคู่เลย ลุงให้ป้าแจ่มแกตั้งโต๊ะรอแล้ว ไปทานข้าวกัน” ลุงสินพูดขึ้นแล้วเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ พลางออกแรงผลักให้ผมเดินไปทางเดินที่ผมคาดการณ์เมื่อคืนว่ามันคือห้องครัว...อันที่จริง พอได้เห็นตอนสว่างๆ แบบนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่าผมคาดคะเนขนาดบ้านหลังนี้ผิดไปมาก มันไม่ใช่ว่าใหญ่พอสมควร แต่มัน “ใหญ่” มากต่างหาก ทางเดินกว้างราวๆ สองเมตรนั้น ปูด้วยหินอ่อนสีขาว ที่ๆ ควรจะเป็นผนังกลับถูกแทนที่ไว้ด้วยกระจกสูงจรดเพดานทั้งสองด้าน มองเห็นสวนด้านนอก..และนั่น!


   เจ้าของเสียงที่เห่าตอนเราเดินเข้ามาในบ้านเมื่อคืนกำลังวิ่งเล่นอยู่กับสปริงเกิลฉีดน้ำ มันวิ่งจนลิ้นห้อย ดูก็ตลกไปอีกแบบ


   “อะไร มึงจะลวนลามหมากูเหรอ” ไอ้เหี้ยทีม....มึงเอาอีกแล้วนะวันนี้ เดี๋ยวกูจัดคืนให้พร้อมดอกเบี้ยเลยดีมั้ย


   “กูแค่แปลกใจ นึกว่าเสียงเห่าเมื่อคืนเป็นหมาในปากมึงซะอีก ที่แท้มีหมาอีกตัววิ่งอยู่ในสวนนี่เอง”


   “อ่าว เหี้ยนี่ ด่ากูซะงั้น” มันเอื้อมมือมาตบหัวผมดังพลั่กใหญ่จนหน้าทิ่มด้วยความไม่ตั้งตัว อยากจะหันไปกระโดดถีบเข้าแถวๆ เอวให้มันเดินเอวเคล็ดไปซักสองสามวัน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามันเป็นนักเทควันโดนี่หว่า ถ้าผมโดดถีบออกไปซึ่งๆ หน้า มันจะหักขาผมทิ้งมั้ยนะ....ว่าแล้วก็เปลี่ยนใจ เอาไว้เล่นทีเผลอดีกว่ากู


   “ลุงสินครับ หมาตัวนั้นชื่ออะไร” ผมถามขึ้นพลางชี้ออกไปที่ไอ้ตูบที่ยังวิ่งลิ้นห้อยเป็นเด็กๆ ทั้งที่มันเองก็ตัวใหญ่แล้ว


   “เซ็กซี่”


   “ฮะ? อะไรนะครับ”


   “หมาน่ะ...ชื่อเซ็กซี่” ลุงสินแกพูดปนหัวเราะ กับสีหน้าเหวอๆ ของผม จะไม่ให้งงได้ยังไง หมาบ้าอะไรวะ ชื่อเซ็กซี่


   “หมากูเอ็กซ์แตกนะมึง อย่าไปยั่วมันละ”


   พ่อลูกเขาว่าอย่างนั้นแล้วเดินหัวเราะกันไป ห้องครัวถูกแบ่งออกเป็นสองโซน ส่วนหนึ่งเอาไว้ทำครัว อีกส่วนเอาไว้นั่งทานข้าว สำรับจำนวนสี่ที่ถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างน่าทาน กลิ่นหอมของอาหารไทยที่ผมไม่ได้กินมาเกือบสิบปีโชยมาให้น้ำลายสอ ควันลอยกรุ่นๆ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวเสียเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงวัยล่วงหกสิบปีร่างท้วมยืนยิ้มให้ผมอยู่ใกล้ๆ กับหม้อข้าว รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นเมื่อป้าแกยิ้มกว้างให้ผม


   “คุณฝุ่นตัวจริง น่ารักกว่าในรูปเยอะเลยนะคะเนี่ย” แกทักผมมาแบบนั้น ก็ให้งงเพิ่มสิบเปอร์เซนต์


   “น้าเคยเอารูปที่ฝุ่นส่งมา ให้ป้าแกดูน่ะ” น้าอิ่มบอกผมยิ้มๆ “ป้าแจ่มบอกว่าอยากเห็นหน้าฝุ่นสักครั้ง ยิ่งน้าบอกว่าฝุ่นเป็นเด็กน่ารัก ป้าแกยิ่งอยากเห็น”


   “......เหรอครับ” ผมถามกลับไป..ไม่ได้ถามกลับที่ว่าป้าแกอยากเห็นจริงๆ เหรอ แต่ผมถามตรงประโยคที่ว่า ฝุ่นเป็นเด็กน่ารัก..จริงๆ เหรอ? น้าจำคนผิดรึเปล่า ผมอยากถามออกไปอย่างนั้น แต่เห็นสีหน้าหวังดีของน้าอิ่มและป้าแจ่มก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศ สู้เงียบเอาไว้มันน่าจะเป็นผลดีกับตัวผมมากกว่า


   “คุณฝุ่นทานข้าวเยอะมั้ยคะ” ป้าแจ่มถาม เมื่อผมนั่งลงตามแรงกดของน้าอิ่ม ด้วยความที่โต๊ะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดนั่งได้หกคน แต่ตอนนี้มีแค่สี่ ทำให้มันมีที่ว่างเหลืออยู่อีก ผมโดนดึงให้นั่งลงข้างๆ ไอ้เหี้ยทีมที่นั่งติดกับพ่อมัน ส่วนน้าอิ่มก็นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม


   “ไม่ต้องมากหรอกครับ”


   แค่อึดใจเดียวข้าวสวยร้อนๆ ก็ถูกตักวางลงบนโต๊ะด้านหน้าผม บ้านหลังนี้ใหญ่ก็จริง ลุงสินเองก็ดูเป็นคนค่อนข้างมีฐานะ ยิ่งน้าอิ่มแต่งงานเข้ามาใหม่ มันยิ่งดูเหมือนละครมากขึ้น แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างของครอบครัวนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่ดี แต่มันเป็นบางสิ่งที่ผมเคยอยากได้มาตลอดทั้งชีวิต ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของไอ้ทีม ไม่ว่าเขาจะเลิกกันหรือบางทีแม่ของไอ้ทีมอาจจะเสียชีวิต แต่หลายๆ อย่างของมันกลับไม่เหมือนในละคร ไอ้ทีมไม่ใช่เด็กมีปัญหา กลับกันมันกลับดูแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้มากเสียด้วยซ้ำ..


   “น..ฝุ่น...ฝุ่น ฟังอยู่รึเปล่า” ลุงสินกระตุ้นผมเสียงดังจนผมเผลอทิ้งช้อนลงกับจานดังเคร้ง


   “ขอโทษครับ เมื่อกี้ลุงว่าอะไรนะ”


   “คิดอะไรเพลินน่ะเรา” ลุงสินส่ายหน้าขำๆ เขาบอกผมซ้ำอีกครั้งว่า “ลุงบอกว่า ลุงกับน้าอิ่มจะไปฮันนีมูนกันซักสองสัปดาห์ ระหว่างนี้ฝุ่นก็อยู่กับทีมไปก่อนนะ ขาดเหลืออะไรให้ทีมมันไปซื้อให้ก็ได้ หรือถ้าอยากไปเที่ยวก็ให้ทีมมันพาไปได้ อย่างน้อยมันก็คุ้นทางในกรุงเทพมากกว่าเรา”


   “อ่อ...ครับ” ผมรับคำ ก็ดี...ผมจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่เคยใช้มาให้เต็มที่ ก่อนจะต้องเริ่มต้นชีวิตมหาวิทยาลัยอย่างที่น้าอิ่มเคยบอกไว้
   


   “มึงอยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่าวะ บอกมาดิ๊ เดี๋ยวกูตัดสินใจอีกที” ไอ้ทีมมันเดินตามผมออกมาจากห้องครัว ที่จริงผมกะว่าจะออกไปเล่นกับหมามันแป๊ปนึง แล้วเย็นๆ ค่อยออกไปหาซื้อเสื้อผ้าเพิ่มเติม เพราะเสื้อที่ผมเอามามีอยู่แค่นิดเดียว แถมยังหนาเกินไปสำหรับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยอีกด้วย


   “กูจะไปซื้อเสื้อ” ผมตอบไปตามความจริง


   “เออดี เดี๋ยวกูไปด้วย เอาบัตรประชาชนของมึงไปด้วยนะฝุ่น”


   “เอาไปทำเหี้ยอะไร ซื้อเสื้อเดี๋ยวนี้ต้องใช้บัตรประชาชนด้วยรึไง” ผมย้อนถาม ตอนเปิดประตูหน้าบ้านมัน เพื่อจะเดินออกไปที่สวน ไอ้หมาลิ้นห้อยเมื่อกี้วิ่งหูกระดิกมาทางผมพร้อมน้ำลายยืดๆ ของมันทันที


   “เออน่า แล้วนี่ตกลงมึงจะอ่อยหมากูจริงๆ ใช่มั้ย”


   “เหี้ย หมามึงตัวเมียไม่ใช่รึไง” ผมย้อนถามตอนนั่งลงลูบหัวลูบหางไอ้หมาเซ็กเสื่อมที่เข้ามาดมหน้าดมตาผมอย่างทำความคุ้นเคย


   “เออ นมใหญ่ด้วยนะมึง” ดูมัน...แม้แต่กับหมา


   “เจี๊ยวไม่ใหญ่ กูไม่ชอบ” ผมบอกปนหัวเราะ แล้วลูบหัวเซกซี่ไปด้านหลัง ทำให้หนังตรงตามันเลิกขึ้น ตลกเป็นบ้า


   “ห่านี่ หื่นกามจริงอะไรจริง”


   มันบอกแล้วเดินหายไปในตัวบ้าน คงไปเตรียมตัวจะไปซื้อเสื้อกับผมมั้งครับ เพราะเมื่อกี้มันยังใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นอยู่บ้านอยู่เลย


   “มึงเซกซี่สมชื่อจริงป่ะวะ หืม” ผมดึงหนังที่คอมันเล่น อีนังเซ็กเสื่อมมันเอียงคอมองผมตาแป๋ว เสียใจด้วย กูชอบหมาตัวผู้มากกว่าน่ะ กร๊ากกก ผมนั่งเล่นกับมันพักใหญ่ จนเซ็กซี่มันคงรู้ตัวว่าผมไม่เล่นอะไรมากไปกว่าดึงหนังยานๆ ที่คอมันเล่นอย่างสนุกสนาน มันเลยสะบัดก้นวิ่งหนีหายไปหลังบ้านแล้ว ผมไม่ค่อยมั่นใจเรื่องสายพันธุ์ของเซ็กซี่เท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูคิดว่าน่าจะเป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นะ ท่าทางเป็นมิตร ขนสีทองที่ปลิวไสว ไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์อื่นได้


   ผมลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นออกจากกางเกงยีนส์ของตัวเอง พอดีกับที่มีเสียงเดินมาจากด้านหลัง ผมเลยหันกลับไปมองก็แอบอึ้งไปเล็กน้อย ไอ้ทีมมันไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามา ขอย้ำว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้เปลี่ยนแค่กางเกงอย่างที่ผมคิดไว้


   เสื้อยืดสีดำที่มันใส่เมื่อกี้ถูกทิ้งกลายเป็นเสื้อเน่าไปทันตาเมื่อเจอเสื้อเชิ้ตดูดีมีสไตล์ของมัน กางเกงเดปขายาวสีดำกับรองเท้าหนังสีเดียวกัน...โคตรคุณชาย!!


   “อะไร กูหล่อเหรอ อึ้งเลยมึง ฮ่าๆๆ”


   “ไอ้เหี้ย” ผมสรรเสริญมันไปคำใหญ่ๆ ด้วยความหมั่นไส้ เออ มันก็...ดูดีจริง เมื่อวานผมยังมึนๆ เมาๆ ไม่ได้สนใจกับสภาพรอบตัวเลยไม่ทันได้สังเกตถึงความดูดีผิดมนุษย์ของมัน พอได้เห็นกับตาตัวเองวันนี้ก็ถึงกับไปต่อไม่ถูกเล็กน้อย  


   แต่ขอโทษ..แต่งตัวอะไรสงสารกูบ้างครับ!! กูมีแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ แล้วก็รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ครับ อย่าให้คนรอบข้างมองว่ามึงพาคนใช้มาช่วยถือของสิไอ้ห่านป่า!!


   “มึงจะแต่งตัวแบบนี้ไปไหน กูไปซื้อเสื้อนะ ไม่ได้ให้มึงไปเป็นนายแบบลองเสื้อของกู”


   “แหม ออกจากบ้าน มึงจะให้กูแต่งตัวโทรมๆ ไปรึไง”


   ผมตวัดตามองมันด้วยความเคืองขั้นกว่า แล้วชี้ลงไปที่เสื้อผ้าตัวเอง มันคงเข้าใจในความหมายที่ผมต้องการจะสื่อเลยหัวเราะออกมา แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินนำผมไปที่ลานจอดรถข้างๆ บ้าน มีรถคันที่พวกเรานั่งมาเมื่อคืนอยู่คันหนึ่ง และอีกคันหนึ่งเป็นรถมินิคูเปอร์สีน้ำเงินสด หลังคาสีขาวแบบที่ผมเคยเห็นในนิตยสารรถ เห็นจากภาพว่าสวยแล้ว ยิ่งได้เห็นของจริงมันสวยกว่าที่ผมเคยนึกฝันไว้มาก


   “รถมึงเหรอ” สาบานได้ว่าไม่ได้อิจฉา!!


   “ถูกคร้าบบบบบ” มันยิ้มกว้าง ทำหน้าแบบพราวด์ลี่ทูพรีเซ้นต์อีกรอบ “หวานใจกูเอง สวยใช่มั้ย”


   “อืม” ผมรับคำ แล้วเดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ แถวๆ กระจกที่ใสกิ๊ง..เจ้าของมันคงดูแลอย่างดีนั่นแหละ รถแพงขนาดนี้


   “อย่าให้น้ำลายหกรดรถกูนะฝุ่น เดี๋ยวลูกกูเป็นหิด”


   โอ๊ย ไอ้เหี้ย!!



   ตลอดทางที่นั่งรถไป ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ห่านป่ามันเป็นคนขับ เราไม่ค่อยได้พูดจาอะไรกันเท่าไหร่ เพราะเวลามันถามมาผมก็ตอบไปห้วนๆ คล้ายๆ ว่าเรากำลังเล่นยี่สิบคำถามกันอยู่ มันคงทนกับความมึนของผมไม่ไหวเลยแก้บรรยากาศเซ็งๆ ในรถสุดสวยของมันด้วยการเปิดวิทยุคลอไปพลางๆ


   ผมไม่ชอบสุงสิงกับใคร เลยกลายเป็นว่าผมก็ไม่ชอบที่จะเปิดประเด็นกับใครทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่ชวนผมคุยก่อนก็อย่าหวังเลยที่จะให้ผมต่อบทสนทนาให้ยาวยืด มันคงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่


   ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ไอ้ทีมมันก็วนหาที่จอดบนตัวห้างจนได้ พอมันดับเครื่อง ลงจากรถได้ปุ๊บก็สั่งผมปั๊บ


   “ก่อนจะไปซื้อเสื้อ มึงมากับกูก่อน ห้ามเถียง กูให้ทำอะไรก็ต้องทำ เข้าใจมั้ย”


   “ถ้ากูบอกว่าไม่เข้าใจ มึงจะทำอะไรกู” ผมย้อน พลางปิดประตูรถแล้วมองหน้ามัน ไอ้เหี้ยทีมกลอกตาไปมา แล้วบอก


   “เออน่ะ เรื่องนี้สำคัญ มึงก็เดินตามกูมาแล้วกัน”


   “กูบอกมึงรึยังว่ากูจะซื้อมือถือด้วย”


   “แล้วตลอดอาทิตย์นึงที่มึงมาถึงไทยนี่มึงใช้อะไรวะฝุ่น” มันถามผมงงๆ


   “โทรศัพท์สาธารณะ” ผมตอบไปเรียบๆ มันทำตาโตแบบงงสุดขีด ... เดี๋ยวแม่งก็ถลนออกมาหรอก ไอ้ห่านป่า


   “งั้นไปทำธุระกับกูก่อน แล้วเราไปดูมือถือกับเสื้อของมึงกัน แม่ง.. ดีนะ กูเอาเครดิตการ์ดมาด้วย” ประโยคหลังมันพึมพำบอกตัวเอง ผมก็ได้ยิน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องแคร์นี่ครับ มันจะคิดยังไงก็เรื่องของมัน เพราะยังไงคนที่จ่ายเงินก็คือผมอยู่แล้ว



   สถานที่แรกที่มันกึ่งลากกึ่งจูงผมไปก็คือ..ธนาคาร


   “มึงจะมาปล้นธนาคารเหรอ”


   “อืม มึงหยิบปืนจากใต้หมอนมารึเปล่า” มันหันมาถามผมหน้าตาย


   “มึงไม่บอกกูล่วงหน้าวะ” เอาสิ หน้าตายมากูก็หน้ามึนกลับล่ะ


   “ห่านนนนนนนนนนนน มึงนี่ยังจะหน้าด้านย้อนมุขกูเนอะ” ไอ้ทีมมันด่าเสียงยาวเหยียดทั้งยังปนหัวเราะไปด้วย “ตามกูมาเร็วๆ มึงต้องไปเปิดบัญชีก่อน”


   “กูไม่มีเงินเดือนนะ จะเปิดบัญชีทำเหี้ยอะไร เดี๋ยวฝุ่นก็จับหรอกมึง”


   “เออน่ะ พ่อกูสั่งมา” มันบอกผมสั้นๆ อย่างนั้นแล้วดึงแขนให้เดินตาม ซึ่งผมก็หน้ามึนทำตัวหนักไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กูไม่ใช่อิหมาเซ็กเสื่อมของมึงนะที่จะมาลากไปทางนู้นทีทางนี้ทีเนี่ย เอ๊ะ หรือกูน้ำลายยืดเหมือนหมามึง...ไม่นะ กูยังปกติดีอยู่


   “มึงอย่าดื้อกับกูดิวะฝุ่น กูรับมือเด็กดื้อไม่เป็นหรอกนะ”


   “กูไม่ได้ดื้อ แต่กูไม่รู้จะเปิดบัญชีทำไมในเมื่อเปิดไปก็ไม่ได้ใช้” ถึงตอนนี้ ไอ้ทีมเลิกดึงแขนผมแล้ว มันยกแขนขึ้นเท้าเอวแล้วถอนหายใจแรงๆ ให้กับความหัวแข็งของผม


   “เออๆ กูผิดเองอะ ที่ไม่ได้อธิบายให้มึงฟัง..พ่อกูบอกว่า เค้าจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายประจำเดือนของมึงด้วย มึงจะเอาไปใช้เหี้ยอะไรก็เรื่องของมึง”


   “...ทีม..พ่อมึงกับมึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า กูไม่ใช่ลูกของน้าอิ่ม กูไม่ใช่ขอทานที่จะให้พ่อมึงมาจ่ายเงินค่านั่นค่านี่ให้กูนะ” ยอมรับว่าปลื้มใจที่พ่อของไอ้ทีมใจดีกับผมมากขนาดนี้ แต่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งรับผิดชอบอะไรที่เกี่ยวกับผมมากขนาดนี้ เพราะค่าเทอมและเงินเดือนของผม แม่ก็ยังเป็นคนจ่ายทุกบาททุกสตางค์ แค่ลุงสินแกให้ที่ซุกหัวนอนดีขนาดนั้น ผมก็ปลื้มใจมากพอแล้ว


   “กูรู้ว่ามึงไม่ใช่ลูกของน้าอิ่ม แล้วมึงก็ไม่ใช่ขอทานด้วย... มึงอาจจะไม่รู้นะ แต่พ่อกูเค้าอยากมีลูกชายคนที่สองมาตั้งนานแล้ว มึงไม่ต้องทำเพื่อใครหรอก แค่อยู่ในบ้านกู หน้ามึนไปวันๆ ใช้เงินที่พ่อกูให้ก็พอแล้ว” ไอ้ทีมมันสาธยายยาวๆ แล้วเดินนำเข้าไปในธนาคารอีกครั้งอย่างเซ็งๆ ผมไม่รู้ว่ามันโกรธรึเปล่า แต่ผมจะเลือกอะไรได้อีกนอกจากเดินตามมันเข้าไปกรอกข้อมูล เซ็นต์ชื่อ รับบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีมา


   
   หลังจากจัดการธุระที่ธนาคารเสร็จ ไอ้ห่านป่าทีมมันก็ดูอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย พาผมไปเลือกโทรศัพท์มือถือ ตัวผมเองก็ไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรของไอ้เจ้าเครื่องมือสื่อสารนี่เท่าไหร่ มันสำคัญก็แค่เวลาที่เราอยากติดต่อใครก็เท่านั้น ผมเลยเลือกรุ่นธรรมดาๆ ราคาไม่กี่พันบาทมา...แน่นอนว่าไอ้เหี้ยทีมบ่นกระจาย หาว่าไหนๆ ก็ซื้อแล้วทำไมไม่ดูให้มันดีๆ ไปเลย แต่มันอยากพ่นน้ำลายอะไรก็เรื่องของมัน ผมจะเอาอันนี้ใครจะทำไม


   สามชั่วโมงกว่าๆ กับการเดินซื้อเสื้อผ้าของผม ไอ้เหี้ยทีมช็อปเก่งมาก สไตล์มันดีพอๆ กับเสื้อผ้าที่มันใส่ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เสื้อที่มันเลือกให้(ปนบังคับให้ผมซื้อ) ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เห็นมันว่าเป็นร้านของคนรู้จัก ตัวมันเองก็ซื้อเสื้อร้านนี้บ่อยด้วย เลยได้ลดราคาเป็นพิเศษ


   เราเดินวนจนพนักงานห้างแทบจำหน้าได้ เผลอแพลบเดียวก็เกือบทุ่มนึงแล้ว ผมกำลังรู้สึกเริ่มหิวๆ พอดีกับที่มีใครบางคนโทรเข้าหาไอ้ห่านป่ามัน


   “ครับ..อ่อ อยู่ห้าง xxxครับ ยังไม่ได้ทานข้าวกันเลย ..อ่า เอางั้นเหรอ...ครับๆ ได้ สวัสดีครับ” มันยืนคุยกับปลายสายอยู่พักนึง แล้วหันมาบอกผมหลังจากเก็บโทรศัพท์แล้วว่า


   “พ่อกูบอกว่าให้มึงกับกูกินข้าวเข้าไปเลย วันนี้พ่อกูจะไปดินเนอร์ฉลองแต่งงานกับน้าอิ่มสองต่อสอง” มันเน้นย้ำเหลือเกิ๊นนน กับคำว่า “สองต่อสอง” พร้อมทำหน้าเพ้อฝันให้ผมดูประกอบ “มึงอยากกินอะไรเลือกมา เดี๋ยวกูตัดสินใจให้”


   “เชี่ย มึงก็เลือกมาเลย” แม่ง..ให้กูเลือกแต่มึงจะตัดสินใจ ดร๋อยยยย มึงเลือกมาเลยง่ายกว่านะไอ้ห่านป่า


   “ฮ่าๆ ก็กูนึกไม่ออก มึงเคยกินร้านนี้รึเปล่า” มันชี้ไปที่อาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่มีคนนั่งอยู่ไม่มาก แต่ร้านก็น่าจะแอบแพงอยู่ ผมส่ายหน้าให้แทนคำตอบ “งั้นกินร้านนี้กัน กูอยากกินปลาดิบ”


   “เป็นปอบเหรอมึง แดกแต่ปลาดิบ”


   “งั้นกูกินตับมึงก่อนดีมั้ย” พูดไปก็หันมายกมือที่ถือแต่ถุงเสื้อผ้า ทำท่าเหมือนจะจกตับ ผมเลยสะบัดนิ้วกลางใส่หน้าแม่งพร้อมด่าแบบไม่มีเสียงว่า


   “ค-ย”


   ผมว่าไอ้เหี้ยทีมมันโรคจิตอะ โดนด่าไปก็ยังนั่งหัวเราะแบบไม่รู้สึกอะไร ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใส่ซิมการ์ดและแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย ยังไม่ทันจะได้เปิดเช็คเครื่องอย่างที่ต้องการ ก็โดนไอ้คุณชายห่านป่ามารยาทติดลบแย่งไปดูก่อนแล้ว


   “มึงต้องบันทึกเบอร์กูคนแรกรู้ป่าว ไหนให้กูยิงเข้าเครื่องตัวเองด้วย เวลามึงหนีไปไหนกูจะได้โทรหามึงได้ ฮ่าๆ” ... กูจะหนีไปไหนวะ ไอ้ห่านป่า กูไม่ได้ไปปล้นธนาคารมานะ


   มันจัดการบันทึกเบอร์ตัวเองใส่เครื่องผม พร้อมถ่ายรูปตัวมันเองเป็นรูปคอนแทคที่จะโชว์เวลามันโทรเข้ามา...เออดี วันไหนรูปห่านๆ นี่โชว์ขึ้นมา กูจะได้ไม่ต้องคิดหนัก กดวางแม่งเลย คริคริ


   ตอนนี้ผมมีโทรศัพท์แล้ว มีเงินในซิมการ์ดเรียบร้อย คิดไว้ว่ากลับบ้านไปจะโทรหาเขาเพราะตั้งแต่กลับจากอเมริกามาผมยังไม่ได้โทรหาเลย ป่านนี้คงแทบเต้นแล้วมั้ง ติดต่อผมไม่ได้ เบอร์น้าอิ่มผมก็ไม่ได้ให้ไว้ ไหนจะอีเมล์ที่ผมไม่คิดจะเช็คอีก...เจ้าคงเข้าองค์คงลง อาละวาดฟาดหางใส่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแล้วมั้ง...




น้องฝุ่นจะโทรหาใคร ติดตามต่อได้ใน บาป...หวาน ตอนที่ 3 ค่ะ



สวัสดีทุกท่านอีกครั้งค่ะ ดีใจจัง ลงนิยายครั้งแรกก็มีทุกคนให้ความสนใจขนาดนี้ แหะๆ เกินความคาดหวัง
(ที่จริงคิดว่ามีคอมเม้นบ้างซักสามสี่คอมเม้นท์ก็ดีใจแล้ว ฮ่าๆ)
ติดตามกันต่อไปน้า~~
อยากจะบอกว่าตอนที่สองนี้ อยากตัดตรงแถวๆ กลางตอน แต่ไม่รู้จะตัดตรงไหน เลยยาวอย่างที่เห็น TT ขอโทษด้วยนะคะ โฮววววว
 :sad4:
ถ้ามีตรงไหนพิมผิดไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 04-12-2010 19:34:21
ยาวไม่เป็นไรนะ เราไม่ว่าเราชอบจ้า อิอิ สะใจดี
แต่อย่าเศร้านะตัวเอง เนี่ยะเหมือนทีมจะชอบๆ ฝุ่นด้วยหล่ะมั้ง
เท่าที่ดู จุ้นจ้านไปซะทุกเรื่องอ่า แล้วเขาคนที่ว่าที่ฝุ่นจะโทรหานี่ใครอ่ะ
เราจะรอตอนต่อไปนะจ๊ะ มาไวๆน๊า  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 04-12-2010 19:35:22
ฝุ่นตลกดีทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาเลย :laugh:
ทีมดูใจดีจัง
+1ให้จ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 04-12-2010 19:53:45
ชอบทีมอ่ะ แต่ฝุ่นท่าจะมีแฟนแล้ว เฮ่อๆ งั้นยกทีมให้เค้าละกัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 04-12-2010 20:08:01
ฝุ่น
อย่าพูดจาหยาบคายนักสิ
ไม่น่ารักเลยนะเนี่ย
 :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 04-12-2010 20:54:34
รอตอนสามม :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 04-12-2010 20:55:28
เข้าใจว่าฝุ่นมีคนที่รักอยู่แล้วนะ แล้วทีมล่ะ? ไม่เอายกให้เค้าน้า  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-12-2010 21:04:27
ทีมน่ารักกอ่ะ น้องฝุ่นอย่าเฉยชามากนักสิคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-12-2010 21:15:19
 :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 04-12-2010 21:28:42
ชอบๆ
ชอบบุคลิกแบฝุ่นอ่ะ ดูมึนๆลึกลับแปลกๆดี ฮ่าๆ
รอตอนที่สามจ่ะ  มาต่อเร็วๆนะ o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 04-12-2010 21:39:16
 :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 04-12-2010 21:44:52
น่าสนุกน่าติดตามค่ะ +1
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-12-2010 22:02:51
ใครจะเป็น ซามี ภรรยา นะ อยากรุ้จริงๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-12-2010 23:51:51
มีแฟนอยู่เมืองนอกหรือเปล่าเนี้ย

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 05-12-2010 00:29:02
 :a5:

 ตัดกันห้วนๆ
 รอตอนสาม อย่างจดจ่อ:sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 05-12-2010 12:15:10
น่าติดตามมากเลยค่ะ

จะเป็นยังไงต่อน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 05-12-2010 14:52:29
น่าติดตามน้า +1 ให้จร้า

บาป หวาน มันหมายถึงอะไรกันนะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-12-2010 15:23:52
นั่นสิ...น้องฝุ่นจะโทรหาใครอะ :confuse:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 05-12-2010 16:08:47
โทรหาคนสนิทที่อเมริกา?? ชอบเซ็กซี่ อร๊ายยย :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 05-12-2010 16:19:23
อะจ๊ากกกกกกก คนแต่งโปรยให้เค้าค้างเล่นๆซะงั้น :sad4:

แต่เริ่มคิดแล้วว่า น้องฝุ่นเป็นรับ อะหุๆ :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 05-12-2010 19:28:09
อ๊าย
ชอบ ๆๆๆ

ฝุ่นต้องโทหาเพื่อนเพียงคนเดียวที่ทนฝุ่นได้แน่เลย

อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nuewanda ที่ 05-12-2010 21:27:43
อืมมม.......บาปนี้ ดูท่าจะหวานจริงๆ นะเนี่ย  :eiei1:
แค่เริ่มเรื่องก็สนุกแล้วค่ะไรท์เตอร์
แล้วใครน๊อ...ที่เป็นคนทิ้งรอยให้น้องฝุ่นเป็นคนเย็นชาแบบนี้
คนที่ฝุ่นโทรหา...ใช่เพื่อนคนสุดท้ายที่ทนนิสัยฝุ่นได้ปะคะ
ส่วนทีม....นายเกิดมาเพื่อเป็นพระเอกปะเนี่ย :o8: (ไรท์เตอร์คะ ว่าแต่ทีมเป็นพระเอกใช่ปะ เดี๋ยวเค้าหน้าแตก  :laugh:) 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 06-12-2010 01:42:59
ทีมกับฝุ่นกวนกันได้อีกอ่ะ


แหมดูเข้ากันดีเนอะรออ่านตอนต่อไปค้าบบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 06-12-2010 11:05:59
ชอบบุคลิกของฝุ่น
เพราะมันตรงกับตัวเองดี :man1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-12-2010 22:02:39
รอ จ่ะ รอ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 07-12-2010 22:31:42
feel likes MaMa is coming.
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 07-12-2010 22:48:19
 :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 08-12-2010 10:58:56
ทีมน่ารักดีค่ะ......หนุ่มอารมณ์ดีที่น่าจะละลายกำแพงในหัวใจของฝุ่นลงไปได้
ว่าแต่ว่าฝุ่นจะมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่าคะ.....ไม่อยากให้ทีมกลายเป็นมือที่สามอ่ะ
ขอบคุณคนเีขียนนะคะ  :L2: +1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 08-12-2010 16:00:07
ทีมีแฟนแล้วช่ายป่ะ


งั้นเราขอฝุ่นนะ

อิอิ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 08-12-2010 19:55:03
   เมื่อกลับมาถึงห้อง แน่นอนว่าหลังจากบวกลบความขี้เกียจแล้วผมก็เหวี่ยงถุงเสื้อผ้าทั้งหมดไปไว้ที่มุมหนึ่ง แต่ก่อนอื่นใด ผมยังไม่โทรศัพท์หรอก แต่ขอเช็คความบ้าของคนบางคนจากอีเมล์ก่อนก็แล้วกัน ผมรอไม่นานสำหรับการล็อคอิน และสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอก็ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา อีเมล์ที่ยังไม่ถูกอ่านมีมากกว่ายี่สิบฉบับนับจากวันที่ผมเหยียบประเทศไทยจนถึงวันนี้ และมัน...ก็มาจากคนๆ เดียวกัน


   หัวข้อของมันแลดูรุนแรงขึ้นตามจำนวนวันที่ผมหายออกไปจากสาระบบของโลกใบนี้ มีตั้งแต่


   ‘hey, it’s me!’

   ‘hey man.. I send you last 2days but you didn’t even call me yet’

   ‘Foon! you need to answer me now!!’

   ‘Damn where r u man?!! Are you still in the world??’

   ‘you drive me crazy!! answer me right now!!!!!!!!’

   ‘FOON!!?? Did you die yet? man please answer me!!’


   ผมนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ก็รู้หรอกว่าเจ้าของอีเมลพวกนี้มันเป็นห่วง แต่ผมก็อดตลกในความกังวลจนเกินเหตุของมันไม่ได้ เอาเถอะ ยกผลประโยชน์ให้จำเลยไป ถึงตอนนี้เวลาของกรุงเทพฯ จะสี่ทุ่มกว่าๆ แต่ที่อเมริกาก็เพิ่งจะสิบโมงกว่าเท่านั้นเอง เข็มสั้นของนาฬิกายังไม่แตะเลขสิบสอง แน่นอนว่าคนที่ผมจะโทรหาต้องยังไม่ตื่นแน่ๆ แต่ใครจะสน ผมจะแกล้งมันซะอย่าง


   ผมกดเบอร์ที่คุ้นเคย แล้วรออยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ปลายสายจะรู้ตัว กดรับและกรอกเสียงงัวเงียปนหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะเวลานอน


   “hello…?”


   “ตื่นได้แล้วไอ้อ้วน” ผมพูดไปเป็นภาษาไทย ปลายสายเงียบไปทันที จนผมเผลอเงี่ยหูฟังว่ามันทำอะไรอยู่ เสียงขลุกขลักคล้ายมันร้อนรนอะไรสักอย่าง ก่อนจะถามมาเร็วๆ


   “Foon? aren’t you?”


   “who the fuck do you think I am?” ผมตอบไปกวนๆ รอดูว่าหมอนั่นจะว่ายังไง ซึ่งผลตอบรับก็ไม่ได้เกินไปกว่าที่ผมคาดเท่าไหร่นัก มันโวยวายเป็นภาษาอังกฤษยาวเหยียด


   ((จากนี้ไป ขอให้พึงระลึกไว้ว่า บทสนทนาของฝุ่นกับยูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่เพื่อความสะดวกของผู้เขียนและผู้อ่าน เราจะเขียนเป็นภาษาไทยทั้งหมดจ้ะ))


   “นาย..นาย ไอ้ตัวดี! ทำไมไม่ติดต่อมาเลยวะหา! หายไปไหนมาหนึ่งอาทิตย์ บอกแล้วนี่ว่าถึงไทยแล้วให้โทรหา ทำไมเงียบไป อีเมล์ฉันก็ไม่ได้ตอบ โทรศัพท์ก็ไม่ได้โทร เพิ่งกลับจากดาวอังคารรึไง!!” บ่นครับ บ่นนนนนนนน


   “ประมาณนั้น”


   มันอาจจะดูแปลกที่ผมยังใจเย็นกับคำบ่นปนด่าของเขา ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะโดนผมด่ากระเจิงไปตั้งแต่คำแรกแล้ว หมอนี่เป็นข้อยกเว้น อ๊ะๆ..ไม่ใช่เพราะรักถึงทนเหมือนในละครนะครับ แต่เพราะเขาเป็นคนเดียวในโลกที่ผมรู้สึกว่าทุกคำพูดเปล่งออกมาด้วยความหวังดี และเป็นห่วงด้วยใจจริง


   ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถึงมันจะบ่นปนด่าเหมือนผมไปเหยียบเท้าบรรพบุรุษมาตั้งแต่ชาติปางไหน ก็รู้ว่าผิดที่แกล้งแรงขนาดนี้ แต่แหม...นานๆ ทีนี่ครับ ถึงจะได้เห็นยูลบ่นเหมือนหมีกินผึ้งมาทั้งสวนแบบนี้


   “อย่ามาย้อนฉันนะ ..นายก็รู้ว่าฉันเป็นห่วง ฉันนึกว่าโดนญาติใช้งานเหมือนซินเดอเรลล่า โทรศัพท์ไม่ให้ใช้ อินเตอร์เน็ตก็ไม่มีซะอีก” เออะ...ดูละครมากไปป่ะ


   “แม่ง อยากโกรธก็โกรธไม่ลง ให้ตายเถอะ” มันบ่นกับตัวเองครับ “แล้วนี่เป็นไงบ้าง”


   พอบ่นจนหายเซ็งปุ๊บ ผู้ชายนิสัยดีที่สุดในสามโลกเขาก็ถามถึงความเป็นอยู่ผมทันที..นี่แหละ ข้อดีของหมอนี่ ถึงจะขี้บ่นบ้าง แต่ก็หายเร็วและไม่เก็บมาเป็นประเด็นอีก


   “ก็สบายดี”


   “ขอคำขยายด้วย” น้ำเสียงเขาหงุดหงิดนิดหน่อย ที่ต้องซักเอาคำตอบอีกรอบ ผมหลุดหัวเราะเบาๆ...สำหรับผมแล้ว หมอนี่ตลกเสมอเวลามันโกรธ


   “นายอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ ประเทศไทย อาหารไทย ผู้หญิง เอ้ย ผู้ชายไทย หรื....”


   “บ้านใหม่” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค ไอ้ปลายสายมันก็แทรกขึ้นมาห้วนๆ เสียอย่างนั้น


   “ก็..ดี น้าอิ่มก็ยังใจดีเหมือนเดิม” ผมตอบ


   “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายถึงน้าอิ่ม...ครอบครัวใหม่น่ะ เป็นยังไงบ้าง”


   ผมนิ่งไปเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอะไร รู้ว่ายูลหมายถึงใคร แต่ผมก็ยังไม่กล้าเรียกว่าลุงสินกับไอ้ทีมเป็น ครอบครัวใหม่ ได้เต็มปากเต็มคำ จริงอยู่ที่พวกเขาดีกับผมมาก แต่ครอบครัวมันไม่ได้ประกอบไว้แค่คำว่า “ใจดี” หรอก จริงมั้ยครับ


   “คนอื่น...ก็ดี”


   “เหรอ...ดีกว่าตอนอยู่กับฉันรึเปล่า”


   “ยูล...”



   “ฝุ่น...” เสียงเรียกชื่อผมดังออกมาจากทางซ้ายมือ เป็นทีมที่เปิดประตูเชื่อมมาเรียกผม แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมกำลังติดสายโทรศัพท์อยู่ถึงได้มีสีหน้าเจื่อนๆ พลางบอก “เอ่อ โทรศัพท์อยู่เหรอ โทษที”


   “แป๊ปนะยูล..” ผมบอกปลายสาย “มึงมีอะไรรึเปล่า”


   “เปล่า..กูแค่จะมาถามว่า มึงจะไปดูหนังที่ห้องกูมั้ย” มันคงหมายถึงหนังที่ไปถอยมาจากร้านวันนี้ อันที่จริงทีมมันบอกผมว่ามันดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์แล้ว แต่ชอบเลยซื้อเก็บเอาไว้


   “อืม มึงดูไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูตามไป”


   ทีมยิ้มกว้างให้ผมทันที บอกแค่ว่าเดี๋ยวรอ แล้วมันก็หายไปจากห้องผมด้วยความว่องไว


   “ยูล..โทษที”


   “เมื่อกี้ใครน่ะ” ยูลถามดักขึ้นมาก่อน


   “ลูกของลุงสินน่ะ เขามาถามว่าจะไปดูหนังที่ห้องเขาไหม” ผมตอบไปตามความจริง


   “เหรอ..งั้นก็ไปดูหนังเถอะ อย่านอนดึกนักล่ะ เป็นเด็กดีด้วยเข้าใจมั้ย”


   นี่กูอายุสิบแปดปีนะ ไม่ใช่สิบแปดเดือน


   “เออๆ รู้แล้ว” ผมตอบไปแค่นั้นแล้ววางสายไป โทรศัพท์เครื่องใหม่ถูกวางทิ้งเอาไว้บนโต๊ะหนังสือริมกระจกหน้าต่าง ก็รู้แหละครับว่ามันคงไม่มีใครโทรหาหรอก แต่ผมก็ไม่อยากให้มันสั่นหรือมีเสียงรบกวนตอนดูหนัง ก่อนจะเดินไปคว้าเอาเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นใส่อยู่บ้านมาเปลี่ยน เพื่อให้นั่งดูหนังอย่างสบายๆ


   
   ผมเคาะประตูเชื่อมระหว่างห้องน้ำกับห้องไอ้ทีมเบาๆ และเปิดเข้าไปโดยไม่ได้รอเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายก่อน ทั้งห้องมันปิดไฟเกือบมืด มีแค่จอโทรทัศน์และโคมไฟที่โต๊ะเท่านั้นที่ถูกเปิดเอาไว้ ห้องของมันเท่าที่ผมสังเกตได้ในความมืด เหมือนห้องผมแทบทุกประการ แค่มันกลับจากซ้ายเป็นขวาเท่านั้นเอง


   “ทำไมมาเร็ว” อยู่ๆ เสียงทุ้มๆ ของไอ้ทีมก็ดังขึ้นใกล้ๆ จนผมสะดุ้งเฮือก สะบัดหน้ากลับไปมองมันด้วยความตกใจ


   ท่าทางมันคงเพิ่งเดินตามผมออกจากห้องน้ำมาเมื่อกี้นี้เอง เพราะไอ้ห่านป่ายังตัวเปียกอยู่ติดหน่อย มีแค่เส้นผมสีดำยาวที่ลู่ลงกับใบหน้า มันเอาผ้าเช็ดตัวขนาดเล็กพาดไว้บนหัวซับน้ำ ไอ้เหี้ยทีมใส่แต่กางเกงขาสั้นประมาณเข่า ไม่สวมเสื้อเผยให้เห็นกล้ามท้องที่ได้มาจากการเล่นเทควันโดของมันชัดเจน...อันที่จริง ผมไม่ชอบคนที่มีกล้ามเยอะๆ เพราะมันดูน่ากลัวนะผมว่า เหมือนเนื้อใหญ่มากจนจะหลุดออกมาได้ทั้งก้อนอะไรแบบนี้ แต่กับไอ้ทีมมันไม่เหมือนกัน มันมีกล้ามก็จริงแต่ไม่มากจนหนาตาอย่างคนอื่น ผมคงเผลอจ้องและวิจารณ์มันในใจนานไปหน่อยจนอีกฝ่ายทักขึ้น


   “นี่หุ่นกูดีจนมึงละสายตาไม่ได้เลยเหรอวะ” มันบอกปนหัวเราะ


   “ป่าว กูแค่คิดว่ามึงอ้วนกว่าที่คิดไว้” ผมโกหก


   “เฮ้ยยยยยยยยยยย จริงป่ะเนี่ย กูอ้วนเหรอฝุ่น”


   ผมไม่ตอบไอ้คนที่เข้ามาเซ้าซี้ แล้วเดินไปนั่งลงหน้าจอโทรทัศน์ที่ทำมุมองศาแบบเราไม่ต้องเงยหน้าจนเมื่อยคอ ห้องไอ้ห่านป่าไม่มีโซฟานะครับ มีแต่เก้าอี้นวมไม่มีขาคล้ายๆ เก้าอี้ตามโรงแรมของคนญี่ปุ่นอยู่สองตัวเท่านั้น ที่เหลือเป็นกองหมอนอีกสามสี่ใบ ท่าทางมันคงชอบดูหนังเอามาก


   “มึงชอบดูหนังเหรอ” ผมถาม


   “อืม ยิ่งหนังที่เสียงดังๆ มีไม่กี่ฉาก ตัวละครไม่กี่ตัวยิ่งชอบ” มันตอบแล้วหันมายักคิ้วให้


   “เสื่อมตลอดเวลานะมึง” ผมพูดพลางเอาหมอนใบโตของมันมาขยำเล่น “เปิดหนังซักทีสิ ประธานมาแล้ว”


   “คร้าบบบ ท่านประธาน ตามประสงค์คร้าบบบบบบ”


   มันล้อเลียนเสียงดัง แต่ก็ยอมกดเปิดหนังตามที่ผมบอกแกมสั่ง แล้วมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ มันเอนหลังลงกับเก้าอี้นวมด้วยท่าทีสบายๆ พร้อมกอดหมอนใบโตไว้กับอก ในช่วงระหว่างที่ยังเป็นตัวอย่างหนังเรื่องอื่นๆ อยู่ ทีมมันก็ถามผมขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย


   “เมื่อกี้โทรหาแฟนที่เมกาเหรอ” อยู่ๆ ก็ถามคำถามเสื่อมๆ ถ้ากูกินข้าวอยู่นี่สำลักนะ ไอ้เวร...


   ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อย ถึงแม้ห้องจะค่อนข้างมืด แต่เพราะไอ้ห่านป่านั่งอยู่ไม่ห่างจากผมเท่าใดนักทำให้ผมเห็นสีหน้ามันชัดเจน...ผมตีสีหน้าใครไม่เก่ง แต่แววตามันก็ดูแปลกประหลาดเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ


   “ที่อเมริกาน่ะใช่ แต่ไม่ใช่แฟน”


   ผมไม่มีอะไรต้องปิดบัง..ยูลกับผมเป็นอะไรที่มากเกินจะใช้คำว่า “เพื่อน” มานิยาม แต่ก็ยากที่จะกระโดดไปเป็นมากกว่านั้น คำว่าคนรัก ยังลึกซึ้งเกินไปที่จะอธิบายความสัมพันธ์ของเราสองคน วันที่ผมมีปัญหา ยูลจะเป็นคนเดียวที่ยังยืนอยู่เคียงข้างผม รวมถึงวันที่ผมเหงา.....ก็จะมียูลคอยนอนข้างๆ ปลอบใจ..มันก็แค่นั้น


   “อ่อ..เหรอ” มันรับคำเก้อๆ แล้วไม่ถามอะไรอีก นับว่าเวลาวันกว่าๆ เกือบๆ สองวันทำให้ไอ้คนหัวไวมันเรียนรู้ถึงนิสัยของผมได้บ้างแล้วเหมือนกัน ผมที่ไม่ชอบให้ใครมาซักถามก็ถูกทีมมันปล่อยให้นั่งดูหนังต่อไปท่ามกลางความเงียบแต่ไม่อึดอัด...



   ตอนบ่ายของวันต่อมาคือเวลาที่ผมลืมตาตื่นด้วยความหิว หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ผมก็เดินหน้ามึนลูบท้องลงมาชั้นล่าง ได้แต่หวังว่าป้าแจ่มจะเก็บข้าวไว้ให้ผมบ้าง บ้านทั้งหลังเงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ มันคงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์แล้ว น้าอิ่มกับลุงสินคงออกไปทำงานทั้งคู่ เหลือก็แต่ไอ้ทีมที่ผมไม่รู้ว่ามันหายไปไหน อาจจะออกไปกับเพื่อน หรือยังไม่ตื่นก็เป็นได้


   ผมเดินเอื่อยๆ เข้าไปในห้องครัว มีโน้ตแผ่นเล็กแปะเอาไว้บนตู้เย็น ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมเลยเดินไปมองประดุจมันคือบ้านตัวเอง นับว่าโชคดีที่โน้ตแผ่นนั้นจ่าหน้าถึงผม


   ‘กูออกไปธุระแป๊ปนึง บ่ายๆ จะกลับ ถ้ามึงตื่นมาแล้วไม่เจอใครก็อย่าร้องไห้ กับข้าวอยู่ในตู้ กินเคล้าน้ำตาไปก่อน เดี๋ยวกูกลับมาโอ๋ // ทีม’


   ไอ้เหี้ย!!!!!  ไม่มีคำไหนที่ผมอยากแจกให้มันเท่านี้แล้วจริงๆ!!


   แต่ผมจะทำอะไรได้นอกจากเดินไปหยิบกับข้าวที่ทีมมันเก็บเอาไว้ให้ในตู้กับข้าวข้างๆ ..คือที่ผมไม่เรียกว่าเหลือไว้ให้ เนื่องจากมันใส่ข้าวอัดแน่นเอาไว้ในกล่องพลาสติกเก็บความร้อน ข้างๆ กันมีหมูทอด ผัดผัก แล้วก็แกงจืดซึ่งทั้งหมดมันเก็บเอาไว้ในกล่องอย่างดี ผมไม่รู้ว่ามันออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กับข้าวทั้งหมดยังอุ่นๆ อยู่ผมจึงไม่ต้องเสียเวลามานั่งคลำหาว่าไมโครเวฟอยู่ที่ไหนและใช้ยังไง


   ผมนั่งทานข้าวยังไม่ทันเสร็จ เสียงรถก็ดังอยู่หน้าบ้าน คิดว่าไม่ใช่ใครหรอก ก็ไอ้ทีมแหละครับ


   และผมก็เดาถูกเมื่อเสียงโวยวายของมันดังมาก่อนจะทันได้เห็นหน้าเสียอีก


   “โอ๊ย เซ็กส์ซี่อย่ากัด!! ไปเล่นที่อื่นไป ไอ้หมาเซ็กส์เสื่อม!!!!” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ มองตามเสียงของไอ้ห่านป่าที่กำลังโวยวายยกใหญ่ ทีมมันถือถุงอะไรบางอย่างใบใหญ่ในขณะที่เซ็กส์ซี่พยายามจะกระโดดเข้ามาเล่นด้วย ถึงไอ้ทีมจะตัวสูงใหญ่แต่ก็แอบแพ้แรงหมา มันเลยวิ่งหนีเข้าบ้านแล้วปิดประตูใส่ดังปัง!  


   “แม่ง แก่แล้วนะมึง เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวพ่อจับทำลูกชิ้นซะนี่” มึงทำแล้วใครจะกินวะ.... “อ่าว ตื่นแล้วเหรอ ร้องไห้รึเปล่า”


   มันหันมาเจอหน้าผมก็ปล่อยหมาในปากออกมาทักก่อน ผมเลยยื่นนิ้วกลางให้แทนคำตอบ มันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากแบบคนอารมณ์ดี ผมเลยหมดอารมณ์ที่จะใส่ใจมันอีก เดินกลับไปนั่งกินข้าวเหมือนเดิม ทีมมันก็เดินตามมานั่งตรงข้ามผม ก่อนจะเอานิ้วฉกหมูทอดไปกินต่อหน้าต่อตาชิ้นหนึ่ง


   “เชี่ย สกปรก” ผมด่า แล้วเอาส้อมจิ้มมือมันแรงๆ


   “เจ็บ! ...ดุจริง เชื้อโรคเจอมึงด่า มันก็ลาตายหมดแล้วฝุ่น” มันบอกปนหัวเราะ พลางเคี้ยวหมูในปาก “มึงตื่นนานรึยัง”


   “ไม่นาน” ผมตอบสั้นๆ ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมันมากนัก


   “นอนกินบ้านกินเมืองเหรอแมวดื้อ”


   “มึงเรียกใครแมวดื้อ” ผมชะงักช้อนที่จะใส่ปากไว้กลางอากาศแล้วเงยหน้าถามมัน


   “เปล่า กูพูดสรรพนามลอยๆ” มันทำลอยหน้าลอยตาจนผมนึกอยากจะเอาช้อนควักลูกตามันไปทำลูกชิ้นแทนเนื้อเซ็กส์ซี่ขึ้นมาตะหงิดๆ “นี่ วันนี้เพื่อนกูนัดกินเหล้า ไปกัน”


   “ไม่ไป กูไม่ชอบกินเหล้ากับคนแปลกหน้า”


   “กูไม่ได้ให้มึงไปกินเหล้า กูให้มึงไปเที่ยวเฉยๆ” กลับกลอกนะมึง


   “กูไม่ไป” ผมตอบไปสั้นๆ ขี้เกียจไปนั่งเป็นตัวประหลาดในกลุ่มคนที่ไม่รู้จักให้คนนั้นถามนี่ คนนี้ถามนั่น น่ารำคาญ


   “มึงเข้าใจอะไรในประโยคกูผิดรึเปล่าวะฝุ่น กูไมได้ชวน แต่กูบอกว่ากูจะพามึงไป” พูดจบมันก็หันไปหิ้วถุงพลาสติกใบโตที่มันถือมา วิ่งฉิวหนีหายไปเลย ผมยังไม่ทันจะได้อ้าปากเถียง ลิ้นยังไม่ทันกระดิก เสียงประตูห้องนอนชั้นสองก็ถูกปิดลงดังปังเสียแล้ว....ไอ้ห่านป่า นี่มึงเดินหรือมึงบินไป



   ตอนเย็นผมทำตัวเหมือนหมาตายซากอยู่หน้าโทรทัศน์ ไม่สนใจไอ้ทีมที่เดินมาดึงๆ ลากๆ ผมให้ลุกไปเปลี่ยนเสื้อ รายการโทรทัศน์จะพูดเรื่องอะไรบ้างผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่หรอกครับ ที่หูกำลังฟังเพลงอยู่ กร๊ากกก


   “ฝุ่น ลุกสิมึง ลุกๆๆ” มันพูดแล้วพยายามดันตัวผมให้ลุกขึ้นตามแรง


   “เอ๊ะมึงนี่ ไปห่างๆ กูซักที รำคาญ” ผมพูดพลางเอาเท้าถีบมือมันออกจากขาอีกข้าง


   “เหี้ย ก็กูบอกแล้วไงว่าจะออกไปกินเหล้ากัน มึงก็ลุกดิวะ”


   “ก็กูบอกมึงแล้วว่ากูไม่ไป มึงต้องให้กูรีเทปกี่รอบวะ” ผมเริ่มหัวเสียกับอาการพูดไม่ฟังของมันมากขึ้นเรื่อยๆ


   “มึงแม่งใจร้ายว่ะ แค่นี้ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยก็ไม่ได้ ไม่ใจเลย ไรวะ...อ่อ รู้ละ ที่แท้ก็กินเหล้าไม่เป็นใช่ป่ะครับน้องฝุ่น น้องฝุ่นอายุเท่าไหร่นะ เข้าผับได้รึยัง” มันพูดไปก็ทำหน้าทำตาแกล้งผม รู้หรอกว่ามันจงใจจะให้ผมยั๊วะแล้วบอกว่ากูไป อะไรแบบนี้...แต่นาทีนี้ เห็นแก่หน้าเหี่ยวๆ ที่ทำท่าทำทางน่ากระทืบก็ขอถีบมันแรงๆ ซักทีแล้วกัน!!


   พลั่ก!!


   “โอ๊ย!!”


   “สมน้ำหน้า” ผมตะโกนใส่แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นไปชั้นสองโดยไม่คิดจะใส่ใจกับห่านป่าตัวใหญ่ที่นอนกุมท้องอยู่ที่พื้นอีกเลย


   ไม่ถึงสิบห้านาทีผมก็เดินลงจากบ้านมาในชุดใหม่ที่คิดว่ามันน่าจะดูโอเคที่สุดสำหรับการออกเที่ยวกลางคืนวันนี้ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เสื้อยืดสีดำที่ไอ้ทีมมันคะยั้นคะยอให้ซื้อวันก่อน กับกางเกงยีนส์เดปและรองเท้าหนังคู่เอี่ยม


   “กูรู้ว่ามึงต้องลงมา” ไอ้ห่านป่าที่นอนโอดครวญเมื่อกี้ลุกขึ้นมานั่งฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบครบสามสิบสองซี่ อีกซี่นึงหลบอยู่ในเงามืด คริคริ


   “ไปขับรถดิสารถี เจ้านายต้องบอกด้วยรึไง” ผมได้ทีก็เอาใหญ่ ถ้ามันลองหือสิ วันนี้มึงฉายเดี่ยวไปเหอะ


   “คร้าบๆ ทราบแล้วคร้าบบบบบบ”
   


   ไอ้ทีมมันขับรถอย่างอารมณ์ดีไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแบบโอเพ่นแอร์ค่อนไปร้านนั่งดื่มมากกว่าจะมาหาข้าวทานแก้หิว ขนาดร้านที่แลดูหรูและใหญ่พอสมควรทำให้ผมถึงกับนิ่งไปเล็กน้อย ถ้าเงินไม่หนาจริงก็คงเที่ยวที่นี่ได้อย่างสบายใจไม่ได้แน่ๆ...ตัวไอ้ทีมเองก็ดูจะคุ้นชินกับคนและหนทางในร้านนี้มากพอสมควรเพราะตอนที่มันเอารถเข้าไปในลานจอด พนักงานก็รีบกุลีกุจอเข้ามาโบกรถเข้าไปทางที่จอดวีไอพีให้ทันที


   “มึงมาบ่อยเหรอ” ผมถามขึ้น ทีมมันหันมายักคิ้วหลิ่วตาแล้วตอบ


   “ร้านของเพื่อนของพี่รหัสกูเอง”


   มันเดินผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ผมเดินเป็นลูกล้อตามหลัง...รู้สึกกระจอกยังไงชอบกลแฮะ


   “อุ๊ย น้องทีม วันนี้มาเองเหรอคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งยิ้มทัก ผมว่าผมเป็นผู้ชายหุ่นปกตินะครับ ถึงจะไม่ถึงร้อยแปดสิบอะไรนั่น แต่ก็ร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ เลยทีเดียว แต่แม่เจ้าประคุณสูงเกือบจะเท่าผม...โอ้ว ตอนแม่ท้องกินแคลเซียมกี่โรงงานครับคนสวย


   “พอดีพาเด็กมาเปิดตาหน่อยน่ะครับ” มันตอบอย่างสุภาพแล้วพยักเพยิดมาทางข้างหลัง..เอ๊ะ ข้างหลังมันก็ผมนี่หว่า


   ห่าน มึงพากูมาเปิดตาอะไร ไหนบอกให้มากินเหล้าเป็นเพื่อนไง!


   “น่ารักจัง แต่ดูยังเด็กอยู่เลยนะทีม”


   “ก็นิดหน่อย..ผมขอตัวก่อนนะ เพื่อนๆ รออยู่” มันตัดบทไว้แค่นั้นแล้วหันมาลากผมให้เดินตามไป พลางกระซิบ “ร้านนี้ร้านเพื่อนพี่กูก็จริง แต่ระวังหน่อย ผู้หญิงพวกนั้นกัด”


   หึหึหึ ไอ้ห่านป่าพูดจาถูกใจ กดไลค์ทีนึง!!



   ห้องที่ทีมมันผลักประตูเข้าไปอยู่ลึกเข้าไปมากพอสมควร แต่ขนาดและลักษณะของห้องก็คุ้มค่ากับที่จะต้องเดินเข้ามาไกลขนาดนี้ ทั้งใหญ่ทั้งเป็นส่วนตัว ชนิดที่ว่าถ้าไม่ใช่พวกเดียวกันก็อาจจะถูกจับโยนออกไปได้ง่ายๆ เลยทีเดียว


   “อ้าวๆ พระเอกมา ถอยดิ๊” ไอ้ห่านป่าเดินไปผลักเพื่อนที่ถือแก้วเหล้าแล้วร้องเพลงอย่างสนุกสนานตรงริมประตูอย่างแรงจนเซแซ่ดๆ ไปข้างหน้า คนที่โดนผลักทำท่าจะหันมาด่า แต่พอเจอว่าเป็นใครเลยบ่นแทน


   “ห่า ผลักมาได้ เดี๋ยวสมองกูไหลออกทางจมูก ทำไงวะ”


   “เอาที่อุดจมูกก่อนมั้ยเดี๋ยวกูไปซื้อมาให้” แม่งเล่นมุขหน้าตายอีกละ


   “เฮ้ยๆ พวกมึงหยุดพ่นหมาใส่กัน กูอยากเจอน้องฝุ่นมากกว่า” ....น่ะ นี่แหละคือสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด การเข้ามาในอยู่ในกลุ่มคนแปลกหน้าแล้วต้องกลายเป็นจุดสนใจเหมือนผมเป็นเซเลปชื่อดัง...เซ็งจริงกู ไม่น่าหลวมตัวมาเลย


   “พวกมึงทักที ฝุ่นมันขวัญหายหมด ถอยๆ ให้น้องกูนั่ง” ทีมมันผลักหัวเพื่อนไม่พอ ยังเอาเท้าไปเขี่ยๆ คนที่นั่งอยู่บนโซฟาให้ขยับ แล้วมันก็กดไหล่ผมนั่งลงตรงที่ว่างนั้น “มึงอย่าทำหน้าแบบนั้นสิฝุ่น เพื่อนกูทุกคนไม่กัดมึงหรอก”


   “น้องฝุ่นๆ” คนที่โดนไอ้ทีมมันเอาเท้าเขี่ยๆ เมื่อกี้หันมาเรียกผมพร้อมสะกิดเบาๆ ที่ไหล่ ผมเลยต้องหันไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่า...


   “เช้ดดดดดดดด น่ารักกว่าที่มึงบอกอีกไอ้เหี้ยทีม นี่ถ้ากูไม่คะยั้นคะยอให้มึงพาน้องมา มึงกะเก็บน้องไว้แดกในอกคนเดียวเลยป่ะ!!”


   แน่นอนว่าเขาโวยวายเสียงดังใส่ไอ้ห่านป่ามัน ทำให้คนอื่นที่นั่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงมีทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายหันมาให้ความสนใจกับผมมากขึ้น


    “พอๆ มึงอย่าลวนลามน้องกู เดี๋ยวมันซีดหมด”


   ทีมมันเดินมาส่งแก้วเหล้าให้ผม เท่าที่ผมมองกราดไปทั่วๆ แล้ว เพื่อนของมันที่นั่งกินกันไปร้องคาราโอเกะกันไปอย่างสนุกสนานนั้นมีอยู่ราวๆ หกคน รวมผมกับมันด้วยแล้วก็ประมาณแปดเท่านั้นเอง...อืม ก็กลุ่มไม่ใหญ่เท่าไหร่นะ


   “น้องฝุ่น พี่ชื่อไกด์นะครับ สถานะโสดสนิท ไม่ม่อ ไม่มั่ว รั่วบ้างพอขำๆ ยินดีที่ได้รู้จักคร้าบบบบ” ผู้ชายคนเดิมบอกแล้วทำท่าตะเบ๊ะ ก่อนจะยกแก้วเหล้ามาชนกับผม


   เออ...มันก็รั่วสมคำโฆษณาจริงๆ แหละครับ


   “อย่างมึงต้องแนะนำว่า ม่อ มั่ว รั่วตลอด ไม่อยากโสดแต่ก็ไม่มีใครเอามากกว่านะ ไอ้ไกด์” ผู้ชายใส่แว่นคนที่นั่งริมสุดพูดขึ้นมา ทุกคนถึงกับหัวเราะก๊าก


   “ทีม มึงแนะนำน้องอย่างเป็นทางการให้พวกกูรู้จักบ้างดิวะ” นักร้องสมัครเล่นที่ยืนกอดคอแอ่นกันมั่วซั่วเมื่อกี้เดินเข้ามาร่วมวงบ้าง ไอ้ห่านป่ามันหันมาสบตากับผมแวบหนึ่ง ก่อนจะยอมแนะนำเพื่อนมันบ้าง


   “คนนี้เชี่ยไกด์ ข้างๆ ชื่อปลาย ริมสุดไอ้บอล” เพื่อนของไอ้ทีมที่โตกว่าผมทุกคนโบกมือหยอยๆ ให้แทนคำทักทาย..บวกลบความ(น่าจะ)ดีของหลายๆ ฝ่าย ศาลจะยกผลประโยชน์ให้จำเลยไปก็แล้วกัน เรียกว่าพี่ก็ได้วะ “ฝั่งตรงข้ามชื่ออันดา กับนะโม ส่วนสองคนนี้ชื่อพี่ลันกับพี่อ๋องพี่รหัสกูเอง...กูว่าอันดากับมึงน่าจะอายุเท่ากันนะ ใช่ป่ะ”


   คำถามนั้นมันไม่ได้ถามผมหรอกครับ ถามไอ้เด็กหน้าเป็นคิ้วโก่งที่นั่งติดกับพี่ผู้หญิงที่ชื่อนะโมต่างหาก มันยิ้มกว้าง


   “ผมขึ้นปีหนึ่งปีนี้อะพี่ทีม รุ่นเดียวกันแหละ”


   “โอ๊ย พวกมึงเลิกพูดเรื่องอายุในวงเหล้า กูปวดร้าว” พี่ปลายโวยวายขึ้นมา...ผมชักสงสัยแล้ว ว่าที่จริงไอ้ทีมมันอายุเท่าไหร่กันแน่


   “ทีม ที่จริงมึงอายุเท่าไหร่วะ” ผมหันไปสะกิดถามมัน


   “กูเหรอ..หึหึ ปีนี้กูปีสี่แล้วอะ”


   โป๊ะตึ่งตึ่ง.....


   มันปีสี่...ตอนที่ผมกำลังจะขึ้นปีหนึ่ง ไอ้ทีมกำลังจะจบปีสี่...เออะ มึงไม่ได้แก่ไป!!


   “โหย น้องฝุ่น อย่าไปกังวลเรื่องอายุ ไอ้ทีมมันแรงดี รับรองยันเช้า”


   ผมยังไม่ทันได้อ้าปากตอบอะไรไป ไอ้ทีมมันก็ยกนิ้วกลางขึ้นด่าพี่ไกด์ไปก่อนแล้ว

   
   “ค-ยนะมึง เชี่ยไกด์ แดกเหล้าต่อไปเลยไป ปากงี้”






เจอกันอีกทีบาป...หวานตอนที่ 4 จ้ะ





Eiizes’s talk

นั่งอ่านย้อนกลับไปที่พาร์ทแรก ก็นึกขึ้นได้ว่า เราไม่ได้บอกชื่อตัวเอง! 555

เรียกว่าไอซ์ ก็ได้ค่ะ หรืออยากเรียกแค่ไรท์เตอร์ก็ได้ ตามสะดวกจ้ะ ฮี่ๆๆ

เขียนไปเขียนมา ก็รู้สึกว่า...บางทีตอนๆนึง..ก็ไม่ได้ยาวไป =_=””

ตัดฉับดีกว่า (โดนคนอ่าน  :z6:)

ตอนนี้มีหลายคน ถามว่าใครคือพระเอกกันแน่ นั่นสิ ใครคือพระเอกน้อ  :z2:

แต่ตอนนี้น่าจะได้คำตอบแล้วนะคะ ว่ายูลกับฝุ่นเป็นอะไรกัน ถ้ายังไม่ชัด รอดูต่อไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ ว่าเค้าเป็นอะไรกัน ฮ่าๆๆ

ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์นะคะ อาจจะไม่ได้ตอบ แต่ขอบอกให้รู้ว่าอ่านทุกคอมเม้นท์ เลิฟทุกคอมเม้นท์จ้ะ





รักคนอ่านค่า  :กอด1: :กอด1:




ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 08-12-2010 20:08:07
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำแบบนี้เค้าก็งงสิคะ ใครเป็นพระเอกหล่ะ  :z3: :z3:
ทีมรึเปล่า ใช่มั้ยอ่ะ ใครรู้บอกที ยูลนี่เป็นเพื่อนเฉยๆมั้ยหรือว่าเกิน
จากนั้นอ่าคะ อย่าให้เราเดาเลย ผิดตลอดอ่ะ  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-12-2010 20:52:59
ยูลแสนดีมักจะไมไ่ด้ กิน จากที่อ่านๆมาทุกๆเรื่องดีมาก ดีจัด ดีไปหมดเลยอด แดรก หุหุ

พระเอกขอให้เป็นทีมทีเหอะ โตและดูแลน้องได้ถึงจะรั่วๆไปหน่อยก้ดีไม่ซีเรียสดีอ่ะ ไม่เก็กด้วยน่ารักๆ

แอร๊ยยยยยยยยยอยากอ่านตอนต่อไปอีกจัง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-12-2010 21:07:14
ยูลแสนดีมักจะไมไ่ด้ กิน จากที่อ่านๆมาทุกๆเรื่องดีมาก ดีจัด ดีไปหมดเลยอด แดรก หุหุ

พระเอกขอให้เป็นทีมทีเหอะ โตและดูแลน้องได้ถึงจะรั่วๆไปหน่อยก้ดีไม่ซีเรียสดีอ่ะ ไม่เก็กด้วยน่ารักๆ

แอร๊ยยยยยยยยยอยากอ่านตอนต่อไปอีกจัง
เห็นด้วยทุกประการ โดยเฉพาะอยากอ่านต่อ :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 08-12-2010 21:28:20
พระเอกเป็นทีมละ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 08-12-2010 21:42:11
เชียร์ทีมละกัน  :mc4:
แต่แอบงงกับชื่อเรื่อง ทำไมต้องบาป..หวาน  :m28:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 08-12-2010 22:03:43
เอาแล้ว สงสัยทีมต้องคิดอะไรกะฝุ่นแน่เลย โม้กับเพื่อนไว้เยอะละสิ  :-[

 o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 08-12-2010 22:37:20
ปันใจเชียร์ทีมเต็มที่ :man1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 08-12-2010 22:58:18
เชียร์ทีมๆๆ

แต่ยังติดใจชื่อเรื่อง บาป...หวาน ง่ะ ทำไมถึงชื่อนี้งะ

บอกหน่อยได้มะ

 :L2:

+1 จร้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 08-12-2010 23:22:01
ยูล ชื่อก็บอกละนะ แถมนิสัยนี่อีก พระรองเกาหลีชัวร์ พันห้าร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ :m20:

แต่แอบชอบฝุ่น-ทีมจังเลย สองคนนี้ปากคอช่างเราะร้ายดีจริงๆ เหมาะสมกันจัง  :laugh:

ปล.แอบฮาเพื่อนทีมอ่ะ รั่วทุกคน :jul3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 08-12-2010 23:25:41
น่ารักอย่างนี้

ต้องนั่งรอนอนรอกันเลย

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 08-12-2010 23:33:50
ชอบจริงๆเรื่องนี้
ดูๆแล้วพี่ทีมคงจะเห่อน้องฝุ่นน่าดูเนาะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 09-12-2010 01:57:57
เรื่องสนุกมากๆเลยค่ะชอบ :give2:
อ่านตอนแรกสงสารฝุ่นอ่ะทำไมฝุ่นถึงคิดว่าตัวเองอ่ะน้องต้องมีปมอะไรในใจเกี่ยวกับครอบครัวแน่ๆเลยแต่ได้พี่ทีมมาปลอบใจแล้วหวังว่าฝุ่นจะกลับมาร่าเริงไวๆนะค่ะน้องออกจะน่ารัก
พี่ทีมกะจะพามาเปิดตัวกลับเพื่อนๆเลยว่าคนเนี้ยหวง!อิอิ :-[
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่า :a2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-12-2010 16:23:50
ชัดทีมชอบฝุ่นแน่ๆ :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-12-2010 16:41:09
อร๊ายยยย  สนุกอ่ะ  อัพบ่อย ๆ นะ  ชอบทีม  เชียร์ทีมฮ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-12-2010 18:12:50
กรี๊ดดดดด

เรื่องนี้น่ารักจังเลย ชอบฝุ่นน่ารักๆ

ไม่ิคิดว่าทีมจะแก่ขนาดนี้ แ่ต่อายุเป็นเพียงตัวเลขเนอะ

เชียร์ทีมสุดใจค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 09-12-2010 19:05:39
“ที่อเมริกาน่ะใช่ แต่ไม่ใช่แฟน”..........เฮ้อ......โล่งอก (อกพี่ทีม.....อุอุอุ)
เชียร์ ๆ ๆ พี่ทีมค่ะ .....  เชียร์คนเขียนด้วยนะคะ  สู้ ๆ ค่ะ  +1 เป็นกำลังใจให้คุณไอซ์ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 09-12-2010 20:04:50
สนุกมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 09-12-2010 21:39:04
ไม่รู้จะพิมพ์อะไร   พิมพ์ว่าเป็นกำลังใจให้คนเขียนแล้วกัน :)   :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nicepooh ที่ 10-12-2010 18:27:21
เนื้อเรื่องกำลังสนุกเลย ให้กำลังใจคนเขียนนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 10-12-2010 19:40:18
ไม่แก่หรอกน้องทีมเพิ่มปีสี่เอง


โอ้ยเพื่อนแต่ละคนท่าจะรั่วไม่น้อย



รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 10-12-2010 20:04:58
ยูลพระเอกเกาหลีตัวจริงๆ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 11-12-2010 12:58:13
รอ รอ รอ ตอนที่สี่ด้วยคร้าบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 12-12-2010 16:13:28
ทีมกวนดี น่าจะช่วยถมช่องว่างระหว่างฝุ่นกับครอบครัวใหม่ได้น้า(ถ้าไม่ดีแตกซะก่อนอะนะ)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 15-12-2010 00:46:41
อยากกอ่านต่ออ่ะจ่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: lervair_y ที่ 15-12-2010 01:55:29
ที่ชื่อบาปหวานนี่ เอ่อ หวานนี้คือน้ำตาลฟรุกโตสป่ะคะน้ำตาลที่หวานที่สุด หุหุ

ใครรู้บ้างคืออะไร หุๆ?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 3(08/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-12-2010 03:16:19
คนเขียนหายไปไหนค้า................
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 4(15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 16-12-2010 00:35:34
   ผมย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับไอ้ทีมได้อาทิตย์กว่าแล้ว มันก็ยังเป็นไอ้เหี้ยทีมที่ดีแต่ทำหน้าตาดีและชอบกวนตีนผมไปวันๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่เบื่อแบบที่เคยคิดเอาไว้ เวลาผ่านไปไวกว่าที่คิด อีกแค่ไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เดือนเมษายนอีกครั้ง เวลาสิบปีในอเมริกาทำให้ผมเกือบลืมฤดูร้อนที่แสนทรหดของเดือนเมษายนในประเทศไทยไปเสียแล้ว


   ช่วงนี้น้าอิ่มกับลุงสินเองก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่นัก เห็นว่าต้องช่วยกันเคลียร์งานออกแบบที่ตกค้างทั้งหมดให้เสร็จก่อนสิ้นเดือน เพราะเดือนหน้าจะไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันสองต่อสองในหลายประเทศในแถบยุโรปประมาณสองอาทิตย์เต็ม หรืออาจจะมากกว่านั้นถ้าเวลาอำนวย


   เท่าที่น้าอิ่มเคยเล่าให้ผมฟังคร่าวๆ ลุงสินแกเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบภายในแห่งหนึ่ง แล้วโลกมันก็กลมเกินไปทำให้ทั้งสองคนบังเอิญได้เจอและร่วมงานกัน ลุงสินแกก็ดันติดใจน้าผมอีท่าไหนไม่อาจทราบได้เพราะไม่เคยถาม เลยติดต่อกันเรื่อยมาจนกระทั่งขอแต่งงานเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง

   
   พูดถึงก็ดีนะครับ การได้เดินทางออกไปทำกิจกรรมต่างๆ กับคนที่เรารักแบบนี้ มันก็คงสุขไปอีกแบบ ต่อให้เป็นสิ่งที่เคยทำไปแล้วแต่บรรยากาศของการทำกิจกรรมนั้นๆ คนเดียวหรือทำร่วมกับคนที่เรารักก็คงไม่เหมือนกันเสียทีเดียวนะ ว่าไหม



   วันนี้เป็นช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ทำท่าว่าฝนจะตกเพราะผมตื่นเช้า บ้านทั้งหลังยังเงียบสงบ ป้าแจ่มเข้ามาทำอาหารเช้าและทำความสะอาดบ้านตั้งแต่ไก่ยังขันไม่ทันครบยก อันที่จริงแล้วป้าแจ่มไม่ได้พักในบ้านหลังเดียวกันกับพวกเราหรอกครับ ป้าแกเป็นแม่บ้านธรรมดาๆ ที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ อยู่บ้านเลี้ยงหลานและอาศัยเงินบำนาญของสามีผู้ล่วงลับไปวันๆ ลุงสินแกเห็นว่าป้าเป็นคนซื่อสัตย์และทำกับข้าวอร่อยจึงจ้างมาดูแลบ้าน ทำกับข้าวและอยู่เป็นเพื่อนไอ้ทีมมันตั้งแต่มันยังเด็ก


   หลังจากที่ทานข้าวเช้าแล้ว ผมก็ใส่รองเท้าแตะเดินออกมาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน หญ้าเขียวสดมันล่อตาล่อใจให้ผมอยากถอดรองเท้าเดิน คงรู้สึกจั๊กกะจี้พิลึกดี เซ็กส์ซี่ที่ได้ยินเสียงประตูเปิดปุ๊บก็วิ่งลิ้นห้อยน้ำลายยืดเหมือนหมาบ้าเข้ามาทันที มันพยายามจะกระโจนเข้ามาเล่นกับผม แต่ขอโทษ กูไม่โง่เหมือนเจ้านายมึงหรอกนะ ฮี่ๆๆ ผมขยับตัวหลบ อินังหมาน้อยเซ็กส์เสื่อมมันเลยได้แต่ค้อนใส่ผมวงเบ้อเร่อแล้วครางหงิงๆ ตัดพ้อ...แรดจริง หมาใครเนี่ย


   ผมทิ้งตัวลงนั่งกับสนามหญ้าแล้วหยิบเอ็มพีสามขึ้นใส่หู ปล่อยให้เซ็กส์ซี่วิ่งวนไปรอบๆ ตัวผมอย่างเรียกร้องความสนใจ..ทีม..หมามึง alert มาก


   ผมพยายามกดเปลี่ยนเพลง แต่ดูเหมือนเซ็กส์ซี่เองก็อยากรู้ว่าไอ้เจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่เบนความสนใจของผมไปจากมันคืออะไร ถึงได้ยื่นหน้ายื่นจมูกเข้ามาดมๆ อย่างสอดรู้สอดเห็น


   “อะไรมึง อยากฟังบ้างเหรอ” ผมถามแล้วหัวเราะเบาๆ ตอนนี้หน้ามันกับผมอยู่ห่างกันนิดเดียว ยิ่งเห็นได้ชัดว่าอีหมานี่มันสมควรแก่การได้ชื่อว่าเซ็กส์เสื่อม..เอ้ย เซ็กส์ซี่มากแค่ไหน มาทำฉีกยิ้มยิงฟันโชว์เหงือก ถ้าเต้นรูดเสาให้ผมดูได้ มันคงทำไปแล้ว..แต่ซอรี่นะ กูไม่ได้ชอบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศเมียน่ะ หึหึ


   “เฮ้ย เหี้ย!!” ผมอุทานลั่น เมื่ออีหมาบ้ามันเกิดนึกสนุกหันมาคาบเอ็มพีสามผมไปจากมือแล้วออกตัววิ่งทันที!   


   “เซ็กส์ซี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!!!” ผมตะโกนแหกปากลั่น แต่มีเหรอที่มันจะหยุด ผมได้แต่รีบออกตัววิ่งตามมันไป อีหมาเซ็กส์เสื่อมมันวิ่งหูลู่ไปทางหลังบ้านอย่างไม่แคร์สื่อใดๆ “เซ็กส์ซี่ กูบอกให้หยุด!! เอาเอ็มพีสามกูคืนมา!!!”


   “เล่นอะไรแต่เช้าวะฝุ่น” เสียงที่ทักจากใกล้ๆ ทำให้ผมหันกลับไปมองอย่างลืมตัว ไอ้ทีมนั่นเอง มันเดินหน้ามึนๆ มายืนเท้าแขนกับประตูที่เชื่อมระหว่างครัวกับสวนด้านหลัง ไอ้ห่านป่ามันไม่ได้ใส่เสื้อ แล้วมึงมายืนเกานมออกสื่อทำไมเนี่ย!!


   ตู้ม!!


   ผมหันขวับไปทันที แล้วก็ต้องใจแทบสลาย....เอ็มพีสามของกู...ขึ้นสวรรค์ไปโดยไม่ต้องเล้าโลมแล้ว....


   จะอะไรซะอีก ก็อีหมาเซ็กส์เสื่อมกระโดดลงไปในบ่อน้ำเล็กขนาดกลางที่เอาไว้เลี้ยงปลาคาร์ฟพร้อมเครื่องเล่นเพลงของผม!!


   “เชี่ย!!!!! เหี้ยแม่งทั้งเจ้านายทั้งหมาเลยแม่ง!!!!” ผมด่ากราดด้วยความโมโห ไอ้เหี้ยทีมมันคงตื่นเต็มตาแล้วมั้งครับ เลยมองหน้าผมงงๆ ผมเดินเข้าไปหาเซ็กส์ซี่ที่ทำหน้าหงิงทันทีเมื่อผมกระชากเอ็มพีสามคืนมาพร้อมด่ามันอีก “เล่นเหี้ยอะไรไม่รู้เรื่องนะมึง เดี๋ยวกูจะส่งมึงไปร้านขายเนื้อ เชี่ย!!!”


   “อะไรของมึงเนี่ย กูเดินมาเฉยๆ ก็ด่ากู แล้วนี่อะไร เล่นอะไรกับเซ็กส์ซี่”


   “หมามึงทำเอ็มพีสามกูพัง!!” ผมตะโกนใส่ แม่ง..ของๆ กูอยู่ดีๆ เสือกคาบไปกระโดดลงน้ำ ไม่รู้จะโทษหมาหรือเจ้าของที่ฝึกมันไม่ดี ดูดิ๊ เอ็มพีสามผมได้อาบน้ำฟรีเลย โว้ยยย หงุดหงิด


   “เอ้า แล้วมึงมาด่าอะไรกู” มันเกาหัวแกรกๆ เริ่มขมวดคิ้วนิดหน่อย


   “มึงเป็นเจ้าของมัน มึงไม่ฝึกมันวะ เหี้ยจริงๆ กูอยากจะบ้า”


   ผมด่าแล้วชิ่งด้วยการเดินกระแทกเท้าเข้าบ้านอย่างหงุดหงิดเป็นที่สุด จุดหมายที่ผมจะไปคือห้องนอน อย่างน้อยผมจะเอาเอ็มพีสามไปเช็ดก่อน แล้วถ้ามันยังอยู่ในระหว่างช่วงการพิจารณาบาป ก็อาจจะเรียกวิญญาณมันกลับมาได้ถ้าเอาไปซ่อม


   ผมได้แต่นั่งซับน้ำที่ชุ่มไปทั่วเครื่องด้วยอาการหัวเสียจนยากจะบรรยาย จนมีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตูห้อง


   “ฝุ่น กูเอง” เออ กูรู้ ทั้งบ้านมีแค่กู มึง แล้วก็อีหมาเซ็กส์เสื่อม หมามึงคงเดินขึ้นมาเคาะประตูกูเนอะ


   “ฝุ่น กูเข้าไปนะ” เอ๊า...มึงพูด ก็รอกูตอบก่อนดิวะ ถ้าจะเดินเข้ามาเลยก็ไม่ต้องพูด เปลืองแบคทีเรียในปาก!


   “มีไร” ผมถามเสียงขุ่น


   “มึงมาโกรธอะไรกู กูไมได้คาบเอ็มพีสามของมึงวิ่งลงน้ำนะ” มันมายืนเท้าโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ไอ้ห่านป่ายังไม่ใส่เสื้อ โชว์หน้าท้องเรียบเนียนมีกล้ามนิดๆ อยู่ตรงหน้า..เดี๋ยวกูก็กัดซะนี่


   “มึงสอนหมาไม่ดี ไอ้เหี้ยทีม” ผมด่า ที่จริงก็รู้หรอกครับว่าโกรธมันก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ความผิดเป็นของอีหมาเซ็กส์เสื่อมนั่นล้วนๆ


   “เอ้า กูผิดอีก” มันบอกแล้วหัวเราะให้กับอาการหัวเสียของผมเบาๆ ไอ้คนโตกว่ามันยื่นมือมาโยกหัวผมเล่น และแน่นอนว่ามันโดนผมปัดออกไปทันที


   “เออ มึงผิด ของกูมันอยู่ของมันดีๆ หมามึงมันสันดานเสีย” ผมด่ายาว ไอ้เหี้ยทีมเลยบอก


   “มึงไปแต่งตัว เดี๋ยวกูพาออกไปข้างนอก”


   “กูไม่ไป” ผมตอบทันควัน ไม่ถามด้วยว่าจะพาไปไหน วันนี้กูอารมณ์ไม่ดีแล้ว อย่ามาเซ้าซี้เดี๋ยวพ่อไซด์คิกเข้าใต้คาง


   “อย่าลีลาเยอะ กูชอบซิมเปิล เสียวกว่า” มันบอกแล้วยักคิ้วให้ ก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกขึ้น “เร็วๆ ไปเปลี่ยนเสื้อ เดี๋ยวกูอาบน้ำแป๊ปนึง”



   ทั้งที่ผมเถียงหัวชนฝาว่าจะไม่ออกไปข้างนอกเพราะอารมณ์ไม่ดีขั้นสุด แต่ไอ้ห่านป่าที่เอาแต่คิดว่าโลกเบี้ยวๆ ใบนี้มันหมุนรอบตัวเองทำอีท่าไหนก็ไม่อาจจะทราบได้ หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นผมถึงได้ออกมานั่งดูดน้ำรอมันไปเข้าแถวซื้อตั๋วหนังสำหรับสองที่ได้ซะนี่ โว้ย! อะไรของมันเนี่ย ผมอารมณ์เสีย


   นั่งกระปอดกระแปดได้พักเดียวมันก็เดินหัวปลิวมาทางผมพร้อมตั๋วหนังสองใบ


   “หนังเข้าบ่ายโมงห้าสิบ ไปกินข้าวก่อนแล้วกัน ฉันหิวแล้ว”


   “มึงจะดูหนังเรื่องอะไร” เมื่อกี้จำได้ลางๆ ว่าตอนมันกดไหล่ผมลงให้นั่งรอ ไม่แม้แต่จะถามว่าผมอยากดูเรื่องอะไร เดินลิ่วๆ ไปยืนยิ้มแก้มบวมต่อแถว..นั่นสิ..แล้วกูกับมึงจะดูเรื่องอะไรวะ??


   “แฝด”


   “ห๊ะ?”


   “เรื่องนี้หนังดี กูดูไปแล้วรอบนึง แต่อยากดูอีก” มันตอบผมแบบนั้น โดยไม่ให้คำอธิบายเพิ่มเติมอีกว่าหนังเรื่อง “แฝด” ที่ว่ามันแฝดแบบไหน แบบอินจันรึเปล่า หรือว่าแบบเฟร็ดจอร์จในพ่อมดสี่ตา กูขอคำอธิบายนิดนึงครับ แบบว่าบ้านนอก!!   


   “หนังไรวะ ไม่เคยได้ยิน”


   “โห ถ้ากูไม่รู้ว่ามึงเพิ่งกลับจากอเมริกานะ กูคงนึกว่ามึงอยู่นอกโลกมาอะฝุ่น” ด่ากูอีก เออ...มันทำท่าคิดนิดนึงก่อนจะยอมอธิบายเรื่องย่อสั้นๆ ของหนังให้ฟัง “หนังเรื่องนี้ นางเอกสวยเว้ย เป็นแฝดกัน มีแฝดคนนึงโดนขังในบ้าน แล้วอีกคนตามกลับจากเกาหลีมาช่วย เนี่ย หมาแม่งโคตรฉลาดอะ เดี๋ยวมึงดูดีๆ นะฉากกระจกอะ กูโคตรชอบเลย”


   ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกว่าหน้าไอ้เหี้ยนี่ไว้ใจไม่ได้อย่างแรง...




   ร้านอาหารที่มันพาผมมาหย่อนก้นลงนั่ง เป็นร้านอาหารไทยธรรมดากลางห้างนี่แหละครับ แต่เจ้าของร้านเขาออกแบบร้านได้สวยมาก เป็นเรือนไทยสมัยโบราณให้ความรู้สึกขลังขึ้นจากไฟสปอร์ตไลท์ที่ส่องขึ้นจากพื้นกระทบผนังบ้าน พนักงานใส่ชุดไทยเดินยิ้มแย้มรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหาร ดูดีมีสไตล์มากครับ


   “น้าอิ่มบอกว่ามึงชอบกินปลาทอดใช่มั้ย กูสั่งปลาสำลีทอดราดยำมะม่วงไปให้ด้วย” มันเท้าแขนลงกับโต๊ะตอนที่บอกผม...นี่กูมัวแต่ชื่นชมบรรยากาศจนไม่ทันได้สนใจเลยเหรอวะว่าไอ้ทีมมันสั่งอะไรไปบ้าง


   “มึงสั่งอะไรไปบ้าง”


   “ปลาทอดที่บอก ต้มยำ ผัดผัก แล้วก็ข้าวสวย..อยากกินอะไรอีกรึเปล่า” มาเกือบครบห้าหมู่แล้ว ผลไม้อีกนิด มื้อสุขภาพเลยมึง


   “ไม่” ผมตอบไปห้วนๆ แบบนั้น ทีมมันเลยยิ้มออกมาบางๆ ... ท่าทีที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของมันนั้นทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่างที่ได้ยินมาตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ แต่ผมกลับหลงลืมมันไป..


   ...ปีนี้กูปีสี่แล้ว.....


   “ทีม..”


   “ครับ” มันละความสนใจจากบรรยากาศรอบร้านกลับมาสบตาผม แล้วขานรับ


   “กูต้องเรียกมึงว่าพี่รึเปล่า” ผมถาม..ในใจก็คิดไว้ว่าจะถามด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่ากูถามมึงตามมารยาทนะ แต่เสียงที่ออกมามันสั่นกว่าที่คิดไว้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์...กรอเทปกลับแล้วพูดใหม่ได้มั้ย?


   “แล้วมึงอยากทำแบบนั้นรึเปล่าล่ะ” เออะ...เจอประโยคนี้ ต่อให้กูเซลฟ์แตกขนาดไหนก็มีอารมณ์ไปไม่ออกได้เหมือนกันนะ


   “ไม่..ไม่อยาก”


   “อืม มึงก็ได้คำตอบแล้วนี่” มันยิ้มกว้าง “กูไม่อยากฝืนใจมึง...อยากให้อิสระกับมึงเต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากให้มึงคิดว่าการอยู่ร่วมกับคนอื่น ครอบครัวเป็นสิ่งที่ทำให้มึงรู้สึกอึดอัด หรือต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ...แต่การจะทำอะไรก็แล้วแต่ของมึง กูอยากให้มึงคิดถึงน้าอิ่มและคนอื่นบ้าง ว่าทุกคนเป็นห่วงและก็รักมึง”


   มันพูดมายาวเหยียด เหมือนหายใจด้วยผิวหนัง แจกยิ้มให้ผมอีกทีเป็นการจบบทสนทนานั้น คำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้รับแบบนั้นทำเอาผมแอบรู้สึกเขินนิดหน่อย คือไม่ได้เขินมันนะครับ ผมเขินตัวเองต่างหากสาบานได้!!
   .

   .

   .

   แต่ขอโทษ...ตอบมาแบบนี้ กูควักหัวใจให้ ยังทันป่ะวะ!!!





   แม่ง!! ไหนบอกแฝดสวย คนนึงโดนขังในบ้าน อีกคนตามกลับมาช่วยไงวะ!!

   แล้วฉากกระจกอะไร ไหนหมาฉลาด ไอ้เจี้ย!!!!!!!!!!!!!


   ผมสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกกับหนังบ้าบอคอแตกนั่น แม่ง หนังดีไม่เถียง แต่ผมดูหนังเรื่องนี้ไม่คุ้มเงินเลยเถอะ เปิดตาบ้างปิดตาซะส่วนใหญ่ ถึงจะเซลฟ์แตกขั้นสุดแต่เรื่องหนังผีนี่ถือว่าน้องฝุ่นขอ!! ต่อแต่นี้ไปผมขอสาบานด้วยใจจริงเลยว่า จะไม่ปล่อยให้ไอ้ทีมเลือกหนังเองอีกแล้ว มันอะนั่งดูชิว แทบไม่สะดุ้งเลย มีแต่ผมใจหล่นหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หวังว่าตอนไฟเปิดเขาจะมีเวลาให้ผมตามเก็บหัวใจก่อนนะ...อืม เสี่ยวแก้กลัวน่ะครับ


   มันเป็นหนังผีที่น่ากลัวมาก ผมนั่งเกร็งมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ เรื่อง ผมไม่ชอบดูหนังผีทุกประเภทโดยเฉพาะหนังผีไทย มันน่ากลัวและสมจริงเกินไป คนดูน้ำตาจะไหล ยิ่งฉากที่ผีเริ่มตามหลอกหลอน แม่ง อินยิ่งกว่าผมกลายเป็นตัวเอกในเรื่องอีก


   แล้วอยู่ๆ แรงแตะที่ข้างแก้มก็ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก!!


   กำลังจะหันไปด่าไอ้คนที่เล่นไม่รู้เรื่อง แต่สัมผัสอุ่นนุ่มหยุ่นที่แนบลงกับข้างแก้มก็ทำผมนิ่งไป เสียงจุ๊ปากให้ผมเงียบเสียงลงดังกระซิบอยู่ข้างหู ก่อนที่ภาพผีในจอเบื้องหน้าจะหายไปกลายเป็นหน้าของคนที่พาผมมาดูหนังวันนี้แทน...


   ลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดอยู่กับใบหน้า ทำให้ผมเผลอหลับตาลงแล้วปล่อยให้คนข้างตัวได้ทำตามใจ โชคดีที่ทีมมันเลือกเก้าอี้ที่อยู่เยื้องขึ้นมาทางบนสุดห่างไกลผู้คน ไม่ต้องกังวลว่าใครจะทันได้เห็น.....ไม่รู้ว่าทีมมันคิดอะไรอยู่ อาจจะเห็นว่าผมกลัวเกินไป หรืออยากจะผ่อนคลายบรรยากาศ


   แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม...

   .

   .

   .

   วันนี้ผมกับไอ้เหี้ยทีมนั่งจูบปากกันในโรงหนัง....




แค่จูบรึเปล่า และน้องฝุ่นจะว่ายังไง เจอกันบาป...หวาน ตอน ๕ ค่ะ :D



Eiizes’s talk

สวัสดีค่า~~ :L2:

หายไปหลายวัน ขอโทษนะคะ ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังแพคของย้ายหอ  :o12: :o12:

อยากเอาเรื่องมาลงมาก แต่วุ่นวายมากค่ะ  :serius2:

จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นนะคะ แล้วก็ถ้ามีข้อติชม รวมไปถึงความคิดเห็นอะไร เขียนได้เต็มที่นะคะ

ไรท์เตอร์ชอบอ่านคอมเม้นท์มากกกๆ   :man1:


อากาศที่นี่ก็หนาวจนสัตว์เขตร้อนแบบเราจะแข็งตายแล้ว ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ


ปล. วันคริสต์มาสนี้ จะมีตอนพิเศษแถมให้ แต่ว่ากำลังอยู่ในช่วงคิดอยู่ อยากอ่านแบบไหนรีเควสได้นะคะ เดี๋ยวไอซ์ตัดสินใจอีกที กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 16-12-2010 00:50:17
ทีมรุกเร็วฝุ่นไม่ทันตั้งตัว ระวังจะโดนหมัดสวนมาน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 16-12-2010 00:53:46
จะ จะ จูบแย๊ววว :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pantanakan ที่ 16-12-2010 01:01:31
รุกเร็วจริงจริ๊งพ่อคุณ  แต่โดนใจ วัยรุ่นยุคใหม่มันต้องงี้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-12-2010 01:04:40
กรี๊ดดดดดด  เขาจูบกันแล้วววว
บ้าสิ  ใครจะผ่อนคลายกันด้วยการจูบ  ไม่ใช่ละ
คิดผิดคิดใหม่เลยนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-12-2010 01:11:00
อึ๊ยนึกยังไงจูบกันตอนดูหนังผีหนะ หุหุ

อยากได้ตอนพิเศษแบบหื่นๆเรียกเลือดอ่ะค่ะ 55+
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 16-12-2010 01:39:00
อยากอ่านต่ออ่ะ มาเร็วนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 16-12-2010 06:46:22
จูบกันตอนดูเรื่องแฝด  o22
โรแมนติคสุดๆเลยเนอะทีม  o12 :a6:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 16-12-2010 06:58:27
น่ารักขึ้นเรือย ๆ แล้ว

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-12-2010 07:55:35
wow :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 16-12-2010 08:35:08
อยากดราม่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-12-2010 09:42:33
นักฉวยโอกาสชั้นเซียนนี่หว่า...ร้ายชิหายยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-12-2010 11:15:09
เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่านครับ ชอบเรื่องสไตล์มึนๆแบบนี้5555
มาบ่อยๆนะครับไอซ์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-12-2010 11:19:51
ไปจูบน้องทำม้ายยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 16-12-2010 14:18:13
 :z1: ตกลงทีมคิดอะไรอยู่ใช่ป่ะเนี่ย  :haun4:

แล้วฝุ่นจะรู้ตัวไหม?  :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 16-12-2010 15:11:46
แปะๆๆๆไว้ก่อนนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 16-12-2010 15:19:06
ชื่อเรื่องกัีบเนื้อเรื่องทำเอางงอะคะ บาปยังไงเอ่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 16-12-2010 16:55:11
อยากได้หวานๆสิคะ คริสมาสทั้งที ขอแบบโรแมนติกอ่ะ ฮ่าๆๆ
ตอนนี้รู้สึกว่า ฝุ่น ใจง่ายไปป่าว อะไรก็ด้ายยยยอ่าาา
แต่ว่านะ ฮาไอ้หมาเซ็กซี่มากมาย ท่าทางมันคงคาบmp3 ไป
แล้วกะให้ฝุ่นวิ่งไล่จับหล่ะมั้ง เราว่าแค่เจอน้ำลายไอ้หมาเซ็กซี่นี่
mp3 ฝุ่นก็น้ำท่วมไม่รอดแล้วหล่ะ ไม่ต้องถึงมือบ่อปลาคราฟหรอก :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-12-2010 17:27:23
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยหนู๋อยากดั๊ย ตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 16-12-2010 17:39:40
ว๊าว

เค้าชอบ +1 ให้เลย

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ

|^^|
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pocoyo_ohh_yho ที่ 16-12-2010 18:37:10
แปะๆๆๆๆโป้งไว้ก่อนนะ

เดี๋ยวเข้ามาอ่าน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 16-12-2010 20:30:53
ตอนพิเศษก็ต้องเอาแบบหวาน เลียนๆ อยู่แล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 16-12-2010 20:50:10
จูบแล้ว   จูบได้ยังไง  แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 16-12-2010 21:23:12
แบบนี้ต้องขอบคุณใครเนี่ย สองคนนี้ถึงได้จูบกันน่ะ
เซ็กซี่? หรือ หนังเรื่องแฝด?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 16-12-2010 22:22:38
โดนขโมยจูบละ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-12-2010 23:50:47
นายทีมต้องคิดไรกะน้องฝุ่นแน่นอน ถึงได้จุบน้องไป
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-12-2010 02:04:31
จูบแล้วจากนั้นจะเป็นยังไงหละเนี้ย แล้วอิพี่ทีมไปจูบเค้าทำมายยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 17-12-2010 19:07:14
เค้าจ๊วบกันแล้ว ~  :man1:

 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 17-12-2010 19:21:43
ฮึ้ย์.....มาขโมยจูบกันอย่างนี้ได้ยังไง....ฝุ่นอย่ายอม ๆ ต้องจูบกลับไปค่ะ  อย่าให้เสียเปรียบเขา ....  :o8:
+1  ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nookik ที่ 18-12-2010 16:42:49
 :z1: เห็นด้วยกะรีบน ฮี่ๆๆๆ



ว่าแต่ มันจะบาปยังไงละเนี๊ย ไม่อยากให้มาม่า เลย T___T
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 19-12-2010 19:40:31
เริ่มต้นบาปอันแสนหวานแล้วด้วยการจูบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 20-12-2010 19:54:41
กรี๊ดดดดดดดด   คืบหน้านะคะน้องทีม
 o13 อยากอ่านอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 4 (15/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 20-12-2010 20:42:12
มาอีกนะเจ้รอความคืบหน้าอยู่
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 23-12-2010 00:09:13

   วันนี้ผมกับไอ้เหี้ยทีมนั่งจูบปากกันในโรงหนัง....





   ปล่อยให้คนรุกรานมันได้ใจกับริมฝีปากผมอยู่ราวสองนาที ผมก็เริ่มผลักมันออกเบาๆ ไม่อยากให้แตกตื่นมากเดี๋ยวจะกลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง ตอนนี้หนังที่ฉายอยู่ยังไม่จบ แต่ฉากจูบนอกจอควรจะจบลงได้แล้ว


   ไอ้ทีมที่ยังเพลิดเพลินกับการเลาะเล็มริมฝีปากผมอยู่นั้นก็ไม่ได้สนใจกับแรงผลักที่อกเลยแม้แต่น้อย มันยังจูบไล้เบาๆ จากริมฝีปาก แล้วลากมาที่แก้ม ก่อนจะไปจบลงตรงแถวๆ แอ่งชีพจรตรงคอ ผมรู้สึกได้ถึงแรงจูบที่เน้นหนักขึ้นพร้อมความชื้นแฉะทำให้รู้ได้เลยว่า...นอกจากจูบและเลียเบาๆ แล้ว...ไอ้เหี้ยนี่ยังจะดูดให้เป็นรอยอีก!!   


   “ฝุ่น...อืม...” มึงจะครางชื่อกูทำไม


   “ทีม มึงพอได้แล้ว”


   “ขออีกนิด”


   กูไม่ใช่โปรมือถือนะ จะได้ต่อช่วงเวลาโปรโมชั่นให้มึงเนี่ย!!


   ผมใช้มือขวาค่อยๆ เลื่อนไปขยำแถวๆ ผมด้านหลังของไอ้ทีมก่อนจะใช้อีกมือเลื่อนไปปิดปากมันไว้ แล้วกระชากมือขวาเต็มแรง!!!!


   “อื้อ!!!!!!” รู้ว่ามึงอยากจะร้องโอ๊ย และด่ากู แต่โดนปิดปากไว้แน่นแบบนั้นก็ทำได้แต่เสียงแบบนี้สินะ..หึหึ กูบอกแล้วให้พอ


   “เจ็บนะฝุ่น” มันกระซิบบอกเบาๆ ลูบหัวตัวเองป้อยๆ แสงจากจอหนังทำให้ผมเห็นสีหน้าเสียดายปนเซ็งของมันได้ลางๆ


   “กูบอกแล้วให้พอ แล้วนี่เป็นรอยรึเปล่าที่คอกูเนี่ย ถ้าเป็นรอย มึงโดนตีนแน่” ผมคาดคำขู่ไว้ ไอ้ทีมมันก็แลบลิ้นใส่แล้วบอก


   “ก็กูนึกว่ามึงกลัวผี เลยอยากปลอบ ถ้ากลัวอีกก็บอกได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”


   “ส้นตีน” ผมด่าพลางผลักหน้ามันให้ออกไปห่างๆ เสียงหัวเราะจากผู้ถูกประทุษร้ายดังแทรกเสียงกรี๊ดจากหนังมาเบาๆ




   นับว่าโชคดีมากที่บนคอผมไม่มีร่องรอยความผิดอะไรเหลือให้ต้องดึงเสื้อมาปิด และไม่ต้องเปลืองแรงกระโดดขาคู่ถีบหน้าต้นเหตุที่ยืนยิ้มไม่รู้สึกรู้สาอยู่ข้างๆ คนนี้ด้วย ที่จริงก็แอบกระดากที่ต้องมาเดินคู่กับมันออกจากโรงหนัง ทั้งที่น้ำลายบนปากยังไม่ทันแห้ง แต่ในเมื่อคนทำมันยังตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อไปได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ผมต้องโวยวายจนเป็นเรื่อง


   ตอนแรกไอ้เหี้ยทีมบอกว่าจะแวะเข้าห้องน้ำทำธุระก่อนค่อยไปเดินเล่นกันต่อ แต่ผมรอมันเกือบห้านาทีแล้วก็ยังไม่ออกมา พอดีกับที่เด็กเพิ่งเริ่มเข้าวัยรุ่นเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมเครื่องเล่นเอ็มพีสามยี่ห้อผลไม้ชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แคลิฟอร์เนีย..แน่นอนว่าผมรู้ว่าทุกคนรู้ว่ามันคือยี่ห้ออะไร หิหิ แต่พูดไม่ได้ครับ ไม่ได้ค่าโฆษณา กร๊ากก


   และเพราะเอ็มพีสามสี่ห้ายี่ห้อผลไม้นั้นเอง ทำให้ผมนึกขึ้นได้ถึงความผิดที่กินหลังอีหมาเซ็กส์เสื่อมจนเหวอะเมื่อเช้า...มันพังเอ็มพีสามผมด้วยน้ำลายและบ่อปลาคาร์ฟ ไหนๆ ไอ้ทีมมันก็ยังทำตัวแฮปปี้ด้วยการสนทนาพาเพลินกับส้วม ผมเลยเดินออกไปอีกทีเพื่อจะไปดูเอ็มพีสามเครื่องใหม่ก่อนจะดีกว่า ถ้าถึงเวลาจะได้สั่งให้ไอ้เจ้าของหมามันควักเงินจ่ายค่าเสียหายให้ผมเลย คริคริ


   ที่จริงแล้วผมก็อยากได้รุ่นผลไม้ที่ว่านั่นนะครับ ยิ่งจอทัชสกรีนที่ออกมาใหม่มันก็ช่างล่อตาล่อใจผมเหลือเกิน ส่วนตัวผมชอบฟังเพลงอยู่แล้ว ดังนั้นหูฟังกับเครื่องเล่นจึงค่อนข้างพิถีพิถันกับมันหน่อย แต่เครื่องที่เพิ่งโดนอีหมาเซ็กส์เสื่อมพังไปมันก็เก่ามากพอสมควรแล้วล่ะครับ ใช้มาตั้งหลายปีแล้ว ครั้นจะซื้อใหม่ก็ไม่รู้จะเอาเครื่องเก่าไปไว้ไหน


   แต่จะขอบคุณนังเซ็กส์เสื่อมมันทีเป็นต้นเหตุทำให้ผมต้องเปลี่ยนเครื่องเร็วกว่ากำหนด ก็พูดได้ไม่ค่อยเต็มปากเท่าไรนัก


   “สนใจรุ่นนี้เหรอครับน้อง” พนักงานขายที่คาดว่าน่าจะได้ส่วนแบ่งจากยอดขายตรงรี่เข้ามาทันที เมื่อผมเดินเข้าไปลูบๆ คลำๆ เครื่องไอพอดทัช..อุ๊ย หลุดปาก กร๊ากกกก


   “ก็ดูเรื่อยๆ ครับ” ผมตอบผ่านๆ แล้วลองสไลด์หน้าจอเล่นดู มันสวยใช่เล่นเลยครับ แต่ราคานี่ก็แอบกระชากใจอยู่เหมือนกันถ้าเทียบกับขนาดใกล้เคียงแต่ยี่ห้ออื่น


   “ถ้าชอบฟังเพลง ดูหนัง เล่นเน็ตได้ ทัชก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ”


   ผมเงยหน้าขึ้นจากจอมองเขาเต็มๆ ตา พนักงานขายที่นี่แม่งเลือกหน้าตารึเปล่าวะ...หล่อเกินมนุษย์ปกติ หรือมันมียีนส์จากต่างดาวผสม..? เขายิ้มกว้างขึ้นเมื่อสบตากับผมตรงๆ


   “ผมไม่ค่อยได้เล่นเน็ตหรอกครับ” ผมตอบไปตามจริง หน้าพนักงานหงอยลงไปนิดหน่อย “แต่ชอบดูหนังฟังเพลง”


   “เหมือนพี่เลย” น่ะ...มามุขนี้ กูรู้ทันนะ


   “เหมือนกูด้วย” อันนี้ผมไม่ได้ตอบหรอกครับ แต่ไอ้ห่านป่าที่เดินมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาเขย่งตัวเอาคางเคาะหัวผมแล้วตอบแทน...เออ ดี ส่วนสูงต่างกันแค่สิบเซนต์ยังจะหาวิธีเล่นให้ลำบากนะ


   ทีมมันสูงครับ ร้อยแปดสิบกว่าเพราะเป็นนักกีฬ่า ส่วนผมก็อย่างที่บอกไปว่าเป็นระดับผู้ชายปกติร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ ถึงมายืนเทียบกันก็ห่างกันไม่ได้น่าเกลียดมาก ผมเลยไม่คิดอะไรมากถ้าต้องเดินกับมัน แต่ถ้าเดินกับยูลเมื่อไหร่ ผมจะรู้สึกว่าตัวเองดูด้อยลงไปในหลายๆ ทาง ทั้งรูปร่างความสูงและหน้าตา อย่างว่าแหละ มันเป็นฝรั่งนี่ครับ ความสูงก็ชะลูดแข่งกับต้นตาลอยู่แล้ว


   “กูไม่ได้ถาม” ผมหันไปตอบ แล้ววางไอพอดทัชลงกับแป้นอย่างเดิม


   “อยากได้เหรอ”


   “หมามึงพังเอ็มพีสามกูไปแล้วนี่” ผมตอกย้ำให้รู้ว่าเดี๋ยวมึงได้ซื้อคืนให้กูแน่ๆ ไม่ต้องห่วง


   “โห ไปเอาเงินที่เซ็กส์ซี่ดิ มาวีนอะไรกู นี่อุตส่าห์พาออกมาเดินเล่นผ่อนคลาย ดูหนังอีก ทำไมคนดีอย่างกูทำดีอะไรถึงไม่ได้ดั่งใจมึงเลยวะ” มันถามผม คงไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ เพราะมันพูดเสร็จก็เดินหนีไปทางมุมที่ขายซิลิโคนใส่ไอพอดทันที ทิ้งให้พนักงานสุดหล่อนั่นยืนมองหน้าผมสลับกับไอ้เหี้ยทีมแบบเหวอๆ


   “เอ่อ...แฟนน้องเหรอครับ”


   “ใช้หัวแม่เท้าคิดเหรอครับพี่” เออ ขอหน่อยเหอะ ทักแบบนี้ผมเสียหายครับ


   “ฝุ่น มึงมานี่!” แม่งเดินไปแล้วไม่พอ ยังหันมาตะโกนแหกปากเรียกให้ผมเดินตามเข้าไปด้านในอีก...ห่าน มึงไม่อายตัวเองก็สงสารกูบ้าง หน้ากูไม่ได้หนาเท่ามึงนะ!!


   “ไปเถอะครับ เดี๋ยวว่าที่แฟนจะอาละวาด” ไอ้พี่พนักงานทิ้งระเบิดแล้วก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ แต่ขอโทษ ทำไมชีวิตกูมีแต่คนกวนตีนวะ!!!


   “มึงชอบสีไรอะฝุ่น” ทีมมันถามขึ้นทันทีเมื่อผมเดินไปยืนหน้ามึนอยู่ข้างๆ มัน


   “ไอพอดทัชมีสีเดียว”


   “กูไม่ได้ถามถึงไอพอดทัช กูถามว่ามึงชอบสีอะไร น้ำเงิน เทา ดำ ขาว ม่วง”


   อยากตอบว่า กูเป็นชาวสีม่วงที่ชอบสีเทา จะโดนสังคมประณามป่ะวะ...คริคริคริ


   “ขาว..ทำไม มึงจะซื้อซิลิโคนใส่ไอพอดให้กูเหรอ” ผมกวนมันไปงั้นแหละครับ เห็นมันยืนมองๆ ซิลิโคนใส่ฝาหลังของทัชอยู่ ราคาก็แพงพอสมควรเลยครับ เพราะนี่ขายในช็อปใหญ่ ไม่ได้แขวนตามทางเหมือนที่เราเดินผ่านกันมาเมื่อกี้


   “อืม เอาไปใช้ก่อน เครื่องค่อยตามไปทีหลัง” ทีมยิ้มกว้าง “เดือนนี้กูหมดงบแล้ว ต้องรอต้นเดือนให้พ่อโอนเงินให้ก่อน กูค่อยกลับมาเป็นเจ้าสัวอีกครั้ง รอตอนนั้นละกันนะ”


   “ห่า กูไม่เอา กูล้อมึงเล่น ถ้ามึงอยากจ่ายนักกูจะให้เพื่อนส่งมาให้จากเมกา ถูกกว่าในไทยตั้งเยอะ” เยอะจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่พูดไปงั้น ถึงผมจะพูดนั่นพูดนี่แต่ของราคาไม่ใช่บาทสองบาท ถึงตอนนี้เงินจะมีไม่มาก แต่อีกไม่นานแม่ก็จะส่งเงินมาให้ผมเหมือนกัน ตอนนั้นค่อยซื้อเองก็ยังไม่สาย


   มือที่จับกล่องซิลิโคนไอพอดทัชอยู่ถึงกับชะงักแล้วหันมาถามผมนิ่งๆ


   “เพื่อนหรือแฟน”


   “ห่านี่ กูบอกว่าเพื่อน หูมึงฟั่นเฟือนเหรอ”


   “อ่อ..เดี๋ยวนี้เพื่อนทั่วไปเค้าซื้อของราคาแพงแบบนี้ให้กันด้วยเหรอ” เอ๊า แขวะกูอีก


   “เออ ยูลเป็นเพื่อนคนพิเศษของกู มึงจะทำไม” แขวะมา ผมก็ประชดกลับ..บอกว่าเพื่อน ก็เพื่อนสิวะ จะซักให้ได้รางวัลโนเบลเลยมั้ย


   “กูจะทำอะไรได้ กูมันก็แค่คนมาทีหลัง” นั่น..เริ่มเองเคืองเอง ถามคำนึงกูผิดอะไรเนี่ยยย


   และขออีกคำถาม กูกับมึงเป็นอะไรกันครับบบบบ ได้ข่าวว่ามึงเป็นแค่ลูกชายของคนที่น้ากูแต่งงานด้วย ไม่ใช่คนที่กูแต่งงานด้วยครับ!! จะประชดให้ได้อะไร!!


   ไอ้เหี้ยทีมแม่งคว้าทุกสีบนแผงมาอย่างละหนึ่งชิ้น พร้อมเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินโดยไม่ได้ถามอะไรผมซักคำ เออ โกรธก็โกรธไปเหอะ กูยังมองไม่เห็นเลยว่าตัวเองทำอะไรผิด ถ้าจะให้ง้อก็รอชาติหน้าวันพระจันทร์เต็มดวงละกันนะ


   ผมเดินหัวเสียเล็กน้อยออกจากร้านไปอย่างไม่คิดจะรอไอ้คนที่ทำตัวงี่เง่า แล้วตรงไปยังร้านหนังสือใกล้ๆ ทันที มันมีหนังสือโปรโมทพวกหนังใหม่ ที่เพิ่งเข้าและกำลังจะเข้าโรงวางขายอยู่ ด้วยความชอบดูหนังเป็นทุนเดิม ผมเลยตรงเข้าไปยืนเปิดๆ ดูนิตยสารพวกนั้น เห็นว่าราคาไม่แพงมากเท่าไหร่เลยตัดสินใจซื้อมาเล่มหนึ่งเพราะข้อมูลโดยรวมก็คล้ายๆ กันผมเลยเลือกเล่มที่มีหน้าสีเยอะกว่า กร๊ากกก


   พอจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกจากร้าน เจอไอ้ทีมทำหน้าเป็นตูดยืนรออยู่ก่อนแล้ว มันถามผมทันที


   “ซื้อไรมา”


   “ข้าว”


   “เดี๋ยวนี้เค้าขายข้าวในร้านหนังสือด้วยเหรอ อินเทรนด์ว่ะ”


   “วันนี้มึงเป็นอะไรเนี่ย เมนส์ไม่มาเหรอ กวนตีนกูตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” ผมหันไปโวยวายใส่มัน ทีมมันก็หน้าหงอยลงเล็กน้อยแล้วบ่นพึมพำ


   “ใช่สิ กูไม่ใช่ยูลนี่ ทำอะไรก็ผิด”


   “มึงอย่ามาปัญญาอ่อน มึงกับกูเป็นอะไรกันถึงได้มาตัดพ้อกูแบบนี้ ห๊ะ?” ผมเริ่มเท้าเอวคุยกับมัน ทีมมันขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วบอกผมนิ่งๆ 


   “กูพยายามทำตัวเป็นคนดี แต่มึงก็ชอบด่ากู กูเป็นคนอารมณ์ดีแต่ก็ใช่ว่ากูจะเสียใจไม่เป็นนะ”


   “ข้ออ้างมึงแต๋วมาก”


   “เออ กูยอมให้ด่าว่าแต๋ว ถ้าทำให้มึงเลิกโวยวายตะโกนใส่กูเหมือนกูเป็นตัวจังไรในชีวิตมึง”


   มันพูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินหนีไปเลยครับ อื้อหือ...แม้แต่แม่ กูยังไม่เคยยอมให้ขนาดนี้นะ เดี๋ยวถึงคราวของกูบ้างจะทบต้นทบดอกเลย!!




เดี๋ยวมาต่อตอนที่ 5.2 เร็วๆนี้นะคะ


ช่วงนี้ย้ายหอ รู้สึกเซ็งกับหอใหม่มาก จิตป่วย  :sad4:
จะคริสต์มาสแล้วนะ สัญญา(มั้ง) ว่าจะมีตอนพิเศษขอบคุณคนอ่านวันคริสต์มาส ลงเร็วๆ นี้ กร๊ากกกกกก
ขอสปอยล์ว่าอาจจะหวานแบบจิกกัดตามสไตล์หนุ่มๆ 55555
ขอความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ :D ขอบคุณมากค่า


ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-12-2010 00:31:50
อุ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีงอนด้วย 555

แล้วมันไปชอบกันตอนไหนหว่า อีพี่ทีมเนี้ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 23-12-2010 01:03:58
ตอนนี้มันเป็นอะไรกัน ยังไม่รู้เลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 23-12-2010 01:07:43
ทีมมีงอล



อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 23-12-2010 02:08:02
เพื่อนยูลจะตามมาที่ไทยไหมกว่าาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 23-12-2010 02:41:56
พ่อแง่แม่งอนจริงๆคุณพี่ทีม  :m12:
งอนเก่งอย่างนี้ ตกลงจะเป็นพระหรือเปลี่ยนเป็นนายดีคะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 23-12-2010 02:53:39
งานนี้ทีมจริงจังน่ะฝุ่น  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 23-12-2010 06:20:24
ทีมน่ารักอ่ะ ฝุ่นยอมๆทีมไปเถอะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 23-12-2010 06:54:33
รีบมาต่อนะรอมาหลายวันมากเลยอะ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-12-2010 08:49:48
มีงอน ๆ ชิ  ว่าแต่เข้าห้องน้ำนานไปทำอะไรมาฟระ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 23-12-2010 09:43:59
ยูลๆๆๆๆๆๆ
ชื่อนี้มาได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 23-12-2010 10:35:24
เหอะ ๆ อารมณ์ล้วน ๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 23-12-2010 17:22:28
มีงอน ๆ ชิ  ว่าแต่เข้าห้องน้ำนานไปทำอะไรมาฟระ

แอบคิดเหมือนรีนี้เลย  :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 23-12-2010 19:58:56
ขอตอนที่ 5.2 ด้วยค่า   :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 24-12-2010 11:13:28
อืม เรื่องนี้ใครเมะใครเคะกันเนี้ย 555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 24-12-2010 16:51:51
 :z13:  จิ้มๆ รอ 5.2
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 24-12-2010 17:38:09
น้อยใขใช่มะ? ทีม

มานี่มา เดี๋ยวเราปลอบให้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 24-12-2010 19:51:07
,มาดูหนังกัน บ่อยๆๆ หน่า  ชอบจัง  555++
o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 24-12-2010 21:19:27
ชาวสีม่วงที่ชอบสีเทา โหยย :laugh:
ยูลจะตามมามีบทบาทอะไรรึเปล่า  :impress2: คือ แอบคิดว่าน้องฝุ่นสมยอม ไอ้เครื่องที่ตัวเองไม่ได้ค่าโฆษณานะเค้าก็อยากได้เหมือนกันน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 24-12-2010 21:54:38
 :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 24-12-2010 22:46:48
จะรอนะค่ะ

เนื้อหาสนุกมากกกกกกกก  น่าติดตามอย่างแรงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 25-12-2010 14:16:21
ห่านป่าตัวนี้ขี้งอนกว่าที่คิดนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 29-12-2010 06:10:54
โหยยย สงสารทีม หางลู่ หูตกแล้วพ่อคู้ณ~
ฝุ่นอย่าใจร้ายนักเลย เชื่องๆงี้เลี้ยงไว้ดูเล่นก้อไม่เสียหายน้าาาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 29-12-2010 06:45:08
มาต่อได้แล้วจร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Me_kame_nishi ที่ 29-12-2010 09:38:20
ไล่อ่านทันแล้ว
เดินเรื่องได้สนุกดีจัง
รออ่านตอนต่อๆไปจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 29-12-2010 12:19:03
รอ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 29-12-2010 14:32:25
ง่ะ ยังไม่มาเลย อยากอ่านจัง  น่าติดตามากมายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.1 (23/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 30-12-2010 21:23:53
มารออีกวัน :L2:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2(Chapter 5 complete) (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 31-12-2010 00:56:12
   ตลอดทางกลับบ้านมันไม่พูดอะไรกับผมเลย เอาแต่ฮัมเพลงบ้าบออะไรก็ไม่รู้ กูอยากได้เอ็มพีสามแบบชาร์จไฟโว้ย ไม่ใช่เอ็มพีสามชาร์จด้วยข้าวแบบมึง!!


   จนถึงตอนที่หักเลี้ยวรถสุดสวาทขาดใจเข้าไปจอดในรั้วบ้าน มันดับเครื่องปุ๊บ ผมก็ไม่คิดจะพูดอะไรให้หัวเสียมากไปกว่าเดิมจึงเตรียมจะเปิดประตูรถลงไป แต่ไอ้เหี้ยที่นั่งเป็นใบ้มาเกือบหนึ่งชั่วโมงกลับตวัดลิ้นห้าแฉก เอ้ย ยื่นมือมาจับประตูเอาไว้ไม่ยอมให้ผมทำตามใจ


   “เล่นไรมึง” ถามก่อนได้แต้มครับ


   “โกรธไรกู”


   “กูควรจะถามมึงมากกว่านะ คำนั้น” อยากตวัดตาใส่มัน แต่มันดูแต๋วไปนิด ผมเลยต้องหันไปมองหน้ามันตรงๆ ด้วยความไม่สบอารมณ์


   “กูไม่ได้โกรธ กูแค่งอน” เออะ....ตรงไปมั้ย!!!


   “อะไร แค่นี้ทำอึ้งเหรอ ไม่ง้อกูหน่อยเหรอฝุ่น”


   “กูทำไรผิด” ผมถามหน้าตาย ไอ้ทีมแกล้ง(รึเปล่าไม่รู้) ถอนหายใจดังเฮือก คอตกแล้วบอก


   “เออๆ กูง้อเองก็ได้”


   พูดจบ มันก็เอื้อมไปหยิบถุงจากร้านไอสตูดิโอที่เบาะหลังมาส่งให้ผม


   “กูไม่อยากได้ซิลิโคนหลากสี” ผมบ่นก่อนที่จะเปิดถุงเสียอีก ไอ้ทีมทำเสียงจิ๊ปากแล้วบุ้ยใบ้ให้ผมดูของในถุง ผมก็บ้าจี้ทำตามที่มันสั่ง
   

   มันอาจจะเป็นอย่างที่หลายๆ คนคาดเดา หรือพระเจ้าไม่มีอะไรจะทำถึงได้เขียนชีวิตผมให้โคตรจะละคร...ใช่ครับ กล่องไอพ็อดทัชวางอยู่ในนั้นพร้อมกล่องซิลิโคนอีกสี่ห้าอันตามที่มันหยิบสั่วๆ เลือกมานั่นแหละ


   “มึงซื้อมาทำไม” ถามไปงั้นแหละครับ ในใจก็ดีใจแหละ ได้ของใหม่แล้ว อิอิ


   “กูหมั่นไส้มึง”


   “เกี่ยวไร”


   “ไม่รู้แหละ กูจะมึนซื้อให้ เดี๋ยวค่อยไปเก็บดอกเบี้ยเอากับเซ็กส์ซี่ก็ได้” แล้วอีหมาเซ็กส์เสื่อมมันจะจ่ายมึงด้วยอะไรวะ เพ็ดดิกรีเรอะ!!


   นั่นแหละครับ ไอ้ห่านป่ามันพูดแค่นั้นก็ลงจากรถไปเลย แต่พอมันเห็นผมยังนั่งงงๆ อยู่ในรถก็เดินมาเคาะกระจกข้างผมเบาๆ พร้อมเปิดประตูออกแล้วบอก


   “ลงมาจากเบบี๋ของกูได้แล้ว หวานใจกูยางจะแตกแล้วเนี่ย”


   นี่เพราะบรรยากาศเปลี่ยนไป สถานที่เปลี่ยนแปลงรึเปล่า อารมณ์ไอ้เหี้ยทีมถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าขนาดนี้ เมื่อกี้มันยังทำหน้าแบบพร้อมจะรบกับกองทัพสปาต้าร์ด้วยมือเปล่าได้ แต่อยู่ดีๆ มันก็ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม...


   กูโง่หรือมึงบ้าบ้าวะ..??



   ตลอดช่วงเย็นที่เหลือผมจัดการขังตัวเองอยู่ในห้อง นั่งลงเพลงและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ใส่ไอพอดเครื่องใหม่อย่างเมามันส์ ไม่สนใจแม้กระทั่งไอ้เหี้ยทีมที่เดินเข้ามาง๊องแง๊งอะไรบางอย่างในห้องผม มันเข้ามากลิ้งบนเตียงก็แล้ว กัดมะม่วงอยู่ข้างหูผมก็แล้ว แต่ตอนนี้กูเห่อของใหม่โว้ย ของเก่าอย่างมึงกลับห้องไปทำใจก่อนไป!


   กว่าจะเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ได้ก็เกือบทุ่มนึงแล้ว พอดีกับที่เสียงเคาะประตูหน้าดังขึ้น ผมจึงต้องจำใจลุกไปเปิดด้วยความขี้เกียจ


   “ฝุ่น ลงไปทานข้าวกัน” ผิดคาดนิดหน่อยที่เป็นน้าอิ่มขึ้นมาตามผมทานข้าว เพราะช่วงนี้อย่างที่บอกไปว่าคู่แต่งงานใหม่เขาเตรียมจะไปฮันนีมูนกันสองอาทิตย์ทำให้ต้องช่วยกันเคลียร์งาน ไม่ค่อยได้กลับบ้านนัก


   “น้าอิ่มกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ผมไม่เห็นได้ยินเสียงรถ”


   “น้ากลับมาสักพักแล้ว มัวแต่ฟังเพลงรึเปล่าน่ะเรา ทีมก็บ่นๆ อยู่ว่าวันนี้ฝุ่นเอาแต่ฟังเพลงไม่สนใจที่พี่เขาพูดเลย” น้าอิ่มพูดยิ้มๆ ผมเลยตัดบทด้วยการหันไปปิดไฟห้องแล้วเดินตามน้าสาวที่ตัวเล็กกว่าผมเกือบคืบลงไปชั้นล่าง ไอ้เหี้ยทีมกับลุงสินนั่งรออยู่ที่โต๊ะก่อนแล้ว ผมเลยยกมือไหว้


   “ไงเรา ชินกับกรุงเทพฯ รึยัง” ลุงสินทัก


   “ก็...ดีมั้งครับ” ผมตอบพลางนั่งลง แล้วรับจานข้าวมาจากป้าแจ่ม


   “ประมาณวันพุธที่จะถึงนี้ ลุงกับน้าเราจะออกเดินทางกันแล้วนะ” ลุงสินพูดพลางยิ้มกว้าง ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความสุขจนแทบจะสำลักรอบๆ ตัวเขาและน้าของผม ไอ้เหี้ยทีมได้ทีก็ปากเปราะแซวพ่อมัน


   “โหยพ่อ ทำเป็นเด็กรุ่นๆ เลย เห่อไปป่ะเนี่ย”


   “ไม่ได้เห่อโว้ย เค้าเรียกคนกำลังมีความสุข” ดูพ่อลูกเขาหยอกล้อกัน ผมก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในอก...เหมือนกับเห็นภาพตัวเองในสมัยเด็ก....


   ผมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็เคยนั่งอยู่แบบนี้ หยอกล้อกับพ่อ เราหัวเราะกัน ยิ้มให้กัน ก่อนที่อะไรๆ มันจะเปลี่ยนแปลงไปจนยากจะกลับไปเหมือนเดิม สิบปีในอเมริกาสอนให้ผมเติบโตและเรียนรู้ว่าโลกใบนี้โหดร้ายกว่าที่เคยวาดภาพไว้ สุดท้ายคนที่จะอยู่กับเราก็คือตัวเราเอง ใครหน้าไหนที่เคยพูดเสียดิบดีว่ารักเรา ผ่านไปไม่นานมันก็เป็นแค่ลมปากที่ไม่มีตัวตนและไม่ได้สำคัญอะไร...




   ความรัก...



   “ฝุ่น..เป็นอะไรรึเปล่า”



   สัมผัสอุ่นๆ ที่จับลงที่ข้อมือผม ทำเอาสะดุ้งเฮือก เสียงหัวเราะของสองคนนั้นเงียบลงไปในบัดดล น้าอิ่มเลื่อนมือจากข้อมือผมไปที่หน้าผากพลางถามอย่างเป็นห่วง “ไม่สบายรึเปล่าเรา หน้าซีดๆ นะ”


   “ผมสบายดี แค่เริ่มหิวแล้ว” ผมปัดไปเป็นเรื่องอื่น ไอ้เหี้ยทีมเลยรีบกุลีกุจอคีบกระดูกไก่ทอดชิ้นโตใส่ในจานผม


   “แทะกระดูกเยอะๆนะมึง ได้แคลเซียมดี” ......ปากระดูกไก่ใส่หน้ามันตอนนี้ ผมจะโดนลุงสินเตะออกจากบ้านรึเปล่าครับ..?


   “สองคนนี้นี่ กัดกันจริงๆ เอ้า เลิกเล่นแล้วทานข้าวได้แล้ว” ลุงสินพูดยิ้มๆ แล้วตักไก่ทอดที่เป็นเนื้อก้อนโตๆ ให้ผมแทน ส่วนกระดูกเหรอครับ นู่น ใส่จานลูกชายตัวเองแทน คริคริ


   “อ้าวพ่อ ทำไมใส่เนื้อให้ฝุ่น แต่ตักกระดูกให้ผมล่ะ” ไอ้ห่านป่ามันโวยวายทันทีครับ


   “เห็นอยากให้น้องได้แคลเซียมไม่ใช่เหรอ ก็กินเองก่อนสิ ถ้าดีจริง ฝุ่นมันจะได้กินตาม” มาอยู่บ้านเขาได้อาทิตย์กว่า ผมก็มีพรรคพวกแล้วครับ ฮ่าๆ


   บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างชื่นมื่น ไอ้เหี้ยทีมกวนตีนผมเป็นระยะ แน่นอนว่ามันก็โดนผมด่ากลับอย่างถึงใจ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่คนในครอบครัวนี้มีให้กันนั้น สร้างความสุขให้ผมจนล้น..แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เขี่ยปากแผลบางอย่างในใจผมให้ค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ...ทว่าชัดเจน






   สุดท้ายความรัก..ก็เป็นแค่บ่วงผูกคอเราเท่านั้น....





   ผมใช้เวลาช่วงดึกไปกับการนอนฟังเพลงจากไอพอดทัชเครื่องใหม่ สุขจริง ของฟรีดีๆ เนี่ย


   “ฝุ่น หลับยัง” ... แม่ง ให้กูมีความสุขอยู่คนเดียวซักพักมึงจะตายรึเปล่าวะไอ้ห่านป่า


   “หลับแล้ว”


   “อ่าวเหรอ งั้นตื่นก่อน กูอยากเล่นกีต้าร์” ว่าแล้วมันก็เดินมาหาผมที่เตียงอย่างไม่เกรงใจเลยครับ ทิ้งตัวลงนั่งจนเตียงยุบ แล้วตบกีต้าร์โปร่งในมือดังปั่บๆ ก่อนจะหันมาเขย่าตัวผมเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ


   “มึงอ่า ลุกมาเล่นกีต้าร์กับกูก่อนเลย”


   “กูไม่เคยฟังเพลงไทย ร้องไม่เป็น” แก้ตัวไปแบบนั้นแหละครับ แต่ที่จริงผมก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงไทยเท่าไหร่ เพลงฝรั่งเองก็ต้องให้ยูลเป็นคนเซฟไฟล์มาให้ถึงจะเปิดฟัง ไม่ค่อยหาฟังเองหรอกครับ


   “กูเล่นเพลงฝรั่งได้” มันทำท่ามั่นใจหันมามองหน้าผมที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง


   “มึงเล่นเพลงไรได้” ถึงจะกวนตีนแต่ก็อยากรู้เหมือนกันครับ


   “Jingle Bell”


   “หึหึ ค-ย” ผมด่ามันเต็มปากเต็มคำแล้วลุกขึ้นนั่ง ดึงสายเอียร์โฟนออกจากหู จัดการปิดเครื่อง พอดีกับที่ไอ้ห่านป่ามันไปลากเก้าอี้ในห้องผมมานั่งใกล้ๆ ผมเลยขยับตัวไปนั่งห้อยขากับริมเตียงเพื่อรอดูว่ามันจะร้องเพลงห่าอะไร


   “เดี๋ยวกูร้องแล้วมึงจะต้องอึ้ง”


   “ในความอุบาดของเสียงมึงน่ะเหรอ”


   “กูร้องเพลงเพราะ”


   “เพราะอะไรถึงร้องรึเปล่า” ไม่เลิกครับ ผมจะกวนตีนมันต่อไปเรื่อยๆ ไอ้เหี้ยทีมได้แต่ทำท่าฮึดฮัดแล้วบอกแค่ว่า คอยฟังละกัน จากนั้นมันก็เริ่มตบกีต้าร์ให้จังหวะตัวเอง แล้วเริ่มเล่น


 คลิกเพื่อฟัง (http://www.youtube.com/watch?v=ckaizeeQtQw)
   “....สมมุติโลกนี้เหลือเราอยู่เพียงแค่สองคน
   อยากรู้จริงๆ ว่าคนอย่างฉันจะมีสิทธิ์ไหม
   หากฉันขอวอนฟ้าให้ครั้งนึง
   เราได้ใกล้ เคียงคู่ไปด้วยกัน
   
   แล้วถ้าสมมุติฟ้ายอมให้ฉันได้คู่เธอ
   อยากค้นความจริงในใจว่าเธอจะรังเกียจไหม
   หากเธอพบว่าฉันไม่ได้เพรียบพร้อม
   เป็นอย่างคนที่เธอเคยวาดไว้

   ยังเป็นคำถามที่ติดอยู่ในหัวใจ
   ฉันรู้ว่าความเป็นจริง เราอาจเป็นไปไม่ได้
   เพราะสิ่งที่ฉันคิดเราต่างคนก็รู้
   ว่าฉันควรเก็บมันไว้ในใจ

   ทั้งหมดเพียงเรื่องสมมุติที่ฉันอยากให้เป็นเรื่องจริง
   ฝันเล็กๆ ของคนที่คิดพาเธอไปไกล
   ได้อยู่ในความฝัน ให้ใจยังมีหวัง
   ก็เพียงพอแล้วที่ฉันต้องการ

   ได้กอดเธอ ในจินตนาการก็สุขใจเท่าไร
   ฉันรู้แล้วว่าชีวิตนี้เฝ้าคอยอะไร เธอคือปาฏิหาริย์
   และฉันจะรอวันนั้น ที่เธอเสกเราให้เป็นเรื่องจริง

   เสกเราให้เป็นเรื่องจริง....”
   (เรื่องสมมติ – playground)



   เนื้อหาของเพลงผมรับรู้ได้แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เลยไม่ค่อยซึ้งเท่าไหร่นัก มัวแต่หลงไปกับน้ำเสียงทุ้มนุ่มไหลลื่นพร้อมกีต้าร์โปร่งที่ให้จังหวะคลอไปเบาๆ นักร้องสมัครเล่นตรงหน้าเขาร้องสดแบบไม่ลิปซิงค์ให้เสียเครดิต...ยอมรับเลยครับ เสียงเหี้ยทีมดีมาก ยิ่งมันอมยิ้มนิดๆ พร้อมสายตาวิบวับที่สบกับผมอยู่นั้นทำให้ผมยิ่งรู้สึกคล้ายๆ ว่าตัวเองกลายเป็นสาวน้อยที่กำลังถูกจีบยังไงก็ไม่รู้....กูบ้าไปแล้วสินะ


   ผมมัวแต่เพ้ออยู่คนเดียวจนดนตรีจบไปแล้วก็ยังเอาแต่นั่งนิ่งสบตากับเจ้าของเพลงเมื่อครู่อยู่อย่างนั้นจนเจ้าตัวทนไม่ได้ทำลายความเงียบลง


   “นี่...กูร้องได้แย่มากเลยเหรอ” มันถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลนิดหน่อย


   “ก็...แย่ แต่ก็ดีกว่าที่กูคาดไว้” ผมเรียกสติคืนมาแล้วแกล้งเบะปากใส่ ทีมมันเลยยิ้มกว้าง วางกีต้าร์ลงกับพื้นแล้วหันมาทิ้งตัวลงเบียดผมแทน นับว่าโชคดีที่เตียงใหญ่พอที่จะให้ผู้ชายตัวควายๆ สองคนนอนเบียดกันได้ ไม่งั้นผมคงกลายเป็นจิ้งจกไส้ไหลติดอยู่กับข้างฝาล่ะครับ ไม่กล้าสู้ห่านป่าอย่างมันหรอก เดี๋ยวแม่งจิกเอา


   “มึงมานอนเบียดกูทำไม กลับไปนอนห้องมึง ไอ้เหี้ย” ผมด่า มันก็ไม่สนใจอะไร พูดแค่ว่า


   “กูร้องเพลงเพราะจนมึงเคลิ้มก็พูดมาเถอะ”


   “ดีกว่าควายออกลูกหน่อยนึง”


   “ที่เมกามีควายให้มึงนั่งดูมันออกลูกด้วยเหรอ” ป้าดดดดดด มุขนี้คิดนานมั้ยคร้าบบบบบบ


   “เหี้ย กูอึดอัด ร้อนด้วย ออกไปจากเตียงกู” ผมไม่สามารถยกเท้าขึ้นมาถีบมันให้ตกจากเตียงไปอย่างที่ต้องการได้ เพราะไอ้ห่านป่าตัวใหญ่แม่งเอาน่องซ้ายมาก่ายขาผมไว้แบบไม่สนใจอะไร ทั้งยังคว้าไอพอดผมไปดูเหมือนเป็นของตัวเองอีกด้วย


   บ้านมึงเคยเอาสมบัติผู้ดีให้กินรึเปล่าวะ!!


   “มึงร้อนเหรอ กูเร่งแอร์ให้เอามั้ย”


   “กูไม่อยากทำลายโอโซน มึงแค่ขยับตูดลุกไปจากเตียงกูก็พอแล้ว” ผมเอื้อมมือไปจะตบหัวมัน ทว่าไอ้นักเทควันโดสายดำมันกลับรู้ทันคว้าข้อมือผมเอาไว้แน่น แล้วบอกแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร


   “ฝุ่น มึงชอบวงนี้เหรอ วงโปรดกูเลยเนี่ย” มันยื่นหน้าจอไอพอดทัชคืนกลับมาให้ผมดู เป็นเพลงของ Simple Plan ครับ เป็นวงที่ผมชอบมากนะ ดนตรีเจ๋ง และไม่แสบหูด้วย แต่มาอัลบั้มหลังๆ เริ่มแอบป๊อปมากกว่าร็อคนะ ฮ่าๆ


   “กูลงไปงั้นๆ แหละ” ผมพูดพลางดึงมือออกจากที่ไอ้เหี้ยทีมมันกำ ซึ่งคราวนี้มันก็ยอมปล่อยแต่โดยดี แต่มันยังเอาน่องก่ายผมไว้อยู่ครับ แม่ง น่องห่านหรือขาหมูวะ โคตรหนัก!!


   “ฝุ่น ตอนมึงอยู่เมกา เคยมีแฟนมั้ยวะ” ห่าน อยู่ๆ ก็หักโค้งเปลี่ยนเรื่องอีกละ ไอ้ห่านป่าแม่ง แรงกว่าโค้งหักศอกอีกนะมึงน่ะ


   “เรื่องของกู”


   “เอาดีๆ มึงเคยมีแฟนรึเปล่า” น้ำเสียงมันจริงจังมากขึ้น ไอ้เหี้ยทีมมันขยับตัวแล้วจัดหมอนให้เข้าที่กว่าเดิมเพื่อที่จะได้เอนตัวพิงได้สบายๆ หน่อย


   “กูไม่เคยคบใครจริงจัง กูไม่ชอบความสัมพันธ์ยุ่งยาก” ผมตอบไปตามความจริง...แต่ไม่หมด


   “อ่าว จริงดิ แล้วยูลอะไรนั่นกับมึงอะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคนรักเหรอวะ”


   “ไม่รู้ กูอธิบายไม่ได้” ผมแอบเห็นไอ้ห่านป่ามันขมวดคิ้วนิดหน่อย เลยยอมอธิบายเพิ่ม “กูไม่เคยเรียกคู่นอนคนไหนว่าคนรักหรอกนะเชี่ยทีม กูพอใจกูก็มีเซ็กส์ด้วย ไมได้เสียหายอะไร”


   ผมตอบเรียบๆ เหมือนกับการบอกใครสักคนว่าวันนี้อากาศดีจัง แต่กับไอ้เหี้ยนี่คงไม่ใช่ คิ้วมันมุ่นเข้าหากันมากกว่าเดิม น้ำเสียงดูเรียบนิ่งจนยากจะคาดเดาว่ามันอยู่ในฟีลไหน มันเม้มปากเข้าหากันและคลายออกอยู่สองสามรอบ ก่อนจะถามออกมา


   “งั้น...ถ้าวันนึง มึงเจอคนที่มึงรักมาก มึงจะไม่เสียใจเหรอวะ ที่เคยทำตัวเหลวแหลกมาก่อน”


   “หึหึ...กูไม่ใช่ผู้หญิงนะทีม กูท้องไม่ได้ กูไม่มีเยื่อพรหมจรรย์ แล้วอีกอย่าง...คนอย่างกูน่ะ ไม่มีคนดีๆ มารักหรอก” ผมพูดไปก็ยิ้มออกมาบางๆ ไม่ใช่ยิ้มเพราะประชด หรืออะไรทั้งนั้น แต่ผมกำลังรู้สึกตลกกับชะตาชีวิตตัวเอง ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะมีไอ้ห่านป่าที่ไหนไม่รู้ มาถามเรื่องที่ไม่เคยมีใครถามผมแบบนี้


   “มึงกำลังดูถูกตัวเองมากไปนะฝุ่น” น้ำเสียงมันกระตุกนิดๆ


   “หรือมึงจะเป็นคนดีที่เข้ามารักกูล่ะทีม” ผมพูดประชดไปอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้หมายความตรงตามนั้น แค่อยากตัดบททุกอย่าง อยู่กับไอ้เหี้ยทีมไม่เคยมีวันไหนที่ผมอึดอัด แต่พอเริ่มคุยเรื่องนี้ผมกลับรู้สึกแย่ขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่อยากพูดต่อ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าจะไม่มีใครมารัก แต่ผมแค่รู้สึกไม่ดีที่กำลังเอ่ยปากเล่าความสำส่อนของตัวเองให้มันฟังราวกับเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันที่ผ่านมา


   “ถ้าเป็นอย่างนั้นมึงจะว่าไง...” มันถามแต่ไม่รอคำตอบ ก้มลงมาปิดปากผมด้วยจูบร้อน


   ไม่อยากเสียหน้าเลยต้องจูบตอบกลับไป ไอ้ทีมมันเอื้อมมือไปวางไอพอดลงที่พื้นข้างเตียงก่อนจะใช้มือข้างนั้นลูบแถวๆ สันกรามผมแล้วไล่ลงไปที่ลำคอ มันถอยหน้าออกนิดหน่อยเพื่อให้ผมหายใจแต่ก็ไม่ได้ห่างไปไกล ยังคงไล่เล็มขบริมฝีปากทั้งบนและล่างอยู่เบาๆ กระตุ้นผมด้วยฝ่ามือร้อนที่ลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อยืด


   กว่ามันจะยอมถอนจูบอีกครั้งผมก็โดนปอกเปลือกไปแล้วกว่าครึ่งตัว ริมฝีปากร้อนละจากใบหน้าผมลงไปไซร้ที่ลำคอ ก่อนจะระเรื่อยแถวๆ หน้าอก..หน้าท้อง..และสะดือ มันไม่ได้เลื่อนปากต่ำไปกว่านั้น แต่มือมันสิครับ รูดซิปกางเกงผมช้าๆ ให้เป็นเสียงครืดเบาๆ กระตุ้นอารมณ์ให้ยิ่งเตลิดไปไกล


   “มึง..จะแกล้งกูทำไม” ไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีอารมณ์มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เสียงผมสั่นเหลือเกิน...


   “กูไม่อยากมีเซ็กส์ แต่กูอยากทำรักกับมึง”







   


   ตัด......ฉับ......!!!!!!!!! เจอกันในบาปหวานตอนที่ 6 ค่ะ ฮิฮิ




Eiizes’s talk

โว้ววว ขอโทษที่หายไปหลายวัน เพิ่งได้พักเอง จะปีใหม่แล้วเนอะ

สวัสดีปีใหม่เลยแล้วกันค่ะ  :L2:

ขอให้ผู้อ่านทุกๆ ท่านของไอซ์มีความสุขมากๆ คิดอะไรก็สมปรารถนา ร่ำรวยมีเงินทองใช้ตลอดปี(มีเผื่อจองฟิคเราด้วย คริคริ) :laugh:

สุขภาพแข็งแรงค่ะ

ท่านไหนจะเดินทางไปต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ ขับรถระวังๆ กัน ใจเย็นๆค่ะ ช้าหน่อยแต่ถึงที่หมายเหมือนกันเนอะ

อะไรที่ไม่ดีของปีเก่าก็ทิ้งมันไปนะคะ เริ่มต้นกับคุณกระต่ายกันดีกว่า

ตอนหกคงลงปีหน้าเลย(เหมือนนาน) แต่ตอนพิเศษที่สัญญาไว้จะรีบเอามาลงค่ะ ฮี่ๆๆ

เอาเป็นว่า ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ห่านป่าทีมกับน้องฝุ่นเป็นยังไงบ้างตอนนี้ อย่าลืมพูดคุยกันนะคะ :pig4:

ความเห็นของทุกคน เราอ่านทุกอันนะ แค่ไม่ได้ตอบเฉยๆ แหะๆ บางอันก็ขำอะ อยากตอบแต่กลัวโดนหาว่าลำเอียง 55555



Eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-12-2010 01:29:51
หุหุ
เข้าใจตัดฉับเลยนะคะ
ขอให้น้องไอซ์แฮปปี้เช่นเดียวกันนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-12-2010 02:01:13
เอิ่มมม  ฝุ่น  ไม่มีอะไรจะกล่าว
นอกจากรอตอนต่อไป และ
happy new year เน้อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 31-12-2010 02:28:12
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 31-12-2010 07:26:41
กรี๊ดดดดดด :serius2: :serius2:
ค้างอย่างแรงค่าาาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Anonymus ที่ 31-12-2010 08:17:05
ตะ...ตัดฉับ! o22
ไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันทีเดียว  อู๊ยยย ทีมหวานเน้ออออ  ยอมๆเขาไปเหอะฝุ่น อิอิ
นั่งลุ้นนอนลุ้นให้น้องฝุ่นเสียตัว  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nomo9 ที่ 31-12-2010 09:00:52
เอ่อ ตัดฉับกันแบบนี้เลยเหรอ กระซิกๆๆ

ขอบคุณค่ะ
สวัสดีปีใหม่เช่นกันน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 31-12-2010 09:22:39
แว๊กกกก!! ได้ไงตัดได้ไง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 31-12-2010 09:43:41
 :haun4: ตอนหน้า  :jul1:

แต่มันค้างมากกกกกกกกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 31-12-2010 11:13:39
อ๊ากตัดแบบนี้เลยรอ

สวัสดีปีใหม่น่ะ

 รอตอนต่อไป มาไวๆ นร้าส์

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 31-12-2010 11:38:27
โหดร้ายๆ  :serius2: :serius2:

HAPPY NEW YEAR 2011 นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 31-12-2010 11:43:16
ง่ะ ตัดฉับเจรงๆด้วยอ่า เค้าแอบค้างนะตัว มาต่อไวๆเนะ เค้ารออยู่ทุกวัน ลั่นล้าๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 31-12-2010 12:05:01
HAPPY NEW YEAR จ้าไอซ์  :L2:
ห่านป่ารุกแล้วสินะ  :-[ :-[
ทำไมฝุ่นมองตัวเองไม่มีค่าแบบนั้นละ แต่ก็เหมือนชีวิตของหลายๆ คนที่เวลาเจอคนดีเข้ามาในชีวิตเรา เราก็จะเสียดายหลายสิ่งหลายอย่างที่เคยผ่านมา แต่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ ถือเป็นกำไรชีวิตแล้วกันนะ แล้วก็รักษาคนดีๆ เอาไว้
 o18 แต่ว่า ถ้าทีมทำฝุ่นเสียใจละก็  :z6:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-12-2010 12:09:17
อืมอ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าตรงไหนจะเป็นบาปนะ
แต่หวานน่ะเห็นมารำไรๆเชียวแหละ
ปีนี้สองคนอยู่ที่จุดstartจะเริ่มทำรัก
จะรอปีหน้านะคะ รอดูเค้ารักกัน
แล้วคงจะได้รู้ว่า บาปหวานในที่นี้คือ?

 :3123:ผู้เขียนเช่นกันค่ะ มีความสุขมากๆในปีใหม่นี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 31-12-2010 12:27:37
ตัดซะขาดกระจุยกันเลยทีเดียว


อยากได้ตอนต่อไปจังเลยค่ะ


ขอเป็นของขวัญปีใหม่ได้ไหมคะ


ชอบเรื่องนี้ๆ  น่ารักจริง


ไม่ได้อยากมีเซ็กซ์  แต่อยากทำรัก  จี๊ดมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 31-12-2010 12:41:35
 :dont2: ใจร้าย ย ย ตัดดังฉับเลยอ่า จะต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้  :serius2: ถ้าตัดแบบนี้ตอนหน้าห้ามมาช้านะคะ ไม่งั้น  o18
สุขสันต์ปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 31-12-2010 14:25:29
เข้าใจฝุ่นนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 02-01-2011 16:57:15
Happy New Year' 2010
Starting,,,
good healthy
good richful and
lucky in game lunck in love ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 02-01-2011 18:08:54
อ๋าาา......ตัดฉับ!! กันอย่างนี้เลย....โธ่...ทำกันได้นะคะคนเขียน
พี่ทีมยืนยันกันไปเลยค่ะว่าจะเป็นคนดีคนนั้นของน้องฝุ่น....
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-01-2011 19:21:16
ก่อนอื่นก็สวัสดีปีใหม่ก่อนเลยนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะไรท์เตอร์ :กอด1:
แล้วแบบว่าถ้าใจดี ก็มาต่อจากที่ค้างนิสนึงนะตะเอง แบบว่า :undecided:
ไม่รู้งานนี้ฝุ่นจะยอมอ๊ะป่าว :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 02-01-2011 19:45:02
ค้างเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 02-01-2011 20:32:22
ตอนหกจ๋า  จงมาไวไว

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 03-01-2011 04:23:10
ไรท์เตอร์กล้าตัดฉับนะ -*- นอยนะนี่
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 04-01-2011 01:38:24
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
มาต่อด่วนค่าาาาาาาาาาาาาาาา  :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-01-2011 09:42:37
อะไรอะ  :z3:

ทำร้ายจิตใจกันอย่างแรง

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 04-01-2011 17:36:36
ตอนนี้ก็ปีใหม่แล้วเนาะ!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 5.2 (31/12/2010 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 04-01-2011 17:59:06
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด   :a5: :z3:

ต่อด่วนเลยคร้า    :call: :call:


 :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1 (07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 07-01-2011 19:21:48
6.1

   มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย...


   ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรเขามากไปกว่าการนอนคุยและเล่นกีต้าร์ให้ฟัง....อ่ะๆ ยอมพูดความจริง ให้อีกอย่างก็แค่จูบ มากสุดก็ขอดีพคิส แต่เหตุการณ์ทุกอย่างมันเป็นไปเพราะสิ่งเดียว “ผมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้”


   ฝุ่นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยยามถูกผมกกกอดเอาไว้กับอก เมื่อโดนผมเลิกเสื้อยืดขึ้นไปม้วนไว้แถวๆ คอก็ได้แต่ยอมขยับให้มันขึ้นไปง่ายขึ้น ยิ่งผมจูบไล่ไปตามซอกคอ แผ่นอก ระเรื่อยลงมาที่หัวนมเขา ฟันผมขบลงเบาๆ ฝุ่นก็ได้แต่ครางหวิวและแอ่นอกขึ้นรับด้วยความเสียวซ่าน


   “มึง..จะแกล้งกูทำไม” น้องถามผมแบบนั้น เสียงฝุ่นสั่นมาก เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแววตาหวาดหวั่นคล้ายกำลังไม่มั่นใจในหน่วยตาซึมๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ ของเด็กดื้อเขา


   ผมไม่อยากตอบคำถามนี้ แต่ก็เกรงว่าฝุ่นอาจจะเร่งเร้าเอาคำตอบได้ในตอนที่ผม “หยุดไม่อยู่” อีกต่อไป จึงได้ละมือที่กำลังรูดซิปกางเกงเขาเปลี่ยนไปจับเข้าเต็มๆ ที่สิ่งที่กำลังตื่นตัวเต็มที่จนลมหายใจฝุ่นกระตุกเยือก เจ้าตัวเล็กหน้าแดงก่ำ


   “กูไม่ได้อยากมีเซ็กส์ แต่กูอยากทำรักกับมึง” แต่ก่อนหน้านั้นกูอยากให้มึงวางใจในความรักของกูบ้าง....


   ผมหยุดบทสนทนาทุกสิ่งอย่างด้วยการกดจูบเขาอีกครั้งในขณะที่มือก็เริ่มล่วงล้ำเข้าไปในชั้นในตัวบางของเขา นาทีนี้ผมว่าผมสัมผัสได้ถึงร่างกายผอมๆ ที่เริ่มสั่น ผมรู้...การสัมผัสแบบนี้ไม่ใช่ผมคนแรกที่มอบให้เขา แต่ก็ยังดูคล้ายว่าฝุ่นเองก็ไมได้คุ้นชินกับมันมากเท่าใดนัก เด็กน้อยรู้สึกตัวไวกว่าใจผมเสียอีก


   ผมเริ่มบรรเลงลวดลายลีลาที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกับร่างกายของฝุ่น จูบ สัมผัส มอบให้ทุกส่วนที่คิดว่าเขาจะรู้สึกดีจนกายผอมนั้นบิดเร่าไปมาบนเตียงนอนนุ่ม ผมก้มลงกัดปลายจมูกฝุ่นเบาๆ อย่างหยอกล้อ น้องมองผมด้วยสายตาเคืองนิดๆ มีหยาดน้ำตาจากแรงอารมณ์คลอหน่วย ตอนนี้มือผมยังไม่หยุดมอบความสุขให้เขาแม้แต่วินาทีเดียวจนมันเริ่มแฉะเต็มมือผม


   “ดีไหม..ฝุ่น” ผมกระซิบถามชิดริมฝีปากอุ่นนุ่ม กดย้ำจูบอีกครั้งจนมันแดงเจ่อ อยากจะผสมความเร่าร้อนมากกว่านี้แต่ก็กลัวฝุ่นจะตื่นตกใจเลยขอจูบแค่ความหื่นระดับสอง


   “ทีม...กูไม่เอา..พอแล้ว” เขาห้าม...ตามมารยาท


   แหม ผู้ชายด้วยกันผมรู้หรอก โดนปลุกเร้าจนน้องจะร้องไห้อยู่รอมร่อใครบ้างอยากให้หยุดกัน ใจนึงก็อยากล้อแต่อีกใจก็เกรงว่าฝุ่นจะอายแล้วครั้งที่สองสามสี่อินฟินิตี้จะไม่มีให้ผมได้ชื่นใจอีก สงบปากสงบคำบ้างในบางทีก็คงไม่ทำให้ผมกระอักเลือดตาย เร่งมือให้เขาถึงปลายทางเร็วขึ้นในขณะที่ผมขอทีเถอะ...ก้มลงไปจูบเน้นแถวๆ หน้าอกเขา


   ตรงตำแหน่งหัวใจแหละครับ แหมะ ตอนจูบลงไปนี่เหมือนจูบกับหัวใจฝุ่นเองเลย เต้นบึบๆ อยู่ที่ปาก...ผมกดเม้มตั้งใจให้มันเป็นรอยแดง ไม่รู้แหละ อาจจะโดนฝุ่นด่าถึงบรรพบุรุษ แต่นาทีนี้พี่ทีมไม่ทนแล้วครับ!!


   “อะ..อา ทีม..ทีม! อื้อ!” เท่านั้นแหละครับ เด็กดื้อของผมก็สุขสมอารมณ์หมาย เขานอนหอบมองผมตาปรือ อื้อหือ ได้ทีสิครับ ปีศาจร้ายในใจยิ่งรอคอยวันจะได้กำเริบอยู่ เจอมองตาปรอยแบบนี้มีหรือพี่ทีมจะทนไหว วันนี้ไม่ได้เสียเหงื่อออกกำลังกายบนเตียงก็อย่าเรียกผมไอ้เหี้ยทีมเลยครับ!




   Rrrrr!!


   เสียงมารเหี้ยที่ไหนวะ!!!!!!


   อ่อ...โทรศัพท์กูเองครับ...แหะๆ


   ผมอยากจะทำเมินหูหนวกไม่สนใจเสียงโทรศัพท์ที่แผดร้องเหมือนทวดใครเสียแต่แม่ง เจอสายตาจิกๆ ของเด็กดื้อที่เพิ่งทำตาปรอยใส่เมื่อกี้แล้วก็ต้องยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์อย่างเสียไม่ได้...


   เห็นชื่อคนที่โทรมาแล้วผมก็อยากจะสบถด่าให้อายไปถึงบรรพบุรุษของมันสมัยต้นกรุงสุโขทัยเลย..ไอ้เชี่ยไกด์! มึงขัดจังหวะกูกับ(ว่าที่)เมีย!!


   “ญาติใครตายครับ ไอ้เหี้ย” สรรเสริญมันหน่อย จะได้รู้ว่าโทรมาถูกเบอร์


   “เอ่อ...ทีม นะโมเอง” หืมมมม กำลังจะเที่ยงคืน แต่นะโมอยู่กับไอ้เชี่ยไกด์???? ไม่ได้กินเหล้าก็ต้องมีอะไรแล้วครับแบบนี้


   “แป๊ปนะ นะโม” ผมบอกปลายสายไปแบบนั้น แล้วหันมาดึงเสื้อเด็กดื้อเขาให้เข้าที่ ฝุ่นมันปัดมือผมออกเบาๆ แล้วหันหน้าหนีเข้ากำแพง นี่คืออายหรืองอน?? แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทีมง้อให้ถึงใจเลยจ้ะฮันหนี (ยิ้มหื่น)


   “มีอะไรรึเปล่า” ผมถามเมื่อเดินหนีมาคุยโทรศัพท์ที่ห้องน้ำข้างๆ นี่แหละครับ ขี้เกียจเดินไปเดินมาหลายรอบเปลืองพลังงาน เก็บไว้ผลาญบนสนามรักดีกว่า ฮิ้ววว


   “กูโทรไปขัดจังหวะมึงเหรอเชี่ยทีม” เออะ สรรพนามขนาดนี้ นะโมคงไม่กล้าใช้กับผมมั้งครับ ที่จริงเธอก็เป็นสาวห้าวๆ นะใช้กูมึงกับคนอื่น แต่ไม่เคยใช้ศัพท์พ่อขุนพวกนี้กับผมหรอกครับ ส่วนใหญ่เก็บไว้ด่าเชี่ยไกด์ซะมากกว่า


   “มึงมีอะไรวะ กูไม่ว่าง” ผมเริ่มโวยวายใส่


   “เฮ้ยๆ ใจเย็นเพื่อนฝูง กูอะไม่ได้มีอะไรหรอก แต่วันนี้ไอ้ตะกวดไกด์กับพี่รหัสมึงโดนตีนมา นี่พวกกูรอมันทำแผลกันอยู่ที่โรงพยาบาลxxx เนี่ย ถ้าเสร็จภารกิจระดับชาติก็ขอความกรุณาขับหวานใจของมึงออกมาหาพวกกูหน่อยครับ” บอลมันสาธยายครับ ผมยิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันมากขึ้น นี่กูไม่ใช่ตำรวจหรือพ่อมึงนะ มีเรื่องแล้วต้องโทรหากูเนี่ย!! อารมณ์เสียโว้ย โดนขัดจังหวะ


   “ห่า กูไปพรุ่งนี้เช้าไม่ได้เหรอ เดี๋ยวกูทบต้นทบดอกให้”


   “กูเกรงว่าจะไม่ได้ครับ เรื่องนี้เกี่ยวกับมึงโดยตรงเลยครับ กูให้เวลาสิบห้านาที มึงไม่มาเหยียบโรงบาล กูจะโทรเข้าบ้านมึงไปบอกน้องฝุ่นว่ามึงมีชู้”


   “ค-ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมแหกปากด่าเต็มเสียง แม่ง งงครับ พักนี้ติดบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปเสเพลกับเดอะแก๊งค์จนขวดเหล้าเริ่มงอนๆ แต่แล้วเรื่องมาถึงตัวกูได้ไงนี่คนหน้าตาดีสงสัย




   เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วกูต้องออกไปสินะ...ผมตัดสินใจอดเปรี้ยวไว้กินหวาน พยายามทำใจปลอบตัวเองว่าไม่ได้วันนี้ วันหน้ายังมี เดินไปบอกเด็กดื้อเขาหน่อยว่าผมกำลังจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปฝุ่นกำลังยืนเปลี่ยนเสื้ออยู่ครับ สงสัยจะเข้าไปอาบน้ำ


   ผมเดินเข้าไปกอดจากข้างหลัง แผ่นอกที่เปลือยเปล่าของผมเสียดสีเข้าเต็มๆ กับหลังเรียบเนียนของเขา กลิ่นผิวเนื้อหอมๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า ... แม่งเอ๊ย เร้าใจชิหายยยยยยยยย


   “ปล่อย กูร้อน” ยังเป็นฝุ่นคนเดิมครับ ด่าผมเต็มปากเต็มคำอีกละ คงอยากจะหันมาฟาดหน้าผม แต่สุดหล่อรู้ทันครับ จับมือฝุ่นกำเอาไว้รวมกันด้วยมือข้างเดียว อีกข้างก็จับคางให้คนดีเขาหันมาเจอกับหน้าผม


   “มาจูบที” เด็กดื้อเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรหรอกครับ แต่ผมจูบได้นิดเดียวฝุ่นมันก็พลิกหน้าหนี แล้วพึมพำคล้ายๆ ว่าจะไปอาบน้ำ ผมเลยบอก


   “เดี๋ยวกูออกไปโรงบาลก่อนนะ”


   “ไปทำไม” ฝุ่นชะงักมือที่กำลังจะโยนเสื้อตัวเก่าลงตะกร้าแล้วหันมาถามผมงงๆ


   “พี่อ๋องกับไอ้เชี่ยไกด์โดนตีนใครมาไม่รู้ วันนี้อาจจะกลับดึกหรืออาจจะกลับพรุ่งนี้เลย” ผมบอกไปตามความจริง ฝุ่นมันพยักหน้างึกงักรับคำ ใจนึงก็อยากให้มันไปด้วยนะครับ เพิ่งผ่านสถานการณ์หวิดเสียตัว(ให้ผม)มาหมาดๆ แบบนั้น ผมไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว กลัวมันจะคิดมาก ยิ่งคนหัวดื้ออย่างฝุ่น ถ้าปล่อยให้คิดไปคนเดียว ท่าทางจะแก้ปัญหายากด้วย แต่มาคิดอีกที ถ้าเกิดผมต้องไปจัดการเรื่อง แล้วไปถวายฝ่าเท้าเข้าหน้าใคร ฝุ่นมันก็อาจจะไม่ปลอดภัยได้ เพราะงั้นเอาเด็กดื้อเขาไว้ที่บ้านแล้วค่อยกลับมาโอ๋พรุ่งนี้ดีกว่า


   “อย่าเพิ่งคิดว่ากูได้มึงแล้วทิ้งนะ กูออกไปจัดการเรื่องแป๊ปเดียวนะจ๊ะ” ผมยิ้มกว้างให้เมื่อฝุ่นมันหันมาสะบัดนิ้วกลางด่าผม ก่อนจะเดินหายเข้าห้องน้ำไป





ตัดตรงนี้แหละ see you in 6.2



Eiizes’s talk
หวัดดีค่า
ซอรี่มากๆ ที่มาช้าแล้วยังให้สั้นเว่อ แบบนี้อีก แต่ตอนนี้คนเขียนกำลังเป็นไข้แหละ
ไม่รู้ไข้กายหรือไข้ใจ เอิ้กกก :laugh:


ตอนนี้แอบเห็นเลขวิว ประมาณ 4000 แล้ว แต่คอมเม้นมีอยู่ร้อยหกสิบกว่า....งืม  :sad4:
ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ถือซะว่าเป็นกำลังใจให้คนเขียนเถอะนะคะ จะได้รู้ว่ามีคนติดตามมากน้อยแค่ไหน โนะ
เขียนมาสั้นๆ ก็ได้ค่ะ  :L2:

ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ฮ่าๆ ปวดหัวมากเลย เอาเป็นว่าจะรีบมาลงตอน 6.2 เร็วๆ นี้ละกันค่ะ ไม่นานแน่ๆ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ


Eiizes
 :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-01-2011 19:51:06
+1 เป็นกำลังใจหายไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 07-01-2011 20:18:17
 :L2:
หายไวไวนะคะ

คราวหน้าขอยาวๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-01-2011 20:19:47
Belated happy new year ครับ
สุขสมหวังในทุกสิ่งนะครับ
หวังว่าเรื่องอย่ามาม่ามากนะครับ อยากเก็บความสุขเอาไว้ครับ
ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 07-01-2011 20:31:10
6ตอน6หน้านี่ถือว่าเม้นเยอะพอสมควรนะคะ เพราะบางเรื่องสิบกว่าตอนมีเม้นท์กันแค่4-5หน้าเอง เศร้าเลย
แต่จริงๆแล้วมันเป็นมารยาทที่ควรทำกันด้วยแหละเนอะคะ  :เฮ้อ:
เข้ามาได้อ่าน ก็ควรให้เม้นเขาตอบแทนไป  :กอด1:
สู้ๆค่ะ :L2:

รอฟูลคอร์ส -,.-  :haun4:
ปล.ขอให้ไอ้พี่อ๋องเจ็บหนักเป็นหมันไปเลย เชอะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ve_nus ที่ 07-01-2011 20:31:54
อ้าว!! ไรเตอรท์ปวดหัว ขอให้หายไวๆนะคะ บาป..หวานชื่อก็แปลกแล้ว ยังไงก็ได้จะมาม่า ขนาดไหน แต่ขออย่างเดียวต้องจบแฮ็ปปี้เอ็นดิ้งได้มั้ยคะ
เปนกำลังใจให้ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 07-01-2011 20:43:18

อยากรู้ว่ามันบาปยังไงเร็วๆจัง
อ่านชื่อเรื่องตอนแรกนึกว่าจะมารักกับคุณพ่อพระเอกซะล่ะ XD
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 07-01-2011 20:58:53
 :กอด1: เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนหายจากอาการปวดศีรษะ
แล้วก็จะรอตอนต่อไป หวังว่าคงไม่ทำให้น้องฝุ่นเหมือนตอนนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 07-01-2011 21:34:21
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 07-01-2011 22:11:27
โหดร้ายจังเลยอะ

ตัดซะค้างเลย

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 07-01-2011 22:16:08
สนุกจังเลยอะ

ขอเข้ามาอ่านด้วยคนน้่า

 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-01-2011 22:50:18
รอด้วยคนนนนนนนนนนนนนนนนนนค่ะ

เรื่องเม้นต์นี้เราเห็นคนที่อัพบ่อยๆจะได้เม้นตืเยอะนะคะส่วนใหญ่นะแต่เอาตามตัวเองสะดวกแล้วกันนะจ๊ะ

ว่าแต่ทีมไปแล้วน้องจะงอลไหมหละเนี้ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 07-01-2011 23:18:04
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 07-01-2011 23:49:07
อดเลย โหะ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 08-01-2011 02:20:17
ตัดสินใจลงมืออย่างรวดเร็ว
แถมมีการวางแผนอย่างต่อเนื่อง

โหยยยยยยยยยยยย พ่อคุณ เมียท่านจะหนีไปไหนเสีย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 08-01-2011 02:46:55
แบบว่า ทะมัยเค้าโดนรุมตีนแต่เกี่ยวกะทีมอ่ะ งงนิ
มาต่อไวๆนะค๊า

ps. ไม่ขอมาม่านะคะ มาม่าเยอะแล้วค่ะ เอาหวานๆ แบบชื่อเรื่องอ่ะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 08-01-2011 02:53:35
สั้นจางเยย
พี่ทีมแกรุกไวทันใจจิงแต่ดันมามีคนมาขัดจังหวะน่าสงสารจังอิอิ
น้องฝุ่นจ๋าเขิลรุนแรงจังนะชอบความรุนแรงก็ไม่บอกพี่ทีมแกจะได้จัดหนักเลยอิอิ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า
+1เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 08-01-2011 03:40:02
:กอด1: เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนหายจากอาการปวดศีรษะ
แล้วก็จะรอตอนต่อไป หวังว่าคงไม่ทำให้น้องฝุ่นเหมือนตอนนี้นะคะ


เหมือนๆกับรีอื่นๆ  ตามนั้นครับ :กอด1: :กอด1: o13 o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 08-01-2011 10:21:06
ฝุ่นกำลังจะเปิดใจให้ทีมแล้ว
อย่าให้อะไรมาทำให้ฝุ่นกลับไปอยู่กับตัวเองเลยน่ะ
ทีมรีบจัดการ :z6:กับปัญหา
แล้วกลับมาจัดการ :-[ กับฝุ่นน่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 08-01-2011 12:36:13
น้องฝุ่นเกือบไปแล้วววววว

+1 ให้กำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 08-01-2011 16:28:36
แหม นึกว่าจะ...  :z1: ซะแล้ว ไม่เป็นไรพี่ทีม ยังมีโอกาสแก้ตัวอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.1(07/01/2011 UP!!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 08-01-2011 23:45:27
อ่านสองตอนเจอตัดไป สองครั้ง กะจะฆ่ากันรึไง อยากรู้น้องทีมน้องฝุ่นเป็นไงต่อ
หัวข้อ: บาป...หวาน Special Merry Married Christmas (110109 update)
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 09-01-2011 01:06:19
Merry Married Christmas
(Lately Merry Christmas :D)

คำเตือนก่อนอ่าน
เนื้อเรื่องด้านล่างเป็นตอนพิเศษที่อยู่นอกเหนือจากตอนหลักนะคะ ไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องใดๆ ต่อกัน โปรดอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน







   “กูจะไปดูไฟ”



   นั่นคือคำขาดที่ผมยื่นให้ตั้งแต่ตื่นนอนโดยที่คู่สนทนายังไม่ทันแม้แต่จะถามด้วยซ้ำว่าวันนี้ผมจะไปไหนรึเปล่า มันเป็นการเอาแต่ใจตัวเองอย่างร้ายกาจครับ ผมรู้แต่ผมก็รู้อีกด้วยว่าไอ้คนตรงหน้ามันไม่ขัดใจผมหรอก ผู้ชายไทยแท้ตาไม่ตี่แต่สูงและขาวหล่อยิ้มกว้างให้กับคำร้องขอกึ่งบังคับนั้น มันขยับตัวเปลี่ยนท่าจากนั่งบนเตียงแล้วเอนตัวไปทางด้านหลังมานั่งห้อยขากับขอบเตียง ก่อนจะดึงผมลงไปนั่งตรงหว่างขา ทีมมันกอดผมเอาไว้หลวมๆ


   “ไปดูไฟ?...มึงดูไฟนีออนในห้องนี่ก็ได้ คล้ายกันเลย” ไม่ว่าเปล่า มันขยับหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ  “หรือถ้าอยากให้มันสว่างวิบๆ เหมือนบนถนน เดี๋ยวกูสร้างบรรยากาศให้ได้นะ”


   พูดแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ ไม่รู้เลยเนอะว่ามึงกำลังคิดอะไรน่ะ ไอ้หื่น


   “ลามปามว่ะมึงอะ” ผมผลักหน้ามันออก ทีมมันก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ กอดผมแน่นขึ้นแล้วร้องเพลงพลางโยกตัวไปมา


   “You better watch out. You better not cry. You better not pout. I’ll tell you why…” มันร้องเพลงด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแบบที่ผมชอบฟัง เว้นระยะเอาไว้ไม่ยอมร้องจนจบ เริ่มอีกละ เด็กน้อยในตัวมันเริ่มอยากเล่นอะไรพิเรนทร์อีกแน่ๆ


   “why shouldn’t I cry?” เล่นมาก็ถามกลับได้ครับ


   “Santa Team is coming for you~” โห ไอ้เสี่ยวววววววววว


   “กูจะอ้วก” ผมหัวเราะในคอแล้วทำท่าจะลุกหนีไปอาบน้ำ ตั้งแต่ตื่นมาก็บ่ายกว่าแล้วครับ ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เหนียวตัว


   “แพ้ท้องเหรอ กูใส่ถุงยางตามที่มึงสั่งตลอดนะ แอบมีชู้เหรอที่รัก” มันดึงข้อมือผมไว้ แกล้งถามด้วยสีหน้าจริงจัง ขมวดคิ้วย่นเข้าหากันจนเป็นรอยคลื่นเลยครับ


   “ทีม มึงอย่าย่นคิ้วแบบนี้ดิวะ เห็นทีไร กูนึกขึ้นได้ทุกทีว่ามึงแก่”


   “พูดแบบนี้เอาสิบล้อทับหน้ากูเลยดีกว่า” มันบอกแล้วทำปากยื่นใส่ผม แม่ง น่าเอาแม็กซ์มาเย็บปากจริงๆ


   “กูจะอาบน้ำ หิวแล้วด้วย” สั่งไว้เผื่อครับ เพราะมันตื่นตั้งแต่เช้า อาบน้ำแล้วไปตักบาตรที่หน้าบ้าน นั่งดูการ์ตูน ให้อาหารเซ็กส์ซี่แล้วค่อยมากวนใจผมเมื่อไม่นานนี้เองครับ ทีมมันทำท่าตะเบ๊ะใส่


   “ทันทีครับเจ้านาย!”



   ผมใช้เวลาไม่นานในการเปลี่ยนเสื้อลงมาที่ชั้นล่าง ข้าวต้มง่ายๆ ถูกจัดเตรียมไว้หอมฉุยอยู่บนโต๊ะ มีไอ้ทีมมันนั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ฟากหนึ่งของโต๊ะ วันนี้มันใส่เสื้อยืดสีขาวธรรมดาสกรีนลายธรรมดาแต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ผมเองก็มีเสื้อตัวนี้ด้วยเหมือนกัน จะเรียกว่าเสื้อคู่ก็ดูจะไม่เลี่ยนจนเกินไปนะ


   “เสื้อใส่พอดีตัวป่ะวะ” มันถามผมก่อน ถูกแล้วครับ วันนี้ผมเองก็จงใจใส่เสื้อแบบเดียวกับมัน คริสต์มาสทั้งที อยากทำอะไรดีๆ ให้ไอ้ตัวดีมันชื่นใจบ้าง แหะๆ เขินเหมือนกัน ปกติไม่เคยทำอะไรแบบนี้


   “อืม หลวมนิดหน่อย” ผมบอกแล้วจับขอบเสื้อแถวๆ เอวให้มันดู ช่วงนี้ผมเรียนหนัก ต้องเตรียมสอบด้วยน้ำหนักเลยลดไปหลายกิโลอยู่


   “ไม่ได้หลวมหรอก กูจงใจซื้อไซส์นี้ มันจะได้ไม่รัดตัวมึงมากไง”


   “ถ้ามึงใส่เสื้อยืดหลวมๆ เหลือจากตัวมึงเป็นเมตรแบบนี้ ก็ไปเต้นฮิปฮอปเถอะทีม” ผมบ่นอย่างจนใจแล้วนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามมัน โต๊ะกินข้าวที่บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่เหมือนบ้านหลังเก่า ขนาดของมันเพียงพอแค่สำหรับคนสองคนเท่านั้น ผมกับทีมเลยนั่งห่างกันแค่เอื้อมมือถึง


   “ไหนมึงว่ากูแก่ กูคงเต้นฮิปฮอปไม่ไหวหรอกมั้งเด็กน้อย” ผมหัวเราะหึหึ กับท่าทีเลียนแบบคนแก่ของมัน แล้วลงมือตักกุ้งในชามขึ้นใส่ปาก ทีมมันรู้ดีครับว่าผมชอบทานข้าวต้มกุ้งตอนเช้า รสเค็มนิดๆ แบบนี้แหละ ทำให้ผมค่อนข้างเจริญอาหาร ที่จริงจะว่าผมน้ำหนักลงก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว ก่อนหน้านี้ผมน้ำหนักขึ้นมาหลายกิโลเพราะมันเอาแต่ทำกับข้าวขุนผมจนแก้มย้วย มาช่วงนี้ถึงได้กลับไปน้ำหนักเท่าตอนเพิ่งกลับจากอเมริกาใหม่ๆ


   “เตะปี๊บไม่ดังแล้วสิมึงอะ กูถึงว่า พักนี้มึงเรือล่มปากอ่าวบ่อยๆ”


   “เฮ้ยๆ พูดให้ดีๆ กูล่มปากอ่าวตอนไหน ไม่เคยเหอะ” มันทำท่าเคืองๆ ใส่ แล้วลุกไปหยิบช้อนอีกคันมาแย่งข้าวต้มผม “ฝุ่น”


   “อะไร”


   “ตอนมึงอยู่เมกา ซานตาคลอสเข้ามาในบ้านทางไหนวะ” ห่า..ถามไรของมึงเนี่ย ปัญญาอ่อนกว่านี้มีอีกมั้ย


   “ประตูมั้ง” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ แบบว่าไม่ว่างกำลังเคี้ยวกุ้ง คริคริ


   “อ่าว บ้านเก่ามึงไม่มีปล่องเตาผิงเหรอวะ”


   “มี แต่ถ้าซานต้าโง่เข้าทางนั้น ป่านนี้คงโดนย่างสดไปแล้วมั้ง”


   “งั้นมึงคิดว่าซานต้าจะเข้ามาบ้านเราทางไหน”


   “หน้าต่างห้องกูล่ะมั้ง เผื่อได้ลองของแปลก” ตอบไปงั้น ทีมมันเลยทำปากจี๊จ๊ะที่ผมไม่เล่นตามน้ำ จนสุดท้ายมันก็ยอมบอก


   “แต่กูว่ากูเห็นซานต้าแวบๆ แถวๆ เครื่องซักผ้านะ มึงกินข้าวเสร็จลองไปเปิดดูดิ เผื่อมีของขวัญ” แม่ง เด็กสามขวบยังรู้เลยว่ามึงเอาของขวัญไปใส่ไว้ในเครื่องซักผ้าให้กู ไอ้บ้า!!!



   แล้วกูก็บ้าตามมัน....


   ผมเดินมาเปิดเครื่องซักผ้าดูตามที่มันบอกจริงๆ แหละครับ แล้วแม่งก็เป็นอย่างที่เด็กสามขวบทาย มีกล่องของขวัญกล่องไม่ใหญ่มากอยู่ในนั้นพร้อมสำลีที่ขยำๆ อีกจำนวนนึง ผมเลี่ยงที่จะหยิบของขวัญขึ้นมาเมื่อปลายหางตาแอบเห็นไอ้ทีมมันเดินมา แต่หยิบสำลีก้อนๆ นั่นขึ้นมาแทน


   “ห่าไรเนี่ย!! กูเจอซานต้าจะเตะตูดให้ เอาสำลีมาทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าทำไม!!!” ผมแกล้งโวยวายขึ้นมาเสียงดัง ทีมแม่งรีบวิ่งทั่กๆ ออกมาจากหลังประตู แล้วบอก


   “เห้ย กู เอ้ย ซานต้าให้มึงดูของขวัญไม่ใช่หิมะ”


   “หิมะพ่อมึง หน้าตาแบบนี้เหรอ” ผมถามเสียงโหด หน้ามันเลยหดเหลือสองนิ้ว ก้มลงหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาจากถังเครื่องซักผ้าส่งให้ผม


   “ไม่เปิดดูเหรอ”


   ผมไม่พูดอะไร แต่รับมาแล้วค่อยๆ แกะสก็อตเทปออกทีละจุดอย่างระมัดระวัง ข้างในเป็นกล่องแข็งเรียบสีขาว มีสติ๊กเกอร์ยี่ห้ออะไรผมไม่แน่ใจสีทองๆ แปะอยู่บนกล่องเพิ่มความหรูให้อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากแคร์ ของต้องสงสัยที่อยู่ข้างในนี้คืออะไรนี่แหละคือสิ่งที่ผมจะหาคำตอบเอาเดี๋ยวนี้


   กล่องถูกผมเปิดขึ้นอย่างเบามือ ผ้าพันคอไหมพรมนุ่มมือสีเทาเข้มแบบที่ผมชอบและแม่กุญแจจำนวนสองลูกวางอยู่ในนั้น...


   “ซานต้าบ้ารึเปล่า ส่งผ้าพันคอมาให้กูทำไม อากาศร้อนจะตายห่าแบบนี้ ให้เสื้อกล้ามตราห่านกูยังไม่โกรธเลย” ผมแกล้งตวัดตาใส่ ทีมมันเลยรีบกุลีกุจอหยิบผ้าพันคอกับแม่กุญแจขึ้น มีซองสีม่วงเข้มของสายการบินหนึ่งวางอยู่ในนั้น..


   “ซานต้าให้มึงเอาผ้าพันคอไปใส่ที่นี่ต่างหาก” มันเปิดซองนั้นออกแล้วหยิบกระดาษเอสี่สีขาวข้างในออกมา เป็นอีทิคเก็ตสองใบ ปลายทางมุ่งสู่โซล ประเทศเกาหลีในวันที่ 30 ธันวาคมนี้


   “ที่จริงซานต้าทีมก็อยากพาน้องฝุ่นไปเที่ยวที่อื่นนะ แต่กูก็อยากเอาแม่กุญแจไปคล้องไว้บนนัมซานทาวเวอร์กับมึงอะ”


   “มึงดูหนังมากเกินไปรึเปล่าวะทีม” ผมถาม ทีมมันหน้าม่อยลงไปนิดหน่อย ถือตั๋วไว้ในมืออย่างเสียเซลฟ์ขั้นสุด


   “ไม่ชอบเหรอ แต่กูซื้อมาแล้วอะ”


   “ไม่...ได้บอกว่าไม่ชอบ” คริคริ สะใจ แกล้งคนแก่


   ผมหัวเราะออกมา ทีมมันเลยยิ้มกว้างดึงมือผมไปจูบเบาๆ


   “มึงแม่งชอบแกล้งกู รู้ว่ากูยอมรู้ว่ากูตามใจ แล้วทำไมชอบแกล้งกูจังวะ” มันบอกเสียงอ่อย แล้วงับมือผมเต็มแรง


   “เหี้ย เจ็บ!” แม่ง จากแกล้งเดี๋ยวกูจะโกรธจริงแล้ว


   “ตอนมึงด่า กูเจ็บกว่านี้อีก”


   “ยิ่งแก่ยิ่งเสี่ยวนะมึงอะ”


   “ถึงเสี่ยวแต่ก็รักมึงคนเดียวนะ” หึหึ ดูแม่ง วนเข้าตัวกูอีกละ ผมหัวเราะในลำคอ ยอมให้ทีมมันจับจูบเอาได้ง่ายๆ ถือว่าให้รางวัลกับผู้ชายนิสัยดีที่ทำดีกับผมเสมอต้นเสมอปลายตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันอย่างที่มันเคยสัญญาเอาไว้


   แต่ดูเหมือนไอ้คนโลภมากมันไม่ยอมหยุดอยู่แค่จูบน่ะสิครับ มือเริ่มเลื้อยไปกองแถวๆ สะโพกผม ออกแรงขยำเนื้อตรงก้นผมกระตุ้นอารมณ์เป็นจังหวะ..แต่ขอโทษนาทีนี้ กูจะออกไปฉลองคริสต์มาสโว้ย


   “พอๆ กูจะออกไปดูไฟแล้ว”


   “นี่เพิ่งบ่ายสองกว่าๆ เอง รีบไปทำไมวะ เค้ายังไม่เปิดไฟไห้มึงดูหรอก” มันยังกอดผมเอาไว้หลวมๆ ไม่ยอมให้ผมเดินออกจากห้องซักผ้าอย่างที่ต้องการ


   “กูจะไปซื้อเสื้อเตรียมไปเที่ยวเกาหลี!” เท่านั้นแหละครับ ทีมมันหัวเราะก๊ากออกมา เออ อายแต่ที่พูดก็มีส่วนจริงนะ


   สรุป ผมเห่อกว่าไอ้ห่านป่าทีมอีก!



   ทีมกับผมตัดสินใจจะเดินซื้อเสื้อที่สยามเพื่อรอพระอาทิตย์ตก จากนั้นก็เดินดูไฟถ่ายรูปกันแบบชิวๆ ดีที่ไอ้ทีมมันเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่บ้านเพื่อนตรงสามย่าน แล้วเราก็นั่งแท็กซี่ย้อนกลับมาที่สยามกันครับ ผมเองก็เรียนอยู่ไกลจากแหล่งวัยรุ่นแถวนี้ ทีมมันก็ต้องทำงานเลยไม่ค่อยได้มีเวลาเข้าเมืองมาแถวๆ นี้เท่าไหร่ นานๆ มาทีก็แปลกตาไปอีกแบบครับ


   “ทีม รอแป๊ปนึง” ผมบอกแล้วให้มันหยุดยืนรอ ไม่ไหวแล้วครับ ร้อนมาก ผมวิ่งข้ามถนนแคบๆ แค่เลนเดียวไปซื้อน้ำเปล่าเย็นๆ กับฝรั่งแช่บ๊วยหนึ่งลูก ไม่ใช่น้ำแข็งไสก็ไม่เป็นไรครับ นาทีนี้อะไรเย็นๆ ฝุ่นวิ่งเข้าหาหมดล่ะ


   “กินน้ำก่อนมึง ร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว” ผมบ่น ทีมมันเลยยิ้มขำๆ รับน้ำจากมือผมไปเปิดฝาออก เสียบหลอดแล้วยื่นมาจ่อปาก


   “มึงกินก่อน” ไม่อยากขัดใจครับ เลยก้มลงดูดอั่กๆ ลงคอ จากนั้นทีมมันเลยรับไปกินต่อ


   ผมกับมันเดินเลือกเสื้อกันไป กินฝรั่งแช่บ๊วยเย็นๆ กันไปไม่นานพระอาทิตย์ก็เริ่มตกเย็นครับ สมกับที่เป็นฤดูหนาวจริงๆ พระจันทร์มาทำหน้าที่ไวมาก แต่ขอโทษอากาศโคตรจะร้อนเลยครับ เดินไปนี่เหงื่อไหลเหมือนอาบน้ำได้อะ


   “มึงจะเดินไปที่ไหนก่อนเซ็นทรัลเวิล หรือโรงแรมxx” มันบอกชื่อโรงแรมหนึ่งมาครับ ชื่อดังในย่านนั้นเลย


   แต่เดี๋ยวนะ...กูจำได้ว่ามันละแวกเดียวกันไม่ใช่เหรอวะ??


   “มันใกล้ๆ กันไม่ใช่เหรอวะ”


   “อืม แต่กูแนะนำว่า ไปเดินตรงเซ็นทรัลเวิลก่อน แล้วไปจบที่โรงแรมดีมั้ย” มันเสนอพร้อมยิ้มกว้าง แม่ง ไม่ต้องยิ้มกูก็เห็นไส้ติ่งมึงแล้ว คิดได้แต่อะไรหื่นกามว่ะ สมองพัฒนาส่วนเดียวรึไง


   “ค-ย” ผมด่ามันเต็มปากเต็มคำแล้วเดินหนีครับ ไอ้เหี้ยทีมหัวเราะดังลั่นแล้วเดินตามผมไป สรุปว่าวันนี้เราไม่ค่อยได้ซื้ออะไรมากมายเท่าไหร่ ได้เสื้อมากันคนละสองสามตัว จะหนักไปที่ของกินมากกว่า เต็มท้องเลยอะเดินไม่ไหว หนักพุง เอิ้กกก


   

   วันที่เดินทางมีแต่ผมที่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาจนคนที่มันนอนกอดผมอยู่ครางออกมาอย่างรำคาญอยู่หลายรอบเหมือนกัน แต่ฝุ่นแคร์มั้ย...ไม่ ก็มานอนกอดกูเองนี่หว่า กูไม่ผิด~!!


   “มึงนอนเฉยๆ สิวะ กูง่วงนะ” มันบอกผมเป็นรอบที่ร้อยแล้วครับ แต่ก็ยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นโดยไม่สนใจว่าผมจะอึดอัดมั้ย เสียงหัวใจมันดังตึ่กๆ อย่างข้างหูผม..แหะๆ โคตรโรแมนติกเลยเนอะ


   เราเตรียมตัวเดินทางออกจากบ้านกันตอนช่วงเย็นของวันที่สามสิบครับ ที่จริงตั๋วที่ไอ้ทีมมันซื้อเอาไว้เป็นไฟลท์ตอนประมาณเกือบเที่ยงคืน เท่ากับว่าเราจะไปถึงเกาหลีตอนเช้าพอดี ผมที่มีฤทธิ์เพลียๆ จากการอดนอนเมื่อคืนก็เดินสะโหลสะเหลเข้าไปนั่งในหวานใจของไอ้ทีมมันครับ ปล่อยหน้าที่จัดการล็อคบ้านดูแลสถานที่ให้เป็นของมัน แล้วให้ผมพักเถอะครับ ตาจะปิดอยู่แล้ว


   “นี่ตกลงเมื่อคืนมึงหลับรึเปล่าเนี่ย” มันถามขึ้นตอนยัดอีย่นจากหลังรถใส่มือผม เพื่อที่จะเผื่อที่ไว้วางกระเป๋าเดินทาง...คืออีย่น เป็นสรรพนามไว้เรียกตุ๊กตาเหี่ยวๆ ตัวหนึ่งที่อยู่ในรถไอ้ทีมมัน คือผมก็ชอบนะครับอีย่นน่ะ มันเหี่ยวๆ นุ่มๆ มือดีครับ เอาไว้กอดเวลาเคลิ้มๆ จะหลับเนี่ยเจิดสุดๆ


   “หลับๆ ตื่นๆ” ผมตอบตามจริง


   “แน่ะ ตื่นเต้นสิ”


   “เออ คิดว่าจะได้มีเซ็กส์กับหนุ่มเกาหลีแล้วตื่นเต้น” สงสัยสมองผมจะพัฒนาต่อมเดียวตามไอ้เชี่ยทีมแล้วล่ะครับ


   “จัดเลยมั้ย บนนัมซานทาวเวอร์น่ะ เดี๋ยวกูจัดให้ชุดใหญ่ๆ เอาลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เลยมึง” มันพูดไปก็หัวเราะไป ก้มลงมาจูบผมทีหนึ่ง “นอนไปก่อนก็ได้ ถึงสุวรรณภูมิแล้วเดี๋ยวปลุก”


   แล้วมัน...ก็ทำหน้าที่เป็นแฟนที่ดีอีกตามเคย...



   ตอนที่เท้าเหยียบเกาหลีอุณหภูมิก็ประมาณลบห้าได้ครับ สำหรับผมที่ไม่ได้สัมผัสอากาศหนาวๆ มานานก็ถึงกับสั่นแม้ว่าจะใส่เสื้อมาค่อนข้างหนาพอสมควร ทีมที่เดินหน้ามึนๆ มาข้างๆ ก็คงสังเกตได้เลยถาม


   “มึงหนาวเหรอ”


   “นิดหน่อย”


   “สั่นอย่างกับองค์ลงงี้ไม่นิดแล้วมั้ง มึงมานี่” มันถอดผ้าพันคอของตัวเองออกครึ่งหนึ่งมาพันเอาไว้ที่คอผม กลายเป็นว่าเราสองคนเดินโดยมีผ้าพันคอเชื่อมกันเอาไว้...คือก็ซาบซึ้งนะ แต่กูอายครับ!


   “ทีม หนาวแค่นี้กูทนได้ มึงเอาออกเหอะ เด็กมองด้วยอะ”


   “อะไร แค่นี้มึงอายเหรอ กูยังไม่เห็นอายเลย” มันบอกพลางหันไปแลบลิ้นใส่เด็กที่ยืนตาแป๋วมองมาทางพวกผม จนเด็กอายุประมาณสามสี่ขวบคนนั้นเริ่มเบะปากทำท่าเหมือนจะร้องไห้ขึ้นทุกที


   “เฮ้ยๆ มึงพอ เดี๋ยวแม่งเกิดร้องไห้แหกปาก ซวยตาย” ผมเอามือจับตรงกรามให้ทีมมันหันหน้าหนีจากเด็กน้อยผู้น่าสงสารคนนั้น ทีมแม่งก็ยอมเดินจากมาแต่ยังไม่วายหันไปส่งจูบให้ด้วยหน้าตากวนตีนจนสุดท้าย...ผมว่าผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ลอยมาไวๆ นะ...



   จากอินชอนเข้าโซลก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ครับ ไอ้เหี้ยทีมทำตัวอเลิทตลอดเวลาที่อยู่บนรถบัสชี้นั่นดูนี่จนผมอดตื่นเต้นตามไม่ได้ ทั้งๆ ที่สองข้างทางเป็นแค่ที่โล่งๆ ไม่มีอะไรเลยครับ จนเข้าเขตเมืองนั่นแหละถึงได้เห็นตึกรามบ้านช่อง


   ที่พักของเราอยู่แถวๆ อินซาดงครับ เห็นไอ้ทีมมันโฆษณาว่าเป็นแถบที่คนไทยนิยมมาพัก ราคาปานกลางแถมอยู่กลางเมืองไปเที่ยวค่อนข้างสะดวก สถานที่ก็เกสท์เฮ้าส์ธรรมดาครับ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็กว้างพอจะอยู่กันสองคนแบบไม่ตบตีแย่งพื้นที่กัน ผมกับทีมทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้อย่างนั้น พกแต่ของสำคัญออกมาเพื่อเตรียมจะตระเวนทัวร์โซลในวันสุดท้ายของปี


   ที่แรกที่ทีมมันพาผมไปแบบผิดๆ ถูกๆ ก็คือเอเวอร์แลนด์ครับ แม่งมาวันแรกก็ให้กูเดินขาลากเลยทีเดียว


   สวนสนุกใหญ่ดีครับ ตอนแรกผมก็กะว่าจะไม่เล่นอะไร เพราะกำลังหนาวขั้นสุด แค่ให้กูยืนเฉยๆ ก็จะแข็งตายแล้ว แต่ไอ้ทีมแม่งลากไปเล่นนั่นเล่นนี่ ไปยืนบีบแกะอย่างหมั่นเขี้ยวอยู่พักใหญ่ สุดท้ายสิ่งที่มันชี้ก็คือ...


   “ไม่เอา กูไม่เล่น ถ้ามึงจะขึ้นก็ขึ้นไป เดี๋ยวกูรอข้างล่าง”


   “โหย ไหนๆ ก็มาแล้วมึง ซักครั้งในชีวิตไง”


   “กูไม่ชอบเล่นเครื่องเล่นพวกนี้” ผมบอกมันเสียงแข็ง พยายามเอาความเหี้ยมเข้าขู่แต่นาทีนี้ไอ้เหี้ยทีมเอาความเลวเข้าถมลากผมแบบไม่สนใจใครหน้าไหนเข้าไปในแถวของเครื่องเล่นชนิดนึง


   “ทีม กูพูดจริงๆ นะว่ากูไม่เล่น”


   “มึงอะ เข้ามาไม่คุ้มค่าเข้าเลย เล่นๆ ไปเหอะ เป็นเพื่อนกูไง”


   “อ๋อ มึงอยากให้กูเป็นเพื่อนเหรอ” ผมพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ อะไรขายได้กูทำหมด


   “เฮ้ย ไม่ใช่ เล่นรถไฟเหาะเป็นเพื่อนกู แต่สถานะมึงอะแฟนเหมือนเดิม”


   “กูไม่เล่นนนนนนนนนน” ผมแหกปากแล้วจะเดินหนี แต่แม่งไม่ทันแล้ว ทัวร์ไทยมาจากไหนไม่ทราบเดินมาต่อแถวแล้วครับ แล้วทางขึ้นที่พวกผมกำลังยืนอยู่มันแคบมาก ถ้าเดินสวนกันก็ต้องเบี่ยงๆ ตัวเดินเลยล่ะครับ ยิ่งเจอพี่ไทยที่เดินมาออกันอยู่ตรงนั้นประมาณสิบกว่าคนก็ไม่ต้องอธิบายเลยครับว่าอนาคตผมหลังจากนี้จะเป็นยังไง จึงหันไปโวยวายเอากับไอ้ทีมที่ยิ้มแป้นสู้ “เพราะมึง!!”



   บอกได้คำเดียวว่า กูอยากอ้วก....


   “มึงไม่ชอบเล่นเครื่องเล่นพวกนี้จริงๆ เหรอวะ”


   “กูโกหกมึงแล้วกูจะมีนมมั้ยไอ้เหี้ย”


   “ตอนนี้มึงก็มีนะนมอะ กูก็จับอยู่ทุกวัน” มึงยังจะเล่นนะไอ้เหี้ย เดี๋ยววันนี้มึงจะโดนกูคิดบัญชีทบต้นทบดอก แสรดดด


   ทีมมันพยุงผมไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ร้านค้าเล็กๆ แห่งหนึ่ง คือจะเรียกว่าร้านก็เรียกได้ไม่เต็มปาก ดูเผินๆ คล้ายๆ เพิงหมาแหงนมากกว่า ไอ้ห่านป่ามันทิ้งผมนั่งอยู่คนเดียวพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมโกโก้ร้อนในมือ


   “ค่อยๆ กินนะมึง โกโก้หวานๆ น่าจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง” มันบอก คงรู้สึกผิดแล้วล่ะสิ


   ผมรับมาจิบทีละนิด มีไอ้ทีมนั่งมองด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่ข้างๆ มันลูบหลังผมเบาๆ .... อย่าลูบสิห่าน เดี๋ยวกูยิ่งอยากอ้วกกว่าเดิมหรอกแม่ง


   รถไฟเหาะปกติผมก็ไม่ค่อยชอบนั่งอยู่แล้วครับ แต่นี่รถห่าเหว-อะไรไม่รู้สูงมาก เร็วด้วย แล้วมันเป็นลูกคลื่นอะครับ ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ชวนอ้วกสุดๆ ผมจำได้ว่าตอนเดินเข้ามาในเอเวอร์แลนด์ใหม่ๆ ยังเดินเล่นตามแผนที่กันอยู่ ไอ้ทีมมันบอกว่ารถไฟเหาะอันนี้เป็นเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ที่สูงที่สุดหรืออะไรนี่แหละครับ แม่งเอ๊ยยย กูไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับกินเนสบุ๊ค ไม่ต้องมาชวนเล่นนนนนนน


   พักอยู่ราวๆ สิบห้านาทีผมก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นเลยบอกให้มันเดินเล่นต่อ ห่างไปไม่มาก เป็นลานกว้างๆ ครับคล้ายๆ ลานแสดงโชว์อะไรทำนองนั้น จัดบรรยากาศแบบคริสต์มาสเลย สวยมากครับ เพราะเป็นฤดูหนาวพระอาทิตย์เลยตกเร็วกว่าปกติ ตอนที่พวกผมเดินมาถึงลานตรงนั้นก็หกโมงได้แต่รอบๆ บริเวณเริ่มมืดแล้ว เลยได้ดูไฟกับจุใจไปเลยครับ


   มันเดินลากผมไปถ่ายรูปที่มุมนั้นมุมนี้อย่างมีความสุข(อยู่คนเดียว) ผมเริ่มเหนื่อยจากการเดินตามมัน ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่แก่เนอะ


   “มึงๆ เล่นม้าหมุนกัน”


   “ห่า อายุเท่าไหร่แล้วมึง” ผมบ่น


   “เด็กกว่าคู่นั้นละกัน” ไอ้ทีมมันชี้ไปที่ลุงกับป้าคู่หนึ่ง อายุอานามน่าจะราวๆ ห้าสิบได้แล้วครับ จูงมือกันขึ้นไปนั่งบนม้าหมุน..เอ่อะ กูหมดปัญญาเถียง “ตกลงนะ..ขึ้นไปนั่งกัน กูอยากถ่ายรูปบนนั้นด้วย”


   นี่วิญญาณช่างกล้องเข้าสิงมึงตอนสะดุดที่หน้าเอเวอร์แลนด์รึเปล่าวะ บ้าถ่ายรูปจริง!!


   “โอะ โอะ..” ผมอุทานเล็กน้อย เมื่อต้องขึ้นไปนั่งบนม้า...คือ ม้าอะครับ ม้าอะ!! นี่กูไม่ได้อายุยี่สิบเดือนนะ จะได้มานั่งคร่อมบนม้าหมุน แล้วมีไอ้เหี้ยที่ไหนไม่รู้มายืนจับให้ผมทรงตัวได้ ยิ่งตอนเครื่องเริ่มเดิน แล้วม้าเริ่มเคลื่อนที่ ผมก็งกๆ เงิ่นๆ ไม่รู้จะทำตัวยังไงได้แต่เอื้อมมือไปจับไหล่ไอ้ทีมเอาไว้...ไม่กล้าจับหัวม้าอะ เขิน เอิ้กก


   “มึง มึง...กูว่ามันแปลกๆ”


   ทีมมันยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปดังแชะ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอายตัวเองมากขึ้น เหมือนกลับกลายไปเป็นเด็กน้อยตัวเล็กยังไงก็ไม่รู้


   “อะไรแปลก” มันถามผมยิ้มๆ เอามือนึงเอื้อมมากอดเอวผมเอาไว้


   “ไม่รู้อะ แม่งเหมือนเด็กโข่ง”


   “แต่กูชอบที่มึงเป็นแบบนี้”


   ควักหัวใจให้ตอนนี้เลย มีใครจะว่าอะไรผมมั้ยครับ!!



   เกือบสี่ทุ่มแล้ว กว่าเราจะกลับมาเหยียบใจกลางโซลกันอีกครั้ง ผมกับไอ้ทีมเดินตามหาร้านของกินกันท่ามกลางฝูงคนไทยจำนวนมาก ผมเริ่มสงสัยแล้ว นี่กูมาฉลองปีใหม่กับแฟนที่เกาหลีหรือเดินตลาดนัดคนเดินที่เชียงใหม่วะครับ คนไทยเยอะมากกกกกกกกกกก ไม่สามารถด่าหรือนินทาใครได้ เพราะเค้าฟังกูรู้เรื่องหมดเลยครับ โอ้กกก


   “มึง กูว่ากลับไปกินข้าวกระเพราหมูสับ อร่อยกว่าป่ะวะ” ทีมมันบอกพลางคาบก้อนแป้งในซอสสีแดงอมส้ม ที่เค้าเรียกกัน ต๊อกโบกกีไว้ในปาก


   “กูว่ากูกินข้าวเปล่ายังอร่อยกว่าเลยนะ” ผมทำหน้าเอียนๆ คือมันไม่มีอะไรเลยครับในต๊อกที่ว่า มีแค่ก้อนแป้งยาวๆ แล้วก็ลูกชิ้นปลาแบนๆ แค่นั้นเอง ไม่ได้อร่อยอย่างที่รายการทีวีหรือละครพูดถึงเลย แม่ง ได้ค่านายหน้าเท่าไหร่วะ


   “แม่งดีนะ กูตัดสินใจมาแค่สี่วัน ถ้ามานานกว่านี้คงคล้ายๆ โปรแกรมลดน้ำหนัก”


   “เออ มึงพูดถูก” ผมกินไปแค่นิดเดียวแหละครับ กะว่าถ้าหิวค่อยเดินหาของกินอย่างอื่นต่อ ทีมเองมันก็เต็มใจที่จะทิ้งต๊อกโบกกีไว้ที่ร้านแบบเหลือบานเต็มถ้วยอย่างนั้นล่ะฮะ ไม่สนใจแล้วครับ สามพันวอนที่เสียไป เอิ้กก


   หลังจากหาอะไรกินรองท้องกันเสร็จ พวกผมก็มุ่งหน้าสู่นัมซานทาวเวอร์ทันทีครับ ทีมมันดูหลั่นล้าเป็นพิเศษกับการเดินทางด้วยแท็กซี่คราวนี้ สงสัยว่าจะตื่นเต้นที่มันบอกทางลุงแกไม่ผิด


   พื้นที่รอบๆ นัมซานเป็นอย่างที่ผมคาดไว้ คู่รักเยอะมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติขึ้นมาคล้องกุญแจกันเหมือนในหนังเลยครับ แม่ง ไม่อยากจะพูดให้เขินตัวเองว่าผมสองคนก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน แหะๆ


   “มึงเขียนชื่อบนแม่กุญแจมารึยัง” ทีมมันหันมาถามผม ลมแรงมากเลยครับ ผมปลิวเปิดเถิกกันถ้วนหน้า


   “ยังอะ มึงเขียนดิ กูหนาว” ผมสั่นหงึกๆ แล้วยื่นแม่กุญแจทั้งสองลูกให้พร้อมปากกาที่เตรียมมา(ที่จริงทีมมันเป็นคนเตรียมแหละครับ แต่คนแบกมาน่ะผม)


   “ครับๆ รับทราบครับ” มันบอกยิ้มๆ แล้วบรรจงเขียนชื่อตัวมันเองลงไปที่แม่กุญแจลูกหนึ่ง ส่วนอีกลูกก็เป็นชื่อผม ห่านป่าแม่งทำอาร์ตแตกวาดหัวใจลงไปด้วย เขียนเป็นประโยคภาษาอังกฤษว่า Everlasting Love...you will never walk alone


   นี่มึงเป็นหุ้นส่วนอะไรของทีมฟุตบอลรึเปล่าครับ!! อ๊ะๆ ไม่ได้เขินนะ สาบานได้ =//= ที่หน้าร้อนวาบขึ้นมาผมแค่ซาบซึ้งเท่านั้นเอง!!


   “ล็อคมันพร้อมกันนะ” ทีมหันมาบอกผมอย่างนั้น บวกลบความดีที่มันทำให้ผมมาตลอด เลยไม่อยากขัดใจมันแม้รู้สึกเหมือนกำลังจะแข็งตายได้อยู่แล้ว


   “อืมๆ” ผมรับคำ


   “ฝุ่นๆ เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งล็อค”


   “อะไรอีกวะ กูหนาว” ผมหันไปมองหน้ามัน กูอยากจะลงไปจากบนนี้แล้ว ไม่ไหวแล้วคร้าบ ลมแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะจับแม่กุญแจอยู่กูคงปลิวไปแล้วคร้าบบบบ


   “ซารังแฮ”


   “อะไรของมึง” ก็รู้หรอกครับความหมายน่ะ แต่มึงจะมาพระเอกเกาหลีอะไรแถวนี้ กูไม่ได้เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวนะ ไม่ต้องมาทำเกาหลีใส่ กูไม่ติ่งโว้ย


   “โห มึงอะ เก็ทง่ายๆ หน่อยดิวะ” มันทำหน้าย่นแบบไม่พอใจหน่อยๆ ที่ผมไม่ยอมสนใจมุขภาษาเกาหลีบ้าบอของมัน


   “มึงก็พูดมาดิวะ เอาที่คนกระโหลกหนาแบบกูเข้าใจง่ายๆ น่ะ” ผมยิ้มออกมา ไอ้ห่านป่าแม่งเลยเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้จับแม่กุญแจของตัวเองมาจับมือผมที่อยู่ข้างๆ กัน


   กริ๊ก...


   เสียงแม่กุญแจลั่นพร้อมกันทั้งสองลูก กุญแจถูกโยนทิ้งไปตอนไหนผมไม่รู้ แต่ดวงตาของผู้ชายตรงหน้ากำลังตรึงผมเอาไว้ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น..



   “กูรักมึง”
   





   ทำตัวน่ารักขนาดนี้ เสียปากให้มันจูบตรงนี้คงไม่เสียหายเท่าไหร่มั้ง..?
   





End for Special part [Merry Married Christmas]


Eiizes’s talk
สวัสดีค่า มาอัพแล้วเนอะ เอิ้กๆ
เมอร์รี่คริสต์มาสแบบเลทมากๆ (ที่จริงแต่งเลทลงเลทมากกว่านะ 555)
เอาจริงๆแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับคริสต์มาสเท่าไหร่เนอะว่ามั้ย แต่เหตุการณ์มันต่อเนื่องกันอะ 55555555555
หวังว่าตอนพิเศษนี้จะถูกใจหลายๆ คนนะคะ ใครที่รอพี่ทีมกลับจากโรงพยาบาลก็....รอต่อไปค่ะ (คนเขียนโดน :z6: )

ที่จริงเรื่องคอมเม้นก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนะคะ ติดนิสัยนักเลงของน้องฝุ่นมา :laugh:


ตอนนี้อาการไข้ของเราดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แต่ยังเห่า เอ้ย ไอไม่หยุดเลย ขอบคุณทุกกำลังใจค่า :pig4: :pig4:



เอาภาพจากเอเวอร์แลนด์มาฝากด้วยค่ะ ถือซะว่าเป็นหนึ่งในภาพที่พี่ทีมถ่ายมาฝากทุกคนก็แล้วกันนะคะ

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/SAM_0745.jpg)

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/SAM_0750.jpg)

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/SAM_0793.jpg)

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/SAM_0812.jpg)

สุดท้าย ภาพม้าหมุนที่พี่ทีมพาน้องฝุ่นไปนั่งค่ะ  :o8:

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/SAM_0845.jpg)


ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ

Eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-01-2011 01:16:46
อร๊างงงงงงงงหวานจัง หวานๆรั่วๆดูๆไปตาทีมนี้รั่วๆหื่นๆนะคะ

ส่วนไอ้ แป้งต๊อก หรือต๊อกปอกกีอะไรเนี้ยตอนเรียนอาหารเกาหลีปี4ได้ทำด้วย ใส่พริกผงเกาหลีจนน้ำแดงก็ยังไม่เผ็ดเลย รสชาติไม่อร่อยจริงๆต้องแต่เริ่มคลาสจนจบ ไม่อร่อยเลย สู้เรียนวิชา ยำ ลาบ พล่า ไมไ่ด้ แซ่บกันสุดๆ ต่อด้วยเมามายกับวิชาบาร์และเครือ่งดื่ม อร๊างเริ่ด

อยากกลับไปเรียนมหาลัยอีกจัง :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 09-01-2011 01:43:16
หวานนนนนนนนนนนนนนนนได้โล่   :o8:

ร่วมด้วยช่วยยืนยันว่าต๊อกโบกี เป็นอะไรที่สุนัขไม่แดกอย่างแรงค่ะ  :oak:
เคยลองไปหน เข็ดไปทั้งชีวิต เปลืองตังมากมาย (เพราะตอนนั้นบ้าเห่อลองซื้อมากินกับเพื่อนอย่างเยอะ) o12
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 09-01-2011 08:15:52
ขอบจังเลย
หวานมากๆๆๆ
+1 เลย ครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 09-01-2011 08:16:18
.
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 09-01-2011 08:17:04
มาต่อไวๆๆๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 09-01-2011 08:54:24
ต่อตอนพิเศษแบบพิเศษอีตอนได้ปะ :impress2:

น่ารักดีชอบบบบ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 09-01-2011 09:22:04
อ๊ากกก ฝุ่นหวาน เอาน่า เสียจูบบนทาวน์เวอร์ก็พอ ดีกว่าเสียตีวที่เตียงนะ
แต่เอ... นอนบนเตียงท่าจะอุ่นกว่านะ
มาต่อเร็วเข้า อยากอ่าน ปีใหม่แล้ว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 09-01-2011 09:50:39
มาลงชื่อว่าต๊อกไม่อร่อยอย่างแรง  แต่ยามยืนโต้ลมหนาวและหิว
ด้วยความที่มันร้อนเลยกินไปเรียบไม่มีเหลือ...


แถมที่ติดกุญแจ ณ N-Seoul tower
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc3/hs337.snc3/29468_380232723371_544193371_4049076_1894959_n.jpg)

ปากแข็ง ปากร้ายตลอด แต่น่ารักนี่คือฝุ่นสินะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 09-01-2011 10:10:12
  :กอด1: อ่านไปยิ้มไป
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-01-2011 10:39:27
น่ารักนะเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 09-01-2011 11:48:27
หวานแบบแมนๆ 5555
ขอบคุณมากครับ สำหรับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 09-01-2011 13:16:55
มาลงชื่อว่าต๊อกไม่อร่อยอย่างแรง  แต่ยามยืนโต้ลมหนาวและหิว
ด้วยความที่มันร้อนเลยกินไปเรียบไม่มีเหลือ...


แถมที่ติดกุญแจ ณ N-Seoul tower
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc3/hs337.snc3/29468_380232723371_544193371_4049076_1894959_n.jpg)

ปากแข็ง ปากร้ายตลอด แต่น่ารักนี่คือฝุ่นสินะ





อุ๊ย ขอบคุณสำหรับรูปค่ะ น่ารักจัง  :กอด1: :กอด1:
ถ้าใครไปต้องดูดีๆแล้วล่ะ ว่ามีชื่อทีมกับฝุ่นรึเปล่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-01-2011 23:01:01
อยากให้เป้นตอนหลัก หวานดี
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 09-01-2011 23:27:54
 :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 10-01-2011 01:04:51
กด +๑ ไปเลยยยยยยยย
เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ
ชอบพี่ทีมมากนะ น่ารักจังเลยอ่ะ
แสดงว่า แอบเล็งน้องฝุ่นมานานแล้วสินะ
งื้อออออออ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 10-01-2011 01:09:20
  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน Special [Merry Married Christmas 09.01.11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 10-01-2011 18:45:13
ปากหมาแต่น่ารัก  นี้คงเป็นนิยามของฝุ่น ซินะค่ะ   :laugh: :laugh:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 15-01-2011 01:33:37
บาป...หวาน 6.2

   ผมรีบกลับไปที่ห้องจัดการเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ คว้ากุญแจรถแล้วออกไปทันที ระหว่างทางจากบ้านผมไปที่โรงพยาบาล xxx ก็ไม่ได้ไกลมากประมาณยี่สิบนาทีก็ถึง(ไอ้บอลมันโทรเข้าบ้านยังวะเนี่ย) พอเข้าไปถามที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าก็หาห้องพักผู้ป่วยได้ไม่ยากเท่าไหร่เพราะชื่อของไอ้เชี่ยไกด์มันเป็นอะไรที่เป็นตัวของตัวเองมากครับ ผมเดินดุ่มๆ เปิดผางเข้าที่ห้องมันเลย ไม่คิดจะเคาะประตูซักแอะ แบบว่ามารยาทดี ฮี่ๆ


   “ไงมึง ไปจูบตีนใครมา” ส่งเสียงทักกัดเจ็บๆ ไปก่อนครับ ยังแค้นไม่หาย บังอาจมาขัดจังหวะรัก อะ ฮัก ฮัก ของผมกับฝุ่น


   “โหยยยยย ไอ้เชี่ย มาถึงก็ด่า พวกกูโดนตีนเพราะมึงเลยไอ้ทีม” ไม่ใช่เชี่ยไกด์หรอกครับที่ด่า แต่เป็นพี่รหัสของผมเอง เดินเข้ามาตบหัวดังปั่ก! ไม่สามารถตอบโต้ได้ครับ เดี๋ยวงานงอก


   “อะไรเนี่ยพี่ มาตบหัวผม” ก็ได้แต่ลูบหัวป้อยๆ แล้วโวยวายนี่แหละครับ


   “กูอยากจะกระโดดขาคู่ถีบหน้ามึงด้วยซ้ำ” พี่อ๋องด่ายับเลยครับ ผมก็เหวอสิ ไม่ได้เที่ยวมาพักใหญ่แต่งานงอกไม่รู้ตัวแบบนี้ก็ซวยใช่เล่นนะครับ


   พี่รหัสผมยืนเท้าเอวอยู่กลางห้อง ที่จริงพี่รหัสผมเป็นคนที่หน้าตาดีเกือบจะที่สุดในสาย(แพ้ผมนิดเดียว กร๊าก) แต่นาทีนี้ผมว่าปู่รหัสที่หน้าตานอกคอกที่สุดในสายก็ยังดูดีกว่าพี่อ๋องเลยเถอะ สภาพเฮียแกเยินมากครับ ปากเบิน แก้มบวก เขียวเป็นจ้ำๆ คิ้วแตกมีพลาสเตอร์อันเล็กติดตรงเหนือหางตาขึ้นไปอีกหลายอันอยู่ ไม่มีนิยามไหนดีเท่ากับคำว่า “อุบาศว์มาก” อีกแล้วครับ


   ผมไล่สายตามองไปทีละคนในห้อง ไอ้บอลกับนะโมคงถูกตามตัวมาเจอกันที่โรงพยาบาลเลยเพราะไม่มีสภาพการโดนประทุษร้ายแม้แต่นิดเดียว แต่ไอ้เจ้าของห้องที่นอนพังผืด เอ้ย พังพาบอยู่บนเตียงสิ ท่าจะโดนมาหนักอยู่ ขาขวามันใส่เฝือกด้วยครับ ตรงหัวก็มีผ้าพันแผลพันเอาไว้รอบ


   “นี่พี่โดนตีนหรือวิ่งฝ่าสนามรบมาเนี่ย” ผมพูดแล้วจับพี่รหัสให้เขาหันหน้าไปด้านข้าง เพื่อดูแผลแถวๆ สันกรามชัดๆ โหววว แม่งน่ากลัวกว่าตอนเฉินหลงตกมาจากชั้นสามตอนถ่ายหนังอีก(ใครจำไม่ได้ กลับไปอ่านข่าวของเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วครับ กร๊ากก)


   “ถึงได้บอกไงว่าเพราะมึง” แหมะ ทีงี้นะ พี่อ๋องกับไอ้เดี้ยงไกด์พูดพร้อมกันทันที ผมเลยผละออกจากพี่รหัสเดินไปดูเพื่อนสนิทที่นอนพังผืด เอ้ย พังพาบอยู่บนเตียงผู้ป่วย โชคดีหน่อยที่ห้องนี้เป็นห้องผู้ป่วยพิเศษ ทำให้พวกเราไม่ต้องระวังคำพูดกันมาก ถ้ามีคนอื่นในห้องด้วยเขาคงวิ่งหลบสัตว์ประหลาดกันวุ่นวายเลยล่ะครับ


   “ตกลงตีนใครวะ” ผมถามแล้วตบท้องมัน ไอ้คนโดนตบก็จริงใจเหลือหลายร้องซี้ดออกมาดังมากพร้อมสบถด่าบรรพบุรุษผมไปอีกชุดหนึ่ง “อ่าว เจ็บตรงนี้ด้วยเหรอมึง โทษๆ กูไม่รู้”


   ขอโทษด้วยความจริงใจครับ แต่ลึกๆ ลงไปแล้วแม่ง...กูละอยากซ้ำอีกซักที หึหึ


   “มึงจำน้องฝ้ายได้ป่ะวะ” น้องฝ้าย น้องกิ๊ฟ น้องเอ๋ น้องมิว น้องเอถึงแซดมีกันสิบล้านแปดแสนคน กูจะรู้มั้ยคร้าบว่าฝ้ายไหน บอกที่อยู่แห่งหนตำบลใดด้วยครับ จะได้ระลึกชาติถูก “ที่เจอกันตอนไปพัทยาเมื่อปีใหม่ไง"


   “กูนึกหน้าไม่ออกว่ะ จำได้แค่มีผู้หญิงมานัวกับเรากลุ่มนึง แต่หนังหน้าเป็นแบบไหนกูจำไม่ได้หรอก” ผมตอบไปตามความจริง เมื่อตอนช่วงปีใหม่นัดกันไปเที่ยวพัทยาครบแก๊งเลยครับ เปิดบังกะโลพักและเมาหัวทิ่มกันอย่างแมนๆ ได้ใครไปบ้างอย่าว่าแต่ชื่อ แค่หน้าผมยังนึกไม่ออกเลยครับ


   “เออนั่นล่ะ วันนี้แม่งโลกกลมชิบหาย กูกับพี่อ๋องเสือกเจอแก๊งนี้อีก ไปๆมาๆ อีท่าไหนไม่รู้ มีผู้ชายหน้าเหี้ยเอาขวดมาตีหัวกู แล้วก็มั่วกันเลยมึง” เอ่อ..มึงข้ามรายละเอียดมากไปมั้ย กูยังไม่เข้าใจเลยว่าน้องฝ้ายอะไรนั่นเกี่ยวกับขวดที่ฟาดหัวมึงตรงเสี้ยวทศนิยมไหน


   “พอๆ ไกด์ กูเล่าเอง” พี่อ๋องถึงขั้นทนไม่ได้ครับ ขัดคอแล้วเล่าต่อ “น้องฝอยน้องฝ้ายอะไรนั่นมันมากับเพื่อนๆ ในกลุ่มมันนั่นแหละ อีนี่ตาดีเห็นเพื่อนสนิทมึงปุ๊บก็วิ่งร่าเข้ามาทัก เชี่ยไกด์ก็ปากดีชวนนั่งกินด้วยกัน พอเหล้าเข้าปาก อีสก๊อยนี่ก็ถามถึงมึง”


   “ผมเกี่ยวไรด้วย” ผมถามออกไป เท่าที่เล่ามานี่ไอ้ไกด์ก่อเรื่องคนเดียวเลยนะ


   “ไม่รู้แม่ง ลีลาดีมันเลยติดใจมั้ง” พี่อ๋องประชดเสียงแข็งแล้วเล่าต่อ “ถามไปถามมา อีนี่ก็ร้องไห้แล้วบอกว่ามึงไม่เคยติดต่อกลับไปเลย เท่านั้นแหละมึง มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้เดินมาตะคอกอีนี่แล้วเถียงกันคำสองคำ ได้ความว่าอะไรกูก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่คล้ายๆ ว่าสองคนนี้กำลังคบกันอยู่ อยู่ๆ แม่งหันมาเอาขวดฟาดเพื่อนมึงเลย พอกูเข้าไปนัว แม่งเสือกมีตัวช่วยจากไหนไม่รู้ สรุปพวกกูสองคนโดนยำตีน”


   “เดี๋ยวๆ แล้วนี่ไปนั่งที่ไหนกันมา” ผมยังงงครับ จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่ใช่แค่นึกหน้าฝ้ายเฝ้ยอะไรนั่นไม่ออกอย่างเดียวแต่นี่พี่รหัสกับเพื่อนสนิทโดนรุมกระทืบด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องผมก็ยิ่งไม่ชอบใจหนักกว่าเดิม แล้วจะต่อยตีอะไรกันก็ให้มันซึ่งๆ หน้า ทำเป็นหมาลอบกัดแบบนี้มันไม่แมนครับ


   “เฟิร์สไซด์” พี่อ๋องตอบแล้วสบถด่ายับ


   “เฮ้ย ก็ผับประจำนี่หว่า” ผมร้อง เฟิร์สไซด์เป็นร้านนั่งกินโดยที่ชั้นล่างสุดจะเป็นลานกว้างไว้ให้เต้นยามเมา นอกจากร้านของพี่ชายอันดาแล้ว ก็มีร้านนี้แหละครับที่กลุ่มผมนัดไปสังสรรค์กันบ่อยๆ ตามประสาคนหนุ่ม กร๊ากก


   “ก็เออดิวะ กูถึงได้โมโหไง ไอ้เหี้ยนั่นหน้าไม่คุ้นแล้วยังเอาตีนมานาบกูอีก” พี่รหัสผมบ่นเหมือนคนแก่เลยครับ แต่ก็สมควรที่จะโมโห เราไปกันจนเป็นขาประจำ ผมก็ค่อนข้างคุ้นกับพี่ที่เป็นเจ้าของร้าน แต่แม่งปล่อยให้ไอ้หน้าเกล็ดที่ไหนไม่รู้มารุมกระทืบคนสนิทของผมแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ


   “พี่จะเอาไงอะ แจ้งความหรือศาลเตี้ย” ไอ้บอลที่นั่งเงียบมานานถามขึ้น พี่อ๋องขมวดคิ้วแล้วถาม


   “สังขารมึงพร้อมแค่ไหนวะไอ้บอล”


   “โหพี่ ถามงี้ได้ไง” ไอ้บอลพูดไปหัวเราะไป


   “จัดแม่ง..”


   “พี่อ๋อง” ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ไอ้บอล นะโม หรือไอ้เดี้ยงไกด์แต่อย่างใด เสียงที่ไม่คุ้นหูดังกล่าวดังมาจากทางประตูที่ถูกเปิดออก สิ่งมีชีวิตในห้องทั้งห้าตัว เอ้ย ห้าคนหันกลับไปจ้องเป็นตาเดียวจนคนที่เข้ามาใหม่แอบเหวอน้อยๆ “ผมเคาะประตูแล้วนะครับ”


   เด็กผู้ชาย...เอ้อ จะเรียกว่าเด็กก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ครับ โตแต่คงอายุน้อยกว่าฝุ่นหลายปีอยู่เหมือนกัน สังเกตผ่านๆ จากหน้าตาแล้วก็ช่วงวัยเรียนกำลังเกรียนได้ที่ ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลยครับ เด็กโรงเรียนคาทอลิกเสียด้วย กางเกงสีน้ำเงินสว่างวิ๊งมาแต่ไกล กะปีไม่ค่อยถูกครับเพราะตัวเล็กนิดเดียวเอง ผอมๆ ขาวๆ แต่ถ้าจะร้ายไม่เบา ผมก็ยาว แถมติ่งหูที่โผล่พ้นปลายผมมาก็แอบมีตุ้มเงินเล็กๆ ประดับอยู่สองสามอัน จะว่าเป็นน้องก็จำได้แม่นครับว่าเฮียเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล คนข้างบ้านก็มีแต่อายุยี่สิบกว่าสามสิบกันหมดแล้วเด็กคนนี้เป็นใครน้อ ต่อมเสือกเริ่มทำงาน คริคริ


   “มาทำไมเนี่ย” พี่อ๋องถาม แต่ก็กวักมือเรียกให้เดินเข้ามา เด็กมัธยมคนเดียวในห้องถึงตัวพี่รหัสผมปุ๊บก็เอามือมาจับหน้าพี่ให้ซ้ายหันขวาอย่างไม่ปรานีปราศรัยทันทีครับ แล้วมีเหรอที่คนโวยวายโคตรๆ อย่างพี่อ๋องจะยอมอยู่เฉยๆ “เฮ้ย ทำไรวะ เจ็บนะ”


   “เจ็บแล้วไปมีเรื่องชกต่อยทำไม ตังค์บอกพี่กี่รอบแล้วว่ากินเหล้าแล้วอย่าเป็นหมา เมาทีไรหน้าแหกทุกที”


   “เฮ้ยๆ ไรเนี่ยเฮีย เดี๋ยวนี้มีแฟนไม่แนะนำให้น้องรู้จักเหรอ ไอ้เหี้ยทีมยังเห่อเอาว่าที่เมียมาแนะนำตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบเลยนะ” แน่ะๆ เจ็บแล้วไม่เจียมนะไอ้ไกด์ ปากงี้ไงมึงเลยโดนจัดหนัก เดี๋ยวกูช่วยประเคนที่ขามึงอีกซักข้างจะได้เข้าเฝือกคู่ แสรด


   “เชี่ยไกด์ เงียบไปเลยนะมึง” โอ๊ะโอ๋ ออกหน้าออกตาขนาดนี้ ไม่ธรรมดาแล้วมั้งงงงงง


   “พี่อ๋องคะ ไม่ต้องเขิน ทีมมันยังไม่อายใครเลยนะ” เอ้า พาดพิงกูอีกละ ผมหันไปค้อนนะโมทีนึงแบบแมนๆ เจ้าหล่อนก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจที่ได้แกล้ง


   “แล้วนี่มาได้ไง” พี่อ๋องจับมือน้องออกแล้วซักถามทันทีครับ แม่ง แฟน(มั้ง)มา มาดเข้มออกเชียวพี่กู


   “แม่...เอ่อ แม่พี่น่ะ โทรหาตังค์ บอกให้ออกมาดูพี่หน่อย” เรื่องถึงแม่ด้วยเว้ย กลับไปบ้านพี่รหัสผมเละแน่ กร๊ากก


   “แล้วเรารู้ได้ไงว่าพี่อยู่ที่นี่”


   “ตังค์โทรเข้ามือถือพี่แล้ว แต่พี่ไม่รับสาย เลยเดาเอาว่าน่าจะอยู่ที่นี่ เห็นเวลามีเรื่องทีไร พี่ก็มาที่โรงพยาบาลนี้ตลอด” โห รู้จริงยิ่งกว่ากูรู


   แต่จริงของน้องมันอย่างนึงนะครับ เวลามีเรื่องชกต่อยกันที่เฟิร์สไซด์ทีไร พวกผมจะยกโขยงกันมาทำแผลที่นี่ มันใกล้ที่สุดน่ะฮะ ส่วนอีกเหตุผลนึงอาจจะเป็นเพราะพี่อ๋องมันมีลูกพี่ลูกน้องทำงานเป็นหมอที่นี่ด้วย เลยไม่ต้องกลัวว่าจะมีตำรวจแห่กันมาเยี่ยมไข้พร้อมสอบปากคำทั้งโรงพัก


   เพราะความเป็นกูรูนั่นเอง ทำให้ผมหันไปสบตากับไอ้บอลขำๆ รู้จักกับพี่อ๋องมาสี่ปี ก็เพิ่งเคยเห็นพี่แกทำสีหน้าอะหลั่กอะเหลื่อเต็มๆ ตาก็วันนี้ ขำอะ อยากหัวเราะออกมาดังๆ ติดก็ตรงที่พี่รหัสผมหันมาชี้หน้าด่าก่อน


   “หยุดเลยพวกมึง กูรู้นะว่าคิดอะไรกันอยู่” หลังจากด่าเสร็จ พี่แกเลยยอมแนะนำเด็กน้อยตัวเล็ก(ที่ผมคาดว่าคงถูกกลืนไว้ในอกบ่อยๆ) ให้ได้รู้จัก “นี่สตังค์ ย่อมาจากสังกะตัง..โอ๊ย!!”


   โอ๊ย ไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นเสียงอุทานหลังจากโดนเจ้าของชื่อเขาประทุษร้าย พี่รหัสผมยกมือขึ้นลูบแก้มที่โดนดึงจนยานออกมาเมื่อกี้อย่างเซ็งๆ บ่นอุบอิบนิดหน่อย สตังค์เลยแนะนำตัวเองอีกรอบ


   “ผมชื่อสตังค์ เรียกว่าตังค์ก็ได้ครับ”


   “น้องเป็นอะไรกับพี่อ๋องอะครับ” ไอ้บอลแม่งชิงถามก่อนเพื่อน สตังค์นิ่งไปนิดหน่อยยังไม่ทันได้ตอบอะไรพี่อ๋องเลยตัดบท


   “มาก็ดีแล้ว อยู่ที่นี่กับพี่นะโมเป็นเพื่อนไอ้พี่ไกด์มันก่อน เดี๋ยวพี่ออกไปจัดการเรื่องเดี๋ยวมา”


   “พี่จะไปตีให้มันได้เรื่องอะไรอีก โดนกระทืบรอบเดียวไม่พอเหรอ ต้องให้หน้าแหกจริงๆ ก่อนถึงจะพอใจรึไง” น้องเริ่มเสียงดังขึ้นมา อันนี้ผมก็แอบเข้าใจความรู้สึกนะครับ เราเป็นคนออกไปชกต่อยเราก็ยังมีเกรงๆ ในความปลอดภัยของตัวเอง แต่กับสตังค์มันไม่เหมือนกัน น้องคือคนที่รอคอยผล จะหมู่จะจ่าก็ไม่อาจรู้ได้ ก็ย่อมเป็นห่วงมากกว่าหลายเท่าเป็นธรรมดา


   “สตังค์!!” พี่อ๋องตวาดเสียงดังจนสตังค์ถึงกับนิ่งไป ไม่ใช่แค่น้องหรอกครับ พวกผมทุกคนในห้องนิ่งกันหมด ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่อ๋องตวาดเหมือนตอนช่วงโดนรับน้องใหม่ๆ เห็นแบบนี้พี่ผมก็พี่ว้ากนะครับ แม่งโหดอย่าบอกใคร เอะอะอะไรซ่อมกูลูกเดียว เอิ้กๆ


   “รออยู่นี่ เดี๋ยวพี่มา” พี่อ๋องพูดเสียงเบาลงเมื่อเห็นอาการหางลู่หูตกของเด็กมัธยมคนเดียวในห้อง “นะโมอยู่กับไกด์นะ ถ้าจะกลับบ้านก็ให้สตังค์ไปส่งก็ได้ ไม่เป็นไร”


   สั่งเสร็จสรรพแบบไม่มีใครกล้าเถียง พี่รหัสผมก็เดินนำทัพออกไปก่อนเลยครับ


   “ฝากหน่อยนะนะโม สตังค์” ผมบอก แน่นอนว่าไอ้เชี่ยไกด์โวยวายทันทีครับ


   “อ่าวมึง กูไม่ใช่เด็กทารกนะ”


   “มึงเอาเฝือกเพิ่มมั้ยไกด์ กูยินดีแจกให้เลย” ผมด่ามันพร้อมสะบัดนิ้วกลางใส่หน้า ไอ้ไกด์มันโวยวายอีกสองสามคำ แต่ผมไม่ฟังแล้วครับ รีบเดินตามพี่อ๋องออกจากห้องไปทันที ได้ยินเสียงนะโมบอกมาไวๆ ว่าให้ระวังตัวกันด้วย



(ต่อเรปถัดไปค่ะ)
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 15-01-2011 01:34:40
   ร้านเฟิร์สไซด์ที่ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมืองก็จริงแต่มันมีเสน่ห์ตรงที่ไม่ค่อยมีเด็กวัยรุ่นเกรียนๆ มาเย้วๆ กันเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่จะยี่สิบอัพทั้งนั้น ยิ่งชั้นสองที่พวกผมชอบขึ้นไปนั่งกันนั้นเป็นโซนสำหรับลูกค้าประจำที่เราจะคุ้นหน้ากันดีอยู่แล้ว เรื่องชกต่อยก็มีแต่ไม่มากนัก ซึ่งกรณีที่พี่อ๋องโดนตีนมาวันนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก อย่างน้อยพี่รหัสผมก็ลูกค้าประจำ และเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าใครแตะพี่กู มึงไม่ได้แหยมเขตนี้อีกแน่ๆ


   ตอนที่พวกผมสามคนมาจอดรถในลานจอดของที่ร้านก็ปาเข้าไปเกือบๆ ตีหนึ่งแล้ว คนยังทยอยเข้าผับกันอยู่เนืองๆ แม้ว่าอีกแค่เพียงชั่วโมงเดียวผับจะต้องปิดตามกฏหมายแล้วก็ตามที พี่อ๋องลงจากรถได้ก็เดินนำไปที่ประตูทางเข้าทันทีครับ การ์ดที่ยืนคุมเพื่อคอยตรวจบัตรอยู่สองสามคนตรงบริเวณนั้นยิ้มทักอย่างคนคุ้นเคย


   “ไงครับ หายหน้ากันไปนานเลย สบายดีรึเปล่า” หนึ่งในนั้นถามผม พี่แกชื่อพี่นพครับ เป็นหัวหน้าการ์ดที่นี่ ตอนช่วงที่ผมเพิ่งเข้าผับได้ใหม่ๆ ก็บ้าเห่อครับ มาแม่งทุกวัน จนสนิทกันพอสมควร


   “เรื่อยๆ ครับพี่ แต่วันนี้พี่รหัสผมโดนคนในร้านกระทืบมา เลยอยากมาเคลียร์หน่อยว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า” ผมตอบกวนๆ ยกยิ้มเหี้ยมให้ทีนึง พี่นพมองผมแบบตกใจเล็กน้อย


   “เฮ้ย จริงรึเปล่าเนี่ย ใครทำครับเนี่ย”


   “ผมไม่คุ้นหน้าเหมือนกันนะพี่นพ แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่โดนรุมกระทืบ ไอ้ไกด์ก็นอนแหมบอยู่โรงพยาบาล ยังดีที่มันไม่เป็นอะไรมาก” พี่อ๋องบอกอย่างหงุดหงิด พี่นพเลยยิ่งงงหนัก แกขมวดคิ้วแน่นมองหน้าพวกเราที่แสดงออกว่ากูเอาจริงแน่นอน สุดท้ายก็ยอมฝากงานหน้าประตูไว้กับลูกน้องแล้วกวักมือเรียกให้พวกผมเดินฝ่าฝูงคนที่เริ่มเมาพร้อมเต้นเย้วๆ ไปตามจังหวะเพลง ขึ้นไปตรงชั้นสองของตัวร้าน เพื่อจะได้มองเห็นด้านล่างได้ชัดๆ


   “คนไหน คุณอ๋องจำได้มั้ยครับ” พี่นพถาม จากจุดที่เรายืนมองกัน มันเป็นคล้ายๆ ห้องที่เข้าได้เฉพาะพนักงานเท่านั้น เพราะนอกจากจะมีจอฉายภาพกล้องวงจรปิดนับสิบๆ ตัวแล้ว ยังมีกระจกใสบานใหญ่ที่มองจากพื้นที่ในร้านปกติเข้ามา จะเห็นเป็นแค่กระจกเงาธรรมดาเท่านั้น


   พี่รหัสผมขยับไปยืนริมกระจกแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ได้มองอยู่มุมบนแบบนี้ ไอ้ที่เต้นแร้งเต้นกากันอยู่ ไม่ต่างอะไรกับหนอนนกในกระบะที่ขายกันถุงละสิบบาทเลยครับ ยั๊วเยี๊ยไปหมด ไม่นานเกินรอ พี่อ๋องก็กวักมือเรียกผม ไอ้บอล แล้วก็พี่นพไปชี้ให้ดู


   “คนนั้นเลย ที่แม่งกำลังยืนตรงมุมนั่น”


   มุมหนึ่งของร้านที่ค่อนข้างห่างออกไปจากลานแด๊นซ์เป็นมุมอับเพราะมันเกือบจะถึงห้องน้ำอยู่แล้ว มีผู้ชายคนนึงกำลังยืนคุยกับผู้หญิงด้วยท่าทางอารมณ์เสียขั้นหนัก จากการมองระยะไกลแล้ว ผมว่าน่าจะกำลังเถียงกันอย่างเมามันส์เลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ไอ้ผู้ชายหน้าหนอนคนนั้นแค่ยืนตรงๆ มันยังทำไม่ได้เลยครับ แม่งคงซัดมาขนานใหญ่


   “คุ้นหน้าป่าววะทีม” บอลถามผม


   “ไม่รู้ว่ะ ต้องไปดูใกล้ๆ” ผมตอบแล้วเดินออกจากห้องมา พี่นพไม่ได้ห้ามอะไร ผมว่าที่พี่แกพามาห้องนี้ก็เพื่อจะช่วยให้หาไอ้เวรนั่นเร็วขึ้นมากกว่า


   เสียงเพลงด้านล่างดังมากครับ จนผมกับไอ้บอลที่เดินแทบจะตัวติดกันยังต้องตะโกนคุยกันเพราะไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงเพลงที่ดีเจกำลังเปิดอยู่ตรงเวทีด้านหน้า


   ทันทีที่เดินมาถึง ดูเหมือนผู้ชายที่ยืนหันหน้ามาตรงทางเดินพอดีจะเห็นผมก่อน ยักคิ้วกวนตีนมันไปทีนึง แม่งก็หันมาตะโกนใส่ทันที


   “มองเหี้ยไรวะ!”


   “กูมองก็เหี้ยไง” ผมตอบไปยิ้มๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่กับมันหันหน้ากลับมามองบ้าง...เออ หน้าคุ้นว่ะ ผมคาดว่าเธอคงจะเป็นฝ้ายอะไรที่ไอ้ไกด์พูดถึง ทำตาโตแบบตกใจ ก็ไม่รู้ว่าตกใจอะไร แต่ขอโทษคือผมจำคุณไม่ได้อะครับ


   “พี่ทีม...” เสือกรู้จักชื่อกูอีก ไอ้เหี้ยหน้าปลาไหลนั่นมันหันไปมองแฟนมันแล้วตะคอกเสียงดัง


   “อีตัวดี นี่มึงรู้จักมันเหรอ!!! หรือเป็นไอ้ทิวห่าอะไรนั่นที่มึงเพ้อถึง ห๊ะ?!!”


   “กูชื่อทีม สัด!” เท่านั้นแหละ ผมตรงเข้าไปชกหน้าแม่งเลย หยามกูไม่ว่าเรียกชื่อผิดนี่กูเคือง!!


   ไอ้หน้าปลาไหลมันเซแท่ดๆ ไปชนกำแพงอย่างคนที่เมาๆ มึนๆ จนคนที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้นแตกฮือกันออกไป พี่นพรีบเข้ามาดึงผมไว้ไม่ให้เข้าไปซ้ำ


   “น้องทีม พอก่อนครับ พอก่อน”


   แต่เป็นเพราะพี่นพดึงผมเอาไว้ ทำให้ไม่ทันได้สังเกตไอ้เหี้ยที่ไหนไม่รู้ตรงรี่เข้ามาจากมุมหนึ่ง..


   พลั่ก!!   


   ผมเซไปด้านข้างอย่างไม่ทันตั้งตัว หัวไปโขกเอากับมุมโต๊ะที่ตั้งไว้แถวนั้นจนแสบร้าวไปทั้งกระโหลก ตอนนั้นผมที่มึนจนหัวหมุนกำลังพยายามพยุงตัวเองขึ้นมา ก็ทันได้เห็นทางหางตาไวๆ ว่าพี่อ๋องกับไอ้บอลตรงเข้าไปซัดไอ้เหี้ยที่ชกหน้าผมเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่าไอ้เลวที่ไหนมันเพิ่มจำนวนเข้ามาครับ จนตอนนี้เท่าที่ดูเอาคร่าวๆ มีฝ่ายตรงข้ามอยู่สามคน ซัดกันไปซัดกันมาคนละหมัดสองหมัด


   “พี่ทีม..พี่ทีม เป็นอะไรรึเปล่าคะ” น้องฝ้ายอะไรนั่นเข้ามาพยุงผม แต่ขอโทษ กูจะเป็นก็เพราะมึงนั่นแหละ!!


   ผมสะบัดออกแล้วตรงเข้าไปหาไอ้หน้าปลาไหลที่เงื้อมือขึ้นชกหน้าไอ้บอลอย่างเมาๆ พี่นพได้แต่พยายามแยกพวกผมออกจากไอ้เหี้ยนั่นอย่างยากลำบาก พวกนั้นแต่ละคนก็คงกินเหล้ากันมาพอกรึ่มๆ แล้ว ชกไปไม่รู้สี่รู้ห้า ไปชนนั่นนี่ เสียงขวดแตกดังระนาว คนถอยห่างเป็นวงกว้างด้วยความตกใจ


   “มึงอะ มานี่!!!” ผมด่า แล้วชกหน้ามันไปอีกหลายหมัดจนมันล้มไปกองอยู่ที่พื้น ไอ้เหี้ยนั่นแทบไม่เหลือสภาพเดิมให้เห็นเลยครับ หน้าที่ว่าเหี้ยแล้วเหี้ยกว่าเดิมอีก ผมหันไปคว้าขวดใกล้ๆ มือมาตีให้ก้นขวดแตกเป็นปากฉลามแล้วจ่อไว้ที่คอมัน


   “มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร” ผมถามเสียงเหี้ยม ไอ้เหี้ยนั่นเจอขวดแก้วจ่อคอแบบนี้ก็ถึงกับหน้าถอดสีได้เหมือนกัน อาการเมาๆ เมื่อกี้หายเป็นปลิดทิ้ง


   “กู..กูไม่สน!!”


   “ก็ดี กูจะได้เอาศพมึงไปทิ้งข้างทางได้โดยที่ไม่มีใครสนใจ” ผมกระตุกยิ้มเหี้ยม แล้วกดปลายขวดแก้วเข้ากับคอมันแรงขึ้นจนเลือดเริ่มไหลซึม น้องฝ้ายอะไรนั่นร้องไห้แล้วมาดึงแขนผม


   “พี่ทีม ฝ้ายขอล่ะค่ะ พอเถอะ”


   “ไม่อยากโดนด้วยก็ถอยไป!!” ผมตอกหน้าไปเต็มดอก เธอถึงกับหน้าเสีย น้ำตาไหลไม่หยุด ผมละความสนใจออกจากตรงนั้น แล้วหันมาถามไอ้เหี้ยหน้าปลาไหลต่อ ถ้าแม่งฉี่แตกตรงนี้ได้คงทำไปแล้วมั้งครับ หน้าซีดเป็นไก่วันสารทจีนเลยแสรด ทีงี้ทำปอด ทีตอนกระทืบพี่กูละเปรี้ยว “ไหนมึงเล่ามาซิ ว่ามึงกระทืบเพื่อนกูทำไม”


   “เพื่อนมึงใคร กู..กูไม่รู้เรื่อง!!” มันตะโกนเสียงดังขึ้น ถึงตอนนี้พี่อ๋องกับไอ้บอลหยุดกระทืบไอ้พวกเหี้ยนั่นแล้วครับ พี่รหัสผมมายืนสบถอยู่ข้างๆ แล้วยกเท้ามากระทืบอกไอ้ปลาไหลนี่ดังอั่กจนมันถึงกับสำลักอากาศไอค่อกแค่ก


   “แค่นี้มึงทำสะออยเหรอไอ้เหี้ย ทีมึงตีหัวน้องกูล่ะ ไม่รู้สึก!!” พี่อ๋องด่าเสียงดัง


   “ทีนี้มึงรู้จักเพื่อนกูรึยังไอ้สัด” ผมด่า มันยิ่งหน้าซีดมากขึ้นเมื่อผมกดปลายขวดเข้าที่คอมันแรงขึ้นเป็นการกระตุ้นอาการอยากเล่าเรื่องของมัน จนในที่สุดแม่งก็ยอมเปิดปาก


   “กู..กูรู้แล้ว กูรู้แล้ว”


   “เล่ามา!!!” ไอ้เหี้ยนี่ท่าจะโรคจิต ไม่ตะคอกแม่งไม่รู้สึก


   “เพื่อนมึง ไอ้สองคนนี้มันม่อแฟนกู แล้วพูดถึงไอ้เหี้ยทิวทีมอะไรนั่นว่าเคยเอาแฟนกูมาก่อน กูหมั่นไส้เลยอัดแม่ง”


   เออ หน้ามึงก็ยังละอ่อน ไอ้เหี้ย ทำอ้างหมั่นไส้แล้วอัด เดี๋ยวกูก็อ้างบ้าง หมั่นไส้เลยจับมึงยัดส้วม แสรดดด


   “กูว่า...ถ้าแค่มึงอัดคนเดียว พี่กูคงไม่น่วมแบบนี้มั้ง ไอ้สัด เล่าขาดตอนนะมึง” ไอ้บอลเตะเข้าแถวๆ สีข้างอย่างแรง แม่งโหดครับ ไอ้นี่เป็นนักบอลมหาวิทยาลัย เตะทีอีกฝ่ายแทบขย้อนตับออกมาได้


   ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หันไปมองเพื่อนที่เข้ามาร่วมวงกระทืบด้วยอีกสองคนที่พี่นพยืนคุมอยู่...สรุป การ์ดมาเพื่อคุมทางให้พวกผมกระทืบ กร๊ากกก ดีมากครับ  


   “มีอะไรจะเล่ามั้ย” ผมหันไปถามฝ้ายที่ยังยืนน้ำตาไหลอยู่ที่มุมหนึ่ง เห็นหน้าชัดๆ แบบนี้ผมก็พอนึกหน้าออกแล้วครับ กลุ่มสาวซ่าส์ที่เสนอตัวมานั่งกินเหล้ากับพวกผมที่พัทยาเมื่อตอนปีใหม่ หยอกล้ออะไรก็วนเข้าเรื่องใต้สะดือตลอด สุดท้ายก็จบไม่ไกลครับ จัดไปคู่ละห้อง “ถ้าไม่เล่าตอนนี้ ไอ้เหี้ยนี่อาจจะตายฟรีนะ”


   ขู่ไปแบบนั้นแหละครับ เอาปางตายพอ ไม่อยากมีคดีติดตัว


   “ฝ้าย..ฝ้ายแค่ถามพี่ไกด์ว่าพี่ทีมมีแฟนแล้วเหรอ ทำไมถึงไม่เคยติดต่อฝ้ายมาบ้าง..ฮึก..ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเราออกจะเข้ากันได้ดี...” เอ่อ..เข้ากันได้ดีเนี่ยอะไรเข้ากันได้ดีวะครับ นิสัยหรือ.....


   “น้องครับ จะด่าพี่ว่าเลวพี่ก็ห้ามน้องไม่ได้ แต่พี่ถามน้องคำนึง เรารู้จักกันแค่คืนเดียว น้องเอาอะไรมาตัดสินครับว่าเราเข้ากันได้ ทั้งๆ ที่น้องก็เสนอตัวให้พี่เอง พี่ไม่ได้ไปตามจีบอะไรเวิ่นเว้อเลยนะ” ผมกระตุกยิ้มเย็น เจ้าหล่อนคงหน้าชาไปเลยล่ะครับ


   “พี่ทีม!!” เธอตรงเข้ามาฟาดมือลงบนหน้าผมดังเพี๊ยะ! ผมจะโกรธก็คงไม่ได้ เพราะคำพูดและการแสดงออกที่เฉยชาของผมก็คงทำให้เธอเสียหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว


   “เอาพี่ไว้เป็นบทเรียน ผู้หญิงที่ผู้ชายได้มาง่ายๆ ไม่มีใครเห็นค่าหรอกครับน้อง พี่ก็ผู้ชายธรรมดาคนนึงที่ได้น้องมาง่ายๆ และไม่คิดจะเอาคนแบบนี้เป็นแม่ของลูกด้วย” ยิ้มเหี้ยมส่งให้ฝ้ายที่ยังยืนร้องไห้ด้วยสีหน้าโกรธแค้นเป็นการบอกลาแบบพระเอกร้ายๆ คนหนึ่งที่คิดว่าผมคงจะโดนจำแบบนี้ไปอีกนาน


    “พี่นพ ค่าเสียหายวันนี้ผมฝากให้พี่เพชรคิดมาแล้วจะแวะมาจ่ายคืนวันหลังนะครับ” พี่อ๋องพูดพลางยกมือขึ้นจับๆ แผลบนหน้าผากที่เลือดเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง บอลมันเอาเท้าไปเขี่ยแถวๆ ซี่โครงไอ้เหี้ยหน้าปลาไหลนั่นแทนคำลา แน่นอนว่ามันก็รีบถอยตัวหนี สงสัยกลัวตับไหลออกมาทางปากจริงๆ


   “ส่วนมึง...” ผมกระตุกยิ้มเย็นๆ ให้ไอ้ปลาไหลที่ชกแม่งจนเยินแล้วยังไม่รู้จักชื่อมันเลย มันสะดุ้งนิดหน่อยที่โดนผมพาดพิง


   “ถ้ามึงยังอยากต่อยกับกูอีก ไปหาชื่อที่อยู่กูได้เลย...กูชื่อทีม...เป็นแชมป์เทควันโดระดับประเทศสามสมัยซ้อน”
   



   หลังจากจัดการปัญหาได้เป็นที่เรียบร้อยก็เกือบตีสองครึ่ง แยกย้ายกันกลับบ้านกลับช่องครับ ไอ้บอลบอกว่าจะกลับไปที่โรงพยาบาลก่อน เพราะมันทิ้งรถไว้ที่นั่น ส่วนพี่อ๋องก็ไปโรงพยาบาลเหมือนกันครับ แผลเปิดนิดหน่อย แถมยังทิ้งหัวใจ เอ้ย สตังค์เอาไว้กับไอ้ไกด์ด้วย ป่านนี้โดนลวนลามจนซีดไปแล้วมั้ง ใจผมน่ะอยากกลับบ้านเลย แต่คิดอีกที ไปดูไอ้ไกด์มันอีกรอบดีกว่า เพราะท่าทางทุกคนจะกลับบ้านหมด มันคงต้องนอนคนเดียว แถมแม่งปอดแหกเรื่องนอนโรงพยาบาลคนเดียวอย่างกับอะไร


   พี่อ๋องโดนนางพยาบาลและน้องสตังค์สวดอีกยกใหญ่สำหรับการทำแผลรอบสอง ผมเองนับว่าโชคดีที่ยังไม่เสียโฉมครับ ปากเจ่อเพราะหมัดของไอ้หน้าปลาไหลนั่นนิดหน่อย คิ้วก็แอบแตกเพราะตอนที่เซล้มไปกระแทกโต๊ะจนมึนไปวูบนึงนั่นแหละครับ พยาบาลก็บ่นประมาณว่านี่แหละนะเด็กวัยรุ่น บลาๆ  ไอ้บอลมันไม่เป็นอะไรมากนอกจากแก้มบวมและอาจจะเขียวช้ำนิดหน่อย


   พอกลับมาถึงห้องพักของไอ้เดี้ยงไกด์ปุ๊บ มันก็ยิ้มแฉ่งให้ผมก่อน...ตีสามแล้วนะมึง ไม่รู้จักหลับจักนอน


   “ทีม มึงขับรถกูกลับมาป่าววะ” ห่าน...ถามอะไรกูตอนนี้


   “มึงทิ้งไว้ที่เฟิร์สไซด์เหรอ” ผมถามกลับ ไอ้ไกด์พยักหน้างึกงักจนผมนึกอยากจะหยิบแก้วน้ำตรงหัวเตียงเขวี้ยงใส่แม่ง ทำไมไม่บอกกูตั้งแต่แรกครับ!! กูจะได้เอากุญแจไปด้วยแล้วให้ไอ้บอลขับมา แสรดดดดดด


   “มึงไปเอาให้กูหน่อยดิพรุ่งนี้”


   “ไม่ให้คนที่บ้านมึงไปเอาให้วะ” ผมถาม เซ็งนิดหน่อยครับ อยากกลับบ้านไปกกเด็ก คริคริ


   “นี่มึงมีน้องฝุ่นจนเพ้อรึเปล่าวะ กูอยู่คอนโดคนเดียวโว้ย” เออว่ะ...ผมก็ลืม ไอ้ไกด์มันเป็นคนจังหวัดเพชรบุรีครับ พอมันเอนท์ติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ปุ๊บพ่อแม่ก็จัดการสรรหาคอนโดขนาดกลางให้อยู่ บ้านมันก็จัดว่ามีฐานะพอสมควร แต่บ้านนี้เลี้ยงลูกดีครับ น้องชายมันก็ไม่เหลวไหล ไม่กินเหล้าเคล้านารี มีมันนี่แหละ นอกคอก กร๊ากก


   “แล้วนี่มึงโทรบอกพ่อแม่มึงยังว่าเข้าโรงพยาบาล”


   “ถึงไม่อยากก็ต้องโทรแหละ เห็นแม่บอกว่าจะเข้ามาหากูพรุ่งนี้ กว่าจะถึงก็คงเที่ยงๆ ล่ะมั้ง”


   นี่แปลว่ากูอดกกเด็กโดยสมบูรณ์แบบเลยใช่มั้ย? .... ไอ้เหี้ยไกด์!!!! เพราะมึง!!!!


   “เป็นไร ทำหน้าเหมือนคนขี้ไม่ออก”


   “เปล่า” ผมตอบเซ็งๆ แล้วหันไปเปิดทีวี ดึกๆ แบบนี้จะมีรายการอะไรให้กูดูครับนี่...อ่อ ชีวิตสัตว์โลก ไม่ต้องเปิดก็ได้ นั่งดูไอ้ไกด์ก็คล้ายๆ กัน


   “เอ๊ะเอ๊ะ ไอ้เหี้ยบอลบอกว่า ตอนโทรไปมึงบอกว่ามึงไม่ว่าง ทำไรอยู่...แน่ะๆ กูรู้ล่ะ มาฟาดหัวฟาดหางใส่กู ทำอะไรกับน้องฝุ่นอยู่แน่เลยหื่นๆ อย่างมึงเนี่ย” แม่งยิ้มเยาะเย้ย...เดี๋ยวกูก็ทิ้งมึงไว้เจอผีคนเดียวซะนี่


   “อยากแดกตีนกูเหรอเชี่ย” ผมสรรเสริญเพื่อนเลวไปอีกคำนึง มันหัวเราะร่า คงสะใจที่ดักทางผมได้ เออ กูก็ไม่ได้คิดจะปิด แต่กะจะเปิดตอนได้ฝุ่นมาเป็นแฟนเรียบร้อยแล้วต่างหาก


    “มึงไม่ต้องมาปิดกูเลยทีม เล่ามา”  ขนาดมันเดี้ยงยังเขวี้ยงหมอนอีกใบบนเตียงใส่ผมดังปุ้ก ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้ตีสามและขามันกำลังเดี้ยง ผมจะลุกไปกระทืบซ้ำเลยจริงๆ


   “ก็ไม่มีไร มึงนี่จะเสือกอะไรกับชีวิตรักกูนักหนาวะ”


   “เอ๊า เพื่อนจะมีเมียกูก็ต้องอยากรู้เป็นเรื่องธรรมดา”


   “มึงอยากรู้อะไร กูก็เห็นชีวิตรักกูก็เหมือนนิยายทั่วๆ ไป” ผมเบี่ยงประเด็น


   “ก็เช่นว่า มึงทำกับน้องรึยัง แล้วฝุ่นว่าไงบ้าง ไรงี้ เล่าหน่อย ต่อมเสือกกูทำงานแล้ว” มันคะยั้นคะยอจนผมหมดความอดทน


   “เออๆๆ เล่าก็ได้วะ แม่งเซ้าซี้จริง” แน่นอนว่าไอ้เดี้ยงมันยิ้มร่าเลยครับ “ก็ไม่ได้อะไร กูอยากให้ค่อยเป็นค่อยไป เท่าที่กูเปรียบเทียบเอา กูว่าฝุ่นก็ค่อยๆ เปิดใจให้กูบ้างแล้วมั้ง”


   ผมก็คาดเดาไปเรื่อยเปื่อย จากวันแรกที่เจอกัน ฝุ่นมันก็เหมือนแมวข้างถนน ไม่ไว้ใจใคร มีโลกส่วนตัวสูงเสียจนผมนึกท้อในตอนแรก แต่ก็นับว่าโชคดีที่ผมเข้าถูกจุด ค่อยๆ เอาใจใส่มันในหลายๆ เรื่อง ดูแลมันแบบที่ไม่เคยดูแลใคร เหนื่อยหน่อยแต่ถ้าผลมันออกมาเป็นที่น่าพอใจผมก็โอเคกับมันแหละครับ


   “แล้วสรุปได้กันยัง”


   “เอ๊า ไอ้เหี้ยนี่ กูบอกว่าค่อยเป็นค่อยไป สเต็ปบายสเต็ปอะรู้จักมั้ย”


   “อ่อ สรุปว่าก็ยังไม่ได้น้องนี่เอง กูถึงว่า”


   “ว่าอะไร”


   “เปล่า..กูก็แค่คิดอยู่ ถ้ามึงได้ฝุ่นแล้ว โปรโมชั่นของมึงก็คงหมดในสามวันอะ” ไกด์มันพูดไปก็หันมาจ้องตาผมนิ่ง


   “ไม่หมด โปรนี้กูต่อเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ให้หมดง่ายๆ หรอก” ผมยืนยัน แต่ไอ้ไกด์แม่งก็ทำแค่หัวเราะออกมาแล้วบอกซ้ำ


   “อย่าหาว่ากูงั้นงี้เลย แต่คนก่อนๆ ของมึง มึงก็บอกกูแบบนี้ จะต่อโปรโมชั่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายกูเห็นคบกันนานที่สุดหลังจากที่ได้กันก็แค่เดือนเดียวเอง...มึงไปคิดดูดีๆ เถอะ กูว่าฝุ่นไม่ได้เข้มแข็งแบบที่เค้าแสดงออกมาหรอก คนแบบนี้ถ้ามึงทำร้ายความรู้สึกไปแล้ว ระวังจะเหมือนแก้วที่แตกจนไม่สามารถใส่น้ำได้อีกนะเว้ย”


   “ไกด์...มึงโดนชกจนสมองกลับเลยเหรอวะ...พูดโคตรสาระอะ”


   “เฮ้ย กูเพี่อนพระเอกนะ! ขอกูเท่ห์บ้าง!!” มันโวยวายเสียงดัง ผมเลยปาหมอนใส่หน้าดังปุ่ก ไอ้เหี้ยไกด์ด่ากระจาย แต่ผมก็ไม่สนใจ พลิกตัวหันหลังให้มันเป็นการบอกเป็นนัยๆ ไว้กูจะนอนแล้ว นั่นแหละ มันถึงได้ยอมเงียบปากลง




   
   แล้วรักของผม...จะหมดโปรโมชั่นเมื่อไหร่กันนะ..??









Let’s continued in chapter 7 :)




Eiizes’s talk


สวัสดีค่า

อยากมาอัพไวๆ แต่เพราะพี่ทีมคนเดียว เขียนยากอะ 5555

เอาเป็นว่าตอนหน้าเจอกันกับน้องฝุ่นเหมือนเดิมนะคะ แล้วอันนี้ แอบเอารูปประกอบของตอนพิเศษตอนที่แล้วมาลงให้ทุกท่านได้ดูกันค่ะ :-[

ขอบคุณรูปประกอบต้นฉบับจากพี่ปอย ส่วนการโมดิฟายใหม่ เราทำเอง 55 เนื่องด้วยอากาศและเวลา ไม่สามารถปีนเขาไปถ่ายรูปบนนัมซานทาวเวอร์ได้จริงๆ ค่ะ เอารูปแบบโฟโต้ช็อปไปก่อนละกันเนอะ แหะๆ

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/logfin.jpg)

คอมเม้นกันเถิดชาวบาปหวานทั้งหลายยยยยย หัวหน้าเผ่า เอ้ย คนเขียนอยากอ่านคอมเม้นบ้างงงงงง

ใครเม้นเค้าให้หัวใจเลย  :กอด1: :กอด1:

ที่จริงชื่อเรื่องน่าจะเป็นหวานบาปมากกว่าเนอะ รู้สึกมันจะหวานก่อนค่อยบาป 55555

ยังไงก็ตาม หวังว่าตอนที่ 6.2 นี้จะยาวสะใจคนอ่านนะคะ แหะๆ


ท่านใดที่เพิ่งมาอ่านใหม่ก็ยินดีต้อนรับสู่โลกบาปๆหวานๆ นะคะ ฮี่ๆๆๆๆ :pig2: :กอด1:
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ!
Eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-01-2011 01:47:29
..มีชะนีที่ไหน มีเรื่องที่นั้น หุหุ แทบทุกเรื่อง ปัญหาส่วนมากมักมาจากชะนี(แรด+ร่าน)

ว่าแต่ไอ้คุณพี่ทีมกล้าถามนะคะว่ารักนี้จะหมดโปรมะไหร่ มันก็ต้องดูที่ตัวทำ กับที่ทำตัว

แต่ไม่อยากให้มาม่านะจะบอกให้

ปล.วันนี้ได้ฟังเพลง บาปหวานด้วย ชื่อเหมือนเรื่องนี้เลย หวังว่าเนื้อหาคงไม่เหมือนในเพลงเนอะ จบแบบ งง งง ?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 15-01-2011 02:42:05
เอ อิพี่ทีมนี่ชักยังไงและ มีการคิดว่าจะหมดโปรเมื่อไหร่แบบนี้ ไว้ใจไม่ได้แล้วนะคะเนี่ย!  :angry2:
เดี๋ยวจะเปลี่ยนไปเชียร์พ่อเทพบุตรยูลซะเลยนี่ เชอะๆ   :a14:

ปล.เห็นรูปปั๊ป ตรงยูวิลเนเฟอร์วอล์คอะโลน  เรานึกถึงหงส์แดงปั๊ปเลยค่ะ เอิ้กกกกกกกๆ :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 15-01-2011 02:59:25
มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-01-2011 03:26:21
อืม ความรู้สึกคนเราไม่แน่นอน
อ่านตอนนี้แล้วเหมือนเห็นทีมอีกด้านนึง
ด้านที่เป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้เป็นพระเอก
มีความเลวในระดับปกติ เห็นแก่ตัว หาเรื่องคนอื่่น

ก็อยากรู้เหมือนกันว่า "รักครั้งนี้" จะไปได้ไกลแค่ไหน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-01-2011 07:49:44
เห็นอีกด้านของพี่ทีมแล้วก็ :freeze:
แต่ก็ขอให้เป็นฝุ่นที่จะมาหยุดพี่ทีมเอาไว้แล้วกัน :z1:
+1 ขอบคุณค่า กว่าจะได้เม้นท์นี่ก็ลำบาก แอบเล่นเน็ตชาวบ้านเพราะเน็ตตัวเองเน่าอยู่
แต่เน็ตชาวบ้านก็อืดเหลือเกิน  :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 15-01-2011 08:03:40
อีกด้านของทีมนี่   :m16:

หวั่นใจแทนน้องฝุ่น   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-01-2011 10:22:45
หวังว่าคงไม่ต้องซดมาม่ากันทั้งเรื่องหรอกนะ  เค้าลางไม่ค่อยดีแฮะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 15-01-2011 10:31:51
มึงหมดโปรน้องฝุ่นกลับเมืองนอกแน้

 :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-01-2011 11:03:53
วัยรุ่นเดี๋ยวนี้ ทะเลาะกันรุนแรงจัง
ดีนะ พี่ทีมเป็นแชมป์เทควันโดไ่ม่งั้นคงจะแย่ถ้ามีเรื่องชกต่อยกัน
ปล.พี่ทีมนี่ก็เละเทะใช้ได้เหมือนกันนะนี่ อย่าหมดโปรฯกับน้องฝุ่นเร็วเหมือนกับคนก่อนๆนะ
ทำใจไม่ได้ 5555555555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 15-01-2011 13:30:11
เราว่าถ้าทีมหมดโปรนะ โดนนักอ่านรุมตืบแน่ เทควันโด 3 สมัยก็เหอะ เจอรุมกี่ติงเนี่ยะ
เยอะอ่ะ จะรอดเร้ออออ ระวังให้ดีนะทีม ยังไงเราก็พวกฝุ่น 5555 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-01-2011 17:21:11
อิพี่ทีมมันจริงจังกับฝุ่นแค่ไหนเนี่ย

ถ้าหมดโปรโดนแน่ ชิชิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-01-2011 18:04:29
 :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-01-2011 22:19:12
อีพี่ทีม ให้ดีๆนะเฟ่ย แววเน่าเริ่มมาแระ มาม่าไม่เอา ขอร้องงงงงงงงงงงง   :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-01-2011 00:15:26
พี่ทีมในใจก็ไม่แนอน หากดลเลแบบนี้ พี่อย่าจีบฝุ่นเลยสงสารอะ เพราะน้องฝุ่นเหมือนที่ไกดืว่า
ไม่ได้เข็มแข็งอย่างที่แสดงออก และก็จะเป็นอย่างที่ไกด์ว่าอีก จะเป็นแก้วที่ร้าวจนใส่น้ำไม่ได้
เพราะฝุ่นจะเย็นชา เมื่อรักวกมาทำร้าย และนายจะถูกเกลียดทีม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 16-01-2011 01:28:02
คิดถึงฝุ่นอ่ะ
รออ่านตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 16-01-2011 06:27:42
คิดถึงฝุ่นจัง เลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 16-01-2011 10:01:13
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบน้องฝุ่นจังเหมือนแมวดื้อๆอย่างที่ทีมพูดเลย
แต่อ่านตอนล่าสุดแล้วแบบ
ไกด์พูดได้ใจวะ
ตอนนี้ทีมมั่นใจที่จะพูดว่าโปรไม่มีวันหมดได้
แต่ถ้าต่อไปเรื่อยๆมันจะเป็นอย่างนี้อยู่รึเปล่า
น้องจะเชื่อฝุ่นได้แค่ไหน ว่าทีมจะไม่ทำน้องเสียใจ :เฮ้อ:

ยังไงก็จะติดตามนะคะ รอตอนต่อไปอยู่น้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-01-2011 15:00:21
ไม่อยากให้หมดโปรโมชั่นเลยจริงๆนะ
ถ้าหมดนี่คงแบบ น้องฝุ่นคงม่กลับมาแล้วอ่ะ
น้องฝังใจเรื่องนึงมาก แล้วถ้ามาเจอเรื่องแบบนี้อีก
โฮๆๆ ไม่อยากจะคิดเลย
พี่ทีมอย่าใจร้ายนะเว้ย!!!  ไม่งั้นเราจะรับฝุ่นมาดูแลเอง
ชิส์ !!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 18-01-2011 17:32:38
มาต่อไวๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 6.2 [15/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-01-2011 20:00:23
มามะ มาต่อซะดีๆ เดี๋ยวจะคิดถึงนานกว่านี้ :o8:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 19-01-2011 23:03:20
7.1



   ตอนที่ผมลืมตาขึ้นมามองเพดานนั้นห่างไกลกับคำว่า “เช้า” ไปหลายขุมแล้วครับ ตะวันเลยกลางหัวไปกว่าครึ่ง สาเหตุมาจากเมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ ทั้งที่พยายามข่มตานอน ฟังเพลงก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว แต่ก็ยังไม่หลับสักที จนสุดท้ายพระเจ้ามาเห็นใจเอาตอนเกือบๆ เช้านี่เอง


   ผมเดินเซ็งๆ ลงมาจากชั้นสอง นอนไปหลายชั่วโมงก็จริงแต่มันก็ยังเพลียอยู่ เสียงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ทำให้ผมรู้ว่านอกจากผมแล้วคงมีใครคนอื่นอยู่ด้วยอีกอย่างแน่นอน จากประสบการณ์วันนี้เป็นวันธรรมดา คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไอ้เหี้ยทีม...มันกลับมาแล้วเหรอวะ?


   “ดูไร...อ่าว” ผมที่ส่งเสียงทักไปก่อนก็แทบยั้งปากไม่ทันเมื่อคนที่นั่งดูหนังอยู่ไม่ใช่คนที่ผมคิดเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก น้าอิ่มหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ เธอกวักมือเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ


   “ฝุ่น น้าอยากคุยด้วย” น้าอิ่มยังยิ้มหวานเหมือนภาพในความทรงจำ เมื่อปลายปีที่แล้วตอนที่น้าบินไปเยี่ยมผมที่อเมริกา เธอบอกผมกับแม่ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนึง ผมทั้งตกใจและดีใจ แต่สิ่งที่ช็อคผมที่สุดกลับไม่ใช่ข่าวดีนั้น น้าบอกแม่ว่าจะเอาผมกลับไปอยู่กับเธอเพราะว่าที่สามีอยากได้ลูกชายอีกคนมาเป็นเพื่อนกับลูกชายของเขา


   “แล้วลุงสินล่ะครับ” ผมถามเมื่อทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาใกล้ๆ กัน


   “ไปทำงานจ้ะ อ่อ..น้าบอกรึยัง วันมะรืนเราจะออกเดินทางกันแล้วนะ” น้าอิ่มพูดพลางยิ้มแก้มปริอย่างมีความสุข ผมพยักหน้ารับแต่ก็ไมได้พูดอะไร จนน้าถามขึ้นอีก


   “ฝุ่น..มีความสุขกับที่นี่มั้ย”


   ผมนิ่งไปนิดนึง คิดอยู่เหมือนกันว่าสักวันน้าต้องถามว่าผมมีความสุขดีรึเปล่ากับการโยกย้ายที่อยู่ ทั้งๆ ที่ตอนแรกผมก็อิดออด ไม่ค่อยอยากห่างกับยูลเท่าไหร่ แต่น้าอิ่มก็อ้างเอากับแม่ว่าอยากให้ผมกลับไปเรียนต่อที่ไทย และเธอจะดูแลผมให้เอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ากระเป๋าเดินทางของผมถูกจัดเรียบร้อยและวางรออยู่เงียบๆ หน้าห้องในเช้าวันถัดมา...


   “..เรื่อยๆ ครับ คนอื่นก็ดีกับผม”


   “ไม่สิ ไม่เอาคนอื่น เอาแค่ฝุ่น เรามีความสุขกับบ้านหลังนี้มั้ย น้าเองก็ต้องขอโทษจริงๆ ทั้งที่บอกกับแม่เราว่าจะดูแลเราแต่กลับกลายเป็นว่าน้าก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลย” น้าอิ่มพูดพลางย่นปากเหมือนเด็กๆ ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมา


   “ไม่หรอกครับ น้าอิ่มดูแลผมดีที่สุดแล้ว ผมก็มีความสุขดี” ผมตอบ ไม่ได้โกหก...มีความสุขดีกว่าเมื่อก่อน แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าสุขตอนนี้มันเรียกว่าความสุขที่แท้จริงได้หรือยัง


   “ถ้าฝุ่นอึดอัดใจอะไร น้าก็อยากให้พูดออกมา เพราะยังไงก็ตามบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของฝุ่นแล้ว ถ้ามีปัญหาก็อย่าทำเหมือนแบกโลกไว้คนเดียว เข้าใจไหม?”


   “ครับ” ผมยิ้มรับ น้าอิ่มเอื้อมตัวมากอดผมเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะยอมปล่อยออกแล้วถาม


   “แล้วนี่ตาทีมไปไหน น้ายังไม่เห็นพี่เขาเลยตั้งแต่เช้า” อ่าว นี่คือยังไม่ได้กลับมาบ้านเหรอวะเนี่ย


   “ออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ยังไม่กลับมาเหรอ” น้าอิ่มขมวดคิ้วนิดหน่อย


   “อ้าวเหรอ แปลกจัง งั้นฝุ่นโทรถามพี่เขาให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ? เดี๋ยวน้าไปเตรียมข้าวให้”


   ผมพยักหน้ารับแทนคำตอบ น้าอิ่มจึงลุกไปจากห้องนั่งเล่น ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก...ไม่ต้องเสียเวลาเลือกเบอร์ เพราะชื่อไอ้ทีมมันอยู่ตำแหน่งบนสุด ถัดมามีแค่เบอร์น้าอิ่มและเบอร์บ้านหลังนี้เท่านั้น


   ผมรอไม่นานกับการที่ทีมมันจะรู้สึกว่ามีคนโทรหาและกดรับ


   ((ครับ..?)) เสียงปลายสายดูงัวเงียติดจะหงุดหงิดค่อนข้างมาก สงสัยว่าผมจะโทรไปปลุกมันซะแล้ว


   “ตื่นรึยังมึง”


   ((หืม...)) ไอ้เหี้ยทีมเงียบไปนิดหน่อย เสียงขลุกขลักดังมาตามสายก่อนมันจะตอบผมมา  ((อ้าว ฝุ่นเหรอ))


   “มึงนึกว่าใครวะ ไหนบอกจะเมมเบอร์กูไง” ผมถามห้วนๆ มันหัวเราะแหะๆ แล้วพึมพำประมาณว่าเพิ่งตื่นเลยไม่รู้ว่าใครโทรมา “นี่มึงอยู่ที่ไหน น้าอิ่มฝากถาม”


   ((อยู่โรงพยาบาลน่ะ รอให้พ่อกับแม่ไอ้ไกด์มาก็จะกลับบ้านแล้ว)) มันตอบผมแบบนั้น ตอนนี้มีเสียงใครบางคนที่ผมจำได้ลางๆ ว่าเป็นเพื่อนสนิทไอ้เหี้ยทีมมันที่ชื่อไกด์ ดังลอดเข้ามาในสายด้วย แน่นอนว่าเจ้าของโทรศัพท์มันหันไปตะโกนด่าภาษาพ่อขุนยาวเหยียดก่อนจะกลับมาคุยกับผมต่อ ((เชี่ยไกด์แม่ง เดี้ยงแล้วยังซ่าส์อีก))


   “เพื่อนมึงเป็นอะไร” ผมถามเพราะสงสัย คราวก่อนที่เจอกันพี่แกดูalertขนาดนั้น ไม่น่าจะป่วยหรือเป็นอะไรได้ง่ายๆ


   ((กระดูกที่ขาร้าวน่ะ ตอนนี้ยังใส่เฝือกอยู่เลย แต่อีกไม่กี่วันคงออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว))


   “งั้นเหรอ...อืม ฝากบอกด้วยแล้วกันว่าหายไวๆ กูจะวางแล้ว”


   ((เอ้ย เดี๋ยวๆ...ไอ้เหี้ยไกด์ ฝุ่นบอกว่า ขอให้มึงหายไปจากโลกไวๆ ว่ะ))


   ดูแม่ง...เปลี่ยนสารกูอีก


   แต่ยังดีที่เพื่อนสนิทไอ้ทีมมันไม่เชื่อ ผมได้ยินพี่ไกด์ตะโกนกลับมาว่า..((มึงเอาโทรศัพท์มาให้กูดิ๊วะ กูจะได้สาธยายความดีของมึงที่ทำให้พวกกูโดนตีนเมื่อคืน แสรด))


   “มึงมีอะไรอีก กูจะวางแล้วเปลือง”


   ((อะไรว้า...โทรมาแค่นี้เองเหรอ ไม่ห่วงกูเลยรึไง กูก็โดนต่อยมานะ))


   “หน้าแหกก็ช่วยไม่ได้ มึงทำตัวเอง กูไม่ได้ขอร้องให้ไปเที่ยวต่อยกับใครนี่” ผมตอบไปแบบนั้นก็จริงแต่ในใจก็แอบอยากเห็นแผลมันเหมือนกันว่าที่แท้แค่สำออยหรือเจ็บจริงไม่ใช้แสตนด์อิน


   หลังจากผมพูดจบก็ได้ยินปลายสายมันบ่นงุ๊งงิ๊งอะไรไม่ได้ศัพท์ ผมเลยกดวางสายแม่งไปซะเลย หึหึ ตอนนี้มีพยาธิต้องดูแลครับ ผมอพยพกายหยาบไปที่ห้องครัว มีข้าวสวยร้อนๆ วางเคียงอยู่กับกับข้าวอีกสองสามอย่าง น้าอิ่มยิ้มให้ผมทันทีที่โผล่หัวเข้าไป


   “พี่เค้าว่ายังไงบ้าง”


   “มันบอกว่าเฝ้าเพื่อนอยู่ที่โรงพยาบาลครับ รอให้พ่อกับแม่เค้ามาก็จะกลับบ้านแล้ว”


   น้าอิ่มพยักหน้ารับเป็นเชิงรับรู้ ผมเลยเดินไปนั่งหน้าจานข้าวที่น้าเตรียมไว้ให้


   “น้าอิ่มทานข้าวแล้วเหรอครับ” ผมนึกขึ้นได้จึงถามขึ้นตอนที่เริ่มลงมือจ้วงเข้าไปในชามไข่ตุ๋น น้าอิ่มหัวเราะเบาๆ แล้วถามผมกลับ


   “ไม่ถามตอนที่ทานหมดแล้วล่ะจ๊ะ” แหงะ...ติดเชื้อไอ้ทีมมารึไงครับเนี่ย “น้าทานเรียบร้อยแล้วจ้ะ กับข้าวนี่ก็รอให้เราลงมาทานนี่แหละ”


   ผมครางเบาๆ ในคอเป็นเชิงรับคำ แล้วลงมือทานต่อ ไข่ตุ๋นร้อนๆ กับแกงจืดฟักใส่มะนาวดองนี่มันเรียกพลังได้จริงๆ ให้ตายเถอะโรบิ้น อร่อยมากครับ ไม่รู้ว่าน้าอิ่มหรือป้าแจ่มเป็นคนทำ แต่ถูกปากผมสุดๆ


   กำลังทานข้าวบำเรอพยาธิในท้องก็ต้องชะงักกึกกับประโยคบอกเล่าเรียบๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ชวนให้ผมพ่นข้าวใส่หน้าน้าอิ่มเป็นอย่างมาก...


   “ที่จริงที่น้าถามเรา ว่ามีความสุขรึเปล่า ไม่ใช่อะไรหรอกนะฝุ่น แต่น้าคิดว่าฝุ่นดูมีความสุขแล้วก็เป็นธรรมชาติมากเวลาที่อยู่กับทีม ถ้าทั้งสองคนเข้ากันได้ดี น้าก็ดีใจ”.......เออะ ขอไว้อาลัยให้เม็ดข้าวสองวิ


   ....ฝุ่นดูมีความสุขแล้วก็เป็นธรรมชาติมากเวลาที่อยู่กับทีม....


   น้าอิ่มจะบ้าเหรอ ผมก็มีความสุขไปตามอรรถภาพที่พอจะมีได้ก็เท่านั้นแหละ!!



   หลังจากกินข้าวแล้วเปิดตูดแน่บออกมานั่งเล่นอยู่ที่ข้างๆ บ่อปลาคาร์ฟเป็นการระลึกถึงการเสียชีวิตของเอ็มพีสามของผมเมื่อวันก่อน อยากนั่งสงบๆ คนเดียวก็ต้องกุมขมับอีกครั้งเมื่อมีเสียงหายใจหอบๆ ดังอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องมีตาที่สามสี่ห้าก็พอจะรู้ได้ว่าอีหมาเซ็กส์เสื่อมขนทองอร่ามมันมานั่งลิ้นห้อยน้ำลายยืดอยู่ข้างๆ ผมซะแล้ว


   “ไรมึง จะมาขอโทษกูเหรอ” ผมหันไปพูดใส่หน้ามัน ทำท่าขมวดคิ้วอีกหน่อยมันจะได้เกรงใจ ฮี่ๆ


   แต่การกระทำของผมก็หาได้มีผลใดๆ กับมันไม่ สิ่งที่เซ็กส์ซี่ทำตอบผมกลับมาก็คือการเอียงคอให้น้ำลายยืดเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะลุกเดินเข้ามาใกล้ๆ ดมผมฟุดฟิดๆ แล้วครางหงิงๆ


   “อะไรของมึง กูไม่เข้าใจภาษาหมาโว้ย”


   “มันบอกว่ามันหิวข้าว” เออะ...ใครตอบกรู....


   ผมหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากอีหมาเสื่อมที่ยังเข้ามาคลอเคลียๆ จนกระทั่งเจ้าของเสียงมันเดินมาข้างหลังแล้วชะโงกหน้าลงมามองผมที่นั่งอยู่บนสนามหญ้า ไอ้ทีมยิ้มกว้างส่งมาให้ก่อน


   แต่ขอโทษ!! ไหนว่ามึงไปเฝ้าเพื่อน จากสภาพหน้าตอนนี้แล้วโดนใครเค้ากระทืบมาวะครับ!!


   “ทำไมออกมานั่งตรงนี้”
   “หน้ามึงไปโดนอะไรมา”


   ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าประโยคสองบรรทัดบนมาจากคนละคนแต่ออกจากปากในเวลาเดียวกัน! ผมหน้าม้านไปนิดหน่อย แต่ไอ้ทีมหัวเราะในลำคอเบาๆ ผลักเซ็กส์ซี่ให้ถอยออกแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างผม


   “ถอยไปซิเซ็กส์ซี่” มันบอกหมา พลางผลักหน้ายาวๆ ของอีหมาเสื่อมให้ออกไปไกลๆ แม่ง ผลักมากๆ เดี๋ยวมันกัดนิ้วขาดทำไงวะ...


   “มึงยังไม่ตอบกูเลย ไหนว่าไปเฝ้าพี่ไกด์” ผมทวง


   “อ่อ...เฝ้าไอ้ไกด์อะใช่ แต่ก่อนที่จะต้องเฝ้ามัน กูก็ออกไปจัดการปัญหามานิดหน่อย” มันยิ้มเซ็งๆ พลางขยับตัวนั่งขัดสมาธิให้สบายตัวมากขึ้น ผิดกับผมที่เหยียดขาออกยาว แล้วเอนตัวไปข้างหลังเอามือเท้าไว้กับสนามหญ้า จั๊กกะจี้เล็กๆ แต่ก็สบายดีครับท่านี้


   “แล้วทำไมมาเร็ว ไหนมึงบอกจะรอให้พ่อแม่พี่ไกด์มาก่อนไง”


   “หลังจากมึงวางโทรศัพท์ไป เค้าก็โผล่เข้ามาสับไอ้ไกด์เละเลย ตอนนี้โดนบดส่งร้านค้าแล้วมั้ง” ว่าแล้วมันก็หัวเราะออกมา แม่ง นินทาเพื่อนอะ “แล้วนี่กินข้าวรึยัง”


   ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ไอ้ทีมมันชะโงกหน้าเข้ามาใกล้พลางพูดเสียงแหบ


   “ไหน กินอะไรมา...”


   ถาม แต่ไม่รอคำตอบ เพราะมันก้มลงมาชิมเองแล้วครับ


   “มึง..น้าอิ่มอยู่บ้าน”


   เอ๊ะ นี่มันเรื่องที่กูต้องกังวลเหรอ กูต้องห้ามมันสิ!! แต่นั่น...ก็กลายเป็นแค่ความคิดที่ถูกเมินเฉยไปครับ ทีมยังละเลียดริมฝีปากผมช้าๆ ไม่อยากถูกหาว่าอ่อนกับเรื่องพรรค์นี้เลยจูบตอบไปบ้าง แลกลมหายใจกันพักนึง ทีมมันถึงได้ยอมละออกมาให้ผมหายใจ แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ปลายลิ้นยังแลบเลียอยู่แถวๆ ริมฝีปากล่าง ก่อนจะประกบเข้ามาอีก เนิ่นนาน...เร่าร้อนทว่าไม่รุนแรง...


   “พอ..พอแล้ว...กูหายใจไม่ทัน” ผมค้าน แล้วผลักมันออก ทีมทำหน้าเสียดายแต่ก็ยอมผละออกไปแต่โดยดี มันกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา ผมไม่รู้ความหมายของมัน แต่เจ้าตัวกลับกระซิบบอกขำๆ


   “หน้าแดงเลย”



   ไมได้อายนะสาบานได้ แค่เขินที่จูบกันแล้วมีหมามองโว้ย!!!






To be con in 7.2….soon TT



eiizes’s talk

หวัดดีค่ะ มาสั้นๆ ก่อนนะ เดี๋ยวมาต่อให้อีก ที่จริงอยากลงให้ทั้งหมดเลย แต่ยังเก็บกระเป๋าไม่เสร็จเลยอะ พรุ่งนี้กลับไทยแล้ว 55555

ถ้าเป็นไปได้จะลงให้วันพรุ่งนี้นะคะ แต่ถ้าไม่ได้ก็นะ...แหะๆ ซอรี่


คอมเม้นกันเถิดดดดดดดด ชาวบาปหวานนนนน ท่านอ่านท่านเม้น ไรท์เตอร์อัพไวนะเออ เอิ้กกกก
รักคนอ่านนะคะ บ๊วบๆ


ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 19-01-2011 23:30:38
ขอแบบยาว ๆ เต็ม ๆ

 :-[  น่ารักอะชอบ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 19-01-2011 23:39:03
น่ารักจริงๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-01-2011 23:49:16
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยพี่ทีม แร๊งอ่ะ มีการมาชิบกับข้าวทางนี้ด้วย หุหุ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-01-2011 23:54:13
น่ารักอีกแล้วน้องทีม กะน้องฝุ่น เลดี้จะหัวใจวายตาย :pighaun:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-01-2011 00:00:46
หืมมม  ทำมาเป็นหวานปนหื่นไม่แคร์ใครนะ
ไม่ใช่ว่าได้เขาแล้วทิ้งนะ  เมิงโดนนนน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 20-01-2011 00:16:25
อ่อยยยย
น้องฝุ่นน่ารักกกกก
น่ารักตรงไม่ห้ามนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ
เริ่ม เป็นกันเองมากขึ้นแล้วนะ
^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 20-01-2011 00:21:17
ทีมชักจะได้ใจใหญ่ละนะเนี่ย  o18
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 20-01-2011 00:47:23
“ไหน กินอะไรมา...”   :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-01-2011 01:08:10
เซะซี่ ที่น้ำลายยืดนี่ เพราะแอบมองฝุ่นทีมจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันล่ะสิท่า    :impress2:
สงสัยเขาจุ๊บกันดูดดื่มน่าดู ขนาดน้องเซะซี่ยังมองซะน้ำลายไหลเลย :m20:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-01-2011 07:17:45
สงสัยอะ...ถ้าชิมกับข้าวแบบนี้ มันจะได้รสอื่นนอกจากความหวานอ๊ะป่าว เอิ้กๆๆ :z1:
แล้วเซ็กส์ซี่ไม่ท้วงอะไรเลยเนอะ คงนั่งมองตาแป๋วอะ ตอนนั้นอยากเป็นเซ็กส์ซี่ผู้ร่วมเหตุการณ์เลย 5555
เดินทางกลับบ้านเราอย่างปลอดภัยนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 20-01-2011 08:35:49
อ๊ากกกกกก เพิ่งเข้ามาเจอ สีรุ้งมีซัมธิ่งอื่นอีก
ปล่อยให้เค้างอนสีรุ้งว่าจะมาแย่งน้องครามเค้าตั้งนาน
เพ่ฟากได้ฟ้าเหลืองแน่แบบนี้...อ๊ากกกกกก ทะเลหวานของเรา วู๊ๆๆๆ (เซิ้ง)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 20-01-2011 12:24:15
เย้! ตามอ่านทันแล้ว 555 รู้สึกยิ่งนานวันฝุ่นยิ่งถูกเอาเปรียบ(เอ๊ะ! หรือว่าไม่)เยอะขึ้นนา แล้วอย่างนี้มันรอดมั้ยน้อ...
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-01-2011 13:47:34
ไม่ได้เข้ามาหาน้องฝุ่นซะหลายวัน
ชอบตอนพิเศษมากๆค่ะ เพราะที่ที่น้องฝุ่นกับพี่ทีมไปเที่ยว
คือที่ๆดิฉันไปเมื่อปีที่แล้วกับเพื่อนสาว อิ อิ ไปแอ๊บขี่ม้าหมุนด้วยแหละ
และที่ดีใจยิ่งกว่าคือ  รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของน้องฝุ่นกับพี่ทีมในตอนนี้(ตอนปกติ)
กำลังคืบหน้าไปในทางที่พึงประสงค์(ทั้งของพี่ทีม และคนอ่าน 555)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 20-01-2011 13:56:24
ชอบบบบบบบบบบบบบบบมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-01-2011 14:38:08
ขอเข้ามาตามอ่านด้วยคนคะ

อ่านไปมันก็ดูหวานดีนะคะ แต่มีความรู้สึกเหมือนมันจะหวานซ่อนขมยังไงไม่รู้

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 20-01-2011 15:09:15
ขอให้เงียบสงบอย่างนี้ต่อไปเหอะ เราชอบหวานแบบเงียบๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 20-01-2011 17:23:14
เดินทางปลอดภัยนะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 20-01-2011 18:03:17
เรื่องน่ารักมากเลยอ่า :o8:

เข้ามาขอติดตามนะคะโฮกกกกกกกกก :haun4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 20-01-2011 21:29:56
เพิ่งตามอ่านทัน
หนุกมากๆค่ะ
รอติดตามๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: breath ที่ 21-01-2011 00:38:48
น่ารักมากกกกกกกกก
เค้าจะรออ่านนะ > <
มาอัพไวๆเน้ออ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 21-01-2011 08:32:23
มารอๆ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 23-01-2011 00:28:09
บาป...หวาน 7.2


   ตอนขับรถเข้ามา กูเห็นวัดตรงหน้าปากซอยมีงานประจำปี ไปเที่ยวกัน..

   ไม่ใช่ประโยคบอกเล่าหรือคำชวนใดๆ แต่มันคือข้อบังคับแบบยิ้มๆ ของไอ้คุณชายห่านป่าที่มันเดินถือสายไหมสีฟ้าอ่อน ทำหน้าระรื่นไม่รู้สึกรู้สาอยู่ข้างๆ ผมตั้งแต่เมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว ไม่ได้อยากจะว่าอะไร แต่ผู้ชายอายุยี่สิบสองกับขนมสายไหมสีหวานและแผลบอบช้ำบนหน้านี่มันไม่ได้ไปด้วยกันเลยเถอะ!!

   แล้วผมจำได้ว่าตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้เนี่ย ยังไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ตกดินจากในตัวบ้านเลยครับ กลับบ้านทีไรก็มืดแล้วทุกที แม่ง

   “อ๊ะ ฝุ่น มึง...เล่นปาลูกโป่งกัน”

   ทีมมันบอกพลางเอามือที่ถือสายไหมชี้ไปที่มุมหนึ่ง จัดเป็นซุ้มค่อนข้างกว้าง มีแผงติดลูกโป่งเอาไว้หลายล็อคเลยครับ ใกล้ๆ กันเป็นของรางวัลพวกตุ๊กตามากมายหลายขนาด

   ไอ้ห่านป่ามันยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ ไม่ได้เหมาะกับแผลชกต่อยบนหน้าแม้แต่น้อย แต่ขอโทษ ใครก็ได้ช่วยยืนยันทีว่าไอ้คนพูดเมื่อกี้มันอายุมากกว่าผมเกือบสี่ปี แม่งเล่นอย่างกับเด็กสี่ขวบ

   “มาเร็วมึง” มันย้ำแล้วหันมาลากข้อมือผมให้เดินตาม โอ้ก...กรูไม่ไปได้มั้ย!!

   “ทีม..มึงดูคนรอบข้างมึงก่อนสิวะ มีแต่เด็กๆ เล่น มึงจะไปแย่งน้องมันทำไม” ผมถาม ทั้งเซ็งกับความปัญญาอ่อนของมัน ทั้งยังอายที่มีแต่ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเล่น เอ๊ะ แต่ที่จริงต้องบอกว่า พาลูกหลานมายืนเป็นกองเชียร์แล้วตัวเองปามากกว่านะ คริคริ

   “มึงอย่าทำตัวแก่นักเลย เนี่ย เอาไป” มันบอกพลางยื่นตะกร้าใส่ลูกดอกปาเป้ามาให้ผม แล้วจับอีกตะกร้ามาวางตรงหน้าตัวเอง “ทั้งหมดเท่าไหร่ครับพี่”

   “สี่สิบบาทครับ” พี่คนคุมซุ้มหันมาตอบ “ถ้าน้องปาเข้าเจ็ดดอกจากแปดดอก จะได้ตุ๊กตาตัวใหญ่”

   พี่เขาชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่มากครับ ถ้าเอาไปวางพิงกับผนังก็สามารถเข้าไปนั่งซบได้สบายๆ เลย

   “5-6 ดอก ได้ตุ๊กตาขนาดกลาง 3-4ดอกได้ตุ๊กตาตัวเล็ก 1-2ดอก ก็ได้ขนมครับ” รางวัลที่เหลือไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ครับ ตุ๊กตาขนาดกลางก็พวกมาชิมาโร่สูงประมาณสามสิบเซนติเมตรทั่วๆ ไป ยิ่งขนาดเล็กนี่ไม่ต้องพูดถึง สูงกว่าไอพ็อดทัชนิดเดียวเอง

   “ถ้าผมเอาสองตะกร้ามารวมกัน แล้วปาได้เจ็ดดอก จะได้ตุ๊กตาตัวใหญ่มั้ยพี่” ไอ้ห่านป่าแม่งถามหน้าซื่อ แต่คนฟังแอบอึ้งไปหลายตลบแล้วครับ...คิดแบบนี้ คนขายก็ขาดทุนยันลูกหลานเลยสิวะ!! มุขนี้สาบานได้ว่าผ่านรอยหยักที่สามบนสมองของมึงแล้วนะ แสรด

   “น้องไปซื้อที่ร้านเอาง่ายกว่าป่ะ”

   “ผมล้อเล่นน่า ฮ่าๆ” แม่ง มุขตลกของมึงน่ะ มองหน้าคนขายด้วย จะกินหัวกูอยู่แล้ว

   เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการฆาตกรรมโฉดขึ้นกลางงานวัด พี่คนคุมซุ้มเลยเดินหน้าเซ็งๆ ไปรับเงินจากลูกค้าคนอื่นต่อ ทิ้งไอ้ทีมที่ยังยืนยิ้มกวนตีนไว้กับผม ไม่รู้แม่งจะอารมณ์ดีอะไรนักหนา เมนส์มาปกติเกินไปรึไงวะ

   “มึงอยากได้ตุ๊กตาตัวใหญ่รึเปล่าวะ” มันถามพลางชี้ไปที่หมีขาวตัวใหญ่ที่ผมแอบเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อกี้ มันน่ารักมากครับ ผมเป็นคนชอบซุกตัวอยู่กับหมอนหรือที่นอนนุ่มๆ ตอนยังอยู่ที่บ้านเก่า เวลาออกไปข้างนอกแล้วเห็นตุ๊กตาหมีหรือหมอนใบใหญ่ๆ ท่าทางน่าซุกก็มักจะมองตามแบบนี้จนบางครั้งยูลทนไม่ได้ ซื้อให้หลายตัวเลยครับ รกเต็มบ้านไปหมด

   “.....”

   “ว่าไง อยากได้รึเปล่า” อยากได้!!...เอ้ย ไม่ๆ ไม่อยากได้ๆ

   “ไม่เอาอะ ตัวใหญ่เกินไป ห้องกูไม่มีที่ตั้ง” พูดไปแบบนั้นแต่ในใจ ผมอยากจะเดินเข้าไปจับแล้วล่ะครับว่าขนมันนุ่มมือเท่าที่ตามองรึเปล่า

   “เหรอออออ” มันแกล้งลากเสียงยาวแบบน่ากระทืบ แต่พอเห็นสีหน้าผม ไอ้ห่านป่าก็เลยหัวเราะเบาๆ แล้วละสายตาออกจากผม หันไปจับลูกดอกเตรียมปาลูกโป่งแทน “มึงไม่อยากได้ แต่กูจะเอา”

   มันบอกผมแค่นั้น แล้วพยายามปาลูกดอกให้เข้าเป้า ผมเองก็ได้แต่มองลูกดอกทั้งแปดดอกในตะกร้าแล้วทำหน้าเซ็งๆ...ชักอยากรวมกันสองตะกร้าแล้วให้มันปาให้ได้เจ็ดดอกจริงๆ ให้ตาย...

   ผมพยายามปาให้เข้าที่ลูกโป่งแต่แม่งไม่รู้เป็นอะไร พุ่งตรงไปปักแต่พื้น ไม่ก็โต๊ะที่วางรางวัลจนสุดท้าย หลังจากเสียเงินยี่สิบบาทเพื่อแลกขนมกรอบๆ ไปสามรอบผมก็หมดหวังและเลิกเล่น มีแต่ไอ้ห่านป่าที่ยังพยายามเล็งและปาอยู่ครับ

   แต่จะพูดไปแม่งก็เก่งนะ ปาเข้าทีห้าหกดอกตลอด...แต่พระเจ้า ผมอยากได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ครับ ไม่ใช่มาชิมาโร่ขนาดสามสิบเซนต์!!

   “เฮ้ยๆ กูเหลือลูกดอกอีกดอกนึง ถ้าเข้าอันนี้จะได้หมีขาวให้มึงแหละ” ไอ้ทีมมันพูดเสียงใส หันมาเย้วๆ กับผมอย่างดีใจ...แม่ง สาบานได้ว่าที่ใจเต้นระทึกอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะผมกำลังตื่นเต้น!!

   “ใจเย็นๆ นะมึง ค่อยๆ ปา เล็งดีๆ” ที่บอกนี่เพราะอยากรักษาสิทธิของมันหรอก ไม่ได้อยากได้ตุ๊กตานะ จริงๆ!!!

   ทีมมันเล็งอยู่แป๊ปนึง แล้วปาออกไปสุดแรง!!   

   ปึ่ก!!

   GOSHHHHHH!!! ลูกโป่งบ้านมึงสีน้ำตาลเก่าๆ แบนๆ แข็งๆ แบบนั้นเหรอแสรด กูให้ปาลูกโป่ง ไม่ใช่ปาไม้ที่กั้นลูกโป่ง!!!!

   “โหยยยยยยยยยยยยยยยยย อะไรว้า” มันร้องเสียงดังอย่างเสียดายสุดขีด...ไม่ใช่แค่มึงนะโว้ยที่เสียดาย กูก็เสียดาย แสรดดดดดด

   “ปาห่าอะไรของมึงตรงนั้นวะ ปาขอบไม้ก็ไม่ได้ได้รางวัลพิเศษนะเหี้ย ไม่แม่นเลยมึง!” ด่ามันไปงั้น ว่าไม่แม่น แต่รอบตัวมันตอนนี้มีแต่ตุ๊กตาสารพัดรูปแบบ ผมสิ....มีถุงขนมกรอบๆ อยู่สามถุง กินกันให้ผมร่วงกันไปข้างเลยไป

   เสียเงินไปหกสิบบาท ได้ขนมมาสามถุง แต่ไอ้ทีม เสียเงินไปร้อยยี่สิบ ได้ตุ๊กตาขนาดกลางมาห้าตัว...

   แม่ง สองมาตรฐาน!!!


   เดินบ่นงุ๊งงิ๊งๆ ด้วยความเสียดายกันอยู่พักนึง ไอ้ทีมมันก็หาน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นมายัดปากผม แล้วพาเดินเข้าไปทางเขตวัด ที่ตอนนี้ยังมีดอกไม้ธูปเทียนวางขายอยู่เลยครับ

   มันบอกว่า ไหนๆ ก็ไปงานวัดแล้วจะไม่เข้าวัดเลย เดี๋ยวคนอื่นจะไม่เชื่อว่ามาวัดจริง ไอ้ทีมมันเลยทนแสบทนร้อนพาเข้าไปไหว้พระด้วย ตัวผมเองแต่เดิมก็ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ วัดพุทธก็ไม่เคยเข้า สวดก็ไม่เคยสวด พิธีรีตองอะไรต่างๆ ที่ต้องทำก็ไม่รู้จักเลยแม้แต่อย่างเดียว ไอ้แต่ยืนรอเฉยๆ ให้ไอ้ห่านป่ามันเดินไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนมาส่งให้

   “กูไม่ใช่คนพุทธนะมึง เข้าได้เหรอ” ผมถามขณะที่ไอ้ทีมมันกวักมือเรียกให้เดินตามเข้าไปด้านใน

   “ได้ดิ ไม่ว่ามึงจะนับถือศาสนาอะไร ถ้าทำแล้วมึงไม่ลำบากใจก็ทำได้หมดนั่นแหละ” มันยิ้มให้

   “แล้วมึงรู้ได้ไงว่าทำได้”

   “เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีไงมึง มึงลองดูดิ กูยังไม่เคยเห็นศาสนาไหนสอนให้เบียดเบียนหรือไปจี้ปล้นใครเลย” เออ มันพูดมีสาระแฮะ เหมาะกับสติปัญญาของคนอายุยี่สิบกว่าๆ ดี

   “ถ้ามึงสวดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พระท่านเข้าใจ ขอพรไปเถอะ” มันบอกผมแบบนั้นแล้วเดินเข้าไปคุกเข่าเพื่อเตรียมไหว้ขอพรจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่ามเลยครับ ผมเดินเข้าไปนั่งตาม เห็นมันหลับตาแล้วดูขลังเมพ เลยทำบ้าง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอะไร ผมเลยได้แต่ขอพรไปแบบงงๆ และหวังว่าองค์พระท่านจะเข้าใจและสงสารผมนะ แหะๆ

   หลังจากออกมาจากตัวโบสถ์ที่เราเข้าไปไหว้พระกัน คนด้านนอกก็ค่อนข้างเยอะแหละครับ แต่ไอ้ทีมมันพาผมเดินอ้อมออกอีกทางนึงที่คนน้อยกว่า แม่ง เดินโคตรชำนาญทาง

   “พ่อหนุ่มสองคนนั้นน่ะ ไหนๆ ก็ไหว้พระออกมาแล้ว ดูดวงหน่อยไหม?” คุณยายคนนึงทักขึ้นมา แกนั่งอยู่ที่พื้นแถวๆ บันไดวัดใกล้ๆ กัน ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเกินแปดสิบแล้วมั้งครับ ดวงตาที่มองมาทางพวกผมก็เริ่มเป็นต้อขาวๆ

   “ยายจะดูดวงให้พวกผมสองคนเหรอ” ไอ้เหี้ยทีมเดินตรงเข้าไปนั่งยองๆ ทักยายแกก่อนครับ ผมเลยเดินเข้าไปนั่งข้างๆ

   “พ่อหนุ่มน่ะ เจอเนื้อคู่แล้วนะ” มือที่ค่อนข้างผอมและเหี่ยวย่นของคุณยายคนนั้นเอื้อมมาจับไหล่ผมตอนที่พูด แต่ท่านไม่ได้ยิ้มกลับกันแลดูมีสีหน้ากังวลนิดๆ

   “จริงเหรอครับ เนื้อคู่ลักษณะท่าทางเป็นยังไง คุณยายบอกได้มั้ย” ไอ้เหี้ยทีม...ดูมึงจะตื่นเต้นกระดี๊กระด๊ากับดวงกูมากกว่าตัวกูอีกนะครับ

   “เจอแล้วก็จริง แต่จะไม่ราบรื่น จะได้อยู่ด้วยกันหรือต้องห่างกันไปก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเอง” ใจความสำคัญมันอยู่ที่ประโยคนี้นี่เอง

   “แล้วผมจะรักคนๆ นั้นมากมั้ยครับ?” ถามเพราะสงสัย ผมยังมองไม่เห็นหนทางเลยว่าการรักใครคนนึงมากพอที่จะตัดสินใจอยู่ด้วยกันตลอดไปได้นั้นต้องทำอะไรบ้าง ต้องรักกันมากแค่ไหน วางตัวในระดับใด...

   “ส่วนคุณ...กรรมเก่าที่สร้างเอาไว้ในชาติที่แล้วและชาตินี้ กำลังจะตามทันคุณแล้วนะ” คุณยายแกไม่ตอบแต่กลับหันไปบอกพลางส่ายหน้าใส่ไอ้ทีมแทน

   “คืออะไรครับ” จากท่าทีกุลีกุจอเมื่อกี้มันดูงงแล้วก็กังวลนิดๆ ขึ้นมาทันที

   “กำลังรักและพยายามทำดีเพื่อคนๆ นึงอยู่ อาจจะได้หรือไม่ได้รับความรักตอบก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณเอง แต่ถ้าเขารับรักคุณ คุณจะมีเคราะห์ไม่ได้อยู่กับคนรัก สองปีให้หลังถึงจะกลับมาอยู่ด้วยกัน”

   “โห...สองปีเลยเหรอ ผมก็เหี่ยวตายก่อนสิครับ” ดูแม่ง...ยังจะเล่น

   “ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่ความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราวหรอกนะพ่อหนุ่ม แม้ว่าเราจะเป็นทุกข์แต่หากคุณรู้จักเรียนรู้และยอมรับมันให้ได้ คุณก็จะรู้จักความสุขที่แท้จริงด้วยตัวคุณเอง”

   คำพูดของคุณยายคนนั้นสะท้อนอยู่ในหัวของผมซ้ำไปซ้ำมาราวกับเปิดเทปซ้ำ...คล้ายกับว่าแกกำลังอ่านความคิดลึกๆ ของผมอยู่ คุณยายคนยิ้มให้ผม รอยย่นบนใบหน้าแกมากขึ้นกว่าเดิม แต่ผมกลับรู้สึกว่าแกกำลังยิ้มให้กำลังใจและเติมความอบอุ่นให้กับผมอย่างไรชอบกล

   “แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้ามีรักแล้วก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยคุย รักษาน้ำใจกันให้มาก รักกันนานๆ” คุณยายแกยิ้มกว้างขึ้นพลางมองหน้าผมกับไอ้ทีมสลับกันไปมาผ่านดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางของแก

   ผมหันไปมองหน้าไอ้ห่านป่าทีนึง ก็พบว่ามันเองก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน...ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแต้มด้วยรอยยิ้มเขินๆ ก่อนที่มันจะหันกลับไปหาคุณยายคนนั้นอีกครั้ง

   “ผมต้องให้ค่าครูด้วยรึเปล่าครับ” ไอ้ทีมมันถามขึ้น ผมเคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่าถ้าดูดวงจะต้องมีเงินค่าครูด้วย

   “ยายขอคนละเจ็ดบาทเป็นค่าครู” ผมกับไอ้ห่านป่าก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทันทีครับ หยิบเงินออกมากำลังจะส่งให้ แต่คุณยายแกก็ยิ้มออกมา ส่ายหน้าเบาๆ “เอาไปใส่ที่ตู้บริจาคสร้างหลังคาให้โบสถ์ เขียนชื่อทั้งสองคนไว้ด้วยกันแผ่นหนึ่ง อีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อยายก็พอ”

   ทีมมันพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะบอกลาแล้วลากผมที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของศาสนาพุทธเท่าไหร่ให้เดินไปยืนอยู่หน้าโต๊ะๆ หนึ่งที่วางกระเบื้องสีแดงอิฐเอาไว้เป็นจำนวนมาก มันเอาเงินหยอดลงในตู้แล้วหยิบกระเบื้องมาหนึ่งแผ่น ผมเลยทำบ้าง

   “เขียนชื่อกูกับมึงลงไปด้วยกันนะ เดี๋ยวกูเขียนชื่อยายเอง” มันอธิบายให้ผมฟังพลางชี้ลงไปที่กระเบื้อง แล้วส่งปากกาให้เขียน



   “ดีใจว่ะ ได้มาทำบุญกับมึงด้วย” ทีมมันหันมาบอกผมอย่างอารมณ์ดี

   “แล้วกับเพื่อนหรือแฟนคนอื่นๆ ของมึง ไม่เคยพามารึไง” ผมหันไปถาม ไอ้ห่านป่ามันยิ้มออกมา

   “กับเพื่อนเนี่ย มีบ้าง นานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่ก็ช่วงก่อนสอบ แต่ไม่เคยมากับแฟนเก่าเลย กูไม่อยากทำบุญร่วมกัน กลัวได้เจอกันอีก” มันพูดแล้วก็หัวเราะ ถ้าแฟนเก่ามึงมาได้ยินเค้าคงร้องไห้แล้วเหยียบหน้ามึงเลยล่ะกูว่านะ... “แล้วเมื่อกี้มึงขอพรว่าอะไร”

   “กูไม่บอก” ผมตอบทันควัน ตอนนี้ผมสองคนกำลังรอเข้าแถวเพื่อจะขึ้นชิงช้าสวรรค์ครับ แม่งปัญญาอ่อน แต่ผมขี้เกียจจะไปเถียงอะไรบ้าบอกับไอ้เหี้ยนี่แล้ว แม่งไม่ยอมท่าเดียว ยังไงก็จะขึ้นให้ได้ ผมเลยจะให้มันขึ้นคนเดียว แม่งตอบ..’กูกลัวความสูง’

   มึงกลัวความสูงแล้วจะเล่นชิงช้าสวรรค์หาอะไรวะครับ!!!

   “แต่กูอยากรู้ บอกมาเร็วๆ” มันเริ่มโวยวายอีกล่ะ

   “เอ๊ะมึงนี่ ไม่เคยได้ยินรึไง ถ้าพูดสิ่งที่เราขอออกไปมันจะไม่เป็นจริง”

   “ไร้สาระน่ะ พูดมา กูอยากรู้” แม่งงี่เง่าได้โล่เหอะ ทีมมันโยเยอยู่พักนึงก็ต้องลากให้ผมเข้าไปนั่งขดตัวอยู่ในชิงช้าสวรรค์กับมันครับ แม่งกรงเล็กมาก แต่ก็ยังอุตส่าห์กว้างพอจะให้ชายไทยร่างบึ้กหน้าตาดีหนึ่ง(แน่นอนว่าคือผม) หน้าห่านอีกหนึ่งเข้าไปนั่งเบียดเข่าชนกันอยู่ด้านในได้

   “น้อง เล็กไปป่าวครับ แยกกันนั่งได้นะ”

   “ไม่ดีกว่าครับ ผมทนได้” ผมยังไม่ทันจะคิดคำตอบอะไร ไอ้ทีมแม่งชิงตอบก่อนเลย

   มึงทนได้ แต่กูไม่อยากทนโว้ย!!

   พี่แกเลยปิดประตูกรงกระเช้าให้เข้าที่เพื่อกันไม่ให้ผมถีบไอ้ห่านป่านี่ตกชิงช้าสวรรค์ให้เรียบร้อย ตัวกระเช้าก็ค่อยๆ ขยับขึ้นไป

   “เอ้า มึง พูดมาซักที ทำเป็นเนียนลืมนะ”

   “ห่าน เซ้าซี้จริง งั้นมึงก็พูดมาก่อนสิวะ ว่ามึงขอไปว่าอะไร แม่ง” ผมเซ็งกับความงี่เง่าของมันเต็มที

   “อ่าวเหี้ย ไม่เกี่ยวดิ กูถามมึงก่อนอะ”

   “แสด...งั้นกูไม่บอก มึงจะทำไม”

   “เออๆๆ กูบอกก็ได้” แม่งทำเสียงดัง พอดีกับที่ตัวกระเช้าชิงช้าเริ่มขยับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ


   “กูขอให้มึงรักกูบ้าง...”


   แว๊กกกกก เสื่อมมากกกกกกกกกกกกก

   “ขอเหี้ยอะไร เปลืองว่ะ”

   “นี่กูสารภาพรักอยู่นะ”

   “สารภาพรักอะไรของมึง ไม่เห็นจะได้ความ” ผมโวยวาย ที่จริงหน้าก็หนานะครับ แต่ก็ขอยอมรับแบบอายโคตรๆ เลยว่า..ผมเขินมาก

   “กูบอกว่ากูชอบมึง แล้วกูก็อยากให้มึงรักกูตอบด้วย”

   เออะ...สารภาพรักบ้านมึงเค้าพูดกันแบบนี้เหรอ ไม่หวานเลยเชี่ย แล้วจะบังคับอะไรกูนักหนา

   “มึงจะมาชอบอะไรกู รู้จักกูไม่ถึงเดือนนึงเลยด้วยซ้ำ” ผมหันไปสบตามัน ดวงตายาวรีที่ผมเคยอิจฉาในความสวยของมันจ้องมองกลับมาเสียจนผู้ชายแมนๆ อย่างผมยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าวโดยไม่ตั้งใจ




   “ใครบอก...มึงต่างหากที่รู้จักกูยังไม่ถึงเดือน แต่กูน่ะ รู้จักและรอมึงตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วนะฝุ่น”








To Be con in บาป...หวาน ตอน 8


eiizes’s talk

ยะโฮ้ววววววววววววว สวัสดีประเทศไทย และคนไทยหน้าตาดีทั้งหลาย :laugh:

ยินดีต้อนรับนักอ่านท่านใหม่ๆ ที่หลงเข้ามาสู่วังวนบาปหวานๆ ของเรา ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นชาวบาปหวานทั้งคนเก่าและคนใหม่ทุกท่านค่า  :pig2:


ตอนนี้อยู่ไทยแล้ว ดีใจมากกกกกกกก อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิดไว้

แต่ถึงร้อน ก็ไหวเพราะประเทศไทยไงๆ ก็บ้านเราเนอะ ฮี่ๆๆๆ



ยังไงก็ฝากทุกๆ คนเรื่องเดิมนะคะ อ่านแล้วก็เม้นกันนิดนึงเนอะ สั้นยาวเราไม่ว่ากัน ฮี่ๆๆๆ

ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นทุกๆ ความรู้สึกที่เข้ามาแชร์กันนะคะ มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านเลย ดีใจจัง  :L1: :L1: :pig4:



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.1 [19/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 23-01-2011 00:29:50
หวานกันเข้าไป  :o8:
รีบหวานซะตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่กลิ่นมาม่าจะโชยมาาาา  :o12:

เหมือนคนแต่งจะเริ่มฉีกซองแล้วใช่มะคะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-01-2011 00:36:37
ฮิ้วววววววววววววววววววว :really2: :really2: :really2: :really2:


ว่าแต่ขอไม่มาม่ามากนะ กลัวเครียด อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-01-2011 00:44:21
เรื่องนี้จะมีมาม่ามาเนืองงง ๆ ๆ ๆ หมอดูบอกไว้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 23-01-2011 00:58:45
หวานซะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 23-01-2011 01:07:56
น้องฝุ่นรับรักไปเลย

ใจง่ายเข้าไว้ :impress2:

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 23-01-2011 01:21:36
ว้าว ๆ ๆ  บอกรักบนชิงช้าสวรรค์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-01-2011 01:24:26
แว๊กกกก อยากรู้ต่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-01-2011 01:25:05
อยากได้ตุ๊กตาตัวใหญ่อะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 23-01-2011 02:57:22
น่ารักดีค่ะ ก็คิดอยู่ว่าทีมน่าจะรู้จกฝุ่นมาก่อนไม่งั้นคงไม่รักง่ายขนาดนี้

รออ่านต่อว่าทีมรู้จักฝุ่นและหลงระแมวดื้อได้ไง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 23-01-2011 08:30:40
กัวเปงเหมือนคุณยายทักอ่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 23-01-2011 09:03:45
 :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-01-2011 09:05:35
ทำบุญร่วมกันในชาตินี้ สงสัยชาติหน้าก็จะได้เจอกันอีกแหงๆ
แล้วก็จะเป็นเนื้อคู่กันอย่างนี้ด้วยใช่ม๊า :z1:
เรื่องอนาคตจะเป็นแบบที่คุณยายว่าหรือเปล่าก็ช่างมันเถอะ มันยังมาไม่ถึง แต่คืนนี้น้องฝุ่นจะรับรักพี่ทีมเค้าอ๊ะป่าวน้อ :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-01-2011 09:13:13
รอมึงตั้งปีแล้วนะ
...รับรักไปเหอะ ไม่แน่คำทำนายอาจเป็นจริง 2ปีเชียวนะ นานค่อดดด ทรมานค่อดดด แค่คิดก็...เฮ้อ ปล้ำวันนี้เลยดีก่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-01-2011 09:34:06
รักคือการเข้าใจซึ่งกันและกัน :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 23-01-2011 11:15:24
ทิม คุณ เยี่ยม มาก ค่ะ
สุดยอดดดดด ชอบมากกกก  :กอด1:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 23-01-2011 11:25:58
 :m15:ซึ้งจัง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: บีบีจัง ที่ 23-01-2011 12:06:23
เอ่อ ไม่ขออะไรมากค่ะ
แค่อยากขอให้อัพสม่ำเสมอถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงนะคะ Pleaseeeee
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 23-01-2011 13:46:50
มาต่ออีกไวๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 23-01-2011 16:30:10
ทิม คุณ เยี่ยม มาก ค่ะ
สุดยอดดดดด ชอบมากกกก  :กอด1:



พี่ทีมฝากบอกว่า "เคืองมาก เรียกชื่อทีมผิด ชื่อทีม ไม่ใช่ทิม!!!  :m16:"



คริคริคริ แซวขำๆ นะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 23-01-2011 17:34:06

น่ารักจังทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 23-01-2011 20:37:45
กลิ่นมาม่า่หึ่งเลย อย่าบีบใจมากนะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 23-01-2011 23:07:58
ง่า มาม่าแหงๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 24-01-2011 01:31:41
อะไรกันหวานกันอยู่ดีดี
มีมาม่าโชยมาซะงั้น
ไรเตอร์อย่ามัวไปเที่ยวไทยเพลิน
กลับมาต่อตอนต่อไปด้วนนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 24-01-2011 01:58:47
เป็นคนไทยหน้าตาดี  ก๊ากกกก
คุณยาย ทำนายอะไรที่ทำให้หนูลุ้นไปด้วย
จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะมีอุปสรรค  โฮๆๆๆ
สงสารน้องทีมนะ !!!!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 24-01-2011 11:36:22
สารภาพรักบนชิงช้าสวรรค์ อร๊ายยยยยย

ที่แท้เฝ้ามองน้องฝุ่นมาตั้งนานแล้วนี่เอง :-[

ขอหวานบ่อยๆ นานๆ อย่าดราม่ามากน๊า~ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 24-01-2011 11:41:56
ง่ะ  ถ้าฝุ่นรับรักก็ต้องห่างกันสองปีเลยเหรอ :m15: :m15: :m15:

ที่ทีมบอกว่ารักตั้งแต่ปีที่แล้วคือเคยเห็นฝุ่นมาแล้วใช่ก่ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-01-2011 14:20:14
หมอดูทักซะคนอ่านใจเสียเลยคะ
ดีนะที่อย่างน้อยยังบอกว่าได้กลับมาหากัน
ถ้าบอกต้องจากกันตลอดการ คงแย่

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 25-01-2011 09:41:11
รอความหวาน ตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 25-01-2011 22:53:18
เย่ๆ เค้าสมัครแล้วนะ...
แต่เด๋วขอเริ่มเม้นในนี้ตั้งแต่ตอนหน้านะ (อุตส่าห์เม้นส่วนตัวไปตั้งหลายตอน กร๊ากกกกกกกกกกกกกก)  :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 26-01-2011 14:30:43
มาส่งกำลังใจให้ และรออ่านตอนใหม่นะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-01-2011 23:18:02
เพิ่งได้เข้่่่ามาอ่านน่ารักมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 27-01-2011 21:29:54
มาช่วยดันน้อง...รอน้องกลับมาอัพต่อ อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 7.2 [23/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: DewHup ที่ 27-01-2011 21:39:35
เสียวกับคำทำนายของยายมาก

ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 28-01-2011 08:37:30
8.1


   ตอนลงจากชิงช้าสวรรค์นี่แทบเดินกลับบ้านกันไม่เป็นเลยครับ ไม่ใช่ว่าอายที่โดนห่านป่านิสัยไม่ดีจูงมือกลับบ้าน แต่ตะคริวกิน!!

   ก็บอกแล้วว่าไม่อยากทนนั่งในที่แคบแบบนั้นนานๆ ข่าวก็ออกกันให้ครึกโครมว่าบางทีชิงช้าสวรรค์ในงานวัดแบบนี้มักอันตรายกว่าตามสวนสนุก อยากตกลงมาหน้าแหกรึไงวะ แถมคนคุมชิงช้าก็เกิดใจดีผิดกับหนังหน้าขึ้นมากระทันหัน แม่งเปิดวนให้พวกผมนั่งสบตากันหวานซึ้งดูพระอาทิตย์ตกรอบแล้วรอบเล่า จนจากที่หวานๆ กลายเป็นเลี่ยนอยากขย้อนข้าวเที่ยงออกมาให้หน้าไอ้เหี้ยทีมอยู่แล้ว

   ผมเดินหน่วงมากๆ เข้าสุดท้ายไอ้คุณชายห่านป่ามันก็ทนไม่ไหว อ้างแบบแมนๆ ว่ามันเองก็เพิ่งโดนตีนมา ร่างกายยังบอบช้ำอยู่เหมือนกัน เลยโบกเรียกรถสามล้อมานั่งตากลมหัวหูปลิวว่อนกันกลับบ้าน

   บริเวณรอบตัวบ้านเริ่มมืดแล้ว ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือก็บอกเวลาทุ่มเศษๆ เสียงเซ็กส์ซี่เห่าอย่างเมามันส์ดังออกมาจากในสวนตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดประตูบ้านด้วยซ้ำ ตอนแรกผมคิดว่าน้าอิ่มอาจจะออกไปทานข้าวข้างนอกกับพ่อของไอ้เหี้ยทีม แต่ดูเหมือนผมจะคาดการณ์ผิดไปหน่อย เพราะไฟในห้องนั่งเล่นเปิดสว่าง

   “อ้าว กลับมากันแล้วเหรอ” ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไป ลุงสินที่นั่งหันหน้ามาทางประตูก็ทักขึ้นมา ก่อนที่จะโวยวายเสียงดังเมื่อลูกชายตัวดีของลุงแกโผล่หน้าเยินๆ เข้ามาให้เห็น “ทีม พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามีเรื่อง!!”

   ไม่ได้ยุนะ แต่ซ้ำมันเลย!

   “โหยพ่อ ผมก็ไม่ได้อยากมี นี่ลูกหลงหรอก” ลูกหลงบ้านมึงหัวแตกเยินขนาดนี้เหรอวะ...

   “จริงๆ เลยไอ้ลูกคนนี้ แล้วจะเป็นตัวอย่างที่ดีของน้องได้ยังไง” ลุงสินยังบ่นไม่เลิกครับ น้าอิ่มหันมายิ้มให้ผมแล้วโบกมือเรียกให้ไปนั่งด้วยกัน

   “ทานข้าวมาหรือยัง” น้าอิ่มก็ยังเป็นน้าที่แสนดีคนเดิม ถามผม

   “โหน้าอิ่ม ถ้าฝุ่นมันยังจะกินข้าวอีกนะ ต่อไปคงให้กินข้าววันละกะละมังแล้วล่ะ” แม่งเดี้ยงแล้วยังปากดีนะมึง

   “เงียบไปเลยไป น้าอิ่มถามกูไม่ใช่มึง” ผมคว้าหมอนใกล้ๆ มือเขวี้ยงใส่มันเต็มแรง ไอ้เหี้ยทีมแม่งทำท่ากางขาเหมือนปูแล้ววิ่งไปมาเพื่อหลบวิถีหมอนของผม “เหี้ย อยู่เฉยๆ นะมึง”

   ผมด่า แล้วหาเขวี้ยงไปอีกสองสามใบ ไอ้เหี้ยทีมยิ่งทำท่าล้อเลียนเดินย๊อกแย๊กๆ หลบ แสรดดด

   “เอ้าๆ พอแล้วๆ มานั่งนี่เลยไอ้ลูกตัวดี” ลุงสินบอกทั้งรอยยิ้ม ไอ้ห่านป่าแม่งเลยยิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่แล้วนั่งลงข้างๆ พ่อมันบ้าง “พรุ่งนี้พ่อกับน้าอิ่มจะไปฮันนีมูนกันแล้วนะ”

   “ก็ดี ผมจะได้รังแกฝุ่นได้โดยไม่มีใครห้าม” ความคิด....

   “กูก็จะกระทืบมึงโดยไม่มีใครสน” ผมสวน ไอ้เหี้ยทีมเลยยิ่งยิ้มมากขึ้น...แต่สาบานได้ ผมว่าความนัยในประโยคแรกของมันน่ะทะแม่งๆ นะ...

   “เอ๊ สองคนนี้นี่” น้าอิ่มหันมาตีผม

   “หึหึ งั้นฝุ่นต้องสัญญากับลุงอย่างนึง”

   “อะไรครับ”

   “เอาให้ทีมมันเข็ดก็แล้วกัน” อยากจะหัวเราะให้โลกแตก ตกลงว่านี่พ่อมึงหรือผู้สนับสนุนของกูวะ ครึครึ

   “โหยพ่ออะ ผมลูกพ่อนะ” ไอ้ทีมมันหงุงหงิงอยู่แป๊ปเดียว ลุงสินก็พูดเรื่องที่ค้างไว้ต่อ

   “พ่อกับน้าเราเคลียร์งานได้ดีกว่าที่คิดไว้ เลยตัดสินใจเลื่อนเวลากลับออกไปจากประมาณกลางๆ เดือนก็คงกลับนู่นเลย ประมาณยี่สิบเมษา” ลุงสินพูดพลางยิ้มบางๆ ดูมีความสุขมาก

   “ตกลงไปที่ไหนกันเหรอครับ” ผมถามขึ้นบ้าง น้าอิ่มหันมายิ้มกว้างให้ผม

   “ไปทางตะวันออกกลางซักอาทิตย์นึงก่อน แล้วค่อยขึ้นไปทางเอเธนส์จ้ะ ก่อนกลับพ่อทีมเขาอยากแวะที่เยอรมันด้วย”

   “ไปกันซักเดือนสองเดือนผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่าลืมของฝากเยอะๆ นะครับ” ไอ้ทีมมันตอบพร้อมยักคิ้วให้ผม..เพื่อนเล่นเหรอ ห่านนี่

   “เห็นแก่ของฝากจริงๆ ติดนิสัยใครมาเนี่ย” ลุงสินหันไปบ่นลูกชายตัวเอง

   “ช่วงนี้อยู่แต่กับฝุ่น คงไม่ได้ติดนิสัยเซ็กส์ซี่มาหรอกครับ” ห่าน โยนความผิดให้กูซะงั้น

   “ไปว่าน้องนะเรา” ลุงสินส่ายหน้าเบาๆ ปลงเถอะครับ นิสัยลูกชายลุงมันกลายเป็นสันดานไปแล้ว “ยังไงก็เถอะ ช่วงสามอาทิตย์ที่อยู่กันแค่สองคนก็ช่วยๆ กันดูแลบ้าน ทีมเองก็ดูแลน้องด้วย ฝุ่นก็อย่าดื้อกับพี่เขาล่ะ ป้าแจ่มจะมาทำอาหารให้ทุกเช้าเหมือนเดิม จะออกไปค้างคืนที่ไหนก็โทรบอกป้าแกด้วย เข้าใจไหม”

   ประโยคหลังหันไปเอาคำตอบกับไอ้ห่านป่าที่แม่งทำท่าตะเบ๊ะใส่ พร้อมบอกเสียงดัง

   “รับทราบครับผม!!”

   “พรุ่งนี้ลุงกับน้าอิ่มจะไปสนามบินกันตั้งแต่เช้า ถ้าเราตื่นมากันแล้วไม่เจอก็อย่าตกใจกันล่ะ” ลุงสินแกบอกผมพลางยิ้มบางๆ แล้วออกปากไล่ให้ไปพักผ่อน “ไปๆ ขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อนได้แล้ว ถ้าหิวหรืออะไรก็ลงมาหาของกินในตู้เย็นกันเอาเองนะ” ลุงสินแกบอกอย่างนั้น ไอ้เหี้ยทีมเลยเดินมาดึงแขนผมให้ลุกตาม

   “ห่าอะไรของมึง กูเดินเองได้”

   “ดูหนังกัน”

   “ไม่เอา กูจะอาบน้ำนอน”

   “เอาน่า อาบน้ำสบายตัวแล้วเดี๋ยวก็อยากดูเอง ลุกมาเร็วๆ” แม่ง ถ้าโลกนี้มีการประกวดไอ้คนบ้าเอาแต่ใจไม่ฟังคนอื่นเนี่ย ไอ้ห่านป่าคงชนะขาดลอยทิ้งห่างผู้เข้าแข่งขันคนอื่นแน่ๆ

   “แบกกูขึ้นหลังไปป่ะล่ะ ขี้เกียจเดินแล้ว” ผมบอกแล้วนั่งแผ่หลาทำตัวหนักไม่สนใจน้าอิ่มที่มองแล้วหัวเราะเบาๆ อยู่ข้างๆ

   “ไม่เอาอะ มึงหนักขนาดนี้ กูเอาเซ็กส์ซี่มาช่วยแบกยังไม่ไหวเลย ลุกมาเร็วๆ”

   อยากจะแจกนิ้วกลางฟรีให้ซักสี่นิ้ว แต่เกรงใจผู้ใหญ่อีกสองคนผมเลยได้แต่ลุกขึ้นแล้วขมุบขมิบปากด่ามันแทน แม่ง เดี๋ยวขึ้นห้องก่อน กูจะด่าให้บรรพบุรุษร้องไห้เลย

   ผมเดินเนือยๆ ตามมันขึ้นไปชั้นสอง ไอ้ทีมฮัมเพลงอะไรไม่รู้ผมไม่ได้สนใจ แต่พอถึงหน้าห้องผมปุ๊บ แทนที่จะได้เข้าห้องคนเดียว ห่านป่าไม่ได้รับเชิญที่ไหนไม่ทราบก็เดินตามเข้ามาด้วย

   “มึงจะตามกูไปไหนวะ”

   “อ้าว ก็ห้องกูกับห้องมึงติดกัน ห้องกูก็เข้าทางนี้ได้ กูผิดตรงไหน”

   “ห้องมึงก็มีประตูเข้าไม่ใช่รึไง” ผมเริ่มพูดเสียงดังอย่างติดจะอารมณ์เสียหน่อยๆ คงเพราะผมรู้สึกเหนื่อยกว่าทุกที วันนี้เองก็อากาศค่อนข้างร้อน แถมไอ้ห่านป่ายังลากผมให้เดินไปนั่นมานี่ด้วยตลอดทั้งช่วงบ่ายอีก กลัวว่าจะไม่สบายเหมือนกัน ทางที่ดีรีบสลัดมันแล้วหนีไปอาบน้ำนอนดีกว่า

   “เอาน่า ไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวไปนอนดูหนังแอร์เย็นๆ ที่ห้องกู”

   “ไม่เอา กูอยากนอนแล้ว” ผมยังดื้อตอนที่ปล่อยให้ไอ้ทีมมันปิดประตูห้อง แล้วตามลูบหัวลูบหาง...แม่ง อยู่กันตามลำพังไม่ได้ เห็นกูไม่ว่าอะไรหน่อยเดียว ได้ใจนะมึง

   “งั้นกูนอนเป็นเพื่อนเอามั้ย”

   “กูจะนอนคนเดียว”

   “เอ๊ะ ทำไมกูไม่เข้าใจภาษาไทยของมึง” ก็มึงเป็นห่านป่าไง “งั้นมึงไปอาบน้ำก่อนละกัน เดี๋ยวกูมานอนด้วย”

   ว่าแล้วมันก็เดินออกไปทางประตูทางเชื่อม ผมเลยลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำ มึนๆ หัวด้วยครับ รีบอาบน้ำนอนดีกว่า

   หลังจากเปิดฝักบัวแล้วปล่อยให้น้ำมันไหลผ่านหัวซักพัก ผมก็หยิบแชมพูที่วางอยู่ในตะกร้าติดผนังใกล้ๆ มาเทใส่มือแล้วเริ่มขยำๆ กับหัวตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมไม่ค่อยชอบอาบน้ำอุ่นเท่าไหร่ ผิวแห้งอย่างเดียวไม่พอ ผมว่ามันสดชื่นสู้น้ำเย็นไม่ได้ครับ จะสบายดีหรือป่วยไข้ยังไงก็ขออาบน้ำเย็นสบายๆ ไว้ก่อน

   แกร๊ก...

   “เฮ้ย!” ผมอุทานลั่น ไม่กล้าเปิดตาขึ้นมามอง เพราะตอนนี้ฟองจากแชมพูกำลังไหลลงจากหัวเลยครับ

   “ตกใจอะไร” เจ้าของเสียงมันโอบผมเอาไว้จากด้านหลัง กระชับแรงกอดแน่นขึ้นเมื่อผมดิ้น ซุกหน้าลงมาแถวซอกคอพร้อมแรงจูบซับเบาๆ

   ตกใจมึงนั่นแหละ ไอ้เหี้ย! นี่มึงไม่แสบตาใช่มั้ย!!

   “มึง..มึงเข้ามาทำไม” ผมพูดไม่เป็นคำ ทั้งอายทั้งตกใจ กำลังจะเอื้อมมือไปคว้าฝักบัวมาล้างหน้าล้างตาก็โดนไอ้ห่านป่าที่ไหนไม่รู้เอื้อมปีกไปคว้าตัดหน้า

   “เอามานะมึง กูแสบตา” เผลอเพยิบตาขึ้นนิดนึง ฟองเลยไหลเข้าตาซะงั้น แสบครับ

   “กูล้างให้ หลับตานะ” มันไม่ว่าเปล่า กลับเอาฝักบัวที่ยังมีน้ำไหลตลอดเวลามาล้างฟองแชมพูออกจากผมให้หมด พักนึงกว่ามันจะบอกให้ผมลืมตาได้

   “ตาแดงเลยฝุ่น”

   “เพราะมึง” ผมรองน้ำจากฝักบัวมาล้างตาอีก แสบมากครับ

   “ไหน กูดูหน่อย” มันบอกแล้วพยายามจะมองตาที่กำลังแสบขั้นสุด แต่ผมหันหน้าหลบแล้วพยายามขยี้ให้ฟองที่ยังเหลือออกมาให้หมด “อยู่เฉยๆ”

   ไม่ว่าเปล่า ทีมมันจับคางผมให้หันกลับมา แล้วรองน้ำจากฝักบัวมาล้างตาให้อีกรอบ

   “ดีขึ้นมั้ย”

   แทนคำตอบ ผมหันไปชกแขนมันดังพลั่ก จนมันสำออยร้องโอ๊ยออกมาดังลั่น

   “ออกไปนะมึง กูจะอาบน้ำ”

   “อาบให้”

   “กูจะอาบคนเดียว”

   “ถ้าฝุ่นเป็นเด็กดื้อต้องโดนพี่ทีมลงโทษนะ”

   “กูดื้อเหี้ยอะ...อื้อ!!” ไอ้ $#@#*&%!@# แอร๊ย! ไม่รู้จะด่ามันเป็นภาษาอะไรถึงจะสาสม อยู่ๆ ก็ก้มลงมาจูบกูแบบนี้ บ้านมึงสั่งสอนเหรอ!!

   จูบอย่างเดียวยังพอทำเนา แต่มือน่ะ..ไม่อยู่สุกเกินไปมั้ยวะ

   ผมว่าหลายๆ คนคงนึกสภาพผมในตอนนี้ออกนะ...ห้องน้ำไม่กว้างมาก ผมที่เปลือยเปล่าและกำลังเปียกไปทั้งตัว กับไอ้เหี้ยทีมที่ใส่แต่กางเกงผ้าขายาวไม่ใส่เสื้อ โชว์กล้ามเนื้อท้องแน่นของมัน แขนข้างนึงล็อคเอวผมไว้แน่น อีกข้างลูบไล้ตั้งแต่แผ่นหลังเรื่อยลงไปถึงสะโพกและเริ่ม...บีบเบาๆ

   เอ๊ะ นี่ผมเล่าอะไรเนี่ย ไม่ๆ ตัดทิ้ง ไม่เล่าแล้ว....











น้องฝุ่นจะเล่าเรื่องรึเปล่า เจอกันตอน 8.2 จ้ะ





eiizes’s talk

กรี๊ดดดดดดดดด วันนี้ตื่นหกโมงครึ่ง(เช้า) เห็นพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกในรอบหลายเดือน  :laugh:

ปกติเห็นแต่พระอาทิตย์ตก ทำให้รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นนี่สวยจริงๆ ค่ะ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่นเน็ตเลย ระเริงกับรายการโทรทัศน์มากเกินไป รู้สึกคล้ายๆ เพิ่งกลับจากขั้วโลกที่ไม่มีทีวี  :laugh: :laugh:


แอบเห็นมีคนอ่านใหม่ๆ เพียบเลย สวัสดีนะคะ ยินดีต้อนรับ เราจะสะกดจิตคุณให้หลงอยู่กับพี่ทีมและน้องฝุ่นนานๆ กร๊ากกกกกกก  :pig2:

คนอ่านที่ตามมาตั้งแต่ต้น ก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะคะ  :pig4:


แอบคิดว่า...ตอนที่แปดแล้ว ใกล้ดราม่าแล้ว...รึเปล่านะ อุคิ  :serius2:

ไม่สปอยดีกว่า


ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ :กอด1: :กอด1:

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 28-01-2011 09:15:21
ให้พี่ทีมเล่าแทนก็ได้  :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-01-2011 09:16:38
อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m3: :m3: :m3:
ค้างค่าาาาาาาา  :z3: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 28-01-2011 09:49:49
พี่ทิม รุกน้องฝุ่นซะ.... ว่าแล้วก็มาต่อ 8.2 ไวไวนะคะ
แบบว่า ค้างอ่าาาาาาาา >////<
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 28-01-2011 09:59:39
ต่อด่วนนนนน!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-01-2011 10:15:35
ก่อนกินมาม่า  ได้กินของหวานก่อนก็ดีนะจ๊ะ  อิ อิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 28-01-2011 11:22:19
มาตามอ่านด้วยคน
ชอบฝุ่นมากๆเลยเป็นคนที่น่าค้นหาดี
อยากรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ฝุ่นเป็น
คนโลกส่วนตัวสูงแต่หลังเริ่มหลุด
ทีมก็ฮาดี แต่แอบเลวเหมือนกันน่ะ
แต่อย่างว่าไม่ไม่ใครเป็นคนดี100%หรอก
แต่ขอให้รักฝุ่นจริงๆก็พอน่ะทีม
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 28-01-2011 12:33:00
อยากบอกว่าหน้ารักมากทั้งคู่เลย และอยากให้รู้ด้วยว่าจะเกิดไรขึ้นในห้องน้ำ :z1: ถ้าฝุ่นไม่เล่าพี่ทีมเล่าเลย
.
.
แต่มาเจอสปอยของผู้แต่งทำเอาไม่กล้าหลงรักไอ้พี่ทีมอะ ซักวันมันต้องทำน้องฝุ่นเจ็บแน่ ๆ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 28-01-2011 13:04:44
เล่าเถ๊อะ พลีสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 28-01-2011 13:20:06
กรี๊ดดด ตัดฉับไม่แคร์สื่อ อีตาทีมแรงได้ใจจริงๆค่ะ ได้โปรดอย่าตัดบรรยายนะคะ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 28-01-2011 16:08:05
  :serius2:  ค้าง


ฝุ่นไม่เล่าเอาพี่ทีมมาเล่ากะได้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 28-01-2011 16:15:34
น้องฝุ่นไม่เล่า จะให้พี่ทีมเล่าแทนนะน้อง!!!!!!!!! :haun4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Akad3ar ที่ 28-01-2011 17:25:30
อ่ะ ทำกันงี้เลย ตัดฉับๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 28-01-2011 17:32:58
 :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-01-2011 17:34:53
 :เฮ้อ:กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มตัดฉับเลยวุ๊ย :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 28-01-2011 17:38:20
ทีมเล่าแทนฝุ่นดีไหม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: DewHup ที่ 28-01-2011 18:42:16
เล่าเถอะน้าาาาา น้องฝุ่น

หรือไม่ก็ให้พี่ทีมเล่าเเทนก็ได้
 :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-01-2011 19:22:06
ใกล้จะมาม่าแล้วหรอเนี้ย เฮ่อเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-01-2011 19:25:53
ฝุ่นนี่ คนกันเองทั้งนั้น จะอายอะไร เล่ามาเลย!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 28-01-2011 19:49:49
 :haun4: :haun4: :haun4:เหอะๆๆๆๆๆ


เล่ามาเต๊อะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 28-01-2011 21:19:07
ตามอ่านทันแย้ววววววววววววววว
น้องฝุ่นน่ารักจัง
ตัดฉับอย่างโหดร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
น้องฝุ่นเล่าเถอะน่า คนอ่านอยากรู้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.1 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 28-01-2011 21:32:40
มาเล่าต่อด่วน
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 28-01-2011 22:10:08
8.2



   เอ๊ะ นี่ผมเล่าอะไรเนี่ย ไม่ๆ ตัดทิ้ง ไม่เล่าแล้ว....



   รุ่งเช้าผมตื่นมาด้วยอาการมึนหัว....อะไรนะ? ผมข้ามตอน? ไม่ได้ข้าม เอ๊ะ ยังจะเถียง!!


   ชีวิตผมมันน่าสงสารมาตั้งแต่เกิด ใครๆ ก็ไม่เข้าข้าง...ไม่อยากเล่า ก็ต้องเล่า!(เอ๊ะ เหมือนได้ยินเสียงเฮจากที่ไหน)



   ทีมมันเริ่มจูบผมหนักหน่วงมากขึ้น ไซร้ไปทั่วทั้งข้างแก้ม กกหู ซอกคอ สุดท้ายยังมีอารมณ์แวะกลับมากัดจมูกผมเบาๆ

   “น่ารักจัง”

   จะได้สติก็เพราะคำพูดมันนี่แหละครับ ผมทุบอกไอ้ห่านป่าจอมฉวยโอกาสดังพลั่กใหญ่ แต่ดูมันจะไม่สะท้านแม้แต่น้อยซ้ำยังขยับมือข้างที่โอบเอวผมอยู่กลับมาคว้าเอาอาวุธที่เพิ่งใช้ประทุษร้ายมันไว้ให้อยู่เฉยๆ ..นี่แปลว่าบางทีที่ผมลอบทำร้ายแล้วมันร้องโวยวาย ไอ้ทีมมันตอแหลสินะ..?

   “ทีม ไม่เอานะ กูจะอาบน้ำนอน”

   “ก็ไม่ได้ให้เอา ให้ยืนอยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่ทำให้ก็ได้” ทีงี้สันดานอะไรโผล่ พูดเพราะเชียวนะมึง

   ทีมมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น กลับล้วงลงข้างล่างจนผมสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนมือเย็นๆ สัมผัสเสียจนเต็มที่

   “ทีม! กูบอกว่าไม่เอา” ตอนเรียกชื่อมันก็เข้มแข็งดีหรอก แต่ประโยคหลังรู้สึกจะไขว้เขว...ไอ้ห่านป่ามันรุกหนัก ขยับมือไม่ยอมหยุด รูดขึ้นลงอย่างไม่สนใจสักนิดว่าผมกำลังจะสำลักและขาดใจตาย

   “ดีมั้ย?” ทีมก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบาๆ ก่อนจะเลียและงับใบหูเล่นอย่างจงใจจะเร้าอารมณ์ให้ยิ่งพุ่งสูงขึ้น

   “อะ ทีม...อา” อยากจะบ้า...นี่กูครางแต๋วอะไรขนาดนี้

   ไอ้ห่านป่ามันยังจูบดูดแรงๆ แถวๆ ต้นคอจนผมอดหวั่นในใจไม่ได้ว่ามันจงใจจะทิ้งรอยเอาไว้แน่ๆ ผมสะดุ้งอีกครั้งตอนที่รู้สึกได้ถึงปลายนิ้วที่กดลงตรงส่วนปลายแรงๆ ผมเริ่มหายใจหอบหนักขึ้น..รู้ดีว่าปลายทางอยู่อีกไม่ไกล และก็ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียวที่รับรู้ถึงอาการนั้น

   “ทำให้หน่อย” เสียงนั้นไม่ได้บังคับ กลับกันติดจะเว้าวอนเสียด้วยซ้ำ ผมเหลือบสายตาลงมองตามที่ทีมมันจับมือผมไปวางไว้แถวๆ สิ่งที่เราสองคนมีเหมือนกัน และสิ่งนั้นของไอ้ทีมเอง...ก็กำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่เช่นกัน

   ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไรชอบกล ไม่กล้ามองหน้าเจ้าของมัน แต่ในขณะเดียวกันก็เขินที่จะจ้องส่วนกลางลำตัวของไอ้ทีมที่โผล่พ้นขอบกางเกงออกมานั่น...ผมกำเอาไว้แทบไม่รอบตอนที่ทีมมันนำทางให้ผมมอบความสุขให้มันบ้าง

   “อืม...ฝุ่น แบบนั้น...เด็กดี อืมม” เสียงครางทุ้มต่ำกระตุ้นให้อาการอยากรู้อยากเห็นของผมมีมากขึ้นหลายเท่าตัว ตอนแรกๆ ก็ขยับมือตามที่ทีมมันนำทาง แต่หลังๆ ทีมมันปล่อยให้ผมคลำหาทางด้วยตัวเอง และก็จับจุดได้ในไม่ช้า ผมขยับมือปลุกเร้าตั้งแต่ส่วนฐานขึ้นยังส่วนปลาย ลงน้ำหนักมือเบาบ้างแรงบ้างยิ่งเรียกเสียงครางและอาการหอบหนักจากมันได้มากขึ้น

   “อ๊ะ!” เป็นผม ที่ถูกพลิกตัวให้หันหลัง ทีมมันก้มลงมาจูบที่ต้นคอผมอีกครั้ง แรงจูบเลื่อนไล้ไปแถวกลางหลังก่อนเสียงกระซิบจะกลับมาดังใกล้ๆ

   “ฝุ่น..ขอนะ” เสียงที่ถามแหบพร่าแบบที่ผมไม่เคยได้ยิน ทำให้เผลอหันหน้ากลับไปมอง ดวงตายาวรีสีน้ำตาลเข้มจัดจ้องสบตรงๆ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่มีแรงมากขึ้น ไม่รู้ว่าต้องตอบว่าอะไร จึงได้แต่หันหน้าหลบ แต่กลับโดนคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเอื้อมมือมาจับคางให้หันกลับไปรับจูบร้อนอีกครั้ง

   “อื้อ!!” เพราะเราสองคนกำลังยืนอยู่ใต้สายน้ำจากฝักบัว ทำให้ไม่มีฟองสบู่หรือเจลอะไรเหลือไว้หล่อลื่นอีกแล้ว การบุกรุกของปลายนิ้วหยาบนั่นจึงเป็นเหมือนมีดชั้นดีที่กำลังกรีดเข้ามาในร่างกายผม

   “ทีม..กูเจ็บ ไม่เอานะ พอแล้ว” ผมพยายามดิ้นรน แต่อีกฝ่ายกลับปลุกเร้าด้านหน้าผมอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่ปลายนิ้วใหญ่ยังเพียรพยายามขยับไปมาให้ผมคุ้นชิน รู้สึกคล้ายๆ วิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่าง มันไม่ใช่ครั้งแรกแต่ครั้งสุดท้ายที่ผมเคยทำก็ห่างจากวันนี้อยู่หลายเดือน และยิ่งถ้าทีมไม่เคยมีประสบการณ์ทำกับผู้ชายด้วยกัน.......

   กูตายสถานเดียว....

   “ไม่เจ็บนะคนดี” ฮืออ ไม่เจ็บพ่อมึงเหรอ น้ำตากูจะไหลอยู่แล้ว

   ทีมจับหน้าผมให้หันกลับไปรับจูบในขณะที่ปลายนิ้วยังขยับอยู่ในร่างกายของผมไม่ยอมหยุด

   “ทีม...ทีม..กูขอเถอะ..” ผมเห็นว่ามันยิ้ม แต่ขอโทษ กูไม่ได้ขอไอ้นั่นของมึงโว้ย “หยุดนะ กูเจ็บมาก”

   รอยยิ้มของไอ้ห่านป่าเจื่อนลงไปเล็กน้อย ยอมถอนนิ้วออกช้าๆ...ขนาดนิ้วมึงถอดออกไป กูยังเจ็บ ถ้าเป็นไอ้นั่นของมึง กูไม่ตายห่าคาห้องน้ำเลยเหรอวะ ฮือออ

   “อย่าร้องไห้สิ กู..กูเอาแค่น้ำออกก็ได้ ไม่ใส่เข้าไปก็ได้” มันบอกอย่างเด็กสำนึกผิด

   ผมเผลอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กเล็กๆ ที่โดนแกล้ง ไอ้เหี้ยทีมเลยยิ้มออกมาบางๆ ก้มลงมาจูบแล้วเริ่มลูบคลำบริเวณกลางลำตัวผมอีกครั้ง ไม่นานก็กลายเป็นว่าผมกำลังยืนหอบกระเส่าอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั่น เสียงทีมกระซิบทุ้มนุ่มอยู่ข้างๆ หูพร้อมแรงขบกัดเบาๆ

   “ทำให้พี่บ้าง...นะ”

   ผมยอมทำตามคำขอนั้นแต่โดยดี เพียงอึดใจถัดมาผมก็รับรู้ได้ถึงสุดปลายทางของตัวเอง ทีมจงใจเร่งจังหวะมากขึ้นจนร่างกายผมกระตุกและปลดปล่อยออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แต่ผมเองก็ไม่ได้ใจร้ายมากพอจะเสร็จคนเดียว ทั้งที่แทบไม่มีแรงแล้วแต่ก็ยังขยับมือจนรู้สึกได้ถึงอาการกระตุกและของเหลวเหนียวร้อนที่มือ...

   “จูบหน่อย” ทีมร้องขอมาแบบนั้นแล้วประคองหน้าผมขึ้นจูบ...

   “อะ..ฮะ..ฮัดเช่ยยยยยย”

   TT.TT  คนจะจามห้ามกันไม่ได้...ผมไม่ผิดนะ



   “เป็นไข้แน่ๆ นอนไปเลยนะ เดี๋ยวเอาหนอนอวกาศมาแปะหน้าผากให้” คนที่เปลี่ยนตัวเองจากผู้ชายหื่นกามมาเป็นพี่ชายสุดโหดเขาสั่งเสียงเหี้ยม โมโหตัวเองที่ทำผมไข้ขึ้นหรือโกรธที่ผมจามใส่หน้าก็ไม่รู้

   หลังจากหิ้วผมออกจากห้องน้ำเมื่อสิบนาทีก่อนก็จัดการเอาผ้าขนหนูมาพันตัว เช็ดให้เหมือนกำลังเช็ดขนลูกหมา...นี่กูไม่ใช่เซ็กส์ซี่นะ แสรด

   ผมโดนไอ้ทีมจับแต่งตัวด้วยเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสามส่วนแล้วมันก็โยนผมลงไปบนเตียงในห้องมันเอง จัดการเอาผ้าห่มมาห่อไว้อีกชั้น ถ้ามันเอาสายรัดมารัดผมให้ติดกับเตียงได้คงทำไปแล้ว

   “กินยาดักไว้ก่อน” สั่งเสียงเหี้ย เอ้ย เสียงเหี้ยมแล้วยื่นยากับน้ำเปล่าไม่เย็นมาให้

   “กูอยากได้น้ำเย็น”

   “ไม่มี ตู้เย็นเสีย”

   เออะ.......

   สรุปคือกูเถียงอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย

   หลังจากจำใจกลืนยาเม็ดใหญ่ลงคอ ไอ้ห่านป่าก็จัดการเอาแผ่นเจลลดไข้มาแปะที่หน้าผากและห่มผ้าให้จนแทบจะถึงจมูก แทนที่มันจะไปจัดการอาบน้ำหรือทำอะไรที่ควรจะทำ มันกลับยังนั่งอยู่ริมขอบเตียงแล้วเอี้ยวตัวหันกลับมามองผม มือเดียวกันกับที่ลวนลามผมเมื่อกี้เอื้อมมาปัดผมที่เริ่มยาวไปให้พ้นหน้าผาก

   “นอนพักซะ กูไม่ไปไหนหรอก” แต่กูอยากให้มึงไป แสรด

   “ถ้ามึงนั่งจ้องแบบนี้ กูนอนไม่หลับ”

   “ไงๆ มึงก็หลับ ยาที่มึงเพิ่งกินไปมันทำให้ง่วงนอนด้วย” พูดแล้วแม่งก็ยิ้มอย่างคนที่เหนือชั้นกว่า

   ผมเลยพลิกตัวหันหลังหนีแม่งซะเลย หมั่นไส้ แต่ขอโทษ ห่านป่าตัวนี้สงสัยไม่เคยดูละคร กูหันหน้าหนีหมายถึงไม่อยากเสวนากับมึงต่อครับ เอามือมาคร่อมกูทำไม

   “เมื่อกี้เจ็บมากรึเปล่า” มึงจะฟื้นฝอยหาตะเข็บเพื่อ???

   “มาก” ผมตอบห้วนๆ

   “กูไม่ได้ตั้งใจให้มึงเจ็บเลยนะ แค่อยากทำ แต่วันหลังกูคงต้องเตรียมเจลด้วยใช่มั้ย”

   ผมลุกขึ้นพรวดแล้วนั่งจ้องหน้าหงอยๆ ของมันนิ่ง

   “นี่มึงไม่เคยทำกับผู้ชายรึไง!?”

   “มึงคนแรก”

   “กูอนุญาตให้มึงไปเที่ยวบาร์เกย์ก่อนค่อยมาทำกับกู ไอ้เหี้ย” ผมด่าชัดถ้อยชัดคำ แล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง ไอ้ทีมยิ่งหางลู่หูตกกว่าเดิมขยับตัวเข้ามานอนซ้อนหลังผม “กูอึดอัด ถอยไป”

   “ไม่เอาน่า อย่าโกรธสิ กูเคยได้ยินมาว่าครั้งแรกมันจะเจ็บบ้าง...แต่มึงก็บอกเองอะ ว่าไม่ใช่ครั้งแรก”


   แสรดดดดดด สำนักไหนสอนมึง!!!


   “ถ้ามึงทำไม่เป็น จะครั้งที่ล้านตูดก็แหกได้ ไอ้เวร”

   “อ้าวเหรอ..แต่ว่า กูมั่นใจนะ ว่าถ้าเข้าไปได้ มึงต้องเสียวแล้วก็แฮปปี้มากแน่ๆ” มันบอกพร้อมกอดผมแน่นขึ้น

   “ส้นตีน กูจะนอนแล้ว!!”


   ไม่ได้ดับความอาย แต่ยาออกฤทธิ์แล้วครับ ราตรีสวัสดิ์!!!



เจอกันต่อได้ในตอนที่ 9 ค่ะ



Eiizes’s talk

แปลกมั้ย มาอัพสองรอบในวันเดียว คึคึคึ  :laugh:

เมื่อเช้ากดอัพเสร็จ ก็หนีไปนอนต่ออีกรอบ ผลกระทบของการตื่นเช้าเนี่ยลำบากจริงๆค่ะ เอิ้กๆ

หวังว่าน้องฝุ่นคงเล่าได้ถูกใจหลายๆ คนนะคะ

ไม่ได้เขียนฉากหวิวๆ มานานมากกกกกกกกกกกก ตอนนั่งเขียนทีแรกก็รู้สึกเขินๆ ยังไงไม่รู้ ไม่เคยเขียนฉากแบบนี้กับตัวละครออริจินัลของตัวเองด้วยยิ่งแล้วใหญ่เลย ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ  :o8:

รักน้องฝุ่น กรี๊ดพี่ทีม หรืออยากข่วนหน้าคนเขียนก็เขียนได้เต็มที่นะคะ  :laugh:

ขอบคุณทุกๆ เสียงตอบรับ ทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นท์ค่ะ  :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
Eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 28-01-2011 22:24:47
มาแปะไว้ก่อน  ไว้ค่ำๆค่อยมาอ่าน o13 o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-01-2011 22:35:42
มาม่าเอาไว้ทีหลังเน้อ  ขอหวานๆ ๆ แสบ ๆ มาก่อนเน้อ  คนแต่งเน้อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 28-01-2011 22:37:06
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 28-01-2011 23:03:34
อ่านแล้วก็สงสัยเล็กน้อย แล้วใครที่เป็นคนแรกของฝุ่น???
ตายและ เค้าก็อยากรู้อะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยแหละค่ะไรท์เตอร์ >///<
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 28-01-2011 23:10:46
อ่านแล้วก็สงสัยเล็กน้อย แล้วใครที่เป็นคนแรกของฝุ่น???
ตายและ เค้าก็อยากรู้อะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยแหละค่ะไรท์เตอร์ >///<

อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ ว่าใครเป็นคนแรกที่ทำให้น้องฝุ่นใจแตก กร๊ากกกกกก

ปล. ดิสเพลย์น่ารักมากเลยค่ะ แทมแทม คิคิคิ อยากกอดน้องงงงงงง
แอร๊ก คนเขียนว่างงาน มาตอบคอมเม้น 5555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-01-2011 23:18:09
 :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-01-2011 23:19:31
นึกว่าฝุ่นกับทีมจะฉึกฉึกกันซะแล้ว แหม แต่ขนาดไม่อยากเล่านี่เอาซะละเอียดเลยนะน้องฝุ่น :haun4:
คนแรกของฝุ่นจะเป็นใครน้า อยากรู้ัจังเลยยย :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 28-01-2011 23:46:07
หูย คิดว่าจะได้บริจาคเลือดซะแล้ว
คราวหน้าถ้ามีอีกมาเล่าละเอียดๆน่ะ
ใครทำให้ฝุ่นใจแตกน้าแล้วคนแรกของฝุ่นคือใครหว่า
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 29-01-2011 00:20:49
เกือบไปแล้วไหมละน้องฝุ่น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 29-01-2011 01:06:38
     เกือบได้เลือดแล้วมั้ยละ


ทีมน่ารักอ่ะครั้งแรกคนมันไม่รู้ให้อภัยแกหน่อยนะฝุ่น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 29-01-2011 08:16:08
ตอนนี้ขอเมนท์แค่อีโมชั่น
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 29-01-2011 08:55:52
 :m25: :m25: :m25: :m25:ไม่ไหวแล้วเลือดจะพุ่ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 29-01-2011 09:28:32
เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ ฮ่าๆ
ฮาที่จามใส่หน้าพี่ทีมเนี่ยแหละ หมดอารมณ์ทันที
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: DewHup ที่ 29-01-2011 09:38:09
พี่ทีมรีบไปฝึกมาก่อนเลย  ไม่งั้นอดแน่  อิอิ
 
:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 29-01-2011 12:08:26
ทีมขำวะ :laugh:

น่ารักกันจัง

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 29-01-2011 14:51:59
ว้า! น่าเสียดายๆ แต่ไม่เป็นไร ให้ทีมไปศึกษาให้ดีก่อนละกัน คราวหน้าคนอ่านจะได้ไม่ค้างเติ่งอย่างเน้... 555555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 29-01-2011 15:46:46
ขอบคุณที่มาต่อครับ
แต่แหม ไอ้ทีมนี่ ไอ้เราก็นึกว่าเขี้ยว!!!!! เกือบทำน้องฝุ่นเจ็บซะแล้ว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 29-01-2011 16:05:30
สงสัยอดีตของฝุ่นเหมือนกัน แบบว่ามีใครที่รักกันจิงจังมั้ย หรือแค่แบบเพื่อนเที่ยวอะคะ เพราะถ้ามีจิงจัง ต่อมเจือกก็ทำงาน  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 29-01-2011 17:43:18
 o13
อย่างนี้สิคะน้องฝุ่นมาเอง หึหึหึ

ขอบคุณนะคะคิดว่าจะตัดฉับหนีไปซะแล้ว ^^

วันก่อนเรียกพี่ทีมผิดอ่ะ ขอโทษนะคะพี่ทีม ขออภัยอย่างแรง
หวังว่าพี่คงไม่ยกพวกมายำเค้าน้าาาาา
สายดำแชมป์สามสมัย มีแต่ตายกับตาย อิอิ

คนเขียนช่างสังเกตุเนาะ ติดตามๆค่าาาา :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 29-01-2011 19:56:51
อ้าว...ลืมไปว่าฝุ่นยังไม่เสียเอกราชให้พี่ทีมหรอ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
อย่างน้อยทีมก็เป็นคนดีนะเนี่ย
มีแฟนแบบนี้ก็ดีออกน้องฝุ่น... ผู้ชายดีบ้าง กวนตรีนบ้าง เลวบ้าง เป็นสีสันให้ชีวิตนะจ๊ะ 555  :really2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-01-2011 11:26:42
555...เป็นรุกต้องศึกษานะคร้าบไอ้คุณพี่ทีม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 30-01-2011 12:42:41
ฝุ่นน่าสงสารเนอะ ไม่รู้ว่าอายุขนาดนั้นเจออะไรมาบ้าง

อื้ม....


วกกลับเข้ามาตอน 8.2 555

เลือดพุ่งกันเลยทีเดียว ><

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ =]
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 31-01-2011 00:09:32
บวก หนึ่งนะคะ


ชอบเรื่องนี้มากคะ ภาษาสวยงาม อ่านแล้วไม่ลำคาญลูกกระตา ไม่หวานเกิน ไม่เถื่อนจนเกินไป ดำเนินเรื่องเรื่อยๆไม่รีบร้อนไม่ช้าไป แต่ละตอนมีเนื้อพอสมควร ไม่ได้มีแต่น้ำ โดยรวมชอบคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 31-01-2011 01:04:21
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
ไม่ใช่แค่น้องฝุ่นที่เคือง
ชั้นก็เคือง!!! ทำไมพี่ทีมไม่ทำการบ้านมาเล่าว่าเค้าทำยังไง
อดอ่านเลย !!!!!! T^T
รอตอนหน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 8.2 [28/01/11 ตอนสี่ทุ่ม Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 31-01-2011 11:00:14
อ่านยังไม่จบแอบตกใจตายละมีขงมีขอละเสร็จแน่งานนี้ฝุนเอ๋ย
แต่สุดท้ายต้องกินแห้วเพราะความไม่มีประสบการณ์ของพี่ทีมแท้ ๆ :jul3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 01-02-2011 16:44:53
   รุ่งเช้าผมลืมตาขึ้นมาด้วยอาการโลกหมุน ตาพร่าเสียจนรู้สึกคล้ายๆ ว่ากำลังมองเห็นดาวระยิบระยับอยู่รอบๆ แถมยังเมื่อยตัวจนแทบไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง แต่เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายจากชั้นล่างของตัวบ้านมันดังแผดร้ายแรงยิ่งกว่าเสียงนาฬิกาปลุก ทำให้ผมใช้ความอดทนที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดดันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อลงไปสำรวจสถานการณ์ว่าญาติใครตายถึงได้เสียงดังกันขนาดนี้...

   จะบอกให้ว่าญาติใครตายผมไม่สน แต่ไอ้ที่ทำคนเสียงดังมึงจะโดนกูกระทืบเรียงตัว แสรด

   ผมเดินออกจากห้องนอนของไอ้เหี้ยทีมพร้อมหมอนหนุนใบโต ซึ่งแน่นอนว่าก็ของมันเช่นกัน ก่อนจะถึงชั้นล่างผมก็ชะโงกหน้าออกไปมองสถานการณ์เล็กน้อย เห็นไอ้ห่านป่ายืนถือกระป๋องเบียร์อยู่กลางบ้าน พร้อมเพื่อนอีกสามสี่คนที่เดินไปเดินมา ทั้งคุยและหัวเราะกันเสียงดัง

   แม่ง รู้ทั้งรู้ว่ากูนอนไม่สบายอยู่บนห้อง มึงก็ยังชวนเพื่อนมาทำเสียงดังในบ้านนะ เดี๋ยวเจอดี

   จากจุดที่ผมยืน มันเป็นมุมอับทำให้คนที่ยืนเยื้องไปทางกลางบ้านหรือตรงทางเดินกระจกจะมองไม่เห็นผม แต่ตัวผมจะมองเห็นทางเดินชัดเลยครับ

   ปกติก็ไม่เคยสังเกตแต่วันนี้ทำให้ได้รู้ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมลุงสินถึงได้เป็นสถาปนิกที่โคตรรวยในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ได้...กระจกใสบานสูงที่ผมเคยคิดว่ามันเป็นได้แค่ตัวแทนของกำแพง กลับถูกเปิดกว้างจนสามารถเดินทะลุไปถึงสวนหน้าบ้านได้ ดูมีสไตล์ไปอีกแบบ

   “เฮ้ยทีม ที่ย่างเนื้อเมื่อกี้มึงเอาไปไว้ไหนแล้ววะ” พี่คนนึงที่ผมจำได้ลางๆ ว่าคือพี่รหัสของไอ้ห่านป่าเดินเข้าไปถาม ทีมแม่งยืนนึกแป๊บนึงแล้วตอบ

   “อันดาถือเข้าไปในครัวเมื่อกี้” มันพูดเสร็จก็เดินไปชะโงกหน้าแถวๆ พี่อีกคนที่นั่งเดี้ยงอยู่บนโซฟา แต่ก็ยังถูกใช้งานให้เอาเครื่องเทศยัดเข้าไปในตัวไก่สด

   “เชี่ยไกด์ มึงยัดดีๆ ดิวะ เดี๋ยวไส้แม่งทะลุผ่านคอหอยมันออกมาหรอก”

   “ไม่ทะลุคอหอยหรอกน่า นี่มันคอไก่”

   เอ่อะ...กูยืนไว้อาลัยมุขให้สองวิ

   “แสรด เสื่อมมมมม”

   “มึงอย่ามาว่าน้องเป็ดเขียวของกูนะทีม เดี๋ยวน้องเป็ดเขียวกูน้อยใจ ไม่อร่อยขึ้นมาว่าไง” พี่ไกด์ยังเถียง แล้วยกไก่ที่ถูกยัดไส้จนอ้วนขึ้นมาชูไปชูมาจนคนที่ผมคุ้นๆ หน้าอีกคนเดินเข้ามาทำเสียงอี๋ดังลั่น

   “เหม็นคาวอะพี่ไกด์ เอามันลงไป”

   “โถๆ น้องเป็ดเขียว ไม่มีใครรักน้องเลย พอที่รักกูสุก พวกมึงอย่ากินกันนะ”

   “มึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยววันนี้กูจัดข้าวแดงกับเบียร์ให้มึงกระป๋องนึง ขาเดี้ยงแบบนี้แดกคนเดียวในบ้านไปแล้วกัน” เป็นพี่คนแรกครับ เดินมาบอกแล้วยิ้มเหี้ยม ก่อนจะหายไปจากระยะที่ผมมองเห็น แต่แม่ง...ทิ้งระเบิดเสียงหัวเราะไว้ให้คนอื่นดังลั่น

   ไอ้เหี้ยทีมเดินมานั่งลงที่โซฟาบ้าง โชคเข้าข้างมันที่ดันนั่งหันหลังให้ผม..ครับ โชคเข้าข้าง โชคร้ายน่ะ

   พลั่ก!!

   “โอ๊ย! เหี้ยไรวะ!” มันด่าเสียงดังลั่น ลุกขึ้นแล้วหันกลับมามองหน้าผมทันทีครับ ไอ้เหี้ยทีมทำหน้าตกใจนิดหน่อยที่เห็นว่าคนปาหมอนใบโตใส่คือใคร มันทำหน้าเจื่อนลุกมาหาผม

   “ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” แม่ง มาทำเสียงอ่อน เดี๋ยวกูก็ยันโครม

   “เสียงดังเหี้ยอะไรแต่เช้าวะ กูจะนอน” ผมตั้งใจจะด่ามันเสียงดังเลยทำหน้าโฉดประกอบฉาก แต่เสียงที่ดังออกมาจริงๆ ทั้งแหบและเบาเสียจนน่าตกใจ แถมอาการเจ็บคอเป็นโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย ผมไอออกมาเล็กน้อย ไอ้เหี้ยทีมเลยดึงให้ไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ ก่อน

   “นั่งรอแป๊ปนึง” สั่งแล้วก็วิ่งหายไปทางครัว แค่อึดใจเดียวก็กลับมาพร้อมน้ำเปล่าแก้วนึง มันส่งให้ผมพร้อมบอก “ทานน้ำก่อน”

   ไม่อยากทำตัวสำออยเลยรับน้ำแก้วนั้นมาถือไว้ ตอนแรกก็ตั้งใจจะดื่มเลยแต่แหมะ...

   “น้ำธรรมดาไม่มีเหรอมึง กูไม่ชอบกินน้ำอุ่น”

   “ไม่มีอะ ตอนนี้อากาศร้อน น้ำธรรมดากลายเป็นน้ำอุ่นหมดเลย” เอ่อะ...มุขมึง ไปบอกเด็กอนุบาลไป!

   พอผมยกน้ำดื่มจนหมดก็ส่งแก้วใบนั้นกลับคืนให้ทีม มันก็รับไปวางที่โต๊ะแต่โดยดี แล้วหันกลับมานั่งยองๆ เบื้องหน้าผมต่อ

   “ไม่สบายเหรอน้องฝุ่น ตื่นทีตลาดวาย...อ๊ะ แต่ผู้ชายยังไม่หมดนะครับ” พี่ไกด์พูดพลางทำท่าหัวเราะคิกๆ ได้น่าตบกระโหลกมาก

   “ยัดไส้น้องเป็ดเขียวต่อไปเลยนะมึงเชี่ยไกด์” ห่านป่าแม่งขู่แล้วหันไปสะบัดนิ้วกลางใส่หน้า ก่อนจะเบนความสนใจกลับมาที่ผมอีกครั้ง ทีมมันเอื้อมมือมาลูบๆ คลำๆ แถวหน้า แก้ม และซอกคอผม “ตัวยังรุมๆ อยู่เลย ลงมาทั้งชุดนี้นี่แปรงฟันรึยังเนี่ย”

   ผมอ้าปากให้มันพิสูจน์แทนคำตอบ ไม่อยากพูดอะไรมากเลยครับ รู้สึกเพลียๆ เมื่อยตัวไปหมด

   “อื้อหื้อ ก็ว่ากลิ่นอะไรเหม็นเฉ่าๆ”

   “โหยยยย เหม็นเฉ่าๆ แต่ปากมึงจะงับปากน้องอยู่แล้วคร้าบบบ” หึหึ...พี่ไกด์แม่ง

   “เสือกครับไกด์ครับ นั่น ไส้น้องเป็ดเขียวทะลักแล้วไอ้เหี้ย เดี๋ยวพี่ลันด่า มึงรับไปคนเดียวนะ” ไอ้ทีมหันไปชี้หน้าเพื่อนสนิทขำๆ

   “ไปแปรงฟันสิ เดี๋ยวลงมาทานข้าว” ทีมมันบอกเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้หน้าผมอยู่แถวๆ ท้องมันเองครับ แค่นั้นไม่พอ ไอ้คุณชายมันดึงมือผมขึ้นให้ส่ายไปมาอยู่ในอากาศ แม่ง เหมือนย้อนกลับไปเรียนอนุบาลเลย

   “กูอยากนอนต่อ”

   “มึงนอนตอนนี้ เดี๋ยวกลางคืนก็นอนไม่หลับหรอก เอางี้ กูพาไปล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า”

   ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับไป ก็โดนไอ้ห่านป่าจอมเอาแต่ใจแม่งยกลอยขึ้น...

   “เฮ้ย ทำอะไร!”

   มันอุ้มผมต่อหน้าเพื่อนมันครับ อ๊ะๆ ไม่ใช่อุ้มแบบเจ้าชายผู้แสนดีอุ้มเจ้าหญิงตามนิยายทั่วไปหรอก ไอ้นี่มันเถื่อนกว่านั้น แม่งเอาคนป่วยที่น่าสงสารอย่างผมขึ้นพาดบ่าเดินทั่กๆ ขึ้นบันไดไป....

   “ไอ้เหี้ย ปล่อยกู กูเดินเองได้!!”

   “เดี๋ยวกูพาขึ้นไป มึงจะได้ไม่ต้องออกแรงเดินไง”

   อ้อก....กูจะอ้วกแล้ว...



   ผมเคยบอกคุณรึยังว่าการอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับคนอื่นเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากสำหรับผม ถ้าเคยบอก ก็ขอถอนคำพูดครับ...อยู่กับคนอื่นไม่ลำบากเท่าการอยู่ร่วมกับห่านบ้าพลังตัวนี้!!

   พระเจ้า ผมเกิดมายังไม่เคยโดนบังคับให้แปรงฟันล้างหน้าอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าแบบที่คนอื่นต้องการเท่าวันนี้เลย

   กว่าไอ้ทีมจะยอมปล่อยให้เดินออกจากห้องน้ำได้ ตัวผมก็เกือบจะเรืองแสงได้แล้วล่ะครับ แม่งรีบอาบน้ำให้ผมก็จริงแต่ขอโทษเถอะ ผมโดนห่านป่าจัดการเอาฟองน้ำขัดผิวขัดแกรกๆ ยิ่งกว่าปลาโดนขอดเกล็ด

   นี่พ่อมึงมีอาชีพขายปลาเป็นอาชีพลับๆ รึเปล่า ห่าน ขัดขี้ไคลกูนะ ไม่ใช่เตรียมปลาไว้ทอด เหี้ย ล้างซะ

   แต่ขัดแบบนี้ไม่ใช่แค่หนังที่จะหลุด แต่เหมือนไข้จะหายตามได้ด้วยเลยครับ เดินออกมาจากห้องน้ำ เจ็บที่ตัวจนลืมปวดหัวไปเลย

   “ทำไมตัวมึงแดงแบบนี้” ยังจะถาม นี่ไฟตกรึเปล่า รอมมึงถึงไม่จำข้อมูลว่าทำร้ายกูตรงไหนบ้าง

   “แล้วเมื่อกี้มึงทำอะไรกู” ผมใจดีนะ ย้อนความให้มันหน่อย

   “ขัดขี้ไคล”

   “อ่อเหรอ นึกว่าเตรียมจะถลกหนังกู” ผมบอกเคืองๆ พลางสวมเสื้อยืดคอกลมลงหัว

   “แต่ผิวก็เนียนขึ้นไม่ใช่รึไง” ห่านป่าแม่งไม่หยุดแค่นั้นครับ มันเดินเข้ามาหาผม ก้มลงหอมแก้มแรงๆ ทีนึง จนผมอดใจไม่ไหวฟาดต้นแขนมันกลับดังเพี๊ยะ “เจ็บนะ”

   “มึงมันชอบฉวยโอกาส ทำแบบนี้กับคนอื่นกี่คนแล้วล่ะ”

   “คนก่อนๆ น่ะเหรอ...ไม่เคยอะ” มันนึกแป๊ปนึงแล้วตอบผมแบบนั้น แต่ขอโทษ นาทีนี้มึงอมพระมาเต็มปากกูยังไม่เชื่อเลย “ถ้าอยู่ในห้องนอนกันสองคน ก็ต้องใช้เตียงให้เป็นประโยชน์สิ กูไม่เคยมายืนเตรียมน้ำอุ่นให้อาบ เตรียมเสื้อให้ใส่ หรือมายืนหอมแก้มทั้งๆ ที่แค่ผลักมึงล้มก็ถึงเตียงหรอกนะ...กับแฟนคนก่อนๆ กูมีหน้าที่แค่เตรียมถุงยางเท่านั้นแหละ หึหึ”

   ใจความสำคัญมันมาอยู่ที่ประโยคหลังนี่เอง แสรด

   “เหรอ ไม่เห็นเหมือนกูเลย” ผมตอบเซ็งๆ หันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดู ไอ้เหี้ยทีมเดินเข้ามากอดเอาไว้หลวมๆ ถามเสียงเข้ม

   “งั้นมึงทำอะไร”

   “ก็แค่หาซื้อTonafil(ยาปลุกเซ็กส์ชนิดหนึ่ง)” ผมตอบแล้วยิ้มออกมาบางๆ วางโทรศัพท์ลง หันกลับไปมองทีมช้าๆ “ถ้าวันไหนมึงอยากมีเซ็กส์กับกู ก็เตรียมยานั้นไว้ให้กูด้วยแล้วกัน”

   ผมผละออกจากมัน เตรียมจะเดินออกจากห้องนอน แต่เสียงเรียกที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าตัวเองไว้

   “ฝุ่น...” ยังไม่ทันได้หันกลับไป ร่างกายก็โดนกระชากกลับไปสู่อ้อมกอดนั้นอีกครั้ง “มึงใช้ยานั้นกับตัวเองงั้นเหรอ...มึงวางยาตัวเองทำไม”

   “คนที่มาจากครอบครัวที่ดีแบบมึง อธิบายไปก็ไม่เข้าใจกูหรอกทีม ถ้ามึงจะรักกู ก็รู้จักกูที่เป็นกูตอนนี้พอแล้ว” ผมยกมือขึ้นสัมผัสฝ่ามือที่กอดรัดแน่นอยู่บริเวณเอวของตัวเองเบาๆ ความรู้สึกที่อบอุ่นทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก..กว่าจะทันรู้ตัว ขอบตาผมก็ร้อนผ่าว...

   “ลงไปข้างล่างเถอะ ป่านนี้เพื่อนมึงโพนทะนาแล้วมั้ง ว่ากูกับมึงกำลังทำอะไรกันอยู่”


   
   แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ...

   “เฮ้ย เสร็จไวกว่าที่กูคิดอีก” พี่คนที่ผมจำได้ว่าเขาคือพี่รหัสของไอ้เหี้ยทีม พูดเสียงดังทั้งที่ในมือยังถือชามพลาสติกใบเขื่องใส่เนื้อหมักเอาไว้ เสียงเป่าปากแซวดังจากพี่เฝือก...เอ้ย พี่ไกด์จนผมนึกอยากเสริมเฝือกให้ฟรีที่ปาก

   “ห่าแล้วพี่ ผมยังไม่ได้ทำอะไรฝุ่นซักหน่อย”

   “อ๋อ กูลืมไป step by step” พี่ไกด์บอกเสียงดังแล้วหัวเราะ ไอ้ทีมแม่งเลยเดินไปตบหัวดังปั่ก “โอ๊ย เหี้ย สมองกูไหลออกทางจมูกแล้ว”

   ผมผละออกจากสนามประลองฝีปากแล้วเดินออกไปที่สวนหน้าบ้าน เซ็กส์ซี่ยืนหางกระดิก ลุกๆ นั่งๆ ตามคำสั่งของเพื่อนไอ้ทีมอีกคนเพื่อรอรางวัลเป็นตับย่าง อยากบอกจริงๆ ให้เปลี่ยนตับย่างเป็นเอ็มพีสาม รับรอง อีหมาเซ็กส์เสื่อมนี่ยอมทำทุกอย่างเลย ฮึ่ม(แค้นฝังใจ)

   ห่างออกไปเป็นพี่รหัสของไอ้ห่านป่าที่เอาชามเนื้อหมักไปส่งให้เพื่อนอีกคนที่ยืนเตรียมผักสด ไม่ไกลสองคนนั้นเท่าไหร่ มีโต๊ะสนามขนาดใหญ่กางทิ้งเอาไว้ มีทั้งจานพลาสติก แก้วน้ำแบบใช้แล้วทิ้ง และของสำคัญที่ขาดไม่ได้...เบียร์สองลัง และเหล้ายี่ห้อหนึ่งอีกสามกลม

   เสียงหอบแฮ่กๆ พร้อมแรงงับเบาๆ ที่มือทำให้ผมเบือนความสนใจกลับมาที่อีหมาเซ็กส์เสื่อมที่ตอนนี้มันสนใจมือผมมากว่าตับย่างไม้นั้น

   “อะไรมึง กูไม่มีเอ็มพีสามให้มึงงับเล่นแล้วนะ” ผมย่อตัวลงนั่งดึงหนังหัวมันเล่น

   “สงสัยซูซี่จะอิ่มแล้วมั้ง” ซูซี่?? อะไรคือซูซี่วะ

   “อะไรคือซูซี่” ผมถาม เพื่อนไอ้ทีมที่ยังถือตับย่างเหลือครึ่งไม้ไว้ในมือก็ชี้มาที่อีหมาเสื่อมแบบงงๆ

   “เห็นเฮียเรียกอะไรซี่ๆ มันไม่ได้ชื่อซูซี่เหรอ”

   ผมหัวเราะออกมานิดหน่อย ซูซี่กับเซ็กส์ซี่ไม่ค่อยใกล้กันเลยนะ ว่างๆ ก็แคะหูบ้าง

   “มันชื่อเซ็กส์ซี่”

   “อ้าวจริงดิ...เออ ชื่อน่ารักกว่าซูซี่อีก กร๊ากกก” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะออกมาแบบไม่แคร์คนรอบข้างเลยทีเดียว ผมก็เพิ่งได้มองเขาเต็มๆ ตา เพื่อนไอ้ทีมคนนี้ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นคนที่เด็กที่สุด อายุไล่เรี่ยกันกับผม ชื่ออันดา

   วันนั้นที่เจอกันครั้งแรก มันนั่งหลบอยู่ในมุมมืดเลยมองไม่ชัดเท่าไหร่ แต่วันนี้มานั่งอยู่บนสนามหญ้ากลางแดด ทำให้ผมเห็นชัด...ไอ้เหี้ยทีมคบเพื่อนแบบเลือกหน้าตาจริงๆ

   ให้พูดกันอย่างเป็นกลาง อันดาไม่ได้มีเสน่ห์แบบผู้หญิงแต่เขากลับดูเป็นผู้ชายที่หน้าตาน่ารัก ตานิด จมูกหน่อย ปากแดงเชิดๆ แต่เดี๋ยวนะ...ชื่ออันดานี่ย่อมาจากอันดามันรึเปล่าวะ?

   “ชื่ออันดาใช่รึเปล่า”

   “ถูกคร้าบ”

   “กูอยากรู้ อันดานี่คืออันดามันรึเปล่า” ปกติก็ไม่ใช่คนอยากรู้เรื่องชาวบ้านหรอกครับ แต่ไอ้นี่มันดูขำๆ น่าคบดี

   “อ่อ...ก็ใช่นะ ที่จริงชื่อกูก็มาจากทะเลอันดามันนั่นแหละ แต่แม่ตั้งให้แค่อันดา พี่กูก็ชื่อสิมิลัน”

   เออ ชื่อเปรี้ยวว่ะ สิมิลันกับอันดา

   “แต่พ่อกับแม่กูไม่ได้เจอกันที่เกาะทางใต้หรอกนะ แม่กูแค่ชอบภาพที่พ่อถ่ายทะเลใต้มา เค้าเลยเอามาตั้งเป็นชื่อพี่ลันกับกูแค่นั้นเอง” มันบอกอย่างภาคภูมิใจ แล้วยกตับย่างหนีหน้าเซ็กส์ซี่ที่อาศัยจังหวะที่อันดานั่งคุยกับผมวิ่งเข้าไปหมายจะงับตับ หมาใครวะ แผนสูงชิบหาย

   “อันดา ให้ตับเซ็กส์ซี่แล้วไปล้างมือเร็วๆ มาช่วยพี่ย่างเนื้อก่อน” พี่อีกคนที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นพี่ชายของอันดาหันมาตะโกนบอก

   “คร้าบบบบ” มันยิ้ม ส่งตับย่างเสียบไม้ให้ผมแล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไป...อ่าว งี้เซ็กส์ซี่มันก็รุมกูสิ

   ระหว่างที่ยังนั่งเหวอ ยกตับหนีอีหมาน้อย พี่ลันก็ทักทายผมบ้าง “ไง ฝุ่น ไอ้ทีมบอกว่าไม่สบาย ดีขึ้นรึยัง”

   “ก็นิดหน่อยครับ” ผมตอบ แล้วพยายามปล้ำกับเซ็กส์ซี่ให้มันยอมทำตามคำสั่งของผม แต่แม่ง อะไรวะ ทีอันดาสั่ง มันทั้งนั่งทั้งนอน แกล้งตาย ทำสารพัดอย่างเพื่อให้ได้กินตับย่าง แต่พอผมสั่งบ้าง มันกลับไม่สนใจตั้งท่าแต่จะแย่งตับจากมือผมลูกเดียว หมาไม่รักดี!!

   “เซ็กส์ซี่ นั่งลง!” ไม่ใช่ผมสั่งหรอกครับ ไอ้ทีมที่เดินมาจากไหนไม่รู้พูดเสียงดัง เซ็กส์ซี่แม่งหยุดชะงักการฉกชิงแย่งตับแล้วนั่งลงทำเสียงหงิงๆ ทันที “ให้ตับมันสิ”

   “หมามึงนิสัยแย่มาก กูสั่งอะไรไม่ฟังเลย” ผมบอก ตอนที่ทีมมันทรุดตัวลงนั่งยองๆ ข้างๆ ลูบหัวเจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่เล่น

   “มึงต้องสั่งมันให้เฉียบขาดสิ พอมันทำได้ ก็ให้รางวัล แล้วมันจะเชื่อฟังมึงเอง”

   “ทีตอนมันงับเอ็มพีสามกู ยังไม่เห็นต้องสั่งเลย” ทีมมันหัวเราะหึหึ ดึงตับย่างที่เหลืออีกสองชิ้นไปส่งให้เซ็กส์ซี่กิน พลางบอกผม

   “ไปเตรียมล้างแล้วก็หั่นปลาหมึกกับกุ้งดีกว่า พวกนี้สุกง่ายไว้ค่อยย่างตอนกิน อันดาช่วยพี่ลันย่างเนื้อแล้ว เย็นๆ ก็กินกัน”

   “มึงเลี้ยงอะไรกันวะ”

   “เปล่า ที่จริงพวกกูก็มีปาร์ตี้แบบนี้บ่อยๆ อยู่แล้ว วันนี้คนอื่นจะไปกินที่เฟิร์สไซด์กัน แต่กูบอกว่ามึงไม่สบายกูเลยจะไม่ไป ทุกคนก็เลยเปลี่ยนแผนมากินที่บ้านแทน มึงจะได้กินด้วย” ทีมมันบอกผมแล้วลุกขึ้นยืน ผมเลยยกแขนขึ้นเพื่อให้มันช่วยดึงผมให้ลุกบ้าง ห่านป่าแม่งหัวเราะเบาๆ แล้วยอมทำตาม “เออ กูลืมถาม หิวรึเปล่า”

   ไม่ถามกูพรุ่งนี้บ่ายๆ เลยวะ

   “นิดหน่อย แต่ยังไม่กินก็ได้ รอกินบาร์บีคิวดีกว่า” ผมตอบ ทีมเลยเดินนำไปที่โต๊ะพลาสติกตัวใหญ่ริมสนาม บนโต๊ะมีกะละมังใส่น้ำแข็งวางอยู่ด้านบนเป็นถุงพลาสติกใส่พวกปลาหมึกและกุ้ง

   “ทำเป็นรึเปล่า” ไม่ใช่ทีมหรอกครับที่ถาม พี่ชายของอันดาเดินเข้ามาร่วมวงด้วย

   “ท่านเชฟผู้เป็นหนึ่งในยุทธจักรโปรดชี้แนะ” ทีมทำท่าประสานมือเหมือนหนังจีน ส่ายหัวด๊อกแด๊กแล้วค้อมตัวลงหน่อยๆ พี่ลันหัวเราะออกมา แล้วเดินไปหยิบกะละมังอีกใบมารองน้ำจากก๊อกใกล้ๆ โต๊ะมา

   “ล้างก่อนแล้วกัน ใส่เกลือด้วย จะได้ไม่คาว” พี่ลันทำให้ดูช้าๆ แบบมืออาชีพมากครับ ผมได้แต่ชะเง้อมองตาม ปกติมีหน้าที่กินอย่างเดียว ไม่เคยช่วยทำอะไรแบบนี้เลย

   ล้างไปอธิบายไป สุดท้าย ลูกศิษย์มือใหม่อย่างพวกผมก็ได้แต่ยืนให้กำลังใจ พี่ลันก็ต้องกลายเป็นทั้งคนสอนและคนทำในที่สุด ผมมารู้ทีหลังจากไอ้ทีมว่าพี่ชายของอันดาเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ได้เรียนคณะสถาปัตย์ แต่เรียนเกี่ยวกับการคหกรรม(เกี่ยวกับการทำอาหารและโภชนาการโดยเฉพาะ) เพราะพี่แกค้นพบทางตัวเองตั้งแต่ยังเรียนมัธยมต้นว่าชอบทำอาหาร ที่บ้านก็ตามใจ อยากเรียนอะไรก็เรียนไป ขอแค่เรียนก็พอ

   หลังจากที่ทุกคนเหนื่อยกับการเตรียมอาหารสดทั้งหลายเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่าผมก็ทำตัวเป็นคนดีด้วยการพยายามจะช่วย และก็เลิกพยายามไปในที่สุด เพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดูและให้กำลังใจ(พี่อ๋อง พี่รหัสของไอ้ทีม ถึงขั้นขอให้ผมถอยห่างออกจากบริเวณที่พี่แกกำลังหั่นปลาหมึก เพราะกลัวว่าจะได้หั่นนิ้วผมแทนหนวดมันTT)

   เกือบหกโมงเย็นแล้ว กว่าจะได้ฤกษ์เข้ามานั่งเกาะกลุ่มกันทานบาร์บีคิว ปาร์ตี้วันเกิดอยากจะกินมีทุกอย่างเลยครับ แต่พี่ลันเน้นที่เนื้อหมักย่างหอมๆ น้องเป็ดเขียว เอ้ย ไก่อบฟาง ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ไหนจะมีถั่วคั่วหอมๆ ไว้กินแกล้มเหล้าเป็นออเดิร์ฟอีก แล้วรสชาติก็ดีอย่าบอกใคร เหมือนเชฟใหญ่มาเอง

   “เป็นไงฝุ่น อร่อยมั้ย” นินทาปุ๊บก็เดินมาเลยครับ พี่ลันคีบเนื้อชิ้นนุ่มวางเพิ่มลงบนจานของผมและอันดา

   “อร่อยครับ พี่ลันฝีมือดีมากๆ”

   “ฮ่าๆ จริงเหรอ ปากหวานแบบนี้นี่เอง ไอ้ทีมถึงได้หลงนักหลงหนา” แหงะ...ผมไม่เคยปากหวานกับมันนะ

   “แน่นอน พี่ชายของอันดาทำกับข้าวอร่อย ไม่งั้นที่ร้านจะมีคนเข้าเยอะแยะแบบนั้นได้ไง”

   “เปิดร้านด้วยเหรอ” ผมถาม พี่ลันเลยยิ้มออกมาอย่างเขินๆ

   “ที่จริงก็เป็นร้านของญาติน่ะ ทำงานเก็บเงินได้ซักก้อนก็ว่าจะเปิดร้านของตัวเองดูบ้าง”

   “ต้องรุ่งแน่ๆ ครับ” ผมย้ำ พี่ลันเลยยิ่งยิ้มกว้าง คีบเนื้อให้ผมเพิ่ม...อ้าว บ้ายอนี่หว่า กร๊ากกก

   แต่เรื่องอาหารอร่อยน่ะ เรื่องจริงนะครับ สมแล้วที่เป็นคนชอบทำอาหาร และเรียนจบมาทางด้านนี้โดยเฉพาะ

   “เหี้ยทีม น้องปิ๊กโทรมา” พี่ไกด์ที่นั่งถัดจากผมไปหันไปตะโกนเรียกเพื่อนที่ยังยืนหน้าดำควันโขมงย่างกุ้งอยู่หน้าเตาไฟ

   “ไม่ต้องรับหรอกมึง” ห่านป่าแม่งตอบแบบนั้นแล้วจัดการพลิกกุ้งต่อแบบไม่สนใจพี่ไกด์ที่นั่งเดี้ยงมองโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่หยุดด้วยสีหน้าลำบากใจ

   “มึงไม่เคลียร์ให้จบๆ ไปวะทีม จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง”

   ถามทีมด้วยคำถามแบบนี้ ผมไม่ต้องรู้เรื่องยังเดาออกเลยว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

   “กูเคลียร์ไปสิบรอบแล้วครับเชี่ยไกด์” คนย่างกุ้งมันทำเสียงเซ็งๆ

   “ใช่เด็กอักษรฯ คนนั้นรึเปล่าวะไกด์” พี่อ๋องชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมาถามพร้อมรอยยิ้มกวนๆ

   “ครับพี่ เค้าโทรหาไอ้ทีมแล้วแม่งไม่รับ เลยหันมาจิกผมแทน”

   “กูคั่วต่อให้มั้ย ถึงน้องรหัสกูจะจิกไปแล้วแต่กูก็ไม่ถือนะ” พี่อ๋องพูดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ดูเหมือนคนที่โดนพาดพิงจะเอาจานกุ้งกลับมาที่โต๊ะพอดีเลยพูดขึ้น

   “ผมจะโทรฟ้องน้องตังค์”

   “เกี่ยวอะไรกับสตังค์” พี่อ๋องดับเสียงหัวเราะทันทีครับ สงสัยไอ้ทีมแม่งจะจี้ถูกจุด กร๊าก

   “ไม่รู้สิครับ” ทีมทำหน้าตายแล้วนั่งลงข้างผม แกะกุ้งเงียบๆ พักเดียวพี่ไกด์ก็สบถออกมาแล้วพูด

   “เหี้ยทีม มึงดูอะไรนี่” พี่ไกด์บอกแล้วยื่นโทรศัพท์ผ่านหน้าผม ส่งให้ไอ้เหี้ยทีมทันทีครับ แต่ขานั้นมือเลอะกุ้งเลยได้แต่นั่งอ่านข้อความบนหน้าจอด้วยสีหน้าเหม็นเบื่อ

   “อันดา ออกไปบอกผู้หญิงหน้าประตูบ้านให้พี่หน่อย ว่าพี่ทีมไม่อยู่”

   อันดาขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ก็ยอมลุกขึ้นเดินหายไปทางหน้าบ้าน แค่อึดใจเดียวอันดาก็วิ่งกลับมาหน้าตื่นๆ

   “เค้าบอกว่า เค้ารู้ว่าพี่อยู่นี่ ถ้าพี่ไม่ออกไปพูดกับเค้า เค้าจะปีนเข้ามาในบ้านเอง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็รอดูเอา”

   “โหย แรงสาด กูไม่เอาแล้ว” พี่อ๋องยังมีอารมณ์มาล้อเล่น

   “มึงก็ออกไปคุยกับเค้าให้รู้เรื่องสิวะ” ผมทนไม่ได้ หันกลับไปบอกมัน ทีมขมวดคิ้ว

   “กูเคลียร์แล้ว กูจบกับเค้าตั้งแต่ก่อนมึงกลับมาด้วยซ้ำ แต่กูไม่เข้าใจว่าเค้าเว้าวอนอะไรในตัวกูนักหนา”

   “ก็นี่ไง เพราะมึงไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไร ก็ออกไปคุยให้รู้เรื่อง จบๆ แม่งไปซะ” พี่ไกด์เสริม “กูก็ไม่ได้อยากบังคับมึงนะเว้ยทีม แต่กูก็รำคาญเวลาน้องปิ๊กโทรจิกกูตอนเช้าๆ เหมือนกัน”

   อ่อ...กูก็นึกว่าพี่ไกด์เป็นคนดี อยากให้ผู้หญิงได้รับความยุติธรรม ที่ไหนได้ แม่งรำคาญเสียงโทรศัพท์นี่เอง

   “เออๆ งั้นเดี๋ยวกูมา นั่งกินกันไปก่อนก็แล้วกัน”

   ทีมมันยังไม่เลิกทำหน้าเหม็นเบื่อตอนที่ลุกเดินไปทางประตูหน้าบ้าน พอห่านป่ามันเดินพ้นระยะที่จะได้ยิน อันดาก็เริ่มพูดทันที

   “ผู้หญิงคนนั้น ดูเค้าโกรธเฮียมากเลยนะ ให้เฮียออกไปคนเดียวจะดีเหรอ”

   “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...”


   เพล้ง!!





   ทุกสายตาหันกลับไปที่ต้นเสียง กว่าจะทันได้ห้ามตัวเอง ร่างกายของผมก็ผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปทางเดียวกับที่ทีมเพิ่งเดินออกไปทันที






เจอกันตอนหน้า(ตอน 10)จ้ะ




eiizes’s talk

สวัสดีค่า
 
ทั้งที่ตั้งใจจะอัพวันเว้นวันแท้ๆ แต่ทำไมความขี้เกียจมันมากมายขนาดนี้ 555

มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใหม่ๆ เข้ามากันหลายคนเนอะ คนเขียนก็ปลื้มมม แวะเวียนมาอ่าน มาทักทายกันได้นะคะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจเลย

ที่จริงคะแนนบวก จะบวกหรือไม่บวกให้ คนเขียนก็ไม่ได้ยึดถืออะไรนะคะ แค่ทุกคนเขียนความเห็นให้กันแบบนี้ก็ดีใจแล้ว(เพราะเราเอง ก็ยังบวกให้ใครไม่ได้เลยเหมือนกัน  :sad4:)


เห็นหลายคนสงสัยว่าใครกันนะ คือคนแรกของน้องฝุ่น...คริคริ อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

อดีตของฝุ่น ก็ค่อยๆ เผยออกมาทีละนิด ไหนจะน้องปิ๊กชะนีสาว(?)จากคณะอักษร งานนี้พี่ทีมจะจัดการยังไง ก็เป็นกำลังใจให้คุณพระเอกสุดกวนคนนี้ด้วยแล้วกันค่า  :z2:



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

eiizes


หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 01-02-2011 16:49:04
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :serius2: :serius2: :serius2:
หั่นจบอย่างงี้ เอามีดมากระซวกพุงกันเลยดีกว่าค่ะ  :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Jimmeiiii* ที่ 01-02-2011 16:58:07
อันดาน่ารักจัง :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 01-02-2011 17:01:13
เพล้งอะไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: DewHup ที่ 01-02-2011 17:52:39
เกิดอะไรขึ้นกับทีมอ่ะ   :sad3: :sad3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-02-2011 18:46:37
ไล่ชะนีกลับเข้าป่าได้แล้ว  ไม่ก็จัดให้สักชุดดิชุดใหญ่ๆ เวียนเทียนให้หายอยากซะที
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 01-02-2011 18:59:01
กลับมาก่อนนนนนนนนนนนนนน
ตัดจบอย่างนี้ได้อย่างไรกันคนเขียน
ทีมจัดชุดใหญ่ไปเลยเคลียร์แล้วแต่
ผู้หญิงไม่จบมันดูไม่ดียังไงไม่รู้แหะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 01-02-2011 19:11:38
และแล้วก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดที่หน้าบ้าน... ใช่มั้ย?  :pigha2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 01-02-2011 19:12:51
ชะนีร้ายเหลือ
ว่าแต่น้องนีเค้าทำไรทีมเนี่ย


ปล. เว้าวรณ์ สะกดว่า เว้าวอน ค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 01-02-2011 19:18:19
 :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 01-02-2011 19:52:42
ชะนีร้ายเหลือ
ว่าแต่น้องนีเค้าทำไรทีมเนี่ย


ปล. เว้าวรณ์ สะกดว่า เว้าวอน ค่า


โอ้ววว
แก้เรียบร้อยแล้วจ้า ขอบคุณมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-02-2011 20:02:46
ผู้หญิงจะน่ารักตอนโดนจีบ

แต่พอถูกทิ้งเมื่อไหร อย่างกะซาตาน


จะจีบเค้า ก็จำใส่หัวไวซะ เด็กน้อย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 01-02-2011 20:10:30
 :serius2: :serius2: :serius2:ทีมจะโดนน้องปิ๊กอะไรนั่นเอาไรทุบหัวป่ะเนี่ย 


ฝุ่นรีบไปดูเร็วๆ


ปล.คนแต่งสู้ๆนะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-02-2011 20:44:48
อ้าว! จบแบบก็ค้างอะจิ กลับมาต่อเดี๋ยวนี้น้าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-02-2011 20:49:36
ปมในใจฝุ่นถ้าจะเป็นปมใหญ่ที่แก้ยากถึงขั้นต้องวางยาตัวเอง ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าทีมทำฝุ่นเสียใจอีกครั้งฝุ่นจะอยู่ยังไง

........แต่.......มันไม่สำคัญเท่าตอนนี้ทีมมันโดนอะไรรรร..... :serius2: มาต่อเร็ว ๆ นะ

 :pig4:คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-02-2011 21:26:44
ทีมเจอตีหัวแหงๆ ก็เธอแรงออกซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 01-02-2011 21:35:23
จบแบบค้างคาอีกแล้วค่าาาาาาา งื้ออออ
อ่านตอนนี้ไป แอบสงสารฝุ่นเล็กๆ ทำไม?
ต้องวางยาตัวเองด้วย? มีอดีตอะไรไม่ดีหรอ?
ต้องรอตอนที่สิบ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 01-02-2011 22:38:44
จบค้างง่า
ทำไมน้องฝุ่นต้องใช้ยากับตัวเองด้วย
ท่าน้องฝุ่นจะมีปมเยอะนะ
พี่ทีมต้องดูแลดีๆนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-02-2011 23:10:47
ตอนนี้ชะนีแรงสุด  ตัดจบได้น่าตีมาก ๆ เลยคนแต่ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 02-02-2011 08:01:44
เพล้ง!!!
ฝุ่นไปดูเร็ว ชะนีแรงนะนี่ ต้องตามไปตบตี สามีเราห้ามยุ่ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 02-02-2011 21:25:05
โอ๊ะ...เสียงอะไรอ่ะ?????


เสียงสับหมู??? หรือเสียงหมูสับ???
เสียงแก้วแตก จานแตก หน้าแตก??? 5555555555555

ผู้ชายเต็มไปหมดเลยตอนนี้...ยังไงล่ะเนี่ย
แต่ทีมก็ยังดูคงเส้นคงวากับฝุ่นนะ

แต่เค้าชอบ ไกด์ อ่ะ 5555
กวนประสาทดี ชอบเพราะมีน้องเป็ดเขียว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-02-2011 22:07:50
เบื่อจริงๆชะนีชาลีเรย์เนี้ย แค้นฝังหุ่นมากๆ ทำตัวได้ไร้ค่าแท้ๆคนเค้าไม่เอาแล้วยังจะมาวอแวอะไรกับเค้าอีก แทนที่จะไปทำบุญตังบาตรเข้าวัดเข้าวา บ้างอะไรบ้าง ชีวิตจะได้เจริญๆขึ้น มัวแต่วิ่งตามผู้ชายวันๆ ทำตัวได้ต่ำจริงๆ น่าสงสารพ่อแม่จัง มีลูกแรดแบบนี้ เฮ่ออ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 03-02-2011 00:01:25
เฮ้ออออออ ปัญหาใหม่สินะทีม สงสัยจะทำบุญมาน้อยอะดิ
เปรี้ยวนะคะคุณน้อง เป็นผู้หญิงก็ต้องปล่อยให้ผู้ชายเค้ารักกันสิคะ เอ๊ะยังไงนะชั้น ฮึฮึ

อืมคือว่าคนแต่งชื่อไรคะจะได้เรียกถูก เราชื่อขวัญจ้า
ขวัญชอบมากเลยนะ กดบวกยังไม่ได้แต่เป็นกำลังใจอยู่ห่างๆค่ะ ^^

ป.ล.ขวัญรอ  NC งามๆอยู่เน้อ 55555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 03-02-2011 10:17:37
เฮ้ออออออ ปัญหาใหม่สินะทีม สงสัยจะทำบุญมาน้อยอะดิ
เปรี้ยวนะคะคุณน้อง เป็นผู้หญิงก็ต้องปล่อยให้ผู้ชายเค้ารักกันสิคะ เอ๊ะยังไงนะชั้น ฮึฮึ

อืมคือว่าคนแต่งชื่อไรคะจะได้เรียกถูก เราชื่อขวัญจ้า
ขวัญชอบมากเลยนะ กดบวกยังไม่ได้แต่เป็นกำลังใจอยู่ห่างๆค่ะ ^^

ป.ล.ขวัญรอ  NC งามๆอยู่เน้อ 55555

ชื่อไอซ์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่า
เรื่องกดบวกเราไม่ว่ากันเนอะ แค่อุตส่าห์ใจดีเขียนคอมเม้นท์ให้ ไอซ์ก็ดีใจมากๆ แล้วค่า  :o8: :o8:

ปล.แอบเห็นอายุ เอิ้กๆ ต้องเรียกพี่ขวัญสิเนอะ  :laugh: (พี่ขวัญดัก :beat:)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 03-02-2011 10:32:45
^
^
จิ้มตรู๊ด  :z13:
รออัพอยู่นะคะ ไอซ์จัง :impress:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 03-02-2011 16:16:30
เฮ้ออออออ ปัญหาใหม่สินะทีม สงสัยจะทำบุญมาน้อยอะดิ
เปรี้ยวนะคะคุณน้อง เป็นผู้หญิงก็ต้องปล่อยให้ผู้ชายเค้ารักกันสิคะ เอ๊ะยังไงนะชั้น ฮึฮึ

อืมคือว่าคนแต่งชื่อไรคะจะได้เรียกถูก เราชื่อขวัญจ้า
ขวัญชอบมากเลยนะ กดบวกยังไม่ได้แต่เป็นกำลังใจอยู่ห่างๆค่ะ ^^

ป.ล.ขวัญรอ  NC งามๆอยู่เน้อ 55555

ชื่อไอซ์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่า
เรื่องกดบวกเราไม่ว่ากันเนอะ แค่อุตส่าห์ใจดีเขียนคอมเม้นท์ให้ ไอซ์ก็ดีใจมากๆ แล้วค่า  :o8: :o8:

ปล.แอบเห็นอายุ เอิ้กๆ ต้องเรียกพี่ขวัญสิเนอะ  :laugh: (พี่ขวัญดัก :beat:)

:beat: :beat: :beat:

เอ๊าะ จัดไปอย่าให้เสีย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ วันนี้มาลงต่อป่ะจ๊ะ วันนี้พี่ขวัญไม่ว่างแล้วซิ
พรุ่งนี้จะเช็คแต่เช้าเชียว เพราะเคยมีคนเคยพูดว่า จะลงวันเว้นวันไรงี้
พรุ่งนี้เจอกันจ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 04-02-2011 22:41:57
ไอซ์ หายไปไหนอ่ะ ไหนบอกเว้นวันอ่ะ สองวันกว่าแล้วเน้อ
พี่ขวัญมานั่งรอน้องฝุ่นกับตาทีมอยู่แต่เช้าแล้วนะ ฮึฮึ :fire:

โทษฐานมาช้า เอาอะไรมาเซ่นซะดีๆ 5555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 05-02-2011 11:56:06
 o22 อดีตฝุ่นมันต้องมาม่าอย่างแรงแหงๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 05-02-2011 12:22:48
ขำเซ็กซี่ 555+

ชอบมันจัง

ฝุ่นท่าจะมีลับลมคมในเยอะแฮะ สงสัยต้องมีเรื่องไม่น่าจดจำมากมายแหงมๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 05-02-2011 17:46:58
คิดถึงไกด์ 55 :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 05-02-2011 22:44:48
เข้ามาอ่านด้วยคน
ทีม ทำไรสาวเค้าไว้ล่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 9 [01/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 06-02-2011 21:03:10
10

   เพล้ง!!


   ทุกสายตาหันกลับไปที่ต้นเสียง กว่าจะทันได้ห้ามตัวเอง ร่างกายของผมก็ผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปทางเดียวกับที่ทีมเพิ่งเดินออกไปทันที

   “เกิดอะไรขึ้น!?” ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปแบบนั้น สีหน้าผมคงดูตกใจจนแย่มาก ทีมมันเลยผละจากหน้าประตูบ้านเดินเข้ามากอดผมไว้หลวมๆ พลางกระซิบ

   “ไม่มีอะไรหรอก ใจเย็นๆ ไม่มีอะไร ทีมไม่ได้เป็นอะไร” มันบอก พลางโยกตัวไปมาเหมือนกำลังปลอบเด็ก เอ๊ะ นี่ต้องให้กูย้ำกี่รอบครับ ว่ากูอายุสิบแปดปีไม่ใช่สิบแปดเดือน

   “กูได้ยินเสียงของแตก”

   “ลูกชายอาแปะคนเก็บขวดทำขวดหล่นน่ะ” เออะ....

   ผมชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าบ้าน แล้วก็เป็นอย่างที่ไอ้ทีมว่าจริงๆ ลุงแก่ๆ คนนึงยืนบ่นลูกชายอายุประมาณเจ็ดขวบหน้าดำหน้าแดง แต่อย่าคิดว่าลูกชายจะสำนึกผิดหรือสลดอะไรนะครับ ผมเห็นเด็กมันยังคอแข็งจะอ้าปากเถียงสู้อยู่นั่น

   “ลื้อมันทำอะไรไม่ระวังเลย ถ้าขวดแตกบาดมือบาดเท้าอีก ม๊าลื้อ อีจะว่าไง ฮึ” แกพูดไปก็ชี้บ่นลูกชายไป

   “อั๊วไม่ได้ตั้งใจนี่” ลูกชายเถียงบ้าง

   “เดี๋ยวนี้ลื้อเถียงเหรอ เดี๋ยวปั๊ดตบฟันน้ำนมร่วง” ลุงแกบ่นลูกชายไป ก็หันไปเอาไม้กวาดจากรถซาเล้งเก็บขวดใกล้ๆ มากวาดเศษแก้วไปไว้ทางหนึ่ง “เอ้า ลื้อก็ขยับไปสิวะ เดี๋ยวอั๊วก็กวาดเอาเศษแก้วเข้าหน้าซะเลยนี่”

   แม่ง โหดชิบหาย

   “ทีม เรายังคุยกันไม่จบนะ” เสียงชะนี เอ้ย ผู้หญิงที่ไหน ...

   “ก็ทีมบอกไปหลายรอบแล้วไง ปิ๊กจะให้ทีมพูดกี่รอบเรื่องมันก็เหมือนเดิม” ไอ้คนที่ยังกางปีกกอดผมเอาไว้ หันไปตอบผู้หญิงที่ชื่อปิ๊กอะไรนั่น เธอยังยืนอยู่หน้าประตูบ้านอยู่เลยครับ ขมวดคิ้วทำหน้าเคร่งเครียดเหมือนโดนไอ้ห่านป่ามันเหยียบหาง เอ๊ะ.. ชะนีมีหางรึเปล่าวะ คริคริ

   “ทีมจะให้ปิ๊กเชื่องั้นเหรอ ว่าคนอย่างทีมจะเลิกกับผู้หญิงแล้วไปรักผู้ชายด้วยกัน บอกว่าวันนี้มีคนคลอดลูกแฝดสิบยังน่าเชื่อมากกว่าอีก!!” ผู้หญิงที่แทนตัวเองว่าปิ๊ก นั่นทำเสียงสูงแบบไม่เชื่อสุดๆ แต่เอ่อ...อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย จากที่เจอมาบ้าง ผมว่าผมก็เชื่ออย่างหลังนะ

   “งั้นกูเข้าบ้านก่อนนะ” ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเลยคิดจะหลบฉากไป แต่ทีมมันกลับดึงเอาไว้ให้อยู่ที่เดิม แล้วเลื่อนมือมากำรอบฝ่ามือผมเอาไว้หลวมๆ

   “ทีมพยายามอธิบายแล้ว ทีมว่าทีมก็พูดภาษาไทยปกติ ถ้าปิ๊กไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว” ไอ้ห่านป่ามันบอกเสียงเย็น จนผมยังรู้สึกโหวงๆ ในอก ถ้าวันนึงผมโดนเสียงนี้พูดจาแบบนี้บ้าง คงรู้สึกแย่แบบบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว

   “ทีม...ปิ๊กไม่ได้อยากรั้งทีมไว้หรอกนะ แต่ปิ๊กแค่อยากรู้เหตุผลที่แท้จริงที่ทีมขอเลิก บอกว่าทีมมีคนใหม่ ปิ๊กยังเข้าใจ แต่นี่อะไร บอกว่าชอบผู้ชาย...ทีมจะบ้าเหรอ แล้วปิ๊กจะบอกคนอื่นว่าไง”

   “ก็บอกไปดิ ว่าทีมเป็นเกย์ ทีมเลือกผู้ชายมากกว่า” ทีมมันตอบนิ่งๆ เหมือนกับคำพูดที่มันพูดออกไปไม่ได้แคร์คนทั้งโลกเลยนอกจากคนที่มันรัก

   “งั้นบอกปิ๊กสิ ว่าคนๆ นั้นคือใคร มีดีกว่าผู้หญิงแบบปิ๊กตรงไหน”

   “ไม่ได้ดีกว่าหรอก แค่ทีมรักมากกว่า” ทีมบอกเสียงนิ่ม มันบีบมือผมเบาๆ ไม่ได้อยากเข้าข้างตัวเอง แต่ผมกำลังรู้สึกคล้ายๆ ทีมกำลังบอกว่าคนๆ นั้นเป็นใคร

   “นี่อย่าบอกนะว่า คนๆ นั้นคือเด็กคนนี้!?” ปิ๊กร้องเสียงแหลม พลางชี้มาที่ผม “ทีม!! ทีมบ้าไปแล้ว เด็กคนนี้ไม่ได้มีหน้าอก ไม่ได้ตัวเล็ก เอวบาง น่ารัก ตาหวานอย่างที่ทีมชอบเลยนะ แถม...เค้าเป็นผู้ชายนะทีม!!”

   ประโยคหลังตอกย้ำจนผมแทบจะทรุดลงไปในดิน เออ กูรู้ กูกับทีมมีของที่เหมือนกัน แล้วกูผิดเหรอวะ กูเลือกเกิดได้รึไง

   “ทีม..กู...กูเข้าบ้านก่อนนะ” ผมบอกอย่างนั้น ทีมมันพยายามจะรั้งผมเอาไว้ แต่นาทีนั้นผมกลับรู้สึกแย่เพราะคำพูดของผู้หญิงคนนี้ จุกในอกจนแทบหายใจไม่ออก ฝ่ามืออุ่นๆ ที่ยังกำรอบมือผมเอาไว้ถูกสะบัดออก แล้วผมก็เดินเร็วๆ เกือบจะเป็นวิ่งผละออกมา ท่ามกลางเสียงเรียกของทีม และคำพูดของผู้หญิงคนนั้น

   “ต่อให้วันนี้นายยังเป็นคนของทีม แต่เชื่อฉันเถอะ อีกไม่นานหรอก ทีมก็จะเบื่อ แล้วก็เขี่ยนายทิ้ง ยังไงนายก็เป็นผู้ชาย นายแต่งงานกับทีมไม่ได้หรอกนะ!!!”



   ที่ๆ ผมปล่อยให้เท้าพาตัวเองไป คือห้องนอน ไม่ใช่สนามหลังบ้าน

   ผมไม่เคยรู้สึกแย่กับคำพูดของผู้หญิงคนไหนมานานเกือบสิบปี ผมไม่เคยแคร์ ไม่เคยสนใจ ไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามาทำร้ายได้อีก แต่วันนี้ คำพูดของผู้หญิงคนนั้นกลับทำร้ายผมจนเจ็บเสียดในอก

   เพราะการเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอื่น มันทำให้หัวใจที่เคยเข้มแข็งของผมเปราะบางลง บางที ผมควรจะหยุดทุกอย่าง แล้วหายไปซะ ทิ้งให้ตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัวแบบเดิมผมอาจจะมีความสุขกว่า ไม่ทรมานเพราะความรู้สึกของใคร ไม่เจ็บเพราะคำพูดของใคร...

   อีกไม่นานหรอก ทีมก็จะเบื่อ แล้วก็เขี่ยนายทิ้ง

   กว่าจะทันได้รู้ตัว...น้ำตาผมก็ไหลออกมาจนอาบแก้ม

   ทีมไม่ได้เป็นพระเอกมากพอ มันไม่ได้ขึ้นมาหา ไม่ได้ปลอบใจผม ไม่ได้ทำอะไรนอกจากปล่อยให้ผมนอนอยู่อย่างนั้นจนข้ามคืน...
   


   บ้านหลังเก่าของพวกเราเป็นไม้เกือบทั้งหลัง ตั้งอยู่ค่อนไปทางจังหวัดนนทบุรี ผมในตอนนั้นเป็นเด็กผู้ชายวัยห้าเจ็ดขวบที่ตัวเล็กกว่าเพื่อน แต่ผมก็มีความสุขดี แม่ใจดีกับผมเสมอ ส่วนพ่อถึงจะไม่ค่อยได้กลับบ้านแต่ก็ไม่เคยทิ้งครอบครัว ฐานะของเราจัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้รวยมากแต่ก็ไม่ถึงกับแร้นแค้น

   แม่บอกว่าพ่อทำงานเป็นพ่อครัวอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งไกลจากบ้านมากพอสมควร ทำให้พ่อกลับมาบ้านแค่วันอาทิตย์ และออกไปทำงานอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ แต่ถึงกระนั้น ผมกลับรักและสนิทกับพ่อมาก เพราะทุกครั้งที่พ่อกลับบ้าน เขามักจะพาผมออกไปเที่ยวกันสองคนเสมอ บางทีก็ซื้อของเล่นให้ บางทีก็แค่ไปทานข้าว หรือบางครั้งถ้าโชคดีหน่อยก็ได้แวะที่สวนสัตว์

   พ่อเคยซื้อลูกสุนัขให้ผมตัวนึง พ่อเรียกมันว่าโอเลี้ยง มันเป็นสุนัขพันธุ์ผสม เท่าที่ผมจำได้ โอเลี้ยงเป็นหมาที่ตัวใหญ่มาก ถ้ายืนแบบยกสองขาหน้าก็สูงกว่าผมตอนเจ็ดขวบเสียอีก ถึงมันจะชื่อโอเลี้ยงแต่ก็ไม่ได้ดำเหมือนชื่อ กลับกันมันเป็นหมาขาสีดำผสมน้ำตาล มีขาวแซมบ้างบางจุด รวมถึงที่เท้าทั้งสี่ด้วย เหมือนกับกำลังใส่ถุงเท้าอยู่เลยครับ

   ผมจำได้ว่า อาทิตย์นึง พ่อกลับมาบ้าน แล้วคุยอะไรบางอย่างกับแม่ เสียงดังมากจนผมใจหายวาบ อยากจะเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกให้ทั้งสองคนหยุดตะโกนใส่กันเสียที แต่สุดท้ายก็กลายเป็นผมที่โดนแม่เหวี่ยงออกมา ผมล้มลงกับพื้น เอวข้างหนึ่งกระแทกกับขอบบันได ผมเจ็บจนจุกและลุกไม่ขึ้น ได้แต่นอนน้ำตาไหลฟังทั้งสองคนคุยกัน

   “ถ้าจะเลิกก็ไปให้พ้นบ้านหลังนี้!!!” เป็นเสียงพ่อที่ตะโกนขึ้น

   “ฉันก็มีส่วนในบ้านหลังนี้เหมือนกันนะ!!”

   “ไปซะ เอาฝุ่นไปด้วย!!”

   “ทำไมต้องเป็นฉันที่เลี้ยงเด็กคนนั้นคนเดียว แกก็เอาฝุ่นไว้สิ!!!! แล้วแกนั่นแหละที่ต้องไปให้พ้น!!”

   พ่อกับแม่ตะโกนใส่กันอยู่เกือบสองชั่วโมง ผมที่ไม่รู้จะอยู่ตรงนั้นอีกต่อไปเพื่ออะไรก็พยายามเดินออกไปหาโอเลี้ยงและกอดมันเอาไว้

   “โอเลี้ยง...พ่อกับแม่ตะโกนใส่กันทำไม ฝุ่นทำอะไรผิดเหรอ”

   มันเป็นคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบ ผมกอดมันทั้งๆ ที่ตาพร่าไปด้วยน้ำตาของความไม่เข้าใจ ไม่นานพ่อกับแม่ก็เลิกตะโกนใส่กัน พ่อเดินลงมาหาผมในตอนเย็น ลูบหัวผมเบาๆ แล้วบอก

   “ไปเที่ยวกับแม่นะฝุ่น อย่าดื้อเข้าใจมั้ย”

   “ถ้าฝุ่นไป ฝุ่นจะได้เจอพ่ออีกใช่มั้ยครับ” ผมถามออกไปทั้งที่ยังนั่งกอดโอเลี้ยงอยู่ พ่อชะงักมือที่ลูบหัวผม ยิ้มให้เฝื่อนๆ

   “ได้เจอสิ ถ้าฝุ่นคิดถึงพ่อ ก็โทรมานะครับ ถ้าพ่อเสร็จงานแล้วจะไปหานะ” พ่อยิ้มแล้วชูนิ้วก้อยมาทำสัญญา ผมในตอนนั้นยิ้มให้เขา แล้วเกี่ยวก้อยสัญญากัน พ่อบอกว่า พ่อต้องเตรียมตัวออกไปทำงานแล้ว ผมลุกขึ้นแล้วเดินจูงมือไปส่งพ่อที่หน้าประตูบ้าน ผมโบกมือบ๊ายบายให้จนเขาลับตาไป

   แต่วันนั้นผมคงลืมไป ว่าวันที่พ่อเดินจากไปนั้น คือวันอาทิตย์...มันเป็นวันที่พ่อไม่ต้องไปทำงาน

   ผมตอนเจ็ดขวบ ยังเด็กและไม่เข้าใจความหมายของการเลิกกัน และผมก็ไม่รู้ว่าการ ‘ไปเที่ยว’ ที่พ่อบอกนั้น เมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้าน...แต่ถึงกระนั้น ผมในวัยเจ็ดขวบเศษๆ ก็ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกกับแม่ที่ไม่เคยมองหน้าผมอีกเลย ตั้งแต่เท้าเราเหยียบประเทศสหรัฐอเมริกา

   ในช่วงแรก ผมถามแม่แทบทุกวันว่าเมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้าน และเมื่อไหร่ผมจะได้โทรศัพท์หาพ่อ แต่คำตอบที่ผมได้คือสายตาเย็นชาเมินเฉย บางครั้งก็เป็นคำพูดแดกดัน จนบางทีก็มีการลงไม้ลงมือกันบ้างในวันที่ผมเซ้าซี้เอามากๆ เข้า

   สองปีถัดมา ผ่านวันเกิดผมไปได้ไม่กี่วัน แม่ก็เลี้ยงฉลองให้ด้วยการแต่งงานใหม่กับผู้ชายฝรั่งคนหนึ่ง เขาไม่ได้รังเกียจที่แม่มีลูกติดอย่างผม แค่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เช้ามาก็วางเงินและกับข้าวทิ้งไว้ให้อย่างลวกๆ หรือบางวันก็มีแต่เงินไม่กี่เหรียญให้ผมได้จัดการกับชีวิตตัวเอง

   คำว่า “ส่วนเกิน” คือคำที่ผมได้เรียนรู้เป็นคำแรกจากบ้านหลังนั้น

   แม่กับพ่อเลี้ยงเข้ากันได้ดีในแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะการพร้อมใจกันทำเหมือนผมไม่มีตัวตน อย่างที่บอกไปว่าแม่ไม่เคยมองหน้าผมอีกเลย แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด ตอนก่อนแม่แต่งงานใหม่ ถ้าผมมีปัญหา ยังมีบ้างที่แม่ยื่นมือเข้ามาช่วย แต่หลังจากมีผู้ชายคนนั้นเข้ามาในชีวิตแม่ ผมกลายเป็นเสมือนจุดบอดที่แม่มองไม่เห็น

   เป็นยิ่งกว่าธาตุอากาศ คำพูด การกระทำทั้งหลายเป็นสิ่งที่โดนเพิกเฉย ถ้าผมทำอะไรเสียงดังมากๆ หรือกลับบ้านดึก จะเป็นผู้ชายคนนั้นที่ยื่นมือมาลงโทษผมด้วยวิธีต่างๆ ทั้งกักบริเวณ ขังผมไว้ในห้องหนึ่งสัปดาห์ จนถึงการหักเงินค่าขนมจนบางครั้งผมก็ได้แต่นั่งน้ำลายยืดมองเพื่อนกินข้าว

   สุดท้าย...ผมก็เรียนรู้ว่า การทำตัวเหมือนไม่มีตัวตนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้

   หลังวาเลนไทน์ได้ไม่นาน แม่ก็ให้ของขวัญสามีใหม่ด้วยลูกสาวตัวน้อย... เธอเป็นน้องสาวคนล่ะพ่อของผม ชื่ออลิซ และนั่นเองก็เป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของผมอีกครั้ง ห้องนอนที่ผมเคยนอนถูกโยนข้าวของใส่กล่อง

   โชคยังดี ที่ผมไม่เหมือนพ่อมดใส่แว่นจากภาพยนตร์ชื่อดัง ผมไม่ต้องนอนในห้องใต้บันได กลับกัน ผมได้ห้องใต้หลังคาที่ใหญ่กว่าห้องเดิม แต่เพดานมันเอียงลาดไปด้านหนึ่ง จนผมวางอะไรตรงแถวนั้นแทบไม่ได้เลยเท่านั้นเอง

   พอที่บ้านมีสมาชิกใหม่เป็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเพิ่มเข้ามา การทำผิดหรือกลับบ้านดึกของผมก็กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเมินเฉย ช่วงนั้นภาษาอังกฤษของผมดีขึ้นมาก ผมเริ่มเข้าแก๊งค์กับเด็กแถวบ้าน เที่ยวบ้าง สร้างเรื่องเดือดร้อน พ่นสีตามผนัง หรือแม้แต่..เสพยา

   ผมโดนตำรวจจับหลายครั้งจนแม่กับพ่อเลี้ยงเลิกไปประกันตัว ครั้งแรกที่ผมโดน แม่ฟาดเสียจนขาผมแทบขาดออกจากกัน แม่ไม่ได้ดุด่า หรือสั่งสอนอะไรทั้งนั้นนอกจากบอกให้พ่อเลี้ยงพาอลิซออกไปเล่นแถวๆ สวนสาธารณะ หลังจากแน่ใจว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอจะไม่ได้รับรู้การลงโทษครั้งนี้ แม่ก็กระชากผมเข้าไปในโรงรถ แขวนผมเอาไว้กับขื่อไม้แล้วเริ่มลงมือฟาดผมด้วยด้ามไม้กวาด แน่นอน ถ้าแม่เลือกได้ แม่คงเอาอย่างอื่นที่หนักกว่านี้ แต่บังเอิญว่าไม้กวาดคือสิ่งที่แม่หาได้ง่ายที่สุด ณ ตอนนั้น 

   หลังจากแผลหายดีผมก็เริ่มหายตัวออกจากบ้านไปทีละสามสี่วัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหายไปแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้างในบางที

   ผมตอนอายุสิบสามปีเริ่มเข้าโรงเรียนมัธยม เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง ผลการเรียนก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเท่าใดนัก จนวันหนึ่งน้าอิ่มน้องสาวแท้ๆ ของแม่มาเยี่ยมพวกเราที่บ้าน ครั้งแรกที่น้าเห็นผม น้าดูตกใจมาก ไม่รู้ว่าเพราะสภาพผมที่โตขึ้นหรือว่าอะไรกันแน่

   “ฝุ่น..มาหาน้าซิ” น้าอิ่มนั่งอยู่ที่โซฟาตอนผมเดินเข้าไปในบ้าน แม่อุ้มอลิซวัยสามขวบเอาไว้บนตักอย่างหวงแหน แม่มองมาที่ผมราวกับเห็นคนแปลกหน้า แล้วก็นิ่ง ไม่ได้พูดอะไร ส่วนพ่อเลี้ยงคงออกไปทำงานและกลับมาตอนเย็นๆ เหมือนเคย

   “เป็นยังไงบ้างเรา โตขึ้นเยอะเลยนะ สบายดีมั้ย” น้าอิ่มดึงผมให้นั่งลงข้างๆ แล้วจับแถวๆ แก้มผมก่อนจะหยิกเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

   ตั้งแต่ผมยังเด็ก น้าอิ่มเป็นอีกคนที่รักและใจดีกับผมเสมอ ถ้าผมโดนเพื่อนแกล้ง น้าไม่เคยสอนให้ผมเป็นเด็กขี้ฟ้อง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้บอกให้ผมเป็นนักเลง แค่รู้จักป้องกันและดูแลตัวเอง

   “ก็..ดีครับ” ผมตอบเรียบๆ

   น้าอิ่มดูประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น นอกจากพาผมออกไปทานข้าวกันแค่สองคน น้าอิ่มเลือกร้านอาหารไทยที่ไกลออกไปจากบ้านของเราค่อนข้างมาก แต่แค่บรรยากาศของมันก็ทำให้ผมแทบน้ำตาคลอ ภายในตกแต่งเป็นคล้ายๆ บ้านหลังนึง แต่ทุกอย่างที่มองเห็นกลับรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของประเทศไทย

   “มีอะไรจะเล่าให้น้าฟังบ้างมั้ยฝุ่น”

   “ไม่มีครับ” ผมตอบทันควัน

   “ก่อนเรามาอเมริกา เราไม่ใช่คนที่ถามคำตอบคำแบบนี้นะฝุ่น...พ่อเลี้ยงใจร้ายกับเราเหรอ”

   “เปล่าครับ” พ่อเลี้ยงกับแม่ ไม่ได้ใจร้ายกับผมหรอก กลับกันพวกเขาใจดีมาก ที่เลือกจะทำตัวเหมือนมองไม่เห็นผม มากกว่าลงมือทุบตีแบบในนิยาย

   “ฝุ่น...น้ารักเรานะ เล่าให้น้าฟังบ้างไมได้เหรอ” น้าอิ่มเอื้อมมือมากุมมือผมไว้หลวมๆ แต่ก็ต้องปล่อยออกเพราะอาหารที่ถูกยกมาวางให้บนโต๊ะ กลิ่นต้มยำกุ้งลอยหอมไปทั่ว ยิ่งทำให้ผมคิดถึงบ้านและ...พ่อ มากขึ้น

   “ผม..ไม่รู้จะเล่าอะไร” เพราะมันเยอะมากเหลือเกิน

   “แม่กับพ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้าง”

   “ก็อย่างที่น้าเห็น” ผมพึมพำตอบ ขณะค่อยๆ ตักข้าวร้อนๆ เข้าปาก “ไม่ได้สนใจผมเลย”

   น้าอิ่มไมได้ตอบอะไร แต่กลับนั่งฟังต่ออย่างตั้งใจ

   “ตั้งแต่มาถึง แม่ก็ไม่มองหน้าฝุ่นอีก ยิ่งพอแต่งงานใหม่ ฝุ่นก็เหมือนไม่มีตัวตน แม่รักอลิซมากกว่าที่รักฝุ่นเสียอีก พ่อก็ไม่เคยติดต่อมา ฝุ่น...ฝุ่น..อยากกลับบ้าน น้าอิ่ม ฝุ่นคิดถึงบ้าน” ถึงตรงนี้ ผมวางช้อนลงแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย ไม่ว่าใครจะมองก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ ผมไม่มีอะไรจะอายอีกแล้ว น้าอิ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงข้าม มายืนข้างๆ แล้วกอดผมเอาไว้แน่น

   “ไม่เป็นไรนะฝุ่น น้าอยู่นี่แล้ว” น้าอิ่มกระซิบปลอบแล้วโยกตัวไปมาอย่างปลอบใจ

   หลังจากทานข้าวกับน้าอิ่ม มันเป็นข้าวมื้อแรกในรอบหลายปีที่ผมได้ทานกับคนที่กล้าเรียกได้เต็มปากว่า ครอบครัว หลังจากที่ต้องทานข้าวคนเดียวมานาน น้าอิ่มพาผมไปเดินซื้อของใช้ เสื้อผ้าต่างๆ จนเริ่มมืดถึงได้มาส่งที่บ้าน

   “น้าจะเข้าไปคุยกับแม่ของเราก่อน”

   “น้าอิ่มอย่าเล่าที่ฝุ่นพูดกับน้าวันนี้ให้แม่ฟังนะ” ผมขอไว้ ไม่อยากมีเรื่องให้โดนหักค่าขนมอีกแล้วครับ แค่นี้ก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว

    “อื้ม ไม่เล่าหรอก”

   บ้านหลังใหม่ของแม่กับพ่อเลี้ยงที่ผมอาศัยซุกหัวนอนในตอนนั้นเป็นบ้านเดี่ยวมีบริเวณในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ้ามองผ่านรั้วที่สูงไม่มากเข้าไป จะเห็นห้องนั่งเล่นที่อยู่บริเวณหน้าของบ้าน และสิ่งที่ผมเห็นในตอนนี้มันยิ่งตอกย้ำว่าผมเป็นส่วนเกินมากเพียงไร

   แม่นั่งยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข โดยที่พ่อเลี้ยงอุ้มและเล่นกับอลิซตัวน้อย ใบหน้าของทุกคนมีแต่ความสุข และความหมายของคำว่าครอบครัว จนไม่เหลือที่ให้ผมเข้าไปแทรก...

   “กลับมาแล้วค่า” น้าอิ่มบอกเสียงร่าเริงตอนเข้าไปในบ้าน แม่ยิ้มทักอย่างใจดี แต่รอยยิ้มนั้นกลับหุบหายไปเมื่อเบือนสายตามาที่ผม

   “งั้นฝุ่นขึ้นห้องก่อนนะน้าอิ่ม” ผมกระซิบบอกเบาๆ แล้วถือของทั้งหมดเดินขึ้นห้องไปเงียบๆ แต่ด้วยความที่ห้องใต้หลังคาของผมอยู่ติดริมสนามและบังเอิญกับที่น้าอิ่มชวนแม่ออกมาคุยข้างนอก ผมจึงได้ยิน..ทุกคำ ทุกประโยค

   “ฝุ่นดูไม่ค่อยมีความสุขเลยนะพี่อร”

   “ไม่รู้สิ พี่ว่าฝุ่นก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร” แม่ผมตอบ

   “อย่าหาว่าอิ่มงั้นงี้เลย พี่รักอลิซจนไม่สนใจฝุ่นรึเปล่า”

   “เปล่านี่...อิ่มจะพูดอะไร ก็พูดมาตรงๆ ดีกว่า พี่ไม่ชอบคนอ้อมค้อม”

   “อิ่ม..อยากเอาฝุ่นกลับไทย” หัวใจผมลิงโลดขึ้นมากับประโยคนั้น เต้นแรงเสียจนแทบทะลุออกจากอก ผมภาวนาให้แม่ตอบตกลง ทว่า..

   “หึหึ...เด็กคนนั้นติดยา ติดบุหรี่ อิ่มเอาไม่อยู่หรอก นี่พี่ก็รออยู่ วันไหนที่มันจะออกจากบ้านแล้วไม่กลับมาอีก จะไม่แจ้งตำรวจให้เสียเวลาเลยจริงๆ”

   สาบานได้ว่านั่นคือคำพูดของคนที่ผมเรียกว่า “แม่” มาชั่วชีวิต

   “พี่อร!”

   “เราเองก็ยังเรียนไม่จบเลยนะอิ่ม จัดการเรียนให้จบก่อน แล้วจะเอาเด็กคนนั้นไปที่ไหนก็เอาไปเถอะ พี่เป็นห่วงเรานะ”

   “แต่อิ่มทนไม่ได้ที่เห็นหลานเป็นแบบนี้”

   “มันเล่าอะไรให้อิ่มฟังล่ะ มันบอกด้วยรึเปล่า ว่าโดนตำรวจจับกี่ครั้งแล้ว...จริงๆ เลยนะ พี่ไม่น่าใจอ่อนยอมเลี้ยงมันเลย น่าจะทิ้งให้อยู่กับพ่อมันสองคน”

   แล้วทำไมแม่ไม่ทำ...ถ้าแม่ทิ้งผมเอาไว้ที่ไทย ผมอาจจะมีความสุขมากกว่านี้ ต่อให้ต้องอดๆ อยากๆ แต่ผมมั่นใจว่าพ่อจะไม่มีวันหันหลังให้ผมแบบนี้อย่างแน่นอน

   “ถ้าอย่างนั้น...ฝุ่นบรรลุนิติภาวะเมื่อไหร่ อิ่มจะเอาฝุ่นกลับไทย”

   แม่ไม่ตอบอะไร แต่กลับถามคำถามอื่นแทน

   “อิ่ม...รู้มั้ยว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงชื่อฝุ่น”

   “พี่นุบอกว่าเพราะฝุ่นมีอยู่ทุกที่” น้าอิ่มตอบ...นุ คือชื่อพ่อของผม

   “ไม่ใช่หรอก ฝุ่น คือสิ่งที่ไม่มีใครต้องการต่างหาก เราทำความสะอาดบ้านก็เพราะบ้านมีฝุ่น ไม่มีใครอยากให้บ้านสกปรกเพราะ ‘ฝุ่น’...เหมือนกับที่พี่ไม่เคยอยากได้เด็กคนนั้น ชีวิตพี่พังก็เพราะมัน แล้วอีกอย่าง ถ้าต้องมีลูก พี่ก็อยากได้ลูกผู้หญิง ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!!”

   น้ำตาผมไหลไม่หยุด ผมนั่งพิงผนังอยู่อย่างนั้นตอนที่ได้ยินเสียงน้าอิ่มร้องไห้ และเสียงแม่ปิดประตูบ้าน แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในหัวใจของผมกลับไม่ใช่เสียงเหล่านั้น แต่เป็นคำพูดของแม่ที่ก้องอยู่ในหัวของผมตั้งแต่นาทีนั้นต่างหาก

   หลังจากนั้นไม่นาน น้าอิ่มก็กลับไทยเพราะต้องกลับไปเรียน ส่วนผมก็ก้าวต่อไปกับชีวิตในอเมริกาเพียงลำพัง หลังจากที่ผมขึ้นมัธยมปลาย ผมก็เริ่มเที่ยวตามปาร์ตี้ และเจอกับคนบางคน...

   ผู้ชายร่างสูงใหญ่ เป็นนักบาสเกตบอลของโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ในขณะนั้น เขาโตกว่าผมเกือบสามปี ส่วนสูงที่เกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรทำให้เขายิ่งดูตัวใหญ่มากขึ้นเมื่อยืนเทียบกันกับผม ดวงตาสีฟ้าเข้มสดใสเหมือนท้องฟ้า ตัดกันด้วยผมสีน้ำตาลปนทองธรรมชาติ เพราะเขาเป็นนักบาสเก็ตบอลและรูปร่างหน้าตาดี ทำให้หมอนี่ค่อนข้างป๊อปในหมู่สาวๆ ในโรงเรียนมากพอสมควร

   หมอนั่น ชื่อ ‘ยูล’




(มีต่อค่ะ)
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 10 [06/02/11 Update แล้วจ้า!!]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 06-02-2011 21:04:53
   หมอนั่น ชื่อ ‘ยูล’

   ผมแปลกใจที่ชื่อเขาดูคล้ายกับคนทางเอเชียมากกว่า แต่หมอนั่นกลับอธิบายให้ฟังว่าชื่อของเขามาจากคำว่า จูเลียต ในภาษารัสเซีย เราสนิทกันไวมาก ครั้งแรกๆ ก็เจอและคุยกันในปาร์ตี้เฉยๆ แต่มาสักพักหนึ่งก็เริ่มนัดกันออกมาเที่ยวข้างนอก ยูลเป็นคนพูดเก่ง เขายิ้มง่าย และชอบสังเกตว่าอะไรคือสิ่งที่ผมชอบ หรือไม่ชอบ    

   ราวหนึ่งเดือนครึ่งหลังจากเจอกันครั้งแรก เราสองคนก็จบวันอันแสนสุขในฤดูร้อนบนเตียง ยูลอ่อนโยนและใจดีกับผมมาก ครั้งแรกที่เจ็บเสียดเสียจนน้ำตาผมอาบแก้มก็ถูกหมอนั่นดูแลจนหายดี ผมคิดว่าเช้าหลังจากที่มีเซ็กส์กัน ยูลจะเอาไปโพนทะนาว่าผมวางยาเขาและอาศัยช่วงโอกาสที่กำลังคึกศึก ร่วมหลับนอนกับเขา

   ทว่าสิ่งที่ยูลทำกลับไม่ใช่แบบนั้น หมอนั่นยังกอดผมเอาไว้ในเช้าวันถัดมา เช็ดตัวให้ผมที่ไข้ขึ้นสูงเกือบสี่สิบองศา แม่ของยูลเองก็ดีกับผมมาก  ทั้งๆ ที่รู้ว่ายูลกับผมเป็นอะไรกัน ท่านก็ยังดูแลราวกับผมเป็นลูกชายอีกคนหนึ่ง ผมเคยคิดอยากเป็นคนรักของหมอนี่ แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันไป ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเราสองคนเหมือนเพื่อนกันมากกว่า พอใจเมื่อไหร่ก็ขึ้นเตียง

   ยูลเองก็แค่เอ็นดู และชอบที่ผมไม่เรื่องมาก ผมก็แค่อยากได้ใครสักคนมาหยุดผมเอาไว้ก็เท่านั้น...

   มีช่วงหนึ่งที่ยูลเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทำให้เราไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือน ผมทำตัวเหลวแหลก ออกเที่ยวบ่อยขึ้น เริ่มมั่วมากขึ้น มีเซ็กส์ได้กับทุกคนถ้าพอใจ แต่ในทุกครั้งผมจะผสมโทนาฟีลลงในเหล้าของตัวเองนิดหน่อย เพื่อความราบรื่นและไม่ต้องคิดอะไรมากกับคู่นอนที่จำหน้าแทบไม่ได้

   เซ็กส์กลายเป็นสิ่งที่ผมเสพติดไปเสียแล้ว...

   การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของยูลผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หมอนั่นเข้ามาจัดระเบียบในชีวิตผมอีกครั้ง ไปส่งที่โรงเรียนและมารับกลับบ้าน พาไปเที่ยวบ้างในบางที แต่ก็ยังบังคับให้ผมอ่านหนังสือและทำการบ้านอยู่ทุกวัน

   ผมไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องยูลจากใครและเมื่อไหร่ และสิ่งที่ผมได้รับก็คือฝ่ามือที่ทาบลงบนผิวแก้มอย่างแรงจนปากแตก...

   “ฉันไม่เคยสอนให้แกเป็นเกย์ ทีเรื่องดีๆ ต้องให้สอน ทีเรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยต้องให้กระดิกปากเลยนะ!!”

   ผมนิ่ง ไม่โต้ตอบอะไรทั้งนั้น ผมเลือกที่จะเงียบและเดินขึ้นห้อง ทว่าแม่กลับจิกให้ผมกลับลงมาแล้วตบซ้ำที่เดิม

   “ใครสั่งสอนให้แกเดินหนีฉัน หา!!!”

   “ไม่มีใครสอนครับ ไม่เคยมีใครสอนให้ผมทำดีหรือทำชั่วทั้งนั้น”

   “เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกับฉันเรอะ!!” แม่ตะคอก

   ผมยืนนิ่ง ไม่ตอบอะไร ถ้าแม่โมโห ก็ปล่อยให้เขาพูดไป แต่กว่าผมจะได้กลับขึ้นไปโทรศัพท์หายูล ปากผมก็แตกจนรู้สึกไม่อยากกินอะไรไปหลายวันเลยทีเดียว


   “เจ็บมากมั้ย” ยูลพาผมมาที่บ้านเพื่อทำแผลที่ปากในวันรุ่งขึ้น วันนี้แม่ของยูลไปทำงาน ทำให้เราอยู่บ้านกันแค่สองคน

   “อืม”

   “คราวนี้เรื่องอะไร” เขาแตะยาลงที่มุมปากผมเบาๆ ทว่ามันกลับเจ็บจนผมเผลอสะบัดหน้าออกห่าง แต่ยูลก็จับหน้าผมให้กลับมาแล้วเริ่มแต้มยาให้อีกครั้ง

   “แม่หาว่าฉันเป็นเกย์”

   ยูลชะงักมือที่ทายา ถอนหายใจออกมาแรงๆ

   “เพราะฉันใช่มั้ย..ขอโทษนะ”

   “ขอโทษทำไม” ผมกระซิบถาม แล้วซบลงที่ไหล่กว้างๆ ของนักบาสผู้แสนอ่อนโยนคนนั้น ยูลกอดผมเอาไว้พลางยกมือขึ้นลูบผมของผมเบาๆ “ถ้าไม่มีนายเข้ามา ฉันอาจจะฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้”

   “ไม่เอาน่า นายเป็นน้องชายที่รักของฉัน จำได้มั้ย อย่าพูดเรื่องนี้อีก นายรู้สึกแย่เมื่อไหร่ก็มาที่บ้านเรา แม่เองก็อยากให้นายอยู่ที่นี่จะตาย” แม่ของยูล หรือที่ผมเรียกว่า มัม เป็นคนใจดีจริงๆ ครับ รับได้ที่ลูกชายเป็นเกย์ เพราะเธอถือว่าลูกชายไม่ได้ก่อเรื่องเดือดร้อนให้ใคร ซ้ำยังเรียนเก่ง ไหนจะเป็นนักบาสเก็ตบอลเสียอีก มัมเองก็รู้เรื่องของผมดี เธอเลยยิ่งเอ็นดูผมมากขึ้น

   “ขอบคุณนะยูล”



   ตอนผมอายุสิบเจ็ดปีเศษเพิ่งจบมัธยมปลายได้หมาดๆ เราสองคนก็ไปเที่ยวฉลองที่ผมเรียนจบ(สักที) ผมไม่มีเพื่อนสนิทคนไหนอีกนอกจากยูล เพื่อนบางคนที่ผมรู้จักจากในห้องเรียนก็คุยกันบ้างแต่ไม่มาก เพราะผมเป็นคนเก็บตัวและพูดน้อยทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนคนไหนอยากคบกับผมเท่าไรนัก

   เราสองคนนอนอาบแดดอยู่ริมทะเลที่ไมอามี่ ตอนผมได้รับโทรศัพท์ตามตัวจากที่บ้าน แม่บอกผมด้วยเสียงเย็นๆ ว่าน้าอิ่มมาหา และผมต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้...มันเป็นยิ่งกว่าประกาศิตที่ตัดความสุขของผม ไม่สามารถปฏิเสธหรืออ้างใดๆ ได้เลย ผมต้องขอให้ยูลพากลับบ้านในวันนั้นทั้งๆ ที่ตามกำหนดแล้ว เรายังมีเวลาเที่ยวในไมอามี่กันอีกสองวันเต็มๆ

   “ขอโทษนะยูล” ผมพึมพำขณะนั่งอยู่ในรถ ผู้ชายที่ใจดีกับผมเสมอยิ้มให้ เขาชะลอรถลงตอนที่ติดไฟแดงแล้วก้มลงมาจูบปากผมเบาๆ ทีหนึ่ง

   “ไม่เอาน่า ไว้เรามาเที่ยวกันเมื่อไหร่ก็ได้”

   น้าอิ่มมาหาผมที่บ้านเพื่อบอกข่าวดีว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง และเธอต้องการจะพาผมกลับไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ไทย นอกจากนี้เธอก็จะดูแลผมเองด้วย แน่นอนว่าถ้าน้าอิ่มบอกประโยคนี้กับผมเมื่อห้าปีที่แล้ว ผมจะดีใจมาก แต่นาทีนี้ผมกลับรู้สึกว่างเปล่าในอก...ไม่อยากจากยูลไปไหน

   ไม่รู้ว่าจะหาคนที่ดีแบบยูลได้จากไหนอีก ผมกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลงเมื่อเก้าปีที่แล้วทำให้ผมทรมานแทบขาดใจ จนวันนี้ผมก็ยังกังวลกับการย้ายกลับไปอยู่ที่ไทย ไม่ว่ามันจะให้ผลที่ดีหรือแย่กว่าก็ตามที

   “ผม..คือ ผมไม่อยากไป...” ผมพึมพำข้างๆ น้าอิ่ม ทว่ามันคงไม่เบาพอ เพราะแม่แหวขึ้นทันที

   “ทำไม หรือว่าแกรักไอ้เกย์นั่นมากกว่า”

   “แม่อย่าพูดถึงยูลแบบนั้นนะ”

   “ฉันจะพูด แกจะทำไม!!”

   ผมก็ได้แต่เงียบ ทำอะไรไม่ได้...เพราะไม่ว่ายังไง แม่ก็คือแม่

   “พี่อร อิ่มขอคุยกับฝุ่นสองคนนะ” น้าอิ่มบอกอย่างนั้นแล้วลุกขึ้นจูงมือผมออกไปนอกตัวบ้าน รถของยูลยังจอดอยู่ที่เดิม หมอนั่นลงจากรถมายืนมองผมด้วยความเป็นห่วง

   “ฝุ่น...แม่เราบอกว่า เราติดผู้ชาย แล้วก็เสียคนมาก”

   “ผมไม่ได้ติดผู้ชาย..ยูลเป็นเพื่อน เป็นครอบครัวคนเดียวที่ผมมี!!” ผมตะโกนขึ้น ถึงตอนนี้น้ำตาผมเริ่มคลอที่ดวงตาอีกครั้ง ยิ่งคิดว่าถ้าต้องจากยูลไป ผมจะทำยังไง “ถ้าแม่จะบอกอย่างนั้น น้าอิ่มก็ควรถามแม่ ว่าแม่เคยดูแลผมบ้างรึเปล่า”

   ผมเริ่มเสียงอ่อนลงบ้าง น้าอิ่มเอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ สี่ปีที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลาที่นานพอดู ผมสูงขึ้นจากเดิมมาก โตขึ้น ด้านชามากขึ้น...และไม่ยอมโดนคำพูดหรือการกระทำของใครทำร้ายอีกต่อไป

   “น้าอยากพาเรากลับบ้านนะฝุ่น น้าสัญญาว่าจะดูแลเราอย่างดีที่สุด แฟนของน้า..คนที่น้าจะแต่งงานด้วยน่ะ เขาใจดีมาก ตอนที่พี่สินรู้เรื่องของฝุ่น เขายิ่งคะยั้นคะยออยากให้ฝุ่นกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน”

   “ผมขอโทษ แต่ผม..ผม ไม่มีใครนอกจากยูล ผมไม่อยากไปที่อื่น” ผมบอกไว้แค่นั้นแล้วค่อยๆ ถอยหลังออกจากสัมผัสอุ่นๆ ของน้าอิ่ม ผมเดินไปทางรถของยูลที่จอดทิ้งเอาไว้หน้าบ้าน ขึ้นไปนั่งโดยที่ไมได้พูดอะไร ผมไม่รู้ว่าก่อนที่ยูลจะเข้ามาในรถและเริ่มสตาร์ทนั้นน้าอิ่มพูดอะไรรึเปล่า แต่ตอนที่เรามาถึงบ้านของยูลกัน หมอนั่นกลับบอกผมว่า

   “ทำไมไม่อยากกลับไทย”

   “ไม่อยากจากยูลกับมัมไป” ผมตอบตามตรง

   “เด็กโง่ อนาคตนายต้องเลือกเองนะ จะมายึดติดกับฉันได้ไง”

   “ฉันไม่มีครอบครัวที่ไหนนอกจากนายนะยูล ไล่ฉันเหรอ” ผมน้อยใจ

   “เฮ้ย ไม่ได้ไล่” ยูลร้องเสียงดังแล้วดึงผมไปกอดเอาไว้เหมือนกอดเด็ก “ฉันรักนายเสมอ อยากอยู่กับนาย แต่ลองคิดดูนะ ถ้านายอยู่ที่นี่ต่อไป นายจะมีความสุขจริงๆ เหรอ ไม่ลองกลับไปลองอะไรใหม่ๆ ที่ไทย ถ้าไม่ชอบก็ค่อยกลับมาไง เรื่องบางเรื่องก็ควรพบกับการเปลี่ยนแปลง”

   ผมงับเอาแถวๆ ต้นคอยูลแรงๆ เป็นการบอกทางอ้อมให้หมอนี่เลิกพูด ผมไม่อยากห่างจากคนที่ดีกับผมเสมอต้นเสมอปลายแบบคนนี้ แต่ก็ถูกอย่างที่ยูลพูด...

   บางทีเรื่องบางเรื่องก็สมควรพบกับการเปลี่ยนแปลง....

   ผมโทรหาน้าอิ่มในวันถัดมา เพื่อบอกว่าผมจะกลับไทย แต่ผมขอเวลาจัดการเคลียร์ทุกสิ่งทุกอย่างสักเดือนนึง น้าอิ่มดีใจมาก บอกใหญ่ว่าเธอจะเตรียมห้องรอผมกลับไป

   ผมตัดสินใจว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เหลือ จะอาศัยอยู่ในบ้านของยูล มัมดูเศร้าไปถนัดตาตอนที่รู้ว่าผมจะกลับไทย ผมกลับไปเก็บของที่บ้าน แต่สิ่งที่ผมเห็นวางกองอยู่หน้าห้องกลับทำให้หัวใจผมหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น...

   กระเป๋าเดินทางใบเขื่องสองใบถูกวางไว้ลวกๆ ที่หน้าประตูห้อง ของทุกอย่างที่จำเป็นอยู่ในนั้น รวมถึงเสื้อผ้าของผมด้วย

   ผมไม่คิดจะเอ่ยคำลากับใครทั้งนั้น ยกเว้นอลิซ เด็กน้อยน่ารักวัยเกือบๆ สิบขวบ แม่ไม่ค่อยชอบให้อลิซเล่นกับผม เพราะกลัวว่าผมจะทำน้องเสียคน แต่เจ้าตัวเล็กก็แสนดี ยังคอยมาทักทายและยิ้มอวดฟันหลอให้ผมเสมอ

   “ฝุ่น พี่จะไปไหน” เจ้าตัวเล็กขี้สงสัยโผล่หน้ามาตรงบันไดพลางถามผม

   “ไปเที่ยว”

   “ไปด้วยสิ” อลิซยิ้มกว้าง

   “ไม่ได้ อยู่บ้านนี่แหละ” ผมตอบแล้วขยี้หัวเธอ แต่เสียงที่ดังมาจากด้านหลังผมก็ทำให้ผมต้องละมืออกจากเรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้น

   “อย่าเล่นหัวอลิซ”

   “ขอโทษครับ” ผมพึมพำตอบแม่ แล้วก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาสะพายไหล่ ผมไม่คิดจะเข้าไปดูในห้องว่ามีอะไรเหลือมั้ย เพราะถ้าเหลือแม่ก็คงจัดการทิ้งไปหมดแล้ว “อลิซ..พี่ไปนะ”

   “เดี๋ยวสิ นี่...ฝุ่น ฝุ่น” น้องเรียก แต่ผมไม่คิดจะหันกลับไปอีกแล้ว ผมเดินออกจากบ้านเพื่อเอากระเป๋าไปโยนใส่หลังรถของยูลที่นั่งรออยู่ข้างนอก หมอนั่นไม่พูดอะไรตอนขับรถกลับบ้าน

   หนึ่งเดือนที่เหลือให้ผมอยู่กับคนที่แสนดีคนนี้ตามลำพังมันสั้นเสียจนใจหาย เขาใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า พาผมไปเที่ยวบ้าง กินข้าวด้วยกัน หรือบางทีก็แค่นอนดูหนังกันสองคน มัมเองก็ยังขยันทำกับข้าวที่ผมชอบให้ทานทุกวันจนน้ำหนักผมขึ้นเอาๆ

   วันที่ผมต้องเดินทางกลับประเทศไทย มีเพียงมัมและยูลแค่สองคนที่มาส่งที่สนามบิน มัมร้องไห้ไม่หยุด ยูลก็ได้แต่ประคองแม่เอาไว้พลางแซวขำๆ ผมเองก็เศร้า ไม่อยากจากหมอนี่ไป ผมจะหาเพื่อนคนไหนดีเท่านี้ได้อีกมั้ย...ไม่สิ ถ้าจะพูดถึงจะเพื่อนที่ดี ถามว่าผมจะได้เพื่อนหรือเปล่า น่าจะดีกว่า...

   “โทรมาหาฉันทันทีที่ถึงไทยนะ” ยูลกอดผมเอาไว้ตอนพูด เขากดริมฝีปากลงที่ข้างกกหู กระซิบพึมพำอยู่อย่างนั้น “อย่าลืมฉันนะฝุ่น ฉันรักนายมาก ขอให้นายมีเพื่อนที่ดีเยอะๆ ขอให้คนที่นู่นรักนายเหมือนที่มัมรัก ขอให้นายเจอคนที่นายรักด้วยหัวใจ..แต่ยังไง ก็อย่าลืมฉัน มีเรื่องอะไรก็โทรมา ฉันรักนายเสมอ รักมาก ได้ยินมั้ย”

   “อืม รู้แล้ว รักเหมือนกัน เตรียมห้องไว้ให้ฉันด้วยนะ สัญญาว่าจะกลับมา” ผมตอบแล้วออกแรงกอดยูลแน่นขึ้น
   

   วันนั้นผมตัดสินใจจากอ้อมแขนของคนที่ผมกล้าเรียกว่าพวกเขาคือ “ครอบครัว” มา เพื่อรอคอยการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ผมไม่ได้หวังให้ตัวเองพบเจอคนรัก แค่ใครสักคนที่อบอุ่นมากพอจะหยุดความเหงาของผมได้...



   “ฝุ่น...ใช่ไหม”








เจอกันตอนสิบเอ็ดค่ะ

eiizes’s talk

สวัสดีค่า หายไป(นับ) ห้าวันเนอะ

ที่จริง จะอัพตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่ก็ธุรกิจรัดตัวมาก ไปเกษตรแฟร์ ไปเอาหนังสือที่เพื่อน บลาๆ  :serius2:

ได้อยู่บ้านแบบจริงจังก็วันนี้เอง 5555

อ่านตอนนี้ก็ให้น้องฝุ่นออกมาเคลียร์เนอะ ว่าที่จริงยูลไม่ใช่คนเกาหลีนะคะ 555

คืออยากบอกนานแล้ว แต่ให้ฝุ่นเป็นคนเคลียร์ดีกว่า คนเค้าเคยๆ กัน คริคริ


วันนี้เรามีคำถาม อ่านตอนนี้แล้ว ใครอยากให้ยูลเป็นพระเอกยกมือขึ้น
  o18

ถามเล่นๆ นะ พระเอกยังคนเดิม 5555


อ่อ อีกอย่างนึง สวัสดีทุกท่านที่มาใหม่นะคะ อาจจะไล่ชื่อไม่ครบ หรือไม่ได้ทักทายบ้างบางคนก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แต่อ่านทุกความเห็นน้า~~

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 06-02-2011 21:24:09
ขอบคุณที่มาต่อค่า

แต่แบบว่าอยากขออีกสักตอนได้ไหมคะ แบบว่ามันยังค้างๆ คาๆ (โลภเนอะ  :z3: :z3:)

รอติดตามสถานการณ์ต่อไปนะคะ

ฝากบอกถึงคุณพี่ทีม จะทำอะไรคิดดีๆ นะจ้ะ เค้าหวงฝุ่นของเค้านะ  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-02-2011 21:30:21
อ่านตอนนี้แล้วสงสารฝุ่นอะ
ถ้าเป็นฝุ่นเราคงช็อคตอนที่ได้ยินแม่พูดว่า ฝุ่นไม่มีใครต้องการ บ้านไหนมีฝุ่นต้องปัดทิ้ง เห้อ เศร้ามาก
เด็กตัวเล็กๆพอได้ยินแม่พูดแบบนั้นคงจะเสียใจหนักเลยเนาะ
แต่โชคดีนะที่ยังมียูลและมัม ลึกๆก็อยากให้ยูลเป็นพระเอกนะ ดีซะขนาดนี้ แต่คงจะเหมาะกับการเป็นพี่ชายมากกว่าเนาะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 06-02-2011 21:31:52
อ่านแล้วน้ำตาไหลออกมาเลย
สงสารฝุ่นไม่เข้าใจเลยคนเป็นแม่
เค้าทำกับลูกแบบนี้เหรอไม่อยากให้
ฝุ่นเกิดมาแล้วเอากันทำไมไม่เข้าใจ
แล้วดูที่ทำสิเหมือนฝุ่นไม่ใช่ลูกเลยอ่ะ
ทีมจะทำอะไรอย่าลืมนึกถึงความรู้สึกฝุ่นด้วยน่ะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 06-02-2011 21:36:28
พ่อแม่ฝุ่น


สมกะคำนี้ละ


เลวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-02-2011 21:39:57
หืมม แม่ของฝุ่นเลวร้ายได้อีก  ทำกับลูกในไส้ได้ลงคอ  
ลูกผิดอะไรเหรอถึงได้มาลงกับลูกแบบนี้  อ่านแล้วสงสารฝุ่นมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 06-02-2011 21:52:45
ตอนต่อไปมาเร็ว ๆ นะ

อย่าหายไปนานนะคิดถึง

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 06-02-2011 21:59:11
ยูล+ครอบครัวเ็ป็นคนดีจัง
 :impress3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-02-2011 22:10:40
แง้ น้องฝุ่น :monkeysad:
เรื่องแม่นี่มันเศร้าจริงเศร้าจัง ผู้หญิงอย่างนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแม่คนได้นะ :z3:
อยากยกมือเหมือนกันว่ายูลเองก็เหมาะจะเป็นพระเอก แต่คนที่ดีกับที่รักมันต่างกันอะ
ตอนนั้นยูลเป็นคนแรกที่ทำดีกับฝุ่นด้วยมั้ง มันคงเป็นความผูกพันกันมากกว่า
หรือจะบอกอีกนัยหนึ่งว่ายังไงก็เชียร์ทีมอยู่ดี เอิ้กๆๆ :z1:
+1 ขอบคุณค่า มาอัพบ่อยๆน้าตะเอง :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 06-02-2011 22:13:56
ทำไม อ่านไปๆ น้ำตานองซะเฉยๆ
อีป้าแก่ๆ อินจัดเลย
กระซิกๆ ฝุ่นเติบโตขึ้นมาโดยปราศจากน้ำหล่อเลี้ยงที่เรียกว่าความรัก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 06-02-2011 22:28:35
ว๊าก...ฝุ่นน่าสงสารมาก
พ่อฝุ่นไม่น่าโกรธเท่าแม่ของฝุ่น
ถ้าเกลียดลูกตัวเองขนาดนี้ เอาไปทิ้งให้คนอื่นเลี้ยงยังดีกว่าเอาไปด้วย
แล้วมาทำร้ายจิตใจกันตอนหลัง
โทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเองกับการกระทำของฝุ่นที่ผ่านมา...

แต่ว่าฝุ่นก็ยังมีคนดีๆเข้ามาคอยช่วยเหลือนะเนี่ย
ถ้าไม่ได้ยูล ก็ไม่รู้จะไปจบตรงไหนแล้ว
ไหนจะน้าอิ่มอีก..แต่ก็แอบสงสารนะ คงอยากอยู่กับยูลมากกว่า
แต่มาเมืองไทย มันก็ดูจะเป็นอนาคตที่ยาวไกลกว่า...

ว่าแต่จะให้ใครเป็นพระเอกดีล่ะเนี่ย
ยูลก็ดี แต่มันน่าจะเป็นการคบกันแบบไม่ได้ชู้สาว (มันสาวตรงไหน???)
ก็ยูลบอกว่าเป็นพี่น้อง...อืมมมมมม ยังไงดีล่ะเนี่ย

แล้วมาเมืองไทย ฝุ่นกับทีม อีก...
ให้ทีมเป็นพระเอกดีกว่านะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aloneboy ที่ 06-02-2011 22:35:55
มาต่อไวๆนะค้างมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 06-02-2011 22:59:22
แม่ของฝุ่นนี่
ใช้คำว่า หญิงสารเลว ยังน้อยไปไหม  :m31:

เกลียดลูกตัวเองนี่มีที่ไหน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 06-02-2011 23:46:29
ค้างอะ

ทำไมฝุ่นน่าสงสารแบบนี้
นี่เค้าเป็นแม่คนจริงๆเหรอ

 :monkeysad: :sad11:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 06-02-2011 23:52:00
"โอเลี้ยง...พ่อกับแม่ตะโกนใส่กันทำไม ฝุ่นทำอะไรผิดเหรอ”
.
.
.
ตั้งแต่ประโยคนี้มานะไอซ์ พี่ขวัญน้ำตานองหน้า
มันแบบแน่นหน้าอกมาก ไม่ไหวแล้วค่ะ เดี๋ยวทำใจแป๊บนึงแล้วจะไปอ่านอีกรอบ
ตอนน้าอิ่มคุยกับแม่น้องฝุ่นนี่ทำพี่ตายได้เลยนะ ยิ่งความหมายของชื่อน้องนี่เล่นทำสะอื้นเลยล่ะ :m15:

คุณแม่น้องฝุ่นคะ ในเมื่อรู้ว่าไม่พร้อมแต่ถึงยังไงก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำให้เกิดนะคะ
คนนะคะคุณแม่ไม่ใช่ตุ๊กตา ทำเป็นทิ้งๆขว้างๆได้ไง เด็กเป็นผ้าขาว ในเมื่อคุณแต่งแต้มให้เค้าเป็นแบบนั้น อย่าโทษใครเลยค่ะ
ในเมื่อมันเป็นเพราะตัวคุณตั้งแต่แรก  :fire:
เฮ่ออออออออ ไม่ไหวค่ะ ยิ่งเม้นท์ยิ่งร้อง

ขอบคุณน้องไอซ์ที่เขียนเรื่องได้ดีขนาดนี้ค่ะ สมที่รอคอยมาหลายวัน
ป.ล. อยากให้ยูลเป็นพระเอกค่ะ ยูลเท่แล้วก็ดีมาก เสียดายค่ะ คนดีๆที่มาช่วยน้องฝุ่นให้ดีขึ้น
ยังตกใจกับที่น้องบอกว่าถ้าไม่มาเจอคงฆ่าตัวตายไปแล้ว ช็อคค่ะ แต่เข้าใจน้องมากกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 06-02-2011 23:57:29
คอมจะช็อตค่ะ น้ำตาท่วมคอม  :sad4: :sad4: :m15: :m15:

ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้สึกว่า ยูลดีมาก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (แต่ดีเกินไป เลยทำให้เป็นพระเอกไม่ได้ :laugh:)
ส่วนมาดูอิพี่ทีม  :เฮ้อ: ยังกะ อวกาศกับแกนโลก  o12

ต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:
กำลังหิวมาม่าอยู่เลย  o18
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 07-02-2011 00:09:30
ยูลน่ารักมากมัมก็น่ารัก

แต่แม่ฝุ่นกับอีตาพ่อเลี้ยงนี่ใช้ไม่ได้เลยมีอย่าที่ไหนทำกับจิตใจลูกขนาดนี้ :m31: :m31: :m31: :m31:

อีพี่ทีมทำไมไม่ขึ้นไปดูฝุ่นหา!!!! :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-02-2011 00:27:42
อ่านเสร็จ....อ้ึง
เมนท์ไม่ออกครับ สงสารฝุ่น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 07-02-2011 00:44:25
อ่านตอนนี้แล้วทำใจไม่ได้
ยังหาสาเหตุจริงจังที่แม่เกลียดลูกตัวเองแท้ๆ ไม่เจอ
นอกจากคำสั้นๆ "เห็นแก่ตัว"

เห็นลูกตัวเองเป็นอะไรกันเนี่ย เลิกกับสามีแล้วเกลียดสามียังพอมีเหตุผล
แต่ลูกเกี่ยวอะไรด้วย  ตอนสมัยยังเด็กก็รักลูกดี แล้วโตขึ้นมาบอกว่าตั้งชื่อว่าฝุ่น เพราะไม่สำคัญ
นี่มันอาการทางจิตขั้นรุนแรงแล้วนะ
ถ้าเลิกกับสามีฝรั่งของหล่อนแล้วจะเกลียดลูกอีกรึเปล่าเนี่ย?

อิสามีใหม่นั่นก็มาจากนรกแท้ๆ ผู้หญิงแบบนี้ยังเอาทำเมียได้
ไม่คิดบ้างเหรอว่า คนแบบนี้จะทำร้ายลูกสาวได้เหมือนกัน
โรคจิตชัดๆ ที่จริงเด็กในสังคมอเมริกันเจอแบบนี้ มีบาดแผลแบบนั้น ต้องเข้ารพ.
พ่อแม่ที่เลี้ยงดูโดนรัฐฟ้องว่าทารุณกรรมเด็กได้เลยนะ
อาชญากรรมในครอบครัวและเด็กเกิดขึ้นเพราะพ่อแม่ชัดๆ

เมนท์แบบค่อดอินอ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 07-02-2011 01:13:24
อ่านแล้วจุกไปถึงคอ :monkeysad:
ฝุ่นมีอยู่ทุกที่ ไม่ใช่ฝุ่นที่ไร้ค่าหรอกนะ"ฝุ่น"
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 07-02-2011 10:33:14
 :m15: ฝุ่นชีวิตช่างน่าเศร้ามาก
บุญเท่าไหร่แล้วที่รอดจนเจอยูล
และอยากให้ยูลเป็นคนดูแลทีมต่อไป
แต่เมื่อไม่มีการเปลี่ยนพระเอก
คนคนนั้นก็ต้องเป็นทีม
อยากให้ทีมดูแลน้องเยอะๆ
ว่าแต่ทำไมถึงไม่ขึ้นมาดูน้องปล่อยให้น้องร้องไห้
อยู่อย่างนั้น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 07-02-2011 11:01:59
น้ำตาคลอ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 07-02-2011 20:05:05
 :o12: :o12: :o12: สงสารฝุ่นอะ

 :z6:  ทำไมทีมไม่มาปลอบฝุ่นนิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 07-02-2011 20:38:52
ฝุ่นน่าสงสารเนอะ ทำไมแม่กลับพูด ทำร้ยจิตใจฝุ่นนะ
นั่นคือลูก แม่แบบนี้มีในโลกด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 07-02-2011 23:37:59
ให้ทีมเป็นพระเอกเหมือนเดิมอ่ะดีแล้ว
แต่ขอคนดีดีมาให้ยูลดีกว่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 08-02-2011 09:51:18
น้องฝุ่นน่าสงสารง่ะ
แม่แย่มากๆเลย ถ้าไม่คิดจะดูแลทำไมไม่ปล่อยไว้กับพ่อหล่ะ
อ่านอย่างนี้แล้วอยากให้ยูลเป็นพระเอกจัง
แล้วทำไมไอ้พี่ทีม ไม่ขึ้นไปปลอบฝุ่่นวะห๊ะ!?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Me_kame_nishi ที่ 08-02-2011 12:48:45
เศร้าอ่ะ  ทำไมแม่ไม่มีจิตใจของความเป็นแม่เลยนะนี่
ลูกผู้ชายไม่เอาจะเอาแต่หญิงแล้วได้ลูกชายมานี่ไม่ใช่ลูกเหรอไง
ฝุ่น สู้สู้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-02-2011 17:17:13
ชีวิตฝุ่นมันแย่มาก ๆ เลยไม่แปลกที่กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 10! [06/02/11 Update (ซักที)จ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 10-02-2011 16:33:51
ก๊อกๆๆๆๆ :call:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 10-02-2011 17:07:17
   ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในความมืดสลัว อดีตที่ฝังใจย้อนกลับมาทำร้ายผมอีกครั้งในความฝัน ทุกครั้งที่ผมรู้สึกอ่อนแอภาพสมัยเด็กมักจะย้อนกลับมาให้เห็น คล้ายกับมีคนใจร้ายกำลังเปิดวีดีโอแล้วบังคับให้ผมนั่งดูมันจนจบ ความเปียกชื้นบนข้างแก้มทำให้ผมอยากยกมือขึ้นมาเช็ดมัน ทว่าแรงกอดรัดที่มากขึ้นจากกำแพงมนุษย์ตรงหน้าทำให้ความคิดนั้นต้องโดนพับเก็บไป

   ทีมครางในลำคอนิดหน่อยแล้วหลับต่อ ผมจึงพลิกตัวแล้วลุกขึ้นนั่ง ไอ้ห่านป่ามันคงเข้ามาหลังจากที่ผมเผลอหลับไปแล้ว และคงนอนกอดผมเอาไว้ทั้งคืน กลิ่นเหล้ายังคลาคลุ้งอยู่รอบๆ ตัวมัน บอกให้รู้ว่าเมื่อคืนคงกินเข้าไปไม่น้อยเลยทีเดียว

   ผมที่ตาสว่างเป็นที่เรียบร้อย ตัดสินใจจะลุกไปอาบน้ำแต่เสียงที่ทักขึ้นพร้อมแรงกระตุกที่ข้อมือจากคนที่นอนอยู่ทำให้ผมได้แต่นั่งนิ่งอยู่ข้างมันอย่างนั้น

   “จะไปไหน ยังไม่หกโมงเช้าเลย” ทีมถามเสียงงัวเงียพลางคว้าโทรศัพท์มือถือของผมที่วางทิ้งเอาไว้บนหัวเตียงขึ้นมาเปิดดูเวลา มันสะโหลสะเหลลุกขึ้นมานั่งตัวงออยู่ข้างๆ

   ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่หันหน้าหลบเพราะกลัวมันจะทันได้เห็นน้ำตาที่ยังทิ้งคราบชื้นแฉะเอาไว้ ถ้าให้เปรียบเทียบผมก็เหมือนกับสุนัขตัวหนึ่ง ถ้าเจ็บแล้วก็จำ และรู้จักเลียรักษาบาดแผลให้ตัวเอง ตอนนี้ก็เช่นกัน ผมแค่ต้องการเวลาเลียแผลเก่าให้มันปิดสนิทเหมือนเดิมก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับใคร

   “เมื่อคืนมึงฝันอะไร” มันถามผม แล้วเอื้อมมือมาคว้าใบหน้าผมเอาไว้ ไม่ยอมให้หันหนี

   “เปล่า” เสียงผมกระซิบตอบออกไป “ทำไมถึงคิดว่ากูฝัน”

   “มึงนอนละเมอร้องไห้ทั้งคืน จะให้กูเชื่อจริงๆ เหรอว่ามึงไม่ได้ฝันอะไร” เสียงไอ้ทีมเข้มขึ้นจนผมใจหาย ไม่ชอบเลยครับ โดนเสียงเข้มๆ ดุๆ ซักนั่นถามนี่

   “กู...กู..ไม่ได้ฝันอะไรทั้งนั้น” ผมตอบ แต่ภาพความทรงจำที่พยายามใช้เวลาสิบปีลบเลือน กลับฉายชัดซ้ำไปซ้ำมาทีละภาพ คล้ายกับมีใครบางคนกำลังกรีดลงไปบนแผลของผมซ้ำๆ    

   อีกไม่นานหรอก ทีมก็จะเบื่อ แล้วก็เขี่ยนายทิ้ง

   “ทีม”

   “หืม?”

   “ถ้าวันนึงมึงเบื่อแล้วมึงจะทิ้งกูมั้ย” ผมไม่รู้ว่าอะไรดลใจ ถึงได้ถามออกไปแบบนั้น ความมืดทำให้ผมเห็นหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดเจนนัก ทว่าแรงกอดกระชับที่ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่นกลับแทนคำตอบได้อย่างดี

   “มึงเคยได้ยินมั้ยฝุ่น คนเรา ต่อให้เคยเจ้าชู้เหลวแหลกมาเท่าไหร่ ถ้าวันนึงเราเจอใครสักคนที่รู้สึกว่าใช่ และก็อยากดูแลไปจนวันตาย ต่อให้มีอุปสรรคอะไร เราก็จะไม่มีวันทิ้งคนๆ นั้นไป” ทีมไม่ได้ให้คำตอบ แต่ทิ้งอีกคำถามไว้ให้ผมแทน มันกอดผมแน่นขึ้นก่อนจะก้มลงมาจูบที่ข้างขมับ “สำหรับมึงอาจจะแค่เดือนเดียวที่รู้จักกู ความผูกพันธ์คงสู้ที่มึงมีกับยูลไม่ได้ แต่กูก็รักมึงนะ เป็นห่วง อยากดูแล”

   จบประโยคนั้นของมัน น้ำตาผมก็ไหลไม่หยุดเหมือนทำนบแตก กอดไอ้ห่านป่าแน่นขึ้น ในอกจุกแน่นไปหมด แต่มันกลับจุกเสียดคนละแบบกับที่เคยเจ็บตอนที่แม่บอกว่าไม่ต้องการผม ครั้งนี้มันคล้ายกับว่าผมเจ็บในอกเพราะหัวใจที่พองโตขึ้นด้วยความสุข...

   “ฮึก...กูฝัน ทีม กูฝันเห็นตอนกูยังเด็ก ... แม่...แม่บอกว่ากูเป็นฝุ่น ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการ” ผมสะอื้นไปเล่าไป จนฟังตัวเองแทบไม่ออก แต่ทีมก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากกอดผมเอาไว้แล้วโยกเบาๆ “กูเป็นเด็กไม่ดีเหรอทีม...แม่ไม่เคยรักกูเลย ฮึก..กูก็แค่..อึก.อยากให้แม่ยิ้มให้กูบ้างก็ยังดี”

   “ฝุ่นไม่ใช่เด็กไม่ดีหรอก คนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีใครไม่รักลูกหรอกนะ” ทีมกระซิบปลอบ มันลูบหัวผมอยู่อย่างนั้น

   “ตอนนี้ฝุ่นอาจจะไม่รู้สึกถึงความรักของแม่ แต่เชื่อทีมนะ แม่ไม่ได้เกลียดฝุ่นหรอก...ถ้าฝุ่นคิดว่าไม่มีใครรัก ก็ให้เริ่มจากรักตัวเองก่อนนะครับ” ทีมคลายอ้อมกอดออก มานั่งมองหน้าผมแทน มันยิ้มให้จางๆ หน้าผมน้ำหูน้ำตาไหลจนดูไม่ได้แน่ๆ ฮือออ “รักตัวเองมากๆ พี่ทีม น้าอิ่ม ลุงสินก็รักฝุ่นนะ แต่พี่ทีมรักฝุ่นมากกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง”

   น่าแปลกที่ผมไม่เคยรู้สึกดีกับคำพูดของใครมากเท่านี้ ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ แต่คงไม่ถูกใจห่านป่าบางตัว มันถึงได้ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่เหลือทิ้งคราบบนแก้มให้ ทว่าห้องคงจะมืดไปสักนิด นิ้วมันเลยเผลอจิ้มเข้ามาในตาจนผมร้องโอ๊ยออกไปดังลั่น

   “เฮ้ย เป็นอะไร”

   “ฮือออ นิ้วมึงจิ้มตากู”

   ทีมหัวเราะออกมาเสียงดัง ผมเลยประเคนหมัดหนักๆ ทุบแม่งเข้าที่อกมันดังอั่ก จนเสียงหัวเราะขาดไป แต่มันก็ยังไม่วายจะส่งเสียงหึหึ ตามมาให้อยากกระทืบ ผมตั้งใจจะใช้โอกาสนั้นหนีไปล้างหน้าเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะดราม่า ร้องไห้หนักไปเสียแล้ว แต่ไอ้อดีตแชมป์เทควันโดมันกลับเสียมารยาทพับโครงการผมเก็บด้วยการคว้าข้อมือเอาไว้พลางยิ้มให้ผ่านความมืด

   ทีมหัวเราะออกมาเสียงดัง ผมเลยประเคนหมัดหนักๆ ทุบแม่งเข้าที่อกมันดังอั่กจนเสียงหัวเราะขาดไป ผมตั้งใจจะใช้โอกาสนั้นหนีไปล้างหน้าเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะร้องไห้มากไปเสียแล้ว แต่ไอ้อดีตแชมป์เทควันโดมันกลับไม่ยอม ทีมคว้าข้อมือผมเอาไว้พลางยิ้มให้ผ่านความมืด

   “กูจะไม่ทิ้งมึงไปไหน ต่อให้นั่นเป็นความต้องการของมึงเองที่จะทิ้งกูไป” ทีมยังยิ้มตอนที่ดึงผมเข้าไปกอดไว้หลวมๆ มันซบหน้าลงแถวๆ หน้าท้องแล้วพูดต่อ “ถ้ามึงดื้อด้านจะไปจากกูให้ได้ กูก็จะจับมึงล่ามไว้กับเตียง ปล้ำเช้าปล้ำเย็น จนกว่ามึงจะยอมอยู่กับกูนั่นแหละ”

   “แสรด มึงเป็นพระเอกเรื่องจำเลยรักรึไง”

   “เปล่า กูเป็นพระเอกของมึงต่างหาก หึหึ”

   โอ๊ย มุขห่าน!!!

   “มึงหายเศร้าก็ดีแล้ว เพราะกูจะบอกว่า....กูปวดท้องมากเลย” ประโยคหลัง มันบอกเสียงอ่อยแล้วลงไปนอนหมอบตะแคงครางหงิงกับพื้นเตียงจนผมตกใจ แต่เพราะกลิ่นเหล้าที่คลุ้งจากตัวมันปนกับอาการปวดท้องจนหน้าเขียวเหมือนน้องโดนชกแบบนี้ จากประสบการณ์ที่ผมเคยเห็นยูลเป็นบ้างในบางครั้งก็ทำให้พอที่จะเดาได้ว่าทีมมันเป็นอะไร

   “เมื่อคืนมึงกินเหล้าแล้วไม่ได้กินข้าวเหรอ”

   “ตอนแรกว่าจะกินหรอก แต่พอเห็นใครก็ไม่รู้ร้องไห้ กูก็อยากกินแต่เหล้า”

   ใครวะ...กูไม่รู้ (ทำหน้าเหรอหรา)

   “แล้วเกี่ยวอะไรกับกูด้วย”

   “แหนะๆ กูรู้นะว่ามึงร้องไห้เพราะคำพูดของปิ๊กน่ะ” มันพูดพร้อมยิ้มกวนๆ มาให้ผม แม่ง...ปวดท้องใช่มั้ย เดี๋ยวกูซ้ำหนักๆ เลยนี่

   “พูดมาก” ผมพึมพำ “มึงรอตรงนี้แหละ กูจะไปเอานมมาให้”

   ผมบอกมันแค่นั้น ทิ้งให้ห่านป่านอนหงิงอยู่บนเตียงลำพัง แล้วลงไปเอานมกล่องที่แช่อยู่ในตู้เย็นกลับมาให้มัน คิดดูนะครับ ผมอุตส่าห์สวมบทเป็นคนดี เอานมมาให้ เขย่ากล่องและยังเจาะเรียบร้อย แต่ไอ้ทีมมันกลับลีลา ไม่ยอมลุกขึ้นมานั่งกินเอง นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงจนผ้าปูยับย่น

   “ป้อนหน่อย ป้อนหน่อย”

   “มึงเป็นง่อยรึไง ลุกขึ้นมากินเอง จะได้เลิกนอนครางแบบนี้ซักที”

   “ป้อนอะ ป้อนนนนนนนนนนน” มันทำท่าเหมือนดักแด้ที่ไม่มีมือ นอนตะแคงกอดอกอยู่กับพื้นเตียง แต่ยกหัวขึ้นมาบอกผมแบบนั้น

   “กูว่านะ ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้โดนมึงทิ้งหรอก เค้าทิ้งมึงเพราะทนรำคาญไม่ได้มากกว่า” ผมบ่นแล้วยอมลากมันขึ้นมานั่งข้างๆ พลางส่งนมให้กิน ห่านป่าตัวใหญ่ก็ก้มลงมากินยิ้มๆ นมหายออกจากกล่องลงท้องไปได้หน่อยเดียว มันก็เริ่มปากมากอีกครั้ง

   “ทำไมมึงชอบทำปากร้ายกลบความอายวะ จะทำตัวน่ารักก็ทำเถอะ อยู่กันแค่สองคน ไม่มีใครเห็นซักหน่อย”

   “ส้นตีนล่ะ ถือเองเลยมึง กูจะไปอาบน้ำ” ผมไม่พูดเปล่าจับมือมันขึ้นมาถือกล่องนมเอง แล้วลุกหนีทันที ไอ้ทีมจะไม่ถือเองก็ไม่ได้ ไม่งั้นนมคงหกบนเตียงผมอีก...แน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้น นอกจากมันจะต้องสละเตียงให้ผมนอนแล้ว มันคงโดนซ้ำเอาแถวๆ ซี่โครงแน่ๆ

   

   ผมเดินลงมาที่ชั้นล่างก็ตอนเกือบหกโมงครึ่ง ตัวบ้านยังคงเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ และที่สำคัญมันยังสะอาดกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้มาก ทั้งในห้องนั่งเล่นและที่สนาม ทั้งที่เมื่อวานก็กินกันเยอะขนาดนั้น แต่กลับถูกเก็บเรียบร้อย สงสัยว่าป้าแจ่มจะเข้ามาทำความสะอาดแต่เช้า

   ผมคิดว่าจะเข้าไปหยิบนมในตู้เย็นมากินซักกล่อง แล้วออกไปแกล้งปลุกเซ็กส์ซี่ คงเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

   “อ้าว น้องฝุ่น ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังคะ” เสียงผู้หญิงค่อนข้างสูงวัยดังทักผมขึ้นมาจากในห้องครัว ป้าแจ่มนั่นเองครับ สงสัยจะเพิ่งมา เพราะแกยังไม่ได้เอาผักต่างๆ ออกจากถุงเลย

   “นอนไม่ค่อยหลับน่ะครับ แล้วนี่ป้าเพิ่งมาเหรอ”

   “ใช่จ้ะ ป้าจะมาประมาณหกโมงครึ่งของทุกวัน” คำตอบพร้อมรอยยิ้มใจดีของป้าแจ่มทำให้ผมค่อนข้างแปลกใจ ถ้าป้าเพิ่งมา แล้วใครเก็บของทำความสะอาดบ้าน?

   “อ้าว ถ้างั้นใครเป็นคนทำความสะอาดบ้านล่ะครับ เมื่อคืนไอ้ทีมพาเพื่อนมากินบาร์บีคิวกันด้วย”

   “อ๋อ งั้นเพื่อนน้องทีมแล้วล่ะค่ะ ที่ชื่อลัน คนนั้นเค้าไม่กินเหล้า อยู่ดึกเก็บของทุกที”

   สิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมพี่ลันมากขึ้น สมเป็นพ่อครัวจริงๆ ครับ ทั้งหาซื้อ เริ่มล้าง ปรุง ไหนจะเก็บล้างอีก ครบเซ็ตจริงๆ

   ผมพยักหน้ารับคำแล้วชวนป้าแจ่มคุยเรื่องสัพเพเหระอีกนิดหน่อย พอดีกับที่นมในกล่องหมด ผมเลยกะว่าจะขอตัวออกไปทักทายเซ็กส์ซี่สักหน่อย ไม่รู้ว่าป่านนี้จะตื่นแล้วหรือยัง ผมจัดการเอากล่องนมไปทิ้งในถังขยะใบเล็กที่วางอยู่ในห้องครัวแล้วเดินออกไปที่สนาม

   มันเริ่มเช้าแล้ว ทำให้ผมสามารถเดินออกไปที่สนามหน้าบ้านได้โดยไม่ต้องอาศัยไฟนำทาง เซ็กส์ซี่ยังนอนหมอบอยู่ในบ้านหลังเขื่องใต้ต้นมะม่วงริมรั้ว ด้านหน้ามันมีชามอาหารและชามน้ำที่ว่างเปล่าวางอยู่

   “ไงมึง ตื่นสายเหรอวันนี้” ผมทรุดตัวลงนั่งยองๆ แล้วลูบหัวอิหมาน้อยที่ alert ขึ้นทันทีเมื่อผมเดินเข้าไปในระยะสองเมตร เซ็กส์ซี่ดมๆ เลียๆ มือผมอยู่พักนึง ข้อดีของมันที่ผมชอบก็คือ เซ็กส์ซี่มันไม่ค่อยเห่าครับ อาจจะเป็นธรรมชาติของสุนัขพันธุ์โกลเดนท์ รีทรีฟเวอร์อยู่แล้วก็ได้

   “เลียมือกูทำไมเนี่ย หิวเหรอ”

   แน่นอนว่าเซ็กส์ซี่ไม่ได้ตอบ แต่มันกลับลุกขึ้นมาพยายามตะกุยผมแทน พอไม่ได้ผลมากๆ เข้า มันก็เริ่มครางหงิงๆ แล้ววิ่งไปมารอบตัวผม
   “กูพูดภาษาหมาไม่ได้นะเซ็กส์ซี่” ผมทำหน้าเบื่อหน่าย บางทีการอยู่กับหมาก็มีความสุขตรงที่มันไม่ด่าเรากลับนี่แหละครับ แต่บางทีก็ลำบากตรงการสื่อสาร เพราะผมเองก็ไม่ได้เลี้ยงหมามาตั้งนานแล้ว ไม่อยากจะพยายามทำความเข้าใจเท่าไหร่ด้วย

   “หนูหิวแล้วค่ะหม่ามี๊ ถอยให้ป่าป๊าเอาอาหารให้หนูหน่อยค่ะ” เสียงเล็กแหลมที่ดังขึ้นจากข้างหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง ไอ้ทีมเดินมาพร้อมกระป๋องอาหารสุนัข เซ็กส์ซี่ที่คงเห็นและก็จำอาหารของมันได้ ถึงกับผละจากผมไปวิ่งรอบๆ เจ้านายมัน พยายามตะกายไอ้ทีมอย่างเต็มกำลัง แต่มีหรือที่ห่านป่าจะยั่น ทีมยิ้มกว้าง แล้วแกล้งดัดเสียงต่อ “ถ้าหม่ามี๊ไม่ถอย หนูจะเชียร์ให้ป่าป๊ากินหม่ามี๊แทนนะคะ”

   “งั้นเซ็กส์ซี่กับป่าป๊าจะอดกินข้าวไปคนละหนึ่งอาทิตย์นะคะ” ผมแกล้งพูดตอบบ้าง ทีมมันทำหน้าเหวอ แล้วส่ายหัวด๊อกแด๊ก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย

   “ป้าแจ่มบอกว่า มึงกินนมไปกล่องเดียว อิ่มเหรอ”

   ทีมมันถาม พลางเอาชามอาหารที่ว่างเปล่าของเซ็กส์ซี่ไปล้างที่ก๊อกน้ำใกล้ๆ

   “ที่จริงกูไม่ได้หิวหรอก เห็นมึงกินเลยอยากกินบ้าง” ผมตอบ แล้วรับชามอาหารมาจากไอ้ทีม เพราะมันจะเอาชามใส่น้ำไปล้างต่อ ทีนี้ล่ะ เซ็กส์ซี่ตามมากดดันผมด้วยการครางหงิงๆ แล้วยืนสะบัดหางอยู่ข้างหน้า มันก้มลงเอาจมูกดันชามอาหารเป็นการเร่งผมอีกทาง

   “รู้แล้วน่า แป๊ปนึงสิวะ” ผมหยิบอาหารกระป๋องมาเปิด แล้วเทลงใส่ชามให้ เซ็กส์ซี่รีบก้มลงไปกินอย่างรวดเร็ว “มึงเคยลองกินอาหารหมารึเปล่าวะทีม”

   “ไม่เคยอะ อยากรู้เหมือนกัน เห็นบางคนบอกว่าอร่อย” มันตอบ พลางเอาชามน้ำมาวางให้หมาสุดที่รัก “อืม..กูลืมบอก”

   “อะไร” ผมถาม แต่เอาอีกแล้วครับ ไอ้ทีมแม่งไม่ตอบ แต่แสดงให้ดูเลยว่ามันลืมอะไร...มันก้มลงมาขโมยจูบปากผมดังจุ๊บ แล้วถอยออกไปพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนวาบ

   “อรุณสวัสดิ์”

   “แสรด” ผมด่า เผลอยกมือขึ้นเกาแก้มแก้เขินเบาๆ

   “เฮ้ย มึงต้องบอกอรุณสวัสดิ์กูพร้อมจูบดิ ไม่ยุติธรรมเลย”

   ถ้าเป็นเมื่อต้นเดือนที่แล้วผมคงด่ามันจนบรรพบุรุษร้องไห้แล้วกระโดดถีบขาคู่ใส่หน้า แต่นาทีนี้บวกลบความดีทุกอย่างที่มันทำให้ผม...ยอมๆ มันไปหน่อยก็ได้วะ

   ผมชะเง้อคอขึ้นจูบปากมันเบาๆ ก่อนจะถอนออกมาแล้วบอกเสียงเบา

   “อรุณสวัสดิ์”

   “ทำแบบนี้กันทุกวันนะ” ทีมบอก แล้วยิ้มกว้างจนผมเห็นฟันมันจะครบสามสิบสองซี่อยู่แล้ว

   “ได้คืบเอาศอกนะมึง”

   ห่านป่าแม่งไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหัวเราะคิกๆ แบบน่าถวายขาคู่ให้สักชุด ผมเลยยกมือขึ้นตบไหล่มันแรงๆ ทีนึง แน่นอนว่าทีมแม่งก็ทำร้องโอ๊ยเสียงดังแบบตอแหลเหมือนเดิม เจอผมแยกเขี้ยวใส่ไปที มันเลยยอมหยุดแล้วหักโค้งเปลี่ยนเรื่องคุย

   “เออฝุ่น อาทิตย์หน้ามึงจะไปไหนรึเปล่า”

   “วันที่เท่าไหร่” ผมลูบหัวเซ็กส์ซี่ขณะที่มองหน้าทีม มันยิ้มให้บางๆ  

   “ช่วงก่อนสงกรานต์ ประมาณวันที่แปด” ผมชะงักมือที่ลูบหัวเซ็กส์ซี่ตอนที่ได้ยินคำตอบของมัน ไม่รู้ว่าทีมมันจงใจเลือกช่วงนั้นรึเปล่า แต่จากสีหน้าที่ไม่มีพิรุธอะไรก็ทำให้ผมได้แต่ห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดมากตอนที่ตอบออกไป

   “ก็...ว่าง ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”

   “จริงเหรอ งั้นไปทะเลเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ อยากไปมาตั้งนานแล้ว” ทีมยังยิ้มซื่อๆ ให้ผมตอนที่บอก แต่คนที่พูดกลับไม่รู้ตัวว่าคำพูดเรียบง่ายของมัน กระตุกหัวใจผมให้เต้นแรงขึ้น

   “อะ..อืม ไปสิ กู..ก็อยากไปทะเลเหมือนกัน” ผมตอบ รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อทีมมันก้มลงมากดจูบที่ข้างแก้มแรงๆ

   “มึงน่ารักจัง งั้นกูไปดูป้าแจ่มก่อนนะ ว่ากับข้าวเสร็จรึยัง”

   พูดแล้วมันก็วิ่งหายเข้าไปในบ้าน โดยที่ทิ้งผมไว้ให้นั่งมองเซ็กส์ซี่เพียงลำพัง ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนเรื่อๆ ตอนที่ยิ้มออกมา ไม่แน่ใจว่ายิ้มเพราะเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกหนึ่งที่ชัดเจนมากในขณะนั้นก็คือ...

   ผมดีใจและมีความสุข...ที่จะได้ไปเที่ยวทะเลในวันเกิดของตัวเอง...







เจอกันตอน 12 จ้า




eiizes’s talk
สวัสดีค่า

รู้สึกทีมกับฝุ่นเริ่มเดินมาไกลขึ้นเรื่อยๆ แล้วเนอะ

อีกซักพักทุกคนก็จะได้คำตอบแล้วค่ะ ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงชื่อบาปหวาน คริคริ

ดราม่าถามว่ามีมั้ย....มันก็...มีนะ แต่คงอีกซักพักแหละเนอะ (ให้คนอ่านเตรียมใจ )

วันนี้มีคำถามนิดนึงค่า

คืออันนี้ถามเผื่อนะคะ ถ้าเราจะรวมเล่มบาป...หวาน จะมีท่านใดสนใจบ้างมั้ยคะ (ทำตาปริบๆ)

แต่เราจะลงเนื้อเรื่องหลักที่นี่จนจบอยู่ดีนะ แต่ในเล่มคิดเอาไว้แล้วว่าจะแถมตอนพิเศษให้

ตอนนี้มี(นับ)...ประมาณห้าถึงหกตอนแล้ว

ยังไงก็รบกวนลงความเห็นกันหน่อยนะคะ :)
ขอบคุณมากค่า

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 10-02-2011 17:38:03
เดาๆๆ บาปหวานเนี่ยเพราะแม่ของทีมและฝุ่นคนเดียวกันเปล่าอ่ะ

เดาอีกข้อนึง พ่อของทีมอาจจะเป็นพ่อของฝุ่นด้วย -0-(ดักไว้สองทางเลยวุ๊ย 55+)

ส่วนเรื่องรวมเล่มสนครับ น่าสนใจดี ^^ เอาเป็นว่าถ้าช่วงนั้นไม่ติดขัดอะไรจะจองเป็นคนแรกๆ เลยครับ

เบลล์ว่าเรื่องนี้ใช้ภาษาดีอ่ะ ถ้ายังไงรวมเล่มก็มีคนซื้ออยู่แล้วเชื่อดิ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 10-02-2011 19:18:34
ไม่อยากเดาอะ ไว้รอมาเฉลยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 10-02-2011 19:59:22
ก็ดีนะครับถ้ารวมเล่ม แต่เอาจบแบบแฮปปี้เอนนะ555+
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 10-02-2011 20:01:31
รวมๆๆๆๆอยากได้ๆๆๆๆ

แต่เอาเป็นช่วงที่หน่ามีตังค์จะดีมาก

บอกล่วงหน้าด้วยนะคะจะได้เก็บตังค์ทัน :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 10-02-2011 21:07:55
จัดมาเลยไอซ์พี่ขวัญเล่มนึง
แต่เดี๋ยวก่อน

เมื่อไหร่จะเอ็นซีซักทีฟะ ลุ้นจนเกร็งไปหมดแล้วเฟ้ยยยย
ชอบอันนี้

 “มึงเคยได้ยินมั้ยฝุ่น คนเรา ต่อให้เคยเจ้าชู้เหลวแหลกมาเท่าไหร่ ถ้าวันนึงเราเจอใครสักคนที่รู้สึกว่าใช่ และก็อยากดูแลไปจนวันตาย ต่อให้มีอุปสรรคอะไร เราก็จะไม่มีวันทิ้งคนๆ นั้นไป”

เท่สุดๆๆๆๆ เพิ่งเข้าใจอ่ะว่าตาทีมตามขึ้นมาแล้วแต่คงอยากให้เวลาฝุ่นได้อยู่กับตัวเอง พี่คิดว่างั้นนะ
ตอนนี้เกือบเสียน้ำตาจ้า ภาษาไอซ์สวยดีพี่ชอบ
เป็นกำลังใจเหมือนเดิมจ้า :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-02-2011 21:29:33
กอดฝุ่นและทีม ตอนนี้หวานมั่กมากกก :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 10-02-2011 21:42:03
ตอนที่แล้วดราม่าตอนนี้เลยหวานชดเชยสินะ
กริ๊วววววววววววววววววววววว
หวานซะจนเขินเลย
ว่าแต่...ยังต้องเตรียมตัวรับมรสุมมาม่าลูกต่อไปอีกหรอ...
ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 10-02-2011 21:43:53
ตอนนี้มาแบบหวานได้ใจเรามาก
เพราะตอนที่แล้วดราม่าซะเราน้ำตาซึม
ถ้าจะมีดราม่ามีได้แต่อย่าบ่อยเลยน่ะ
แต่ถ้าจะหวานนี้มาได้ไม่จำกัด
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: DewHup ที่ 10-02-2011 21:44:51
จัดมาเลยเพ่ !!!

เเต่อย่ามาม่ามากเน้อ  สงสารน้องฝุ่น  :m15:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 10-02-2011 22:13:18
จัดมาสิ คริๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 10-02-2011 22:29:18
แหมหวานซ้าาาาาาาาาาา
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 10-02-2011 22:34:09
มาลงชื่อรอรวมเล่มค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 10-02-2011 22:57:13
ทะเล ทะเล
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-02-2011 23:16:37
ว้ายๆๆ น่ารักจังเลย
อยากอ่านตอนทะเลหวานเนาะ 55
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 11-02-2011 00:33:12
รออ่านต่อค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: breath ที่ 11-02-2011 00:35:24
อั๊ยยะ!!! หวานเจี๊ยบ
น่ารักว้อยยยยยยยยยยยย

ไหนๆ ใครหน้าไหนมันไม่เอาฝุ่น
เอามานี่!!! เค้ารับเลี้ยงเลง > <
*กระโดดหลบขาคู่เฮียทีม*

คึคึ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 11-02-2011 03:01:02
ไปทะเล
><
ชอบเวลาพี่ทีมปลอบใจฝุ่นจังเลย
อบอุ่นอ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 11-02-2011 09:12:31
ช่วงนี้หวานกันเกินไปไหมจ๊ะ อิจฉานะขอบอก :-[

ใกล้ได้รู้แล้วว่าทำไมถึงเรียกว่าบาปหวาน แต่คนอ่านไม่ค่อยอยากรู้เลยอะกลัวทำใจไม่ได้
ไม่กล้าเดาด้วยกลัวมันยจะเป็นเรื่องจริง ยังไงก็ขอให้จบแบบ Happy นะเพราะถ้า 2 คน
ต้องจากกันตลอกกาลเพราะสิ่งที่ทำมันเป็นบาป คนแต่งก็จะบาปนะที่ทำให้คนอ่านเศร้า

 :pig4: คะ ถ้ารวมเล่มจะอุดหนุนคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 11-02-2011 12:47:49
เคี๊ยก~~~~~~~~~~
ตอนนี้หวานแหะ แล้วบาปหล่ะ 555
มันคืออะไรหว่า??

ตอนนี้โอเค...ให้ทีมเป็นพระเอกต่อไปเหอะ มันดีที่สุดแล้ว  :really2: :really2: อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 11-02-2011 22:10:11
ไปทะเลกันๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 12-02-2011 13:05:25
จิ้ม  :z13:

หวานจริงอะไรจริง
+มีมาม่าด้วย   :laugh:

บาปหวาน อ่านชื่อเรื่องตอนแรกไม่กล้ากดเข้ามาเท่าไหร่ค่ะ
แต่ตอนนี้ติดมาก  ฝุ่นกับทีมน่ารักมาก ขนาดพูดภาษาพ่อขุนก็น่ารัก  555

Ps.ถ้ามีรวมเล่มคงต้องดูก่อนจ่ะว่ากำลังทรัพย์มีพอไหม 55
    แต่โดยรวมอยากอุดหนุนค่ะ

รอตอนต่อไปจ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 11! [09/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 12-02-2011 15:19:54
ง่ะ ดราม่าแหงๆ  o22
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1!! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 16-02-2011 20:20:46
12.1


   วันนี้เป็นวันที่ห้านับตั้งแต่น้าอิ่มและลุงสินออกไปฮันนีมูน ผมหรือไอ้ทีมก็ไม่ได้รับโทรศัพท์รายงานแต่อย่างใดว่าเที่ยวอยู่ที่ไหนแล้ว สงสัยจะมีความสุขกันจนลืมไปแล้วมั้งครับว่าพวกผมสองคนก็รอของฝากอยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ผมต้องนอนดูโทรทัศน์อยู่บ้านคนเดียว เพราะทีมมันต้องออกไปทำธุระที่คณะ เห็นว่าประมาณเดือนมิถุนายนนี้จะมีค่ายอาสาอะไรสักอย่าง มันเองที่เป็นหนึ่งในคณะผู้จัดงานก็ต้องออกไปประชุมกับเขาบ้าง

   ผมกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ ด้วยความเบื่อหน่าย บางทีการไม่มีเสียงแจ๋วๆ ของไอ้ทีมกรอกอยู่ข้างหูตลอดเวลาก็ทำให้รู้สึกเซ็งมากเหมือนกัน ผมยกหัวขึ้นจากหมอนหนุนใบโตที่อุตส่าห์แบกลงมาจากห้องนอนเพื่อมานั่งๆ นอนๆ ที่ห้องนั่งเล่นเป็นเพื่อนเซ็กส์ซี่

   หัวยาวๆ ที่ปกคลุมด้วยขนนุ่มสีทองขยับมาวางแปะพร้อมส่งเสียงครางหงิงๆ เรียกร้องความสนใจ ผมเลยยกมือหนึ่งขึ้นลูบหัวมันเบาๆ

   “หิวเหรอเซ็กส์ซี่ ก่อนทีมมันออกจากบ้านเพิ่งกินข้าวไปไม่ใช่รึไง” พูดนั่นพูดนี่แต่ที่จริงทีมมันก็ออกจากบ้านไปตั้งแต่สิบโมงแล้วล่ะครับ นี่ก็เกือบจะบ่ายสามแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาง่ายๆ เลย ทิ้งให้ผมนอนแกร่วอยู่อย่างนี้ เซ็งเป็นบ้า

   “ไปหาอะไรกินที่หน้าปากซอยกันมั้ย” ผมถามแล้วขยับตัวขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ เสยปอยผมตรงหน้าผากขึ้นลวกๆ

   ผมที่เริ่มยาวลงมาปิดตาทำให้ผมนึกอยากตัดมันขึ้นมาตะหงิดๆ แต่เอาไว้ก่อน คนจ่ายเงินไม่อยู่ครับ เซ็กส์ซี่ขยับตัวออกจากผมแล้วเริ่มกระดี๊กระด๊ามากขึ้นเมื่อมันเข้าใจว่าผมจะพาออกไปข้างนอก อย่างว่าแหละครับ สุนัขพันธุ์นี้มันชอบเล่น ชอบออกกำลังกายก็คงเบื่อที่จะมานั่งจับเจ่าดูทีวีแบบนี้

   อย่าว่าแต่เซ็กส์ซี่เลย ผมก็เบื่อ
   


   หลังจากควานหาสายจูงเซ็กส์ซี่เจอที่กล่องบนตู้เก็บรองเท้า ผมก็พยายามอยู่นาน กว่าอิหมาเซ็กส์เสื่อมจะยอมให้ใส่สายจูงได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันเพราะท่าทางเวลาไอ้ทีมพาออกไปข้างนอกจะไม่เคยใส่สายจูง เซ็กส์ซี่มันเลยไม่ชิน แต่ผมก็ไม่ชินนะถ้าต้องวิ่งไปเอาอีหมาน้อยเซ็กส์เสื่อมนี่ออกจากหมาตัวผู้ตัวอื่นน่ะ

   ผมจัดการล็อคบ้านให้เรียบร้อยในขณะที่เซ็กส์ซี่พยายามจะลากผมให้เดินตามมันไปเร็วๆ ดูท่าทางอีหมาน้อยนี่จะไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวนอกบ้านสักเท่าไหร่นักเพราะมันเดินดมนั่นดมนี่ทั่วไปหมด เหมือนเด็กๆ ที่เห็นของเล่นหรือไม่ก็แสงสีแล้วตื่นตาตื่นใจเลยครับ ผมเองก็ไม่ค่อยจะมีแรงห้ามมันเท่าไหร่ ยังคงมึนๆ หัวอยู่ อาจเป็นเพราะผมนอนอืดอยู่เฉยๆ มาตั้งแต่เมื่อเช้า สมองเลยไม่ค่อยสั่งการ

   อันที่จริงจากบ้านออกไปปากซอยก็ไม่ไกลเท่าไหร่ครับ ประมาณสิบนาทีก็ถึง แถวนั้นจะติดกับริมถนนใหญ่ทำให้มีรถและคนสัญจรไปมาค่อนข้างเยอะ ของขายเลยเยอะตาม มีหลายประเภทอยู่ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกกับข้าว หรือไม่ก็ขนมต่างๆ เช่น ถั่วแปบ ตะโก้(อันนี้ผมชอบ หอมกะทิมากๆ) น้ำแข็งไสก็มี

   ผมจูงเซ็กส์ซี่เดินเข้าไปใกล้ร้านค้าอย่างระมัดระวังและพยายามยื้อเอาไว้เพราะแม่งเริ่มดื้อ จะวิ่งใส่แต่ร้านขายลูกชิ้นหรือไม่ก็เนื้อทอดตลอด

   “เฮ้ย!” ผมร้องลั่น ตอนหยุดแวะซื้อตะโก้แล้วกำลังก้มหยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ หันมาอีกที เซ็กส์ซี่แม่งวิ่งหายไปยืนกระดิกหางอยู่ข้างๆ ร้านขายลูกชิ้นปิ้งเสียแล้ว “เซ็กส์ซี่ กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ”

   ผมตะโกนเรียก อีหมาน้อยมันทำแค่หันมาทำหน้าเซ็กส์ซี่ลิ้นห้อยใส่ แล้วกลับไปกระดิกหางอยู่ข้างๆ ป้าคนขายอย่างคุ้นเคย ผมจึงเดินตามมันไปอย่างเสียไม่ได้...แม่ง ไม่น่าชวนมันออกมาเลย

   “ไงจ๊ะเซ็กส์ซี่ วันนี้กินเนื้อหรือเอ็นดี” แม่ค้าวัยกลางคนรูปร่างท้วมหันมาลูบหัวมันเบาๆ ด้วยรอยยิ้มก่อนจะเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย “วันนี้น้องทีมไม่ออกมาด้วยเหรอจ๊ะ”

   “เอ้อ...ทีมไปคณะครับ ผมเห็นมันเหงาๆ เลยพาออกมาเดินเล่น” ผมตอบเสียงอ่อย แล้วหยิบเงินออกมาเตรียมจ่ายค่าลูกชิ้นที่ป้าแกป้อนใส่อีหมาเสื่อม มันก็ดีเสีย ป้อนให้ก็กินเอาๆ ไม่ได้สนใจเลยว่าผมจะหยิบเงินออกมาพอมั้ย ถ้าไม่พอกูทิ้งมึงไว้ช่วยป้าล้างจานนะโว้ย

   “น้องทีมไม่พาเซ็กส์ซี่ออกมาเดินเล่นเป็นเดือนแล้ว ป้าๆ แถวนี้ก็ยังบ่นคิดถึงน้องทีมแกอยู่” ป้าขายลูกชิ้นบอกผม พลางบุ้ยใบ้ไปรอบๆ ร้าน ที่มีแผงขายกับข้าวและขนมอย่างอื่นอีกหลายเจ้าเหมือนกัน แต่ละร้านเริ่มเข้ามาให้ความสนใจกับอีเซ็กส์เสื่อมมากขึ้น พร้อมขนมที่หยิบติดไม้ติดมือมาให้มันกินอย่างสนุกปาก...นี่มึงดังทั้งหมาทั้งเจ้าของเลยเหรอวะ

   “ปกติทีมมันออกมาบ่อยเหรอครับ” ผมถาม

   “ก่อนหน้านี้น่ะบ่อยจ้ะ ทีมกับเซ็กส์ซี่เป็นคนดังของตลาดนี้เลยนะ น้องทีมแกเป็นคนเฮฮา คุยได้สนุกตั้งแต่เด็กยันป้าอายุเจ็ดสิบ” ป้าแกบอกพลางยิ้มกว้าง ก่อนจะถามผมบ้าง “แล้วเราล่ะจ๊ะพ่อหนุ่ม เป็นเพื่อนของน้องทีมเหรอ”

   “เอ่อ....” ผมเงียบไปเล็กน้อย กูต้องตอบว่าอะไรวะ? เพื่อน? น้อง? แฟ... เอ่อ ไม่ๆ แค่ “เพื่อนน่ะครับ”

   สรุปว่าตอนแรกผมเตรียมใจจะจ่ายเงินค่าลูกชิ้นที่หมาของไอ้ทีมกินเข้าไปราวกับกระเพาะรั่ว แต่ป้าแกก็ใจดีไม่ยอมเอาเงินครับ บอกว่าพิเศษให้เซ็กส์ซี่ไป สุดท้ายผมจูงเซ็กส์ซี่เดินเข้าไปดูของอย่างอื่นในตลาดเพิ่มเติม ไม่รู้ว่าเจ้าของอีหมาน้อยนี่จะกินอะไรมารึยัง ดูขนมไปติดบ้านไว้หน่อยก็คงดี

   แต่ผมยังไม่ทันได้ซื้ออะไร ก็ดูจะมีคนตัดสินใจแทนให้แล้ว....

   หงิง

   อะไรอีกล่ะมึง เสียงแบบนี้นี่มึงเจออะไรถูกใจอีก

   ผมหันกลับไปมองเซ็กส์ซี่ที่หยุดยืนนิ่งไม่ยอมเดินต่ออยู่หน้าร้านขายตับทอดที่ลูกค้าค่อนข้างเยอะ ทำให้คนขายไม่ทันเห็นมัน เซ็กส์ซี่เลยได้แต่ทำตาละห้อยมองตับที ผมที สลับกันไปมา

   “เออๆ อยากกินใช่มั้ย อย่างสุดท้ายแล้วนะ กินมาเยอะแล้วมึง เดี๋ยวจากหมาเป็นหมูขึ้นมา เสียชาติเกิดเลยนะ” ผมบ่นๆ ใส่มันแล้วสั่งตับทอดให้สองขีด กินกันให้ไส้ไหลไปเลย เชี่ย

   ผมรับถุงตับทอดมาเป่าให้หายร้อน ก่อนจะเดินจูงมันไปแอบอยู่มุมหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมากนักจะได้ไม่เป็นการเกะกะคนอื่นเขา แล้วเริ่มป้อนตับให้อีหมาเสื่อมที่กินเอาๆ อย่างเอร็ดอร่อย

   “เฮ้ย เซ็กส์ซี่!!” เสียงตะโกนเรียกอิหมาน้อยที่เงยหน้าขึ้นจากตับทอดในมือของผมทันที มันหันขวับกลับไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่เดินข้ามถนนแคบๆ มาทางพวกเรา แน่นอนว่าผมไม่รู้จัก แต่ดูท่าทางสองคนนี้จะคุ้นกันไม่มากก็น้อย เพราะเซ็กส์ซี่ถึงกับยอมละตับทอดแล้วหันไปเงยหน้ากระดิกหูกระดิกหางรับฝ่ามือที่เอื้อมมาขยี้หัวมันเล่นทันที

   ญาติเยอะนะมึงเนี่ย...

   “อะไรเนี่ย กินตับอีกแล้ว ทีมมึงให้มันกินแต่ตับเหรอวะ” ผมนิ่ง ไม่ตอบ ก็เขาถามไอ้ห่านป่า มนุษย์ปกติอย่างผมก็ขอไม่ยุ่งจะดีกว่า เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าผมไม่ได้ตอบอะไร เขาเลยเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะทำหน้าเหวอเล็กน้อย

   “อ้าว ขอโทษครับ ผมไม่ได้ใส่แว่น” ตาถั่วขนาดนี้ไม่ต้องใส่แว่นแล้วมั้ง ควรจะควักลูกตาไปล้างแล้วเอากลับมาใส่ใหม่นะ

   “ทีมไปคณะครับ” ผมบอกเรียบๆ อีกฝ่ายเลยละมือออกจากหัวเซ็กส์ซี่ เหยียดตัวขึ้นเต็มความสูงพลางถามผมก่อนจะแย้มรอยยิ้มกว้างโชว์ฟันเขี้ยวที่มุมปาก

   “ขอโทษนะครับ ผมไม่คุ้นหน้าคุณเลย เป็นเพื่อนทีมเหรอ”

   คำถามนั้นทำผมอึกอักนิดหน่อย ไม่รู้ตอบว่าอะไรถึงจะดี เพื่อน? น้อง? ญาติ?

   “ก็...ไม่เชิงครับ เรียกว่าเป็นน้องของทีมน่าจะดีกว่า” ผมตอบงึมงำ สถานะกูมันกำกวมโว้ย จะเรียกว่าเป็นคนคุ้นเคยกันในหลายๆ ความหมายก็ไม่ผิดนะ กร๊าก

   “อ้าวเหรอ ถ้าเป็นน้องทีม งั้นเราก็มีศักดิ์เป็นพี่สิเนอะ พี่ชื่อเป้ครับ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของทีม ส่วนน้อง...?”

   “ชื่อฝุ่นครับ” ผมตอบเรียบๆ แล้วก้มลงไปหาเซ็กส์ซี่ที่เข้ามาเลียๆ ขาผมอีกครั้ง...กินขากูเลยมั้ย อร่อยนะ

   “ไปนั่งพักเหนื่อยทานน้ำที่ร้านตรงหัวมุมก่อนมั้ย พี่เลี้ยงเอง จะได้ให้เซ็กส์ซี่กินน้ำด้วย” พี่เป้เสนอ ก็คอแห้งนะครับ แต่ผมอยากกลับไปนั่งพักกินน้ำกินขนมที่บ้านมากกว่า

   “เอ่อ..ไม่รบกวนดีกว่าครับ เดี๋ยวผมพาเซ็กส์ซี่กลับไปกินที่บ้านก็ได้” ผมพยายามปฏิเสธให้สุภาพที่สุด แต่ดูเหมือนพี่เป้จะไม่รับรู้ข้อความในประโยคนั้น เขาแย่งสายจูงเซ็กส์ซี่ไปถือไว้เอง ก่อนจะออกเดินนำ จนผมต้องรีบสาวเท้าตาม

   “ไม่รบกวนหรอก ร้านนี้เป็นร้านของพ่อพี่เอง” คือ...ไม่ได้มารยาทดีแล้วก็ไม่ได้อยากรู้ แค่กูไม่อยากนั่งกินกับมึงสองคนโว้ย

   ร้านกาแฟโบราณที่พี่เป้พาผมมาหยุดอยู่ เป็นร้านในห้องแถวขนาดไม่กว้างมาก มีป้ายขายน้ำเต้าหู้แขวนอยู่ด้วย แต่เท่าที่ผมสังเกตดูมีเพียงโต๊ะสแตนเลสตัวสูงและหม้อน้ำร้อนไว้ขายกาแฟเท่านั้น สงสัยว่าน้ำเต้าหู้จะมีขายเฉพาะแค่ตอนเช้า

   “นั่งตรงหน้าร้านมั้ย ลมพัดเย็นๆ เดี๋ยวพี่เอาโต๊ะมากางให้” พี่เป้เสนออีกครั้ง ผมตั้งท่าว่าจะไม่เอา แต่พี่แกก็เหมือนคนที่ถามแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบน่ะครับ เดินเข้าร้านไปเอาโต๊ะเหล็กสีน้ำเงินสดกลางเก่ากลางใหม่มาตั้งให้ พร้อมเก้าอี้พลาสติกอีกสองตัวทันที

   “ทานน้ำอะไรดีน้องฝุ่น” เอาวะ ไหนๆ ก็(โดนบังคับ)มาแล้ว

   “ชาดำเย็นแล้วกันครับ” ผมตอบ พลางนั่งลงที่เก้าอี้ เซ็กส์ซี่ก็ได้โอกาสนั่งพักพร้อมได้กินน้ำสะอาดที่พี่เป้เอาออกมาให้กินทันทีครับ อีหมาน้อยก็ยังคงสืบนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้ได้อย่างดีเยี่ยม มันเอาเท้าทั้งสองข้างจุ่มลงไปในชามใส่น้ำ ก่อนจะก้มลงไปกินอย่างกระหาย

   “ค่อยๆ กินสิวะเฮ้ย เดี๋ยวสำลักขึ้นมา กูไม่รู้จะอธิบายให้เจ้าของมึงเข้าใจยังไงนะ” ผมบ่นใส่มัน แต่ก็ได้แค่พูด เพราะอีหมาน้อยมันไม่ได้สนใจผมเลยครับ ยิ่งลมพัดมาเย็นๆ มันยิ่งทำหน้าเคลิ้ม

   ปิ๊นน

   เสียงแตรรถที่ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อยและหันกลับไปมองเพราะคิดว่าเราขยับออกนอกถนนเกินไปรึเปล่า คนขับมันถึงได้บีบแตรเตือนเอา ทว่า....เหลือที่อยู่เกือบสองเมตรกว่าจะถึงถนน แล้วมึงจะบีบแตรหา..?

   ปิ๊นน

   มันมาเป็นคำรบที่สอง พี่เป้เอาน้ำมาวางให้ผมเป็นที่เรียบร้อย เขาเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองที่มาของเสียงแตรนั่นเช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงแตรประหลาดมากๆ เข้าเซ็กส์ซี่ก็ละความสนใจจากน้ำ หันไปเห่าใส่รถคันนั้นพร้อมทำท่าจะวิ่งเข้าหาจนผมต้องรีบรั้งเอาไว้แน่น

   “บีบหาอะไรนักหนาวะ” พี่เป้สบถพึมพำ

   กระจกรถที่ติดฟิล์มไว้ค่อนข้างมืด ถูกเลื่อนลงช้าๆ ก่อนที่คนขับจะชะโงกตัวมาตะโกนเรียกชื่อผม

   “ฝุ่น!” เสียงคุ้นๆ แต่ขอโทษ...ระยะนี้ กูมองไม่เห็นหรอกครับ ว่ามึงเป็นใคร

   เมื่อคนขับรถปริศนาเห็นไม่มีอากัปกิริยาโต้โตอบใดๆ จากผม มันเลยออกรถเคลื่อนตัวไปจอดไว้ในที่ๆ ไม่ขัดขวางการจราจรแล้วเปิดประตูเดินลงมา

   รูปร่างสูงโปร่งที่แต่งตัวด้วยชุดสบายๆ แต่ยังคงความเป็นคุณชายเอาไว้ทำให้ผมรู้ว่าไอ้คนที่บีบแตรหาพ่อนั่นคือใคร

   “มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย โอ๊ะ เซ็กส์ซี่ ไงเบบี๋” ทีมถอดแว่นกันแดดสีชาเข้มออกมาถือไว้ ก้มลงไปฟัดหมาสุดที่รักอยู่แป๊ปนึง

   “ไงมึง ทักแต่น้องกับหมา ลืมเพื่อนเหรอ” เพราะคำทักของพี่เป้ทำให้ทีมมันเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ ก่อนจะร้องดังลั่น

   “เฮ้ย เชี่ยเป้ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “กูชื่อเป้ ไม่ใช่เชี่ยเป้” พี่เป้บอกขำๆ ไอ้ทีมมันก็ไม่สนใจเดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนดังพลั่ก “กูเพิ่งถึงไทยเมื่อสองวันก่อน ว่าจะแวะเข้าไปหามึงที่บ้านก็ยังไม่มีเวลา”

   “โหย กูนึกว่ามึงโดนผู้หญิงญี่ปุ่นปอกลอกจนกลับไทยไม่ได้ซะแล้ว” ดูปากมัน ผมทำหน้าเซ็งๆ ตอนรับเซ็กส์ซี่มาจากมัน

   “หึหึ ผู้หญิงไทยเร้าใจกว่าเยอะ” พี่เป้ตอบ

   เออะ...ผมรู้แล้วว่าทำไมสองคนนี้คบกันเป็นเพื่อนได้ เสื่อมพอกันเลยแม่ง บทสนทนาของพวกนี้สมควรติดเรท ฉ จริงๆ ให้ตาย

   “นี่คือเรียนจบพร้อมทำงานแล้วใช่ป่ะวะ” ไอ้ทีมมันถาม

   “อืม เพิ่งจบเอง ยังหางานไม่ได้เลย แล้วมึงล่ะ”

   “กูเหลือโปรเจ็คกับฝึกงานอีกปีนึงก็จบแล้ว” ทีมมันตอบ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับผม “หิวเหรอ ทำไมออกมานั่งอยู่นี่ได้”

   “กูชวนน้องมานั่งนี่เองแหละ” ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร พี่เป้ก็ตอบให้เสร็จสรรพ ไอ้ทีมมันทำเสียงอ่อ...ครางรับในลำคอ แต่เพราะมันหันหลังให้พี่เป้ เลยไม่มีใครเห็นนอกจากผมว่ามันขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงต่อจากนั้น

   ...เดี๋ยวมึงกับกูเคลียร์กัน...


   กว่าผมกับทีมจะปลีกตัวออกจากร้านกาแฟของพี่เป้ได้ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง เข้าใจนะว่าพี่เป้เองก็คงคิดถึงเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานและอยากชวนคุยนั่นนี่ตามประสาคนรู้จัก แต่เท่าที่สังเกต ผมว่าทีมมันก็รำคาญพี่เป้ในบางทีเหมือนกัน เพราะเวลาไอ้ห่านป่ามันถามอะไรผมขึ้นมา พี่เป้มักจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วยตัวเองอยู่ทุกครั้ง ทำเหมือนเรารู้จักกันมานาน แต่โทษทีที่ขัด...เราเพิ่งเคยเจอกันว่ะครับ

   “ทำอีท่าไหนถึงได้ไปรู้จักกับไอ้เป้ได้น่ะ” ทีมมันถามผม ตอนปล่อยเซ็กส์ซี่ลงจากรถเป็นที่เรียบร้อย อีหมาน้อยกระโดดและวิ่งเล่นกลิ้งเกลือกไปมาบนสนามหญ้าอย่างมีความสุข ห่านป่ามันจัดการเปิดท้ายรถแล้วขนถุงของที่มีอยู่สองสามถุงใหญ่ๆ ลงไปด้วย

   “ต้องโทษหมามึงนั่นแหละ รู้จักกับเค้าไปทั่ว”

   ทีมครางรับคำในลำคอ แล้วเดินเอาของทั้งหมดไปวางลงที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันครับ ว่ามันซื้ออะไรมาเยอะแยะ เลยเดินไปด้อมๆ มองๆ เขี่ยดูที่ปากถุง ก็พบว่าเป็นพวกถุงขนมอบกรอบหลากหลายยี่ห้อ ครีมกันแดด และม้วนผ้าที่ผมไม่แน่ใจว่าคือเสื้อหรือกางเกงอีกสองตัว

   “ฝุ่น” มันเรียก

   “อะไร” ปากตอบไป แต่สายตาก็ยังไม่ละออกจากของในถุง ผมล้วงมือลงไปหยิบก้อนผ้าปริศนาสีเทาขึ้นมาคลี่ดู ปรากฏว่าเป็นกางเกงสามส่วนครับ รู้น่าว่าเสียมารยาท แต่ทีมมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ

   “ถ้าไม่จำเป็น อย่าไปยุ่งกับไอ้เป้เลยนะ”

   ทีมที่ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาก็เอื้อมมือมาดึงเอวผมไปนั่งลงตรงหว่างขามัน ห่านป่ากอดเอวผมไว้หลวมๆ อายแต่รู้ว่าห้ามไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เหนื่อยจะห้ามแล้วครับ พักนี้มันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ถึงเนื้อถึงตัวตลอด เอะอะก็กอด เอะอะก็จูบ บางทียังลูบ..เอ่อ ผมเล่าอะไรเนี่ย ติดเรทๆ

   “ทำไมวะ มึงมีปัญหาอะไรกับพี่เป้รึไง” ผมถาม ถึงในใจจะคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรเดือดร้อนจริงๆ ผมจะไม่โผล่หน้าไปแถวๆ ร้านกาแฟนั่นอีก ทีมเอาคางมาเกยไว้บนไหล่ จูบต้นคอผมเบาๆ ก่อนจะเน้นหนักขึ้น

   “ไม่มีอะไรหรอก เป้มันก็เป็นคนดี แค่กูไม่ค่อยชอบนิสัยมันบางอย่าง”

   “งี้แหละ คนเลวมักไม่ชอบนิสัยคนดี” ผมล้อ ทีมมันเลยหัวเราะเบาๆ กอดผมแน่นขึ้น

   “กูเหนื่อยจัง วันนี้เพื่อนที่คณะใช้กูเป็นทาสเลย ยกนั่นแบกนี่ ขับรถวนไปวนมา ห่าอะไรไม่รู้”

   ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจเบาๆ อย่างเหน็ดเหนื่อย ท่าทางว่าวันนี้จะถูกใช้งานมากจริงๆ เพราะผมไม่เคยเห็นไอ้ห่านป่าบ้าพลังมันหมดไฟขนาดนี้มาก่อน กำลังจะสงสารแต่พอมันบอกประโยคต่อมา ผมก็ชักสงสารมันไม่ลงขึ้นมาตะหงิดๆ

   “ไม่ปลอบใจกูหน่อยเหรอ ถ้ากูเหนื่อยมากๆ แล้วงอแงไม่ยอมพามึงไปทะเลขึ้นมาว่าไง”

   “มึงจะเอาอะไร” ผมเบือนหน้ากลับไปถาม แอบเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันขึ้นมาแวบหนึ่งจนแอบเสียวสันหลัง ว่าสิ่งที่มันอยากได้ต้องไม่พ้นตัวผมแน่ๆ



   “ทำออรัลให้หน่อยได้มั้ย”



   “.....มึง...จะเอาอะไรนะ” เล่นมากระซิบขออยู่ข้างหูแบบนี้ ได้ยินชัดเจนตั้งแต่ประโยคแรกแล้วครับ หน้าผมร้อนผ่าวจนแทบจะไหม้ได้เสียเดี๋ยวนี้ แต่ไม่ได้...ห้ามแสดงออกว่าอาย เดี๋ยวมันจะยิ่งแกล้ง

   “ออรัลไงครับ นะ..ใช้ปากให้ทีมหน่อย”

   “กู..กูทำไม่เป็น” ผมอึกอัก รู้สึกได้เลยว่าหน้าร้อนผ่าวๆ และมันต้องแดงจนใกล้เคียงกับตูดลิงบาบูนแน่ๆ

   ทีมมันถอนหายใจเบาๆ พึมพำบอกผม

   “อืม ไม่เป็นไร ถามดูเฉยๆ คิดอยู่แล้วว่าไงๆ ฝุ่นก็ต้องไม่ยอมทำให้แน่ๆ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ” ทีมมันบอกแล้วยิ้มเหนื่อยๆ ให้ ดันผมให้ลุกขึ้นยืนเพื่อที่มันจะได้เดินขึ้นไปอาบน้ำตามที่บอก

   แต่ตอนนั้นเอง...

   หมับ..

   โอ้ก ใครจับเสื้อมันไว้!

   “มีอะไรครับ” ทีมหันกลับมาถาม

   “สอนกูสิ” ใครตอบทีม..เอ๊ะ ทั้งห้องมีแค่ผมกับมัน ทีมไม่ได้พูด งั้นก็กูนี่หว่า แว๊กกกกก!!

   ทีมหันกลับมาหาผมเต็มตัว มันยิ้มกว้าง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากมุดแผ่นดินหนีมากขึ้น ไอ้ห่านป่าบ้าพลังเดินเข้ามาใกล้ผมที่ยังนั่งหน้าแดงก่ำอยู่บนโซฟา มือหนึ่งเอื้อมมาลูบริมฝีปากผมเบาๆ แต่สัมผัสนั้นกลับจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวผมขึ้นมา จนรู้สึกกล้ามากกว่าอาย ยิ่งตอนนี้มันยืนเต็มความสูงทำให้หน้าผมอยู่ในระดับใกล้ๆ กับจุดกึ่งกลางลำตัวของมันพอดี

   “ไม่ต้องฝืนหรอก กูรอได้”

   “กูไม่เคยทำให้ใคร ถ้าฟันโดนน้องมึง ถลอกขึ้นมา ไม่รู้ด้วยนะ” เหมือนคนที่กำลังพูดอยู่ไม่ใช่ตัวผมเลย ทั้งอายตัวเอง ทั้งเขินมันจนนึกอยากจะเอาหมอนมาปิดหน้าแล้วกรอเทปกลับไปห้ามตัวเองไม่ให้พูดประโยคเมื่อกี้ออกไปตะหงิดๆ


   ทันรึเปล่า...? ไม่ทันเหรอ? งั้นตัดฉากนี้ออกจากนิยายไปเลยไป!!





ขอโทษที่ตัดตอนน้า แต่ตอนที่ 12.2 จะมาในวันพรุ่งนี้ค่ะ TT

ละจากคู่นี้ไปเขียนปัญหาชีวิตของพี่อ๋องมาก็เวียนหัวมากพอสมควร ยาวเกินไป 5555

เอาเป็นว่ามาคุยกันยาวๆ พรุ่งนี้ละกันค่า


ฝันดีค่ะ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 16-02-2011 20:32:37
 :z13: :z13: :z13: :z13:จิ้มก่อนอ่าน  อ่านแล้วเดี๋ยวมาอีดิทให้อีกทีจ้า



เค้าจะสอนอะไรกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 16-02-2011 21:05:39
ขอกันง่ายๆ ยังงี้เลยเหรอ

 :myeye:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Akad3ar ที่ 16-02-2011 21:21:30
 o22ฮัึกๆ
ค้างจับใจ
อีพี่เป้มันต้องมีไรแน่เลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-02-2011 21:35:12
ทำไมพี่เป้ไม่ดียังงัยเหรอ  ทีมถึงไม่อยากให้ฝุ่นไปยุ่งด้วย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-02-2011 21:38:02
เข้าเวิร์คช๊อปกันเลยเหรอ ไม่เล็คเชอร์กันซักนิดนึงก่อนอ่ะ

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น้องฝุ่นอย่างพึ่งงงงง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: breath ที่ 16-02-2011 21:39:07
ไรท์เตอร์ใจร้ายอะ ตัดฉับซะงั้น!!!
รออยู่นะ

พรุ่งนี้จะมาทวง!!!
555


ฝุ่นน่ารัก > <
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 16-02-2011 21:51:54
ทำไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวเค้าจะงอนนะ


ค้างงงงงงงง
 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 16-02-2011 22:17:49
เอ้ยยยยยยยยยยยยยย
ทีมที่ขอมันไม่ใช่ว่าจะทำกันง่ายๆน่ะ
แต่ถ้าเล่าให้ฟังด้วยจะดีมากๆเลย
แต่ที่ทีมไม่อยากให้ฝุ่นยุ่งกับเป้มันต้องมีอะไรแน่ๆ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-02-2011 22:30:20
คนรุ่นใหม่ดีแท้ๆ เมื่อกล้าขอก็กล้าให้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-02-2011 22:39:12
กรี๊ดดดดดดดดดดด
เขาจะเรียนจะสอนอะไรกันคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 16-02-2011 23:08:06
ค้างมากค่ะ  :z3:

หลอกให้อยาก(อ่าน)แล้วจากไปอะค่ะ
แต่แค่นี้คนอ่านทนได้

ฝุ่นน่ารักกกกกกกกกกกก สุด ๆ
แหม จะเขินพี่ทีมไปทำไม (ว่าแล้วคนอ่านก็เขิน  :-[)

รอตอนต่อไปจ่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 16-02-2011 23:17:59
ม่ายยยยย มาต่อด่วนนนนน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-02-2011 23:33:23
รอตอนหน้า ตอนติดเรทคะ แต่น้องทีมนี่เป็นผู้ชายที่น่ารักจัง แต่เป้นี่จะเข้ามาเป็นมือกวนรักของทีมฝุ่นให้ขุ่นเปล่านี่
และนิสัยบางอย่างของนายเป้ ใช่นิสัยเจ้าชี้ ขี้แย่งของคนอื่นหรือเปล่า
หรือชอบแบบน้องฝุ่น ไงขอลุ้น :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 17-02-2011 09:59:14
แอร๊ยยยยยยยยย เขินแทนน้องฝุ่นเลย
พี่เป้มันทำไมหว่า อยากรู้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.1! [16/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-02-2011 10:58:36
เฮ้ยขอกันแบบนี้เลยเหรอ  :haun4:
ตอนต่อไปขอจบม้วนนะแบบว่าอยากรู้ว่าวิชานี้เค้าสอนกันยังไง  :z1:
ว่าแต่ สองคนนี้เค้าอยู่ในฐานะไหนกันแล้วอะมันเหมือนจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่

 :pig4: คะ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2 จบตอนจ้า! [17/02/11 Update แล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 17-02-2011 11:53:13
12.2
   ผมครางในลำคอเมื่อทีมก้มลงมาจูบ   มือหนึ่งประคองหน้าผมเอาไว้ ส่วนอีกมือก็ล้วงเข้าไปหลังคอพร้อมคลึงเบาๆ เป็นการปลุกอารมณ์ผมไปอีกทาง แค่อึดใจเดียวไอ้ทีมที่ดูเหมือนจะมีอารมณ์กรุ่นๆ มาอยู่แล้วก็เริ่มรุกหนักขึ้น ปลายลิ้นเริ่มสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมและตวัดเกี่ยวรัดกับลิ้นของผมไปมาช้าๆ

   ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงหลายคนถึงยอมเพียงเพื่อจะมีอะไรกับไอ้เหี้ยนี่

   ทีมไม่ได้เห็นแก่ตัวมากพอจะพาตัวเองให้ไปสู่ปลายทางเพียงคนเดียว แม้มันจะดูเป็นผู้นำอยู่เสมอ แต่ก็นำเพียงก้าวเดียวเท่านั้น มันค่อยๆ จูงผมไปตามทำนองอารมณ์ช้าๆ รอจนมีการตอบสนองมันถึงเริ่มสอนบทเรียนใหม่ให้

   “ดะ..เดี๋ยว ทีม” ผมระล่ำระลั่กออกมาเมื่อไอ้ห่านป่ามันยอมละริมฝีปากออกให้ได้หายใจ ใบหน้าผมร้อนวูบวาบจนคล้ายมีเปลวไฟอยู่ไม่ห่าง ทีมมันยิ้มออกมาแล้วจูบแก้มผมแรงๆ สองที

   “มีอะไรครับ”

   “ไป..ไปทำบนห้อง” ผมพูดแทบไม่เป็นคำเมื่อมือหนึ่งของไอ้ทีมที่เคยระไปมาอยู่แถวสันคอเลื่อนลงไปคลึงหน้าอกผมด้วยแรงที่ไม่มากแต่ก็ไม่เบาเกิน

   “ตามบัญชาครับ” มันบอกด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า ผมยิ่งรู้สึกอายมากขึ้นเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเอง..”เป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ทั้งที่เมื่อก่อนผมก็ใช่ว่าจะอินโนเซนต์อะไรมากมาย แต่พอเจอหน้ามันทีไร ไอ้ทีมก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ต้องการการชี้นำและชักจูงจากมัน

   ทั้งที่จากห้องนั่งเล่นขึ้นไปบนห้องนอนไม่ได้ไกลอะไรมากมายนัก แต่ทุกวินาทีที่เดินขึ้นไป ทีมมันจูบผมเบาๆ ไปตลอดทาง แน่นอนว่ามันไม่ได้อุ้มแต่มันดันให้ผมหันหลังขึ้นบันได ทำท่าว่าจะล้มก็อยู่หลายครั้งแต่ไอ้ห่านป่าก็ยังรั้งเอาไว้ในอ้อมกอดของมันแน่น

   ประตูห้องนอนของมันถูกเปิดและปิดลงด้วยมือคู่เดียวกันกับที่โอบผมเอาไว้ เพียงเดินเข้ามาในที่ลับตาคนได้ ไอ้เหี้ยทีมก็ออกลายทันที มันตรงเข้ามาจูบผม แลกลิ้นกันจนลมหายใจติดขัดอยู่พักใหญ่ เสื้อผ้าก็เริ่มกลายเป็นสิ่งเกินความจำเป็น ทุกอย่างลื่นไหลราวกับร่างกายของผมและมันรู้จักกันดีอยู่แล้ว

   ไอ้ทีมที่เหลือเพียงกางเกงยีนส์ขายาวก็ผลักผมที่ไม่เหลืออะไรนอกจากกางเกงชั้นในลงบนเตียง ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบไล่จากต้นคอลงไปยังยอดอก วนเล่นอยู่นานจนผมทนแทบไม่ไหว ทั้งที่ไม่ได้ต้องการแต่ร่างกายก็บิดเร่าพร้อมเสียงครางที่ลอดออกจากปากแบบที่ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเสียงของผม

   “อะ อ๊า ทีม ทีม...อื้อ!” ผมร้องเสียงดัง เมื่อมือหนึ่งของมันลูบเข้าที่ส่วนกลางลำตัว ไอ้ทีมเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้วูบหนึ่ง มันสบตากับผม แววตาคู่นั้นบอกผมให้รู้ชัดถึงสิ่งที่มันจะทำต่อไป จนผมรับรู้ได้...ใจตัวเองกำลังสั่น

   กางเกงชั้นในตัวบางถูกไอ้ห่านป่ามันรูดออกไปทางปลายเท้า ลมหายใจร้อนผ่าวระอยู่ที่ตรงนั้นของผม มือหนึ่งจับหมับเข้าที่ส่วนโคนก่อนจะรูดขึ้นลงเบาๆ สัมผัสต่อมาคือสิ่งที่ผมไม่ทันได้คาดคิด ปลายลิ้นเปียกชื้นทว่าร้อนเร่ากำลังหยอกล้อกับส่วนปลายของผม

   “ทีม อย่า มึง...” ผมได้ยินตัวเองพึมพำออกไป ทว่านาทีนี้ต่อให้โลกแตก ทีมมันก็คงไม่สนใจอะไรอีกแล้ว สัมผัสเปียกชื้นครอบกลืนส่วนอ่อนไหวของผมไปจนหมด “อะ อา...ทีม...ทีม....”

   ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องเรียกชื่อมันและครางออกมาอย่างไร้ยางอาย ทีมมอบความสุขที่แทบล้นออกจากอกให้ผมจนเกือบสุดปลายทาง มันก็ขยับตัวขึ้นมาจูบอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ดวงตายาวรีบัดนี้เปี่ยมด้วยความต้องการที่อบอุ่นจนเซ็กส์ซี่เป็นบ้าเป็นหลัง มันจับจ้องผมไปทุกส่วน

   “เห็นหมดทุกส่วนแล้วนะ” มันบอกพร้อมยิ้มกว้าง

   “มึงมันนิสัยไม่ดี” ผมด่า

   “ที่ล้อมึงน่ะเหรอ...กูยังเลวได้มากกว่านี้อีกนะ” ทีมบอกขำๆ แล้วจูบผม...อีกครั้ง...และอีกครั้ง

   จูบของทีมวันนี้ไม่เหมือนทุกที ปกติแล้วมันจะจูบผมเหมือนแค่เอาปากแตะกัน แต่วันนี้เปี่ยมทั้งความรัก ความต้องการ ความเอาแต่ใจ และอยากครอบครอง...แทนที่ผมจะเกรงในสัมผัสนั้น กลับกัน ผมกลับอยากให้มันจูบมากกว่านี้ รักผมให้แรงกว่านี้....

   “ทำให้กูไหวมั้ยฝุ่น”

   ผมพยักหน้าที่ร้อนจนแทบระเบิดให้มันแทนคำตอบ ทีมยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวเองไปนอนอยู่ด้านล่างโดยมีผมคร่อมมันเอาไว้ด้วยท่าทางที่เงอะงะ

   “ถอดกางเกงให้หน่อยนะ เหนื่อยแล้วอะ”

   แล้วผมจะเลือกอะไรได้(วะ)!

   ผมจัดการปลดเข็มขัดและถอดกางเกงยีนส์ของไอ้ห่านป่าออกอย่างยากลำบาก เพราะขามันเดปเกินไป ทีมหัวเราะนิดหน่อยตอนมันช่วยผมจัดการดึงกางเกงออกทางปลายเท้า 

   ทีมมันจัดการเอาหมอนมากองสุมๆ กันไว้ที่หัวเตียงก่อนจะนั่งพิง เพื่อจะคุมจังหวะผมได้ง่ายๆ แต่แหมะ...ถอนตัวตอนนี้ยังทันป่ะวะ

   ผมอายตัวเองแล้วก็เขินมันตอนที่ทั้งตัวผมและทีมเองไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น กลายเป็นชุดวันเกิดกันซะอย่างนั้น ถึงข้างนอกจะดูว่าไอ้คุณชายมันผิวค่อนไปทางขาวแต่อาจเพราะต้องออกงานกลางแจ้ง รวมไปถึงเล่นกีฬาทำให้ดูคล้ำกว่าส่วนที่ไม่โดนแดดค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ...ที่เป็นสีเนื้อธรรมดาก็จริง แต่ส่วนปลายยอดติดจะอมชมพูเหมือนแก้มเด็กเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญตอนนี้ไอ้ทีมกำลังเสียมารยาท เพราะมันปล่อยให้ลูกชายสุดรักสุดหวงของมันชี้หน้าผมอยู่อย่างนั้น ไม่คิดจะตักเตือนลูกเลยจริงๆ

   “อึ้งอะไร ทำแบบนี้กูก็เขินสิ”

   “หน้าระดับมึงยังสะกดคำนั้นเป็นอีกเหรอ” ผมบอกกลบเกลื่อน แต่คิดว่ามันก็รู้แหละครับว่าผมอาย เพราะแม่งยิ้มกว้างกว่าเดิมอีก ฮึ่ม

   “ทำสิ” มันสั่งเสียงอ่อน

   “สอนสิ” ผมสั่งบ้าง ทีมหน้าเหวอไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับอารมณ์ได้ มันยิ้มออกมาบางๆ แล้วเอื้อมมือมาจับส่วนนั้นของตัวเองรูดเบาๆ น้ำเหนียวๆ สีขุ่นนิดๆ ไหลออกมาจากตรงปลาย ผมยิ่งหน้าร้อนหนักกว่าเก่า

   “ไม่ลองจับเหรอ ของล้ำค่าเลยนะ”

   เดี๋ยวกูจะขโมยไปโยนให้เป็ดกิน แสรด

   เมื่อเสนอมา ผมก็สนองให้ด้วยการรับลูกชายมันมาถือไว้ในกำมือ แล้วรูดขึ้นลงเบาๆ ไอ้ทีมครางเสียงสั่นในลำคอด้วยความเสียวซ่าน ผมพยายามปลอบใจตัวเองขณะที่สายตาจับจ้องยังลูกชายตัวใหญ่ของไอ้คุณชายห่านป่านิ่ง

   มันจะยากอะไรวะฝุ่น ก็คิดซะว่าทำให้ตัวเองอยู่...แต่ประเด็นคือ กูไม่เคย-อมของตัวเองนี่สิ ทำไงไม่ให้ฟันครูดล่ะครับไอ้ห่านป่า!!

   “ไม่ลองเลียดูเหรอ จ้องมันเฉยๆ กูไม่แตกหรอกนะ” ไอ้ทีมมันเร่ง แต่ขอโทษเว้ย กูไม่เคยทำ ดีสอีสมายเฟิร์สไทม์ ยูโน๊ว!?

   ว่าแล้ว ผมก็กลั้นใจ เอาวะตายเป็นตาย...ลองแลบลิ้นออกมาสัมผัสกับส่วนปลายของลูกชายมันเบาๆ ไอ้เหี้ยทีมห่อปากครางอย่างไม่ทันตั้งตัว การทำออรัลไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคาดเอาไว้ ลูกชายมันก็เหมือนกับผิวเนื้อธรรมดา แค่มันร้อนกว่า มีความรู้สึกมากกว่า แข็งกว่า....และพ่นน้ำได้

   ผมพยายามห่อปากเก็บฟันขณะที่เริ่มได้ใจกับเสียงครางของมัน แล้วปฏิบัติการจู่โจมขั้นต่อไป จากแค่แลบลิ้นเลียไอ้ทีมก็เริ่มขอมากกว่านั้น ผมรู้สึกได้ว่ามันเริ่มหายใจแรงขึ้นเมื่อผมก้มลงไปใช้โพรงปากห่อหุ้มส่วนหัวเข้าไปทั้งหมด

   ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าการทำออรัลที่ดีและถูกเป็นยังไง แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสม(มาบ้าง) และจากที่ไอ้ทีมมันสาธิตให้ดูเมื่อครู่ ก็พบว่า...อย่าให้ฟันครูดกับลูกมันจะเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้เสียวจนขึ้นสวรรค์ คงได้หน้าดำหน้าแดงเพราะเจ็บตัวกันไป

   จากตอนแรกที่ผมทั้งเขินทั้งอาย จนตอนนี้ได้ยินทั้งเสียงครางแหบต่ำจากอารมณ์ที่พุ่งสูงของทีม รวมถึงฝ่ามือร้อนที่ไล้ไปทั่วแผ่นหลัง และสะโพก ทำให้ร่างกายผมรู้สึกพร้อมมากขึ้น มือข้างหนึ่งพยายามประคองลูกชายทีมไว้ ลิ้นก็พยายามมอบความสุขแบบเดียวกันกับที่มันเคยให้ผม แต่ดูเหมือนว่าแค่นี้คงยังไม่พอใจ ทีมถึงได้ดึงผมขึ้นนั่งอ้าขากว้าง คร่อมอยู่บนตัวมัน

   “จูบหน่อย” ทีมกระซิบบอกข้างหู ผมที่หน้ามืดมัวเมาไปกับทุกอย่างที่มันร้องขอก็สนองกลับไปให้ถึงใจ

   “อ๊ะ!” มันใช้จังหวะที่ผมเผลอ รวบลูกชายของมันกับของหวงของผมไว้ด้วยกันแล้วเริ่มออกแรงขยับมือ จากเบากลายเป็นหนัก ผมหอบขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับทีมที่แลบลิ้นเลียตรงหูแล้วกัดมันเบาๆ ด้วยความต้องการ

   “อยากเข้าไปจัง อยากทำกับฝุ่น” มันกระซิบเสียงแหบต่ำ ขณะที่มือยังไม่หยุดขยับมอบความสุขให้กับผมและตัวมันเอง 

   “อา...ทีม...เร็วกว่านี้ จะไม่ไหวแล้ว” ผมพึมพำ แทนที่ไอ้ทีมจะยอมช่วยผมให้เสร็จไปดีๆ มันกลับหยุดมือแล้วพลิกตัวผมลงนอนดังปุ่ก ทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงจูบที่กดหนักไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะเผื่อแผ่ไปจนถึงสะโพกและช่องทางที่ไม่ได้ใช้งานมาพักใหญ่ๆ  “ทีม มึงจะทำอะไร”

   ผมถามตื่นๆ แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ดีพอ ไอ้ทีมทำเพียงเอื้อมมือไปหยิบขวดออยล์ทาตัวจากโต๊ะหัวเตียงมาเปิดแล้วเทลงไปเท่านั้น ผมสะดุ้งและพยายามขยับหนีด้วยความหลังฝังใจตั้งแต่มันพยายามจะทำกับผมในห้องน้ำ แต่นาทีนี้ขณะที่กำลังหน้ามืด ไอ้ทีมไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนผมก็ไม่อาจทราบได้ มันยึดตัวผมเอาไว้แน่นแล้วเริ่มทาออยล์ลงไปแถวๆ นั้น

   “ทีม...ทีม ไม่เอานะ กูไม่เอา” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละเมอ ร่างกายกำลังต้องการ แต่อีกใจหนึ่งก็พร่ำร้องเตือนตัวเองว่าคราวก่อนมันทำให้ผมเจ็บยังไงบ้าง

   “ชู่ว..ใจเย็นๆ ไม่เจ็บนะ” มันกระซิบบอก ก่อนจะค่อยๆ สอดปลายนิ้วเข้าไปในร่างกายผมช้าๆ อาจเป็นเพราะแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจัด ทำให้ทุกอย่างง่ายกว่าที่ผมคาดเอาไว้มาก เพียงไม่นานทีมมันก็เริ่มหมุนปลายนิ้วไปมา แล้วสอดเข้ามาลึกขึ้น

   “อือ....ทีม” ผมคราง ก่อนจะสะดุ้งกับนิ้วที่สองที่แตะแล้วเริ่มดันเข้ามา มันไม่หยุดให้ผมได้มีโอกาสดิ้นหรือหายใจแม้แต่น้อย เมื่อนิ้วที่สองเริ่มชินมันก็เริ่มเตรียมการขั้นสุดท้ายทันที 

   ไอ้ทีมทิ้งผมที่นอนหมดสภาพ ไม่สามารถขยับหนีมันไปไหนได้อีกแล้ว ลุกขึ้นเทออยล์ลงบนฝ่ามือก่อนจะทาเข้าที่ลูกชายของมันให้มีความหล่อลื่นมากขึ้น

   “เชื่อใจกูนะ”

   “ทีม มึงใส่ถุงยางเดี๋ยวนี้” ผมร้องเสียงดังแล้วพยายามดิ้น แต่มีหรือที่มันจะฟัง ไอ้เหี้ยทีมจับผมพลิกคว่ำอีกครั้ง มันยึดแถวกลางหลังผมเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหนในขณะที่ส่วนปลายของลูกชายมันเริ่มแตะเข้ากับปากทางของผม

   จากแค่แตะ มันก็เริ่มดันและสอดแทรกเข้ามาช้าๆ ถึงจะมีออยล์ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่เจ็บและไม่อึดอัด เมื่อส่วนหัวมันเข้าไปได้จนหมด ผมก็เริ่มทนไม่ไหว ไอ้เหี้ยทีมมันจับใบหน้าผมให้หันไปรับจูบ แต่ผมก็สะบัดออก

   “ฝุ่น!” มันดุ แล้วจับผมให้หันไปรับจูบจนได้

   ทีมที่สังเกต(เอาเอง) ว่าผมเริ่มปรับตัวได้กับการทักทายของลูกชายมัน ก็เริ่มดันตัวเข้ามาช้าๆ พร้อมเสียงครางต่ำแหบ มันพยายามปลุกเร้าอารมณ์ผมให้ลืมความเจ็บด้วยการเอื้อมมือมารูดเอาแถวๆ ตรงกลางลำตัวของผม เมื่ออารมณ์เริ่มพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ทีมก็ขยับตัวเข้าหาจนแนบสนิท

   “อา...อุ่นมากเลยฝุ่น รัดแน่นมาก” มันก้มลงมาครางที่ข้างหูแล้วจูบไซร้ที่กกหู ก่อนจะขบเม้มแรงๆ ตรงซอกคอผม “กูรักมึงนะ...รักมึงคนเดียว”

   มันกระซิบก่อนจะเริ่มขยับเข้าและออก..จากช้า เริ่มเป็นเร็ว...

   ผมได้แต่นอนรับอารมณ์มัน ไม่มีแรงสามารถโต้ตอบอะไรได้อีกต่อไป ทีมมันเป็นนักรักตัวจริง...มันไม่ได้มีความสุขคนเดียว แต่กลับหยิบยื่นความสุขที่เต็มเปี่ยมนั้นให้ผมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขยับเบาหรือแรงเพียงใด ทั้งหมดนั้นไม่มีความทรมานแม้แต่น้อย มีเพียงความสุขที่แทบล้นทะลักออกจากร่างกายผมได้ในทุกวินาทีข้างหน้า

   “ทีม...ทีม...กูไม่ไหวแล้ว อื้อ แน่น...” ผมครางไม่ได้ศัพท์ รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่ถี่เร็วและแรงขึ้นจนไม่นานโลกทั้งใบก็เหมือนกลายเป็นสีขาวโพลนไปชั่วขณะ เสียงครางแหบพร่าของทีมดังขึ้นไม่ห่างจากตัว มันทรุดลงนอนกอดผมเอาไว้แน่น หอบหายใจแรงไม่ต่างกัน

   พักใหญ่กว่าทีมและผมจะเริ่มหายใจเป็นปกติ เสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของมันดังก้องอยู่ที่หลังผม ความร้อนที่แนบเข้ามาในร่างกายก็ยังไม่ยอมถอยห่าง กลับกันไอ้เหี้ยทีมมันทำตัวเลวกดเข้ามาแน่นขึ้นเป็นจังหวะ

   “ไม่อยากเอาออกเลย” มันพึมพำ แต่ผมที่เริ่มทนน้ำหนักมันไม่ไหวก็เอาศอกกระทุ้งมันเบาๆ

   “แต่กูหนัก”

   “งั้นถ้านั่งแบบนี้ก็ไม่หนักใช่ป่าว” มันบอกล้อๆ

   “เหวอ~!”  ผมร้องลั่น เมื่อมันพลิกตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งพิงหลังมันแทน ทั้งที่ยังไม่ยอมถอยออกไป เพราะท่านั่งเป็นใจ ไอ้เหี้ยทีมมันเลย........

   ต่ออีกรอบ....


   ฟักยูแมน!!!



   
   “กูเกลียดมึง!”

   ผมที่นอนพังพาบอยู่บนเตียงหันไปตะโกนใส่หน้ารื่นเริงที่พยายามทำเป็นหงอยๆ ของมัน ไอ้ทีมยิ้มกว้างแล้วเอาผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ มาเช็ดหน้าเช็ดมือให้อย่างเอาใจ

   “น่า สุดท้ายก็เสียวไม่ใช่เหรอ” มันยังมีอารมณ์มายั่วเย้าผมอีกนะ

   มันก้มลงมาจูบปากผมเบาๆ อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ผมจะทันสังเกตเห็นรอยข่วนแดงๆ เต็มอกมันไปหมด...เออ กูก็ร้อนแรงเหมือนกันนี่หว่า เอิ้ก

   “เจ็บนะเนี่ย” มันนั่งลงที่พื้นข้างเตียงเพื่อที่หน้าจะได้อยู่ระดับเดียวกันพลางบอก เมื่อเห็นว่าสายตาผมไปหยุดอยู่บนรอยข่วนนับสิบรอยบนอกมัน

   “วันหลังก็อย่าทำกับกูสิ” ผมบอกแล้วพลิกตัวหันหลังให้ โอ้ก....ขนาดพลิกตัวยังเจ็บก้นและเมื่อยไปทั้งตัวได้ขนาดนี้ แล้วพรุ่งนี้ต้องนั่งรถไปต่างจังหวัด กูจะทำยังไงดีครับนี่

   “แหงะ ไม่เอาน่า กูก็แซวเล่นหรอก” มันมาสะกิดๆ เอาที่ไหล่แล้วยื่นหน้ามางับเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “ว่าแต่มึงเถอะ เจ็บมากรึเปล่า”

   “ถ้าอยากรู้ กูจะลองจิ้มมึงบ้างดีมั้ย” ผมถามทั้งที่ยังนอนหันหลังให้

   “ไม่ดีนะความคิดนั้น” มันหัวเราะแห้งๆ “กูถามเพราะเป็นห่วง ไม่ได้อยากรู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน”

   “เจ็บ...มากด้วย” ผมบอกเคืองๆ แม่งเล่นจิ้มซะไม่ได้สงสารกูเลย สำนึกบ้างสิว่าพ่อมึงใจดีให้มาเยอะ แล้วกูก็ไม่ได้โปรขนาดถอดกางเกงแล้วยื่นให้จิ้มได้นะโว้ย

   “โอ๋ๆ งั้นพรุ่งนี้ทีมพาไปกินอาหารทะเลอร่อยๆ นะครับนะ” มันลุกมานั่งข้างผมแล้วเอนตัวลงนอนกอดอย่างเอาใจ มือข้างหนึ่งโดนไอ้ทีมจับเอาไว้หลวมๆ

   “สัญญาแล้วนะ” ผมพึมพำ ต้องรีบบอกก่อนครับ ไม่งั้นถ้าพรุ่งนี้ผมเกิดเป็นไข้ขึ้นมา จะมางอแงไม่พาไปไม่ได้นะโว้ย

   “อืม สัญญาสิ เกี่ยวก้อยด้วย” ทีมยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผมแบบร่าเริง ทั้งที่ผมน่ะรู้สึกเหมือนคางกำลังจะเหลือง.....ฮืออ เกิดเป็นฝุ่นนี่ลำบากแท้



   โชคดีที่ผมไม่ได้เป็นไข้ เนื่องจากทีมมันเอายาให้กินดักเอาไว้ รวมถึงคอยเช็ดตัวให้ตลอด ตอนเช้าผมตื่นมาเพราะเสียงกุกกักในห้องจนตอนแรกนึกว่าห้องไอ้ทีมมีหนู ปรากฏว่าห่านครับ ห่านป่ายักษ์...แหะๆ ล้อเล่น ไอ้คุณชายมันกำลังจัดกระเป๋ายัดเสื้อผ้าที่จะเอาไปสำหรับสามวันสองคืนให้ผมและตัวมันเอง

   “งือ...ทำไมตื่นเช้าจังวะ” ผมถามออกไป ทีมมันสะดุ้งนิดหน่อย คงเพราะอยู่ๆ ผมก็ทักน่ะครับ ห่านป่ามันลุกขึ้นจากกองกระเป๋ามาหา

   “ปวดหัวรึเปล่า”

   “ไม่ แต่ง่วงนอน”

   ทีมมันหัวเราะกับคำตอบของผม แล้วบอกให้ไปอาบน้ำ นี่เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว ไปถึงทะเลจะได้ไม่ร้อนมาก

   เอาสิครับ ได้ยินคำว่าทะเล ผมถึงกับตาสว่างลุกขึ้นยืนทันที ทว่า...

   “โอ๊ย!” ครึ่งล่างปวดมากครับ โดยเฉพาะตรงสะโพกที่เมื่อวานไอ้ทีมใช้งานซะคุ้มค่า

   ทีมมันรีบยื่นมือมาคว้าผมเอาไว้ ก่อนจะพาไปส่งที่ห้องน้ำ

   “ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้นะ เมื่อคืนกูเช็ดตัวให้ตั้งหลายรอบ ผิวจะใสแล้วมั้ง”

   “กูไม่อยากเน่าไปทะเล”

   “หึหึ เจอกลิ่นทะเล มึงก็เน่าแล้ว” มันตอบ พอดีกับที่ผมนึกอะไรบางอย่างออก

   “ทีม” ห่านป่าที่กำลังจะเดินกลับไปยังกองกระเป๋าก็หันกลับมาหาผม ตอนนั้นเอง...

   จุ๊บ

   “อรุณสวัสดิ์”

   ทีมเหวอไปเลยครับ แต่ก่อนที่มันจะตั้งสติได้ ผมก็ปิดประตูห้องน้ำไปแล้ว คริคริ

   “เฮ้ย ฝุ่น ออกมาให้จูบก่อน เร็วเข้า!!”


   ออกไปก็โง่สิ ว่ามั้ยครับ? (หัวเราะชั่วร้าย)




เจอกันตอนที่สิบสามจ้ะ

eiizes’s talk
มาต่อให้ตามสัญญาแล้วน้า

หวังว่าตอนนี้คงถูกใจสำหรับแม่ยกที่รอคอยลุ้นว่าคู่นี้เมื่อไหร่มันจะได้กัน (ฮา)

อืม บอกก่อนเลยละกันค่ะว่าฉากอะฮิ้วฟีทเจอริ่งแบบนี้มีบ้าง แต่อาจจะไม่มาก ไม่อยากให้คนอ่านทุกท่านมองว่านิยายเรื่องนี้ขายฉากนั้นนะ =_=

คือมันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเฉยๆนะคะ ว่าเซ็กส์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความรัก มีมันเพื่อให้ความสัมพันธ์แน่นขึ้น ไม่ใช่รักเพื่อที่จะมีเซ็กส์ (กร๊ากก วิชาการ)

อ่อ อีกอย่างนึง วันนี้พี่ทีมทำตัวไม่ดี อย่าลืมนะคะ “กรุณาใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนรัก” ค่ะ

ปล. ฉากฟีทเจอริ่งอาจจะประหลาดๆไปบ้าง เพราะเราเองก็ไม่ได้เขียนฉากแบบนี้มานานแล้ว ถ้าไม่ชอบใจยังไงก็บอกได้ค่า จะได้เอาไว้ปรับปรุง :D

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่า
รักเลิ้บๆ
eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 17-02-2011 12:09:34


    :z13:


   ไอ้พี่ทีมสุดยอด o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 17-02-2011 12:52:17
อ่านมาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าสนุกค่ะ o13
หวังว่าทีมจะไม่ ตอกย้ำอดีตของฝุ่น ได้เค้าแล้ว รับผิดชอบด้วยนะตัว
ตอนนี้ฝุ่นก็เริ่มจะเปิดใจรับทีมแล้ว กลัวว่าทีมนี่แหละจะทำให้ฝุ่นเสียใจ
หนีกลับอเมริกาซบอกหนุ่มนอก
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 17-02-2011 12:53:50
อ๊ากกกกกกกกกกกก ตัดตอนได้ขาดใจมากกกกที่สุดจริงๆค่ะ
เชื่อเค้าเลย..ว่าทีมจะขอฝุ่นง่ายๆแบบนี้ แต่ที่แปลกใจอีกอย่างคือ
ฝุ่นยอมด้วย.... ฮ่าาาาาา >////<
ปล. เพิ่งเห็นว่าเอามาลงครบแล้ว อร๊ากกกก ตายค่ะ
สำลักความสุขตาย .....
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-02-2011 13:18:22
อร๊างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :-[ :-[ :-[ :-[ และแล้วก้เสร็จจนได้ ต่อไปจะมาม่ายังอะนะ ไม่อยากให้มาม่าเลยอ่ะ  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-02-2011 15:12:10
กริ๊กกริ๊ววววว  และแล้ว  พี่ทีมกับน้องฝุ่นก็ .... หูยยย  ไม่น่าเชื่อว่าทำกับผู้ชายครั้งแรกนะ  พี่ทีม  โปรซะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 17-02-2011 16:34:39
เสร็จทีมจนได้ 555+
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 17-02-2011 16:45:32
ในที่สุดก็
 :haun4: :haun4: :haun4:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 17-02-2011 16:47:18
เสร็จพี่ทีมซะแล้วววววววววววว
นี่คือพี่ทีมไม่เคยมีอะไรกับผู้ ช นะ แต่เชี่ยวมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 17-02-2011 16:47:40
อ่านะ ในที่สุดก็วีดวิ้วกัน  :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 17-02-2011 16:49:28
เอิ๊กกกกกก ทีมไหนบอกแค่ปากไง
แล้วที่อ่านเจอไปนี่มันอะไรกันค่า
ฝุ่นโดนจัดหนัก คนอ่านก็เสียเลือด
แต่ทีมอย่าทำเป็นเล่นกับฝุ่นเลยน่ะ
ไม่งั้นสงสารฝุ่นสุดๆไปเลยอ่ะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 17-02-2011 17:15:23
เพิ่งเข้ามาอ่าน..เนื่องจากเห็นชื่อเรื่องแล้วกลัวว่าจะมาม่าอ่ะ

แต่คู่นี้น่ารักดีนะ เอาเป็นว่าขอให้เรื่องนี้ไม่มีมาม่าหม้อโต ๆ นะ

ถ้าจะมีขอแค่ชามเล็ก ๆ ก็พอ +1
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 17-02-2011 20:42:17
 :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-02-2011 21:44:51
ในที่สุดก็ ft. กันจนได้ :haun4:
ไปทะเลอีก งานนี้ทะเลต้องหวานแน่ๆ เพราะไปฮันนีมูนกันใช่ม๊า :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 17-02-2011 21:58:08
 :z13: :z13: :z13:

ฉึก ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 17-02-2011 22:47:12
ในที่สุดน้องฝุ่นก็เสร็จทีมซะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tunya0610 ที่ 17-02-2011 23:54:07
โว๊ะโฮวววววววววววว
บุคคลใหม่ในเรื่องปรากฏ
แถมทีมยังห้ามไม่ให้ฝุ่นไปยุ่งอีกต่างหาก...
เค้าคือใคร เค้าทำอะไรทีมมาก่อน (นี่ก็คิดไปเรื่อยยยยยยย)

แต่ว่า...เค้าฟีเชอริ่งกันแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก (มั๊ง)
แกมีสิทธิ์ในตัวเค้าแล้ว...อย่าได้แคร์~~~

แต่ก่อนอื่น ทีมควรจะไปสอนเซ็กซี่ก่อน
ไม่งั้นให้ฝุ่นพาไปข้างนอกอีก อาจจะมีกรณีถัดไปเข้ามา 555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-02-2011 01:24:08
featuring ชุดใหญ่เลยนะคะพี่ทีม 555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 18-02-2011 11:35:34
ขอให้รักกันมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-02-2011 16:12:35
จะมีการ Featuring กันที่ทะเลอีกหรือเปล่าครับ? ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 18-02-2011 17:42:53
เพิ่งเข้ามาอ่าน รวดเดียวเมื่อคืนนี้ รู้สึกว่าโอ้วว...
ที่ผ่านมาฉันไปอยู่ซอกไหนมา พลาดอย่างรุนแรง  พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง  :serius2:

ชอบภาษา ชอบลีลา ชอบคาแรกเตอร์ ชอบคนแต่ง โอ้วชอบทุกอย่างเลย 5555+ 
เอาเป็นว่า ปลื้ม ^^
ปล.เป็นกำลังใจให้.. ตับหวาน เอ้ย.. บาปหวาน ค๊า  :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-02-2011 18:04:55
ทีนนี่!!!! ทำให้น้องเจ็บได้ไง!!!
ไปทำมาใหม่
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 18-02-2011 22:03:24
ตาทีมหื่นนนนนนนน

กรี๊ดดดดดด น้องฝุ่นชั้นนนนนน :sad11:
ในที่สุด พี่ขวัญรอมานาน ฮ่าๆๆๆๆๆ

น้องฝุ่นน่ารักมากเลยกับจุ๊บอรุณสวัสดิ์ แต่น้องคะ จะรอดไปทะเลมั้ยล่ะนั่นน่ะ

ยืนยันว่าชอบภาษาเขียนของไอซ์เหมือนเดิมจ้า
อ่านลื่น ไม่สะดุด ส่วนฉากแสดงความรักพี่ว่าโอเคเลย เห็นภาพชัดเจนแต่ก็ไม่ใช่ว่ายั่วยุขนาดนั้น
พอดีๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 19-02-2011 21:54:11
หวานกันจริ๊ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 20-02-2011 11:32:07
 :jul1:
*เสียเลือด*

ทีมหื่นนนนนน สุด ๆ
วางแผนมารึเปล่า(วะ) ไหนว่าแค่*ปี๊บ*ไง
นี่มีแถม*ปี๊บ*ต่ออีกสองรอบ  ร้ายกาจเจรง ๆ

น้องฝุ่่น น่ารักสุด ๆ จุ้บ
เนี่ย ชอบให้ความหวังนะเนี่ย จุ้บเสร็จแล้วหนีเข้าห้องน้ำเลย
555  :laugh:

รอตอนต่อไปจ่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: somsom ที่ 20-02-2011 11:48:23
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากๆเลย ชอบมากกกกก

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 20-02-2011 14:36:35
ตาทีมหื่นนนนนนนน

กรี๊ดดดดดด น้องฝุ่นชั้นนนนนน :sad11:
ในที่สุด พี่ขวัญรอมานาน ฮ่าๆๆๆๆๆ

น้องฝุ่นน่ารักมากเลยกับจุ๊บอรุณสวัสดิ์ แต่น้องคะ จะรอดไปทะเลมั้ยล่ะนั่นน่ะ

ยืนยันว่าชอบภาษาเขียนของไอซ์เหมือนเดิมจ้า
อ่านลื่น ไม่สะดุด ส่วนฉากแสดงความรักพี่ว่าโอเคเลย เห็นภาพชัดเจนแต่ก็ไม่ใช่ว่ายั่วยุขนาดนั้น
พอดีๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า ^^



แอร๊ จิ้มพี่ขวัญ
หายไปไหนมา งุงิ


สวัสดีทุกคนด้วยนะคะ แหะๆ เมื่อวานบอร์ดเป็ดเป็นอะไรไม่ทราบ เราเข้าไม่ได้ ใจหายหมดเลย TT

เดี๋ยวจะรบมาต่อให้นะคะ :)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-02-2011 17:50:28
 :o8:

ขอเม้นรวบยอกเลยน่ะคับ
เพราะอ่านในโทรศัพท์อ่ะเม้นไม่ค่อยสะดวก
555
พี่ทีมเป็นผู้ชายที่อบอุ่นๆ น่ารักมากเลย เคยเจ้าชู้มาก่อนด้วย
อย่าเจ้าชู้อีกน่ะๆ  
ฝุ่นน่าสงสารอ่ะ ดูเป็นคนเก็บกด  มองโลกในแง่ร้ายแต่ไม่เป้นไร
มีพี่ทีมแล้วพี่ทีมดูแลน้องดีดีน๊าๆๆๆๆ

จำได้ว่าหมอดูเคยทักว่าสองคนนี้จะต้องห่างกันไป2ปี
อะไรจะเป้นตัวแปรน๊า จะมาม่ารึป่าว  ลุ้นๆๆๆ

(เท่าที่อ่านมายังเดาไม่ออกเลยว่าทำไมเรื่องชื่อว่า บาปหวาน  ยังหาบาปไม่เจอเลย ลุ้นๆๆกันต่อไป)

รอนักเขียนจร้า
+1 เลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 20-02-2011 19:50:26
โดนจิ้มซะแระ

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 20-02-2011 21:46:45
 :-[
น้องฝุ่นนน  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: arebaba ที่ 21-02-2011 00:06:03
ทีมเป็นผู้ชายที่น่ารัก ฝุ่นน่าสงสารจัง

อดีตเราไม่สามารถลบได้แต่ทำปัจจุบันให้ดีได้น่ะ

กลัวเกิดดราม่าจัง จากที่หมอดูทำนายเอาไว้ว่าจะแยกกันสองปี ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 21-02-2011 14:39:02
และแล้วเค้าสองคนก็เป็นของกันและกัน :-[ สมใจคนรอจริง ๆ (หืนไปปะวะเรา)

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 21-02-2011 18:32:30
เข้ามารออ่านความน่ารักของคู่นี้

ชอบบบบบ :impress2:

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 23-02-2011 15:56:58
กรี๊ดดดดด :pighaun: ในที่สุดอิหนูฝุ่นก็เสร็จเฮียทีมจนได้
ดีใจ ดีใจ

ป้อล้อ หนุ่มนอกอ่ะ ยกให้เฮียลันไปเลย กิ๊กกิ้ววววว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-02-2011 18:22:00
อ๊ายยยย
หลังจากที่ห่างหายไปนาน เนื่องจากการทำงาน พอมาอ่านปุ๊บ...เหอๆ สปื๊ดๆกันซะแล้ว 55+
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 23-02-2011 21:43:11
โอยยยยยยยยยยยยย อ่านแล้วหน้าแดงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 24-02-2011 16:52:29
ไอซ์หายไปไหนอ่ะ

หรือว่าตาทีมเอาน้องฝุ่นไปซ่อน หรือว่าไอซ์สอบ
หรือว่าอะไรก็เถอะ
รอ รอ รอ
เป็นกำลังใจให้จ้า

ป.ล.หาว่าเค้าหาย มาจิ้มเค้า ชิ ตัวเองหายอ่ะ มาให้เค้าจิ้มเลยนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-02-2011 13:36:48
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 27-02-2011 16:03:13
ไอซ์...................หายไปไหนอ่ะ

เค้าคิดถึงน้อง (ฝุ่น) นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: pasallatel ที่ 28-02-2011 16:10:13
มาปูเสื่อรอด้วยคนค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-02-2011 18:42:01
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 12.2! การฟีทเจอริ่งที่คุณรอคอย!!♥ [17/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 28-02-2011 20:03:08
จนได้  :m25:
ยังรออยู่นะฮ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 28-02-2011 21:45:15
   
   กว่าจะย้ายถิ่นฐานไปนั่งอยู่ในรถโฟวิลสีขาวคันเดียวกับเมื่อวานได้ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง แดดค่อนข้างร้อนแล้วตอนที่ไอ้ทีมต้อนเซ็กส์ซี่ขึ้นรถไปด้วย อีหมาน้อยจองเบาะหลังอย่างถือวิสาสะแล้วเดินสำรวจพื้นที่อย่างสนใจ ส่วนผมก็นั่งอยู่เบาะข้างคนขับแหละครับ ห่านป่าเอื้อมตัวมาหยิบแว่นกันแดดจากที่เก็บของด้านหน้ามาส่งให้ผมอันหนึ่ง แล้วบอก

   “ใส่ไว้ จะได้ไม่แสบตาตอนเจอแดด”

   ผมรับมาสวมเงียบๆ ทีมมันเลยจัดการสตาร์ทรถพลางบอก

   “เอาเซ็กส์ซี่ไปด้วยนะ ไม่อยากทิ้งมันไว้ตัวเดียว บทจะดื้อป้าแจ่มแกเอาไม่อยู่หรอก”

   “ตามใจสิ” ผมตอบ ถ้าไม่ติดเรื่องคดีเอ็มพีสามที่ผมยังไม่ได้ชำระความกับอีหมาน้อยโดยตรง มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตสี่ขาสีทองที่น่ารักไม่น้อยเลย เอามันไปเที่ยวด้วยก็คงไม่เสียหายอะไรนัก “เออ..กูว่าจะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว รถคันนี้ของใครวะ เมื่อวานก็เห็นขับคันนี้”

   “อ่อ คันนี้ของพ่อน่ะ เห็นบอกว่าไม่อยากทิ้งรถไว้ที่สนามบินนานๆ กูเลยฉกมาใช้” มันยิ้มกว้างให้ผมอย่างอารมณ์ดี

   ทีมหันไปเปิดเพลงแล้วเริ่มขับรถ ผมเองก็ไม่ค่อยอยากกวนสมาธิมัน เลยปล่อยให้ทั้งคันรถเงียบสงัด จนรู้สึกคล้ายๆ....ตัวเองจะผล็อยหลับไปนะ แหะๆ

   ก็เมื่อคืนทีมมันใช้งานผมหนักนี่ อย่ามาว่านะ!!



   ตอนที่ทีมมันสะกิดปลุก พร้อมแรงเลียชื้นๆ จากลิ้นของเซ็กส์ซี่ และผมลืมตาขึ้นมาด้วยอาการเมื่อยคอนั้น ก็เห็นทะเลอยู่ที่หางตาเสียแล้ว...แม่งไม่ปลุกกูตอนลงไปนั่งกินข้าวแล้วล่ะวะ

   “ถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามเสียงง่วงๆ พร้อมหาวอีกหนึ่งทีเป็นการยืนยันว่าง่วงจริงไม่ใช่สแตนอิน ทีมหันมายิ้มให้พลางตอบ

   “เริ่มเลี้ยวเข้าบางแสนมาสักพักแล้ว แต่รถโคตรติดเลย...จะเที่ยงแล้วนะฝุ่น กินข้าวเลยมั้ย”

   “กินที่ไหนอะ” ผมถาม เพราะเราเอาเซ็กส์ซี่มาด้วย ถ้าไปนั่งกินตามร้าน เค้าคงไล่ตะเพิดออกมาแหละครับ

   “ริมทะเลเนี่ยแหละ มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเลริมหาดร้อนๆ สิถึงจะเร้าใจ” มันบอกพลางหัวเราะนิดหน่อย

   สุดท้ายหลังพยายามแย่งที่จอดรถกันอยู่พักใหญ่ ทีมมันก็เลี้ยวฟ้าบเข้าซองแบบไม่สนใจใคร แต่แม่งคงใช้ตาตุ่มมองถนนเพราะผมแอบเห็นว่าคันฝั่งตรงข้ามก็ทำท่าจะเลี้ยวเข้าจอดตรงนี้เหมือนกัน เล่นเอาพี่แกบีบแตรใส่ซะลั่นถนน แต่ไอ้ห่านป่ามันก็ยังนั่งฮัมเพลงแบบอารมณ์ดีราวกับไม่ได้ยิน

   มึงไม่เคยอ่านข่าวเหรอ ขับรถปาดหน้าก็โดนยิงสมองไหลได้นะโว้ย

   ไอ้ทีมมันดับเครื่อง แล้วหันไปเอาสายจูงเซ็กส์ซี่มาจัดการล็อคที่คออีหมาน้อย ซึ่งมันก็ยอมให้ทำแต่โดยดี ทีผมจะจับมันใส่สายจูงบ้างทำสำออยดิ้นไปดิ้นมานะ หนอยแน่ะ

   หลังจากล็อครถเรียบร้อย ทีมมันก็จูงเซ็กส์ซี่ข้างนึง อีกข้างเป็นผม พาข้ามถนนมาถึงตรงฝั่งหาดบางแสน คนที่ทั้งเดินสวนไปมา และที่จับจองที่นั่งได้เป็นที่เรียบร้อย มีมากกว่าที่ผมเคยมาตอนเด็กๆ เก้าอี้ผ้าใบสีๆ เรียงรายกันเป็นตับเลยครับ ไม่รู้จะเลือกนั่งตรงไหนดี ไอ้ทีมมันก็ไม่คิดจะเดินเข้าไปถามราคาหรืออะไร ทำเพียงแค่เดินจูงเซ็กส์ซี่ไปเรื่อยๆ จนผมเริ่มเมื่อยเลยถามขึ้น

   “นี่มึงจะเดินไปไหนเนี่ย เก้าอี้มันก็หน้าตาเหมือนกันหมดแหละ ตรงริมนู้นเค้าไม่ได้มีออพชั่นเสริมให้ซักหน่อย”

   “เอ้า ก็ดูดิ ตรงนี้คนเยอะ มึงนั่งๆ กิน เดี๋ยวก็มีเด็กวิ่งไปวิ่งมา อดทนเดินไปหน่อยน่า กูเห็นตอนขับรถผ่านมา ตรงข้างหน้าคนน้อย” มันบอกแล้วโอบไหล่ผมให้เดินตามไปอย่างปลอบใจ

   อยากจะเถียงแต่ก็ว่าไม่ได้ เถียงไม่ออก เพราะตอนที่เดินมาถึงคนน้อยกว่าตรงที่ผมเห็นเยอะเลยครับ อาจจะเป็นเพราะว่าต้องเดินทนร้อนมาค่อนข้างไกล ราคาเก้าอี้ที่ทีมเดินเข้าไปถาม แพงกว่าที่ผมคาดไว้ค่อนข้างมาก แต่ก็นั่นแหละครับ เราเลือกที่นั่งเกือบติดทะเล เพราะออกไปจนริมก็ไม่ไหว ร้อนเกินไป ห่างมากก็ไม่ค่อยได้ฟีลว่ามาทะเล

   พอหย่อนก้นลงนั่งและสั่งอาหารมายัดลงกระเพาะเป็นที่อิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยถ้วนหน้า ผมกับไอ้ห่านป่าก็พาลูก เอ้ย หมาเสื่อมหนึ่งตัวไปวิ่งเล่นที่ริมทะเล พอแดดร้อนจนเริ่มเกรียมเข้าหน่อย ทีมก็ตัดสินใจแบบเผด็จการเอาว่าเราจะเข้าไปที่พักกันเพื่อเก็บกระเป๋าสัมภาระ และเอาของใช้ที่จำเป็นออกมาแค่บางอย่างเท่านั้น

   จากหาดบางแสนไปที่พักของเราก็นับว่าไม่ไกลเท่าไรนัก ขับรถไปประมาณยี่สิบนาทีก็ถึง นับว่าไอ้ทีมมีพรสวรรค์เรื่องการเลือกที่พัก เพราะนอกจากด้านหน้าบ้านพักจะหันหน้าออกไปยังหาดส่วนตัว ที่มีน้ำทะเลใสสะอาดแล้ว ที่พักยังกว้างขวาง ลมพัดผ่านสบายมากๆ ครับ

   “จะออกไปเที่ยวต่อเลยมั้ย” ทีมหันมาถามผม พลางยกกระป๋องเบียร์เย็นๆ ขึ้นจิบ

   “มึงเอาเบียร์มาจากไหนวะ” ผมถามงงๆ พลางเดินไปทางประตูกระจกบานสูงจรดเพดาน เพื่อเปิดออกรับลม

   “สั่งให้เขาเอาแช่ไว้ให้โหลนึงก่อนน่ะ กินมั้ย” มันเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลังแล้วยื่นกระป๋องเบียร์มาให้

   “ไม่เอา กูไม่ชอบกินเบียร์” อยากบอกความจริงแบบเขินๆ ว่าผมคออ่อนครับ ไม่ว่าจะเหล้า เบียร์ สปาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมกินทีไรเมาเละ โวยวายไม่รู้ตัวทุกที

   บอกมันแค่นั้น ผมก็เดินหนีไม่อยากต่อความอะไรให้มากมายนัก แต่ห่านป่าบางตัวก็ทำสมองหนาไม่เข้าใจเดินตามมาแล้วจับให้ผมหันกลับไปรับจูบที่มีแต่กลิ่นและรสเบียร์ มันเอาแขนข้างหนึ่งโอบเอวผมไว้ ยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง ไม่ต้องรอให้มันทำได้ตามที่ตั้งใจ เด็กอนุบาลสองยังรู้เลยว่ามันจะทำอะไร!

   ผมสะบัดตัวพยายามจะให้หลุดจากอ้อมแขนมรณะนั่น แต่ไอ้ทีมมันกลับใช้ความเลวทั้งหมดที่มีประทับจูบลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้มีแค่กลิ่นและรสจางๆ ของแอลกอฮอล์แบบเมื่อกี้ คราวนี้มาเต็มครับ ทั้งกลิ่น รส รูป

   รสชาติเฝื่อนๆ ซ่านลิ้นกระจายไปทั่วปาก ทีมยังไม่ยอมถอยออกไปไหนจนผมต้องกลืนเบียร์ลงไปเพราะเริ่มหายใจไม่ออก ไอ้ห่านป่ามันเลยยอมถอนจูบออกช้าๆ ด้วยรอยยิ้มกวนประสาท

   “มึงมัน เหี้ย เหี้ย เหี้ย” ผมด่าพลางเช็ดปากแรงๆ ด้วยแขนเสื้อ แต่ทีมก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น มันหัวเราะตอนที่เดินเข้ามาใกล้ผมอีกรอบ แต่คราวนี้พลาดให้จับก็กินหญ้าแทนข้าวเถอะครับ ตราบใดที่มันยังไม่ยอมวางกระป๋องก็อย่าหวังว่าจะได้แตะตัวผมอีกเลย

   ผมวิ่งหนีไอ้ทีมไปรอบๆ ห้อง แต่โชคร้ายหน่อยที่เซ็กส์ซี่นึกว่าเราเล่นสนุกกัน มันเลยเห่าแล้ววิ่งตามผมบ้าง แค่วิ่งหนีคนก็แทบแย่ นี่ให้วิ่งหนีหมา จะไม่โดนมันโถมใส่ได้ไงล่ะครับ!

   “เฮ้ย!” ผมร้องลั่นเมื่อเซ็กส์ซี่โถมแรงทั้งหมดที่มีทิ้งร่างสีทองอร่ามลงเต็มๆ หลังจนผมล้มคะมำ ทีมที่วิ่งตามมาติดๆ ก็ร้องลั่นแล้วสะดุดขาผมล้มโครมลงมานอนอยู่ข้างๆ เบียร์ที่เหลือในกระป๋องหกกระจายไปทั่วพื้น เลอะผมและตัวมันบ้างบางส่วน

   “เล่นอะไรเนี่ย” ทีมมันบอกเสียงหงุงหงิง แล้วพยุงตัวขึ้นนั่ง สะบัดเอาคราบเบียร์ที่เหลือออกจากเสื้อ

   “เจ็บนะเซ็กส์ซี่!” ผมพยายามลุกขึ้นแล้วหันไปผลักอีหมาน้อยเต็มแรงจนมันกระเด็นออกไปข้างๆ แต่สุดท้ายมันก็มาทำเสียงหงิงๆ แล้วเลียหน้าผมแบบสำนึกผิด “ไปห่างๆ กูเลยนะ ...มึงด้วยทีม กูโกรธแล้ว!!”

   ผมหนีเข้าไปอาบน้ำท่ามกลางเสียงโวยวายของไอ้ห่านป่า แต่อย่าได้แคร์ครับ แม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ดูสิ ผมต้องเสียเวลามานั่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อใหม่อีก มันใช่เรื่องเหรอ!!



   “เห็นมั้ยล่ะเซ็กส์ซี่ ก็บอกแล้วว่าอย่าเล่นๆ ไงล่ะ แม่มึงโกรธเลย” เสียงไอ้ทีมครับ มันบอกหงอยๆ หลังจากผมโกรธแล้วไม่ยอมพูดด้วยมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จนตอนนี้เรากำลังจะไปดูลิงบนเขาสามมุขกัน ผมก็ยังไม่สนใจ เอาแต่มองไปนอกหน้าต่างรถแม้ว่าล้อรถจะหยุดหมุนมาเกือบสามนาทีแล้วก็ตาม

   “ง้อยังไงดีอะเซ็กส์ซี่ แม่มึงขี้งอนเนอะ ดูดิ งอนแล้วหน้าตาก็ไม่น่ารัก ป๊ะป๋าเลิกรักดีกว่าเนอะ” ได้ยินประโยคหลังเต็มๆ สองรูหู ผมเลยหันไปมองหน้ามันแบบเคืองๆ ไอ้เหี้ยทีมยิ้มกวนประสาทมาให้ก่อน มันเตรียมตั้งท่าจะทำอะไรมิดีมิงาม ผมเลยเปิดประตูรถลงไปยืนหน้าหงิกอยู่ข้างรถก่อน

   “มึงจะลงมามั้ย ถ้าไม่ลงก็อยู่ตรงนั้นแหละ กูจะไปดูลิง ไม่พอใจจะกลับที่พักก่อนก็ได้นะ”

   ไอ้ทีมรีบกุลีกุจอแง้มหน้าต่างเอาไว้เพื่อจะได้มีอากาศให้เซ็กส์ซี่หายใจ จัดการดับเครื่องและล็อครถให้เรียบร้อยก่อนจะเดินมาหา บนเขาสามมุขมีลิงอยู่เยอะมากครับ จะเอาเซ็กส์ซี่ลงมาด้วย ผมก็กลัวว่ามันจะไปตบตีกับลิงเค้าซะก่อน ให้มันอยู่ในรถน่าจะดีกว่านะ

   “ไม่เอาน่า กูก็แค่ล้อเล่นเอง ใครจะกล้าเลิกรักมึงล่ะ หืม” ทีมเดินเข้ามาอ้อนผมด้วยรอยยิ้มบางๆ มันจับคางผมเอาไว้ให้สบตากันตรงๆ

   “กูไม่ชอบ” ผมตอบ

   “โอ๋ๆ งั้นกูไม่แกล้งแล้ว นะๆ หายโกรธนะ”

   “กูไม่ชอบกินเหล้าด้วย” ผมต่อรอง

   “ครับๆ ไม่ชอบกินเหล้าด้วย วันหลังจะไม่แกล้งแล้ว” มันบอกไปก็หยิกแก้มผมให้ยืดออก “เอ้า ยิ้มหน่อยเร็ว”

   ไม่ได้อยากยิ้มนะ แต่มันหยิกแก้มผมนี่นา!!




ต่อวันหลังเนอะ

eiizes’s talk

มาอัพเพื่อให้รู้ว่าคนเขียนยังไม่ตาย 5555555

วันเสาร์นี้จะสอบค่ะ แต่สนมั้ย....เรื่อยๆ 55555

ตอนนี้มีภารกิจระดับชาติคือดูแลลูกชาย(?) กระรอกวัยสองเดือนค่ะ ชื่อสตังค์ แต่ส่วนใหญ่จะเรียกอีตังค์ซะมากกว่า 555

จะรีบมาลงเร็วๆ นี้นะคะ TT เสียใจ แต่ไม่สำนึก กร๊ากกกกกกกกกกกก เจอกันค่ะ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 28-02-2011 21:59:39
จิ้มๆๆๆๆๆ โอ้ว ว่าละว่าต้องสอบ หายนานจนนึกว่าเป็นไรซะอีก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 28-02-2011 22:07:49
มาสั้นๆเนาะ ตาทีมเลวแกล้งน้องอ่ะ วันที่มานี่เป็นวันเกิดน้องฝุ่นใช่ป่ะเหมือนจะจำได้ น้องไอซ์ถึงจะไม่แคร์สอบ ก็ขอให้คะแนนไม่เลว รับได้ละกัน พี่ขวัญเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 28-02-2011 22:08:46
5555555555555555
หนูเซ็กซี่ทำเรื่องตลอดเลย
ดูสิฝุ่นเลยงอนทั้งทีมทั้งเซ็กซี่เลย
ทีมจะเล่นจะพูดอะไรคิดดีๆหน่อย
เดี๋ยวฝุ่นงอนยาวจะสมน้ำหน้าให้
ขอให้โชคเอในการสอบน่ะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 28-02-2011 22:13:25
พรุ่งนี้มีสอบ แต่ลองเข้ามาเปิดดู

ว้าว.............ดีใจมาต่อ แล้ว

เป็นกำลังใจชั้นดี ตอนอ่านหนังสือนะนี่
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-02-2011 22:27:48
เค้างอนง้อกันน่ารักจริงๆ :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-02-2011 22:56:54
กุ๊กกิ๊ก วี๊ดวิ้ววว :o8:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 28-02-2011 23:02:56
ทำไมสั้น ??
งื้ออออออออ
ตกลงง้อได้แล้ว ???
ฮ่าๆๆ น้องฝุ่นเอาแจ่ใจ ทีมต้องตามใจเยอะๆนะ !!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 28-02-2011 23:05:43
หวานไปไหนจร๊า   ระวังน้ามทะเล หวาน แทน เค็ม เน้ออออ :m20:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 28-02-2011 23:25:49
ตอนหวานๆน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-02-2011 23:36:41
ทีมไม่น่ารัีกเลย พูดไรก็ไม่รู้

ฝุ้่นชอบโทษแต่เซ็กซี่ เซ็กซี่ไม่ผิดซะหน่อยยย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 28-02-2011 23:52:45
น่ารักจังเลยยยยยยยยย
 :impress2: :impress2: :impress2:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 01-03-2011 00:07:43
พุธนี้เราก็สอบค่ะ สนไหม
ก็จะอ่านเหมือนกัน 5555

มาสั้น ๆ ให้หายคิดถึงสินะ
แต่แค่นี้มันไม่พออออ จะเอาอีก!

อยากเห็นฝุ่นตอนเมา
น่าจับกรอกดูจริง ๆ เลยเชียว  หึหึ
รอพี่ทีมมอมฝุ่นสำเร็จ ซักวัน(ถ้ามี)

รอตอนต่อไปจ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 01-03-2011 00:27:03
วันหลังหลังไปหลายวันปะ

มาเร็ว ๆ นะ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 01-03-2011 10:00:47
ช่วงนี้นักเขียนหลายท่านติดสอบ แต่ยังมีกะใจมาลงให้พวกเราอ่านกัน ขอบคุณคราบบบบบบ....

เริ่มมีงอนเข้าขั้นผัวเมียเต็มขั้นละ :z1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 01-03-2011 13:21:36
 :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.1! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [28/02/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-03-2011 13:50:38
Aรวดนะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 01-03-2011 22:53:35

   ตอนช่วงเย็นเราสองคนหาอะไรกินรองท้องกันขำๆ ก่อน เพราะมันจะพาไปกินปลาหมึกที่ชาวประมงเค้าเพิ่งตกขึ้นมาใหม่ๆ ที่หาดหนึ่งในพัทยาตอนช่วงค่ำ แค่โปรแกรมหาของกินมันยังไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่หลังจากนั้นผมรบเร้าจะไปเดินเล่นที่ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ทีมเลยต้องกลับไปยังที่พัก เพื่อเอาเซ็กส์ซี่ไปฝากไว้ก่อน

   “ทำไมมึงดูสนิทกับพนักงานที่รีสอร์ทจังวะ” ผมถามขึ้น หลังจากทีมเอาเซ็กส์ซี่ไปฝากไว้กับพนักงานโรงแรมที่กุลีกุจอจูงเซ็กส์ซี่ไปให้

   เกือบสามทุ่มแล้ว ท้องฟ้าในต่างจังหวัดที่ไม่มีตึกสูงๆ คอยให้แสงนีออนจึงค่อนข้างมืด มีเพียงตะเกียงเจ้าพายุตัวใหญ่สองสามตัวตั้งอยู่รอบๆ ไม่ได้มีแค่ผมกับทีมหรอกครับที่นั่งรอหมึกสด แต่มีป้าแก่ๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ค้า มารอด้วยเช่นกัน

   “มันเป็นผลพลอยได้สำหรับกูน่ะ พ่อกับเจ้าของที่พักเป็นเพื่อนกัน ตอนช่วงที่ลุงแกสร้าง ก็มาให้พ่อออกแบบให้ เวลากูมาเที่ยวทะเลกับเพื่อน ก็พักที่นี่แหละ ที่พักลดราคาไปกว่าครึ่ง ถ้าจะเสียเงินเยอะก็เพราะพวกเชี่ยไกด์ชอบสั่งอาหารกินกลางดึกนั่นแหละ” มันอธิบายให้ฟัง

   ถึงแม้ว่าไฟรอบตัวจะไม่สว่างมากนัก แต่เพราะผมกับทีมนั่งใกล้กันทำให้เห็นดวงตาสีเข้มที่สะท้อนแสงไฟชัดเจน ไม่ได้มีเพียงแสงไฟเท่านั้นที่ฉายในดวงตาคู่นั้น ทว่าความรักและห่วงใยกลับสะท้อนกลับมาหาผมจนรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ทีมยิ้มให้เมื่อเห็นว่าผมยังไม่ละสายตาไปไหน มันก้มลงมาจูบที่ปลายจมูกเบาๆ

   “กูดีใจนะ ที่ได้มาที่นี่กับมึง” เสียงทุ้มหวานกระซิบบอกผมแบบนั้น

   “อะไรของมึง” ผมพึมพำตอบกลับไป

   “ไม่อยากรู้เหรอ ว่าทำไมกูถึงรักมึงขนาดนี้”

   “กูจะไปรู้ได้ไง”

   “แล้วอยากรู้รึเปล่า” มันยังเพียรพยายามเล่นยี่สิบคำถามครับ

   “อยากเล่าก็จะทนรับฟัง” ผมตอบยิ้มๆ เมื่อทีมก้มลงมาจูบอีกครั้ง

   “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....ณ ประเทศเสรีที่มีดาราหนังและแอปเปิ้ลโดนกัด เจ้าชายทีมเดินทางไปกับว่าที่พระมเหสีของพระราชาสิน” มันเล่าแล้วยิ้มกว้าง “เจ้าชายทีมบังเอิ๊ญ บังเอิญไปเจอกับยาจกผู้หนึ่ง ทราบชื่อทีหลังว่าฝุ่น...”

   “เดี๋ยว ทำไมกูต้องเป็นยาจกด้วย”

   “ฟังให้จบสิ” เอ๊า ดุกูอีก “หน้าตายาจกผู้นั้นธรรมดามากกกกกกก ไม่ใช่สเป็คของเจ้าชายเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังดื้อ หัวแข็ง ไม่น่ารัก”

   นี่สรุปกูมีดีอะไร...?

   “แต่พอเจ้าชายทีมกลับมายังถิ่นฐาน ณ ปทท. (ปอทอทอ) เจ้าชายสุดหล่อกลับไม่สามารถลืมใบหน้าของยาจกผู้นั้นได้เลย ยิ่งนานวันก็ยิ่งอยากเจอ อยากพูดคุย จนเจ้าชายเริ่มวิตกว่า...กูเป็นเกย์รึเปล่า...แต่ก็ได้ปรึกษากับอำมาตย์แก่ผู้หนึ่ง ทำให้รู้ว่า กูเป็นเจ้าชายซะอย่าง เป็นเกย์จริงแล้วประชาชนคนไหนจะกล้านินทา ยิ่งได้ฟังเรื่องราวมาจากพระมเหสีของพระราชาแล้ว เจ้าชายทีมก็ยิ่งรู้สึกทุรนทุราย อยากเจอแต่ก็ยังเก๊กหล่อ จนวันที่ยาจกคนนั้นได้เข้ามาอยู่ร่วมวังเดียวกัน”

   “แต่กูยังสงสัย ทำไมกูต้องเป็นยาจกในนิทานปัญญาอ่อนนี่ด้วย” ผมยังเคือง

   “มึงไม่เคยอ่านการ์ตูนผู้หญิงเหรอ นางเอกมักจะจน พอแต่งงานกับพระเอกก็รวยไง หรือไม่ก็นี่เลย ซินเดอเรลล่า เป็นคนใช้อยู่ดีๆ ได้เป็นเจ้าหญิงตอนจบ”

   “ซินเดอเรลล่าเป็นลูกของเจ้าของบ้านไม่ใช่เหรอวะ” ผมแย้ง

   “งั้นแอเรียลล่ะ นางเงือกอะ ตอนหลังก็ได้แต่งงานกับเจ้าชาย” มันยังเถียง

   “แอเรียลเป็นเจ้าหญิงเงือก แสรด”

   “เออๆ นั่นแหละ แอเรียลจะเป็นยาจกเงือกหรืออะไรกูก็ไม่แคร์ แค่กูรักมึง พอใจยัง”

   “มึงมันบ้า” ผมพึมพำ แล้วรีบลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเรือจับหมึกของลุงชาวประมงเริ่มเข้ามาเทียบท่า ไอ้ทีมมันกลับไม่ยอม เดินตามเข้ามาติดๆ พยายามจะเอาคำตอบให้ได้ แต่ขอโทษ ถ้ากูหันไป มึงก็เห็นสิว่ากูยิ้มน่ะ!

   หมึกสดที่เพิ่งจับมาตัวใสมากๆ ครับ หนวดยังดุ๊กดิ๊กๆ อยู่เลย ลุงชาวประมงแกก็ใจดี จัดการย่างให้เสร็จสรรพ นอกจากนี้ยังมีพวกหมึกนึ่งมะนาวหอมๆ ให้อีกด้วย ผมกับทีมก็ช่วยกันนั่งกินอิ่มหนำสำราญ

   “ลุงมาจับแบบนี้ทุกวันเลยเหรอครับ” ผมถามขึ้นเมื่อกลืนชิ้นปลาหมึกลงคอ ลุงชาวประมงที่กำลังเก็บแหให้เข้าที่ก็หันมาตอบด้วยรอยยิ้มใจดีอวดฟันหลอของแก

   “ทุกวันแหละพ่อหนุ่ม วันนี้ยังได้น้อยนะ บางวันแทบจะไม่มีที่ใส่หมึกเลย”

   ถึงลุงจะบอกว่าวันนี้ได้น้อย แต่สำหรับผมก็ว่ายังเยอะอยู่ดี เพราะป้าแก่ที่นั่งรออยู่พร้อมพวกเราเหมาไปทั้งหมดก็ได้กว่าสิบกิโลกรัม พูดง่ายๆ ว่าเอาไปทำกับข้าวขายได้เยอะเลยแหละครับ

   “อร่อยมั้ย” ทีมหันมาถามผม พลางเอาส้อมจิ้มหมึกนึ่งมะนาวร้อนๆ มาเป่าแล้วมาจ่อที่ปาก

   “อืม อร่อย” ผมตอบ แล้วหันไปงับปลาหมึกที่ทีมยื่นให้

   “กูดีใจนะ ที่เห็นมึงมีความสุข” มันบอกอีกครั้ง ยื่นปลายนิ้วมาเช็ดข้างแก้มให้เบาๆ

   ผมรู้สึกว่าหน้ากำลังร้อนแข่งกับเตาถ่านที่ลุงเอาไว้ใช้ย่างหมึก และมันคงแดงแข่งกับตูดลิงวันนี้แน่ๆ ไม่อยากปฏิเสธหรอกนะ แต่อายนี่ครับ!


   walking street เป็นถนนที่มีชาวต่างชาติเยอะมาก...แต่ถ้าให้เลือกได้ ผมก็ขอบายที่จะมาคนเดียวนะ 

   มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ แถวแหลมบาลีฮายของพัทยา เลยไม่แปลกที่ชาวต่างชาติจะเยอะมากขนาดนี้ แต่ผมว่าสิ่งที่เยอะกว่าคือร้านเหล้านะ มีตลอดทางเลยครับ และนั่น...

   “โหย เอ็กซ์สัด” เสียงคนข้างตัวมันพูดขึ้น ผมเลยหันไปมองตามสายตามันบ้าง ผู้หญิงผิวสองสีหุ่นดีกำลังเต้นรูดเสาอยู่บนชั้นสองของร้านเหล้าแห่งหนึ่งอย่างเมามันส์ ท่าเต้นที่ผสานกับเพลงจังหวะเร้าใจแลดูเผ็ดร้อนจนผมยังรู้สึกหน้าชา ฝรั่งหลายคนยืนดูและเป่าปากโห่ร้องด้วยความชอบใจ

   “มึงชอบแบบนี้เหรอ” ผมถามเรียบๆ ทีมมันเลยหันกลับมาตอบ

   “ไม่เอาน่า กูก็แค่ดูเอง”

   “ถ้าอยากเอา ก็ไปเปิดโรงแรมใหม่นะ กูไม่อยากใช้เตียงร่วมกับใคร” ผมบอกหน้าตึงๆ ไอ้ทีมเลยเดินตามมางอแงใกล้ๆ

   “อย่าโกรธสิ กูก็แค่มอง ไม่ได้อยากทำแบบที่อยากทำกับมึงซักหน่อย”

   “ทีม...กูเข้าใจนะ มึงชอบผู้หญิงมาตลอดชีวิต เจอผู้หญิงสวยๆ เอ็กซ์ๆ ก็ต้องอยากทำด้วยเป็นธรรมดา กูไม่ถือหรอก เพราะมึงก็ไม่ใช่คนแรกของกูเหมือนกัน” ผมพูดเหมือนคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาจนผมตัดสินใจเดินหนีออกจากตรงนั้น จนออกมานอกวอล์คกิ้งสตรีท ผมจึงเดินเข้าไปซื้อบุหรี่จากร้านค้าแผงลอยใกล้ๆ

   “เอาบุหรี่ซองนึงครับ”

   “เปลี่ยนจากบุหรี่เป็นโค้กแทนครับ” ทีมเดินตามมาบอกเสียงเรียบ ยื่นแบงค์ห้าสิบให้คนขายที่มองหน้าผมและมันสลับกันไปมาอย่างงุนงง

   “เอาบุหรี่ตามเดิมครับ นี่เงิน..” ผมบอกแล้วหยิบแบงค์ร้อยให้บ้าง

   “เอาโค้กสองกระป๋องครับ...จะหยิบมั้ยครับ ถ้าไม่หยิบผมจะได้ไปซื้อร้านอื่น” มันบอกเสียงนิ่งจนใจผมสั่นด้วยความสับสน คนขายรีบกุลีกุจอหยิบกระป๋องโค้กให้ด้วยความไม่เข้าใจ “นี่เงิน ไม่ต้องทอนครับ”

   “ผมเอาบุหรี่ด้วยซองนึง” ผมยังยืนนิ่งไม่สนใจ และยืนยันจะเอาบุหรี่ตามเดิม คราวนี้ไอ้ทีมมันไม่ทักท้วงอะไรทั้งนั้น มันปล่อยให้ผมได้ทำตามใจตัวเอง จนผมจุดบุหรี่ขึ้นสูบ มันก็ยังไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่เดินนำไปที่รถที่จอดทิ้งเอาไว้แทน

   “ดับบุหรี่ก่อนเข้ารถด้วยนะ ไม่ชอบให้มีกลิ่นติดที่เบาะ” เสียงมันยังเรียบนิ่ง ไม่ใส่ความรักและเอ็นดูเหมือนอย่างเคย

   ผมสูบบุหรี่ไปทั้งที่น้ำตายังคลอ ทีมไม่เคยใช้เสียงแบบนี้พูดกับผมมาก่อน ผมรู้ตัวว่ากำลังไม่ชอบใจด้วยเรื่องงี่เง่า ทีมโตมาด้วยความคิดแบบผู้ชายทั่วไป รักและมองเพศตรงข้าม มันควรจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทีมมีเซ็กส์กับคนอื่น แต่แค่คิด...ผมก็รู้สึกทำใจไม่ได้

   ผมดับบุหรี่กับพื้น แล้วเข้ามานั่งในรถที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานท่ามกลางความสงัด ผมไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้ามันด้วยซ้ำ ทีมกดล็อครถแล้วขับรถกลับที่พักทันที

   ปกติทีมเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว แต่ก็ระมัดระวังมากพอสมควร ผิดกับวันนี้ที่มันขับเร็วมาก และฉวัดเฉวียนเสียจนผมนึกอยากจะออกไปเรียกแท็กซี่กลับที่พักเอง น่าจะปลอดภัยกว่า

   จากเดิมที่ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงจากที่พักมาแหลมบาลีฮาย แต่คราวนี้ไอ้ทีมกลับใช้เวลาแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น มันจัดการจอดรถในลานจอดที่เงียบสงัด เนื่องจากเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ห่านป่ามันจัดการดับเครื่องแต่ยังไม่ลงจากรถ กลับหันหน้ามาถามผมแทน

   “พอใจรึยัง”

   “พอใจ...เรื่องอะไร” ผมถามกลับ รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง

   “เห็นมึงชวนกูทะเลาะ เลยอยากรู้ว่าพอใจรึยังที่เห็นกูเป็นบ้า” มันถามผม

   “กูไม่ได้ชวนทะเลาะ” ผมบอกเสียงเบา น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาอีกครั้ง

   “กูผิดเหรอฝุ่น ที่กูไม่ใช่คนแรกของมึง ถึงกูจะเจอมึงทีหลัง แต่กูไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวมึงเลยใช่มั้ย”

   “แล้วกูล่ะ...กูมีสิทธิ์อะไรในตัวมึงบ้าง ทั้งที่ปากมึงก็พูดอยู่ว่ารักกู แต่ตามึงก็มองคนอื่น ถ้าเป็นแบบนั้นมึงก็อย่าพูดเลยว่ารักกู...” น้ำตาผมไหลริน ทีมไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบ หรืออะไรทั้งนั้น มันทำเพียงแค่มองหน้าผมที่กำลังเสียน้ำตาท่ามกลางความนิ่งงัน

   ในหัวผมตีกันยุ่ง ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหน ก่อนหน้านี้มีคนเคยถามว่าผมกับทีมเป็นอะไรกัน และผมตอบแบบไม่คิดอะไรมากว่าผมเป็นน้องของมัน..ถึงแม้ความจริงจะไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว

   ผมไม่ได้อายกับคำตอบที่จะต้องพูดออกไป...แต่ผมแค่ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเชื่อใจในคำพูดของทีมได้แค่ไหน และตอนนี้เราอยู่ในฐานะอะไรกัน คนรู้จัก? เพื่อน? พี่น้อง? คู่นอน? หรือว่าแฟน?

   “กูรักมึง...นั่นคือเรื่องจริง กูรอและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มึงมากอดไว้แบบทุกวันนี้ กูคิดเสมอว่ามึงคือคนที่กูรัก คนอื่นที่กูมองหรือมองกู ก็ได้แค่มอง กูอาจมีความรู้สึกทางเพศบ้างถ้าเห็นการยั่วยุ มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่คนอื่นก็ไม่ใช่คนที่กูนึกอยากจูบ อยากกอดเอาไว้ตลอดเวลาแบบมึง”

   ทีมตอบผมด้วยเสียงที่หนักแน่น มันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แผ่วเบา

   “กูอยากขอมึงเป็นแฟนนานแล้ว แต่คิดว่ามันยังไม่สมควร เพราะกูก็ยังไม่รู้ว่ามึงคิดยังไง...กูทำใจไม่ได้หรอกนะถ้าเห็นมึงเดินหนีกูไปเพราะคำถามโง่ๆ แบบนั้น”

   “มึง...มึงไม่ใช่กู มึงไม่รู้หรอกทีม” ผมพึมพำตอบ “กูอยู่กับความไม่เข้าใจ ไม่มั่นใจในตัวคนอื่นมาชั่วชีวิต แค่คำว่ารักของมึง...กู..กู...”

   “เพราะกูไม่ใช่มึง กูเลยเข้าใจในตัวมึงไม่ได้หมดหรอก มีปัญหาอะไรก็ต้องพูดต้องคุยกันสิ ไม่ใช่เอะอะก็โกรธแล้วเดินหนีกูมาแบบนั้น” ทีมที่แสนใจดีเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผีบ้าเริ่มหายไป แต่ผมก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ปลายนิ้วสากเช็ดเข้าที่ข้างแก้ม

   “แล้วนี่อีกเรื่อง บุหรี่น่ะ ทำไมถึงชอบสูบนัก คิดว่าเท่ห์รึไง หืม” ทีมมันเอามือที่เช็ดข้างแก้มเมื่อครู่มาบีบที่ริมฝีปากล่างของผมแรงๆ จนเจ็บจี๊ด นึกอยากจะชกหน้ามัน แต่สบกับดวงตาดุๆ คู่นั้นแล้วก็หงอยลงทันตา

   “ชีวิตมึงที่อเมริกาจะเหลวแหลกมาเท่าไหร่กูไม่สนหรอกนะ แล้วไม่ว่ากูจะเป็นคนที่เท่าไหร่ ที่ร้อยที่พันก็ตาม แต่ตอนนี้มึงเป็นคนของกู จะเป็นอะไรก็ได้ แฟน เมีย คนรัก แล้วแต่จะเรียก....มึงก็เป็นของกูคนเดียว แล้วห้ามพูดอีกว่ากูไม่ใช่คนแรกของมึง กูเคือง!”

   “แล้วตอนนี้...เราเป็นอะไรกันอะ” ผมถามเสียงหงอยๆ ไม่กล้าถามดังมาก กลัวมันกัดเอาแรงๆ

   “อืม...นั่นสิ อะไรดี? มึงเป็นของกูแล้ว.....เรียกอะไรดีน้อ” มันบอกยิ้มๆ “เมีย? กูยังไม่มีแหวนให้เลย เข้าไปในบ้านก่อนค่อยตอบละกัน”

   มันบอกอย่างนั้นแล้วเปิดประตูลงไปยืนอยู่ที่พื้นข้างล่าง ก่อนจะเดินมาทางฝั่งผมเพื่อจะจูงมือเดินไปที่บ้านพักด้วยกัน ตลอดทางไอ้ทีมมันฮัมเพลงไปอย่างมีความสุขไม่มีเค้าของปีศาจร้ายที่รังแกผมเมื่อครู่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย



   บ้านพักริมทะเลของเรายังเงียบสงัด มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดเข้ากระทบฝั่งเท่านั้น ทีมส่งกุญแจบ้านให้ผมเปิด ประตูใหญ่ถูกดันเปิดช้าๆ ไอ้ห่านป่าเอื้อมมือข้ามตัวผมไปกดสวิตซ์ไฟในห้อง...

   ห้องนั่งเล่นที่เคยมีเพียงเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ เบาะนุ่มๆ ไว้รองนั่ง และโต๊ะกระจกที่ตั้งเพียงดอกไม้ใส่ในแจกัน...บัดนี้ ถูกเนรมิตให้มีเค้กผลไม้ก้อนโตวางอยู่บนนั้น เทียนถูกปักเอาไว้แต่ยังไม่ได้จุด รวมไปถึงของขวัญอีกสองสามกล่องวางอยู่บนเก้าอี้ไม้ ไฟประดับดวงเล็กกระพริบระยิบระยับรอบห้อง

   “happy birthday” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบอยู่ที่ข้างหูผมแบบนั้น มันก้มลงมาจูบที่ซอกคอ ก่อนจะจับคอเสื้อผมให้ยืดออกแล้วเริ่มจูบลงไปที่กระดูกไหปลาร้าช้าๆ ปลายลิ้นไล้เลียเก็บกลืนทุกกระเบียดนิ้วอย่างใจเย็น “พอก่อนดีกว่า...ไปเป่าเค้กก่อนไป”

   ทีมบอก แล้วโอบเอวผมไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง ก่อนจะดันก้อนเค้กมาวางไว้ตรงหน้า

   “ที่จริงกูให้เค้าจุดเทียนให้นะ แต่เมื่อกี้เราไม่เข้าใจกัน เลยไม่ได้โทรหาที่รีสอร์ท เอาเป็นว่ากูจุดให้แล้วกันนะ” ทีมยิ้มให้ผมที่พูดอะไรไม่ออก เทียนสีเล่มเล็กๆ ที่ปักอยู่เต็มหน้าเค้กผลไม้ถูกจุดขึ้นช้าๆ ในหัวใจผมตื้นตันเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมา “อยากสั่งเค้กช็อคโกแล็ตให้ แต่เมกาผลไม้คงอร่อยสู้ประเทศไทยไม่ได้ จะสั่งเค้กไอติมก็กลัวมันละลายหมด เลยเอาเค้กโยเกิร์ตผลไม้ดีกว่า ไม่อ้วนด้วยนะ”

   มันบอกติดขำๆ แล้วยื่นเค้กมาตรงหน้าผม

   “เป่าสิ” ผมยิ้มให้ ก่อนจะหลับตาลงอธิษฐานครู่หนึ่ง แล้วเป่าเทียนให้ดับทั้งหมด ทีมวางเค้กลงแล้วปรบมือเปาะแปะ

   “สุขสันต์วันเกิดครับที่รัก” มันบอกพลางก้มลงมาหอมแก้มผมแรงๆ

   “แต่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดกูนะ” ผมบอก ทั้งที่ยังยิ้มไม่หุบ ผมไม่ได้โกหกนะครับ ที่จริงผมเกิดวันที่เก้าเมษายนต่างหาก นี่ยังไม่เที่ยงคืนเลยนะ อุฮิ

   “เวลาที่จีน เกาหลี ญี่ปุ่นมันเป็นวันที่เก้าแล้วนะ” ทีมบอกขำๆ ก่อนจะยกมือยอมแพ้ “กูกะเวลาผิดไปนิดนึง โทษทีนะ”

   “ขอบคุณมาก” ผมบอก แล้วความดีใจทั้งหมดที่มีก็ทำให้ขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อม หันหน้าเข้าหาตัวทีม ก่อนจะก้มลงจูบมันเบาๆ “เป็นวันเกิดที่ดีที่สุดเลย”

   “รักนะครับ” ทีมยิ้ม เงยหน้ารับจูบของผม ริมฝีปากแนบกันก่อนที่ผมจะเริ่มเป็นฝ่ายทนไม่ไหว รุกเร้ามันมากขึ้น ซึ่งไอ้ห่านป่าก็ยอมตอบรับแต่โดยดี

   ฝ่ามือร้อนเริ่มไล้เข้าไปใต้เสื้อ เพียงแค่อึดใจเดียว ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นกุ้งที่โดนปอกเปลือก ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น เสื้อของทีมเองก็ลอยไปหมดสภาพอยู่บนพื้น มันซุกไซร้ให้ผมเคลิ้มไม่ถึงสิบห้านาที ทีมก็เริ่มขยับยุกยิกถอดกางเกงของผมออกจนเหลือแต่ชุดวันเกิด สมกับเป็นวันเกิดจริงๆ....

   หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียวผมก็ได้รู้จักกับคำว่า “นั่งเทียน” เป็นครั้งแรกในชีวิตลูกผู้ชาย

   “ทีม...กู กูไม่เคยนะ นี่ เดี๋ยวก่อน” ผมโวยวายมากขึ้น เมื่อทีมยังไม่ยอมเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน แต่มันพยายามจะเอาลูกชายสุดที่รักเข้ามาเชื่อมกับร่างกายผม เพราะการเตรียมการที่ดีกว่าคราวที่แล้วทำให้ผมไม่รู้สึกเจ็บมากเท่าไรนัก กลับกัน ความต้องการของผมยิ่งพุ่งขึ้นสูงอยากให้ทีมใส่เข้ามาไวๆ ....แต่ใส่เข้ามาแบบกูนอนอยู่ข้างล่างสิวะ!

   “แป๊ปเดียวนะ ไม่เจ็บหรอก เสียวออก” มันบอกผมแบบนั้นแล้วเริ่ม...ขยับ

   ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อโดนรุกจากหลายๆ มุมของร่างกาย ทีมไม่ยอมหยุดจูบ ในขณะที่มือข้างนึงก็สาละวนกับการมอบความสุขให้ส่วนกลางลำตัวของผม ส่วนลูกชายมันก็ยังฟัดกับสะโพกผมไม่ห่าง มืออีกข้างก็ขยำก้อนเนื้อสะโพกผมแรงๆ ด้วยความต้องการ

   “ฝุ่น...อา ฝุ่น...นุ่มจัง ร้อนมากด้วย อืม จะเสร็จแล้วนะ” มันพึมพำอยู่ชิดริมฝีปาก ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่มากขึ้น รวมไปถึงฝ่ามือร้อนที่ขยับขึ้นลงรวดเร็วจนผมเองก็ต้านทานไม่อยู่เช่นกัน....

   “อื๊อ!!” ผมครางเป็นเสียงสุดท้ายก่อนจะซบลงบนไหล่กว้างที่มีรอยข่วนและรอยกัด...เอ่อ ของผมเองแหละ แหะๆ

   ทีมขยับอีกสามสี่หนก่อนจะเบาแรงลงและนิ่งลงในที่สุด เรานั่งกันอยู่แบบนั้นอีกพักใหญ่ ก่อนที่ทีมจะยอมขยับตัวออกจากร่างกายของผม แต่ก็ไม่วายจะครางออกมาเบาๆ ด้วยเสียงแหบเซ็กส์ซี่

   “เสียวจังครับที่รัก”

   “มึงแย่ที่สุดเลย” ผมบ่นแล้วลุกไปเอากางเกงขาสั้นจากในกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่ตรงมุมห้องมาใส่ลวกๆ ไอ้ทีมนั่งหัวเราะเบาๆ อยู่ที่เดิม ก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมไปเปิดของขวัญ

   “แต่คนที่เริ่มก่อนไม่ใช่กูนะ” มันยังจะล้อ

   “งั้นวันหลังมึงก็มีแฟนเป็นมือขวาของตัวเองไปแล้วกัน” ผมตอบ ทีมเลยดึงผมมานั่งที่หว่างขามันเหมือนเดิม กอดเอาไว้หลวมๆ ตอนที่หยิบของขวัญกล่องเล็กสีขาวมาให้ โบว์สีน้ำเงินเข้มตัดกับสีขาวของกระดาษห่อ แลดูหรูมากเลยครับ

   “แกะสิ” มันบอก ผมจึงค่อยๆ รูดริบบิ้นสีเข้มออก แล้วเปิดกล่องอย่างระมัดระวัง กล่องกำมะหยี่สีแดงสดทำให้หัวใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล มือผมสั่นจนรู้สึกได้ขณะที่เปิดออกเพื่อดูของข้างใน...

   แหวนเงินสองวงถูกวางไว้ในกล่องอย่างบรรจง ทีมกอดผมแรงขึ้นตอนที่แหวนถูกหยิบขึ้นมาทั้งสองวง วงที่ใหญ่กว่าถูกส่งให้ผม ส่วนอีกวงมันก็ถือเอาไว้ท่ามกลางเสียงหัวใจของผมที่ยังเต้นรัวแรง

   “จะรับผมเป็นสามีได้มั้ยครับคุณฝุ่น” มันหันมากระซิบถามเอาที่ข้างหูพร้อมเป่าลมร้อนเข้าไปเบาๆ จนผมขนลุกซู่

   “อืม ถ้าไม่รับก็สงสารคนอื่นที่จะได้มึงไป” ผมบอกยิ้มๆ ทีมมันเลยหัวเราะออกมา ขณะใส่แหวนให้ผมที่นิ้วนางข้างขวา 

   “กลัวคนบางคนจะร้องไห้ขี้มูกโป่งมากกว่า” มันบอก

   “แล้วมึงล่ะ จะรับกูมั้ย”

   “รับเป็นอะไรครับ พูดจาไม่เพราะแบบนี้ จะรับเป็นอะไรไม่ทราบ” ทีมบอกเสียงดุทั้งที่ยังยิ้มกว้าง

   “เรื่องมากจริงๆ....อืม...พี่ทีมจะรับฝุ่นเป็นแฟนมั้ย”

   “ไม่รับครับ” อ่าวไอ้เหี้ย “แต่พี่อยากรับฝุ่นเป็นภรรยามากกว่า”

   แอร๊ก พูดแบบนี้ก็กระซวกไส้กูออกไปเลยเถอะ!!!

   ทีมมันยื่นมือขวาออกมากางตรงหน้าผมอย่างทวงของ ผมเลยแกล้งสวมแหวนให้แรงๆ จนทีมบ่นหงิง

   “ชอบรักแบบซาดิสม์เหรอครับ พี่ทำให้ได้นะ ทั้งวันทั้งคืนเลยดีมั้ย”

   “อย่านะมึง” ผมบอกแล้วทำท่าจะลุกหนี แต่ทีมก็หัวเราะ แล้วกอดผมแน่นขึ้น

   “อย่าพูดมึงกูเลยนะ แทนตัวเองว่าฝุ่น แล้วเรียกพี่ว่าพี่ทีมเถอะ น่ารักออก” เป็นคำขอที่น่ารัก แต่ทำยาก เพราะผมพูดจนติดปากซะแล้ว

   “ยากอะ” ผมบอกไปตามความจริง

   “ลองทำเพื่อพี่ไม่ได้เหรอ ว่าไงครับ”

   “ไม่รับปากนะว่าจะสำเร็จรึเปล่า แต่จะลองดู” ผมตอบออกไป แล้วหันไปรับจูบอุ่นๆ อีกครั้ง ไอ้..เอ่อ พี่ทีม แว๊ก กระดากปาก “เรียกทีมไม่ได้เหรอ”

   “งืมมมมม ไม่ค่อยถูกใจ แต่ก็ยังดีกว่ามึง...อนุญาตก็ได้”

   พูดถูกใจ กดไลค์ทีนึง คริคริ


   
   “จะแกะของขวัญแล้ว” นั่น..เป็นคำขอแกมบังคับของผมหลังจาก...แหะๆ อะฮิ้วๆ ไปอีกรอบสองรอบ ไม่เอาน่า...มาเที่ยวครั้งนี้ก็คล้ายๆ มาฮันนีมูนแหละครับ คู่รักใหม่เค้ามีอะไรกันบ้างก็อย่าทำหน้าเอียนสิ ขี้อิจฉานะเรา

   “จะแกะข้างนอกหรือแกะในห้อง เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้”

   “ฝุ่นออกไปแกะข้างนอกก็ได้” ผมตอบเขินๆ คือไม่ได้เขินเพราะทีม แต่เขินเพราะต้องแทนตัวเองว่าฝุ่นนี่แหละครับ เอิ้กๆ 
   “ลุกไหวเหรอ” ทีมถามเย้าๆ แล้วส่งมือมาให้ผมจับเพื่อลุกขึ้น ล้าไปทั้งตัวเลยครับ ยิ่งตั้งแต่ครึ่งล่างลงไปเหมือนผ่านเครื่องบดเนื้อมาเลย ไม่มีแรงขั้นสุด แต่ของขวัญกล่องใหญ่ที่รออยู่ก็ทำให้ผมอยากลุกเดินออกไป ทีมก็ไม่ได้ห้ามอะไร มันพยุงผมเดินออกไปข้างนอกทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อนั่นแหละครับ มีแค่กางเกงนอนขายาวเท่านั้นเอง

   ทีมวางผมลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเดิม แล้วยื่นของขวัญให้อีกสองกล่อง กล่องนึงมาจากลุงสินและน้าอิ่มที่ให้กล้องถ่ายรูปดิจิตอลแบบคอมแพคเลนส์ พร้อมการ์ดสั้นๆ อวยพรวันเกิด ส่วนอีกกล่องมาจากพี่ไกด์ครับ ให้เสื้อคู่แล้วก็ เอ่อ...ของเล่นพวกเซ็กส์ทอยอีกสองสามชิ้น รวมไปถึงถุงยางอนามัยอีกแพ็คใหญ่...ให้อะไรวะเนี่ย

   “ไอ้เชี่ยไกด์แม่งให้อะไรเนี่ย!!” ทีมตะโกนแล้วก็หัวเราะพลางหยิบเซ็กส์ทอยพวกนั้นมาดู “เข้าใจให้นะไอ้เพื่อนเหี้ย...น่าจะเปิดของขวัญก่อนเข้าห้องเนอะ”

   “เนอะอะไร ทิ้งไปเลยนะ ฝุ่นไม่ให้ใช้” ผมบอกเสียงแข็ง ก่อนจะหันไปเห็นการ์ดที่พี่ไกด์เหน็บมาด้วย เลยหยิบขึ้นมานั่งอ่านเงียบๆ

   ถึงน้องฝุ่น
   น้องฝุ่นเป็นเด็กที่โชคดีมากกกกกกก ที่กำราบเพื่อนพี่อยู่ พี่ดีใจด้วยนะ แล้วก็สุขสันต์วันเกิดครับ พี่คาดว่าตอนนี้ไอ้ทีมคงทำให้น้ำทะเลหวานไปแล้ว คริคริ ใช้ของขวัญของพี่ให้คุ้มค่านะจ๊ะ
   พี่ไกด์สุดหล่อ(หล่อกว่าทีมสิบกำลังอินฟินิตี้เท่า)


   พี่ไกด์แม่งตลกเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ...แต่ของขวัญน่ะ ตลกร้ายไปนะ

   “ที่จริงพวกเพื่อนพี่ แล้วก็พี่อ๋องจะมาเที่ยวด้วย แต่พี่ขอให้มาวันพรุ่งนี้แทน เพราะวันนี้พี่จะอยู่กับฝุ่นสองคน” ทีมบอก ยังไม่ยอมวางของขวัญจากพี่ไกด์ง่ายๆ

   “เน่าจริงๆ” ผมพึมพำ แต่ดูเหมือนทีมมันจะได้ยิน เลยต่อปากต่อคำกันอีกนิดหน่อย ก่อนที่ห่านป่ามันจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งให้ผม “อะไร?”

   “ไม่โทรหาแม่เหรอ วันเกิดทั้งที”

   ผมนิ่งไปเล็กน้อยกับประโยคนั้น สายตายังจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือราวกับว่ามันเป็นของร้อนที่ไม่อาจแตะต้องได้

   “โทรไปสิครับ แม่ต้องกำลังรอโทรศัพท์ของฝุ่นอยู่แน่ๆ ถึงตอนนี้ที่อเมริกาจะเพิ่งเที่ยงวันของวันที่แปด แต่ที่นี่ก็เข้าวันที่เก้าแล้ว”

   “แม่จะรออยู่จริงๆ เหรอ” ผมถามออกไปลอยๆ ทีมจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวตรงข้ามมานั่งยองๆ ที่เบื้องหน้าผมแทน รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ก่อน “อยู่กับฝุ่นนะ”

   “ถ้าฝุ่นอยากให้พี่อยู่”

   ผมกดเบอร์โทรศัพท์บ้านที่อเมริกาด้วยความคุ้นเคย แต่ก็ยังไม่กล้ากดโทรออก ได้แต่นั่งนิ่งมองเครื่องมือสื่อสารของทีมนิ่ง จนเจ้าของมันทนไม่ไหว ยื่นนิ้วมากดให้เอง แล้วจับมือผมให้ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู

   เสียงรอสายดังขึ้นแล้วก็เงียบไปเป็นจังหวะ แต่หัวใจผมน่ะ แทบจะหยุดเต้นไปแล้ว ไม่เคยรอโทรศัพท์ใครแล้วตื่นเต้นและกังวลใจขนาดนี้มาก่อน

   ((hello?)) เสียงผู้หญิงวัยกลางคนรับสาย ผมจำได้ทันทีว่านั่นคือเสียงแม่ หัวใจผมเต้นแรงเร็วขึ้นอย่างไร้จังหวะ อ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่มีเสียงออกไป ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่อย่างนั้นจนปลายสายถามซ้ำ ((hello?))

   “แม่ครับ” ผมกรอกเสียงลงไปอย่างไม่มั่นใจ กำมือทีมที่บีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจแน่น

   ((แกเองเหรอ.. มีอะไร ก่อเรื่องอะไรอีก)) เสียงแม่อ่อนกว่าทุกที

   “เปล่าครับ แต่วันนี้วันที่เก้า วันเกิดผม ผมแค่...อยากจะขอบคุณแม่ที่ให้ผมเกิดมา” ผมตอบปลายสายไปอย่างนั้น แล้วเงียบลง แม่เองก็ไม่ได้พูดอะไร จนผมต้องเป็นฝ่ายพูดออกไปเอง “ผม...ผมรักแม่นะครับ ผมโทรมาแค่นี้แหละ”

   ((.....))

   “ผมวางนะครับ” ผมบอก แล้วหันไปสบตากับทีมที่ยิ้มอ่อนโยนมาให้ แล้วเตรียมจะกดวางสาย

   ((ฝุ่น))

   “ครับ?”

   ((แกโตแล้ว อย่าก่อเรื่องอะไรอีก เข้าใจมั้ย ฉันไม่ได้อยู่คอยเก็บกวาดเรื่องให้แกแล้วนะ จากนี้ไป...ก็มีความสุขกับชีวิตที่แกเลือกให้มากๆ ก็แล้วกัน)) คำอวยพรของแม่ที่ดูห้วนสั้น ราวกับไม่เต็มใจจะพูดนั้นกลับทำให้ผมน้ำตาไหลด้วยความดีใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมบอกขอบคุณแม่ แล้ววางสายไป ทีมบีบมือผมเบาๆ แล้วยิ้มให้

   “ร้องไห้ไปพร้อมกับหัวเราะ บ้ารึเปล่า” ทีมแซวเบาๆ พลางเช็ดน้ำตาให้

   “ขอบคุณนะ” ผมบอกแล้วโผตัวเข้ากอดห่านป่าตัวใหญ่แรงๆ ทีมพูดถูก ไม่ว่ายังไงแม่ก็คือแม่ของเราเสมอ ถึงแม่จะพูดจาและทำไม่ดีกับผม แต่แม่ก็ไม่ได้เกลียดผม....ไม่มีแม่คนไหนเกลียดลูกตัวเองได้จริงๆ หรอก

   “ขอบคุณอะไรกัน กับพี่ ต้องบอกคำอื่นต่างหาก”


   “ฝุ่นรักทีมนะ”




eiizes’s talk
สวัสดีค่า มาอัพให้ตามสัญญาแล้วน้า

ช่วงนี้เว็บเป็ดเป็นอะไรอ่า ทำไมเราเข้าไม่ค่อยได้ =_=

ตอนต่อไปจะมาในเร็ววันจ้ะ

ใครที่มีสอบก็อย่าลืมอ่านหนังสือกันเยอะๆ นะคะ ที่จริงเสาร์นี้เราไม่ได้สอบปลายภาคหรอก เราสอบแกะแพะ 55555

ก็หวังจะได้คะแนนเยอะๆ กร๊ากกกกกกกกก ส่วนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนอื่นก็ขอให้เก็ทเอ เอพลัส เอพลัสๆ กันนะฮัฟฟฟ

ส่วนเรื่องการจองหนังสือ คาดว่าประมาณกลางเดือนมีนา จะเริ่มเปิดจองแล้วน้า~~ เปิดถึงเมษาเลยค่า รายละเอียดจะลงแจ้งไว้อีกทีนะคะ
เพื่อนๆ คนไหนอยากได้หนังสือไปครอบครอง อย่าลืมรีบเก็บตังค์นะฮัฟฟฟ รักคนอ่าน ด๊วบๆ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: daizodiac ที่ 01-03-2011 23:41:46
อร๊ายย หวานเกินไปแล้ว *น้ำตาซึม*
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 01-03-2011 23:43:45
เข้ามาสมัครติดตามด้วยคนค่า
อ่านตอนแรกแอบไม่ชอบนายเอกอ่ะ ดูเป็นคนขาดมนุษยสัมพันธ์ อีคิวต่ำ  :laugh:
แต่พอได้รู้เหตุผลก็สงสารมากๆ คงไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการโดยคนที่เรารักมากทำร้ายความรู้สึกเนาะ
โดยเฉพาะตอนที่นายเอกบอกกับน้าว่า ผมแค่อยากให้แม่ยิ้มให้ผมเท่านั้นเอง เราน้ำตาคลอเลยล่ะ  :monkeysad: ความลำเอียงมันโหดร้ายจริงค่ะ  :m15:
แต่ชอบที่มีหมาโกลเด้นรีทรีพเว่อร์เข้าฉากด้วย เพราะเราชอบหมาพันธ์นี้มากๆ หลั่นล้าดี  :jul3: แล้วเซ็กซี่ก็หลั่นล้าจริงๆ น่าร้าก  :man1: เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไป :L1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 02-03-2011 01:10:43
อิจฉา   :-[ :impress2: 

พี่ทีมน่ารักที่สวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :impress2:

ฝุ่น กะ แม่ ซึ้งง่ะ :monkeysad:

พี่ไกด์  ได้ใจ มากกให้ของขวัญแบบว่า :haun4: :z1: :laugh:

 :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 02-03-2011 09:29:46
เข้ามาสมัครติดตามด้วยคนค่า
อ่านตอนแรกแอบไม่ชอบนายเอกอ่ะ ดูเป็นคนขาดมนุษยสัมพันธ์ อีคิวต่ำ  :laugh:
แต่พอได้รู้เหตุผลก็สงสารมากๆ คงไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการโดยคนที่เรารักมากทำร้ายความรู้สึกเนาะ
โดยเฉพาะตอนที่นายเอกบอกกับน้าว่า ผมแค่อยากให้แม่ยิ้มให้ผมเท่านั้นเอง เราน้ำตาคลอเลยล่ะ  :monkeysad: ความลำเอียงมันโหดร้ายจริงค่ะ  :m15:
แต่ชอบที่มีหมาโกลเด้นรีทรีพเว่อร์เข้าฉากด้วย เพราะเราชอบหมาพันธ์นี้มากๆ หลั่นล้าดี  :jul3: แล้วเซ็กซี่ก็หลั่นล้าจริงๆ น่าร้าก  :man1: เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไป :L1:


"อีคิวต่ำ"  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ชอบคำนี้จังค่ะ อ่านแล้วขำ 5555555

ยินดีต้อนรับนะคะ ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-03-2011 10:08:26
หวานเยิ้มเลย 55+
ชอบอ่ะ ตอนนี้ก็เป็นสามีภรรยากันแล้วนะเออ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 02-03-2011 11:16:49
กริี๊ดด

เห็นเรื่องนี้มานามแต่ไม่เคยอ่าน

น่ารักจิงๆเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 02-03-2011 12:55:19
โอ๊ยยยยยย  กดLikeๆ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 02-03-2011 13:43:48
พ่อแม่ลูก 5555555555
งอนง้อกันน่ารักจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-03-2011 14:09:47
กด + ให้กับตอนนี้จริงๆครับ ให้คำตอบกับหลายๆสิ่ง ให้ข้อคิดดีๆกับคนทุกคน
ขอบคุณจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 02-03-2011 14:26:45
ตอนนี้นอกจากหวานจนอิจฉาตาร้อนผ่าวแล้ว
ยังทำเอาน้ำตาซึมด้วยอีกต่างหากอ่ะ
น้องฝุ่นสู้ๆน้า พี่ทีมดูแลน้องดีๆล่ะ เรื่องหื่นๆน่ะ
เบาๆบางสงสารน้องมันบ้างเดี๋ยวช้ำในพอดี
ของขวัญเพื่อนให้มาแล้วอย่าลืมใช้ล่ะพี่ทีม
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 02-03-2011 14:27:49
,,,ห้ามพูดอีกว่ากูไม่ใช่คนแรกของมึง กูเคือง!...
เอาละค่ะ ปัญหาครอบครัว
เรื่องใหญ่นะเนี่ยยย ห้ามตอกย้ำพี่เค้านะลูก
อย่างน้อย พี่เค้าก็คนแรกของหนูในหลายๆเรื่อง.... อย่างนั่งเทียนเปนต้น ฮ่าๆๆ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 02-03-2011 16:57:13
หวาน+ซึ้ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 02-03-2011 17:42:44
ทั้งหวานทั้งซึ้ง คนอ่านทำหน้าไม่ถูกเลย
แบบว่าอมยิ้ม แต่น้ำตาคลออะไรงี้

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: หนอนใบตอง by RakorN ตอนที่27: เปลี่ยนใจ หน้าที่ 68 [16.12.10]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 02-03-2011 17:53:07
ซึ้งๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-03-2011 11:19:44
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 06-03-2011 16:27:23
ไอซ์พี่ขวัญก็เข้าบอร์ดไม่ได้หลายวันละ  :m31:
วันนี้เพิ่งเข้าไปอ่านในมือถือ แต่มันเม้นไม่มันอ่ะเลยรอเลิกงานก่อนมาเม้น
หลายๆอย่างคลี่คลายไปได้ด้วยดีเนาะ ชอบเนื้อเรื่องตอนนี้จ้า
ทำให้ชอบตาทีมเพิ่มขึ้นเยอะเลย ที่แท้ในความหื่นก็มีความคิดดีๆหลายอย่างอยู่  :laugh:
เรื่องแม่ทำน้ำตารื้นเหมือนกันนะ แถมปาร์ตี้วันเกิดก็แหมๆๆๆๆ
ไหนว่าไม่ถนัดฉากเซอร์วิสคะน้อง พี่ว่าเยี่ยมจ้า ภาษาสวยเหมือนเดิม
ถ้าให้ดีให้น้องฝุ่นเรียกตาทีมว่าพี่ทีมจะดีมาก ฟังแล้วเขินดีอ่ะ ชอบๆ :-[

พี่ขวัญรอรวมเล่มค่าาาาาา

p.s.get A นะคะน้อง ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 06-03-2011 18:41:44
น่ารักจังน้าตอนนี้ พี่ทีมหวาน & หื่น มากๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 08-03-2011 01:04:17
ก็หวานดีนะเรื่องนี้ แต่จะรอดูว่ามันบาปอย่างไรค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 13.2! ทะเล๊ ทะเล!!♥ [01/03/11 ลงเรียบร้อยแล้วจ้า!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-03-2011 23:49:47
รอคร๊าบบบ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 14!เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 !! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 09-03-2011 13:37:24
ตอน 14   เมื่อรักเรา...มาถึงจุดเปลี่ยน (อ๋องกับสตังค์)



ผมยกปากกาในมือขึ้นจดข้อความยุกยิกลงบนปฏิทินที่ผนังห้องนอน ปลายเดือนนี้ผมมีนัดสัมภาษณ์งานอยู่สองสามที่ ถ้าใช้สมองอันปราดเปรื่องของตัวเองจำเพียงอย่างเดียวก็กลัวจะจำได้ดีเกินไป อาจจะไปผิดวันหรือไม่ก็ผิดที่ผิดเวลา และอาจจะงานเข้าได้ง่ายๆ

สายตาผมมาหยุดอยู่ที่วงกลมเข้มๆ ของวันที่เก้าเมษายน มันมีข้อความสองอย่างจดอยู่บนนั้น หนึ่งในสองไม่ใช่ลายมือของผม เขียนเอาไว้ว่า

วันครบรอบของเรา และตามด้วยรูปหน้ายิ้มอันเล็กๆ อยู่ด้านข้าง

ส่วนอีกอันเป็นข้อความที่ผมเพิ่งเขียนลงไปไม่กี่วันมานี้ ไอ้น้องรหัสมันโทรมาชวนผมไปพัทยา เพราะวันที่เก้าเป็นวันเกิดของแฟน เอ้ย ว่าที่แฟนของมัน แต่เพราะมันวางแผนจะเซอร์ไพรส์ฝุ่น เลยสั่งแกมขอให้พวกผมไปถึงสักบ่ายๆ ของวันที่เก้า

ผมยืนคิดอยู่พักหนึ่ง โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่ผมเองก็อยากไปพัทยามากพอสมควร เพราะปีที่ผ่านมา เอาแต่ปั่นโปรเจ็คจบและฝึกงานจนไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากก้มหน้างกๆ อยู่กับโมเดลโปรเจ็คที่มีเดทไลน์แบบบ้าสุดติ่ง ไม่ได้นอนกันไปเป็นอาทิตย์เลยครับ โทรมจนหน้าใกล้เคียงกับศพระยะเริ่มอืด ถ้าเดินในซอยเปลี่ยวกลางดึก คนที่เห็นอาจจะวิ่งหนีได้

 แต่อีกใจก็สงสารเจ้าของลายมือ ที่อุตส่าห์เข้ามาย้ำเตือนความจำผมด้วยการเขียนยุกยิกลงบนปฏิทิน จองตัวผมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ผมรู้ดี ต่อให้ผมไม่ไป เจ้าตัวเล็กก็คงไม่ว่าอะไร นอกจากทำหน้าหงอยๆ แต่ถ้าง้อด้วยการพาไปนั่งทานไอศครีม สักพักเดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้นเอง

พูดก็พูด ผมเองไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับฝุ่นมากนัก เท่าที่ฟังมาจากปากไอ้ทีม น้องรหัสสุดกวนตีนของผมก็คือ เด็กคนนั้นเป็นหลานของแม่เลี้ยงของมัน แต่ถ้ารู้แค่นั้นผมเองก็คงไม่เก็บมาล้อจนเป็นประเด็นลับๆ อยู่จนทุกวันนี้

เมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ไอ้น้องรหัสมันมีงานที่ต้องปั่นส่ง ทำกันตาแหกเลยครับ ทำให้รู้ว่าหน้าตาไม่ได้ช่วยอะไรในคณะนี้เลยจริงๆ ตอนนั้นทั้งไอ้ทีมเอง เชี่ยไกด์(ผมไม่รู้ว่าแม่มันตั้งมาแบบนี้จริงๆ รึเปล่า เพราะเห็นใครๆ ก็เรียกเชี่ยไกด์ๆ ไม่มีใครเรียกแค่ไกด์เลยสักครั้ง) ไอ้บอล ปลาย น้องนะโม ทุกคนพากันยกขบวนหายเงียบไปเหมือนโดนฆาตกรรมหมู่เลยครับ

หลังจากมรสุมชีวิตระลอกเล็กๆ ของพวกปีสี่ผ่านไป ไอ้น้องรหัสสุดที่รักมันก็หอบหน้าศพๆ ของมันมาที่โต๊ะประจำของผม นับว่ามันตื่นเช้ามาก เพราะนี่เพิ่งเก้าโมงเศษๆ พอหย่อนก้นลงนั่งได้ มันก็ยกมือขึ้นไหว้ผมลวกๆ แล้วลากกองหนังสือผมไปทิ้งหัวลงนอนทันที

“เป็นไงมึง หน้าศพเชียว ใกล้เน่ารึยัง” ไม่มีคำทักดีๆ หรอกครับ พวกผมเน้นความสนิทสนม

“พี่อ๋อง ผมมีเรื่องกลุ้มใจว่ะ” แม่งเริ่มต้นประโยคเหมือนจะดี แต่ลงท้ายวะเว้ยอีกล่ะ เดี๋ยวกูจัดซ่อมซะนี่

“อะไรมึง หายหัวไปเป็นอาทิตย์ พอโผล่มาก็มีเรื่องมาระบาย กูไม่ใช่บ่อเกรอะนะ” ผมพูดไปก็หัวเราะหึหึ ไอ้น้องรหัสมันเลยหัวเราะออกมาบ้าง แล้วตอบ

“ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ คือเมื่อตอนต้นเดือน ก่อนเปิดเทอมน่ะ ผมไปอเมริกามา เฮ้ยๆ ของฝากอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้เอามา” มันรีบร้องบอกทันที เมื่อเห็นผมอ้าปากจะทวง นี่สิ รู้ใจกันจริง พี่อ้าปากปุ๊บ น้องก็เห็นไส้ติ่ง กร๊าก “ผมเจอเด็กคนนึง หน้าตาก็ทั่วๆ ไปแหละพี่ ธรรมดาๆ แต่แม่ง...”

“แม่งอะไร ลีลาดี? ติดใจเหรอมึง?” เดาเอาครับ เพราะไอ้ทีมมันหนีไม่ค่อยพ้นเรื่องอะไรกามๆ คือผมก็ไม่ได้เข้าข้างสายรหัสตัวเองนะ นอกจากปู่รหัสของมันแล้ว ทุกคนในสายหน้าตาดีหมดครับ โดยเฉพาะมัน แม่งมีสาวๆ มาควงไม่ซ้ำหน้าตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ จนผมนึกอนาถ กลัวน้องเป็นเอดส์ก่อนเรียนจบ ผมว่า ถ้าเอาคนในประเทศไทยมาวัดเรื่องการผิดศีลห้าข้อที่สาม คงมีไอ้นี่ติดเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะมั้ง

“โหยพี่ จะบ้าเหรอ ผมไม่ได้มั่วขนาดนั้นนะ” มันบอกเสียงดัง

“อะเหรอ” ทำเสียงเหอๆ ใส่มันอีกนิดหน่อย มึงอมพระมาทั้งวัดกูยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย

“พี่อ๋อง จะฟังมั้ยเนี่ย”

“มึงก็เล่ามาสิวะ”

“คือ เด็กคนนั้นอะพี่ ก็หน้าตาธรรมดาแหละ ขาวหน่อยเพราะอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้สเป็คผมเลยพี่ ไม่ได้เอ็กซ์ ตัวเล็ก เอวบาง ตาสวย น่าจูบ ดูเผินๆ ก็ทื่อๆ เนี่ยแหละ แต่แบบ...ว่าไงดีวะ” ไอ้ทีมทึ้งหัวตัวเองเป็นการใหญ่

“แต่มึงติดใจเค้า”

“ก็...ว่าแบบนั้นก็ได้มั้ง เฮ้ย แต่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้นะพี่ แม่งแบบ เหมือนกำลังทุรนทุรายอะ”

ผมเริ่มยิ้มเยาะในใจ...ผมว่าผมรู้นะ ว่าไอ้น้องรหัสกำลังเป็นอะไร

“แล้วทำไมมึงไม่ขอเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลมาล่ะวะ ก็ติดต่อเริ่มจากเป็นเพื่อนไปก่อนก็ได้นี่” ผมแนะ ทีเรื่องอื่นล่ะฉลาด ทีเรื่องแบบนี้ล่ะ กินหญ้าแข่งกับหมา เอ้ย ควายเลยนะน้องกู

“ไม่รู้สิพี่ ใจนึงก็อยากขอ แต่ก็รู้ว่าเค้าต้องไม่ให้แน่ๆ” มันว่าเสียงอ่อย

“ทำไมมึงคิดว่าเค้าจะไม่ให้ เค้ามีแฟนแล้วรึไงวะ แต่เอ...ปกติต่อให้มีแฟน ถ้ามึงจะเอา กูก็เห็นได้มาทุกที”

 “มันไม่ใช่แบบนั้นอะพี่ คือยังไง เค้าก็จะย้ายมาอยู่ที่บ้านผมตอนช่วงมีนาคมปีหน้าแล้ว”

“เฮ้ย เดี๋ยวๆ เด็กคนนี้เป็นใครวะเนี่ย ทำไมเค้าจะย้ายมาอยู่ที่บ้านมึงด้วย” ผมเริ่มงง ตอนแรกก็เหมือนจะตามเรื่องทันนะ ไปๆ มาๆ ทำไมไอ้ทีมมันเล่างงๆ วะ นี่มึงทำโมเดลมากเกินไปจนสมองบวมรึเปล่า

“หลานของน้าอิ่มอ่ะ ชื่อ ’ฝุ่น’”

ผมรู้สึกตะหงิดๆ ในใจยังไงชอบกล คือชื่อฝุ่นเนี่ย เป็นผู้หญิงก็มีนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นน่ะ.....ผู้ชาย

“นี่เท่ากับว่าเด็กมันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นญาติมึงเลยนะทีม” ผมแย้ง แต่ไอ้น้องรหัสมันกลับส่ายหน้าพลางบอก

“แค่นั้นผมไม่ห่วงหรอกพี่ ไงๆ ก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ผมเคยมีเพื่อนแถวบ้าน มันยังเป็นแฟนกับหลานของพี่ชายพ่อเลี้ยงเลย”

“แล้วมึงกลุ้มใจเรื่องอะไรกันแน่วะ”

“คือฝุ่น...เป็น.....”

“ห๊ะ? อะไรนะ กูไม่ได้ยิน” ผมก้มหน้าไปใกล้มันมากขึ้น ไอ้ทีมมันหันซ้ายหันขวาแล้วตอบผมด้วยแก้มที่แดงก่ำ

“พี่หูตึงเหรอ ฝุ่นเป็นผู้..ย..”

“ห๊ะ? ผู้เยาว์? นี่มึงจะกินเด็กต่ำกว่าสิบแปดเหรอไอ้เหี้ย ติดคุกนะโว้ย”

“โอยพี่อ๋อง ว่างๆ ก็ไปตรวจสภาพหูบ้างนะ ผมบอกว่าฝุ่นเป็น ผู้ชาย! ผู้ชายแบบที่มีจุ๊ดจู๋อย่างพี่กับผมอ่ะ!” ไอ้น้องรหัสมันตอบเสียงดังแล้วก้มหน้าลงไปซบที่กองหนังสือของผมอีกครั้ง

ผมอึ้งไปไม่เล็กน้อยเลยครับกับคำตอบของมัน คือขำก็ขำนะ ที่ผู้ชายโคตรเจ้าชู้อย่างมันจะมาตายที่เด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนนึง แต่...ไม่อยากพูดมากอะ เดี๋ยวเข้าตัว..

“มึงมีรูปเค้ามั้ย กูอยากเห็นว่ะ” ผมบอกขำๆ คิดไว้อยู่แล้วล่ะครับว่ามันจะต้องตอบว่าไม่มี เพราะต่อให้มันชอบยังไงก็ไม่เคยพกรูปแฟนไว้ในกระเป๋าสตางค์หรือกระทั่งโทรศัพท์มือถือเลย รูปคู่ก็ไม่มี ใครเป็นแฟนมันนี่ต้องทำใจสุดๆ จริงๆ

“มี”

โก้ชชชชชช!! มีด้วย!!!

ทีมมันล้วงไปในกระเป๋าสะพาย เพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดรูปให้ผมดู ไอ้น้องรหัสมันใส่รูปเด็กคนนั้นเอาไว้ที่ช่องแรก...แต่เออ จริงของมันว่ะ หน้าตาธรรมดาจริงๆ

“เออ จริงของมึง ไม่น่ารักอย่างทุกคน แต่ก็ไม่ได้แย่นะน้องรัก” ผมวิจารณ์พลางส่งกระเป๋าคืนให้เจ้าตัว

“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นดิพี่”

แล้วมึงจะเอาประเด็นไหนไปเขียนรบ. ดีวะไอ้น้อง ท่ามากจริง เดี๋ยวกูก็หนีไปเรียน ปล่อยให้มึงนั่งเศร้าเป็นหมาหิวอยู่ตรงนี้ซะนี้

“ผมสงสัย..ผมเป็นเกย์เหรอพี่อ๋อง” มันทำหน้าซึมๆ ตอนที่ถามผม ไม่เข้าใจว่ามึงจะเศร้าหาอะไร แค่ชอบผู้ชายด้วยกัน ไม่ใช่เป็นลูคีเมียระยะสุดท้ายนะโว้ย

“.....กู...ไม่รู้ว่ะ” ผมลังเลที่จะตอบ กลัวมันช้ำในตาย ซื้อน้ำใบบัวบกมาให้มันกินก่อนบอกน่าจะเข้าท่ากว่า “แล้วมึงเรียกผู้ชายที่รักผู้ชายว่าอะไร”

“ก็..ผู้ชาย” นี่มึงเข้าข้างตัวเองเกินไปป่ะเนี่ยยยยย

“เหรอ เออ...งั้นก็ ผู้ชาย แค่คนที่มึงชอบบังเอิญเป็นผู้ชาย” ผมเออ-ออตาม

“เออใช่! ผมไม่ใช่เกย์ แค่ผู้ชายที่บังเอิญชอบผู้ชายด้วยกัน คุยกับพี่แล้วสบายใจว่ะ สมกับเป็นบ่อเกรอะ ขอบคุณนะพี่อ๋อง ผมไปเรียนแล้ว เจอกันๆ”

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันบอกว่าผมสมเป็นบ่อเกรอะใช่มั้ยครับ...โอ๊ย ไอ้น้องส้นตีน!!



จากนั้นมา ทีมมันก็หลอกถามข้อมูลนั่นนี่มาจากน้าอิ่ม โดยอ้างว่ามันเองก็ตื่นเต้นที่จะมีน้องเพิ่มมาอีกคน ฝ่ายนั้นก็ดีใจหาย บอกทุกอย่างที่ทีมมันอยากรู้ น้าอิ่มเองก็คงรักหลานคนนี้มากด้วยแหละครับ เก็บทุกรายละเอียดมาเล่าให้ไอ้น้องรหัสของผมฟัง

ถึงมันจะบอกผมนักหนาว่าให้เก็บเป็นความลับก่อน ไม่อยากให้เอิกเกริกนัก เพราะถ้าวันไหนล่อลวงน้องไปเที่ยวพร้อมพวกผมด้วยได้ ทีมมันก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ มันแทะเล็มน้องด้วยสายตาแปลกๆ เพราะกลัวไก่ เอ้ย เด็กจะตื่น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ความลับไม่มีในโลก

เรื่องของเรื่องก็คือ มีอยู่วันหนึ่ง ไอ้ทีมมันมือเลอะกาวติดไม้ครับ แต่มันจะกินน้ำ ผมก็ไม่รู้ว่าถ้ามันไม่กินตอนนั้นคอหอยจะกระเด็นออกมาหรือว่าอะไร แต่มันใช้ให้เพื่อนสนิทแต่โคตรปากเสียอย่างเชี่ยไกด์หยิบเงินในกระเป๋าตังค์ไปซื้อน้ำจากซุ้มใกล้ๆ ให้ และนั่นเอง....เหมือนโทรโข่งเลยครับ   

“เหี้ยทีมมมมม เดี๋ยวนี้มึงอมเด็กไว้ไม่บอกกูเหรอ”

ทีมมันคงตกใจจนหัวใจหล่นหายไปเลย เพราะผมเห็นมันสะดุ้งสุดตัว กาวจะเลอะหรือคอหอยจะหลุดยังไงคุณชายมันไม่สนแล้วครับ วิ่งไล่เอากระเป๋าเงินคืนมาจากเชี่ยไกด์ซะเดี๋ยวนั้น แต่ไอ้เพื่อนสนิทมันก็คนดีเกินจะรับได้ วิ่งไปก็โพนทะนาไปทั่ว ว่าไอ้ทีมเก็บเด็กไว้ในอกคนเดียวแบบนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ

เออ...ผมไม่ได้ทรยศหักหลังน้องรหัสนะ แต่กูเห็นด้วย เรื่องเก็บน้องไว้คนเดียว ไม่บอกใครเลยแบบนี้ มีได้สองกรณี จีบเล่น กะได้แล้วทิ้ง กับอีกกรณีคือรักจริงจัง เลยไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวเรื่องจะแตกเสียก่อน

แต่เชื่อเถอะ ผมรู้จักมันมาสี่ปี อย่างหลังชัวร์~

ยินดีต้อนรับสู่โลกสีม่วงนะน้องรัก อุฮิ



“พี่อ๋อง พรุ่งนี้ไปทานข้าวกันนะ ตังค์ชวนแม่แล้ว”

เสียงเด็กตัวเล็กที่ดังขึ้นจากประตูห้อง ทำให้ผมสะดุ้งจากภวังค์หันกลับไปมอง

สตังค์ที่ยื่นแค่หน้าเข้ามาในห้อง ส่วนตัวนั้นยังอยู่ด้านนอก ก็ยิ้มกว้างส่งมาให้ก่อน ผมทรงนักเรียนที่เริ่มยาวไม่เป็นทรงถูกปัดเสยไปลวกๆ ด้วยน้ำเปล่า สงสัยเจ้าตัวยุ่งคงเพิ่งไปล้างหน้ามาแน่ๆ

“เข้าห้องพี่ ทำไมไม่เคาะประตู”

“ตังค์เคาะแล้ว พี่นั่นแหละ ไม่ได้ยินเอง” พูดจบก็ทำหน้าบู้บี้ใส่ ตลกจนผมเผลอยิ้มออกมา สตังค์เดินเข้ามาในห้องแล้วตรงไปที่เตียงของผม ไม่รอช้า เจ้าเด็กตัวยุ่งทิ้งตัวลงนอนดังตุ้บทันที

“สตังค์ อาบน้ำรึยังมานอนบนเตียงพี่เนี่ย” ผมไม่ค่อยชอบครับ ถ้ายังไม่อาบน้ำแล้วจะมาคลุกบนเตียง แม่จะบอกไว้เสมอตั้งแต่ผมยังเด็กว่า เราออกไปข้างนอก ฝุ่นติดตัวมาทั้งวัน ควรจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมานอนบนเตียง ไม่อย่างนั้นจะป่วยง่าย อันหลังไม่รู้จริงรึเปล่า แต่แม่สั่งไว้ ผมก็จำๆ มา จนติดเป็นนิสัย

“อาบแล้วน่า ตังค์ไม่ได้เน่าอย่างพี่อ๋องสักหน่อย”

ผมหัวเราะในลำคอแล้วเดินไปหาเด็กมัธยมปลายที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง สตังค์วาดมือและเท้าไปมาด้วยความสบาย เพราะเตียงผมเน้นเรื่องความนิ่มครับ ไม่ว่าใครจะหาว่ามันทำให้ปวดหลังมากขึ้น แต่ผมชอบเตียงนิ่มๆ กลับบ้านมาเหนื่อยๆ ก็ขอนอนพักสบายๆ สักที

ผมขยับตัวลงนั่งที่ข้างเตียง พอดีกับที่สตังค์ลุกขึ้นมานั่งบ้าง เจ้าเด็กดื้อเข้ามาซบไหล่ผม

“ตกลงว่าไงพี่อ๋อง ไปทานข้าวกันนะ พรุ่งนี้ครบรอบสองปีของเราแล้ว”

ครบรอบสองปีของเรา....

“พี่..ไม่ว่าง ขอโทษนะ” ผมหันไปมองแล้วตอบไปตรงๆ สตังค์ทำหน้าบูดทันที มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของเด็กคนนี้ กับผมเขาจะแสดงอารมณ์ออกมาทั้งสีหน้าและการกระทำ ไม่ว่าดีใจ เสียใจ หรือโกรธ

ถ้าทะเลาะกันนอกบ้าน สตังค์ก็พร้อมที่จะหายตัวไปจากบริเวณนั้น ทิ้งผมที่หัวเสียขนาดหนักเอาไว้ ณ ที่เกิดเหตุ แล้วตัวเองก็ไปนั่งดูหนัง หรือไม่ก็ทานไอศครีม เป็นการประชดผมได้ทันควัน แต่บางทีถ้าเราเกิดผิดใจกันในบ้าน ผมที่เป็นคนไม่ค่อยยอมใครอยู่แล้ว มักจะเสียงดังใส่ แน่นอนว่าสตังค์ไม่ยอม ก็ทะเลาะกัน และหน้าบูดๆ นั้นก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์โมโหของผมมากขึ้นเป็นเท่าตัว

“พี่อ๋องจะไปไหนอะ ปีที่แล้วพี่ก็ไม่ว่าง”

“พรุ่งนี้วันเกิดแฟนไอ้ทีม พี่จะไปพัทยา”

“....ทำไมทีวันเกิดแฟนคนอื่น พี่ไปได้ แต่วันครบรอบของเรา พี่กลับไม่เคยอยู่กับแฟนเลย” สตังค์ไม่ได้เสียงดัง ไม่ได้ตะโกนอะไร แค่พูดเบาๆ เรียบๆ แต่มันกลับกระตุกใจผมจนหายวูบ

“พี่เลี่ยงไม่ได้นี่ อีกอย่างทีมเองก็นัดพี่ก่อนที่เราจะมาชวนพี่กินข้าวนะสตังค์” ผมตอบ แล้วก้มลงไปจูบแก้มเอาใจเด็กดื้อ สตังค์เงยหน้ามายิ้มให้ผมบางๆ

“กอดตังค์นะ”

คำว่า “กอด” สำหรับเราสองคน ไม่ได้หมายถึงการ กอด จริงๆ หรอกครับ กอดเฉยๆ ทั้งที่อยู่บนเตียงแล้วเนี่ย ออกจะไม่เร้าใจสำหรับชีวิตคู่นะ..จริงมั้ย


“อื้อ..พี่อ๋อง อะ....”

“ตังค์....อย่าเกร็งนะ”

เกือบสองปีที่อยู่ด้วยกันมา ไม่ว่าเมื่อไหร่ สตังค์ก็ไม่เคยชิน เด็กตัวเล็กยังคงบิดกายด้วยความเจ็บปวดยามผมแทรกตัวเองเข้าไป ความอึดอัดคับแน่นทำให้ผมเผลอกระแทกตัวเองเข้าไปแรงขึ้น สตังค์ร้องลั่น ผมรีบก้มลงไปปลอบใจเด็กน้อยด้วยริมฝีปาก พยายามปลุกปั่นอารมณ์เขาให้พุ่งขึ้นสูงตามผมมา

เพียงไม่นาน อาจเป็นเพราะเรารู้จุดกันดี ผมจึงดึงสตังค์ออกจากความเจ็บปวดได้ไม่ยาก เด็กตัวเล็กนอนหอบครางเสียงสั่นอยู่ใต้ร่างขณะที่ผมเพียรพยายามระงับอารมณ์ตนเองไม่ให้กระเจิดกระเจิงยามใกล้ถึงฝั่งฝัน...

อยากให้มีความสุขพร้อมกัน...

“พี่อ๋อง...ถ้าจะเสร็จแล้ว...อะ...ก็ปล่อยเลยก็ได้นะ..” สตังค์บอกผมเสียงแหบปนครางกระเส่า เด็กคนนี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เห็นผมมาก่อนเสมอ

ผมให้รางวัลการเป็นเด็กดีด้วยการก้มลงไปจูบปิดปากเล็กแดงระเรื่อนั่นเป็นการกระตุ้นให้สตังค์ถึงปลายทางให้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่ง เพียงไม่นาน ร่างเล็กก็บิดเกร็งอีกครั้ง ของเหลวสีขาวขุ่นทะลักล้นออกมาเลอะหน้าท้องเขา ไม่แพ้กัน..ผมเอง ก็ปลดปล่อยทุกอารมณ์ไว้กับช่องทางที่บอบบางนั่นเช่นกัน...


หลังจากเริ่มหายใจเป็นปกติ ผมก็นอนเอาหลังพิงหมอน มีสตังค์นอนซบอยู่ใกล้ๆ ผมฮัมเพลงเบาๆ...มันเป็นสิ่งที่ผมทำจนติด หลังจากมีอะไรกับสตังค์ ทุกครั้งที่อิ่มเอมใจ ผมมักจะฮัมเพลงหรือไม่ก็ร้องเพลงออกมาเบาๆ มันแปลกตรงที่ว่าผมจะอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุดก็แค่กับเด็กคนนี้เท่านั้น ผู้หญิงสวยๆ ทำให้เดินทางไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดได้ก็จริง แต่ความอิ่มเอมใจ..มันต่างกัน

แต่หยาดน้ำอุ่นๆ ที่ไหลหยดลงบนอกก็กลายเป็นสิ่งที่ขัดความอิ่มเอมใจของผมเข้าเสียแล้ว... “สตังค์ เป็นอะ...” ผมยังพูดไม่ทันจบ เด็กผู้ชายตัวผอมที่เพิ่งมีเซ็กส์ไปด้วยหมาดๆ ก็ดันตัวขึ้นจูบผมทั้งน้ำตา ผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่องเท่าใดนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดแรงจูบของน้อง จนกระทั่งสตังค์เป็นฝ่ายถอนตัวออกไปเอง

“พี่อ๋องรู้สึกยังไงบ้าง จูบกับตังค์”

“สตังค์จะพูดอะไร” ผมเริ่มใจร้อน ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยพอใจกับน้ำตาของเด็กคนนี้เลย ผมเห็นมันทีไร รู้สึกเหมือนหัวใจโดนกระชากออกจากอกแรงๆ ยังไงยังงั้น

“ตังค์ถามว่า พี่อ๋องรู้สึกยังไงเวลาจูบหรือมีเซ็กส์กับตังค์” สตังค์เริ่มเสียงดัง ทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด

“.....” ผมลุกขึ้นนั่ง ไม่ได้ตอบอะไร เอื้อมมือไปจะเช็ดน้ำตาให้ ทว่าสตังค์กลับหันหน้าหนีความตั้งใจนั้น ผมจึงเอามือกลับมาไว้ที่เดิมด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น

“แล้วตังค์อยากได้คำตอบแบบไหน” ผมถามเรียบๆ

“ฮึก...ตังค์ก็แค่อยากรู้ ว่าเวลาพี่มีเซ็กส์กับแฟน จะมีความสุขเท่ามีกับคนอื่นรึเปล่า”

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเหลือเพียงกายหยาบ หัวใจหล่นหายไปในชั่วเสี้ยววินาที ผมไม่แน่ใจว่าสตังค์กำลังพูดถึงเรื่องอะไร น้องรู้อะไรมา และต้องการจะบอกอะไรผม

“สตังค์...นี่เรากำลังพูดถึงอะไรอยู่”

“ไม่...ไม่มีอะไรหรอก ตังค์..อึก.ตังค์แค่เสียใจที่พี่ทำเหมือนตังค์ไม่มีค่าอะไรเลย ขอโทษนะ...ตังค์จะไป...ไปอาบน้ำ” สตังค์พูดเสียงสั่นพลางส่ายหน้าไปมาราวกับหยุดไม่ได้ท่ามกลางหยาดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย ไหล่เล็กเปลือยสั่นสะท้านจนผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะเบาๆ สตังค์เงยหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมองผม เด็กคนนั้นร้องไห้หนักขึ้นทั้งที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรออกไปเลยแม้แต่คำเดียว

“สตังค์...ถ้าเราไม่พูด พี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเราเป็นอะไร หรือกำลังคิดอะไรอยู่” ถึงตอนนี้ ผมเริ่มกำมือรอบหัวไหล่สั่นๆ นั่นแรงขึ้นจนสตังค์ทำหน้าเบ้เพราะความเจ็บ แต่สิ่งที่ผมอยากรู้และต้องรู้ให้ได้คือ น้องกำลังพูดถึงอะไร คนอื่นที่ว่าคือใคร ที่สำคัญน้องรู้อะไรมา!

“ไม่มีอะไรจริงๆ พี่อ๋อง...ปล่อยตังค์นะ ตังค์เจ็บ” สตังค์บอกเสียงเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ผมจึงรู้สึกตัวและปล่อยให้สตังค์เป็นอิสระ น้องยิ้มให้ผมครั้งหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าที่ผมถอดและโยนไปที่พื้นแทบจะทั่วทุกมุมห้อง เด็กมอปลายตัวผอมก้มลงหยิบเสื้อเชิ้ตผมขึ้นมาเตรียมจะส่งให้ ทว่าซองอะไรบางอย่างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเงินอันเล็กที่มีรอยฉีกแล้ว กลับร่วงหล่นจากกระเป๋าเสื้อของผมลงบนเตียง...   

ไม่ใช่แค่สายตาของผมที่มองจ้องลงไปที่วัตถุนั้น สตังค์เองก็เห็นมัน เด็กตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าบอกเบาๆ

“ตังค์...จะเอาไปทิ้งให้นะ”

นาทีนั้น เหมือนหัวใจผมโดนบีบ ตอนที่น้องก้มลงหยิบซองถุงยางอนามัยใช้แล้วจำนวนสองซองขึ้นจากเตียงนั้น สตังค์ไม่ได้พูดอะไรเลย กลับกันผมได้ยินเพียงแค่เสียงสะอื้นเบาๆ ในสมองของผมมีเพียงคำพูดที่ว่า จะเอาไปทิ้งให้..ดังก้องไปมาราวกับมีคนเปิดเทปกรอกอยู่ข้างหู

มันเป็นระยะเวลาเพียงชั่วเสี้ยวนาทีเดียวที่สตังค์เดินไปถึงประตูห้องน้ำ ทว่าผมกลับรู้สึกว่าตัวเองนั่งโง่อยู่ตรงนั้นเนิ่นนานเป็นชาติ น้องยกมือหนึ่งขึ้นเกาะขอบประตูห้องน้ำแล้วหันใบหน้าเล็กขาวกลับมายิ้มให้ผม



“จะทิ้งกันเมื่อไหร่ ก็บอกตังค์ล่วงหน้านะพี่อ๋อง...”



ทั้งที่น้องกำลังยิ้ม แต่ผมกลับรู้สึกว่าน้องกำลังเจ็บปวดและเสียใจที่สุดในชีวิต....   


ผมอาบน้ำแต่งตัวโดยใช้ห้องน้ำชั้นล่าง ก่อนจะขับรถออกมาจากบ้านทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ในใจรู้แค่ว่าผมไม่อยากอยู่บ้าน ไม่ใช่เพราะไม่อยากเจอสตังค์ แค่ผมยังไม่พร้อมที่จะเผชิญกับความจริง...ก็เท่านั้น

เป็นวันแรกที่ผมขอบคุณการที่กรุงเทพฯ รถติดเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้สติที่หลุดกระจายไปได้ค่อยๆ รวบรวมกลับเข้ามาสู่กายหยาบอีกครั้ง โทรศัพท์เป็นสิ่งแรกที่สัญชาตญาณสั่งให้ผมหยิบออกมากดไล่ดูเบอร์อย่างเหม่อลอย ตอนแรกเบอร์ไอ้ทีม เป็นสิ่งแรกที่ผมคิดจะติดต่อไป ทว่ามโนธรรมที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดก็เตือนให้รู้ว่าตอนนี้มันกำลังสวีทหวานอยู่กับแฟน

ปลายนิ้วผมเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ชื่อของกระเทยสาวนางหนึ่ง...และกดโทรออก รอไม่นานนัก ปลายสายก็กดรับด้วยเสียงไม่พอใจนัก

“เพ่ย อยู่ไหน”
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 14!เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 !! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 09-03-2011 13:38:35

((ฉันอยู่ไหนแล้วแกจะทำไมยะ)) ปลายสายแว๊ดๆ ใส่ผม สงสัยจะโทรไปผิดเวลาไปสักหน่อย แต่นาทีนี้ผมแค่ต้องการใครสักคนที่จะช่วยเหลือผมได้ จะผิดเวลาหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่ผมให้ความสนใจในตอนนี้

“ออกมาเจอกันหน่อยสิ ที่ห้างxx ก็ได้”

((ฉันอยู่ปิ่นเกล้า แกจะให้ฉันถ่อไปหาถึงบางนาเหรอ อีสมองไม่ทำการ!))

เอ้า...กูจะรู้มั้ยนี่ ก็เห็นบ้านอยู่กระเถิบไปทางนั้น จะรู้ได้ไงว่ามาร่อนอยู่แถวปิ่นเกล้า

“งั้นเจอกันที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็ได้ เดี๋ยวอ๋องเลี้ยงข้าวเลย”

((...ราเมนน่ากินจังเลย...))

“เออๆ อาหารญี่ปุ่น” ผมเริ่มปวดหัวจี๊ดอย่างไรชอบกล รู้จักกับเพ่ยเพ่ยมาจะสิบปีแล้ว มันนะ มุขนี้ตลอด

((อุ๊ยตายแล้วอ๋อง...ฉันเพิ่งรู้ว่าร้านเค้กที่อยู่ตรงชั้นสามมันทำใหม่แหละ เค้กน่ากิ๊นน่ากิน)) เสียงแหลมของมันดังลอดสายมาอีก

“เออ เลี้ยงขนมหวานด้วย!! ใส่ห่อกลับบ้านด้วยเลย”

((โอเคจะเบบี๋ งั้นเดี๋ยวเพ่ยไล่กิ๊กหมายเลขสองกลับบ้านก่อนละกันนะ ถึงแล้วโทรมาอีกทีละกัน))

“ได้ ไม่เกินสิบห้านาที เดี๋ยวอ๋องโทรหา” ผมกดวางโทรศัพท์แล้วตบไฟขอทาง เตรียมเบี่ยงเข้าเลนขวาเพื่อเตรียมจะยูเทิร์นรถกลับไปทางสะพานพระปิ่นเกล้า

เพ่ยเพ่ย หรือพังเพย เป็นสาวประเภทสองหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมรู้จักและสนิทด้วย มันเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยผมหัวเกรียนเรียนมอต้นอยู่เลยครับ ถึงตอนช่วงมัธยมปลาย มันจะออกไปเรียนสายอาชีพเพราะความไม่ถนัดทางสายสามัญ แต่มันก็ไปได้ดี และตอนนี้เปิดร้านเหล้าอยู่แถวๆ ถนนข้าวสาร กิจการก็ไปได้ดีมากพอสมควร

ถึงนานๆ จะเจอกันสักที แต่เพ่ยเพ่ยก็เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องผมกับสตังค์อย่างละเอียด ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผมต้องการจะเจอหน้าในตอนนี้



“อ๋อง!” เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นบนสุดของห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ทำให้ผมสาวเท้าเร็วๆ เดินตรงไปทางนั้น เพ่ยเพ่ยนั่งสวยรออยู่ก่อนแล้ว ถึงผมจะชอบแกล้งแซวว่าเป็นสาวไม่แท้ สาวเทียมหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เพ่ยมันก็เป็นคนที่รู้จักดูแลตัวเอง ผิวพรรณพ่อแม่ให้มาขาวก็เป็นกำไรหน่อย แต่ความเนียนเนี่ยได้มาจากครีมที่มันพยายามทาบำรุงตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเป็นตัวช่วยเสริม จนตอนนี้มันสวยจนผู้หญิงหลายๆ คนยังอาย

“โทษทีนะ ไม่รู้จะโทรหาใครแล้ว” ผมบอกเสียงอ่อย เพ่ยมันทำหน้าเชิดขึ้นแบบรู้ทัน

“ทำเหี่ยวแบบนี้เมียขอเลิกเหรอยะ อ๋อง”

ผมสะอึกไปเล็กน้อย มือที่เอื้อมไปรับชาเขียวเย็นๆ มาจากพนักงานก็วางแก้วลงบนโต๊ะอย่างหมดแรง

“ไม่ใช่แบบนั้นเว้ย คือ....”

“เดี๋ยว ฉันสั่งราเมนเทมปุระไป แล้วก็อย่างอื่นอีกนิดหน่อย แกจะเอาอะไรเพิ่มก็สั่งเองนะ” ผมส่ายหน้าให้แทนคำตอบ เพ่ยมันเลยถามต่อ “แล้วแกเป็นอะไร ร้อยวันพันปีไม่โทรหา ทีวันนี้ฉันมีนัดกับเด็กในสังกัด แกดันโทรมาขัดจังหวะได้”

“คือเมื่อตอนกลางวัน หลังจาก...เอ้อ...” ผมอึกอัก โต๊ะข้างๆ มันใกล้มากครับ ไม่กล้าพูดดัง

“ฟีทเจอริ่ง” เพ่ยต่อให้

“เออนั่นแหละ สตังค์หยิบเสื้อให้อ๋องไง แล้วทีนี้ซองถุงยางมันก็...หล่นลงมา”

“มันจะแปลกอะไรวะ ก็แค่ซองถุงยาง แกทำกับน้อง ไม่ใช้ถุงยางรึไง” มันยังไม่เข้าใจครับ ต้องให้กูบอกมั้ยนี่ ว่าเมื่อเช้ากูไปฟีทเจอริ่งกับคนอื่นมาแล้วเมาอากาศมากไปหน่อยจนเผลอทิ้งไว้ในกระเป๋าเสื้อเนี่ย

“มันเป็นซองเปล่าที่มีรอยฉีกไงเข้าใจมั้ยเพ่ย คือน้องอึ้งไปเลย อ๋องแบบ....” ผมพูดไม่ออก รู้ว่าตัวเองอยากพูดอยากอธิบายทุกอย่างออกมา แต่เหมือนคำพูดมันจุกติดอยู่ตรงคอ ผมยกมือขึ้นทึ้งหนังหัวตัวเองแบบไม่ได้ดั่งใจจนคนที่โต๊ะข้างๆ หันมามอง

“อีอ๋อง แกช่วยทำตัวให้เป็นมนุษย์ปกติหน่อย นั่งดีๆ ฉันอายคนรอบข้าง” เพ่ยหันมาดุ “สรุปคือ แกโทรให้ฉันมาเจอเพื่อที่จะเล่าวีรกรรมเลวส่วนตัวให้ฟังว่าอย่างนั้นเถอะ”

“เฮ้ย ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าแค่นั้นอ๋องคงไม่โทรตามเพ่ยหรอก แต่นี่สตังค์อยู่ๆ ก็ร้องไห้แล้วถามประมาณว่า อ๋องรู้สึกยังไง เวลาที่จูบหรือมีเซ็กส์กับน้อง มันต่างกับที่อ๋องมีกับคนอื่นรึเปล่า” ผมบอกยาวแล้วถอนหายใจเฮือก ผิดกับที่เพ่ยเพ่ยทำตาโตจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าแทนคำตอบ

“แล้วแกตอบน้องไปว่าไงยะ”

“ก็...ไม่ว่าไง ถามไปเฉยๆ ว่าสตังค์อยากพูดอะไรกั....” ผมยังพูดไม่ทันจบ เพ่ยมันก็แทบจะกรี๊ดออกมาแล้วชี้หน้าผม ก่อนจะทิ้งตะเกียบที่คีบซูชิอยู่ลงกับโต๊ะ

“อีอ๋อง!! ตอนเด็กๆ แม่ผสมหญ้ากับนมให้กินเหรอยะ อีปลวก โอ๊ย ฉันไม่รู้ว่าจะด่าแกว่าอะไรเลย อีโง่ โง่ โง่ โง่ โง่ นี่แกสาบานได้นะ ว่าแกโตมาด้วยข้าวไม่ใช่หญ้า!!!”

“อะไรวะ” ผมงง เพื่อนกูแน่รึเปล่า ด่าผมไม่หยุดตั้งแต่เจอหน้าแล้วเนี่ย

“แล้วน้องพูดว่าอะไรอีก แกเล่ามาให้หมดนะ”

“ก็....ตอนที่ถุงยางหล่น น้องก็พูดนิดนึง...บอกว่าจะเอาไปทิ้งให้ แล้วก็จะทิ้งกันเมื่อไหร่ก็ให้อ๋องบอกน้อง.....” พูดถึงตรงนี้ อารมณ์ผมก็เริ่มหม่นอีกครั้ง หัวใจเหมือนโดนเขย่าจนผมตั้งตัวไม่ได้ เพ่ยลุกขึ้นโน้มตัว เอามือสองข้างมาจับหัวผมแล้วเขย่าแรงๆ จนผมตกใจร้องลั่น “เฮ้ยๆๆ ทำอะไร เพ่ยปล่อย เฮ้ย”

“อีโง่ จั๊ดง่าววววววววว แกมัน..อร๊ายยยยยยยย ฉันไม่รู้จะด่าเป็นภาษาอะไรถึงสาสมกับความโง่ของแกเลยจริงๆ ผู้ชายมันเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ฉันล่ะปวดกบาล”

“เอ้อ...เผื่อลืม เพ่ยก็เคยเป็นผู้ชายมาก่อน” ผมแย้งเบาๆ แล้วลูบหัวตัวเองเบาๆ เมื่อเพ่ยเพ่ยมันยอมปล่อยมือและเลิกประทุษร้ายผม

“กรี๊ด ฉันมีสามัญสำนึกย่ะ ฉันเลยกลายมาเป็นเพ่ยเพ่ยสุดสวยแบบทุกวันนี้” พูดแล้วก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง “ฉันต้องตั้งสติก่อน อยากจะบ้า ไม่เคยคิดเลยว่าเค้าให้เกียรตินิยมกับคนที่ทั้งโง่ทั้งบ้า ขี้เหล้า ขี้หลีแบบแกด้วย”

“อ๋อง...ไม่เข้าใจน่ะเพ่ย  น้องรู้อะไรมา ดูน้องเสียใจมาก อ๋องรู้สึกผิดยังไงไม่รู้”


“แน่ล่ะที่แกต้องรู้สึกผิด ถ้าแกยังคิดว่าตัวเองเป็นคนอยู่” เพ่ยบอกแล้วถอยให้พนักงานเอาชามราเมนมาวางลงบนโต๊ะ “ถ้าให้ฉันเดา...ไม่ๆ ไม่ใช่เดา แต่น้องต้องรู้ชัวร์ว่าแกมีคนที่สองสามสี่ห้า ฉันเคยคิดว่าถ้าแกมีแฟน แกจะเลิกเจ้าชู้นะอ๋อง”

“เฮ้ย ก็ไม่ได้อยากเจ้าชู้นะเว้ย แต่อ๋องเป็นพวกไม่ชอบปฏิเสธคน” ผมบอกแล้วยิ้มขำๆ แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเฝื่อนๆ เมื่อคู่สนทนาไม่ได้ขำด้วยแม้แต่น้อย กลับกันเพ่ยเพ่ยยังส่ายหน้าเบาๆ แล้วตำหนิผม

“บางทีฉันก็ไม่เข้าใจความคิดของคนเจ้าชู้นะ ว่ามันจะมีคนอื่นหลายๆ คนทำไมในเวลาเดียวกัน แกไม่รู้สึกผิดบ้างเหรออ๋อง คนๆ นึงรอแกอยู่ที่บ้านเพียงเพื่อจะได้เห็นแกกลับมาตั้งแต่หัวค่ำ ได้กินข้าวด้วยกัน นั่งคุยกัน” เพ่ยมันถามผมนิ่งๆ “ถ้าฉันเป็นสตังค์ ฉันคงเสียใจที่คนที่ฉันรักไปทำกับคนนั้นคนนี้ ทั้งที่ฉันน่ะไม่เคยยอมให้ใครได้แตะตรงนั้นนอกจากแก”

“เหล้าเข้าปากมันก็อยาก.....” ผมแก้ตัว

“เหรอ แล้วแกรู้สึกผิดบ้างมั้ยเวลาเอากับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน” เพ่ยถามพลางยกแก้วชาเขียวเย็นขึ้นจิบ

“เอ้อ...ตอนทำ มันมีความสุขอะ ไม่ค่อยรู้สึกอย่างอื่น เมาด้วย แต่พอโดนสตังค์พูดแบบนั้น....”

“ถ้าแกคิดแบบนั้น....งั้น...ก็เลิกไปสิ” เพ่ยหยุดกินทุกอย่างบนโต๊ะพลางบอกผมเสียงสนุกๆ อย่างไรชอบกล “นี่ไง น้องตังค์ไม่รู้เบอร์ฉัน แกเอาโทรศัพท์ฉันโทรไปบอกน้องเลยว่าแกอยากเลิกกับเขา”

“เฮ้ย อ๋องไม่ได้พูดแบบนั้น” ผมตกใจ รู้สึกใจหายวาบเมื่อโดนเพ่ยพูดใส่หน้าเรื่องให้เลิกกับสตังค์

“อ้าว แกจะรั้งไว้ทำไม ก็บอกไปสิว่าแกไม่ชอบที่สตังค์พูดเรื่องการที่แกจะไปฟีทกับคนอื่น เพราะมันทำให้แกรู้สึกไม่ดี โทรไปเลยอ๋อง บางทีน้องก็คงรอให้แกบอกเลิกเองอยู่เหมือนกัน”

“อ๋อง..ไม่ได้อยากเลิกกับสตังค์” ผมตอบเสียงเบา ยอมรับว่าไม่มั่นใจกับคำพูดของตัวเองเท่าไรนัก ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเด็กคนนั้น ไม่รู้ว่าชอบ ไม่ชอบ รัก หรือไม่รัก อาจจะเห็นว่าสตังค์เป็นแค่เด็กมัธยมปลายที่มารังควาญชีวิตผมไปวันๆ ไม่ก็อาจจะรู้สึกว่าสตังค์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผมขาดไปไม่ได้

แต่ถึงกระนั้น...การที่มีผมมีสตังค์อยู่ในชีวิตอย่างทุกวันนี้ มันก็กลายเป็นความเคยชินที่ผมกล้าพูดได้ว่า....มันลงตัวแล้ว

“แกแน่ใจเหรออ๋อง แกไม่รักก็ปล่อยน้องไปสิ ให้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่า ฉันแนะนำคนดีๆ ให้น้องได้นะ แกไม่ต้องห่วงหรอก รับรอง น้องจะมีความสุขจนลืมผู้ชายหน้าตาดีแต่สันดานเหี้ยอย่างแกไปเลย” เพ่ยมันพูดแล้วก็ยิ้มหวานโชว์ฟันเขี้ยว

ผมรู้สึกเหมือนทำหัวใจหล่นเอาไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่ประสาทหูซึมซับประโยคของเพ่ยเพ่ยมา ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป แต่บอกได้คำเดียวว่าผมรู้สึกอยากหยุดหายใจเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนที่นึกถึงเวลาที่ต้องบอกเลิกและมีชีวิตอยู่โดยไม่มีสตังค์อีกต่อไป...


เล็กซัสสีบรอนซ์เงินค่อยๆ ขับเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานบ้านอย่างเคยชิน แต่คนที่มองจากข้างนอกจะรู้มั้ยว่าคนขับน่ะ รู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่างไปนานแล้ว ผมดับเครื่องและก้าวลงจากรถแบบมึนๆ ทั้งที่วันนี้ยังไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยแม้แต่หยดเดียว

ไม่ไกลเกินสายตานัก มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดสนิทอยู่ มันทำให้ผมแปลกใจค่อนข้างมาก เพราะที่บ้านไม่มีใครขับมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะสตังค์เอง รายนั้นมีปัญหาเรื่องการขับรถในที่แคบ ทำให้น้องมักจะพุ่งชนกำแพงอยู่บ่อยครั้ง ถ้าต้องขับในซอยเล็กๆ ผมจึงสั่งห้ามขับมอเตอร์ไซค์เด็ดขาด

แล้วรถคันนี้ของใคร มันเป็นสิ่งที่ผมจะเข้าไปหาคำตอบด้วยตัวเองในตอนนี้

ผมเดินเข้าไปในตัวบ้าน แม่ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นก็เอ่ยทักผมขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ไปไหนมาล่ะลูก เมื่อกี้น้องตังค์ก็ถามแม่ว่าพี่อ๋องไปไหนแล้ว...เออใช่ พรุ่งนี้น้องตังค์ชวนไปทานข้าวนอกบ้านด้วยกันแน่ะ น้องบอกรึยัง”

“พรุ่งนี้ผมไม่ว่างน่ะครับ บอกสตังค์แล้ว” ผมตอบไปเรียบๆ แล้วหลบตาแม่อย่างรู้สึกผิดในใจหน่อยๆ

“อ๋อง..อย่าหาว่าแม่ยุ่มย่ามอะไรเลยนะ ลูกทะเลาะอะไรกับสตังค์รึเปล่า” แม่ถามขึ้น ตอนที่ผมกำลังจะเดินเลี่ยงขึ้นบันได

“เปล่านี่ครับ ก็ปกติดี” ผมตอบ แอบได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจเบาๆ แต่ผมก็ไม่ได้ติดใจจะทักท้วงอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ผมอยากรู้ตอนนี้ก็คือ ใครเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ถ้าไม่ใช่แขกของแม่ คนๆ นั้นจะต้องอยู่กับสตังค์อย่างแน่นอน

ผมเดินขึ้นไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆ หนึ่งริมทางเดิน ตัวอักษรขนาดกลางเขียนอยู่บนป้ายไม้เป็นคำว่า STANG! แขวนอยู่หน้าห้องนั้น ผมยกมือขึ้นสัมผัสลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออกด้วยความอยากรู้ และยิ่งเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังลอดออกมายิ่งทำให้อะไรบางอย่างในใจผมมันเดือดขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“อ้าว พี่อ๋อง กลับมาแล้วเหรอ” เสียงสตังค์ดังทักขึ้นเมื่อผมเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ในห้องไม่ได้มีแค่น้องเพียงคนเดียว แต่กลับมีไอ้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้นั่งหน้าเป็นอยู่ด้วย ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในห้อง สตังค์ก็ลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินมาหาผม ทว่า...

“มันเป็นใคร” ตั้งใจจะให้เสียงตัวเองที่ลอดออกจากปากนั้นเป็นเพียงคำถามเรียบๆ แต่สิ่งที่ออกไปมันกลับเข้มเสียจนสตังค์ยังชะงักเท้า

“เอ่อ...นี่ชื่อพล เป็นเพื่อนของตังค์เอง”

“หวัดดีครับพี่” ไอ้เหี้ยพลอะไรนั่นมันยกมือขึ้นไหว้ ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องนอนของสตังค์

เนื่องจากบ้านของผมเป็นบ้านหลังค่อนข้างใหญ่ ทำให้ห้องๆ หนึ่งมีหน้าที่ที่ชัดเจน เช่นห้องนี้ ก็จะเป็นห้องนอน เลยไม่มีโซฟาหรือเก้าอี้นั่งใดๆ ทำให้ตรงกลางห้องที่เป็นพื้นที่ว่างนั้น ถูกสตังค์นำโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ มากางเอาไว้ บนโต๊ะนั้นมีหนังสือเรียนกางอยู่สองสามเล่ม

“พอดีตังค์จะขึ้นมอหกแล้ว..ก็เลยชวนพลมาอ่านหนังสือกัน” ประโยคหลังสตังค์เสียงอ่อยลง เมื่อเจอผมตวัดตาเข้าใส่

“แล้วห้องอื่นไม่มีจะอ่านหนังสือกันรึไง ทำไมต้องห้องนอนด้วย”

“ก็ห้องนี้ว่าง”

“ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรตังค์หรอกนะครับพี่” ไอ้พลมันขัดขึ้นเรียบๆ ผมเลยหันกลับไปมองหน้า...แม่ง ไม่ได้อคติส่วนตัวนะ แต่หน้าตามันโคตรกวนส้นตีนเลย อยากจัดให้ซักดอกสองดอก

“แล้วมึงมาทำส้นตีนอะไรในห้องนอนของแฟนกู” ผมขึ้นเสียงแล้วเดินรี่เข้าไปหามัน แต่สตังค์กลับคว้าแขนผมไว้แน่น

“นี่เพื่อนตังค์นะพี่อ๋อง!”

“ถอยไป!!” ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้ผมเลือดขึ้นหน้าแล้ว ใครจะห้ามก็ต้องตัวใหญ่พอกันถึงจะรั้งผมไว้อยู่

“อ้อ พี่นี่เอง พี่อ๋องที่เลิศที่สุดในปฐพี เห็นสตังค์เอามาพูดให้ฟังบ่อยๆ ว่าแฟนได้เกียรตินิยมด้วย...แต่ผมก็สงสัยนะ เกียรตินิยมอะไรวะ แค่สอนเลขให้เด็กมอปลายแค่นี้กลับทำไม่ได้ จนสตังค์ต้องหาเพื่อนติวให้ ทั้งที่ก็สอบตก ซ่อมแล้วซ่อมอีก” ไอ้เหี้ยพลมันลุกขึ้นพูดตอกหน้าจนผมแทบจะถลาเข้าไปซัดหน้ามันลงตรงนั้น สตังค์รีบเข้ามาขวางเอาไว้ไม่ยอมให้ผมถึงตัวไอ้เหี้ยนั่น

“พี่อ๋อง พอแล้ว!! พลแค่มาติวเลขให้ตังค์เฉยๆ พี่หยุดบ้าได้แล้ว!!”

“เดี๋ยวนี้เห็นคนอื่นดีกว่าพี่แล้วเหรอสตังค์ อ้อ...พี่เพิ่งเข้าใจ ที่บอกว่าจะเลิกเมื่อไหร่ก็ให้บอกตังค์ล่วงหน้า เพราะเรามีคนอื่นแบบนี้นี่เอง” ผมโกรธจนแทบไม่รู้ตัวว่าพ่นคำพวกนั้นออกไปได้ยังไง รู้ทั้งรู้ว่าสตังค์ไม่มีใคร แต่ผมก็ยังพูดจนใบหน้าของแฟนผมนองไปด้วยน้ำตา สตังค์ส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ

“ตังค์..ตังค์ไม่ได้มีใครนะพี่อ๋อง” น้องบอกเสียงสั่น มือหนึ่งก็กำแขนเสื้อเชิ้ตของผมไว้แน่น

“แล้วไอ้เหี้ยนี่เป็นใคร!!!” ผมตะคอกลั่น สตังค์สะอื้นหนักขึ้น

“กูเป็นเพื่อนของสตังค์! มึงเลิกบ้าซักทีเถอะ!!” ไอ้เหี้ยพลมันตรงเข้ามากระชากสตังค์ที่กำลังร้องไห้ออกไปจากผม ยิ่งเห็นมันปลอบน้องเอาไว้ผมก็ยิ่งอารมณ์เสีย อยากจะเข้าไปชกหน้ามันแทบบ้าตาย แต่สิ่งที่ผมทำกลับตรงกันข้าม

ประตูห้องถูกผมกระชากเปิดแล้วปิดมันลงดังปังใหญ่ ผมเข้าไปในห้องนอนที่อยู่ติดกัน หยิบเสื้อผ้ายัดลงกระเป๋าเดินทางใบที่เตรียมเอาไว้จะไปทะเล โมโหจนหน้ามืด ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหยิบเสื้อหรือกางเกงตัวไหนไปบ้าง

แค่อึดใจเดียวผมก็ได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมด ผมเดินสะพายกระเป๋าออกมาจากห้อง สตังค์ยืนหน้าซึมรออยู่ที่ระเบียง มีไอ้เหี้ยพลยืนอยู่ห่างออกไปไม่มาก

“พี่อ๋อง...ตังค์ขอโทษนะ พลเป็นเพื่อนของตังค์จริงๆ ตังค์แค่...แค่...”

“ถ้าจะหาคนติวเลขก็ไม่เคยบอกกันซักคำ เห็นพี่เป็นอะไร ถอยไปได้แล้ว พี่จะออกไปค้างบ้านเพื่อน” ผมพยายามกดเสียงไว้ให้นิ่งที่สุด พยายามเดินเบี่ยงเลี่ยงสตังค์ที่ยังยืนนิ่งน้ำตานองอยู่ตรงนั้น

“พรุ่งนี้วันครบรอบของเรานะ พี่จะกลับมาหาตังค์ใช่มั้ย”

ผมชะงักฝีเท้าเล็กน้อยกับประโยคนั้น แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ผมที่กำลังโมโหเลือกที่จะเดินออกไปสตาร์ทรถโดยปราศจากคำพูดใดๆ


“เฮ้ยพี่ พอแล้วเหอะ เดี๋ยวก็เมาชิบหาย ขับรถไม่ไหวหรอก ผมขาเดี้ยงอยู่ ขับให้ไม่ไหวนะ”

“เหี้ยไกด์..กูเป็นแฟนที่แย่มากเหรอวะ” ผมถามกลับพลางดึงกระป๋องเบียร์หลบการแย่งชิงของไอ้ไกด์

“ทำไมอะ พี่ล่มปากอ่าวบ่อยเหรอ”

“พ่อมึงสิ” ผมด่า มันเลยหัวเราะออกมาแล้วเลิกบอกให้ผมเลิกกินเบียร์ที่อุตส่าห์แวะซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ สองลัง กะว่าลังหนึ่งจะเอาไปเมากันพรุ่งนี้ อีกลังซัดแม่งที่นี่ให้หมดเลย

“กูก็ยอมรับนะเว้ย ว่ากูเอากับคนอื่นด้วย แต่กูก็ไม่เคยเรียกใครว่าแฟน...อึก...” ผมสะอึกกับคลื่นลมที่ตีตื้นขึ้นมาในคอนิดหน่อย ไอ้ไกด์มันพยักหน้ารับคำ ผมจึงพูดต่อราวกับคนไม่มีสติ “กูมันแย่ใช่มั้ย ที่ลืมซองถุงยางใช้แล้วไว้ในกระเป๋าเสื้อจนแฟนจับได้”

“เอ่อ...ผมว่าพี่ผิดประเด็นว่ะ” เชี่ยไกด์เริ่มแย้ง

“ตรงไหนวะ ไหนมึงบอกซิไอ้น้อง” ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมึนๆ ตอนที่ถามมัน

“มันไม่ได้ผิดที่พี่ซกมกลืมซองถุงยางใช้แล้วไว้ในกระเป๋าเสื้อ ต่อให้พี่ลืมเซ็กส์ทอยมีคราวเหนียวๆ ไว้ในรถมันก็ไม่ใช่ประเด็น เรื่องมันอยู่ที่พี่ไปมีอะไรกับคนอื่นทั้งที่พี่มีแฟนแล้วต่างหาก”

“อืม.....ก็กูเมา กูก็อยากเอาหมดแหละ”

“เฮ้ย งั้นอย่าเมาใกล้ๆ ผมนะ”

“อึก...กูก็เลือกหนังหน้าบ้าง” ผมตอบพลางหัวเราะ เชี่ยไกด์มันเลยทำปากขมุบขมิบบ่น ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มเพียวๆ อีกครั้ง “น้องพูดเหมือนกูกำลังทำร้ายเค้าอยู่...น้องร้องไห้ตอนที่จูบกูด้วย”

“เดี๋ยวนะ คำก็แฟน สองคำก็น้อง แฟนพี่นี่ใครเนี่ย ใช่เด็กคนที่มาที่โรงพยาบาลวันนั้นรึเปล่า” ไกด์มันสะกิดผมอย่างอยากรู้

“อืม...” ผมยิ้มออกมานิดหน่อยเมื่อนึกถึงเด็กคนนั้น “ชื่อสตังค์...”

“อ้อ แล้วสตังค์ที่ว่า บอกอะไรพี่ผมถึงได้มานั่งเมาหัวราน้ำแบบนี้”

“น้อง..บอกว่าถ้าอยากเลิกก็ให้บอก แล้ววันนี้..อึก น้องยังพาไอ้เหี้ยที่ไหนไม่รู้ มานั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องนอนด้วย...อืม”

“แล้วพี่หึงเหรอ” ไอ้ไกด์มันยิงคำถาม...นี่มึงเรียนสถาปัตย์หรือนิเทศฯ วะ สัมภาษณ์กูอย่างกับเป็นนักข่าว

“กู..ไม่รู้ว่ะ แค่ไม่พอใจ..อึก ที่น้องปกป้องมันมากกว่าจะสนใจกู...อึก” ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง แต่ก็ต้องสบถด่าออกมาเมื่อมันไม่เหลือให้กินสักหยด ผมจึงหันไปคว้ากระป๋องใหม่มาเปิดท่ามกลางเสียงห้าม(แต่ทำอะไรไม่ได้)ของไอ้ไกด์

“พี่อาจจะไม่ได้รัก แค่หวงก้างรึเปล่าวะพี่อ๋อง”

“แต่กูก็รู้สึกเหมือนโลกจะถล่ม ตอนที่กูนึกถึงว่ากูต้องอยู่โดยไม่มีเด็กคนนั้นมาเดินต้อยๆ รอบๆ กู...หึหึ พี่มึงบ้าไปแล้วว่ะไกด์ ส่งกูเข้าศรีธัญญาเถอะ” ผมพึมพำบอกมัน ไอ้ไกด์หัวเราะออกมา แล้วบอก

“งั้นพี่ก็ควรจะดูแลแฟนพี่ให้ดีที่สุด”

“พรุ่งนี้ไอ้น้องเหี้ยของกู มันชวนไปทะเล...แต่พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบสองปีของกูกับแฟน”

“ห๊ะ? สองปีแล้วเหรอวะพี่ ทำไมพวกผมไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย”

“หึหึ...ให้พวกมึงรู้ แฟนกูก็โดนลวนลามหมดสิวะ” ผมตอบเจื้อยแจ้วราวกับไม่รู้สึกตัว...จะว่าไม่รู้สึกก็คงเกินไป ไม่อย่างนั้นคงไม่มีปัญญามานั่งเล่าเรื่องให้คุณๆ ฟังกันแบบนี้จริงไหม ผมรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไร แค่รู้สึกเหมือนสมองตัวเองกำลังประมวลผลผ่านกระจกฝ้า มันไม่แจ่มใสเสียทีเดียว ติดจะมึนๆ เสียด้วยซ้ำ

“งั้นทำไมพี่ไม่อยู่กับแฟนอะ ทะเลไปเมื่อไหร่ก็ได้”

“ไม่เอา กูอยากพักผ่อนบ้าง”

“เฮ้ยพี่ ผมว่าบางทีพี่ก็ควรจะเสียสละตัวเองเพื่อคนที่รักพี่บ้างนะ”

“หึหึ มึงแม่งเหมือนศิราณีเลยว่ะไกด์ แต่ก็ตลกที่มึงไม่มีแฟน” ผมเยาะเย้ย ไอ้เชี่ยไกด์แกล้งทำเสียงฮึดฮัดนิดหน่อยตอนที่ตอบผม

“ไม่ใช่ไม่มี แต่คนที่ใช่ยังไม่ผ่านมา”    

ผมหัวเราะหึหึ กับคำพูดเสี่ยวๆ ของมัน

“เหี้ยไกด์” ผมเรียกมัน

“อะไรพี่” มันถามงงๆ ผมเลยกวักมือเรียกให้มันชะโงกหน้ามาใกล้ๆ เนื่องจากขามันเดี้ยง ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้ดังใจต้องการ ไอ้ไกด์มันก็แสนดี ชะโงกหน้ามาหาผมอย่างว่าง่าย


“กูจะอ้วก”




เจอกันตอน 15ค่ะ


eiizes’s talk

ตอนนี้และตอนหน้าเป็นเรื่องราวของพี่อ๋องและน้องตังค์นะคะ

จริงๆ จะไม่อ่านก็ไม่มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่ แต่เรื่องของพี่อ๋องเป็นส่วนเติมเต็มและเล่าเรื่องราวของทีมฝุ่นในมุมมองของคนอื่นดูน่ะค่ะ แหะๆ

เร็วๆ นี้จะมีนิยายเรื่องใหม่ของไอซ์นะคะ แต่อาจจะไม่ได้ลงที่นี่ เพราะนางเอกไม่ใช่ผู้ชาย 555

ไว้เขียนเสร็จและลงเป็นที่เรียบร้อยจะแอบมาแจ้งข่าวนะคะ ฮี่ๆ เผื่อใครอยากลองอ่านเนอะ (ถ้ามี 5555)

ขอบคุณที่อ่านมาจนบรรทัดนี้นะคะ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 09-03-2011 14:19:05
ได้อ่านถึงตอนนี้แล้วเข้าใจอารมณ์ผู้ชายเลยอ่ะ  มีแฟนแต่ก็มีอะไรกับคนอื่นได้
โดยที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกผิดอะไร สงสารน้องตังค์  :m15:


นิยายเรื่องใหม่ จะ ชาย-ชาย หญิง-ชาย หรือ หญิง-หญิง เค้าก็จะติดตามค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 09-03-2011 14:34:44
สงสารสตังค์ว่ะ
ชิงบอกเลิกแม่งก่อนเลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 09-03-2011 15:03:43
ทำตัวแย่ว่ะพี่อ๋อง โคตรแย่เลยยย

สงสารน้องสตังค์จิงๆอ่ะ

เจอถุงยางที่ใช้แล้วต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่เพิ่งมีไรกับแฟนนี่นะ

เดี๋ยวก้อยุให้พล จีบซะเลย แค่ชื่อก้อหล่อแล้ววุ้ยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-03-2011 15:10:56
สตังค์ บอกเลิกเลย คนนี้ต้องโดนก่อนค่อยจะรู้สึก
ไม่งั้นสตังค์ นายจะต้องคอยตามนิสัยแย่ๆแบบนี้ตลอดไป เจ็บปวดจะตายT^T
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-03-2011 15:19:31
ดีนะที่เป็นตังค์  ถ้าเป็นเรานะจะเอาทีนลูบหน้าแมร่งเลย  หยามกันขนาดนี้ยังจะมีหน้ามาฉุนเฉียวใส่อีก  เลวววววว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 09-03-2011 15:26:08
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-03-2011 15:39:13
เค้าจะร้องไห้อ่า สงสารสตังค์มากเลย :monkeysad:
ผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์กับแฟนตัวเองนี่แย่มากๆเลยอะ :fire:
ถ้ารักแล้วมันเจ็บแบบนี้ เลิกเลยดีกว่ามั้ย ดูอิพี่อ๋องก็ไม่ค่อยสำนึกผิดเท่าไหร่
เผื่อเลิกกันไปแล้วจะได้ตาสว่างขึ้นมาบ้าง ว่าที่ตัวเองทำมันแย่ขนาดไหน
อ๊ากกก อินมากๆๆๆๆๆๆ เกลียดผู้ชายแบบนี้ที่ซู้ดดดดดด :angry2:
+1 ขอบคุณค่า กอดๆน้องตังค์กะไอซ์ด้วยจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 09-03-2011 16:04:40
คำเดียวสำหรับอ๋อง  
เลว

ต่อให้รักยังไง แต่ชั่วๆแบบนี้ก็ไม่เอาไว้ทำพ่อหรอกค่ะ!!! :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 09-03-2011 18:19:52
แบบว่าพี่อ๋องเลวอะ ไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนเลวๆ โดยเฉพาะถ้ามันไม่ใช่ตัวหลัก เหอะๆ ตรงไปป่าวอะ แหะๆ เค้าขอโทษ

แบบว่าถ้ามีตอนหน้าขอให้สตังค์ทิ้งอีพี่อ๋องได้ปะ จะได้สะจายยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 09-03-2011 21:57:09
หมั้นไส้อีพี่อ๋องค่ะ... คิดแบบนี้ได้ แย่มากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-03-2011 00:40:38
ถ้าพี่อ๋องยังไม่เลิกทำตัวแบบนี้

พี่ก็ไม่มีสิทธิไปว่าอะไรสตังค์หรอก

ตัวเอง อยากก็เอาน้อง น้องไม่อยู่ก้หาเอาแถวๆนั้น

แค่น้องนั้งอยู่กับคนอื่นทำมาเป็นหึง อย่าเปลี่ยนเรื่องขอร้อง เอาตัวเองให้เคลีย์

สตังค์ไม่ผิดเลยย บริสุทธ์ใจ โอเค๊
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: katook ที่ 10-03-2011 01:02:48
เลิก.... ให้มันรู้ กันไปเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 10-03-2011 01:54:17
อ่านถึงตอนเจอซองถุงยางกับคำพูดของสตังค์


อยากเอาไข่เน่าปาหน้าอิอ๋อง
คือ จะเป็นรองเท้าก็ยังเสียดายเพราะใช้ประโยชน์ได้ 

หรือเราเอาขยะปาหน้าจะดีกว่า 
ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทราค่ะน้องสตังค์ หาเอาใหม่เหอะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 10-03-2011 02:18:29
พี่อ๋องแย่อ่ะ
บอกตรงๆว่า แย่
คงกินหญ้าแทนข้าวบ่อยๆ
น้องพูดชัดเจนแบบไม่ต้องใช้นิ้วโป้งคิดก็รู้ว่าพี่น่ะแย่
ทำไมต้องเอาไปถามให้คนอื่นด่าอีกยืดยาว
ไม่ไหว โฮๆๆๆๆ
เลิก!!!  น้องสตังค์ ..... เลิก!!!!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 10-03-2011 02:28:29
สงสารสตังค์ครับ   โอ๋ๆๆๆๆไม่ร้องนะครับ :กอด1: :กอด1:



เลิกไปเหอะสตังค์  เดี๋ยวก้อหาใหม่ได้  อย่าได้แคร์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: annis204 ที่ 10-03-2011 07:36:09
สงสารสตังค์อ่ะ คงจะรักอ๋องมาก ไม่ก้อมีอ๋องเป็นคนแรก
เลิกไปเถอะ อย่าไปยึดติดเลย ยิ่งอยู่ก้อยิ่งเจ็บอ่ะ ไม่มีประโยชน์
ไปคบกับคนที่เห็นเราสำคัญที่สุดดีกว่า รักกัน คบกัน แต่ดันไปมีอะไรกะคนอื่นได้
ถ้าลองสตังค์ทำบ้าง อ๋องจะเป็นยังไง เอ...สตังค์ก้อน่าจะลองดูนะ
อย่าลองนะสตังค์ พี่ล้อเล่น พี่ก้อพูดไปงั้นแหละ แหะ แหะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 10-03-2011 10:37:07
สงสารน้องสตังค์อ่ะ พี่อ๋องดีกับคนอื่น แต่กับแฟนตัวเอง ห่วยมาก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-03-2011 10:37:30
รอตอนต่อไป^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 10-03-2011 11:31:12
สงสารน้องตังค์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 10-03-2011 11:36:02
เค้าไม่ได้อ่านอ่ะอ่านคอมเม้นต์แล้วไม่กล้าอ่านเลย กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอข้ามๆๆกลัวปวดใจ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 10-03-2011 22:48:02
ไอ้พี่อ๋องครับ มาให้กระทืบทีเถอะ
 :z6:

น้องเค้าแคร์แกขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึกอีกเร้อออออ
ไอ้..ไอ้คนเห็นแก่ตัว
อย่าอยู่เลยเถอะ ปล่อยน้องเค้าไปซะ ถ้าไม่ปรับปรุง  :z3:

อินแล้วจากไป
รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 10-03-2011 23:56:20
เชี่ยพี่อ๋อง เห็นแก่ตัวว่ะ
 :beat: :beat: :beat:
สงสารน้องตังค์มาก ที่อดทนก็เพราะรัก ที่ยอมก็เพราะรัก
ที่ทำเป็นเหมือนคนโง่ หูหนวก ตาบอดก็เพราะรัก เชี่ยพี่อ๋องไม่เข้าใจหรอคะ
พี่มีหัวคิด แต่ไม่มีหัวใจหรอ เรื่องยากๆคิดออก ทำได้ แต่กับเรื่องง่ายๆนี่โง่นัก

อารมณ์ขึ้นสุดๆ  :fire:
พี่อ๋องลองคิดดูดีๆนะคะ เรื่องของใจก็ใช้ใจคิดนะคะอย่าใช้หัว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 11-03-2011 00:05:45
 :z6:อ๋อง
 :กอด1:สตังค์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-03-2011 09:49:07
ชะแว๊บเข้ามาดูหน่อย^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 11-03-2011 14:43:25
คำเดียวสำหรับอ๋อง 
เลว

ต่อให้รักยังไง แต่ชั่วๆแบบนี้ก็ไม่เอาไว้ทำพ่อหรอกค่ะ!!! :fire: :angry2:
+ 1  ให้จากใจเลยครับ
อย่าไปมีใจให้กับไอ้คนพรรค์นี้เลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 11-03-2011 15:50:57
อ่านไปก็ทั้งสงสารกับเห็นใจน้องสตังค์อ่ะ
พี่อ๋องแม่งเห็นแก่ตัวว่ะถ้าเป็นเราน่ะเลิกไปแล้ว
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: arebaba ที่ 11-03-2011 16:19:00
ทีมน่ารักมาก ถึงมากที่สุด

ฝุ่นโชคดีจริงๆที่เจอผู้ชายอย่างทีม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 14!! เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน...♥ [09/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 11-03-2011 16:33:42
อยากกระโดดถีบหน้าอิพี่อ๋อง
สงสารน้องสตังค์...
ชิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 11-03-2011 21:37:01
15


เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน (อ๋องกับสตังค์ ตอนต่อ)




สรุปก็ไม่ใช่ผมที่เป็นคนขับรถ ไอ้ไกด์มันโทรตามไอ้บอล เพื่อนสนิทมันอีกคนให้มาขับแทนผมที่นอนพังพาบด้วยความมึนและแฮงค์ขั้นสุด โชคดีหน่อยที่รถของผมคันค่อนข้างใหญ่ ไกด์มันก็เลื่อนเบาะให้ตัวเองสามารถเหยียดขาหักๆ แต่ก็ยังริจะไปเที่ยวต่างจังหวัด ส่วนผมเหรอครับ...ขอตัวนอนเหยียดยาวอยู่ที่เบาะหลังก็แล้วกันนะ

“นี่เฮียไปทำอะไรมา ทำไมเมาเละขนาดนี้วะไกด์”

พอกูนอนหลับตาหน่อยก็นินทาเลยนะไอ้บอล เดี๋ยวกูก็ลุกขึ้นมาอ้วกใส่หน้าซะนี่

“อ้อ ทะเลาะกับเมียน่ะ เรื่องของคนแก่อย่าได้แคร์” หึหึ...แม่งกวนตีนจริงๆ

“เมื่อเช้ากูโทรไปหาไอ้ทีมมา แม่งด่ากูใหญ่ที่โทรไปปลุกมัน”

“เดี๋ยวๆ กูว่านะ มันไม่ได้โกรธที่มึงโทรปลุกมันหรอก แต่มันโกรธที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะผสมพันธุ์ของมันมากกว่า” ไอ้ไกด์มันนินทาเพื่อนสนิทแล้วก็หัวเราะออกมา

“เออ กูก็ว่างั้น ได้ยินเสียงใครไม่รู้หงุงหงิงๆ อยู่ใกล้ๆ มันด้วย” ไอ้บอลรายงานสถานการณ์

“น้องฝุ่นๆ...สงสัยแผนไอ้ทีมจะได้ผล” ไกด์มันบอกแล้วหัวเราะเบาๆ

“แผนอะไรวะ”

“ที่จริงวันนี้เป็นวันเกิดของแฟนมันน่ะ มันเลยฉลองให้แฟนตั้งแต่เมื่อคืน แต่มึงก็รู้สันดานมัน พระจันทร์ทำงานทีไร ไอ้เหี้ยนี่อยากผสมพันธุ์ทุกที”

“เอาจริงงงงงง” บอลมันลากเสียงยาวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

“เออ ตกลงนะโมกับไอ้ปลายมารึเปล่าวะ” เสียงไกด์มันถามขึ้น จะว่าไปก็จริงของมัน ผมไม่เจอหน้านะโมกับไอ้ปลายมาตั้งแต่เจอกันที่ร้านคาราโอเกะคราวที่ไอ้ทีมมันพาแฟนไปเปิดตัว ส่วนอันดากับสิมิลันก็ไม่ว่าง ต้องอยู่ดูแลร้าน เพราะใกล้จะสงกรานต์แล้วลูกค้าก็เยอะเป็นพิเศษ

“นะโมไปเที่ยวเหนือกับที่บ้าน ส่วนไอ้ปลายแม่งไปเวิร์คที่ทรานซิลเวเนีย” บอลตอบ เวิร์คที่ว่าก็เวิร์คแอนด์ทราเวลนั่นเองครับ เด็กไทยที่อยากฝึกภาษาก็ค่อนข้างนิยมไปกัน แต่ผมว่าของแบบนี้ ถ้าไม่ขยันพูด ก็ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่นะ

“เฮ้ย ไม่ใช่แม่งได้เมียเป็นผีดูดเลือดกลับมานะ” เชี่ยไกด์ว่าติดตลก สองคนนั้นหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก


อาจเพราะเราสามคนออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า เลยมาถึงที่หมายกันเร็วหน่อย เกือบสิบโมงเองครับตอนที่ไอ้ไกด์มันหันมาเขย่าตัวผมให้ลุกขึ้น พอมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความง่วง ก็เริ่มดีขึ้นมาสักหน่อย

ไอ้ทีมมันเลือกทำเลดีจริงๆ ครับ

ทะเลสีฟ้าครามกว้างสุดลูกหูลูกตาอยู่ทางด้านขวามือของคันรถ แต่ถ้ามองออกไปทางกระจกหน้าจะเห็นเป็นภูเขาลูกโตสองสามลูกไล่เรียงซ้อนทับกัน ไอ้บอลมันเลื่อนกระจกลงให้ลมทะเลพัดเข้ามาในคันรถ กลิ่นเค็มๆ ของเกลือซัดเข้ามาเต็มที่ ไม่ห่างจากคันรถที่เริ่มชะลอลงเท่าใดนัก เป็นบังกะโลขนาดกลางตั้งอยู่หันหน้าออกไปทางหาดพอดี

“เหี้ยทีมแม่งเลือกที่พักดีชิบหาย กะให้น้องเคลิ้มแล้วจับทำเมียเลยมั้งเนี่ย” ไอ้ไกด์ยังไม่เลิกบริภาษเพื่อนสนิท

ผมเดินงงๆ ลงจากรถด้วยอาการสมองยังทำงานไม่เต็มที่ ไอ้ไกด์โชคดีหน่อยที่มันขาเดี้ยง ทำให้มันรับหน้าที่แบกขนมถุงใหญ่แต่เบาไปแทน ส่วนผมกับไอ้บอลก็ช่วยกันแบกกระเป๋าและลังเบียร์ที่เหลืออีกลังกว่าๆ ลงไปที่บ้านพัก

ไอ้ทีมยืนถือโทรศัพท์ในมือ ยิ้มหน้าแป้นรออยู่ก่อนแล้ว มันใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสามส่วนโชว์กล้ามเนื้อเต็มๆ ที่ได้มาจากการเล่นเทควันโดตั้งแต่เด็กๆ ถึงมันจะเลิกเล่นไปหลายปีแล้วแต่ไอ้น้องรหัสก็ยังหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ

“ไงมึงไอ้เดี้ยง ถ่อสังขารมาจนได้นะ” ทีมมันเริ่มปล่อยหมาออกมาทักทายพวกผมทันทีครับ ไกด์มันเลยยกมือขึ้นแจกนิ้วกลางให้แทนคำตอบรับ

“แล้วน้องฝุ่นล่ะวะ หรือมึงกลืนน้องไปทั้งตัวแล้ว” ไอ้บอลเอาบ้าง

“แหมะแหมะ เพื่อนบอล มาถึงก็ถามหาเมียเพื่อน มึงจะเป็นชู้กับแฟนกูรึไง” ไอ้ทีมบอกพลางหัวเราะหึหึ แล้วรับถังน้ำแข็งกับเหล้าอีกสองกลมไปไว้ที่ลานทรายหน้าบ้าน ผมได้ยินมาว่าไอ้ทีมมันรู้จักกับเจ้าของที่พักเป็นการส่วนตัว เลยได้ทำเลค่อนข้างดีและราคาพิเศษ

“ฝุ่นอยู่ในห้อง เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอง พวกมึงคงไม่ว่าอะไรถ้าวันนี้แฟนกูจะมึนๆ ไปสักหน่อย”

“น้องเพิ่งคลานออกมาจากท้องมึงได้สินะเพื่อน” ไอ้เชี่ยไกด์ยังไม่เลิกลากบทสนทนาเข้าวังวนกามๆ ครับ

“ไม่คุยกับพวกมึงแล้ว แฟนกูเสียหายหมด” ไอ้น้องรหัสบ่นๆ แล้วมันก็เดินมาทางผมที่ทิ้งตัวลงนั่งพักบนเก้าอี้หินหน้าบ้าน “เป็นไรพี่อ๋อง มาเที่ยวทั้งที ทำหน้าเหมือนทะเลาะกับเมียมา”

แสด นี่พวกมึงมีญาณวิเศษเหรอ ทักอะไรตรงเผงขนาดนี้ แม่งซื้อหวยถูกแบบนี้บ้างรึเปล่าวะ

ผัวะ!

“โอ๊ย เหี้ยไรวะไอ้ไกด์” ไอ้น้องรหัสมันเงียบไปแป๊ปนึง ผมเดาเอาว่าไกด์มันคงยืนพะงาบๆ ปากบอกโดยไม่มีเสียงเพราะไม่อยากซ้ำเติมแผลของผม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมอยากขอบคุณมัน

“เอ้อ...กูเข้าไปดูฝุ่นก่อนละกัน ปลุกให้ตื่นเช้าทีไร งอแงใส่ทุกที” ทีมมันพูดขึ้นมาอย่างนั้นแล้วทิ้งให้ผมนั่งเงียบอยู่ที่เดิม พอเสียงปิดประตูบ้านดังขึ้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ผมก็ดังตาม

เป็นเบอร์ของสตังค์ที่กำลังโทรหาผม...

สาบานได้ว่านี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมรู้สึกกังวลใจกับการรับโทรศัพท์ ครั้งแรกก็ตอนหนีเที่ยวครั้งแรกแล้วแม่จับได้ตั้งแต่ผมยังไม่ถึงผับด้วยซ้ำ...แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากเล่าในตอนนี้

“ว่าไง” ผมกรอกเสียงลงไปแทนคำตอบรับ สตังค์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่น้องจะถามขึ้น

((พี่อ๋องอยู่ไหนเหรอ)) สตังค์ไม่ได้ตะโกนถามหรือเสียงดังอะไรทั้งนั้น ทั้งที่สั่นแต่ดูราวกับน้องพยายามพูดให้มันเป็นปกติมากที่สุด

“พี่อยู่พัทยา” ผมตอบไปตามความจริง ไม่อยากโกหก เพราะผมว่าสตังค์เองก็น่าจะเดาได้อยู่แล้วว่าผมอยู่ที่ไหน

((ตอนเย็นพี่อ๋องจะกลับมาทานข้าวกับตังค์มั้ยครับ))

“พี่จะค้างที่นี่คืนนึง...ตังค์ทานกับแม่ไปก่อนนะ” ผมบังคับไม่ให้เสียงตัวเองสั่นด้วยความรู้สึกผิดที่อัดแน่นเต็มหัวใจ เมื่อปลายสายเริ่มสะอื้นเบาๆ ลอดมาให้ได้ยิน

((พี่อ๋อง...ตังค์..ตังค์ไม่ได้อยากถามแบบนี้เลยนะ แต่ตังค์แค่สงสัย...อึก ระหว่างวันเกิดแฟนเพื่อน กับวันครบรอบของเรา พี่ก็เลือกวันเกิดแฟนเพื่อนเหรอ..ฮึก))

“สตังค์..”

((ถ้าพี่ยืนยันจะเลือกเพื่อน เลือกคนอื่นมากกว่า ตังค์ก็คงไม่มีสิทธิ์ห้ามพี่)) สตังค์บอกเบาๆ ผมเดาอารมณ์น้องไม่ถูกเลย ((แต่เรา..จบกันนะพี่อ๋อง พอแค่นี้เถอะนะ ตังค์ทนไม่ไหวแล้ว))

“สตังค์ เราพูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า” ผมใจหายวาบกับประโยคนั้น ตังค์กำลังบอกเลิกผม...เรากำลังจะเลิกกัน

((หลายครั้งที่ตังค์ไม่อยากพูด ตังค์ไม่อยากบีบบังคับพี่ เพราะรู้ดี...ฮึก...ว่าได้แค่นี้..มันก็ดีมากแล้วสำหรับตังค์ แต่..ฮึก ตังค์เป็นแฟนพี่นะ ตังค์ขอแค่วันเดียวที่พี่จะอยู่กับตังค์บ้าง...)) น้องร้องไห้หนักขึ้น ผมยิ่งร้อนรน อยากจะกลับกรุงเทพเสียเดี๋ยวนี้

“สตังค์..ฟังพี่ก่อน มันไม่ใช่ว่าพี่เลือกใครมากกว่า แต่พี่รับปากไอ้ทีมแล้ว”

((มันไม่ใช่แค่วันนี้หรอกพี่อ๋อง...ตังค์..เหนื่อยที่ต้องวิ่งไล่ตามพี่คนเดียว)) เสียงสะอื้นดังลอดโทรศัพท์มาหนักขึ้น ผมยิ่งใจหายมากกว่าเดิม น้องร้องไห้ไม่หยุดตอนที่บอกผม ((เราจบกันแค่นี้เถอะนะ...แล้วสักวันหนึ่งพี่คงเจอคนที่พี่รักจริงๆ อย่าทำให้เค้าเสียใจเหมือนที่พี่ทำกับตังค์ ส่วนข้าวของที่อยู่ในบ้านพี่ ตังค์จะขนกลับบ้าน...ฮึก...ตังค์รักพี่นะพี่อ๋อง รักมาก และจะรักตลอดไป...))

“สตังค์!!” มันไม่ทันแล้ว สตังค์ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว ผมพยายามโทรไปอีกครั้ง แต่น้องก็ปิดเครื่องหนี จนผมหมดสิ้นทั้งแรงและความพยายาม

ผมกลายเป็นไอ้บ้าที่ทั้งโง่ทั้งเซ่อนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ม้าหินริมทะเล...หึ น้ำเน่าเป็นบ้า นี่ถ้าฝนตกหน่อยกูก็ครบสูตรเลย ผมหัวเราะให้ตัวเองเบาๆ ก่อนจะดังขึ้นและไม่คิดจะหยุดราวกับคนเสียสติ โทรศัพท์กลายเป็นสิ่งไร้ค่า ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ทะเลเพื่อจะเขวี้ยงมันทิ้ง

โทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงตกลงน้ำดังจ๋อม...เครื่องละสองหมื่นหรือสองพัน ตกน้ำมันก็พังเหมือนกัน ไม่ได้ต่างอะไรกับใจคน จะรวยหรือจนถ้าเขาไม่เอา ก็เป็นคนที่ถูกทิ้งเหมือนกัน....

“พี่อ๋อง! บ้าป่ะวะพี่” ไอ้บอลเข้ามาดึงไหล่ผมให้ถอยไปแล้วมันก็วิ่งลงไปในทะเลเพื่อควานหาโทรศัพท์ของผม “ไอ้เหี้ยทีม มึงมาดูพี่มึงหน่อยดิ๊!!”

“ห๊ะ? ห๊ะ? ใครเรียกกู เกิดอะไรขึ้น” ไอ้ทีมมันวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องพัก แล้วตรงเข้ามาหาผม “พี่อ๋องเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เกิดเหี้ยอะไรขึ้นเนี่ยเชี่ยบอล!”

ผมยกมือขึ้นสัมผัสแก้มตัวเอง น้ำอุ่นๆ ยังไหลออกมาไม่ขาดสาย หัวใจผมเจ็บร้าวจนรู้สึกเหมือนกับว่าต่อให้ใครเอามีดมาจ้วงแทงผมตอนนี้ก็คงไม่รู้สึก ผมทรุดตัวลงคุกเข่าที่พื้นทรายแล้วเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนไอ้ทีมมันก้มลงมาตบแก้มผมแรงๆ

“พี่อ๋องๆ เป็นอะไร”

“พี่อ๋องบ้าไปแล้วแม่ง พอรับโทรศัพท์เสร็จก็วิ่งเอาโทรศัพท์มาเขวี้ยงลงทะเล พังป่าววะเนี่ย” ไอ้บอลมันพูดบ่น แล้วแกะฝาหลังโทรศัพท์ผมออกดู น้ำเค็มไหลเจิ่งนองออกมา “โห...กูว่าซื้อใหม่น่าจะคุ้มกว่าค่าซ่อมว่ะ”

“เค้าเลิกกับกูแล้วทีม”

“ห๊ะ? ใครเลิกอะไรพี่ ผมงงแล้วเนี่ย ไอ้เหี้ยไกด์มึงมาขยายความให้กูฟังที”

“สตังค์บอกเลิกกูแล้ว” ผมบอกพลางจับแขนมันแน่น ไอ้ทีมตาโต มันหันไปซักเอาความกับเพื่อนสนิททันที ไอ้บอลกับฝุ่นเดินเข้ามากึ่งลากกึ่งประคองผมให้เดินเข้าไปนั่งซึมในบ้านพักก่อน ขณะที่ไกด์กับทีมยังไม่เข้ามา มันคงกำลังคุยกันให้รู้เรื่องอยู่ เสียงไอ้ทีมตะโกนงงๆ เข้ามาอยู่หลายรอบ

“พี่ไม่ลองโทรไปหาน้องดูอีกทีเหรอพี่อ๋อง” ไอ้บอลมันถามขึ้นอย่างเกรงใจ

“เค้าคงไม่อยากรับโทรศัพท์กูแล้วล่ะ”

“แล้วพี่รู้ได้ไง ว่าแฟนพี่ไม่อยากคุยด้วย” ฝุ่นเป็นคนแย้งขึ้นมาอีก

“กูรู้จักเด็กคนนั้นดีกว่าใคร ถ้าสตังค์ถึงขั้นบอกแบบนี้แปลว่าเค้าคงทนกูไม่ได้แล้ว...” ผมพูดไปก็รู้สึกถึงหยาดน้ำตาที่ไหลออกจากตาไม่หยุด หัวใจผมเจ็บเหมือนโดนค้อนหนักๆ ทุบเอาสามสี่ครั้งจนมันบอบช้ำ...แต่สตังค์ คงเป็นมากกว่าผม...หลายร้อยเท่า

บางทีผมก็สงสัย ว่าน้ำตา...มันไหลออกมาจากที่ไหนกันแน่ ดวงตาหรือหัวใจ..?



ตอนช่วงบ่ายหลังสงบใจกันได้พักหนึ่ง พวกผมตัดสินใจจะออกไปทานอาหารที่ร้านริมหาดใกล้ๆ ถึงสติจะยังกลับมาไม่พร้อมมูลดี แต่ผมก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องมากร่อยไปด้วย ยิ่งวันนี้เป็นวันเกิดของฝุ่นด้วยแล้วผมจึงรับปากว่าจะเป็นเจ้ามือให้ ให้ทุกคนสั่งได้เต็มที่ แน่นอนว่าไอ้ไกด์ก็คงเข้าใจความรู้สึกของผม...หรือไม่ก็ไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะแม่งเฮฮาขึ้นทันที สั่งอาหารไม่ยั้งจนผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดเสียแล้ว

“ทีม หยิบกุ้งเผาให้หน่อย” ฝุ่นที่นั่งตรงข้ามผมพอดี บอกแฟนมันที่สลัดคราบความเจ้าชู้ออกไปจนหมดให้หยิบให้ เพราะจานกุ้งมันอยู่กระเถิบไปทางไอ้ทีมพอดี เจ้าตัวก็ดีใจหายกระดี๊กระด๊าแกะกุ้งให้อย่างออกหน้าออกตา “ให้หยิบ ไม่ใช่แกะ พี่ไกด์จะกิน ไม่ใช่ฝุ่น”

เท่านั้นแหละ ไอ้ทีมแม่งโยนกุ้งที่ยังแกะไม่เสร็จดีใส่จานเพื่อนที่นั่งประกบฝุ่นอีกข้างทันทีครับ

“หนอยยยยย ไอ้เพื่อนเลววว” เชี่ยไกด์ร้องลั่น 

“แล้วไม่บอกล่ะ” พูดไปมันก็ทำปากยื่นใส่ แม่งสวีทกันไม่ได้สงสารคนอกหักอย่างกูเลย

“เห็นปากมึงแล้วกูอยากเอาแม็กซ์เย็บว่ะทีม” ไอ้บอลแม่งพูดขึ้น เรียกเสียงฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี ผมเองก็พาลยิ้มออกไปด้วย

“เงี้ยแหละมึง พวกมีความรัก อะไรๆ ก็หวานแหววไปหมด ดูสิน้ำทะเลยังหวานได้”

“มึงลองแล้วเหรอวะไกด์ เดี๋ยวกลับไปเอาน้ำทะลใส่น้ำแข็งเย็นๆ จัดให้แม่งซักแก้วดิ๊” ผมบอกบ้าง ไอ้ทีมยื่นมือมาแท็คด้วยทันทีครับ “กูหมายถึงจัดให้มึงนะน้องรหัส ไม่ใช่ไอ้ไกด์”

เท่านั้นแหละ ทั้งโต๊ะฮาครืน มีเพียงไอ้ทีมที่หันไปขอความยุติธรรมจากแฟนมันเสียงหงุงหงิง...

“โอ๊ย ใครโทรมาวะ โทรศัพท์สั่นอยู่ตรงตูดนี่” ไม่ใช่ใครนอกจากไอ้เชี่ยไกด์ครับ ที่ทำตัวอุบาศว์ได้ตลอดเวลา

“แทนไวเบรเตอร์ไงมึง” บอลแม่งบอกเสียงดัง แล้วก็นั่งขำ ไกด์มันกดรับโทรศัพท์แล้วก็ทำหน้างงๆ

“ครับ?...อ่อ...อยู่ครับอยู่ รอแป๊ปนะฮะ” มันบอกปลายสายด้วยเสียงค่อนข้างเรียบร้อย ทำให้พวกผมพากันอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเดิมว่าใครคือคนที่โทรมาหามัน “พี่อ๋อง แม่โทรมา”

ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่าแม่รู้เบอร์ของไอ้ไกด์ได้ยังไง แต่จะให้แม่โทรหาผมก็คงไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ลงทะเลไปแล้ว ผมรับโทรศัพท์มือถือมาจากมือที่เลอะกุ้งเผาเกือบทุกนิ้วของมัน แล้วตอบรับปลายสาย

“ครับแม่?” ผมกรอกเสียงลงไป แม่ของผมตอบรับมาด้วยเสียงที่สั่นจนรู้สึกได้ และที่สำคัญคือปลายสายกำลังร้องไห้อย่างหนักจนแทบจับใจความไม่ได้....ผมรู้สึกเป็นครั้งที่ร้อยในรอบสองวันที่เหมือนโดบทุบหัวด้วยหินหนักๆ หลายก้อนพร้อมกัน “แม่...ล้อเล่นรึเปล่า”

((รีบมาได้มั้ยอ๋อง...รีบมาได้มั้ย)) แม่พูดย้ำๆ พลางสะอื้นเสียงสั่น ผมกดวางสายท่ามกลางความเงียบของคนอื่น โทรศัพท์ของไอ้ไกด์ถูกส่งกลับคืนให้เจ้าของทั้งที่ผมยังช็อคไม่หาย ในหัวมันสับสนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก ทว่าร่างกายกลับตอบสนองต่ออาการนั้นได้ดีกว่า ผมผุดลุกขึ้นแล้วบอกพวกที่นั่งอยู่สั้นๆ ว่า

“กู..จะกลับกรุงเทพฯ”

คันเร่งของเล็กซัสคันเดิมถูกผมเหยียบจนแทบมิดขณะบึ่งรถกลับกรุงเทพฯ ขับปาดหน้าคันนั้นคันนี้บนมอเตอร์เวย์อย่างไม่คิดจะสนใจแม้กระทั่งเสียงบีบแตรที่ดังไล่หลังมา เสื้อผ้าและทุกสิ่งที่ผมเก็บออกจากบ้านถูกทิ้งไว้ที่บ้านพัก ใครจะเก็บหรือไม่เก็บไว้ให้ไม่ใช่สิ่งที่ผมกังวลแม้แต่น้อย ต้นเหตุของความกลัวทุกอย่างกำลังรออยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ...

.’..สตังค์โดนรถชนอาการสาหัส....’


   
“แฟนผม...แฟนผมโดนรถชน”     

ผมจอดรถทิ่มแม่งไว้ตรงด้านหน้าโรงพยาบาล แล้วรีบตรงเข้าไปถามพยาบาลที่ถือกระดานชาร์จเดินไปเดินมาตรงแถวๆ ผู้ป่วยที่รอหมอเรียก ดูเธอเอง
ก็ตกใจไม่น้อยที่ผู้ชายเหี้ยๆ ที่ไหนไม่รู้วิ่งเข้าไปถาม ทั้งที่ยังหอบเหนื่อยและก็โทรมจนแทบจะกลายเป็นศพอยู่แล้ว

“เอ่อ...คุณใจเย็นๆ ก่อนค่ะ ห้องฉุกเฉินอยู่ทางด้านโน้น” พยาบาลชี้ไปที่ทางเดินทางหนึ่งซึ่งมีป้าย ห้องฉุกเฉินเขียนอยู่ตัวใหญ่มาก เพียงแต่ผมรีบจนไม่ทันได้สังเกตมัน

ยังไม่ทันได้แม้แต่จะเอ่ยปากขอบคุณ ผมก็วิ่งตรงไปยังทางเดินใต้ป้าย ห้องฉุกเฉิน ทันที

สุดทางเดินสีขาวสว่างจ้าและเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์มีเก้าอี้พลาสติกสำหรับนั่งรอเรียงกันอยู่สามสี่ตัวเหมือนตามโรงพยาบาลทั่วไป แต่ภาพที่ผมภาวนามาทั้งชีวิตว่าไม่อยากเห็นก็คือ ญาติหรือแม่ของผมนั่งรออยู่ ณ ตรงนั้น...และวันนี้มันก็เป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว

“แม่...สตังค์...สตังค์เป็นยังไงบ้าง” ผมตรงเข้าไปถามถึงน้องทันที แม่ดูตกใจมากกับการที่ผมพุ่งเข้าไปจับเธอเอาไว้แบบนั้น แต่สุดท้ายแม่ของผมก็ระล่ำระลั่กออกมาทั้งที่ยังสะอื้นว่า

“หมอยังผ่าตัดน้องอยู่เลยอ๋อง...น้องจะเป็นอะไรมั้ย ฮึก...แม่ไม่น่ายอมให้น้องออกจากบ้านเลย” ยิ่งได้ฟังแม่พูดผมก็ยิ่งใจเสียและงงงวยมากขึ้น

“มัน..เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับแม่ เล่าให้อ๋องฟังได้มั้ย” ผมประคองให้แม่นั่งลง ก่อนที่จะเป็นลมต้องหามเข้าห้องพักไปอีกคน

“อึก..น้อง..อยู่ๆ น้องก็ร้องไห้แล้วเดินมาบอกแม่ ว่าเลิกกับอ๋องแล้ว..น้องจะกลับบ้าน” แม่เล่า หัวใจผมเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง “แม่ห้ามน้องเอาไว้ เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่น้องก็ขอเวลา อยากอยู่คนเดียว แม่เลย...แม่เลยยอมให้น้องออกมา”

ถึงตรงนี้ แม่ร้องไห้ออกมาหนักมากขึ้นจนผมต้องโอบให้ศรีษะของแม่มาพิงที่อกแล้วกอดไว้หลวมๆ

“แค่ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ลุงอี๊ดที่ขายโจ๊กอยู่ปากซอยก็ปั่นจักรยานมาบอกแม่ ว่าสตังค์โดนรถชน”

ผมโยกตัวไปมาช้าๆ แทนคำปลอบโยน ไม่กล้าพูดอะไรออกมาทั้งนั้น กลัวว่าเสียงจะสั่นจนแม่จับได้ ตอนนี้ผมเองก็เริ่มที่จะห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว ถ้าสตังค์เป็นอะไรขึ้นมา ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ถูกของเพ่ยเพ่ยและไอ้ไกด์ เรื่องทั้งหมดมันไม่ได้เริ่มที่ผมลืมซองถุงยางอนามัยไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรืออะไรทั้งนั้น

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผมไม่รู้จักพอ...

เมาแล้วอยาก ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีเลยกับการคิดจะมีเซ็กส์กับคนที่ไม่ใช่แฟนของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าสตังค์รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเมื่อวันก่อน อาทิตย์ก่อน เดือนก่อน หรืออาจจะ...ตั้งแต่ต้น

แต่จากนี้ไป ถ้าผมมีโอกาสได้ดูแลสตังค์อีกสักครั้ง ผมกล้าสาบานกับตัวเองว่าจะดูแลเด็กคนนั้นด้วยหัวใจ สตังค์จะไม่มีวันได้เสียน้ำตาเพราะความเสียใจอีกเป็นอันขาด...

“อ๋อง..”

“ครับแม่”

“ลูกเลิกกับน้องจริงๆ เหรอ”

“เคยเลิก...แต่จะไม่เลิกอีก” ผมกระซิบตอบ แล้วค่อยๆ ปล่อยแม่ออกช้าๆ “แม่โทรบอกป๊ารึยังครับ” ผมหมายถึงพ่อของสตังค์

“โทรแล้วจ้ะ พ่อของน้องตังค์กำลังขายของอยู่แต่เขาจะฝากร้านไว้กับคนอื่นแล้วมาหาน้องก่อน”

หลังจากแม่พูดจบได้แค่อึดใจเดียว ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก แพทย์คนหนึ่งเดินออกมา เขาไม่ได้ตัวอ้วนเตี้ย ใส่แว่นท่าทางน่าเกรงขามเหมือนในโทรทัศน์ กลับกัน เขาตัวสูงโปร่ง ท่าทางสมาร์ทไม่เบา หมอยิ้มให้ผมนิดๆ แทนคำทักทาย

“ขอโทษนะครับ ใช่ญาติคุณธนพัฒน์รึเปล่าครับ”

“ใช่ครับ ผมเป็นแฟนของเด็กคนนั้น” ผมรีบประคองแม่ลุกขึ้น ดูท่าว่าคำพูดของผมจะทำให้หมอตกใจนิดหน่อย แต่เขาก็รักษาท่าทีเอาไว้ได้ขณะตอบ

“คนไข้ขาหักและมีอาการกล้ามเนื้อฉีกนะครับ คงต้องให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน และตอนเกิดอุบัติเหตุศีรษะคนไข้ได้รับการกระแทกอย่างแรงจนหมดสติ เราต้องรอดูอาการอีกสักพักว่ายังมีเลือดคั่งในสมองหรืออาการผิดปกตินอกเหนือจากนี้หรือไม่..แต่โดยรวมน้องก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้วล่ะครับ”

“ผมจะเข้าไปหาสตังค์ได้เมื่อไหร่ครับ” ผมถามขึ้น

“อีกสักครู่ หมอจะย้ายน้องไปไว้ที่ห้องพักผู้ป่วยนะครับ ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพี่ก็ดูแลน้องได้ตามอัธยาศัย อ่อ...แต่ภายใต้การดูแลของหมอนะครับ” คุณหมอบอกอีกครั้ง ผมเลยเอ่ยปากขอบคุณแล้วกอดแม่ที่สะอื้นด้วยความดีใจไว้แน่นๆ

“อ๋อง” ผมหันกลับไปตามเสียงเรียก พ่อของสตังค์วิ่งหอบมาตามทางเดิน ยังไม่ถอดผ้ากันเปื้อนออกด้วยซ้ำครับ

“ป๊า...” ผมยกมือไหว้ ป๊ารีบรับไหว้ลวกๆ แล้วถามถึงลูกชายทันที

“ตังค์เป็นยังไงบ้าง แม่เราโทรหาป๊าบอกว่าตังค์โดนรถชน”

“หมอเพิ่งออกมาบอกว่าสตังค์ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก” ผมบอกเสียงอ่อยๆ รู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจ ผมเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องวุ่นทั้งหมดนี่ ป๊าของสตังค์เป็นเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ประจำตึกแถวแห่งหนึ่งในย่านท่าพระจันทร์ แกมีลูกชายทั้งหมดห้าคน ตอนแรกก็ไม่ยอมที่สตังค์จะย้ายมาอยู่ที่บ้านเพราะแฟนของผมเป็นลูกคนเล็กที่แกหวงที่สุด แต่สุดท้ายเด็กคนนั้นก็ฟังใครที่ไหนล่ะครับ สุดท้ายป๊าก็ต้องยอมเพราะความรักลูก

“ป๊า..ผมขอโทษครับ” ผมปล่อยให้แม่นั่งลงที่เก้าอี้แล้วเริ่มสารภาพบาป ป๊าเองก็งงเป็นไก่ตาแตก ไม่เข้าใจที่ผมพยายามจะบอก “ผมเป็นสาเหตุทำให้สตังค์โดนรถชน ถ้าผมอยู่กับสตังค์ในวันนี้ น้องก็จะไม่เป็นแบบนี้ ผมขอโทษจริงๆ ที่ดูแลลูกชายป๊าไม่ดีพอ”   

“อ๋องเอ๊ย...อย่าโทษตัวเองกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว เรารู้ตัวว่าทำอะไรไม่ดีกับตังค์ไปบ้าง ก็ต้องไปขอโทษสตังค์นู่นไม่ใช่ป๊า แล้วจากนี้ไปก็ดูแลสตังค์ดีๆ...โอย ขอบคุณพระเจ้าที่ดูแลลูกอั๊วไม่ให้เป็นอะไร ถือว่าฟาดเคราะห์จริงๆ” ป๊าบอกแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างเหน็ดเหนื่อย “ป๊าทิ้งร้านมาทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ แต่รถก็ติดชิบหายเลย เฮ่อ....”

“ป๊ากับแม่จะทานน้ำอะไรมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้” ผมเสนอ

“ถ้าไม่รบกวนเกินไป ป๊าขอน้ำเปล่าเย็นๆ ให้คนแก่ขี้เหนื่อยหน่อยแล้วกันนะอ๋อง” ป๊าบอกพลางยิ้มโชว์ฟันหลอให้ แกคงโล่งใจไปเยอะที่ลูกชายคนเล็กไม่เป็นอะไรมากอย่างที่คิด

“แม่ขอน้ำเปล่าก็แล้วกันจ้ะ” แม่บอกผม

ระยะทางระหว่างห้องฉุกเฉินออกไปร้านสวัสดิการที่ขายของใช้จำเป็นเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงเครื่องดื่มและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น ค่อนข้างไกลกันพอสมควร ผมก็เพิ่งเคยมาที่โรงพยาบาลนี้เป็นครั้งแรกเลยหลงทางไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ย้ายตัวเองมายืนจ่ายเงินน้ำเปล่าสามขวดและบุหรี่หนึ่งซองได้เป็นที่สำเร็จ

“มาเยี่ยมญาติเหรอคะ” เอาอีกละ...มารผจญ

ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พนักงานคิดเงินนิดหน่อย อายุน่าจะไล่เรี่ยกับผม หรือไม่ก็อาจจะอ่อนกว่า เธอแจกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ ถ้าไม่มีแฟนกูก็จะเล่นด้วยหรอกนะ แต่นี่ขอโทษด้วย ไม่มีที่ว่างให้คนมาทีหลังแล้ว...ผมเข็ด

“เปล่าครับ”

“อ้าว ถ้างั้นตรวจสุขภาพเหรอคะ?”

“เปล่าอีกเหมือนกันครับ พอดีแฟนผมประสบอุบัติเหตุเลยมาหาน่ะครับ” ผมตอบด้วยรอยยิ้ม จงใจเน้นหนักตรงคำว่า “แฟน” ให้เธอได้ยินไปชัดๆ พนักงานยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับมาแล้วไม่พูดอะไรอีก ผมจึงเดินออกไปจุดบุหรี่ขึ้นสูบมวนหนึ่งเป็นการแก้เครียด รู้สึกเหมือนมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมต้องทำ...

หลังจากหายหัวจากการรู้เห็นของป๊าและแม่ได้พักนึง ผมก็เข้าไปล้างปากในห้องน้ำเพื่อไม่ให้มีกลิ่นบุหรี่ติดและเดินกลับไปที่หน้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทว่ามีเพียงแม่ที่ยังนั่งรอผมอยู่

“แล้วป๊าล่ะครับ”

“โทรศัพท์ลูกเป็นอะไรน่ะอ๋อง แม่โทรหาไม่ติดเลยนะวันนี้” แม่แย้งถามขึ้น...เอ้อ จะโทรติดได้ไงล่ะครับผมเพิ่งปามันลงทะเลไป

“แบตหมดน่ะฮะ แล้วทำไมเหลือแม่รออยู่คนเดียว”

“เขาเพิ่งย้ายน้องขึ้นไปที่ห้องพัก แต่แม่กลัวอ๋องมาแล้วจะไม่เจอใครเลยนั่งรออยู่ที่นี่ก่อน” แม่ตอบพลางรับน้ำไปดื่ม ผมรอให้แม่ทานน้ำให้เรียบร้อยแล้วจึงรับมาถือไว้ให้เพื่อเตรียมจะขึ้นไปหาสตังค์ที่ชั้นบน

ตอนที่มาถึงหน้าห้องพักผู้ป่วยนั้น ผมยกมือขึ้นแตะลูกบิดด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนมันแทบจะกระดอนออกจากอกด้วยหลากหลายความรู้สึก ประตูห้องผู้ป่วยถูกผมผลักเปิดออกช้าๆ ไม่กล้าแม้แต่จะให้เกิดเสียง กลัวจะเป็นการรบกวนคนตัวเล็กที่ยัง(น่าจะ)หลับอยู่ในห้อง

ห้องพักผู้ป่วยพิเศษที่มีอยู่เพียงเตียงเดียวค่อนข้างกว้างมากทีเดียวครับ มีโซฟาสำหรับญาติที่มาเฝ้าอยู่อีกชุดใหญ่ๆ อีกฝั่งนึงเป็นกระจกบานสูงที่สามารถเลื่อนเปิดออกไปยืนที่ระเบียงได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากสนใจ...ผมเดินเข้าไปหาสตังค์ที่ยังนอนหลับตานิ่งหายใจแผ่วเบาเป็นจังหวะอยู่บนเตียงตรงกลางห้อง

น้องดูซีดและอิดโรยเป็นอย่างมาก ดวงตาทั้งสองข้างบวมช้ำคล้ายผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ที่แก้มและหางคิ้วแตกเป็นแผลยาว ทั้งบริเวณหน้าผากยังมีผ้าพันเอาไว้รอบ ไม่รวมบริเวณฝ่ามือที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นแผลถลอกจากการล้มลงกระแทกกับถนน ทั้งยังขาซ้ายที่หักอย่างที่หมอบอกเมื่อครู่ สายน้ำเกลือและสายอะไรต่อมิอะไรที่ผมไม่รู้จักต่างห้อยระโยงระยาง สภาพของสตังค์ในตอนนั้นทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร่างกายผมที่อ่อนล้าทรุดลงคุกเข่าข้างเตียงน้อง แล้วเริ่มร้องไห้ราวกับคนบ้า

“พี่ขอโทษสตังค์...พี่ผิดเอง....” ผมพึมพำ น้ำตาอุ่นๆ ไหลออกมาไม่หยุด ป๊าเดินมาตบไหล่ผมเป็นเชิงให้กำลังใจ

“เราต้องดีใจสิ ที่ตังค์ปลอดภัย ไว้น้องตื่นขึ้นมาก็ขอโทษน้องอีกทีนะอ๋อง” ผมครางรับคำนั้น

“อ๋อง...พยาบาลบอกว่า ตอนที่สตังค์โดนรถชน พยานที่เห็นเขาบอกว่าน้องไม่ยอมปล่อยกระเป๋าเลย ลูกลองเปิดดูหน่อยสิว่ามีอะไรสำคัญรึเปล่า” ผมค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น เช็ดน้ำตาแล้วรับกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลที่เปื้อนเลือดจนตอนนี้มันเริ่มแห้งกรังแต่ยังคล้ำเป็นดวงๆ มาจากแม่

ผมเปิดดูแล้วเริ่มค้นของภายในนั้น มีชุดนักเรียนที่พับมั่วๆ อยู่สองสามชุด เสื้อผ้าอยู่บ้าน แปรงสีฟัน และสมุดปกแข็งสีฟ้าเล่มใหญ่ที่นอนนิ่งอยู่ก้นกระเป๋า ผมหยิบของไม่คุ้นตาอันนั้นขึ้นมาไว้ในมือแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา ก่อนจะค่อยๆ เปิดมันอย่างเบามือ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 11-03-2011 21:38:49

9 เมษายน
เราเริ่มกันจากตรงไหนนะ? ทักกันที่ผับใช่มั้ย...พี่อ๋องตอนกำลังหลับหล่อมาก คบกันฆ่าเวลาอย่างที่ไอ้พี่นนท์บอกก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันนะ


จริงอย่างที่สตังค์ว่า เราสองคนเจอกันที่ผับ ผมที่ไม่มีใครกำลังยืนคุยกับเพ่ยเพ่ย และม่อสาวไปเรื่อยๆ ตามความถนัด ส่วนสตังค์ที่เพิ่งเลิกกับแฟน เริ่มเข้าคุยกันเพราะเพื่อนๆ ยุยง ตอนแรกผมก็กะจะไม่เอา แต่ตอนนั้นกำลังเมาและอยากลอง...


31 เมษายน
อยากอยู่ใกล้ๆ พี่อ๋องแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จัง มีความสุขที่สุดเลย


5 พฤษภาคม
วันนี้เป็นวันเกิดของพี่อ๋อง ไม่รู้จะให้อะไร เลยพาพี่อ๋องไปเที่ยวเขาดิน หน้าเหมือนลิงเลย คริคริ


มันเป็นของขวัญวันเกิดที่ประหลาดที่สุดที่ผมเคยได้รับ หลังจากไหว้แม่ในตอนเช้าเรียบร้อย สตังค์ก็มาหาผมในช่วงเที่ยง เพื่อพาผมนั่งรถประจำทางไปที่ๆ หนึ่งที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่าที่ไหนจนกระทั่งถึงที่...สวนสัตว์ดุสิตน่ะครับ ผมจำได้ว่าเรามีความสุขกันมาก สตังค์ยิ้มและหัวเราะเสียงดังเมื่อผมโดนอีกาทั้งฝูงขโมยขนมในมือไปจิกกินหน้าตาเฉย


9 กรกฏาคม
วันนี้พี่อ๋องพาไปทานข้าวกันสองคน เพื่อฉลองที่เราอยู่ด้วยกันมาครบสามเดือนเต็ม พี่อ๋องไม่เหมือนคนอื่นที่เคยรู้จัก เราทะเลาะกันบ้างแต่ตังค์ก็ยังอยากอยู่กับพี่อ๋องต่อไปเรื่อยๆ ... แบบนี้เรียกว่ารักรึเปล่านะ?? (เหมือนเด็กเลยอะสตังค์ เขียนอะไรเนี่ย)
   

12 สิงหาคม
วันนี้พี่อ๋องพาไปไหว้แม่ ตังค์ไม่รู้ว่าพี่อ๋องคิดอะไรอยู่ แต่แม่ก็ดูไม่ตกใจเท่าที่คาดเอาไว้ แม่ยังทำกับข้าวให้ตังค์ทานด้วย แม่ใจดีมากเลย ตังค์เองก็คิดถึงอาม๊ามากเหมือนกัน ป่านนี้จะยังสบายดีอยู่บนสวรรค์มั้ยนะ...ถ้าอาม๊ารับรู้ ตังค์ก็รักอาม๊านะครับ


วันนั้นเป็นวันแม่ ผมที่รู้มาว่าสตังค์เสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็กจึงพาเด็กดื้อเขามาที่บ้านเพื่อให้มาอยู่กับแม่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร แค่รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยากทำก็เท่านั้น
ผมอ่านข้อความในไดอารี่ของสตังค์ไปเรื่อยๆ ทุกวันของเด็กคนนั้นมีแต่พี่อ๋อง พี่อ๋อง แล้วก็พี่อ๋อง ไม่เคยมีชื่ออื่นโผล่มาให้เห็นแม้แต่ชื่อเดียว ยิ่งทำให้ผมสะอึกในใจมากขึ้น วันที่สตังค์นอนร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ผมกลับอยู่ที่ไหนกันนะ...? กำลังนอนกกใครอยู่กัน...    ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธและโทษตัวเองมากขึ้น...ผมทำผิดขนาดนี้แต่ไม่เคยรู้ตัวได้ยังไงกัน


31 ธันวาคม
ตังค์ พี่อ๋อง แล้วก็แม่จะไปเคาท์ดาวน์กันที่เชียงใหม่ ตอนแรกพี่อ๋องจะขับรถไปเพราะจะได้มีรถไว้ขับเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ แต่ตังค์กับแม่เป็นห่วงนี่นา ไม่เอาๆ ขึ้นเครื่องดีกว่า :) วันนี้ตังค์ขอพรให้แม่กับพี่อ๋องแล้วก็ป๊ากับเฮียทั้งหลายมีความสุขมากๆ โดยเฉพาะพี่อ๋อง ขอให้พี่อ๋องรักตังค์อย่างที่ตังค์รัก แล้วก็เลิกเจ้าชู้ซักทีนะ ไม่งั้นตังค์จะเฉือนทิ้งแล้วโยนให้เป็ดกินจริงๆด้วย
   

17 มกราคม
พี่นนท์โทรมาหา บอกว่าเจอพี่อ๋องที่ร้านเหล้า และเดินหายไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง....ไม่ไปไม่ได้เหรอพี่อ๋อง...ถ้าพี่อ๋องอยากมีเซ็กส์ก็บอกตังค์สิ ตังค์ให้พี่อ๋องได้ จะกี่ครั้ง ต่อให้เหนื่อยแทบตายตังค์ก็จะให้


ผมเริ่มรู้สึกเสียใจกับข้อความนั้นขึ้นมาทีละนิด สตังค์รู้เรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว แต่น้องไม่เคยแม้แต่จะบอกหรือด่าว่าผมเลยซักคำ


14 กุมภาพันธ์
พี่อ๋องซื้อกุหลาบมาให้ดอกหนึ่ง ดีใจมากกกก โทรไปเวิ่นเว้อให้ไอ้พี่นนท์ฟัง มันคนขี้อิจฉา ไม่ยอมฟังจนจบ แต่ตังค์ดีใจนี่ ถึงมันจะเริ่มเหี่ยวไปบ้างก็ตามที แต่ตังค์ก็ดีใจนะ รักพี่อ๋องมาก และจะรักตลอดไป


วันนั้น....กุหลาบดอกนั้นผมแวะซื้อที่ร้านหน้าปากซอยบ้านตอนช่วงมืด ผมมัวแต่ปั่นโปรเจ็คจนเสร็จก็กินเวลาไปค่อนข้างมากแล้ว และทิ้งท้ายด้วยการไปเที่ยวกับไอ้น้องรหัส ฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเซ็กส์กับผู้หญิงสวยๆ ที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อราวกับคนโสด...ก่อนเข้าบ้าน ผมถึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ซื้ออะไรให้สตังค์เลย และถ้าผมไม่ซื้อ น้องคงจะบ่นจนหูชา ผมเลยแวะซื้อมาดอกหนึ่งในราคาไม่กี่สิบบาทเท่านั้น แต่สตังค์กลับเห็นค่ามัน และเก็บกุหลาบดอกนั้นทับไว้ในหนังสือจนมันแห้งและแบนมากพอจะนำมาใส่ถุงพลาสติกใบเล็ก และเก็บไว้ในไดอารี่อย่างดี


31 มีนาคม
ตังค์ออกไปเที่ยวกับพี่นนท์ กะว่าจะแวะไปเซอร์ไพรส์พี่อ๋องที่คณะ แต่สงสัยคณะพี่อ๋องจะย้ายตึกมาเป็นสยาม...เดินเข้าไปดูหนังกับใครไม่รู้ที่ตังค์ไม่รู้จักชื่อ แต่..ไม่เป็นไร ตราบใดที่พี่อ๋องยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนกับตังค์ คนอื่นมันก็เป็นได้แค่ดอกไม้ริมทางที่พี่อ๋องเก็บขึ้นมาดมแล้วก็โยนทิ้งไป ฮึ่ยยย


9 เมษายน

บนกระดาษมันเป็นหยดด่างดวงคล้ายน้ำตาจนผมอ่านแทบไม่ออก
ตังค์ทะเลาะกับพี่อ๋องแรงมาก...ตังค์ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ แต่ตังค์แค่อยากอยู่กับพี่อ๋องในวันครอบรอบหนึ่งปีของเราเท่านั้นเอง...ถึงวันนี้พี่อ๋องจะออกไปเที่ยวแล้วตอนที่ตังค์เขียนไดอารี่ พี่อ๋องจะยังไม่กลับบ้านก็เถอะ แต่ตังค์ก็รักพี่อ๋องนะ ดีใจนะครับที่ได้เป็นแฟนกับพี่อ๋อง

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว สตังค์ชวนผมออกไปทานข้าวด้วยกันตอนเย็น แต่ผมมีนัดกับไอ้ทีมและเพื่อนๆ เลยปฏิเสธไป ก็ทะเลาะกับสตังค์ยกใหญ่ ถึงขั้นตะโกนใส่กันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมออกจากบ้านไปด้วยอาการหัวเสีย คืนนั้นผมเมามากและไม่ได้กลับบ้านจนรุ่งเช้า ผมพบสตังค์นอนหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกราวกับน้องรอผมจนหลับไป...พอจะอุ้มไปนอนบนห้องก็ดันตื่นเสียก่อน ตังค์ขอโทษผมยกใหญ่และสัญญาว่าจะไม่เอาแต่ใจอีก


20 มิถุนายน
ตังค์ทะเลาะกับพี่อ๋องอีกแล้ว ตังค์ไม่ได้อยากเห็นพี่อ๋องไม่กลับบ้าน...ตังค์เสียใจ


3 สิงหาคม
พี่นนท์โทรมาคุยด้วย มันอึกอักไม่ค่อยอยากเล่า แต่สุดท้ายก็ซักเอาความจนได้ พี่อ๋องนอกใจตังค์อีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรนะ ถ้าพี่อ๋องยังรักตังค์เหมือนเดิม ตังค์ทนได้


ผมน้ำตาไหลอีกครั้งขณะพลิกหน้าไดอารี่ผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ในวันที่เมื่อวานนี้ ซองถุงยางที่ฉีกแล้วทั้งสองซองยังนอนนิ่งอยู่บนหน้ากระดาษนั้น คำพูดที่แสดงออกถึงความปวดร้าวของสตังค์ได้เป็นอย่างดีจรดเขียนอยู่บนนั้น หยาดน้ำตาเป็นดวงๆ ทำให้กระดาษย่นเข้าหากัน


8 เมษายน
ตังค์ชวนพี่อ๋องไปทานข้าว...แต่พี่อ๋องก็ไม่ว่างเหมือนเดิม ตังค์อยากรู้พี่อ๋องเคยรักตังค์บ้างมั้ย ตังค์รู้ตัว ตังค์ไม่ได้สำคัญเท่าเพื่อนพี่ แต่ตังค์ขอแค่วันเดียวในรอบปี รักตังค์บ้างไม่ได้เหรอ แล้วทำไมถึงไม่เอาซองถุงยางที่พี่ใช้กับคนอื่นทิ้งไป เอามาหยามหน้าตังค์อีกทำไม ถ้าไม่รักกันก็น่าจะบอกมาตรงๆ จะทรมานตังค์อยู่ทำไม ตังค์รักพี่คนเดียว....
พลเป็นเพื่อน แค่เพื่อน ไม่เคยมีใครที่ตังค์รักมากเท่าพี่ ตังค์ไม่มีใครเลย ไม่มีใครจริงๆ...ตังค์รักพี่คนเดียว รักพี่อ๋องคนเดียวมาตลอด...ไม่รักก็สงสารตังค์บ้าง โกหกตังค์ซักครั้งว่าพี่รักกัน แล้วตังค์จะไม่ขออะไรอีกเลย
ตังค์ก็เป็นแค่คนโง่ที่รักพี่มาก ตังค์ทนได้ถ้าพี่ยังยิ้มให้ แต่ถ้าวันไหนที่พี่ทิ้งตังค์ขึ้นมา ตังค์จะหายใจต่อไปยังไง ตังค์ลืมไปแล้วว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่มีพี่ ตังค์มีความสุขได้ยังไง


9 เมษายน
เรา..เลิกกันแล้ว....เราจบกันแล้ว...ตังค์บอกเลิกเพราะรักพี่อ๋อง ตังค์อยากเห็นพี่มีความสุข บางทีพี่คงมีความสุขมากกว่าถ้าตังค์หายไปจากชีวิตพี่ ตังค์จะไม่เป็นไรตราบใดที่พี่ยังยิ้มได้ ใครเคยบอกว่าความรักคือการให้ แต่ความรักของตังค์คือพี่ ตังค์รักพี่มาก รักพี่อ๋องแค่คนเดียวตลอดไป


หน้าสุดท้ายที่สตังค์เขียนมีแต่หยาดน้ำตาที่ไหลริน ผมเห็นภาพน้องที่นั่งเขียนกระดาษแผ่นนี้ ทุกความรู้สึกถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูดนั้นให้ผมได้รับรู้ ทุกความเลวที่ผมได้ทำ สตังค์รับรู้มันมาตลอด เพียงแต่น้องรักผมมากเกินกว่าที่น้องจะพูดมันออกมา ผมซบหน้าลงกับไดอารี่เล่มนั้นแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างไม่อาย หัวใจผมที่ว่าเจ็บแล้วตอนได้ยินถ้อยคำบอกเลิกจากน้อง ยังเทียบไม่ได้กับการที่สตังค์ทนยิ้มบนความรวดร้าวมาตลอดเวลา...


ป๊ากับแม่ออกไปตั้งแต่ตอนไหนผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ได้แต่นั่งเหม่อลอยเฝ้าเด็กตัวเล็กที่ยังนอนหายใจเรียบๆ อยู่อย่างนั้นเนิ่นนานไม่ได้ขยับไปไหน จนรู้สึกได้ถึงแรงสัมผัสที่ไหล่ข้างหนึ่ง

“เป็นไงบ้างพี่ พักหน่อยมั้ย” ไอ้น้องรหัสที่ไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องนี้ได้ยังไงเข้ามาถามผม มันยื่นถุงน้ำเต้าหู้ให้ “ทานหน่อยละกันพี่ ดูหน้าสิ โทรมเชียว”

“กูไม่หิวเลยทีม...กูแค่อยากเห็นสตังค์ลืมตา” ผมพูดเบาๆ คล้ายกับว่ากำลังเลื่อนลอยไม่รู้สึกตัว

“ผมรู้ แต่ถ้าพี่ไม่กินเลย พี่นั่นแหละที่จะแย่เอานะ” ผมรู้สึกขอบคุณมัน ที่อุตส่าห์มีน้ำใจมาหาผมถึงที่โรงพยาบาล เลยรับถุงน้ำเต้าหู้มาแกะและใส่หลอดลงไป “ไอ้เชี่ยไกด์กับคนอื่นก็อยากมาด้วย แต่ถ้ามากันหมดทีเดียว ผมกลัวว่าโรงพยาบาลจะแตกซะก่อน เลยหนีมาเยี่ยมสตังค์แค่คนเดียว”

“แล้วฝุ่นล่ะ ไม่พามาด้วยเหรอ” ผมถาม ไอ้ทีมยิ้มกว้างเกาแก้มเขินๆ แล้วตอบ   

“ฝุ่นก็อยากมานะ แต่พอดีไม่ค่อยสบายน่ะพี่ ผมเลยสั่งให้เซ็กส์ซี่เฝ้าอยู่ที่บ้าน” เออ มันเอาหมาไว้เฝ้าคนป่วย เจิดจริงน้องกู

“นี่พี่นั่งอยู่อย่างนี้ตั้งแต่วันที่กลับมากรุงเทพฯ คนเดียวเนี่ยนะ” คำพูดแปลกๆ ของมันทำให้ผมขมวดคิ้วแล้วถาม

“พูดอะไรของมึง”

“วันนี้วันที่สิบเอ็ดแล้ว พี่นั่งอยู่อย่างงี้มาสองวันแล้วเนี่ย ความรักทำให้คนเป็นบ้าจริงๆ” มันบ่น ก่อนจะลุกขึ้นมายืนข้างเตียงสตังค์บ้าง “น้องดูไม่ซีดอย่างที่ผมคิดนะ ท่าทางจะดีขึ้นในไม่ช้า”

“ก็ขอให้เป็นแบบนั้น” ผมตอบ แล้วเอาถุงน้ำเต้าหู้ที่เหลือไม่มากวางพิงไว้กับแก้วน้ำผู้ป่วยที่ยังไม่ถูกใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วเอื้อมมือไปลูบข้างแก้มที่ช้ำจนออกสีอมม่วงของคนเจ็บเขาเบาๆ “ตื่นซักทีสิสตังค์ พี่รอเราอยู่นะ”

“อยากทานอะไรอีกมั้ยพี่อ๋อง เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้”

“ไม่ล่ะ ขอบใจมาก”

“ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ไม่อยากทิ้งฝุ่นไว้นาน เดี๋ยวเกิดเข้าไปทำอะไรในครัวขึ้นมา บ้านจะระเบิดเอา” มันว่าติดตลกแล้วโบกมือบายให้ผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมอยู่กับสตังค์เพียงลำพังอีกครั้ง

“ตังค์ ไม่ตื่นมาฟังคำขอโทษของพี่เหรอ พี่รู้นะ ว่าพี่ร้ายกับเรามากแค่ไหน ให้โอกาสพี่สักครั้งไม่ได้เลยเหรอ หืม..?” ผมถามกับร่างที่ไร้สติ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วโน้มตัวลงก้มจูบที่ริมฝีปากแห้งผากเบาๆ “พี่รักเรานะตังค์..ตื่นเร็ว..เจ้าชายจูบปลุกแล้ว”

ผมแค่พูดไปเพียงลำพัง ไม่คิดว่าสตังค์จะลืมตาขึ้นได้ด้วยจูบจริงๆ ทว่านาทีนั้นพระเจ้ากลับให้โอกาสคนเลวอย่างผมอีกครั้ง เปลือกตาเล็กบางขยับยุกยิกเพียงแผ่วเบาๆ จนหัวใจผมเต้นแรงแทบกระดอนออกจากอก น้องค่อยๆ ขยับลืมตาขึ้นช้าๆ สตังค์มองไปรอบๆ อย่างงุนงง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของผม น้ำตาจากดวงตาคู่เล็กเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่อ๋อง....” เสียงน้องแผ่วเบามากเสียจนผมกลัว จึงรีบบอก

“รอก่อนนะตังค์ พี่จะเรียกนางพยาบาลให้มาดูเราก่อน”

“พี่อ๋อง..ตังค์ขอน้ำ” เสียงน้องสั่นเบา ผมจึงรีบกุลีกุจอเอาน้ำต้มที่ใส่เตรียมไว้ในเหยือกข้างเตียงเทใส่แก้ว ไม่ลืมที่จะปักหลอดลงไปด้วย เพื่อสตังค์จะได้ทานสะดวกและไม่สำลัก

หลังประคองให้น้องดื่มน้ำแก้กระหายไปจนเป็นที่พอใจ เจ้าตัวเล็กก็ยอมละออกจากหลอดสีขุ่น ผมจึงหันไปกดปุ่มเรียกให้นางพยาบาลเข้ามาดูแลเด็กตัวเล็กที่นอนเจ็บอยู่นี่ เมื่อเธอเข้ามาเห็นว่าผมเรียกเพราะอะไรก็บอกเพียงว่า จะไปตามคุณหมอมาตรวจอีกที แล้วก็หายไปราวพักหนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมหมอเจ้าของไข้คนที่ผมเจอที่หน้าห้องฉุกเฉินเดินยิ้มๆ เข้ามาในห้องพัก

สตังค์มองเขานิ่งๆ อย่างไม่มีแรง น้องหันหน้ามาหาผมตลอดขณะที่หมอกำลังตรวจอาการ มือเล็กที่มีสายยางอะไรบางอย่างติดอยู่พยายามยกขึ้น ผมจึงเดินเข้าไปประคองมือเล็กนั่นเอาไว้แผ่วเบา...ถ้าตาไม่ฝาดผมว่าผมเห็นน้องยิ้มออกมาจางๆ นะ

“ดีใจด้วยนะครับ ที่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง น้องเองก็ยังเด็กเลยฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว ให้พักอยู่ที่นี่อีกซักวันสองวันก็กลับบ้านได้แล้ว ส่วนอาการเจ็บแผลนั้น ผมจะให้ยาระงับอาการปวดเผื่อเอาไว้แล้วกันนะครับ” คุณหมอแกบอกอย่างนั้นขณะที่เก็บสายตรวจทั้งหลายให้เข้าที่

“ผม..ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ถ้าไม่ได้หมอ แฟนของผมคงแย่” ผมบอก คุณหมอแกก็ยิ้มๆ แล้วตอบ

“ไม่หรอกครับ ผมก็ช่วยเต็มความสามารถเท่าที่ผมจะทำได้เท่านั้นเอง น้องต่างหากที่เข้มแข็งต่อสู้กับอาการเจ็บปวดและฟื้นตัวได้เร็ว” คุณหมอบอกพร้อมยิ้มให้อีกครั้ง “ถ้ามีอะไรก็เรียกพยาบาลได้ตลอดเวลา ผมขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อนะครับ”

ผมยกมือไหว้แทนทั้งคำขอบคุณและคำลา จนประตูห้องปิดลง เสียงของคนที่ผมเฝ้ารอให้ลืมตาตื่นมากว่าสองวันก็ดังขึ้นเบาๆ

“พี่อ๋อง...ตังค์...” ผมรีบเดินกลับไปที่ข้างเตียง มองสตังค์ที่น้ำตาไหลอาบแก้มจนผมเจ็บในหัวใจ เลยยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้น้องเบาๆ เพราะกลัวจะกระเทือนแผล

“พี่ขอโทษ พี่รู้ตัวว่าตัวเองเลว แต่ขอโอกาสให้พี่ได้มั้ยตังค์” ผมกระซิบถามเบาๆ แต่มันคงสั้นเกินไป ดวงตากลมแป๋วถึงได้มองผมอย่างไม่เข้าใจ

“ตังค์บอกเลิกพี่อ๋องแล้ว...ฮึก...เราเลิกกันแล้ว” ผมยังเจ็บไม่หายกับประโยคนี้ ยิ่งสตังค์ตอกย้ำมันและเริ่มร้องไห้ผมก็ยิ่งเสียใจ

“ไม่มีคำนั้นอีกแล้วเจ้าเด็กดื้อ พี่ไม่ได้ตอบตกลงที่เราบอกเลิกพี่เลยนะ ยังคุยไม่ทันรู้เรื่องตังค์ก็วางหูใส่พี่” ผมบอกแล้วดึงมือข้างหนึ่งที่สตังค์ยกขึ้นเช็ดน้ำตาเอาไว้ บังคับให้น้องมองหน้าผม “พี่ไม่ยอมเลิกกับเราหรอกนะ”

“แล้วพี่อ๋องจะให้ตังค์ทำยังไง...ตังค์...ตังค์รักพี่ แต่ตังค์ก็ทนไม่ไหวที่ต้องเห็นพี่ไม่เคยสนใจตังค์เลย ตังค์เลยคิดว่า...”

“คิดว่าพี่จะมีความสุขมากกว่าถ้าตังค์ออกไปจากชีวิตพี่...งั้นสิ” ผมบอก สตังค์ได้แต่พยักหน้างึกงักทั้งน้ำตา “คิดเองเออเองคนเดียวทั้งนั้น”

“แล้วตังค์ควรจะทำยังไง ฮืออออ”

“พี่ขอโทษ เราเริ่มกันใหม่ไม่ได้เหรอตังค์ พี่รักตังค์นะ รักมากกว่าที่ตังค์รักพี่อีก” สตังค์ตาโตกับคำพูดของผม “พี่ขอโทษที่รู้ตัวช้า แต่รู้ช้าก็ยังดีกว่าไม่รู้นี่นา จริงมั้ย...เลิกร้องไห้นะ”

“พี่พูดจริงเหรอพี่อ๋อง” สตังค์ยังไม่คงไม่เชื่อกับคำพูดของผม...นี่ผมกลายเป็นตาแก่ขี้โกหกในสายตาน้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

“จริงสิ พี่เคยโกหกเราเหรอ”

“ตั้งหลายครั้ง” แหงะ...ตอนไหนวะ

“นั่นแหละ...แต่คราวนี้พี่พูดจริงนะ พี่รักเรามาก ตอนที่ตังค์บอกเลิก พี่รู้สึกเหมือนโลกจะแตก หายใจไม่เป็น พี่ไม่ได้เว่อร์นะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ”

“แล้วพี่คิดมั้ยว่าตอนตังค์วางสายจากพี่ไป ตังค์รู้สึกยังไง” น้องบอกผมด้วยดวงตาฉ่ำแดง “ตังค์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย ตังค์ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่ ตังค์...”

“ไม่เอา ไม่ร้องแล้ว พี่อยู่ตรงนี้แล้วไง”

สตังค์พยักหน้าให้แทนคำตอบ ผมจึงก้มลงจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากแห้งเพราะขาดน้ำของเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะขยับไปงับเอาที่ปลายจมูกเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

“แต่พี่อ๋องสัญญากับตังค์อย่างนึงได้มั้ย”

“อะไรก็ได้ พี่จะทำให้ อ่อ..ยกเว้นเฉือนไอ้นั่นไปให้เป็ดกินนะ” ผมบอก สตังค์หัวเราะเบาๆ แล้วก็ทำหน้าซี้ดเพราะเจ็บแผล จนผมอยากจะงับปากบวมๆ นั่นอีกสักรอบสองรอบจริงๆ

“รักตังค์คนเดียวนะ”

“ไม่บอกก็จะทำให้ครับ” ผมยิ้มกว้าง สตังค์เองก็ยิ้ม เรายิ้มให้กันอย่างมีความสุข ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว แค่เรามีกัน โลกจะแตกก็ปล่อยมันไปเถอะครับ ผมพอใจกับสิ่งที่ผมมีแล้ว

พอสตังค์ออกจากโรงพยาบาล ผมพาน้องไปเปิดตัวแบบไอ้ทีมบ้างดีกว่า ใครจะหาว่าเต๊าะเด็กก็ยอมแล้วแหละครับ และคงจริงอย่างที่เพ่ยมันว่า แม่คงผสมหญ้าให้ผมด้วยตอนที่ชงนมตอนเด็กๆ พอโตมาก็คงกินหญ้าแทนข้าว มาเรื่อยๆ ก็พัฒนาเป็นความชอบส่วนตัว จนตอนนี้ผมเลยกลายเป็นควา...เอ่อ โคแก่ที่ชอบกินหญ้าอ่อน

หืม..? คนอ่านงงอะไรครับ...



ก็ผมชอบกินหญ้าอ่อนเลยมีเมียเด็กไง!!





เจอกันตอนที่ 16 จ้ะ

eiizes’s talk

อนุญาตให้ตบพี่อ๋องแรงๆ ได้คนละสองที 5555

ขออธิบายนิดนึงแล้วกันค่ะ เรื่องพี่อ๋องกับน้องตังค์

เราอยากให้พี่อ๋องเป็นตัวแทนของความไม่รู้จักพอ เราเชื่อว่าผู้ชายร้อยละเก้าสิบเป็นแบบนี้ มีแฟนแล้ว แต่ก็ยังมองคนนู้นมองคนนี้ได้ แบบว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่เสียหาย 555

ส่วนสตังค์ ให้เป็นตัวแทนของความรักที่ให้ได้ทุกอย่าง รักมาก จนใกล้เคียงกับคำว่าโง่ คือน้องรัก แล้วเลิกมองข้อเสียทุกอย่างของพี่อ๋อง
จนกลายเป็นว่า สตังค์โง่รึเปล่าที่รักอ๋องแบบนี้? ส่วนตัวแล้ว เราว่าสิ่งนี้ก็มีในตัวคนอีกหลายๆ คน รักมากจนยอมให้ได้ทุกอย่าง

อยากให้สตังค์เป็นอีกตัวอย่างนึงว่า ความรักที่มีทั้งความอดทน และให้อภัย มอบให้เขาก่อน ทั้งที่ตอนแรกพี่อ๋องไม่ได้รัก แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเห็นว่าของที่อยู่ในมือ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก และต้องรักษาเอาไว้

แล้วคนอ่านละคะ คิดยังไงกันบ้าง :)

แสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่นะคะ จัดหนัก 555

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-03-2011 22:08:39
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาสินะ


ไม่เข้าใจทำไมผู้ชายต้องมักมาย ถึงจะยังไม่มีแฟนเป็นตัวตน จริงๆคนเราก็ไม่น่าจะคันกันขนาดนั้นนะ แบบว่าถ้าวันหนึ่งเรามารู้ว่าแฟนเรา่ผ่านผู้หญึ่งมาเป็น สิบๆ ร้อยๆ ถึงให้รักมากแค่ไหนก็โคตรจะเสียใจ ถึงมันจะเป็นอดีตที่เคยผ่านมา แต่ทำไมถึงไม่ทำตัวเองให้ดีกันก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-03-2011 22:10:09
พี่อ๋องเป็นตัวแทนของชายเลวได้เกือบสมบูรณ์แบบและ  เพียงแต่ได้คิดซะก่อนเท่านั้นเอง
คนเราก็แค่นี้ต้องให้เกือบสูญเสียหรือสูญเสียไปซะก่อนถึงจะได้คิดว่ามันสำคัญกับตัวเองมากขนาดไหน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 11-03-2011 22:22:11
รู้สึกดีใจที่อีพี่อ๋องอะไรนี่จะกลับตัวได้...
สตางค์หายไวไวนะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 12-03-2011 00:13:24
+1 พร้อมกับซับน้ำตาตัวเองเบาๆ ,,
ถ้าน้องไม่บอกเลิก จะรู้สึกมั้ย ?
จะคิดได้รึเปล่า ...
โฮๆๆๆ น้องสตัวค์ ขวัญมานะลูก
ไม่เป็นไรใช่มั้ย ฮึกกกกก
ยังอยากจะ ตบพี่อ๋องอยู่นิดๆ  ดีนะที่น้องรักมากจนยอม
ชิส์ ถ้ามีอีกที  โฮๆๆๆ ไม่เอาแล้วนะ
ฮึกกก 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-03-2011 00:32:19
แหมม อยากให้จบดราม่าจริ็งจริ้ง ผู้ชายอย่างอ๋องเนี้ย
 :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 12-03-2011 00:51:21
 :L2: :L2:เอาดอกไม้มาเยี่ยมสตังค์  หายไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 12-03-2011 01:01:33
เหอๆ
โง่ค่ะน้องสตังค์
กลับไปคบง่ายๆแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะค่ะ ระวังน้ำตาเช็ดหัวเข่าอีกนะ เหอๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 12-03-2011 01:18:22
    อ่านตอนนี้แล้วสะเทือนใจสุดๆสงสารสตังค์  เอามาให้นู๋ตัง :L2:


   :m16: ดีนะที่อีพี่อ๋องรู้ใจตัวเองทัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 12-03-2011 07:04:18
 :serius2:คนอย่างอ๋องเป็นตัวแทนของคนเลวสุดๆ..เป็นประเภทกูเอากับใครก้อได้ แต่กับสตางค์ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองคนเดียว..ห้ามมองใคร..เลวว่ะ :beat:
ส่วนสตางค์น่าจะพากันไปกินหญ้า..รู้ว่ามันเลว..แม้ว่าจะขอเลิกกันก้อยังพูดให้มันได้ใจอีกว่า..จะรักตลอดไปปปป..ชิส์
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-03-2011 07:47:45
ถึงกับแซดแต่เช้าเลยทีเดียว... :sad4:
ยิ่งตอนบอกเลิกกันนี่ อู๊ยยย น้ำตาจะไหล T T
มันก็สองจิตสองใจนะ ตอนน้องตื่นนี่อยากจะให้น้องความจำเสื่อม ลืมไอ้พี่อ๋องไปเลยอะ
แต่อีกใจก็นะ...พี่อ๋องมันอุตส่าห์ขอโอกาสแก้ตัว ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะดีได้เท่าที่พูดกับน้องหรือเปล่า -*-
แต่ไงก็ชอบให้คนรักกันมากกว่านะ คืนดีกันได้ก็ดีใจด้วยนะพี่อ๋อง จะได้หวานแข่งกับน้องรหัส :o8:
+1 ขอบคุณและฝากช่อดอกไม้ไปเยี่ยมน้องตังค์ด้วยค่ะ ไม่ใช่กุหลาบดอกละสิบบาทของไอ้พี่อ๋องหรอก ชิส์ :a14:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 12-03-2011 09:30:16
ถ้าเป็นเรื่องจริง ผู้ชายที่เจ้าชู้ จะยอมเปลี่ยนตัวเองเพราะว่ารักแฟน
หายากค่ะ เมื่อมันเคยมักมากยังไง สำนึกได้ไม่กี่ครั้งก็ดีแตก
สุดท้ายก็ย้อนไปจุดเดิมที่เริ่มคบกัน ว่าเมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้นี่นา :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: jay_tt ที่ 12-03-2011 09:55:18
แอบอ่านที่ทำงาน  ร้องไห้ก้อไม่ได้ ทรมาน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 12-03-2011 10:18:51
จะให้ว่าไงดี อ่านเปนนิยายก็ซึ้งดี 555 แต่ดันไปคิดว่าถ้าเปนเรื่องจริงสตังค์อาจจะจบลงโดยการเป็นเอดส์เพราะติดจากอีพี่อ๋องก็ได้ มองโลกแง่ร้ายไปปะ 555 แต่ชีวิดไม่ได้มีด้านเดียว เพราะงั้น มองอะไรต้องคิดให้รอบด้าน ทั้งด้านที่ดีและไม่ดี  :z2:

ลืมแซวอีพี่ทีม หวานน้ำตาลหยด  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 12-03-2011 19:37:38
อ๊ายยยยย น่ารัก อ๋องกินหญ่าอ่อน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 12-03-2011 19:51:35
พี่อ๋องยังยังถือว่าดีมากที่คิดได้
บางคนแฟนจับได้มันทำเป็นไรู้เรื่อง
สตังค์น่ารักจริงๆอดทนด้วย
ขอให้หายเร็วๆน่ะสตังค์
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 12-03-2011 20:33:36
อ๋องกินหญ้าอ่อน 55555555555555555555555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 12-03-2011 20:50:35
เป็นเรื่องปกติที่ความรักบังตาทำให้ความสมรรถภาพการตัดสินใจลดลง
และทำให้ EQ, IQ ต่ำกว่าร้อย....
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fahzang ที่ 12-03-2011 20:59:15

ร้องไห้ ดราม่ามากกกก  TT.
สงสารหนูสตาง

ติดตามเรื่องนี้อยู่เสมอจ้า 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 12-03-2011 22:30:34
เป็นบทสรุปเสมอเลยเนาะ
คนเรามักเห็นค่าของสิ่งใกล้ตัวเมื่อกำลังจะสูญเสีย หรือได้สูญเสียสิ่งนั้นไป
ใช้ได้กับทุกเรื่องเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องความรัก หรือสิ่งสำคัญ หรือแม้กระทั่งความรู้สึก
พี่ขวัญเจอกับตัวเลยล่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่แก้ไขไม่ได้ตลอดกาล เมื่อโอกาสมันไม่มีอีกแล้ว
ถึงได้รู้ว่าไม่ควรทำอะไร หรือควรทำอะไร สายไปแล้วจริงๆ..........................

รักกันไว้เถอะค่ะ อีกเรื่องนึงนะคะ เรื่องคำพูด พูดดีๆต่อกันเถอะ
คำพูดที่พูดออกไปมันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย หากคนที่เราอยากขอโทษไม่ได้อยู่บนโลกเดียวกันแล้ว
พี่อ๋องถือว่าโชคดีมากค่ะที่ได้โอกาสแก้ไข ปรับปรุงตัว คิดทัน ทุกอย่างยังทันเพราะน้องยังอยู่

น้ำตานองตลอดเลยค่ะ เวลาเจอเนื้อหาประมาณนี้ รู้สึกโดนสะกิดต่องตลอด

เป็นเรื่องดีค่ะที่ไอซ์นำประเด็นน้องตังค์กับพี่อ๋องมาเป็นตัวอย่างให้เห็นกัน
ขอบคุณสำหรับบทสรุปดีๆจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 12-03-2011 23:15:15
ยังดีนะที่น้องสตังค์ไม่เป็นอะไร แต่กว่าพี่อ๋องจะรู้สึกตัวเกือบเสียน้องไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Forget..* ที่ 13-03-2011 14:43:29
เกือบจะสายไปซะแล้ว..
พี่อ๋องกลับมาเปลี่ยนตัวเองให้น้องทันเวลาเนอะ ;)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 13-03-2011 15:56:50
ไม่เข้าใจเม้นชอบเลื่อนไปเรื่องอื่น  :serius2:

เหมือนจะคืนดีกันง่าย(ไปหน่อย)
ไม่สะใจ 5555555555

แต่อ๋องโชคดีมากนะ ที่น้องยังให้โอกาสน่ะ
งี้ละนะ ไม่เจออย่างนี้คงไม่รู้ตัว หึหึ


รอตอนต่อไปจ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 13-03-2011 20:33:55
จุดจบคลาสโนว่า

ให้มันได้อย่างนี้สิ

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-03-2011 07:46:51
อ๋องรู้ตัวช้าไปนิด แต่สตังค์ก็ยังให้โอกาส โชคดีนะ
ดีที่สตังค์ไม่เป็นอะไรมาก
นายอ๋อง ชอบกินหญ้าอ่อน 55+
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 14-03-2011 13:58:31
เล่นตัวอีกนิดก็ได้นะคะน้องตังค์
แต่ไหนๆก็ดีกันแล้ว ก็ขวัญเอยขวัญมานะลูก โอ๋ๆๆ

ขอตบอิพี่อ๋องซัก 2-3ที
ทำน้องเสียใจ ชริส์~~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 15!! บทสรุปความรักของพี่อ๋อง! ♥ [11/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-03-2011 15:45:31
จัดหนักจริง ๆ นะเนี่ยมาทียาวววว...เลยแต่ชอบ

อยากให้น้องดัดนิสัยไอ้พี่อ๋องหน่อยยกโทษไวแบบนี้อ๋องได้ใจหมด
แต่ก็นะมันเจ้าชู้ขนาดนั้นถ้าไม่รีบเดี๋ยงมันเปลี่ยนใจเลิก ๆ เราซวย
แต่คราวหน่าไม่เอาแบบนี้นะ ถ้ามันนอกใจเมื่อไหร่ตัดทิ้งโยนให้เป็ดกิน
ถ้าที่บ้านไม่มีเป็ดเอามาให้พี่เดี๋ยวพี่จัดให้ :laugh:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 21-03-2011 14:29:23

   ถ้าจะบอกว่าฝุ่นมีชู้...คุณจะเชื่อผมไหม?


   ผมไม่ได้พูดปากเปล่าโดยไม่มีหลักฐาน และก็ไม่ได้อยากสร้างความคิดหรือปมปัญหาอะไรมาคิดให้ฟุ้งซ่านด้วย แต่พฤติกรรมระยะนี้ของฝุ่นทำให้ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้จริงๆ แหนะๆ ผมรู้นะว่าคุณๆ กำลังหาว่าผมขี้โม้อยู่ งั้นผมจะบอกให้ฟังก็แล้วกันว่าตอนนี้ผมกำลังเผชิญกับอะไรอยู่

   ครืด...ครืด....

   แม่ง นี่ใครจุดธูปเนี่ย ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากเล่า ไอ้หนึ่งในสาเหตุของความกังวลใจของผมก็ดังขึ้นมาทันที คุณแฟนสุดที่รักที่นอนคว่ำดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบสะดุ้งสุดตัว รีบคว้าเอาโทรศัพท์มือถือออกมาดูสายเข้า ก่อนจะหันมาบอกผมลวกๆ

   “รับโทรศัพท์ก่อนนะ”

   แล้วผมจะห้ามอะไรได้(วะ)ครับ!!

   เขาบอก รักแฟนต้องตามใจแฟน แต่ตำรานั้นมันรวมกรณีแฟนอยากมีชู้ต้องตามใจด้วยรึเปล่า?

   ฝุ่นวิ่งหน้าระรื่นขึ้นไปคุยโทรศัพท์บนชั้นสอง ผมเองก็ไม่รู้ว่าไอ้ปลายสายมันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่รู้รึไงคนนี้กูจองแล้ว ยิ่งนึกผมก็ยิ่งหงุดหงิด หนักๆ หน่อยก็เคยเอ่ยปากถาม แต่ฝุ่นก็ตอบปัดไปแค่ว่าเป็นเพื่อน แต่ขอโทษ เพื่อนเค้าโทรหากันตอนเที่ยงคืนด้วยเหรอครับ หรือพี่จะแก่เกินวัยรุ่นเลยไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เพื่อนทั่วไปเขามีเทรนด์โทรมาบอกกู๊ดไนท์ด้วย

   เวลาพาน้องไปส่งที่มหาวิทยาลัย ก็พยายามเหล่มองนะครับว่าใครมันคิดจะแย่งดวงใจของผมไป แต่เพื่อนของฝุ่นที่ผมเจอบ่อยๆ ก็มีแค่อันดา ที่บังเอิญโลก(โคตร)กลม มีพรหมลิขิตทำให้น้องชายของพี่ลันเขาเลือกคณะเศรษฐศาสตร์เหมือนกับแฟนผม และอีกคนก็คือน้องลูกชุบ สาวเชียงรายหน้าตาน่ารัก แต่ห้าวเกินมนุษย์ปกติเกือบสิบห้าเปอร์เซ็นต์

   ถ้าฝุ่นจะชอบผู้หญิง ผมก็คงสงสัยลูกชุบเป็นคนแรก แต่นี่ก็ไม่ใช่...จะว่าอันดา ก็เอาสมองไปให้หมูกินเถอะ

   แล้วไอ้ชู้รักนั่นมันใครวะ คนหน้าตาดีสงสัยเว้ยเฮ้ย!

   ผมเคยพยายามไปแอบฟังลอดรูประตู แต่ก็ไม่ได้ยินเพราะน้องพูดเสียงค่อนข้างเบา หนักๆ เข้าก็เลิกคุยโทรศัพท์มาส่งอีเมลแทน ดูสิครับ ผมอุตส่าห์เป็นคุณชายติดบ้านให้เมียชื่นใจ แต่ฝุ่นนอกจากจะไม่เห็นใจผมแล้ว ยังจะทำร้ายผมได้ลงคออีก

   นั่งจิตหงุดเงี๊ยว ... เอ้ย จิตหงุดหงิดได้สักพัก ฝุ่นก็เดินลงมาหาด้วยหน้ายิ้มๆ น้องทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม...เอาแน่กู มีเรื่องจะอ้อนแน่ๆ

   คบกันมาเกือบสามเดือน ทำให้ผมได้เห็นนิสัยหลายๆ อย่างของฝุ่นที่คนทั่วไปไม่มีวันจะได้เห็น น้องเป็นคนชอบให้ผมเอาใจ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างของที่ชอบ ไม่ชอบ อยู่กันไปก็จะรู้ไปเองแหละครับ ฝุ่นไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่ถ้าทำไม่ถูกใจก็เขี้ยวงอกได้เหมือนกัน นอกจากนี้สิ่งที่ฝุ่นจับได้จากนิสัยผมก็คือ ผมแพ้ตาใสๆ ที่ทำหวานอ้อนนั่นแหละครับ ขออะไรเทกระจาดให้หมดเลย

   “เอาอะไรอีกล่ะครับ”

   “ทีมอ่า...” เสียงงุ๊งงิ๊งๆ พร้อมหัวทุยๆ ที่ทิ้งลงนอนบนตัก น้องพลิกตัวมากอดเอวผมไว้หลวมๆ “อีกสองวัน เพื่อนจะมาค้างที่บ้านนะ”

   “เพื่อนที่ไหนล่ะหืม” ผมถาม พลางเกลี่ยเส้นผมบนหน้าผากเขาให้พ้นไป

   “ก็...เพื่อนอะ จะมาค้างที่นี่ประมาณสี่ห้าวัน”

   ไม่อยากจะบอกว่าลางสังหรณ์กูแปลกๆ ครับ

   “เพื่อนที่ไหนครับ” ผมเริ่มเก๊กเสียงให้ต่ำลง เพราะรู้ว่าถามแบบนี้ทีไร น้องจะยอมบอกความจริงทุกที

   “เพื่อนเก่า”

   เพื่อนเก่านี่ใช่ไอ้ฝรั่งนั่นรึเปล่าวะ ชื่ออะไรนะ ยูล? ยีน? หรือว็อดก้า กร๊ากกก (มุขควาย)

   “บ้านพี่ไม่ใช่โรงแรมที่จะให้ใครก็ได้มาพักนะ” ผมทำเสียงเข้ม

   “ไม่ใช่แบบนั้น แต่ฝุ่นไม่อยากให้เพื่อนเสียค่าโรงแรมนี่ น่านะ”

   ผมส่ายหน้าเบาๆ แทนคำปฏิเสธ เท่านั้นแหละ น้องลุกขึ้นนั่งทันที ทำเอาผมถอยหน้าหลบแทบไม่ทัน หัวเกือบโขกกันแน่ะ ฝุ่นขมวดคิ้วเข้าหากันมุ่นบอกเสียงดังอย่างไม่พอใจ

   “อะไรวะ แค่นี้ให้มาพักไม่ได้รึไง ห้องฝุ่นก็นอนได้ ทีมขี้งก ไอ้ขี้งก โกรธ!” ดูสิครับ แฟนผม เด็กมั้ยล่ะ

   แอ๊ะๆ เด็กแต่ก็รักนะ กร๊ากกก

   “นี่ ฟังก่อน” ผมพยายามดึงให้น้องนั่งลง แต่ฝุ่นก็ไม่ยอม ทำหน้าย่นใส่ผม พอดีกับที่ประตูบ้านถูกใครบางคนเปิดออก ฝุ่นก็ได้ทีรีบหาพรรคพวกเลยครับ

   “น้าอิ่ม” เออ ลูกคู่ทีมใหญ่ กูตายแน่

   “ไงจ๊ะฝุ่น ทีม คุยอะไรกันอยู่เอ่ย” น้าอิ่มยิ้มกว้างตอนที่ถอดรองเท้าแล้วเดินเข้ามาในบ้าน พ่อผมเดินตามเข้ามาติดๆ ขานี้ก็เห่อเมียและลูกมากครับ...อ่อ ผมยังไม่ได้เล่าใช่มั้ย ว่าตอนนี้น้าอิ่มเองก็ท้องได้สองเดือนกว่าแล้ว บ้านเรากำลังจะมีเสียงเด็กเล็กอีกแล้วล่ะครับ เอิ้ก

   “น้าอิ่ม ถ้าวันมะรืนยูลจะมาค้างที่บ้านได้รึเปล่าครับ”

   “ได้สิจ๊ะ”

   “ไม่!!!!!” ไม่ใช่เสียงพ่อหรอกครับ ผมเองแหละ ได้ยินชื่อไอ้หรั่งนั่นแล้วอารมณ์เสีย ดูสิครับ ขนาดจะให้ถ่านไฟเก่ามาพักที่บ้าน ฝุ่นยังกล้าโกหกผมเลย ว่าเป็นเพื่อนเก่า แล้วแบบนี้จะให้ผมเชื่อใจได้ยังไงว่าไม่มีอะไรจริงๆ

   “อะไรเล่า ทำไมแกไปห้ามน้องแบบนั้น ยูลอะไรนี่ก็เป็นเพื่อนน้องตอนอยู่อเมริกาไม่ใช่เหรอ” พ่อหันมาเอาความที่ผมทันทีครับ โคตรอยากบอกเลยว่านั่นเป็นชู้ของเมียผม แต่ติดตาดุๆ ของฝุ่นที่ขึงใส่ เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากบิดเบือนข้อเท็จจริง

   “ผมไม่สะดวก”

   “ลุงสินดูสิครับ ทีมขี้งกกับผมอะ” นี่สาบานได้นะว่าเป็นคนเดียวกับไอ้เด็กดื้อที่พูดแทบจะไม่เป็นเมื่อหลายเดือนก่อน ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้ฟ้องจังวะ

   “นั่นสิ แกจะไม่สะดวกอะไร ห้องนอนน้องกับแกก็คนละห้องกัน ถ้าเพื่อนฝุ่นมาจะให้นอนห้องนอนของแขกก็ได้นี่ ไม่เห็นจะลำบาก”

   “แต่ผม...”

   “งั้นไม่เป็นไรครับ” ฝุ่นทำเสียงหงอย “เดี๋ยวผมให้ยูลไปนอนที่โรงแรมข้างนอกก็ได้ ช่วงนั้นผมก็ออกไปนอนเป็นเพื่อนยูลก็แล้วกันครับ”

   “แบบนั้นจะดีเหรอจ๊ะฝุ่น”

   “นั่นสิ ลำบากนะลุงว่า”
   

   “เออๆๆๆ มาที่บ้านก็มาสิวะ เซ็กส์ซี่มึงไปห้ามฝุ่นทำไม!!”



   ทั้งที่วันนั้นฝุ่นมีเรียนตั้งแต่เช้า แต่น้องก็เลือกที่จะโดดเพื่อไปรับชู้ที่สนามบิน ส่วนผมน่ะหรือ ได้แต่รับฟังด้วยสีหน้าเซ็งๆ ไม่ได้คุยกับฝุ่นดีๆ มาตั้งแต่วันที่น้องบอกว่าไอ้หรั่งยูลจะมาพักที่บ้านแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรครับ เหมือนเป็นคำต้องห้าม ได้ยินชื่อมันปุ๊บ ฟ้าพาลจะมัวทุกที

   พ่อกับน้าอิ่มออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ทิ้งให้ผมนอนคว่ำหน้าด้วยสภาพโทรมๆ อยู่บนเตียงยันเก้าโมงเช้า ก่อนที่เสียงทุบประตูที่ดังราวกับออดไฟไหม้จะรัวขึ้น ผมจึงงัวเงียเงยหน้าขึ้นมาบอก

   “เปิดเลย ไม่ได้ล็อคประตู” หรือพูดให้ถูกก็คือ ประตูที่เชื่อมตรงห้องน้ำ ไม่มีกลอนโว้ย

   “”ตื่นเร็ว ออกไปรับยูลกัน”

   “ง่วง” ผมตอบ แน่นอนว่าฝุ่นเดินเข้ามาผลักผมทันที “อะไรวะ”

   “ทำไมทำตัวแบบนี้ ตั้งแต่วันนั้นแล้ว ยูลทำอะไรผิด”

   โอ้โห ยังจะกล้าถามว่าไอ้หรั่งทำอะไรผิด ถ้าให้ลิส สิบหน้ายังไม่เสร็จเลยจ้ะฮันหนี

   “ไม่ได้ผิด แต่เกลียดมัน” ผมตอบ แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแบบไม่สบอารมณ์ ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับว่าทำไมถึงได้ใส่อารมณ์กับน้องมากขนาดนั้นทั้งที่ฝุ่นก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่นิดเดียว เออ ก็ยอมรับว่าหึง จะไม่ให้หึงได้ยังไง ในเมื่อพฤติกรรมของฝุ่นไปสอดคล้องกับหลักเมียมีชู้ แล้วไอ้ชู้นั่นก็กำลังจะมาเสวยสุขที่บ้านของผมในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี่!

   ห๊ะ? ไม่เคยได้ยินหลักเมียมีชู้? โหย เชยว่ะ เชยมากๆ

   ข้อแรก...เมียมีชู้จะเริ่มมีความลับ

   ข้อสอง...เมียมีชู้จะเริ่มมีเบอร์แปลก..และแน่นอนว่าต้องเดินหนีไปคุย

   ข้อสาม...(ก่อน)เมียมีชู้เราต้องรู้ให้ได้ ToTb

   แค่นี้ยังน้อยนะ ถ้าให้ลิสจริงจนไอ้หรั่งบินกลับถึงเมกาแล้วผมยังพูดไม่จบเลยเหอะ (ทึ้งหัวตัวเอง)

   ด้วยความรักที่มี ทำให้ผมยืนอ้อยอิ่งอยู่ในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมง กว่าจะแต่งตัว เช็ตผมอีกก็กินเวลาไปโขอยู่ ฝุ่นก็เดินมาเคาะประตูรอบแล้วรอบเล่า แต่สนใจมั้ย....นิดนึง กร๊ากก ฝุ่นรีบ แต่ผมไม่ได้รีบนี่นา ก็นั่นแหละครับ ออกมาก็เจอสุดที่รักนั่งหน้าเป็นจวักรออยู่ก่อนแล้ว

   “ปากจะติดจมูกแล้ว” ผมเดินเข้าไปจับปากฝุ่นเล่นเบาๆ หวังจะให้น้องยิ้ม แต่กลับกัน ที่รักเขาปัดมือผมทิ้งบอกเสียงเขียว

   “จงใจแกล้งกันใช่มั้ย เครื่องยูลลงตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้” เพล้ง.....ยูล...มึง...

   “ฝุ่น” ผมเรียกน้องเสียงเข้มเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง แต่ดูเหมือนว่านอกจากเขาจะไม่รู้ตัวแล้ว ยังไม่สนใจอีกด้วย

   “เรียกกูทำไม”

   “ฝุ่น” เราขอเตือนท่านเป็นครั้งที่สอง ถ้ามีครั้งที่สาม น้องจะโดนงับปาก และไม่ได้ออกจากห้องนี้ไปอีกสัปดาห์นึง

   “จะไปข้างนอกแล้ว รีบๆ เดินออกมาด้วย!” นอกจากจะไม่มีคำขอโทษ น้องยังกระแทกเสียงใส่ผมแล้วเดินฉับๆ ออกจากห้องนอนไปเลยครับ เออ คาดโทษไว้ก่อน ได้โอกาสเมื่อไหร่จะทบต้นทบดอกให้แสบถึงไส้ติ่งเลยเชียว


   
   ผมจงใจทำตัวเลว ขับรถอ้อมโลกมาที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อมารับไอ้หรั่งชู้รัก ตลอดทางฝุ่นไม่พูดอะไรกับผมสักคำ สงสัยจะโกรธมาก แต่นาทีนี้ผมก็ไม่ง้อหรอกครับ โกรธเหมือนกัน

   โชคร้ายของผมที่เที่ยวบินที่ไอ้หรั่งมันเกาะล้อมานั้นเสือกดีเลย์! แม่งเอ๊ย แฟนโกรธแล้วต้องมานั่งรอชู้อีก ชีวิตกูประเสริฐแท้

   ผมตัดสินใจบอกให้ฝุ่นนั่งรออยู่ที่มุมหนึ่ง ส่วนตัวเองก็ออกไปสูบบุหรี่แก้เครียด พลางกดโทรศัพท์หาไอ้เชี่ยไกด์ที่ป่านนี้คาดว่าคงกำลังนั่งดูหนังโป๊อยู่ที่บ้าน

   ((รายสราด)) ดูมันสิครับ รับโทรศัพท์ได้ผู้ดีมาก

   “เมียกูมีชู้”

   ((ห๊ะ? กู้อีจู้? คืออะไรวะ)) มันถามไปก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี แม่ง จะมามุขไหนกูก็ขำไม่ออกนะ สถานการณ์แบบนี้น่ะ

   “กู้อีจู้พ่อมึงสิ กูบอกว่า ฝุ่นมีชู้!” ผมตะโกนใส่โทรศัพท์

   ((อะไรของมึง ตอนนู้นก็พี่อ๋องโดนเมียบอกเลิก ตอนนี้เมียมึงมีชู้ พวกมึงสองคนโคตรสมเป็นพี่น้องรหัสกันเลย มีแต่ปัญหาเรื่องกามๆ)) ดูมันบ่น ((กูสงสัย ถ้าไม่มีปัญหานี่ชีวิตคู่มึงขาดรสชาติเหรอครับเชี่ยทีม))

   “นี่กูโทรมาบ่นให้มึงฟังนะ ไม่ใช่ให้มึงด่ากู” ผมบอก ไอ้เพื่อนเลวเลยหัวเราะออกมาแล้วถาม

   ((มึงแน่ใจได้ไงว่าน้องฝุ่นมีชู้))

   “จะไม่แน่ใจได้ไง พักนี้ฝุ่นชอบทำตัวมีความลับกับกู หนีไปนั่งคุยโทรศัพท์คนเดียวบ่อยๆ พอถามเข้าก็บอกว่าเพื่อน แม่งดีนะที่กูรู้จักอันดาด้วย ไม่งั้นคงตามไปกระทืบถึงบ้าน"

   ((เกี่ยวไรกับอันดาวะ)) ไอ้ไกด์มันถามงงๆ ครับ

   “หอก ก็อันดาเรียนคณะเดียวกับแฟนกูไงครับ ม.เดียวกันด้วย” ผมตอบข้อสงสัยของมัน ไอ้เชี่ยไกด์เลยถึงบางอ้อบอกกลับมา

   ((อาจจะเพื่อนจริงๆ ก็ได้ แต่น้องฝุ่นรู้ว่ามึงชอบทำตัวพล่านแบบนี้เลยไม่อยากคุยให้ได้ยินรึเปล่า ถ้าเป็นกูมีแฟนนิสัยแบบมึงกูก็ไม่อยากคุยโทรศัพท์ต่อหน้าเหมือนกันแหละ...อ่อ ไม่สิ นี่ดีนะที่น้องยังทนได้ เป็นกู กูไม่ทนหรอก แฟนสันดานแบบมึงอะ))

   “นี่มึงเป็นเพื่อนกูแน่รึเปล่าครับไกด์ ตั้งแต่รับสายนี่ยังไม่หยุดด่ากูเลยนะ”

   ((หึหึ กูด่ามึงอยู่แค่สองเวลาเอง แค่ตอนหายใจเข้าแล้วก็ตอนหายใจออก)) มันบอกแล้วหัวเราะลั่น เอ๊ะ ก็บอกว่าวันนี้กูอารมณ์ไม่ดี ไม่ขำไง

   “งั้นเตรียมหยุดหายใจได้เลย แสรด”

   ((ไม่เอาน่ามึงนี่ ทำตัวเป็นผู้หญิงมีเมนส์ไปได้ กูว่าไม่มีอะไรหรอก อย่าไร้สาระนัก เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ว่างๆ ก็ไปไถนาซะจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน)) มันบอกขำๆ ((เฮ้ย มีอะไรอีกรึเปล่า เดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก))

   “เออๆ ไม่มีอะไรแล้ว ไอ้พวกเห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อน” ผมทิ้งท้ายด่ามัน แต่มีหรือที่คนหนังหนาอย่างเชี่ยไกด์จะสะทกสะท้าน มันหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้ววางสายไป ผมจัดการดับบุหรี่แล้วเดินกลับเข้าไปในอาคารพักผู้โดยสาร แอบเห็นฝุ่นอยู่ไวๆ กำลังจะเดินไปหาแต่เท้าผมชะงักนิดหน่อยตอนที่เห็นแฟนเต็มตา น้องไม่ได้มีแขนงอกเพิ่มหรืออะไร แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจกระตุกก็คือ....ฝุ่นไม่ได้อยู่คนเดียว

   ฝุ่นยืนยิ้มกว้างคุยกับไอ้หรั่งที่ไหนไม่รู้ด้วยท่าทางสนิทสนม อยากจะเดินหนีไปด้วยความโกรธแต่เห็นท่าทางรุ่มร่ามของไอ้แขกไม่ได้รับเชิญที่เอาแต่จับมือจับแก้มแฟนแล้วผมก็ทนไม่ได้รีบสาวเท้าเข้าไปหาน้อง ทันทีที่ถึงตัวก็ยกมือขึ้นโอบไหล่ฝุ่นดึงเข้าหาตัวทันที คุณแฟนสุดที่รักเขาสะดุ้งเฮือกหันหน้ากลับมามองผมด้วยสีหน้าตกใจ

   “ไม่คิดจะแนะนำเพื่อนให้ “แฟน” รู้จักหน่อยเหรอ” ผมถามเป็นภาษาอังกฤษ โอบไหล่ฝุ่นแน่นขึ้นเมื่อน้องเริ่มดิ้นและผลักออกขณะที่มองหน้าไอ้หรั่งนั่น มันมองหน้าผมกับฝุ่นสลับกันไปมาพักหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามใส่น้อง ฝุ่นทำสีหน้ากระอักกระอ่วนตอนที่ยอมพูดออกมา

   “ทีม นี่ยูลเพื่อนของฝุ่นเอง...ยูล นี่แฟนของฉัน”

   “แฟน..? ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”

   “เมื่อไหร่ก็ไม่สำคัญโว้ย รู้แค่ตอนนี้เรารักกันก็พอ” ผมบอกเสียงเหี้ยมแล้วจ้องไอ้หรั่งยูลเขม็ง ได้ยินชื่อมันทีแรกก็นึกว่าหน้าจะตี๋ๆ ออกเกาหลีนิดๆ แต่แม่งที่ไหนได้ฝรั่งมังค่าแบบที่รบกับญี่ปุนตอนสงครามโลกนี่หว่า พูดจาไม่เข้าหูมันมากๆ จะเอาปรมาณูมายิงบ้านกูป่าววะนี่ เอิ้ก

   “งั้นหรือ..? หึหึ ยินดีด้วยนะฝุ่น แต่ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ เราขึ้นรถกลับบ้านนายกันเลยได้มั้ย” มันไม่พูดกับผมแต่กลับหันไปหาฝุ่นแทน น้องก็ดีใจหาย ระริกระรี้เดินเข้าไปเกาะเพื่อนพาไปที่รถของผมทันที แต่ก่อนที่ไอ้หรั่งมันจะเดินพ้นตัวผมไป ก็ทันได้ยินมันกระซิบเสียงขุ่นอยู่ข้างหู


   “เก็บปลาย่างให้พ้นมือแมวก็แล้วกัน”


   งั้นกูจะยอมกลายเป็นหมาเฉพาะกิจ ไว้คอยจัดการแมวขี้ขโมยอย่างมึงเอง!!



   โตมายี่สิบกว่าปี ผมไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกไหนที่ให้อารมณ์ได้รุนแรงเท่ากับคำว่า “หมาหัวเน่า” เลยจริงๆ ตอนมีผมอยู่คนเดียว เอะอะอะไรก็ทีมอย่างนั้น ทีมอย่างนี้ แต่ดูตอนนี้สิ มีชู้มานอนเกยอยู่ที่บ้าน ไอ้ทีมก็หายไปจากการรับรู้ของน้อง ตลอดเวลาฝุ่นเอาแต่สนใจไอ้หรั่ง ถามนั่นคุยนี่แล้วก็หัวเราะกันอยู่สองคน จนตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้วเสียงหัวเราะและพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเลิศยังงุ๊งงิ๊งๆ ลอดบานประตูมาให้ผมอยากอกแตกตาย

   อยากจะเดินไปเคาะประตูแรงๆ บอกให้เงียบ หรือไม่ก็กระทืบไอ้หรั่งสักรอบสองรอบให้หายปวดใจ แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้มาจากเมื่อเย็นว่า “ยูลของข้า ใครอย่าแตะ” ก็ทำให้แผลใจกำลังบอบช้ำและเริ่มติดเชื้อ (ปาดน้ำตา)

   เมื่อตอนเย็นผมเป็นคนลงมือทำกับข้าว เพราะป้าแจ่มแกต้องเลี้ยงหลานด้วยในช่วงเย็นจึงทำให้ไม่มีเวลามาทำกับข้าวให้ ด้วยความรักและสงสารไอ้ชู้รักสุดหัวใจ ผมเลยจัดการทำกับข้าวรสชาติเผ็ดจี๊ดไปให้กิน เท่านั้นแหละ พ่อ น้าอิ่ม และฝุ่นรุมว่าและค่อนขอดผมโทษฐานรังแกไอ้หรั่ง

   ถึงจะเริ่มแก่แต่ผมก็อยากทำตัวน่ารักแสนงอนให้น้องง้อบ้างตามประสาคนรักกัน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นได้แค่ความต้องการเพียงฝ่ายเดียวของผม เพราะนอกจากฝุ่นจะไม่เคยง้อ ไม่เคยทำตัวน่ารักอิ๊อ๊ะเหมือนคนอื่นแล้ว ดีไม่ดีน้องยังปล่อยผมที่โกรธจัดไว้เฉยๆ เพื่อให้ลืมและหายโกรธไปเองเสียอีก มันน่าน้อยใจจริงโว้ย ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกที่มาหลงรักหลงเอาใจเด็กคนนี้

   ผมพยายามข่มตาตัวเองให้หลับ แต่เสียงพูดคุยที่รบกวนประสาทผมอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้ไม่อาจปิดตาลงได้ ผมเลือกที่จะทำตัวเลวอีกครั้ง เดินไปที่ประตูเชื่อม ไม่คิดจะเคาะด้วยแต่เปิดเข้าไปในห้องนอนของฝุ่นเลย

   “เบาๆ หน่อยได้มั้.....” ยังพูดไม่ทันจบแต่วิญญาณออกจากร่างไปแล้ว....

   ภาพน้องที่นอนหงายอยู่บนเตียง มีไอ้เหี้ยยูลนอนคร่อม หน้าผากแตะชิด ปากห่างกันแค่ลมหายใจกางกั้นก็ทำให้ผมไม่ต้องขอตัวช่วยใดๆ มาอธิบายเพิ่มอีกต่อไป ฝุ่นหันมามองหน้าผมด้วยความตกใจ น้องรีบผลักไอ้หรั่งออกจากตัว ภาพมันเหมือนในละครแทบทุกอย่าง แค่แฟนของผมไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นเอง แม่ง เคยนั่งดูแล้วด่าพระเอกในละครว่ามันถูกจัดฉากนะไอ้โง่ แต่ตอนนี้รู้เองแล้วครับว่ากูโคตรช็อคเลย ฮืออออ

   “ทีม มันไม่ใช่อย่างที่ทีมคิดนะ ฟังฝุ่นก่อน” เด็กที่ผมรักสุดหัวใจดูตื่นตระหนกตอนที่วิ่งเข้ามารั้งผมเอาไว้ไม่ให้เดินกลับห้องไปด้วยอาการจิตหลุด แต่หน้าผมคงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้น้องถึงกับพูดไม่ออก

   “พูดมา” ผมเองก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาอุดเอาไว้ตรงขั้วหัวใจไม่ให้เลือดไหลผ่าน ตัวชา สมองหยุดการทำงาน ที่อกเหมือนโดนมีดเล่มเล็กๆ แทงอย่างไม่มีความปรานีจนเป็นรูรั่วจำนวนมาก

   “มัน มันไม่ใช่อย่างที่ทีมคิด ฝุ่นกับยูลไม่ได้มีอะไรกันนะ”

   “ไม่ได้มีอะไรกัน?...ฝุ่นคิดว่าพี่กินหญ้าเหรอ...พี่โง่สินะที่เชื่อใจ ถ่านไฟเก่ามันยังไม่มอดนี่เอง” ผมพูดเหมือนคนละเมอเพ้อ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพูดออกไปได้ยังไง ฝุ่นหน้าซีดไปถนัดตา น้องจับแขนผมแน่นขึ้นในขณะที่ไอ้เหี้ยมือที่สามมันกลับเดินเข้ามาดึงฝุ่นออกไปจากผม

   “so…he is mine?” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนจะสะบัดมือของน้อง แล้วเดินออกมาจากห้องนอนของฝุ่นด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ก็สงสัยอยู่บ้างว่าทำไมพักนี้ฝุ่นทำตัวแปลกไป แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นเรื่องพรรค์นี้กับตา

   ทันทีที่กลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ผมก็จัดการเลื่อนโต๊ะหัวเตียงมาบังประตูเชื่อมเอาไว้ เนื่องจากตรงนั้นมันไม่มีกลอน ไว้ให้ใจผมพร้อมมากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง

   ผมเดินวนไปมาในห้องนอนด้วยความวุ่นวายใจ รู้สึกร้อนรนปนเสียใจอยู่ตลอดเวลา เห็นภาพซ้อนของแฟนกับไอ้เหี้ยนั่นอยู่ด้วยกันก็ยิ่งปวดใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้ว่าคงจะไม่หายง่ายๆ ถ้าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง โทรศัพท์จึงเป็นสิ่งแรกที่ผมคว้าขึ้นมากดโทรออก

   “เชี่ยไกด์ เจอกันที่คอนโดมึงนะ” บอกไปแค่นั้นไม่ได้รอฟังด้วยซ้ำว่าปลายสายมันหลับแล้วหรือยัง ผมจัดการแต่งตัวใหม่ลวกๆ หยิบกระเป๋าเงิน โทรศัพท์และกุญแจรถ แล้วออกจากบ้านไปทันที

   

   “มึงเป็นส้นตีนอะไรถึงโทรหากูดึกดื่นแบบนี้” ทันทีที่มันเห็นหน้าผมก็สำรอกคำหยาบถามออกมาทันที

   “กูบอกมึงแล้วว่าฝุ่นมีชู้” ผมพูดไปก็เสียใจไป ไม่ปนขำๆ เหมือนทุกทีแล้ว เชี่ยไกด์ทำหน้าเหวอเล็กน้อยตอนที่จัดการปิดประตูห้อง มันเดินไปหยิบแก้วน้ำผลไม้มาส่งให้ผม

   “อะไรของมึงวะ อย่ามาแต่ผล กูขอเรื่องราวด้วย”

   “ก่อนหน้านี้ฝุ่นเคยมีคนสนิทชื่อยูล กูก็คิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะฝุ่นบอกว่าไม่เคยแม้แต่จะคบกันด้วยซ้ำ แต่มึงรู้มั้ยวันนี้กูเห็นอะไร” ผมเว้นช่วงไปนิดหนึ่ง รู้สึกเหมือนกำลังจะสำลักลมหายใจของตัวเองตาย มองหน้าไอ้เชี่ยไกด์นิ่งตอนที่บอก “ไอ้เหี้ยนั่นกำลังคร่อมเมียกูอยู่”

   “เฮ้ย จริงเหรอวะ เค้าเล่นกันรึเปล่า” ไกด์มันทำตาโต

   “เล่นเหี้ยอะไรล่ะ ถ้ากูเข้าไปช้ากว่านี้คงได้เห็นไอ้เหี้ยหรั่งกำลังไซร้คอฝุ่นอยู่ล่ะมั้ง” ผมพูดไปก็สบถไปด้วยความหัวเสีย

   “ถ้าเป็นงั้นจริงมึงจะทำไง”

   “แล้วมึงคิดว่ากูจะทำไงล่ะ” ผมย้อนถาม

   “ถ้าเป็นมึงที่กูรู้จัก มึงจะไม่ออกมาจากบ้านง่ายๆ แบบนี้หรอก คงบอกเลิกไปก่อนแล้วค่อยวิ่งแจ้นมาหากูเนี่ย”

   “แสรด นี่มึงยุให้กูเลิกกับเมียเหรอ” ผมตั้งท่าจะปาแก้วใส่ ไอ้ไกด์มันเลยเอาหมอนอิงขึ้นมากันพลางแก้ตัว

   “คำไหนในประโยคของกูวะที่บอกให้มึงเลิกกับฝุ่น หอกนี่ ตีความมั่วแล้วมาด่ากู” มันบ่นหงุงหงิงตามสไตล์ ก่อนจะบอกอีก “กูหมายถึงว่า ถ้าเป็นมึงตามปกติจะต้องทำแบบนั้น มึงจำดาวรัฐศาสตร์ที่มึงบอกเลิกเค้าต่อหน้าประชาชีเป็นร้อยได้มั้ยล่ะ”

   “เออ การกระทำที่ไม่แมนที่สุดในชีวิตกูเลย” ผมตอบรับแบบเซ็งๆ ดาวรัฐศาสตร์คงคิดว่าตัวเองสวยและฉลาดที่สุดในปฐพีเพราะเธอควงทั้งผม และผู้ชายวิศวฯ อีกคนนึง แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญที่ผมเป็นคนเพื่อนเยอะ เลยมีคนคาบข่าวมาบอก นั่นแหละ จัดเลย กลางลานเกียร์จ้ะ เอิ้ก

   “แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้วะ” ผมถามเพราะยังไม่เข้าใจว่าไอ้ไกด์ต้องการจะบอกอะไร

   “ไม่เกี่ยว กูแค่ยกตัวอย่างว่ากับคนอื่นที่เขานอกใจมึง มึงก็ยังกล้าบอกเลิกเขาได้แบบหักหน้ากันแรงๆ แต่กับฝุ่น มึงเห็นขนาดนั้นก็ยังไม่บอกอะไรน้องไง”

   “แต่กูก็เสียใจ” ผมบอกหงอยๆ

   “เออ กูรู้ ก็เพราะมึงรักน้องไง เลยเป็นแบบนี้” มันบอกอีก “แต่เซ้นส์กูบอกว่าฝุ่นไม่ได้นอกใจมึงอย่างที่มึงคิดหรอก”

   Rrrr Rrrr

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้พวกผมสองคนต้องชะงักบทสนทนาไว้แค่นั้น ไอ้ไกด์หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆ ตัวขึ้นมาดูที่หน้าจอ มันยื่นมาให้ผมดูแวบหนึ่ง ก่อนจะเอากลับไปกดรับ

   ...เบอร์ส่วนตัวของฝุ่น... 

   “หวัดดีคร้าบ” มันกรอกเสียงกวนตีนลงไป ผมไม่รู้ว่าปลายสายพูดว่าอะไรกันแน่แต่จากคำตอบของไอ้ไกด์ก็ทำให้พอเดาออก

   “หืม..เชี่ยทีมเหรอ” มันหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถาม ผมเลยรีบโบกมือพลางส่ายหน้าดิกให้มันตอบไปว่าไม่อยู่ ไอ้ไกด์ก็ทำตามอย่างดิบดี “ไม่อยู่นะน้องฝุ่น มีอะไรกันรึเปล่า”

   “...อ่อ งั้นถ้าพี่เจอไอ้ทีมแล้วจะบอกให้มันโทรหานะ..ครับ หวัดดีครับ”

   “ฝุ่นบอกว่าอะไร” กว่าจะทันได้ห้ามปาก ก็ถามออกไปแล้ว ไอ้ไกด์ทำหน้าตาเหรอหราแบบจงใจกวนตีน

   “อยากรู้ก็โทรไปถามสิวะ โอ๊ยไอ้เหี้ย!” มันด่าเต็มเสียงเพราะผมเขวี้ยงหมอนใส่หน้า ไอ้ไกด์จับจมูกตัวเองที่แดงก่ำเพราะแรงกระแทกก่อนจะยอมบอก “น้องบอกว่ามึงเข้าใจผิดนิดหน่อย พอจะเข้าไปอธิบายที่ห้อง มึงก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ น้องร้องไห้ด้วยนะมึง

   “กูกลับบ้านก่อนนะ” ได้ยินมันบอกแบบนั้นก็รู้สึกเหมือนกำลังจะหยุดหายใจ ผมคว้ากุญแจรถบนโต๊ะแล้วลุกขึ้น เชี่ยไกด์รีบคว้าชายเสื้อผมไว้ทันที

   “โอ๊ย ไอ้เหี้ย มึงนั่งลงก่อนเลย” ก็เมียร้องไห้อะ กูต้องรีบกลับไปดูแลนะ TT เห็นน้องร้องไห้ทีไร ใจจะขาดทุกที “ถ้ามึงอยากให้บทเรียนดีๆ กับฝุ่นมึงก็เชื่อกู แต่ถ้าอยากเห็นสถานการณ์แบบนี้ซ้ำรอยอีกก็กลับบ้านไปปลอบเมียมึงซะเดี๋ยวนี้เลย”

   กูยังมีตัวเลือกเหลืออีกเหรอวะ โอ้ก น้ำตาจะไหล



เจอกันตอนที่ 17 จ้ะ

eiizes’s talk
มาแว้วววววววววววววววว หายไปหลายวันอยู่(หัวเราะชั่ว)

พยายามเขียนตอนพิเศษ ค่อยๆ เคลียร์ไปเรื่อยๆ ค่ะ ทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนค่อยเปิดจองเนอะ :)

ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดีเลยค่ะ เดี๋ยวก็หนาวเดี๋ยวก็ร้อน ตอนหนาวนี่ก็ขอขดอยู่แต่ในผ้าห่มล่ะ สบายสุด เอิ้ก

ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้และวันพุธก็จะหนาวขึ้นมาอีกระลอกนึง รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคนนนน

เจอกันตอนหน้าจ้ะ มีคอมเม้นท์อะไร จัดได้นะจ๊ะ อุคิ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 21-03-2011 14:51:24
โฮ๊ยยย ไม่รู้จะเห็นใจใครดี
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-03-2011 15:11:51
ตอนนี้ทีมน่ารักกกกมากกกกก  เหอ เหอ  รักเมีย  หลงเมีย  ก็หึงหน้ามืดแบบนี้แหละ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BF-e ที่ 21-03-2011 15:13:13
ฝุ่นมีชู้~~~~
 ทีมซวยเเล้วไง :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 21-03-2011 15:18:39
ลุ้นมากๆค่ะ บางทีฝุ่นก็น่าจะใส่ใจความรู้สึกพี่ทีมหน่อยเนอะ...
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 21-03-2011 15:21:32



   โอว ไม่รู้จะว่าฝุ่นปล่อยตัวตามธรรมชาติไปนิด หรือทีมหึงมากไปหน่อยดี
   แต่ที่แน่ๆ ชอบคำแนะนำขอไกด์จังเลย เจ็บนิดหน่อยแปปเดียว แต่ให้ได้รักและเข้าใจกันอีกนานๆๆ
   ว่าแต่ว่ายูลนี่ร้ายไม่เบาเลยนะ



หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-03-2011 15:26:56
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ รอตอนต่อคร่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 21-03-2011 15:36:25
ฝุ่นงานเข้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: annis204 ที่ 21-03-2011 15:42:01
เป็นครั้งแรกที่อ่านแล้วรู้สึกว่าอยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ
คิดว่าฝุ่นน่าจะทำตัวดีกว่านี้นะ ไม่น่าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าแฟนตัวเอง
ก็สมควรแล้วที่จะได้รับบทเรียนบ้าง แต่... อย่าจัดหนักนักนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-03-2011 15:47:24
อ๊ากกกกก!!!ค้างงงงงง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-03-2011 16:28:50
ระวังเหอะ ไม่ยอมกลับไปอ่ะ

แล้วอะไรๆมันอาจจะสายเกินไปแล้วก็เป็นได้นะ  o16


ปล. ชอบยูลอ่ะ ขอเชียร์ยูลได้มิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 21-03-2011 18:05:26
เอาแล้วไงน้องฝุ่น
เรื่องจริงที่นิยายส่วนใหญ่เอาไปเขียน ฮ่าๆๆๆๆๆ
พี่ทีมใจเย็นๆเน้อ สงสารน้อง
แต่น้องก็นะ เล่นไม่เป็นเล่น ถึงเนื้อถึงตัวเกิ้น
เป็นใครๆก็โกรธ แฟนที่รักทั้งคน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-03-2011 18:35:53
ฝุ่นเอ๋ย รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ
เป็นแฟนกันแล้วรู้จักถนอมน้ำใจอีกฝ่ายด้วยนะ คิดเยอะๆก่อนทำนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 21-03-2011 18:43:35
ก๊ากกค้าง

อยู่ในอารมณ์ไม่สามารถเข้าข้างใครได้เลย  :z13:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 21-03-2011 19:34:09
:เฮ้อ: :เฮ้อ:  รอหน่อยนะทีมเพื่อความชัดเจน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 21-03-2011 20:20:39
ไหนยูลเคยบอกว่าเห็นฝุ่นเป็นน้องชายไง
หรือจะทดสอบอะไรทีม?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 21-03-2011 20:32:12
มันค้างได้ใจมากมายเลย
เราว่าที่ยูลทำมันจะมีเหตุผลอื่นก็ได้น่ะ
แบบว่าอยากทดสอบทีมอะไรแบบนี้
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 21-03-2011 20:51:43
งานเข้าละฝุ่น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 21-03-2011 20:52:18
 :z3: อ๊ายยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 21-03-2011 21:06:01
หายไปตั้งหลายวัน

พอกลับมาก็มาทำให้เค้าค้างอีก

ชิชิ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: arebaba ที่ 21-03-2011 21:49:18
ทีมน่ารักอ่ะ ยอมฝุ่นทุกอย่างเลย หาแบบนี้ได้ที่ไหน

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 21-03-2011 22:13:55
ง่าาาา
อ่านไปแรกๆ คิดไว้แล้วว่าจะเม้นท์ว่า แค่คนเก่าไม่มีอะไร
แต่อ่านมาเจอ ช็อตที่เปิดไป แล้วกำลัง ใกล้ชิดเพียงลมหายใจ
ไปต่อไม่ถูก ขออนุญาตปล่อยพี่ทีมไป นะ
เหอะๆ  ฝุ่นจะง้อยังไงเนี่ย
พี่ทีมท่าทางจะงอนเอามากๆเลย หวังว่าจะไม่ดราม่านะคะ
><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 21-03-2011 22:28:40
กรีีดดดๆๆๆ มาต่อเร็วๆๆนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 21-03-2011 22:37:37
ตอน 17 อย่าให้รอนานนะ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kissme ที่ 22-03-2011 00:04:43
 o13 ซู๊ดยอดของสุดยอด คือ เพื่อนไกด์นี่เอง o13

อยากรู้จริง ๆ ว่าความรักของไกด์จะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 22-03-2011 00:54:55
ฝุ่นไม่ทำให้มีลับลมคนในแต่แรก ก็เลยไม่เป็นอย่างนี้นะจ้ะ
เฮียทีมจัดการน้องเลยจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-03-2011 12:23:14
ไงละฝุ่นเล่นกันดีนักงานเข้าเลย

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 22-03-2011 15:38:36
เหอะ ๆ น้องร้องไห้ด้วย

ทีมเอาให้เคลียร์ไปเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-03-2011 00:03:42
อยากอ่านต่อจริงๆ - -
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 23-03-2011 20:19:10
โอ้ย ทีมเอ้ย เจ้าประคุณรุนช่อง
พ่อทีมช่างน่าสงสารเหลือเกิน

เมียมีชู้ แถมยังพาชู้เข้าบ้านอีก เอิ้ก
เห็นชื่อตอนแล้ว ลิสชู้เพียงคนเดียวในหัวนี่
ต้องเป็น ยูล เท่านั้นจริง ๆ  :laugh:

พ่อทีมต้องอดทนนะจ๊ะ
รู้น่า เมียร้องอยู่ต้องคอยปลอบ คอยดูแล
แต่เพลานี้แล้ว มันยังไม่ถึงเวลา
ต้องรอหน่อย  ..ก็อย่างที่พ่อไกด์เค้าว่านั่นแหละ

รอตอนต่อไปจ้ะ
พีเอส ขอรีเควสฉากฝุ่นตอกหน้าไอ้หรั่ง กร๊ากกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A_ay ที่ 24-03-2011 01:04:05
เอิ่ม อ๋อง

แบบนี้เขาเรียก ไอ้แก่ ความรู้สึกช้า :beat: :beat:

 :o8:

ฮาทีม  จะไปโอ๋ซะละ  กร๊ากกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 24-03-2011 14:44:59
ฝุ่นอ่ะ ดีใจออกนอกหน้าไปนิดนึงนะ ที่ยูลมาอ่ะ

 :z1: แล้วเฮียจะกลับไปปลอบยังไงเนี่ย

 :serius2: โอ๊ยค้าง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 24-03-2011 19:41:18
 :-[ง่า...มาขอติดตามผลงานด้วยคน เพิ่งมาอ่านรวดเดียวจบ ติดใจซะแร้ว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 24-03-2011 19:54:00
3วันแล้วน้าาาาาาาาา

มาต่อซักทีเหอะนะๆๆๆ
  :call: :call: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 24-03-2011 20:24:09
โหย พี่ทีม น่ารักอ่ะคะ ^^

อยากอ่านตอนต่อไปมากกกกกกกกก

(วิบัติเพื่อเสียงเท่านั้น)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 24-03-2011 23:25:04
+1
ว่า ไม่ เชื่อ เ็ด็ด ขาด
อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 16!! ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? ♥ [21/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-03-2011 10:11:33
รอคร๊าบบบบ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 26-03-2011 21:03:35

   ผมไม่เคยทะเลาะกับทีมด้วยปัญหางี่เง่าแบบนี้ มันไม่เคยทำตัวเหมือนพระเอกโง่ๆ ในละคร และผมก็ไม่เคยคิดด้วยว่าทีมจะหนีปัญหาด้วยการหายตัวออกไปจากบ้านทั้งที่เรายังไม่ได้เคลียร์อะไรกันสักปากเลยด้วยซ้ำ เมื่อคืนผมยอมรับว่านอนอยู่บนเตียงแล้วยูลดันพิเรนทร์ขึ้นมาคร่อม แต่ถ้าทีมเข้ามาในห้องเร็วกว่านั้นสักสองนาทีก็จะทันได้เห็นผมพยายามผลักยูลออก...

   เกือบทุกอย่างที่ทีมเห็นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช้แสตนท์อิน แต่สิ่งที่เป็นแค่เรื่องโกหกก็คือจินตนาการของแฟนผม เอาแต่ระแวงว่ายูลเคยเป็นคนรักเก่าของผมทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่ ยูลไม่ได้ต่างอะไรกับน้าอิ่ม ทั้งสองคนเป็นคนที่พยุงผมในวันที่ล้ม และจูงผมมาส่งให้ไอ้บ้าทีม แต่มันกลับไม่เคยสนใจที่จะรับรู้เลยสักครั้งเดียว

   “ฝุ่น ไม่ทานข้าวหน่อยเหรอ เขี่ยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” ยูลหันมาเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากผมพลางถามอย่างใจดีเหมือนทุกทีที่เราเคยอยู่ด้วยกัน แต่วันนี้...หัวใจผมไม่เหมือนเดิม ปฏิกิริยาที่เผลอแสดงออกไปคือการเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสนั้น ยูลชะงักมือแล้วถอยออกไปช้าๆ

   “ขอโทษนะ เพราะฉันอีกแล้ว” ยูลบอกเรียบๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ภาพที่เห็นมันพร่ามัวกว่าที่คิดไว้เพราะน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองเริ่มกลายเป็นคนขี้แยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ผมก็เจ็บทุกครั้งที่ทีมโกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรถึงจะดี ตอนเด็กพ่อเคยสอนผมท่องก.ไก่ โตมาน้าอิ่มสอนบวกลบเลข พอเข้าโรงเรียนคุณครูก็สอนให้เป็นคนดี ยูลสอนให้ผมเข้มแข็ง

   แต่ไม่เคยมีใครสอนผมเลย ว่าอาการเจ็บร้าวที่เกิดขึ้นโดยง่ายดายแบบนี้ต้องทำอย่างไรกับมัน..?

   “ทีมไม่รับสายฉันเลย” ผมได้ยินตัวเองพูดออกไปแบบนั้น ยูลหน้าเสียลงไปนิดหน่อย

   “ถ้าเป็นฉันไม่รับสายนายบ้าง นายจะกังวลแบบนี้มั้ย” ผมไม่รู้ว่ายูลต้องการคำตอบแบบไหน แต่สิ่งที่ใจผมคิดก็คือคำตอบที่พูดออกไป

   “แต่นายก็ไม่เคยตัดสายฉันทิ้ง...ถ้านายไม่รับ ก็แปลว่ากำลังยุ่ง แต่อีกเดี๋ยวนายก็จะโทรกลับมา” ผมบอกหงอยๆ พลางปาดน้ำตาให้พ้นไปจากแก้ม โชคดีที่วันนี้น้าอิ่มกับลุงสินออกไปทำงานแล้ว ผมจึงไม่ต้องเพิ่มปัญหาให้กับตัวเองด้วยการมานั่งหาข้ออ้างว่าทำไมถึงได้ตาปูดโปนแบบนี้

   “นั่นสินะ...” เขานิ่งไปนิดหน่อยราวกับใช้ความคิด “แล้วเพื่อนของหมอนั่นล่ะ โทรหาบ้างรึยัง”

   “โทรถามพี่ไกด์แล้ว แต่ก็..ไม่อยู่”

   ผมวางช้อนลงบนจานทั้งที่เล็มข้าวไปแค่ไม่กี่เม็ด ได้ยินเสียงยูลถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะบอก

   “ไปเที่ยวกันดีกว่า ไม่ว่ายังไงบ้านหลังนี้ก็เป็นของหมอนั่น เดี๋ยวเขาก็กลับมา” ยูลเดินมาดึงผมให้ลุกขึ้นตาม เขาก้มลงมาจูบซับน้ำตาให้เบาๆ ทั้งที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว

   “อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะยูล ฉันขอร้อง” ผมบอกแล้วผลักออก ยูลยักไหล่แล้วยกจานกับข้าวไปเก็บในตู้โดยไม่ได้พูดอะไรอีก



   สรุปว่าวันนั้นยูลก็ลากผมออกไปเที่ยวจนได้ ทั้งที่ในอกยังอัดแน่นไปด้วยความไม่สบายใจ ทั้งหมดไม่ได้เป็นเพราะยูล แต่ตัวต้นเหตุคือผมเองที่ไม่รู้จักวิธีจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ก็แอบสงสารเพื่อนที่แสนดีคนนี้อยู่มากพอสมควร เพราะเขาเองก็อยากให้ผมยิ้มและสบายใจ แต่ก็ได้แค่ในช่วงนั้นเท่านั้นเอง กลับมาอยู่คนเดียวก็นั่งหงอยเหมือนเดิม

   ...ขออภัยค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

   ถ้าบอกว่าโคตรเกลียดผู้หญิงคนนี้ผมจะผิดมากน้อยแค่ไหน ชอบพูดขึ้นมาทุกทีที่มีเรื่องสำคัญ...ทีมไม่รับสายผมมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอตอนเช้าโทรหาใหม่ก็ได้เรื่องว่ามันปิดโทรศัพท์หนีหายไปจากโลกเป็นที่เรียบร้อย ผมไม่ชอบเลยที่มันทำแบบนี้ มีปัญหาอะไรทำไมไม่คุยกันให้เรียบร้อย ทั้งที่เรื่องมันไม่มีอะไรเลยแท้ๆ

   โทรไม่ติดหลายๆ รอบเข้าผมก็เริ่มท้อ เลยเปลี่ยนเป็นส่งข้อความหาแทน พิมไปสารพัดรูปแบบด้วยหวังว่าไอ้แฟนบ้าจะเห็นใจและโทรกลับมาฟังผมอธิบาย แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความหวังเล็กๆ ที่กำลังจะดับมอดในไม่ช้า เพราะนอกจากทีมจะไม่เห็นใจแล้ว มันยังทำเมินไม่แม้แต่จะตื๊ดกลับมาด้วยซ้ำ

   ผมตัดสินใจนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นทั้งที่ยูลลงมาตามให้ขึ้นไปนอนมากกว่าสิบรอบแล้ว โทรทัศน์ถูกผมเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ อย่างเบื่อหน่าย

   สามทุ่มครึ่งก็แล้ว ห้าทุ่มยี่สิบก็แล้ว ตีหนึ่งกว่าก็แล้ว...ผมก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนนิสัยไม่ดี จากตอนแรกที่หัวใจมันแห้งเหี่ยวเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ ก็เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดมากขึ้น โทรศัพท์ถูกผมคว้ามากดโทรออกอย่างไม่สนใจแม้กระทั่งว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับก็เหมือนเดิม

   ...ขออภัยค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

   โอ้ก นี่มึงจะโกรธกูเอาโล่เลยรึเปล่าวะ

   แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากกดพิมข้อความส่งหาไอ้แฟนบ้าอีกรอบ หักลบความโกรธเติมความอ้อนอีกหน่อยมันอาจจะเห็นใจก็ได้มั้ง

   ...ทีม ไม่อยากคุยกับฝุ่นเหรอ โทรหาหน่อยสิ คิดถึงนะ...

   สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำตัวแต๋วขนาดนี้เลย แม่ง ไม่รักกูไม่ทำนะ ฮึ่ย!


   อยากพูดให้เต็มปากว่าผมตื่นรอทีมทั้งคืน แต่ก็ดันมาเสียทีตกม้าตายตอนจบทนความง่วงไม่ไหวคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น แรงเขย่าที่แตะลงบนต้นแขนแผ่วเบาทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

   “ทีม!” ได้ยินตัวเองร้องไปแบบนั้น แต่หัวใจที่พองโตเพราะคิดว่าทีมกลับมาก็ต้องแห้งเหี่ยวไปทันตาเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมคือน้าอิ่มกับสีหน้าเป็นกังวล “น้าอิ่มเองเหรอครับ”

   “ทำไมไม่ขึ้นไปนอนบนห้องล่ะฝุ่น มานอนอะไรตรงนี้”

   “เอ่อ..ผมรอทีมอยู่ เราทะเลาะกันนิดหน่อย” ผมพึมพำตอบไปตามความจริง...แต่ไม่หมด น้าอิ่มไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น

    “อ้าว แต่ทีมเพิ่งออกจากบ้านไปก่อนหน้าฝุ่นตื่นนี่เองนะ” ได้ยินแบบนั้นก็แทบน้ำตาร่วง ทั้งๆ ที่เห็นว่าผมนอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแท้ๆ แต่กลับไม่คิดจะปลุกหรือเรียกมาคุยกันแม้แต่น้อย ผมยอมรับว่าตัวเองก็ไม่ดีที่ปล่อยให้ยูลถึงเนื้อถึงตัวมากขนาดนั้นแต่ทีมก็น่าจะเชื่อใจและฟังผมอธิบายบ้าง

   “น้าอิ่ม...น้าอิ่มโทรหาทีมให้ฝุ่นหน่อยได้มั้ย” เสียงผมสั่นจนคิ้วของน้าอิ่มเริ่มขมวดเข้าหากันมากขึ้น

   “ฝุ่น ใจเย็นๆ นี่เป็นอะไรกันแน่” น้าอิ่มถามด้วยสีหน้าสงสัยปนเป็นกังวลอย่างมาก

   “เรามีปัญหากัน แล้วทีมไม่รับโทรศัพท์ฝุ่นเลย น้าอิ่มโทรหาทีมให้หน่อยนะ” ผมพยายามขอร้อง น้าอิ่มจึงยอมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกทั้งๆ ที่ยังไม่คลายความสงสัย ภาพที่ผมเห็นเริ่มพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตามากขึ้นเมื่อน้าอิ่มโทรออกได้แค่อึดใจเดียวปลายสายก็กดรับ

   “ทีม น้าเองนะ” น้าอิ่มพูดพลางมองหน้าผม “ตอนนี้อยู่ไหนเหรอจ๊ะ...อ่อ เปล่าหรอก คือฝุ่นบอกว่าเราสองคนทะเลาะกันเหรอ”

   ผมนั่งเฝ้ารอคำตอบด้วยใจระทึก พักเดียวน้าอิ่มก็กรอกเสียงใส่โทรศัพท์อีก

   “เปล่า...น้องไม่ได้ฟ้อง แต่น้าถามเอง..จ้ะ เอางั้นเหรอ จ้ะ ได้ ขับรถดีๆ ก็แล้วกัน แค่นี้นะ”

   แล้วน้าอิ่มก็วางสายไป...ทีมไม่แม้แต่จะขอพูดกับผมสักคำ...

   “ทีมว่าไงบ้างครับน้าอิ่ม” ผมถาม

   “เอ่อ..ไม่ได้ว่าอะไรจ้ะ ทีมบอกว่าตอนนี้กำลังจะออกจากกรุงเทพฯ แล้วอีกสองสามวันจะกลับมา”

   “เหรอครับ...” ผมพึมพำตอบเสียงเบา ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำแล้วลองโทรหาทีมอีกรอบ แต่น้าอิ่มกลับคว้าข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน “มีอะไรรึเปล่าครับ”

   “ฝุ่น..คือ น้าไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเราสองคน แต่เท่าที่น้าดูเรามาตลอดหลายเดือน บอกน้าได้มั้ยว่าความสัมพันธ์ระหว่างฝุ่นกับทีม...เรียกว่าอะไร” ผมรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน พระอาทิตย์หยุดส่องแสง มืดดับไปชั่วขณะ สมองไม่รับรู้คำถามของน้าอิ่มและไม่คิดจะประมวลผลใดๆ ออกมาทั้งนั้น ได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าน้าอิ่มราวกับคนบ้าใบ้อยู่เกือบสามนาที

   “ตอบน้าไม่ได้เหรอฝุ่น เรากลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจกันตั้งแต่เมื่อไหร่” น้าอิ่มถามผมเบาๆ

   “ฝุ่น...”

   “They are dating.” ไม่ใช่ผมหรือทีมที่ให้คำตอบนั้นกับน้าอิ่ม กลับเป็นคนที่ผมไม่ต้องการจะให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากที่สุดอย่างยูลเป็นคนยื่นคำจำกัดใจความนั้นออกมา ผมหันกลับไปมองเพื่อนที่รักที่สุดในชีวิตกำลังเดินลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าโกรธเคือง ผมไม่รู้ว่ายูลโกรธเรื่องอะไร ทั้งที่จริงแล้วควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือ..?

   “ยูลพูดอะไร” ผมพยายามกลบเกลื่อนแล้วหันกลับไปมองน้าอิ่มที่นิ่งค้างไปเสียแล้ว

   “ผมพูดจริง ลูกชายของสามีน้ากำลังคบกับฝุ่นอยู่” ยูลยืนยันคำเดิม น้าอิ่มหันกลับมามองหน้าผมอย่างไม่อยากเชื่อ “และทั้งสองคนกำลังมีปัญหากันเพราะผม...หมอนั่นคิดว่าผมมาที่นี่เพื่อเอาฝุ่นกลับไป หึ น่าสมเพชที่มันมีส่วนจริง”

   “เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ น้างงไปหมดแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน”

   “น้าอิ่ม...” ผมเรียกด้วยเสียงที่แผ่วเบา ความรู้สึกกลัวความผิดแบบตอนที่ยังอยู่อเมริกาตามลำพังกับแม่กลับมาตามหลอกหลอนผมอีกครั้ง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอตอนที่ยูลยื่นกระดาษใบหนึ่งมาให้ ผมรับมันมาเปิดดูด้วยมือที่สั่นเทาจนยากจะห้าม

   ตั๋วเครื่องบินกลับอเมริกา...

   “คงไม่คิดจริงๆ หรอกใช่มั้ยว่าฉันมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมนายกับน้าอิ่มเท่านั้น” ยูลพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้ๆ ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองมายังผมราวกับต้องการจะอ่านให้ทะลุ

   “ยูลหยุดก่อน! ฝุ่น เล่าเรื่องให้น้าฟัง...ทั้งหมด!”

   “นายจะโกหกคนที่ดีและจริงใจกับนายมาทั้งชีวิตได้ลงคอเชียวหรือ ทำไมไม่บอกน้าอิ่มไปว่าระหว่างนายกับทีมไปถึงไหนกันแล้ว” ...ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่ยูลที่ผมรู้จักอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้ทั้งอวดดี ทั้งใจร้ายและจ้องจะจับผิดผมเพื่อเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพยายามรักษาไว้ไปให้คนที่ดีกับผมมาทุกนาทีของชีวิต..รู้ทั้งรู้ว่าผมจะโกหกน้าอิ่มไม่ลง

   ทีมอยู่ที่ไหน ผมอยากเจอทีม!



   สุดท้ายก็เป็นผมที่นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่มีเสียงสะอื้นแม้แต่อึกเดียว หัวใจเจ็บร้าวจนไม่รู้จะหาทางไหนเยียวยาให้หายดี ทีมเดินจากไปด้วยความโกรธเพราะผมทำตัวไม่ดี เพื่อนที่ผมรักและไว้ใจที่สุดก็หักหลังด้วยการบอกญาติสนิทถึงเรื่องความสัมพันธ์เกินพี่น้องของผมกับทีม และน้าอิ่มเองก็ดูจะช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย

   น้าอิ่มรับปากว่าจะไม่บอกอะไรลุงสินแม้แต่คำเดียว แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ภูเขาลูกใหญ่บนอกผมถูกยกออกไปได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมยูลต้องทำแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ฝ่ามืออุ่นคู่นั้นคอยประคองผมเสมอ แต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ผลักผมให้ล้มลงอย่างไม่ไยดี

   “ไม่หิวข้าวหรือ” ยูลนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วเอื้อมแขนมาคร่อม พลางชะโงกหน้าถามผมที่นอนหันหน้าเข้าหาผนัง

   “ไม่คิดว่าฉันหยุดหายใจไปแล้วบ้างเหรอ” ผมถาม เสียงที่ออกไปกลับแหบจนน่าเกลียด ทั้งยังขึ้นจมูกจนแทบหายใจไม่ออก

   “ไม่เคยมีใครตายเพราะความรัก” เสียงทุ้มห้าวกระซิบตอบ ก่อนที่ยูลจะก้มลงจูบเบาๆ ตรงข้างแก้ม “ความรักไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เราที่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น”

   ทั้งที่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะตะคอกใส่เพื่อนผู้แสนดี ทว่าคำพูดนั้นกลับทำให้ผมอดรนทนไม่ได้ ลุกพรวดขึ้นนั่งจนยูลเองยังตกใจและผงะออกไป

   “ความรักไม่ได้ทำร้ายฉัน...นายต่างหากที่หักหลังและฆ่าฉันด้วยมือของนายเอง!!” ผมตะคอกเสียงดัง แล้วจ้องหน้าเพื่อนที่ผมรักมากที่สุดผ่านม่านน้ำตาด้วยความโกรธเคือง ยูลขมวดคิ้วแน่นยกมือขึ้นบีบคางผมอย่างแรงพลางกัดฟันบอกเสียงขุ่น

   “คิดจริงๆ หรือว่าฉันอยากยกนายให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้น่ะ ทั้งที่ฉันเป็นคนแรกของนาย เป็นทุกอย่างของนาย จำได้มั้ยฝุ่น” ได้ยินยูลถามแบบนั้นผมก็ยิ่งโกรธ พยายามสะบัดใบหน้าออกจากการจับของปลายนิ้วแข็งแรงที่ไม่ปรานีแม้แต่น้อย

   “นายแค่เคยเป็น!!” ผมตะคอกกลับ

   “หรือว่าฉันต้องเรียกความทรงจำของนายกลับมาถึงจะดี หืม” เสียงทุ้มห้าวกระซิบอีกครั้ง ยูลยิ้มเหี้ยมก้มลงมาจูบโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ได้แต่พยายามดิ้นแต่ก็โดนกัดเสียจนเลือดซิบ ยูลใช้ความได้เปรียบด้านสรีระที่ใหญ่โตและพละกำลังที่มากกว่าเหวี่ยงผมลงนอนกับเตียงอีกครั้ง สองมือที่โดนจับเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถแม้แต่จะดิ้นรนเรียกอิสรภาพของตนเอง

   “นายบอกว่าฉันเป็นน้องที่นายรัก จำได้มั้ย อย่าทำแบบนี้นะยูล” ผมพยายามเตือนสติยูลที่บ้าไปแล้ว อะไรที่คิดออกก็พยายามพูดออกมา เสียงยูลหัวเราะในลำคอก่อนจะถอนจูบออก

   “You are not my bros…never ever”

   เพียงเท่านั้นน้ำตาผมก็ไหลอีกครั้ง ร่างกายพาลหมดแรงไปเสียดื้อๆ ปากที่เคยพยายามพูดเตือนสติให้เขาเลิกบ้าก็ได้แต่พยายามอ้าเพื่อโกยอากาศเข้าปอดเมื่อจมูกผมมันอู้อี้จนหายใจไม่ออกอีกต่อไป หัวใจเจ็บร้าวและไม่รับรู้อะไรแต่ได้เต้นอย่างไร้ชีวิตจนเสื้อยืดที่ผมใส่เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานนั้นถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้ตัว กระทั่งแรงจูบที่รุนแรงเริ่มอ่อนลงจนกลายเป็นสัมผัสที่อบอุ่นอย่างที่ผมคุ้นเคย

   “ทั้งที่ฉันมาก่อน...ทั้งที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้นายยิ้ม ดีใจ...แต่ทำไมนายถึงเลือกหมอนั่น” เสียงเขาสั่นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยิน “ทั้งที่ฉันคิดกับนายแบบนี้ แต่ก็ต้องทนบอกว่านายคือน้องชายที่ฉันรักที่สุด...เคยถามตัวเองบ้างมั้ยว่าพี่ชายคนไหนอยากจูบ และร่วมหลับนอนกับน้องชายตัวเองแบบนี้...รับรู้ความรู้สึกฉันบ้างเถอะฝุ่น”

   ยูลที่บ้าจนสติแตกเอาไม่อยู่นั้นหายไป กลับกลายเป็นเพื่อนที่แสนดีคนเดิมอีกครั้ง แรงกอดกระชับที่ตัวผมแน่นขึ้นพร้อมกับศีรษะที่ก้มลงมาซบตรงซอกไหล่ ก่อนเสียงทุ้มห้าวนั้นจะกระซิบบอกแผ่วเบาทว่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เอ่อล้น

   “ฉันรักนาย...รักด้วยทุกลมหายใจที่มีอยู่”

   “ขอโทษนะยูล แต่ฉันคงรับความรักของนายไว้ไม่ได้” ผมกระซิบตอบกลับไป เรื่องความรู้สึกของยูลเรียกว่าผมไม่รู้ก็คงไม่ได้...ร่างกายและหัวใจไม่มีอาการช็อคหรือตกใจใดๆ ทั้งนั้น ยิ่งยูลพูดก็ราวกับกำลังตอกย้ำสิ่งที่ผมรู้ดีอยู่แล้วเพียงแต่ไม่เคยยอมรับมันเท่านั้นเอง

   ทุกรอยยิ้มที่ยูลมี คือความเห็นแก่ตัวที่ผมอยากเก็บไว้คนเดียว ทุกแรงกอดที่ยูลกระชับเข้าหา คือความเห็นแก่ตัวที่ผมไม่อยากให้ใคร ทุกความรักที่ยูลมอบให้ คือความเห็นแก่ตัวที่ผมไม่เคยแบ่งปันให้ใคร...

   และผมก็รู้ดีว่ายูลเต็มใจที่จะให้ผมเห็นแก่ตัวเช่นนั้น ทั้งที่ยูลรู้ดีว่าผมไม่เคยยอมให้ยูลก้าวเกินคำว่าเพื่อนหรือพี่น้อง แต่เขาก็ยังยินดีอยู่ตรงนี้ข้างๆ ผมเสมอมา....เพื่อนแบบเขา ผมจะหาได้จากที่ไหนอีก...

   “ฉันไม่อยากได้ยินคำนั้น” เขากระซิบ

   “ฉันรักนาย พี่ชายที่แสนดีเพียงคนเดียวของฉัน” ผมตอบ ยูลถอนใบหน้าออกจากซอกคอแล้วจ้องมองผมนิ่งด้วยดวงตาที่แดงก่ำคล้ายคนกำลังจะร้องไห้

   “ลืมมันไปได้มั้ย เรื่องวันนี้” เสียงทุ้มนั้นกระซิบถาม ผมหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

   “ฉันลืมความรักที่แสนดีของนายไม่ได้หรอก ขอโทษนะยูล...ให้ฉันเก็บมันเอาไว้ที่ตรงนี้ในฐานะความทรงจำที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งแทนได้มั้ย” ผมเอื้อมมือไปแตะที่ตรงหัวใจของยูล หมอนั่นนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

   “แล้วฉันจะขัดใจนายได้ยังไง”

   ยูลกอดกระชับผมเอาไว้แผ่วเบา เรียกกำลังใจที่หดหายไปคืนมาได้จำนวนหนึ่ง แต่เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้กันทำให้ผมยังไม่อาจวางใจ น้าอิ่มรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา ในขณะที่ทีมยังไม่แม้แต่ยอมรับโทรศัพท์ ผมรู้สึกคล้ายๆ ว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นเชือกไม่อาจเดินต่อหรือถอยกลับได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการร่วงหล่นลงในเหวลึกอย่างมาก

   บางครั้งผมก็สงสัยว่าถ้าวันนึงเราถูกบีบบังคับให้แยกทางเดิน ทีมจะทำยังไง..? ดิ้นรนยึดยื้อสถานะของเราเอาไว้อย่างนี้ หรือจะยิ้มออกมาบางๆ อย่างที่ชอบทำแล้วเดินจากไปโดยไม่เจ็บกันนะ..?

   ผมตัดสินใจผละออกจากยูล ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์จากบนโต๊ะมากดโทรหาทีมอีกครั้ง คราวนี้แฟนของผมเปิดเครื่องแล้ว แต่รออยู่นานจนผมเกือบจะกดวางแล้ว กว่าที่ทีมจะยอมรับสาย

   ((.......)) เมื่อเขาไม่ยอมพูด ก็คงต้องเป็นผมที่เริ่มทุกอย่างบ้าง

   “ทีม..ฝุ่นเองนะ พี่อยู่ที่ไหน” ผมได้ยินเสียงตัวเองกำลังสั่น ปลายสายเงียบไปพักใหญ่กว่าจะยอมตอบ

   ((อยู่ข้างนอก ฝุ่นมีอะไรรึเปล่า)) น้ำเสียงเย็นชาไม่เหมือนทุกทียิ่งทำให้ผมใจแป้ว

   “วันนี้จะรออยู่ที่ห้อง กลับมาคุยกันนะ” อยู่ๆ ผมก็พูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าเข้าไปรอโดยที่ไม่ได้พูดอะไรน่าจะมีโอกาสได้เจอมากกว่า แต่อะไรบางอย่างกลับบอกให้ผมพูดไปอย่างนั้น เสี้ยวหนึ่งในใจของผมยังคงเชื่อว่าทีมจะกลับมาเพื่อคุยเรื่องนี้ และเราจะต้องดีต่อกันเหมือนเดิม

   ((มีอะไรอีกมั้ย))

   “ขับรถดีๆ แล้วกัน..อย่าลืมนะ จะรอ” แล้วทีมก็วางสายไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมลดระดับโทรศัพท์ลงจากหู หันกลับไปมองยูลที่จ้องกลับมาด้วยความเป็นห่วง คิ้วเข้มคู่นั้นเลิกขึ้นแทนคำถาม “ทีมยังโกรธอยู่เลย”

   “อยากให้ฉันอธิบายให้ไอ้เวรนั่นฟังมั้ย”

   “ไอ้เวรนั่นน่ะแฟนฉันนะยูล” ผมเตือนแล้วถอนหายใจแรงๆ ไม่อยากนึกภาพเลยว่าถ้าคืนนี้ผมต้องรอจนเช้าโดยไร้เงาของทีมอีก พรุ่งนี้ผมจะตื่นมาด้วยสภาพไหน หรือน้ำ(ตา)จะท่วมโลกกันนะ...? เฮ้อ


   ผมทิ้งให้ยูลนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ห้อง ส่วนตัวเองก็เดินย้อนกลับมาที่ห้องของทีม ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมถึงเปิดประตูเชื่อมเข้ามันไม่ได้ วันก่อนที่เข้ามาเพื่อจะอธิบายก็ไม่ทันสังเกตถึงสิ่งผิดปกติแต่วันนี้น่ะชัดเลยว่าแฟนของผมมันเป็นคนร้ายกาจขั้นสุด นอกจากจะงี่เง่าไม่ยอมพูดยอมจาอะไรแล้ว ยังจะเอาโต๊ะหัวเตียงมาปิดเอาไว้ไม่ยอมผ่านประตูเชื่อมบานนั้นเข้าไป

   ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้นุ่ม ซุกลงไปกับกองหมอนและผ้าห่มหน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่ใช้นั่งดูหนังกับทีมเมื่อหลายคืนก่อนด้วยความหดหู่ใจ กลิ่นอายอุ่นๆ ของคนนิสัยไม่ดีที่ผมรักยังรายล้อมทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างไร้เหตุผล

   ผมให้เวลากับตัวเองในความเงียบของห้องนั้นเพื่อคิดให้ออกว่าควรจะเริ่มพูดกับทีมยังไงถึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ผมจะทำได้ ท้องฟ้านอกหน้าต่างจากเดิมที่เป็นสีเหลืองอมส้มก็เริ่มกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มจนตอนนี้มืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเวลาเท่าไหร่จนได้ยินเสียงลูกบิดประตูที่ขยับเบาๆ และมือที่คุ้นเคยเอื้อมกดสวิตซ์ไฟอย่างคุ้นเคย ผมเงยหน้ามองเขาพลางหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะแสงจากหลอดไฟที่ถูกเปิดอย่างกระทันหัน

   “ฝุ่น...” เจ้าของเสียงดูประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งอยู่อย่างนั้น แต่ทีมก็ทำเป็นไม่สนใจอะไร เดินไปวางกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะหนังสือเงียบๆ ผมรีบลุกขึ้นจากกองหมอนเพื่อตรงเข้าไปหาคนที่อุตส่าห์นั่งรอมาตลอดวัน

   “ทีม..คือ ฟังฝุ่นก่อนนะ เรื่องมัน....” ผมพยายามอธิบาย แต่ดวงตาคมดุกลับตวัดมองมาพร้อมเสียงเย็นชาพูดขึ้น

   “จะอธิบายก็หาเรื่องโกหกให้สมเหตุสมผลด้วยนะ จะฟังแค่ครั้งเดียว”

   ผมสะอึกกับประโยคนั้นแต่ก็หาคำพูดอื่นมาแก้ตัวไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ในตอนนั้นก็คือการพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ ให้ทีมฟังอีกครั้ง แฟนที่ผมรักยืนฟังโดยไม่ซักถามใดๆ ทั้งสิ้นจนสิ่งที่ผมพยายามจะบอกมาตลอดก็ถูกถ่ายทอดไปจนหมด ความเงียบหลายชั่วโมงที่ผมอดทนมาบอกให้ผมรู้ว่าถ้าผมกล้าพอที่จะพูดความจริงทั้งหมดให้แฟนฟังแล้วทีมยอมให้โอกาสอีกสักครั้งก็ถือว่าจบไป แต่ถ้าทีมเลือกที่จะริดรอนโอกาสนั้น ผมก็ต้องทำใจรับกับมันให้ได้เช่นกัน

   “แค่นี้ใช่มั้ยที่จะพูด” ทีมถามเรียบๆ ผมได้แต่ก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มท่ามกลางความอึดอัดนั้น พยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ

   “ให้อภัยฝุ่นไม่ได้เหรอ...เรายังรักกันไม่ใช่เหรอทีม” ผมได้ยินเสียงตัวเองสั่นระริกตอนที่อ้าปากถามไปอย่างนั้น แขนสองข้างยกขึ้นรั้งทีมที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติงเอาไว้ ภาพที่ผมเห็นต่างพร่าเลือนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด มือข้างหนึ่งของทีมยกขึ้นจับที่ปลายคางผมแผ่วเบา ก่อนก้มลงสั่งชิดริมฝีปาก

   “ใช้ปากให้หน่อย”

   มันอาจเป็นบทลงโทษที่ไม่ดีเท่าที่ควรนัก แต่ตัวผมในตอนนี้คงไม่มีตัวเลือกใดๆ ที่ดีไปกว่าการยอมทำตามที่ทีมสั่งเท่านั้น

   ผมโดนผลักให้ถอยไปจนเกือบชิดผนัง ก่อนคิ้วเข้มนั่นจะเลิกขึ้นคล้ายกำลังเย้ยอยู่ในที ร่างกายผมค่อยๆ ทรุดตัวลงคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้า มือที่พยายามแกะเข็มขัดของทีมออกสั่นจนรู้สึกได้

   ส่วนร้อนยังอ่อนตัวอยู่ในมือผม มันมีกลิ่นคาวเล็กน้อยจากเหงื่อ ทั้งยังไม่ได้อาบน้ำแต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะให้ความสำคัญ...ลิ้นค่อยๆ แลบเลียยังส่วนปลายเพื่อปลุกเร้าให้แข็งตัวท่ามกลางเสียงครางในลำคอเจ้าของมัน พยายามรูดรั้งให้ทีมถึงปลายทางเร็วที่สุด...แต่ดูเหมือนแค่ภายนอกคงยังไม่ถึงใจ ผมถึงได้ถูกรั้งขึ้นไปรับจูบร้อนแรง

   “อือ...ทีม...นี่..” ผมพยายามเรียกเพื่อจะถามว่าจะไม่ให้ผมทำต่อแล้วรึไง รีบๆ ทำให้เสร็จไปคงจะดีกว่า ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเสียงจิ๊ปากแล้วพูด

   “อย่าใจร้อนสิ”

   กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ! T.T

   ทีมจูบผมรุนแรงกว่าทุกครั้ง อาจเป็นเพราะยังโกรธและต้องการจะลงโทษให้สาสมกับสิ่งที่ผมทำ ปลายลิ้นที่สอดเข้ามาพัวพันนั้นร้อนแรงและปลุกเร้าไปในตัว เสื้อผ้ากลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป เปลือกที่ห่อตัวถูกปอกออกไปช้าๆ อย่างไม่ต้องการให้จังหวะนี้สะดุด สัมผัสร้อนเป็นตัวการทำให้ผมทิ้งตัวลงนอนหอบอยู่บนกองหมอนอย่างไม่มีทางเลือก

   กระทั่งความร้อนเร่าที่เพียรพยายามสอดใส่เข้ามาทั้งๆ ที่ไม่มีสิ่งป้องกันและเจลหล่อลื่นเหมือนทุกครั้ง แต่สองสิ่งนั้นกลับไม่อยู่ในตัวเลือกที่ผมจะต่อรองมาได้เหมือนทุกที ทีมเบามือกับผมแล้วก็จริง แต่เพราะเราห่างเหินกันทำให้ผมค่อนข้างอึดอัดกับการสอดใส่ครั้งนี้เป็นอย่างมาก

   “ทีม ฮึก...อะ ทีม”

   “เจ็บเหรอ” เสียงทุ้มหวานที่อ่อนโยนกระซิบถามอยู่ข้างหู แรงขยับจากเบื้องล่างยังทำให้ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ไม่กล้าตอบอะไรออกไป “บอกพี่สิ พี่ทำให้เราเจ็บรึเปล่า”

   “ฮึก...เจ็บ ฝุ่นเจ็บ” ผมสะอื้นเบาๆ รู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นที่มากขึ้นจนคล้ายสติกำลังจะหลุดลอย ผมไม่รู้ตัวอีกต่อไปว่าเราทำกันไปแบบไหนบ้างหรือเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในความรู้สึกตอนนั้นก็คือ...



   ทีมบอกว่ารักและอ่อนโยนกับผมมากเหลือเกิน...



เจอกันตอน 18 จ้ะ


eiizes’s talk

อนุญาตให้ตียูลได้คนละทีค่ะ 555

คุณหรั่งเค้าร้ายนะคะ อย่าไว้ใจค่ะ(ฮา)

สรุปว่าพี่ทีมยกโทษให้น้องมั้ย? หรือทำแล้วชิ่ง?..เจอกันตอนต่อไปค่ะ 5555

แล้วก็ใครที่อยากได้นิยายเรื่องนี้ไปนอนกอดพร้อมตอนพิเศษที่ไม่เคยลงที่ไหนก็อย่าลืมเก็บเงินไว้จองพี่ทีมน้องฝุ่นน้าาาาาาาา~~ ใกล้จะลงรายละเอียดและเปิดจองแว้ววววว~

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ด๊วบๆ

eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 26-03-2011 21:23:46
อ๊ายยยยยยย ตอน 18

ดีกันแล้วใช่ม้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 26-03-2011 21:57:23
แต่เราโกรธพี่ทีมอ่ะ  :fire:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-03-2011 22:12:46
แต่เราโกรธพี่ทีมอ่ะ  :fire:


เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 26-03-2011 22:49:24
^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 26-03-2011 22:52:16
จะโดนถีบจะได้มั้ยค่ะไรเตอร์ไอพี่ยูลเนี่ย
แอบตีทีมด้วย
ร้ายจังเชียว เช๊อะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 26-03-2011 23:03:15
มาโกรธทีมด้วยคน

 :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 26-03-2011 23:12:25
ทีมจะปล้ำแล้วชิ่งหนีหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 26-03-2011 23:33:27
แล้วทำไม ทีมต้องให้น้องทำแบบนั้นด้วยอ่ะ??? ไม่เข้าใจ...
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 26-03-2011 23:35:31
ถ้าชิ่งมีตบอ่ะพี่ทีม !!!!
งื้อออ สงสารฝุ่นนะ
ยูล มาแบบนี้จริงๆด้วย
แล้วน้าอิ่มว่าไงเนี่ยย โฮๆๆๆ
ดราม่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 26-03-2011 23:47:19
ทีม ทำไมแกล้งน้องอย่างนั้นล่ะ
น้องน่าสงสารมากเลยรู้ไหม
น้ำตาซึมตามน้องฝุ่นเลยอ่ะ :monkeysad:
ตายูลนี่มันน่านัก น้องยังไม่พร้อมให้น้าอิ่มรู้นะ
ทำไมทำแบบนี้ล่ะ :m16:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-03-2011 00:09:42
ยูล นายร้ายลึกนะ^^
นายทีมแกล้งทำเป็นโกรธหรือเปล่านิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 27-03-2011 00:51:54
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 27-03-2011 01:13:46
ทีมใจร้าย ยูลก็ด้วย
สรุปสงสารฝุ่นจัง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 27-03-2011 01:40:14
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 27-03-2011 02:00:12
เข้าข้างไกด์เต็มที่ ได้เวลาสั่งสอนเมียแว้ววว วุ้วววววววววววววววว :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BF-e ที่ 27-03-2011 02:18:12
 ทรมานเเทนฝุ่น

 โอ๊ย โอ๊ย 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eyerabbit ที่ 27-03-2011 02:49:19
ทำไมอยู่ดีๆยูลเปลี่ยนไปอย่างนี้หล่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 27-03-2011 05:03:11
เข้ามาเก็บสามตอนรวดค๊า  :L2: :L2:
ชอบคู่น้องตังค์กะพี่อ๋อง  :L2: :L2:
อ่านแล้วซึ้งที่สุดในสามโลก T^T
+1  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 27-03-2011 08:49:50
ช่ายโกรธทีมอ่ะ ใจร้ายกับน้องจริง ๆ

จะมีใครแคร์ความรู้สึกน้องบ้างไม ทั้งยูล ทั้งทีม ทำอะไรเผื่อตัวเองทั้งนั้น -*-
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 27-03-2011 09:41:42
รอ รอ รอ รวมเล่ม !!!!

ซื้อแน่นอน บาป......หว๊าน..หวาน ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 27-03-2011 10:21:50
นี่คือพี่มีมกำลังทดสอบน้องฝุ่นอยู่ใช่มั้ย?
โกรธธธธธธธธธธธะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-03-2011 11:55:16
อิพี่ทีมทำเอาใจหายแวบ ตกลงว่ายกโทษให้น้องแล้วใช่มั้ย สงสารฝุ่นจะแย่แล้วนะ :angry2:
โอ๋ๆ ฝุ่นน้อย อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตาบวมไม่น่ารักน้า :กอด1:
ส่วนยูลขอ :beat: 2 ทีได้มั้ยคะ ทีเดียวไม่สะใจ
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าา :man1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 27-03-2011 18:37:33
อั่กก สงสารน้องฝุ่นนน โดนลงโทษกันแบบนี้เลยทีเดียว
ฝุ่นไม่ได้เล่นด้วยกับยูลซะหน่อยยย นะว้อย  :monkeysad:
แล้วน้าอิ่มก็รู้เรื่องแล้วด้วย ศึกเข้าสองทางเลย แล้วจะทำยังไงกันต่อไปล่ะนี่
แล้วต้องหห่างกันเหมือนที่หมอดูบอกใช่ม๊ายยยย รอต่อต่อไปค่ะ รอรวมเล่มด้วย  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-03-2011 19:19:05
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกแย่กับทีมจริงๆ
มันเหมือนว่าทีมหลงฝุ่นมากกว่ารักฝุ่นอะ
มันรักฝุ่นจริงๆหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 27-03-2011 21:56:13
ทีมนี่ร้ายใช่เล่น ร้ายแบบหื่น ๆ ซะด้วย :z1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 27-03-2011 23:16:06
มาอ่านรวบยอด บอกคำเดียวดีกรีพี่ที หื่นขั้นสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 28-03-2011 00:06:57
เอ้าไหงยูล ทำตัวแบบเนี้ย
ตอนที่มีเค้าไว้ในมือ ก็ไม่จับไว้ให้มั่น เชอะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 28-03-2011 09:17:04
นังยูล :angry2: ทำไมทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เล่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 29-03-2011 12:51:03



   ยูลแอบร้ายนะ
   แต่ก็สงสารยูลง่ะ ถึงรู้ว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังยอมเจ็บอยู่ข้างๆเน้อ
    :sad11:  :sad11:  :sad11:



หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 30-03-2011 10:23:36
เชียร์ยุลเต็มที่  :mc4:
รู้สึกเหมือนอิพี่ทีมไม่ได้รักน้องฝุ่นเลยอ่ะ = =;
ส่วนคู่อ๋องกะสตังค์ เหอะๆ ไม่น่ากลับไปคบด้วยเลย
น่าจะควงแฟนใหม่มาเย้ยให้เจ็บๆ สาสมกะสิ่งที่ทำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 30-03-2011 10:39:01
ทีมอย่ามากไปกว่านี้เลยนะ สงสาร ฝุ่นอ่ะ  :m15:
 :กอด1: ฝุ่นสู้ๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 30-03-2011 10:50:18
ขอบคุณค่ะ  ขอ  :beat: ยูลซักหลายๆ ที
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 30-03-2011 17:59:06
แอบโกรธทีมนะเนี่ย - -+
สงสารยูลเล็กน้อย
และ รักฝุ่น วะฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Forget..* ที่ 30-03-2011 21:16:46
ไหงทีมลงโทษฝุ่นแบบนี้ อยากรู้จริงๆ น่าจะคุยกันให้เข้าใจกันก่อนดีกว่า

;(
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 17!! ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? ♥ [26/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 30-03-2011 22:16:37
สนุกค่ะ แอบชอบบบ เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย ชอบคู่หลักของเรื่องค่ะ พี่ทีมกับน้องฝุ่น รู้สึกว่าเขารักเดียวใจเดียวดี ชอบๆ ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้อ่ะ แบบพี่อ๋อง อ่านแล้วแอบเคืองไส้ติ่งตงิดๆ

ปล.แอบอยากอ่านตอนพิเศษชื่อตอนว่า "เมื่อสตางค์เอาคืน"อยากให้พี่อ๋องได้รับบทเรียนบ้างง่ะ แบบนี้แลจบเรียบไป!
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 30-03-2011 22:22:24

   “ตกลงหายโกรธรึยัง”

   อารมณ์สงบ สติก็มาปัญญา(ยังไม่)เกิด ผมนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มมีทีมนอนซ้อนหลังแต่ก็ยังไม่คลายแรงกอดแต่อย่างใด กลับกันทีมยิ่งรัดผมแน่นขึ้นก่อนจะจับผมพลิกตัวเข้าหาผนัง กลายเป็นว่าตอนนี้ผมถูกกักไว้ด้วยกำแพงคอนกรีตด้วยหนึ่ง ส่วนอีกด้านก็เป็นกำแพงมนุษย์ล่ำๆ

   “แล้วคิดว่าหายโกรธรึยังล่ะ” เสียงยังขุ่นๆ อยู่เลยครับ

   “หายแล้วสิ หายแล้วใช่มั้ย หาย-นะ หายๆ” ผมแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียน ห่านป่าตัวใหญ่เลยหัวเราะออกมาพลางตอบ

   “หายโกรธตั้งแต่ที่ไอ้ไกด์มันบอกว่าฝุ่นร้องไห้แล้ว” ทีมตอบพร้อมหอมแก้มผมแรงๆ หนึ่งที

   “อ้าว งี้แปลว่าอยู่บ้านพี่ไกด์ตลอดเลยสิ” ฉุนนิดๆ ที่โดนโกหกแบบนั้น แต่พอกลับมาคิดว่าถ้าเป็นผมบ้าง...คงไม่หยุดอยู่แค่บ้านเพื่อนหรอกมั้ง อาจจะหลบไปอยู่ใต้สะพานสักระยะ(ทำหน้าเซ็ง)

   “หึหึ อย่ามาเบี่ยงประเด็นนะ คราวหน้าพี่ไม่เอาไว้จริงๆ ด้วย” ทีมมันพูดแล้วแกล้งบีบคางผมแรงๆ แต่ขอโทษ...โปรโมชั่นของมันจบแล้ว ต่อไปตาผมเอาคืนบ้าง

   “กล้ารึไง จะทำอะไรไม่ทราบ” ผมสะบัดปลายคางออกแล้วทำพูดเย้ยๆ

   “นั่นสินะ...ฝุ่นไม่ต้องใช้ไอ้นี่ก็ได้นี่นา” ทีมบอกเย้าๆ พลางเอื้อมมือไปคว้าส่วนกลางลำตัวผมมากำไว้ “ตัดทิ้งเลยแล้วกัน อันนี้เตือนสถานเบานะ โทษสถานหนักขอเก็บไว้คิดดูก่อน”

   “หื่นกาม” ผมบ่นหงุงหงิง ทีมเลยหัวเราะออกมาพลางตอบ

   “ไม่เก็บไปคิดแล้ว ถ้ามีครั้งหน้าอีก พี่จะตัดหนอนน้อยทิ้ง แล้วก็ล่ามโซ่ฝุ่นไว้ในห้องนอนนี่แหละ” 

   ผมกำลังจะอ้าปากด่าให้สมกับความคิดบ้าบอของไอ้แฟนจอมหื่นนี่ก็ต้องชะงักไปเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเบาๆ พร้อมบอก

   “ทีม นี่น้าอิ่มเองนะ อยู่มั้ยจ๊ะ” หัวใจผมหายวาบไปในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ทีมหันกลับมาสบตากับผมครู่หนึ่งก่อนจะพลิกตัวลงจากเตียงไปใส่กางเกงขายาวและเสื้อยืดสบายๆ บอกผมเบาๆ

   “อยู่ในห้องนะ”

   ผมได้แต่หดตัวเข้าไปในผ้าห่มราวกับต้องการให้ความอบอุ่นที่ทีมเหลือทิ้งไว้ก่อนลุกไปนั้นปกป้องตนเอง แต่ดวงตาก็ยังคงจับจ้องไปยังประตูห้องที่ถูกเปิดออก ก่อนแฟนของผมจะทำหน้าเป็นถามน้าอิ่มแบบสบายๆ

   “มีอะไรเหรอครับน้าอิ่ม มาเรียกผมซะดึกเลย”

   “ขอโทษจ้ะ คือ...น้าไม่รู้ว่าทีมจะกลับมากี่โมง พอดีว่าน้าเห็นรถเราจอดอยู่เรียบร้อยแล้วก็เลยลองมาเรียกดู” น้าอิ่มบอกด้วยน้ำเสียงกังวลใจ “น้าขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”

   “เอ่อ...ครับ เราไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” ทีมเหลือบสายตามามองผมนิดนึงก่อนจะเดินหายลับไปหลังบานประตู ทิ้งให้ผมนอนคิดฟุ้งซ่านอยู่พักใหญ่ ไม่รู้ว่าน้าอิ่มคิดจะทำอะไร แน่นอนว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย เพราะผมมั่นใจว่าน้าอิ่มไม่มีวันทำร้ายผมลง แต่ในขณะเดียวกันผมกลับกลัวถึงสิ่งที่น้าอิ่มคิดว่ามันคือ “สิ่งที่ถูกต้อง”



   เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าทีมจะเดินกลับเข้าห้องมา ผมที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยและนั่งรออยู่บนเตียงจึงถามขึ้นทันทีที่ประตูเปิดและแน่ชัดว่าเป็นใคร

   “น้าอิ่มพูดเรื่องอะไรเหรอทีม” ผมถาม

   “....ก็...เอ้อ...เรื่องที่คิดว่าน่าจะโดนสงสัยมานานแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะถามตรงๆ แบบนี้” ทีมยิ้มแห้งๆ ให้ หัวใจผมว่างเปล่าทันทีเมื่อจับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่ผมกำลังกังวล

   “น้าอิ่มถามเรื่องความสัมพันธ์ของเราใช่มั้ย” ผมถามออกไป ทีมดูตกใจนิดหน่อย แล้วเดินเข้ามากอดผมไว้หลวมๆ

   “อืม แต่น้าอิ่มก็สัญญาว่าจะไม่ปริปากบอกพ่อ”

   “แต่ก็ใช่ว่าน้าอิ่มจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้” ผมเสริม แรงกอดกระชับรัดแน่นขึ้นก่อนที่ทีมจะพูดต่อ

   “ฝุ่นรับได้ใช่มั้ยที่น้าอิ่มรู้เรื่องนี้”

   แล้วผมมีตัวเลือกด้วยรึไง...

   “ถ้าวันนึงลุงสินรู้เรื่องนี้เข้า เราจะต้องเลิกกันใช่มั้ยทีม” ผมถามเหมือนคนละเมอ แล้วโอบแขนขึ้นรอบเอวเรียบที่ไร้ไขมันส่วนเกินนั่นไว้บ้าง

   “เราจะไม่เลิกกันด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนแบบนั้นหรอกน่า” ทีมกดจูบลงกลางกระหม่อมผมแรงๆ “ต่อให้พ่อรู้ พี่ก็จะดิ้นรนทุกวิถีทางให้เราได้อยู่ด้วยกัน”

   แล้วผมก็ได้คำตอบจากคำถามที่เคยสงสัย...โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำตอบจริงๆ ของคำถามนั้นแล้วมันทรมานกว่าที่คาดไว้หลายร้อยเท่าตัวนัก



   หลังจากพยายามผลักดันปัญหาทุกอย่างให้พ้นๆ ไปจากสมองของผม ยูลก็อยู่ที่ไทยวันนี้เป็นวันสุดท้าย ทีมจึงรับปากว่าจะเจรจาสงบศึกเป็นของขวัญให้ผมสักวันนึง และเราสามคนก็ออกไปเดินตลาดกลางคืนอย่างสวนลุมไนท์บาซาร์กันส่งท้าย มากันตั้งแต่ห้าโมงเย็นเลยครับ เพราะยูลต้องไปสนามบินคืนนี้

   แน่ล่ะว่ายูลเห็นไอ้นั่นไอ้นี่ที่เป็นของไทยๆ ก็ตื่นตาตื่นใจตามแบบฉบับของฝรั่งทั่วไป แต่ขอโทษ ราคามันสูงกว่าท้องตลาดทั่วไปค่อนข้างมาก ยิ่งกับ “ไอ้หรั่ง” แบบหมอนี่ด้วยแล้วยิ่งได้ราคาสูงปรี๊ด ดังนั้นผมกับทีมจึงต้องเหนื่อยหน่อย รับหน้าที่คอยต่อราคาให้

   “ยูล เอากางเกงมวยมั้ย” ผมถามขึ้นแล้วเดินไปตีเสมอ ยูลหันมายิ้มกว้างพยักหน้างึกงักแบบเด็กๆ ผมจึงเดินเข้าไปถามราคา...เออ ก็ร้อยกว่าบาท ไม่แพงมาก พอซื้อไหว “เอาสีไหน”

   “สีไหนก็เหมือนกันแหละ ซื้อไปเถอะ” ไม่ใช่ยูลหรอกครับ กวนประสาทแบบนี้มีคนเดียว...เหอะ แฟนผมไง

   “ทำไมพูดแบบนี้อะ เราสัญญากันแล้วไงว่าจะสงบศึกวันนึง” ผมบ่นอุบ

   “ก็สงบศึก พี่พูดเป็นภาษาไทย ไอ้หรั่งมันจะเข้าใจได้ไง” ทีมทำลอยหน้าลอยตาใส่ ยูลเลยขมวดคิ้วนิดหน่อยหันมาถามว่าสิ่งที่ทีมพูดแปลว่าอะไร ผมจึงจงใจแปลส่งเดชให้

   “ทีมบอกว่าเขาจะซื้อกางเกงมวยให้นายเอาไว้ใส่เล่นที่นู่นห้าตัว”

   ทีมหันมาตาโตใส่ทันทีครับ อ้าปากพะงาบๆ อย่างพูดไม่ออก แต่ขอโทษ นาทีนี้ไม่สงสารหรอกโว้ย...ยูลหันไปตบไหล่แฟนผมอั่กใหญ่ด้วยรอยยิ้มแล้วเดินเข้ามาช่วยเลือกทั้งห้าตัว

   กว่าจะเดินซื้อของเสร็จสรรพก็ปาเข้าไปหลายชั่วโมงอยู่ เดินกันขาลากเลยครับ ที่จริงสิ่งที่ยูลตั้งใจซื้อกลับไปอเมริกานั้นไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ แต่ซื้อให้ผมไว้ใช้ที่นี่น่ะหลายชิ้นอยู่

   คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกัน เพื่อนที่ผมรักที่สุดมาอยู่ด้วยกันแค่สี่วันก็จะกลับบ้านเกิดอีกแล้ว ถ้าเป็นเมื่อสักสี่เดือนก่อนผมคงแพ็คกระเป๋าตามไปด้วยแน่ๆ แต่ตอนนี้ถ้าไปกับยูล แล้วใครจะดูแลเซ็กส์ซี่ล่ะ...? คริคริ ไม่เอาน่า ผมล้อเล่นหรอก ก็ยอมรับแหละถ้าจากกันตอนนี้ไม่รู้ว่าผมหรือแฟนบ้ากันแน่นะที่จะร้องไห้ขี้มูกโป่งโดดลงกลางทางแทบไม่ทันกัน

   “ฝุ่น สรุปว่าจะไม่กลับพร้อมฉันจริงๆ เหรอ” ยูลถามขึ้นพลางขยิบตาให้ผมตอนที่เราถึงสนามบิน และกำลังรอที่จะเช็คอิน ทีมหันขวับกลับมามองเพื่อนสนิทผมตาแทบถลนออกจากเบ้า

   “ฉันไม่ให้ไปโว้ย” ทีมบอกเสียงแข็งแล้วดึงผมให้ไปอยู่ข้างๆ พลางบ่นหงุงหงิงๆ อยู่คนเดียว “ไว้ใจไม่ได้เลย ไอ้ฝรั่งขี้นก ก็ลืมไปน่าจะพาแม่งไปสามพรานแล้วแอบถีบมันตกบ่อจระเข้”

   “ใจร้ายจริงๆ” ผมบ่นบ้าง ทีมเลยยกมือผมขึ้นงับแรงๆ “เจ็บนะ!”

   “ก็กัดให้เจ็บน่ะสิจะได้ตื่นจากกลลวงของไอ้หรั่งซักที” โอ้ก นี่แฟนกูคิดอะไรของมันวะ บ้าไปแล้ว

   “เฮ้ ฉันว่าเขาเปิดให้เช็คอินแล้วล่ะ งั้นฉันไปก่อนนะ” ยูลหันมาขัดจังหวะ เล่นเอาผมใจแป้วไปเล็กน้อย สี่วันนี้ผมก็ดูแลเพื่อนผู้แสนดีไม่ได้เต็มที่ หลายเรื่องมันประดังเข้ามาขนาดนั้น

   “ทะเลาะกันเมื่อไหร่ก็บินมาหาฉันได้ทันทีเลยนะฝุ่น” ยูลแกล้งพูดเสียงดังแล้วขยิบตาให้ ทีมเลยยิ่งเขม่นใส่มากขึ้น

   “ไม่มีวันหรอกโว้ย”

   ยูลยิ้มรับกับประโยคนั้น แล้วชะโงกหน้าไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้ทีมถึงกับนิ่งไปแล้วรับฟังแต่โดยดี พักเดียวห่านป่าตัวใหญ่ก็หันกลับมามองหน้าผมเงียบๆ ยูลจึงใช้โอกาสนั้นก้มลงมาหอมแก้มผมเบาๆ แทนคำลา ยิ้มให้บางๆ แล้วเดินจากไป

   “เมื่อกี้..ยูลบอกว่าอะไรน่ะ” ผมถามออกไปงงๆ ทีมหันกลับมามองแล้วยิ้มให้

   “พี่รักเรานะฝุ่น” แอร๊ย จะเล่นอะไรบอกมุขกูบ้าง อายแบบนี้เดี๋ยวมึงก็ได้จ่ายค่าพื้นที่กูจะมุดหรอก!



   ผมลูบกล่องสี่เหลี่ยมสีดำขนาดประมาณสิบสองเซนติเมตรทรงลูกบาศก์ในมือช้าๆ เผลอยิ้มออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว ตอนยูลมาจากอเมริกานั้นต้องเดินผ่านร้านค้าในสนามบินอยู่แล้ว ของมียี่ห้อในดิวตี้ฟรีจะค่อนข้างถูกกว่าข้างนอกเพราะมันไม่ต้องเสียภาษี ผมจึงฉวยโอกาสนั้นฝากให้ยูลซื้อนาฬิกาของยี่ห้อหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ใครบางคน

   ตอนยังเด็กผมเคยคิดว่าการเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อของชิ้นเล็กๆ เหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่พอโตขึ้นมา ได้มีคนที่รักรายล้อม ทำให้ผมเข้าใจความจริงที่ว่า ทำไมคนเราถึงยอมที่จะเสียเงินซื้อของแพงๆ ให้กัน...อย่างน้อยมันก็เป็นความสุขเล็กๆ ที่เป็นรูปธรรมและสามารถหยิบยื่นให้ได้โดยง่าย

   แต่ตัวผมนั้นเรียนรู้ค่อนข้างช้าเกี่ยวกับการดูแลคนรัก แอบเข้าขั้นโง่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะละเลย แอบถามมาจากน้าอิ่มที่รู้อยู่แล้วว่าผมกับทีมเป็นอะไรกัน ว่าวันเกิดของห่านป่าตัวใหญ่นั้นวันที่เท่าไหร่

   โชคดีที่ถามตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะวันเกิดของผมกับทีมห่างกันแค่สี่เดือนเท่านั้น ถ้าเผลอทิ้งไว้จนลืมล่ะก็ได้เสียเงินมากกว่าค่านาฬิกาเป็นการตามง้อแน่ๆ

   “ฝุ่น..” ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงเรียกนั้นแล้วรีบซ่อนกล่องนาฬิกาไว้ใต้หมอนด้วยความฉับไว....เปิดประตูเข้ามาในห้องคนอื่นโดยไม่มีการเคาะแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใคร

   “มีอะไรเหรอทีม” ผมถามแห้งๆ

   “เปล่า...พรุ่งนี้ว่าจะพาไปหาคนๆ นึงน่ะ” ทีมเดินเข้ามาหาพลางส่งยิ้มมาให้ก่อน แฟนสุดที่รักมันก้มลงมาจูบหน้าผากผมแรงๆ ก่อนจะถาม “ตื่นเช้าไหวมั้ย”

   “ไปไกลเหรอ” ผมถามกลับ

   “ก็...ไม่ถึงขั้นออกไปต่างจังหวัดหรอก แต่ถ้าเราไปสายแดดมันจะร้อนน่ะ” ทีมตอบแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าเบื้องหน้าผม “พี่ไม่เคยพาใครไปหาคนๆ นี้เลยนะ...อยากให้เราเป็นคนแรกแล้วก็คนสุดท้าย”

   ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ กว่าจะทันรู้ตัวก็เอื้อมมือไปจับแก้มทีมเบาๆ ก่อนที่จะยอมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนกดจูบลงไปบนเนินเนื้อนั้นอย่างแสนรัก

   “อย่าสิ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ตื่นเช้ากันพอดี” ทีมบอกปนขำ แล้วเหยียดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระซิบบอกแผ่วเบา “ฝันดีนะ”

   “จะกลับไปนอนที่ห้องเหรอ” ผมถามงงๆ เพราะปกติแล้วต่อให้ไม่ได้ทำอะไรกันทีมก็มักจะนอนกับผม ถ้าไม่ใช่ที่ห้องของมันก็ต้องเป็นห้องผม วันนี้มาแปลกเว้ยเฮ้ย

   “อืม ไม่อยากตบะแตกซะก่อน เดี๋ยวเผลอจับใครบางคนแถวนี้ปล้ำเอาแล้วพรุ่งนี้จะเดินไม่ไหว” ทีมบอกยิ้มๆ พร้อมขยิบตาให้ ก่อนจะเดินหายลับไปหลังประตูเชื่อม

   ทันทีที่ประตูปิดลงผมก็หันไปคว้าเอากล่องนาฬิกาออกมาจากใต้หมอนแล้วเอนตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอน ภายในกล่องเรียบๆ แต่สวยหรูบรรจุนาฬิกาสายหนังสีดำแลดูเรียบๆ แต่สวยกว่าที่ผมเห็นจากในอินเตอร์เน็ตมาก แน่นอนว่าเจ้าของวันเกิดน่ะยังไม่เห็นมันหรอกครับ ผมเลยยังไม่แน่ใจว่าทีมจะชอบมันมั้ย ก็ได้แต่หวังว่าจะชอบล่ะนะ

   ผมคิดเอาไว้ว่าจะไม่ห่อกระดาษสีๆ หรือติดโบว์อะไรพวกนี้ แต่จะให้ไปทั้งกล่องเพียวๆ แบบนั้นเลย ดูคลาสสิคดี(หัวเราะ) ไม่เอาน่า ผมไม่ได้ขี้เกียจนะ อย่าใส่ร้ายสิ เซ้าซี้มากเดี๋ยวก็กัดจมูกขาดซะนิ(สะบัดบ๊อบ)



   วันต่อมา ผมถูกเขย่าปลุกให้ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่แคะขี้ตาด้วยซ้ำ ทีมที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็นั่งลงบนเตียง ก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย เปลือกตาผมก็ริบรี่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่อย่างนั้น

   “ตื่นสิ ไหนบอกตื่นเช้าไหวไง” ทีมจับแก้มผมไว้ทั้งสองข้างพลางบอกชิดริมฝีปาก ก่อนจะกดจูบลงมาเบาๆ แล้วถอนออกไป “อื้อหือ...นี่แปรงฟันก่อนนอนรึเปล่าเนี่ย”

   “ดมดูสิ” ผมบอกแล้วอ้าปากใส่ ทีมเลยหัวเราะออกมาก่อนจะบอก

   “มีแมลงสาบตายอยู่ในปากเป็นรังเลยกิ๊วๆ กลั้วคอด้วยน้ำกรดยังไม่หายเลยเนี่ย” แอร๊ย ผมได้ยินแฟนบ้ามันบอกอย่างนั้นเลยฟาดไปเต็มๆ ที่ต้นแขนมันแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ทีมหัวเราะออกมาแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ส่งมือมาให้ผมจับ “ไปอาบน้ำเร็ว”

   “รู้แล้วน่า” ก็โดนปลุกซะขนาดนั้น ต่อให้ยังอยากนอนต่อก็คงไม่ได้แล้วล่ะครับ ขี้ตากระเด็นหลุดหายไปแล้ว



   ตอนจะออกจากบ้าน ผมทันได้เหลือบสายตาขึ้นดูนาฬิกาข้างฝาผนังก็ต้องทำหน้าเหม็นเบื่อออกมาอีกครั้ง เพราะนี่เพิ่งจะแค่เจ็ดโมงครึ่งเท่านั้นเอง เป็นวันเสาร์ที่ทรหดมากๆ ครับ

   ทีมไม่ได้บอกอะไรผมเลยว่าจะพาไปไหน รู้แค่ว่ามันมีคนที่อยากให้ผมเจอก็เท่านั้น แต่ก็เอาเถอะครับ ตามใจมันหน่อย ไหนๆ วันนี้ห่านป่าตัวใหญ่ก็แก่ขึ้นอีกปีนึงแล้ว ผมได้นั่งตากแอร์เย็นๆ ในรถมินิของมันก็ถึงกับเคลิ้ม แต่พอตาเริ่มจะปิดก็รู้สึกได้ว่าคันรถเลี้ยวไปทางซ้ายได้ไม่นานก็ชะลอตัวลงจนกลายเป็นจอดนิ่ง แรงสะกิดที่ต้นแขนพร้อมเสียงเรียกทำให้ผมต้องจำใจเปิดตาขึ้นมอง

   “ถึงแล้วเหรอ” ผมถาม ทีมได้แต่ยิ้มแล้วเอื้อมมือมาบีบมือผมเบาๆ ทีนึงก่อนจะบอกเสียงนุ่ม

   “ลงไปกันนะ” แล้วประตูรถฝั่งคนขับก็ถูกทีมเปิดออก ผมจึงได้แต่ลงจากรถไปยืนมองสภาพรอบตัวงงๆ

   เราสองคนยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบในลานกว้างของวัดแห่งหนึ่ง ผมยืนนิ่งมองไปรอบๆ อาจเพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของการเช้ามาวัดพุทธ ผมเลยค่อนข้างแปลกตา มันไม่มีคนพลุกพล่านเหมือนตอนที่เราไปเที่ยวงานวัดกัน แต่บรรยากาศที่ร่มรื่นกลับทำให้ไม่วังเวงอย่างที่คิด กำแพงวัดสีขาวแลดูค่อนข้างเก่า มีต้นไม่ใหญ่เรียงรายล้อมรอบบริเวณวัดทั้งหมด

   ผมหันกลับไปมองทีม ทำท่าจะอ้าปากถามว่าเรามาที่นี่กันทำไม แต่ก็ช้าไปเพราะห่านป่าตัวใหญ่เดินเข้ามาประชิดแล้วโอบหลังผมให้เดินไปพร้อมกัน

   “เราจะไปไหว้พระกันก่อน บ้านแม่อยู่ใกล้กับที่นี่ แม่เลยพาพี่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว” ทีมบอกสั้นๆ ทำให้ผมเดาได้ไม่ยากว่าวันนี้เราจะต้องไปเจอแม่บังเกิดเกล้าของมันแน่ๆ ผมเองก็อยากเจอเหมือนกันนะ แม่ของผู้ชายอารมณ์ดีอย่างทีมจะเป็นผู้หญิงแบบไหน ยิ้มเก่ง? ใจดี? อ่อนโยน? หรือว่าขี้เล่นกันนะ และอายุคุณแม่ของทีมจะใกล้เคียงกับแม่ผมมั้ย หรือมากกว่ากัน?

   แต่ที่สำคัญผมก็แอบตื่นๆ ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าทีมจะแนะนำผมกับคุณแม่ของมันยังไง และอีกอย่างเราก็ไม่รู้ด้วยว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง

   ผมเก็บข้อนั้นมาคิดแม้กระทั่งตอนถวายสังฆทานและกรวดน้ำ ทีมพาผมเข้าไปในตัวโบสถ์เพื่อไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่อีกรอบหนึ่ง แล้วจึงเดินออกมาที่ลานกว้างอีกครั้ง

   “เฮ่ออ สบายใจ ไม่ได้มาไหว้พระนานมาก” ทีมบอกยิ้มๆ
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 30-03-2011 22:26:42
   “เอาแต่ทำบาปนี่หว่า” ผมแซว

   “แน่ะๆ รู้ทันๆ” ทีมหยิกแก้มผมแรงๆ แล้วบอกเสียงนุ่ม “ไปหาแม่ของพี่กันดีกว่า”

   ตอนแรกผมนึกว่าทีมจะพาเดินนำไปที่รถเพื่อขับออกไปข้างนอก แต่กลับเดินนำผ่านตรอกไม่กว้างมากไปทางหลังวัดโดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ แอบอึ้งเล็กน้อยที่มันพาเดินมาถึงลานขนาดกลางที่เต็มไปด้วยโกศและกุฏใส่กระดูก ผมตั้งท่าจะถามว่ามันจะเดินไปไหนกันแน่ แต่ทีมก็หันกลับมายิ้มให้บางๆ เมื่อเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าโกศหนึ่ง


   “มานี่สิฝุ่น แม่ของพี่รออยู่นะ”


   ผมนิ่งค้างไปเล็กน้อย ก่อนขาจะก้าวออกไปข้างหน้าทั้งที่ในสมองยังตื้อกับประโยคนั้นของทีม แค่เพียงไม่กี่ก้าวที่เดินเข้าไปหาแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนานแสนนาน โกศทรงสี่เหลี่ยมสีขาวมีฝุ่นเกาะอยู่ค่อนข้างมาก ทีมมันล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเช็ดให้อย่างเบามือ ผมก้มลงมองที่รูปของเจ้าของโกศนี้ ก็ใจหล่นหายไปหนักกว่าเดิม ผู้หญิงคนนั้นยังดูสาวกว่าที่ผมคาดเอาไว้มาก ทั้งยังหน้าเหมือนทีมราวกับแกะ...

   “แม่...เหรอ?” ผมถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก ทีมหันหน้ากลับมามองผมด้วยดวงตาเศร้าๆ

   “อืม แม่แท้ๆ ของพี่เลย ท่านเสียไปเมื่อหลายปีก่อนเพราะอุบัติเหตุน่ะ” ทีมตอบพร้อมยิ้มบางๆ ที่ผมรู้สึกว่ามันแลดูเศร้ามากเหลือเกิน

   ผมในนาทีนั้นก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมทีมถึงอยากให้ผมคุยกับแม่ดีๆ รักแม่ให้มากๆ....เพราะสิ่งที่เสียไปแล้วมันไม่อาจเรียกคืนมาได้....

   “แม่ครับ ทีมเอง บนสวรรค์สบายดีมั้ยครับ” ทีมหันกลับไปพูดกับรูปนั้น ก่อนจะชูกุหลาบสีขาวสามดอกใหญ่ที่มัดรวมกันไว้ด้วยริบบิ้นเล็กๆ ที่ถือติดมือมาด้วยนั้นขึ้นในระดับสายตา “ทีมเอากุหลาบขาวที่แม่ชอบมาให้ด้วยนะ...ทีมรู้ว่าแม่ไม่ชอบดอกไม้ช่อใหญ่ๆ เลยเอามาให้สามดอกนะครับ”

   ผมน้ำตาคลอจนแทบจะไหลออกมาตอนที่ทีมวางดอกไม้ลงบนดินหน้าโกศนั้นแล้วเหยียดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้ง แฟนของผมหันกลับมายิ้มแล้วดึงให้ไปยืนข้างๆ ก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง

   “แม่จำได้มั้ยว่า แม่เคยบอกทีมว่าสักวันทีมจะเจอคนที่ทีมรักสุดหัวใจและพร้อมจะดูแลเค้าไปตลอดชีวิต” ทีมพูดพลางหันมายิ้มให้ผมที่น้ำตาไหลลงอาบแก้ม แค่มองด้วยสายตาผมก็รู้ได้ในทันทีว่าทีมกับแม่รักกันมากแค่ไหน “วันนี้ทีมพาเค้ามาหาแม่ด้วยนะครับ ฝุ่นเป็นเด็กน่ารัก ถ้าแม่ได้มารู้จักฝุ่นล่ะก็ แม่ต้องรักเค้าเหมือนที่ทีมรักแน่ๆ”

   ผมยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าจะกลั้นเสียงสะอื้นไม่อยู่ ทีมหันมายิ้มให้ผมทีนึงก่อนจะเอ่ยปากแซว

   “แม่ทำอะไรแฟนผมเนี่ย ทำไมเค้าร้องไห้ใหญ่เลย”

   “ทีม...มึงมันบ้า ทำไมต้องพูดให้ฝุ่นร้องไห้ด้วย” ผมพึมพำออกไป

   “หึหึ...ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ทีมว่าแม่ก็ต้องเข้าใจและไม่ว่าอะไรทีมเรื่องที่ทีมมีแฟนเป็นเด็กผู้ชายแบบนี้” ผมก้มหน้าร้องไห้ในขณะที่ทีมยังคงพูดต่อ “แม่ช่วยทีมด้วยนะครับ ถือว่าเป็นคำขอในวันเกิดทีมก็แล้วกัน ดลใจพ่อให้พ่อรับเรื่องนี้ได้ และอย่าให้พ่อขัดขวางหรือทำอะไรให้คนที่ผมรักต้องเสียใจเลยนะ”

   “คุณน้าครับ...ผม..ผมไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่ แต่ผมสัญญานะ ว่าผมจะไม่ทำให้ทีมเสียใจอีก แล้วก็ถึงผมจะไม่เคยรู้จักกับคุณน้ามาก่อน แต่ผมรู้ว่าคุณน้าต้องเป็นคนใจดีมากแน่ๆ...ขอบคุณนะครับที่ทำให้ทีมเกิดมา” ผมพูดไปก็สะอื้น เช็ดน้ำหูน้ำตาเป็นพัลวัน ทีมก้มหน้ามาหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุขอยู่ที่ข้างหู ก่อนจะกดจูบเข้าที่ข้างขมับผมแรงๆ ทีหนึ่ง

   “แม่ครับ...ทีมรักฝุ่น รักมากด้วย...แม่เองก็รักฝุ่นด้วยนะครับ ถ้าวันไหนทีมต้องไปเรียน หรือไปทำงาน แม่ก็ต้องช่วยทีมดูแลฝุ่นนะ”

   ทีมปล่อยให้ผมยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง แน่นอนว่าถึงมันจะมีผ้าเช็ดหน้าก็คงไม่บ้าเอามาเช็ดให้ผมแล้วล่ะครับ เช็ดโกศคุณแม่ไปแล้วนี่นา สุดท้ายผมก็ใช้แขนเสื้อตัวเองกับอกเสื้อทีมนั่นแหละเป็นทิชชู่ใช้แล้วซัก

   หลังเราเดินกลับมาที่รถ ทีมก็ขับออกไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดี มีแค่ผมที่นั่งตาบวมตุ่ยอยู่อย่างนั้น

   “ทำไมไม่เศร้าหรือซึ้งอะไรเลยวะ” ผมบ่น

   “ซึ้งน่ะ ซึ้งอยู่แล้ว เศร้าก็เศร้า แต่จะให้พี่ร้องไห้เหรอ แม่ก็จะยิ่งเป็นห่วงน่ะสิ ถ้าพี่ร้อง แม่อาจจะมาตีฝุ่นคืนนี้ก็ได้นะ” อย่านะ กูกลัว ToT

   “ทีม”

   “ครับ?” ทีมหันมามองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วกลับไปมองกระจกหน้าต่อ

   “แม่เสียไปหลายปีแล้วเหรอ” ผมถาม ทีมนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

   “ปีเดียวกับที่พี่เลิกเล่นเทควันโดนั่นแหละ” ทีมตอบสั้น ก่อนจะพูดเสริม “แท็กซี่ที่แม่นั่งมาดูพี่แข่งรอบชิงชนะเลิศคว่ำระหว่างทาง ทั้งที่พี่ได้เหรียญแต่กลับไม่ดีใจเลยสักนิด แต่โชคยังดีกว่าหลายๆ คน พี่รีบไปหาแม่ที่โรงพยาบาล ท่านก็บอกสั้นๆ ก่อนสิ้นใจว่า ท่านดีใจที่พี่ประสบความสำเร็จกับกีฬานี้...หลังจากนั้นพี่ก็พับชุดเทฯ เก็บแล้วไม่เคยหยิบออกมาเล่นอีก”

   “ขอโทษนะ ไม่น่าถามเลย” ผมพึมพำ เพราะบรรยากาศในรถเริ่มเศร้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

   “หึหึ ไม่เอาน่า พี่ทำใจได้ตั้งนานแล้วนะ ที่จริงก็อยากเลิกเล่นอยู่แล้ว ตอนนั้นจะเข้ามหาวิทยาลัยด้วย พอมีเรื่องแม่ พี่ก็เลยตัดสินใจให้วันนั้นเป็นเหรียญสุดท้าย” ทีมอธิบายด้วยน้ำเสียงร่าเริง พอดีกับที่รถติดไฟแดง แฟนของผมจึงหันมาจูบปากเบาๆ “ไม่จำเป็นต้องเศร้าหรือเสียใจกับอดีตที่ผ่านมา...แค่ตอนนี้ฝุ่นรักพี่ก็พอแล้ว”

   ผมอมยิ้มออกมากับประโยคนั้น ก่อนจะนึกขึ้นได้เลยพลิกตัวหันกลับไปชะโงกหยิบกระเป๋าเป้บนเบาะหลังที่วางเอาไว้ตั้งแต่เช้าขึ้นมา ทีมมองตามว่าผมจะทำอะไรสลับกับมองสัญญาณไฟเป็นระยะๆ ไม่อย่างนั้นเราคงโดนประชาชีบีบแตรไล่อีกยกใหญ่

   “หยิบอะไรน่ะ” ทีมถาม

   “ฮิฮิ” ผมแกล้งหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย ก่อนจะหยิบกล่องนาฬิกาที่เตรียมเอาไว้ออกมาส่งให้พร้อมบอก “สุขสันต์วันเกิด”

   “หึหึ ทำเป็นเด็กๆ เลย”

   “แล้วจะไม่เอาใช่มั้ย” ผมแกล้งขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งใส่ ดึงกล่องคืน แต่ทีมกลับรีบคว้าเอาไว้ด้วยรอยยิ้มกว้าง

   “เอาสิครับ ที่รักให้ทั้งที” ทีมยิ้มกว้าง “ขอบคุณมาก....ที่จริง..ถึงฝุ่นจะไม่ให้อะไรเลย พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ”

   อ้าว พูดงี้แปลว่าไม่อยากได้งั้นสิวะ?

   “แต่ยังไงก็ขอบคุณมาก พี่เกรงใจเรา ไม่ได้อยากให้คิดว่าต้องซื้อนั่นนี่ให้พี่มากมาย แค่ตอนนี้พี่ก็ดีใจที่สุดแล้ว” ทีมบอกด้วยรอยยิ้ม ผมกำลังจะยุให้เปิดกล่องแต่โชคร้ายที่ดันไฟเขียวพอดี และรถคันหลังก็บีบแตรไล่เสียงดัง ทีมจึงต้องเบนสมาธิไปขับรถอย่างเสียไม่ได้

   แต่แฟนของผมก็ไม่ได้ใจร้ายมากพอจะพากลับเข้าบ้านโดยไม่หาอะไรกินกันก่อน ตอนนี้ก็สายมากพอสมควรแล้ว และผมก็หิวด้วย ทีมจึงแวะจอดแถวตลาดหน้าปากซอยบ้าน จุดมุ่งหมายของเราคือร้านข้าวมันไก่ใกล้ๆ นี่เอง

   ทีมลงจากรถโดยถือกล่องนาฬิกาไปด้วย ผมจึงลงตามและเดินไปอยู่ข้างๆ เพื่อรอข้ามถนนพร้อมกัน

   “หิวมาก” ทีมหันมาบ่นให้ผมฟัง

   “พอกันแหละ” ผมตอบ แล้วรีบข้ามถนนทันทีที่รถโล่ง

   “ผมเอาข้าวมันไก่ไม่หนัง...ฝุ่นเอาอะไร” ทีมหันมาถาม ผมจึงนั่งคิดนิดหน่อยแล้วถามออกไป

   “ไก่ทอดอร่อยป่าวอะทีม”

   “ก็ดี แต่มันจะแข็งน่ะสิ เอาไก่ต้มเถอะ” ทีมแนะ ผมเลยเอาแบบเดียวกับที่มันสั่งไป ระหว่างที่รอข้าว ทีมก็หยิบกล่องนาฬิกาออกมาเปิดยิ้มๆ ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นของข้างในชัดๆ

   “สวยมั้ย” ผมถามแล้วยิ้มให้ ทีมยกนาฬิกาเรือนนั้นขึ้นมาทาบบนข้อมือด้วยสีหน้าบ้าเห่อ

   “สวยสิ พี่ชอบมากเลย ขอบคุณนะ” ผมรับคำนั้นด้วยรอยยิ้มและหัวใจที่พองโต แต่ยังมีความสุขได้ไม่ถึงขีดสุด ใครบางคนก็เดินมาจากทางด้านหลังแล้วนั่งลงข้างๆ พร้อมเสียงแหลมๆ ที่ทักขึ้น

   “ไงทีม น้องฝุ่น ไม่ได้เจอตั้งนาน ไม่เห็นออกมาหาพี่บ้างเลย” ...ก็กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึงนี่หว่า จะออกมาหาทำหอกอะไร

   “ไงเชี่ยเป้” ทีมทักแล้วยิ้มเฝื่อนๆ

   “หึหึ มากินข้าวกันเหรอ...เฮ้ย ทีม นาฬิกาสวยว่ะ ขอกูดูหน่อยดิ” พูดแล้วไม่รอคำตอบ หันไปคว้านาฬิกาที่ทีมยังไม่ทันเก็บเข้ากล่องมาทาบและลองใส่อย่างถือวิสาสะ เล่นเอาผมแอบจี๊ดขึ้นมายังไงชอบกล ทีมขมวดคิ้วตอนที่มองไอ้พี่เป้นิ่ง ก่อนจะบอก

   “เชี่ยเป้ เอาคืนมา นั่นมันของกู”

   “โหย สวยขนาดนี้ ขอกูลองใส่แป๊ปเดียวเอง อย่างกดิวะ” ....อย่างทีมไม่เรียกว่างก แต่มึงน่ะ เสียมารยาท

   “พี่เป้ ขอคืนด้วยครับ” ผมบอกเซ็งๆ คราวก่อนเจอแม่งก็โคตรเสียมารยาท แต่นับว่าจิ๊บไปเลยเมื่อเจอวันนี้

   “อ่ะๆ น้องฝุ่นก็...เอาคืนก็ได้ครับ ไม่ต้องดุก็ได้แหม” ไอ้พี่เป้ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วถอดนาฬิกาออกคืนทีมแบบส่งๆ ผมทันเห็นห่านป่าตัวใหญ่มันขมุบขมิบปากด่าแบบเซ็งๆ อย่าว่าแต่ทีมเลยครับ ผมเองก็เซ็งนะ เจอคนไร้มารยาทแบบนี้

   “ข้าวมาแล้วค่ะ” เด็กเสิร์ฟของร้านพูดขึ้นเมื่อวางจานข้าวลงบนโต๊ะ พร้อมน้ำซุปที่เป็นต้มจืดฟักใส่มะนาวดอง

   “พี่ป้อนมั้ยน้องฝุ่น” ไอ้พี่เป้หันมาถามออเซาะ ผมได้แต่ขยับตัวหนีด้วยความแขยงในใจ

   “ไม่เป็นไรมั้งเป้ กูว่าฝุ่นก็มีมือมีเท้าครบนะ คงไม่ต้องให้มึงมาคอยป้อนหรอก” ทีมขัดคอขึ้น

   “ทำหวงน้องนะไอ้เหี้ย นี่น้องฝุ่นเป็นน้องหรือเมียมึงวะ หวงซะยิ่งกว่าหมาหวงก้าง” สงสัยมันจะอยากกินรองเท้าหนัง เน้นคำหลังเสียจนผมแอบเห็นเส้นประสาทของทีมกระตุกตึบๆ กำช้อนแน่นคล้ายกำลังระงับอารมณ์ไม่อยากมีเรื่อง ผมจึงพูดเป็นเชิงไล่

   “จะเป็นอะไรก็ไม่เกี่ยวกับพี่นี่ครับ ผมว่าถ้าไม่อยากมีเรื่องพี่ก็ให้พวกเรานั่งกินข้าวกันสงบๆ ดีกว่า”

   ไอ้พี่เป้หันมามองผมตาหนึ่ง ก่อนจะไหวไหล่แล้วบอก

   “ก็ได้ๆ ไปก็ได้ กูพูดเล่นๆ อย่าคิดมากนะมึง” เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของทีมตบไหล่แฟนผมทีนึง แล้วเดินออกจากร้านไป

   “นี่ใช่มั้ยวะ ถึงได้บอกว่าให้ห่างๆ ไอ้พี่เป้อะไรนี่ไว้” ผมถามเซ็งๆ ทีมพยักหน้า

   “มันไม่ใช่คนไม่ดี แต่บางทีก็กวนตีนเกินไป พี่เลยไม่ชอบคุยกับมันเท่าไหร่”

   “แต่ก็เห็นสนิทกันดีไม่ใช่เหรอทีแรก” ผมแซว ทีมเลยทำหน้าปากจู๋ใส่พลางตอบ

   “ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย”



   ที่เค้าบอกว่าชีวิตเราก็เหมือนหาดทราย มีคลื่นพัดเข้ามา เดี๋ยวก็พัดออกไป บางทีก็มีมรสุม...ผมเพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง หลังจากเมื่อสองอาทิตย์ก่อนผมได้หลั่นล้าอยู่พักหนึ่ง มรสุมลูกใหม่ก็กระแทกเข้ากลางแสกหน้า เมื่อผมต้องสอบครั้งแรกในชีวิตมหาวิทยาลัย โอ้ก ไม่อยากจะบอกว่ารู้สึกอยากตายแรงๆ วันละหลายรอบ

   ถึงจะมีทีมมาช่วยติวเลขให้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะตอนสอบผมก็ยังนั่งงงๆ เขียนคำตอบลงไปเหมือนไม่เคยได้เรียนอะไรสักวิชา ไม่มีความรู้สึกว่าไอ้นี่คุ้นๆ หรืออะไรทำนองนี้แม้แต่น้อย...กูโง่สินะ(ร้องไห้)

   เมื่อคืนนี้คุณแฟนสุดที่รักบอกว่า วันอาทิตย์นี้ที่เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผม มันไม่สามารถมารับที่คณะได้เนื่องจากติดไปค่ายอาสาพัฒนาที่จังหวัดเลยตั้งแต่เช้าวันศุกร์ กลับมาอีกทีก็วันพฤหัสบดีของอาทิตย์ถัดไป ตอนแรกทีมมันก็ไม่อยากไป แต่เพราะเป็นงานคณะที่พี่ไกด์กับมันเป็นเฮดด้วยกัน ถ้าไม่ไป พี่ไกด์อาจเอานิวเคลียร์มาบึ้มบ้านได้

   นับๆ ไป....วันมะรืนนี่หว่า วันศุกร์เนี่ย โอ้ก เร็วอะไรปานนี้

   จุ๊บ..

   “คิดอะไรอยู่” แรงจูบพร้อมคำพูดที่เกยอยู่บนหัวทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง ทีมยืนกอดผมเอาไว้หลวมๆ ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

   “เปล่า กำลังเซ็งเรื่องสอบน่ะ” ผมตอบ แล้วเปิดอาหารกระป๋องเพื่อเตรียมให้เซ็กส์ซี่...แหม หมาน้อยหายไปหลายฉากเนอะ กลับมาแล้ว คิคิ

   “ขอโทษนะ ติดงานจริงๆ หลังจากนั้นสัญญาว่าจะพาไปกินข้าวปล่อยแก่”

   “ไอ้บ้า” ผมด่าขำๆ ทีมเลยกอดผมเอาไว้แล้วเขย่าไปมาอย่างกลั่นแกล้ง ผมก็ได้แต่หัวเราะแล้วบอกให้วางลง สิ่งที่ทำให้ทีมหยุดชะงักกลับไม่ใช่เสียงของผม...

   “เล่นอะไรกันน่ะ”

   ผมรู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกเยือกแล้วหล่นลงไปกองกับพื้น ในขณะที่ทีมยังไม่ยอมปล่อยให้ผมยืนได้ปกติ สายตาของเราสองคนหันกลับไปมองยังบุคคลที่สามที่เพิ่งเข้ามาและกำลังจ้องมาทางผมด้วยแววตาประหลาด...โกรธก็ไม่ใช่ สงสัยก็ไม่เชิง...

   “รายการแกล้งฝุ่นประจำวันครับ” ทีมตอบขำๆ แล้วเริ่มเหวี่ยงผมอีกรอบ แต่คราวนี้ผมเริ่มขำไม่ออก ลุงสินเองก็เช่นกัน เขามองมาที่อ้อมแขนนั้นอย่างสงสัย ก่อนจะพูดขึ้น

   “แค่แกล้งกันก็แล้วไป อย่ามีอะไรมากกว่านั้นล่ะ”

   แกพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องครัวไปโดยไม่พูดอะไรอีก ทีมจึงยอมวางผมลงให้ยืนกับพื้น ยิ้มให้บางๆ

   “เล่นอะไรทำไมไม่ดูเลย ถ้าลุงสินรู้เข้าจะทำยังไง!?” ผมทำเสียงดุใส่เบาๆ เพราะกลัวว่าลุงสินอาจเดินย้อนกลับมาหรือไม่ก็แอบฟังอยู่จะได้ยินเข้า ทีมไหวไหล่นิดหน่อยแล้วบอกแบบไม่ยี่หระ

   “พี่ไม่สนใจหรอกนะถ้าพ่อจะรู้ ก็เคยบอกแล้วไงว่าต่อให้พ่อจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ พี่ก็จะไม่มีวันปล่อยเราไปเด็ดขาด”

   แค่คำพูดมันก็น่าดีใจอยู่หรอกครับ แต่ผมก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ ถ้าวันนึงลุงสินรู้เรื่องนี้เหมือนที่น้าอิ่มรู้ แกจะว่ายังไง ผมคงเป็นคนแรกที่โดนเฉดหัวออกจากบ้าน บอกตามตรงว่าไอ้เรื่องแค่นั้นผมไม่สนใจเท่าไหร่ แต่สิ่งสำคัญที่กำลังรบกวนจิตใจของผมมาตลอดตั้งแต่น้าอิ่มรู้เรื่องก็คือ...สักวันผมกับทีมต้องแยกจากกัน...

   ลุงสินมีความคิดค่อนข้างสมัยใหม่ก็จริง แต่เรื่องความรัก การแต่งงานหรืออื่นๆ ทางนี้เห็นได้ชัดว่าแกยังยึดถือความคิดของคนสมัยเก่าที่ว่า ‘ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง’ ไม่ใช่ ‘คนคู่กันคือคนที่รักกัน’ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพราะผมได้เห็นในหลายๆ มุมของลุงสินทำให้เกิดความเคารพและเกรงใจขึ้นเต็มหัวใจ จนมีวูบหนึ่งที่ผมเกิดความคิดว่า ต่อให้ทีมจะดื้อดึงรั้งทุกอย่างเอาไว้ แต่ผมจะเป็นคนทำเรื่องให้สิ้นสุดปลายทางตรงความถูกต้องด้วยตัวของผมเอง...

   “เอาอาหารไปให้เซ็กส์ซี่ก่อนนะ” ผมบอกเรียบๆ ทีมได้แต่เงียบไม่พูดอะไรจนผมยกชามพลาสติกสีขาวเดินออกไปจนถึงประตูห้องครัว เสียงของคนที่ผมรักจึงดังขึ้นขัดเบาๆ

   “เชื่อในตัวพี่นะฝุ่น...พี่รักเรามากนะ”

   ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปทั้งนั้น ได้แต่เดินออกไปหาเซ็กส์ซี่ที่ด้านนอกตัวบ้าน เจ้าหมาน้อยที่ไม่ได้เจอกันเพราะผมติดสอบต้องอ่านหนังสือรีบวิ่งหูปลิวหางกระพือเข้ามาหาพร้อมลิ้นห้อยๆ ทันที

   “ไงมึง...คิดถึงกูล่ะสิ” ผมบอกแล้ววางชามอาหารให้ เซ็กส์ซี่รีบกินอย่างรวดเร็ว “ถ้าเป็นมึง..จะทำไงวะ”

   แน่นอนว่าไม่มีคำตอบจากเจ้าขนทองสี่ขาที่กำลังเห็นแก่กินอย่างน่าเกลียดตัวนี้ ผมนั่งอยู่ที่สนามหญ้าพักใหญ่ รอให้เซ็กส์ซี่กินจนอิ่มจึงเอามันมาเล่นด้วย ทั้งลูบขนดึงนั่นดึงนี่ตามสไตล์แหละครับ มันกำลังอิ่มๆ ไม่อยากให้วิ่งมาก เดี๋ยวอ้วก เอิ้ก

   “กูรักเจ้านายมึงนะเซ็กส์ซี่ แต่ถ้าวันนึงกูต้องเลือกจริงๆ กูจะเลือกอะไรดี ความถูกต้องหรือความต้องการ?”

   มันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ นอกจากเสียงหงิงเบาๆ ของอีหมาน้อยที่เอียงคอมองผมอย่างน่ารักน่าแกล้ง ผมรู้..ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่วิตกกับเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่อยากให้ผู้มีพระคุณของผมต้องลำบากใจเพียงเพราะความต้องการส่วนตัวของตัวเอง



   จะดูเห็นแก่ตัวมั้ย ถ้าผมเลือกที่จะรักทีมโดยไม่สนใจความถูกต้องใดๆ บนโลกใบนี้...?








ต่อตอน 19 จ้ะ


eiizes’s talk
เตรียมใจไว้ดราม่าด้วยนะจ๊ะ อุคิ
อีกสองตอนครึ่งก็จะจบแล้วนะคะ ดังนั้นเราจึงเปิดจองแล้วค่า รายละเอียดรบกวนติดตามที่หน้าแรกได้เลยจ้ะ

แอบเอาปกมาโปรโมทที่ตรงนี้ด้วยค่ะ ฮี่ๆๆๆๆ


(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/almostfincover.jpg)


สั่งกันเยอะๆ น้า รับพี่ทีมกับน้องฝุ่นไปไว้ในอ้อมอกกันด้วยนะคะ  :o8: :L1: :L1:



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่า  :กอด1:
eiizes


หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 30-03-2011 22:56:47
โห๊ะ มหากาพย์มาม่าจะเกิดขึ้นแล้วใช่มั๊ยค่ะ

ต้องรีบไปหาผ้าเช็ดหน้ามาเตรียมไว้รอแระ อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 30-03-2011 23:02:28
เครียดเลยทีเดียว...

จะตัดสินใจอะไรก็คุยกันก่อนนะ T^T
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-03-2011 23:33:56
มาม่ามารอเสริฟแล้ววว  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 30-03-2011 23:58:36
อารายกันนี้ กะลังหวานได้ที่

เตรียม ซื้อมาม่า เลยใช่ไหม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 31-03-2011 00:44:22
 o22 o22 :a5: :a5:
เตรียม เตรียมต้มน้ำรอแล้วค่ะ  o18
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 31-03-2011 00:44:45
ปกน่ารักจังเลย

เลือกน้องทีมนะ :กอด1:

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 31-03-2011 01:20:37
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:แอบเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 31-03-2011 02:23:49
ทั้งมาม่า ผ้าเช็ดหน้า มาพร้อมค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 31-03-2011 10:41:15
โอ้ว ลุงสิน หิน หิน หิน หิน
 o22 o22
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 31-03-2011 11:33:31
เตรียมตัวกินมาม่าก่อน- -
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 31-03-2011 12:40:09
กะแล้วว่าต้องมีมาม่า ....
แอบกลัว ไม่รู้ว่าลุงสินจะว่ายังไง สงสารทั้งทีมและฝุ่น

อยากได้รวมเล่มเหมือนกัน
ขอไปตัดสินใจก่อน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 31-03-2011 13:22:02
ทีมน่ารักมาเลยตอนนี้ คำพุดแต่ละคำต่อหน้าแม่เล่นเอาคนอ่านซึ้งมากมาย
แต่เรื่องลุงสินกำลังจะทำให้คนอ่านเศร้าแทนซึ้งอะ :monkeysad:

ปกหนังสือหน้ารักจัง เดี๋ยว Mail ไปจองนะคะ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 31-03-2011 13:56:27
มาม่า กับสองตอนครึ่งงงงงง  :serius2:
แล้วมันจะจบ มาม่าไหมอ่ะ  o18

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-03-2011 14:24:22
ใกล้กินมาม่าจริงๆแล้วหรือครับ
ขอทำใจก่อน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 31-03-2011 15:27:03
ต้มนํ้าร้อนรอมาม่าแล้ว
แต่ตอนจบเค้าไม่อยากกินมาม่านะ :m15:
อย่าเศร้าตอนจบเลย  :call:

ปล.อยากได้หนังสือออออ แต่ต้องไปดูงบก่อน  :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 31-03-2011 16:03:21
มาม่ากำลังจะมา T T
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 31-03-2011 16:21:32
 :o12:
ดราม่า + อีกสองตอนครึ่งจะจบ


แง้ ตอนจบคงไม่เป็นแบบปลายเปิดใช่มั้ยคะ TT;
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BF-e ที่ 31-03-2011 17:16:49
  ไปซื้อหม้อมารอดีว่า
        เเล้วน้องฝุ่นจะเลือกอะนะ???
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 31-03-2011 18:55:06
มาม่ากำลังจะมา แง้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 31-03-2011 19:59:04
อ่าาาา จะจบแล้วหรอคะ ยังอ่านได้อีกเยอะๆนะไรท์เตอร์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ :m15:
เข้าเรื่องดีกว่า ตอนนนี้เริ่มดราม่าแว้วววว เหมือนลุงสินน่าจะเริ่มรู้แล้วรึเปล่า
แต่ก็นะก็พอจะเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ อาจจะทำใจอยาก แต่ก็อยากให้ลุงสินนึกถึง
ความสุขของคนเป็นลูกมากกว่า ส่วนน้องฝุ่น อ๊ากกก เป็นคนที่ลำบากใจที่สุด  :o12:
รอตอนต่อไปค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: miniz ที่ 31-03-2011 20:49:07
ในที่สุดก็ตามอ่านครบ  :กอด1:

ง่ะ จะจบแล้วหรอคะะ  :monkeysad:

เริ่มมาม่า มาติดตามรอนะคะ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-03-2011 22:40:31
นี่สินะ อุปสรรคอันใหญ่หลวง :z3:
เตรียมผ้าเช็ดหน้า พร้อมชามมาม่าใบใหญ่เรียบร้อยแล้วค่ะ :a14:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 31-03-2011 23:22:39
//ปูเสื่อรอเสพตอนมาม่า//
ทุกอย่างมันต้องมีทางออกจ้ะน้องฝุ่น
จะกังวลไปใย เห็นไหม พี่ทีมก็บอกแล้วเชื่อเค้า นะ..นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Forget..* ที่ 02-04-2011 12:25:12
ว๊าก.. .ลุงสินนี่มาเงียบแต่มาทีกระชากใจมากแฮะ
แต่ละคำถาม TT
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 02-04-2011 14:12:29
สั่งไปแล้วววววววว ววววว วววว ^^

ถึงต้องหมดมาม่าเป็นโหลเราก็ไม่หวั่น ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 02-04-2011 20:12:38
ฮึกกกกก
ท่าจะเรื่องใหญ่นะ ถ้าลุงสินรู้เรื่องอ่ะ
โฮๆๆๆ ทำไมต้องกีดกันขนาดนั้นนะ
ขอให้ทั้งคู่ผ่านไปได้ !!!

=/\=
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 06-04-2011 01:31:16
ส่งเมล์ไปจองแล้วค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 06-04-2011 15:07:09
เข้ามารอตอนจบด้วยคน
แอบกลัวมาม่า  :sad4:

กว่าพี่ทีมกะน้องฝุ่นจะรักกันได้ก็นะ...
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่ 18!!เปิดจองแล้วจ้า ดูรายละเอียดหน้าแรก! ♥ [30/03/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 14-04-2011 04:42:13
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก! ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 19-04-2011 21:50:48
PART FHOON

วันศุกร์ตอนเช้า ผมถูกบังคับให้ตื่นแต่เช้าด้วยความเต็มใจทั้งที่ไม่มีสอบแท้ๆ ไปติดบ่วงในห้องเย็นอีกทีก็วันอาทิตย์เลย ผมเดินง่วงๆ ไปที่ห้องน้ำเพื่อแปรงฟันและจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอยู่บ้าน เพื่อที่จะช่วยขนของและหิ้วไปส่งทีมที่รถ...จังหวัดเลยอยู่ค่อนข้างไกลทำให้คณะทำงานของค่ายอาสาต้องรีบออกกันแต่เช้าตรู่ ทีมเองก็โดนร่างแหไปด้วย เพราะจะให้เอารถมินิสุดสวยของมันไปถึงเลยก็กระไรอยู่ อาจโดนสิบล้อบดเอาได้

ทีมเคยบอกว่าพี่ไกด์เสนอให้นั่งเครื่องบินไปทางเหนือก่อนแล้วค่อยต่อรถไปที่จังหวัดเลยอีกที...แต่ขอโทษ ได้ข่าวว่าจะไปค่ายอาสากัน ไม่บ้าก็บ้าแล้วแหละครับ เปลืองงบด้วย ไหนของที่จะต้องขนไปอีก ลำบากแท้ สุดท้ายข้อเสนอแบบรักสบายของพี่ไกด์ก็ต้องดับไป นั่งรถบัสกันไปครับ แบบฉิ่งฉาบทัวร์ เพราะมันประหยัดงบได้ดีที่สุด

“เตรียมของเสร็จหมดรึยัง” ผมถามขึ้นเมื่อเดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ แถวกระเป๋าที่วางสุมรวมกันไว้มุมหนึ่ง กองหมอนและผ้าห่มที่เอาไว้ปูดูหนังนั้นก็ถูกพับเก็บรวมกันไว้เพื่อเผื่อแผ่พื้นที่ให้ของที่จำเป็นอย่างอื่น

“น่าจะครบหมดแล้วแหละ” ทีมบอก แล้วเดินเข้ามาหาผมที่ยังยืนชะโงกดูกระเป๋าเดินทางและสัมภาระที่จำเป็นอื่นๆ “ไม่อยากไปเลย คิดถึง”

“ไปกี่วันเอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” ผมปลอบแล้วรับอ้อมกอดนั้นมา ก่อนจะลูบหลังทีมเบาๆ ผมเองก็ไม่อยากให้ทีมไป ไม่ใช่เพราะอยากกินข้าวปล่อยแก่นะ แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกใจมันหวิวๆ เหมือนเราจะต้องจากกันนานกว่าสัปดาห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของผมคนเดียวก็ได้ คงไม่มีอะไรแย่ขนาดนั้น...

“มาจุ๊บที” ทีมบอกแล้วทำปากจู๋ใส่ ผมหัวเราะกับรอยตีนกาที่เริ่มเพิ่มมากขึ้นตรงหางตาแต่ก็ยอมจูบลงไปเบาๆ พร้อมบอก

“ตีนกาเยอะจัง ตีนกาเยอะจัง กิ๊วๆ” ผมแกล้ง

“เหอะ ใช่สิ พี่มันแก่แล้วนี่ ถึงหนังหน้าจะไม่ฟิตแต่อย่างอื่นฟิตนะจ๊ะเบ่บี๋” ทีมบอกพร้อมแกล้งทำตาเยิ้มใส่ ผมได้แต่หันหน้าหนีแล้วบอกทันควัน

“เร็วๆ เลย เดี๋ยวก็ไปไม่ทันรถหรอก”

“ก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องไปไง” เออ คิดง่ายจริงโว้ยแฟนกูเนี่ย

“ทีม...ไปเร็วๆ สิ” ผมทำเสียงเข้ม ทีมเลยยอมเลิกทำตัวเกาะแกะแล้วหันไปคว้ากระเป๋าเดินทางมาถือไว้อย่างเนือยๆ ผมจึงถามขึ้นอีก “กุญแจรถ มือถือ กระเป๋าตังค์ หมากฝรั่ง แว่นกันแดด...เอาไปหมดรึยัง”

“หมดแล้วคร้าบ แต่ถุงยางไม่ได้เอาไปนะ เมียอยู่กรุงเทพฯ กลับมาใช้ที่กรุงเทพฯ ดีกว่า.. โอ๊ย!” หื่นดีนัก ผมเลยฟาดเข้าเต็มๆ ที่สะบักไหล่จนทีมทำหน้าย่น แล้วหัวเราะแหะๆ เดินออกจากห้องไป

ผมช่วยทีมสะพายกระเป๋ากล้องและกระเป๋าสะพายของใช้จำเป็นอื่นๆ ลงไปที่รถด้วย เห็นว่าจะเอามินิไปทิ้งไว้ที่ตึกคณะแล้วค่อยนั่งฉิ่งฉาบทัวร์ไปจังหวัดเลยพร้อมทุกคน แอบสงสารเจ้ามินิคันงามเหมือนกัน โดนน้ำหนักกระเป๋าเข้าไปถึงกับอ่วมเลย

“ทีม...เบบี๋มันจะไม่ดับกลางทางแน่นะ” ผมถามขึ้นเพราะล้อมันยวบลงไปกว่าเดิมเยอะ แอบกังวลแทนคนขับ

“น่า เบบี๋เป็นหญิงแกร่ง” มันบอกขำๆ แล้วเดินอ้อมจากบริเวณที่นั่งคนขับกลับมาหาผมที่ยืนถอยห่างออกมา ทีมยิ้มบางๆ ให้ก่อนจะประคองหน้าผมไว้ทั้งสองมือแล้วดีพคิสกันอยู่ครู่หนึ่ง จนผมเริ่มรู้สึกหายใจตามไอ้นักรักนี่ไม่ทันถึงได้ประท้วงออกมา ทีมยิ้มกว้างให้อีกครั้งพลางบอก

“รอพี่นะ เดี๋ยวมา แป๊ปเดียวเองเนอะ ตดยังไม่ทันหายเหม็นเราก็ได้เจอกันอีกแล้ว”

“อืม ขับรถดีๆ นะ” ผมบอกพลางยิ้มให้ ทีมจึงเดินกลับไปยังตำแหน่งคนขับอีกครั้ง ห่านป่าตัวใหญ่หันกลับมามองผมครู่หนึ่งแล้วเข้าไปสตาร์ทรถออกจากบ้านไป ผมยืนมองจนรถมินิคันน้อยลับไปจากรั้วบ้านก็เตรียมจะหันหลังกลับ ทว่าเสียงที่ดังจากด้านหลังก็ทำให้ทุกประสาทในร่างกายผมตื่นตัวด้วยความตกใจ ปลายนิ้วชาวาบและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับได้หยุดหายใจไปแล้ว

“ฝุ่น......เมื่อกี้เรากับทีม...ทำอะไรกัน!!!!!!



ผมนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกด้วยอาการตื่นตัวพร้อมที่จะสะดุ้งและร้องไห้ได้ทุกเมื่อ ตัวผมที่ว่าไม่ใหญ่เท่าไหร่แล้วยิ่งหดลดเหลือครึ่งนิ้วเมื่อเจอพายุอารมณ์ของลุงสิน เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเมื่อครู่ ผมไม่มีข้ออ้างใดๆ จะแก้ตัวได้เลย เพราะคำพูดที่ฟ้องชัดว่าลุงสินเห็นผมกับทีมตั้งแต่ทีแรก น้าอิ่มนั่งนิ่งเม้มปากแน่นอยู่ตรงข้ามผมโดยไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น สำหรับผม..มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้วถ้าน้าอิ่มจะทำเหมือนกับว่าไม่เคยรับรู้เรื่องพรรค์นี้มาก่อน

“ฝุ่นทำบ้าอะไร ทำไม เราแค้นใจอะไรลุงงั้นเรอะ!! ลุงให้ทุกอย่าง ที่ซุกหัวนอน เงิน...ทุกอย่างที่ฝุ่นอยากได้ แล้วทำไมถึงต้องตอบแทนกันด้วยการเอาลูกชายของฉันไป!!!!”

ผมนั่งก้มหน้านิ่ง พยายามกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นลอดออกจากคอ น้ำตาที่เอ่อคลอจนทนไม่ได้เริ่มไหลอาบแก้ม ผมรู้อยู่แก่ใจว่าต้องมีวันนี้...แค่ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ก็เท่านั้นเอง...ทำไมต้องเป็นตอนที่ผมยังทำใจไม่ได้ ยังไม่แข็งแรงมากพอ...

“พูดมาสิ!! ฉันทำอะไรผิดต่อเรา ถึงได้ทำแบบนี้กับฉัน!!!” ลุงสินตรงรี่เข้ามากระชากแขนเสื้อผมขึ้น น้าอิ่มผวาเข้ามาเพื่อจะช่วยแต่กลับโดนลุงสินพูดอย่างข่มอารมณ์ “คุณถอยไป เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยอิ่ม”

“ลุงสินดีกับผมมาก...ผม..ผม...” ผมพูดไม่ออก อยากบอกออกไปใจจะขาดว่าผมรักทีม แต่นั่นคงเป็นเหมือนน้ำมันชั้นดีเข้าไปเติมไฟโทสะให้ลุงสินยิ่งโมโหมากกว่าเดิม

แม่เคยบอกว่าผมเป็นตัวซวย อยู่ที่ไหนก็รังแต่จะให้เขาแตกแยก ผมไม่เคยรับรู้มันจนกระทั่งวันนี้...แม่พูดถูก ผมมันตัวซวยของแท้

“ผมขอโทษ” ผมไม่รู้ว่าคำอธิบายไหนถึงจะดีมากพอที่จะตอบคำถามของลุงสิน มันยากยิ่งกว่าการตอบคำถามในห้องสอบ จึงได้แต่เงยหน้าแล้วพูดขอโทษออกไปด้วยเสียงที่สั่นระริก ผมไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงเรื่องถึงจะดีขึ้น ลุงสินกัดฟันดังกรอดอยู่เบื้องหน้า ก่อนจะชายตามองผมราวกับเห็นสิ่งน่ารังเกียจ



“ลุงจะให้เราเลือก...เลิกยุ่งกับทีมซะ หรือไม่ก็กลับอเมริกาไป”



น้ำตาผมไหลรินราวกับก๊อกน้ำที่ถูกเปิดทิ้งไว้เพราะใจความในประโยคนั้น...ไม่มีทางไหนเลยที่ผมจะไม่เจ็บ...น้าอิ่มรีบลุกจากฝั่งตรงข้ามมากอดผมไว้หลวมๆ บอกลุงสินเสียงสั่น

“อย่าให้ฝุ่นกลับอเมริกาเลยค่ะ..ได้โปรด อิ่มขอร้อง” เสียงน้าอิ่มสั่นราวกับคนจวนเจียนจะร้องไห้

“แล้วจะให้ผมทำยังไง! คุณก็รู้ว่าเด็กคนนี้ชอบผู้ชาย และเขากำลังทำลายอนาคตลูกชายของผม!!” ลุงสินตวาดเสียงดัง ผมก้มหน้าลงแล้วส่ายหน้าเบาๆ...ผมไม่ได้มีเจตนาจะทำแบบนั้น ผมไม่เคยคิดทำร้ายทีมอย่างที่ลุงสินกล่าวหาเลย... “ทีมควรจะได้รักและแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ สักคน แล้วอยู่กันไปจนแก่เฒ่า..ไม่ใช่เด็กผู้ชายกะโปโลแบบนี้!!”

“คุณคะ คุณพูดเกินไปนะ!” น้าอิ่มขึ้นเสียงบ้าง ผมจุกกับประโยคนั้นของลุงสิน เขาพูดถูกเรื่องอนาคตของทีม แฟนของผมควรจะได้รักและแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ มีลูกน่ารัก สร้างครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ใช่มาหยุดทุกอย่างไว้กับตัวซวยอย่างผม...


เรื่องนั้นผมรู้ดีมาตลอด..แต่จะให้ทำยังไง ผมรักทีม ผมเคยชินกับการมีมืออุ่นๆ คอยจับกระชับเอาไว้ จนไม่สามารถเดิน และไม่ล้มลงโดยปราศจากมือคู่นั้นคอยพยุง...


“น้าอิ่ม..อึก..พอเถอะครับ” ผมพึมพำบอกออกไปอย่างนั้น ลุงสินหันกลับมามองที่ผมอย่างโกรธเคือง ไม่แปลกเลยที่ลุงจะโมโหมากขนาดนี้ เขาเลี้ยงลูกชายมาเพื่อให้รักกับผู้หญิงดีๆ ไม่ใช่นอกคอกมารักผู้ชายด้วยกัน


และเรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น ถ้าผมไม่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้...


“ผม...ขอของแลก อึก เปลี่ยนได้มั้ยครับ” น้ำตาผมไหลไม่หยุด หัวใจยิ่งเจ็บจนคล้ายว่ามันจะหยุดเต้นในนาทีถัดไปเมื่อรับรู้ในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ถ้ายังต้องอยู่ใกล้ๆ กับทีมแบบนี้ผมมั่นใจว่าจะไม่มีวันตัดใจได้ ดังนั้น....เราก็ควรต้องแยกจากกัน

“ว่ามา” ลุงสินบอกเสียงเข้ม ผมรู้สึกได้ว่าไหล่ตัวเองกำลังสั่นเพราะแรงสะอื้น ผมเจ็บ ผมกลัว ผมไม่แข็งแรงมากพอจะอยู่โดยไม่มีทีม ก่อนหน้านี้หัวใจผมด้านชาไม่เคยรู้จักความรัก ผมจึงอยู่ได้เรื่อยมาโดยไม่ต้องการมัน

แต่ตอนนี้เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป หัวใจของผมได้เสพติดความสุขที่หอมหวานนั้นจนไม่อาจถอนตัวได้โดยไม่มีบาดแผล ทั้งที่เป็นแบบนั้นพระเจ้ายังกลับจะกระชากเอารักคืนกลับไป...ใจร้ายนัก


“ผมขอ..ห้องพักสักห้อง..ฮึก..แค่นั้น”



ผมถึงไม่เคยเชื่อในเรื่องของความรักที่สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบ...



“ย่อมได้”




เพราะมันไม่มีจริง...



มันทุกข์ทรมานจนใกล้เคียงกับความตายตอนเดินกลับขึ้นมาบนชั้นสองเพื่อเก็บของและบอกลาความทรงจำที่แสนดี ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นมุมที่เราเคยใช้ชีวิตร่วมกัน ได้มีความสุขร่วมกัน...ผมใช้เวลาไม่นานสำหรับการกวาดทุกอย่างลงในกระเป๋าเดินทาง รูปคู่ตอนที่เราไปเที่ยวทะเลกันคราวนั้นยังอยู่ในกรอบไม้เล็กๆ ที่หัวเตียง ทีมยิ้มตาหยีให้กล้องในขณะที่ผมยังอ้าปากหวอด้วยความตกใจ..


ความสุขมันเป็นอดีตไปแล้ว...


ผมโยนมันลงกระเป๋าเดินทางด้วยหัวใจที่ปวดร้าว กีต้าร์ตัวเก่าที่ทีมเคยเล่นและร้องเพลงให้ฟัง ยังคงนอนนิ่งอยู่ข้างผนังในห้องนอน ผมเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมามองด้วยสายตาที่พร่าเลือน ก่อนจะเดินผ่านประตูเชื่อมเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทะลุไปยังห้องนอนของทีม แล้ววางมันที่ริมผนังตำแหน่งเดียวกับที่มันเคยอยู่ในห้องของผม

กลิ่นโคโลญจน์ของทีมยังกรุ่นอยู่ในห้องราวกับคนที่ผมรักไม่ได้หายไปไหน..ใช่ ทีมไมได้หายไป แต่ผมต่างหากที่กำลังจะหายไป

ผมเดินไปยังโต๊ะทำงานเพื่อหยิบกระดาษโน้ตออกมาเขียนข้อความลาทิ้งเอาไว้ แหวนเงินวงเล็กที่ทีมให้ตอนเราเริ่มเป็นแฟนกันถูกผมถอดออกช้าๆ ด้วยใจที่แหลกสลาย ผมวางมันลงพร้อมกับจดหมายลานั่น...เหนือโต๊ะทำงานของทีมมีรูปของเราสองคนติดเอาไว้อยู่ ผมเข้ามาทีไรก็ไม่เคยสังเกตสักที แต่วันนี้ถึงได้เห็นว่าเป็นรูปผมนอนหลับอยู่บนเตียง และทีมเท้าแขนอยู่เหนือตัว..

มันทุกข์ทรมานจนใกล้เคียงกับความตายตอนเดินกลับขึ้นมาบนชั้นสองเพื่อเก็บของและบอกลาความทรงจำที่แสนดี ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นมุมที่เราเคยใช้ชีวิตร่วมกัน ได้มีความสุขร่วมกัน...ผมใช้เวลาไม่นานสำหรับการกวาดทุกอย่างลงในกระเป๋าเดินทาง รูปคู่ตอนที่เราไปเที่ยวทะเลกันคราวนั้นยังอยู่ในกรอบไม้เล็กๆ ที่หัวเตียง ทีมยิ้มตาหยีให้กล้องในขณะที่ผมยังอ้าปากหวอด้วยความตกใจ..



ความสุขมันเป็นอดีตไปแล้ว...



ผมโยนมันลงกระเป๋าเดินทางด้วยหัวใจที่ปวดร้าว กีต้าร์ตัวเก่าที่ทีมเคยเล่นและร้องเพลงให้ฟัง ยังคงนอนนิ่งอยู่ข้างผนังในห้องนอน ผมเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมามองด้วยสายตาที่พร่าเลือน ก่อนจะเดินผ่านประตูเชื่อมเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทะลุไปยังห้องนอนของทีม แล้ววางมันที่ริมผนังตำแหน่งเดียวกับที่มันเคยอยู่ในห้องของผม

กลิ่นโคโลญจน์ของทีมยังกรุ่นอยู่ในห้องราวกับคนที่ผมรักไม่ได้หายไปไหน..ใช่ ทีมไม่ได้หายไป แต่ผมต่างหากที่กำลังจะหายไปจากกรอบความทรงจำของทุกคน

ผมเดินไปยังโต๊ะทำงานเพื่อหยิบกระดาษโน้ตออกมาเขียนข้อความลาทิ้งเอาไว้ แหวนเงินวงเล็กที่ทีมให้ตอนเราเริ่มเป็นแฟนกันถูกผมถอดออกช้าๆ ด้วยใจที่แหลกสลาย ผมวางมันลงพร้อมกับจดหมายลานั่น...เหนือโต๊ะทำงานของทีมมีรูปของเราสองคนติดเอาไว้อยู่ ผมเข้ามาทีไรก็ไม่เคยสังเกตสักที แต่วันนี้ถึงได้เห็นว่าเป็นรูปผมนอนหลับอยู่บนเตียง และทีมเท้าแขนอยู่เหนือตัว..

น้ำตาผมไหลไม่หยุดกับภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ย้อนกลับมา มุมใต้โทรทัศน์นั้น เราเคยนั่งดูหนังด้วยกันเรื่องแล้วเรื่องเล่า บางครั้งก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไป ทีมที่มีรอยยิ้มจางๆ มักจะกระตุ้นให้ผมเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนกลายเป็นคนชอบพูดไปโดยไม่รู้ตัว ทีมเปลี่ยนผมให้เป็นคนที่ดีขึ้น รู้จักเปิดรับคนอื่นมากขึ้น และทำให้ผมต้องการจะมีใครสักคนเดินเคียงข้าง

แต่ในวันนี้ผมกลับต้องเสียคนข้างกายไปด้วยการเลือกของตัวเอง..

ผมตัดใจกลั้นน้ำตาแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อรูดซิปปิดกระเป๋าด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ผมเคยคิดว่าถ้าต้องเสียความรักครั้งนี้ไปก็อาจทำให้หัวใจผมหยุดเต้น สมองเลิกสั่งการให้หายใจเอาตัวรอด แต่แท้จริงแล้วมันก็เป็นแค่ความคิดของเด็กโง่คนนึง เพราะสุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้ตาย ยังหายใจได้เป็นปกติ แค่ไร้จิตวิญญาณดวงเดิมก็เท่านั้น..

   

ห้องใหม่ที่ลุงสินเตรียมไว้ให้นั้นเป็นคอนโดสูง ค่อนข้างหรูแห่งหนึ่งในกลางกรุงเทพฯ ลุงสินขับรถมาส่งผมถึงที่ด้วยตัวเอง ตลอดทางเขาทิ้งให้ในรถเต็มไปด้วยความเงียบ แต่ผมก็ไม่ได้อึดอัดมากมายนัก ความเจ็บปวดยังทำร้ายผมจนชาไปทั้งอก ทันทีที่ถึงที่หมายลุงสินก็บอกเสียงห้วนๆ ว่าให้ลงไปจากรถ

ผมต้องทำหน้าชาเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนของลุงสินที่เป็นเจ้าของโครงการคอนโดหรูแห่งนี้ ทั้งที่ในใจร่ำร้องอยากอยู่คนเดียว อย่างน้อยก็ให้เวลาผมเลียแผลให้ตัวเองสักพักก็ยังดี

อย่าโกรธลุงเลยนะ สิ่งที่เรากับทีมกำลังทำมันคือสิ่งไม่ดี...มันเป็นบาปเข้าใจมั้ย” ลุงสินพูดขึ้น เมื่อวางกระเป๋าสัมภาระใบเล็กของผมลงบนพื้นพรมในห้องใหม่ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดยังไม่ได้แกะพลาสติกด้วยซ้ำ ที่ได้มาเร็วคงเป็นเพราะว่าลุงเป็นเพื่อนกับเจ้าของที่นี่ ทั้งยังมีส่วนร่วมในการออกแบบอีกด้วย

“ผมเข้าใจครับ...พ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีทั้งนั้น” ผมพึมพำเสียงอู้อี้ “ผมไม่อยากดึงทีมเข้ามาร่วมบาปที่ผมกำลังทำเหมือนกัน...ผมไม่ควรทำให้คนที่มีพระคุณต่อผมต้องเสียใจ”

“เข้าใจแบบนั้นก็ดีต่อตัวเรานั่นแหละ” ลุงสินบอกทิ้งท้าย แล้วออกจากห้องไป ทันทีที่ประตูปิดลง ร่างกายผมก็เหมือนกับตุ๊กตาเชิดที่ถูกตัดด้าย ทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วร้องไห้ราวกับคนบ้า ใจผมแหลกสลายไปตั้งแต่รถออกพ้นประตูบ้าน ผมทิ้งทีมเอาไว้เบื้องหลังและหวังว่าคนที่ผมรักที่สุดจะได้เจอสิ่งที่ดีให้สมกับที่ผมต้องเจ็บเจียนตายแบบนี้เช่นกัน

ในเมื่อเราต้องจากกัน ใจจริงผมอยากจะบอกลาทีมด้วยปากของตัวเอง แต่การกระทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเรื่องมันจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น และผมก็ไม่ต้องการให้ทีมมีปัญหาอะไรกับครอบครัวเพราะคนนอกอย่างผม...



ถึงการจากกันในครั้งนี้ ผมจะเจ็บร้าวจนอยากหยุดลมหายใจและตายไปซะ แต่นั่น...ก็เป็นได้แค่ความคิด ความจริงที่ผมต้องเผชิญคือตัวเองยังหายใจและหัวใจผม...ก็ยังเต้นด้วยความเจ็บปวด...อยู่ทุกนาที





อ่านต่อได้ใน ตอนที่ 19 part team


eiizes’s talk

สวัสดีค่า หายไปนานมาก 5555

เตรียมไฟล์ เตรียมนั่นเตรียมนี่เนอะ สงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นยังไงกันบ้างคะ เที่ยวกันสนุกมั้ย :D

เราไม่ได้ไปไหนเลย ฮ่าๆ เห็นแดดแล้วขอซุกตัวอยู่ในมุมมืดดีกว่า ออกไปเล่นน้ำ จากที่ดำอยู่แล้ว กลายเป็นตอตะโกแน่ๆ

ตอนนี้ก็ดราม่าแล้วเนอะ สงสารน้องฝุ่น เอิ้กกก


คิดเห็นยังไง อย่าลืมคอมเม้นท์กันบ้างนะคะ หนังสือยังเปิดให้จองอยู่น้า~~~ รับของได้ประมาณอาทิตย์ที่สองของเดือนพค. นะคะ แต่ถ้านัดรับก็อาจจะเร็วกว่านิดหน่อย(ถ้าช้าก็ช้าที่คุณไปรษณีย์แหละค่ะ 555)

ขอบคุณที่อ่านมาจนบรรทัดนี้จ้า

eiizes



หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 19-04-2011 22:03:34
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 19-04-2011 22:40:49
ไม่ชอบรักที่ไม่สมหวังนะ

มันเศร้าอ่านแล้วชอบอิน :m15:

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 19-04-2011 22:41:29
เอ๊ยยยย!!!!!  เศร้าง๊ะ!!!!  TT^TT
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 19-04-2011 22:54:08
 :sad4: ไม่น้าดราม่ามาไวแบบไม่ทันตั้งตัว
ทีมกลับมาไวไวไว สงสารฝุ่นอ่า  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 19-04-2011 23:23:36
โอ่ะ โอ่
สิ่งที่ดีสุดของลูก คือ ความสุขของลูกนะค่ะ ลุง!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 19-04-2011 23:25:22
ดราม่าน้ำตาไหล

ทีมกลับมาเร็วๆเถ้อออออ

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 20-04-2011 03:58:20
สงสารฝุ่น อ่ะ

อยากให้ทีมกลับมาเร้วๆๆ 

มาตามหาฝุ่นด้วยนะะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 20-04-2011 06:33:25
โอ๊ย เศร้าอ่ะ สงสารฝุ่น

ทีมกลับมาจะอาระวาดไมเนี้ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 20-04-2011 06:56:03
อ๊ากกกกน้องฝุ่นโดนคนเดียวไปเต็มๆ :z3:
ทีมก็ยังไม่ได้ทันได้ลา อ๊ากกกกก :z3: :z3:
แล้วน้องฝุ่นจะอยู่ยังไงล่ะนี่ ลุงสินใจร้ายยย :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BF-e ที่ 20-04-2011 07:50:14
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-04-2011 10:23:13
มาอีกแล้วมาม่าT^T
เศร้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 20-04-2011 10:46:36
โอ้ยยยยยยยยยยเจ็บปวดมากค่ะ สงสารฝุ่นอ่ะ...
แอบจะอดใจรอพาร์ทของทีมไม่ไหวเลยค่ะ ฮือออ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-04-2011 10:49:09
เข้าใจลุงสินนะ ที่ลุงสินทำน่ะ ไม่ได้ผิดอะไรเลย  :เฮ้อ:

แต่ความรักของฝุ่นกับทีม ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดอะไรเช่นกันนะคะ ลุงสิน  :monkeysad: :impress3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 20-04-2011 11:12:04
ลุงสิน ใจแคบกว่าที่คิดแฮะ

คือ เข้าใจว่า เป็นพ่อที่รักลูก และอยากให้ลูกได้พบได้เจอแต่สิ่งดีๆ


สงสารก็แต่ฝุ่น น้องอยู่ของน้องดีๆ ด้านชากะความเดียวดาย ตายด้านกะความารัก

แต่ก็ทีมไม่ใช่เหรอที่มาทำให้น้องสดใส กลับเป็นเด็กปกติตามอายุเหมือนคนอื่น


แต่สุดท้าย น้องก็กลับโดนทำลายอีกครั้ง ด้วยคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ว่าแท้จริงแล้ว ลูกชายตัวเองนั้นหละ ที่เป็นคนเลือกทางนี้เอง


รอดู ว่าทีมจะสู้เพื่อความรักครั้งนี้ได้ซักแค่ไหน

สำหรับฝุ่น รออยู่ตรงนั้นนะลูก ปล่อยให้พี่เค้าสู้เพื่อตัวเองม้าง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-04-2011 13:09:42
เข้าใจลุงสินนะก็คนเป้นพ่ออะ แล้วลูกชายตัวเองก้ออกจะแมนไม่มีอาการออกให้เห็น
คงทำใจยากหน้าดูเลย แต่ก้อยากให้ ทีม กับฝุ่นพยายาม และคุยกันเพื่อแก้ปัญหา
และทำให้ลุงสินเข้าใจ แต่ก็นะจะทันไหมเนี่ย  :m15: เพราะฝุ่นได้ตัดสินใจเดินจากไปแล้ว

 :pig4: คะ  :m15:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 20-04-2011 14:03:49
อ๊ากกกกกกกกก

เข้าสุภาษิต ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
รอตอนต่อไปจ้า อย่างรู้ ว่าทีมจะทำยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 20-04-2011 14:25:25
เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้นะ
คู่ชาย-ชายมักจะเจอปัญหาแบบนี้มาก
จนอดคิดไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วครอบครัวเขารักที่เขาเกิดเป็นลูก หรือว่าเพราะเขาเกิดเป็นผู้ชายกันแน่
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 20-04-2011 15:08:07
ปัญหาโลกแตกมาอีกแล้ว ปัญหาครอบครัว ที่บ้านไม่ยอมรับ

ยิ่งกว่าปัญหาไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันอีกนะเนี่ย!!!

ชอบนุ้องฝุ่นอ่า น่ารักมากๆๆเลย

สั่งจองและโอนเงินเรียบร้อยนะครับ

อิอิ รีบมาต่อไวๆๆนะ

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 20-04-2011 16:36:02
ดราม่าร้ายกาจ

เห้อๆ นึกว่าคนเป็นพ่อจะเข้าใจคนเป็นลูกซะอีก  คิดแต่ความต้องการตัวองทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 20-04-2011 18:03:25
เราเข้าใจนะ ที่พ่อของทีมจะยังยอมรับไม่ได้
เพราะเค้าคงยังทำใจไม่ได้ที่ลูกชายคนเดียวชอบผู้ชายด้วยกัน
แต่ว่า... ที่ไม่เห็นด้วยคือ ทำไมเค้าต้องมาว่าฝุ่นฝ่ายเดียวด้วย ?
เค้าพูดเหมือนกับว่าฝุ่นเป็นฝ่ายผิดคนเดียว ไปล่อลวงลูกชายเค้าให้เสียอนาคต
ทั้งที่จริงๆแล้วมันก็เกิดจากความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายนี่นา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 20-04-2011 18:45:16
แง๊ อะไรอ่า ลุงสินใจร้ายยยยยยยยยย  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 20-04-2011 18:47:30
 :o12: :o12: :o12:
โหดร้ายยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 20-04-2011 21:11:06
ขอ จองเล่มนึงน๊า เพิ่งอ่านจบตั้งแต่ต้น ชอบๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 20-04-2011 22:28:23
ขอ จองเล่มนึงน๊า เพิ่งอ่านจบตั้งแต่ต้น ชอบๆ


ส่งเมลมาจองรึยังอ่าคะ :)
ถ้ายัง อย่าลืมส่งมาน้า ชื่อที่ใช้จอง กับจำนวนเล่ม ที่อีเมล only.eiizesแอทhotmailดอทcom จ้า
ภายในวันที่ 27 เมษายนที่จะถึงนี้นะคะ

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 21-04-2011 13:38:28
แจ้งโอนไปแล้วนะคะ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-04-2011 16:30:31
เศร้า!!!!!!
เมนท์ไม่ออกเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Forget..* ที่ 21-04-2011 18:00:51
จะรอดูสิ่งที่ทีมจะทำตามคำพูด
รออยู่นะพี่ทีมนะ  ;))
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ease supsnerv ที่ 21-04-2011 18:03:51
เง้อ ลุงสิน...เข้าใจลุงนะ แต่ยังไงลุงก็ใจร้ายอ่า ทำแบบนี้ทีมกลับมามีเหวี่ยงนะลุง!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: miniz ที่ 21-04-2011 19:51:43
ลุงสินใจร้าย  :o12:

มารอต่อนะคะ  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 21-04-2011 23:06:17
ทำไมใจร้ายแบบนี้ ทำไมอ่านตอนนี้ แล้วบีบใจแบบนี้อะ
สงสารฝุ่นๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 22-04-2011 00:19:43
โฮววววว
ลุงสินใจร้ายอ่ะ
ฮึกกกก ,, ทำแบบนั้นแล้ว ทีมจะมีความสุขเหรอ ...
ฝุ่นนางเอกมาก บอกเลย!!!
คงไม่อยากให้น้าอิ่ม เดือดร้อนด้วยแน่ๆอ้ะ

มาลุ้น ว่าทีมจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: โชคชะตา ที่ 24-04-2011 15:01:30
ไอ้พี่ทีมรีบกลับมาเหอะ!! เชื่อว่าพี่ทีมกลับมาก็คงจะเจ็บไม่แพ้ฝุ่นเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 24-04-2011 16:28:28
ลุงสินว้อย ไม่คิดจขอความเห็นจากใครมั่งเร้อออออออ  :a5:

รอลุ้นพาร์ททีมต่อ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 24-04-2011 21:01:11
คุณพ่อใจร้าย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 24-04-2011 21:20:46
 :angry2:

ลุงสินใจแคบ
เป็นพ่อไม่ได้อยากให้ลูกมีความสุขเหรอ คิดถึงแต่อนาคต แล้วลูกมันจะแฮปปี้มั้ยแฟนมันโดนพรากจากไปเนี่ย  :fire:

ว้ากกกกกกกก !!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: dee-dee ที่ 27-04-2011 10:13:55
เราจองไปทางเมล์แล้วนะคะ 
แต่ช่วงนี้เหมือนเมล์จะมีปัญหาเราเข้าไม่ได้ :m15:
ที่ส่งไปก้อส่งทางมือถือไปอ่ะค่ะ
ถ้ายังไงช่วงส่งรายละเอียดทาง PM อีกทีได้มั๊ยคะ
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 27-04-2011 12:36:13
เข้ามาเยี่ยม และจะรอติดตามอ่านต่อไปนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 27-04-2011 13:07:04
เราจองไปทางเมล์แล้วนะคะ 
แต่ช่วงนี้เหมือนเมล์จะมีปัญหาเราเข้าไม่ได้ :m15:
ที่ส่งไปก้อส่งทางมือถือไปอ่ะค่ะ
ถ้ายังไงช่วงส่งรายละเอียดทาง PM อีกทีได้มั๊ยคะ
ขอบคุณค่ะ :pig4:

งั้นเดี๋ยวพีเอ็มไปให้นะคะ :)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 27-04-2011 21:54:57
น้องค่ะ

พอดีวันนี้ตอนกลางวันพี่ลืมไปโอนเงินอะจ้า

ไม่ทราบว่า ถ้าโอนพรุ่งนี้ยังได้รึเปล่าคะ (เพราะคืนนี้มันโอนไม่ทันแล้วอะ)


รอคำตอบน้าาา ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 28-04-2011 19:34:35
โอนเงินไปแล้วนะ  โอนวันที่ 27  แต่แจ้งตอน เที่ยงคืน ง่ะ 

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: dee-dee ที่ 29-04-2011 13:41:46
เราแจ้งโอนเงินไปทาง PM แล้วนะคะ
ถ้ายังไงตอบกลับด้วยน๊า  ขอบคุณค่ะ

ปล...เซ็นต์ชื่อให้เราด้วยนะคะ   :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 29-04-2011 14:06:01
น้องค่ะ

พอดีวันนี้ตอนกลางวันพี่ลืมไปโอนเงินอะจ้า

ไม่ทราบว่า ถ้าโอนพรุ่งนี้ยังได้รึเปล่าคะ (เพราะคืนนี้มันโอนไม่ทันแล้วอะ)


รอคำตอบน้าาา ^^



โอนเงินไปแล้วนะ  โอนวันที่ 27  แต่แจ้งตอน เที่ยงคืน ง่ะ 




ตอบแล้วนะฮัฟ :)

เราแจ้งโอนเงินไปทาง PM แล้วนะคะ
ถ้ายังไงตอบกลับด้วยน๊า  ขอบคุณค่ะ

ปล...เซ็นต์ชื่อให้เราด้วยนะคะ   :z2:

เดี๋ยวขอออกไปเช็คแป๊ปน้า แล้วจะรีบกลับมาตอบจ้า :D
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!เมื่อชีวิตต้องเลือก!// ยังเปิดจองจ้า ♥ [19/04/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 03-05-2011 20:01:42
PART TEAM



ค่าอาสาจะสนุกกว่านี้มาก ถ้าผมสามารถใช้โทรศัพท์ได้...


ไหนใครบอกว่าคลื่นโทรศัพท์มือถือกระจายเข้าครบทุกพื้นที่ของประเทศไทยแล้วไงครับ แล้วทำไมต้องให้ผมหงุดหงิดขณะพยายามเดินหาคลื่นตั้งแต่นั่งรถจิ๊บคันใหญ่เข้ามาถึงหมู่บ้านบนยอดดอยแห่งนึ้เมื่อหลายวันก่อน จนวันนี้ตอนบ่ายเราจะเดินทางกลับกันอยู่แล้ว..กูยังไม่ได้โทรศัพท์หาที่รักเลยนะเว้ยเฮ้ย!!   

ชาวบ้านเขาบอกว่าถ้าอยากคุยโทรศัพท์ก็ต้องลงไปที่ตีนเขา เข้าไปในแหล่งชุมชน...หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เข้าไปในเมืองแล้วผมจะโทรได้นั่นเอง หอกกก จะแนะนำกูทำไมครับแบบนั้น!!

ตั้งแต่ตอนออกจากบ้านแล้ว ใจผมไม่ดียังไงก็ไม่รู้ เป็นห่วงฝุ่นมากกว่าทุกครั้ง มันตะหงิดๆ ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่ในใจก็คอยภาวนาตลอดว่าอย่าให้เป็นแบบลางสังหรณ์ของผมเลย

ช่วงกลางคืน ประมาณห้าทุ่มของทุกวัน เราจะมีการประชุมกลุ่ม สรุปงานที่ทำไปในวันนี้ว่าประสบผลมากน้อยแค่ไหน และเตรียมงานที่จะต้องทำในวันรุ่งขึ้นรวมไปถึงผลที่คาดหวัง จากนั้นประธานก็จะเปิดขวดเหล้า เอิ้ก...ใจนึงก็อยากกินตามประสา แต่อีกหลายๆ ใจก็ไม่อยากกิน หรือสังสรรค์อะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากกลับกรุงเทพฯ ไปดูให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับน้อง

พอผมไม่กินเหล้ามากๆ เข้า ไอ้พวกเพื่อนๆ มันก็หาว่าผมทำงานกร่อย จะหนีไปนอนก่อนมันก็ไม่ยอม จนสุดท้ายผมเลยต้องรับแบบผสมโค้กมาตั้งเซ่นอยู่เบื้องหน้า แต่ดีนะ ที่กินกันแล้วยังมีแรงฮึดตื่นมาทำงานกันต่อ ไม่งั้นถ้างานไม่เสร็จโดนอาจารย์ด่ายับแน่ๆ เอิ้ก

ด้วยความที่วันนี้พวกเราจะเดินทางกลับกันแล้ว จึงต้องแยกย้ายกันทำงานส่วนของตัวเองให้เสร็จ ไอ้ไกด์ที่รักสบายมาตลอดชาติก็โดนประธานสั่งไปยกของขึ้นรถ หึหึ สมน้ำหน้ามัน

“ทีม มึงเก็บของเสร็จหมดรึยัง” ไอ้บอลมันเดินเข้ามาถามผมในห้อง

“ใกล้แล้วมึง กูอยากถึงกรุงเทพฯ ไวๆ ว่ะ” ผมบ่นออกไป บอลมันทำหน้างง แล้วเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้างผมที่กำลังเก็บแผนงานทั้งหมดให้เข้าที่

“มึงเป็นอะไรวะ กูเห็นมึงเหม่อๆ มาตั้งแต่วันแรกแล้ว เหล้าก็ไม่กระดก”

“ไม่รู้ว่ะ กูรู้สึกเป็นห่วงฝุ่นยังไงไม่รู้” ผมตอบไปตามความจริงแล้วถอนหายใจใส่แรงๆ ไอ้บอลมันขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยก่อนจะบอก

“งั้นเข้าตัวเมืองแล้วมึงก็ลองโทรหาน้องดูสิ จะได้หายกังวลใจ” บอลมันแนะนำ

ผมจึงพยักหน้างึกงักรับคำแล้วเริ่มลงมือเก็บของทั้งหมดอีกครั้ง บอลมันเลยอาสาตัวจะช่วย ก็ดีครับ จะได้เสร็จเร็วๆ ผมจะได้เข้าตัวเมืองไปโทรศัพท์สักที ไม่งั้นอาการกังวลนี่คงไม่หายไปง่ายๆ แน่นอน



   
จากบนดอยลงมาที่ตัวเมืองก็ทุลักทุเลกันพอสมควร ด้วยความที่พวกเราต้องอาศัยเกาะหลังรถจิ๊ปเขามายิ่งทำให้หัวสั่นหัวคลอนมากขึ้นหลายเท่าตัว ไกด์ทำหน้าเหมือนจะอ้วกใส่ผมอยู่ตลอดเวลาจนคนรอบข้างเริ่มทนไม่ได้ ยัดถุงพลาสติกใส่มือให้มันถือครองเอาไว้คนเดียว ผมนั่งเสียวจะโดนอ้วกของไอ้เพื่อนสนิทอยู่ราวสองชั่วโมง เราก็มาถึงตัวเมืองกันโดยสวัสดิภาพ

แต่ละคนในทีมล้วนหิวโซ เพราะออกมาจากหมู่บ้านตั้งแต่บ่าย ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องกันสักคำ จึงตัดสินใจว่าจะแวะทานข้าวกันก่อนไปขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ ถึงจึงใช้โอกาสระหว่างที่รอข้าวนั้นกดโทรศัพท์หาฝุ่น


...เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ...


“อะไรวะ” ผมพึมพำ บอลมันเลยชะโงกหน้าจากฝั่งตรงข้ามมาถาม

“ทำไมวะ ไม่รับสายเหรอ”

“เปล่า” ผมส่ายหน้า “ปิดเครื่อง...กูลองโทรเข้าบ้านดีกว่า”

ทันทีที่พูดจบผมก็ตั้งท่าจะโทรเข้าบ้าน แต่ไกด์มันหันมาท้วง

“วันนี้วันพฤหัส บ่ายด้วย พ่อมึงกับน้าอิ่มไม่ทำงานเหรอ”

“เออว่ะ” ผมเซ็ง แล้วจะติดต่อยังไงดีวะ

“เอาน่ะมึง น้องฝุ่นอาจจะติดเรียน เลยปิดโทรศัพท์ก็ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงกรุงเทพฯ แล้ว พอถึงคณะปุ๊บ มึงก็ขับรถกลับบ้านไปเลยสิ ของที่เหลือเดี๋ยวกูจัดการให้” บอลมันเสนออย่างมีน้ำใจ ไอ้นี่ถึงบางทีมันจะกวนๆ ไปบ้าง แต่ที่ยังคบกันทนก็คงเพราะจุดนี้มั้งครับ มันรู้ว่าเวลาไหนควรหรือไม่ควรเล่น

“ใจมาก” ผมบอกสั้นๆ แล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงทั้งที่ในใจยังพะวงอยู่อย่างนั้น...



ตอนผมกลับมาถึง บ้านค่อนข้างเงียบกว่าทุกที ทั้งที่ปกติเวลาประมาณสี่ทุ่มน้าอิ่มกับพ่อจะยังดูหนัง หรือไม่ก็นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนขึ้นนอน แต่นี่นอกจากชั้นล่างจะไม่เปิดไฟแล้ว ที่ผมแปลกใจมากที่สุดก็คือ ไฟห้องของฝุ่นดับสนิท...

น้องเป็นคนนอนดึกดังนั้นสี่ทุ่มนี่ถือว่าเป็นหัวค่ำเท่านั้นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเพราะผมเป็นคนชอบหาอะไรกินตอนช่วงดึกทั้งยังชอบดูหนังตอนดึกจนฝุ่นติดนิสัยนี้ไป มันยิ่งดูแปลกประหลาดสำหรับผมถ้าจะบอกว่าฝุ่นหลับไปแล้ว

ผมจัดการจอดรถในลาน แล้วเตรียมจะเข้าบ้าน ทว่าเซ็กส์ซี่กลับวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตะกุยขากางเกง

“เป็นไรเนี่ย” ผมก้มลงเกาหัวมัน เซ็กส์ซี่รีบเลียมือผมแล้วทำเสียงหงิงๆ ใส่ อย่าหาว่าบ้าเลยนะ แต่ถ้าอิหนูมันพูดได้มันคงอยากบอกอะไรบางอย่างกับผมแน่ๆ แต่ในเมื่อเซ็กส์ซี่ทำได้แค่พูด โฮ่ง กับ หงิง ผมก็ต้องเข้าบ้านไปหาคำตอบว่าทำไมบ้านถึงแลดูแปลกๆ สำหรับผมในวันนี้

“ถอยไปก่อนเซ็กส์ซี่ ฉันจะเข้าไปดูในบ้าน” ผมพูดแล้วผลักเจ้าหมาน้อยออกจากตัวเอง เสียงหงุงหงิงของเซ็กส์ซี่ยังตามไล่หลัง ประตูบ้านถูกผมเปิดออก ไฟอัตโนมัติเปิดสว่างขึ้นทันทีที่เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวทำงาน ทำให้ผมเห็นรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่เงียบสงัด ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ นอกจากทีมอยู่(ตัวผมแหละ เล่นมุขน่ะ กิ๊วๆ)

ผมตัดสินใจเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อเตรียมจะเปิดห้องของฝุ่นโดยไม่มีการเคาะเตือน เนื่องจากผมไม่รู้ว่าน้องกำลังหลับรึเปล่า แต่แค่เงื้อมือขึ้นยังไม่ทันได้เปิด เสียงของน้าอิ่มที่ดังขึ้นตรงปลายทางเดินก็ทำเอาใจหายวาบ

“ทีม...กลับมาแล้วเหรอ”

“เอ่อ..ครับ น้าอิ่มมีอะไรรึเปล่า ฝุ่นไม่สบายเหรอครับ ทำไมบ้านเงียบแบบนี้” ผมถามออกไปเป็นชุด ไม่ได้กะให้น้าอิ่มตอบทีละคำถาม แต่เธอไม่จำเป็นต้องตอบเพราะผมถามตามมารยาท และกำลังจะเข้าไปดูด้วยตาตัวเองว่าทำไมห้องน้องถึงได้ปิดไฟเงียบขนาดนี้ ได้แต่หวังให้ฝุ่นกำลังนอนหลับด้วยความเบื่อที่ผมไม่อยู่บ้านเท่านั้นก็พอ...

“ทีม ทำใจดีๆ นะ..ฝุ่นน่ะ...”

“เด็กนั่นไม่ได้อยู่ที่บ้านเราอีกแล้ว” ผมเหลือบสายตาขึ้นมองพ่อที่เพิ่งเดินตามน้าอิ่มออกมาจากห้องนอน พ่อแลดูโกรธขึ้งมากกว่าทุกที ผมยิ่งใจหายเมื่อตีความในประโยคนั้นดีๆ

“พ่อเล่นอะไร ผมไม่ขำด้วยหรอกนะ”

“ฉันก็ไม่ขำหรอกนะที่เห็นแกจูบกับผู้ชายน่ะ!!” ตัวผมชาวาบกับประโยคนั้น...พ่อเห็น...

ไม่ นาทีนั้นผมไม่ได้ห่วงความเป็นไปของตัวเอง แต่พ่อเห็นตอนที่เราจูบกันแปลว่านั่นมันเมื่อสัปดาห์ก่อน และฝุ่นล่ะ ฝุ่นอยู่ที่ไหน!!!

ผมไม่เหลือสติมากพอที่จะคิดว่ามันเป็นความผิดทางมารยาทข้อไหน แต่ ณ ตอนนั้นผมต้องการแค่จะรู้ความเป็นไปของน้องเท่านั้น ร่างกายขยับไปก่อนสมองจะสั่งด้วยซ้ำ ประตูห้องของฝุ่นถูกผมกระชากเปิดแล้วถลาเข้าไป ทว่าความมืดและเงียบสงัดราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ทำให้หัวใจผมหล่นหายไปวูบหนึ่ง...ร่างกายขยับช้าลง สายตาเริ่มสอดส่องไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก

ห้องของฝุ่นเงียบและมืดสลัว เพราะแสงจันทร์ที่ส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามาทำให้ผมมองเห็นเฟอร์นิเจอร์ภายในได้รางๆ ข้าวของที่ควรจะอยู่ประจำที่ของมันหายไปจนหมด ผ้าห่ม หมอน กรอบรูป โน้ตบุ๊ค...ไม่ นี่มันต้องเป็นตลกร้าย ฝุ่นจะต้องไม่หนีไปแบบนี้!!

ผมสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหาตู้เสื้อผ้าแล้วกระชากมันเปิดออก...ไม่มีร่องรอยว่าเคยมีคนรักของผมอาศัยอยู่....



ฝุ่นหายไป!



ความรู้สึกของผมในตอนนั้นมันยากจะบรรยาย เปี่ยมไปด้วยความทรมานและตระหนกอย่างไม่เคยเป็น ผมเดินกลับไปที่ห้องตัวเองผ่านประตูเชื่อม กีตาร์ตัวที่ผมเคยวางไว้ในห้องของฝุ่นถูกใครบางคนย้ายที่มันมาวางคืนไว้ที่ห้องผม กรอบรูปถูกวางคว่ำลง แต่สิ่งที่ดึงดูดใจผมที่สุดเห็นจะเป็นกระดาษโน้ตสีขาวที่วางพับไว้บนโต๊ะทำงาน

ผมเดินเร็วๆ ไปคว้ามันขึ้นมาดูโดยไม่ทันสังเกตถึงของที่วางคู่กัน เสียงของกระทบพื้นดังขึ้นเบาๆ ผมจึงก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาด้วยมือที่สั่นระริก...น้องถอดแหวนคู่ของเราคืนให้ผม...

กระดาษโน้ตในมือถูกผมคลี่ออกด้วยความรวดเร็ว ใจความในจดหมายนั้นทำให้หัวใจผมเหมือนโดนค้อนหนักๆ ทุบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไร้ความปรานี



ทีม...
ขอโทษนะที่ไม่ได้ลาด้วยตัวเอง อะไรๆ มันรีบกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลย
ไม่ต้องตามหาฝุ่น ถ้าวันนึงฝุ่นพร้อมที่จะเจอ ก็จะกลับมา ทีมไม่จำเป็นต้องโกรธใครเพราะเรื่องนี้มีแค่ฝุ่นคนเดียวที่ผิด
ไม่มีใครไล่ฝุ่นออกจากบ้าน แต่ฝุ่นเลือกที่จะไปเอง
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง...รักมาก
               ฝุ่น



กระดาษแผ่นนั้นเขียนด้วยลายมือของน้องที่ผมคุ้นตา แต่สิ่งที่ผมไม่คุ้นเคยก็คือรอยน้ำตาที่หยดลงบนโน้ตนั้นจนหมึกมันเป็นด่างดวง ไม่ต้องจินตนาการก็พอจะรู้ว่าน้องจากที่นี่ไปด้วยความรู้สึกแบบไหน หัวใจดวงนั้นที่คิดตลอดมาว่าตัวเองไม่เคยเป็นที่ต้องการจะรู้สึกยังไงตอนที่พ่อตวาดเขา และสั่งให้เขาเก็บของ


พ่อทำอย่างนี้กับน้องได้ยังไง!!!


ผมเปิดประตูห้องของตัวเองออกไปที่ทางเดิน พ่อยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเคืองโกรธ ขณะที่น้าอิ่มกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร

“พ่อทำอะไรกับแฟนของผม” ผมกดเสียงต่ำ ไม่อยากให้อารมณ์โกรธเข้าบังตาจนถามอะไรไม่รู้เรื่อง พ่อรีบปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อผมขึ้นด้วยความโกรธ แต่เพราะเทควันโดทำให้ผมค่อนข้างตัวใหญ่กว่าเขา สิ่งที่พ่อทำได้คือการกระแทกผมเข้ากับผนังแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง

“แกทำอย่างนี้ได้ยังไง ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สรรหาทุกอย่างที่แกต้องการให้ แล้วทำไมถึงตอบแทนฉันด้วยการคบกับเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้แบบนี้!”

“ผมรักฝุ่น” ผมตอบเขา พ่อสบถออกมาเสียงดังแล้วซัดหมัดเข้าที่ข้างแก้มผมเต็มแรงจนรู้สึกได้ถึงรสชาติเค็มปร่าในปาก “พ่อจะพูดยังไงก็ได้ ผมไม่แก้ตัวหรอกถ้าพ่อคิดว่าผมทำผิด แต่ผมรักฝุ่น...มันก็แค่นั้น”

“ฉันสั่งให้เด็กคนนั้นเลิกยุ่งกับแก แต่ฝุ่นเลือกที่จะเดินออกไปจากบ้านหลังนี้..ไปอยู่ที่อื่น...มันรักแกมากเลยไอ้ลูกชาย”

“พ่อทำอย่างนี้ได้ยังไง...พ่อก็รู้ว่าที่อเมริกาฝุ่นต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พอน้องจะมีความสุขบ้างก็มาโดนพ่อไล่ออกจากบ้าน...พ่อจะคิดบ้างมั้ยว่าฝุ่นจะเสียใจ เจ็บปวดมากแค่ไหน!!” ผมเริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้วสะบัดตัวเองให้หลุดจากการดึงรั้งของพ่อ

“แล้วแกคิดบ้างรึเปล่าว่าพ่อจะเสียใจ....พ่อมีแกเป็นลูกชายคนเดียวนะทีม” คำพูดของเขาทำให้ผมสะอึกไปบ้าง แต่ก็ยังเสียงแข็งตอบกลับ

“ผมแค่รักฝุ่น ผมชอบผู้ชาย ไม่ได้ฆ่าคนตายนี่ครับ” ผมตอบ

“แต่แกกำลังฆ่าพ่อทั้งเป็น!!”

“ถ้าแม่...ยังอยู่ แม่จะไม่มีวันโกรธผมเรื่องนี้ เพราะแม่อยากให้ผมมีความสุขที่สุด...” ผมทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นแล้วเดินออกมาจากบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ผมไม่อยากพูดจาหยาบคาย หรือทำอะไรไม่ดีต่อพ่อ เพราะไม่ว่าเขาจะทำร้ายกาจกับฝุ่นยังไง เขาก็ยังเป็นพ่อของผม

แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถห้ามผมได้ก็คือ..”ผมจะตามหาฝุ่นจนกว่าจะเจอ!!”

((งือ...ฮัลโหล..)) ปลายสายที่ผมต่อไปคงกำลังหลับฝันหวาน ถึงได้ตื่นมารับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงงัวเงียขนาดนี้

“อันดา...โทษที หลับอยู่เหรอ เฮียเองนะ” ผมกรอกเสียงลงไป ได้ยินเสียงกุกกักก่อนอันดาจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน

((เฮียเองเหรอ เฮ้ย ผมพยายามติดต่อไปหาเฮียตั้งหลายครั้ง แต่โทรไม่ติดเลย))

“พี่ไปค่ายมา...นี่ติดต่อมามีอะไรรึเปล่า” ผมถามด้วยความสงสัย

((เฮียเจอฝุ่นรึเปล่า เมื่อวันอาทิตย์ก็ไม่มาสอบ ผมโทรหาก็ไม่ติดเนี่ย))

“อันดา...เราเองก็ติดต่อฝุ่นไม่ได้เหรอ” ผมเสียงอ่อยลงเล็กน้อย ทั้งที่อันดาเป็นคนที่ผมคิดว่าฝุ่นน่าจะติดต่อหามากที่สุดรองจากผม อย่างน้อยทั้งสองคนก็เรียนคณะเดียวกันที่เดียวกัน

((เฮีย เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า)) อันดาถามอย่างเป็นห่วง แต่นาทีนี้ผมต้องการสมาธิที่จะนั่งคิดว่านอกจากอันดาแล้ว ฝุ่นจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก

“อันดา ลองถามเพื่อนๆ ในกลุ่มที่คณะหน่อยสิว่ามีใครติดต่อฝุ่นได้บ้าง ถ้าได้เรื่องยังไงก็โทรหาพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะ” ผมบอกไว้เพียงแค่นั้น ได้ยินอันดาตะโกนเรียกอยู่แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ผมกดวางสายไปเป็นที่เรียบร้อย ตัดสินใจว่าจะไปหาไอ้ไกด์ที่คอนโดก่อน อย่างน้อยมีสองหัวช่วยกันคิดก็อาจจะดีกว่า



“ห๊ะ? มึงว่าไงนะ! น้องฝุ่นหายไป?!”

“อืม..กูโทรหาก็ไม่ติด เชี่ย ทำไงดีวะ ป่านนี้น้องจะนอนร้องไห้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้” ตั้งแต่เหยียบคอนโดมัน ผมยังนั่งไม่ติดเลยสักแอะ เดินไปเดินมาจนไกด์มันเริ่มเวียนหัวเลยบอก

“มึงมานั่งลงก่อน กูจะอ้วกแล้วเนี่ย แม่ง....แล้วทำไมไม่ลองถามพ่อมึงวะ ว่าเค้าเองน้องไปไว้ไหน”

“มึงคิดเหรอว่าพ่อกูจะบอก” ผมย้อนกลับ ไกด์มันนั่งขมวดคิ้วมุ่น

“น้าอิ่มล่ะ?”

“ก็น่าลอง แต่ตราบใดที่พ่อกูยังทำตัวเป็นผู้ทรงบารมีแบบนี้ น้าอิ่มคงไม่กล้าบอกกูหรอก”

“ถ้าฝุ่นย้ายไปอยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนี้ตามตัวยากว่ะ จะหนีไปอยู่ที่ไหนก็ได้ของประเทศไทย กว่าจะหาทั่วทุกพื้นที่พอดีกูลงโลงไปแล้ว” ไกด์พึมพำให้พอได้ยินกันแค่สองคน ก่อนที่มันจะเสริมขึ้นมา “แจ้งความว่าคนหายดีป่ะ”

“เฮ้ย จะดีเหรอวะ” ผมงงกับข้อเสนอของมัน

“เอ๊า ก็หายออกจากบ้านไปเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงมาเกือบอาทิตย์แล้วเนี่ย มึงก็ไปแจ้งความว่าคนหายไว้ ตำรวจจะได้ช่วยตามหาไง ฝุ่นเองก็เพิ่งจะอายุสิบแปดได้ไม่นาน มึงก็ใส่ไข่ไปนิดหน่อยก็ได้ว่ามึงเป็นห่วงน้องเพราะเพิ่งกลับมาจากเมกา” ไกด์มันเสนอวิธีเป็นฉากๆ ให้ผมคิดตาม

“เชี่ย วิธีงงๆ...แต่ก็ดีกว่าไม่ลองทำอะไรเลย”



จากวันที่ร้อนเกือบจะที่สุดในเดือนกรกฏาคม ผมทั้งแจ้งความ ให้เพื่อนช่วยกันหา ทั้งติดรูปไว้ตามเสาไฟฟ้า ประกาศลงอินเตอร์เน็ต พี่อ๋องเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้มากจนถึงขั้นให้คนที่บ้านช่วยกันออกตามหาอีกแรง แต่จากวันนั้นถึงวันนี้...






ผมก็ไม่เคยเจอฝุ่นอีกเลย...










ติดตามต่อได้ในตอนจบ

eiizes’s talk

สวัสดีค่ะ

เอาพาร์ทพี่ทีมมาฝากเนาะ

บีบหัวใจมากน้อยยังไงก็เขียนความเห็นกันไว้ได้นะคะ

ตอนนี้ต้นฉบับส่งให้โรงพิมพ์เรียบร้อยแล้วนะคะ พี่ที่โรงพิมพ์บอกว่าประมาณห้าวันก็จะได้ของ จากนั้นเราก็จะรีบส่งให้ทุกคนโดยเร็วที่สุดค่ะ ใครรีเควสอะไรไว้ เดี๋ยวเราจะทำให้อย่างละเอียดนะคะ(สู้ตายยยย)

ขอบคุณที่อ่านมาจนบรรทัดนี้ค่ะ

รักนะบ๊วบๆ :)

eiizes

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 03-05-2011 20:35:50
โอ๊ะ ตอนหน้าก็จบแล้ว เร็วจัง..

หูววว หวังว่าคุณพ่อคงเข้าใจทีมนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-05-2011 20:37:21
อยากได้หนังสือเร็ว  อยากด้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 03-05-2011 20:42:58
อ่านจบแล้วรีบวิ่งออกไป  :o12: :o12: :o12: ช่วยพี่ทีมตามหาน้องฝุ่น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 03-05-2011 20:47:59
โอ๊ยยย ปวดใจ สงสารทั้งทีมทั้งฝุ่น

กับฝุ่นคงกระทบกระเืทือนจิตใจนะ

ก็โดนไล่และไม่เป็นที่ต้องการของใครเค้าตลอดเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 03-05-2011 20:52:53
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 03-05-2011 21:15:15
น้องฝุ่นจะจบแล้วเหรอ :m15:

 :call:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 03-05-2011 21:17:04
ตอนหน้าจะจบแล้ว เร็วจัง งือ
อยากจะช่วยพี่ทีมตามหาน้องฝุ่นจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 03-05-2011 21:26:15
งืดดดดด  :sad4:
หาน้องให้เจอไวไวน้าทีม
น้องน่าสงสาร  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 03-05-2011 22:04:07
เกลียดพ่อแม่ยังงี้จริงจัง - -...
รักลูกอย่างที่อยากให้เป็น ไม่ได้รักลูกอย่างที่ลูกเป็น
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 03-05-2011 22:04:39
จำได้ลางๆว่าหมอดูเคยทำนายว่าจะต้องห่างกันเป็นปีๆนี่นา โหยๆ ใจจะขาดดดดดดดดดดดด คุณพ่อใจร้ายยยย  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 03-05-2011 22:28:01
ขอ จองเล่มนึงน๊า เพิ่งอ่านจบตั้งแต่ต้น ชอบๆ


ส่งเมลมาจองรึยังอ่าคะ :)
ถ้ายัง อย่าลืมส่งมาน้า ชื่อที่ใช้จอง กับจำนวนเล่ม ที่อีเมล only.eiizesแอทhotmailดอทcom จ้า
ภายในวันที่ 27 เมษายนที่จะถึงนี้นะคะ

ขอบคุณค่า

พี่ค่ะ ยังมีเหลืออยู่มั้ยค่ะ ไม่ได้เข้ามา จนพี่อัพกระทู้อ่ะคะ พึ่งเห็น TT
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: miniz ที่ 03-05-2011 22:51:26
จะจบแล้วหรอคะ  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-05-2011 23:02:05
อยากร้องไห้ :sad4:
ทีมสู้ๆ หาฝุ่นให้เจอน้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 03-05-2011 23:09:13
ช่วยลุ้นให้ทีมตามหาฝุ่นให้เจอคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 03-05-2011 23:12:23
แอบสงสัยนิดนึง ว่าจะลงเรื่องนี้จนจบรึเปล่า
หรือต้องไปรออ่านตอนจบในหนังสือคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 04-05-2011 01:39:47
ขอ จองเล่มนึงน๊า เพิ่งอ่านจบตั้งแต่ต้น ชอบๆ


ส่งเมลมาจองรึยังอ่าคะ :)
ถ้ายัง อย่าลืมส่งมาน้า ชื่อที่ใช้จอง กับจำนวนเล่ม ที่อีเมล only.eiizesแอทhotmailดอทcom จ้า
ภายในวันที่ 27 เมษายนที่จะถึงนี้นะคะ

ขอบคุณค่า

พี่ค่ะ ยังมีเหลืออยู่มั้ยค่ะ ไม่ได้เข้ามา จนพี่อัพกระทู้อ่ะคะ พึ่งเห็น TT



จะส่งไปทางพีเอ็มนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 04-05-2011 04:27:30
จะจบเเล้ว หรออ  ไท้อยากให้จบเลย 



สู้ๆ   
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-05-2011 10:38:38
น้องฝุ่นไปตกระกำลำบากอยู่ไหนคะ :monkeysad:
พี่ทีมตามหาน้องให้เจอน้า :z10:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mayuree ที่ 04-05-2011 11:50:04
ถูกใจประโยค “ผมแค่รักฝุ่น ผมชอบผู้ชาย ไม่ได้ฆ่าคนตายนี่ครับ” ...พี่ทีมได้ใจไปเต็มๆ
รอลุ้นว่าจะเจอน้องรึเปล่าในตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-05-2011 15:11:26
โอ้ยยยยยยยยยยยยย ปวดใจ   :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gingivalis ที่ 04-05-2011 20:31:49
ใจจะขาดแล้วค่ะ.....รอค่ะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 04-05-2011 23:38:48
 :z3: :sad4:  บีบหัวใจที่ซู้ดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: afternoon ที่ 05-05-2011 00:37:33
 :o12: :o12: :o12:
ฝุ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 :sad4: :sad4: :sad4:
ทีมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ease supsnerv ที่ 05-05-2011 23:34:50
ลุงสินใจร้าย บ้าๆๆ โฮฮ~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 06-05-2011 07:23:19
ส่งพีเอ็มไปแล้วนะคะ ไม่ทราบได้รับรึป่าวเอ่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 06-05-2011 08:35:07
หาฝุ่นให้เจอนะค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: NannY ที่ 08-05-2011 11:55:30
แง้ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ พี่ทีมตามหาน้องฝุ่นให้เจอนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 08-05-2011 12:23:35
พ่อพี่ทีม จัย ร้าย อ่ะ  :sad4: :sad4:


 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 08-05-2011 16:58:41
อย่าลืมเซ็นให้เค้าด้วยนะ  รอหนางงงจื๋ออออออ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 08-05-2011 17:58:42
มาลุ้นกับตอนจบครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 09-05-2011 21:09:21
บีบหัวใจจัง
ไม่รู้จะสงสารใครมากกว่ากันระหว่างฝุ่นกับทีม
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 10-05-2011 04:03:20
ทรมานใจคนอ่านกันสุดๆเลย โฮ

พ่อทีมใจร้าย ว่าฝุ่นเป็นเด็กกะโปโล ชิ

อะไรที่คุณเอามาตัดสินคุณค่าของหัวใจคน  :angry2: :angry2: :angry2:

หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! พาร์ทพี่ทีม!!! ♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 10-05-2011 16:23:48
วันนี้ได้หนังสือแว้วววววววววววววววววว
กำลังทยอยแพ็คและจะรีบส่งนะฮัฟฟฟฟฟฟ ที่คั่นหนังสืออยู่ในรูปขวาล่างข้างๆ หนังสือน้า  :L1: :L1: :L1:

(http://i177.photobucket.com/albums/w209/eyeskokoro/cats.jpg)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Jomkan ที่ 11-05-2011 17:44:34
อยากได้อะ ...จองไม่ทันนนนนนนน  ยังเหลืออยู่ป่าวครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 11-05-2011 21:54:58
อั๊ยๆๆๆ รออย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 14-05-2011 17:38:45
ได้รับหนังสือแล้วค่าาาาา

อยากบอกว่าหนังสือ รูปเล่มสวยอ่ะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
ตัวหนังสือในเล่มก็อ่านง่าย เรียบร้อยดีค่ะ (แต่คำผิดยังไม่รู้เน้อ ยังไม่ได้อ่านจ้ะ)
ภาพประกอบตอน+ที่คั่น ก็น่ารักดีค่ะ
คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากเลย

ถ้านี่เป็นการทำหนังสือครั้งแรกของคนแต่ง ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีมากๆค่ะ

โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 14-05-2011 23:11:26
ยังไม่ได้ค่ะ  เพราะยังไม่ได้เดินไปบ้านเพื่อน 5555+

เด๋วรอเปิดเทอม ให้มันหิ้วมาให้  หุหุ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 15-05-2011 00:48:54
อ๊ายยยยย มาอ่านรวดเดียวเลย
อ่านตอนท้ายๆแล้วอยากร้องไห้อ่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Alen ที่ 15-05-2011 01:27:49
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก

อยากได้หนังสือจังเลยยย ไม่ทราบว่ายังมีเหลืออยู่บ้างไหมค้าาาาาา ชอบๆๆๆจังเยย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 15-05-2011 09:10:51
ปกสวยมากคะ แต่ยังไม่ได้หนักสือนั่งรอต่อไป :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 15-05-2011 11:05:13
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
เมื่อวานนี้เอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 15-05-2011 23:29:01
ได้รับหนังสือแล้วค่าาาาา

อยากบอกว่าหนังสือ รูปเล่มสวยอ่ะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
ตัวหนังสือในเล่มก็อ่านง่าย เรียบร้อยดีค่ะ (แต่คำผิดยังไม่รู้เน้อ ยังไม่ได้อ่านจ้ะ)
ภาพประกอบตอน+ที่คั่น ก็น่ารักดีค่ะ
คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากเลย

ถ้านี่เป็นการทำหนังสือครั้งแรกของคนแต่ง ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีมากๆค่ะ

โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ :กอด1:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจมากๆ ค่ะ
ยังกลัวอยู่ว่าจะออกมาดีมั้ยน้า แต่ถ้าคนอ่านเห็นรูปเล่มแล้วบอกว่ามันโอเค เราก็โล่งมากๆ แล้ว ดีใจจจจจจจ


ปล. เพื่อนๆที่ยังไม่ได้หนังสือ อดใจรอกันหน่อยน้า ช่วงนี้หยุดติดกันหลายวัน คุณไปรษณีย์อาจต้องการพักผ่อน 555 ใจเย็นๆนะฮัฟฟฟฟฟ

ได้หนังสือ+อ่านตอนพิเศษแล้วอย่าลืมมาคอมเม้นท์กันนะคะ บ๊วบๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: intel ที่ 18-05-2011 14:36:28
ได้หนังสือแล้วนะค่ะ  :mc4:
เย็นนี้จิได้อ่านให้หนำใจ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-05-2011 17:09:11
 :z2: เข้ามาบอกว่าได้รับหนังสือแล้วคะเมื่อกี้นี้เอง
เปิดดูคราว ๆ แล้วสวยมากอะมืออาชีพเลยนะคะ สวยคะปกหน้ารัก
เดี๋ยวรอเย็นนี้กลับบ้านแล้วจะเริ่มอ่านใหม่ตั่งแต่ต้นเลยคะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 18-05-2011 17:14:03
เข้ามาบอกว่า ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษเลย
มัวแต่เวิ่นเว้อลั่นล้ากับเพื่อนอยู่ :laugh:

เดี๋ยวถ้าอ่านแล้วจะมาคอมเมนท์เน้อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nongmint31 ที่ 18-05-2011 23:03:58
ได้ของแล้วนะคะ

ปกสวยดีคะ

แวปไปอ่านก่อน อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 18-05-2011 23:11:50
ยังเหลือขอเล่มจิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 19-05-2011 11:51:55
เมื่อวานได้รับหนังสือแล้วนะคะ
ปก+ที่คั่นหนังสือน่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 19-05-2011 12:51:33
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ(เมื่อวานนี้) รูปเล่มสวยถูกใจดูสดใสดีค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gear ที่ 19-05-2011 22:46:28
ยังไม่ได้รับหนังสือเลยจ้า
ตกหล่นหรือเปล่าเอ่ย
รออยู่นะคะ อยากได้มากมาย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 19-05-2011 22:54:55
ได้รับเมื่อวานแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-05-2011 16:46:40
เพิ่งได้มาแจ้ง เพื่อนบอกมาเมื่อวานว่า หนังสือมาแล้ว   :mc4:

ขอบคุณจ้า  :impress2: ยังไม่ได้อ่านคงต้องรอสิ้นปี  :z10:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 26-05-2011 11:59:49
รบกวนนิดส์คับ คือตอนจบต้องติดตามอ่านหนังสือเอาใช่ไหมคับ
พอดีเห็นว่ามันนานมากแล้ว ก็ค้างด้วย  :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gear ที่ 05-06-2011 00:41:37
เริ่มอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกก็ในหนังสือที่สั่งซื้อไปนั่นแหละค่ะ
ขอบอกว่าสนุกมากกกกกกกกกกกตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบเรื่องเลย
อ่านทุกบรรทัดไม่ข้ามเลย
ยิ่งอ่านตอนที่น้องฝุ่นโดนแม่ตัวเองทำร้าย
และได้ยินแม่กับน้ำอิ่มคุยกันเรื่องของน้องฝุ่น
น้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย คนเขียนบรรยายดีมากเลยอินไปหน่อย
จะติดตามผลงานของน้องทุกเรื่องนะคะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ ให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 20-07-2011 15:56:48
ตอบค่า

ขอโทษจริงๆ ที่ตอบช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คอมเราไม่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตมาได้ซักพักแล้ว(อันนี้ใช้ที่ม.อยู่อ่า)

เดี๋ยวจะเอาตอนจบมาลงให้นะคะ ขอโทษจริงๆ น้า  TT

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ เร็วๆ นี้จะเอาเรื่องใหม่มาลงให้อ่านกันน้า กำลังเขียนอยู่ค่า จุ๊บๆ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 20-07-2011 16:05:54
ขอบคุณค่ะที่จะลงมาตอนจบ แต่ถ้าจะถามว่าหนังสือพอมีเหลือไหมค่ะ
อยากได้อะ พอดีวันมาดูในบอดแล้ว มันปิดโอนแล้วอะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Zadao ที่ 21-07-2011 01:23:00
*เก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋า*

ป่ะ! ไปตามหาน้องฝุ่นกัน! TTOTT

...
..
.

ให้ตายเหอะลุงสิน !!!!!!
เกิดเป็นนักดีไซน์ทั้งทีอย่าหัวโบราณเด๊!!! ดูน้าอิ่มเป็นตัวอย่าง สาววายอ่ะ รู้จักม๊ายยย!! (คลั่ง)

ไม่ไหวจะเคลียร์ อยากอ่านตอนจบค่า T_T ฮือออออออออออออ

อยากได้หนังสือด้วย T_T ฮือออออออออออ


*เขย่าไรท์เตอร์*
เค้าไม่ไหวจะเคลียร์!
สงสารน้องงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ิฟ้าสาง ที่ 24-07-2011 00:11:29
ตอนจบเป็นอย่างไงเนี่ย  ใครรู้บา้ง!!!!!! :m15:
หัวข้อ: บาป...หวาน ตอนจบจ้า เปิดจองหนังสืออีกรอบค่ะ♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 25-07-2011 15:28:25


ในขณะที่หัวใจผมอ่อนล้ามาตลอดหลายเดือน ไม่ว่าจะตามหาด้วยวิธีไหน ฝุ่นก็ยังคงหลบอยู่ในเงามืดเสมอมา หลายครั้งที่แลดูคล้ายกับว่าเรากำลังจะตามหาน้องเจอ แต่พอจะเอื้อมมือคว้าก็กลับกลายเป็นว่าฝุ่นหลุดไปอีกครั้งจนผมนึกท้อ แต่เมื่อหลับตาลงและเห็นภาพน้องกำลังร้องไห้ หัวใจผมก็ร้อนรนต้องการจะหาตัวฝุ่นให้เจอ

ผมย้ายของใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่มาที่คอนโดไกด์และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาพักนึงแล้ว หลายครั้งที่พ่อพยายามจะรั้งให้ผมกลับบ้าน แต่ก็เป็นได้แค่ความปรารถนาของเขา เพราะผมยังคงดื้อแพ่งจะตามหาฝุ่นอยู่เช่นเคย   

นาฬิกาชีวิตผมไม่ได้หยุดลงเมื่อฝุ่นเดินออกไป แต่มันเพียงแค่เดินช้าลงอย่างไร้ชีวิตจิตใจ ทรมานผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมยังต้องทำโปรเจคและยังต้องเรียนเพื่อให้จบๆ ไปซะ จากนั้นผมจะได้หาเลี้ยงตัวเองและเอาฝุ่นกลับมาอยู่ด้วยโดยไม่ต้องสนใจเสียงใครอีก

Rrrr Rrrr

“เชี่ยไกด์..โทรศัพท์” ผมหันไปตะโกนเรียกไอ้เพื่อนสนิทที่เข้าไปต้มมาม่าคัพในห้องครัวให้กลับมารับโทรศัพท์ก่อน

“เฮ้ย น้ำกำลังจะล้น มึงรับให้กูก่อน” มันตะโกนกลับออกมา แล้วโวยวายกับตัวเองครู่หนึ่ง คาดว่าน้ำน่าจะลวกมัน ผมละความสนใจจากคนบ้าในห้องครัวกลับมาที่โทรศัพท์เครื่องจ้อยบนโต๊ะเขียนแบบใกล้ๆ ชื่อที่ปรากฏขึ้นบนจอทำเอาผมหลุดขำออกมานิดหน่อย ...แฟนเพื่อน...

มึงจะเล่นแฟนใครวะเนี่ย เอิ้ก

((พี่ไกด์...))

“......”  ผมนิ่งค้างไปกับเสียงนั้น หัวใจเต้นระรัวกับปลายสาย ไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ราวกับคนบ้าใบ้จน “เขา” ถามกลับมา

((พี่ไกด์ได้ยินรึเปล่า))

“ฝุ่น...” ผมเรียกกลับไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงนี้ยังคงติดอยู่ในหูผมราวกับมันถูกเปิดเทปซ้ำๆ ให้ฟังอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจลืมเลือน

((ทีม......ตื๊ด ตื๊ด)) น้องกดวางสายไปทันที ผมรีบกดโทรศัพท์โทรกลับไปด้วยใจที่ร้อนรน ไม่รู้ว่าทำไมฝุ่นถึงจงใจหลบหน้าผม แค่ในโทรศัพท์ก็ยังไม่อยากคุยเชียวหรือ..?

“เหี้ยทีม ใครโทรมาวะ”

ผมหันกลับไปที่ต้นเสียงที่เพิ่งโผล่หน้างงๆ ออกมาจากห้องครัวด้วยความไม่อยากเชื่อ แปลว่าไอ้ไกด์มันอาจจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว...แต่ก็ไม่เคยคิดจะปริปากบอก ปล่อยให้ผมเป็นไอ้โง่พลิกแผ่นดินค้นหาคนรักอยู่อย่างนั้น

“แฟนเพื่อน” ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มความโกรธเอาไว้ มันทำหน้าตกใจแล้วรีบวิ่งเข้ามาคว้าโทรศัพท์ออกจากมือผมทันที แต่ผมก็ยังกำเอาไว้แน่นจนแทบจะแหลกคามือ แล้วเงื้อหมัดขึ้นทำท่าจะชกมัน ไอ้เชี่ยไกด์เลยรีบถอยออกไปตั้งหลักให้ห่างจากมือและเท้าของผม

“กูอธิบายได้”

“อธิบายเหี้ยอะไร จะอธิบายว่ากูเป็นสัตว์สปีชี่ไหนงั้นเหรอไอ้เหี้ย มึงรู้วิธีติดต่อฝุ่นแต่ก็ไม่เคยคิดจะบอกกู!” ผมพ่นยาว ไกด์มันทำสีหน้าสำนึกผิดแล้วบอกเสียงอ่อย

“มึงเห็นแก่ความเป็นเพื่อน ฟังกูก่อนนะ”

“ถ้าอธิบายไม่ดี มึงเจ็บตัวแน่”

“คือ..กูเจอน้องฝุ่นโดยบังเอิญเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะใช่หรอกมึง เห็นเด็กผอมๆ เดินไม่มองรถ กูก็ขับเกือบชน...โอ๊ย” ผมยกเท้าถีบมันไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้ แม่ง เจอแฟนกูตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ไม่ปริปากเลยนะไอ้หอกนี่ เห็นผมโกรธมากๆ เข้าไอ้ไกด์ที่ทำท่าจะด่าเลยรูดซิปปากแล้วถอยออกไปนั่งเล่าเรื่องให้ห่างจากผม “กูกะว่าจะบอกแล้ว แต่น้องฝุ่นขอเอาไว้ เค้าไม่อยากให้มึงเจอเค้า”

“ทำไมวะ กูเป็นแฟนที่แย่มากเหรอ ทำไมน้องถึงไม่อยากเจอกู” ผมถาม ในหัวใจเจ็บจี๊ดเหมือนโดนไม้จิ้มฟันแทงเป็นร้อยๆ รอบแล้วทิ้งเสี้ยนเอาไว้ให้เจ็บซ้ำ

“ไม่ใช่แบบนั้น...กูก็ไม่รู้ว่าพ่อมึงพูดอะไรไว้ แต่ดูน้องหงอยมากเลยมึง โคตรผอมอะ พอกูถามมากๆ เข้าน้องก็เลยยอมพาไปที่คอนโด..” มันเสียงอ่อยลงอีก เมื่อเห็นว่าผมทำท่าจะลุกขึ้นไปซ้ำ อะไรวะ แม่งรู้ถึงขั้นที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ไม่ปริปากซักคำ

“น้องก็ไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้ที่บางทีกูบอกมึงว่าออกไปหาเพื่อนสมัยมัธยม...ก็ เอ้อ...ออกไปหาน้องนั่นแหละ บางทีก็ซื้อข้าวไปให้ด้วย” ไกด์บอกแล้วตั้งท่าจะถอยหลังกรูดเมื่อเห็นผมลุกขึ้น “เฮ้ยๆ แต่กูไม่ได้คิดอะไรเกินน้องนะเว้ย กูยังชอบผู้หญิงปกติอยู่”

“สำหรับความผิดของมึง กูไม่ให้อภัยถ้ามึงไม่พากูไปเจอฝุ่นเดี๋ยวนี้” ผมบอก

“ไม่...ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด...กูโดนน้องเอาเรื่องแน่ถ้ามึงโผล่ไป ดีไม่ดี พ่อมึงอาจจะเผาคอนโดกูเลยก็ได้” มันรีบปฏิเสธทันควัน ผมไม่ได้มีเจตนาจะไปอาละวาดที่คอนโดฝุ่น หรือว่าพาน้องกลับไปเย้ยหน้าพ่อหรอกครับ ผมแค่อยากรู้ความเป็นไปของฝุ่น อย่างน้อยก็ให้รู้ชัดด้วยตาตัวเองว่าน้องยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน...ผมจะไม่โกรธเลยถ้าจะมีคนอื่นที่ดีกว่าผมดูแลฝุ่น ถึงแม้ในใจจะไม่อยากให้มีก็เถอะนะ...

“แต่กูอยากเจอฝุ่น” ผมบอกเหี้ยมๆ

“เพราะแบบนี้ไง กูเลยไม่อยากบอกมึง” มันยังจะย้อนผมอีก

“ไอ้เหี้ย กูตามหาฝุ่นมาตั้งแต่กรกฏาปีที่แล้ว พอกูได้เบาะแส มึงกลับจะไม่ให้กูไปเจอเค้าได้ยังไง ทำไมมึงเป็นคนส้นตีนแบบนี้”

“เอ๊า ด่ากูอีก เออ หน้ากูหนา ไม่รู้สึกหรอก” มันทำเหรอหราไม่สนใจ ผมเลยเดินเข้าครัวไปคว้าเอามาม่าคัพของมัน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะเขียนแบบ ทำท่าจะเทราดด้วยความโกรธ

“หน้ามึงหนาอันนั้นกูรู้ แต่งานเขียนแบบของมึงหนารึเปล่า มาลองดูกันดีกว่า..”

“เฮ้ยๆๆๆ อย่าาาา!!! เออๆ กูจะพามึงไปเจอฝุ่น! ไอ้เหี้ย อย่าทำงานกู!!!!” ผมกระหยิ่มยิ้มย่องกับท่าทีลนลานพนมมือไหว้ปลกๆ ของมัน แม่ง ต้องให้กูทำรุนแรง

“ก็แค่เนี้ย”

“แต่..แต่มึงต้องสัญญากับกูนะว่าจะไม่ออกมาแสดงตัว อยู่แต่ในรถ...โอเคมั้ย” นี่มึงมีสิทธิ์ทำข้อตกลงกับกูตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

“เออ กูจะพยายาม”



หลังจากแวะโลตัสเพื่อซื้ออาหารสด นมอีกสองแพ็คใหญ่ และอาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งแล้ว ไกด์ก็เลี้ยวรถไปซื้อข้าวต้มก่อนจะขับรถของมันเองมาเข้าไปที่คอนโดสไตล์โมเดิร์นขนาดค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง มองจากภายนอกแลดูสวยมากทีเดียวครับ สไตล์การออกแบบก็แลดูคุ้นตายังไงไม่รู้ ทันทีที่ไกด์ดับเครื่องลงที่ลานจอดรถด้านหน้าตึกซึ่งเฉพาะสำหรับบุคคลภายนอก มันก็หันขวับมาสั่งผมทันที

“มึงอยู่ที่รถนะ กูจะโทรเรียกให้ฝุ่นลงมาเปิดประตูคอนโดให้กู มึงก็นั่งส่องน้องจากตรงนี้เอาก็แล้วกัน...อ่อ ไม่ต้องทำตัวเป็นนักสืบตามมานะ เดี๋ยวคอนโดกูโดนพ่อมึงระเบิดเอา”

ผมพยักหน้ารับงึกงัก..ใช่สิ กูจะไปเลือกอะไรได้ล่ะ เอาวะ ตอนนี้ขอแค่ให้ได้เห็นฝุ่นไกลๆ ให้มั่นใจว่าน้องไม่เป็นไรผมก็ดีใจมากแล้ว

ไกด์ลงไปเปิดกระโปรงหลังรถเพื่อหยิบของสดที่เพิ่งซื้อมาเป็นเสบียงให้น้อง ก่อนจะเดินโทรศัพท์ตรงไปที่หน้าประตูคอนโดที่คาดว่าต้องใช้การ์ดเปิดถึงจะเข้าได้ เป็นเวลาแค่ชั่วอึดใจแต่เนิ่นนานสำหรับผมเมื่อคนที่เฝ้าหามาตลอดหลายเดือนกำลังจะเดินลงมาให้ได้เห็นหน้าแล้ว

ประตูคอนโดกระจกใสถูกเปิดออกช้าๆ ท่ามกลางเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของผม เด็กผู้ชายรูปร่างผอมกระหร่องเดินออกมายิ้มให้ไอ้ไกด์ มันหันมามองสบตากับผมแวบหนึ่ง ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าคือน้องแน่นอน...ฝุ่นไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย นอกจากหน้าตาและความสูง...

ผิวน้องแลดูขาวซีดจนคล้ายคนขี้โรค ร่างกายก็ผอมแห้งจนเห็นเป็นกระดูก โหนกแก้มโผล่เห็นชัดเจนแม้ระยะไกล ซ้ำใต้ตายังดูบวมและคล้ำจนเหมือนคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก...ทุกอย่างมันบอกให้ผมรู้ ว่าน้องยังทำใจไม่ได้...

สิ่งนั้นยิ่งสมเหตุสมผลมากขึ้นว่าทำไมไกด์ถึงไม่ค่อยอยากให้ผมเจอกับน้องในตอนนี้ รวมถึงฝุ่นเองที่ไม่แม้แต่จะยอมหยุดรอคุยกับผมในโทรศัพท์...

ผมนั่งกระวนกระวายใจอยู่ในรถครู่ใหญ่ จะหาว่าเป็นคนได้คืบเอาศอกก็ยอมเพราะตอนนี้ใจผมทั้งอยากเห็นหน้า ทั้งอยากคุยกับน้องเต็มทน แต่ไอ้เทพบุตรไกด์ก็ยังไม่ลงมา เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงก็แล้วมันก็ยังทำตัวกวนประสาทให้ผมนั่งรอชะเง้อคอยาวอยู่ที่รถ จนตอนนี้ผมเริ่มทนไม่ไหว คว้าโทรศัพท์ได้ก็กดโทรออกหามันทันที

ไอ้ไกด์ปล่อยให้ผมรออยู่นานจนด่ามันได้เกือบครบทั้งตระกูลถึงจะยอมรับแล้วกรอกเสียงลงมา

((อะไรของมึงวะ))

“กูอยากเจอฝุ่น...ในระยะประชิด” ผมตอบความต้องการออกไปโดยเน้นหนักที่ว่าต้องได้เจอในระยะตัวต่อตัว เสียงไกด์ถอนหายใจออกมาแรงๆ บ่นพึมพำ

((ห่าน กูนึกแล้วเชียว))

“มานึกแล้วอะไรของมึง บอกมาห้องฝุ่นอยู่ชั้นอะไร กูจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้” ผมบอกแล้วทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป เสียงไอ้ไกด์รีบร้องออกมาทันที

((หยุดความคิดมึงไว้ตรงปลายสมองเลย)) มันด่าเสียงดัง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระซิบบอก ((เดี๋ยวกูลงไปหา))


ให้มันได้แบบนี้สิวะถึงจะเป็นยอดคน!

ผมรออยู่ในรถราวสิบห้านาที ไอ้ไกด์ก็เดินหน้ายุ่งตรงมาที่รถ พอเข้ามาในระยะเห็นชัด มันก็โบกมือเรียกให้ผมออกมา

“กูนึกแล้วเชียวว่าถ้าพามึงมา จะต้องมีปัญหาแบบนี้” มันบ่นทันทีที่ผมเดินออกมา และจัดการล็อครถเสร็จ

“น่า บุญกุศลวันนี้ทำให้มึงไม่ต้องบวชก็ขึ้นสวรรค์ได้เลยนะไกด์”

“ห่าน กูบวชไปแล้ว!!” มันกระแทกเสียงใส่หน้าอย่างรำคาญใจ แล้วเดินฉับๆ นำเข้าไปในคอนโดทันที



ระหว่างที่ลิฟท์กำลังขึ้นไปอย่างช้าๆ นั้นผมกลับรู้สึกตื่นเต้นและร้อนรนมากกว่าปกติจนไกด์มันสังเกตเห็นและทักเอา

“มึงเป็นอะไร มีเห็บเหรอ กูยังไม่เห็นมึงอยู่เฉยเลยนะ”

“ห่าน กู...ไม่รู้ว่ะ ตื่นเต้นยังไงไม่รู้” ผมสารภาพ ไอ้ไกด์หัวเราะออกมาเสียงดังพลางบอก

“ก็เงี้ยแหละ มึงไม่ได้เจอน้องมาตั้งนานก็ต้องตื่นเต้นดีใจเป็นธรรมดา”

“เออ...ว่าแต่มึงบอกฝุ่นว่าอะไร ถึงเอาคีย์การ์ดของน้องมาด้วยได้” ผมถาม ไกด์มันก้มลงมองคีย์การ์ดในมือแล้วหัวเราะออกมา

“มุขละครๆ น่ะ ลืมของ” ผมพยักหน้ารับรู้แล้วแบมือไปต่อหน้า ไอ้คุณเพื่อนสนิทมองงงๆ ผมเลยจ้องไปที่คีย์การ์ดสลับกับหน้ามัน ไกด์เลยถึงบางอ้อ รีบเก็บคีย์การ์ดลงกระเป๋ากางเกงทันที “กูไม่ให้ ถ้าอยากได้ไปขอฝุ่นเอง”

“เหี้ย ทำไมมึงทำแบบนี้กับกูวะ ไหนมึงบอกจะให้กูเจอน้องไง”

“กูบอกจะให้มึงเจอน้อง ไม่ใช่ให้กุญแจห้องเค้า”

“โหย แม่งกลับกลอก” ผมบ่น พอดีกับที่ประตูลิฟท์เปิดออก ไกด์มันจึงเดินเลี้ยวนำไปเปิดประตูอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก ด้วยความที่เป็นคอนโดใหญ่ ทำให้ชั้นนึงมีอยู่แค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น ผมว่ามันดีสำหรับคนที่ค่อนข้างชอบความเป็นส่วนตัวนะ

ผมเดินตามไปหยุดอยู่ที่ข้างหลังมันช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วอย่างไม่อาจห้าม เสียงมันดังเสียงจนผมยังนึกหวั่นว่าไอ้เป็ดเบื้องหน้าจะได้ยินเสียงของมันมั้ย ประตูห้องถูกมันรูดการ์ดและเปิดออก เสียงของฝุ่นลอดออกมาพร้อมแสงสว่างภายใน

“พี่ไกด์ลืมอะไรเหรอ”

“พี่ลืมคนไว้น่ะ” เสียงไอ้ไกด์มันตอบอย่างอารมณ์ดี แล้วหันกลับมามองหน้าผมที่ยังยืนนิ่งค้างราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง “มึงจะเข้ามามั้ยเนี่ย”

“ใคร..น่ะ...” ผมได้ยินเสียงน้องถามออกมาอย่างสงสัย ก่อนจะได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจด้วยตาตนเอง

“ฝุ่น..” ผมเรียกเขาออกไปแล้วมองฝุ่นเต็มตา จานข้าวใบเขื่องที่มือผอมนั้นถืออยู่ค่อยๆ เลื่อนหลุดและหล่นกระแทกพื้นดังเพล้งใหญ่ เล่นเอาเศษกระเบื้องแตกอยู่เต็มพื้น “อย่าขยับนะฝุ่น เดี๋ยวพี่เก็บให้” 

ผมร้องบอกแล้วรีบผลักไกด์ให้มันถอยไปให้พ้นทางเพื่อตรงเข้าไปดึงน้องออกมาให้พ้นระยะที่จะโดนบาด

“แหม เจอน้องแล้วผลักกูเลยนะไอ้ห่าน” ได้ยินเสียงมันก่นด่ามาลอยๆ แต่นาทีนี้ผมขอสนใจแค่คนตรงหน้า ฝุ่นมองหน้าผมผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อคลอและไหลริน ขาน้องเหมือนจะไม่มีแรงค่อยๆ ทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลนองหน้า “คุยกันดีๆ ล่ะ กูไปแล้วนะ...ไอ้เหี้ยทีม มึงอย่าลืมไปเอารถที่คอนโดกูด้วยนะ”

“อืม แต๊งมากๆ เลยมึง” ผมหันไปตอบมันในขณะที่โอบกอดร่างผอมบางที่สะอื้นจนไหล่สั่นมาไว้ในอ้อมแขน เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ บอกให้รู้ว่าตอนนี้มันเป็นโลกส่วนตัวของเราสองคนเท่านั้น ผมกอดฝุ่นเอาไว้ พลางกระซิบปลอบ

“ทำไม...ฮึก ทำไมทีมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ทำไม...”

“ไม่ดีใจเหรอที่พี่มา” ผมกอดน้องไว้แน่นแล้วกระซิบถามกับซอกหูเล็ก ฝุ่นยิ่งสะอื้นมากขึ้น มือที่ผอมจนแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกยกขึ้นกำเสื้อตรงต้นแขนผมแน่น “ทำไมหนีพี่มาแบบนี้ พี่เป็นห่วงเรามากนะฝุ่น...พี่อยากเจอเรา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เจอ ถ้าไกด์มันไม่บังเอิญเจอเรา ชาตินี้พี่จะได้เจอเราอีกมั้ย หืม..”

ผมบอกด้วยเสียงที่พยายามทำให้ดูนุ่มหูที่สุด เอาเข้าจริงผมก็แอบโกรธที่น้องไม่เชื่อใจและทิ้งผมไว้อย่างนั้น แต่ในนาทีนี้ผมไม่ควรจะใส่ความแอบเคืองของตัวเองเข้าไปในน้ำเสียงแม้แต่นิด ผมควรจะพูดจาให้นุ่มนวลและปลอบใจให้น้องเลิกร้องไห้มากกว่า

“ฮึก...ฝุ่น...ฝุ่น...” น้องพูดได้แค่นั้นแล้วเช็ดหน้าตัวเองกับไหล่เสื้อผมแรงๆ จนมันเปียกชื้นไปหมด
“ทำไมเราผอมแบบนี้หืม...กินข้าวบ้างรึเปล่า” ผมถามเสียงอ่อน พลางลูบเรือนผมทุยๆ นั้นอย่างรักใคร่...ไม่เป็นไร ถึงน้องจะเคยเสียใจมามากแค่ไหน แต่จากนี้ไปผมจะดูแลให้ดีที่สุดชนิดยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยทีเดียว

“ฝุ่นไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” เสียงอู้อี้นั้นตอบ ผมมองไปรอบๆ ห้องที่น้องอยู่..เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นแลดูเหมือนของใหม่และยังไม่ผ่านการใช้งาน ทั้งที่น้องอยู่ไกลจากผมมาหลายเดือนแล้ว...สายตาผมกลับสะดุดอยู่กับกรอบรูปคู่ของเราสองคนที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างดี...หัวใจผมพองโตอย่างบอกไม่ถูก น้องไม่ได้มีใครมาช่วยปลอบใจทั้งนั้น มีแค่ผมคนเดียว...เสมอมา

“งั้นพี่มาทานข้าว มานอนด้วย อยู่ด้วยกันดีมั้ย” ผมเสนอแล้วก้มลงจูบข้างขมับอุ่นเบาๆ หลายเดือนที่ผ่านมาน้องต้องนอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว บ่อยเข้าก็คงเริ่มไม่อยากกิน ไม่อยากทำอะไรได้แต่นอนร้องไห้ ตาถึงได้ปูดโปนทั้งที่ร่างกายก็ยังผอมแห้งไม่มีแรงขนาดนี้

“แล้วลุงสินล่ะ...ลุงสิน ฮึก เค้าจะว่าอะไรฝุ่นอีกมั้ย...” น้องยังสะอื้นตอนที่ถาม ผมได้แต่เจ็บหัวใจจี๊ด แล้วตอบเขา

“พี่เคยบอกแล้วไง ไม่ว่าพ่อจะว่ายังไง พี่ก็จะไม่สนใจอีก พี่ทำอย่างที่พ่ออยากให้ทำมามากพอแล้ว พี่ขอแค่เรื่องเราเท่านั้นที่จะทำตามใจตัวเอง”

น้องกอดผมแน่นขึ้น ก่อนเสียงครางเบาๆ จะดังขึ้นราวกับฝุ่นกำลังเจ็บปวด ผมรีบคลายอ้อมแขนออกถามเขา

“ฝุ่นเป็นอะไร” สีหน้าน้องแลดูเหยเกอย่างน่ากังวล มือผอมเลื่อนจากต้นแขนผมลงไปกุมไว้ที่ท้องตัวเอง ร่างกายที่ผอมเกร็งนั้นค่อยๆ ล้มลงนอนคุดคู้กับพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเล็กซีดเซียวจนผมใจเสีย “ฝุ่น เป็นอะไร..ปวดท้องเหรอ”

“ฮือ...ทีม...ทีม...” น้องยังครางได้แค่นั้น ดวงตาเล็กที่ฉ่ำน้ำตาหยีลงจนปิดมิดด้วยความเจ็บปวด ผมใจหายวาบ ตรงเข้าช้อนร่างกายเขาขึ้นกับอกแล้วรีบลุกขึ้นเพื่อจะพาไปโรงพยาบาล

ลิฟท์ที่เรียกได้ว่าเร็วก็ยังช้าไปสำหรับนาทีนั้น กว่าจะมา กว่าจะถึงชั้นล่าง น้องก็หน้าซีด ปวดท้องจนหมดสติไป ผมได้แต่เขย่าเขาเบาๆ ให้อยู่กับผมก่อน

“พี่ครับ เรียกแท็กซี่ที เรียกแท็กซี่!! มีคนป่วย!” ทันทีที่โผล่หน้าออกไปให้รปภ.เห็นได้ ผมก็แหกปากดังลั่น พี่รปภ.ทำหน้าเลิกลั่กด้วยความตกใจก่อนจะรีบวิ่งออกไปเรียกแท็กซี่ให้ผม

โชคยังดีที่รถไม่ติด ทำให้เราถึงที่หมายด้วยความรวดเร็ว เมื่อส่งฝุ่นถึงมือหมอได้ ผมก็กดโทรศัพท์ออกหาไอ้ไกด์ทันที

((อะไรวะ มีความสุขแล้วโทรมาเย้ยกูเหรอ)) มันกรอกเสียงกวนๆ มาก่อน

“มึง ที่มึงเคยบอกกูว่าฝุ่นป่วย น้องเป็นอะไรวะ!!”

((ทำไมวะ เกิดอะไรขึ้น...น้องปวดท้องเหรอ)) เสียงไกด์ค่อนข้างตกใจอย่างมาก เสียงกุกกักคล้ายมันทำของตกดังขึ้นที่ปลายสาย ก่อนมันจะสบถคำหยาบออกมาแล้วบอกผม ((ฝุ่นเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรงน่ะมึง..นี่อยู่ที่ไหน เดี๋ยวกูไปหา))

“กูอยู่โรงพยาบาล xx” ผมตอบมันด้วยใจที่ร้อนรน โรคกระเพาะ...แค่เป็น ไม่ต้องขั้นรุนแรง ก็ทรมานมากพอดูอยู่แล้ว ถ้าฝุ่นยิ่งเป็นขั้นรุนแรงจนเกิดแผลในกระเพาะ ผมยิ่งไม่ต้องการคำอธิบายเลยว่าทำไมน้องถึงได้ผอม และดูทรมานมากขนาดนั้น..ใจผมเจ็บร้าวยิ่งคิดได้ว่าผมเองก็มีส่วนทำให้ฝุ่นต้องเป็นแบบนี้...

ในระหว่างที่รอให้ไกด์มาถึงที่โรงพยาบาล ฝุ่นก็ถูกย้ายห้องพักผู้ป่วยพิเศษเป็นที่เรียบร้อย สายน้ำเกลือเจาะที่แขนผอมแห้งของน้องแล้วโยงขึ้นไปจนดูเกะกะตา ใบหน้าซีดเซียวที่หลับสนิทแลดูอ่อนแรงกว่าที่ผมเคยคุ้นตามากนัก ครึ่งชั่วโมงถัดมาประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกใครบางคนกระแทกเปิดเข้ามา ผมหันกลับไปมองทันที ไกด์ยังมีสีหน้าตกใจตอนที่ถาม

“เป็นไงบ้างวะ”

“ก็อย่างที่มึงบอก...น้องเป็นแผลในกระเพาะ นี่คงไม่ได้กินยาต่อเนื่องเลยปวดท้องจนสลบไป” ผมตอบ ไกด์ส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วเดินไปลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ ผม

“เท่าที่กูถาม น้องปวดท้องหนักๆ แบบนี้มาตั้งแต่ก่อนพฤศจิกาอีก แต่ก็ไม่ได้หาหมออะไร จนกูเจอเค้าเมื่อเดือนก่อนก็บังคับให้ไปหาหมอ กินยา...แต่มึงก็รู้ กูก็ไม่ได้มาดูน้องทุกวัน น้องจะกินยาหรือไม่กินนี่กูไม่มีทางแน่ใจได้เลย”

“โชคยังดีที่กระเพาะยังไม่ทะลุ” ผมบ่นออกมา ไกด์มันถอนหายใจออกมาแรงๆ เหลือบสายตามองคนป่วยทีหนึ่ง แล้วหันกลับมาถาม

“แล้วมึงจะเอายังไงเรื่องฝุ่น”

“ตอนนี้ถ้าจะเอาน้องกลับไปอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ กูไม่อยากให้เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมอีก...ระหว่างนี้กูอาจไปนอนที่คอนโดน้องก่อน หลังเรียนจบค่อยว่ากันอีกที” ผมตอบ

“แล้วโปรเจ็คมึงล่ะ งานที่ทำกับกูอีก” มันถาม ก่อนจะแนะนำเสริมขึ้นมา “มึงจะพาน้องมาอยู่ที่คอนโดกูก็ได้นะ ก็ให้นอนห้องเดียวกับมึงไป ถึงเวลาจะได้ดูแลได้ง่ายๆ มึงจะได้ไม่ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างคอนโดกูกับฝุ่นด้วย”

“ไม่ลำบากมึงเหรอ”
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนที่19!! หนังสือมาแล้วน้า ลงรูปหนังสือจ้า♥ [03/05/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 25-07-2011 15:29:58
 “ไม่ลำบากมึงเหรอ”

“แหม...คำนี้น่าจะถามตอนลูกกูจบปริญญาแล้วนะ” หึหึ แม่งกวนประสาทจริงๆ “น่ะ แค่นี้ เพื่อนกันกูให้ได้อยู่แล้ว”

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ผมสงสัยว่าทำไมไอ้ไกด์ถึงไม่มีแฟน? ทั้งที่มันก็ออกจะนิสัยดี หน้าตาก็...เอ้อ ดีนะ แต่น้อยกว่าผม(กร๊าก) สงสัยมากๆ เข้าก็ถามออกไปสักหน่อยดีกว่า

“กูสงสัยว่ะ..”

“ว่าทำไมกูไม่มีแฟนใช่มั้ย” ดักคอกูจริงๆ

“เออ ทำไมวะ ผู้หญิงน่าจะชอบคนแบบมึงนะ”

“ตอนปีหนึ่งกูก็อยากมีแฟนนะ แต่ไปๆ มาๆ เห็นเรื่องของมึงด้วย พี่อ๋องด้วย กูเลยรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวเนี่ย เป็นความสุขสุดประเสริฐของชีวิตเลย” ไกด์มันตอบขำๆ แล้วเสริมต่อ “ถ้ามี ก็มีได้ แต่กูขอมีหลังทำโปรเจ็คเสร็จนะ ขี้เกียจแบ่งเวลาทำงานไปให้แฟน”

อ้าว ไอ้หอก เค้าต้องพูดว่าขี้เกียจแบ่งเวลาของแฟนไปทำงานไม่ใช่เหรอวะ

“อือ...” เสียงครางจากคนป่วยบนเตียง ทำให้ผมกับไกด์หยุดคุยกันแล้วหันไปให้ความสนใจกับฝุ่นแทน น้องเริ่มขยับตัวไปมา ลืมตาขึ้นมองผมโรยๆ

“ฝุ่น...เป็นยังไงบ้าง หายปวดท้องรึยัง” ผมรี่เข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง ฝุ่นค่อยๆ คลี่ยิ้มที่เลือนรางในสายตาทว่าตราตรึงในความรู้สึกออกมาให้ได้เห็นจนหัวใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล

“ฝุ่นฝันว่าทีมมาหาที่คอนโด” เสียงน้องพูดอย่างแหบโหย ผมถึงกับน้ำตาคลอเพราะประโยคนั้น “ไม่คิดว่าฝันจะกลายเป็นจริงขึ้นมาจริงๆ..”

“เราไม่ได้ฝันหรอก พี่อยู่ที่นี่ และจะไม่ปล่อยมือจากเราไปไหนเด็ดขาด” ผมให้ความมั่นใจด้วยการกระชับมือเข้าที่มือผอมบางข้างที่วางอยู่ใกล้ๆ น้องยิ้มออกมาอีกครั้ง

“น้องฝุ่น ไม่ได้กินยาเหรอ” ไกด์ทำเสียงดุชะโงกถาม

“ก็กินตอนก่อนกินข้าว” ฝุ่นทำเสียงอ่อย เมื่อเห็นว่าผมเองก็จ้องไม่วางตาเช่นกัน

“แล้วข้าวนี่กินครบทุกมื้อรึเปล่า” ผมถามบ้าง

“.......เกือบ” ไม่อยากจะบอกว่าผมอยากงับปากซีดๆ นั่นมาก อยากตีน้องที่ไม่ดูแลตัวเองเลย แต่ไม่เอานะ ทำแบบนั้นทุกคนต้องหาว่าผมใจร้ายมากแน่ๆ ที่ตีคนเจ็บแบบนี้

“ถ้าเป็นน้องแท้ๆ พี่จะตีให้ก้นลายเลย ไม่ดูแลตัวเองเลยนะเรา” ไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่ไกด์มันบ่นเอาๆ ตามนิสัยของคนมีน้องชาย จนฝุ่นแทบจะมุดลงไปใต้ผ้าห่มเพราะไม่อยากฟัง “พี่จะยกโทษให้ครั้งนี้นะ ครั้งต่อไป ถ้าฝุ่นไม่กินข้าวจนปวดท้องเข้าโรงพยาบาลอีก พี่จะถีบไอ้ทีมแทน”

“อ้าว ทำไมกูซวยวะ” ผมหันไปถามมันงงๆ

“หรือมึงจะไม่ดูแลน้อง?”

“กูตามหาฝุ่นมาตั้งแต่วันที่น้องหายไป กูจะไม่ดูแลได้ไง” ผมบ่นใส่มัน ไกด์ไหวไหล่ให้แทนคำตอบ ก่อนจะบอกลาแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิดนั้น ผมก็ทันได้เรียกมันไว้ก่อน

“อะไร” มันหันกลับมา

“กู..ขอบคุณมึงมาก”

“ก็เพื่อนกัน” มันยิ้มกว้างแล้วโบกมือหยอยๆ ให้ก่อนจะปิดประตูห้อง ทิ้งให้ผมได้อยู่กับน้องแค่สองคนหลังจากเราต้องแยกจากกันมานานหลายเดือน

“ทีม...แล้วลุงสินจะไม่ว่าอะไรเหรอที่ทีมออกมาเจอฝุ่นแบบนี้” น้องดึงผมออกจากภวังค์พลางถามเสียงหงอยๆ

“พี่ไม่ได้กลับบ้านมาตั้งนานแล้ว” ผมตอบ ฝุ่นดูตกใจไม่น้อยเลยกับคำตอบนั้น “มีเข้าไปเอาของใช้ที่จำเป็นสำหรับโปรเจ็คบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ห้องไอ้ไกด์นั่นแหละ”

ผมทิ้งบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้น แล้วหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสตางค์...แหวนเงินของฝุ่นที่ผมเก็บใส่ซองเอาไว้อย่างดี...เมื่อน้องเห็นว่าสิ่งที่หยิบออกมาคืออะไร ผมก็ทันได้เห็นหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลออีกครั้ง

“พี่ไม่พอใจเราเลยนะ ที่ทิ้งแหวนวงนี้ไว้แบบนั้น”

“แล้วจะให้ฝุ่นทำยังไง”

“แค่ฝุ่นติดต่อมา..พี่พร้อมจะทำทุกอย่างให้เราได้อยู่ด้วยกัน” ผมตอบอย่างมั่นคง แต่น้องกลับส่ายหน้าเบาๆ

“เพราะฝุ่นรู้ว่าพี่จะทำแบบนั้น ถึงได้ออกมาโดยไม่บอกอะไรเลย”


ผมถึงกับสะอึกไปเพราะดวงตาคู่ที่แสดงถึงความจริงจังในคำพูดนั้น น้องห่วงว่าผมจะทำเรื่องบ้าๆ เลยยอมเป็นคนเดินออกมา แต่ผมกลับห่วงว่าน้องจะไปจึงยอมทำเรื่องบ้าๆ....เฮ้อ...แบบนี้ไม่รู้จะโทษใครเลยจริงๆ

“ที่ออกมา ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจนะ” ฝุ่นเห็นผมนิ่งไป ถึงได้พูดเสริมขึ้นมา น้องบีบมือผมเบาๆ แล้วยิ้มให้...ครับ ผมเข้าใจดีว่าเพราะน้องเชื่อใจและไม่ต้องการให้ผมลำบาก...

“งั้นใส่แหวนวงนี้กลับคืนที่ๆ มันควรจะอยู่ได้มั้ย” ผมถามด้วยรอยยิ้ม ฝุ่นหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยื่นมือขวาที่โดนเข็มเจาะเป็นทางผ่านของน้ำเกลือมาให้

“อยู่ให้น้ำเกลือสักสามสี่วัน กลับไปตัวบวมแน่ๆ” ฝุ่นบ่นหงุงหงิง

“คงจะบวมหรอกนะ เหลือแต่กระดูกแบบนี้” ผมแอบจิกกัด แล้วค่อยๆ สวมแหวนกลับคืนที่ๆ มันควรจะอยู่มาตั้งนานแล้ว ประกายสีเงินวิบวับจับอยู่บนนิ้วของน้อง ก่อนที่ผมจะเอามือขวาของตัวเองที่มีแหวนแบบเดียวกันไปทาบทับเอาไว้ “อยู่กับพี่นะ...อย่าไปไหนอีก”

“อืม อย่าไล่ก็แล้วกัน” น้องยิ้มกว้างเช่นเดียวกับผม แต่เสียงแกร๊กที่ดังจากประตูห้องก็ทำให้รอยยิ้มหวานนั้นแอบชะงักไปวูบหนึ่ง

“ฝุ่น” น้าอิ่มถลาเข้ามาในห้องผู้ป่วยด้วยความเป็นห่วง ดูน้องหน้าซีดลงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครที่เดินตามน้าเข้ามา...พ่อผมเอง

“สะใจพ่อรึยังครับ” ผมถามดักคอด้วยเสียงเรียบๆ พ่อหันกลับมามองหน้าผมวูบหนึ่ง ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆ น้าอิ่มโดยไม่พูดอะไร ฝุ่นพยายามจะดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของผม แต่มีหรือที่ผมจะยอม ยิ่งกำไว้แน่นขึ้น จะหาว่าประเจิดประเจ้อก็ไม่สนใจหรอกครับ ไม่ได้นั่งจูบปากโชว์สักหน่อย

“ฝุ่นเป็นยังไงบ้าง น้าเป็นห่วงเรามากนะ น้าพยายามติดต่อเราก็ติดต่อไม่ได้เลย แล้วทำไมเป็นแบบนี้” น้าอิ่มลูบแก้วเซียวๆ ของน้องด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า สุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคาด...นอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่มีใครรู้วิธีติดต่อน้องได้ จนถึงเดือนที่แล้ว ที่ไอ้ไกด์มันบังเอิญเจอ

“ฝุ่นเป็นแผลในกระเพาะอาหาร โชคยังดีที่มันยังไม่ทะลุ...ถ้าผมเจอน้องช้ากว่านี้สักสองเดือน เราคงได้เจอฝ่นอีกทีก็ในโลงเย็นแหละครับ” ผมจงใจพูดจิกกัด พ่อหันหน้ากลับมามองผมแล้วถาม

“แกจะเอายังไง”

“ผมควรจะถามพ่อมากกว่า”

“ทีม..อย่า” เสียงฝุ่นหันกลับมาห้ามผมไว้ไม่ให้ทำก้าวร้าว

“พ่อทำร้ายเด็กคนนี้มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา...ตอนนี้ผมเจอฝุ่นแล้ว พ่อไม่มีวันจะเอาน้องไปจากผมได้อีก”

“ทีม...” น้าอิ่มหันมาครางเบาๆ กับความดื้อด้านของผม พ่อมองผมนิ่งด้วยความเหนื่อยหน่ายใจแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นในระดับไหล่

“ก็ได้....ฉันยอมแพ้ในความดื้อด้านของแก” พ่อพูดเซ็งๆ แล้วกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ “แกพูดถูก ถ้าแม่ของแกยังอยู่ เค้าคงจะไม่มีวันโกรธเรื่องนี้”

ผมแอบประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพ่อยอมง่ายกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกผมนึกว่าถ้าเจอหน้ากัน ผมอาจจะโดนชกและเตะซ้ำ แต่นี่....ทำไมได้ง่ายจังวะ

“ฉันควรจะคำนึงถึงความสุขของแกมากกว่า ฉันสมควรให้แกได้เป็นอย่างที่แกอยากเป็นมากกว่าที่ฉันอยากให้เป็น...” พ่อบอกเรียบๆ “อิ่มพูดถูก คนเราเกิดมาแค่ครั้งเดียว อยากทำอะไรก็ควรจะได้ทำ”

“พ่อต้องการอะไรตอบแทนครับ” ผมแอบน้ำตาซึม แต่ยังไม่วางใจเลยถามออกไปด้วยเสียงที่อ่อนลงนิดหน่อย

“จนกว่าฝุ่นจะเรียนจบ แกต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ฝุ่นต้องอยู่คอนโดที่ลุงซื้อไว้ให้” ประโยคหลังพ่อหันไปเอาความกับน้องที่ยังนอนหงอยอยู่บนเตียง


แต่เฮ้ย กว่าฝุ่นจะเรียนจบ... อย่างน้อยก็เกือบสี่ปีเลยเนี่ยนะ โอ้ก พระเอกน้ำตาจะไหล


“ฉันยอมให้แกไปๆ มาๆ ได้ แต่แกต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน..แล้วพอน้องเรียนจบ แกจะไปซื้อบ้านสร้างบ้านอยู่มุมไหนก็ไป”

“สี่ปีเลยนะพ่อ!” ผมโวยวาย

“หรือแกจะให้ฉันส่งฝุ่นกลับอเมริกา?” พ่อเลิกคิ้วอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

“เออ สี่ปีสั้นนิดเดียวเอง!! ใช่มั้ยฝุ่น!” ผมกระแทกเสียงใส่อย่างเซ็งๆ

“แกต้องมาช่วยฉันทำงานด้วย เพราะตอนนี้อิ่มเองก็ต้องดูแลลูก” ห๊ะ? ลูก? ลูกไหนวะ?

“ลูกไหนเหรอครับน้าอิ่ม” ผมถามงงๆ น้าอิ่มดูเหวอเล็กน้อยที่โดนพาดพิง ก่อนจะตั้งสติได้แล้วหันกลับมาตอบผม

“น้าคลอดน้องตั้งแต่เดือนมกราที่ผ่านมาแล้วจ้ะ” อ้าวเหรอ กลับบ้านบ่อย ผมโคตรรู้เรื่องเลย กร๊าก

“จริงเหรอครับ ดีใจด้วยนะฮะ” ฝุ่นหันไปยิ้มกว้างให้คุณแม่มือใหม่

“ยิ้มแบบนี้ อยากมีลูกบ้างเหรอฝุ่น” ผมแอบกระซิบถามตอนที่น้าอิ่มหันไปคุยกับพ่อ แล้วทิ้งให้เราสองคนนั่งคุยกันตามลำพัง ด้วยความที่มือผมยังจับน้องไว้ฝุ่นเลยแอบพลิกกลับมาหยิกผมแรงๆ

“จะบ้ารึไง”

“หึหึ ก็นึกว่าอยากมี” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มลงไปฟัดแก้มซูบๆ (ที่คาดว่าจะกลับมาป่องในเร็วๆ นี้) แรงๆ ทีนึงด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เอ้า เอ้า สองคนนั้นน่ะ ทำอะไรอายฟ้าอายดินบ้าง พ่อกับน้าก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ตั้งสองคนนะ” เชอะ เสียงตัวอิจฉา

“อิจฉาก็พูดมาเถอะพ่อ”

“อิจฉาอะไรวะ ฉันก็มีคนรักของฉันนะโว้ย” พ่อบอกเสียงดังแล้วรวบน้าอิ่มเข้ามากอด ก่อนจะกดหอมแก้มเข้าไปฟอดใหญ่ท่ามกลางเสียงโห่ฮิ้วของผม....เสียงดังขนาดนี้ ดีนะ นางพยาบาลไม่เข้ามาด่าเอา


แต่คนมันหน้าตาดี ทำอะไรก็ไม่ผิด~~ จริงเมะ!!!



ปล. ถึงพ่อจะบอกให้ผมกลับไปอยู่บ้านจนกว่าน้องจะเรียนจบ แต่สุดท้าย ผมก็แอบสร้างบ้านหลังเล็กๆ ไว้ แล้วหอบฝุ่นหนีมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่น้องยังเรียนไม่ทันจบปีสองเลยครับ กลัวอยู่ว่าอาจจะท้องก่อนเรียบจบ กร๊ากกกก


   


จบเหอะ!!!!

Eiizes’s talk
มาลงตอนจบให้ตามสัญญานะคะ

ขอโทษจริงๆ ที่หายตัวไปเลย 5555 คอมเน่ามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอาเถอะ ยกผลประโยชน์ให้ไปเนาะ

แล้วก็เห็นมีหลายท่านเลย ติดต่อมาว่าอยากได้หนังสือ แต่เราไม่มีเหลือแล้วอ้ะ เราทำมาตามจำนวนเด๊ะเรยยย
แต่...เราจะพิมพ์ใหม่อีกรอบนึงค่ะ เปิดโอกาสให้ทุกท่านที่ยังไม่ได้หนังสือ และต้องการ(มีใช่มั้ย5555)

หนังสือราคาเดิมค่ะ เล่มละ 300 บาท หนา 370 หน้า(รายละเอียดยิบๆ ดูที่หน้าแรกเนาะ)
ค่าส่ง 30 บาทจ้า รวมเป็น 330 บาท/เล่ม

แต่ถ้าสั่งสองเล่มขึ้นไป บวกค่าส่งอีกเล่มละสิบบาทค่ะ

จองเข้ามาทางอีเมล only.eiizes(at)hotmail.com

ได้ถึง 20 สิงหาคม 2554 นะคะ หมดรอบนี้ไม่มีแล้วน้า จองกันเข้ามาจ้า เย้~~~

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 25-07-2011 17:54:23
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน
อ่านไปได้ไม่กี่ตอนก็.....

 :-[
หลงรักน้องฝุ่นเข้าแล้วค่า
ซึนมากเด็กคนนี้
เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะจองหนังสือด้วยคนนะคะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 25-07-2011 18:37:17
ขอบคุณที่มาต่อตอนจบให้น๊า

นึกว่าจะไม่ต่อซะแล้ว กระซิกๆๆ

ในที่สุด... ก็สมหวัง ซะที แถมแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยไว้สวีตกันด้วย ท้องก่อนแต่งแน่ๆแบบนี้ 555555

ปล. สงสัยว่าทำไมพี่ไกด์ไม่มีแฟน !!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 25-07-2011 19:36:34
ว้าว ในที่สุดก็ได้อ่านตอนจบ
ยังสงสารน้องฝุ่นอยู่ดีอ่าาา
ช่วงที่ไม่เจอทีมคงลำบากมาก
น้องผอมหมดเลย ทีมต้องขุนดีๆล่ะต่อไปนี้ ฮ่าๆๆ
รอเรื่องต่อไปของคนเขียนนะคะ
สนุกมากๆเลยค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-07-2011 19:55:47
จบง่ายจังแฮะ 55+ แต่ก็ดีแล้ว มีความสุข แฮปปี้เอนดิ้ง ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 03-08-2011 10:28:23
ในที่สุดตอนจบก็มา
อ่านแล้วน้ำตาซึม สงสารน้องฝุ่น
แต่ก็แฮปปี้ๆ
ขอบคุณนิยายน่ารักๆ แบบนี้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนต่อไปนะคะ

ปล. จะมีตอนพิเศษไหมน้อ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 03-08-2011 11:13:02
ขอบคุณที่เอาตอนจบมาลงนะคะ หายไปนานมากจริงๆๆ ;____;
ดีใจจัง ที่สุดท้ายก็ลงเอยกันได้ด้วยดี เย้ๆ แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 04-08-2011 13:19:14
น้องฝุ่น ใจแข็งจัง เกือบไม่เจอพี่ทีมแล้ว น่าจะดูแลตัวเองให้ดีๆ สงสารน้องฝุ่นจัง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 06-08-2011 16:44:52
จบน่ารักเชียว พ่อยอมง่ายกว่าที่คิดนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 06-08-2011 20:51:13
ขอบคุณมากค่ะที่มาลงตอนจบให้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 07-08-2011 17:31:41
น่ารักมากๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Jomkan ที่ 20-08-2011 22:40:45
โอนเงินไปแล้วนะครับ  Jomkan
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 21-08-2011 14:59:11
ในที่สุดก็จบแบบสวยๆ   เริ่ดค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Jomkan ที่ 21-08-2011 17:30:19
ผมโอเงินไปแล้วครับ  แต่ทำไมไม่ตอบเมลผมเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 21-08-2011 22:27:57
เพิ่งเห็นว่ามาต่อตอนจบแล้ว ดีใจจังคะ
บทสรุปนี่ดูว่าง่าย แต่อาจจะทิ้งช่วงยาวกว่าจะมาลงตอนนี้ได้...เลยอ่านแล้วไม่อิ่ม...
ถ้าอ่านรวดเดียวจบก็ยังคงรู้สึกว่า ฝุ่นนี่ช่างโชคร้ายตลอดจริง
เป็นผู้ถูกกระทำโดยไม่สามารถโต้แย้งตั้งแต่ต้นจนจบ น่าสงสารมากคะ
คงโชคดีตอนจบที่เจอคนรักตัวเองอย่างมั่นคง...

เป็นกำลังใจให้แต่งนิยายดีขึ้นเรื่อยๆ ไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 31-08-2011 18:40:21
รอน้องฝุ่นมาที่บ้านอยู่นะคะ
ไม่ยอมอ่านในเล้าเลยนะเนี่ย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 31-08-2011 21:18:38
 :L2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: fancy ที่ 01-09-2011 21:08:23
มีเหลืออีกสักเล่มมั้ยคะ
อยกได้มากเลย แต่ไม่ทันอ่า แงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 01-09-2011 23:21:05
กว่าจะอ่านจบ
สงสารฝุ่น TT
แต่ก้ดีใจที่จบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง ^^
ขอบคุณคนแต่งมากๆครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 02-09-2011 11:23:09
 :เฮ้อ: ในที่สุดก็จบแบบ แฮปปี้ ดีใจกับฝุ่นนะ แต่กว่าจะได้ยิ้มก็น้ำตาซึมไปหลายยก

ป.ล.อยากได้หนังสือบ้างอ่ะ เสียดายจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 02-09-2011 21:48:13
ขอบคุณมากๆ จ้า
แอบลุ้นสุดตัวว่าจะจบแฮปปี้ไหม ?
แต่สุดท้ายก็ผ่านอุปสรรคมาได้ แม้จะต้องทนทุกข์ทรมานกันแทบแย่
คุณยายที่ดูดวงให้ช่างแม่นแสนแม่น.......
พ่อแม่ก็หวังดีกับลูกเสมอ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความสุขของลูกที่สุดเช่นกัน ^^

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า สู้สู้ ++++
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 03-09-2011 11:38:14
ง่า ดีจัง จบแบบ happy ending สงสารฝุ่นมากเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 03-09-2011 14:19:01
ก่อนจะจบนี่เศร้ามากๆ สงสารน้องฝุ่น

ชีวิตรันทดจัง แต่ก็ดีนะที่ได้เจอทีม มันรักจริง

ส่วนเพื่อนพระเอกพี่ไกด์คนดีมากๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kakashiget ที่ 03-09-2011 19:45:19
อ้ากกกกกก   :z1: :z1: :z1: :z1:   ทีม-ฝุ่น น่ารักมากๆๆๆเลย ตอนหลังก็เศร้านะ ลุงสินไม่น่าทำอย่างนั้นเลย แต่ตอนหลังก็แฮปปี้แอนดิ้ง +1 จ้า   o13 o13 o13 o13  ชอบมากๆๆๆเลยค้าบๆๆๆ :3123: :3123: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :z13: :z13: :z10: :z10: :z2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 07-09-2011 23:30:25
สนุกมากๆค่ะ เขียนดีจัง

อยากให้ไกด์มีคู่จัง ดูเป็นคนตลกๆฮาๆ นิสัยน่ารักดี^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 08-09-2011 18:39:24
วันนี้ได้หนังสือแล้วค่ะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 10-09-2011 04:23:18
อุ๊ย!!!  แบบนี้เสี่ยงต่อการ ท้องก่อนเรียนจบจิงๆๆ นะครับบ  ทางที่ดีหาอะไรป้องกันไว้ด้วยละ


ขอบคุณครับบบ  สำหรับนิยายดีๆๆ  ชอบมากๆๆ ครับบ ทีเเรก นึกว่าจะไม่ได้อ่านจนจบซะเเล้ว  ขอบคุณจิงๆนะครับบบ     
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 10-09-2011 12:26:57
อ๊ะอา จบแล้วเหรอคะ ยังอึนอึน อยู่เลยอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kisssky ที่ 10-09-2011 16:56:56
ชีวิตฝุ่นน่าสงสารจัง ยิ่งตอนเด็กๆอาจแล้วน้ำตาเกือบไหลน่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 11-09-2011 23:44:58
ชีวิตฝุ่น อ่านแล้วร้องให้เลยครับ น่าสงสารมาก แต่ก็ดีแล้วเนาะ ได้เจอคนอย่างทีม

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 12-09-2011 14:24:44
ประกาศค่ะ

เราส่งหนังสือไปครบแล้วตั้งแต่ปลายอาทิตย์ก่อน
ถ้าถึงวันศุกร์นี้แล้วหากท่านใดที่ยังไม่ได้หนังสือ รบกวนแจ้งกลับทางอีเมลหรืออินบ็อกซ์หน่อยนะคะ เราจะไปตามให้ค่ะ :)

ขอบคุณมากค่ะ และขออภัยในความไม่สะดวก

eiizes
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 13-09-2011 22:37:44
เอ่อ  ขอสอบถามนะคะ   คือ...ถ้าอยากได้เรื่องนี้
มันยังทันไหมคะเนี่ยยยยย TOT~~~~
ทำไม  เรามาช้าอย่างเง้~~~~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 14-09-2011 18:36:52
ไม่ทันอ่า หนังสือหมดแย้วววว TOT
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 14-09-2011 18:46:57
อ่าค่ะ  ไม่เป็นไร (ปลอบใจตัวเอง)  เสียดายมากจริงๆ
ถ้ายังไง  จะรีปริ้นท์อีก  หรือมีเหลือ  ช่วยมาบอกกันหน่อยนะคะ 
อยากได้เรื่องนี้จริงๆ  จะรออ่านแบบรวมเล่ม

ปล.  เสียดายจริงๆ เฮ่อ ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: namnakxD ที่ 17-09-2011 00:02:37
อ่านทีเดียวจบ ชอบค่ะ :D
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: llPETCHll ที่ 18-09-2011 17:53:53
สนุกๆๆ มากกๆๆเลยคร๊าบบ

อ่านแล้วน้ำตาตกถึงสองรอบเลยทีเดียว ไม่ไหวแล้วววว

T____T สุดยอดดดดดดด !!~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 13-10-2011 23:13:49

เข้ามาอ่านจ้า
ตอนแรกนึกว่าจะดราม่าปวดตับยิ่งกว่านี้
เฮ้อออ แต่ก็ดีแล้วละคะ ไม่อยากเห็นน้องทรมานแล้ว
แค่ตอนที่ทอยู่เมกาก็ปวดใจจะแย่

ชีวิตคนเราเกิดมามีครั้งเดียว
ทำอะไรก็ทำเถอะ ถ้าหากว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้เดือดร้อนใคร

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
+1 ให้จ้า ^------^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 16-10-2011 23:03:41
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
่อ่านจบซะที อิอิ
สนุกดีนะ มีทั้งฮา เศร้า ซึ้ง
ไหนจะมิตรภาพระหว่างเพื่อนอีก
ตอนที่ลุงสินรู้เรื่องอ่ะ
สงสารฝุ่นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยอ่ะ
เพราะตอนนั้นทีมก็ไม่อยู่
น้องเลยตัดสินใจออกมาเอง T^T
ดีนะที่ไกด์บังเอิญเจอน้องอ่ะ
ไม่งั้นไม่รู้เมื่อไรทีมจะหาน้องเจอ.....
ปล. แอบชอบตอนพิเศษที่อยู่ช่วงแรก ๆ อ่ะ
น่ารักดี มีไปคล้องกุญแจกันด้วยอ่ะ ><~~~~~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 28-12-2011 18:42:43
นึกว่าจะมาม่าละ จบแฮปปี้ซะที
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 11-03-2012 19:52:29
เพิ่งได้อ่านจนจบครับ ชอบเนื้อเรื่องสไตล์นี้มาก ๆ เลย ^ ^" ฝุ่นเป็นเด็กที่น่าสงสารมากจริง ๆ แต่ในที่สุดก็ได้พบเจอกับความสุข
เล่าเรื่องได้ลื่นไหลมากเลยครับ ยูลน่าจะมีคู่เนอะ 5555555
ขอบคุณที่สร้างสรรค์เรื่องราวดี ๆ แบบนี้ขึ้นมา  :L1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 11-03-2012 21:47:05
ในที่สุดคุณพ่อก็ยอมแพ้เนอะ

ปล่อยให้ลุ้นตั้งนาน  :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nutclub ที่ 13-03-2012 23:01:36
สุดๆอ่ะ  ทั้งสุข  ทั้งเศร้า

ทั้งหัวเราะและร้องไห้

ขอบคุณที่เอานิยายดีๆ

มาแบ่งปันกันนะครับ

ขอบคุณมากๆครับ   o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-03-2012 03:02:54
สนุกมากกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณคุณเขียนมากๆจ้า มีทุกรสจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 14-03-2012 11:08:12
ฮู้วววววว ซึ้งดี

สงสารฝุ่นเนอะ แต่ก็จบอย่างมีความสุขแหละ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 15-03-2012 15:57:26
 :monkeysad: :impress2: o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mooz ที่ 16-03-2012 23:54:40
โฮ้วววววววว!!!   สุดท้ายก็ยอม 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 19-03-2012 09:51:16
เรื่องนี้มันใช่ๆๆๆ!!!
มาไม่ทันตอนพิมพืค่ะ แอบเสียใจ
แนวนี้เป็นแนวที่ชอบ
แต่ไม่ใชสิ่งที่ชอบหมด คคือรับไม่ได้กับเรื่อง
คนแรกและหลายยๆคน จะเลิกอ่านไปหลายที
แต่วา่ามันใช่ๆๆ อ่านแล้วหยุดไม่ได้
ชอบมากกกกกกกกกกกก น้องฝุ่นน่ารักมากอ่ะ
เวลาทีมแทนตัวฝุ่นว่าน้อง มันนน่ารักมากค่ะ
อ่านไปอินไปชอบบบบบ
ชอบพี่อ๋องกับสตังค์ด้วย อ่านไปปาดน้ำตาไป อยากไปกอดน้อง :กอด1:
ถ้าจะรีปริ้น ซื้อแน่นอนค่ะ ก๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 19-03-2012 13:29:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
ไปอ่านก่อนนะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 20-03-2012 15:46:18
ขอบคุณคุณเขียนมากๆจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 22-05-2012 23:06:57
บาป...หวานจริงๆเลย สงสารชีวิตน้องฝุ่นมากมาย ร้องไห้ไปหลายรอบ
รวมถึงน้องตังค์กับพี่อ๋องด้วย
แต่สุดท้ายก็กลับมาเข้าใจกัน น่าดีใจที่สุดเลย

ปล.เสียดายที่สั่งหนังสือไม่ทัน เค้าอยากได้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: netsu ที่ 27-05-2012 22:30:23
น่ารักมาก :impress2:
แต่แอบสงสารฝุ่นจัง ดูสิ ท่าทางจะซูบน่าดูเลย :sad11:
อย่างนี้ต้องให้ทีมขุนให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมซะแล้ว
 o22
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 30-05-2012 23:18:46
ยังจะมีรีปริ๊นอีกมั๊ยอ่ะคะ  อยากได้มากกกกกก   :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 31-05-2012 06:20:33
อยากได้ด้วย o18
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: shogun chai ที่ 31-05-2012 12:05:06
เศร้า....ซึ้ง
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gonna.be ที่ 31-05-2012 16:05:06
เสียใจทำไมเพิ่งเจอ อ่านวันเดียวจบเลย
อยากได้หนังสือ อยากอ่านตอนพิเศษ  :z3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ตอนจบ!!เปิดจองหนังสืออีกรอบจ้า♥ [25/07/11 up!! :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 01-06-2012 21:52:56
ถามค่าาา

มีใครอยากได้หนังสืออีกมั้ย ถ้ารวมกันเกิน 20 เล่มก็จะรีปริ๊นค่ะ อุอิ

ลงชื่อไว้นะคะ รบกวนคนที่คิดว่าเอาแน่นอนนะคะ :D ขอบคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 01-06-2012 22:39:28
ยกมือๆๆๆ  เอาแน่นอนค่าาาา ><,,     
คนเขียนใจดีม๊ากกกกกก จ๊วฟฟฟฟฟ      :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 01-06-2012 23:31:49
เอาด้วย +1 :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 02-06-2012 12:47:25
เอา 1 ชุดจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 02-06-2012 15:59:16
กระดาษทิชชู่หมดไปหลายม้วนแล้ว....
สงสารทุกคนเลยนะนี่.....
มาม่าแค่ไหนก็ยอมขอให้แฮปปี้ตอนจบเท่านั้นแหละ....
ขอภาคต่อได้มั๊ยเจ้าคะ?.........พิเศษก็ได้.........
ก็คู่นี้สุดจะน่ารักนี่นา...น๊าขอร้องได้ใจทุกห้องที่มีอยู่อ่ะ........ :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-06-2012 20:04:59
อยากบอกว่าสนุกมาก ตอนแรกที่ซื้อไม่ได้อ่านเลย จะขายด้วยแหล่ะ แต่พอหยิบมาอ่าน วางไม่ลงเลยค่ะ เกิน 20 รอบ แล้วมั้ง o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 02-06-2012 23:56:28
ราคาเท่าไรหรอค่ะ อยากได้มากกกก
ถ้าไม่รีบปิดจองในหนึ่งเดือน ก็ขอยกมือจองด้วยคนค่ะ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 03-06-2012 00:30:08
ยกมือรอค่า :) อยากได้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mulli ที่ 03-06-2012 00:41:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gonna.be ที่ 03-06-2012 15:28:53
เอาด้วย 1 เล่มค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 05-06-2012 00:18:13
สนใจค่ะ 1 เล่ม ถ้าหากได้จำนวครบเมื่อไหร่ แล้วจะพิมพ์ รบกวนแจ้งทาง PM ด้วยนะคะ เดี๋ยวจะลืม ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 07-06-2012 23:33:55
ถึง 20 เล่มยังอ่าาาา    อยากได้ๆๆๆ     :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lalalai ที่ 08-06-2012 09:13:53
สนใจ จองด้วยค่ะ 1 เล่ม

ส่งเมลไปถามจองด้วยอีกทางหนึ่งค่ะ ยังไงก็จะซื้อ จริงจังค่ะ  \(>0<)/
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 12-06-2012 01:03:36
เข้ามาดันสุดชีวิต!!   ยังอยากได้อยู่น๊าาา  เมื่อไหร่จะถึง 20 เล่มซะที
รอๆๆๆๆๆๆๆ     :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 12-06-2012 10:28:21
เอา 1 ชุดจ้า
 :m22:แอบมาดูว่าครบ 20 เล่มหรือยัง???
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tookujang ที่ 12-06-2012 11:26:15
ขอด้วย1ค่ะ ^^
 :3123:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 12-06-2012 11:49:57
จอง 1 ชุดค่ะ
  :mc4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mookiie ที่ 15-06-2012 00:43:06
มายกมือจองเล่มนึงนะคะ อยากได้เรื่องนี้เก็บไว้มาก ๆ
ครบ 20 เล่มเร็ว ๆ เถอดดดด ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 15-06-2012 13:34:31
จองด้วยค่ะ 1 ชุด ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: yakkaru ที่ 16-06-2012 08:25:07
เพิ่งได้อ่าน ชอบเรื่องนี้ค่ะ เนื้อเรื่องเรียบง่าย อ่านเพลินดี น้ำตาซึมเป็นบางช่วง ที่สำคัญพี่ทีมน่ารักสุดๆ

คู่อ๋อง-สตังค์ ส่วนตัวอ่านแล้วอยากกระโดดถีบหน้าอีพี่อ๋องมาก ตอนหลังคิดได้แต่เราก็หมั่นไส้อยู่ดี ต้องรอให้เสียเขาไปหรือไง?  ถ้าไม่ใช่สตังค์ ตัวแทนของความรักที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีใครเขาทนคบถึงสองปีหรอกค่ะ หล่อแต่สันดานเหี้ยจริงๆ

เรื่องนี้มีรายละเอียดอย่างอื่นที่น่าสนใจเยโดยเฉพาะตัวละครแต่ละตัว อาทิ เช่น ยุล เราสงสารเขานะ ทั้งๆที่รักฝุ่นมาตั้งนาน ถ้าน้าอิ่มไม่พากลับไทยก่อน คงรักกันไปแล้ว พอมาตามถึงไทยเจออย่างนี้เข้าไปอีก เป็นเราเสียใจนะ ทำอะไรก็ไม่ได้แล้ว เขารักคนอื่นไปแล้ว
อีกคนที่เราสนใจคือพี่ไกด์ค่ะ ศิราณี?ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักคนนี้ จะพอมีคนรักจะเป็นแบบไหนหนอ? แค่คิดก็น่าสนใจแล้วค่ะ *0*

อ่านเรื่องของคุณแล้วสนุกจริงๆ ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tamaki1 ที่ 21-06-2012 23:30:05
ขอด้วยฮับ >w<~ 1 ชุด
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 22-06-2012 15:24:14
ดันๆๆ  pm ไปยืนยันแล้วนะคะ ว่าอยากได้มากกกกกกกกกก
ครบ 20 เล่มเมื่อไหร่   บอกกันด้วยนะ 
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 25-06-2012 06:21:49
ชีวิตฝุ่นในวัยเด็กน่าสงสารมาก ๆ แต่ดีจังเลยนะที่มาเจอทีม แต่พ่อทีมใจร้ายเหมือนกันนะนั่น แต่ดีที่ในที่สุดพ่อทีมก็เข้าใจสักที
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nok03 ที่ 25-06-2012 20:37:38
จะสั่ง 1 เล่มอ่ะคร้าบ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคร้าบ มีวิธีสั่งจองยังไงหรอคร้าบ ??
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 25-06-2012 23:01:43
จะสั่ง 1 เล่มอ่ะคร้าบ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคร้าบ มีวิธีสั่งจองยังไงหรอคร้าบ ??

ตอบไปทางข้อความแล้วนะคะ :D
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 26-06-2012 19:50:58
เราอยากได้ 1ชุดค่ะ แต่ไม่รู้สั่งจองอย่างไร พยายามหาอีเมล์แต่ไม่เจอเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 26-06-2012 22:15:48
เราอยากได้ 1ชุดค่ะ แต่ไม่รู้สั่งจองอย่างไร พยายามหาอีเมล์แต่ไม่เจอเลย

ตอบไปทางพีเอ็มแล้วนะคะ <3
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gonna.be ที่ 29-06-2012 22:48:40
อยากสั่งด้วยอ่ะค่ะ เเต่ไม่รู้วิธีเหมือนกัน  :sad4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 30-06-2012 23:21:23
ชื่อผู้สั่งจอง  จำนวนเล่ม  แล้วก็อีเมล  ส่งไปทางพีเอ็มหรอคะ?  แล้วต้องใส่เมลล์ให้ด้วยเลยใช่รึป่าว
เพิ่งเคยสั่งครั้งแรกอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 02-07-2012 00:51:27
ชื่อผู้สั่งจอง  จำนวนเล่ม  แล้วก็อีเมล  ส่งไปทางพีเอ็มหรอคะ?  แล้วต้องใส่เมลล์ให้ด้วยเลยใช่รึป่าว
เพิ่งเคยสั่งครั้งแรกอ่ะค่ะ

ส่งมาทางพีเอ็มก็ได้ค่ะ :D รายละเอียดเช่น ชื่อผู้จอง จำนวนเล่ม อีเมลที่ใช้ รบกวนระบุมาเลยนะคะ ขอบคุณมากค่าาา จุ๊บุจุ๊บุ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 03-08-2012 23:44:45
จอง 1 ชุดจ้า...pm รายละเอียดมาเลย :haun5:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจองเก็บตกอีกรอบนึงค่ะ♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: niji-fa ที่ 05-08-2012 09:26:11
สนุกมากเลยค่ะ ><
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nok03 ที่ 22-08-2012 18:32:07
คริ คริ ได้รับหนังสือแล้วคร้าบบบบบบ  :impress: ปลื้มปิติมากกกก ถ้ามีเรื่องไหนจะออกเป็นหนังสืออีก ช่วยบอกด้วยนะคร้าบบบบ  กลัวจามไม่ทันนนนน  :serius2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 22-08-2012 22:50:22
คริ คริ ได้รับหนังสือแล้วคร้าบบบบบบ  :impress: ปลื้มปิติมากกกก ถ้ามีเรื่องไหนจะออกเป็นหนังสืออีก ช่วยบอกด้วยนะคร้าบบบบ  กลัวจามไม่ทันนนนน  :serius2:

ขอบคุณมากค่าาา :D
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 22-08-2012 23:23:19
ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: vocaloid ที่ 23-09-2012 19:41:05
ตอนนี้ยังมีหนังสือเหลืออยู่ไหมค่ะ?
คือ เพิ่งเข้ามาอ่าน แต่อยากซื้อหนังสือเก็บไว้มากกกกกก
เรื่องนี้สนุกมากก o13 จะมีรีปริ๊นอีกรอบไหมค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 26-09-2012 22:38:20
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ปนฮาๆ นะคะ
ทีมฮาตลอด ปล่อยมุกตลอด
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 29-09-2012 16:06:50
จบแฮปปี้น้องฝุ่นก็เจอความรักที่คอยให้ความอบอุ่นและเป็นที่พักพิงซะที
ทีมค้นหาตัวเองเจอว่าต้องการอะไรและเตรียมความพร้อมนานมากกว่าจะเจอกัน
ขอบคุณมากๆคะสำหรับเรื่องสนุกน่าอ่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 29-09-2012 23:27:37
เลิฟๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: HoAo ที่ 30-09-2012 00:02:23
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ :pig4:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 30-09-2012 10:51:51
อยากอ้อนวอนขอร้องคนแต่จัดรีปริ๊นอีกรอบเถอะนะค่ะ :sad4:
เห็นใจป้าแก่ๆคนนี้อีกคนเถอะนะ ป้ามาช้ามากก ไม่เห็นตอนที่คนแต่งรีปริ๊นรอบที่แล้วจริงๆ
ป้าอยากได้หนังสือเรื่องนี้มากกกก :m5:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: cokebundit ที่ 11-05-2013 00:54:13
 :z3: เห็นรูปเล่นแล้วอยากได้บ้างอ่ะ  :ling1:

 :fire:  :m31:  :m16:  :3125:  :angry2:  :serius2:

 o13 ขอบคุณนะคับสำหรับนิยาย  :bye2:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 30-05-2013 19:18:15
อ่านรวดเดียวจบม้วนเลย
วู้ว กว่าทีมจะแอบขโมยสะใภ้ไปอยู่บ้านที่สร้างเองได้
เล่นเอาคนอ่านลุ้นกันไปหลายรอบ
เศร้ากันไปหลายยก

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: houkuto ที่ 20-07-2013 15:05:03
สนุกมากค่ะ  น้องฝุ่นน่าเอ็นดู :o8:

แต่สงสารน้องสตางค์ อ่ะ พี่อ๋องใจร้าย กว่าจะรู้ตัว :o12:

ขอบคุณมากๆสำหรับนิยายดีๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 21-07-2013 00:40:32
แปลกใจมากๆเลยจำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้แล้วทำไมไม่มีคอมเมนต์ขอบคุณไว้เลยมาอ่านใหม่ก็เหมือนกับเคยอ่านแค่ตอนแรกๆแล้วทำไมไม่อ่านให้จบงกับตัวเองมากๆ พอมาตอนนี้ได้อ่านจนจบแล้ว
เลยมาขอบคุณคนเขียนอย่างเป็นทางการ อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 23-07-2013 02:35:49
 :pig4:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 24-07-2013 19:01:09
สนุกมากก ชอบทุกคนเลย
ชอบมิตรภาพระหว่างเพื่อน ที่ไม่ทิ้งกันไม่ว่าจะยามไหนก็ตาม
ชอบทีมที่รักฝุ่นด้วยหัวใจที่พร้อมทำทุกอย่าง รวมทั้งฝุ่นเองด้วย
และคนแบบอ๋องที่ทุกวันนี้มีอยู่เยอะมาก

ขอบคุณนะค่ะ สำหรับนิยายดีๆที่แต่งมาให้อ่าน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 26-07-2013 04:39:17
ขอบคุณคร่า ชอบมากๆ เลย แต่อยากอ่านเรื่องของพี่อ๋องกะน้องตังค์อ่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 27-07-2013 21:08:07
กรี๊ด + 1 คร๊า
สนุกและน่ารักมากๆ ครบรสเลยอ่ะ
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 01-08-2013 17:12:23
ขอบคุณที่จบแบบแฮปปี้ๆๆๆๆ  :pig4:

พี่ทีมเป็นผู้ชายที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณทีมที่รักฝุ่น   :mew1:

ฝุ่นน่าสงสารจัง  แต่สุดท้ายก็ได้รักกับทีม   :mew6:

ตอนจบ งงๆนิดหน่อย นาจะมีค่ออีกนิดนะคะ  :pig4:

อยากอ่านเรื่องของ น้องสตางค์ กับพี่อ๋อง อะ   :mew2:

สุดท้ายขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องนี้ให้เราได้อ่านกัน  สนุกมากคะ   :pig4:      :pig4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 14-09-2013 23:49:19
เรื่องนี้สนุกมาก เรียกน้ำตาได้หลายตอนเลย
ยิ่งตอนพี่อ๋องน้องตังค์นะ ซึ้งฝุดๆ
พี่ทีมกับฝถ่นก็ซึ้งพอตัว แอบไม่ชอบลุงสินเบาๆ อยากกระโดดกัดหูมาก พูดจาไม่ดีใส่ฝุ่น ชิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 16-10-2013 16:30:08
สนุกมากๆๆๆๆ
อ่านไปอ่านมารู้สึกพี่ไกด์จะเป็นตัวหลักนะ
ช่วยเค้าทุกคู่
อยากรู้ว่าพี่ไกด์จะคู่กับใครจัง
มีภาคต่อของพี่ไกด์มั้ยคะ
อยากให้มีมากๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 12-04-2014 02:09:38
ชีวิตฝุ่นน่าสงสารมาก  ครอบครัวที่ฝุ่นหวังก็พังลง ลุงสินที่ขยั้นขยอให้ฝุ่นมาอยู่ด้วยแต่แรกก็ให้ฝุ่นออกไปอยู่คนเดียวได้ง่ายๆ น้าอิ่มที่ว่ารักและดีกับฝุ่นเหมือนแม่คนที่สอง แท้จริงแล้วอาจแค่สงสารฝุ่นในตอนแรก พอมีครอบครัวมีลูกของตัวเอง น้าอิ่มก็ไม่ต่างจากแม่ของฝุ่นสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้ว คนที่รักฝุ่นมากที่สุดก็เป็นทีมกับยูล อยากให้ยูลมีคู่จัง
คู่พี่อ๋องสตังค์ พี่อ๋องเป็นตัวละครที่มีความเสหมือนจริงของผู้ชายในโลกแห่งความเป็นจริงมาก ถึงจะมีแฟนแล้วแต่ก็สามารถกิ๊กกั๊กหรือแม้กระทั่ง 'นอน' กับคนอื่นได้ ในขณะที่ สตังค์ก็เหมือนตัวแทนของแฟนหรือภรรยาที่แสนดีที่ยอม 'ทน' รอสามีกลับบ้านอย่างเงียบๆ ผิดตรงที่ว่า น้อยนักที่คู่ในชีวิตจริงจะจบเหมือนในนิยาย เฮ้ออ อ่านไปหน่วงไป แต่ชอบ อิอิ
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 13-04-2014 19:00:58
อ่านจบแล้วววววภายในคืนเดียว 5555 สนุกมากค่ะ น้องฝุ่นน่าสงสารจัง ส่วนพี่ทีมน่ารักน่าถีบตลอดเวลา อิอิ คู่อ๋องกับสตังค์นี่เรียกน้ำตาเราเลยอ่ะ สงสารน้องสตังค์ รับรู่มาตลอดว่าแฟนนอกใจแต่ก็ยังทน ทน.. เพราะรัก อยากจะเข้าไปกระโดดถีบอิพี่อ๋องซัก 30 ที

ปล. รอเรื่องใหม่ของคุณไอซ์นะค้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 15-04-2014 14:41:08
สนุกมากเลย หวานเวอร์อ่ะ

แต่แอบเศร้าไปหลายตอน T^T

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-04-2014 10:30:43
สนุกมากเลยจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 19-04-2014 02:34:38
 :mew1:สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ (แอบร้องไห้จนตาบวมเลยอ่ะT^T) :hao5: :mew6:
อยากได้รวมเล่มมากๆๆๆๆเลยค่ะ เพิ่งได้เข้ามาอ่าน แต่ตอนจบมันดูเร็วไปมั๊ยอ่ะ??! :hao5: :sad4:
เพิ่งจะได้มีความสุขเองอ่าาาาาาา อยากได้ตอนพิเศษษษษษษ~  :hao5: :katai1: :ling1:

ป.ล.สุดท้ายนี้.....ต้องขอบคุณพี่ไอซ์มากๆนะค่ะที่เขียนนิยายดีๆให้อ่าน(แม้หนูจะมาช้ามากก้เถอะ!!!!!!) :serius2:
ให้ได้มาเจอทีม  กะ  ฝุ่น น่ารักมากๆค่ะ ^O^  :impress2: :-[ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: madamtokjai ที่ 23-04-2014 20:26:02
เปิดแอคเค้าท์มาอ่านเลยนะเนี่ยยยยย จิ้มๆ ก่อนอ่านค๊าาาาา~~~~~~~~~~~
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: tpaibull ที่ 29-04-2014 23:20:33
ดีใจที่น้องฝุ่นได้หยุดมรสุมชีวิตซะที ลำบากมาตลอด
สนุกมากๆครับ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 20-09-2014 00:19:52
ฉันไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งมาเจอออออออออออออ เรื่องนี้
กว่าจะได้มาอ่านก็จบไปหลายปี งือออออออออออ
ชอบทีม รักฝุ่น (ลำเอียง) รู้สึกว่าไกด์น่าจะมีคนดี ๆ เข้ามาบ้างนะ เพื่อนพระเอก สุดยอดดดดด
ขอบคุณคนแต่งมากค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 08-10-2014 22:34:44
ตามมาจากกระทู้แนนำเรื่องนี้ต้องอ่านในเล้าอ่านสามตอนแรกสนุกมากคะภาษาดีแต่แนวบีบหีวใจมาแต่ต้นเรื่องเลย ไปอ่านต่อก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 10-10-2014 07:26:37
อ่านจบแล้ว อิอิ ชอบภาษาและการดำเนินเรื่องนะคะ สนุกมากเลย พี่ทีมอบอุ่นน่ารัก รักน้อง
สงสารชีวิตฝุ่นช่วงแรกๆ คะ แต่ดีที่มีพี่ทีมเขามา   ชอบคู่พี่อ๋องน้องตังค์ด้วย เกือบไปซะแล้วซินะ
เพื่อนไกด์น่ารักช่วยเหลือเพื่อน กะ แฟนเพื่อนตลอด  ก็ขอขอบคุณนะคะ ที่แต่งนิยายสนุกให้อ่าน แต่เสียดายเข้ามาเมื่อสายไม่ทันรวมเล่มอ่า เสียดายจริงๆนะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 13-10-2014 16:56:38
สนุกมากกกกครับ ชอบเรื่องนี้จัง ขอบคุณผู้เขียนสำหรับนิยายดีๆครับ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 04-11-2014 21:04:28
หนุกๆๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน เปิดจอง สี่เล่มสุดท้ายยยยยยยย ไม่มีอีกแล้ววว♥ [01/06/12 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 12-11-2014 13:12:00
กรีดๆๆๆๆ ได้ใจมากเเม่นเหมือนที่หมอดูบอกเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 14-12-2014 20:50:52
พีเอ็มไปแล้วนะคะดีใจที่จะมีการรีปรินซ์ค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-12-2014 10:49:19
เรื่องนี้สนุก สนุกมากอ่านรวดเดียวจบเลย แต่ตอนจบห้วนๆไปหน่อย อยู่ๆก็ตัดไปซะงั้น ๕๕๕๕๕ 
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 16-12-2014 14:19:53
สนใจค่ะแต่เล่มเก่าก็จะเก็บไว้
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 16-12-2014 20:02:43
สนใจจ้า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 17-12-2014 12:25:17
สนุกมากค่ะ เป็นเรื่องที่อ่านง่าย ไม่เบื่อ น่าติดตามทุกตอน ครบทุกรสชาติ ดราม่ากำลังดี
บางตอนอ่านแล้วยิ้มตามเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 17-12-2014 18:00:53
สนใจค่า รีแล้วแจ้งด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: jambool ที่ 17-12-2014 22:50:10
 :L2: สนุกมากเลยค่ะ
ดีใจกับ ทีมและฝุ่น ในที่สุดก็มีความสุข
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 20-12-2014 19:25:05
 :mew3: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: littletwinstar. ที่ 10-01-2015 21:36:49
รีเเล้วรบกวนแจ้งข่าวหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 10-01-2015 23:10:53
ใช่คะรอข่าวของพี่ทีมและน้องฝุ่นนะค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 15-01-2015 17:02:46
ขอบคุณสำหรับข้อมูลการจองค่ะส่งเมล์ไปแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 16-01-2015 17:44:44
 :ling1: :ling1: จบแล้วววว สนุกคะ ชอบบบ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 21-01-2015 10:31:50
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ
ชอบทั้งทีมทั้งฝุ่นเลย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 05-04-2015 01:23:28
สงสารน้องฝุ่นแบบเปิดเผย?
ตาทีมนี่ก็กระไร แอบพาน้องฝุ่นมาอยู่ด้วย เดี๋ยวพ่อรู้ก็เป็นเรื่องอีกหรอก
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 05-04-2015 22:51:47
อยากได้อ่ะต้องทำไง เพิ่งเข้ามาอ่านแต่ชอบ >~<!!
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 07-04-2015 18:25:31
เรื่องสนุกมากเลย ขอบคุณสำหรับความหวาน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-11-2015 00:46:53
สนุกมากค่ะ อ่านไปน้ำตาซึมไปหลายตอนเลย
ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-01-2016 22:54:00
คิดถึงพี่ทีมกับน้องฝุ่น
เลยกลับมาอ่านอีกรอบ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [14/12/14 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 13-01-2016 10:35:00
จบสวยย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 17-01-2016 20:14:39
ถ้าเราจะเอาแต่ตอนพิเศษ
อย่างเดียวค่ะ เพราะเรามี
หนังสือแล้ว
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 29-01-2016 22:18:41
รอเล่มค่า
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 30-01-2016 14:55:28
ขอทำสารบัญให้นะ

ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1226612#msg1226612)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1229146#msg1229146)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1234258#msg1234258)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1242907#msg1242907)
ตอนที่ 5.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1251561#msg1251561)
ตอนที่ 5.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1262066#msg1262066)
ตอนที่ 6.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1270063#msg1270063)
บาป...หวาน Special Merry Married Christmas (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1271864#msg1271864)
ตอนที่ 6.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1279461#msg1279461)
ตอนที่ 7.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1285759#msg1285759)
ตอนที่ 7.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1289395#msg1289395)
ตอนที่ 8.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1296332#msg1296332)
ตอนที่ 8.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1297132#msg1297132)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1301734#msg1301734)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1308467#msg1308467)
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1313141#msg1313141)
ตอนที่ 12.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1322707#msg1322707)
ตอนที่ 12.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1323652#msg1323652)
ตอนที่ 13.1 ทะเล๊ ทะเล!! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1341421#msg1341421)
ตอนที่ 13.2 ทะเล๊ ทะเล!! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1342393#msg1342393)
ตอนที่ 14 เมื่อรักเรา...มาถึงจุดเปลี่ยน (อ๋องกับสตังค์) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1351706#msg1351706)
ตอนที่ 15 เมื่อรักเรามาถึงจุดเปลี่ยน (อ๋องกับสตังค์ ตอนต่อ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1356263#msg1356263)
ตอนที่ 16 ถ้าเธอนั้นนอกใจฉัน!? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1372126#msg1372126)
ตอนที่ 17 ก็ง้อแล้วอ้ะ จะให้ทำไงล่ะ!? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1379951#msg1379951)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1386310#msg1386310)
ตอนที่ 19 เมื่อชีวิตต้องเลือก! PART FHOON (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1419834#msg1419834)
ตอนที่ 19 เมื่อชีวิตต้องเลือก! PART TEAM (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1445966#msg1445966)
ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20123.msg1568759#msg1568759)
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-01-2016 20:32:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 12-02-2016 20:57:03
คิดถึงฝุ่นค่ะ อยากได้เล่มแล้ว555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eddiam ที่ 12-02-2016 23:30:31
มารอเล่มเฉพาะตอนพิเศษด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 10-03-2016 22:00:12
เปิดเรื่องมาแบบหน่วงเราก็เลยคิดจะดราม่าหนักเลยเตรียมใจหน่วงไว้รอ แต่พออ่านแล้วก็ไม่หนักเกินไปอย่างที่คิด ดราม่ากำลังพอดี สนุกดีนะเรื่องนี้

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: beer9999 ที่ 25-03-2016 01:22:06
กดไลค์เลย ชอบๆ แต่แอบสงสารฝุ่นนะ สงสารไกด์ด้วยไม่มีคู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: eiizes ที่ 29-03-2016 23:36:59
กดไลค์เลย ชอบๆ แต่แอบสงสารฝุ่นนะ สงสารไกด์ด้วยไม่มีคู่ อิอิ

ไกด์มีคู่นะคะ แต่เป็นในตอนพิเศษค่า ;v;
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 30-03-2016 13:35:32
เราจองหนังสือตอนนี้ทันอยู่หรือเปล่าเอ่ย
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 06-10-2016 12:54:48
ไม่นึกว่าทีนจะหื่นขนาดนี้ นี่ทีนพาร์ทเองเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-10-2016 17:52:10
ฝุ่นตอนแรกมาสีอึมๆครึมๆ พอได้แลกน้ำลายกับทีมบ่อยๆสีเริ่มสว่าง สดใส ขึ้น :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 10-10-2016 11:18:59
นารักมากอ่า พี่ทีมน้องฝุ่น :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 10-10-2016 11:48:47
เอิ่มตังค์ลูก คิดหน่อยสงสารหัวใจตัวเองหน่อยลูก ถึงจะรักมากขนาดไหนแต่ถ้าโดนทำร้ายใจขนาดนี้หนูยังจะคบอยู่รึลูก  คนเรานะเจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย ค่ะลูก  :o12:
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 10-10-2016 16:43:37
จะมีการเปิดจองอีกรอบไหมครับ อยากได้มากๆเลยครัุบ คราวที่แล้วจองไม่ทัน
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 31-12-2017 17:56:20
 :fire: :fire: :fire:ๅ แอบรักเขาละ5555
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-02-2018 02:37:29
มาอ่านอีกครั้งในรอบ6ปี
เสียน้ำตาให้น้องสตังค์ไปซะเยอะ
พี่อ๋องแม่งเลว สันดานมันเลิกไม่ได้ง่ายๆหรอก!!

ส่วนคู่หลัก พึ่ทีมน่ารักมากๆๆๆ รักจริงจัง ชัดเจนตลอดๆ ชอบอ่ะ
ชีวิตน้องฝุ่นโครตน่าสงสารอ่ะ ไม่เกเรมากกว่านี้ก็ดีเท่าไรแล้ว
ไม่รู้แม่คิดยังไง รักลูกบ้างซักนิดไหมนะ
โชคดีที่มาเจอพี่ทีม แม้จะมึดราม่าครอบครัวให้น้ำตาอิคนอ่านไหลพรากๆ
แต่ก็จบแฮปปี้ล่ะนะ ^^
หัวข้อ: Re: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 20-09-2019 20:18:08
ไม่บาปเลยยยยยยย แต่หวานนนนอย่างเดียว สนุกมาก ดีใจกับฝุ่นที่มาเจอพี่ทีม มาอยู่กับน้าอิ่มแม้ลุงสินจะขัดขวาง แต่รักกันแท้ก็เอาชนะทุกอย่าง ไฮไฟว้!! สนุกกกกก