บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]  (อ่าน 324912 ครั้ง)

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0















   ความรัก...




   เป็นคำจำกัดความของกับดักที่วาบหวามทว่าอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด ใครที่ติดอยู่กับวังวนนี้ยากที่จะหลุดออกมาโดยปราศจากรอยแผล หลายคนได้รับบาดเจ็บทางกาย แต่หลายคนกลับเจ็บลึกที่ตรงจิตใจ



   ถึงอย่างนั้น...คนส่วนใหญ่กลับยอมเจ็บตัวเพียงเพื่อให้ได้รู้จักลิ้มลองกับมันสักครั้ง...


   ตัวผมในตอนนั้นก็เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่ไม่รู้จักกับพิษสงที่ร้ายแรงของความรัก มัวแต่หลงใหลเมามัวไปกับรสสัมผัสที่น่าลิ้มลอง หลงผิดไปว่าความรักคือความสวยงามของชีวิต ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความวาบหวามที่ไม่เคยได้รับ กว่าจะทันได้รู้ตัวว่าความรักเป็นเพียงอีกหนึ่งใยแมงมุมที่ยึดแมงเม่าแสนโง่อย่างผมไว้เป็นเหยื่อ...




   ผมก็ได้รับบาดเจ็บจากมันเสียแล้ว


   .


   .


   แม้ผมจะเป็นเพียง “ฝุ่น” ที่ไม่มีใครสังเกตหรือมองเห็น...แต่ผมก็ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าความรัก มันสวยงามและเจ็บปวดเพียงไร


   .


   .


   .



   มีนาคม 2550


   ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน


   ไม่เพียงแค่วันนี้ แต่ในทุกๆ วันตั้งแต่ผมเริ่มเรียนรู้กับคำว่า หายใจ ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงสัตว์โลกที่เกิดขึ้นมาและพร้อมจะตายลงในนาทีใดนาทีหนึ่งข้างหน้า ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครสนใจ เหมือนกับชื่อของผมเอง


   ครับ...ผมชื่อ “ฝุ่น” เพียงแค่เศษฝุ่นที่ไม่มีใครสนใจเสมอมา และคงเป็นแบบนี้ตลอดไป


   แม้แต่ในงานแต่งงานของผู้หญิงที่เคยเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมเกิดจนถึงก่อนช่วงที่ผมจะไปอเมริกาอย่างน้าอิ่ม ผมก็ยังคงรู้สึกเช่นนั้น ทุกคนในงานแย้มยิ้มด้วยความยินดีและเปี่ยมสุข เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแลดูเหมาะกันอย่างมาก ด้วยความที่ครอบครัวของผมแต่เดิมนั้นนับถือศาสนาคริสต์ ทำให้เจ้าบ่าวของน้าอิ่มตัดสินใจจัดพิธีแต่งงานในโบสถ์เพื่อคนที่เขารัก ผู้ชายคนนี้ หรือชื่อที่น้าอิ่มแนะนำผมว่าเขาชื่อลุงสิน อายุมากกว่าน้าอิ่มถึงสิบสองปี แต่กลับดูไม่แก่ตามอายุเท่าใดนัก อาชีพการงานก็ดี เสียแค่ว่าเขาเคยแต่งงานและมีลูกชายวัยไล่เรี่ยกับผมติดมาอีกหนึ่งคน


   สถานที่จัดพิธีแต่งงานนั้น เป็นโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในย่านสามเสน มันต้องเข้าซอยไปลึกมากพอสมควรจนผมคิดว่าเราจะไปโผล่ที่ใจกลางโลกกันเสียแล้ว แต่กลับมีโบสถ์ขนาดใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ สองข้างขนาบด้วยโรงเรียนประถมและมัธยม ตามที่น้าอิ่มบอกมาคร่าวๆ ว่า หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีแต่คนนับถือศาสนาคริสต์แบบเดียวกับเราแทบทั้งหมด โบสถ์ที่นี่เลยค่อนข้างใหญ่เพราะชาวบ้านแถวนี้ต่างมีจุดศูนย์รวมที่โบสถ์


   หลังจากพิธีทางศาสนาจบลงแล้ว ทุกคนก็เริ่มทยอยกันออกมาที่ด้านนอกซึ่งเป็นลานกว้าง ตัวลุงสินและน้าอิ่มยังยืนอยู่บนบันไดโบสถ์เพื่อเตรียมจะโยนดอกไม้ แน่นอนว่ามีแต่สาวๆ และเพื่อนๆ ของน้าอิ่มเข้าไปยืนออกันเพื่อเตรียมรับ


   เท่าที่ได้ยินมา ถ้าใครได้ดอกไม้ช่อนี้ไป จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป...มันก็คงดี ถ้ามีคนที่เรารักอยู่ข้างๆ นะผมว่า แต่ถ้ามองอีกที...อยู่ตัวคนเดียวมันก็อาจจะดีกว่าก็ได้


   ตัวผมที่ใส่สูทเป็นกึ่งทางการในตอนนั้นก็ทำได้แค่ยืนเป็นตัวประกอบอยู่ที่มุมหนึ่งเท่านั้น ไม่แม้แต่จะเข้าไปแย่งดอกไม้หรือว่าถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้นผมไม่มีความรู้สึกใดๆ เกี่ยวกับพิธีการแต่งงานบ้าบออะไรนี่ มันก็แค่พิธีอีกอย่างหนึ่งที่บอกทุกคนที่มาร่วมงานว่าต่อจากนี้ไป ฉันไม่โสดแล้วนะ


   ผมมองเพื่อนของน้าอิ่มที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความสุขและสนุกสนานยามเธอได้ดอกไม้ไปครองสมใจ พวกเขายืนถ่ายรูปกันอีกพักใหญ่ กว่าน้าอิ่มจะเริ่มรู้ตัวว่าตัวประกอบในงานแต่งงานของเธอหายไปจากฉาก น้าสาวของผมที่ยังยืนอยู่บนบันไดโบสถ์ข้างๆ ว่าที่สามี หันรีหันขวางจนเธอหันสบตากับผมที่ยืนห่างออกไป ร่างเล็กในชุดเข้าสาวแสนสวยถึงได้วิ่งลงจากบันได


   ไม่เกินอึดใจ ข้อมือที่ถูกล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกงของผม ก็ถูกนางเอกของงานดึงขึ้นพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุข เธอบอกผมว่า


   “ฝุ่น! มาถ่ายรูปกับน้าสิ”


   ผมนึกอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียจริงๆ ยิ่งทุกคนที่แหวกทางให้เจ้าสาววิ่งตรงเข้ามาดึงผมไปร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดีกับเธอนั้น ต่างยิ้มอย่างขำขันให้กับความน่ารักปนซนๆ ของน้าอิ่ม


   บอกตามตรง...ผมไม่ชอบการถ่ายรูป เพราะผม...รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าพอจะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของใครทั้งนั้น...


    ใช่ว่าผมจะไม่ยินดีที่น้าตัวเองแต่งงาน กลับกัน ผมกลับยินดีมาก ที่จะมีใครสักคนเข้ามาดูแลน้าอิ่มผู้แสนดีของผมอย่างจริงใจ ไม่ว่าเขาจะเคยแต่งงานหรือมีลูกมาก่อนก็ตามที
   


   งานเลี้ยงรับรองแขกหลังจากพิธีสำคัญในโบสถ์จบลงถูกจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนข้างๆ นั่นเอง เพลงรักหวานแหววแบบที่เคยได้ยินจากในละคร หรือภาพยนตร์ถูกเปิดบรรเลงคลอเบาๆ ตลอดงาน น้าอิ่มกับลุงสินเดินถ่ายรูปกับแขกทุกโต๊ะ พร้อมทักทายทุกคนอย่างสนิทสนม เป็นผมอีกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินที่แปลกแยกออกมาจากทุกคน


   ผมสะอิดสะเอียนกับความอึดอัดจนทนไม่ไหวถึงได้ลุกออกมาจากงานเสียดื้อๆ และในครั้งนี้น้าอิ่มก็คงออกมาตามผมไม่ได้ เพราะเธอเองก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นกัน


   ผมล้วงบุหรี่ที่ถือติดมาจากอเมริกาออกมาจุดสูบอย่างไม่คิดจะสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ใกล้ๆ กันมีสุนัขจรจัดอยู่ตัวหนึ่ง มันเดินเข้ามาดมๆ ใจจริงก็นึกอยากจะเตะให้มันไปไกลๆ แต่มันเองก็คงหดหู่ในความเป็นหมาอยู่แล้ว ก็...ช่างมันเถอะครับ โปรดสัตว์บ้าง



   “ฝุ่น..ใช่ไหม”


   เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทักอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ทำให้ผมพ่นควันบุหรี่ใส่อากาศเบื้องหน้า แล้วหันกลับไปมอง...ลูกชายของน้าสินนั่นเอง ผมจำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร ทิว? ทิม? ทีม? หรือห่าอะไรนี่แหละ


   ที่จริงหน้ามันผมก็เคยเห็นก่อนหน้าวันนี้ก็แค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นเอง แต่ที่จำได้ก็เพราะน้าอิ่มชอบพูดถึงมันเสมอ ว่าไอ้เหี้ยนี่จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีให้ผมได้แน่ๆ


   “มีอะไร” ผมถามออกไป ก็รู้นะครับว่ามารยาทของประเทศไทยเราต้องเคารพคนที่อายุมากกว่า แต่จากการสังเกตโดยรวมบวกสันดานเหี้ยๆ ของผมแล้ว ต่อให้มันอายุมากกว่าผมก็ไม่ได้มากไปกว่ากันสักเท่าไหร่นัก ผมจะพูดห้วนๆ แล้วมันจะทำไม


   “เปล่า ก็เห็นนายเดินออกมาเฉยๆ ข้างในเพิ่งเริ่มเสิร์ฟอาหารหลักเองนะ ยังมีขนมหวานอีก ไม่เข้าไปทานหน่อยเหรอ เห็นน้าอิ่มบอกว่านายชอบกินทับทิมกรอบ เลยสั่งมามากเป็นพิเศษเพื่อนาย” มันยิ้มกว้างตอนบอกผม...นี่มึงพูดติดๆ กันโดยไม่เว้นช่วงหายใจแบบนี้ เอาผิวหนังหายใจรึไงวะ


   “เรื่องของกู” ผมตอบไปเนิบๆ เหมือนเป็นประโยคเช่นว่า..ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากกิน แต่ดูจากท่าทางแล้วฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่คุณหนูอะไรมาก เพราะมันก็ไม่ได้สะเทือนกับคำหยาบของผมแม้แต่น้อย


   “หึ..ก็จริง แต่วันนี้วันดี ก็ยิ้มบ้าง หน้าตาก็ไม่ได้แย่อะไร ทำไมไม่ค่อยยิ้มเลย”


   นี่มึงด่าหรือชมกูเนี่ย...


   “ไอ้เหี้ย กูบอกว่าเรื่องของกู อยากแดกของหวานก็เข้าไปแดกคนเดียว ปากมึงไม่ได้ดูดอยู่กับปากกู กูจะดูดบุหรี่ อย่ามากวน” ผมพูดยาวๆ ใส่มัน แม่งพูดมากน่ารำคาญจริง


   “ฝุ่น...มึงด่ากูเนี่ย รู้จักชื่อกูรึยัง” รู้ทันกูอีก...


   “กูต้องจำด้วยเหรอ ชื่อมึงเนี่ย” น้ำจะขุ่นก็ปล่อยมัน อย่าได้แคร์


   “มึงจำไม่ได้ก็บอกมา” มันบอกพร้อมหัวเราะ แล้วแบมือมาตรงหน้าผม “ขอบุหรี่มวนนึง”


   “เด็กดีเค้าไม่สูบบุหรี่กัน” ผมบอกแล้วกระตุกยิ้มเย็นๆ แต่ไอ้เหี้ยทิว ทิมอะไรนั่นแม่งกลับยังแบมืออยู่ต่อหน้า แล้วกลอกตากลับไปกลับมา ระหว่างมือมันกับหน้าผมอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกเซ็ง เลยกระแทกซองบุหรี่พร้อมไฟแช็คใส่มือมันอย่างจำใจ


   “มึงดีใจมั้ย ที่ได้กลับมาไทย” อยู่ๆ มันก็เปลี่ยนเรื่องคุยเสียอย่างนั้น เป็นรถนี่คว่ำแล้วนะ ไอ้ห่า


   “ทำไมกูต้องบอกเรื่องของกูกับคนที่กูไม่รู้จักชื่อด้วย” กร๊ากก หลุดปาก


   “หึหึ กูชื่อทีม...จำไว้นะฝุ่น กูจะบอกมึงแค่ครั้งเดียว” มันยิ้มกว้าง ก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นจดปาก แล้วพ่นควันออกมาช้าๆ “มึงยังไม่ตอบกูเลย ว่าดีใจมั้ย ได้กลับมาบ้านที่ไทย”


   “ถ้ามึงหมายถึงกูดีใจมั้ยได้เปลี่ยนที่ซุกหัวนอนใหม่...กูตอบมึงไม่ได้หรอก ไว้ให้กูลองไปซุกหัวนอนที่บ้านแสนสุขของมึงก่อนนะ แล้วกูจะบอกอีกที”


   ผมจบบทสนทนาแค่นั้น แล้วหันไปใส่ใจกับมวนบุหรี่ต่อ ไอ้คนข้างๆ ก็แค่หัวเราะเบาๆ กับคำตอบของผม มันคงพอใจแล้วหรือไม่ก็คงรู้ว่าผมไม่คิดจะตอบอะไรมันอีก ถึงได้เลิกทำตัวเป็นนักข่าว ยุติการซักถามเอาไว้แค่นั้น

   

   พิธีแต่งงานตลอดจนงานเลี้ยงฉลองจบลงด้วยรอยยิ้มของทุกคน ตอนท้ายงานผมถูกไอ้เหี้ยทีมกับน้าอิ่มลากเข้าไปถ่ายรูปรวมกับแขกเหรื่อที่เหลือกว่าครึ่งอีกครั้ง อันที่จริงมันควรจะจบอยู่แค่นั้นแต่ลุงสินกลับเอ่ยปากบอกช่างกล้องและทุกคนในที่นั้นว่า


   “ผมขอถ่ายรูปกับว่าที่ภรรยา และลูกชายทั้งสองของผมเป็นความทรงจำนิดนึงนะครับ” ...ไอ้เหี้ยทีม มันมีพี่น้องด้วยเหรอวะ ทำไมน้าอิ่มไม่เคยบอกผม??


   แต่ผมก็ได้คำตอบในนาทีต่อมา เมื่อไอ้ทีมมันลากผมเข้าไปถ่ายรูปกับพ่อมัน


   “ทีม มึงจะลากกูไปไหน พ่อมึงบอกว่าจะถ่ายรูปกับลูกชายของเค้า ไม่ใช่กู” ผมบอกพอให้ได้ยินกันสองคน ทีมมันขมวดคิ้วฉับทันทีแล้วบอกผมกลับมาว่า


   “พ่อกูหมายถึงมึงนั่นแหละ”


   ไม่รู้ทำไม แต่ผมกลับรู้สึกคล้ายๆ ว่าหัวใจมันพองโตขึ้นนิดหน่อยเพราะคำพูดสั้นๆ นั้น แต่ปากก็ยังไวเกินที่จะห้าม ผมพึมพำกลับไป


   “....กูไม่ใช่คนในครอบครัวของมึง”




   กว่าเที่ยงคืนแล้วที่ผมกับครอบครัวใหม่ของน้าอิ่มกลับมาถึงบ้าน


   ความจริงแล้วบ้านของลุงสินก็เรียกได้ว่าใหญ่พอสมควร ตัวบ้านเป็นอาคารสองชั้น ออกแบบได้สมกับที่ลุงสินแกทำงานเป็นสถาปนิก มีสวนขนาดย่อมอยู่ด้านหน้า ทันทีที่ประตูบ้านใหญ่เปิด ก็มีเสียงหมาเห่าดังแทรกขึ้นมา...นี่บ้านนี้คงเลี้ยงหมาด้วยสินะ ครอบครัวแสนสุขเหมือนในละครจริงๆ...


   ผมสะพายกระเป๋าเป้ที่บรรจุเสื้อผ้าเอาไว้บนไหล่ เพราะตั้งแต่กลับมาถึงไทย ผมก็นอนโรงแรมมาตลอดเกือบสัปดาห์ ที่จริงน้าอิ่มก็อยากให้ผมย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอตั้งแต่วันแรกที่ผมเหยียบแผ่นดินสยามนี้ แต่เพราะผมอ้างว่าผมไม่อยากเก็บของเพื่อย้ายบ้านหลายๆ รอบ น้าอิ่มเลยต้องยอมจำนน


   ผมคิดว่าน้าอิ่มเองก็รู้ ว่าผมอึดอัดใจกับการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของคนที่ผมไม่คุ้นเคย มันเป็นสันดานเก่าของผมอยู่แล้วที่ไม่ชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้า แต่ผมเองก็ไม่มีทางเลือก เงินเก็บที่มีไม่ได้มากพอที่จะทำให้ผมเลือกที่อยู่ของตัวเองได้ ตัวเลือกสุดท้ายที่ได้รับก็คือบ้านของลุงสินนั่นเอง


   ถัดจากประตูบ้านเข้ามาก็เป็นห้องรับแขก พื้นกระเบื้องสีขาวแลดูสะอาดตา แม้จะเป็นเวลากลางดึกแล้ว แต่เพราะไฟที่ถูกเปิดขึ้นทำให้ผมเห็นบรรยากาศรอบตัวได้ชัดเจน การตกแต่งแม้มันจะดูเรียบง่ายแต่ก็สะอาดตาไปอีกแบบ บันไดบ้านอยู่ขยับไปทางซ้ายมือของห้อง ติดกันเป็นทางเดินโล่งๆ ที่ผมคาดว่ามันน่าจะเป็นห้องครัวอยู่สุดปลาย


   น้าอิ่มจูงมือผมให้ไปนั่งที่โซฟาก่อน เธอเดินไปหยิบน้ำมาทั้งหมดสี่แก้ว วางลงบนโต๊ะตรงกลาง ตรงข้ามผมเป็นลุงสินที่นั่งอยู่เคียงข้างภรรยาคนใหม่ของเขา ไม่ต้องแปลกใจว่าโซฟาเดี่ยวข้างๆ ผมจะเป็นใคร..ไอ้เหี้ยทีมนั่งหน้าแป้นแล้นพร้อมยกน้ำขึ้นดื่ม



   “ไง บ้านกู พอที่จะเป็นที่ซุกหัวนอนของมึงได้มั้ยวะฝุ่น” มันพูดขำๆ พร้อมทำท่าแบบกูพราวด์ลี่ทูพรีเซ้นต์


   ห่านี่ ลามปาม...


   “ทีม” ลุงสินแกเรียกลูกชายด้วยเสียงปรามๆ ก่อนจะหันมาสนใจเอากับผมที่แม้แต่แก้วน้ำก็ยังไม่ได้แตะ“ฝุ่น ห้องเราอยู่ชั้นสองนะ เดี๋ยวให้ทีมพาไปก็แล้วกัน”


   ลุงสินบอกผมอย่างเอ็นดู ถ้าทำได้เขาคงเอามือมาลูบหัวผมแล้วมั้ง


   “ต่อจากนี้ให้คิดว่าที่นี่คือบ้านอีกหลังของเรานะฝุ่น ลุงไม่ได้บังคับให้ฝุ่นคิดว่าลุงเป็นพ่อของฝุ่น แต่ลุงอยากให้ฝุ่นคิดว่าที่นี่คือบ้าน อยากให้ฝุ่นรู้สึกว่าถ้าวันไหนฝุ่นเหนื่อย ท้อแท้ก็กลับมาที่นี่...บ้านของฝุ่น”


   “ขอบคุณครับ...แต่ผมขึ้นไปนอนได้รึยัง” ผมตัดบทห้วนๆ แบบนั้น น้าอิ่มหน้าเสียไปนิดหน่อย แต่ลุงสินแกก็ไม่ได้ถือสาเอาความอะไร กลับบอกให้ไอ้ทีมมันพาผมขึ้นไปบนห้องนอน ฝ่ายนั้นก็ดีเสีย ตอบรับอย่างว่าง่าย เดินนำผมขึ้นไปบนห้องนอน มันบอกผมว่า


   “ห้องกูกับมึงติดกัน ตรงกลางมีห้องน้ำคั่น แต่ประตูที่อยู่ในห้องมันเชื่อมถึงกัน ล็อคไม่ได้ด้วย ที่จริงพ่อกูก็ไม่ได้กะจะมีลูกชายเพิ่มอีกคนหรอก แต่เค้าคงสร้างไว้เผื่อกูมีเมียน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” ดูแม่ง...ดึกป่านนี้ยังจะมีอารมณ์มาขำ เดี๋ยวกูก็ศอกตกบันไดซะนี่


   “ฝันดีนะมึง ฝันถึงกูด้วย” มันสั่งผมแบบนั้น เมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มันบุ้ยใบ้ทำท่าว่านี่คือห้องนอนใหม่ของผม


   “ฝันถึงมึง เค้าเรียกฝันร้าย” ผมบอกมันไปอย่างนั้น แล้วเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจเสียงบ่นหงุงหงิงของมัน..ทำตัวแอ๊บแบ๊วนะมึง



   ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่แน่ใจในอายุที่แน่นอนของไอ้ทีมเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าจากหนังหน้าและท่าทาง อายุมันกับผมก็คงไม่มากไปกว่ากันเกินสองปีหรอกครับ


   เท่าที่สมองมึนๆ ของผมจะจำได้ น้าอิ่มเคยเปรยให้ผมฟังในเอ็มเอสเอ็น ตอนก่อนที่ผมจะกลับมาไทยว่าลูกชายของลุงสินเป็นนักเทควันโดมาตั้งแต่สมัยประถม ดังนั้นภาพที่ผมนึกจินตนาการเอาไว้สำหรับไอ้ทีมก็คือ ผู้ชายไทยรูปร่างเหมือนหมีป่าตัวใหญ่ๆ ดำถึกและเถื่อน แต่พอมาเจอตัวจริงก็ยอมรับว่าผิดคาดไปมาก


   ไอ้เหี้ยทีมตัวจริงสูงกว่าผมก็จริง หุ่นมันหนากว่าผู้ชายปกติแต่ก็ไม่ได้บึ้กแบบนักกีฬาทีมชาติอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้ หน้ามันคมคาย ตายาวรี จมูกสวย อ่อ มีเขี้ยวเล็กๆ ด้วย แล้วตัวมันก็ไม่ได้ดำ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่แน่ใจว่ามันถึกและเถื่อนแน่รึเปล่าก็ตามที


   ผมเหวี่ยงกระเป๋าสะพายที่เอาติดกลับมาแค่ไม่กี่ชุดลงบนพื้นแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที ห้องที่ลุงสินเตรียมไว้ให้ ใหญ่กว่าห้องเก่าของผมที่อเมริกาเสียอีก สะอาดกว่า น่าอยู่กว่า ถึงแม้มันจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมเรียบๆ ธรรมดา แต่การวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เข้ามุม และการฝังพวกตู้เสื้อผ้า เข้าไปในผนังก็ทำให้มันดูหรูไม่น้อย กระจกหน้าต่างที่สูงจรดเพดานมองออกไปก็เห็นสวนด้านล่างได้รางๆ ผมกวาดตามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง


   ประตูที่คาดว่าน่าจะเปิดไปเป็นห้องน้ำที่ไอ้ทีมมันบอกเมื่อกี้อยู่ทางด้านซ้ายมือ แต่แน่นอนว่าผมยังไม่คิดจะเปิดเข้าไปหรอก เพราะอีกฝ่ายต้องเข้าไปทำความสะอาดร่างกายแน่ๆ ส่วนผมน่ะหรือ...วันนี้ขอเน่านอนทั้งเสื้อตัวนี้เลยก็แล้วกัน






To be continued in บาป...หวาน ตอน ๒




สวัสดีค่ะทุกท่าน!!

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราเพิ่งเข้ามาใหม่ และ “บาป..หวาน” ก็เป็นเรื่องแรกที่ลงที่นี่เลย

ถึงจะเคยสอดส่องอยู่ที่บอร์ดนี้มาซักพักแล้ว แต่ในที่สุดก็ เอ้า...เอาวะ ลองลงนิยายดูบ้างดีกว่า ฮี่ๆ

ฝากตัวด้วยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่า~~ ฝากบาป..หวาน ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยน้า~~ :D

ตอนแรกอาจจะยังงงๆ กันอยู่บ้างว่าทำไมน้องฝุ่นดูเกรี๊ยนเกรียน (ฮา) ก็ดูกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ฮี่ๆๆ




ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ!   


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2016 19:34:33 โดย eiizes »

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #1 เมื่อ02-12-2010 23:33:38 »

มาเจิมเรื่องใหม่ค่ะ :mc4: :mc4: :mc4:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #2 เมื่อ02-12-2010 23:35:52 »

 :mc4: :mc4:
มีเรื่องใหม่มาให้อ่านแล้วดูน่าสนใจดีค่ะ ท่าทางทีมจะติดใจฝุ่นนะ
แต่ฝุ่นมีอะไรในใจอ่ะ ทำไมรู้สึกว่าเศร้าจังเลยคนนี้

เป็นกำลังใจให้นะค๊า  :L2:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #3 เมื่อ02-12-2010 23:42:15 »

หงะ มาม่าต้มยำมาอีกเรื่องแล้วแหงเลย
คุณคนเขียนอย่าโหดร้ายกับตัวละครนักนะคะ

เฮ้อ......................รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #4 เมื่อ02-12-2010 23:58:41 »

 :mc4: :L1:

ออฟไลน์ BExBOY

  • กัญชาเป็นยาเสพติด โปรอ่านฉลากก่อนสูบ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #5 เมื่อ02-12-2010 23:59:20 »

มาปูเสือรอ ตอนต่อไป...
อืม..ดูไม่ออกเลย ใครเป็น ตัวพระ ตัวนาย  :z2:


ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #6 เมื่อ03-12-2010 00:01:10 »

+1ให้พี่คนแต่งค่ะ  น่าสนุกค่ะ  สู้ๆนะคะ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #7 เมื่อ03-12-2010 01:47:14 »

ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเรื่องใหม่มาอีกแล้ว ท่าทางดูอึนๆดีค่ะ นาติดตามมากๆ นายทีมจะเป็นคนเปลี่ยนความคิดของ ฝุ่นได้ไหมหละหนอ ว่าแต่ทำไมต้องบาทหวานหน๊า อยากรู้จริงๆว่ามันจะไปบาปตอนไหนหนะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #8 เมื่อ03-12-2010 01:58:15 »

 :mc4: :mc4:

มาอัพเร็วนะค่ะ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #9 เมื่อ03-12-2010 13:45:48 »

 :mc4:   รอค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-12-2010 13:45:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






oattie

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #10 เมื่อ03-12-2010 23:50:02 »

มาต่อเร็วๆนะคะ   :L2:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #11 เมื่อ04-12-2010 00:43:18 »

ฝุ่นเศร้าจิตกับการคิดว่าการเป็นส่วนเกิน


เปิดใจแล้วจะดีเองน่ะฝุ่น


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #12 เมื่อ04-12-2010 01:40:03 »

ฝุ่นสมชื่ออ่ะ   ~
แต่ยังงี้ดูมีเอกลักษณ์  ฮ่า ๆ
มาต่อไว ๆ น่ะจ่ะ

ทับทิมกรอบ

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #13 เมื่อ04-12-2010 02:19:13 »

เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ ท่าทางจะสนุกนะครับ

รอตอนต่อไปน่ะ   :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #14 เมื่อ04-12-2010 08:38:57 »

มาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคนจ้า :pig4:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #15 เมื่อ04-12-2010 09:06:18 »

มาต่ออีกนะ

ฝุ่นเกรียนจริงค่ะ เเต่จะรออ่านต่อไป อิอิ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #16 เมื่อ04-12-2010 09:29:23 »

เรื่องน่ารักดี

คงจะเป็นเรื่องที่จบอย่างมีความสุขนะ

ไม่ชอบความเศร้า

 :call:

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #17 เมื่อ04-12-2010 10:07:32 »

แวะมาอ่านขอรับ :man1:

ออฟไลน์ blackyoyo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #18 เมื่อ04-12-2010 16:00:42 »

รออ่านด้วยคนฮับ

Killua

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #19 เมื่อ04-12-2010 16:34:12 »

ยาววววว เนื้อหาอ่ะ ขนาดตอนแรกนะเนี่ย ฮ่าๆๆ รอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-12-2010 16:34:12 »





ออฟไลน์ in_blu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #20 เมื่อ04-12-2010 16:50:22 »

อ่าาา เปิดเรื่องมาได้น่าติดตามมากก

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าา

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 1(02/12/2010)
«ตอบ #21 เมื่อ04-12-2010 17:16:40 »

มาเป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่ค่ะ
อืม...อยากรู้จัง ฝุ่นเค้ามีปมอะไรในใจรึ
ถึงได้ทำตัวแบบมีอารมณ์เหมือนกับโกรธคนเค้าทั้งโลกแบบนี้

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook
บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010)
«ตอบ #22 เมื่อ04-12-2010 18:12:38 »

   ตอนเช้า...อันที่จริงก็ไม่ได้เช้ามากหรอกครับ เกือบเที่ยงแล้วกว่าผมจะลืมตาตื่นขึ้นมา ไหนจะอาบน้ำแต่งตัวล้างความเน่าที่หลงค้างจากเมื่อวานอีกก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่า เสียงพูดคุยและหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุขดังลอดมาจากในห้องนั่งเล่น ทำให้ผมเผลอ...ยั้งฝีเท้าและเบาเสียงเดินลงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้..”ด้วยความเคยชิน”


   ผมไม่รู้ว่าอาการนี้มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช่ว่าตอนอยู่อเมริกาผมจะไม่มีเพื่อนฝูง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ก็ตามที แต่กว่าผมจะทันได้รู้ตัว ผมก็มีอาการ “ไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ” เข้าไปเสียแล้ว ตอนก่อนผมจะบินกลับมาไทยตามคำขอของน้าอิ่มผมก็เหลือเพื่อนสนิทที่ยอมทนกับอาการไม่ปกติดีของผม..แค่คนเดียว


   “อ้าว ตื่นแล้วเหรอฝุ่น น้ากำลังจะขึ้นไปปลุกเราเชียว” น้าอิ่มหันมาให้ความสนใจกับสิ่งมีชีวิตแปลกแยกที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างผม ทำให้บทสนทนาของทุกคนหยุดชะงักลง แล้วเบนความสนใจมาที่ผมแทน


   “หิวหรือยังล่ะเรา ลุงกับน้าอิ่มรอทานข้าวอยู่นะ” ลุงสินบอกผมอย่างนั้น


   “ทานกันไปก่อนก็ได้ครับ ผมตื่นไม่ค่อยเป็นเวลา” ผมแก้ตัวไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงผมก็แค่ไม่อยากต้องทนนั่งคุยหรือตอบคำถามใดๆ บนโต๊ะกินข้าวก็เท่านั้น


   “ได้ไงวะ บ้านกูนิยมกินข้าวทั้งครอบครัว ขาดมึง โต๊ะก็ว่างดิ...แล้วกูก็ไม่ได้ใจดีพอจะเหลือกับข้าวให้มึงนะไอ้ฝุ่น” ไอ้เหี้ยทีมที่โผล่มาจากไหนไม่รู้อยู่ๆ ก็ไซด์คิกพูดออกมาอย่างนั้น สงสัยอยากกินตีนแต่เช้า


   “ต่อให้มึงเหลือไว้ กูก็ไม่กินของเหลือของใคร” ผมหันไปตอบมันเรียบๆ


   “พอๆ ทั้งคู่เลย ลุงให้ป้าแจ่มแกตั้งโต๊ะรอแล้ว ไปทานข้าวกัน” ลุงสินพูดขึ้นแล้วเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ พลางออกแรงผลักให้ผมเดินไปทางเดินที่ผมคาดการณ์เมื่อคืนว่ามันคือห้องครัว...อันที่จริง พอได้เห็นตอนสว่างๆ แบบนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่าผมคาดคะเนขนาดบ้านหลังนี้ผิดไปมาก มันไม่ใช่ว่าใหญ่พอสมควร แต่มัน “ใหญ่” มากต่างหาก ทางเดินกว้างราวๆ สองเมตรนั้น ปูด้วยหินอ่อนสีขาว ที่ๆ ควรจะเป็นผนังกลับถูกแทนที่ไว้ด้วยกระจกสูงจรดเพดานทั้งสองด้าน มองเห็นสวนด้านนอก..และนั่น!


   เจ้าของเสียงที่เห่าตอนเราเดินเข้ามาในบ้านเมื่อคืนกำลังวิ่งเล่นอยู่กับสปริงเกิลฉีดน้ำ มันวิ่งจนลิ้นห้อย ดูก็ตลกไปอีกแบบ


   “อะไร มึงจะลวนลามหมากูเหรอ” ไอ้เหี้ยทีม....มึงเอาอีกแล้วนะวันนี้ เดี๋ยวกูจัดคืนให้พร้อมดอกเบี้ยเลยดีมั้ย


   “กูแค่แปลกใจ นึกว่าเสียงเห่าเมื่อคืนเป็นหมาในปากมึงซะอีก ที่แท้มีหมาอีกตัววิ่งอยู่ในสวนนี่เอง”


   “อ่าว เหี้ยนี่ ด่ากูซะงั้น” มันเอื้อมมือมาตบหัวผมดังพลั่กใหญ่จนหน้าทิ่มด้วยความไม่ตั้งตัว อยากจะหันไปกระโดดถีบเข้าแถวๆ เอวให้มันเดินเอวเคล็ดไปซักสองสามวัน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามันเป็นนักเทควันโดนี่หว่า ถ้าผมโดดถีบออกไปซึ่งๆ หน้า มันจะหักขาผมทิ้งมั้ยนะ....ว่าแล้วก็เปลี่ยนใจ เอาไว้เล่นทีเผลอดีกว่ากู


   “ลุงสินครับ หมาตัวนั้นชื่ออะไร” ผมถามขึ้นพลางชี้ออกไปที่ไอ้ตูบที่ยังวิ่งลิ้นห้อยเป็นเด็กๆ ทั้งที่มันเองก็ตัวใหญ่แล้ว


   “เซ็กซี่”


   “ฮะ? อะไรนะครับ”


   “หมาน่ะ...ชื่อเซ็กซี่” ลุงสินแกพูดปนหัวเราะ กับสีหน้าเหวอๆ ของผม จะไม่ให้งงได้ยังไง หมาบ้าอะไรวะ ชื่อเซ็กซี่


   “หมากูเอ็กซ์แตกนะมึง อย่าไปยั่วมันละ”


   พ่อลูกเขาว่าอย่างนั้นแล้วเดินหัวเราะกันไป ห้องครัวถูกแบ่งออกเป็นสองโซน ส่วนหนึ่งเอาไว้ทำครัว อีกส่วนเอาไว้นั่งทานข้าว สำรับจำนวนสี่ที่ถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างน่าทาน กลิ่นหอมของอาหารไทยที่ผมไม่ได้กินมาเกือบสิบปีโชยมาให้น้ำลายสอ ควันลอยกรุ่นๆ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวเสียเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงวัยล่วงหกสิบปีร่างท้วมยืนยิ้มให้ผมอยู่ใกล้ๆ กับหม้อข้าว รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นเมื่อป้าแกยิ้มกว้างให้ผม


   “คุณฝุ่นตัวจริง น่ารักกว่าในรูปเยอะเลยนะคะเนี่ย” แกทักผมมาแบบนั้น ก็ให้งงเพิ่มสิบเปอร์เซนต์


   “น้าเคยเอารูปที่ฝุ่นส่งมา ให้ป้าแกดูน่ะ” น้าอิ่มบอกผมยิ้มๆ “ป้าแจ่มบอกว่าอยากเห็นหน้าฝุ่นสักครั้ง ยิ่งน้าบอกว่าฝุ่นเป็นเด็กน่ารัก ป้าแกยิ่งอยากเห็น”


   “......เหรอครับ” ผมถามกลับไป..ไม่ได้ถามกลับที่ว่าป้าแกอยากเห็นจริงๆ เหรอ แต่ผมถามตรงประโยคที่ว่า ฝุ่นเป็นเด็กน่ารัก..จริงๆ เหรอ? น้าจำคนผิดรึเปล่า ผมอยากถามออกไปอย่างนั้น แต่เห็นสีหน้าหวังดีของน้าอิ่มและป้าแจ่มก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศ สู้เงียบเอาไว้มันน่าจะเป็นผลดีกับตัวผมมากกว่า


   “คุณฝุ่นทานข้าวเยอะมั้ยคะ” ป้าแจ่มถาม เมื่อผมนั่งลงตามแรงกดของน้าอิ่ม ด้วยความที่โต๊ะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดนั่งได้หกคน แต่ตอนนี้มีแค่สี่ ทำให้มันมีที่ว่างเหลืออยู่อีก ผมโดนดึงให้นั่งลงข้างๆ ไอ้เหี้ยทีมที่นั่งติดกับพ่อมัน ส่วนน้าอิ่มก็นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม


   “ไม่ต้องมากหรอกครับ”


   แค่อึดใจเดียวข้าวสวยร้อนๆ ก็ถูกตักวางลงบนโต๊ะด้านหน้าผม บ้านหลังนี้ใหญ่ก็จริง ลุงสินเองก็ดูเป็นคนค่อนข้างมีฐานะ ยิ่งน้าอิ่มแต่งงานเข้ามาใหม่ มันยิ่งดูเหมือนละครมากขึ้น แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างของครอบครัวนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่ดี แต่มันเป็นบางสิ่งที่ผมเคยอยากได้มาตลอดทั้งชีวิต ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของไอ้ทีม ไม่ว่าเขาจะเลิกกันหรือบางทีแม่ของไอ้ทีมอาจจะเสียชีวิต แต่หลายๆ อย่างของมันกลับไม่เหมือนในละคร ไอ้ทีมไม่ใช่เด็กมีปัญหา กลับกันมันกลับดูแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้มากเสียด้วยซ้ำ..


   “น..ฝุ่น...ฝุ่น ฟังอยู่รึเปล่า” ลุงสินกระตุ้นผมเสียงดังจนผมเผลอทิ้งช้อนลงกับจานดังเคร้ง


   “ขอโทษครับ เมื่อกี้ลุงว่าอะไรนะ”


   “คิดอะไรเพลินน่ะเรา” ลุงสินส่ายหน้าขำๆ เขาบอกผมซ้ำอีกครั้งว่า “ลุงบอกว่า ลุงกับน้าอิ่มจะไปฮันนีมูนกันซักสองสัปดาห์ ระหว่างนี้ฝุ่นก็อยู่กับทีมไปก่อนนะ ขาดเหลืออะไรให้ทีมมันไปซื้อให้ก็ได้ หรือถ้าอยากไปเที่ยวก็ให้ทีมมันพาไปได้ อย่างน้อยมันก็คุ้นทางในกรุงเทพมากกว่าเรา”


   “อ่อ...ครับ” ผมรับคำ ก็ดี...ผมจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่เคยใช้มาให้เต็มที่ ก่อนจะต้องเริ่มต้นชีวิตมหาวิทยาลัยอย่างที่น้าอิ่มเคยบอกไว้
   


   “มึงอยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่าวะ บอกมาดิ๊ เดี๋ยวกูตัดสินใจอีกที” ไอ้ทีมมันเดินตามผมออกมาจากห้องครัว ที่จริงผมกะว่าจะออกไปเล่นกับหมามันแป๊ปนึง แล้วเย็นๆ ค่อยออกไปหาซื้อเสื้อผ้าเพิ่มเติม เพราะเสื้อที่ผมเอามามีอยู่แค่นิดเดียว แถมยังหนาเกินไปสำหรับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยอีกด้วย


   “กูจะไปซื้อเสื้อ” ผมตอบไปตามความจริง


   “เออดี เดี๋ยวกูไปด้วย เอาบัตรประชาชนของมึงไปด้วยนะฝุ่น”


   “เอาไปทำเหี้ยอะไร ซื้อเสื้อเดี๋ยวนี้ต้องใช้บัตรประชาชนด้วยรึไง” ผมย้อนถาม ตอนเปิดประตูหน้าบ้านมัน เพื่อจะเดินออกไปที่สวน ไอ้หมาลิ้นห้อยเมื่อกี้วิ่งหูกระดิกมาทางผมพร้อมน้ำลายยืดๆ ของมันทันที


   “เออน่า แล้วนี่ตกลงมึงจะอ่อยหมากูจริงๆ ใช่มั้ย”


   “เหี้ย หมามึงตัวเมียไม่ใช่รึไง” ผมย้อนถามตอนนั่งลงลูบหัวลูบหางไอ้หมาเซ็กเสื่อมที่เข้ามาดมหน้าดมตาผมอย่างทำความคุ้นเคย


   “เออ นมใหญ่ด้วยนะมึง” ดูมัน...แม้แต่กับหมา


   “เจี๊ยวไม่ใหญ่ กูไม่ชอบ” ผมบอกปนหัวเราะ แล้วลูบหัวเซกซี่ไปด้านหลัง ทำให้หนังตรงตามันเลิกขึ้น ตลกเป็นบ้า


   “ห่านี่ หื่นกามจริงอะไรจริง”


   มันบอกแล้วเดินหายไปในตัวบ้าน คงไปเตรียมตัวจะไปซื้อเสื้อกับผมมั้งครับ เพราะเมื่อกี้มันยังใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นอยู่บ้านอยู่เลย


   “มึงเซกซี่สมชื่อจริงป่ะวะ หืม” ผมดึงหนังที่คอมันเล่น อีนังเซ็กเสื่อมมันเอียงคอมองผมตาแป๋ว เสียใจด้วย กูชอบหมาตัวผู้มากกว่าน่ะ กร๊ากกก ผมนั่งเล่นกับมันพักใหญ่ จนเซ็กซี่มันคงรู้ตัวว่าผมไม่เล่นอะไรมากไปกว่าดึงหนังยานๆ ที่คอมันเล่นอย่างสนุกสนาน มันเลยสะบัดก้นวิ่งหนีหายไปหลังบ้านแล้ว ผมไม่ค่อยมั่นใจเรื่องสายพันธุ์ของเซ็กซี่เท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูคิดว่าน่าจะเป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นะ ท่าทางเป็นมิตร ขนสีทองที่ปลิวไสว ไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์อื่นได้


   ผมลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นออกจากกางเกงยีนส์ของตัวเอง พอดีกับที่มีเสียงเดินมาจากด้านหลัง ผมเลยหันกลับไปมองก็แอบอึ้งไปเล็กน้อย ไอ้ทีมมันไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามา ขอย้ำว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้เปลี่ยนแค่กางเกงอย่างที่ผมคิดไว้


   เสื้อยืดสีดำที่มันใส่เมื่อกี้ถูกทิ้งกลายเป็นเสื้อเน่าไปทันตาเมื่อเจอเสื้อเชิ้ตดูดีมีสไตล์ของมัน กางเกงเดปขายาวสีดำกับรองเท้าหนังสีเดียวกัน...โคตรคุณชาย!!


   “อะไร กูหล่อเหรอ อึ้งเลยมึง ฮ่าๆๆ”


   “ไอ้เหี้ย” ผมสรรเสริญมันไปคำใหญ่ๆ ด้วยความหมั่นไส้ เออ มันก็...ดูดีจริง เมื่อวานผมยังมึนๆ เมาๆ ไม่ได้สนใจกับสภาพรอบตัวเลยไม่ทันได้สังเกตถึงความดูดีผิดมนุษย์ของมัน พอได้เห็นกับตาตัวเองวันนี้ก็ถึงกับไปต่อไม่ถูกเล็กน้อย  


   แต่ขอโทษ..แต่งตัวอะไรสงสารกูบ้างครับ!! กูมีแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ แล้วก็รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ครับ อย่าให้คนรอบข้างมองว่ามึงพาคนใช้มาช่วยถือของสิไอ้ห่านป่า!!


   “มึงจะแต่งตัวแบบนี้ไปไหน กูไปซื้อเสื้อนะ ไม่ได้ให้มึงไปเป็นนายแบบลองเสื้อของกู”


   “แหม ออกจากบ้าน มึงจะให้กูแต่งตัวโทรมๆ ไปรึไง”


   ผมตวัดตามองมันด้วยความเคืองขั้นกว่า แล้วชี้ลงไปที่เสื้อผ้าตัวเอง มันคงเข้าใจในความหมายที่ผมต้องการจะสื่อเลยหัวเราะออกมา แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินนำผมไปที่ลานจอดรถข้างๆ บ้าน มีรถคันที่พวกเรานั่งมาเมื่อคืนอยู่คันหนึ่ง และอีกคันหนึ่งเป็นรถมินิคูเปอร์สีน้ำเงินสด หลังคาสีขาวแบบที่ผมเคยเห็นในนิตยสารรถ เห็นจากภาพว่าสวยแล้ว ยิ่งได้เห็นของจริงมันสวยกว่าที่ผมเคยนึกฝันไว้มาก


   “รถมึงเหรอ” สาบานได้ว่าไม่ได้อิจฉา!!


   “ถูกคร้าบบบบบ” มันยิ้มกว้าง ทำหน้าแบบพราวด์ลี่ทูพรีเซ้นต์อีกรอบ “หวานใจกูเอง สวยใช่มั้ย”


   “อืม” ผมรับคำ แล้วเดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ แถวๆ กระจกที่ใสกิ๊ง..เจ้าของมันคงดูแลอย่างดีนั่นแหละ รถแพงขนาดนี้


   “อย่าให้น้ำลายหกรดรถกูนะฝุ่น เดี๋ยวลูกกูเป็นหิด”


   โอ๊ย ไอ้เหี้ย!!



   ตลอดทางที่นั่งรถไป ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ห่านป่ามันเป็นคนขับ เราไม่ค่อยได้พูดจาอะไรกันเท่าไหร่ เพราะเวลามันถามมาผมก็ตอบไปห้วนๆ คล้ายๆ ว่าเรากำลังเล่นยี่สิบคำถามกันอยู่ มันคงทนกับความมึนของผมไม่ไหวเลยแก้บรรยากาศเซ็งๆ ในรถสุดสวยของมันด้วยการเปิดวิทยุคลอไปพลางๆ


   ผมไม่ชอบสุงสิงกับใคร เลยกลายเป็นว่าผมก็ไม่ชอบที่จะเปิดประเด็นกับใครทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่ชวนผมคุยก่อนก็อย่าหวังเลยที่จะให้ผมต่อบทสนทนาให้ยาวยืด มันคงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่


   ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ไอ้ทีมมันก็วนหาที่จอดบนตัวห้างจนได้ พอมันดับเครื่อง ลงจากรถได้ปุ๊บก็สั่งผมปั๊บ


   “ก่อนจะไปซื้อเสื้อ มึงมากับกูก่อน ห้ามเถียง กูให้ทำอะไรก็ต้องทำ เข้าใจมั้ย”


   “ถ้ากูบอกว่าไม่เข้าใจ มึงจะทำอะไรกู” ผมย้อน พลางปิดประตูรถแล้วมองหน้ามัน ไอ้เหี้ยทีมกลอกตาไปมา แล้วบอก


   “เออน่ะ เรื่องนี้สำคัญ มึงก็เดินตามกูมาแล้วกัน”


   “กูบอกมึงรึยังว่ากูจะซื้อมือถือด้วย”


   “แล้วตลอดอาทิตย์นึงที่มึงมาถึงไทยนี่มึงใช้อะไรวะฝุ่น” มันถามผมงงๆ


   “โทรศัพท์สาธารณะ” ผมตอบไปเรียบๆ มันทำตาโตแบบงงสุดขีด ... เดี๋ยวแม่งก็ถลนออกมาหรอก ไอ้ห่านป่า


   “งั้นไปทำธุระกับกูก่อน แล้วเราไปดูมือถือกับเสื้อของมึงกัน แม่ง.. ดีนะ กูเอาเครดิตการ์ดมาด้วย” ประโยคหลังมันพึมพำบอกตัวเอง ผมก็ได้ยิน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องแคร์นี่ครับ มันจะคิดยังไงก็เรื่องของมัน เพราะยังไงคนที่จ่ายเงินก็คือผมอยู่แล้ว



   สถานที่แรกที่มันกึ่งลากกึ่งจูงผมไปก็คือ..ธนาคาร


   “มึงจะมาปล้นธนาคารเหรอ”


   “อืม มึงหยิบปืนจากใต้หมอนมารึเปล่า” มันหันมาถามผมหน้าตาย


   “มึงไม่บอกกูล่วงหน้าวะ” เอาสิ หน้าตายมากูก็หน้ามึนกลับล่ะ


   “ห่านนนนนนนนนนนน มึงนี่ยังจะหน้าด้านย้อนมุขกูเนอะ” ไอ้ทีมมันด่าเสียงยาวเหยียดทั้งยังปนหัวเราะไปด้วย “ตามกูมาเร็วๆ มึงต้องไปเปิดบัญชีก่อน”


   “กูไม่มีเงินเดือนนะ จะเปิดบัญชีทำเหี้ยอะไร เดี๋ยวฝุ่นก็จับหรอกมึง”


   “เออน่ะ พ่อกูสั่งมา” มันบอกผมสั้นๆ อย่างนั้นแล้วดึงแขนให้เดินตาม ซึ่งผมก็หน้ามึนทำตัวหนักไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กูไม่ใช่อิหมาเซ็กเสื่อมของมึงนะที่จะมาลากไปทางนู้นทีทางนี้ทีเนี่ย เอ๊ะ หรือกูน้ำลายยืดเหมือนหมามึง...ไม่นะ กูยังปกติดีอยู่


   “มึงอย่าดื้อกับกูดิวะฝุ่น กูรับมือเด็กดื้อไม่เป็นหรอกนะ”


   “กูไม่ได้ดื้อ แต่กูไม่รู้จะเปิดบัญชีทำไมในเมื่อเปิดไปก็ไม่ได้ใช้” ถึงตอนนี้ ไอ้ทีมเลิกดึงแขนผมแล้ว มันยกแขนขึ้นเท้าเอวแล้วถอนหายใจแรงๆ ให้กับความหัวแข็งของผม


   “เออๆ กูผิดเองอะ ที่ไม่ได้อธิบายให้มึงฟัง..พ่อกูบอกว่า เค้าจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายประจำเดือนของมึงด้วย มึงจะเอาไปใช้เหี้ยอะไรก็เรื่องของมึง”


   “...ทีม..พ่อมึงกับมึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า กูไม่ใช่ลูกของน้าอิ่ม กูไม่ใช่ขอทานที่จะให้พ่อมึงมาจ่ายเงินค่านั่นค่านี่ให้กูนะ” ยอมรับว่าปลื้มใจที่พ่อของไอ้ทีมใจดีกับผมมากขนาดนี้ แต่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งรับผิดชอบอะไรที่เกี่ยวกับผมมากขนาดนี้ เพราะค่าเทอมและเงินเดือนของผม แม่ก็ยังเป็นคนจ่ายทุกบาททุกสตางค์ แค่ลุงสินแกให้ที่ซุกหัวนอนดีขนาดนั้น ผมก็ปลื้มใจมากพอแล้ว


   “กูรู้ว่ามึงไม่ใช่ลูกของน้าอิ่ม แล้วมึงก็ไม่ใช่ขอทานด้วย... มึงอาจจะไม่รู้นะ แต่พ่อกูเค้าอยากมีลูกชายคนที่สองมาตั้งนานแล้ว มึงไม่ต้องทำเพื่อใครหรอก แค่อยู่ในบ้านกู หน้ามึนไปวันๆ ใช้เงินที่พ่อกูให้ก็พอแล้ว” ไอ้ทีมมันสาธยายยาวๆ แล้วเดินนำเข้าไปในธนาคารอีกครั้งอย่างเซ็งๆ ผมไม่รู้ว่ามันโกรธรึเปล่า แต่ผมจะเลือกอะไรได้อีกนอกจากเดินตามมันเข้าไปกรอกข้อมูล เซ็นต์ชื่อ รับบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีมา


   
   หลังจากจัดการธุระที่ธนาคารเสร็จ ไอ้ห่านป่าทีมมันก็ดูอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย พาผมไปเลือกโทรศัพท์มือถือ ตัวผมเองก็ไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรของไอ้เจ้าเครื่องมือสื่อสารนี่เท่าไหร่ มันสำคัญก็แค่เวลาที่เราอยากติดต่อใครก็เท่านั้น ผมเลยเลือกรุ่นธรรมดาๆ ราคาไม่กี่พันบาทมา...แน่นอนว่าไอ้เหี้ยทีมบ่นกระจาย หาว่าไหนๆ ก็ซื้อแล้วทำไมไม่ดูให้มันดีๆ ไปเลย แต่มันอยากพ่นน้ำลายอะไรก็เรื่องของมัน ผมจะเอาอันนี้ใครจะทำไม


   สามชั่วโมงกว่าๆ กับการเดินซื้อเสื้อผ้าของผม ไอ้เหี้ยทีมช็อปเก่งมาก สไตล์มันดีพอๆ กับเสื้อผ้าที่มันใส่ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เสื้อที่มันเลือกให้(ปนบังคับให้ผมซื้อ) ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เห็นมันว่าเป็นร้านของคนรู้จัก ตัวมันเองก็ซื้อเสื้อร้านนี้บ่อยด้วย เลยได้ลดราคาเป็นพิเศษ


   เราเดินวนจนพนักงานห้างแทบจำหน้าได้ เผลอแพลบเดียวก็เกือบทุ่มนึงแล้ว ผมกำลังรู้สึกเริ่มหิวๆ พอดีกับที่มีใครบางคนโทรเข้าหาไอ้ห่านป่ามัน


   “ครับ..อ่อ อยู่ห้าง xxxครับ ยังไม่ได้ทานข้าวกันเลย ..อ่า เอางั้นเหรอ...ครับๆ ได้ สวัสดีครับ” มันยืนคุยกับปลายสายอยู่พักนึง แล้วหันมาบอกผมหลังจากเก็บโทรศัพท์แล้วว่า


   “พ่อกูบอกว่าให้มึงกับกูกินข้าวเข้าไปเลย วันนี้พ่อกูจะไปดินเนอร์ฉลองแต่งงานกับน้าอิ่มสองต่อสอง” มันเน้นย้ำเหลือเกิ๊นนน กับคำว่า “สองต่อสอง” พร้อมทำหน้าเพ้อฝันให้ผมดูประกอบ “มึงอยากกินอะไรเลือกมา เดี๋ยวกูตัดสินใจให้”


   “เชี่ย มึงก็เลือกมาเลย” แม่ง..ให้กูเลือกแต่มึงจะตัดสินใจ ดร๋อยยยย มึงเลือกมาเลยง่ายกว่านะไอ้ห่านป่า


   “ฮ่าๆ ก็กูนึกไม่ออก มึงเคยกินร้านนี้รึเปล่า” มันชี้ไปที่อาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่มีคนนั่งอยู่ไม่มาก แต่ร้านก็น่าจะแอบแพงอยู่ ผมส่ายหน้าให้แทนคำตอบ “งั้นกินร้านนี้กัน กูอยากกินปลาดิบ”


   “เป็นปอบเหรอมึง แดกแต่ปลาดิบ”


   “งั้นกูกินตับมึงก่อนดีมั้ย” พูดไปก็หันมายกมือที่ถือแต่ถุงเสื้อผ้า ทำท่าเหมือนจะจกตับ ผมเลยสะบัดนิ้วกลางใส่หน้าแม่งพร้อมด่าแบบไม่มีเสียงว่า


   “ค-ย”


   ผมว่าไอ้เหี้ยทีมมันโรคจิตอะ โดนด่าไปก็ยังนั่งหัวเราะแบบไม่รู้สึกอะไร ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใส่ซิมการ์ดและแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย ยังไม่ทันจะได้เปิดเช็คเครื่องอย่างที่ต้องการ ก็โดนไอ้คุณชายห่านป่ามารยาทติดลบแย่งไปดูก่อนแล้ว


   “มึงต้องบันทึกเบอร์กูคนแรกรู้ป่าว ไหนให้กูยิงเข้าเครื่องตัวเองด้วย เวลามึงหนีไปไหนกูจะได้โทรหามึงได้ ฮ่าๆ” ... กูจะหนีไปไหนวะ ไอ้ห่านป่า กูไม่ได้ไปปล้นธนาคารมานะ


   มันจัดการบันทึกเบอร์ตัวเองใส่เครื่องผม พร้อมถ่ายรูปตัวมันเองเป็นรูปคอนแทคที่จะโชว์เวลามันโทรเข้ามา...เออดี วันไหนรูปห่านๆ นี่โชว์ขึ้นมา กูจะได้ไม่ต้องคิดหนัก กดวางแม่งเลย คริคริ


   ตอนนี้ผมมีโทรศัพท์แล้ว มีเงินในซิมการ์ดเรียบร้อย คิดไว้ว่ากลับบ้านไปจะโทรหาเขาเพราะตั้งแต่กลับจากอเมริกามาผมยังไม่ได้โทรหาเลย ป่านนี้คงแทบเต้นแล้วมั้ง ติดต่อผมไม่ได้ เบอร์น้าอิ่มผมก็ไม่ได้ให้ไว้ ไหนจะอีเมล์ที่ผมไม่คิดจะเช็คอีก...เจ้าคงเข้าองค์คงลง อาละวาดฟาดหางใส่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแล้วมั้ง...




น้องฝุ่นจะโทรหาใคร ติดตามต่อได้ใน บาป...หวาน ตอนที่ 3 ค่ะ



สวัสดีทุกท่านอีกครั้งค่ะ ดีใจจัง ลงนิยายครั้งแรกก็มีทุกคนให้ความสนใจขนาดนี้ แหะๆ เกินความคาดหวัง
(ที่จริงคิดว่ามีคอมเม้นบ้างซักสามสี่คอมเม้นท์ก็ดีใจแล้ว ฮ่าๆ)
ติดตามกันต่อไปน้า~~
อยากจะบอกว่าตอนที่สองนี้ อยากตัดตรงแถวๆ กลางตอน แต่ไม่รู้จะตัดตรงไหน เลยยาวอย่างที่เห็น TT ขอโทษด้วยนะคะ โฮววววว
 :sad4:
ถ้ามีตรงไหนพิมผิดไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ



ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2010 20:01:41 โดย eiizes »

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #23 เมื่อ04-12-2010 19:34:21 »

ยาวไม่เป็นไรนะ เราไม่ว่าเราชอบจ้า อิอิ สะใจดี
แต่อย่าเศร้านะตัวเอง เนี่ยะเหมือนทีมจะชอบๆ ฝุ่นด้วยหล่ะมั้ง
เท่าที่ดู จุ้นจ้านไปซะทุกเรื่องอ่า แล้วเขาคนที่ว่าที่ฝุ่นจะโทรหานี่ใครอ่ะ
เราจะรอตอนต่อไปนะจ๊ะ มาไวๆน๊า  :L2: :L2:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #24 เมื่อ04-12-2010 19:35:22 »

ฝุ่นตลกดีทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาเลย :laugh:
ทีมดูใจดีจัง
+1ให้จ้า :กอด1:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #25 เมื่อ04-12-2010 19:53:45 »

ชอบทีมอ่ะ แต่ฝุ่นท่าจะมีแฟนแล้ว เฮ่อๆ งั้นยกทีมให้เค้าละกัน

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #26 เมื่อ04-12-2010 20:08:01 »

ฝุ่น
อย่าพูดจาหยาบคายนักสิ
ไม่น่ารักเลยนะเนี่ย
 :sad4:

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #27 เมื่อ04-12-2010 20:54:34 »

รอตอนสามม :กอด1:

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #28 เมื่อ04-12-2010 20:55:28 »

เข้าใจว่าฝุ่นมีคนที่รักอยู่แล้วนะ แล้วทีมล่ะ? ไม่เอายกให้เค้าน้า  :impress2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: บาป...หวาน ตอนที่ 2(04/12/2010 UP!!!!)
«ตอบ #29 เมื่อ04-12-2010 21:04:27 »

ทีมน่ารักกอ่ะ น้องฝุ่นอย่าเฉยชามากนักสิคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด