ฉบับรีไรท์ ตามที่จะลงในหนังสือทั้งหมด
ตอนที่ 11
‘ ตามหาหัวใจ ที่ลืมไว้กับใครซักคน
จะตามจะค้นจนเจอ เธอคนนั้นในความทรงจำของฉัน
ซักครั้ง….ให้หัวใจได้ตื่นขึ้นใช้ลมหายใจพร้อมเธอ
ไม่อยากสัมผัสรักจากเธอ อย่างไม่มีตัวตน ’
วูบหนึ่งของความคิดเพลงท่อนนี้ได้ลอยเข้ามาในหัวผม แล้วมันก็รู้สึกโหวงๆในใจ แค่เพลงเกี่ยวกับความรักทั่วไป ทำไมมันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกแปลกๆ ..
หรือผมก็ยังเป็นอีกคนที่กำลังตามหาหัวใจ ?
“เซอร์ มึงเป็นไรวะเหม่อๆ” ไอ้พีเพื่อนที่มหาลัยผมเอง
“คิดไรเรื่อยเปื่อยอ่ะ แล้วมึงอ่ะ”
“กูมาตามมึงไปรับน้อง วันนี้แม่งให้ทำไรอีกก็ไม่รู้”
“อืม..”
“มึงดูเครียดๆ”
“ไอ้พี สมมุตินะเว่ยมึงเลิกกับแฟนมึง แบบเลิกกันตอนนั้นมึงเฉยๆกับเค้ามาก แล้วเค้าก็เป็นคนบอกเลิกมึงเอง แต่พอมาเจออีกครั้ง มันเหมือนกับว่ามึงต้องการเค้ามากอ่ะ มึงว่ามึงเป็นไร”
“โอ้โหเป็นชุด อืม .. ถ้าเป็นกูหรอ กูว่านะช่วงนั้นกูกับแฟนกูคงยุ่งๆเรื่องตัวเองมากไปจนไม่มาสนใจกันแค่นั้นแหละ พอเรื่องยุ่งๆมันหมดมันก็เลยคิดถึงกันมั้งมึง พอเจอกันมันก็เลยสปาร์ค ชอต แปลบๆๆ เปรี๊ยะๆ อะไรแบบนั้นมั้ง
“มึงว่ามึงยังรักเค้าอยู่มั้ย”
“ตั้งแต่เจอเค้าอีกครั้ง ถ้ากูคิดว่าขาดเค้าไปอีกรอบกูตายแน่ นั่นแหละรัก แต่ถ้าแค่ประหลาดๆนิดหน่อย มันคงแค่คิดถึงมั้งยังไงก็คนเคยคุ้นกันอยู่”
“แล้วมึงว่าเค้าจะรักมึงอยู่มั้ย”
“อันนี้กูก็ไม่รู้ว่ะ เขาอาจจะลืมกูแล้วก็ได้”
“มึงว่าจะมีหวังมั้ยวะ”
“เดี๋ยวนะ ที่มึงสมมุติมานี่คือกรณีที่เกิดขึ้นกับมึงใช่ปะ” ไม่อยากจะยอมรับเลยแฮะ
“เออ”
“โอ้ยมึง ถ้ามึงรักเค้าอยู่มึงก็ต้องแย่งให้มันรู้ดำรู้แดงไปข้าง ไม่งั้นเสียเชิงชายนะเว่ย ผู้หญิงเค้าชอบอะไรที่แบบทุ่มเทอะไรงี้อยู่แล้วเชื่อกู”
“แฟนกูเป็นผู้ชาย”
“ก็ผู้ชาย … เฮ้ย ! อะไรนะ ไอ้เซอร์ อย่าบอกกูว่ามึง เป็น … เป็นนนน”
“ไม่ใช่เกย์ แต่กับคนนี้กูไม่ไหวจริงๆว่ะ น่ารักชิบหาย”
“ไอ้สัส มึงคงไม่ได้หมายปองประตูหลังกูอยู่ใช่ปะ” ไอ้พี เขยิบออกห่างไปไกล เหมือนผมจะลอบฆ่ามัน
“ไอ้ห่า กูไม่ทำไรมึงหรอก เห็นหน้ากูก็หมดอารมณ์ละ”
“อ่าวสัส กูออกจะหล่อ ดูดี มีชาติตระกูล”
“ถุ้ย กูอยากจะอ้วก”
“มึงท้องหรอวะ มึงควีนหรอเนี่ยยย”
“ไอ้สัส มาลองสักรอบมา จะได้รู้ว่าคิงหรือควีน” ผมแกล้งเขยิบไปใกล้ๆมัน
“เฮ้ยๆ ไหนว่าเห็นหน้ากูก็หมดอารมณ์แล้วไง” มันดันอกผม ผลักแรงๆ แต่เสือกไม่มีแรง ฮาจริง
“เพื่อให้เพื่อนกูตาสว่างเรื่องความสามารถของกู กูจะยอมทนๆไปก็ได้”
“ไอ้เหิ้ยไม่ต้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
หลังจากแหย่กันไปอีกสักพัก ผมกับมันก็ไปรับน้องกันตามปกติ แม้จะเขม่นหน้ากับพี่รหัสตัวเองที่ต้องทำกิจกรรมคู่กับมันก็เหอะ คิดถึงแต่คนที่อยู่ รพ ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ อยากเยี่ยมก็เยี่ยมไม่ได้เซ็งว่ะ
กล่าวถึงอีกคนที่อยู่โรงพยาบาล
“เห็ดมึงแดกไรเยอะแยะวะ” ไอ้มิวเริ่มโวยวาย
“กูแค่กินเลย์ถุงที่สองเองนะ”
“สัส นั่นเทสโต้อีกสามถุง คอนเน่อีกสอง ทวิสตี้อีกสาม ยังไม่รวมก๊อบกอบ อีก”
“กะ กูหิว กูคนป่วยนะเว่ยยย”
“ไอ้ห่าป่วยการเมืองชัดๆ หัวมึงก็ไม่ได้เป็นไรให้นอนทำห่าไรวะ รพ ”
“กูก็อยากกลับบ้านนะ เมื่อไหร่แม่งจะปล่อยกูวะ เหมือนโดนขังคุกเลยว่ะ”
“ห่าแดกทั้งวันอ้วนแน่มึง”
“อะไร กูออกจะหุ่นดีนะสัส”
“ระวังนะเว่ย อ้วนมากไม่มีใครคบเป็นแฟน ดูดิแขนมึงเริ่มอวบแล้วน่ะ แก้มมึงก็เยอะขึ้นนะเห็ด” อะไรนะ ตายละ ผมเริ่มคลำตัวไปเรื่อยๆ หรือผมจะอ้วนขึ้นจริงๆ ตั้งแต่อยู่บ้านพี่พอยท์ก็กินดีอยู่ดี ออกกำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออกเป็นทุนเดิมอยู่ละ
เฮ้ยย กูอ้วนขึ้นจริงจริงหรอ เฮือกกกกกก
“ทำไงดีวะมิว กูอ้วนจริงๆแน่เลยอ่ะ”
“เฮ้ยๆ เห็ดกูพูดเล่น”
“ไม่ๆ กูว่ากูอ้วนขึ้นจริงๆนะ ตายห่าละ กูจะต้องไดเอต”
“สัส มึงไม่ใช่การ์ตูนโมเอะของญี่ปุ่นนะเว่ย มาไดองไดเอต”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กูอ้วนนนนน”
ณ วินาทีนี้ ยอดชายนายมิวน่าสงสารที่สุดที่ต้องมารับฟังเสียงครวญครางของผู้ป่วยการเมือง … อาเมน
วันต่อมา …
น้องเห็ดน้อยๆก็ได้เก็บเสื้อผ้าออกจา รพ ท่ามกลางความดีใจของผองเพื่อนและครอบครัว ที่น้องเห็ดสามารถกลับไปผจญภัยในโลกภายนอกได้อีกครั้ง กำลังจะได้กลับไปศึกษาร่ำเรียนวิทยายุทธ์เพื่อไปสู่รบกับสิ่งต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต กลับไปสร้างเสริมกำลัง ความฉลาด และสติปัญญา เพื่อสู้กับศึกอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ศึกนี้ช่างยิ่งใหญ่นัก ยากนักจะมองข้าม
นั่นก็คือ………………………………..
การเตรียมตัวเอนสะท้าน ได้ยินคำนี้ทีไรเปรียนดุจเส้นตายของวัยรุ่น ม.6 และ ปวช. ปี 3 ที่ต้องเอนสะท้าน ให้สะเทิ้นกันไปข้าง
โอ้ แล้วจอมยุทธ์น้องเห็ดของเราจะทำเยี่ยงไรกับเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้ากันละนี่ …
“ฮือออออออออออออออออ กูอ้วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน” ว่าแล้วเราก็โฟกัสกันไปที่จอมยุทธ์น้องเห็ด นั่น เขากำลังนั่งครวญครางอยู่บนโต๊ะม้าหินของโรงเรียน
“เห็ดมึงคิดมากไปแล้ว กูว่ามึงไม่ได้อ้วนนะ แค่อวบขึ้นนิดๆ”
“ซิมมึงอย่ามาปลอบใจกู กูอ้วนนน อ๊ากกกกก กูจะกลายเป็นโอ่ง”
“มึงก็ออกกำลังกายดิวะ จะได้เฟิร์มมมม เตะบอลแบบกูไง” จอมยุทธ์มิว ผู้เป็นเพื่อนจอมยุทธ์น้องเห็ดได้เสนอทางออกมาหนึ่งทาง ทว่า ..
“กูร้อนอ่ะ ”
“โวะไอ้ห่า มึงอะไรนักหนาวะ งั้นแม่งไม่ต้องทำเหิ้ยไรละ อ้วนบวมเป็นตุ่มต่อไป สัส โวยวายอยู่ได้กูรำคาญ”
“มันมีไรที่เหงื่อออกเยอะๆ ทำแล้วมีความสุข ไม่ต้องออกแรงมากปะวะ”
“กูนึกแปป” ผ่านไปสักพักหน้าตาจอมยุทธ์มิว ก็เริ่มเจ้าเลห์ ก่อนจะบอกจอมยุทธ์น้องเห็ดว่า
“กิจกรรมเข้าจังหวะไงมึง ไอ้ซิมกับกูก็ทำบ่อย”
“หะ สัสมิว มึงอย่าบอกนะ ไอ้เหิ้ย” จอมยุทธ์ซิมที่เงียบอยู่นานก็โวยวายก่อนจะเริ่มหน้าแดง ก้มหน้าลงหลบตาเพื่อนฝูง
“อะไรวะ กิจกรรมเข้าจังหวะ” จอมยุทธ์น้องเห็ดยังคงเอ๋อรับประทาน
“ก็กิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียงไง ก๊ากกก” จอมยุทธ์มิวพูดออกมาแบบไม่อายใคร
“ไอ้สัสมิว ไอ้เหิ้ยยยยยยยยยยยยยยย”
“ก๊ากกกกกกก ทำเหมือนไม่เคย กิ้วๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”
แล้วสถานฝึกวิทยายุทธ์ที่เรียกว่าโรงเรียน ก็กลายเป็นที่วิ่งไล่เตะของสามจองยุทธ์ ที่คงจะลืมไปแล้วว่า อีกไม่กี่เดือนจะมีการทดสอบวิทยายุทธ์ของจอมยุทธ์ทั่วประเทศไทยที่ชื่อว่า เอนสะท้าน …