ฉบับรีไรท์แล้ว ตามที่จะลงในหนังสือทั้งหมด
ตอนที่ 5
หลังจากพี่ชายกับไอ้ฟาวส์ลงไปเคลียกันในทะเล ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปอยู่คนละมุม เงียบทั้งคู่ เห็ดแบบกูเลยได้แต่นั่งจ๋อย พวกคนอื่นๆก็พากันหนีไปเดินเที่ยวกันหมด แม้แต่ไอ้เซอร์ ก็ทิ้งผมเฝ้าสองคนนี้อีกคน นิสัยว่ะ อะไรว๊าแม่งๆ แง่งงง
“โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” กูจะตะโกนให้แม่งลั่นโลกเลยสาสสสส
“เฮ้ยเป็นเหิ้ยไรวะ ร้องเหมือนหมาถูกเชือด” ปากมันน่ากระทืบหนัก สัสฟาวส์เอ้ย
“ด่าน้องกูหาเหิ้ยไรวะ มึงเป็นใครมีสิทธิ์ไร” พี่ชายกูขึ้นอีกคน ชี้หน้าไอ้ฟาวส์จากอีกมุม เอาเข้าไป กูควรทำเช่นไร
“จบโว้ย จะเงียบไปไหนสองคนนี้นี่ กูทนไม่ไหวเพราะเสด็จพี่และเสด็จฟาวส์แหละคร๊าบบบ ไปเที่ยว อยากไปเที่ยว”
“แล้วไม่ไปแต่แรก มาบ่นทำห่าไร”
“เพราะกูกลัวมึงทำไรพี่กูไง สาส”
“มึงเห็นกูเป็นคนแบบนั้น”
“หรือมึงไม่คิด”
“กูคิด”
“อ้าว สัสกูเสียหายนะ พวกมึงคุยเหิ้ยไรกันเนี่ย” พี่เฮซโวยวายมั่ง เถียงกันก็ดีกว่าเงียบแหละวะ
“พอๆ ไปเที่ยวกันป่ะ ” แล้วผมก็เดินไปลากแขนพี่ชายกับไอ้ฟาวส์ ลากไป ลากไปเรื่อยๆ เดินเลียบชายหาด แต่เนื่องจากบ้านที่พวกเราพักมันอยู่บริเวณส่วนตั้วส่วนตัว พวกไอ้เซอร์ก็เอารถไป พวกเราเลยต้องเดินไกลชิบหาย
“เห็ด มึงลากกูมาลำบากกับมึงทำไมเนี่ย” ไอ้ฟาวส์บ่น เพราะเราเดินมาไกลเหิ้ยๆแล้ว มันไม่มีทีท่าจะเจอสิ่งที่เรียกว่าชุมชนคนอยู่เลย มันมีแต่ทางรถวิ่ง และหาดทราย แม่งเดอะเบสชิบหาย
“ก็กูไม่รู้นี่หว่า เมื่อวานตอนนั่งรถมันแป๊ปเดียวเองอ่ะ”
“ห่า ก็กูขับรถไวมากไง มันต่างกับเดินนะสาสสส” ไอ้ฟาวส์ยังคงโวยวายต่อไป พี่ชายกูก็เดินเงียบๆ
“โอ๊ย !” พี่ชายกูสะดุดอะไรไม่ทราบ ล้มลงไปหน้าทิ่มทราย แน่นอนไอ้ฟาวส์นี่เหมือนพี่กูโดนระเบิด วิ่งเข้าไปประคองดุจพี่กูใกล้ตายเต็มที(ดูมันแช่งพี่มัน)
“เฮ้ยเฮซ เป็นไรเปล่า” ตามสเต็ปหนังไทยสเต็ปแรก พี่กูก็สลัดมือไอ้ฟาวส์ออก แล้วลุกขึ้นเอง
“โอ๊ยยย” สเต็ปที่สองของหนังไทย พี่กูล้มลงแล้วไอ้ฟาวส์รับไว้
“มาขี่หลังกูเหอะ มึงนี่ก็เหลือเกินมีแต่ทรายยังเสือกสะดุดอะไรอีกนะ” ไอ้ฟาวส์ย่อตัวลง แต่พี่ชายผมก็ยังทำเก่งไม่ยอมขี่หลัง
“จะขี่ดีๆหรือให้กูอุ้ม ขึ้นมาอย่าให้พูดหลายรอบ” พี่ชายฮึดฮัดอยู่เล็กน้อย แล้วก็ยอมขี่หลังมัน เอาเข้าไป หนังไทยชิบหายเลยว่ะ
“ไปเดินต่อไอ้เห็ด เดี๋ยวก็ถึงวะ” ไอ้ฟาวส์กับพี่ชายก็ตัวไม่ได้แตกต่างกันทำไมมันแบกเหมือนพี่กูตัวเบาๆ ออกจะหน้าตาเบิกบานยิ้มแป้นเป็นจานยูบีซี เฮ้ย เค้าเปลี่ยนเป็นทรูวิชั่นส์แล้ว (มุกมัน ?)
“โอ๊ยยย กูเหนื่อยยยย” ไอ้เห็ดเดินไปบ่นไปเรื่อยๆ มันจะไกลอะไรนักหนาวะ สาสสสส
“อย่าบนๆ เดินไป” ไอ้ฟาวส์ยังอุตส่ายื่นมือมาผลักหัวกูอีกนะ แต่พี่ชายกูก็เหลือเกิน หลับคาหลังไอ้ฟาวส์ซะงั้น
ปริ๊นๆ !
เสียงแตรรถดังขึ้น พวกเราหันไปเจอรถคุ้นตาขับมาจอดเทียบ แล้วก็ไอ้เซอร์วิ่งกระหืดกระหอบลงมา
“ไง…เซอ…” ผมกำลังจะทัก แต่มันกระชากตัวผมไปกอดแน่น
“กูนึกว่ามึงเป็นอะไรไปแล้วซะอีก”
“กูก็ยังอยู่นี่ไง ไม่ได้เป็นไรนี่ อะไรของมึงวะ”
“กูขับกลับไปไม่เจอมึง นึกว่ามึงโดนใครเอาไป” มันลูบหัวผมซุกหน้าลงกับไหล่ มันน่ารัก …
“มึงก็น๊า ไอ้ฟาวส์ก็อยู่พี่ชายก็อยู่ ไม่มีใครทำไรกูได้หรอกน่า” ผมกอดเอวมันหลวมๆ
“กูลืมไป มัวแต่ห่วงมึง”
“อะแฮ่มๆ เลิกหวานได้ยังกูอิจฉา” ไอ้ฟาวส์สอดปากขึ้นแทรก
“อิจฉาด้วยหรอ ของมึงหลับคาหลังเลยน่าอิจฉากว่าเยอะ ฮ่าๆ ไปๆขึ้นรถพวกนั้นมันนั่งกินข้าวรอแล้ว” แล้วพวกเราก็ขึ้นรถ ผมนั่งข้างไอ้เซอร์ ไอ้ฟาวส์นั่งหลังมีพี่ชายผมยังคงหลับสนิทเอนหัวพิงไหล่มัน บทจะง่ายก็ง่ายเลยว่ะพี่กู แบบนี้มันได้ใจหมดแล้ว
ไอ้เซอร์ขับรถมาจอดหน้าร้านอาหารร้านหนึ่งบรรยากาศริมทะเล น่านั่งมาก ไอ้เห็ดก็ลัลล๊าดีด๊า ลมเย็นโคตรอ่ะ พวกเราเดินเข้าร้าน พี่ชายผมก็สะลึมสะลือเดินเข้ามาในร้านไม่ได้รู้เลยว่าจูงมือกับไอ้ฟาวส์อยู่
“อ้าวน้องน้อยนี่นา มาทานร้านนี้เหมือนกันหรอครับ” เสียงคุ้นๆ เฮ้ย ไอ้ซีเจ้าของร้านนั้นนี่หว่า
“สัสมึงมาทำเหิ้ยไรที่นี่เนี่ย” ไอ้เซอร์ดึงตัวผมไปอยู่หลังมัน ชี้หน้าไอ้ซีหาเรื่องสุดๆ
“แหม ก็ร้านนี้เป็นกิจการของผมอีกร้านนี่ครับ ไม่รู้ว่าน้องน้อยจะชอบร้านที่ผมแต่งขนาดมากินร้านนี้ด้วย”
“ถ้ากูรู้ว่าร้านมึงกูจะไม่แม้แต่เหยียบเข้ามาเลยสัส” สองสายตาปะทะกัน
“เลิกบ้าแล้วบอกกูนะ หิวข้าวว่ะ” กูเดินตามไอ้ฟาวส์กับพี่ชายเข้าไปนั่งโต๊ะที่พวกพี่ๆเพื่อนๆนั่งกินกันอยู่
Ver. Zer
“มึงไปไกลๆเลยอย่ามายุ่งกับเมียกู” แม่งเอ้ย ไอ้หล่อนี่หน้ากระทืบชะมัด
“ไม่ได้หรอกครับของแบบนี้ใครดีใครได้” มันยังส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่กวนตีนกูสิ้นดี
“สัส ชอบแย่งของๆคนอื่นนักไง”
“เขาว่ากันว่า ชอบคนโสดศัตรูเป็นร้อย แต่ชอบคนมีเจ้าของศัตรูแค่คนเดียวนี่ครับ ฮะๆ”
“สาสเอ้ย ตายซะเหอะมึง” กูกระชากคอเสื้อมันมาวาดแขนจะต่อยหน้ามัน แต่มีบุคคลที่สามมาดึงแขนกูไว้
“เฮ้ยไรวะ”
“พอเหอะน้อง เดี๋ยวพี่เคลียเอง” ไอ้หมอนี่คุ้นๆว่ามากับเฮซคืนนั้นนี่หว่า
“ไผ่มึงมาทำไม” ไอ้หล่อหลุดมาดเลยคับ พอเจอไอ้นี่
“คิดถึงมึงเลยมา ไม่ต้องไปย่งไปแย่งของๆคนอื่นหรอก เดี๋ยวกูสอยมึงเอง หึหึ” ไอ้ไผ่หน้าหล่อ แต่สันดานน่าจะเลว ลากไอ้หล่อเดินออกไปจากร้าน กูเชีร์ยไอ้ไผ่เต็มที่ อย่าให้มันมายุ่งกับเมียกูแล้วกัน !
ฆ่าได้หยามไม่ได้
เมียข้าใครอย่าแตะ !
ใครแย่งเห็ดกูไป กูจะตามไปปาดคอมัน หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ
Ver: Haze
ตอนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่ เลยยกพวกกันไปนั่งดื่มกันชิวๆที่บาร์ริมหาดพวกเรามานั่งเรียงกันตรงบาร์เหล้า แต่ก็มีไอ้ฟาวส์มานั่งขัดอารมณ์ข้างๆ จะใครก็ตามที่ใกล้ผมมันแยกเขี้ยวใส่หมด หมาบ้าไปละมัน
“มึงเลิกบ้าได้ยัง”
“อะไร กูทำไร” มันทำหน้าเหลอหลาไม่รู้ตัว ถุ้ย
“ทำตัวเหมือนหมาหวงกูนี่ไง”
“แหงดิ หวงมากด้วย” มันยอมรับหน้าด้านๆมาก ไอ้บ้านี่ควรทำยังไงกับมันดีวะ
“ไปเต้นกันเหอะ เพลงกำลังมันส์” ไอ้เซอร์ดึงเห็ดออกไปแดนซ์ คึกกันจริงๆไอ้คู่นี้ ตอนแรกกัดกันจะเป็นจะตาย ไอ้เซอร์นี่ก็นุ่มขึ้นจริงๆ
“พี่ครับ เปปซี่แก้ว” เสียงผู้ชายที่คุ้นหูดังขึ้นข้างผม ก่อนจะนั่งลงแทนที่ไอ้เซอร์กับเห็ด
“อ้าวไอไผ่”
“ไงเฮซ มาบาร์นี้เหมือนกันหรอเรา”
“ก็ …”
“ไม่มาแล้วจะเห็นได้ไง ถามโง่ๆ” เสียงหมาบ้าแดกแฟ้บสอดปากขึ้นมา
“ฟาวส์หุบปากไปมึงปากไม่สร้างสรรค์เลยว่ะ”
“ทีกับมันพูดซะเพราะ กับกูนี่หยาบกระด้าง”
“เฮซเข้าเลือกปฏิบัติไงฟาวส์ ว่าคนไหนควรดีด้วย คนไหนควรเลวด้วย” พี่ไผ่พูดนิ่มๆ แต่เจ็บแทนไอ้ฟาวส์แปลกๆ
“สัส หาเรื่องกูหรอไอ้ไผ่”
“แค่พูดตรงๆ ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร อยากรับก็รับไปครับ มาเฮซพี่เลี้ยงเหล้า”
“เอ่อ …”
“โอ้ยไอ้สัส อย่าอยู่แล้วไอ้เหิ้ย !” ไอ้ฟาวส์ถลาเข้าไปชกหน้าพี่ไผ่จนกองไปกับพื้น แต่พี่ไผ่ก็ไม่ทิ้งลายดีดตัวเหวี่ยงขาเตะไอ้ฟาวส์กระเด็น สองคนเริ่มวางมวย โดยมีผมอยู่ตรงกลางคอยห้าม
“เฮ้ย อะไรกันวะ” การ์ดประจำบาร์ตัวยักษ์มาแยกพวกมันออกจากกัน แต่ละคนก็แรงพอกัน พยายามจะถลาไปหาอีกฝ่าย
“สัสปล่อยกูโว้ยยยยยยยย” ไอ้ฟาวส์พยายามจะไปหาพี่ไผ่ให้ได้ แต่การ์ดลากมันออกไปประตูขวา ส่วนพี่ไผ่ก็โดนลากไปประตูซ้าย ผมควรตามใครไปดี ตอนนี้ทุกคนมองมาที่เราเพลงได้ถูกปิดลงชั่วคราว เมื่อมันสองคนโดนแยกไปแน่นอนว่าตรงกลางคือผมที่ถูกจ้องมอง
“ไผ่ !” เสียงคนๆหนึ่งตะโกนขึ้น นั่นมันไอ้หล่อที่มาจีบน้องเห็ดนี่หว่า มันวิ่งตามไอ้ไผ่จะเป็นจะตาย แล้วผมล่ะสมควรที่จะตามไอ้ฟาวส์ไปมั้ย
“โอ๊ย” เสียงไอ้ฟาวส์ดังขึ้นมา ผมรีบวิ่งตามไปแบบไม่คิดชีวิต ….. ขามันพาไปเอง เห็นการ์ดโยนมันออกหลังร้าน ด่าสองสามคำแล้วคาดโทษมันว่าอย่าโผล่มาอีก
“โธ่เว่ยไอ้สัส” มันสบถออกมา ก่อนจะมองผม
“ตามมาทำไม ไปหาไอ้ไผ่ดิ”
“เอองั้นกูไปก็ได้” น้อยใจเว่ยไม่น่าตามแม่งมาเลยไง ไอ้ห่า คนอุตส่าห์เป็นห่วง
“ใช่ดิกูมันไม่สำคัญ กูมันไม่สุภาพ กูมันเลว กูมันเหิ้ย กูมันเชี่ย กูมันสันดานหมา”
“รู้ตัวแล้วหรอ” ผมบอกกับมันเสียงเย็นชา
“นานละ ห่า แต่คนเลวๆหมาๆแบบกูมันก็รักมึงคนเดียว !”
“อะ… ไอ้บ้า .. พูดอะไร” หน้าผมเริ่มร้อนแปลกๆ
“พูดความจริงจากใจ” มันเดินเข้ามาดึงแขนผม
“อะไรปล่อยกูเลย”
“มึงเขินกูหรอ” มันก้มหน้าลงมาหน้าผากชนกับผม ผมได้แต่หลบตา แหมกูไม่เขินมั้งสาส
“เปล่า.. ปล่อยกูเลย กูจะไปแดกเหล้าต่อ”
“ไม่ปล่อย”
“อะไร.. อุ้บส์” มันจูบผม จูบรุนแรงมากมันจะกินปากผมแล้วเหอะแบบนี้ แต่ต้องยอมรับ … มันจูบเก่งมาก ผมเอามือทุบๆมัน กูหายใจไม่ออกครับ
“สัส มึงทำกูจะตาย” มันบ่นก่อนจะก้มหน้าลงซบไหล่ผม
“อะไรกูทำอะไร”
“มึงคว้าหัวใจกูไปอีกรอบแล้ว …”