
=================
บทที่ 32.
หลังจากที่เดินแยกมาจากคุณหมอกับไอ้คุณเพื่อน ไวไวคนดีของสังคมก็เดินอมยิ้มอารมณ์ดีเข้าไปในบ้าน หวังจะได้เจอใครบางคนนอนรออยู่บนเตียง..หึหึ แค่คิดก็ปวดแก้ม(ยิ้มนะครับ!! แค่ยิ้มจนปวดแก้ม ห้ามคิดลึก!! หึหึ) สำหรับคนนี้ให้กอดแน่นแค่ไหน มากเท่าไหร่ก็เหมือนยังไม่พอ อยากได้...ทั้งหมดทุกสิ่งอย่าง..และทั้งตัว...หัวใจ...
พอเดินมาถึงหน้าประตูห้อง วายุก็ต้องหยุดยืนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เหมือนตั้งสติให้ตัวเองใหม่อีกรอบหลังจากที่เดินคิดอะไรๆมาตลอดทาง ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องอย่างใจเย็นเพราะไม่อยากให้คนที่อยู่ข้างในตื่นรู้ตัวเสียก่อน
แต่....
บนเตียง!!?
ในห้องน้ำ!!?
หน้าต่าง!!!?
........ไม่มี!!!!!
แว้กกกกกกก...ไอ้คุณเฮีย...หายไปไหนนนนนนนน
เหลือทิ้งไว้เพียงเศษเงินเล็กน้อยบนหัวเตียง (ไม่ใช่แหละ!!!

) มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆเขียนทิ้งเอาไว้ มีใจความดังนี้ 'กลับไปอาบน้ำ เดี๋ยวเจอกันที่บ้านยาย' โธ่....เพราะมัวแต่ไปปฏิบัติตนเป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่นอยู่นะซิ ไอ้ไวไวก็เลยอดอาหารเช้าสุดหรูซะงั้น (รู้งี้ปล่อยให้คู่นั้นเค้าอึกอักกันไปก็ดีหรอก ปั๊ดโธ่!!!)
.
.
คนที่แอบอาศัยช่วงชุลมุนตอนที่เค้ากำลังจัดของทำบุญ ย่องกลับเข้ามาทางหลังบ้าน กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้อง ค่อยยังชั่วที่นายแม่ยังมาไม่ถึงเพราะถ้าย่องกลับมาเจอเข้า คงได้โดนล้อไม่เลิกแน่...พออยู่คนเดียว..ก็ดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืนเข้าอีกจนได้ อับอายจนไม่กล้ามองหน้าตัวเองในกระจก ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตัวเองทำหน้าแบบไหนไป จำได้แต่หน้าของไอ้หมีโย่งที่ยังติดตาจนถึงตอนนี้...ยอมไหลตามมันไปอีกจนได้ แถมยังไปบอกสัญญาอ้อมๆแบบนั้นกับมันอีก...ขอให้มันเบลอจนจำอะไรไม่ได้ทีเหอะ!!
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องเรียกสติคนที่กำลังนอนเอาหน้าซุกลงไปกับหมอนให้รู้ตัว(ก่อนจะขาดอากาศหายใจตาย) นายตุลลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องอย่างเกียจคร้าน เพราะตอนนี้ยังไม่อยากเจอหน้าใคร ตั้งใจว่าถ้าเปิดไปแล้วเป็นหน้าไอ้หมีโย่งจะไล่มันกลับไปก่อน
"อ้าว...ไอ้คุณขิมมาได้ไง!!?" กลายเป็นว่าคนที่มายืนยิ้มกริ่มหน้าห้องเป็นคุณเพื่อนหมอ..ที่ไม่น่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้
"เป็นไรวะ หน้าแดงๆมีไข้เหรอ" วิญญาณคุณหมอเข้าสิงทันทีทันใดตอนที่เห็นว่าเจ้าของห้องเปิดประตูออกมาแล้วทำหน้างง ด้วยความที่ไอ้คุณตุลมันขาวซีดอยู่แล้วเวลาออกอาการอะไรก็เลยเห็นชัดกว่าใคร
"อะไร!!? ใครจ้างหมอมาตรวจไข้แถวนี้รึไงวะ ว่างเกิ๊น!!" มือของคุณหมอที่กำลังจะยื่นไปแตะหน้าผากเพื่อนเพื่อลองวัดอุณหภูมิ พอได้ยินคำบ่นแบบนั้น จากแค่แตะก็เลยกลายเป็นตบกะโหลกแทน เพราะปากดีแบบนี้คงไม่ได้เป็นอะไรแน่
"มาตามเสียงเรียกร้องเว้ย!!" เจ้าของห้องเหล่มองด้วยหางตาด้วยความหมั่นไส้ พร้อมกับเบี่ยงตัวหลบให้เพื่อนเดินเข้ามาในห้อง
"ใครเรียกร้อง? ไอ้มั่ว!!" เพื่อนหมอหันมามอง แล้วทำเป็นเก๊กหน้าหล่อใส่ทำเอาคนมองระเบิดหัวเราะออกมาได้ง่ายดาย ...ดีเหมือนกันที่ไอ้หมอขิมมา อย่างน้อยก็ทำให้ลืมเรื่องหมกมุ่นเมื่อคืนไปได้สนิท เพราะมัวแต่สรรหาคำมาด่ามันนี่แหละ
"เออ!! คนเรานะ มาเที่ยวก็ไม่ชวน นิสัย!!" เสียงไอ้คุณหมอบ่นพึมพำตอนที่เดินเข้ามานั่งในห้อง
"มาทำบุญครบรอบวันเสียของแม่ษา ไม่ได้มาเที่ยวเล่นโว้ย!!"
"เรียก'แม่'ได้เต็มปากเต็มคำเลยนะ อิจฉาไอ้เด็กโย่งมันจริงโว้ย!! มาก็ช้าดันคาบไปได้ทุกสิ่งเหอะ!!" หมอขิมแกล้งว่าพร้อมกับกระโดดหลบลำเเข้งของไอ้คุณเพื่อนที่ซัดเข้ามาด้วย ตัวก็ใช่เล็กโดนไปไม่ใช่เจ็บเล่นๆนะ เพราะไอ้เพื่อนบ้านี่เวลาเขินขึ้นมามันเอาจริงทุกกระบวนท่า
"เรียกแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วโว้ย แล้วใครคาบอะไรพูดให้ดีนะ มีเพื่อนเป็นหมอหรือหมากันแน่วะ!!" หมายถึงไอ้ที่วิ่งอยู่ในปากมันนะ กัดทีเลือดซิบ!!
"จริงดิ!! จองตัวตั้งแต่เด็กๆเลยเหรอ ไอ้เด็กนี่มันร้ายใช่เล่น!!" เสียงบ่นพึมพำของเพื่อนหมอทำเอานายตุลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็รำคาญเกินกว่าจะเอ่ยถาม ขี้เกียจมานั่งทำความเข้าใจกับความคิดซับซ้อนของพวกหมอๆ
"ก็ตอนเด็กๆอยู่บ้านหลังนี้ เพิ่งย้ายไปตอนขึ้นมัธยม" แล้วก็ได้รู้จักพวกมันนี่แหละ ไอ้คุณหมอขิมกับไอ้เพื่อนพิช....ขนาดเลือกเรียนคนละคณะตอนเข้ามหาลัยยังเลิกคบกับพวกมันไม่ได้ เคยพาพวกมันมาเที่ยวบ้านครั้งหนึ่ง ไม่คิดว่าจะยังจำทางมาได้
"อ้อ..ถึงว่า..." หมอขิมเว้นคำพูดที่เหลือเอาไว้ เพราะสายตาเหลือบไปเห็นเงาใครบางคนเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าประตู
"ถึงว่าอะไร...พูดให้ดีๆนะเว้ย" เจ้าของห้องชูกำปั้นขึ้นมาขู่ แต่ทางฝ่ายคุณหมอกลับคลี่ยิ้มกลับมา
"ถามจริงเหอะไอ้คุณตุล ไม่รู้ตัวเลยเหรอวะ ว่าสายตาตัวเองมองหาใครมาตลอด"
หมอขิมปรับเป็นโหมดจริงจังขึ้นมา เท่าที่คบกันมาไอ้เพื่อนสี่ตามันชอบนั่งเหม่อทุกครั้งที่มีเวลาว่าง สายตาเหมือนมองไปที่ไหนซักแห่ง บางครั้งก็ใจลอยเหมือนไม่ได้สนใจเหตุการณ์ปัจจุบันรอบตัว ทั้งที่คุยกันต่อหน้า แต่สายตามันเหมือนไม่ได้สะท้อนว่ามีคู่สนทนาอยู่ข้างใน ขนาดตอนที่มันมีแฟนยังห่วงอยู่ว่าจะไปด้วยกันรอดไหม...แล้วสุดท้ายก็ไม่รอดทั้งคู่ แม้จะไม่มีใครผิดถูกเพียงแต่ก็เกือบไปไม่เป็นกันทั้งคู่...ก็เพิ่งจะมีคราวนี้แหละที่ดูต่างไปจากทุกที
"ไม่รู้ว่ะ!!" คำตอบสั้นๆง่ายๆ ทำเอาคนรอฟังแทบจะกลิ้งตกจากขอบเตียงที่นั่ง
"ก็รู้ตัวซักทีซิโว้ย!! รอใครอยู่ก็ยอมรับไปซะ มัวอ้ำอึ้งอยู่ ซักวันไอ้ที่อยู่ข้างๆมันอาจจะหายไปอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้" นายตุลกำลังเรียบเรียงประโยคที่ได้ยินจากปากไอ้คุณเพื่อนในหัวตัวเองอีกรอบ ทั้งที่ทำเป็นลืมไปแล้วแท้ๆ ไอ้หมอบ้ามันยังมาทำให้นึกถึง...เรื่องเมื่อคืนขึ้นมาอีก!!...นึกขึ้นมาทำไม ตอนนี้วะ!!
"ไม่หายเว้ย!! ไม่มีทางหายแน่ๆ" แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจนัก แต่ชั่ววูบหนึ่ง..ใบหน้าของใครบางคนก็ผุดขึ้นมาในความคิด แม้ว่ามันจะทะลึ่งทะเล้นไปบ้าง แต่ที่ผ่านมาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ยิ้มได้หัวเราะได้ก็เพราะมีไอ้หมีบ้าคอยยุ่งวุ่นวายอยู่ข้างกายเสมอ แม้จะเคยหายไปครั้งหนึ่งก็ได้กลับมาแล้ว...กลับมาแล้วจริงๆ..ถ้ามีรอบสองอีกล่ะก็...คราวนี้ได้กินอุ้งเท้าหมีตุ๋นแน่!!
"แล้วไอ้เด็กนั่นมันรู้รึยัง ว่าไอ้เฮียมันรู้ตัวแล้ว" นายตุลหลบสายตาเพื่อนหมอที่เหล่มองมา ...ถ้าไม่รู้มันคงไม่กล้ารุกซะขนาดนั้นหรอกมั้ง
"โทษทีนะไอ้คุณเพื่อน จะมานั่งสัมภาษณ์เรื่องคนอื่นหาสวรรค์วิมานชั้นใดไม่ทราบ อย่าบอกนะว่ามาเรื่องนี้ จะได้เตะส่งกลับเดี๋ยวนี้เลย" เพิ่งจะรู้ตัว...ว่าหลงกลไอ้หมอไปหลายคำถาม ดีนะไม่ได้ระบุตัวตนใครไปในบทสนทนา
"ไรว่ะ!! ถามแค่นี้ทำมาโหด อ๊ะ!! เสียงรถใครมา!!?" ก่อนที่หมอขิมจะคิดหาเหตุผลดีๆมาตอบ เรื่องที่มาโผล่หัวที่บ้านงานโดยไม่ได้รับเชิญ และก่อนที่จะโดนเตะไล่อย่างที่เจ้าของบ้านมันว่า ก็มีเรื่องให้เลี่ยงตายได้..เสียงรถที่เคลื่อนมาจอดหน้าบ้านทำให้ต้องชะโงกหน้าไปดู
"สงสัยนายแม่มาถึงแล้ว" มากันทียกบ้าน
"งั้นไปข้างล่างกัน คิดถึงหนูมินท์" สบโอกาสเหมาะหมอขิมก็รีบกระโดดพุ่งตัวออกไปจากห้องทันที ไม่ฟังเสียงเรียกเจ้าของห้อง แถมยังแอบขยิบหูขยิบตาให้ใครบางคนที่ยืนยกนิ้วโป้งให้อยู่ตรงหน้าประตู โดยที่คนในห้องมันยังไม่รู้ตัว
นายตุลยืนส่ายหน้ากับตัวเองพลางยกมือเกาหัว กำลังจะหมุนตัวกลับไปจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองต่อ แล้วค่อยลงไปข้างล่าง
แกร๊ก...เสียงประตูห้องที่เปิดและปิดลงตามลำดับ แต่พอจะหันกลับไปดู ร่างของใครบางคนก็โผเข้ามาหา ใครบางคนที่กล้ากดจมูกลงมาที่แก้ม...ไอ้หมีโย่ง!! มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่!!?
"เฮียอ่ะ ลุกมาตอนไหน ทำไมผมไม่เห็นเลยอ่ะ" จะเห็นได้ยังไงล่ะ ก็แอบย่องออกมาอ้อมไปทางหลังบ้านโน่น ไอ้เด็กบ้านี่ยังไม่ได้ชำระความ...ตื่นก่อนดันไม่ปลุกกันบ้าง ปล่อยให้นอนซะสว่างคาห้อง ดีนะไม่สวนทางกับยายตอนขากลับ ไม่งั้นคงต้องพูดปดอีกแน่
"ตื่นมาไม่เห็นใครก็เลยกลับมาอาบน้ำ แล้วทำไมไม่ปลุกด้วย!!" ยังคงปล่อยให้ไอ้หมีมันกอดแล้ววางคางหนักๆลงบนไหล่ เพราะรู้ว่าบ่ายเบี่ยงไปก็ไร้ประโยชน์
"ก็ผมเห็นเฮียหลับสบาย ไม่กล้ากวน" วายุบอกเสียงอ้อน...ที่จริงอยากนอนกอดต่ออีกหน่อยเหอะ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเป็นเจ้าของงานต้องลงมาช่วยหยิบโน่นจับนี่แต่เช้ามืดล่ะก็นะ จะกอดแน่นๆจนกว่าจะตื่น แล้วจากนั้นก็ morning kiss อีกรอบ โอ๊ย...!! แค่คิดระดับความสุขของไอ้ไวไวก็พุ่งขึ้นเกือบสูงสุดแล้วคร้าบบบบบ
"ถ้าเกิดตื่นสาย กลับมาตอนที่นายแม่มาพอดีจะทำไง ได้โดนซักไม่เลิกแน่!!" ไอ้คุณเฮียทำเสียงโหดใส่ แต่ก็ยอมให้ไอ้ไวไวหอมแก้มชื่นใจไปหลายที ถือว่าจุดนี้หายกัน
"นายแม่ก็แค่แกล้งเองนะ อุ๊ก!!" นายตุลแกล้งศอกไปที เมื่อไอ้หมีมันเริ่มทำมากกว่ากอด ไอ้นี่!!ได้คืบชอบต่อศอก..ถึงแม้จะรู้ว่าแค่โดนแกล้งแต่คนมันอายจริงนี่หว่า
"ลงไปข้างล่างกันได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนตามล่าตัวหรอก" พยายามอย่างมากที่จะแกะไอ้มือปลาหมึกที่เกาะอยู่รอบเอวตัวเองออก แต่ดูเหมือนเจ้าของมันจะยังดื้อดึงไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
"หอมแก้มก่อน แล้วจะปล่อย..!!" คนที่กำลังง่วนอยู่กับการแกะมือที่เกาะแน่น เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนพูด...ก็ทั้งที่มันตักตวงเอาไปตั้งหลายรอบแล้วเมื่อกี้ มันยังจะต้องการอะไรอีก...ไอ้หมีนี่วอนตายแต่เช้า!!
"ไอ้เด็กทะลึ่ง!! ที่ได้ไปตั้งหลายทีแล้วยังไม่พอใจรึไง!!?" อย่าให้ไอ้ตุลมีน้ำโหนะเว้ยยยย!!
"ฮึ!! เมื่อกี้ผมหอม คราวนี้ให้เฮียหอมมั่ง..นะ...นะ" อึ้งดิครับท่าน เจอคำอ้อนขอ(หน้าด้านๆ)ของไอ้หมี เล่นเอาคนฟังยืนอึ้งหน้าร้อนวูบ นับวันวิชาหน้าด้านหน้าทนของมันจะยิ่งกล้าแกร่ง
"ไอ้!! ถ้าไม่ปล่อยไม่ต้องมาเข้าใกล้อีกเลยนะ ไอ้นี่ชักได้ใจ!!" พอโดนดุแทนที่มันจะสะดุ้งสะเทือนเหมือนก่อน กลับฉีกยิ้มออกมาซะอย่างงั้น
"แล้วได้ไหมอ่ะ..." ไอ้หมีโย่งมันเลิกเซ้าซี้แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนที่โอบอยู่รอบเอว
"ได้อะไรวะ เมาของกินข้างล่างมารึไง!!!" นายตุลเตรียมชูกำปั้นขู่ ถ้ามันยังเนียนเซ้าซี้ไม่เลิกจะได้ลงมือสังหารมันซะ หรือไม่ก็แจกมะเหงกให้หายเมาซักทีสองที
"ก็
'ได้ใจ'เฮียไง ไอ้ไวไวได้แล้วรึยัง..." กำปั้นที่ยกขึ้นกลับชูค้างกลางอากาศ เพราะเจ้าของกำลังอยู่ในอาการค้างตัวแข็งไปชั่วขณะ คำถามที่ได้ยินมาพร้อมกับแววตาจริงจัง อ่อนโยน ไม่ได้ทะเล้นทะลึ่งเหมือนไอ้หมีคนเก่า
"มะ...ไม่รู้โว้ย ข้อนี้ขอผ่าน ปล่อยได้แล้ว จะลงไปข้างล่าง!! อ๊ะ!! อึ้ยยยยย" พอหมุนตัวหลุดจากอ้อมแขนมันได้ ก็โดนสองมือมันจับหมับที่ใบหน้า ยึดเอาไว้แล้วมันก็ฟัด...ฟัดจริงๆ เหมือนหมาที่กำลังเลียหน้าเจ้านายแก้มซ้ายย้ายไปแก้มขวาแบบไม่ยอมหยุด
"ถึงเฮียจะไม่บอก ผมก็รู้คำตอบแล้วเหอะ!!" กว่าที่นายตุลจะหลุดออกมาได้ก็เล่นเอาหอบ ส่วนไอ้หมีมันก็ถอยไปยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ห่างมือห่างเท้าเรียบร้อยแล้ว...มันคิดว่ามันจะรอด!!
วายุฉีกยิ้มพร้อมกับยักคิ้วยั่วไอ้คุณเฮียที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ นิสัยเฮียทำไมจะไม่รู้ ทั้งเอาแต่ใจ ขี้โมโห แล้วก็หงุดหงิด ขี้พาล ชอบก็บอกว่าชอบ เกลียดก็บอกว่าเกลียด แต่ที่เด่นสุดก็คือเกลียดการพ่ายแพ้ แต่ถึงขนาดยอมให้ไอ้ไวไวเอาแต่ใจได้ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่เรียกว่าชอบป่านนี้คงเป็นหมีนั่งยางไปนานแล้ว
"แล้วไงล่ะ!!? ถ้าคิดว่าตัวเองแน่ก็ลองตอบมาซิ หึ หึ" นายตุลยกมือขึ้นขยับแว่นพร้อมกับเหล่มองไปทางไอ้เด็กโย่งด้วยหางตา ในเมื่อมันยักคิ้วมาให้ก็ยักคิ้วกลับไปตามด้วยรอยยิ้มร้ายตรงมุมปาก นี่แหละที่เค้าว่าชั้นเชิงต่างกัน สามารถทำลายความมั่นใจคู่ต่อสู้ลงไปได้กว่าครึ่ง ไอ้หมีที่ทำท่าว่ามั่นใจๆ ก็กลายเป็นฝ่อห่อเหี่ยวได้ในพริบตา แต่ก็ยังคงต้องแกล้งยืดอกเอาไว้เพราะกลัวจะเสียฟอร์ม
"เฮียอะ!!" แม้จะรู้ว่าแค่โดนแกล้งเอาคืน แต่หากไม่ได้ยินคำตอบจากปากของเจ้าตัวเองมันจะไปมีความหมายอะไรล่ะ
"ทำไม? ฟอร์มตกรึไง? รู้อะไรก็พูดมาดิ!!" กลายเป็นไอ้หมีที่ถูกไล่ต้อนเสียเอง อารมณ์เหมือนตัวเองเป็นตำรวจที่จับผู้ร้ายได้ แต่ดันไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ เพราะดันเป็นคู่กรณีที่เห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองแต่เพียงผู้เดียว (และไม่ยอมให้ใครมารู้เห็นด้วยเด็ดขาด)
"เฮียขี้โกงอีกแล้วอ่ะ ผมพูดเองมันก็ไม่มีความหมายนะซิ!!"
"ก็เห็นทำเป็นเก่ง รู้ดีก็พูดมาดิ!!" วายุจ้องใบหน้าคนที่ยืนยักคิ้วส่งยิ้มยั่วมาให้อย่างเคืองจัด รู้งี้ไม่ปล่อยไปก็ดี ฟัดให้ตายกันไปข้างหนึ่งก่อน....ไอ้คุณเฮียกลายเป็นมนุษย์จอมยั่ว(โมโห)ไปแล้วอ่ะ..ฮึ่ยยย!!!
"ถ้ากลับไปบ้านนะ..ฮึ่ม!!" เสียงบ่นพึมพำกับตัวเอง ไม่กล้าดังมากเพราะกลัวแผนแตกถ้าอีกคนได้ยินเข้า
ก๊อก ก๊อก
"ทำอะไรกันอยู่ทั้งสองคน ข้างล่างเค้าพร้อมกันแล้วนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา" เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงเรียกที่ดังให้ได้ยินทำเอาสองคนที่ยืนจ้องหน้าเอาชนะกันอยู่ต้องพับเก็บยกนี้ไว้ชั่วคราว เพราะคนที่ขึ้นมาเรียกไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายแม่นั่นเอง วายุจำต้องเปิดประตูออกไปทักทายอย่างช่วยไม่ได้ ปัญหาอย่างอื่นเอาไว้เคลียร์ทีหลัง ขืนชักช้าให้นายแม่ขุ่นเคืองใจขึ้นมาอาจเป็นเรื่องใหญ่กว่า
"สวัสดีครับคุณน้า" ผู้สูงวัยตรงหน้ารับไหว้หลานชายคนโปรด ก่อนจะเหลือบมองไปทางลูกชายที่ยืนอยู่ในห้อง...ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดสังเกต!!
"หาเรื่องแกล้งใช้งานอะไรน้องอีกล่ะ" ดูเถอะ..!! แทนที่จะถามถูกชายดันไปห่วงไอ้หลานชายตัวโย่งแทน ทั้งที่มันนั่นแหละตัวเอาเปรียบ
"ผมจะไป'แกล้ง'อะไรหลานชายคนโปรดของแม่ได้ล่ะ รักกันมากก็เอามันลงไปด้วยเลย" นายตุลทำเป็นแกล้งเคือง เมื่อมองเห็นโอกาสเลี่ยงคำตอบของไอ้หมีมันได้...เอาไว้ก่อนเถอะตอนนี้ไอ้ตุลยังไม่พร้อมจัดแถลงข่าวตอนนี้
"ลงไปพร้อมกันนี่แหละเร็วๆเลย" เสียงนายแม่เริ่มแข็ง...ใครล่ะจะไปกล้าขัดใจ
วายุหันกลับไปมองอีกคนที่ทำเป็นแกล้งเดินช้ารั้งท้าย เหมือนกับจะบอกว่าไม่ยอมละความพยายาม...อดทนรอมาได้ตั้งนาน รอให้ผ่านวันสองวันนี้ไปได้ก่อนเถอะ ไอ้ไวไวจะกินให้เรียบเลยคอยดูซิ!!
================
แหะ แหะ หายหัวไปซะหลายวัน แวบมาอัพบ้างอะไรบ้าง
กลัวถูกลืม 
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตาม
ส่วนเรื่องตอนยาวของคู่ขัดดอกข้าพเจ้าจะพยายามนะ
สู้ตายยยยยยย หงิง~~~~
ปล. ขอพื้นที่โฆษณา "รักร้าย...ไอ้ตัวแสบ"[##ตอนพิเศษสั้นๆ##]
ใครยังไม่ได้เข้าไปก็ลองแวะดูนะ พอดีว่าเอาเรื่องไปลงอีกเว็บแล้วเกิดคิดถึงไอ้เสือกะพี่หมอขึ้นมา 