ก่อนอื่นใดต้องอภัย...ปั่นเสร็จตั้งแต่้เมื่อคืน แต่เข้าเว็บเล้าไม่ได้ 
ทั้งหมดทั้งมวลเข้าได้แค่หน้าพี่เกิ้ล แล้วจากนั้นก็เอ๋อ~!!!! บร๊ะเจ้า!!! ทำอะไรไม่ได้เลย 
ก็เลยมาแก้ตัวแต่เช้า พร้อมจิ้มทุกคนด้วยความรัก คนละฉึกสองฉึก 555

==================
บทที่ 14.
อ้อมแขนที่กอดหมับเข้าที่คอ พร้อมกับใบหน้าที่ซุกเข้ามาหา เรียวขาที่เกี่ยวกระหวัดเอาไว้เหมือนว่าคนที่กำลังอยู่ในความฝันกำลังนอนกอดหมอนข้างนอนหลับสบาย เพราะลมหายใจอุ่นๆสม่ำเสมอยังคงเป่ารดแถวซอกคอ หมอนข้างมีชีวิตที่ตื่นลืมตาขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบอยากจะขยับแต่ก็ขยับไม่ได้ นึกว่าผีอำในตอนแรก แต่พอหันมาเจอหน้าใครบางคนอยู่ในระยะประชิด จากที่คิดจะสลัดออกก็เลยกลายเป็นยิ้มออกมาแล้วนอนนิ่งอยู่แบบนั้นทั้งที่เมื่อยแทบแย่
"เฮีย...เฮียที่เป็นแบบนี้ ให้ผมรู้จักคนเดียวพอนะ..." เสียงพูดแผ่วเบาที่คล้ายกับเสียงกระซิบ วายุอยากจะยกมือขึ้นไปแตะที่ใบหน้าคนหลับ อยากก้มหน้าลงไปมองใกล้ๆให้เต็มตา เพราะตอนตื่นคืนสติ ไอ้คุณเฮียคงไม่ยอมให้ทำแบบนั้นแน่ แต่ก็กลัวว่าหากขยับจะทำให้ตื่นขึ้นมาอีก...ก็แค่อยากยืดเวลาให้นานขึ้นอีกหน่อย
.
.
"อืม...อืออออออ" คนที่กำลังจะตื่นบิดขี้เกียจไปมาพร้อมกับส่งเสียงครางในคอ แขนขาเหยียดยาวแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน ด้วยความที่ลืมไปว่าไม่ได้นอนในห้อง และไม่ใช่บนเตียงของตัวเอง พอนึกขึ้นมาได้ว่าไอ้ตัวอุ่นๆที่อยู่ข้างๆ มันคือสิ่งมีชีวิตและเป็นเจ้าของเตียง....!!
"เฮ้ยยยยย...อุ๊บ!! ฮ่าๆ" ทันทีที่หันไปมองคนข้างๆ ก็เจอเข้ากับลูกตาดำๆ คู่หนึ่งที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ไอ้ตุลตกใจซิครับท่านถูกจ้องในสภาพเยี่ยงนี้แถมระยะประชิดขนาดไม่ต้องสวมแว่นก็ยังชัดแจ๋ว แล้วพอเหลือบมองใบหน้าเจ้าของดวงตานั้นเต็มๆ ก็เป็นอันต้องหลุดหัวเราะพรืดออกมาได้ง่าย เพราะปลายจมูกยังมีรอยแดงเป็นรูปเป็นร่างเห็นชัดว่าเป็นรอยฟัน
"เฮียหัวเราะเยาะผมเหรอ ใจร้ายจริงๆ" ปากก็บ่นพึมพำแต่มือกำลังคลำหาแว่นที่หัวเตียงมาให้ไอ้คุณเฮียสวม..ใช่ซิ!! ที่หัวเราะก็เพราะเป็นฝีมือตัวเองแท้ๆงับลงมาได้บนจมูกคนอื่น แล้ววันนี้ไอ้ไวไวจะมีหน้าออกไปไหนได้ล่ะครับท่าน หลักฐานสำคัญเด่นชัดขนาดนั้น
กว่าจะได้นอนหลับอย่างสงบสุขได้เมื่อคืน...ปลุกปล้ำกันแทบตาย...แบบมวยปล้ำนะไม่ใช่อย่างอื่นที่โรแมนติกอย่างที่ใครคิดกัน ไอ้ไวไวแทบจะจับเฮียมัดไว้กับเตียงไม่งั้นคงไม่โดนแค่จมูก แถมโดนไล่ให้ลงไปนอนข้างล่าง เพิ่งจะได้มีโอกาสปีนขึ้นมาตอนที่ไอ้คุณเฮียหลับสนิทไปแล้ว เกือบสว่าง..แต่ก็ยังคุ้มที่ได้กอดได้มองหน้าตอนใกล้เช้าแบบนี้
"เด็กมันทะลึ่ง ก็ต้องโดนแบบนี้ล่ะวะ สมน้ำหน้า!!" พอรับแว่นไปสวมเรียบร้อย ภาพที่มองเห็นก็เลยเด่นชัดขึ้นไปอีก ทำเอาหยุดหัวเราะไม่ได้แต่ก็ปนสงสารนิดๆ เมื่อคืนคงจะหมั่นเขี้ยวมากไปหน่อย หึหึ
"ทีตัวเองลวนลามคนอื่นตลอด" ไอ้หมีโย่งทำหน้าบูดแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัวลุกออกไปจากเตียง คำบ่นพึมพำที่ได้ยินทำเอาไอ้คุณตุลขมวดคิ้วเข้าหากัน เพิ่งจะมานึกขึ้นได้เอาป่านฉะนี้ว่าตัวเองกำลังนอนจ้องมองตากับไอ้หมีไวไวอยู่บนเตียง!! แล้วไอ้ที่กอดที่ซุกเมื่อคืน...มันก็....
"ไอ้หมีไไวไว ใครใช้ให้ขึ้นมานอนบนเตียง!!?"
เฮือก!!! สะดุ้งซิครับท่าน เจอคำถามนี้เข้าไป ว่าจะตื่นก่อนแล้วย่องออกไปตอนเช้าแล้วเชียวนะ แผนที่วางเอาไว้ล่มหมดเพราะเฮียนั่นแหละ...!! เพราะไอ้คุณเฮียมันมากอดไอ้ไวไวไว้ยังไงล่ะครับ ก็เลยเผลอ...ลืมสิ้น!! แล้วทีนี้จะเอาไง ดันไม่ได้คิดแผนสองเอาไว้เสียด้วย ดูท่าจะซวยแน่แล้วครับท่าน
"ก็...ก็ตอนดึกมันเย็นอ่ะ ผ้าก็ไม่มีรอง..ผมก็หนาวเป็นนะ..ปวดหลัง ปวดเอวอีกต่างหาก" อ้อนซิคร้าบบบ งานนี้ไอ้ไวไวขอเอาเกียรติของลูกหมีสำรองเป็นเดิมพัน!!!
นายตุลเหลือบมองอย่างชั่งใจ เกือบจะยกขายันมันตกเตียงก็ตอนที่มันหันมาทำตาแบ๊วใส่ มันคิดว่าตัวเองน่ารักรึไงนั่นออกจะน่าหมั่นไส้สุดๆล่ะไม่ว่า แล้วที่ไม่ทำก็เพราะเห็นใจที่เมื่อคืนตัวเองเล่นหนักมือไปหน่อย ตรงต้นแขนก็ยังเห็นเป็นรอยแดง ตามคอตามไหล่อีก เพราะไอ้หมีใหญ่มันดันใส่เสื้อกล้าม..แล้วทำไม..ต้องรู้สึกร้อนๆหนาวๆเวลามองรอยที่ตัวเองเป็นคนทำด้วยวะ!!
"เออ!! ถ้าไม่ได้คิดอะไรอกุศลก็แล้วไป" คนที่รอดตายแอบถอนหายใจกับตัวเองอย่างโล่งอก ยังดีที่หน้าซื่อๆของไอ้หมีพอจะทำให้รอดชีวิตไปได้อีกวัน แต่ก็จำต้องปล่อยให้ไอ้คุณเฮียลุกออกไปจากอ้อมกอดของตัวเองอย่างแสนเสียดาย แขนข้างที่ตัวเองดันสอดไปแทนหมอนชาจนแทบจะไร้ความรู้สึก
“เฮีย....”
“อะไร..?” คนที่ทำท่าจะขยับเท้าลงไปจากเตียงหันกลับมามอง คิ้วขมวดเข้าหากันเพราะตอนที่หันกลับไปหน้าของไอ้หมีโย่งมันก็เข้ามาอยู่ในระยะประชิดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“Morning Kiss ครับ” ยังไม่ทันให้ได้ตั้งตัวหรือตั้งสติใดๆได้ ริมฝีปากคนพูดก็แตะลงมาแม้จะแค่เพียงแผ่วเบาแล้วผละออกเหมือนพวกหัวขโมย แต่ก็ทำให้คนที่ถูกจู่โจม...เหมือนถูกสะกดให้หยุดอยู่นิ่งได้
ไอ้หัวขโมยใจกล้าดูเหมือนจะยิ่งได้ใจเมื่อมองเห็นช่องทางที่จะได้ของที่ต้องการ มีหรือที่มันจะไม่คว้าเอาไว้ ฝ่ามือสองข้างช้อนที่ท้ายทอยของอีกฝ่าย สายตาจับจ้องไปที่เป้าหมายก่อนจะเอียงหน้าได้ให้องศาแล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ สัมผัสแรกเพียงแผ่วเบาเหมือนจะขออนุญาต แม้ไม่ได้รับการตอบโต้ แต่ก็ไม่ได้โดนต่อต้าน จึงเรียกร้องมากขึ้น..มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ไอ้!!!” กว่าจะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้ไอ้หมีโย่งมันเลียปาก ก็ตอนที่มันกระโดดไปยืนยิ้มแป้นเตรียมพร้อมที่จะกระโจนหนีอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“ก็ทีเฮียยังกัดจมูกได้!!!..ผมไม่อยากกัดปากเฮียนี่!! ฮ่าๆ” ทั้งที่ทำเป็นหวาดกลัว แต่มันกลับยิ้มทะเล้นพร้อมกับเลียปากตัวเอง แล้วจ้องมองมาด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“อย่าอยู่เลย ไอ้เด็กเวร!!!”
เวรกรรม!! เพราะตอนเปิดประตูออกมาได้กลิ่นของกินเลยลืมไปว่าโดนไอ้คุณเฮียไล่ล่าตามหลังมา ยังไม่ทันจะได้โดดหาที่ซ่อนรังสีอำมหิตก็แผ่กระจายไปทั่วจนไม่กล้าที่จะหันไปมองว่ามีสิ่งใดอยู่ที่ข้างหลังนั่น
พลั่ก!!!
“โอ๊ย!!! เฮียยยย....” (ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำแก่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี) หนังสือปกแข็งคร้าบบบบบ เล่มที่ไอ้คุณเฮียโหดอ่านอยู่เมื่อคืนนั่นแหละ เต็มกลางหลังก่อนที่มันจะร่วงลงไปบนพื้น
“อะไรกันคะพี่ตุล, น้องวายุ!!” คนที่ก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาเป็นหญิงสาวคนเดียวของบ้านที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายหมี ใบชาเหลือบมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมา มือหนึ่งถือหนังสือที่เพิ่งเก็บมาได้ ส่วนอีกมือยังถือทัพพีค้างเอาไว้
ที่น่าแปลกใจกว่านั้นพี่ตุลสุดแสนเพอร์เฟคที่ตัวเองพูดถึง ยังอยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอนผมเผ้าไม่เข้ารูป หน้าตาดูยุ่งเหยิงบูดบึ้ง ไม่ได้ใกล้เคียงพี่ตุลเจ้าชายในฝันของผู้หญิงทั้งคณะอย่างที่ได้กล่าวมา แม้ว่าจะยังไม่ได้ลดดีกรีความหล่อลงไป แต่พ่อสุดเนี้ยบเรียบร้อยคนนั้นน่าจะเป็นคนละคนกัน
“พี่ใบชาคร้าบบบบบ ผมโดนรังแก....” ได้ทีต้องรีบหาทางเอาตัวรอด ก่อนที่ไอ้ไวไวจะโดนฆ่าหมกบ้าน ลืมไปได้ยังไงว่ายังมีพี่สาวแสนดีคนนี้พักอยู่ในบ้าน กลิ่นอาหารที่ลอยอบอวลอยู่นี่คงเป็นฝีมือพี่ใบชาแหงๆ
“ไอ้ไวไว!!” ด้วยความที่โมโหจนลืมตัว ว่าต้องเก๊กนิ่ง ไอ้คุณตุลลืมหมดสิ้น ณ จุดนี้ ยิ่งเห็นไอ้หมีโย่งมันไปเกาะไหล่คนอื่นแล้วทำเสียงอ้อนก็ยิ่งน่าหมั่นไส้เข้าไปอีก ความโกรธมันก็พุ่งขึ้นสูงแบบหาสาเหตุไม่ได้
“ไวไว..? เอ่อ...วายุทำไมหน้าตาเราถึงเป็นแบบนั้นล่ะ..!!?” ยังไม่ทันทีเฮียโหดจะพุ่งเข้ามา พี่ใบชาก็หันกลับมามองหน้าคนที่เกาะไหล่ตัวเองเอาไว้เป็นที่กำบังด้วยความสงสัย สภาพเหมือนไปฟัดกับแมวที่ไหนมา แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปแบบนั้น เพราะกลัวว่าแมวตัวที่ว่าจะยิ่งอาละวาดหนัก
“แหะ แหะ อันนี้แค่ทายาก็หายครับ” วายุเหลือบมองไปทางไอ้คุณเฮียที่ยังคงยืนหน้าบูดบึ้ง นับว่าโดนแค่นี้ยังน้อยกับสิ่งที่ขโมยมาได้ แล้วอีกอย่าง...เมื่อคืนไอ้ไวไวก็งับเฮียไปหลายที่เพียงแต่...รอแค่เวลาที่มันจะเปิดเผยเท่านั้น ถึงตอนนั้นค่อยหาทางหนีตายกันอีกที
ใบชาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหัวกับตัวเองอย่างปลงตก เพราะแบบนี้เองเจ้าลูกหมีมันถึงได้ทำหน้างงตอนที่เล่าเรื่องพี่ตุลให้ฟังเมื่อคืน ก็เพราะพี่ท่านเหมือนเป็นคนละคนขนาดนี้ อดคิดไม่ได้ว่า ถ้า...เป็นเมื่อก่อนก็คงดี
“ไปล้างหน้าล้างตาทั้งสองคนเลย อาหารเช้าจะเสร็จแล้ว” แม่ครัวคนสวยถอดใจที่จะถามหาเอาความ คนหนึ่งก็พี่มหาโหดอีกคนก็น้องหมีตัวโย่ง ไม่รู้จะเริ่มสอบสวนจากใครก่อน ดูจากหน้าตาและสภาพการณ์ถ้าไอ้ตัวโตหน้าทะเล้นมันไม่ไปแหย่อีกคนคงไม่วิ่งไล่
วายุยังคงยืนแอบอยู่ข้างหลังพี่สาวจนกระทั่งไอ้คุณเฮียเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเอง ก่อนจะกระโดดแผล็วเข้าไปทางห้องครัว เพื่อชะโงกหน้าดูเมนูอาหารเช้าของวัน ไม่สนใจสภาพเพิ่งตื่นของตัวเอง
.
.
ส่วนคนที่เดินหายเข้าไปในห้องตัวเองกำลังบ่นพึมพำอย่างคนที่หงุดหงิดจัด เนื่องจากว่า..เอาคืนไอ้หมีมันก็ไม่ได้ เสียฟอร์มต่อหน้าหญิงอีก ยิ่งมาเห็นสภาพตัวเองในกระจกก็ยิ่งอ่อนใจไม่รู้ว่าไอ้หมีมันจูบลงไปได้ยังไง
‘จูบ!!’“บ้าฉิบ!! ไอ้เด็กเวร!!” จะไปคิดถึงมันทำบ้าอะไรไอ้หมีกะล่อนเจ้าเล่ห์นั่น ไอ้เด็กเวรที่ชอบเล่นทีเผลอแล้ววิ่งหนี ไอ้…!!
สารพัดจะสรรหาคำมาด่า แต่ก็เผลอยกนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างลืมตัว แล้วพอนึกขึ้นมาได้ก็กลับมาสวมบทโหดเก๊กนิ่งอีกรอบ ขืนให้มันรู้จะยิ่งได้ใจไปกันใหญ่ ยังไม่ทันจะได้หายเคืองเรื่องแรก ตอนที่ถอดเสื้อตัวเดิมออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำเท่านั้นแหละ
อ๊ากกกกกกกกกกกกก.....(ร้องตะโกนก้องในใจแบบไม่มีเสียง) แม่เจ้า!!!ช่วยไอ้ตุลที นี่มันรอยอะไรวะเฮ้ย ไอ้ที่มันแดงๆ เป็นจ้ำๆบนตัวเนี้ยะ ยุงกัด!!? มด!!? แมลง!! ? หรือว่า...ไอ้หมีบ้านั่นอีกแล้ว!!!
ต้องอดทนอึดอัดแทบตายตอนที่จัดการธุระตอนเช้าเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องด้วยสภาพปกติของนายตุล ทั้งที่ในใจกำลังเดือดปุดๆ ยิ่งยามที่เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของไอ้หมีโย่งที่วิ่งคลอเคลียกับสาวเดียวในบ้านก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว หงุดหงิดที่เห็นมันอ้อน มันยิ้มกับคนอื่น ทีกับเฮียมันไม่เห็นจะเชื่องแบบนี้
“เจ็บไหมล่ะ ที่จมูกเรานะ” เสียงใบชาเอ่ยถามตอนที่กำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหารเช้ากันสองคน คงไม่เห็นว่าเจ้าของบ้านมายืนกอดอกนิ่งๆอยู่ตรงมุมเสานานแล้ว
“เจ็บครับ แต่...ไม่โกรธ..” ไอ้หมีโย่งตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม ไม่รู้ว่ามันจะอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้น โปรยยิ้มไปทั่ว
“เราก็ช่างชอบหาเรื่องเจ็บตัวจริงๆ ซักวันบ้านคงพัง” สาวเจ้ายังคงบ่นให้ได้ยิน แต่ไอ้หมีมันกลับหัวเราะชอบใจแทน
“ไม่พังหรอกครับ เพราะเฮียรักบ้านหลังนี้มาก เพราะงั้นผมไม่ทำให้พังหรอก” ใบชาค้อนขวับเข้าให้หนึ่งที ชักเริ่มรู้สึกหมั่นไส้ใบหน้ายิ้มๆของเจ้าลูกหมีโย่งตรงหน้าขึ้นมา
“นี่...ถ้าพี่จะมาขออยู่ที่นี่ด้วย จะได้ไหมนะ” ใบหน้ายิ้มๆของไอ้หมีโย่งเจื่อนลงไปแทบจะทันที จนคนถามเริ่มรู้สึกผิดเพราะไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใจใคร เพียงแค่ลองแกล้งถามดู ฝ่ายที่ยืนมองอยู่เงียบๆกำลังจะก้าวขาออกมาจากที่ซ่อน แต่ไอ้หมีโย่งมันก็คลี่ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่มาพร้อมเสียงถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะพูดออกมา..
“ถ้า..ถ้าเฮียอนุญาต แต่..ขอร้องว่าอย่าให้ผมไปอยู่ที่อื่น จะไม่รบกวนหรอกครับ ขอแค่...” วายุแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าพูดอะไรงี่เง่าออกไป บ้านหลังเล็กสำหรับครอบครัวเดี่ยวแบบนี้ จะมีที่ให้ส่วนเกินไปอยู่ตรงส่วนไหน
คนที่ยืนมองอยู่ตรงมุมขมวดคิ้วเข้าหากัน ทั้งที่ไม่ชอบใจและหงุดหงิดที่เห็นมันยิ้มไปทั่ว แต่ที่ไม่ชอบยิ่งกว่าก็ตอนที่เห็นมันทำหน้าตาหมองๆปนเศร้า แล้วยืนก้มหน้ามองพื้นแบบนั้น นึกโกรธคนที่ถามขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล แม้จะรู้ว่าเรื่องนั้นจะเพียงแค่ล้อเล่นก็ตาม
“ขอโทษจ้ะ พี่แค่พูดเล่น จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเห็นแบบนี้ก็ยังมีน้องให้ต้องดูแลนะ” วายุเหลือบมองไปทางพี่สาวคนพูดที่กำลังเอามือตบท้องตัวเองเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง พอคิดได้มันก็ทำตาโตปรับอารมณ์ตัวเองไม่ทัน
“จริงอ่ะ!! พี่ใบชามีน้องแล้วจริงๆเหรอ” ใบชาพยักหน้ายืนยันอีกรอบ ไอ้หมีโย่งมันก็เลยคลี่ยิ้มแก้มแทบปริ ไม่รู้ว่าที่ตัวเองกำลังดีใจอยู่นั้น เพราะหมดคู่แข่ง หรือดีใจที่ได้ยินข่าวดีก็ไม่รู้..ทำยังกับว่ามันจะได้เป็นพ่อคนซะเองอย่างงั้น
“เมื่อวานเพิ่งไปตรวจมา โชคดีที่ไม่มีอาการแพ้เลย” คุณแม่มือใหม่ยิ้มให้พร้อมกับลูบท้องตัวเอง
เพราะคุณสามีติดประชุมที่โรงงานที่ต่างจังหวัดก็เลยต้องส่งภรรยามาคุยงานแทน แต่เมื่อวานตอนที่ไปนัดคุยกับลูกค้า แล้วดันเป็นลมจนต้องวุ่นวายให้คนแถวนั้นพาส่งโรงพยาบาล พอลืมตาขึ้นมาก็เจอเรื่องที่ทำให้ต้องประหลาดใจก็คนที่อยู่ข้างๆเตียงก็คือพี่ตุล และข่าวดีอีกเรื่องก็คือตัวเองกำลังจะมีน้อง
ด้วยความที่ไม่ได้จองโรงแรมห้องพักที่ไหนเพราะคิดว่าจะกลับเลย แต่ด้วยความที่ไปเสียเวลาอยู่ที่โรงพยาบาล กว่าจะเสร็จเรื่องเที่ยวบินสุดท้ายก็หมดพอดี ต้องขอบคุณความใจดีของพี่ตุลอีกรอบถึงได้มาค้างที่นี่
“หิวแล้ว...มีอะไรกินมั่ง” เจ้าของบ้านที่เพิ่งจะโผล่ออกมาจากที่ซ่อนได้ ทำเนียนนิ่งเหมือนเพิ่งจะเดินออกมาจากห้อง ไอ้หมีไวไวกระโดดเข้ามาเกาะแขน พร้อมรอยยิ้มหน้าบานเหมือนเด็กที่กลับมาอีกครั้ง ช่างไม่ได้เข้ากับตัวโตๆของมันเลยซักนิด
“เฮียๆฟังนะ พี่ใบชากำลังจะมีน้องเล็กๆล่ะ” เหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ไวไวมันก็เลยหันไปขยับเก้าอี้แล้วจับพี่สาวหมุนตัวลงไปนั่งอย่างทะนุถนอม
“รู้แล้ว!! จะตะโกนทำไม!!?” นายตุลแกล้งทำหน้านิ่ง ที่จริงรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานถึงได้ให้ใบชามาค้างที่นี้ กลัวว่าถ้าปล่อยให้คนท้องอ่อน ๆ ไปนอนโรงแรมคนเดียวแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีกจะแย่เอาได้
“เฮียไม่เห็นบอกกันบ้างเลย!!” ไอ้หมีทำหน้างอสะบัดสะบิ้งได้น่าถีบมาก เพียงไม่ได้อยู่กันสองคนก็เลยต้องปล่อยมันไป
“เรื่องแบบนี้มันใช่เรื่องของคนนอกอย่างเราเอามาพูดกันรึไง ไอ้หมีซื่อบื่อ!!” เฮียตุลยื่นมือไปผลักหัวฟู ๆ ของไอ้ไวไวทีหนึ่งไม่ได้แรงมาก แต่ด้วยความที่มันมีโอเวอร์แอคติ้งอยู่แล้ว ก็เลยดูสมจริงมากไปหน่อย
“เราต้องรักคุณแม่ให้มากๆรู้ไหมตัวเล็ก!!” ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าตัวเล็กที่อยู่ในท้องพี่สาวเป็นใคร วายุก็ป้องปากทำหน้าดุกระซิบบอกเจ้าตัวเหมือนจะคุยกันรู้เรื่อง ทำเอาอีกสองคนที่เหลือหันมาสบตากันแล้วหัวเราะในความรั่วของไอ้หมีโย่ง
.
.
.
“ขอบคุณนะคะพี่ตุล แล้วก็...อย่าใจแข็งให้มากนักเลย” ใบชาหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม สายตาชำเลืองมองไปทางไอ้เด็กโย่งที่วิ่งหายเข้าไปในบ้าน ทำหน้าที่เป็นเด็กลากกระเป๋าไปยัดใส่ท้ายรถ
“เดินทางดี ๆ แล้วก็..ส่งข่าวตัวเล็กถึงพี่บ้างนะ” นายตุลเลี่ยงที่จะไม่รับปากหรือตอบคำถามใด ๆ ในแววตาของหญิงสาวตรงหน้าที่มองมาอย่างรู้ทัน ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้าไปกล่าวลาไอ้เด็กยกกระเป๋าตัวโตที่วิ่งกลับมาพอดี
“พี่ไปแล้วนะพ่อลูกหมีใหญ่ แล้วก็...” ใบชาแกล้งยื่นมือไปหยิกแก้มน้องชายตัวโตอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบคำที่พอให้ได้ยินกันแค่สองคน
‘เฮียตุลของเรานะไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้นหรอก...’“เรื่องนั้น..ผมรู้ครับ, คงคิดถึงพี่ใบชากับตัวเล็กแน่ ๆ” ไอ้ไวไวฉีกยิ้มกว้างก่อนจะโอบเอวพี่สาวพาไปส่งถึงที่รถ
วายุโบกไม้โบกมือให้รถแท็กซี่ที่กำลังเคลื่อนห่างออกไปจนลับตา ตอนแรกเฮียยืนยันว่าจะไปส่งที่สนามบินแต่พี่ใบชาก็ดื้อมากยืนยันว่าจะนั่งแท็กซี่ไปเองเนื่องจากคุณสามีที่รู้ข่าวเรื่องลูกจะนั่งเครื่องมารับกลับด้วยตัวเอง ยอมแค่ให้โทรเรียกรถมารับที่หน้าบ้านเท่านั้น ก็เลยทำได้แค่มายืนส่งอยู่ที่หน้าบ้านกันทั้งสองคน
“เสียดายจัง...ผมอยากให้พี่เค้าอยู่ต่ออีกหน่อย” เสียงบ่นหงุงหงิงของไอ้หมีไวไวที่เดินตามหลังเข้ามาในบ้าน ทำเอาคนฟังเหล่มองมาด้วยหางตาอย่างหมั่นไส้จัด
“คนเค้ามีเจ้าของแล้ว ตัดใจซะเถอะ!!” นายตุลแกล้งพูดไปแบบนั้น พร้อมกับกอดอกแล้วจงใจทำเสียงเยาะเย้ยให้ได้ยิน
“ที่บอกว่าเสียดายนะ ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อยเหอะ!!” ไอ้ไวไวก็หาได้ยอมแพ้ให้แก่เฮียของมันไม่ ทำหน้าตาอวดดีพร้อมกับยักคิ้วกวนประสาทส่งกลับมา
“เรื่อง….!!?” ไอ้คุณเฮียขมวดคิ้วถามกลับมาทันที
“ก็..เสียดาย ที่ไม่ได้นอนห้องเดียวกับเฮียอีกซักคืนสองคืนต่างหาก!!” และแล้ว...ก็นึกขึ้นมาได้ อารมณ์โกรธค้างที่ลืมไปแล้วตั้งแต่เมื่อตอนสาย ไอ้หมีมันขุดกลับมาได้แล้วในที่สุด แล้วมันยังมาทำหน้าบานฉีกยิ้ม...ยังไม่รู้ชะตากรรมสินะ!!
“อ้อ...นึกขึ้นมาได้พอดี หึหึ”
“นึกอะไรอ่ะเฮีย...” ไอ้ไวไวก้าวถอยไปสองสามก้าว เนื่องจากนึกอะไรได้ขึ้นมาเหมือนกัน แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจ..แต่...ไอ้เสียงหัวเราะแบบนี้ทำเอาเสียวสันหลังวูบๆยังไงก็ไม่รู้ แล้วยังจะรอยยิ้มแบบนั้นอีก...ฆ่าผมซะเลยไหมเฮีย!!
“นึกขึ้นมาได้ว่า...จะฆ่าหมีหมกส้วมนะซิเว้ย!!”
“แว้กกกกกกกกก เฮียอย่าทำผมมมมมมมม” เวรกรรมแล้วไง ฝันที่เป็นจริงแบบนี้ ไอ้ไวไวขอผ่านได้ไหมคร้าบบบบบ
.
.
แล้วก็...ถ้าเฮียเล่นโหดแบบนี้บ่อย ๆ ล่ะก็...ไอ้ไวไวก็ต้องหาเรื่องมาเอาคืนเฮียอีกนะซิ หึหึ ไอ้คุณเฮียของผม...!!
===============================
คู่นี้รุนแรงจริงอะไรจริง ปากว่ามือถึงซะด้วย
ไม่รู้ว่าไอ้หมีจะรอดชีวิตไปจนถึงวันที่จะได้จับเฮียมันกินรึป่าว 
ป้อล้อ ขอแอบโฆษณาซักกะติ๊บ เอ๊ยยยย!!กะติ๊ด!!
ยกเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ สำหรับใครที่ยังไม่รู้
"รักร้าย...ไอ้ตัวแสบ" [##พิเศษ...หมอเนส##]
ใครที่อ่านพาร์ทแรกแล้วยังไม่ได้แวะเข้าไปขอเรียนเชิญ 
ป้อล้อ..อีกที..ขอบคุณพี่แก้วที่เปิดบ้านเลี้ยงทุกคนด้วยเมนูสารพัดแตงกวา
ใครมาทีหลังยังเหลือ...จานไว้ให้ล้างนะเออ 
กอดผู้อ่านทุกท่านแน่น ๆ อีกทีก่อนไป