^ ^
เอร้ยยย ด้าไปชิงแชมป์แบตฯแป๊บเดียว
เจเจ้มาแอบกระซิบกระซาบอะไรแถวเน้!!!!
หึหึ มาลงให้แต่เช้า เอาพี่ดอนมาแลกกันเร้ยยยยย ====================================
บทที่ 11.
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะกระจกรถทางฝั่งคนขับ ทำเอาทั้งสองคนที่นั่งจดจ้องกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง เจ้าของฝ่ามือเล็กๆที่เคาะคือหลานสาวตัวเล็กเจ้าของวันเกิดที่อยู่ในอ้อมแขนของคุณยาย
"ลุงตุล, น้าวา" เสียงเรียกของหลานสาวที่อยู่นอกรถพร้อมกับฝ่ามือที่ทุบเรียกอยู่เป็นระยะๆ ทำเอาสองคนที่อยู่ข้างในหันมาสบตากันแวบหนึ่ง
เสียงถอนหายใจยาวเหยียดเหมือนจะเสียดายอะไรบางอย่างดังมาจากฝั่งคนนั่ง แต่ก่อนที่ฝั่งคนขับจะทันได้ปลดเข็มขัดนิรภัยออกไปหาหลานสาวข้างนอก ไอ้เด็กโย่งมันก็ทำเนียนโน้มตัวเข้ามาใกล้ โบกไม้โบกมือให้หลานสาวที่กำลังส่งยิ้มหวานที่ข้างนอกตัวรถ
"ของที่อยากได้ ผมคิดเอาเองได้ไหม ว่าได้มาแล้ว..." คำถามที่ได้ยินไม่มีเสียงตอบกลับ เนื่องจากไอ้คนถามมันจงใจลากปลายจมูกผ่านข้างแก้มไปแบบเฉียดฉิวในระยะที่รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ปัดผ่านไปข้างแก้ม ทำเอาไอ้คุณเฮียนั่งนิ่งอยู่ท่าเดิมไม่กล้าขยับตัว จนกระทั่งไอ้เด็กโย่งมันเปิดประตูรถออกไปยืนฉีกยิ้มข้างนอก หันไปกล่าวทักทายนายแม่ และคว้าตัวน้อยมิ้นท์หลานสาวมากอดฟัด
"ไอ้เด็กเวร!! คะ...คิดว่าตัวเองแน่นักรึไงวะ!!!?" มันหาได้สลดต่อคำด่านั้นไม่!! ไอ้หมีไวไวมันยังคงหันมายิ้ม และยักคิ้วให้จนแก้มแทบจะปริ ทั้งที่ยังไม่พูดอะไรซักคำไม่รู้ว่าจะดีใจอะไรนักหนา ปล่อยให้ได้ใจไปก่อนเหอะ เดี๋ยวมันจะโดน!!
"เฮียลงมาเร็วๆ หลานรออยู่" เสียงเรียกพร้อมกับหน้าระรื่นแนบเนียนเหมือนกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว ทั้งที่เมื่อกี้ยังคิดจะหาแผนมาแกล้งเอาคืน เห็นแล้วก็อดเผลอยิ้มไม่ได้ทุกที นายตุลเอื้อมไปหยิบกล่องของขวัญกล่องใหญ่ที่วางอยู่เบาะหลังก่อนจะก้าวตามลงไป
"ไหน..? น้องมิ้นท์เป็นเด็กดีรึเปล่า ถ้าเป็นเด็กดีลุงมีของขวัญมาให้.." หลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของไอ้หมีไวไว พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แต่สายตากลับมองไปที่กล่องของขวัญข้างหลัง ทำเอาคุณลุงใจดีหมั่นไส้จนต้องยกมือขึ้นหยิกแก้มนุ่มๆนั่นเล่น ก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่เตรียมมาให้เจ้าของงาน
"น้องมิ้นท์รักลุงตุลคะ" หลานสาวโน้มตัวมาหาแล้วเอาแขนเกี่ยวคอของคุณลุงใจดีเข้าไปหอมแก้มหนึ่งฟอด หารู้ไม่ว่าจังหวะที่คุณลุงของตัวเองโดนหอมแก้มนั้น หน้าแทบจะยื่นเข้าไปทิ่มกับอีกคนที่อุ้มตัวเองอยู่ แม้จะไม่ได้ของขวัญแต่มันก็ยิ้มแก้มปริไม่ต่างจากเจ้าของงาน
"ไหนๆ น้องมิ้นท์ไม่หอมแก้มน้าวาเลย น้อยใจๆ" ไอ้เด็กเวรตัวโตแกล้งทำเป็นงอแง เห็นแล้วก็ทุเรศลูกตา แต่ถ้าน้องมิ้นท์หอมแก้มไอ้ไวไวล่ะก็....มันก็เหมือนกับ...
ยังไม่ทันที่ลุงตุลจะเอ่ยปากห้ามหลานสาวตัวน้อย เจ้าตัวก็หันไปหอมแก้มคนที่อุ้มตัวเองฟอดใหญ่ พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก ก่อนจะขอลงไปข้างล่าง แล้วลากกล่องของขวัญที่เพิ่งได้มาไปทางคุณยาย ปล่อยให้สองน้ากับลุงยืนอยู่ที่เดิมด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน คนหนึ่งอารมณ์ดีจนตัวแทบจะลอยได้ ส่วนอีกคนกำลังหงุดหงิดแทบจะเป็นบ้า เนื่องจากเสียเปรียบไปหลายรอบยังไม่ได้เอาคืน
"แบบนี้เหมือนเฮียหอมแก้มผมเลย ดีจัง!!" วายุยื่นหน้าเข้ามากระซิบพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่มให้อย่างไม่เกรงกลัว เนื่องจากที่นี่เป็นเขตอภัยทานของไอ้ไวไว มีคุณน้าสุชาดาและพี่มีนาเป็นเจ้าถิ่น ยังไงไอ้คุณเฮียก็ไม่มีทางทำอะไรได้แน่ เพราะงั้นต้องตักตวงให้คุ้ม หลังจากนั้นจะโดนอะไรเดี๋ยวค่อยเตรียมรับมืออีกที
"ถ้ายังไม่หยุดยิ้ม ไม่ตายดีแน่!!" คำขู่ที่ไม่เคยได้ผล ก็ยังจะยกเอามาขู่อยู่เรื่อย นึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่น่าจะไปเปิดช่องให้มันแทรกเข้ามาได้ แบบนี้ก็เท่ากับไปชี้โพรงให้ไอ้หมีบ้ามัน เกลียดจริงๆไอ้ความมั่นใจแบบนี้
"เฮียไม่ทำหรอก..." ถึงแม้จะไม่แน่ใจ(ว่าจะไม่โดน) แต่วายุก็แกล้งพูดออกไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมทั้งที่อยู่ในงานวันเกิดหลานสาวตัวน้อย คนที่น่าจะมีความสุขที่สุดก็น่าจะเป็นเจ้าของงาน แต่..ไอ้ไวไวคนนี้ก็กำลังมีความสุขแบบจุกอก แม้ว่าไอ้คุณเฮียที่ยืนอยู่ข้างๆจะทำหน้าเหมือนอยากฆ่าใครซักคนก็ตาม
"กลับไปเมื่อไหร่ โดนแน่ไอ้ไวไว!!" นั่นปะไร!!! คืนนี้ไอ้ไวไวไปอ้อนขอคุณน้านอนค้างที่นี่จะดีกว่าไหม เผื่อจะได้มีเวลาตั้งหลักหาทางเอาชีวิตรอด
"เฮียอ่ะ ชอบขู่อยู่เรื่อย แค่นี้ผมก็กลัวจะตายอยู่แล้ว" ไอ้คนที่ปากบอกว่ากลัว ยังคงรักษาระดับการทำหน้าทำตากวนประสาทได้แบบไม่มีตกหล่น
"ตายซะตอนนี้เลยดีไหม!!?" นายตุลหันไปยิ้ม เหลือบมองไปทางนายแม่ที่กำลังช่วยหลานแกะกล่องของขวัญ ก่อนจะยื่นมืออ้อมไปข้างหลังของไอ้เด็กโย่งปากดี ประหนึ่งจะโอบธรรมดา แต่ปลายนิ้วจับเนื้อที่ข้างเอวติดมือมาแล้วออกแรงบิด
"เฮียพอๆ เจ็บๆ" ไอ้หมีโย่งตัวโตสะดุ้งโหยงส่งเสียงครางหงิงๆ ทั้งที่หน้ายังต้องทำเป็นยิ้มระรื่น บิดตัวหลบไปมาแต่ก็ยิ่งทำให้เจ็บเพราะไอ้คุณเฮียมันไม่ยอมปล่อย
"เล่นอะไรกันน่ะ เราสองคน!! ตุลแกล้งอะไรน้องอีกซิเรา" นายแม่ที่หันมาเห็นพอดี เอ่ยปากถามอย่างสงสัย แต่ทั้งสองคนก็หันมายิ้มให้พร้อมกับส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน
"ใครจะไปกล้าทำอะไรหลานชายสุดที่รักของคุณนายแม่กันล่ะครับ กระผมไม่อาจเอื้อมหรอก!!!" คำประชดที่ว่า ทำเอาคุณนายแม่เชิดหน้าใส่ลูกชายอย่างงอนๆ ก่อนจะฟาดมือลงบนต้นแขนลูกชายไปอีกทีอย่างหมั่นไส้จัด แต่ไอ้ไวไวกำลังฉีกยิ้มให้ทั้งน้ำตา เจ็บดิ!!...นึกว่าเนื้อตรงนั้นจะหลุดติดมือไอ้คุณเฮียไปซะแล้ว...คนใจร้าย!!!
"เฮียเค้าใจดี วันนี้ยังไปรับผมที่มหาลัยด้วยนะ" ไวไวเข้าไปเกาะเอวคุณน้าที่เปรียบเสมือนแม่คนที่สองอย่างออดอ้อน ปล่อยให้ไอ้คุณเฮียใจร้ายเดินยิ้มอารมณ์ดีไปหาหลานสาวที่กำลังสนใจตุ๊กตาหมีตัวโตที่เพิ่งได้มา
"ขอบคุณลุงตุลรึยังน้องมิ้นท์" มีนาหันไปถามลูกสาวของตัวเอง เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้ ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งโผเข้ามาหาคุณลุงพร้อมตุ๊กตาตัวที่เพิ่งได้มา นายตุลย่อตัวลงไปอุ้มเจ้าหญิงตัวน้อยที่เป็นที่รักของทุกคนขึ้นมาในอ้อมแขน
"อย่าเรียกลุงได้ไหม ดูแก่ยังไงก็ไม่รู้ ยังไม่สามสิบเลยนะ" มีนาหันมาค้อนให้พี่ชายตัวเองอย่างหมั่นไส้
"ยอมรับเหอะ ว่าพี่นะแก่แล้วแก่เลย เป็นคุณลุงคอยเลี้ยงหลานไปซะดีๆ" คนโดนว่าเอื้อมมือไปโยกหัวน้องสาวแบบไม่เกรงใจคุณน้องเขยที่นั่งมองอยู่ที่เก้าอี้ แถมยังหัวเราะร่วมด้วยอีกต่างหาก
"น้องมิ้นท์ชอบตุ๊กตาของคุณลุงไหม..?" หลานสาวตัวน้อยพยักหน้า แล้วทำท่ากอดหมับที่เจ้าหมีตัวนุ่มอย่างหวงแหน
"ชอบค่ะ น้องหมีหน้าเหมือนน้าวาเลย.." อ้าวเวร!! พอจบคำพูดของหลานสาวตัวน้อย ทุกคนที่อยู่ในรัศมีการได้ยิน ถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ แต่คนที่ซื้อเจ้าตุ๊กตาหมีมาเป็นของขวัญถึงกับนิ่งอึ้งพูดไม่ออก
"มันเหมือนตรงไหนล่ะน้องมิ้นท์ เจ้าตัวนี้มันน่ารักจะตาย.." ไม่เห็นจะน่าเตะเหมือนไอ้หมีโย่งนั่นซักนิดเดียว พูดถึงก็เดินมาเลย ตายยากจริงๆ
"ก็น้าวาชอบทำตาแบบนี้ ใจดี แล้วก็ชอบกอดน้องมิ้นท์แน่นๆ" หลานสาวตัวน้องทำท่าทางประกอบคำพูด นี่ขนาดไอ้หมีไวไวมันมาอยู่ที่บ้านนี้ได้ไม่นานยังทำให้น้องมิ้นท์ติดได้ขนาดนี้ คนเป็นลุงแท้ๆชักเริ่มอิจฉาขึ้นมา
"ได้ยินแว่วๆ ว่าใครกำลังนินทาน้าวาอยู่...ใช่ไหมมมมม" พอหันมาเห็นว่าคุณน้าใจดีกำลังเดินทำหน้ายักษ์เข้ามาใกล้ หลานสาวตัวน้อยก็หัวเราะคิก ก่อนจะขอลงไปจากอ้อมแขนคุณลุงแล้ววิ่งหนีไปทางที่พ่อกับแม่ตัวเองนั่งอยู่ การวิ่งไล่จับระหว่างไอ้หมีตัวโตกับเจ้าของวันเกิดตัวน้อยก็เลยเริ่มขึ้น สร้างเสียงหัวเราะดังครืนไปทั่วงาน ก่อนที่เจ้าหญิงตัวน้อยจะโดนคุณพ่ออุ้มขึ้นมา
"ได้เวลานอนแล้วเจ้าหญิง เดี๋ยวองครักษ์จะพาไปนอนพร้อมกับอ่านนิทานสนุกๆ ให้ฟังนะครับ" ขนาดยังไม่ได้เล่านิทานกล่อมเจ้าหญิงตัวน้อยก็เปิดปากหาว ทำตาปรือเหมือนจะหลับอยู่รอมร่อ ก่อนที่ทั้งคู่พ่อลูกจะกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้คนที่เหลือรับหน้าที่เก็บกวาดของที่อยู่ในบ้าน
"ไม่ค้างที่บ้านเราซักคืนหรือตุล" นายแม่หันมาถามตอนที่ทั้งสองคนช่วยกันเก็บกวาด แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นเจ้าวายุช่วยหยิบช่วยแย่งทุกอย่างที่เฮียมันจะหยิบจับก็ตาม
"ผมทิ้งงานไว้น่ะแม่ แล้วพรุ่งนี้ไอ้ไวไวมันก็ต้องไปเรียนด้วย" พอคิดว่าอ้างงานตัวเองไม่ได้ผลแน่ นายตุลก็เลยจำใจต้องยกหลานชายคนโปรดของนายแม่มาเป็นข้ออ้าง เสียงถอนหายใจดังออกมาพร้อมกับสายตาของคนเป็นแม่ที่ค้อนขวับวงใหญ่
"พี่ตุลห่วงคนอื่นเป็นด้วยเหรอแม่ ไม่อยากจะเชื่อหูที่ได้ยิน" น้องสาวตัวแสบที่มักจะเข้ากันได้ดีเหลือเกินกับคุณนายแม่ แกล้งทำท่าเอานิ้วแคะหูตัวเองเหมือนสิ่งที่ลอยเข้าหูไม่ใช่เรื่องจริง
"ลูกวาอย่ายอมเฮียเราให้มากนัก ดูแลตัวเองด้วยล่ะ" แล้วดูดิ!! ทั้งสองคนนั่น กระผมอดคิดไม่ได้ว่าที่จริงแล้ว ไอ้นายตุลคนนี้เป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงหรืออย่างไร ทำไมต้องกำชับไอ้หมีโย่งนั่นแบบนั้น นายแม่นะนายแม่ คืนนี้จะปล่อยให้มันนอนนอกบ้านซะดีมั้ง หึหึ
"เราก็อย่าทำงานให้มากนัก พักผ่อนซะบ้าง ว่างๆก็พาน้องกลับมากินข้าวที่บ้านเราด้วยล่ะ!!" ดูเอาเหอะ..น้ำเสียงที่พูดกับไอ้เด็กโย่ง กับน้ำเสียงที่หันมาสั่งลูกชาย แบ่งชนชั้นกันเห็นๆ
"คร้าบบบบนายยยยแม่" คนที่โดนสั่งแกล้งลากเสียงยาว ก่อนจะวิ่งหลบฝ่ามือของนายแม่ที่ทำท่าจะฟาดมาด้วยความหมั่นไส้เข้าไปนั่งรอในรถ ก่อนที่ไอ้เด็กโย่งมันจะยกมือไหว้ลาเจ้าของบ้านวิ่งตามหลังมาขึ้นรถ
.
.
.
.
"เฮียยยยยยยย เฮียคร้าบบบบบ" แล้วมันก็ทำงาน ระบบปฏิบัติการกะล่อนของไอ้หมีไวไว เมื่อตะกี้ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกมาจากบ้าน มันยังทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมเป็นเด็กเรียบร้อยของนายแม่และยัยมีนาอยู่เลย แล้วดูมันซิ!!! หันมายิ้มทำตากรุ้มกริ่มใส่เฮียมันหน้าตาเฉย นิสัย!!
“เลิกทำหน้าทำตาน่าโดดเตะซะที ไม่งั้นคืนนี้ได้นอนนอกบ้านแน่” คนที่กำลังใช้สมาธิอย่างมากในการขับรถ ท่ามกลางสายตาวิบวับระยิบระยับของไอ้หมีโย่งที่นั่งอยู่ข้างๆ มีอาการเหมือนคันไม้คันมืออยากจอดรถข้างทาง แล้วซัดมันซักตุ้บสองตุ้บ
“ก็ผมยังไม่ได้บอกเลย ว่าอยากได้อะไร ตอนที่เฮียถาม..เหวอออ อันตรายนะเฮีย เบรกทำไมอ่ะ?” หัวทิ่มดิครับ ไอ้ไวไวเกือบพุ่งไปกระแทกกับกระจกหน้า ดีว่าคาดเข็มขัดเอาไว้
“ถึงบ้านก่อน!!”
“เฮียว่าอะไรนะ!!?” วายุหันไปถามเพราะได้ยินแค่เสียงพึมพำ แถมคนพูดยังไม่ยอมหันมามอง (คงเพราะกำลังขับรถอยู่)
“บอกว่าให้ถึงบ้านก่อน ขับรถอยู่เห็นไหม หรืออยากจะเดินกลับ!!?” ไอ้ไวไวยกมือปิดปากแล้วส่ายหัวทันทีเลยครับท่าน กลัวไอ้คุณเฮียเปลี่ยนใจไล่ลงตรงทางเปลี่ยว มันอันตรายนะคร้าบบบบบ สำหรับคนหน้าตาดีอย่างกระผม เพราะงั้นสงบปากสงบคำและอดทน...อีกนิดเดียว
แล้วทันทีที่รถแล่นเข้าไปจอดในโรงจอดรถเรียบร้อย ไอ้คุณเฮียก็เปิดประตูแล้วเดินลิ่วๆเข้าไปในบ้านแบบไม่พูดไม่จา เล่นแบบนี้ทำเอาไอ้ไวไวใจแกว่งซิครับท่าน โดนเคืองอีกแน่แล้ว ทำได้แค่วิ่งตามหลังเข้าไปในบ้าน ในใจก็หาวิธีว่าจะง้อยังไง...
“แว้กกกกก” พอเปิดประตูโผล่หน้าเข้าไปในบ้านเท่านั้นแหละท่าน ไอ้ไวไวก็ได้รับการต้อนรับเป็นหน้าแข้งของไอ้คุณเฮีย ดีนะว่าว่องไวกระโดดหลบได้อย่างเฉียดฉิว มิเช่นนั้นอาจมีเดี้ยงได้ง่าย
“กล้าล้อเล่นกับผู้ใหญ่งั้นเรอะ อย่าอยู่เลยไอ้หมีกวนประสาท ตายซะ!!!” คนที่อุตส่าห์อดทนมาจนถึงบ้าน สาวเท้าเข้าไปหาไอ้เด็กโย่งที่กำลังลนลานวิ่งหาที่หลบ
“ผมไม่ได้ล้อเล่นเลยนะ ก็เฮียนั่นแหละที่ถามผมเองอ่ะ” ตะโกนเถียงไปด้วย วิ่งหาที่หลบไปด้วย เพิ่งจะมารู้ว่าหลงกลไอ้คุณเฮียเข้าซะแล้ว แบบนี้ก็เท่ากับปิดประตูตีหมีนะเซ่!!! ไม่เอาไอ้ไวไวไม่ยอมตายด้วยเรื่องแค่นี้หรอก แว้กกกกกก
“แล้วไง!! ไอ้ที่ทำมันมีแค่นั้นรึไง!! มานี่เลย มาให้เตะซะดีๆ” ใครจะยอมไปให้โง่ล่ะครับท่าน ไอ้คุณเฮียโหด!! แล้ว..เรื่องที่ทำ หรือว่าจะเป็น...
“ทีเฮียยังทำได้เลย!!” ถูกต้อนไปจนมุม จนต้องกระโดดไปยืนบนพนักพิงของโซฟา ไปไหนไม่ได้แล้วครับท่าน ไอ้ไวไวจำต้องงัดไม้ตายออกมาใช้เสียแล้ว
“ว่าไงนะ!!?”
“ก็ทีเฮียอ่ะ ยังหอมแก้มผม แถมกอดด้วย แล้วทำไมผมจะทำบ้างไม่ได้ ไม่ยุติธรรม!! เฮียขี้โกง!!” เอาล่ะครับงานนี้ กลายเป็นไอ้คุณตุลที่ยืนนิ่ง อึ้ง ทึ่ง และ...อับอายเหลือจะบรรยาย
“มะ..มีเรื่องแบบนั้นเมื่อไหร่ อย่ามามั่ว!!!” พอเห็นหน้าตาสูญเสียความมั่นใจอย่างแรงของไอ้คุณเฮีย ไวไวมันก็แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ได้ อย่างน้อยๆไอ้คุณเฮียก็ไม่ได้กลายร่างเป็นเฮียโหดที่น่ากลัวเหมือนเมื่อกี้แล้ว
“อย่าให้นับ ตั้งแต่ตอนเด็กจนถึงเมื่อเร็วๆนี้เลยเหอะ” ยังจำได้ว่าตอนเด็กไอ้คุณเฮียไม่รู้ว่าตั้งใจจะแกล้งหรืออย่างไร ชอบมาจับแก้มแล้วดึงไปมา ไม่พอใจยังฟัดแรงๆแบบหมั่นเขี้ยวอีกต่างหาก ขนาดตอนนี้โตแล้วก็ยังโดนไปแล้วตั้งสองครั้งสองครา โดยที่ไอ้ไวไวยังไม่ได้เอาคืนเลยซักครั้ง แบบนี้เค้าเรียกขาดทุนชัดๆ
“อะไร!!? รู้ตัวแล้วทำไมไม่บอก!!? โดนผู้ชายด้วยกันหอมแก้ม ไม่รู้สึกอะไรบ้างรึไง!!” สถานการณ์แบบนี้มันต้องทำโกรธให้เนียนเข้าไว้ ทั้งเจ็บใจ ทั้งเสียหน้าที่โดนไอ้เด็กโย่งมันเอาคืนได้ในครั้งเดียว เล่นเอาสมองแทบหยุดการทำงาน หน้าร้อนจัดจนแทบจะต้องยกมือขึ้นปิด แต่ก็กลัวจะแพ้ก็เลยต้องทนไว้ แล้วไอ้ที่ถามออกไปเมื่อกี้...ลืมตัวอีกแล้วครับท่าน!!
“ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงจะวิ่งหนี แต่นี่เป็นเฮีย เพราะเป็นเฮียผมก็เลยเต็มใจ” คำตอบที่ได้รับทำเอาคนฟังยืนนิ่ง เผลอหันไปสบตากับคนพูด อะไรบางอย่างในแววตาที่ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้แม้แต่จะหันหน้าหลบ ความรู้สึกอุ่นวาบในใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน บวกกับก้อนเนื้อในอกที่กำลังเต้นแรงเหมือนไปวิ่งร้อยเมตรที่ไหนมา
“เฮียเคยห้ามเอาไว้ไม่ให้พูดออกมา แล้วก็กลัวว่าถ้าโดนเกลียดผมคงทนไม่ได้ แต่..มันไม่ไหวแล้วอ่ะเฮีย...” จากที่เป็นฝ่ายวิ่งไล่ต้อนเมื่อครู่ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไอ้คุณตุลกำลังก้าวถอยไปข้างหลัง ตอนที่ไอ้เด็กโย่งมันโดดลงมาจากพนักพิงโซฟาแล้วสาวเท้าเข้ามาหา
“ไวไว..เฮีย...!!” มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองไร้ซึ่งหนทางเดินหนี เพราะถอยไปจนชนเข้ากับชุดวางเครื่องเสียง
ปึก!! ตามมาด้วยมือทั้งสองของของไอ้เด็กโย่งที่วางลงบนที่ว่างสองข้างคร่อมตัวเอาไว้ หมดอิสรภาพหนทางหนีโดนสิ้นเชิง ไอ้คนเก่งที่วิ่งไล่เตะชาวบ้านเค้าเมื่อครู่ กำลังคิดอะไรไม่ออก สมองไม่สั่งการเสียดื้อๆ แววตาทั้งคู่ที่มองมาไม่สามารถเบือนหน้าหลบได้ซักวินาที ไอ้เด็กโย่งมันหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดเหมือนกำลังรวบรวมความกล้า
“ผมไม่รู้ว่าจะโดนเกลียดไหม แต่ขอร้องอย่าไล่ให้ไปไกลๆ ผมคงทนไม่ได้ เพราะไอ้ไวไวคนนี้ชอบเฮียครับ ชอบทุกอย่างที่เป็นเฮีย...” วายุนิ่งไปอึดใจสายตายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่ตัวเองเพิ่งจะบอกความในใจ ไม่อยากให้คลาดสายตาซักวินาที ทำเป็นใจกล้าพูดออกไปแบบนั้นทั้งที่กลัวแทบตาย กลัวจะโดนปฏิเสธ กลัวจะโดนมองด้วยสายตารังเกียจ กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ทำเอาคนรอใจหายวาบ
คนที่เพิ่งจะได้รับรู้ความในใจของไอ้หมีไวไวกำลังยืนอึ้ง เหมือนสมองมันคิดอะไรไม่ออก ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นรัวเหมือนกลอง ลองค้นหาคำตอบในใจตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ รู้เพียงแค่อารมณ์เหมือนตัวเองถูกเรียกให้ขึ้นไปรับรางวัลอะไรซักอย่างบนเวที มันปลื้มปีติจนล้นอก อยากจะยิ้มออกมาแต่ก็เขินอายเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้
“เฮีย....เฮียชอบผมซักนิดได้ไหม...ได้รึเปล่า..?” แค่เพียงเผลอจมกับความคิดของตัวเองไปชั่วครู่ ใบหน้าหงอยเหงาของไอ้หมีไวไวมันก็ยื่นเข้ามาใกล้ในระยะประชิด ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดที่ข้างแก้มไม่ได้ทำให้รู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย
“มะ..ไม่รู้เว้ย ออกไปห่างๆก่อน ไอ้หมียักษ์!! อย่านะโว้ย!!” โดนด่าแทนที่มันจะถอยออกห่าง แต่มันดันรวบเอาตัวเข้าไปกอดหน้าตาเฉย
“เฮียก็ชอบผมเหมือนกันใช่ไหมล่ะ...ดีใจจัง” อ้าวเวร!! ไอ้หมีโย่งหน้าด้าน!!! ทั้งๆที่ยังไม่ได้ตกปากรับคำอะไรซักหน่อย มันก็ดันสรุปเอาเอง แบบเข้าข้างตัวเองสุดๆอีกต่างหาก
“อย่ามา.. ไอ้หมีหลงตัวเอง ปล่อยซิเว้ยเฮ้ย!!” ด่าไปก็เท่านั้น ในเมื่อโดนไอ้เด็กโย่งมันรวบเอาไว้หมดแล้ว ดันพลาดไปหลงคารมกับแววตาของมันเข้า คิดจะหนีตอนนี้...มันไม่ทันแล้วไอ้คุณตุล!!!!
“ใช่ไหมล่ะ ถ้าเฮียไม่ชอบผมจะยอมให้ผมกอด แล้วก็...ทำแบบนี้ทำไม...” ริมฝีปากอุ่นฉกลงมาที่ข้างแก้มแทนที่จะเป็นแค่คำพูดเพียงอย่างเดียว ก่อนที่มันจะทำแบบเดิมซ้ำๆอีกหลายรอบเพราะเจ้าของแก้มยังคงอยู่ในอาการมึนงง
“ไอ้เด็กเวร!!! อย่าอยู่เลย” เมื่อแขนไม่ว่าง ไอ้ที่พอจะขยับได้ก็....
โป๊ก!!!
“โอ๊ย!!! เฮียเจ็บนะ!! ดูซิแดงเลย!!” หัวเหม่งครับ!!! ไอ้เฮียมันเอาหัวเหม่งมาโขก คำอุทานแรกเป็นเพราะเจ็บจริงอะไรจริง แต่เหลือบไปเห็นหน้าผากของผู้กระทำก็ดันไปห่วงคนอื่นมากกว่า ไอ้ไวไวก็เลยวิ่งเข้าไปประคองคนเจ็บ(และผู้กระทำผิดในคราเดียว) แต่ก็ยังไม่วายโดนตวัดมองด้วยสายตาโหดๆ
“อูยยย เพราะใครกันล่ะ!!” นั่น!!! ทำเอง เจ็บเอง แต่ดันโทษคนอื่น ไอ้คุณเฮียตัวจริงฟื้นคืนชีพแล้วครับท่าน
“เพราะไอ้ไวไวเองคร้าบบบ ไอ้ไวไวผิดเองทั้งหมดเลยเอ๊า!!!” ไอ้ไวไวจำต้องยกมือขึ้นเหมือนยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว แต่แวบหนึ่งบนใบหน้าของคนเจ็บก็มีรอยยิ้มปนขำ ก่อนจะกลบเกลื่อนเป็นเฮียโหดเหมือนเดิม
“ยังจะมาทำกะล่อนอีก ไปหาอะไรมาประคบให้เลย!!!” คนโดนดุกำลังฉีกยิ้มออกมา เท่าที่ปากตัวเองจะยิ้มได้ ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ไอ้ไวไวคงไม่ต้องเดาหรือคิดเข้าข้างตัวเองอีกต่อไป เพราะคนอย่างเฮียตุนถ้าไม่ชอบอะไร ไม่มีทางเข้าไปใกล้และไม่ยอมให้เข้าใกล้แน่
“คร้าบๆ ผมจะยอมเป็นทาสเฮียไปทั้งชีวิตเลย ยอมให้แค่คนเดียว....” คนที่กำลังดีใจจนเหมือนจะเป็นบ้าลุกขึ้นพยุงคนเจ็บไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะทนไม่ไหวยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มไอ้คุณเฮียโหดอีกฟอดเหมือนจะลองใจ แล้วใช้วิชาตัวเบาวิ่งหลบฝ่าเท้าไอ้คุณเฮียเข้าไปในครัวพร้อมกับเสียงหัวเราะและร้องตะโกน’ไชโย’ดังลั่นบ้าน
“ไอ้เด็กเวร ไอ้หมีหน้าด้าน!!!” คนที่ตะโกนด่าไล่หลัง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างอดกลั้น เกิดมาไม่เคยมีใครทำให้อายและเป็นสุขจนแทบบ้าได้ในเวลาเดียวกันแบบนี้ จากนี้ไปคงต้องระวังตัวให้มาก เพราะในความหน้าซื่อหงอยๆของไอ้หมีบ้ามันกลับซ่อนความกะล่อนเจ้าเล่ห์ไว้ข้างใน ไอ้เด็กบ้า!!!!!
==========================
กะ...ก็เค้าบอกแล้วว่าไอ้หมีมันจะมีเคราะห์
เจ็บตัวแต่ได้ใจมันคุ้มเนอะ ๆ (เฮียยังโหดได้เสมอต้นเสมอปลาย)
วันนี้แวะมาเสิร์ฟไวไวเป็นอาหารเช้า อิ่มพุงอืดดดด 5555
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน กอดดดดด