ตอนจบของเรื่อง หนูปาล์มไปพบรักกับหนุ่มโป้ง ทิ้งให้นายเก่งตกระกำลำบากกับความเก่งของเขา 55+
ไม่เอาแบบนี้น้า แต่....พี่หนึ่งไม่มีคู่เหรอ ไม่มีงั้นอายขอได้ป่ะ เอิ๊ก~
ปล.หนูชินกับหนูปุ๊บปั๊บน่ารักจริงเชียว ><
**แนวนี้ก็น่าจะสนน่ะ อิอิ พี่หนึ่งเดี๋ยวได้คู่แน่ครับ ไม่นานเกินรอ หรือต้องรออีกนาน
แอบหึงแอบหวง..
น้ำยามีไว้ทำไม..
**ตอนนี้เรียกว่าต่างคนก็ต่างคิดกันคนละมุม
แสดงว่าตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ปาล์มก้เริ่มหันเห มาชอบ ผชด้วยกันเเล้ว
ส่วนไอคุณเก่งนี้มันนอกลู่นอกทางบ้างไหม๊ครับ 55
เเล้วไอคุณเก่งมันพยายาม ป่ามป๊าม ปาล์มมั้งไหม๊เนี๊ยะ คิคิ อยากรู้
ผมเพ่งตามมาอ่านอะครับ รวดเดียวจบเลย ลุ้นมากชอบเเนวเนื้อเรื่องเเบบนี้
**ตอนนี้น่าจะได้คำตอบไม่น้อย อิอิ
**หลากหลายไอเดีย ช่วยสอนคนเขียน เปิดโลกคนเขียนให้กว้างขึ้นครับ(โดยผู้อ่าน)
ตั้งแต่เรื่องน้องต้นแล้วคับตามมาอ่านต่อ
**ขอบคุณครับที่ตามมาอ่านและมาให้กำลังใจด้วย
เรื่องนี้ เหมือนตัดต่อไม่เนียนยังไงไม่รู้ อ่านแล้วก็งงๆเล็กน้อยว่า อันไหนคือตัวอย่าง อันไหนคือตอนเต็ม
น้องปุ๊บปั๊บ ตอนแรกยังเป็นคุณปุ๊บปั๊บอยู่ คงโตขึ้นละมั้งเลยกลายเป็นพี่ปุ๊บปุ๊บไป
คู่เก่ง ปาล์มกว่าจะรู้ใจ รู้ตัวกันจริงจัง คู่ราเชนกะ พี่หนึ่งคงได้กันไปก่อน (อ้าว เฮ้ย คู่หลังมาไงเนี๊ย ฮา ฮา แอบจิ้นไปแล้ว)
แต่พระเอกเรื่องนี้หล่อ เลวมากกกกก ดีจริงๆ
ชอบมุข แฮนเมคนะ กดไลค์ซักล้าน ฮา ฮา
เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนค่ะ
อยากให้จับมาต่อกัน เพราะว่าไม่ได้ดึงตัวอย่างมาอีกครั้งเวลาลงใหม่ แต่เนื้อเรื่องมันเรียงร้อยกันมาแล้ว
ส่วนที่พี่ปุ๊บปั๊บ เปลี่ยนคำนำหน้าตัวเองใหม่ เพราะอยากให้เขาน่ารัก และเขาก็โตขึ้น นิสัยของเขาอีกอย่าง
เขาคือชอบดูละครกับคุณย่า ย่าจึงสอนอะไรที่ดีๆให้เขา แต่สิ่งที่ไม่ดีจะมีติดมาบ้าง
เขาจะได้ใช้ ก็ต่อเมื่อได้ปะทะกับพิมมี่ อิอิ
พี่หนึ่งกับราเชนก็มีสิทธิ์ จ๊ากโดนดักทางเสียหมดแล้ว ไม่มีที่ไป ต้องทำตัวลีบๆก่อนจะได้ไปได้+55
******
มีกำลังใจจากเพื่อนๆ น้องๆ ก็มีกำลังใจเข็ญตอนใหม่มาเสิร์ฟให้ ตอนแรกกะว่าจะลงวันพุธ อิอิ
+กดบวกให้ทุกคนที่มาอ่านครับ
แม่ของปาล์มกำลังจุดธูปอธิฐานบอกลูกสาวสุดที่รัก ที่ต้องจากโลกนี้ก่อนวัยอันควร เมื่อคิดว่าสิ่งที่เธอพบพานเป็นสิ่งเลวร้ายเกินจะแบกหน้ารับไหว มารดาของเธอยังคงจ้องรูปใบงาม ราวกับอยากนั่งคุยกับเธอเอง แม้ว่าเธอจะจากไปนานแล้ว.
“ใบปอ ปาล์มมันก็แต่งเข้าบ้านพ่อของปุ๊บปั๊บได้ปีกว่า ใบปอช่วยดลจิตดลใจให้ไอ้เก่งมันรักน้องเอ็นดูน้องบ้างนะ อย่าให้มันทำร้ายน้องเอ็งอีกเด็ดขาด สงสารปาล์มมัน มันยอมเพราะเพื่อพ่อกับแม่ แม่อาจจะทำไม่ถูกที่หวังดัดนิสัย ผู้ชายที่มันทำร้ายเอ็งแบบนี้ แต่เห็นจิตใจที่ถ่องแท้ของพ่อกับแม่มันแล้ว แม่ก็ทำอะไรไม่ลงเพราะเขาเป็นเพื่อนพ่อ อีกอย่างตอนนี้ปุ๊บปั๊บก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่จาก ปู่ ย่า ลุง ทุกอย่าง เป็นโชคดีของลูกเอ็งเกิดมามีบุญจริงๆ ไม่ต้องห่วงแล้วนะ หากว่าเอ็งยังเฝ้ามองอยู่ ปกป้องคุ้มครองน้องนะ ใบปอ.”
“แม่ ขออะไรนักหนา พอเหอะ ปล่อยให้ใบบอมันอยู่สงบๆเถอะยังไงมันก็หมดเวรหมดกรรมแล้ว”
“พี่ปูถ้าไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้น ก็อยู่เฉยๆ”
“พ่อไม่ได้ดีใจเลยนะ ที่ไอ้ปาล์มต้องไปเป็นเมีย ทุกวันนี้ไม่มีดินจะให้มุดหนีแล้ว”
“ถ้าพี่จะอายก็อายไปคนเดียว ฉันไม่อาย ชิ..”
“น่าภูมิใจตรงไหน มีลูกชายแต่ได้ผัว เชิดหน้าชูตาแทบจะคลุมปิ๊บเดิน..”
“โธ่ไอ้ปาล์มลูกพ่อ ไม่รู้ว่าจะเจ็บตูดแค่ไหน ฮือๆ พ่อขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เศร้า..”สองผัวเมียทะเลาะกันอย่างน่ารักน่าชังสะกิดสะเกากันแค่พอคันๆ
“เป็นอย่างนั้นก็ดีซิ ทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เท่าที่รู้อีกคนนอนเตียง อีกคนนอนบนโซฟา”ภรรยาเอ่ยอย่างท้อแท้สิ้นหวัง
“ใครจะไปรู้ เกิดไอ้นั่นมันเมา หรือหืนขึ้นมา ไอ้ปาล์มมันจะสู้อะไรได้ ตัวก็เล็กกว่า”
“ถึงจะเล็ก แต่ปาล์มมันก็เล็กพริกขี้หนูนะ”
“เก่งยังไง มันก็พลาดกันได้ทุกคน”
“ฉันขี้เกียจเถียงกับพี่ละ”
“จะหนีไปไหนละแม่ มาเถียงกันก่อน”ฝ่ายสามีหัวเราะหึๆ เมื่อภรรยาเลิกต่อปากต่อคำ ละการเผชิญหน้ากับเขาไป คงเป็นเพราะเมื่อยปากที่เสวนา แต่เขาก็รู้ใจว่าเมียไม่เคืองแต่อย่างใด
“ปาล์มเอ้ยยย อดทนเพื่อพ่อกับแม่นะ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ พ่อจะลองหาทางดู ถ้าไอ้ลูกเขยมันขุนให้ดีไม่ขึ้นจริงๆ พ่อจะตบกะโหลกมันซักทีสองที แล้วดึงปาล์มออกมาไม่ให้อยู่บ้านนั้นอีกเลย”
หัวอกคนเป็นพ่อ ยังห่วงใยเสมอ เพราะทุกครั้งที่เจอหน้า การยิ้มของปาล์มไม่ทำให้เขาประทับใจเลย เหมือนตัวเองยัดเยียดลูกเข้าห้องตารางนักโทษ
“หนึ่งแม่ถามหน่อย แกพอจะรู้มั้ยว่าสองคนนี่เขามีกุ๊กกิ๊กกันหรือยัง”
“ไม่คิดว่าแม่อยากจะรู้กับเขาด้วย”
“พูดงี้ก็สวย หนูปาล์มลูกสะใภ้ฉันนะ”มารดาทำตาปะหลับปะเหลือก หยอกลูกชายที่ขบขันคำถามของเธอ
“แม่ชอบปาล์มหรือครับ ชอบมากมั้ย”หนึ่งอยากรู้จัด เอียงหน้าเข้าใกล้เก้าอี้ที่มารดานั่ง
“ถามแปลกๆ ถึงจะเป็นสัญญารุ่นพ่อของเราก็ตามนะ แม่ก็เห็นด้วย แม่เบื่อไอ้เก่ง รู้มั้ยแม่ไม่อยากเดินไปเจอผู้หญิงใส่ชุดคลุมท้องที่ไหน แล้วมาเรียกแม่ว่า แม่ขาพี่เก่งทำหนูท้องป่องแล้วค่ะ เด็กในท้องนี่ก็หลานคุณย่านะคะ จะทิ้งจะขว้างเขาได้ลงคอเหรอ แม่เป็นคนใจอ่อนนะหนึ่ง แม่ไม่อยากได้ยินเรื่องแบบนี้อีก แค่เรื่องหนูใบปอแม่ก็คิดว่ามันเพียงพอกับประสบการณ์ชีวิตมันแล้วล่ะ แต่แม่ก็แอบหวังเล็กๆว่าจะได้หลานอีกคนจากแก ส่วนไอ้ตัวดี แม่ขอแค่ปุ๊บปั๊บคนเดียวก็พอแล้ว”
หนึ่งยิ้มกับคำแม่อย่างตื้นตัน
“เดี๋ยวนี้โตขึ้นมาหน่อย รู้จักไปค้างบ้านเพื่อนแล้ว โทรมาบอกย่าว่าคิดถึงแต่ ไปค้างบ้านคนอื่น ไม่รู้คิดถึงย่าภาษาอะไร น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆเด็กคนนี้ แล้วตัวพ่อนี่จะรู้มั้ยนะว่าลูกตัวเองน่าตีขนาดไหน แม่ถามว่าทำไมถึงไปค้าง บอกแม่ว่าน้องชินเหงา พี่ปุ๊บปั๊บเลยขอนอนเป็นเพื่อน”
“ก็บ้านเราไม่มีเด็กวัยเดียวกับเขานี่ครับแม่”
“นั่นนะสิ เออ....”
เสียงรถจอดหน้าบ้าน ทำให้ทั้งคู่หยุดสนทนา..
“มาซักที....”มารดาทำบ่นแกล้งทำหน้าเคร่งเครียด
แต่ร่างของลูกชายคนโตกลับลิ่วไปตรงน้องชายกับปาล์ม.
“พี่หนึ่งยังไม่เปลี่ยนชุดทำงานอีกเหรอ”น้องชายทำท่าจะไปเปิดประตูรถให้ปาล์ม แต่ก็ต้องหยุดก้าวขา เมื่อปาล์มเปิดออกมาเอง เขาเลยอดแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าพี่ชาย.
“ปาล์ม พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”หนึ่งยิ้มราวกับรออะไรบางอย่างมานานแสนนาน
“ผมขอรับรู้ด้วยคนได้มั้ย”เก่งสีหน้าเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงเริ่มแข็ง เขากำลังทำตัวขวางโลกอย่างไม่ตั้งใจ
“อ๋อ พี่ว่าบัตรทอร์คโชว์ของนักพูดชื่อดัง เห็นปาล์มบอกว่าอยากดู ก็เลยจัดให้”
“ปาล์มไปบอกพี่ตอนไหน ทำไมผมไม่ได้ยินด้วย”
ปาล์มเงียบ แต่ที่เงียบนี่จะรอฟังและสังเกตเก่งกับอากัปกิริยาการแสดงออก ที่เหมือนเจ้าตัวไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร
“พี่คุยกับปาล์มเมื่อวันก่อน ตอนนั้นนายไม่อยู่ ถ้าได้ยินด้วยนี่คงมีจิตสัมผัสขั้นสูง”
“.ผมไปด้วย เผอิญว่าผมก็อยากดูเหมือนกัน”
“เสียใจครับน้องชาย พี่มีอยู่แค่สองใบ สำหรับพี่กับปาล์มเท่านั้น”หนึ่งยิ้มเย้ย และเน้นท้ายประโยค
!!ควับบบ..
หนึ่งก็ไวไม่น้อย เมื่อเห็นเก่งยื่นมือจะมาฉกตั๋วในมือไป.. เขาก็รีบเหวี่ยงมือหนี
“ไม่ได้ไปก็นอนเกาคางอยู่บ้านแล้วกันนะไอ้น้อง”
“ไอ้ปาล์มไม่ว่าง”
“ปาล์มบอกเมื่อไหร่ พี่ไม่ได้ยิน”
“ใช่มั้ย...”หนึ่งแกล้งทำเป็นย้อนถาม
“ผมรับปากพี่หนึ่งแล้ว และผมก็จะไป”
“กูไม่ให้มึงไป”
“พี่บอกแม่เรียบร้อยไอ้น้อง แล้วอย่าเอากฏ กุดๆของตัวเองมาอ้าง”หนึ่งรู้ทันจีงดักทางไว้ก่อน
เก่งหมดคำพูด เมื่อเจอคำพี่ชาย เขากัดฟันกรอดๆ เดินลิ่วตรงเข้าไปในตัวบ้านอย่างเจ็บใจ เพราะว่าทำอะไรพี่ชายไม่ได้..
เมื่อเก่งเดินพ้นสายตา ทั้งคู่ก็ต่างหัวเราะแข่งกัน..
“แกล้งเขาแบบนี้ไม่สงสารน้องบ้างหรือครับ”ปาล์มเดินเข้าบ้านพร้อมกับหนึ่ง
“ถ้าไม่ทำแบบนี้จะเห็นอะไรดีๆเหรอ ฟ้ายังอ่านออกเลยว่าไอ้เก่งรู้สึกยังไง”
“..ว่าแต่ปาล์มเถอะรู้แบบนี้แล้วคิดว่ายังไง”
“เดี๋ยว.....”ปาล์มหยุดก้าวขา พลางมองเข้าไปในบ้าน เรื่องแบบนี้เขาก็ไม่อยากให้ถึงหูใคร
“อะไร...”หนึ่งก็พลอยสงสัย
“ปาล์มยังไม่อยากให้ใครรู้ แม้แต่แม่”
“.คือไม่แน่ใจเหมือนกัน ไอ้ที่เขาแสดงออกแบบนี้ เพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ ปาล์มก็หวังว่า มันจะไม่เป็นอย่างที่พี่หนึ่งกับฟ้ามอง”
“แต่มันชัดแล้วนะ”
“..ถึงจะจริงปาล์มก็ ไม่อยากให้มันกลายพันธ์”
“ตกลงปาล์มไม่ได้คิดอะไรกับมัน”
“ครับ และคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ด้วย”
หนึ่งยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบถูกใจ
“ปาล์มก็แค่อยากเห็นเขาเจ็บปวด กับสิ่งที่เขาเคยทำกับพี่ใบปอ”
“ปาล์มยังไม่ลืมเรื่องนี้อีกเหรอ”
“ไม่รู้สิ เหมือนยังค้างคาในหัว บางครั้งปวดหนึบ.”ปาล์มตอบเลี่ยงๆ
“แล้วแต่ปาล์ม พี่ไม่บังคับอยู่แล้ว ยังไงถ้าเกิดว่าไอ้เก่งมันฮึดชอบปาล์มขึ้น ปาล์มก็อย่าทำร้ายจนมันผูกคอตายแล้วกัน”
“บางทีเขาก็ควรจะได้รับอะไรตอบแทนแบบหนักๆบ้าง”
“..ไม่แน่อาจจะไม่นานนี้ ปาล์มว่ามั้ย”
“...............”
“จะยืนคุยกันอีกนานมั้ยจ๊ะ แม่มองจนเมื่อยตาแล้วนะ”
“แม่จะถามถึงเด็กดื้อของแม่ เดี๋ยวนี้หัดค้างบ้านเพื่อน แววออกแต่เด็ก”
“พ่อเขาเป็นคนอนุญาตเอง..”ปาล์มโยนให้เก่ง
“ถามจริงๆ ไอ้เจ้าเก่งมันรักลูกตัวเองมันหรือเปล่า”
“..ชมไม่ขาดปากเลยครับ มีหน้าพูดด้วยซ้ำลูกใครหว่าทั้งฉลาด ทั้งน่ารัก”
“แม่ว่าแล้ว พ่อมันต้องหลงลูก”มารดาขำ
เก่งนอนตีพุงบนเตียงทั้งชุดทำงาน เพื่อรอปาล์มให้มาถึง มีอย่างเดียวที่ถอดคือรองเท้า จะว่าไปเขาก็ยังไม่เคยใช้บริการของภรรเมียเลยวันนี้กะจะลองใช้ดูบ้าง สีหน้าระรื่นเมื่ออยู่ต่อหน้าชู้ หน้ามู่ทู่เมื่อยืนต่อหน้าสามี ใครจะทนได้ นั่นคือความอัดอั้นที่เขาได้รับ วันนี้คงได้มีกฏกติกาเพิ่มใหม่อีกข้อ..
“จ๋า..”เสียงตอบรับเมื่อยกโทรศัพท์ที่ดังครืดๆอยู่ในกระเป๋ากางเกงมาแนบหูข้างขวา
“ทำอะไรอยู่คะ”ประโยคทักทายคุ้นเคยปนเสียงหวานออดอ้อน
“.คุยกับพิมมี่อยู่ไง..”
“บ้า คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า”
“คิดถึงงงงงง”เก่งลากเสียงยาวราวกับจะบอกว่าคิดถึงใจจะขาด
“หายไปตั้งนานกลับบอกว่าคิดถึง คิดว่าพิมมี่จะเชื่อเหรอคะ”
“พิมมี่ก็รู้นี่ ว่าเก่งตกอยู่ในสภาพอะไร กระดิกตัวแทบไม่ได้ แถมตอนนี้พี่หนึ่งก็คอยจ้องจับผิด แถมไอ้ปาล์มมันยังสุมหัวคอยกลั่นแกล้งเก่งสารพัด พิมมี่สงสารเก่งบ้างสิ อดทนรอเก่งหน่อยนะคนดี ตอนนี้หุบเหวรอบตัวเก่งไปหมด ก้าวขาแต่ละก้าว ถ้าไม่ระวังก็อาจไม่ได้ผุดได้เกิด รอให้อะไรมันดีขึ้นกว่านี้ เราจะได้มีความสุขกัน”เก่งก็ตอแหลไม่แพ้ผู้ชายเจ้าชู้ที่ไหน รู้ๆกันอยู่
“ถ้าไม่จริงอย่างที่พูดนะ พิมมี่จะอาละวาดให้ดู”
“เห็นใจเก่งหน่อยซิ ยิ่งตอนนี้ไอ้ปาล์มมันตามเก่งทุกฝีก้าว มันอยากได้มรดกส่วนของเก่งทั้งหมด มันอยากแก้แค้นที่เก่งทำพี่มันป่อง มันแรงจนเก่งต้องขออยู่สงบๆซักพัก เพื่อหาทางแก้ปัญหา พิมมี่ต้องเข้าใจเก่งนะคนดี”เก่งใส่ไฟปาล์มจนไหม้เป็นจุล โดยที่เจ้าตัวไม่รู้อิโหน่อิเหน่...
!!เคล๊ก... เสียงประตูเปิดดังเข้ามา
“พิมมี่ แค่นี้ก่อนนะ มันมา...”เก่งรีบเก็บโทรศัพท์ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
สิ่งที่เขาทำ เก่งไม่รู้หรอกว่ามันสร้างความโกรธให้พอกพูนในใจของพิมมี่ขึ้นอีกไม่น้อย ที่ผ่านมาเธอก็คิดว่าอดทนอดกลั้นจนอกพองๆของเธอแทบทะลักทลาย แต่ก็พยายามสะกดไม่ให้มันพุ่งหลาวออกมาประจาน ใบหน้าสวยสดเหมือนดอกซากุระ เกรงจะออกหน้าออกตาเกินไป แต่หากว่าไม่มีอะไรดีขึ้นมา สงครามการทวงสิทธิ์เป็นเมียอีกคนต้องเกิดแน่ เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร ประโยคเด็ดนี้ผู้หญิงย่อมรู้ดี..
หลังการแต่งงานลูบหน้าปะจมูก(สิ่งที่เธอเข้าใจจากผู้ชายที่เธอรักเสี้ยมสอน) ทำให้เธอต้องยืดระยะเวลา เพื่อชะลอดูหัวใจผู้ชายไม้เลื้อยอย่างเก่ง ความรักบดบังดวงตาใสของเธอจนฝ้าฟาง เก่งพูดอะไรเธอก็คล้อยตาม ลมปากของเก่งดั่งมนต์ดำที่ทำให้เชื่องง่ายๆ แต่ยังดีที่เก่งยังแอบ แวะเวียนมาหาให้ความสุขทั้งทางกายในยามที่เธออ่อนล้า รักนั้นจึงเดินล่วงเลยมาเป็นปี แต่อีกซีกหนึ่งของหัวใจกลับอมทุกข์ด้วยลมเพชรหึง ทุกวันปาล์มได้ใกล้ชิด เตะเนื้อต้องตัวเก่งแทบตลอดเวลา เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้นบ้าง แต่ที่แน่ๆเธอไม่ต้องการให้ใครใกล้เก่งทั้งนั้น ขนาดเลขาหน้าห้องเธอยังอาละวาดเรียบร้อยโรงเรียนพิมมี่เมื่อเห็นเมสเสจบาดลูกตาโผล่ขึ้นกลางการกำลังพลอดรัก ซึ่งเก่งก็ต้องตามใจเธออย่างลับๆ เพื่อไม่ให้พ่อแม่รู้ เธอจึงย่ามใจว่าเก่งก็อยู่ในกำมือเธออีกคน จะแปลกอะไรในเมื่อเธอมีของดี ผู้ชายคนไหนก็ย่อมสยบแทบเท้าของสาวผู้เล่อโลมของเธอ..
เก่งผิวปากทำเป็นร้องเพลงดับควันร้อนในใจให้สงบลง เมื่อปาล์มเดินเข้ามานั่งในห้องนอน สายตาเขากำลังระรานอยากจะหาเรื่องขึ้นมาซะงั้น
“ถอดถุงเท้าให้หน่อย”เก่งพ่นลมปากออกมา มันก็ไม่เข้าหูปาล์มเสียแล้ว
“..บอกใคร..”
“อยู่กันแค่สองคนแค่นี้ ยังต้องชี้ชัดๆอีกเหรอไง ทำหน้าที่เมียที่ดีหน่อยซี พ่อกับแม่จะได้ภูมิใจ”
“ประสาท วัดระดับสติตัวเองมั่งหรือเปล่า”ปาล์มย้อน คิดหรือว่าเขาจะยอมสยบ
“หมายความว่าไง กูไม่มีสิทธิ์ในตัวมึงตรงไหน แม่กูพ่อกูเสียเงินค่าสินสอดตั้งเยอะ”
“ไปใหญ่แล้ว”ปาล์มยังคงเถียงคอเป็นเอน ถ้าเก่งหันไปคิดให้ดี พ่อแม่ไม่ได้เรียกร้องอะไร หรือถ้าจะได้รับตัวเองก็ไม่เคยเรียกร้อง แล้วที่สำคัญ งานนี่ใครอยากให้เกิด.
“..อย่าคิดว่าจะมาปอกลอกพ่อกับแม่กูจนหมดแล้วสะบัดก้นหนี”
“ต้องการอะไร...”ปาล์มขี้เกียจเถียงจึงถามข้อเท็จจริง
“กูมีกฏใหม่เพิ่มอีกข้อ”
“.เก็บไว้ทำคนเดียวเถอะ ท่าจะเพี้ยน”
“ห้ามมึงคุยกับพี่หนึ่งเกิน ห้านาที”เก่งบอกแบบไม่ต้องรอฟังคำตอบที่โอเคหรือไม่
“จะหาเรื่องกันให้ได้ใช้มั้ย”
“มึงจะรับปากกูหรือเปล่า”เก่งเริ่มข่มขู่
“เก็บไปใช้กับผู้หญิงที่เขาหลง......”ปาล์มไม่พูด แต่ชี้ไปยังอวัยวะกลางลำตัวของเก่งแทน
“มึง.....”เก่งลุกพรวดด ด้วยความโกรธที่พุ่งปริ๊ด รู้สึกเหมือนโดนปาล์มเหยียบหน้าอย่างแรง
“อย่าคิดว่า กูไม่กล้าทำอะไรมึงนะไอ้ปาล์ม กูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้มึงเมื่อไหร่ก็ได้ที่กูอยากจะทำ แต่ตอนนี้กูกระเดือกไม่ลงว่ะ”เก่งยักคิ้วเย้ยหยันปาล์มทางสายตา
!!เพี๊ยะ...
ฝ่ามือหนักๆซัดลงไปที่บ้องหูของคนปากสุนัขหลากคมเขี้ยว ที่กัดเนื้อจนเป็นร่องรูแสบลึกถึงทรวง
ร่างสูงล้มตึงลงกับพื้นพรมต่อหน้าต่อตา ปาล์มช็อคยืนตัวแข็งทื่อ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนี้ แค่จะอบรมสั่งสอนคนขาดมารยาทให้คิดก่อนพูดบ้าง ไม่คิดว่าไอ้เก่งจะใจเสาะล้มทั้งยืนแบบนี้ แต่คงโดนแรงช้างพังเข้าไป จึงล้มฟุ๊บลงต่อหน้าต่อตา ตัวเองก็ตะลึงตัวเย็นเฉียบเหมือนอยู่กลางขั้วโลกเหนือ