-จำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้ว อิอิ-
..อะไรๆเริ่มมืดครึ้มมมม.
ปาล์มทำได้เพียงมองตาปริบๆ ตามร่างชายหนุ่มที่เริ่มเหินห่างออกไปเรื่อยๆ มันชักแน่นอก หายใจขัดๆแสบจมูก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนป่วยทางในขึ้นมาชั่วขณะ พลางนึกหาสิ่งดีๆตอนได้ใช้ชีวิตคู่(หลอกๆ) ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะแย่นัก แล้วมันจะไปไหนได้นอกเสียจากจะไปหาพิมมี่ เมียของมัน แต่เอาเถอะ ยังไงก็ตามเขาก็คบหาสมาคมกันมาเนิ่นนาน
...ดีใจ..เพราะพันธะคงจบสิ้นไปด้วย..
...เสียใจ..นั่นสิเขาจะต้องเสียใจเรื่องอะไร..
หนึ่งผิดหวังในตัวน้องชาย เหมือนโดนหักหารหน้า เสียแรงที่ช่วยเหลือทุกอย่าง แต่วันนี้น้องชายทุบทำลายมันลงต่อหน้าจนสิ้น เขาจะทำยังไงกับน้องหนึ่งเดียวคนนี้ ปวดหัวเช่นกัน..
บิดากับมารดาต่างพากันส่ายพยักพะเยิด แต่คงไม่คิดอะไรนัก เพราะอยากดัดสันดานให้สำนึก กับการกระทำลบหลู่บุพการีเหมือนหัวหลักหัวต่อ ลูกชายคนเด่นปัดก้นหนีออกจากบ้านอย่างไม่แคร์สื่อ ไม่ปรึกษาใคร ทำอะไรก็ยึดความต้องการตัวเองขึ้นมาเหนี่ยวนำ อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยแล้วล่ะ...
“ฮิ ฮิ...”มือน้อยยกขึ้นเช็ดหน้า แล้วเบ้ปากร้องไห้
“..ฮิ ฮิ. เก่ง ไปไหน ฮิฮิ”ปุ๊ปปั๊บตะเบ็งเสียงหนักขึ้น
หนึ่งเดินไปจะอุ้ม แต่น้องชินวิ่งตัดหน้าเข้าไปกอดก่อน
“รักกันๆ นะพี่ปุ๊บปั๊บ”
ไม่พูดเปล่าชินยังซบหลังคนร้องไห้ สร้างความเอ็นดูให้ผู้ใหญ่จนทุกคนต้องหลุดยิ้ม ในความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กัน..
“ปุ๊บปั๊บไม่ต้องเสียใจนะ อย่าร้องไห้นะ...”
หนึ่งปลอบ พลางยื่นมือไปจับแขนที่ขยี้ตา
“.ช่ายๆ ผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ พ่อน้องชินบอก..”ชินตอบช้า
“รักกันนะ พี่ปุ๊บปั๊บหันหน้ามากอดกันดิ”ชินชักชวน
พอหนึ่งเกะแขนออกจากการขยี้ได้ เขาก็เห็นอะไรบางอย่าง...
“อ้าว ร้องไห้ทำไมไม่มีน้ำตา”หนึ่งขมวดคิ้ว
“.พี่ปุ๊บปั๊บร้องไห้แห้ง เลยไม่มีน้ำตา”ว่าไปก็มีการสะอึกแถม
ทุกคนต่างหัวเราะกันเบาๆ เอาใจหลาน
“กอดกันนะ กอดกัน..”พอหันหน้าหากันทั้งคู่ก็กอดรักกันกลม
“หลานผมนี่ ทำเป็นขยะเลย มีแบบเปี๊ยก กับแห้ง”หนึ่งหัวเราะท่ามกลางวุ่นวายที่กำลังเกิด.
“ไม่ต้องไปสนใจมันละลูก..”เอเห็นปาล์มสีหน้าสลด อดจะให้กำลังไม่ได้ ใครจะไปรู้ ไม่แน่ปาล์มอาจจะมีใจให้ลูกชายนักรักของเขาไปแล้วก็ได้
“แม่ว่า ไปนั่งคุยกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยขึ้นไปนอน”
เจ้าของบ้านเกรงว่าลูกสะใภ้จะเขว่ จำเป็นต้องชักจูงให้กลับมายืนอยู่จุดเดิมให้เร็วที่สุด ยังไงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแม้ว่าตอนนี้เก่งจะเดินตามทางที่เลือกแล้ว แต่ปาล์มจะเอายังไงล่ะนี่
“ปู่ เก่งไปแล้ว แล้วใครจะไปส่งปุ๊บปั๊บไปโรงเรียนละครับ ถ้าปุ๊บปั๊บไม่เรียนคุณครูต้องไล่ออกแน่เลย ฮึ ฮึ..”เด็กน้อยโวยเบาๆสร้างความน่ารัก
เสียงหัวเราะดังกันเป็นทอดๆ
“ย่าเข้าใจล่ะ ที่ร้องไห้นี่เพราะว่าไปโรงเรียนไม่ได้ใช่มั้ย”
“..อือ ค้าบบ..”
“โถ โถ หลานปู่นึกว่ากลัวอะไร เรื่องแค่นี้เอง ถ้าไม่มีใครไปส่งนี่ปู่ไปเองได้มั้ย หลานชายน่ารักปู่”
“จริงๆนะครับ”ตาแดงๆถามเพื่อความมั่นใจ
“จริงซิ ปู่พูดเล่นเป็นที่ไหน”
“..ไอ้เก่ง มันจะรู้อะไรบ้างมั้ยนี่ เป็นพ่อนะลูกน่ารักอย่างนี้ คิดถึงตาย”
เมื่อหลานชายคลายเศร้าลง บรรยากาศเริ่มกลับเข้าที่ ถ้าถามว่ามีใครเสียใจกับการลูกชายคนเล็กออกจากบ้านไปมั้ย คำตอบคือ ไม่มีใครเสียใจ เพราะต่างก็เชื่อว่า อีกไม่นานเขาต้องซมซานทรมานกลับมาซุกอกครอบครัวดั่งเดิม..
กระต่ายน้อยสองตัวหลับตาพริ้ม ฝันถึงดาวเดือนบนฟากฟ้า..
“หลับฝันดีนะครับ เด็กๆ”ปาล์มยิ้มให้คนที่หลับตา
“..รู้สึกเหมือนตัวเองแก่ขึ้นทุกวัน ฮึ”ปาล์มขำตัวเอง
แต่ว่า.....ปาล์มกระอักกระอ่วนในหัวใจ เขากำลังเจ็บ.
“มึงเข้ามาในหัวใจกูได้ยังไง”
นั่นเป็นสิ่งที่ปาล์มถามตัวเอง หลังเอนหัวพิงกำแพงห้อง ยกมือขึ้นกุมขยับ.
เสียงประตูห้องเปิด ทำให้เขาต้องละความคิดไว้ หยุดอยู่เพียงตรงนั้น..
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วยปาล์ม”
“ครับพี่หนึ่ง”
ใบหน้าไร้ความสุขแต่งแต้ม มันหนีสายตาของปาล์ม มันคนผ่านร้อนหนาวมาก่อนไม่ได้เลย แต่หนึ่งก็ยังไม่เอ่ยสิ่งที่ตัวเองครุ่นคิด ตอนนี้เขาอยากให้บ้านเศร้าน้อยที่สุด..
-มุมแห่งความหฤหรรษ์-
เกมรักสะเทินน้ำสะเทินบกจบลงไป ร่างทั้งคู่ก็กอดก่ายหมดเรี่ยวแรงตามราตรีที่หมดลง..
พิมพี่ตื่นขึ้นมาพร้อมพรมจูบคนที่เธอรักอย่างทุกครั้งที่เก่งมาค้างกับเธอ อะไรจะสุขเท่านี้คงไม่มีแน่ ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ ปล่อยให้ร่างขาวโพลนของแฟนหนุ่มหลับปุ๋ย หลังพาเธอบุกน้ำลุยไฟหลายบทรัก จนสมใจอยาก..
เธอลุกขึ้นทำหน้าที่ เมียเก็บที่ดี ดูแลใกล้ชิดติดเนื้อ เรียกว่าถ้าเก่งมาอยู่กับเธอ เขาก็เปรียบดั่งราชา แทบไม่ต้องขยับตัวทำอะไร อาหารเช้าเตรียมพร้อมถ้าเก่งตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องอ้าปากอย่างเดียว...
“จ๋อม ฉันมีเรื่องจะบอก”สุดท้ายเธอก็เก็บความดีใจไว้ไม่ไหว เดี๋ยวกระอักตาย
“.อะไร โทรมาแต่เช้า”จ๋อมรับสายบิดตัวตามประสาคนเพิ่งตื่น
“ฉันจะบอกแกว่า เก่งมาอยู่กับฉันแล้ว”
“หืออ ดีใจด้วยนะ”จ๋อมทำเสียงแบบมันก็ปกติ
“.นี่มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ เขาจะมาอยู่กับฉันตลอดไปเลยล่ะ”
“หา มันเป็นไปได้ไง”จ๋อมสนใจขึ้นมาอีก
“..แหม่ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ฉันน่าจะลงมือตั้งนานแล้ว แกว่ามั้ย”
“แต่มันจะเป็นไปได้เหรอแก”
“..เป็นไปได้ซิยะ ยังเถียงอีก ขัดใจฉันจังแก”
“เอ้ย แล้วเมียเขาล่ะ”
“ฉัน คือเมียคนเดียว นังจ๋อม ไอ้คนนั้นมันเป็นเมียที่ไหน”พิมมี่อดตวาดใส่เพื่อนไม่ได้
“.เออๆ ตามใจแก เดี๋ยวเจอกันที่ทำงานนะย่ะ แล้วค่อยเม้าท์กัน”
“ได้ๆ แต่ฉันอยากลาวันนี้วะ”
“ไม่ต้องเลย..”
“เอ่อ เห็นแก่เพื่อนแล้วกัน”
“บ๊าย บายนะ จ๋อม”
“จ๊ะ อย่าหักโหมนะ”
“บ้า เจอกัน”พิมมี่วางโทรศัพท์ลงด้วยความเขินอาย สายตาจับร่างหนุ่มแน่น ที่นอนสิ้นเรี่ยวแรงไม่รู้จะตื่นขึ้นเมื่อไหร่
“พิมมี่ไปทำงานนะที่รัก ตื่นแล้วโทรหาพิมมี่ด้วย อาหารทานเองนะคงป้อนไม่ได้ จุ๊บ จุ๊บ”
ช๊อตโน๊ตที่แปะเด่นบนที่ครอบอาหาร ที่วางรอคนตื่นขึ้นมาลิ้มรส
ร่างเปลือยลุกขึ้นเดินไปยังหน้าต่าง ทอดสายตาไปในอากาศ ภายในวุ่นวายฝุ่นตลบ เพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหน จึงจำต้องหักเหมาทางนี้ก่อน เพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ปลื้มเมียเก็บนัก แต่มันเข้าตาจนจริงๆ ป่านนี้การเงินของเขาทุกประเภทคงพร้อมใจหยุดชะงัก หยุดเดินกะทันหัน ด้วยคำบัญชาของผู้กุมบังเหียนของบ้าน..
เขาจะอยู่ที่นี่ซักพักหรือว่า จะเดินไปทางไหนดี ทำไมหนทางมันตีบตันจนแยกแยะยาก.
“มึงทำให้ชีวิตกูพัง มึงเจอกูแน่ไอ้ปาล์ม”
พอทบทวนเรื่องราวไปมา จวบจนกระทั่งถึงเมื่อคืน ปาล์มก็คือจำเลยตัวฉกาจในสายตาเขา..
“...มึงกับกู เดี๋ยวก็รู้ใครจะอยู่ใครจะไป..”เก่งกำมือทุบลงขอบหน้าต่าง แต่ก็ไม่วายจะยกขึ้นสะบัดความเจ็บทิ้ง เมื่อความแหลมของมุมมันลงโทษคนมือซน...
-วันครอบครัว-หาดทราย-สายลม-ห่มฟ้า
“เฮ้ยปู พวกเราไม่ได้อยู่กันพร้อมกันพร้อมหน้าแบบนี้นานแล้วนะ”
สายตาผู้ปกครองทั้งสี่กำลังนอนเตียงผ้าใบ เรียงรายกันต่างมองลูกและหลานที่กำลังช่วยกันก่อรูปปั้นริมหาดทรายดำสะอาด สนุกสนาน งานนี้มีแขกรับเชิญมาด้วย คือราเชนกับน้องชิน..
“..ปาล์มยังยิ้มได้ กูค่อยหายใจโล่ง”เอยังคงว่าต่อ
“.สงสัยประโยคที่ว่าอยู่ด้วยกันไปก็รักกันไปเอง จะใช้ไม่ได้”
“มันหายไปเลยนะ”มารดาบ่นลูกชายหัวเดียวกระเทียมลีบ
“.มันไม่ได้ไปไหนหรอก พ่อรู้...”
“แล้วเก่งไม่ส่งข่าวอะไรมาบ้างเหรอ”
“..นี่ปู แกจะว่าอะไรมั้ยถ้า ถ้าจะให้ปาล์มกับหนึ่งแต่งงานกัน”เอเปลี่ยนเรื่องพูด เล่นเอาทุกคนหูผึ่ง ให้ความสนใจหันขวับ
“เอ้ย พูดบ้าๆน่า”
“มึงก็ดูซิ ว่ามันเป็นไปได้มั้ย”เอชี้ชวน ภรรยาฝ่ายตัวเอง ฝ่ายคู่เกลอ ให้ดู.
ภาพตรงหน้าคือหนึ่งนั่งติดกับปาล์ม ส่วนราเชนกำลังช่วยลูกชายกับปุ๊บปั๊บก่อเจดีย์..
“..น่าสนนะพ่อ”
“..หรือว่ากามเทพอย่างพวกเราจะจับคู่ผิดวะไอ้ปู..”
“ดูไปปาล์มก็น่าจะเหมาะกับเจ้าหนึ่งมากกว่าเจ้าเก่งนะ”
“...แต่งงานรอบสอง มันจะผิดผีมั้ยอะพ่อ”มารดาของปาล์มถามไม่แน่ใจ
“.เออ แม่พูดน่าคิด”
“..ผิดผง ผิดผียังไงก็ต้องแต่ง”เอตบเข่าฉาดใหญ่.
“ถามลูกก่อนดีกว่านะ พ่อ...”
“..ถ้าถามก็คงจะปฎิเสธ พ่อจะหาข้ออ้าง ข้อผูกมัด ไม่ให้ทั้งคู่ดิ้นไม่หลุด ปฏิเสธไม่ได้”
“เอาอีกแล้วเหรอพ่อ”
“..ขอเวลาหน่อย ส่วนไอ้เก่งพ่อจะจัดการกับมันเอง”
ปูกับภรรยาต่างหันมาประสานตาซึ่งกันและกัน เขาเปรียบเหมือนช้างเท้าคู่หลัง จะโต้แย้งอะไรก็ไม่ถนัด คงต้องลองปรึกษากับลูกอีกครั้ง แต่ดูแววพี่ชายมันให้กว่าเจ้าคนน้องตั้งเยอะ
-ขอบคุณ-