ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเงยมาสบมองด้วยสีหน้าร้าวไหว ฝ่ามือกำเสื้อสูทเบื้องหน้าแน่นพลางออกแรงขยำเขย่าด้วยท่าทีเคืองโกรธและผิดหวัง ริมฝีปากบางนั้นยังคงเอ่ยปากพูดซ้ำๆต่อว่าต่อขานด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่หยุด..
..แต่แม้จะบอกว่าผมรักคุณ..ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ทุกอย่ามาในมือ..
โลกนี้มีหลายสิ่งขยับเคลื่อนไปพร้อมกัน ไม่ใช่เพียงแค่รักแล้วจะหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่ว่ารัก...รักแล้วจะได้ทุกสิ่งมาไว้ในกำมือ พวกเขาก็เป็นเพียงคนโง่ คนดื้อดึงที่ไม่อาจยอมรับชะตา ไม่อาจทำใจรับกับคำว่า"เป็นไปไม่ได้"ที่ตั้งตระหง่านเป็นกำแพงสูงอยู่ต่อหน้า..
...แต่ว่า..กำแพงไหนก็ไม่สูงท่าความพยายามของคน
"ผมรอฟังคำตัดสินจากคุณ..คาวัลโล"ชีคหนุ่มเอ่ย ฝ่ามือปาดเช็ดน้ำตาของชายหนุ่มเบื้องหน้าออกอย่างอ่อนโยนพร้อมกระซิบแผ่วเบา"คุณบอกให้ผมรอผมก็รอ คุณบอกให้ผมฟังผมก็ฟังแล้ว..แต่หลังจากนี้คือสิ่งที่คุณต้องตัดสินใจ สำหรับผมแล้ว ผมทำได้ทุกอย่างยกเว้นแต่ทิ้งเซเนียยาไว้ให้คนอื่นดูแล แล้วสำหรับคุณละ คุณจะทำยังไง..คุณจะพยายามแบบไหนให้คำว่า"เป็นไปไม่ได้"มันเป็นไปได้ขึ้นมา"
"ผมอยากให้คุณสัญญา"
"สัญญา?"ชีคหนุ่มเอ่ยทวนคำ ครู่หนึ่งอยากจะถอนหายใจด้วยความหน่ายนักแต่ตนก็ยังคงฝืนยิ้ม..กับคำว่ารอที่ปรากฏชัดเจนอยู่ตรงหน้า
"ผมจะเป็นบอสมาเฟีย ผมจะเป็นบอสที่ยิ่งใหญ่และเเข็งแกร่งที่สุด ผมจะกำจัดศัตรูของผมให้สิ้นซาก..นี่เป็นคำปฏิญาณของผม เป็นคำสัญญาที่ผมให้ไว้กับตัวเอง..และ..ผมจะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะสำเร็จ"
"นั่นหมายถึงเวลาที่ผมต้องรอคอย"ชีคหนุ่มเอยช้าๆ
คนพูดไม่ตอบคำ หากแต่คว้าสร้อยกางเขนแสนคุ้นตาที่แขวนบนลำคอขึ้นมาอีกครั้ง นัยน์ตาของมาเฟียหนุ่มวาววับ จ้องสบดวงตาสีเข้มอีกครั้งอย่างมั่นคงก่อนจะวางมันลงอีกครั้งบนฝ่ามือของชายหนุ่มเบื้องหน้า
"ของคุณ.." อัลชาอ์เอ่ยช้าๆ..จ้องมองโลหะสีเงินแสนคุ้นตาในอุ้งมือ
"...ครับ...ใช่.." คาวัลโลมองตามแล้วพยักหน้า " ผมฝากคุณ..ฝากคุณเก็บไว้ ผมจะกลับมาสวมมัน ในวันที่จะกลับมาอยู่ตรงนี้..ในวันที่สัญญาซึ่งผมให้ไว้กับตัวเองได้สำเร็จลง ผมจะกลับมาอยู่กับคุณตลอดไป " ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มเอ่ยเบาๆดั่งเสียงกระซิบแผ่ว " สำหรับผม ...นี่คือตัวแทนคำสัญญา..สำหรับคุณ..หากวันไหนที่"เหนื่อย"เกินจะตั้งความหวัง ก็ส่งมันกลับมา..ยื่นให้ผมในวันที่คุณตัดสินใจว่าจะไม่มีเรื่องของเราอีกแล้วจริงๆ.."
"คาวัลโล.."
"...ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ..ผมให้คุณตัดสินใจ..ทุกๆอย่าง.." ริมฝีปากของคนพูดยกยิ้ม หากแววตาสั่นไหว " ผมรู้ว่าตัวเองมันแย่ทีขอให้คุณรอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมเลือกทางเดินของตัวเองแล้ว ในเมื่อเราสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องเป็นคนก้าวออกมาจากบนบัลลังก์ สำหรับคุณแล้วเซเนียยาไม่มีวันถูกละทิ้งแต่สำหรับผมมันไม่ใช่..ผมมีความต้องการจะเป็นบอสมาเฟีย แต่คำว่าบอส ที่อยากเป็นก็เพื่อสานความปราถนาของตัวเองมให้สำเร็จ และเมื่อมันสำเร็จผมก็จะปล่อยมือจากมัน"
"รอผม..รอให้ผมทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ..มันอาจจะยาวนานนับสิบปี..ยี่สิบปี แต่ผมสาบาน...สาบานต่อหน้าหลุมศพของเพื่อนรักและสาบานต่อหน้าคุณที่ผมรัก ว่าเมื่อผมสามารถเป็นบอสที่ดีที่สุด สามารถกำจัดคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดได้แล้ว ผมจะกลับมาหาคุณ..ผมจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับคุณ และตอนนี้ผมอยากให้คุณเลือกว่าจะรอผมเพื่อสักวันเราจะได้อยู่ด้วยกัน หรือทิ้งทุกิย่างไว้ตรงนี้ และจากไปโดยไม่ลังเล"
"..ไม่ว่าจะนานแค่ไหน"ฝ่ามือของชีคหนุ่มไล้ตามโครงหน้าหวานแผ่วเบา ทะนุถนอมยิ่ง..
"ไม่ว่าจะยากแค่ไหน.."คาวัลโลเอ่ยพร้อมกับแตะปลายนิ้วลงบนหลังมือของคนตรงหน้า แล้วเปิดดวงตาขึ้นสบมองนัยน์ตาสีนิลอย่างมั่นคง"ผมจะทำให้สำเร็จ..นี่คือคำสัญญาสุดท้ายที่ผมขอและขอเดิมพันด้วยหัวใจและชีวิตทั้งหมดที่เหลือ..ให้คุณ"
"........"
"ผม..."ริมฝีปากของคนพูดเริ่มสั่นไหวเมื่อเห็นท่าทีของชีคหนุ่มนิ่งงัน"ผมจะพยายามให้มากที่สุด จะทำให้มันเป็นจริงเร็วที่สุด..ผม...ผมจะไปหาคุณทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ผมจะไม่หายไปแบบนี้อีก ผม.."
"ชู่ว..."ปลายนิ้วแตะลงบนริมฝีปากสีอ่อนพลางส่งสัญญาณให้เงียบเสียง
"คำสัญญาครั้งที่สาม"
"หลังจากครั้งแรกและครั้งที่สองออกจะ..ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง"ริมฝีปากของผู้เอ่ยยกยิ้มมุมปากพร้อมลมหายใจที่ถูกระบายลงช้าๆ จ้องมองสบตาชายหนุ่มเบื้องหน้าที่มองตนดั่งรอคำพิพากษา
"เคยได้ยินไหมว่ามนุษย์เรามีโอกาสสามครั้งในชีวิต"ชีคหนุ่มเอ่ยพร้อมจ้องมสบแววตาสีน้ำทะเลคู่งาม"ครั้งที่หนึ่ง..คือพลาด...ครั้งที่สอง..คือพลั้ง..ส่วนครั้งที่สาม คือความจงใจ...ครั้งที่หนึ่งคุณพลาดไปเพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ..ครั้งที่สองคุณผิดคำสัญญาเพราะข้อแม้บ้าๆที่ทำให้เราได้มาเจอกับสัญญาครั้งที่สามตอนนี้ด้วยกัน"
"แล้วครั้งที่สาม....." คาวัลโลเอ่ยพร้อมขมวดคิ้วบางๆ
"ครั้งนี้...ที่นี่...ตรงนี้.."อัลชาอ์เอ่ยตอบคำ ดวงตาสีเข้มจ้องมองสบตาก่อนจะละมือออกหากแต่ยังไม่ทันจะปล่อย ฝ่ามือของมาเฟียหนุ่มกลับคว้าหมับอย่างรวดเร็วคล้ายกลัวว่าหากปล่อยแล้วตนจะเดินหันหลังจากไปตลอดกาล
..ชีคหนุ่มมองสีหน้าวอนเว้า ดวงตาไหวระริกของคนทีจับมือตนเองแน่นราวกับภาวนาก่อนจะก้มมองฝ่ามือตัวเองในมืออีกฝ่าย..
ไม่ว่าใครก็ดึงมือที่ถูกจับออกได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนที่จับจะเป็นใคร..
และกับคนๆนี้...ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยไปได้เลย..
"คุณอาจจะทำให้พ่อแม่เสียใจ"
"ผมรู้...แต่นี่คือชีวิตของผม ผมต้องมีสิทธิเลือก และพวกเขาจะไม่มีวันเลิกรักผมเพียงเพราะผมรักผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น"
"คุณอาจทำให้คนในแกงค์ผิดหวัง"
"ผมจะไม่มีวันให้เขาผิดหวังที่มีบอสแบบนี้ แต่ผมจะทำให้วาลกัสยิ่งใหญ่ ทำให้คนใต้ปกครองของผมได้รู้ว่าผมดูแลพวกเขาได้อย่างดีและไม่มีที่ติ ทำให้พวกเขาเสียดายและเสียใจที่บอสอันเก่งกาจของพวกเขาล้างมือไปเร็วกว่าที่คิด"
"คุณเอาความม่นใจมาจากไหนว่าจะทำให้ผมยอมรับปากอีกครั้ง?"คราวนี้อัลชาอ์ต้องลอบยิ้มขันกับคำตอบรวดเร็วและสีหน้าหมายมาดของชายหนุ่มเบื้องหน้าที่กำลังเว้าวอนขอโอกาสสุดท้ายอย่างไม่ละความพยายาม และเมื่อไดฟังคำถามสุดท้ายนั้น สีหน้าที่กำลังเครียดเคร่งของบอสมาเฟียคนเก่งถึงกับกระตุกวูบ
"เพราะคุณรักผมไงเล่า!เลิกเลิ่นตัวงี่เง่าได้แล้ว ถ้าผมไม่สนใจจริงๆคุณนั่นแหละจะมานั่งหงอยอยู่คนเดียว อัลชาอ์งี่เง่า!"น้ำเสียงว้ากดหวกเหวกโวยวายที่ไม่ได้ฟังมาเสียนานทำให้ชีคหนุ่มลอบยิ้มขันและยิ่งขำมากขึ้นไปอีกเมื่อสีหน้าของคนพลั้งปากแสดงออกชัดว่ารู้สึกเสียใจเป็นที่สุดที่หลุดปากออกมาจนทำให้บรรยากาศที่เหมือนจะคล้อยตามของชีคหนุ่มพลันสลายไปเสียอย่างนั้น
...แต่สำหรับอัลชาอ์แล้ว นี่คือความรู้สึกที่แสนคิดถึง...คิดถึงเสียเหลือเกิน..
และมันกำลังกระซิบว่ากลับมาแล้ว..เจ้าแมวน้อยจอมป่วย หรือไฮยีน่าตัวแสบนั้นได้กลับมาป่วนหัวใจกันอีกครอบหลังจากร้างลากันไปนานหลายเดือน
"อ้อ..นี่คือใจจริงของคุณงั้นสิ"ชีคหนุ่มเอ่ยปากถามคนที่กำลังมีสีหน้าซีดเผือก คาวัลโล วาลกัสมีท่าทีลังเลหงุดหงิดใจที่ตนเองพลั้งปากว่า ฝ่ามือสองข้างยิ่งยิ้อยุดฉุดรั้งมือของอัลชาอ์ไว้แน่นขึ้นและไม่ยอมให้ห่างอีกอย่างระแวดระวัง
"...ละ...แล้วไง...ก็มันจริงนี่ ก็คุณรักผมนี่!"เจ้าตัวแสบเอ่ยปากโวยวายส่งแววตามายืนยันคำพูดของตัวเอง อย่างจะบอกว่าต่อให้ปากเสียแต่ก็ยังมั่นคงและรักจริงไม่เปลี่ยนแปลงอะไรแบบนั้น
"ลืมไปแล้วหรือว่าผมไม่คิดจะหวังอะไรอยู่แล้ว ต่อให้คุณทำตามที่พุดหรือไม่ทำตามที่บอกคนรอก็ไม่มีสิทธิตะทักท้วงอะไร"อัลชาอ์ตอบคำตอกกลับเจ้าตัวแสบที่ทำท่ามีความมั่นใจล้นเหลืออย่าหมายจะแกล้งจนคาวัลโลหน้าซีดเผือก เหมือนจะรู้ถึงความผิดของตัวเองดีอยู่ มาเฟียหนุ่มจึงยิ่งมีสีหน้าเงื่องหงอย
"อ่ะ.."คาวัลโลพลันสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือของชีคหนุ่มดึงออกห่าง สีหน้าที่ยิ่งซีดสนิทของมาเฟียหนุ่มจึงยิ่งซีดขึ้นใหญ่ ความหวั่นกลัวและความคิดในแง่ร้ายแผ่ซ่านเสียจนอดหวั่นไหวไม่ได้ ต่อให้มั่นใจว่ารักและรู้อยู่เต็มอกว่ารัก แต่สำหรับการรอคอยเพื่ออยุ่ร่วมกันมันอีกเรื่อง ใครจะยอมรับการอคอยอันไร้เหตุผลและคำของี่เง่าของเขาได้ทุกครั้ง ทุกครา หรืออัลชาอ์ไม่อยากจะรอคอยอีกต่อไปแล้ว
ฝ่ามือหนาของชีคหนุ่มที่ผละห่างไปทำให้หัวใจเจ็บแปลบด้วยความหวาดหวั่นไม่น้อย ก่อนฝ่ามือเย็นเฉียบจะถูกกอบกุมไว้ด้วยมือหนา ปลายนิ้วค่อยไล้หลังมือแผ่วเบาเต็มไปด้วยความรักทำให้นัยน์ตาสีน้ำทะเลเบือนมาสบ มองดูรอยยิ้มมุมปากแฝงแววมาดร้าย คล้ายจะบอกว่า"การกลั่นแกล้งเป็นผลสำเร็จ"อย่างไรอย่างนั้น
คนถูกแกล้งชะงักเมื่อรู้ตัวว่าตกหลุม คาวัลโลอ้าปากทำท่าจะโวยวายคนที่ทำให้เขาใจเสียให้สมเคือง หากแต่วัตถุเย็นเฉียบที่สอดเข้าที่ปลายนิ้วกลับทำให้อาการกระทืบบาทตวาดอึงชะงักลงไปทันควัน
คาวัลโลขมวดคิ้ว เขาก้มมองสบตาชีคหนุ่มซึ่งพราวไปด้วยแววหัวเราะทั้งเปี่ยมด้วยความอาดูรก่อนจะก้มมองสิ่งที่สอดเข้ากับปลายนิ้วนาง แหวนมรกตสีเขียวเข้มแสนคุ้นตาของอัลชาอ์ที่เคยประดับบนนิ้วของอีกฝ่ายบัดนี้ถูกถอดออกมาตรงหน้า อีกฝ่ายสอดมันเข้ากับนิ่วนางข้างขวาของเขา สีเขียวสดของอัญมณีที่ปลายนิ้วส่องสะท้อนแสงอาทิตย์วาววับน่ามองนัก โดยเฉพาะเมื่อยามริมฝีปากหนาแตะลงไปจุมพิตแผ่วเบาดั่งคำรักคำสัญญา..
"ในเมื่อคุณฝากของสำคัญของตัวเองไว้ที่ผม ผมก็จะขอฝากไว้ที่คุณเช่นกัน"
"คุณรับปาก..."คาวัลโลเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย ริมฝีปากอ้าออกอย่างงวยงงไม่น้อยกับคนที่แกล้งให้เขาใจเสียแล้วมาทำซึ้งกันแบบนี้ ช่างดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย..
แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าลองเทียบกันดูแล้วพฤติกรรมแบบชอบแกล้งชอบหยอกเขาของอัลชาอ์ก็สมเหตุสมผลน่าโมโหสมกับเป็นเจ้าตัวดีอยู่หรอก
"ไม่รับปาก...แต่จะรอ..เท่าที่จะรอได้"ชีคหนุ่มเอ่ยแผ่วเบา พลางลูบเส้นผมคนตรงหน้าเบาๆ"อย่างที่คุณบอกว่านี่คือตัวแทน หากวันไหนผมเหนื่อยที่จะรอผมก็จะคืนมัน เช่นเดียวกับคุณที่วันไหนรู้สึกว่าไม่ต้องการผมแล้วก็ให้นำมันกลับคืน คำสัญญาน่ะมันเป็นเพียงลมปาก จะจริงหรือลวงคนเราก็แปรมันให้เป็นได้ทั้งนั้น ฉะนั้นผมไม่คิดจะเชื่อมันอีกแล้ว แต่ผมจะรอ..รอให้คุณกลับมา รอในขณะที่ยังรัก ยังหวัง...ฉะนั้น จากนี้มันก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้ว ว่าจะหาวิธีอะไรมาทำให้ผมนึกอยากจะรอคุณอยู่เรื่อยๆโดยไม่ท้อไปเสียก่อน"
"...เห งี้ก็โยนภาระสิ"คาวัลโลท้วงกลับ หน้ามุ่ย แต่ก็ยังยิ้มรับ แม้เขาจะไม่ได้รับคำสัญญา แม้จะไม่มีคำมั่นแต่คำว่าจะรอ นั่นมันก็มากเกินพอ
"ไม่อยากมีภาระก็จะถูกทิ้งเลือกเอาแล้วกัน"ชีคหนุ่มเอ่ยปากท้าทาย ยักไหล่คล้ายจะขบขัน
"หึ..จำที่ผมพูดไม่ได้รึไง ใครที่เข้าใกล้คุณผมจะจับเชือดทิ้งให้หมด"มาเฟียหนุ่มเอ่ยปากหมายมาด สีหน้าบ่งชัดว่าเอาจริง พร้อมดวงตาวาววับ นั่นทำให้อัลชาอ์ยิ้มรับ...ยิ้ม...กับคำรักที่จำหลักแน่นในหัวใจ..
..ต่อให้ห่างไกล แต่เมื่อมั่นใจว่ารัก...รักแล้วจะกังวลอะไรเล่า..
ปัญหายังคงมีอยู่ตรงหน้า ภาระยังคงอยู่ หน้าที่ยังคงอยู่ แต่เราจะสู้ จะจับมือกันเพื่อฟันฝ่ามันไปให้ได้ เพื่ออนาคตและเพื่อ"สักวัน"ที่จะเป็นของพวกเขาทั้งคู่อย่างแท้จริง..
ชีคหนุ่มจ้องมองร่างของมาเฟียคนรักเบื้องที่ ผู้ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาปัดเศษใบไม้ให้พ้นไปจากป้านหลุมศพของเพื่อนรัก ฝ่ามือของคาวัลโลคว้าดอกกุหลาบที่ใกล้มือมายืนให้เขา เพื่อวางลงบนหลุมศพเบื้องหน้าคล้ายจะบอกถึงการมาเยือน ขณะที่แสงอาทิตย์ยามบ่ายแปรเป็นสีส้ม ฟากฟ้าที่เป็นสีสดใสค่อยแปรเป็นสีม่วงครึ้ม บ่งบอกว่าเวลาเย็นกำลังมาถึง และดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับ..
อัลชาอ์นั่งนิ่งอยู่ข้างกายคนรัก นิ่งฟังคาวัลโลพูดคุยกับหลุมศพเบื้องหน้า หรือกระทั่งเอ่ยปากคุยกับเขาถึงเรื่องราวมากมายด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ขณะที่แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดสีทองมาต้องกระทบดวงหน้าของมาเฟียหนุ่มอีกครา ให้คล้ายจะนึกถึงยามนั้นและเวลาในอดีต ช่วงเวลาที่เขาทั้งคู่ได้นั่งเคียงกันเพื่อมองดวงอาทิตย์ค่อยลาลับจากฟากฟ้า แม่จะไม่ใช่ที่แห่งเดิม แม้จะไม่มีทะเลทรายและดวงดาวนับร้อยพันเรียงราย หากแต่กลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น ท้องฟ้ากว้างและต้นไม้สีเขียวที่รายล้อมรอบก็เป็นความทรงจำที่น่าจดจำไม่แพ้กัน..
...แม้จะไกลกันเพียงไร แต่ก็ยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน
แม้จะไกลห่าง แม้จะต้องมีเรื่องมากมายให้เผชิญ แม้จะมีอีกสารพันปัญหาให้ฟันฝ่า แต่ตราบใดที่ยังรอก็ย่อมมีรักและเมื่อมีรักก็ย่อมมีหวัง..
ความหวังที่เป็นดั่งแสงอาทิตย์สีทองส่องประกายในใจ
ร่างของชายในชุดสูทสีเข้มที่ยืนอยู่ริมต้นไม้ใหญ่หน้าทางเดินเข้าสู่สุสานห่างจากพวกเขาพอสมควรเป็นคนที่คุ้นตา ใบหน้าของฝ่ายนั้นมองมาและค้อมกายน้อยๆดั่งจะบอกถึงสัญญาณของงานที่จะเริ่มต้น คาวัลโลค่อยผุดกายลุก พยักหน้าให้แกเร็ตเป็นเชิงรับรู้ และหยัดกายขึ้นเพื่อจะก้าวเดินไปในทางที่ตนเลือกต่อไป
"แล้วเจอกันที่งานเลี้ยงครับ"คาวัลโลเอ่ยปากบอก ส่วนคนฟังก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ฝ่ามือหนาบีบให้กำลังใจเบาๆให้ร่างที่ทำท่าจะเดินกลับไปหันมาสบตา..
แววตาไหวระริกของชายที่กำลังจะก้าวออกไปดะงบอกถึงความหวั่นอาลัยที่มีไม่ต่างกัน คาวัลโลจ้องมองสบตาชีคหนุ่ม ริมฝีปากสั่นไหวชั่วขณะเขาอยากจะทิ้งทุกอย่างแล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดนี้แล้วหนีไปให้ไกลสุดหล้า แต่แววตาที่แฝงความเชื่อมั่นที่ชีคหนุ่มจ้องมองมาทำให้ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มออกมาแม้จะสั่นไหวเพียงไรก็ตาม..
ปลายนิ้วบางแตะลงบนผิวหน้าคร้ามเข้ม คาวัลโลแตะไล้ ลูบผิวหน้าของชีคหนุ่มอย่างแสนรัก นัยน์ตาสีน้ำทะเลฉายแววรักใคร่ ก่อนจะโน้มกายเข้าหา โผเข้าสู่อ้อมแขนใหญ่เพื่อจะประทับริมฝีปากแนบชิดคลอเคลียกัน แบ่งปันรอยจูบอ่อนหวานที่เป็นดั่งคำรักและคำมั่นสัญญาท่ามกลางแสงตะวันและกอกุหลาบขาวที่ทอดกางปกคลุมสุสานส่งกลิ่นหอมอายอวล..
ประทับคำมั่นสัญญา...รัก...
...รัก..และจะรอคอย ชั่วนิรันดร์..
"แล้วผมจะรอดู"
อัลชาอ์เอ่ยปากแผ่วเบา สบมองนัยน์ตาสีน้ำทะเลอย่างเชื่อมั่นขณะที่ร่างบางผละห่าง นัยน์ตาที่ไหวระริกของมาเฟียหนุ่มเบื้องหน้าจึงค่อยมั่นคงขึ้น ดวงตาทั้งคู่แปรเป็นหนักแน่นร่องรอยไหวหวั่นหายไปเหลือเพียงความรักและความเชื่อมันที่มีให้กันเช่นกัน
"แล้วคุณจะได้เห็น"
เห็น...ว่าคำพูดของผมจะเป็นจริง และเห็น ว่ามาเฟียอย่างผมเช่นนี้ จะนำพาคนในแกงค์ไปสู่ความยิ่งใหญ่ด้วยวิธีไหน...
คุณได้รอผมเพียงไม่นานแน่นๆ..อัลชาอ์
ไม่ทันจะได้คิดเบื่อ ผมก็จะกลับมาหาคุณ...คาวัลโลคนนี้ขอสาบาน
มาเฟียหนุ่มเอ่ยพลางขยับฝีเท้าเพื่อก้าวออกไปทำตามหน้าที่และความต้องการของตน หากครู่หนึ่งก็ชะงัก หยุดฝีเท้าและหันมาจ้องสบตาชีคหนุ่มด้วยรอยยิ้ม..
อัลชาอ์พยักหน้ารับ ชีคหนุ่มก้าวเท้าออกมายืนประชิด ยกมือซ้ายขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายวางมือลงแล้วจับกระชับ บีบแน่น ให้คนสองคนเดินเคียงคู่กันไปในทางเดินเล็กๆที่แม้จะคับแคบและลำบากหากแต่ไม่มีใครหวั่นเกรง ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามอัสดงที่งดงามจับตา ภาพของชายหนุ่มสองคนที่เดินเคียงคู่กันนั้นดูงดงามราวกับภาพฝันอันเป็นนิรันดร์
............END............
** Route liebe ภาคสองของ Stone rose's line กุหลาบทรายใต้เงาหิน คู่แกเร็ตxคลาร์ก มาลงให้อ่านกันแล้วนะคะ ตามมาได้เลยค่า ที่นี่เลย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30985.0 คอยติดตามและให้กำลังใจกันด้วยนะคะ