Behind the non scene
[เบื้องหลังของคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!]
...............
เสียงบทเพลงบรรเลงดนตรีคลาสสิคน่าฟัง เสียงพูดคุยของผู้คนในงานเลี้ยงกลางสวนสวยค่อยเงียบผ่านลงไปเมื่อเวลาเลยมาถึงห้าทุ่ม เสียงหัวเราะพูดคุย และเสียงรถราที่ค่อยแล่นผ่านออกไปบ่งชัดว่าคราวนี้งานเลี้ยงคงจะเลิกรา และมันก็ควรจะเป็นเวลาพักผ่อน และเก็บกวาดงานเลี้ยงสำหรับเจ้าภาพที่เหนื่อยมาทั้งวัน...
ใช่ มันก็ควรเป็นแบบนั้น
แต่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเก็บกวาด หรือพักผ่อน คลาร์ก โรเซนเบิร์กก็ไม่อาจทำมันได้ทั้งนั้น!
ร่างสูงเพรียวนิ่งพิงรั้วเตี้ยๆทาสีขาวพลางส่งสายตาเขียวปั๊ดเต็มไปด้วยความไม่พอใจไปยังคนข้างๆกาย ทั้งที่งานเลี้ยงเลิกรา ทั้งที่ควรจะได้พักผ่อน แต่เปล่าเลย คลาร์ก กับไอ้โง่แกเร็ต เคย์กลับต้องมาอยู่ที่นี่
...นัยน์ตาสีบรูเน็ตจ้องมองเสาของโคมไฟเล็กๆที่เป็นเพียงแสงสว่างเดียวในที่แห่งนี้เขม็ง มองแสงไฟส่วางจ้าที่มีบรรดาแมลงกลางคืนมาเกาะ แสงสีเหลืออ่อนๆที่สาดเข้ามาทำให้เห็นสภาพโดยรอบกายได้ชัดมากกว่ามีเพียงแสงจันทร์ก็จริง ทว่า..มันกลับไม่ได้ทำให้นึกอุ่นใจมากขึ้นเลยสักนิด ฝ่ามือของคลาร์กกำรั้วสีขาวเล็กๆไว้ มันถูกกิ่งกุหลาบขาวพันเกาะเลื้อยตามธรรมชาติจนไม่เหลือที่ให้พักพิงมากนัก กุหลาบกอใหญ่เติบโตและแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมพื้นที่นี้ได้อย่างมากมายเสียจนน่ากลัวพอๆกับน่าทึ่ง
จะไม่ให้น่ากลัวได้อย่างไรเล่าในเมื่อที่นี่มันคือสุสาน! มันคือป่าช้าที่เขากับไอ้เวรแกเร็ตต้องมานั่งเฝ้าตามคำสั่งไอ้คุณบอสเมื่อตอนเย็นนั่นแหละ!
"อย่ามามองผมแบบนั้น"เสียงคำรามหงุดหงิดของแกเร็ตทำให้โทสะพุ่งปรี้ด คลาร์กตวัดสายตาไปมองเจ้าคนตัวโตที่ยืนกอดอกมองอะไรอยู่อย่างหงุดหงิด
"ทำไม!ในเมื่อแกมันไม่เฝ้าดูให้ดี ไอ้หมอนั่นถึงได้จับได้!"วาจาที่พูดออกมาไม่ได้รู้ถึงความผิดของตัวเองสักนิด ช่างสายตามืดบอดจนชวนปวดหัวจริงๆ
"แล้วคนปกติที่ไหนเขาจะมาซุ่มดูกันเล่า! เพราะคุณมันประเจิดประเจ้อเกินไปชัดๆ!"น้ำเสียงเถียงกลับทำให้คลาร์กแยกเขี้ยวรับ"ผมต่างหากที่ต้องโกรธ เพราะคนไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างผมก็ยังเจอคุณมาโวยใส่แบบนี้ รวมทั้งต้องมานั่งเฝ้าสุสานบ้าๆนี้ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย"
"หาาา แล้วแกคิดว่าฉันอยากจะมาอยู่ที่นี่นักรึไงว่ะ! แล้วดูสิ ทำไมต้องมีแค่แกกับฉัน!"คลาร์กด่ากราดพลางคำรามในลำคออย่างไม่พอใจ ไม่พอใจสิ นอกจากจะไม่พอใจที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้แล้ว ยังไม่พอใจที่คนไป"แอบดู"น่ะมันมีตั้งสามสี่คนแท้ๆ ทั้งไอ้คาร์โล อเล็กเซย์ หรืออเลกซิสมันก็น่าจะโดนให้มาเฝ้าเหมือนกันสิ ในเมื่อมันก็แอบมองเหมือนๆกัน แต่ไอ้พวกเวรนั่นกลับใช้อภิสิทธิบอกว่าตัวเองไม่ใช่ลูกน้อง เลยไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่ง ทิ้งให้เขากับแกเร็ตที่ไม่อาจขัดอะไรได้มานั่งเฝ้ากันสองคนแบบนี้
ทำผิดน่ะพอว่า แต่ถูกลงโทษ แล้วคนอื่นรอดทั้งที่มันทำเหมือนกันนี่มันน่าแค้นใจโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
"อ้อ คุณจะดีใจกว่างั้นสิ ถ้าได้อยุ่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม"วาจาหาเรื่องนั้นทำให้คนฟังชักจะปวดหัวจี๊ด
"เออเซ่!ใครอยากจะมองหน้าบูดๆของแกให้หงุดหงิดกว่าเดิมกันว่ะ!"คลาร์กกระชากเสียงหงุดหงิด มาเฟียหนุ่มบ่นงึมในลำคอ ก่อนจะคว้าเอาไฟเเช็คและบุหรี่ในกางเกงมาจุดสูบแก้เครียด ทำเมินสีหน้างี่เง่าและท่าทางที่เงียบไปของแกเร็ตเสีย คลาร์กคาบบุหรี่ไว้ในปาก สายตาแอบเหล่ไอ้คนที่พอโดนด่าไปก็เงียบ...เงียบอย่างบ่งว่ามันกำลังอารมณ์เสีย ชวนให้คนมองต้องครางจิ๊กจั๊กในลำคอ ชักจะนึกรำคาญไอ้อาการ"อ่อนไหว"ประเภทพูดผิดหูอะไรก็เงียบเหมือนสาวๆแบบนี้ เหอะ!มันแค่ลูกน้อง แค่คนที่เขาเลี้ยงมา ไม่ใช่เมีย เรื่องอะไรจะต้องมานั่งเอาใจล่ะเฟ้ย!
"นั่งลง!แกยืนบังไฟเว้ย ไม่เห็น!"คลาร์กตวาดใส่เจ้าคนที่ยังคงยืนทำหน้าเบี้ยวหันหลังให้ไม่เลิก และพอมันยังนิ่งเขาก็ทำท่าจะถอดรองเท้าเขวี้ยงหัวเรียกสติ เหมือนมันจะรู้ เพราะทันทีที่คลาร์กเอื้อมมือแตะรองเท้า ไอ้เวรแกเร็ตมันก็นั่งลงโดยอัตโนมัติ
มองสีหน้าเรียบๆนิ่งๆ แต่นัยน์ตาฉายแววบึ้งตึงและอัปกริยาที่จงใจนั่งห่างออกไปแล้วนึกหมั่นไส้มันชะมัด หมอนี่มันเด็ก....ไอ้คนตรงหน้ามันเด็กที่โตแต่ตัวชัดๆ!โดนด่าอะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นแบบนี้ตลอด แล้วดูทำหน้าแบบนั้น ใครมันจะไปง้อให้เสียเวลากัน บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เมีย จ้างให้ก็ไม่ง้อ ต่อให้ผิดที่ปากเสียก็ไม่ง้อเฟ้ย!
"ผมไม่อยากสูบตอนนี้"แกเร็ตเอ่ยปาก เมื่อรู้สึกถึงซองบุหรี่ที่ถูกโยนลงบนตัก เขาเอ่ยท้วงหน้านิ่ว จะเสียก็แต่ตอนนี้ หน้าคนที่มองอยู่นั้นบึงกว่า
"ยัดมะเร็งเข้าปากไปซะ!"วาจาช่างบังคับ แถมยังตรงและไม่เห็นใจคนฟังเหมือนเดิมเป๊ะ
แกเร็ตเงยหน้าขึ้นกรอกตาคล้ายจะยอมแพ้ มาเฟียหนุ่มยัดบุหรี่เข้าไปคาบในปาก ถอนใจพรูแล้วตัดสินใจถอดรองเท้าทั้งสองข้างของตนออกบ้างด้วยรู้ว่าเนี้ยบไปก็ไร้ประโยชน์ แกเร็ตเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่ค่อนฟ้า ก่อนจะเบนสายตามายังคนที่โยนไฟแช็คลงมาบนตัก ซึ่งกำลังสูบมะเร็งอัดแท่งที่เจ้าตัวบอกแล้วพ่นควันออกจากปาก หายใจพรู...ให้ควันขาวๆลอยอวลในสุสานอันเงียบสงบ และมืดสลัว ร่างที่นั่งเอนกายพิงรั้วสุสานนั้นดูเหมือนพวกอันธพาลกวนเมืองมากกว่ามาเฟีย มาดเนี้ยบที่เคยพยายามรักษาบัดนี้หลุดหายไปจากกายไม่มีเหลือ ด้วยเน็คไทที่ถูกปลดลงพร้อมกระดุมที่ดึงออกสองสามเม็ด เสื้อออกจากกางเกง รองเท้าข้างซ้ายและขวาไปอยู่คนละทิศละทาง
มองแล้วลอบถอยใจคล้ายระอาก่อนจะก้มหน้าก้มตาดูไฟแช็คในมือตัวเองบ้าง เพราะจุดเมื่อไหร่ก็จุดไม่ติดอย่างน่ากลัวว่าจะมีปัญหา
"อะไร?"คลาร์กเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นแกเร้ต ยกไฟแช็คของเขาขึ้นมามองส่องกับแสงไฟคล้ายจะดูหาความผิดปกติอะไรสักอย่าง แม้จะไม่เห็นเพราะมันเป็นสีเงินก็เถอะ
"ไฟไม่ติด เปิดไม่ออก"แกเร็ตเอ่ยปากบ่น สีหน้าครุ่นคิด
"หา...เมื่อกี้ฉันยังจุดอยู่เลย"มาเฟียหนุ่มบ่นพลางทำหน้านิ่ว "ดูดีๆสิ"
"สงสัยจะเสีย"แกเร็ตบ่น ไม่ทันขาดคำสายลมเย็นๆก็พัดวูบผ่านผิวกายจนเขารู้สึกได้พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ...ของบุรุษอันแสนจะไม่คุ้นหู และนั่นทำให้มาเฟียหนุ่มชะงัก
".................." หันไปมองคนที่มาด้วยกันเงียบๆอย่างรู้ความนัยน์ที่ต่างก็กำลังรู้สึกแปลกๆอยู่แล้วหุบปากฉับ ไม่พูดอะไรเสีย คลาร์กรับไฟเช็คจากแกเร็ตมาถือจ้องมองมันเพียงครู่เดียว ก่อนจะยัดมันลงในกระเป๋า พลางถอนใจแรง
"ไม่ติดก็ช่าง ต่อไฟเอา"ว่าแล้วก็ขยับกายเข้าไปหาเจ้าคนที่นั่งปากคาบบุหรี่นิ่งอย่างนึกหมั่นไส้ เมื่อมันดูจะไม่สะท้านสะเทือนอะไรกับลมเย็นๆและเสียงหัวเราะเมื่อกี้เสียจนน่าถีบ...ไม่สิ ความจริงจะไปสนใจทำไมเล่า ในเมื่อมันก็แค่ลมในฤดูใบๆไม้ผลิเท่านั้น และเสียงหัวเราะนั้นก็มาจากคฤหาสถ์วาลกัสที่กำลังสังสรรรค์กันอยู่มากกว่า...ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากกับแค่องค์ประกอบงี่เง่าที่จะทำให้หวาดกลัวเหมือนในหนังสยองขวัญ..ประเภทมานั่งในสุสานตอนดึกๆไม่มีไฟ ไม่มีคน แล้วจู่ๆก็มีลมพัดมาวูบนึงก็เท่านั้นเอง
ใช่ แค่นั้น แค่นั้นเอง แค่นั้นเองงงง
"คลาร์ก!!" "หา!!"เสียงเรียกใกล้หูทำเอาคลาร์กสะดุ้งโหยง มาเฟียหนุ่มอ้าปากร้องตอบดังพอกันด้วยความตกใจ พลันต้องสะดุ้งกว่าเดิมเมื่อพบว่าตนเองกำลังอยู่ในท่าทีลักษระชวนสงสัยแค่ไหน
ร่างของเขา...คลาร์ก โรเซนเบิร์กขยับเข้าไปใกล้แกเร็ตเสียจนแทบเกยตักไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บุหรี่ที่ว่าจะขยับต่อไฟกันตอนนี้แทบจะเข้าไปจิ้มแก้มตอบๆนั่นเข้าจนไอ้หัวแดงงี่เง่าต้องขยับหนี ถึงจะรู้ว่าเพราะมัวแต่เหม่อเกินไปเลยเกิดเรื่องแบบนี้...แต่ว่าเสียงตะโกนที่ดังแบบไม่จำเป็นนั้นก็ยังทำให้สะดุ้ง และหงุดหงิดจนต้องทำตาเขียวปั๊ดให้มันไป
"เรียกอะไรของแกนัก"บ่นพลางขยับตัวออกห่างจากการใกล้เกินความจำเป็นนั้น ไม่รู้เพราะความตกใจความระทึกอะไรกันแน่คลาร์กถึงได้รู้สึกว่าหัวใจของเขาชักจะเต้นดังผิดปกติ
"ผมเรียกคุณตั้งนานแล้ว แต่ใครล่ะมัวเหมื่ออยู่จนแทบเอาบุหรี่มาจุดไฟให้จมูกคนอื่นอยู่รอมร่อ"แกเร็ตตอบกลับทันควัน ใจความนั้นทำให้คลาร์กแยกเขียวรับด้วยความไม่พอใจ มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจพรูก่อนจะเอนตัวไปจุดบุหรี่ให้แกเร็ตอีกครั้ง อย่างจริงๆจังๆหลังจากมัวแต่ทำบ้าอะไรกันไม่รู้อยู่เมื่อครู่
คลาร์กเอนตัวเข้าไปหา ใบหน้าค่อยโน้มใกล้ชิดเพื่อให้ปลายมวนจุดเข้าหากันได้ แน่นอนว่ามันต้องแช่ทิ้งไว้เป็นเวลาพอสมควร ร่างของคนแก่กว่าจึงต้องค้างอยู่ในท่านั้น ใบหน้าชิดใกล้ ตาสบตา นั่งงันท่ามกลางความเงียบและเเสงไฟจากโคมไฟบนศรีษะ...เงียบ เสียจนแทบจะได้ยินเสียงของหัวใจที่เต้นโลดเร้าขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ...
ผิวแก้มแดงวาบ...ไม่รู้ว่าเพราะความขัดเขิน หรือเพราะเสียงหัวใจที่เต้นถี่เสียจนกลัวอีกฝ่ายจะรู้ตัว แต่แบบไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้น คลาร์กเสหลบตาทำเป็นสนใจเสียงพุดคุยที่ลอดออกมาจากคฤหาสถ์ด้านหน้าแทนที่จะมานั่งเล่นเกมส์จ้องตาแบบนี้ เพราะ...มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองแปลกไป ทั้งยังรู้สึกเสียเปรียบที่จะมานั่งใจเต้นโครมๆแบบนี้
คลาร์กนึกหงุดหงิดขึ้นมาที่..หนึ่ง ตัวเองที่เตี้ยกว่ากลับต้องเป็นฝ่ายเงยหน้าไปจุดบุหรี่ให้ ทั้งที่ไอ้คุณแกเร็ตมันควรจะเป็นฝ่ายก้มมาขอจุดเองแท้ๆ และสอง ความจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการจะะหลบตาไอ้เวรนี่เหมือนอย่างที่แสดงออกมา แต่เขากำลังดูดาวแทนหน้าเน่าๆของมันต่างหาก ทำไมไม่รู้คืนนี้ดาวถึงได้สวยน่าดูกว่าทุกคืน และสาม...ที่สำคัญมากๆทำไมเขาถึงได้รู้สึกหนาวสันหลังเยือกๆขึ้นมาอีกครั้งอย่างแสนผิดปกติไม่ทราบ..
ฟิ้ว~~
พรึ่บ!
".........."โดยไม่คำพูดใดออกมาจากปาก ร่างของสองหนุ่มสะดุ้งโหยง กระโจนเข้าหากันโดยอัติโนมัติ คลาร์กตะปบมือลงบนไหล่แกเร็ตทันควันพอๆกับที่อีกฝ่ายวางมือลงบนเอวของเขาหมับ นัยน์ตาสองคู่หันขวับมาสบตากันอย่างไม่ได้นัดหมายต่างมองตากันภายใต้ความมืด แสงจากโคมไฟเพียงดวงเดียวที่ส่องสว่างภายในสุสานดับลงอย่างปริศนา เหลือเพียงสีแดงๆจากปลายมวนบุหรี่สองมวนที่จุดติดไปเเล้วเท่านั้น
"....แก....แกได้ไปนั่งทับสายไฟอะไรแถวนี้รึเปล่า ตรวจดูหน่อยซิ"คลาร์กเอ่ยปากพูดกุกกัก ความหนาวเย็นของค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วงที่เพิ่งเริ่มต้นอย่างที่เขาพูดไว้เริ่มทวีความเย็นมากขึ้นทุกคราว และค่อยๆคืบคลานมาแทรกไขสันหลัง
"..ครับ..ครับ"แกเร็ตรับคำงกๆแบบลืมเถียงไปชั่วคราวแม้คำสั่งที่ได้รับมันจะงี่เง่าแค่ไหน สองหนุ่มผละออกจากกันคนเป้นที่ปรึกษาขยับตัวหันไปมองโคมไฟที่เขาพิงไว้ มันไม่ได้มืดมิดเช่นเมื่อครู่แต่มันติดๆดับๆอย่างชวนให้สงสัยนักว่าเกิดอะไรขึ้น
"สงสัย..หลอดไฟมันจะเสียล่ะมั้ง"คลาร์กว่าพลางหัวเราะเจื่อนๆ คนเป็นมือขวาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองอย่างอื่นนอกจากดวงไฟและสภาพน่าขันของแกเร็ตที่กำลังก้มๆเงยๆตามคำสั่งไร้สาระของเขา ตามปกติมันคงน่าขำอยู่หรอก..แต่ ตอนนี้กลับรู้สึกขันไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆซะอย่างนั้น...
ฝ่ามือพยายามควานหารองเท้าที่เขวี้ยงทิ้งไว้ แกเร็ตจำได้ว่าเขาเหวี่ยงมันทิ้งไว้ใกล้ๆกับปลายเท้า แต่ทั้งเอามืองมทั้งเอาเท้าเขี่ยก็ยังหาไม่เจออะไรสักอย่าง มีแต่พงหญ้าเตี้ยๆและกอกุหลาบให้เขาล่ะมากกว่า
"นั่นสินะ..อ่า..."แกเร็ตพยักหน้ารับคำเรียบๆแม้ต่างก็รู้ดีถึงสิ่งผิดปกติที่พวกเขาพบเจอ กระนั้นก็เป็นที่รู้กันดีว่าจะไม่มีใครแสดงอาการหวาดหลัว หรือเอ่ยถึง เพราะนั่นหมายถึงความพ่ายแพ้..
...โตจนป่านนี้แล้วยังมากลัวพวก..พวกที่ไม่มีตัวตนจริงๆอีกได้ยังไง!
"ฮ่ะๆ ฉัน..ฉันว่าจะกลับล่ะ มานั่งทำตามคำสั่งโง่ๆของไอ้บอสเวรนั่นมากพอแล้ว ไปนอนดีกว่า"คลาร์กเอ่ยปากขณะที่ทั้งมือทั้งเท้ากำลังควานหารองเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย และเช่นเดิม คือสายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ดวงไฟซึ่งเดี๋ยวก็ดับ เดี๋ยวก็ติดเขม็ง...
"นั่นสิครับ..งั้นผมไป.."
"เดี๋ยว!!!!"เสียงตะโกนลั่นดังแทรกขึ้นมาทันทีที่แกเร็ตทำท่าจะลุกพรวดขึ้น พร้อมๆกับฝ่ามือที่ตะปบหมับเข้าที่ขากางเกง แกเร็ตหันหน้าไปมองคนรั้งงงๆ เพื่อจะพบกับอีกฝ่ายที่อยู่ในสภาพ....ซึ่งเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นบ่อยนัก
...มือข้างหนึ่งของคลาร์กกระตุกขากางเกงเขาไว้ ส่วนอีกข้างรวมทั้งขาทั้งสองพยายามหาบางสิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งมองแล้วคงไม่พ้นรองเท้าข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเป็นแน่ ใบหน้าของคนที่มองตรงมาทางเขาทั้งเครียดทั้งขู่ไปในตัว นัยน์ตาเบิกกว้าง ปากที่คาบบุหรี่ควันฉุยกำลังขบเข้าหากันเหมือนจะพยายามหาข้ออ้างว่าเพราะอะไรถึงไม่อยากให้เขาลุกไปก่อน
"จะไปก็ไปพร้อมกันสิเว้ย!ไอ้เวรนี่ แกนะ...."
แซ่กๆๆๆ.
เสียงอะไรสักอย่างถูกลากผ่านต้นหญ้าดังขึ้นเบาๆทำเอาสองหนุ่มที่กำลังเตรียมเค้นคอทุ่มเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างเคยชะงัก คลาร์กสะดุ้งเฮือก ดีดตัวพรวดขึ้นมาพร้อมกับถลาเข้าเกาะแขนแกเร็ตทันควัน นัยน์ตาสีบรูเน็ตกวาดหาที่มาของเสียงแม้จะยังหวั่นๆและ...ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าก็ทำให้สมองของทั้งสองเป็นเหน็บชาไปอย่างง่ายดาย..
..มือขาวๆซีดๆมีเลือดอาบทั้งยังเน่าเฟะสะท้อนแสงจันทร์และดวงไฟที่ติดๆดับๆกำลังถือรองเท้าหนังราคาแพงระยับของคลาร์ก โรเซนเบิร์ก ไว้และลากเข้าไปในดงกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะของบุรุษหนุ่มดังขึ้นอีกครั้งตามมาด้วยลมหนาวที่พัดวูบเข้ามาและดวงไฟที่ดับพรึ่บลงอย่างยาวนานอีกครา...
ซึ่งหลังจากนั้นก็คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้น คลาร์กหน้าซีดเผือก มือขวาของบอสวาลกัสกระโดดขี่หลังแกเร็ตทันควันและคนถูกขี่ก็รีบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร็วสูงแบบไม่ต้องสั่งสักคำ!
ไฟที่ดับลงสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง และครานี้ไม่มีอาการติดๆดับๆหลงเหลืออยู่ เสียงหัวเราะขบขันแว่วมากจากด้านซ้ายมือของพงหนามพร้อมกับท่อนแขนอาบเลือดที่กำรองเท้าข้างหรูไว้ ไม่สิ..ความจริงที่บอกได้ คงจะเป็น"คน"ที่กำลังถือแขนปลอมๆซึ่งถูกทากาวเพื่อลากรองเท้ามาด้วยต่างหาก..
ใบหน้าของ"ผี"ตัวจริงที่เดินออกมาจากพุ่มกุหลาบเต็มไปด้วยรอยยิ้มขบขันปนสาใจ เส้นผมสีน้ำตาลทองของ"บอส"คาวัลโล วาลกัส สะท้องแสงสว่างของดวงไฟน่ามองนัก ขณะที่ดวงตาสีน้ำทะเลพราวระยับชอบใจ เหวี่ยงแขนในมือตนเองเล่นไปมาอย่างนึกสนุก..
"ไม่คิดเลยนะ ว่าคุณยังจะเล่นอะไรพิเรนๆแบบนี้อีก"ร่างของชายหนุ่มผู้เดินตามมาทีหลังเอ่ยคำพร้อมถอนหายใจเฮือก แต่คนทำฉีกยิ้ม คาวัลโลจ้องมองร่างของท่านชีคอัลชาอ์มูอัสซินผู้ถูกดึงมาร่วมแผนการณ์ครั้งนี้ ในมือซ้ายของชีคหนุ่มยังมีสายไฟสองเส้นที่ถูกขุดออกมาจากดิน...ใช่แล้ว ตัวการของแสงไฟที่จู่ๆก็ดับจู่ๆก็ติดที่คลาร์กและแกเร็ตเจอเมื่อครู่คืออัลชาอ์นั่นเอง
"แหมมม พูดอย่างกับว่าไม่อยากจะเล่น ที่จริงคุณก็อยากแกล้งใช่มั้ยล่ะ เคืองสองคนนี้อยู่มากพอดูผมดูออกหรอก"คาวัลโลเอ่ยปากอย่างรู้ทันพลางหัวเราะคิกคัก
"ต่อให้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะใช้วิธีนี้นี่..เฮ้อออ.."ชีคหนุ่มบ่นพลางวางสายไฟที่ตนถือลงบนพื้น คาดว่ายามเช้าคาวัลโลคงจะให้คนของตัวเองมาจัดการมันต่อ"แล้วก็นะ...ไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน?"
"นี่เหรอ?"บอสมาเฟียผู้ถูกถามยกแขนพลาสติกอาบเลือดสีแดงก่ำและเน่าเฟะอย่างน่าสยองในมือพลางชูขึ้นแล้วโบกไปมา"ซื้อมาตอนฮาโลวีนปีที่แล้ว นึกไม่ถึงจริงๆแฮะ ว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้"
อัลชาอ์เดินเข้ามาหาบอสหนุ่มตัวแสบด้วยสีหน้าขบขันปนระอาใจ ชีคหนุ่มหยิบแขนปลอมจากมือคาวัลโลมาพร้อมกับดึงรองเท้าที่ถูกลากติดมาเมื่อครู่ออกพลางทำท่าจะโยนทิ้ง
"เดี๋ยวสิ! ยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายงานน่ะ"คาวัลโลออกปากเมื่อเห็นว่าชีคหนุ่มจะเหวี่ยงทิ้ง"อีกอย่างนะเดี๋ยวคุณอากะแกเร็ตมันมาแถวนี้เดี๋ยวก็รู้กันพอดี"
"ผมว่าภายในสามเดือนนี้พวกเขาคงไม่เข้ามาที่นี่แน่ๆ"ชีคหนุ่มบ่น ใครจะกล้าเข้ามาเล่า ในเมื่อที่นี่เป็นสุสาน สถานที่อโคจรซึ่งปกติก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามาอยู่แล้ว จะมีก็แค่คนไม่ปกติอย่างคาวัลโล วาลกัส ที่กำลังยืนหัวเราะอย่างไม่รู้สึกรู้สาท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเข้าขั้นวังเวงของที่นี่..กับอัลชาอ์ มูอัสซินผู้ซึ่งกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเจ้าตัวแสบไปแล้วเท่านั้นล่ะ
"ก็ใครบอกให้มาแอบดูล่ะ มันก็ต้องสั่งสอนกันบ้าง"คาวัลโลบ่นงึมพยายามแย่งแขนปลอมนั้นมาจากมือชีคหนุ่ม"นี่ผมยังมีอีกสามรายต้องจัดการนะ ทั้งพี่คาร์โล ทั้งพี่อเล็กทั้งสองอีก เอามาสิ!"
"ไม่เอา กลับไปนอนได้แล้ว"อัลชาอ์ส่ายหน้าใส่วายร้ายจอมดื้อดึงตรงหน้า"ใครให้พกของแบบนี้ไปกลั่นแกล้งชาวบ้านกันเนี่ย ซนแบบนี้มันน่าตีก้นให้ลายจริงๆ"
"โหยย ทั้งที่คืนนี้คิดว่าจะเอาไปเล่นกับคุณพี่ชายทั้งสามซะหน่อย"คาวัลโลโคลงหัว เลิกคิดจะแย่ง ก่อนที่คนเป็นบอสจะยิ้มเผล่
"งั้น...ผมไม่แกล้งก็ได้ แต่คืนนี้ขอผมไปนอนด้วยนะ"
"หืม?..มาแย่งที่นอนแขกได้ยังไง"อัลชาอ์เลิกคิ้ว ยิ้มขันกับท่าทีออดอ้อนและฝ่ามือสองข้างที่คว้าหมับ กอดเอวตนไว้แน่น..
"งั้นไปนอนห้องผมก็ได้"คาวัลโลกระพริบตาถี่ๆออดอ้อน
"เอ....เอายังไงดีนะ"แกล้งทำท่าคิดขณะที่คนอ้อนก็ทำหน้ายุ่ง จนต้องใช้ฝ่ามือลูบศรีษะเจ้าตัวเบาๆเป็นการปลอบประโลม"แล้วครอบครัวคุณจะไม่ว่าเอาเหรอ?"
"ผิดตรงไหน แค่พาแฟนมานอนที่บ้าน"คาวัลโลยักไหล่"ในเมื่อผมทำตามข้อแม้ที่บอกไว้ได้สำเร็จแล้วนี่ จะว่าอะไรได้อีกล่ะ แล้วก็...จะได้เตือนคุณพี่ซานดร้าที่รักไว้ซะด้วย หึๆ"
ชีคหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ด้วยสีหน้างุนงงกับคำกล่าวนั้น ด้วยไม่เห็นว่าอเล้กซานดร้า วาลกัส หญิงสาวที่เข้ามาพูดคุยก่อนที่คาวัลโลจะชวนมาเล่นอะไรพิเรนๆอย่างการแกล้งคน มีความผิดหรือไปทำอะไรให้บอสมาเฟียตัวแสบของเขาเคืองใจตอนไหนถึงต้องถูกเขม่น แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะซักไซ้อะไร นอกจากจะโน้มกายไปจูบหมับคนพูดเบาไอย่างรักใครก็เท่านั้น..
พรึ่บ!
บรรยากาศกำลังหวานได้ที่ แต่ไม่ทันที่คาวัลโลจะได้ออดอ้อนมากขึ้นจากเมื่อครู่หรือแม้แต่จะจูบตอบสักนิด ลมหนาวก็พัดเข้ามาอีกวูบ เสียงหัวเราะเบาๆดังแว่ว..หร้อมกับดวงไฟที่เคยติดอยู่ก็ดับลงไปโดยพลัน..
"อะ...อัลชาอ์ แบบว่า คุณไปดึงสายไฟออกจากกันเหรอ?"จากยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างสาดจ้าครานี้กลับเป็นมืดมิด ทำเอาบรรยากาศโรแมนติกล่มสลายคาวัลโลหัวเราะเจื่อนขำ อย่างพยายามเป็นที่สุดที่จะไม่คิดถึง"เรื่องนั้น"
...ไม่หรอกน่า จอร์จิโอ้เพื่อนเขามันตายไปนานแล้ว ป่านนี้วิญญาณก็คงไปไหนต่อไหน แถมมันยังรักเขาจะตาย พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันนะ ต้องไม่คิดมาแกล้งกันแบบนี้แน่ๆ..
แต่เดี๋ยวสิ เพราะเป็นเพื่อนรัก..บางทีมันอาจอยากมาเจอก็ได้...
"ไปกันเถอะ!"แทนคำตอบทั้งหมดอัลชาอ์ก็รีบลากแขนคนถามออกไปจากสุสานทันควัน พร้อมกับโยนแขนปลอมที่ในมือตนลงไปแถวนั้นอย่างไม่ไยดี เสียงท้วงอย่างเสียดายของจากคาวัลโล ขณะที่ลมหนาวพัดมาอีกวูบพร้อมๆกับเสียงหัวเราะอันหาที่มาไม่ได้ดังเข้าหูสองหนุ่มและแสงไฟที่ติดพรึ่บ..กับภาพแขนปลอมอันนั้นลอยเท้งเต้งอยู่กลางอากาศและโบกให้ดั่งคำลา..
...ซึ่งก็แน่นอนว่า คาวัลโล วาลกัส และอัลชาอ์ มูอัสซิน ไม่มีทางโบกมือตอบรับมันแน่ๆ!
..............
มันคันไม้คันมืออยากเขียนสเปอีก(
![laugh :laugh:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/laugh.gif)
)อันนี้ไม่ใช่บทส่งท้ายนะ
ตอนนี้จะว่าไงดี ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว...หรือโกยเถอะเกย์/หลบตีนคาวี่
ความจริงตอนนี้เขียนมาโปรโมทนิยาย Ruter liber ของแกเร็ตกะคุณอาคลาร์ก เพราะฉะนั้นจะมีโมเม้นแอบหวีดของสองคนนี้แทรกเยอะ และคุณอาก็ซึนตลอดเว...ระหว่างดาวกะหน้าแกเร็ตอ่ะ ดาวน่าดูกว่าจริงๆเร้ออออ คุณคลาร์ก~~/หลบทีนส์
เจอกันตอนส่งท้าย(ของจริง)ค่า
ปล.ความจริงเรื่องลำดับญาติ คลาร์กอ่ะต้องเป็นน้าของคาวัลโล แต่เรียกน้ามันดูหญิงไป เรียกลุงมันดูแก่ไป แถมมีลุงในเรื่องหลายคนแล้ว สุดท้ายเลยมาลงที่อาหลายคนอ่านแล้วท้วงๆเราก็ไม่พูดอะไรสักที เอาเป็นว่าจงใจเรียกผิด รู้ลำดับแต่ยังจะทำ(เกรียน)
แปะๆรูปคุณอา
![](http://i1120.photobucket.com/albums/l491/silenceserin/alex_pettyfer_smoking.png)
กวน(+เกรียน)จริงๆ ว่าแต่...ช่วยทำหน้าแก่หน่อยค่าาาา
แกเร็ต..
![](http://i1120.photobucket.com/albums/l491/silenceserin/159202-4-8816.jpg)
(หล่อมากกก
![:m1:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/index.gif)
)สีหน้าประมาณว่ากูปวดกบาลเหลือเกินนน(จากที่ผ่านมาก็พอเข้าใจอยู่
![laugh :laugh:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/laugh.gif)
)