Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1005107 ครั้ง)

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
คาวี่เล่นตามใจตัวเองแบบนี้ ก็ได้ใจท่านชีคอัลซาร์สิ จัดเต็มกลางโอเอซีสทะเลทราย 5555
ออกมาสวีทล่อเป้าศัตรู เค้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนทรยศเร็วๆ แล้ว ลุ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
กลางเเสงจัน หมู่ดาวเเละทะเลทราย ท่านชีคก้อยังหื่นไม่หยุด 555+

คาวี่น้อยเซ็กซี่หลายๆ  -///-

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวๆ



คาวี่



พรหมลิขิต บันดาลชักพาจิงๆ

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1

ออฟไลน์ FiZZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ตอนนี้หวานมาก กี้ดๆ คาวี่น่ารักที่สุดในสามโลกเลย  o13
ท่านชีคก้หื่นเกิ๊นน  :oo1:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
  วุ้ย  บอกได้คำเดียวว่าหวานมาก  ทั้งตอนปกติทั้งตอนพิเศษ :-[
  ตอนปกติ  คาวี่น่ารักมากมายอ้อนซะ  น่าร๊ากน่ารัก :กอด1:
  อัลซาล์ก็หื่นไม่สนใจใครทั้งนั้น  สงสารคาวี่บ้างสิว่ะ
  ตอนพิเศษก็นะ  คนหนึ่งเบื่อ  คนหนึ่งแอบรัก  เหอะๆ  โชคชะตาก็เล่นตลกแท้ๆ

*~LPCM~*

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ  :z13: :z13:
จัดเต็มสมกะที่ปล่อยให้รอคอยเลยค่ะ
อ่านไปอ่านมาเริ่มไม่มั่นใจกะชีคแล้ว ก็เล่นสวมบทเป็นตาแก่จอมหื่นไปซะแล้ว อย่างนี่คาวี่ก็เหนื่อยแย่ดิ
ทำเป็นตามใจน้อง ที่ไหนได้ประโยชน์ตกอยู่ที่ตัวเองล้วนๆเลยนะคะ ท่านชีค  :laugh:(เอ๊ะ! หรือคาวี่มันต้องการแบบนี้เอง)
รู้สึกว่าคู่นี้เค้าเป็นอะไรที่เกิดมาเผื่อเป็นของกันและกันมากอ่ะ แบบมองตาก็รู้เซี่ยงจี๊ไรงี้ คริคริ o22

ตอนนี้คนอื่นๆ หายหน้าไปเลย เค้ายังไม่ลืม ร๊อบกะกฤษนะคะ (ปุ้ยอย่าเนียนลืมล่ะ o18)
สองแฝดนั่นด้วย ไม่อยากจะพูดถึง ซิสกะเซย์เลย มันปวดจิตตตต :o12:

รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อนะคะ อยากรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่เคยเดาทางเรื่องถูกเลยสักตอน หักมุมเค้าตลอดอ่ะ  :เฮ้อ:

ปล. อยากจิถามปุ้ยว่า เรื่องเดินมาได้กี่เปอร์เซ็นต์ของเรื่องทั้งหมดแล้วคะ รีบๆปริ๊นต์นะคะ ไม่ไหวจะรอแล้วคร่าาาา ><
ปล2. แต่ไม่ว่ายังไงก็จะยังติดตามผลงานของปุ้ยต่อไปนะคะ รักปุ้ยจุ๊ฟๆ  :กอด1: :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
อ่านะ  เพิ่งจะเข้าใจชื่อเรื่องก็ตอนนี้เอง
*กุหลาบทรายใต้เงาหิน* :L1:

คาวี่ตอนนี้อ้อนมากๆ แมวน้อยจิงๆ :-[
ท่านชีกถูกใจ อิอิ

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาฉลองบอร์ดใหม่จ้า  :mc4: :mc4:

ปล. หาเกือบไม่เจอตกไปอยู่หน้า3

tengu3

  • บุคคลทั่วไป
หวานกันซะจนคนอ่านแอบยิ้มไปตามๆกัน

อิอิอิ ทำเอาซะเขิลเลย  :-[

ชอบมากเลยค่า

รีบมาอัพอีกนะค้า :sad11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tengu3

  • บุคคลทั่วไป
อยาลงรูปเป็นมั่งอ่ะ เค้าลงกันยังไงค้า บอกทีค่า :sad4:

saya

  • บุคคลทั่วไป
แอบย่องเข้ามาบอกว่าคิดถึงหนูคาวี่จัง

คิดถึงคนแต่งด้วยนะค่า  :L2:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line : 35 ความเหมาะสม


    ภายในคฤหาสน์โอ่โถงที่ย่ำเท้าก้าวเข้าไปเงียบสนิทไร้ผู้คนพลุกพล่าน คาวัลโลเดินเคียงอัลชาอ์ตามหลังชีคอาเหม็ดไปเงียบๆ เขากวาดตามองทั่วบริเวณเล็กน้อยด้วยความสงสัยปนระแวงระวัง เพราะดูจากอาการไม่เป็นมิตรของผู้คน ตลอดจนท่าทีของชีคอาเหม็ดและการวางกำลังพลมากมาย แม้ว่านี่จะเป็นประเทศของอัลชาอ์และผู้คนเหล่านี้ก็ล้วนอยู่ในการปกครองของชีคหนุ่มทั้งนั้น..ทว่าใครจะแน่ใจได้เล่า อย่างน้อยหากเกิดเหตุร้ายหรือฉุกเฉินอะไรมองหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนก็ถือเป็นการระมัดระวังที่ดี

    ร่างของเจ้าชายฟาลซาอ์ที่เดินตามอยุ่เบื้องหลังห่างไม่เกินหางตาจับจ้องยังคงปรากฏชัด และร่างของชีคอาเหม็ดที่เดินนำเช่นเดียวกัน...พวกเขาต่างเงียบ และเมื่อไร้เงาของผู้คนภายในคฤหาสน์หรูหราจึงมีเพียงเสียงรองเท้ากระทบพื้นหินอ่อนเงาวับก้องสะท้อนเบาๆ

    ไม่กี่อึดใจร่างของชายทั้งสี่ก็เดินทางมาถึงยังห้องๆหนึ่งในด้านปีกซ้ายของคฤหาสน์ อาเหม็ดหยุดฝีเท้า ยกมือเคาะประตูเบาๆสองครั้ง ประตูก็เปิดออก เพื่อต้อนรับร่างของผู้มาเยือนให้ก้าวเท้าเข้าไป..

     คาวัลโลกลืนน้ำลายลงคอช้าๆเมื่อได้สบมองแววตาของผู้คนแปลกตาหลายรายที่นั่งอยู่เบื้องหน้า คิ้วของเขาผูกเข้าหากันด้วยความฉงนฉงาย หากฝีเท้ายังก้าวตามอัลชาอ์ไปตามแรงดึงและฝ่ามือที่กำแน่น ไม่หวั่นไหว..

   ความเย็นเฉียบและฝ่ามือที่เคยสั่นน้อยๆของอัลชาอ์หยุดลงไปเมื่อไหร่ไม่อาจจะรู้ หากรู้สึกเพียงความอุ่นร้อนที่แผ่ออกมาจากปลายนิ้วที่จับประคับประคองกันไว้แน่น นั่นเสมือนแรงใจหนึ่งที่ทำให้คาวัลโลยืนนิ่งจ้องมองผู้คนเบื้องหน้าด้วยแววตาสงบนิ่งไม่หวั่นเกรง..

  ...ยืนเคียงข้างอัลชาอ์อย่างองอาจในฐานะ"คนรัก"และจะไม่ยอมให้ใครมาใช้สายตาดูถูก หรือคำพูดหมิ่นแคลน...

 ...ต่อให้ที่นี่จะไม่ใช่บ้านของเขา ต่อให้จะไม่รู้จักคนเหล่านี้ ต่อให้"ศาสนา"และ"วิถีปฏิบัติ"ของผู้คนที่นี่จะขัดกับสิ่งที่พวกเขาสองคนทำลงไป แต่ทว่า เมื่ออัลชาอ์กล้าจะยืนหยัดและยืดอกยอมรับสิ่งที่ตนทำอย่างไม่หวั่นไหว เขาก็ขออยู่ข้างๆไม่จากไปเช่นเดียวกัน..

     "$#&%*&" เสียงพุดภาษาบ้านเกิดของชีคหนุ่มทำให้คาวัลโลอดจะขมวดคิ้วน้อยๆไม่ได้..ด้วยไม่รู้ความหมายและด้วยสายตาของผู้คนทั้งหลายนั้นต่างจ้องมองมาที่ตนเมื่อเอ่ยคำ..

     " เขาไม่ใช่คนนอกมีความสำคัญและสมควรจะได้รับรู้เรื่องนี้พร้อมๆกับพวกท่านด้วยเช่นกัน " น้ำเสียงของอัลชาอ์เอ่ยออกมานิ่งเรียบ...เป็นภาษาอังกฤษ แค่นั้นก็พอให้คาวัลโลเดาคำถามที่ได้ยินมาไม่ยาก...เพราะคงต้องถามถึงความสำคัญของเขา สาเหตุว่าทำไมจึงยอมให้เขามาออยู่ตรงนี้ มารับรุ้เรื่องที่จะเกิดขึ้นด้วย..

      ปึง...!

     ประตูเบื้องหลังปิดลงช้าๆพร้อมกับฝ่ามือของอัลชาอ์ที่ค่อยผละจาก ชีคหนุ่มใช้ฝ่ามือดันไหล่ของคนรักให้นั่งลงข้างๆแล้วบีบเบาๆอย่างอ่อนโยนให้ความมั่นใจ...ขณะที่ตนเองนั่งลงบนหัวโต๊ะ อย่างเชื่องช้า ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอ่อนโยนกลายเป็นนิ่งขรึมยามทรุดกายลงอย่างงามสง่า...แผ่นหลังเหยียดตรง ร่างแกร่งหนา..หัวไหล่กว้าง พิงลงบนเก้าอี้บุนวมหนาสีทอง ขณะที่ดวงตาสีนิลทอดมอง จับจ้องอย่างเคร่งขรึมไปยังร่างของบุคคลที่นั่งอยู่ยังหัวโต๊ะฝั่งตรงข้าม..

      คาวัลโลค่อยปรายตามองตามอย่างเชื่องช้า เขามองเห็นเจ้าชายฟาลซาอ์ค่อยโค้งตัวให้อัลชาอ์เงียบๆแล้วก้าวไปยังอีกฝั่ง..อันมีร่างของหญิงวัยกลางคนราวอายุเฉียดห้าสิบนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีทอง ใบหน้าด้านล่างถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมใบหน้าสีดำสนิท ไม่ต่างกับอาภรณ์ทั้งร่างที่มีสีเดียวกัน ราวกับไว้ทุกข์ คาวัลโลมองเห็นเพียงดวงตาสีเขียวมะกอกสดใสของเธอ..แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้รู้ว่าหญิงผู้นี้คือใคร เขาไม่แปลกใจเลยที่เจ้าชายฟาลซาอ์จะไปโค้งกายให้หญิงผู้นั้น..

..อัลลิยะห์...ราชินีคนก่อนของเซเนียยา แม่เลี้ยงของอัลชาอ์และแม่ที่แท้จริงของเจ้าชายฟาลซาอ์...

       ข้างกายของหญิงคนนั้นเยื้องมายังด้านซ้าย...คือร่างของชายคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบของทหารชั้นสูงสีน้ำเงินแก่ ตราประดับหราบนอกบ่งได้ว่าคงมียศศักดิ์สูงพอสมควร ใบหน้าเคร่งขรึมดุดันของชายคนนั้นเห็นได้ชัดยามไม่มีคาฟิยะห์สวมบนศรีษะมีเพียงไรหนวดยาวพอประมาณปกคุลมจากด้านบนของริมฝีปากจรดปลายคางและถูกตกแต่งตัดเล็มอย่างดี สีหน้าที่ไม่อ่อนลงแม้นสักนิดยามนัยน์ตาของชีคหนุ่มปรายจ้อง ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องครุ่นคิด..

      และฝั่งขวามือของหญิงคนนั้น ก็มีร่างของชีคอาเหม็ดนั่งอยู่ ใบหน้าของชีคเฒ่าที่เคยออกปากกล่าวเตือนเขายามก่อเรื่องไปช่วยอัลชาอ์..ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของความอ่อนโยนให้เห็น มีเพียงความเคร่งขรึมและบูดบึ้งชัดเจน...มันชัดเจนมานับแต่ที่อัลชาอ์ก้าวเท้าลงในคฤหาสถ์แห่งนี้ด้วยฝ่ามือที่สอดกระชับจับมือของ"ผู้ชาย"เช่นคาวัลโล วาลกัสแนบแน่นและไม่คิดจะปล่อย และยิ่งชัดขึ้น ยามที่ใบหน้านั้นไม่เหลือบแลมายังร่างของพวกตนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะประชุมตัวยาวสักนิด

      ทว่า...อีกหนึ่งหญิงสาวที่ปรากฏต่างหาก ทำให้คาวัลโลต้องเบิ่งตามองหล่อนอย่างตกตะลึงปนงวยงงไม่น้อย เมื่อนั่นคือร่างของ ฟาติมะห์ ที่อัลชาอ์เคยบอกไว้ว่าเธอหายตัวไป..บัดนี้ กลับมานั่งอยู่ข้างกายผู้พ่อด้วยดวงตาวาววับด้วยความเจ็บร้าวและเคืองโกรธ...แววตายามตวัดมองเขาและอัลชาอ์ที่เดินเข้ามาในห้อง ยังเเจ่มชัด...

    ....ฟาติมะห์...ที่เป็นข่าวว่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนเป็นเหตุให้อัลชาอ์ถูกกล่าวร้าย ว่าทำร้ายหล่อน และทำเรื่องไม่ดีต่างๆ..

     ....คนที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องวุ่นวาย...บัดนี้กลับมานั่งอยู่ตรงนี้...

หรือ นี่อาจจะเป็นการรวมตัวของคนที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เป็นได้...

      คาวัลโลหรี่ตาลงช้าๆ เขากวาดสายตามองผู้คนโดยรอบอีกครั้ง..ไม่มีร่างของนายทหารมายืนเฝ้า ไม่มีร่างของสาวใช้หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ภายในห้องนี้มีเพียงเจ็ดชีวิตนับรวมตัวเขาและเหล่าบุคคลในราชวงศ์ชั้นสูงของเซเนียยา

  ....นั่งใคร่ครวญพินิจพิเคราะห์..หากเพิ่งนึกได้ ว่าความเงียบที่เกิดขึ้นนานพอสมควรแล้ว..คาวัลโลหัน กลับไปมองหน้าอัลชาอ์ พบว่าชีคหนุ่มยังคงจับจ้องไปยังหญิงวัยกลางคนนางนั้นอย่างไม่ละสายตา..

. ความเงียบยังคงลอยตัวอยู่....นิ่ง.... นาน.... ริมฝีปากหนาจึงยกขึ้นเพียงเล็กน้อย...แล้วเอ่ยคำ

       "....ฉันอุตส่าห์มาเยี่ยม จะไม่มาทักทายกันหน่อยหรือ...? "

   วาจานั้นจะหมายความว่าอะไรก็แล้วแต่ คาวัลโลไม่นึกทราบ เขามองเห็นเพียงสีหน้าสงบนิ่ง แฝงแววหยิ่งทะนงในสายเลือดสีน้ำเงินของอัลชาอ์  บุคลิกที่แสดงความน่ายำเกรงออกมาโดยไร้อาการตวาดอึง ซึ่งยังผลให้ผู้ฟังต่างชะงัก..นิ่งงันไปอย่างลืมตัว.....หากมาเฟียหนุ่มทำเพียงนั่งนิ่ง...เงียบ...เงี่ยหูฟังบทสนทนาที่เขาไม่อาจจะรู้ความหมายด้วยสีหน้าสงบหากแฝงแววครุ่นคิด ระวังระไว...

ภายในห้องนี้อาจจะมีใครสักคนที่ก่อปัญหาให้อัลชาอ์ปะปนอยู่ และอาจจะคิดก่อเรื่องอะไรก็เป็นไปได้..

ภายในห้องไม่มีทหาร ใช่ว่าภายนอกจะไม่มี และถึงข้างนอกจะไม่มีใครกล้าหาญทำร้ายชีคแห่งเซเนียยา ทว่าในห้องนี้ ก็ใช่จะไม่มีคนกล้าทำ...อย่างน้อย ก็ระแวดระวังอาวุธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจจะปรากฏ..

แม้ห้องนี้จะไม่มีบอดี้การ์ดหรือทหาร ทว่าการแบ่งกลุ่มเป็นสองฝ่ายก็ชัดเจน ในยามที่อัลชาอ์ทำหน้าที่"ชีค"ผู้นำประเทศ ตัวเขาก็กำลังทำหน้าที่องค์รักษ์...ปราการป้องกันด่านสุดท้าย ที่กำจัดการกับคนที่มาแตะต้องอัลชาอ์...หมายมาทำอันตรายผู้ชายที่"สำคัญ"กับเขา..

    ....คาวัลโลจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องชีคแห่งเซเนียยาเด็ดขาด...

................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 
     "....ฉันอุตส่าห์มาเยี่ยม จะไม่มาทักทายกันหน่อยหรือ...? "

     คำถามที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากของชีคแห่งเซเนียยา ทำให้ผู้ฟังต่างนิ่งงันกันไปด้วยความรู้สึกยากจะกล่าว..คำทักทายนั้นมาจากปากของ"อัลชาอ์ มูอัสซิน" ทว่า ก็เป็นถึงคำพูดจากปากของ"อัลชาอ์ มูอัสซิน ชีคแห่งเซเนียยา"

คำกล่าวทายทัก...ไร้ร่องรอยของความอาทรฉันท์ญาติมิตรหรือผู้คนในเครือญาติกล่าวต่อกัน หากมันเป็นคำพูดของ"ผู้ปกครอง"ที่กล่าวต่อคนที่"อยู่ภายใต้การปกครอง"ของตน...

     และเมื่อรวมกับภาพของชีคหนุ่มผู้องอาจ เจ้าของดวงตาสีนิลคมปลาบและเส้นผมสีเข้มภายใต้กุตราห์สีขาวและโธปตัวยาวสีเดียวกันสวมทับด้วยมิชลาอ์สีทอง ประทับนั่งบนเก้าอี้บุนวมสีทองคำอย่างองอาจ ใบหน้าเรียบสนิทไร้ร่องรอยอารมณ์ใดเช่นเดียวกับดวงตาสีเข้มที่จ้องมองมาอย่างไม่หลบ ลำคอตั้งตรงไร้ร่องรอยหวั่นไหว ร่างสูงใหญ่บนบัลลังก์สีทองอร่ามดูแข็งแกร่งและองอาจเยี่ยงราชสีห์...ชวนให้ตระหนักรู้...สิ่งที่เผลอลืมมันไป ว่าชายเบื้องหน้าคือ"ประมุข"ที่ตนต้องให้ความเคารพ..

       อัลลิยะห์ค่อยกระพริบตาช้าๆ ร่างของหญิงวัยกลางคนค่อยขยับกาย ฝ่ามือเล็กยกขึ้นจากที่เคยกุมไว้บนตัก นางค่อยยกขึ้นแตะบนหน้าผากและค่อยค้อมศรีษะลงช้าๆด้วยฝ่ามือที่สั่นระริก..

         "ซาลาม...." น้ำเสียงสั่นน้อยๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับคำขออภัยต่อมา "ขออภัยที่หม่อมฉันไม่อาจก้มตัวเคารพ ทรงทราบดี ว่า..."

         " ท่านป่วย ฉันรู้...." อัลชาอ์เอ่ยตัดบทของหญิงวัยกลางคนเบื้องหน้าพยักหน้ารับ หากยิ้มออกมาช้าๆด้วยดวงตาวาววับ..

        " แต่ฉันไม่รู้เลยว่าคนในนี้ก็ป่วยกันไปหมด...." สิ้นคำกล่าว ร่างของชายหญิงที่เคยนิ่งเงียบ จ้องมองตนอย่างกร้าวเเข็งเมื่อครู่ ค่อยชะงัก สะดุ้งเล็กๆและพากันโน้มกายก้มเอ่ยทำความเคารพ..กระทั่งน้องชายบุญธรรมผู้ค้อมกายเคารพตนมาแล้วก็ยังร่วมโน้มกายด้วยอย่างลืมตัว...

         อัลชาอ์ค่อยพยักหน้ารับการทักทายของผู้คนเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า...ชีคหนุ่มคล้ายจะยิ้ม..หากรอยยิ้มนั้นก็ปรากฏเพียงมุมปากที่กระตุก...แข็งกร้าวและหยาบกระด้างด้วยความสมเพชและยอกแสยงในใจ...

....คาดเอาไว้แล้วไม่มีผิด..

... รู้ทั้งรู้ว่าเกิดอะไร รู้ทั้งรู้ ว่าเกิดขึ้นเพราะใคร...หากแต่เพราะคนเหล่านี้คือกลุ่มเครือญาติสุดท้ายที่เหลืออยู่ จึงยังใจอ่อน จึงยังไม่อาจจะตัดใจทำร้าย...กระทั่งโดนค่อนแคะว่าอ่อนแอไร้สามารถก็ยังไม่ปริปากหรือขยับตัวทำอะไร..

    แต่เมื่อตอนนี้มาถึง ในยามที่มี"สิ่งสำคัญ"ต้องปกป้องและไม่อาจจะเสี่ยงได้  แม้จะต้องผิดหวังและเสียใจ แม้จะไม่อยากใช้วิธีนี้ หากแต่ก็ต้องทำ

      หางตายังคงมองเห็นเงาร่างของคนที่รักจนหมดใจนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ เป็นดั่งกำลังใจที่คอยผลักดันให้ยืนหยัด

         อัลชาอ์ปรายตามองคนทั้งหมดที่ค่อยกลับไปนั่งบนที่เดิมของตนแล้วค่อยสูดลมหายใจลึก..อันดับแรก..เขาจ้องมองไปยังญาติสาวที่มีข่าวว่าหายตัวไปอย่างลึกลับ อัลชาอ์ยิ้มให้เธอบางๆ...เอ่ยปากถาม..

      " ฟาติมะห์...กลับมาแล้วหรือ...มีข่าวว่าเธอหายตัวไป พี่เป็นห่วงเสียเเทบแย่.." แววตาตระหนกและแฝงความหวั่นกลัวของอดีตคู่หมั้นไม่ได้หลุดรอดไปจากสายตาของอัลชาอ์ รวมทั้งใบหน้าฉายแววไม่พึงใจของชีคอาเหม็ดผู้เป็นลุง..

   ....ความไม่พึงใจที่ไม่ใช่แค่คำถามอุกอาจ หากแต่เป็นเพราะการที่ตนไม่สน"มารยาท"ในการพูดคุยสักนิด กับลำดับอาวุโส ที่ต้องเอ่ยทายทัก..พุดคุยกับผู้อาวุโสกว่า หรือผู้ที่เป็นพ่อ เป็นผู้ปกครองเช่นชีคอาเหม็ด...

       หากแต่อัลชาอ์ไม่คิดจะใส่ใจ เพราะนี่คือคำถามในฐานะผู้นำต่อประชาชนของตน หาใช่ญาติสนิทหรือครอบครัวของตนไม่...
 เมื่อพยายามอะลุ่มอล่วย พยายามปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ด้วยความกรุณาเอื้ออาทรแล้วยังไม่เป็นผล เหตุใดต้องทนรับการกระทำเช่นนี้อีก...

 และพวกเขามีสิทธิ์จะโกรธด้วยหรือ ในเมื่อต่างก็กดดันให้เขาตัดสินใจใช้วิธีนี้ทั้งนั้น..เมื่อทำลายความปราณีของเขาด้วยการกระทำของตน แล้วเหตุใดตอนนี้จะมาหวนอาลัยหรือไม่พอใจมัน...

       "....ฟาติมะห์..? " ชีคหนุ่มยกรอยยิ้มมุมปาก เอ่ยถามย้ำแก่ญาติสาวที่ก้มหน้าลง เนื้อตัวสั่นระริก...

       " อัลชาอ์ !...เจ้า......" อาเหม็ดเม้มปากแน่นด้วยรู้สึกทนไม่ได้ ชีคเฒ่าเอ่ยพรวดออกมาอย่างอัดอั้น หากแต่ร่างอวบยังไม่ทันจะลุกถลัน..พลันสบมองดวงตาสีดำสนิทคมปลาบ ตนก็เป็นฝ่ายนิ่ง...เม้มปากแน่นและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรวดเร็ว..

...ยามที่นัยน์ตาคู่นั้นวาววับและเต็มไปด้วยสายน้ำแห่งความเย็นยะเยียบ...ใคร จะไม่หวาดหมั่น...

        "...ฉันมาที่นี่ในฐานะใด ฉันออกปากถามลูกสาวของท่านในฐานะใด ท่านไม่รู้หรือ...ชีคอาเหม็ด..." อัลชาอ์ปรายตามองใบหน้าอวบของชีคเฒ่า นัยน์ตาเป็นประกายกร้าว "หรือท่านลืมไปแล้วกัน ว่าตลอดมาฉันอยู่ในฐานะไหน? "

       "...อึ่ก......กระหม่อม....ไม่บะ...." ก่อนที่คำว่า"บังอาจ"จะออกมาจากริมฝีปากของอาเหม็ด อัลชาอ์ก็ยกมือซ้ายขึ้น เป็นสัญญาณให้หยุดคำพูดนั้นไว้..

       "...ท่านไม่บังอาจ..." อัลชาอ์ขยับยิ้ม ร้องหึในลำคอเบาๆ " ไม่บังอาจงั้นหรือ แล้วการกระทำที่กำลังทำอยู่มันคืออะไร .. การกระทำของท่านมันเกินคำว่า"บังอาจ"ไปมากแล้ว หากท่านไม่ทราบ..."

       ".....ท่านอาเหม็ดไม่เกี่ยว...." น้ำเสียงแหบพร่าของอัลลิยะห์ดังขึ้นก่อนที่จะได้ต้อนอีกฝ่ายให้จนมุม อัลชาอ์หันไปมองหญิงผู้มีศักดิ์เป็นมารดาตน...หญิงที่ตนเองไม่เคยคุ้น หากแต่ก็สมัครใจรักใคร่ ไม่ต่างจากมารดาผู้ล่วงลับ..

...ยามที่รู้ว่าหล่อนคือผู้บงการเรื่องราว...ผิดหวัง รวดร้าวเพียงไหน...ความรู้สึกนั้นยังชัดเจน...

       " หรือท่านจะบอกว่าเหตุจลาจลและข่าวลือที่ทัสคานีไม่ใช่ฝีมือของท่าอาเหม็ด..? " อัลชาอ์เอยถาม เลิกคิ้วขึ้นช้าๆยามเอ่ยเรียอกนามอีกฝ่าย "ท่านหญิง "

         แววตาของอัลลิยะห์วูบไหวอย่างรวดเร็วยามที่ได้ฟังคำเอ่ยนามนั้น ฝ่ามือและเรียวนิ้วที่ประดับด้วยแหวนอัญมณีราคาแพงระยับกุมกระชับเข้าหากันน้อยๆ..ด้วยความหวั่นใจลึกๆ เหตุเพราะที่ผ่านมา บุรุษเบื้องหน้าหล่อนมักเอ่ยเรียกตนว่า"ท่านแม่"ด้วยความรักและเคารพไม่ต่างจากบุตรชายแท้ๆของตน แล้วเหตุใด..ยามนี้ ชื่อเรียกขนานนามของนางถึงได้เปลี่ยนไปเช่นลดฐานะเป็นเพียงคนรู้จัก..

      "...เราไม่ปฏิเสธ...แต่นั่นเพราะใคร...." เพียงครู่ แววตาของหญิงวัยกลางคนก็กลับมาวาววับด้วยความทะนงในศักดิ์ ริมฝีปากภายใต้ผ้าโปร่งสีดำปิดใบหน้าเม้มแน่นเข้าหากันช้าๆ " เพราะเหตุใด ท่านก็รู้ดี ! "

     " ....นั่นเกี่ยวข้อง....กับความผิดของท่านด้วยหรือ? " อัลชาอ์พ่นลมหายใจช้าๆ...ยามเอ่ยถาม..

     " หึ....ท่านก็รู้ดีว่าผิด....ผิดนับแต่ท่านจะคิดแล้ว..." นัยน์ตาสีเขียวสด ปรายมองใบหน้าอ่อนเยาว์ ของชายหนุ่มชาวต่างชาติที่มองตามบทสนทนาร้อนระอุด้วยแววตางวยงงครุ่นคิดด้วยแววตาวาววับ ไม่พอใจ " อัลเลาะห์... ท่านทำอะไรกับชายผู้นี้ก็รู้อยู่แก่ใจดี แล้วจะให้อาเหม็ดทนปกครองแผ่นดินนี้ร่วมกับผู้ที่ทำตัวผิดจารีตเช่นท่านหรือ ! ...อิสลามเราไม่เคยนับถือผู้ที่ทำผิดข้อห้ามขององค์อัลเลาะห์..ท่านรู้แก่ใจ แล้วยังจะมาถามรึ ว่าเหตุใดอาเหม็ดถึงเป็นปรปักษ์ต่อท่าน!! "

        " หยุดก่อน ท่านหญิง ! " อาเหม็ดเอ่ยปากห้าม เมื่อวาจาของหญิงวัยกลางคนนั้นเริ่มดังขึ้นและน้ำเสียงนั้นสั่นไหว ปลายนิ้วระริก...ก่อนจะค่อยยืดกายขึ้นช้าๆ...

      หยัดกายขึ้นจ้องมองนัยน์ตาสีเข้มของบุรุษผู้มีสายเลือดเดียวกับตน ชายหนุ่มผู้เป็นกษัตริย์และเป็นสายเลือดของน้องชายด้วยดวงตาวาววับ...

        " เรารู้....ว่าการที่เราทำเช่นนี้เป็นความผิด แต่ก่อนจะกล่าวโทษเรา ควรจะดู"โทษ"ของตัวท่านเสียก่อน..." อาเหม็ดจ้องมองหลานชายของตนพร้อมสูดหายใจลึก "เพราะท่านทำผิดจารีตประเพณี ผิดต่ออัลเลาะห์ เราจึงไม่อาจจะรับใช้ผู้ที่ทำตัวเช่นนี้..บ้านเมืองเราก็มีกฏหมายแก่พวก"วิปริต"ผิดธรรมชาติไม่ใช่หรือ แล้วมันจะน่าขำเพียงไร หากผู้ที่ใช้คือชีคของประเทศ !! "

        " นี่เป็นก่อนหรือหลัง ที่ท่านทราบเรื่องทั้งหมด " อัลชาอ์เอ่ยถามเสียงเรียบ ไร้ร่องรอยของความหวั่นไหว...หรือความหวาดหวั่นกับความผิดของตน

         "....ก่อน...." น้ำเสียงของอาเหม็ด แผ่วค่อยลงช้าๆ...แฝงด้วยความละอายหวั่นไหว...ยามเหลือบแลไปยังสตรีสูงศักดิ์ข้างกาย ที่รู้ดีแก่ใจว่าหล่อนทำการเช่นไรไว้..

         "...แล้วเมื่อท่านทราบเรื่องทั้งหมด ท่านยังสนับสนุนงั้นหรือ? "  อัลชาอ์เอ่ย ก่อนจะหัวเราะขัน...หัวเราะขึ้นมาแผ่วเบาด้วยนัยขื่นขมและสมเพชเวทนานัก ...ก่อนดวงตาจะเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว วาววับ

          " ท่านสนับสนุนผู้ร้ายที่คิดจะครองดินแดนของเรา คิดจะมอบผืนดินเซเนียยาให้กับผู้อื่นหาประโยชน์ ต่างอะไรกับเราที่ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสอนของอัลเลาะห์ ! "

         "......หมายความ...ว่าอะไร..." ครานี้น้ำเสียงของอาเหม็ดแผ่วเบา...สีหน้างวยงง...

         " หึ....ท่านตอบเขาเองดีไหม...ท่านหญิงอัลลิยะห์...." ชีคหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างเนิบช้า นัยน์ตาหันไปจับจ้องใบหน้า..และสบมองดวงตาที่สั่นไหวระริกของหญิงวัยกลางคนเบื้องหน้า...

...ความเงียบ...เงียบงันผ่านไปนิ่งนานนัก  ท่ามกลางแววตาของชีคหนุ่มและหญิงผู้มีตำแหน่งเป็นถึงอดีตรานีของแผ่นดินซึ่งจ้องมองกันเงียบๆไร้ถ้อยคำใด...

         ร่างของเจ้าชาย ฟาลซาอ์ โมฮัมเหม็ด  บิน ราชิด ที่เคยยืนอยู่ข้างกายมารดาค่อยขยับไหว เจ้าชายหนุ่มขมวดคิ้วน้อยๆ ยามจ้องมองใบหน้าและแววตาของมารดาตน ฝ่าเท้าที่เคยก้าวประชิด ค่อยขยับห่าง...

        " ท่านแม่...." ฟาลซาอ์ค่อยกลืนน้ำลายลงช้าๆ นัยน์ตาจ้องมองใบหน้ามารดาตนสลับกับชีคแห่งเซเนียยา...ด้วยท่าทีไม่อยากจะชื่อสายตา

        " แม่ทำเพื่อท่าน..เจ้าชาย..." ไม่ต้องรอแม้คำยืนยันใด หากคำพุดที่กล่าวออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ ฟาลซาอ์ชะงัก...นัยน์ตาที่ฉายแววตกตะลึงค่อยกระพริบเชื่องช้า...ก่อนจะบิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มหยัน...

...สิ่งที่ใคร่ครวญมาตลอดการเดินทาง ว่าเหตุใดชีคแห่งเซเนียยาพาตนมาด้วย กระจ่างชัดเอาก็เมื่อวันนี้...

        "...เพื่อผม...แน่หรือ? " เจ้าชายหนุ่มค่อยหรุบตาลง ก่อนจะกวาดสายตามองมารดาตน...นายทหารผู้อยู่เบื้องหลัง.. อาเหม็ด  และฟาติมะห์ด้วยดวงตาวาววับ...

        " พวกท่านบอกว่าทำเพื่อตัวผม...เพื่อผมหรือเพื่อใคร? ต่างทำเพื่อตัวเองเท่านั้นมิใช่หรือ ! "

        " ฟาลซาอ์ !! "เสียงกรีดร้องจากริมฝีปากของอัลลิยะทำให้ร่างของเจ้าชายหนุ่มสะดุ้งไหว ยามได้มองนัยน์ตาวาววับด้วยแรงโทสะ ความเคืองโกรธและเสียใจของผู้เป็นมารดา นั้นยังผลให้ความละอายวาบลึกขึ้นก็จริง ทว่าความไม่พอใจและความขื่นขมต่อ"ข้ออ้าง"ของเหล่าคนที่ตนนับถือนั้นช่างหนักหนานัก..

         "..หรือท่านจะบอกว่าผมโกหก " รอยยิ้มของเจ้าชายหนุ่มแข็งชืด..

        "....ขนาดบุตรของท่านเองยังไม่พอใจ....ยัง"กล้า"จะพูดว่าทำเพื่อเขาอีกหรือ " ชีคหนุ่มเปรยออกมาเสียงเรียบ อัลชาอ์หรี่ตาลงยามมองเห็นการวิวาทเล็กๆเบื้องหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด ร่างสูงถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะหยัดกายขึ้นสูง ฝ่ามือข้างหนึ่งซ้อนไว้ด้านหลัง นัยน์ตากวาดมองร่างของผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้าม แววตาวาววับราวกับราชสีห์จ้องมองเหยื่อ ทำให้ผู้สบมองต่างลอบกลืนน้ำลายลงคอช้าๆอย่างหวาดหวั่น..

        "  ท่านกล่าวว่าฉันทำผิดต่อคำสอน...กล่าวว่าฉันทำผิดจารีต...ความผิดของฉันในสายตาพวกท่านคือเรื่องเหล่านี้...และมีอะไรอีกไหม? " ริมฝีปากหยักหนาเรียบสนิท ยามเอ่ยถามย้ำชัด " นอกจากนี้ มีอะไรอีกหรือเปล่า? "

        "............."

       " ฉันทำให้ประชาชนของฉันเดือดร้อนไหม? ฉันทำให้เซเนียยาต้องตกต่ำหรือไม่? ฉันทำอะไรผิดไปจากคำสั่งเสียของชีคองค์ก่อนหรือเปล่า..."อัลชาอ์หรี่ตาลงน้อยๆก่อนจะสูดหายใจลึก... " ความผิดของฉันนอกจากไม่ถูกต้องตามจารีตและตามคัมภีร์..มีอะไรมากกว่านี้อีกไหม ที่พวกท่านจะถือเป็นข้อกล่าวอ้างมาล้มล้างฉันออกจากตำแหน่งโดยสมบูรณ์.. "

        "............."

       " ประเทศของเราเป็นเพียงประเทศเล็กๆที่ต้องเร่งพัฒนา เซเนียยายังยากจนและไม่มีบทบาทในเวทีโลก จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมาก่อสงครามฆ่าล้างกันโดยใช่เหตุ เพียงเพราะลัทธิ และศาสนา...จำเป็นหรือไม่ ที่เราต้องมาฆ่าฟันกันอีก หรือพวกท่านต้องการเห็นความย่อยยับของประเทศนี้ ...ที่ผ่านมาเรายังได้รับบทเรียนน้อยไปหรือ? พวกท่านในที่นี้ ต่างก็เสียบุคคลอันเป็นที่รักไปด้วยสงครามทั้งนั้น และเหตุใดถึงต้องการจะแย่งชิง ครอบครอง สิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง .."

        "  ถ้าเซเนียยากลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยประชาชนไม่อดอยากยากไร้ หากต้องการอำนาจ หากต้องการบัลลังก์ของประเทศนี้ ฉันสามารถยื่นมันมามอบให้ท่านได้ทันทีโดยไม่เสียใจเสียด้วยซ้ำ....ตำแหน่ง อำนาจ ราชบัลลังก์ ในสายตาของผู้ที่ไม่ได้สัมผัสมันนั้นคงหอมหวานน่าลิ้มลอง โดยหารู้ไม่ว่ามันมีแต่หนามทิ่มตำหัวใจ  กระทั่งคนสนิท...ยังกลายเป็นคนทรยศโดยไม่รู้ตัว "
นัยน์ตาสีเข้มปรายมองไปยังร่างของอาเหม็ดที่นั่งอยู่ด้านข้าง...อัลชาอ์ถอนหายใจแผ่วเบา..ด้วยรู้สึกหนักใจ ปนผิดหวัง... กับผู้ที่ยืนเคียงข้างตลอดมา

 บัดนี้ จากมิตร จากญาติสนิท กลับกลายเป็นศัตรูจ้องทำร้าย เพียงเพราะ....

      "....ท่านจะมาโน้มน้าวให้เราเปลี่ยนใจหรือ? " อัลลิยะห์เอ่ยออกมาเพียงแผ่วเบา จ้องหน้าชีคหนุ่มเขม็ง

     " ฉันไม่ได้โน้มน้าวใจ...คน"อ่อนแอ" เช่นฉัน  คิดแผนการซับซ้อนแบบนั้นไม่ออกหรอกท่านหญิง..." อัลชาอ์เอ่ยตอบ นัยยะเสียดสีถึงฉายาคนอ่อนแอ คนไร้สามารถของตนที่แพร่กระจายจากหญิงตรงหน้า ให้สีหน้าละอายใจวาบขึ้นมาบนดวงตาคู่งาม     " ฉันไม่ได้มาโน้มน้าว หากแต่มาเจรจา เพราะฉันไม่ต้องการสงคราม ไม่ต้องการให้ประชาชนของฉันต้องบากเจ็บ ต้องลำบากหรือ เกิดการจลาจลใดๆขึ้นอีก ....แต่....แนก็จะไม่ยอมละออกจากตำแหน่งของชีคแห่งเซเนียยาด้วยเช่นกัน..."

      "ฉันถามพวกท่านถึงความผิดของฉัน ว่ามี"มาก"กว่านี้อีกไหม? นอกจากเหตุผลที่ไม่มีผลใดๆต่อความเจริญของประเทศและไม่มีผลใดๆต่อชีวิตของประชาชนของฉัน "  อัลชาอ์วางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะตัวยาว นัยน์ตาจับจ้อง ประจัญหน้า ริมฝีผากเอ่ยถามไร้อาการกระโชกโฮกฮากโวยวาย หากแต่กดดันเงียบๆ  " ฉันเป็นผู้นำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประชาชน...เช่นเดียวกับพวกท่าน ฐานะของชาวเซเนียยาในสายตาฉันไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม ฉันทำให้คนกลุ่มหนึ่งไม่พึงใจ ทว่านั้นก็ไม่ใช่คนส่วนมาก ประชาชนของฉันเอาแต่ใจได้ เห็นแก่ตัวได้ แต่ทว่าต้องฟังเหตุผล ...หากข้อเรียกน้องและเหตุผลของพวกเขาไร้น้ำหนัก...ไร้เหตุผล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ เป็นเพียงไมกี่คนในผืนดินนี้ เหตุใดฉันถึงต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง เปลี่ยนแปลงไปเพื่อเอาใจท่าน"

       " ไม่ว่าท่านจะสูงศักดิ์ จะยิ่งใหญ่เพียงไร ท่านก็เป็นเพียงประชนชนคนหนึ่งเท่านั้น "

       " เราคิดว่าเหตุผลนี้มีน้ำหนักมากพอ...ที่จะให้ผุ้ใดทราบแล้วจะเปลี่ยนใจ " อัลลิยะห์หรี่ตาลงช้าๆ

        " อะไรอีกหรือ...รึท่านจะเอ่ยถึง"สายเลือด"ในตัวของฉัน...เวลาที่ผ่านมาฉันไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นหรือไง ว่าข้อคัดค้านนั้นตกไปจากใจผู้คนนานแล้ว " อัลชาอ์เอ่ยตอบรับ ท้าทายราวกับเหนือกว่า...และแน่นอน ว่าตัวชีคหนุ่มเองก็รุ้ รู้ถึงความแตกต่างของมันดี

    การเข้ามาปกครองผืนแผ่นดินนี้ตามคำสั่งเสียของผุ้เป็นบิดา ผืนดินที่ฝังร่างของมารดาเพียงเพราะต่างเชื้อชาติ ผืนดินที่ต้องจากไปเพราะไม่อาจจะอยุ่ได้ ด้วยสายเลือดของตนและกระแสต่อต้าน..

     ...ทั้งรัก ทั้งเกลียดชังที่นี่แค่ไหนอัลชาอ์รุ้ดีแก่ใจ  ทว่า ตนก็ต้องต่อสุ้เพื่อได้มันมาครองครอง

     ด้วยประสงค์จะลบล้างคำส่อเสียด คำเหยียดหยามหมิ่นแคลนตนเองและบิดา มารดา..

  จะพิสูจน์ให้เห็น  ว่าผู้ที่มีสายเลือดของเซเนียยาเพียงครึ่งหนึ่ง ก็รักประเทศนี้และจะทำให้ประเทศนี้เจริญรุ่งเรืองได้ไม่แพ้ที่ใด

   นี่จึงเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ในใจตนเสมอมา หมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้คำหมิ่นแคลนนี้ลบเลือนไป ...และมันก็ค่อยๆจางหายไปจากคำพูดและแววตาของผู้คนเมื่อสามารถพิสูจน์ให้เห็นด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและโครงการต่างๆของตน ว่า"ชีค"ที่มีเลือดของชาวเซเนียยาเพียงครึ่งหนึ่งก็รักและทำเพื่อผืนแผ่นดินนี้ ทำให้ที่นี่เจริญรุ่งเรืองได้ไม่แพ้ใคร และจะทำให้ยิ่งใหญ่กว่าใครทุกคน..

     เสียงของมวลชน กระแสของผู้คน สามารถกุมไว้ในมือได้มากแค่ไหน สามารถเรียกความรักและศรัทธาได้มากเพียงไรก็ดีมากเท่านั้น

     เมื่อปกป้องพวกเขา ดุแลพวกเขา ไม่นาน...พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายเข้ามาปกป้องด้วยใจภักดิ์ โดยไม่ต้องร้องขอใดๆด้วยซ้ำ

    การปกครองคนด้วยความหวากลัวและด้วยอำนาจ อาจจะทำให้เขายอมอยุ่ในอำนาจก็จริง หากมันเป็นการหลบอยุ่ด้วยความกลังเกรงและหวาดผวา แต่ทว่า การปกครองคนด้วยหัวใจ ด้วยความรักและการเอาใจใส่ จะได้รักกลับมาและเป็นรักเป็นภักดีที่จริงใจหาใดเปรียบเทียบ!


      "...ที่ผ่านมา ท่านได้พิสูจน์แล้ว...ว่าท่านดีแล้ว...เหมาะสมยิ่งแล้ว ที่จะเป็นผู้นำของเรา ชาวเซเนียยา " อาเหม็ดค่อยเอ่ยออกมาช้าๆ หลังจากอัลลิยะห์นิ่งงันไปอย่างไม่อาจจะเอ่ยคำ " แต่ทว่า...ด้วยคำว่าสายเลือดนี่ล่ะที่ทำให้หน้าที่สำคัญของท่าน บกพร่องอย่างไม่น่าให้อภัย.....ทายาทที่จะมาปกครองเซเนียยาต่อจากท่าน...คือใคร? "

       " ชีคที่ไร้มเหสีไร้ราชินี....จะเอาทายาทจากไหน...มาปกครองแผ่นดินนี้? "


........................


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8


   คำถามนั้นทำให้ผู้ฟังชะงักอัลชาอ์หรี่ตาลงน้อยๆ ชีคหนุ่มมองหน้าผู้พูด หากแต่แววตาไม่ฉายความลำบากใจ ขณะที่อาเหม็ดถอนหายใจหนักๆ มองหน้าหลานชายตนเองอย่างหนักแน่น..

       " ....เราใช่ว่าจะไม่รู้ เรื่องศาสนา ข้อห้าม บัดนี้มีผู้ทำตามใดจริงเสียกี่คน ต่างก็รู้เห็นอยู่แก่ใจว่าบรรดา"ฉากหลัง"ของผู้นำแต่ละรัฐเป็นเช่นใด....ฝ่าบาท สายตาท่านมองว่าความผิดของตนไม่ได้มากมายนักหนาจนต้องสละบัลลังก์ มันก็ใช่...นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ข้าตัดสินใจเป็นปรปักษ์กับท่าน แต่เมื่อท่านพาเจ้าหนุ่มคนนั้นมาอยู่ในวัง....ท่านปฏิเสธลูกสาวของข้า...จะให้ข้ายอมรับได้อย่างไร..? "

        "....เพราะไม่มีทายาท..? งั้นหรือ...นั่นเป็นสาเหตุที่ท่านชีคอาเหม็ดต้องการถอนฉันออกจากตำแหน่ง...เพราะฉันถอนหมั้นลูกสาวท่าน เพราะฉันพาคนรักผู้ชายมาอยู่ในวัง...."

            เสียงพูดของชีคหนุ่มยังไม่ทันจบก็มีเสียงครางในลำคอของผู้ฟังดังขึ้นแผ่วเบา ต่างมีสีหน้าซีดขาวยามเจ้าตัวเอ่ยคำว่า"คนรัก"ได้ชัดปาก..

       " เพราะท่านอาจหาญถึงเพียงนี้ เราถึงไม่อาจจะปล่อยไว้ ต่อให้ท่านจะบริหารประเทศได้ดีแค่ไหน ...แต่...ผู้นำที่ฝ่าฝืนกฏบังคับอย่างหาญกล้า ผู้นำที่ไร้ทายาทและยังทำตัวเช่นนี้ ใครจะยอมรับ !! " อาเหม็ดส่ายหัวแรงๆด้วยสีหน้าราวกับถูกชก "ข้ารู้ดีในสิ่งที่อัลลิยะห์ทำ ข้าไม่คิดจะร่วมมือกับนางหรือแม้แต่จะสนับสนุน ทว่า...เมื่อท่านทำร้ายจิตใจบุตรสาวของข้า จะให้ข้าทนอยู่เฉยๆได้อยางไร "

         " ท่านโกรธฉัน ไม่พอใจฉัน...เพราะฉันปฏิเสธลูกสาวท่าน...." อัลชาอ์หรี่ตาลงช้าๆ...

          " และท่านยังละเมิดคำสอน ท่าน......" อาเหม็ดอ้าปากทักท้วงลั่น ทว่าอัลชาอ์ยกมือขึ้นกั้น นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองใบหน้าผู้พูดเขม็ง จนคำพูดที่จะเอ่ยถูกกลบหายไปจากลำคอ..

          "...สาเหตุของท่านมีเพียงลูกสาวของตน...และการปรากฏตัวของคนรักของฉัน..."

          "....ใช่....." อาเหม็ดก้มหน้า ที่สุดจึงค่อยกลืนน้ำลายลงคออย่างเชื่องช้า...

          " แล้วท่าน....จะบอกว่าการก่อกวนเรานับปีมานี้ เป็นเพราะท่านเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า งั้นหรือ..? "อัลชาอ์เหยียดยิ้มเยาะหยัน สบมองแววตาของหญิงวัยกลางคนเบื้องหน้าและร่างของนายพลคนสนิทเบื้องหลัง " พวกท่านที่คอยรังควานขบวนขนอาวุธ ปล้นและสร้างความวุ่นวาย จะบอกว่าเพราะสายเลือดของฉัน การทำตัวของฉัน....หรือเพราะ.....บ่อน้ำมันกันแน่..."

         "....น้ำมัน....? " อาเหม็ดชะงัก นัยน์ตาหรี่ลงแล้วค่อยจ้องใบหน้าของหญิงข้างกายอย่างตกตะลึงไม่น้อย " บ่อน้ำมันของตระกูลซาราวัคมาเกี่ยวอะไรด้วย? "

        "....ถ้าท่านไม่ทราบ ท่านชีคอาเหม็ด..." อัลชาอ์ทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้อีกครามุมปากกระตุกหยัน ยามมองสีหน้าจืดเจื่อนเบื้องหน้า "ความโลภนั้นส่งผลหายนะได้มากกว่าที่คิด ...นายพลซาราวัค..เราพบทหารของท่าน...เป็นผู้ปล่อยข่าวและประจำอยู่ตรงชายแดนจารเซ...เปิดทางให้กับกลุ่มคนเข้ามาบุกรุกดินแดนของเซเนียยาและทำร้ายคนของฉันไปมากมาย..."

         " กองโจรที่ซุ่มโจมตีกองกำลังขนอาวุธ มีการรบแบบกองโจรเคลื่อนที่ในพื้นที่ชายแดนของเซเนียยาและประเทศข้างๆ จะให้เราบอกด้วยไหม ว่าที่ตรงนั้นเป็นบ่อน้ำมันมีน้ำมันของตระกูลซาราวัค...และจะให้ฉันแจ้งอีกไหม ว่าข้อตอบแทนที่พวกท่านได้รับ ในกรณีที่ล้มล้างฉันได้คือการขึ้นบัลลังค์ของฟาลซาอ์และมอบกิจการนั้นเป็นของขวัญแด่ผู้สนับสนุนของตน!! "

         "..............."

         " ....สำหรับตัวฉันที่มีสายเลือดของเซเนียยาเพียงครึ่ง...สำหรับชีคที่ทำผิดต่ออัลเลาะห์...ท่านยกมาโจมตีฉันได้ ท่านก่อสงครามก่อความวุ่นวายได้...แต่จำไว้ว่าฉันจะไม่มีวันมอบเซเนียยาให้คนใจคดเช่นท่านครอบครอง " อัลชาอ์สูดหายใจลึก ก่อนจะผุดลุกขึ้นอีกครา ชีคหนุ่มกวาดสายตาจ้องมองผู้คนในห้องก่อนจะเอ่ยด้วยซ้ำเสียงช้า...ชัด....


          "  ท่านอาเหม็ด....ความผิดของฉัน ในฐานะที่หลอกลวงบุตรสาวของท่านและปฎิเสธเธอ อย่างไรมันก็คือความผิด ฉันไม่คิดจะบ่ายเบี่ยง หากการกระทำที่แล้วมาของท่านคือการแก้แค้น ฉันก็จะขอรับเอาความเสียหายและความผิดพลาดทั้งหมดไว้เช่นเดียวกับความผิดพลาดของตนเอง...สำหรับฟาติมะห์ เธอยังคงเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์และมีสิทธิจะแต่งงานกับคนที่เธอพึงใจได้ตลอดเวลา ฉันไม่คิดจะกักขังเธอไว้ในกรงเพียงเพราะต้องการสร้างภาพพจน์เป็นราชาที่ถูกต้องในสายตาใคร "

          " ...และสำหรับท่านอาเหม็ด....ช่วงนี้สุขภาพของท่านมีปัญหา คิดว่าการเดินทางไปไหนไกลคงจะลำบากพอควร ฉันขอให้ท่านอยู่ดูแลรักษาตัวที่นี่สักปีสองปีเพื่อฟิ้นฟูร่างกาย ...และฉันจำได้ว่าตอนมา คนของท่านทำงานเฝ้าคฤหาสถ์กันอย่างเเข็งขัน มีระเบียบ ในช่วงที่เมืองหลวงกำลังระส่ำระส่าย ฉันจะขอตัวพวกเขาไปช่วย และเรื่องความปลอดภัยของท่าน ฉันจะส่งคนของฉันเข้ามาดูแลเอง "

        คำสั่งที่ได้รับทำให้ชีคเฒ่าและบุตรสาวถึงกับหน้าซีด...ฟาติมะห์ขบริมฝีปากกลั้นสะอื้นอย่างรวดร้าว ปวดใจนัก แต่ทว่าคำสั่งขาดของชีค...ใครจะปฏิเสธได้ลง

....อัลชาอ์ใจดีไม่เอาเรื่องในเรื่องการระเบิดและก่อความวุ่นวาย สร้างข่าวลือที่แพร่ไปทั่วก็จริง ทว่า..ชีคหนุ่มก็ตัดสินใจถอนหมั้นกับหล่อนอย่างเป็นทางการ และเมื่อมีใครมาสู่ขอหล่อนอาจจะถูกยกให้เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ง่ายๆ

    ขณะที่ผู้เป็นบิดา อาเหม็ดถูกถอดเขี้ยวเล็บ การ"ขอ"ให้รักษาตัวอยู่ในจารเซอย่างเงียบๆไม่ต่างกับคำสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในคฤหาสถ์ ห้ามออกไปไหน และอัลชาอ์ก็ยังสั่งถอนกำลังทหารที่เคยเป็นมือเท้าคอยรับใช้ดูแลคุ้มกันคฤหาสถ์และคอยทำงานตามสั่งให้ออกจากพื้นที่ และสั่งคนของตนเข้ามาประจำการเพื่อ "ดูแล" การดูแลที่บ่งชัดว่ามันคือการ "จับตามอง"ทุกความเคลื่อนไหว ไม่เปิดช่องให้ไปก่อเรื่องอะไรอีก..

       .....คำสั่งเช่นนี้ใครได้รับมีหรือจะดีใจ แต่ทว่า...จะมีสิทธิ์ทักท้วงอะไรผู้เป็นชีคได้ และถ้าไม่อยากตายเพราะเรื่องที่ตนทำไว้ก็จงอย่าอิดออด

เทียบกับสิ่งที่ตนทำไว้ ผลของสิ่งที่ได้รับยังนับว่าเบาบางมากมายนัก...

       "..ขอบ...พระทัย...." อาเหม็ดทำได้เพียงเอ่ยรับคำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...ใบหน้าซีดขาว...แต่ก็รู้ถึงความผิดของตนดี...

       "....ที่ฉันลงโทษท่าน...เพราะท่านทำผิด...คนทรยศไม่สมควรได้รับการให้อภัย แต่เพราะคนทำคือท่าน และฉันก็รู้จุดหมายของท่านดี... ฉันจึงได้ทำเช่นนี้..หวังว่าคงเข้าใจ " อัลชาอ์เอ่ยเสียงเรียบ ชีคหนุ่มปรายตามองฟาติมะห์ที่สะอื้นจนตัวสั่นแล้วได้แต่ถอนหายใจ " สำหรับเรื่องทายาท...ขออย่าได้กังวล...เมือฉันทำอะไรลงไป ฉันก็มีทางออกของปัญหานั้นอยู่แล้ว..."

         " หมายความ....." อาเหม็ดชะงัก เอ่ยปากถาม..

         " มันยังไม่ถึงเวลา "อัลชาอ์เอยตอบสั้นๆ ก่อนจะมองไปยังร่างของ อัลลิยะห์ หญิงวัยกลางคนที่เคยมีตำแหน่งรานีซึ่งบัดนี้นั่งนิ่ง...อย่างรู้ดีถึงชะตากรรมของตน

         "....ท่านจะลงโทษฉันอย่างไร? " อัลลิยะห์ถามเสียงเรียบ หากแววตาสั่นไหว

         " ...สำหรับท่าน...ฉันไม่คิดว่าการตัดสินของฉัน จะเหมาะสมมากไปกว่าการตัดสินของตัวท่านเอง " อัลชาอ์จ้องมองใบหน้าของผู้พูด ก่อนจะสบมองนัยน์ตาสีเขียวสดของเจ้าชายหนุ่มที่ยืนอยู้ข้างๆ.

         " ฟาลซาอ์..." เสียงเรียกนั้นทำให้ผู้ฟังสะดุ้ง...เจ้าชายหนุ่มเงยหน้ามองญาติผู้พี่ของตนเบื้องหน้าอย่างหวาดหวั่นไม่น้อย...กับโทษ ที่ตนอาจจะได้รับ...

          " ขอรับ...."

          "...ฉันให้เจ้าตัดสินใจ ..."

         " เอ๋? " คำพูดนั้นทำให้ผู้ฟังขมวดคิ้ว สีหน้างวยงง

         " ตัดสินโทษของพวกเขาทั้งสองซะ " คำพูดนั้นทำให้ผู้ฟังนั่งงัน ดวงตาเบิกค้าง...

         "...ท่าน......"

         " ด้วยการตัดสินใจของตัวเอง...แสดงให้พวกเขาเห็น...ว่าอะไรคือสิ่งที่เจ้าคิด และอะไรคือสิ่งที่เจ้าผิดหวังมากที่สุดจากเรื่องราวเหล่านี้..." ชีคหนุ่มจ้องหน้าฟาลซาอ์ ก่อนจะปรายมองสองบุรุษสตรีที่อยู่ตรงหน้า "  จะลงโทษ จะไม่ลงโทษ จะทำอย่างไร ฉันไม่ขัดข้อง ..."

       " แต่...."


ปึง !!

        " น่าชังนัก ! ท่านจะบีบบังคับให้ฟาลซาอ์ต้องทำร้ายผู้ให้กำเนิดงั้นหรือ? จิตใจโสมมต่ำทรามมากเพียงใดกันที่คิดเรื่องเช่นนี้ได้ !! รึว่ามันวิปริตผิดธรรมชาติไปเสียแล้ว !!" ร่างของนายทหารที่ยืนอยู่เบื้องหลังอัลลิยะห์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงกระชากดังลั่น ร่างสูงใหญ่คำรามในลำคอ ถลันเข้าหาร่างของชีคหนุ่มแห่งเซเนียยาอย่างรวดเร็วและไม่มีใครห้ามทันด้วยอารมณ์โกรธแค้น!

    หมับ.....


         " หยุด....เดี๋ยวนี้....." ฝ่ามือหนาที่ตั้งท่าจะเข้ามาทำร้าย ถูกหยุดไว้ได้อย่างง่ายดายด้วยฝ่ามือขาวจัดของมาเฟียหนุ่มผู้นั่งถัดจากชีคหนุ่ม ฝ่ามือเล็กๆบอบบางขาวซีดราวกับจะหัก หากแต่ความจริงแล้วมีเรี่ยวแรงกำลังมากมายนักโผนขึ้นคว้าฝ่ามือสามหาวข้างนั้นให้หยุดนิ่ง  นัยน์ตาสีน้ำทะเลฉายแววเรืองโรจน์ด้วยความไม่พอใจ จ้องมองดวงตาสีนิลของนายทหารผู้นั้นเขม็ง...

         คาวัลโล วาลกัส คำรามออกมาในลำคอเบาๆ  เขาออกแรงกดที่ฝ่ามือมากขึ้นเมื่อมือรั้นยังทำท่าจะดิ้นหนีอย่างไม่ยอมแพ้ ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มบิดขึ้นคล้ายจะชอบใจกับความพยายามนั้น ก่อนที่ปลายนิ้วโป้งจะกดหัวแม่มือของอีกฝ่ายไว้แน่น และออกแรงบิดพลิกข้อมือนั้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าใครจะห้ามทัน

       กร๊อบ !!

          " อ้าก ก ก ... "  เสียงร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมาทันทีที่เกิดเสียงกระดูกลั่นกรอบ คาวัลโลละฝ่ามือออกจากอีกฝ่าย เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง ทว่าดวงตาสีน้ำทะเลยังวาววับกราดมองผู้คนเบื้องหน้าซึ่งมีสีหน้าตกตะลึง อย่างท้าทายบ่งชัดว่าพร้อมจะจัดการใครก็แล้วแต่ที่กล้าทำร้าย หรือเข้าถึงตัวชีคแห่งเซเนียยา...   

          จากที่เป็นเพียงหนุ่มยุโรปหน้าสวยท่าทีบอบบางเดินตามชีคหนุ่มต้อยๆราวกับคนรักที่มีหน้าที่เชื่อฟังและปรนเปรอกามารมย์อย่างถึงใจตามรสนิยมอันวิปริตของทั้งคู่  หากเมื่อบัดนี้เจ้าตัวลุกขึ้นป้องกันผู้ที่กล้าเข้ามาทำร้ายชีคแห่งเซเนียยาด้วยดวงตาวาววับและท่าทีที่บ่งชัดว่าไม่ยอมใคร...นั่น ทำให้สีหน้าของผู้ที่ได้เห็นต่างเกลื่อนไปด้วยความประหลาดใจ

       ...คนที่ดูราวกับไม่เคยต่อสู้ ไม่เคยจับดาบจับปืน...เหตุใดถึงเชี่ยวชาญจนสามารถหยุดยั้งชายผู้เป็นถึงทหารองค์รักษ์คนสนิทของอัลลิยะห์ได้...

             "ใจเย็นๆ..." ชีคหนุ่มเอ่ยปรามคนรัก พลางวางฝ่ามือบนไหล่อีกฝ่าย กดเบาๆ...ให้เจ้าแมวน้อยค่อยคลายอาการแยกเขี้ยวขู่ด้วยดวงตาวาวๆไว้เสียก่อน อัลชาอ์ปรายตามองไปยังนายพลซาราวัค ผู้ที่บัดนี้ขบริมฝีปากแน่น ใช้ดวงตาวซึ่งลุกโพลงด้วยความเคืองแค้นไม่พอใจจับจ้องมาทางตนเงียบๆ...

            "....ฟาลซาอ์จะตัดสินเช่นไรก็ตามใจ จะปล่อยพวกท่านไปก็แล้วแต่เขา ฉันมอบอำนาจนี้ให้เขาตัดสินใจ ....เผื่อท่านจะได้รู้ ว่าหากเขาได้เป็นราชา เขาจะทำเช่นไรกับเซเนียยา  " ชีคหนุ่มลุกขึ้น สะกิดไหล่คาวัลโลเบาๆเป็นเชิงให้เจ้าตัวลุกขึ้นตาม ดวงตาสีเข้มจ้องมองเหล่าญาติสนิทที่อยู่ในห้อง ก่อนจะถอนหายใจยาว..

             " สำหรับคำพูดของท่าน ที่กล่าวว่าเราทำผิดหลักศาสนา...สำหรับฉันแล้ว ฉันเคารพเทิกทูน อัลเลาะห์และศาสดาของเราเสมอ ความศรัทธาของฉันไม่เปลี่ยนแปลงแม้ไม่อาจจะเป็นสาวกที่ดีของท่านได้ และแม้ต้องพบเจอกับไฟนรกหลังความตาย ฉันก็ยินดี.... แต่ฉันก็ยืนยันคำเดิม ว่าเหตุผลนี้ไม่มากเพียงพอที่จะทำให้ฉันยอมสละบังลังก์เซเนียยา เพราะฉันคิดว่าคนที่จะทำให้ประเทศนี้เดินหน้าต่อไปได้คือตัวฉัน ไม่ใช่ใครอื่น  หากท่านคิดว่ามีใครดีกว่าฉัน สามารถทำเพื่อเซเนียยาได้มากกว่าที่ฉันทำทุกวันนี้ ก็จงบอกให้เขามาช่วงชิงจากฉันได้ทุกเวลา...หากเขาพิสูจน์ตนได้ว่าเหมาะสม เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะจากไปโดยไม่อาวรณ์  "

              "ที่ฉันมาวันนี้คือการมาเจรจา ไม่ว่าหลังจากนี้พวกท่านจะยอมทำตามที่ฉันสั่ง ทำตามที่ฉันพูดหรือไม่ก็ตาม....แต่อยากให้ทราบเอาไว้ ว่าฉันจะไม่ยอมให้ประชาชนของฉันต้องกลายเป็นเหยื่อ จะไม่ยอมให้มีสงครามในเซเนียยาอีก  ฉันรู้ว่ามีคนที่ยังคงคับแค้นใจ..." ดวงตาสีนิลหรี่ลงช้าๆ สบมองแววตาของวาววับกร้าวแข็งของนายพลซาราวัค " และคงจะไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้ ฉันหวังว่าจะมีคนทำให้พวกเขาคิดได้ และ...อยากให้เขาคิด ถึงส่วนรวมมากว่าส่วนตนสักนิด นี่คือคำเตือนจากฉันและครั้งหน้า...จะไม่มีคำว่าปราณีอีกแล้ว...."

               ร่างสูงสะบัดกายหันหลังให้กับผู้ที่อยู่ในห้องอัลชาอ์ก้าวเท้าออกจากห้องอย่างรวดเร็ว...งามสง่าเช่นผู้ชนะ คาวัลโลมองตามแผนหลังหนาเหยียดตรงของอีกฝ่าย เขาปรายตามองคนที่อยู่ในห้องอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าตามคนรักไป..เหลือเพียงอาเหม็ด ฟาติมะห์ นายพลซาราวัค อัลลิยะห์ และเจ้าชายฟาลซาอ์...ซึ่งกำลังยืนนิ่ง..จ้องมองมารดาตนด้วยแววตารวดร้าวเต็มไปด้วยความผิดหวัง...

.........................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
  " อัลชาอ์ ! " คาวัลโลก้าวตามหลังชีคหนุ่มที่เห็นอยู่ไม่ไกล เขาซอยเท้าถี่ๆวิ่งตามไปคว้าท่อนแขนของอีกฝ่ายไว้เพราะเดินเร็ว เสียจนตามาไม่ทัน มาเฟียหนุ่มอ้าปากจะบ่น แต่ก็เงียบเสียงลงเมื่อมองเห็นแววตาของชีคหนุ่ม คาวัลโลเดินก้าวเร็วๆตามไปจนถึงโถงทางเข้าที่มีรถจอดอยู่เบื้องหน้า ซึ่งเป็นคันที่พวกเขาใช้โดยสารมาถึงนั้นเอง

          อัลชาอ์เปิดประตูรถ รุนหลังให้คนรักเข้าไปด้านใน ก่อนจะทรุดกายลงตามและปิดประตู รถยนต์จอดติดเครื่องอยู่แอร์จึงเย็นฉ่ำ มีกุญแจรถเสียบคาไว้ หากแต่ไร้ร่องรอยของฮาซานองค์รักษ์คนสนิทผู้ควบตำแหน่งคนขับรถ  มีเพียงความเงียบและเสียงลมหายใจสั้นๆของคาวัลโลเนื่องจากการวิ่งตามอัลชาอ์ที่....ไม่รู้จะวิ่งเร็วไปไหน

         " อัลชาอ์...." คาวัลโลหันไปหาคนรัก แต่เขาก็ต้องเงียบเสียงลงเมื่อพบว่าชีคหนุ่มที่เคยเข้มแข็งองอาจและแข็งแกร่งในห้องประชุมเมื่อครู่เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นอัลชาอ์คนเดิมที่เขารุ้จัก ซึ่งกำลังเอนตัวพิงเบาะรถอยู่ด้วยท่าทีครุ่นคิด..หัวคิ้วขมวดมุ่น ใบหน้าเหนื่อยอ่อน

     ต่อให้คาวัลโลฟังไม่ออก ทว่าท่าทางของพวกคนที่อยู่ด้านในห้องประชุมก็บอกอะไรได้มากพอแล้ว ความขัดแย้ง การทะเลาะทุ่มเถียงกัน อย่างไรก็น่าลำบากใจอยู่ดี

       ฝ่ามือขาวจัดแตะลงบนผิวหน้าของชีคหนุ่มเบาๆคล้ายจะปลอบประโลม ทำให้แพขนตาที่ปิดพับลงไปกระตุกยิก อัลชาอ์ลืมตามาสบมองแววตาของคนรัก ความห่วงหาอาทรที่ชัดเจนนั้นเหมือนจะค่อยๆเข้ามาเยียวยาหัวใจอันปวดร้าวและเหน็บหนาวของตนให้ได้พักผ่อน...

        ชีคหนุ่มยิ้มให้บางๆ  เอื้อมมือไปรั้งร่างของคนรักมากอดแนบอกซึ่งคาวัลโลก็ไม่ขัดขืน แม้ที่นี่จะเป็นคฤหาสถ์ของอาเหม็ดก็ตาม เพราะในยามนี้ คนรักของเขากำลังเครียดขึงและอ่อนไหวอย่างไม่เคยเป็น..

         ฝ่ามือขาวค่อยสอดไล้เส้นผมสีนิลจากใต้บริเวณลำคอของชีคหนุ่มเบาๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายวางปลายคางลงกับผิวไหล่และสูดหายใจลึก คาวัลโลรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของคนรัก เขาเอื้อมมือวางลงบนแผ่นอกหนาเบาๆสัมผัสเสียงหัวใจที่ค่อยผ่อนช้าลงตามความรู้สึกของอีกฝ่าย..

        "...เกิดอะไรขึ้น? " มาเฟียหนุ่มออกปากถามเบาๆ...ด้วยน้ำเสียงห่วงหา...

       " ...การเจรจากันน่ะ..."  ผ่านไปสักพัก อัลชาอ์จึงค่อยตอบคำถามเบาๆ    " เจรจา...กับกลุ่มคนที่เคยไว้ใจ..."

...คนทรยศ...

คนที่ตอนนี้กลับถือมีดมาแทงข้างหลัง..

เจ็บปวดแค่ไหน รวดร้าวเพียงใด คาวัลโลเข้าใจ ดี เพราะตนก็เคยล้ม...ล้มจนแทบลุกไม่ไหวมาแล้ว

เเละเพราะชายคนนี้ไม่ใช่หรือที่คอยโอบอุ้มประคับประคอง มาในยามนี้ ในตอนที่อัลชาอ์กำลังปวดร้าวจากความรู้สึกเดียวกันคาวัลโลก็จะขอเป็นที่พักพิงและคอยปลอบประโลมอีกฝ่ายบ้าง..

         "...ไม่เป็นไรนะ...ผม...อยู่กับคุณ..." มาเฟียหนุ่มทาบฝ่ามือลงบนผิวแก้มของชีคหนุ่ม สบมองนัยน์ตาสื่อความนัยน์ลึกซึ้งให้แก่กัน...

         "  ขอบคุณ.." อ้อมกอดหนาค่อยรัดแน่นขึ้นอีกคราพร้อมกับริมฝีปากที่โฉบทับผิวแก้ม คาวัลโลหัวเราะคิก ดิ้นออกจากอ้อมกอดคนตัวสูง ขยับกายมานั่งข้างๆ เพื่อจะอิงแอบกันเงียบๆ..

          "แล้วตอนนี้...." เขาเกริ่นเบาๆ

           " อา....ก็เรียบร้อยแล้วล่ะ...ไม่เป็นไร..." อัลชาอ์เอ่ยช้าๆ นัยน์ตาค่อยหรี่ปรือลงอย่างครุ่นคิด " ที่ผ่านมา ผมใจอ่อน ผมไม่ยอมจัดการกับพวกเขาขั้นเด็ดขาด ปล่อยให้คนพวกนั้นได้ใจ ปล่อยให้พวกเขาคอยก่อความไม่สงบ..แต่มาวันนี้ ที่เขาใช้ประชาชนของผมมาเป็นตัวประกัน ..มันไม่มีเหตุผลใดที่จะอ่อนข้อให้อีกแล้ว "

            " นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย...ถ้าหากพวกเขายังจะดึงดัน...ผมก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้...ต่อให้จะเป็นญาติสนิทก็ตาม.." ชีคหนุ่มถอยหายใจแผ่วเบา ฝ่ามือไล้ผิวแก้มขาวของคนข้างกายช้าๆอย่างใจลอย "  ผมพยายามแล้วที่จะอดทนและใช้ความปราณีให้มากที่สุด เพราะเขาคือญาติสนิท เพราะเขาคือคนที่ผมไว้ใจ..แต่สุดท้าย ทุกอย่างมันก็พังทลายไม่มีชิ้นดี..."

           "อัลชาอ์...."

           "ตอนนี้ผมกับคุณ...เราก็เหลือเพียงกันและกันแล้วนะ...." คำพูดของชีคหนุ่มทำให้คนฟังชะงัก คาวัลโลนิ่งไปกด่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ...

           " ครับ...ใช่...."

           "...อย่าทิ้งผมไปไหนอีกนะ...คาวัลโล...." ฝ่ามือหนาแตะลงบนผิวแก้ม ไล้มันเบาๆให้คนฟังค่อยพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า...ทว่าก็หนักแน่นยิ่ง..

           "...ผม...จะไม่ทิ้งคุณ..."



               เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นเบาๆทำให้สองหนุ่มชะงัก คาวัลโลขมวดคิ้วเมื่อมองเห็นร่างของเจ้าชายฟาลซาอ์ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ สีหน้าของเขาเคร่งขรึม..ราวกับกำลังแบกอะไรที่หนักมากมายไว้บนสองบ่า อัลชาอ์เลื่อกระจกรถลงแล้วพยักหน้าช้าๆ นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองดวงตาที่เกลื่อนไปด้วยความว้าวุ่นใจแล้วเอ่ยปากถาม..

          "ว่ายังไง...."

          " ผม....สั่งให้ธุรกิจบ่อน้ำมันของตระกูลซาราวัคถูกโอนให้เป็นของรัฐ...และ...กักบริเวณท่านแม่อัลลิยะห์ไว้..ไม่ให้พบกับนายพลซาราวัคโดยเด็ดขาด..." น้ำเสียงของเจ้าชายหนุ่มเรียบนิ่ง..หากดวงตาที่ปั่นป่วนว้าวุ่นนั้นแสดงออกชัด อัลชาอ์สบมองแววตาของเจ้าชายหนุ่มเบื้องหน้า ฝ่ามือเคาะลงบนกระจกรถเบาๆ...

          " โกรธฉันไหมที่ทำแบบนี้...." ครู่หนึ่ง จึงออกปากถาม...

          " ผมมีสิทธิ์โกรธท่านด้วยหรือ? " เจ้าชายหนุ่มยิ้มเคร่ง เอ่ยตอบสั้นๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้น " ผมทำตามที่ตัวเองเห็นสมควร และได้รับบทเรียนที่ท่านสอนแล้ว "

          "..ว่า........"

          "...คนที่มีอำนาจ...บางครั้งก็ต้องเชือดใจตัวเองเพื่อความถูกต้อง...ในยามที่มีคนผิด ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู ย่อมไม่มีข้อยกเว้น "เจ้าชายหนุ่มตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงฝั่งขวามือของคนขับอย่างรวดเร็ว และทันทีที่ประตูปิดอัลชาอ์ก็ออกปากถามอีกครา..

          "...การตัดสินใจแบบนั้น ทำให้พวกเขาโกรธ ก็รุ้ไม่ใช่หรือ ? "

          " ผมทำตามที่ตัวเองเห็นสมควร " ฟาลซาอ์ตอบสั้นๆ " และสำหรับผม สิ่งที่ยกโทษให้ไม่ได้ คือการถูกนำมาเป็น"ข้ออ้าง"ในการทำลายประเทศชาติ "

         " ไม่คิดอยากครองราชย์ดูบ้างหรือ? " ชีคหนุ่มเอ่ยถาม นัยน์ตาหรี่ลงน้อยๆอย่างครุ่นคิด..

         "...ผมไม่คิด...อยากนั่งบนหนาม ไปชั่วชีวิต "


              คำตอบนั้นเรียกเสียงหัวเราะรับเบาๆในลำคอราวกับถูกใจของอัลชาอ์ ขณะที่ร่างของฮาซานก้าวเข้ามาประจำที่นั่งคนขับ ไม่นานขบวนเสร็จของชีคแห่งเซเนียยาก็วิ่งตัดผ่านสวนสวยหน้าคฤหาสถ์ของชีคอาเหม็ดออกไป...

     คาวัลโลเหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนรัก ขณะที่ความเงียบลอยอยู่ในรถ นัยน์ตาสีน้ำทะเลจ้องมองฝ่ามือหนาที่กุมมือของเขาแนบแน่น ฟังเสียงวิทยุสื่อสารด้านหน้าที่ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอมากกว่าปกติด้วยแววตาสงสัย มองเห็นรถเร่งความเร็วจนถึง 140 กม/ชม เขาพลันขมวดคิ้วแน่น...

         " อัล....."

         "ใช่....คาวี่ที่รัก หลังจากนี้ล่ะ เราจะโดน"ล่า"ของจริง " เสียงตอบของคนรักที่ราวกับมานั่งอยู่ในหัวใจทำให้คาวัลโลใจหายวาบ เขาหรี่ตาลงช้าๆ มองไปยังกระจกมองหลัง ซึ่งมีรถคุ้มกันของเหล่าองค์รักษ์ประจำตัวอัลชาอ์  ขับตามมาอย่างกระชั้นชิด ก่อนจะมองไปยังเบื้องหน้า ...ซึ่งรถนำขบวนกำลังเบี่ยงเส้นทางออกจากถนนเส้นหลักของเมือง รถคันโตห้าคันค่อยไต่ไปตามถนนเส้นเล็กที่นำไปสู่กลางทะเลทรายร้อนระอุ

          " คุ้นตาบ้างไหม? " อัลชาอ์เอ่ยปากถามเบาๆ หลังจากรถเเล่นมาสักระยะ คาวัลโลมองตามปลายนิ้วของคนรัก ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น ด้วยเริ่มจำได้ว่าที่คุ้นตาซึ่งอัลชาอ์กล่าวถึงและเขาสามารถมองเห็นอยู่ไกลลิบๆ คือบริเวณเส้นทางขนอาวุธปลอมๆที่ตัวเขาเคยถูกล่อลวงมา และไม่ไกลจากนั้นก็มีกลุ่มขบวนรถอีกห้าหกคันจอดอยู่ ธงของเซเนียยาที่ปักอยู่บนนั้นทำให้พอจะรู้ได้ว่าเป็นคนของอัลชาอ์ไม่ผิดแน่

         หันไปมองหน้าชีคหนุ่มที่เปรยยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วก็ต้องโคลงหัว ด้วยไม่รู้จะคิดไปเองรึเปล่า ว่านับวันอัลชาอ์เริ่มจะดูเจ้าเล่ห์ แถมร้ายและแรง มากกว่าที่คิดไว้เยอะ


        .....................

ตอนนี้...แหม...หล่อมาก...

ท่านชีค อัลชาอ์ที่รัก (ของคาวี่) หล่อเท่ห์จริงนะเอ๊า  :jul3: ไอ้หล่อสำเร็จรูปเอ๊ยยยยยยย แต่งแล้วแอบหลง (ทำได้แค่แอบสิ หลงออกนอกหน้าคาวี่จับกระซวกไส้ไหลกันพอดี) :laugh: :laugh:
เรื่องคำแทนตัวของท่านชีคอาจจะทำให้หลายคนตงิดๆ (ฮ่าๆ) ที่ใช้คำว่าฉัน อาจจะดูสาวไปในบางประโยค แต่ก้คิดว่าคำนี้แหละที่ดีที่สุดแล้ว เพราะอัลชาอ์พุดในฐานะ”ผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง” จะแทนตัวว่าผมก็ดุจะหน่อมแน้มไป จะแทนว่าข้าก็โบราณไปหลายปีแสง ฉะนั้นเลยขอใช้คำว่า “ฉัน”นี่ล่ะ

  สำหรับตอนนี้มีเรื่องศาสนาแนวคิดอะไรมาเล็กน้อย เรื่องนี้มันแล้วแต่วิจารณญาณสวนบุคคลนะคะ บอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นนิยายและเป็นความคิดของคนเขียน เรื่องมันค่อนข้างสุ่มเสี่ยง (เขียนไปเสียวไป)อย่าดราม่ากันนะเออ o22
และตอนนี้ อัลชาอ์ + คาวัลโล = อิคู่ born to be 55+  แบบว่าคนนึงเชือด คนนึงคอยระวังหลัง คู่หูมาก รุ้ใจจริงๆ ฮี่ๆ  :impress2:
อธิบายเหตุการณ์เล้กน้อยกันงง
 อัลลิยะห์และนายพล เป็นคนที่ขัดแข้งขัดขาอัลชาอ์มาตลอด ยุ่งวุ่นวายกับขบวนขนอาวุธของคาวี่ด้วย ทำเพราะอยากได้ตำแหน่งชีคให้เจ้าชายฟาลซาอ์(ซึ่งไอ้คนนี้คิดอย่างเดียวว่าตูไม่ว้อนท์) ที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมที่สุด
 ส่วนอาเหม้ดและลูกสาว ตอนแรกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับแผนนี้ แต่ว่าเข้าร่วมแผนในช่วงหลัง เป็นตัวการปล่อยข่าวลือและอุบัติเหตุที่ทัสคานี ทำไปเพราะแค้นใจที่อัลชาอ์หยามและไม่พอใจเรื่องที่อัลชาอ์รักกับคาวี่

ปล.. แบดกายมาตอนดึกๆของวันนี้ค่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2011 06:26:22 โดย Serin »

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
กำลังจะเข้ามาทวงตอนใหม่อยู่พอดี o18 o18

แต่มาต่อซะก่อน เลยได้อ่านแล้ววววววววววววว   :mc4: :mc4: :mc4:

ไปอ่านก่อนนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 :z13:
เร็วมากกกก  เลยมาจิ้มตูด อิอิ :laugh:
อ่านแ้ล้วตอนนี้สงบจิตสงบใจนะ เพ้อถึงท่านชีคมากระวังคาวี่จะ... o18
เพราะเค้าหวงของเค้ามาก
มาทักทายค่า  :กอด1:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ไม่ต่างจากคาวี่เลยนะอัลซาร์ โดนหักหลังจากญาติที่รัก เฮ้อ!!!!!
เหลือแค่เราสองคน แต่งานกำลังเข้าแล้ว สู้ๆๆ

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
เฮ้อ!  เหนื่อยใจแทนทั้งคู่จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
สง่างามเหลือเกินอัลชาอ์ แต่หนทางข้างหน้าก็ยังดูมัวๆสำหรับคู่นี้เนอะ สู้ๆ  :กอด1:

morphinelike

  • บุคคลทั่วไป
+3 ค่า ให้ได้ไม่ครบทุกบล๊อคที่ลง เพราะหมดตัวแล้ว  :z3:
บ้าคลั่งมากมาย เหมือนรอมานานแสนนาน

ท่านชีคหล่อ เท่ห์ จนใจสั่น อยากได้แบบนี้มากอดสักคน
ที่อัลชาอ์เรียกตัวเองว่า "ฉัน" ไม่สาวนะคะ คิดว่าเหมาะสมดีแล้วล่ะ
อ่านแล้วไม่สะดุดนะ  อ่านตอนแรกก็รู้สึกเลยว่ามีสถานะสูงกว่า
                                                             
ปวดใจแทนอัลชาอ์กะคาวี่เหมือนกันนะถูกคนที่รักมาก ไว้ใจมาก หักหลังทั้งคู่เลย
แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เดี๋ยวให้เวลาส่วนตัวไปปลอบใจกันและกันให้หนักเลย  :z1:
                                                                                   
อ๊ากกกก คลั่ง เข้าสู่โหมดรีเฟรชรอตอนใหม่อีกครา  :z3:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
น่าลำบากใจเนอะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ตอนนี้คงต้องยกให้ท่านชีคเขาล่ะ  แต่คาวี่ก็โขมยซีนท่านชีคไปด้วยเวลาสั้นๆ  แต่โครตโดนใจจริง ๆ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
ชีคเก่งที่สุด +1

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
พอไอ่ 2 คนนี้มันรักันได้ ก็ดูเป็นคู่ที่ดูน่ากลัวมาก
แบบว่า ใครคิดทำอะไรอีกฝ่าย ล่อถึงตายได้ทั้งคู่

ตอนนี้ชีคใช้เวลาไปเกือบทั้งตอน เจอคาวี่ขโมยซีนไปในชั่วแว่บเดียว 555555

kwa

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ตอนนี้อัลชาอ์ดูน่ากลัวง่าาา น่าเกรงขามสมกับเป็นชีคจริงๆ
โอยยย อ่านไปกลั้นหายใจไป ลุ้นเฮือกมากกก (ฮ่าๆ ขำตัวเองจะอินอะไรนักเนี่ย)

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
คาวี่มาเป็นตัวประกอบตอนนี้  :z2:

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ท่านชีคเท่มากกกกกกกกกกกกก

*~LPCM~*

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาแล้วๆๆๆ คร่าา
นั่่งรอเมื่อวานทั้งวันเลย หุหุ
เย้ๆๆ ขอแอบไปอ่านก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวๆ จะมาคอมเม้นใหม่ ฮ่าๆๆ

>> สรุปแล้วมาเม้นอะไร??

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด