Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1006587 ครั้ง)

ออฟไลน์ inhyung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อ่านตอนนี้ก็อินจัดตามเคย

อัล โคตรเจ๋ง แต่ใจดีมากอ่ะ อย่างนี้สิพระเอกตัวจริง

ต่อไปคิดว่าคงเป็นฉากต่อสู้เยอะ รึเปล่า ? 55555

ชอบอ่ะ อยากเห็นคาวี จับปืนสักที

นี่เราโรคจิต ?

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
555 นี้ละอัลตัวจริง เท่เเบบนี้ล่ะ คุ๋นี้อยุ๋ด้วยกันเเล้วใครเเตะไม่ได้เลย 555

คาวี่หนูเด็กดีมากๆ ห้ามปล่ายท่านชีคน่ะ

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
ชีคเท่ที่สุดดดด ด

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ตอนนี้ท่านชีคเท่มากกกก
คาวี่น่ารักเหมือนเดิม(?)
เจ้าชายฟาลซาน่าเห็นใจมากๆ
แต่ตอนท้ายงงตรงที่เดินทางมาถึง
จุดที่คาวัลโลโดนจับอ่ะนะว่าจะเกี่ยวกันยังไง
คงต้องรออ่านตอนต่อไปถึงจะรู้หล่ะนะ(มั้ง)

 :L2: :pig4: :L2:

butajang

  • บุคคลทั่วไป
พอมาอ่านตอนนี้เเล้วเเบบ กรี๊ดดดดดดดดดดด ท่านชีคขรา เท่ห์โคตรๆ สุโก้ยเลยอะ พระเอกมาก เเบบมีเพิ่มอีกไม๊อะ ขัดใจบรรดาญาติๆ ชิ๊ๆๆ อ่้างโน่นอ้างนี้เหตุผลจริงๆคืออะไร ก็เห็นเเก่ตัวเองมิใช่รึ ไม่สนคนหมู่มาก ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปด้วย

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line 36 : เจอกันอีกครั้ง

          แสงสว่างจากภายนอกเหลือเพียงลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ดวงโตทอดยาวผ่านเส้นขอบฟ้า หากเงยหน้าขึ้นไปมองก็คงจะเห็นดวงดาวเริ่มเปล่งประกายระยับในท้องฟ้าที่มืดดับ ทะเลทรายที่มีพืชต้นเล็กๆสีเขียวสดขึ้นอยู่ประปรายหายไปแล้ว พบเพียงผืนทรายกว้างที่มีต้นหญ้าเหี่ยวแห้งปรากฏอยู่ราวกับยอมรับความพ่ายแพ้กับสภาพภูมิประเทศอันโหดร้าย และเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยามนี้...

     ตอนที่มา...อัลชาอ์ยังบอกให้วางใจ ว่ายัง"จะ"ไม่มีมีอะไรเกิดขึ้น ทว่ายามนี้ ชีคหนุ่มกลับออกปากว่ากำลังเป็นฝ่ายถูกล่าเสียแล้ว...

        คาวัลโลจ้องมองลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่ค่อยหายไปช้าๆ เป็นผลให้ความมืดมิดกางปีกมาครอบคลุมผืนทะเลทรายกว้างอย่างเต็มที่ภาพที่ค่อยเรืองลางและมืดสลัวลงของทัศนียภาพเบื้องนอกบอกได้ดีว่าเวลาผ่านไปค่อนข้างนานแล้ว นับแต่รถขับออกมาจากจารเซ เบี่ยงเส้นทางออกจากทางหลวงปกติ และเลาะสันทรายมายังจุดนัดพบที่มักใช้ในการขนส่งอาวุธ จากที่เคยเห็นเป็นเส้นขอบฟ้าไกลลิบ บัดนี้ ขบวนรถที่ปักธงของจารเซห้าคันกำลังจอดอยู่เบื้องหน้า..

        ความเร็วรถค่อยช้าลงและหยุดชะงัก ฮาซานเปิดกระจกรถ พุดคุยกับชายในชุดคลุมตัวใหญ่ที่ชะโงกหน้ามาหาสี่ห้าประโยค จากนั้นก็เร่งเครื่องออกเดินทางต่อ โดยมีพรรคพวกที่มาสมทบตามอยู่และกระจายตัวขับขนาดซ้ายขวาและรั้งหน้าหลังไว้ด้วยความชำนาญ..

        เส้นทางที่เปลี่ยนเป็นไต่เลาะสันทรายอีกครั้ง มุ่งไปสู่พื้นที่อีกแห่งทำให้คาวัลโลขมวดคิ้ว เขามองอัลชาอ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ชีคหนุ่มไล้ปลายนิ้วที่เกาะกุมกันไว้เบาๆแล้วหันมามองหน้าเขา ด้วยแววตาบางอย่างที่ทำให้คาวัลโลขมวดคิ้วมุ่น

        ฮาซานกำลังทำอะไรกุกกักอยู่กับคอนโซลรถ ขยับสามสี่ทีมันก็เปิดอ้าออก พร้อมกับกระบอกปืนสีดำมะเมื่อมจำนวนพอดีคนปรากฏอยู่ในนั้น เจ้าชายฟาลซาอ์หยิบมาถือไว้หนึ่งกระบอก จากนั้นก็ยื่นให้อัลชาอ์และชีคหนุ่มก็วางปืนกระบอกหนึ่งไว้บนมือของเขา ....

       เสียงเร่งยนต์ของฮาซานดังเข้าหู พร้อมกับน้ำหนักของโลหะเย็นเฉียบบนฝ่ามือ ผสานความอุ่นร้อนจากอุ้งมือหนาทำให้หัวใจเริ่มเต้นระส่ำ...

        " อัล....."

        " ดูแลตัวเองดีๆนะ.." ฝ่ามือของชีคหนุ่มบีบแน่น ก่อนจะผละจากเพื่อนเช็คดูความพร้อมของอาวุธ คาวัลโลคลายหัวคิ้วลงช้าๆ ... กวาดตามองรอบด้านที่รถขององค์รักษ์ยังคงกระจายตัวประกบล้อมหน้าล้อมหลัง ระวังภัยอย่างตั้งอกตั้งใจ...

        " คนของใคร ? "มาเฟียหนุ่มออกปากถามสีหน้าข้องใจไม่น้อย..

        " ...วันนี้....จะมีการขนอาวุธล๊อตใหญ่.." อัลชาอ์อะบายด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท "และ...ก็มีกลุ่มที่คอยดักปล้นรอท่าอยู่แล้วเสียด้วย..."

        "อา...." คาวัลโลพยักหน้า ดวงตาเริ่มวาววับ... "คุณจะมาจับผู้ร้าย"

        " ไม่....มาสู้ต่างหาก "ชีคหนุ่มหันมายิ้มมุมปาก " คนของพวกนั้นมีมาสมทบหลังจากที่เราเปลี่ยนเส้นทางเดินทาง พวกมันตามเรามานี่แหละเพียงแต่หลบซ่อน ไม่ให้เราเห็น หวังให้เราสู้กับกลุ่มโจรพวกนั้นแล้วอ่อนแรงลง จะได้เตรียมตลบหลัง "

         "....แล้ว...."

         " ในทะเลทราย ความมืด สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ สายลม เม้ดทรายต่างก็มีผลต่อการตัดสินใจทั้งนั้น ...คุรก็ยังเคยพลาดเพราะคงวามเข้าใจผิดมาแล้วนี่...น่าจะเข้าใจดี "

         " อ้อ.."คาวัลโลครางรับในลำคอ เมื่อเข้าใจถี่ถ้วนถึงจุดประสงค์ของชีคหนุ่ม..

    .... หนามยอก เอาหนามบ่ง..

บทเรียนจากการพบเจอของพวกเขาทั้งคู่ คาวัลโลและอัลชาอ์เคย"พลาด"เพราะถูกลวงให้มารบรากันเองแล้ว ท่ามกลางความมืดและทะเลทรายที่ปั่นป่วนแบบนี้ล่ะ..

...ในเมื่อถูกอีกฝ่ายลวงด้วยวิธีนั้น จะแปลกอะไรหากเราจะลวงมันกลับบ้าง

ให้กลุ่มเดียวกันมาฟาดฟันกันเองเช่นที่เคยพบเจอ..

          "...แล้วขบวนขนอาวุธ..." คาวัลโลเปรยช้าๆ..นัยน์ตามองตามรถขนาบข้างที่บัดนี้ผละจากไป...สองคัน...

          " แจ้งข่าวไปแล้ว พวกนั้นจะป้องกันตัวเอง และเดินทางตามที่ผมกำหนด "ชีคหนุ่มรับ ขณะที่รถอีกสองคันเบี่ยงออกนอกเส้นทางไปด้านขวามือ...ตอนนี้รถในขบวนเหลืออยู่หกคัน...

          " รอบนี้ของใคร? " คาวัลโลถามต่อ พลันนึกถึงเจ้าของขบวนการและ...กลุ่มที่มาซึ่งอาจจะเป็นคนในแกงค์ของเขาชวนให้ใจหายวาบ..

          " ของผม..." ชีคหนุ่มยักไหล่ช้าๆ " พวกทำหน้าที่คุ้มกันและขนส่งเป็นนายทหารรับจ้างจากรัสเซียและเยอรมันจัดหาโดยคนของวาลกัส "

           " แล้วเรา...."  คาวัลโลพยักหน้ารับ..รับรู้อีกข้อมูลหนึ่งว่าอัลชาอ์ไม่คิดจะให้มาเฟียหน้าไหนมายุ่งกับขบวนขนอาวุธนี้เพื่อป้องกันการพบเจอหรือข่าวของตัวเขารั่วไหลไปมากกว่านี้ แม้จะมีผู้ที่ทราบอยู่แล้ว  แต่คาวัลโลไม่กลับไปเจอ..ย่อมดีกว่า..

คิดพลางเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมของบุรุษที่นั่งอยู่ข้างกายชั่ววูบหนึ่งที่รับรู้ว่าอาจจะได้พบคนที่เคยคุ้น หัวใจมันกระตุกไหวราวกับโหยหา...สิ่งที่เรียกว่าความภาคภูมิและศักดิ์ศรีในอดีต..

....อัลชาอ์คงรู้...ไม่สิ ชีคหนุ่มรู้ดีและคอยเฝ้าสังเกต จึงระวัง...ไม้ให้เขามาพบเจอ หรือมีอะไรมาสะกิดให้นึกถึงแกงค์ นึกถึงบ้าน หรือนึกถึงตำแหน่งของตัวเองอักครั้ง..

  คงจะ....ยังไม่เชื่อใจกันสินะ..

            ผ่อนลมหายใจช้าๆ รับรู้ถึงรถที่เริ่มกระจายตัวและเปลี่ยนเส้นทางกันอีกครั้ง เสียงปืนดังขึ้นไม่ไกล ทำให้สมองเริ่มตื่นตัว...เลือดในกายเริ่มเดือดเร่า  รุ่มร้อนด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้นปนกระหายอยาก

       ฝ่ามือกระชับ ปลายนิ้วลูบไล้และสัมผัสเจ้าวัตถุสีดำมะเมื่อมในมือ ความเย็นและสัมผัสที่เคยคุ่น ราวกับจะปลุกสัญชาติญาณที่ถูกปลุกฝังมาให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง..

      เพราะเหตุนี้ อัลชาอ์จึงพยายามกันเขาออกจากเรื่องราวเหล่านี้...ด้วยรู้ดี ว่าคาวัลโลยังมีความคิดถึง โหยหา อาลัยสิ่งที่เสียไปอยู่มาก..

      ไม่ผิดหรอกที่อีกฝ่ายจะหาทางป้องกัน ไม่ผิด...ที่จะคอยระวังไม่ให้คนของวาลกัสหรือใครหน้าไหลมาชักจูง หรือเป็นแรงผลักดันให้เขาอยากจะกลับไปที่ตรงนั้นอีกครั้ง...

      ไม่ผิดเช่นกัน...ที่อัลชาอ์จะไม่เชื่อใจ ในเมื่อพฤติกรรมของตัวเขาในอดีต มันเลวร้าย และไม่น่าเชื่อถืออกปากนั้น ทั้งตัดรอน ทำร้ายจิตใจ ให้ความหวังแล้วปัดทิ้ง หลอกใช้หลอกให้เฝ้าคอยต่างๆนานๆ ระยะเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่คาวัลโลยอมละมือจากความหวังทั้งหลายและกลับมาซวนซบบนแผ่นอกของอัลชาอ์ ต่อให้เชื่องฟังแค่ไหน ต่อให้ทำเหมือนไม่อยากพรากจากและรักใคร่เพียงใด..ก็คงไม่อาจพอ

     หัวใจของคนๆหนึ่งถูกเขาทำลายมาครั้งแล้วครั่งเล่า..จะให้วางใจ จะให้"เชื่อ" โดยไม่สงสัยเร็วขนาดนี้มันเป็นไปไม่ได้..

         " อีกสามคันจะจอดอยู่ตรงนี้...ดักซุ่มรอพวกที่พยายามตามตลบหลังเรา ส่วนรถคันนี้และอีกสองคัน จะย้อนกลับไปหาขบวนขนอาวุธที่รออยู่ "  เสียงตอบของอัลชาอ์ดังขึ้นเบาๆ พอดีกับรถอีกสามคันผละออกไป และจากนั้น..ฮาซานก็ปิดไปในห้องโดยสาร รวมทั้งไปหน้าและไฟนำทาง...

         ความมืดที่ปกคุลมทันควันทำให้คาวัลโลชะงัก เขามองเห็นเพียงแสงเรื่อเรืองจากหน้าปัดตรงหน้ารถและไฟท้ายดวงเล็ก  รถค่อยจอดลงกับที่ ขณะที่เสียงลูกปืนและเสียงคำรามของรถยนต์ดังแว่วมาตามสายลม..

         " รออยู่ตรงนี้ก่อน " ชีคหนุ่มกระซิบเบาๆ และเลื่อนกายมาโอบกอดร่างของเขาเอาไว้ คาวัลโลพยักหน้ารับช้าๆ หันไปสบตาและมองใบหน้าคมผ่านแสงอันเลือนรางของดวงดวงและพระจันทร์ที่สาดเข้ามาในตัวรถ..

     ค่อยหลับตาลงช้าๆ ได้ยินเสียงลมหายใจ และเสียงหัวใจเต้นสะท้อนในอก ความตื่นเต้น...ความยินดีและความพึงใจลึกๆนั้นค่อยสงบ ค่อยลดลงไปอย่างช้าๆเมื่อได้ลองคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน...ว่าจุดประสงค์ของชายหนุ่มผู้โอบกอดเขาอยู่เป็นเช่นไร..
จะให้มีความสุขได้ยังไงถ้า...คนอื่นกำลังเคร่งเครียดและเดินพันกับเรื่องราวแบบนี้ ไม่ใช่การละเล่น ไม่ใช่การทำอะไรเพื่อความสาใจ แต่เป็นกลยุทธ์เพื่อชัยชนะที่แพ้ไม่ได้พอๆกัน..

     ฝ่ามือขาวแตะลงบนเอวหนาสอดประสานกอดซบร่างแกร่งของชีคหนุ่มไว้อย่างเอาใจ เจ้าแมวตัวแสบถอนหายใจเบาๆจากนั้นจึงยิ้มหวานให้อีกฝ่าย


       "..สู้ๆนะครับ ที่รัก "


           น้ำเสียงออดอ้อนหวานๆ และดวงตาสีน้ำทะเลที่ฉายแววหวานและยั่วล้อในที่ ทำให้ประสาทที่เคร่งเครียด สมองที่ปวดตุบผ่อนคลายลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ อัลชาอ์จ้องมองใบหน้าของคนที่ตนเองหลงรักท่ามกลางแสงสลัวจากพระจันทร์ที่ลอดมาอย่างเลือนราง หัวใจที่เคยหวั่นไหวไม่น้อย...เมื่อนึกถึงการมาถึงของขบวนขนอาวุธของวาลกัส กลัว...ปนหวั่นระแวงว่าคนข้างตัวจะเปลี่ยนไป จะขยับห่างออกจากตนเพื่อกลับไป ค่อยคลายลงช้าๆและ...เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มพึงใจ

        " ...ขอบคุณ" ฝ่ามือหนาแตะลงบนผิวแก้มขาวเบาๆแล้วประทับรอยจูบลงบนนั้นอย่างรักใคร่..ชีคหนุ่มกอดรัดร่างของอีกฝ่ายไว้แน่น...เพื่อระงับความหวาดหวั่นและจิตใจที่หลุกหลิกไม่สงบนิ่งของตนไว้ เพื่อจะบอกให้รู้ว่ายังคงมีคนที่ตนรักอยู่แนบกาย รู้ว่ายังมีร่างของคาวัลโล วาลกัสอยู่ตรงนี้ ไม่จากไปไหน..

     ...สิ่งใดที่ได้มายากแสนยาก ย่อมมีค่ามากมายเหลือคณานับ และหวาดหวั่นที่จะเสียมันไปเช่นเดียวกัน..


          อยากจะกอดเอาไว้นานกว่านี้ ทว่าเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามมาดังไม่ไกลแล้ว นั่นทำให้รถที่เคยจอดนิ่งเริ่มขยับอีกครั้ง อัลชาอ์ผละออกจากคนรักเพื่อเตรียมพร้อมรวมทั้งคาวัลโลด้วยเช่นกัน ไฟที่เคยปิดไว้ถูกเปิดอย่างรวดเร็วเพื่อส่องนำทาง ฮาซานกระชากรถขับตามรถคันหน้าไปทันควัน ความเร็วของรถเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเส้นทางวกกลับไปยังทางเดิมและไต่ขึ้นเนินทรายไปตามเสียงปืนและเสียงปะทะที่ดังอยู่ไม่ไกล


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
       รถไต่ขึ้นเนินทรายโผล่พ้นมายังขบวนเดินทางอีกครั้ง และเบื้องหน้าคือเวิ้งทรายกว้างที่มีเงาของรถหลายคันตระหง่านอยู่ไม่ไกล เสียงกระสุนปืนและเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นผ่านสายลมและเม็ดทรายที่โชยพัด เสียงเร่งเครื่องยนต์ ทั้งกลับหลังและเดินหน้าตั้งหลักสลับคละเคล้ากันไป คาวัลโลแนบใบหน้าลงกับกระจก ปลายนิ้วเเตะไกปืนและรังบรรจุกระสุนตรวจสอบปืนในมืออย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่สายตาจ้องมองผ่านความมืดและแสงไฟจากรถที่สาดเข้าตาเป็นระยะเพื่อตรวจดูความเคลื่อนไหว ฮาซานกระทืบเบรคแรงๆเพื่อหักรถหลบรถอีกคันที่พุ่งสวนเข้ามาแรงกระชากนั้นทำเอาร่างปลิวหวือด้วยไม่ทันตั้งตัว สัญญาณที่บ่งบอกถึงระยะเวลาปฏิบัติการเริ่มงวดเข้ามาช้าๆ...

         องค์รักษ์หนุ่มกระชากพวงมาลัยหันหลังกลับหลังจากวิ่งฝ่าการปะทะของกลุ่มสองกลุ่มอย่างเร่งร้อน ขณะที่รถอีกสองคันซึ่งตามประกบเริ่มสาดกระสุนให้กับอีกหนึ่งขบวนที่ตามมาอย่างรวดเร็ว  ขบวนรถที่เข้าไปใกล้การปะทะถอยกรูดออกมาอย่างเร่งร้อน และเมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นเบี่ยงเบนความสนใจอีกครั้งขบวนรถที่ตามติดก็เริ่มถูกทิ้งห่าง หลายคันถลาเข้าร่วมการปะทะแสดงให้เห็นว่าแผนการเริ่มจะประสบผลสำเร็จ

         คาวัลโลมองนาฬิกาที่บอกเวลา 20.15 เขากระชับปืนในมือแน่นขึ้น ฟังเสียงปืนที่ดังลั่นอยู่เบื้องหลังก่อนจะร้องเหวออกมาเบาๆอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อฮาซานสะบัดพวงมาลัยเหวี่ยงรถให้หมุนอีกครั้ง พร้อมกันนั้นองค์รักษ์หนุ่มกระทืบเบรคเท้าแรงๆให้รถที่หมุนคว้างสงบนิ่งทิ้งกลิ่นเหม็นไหม้ของล้อรถปะปนไปกับกลิ่นดินปืนและเม็ดทรายท่ามกลางสายลมที่โชยพัด..

         "....แก....ขับแบบนี้จะทำชั้นหัวใจวายสักวัน "คาวัลโลคำรามในลำคอเบาๆเมื่อโงหัวออกมาจากแผ่นอกของชีคหนุ่มที่ถลามาคว้าตัวเขาไว้อย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงหัวเราะของอัลชาอ์รับคำพุดนั้น ขณะที่ฮาซานพ่นลมหายใจพรูไม่ตอบคำ ..

         " ยังไงเขาก็ทำสำเร็จตามแผน "ชีคหนุ่มเอ่ยแก้ตัวให้คนของตน ลูบหน้าผากคาวัลโลที่ชนเข้ากับอกของตนไม่เบานักอย่างปลอบขวัญ นัยน์ตาคมปลาบทอดมองไปยังเบื้องหน้าที่ปรากฏภาพการปะทะของคนสองกลุ่มใหญ่อยู่ไม่ไกลนัก อัลชาอ์ขยับยิ้มเมื่อแผนที่ตนวางไว้เป็นไปตามคาด

         ชีคหนุ่มฟังเสียงตบกระบอกปืนให้เข้าที่ขององค์รักษ์เบื้องหน้า สบมองแววตาของฟาลซาอ์และฮาซานที่มองมาด้านกระจกหลังอย่างเคร่งขรึม..ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ




         เอี๊ยดดดดดดด...


      รถคุ้มกันอีกสองคันที่ตามประกบถอยร่นมาร่วมขบวนและวางแนวป้องกันด้านหน้า เสียงล้อรถหมุนวนขวางรถที่ประทับของชีคหนุ่มเอาไว้ดังขึ้นพร้อมกันนั้นมีรถอีกสองคันตามมาติดๆพร้อมห่ากระสุนที่สาดซัด ฮาซานกระชากเอาวิทยุสื่อสารที่อยู่ตรงหน้ารถมาไว้ในมือ พร้อมกันนั้นก็ปลดล็อค ถีบประตูออกไปโดยแรง..
        ผลั่วะ!
          ร่างขององค์รักษ์คู่ใจและเจ้าชายหนุ่มถลันออกนอกคันรถอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นอ้อมกอดของชีคหนุ่มก็ผละจาก คาวัลโลเอื้อมมือคว้าประตู กดปลดล็อคมือขวากำปืนสั้นไว้แน่น เขาลังเลเพียงชั่ววูบก่อนจะหันกลับไปมองร่างของชีคหนุ่ม และไม่ผิดจากที่คิดเมื่อริมฝีปากของอัลชาอ์บดเบียดลงมาอย่างรวดเร็ว

         " ดูแลตัวเองนะ...อยู่ใกล้ๆผม จำไว้ " เสียงกระซิบหนักแน่น...คาวัลโลพยักหน้ารับ ก่อนจะยกฝ่าเท้าถีบประตูรถให้เปิดออกโดยแรง


         ผลั่วะ!

       เม็ดทรายที่สาดปะทะและกลิ่นของยางที่เหม็นไหม้พร้อมควันปืนเป็นสิ่งแรกที่คาวัลโลพบ เจออย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด มาเฟียหนุ่มยกมือซ้ายขึ้นปิดหน้าป้องกันฝุ่นผงและเม็ดทรายมาตกต้องดวงตา เงี่ยหูฟังเสียงตะโกนที่ดังมาตามสายลม นัยน์ตาคู่สวยมองเงาตะคุ้มของรถแฮมเมอร์คันโตที่จอดคุ้มกันอยู่เบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด ฝ่าเท้าเหวี่ยงประตูรถให้ปิดลงอีกครา พร้อมกันนั้นก็ถลาเข้าไปยังด้านข้างของรถ ที่เขามองเห็นร่างของบุรุษสามสี่นายรวมตัวกันยิงโต้ตอบฝ่ายนั้นอยู่..

         "...ไม่มีระเบิดมือซักลูกเหรอ? " คาวัลโลถลาเข้าไปยังที่กำบังเบื้องหน้า ออกปากถามชายหนุ่มที่กำลังเล็งปืนอยู่ใกล้ตัว มาเฟียหนุ่มมองปืนสั้นที่อยู่ในมือแล้วขมวดคิ้วมุ่น

         " เราอยากจับเป็น ! " เสียงตอบผสานกับลมหายใจหอบนั่นทำให้รู้ได้ว่าคือเจ้าชายฟาลซาอ์ คาวัลโลคำรามอย่างหงุดหงิด ฝ่ามือกระชับปืนแน่น เขาหรี่ตาลงช้าๆ นัยน์ตาลอบมองศัตรูอีกฝั่งอย่างครุ่นคิด...

         " เอาแต่ยิงกันแบบนี้ก็ไม่จบสักทีสิ.. "มาเฟียหนุ่มคำรามหัวเสียง ก่อนจะร้องครางออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกถึงร่างหนาเข้ามากำบังไว้ด้านหลัง ไออุ่นที่เคยคุ้นและลมหายใจรินรดซอกคอไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่ทำการอุกอาจเช่นนี้กับมาเฟียตัวร้ายจะเป็นใคร

          " บอกแล้วให้ตามหาผม "เสียงคำรามในลำคอของอัลชาอ์นั้นทำให้คาวัลโลส่งเสียงกัวเราะหึๆ

           " ยังไงคุณก็ตามหาผมเจออยู่แล้ว " นัยน์ตาสีน้ำทะเลเเลสบดวงตาสีเข้มอย่างแสนจะมั่นอกมั่นใจ อวดดีได้อย่างน่าจับตีก้นนัก อัลชาอ์หยักยิ้มมุมปาก คำรามในลำคออย่างถูกใจ กายที่โอบทับร่างของมาเฟียหนุ่มไว้ยังคงเบียดทับพร้อมกันนั้นฝ่ามือก็ยังเล็งไปที่กลุ่มศัตรูเบื้องอย่างอย่างไม่ยอมแพ้..

           "คนของเราตอนนี้แบ่งกันออกเป็นหลยกลุ่ม ที่อยู่ตรงนี้มียี่สิบกว่าคนเท่านั้น อาวุธหนักมีไม่มาก พวกที่วุ่มอยู่ด้านหน้ากำลังใช้อยู่ !! " ชีคหนุ่มอธิบายสถานการณ์เสียงเข้ม ก่อนจะเเสยะยิ้มมุมปาก " แต่ถ้าเป็นแบบนี้เราอาจจะยันมันไม่ไหว เพราะฝ่ายนั้นมีอาวุธหนักกว่ามาก ....เพราะงั้นระเบิดที่คุณขอคงยังไม่ได้...."

            คาวัลโลขมวดคิ้วรับกับคำกล่าวนั้น เขาเบียดตัวโผล่จากร่างของอัลชาอ์เพื่อเล็งปืนไปยังฝ่ายนั้นบ้าง ทว่าก็เหมือนจะไร้ประโยชน์ ในเมื่ออีกฝ่ายมีรถเป็นเกราะกำบังเหมือนกัน แถมยังมีอาวุธหนักกว่าเสียด้วย...

      การรบในปัจจุบัน ไม่ได้อาศัยกำลังคนเช่นในอดีต แค่ความความเหนือกว่าและแตกต่างทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะอีกฝ่าย  ตัวกำลังคนกลยุทธ์และกลอุบายเป็นสิ่งสำคัญก็จริง ทว่าอย่างไรก็ตามอาวุธที่รุนแรงและเพียบพร้อมกว่าก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันได้ทุกสถานการณ์เช่นเดียวกัน...

       ปืนสั้น ปืนกล ไรเฟิล  อยู่ในมือพวกที่ประจำอยู่ด้านหลังรถคันที่สอง อาวุธหนักว่าสำหรับต้านฝ่ายตรงข้ามอยู่กับพวกที่ประจำในรถคันแรก เท่าที่คาดการณ์และมองๆดูก็มีแต่พวกนี้ ...แต่สำหรับกลุ่มระวังหลังถ้าหากมีอาวุธหนักประเภท RKG-3 หรือบาซูก้าซักอันน่าจะยันได้ดีกว่านี้...

         "...อัลชาอ์! แล้วพวกที่อยู่ข้างหลังโน้นล่ะ " คาวัลโลออกปากถามอย่างเร่งร้อน ในเมื่อกลุ่มที่แยกออกมาไม่มี พวกที่แยกไปน่าจะมีอยู่บ้าง การปะทะของกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่อัลชาอ์ให้คนของตัวเองไปเสี้ยมให้พวกมันยิงกันเองอยุ่ก็น่าจะได้ที่แล้วไม่ใช่หรือ หรืออย่างน้อยพวกทหารรับจ้างจากขบวนขนอาวุธก็ต้องใช้ได้บ้างล่ะน่า...

           " ...พวกเขากำลังมา ทนอีกสักห้านาทีก็พอแล้ว! " ชีคหนุ่มเอ่ยตอบผ่านเสียงปืนเสียงระเบิดที่อยู่ไม่ไกล คาวัลโลขยับตัวทำท่าจะตะกายขึ้นไปบนหลังรถ ทว่าก็ถูกคว้าคอเสื้อโดยอัลชาอ์เช่นเดิม ชีคหนุ่มส่ายหน้า ออกแรงกระชากคอเสื้อเขาแรงๆไม่ให้มีโอกาสขึ้นไปทางนั้น

           " ไม่เป็นไรน่า ผมดูแลตัวเองได้ "คาวัลโลส่ายหน้าอย่างดื้อดึง ถ้าเกิดอยู่แต่ข้างหลังไม่มีคนช่วยพวกที่รับศึกหนักอยู่ข้างหน้าก็คงลำบากไม่แพ้กัน อีกทั้งเขาก็คิดว่าตัวเองมีความสามารถมากพอจะไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วย มันคงช่วยอะไรได้มากกว่าที่จะมาอยู่ตรงนี้มากนัก

           " ผมรู้..." ชีคหนุ่มคำรามก่อนจะกระชากปืนจากฝ่ามือของคาวัลโล และยัดปืนสั้นของตนที่ลูกกระสุนหมดรังแล้วให้อีกฝ่าอย่างรวดเร็วให้อีกฝ่ายอ้าปากหวออย่างตกตะลึง ไม่ทันที่คาวัลโลจะออกปากทักท้วง ชีคหนุ่มก็กระโจนมายัดกระสุนปืนใส่มือเขาอีกรอบพร้อมกับกดบ่นให้นั่งลงบนผืนทรายแรงๆ

           " แต่ผมจะปกป้องคุณ จำเอาไว้ "

             แกะรังปืนและบรรจุกระสุนลงไปอย่างเร่งร้อนปากก็ร้องจิ๊จ๊ะแต่คาวัลโลก็ได้แต่ยอมรับ อดจะคิดไว้ๆด้ว่ามันรู้สึกดีไม่น้อย ที่มีคนคอยปกป้องเราทั้งที่รู้ดีว่าเราก็แข็งแกร่งและมีความสามารถไม่แพ้ใคร...ตบรังปืนเข้าไปในเเม๊กแล้วโยนปืนสั้นในมือให้อัลชาอ์รับไปถือ ขณะที่มาเฟียหนุ่มดวงตาวาววับไม่ทันที่อัลชาอ์จะอ้าปากถามหรือยื่นปืนอีกกระบอกในมือตนให้คาวัลโลบรรจุกระสุนต่อ ร่างเพรียวก็กระโจนพรวดขึ้นไปกลิ้งโค่โร่บนหลังกระบะรถแฮมเมอร์คันโตเสียแล้ว

         อัลชาอ์คำรามในลำคออย่างหงุดหงิด ถลาเข้าไปหาเข้าของร่างนั้นที่คลานมาหาตนตาใส่ คาวัลโล วาลกัส เจ้าแมวตัวแสบที่อย่างไรก็ไม่ทิ้งลายดื้อดึงโผล่ตาสวยๆคู่นั้นมามองชีคหนุ่มแยกเขี้ยวด้วยวสีหน้าโกรธเคืองแล้วยิ้มขัดตาทัพๆไว้ก่อนทันควัน

          ...ภูมิใจที่มีคอยปกป้องทั้งที่รู้ว่าตัวเขาแข็งแกร่งก็จริง แต่ถ้าได้ปกป้องคนที่รัก มันไม่น่าภูมิใจมากกว่าเหรอ!

         " ตอนนี้คุณต้องปกป้องผมแล้ว ระวังหลังให้ผมด้วยล่ะ! " ว่าแล้วร่างของคาวัลโลก็กลิ้งตัวไปยังอีกฝั่งของรถทำเมินๆเสียงคำรามเรียกชื่อเขาที่ห้วนอย่างน่าขนลุกของอัลชาอ์ไว้ก่อน นัยน์ตากวาดมองรถอีกคันด้านหน้าที่ต้องตั้งรับอย่างหนักหน่วง สายตาเขากวาดมองยุทธโธปกรณ์อีกครั้ง..อาก้า-47 ปืนยาวโคลท์ และระเบิด M67 M27 ...ใช่...แบบนี้สิที่ต้องการ

          ปัง....ปัง....

       ลูกกระสุนที่เฉียดร่างไปตกทะลุหลังกระบะนั้นทำให้คาวัลโลหดคอเกร็งตัวเมื่อรู้สึกเสียววูบ ไม่ต่างอะไรกับหัวใจที่แทบจำปลิวหายไปของชีคหนุ่ม ปากแต่อัลชาอ์ก็ทำได้เพียงยิงคุ้มกันทั้งเชื่อมั่นและภวนาให้อัลเลาะห์คอยคุ้มครองคนรักของตนให้ปลอดภัยก็เท่านั้น..

        นัยน์ตาสีเข้มทอดมองร่างที่จำได้ดีแม้แสงจะมัวพร่า ชีคหนุ่มเบิกตามองคาวัลโล วาลกัสที่กลิ้งตัวออกจากกระบะรถไปหรุบกายหลบกระสุนอยู่อีกฝั่งของคันรถ แถมเจ้าตัวยังมีหน้ามายักคิ้วให้แล้วรีบหดคอวุบเมื่อกระสุนนัดหนึ่งแล่นมาหา ชวนให้เสียววูบและนึกอยากจะจับคนดื้อดึงมาตีก้นให้หายเคืองเสียจริงๆ..

        ชีคหนุ่มเหลียวมองรอบกายที่การปะทะยังคงดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสว่างที่ไม่เพียงพอและกระแสลมที่ค่อนข้างแรงเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นและการเคลื่อนไหวพอสมควร อัลชาอ์มองเหล่าองค์รักษ์ที่กระจัดกระจายตัวกันคุ้มครองตนเอง..สมองใคร่ครวญอย่างหนักหน่วง..

       อยากจะตามไปดูแล...ทว่า...หากไปแล้วคนของเขาคงไม่เว้นจะกระวนกระวาย การพาตัวเองไปสู่อันตรายนั้นนอกจากจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนแล้วเหล่าองค์รักษ์และผู้คนที่อยู่ข้างหลังก็คงจะเดือดร้อนไปด้วย...ฉะนั้น...แม้อยากจะตามไปสักแค่ไหน..ก็คงไม่อาจจะทำได้...

        ตึง!


         "...คนบาดเจ็บ!รีบเอาเขาไปพักเร็ว!"เสียงตะโกนของคาวัลโลดังขึ้นทำให้ดวงตาสีเข้มตวัดมอง ขณะที่ร่างของหนึ่งในองค์รักษ์ผู้ร่วมขบวนถูกจับยัดเข้ามาในคันรถ เจ้าชายฟาลซาอ์ที่อยู่ใกล้ประตูรีบดึงประตูอีกฝั่งออกและลากร่างนั้นให้ออกมาจากตัวรถอย่างทุลักทุเล

        ชีคหนุ่มมองกระบอกปืนไรเฟิลที่ถูกโยนมาให้ผ่านด้านในของตัวรถด้วยมือของคาวัลโล วาลกัส ร่างสูงถลาเข้าไปรับหาฝ่ามือของคนรักดึงแรงๆให้เจ้าตัวแสบหันมาหา

       " กลับมาได้แล้ว! อย่าทำให้ผมเป็นห่วงสิ "

 คาวัลโลส่ายหัว ยิ้มกว้างๆให้คนรักเสียทีแล้วปล่อยมือจากปืนในมือเขาสบตาชีคหนุ่มมองดวงตาที่แสนจะดื้อรั้นนั้นแล้วถอนหายใจเบาๆ

       "...คุณต้องดูแลตัวเองนะ /คุณต้องดูแลตัวเองด้วยนะ!!! " เสียงตะโกนที่ออกมาจากปากของทั้งคู่...ทำให้ต่างก็ชะงักไปด้วยความตะลึงไม่น้อยคาวัลโลหัวเราะก๊ากขณะทีรับกระสุนปืนมาจากองค์รักษ์อีกนายหนึ่ง โยนมันลงบนเบาะ แล้วยิ้มให้ให้กับคนที่ค่อยผ่อนลมหายใจ คลายหัวคิ้วลงช้าๆ

         " ผมสัญญา "

              ประตูรถปิดลงแล้ว..อัลชาอ์โยนกระสุนและปืนในมือให้ฮาซานรับไปอย่างรวดเร็ว ชีคหนุ่มบรรจุกระสุนปืนลงในรังอีกครั้ง ก่อนจะตบมันให้เข้าที่อย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่นั้นมองตามแผ่นร่างของคนรัก กวาดมองไปยังรอบกายของคาวัลโล วาลกัสที่กำลังตั้งป้อมโจมตีอีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่ว..

          ....ความเหมาะสมของความสามารถ ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเหตุผลที่อัลชาอ์ให้ฮาซานเป็นฝ่ายได้ปืนไรเฟลิไปแม้ว่าคาวัลโลจะยื่นมาให้เขา..ก็เช่นเดียวกันกับเหตุผลที่คาวัลโลเลือกจะออกไปต่อสู้ มากกว่าตั้งรับอยู่ตรงนี้ และไม่ยอมฟังคำของตน..

       ไม่ใช่เพราะว่าดื้อด้าน แต่เพราะคิดแล้ว ประมวลแล้ว ว่าความสามารถของตน และสถานการณ์ที่เป็นอยู่จะใช้สิ่งที่ฝึกฝนมาให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร

       ให้อยู่ที่ตรงนี้คงไม่ต่างกับงอมืองอเท้า ดังนั้น...แม้อยากจะให้อยู่ข้างกาย แม้อยากจะให้คาวัลโลอยู่ตรงนี้ ไม่อยากให้ออกไปเสียงอันตรายแต่นั่น...คือหนทางที่ดีที่สุด

        รู้จักใช้คนให้ตรงกับงานและความสามารถที่มี...รับรู้และประเมินกำลังของตนเองและศัตรู นั่นคือสิ่งที่ผู้บัญชาการต้องมีและต้องทำไม่ใช่หรือ?

        คำตอบคือใช่...และนั่นเป็นสาเหตุให้อัลชาอ์อยู่ตรงนี้แม้ใจอยากจะไปเคียงข้างและปกป้องมาเฟียหนุ่มคนรักแค่ไหน ...ชีคหนุ่มมองเห็นเงาร่างที่กำลังเล็งปืนมายังตำแหน่งของคาวัลโล ปลายนิ้วจึงแตะลงบนไกให้กระสุนแล่นออกจากรังทันที..

       ....คอยปกป้องและคุ้มครอง รวมทั้งสนับสนุน...นี่เป็นเหตุผลที่อัลชาอ์เลือกจะอยู่ข้างหลังและคอยจัดการคนที่จะเข้ามาทำร้ายคนที่เขารักทุกๆคน..

             เสียงคำรามของรถสี่ห้าคันที่ดังเข้ามาใกล้ ทำให้ภาวะกดดันที่มีอยู่ค่อยคลายลง คาวัลโลตวัดสายตามองขบวนรถที่เคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับห่ากระสุนที่ซัดเข้าหาฝ่ายตรงข้ามของอัลชาอ์ราวกับห่าฝน มาเฟียหนุ่มร้องเฮในลำคอ ก่อนจะโดนไปหลบหลังคันรถ เพื่อเว้นที่ว่างให้กับรถที่เข้ามารับหน้าที่โจมตี

             แน่นอนว่าเมื่อจำนวนคนเพิ่มขึ้นสถานการณ์ย่อมพลิกกลับ คาวัลโลแสยะยิ้มด้วยความชอบใจขณะที่เอื้อมมือรับปลอกกระสุนใหม่มาพาดไว้บนไหล่ เขาบรรจุมันเข้ากับรังกระสุน ตบมันเข้ากับลำกล้องแล้วเตรียมจะไปถล่มต่อด้วยความเมามันส์ ทว่าก่อนจะได้ทำอย่างนั้นมือหนาก็คว้าหมันเข้าที่ไหล่พร้อมกับกระชากร่างของเขาเข้าไปหาโดยแรง..

           รู้ชัดว่าคนที่ทำแบบนี้คงไม่ใช่อื่นไกล ฝ่ามือจึงลดปืนลงอย่างอัตโนมัติพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้กับหน้าตึงๆของอัลชาอ์ที่จ้องมองมา  จ้องมองดวงตาสีเข้มของคนตัวสูงด้วยความหวาดหวั่นลึกๆว่าเขาจะถูกโกรธเคืองเอาเหมือนตอนที่กกระโจนมาร่วมสังฆกรรมพวกราฟาเอลโร่และฟิลิเป้อย่างที่เคยเจอหรือไม่ คิดไว้แล้วว่าเม้เป็นเช่นนั้นเขาก็พร้อมจะออกปากขอโทษ คาวัลโลมองฝ่ามือของชีคหนุ่มที่ตรงเข้ามาหาด้วยสรหน้าครุ่นคิด แต่ฝ่ามือนั้นค่อยเอื้อมมาลูบรอยทรายตรงผิวแก้มอย่างแผ่วเบา..

          " ยังดีที่คุณไม่ผิดสัญญา " ชีคหนุ่มอดจะหยิกแก้มขาวเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะดึงกระสุนที่พาดไว้ตรงไหล่ขวาและปืนในมืออก ชีคหนุ่มยื่นอาวุธในมือคาวัลโลส่งให้กับองค์รักษ์ที่ตามมาด้านหลัง ก่อนจะรุนหลังคนชอบหาเรื่องให้เดินกลับไปขึ้นรถ เพราะกลุ่มที่เข้ามาสนับสนุนสามารถจัดการพวกศัตรูที่ตามมาอย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว

         รถที่ยังติดเครื่องทิ้งไว้ไม่มีร่องรอยบุบสลายอะไรมากนักเพราะได้รับการคุ้มกันอย่างดี ชีคหนุ่มดันร่างคาวัลโลให้เข้าไปนั่ง ก่อนจะทรุดกายลงตามไปและปิดประตู ขณะที่ฮาซานมายืนระวังภัยอยู่ด้านนอกพร้อมกับองค์รักษ์อีกสองนาย..

          "คุณไม่โกรธผมเหรอ? " คาวัลโลออกปากถาม รู้สึกงวยงงเล็กๆ

          " ทำไม? อยากให้ผมโกรธเหรอ? " ชีคหนุ่มเลิกคิ้ว เอียงคอมองหน้าคนพูดก่อนจะดึงเอาผ้าสะอาดจาดเบาะหลังคนขับมาเช็ดหน้าคนที่มอมเป็นแมวคราว

          " ก็ไม่หรอก...อ่า...แล้วนี่เราจะทำอะไรต่อ " คิดว่าถูกพามาในรถเพราะจะมาเชือดเสียอีก ทว่าอัลชาอ์ก็ทำเพียงนั่งจ้องหน้าเขาเงียบๆพร้อมกับเช็ดหน้าเขาไปพลางๆเท่านั้น เมื่อไม่โกรธคาวัลโลก็ไม่คิดจะรื้อฟื้นอะไร เขากวาดสายตามองเหล่าคนคุ้มกันด้านนอกแล้วเลิกคิ้วงงๆ

           " รอให้คนของผมจัดการพวกที่ตามประกบเราก่อน...ต่อให้เราจะได้เปรียบแต่ข้างนอกมันอันตราย และคนของผมจะไม่สบายใจ ถ้าผมไม่อยู่ในที่ปลอดภัย "คำอธิบายของอัลชาอ์ทำให้คาวัลโลพยักหน้ารับ...ถูกต้องแล้ว เมื่อเกิดอะไรขึ้นมาความปลอดภัยของผู้นำย่อมสำคัญที่สุด การจะเอาตัวเองไปเสียงอันตรายด้วยไม่ใช่เรื่องฉลาด เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับตัวผู้นำย่อมหมายถึงตัวลูกน้องที่จะขาดผู้นำไปด้วย ...ก็เหมือนหมากรุก ที่ไม่มีใครเอาคิงออกไปรุกไล่ฆ่าหมากตัวนั้นตัวนี้เสียทั่วกระดานนั่นแหละ..         

            ...แต่เอ....ไอ้คนที่ชอบเเล่นไปหาเรื่องชาวบ้าน ไม่สนใจนึกถึงคนอื่นและยังไม่นึกถึงตัวเองนี่มัน..

         คาวัลโลยิ้มเหย สบตาอัลชาอ์ที่กำลังจ้องเขาเงียบๆและเช็ดคราบสกปรกบนหน้าอย่างละอายใจไม่น้อย สีหน้ายิ้มเหยๆอย่างสำนึกผิดของเจ้าแมวแสบที่เริ่มรู้สึกตัวทำให้อัลชาอ์อดจะโคลงศรีษะอย่างระอาใจไม่ได้..

       " ผมรู้...ว่าคุณมีความสามารถพอจะไปอยู่ตรงนั้น แต่อย่างน้อยก็น่าจะเลิกทำอะไรหุนหันสักนิด..โตแล้วไม่ใช่หรือ จะยี่สิบแล้วอย่าใจร้อนเหมือนเด็กสิ  " น้ำเสียงเอ่ยสั่งสอนนั้นทำให้คาวัลโลได้แต่พยักหน้ารับอย่างหงอยๆ ก่อนที่ดวงตาจะวาววับ เมื่อ...สามารถจับได้ถึงความนัยน์บางอย่างได้

        " งั้นคุณไม่โกรธที่ผมไปสู้ใช่ไหม? " คำพูดทำนองนี้มันคือคำถามประเภท ครั้งต่อไปก็จะได้ออกไปทะเลาะกับชาวบ้านใช่รึเปล่า? ชัดๆ อัลชาอ์ถอนหายใจเฮือก กดผ้าเช็ดหน้าในมือลงบนผิวแก้มเจ้าของคำถามแรงๆอย่างนึกหมั่นเขี้ยวก่อนจะละมืออกในที่สุด

         " ไม่โกรธ...แต่ห่วง ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งไม่อยากให้ออกไปไหนแล้วด้วยซ้ำ " ทอดถอนใจระอากับเจ้าตัวแสบที่ทำเอาปวดหัวจี๊ด..ใจความนั้นทำให้คนฟังหน้ามุ่ย ฝ่ามือรีบตะปบลงบนแผ่นอกแกร่งทันควัน

          " อ่า...ไม่เอานะ ไหนคุณบอกแล้วไง " น้ำเสียงงอแงง้องแง้งยิ่งทำให้ปวดหัวไปกันใหญ่ อัลชาอ์ก้มมองเจ้าคนที่โวยวายอยู่กับอกตัวเองแล้วถอนใจเฮือกคำถามซักไซ้ของเจ้าตัวป่วนชัดจะน่ารำคาญหู มือหนาจึงตวัดคว้าท้ายทอยสอดปลายนิ้วไล้เส้นผมสวยอย่างสเน่หา ประกบริมฝีปากกลืนเอาถ้วยคำเอ่ยท้วงนั้นไว้ให้หมด..

          ก๊อกๆ..

      เสียงเคาะกระจกเบาๆทำให้อัลชาอ์จำต้องละจากริมฝีปากบางของคนในอ้อกอด เจ้าแมวน้อยที่เมื่อถูกปราบพยศก็เริ่มจะว่าง่ายอีกครั้งนั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆขณะที่ฮาซานขยับมานั่งประจำที่นั่งคนขับ พร้อมกับร่างของเจ้าชายฟาลซาอ์ที่มีรอยเลือดอยู่บนหน้าผากไม่น้อย..

        " บาดเจ็บเหรอ? "อัลชาอ์ออกปากถามเบาๆเป็นภาษาอังกฤษและข้อความนั้นทำให้คาวัลโลนึกสนใจไม่น้อย

         " ...แค่เฉี่ยวนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมากครับ "ฟาลซาอ์ตอบสั้นๆเอื้อมมือรับผ้าขาวสะอาดจากมืออัลชาอ์เพื่อมาเช็ดเลือกและทำความสะอาดใบหน้า...

        " ไปให้หมดดูเสียด้วยล่ะ....งั้นก็รีบไปกันเถอะ  " อัลชาอ์ออกปากสั่งการ คาวัลโลมองไปยังด้านหน้ารถที่พรรคพวกของอัลชาอ์กำลังจัดการกับซากรถของพวกศัตรูและจัดการมัดพวกที่รอดชีวิตไว้อยู่ และบางส่วนเริ่มกระโดดขึ้นรถ เพื่อจะนำทางและคุ้มครองรถของพวกเขาไปนั่งเอง

         " จะไปไหนต่อ? "คาวัลโลออกปากถาม เพิ่งสังเกตเช่นกัน ว่าเสียงปะทะกันของกลุ่มที่อัลชาอ์ล่อลวงมากับพวกขนอาวุธนั้นเงียบหายไปแล้ว เหลือเพียงเสียงปืนดังอยู่เป็นระยะ ทว่าทุกคนที่มาก็ไม่ได้ส่ออาการร้อนรนเสียเท่าไหร่

          " ไปดูพวกที่เราจับได้น่ะ กลุ่มนึงหนีไปแล้ว ส่วนอีกพวกก็กำลังถูกล่าอยุ่ .."อัลชาอ์ตอบสั้นๆ พลางขยับยิ้มอย่างยินดี " ทหารคุ้มกันคราวนี้ได้รับคำเตือนมาแล้วว่าให้ระวังตัว พวกนั้นเลยเตรีมพร้อมกันมาแล้ว พอมาเจอพวกที่รบกันเองไม่รู้ตัว ก็คงไม่ต่างกับเทศกาลล้อมรั้วล่าสิงโตกันเสียเท่าไหร่หรอก "

           คาวัลโลพยักหน้ารับ และยิ่งเห็นความจริงมากขึ้นเมื่อรถเข้าไปใกล้แล้วเเว่วเสียงพูดคุยปนเสียงหัวเราะ ดูท่าพวกนี้จะเริงร่าเอามากมายเสียจริงๆด้วย..

       

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
   รถจอดลงเมื่อรถคันหน้าหยุดลงพร้อมกับเเสงไฟที่สาดจ้าเข้าหา ฮาซานเปิดกระจกออกรับคำรายงานของลูกน้องที่เดินมาหา คาวัลโลแว่วเสียงพุดคุยเบาๆ เหมือนกำลังเจรจาอะไรกันสักอย่างก่อนที่ฮาซานจะลงจากรถ และตามมาด้วยเจ้าชายฟาลซาอ์พร้อมกันเขาและอัลชาอ์ตามมาติดๆ

           คาวัลโลหรี่ลงเพราะเม็ดทรายที่พัดใส่หน้า เขาจ้องมองสภาพโดยรอบผ่านสายตาที่มัวพร่าของตัวเอง โชคดีที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนด้วยแสงไฟจากรถโฟร์วิลคันใหญ่เบื้องหน้า มาเฟียหนุ่มจ้องมองขบวนขนส่งอาวุธเถื่อนของแกงค์ตนเองที่บรรจุอยู่บนรถแฮมเมอร์คันโตขนาดเท่ารถขนส่งทหาร เห็นเพียงตาข่ายสีเข้มคุลมไว้และผ้าร่มสีดำทับไว้อีกชั้น รถที่จอดทอดยาวเจ็ดแปดคันนั้นบ่งบอกว่าของในล๊อตนี้มีจำนวนไม่น้อย..และ...บ่งบอกถึง"กำลัง"ของกลุ่มแกงค์วาลกัสด้วยเช่นกัน

         มันช่างน่าแปลกใจปนอดสูไม่น้อยเมื่อได้มาจ้องมองความยิ่งใหญ่ของแกงค์ที่เขาเคยจะได้ครอบครองมันอยู่ตรงนี้ ในฐานะของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่มีส่วนร่วมใดๆกับมันทั้งสิ้น คาวัลโลกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เขาเม้มปากคล้ายจะควบคุมอารมณ์ที่เริ่มสะท้านลึก..

          ร่างของผู้เป็นหัวหน้าในการขนถ่ายครั้งนี้เดินตรงเข้ามาหาอัลชาอ์และออกปากทายทักทันควัน คาวัลโลถอยหลังหลบฉากออกมาเล็กน้อยด้วยความระแวงระวังว่าอาจจะเป็นคนรู้จัก แม้ใบหน้านั้นจะไม่เคยคุ้นเลยก็ตาม ...ครู่หนึ่งหัวใจเจ็บปร่า..ไม่ต่างกับการเอาเหล็กแหลมมาแทงลงบนหัวใจอีกครั้ง

          สำนึกบอกให้รู้...ว่านี่คือครั้งสุดท้าย นี่คือสายป่านเดียวที่กำลังจะหลุดลอยไปและจะไม่มีวันได้ชีวิตของคาวัลโล วาลกัสกลับมาอีก..

    มีฐานะเป็น"คนที่ตายแล้ว"และเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเซเนียยาไปตลอด..

     จะไม่ได้พบพ่อแม่ พี่น้องและคนในครอบครัวอีกแล้ว...ชั่วชีวิต..

      ทางเลือกนี้มันจะดีไหมเขาไม่รู้ รู้เพียงความโศกเศร้า ความโล่งใจและความอึดอัดตีกันกับความสิ้นหวังเสียจนสติเบลอพร่า..แทบไม่รับรู้สิ่งใด

กระทั่ง..


 ฟึ่บ!!


        "  คาวัลโล ! " 

    ร่างทั้งร่างกระแทกลงบนผืนทราย ผิวแก้มแนบลงบนเม็ดทรายที่ทิ้งรอยอุ่นจนชาวาบ หัวใจเต้นระส่ำ รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดที่เคยคุ้นกอดประคองไว้แนบแน่นและเสียงลมหายใจแรงด้วยความหวั่นระทึกของอัลชาอ์ คาวัลโลกระกริบตาช้าๆ เขาถูกดึงขึ้นมาโอบกอดไว้ พร้อมกับน้ำเสียงกระชากดังลั่นของอัลชาอ์..

         " ฝีมือใคร!!! "

               คาวัลโลจ้องมองร่างที่เดินแหวกฝูงชนมาอย่างสบายๆ เขาจ้องกระบอกปืนที่ปลิวหวือในมือของชายคนหนึ่งเบื้องหน้าด้วยดวงตาที่พร่าเลือนหากเบิกกว้าง...สติเตือนให้รู้ว่าเมื่อครู่กำลังถูกด้านปืนในมือฝ่ายนั้นกระแทกเข้าหาหมายปองร้ายเอาชีวิต..แต่ทว่าไม่รุ้เพราะแสงจ้าของรถหรือเปล่านัยน์ตาถึงได้เลือนพร่า..และแสบร้อนนัก...

          " ...ให้ตายสิ พลาดจนได้  " เสียงจิ๊จ๊ะในลำคอไร้ร่อยรอยสำนึกผิดหรือกระทั่งร่องรอยของความหวาดหวั่น เรียกเสียงคำรามในลำคออย่างไม่พอใจของชีคหนุ่มทันควันขณะที่ค่อยประคองให้คาวัลโลลุกขึ้นจากพื้นกวาดสายตามองชายผู้นั้นอย่างเคืองแค้น..

           " มันจะไปถูกได้ยังไงครับ แล้วนั่นมันเป็นมารยาทจากไหนที่ทักทายกันแบบนั้น " น้ำเสียงเรียบๆของชายอีกคนหนึ่งดังแทรกพร้อมกับเสียงถอนหายใจแผ่วเบา  ทำให้ดวงตาของคาวัลโลยิ่งเบิกกว้าง..ฝ่ามือที่กำเสื้อคลุมของชีคหนุ่ม ขยับเข้าหากันแน่นขึ้นอย่างลืมตัว..

          " อะไร ฉันทักทายเจ้าตัวเล็กของฉัน แกอย่ามายุ่ง " เจ้าของสุ้มเสียงกวนประสาทปรากฏตัวให้เห็นผ่านแสงจ้าของรถและทรายเม็ดเล็กที่โชยพัดตามแรงลม...หากความคุ้น...คุ้นแสนคุ้นนั้นทำให้ฝ่ามือของคาวัลโลสั่นระริก...

     นัยน์ตาสีน้ำทะเลเบิกกว้าง ยามมองเห็นใบหน้าของชายผู้นั้นชัดเจนอยู่ตรงหน้า ร่างสูงเพรียวในชุดทหารรับจ้างลายพรางสีเทา ใบหน้าที่ประพิมประพายคล้ายเหมือนมารดาเขานักชวนให้นึกถึง ทั้งเส้นผมสีทองอร่ามอันบ่งบอกสายเลือดอารยันเต็มตัวของชายตรงหน้า รอยยิ้มแสนจะมั่นอกมั่นใจและดวงตาสีบรูเน็ตที่วาววับ..ราวกับชอบใจ พร้อมกับพาดปืนไรเฟิลในมือลงบนไหล่ กระตุกยิ้มมุมปาก ยามได้ยินเสียงเอ่ยทัก..


                 "คุณอา...." 


  ริมฝีปากของคาวัลโลขยับไหว ฝ่ามือที่กำเสื้อคลุมของชีคหนุ่มแน่นตกลงข้างตัวอย่างรวดเร็ว ราวกับไร้เรี่ยวแรง..


................


       รถยนต์คันใหญ่สิบกว่าคันที่จอดเรียงกันอย่างเรียบร้อยเป็นระเบียบใกล้กับโอเอซิสเพื่อพักผ่อน ส่วนหนึ่งล่วงหน้าไปก่อนแล้วเพื่อจัดการเรื่องการขนย้ายอาวุธและพวกก่อความวุ่นวายที่จับได้  กระโจมหนังสัตว์เจ็ดแปดหลังตั้งกระจายตัวกันทั่วบริเวณบ่งบอกจำนวนคนที่มากพอสมควร ขณะที่ดวงจันทร์เสี้ยวท่องไปครึ่งฟ้า สายลมเย็นความหนาวเหน็บปกคุลมไปทั่วบริเวณผืนทรายกว้าง..

        แหล่งน้ำสะอาดในโอเอซิสเป็นตาน้ำเล็กๆที่ผุดออกมาจากดิน มีค่าและเป็นดั่งอัญมณีกลางผืนทรายเช่นเดียวกับชื่อเรียกขาน คาวัลโล วาลกัสก้มมองเงาตนสะท้อนในน้ำที่ไหวระริก ดวงตาสีน้ำทะเลกวาดมองบริเวณโดยรอบซึ่งไม่ปรากฏต้นวัชพืชเล็กๆอีกแล้วรวมทั้งสีสันของต้นอินทผาลัมก็เปลี่ยนมาเป็นใบสีหม่นเช่นเดิมราวกับจะบ่งบอกถึงความฝันอันผ่านพ้น..

          ก้าวเท้าเข้าไปในกระโจม ไม่ใช่กระโจมใหญ่สุดสำหรับพักผ่อนของชีคแห่งเซเนียยา แต่ทว่าเป็นกระโจมพักของ"แขก"ผู้มาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัวทั้งสองคนต่างหาก

           จ้องมองผู้เป็นอาที่กำลังทำการพิสูจน์ศพเจ้าตะเกียงแบบโบราณที่ตั้งไว้ในห้องอย่างขันเเข็งแล้วอดจะสงสารมันไม่ได้ คาวัลโลก้มลงหยิบน๊อตตัวนึงที่หล่นลงมาบนพรมแล้ววางลงบนโต๊ะ เขาตวัดสายตามองชายอีกคนที่นั่งสำรวจสัมภาระตลอดจนก้มๆเงยๆมองอุปกรณ์ผ้าห่มผ้าคลุมในมืออย่างครุ่นคิดว่าควรทำสิ่งใดก่อนกันพลันก็ถอนหายใจยาว..

        " เอาพรมนี่ลงก่อน " ออกปากปากพลางดึงพรมสีเข้มเนื้อหยาบหนาลงบนพื้น ผู้ฟังพยักหน้า หากแต่ก็ดึงพรมนั้นขึ้นมาอีกครั้งและเริ่มปูมันใหม่ให้เรียบร้อย...ในแบบฉบับของตัวเอง..

   จ้องมองชายสองคนในห้องนี้ด้วยหัวใจที่เริ่มจะหนักอึ้ง...หนึ่งบุรุษผมสีทอง นัยน์ตาสีบรูเน็ตและใบหน้าท่าทางที่เคยคุ้น คลาร์ก โรเซนเบิร์ก คือหนุ่มเชื่อสายเยอรมันคือผู้เป็นอาที่ชึ่งคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังเป็นผู้คอยสั่งสอนสรรพวิชาป้องกันตัวกับเขา และอีกหนึ่ง ชายหนุ่มผมแดง นัยน์ตาสีทองสุกปลั่งและสวมเเว่นสายตากรอบดำ ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์คือหนึ่งเพื่อนสนิทที่เคยคุ้น...แกเร็ต เคย์

     ความสงสัยและความอัดอั้นตันใจมีมากจนทนไม่ไหว ยิ่งเมื่อมองเห็นท่าทีเรียบเรื่อยไม่หยี่ระของคนทั้งคู่แล้วยิ่งปวดหัวจี๊ด..

        "...มาถึงนี่กันได้ยังไง? " ที่สุดคาวัลโลจึงเอ่ยถามเสียงเรียบ พลางทอดถอนใจ

         " มากับขบวนขนอาวุธ แกนี่ก็ถามอะไรโง่ๆ " ผู้เป็นอาตอบแล้วส่งเสียงเฮอะออกมาเบาๆหลังจากแงะชิ้นส่วนตะเกียงออกมาแล้วสามารถประกบกลับไปได้เช่นเดิม..จะขาดอยู่อย่างเดียว คือมันไม่สามารถต่อไฟได้แล้วก็เท่านั้น..

        "...แล้วมาทำไม " คาวัลโลเม้มปากแน่น...

        ".....นี่ยังจะถามอีกงั้นเหรอ? " คลาร์กหัวเราะหึ จ้องมองหลานชายที่วันนี้นึกออกปากถามอะไรโง่ๆออกมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ..และยิ่งเมื่อนัยน์ตาคู่นั้นไม่ยอมสบ ...รอยหม่นที่ปรากฏทำให้ต้องหรี่ตา...เพิ่งพินิจ..

         "..คุณอเล็กซิสบอกให้พวกเรามาพาแกกลับไป คาวัลโล " แกเร็ตเอ่ยตอบแทนสีหน้าเยาะหยันของคลาร์กที่กระแทกเข้าตาคาวัลโลจนคาดว่ามันอาจจะสติแตก ทว่าผลที่ได้รับคือดวงตาสีน้ำตาลอมแดงคู่นั้นตวัดมาหากอย่างเคืองๆ

         " ให้ใช้ให้แกยุ่ง! " พร้อมกับประโยคหาเรื่องที่แสนจะคุ้น ซึ่งได้ยินอีกครั้ง..และอีกครั้ง...

         " ประโยคไม่ได้บอกชื่อ ไม่ได้เจาะจงถามใคร ฉะนั้นจึงมีสิทธิ์ตอบ "คาวัลโลกลอกตามองคู่หูศิษย์อาจารย์เบื้องหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ เขายกมือขึ้นก่อนที่ผุ้เป็นอาจะเข้าไปวางมวยหาเรื่องต่อยตีกับคู่หูตัวเองอย่างไม่ควรทำและมีผลให้ทราบเรื่องต่างๆได้ช้าขึ้นอีกอักโข..

          "  ครั้งสุดท้ายที่พี่อเล็กซิสคุยกับผม ...พี่บอกว่าคุณลุงไม่ต้องการผมแล้ว " คาวัลโลจ้องหน้าคลาร์ก ริมฝีปากของเขาเหยียดยิ้มหยัน "แล้วนี่....จะว่ายังไงดีล่ะครับ "

         "ครั้งสุดท้ายน่ะมันตอนไหน " คลาร์กเลิกคิ้ว ออกปากถาม

         " สามสัปดาห์ก่อน " คาวัลโลเม้มปากแน่น...

         "...หึ....นั่นสินะ " คลาร์กหรี่ตาลงช้าๆ ชายหนุ่มกวาดตามองร่างของชายหนุ่มผู้เป็นหลายชายเบื้องหน้า เม้มปากแน่นด้วยความขุ่นเคืองใจนับแต่ชุดที่เจ้าตัวสวมใส่ นับแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นมันยืนนิ่ง เหม่อลอยมองซากของความฝังตัวเองเหมือคนแพ้ที่น่าสมเพช...กระทั่งมีผู้อื่นมาปกป้อง...และตอนนี้ ....แววตาของขี้แพ้ที่น่ารังเกียจก็ยังปรากฏชัดบนใบหน้า...

... นี่มันไม่ใช่ มันเปลี่ยนไป ไม่ใช่คาวัลโลคนเดิม ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่เขาภาคภูมิใจจนตกลงยอมรับใช้ ไม่ใช่คนๆนั้น...ไม่เลย..

          " เป็นฉัน..ฉันก็คงไม่คิดจะเอาไว้ กับคนที่อุตริวางแผนโง่ๆ เพื่อฆ่าตัวตาย "  ริมฝีปากเหยียดยิ้ม เอ่ยถ้อยคำที่ทำให้คาวัลโลหรุบตาลงด้วยความละอายใจวูบ

          " ผมว่า....."

          " นี่เป็นเรื่องในครอบครัว คนนอกอย่ายุ่ง " น้ำเสียงเฉียบขาด ไร้ร่องรอยของความขัดเคืองใจดังเช่นที่ผ่านมา แต่ใจความยังคงไม่น่าฟังเช่นเดิม ทำให้แกเร็ตหน้านิ่ว..หรือาจจะนิ่วมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ..

          " คนที่พ่ายแพ้ ต่อให้แพ้ก็จงแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี แต่นี่กลับเป็นการพ่ายแพ้ที่น่าอดสูที่สุด " นัยน์ตาสีบรูเน็ตจ้องมองร่างของหลานชายเบ้องหน้าแล้วเม้มปากแน่น "ฉันเคยสอนให้แกทำแบบนี้เหรอ คาวัลโล? พ่ายแพ้และตกเป็นทาส ยังไม่น่าสมเพชเท่าการพ่ายแพ้แล้วตกเป็นของๆศัตรู "

          " เขาไม่ใช่ศัตรูของเรา !!  " มาเฟียหนุ่มส่ายหน้าร้องสวนขึ้นมาทันควันเสียจนผู้เป็นอาหน้านิ่ว..

          " นั่นไม่ยิ่งน่าสมเพชกว่าเหรอ? ไม่ใช่ศัตรู ซ้ำยังเป็นพันธมิตรของวาลกัส ! "  คลาร์กกระชากเสียงห้วน จ้องหน้าคาวัลโลเขม็ง " แกมันโง่เง่ากระทั่งไม่ยอมใช้ให้วาลกัสเข้าช่วย เอาแต่คิดว่าการพลาดพลั้งแล้วต้องรอความช่วยเหลือมันน่าหัวร่อ แต่นี่การกระทำของแกมันน่าหัวเราะกว่าเป็นไหนๆ  แกกลายเป็น....กลายเป็นพวกนางบำเรออยุ่บนเตียง ซ้ำยังเป็นผุ้ชาย กลายเป็ยนพวกวิปริตและน่าสมเพช คิดว่าใครเขาอยากจะได้แกกลับไปเป็นบอสให้วาลกัสเสื่อมเสียอยุ่อีก!"

           " ที่มานี่เพื่อจะมานั่งเทศน์ให้ผมฟังเหรอ? หรือว่ามานั่งสาธยายความเสียหาย? ไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการ ผมรู้แล้วและไม่คิดจะ....." คาวัลโลตลาดสั่น เขาเม้มปากแน่น สีหน้าแค้นเคืองปนเจ็บราว ฝ่ามือทั้งสองกำแน่น.. " ไม่คิดจะหลับไปที่นั่นอีกแล้ว!!! "


              ผลั่วะ!


        หลังมือของผุ้เป็นอาฟาดเข้าที่ผิวแก้มอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน คาวัลโลหน้าหันความเจ็บร้าวชาชินบนผิวหน้าไม่ต่างจากศักดิ์ศรีที่พังทลายและความเจ็บปวดในวันนั้น ใครอยากจะมาฟังคำตอกย้ำหรือกล่าวโทษอีกให้เจ็บใจให้เสียน้ำตา ไม่รู้ว่าคลาร์กจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์อยุ่แล้ว เมื่อตัดสินแล้วทุกอย่างก็คือจบสิ้น ไม่มีประโยชน์จะดิ้นรนทุกอย่าง!

          " ถ้าแกกล้าพูดแบบนั้นอีกคำเดียว ฉันจะฆ่าแกซะ จำเอาไว้!! " เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและแววตาวาววับอย่างน่ากลัวของผู้เป็นอาชัดเจนในดวงตาที่พร่ามัวด้วยความรวดร้าว คาวัลโลจ้องมองร่างของคลาร์ก โรเซนต์เบิร์ก ที่ถูกแกเร็ตรั้งตัวเองไว้สุดแรงด้วยแววตาวาววับ เขาแสยะยิ้มท้าทาย ลุกพรวดออกจากโต๊ะด้วยหัวใจร้าวไหว

            "...ทำไม..หรือเพราะว่าคุณมันไม่มีที่ไปอีกแล้วถึงต้องมาพึ่งผม...ถึงทนฟังไม่ได้ว่าผมจะไม่กลับไปที่นั่งอีกแล้วน่ะ " ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม สบมองไฟโทสะในแววตาของผุ้เป็นอาด้วยสีหน้าหยามหยัน " ผมจะพูดอีก..และคุณไม่มีสิทธิ์จะมาห้าม เพราะนี่คือความจริง ผมไม่มีวันกลับไป ในเมื่อวาลกัสไม่ต้องการคาวัลโลคนนี้...ทำไมผมจะต้องกลับไป ทำไมจะต้องเสียศักดิ์ศรีกลับไปเหยียบอีก ในเมื่อยู่ที่นั่นหรือที่นี่ ก็ยังถูกมองว่าเป็นอีตัวไม่ต่างกันอยู่ดี !! "

           ผลั่วะ!

            " แก......" คาวัลโลยกมือกั้นหมัดของคลาร์กอย่างทันท่วงที เขาแสยะยิ้ม จ้องมองสีหน้าเคืองโกรธของชายตรงหน้าเขม็ง

           "แลกกันคนละหมัดนะ คุณอา " สิ้นเสียงกระซิบ คาวัลโลก็สะบัดมืออก ปล่อยให้หมัดของคลาร์กลอยหวือผ่านใบหน้าไป  ชายหนุ่มโยกตัวหลบกำหมัดแน่น ซัดมันลงบนแก้มซ้ายของผู้เป็นอาเต็มแรง


         ผลั่วะ!

            " พอได้หรือยัง? " เสียงถามห้วนสนิทจากแกเร็ตจ เคย์ บ่งบอกว่าเจ้าตัวจะหมดความอดทนเต็มทีแล้ว คาวัลโลจ้องมองใบหน้าที่เข้ามารับหมัดของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวแล้วถอนหายใจเฮือก

            " ใครใช้ให้แกโง่มารับเอง " มาเฟียหนุ่มสถบเสียงห้วน ส่งสายตารู้ทันไปทางเพื่อนสนิท "ยังไงก็แตะไม่ได้เลยสินะ..เจ้าโง่ "

            " หลีกไป !" แกเร็ตส่งเสียงคำรามออกมาอย่างหงุดหงิด ซ้ำยังไม่มีท่าทีจะเข้าใจบทสนทนาของสองเพื่อนสนิทสักนิด..

             " คุณคิดว่าตัวเองอายุแค่ไหนแล้วถึงมาต่อยกับหลานชายตัวเอง ทำอะไรให้มันสร้างสรรค์หน่อยได้ไหมครับ อย่าให้ผมนึกรำคาญไปมากกว่านี้เลย "น้ำเสียงบริภาษห้วนๆของแกเร็ตยิ่งทำให้ผู้ฟังหน้าบูดขึ้นเป็นเท่าตัว คลาร์ก พ่นลมหายใจลงช้าๆ จ้องมองใบหน้าของหลานชายที่อีกฝ่ายก็เริ่มจะอารมณ์เย็นลงแล้วเช่นกันอย่างหัวเสีย..

            " ฉันไม่ขอให้แกกลับไปรับตำแหน่งหรอก อยากจะดักดานอยู่ที่นี่จนตายฉันก็ไม่ว่า ไอ้การเล่นเป็นมาเฟียไร้สาระของพวกแก มันน่าสนใจแค่ไหนกัน " คลาร์กสถบเบาๆในลำคอ จ้องมองใบหน้าของหลานชายที่เขารักมันมาที่สุด...แต่ขณะเดียวกันก็หมั่นไส้มันมากที่สุดเขม็ง...

             " แต่ก่อนหน้านั้น ก่อนที่พ่อแม่แกจะตรอมใจตายและครอบครัวแกจะย่อยยับมากกว่านี้...ก็ฟังฉันเล่าด้วยล่ะ ว่าคุณลุงที่รักของแกทำอะไรบ้าง..."

                     วาจานั้นทำให้คาวัลโลชะงัก ขมวดคิ้วอย่างงวยงงไม่น้อย...มาเฟียหนุ่มจ้องมองอาของตนที่ถอนหายใจแรงแล้วค่อยนั่งลงบนโต๊ะอีกครั้ง เขาเหลือบมองแกเร็ตที่ส่ายหน้าแล้วก้มลงปูที่นอนอีกคราวแล้วยิ่งนึกงวยงง...เฟรเดริโก้ วาลกัส ผู้เป็นลุงของเขาคิดจะทำอะไรนอกจากยกเลิกการเป็นบอสของคาวัลโลคนนี้หรือ สีหน้าและแววตาของคนพูดถึงได้เครียดขึ้งปานนั้น...


............


      สายลมเย็นโชยพริ้มให้เสื้อคลุมที่ใส่อยู่สะบัดไหว อัลชาอ์จ้องมองพระจันทร์ที่เดินทางอยู่บนท้องฟ้าด้วยสีหน้าครุ่นคิดหนัก ร่างสูงยืนอยู่หน้ากระโจมที่พักของตนเอง หากนัยน์ตาสีเข้มจ้องมองไปยังกระโจมหี่ถัดไปอีกสองหลัง อันเป็นที่อยู่ของผู้มาเยือนคนใหม่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...

         ....อา....กับเพื่อนสนิท?

    คำอธิบายถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนที่พบเจอสั้นๆ หากสีหน้าและแววตาเคร่งเครียดทำให้ความกังวลแล่นวาบขึ้นมาอีกครั้ง ชีคหนุ่มถอนหาใจหนัก ด้วยรู้ดี ว่าเมื่อคนในครอบครัวและอีกหนึ่งเศษเสี้ยวของ"วาลกัส"เข้ามาตามหาเจ้าตัวด้วยตัวเอง คนพวกนั้นต้องการอะไร... ทว่าสิ่งที่อัลชาอ์ยังลังเล คือคาวัลโล ต้องการจะทำเช่นไร?

       ชีคหนุ่มมองต้นหญ้าเหี่ยวแห้งใกล้ปลายเท้าอย่างครุ่นคิด...ยามนี้ทะเลทรายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้สดชื่นสดใสด้วยสายฝนอีกแล้ว...พืชพรรณแห้งเหี่ยว สีเขียวเริ่มจางหายไปมีเพียงความแห้งแล้งที่ปกคุลมผืนดินแห่งนี้อีกครา..

       ไม่ต่างกับหัวใจ ที่สดใสเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับมาครึ้มหม่นอีกครั้ง..

    หรือที่ผ่านมา...จะเป็นเพียงฝันหนึ่งตื่นเท่านั้น?

          เมื่อมีคนเดินเข้ามา เมื่อความจริงเดินเข้าหาอีกครั้ง ที่สุดเจ้าตัวก็ลืมตาตื่น ต่อให้ไม่อยากลืมตา ฝันนี้ก็จะจางหายไป ใช่หรือเปล่า?

     การวางเดิมพันครั้งสุดท้าย....จะไม่เป็นผลจริงๆหรือ...

   คำสัญญาของคาวัลโล คำพุดที่ว่าจะไม่จากไป อัลชาอ์เชื่อ...และยังเชื่อมาจนบัดนี้ แต่รอยหวั่นไหวและรอยหม่นในแววตาอีกฝ่ายกลับทำให้ความเชื่อมั่นนั้นสั่นคลอนลงช้าๆ..

    ......ขออย่าให้เราต้องเสียใจภายหลัง..

    คำๆนี้เป็นสิ่งเดียวที่อัลชาอ์อยากให้คาวัลโลทำตามที่พูด จะอย่างไรชีวิตของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่มีสิทธิไปกำหนดกะเกณฑ์... คำว่ารักไม่ได้หมายถึงความรับผิดชอบหรือการตระหนักในสิ่งใด คำว่าคนรักไม่ได้หมายถึงการผูกพันธ์กันนิรันดร์ และอ้อมกอดไม่ได้หมายถึงพันธะผูกพันธ์ หรือคำมั่นสัญญา..

     ...เพราะพรุ่งนี้มันเลื่อนลอยเกินไปที่จะตั้งความหวัง..

        เสียงฝีเท้าที่ใกล้หูทำให้ชีคหนุ่มชะงัก ร่างสูงใหญ่ละจากภวังค์พลางขมวดคิ้วตั้งท่าจะหมุนตัวกลับไปเผื่อจะเป็นคนของตนที่มีอะไรจะสอบถาม ทว่า รอยกอดที่เคยคุ้นบนแผ่นหลัง ทำให้ร่างทั้งร่างนิ่งงัน...

           " คาวัลโล? " ชีคหนุ่มเอ่ยปากถามแผ่วเบา...ใบหน้าขมวดเข้าหากันช้าๆ

ฝ่ามือหนาลูบท่อนแขนบางที่มีกอดรัดบั้นเอวตนไว้อย่างอาดูร  ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย มีเพียงร่างเพรียวที่สั่นไหว และเสียงสะอื้นที่ถูกเก็บไว้ในลำคอ กับน้ำตาที่ค่อยซึมมายังเสื้อผ้าและผ่านที่หัวใจของตนอย่างเชื่องช้า...


   .....มันเกิดอะไรขึ้น !?

...........................

       คุณอามาแล้ว อิอิ > <  แต่มารอบนี้อาจจะทำให้หลายคนเคือง แล้วตะโกนว่า มาทำม้ายยยยย เหอๆ :z3:

ตอนนี้เขียนฉากบู้มันส์มาก อ่า...ชอบพัฒนาการของชีคกับคาวี่นะ :impress2: มันพัฒนาไปมากจริงๆเมื่อเทียบกับที่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องทำนองนี้ตอนครั้งก่อน ถึงคาวี่จะดื้อเหมือนเดิมก็เถอะ แต่คราวนี้อัลชาอ์ก็รับรู้และเข้าใจสุดที่รักอย่างเต็มที่ล่ะ น่าปลื้มจริงๆ ส่วนคาวี่ก็รู้ตัวว่าอะไรผิดถูควรไม่ควรแล้วถึงจะยืนยันว่าจะขอเป็นแนวหน้าก็เถอะ  เอาน่า ขาลุยๆ
       อ้อ อาจจะมีคนงงกับการเดินทางของอัลชาอ์ว่าไงมาไงกันแน่ ทำแผนที่ไว้แล้วค่ะ  :laugh: มีบอกตำแหน่งไว้แล้วด้วย หวังว่าคงไม่งงกันเนาะ

ปล. แบดกายพรุ่งนี้จ้า  > <



ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
เพิ่มเติม รุปแผนที่ค่ะ



แล้วก็คุณอา เห็นแบบนี้สามสิบกว่านะ รุปนี้พยายามให้หัวล้าน แต่ก็นะ..ได้แค่ี้แหละ



วาดแกเร็ตแล้ว แต่ไม่หล่อเลยไม่แปะ (555) ขอเวลาเหลาคางพี่แกอีกสักพัก อิอิ

ไปล่ะค่า  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2011 22:45:26 โดย Serin »

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
คาวี่ร้องไห้ทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ตามไปด้วยเลย หลานเขย :-[

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เออ อิคุณอา มาทำมายยยยยยยยยยยยยยยยยย
เข้าใจนะว่าพวกเค้าจะรับไม่ได้ที่คาวี่จะเป็นแบบนี้
แต่ไงล่ะ ใครเค้าอยากจะเป็น แต่เพราะชีคไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้คาวี่ดีขึ้น
เกลียดพวกที่ชอบตัดสินอะไรไปก่อน ปากหมา พูดส่งๆโดยไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น โดยที่ตัวเองยังไม่รู้อ่ะไร
รึไม่ก็ทำเหมือนรู้ดีไปซะทุกอย่าง เฮ้ออออออออ ขอให้คาวี่รักษาทั้งความรักแล้วก็สถานภาพของตัวเองไว้ได้ด้วยเถอะนะ

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1

KaZuKi

  • บุคคลทั่วไป
หลงรักท่านชีค อ๊ากกกก  :-[คาวี่ร้องไห้ โฮ เรื่องอเล๊กเซย์แน่ๆเลยอ่ะ อั้ยยะ   :serius2:
แต่ตอนสู้กันมันส์มากกกก ไม่ไหวแล้วววว รอตอนต่อไปค่ะ สนุกมากๆเลยอ่ะ o13

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
เอาละสิ คาวัลโลรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย? แล้วจะทำยังไงต่อไปละทีนี้?? :z3:

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
จะเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย
ตอนแรกออกแนวหวานๆแม้จะอยุ่ในสนามรบก็เหอะ
แต่ตอนหลังไหงกลายเป็นว่าเศร้าไปได้ไง
คาวี่เป็นจะกลับไปไหมอะ
สงสารท่านชีคสุดๆ
หวังว่าคาวี่จะไม่ทิ้งท่านชีคไปนะTOT
อุตส่าทุ่มเทมาจนถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ
ปล.ไม่ว่าจะตอนไหนๆท่านชีคก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เป็นคนที่มั่นคงจริงๆ^^

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
หวานกันไม่เท่าไหร่ก็ส่งคนมาขัดจังหวะอีกแล้ว
ส่งคุณเพื่อนกับคุณอากลับไปก่อนได้ม๊ายยยยย
เอามาทำม้ายยยยย :serius2:

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
 คุณอามาแล้ว อิอิ > <  แต่มารอบนี้อาจจะทำให้หลายคนเคือง แล้วตะโกนว่า มาทำม้ายยยยย เหอๆ
+++++++++++++++++++
อยากจะบอกแบบนี้อยู่เหมือนกันค่ะ

เขากำลังหวานระหว่างรบกันอยู่ดีๆ อามาทีบรรยากาศมาคุลอยมาเลยทีเดียวววววววว :m31: :m31: :m31:

สงสารอัลซาร์อะ สุขได้แป๊ปเดียวจริงๆ :sad4:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ว้ายยยย
จะมาพาคาวัลโลกลับเหรอ
แล้วท่านชีคเค้าหล่ะจะทำไง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
บทพิสูจน์ความรักของคาวี่กับอัลอันใหม่ใช่ไหม ถ้าคาวี่ต้องกลับไปช่วยทางบ้าน อัลจะว่าไงบ้างอ่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คาวี่จะต้องกลับไปช่วยพี่ ๆ หรือเปล่า  คงต้องไปแล้วชีคล่ะ 

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
รู้สึกถูกชะตากับคุณอาแฮะ

อารมณ์เหมือนเป็นเพื่อนเล่นมากกว่าอา 5555+

 เท่ไม่หยอกเลย

ปล. แมวน้อยจะเลือกอะไรระหว่าง หัวใจ ความรัก ศักดิ์ศรี ครอบครัว T T

ปล2. ประโยค'อีตัว'แรงมาก อ่านแล้วอินจัด ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย แมวหนอแมว 

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
คาวัลโล  กลับไปช่วยที่บ้านกอบกู้เอกราชอธิปไตรก่อนก็ได้นะ
แต่ว่าหลังจากนั้นแล้ว  ต้องกลับมาหาท่านชัคอัลชาย์นะ นะ นะ
ยังไงครอบครัวก็สำคัญอัลชาย์เข้าใจหน่อยนะ  รอนิดนึง รอนิดนึงนะ

คาดว่าตอนหน้าคงได้ซดมาม่าแกหิวกันสักชามหละมั้ง เหอๆ
 :L2: :pig4: :L2:

saya

  • บุคคลทั่วไป
ม่าย :z3: มันค้างอ่ะ
อ่านตอนนี้แล้วเริ่มปวดตับขึ้นมาเล็กๆ คุณปุ้ยค่าอย่าพรากคาวี่ไปจากอกอัลชาเลยนะ
เค้าอ่านพี่โตกะน้องเนมก็ปวดตับพอแล้ว เรื่องนี้ได้โปรดเถอะอย่าให้ปวดมากกว่านี้เลยคนอ่านขอร้อง  :monkeysad:
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ รักอัลกะหนูคาวี่มาก
รักคนเขียนด้วยค่า :กอด1:
(ปล.อยากให้ถึงพุธหน้าเร็วๆจะได้อ่านตอนต่อไป สาธุ :call: )
 


ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
หวั่นใจแทนอัลชาร์เหมือนกัน
แม้จะเข้าใจคาวี่ก็เถอะ  เฮ้อ :เฮ้อ:

นนพี

  • บุคคลทั่วไป
ง่าาา จะมาพาคาวี่กลับหรอ แล้วท่านชีคละ :m15:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ต้องห่างกันอีกแล้วหรอ?
 :sad4:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ถ้าคาวัลโลกลับไป  อัลชาจะคิดมากอีกใช่มั้ยเนี่ย

เรื่องชักจะไปใหญ่อีกแล้ว :z3:

hahn

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าคุณอาคงไม่พรากคาวี่ไปจากชีคนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด