ไม่ต้องให้ถึงคราวคาวัลโลลุกไปกระชากคอฟิลิเป้มาด่าแล้วกระทืบให้หนำใจ เพราะฝ่าเท้าของอัลชาอ์จัดการเก็บเจ้าคนปากดีนั้นอย่างรวดเร็วจนร่างของมันล้มลงกับพื้น กระอักกระไอออกมาเป็นเลือดสีเข้มหยดลงบนพื้นซีเมนต์ ชีคหนุ่มแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม ออกปากสั่งการฮาซานเป็นภาษาอารบิกสั้นๆที่ฝ่ายนั้นรับคำแล้วเดินหายไปอย่างรวดเร็ว
" ตกลงว่ายืนยันจะไม่พูดสินะ " น้ำเสียงของชีคหนุ่มที่เปล่งออกมาห้วนกระด้างจนคนฟังชักสีหน้าเหย คาวัลโลจ้องมองคนรักในมาดโหดด้วยสายตาตกตะลึงปนทึ่ง...ก็นะ....ปกติจะเจอแต่อัลชาอ์โหมดคนปกติบ้างอะไรบ้าง ต่อให้เจอกับท่านชีคตอนอารมณ์เสีย อีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีเช่นนี้...นี่มันอัลชาอ์เวอร์ชั่นโหดที่เขาไม่เคยเห็น...ดูแล้วน่าประทับใจเป็นบ้า...
" ...ผมบอกไปแล้วไงเรื่องนายทหาร จะให้เราพูดอะไรอีก ! "ราฟาเอลโร่รีบสวนขึ้นมาทันควัน อย่างไม่ยอมให้ตัวเขาเป็นฝ่ายถูกต้อนให้จนมุม
" ...ข้อมูลแค่นั้นให้ใครหาก็เจอ...ให้ใครพูดก็ได้ " อัลชาอ์ยกมุมปากขึ้นช้าๆ จ้องมองดวงตาสีอ่อนจางของมาเฟียเบื้องหน้าอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
" แล้วจะเอาอะไรอีก ? " ราฟาเอลโร่ถามกลับสั้นๆ มาเฟียหนุ่มหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด....มองชีคหนุ่มเบื้องหน้า สมองใคร่ครวญอย่างหนักหน่วง..
" ...คุณก็ได้ยินแล้วไม่ใช่หรือ " อัลชาอ์ตอบสั้น นัยน์ตาสีเข้มปราดมองประตูห้องขัง บัดนี้ร่างของฮาซานองครักษ์หนุ่มคนสนิทก้าวเข้ามาพร้อมกับนายทหารอีกสี่คนเดินเข้ามาด้านใน ในมือองครักษ์หนุ่มมีมีดสั้นลักษณะรูปเล่มโค้งงอน ปลายหยักแหลม ตัวปลอกและด้ามจับประดับอัญมณีและถมทองจนวาววับทั้งอัน คาวัลโลมองมันอย่างสนอกสนใจ เขาหันไปมองหน้าอัลชาอ์อย่างสงสัย หากเพียงฝ่ายนั้นหันมายิ้มให้ มาเฟียหนุ่มก็ร้องอ้า หัวเราะชอบใจ..นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ...
"...คน...กำลังพล....อาวุธ...ผู้สนับสนุน ผู้ติดต่อ...และ...ผู้บงการ " ชีคหนุ่มเอ่ยช้าๆ สบมองนัยน์ตาของนักโทษสองรายเบื้องหน้าอย่างเยือกเย็น " หนึ่งคำตอบแลกกับชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นดีไหม?...แบบที่พวกคุณชอบทำกันไงล่ะ "
ประกายวาววับบ่งบอกความคมของกริชโค้งรูปจันทร์เสี้ยวที่ถูกชักออกมาจากฝักสะท้อนภายใต้แววตาระแวงปนหวาดหวั่นของนักโทษทั้งสอง คาวัลโลยิ้มออกมาด้วยความพึงใจอย่างเป็นที่สุดเมื่อได้มองเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวถอดสี ของสองมาเฟียคู่อริ...น่าสมเพชเสียจนอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ดูยามเบื่อนัก...
คิดพลางมองใบหน้าด้านข้างของคนรักที่ฉายแววเหี้ยมเกรียม....ถึงจะมองแล้วแอบเคลิ้มแต่คาวัลโลก็ต้องแอบสัญญากับตัวเองเงียบๆแล้ว ว่าคราวต่อไปหากคิดจะหาเรื่องอัลชาอ์ จะต้องทบทวนดูหนึ่งรอบเป็นอย่างต่ำ
"...พวกเราที่ถูกขังอยู่ในนี้ จะรู้ได้ยังไง !!" ฟิลิเป้เอ่ยเสียงห้วน พลันมาเฟียหนุ่มก็หัวเราะเสียงแผ่ว " หรือหาข้อมูลอะไรไม่ได้แล้วถึงต้องมาเค้นเอากับเรา...ไหนว่าแน่นักไม่ใช่หรือ? "
"....หึ แน่ใจเหรอว่าไม่รู้ ! " อัลชาอ์เอ่ยเสียงเรียบ จ้องมองใบหน้าผู้พูดเขม็ง "คิดอะไรให้ดีเสียก่อนจะพูดดีกว่า ฟิลิเป้ เรกาโซ่ เพราะผมไม่ได้อยากจะมานั่งฟังคำพูดของพวกไร้สมองให้เสียเวลา "
" แก....."
" 150 คน เดินทางมาสมทบจากUAE อีก50 จะมาลงที่โอมาน อาวุธยุทธโธปกรณ์มาจากคนๆนึงที่คอยสนับสนุนเราที่นี่ ติดต่อกับนายทหารคนหนึ่งผ่านสายของเรา..." ก่อนจะเกิดการวิวาทหรืออะไรมากกว่านั้น ราฟาเอลโร่ก้เป้นฝ่ายเอ่ยปากออกมาอย่างรวดเร็ว " และอาวุธที่นายทหารคนนั้นมี ...คือของที่ปล้นมาจากขบวนของวาลกัส .."
"ผู้บงการ " อัลชาอ์เอ่ยถามต่อ ขณะที่คาวัลโลชะงัก ดวงตาวาววับขึ้นยามได้ยินเรื่องอาวุธที่ถูกปล้น เรื่องของอาวุธที่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามาเหยียบประเทศนี้
".............."
...หากแต่ไม่มีคำตอบใดเล็ดรอดออกมาจากปากของทั้งสองคน
“ เงียบไปอีกทำไม ? พวกแกก็บอกออกมาเกือบหมดแล้วนี่ “ คาวัลโลเลิกคิ้ว จ้องมองสองมาเฟียหนุ่มเขม็ง..
“ โอเมอร์ต้า...”
...คำตอบห้วน...สั้น นั้นทำให้คาวัลโลขมวดคิ้วแน่น..
...โอเมอร์ต้า กฎแห่งความเงียบ...
แสดงว่าคนที่บงการคือ”มาเฟีย”งั้นหรือ?
"..@$%@%$$& ." อัลชาอ์สั่งการคนของตนเบาๆด้วยภาษาถิ่น และร่างของนายทหารที่เข้ามาประจำก็ลุกขึ้น ตรงเข้ามาตรึงร่างของฟิลิเป้แห่งเรกาโซ่ให้ยืดกายขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าใครจะไหวตัวทัน
คาวัลโลเบิกตามองฉากที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงไม่น้อย ร่างของฟิลิเป้ถูกตรึงเอาไว้บนซี่กรงขังแข็งแรง ขาและแขนสองข้างถูกล๊อก ใบหน้าที่มีเคราครึ้มขึ้นอยู่ประปรายถูกจับให้เชิดขึ้น ขณะที่กริชในมือของอัลชาอ์ส่องประกายสะท้อนแสงไฟวาววับ...
".....ไม่มีคำตอบหนึ่งคำตอบสินะ..." อัลชาอ์เปรยเสียงเบาจ้องมองใบหน้าของมาเฟียหนุ่มเบื้องหน้าเขม็ง...ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ " ดี"
" หนึ่งชิ้น...จะเอาอะไรดีล่ะ ? " ชีคหนุ่มเปรยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่แทบไม่มีผู้ใดกล้าขยับตัว ขณะที่ปลายมีดแหลมนั้นเริ่มชี้ไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย " นิ้วมือ...นิ้วเท้า....หูซ้าย...หูขวา...จมูก....รึว่าปากดี...? "
".......ทำแบบนี้คิดว่าจะได้คำตอบอะไรรึไง !! " ราฟาเอลโร่คำรามลั่นด้วยความไม่พอใจ หากผู้ฟังเพียงเลิกคิ้วขึ้นอย่างเนิบช้า
"....ในเมื่อไม่มีคำตอบ ก็แลกกับมันซะสิ " นัยน์ตาสีดำสนิทปรายมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ และราฟาเอลโร่ทำได้เพียงกัดฟันกรอดอย่างจำยอม นัยน์ตาสีชาจ้องมองกริชเงินในมือของชีคหนุ่มเขม็ง
" ...ดีล่ะ...ยังถือว่าดีที่ผมได้คำตอบ...ฉะนั้นจะขอจัดการให้ด้วยความหวังดี ด้วยการบริการ"เลาะ" เจ้าหมุดเอ็นน่ารำคาญตานี่ออกไปก็แล้วกัน " อัลชาอ์ยิ้มมุมปาก จ้องมองหมุดกลมสีเงินที่ประดับบนปลายจมูกของมาเฟียหนุ่มนามฟิลิเป้ ขณะที่ในมือก็มีกริชสีเงินส่องแสงวาววับล้อแสงไฟ
นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองใบหูที่มีตุ้มหูสีเงินขนาดกลางและหมุดแหลมหลายอันร้อยเรียงกัน และกวาดสายตาลงมายังข้างจมูกโด่งสันที่มีหมุดเงินขนาดใหญ่และ....ท้ายที่สุด จึงมองตรงไปยังริมฝีปากของชายเบื้องหน้า เหล่าทหารผู้รู้ใจต่างก็ออกแรงบีบปลายคางให้มาเฟียหนุ่มอ้าปากออกมาอย่างจำยอม และเมื่ออัลชาอ์พยักหน้า ฮาซานก็เดินเข้ามา ในมือมีผ้าเช็ดหน้าผืนบางที่เจ้าตัวใช้รองปลายนิ้วไว้เล็กน้อยเพื่อกันน้ำลาย ก่อนจะค่อยๆ"ล้วง"เข้าไปเพื่อความหาลิ้นของชายหนุ่มเบื้องหน้า
เสียงครางอู้อี้และเสียงร้องราวกับคนถูกกรอกน้ำร้อนเข้าปากของฟิลิเป้ทำให้สองมาเฟียที่เหลือต่างจ้องมองมันตาไม่กระพริบ ใบหน้าของคาวัลโลฉายแววอึ้งทึ่งปนสะใจ ขณะที่ใบหน้าของราฟาเอลโร่ซีดเผือกปนคับแค้นใจนัก..
"....พวกแกมันป่าเถื่อนไม่ใช่มนุษย์ !! " ราฟาเอลโร่ตวาดก้อง อ้าปากเอ่ยประจาณผู้คนเบื้องหน้าอย่างไม่นึกกลัว และสิ่งที่ได้รับ คือเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอจากชายหนุ่มผู้นั่งอยู่เบื้องหน้าตนนั้นเอง
" ..ไปว่าเขา เรามันก็ไม่ต่างกันหรอกว่ะ " คาวัลโลแสยะยิ้มเยาะ ก่อนจะหันไปมองภาพเบื้องหน้าต่ออย่างใจจดใจจ่อ อัลชาอ์กำลังยกมีดขึ้นจรดบนปลายลิ้นเปียกชื้นของฟิลิเป้ ใบหน้าของชีคหนุ่มเเต้มไปด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยมและแววตากร้าวแข็ง ขณะที่ใบหน้าของฟิลิเป้กำลังเหยเกอย่างถึงที่สุด มันซีดขาว นัยน์ตาเหลือกขึ้นด้วยความหวาดกลัว ครางในลำคอและน้ำตาคลอเบ้าเหมือนหมูถูกเชือก
" อ้ากกกกกกกกกกกกกก..."
" หึ... " เสียงร้องนั้นดังขึ้นทำให้ชีคหนุ่มอดจะหัวเราะหยันไม่ได้ อัลชาอ์ละมือจากปลายมีดคม จ้องมองสีแดงที่อาบบนคมมีดของกริชสีสวยอย่างพึงใจ ขระที่นัยน์ตาซึ่งฉายแววเยาะหยันหันไปสบมองแววตาของฟิลิเป้ เรกาโซ่ที่เหลือกลานไปด้วยความกลัวเเข้งขาอ่อนจนต้องทรุดลงกับพื้น
...ไม่ได้กรีดลงไปจริงๆ แต่แค่แกล้งแตะปลายกริชลงตรงปลายลิ้น แค่นี้ก็ทำให้ฟิลิเป้หวาดกลัวตัวสั่น..
...แล้วยังรอยยิ้ม...แสดงความพึงใจที่สงครามจิตวิทยาของตนได้ผลนั่น..
" เล่นแบบนี้ก็คลายเครียดไม่เลวเลยนะ ว่าไหม ? " ชีคหนุ่มเอ่ยถาม กวางกริชลงบนมือขององค์รักษ์คู่กายตน ออกปากสั่งให้หิ้วปีกราฟาเอลโร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของชายหนุ่มผู้เป็นที่รักซึ่งยังดังก้องกังวานไม่หาย
" แหม...น่าจะทำจริงนะเนี่ย " คาวัลโลหัวเราะก๊าก จ้องมองชีคหนุ่มด้วยแววตาวาววับ
" ...แค่ก็กลัวจนสติแตกแล้ว " ชีคหนุ่มหัวเราะในลำคอ หากแววตายังฉายความเหี้ยมลึกจ้องมองร่างของมาเฟียหนุ่มนามฟิลิเป้ที่ถูกหามไปยังห้องขัง
....."กล้า"มาแสดงความเป็นเจ้าของบนผิวเนื้อที่เขาแสนรักแสนหวงก็มากพอแล้ว
ยังจะกล้ามาเอ่ยปากว่าเป็นเจ้าของ ต่อหน้าเจ้าของที่แท้จริงๆอีก
...จะปล่อยให้มันลอยนวลต่อไปหน้าตาเฉยได้อย่างไร..
คาวัลโลวางมือลงบนไหล่ชีคหนุ่ม ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นมาจากคุกใต้ดิน มาเฟียหนุ่มจ้องมองเสี้ยวหน้าของคนรัก ในใจนึกภูมิใจแม้จะยังหวาดๆหวั่นๆกับท่าทางของอีกฝ่ายไม่น้อย...
" นี่คุณจงใจทำไปด้วย"เหตุผลส่วนตัว" ล่ะสิ "
คำกระเซ้านั้นเป็นผลให้คนฟังยิ้มขัน อัลชาอ์เลิกคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ มองสบดวงตาคนรักที่วาววับ ชีคหนุ่มยิ้มมุมปาก ให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วก่อนจะเอ่ยคำบางคำออกมาสั้นๆ...ทว่า...บอกเหตุผลของการกระทำทุกอย่างได้ชัดเจน
" ก็ผมหึงนี่ "
...........
เมื่ออัลชาอ์และคาวัลโลเดินขึ้นมาถึงบริเวณเรือนรับรองด้านหน้า ก็พบกับกลุ่มบุคคลที่ตามหาได้ในที่สุด นัยน์ตาของทั้งสองมองไปยังร่างของเจ้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับหนึ่งในกลุ่มวิศวะกรที่มาทำงานอย่างออกรส และก่อนที่จะได้ทำอะไร ชีคหนุ่มก็ออกปากสั่งให้เจ้าชายหนุ่มเตรียมตัวไปจารเซกับตน ทิ้งความสงสัย...ให้เกิดแค่คาวัลโลและเจ้าชายฟาลซาอ์อย่างรวดเร็ว
" ทำไมถึงพาไปล่ะ ทุกที..." คาวัลโลถามกลับงงๆ ไม่ใช่เสียดายที่ไม่ได้ไปกับอัลชาอ์แค่สองคนหรอกนะ...ก็แค่สงสัยเท่านั้นจริงๆ
" เขาต้องไปกับเรา ผมจึงจะได้คำตอบที่ต้องการมาได้ " คำตอบของชีคหนุ่มนั้นทำให้คาวัลโลเลิกคิ้วช้าๆ มาเฟียหนุ่มผู้ไม่ถนัดกับการถกอะไรลึกซึ้งถอนหายใจเฮือก ก่อนจะยักไหล่
"...แล้วที่นี่....."
" รามิลและราเซย์จัดการ " อัลชาอ์ตอบสั้น ตาปรายมองสองพี่น้องคนสนิทของตนที่กำลังยืนคุย...และเหมือนจะปรึกษางานอะไรสักอย่างกับวิศวะกรทั้งกลุ่มของบริษัท ASCAcceat อยู่ คาวัลโลมองตามแล้วหน้านิ่ว เขาถอนหายใจเบาๆ
" แน่ใจหรือ ? "
"...มีนายพลกาซิมอีกคน ...เท่านี้ผมก็วางใจได้ "อัลชาอ์ตอบ "เพราะ...ผมไม่ไปนานหรอก.."
คาวัลโลมองหน้าจริงจังของคนพูดแล้วชะงัก รู้สึกผิดนิดๆที่ตัวเขาไปไพล่นึกว่าการเดินทางครั้งนี้คือการไปเที่ยว ทั้งที่ก็ไม่ใช่แถมยังแอบคิดว่านี่เป็นแผนไปฮันนีมูนนอกรอบของอัลชาอ์อีกแน่ะ
"...มีคนโกหกให้ผมต้องจับตาดู " อัลชาอ์เปรยสั้นๆ หันมาสบตาคนรักดวงนัยน์ตาวาววับ
" หืม?...." มาเฟียหนุ่มครางในลำคอเบาๆ
" รอดูได้เลย...อีกไม่นานหรอก " ชีคหนุ่มยิ้มมุมปาก ด้วยนัยน์ตาหมายมาด..
คาวัลโลยิ้มรับคำพูดนั้น เขาจ้องมองใบหน้าคมสันของอีกฝ่ายที่อยู่ไม่ห่าง...นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความคาดหวัง..
...คาวัลโลฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในอุ้งมือของชายตรงหน้าด้วยความเชื่อใจอย่างยิ่ง..
..ถ้าอัลชาอ์พูดว่าได้ก็ต้องได้ ถ้าอัลชาอ์บอกว่าจะทำอะไรก็ย่อมทำได้ตามนั้น...
เอ.....นี่เขามีอาการคลั่งท่านผู้นำแบบเจ้าฮาซานมันแล้วหรือนี่..
...................
สวัสดีค่ะ
กลับมาแล้ว
หายไปนานพอควร ช่วงนี้ยุ่งกับการลงทะเบียน เรื่องมหาลัยแบบวุ่นๆ
และตอนนี้ก็เป็นตอนที่ยุ่งไม่แพ้กัน...อเล็กเซย์ของเค้า T T ม่ายยยยยยยยยย
:serius2:เขียนไปปวดใจเหลือเกิน (เวลาไปเอาหัวโขกกับอกท่านชีคเบาๆ/โดนคาวี่ถีบกลับ
)
ส่วนท่านชีคกับคาวี่ ..ตอนนี้ท่านชีคเท่ห์จัง ฮ่าๆๆๆ เวลาอัลชาอ์โหดนี่มันช่าง..
ปล. ตอนนี้ง่วงมาก ไม่รู้จะพูดอะไร เอาเป็นว่าขอไปนอนก่อนนะงับ