Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1005106 ครั้ง)

lolilo

  • บุคคลทั่วไป
เมินๆ ไปเถอะอัล
ปล่อยเค้าไป =.="

ไม่รักก็คือไม่รักก็แค่นั้น

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านตอนนี้แล้วอึน เครียด มาคุเกินไปแล้วว ว :z3:


"เมื่อไหร่จะเข้าใจ เมื่อไหร่จะรักกัน
หากเราทั้งสองไม่ยอมเปิดใจ ให้คำว่ารักเดินทางมาเจอกัน
เมื่อไรจะเข้าใจ ได้ไหม คนดี
ช่วยพังทลายกำแพงที่มี ให้ใจของเรามีวันที่ดี ที่สวยงาม"

เอาเพลงนี้ไปเลยฮ้า าาาา

ออฟไลน์ ratrirattikan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นแบบนี้ต่อไป...คนนอกเห็นแล้วยังเหนื่อยใจแทนเลยค่ะ พี่น้อง
จริงๆเห็นด้วยกับที่คาวี่พูดนะ ถ้ามันเหนื่อยมากนักก็เลิกรักกันเหอะ (จะโดนรุมสกรัมไหมหนอเรา)

ออฟไลน์ maple4120

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เย้ คนเขียนสอบเสร็จแล้วว(รึป่าว?)
ดีจัง จะได้มาอัพบ่อยๆไง
ช่วงนี้เรารอเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยนะเนี่ย ติดมากกก  :o8:
เห็นว่าอัพแล้วนี่รีบคลิกเข้ามาอย่างเร็ว
แต่อ่านเสร็จแล้วเจ็บปวดหัวใจ  :o12:
ชีคห้ามเลิกรักคาวี่เด็ดขาดเลยน๊าาา เค้าไม่ยอมม
แต่แบบ คือมันก็น่าเหนื่อยใจอ่ะนะ ทุ่มไปหมดใจแล้วแต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากให้เลิกรักอ้ะ! ยังอยากเห็นฉากอัศจรรย์ของสองคนนี้อยู่นะ  :haun4:
เอ่อ ไม่ใช่ละ = ="
แล้วเมื่อไหร่คาวี่จะเริ่มหวั่นไหวกับชีคซะทีล่ะเนี่ยยย ทั้งลุ้นทั้งรอจนเซ็งละน้า  :sad4:
แถมมีเหตุแบบนี้อีก แล้วเมื่อไหร่จะได้เรื่องกันล่ะเนี่ย

ไงก็รอตอนต่อไปนะคะ ชอบมากอ่ะ สนุก ถ้ารวมเล่มนี่ซื้อแน่นอนค่า

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
จิตตกกันหมดทั้งพระเอก ทั้งคนอ่าน
สุดท้าย กะไอ่ประโยคเบสิคๆ "รักข้างเดียว" ก็ยังเป็นอะไรที่กระชากอารมณ์ได้ตลอด
ฮือออออออออออ สงสารอัลชาอ์ แต่จิงๆควรจะสงสารคาวี่มากกว่า พวกไม่รู้ใจตัวเองน่ะ น่าสงสารกว่าน้าาา

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
ตอนนี้ยาววววววว ได้ใจมากๆ กดไลค์!!!

ส่วนเนื้อเรื่องก็ อึม ๆ ครึมๆ อ่านละเหนื่อย สงสารซีคแหะ ไม่น่ามารักไอ่นี้เลย

ไม่ใช้ว่าคาวี่ไม่ดีนะ แต่ถ้ามันยุ้งยากมากก็ เลิกรักกันเหอะ เหมือนคู่นี้รักกันแต่ก็ทำร้ายกันเองอย่นั้นแหละ  :z3:

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
บรรยากาศอึมครึมจังช่วงนี้...

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
อ่านแล้วเหนื่อยเลยอ่ะตอนนี้
ขัดใจสุดๆ อิหนููคาวี่จะกินศักดิ์ศรีเป็นอาหารรึไง
ส่วนท่านชีคศักดิ์ศรีมันหายไปไหนโมดดดดดด
ยอมขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นค่าเนี่ย เลิกรักเหอะ
แต่พออ่านของคาวี่ รักต่อก็ได้ อยู่ในช่วงสับสน 555

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
   สงสารอัลชาอ์อ่ะ  รักมากก็เจ็บมาก   
   นู๋คาวี่เองก็ปากแข็งอ่ะชอบพูดให้อัลชาอ์เจ็บ  แต่พูดเองก็เจ็บเองอ่านะ   
   เหมือนอัลชาอ์จะมีความหวัง  รึเปล่านะ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ยังไงแต่ตอนนี้คิดว่านู๋คาวี่เท่ห์ดีอ่ะ เค้าชอบ :laugh:
ส่วนท่านชีค อืม... เค้าคิดว่าท่านชีคทำได้ดีกว่านี้น่าาา...  :o9:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2011 15:06:28 โดย pattybluet »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ carmel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เนื่องจากอ่านวันเดียวรวดเลย
เป็นการคอมมเม้นครั้งแรก
อยากจะบอกว่า เป็นนิยายที่ทำให้อินถึงขีดสุด
แอร๊ยยยยยยยย
มันเจ็บปวดรวดร้าวมาก
แต่ก่อนเคยเห็นแต่นายเอกเจ็บปวดเพราะรักพระเอกแต่เรื่องนี้
กลับกลายเป็นพระเอกต้องมาขอความรัก

สนุกมากๆๆเลยคะ ปูเสื่อรอตอนต่อไป
เมื่อไหร่ คาวีตะใจอ่อนซักทีนะ
รุ้มั้ยคนอ่านอย่างเราๆๆเจ็บหัวใจไปกับท่านชีคแล้ว
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ RenaBee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อยากให้เข้าใจกันเร็วๆ :sad4:

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
 :z3: :o12: :sad4:   มาม่ามากกกกกก   
อ่านไปก้อใจวูบๆตลอดเลย  อัลชาห์อย่าเพิ่งตัดใจเลยนะ 
 คาวี่ก้อรักเค้าเข้าแล้วไม่ใช่รึไงหนะ  รีบๆเข้าใจกันซักที :L2: :L2: :z3:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
มาลงชื่อตามอ่านด้วยคนค่ะ ยังตามไม่ถึงไหนเลย รายงานตัวไว้ก่อน +1 ก่อนค่า ไว้อ่านทันจะมาเม้นอีกทีนะคะ :3123:

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
รอคอย :m18:รอวันที่จะสมหวังกัน

ปูเสื่อนั่งรอค่ะ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line : 24  สับสนวุ่นวาย

        แสงตะเกียงส่องสว่างวูบไหวภายในห้อง ทำให้คนมองต้องหรี่ตาลงแล้วพับปิดดวงตาลง...หากแต่ก็ทำได้เพียงครู่ ก่อนจะเปิดขึ้นมามองกระโจมสีน้ำตาลขุ่นอีกครั้ง...คาวัลโลถอนหายใจเฮือก พลิกกายที่นอนอยู่บนม้านอนตัวเดิมเงี่ยหูฟังสรรพเสียงเบื้องนอก ที่มีเพียงเสียงหวีดของลมและเสียงร้องของสัตว์กลางคืนดังแว่วมา...

       ยกมือซ้ายมองดูรอยแผลพันผ้าก๊อซของตนเองแล้วถอนหายใจเฮือก นัยน์ตาที่เบิกค้างปวดรุมเพราะอยากนอนแต่นอนไม่หลับ..หลับตาลงก็ปวดหัวแต่ลืมตาขึ้นมาก็ปวดตา...ช่างเป็นทางเลือกที่ลำบากลำบนเสียจริง

      ถามว่าทำไมถึงมานอนตาค้างอยู่แบบนี้ คำตอบก็มีเพียงอย่างเดียว ก็คือว่าด้วยการหายตัว..ไม่สิ การเดินออกไปจากระโจมที่พักของท่านชีคอัลชาอ์เมื่อตอนใกล้เที่ยงคืน...ตอนนี้เวลาปาเข้าไปตีสี่กว่าๆเกือบใกล้เช้า...ยังไม่เห็นจะกลับมาเหยียบตรงนี้สักนิด

      รู้ล่ะว่าอย่างอัลชาอ์ไม่มีทางคิดโง่ๆประเภทเดินดุ่มๆออกไปกลางทะเลทราย ฆ่าตัวตายประชดรัก..แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี..อาจจะเพราะรู้ ว่าสาเหตุมันเป็นเพราะเขาด้วย...

นัยน์ตาสีน้ำทะเลปิดพับลงอีกครั้ง คาวัลโลยกปลายนิ้วกดลงตรงกระบอกตาที่ปวดระบมเบาๆ ริมฝีปากอ้าหาว แต่ง่วงยังไงก็หลับไม่ลง...

    ไม่มีหน้าไปเดินตามเพราะรู้ว่าด้วยสภาพแบบนี้เอาตัวไม่ค่อยรอด...และอีกอย่าง...อัลชาอ์คงไม่ต้องการเท่าไหร่..

      ในเมื่อตัดใจแล้ว...อ้าปากบอกให้ฝ่ายนั้นเลิกรักแล้ว ตัวเขาก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบเท่านั้น

    ....คาวัลโลรู้ดีว่าเขาเป็นคนใจร้าย...แต่ไม่ว่าเขาอยากจะทำหรือไม่ ยังไงเขากับอัลชาอ์ก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี

         จะว่างี่เง่าเห็นแก่ตัวยังไงก็เถอะ...เขายอมรับว่าตัวเองมันเป็นไอ้งี่เง่า ยอมรับว่าตัวเองเห็นแก่ตัว....ไม่รักแล้วยังไปให้ความหวัง ไม่รักแล้วยังไปหวั่นไหว...ไม่ว่าจะรู้สึกยังไง ปากก็ยังบอกว่าไม่รัก สมองก็พร่ำบอกแต่ว่าไม่รัก...ไม่รัก...

        ในใจจะรักหรือไม่...ยังไงก็ต้องไม่รัก

      ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะอย่างนั้นก็ต้องไม่รัก

      ไม่มีทางเข้าใจกัน ไม่มีทางยอมรับวิถีทางของกันและกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่รัก...

         ...จิตใจของมนุษย์น่ะมันแสนจะเเปลกประหลาด ถ้าต้องการให้อะไร"จริง"ขึ้นมา หากเฝ้าบอกตัวเองอยู่อย่างนั้น สักวันมันก็จะจริงขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

        วิธีคิดอย่างเดียวกับพวกที่สร้างโลกในจินตนาการขึ้นมาเพื่อหนีความจริงอันโหดร้าย ต่างกันเพียงแต่เขาเฝ้าบอกตัวเองแบบนี้...เพื่อที่จะตัดปัญหา...เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอะไรไปมากกว่านี้

         ใจคนไม่ใช่อิฐไม่ใช่หินขนาดของแบบนั้นยังมีวันผุกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับจิตใจของคนที่เป็นแค่ก้อนเนื้อก้อนเล็กๆ...

             คาวัลโลเม้มปากแน่น ถอนหายใจเฮือก ยามที่ความคิดจุกเร้าในสมอง...หัวใจปวดระบม..

         ..ภายนอกอาจจะมองเห็นว่าเขาไมาคิด ไม่หวั่นไหว...แต่ภายในใจ เขารู้ดีว่ามัน"หวั่น"มากแค่ไหน...

            แต่เพราะเขามันคนขี้ขลาด เพราะตัวเองเป็นคาวัลโล วาลกัส จึงได้แต่เฝ้าบอกตัวเองว่าไม่รัก จึงได้แต่พร่ำบอกตัวเองว่าไม่รัก...เหมือนแนวป้องกันสุดท้าย...วิธีป้องกันตัวเองจากเรื่องราววุ่นวายทั้งหลายที่จะตามมาเป็นพรวน..

                เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แค่คิด...ว่าหากรักแล้วจะเกิดอะไรขึ้น..แค่นั้น...เขาก็ไม่กล้าจะให้มันเกิดขึ้นแล้ว

         เพราะเขามีสังคมและมีคนรอบข้างมากเกินกว่าจะไม่สนใจอะไร...และเพราะสุดท้ายแล้วเขาเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะปล่อยให้อะไรหลุดมือไปได้ จึงต้อง"ตัด"อะไรเท่าที่มันจะตัดได้เสียก่อน..

          ....นัยน์ตาสีน้ำทะเลปรือต่ำ...คาวัลโลจ้องมองแสงไฟจากตะเกียง...มองมันแกว่งไกวสั่นไหวน้อยๆ...หากดวงตายิ่งมัวพร่า..

                 เมื่อต้องการจะเดินทางสู่อำนาจ.เมื่อต้องการจะเป็นบอสมาเฟีย..เมื่อต้องการอยุ่เหนือผู้คน จึงต้องไม่มีหัวใจ...

              เมื่อไม่ต้องการหัวใจ จึงต้องไม่มีความรัก...

          เพราะฉะนั้น...เขาจึงต้องไม่รัก..ไม่รัก...และ....ไม่รัก....เท่านั้น

             แกร่ก....

                    สายลมเย็นพัดวูบเข้ามาพร้อมกับเสียงผ้าปิดกระโจมถูกแหวกออก ทำให้นัยน์ตาสีน้ำทะเลหันไปมองทันควัน...คาวัลโลสบมองนัยน์ตาสีรัตติกาลที่จ้องมองมาทางเขา...ร่างสูงของท่านชีคแห่งเซเนียยายืนนิ่งจ้องมองตัวเขาด้วยสีหน้าที่บอกได้ว่าคงไม่ได้พักผ่อนเช่นเดียวกัน..

              คาวัลโลดันตัวลุกขึ้นนั่ง มองสบตาอัลชาอ์ที่สืบเท้ามายืนอยู่ตรงหน้า ด้วยสีหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง..ไม่ต้องบอกก็รู้...ไม่ต้องพูดก็เห็น สีหน้าที่บ่งชัดว่าตัดสินใจได้แล้ว..แววตาที่บ่งถึงความสงบนิ่งและไร้แววหวั่นไหว..

            " คุณคงมีเรื่องอยากจะบอกผม.." คาวัลโลเปรยขึ้นมาช้าๆ..ผ่านวินาทีที่เงียบสงบ...เขามองเห็นอัลชาอ์คว้าเก้าอี้มานั่งอยู่เบื้องหน้า..พร้อมกับทรุดกายลงอย่างเชื่องช้า..

            "...ก็ใช่...เรื่องข้อตกลงของเรา...." อัลชาอ์มองหน้าเขา ถอนหายใจเพียงแผ่วเบา..ก่อนจะยืนมือมาตรงหน้า..

            "...ผมจะบอกว่า...ข้อตกลงของเรายังคงเหมือนเดิม.." ใช่..เหมือนดิม...ตกลงในฐานะ "ผู้ร่วมแผนการณ์"...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

            "...ครับ...." คาวัลโลแตะปลายนิ้วทาบเข้ากับฝ่ามือหนา ...สัมผัสอุ่นวาบจากปลายนิ้ว...เพียงชั่วครู่หากหัวใจเสียดวาบ

             "...ที่ผ่านมา...ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณลำบากใจ.." ปลายนิ้ว..ฝ่ามือ..และความอบอุ่นนั่นผละออก...เหลือเพียงความเย็นของอากาศเบื้องนอกที่บาดผิว คาวัลโลชักมือกลับเขายิ้มให้ใบหน้าสงบนิ่งของชีคหนุ่ม..

             "..ผมด้วย..."ริมฝีปากเอ่ยตอบคำเบาๆ....เขาสบตาคู่นั้นเงียบๆ

             "....ขอสัญญาว่าจากนี้จะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีก..คุณจะได้ทำงานของตัวเองต่อได้อย่างสบายใจ..." อัลชาอ์ระบายยิ้มสุภาพบนใบหน้า คาวัลโลพยักหน้ารับช้าๆ...รู้ดี ว่านั่นหมายถึงความต้องการของเขาสมปราถนา...

         .....จะไม่มีอัลชาอ์คนโง่ที่เฝ้าหลงรักเขาอีกแล้ว..

              "....ครับ...อ้อ...จริงสิ......" คาวัลโลปรายตามองร่างสูงที่ผุดลุกขึ้นและผินหลังออกจากกระโจม ปลายนิ้วเขาสะกิดไหล่หนาให้ร่างนั้นหันกลับมาอย่างรวดเร็ว

   เพี๊ยะ!!

               "...ถ้าคุณบอกว่าจบ..ผมก็จะจบ...เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน..." คาวัลโลระบายรอยยิ้มบางในหน้า ฝ่ามือขวาร้อนผ่าวขณะที่มองรอยแดงบนฝ่ามือตัวเองลุกลามจากแรงกระทบผิวเนื้อ

              เขาจ้องมองสีหน้าของชีคแห่งเซเนียยาที่นิ่งขึงไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจเพียงแผ่วเบา..

               "...ผมไม่ชกคุณ...เพราะถ้าเห็นชัดๆมันคงไม่ดีเท่าไหร่.."แน่นอนว่าคาวัลโลไม่ลืม ว่าอัลชาอ์คือชีคผู้นำประเทศ "...และที่ผมไม่ตบหน้าคุณ...เพราะผมไม่คิด ว่าจะมีใคร"ดีใจ"ถ้าถูกทำแบบนี้.."

              "...ไม่เป็นไร...คุณทำถูกแล้ว..." อัลชาอ์ยิ้มออกมาบางๆ ขณะที่ก้มมองรอยตบอันไม่ปรากฏแผลที่ร้อนผ่าวใต้ผืนผ้า...

              "...เพราะตอนที่ผมทำ...ผมก็เจ็บตรงนี้เหมือนกัน.."

                    ลมหนาวพัดเข้ามาตามรอยแยกของผ้าปิดกระโจมที่เปิดกว้างอีกครั้ง..คาวัลโลจ้องมองชายเสื้อคลุมสีเข้มที่ลับไปก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เขาก้มมองฝ่ามือตัวเองที่แดงก่ำหลังจากออกแรงฟาดลงบนแผ่นอกซ้ายของอัลชาอ์เต็มแรง   

               เขามองมันแล้วเอ่ยถามตัวเอง......ศักดิ์ศรีที่เขายึดถือเยี่ยงชีพ มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ?..

                  มาเฟียหนุ่มทำได้เพียงยิ้มขัน...เขาทิ้งตัวลงบนม้านอน เงยหน้ามองตะเกียงที่ยังคงแกว่งไกวอีกครั้ง

             หยิบไม้กางเขนเงินที่ห้องอยู่บนลำคอมาจ้องมอง...คาวัลโลหลับตาลงช้าๆ....นึกถึงบ้าน นึกถึงครอบครัว...นึกถึงแกงค์ของตัวเอง คนเหล่านั้นยังมีคู่ มีคนรัก มีครอบครัว มีเพื่อนฝูง...ช่างแตกต่างกับเขา ที่ตอนนี้อยู่คนเดียวโดยแท้จริง...

                    ความเย็นของกางเกนเงินราวกับจะแผ่ซ่านมายังหัวใจ...ชั่วขณะหนึ่งเขาไพล่คิดไปถึงความอบอุ่นที่ได้จากฝ่ามือหนาและอ้อมแขนคู่นั้น  ทำได้เพียงยิ้มหยันเมื่อรู้ดี ว่าตัวเองได้ปัดมือนั้นทิ้งไปด้วยตัวเองแล้ว ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเพียงแผ่วเบา...พร้อมกับหยดน้ำตาที่ไม่เคยไหล ทิ้งตัวลงมากระทบผิวแก้มอย่างเงียบงัน

..............................................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
       อากาศวันนี้ค่อนข้างขมุกขมัวด้วยกลุ่มเมฆที่ก่อตัวหนาบดบังแสงแดด แต่มันไม่ได้ทำให้อากาศที่ร้อนอยู่แล้วเย็นลงเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับยิ่งอบอ้าวและมีลมพัดแรงกว่าเดิมจนฝุ่นปลิวคลุ้งไปทั่ว ท้องฟ้าที่แสงแดดถูกเมฆหมอกปกคลุมนั้นครึ้มทะมึนบวกกับฝุ่นทรายที่ยังคงปลิวคลุ้งทำให้สภาพโดยรอบนั้นราวกับมีหมอกหนาเรียกได้ว่าทัศนวิสัยที่แย่อยู่แล้วยิ่งแย่ไปอีกจนถึงขึ้นติดลบ

        แต่ทว่าบรรยากาศแบบนี้ดูจะเป็นที่ชื่นชอบนัก เพราะคาวัลโลสังเกตว่าเหล่าชาวทะเลทรายทั้งหลายมีสีหน้ายินดีไม่น้อยกับสภาพอากาศเช่นนี้...ชวนให้สงสัย...

       "..เป็นสัญญาณบอกว่าอีกไม่นานฝนจะตกน่ะ "รามิลเล่าด้วยสีหน้ายินดี " ถึงจะเสียดายที่เขื่อนยังไม่เสร็จก็เถอะนะ....นี่อากาศมืดมัวแบบนี้สักวันสองวันฝนก็จะมา "

       "...ยังกับพายุจะมามากกว่า "คาวัลโลเปรย เพราะถ้าที่อิตาลีเจอแบบนี้...คงได้แต่รีบแจ้นหลบในบ้านกันทันควัน

       " ก็อาจจะมี..ประเภทพายุทรายน่ะ...พัดเข้าเมืองตอนที่แล้งมากๆแต่ตอนนี้มีแค่แถบทะเลทรายเท่านั้นล่ะ " รามิลว่า ก่อนจะเปิดวิทยุหาคลื่นสันญาณอย่างเชี่ยวชาญ คาวัลโลมองตามแล้วพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะปรือตาปิดลงช้าๆอย่างง่วงงุน

       " กาแฟไหม?" น้ำเสียงถามดังขึ้นเบาๆจากข้างกาย คาวัลโลเปิดเปลือกตาขึ้นมองแก้วกาแฟที่ถูกยื่นมาตรงหน้า เขาเหลือบตามองคนถือเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัว

       " ไม่เป็นไร ขอบคุณ "เขาบอกปัดก่อนจะเอนพิงเบาะอีกครั้ง  ส่วนคนที่ยื่นแก้วให้เมื่อครู่ก็ไม่ได้เซ้าซี้หันไปจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงียบๆ..

          ชายหนุ่มเท้าแขนลงบนขอบกระจกรถ มองเหม่อไปด้านนอกทั้งที่มีเพียงเศษทรายปลิวว่อนให้ได้เห็น  มาเฟียหนุ่มอ้าปากหาวเบาๆ ยกปลายนิ้วกดเปลือกตาอย่างง่วงงุนไม่น้อย หลังจากคุยกันเมื่อคืนแล้วอัลชาอ์เดินออกไป พอตอนเช้าเดินมาเรียกเขาทานข้าวด้วยสีหน้าปกติ พูดคุยอย่างปกติ...และไร้ท่าทีทอดสนิทห่วงหา ปกติแบบที่ปฏิบัติกับ"บุคคลอื่นทั่วไป"อย่างที่เขาต้องการ

   ....เป็นอย่างที่ได้คุยกันเมื่อคืน...ใช่แล้ว...

  ...ในเมื่อเขาบอกให้อีกฝ่ายตัดใจ...นี่ก็เป็นการ"สนอง"ความต้องการของเขาแล้ว...

    ...อัลชาอ์ที่หลงรักเขาและเฝ้าดูแลใส่ใจ...ไม่มีแล้ว

    ตอนนี้มีแค่ชีคแห่งเซเนียยาและมาเฟียตระกูลวาลกัส...คนสองคนที่เป็น"หุ้นส่วน"ผู้ทำข้อตกลงร่วมกันเท่านั้น...

     พฤติกรรมของอัลชาอ์ไม่ใช่การนิ่งเพราะโกรธ ไม่ใช่การห่างเหินเพราะไม่พอใจ แต่เป็นแค่การ ลดระดับความสัมพันธ์เป็นแค่คนรู้จักที่ร่วมงานกันเท่านั้น..

    ต้องการแบบนี้เมื่อได้แล้วก็ไม่มีสิทธิ์จะบ่น ในเมื่อไม่ต้องการจะพิงต้นไม้ต้นไหนตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องมาอาลัยอาวรณ์ คุยกันด้วยเหตุด้วยผลแล้ว คุยกันดีๆแล้ว แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างก็รับตัวตนของกันและกันไม่ได้..คำตอบที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์แบบนี้ก็คือการถอยหลังกลับมาอยู่จุดเดิม...และใช้ชีวิตแบบเดิม เป็นตัวเองที่ไม่เปลี่ยนไป ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร...เช่นเดิม

      .....ความปราถนาของคาวัลโล วาลกัส ยังไงก็คือตำแหน่งบอสมาเฟียไม่มีวันเปลี่ยน ที่เขาควรจะสนใจตอนนี้คือความเคลื่อนไหวทั้งหมดต่างหาก

     ปลายนิ้วสีขาวยกเคาะกระจกหนาเบาๆ...และไล้ความเย็นเฉียบนั้นไปมาอุณหภูมิที่แทรกซึมมาตามผิดเนื้อบาดลึกเข้าไปในหัวใจ...ราวกับว่าเขากำลังสัมผัสหัวใจตนเองอยู่ก็ไม่ปาน

    ...โลหะเย็นยะเยียบที่แขวนอยู่ที่ลำคอชวนให้คิดถึงน้ำตาในยามย่ำเช้าของวัน.. นัยน์ตาสีน้ำทะเลจ้องมองดวงตาของตนที่สะท้อนมาอย่างเลือนรางภายใต้แสงอ่อนจางของท้องฟ้า....คาวัลโลได้แต่เตือนตัวเอง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง....บอกตัวเองเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ถึงหน้าที่ ภาระและสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย..

        ...ไม่มีเวลามานิ่งเงียบหรือเศร้าสร้อย ไม่มีเวลามาเสียดาย...อะไรที่ตัวเองทิ้งไปแล้ว

        อย่าทำตัวเหมือนไอ้โง่ราฟาเอลโร่ที่เขาด่ามันไปไม่นาน...อย่าเสียใจหากทิ้งมันไป อย่ามาเสียใจภายหลัง เพราะสิ่งที่ปล่อยมือไปแล้วไม่มีวันกลับมาอีก...

     ...ไม่มีวันเป็นเหมือนเดิมอีก

            คาวัลโลถอนหายใจเบาๆ...เมื่อชักจะ....รู้สึก เข้าใจราฟาเอลโร่ขึ้นมานิดหน่อย..

         เพราะคนเรา ถึงออกปากว่าจะทิ้ง ถึงพูดว่าจะไม่อาลัยอาวรณ์มันก็ใช่จะทำได้ทันที...

        ...และนี่อาจจะเป็นความรู้สึกของอัลชาอ์ ยามที่ถูกเขาต่อว่าต่อขานด้วย..ใช่ไหม?

          อย่างนี้ก็คงไม่ต่างกัน..กรรมตามสนองสินะ...

         "...กลับไปขอโทรไปทางโน้นได้ไหม" คาวัลโลออกปากร้องขอ หลังจากนิ่งคิดไปชั่วอึดใจ..

         " ....เรื่อง? " น้ำเสียงถามกลับสั้นๆพร้อมกับแววตาหรี่เล็กลงเชิงจับผิดทำให้คนถูกมองกระพริบตาปริบๆ

         " ก็...ราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้...." มาเฟียหนุ่มเอ่ย สบนัยน์ตาที่ฉายแววเด็ดขาดจ้องมองมาแบบที่ไม่ได้เห็นมานาน...นานนับแต่อัลชาอ์เริ่มจะแสดงออกความรักแบบออกนอกหน้า

          "....สอบสวนยังไม่เสร็จ ไม่อนุญาติ " ว่าแล้วคนพูดก็ยกกาแฟขึ้นจิบ สีหน้าเรียบเฉย

          " โถ่....ก็เผื่อถามทางโน้น....."

          " ...."ทางโน้น" ไม่ได้มีตัวประกันเหมือนทางนี้ คาวัลโล "นัยน์ตาสีดำสนิทปราดมองอย่างไม่อ่อนข้อ...คาวัลโลเหลือกตาขึ้นมองเพดานรถ...เมื่อ ความเหนื่อยยากในการต่อรองกับอัลชาอ์และการขออะไรๆมันเริ่มจะกลับมาอีกครั้ง

          ".......ทางโน้นก็ไม่ได้โง่พอจะไม่รู้ว่าคนของตัวเองหายไป " แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคร่ำครวญหวนไห้อะไรให้เสียเวลา คาวัลโลก็แค่ต้องปรับตัว..เท่านั้น..

          "...นั่นยิ่งไม่ควรติดต่อไปใหญ่ "

          "...ก็ผมมีสาย.."คาวัลโลว่าก่อนจะพ่นลมหายใจพรู "เชื่อเถอะว่าไม่นานพรรคพวกของเจ้าสองคนนั้นต้องพยายามบุกมาถึงที่นี่แน่ รู้เรื่องกำลังคน อาวุธ ไว้ก่อนไม่ใช่เรื่องเสียหาย "

          "....คุณ"สามารถ"รู้ได้ถึงขนาดนั้น? "นี่มันกำลังด่าว่าเอ็งคิดว่าแน่มาจากไหนใช่ไหม? คาวัลโลหน้าเบ้ เมื่อคืนไม่ได้นอนแถมตอนนี้ยังง่วงและปวดหัวขึ้นมาจี๊ดๆ...

          "...อย่างน้อยก็รู้ก่อนที่พวกนั้นจะยกกันมาแถวนี้แล้วกัน...อีกอย่างสินค้าล๊อตล่าสุดที่คุณสั่งไปกำลังมา..." มาเฟียหนุ่มหรี่ตาลงช้าๆก่อนจะยักไหล่.. "ประจวบเหมาะเกินไป..."

          "...แค่นั้น..."

         "...และเรื่องที่......"

               อัลชาอ์ยกมือขึ้นเป็นเชิงให้หยุดพูดเมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชีคหนุ่มกดรับพลางพูดภาษาอารบิกใส่ปลายสายอย่างเคยคุ้น คาวัลโลทำได้เพียงนั่งนิ่งมองอัลชาอ์คุยกับปลายสาย และต่อจากนั้นก็หันไปคุยกับรามิลและราเซย์ แน่นอนว่าคนทั้งสามใช้ภาษาอารบิกซึ่งคาวัลโล วาลกัส ชายชาวอิตาเลียนไม่แม้แต่จะรู้ว่ามันออกเสียงยังไงเสียด้วยซ้ำ...มาเฟียหนุ่มลอบถอนใจ หากเขาก็ทำได้เพียงแค่รอ..และไม่ได้ออกปากท้วงให้ใครมาอธิบายให้เขาฟังเหมือนทุกที...รู้ชัดว่าจากการกระทำของอัลชาอ์มันบอกชัดว่าเขาไม่มีสิทธิ์จะรับรู้...และเขาก็ไม่ใช่"คนแรก"ที่สมควรจะได้รับการใส่ใจอีกแล้ว..

        ...สถานะเปลี่ยนไป...ความสัมพันธ์การวางตัวและอื่นๆก็ต้องเปลี่ยนไปตาม

...ต่อจากนี้เขาก็ไม่ใช่คนสำคัญของชายหนุ่มอีกต่อไป..

คาวัลโลบอกตัวเอง...ขณะที่จ้องมองอากาศขมุกขมัวภายนอก ที่ไม่ต่างอะไรกับหัวใจของเขานัก..

..................................................................

       อเล็กเซย์ จิโอวานนี่ วาลกัส นั่งมองพี่ชายฝาแฝดผู้ควบตำแหน่งคนรักนั่งหน้านิ่วใส่"โทรศัพท์มือถือ"ของตัวเองอย่างประหลาดใจนัก ขณะที่เขากำลังเขวี้ยงจานพลาสติกออกไปจากมือเป็นรอบที่ร้อย และเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้สีขาวตัวโปรดผู้เริงร่านามว่า"เชอรี่"ของเขาก็วิ่งไปคาบมันมาเป็นรอบที่ร้อยกว่าๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงเห่าของเจ้าเชอรี่ดังขึ้นติดๆกันสามสี่ครั้งเพื่อเรียกร้องเอารางวัลจากมืออเล็กซิสก็ยังไม่ทำให้ชายหนุ่มหันไปหา และยังคงยืนนิ่ง จ้องโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าเคร่งต่อไปอย่างน่าสงสัยหนัก

         เขาเอื้อมมือไปกระตุกชายเสื้อเชิ๊ตของฝาแฝดไม่เบานักเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวเสียหน่อย และอเล็กซิสรู้ตัวในที่สุด ว่าเจ้าเชอรี่กำลังจะกระโดดงับมือตัวเองข้างที่ถือกล่องขนมไว้ล่อสุนัข เพราะงั้นเขาเลยโยนให้มันทั้งกำ

นัยน์ตาสีฟ้าสวยมองเจ้าหมาโง่ที่วิ่งร่าไปกินขนมที่ถูกโยนลงบนพื้นหญ้าด้วยสายตาระอาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมามองชายผู้ยังจมจ่อกับมือถือขจองตัวเองไม่เลิก...

        "....อยากซื้อมือถือใหม่เหรอ? อเล็ก" นั่นไม่ใช่คำถาม แต่เป็นคำขู่กรายๆที่อเล็กซิสรู้ดี  ที่สุดแล้วชายหนุ่มจึงยอมยัดมือถือใส่ในกระเป๋ากางเกง เพราะรู้ว่าหากมันขวางหูขวางตาอเล็กเซย์ผู้ที่ตอนนี้ชักจะหงุดหงิดขึ้นทุกวันแล้วล่ะก็..ได้กลายเป็นเศษซากใต้ล้อรถเข็นแน่ๆ...

        " มองอะไรนัก รอใครโทรมากัน? " คนป่วยที่ถูกเมินหน้านิ่ว ออกปากซักไซ้

       "...อ่า...ก็คาร์โลไง มันบอกว่าไปถึงแล้วจะโทรมา ยังไม่เห็นโทรมาเลย "

       " ...แหม ไม่นึกว่านายจะห่วงน้องเสียขนาดนี้ .....แต่โทษทีนะ เจ้าคาร์โลมันโทรมาหาฉันตอนมื้อเช้าแล้วไง" อเล็กเซย์เอ่ยถึงน้องชายผู้ต้องเดินทางกลับกรุงนิวยอร์คด่วน ด้วยเรื่องงานวิจัยที่มีปัญหา

      "..เอ่อ....."อเล็กซิสมีสีหน้าชะงักชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มบาง " ก็....แบบว่าฉัน...."

      "รอใครติดต่อธุระอะไรมาล่ะ..." นัยน์ตาคู่นั้นหันมามอง..นิ่งๆ ไม่ได้ข่มขู่...แต่ชวนหนาวไขสันหลังชอบกล..

       "...มันเรื่องงาน...." อเล็กซิสตอบเบาๆ อยากจะบอกคนรักว่ากำลังรอการติดต่อจากน้องชายที่ตายไปแล้วคนนั้นอยู่ อยากบอกให้อีกฝ่ายรู้นักหนาว่าควัลโลมันยังไม่ตาย อยากให้พ่อแม่และน้องสาวรู้ บ้านเขาจะได้ไม่อึมครึมหมองเศร้าเหมือนอยู่ในป่าช้าแบบนี้...แต่ก็เพราะสัญญาและเรื่องราวทั้งหลายนั้นหละ เขาถึงไม่อาจจะบอกได้..

      " ไม่มีกะใจมาพักก็ไปทำงานซะไป..."คนป่วยตาขวางใส่อย่างรวดเร็วอเล็กซิสบีบไหล่ของคนรักเบาๆให้แฝดน้องคลายอาการหงุดหงิด

      " ขอโทษ...." เขากระซิบบอก...รู้ดีว่าที่อเล็กเซย์ทำตัวดื้อดึงชอบพาลแบบนี้ก็เพราะหงุดหงิดจากอาการป่วยของตัวเอง..ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะโกรธ..

      "...ทำไมเอาแต่...ยุ่ง...ไม่สนใจฉัน..." ถ้อยคำตัดพ้อริมฝีปากสั่นไหวเรียกให้หัวใจหนักอึ้ง...อยากจะบอกเรื่องราวยุ่งยากใจกับคนรัก...แต่ว่า...

      "...นายก็รู้ เซย์....ว่าฉันต้องเคลียร์งานบริษัทด้วย ของแกงค์ด้วย.."

       ".........."ฝ่ามือที่วางอยู่บนพนักรถเข็นเกร็งขึ้นพร้อมกับกำแน่นทันควัน อเล็กเซย์หรุบตาต่ำ...เหลือบมองเสี้ยวหน้าของฝาแฝด..

       "...ที่นายจะรับตำแหน่งบอส...จริงรึเปล่า...อเล็ก.."

       "....ใช่....."น้ำเสียงรับคำแผ่วเบา...อเล็กเซย์เสมองเจ้าหมาไซบีเรียนบ้าพลังจอมซื้อบื้อของตัวเอง ก่อนที่ปลายนิ้วจะจับล้อรถเข็นผลักร่างตัวเองไปใกล้มันอย่างเชื่องช้า

      " งั้นไม่เป็นไร...ไปดูงานเถอะ...ฉันไม่กวนล่ะ...."

       "....เซย์...." อเล็กซิสถอนใจ เดินตามหลังคนรักด้วยท่าทีอึดอัด รู้ดีว่าอเล้กเซย์กลัวอะไร และกำลังกังวลเรื่องไหน...แต่ว่า...สำหรับเขาแล้วเรื่องนี้มัน.
..
        "...คุณชายอเล็กซิสครับ! " น้ำเสียงเร่งร้อนของคนสนิททำให้หัวคิ้วขมวดมุ่น อเล็กซิสหันไปมองร่างในชุดสูทที่เดินมาหา ก้มกระซิบข้อความบางอย่างที่ทำให้เขาเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงไม่น้อย

        "...เซย์...ฉัน...."

        "..อืม...ฉันรู้ว่ามีเรื่องด่วน ไปเถอะ..." อเล็กเซย์รับคำแผ่วเบา เขารู้สึกถึงอ้อมแขนที่ตวัดกอดร่างตนพร้อมกับริมฝีปากที่โฉบผิวแก้มเพียงชั่วครู่ ก่อนร่างของคนรักจะเดินก้าวยาวๆเข้าไปในตัวบ้านอย่างเร่งร้อน

            ร่างของคุณชายคนรองของบ้านนั่งอยู่ในสวยสวยกับเจ้าหมาตัวโปรด นัยน์ตาสีฟ้าสวยมองตามแผ่นหลังของคนรัก ก่อนที่อเล็กเซย์จะถอนหายใจออกมาแผ่วเบา..

        นิ่งคิดถึงคำพูดของน้องชายคนสนิท...อเล็กเซย์เวี้ยงจากหมุนออกไปอีกครั้ง จ้องมองเจ้าเชอรี่วิ่งแจ้นไปคาบมันมา...นัยน์ตาฉายแววครุ่นคิด..

        สุดท้ายเรื่องมันก็วนกลับมาแบบเดิม..

        ที่เขาเคยต่อสู้มันไป มีผลอะไรบ้างรึเปล่า?

        ปากบอกว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก...แต่มันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมจนได้..

         ....เหมือนเดิมที่อเล็กซิสรับปากจะเป็นบอส เหมือนเดิมที่เขากลายเป็นตัวเกะกะ..เหมือนเดิม ที่ไม่นานเขาก็จะต้องไป

         ...อเล็กเซย์รู้ดี เขาไม่ได้มั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้น...เพียงแต่ทำใจไว้แล้ว ว่าสักวันมันต้องเป็นแบบนี้ต่างหาก

...........

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
   ..นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น !

    อเล็กซิสกัดฟันกรอด ฝ่ามือกำแน่นนัยน์ตาจับจ้องเอกสารตรงหน้าพร้อมกับเงี่ยหูฟังรายงานจากปากลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าเครียดเคร่งขึ้นเรื่อยๆ..

      ..ทำไมถึงเป็นแบบนี้

           ชายหนุ่มครางในลำคอเสียงเบา รู้สึกอยากจะยกมือขึ้นมากุมหัวแล้วทึ้งผมตัวเองให้สาสมกับเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้น แต่อเล็กซิสก็ทำได้เพียงโบกมือไล่ลูกน้องออกจากห้องและนั่งรอการมาถึงของชายผู้เป็นคำตอบของทุกอย่างด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แม้ในใจจะเดือดพล่านด้วยความร้อนรนและไม่เข้าใจ...

      นัยน์ตาสีฟ้าเข้มก้มมองโทรศัพท์มือถือของตนแล้วครางเบาๆในลำคอ เมิ่อนึกไปถึงเจ้าน้องชายที่ควรจะติดต่อมา แค่นึกว่ารู้เรื่องแล้วมันจะทำหน้าแบบไหน ยังไง เขาก็แทบจะอยากทึ้งหัวตัวเองอีกรอบให้รู้แล้วรู้รอด...

       แม้จะเข้าใจว่านี่มันเป็นเรื่องของคนหลายคน แต่"มติ"ที่ออกมาแบบนี้ มันต้องทำให้คาวัลโลไม่พอใจแน่ๆ ถึงแม้จะด้วยข้อแม้ที่ว่ามัน"ตาย"ไปแล้ว แต่คนตายกระดูกยังไม่ทันฝัง พิธีศพก็ยังไม่ได้จัดการ ตรวจดีเอ็นเอไอ้ศพที่ไม่ใช่มันยังไม่เรียบร้อย แล้วจะมาตั้งเขาเป็น"บอส"ทันทีที่คาวัลโลมันตายได้ยังไง ที่เขารับปากว่าจะเป็น ก็เพราะรู้ว่าคาวัลโลยังไม่เป็นอะไร และถือโอกาสนี้ช่วยน้องชาย แต่พวกผู้บริหารระดับสูงในแกงค์ กลับพากับยกตำแหน่งให้เขาแบบถาวร..กระทั่งจะจัดให้มีการสาบานตนทั้งที่ยังไม่รู้ผลการตรวจเสียด้วยซ้ำ... ให้มันได้อย่างนั้นสิ

      แอ๊ด...

       เสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้เป็นลุงที่เดินเข้ามาทำให้อเล็กซิสหันไปมอง เขาสบมองนัยน์ตาของ เฟเดริโก้ วาลกัส ชายผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแกงค์หรือบอสคนปัจจุบันของวาลกัสด้วยสายตาแสดงความไม่พอใจและไม่เข้าใจอย่างชัดเจน ...ขณะที่เฟเดริโก้ทรุดตัวลงนั่งแล้วยิ้มให้กับท่าทีมึนตึงของเขา

          "...คิดว่าหลานคงอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น " เฟเดริโก้เปิดฉากถาม

          " ครับ....เชิญคุณลุงอธิบาย " อเล็กซิสออกปากเสียงเรียบ พลางกอดอกแน่น

          " ...ผลการตรวจออกมาแล้ว...ว่านั่นคือศพของคาวัลโล..." คำพูดนั้นทำให้หัวคิ้วของคนฟังขมวดเข้ากันแน่นขึ้น...อเล็กซิสจ้องมองใบหน้าของคนเป็นลุงด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ มันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะคาวัลโลมันยังมีชีวิตอยู่..ไอ้การเอาเลือดหรือรอยนิ้วมือไปทำอะไรกับศพนั้นเป็นการปลอมแปลงชั้นดีจริง แต่ถ้าจะตรวจจากกระดูก หรือฟัน...มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ผมจะออกมาว่าใช่

           "...การตรวจยืนผลสามเดือนไม่ใช่หรือครับ? " เขาถามออกไป

           " ตอนนี้เรารอไม่ได้แล้ว..ข่าวออกมาแล้ว แกงค์อื่นกำลังเตรียมจะถล่มเรา...ดังนั้น...ตอนนี้เราเลยต้องจัดเตรียมอะไร....."

           " ผมถามว่าผลการตรวจจะออกยืนยันชัดเจนได้สามเดือน แล้วทำไมคุณลุงถึงทราบว่ามันเป็นศพคาวัลโล...ทั้งที่ส่งไปตรวจในแล็บได้แค่สามอาทิตย์ " อเล็กซิสสวนคำไม่ยอมฟังผู้เป็นลุงพุดจนจบ เขาจ้องหน้าเฟเดริโก้นิ่ง แววตาไม่พอใจ

           "....ลุงรู้ว่าหลานกำลังหวัง...."เฟเดริโก้ถอนหายใจเบาๆ "รู้ดีว่าการเสียคนในครอบครัวไปใช่จะทำใจได้ง่ายๆแต่ตอนนี้เราต้องเตรียมการ..."

           "...ผมอยากทราบคำตอบ...."

          "...วิธีตรวจพิเศษ ดูจากประวัติการทำฟัน " เฟเดริโก้ยอมตอบในที่สุด เมื่อหลานชายออกปากคาดคั้นอย่างไม่ยอมแพ้

          "...ศพนั่นถูกเลาะฟันออก " อเล็กซิสจ้องหน้าลุงของตนเขม็ง "วิธีที่ตรวจได้คือดีเอ็นเอจากศพเท่านั้น...คุณลุงไม่มีสิทธิ์จะมาตัดสินว่านั่นคือศพของคาวัลโลจริงรึเปล่า...ตราบใดที่ผลไม่ออกมา "

         "...ก็ใช่..."เฟเดริโก้พยักหน้าด้วยสีหน้าอิลักอิเหลื่อ " แต่ตอนนี้มันไม่มีเวลา ลุงเลยจัดการให้ตรวจจากประวัติการทำฟันก่อน ถึงจะถูกเลาะฟันออก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าจะตรวจก็ทำได้ "

          "..พอผลออกมา...ก็เลยลงมติตั้งผมเป็นบอส...ทำไมต้องรีบขนาดนั้นครับ ในเมื่อคุณลุงยังอยู่ต่อได้อีกนาน " โกหกชัดๆ ...อเล็กซิสไม่มีทางเชื่อว่าหมอจะตรวจพลาด..แต่ที่บอกว่าใช่ มันต้องเป็นแผนของใครสักคนแน่ๆ

         "....ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ...เราต้องเตรียมการล่วงหน้า " เฟเดริโก้ยักไหล่ สีหน้าไม่หยี่ระ

         " ไม่ใช่เรพาะรอโอกาสนี้มานานหรอกหรือครับ? " อเล็กซิสจ้องหน้าผู้เป็นลุงเขม็ง

          "...พูดอะไร...อย่ามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้นอเล็กซิส...ลุงก็พอรู้ว่าหลานไม่พอใจเรื่องเมื่อสามปีก่อนอยู่มาก...แต่....ตอนนี้มันไม่ใช่..."

          " แล้วถ้าคาวัลโลยังมีชีวิตอยู่ ไม่คิดบ้างหรือครับ ว่ามันจะทำให้เขาไม่พอใจแค่ไหน "อเล็กซิสซักต่ออย่างไม่ยอมแพ้ " ตามกฏ ตามประเพณี หรือกระทั่งตามมารยาท...ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ คาวัลโลตาย...หรือหายสาบสูญไป ผลการตรวจยังไม่แน่ชัด ไม่มีคนสอบสวนพวกที่รอดชีวิตจากการปะทะครั้งนั้นไม่พอ...ยังจะมาตั้งผมเป็นบอสใน"เกือบ"ทันทีอีก...เข้าใจผิดอะไรไปรึเปล่าครับ...ผมยอมรับเป็นผู้ดูแลเรื่องทั้งหมด ไม่ใช่เพราะอยากเป็นบอส...แต่เพราะอยากปกป้องครอบครัวของผม และล้างแค้นให้กับน้องชายของผม..."

            " เรื่องพวกนั้น ไม่มีตำแหน่งบอส ทำไม่ได้ "เฟเดริโก้ยิ้มเย็น...สบตาหลานชายเงียบๆ

             " ผมรู้ แต่ไม่ใช่หน้าที่อะไรที่คุณลุงจะมายกให้...ผมมีความสามรถที่จะทำมันได้โดยไม่ต้องพึ่งตำแหน่งผู้นำอย่างเป็นทางการ...ของแบบนั้น เก็บไว้ให้คนที่อยากได้เถอะครับ "

            " คนอยากได้...มันไม่อยู่แล้ว...ถึงต้องมอบให้คนที่มีความสามารถที่สุด นี่เป็นมติของทุกคนในที่ประชุม อเล็กซิส " เฟเดริโก้ วาลกัส สบตาหลานชายหยักยิ้มเย็น

             "...ผมไม่รับ จนกว่าผลจะออกมาแน่ชัด..."

            "....จะรอให้ผลแน่ชัด...หรือจะรอให้เรากลายเป็นเป้าหมาย...ก็เลือกเอา หลานรัก " เฟเดริโก้ตบบ่าหลานชายพลางบีบเบาๆ นัยน์ตามองไปยังสวนหน้าบ้านพร้อมรอยยิ้มบาง

            "..ตอนนี้ทั้งบ้านก็เหลือแค่หลานกับอเล็กเซย์ที่ป่วย อเล็กซานดร้าที่เป็นผู้หญิง ส่วนคาร์เฟโร่กับอลิสก็กำลังอยู่ในช่วงทำใจจาการสูญเสีย...และลุงก็คิดว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะมาทำสงครามกับพวกอื่นๆอีกแล้ว....ใครที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำในเหตุการณ์นี้...หลานก็รู้ตัวดี "

              " อย่างน้อย ก็เพื่อปกป้อง"คนสำคัญ"ของตัวเอง"

                  แรงบีบที่ไหล่หนักขึ้น พร้อมกับสายตาของผู้เป็นลุงที่จับจ้องไปยังสวนหน้าบ้าน อเล็กซิสมองตาม ...ก่อนจะตัวเย็นวาบเมื่อมองเห็นสายตาของผู้เป็นลุง จับจ้องไปยังร่างของแฝดผู้น้องนั่งอยู่บนรถเข็นกับเจ้าสุนัขตัวโปรด..


            " เรื่องคาวัลโล...ต่อให้มันรอดชีวิต...คนที่พ่ายแพ้ไปแล้ว..ก็ไม่มีสิทธิบ่ายหน้ากลับมา..."


         คำพูดนั้น ทำให้คนฟังหันไปจ้องหน้าผู้เป็นลุงด้วยสีหน้าตกตะลึง อเล้กซิสเม้มปากแน่น มองร่างในชุดสูทสีดำสนิทที่เดินออกไปจากห้อง เขารู้จักลุงของตนมาตั้งแต่เกิด แต่เพิ่งมารับรู้ ถึงความโหดเหี้ยมของชายผู้อยู่ในเส้นทางของ"มาเฟีย"ก็วันนี้...

       นัยน์ตาสีฟ้าเข้มจับจ้องโทรศัพท์มือถือของตนเขม็ง...จากที่เคยภาวนาให้น้องชายโทรมาเร็วๆ แต่ตอนนี้ อเล็กซิสนึกอยากให้เจ้าตัว"ลืม"ไปเสียว่าจะต้องโทรมาหาเขาเสียด้วยซ้ำ

      ...เพราะไม่รู้จะบอกน้องชายยังไง...ว่าท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวก็เป็นแค่.....คนที่ถูกใช้แล้วทิ้ง...

           ชีวิตและร่างกายที่คาวัลโลทุ่มเทลงไป...มันเปล่าประโยชน์

.....................

            เดินลงมาจากรถที่เข้าจอดยังหน้าพระราชวังที่ทัสคานีอีกครั้ง คาวัลโลเดินตามหลังสองพี่น้องเซย์ฮามัค เขามองเหล่าสาวๆนางกำนัลที่มารอรับอัลชาอ์ มององค์รักษ์ที่ตั้งแถวรอแล้วยิ้มบางๆด้วยความรู้สึกราวกลับได้กลับบ้าน

           "...ท่านพี่อัลชาอ์ " ร่างของเจ้าชายฟาลซาอ์เดินดุ่มออกมาต้อนรับมีสีหน้ายิ้มแย้ม...คาวัลโลจ้องมองเจ้าชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นน้องบุญธรรมของชีคแห่งเซเนียยาด้วยสีหน้าใคร่รู้

         รามิลและราเซย์เข้าไปยืนทักทายด้วยตามมารยาทคาวัลโลก็ยื่นมือจับทักทายอีกฝ่ายเช่นกัน ก่อนที่คณะผู้ติดตามทั้งหลายจะเดินเข้าไปในห้องโถงโอ่อ่าเพื่อจะแยกย้ายไปอาบน้ำแล้วลงมาทานอาหารเที่ยง

            "...ท่านพี่ครับ..วันนี้มีแขกมาเยือนไม่ทราบว่าท่านสะดวกจะเจอเขาไหม? "  จู่ๆฟาลซาอ์ก็ออกปากพูด แน่นอนว่าเป็นภาษาอาหรับ แต่คงเป็นประเด็นที่น่าสนใจเพราอัลชาอ์ฟังแล้วขมวดคิ้ว

            " ใคร..? "

            "..เอ่อ....เขามาตามที่ท่านเคยอนุญาติไว้นะครับ ...แต่ไม่ทราบว่าอยากให้มาพบตอนนี้รึว่า..." ฟาลซาอ์ยังทำท่าเหมือนกุมความลับของชาติไว้อยู่ แถมยังเหล่มองมาทางตนทำให้คาวัลโลขมวดคิ้วมุ่นอย่างอยากรู้ตามไปด้วย

            " แล้วใครมากัน..." ชีคหนุ่มขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มตึงขึง

            "...ที่ผมโทรไปแจ้ง..."

           "..อ้อ....บอกเขาด้วยว่าฉันเชิญทานอาหารกลางวันด้วยกัน..จัดห้องพักให้เขารึยัง? " ชีคหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง

           "...แน่ใจหรือครับ? " เจ้าชายหนุ่มชักสีหน้าลังเล..

           "..ตามที่ผมสั่ง...เชิญ...." นัยน์ตาสีนิลฉายแววหงุดหงิด ทำให้เจ้าชายหนุ่มนิ่งเงียบ ส่วนคาวัลโลกระพริบตาปริบๆ...ด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่อง

           "..เอ้อ...ตกลง...เมื่อกี้คุยอะไรกัน? " คาวัลโลออกปากถามฮาซานที่กำลังยกกระเป๋าเดินนำเขาเงียบๆ...

           "...มีแขกของชีคมาหา.." ฮาซานตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักที่จัดเตรียมไว้...คาวัลโลอ้าปากจะทักว่าผิดห้อง..แต่ก็นึกได้ ว่าเขาไม่ควรจะอยู่ห้องเดียวกับท่านชีคแห่งเซเนียยาอีกต่อไป..

                  นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองห้องพักขนาดกลางที่ตกแต่ออกมาอย่างดีแล้วก้าวเท้าเข้าไป...ก็ยังดีที่มันไม่ใช้ห้องหวานแหววห้องเดิม..

            "...รบกวนเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วสักครู่ผมจะมาตามไปทานอาหาร "ฮาซานบอก พร้อมกับปิดประตูห้องลงช้าๆ..

           คาวัลโลนั่งลงบนเตียงนุ่ม ปูผ้าสีน้ำเงินเข้มเรียบหรู...ปลายนิ้วไล้ตามแนวเรียบของตะเข็บอย่างใจลอย...จมูกรู้สึกตื้อขึ้นมากะทันหัน

         เพราะอะไรไม่รู้ เขาถึงอึดอัดและอยากจะร้องไห้ขึ้นมารำไร..

......

            ไม่ต้องรอฮาซานเคาะประตู พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขาก็เดินดุ่มออกมาจากห้อง คาวัลโลมองซ้ายมองขวา ไม่เห็นหน้าองค์รักษ์หน้าตายอยู่แถวนี้ แต่ก็ช่างปะไร ในเมื่อเขาเดินไปได้อยุ่เเล้ว

              "..นี่คุณ...." เสียงทักจากด้านหลังทำให้ต้องหันไปมอง คาวัลโลมองหน้าคนทักก่อนจะเลิกคิ้วสูง

                  การแต่งตัวอย่างยุโรปของอีกฝ่ายชวนให้แปลกใจได้มากพอสำหรับสถานที่แบบนี้ แต่หน้าตาทาทางนี่สิน่าสนใจกว่า คาวัลโลมองสบตาชายหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวอ่อน เส้นผมสีชาที่มองสบตาเขาด้วยรอยยิ้มพราวระยับ ใบหน้าที่บอกไม่ได้ว่าแก่หรือหนุ่มกว่าตนสักกี่มากกี่น้อยเอียงคอมองเขาอย่างร่าเริง นัยน์ตาหวานเจ้าชู้ไม่น้อย อีกทั้งใบหน้าสวยมีสเน่ห์...สรุปได้ว่าดุดีนับแต่หัวจรดเท้า...ชวนให้ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน

       ....หรือว่านี่....

               " สวัสดีครับ...ผมโรเบิร์ต..โรเบิร์ต ชอว์ตัน ยินดีที่ได้รู้จัก..." พออีกฝ่ายยื่นมือมาให้พร้อมยิ้มร่าแบบนั้นจะทำหน้ามึนไม่สนใจก็ชักจะใจร้ายไปหน่อย คาวัลโลเอื้อมมือสัมผัสปลายนิ้วอีกฝ่ายและหยิบหน้ากากชายหนุ่มแสนดีมาใส่อย่างรวดเร็ว

              "...ครับ...สวัสดี ผมชื่อคาวัลโล เตอเกียเร่.." คาวัลโลมองหน้าชายหนุ่มพร้อมกับภาวนาอยู่ในใจ ขอเถอะ...หมอนี่ อย่าได้รู้จักหรือจำหน้าเขาได้จากนิตยสารแท๊ปลอยด์หรือป้ายประกาศจากไหน...ขอทีเถอะ...

              "...คุณเป็นแฟนของอัลชาอ์เหรอ? "คำถามแรกที่ดังขึ้นทำเอาสะอึกอึ๊ก...คาวัลโลชักสีหน้าเหยมองหน้ามิสเตอร์โรเบิร์ตนี่อีกที พร้อมกับส่ายหน้าวืด

              "...เปล่า...เอ่อ...ผมเป็น "อยากจะบอกว่าผู้ชายตรงหน้ายังเหมาะสมจะเป็นแฟนอัลชาอ์มากกว่าเขาเสียอีก ทั้งเมื่อกี้ที่เดินออกมาจากห้องของท่านชีคไม่ใช่รึ

               "...เขาเป็นที่ปรึกษาของอัลชาอ์น่ะ..." ฝ่ามือตะปบเข้าที่ไหล่อีกที่ ก่อนน้ำเสียงเริงร่างของคุณชายรามิล เซฮามัคจะดังขึ้นเบื้องหลัง

                " อ้อ.....ฮาย รามิล...ไม่เจอกันนาน..." โรเบิร์ตพยักหน้าทักทายรามิลพร้อมกับกอดคออีกฝ่ายทันควัน...คาวัลโลรีบขยับตัวให้ห่างจากร่างชายหนุ่มทั้งสอง แขวนค้างอยู่กลางเรื่องด้วยความงวยงงไม่น้อย

                 "...คุณคงไม่รู้จัก...คาวัลโล นี่โรเบิร์ต...อ่า....เพื่อน"สนิท"ของอัลชาอ์น่ะ..."ลงท้ายคำว่าสนิทเสียชวนคิด ..คาวัลโลมองหน้าคนพูดอย่างกังขา

                "บอกว่าเป็นแฟนเก่าก็ได้..ผมไม่ถือ..." หนุ่มหล่อเบื้องหน้าหัวเราะขำอย่างไม่ซีเรียสนัก...คาวัลโลฟังแล้วพยักหน้า...คิดไปถึงข้อมูลที่ฮาซานบอกว่าอัลชาอ์ไปอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก...และอืม...สเปกของท่านชีคคงประมาณนี้..หน้าตาโซนยุโรป ผมสีทอง ตาสีเขียวไม่ก็ฟ้า...หน้าตาดี อะไรเทือกนี้..

                 " ตอนผมมาฟาลซาอ์บอกว่าอัลชาอ์มีแฟนใหม่แล้ว นึกว่าเป็นคุณเสียอีก...แหม เล่นเอากลัวแทบแย่ว่าจะมาขัดจังหวะ "โรเบิร์ตหัวเราะร่า พูดคุยกับรามิลด้วยท่าทีสนิทสนม

                 "...ฮ่ะๆ...คงจะโดนอำมาล่ะมั้ง...ฟาลซาอ์ก็ขี้เล่นแบบนี้ล่ะ " รามิลหัวเราะรับ  ก่อนจะหรี่ตาลงด้วยท่าทีล้อเลียนหน่อยๆ "แล้วนี่....คุณแอบไปไหนมา...เที่ยวซุกซนค้นวังไปเรื่อย ระวังจะถูกจับตัดมือ "

                 " อะไรกัน...ผมแค่เอาของฝากไปให้เฉยๆ "ชายหนุ่มเบื้องหน้าแตะริมฝีปากตัวเองอย่างมีเลศนัยแล้วหัวเราะขำ...ไม่ต้องมองดูริมฝีปากสีจัดนั้นก็รู้...ว่าของฝากจะเป็นอะไร ในเมื่อคำพูดมันส่อขนาดนั้น...คาวัลโลครางฮึมในลำคอ กลอกตามองพื้นพรม ขณะที่ท้องร้องโครกคราก หวังว่ารายการงี่เง่านี่จะจบลงโดยเร็ว

                  "....โอ้...ผมหิวจัง อัลชาอ์บอกว่าให้ไปรอทานอาหารข้างล่าง...ผมลงไปได้รึยังเนี่ย? " โรเบิร์ตยิ้มกว้าง ออกปากถาม

                 " อืม ได้สิ ...อ๊ะ....เดี๋ยวผมคุยธุระกับคาวัลโลแป๊ปนึงแล้วจะตามไป "รามิลยิ้มรับ โบกมือให้อีกฝ่าย

                " ครับ...งั้นผมลงไปก่อนนะ คุณด้วยขอโทษนะที่เคุยเพลินจนเสียมารยาทไปเลย "โรเบิร์ตหันมาขอโทษขอโพยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด คาวัลโลหยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ต่อให้เขาถูกลืมไปจริงๆก็ไม่คิดจะโกรธหรอก เพราะสีหน้าของคนขอโทษมันจริงใจเสียขนาดนั้น

                 "...ไง...เขาน่ารักดีใช่มั้ยล่ะ "รามิลทัก ขณะที่โบกมือให้โรเบิร์ตที่เดินลงไปข้างล่าาง

                " อืม..." คาวัลโลมองตามแล้วรับคำเบาๆ...นิสัยดี หน้าตาดี ดีทุกอย่างเลยด้วย...ผิดกับตัวเขาลิบลับ หมายถึงแค่นิสัยนะ..

                 "...แล้วมีอะไรจะคุยกับผม "

                 " อ้อ...จะบอกเรื่องนี้ล่ะ "รามิลหัวเราะ ก่อนจะชี้แจง " เรื่องคุณกับอัลชาอ์ผมบอกไปว่าเป็นแค่ที่ปรึกษา เพราะงั้น..."

                 "...ก็มันไม่มีอะไรจริงๆนี่...ผมไม่ว่าอะไร "คาวัลโลยักไหล่ มองหน้ารามิลที่ยิ้มให้

                 "...ขอบคุณนะ..." หือ?...คำขอบคุณจากรามิลทำให้หัวคิ้วขมวดเข้าหากันหนักขึ้น...กระพริบตาปริบๆ

                "....ขอบคุณที่คุณไม่รับรักอัลชาอ์..โอเคว่าผมไม่ได้ดีใจที่เขาผิดหวัง แต่ยังไงก็ดีใจที่เซเนียยาจะมีทายาทสืบต่อ ..." รามิลว่า "ยังไงผมก็เป็นคนเซเนียยานี่ เรื่องนี้ผมก็ต้องดีใจ "

                "....อืม....." คาวัลโลทำได้เพียงรับคำในลำคอ...พยายามนึกว่าหมอนี่ประชดรึเปล่าแต่ก็ช่างมันแม้จะนึกเถียงในใจว่า แน่ใจหรือว่าท่านชีจะไม่คิดรื้อฟื้นอดีตกับแฟนเก่า

                "...แล้วก็หวังว่าคุณจะไม่เสียใจภายหลัง "รอยยิ้มของรามิลฉาบบนใบหน้า แต่แววตาแฝงนัยยะบางอย่างที่ทำให้คนฟังหน้านิ่ว...คาวัลโลถอนหายใจแผ่วเบาก่อนจะปัดมือหนาที่พาดบนไหล่ออก

                " คนอย่างผม ทำอะไรแล้วไม่เสียใจภายหลังหรอก..."

               " ก็ดี " รามิล เซฮามัคยิ้มรับแล้วผละจากไป....คาวัลโลมองตาม ใหน้าของมาเฟียหนุ่มนิ่วน้อยๆ...

          .....อาจจะไม่เสียใจภายหลัง...

................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

        เสียงหัวเราะร่าเริงบันเทิงใจดังขึ้นจากโต๊ะอาหาร โรเบิร์ต ชอว์ตัน ชายหนุ่มที่คาวัลโลรู้ข้อมูลคร่าวๆว่าเป็นชาวอังกฤษ รู้จักกับอัลชาอ์มานานนมและคบกันนานพอสมควร กลายเป็นอาคันตะกะผู้สร้างเสียงหัวเราะไปเสียแล้วนั่งอยู่ข้างชีคหนุ่มผู้นั่งเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ คาวัลโลตักอาหารเข้าปากขณะที่เงี่ยหูฟังเสียงสนทนาของผู้คนโดยรอบไปพลางๆ...และพ่นลมหายใจหลบหนีสายตาเห็นอกเห็นใจของฟาลซาอ์ เจ้าชายผู้ไม่รู้อะไรเลยเงียบๆ

              ตัก"คีบับ"อาหารพื้นเมืองที่ทำมาจากเนื้อวัวย่างซอสเข้าปาก พลางเตือนตัวเองว่าเขาควรจะโทรไปหาพี่ชายสุดที่รักได้แล้ว เพราะขาดการติดต่อมาอาทิตย์กว่าๆแล้ว เดี๋ยวอเล็กซิสมันจะพาลคิดไปว่าเขาถูกเก็บไปเสีย แล้วอาจจะหาเรื่องยกพวกมาตีกับที่นี่เหมือนพวกเจ้าโง่ราฟาเอลโร่และฟิลิเป้เข้าให้

             " หือ? " ครางในลำคอเบาๆเมื่อพบว่าสายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้องมาที่ตน คาวัลโลวางส้อมที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพันเส้นสปาเกตตี้อย่างเอาเป็นเอาตายแล้วหันไปมองงงๆว่าที่มองนี่เพราะการกินแบบทำลายล้างของเขารึเปล่า

             "....อ้อ....เมื่อกี้ร๊อบถามคุณเรื่องอิตาลีน่ะ เขาเพิ่งไปเที่ยวมา "ราเซย์อธิบายคร่าวๆ

            " อ้อ...."ครางรับในลำคอ พลางเลิกคิ้วมองหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้า..." ว่าไงครับ? "

            "..ผมอยากคุยกับคนอิตาเลียนน่ะ....ไปเที่ยวมาเลยเห่อนิดหน่อย...ผมชอบไร่องุ่นที่นั่นมากเลย ตอนเช้าๆโรแมนติกมากเลยนะให้ตาย..."ว่าแล้วชายชาวอังกฤษเบื้องหน้าก็ทำหน้าตาเคลิ้มฝัน ชวนขันไม่น้อย

            "...บ้านผมเป็นเมืองโรแมนติกอันดับหนึ่งของโลกไง " คาวัลโลหัวเราะหึๆ "แล้วคุณไปเที่ยวที่ไหนมาล่ะ ทางเหนือหรือว่าทางใต้.."

            " ผมเริ่มจากไปเที่ยวโรมครับ แล้วไปต่อเรื่อยๆ ได้เที่ยวที่เกาะซิซิลีด้วยล่ะ เขาว่าแถวนั่นมาเฟียเยอะใช่ไหม..."คนพูดทำหน้าตาขนลุก คาวัลโลฟังแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอมองสีหน้าของคนฟังรอบๆแล้วยิ่งขำ อยากบอกนักว่า"มาเฟีย"ก็นั่งอยุ่ตรงนี้ตัวเป็นๆแล่วไงเล่า

             " อืม....บ้านผมอยู่ที่ปาร์เลโม ไม่ยักสนใจเรื่องนั้นนะ..."เอาจริงๆไม่ได้โกหก เพราะบ้านเดิมที่ครอบครัวย้ายมาก่อนจะตั้งรกรากที่โรม ก็อยู่ที่แคว้น ปาร์เลโม เกาะซิซิลีจริงๆ...

             " โว้ว....คุณ...อยู่ที่เกาะนั้นเหรอ? "โรเบิร์ตว่าพลางมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ " ชักอยากรุ้แฮะว่ามันมีจริงไหม?"

             " แล้วแต่ว่าคุณจะสนใจไหม...ถ้าไม่ยุ่งกับพวกนั้นเขาก็ไม่มายุ่งกับเราหรอก ใช่ว่าพวกที่เดินตามถนนจะมีป้ายแขวนคอบอกไว้ว่าเป็นมาเฟียเสียหน่อย "คาวัลโลยักไหล่ "ส่วนเรื่องสมาคมลับที่พวกสื่อต่างชาติชอบเอามาเล่น...ก็ไร้สาระ แถวนั้นมีแต่ไร่องุ่นกับไร่มันฝรั่ง " วงเล็บว่ามีคฤหาสถ์โบราณตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกกับหลุมศพมาเฟียในแกงค์เก่าๆด้วยนะ

             " งั้นเหรอ? แต่มันน่าสนใจจริงๆนา...ได้บรรยากาศเดอะก๊อดฟาเธอร์เลย " คนพูดหมายถึงหนังสือวรรณกรรมอาชนิยายที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมาเฟียจากอิตาลี

             "...คงเพราะเขาอิงจากเกาะซิซิลีล่ะมั้ง " คาวัลโลยักไหล่...

             "....แล้วอยู่ที่นั่นคุณทำอาชีพอะไร "ชักจะเหมือนการสอบสวนเข้าไปทุกที คาวัลโลกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย

            "....ก็...ไกด์นำเที่ยว สำหรับพวกนักท่องเที่ยวสอดรู้สอดเห็นอยากไปเหยียบหางพวกตาเเก่ขี้โมโหแถวนั้น "

            " ฮ่ะๆ...เอ่อ...งั้นเหรอ.." ว่าแล้วโรเบิร์ต ชอว์ตัน ชายผู้มีมนุษย์สัมพันธ์เลอเลิศและสอดรู้สอดเห็นนิดหน่อยก็หันไปทานอาหารต่ออย่างไม่ต่อความถามไถ่อะไรอีก..ซึ่งก็ดีแล้วเพราะถ้ายังเสือกจะถามต่อทั้งที่เขาประชดไปเสียเต็มกำลังแล้วล่ะก็...อีกเสี้ยวขี้ตาแมงหวี่ หมอนี่ก็จะกลายเป็นไอ้บ้าไร้กาละเทศะไปแล้ว
         
              "...ให้ตาย" รามิลที่นั่งอยู่ข้างๆทำหน้าเบี้ยวใส่เขาแล้วส่ายหัว

             " อะไร..."คาวัลโลคำรามกลับ ก็ใครใช้ให้มา"ยุ่ง"กับเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเกินไปแบบนี้ ทั้งที่เป็นคนอังกฤษซึ่งขึ้นเชื่อเรื่องมารยาทและเป็นผู้ดีเสียเปล่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่เข้าใจ

             "...แค่แฟนเก่าอัลชาอ์มาเยี่ยมไม่เห็นต้องหงุดหงิด ไม่กี่วันเขาก็ไปแล้ว....แล้วคุณก็เป็นฝ่ายทิ้ง...อุ๊ก...."

             " เงียบไปเลยไป " ซัดฝ่าเท้าใส่หน้าแข้งรามิลเสียทีหนึ่งแล้วถลึงตาใส่...ช่างจับเรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้เป็นเรื่องเสียเหลือเกิน มันเกี่ยวอะไรกับหึงหวงตรงไหน เขาก็แค่ไม่พอใจที่มาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่านั้นล่ะ..

             "..ก็เห็นเข้ากันได้ดีขนาดนี้..ทำไมถึงเลิกกันซะล่ะ "คาวัลโลออกปากถามพลางปรายตามองทางหัวโต๊ะที่อัลชาอ์นั่งคุยกับโรเบิร์ตด้วยท่าทีคุ้นเคย

              "...ไม่รู้เหมือนกัน "รามิลยักไหล่..." เห็นคบกันมานานพอดู จู่ๆก็บอกว่ากลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว.."

                "อืม....อาจจะมีรีเทิร์นก็ได้มั้ง "คาวัลโลตักสปาเกตตี้เข้าปากแล้วเปรยขึ้นเงียบๆ

              "...หึ...พูดเหมือนตัวเองไม่เกี่ยวนะ "รามิลหัวเราะหึๆ

             "...ช่วงที่อกหักน่ะ คนเรามันจิตใจอ่อนไหว ไม่รู้รึไง "คาวัลโลยังคงพูดประเด็นเดิมอย่างไม่คิกจะสนใจถ้อยคำจิกกัดของพี่น้องตระกูลเซฮามัค

           "  ไม่เห็นคุณเป็นแบบนั้น " ไอ้เวรนี่ยังไม่เลิก คาวัลโลถอนใจพรู หยิบแก้วน้ำเปล่ามาจิบ บ่งบอกว่าอิ่มหลังจากฟาดเรียบมามากกว่าครึ่งชั่วโมง

            "...ผมไม่ใช่คนเจ็บ...รึจะเถียง "

           " อืม...ชัดเจนเลย แบบนี้ยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ " คราวนี้รามิลแสยะยิ้มออกมาด้วยท่าทีหงุดหงิด "ว่าแล้วก็ชักอยากจะให้รีเทิร์นแบบที่คุณว่าจังเลยนะ อยากรู้จริง ว่าคนแถวนี้มันจะนึกเสียใจขึ้นมาบ้างไหม"

           "............." คาวัลโลไม่ตอบแต่ขยับฝ่าเท้ากระทืบลงบนหลังเท้าของรามิล เซย์ฮามัคอีกครั้ง เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ มองสบแววตาเห็นอกเห็นใจไม่เลิกของเจ้าชายฟาลซาอ์และเลยไปถึงแววตาสงสัยจัดของฮาซานที่เฝ้าอยู่ตรงประตูหน้า นึกหงุดหงิดว่าคนพวกนี้จะห่วงอะไรเขานักหนา ก่อนจะตัวดสายตามองอัลชาอ์ที่นั่งคุยกับโรเบิร์ต เขาสังเกตเห็นฝ่ามือของหนุ่มชาวอังกฤษวางบนหน้าขาของท่านชีคแห่งเซเนียยาอย่างสนิทสนมแล้วนิ่วหน้าน้อยๆ...สบมองนัยน์ตาสีดำสนิทแล้วผงกหัวเชิงขอตัวไปที่อื่นด้วยหวังจะให้จบรายการงี่เง่าบนโต๊ะอาหารเสียที

          อัลชาอ์พยักหน้าน้อยๆให้เชิงอนุญาติ เขาจึงลุกจากเก้าอี้ออกไปจากห้อง ใคร่ครวญเรื่องราวทั้งหมดพร้อมถามตัวเองว่านี่จะเป็นแผนของอัลชาอ์อีกไหม..แต่เขาก็ปัดมันทิ้งไป เพราะรู้ว่าท่านชีคแห่งเซเนียยาไม่ได้ว่างพอจะมาเล่นเกมส์ทดสอบหรือประชดอะไรกับเขาให้เสียเวลาอีก...

          ฝ่าเท้าของคาวัลโลย่ำลงไปยังห้องขังใต้ดินของวัง เขาปัดเรื่องวุ่นวายยุ่งยากทั้งหมดออกจากสมองอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มบางปรากฏบนริมฝีปากยามมองเห็นร่างของราฟาเอลโร่ บอนด์เต้ และ ฟิลิเป้ เรกาโซ่ สองมาเฟียคู่อริอยู่ในสภาพถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องขัง  สั่งให้ฮาซานที่เดินตามมาเปิดประตูห้องขังของราฟาเอลโร่ ก่อนจะลากเก้าอี้ไปนั่งหน้าร่างที่เอนตัวพิงผนังห้องขังนิ่งเงียบด้วยรอยยิ้มพึงใจ

         เสียงเปิดประตูเเละเสียงครูดของโต๊ะกับพื้นห้อง ทำให้ราฟาเอลโร่ลืมตาขึ้นมาในที่สุด เขามองเห็นร่างของคู่แข่งตลอดกาลนั่งอยู่เบื้องหน้าบนเก้าอี้สีทึบ สบมองรอยยิ้มที่เหนือกว่าของมันพร้อมกับฟังเสียงทายทักที่บ่งบอกว่ามันพร้อมจะเอาคืนเขาแล้วอย่างสาสม..แบบที่เจ้าตัวมันบอก

           " สวัสดี ราฟาเอลโร่ หลับสบายดีไหม? "

                ราฟาเอลโร่ บอนด์เต้ เพียงแต่ขยับยิ้มหยัน...เย้ยหยันทั้งโชคชะตา ทั้งตัวเอง และทั้งชายหนุ่มตรงหน้า

   .....ไม่รู้ว่าเจ้าคนที่กำลังพยายามดิ้นรนจะเป็นจะตายตรงหน้าจะรู้ไหม...ว่าคนที่มันรักนักหนา กำลังหักหลังมันอยู่...

...........

หนาวอ่ะ...ฮู่ววว
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ขี้เกียจมาก (ไม่ใช่เพราะสอบเสร็จแล้วนะ ) หมายถึงขี้เกียจลุก เพราะอากาศมันชวนนอนต่อมากมาย :man1:.. ช่วงนี้กรุงเทพเป็นอะไร รู้สึกเหมือนกำลังกลับไปเที่ยวบ้านตอนหน้าหนาวก็ไม่ปาน ขนาดปุ้ยอยุ่ทางเหนือมาค่อนชีวิตยังไม่ชินกับอากาศหนาวแบบนี้เลยเหอะ โทรไปที่บ้านแม่ก็บอกว่าหนาว แถมฝนตกด้วย เกิดอะไรขึ้นเนี่ยฮู้ยยย (ไม่เกี่ยวกับซึนามิรึโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นนะ อย่าบ้าเอาเบต้าดีนป้ายคอเหมือน ฟอเวิร์ดเมล์ล่ะเออ)
  ...ส่วนตอนนี้ หึหึ ศัตรูความรักมาแล้วเรอะ (โดนเตะ :z6:) แต่ไม่ได้มาแนวนางร้ายหรือแย่งอะไรนะ บอกตามตรงว่าปุ้ยไม่ชอบเขียนเลยแฮะ ไอ้เรื่องที่พระนาย(ฮ่าๆ)ทะเลาะกันแล้วมีมือที่สามมาทำให้หึงให้หวงเนี่ย รู้สึกว่ามันงี่เง่าอ่ะ แต่ไปๆมาๆ นั่งคิดนอนคิดยังไงก็พบว่าอิวี่(อัพเดทชื่อใหม่ของคาวัลโลแล้ว :laugh: )มันจะต้องเจอแบบนี้ถึงจะรู้สึกรู้สาซะบ้างแต่ไปๆมาๆนังวี่ก็ออกแนวไม่สนอยู่ดี แต่มีแอบพาลแอบเหวี่ยงตามประสา
      ส่วนเรื่องเล็กซิสหึหึหึ บรรยากาศทางโน้นก็เริ่มมาคุแล้วนะค่ะ..ถ้าคาวี่รู้เรื่องเมื่อไหร่ล่ะก็...รับรองงงานนี้มีเฮ
  แอบสะใจนังวี่(ตั้งด้วยความรักจริงๆ)นิดนึงตอนอัลชาอ์เดินมาบอกว่าจะไม่มีอะไรอีกแล้ว แถมไปตบหัวใจเค้าอีก เจออัลชาอ์สวนคำเดียวจอดเลย พอเขาไม่สนก็แอบมามึนๆซึมๆ ชะ ทำตัวเองแท้ๆ..แถมยัง...อืม คาวี่มันไซโคตัวเองแฮะ แบบว่าเฝ้าบอกตัวเองว่าไม่รักๆๆ ไม่สนว่าความจริงตัวเองจะรู้สึกยังไง ไซโคแบบนั้นไปเรื่อยๆเพราะเชื่อว่าในที่สุดมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เอาเข้าจริงคาวี่มัน"เด็ก"กว่าที่แสดงออกมากมาย ภายนอกอาจจะมองว่าดูแกร่งและเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าลองมองเข้าไปลึกๆก็เป็นแค่เด็กที่ใช้วิธีหนีความจริงและตัดปัญหาไม่อยากให้ลุกลาม แค่นั้น... เราก็ได้แต่รอดูกันไปว่าจะได้ผลไหม
ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนัก รอตอนหน้าเรามาสอบสวนราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้กันดีกว่า อะหึหึหึหึ o18
ปล. ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
ปล.2 ใครที่หนาวแล้วไม่อาบน้ำ สารภาพมาซะ !  :laugh:

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
รอมาทั้งวัน ในที่สุดก้อได้อ่านแล้ววววววววววววว
ขอบคุณค่ะ
ปล.2 ไม่ได้อาบมาจะ2วันและ นิด ๆ หน่อย ๆ หุหุ


คุณลุงเริ่มน่าสงสัยซะและ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
รอมาทั้งวัน ในที่สุดก้อได้อ่านแล้ววววววววววววว
ขอบคุณค่ะ
ปล.2 ไม่ได้อาบมาจะ2วันและ นิด ๆ หน่อย ๆ หุหุ


คุณลุงเริ่มน่าสงสัยซะและ


 :z13:
รีบน กลิ่นตุๆ.. (me/โดนถีบ :z6:)
จะบอกว่าตัวเองก็ไม่อาบมาวันนึง วันนี้เล่นอาบตอนเที่ยงเลย หนาววว :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2011 01:50:58 โดย Serin »

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:เครียดดดดดดดดดดดดดดด
เจ็บปวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

dea

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดดดดดด กดไลค์ตอนนี้ได้มั๊ยเนี่ย :m3:

หมั่นไส้คาวี่มัน เชียร์ให้อัลชาห์เมินมันนานล่ะ (อินจัด + แค้นฝังหุ่น)

แต่ก็น่าสงสารวี่ถ้ารู้ว่าอีกฝั่งจะหาคนมาแทนที่ตัวเองแล้วจะรู้สึกไงเนี่ย  :เฮ้อ:

ตอนนี้ยาวสะใจมาก ขอบคุณหลายๆค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
ยาวซะใจจริงๆตอนนี้
ดีค่ะกระตุ้นเยอะๆคาวี่มันจะได้รู้สึกตัวซะที เลิกหลอกตัวเอง

ปล.ไม่ได้อาบเหมือนกัน พอดีสองวันนี้ตรงกับวันหยุดด้วย สบายหละตู 555

ออฟไลน์ cho_co_late

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยาวสะใจ o13
คาวี่หนอ คาวี่ เจ็บที่ไปบอกเขาแบบนั้นแต่ก็ต้องทน
ถ้ารู้ว่าตอนนี้ทางอิตาลีเปลี่ยนบอสแล้วจะทำยังไง คงเจ็บปวดใช่ม่ะ?  :m15:
คนอย่างคาวี่ก็คงหยิ่งในศักดิ์ศรีต่อไปแหง ในเมื่อบอกอัลไปแบบนั้นแล้ว  คงไม่คิดจะง้ออีก :sad4:
อากาศช่วงนี้หนาวมากก นี้มันหน้าร้อนหรือหน้าหนาวฟ่ะ! หนาวกว่าตอนหน้าหนาวอีก :z3:

lolilo

  • บุคคลทั่วไป
หมั่นไส้คาวี่เสมอต้นเสมอปลายต่อไปเจ้าคะ =3="

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
มายาวสะใจมาก แต่บรรยากาศในเรื่องก็ยังอึดอัดเหมือนเคย แต่ก็พอจะเข้าใจนิสัยคาวี่นะ เพราะตัวเองก็นิสัยแบบนี้เหมือนกัน หยิ่งในศักดิ์ศรีแล้วก็ฐิถิในตัวเองสูงมากเพราะโดนเลี้ยงมาให้เป็นผู้นำคนอื่นเลยลงให้ใครไม่ค่อยเป็น ต่อให้มีเรื่องที่จะต้องสูญเสียและทำให้เสียใจ แต่ก็บอกกับตัวเองแบบนี้แหละว่า ช่างมัน จะไม่มีนั่งเสียใจกับอะไรที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้วนานนั้น จากนั้นก็จะเดินหน้าต่อ ไม่หันกลับไปสนใจสิ่งนั้นอีก นิสัยแบบนี้แย่เหมือนกันเนอะ แต่แก้ไม่ได้จริงๆ เพราะงั้นเห็นคาวี่เหมือนเห็นตัวเองเลยค่ะ
 :laugh: :laugh: :laugh:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วโกรธลุง :m16: ทำงี้กับนู๋วี่ได้ไงฟร่ะ!!! (อัพเดทชื่อนู๋วี่แล้วเหมือนกัน อิอิ)
อยากให้นู๋วี่อาละวาดซะให้หนักๆเลย โอ๊ยยยย โกรธ!!!!
กลับมาที่ท่านชีค อ่าาาา... แบบนี้ค่อยดูดีขึ้นหน่อย เดี๋ยวคนใจแข็งก้อทุรนทุรายเองแหละ :laugh:
(ดูเหมือนอะไรๆก้อไม่เป็นใจให้นู๋วี่เลยเนอะ ฮ่าๆๆ)

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:คาวี่นี่มันเด็กจริงๆมีการหลอกตัวเองด้วยว่าไม่รักๆ แล้วพอเค้าทำตามที่ตัวเองอยากได้ก็มานั่งซึมเอง

ปล.รู้ได้ไงค่ะว่าเค้าไม่ได้อาบน้ำ :laugh:

Sornpattra

  • บุคคลทั่วไป
แอบสะใจ อิ วี่ จัง
เมื่อไหร่พร้อม จัดหนักให้ อิวี่สักหน่อย จะได้ซึ้งไป นาน นาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด