Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1006602 ครั้ง)

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ราฟาเอลโร่ร้ายอ่ะ...ทำคาวี่สติหลุดเลย o13
แล้วเรื่องบอสตกลงจะเป็นไงอ่ะ...คงไม่ใช่ลุงนั่นหรอกนะที่วางแผนจะกำจัดคาวี่ทิ้งเพื่อที่จะบีบให้เล็กซิสรับตำแหน่งโดยเอาคนในครอบครัวของน้องชายเป็นตัวประกันน่ะ :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2011 17:03:05 โดย SuSaya »

ออฟไลน์ inhyung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ใจแข็งมากกก ทั้งคู่เลย

โหดได้ใจจริงๆ คาวัลโล ชอบบบบ

ว่าแต่ คาลจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
line : 26  หมดทางไป


  " Mi chiederai tu, morto disadorno, d'abbandonare questa disperatapassione  di essere nel mondo? "

      คำพูดนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของคาวัลโล วาลกัส ไม่จางหาย ชายหนุ่มนอนนิ่งอยู่ปลายเตียง สีหน้าครุ่นคิดปนหงุดหงิดกับประโยคที่ยังดังก้อง แม้จะเดินออกมาจากห้องขัง และกลับมานั่งๆนอนๆในห้องแล้วก็ตาม...แววตาของราฟาเอลโร่ บอนด์เต้ และความนัยของประโยคนี้ยังคงอวลอยู่ในสมอง...

 Mi chiederai tu, morto disadorno,d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo? ?

..ข้าเอ่ยถามหากเจ้านั้นวางวาย จักละทิ้งความรักอันสิ้นหวัง และทรยศโลกนี้ได้หรือไม่?..

          ความรักที่สิ้นหวัง...หมายความว่ายังไง

ถ้าตัวเองต้องตายเพราะความรัก เลยถามว่าทิ้งมันได้รึเปล่า งั้นหรือ?

แต่ว่า...disperatapassione di essere nel mondo?  ความรักที่สิ้นหวัง...

   คาวัลโลกรอดตามองเพดานห้องอย่างงวยงงไม่น้อย เขาไม่ใช่พวกอารมณ์อ่อนไหว จะได้มาซาบซึ้งหรือตีความหมายของบทกลอนในศตวรรษที่19เหมือนไอ้บ้าราฟาเอลโร่นี่ อย่างเขาก็ได้แต่แปลความหมายมันทื่อๆตรงๆ เท่านั้นเอง ไอ้กลอนประเภทเอ่ยถึงความสูญเสีย การสาปสูญของความรักหรือเรื่องอารมณ์อ่อนไหวนั่นโน่นนี่น่ะ ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาหรอก

  หรือมันจะพูด เพราะแน่ใจว่าเขาตีความไม่ได้กัน?...

disperatapassione di essere nel mondo?  ..ความรักที่สิ้นหวัง โลกที่สูญสลาย..โลก ...นัยยะที่หมอนั่นต้องการพูดถึงมันคืออะไร?

  ...แต่...เดี๋ยวนะ...

 คาวัลโลเบิกตาโพลง ริมฝีปากขบเข้าหากันอย่างเร่งร้อน เมื่อนึกถึงอีกทางหนึ่ง..อีกที่หนึ่งของความหมายนั้น...

...ถ้ามันหมายถึงโลกของเขา..

เขาไม่ตายเพราะรักที่ไม่สมหวัง แต่"โลก"ของเขาจะดับสลายหายไป..ทั้งความหวังที่ทิ้งไป.....

...โลก....โลกของเขา โลกของคาวัลโล วาลกัส มันจะหมายถึงอะไรได้ นอกจากโลกของมาเฟีย และตำแหน่งที่เขาหมายตาไว้...

สิ้นหวังในความรัก และทรยศโลกนี้...นั่นมันหมายถึง ตัวเขางั้นเหรอ?..
.
     มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วแน่นสีหน้าลังเลและข้องใจอย่างที่สุด...ถ้าหากมันหมายถึงแบบนี้ แล้ว..แล้วความนัยทั้งหมดนั่น มัน...รู้อะไร?

ที่มันพูด...มันพูดเหมือนรู้ มันพุดเหมือน"เห็น"อะไรบางอย่างที่เขาไม่เห็น

 คาวัลโลขมวดคิ้วแน่น....พยายามนึกปะติดปะต่อเรื่องราวที่ผ่านมาให้ได้..

..คนรัก...

..ความตาย..

..การทรยศ..

......คำสั้นๆที่อยู่ในบทกวี..และเรื่องราวที่เป็นที่มาของมัน..หมายถึงอะไรกันแน่...

หรือว่า...มันหมายถึงเรื่องราวเมื่อสามปีที่แล้ว

สงคราม คนทรยศ การต่อสู้ที่เกิดจากเรื่องราวของความรัก....

หรือจะเกิดเรื่องที่ไม่ต่างกับเมื่อวันวาน...

สงครามที่เกิดจากความรักของพี่ชายเขา แลัสงครามที่เขา"แย่ง"คนรักของมันมา..

หรือมันต้องการจะเอาคืน...ต้องการจะทวงคืนสิ่งที่เคยเป็นของตัวเอง...

..ราฟาเอลโร่ บอนด์เต้...กำลังจะคิดทำอะไรกันแน่...

แล้วยัง...เรื่องวันนี้...

  คิดแล้วก็ถอนใจแรง คาวัลโลมองเหม่อไปที่หน้าต่างเห็นสภาพอากาศขมุกขมัวอึมครึมพอๆกับอารมณ์ของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

  ก็ไม่อยากจะคิดมากหรือไม่พอใจอะไร ไม่ใช่ว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว...แต่ว่า...ไอ้เรื่องที่อัลชาอ์ลากคนอื่นมานี่มันอะไรกันแน่

   อ้อ..ไม่สิ มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มเยาะบนใบหน้า บอกตัวเองทันควันว่าหมอนั่นไม่ใช่คนอื่น จะแฟนเก่าที่จะกลับมารักกันใหม่รึเปล่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่เขาจะสนใจ รู้แต่ว่าในสายตาอัลชาอ์ หมอนี่ไม่ใช่คนนอก...หึ ไม่ใช่คนนอก แถมไม่มีท่าทีอันตรายอะไร ออกจะน่ารักแสนดีแบบที่คนอย่างเขาไม่มีวันเป็นได้

    พลิกตัวพลางถอนหายใจแรงๆอย่างหงุดหงิด ก็สมควรแล้วนี่ที่จะไม่พอใจ ในเมื่อนั่นมันเรื่องของเขา เรื่องของคาวัลโล วาลกัสโดยตรง สมควรเป็นเขาที่จะเข้าไปจัดการ และสมควรที่เขาจะพิจารณาว่าใครควรยุ่งไม่ควรยุ่ง ต่อให้อัลชาอ์จับพวกมันมาได้ แต่ยังไงก็ถือเป็นเรื่องของเขา กับอัลชาอ์ยังพอจะแบ่งความรับผิดชอบกันครึ่งหนึ่งได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าครึ่งหนึ่งนั้น ท่านชีคจะพาคนนั้นคนนี้มายุ่งเกี่ยว แค่สองพี่น้องเซฮามัค ฮาซาน กับทหารอีกครึ่งกองร้อยนั่นก็น่าปวดหัวพออยู่แล้ว นี่ยังจะพา โรเบิร์ต ชอว์ตัน หมอนั่นมาอีก ไม่คิดบ้างหรือไงว่าถ้ารู้อะไรมากเกินไป จะกลายเป็นทำความซวยให้หมอนั่นจนอาจจะโดนเก็บซะเอง...

    ...อ้อ ไม่สิ เพราะเป็นไม่ใช่คนนอก คนสำคัญของอัลชาอ์ทั้งที คงไม่ปล่อยให้เจ็บอะไรง่ายๆหรอก หึ

แล้วมาพูดพร่ำว่ารักเขานักหนา ไม่ข้ามวันก็ไปอี๋อ๋อกับคนอื่น.. ช่างเป็นคนที่”ใจมั่นคง”เสียจริง

เสียแรงที่เขาเสียใจ รู้สึกผิด ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ไม่สนเสียตั้งแต่แรกยังจะง่ายกว่า

   กับคนที่กล้ากันเขาออกจากเรื่องตัวเอง คนที่ไล่เขาออกมาแบบไม่ไว้หน้าอย่างนั้น ไม่น่าจะไปสนใจ ไม่น่าจะ”เจ็บ”ให้เสียดายความรู้สึกตัวเองเสียเลย ไม่น่าจะร้องไห้ เสียน้ำตากับเรื่องแบบนี้เสียด้วยซ้ำ...

  ก็แค่เป็นอีกหนึ่งคนที่มองเขาเพียงรูปลักษณ์ภายนอก หลงใหลเฝ้าฝันกับภาพมายาและบุคลิกปลอมๆที่เขาสร้างขึ้น ไม่ได้รู้เสียเลยว่าที่จริงมันเป็นอะไร พอมาเจอ”ตัวตน”ที่แท้จริงของเขา ก็ไม่มีใครรับได้สักคน

 ก็เป็นแบบนี้ตลอดล่ะ...พวกที่คอยพร่ำพรรณนาถึงความรักมากมายพอเจอนิสัยจริงๆของเขาเข้าก็วิ่งหนีกันแทบไม่ทัน

...กระทั่งคนที่เขาคิดว่าจะรับได้ คนที่จริงจังเสียจนทำเขาเสียน้ำตาเมื่อปฏิเสธมันไป ท้ายสุดแล้วก็ไม่ต่าง...กับคนอื่นเลย..

 จะมีก็แต่หมอนั่น....มีก็แต่เจ้านั่นเท่านั้นล่ะมั้ง ที่รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา เจ้าคนที่เข้าใจเขาเสมอไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น...เข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยปาก รู้ ว่าเขารู้สึกอย่างไรเพียงแค่มองตา ต่อให้กำลังหัวเราะหรือร้องไห้ในใจ เจ้านั่นมันก็รู้...

...เพียงแต่มันไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว...

       “ ให้ตายสิ....” นัยน์ตาสีน้ำทะเลลอยเหม่อ คาวัลโลถอนใจยาว ปลายนิ้วแตะสร้อยกางเขนที่ห้อยคอเบาๆ...ยามนึกถึง”เพื่อน”คนสำคัญของตน นึกถึงเจ้าของสร้อยเส้นนี้...นึกถึงอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขามุ่งมั่นจะเป็นบอสมาเฟีย..

...สานต่อความฝัน แทนที่ความปราถนาของมันซึ่งไม่มีวันสมหวัง..

    “ ถ้าเป็นแกตอนนี้แกจะทำยังไง จอร์จิโอ้...”

     มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามกับความว่างเปล่า...เขาเกลียดเหลือเกินกับเหตุการ์ณแบบนี้ เกลียดเหลือเกินที่ทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่หลักฐานก็มากองอยู่ตรงหน้า ทั้งที่ตัวการก็เห็นกันอยู่ทนโท่ แต่ก็ทำไม่ได้สักอย่าง...

   ไร้ประโยชน์สิ้นดี...

เคว้งคว้าง..ไม่มีที่ยืน...มีเพียงแต่ความปรารถนาที่คอยประคองไม่ให้เซถลากลืนไปสู่ความมืดมิดที่รายล้อมอยู่รอบกาย..

 แอ๊ด....

      "...ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วครับ " ฮาซานเปิดประตูออกมาและพูดสั้นๆ ให้ร่างของมาเฟียหนุ่มที่นอนกลิ้งเหม่อลอยอยู่บนเตียงได้สติ คาวัลโลพยักหน้ารับอย่างเลื่อนลอยยังคงขมวดคิ้วแน่นอย่างครุ่นคิด แม้ว่าจะเดินไปถึงโต๊ะอาหารด้านล่าง ที่มีผู้คนนั่งกันอยู่พรักพร้อมก็ตาม  ฝีเท้าที่เดินมาชะงักลงเมื่อใกล้จะถึงโต๊ะอาหาร เขาขมวดคิ้วเพื่อมองหา"ที่อยู่"ของตัวเอง...

  ...อัลชาอ์นั่งอยุ่หัวโต๊ะ ถัดมาก็เป็นฟาลซาอ์และโรเบิร์ต และถัดไปอีกก็เป็นสองพี่น้องเซฮามัค...

..แล้ว ที่ของเขาอยู่ไหน?

     คาวัลโลเผลอขมวดคิ้วอีกครั้งอย่างเผลอไผล เมื่อพบว่าที่อยู่ของเขา ตรงนี้...ณ ที่แห่งนี้ กลายเป็นไม่มีไปเสียแล้ว..

ทั้งที่เมื่อไม่นาน เขายังได้นั่งอยู่ตรงนั้น ยังมี"ที่"ของตัวเองอยู่เลย..

แต่ตอนนี้...

     " ทำอะไรอยู่ ไม่นั่งลงล่ะ "เสียงทักจากรามิลทำให้คนกำลังคิดอะไรเพลินชะงัก คาวัลโลยักไหล่ก่อนจะสาวเท้าเดินไปนั่งที่นั่งถัดจากชายหนุ่ม จานอาหารและแถ้วน้ำถูกนำมาวางตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ปกติเขาก็จะตั้งหน้าตั้งตากินอย่างรวดเร็วแบบไม่สนใคร แต่เพราะเย็นนี้ไม่ค่อยหิวรึไงก็ไม่ทราบ เขาถึงได้เสมองไปยัง
หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลซึ่งสะท้อนภาพท้องฟ้ายามเย็นขมุกขมัวแปลกตายิ่งนัก...

     " ฝนไม่ตก " คาวัลโลเอ่ยไปถึงคำพูดของสองพี่น้อง ที่ว่าอากาศแบบนี้ ฝนจะตกอะไรนั่น

     " ก็ยัง...แต่อีกไม่นานก็คงจะตก " ราเซย์เอ่ยตอบเบาๆ คาวัลโลพยักหน้ารับ ตักพาสต้ามากินแม้หัวคิ้วจะขมวดแน่นไม่หาย...

 ไอ้ประโยคพูดบ้าบอของราฟาเอลโร่ยังก้องอยู่ในหัว ทำเอาหมดอารมณ์จะกินจริงๆ

       “ หือ? แปลกที่คุณไม่ค่อยหิว...” เสียงทักของราเซย์เข้าสู่โสตประสาทอย่างเชื่องช้า กว่าที่คาวัลโลซึ่งขมวดคิ้วแน่นอยู่จะรู้ตัว ก็เมื่อความเงียบลอยอวลบนโต๊ะอาหารแล้ว

        “ อะไร? “มาเฟียหนุ่มกระพริบตาปริบๆ สบกับดวงตาหลายคู่ที่หันมา

        “...เหม่ออะไร? “ รามิลเอ่ยปากถาม สีหน้าฉงนสนเท่ห์ “ ทุกทีเห็นคุณกินเอาๆแท้ๆ “

        “...จะว่าผมตะกละรึไง...” คาวัลโลเหลือตามองคนพูด ก่อนจะยักไหล่ “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ไม่ค่อยหิว “

        “ แปลกไปจริงเสียด้วย “ พี่น้องเซย์ฮามัคพากันหัวเราะขำเยาะ ทำให้คนฟังแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะเอื้อมมือตักลาซานญ่าอบผักโขมมาใส่จานตัวเองกันคำครหาว่าเขากลายเป็นตัวประหลาดจากสองพี่น้องจอมกวนประสาทนั่น..

     “ ที่เจ้าคนนั้นพูด...หมายถึงอะไร “ หือ? คำถามจากชีคแห่งเซเนียยาทำให้คาวัลโลชะงัก  เขาเงยหน้าไปสบตาคนถามที่จ้องมองมาอย่างเคร่งขรึม ท่ามกลางบรรยากาศเฮฮาบนโต๊ะอาหารที่ค่อยเงียบลงอีกครั้ง..

      “ แน่ใจว่าอยากรู้ “เพราะที่ตรงนี้ยังมีเจ้าชายฟาลซาอ์อีกคน...และสองพี่น้องเซฮามัคก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการสอบสวน นั่นยิ่งทำให้คาวัลโลข้องใจไปใหญ่ อย่างรามิลกับราเซย์ยังรู้ตัวไม่เข้าไปยุ่งย่าม แล้ว”หมอนั่น”เอาอะไรคิดถึงได้ขอเข้าไปดูด้วย..

ไม่สิ ต้องถามว่าคนอนุญาตเอาอะไรคิดต่างหาก..

      “ มันคงจะไม่เสียหายอะไรนักหนาหรอก “พอได้ยินแบบนั้นคาวัลโลก็ได้แต่พ่นลมหายใจแรง

     “ก็ได้...  Mi chiederai tu, morto disadorno,d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo?..ข้าเอ่ยถามหากเจ้าต้องวางวาย จักละทิ้งความรักอันสิ้นหวัง และทรยศโลกนี้ได้หรือไม่?.... แค่นั้น “ คาวัลโลเอ่ย ด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สา “ ถึงจะข้องใจที่มันพูด แต่...ช่างเถอะ “
     ".....บทกวีรึไง? " ราเซย์ออกปากถามสั้นๆ

     " หืม?...รู้จักด้วย" คาวัลโลเลิกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะหึๆ " ผมไม่ค่อยสนใจหรอก เรื่องพวกนี้ แต่ก็ได้ฟังมาบ้าง หึ....ถ้าตัวเองต้องตายเพราะความรัก จะทิ้งมันไได้รึเปล่าอะไรประมาณนั้นล่ะมั้ง "

     " ....แล้วเกี่ยวอะไรกัน..." รามิลมีสีหน้าข้องใจ บทกวีมันอาจจะสวยหรือเพราะ แต่ว่า...มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นกัน

      " มันคงคิดว่าเกี่ยวมั้ง..."คาวัลโลหรี่ตาลงช้าๆ "แต่ถ้าพูดว่าจะเป็นสาเหตุก็อาจจะใช่ แต่นั่นมันเรื่องที่หมอนั่นตั้งใจบอกกับผมคนเดียวนา... ตามประสาคนรู้จักก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวบ้าง อะไรบ้าง "

      "แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ...มันก็ยังไร้สาระสิ้นดี สู้เอาเวลาพูดคำน้ำเน่าพวกนี้ไปทำอย่างอื่นยังจะดีกว่า  กับไอ้โง่ที่เอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นผู้สูญเสีย ไม่คิดบ้างล่ะว่าทำอะไรไว้บ้าง เอาแต่พร่ำว่าตัวเองเสียประโยชน์ ถูกแย่ง ถูกทำร้าย  แบบนั้นก็ได้แต่เป็นคนถูกรังแกทั้งชาติ  "

    " อืม...." ราเซย์หรี่ตาลงช้าๆ มองหน้าคนพูดด้วยสายตาใคร่ครวญ

    " มองเห็นแต่ด้านของตัวเอง ไม่มองด้านคนอื่นบ้าง เอาแต่คร่ำครวญเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง ก็สาสมแล้วจะไม่มีใครต้องการ  "

ครืด....

     " ขอโทษ ผมขอตัว.." จู่ๆร่างของโรเบิร์ต ชอว์ตันที่นั่งอยู่ด้านขวามือของชีคแห่งเซเนียยาก็ลุกพรวดออกจากเก้าอี้ หนุ่มชาวอังกฤษเอ่ยปากขอตัวห้วนๆด้วยใบหน้าตึงขึงที่บ่งชัดว่าไม่พอใจ ก่อนจะผลุนผลันก้าวยาวๆออกจากห้องอาหารไปอย่างรวดเร็ว

    " เอ่อ........" คาวัลโลถึงแก่ชะงักค้าง เขามองตามแผ่นหลังของโรเบิร์ตไปด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจจริงว่าเขาเผลอไปเหยียบหาง หรือไปทำอะไรให้"คนสำคัญ"ของท่านชีคตอนไหน..เจ้าตัวถึงได้...กล้าเสียมารยาทขนาดลุกพรวดออกไปทั้งที่เขากำลังพูดอยู่แบบนี้...

     "..ไม่ต้องงหรอก ก็แค่โดนพูดจี้ใจดำน่ะ "ราเซย์ตอบสั้นๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำจิบและค่อยลุกออกจากเก้าอี้เช่นกัน " ผมก็ขอตัว "

     "........." คาวัลโลยังคงนิ่ง หนุ่มอิตาเลียนตัวแสบยังคงแขวนค้างอยู่กลางเรื่องด้วยสีหน้างวยงงชวนขบขันปนเอ็นดูนัก..

     "...ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นน่า...คุณก็พูดได้ถูกจังหวะแล้ว "รามิลหัวเราะเบาๆและเอ่ยสัพยอกชายหนุ่มที่ยังคงมีสีหน้างวยงงไม่หาย " แถม.....แผนรีเทิร์นอะไรนั่นของคุณท่าจะเป็นหมันเสียด้วย "

     " หา? "คาวัลโลขมวดคิ้ว กลับมามองหน้าคนพูดอีกครั้ง

     "...เปล่าคร้าบ ไม่มีอะไร ...ผมก็อิ่มแล้วเหมือนกัน เจ้าชายครับ อิ่มแล้วเราไปเล่นไพ่ทาโร่ต์ด้วยกันไหม? " รามิลเอ่ยปากชวนเจ้าชายฟาลซาอ์ที่แปรสภาพเป็นหินแกะสลักประดับโต๊ะอาหาร ชายผู้ถูกเมินมาตลอดมื้อ แต่ใจความนั้นยังทำให้คนฟังขมวดคิ้วอยู่ดี...เล่นไพ่ทาโร่ต์เนี่ยนะ...ได้ข่าววาเขาใช้ทำนายดวงไม่ใช่เหรอมิสเตอร์รามิล..

     ขมวดคิ้วแต่ก็ไม่คิดจะออกปากทักท้วง และยิ่งเงียบเมื่อพบว่าตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่เขากับอัลชาอ์สองคน กำลังคิดจะพูดขอตัว แต่ความอยากอาหารกลับเพิ่มขึ้นมากะทันหันซะงั้น และ...ไม่ได้เกี่ยวกับการได้กินกันสองต่อสองแต่อย่างใด เชื่อสิ

         ตักเอารีซอตโต้ใส่จานตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่ทั้งโต๊ะมีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกันเท่านั้น คาวัลโลเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมของชีคแห่งเซเนียยาก่อนจะลอบถอนหายใจแผ่วเบา...กินแบบนี้กินคนเดียวคงง่ายกว่า ไม่อึดอัดแบบนี้แถมยังสบายอารมณ์กว่าเสียด้วย กินด้วยกันแล้วทำเงียบ ลุกออกไปเลยให้สิ้นเรื่องดีไหม

        "....ผมขอ....."

        " เดี๋ยว " อ้าปากจะลุก ทว่าอัลชาอ์ก็ทักท้วงไว้ ทำให้คาวัลโลขมวดคิ้วมุ่น..

       "...พรุ่งนี้ตอนบ่าย มาพบผมที่ห้องทำงานด้วย " น้ำเสียงสั่งเป็นทางการ คาวัลโลฟังแล้วพยักหน้ารับ...เขาทำท่าจะลุก หากก็ชะงัก ศรีษะที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลทองเอียงน้อยๆอย่างครุ่นคิด

       " ตอนเช้าผมขอโทรไปที่บ้านแล้วกัน. ..." หวังว่าคราวนี้คงอนุญาต คาวัลโลได้แต่ต่อเองในใจ

       "...อืม...ผมอนุญาต " คำพูดนั่นทำให้คนฟังพยักหน้ารับ คาวัลโลสาวเท้าออกจากโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าพึงใจ ทว่าก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องเขาก็ชะงัก หันมามองหน้าชีคหนุ่มเหมือนนึกอะไรออก

       "จริงสิ " นัยน์ตาสีน้ำทะเลทอดมองร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้อง " ถึงผมคิดว่าจะไม่อยากพูด แต่ว่า การสอบปากคำฟิลิเป้ ผมขอบังอาจใช้ความรุนแรงนะครับ และถ้ากลัวว่า"คนสนิท"ของคุณจะไม่พอใจ ก็อย่าได้พาเขามาดูภาพทารุณกรรมสัตว์โลกเลย เดี๋ยวจะสะเทือนใจไปเสียเปล่าๆ "

        ".........." ไม่มีคำตอบจากชีคแห่งเซเนียยา และคนพูดก็ไม่ได้รอฟังเช่นเดียวกัน อัลชาอ์รวบช้อนกับส้อมเข้าหากันช้าๆ เอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดปากมาทำความสะอาดก่อนจะจิบน้ำเย็นในแก้วอย่างเชื่องช้า...สีหน้าของชีคหนุ่มไม่ปรากฏอารมณ์ใด มีเพียงรอยยิ้มหยันประดับบนริมฝีปาก ยามทอดมองภาพท้องฟ้ามืดมิดไร้แสงดาวจากหน้าต่างบานใหญ่เบื้องหน้า

      เสียงแก้วกระทบกับจานรองแผ่วเบา หากดังชัด ในยามที่ห้องนี้ไม่มีใครอยู่...

ไม่มีใคร....สักคน

................................................


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

ก๊อกๆ...

   ยกมือเคาะประตูเบาๆสามสี่ทีก่อนจะเปิดเข้าไป นัยน์ตาสีน้ำทะเลจ้องมองนาฬกาที่บอกเวลาสิบเอ็ดโมงเช้าเป็นสิ่งแรก ก่อนจะฉีกยิ้มออกมาอย่างเสเสร้งเป็นที่สุดเมื่อได้สบตาโรเบิร์ต ชอว์ตันที่นั่งทำตาแดงๆบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของท่านชีคแห่งเซเนียยา

    เขาทำเมินนัยน์ตาที่มองมาเป็นเชิงตำหนิที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาติก่อน อย่างไม่สนใจ ยอมรับก็ได้ว่ามันเป็นความเคยชินไปเสียแล้วที่เขาจะเปิดประตูเข้าออกโดยไม่ได้ใส่ใจจะเคาะประตู หรือรอให้ใครอนุญาต กับห้องทำงานที่เขาคุ้นเคย หรือแม้กระทั่งห้องนี้ที่ติดกับห้องนอน ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของตัวเอง

...เอาเถอะ ก็เคาะประตูไปแล้ว คราวหน้าจะยืนทู่ซี้จนกว่าจะได้คำขออนุญาตแล้วกัน..

     " รอฟังคำอนุญาตสักนิดมันคงไม่เสียเวลาอะไรสักเท่าไรใช่ไหม? " อัลชาอ์หยิบปากกามาเขียนอะไรสักอย่างลงในกระดาษโน๊ตขนาดเล็ก และเพราะกำลังก้มเขียนอยู่จึงไม่ได้เห็นสีหน้าแววตาของคนฟังที่ขึงตึงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว...และโชคร้ายเสียด้วย ในเมื่อโรเบิร์ตมองเห็นแววตาวาววับของผู้ฟังอย่างชัดเจน

      "ขอโทษแล้วกันครับ ไว้คราวหน้าผมจะระวังตัว " ใบหน้าที่บอกได้เลยว่ามีสเน่ห์ดูดีของหนุ่มชาวอิตาเลียนเบื้องหน้ากระตุกวูบอย่างชวนให้หวั่นว่าเส้นอารมณ์พ่อเจ้าประคุณจะขาดเมื่อไหร่  โรเบิร์ตยังจำได้ดีว่าหมอนี่เวลากระทืบชาวบ้านน่ากลัวได้ขนาดไหน หนุ่มอังกฤษมองสีหน้าของสองบุรุษในห้องและได้แต่ครางในลำคอเบาๆ นึกโทษตัวเองอีกครั้งว่าเขาอยู่ผิดที่ผิดทางเป็นที่สุด...

 ไม่ได้อยากจะเป็นสาเหตุให้ใครเขาไม่พอใจกัน และไม่ได้อยากจะนั่งนิ่งท่ามกลางบรรยากาศคุกรุ่นแบบนี้หรอกนะ..

   เหล่มองใบหน้าของอดีตคนรักที่เฉยชาอย่างที่เขาไม่เคยชอบแล้วก็ได้แต่ลอบถอนใจเบาๆ...เวลาอัลชาอ์โกรธก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่เวลาเฉยนี่สิ...สำหรับโรเบิร์ตเขาคิดว่ามันน่ากลัวกว่านับสิบเท่า...

....แล้วสองคนนี้...

    หนุ่มอังกฤษยกปลายนิ้วขยี้จมูกแดงก่ำของตัวเองที่เกิดจากเรื่องงี่เง่าบ้าบอ ซึ่งเขาประสบจากเจ้าบ้าคนหนึ่งพลางลอบสังเกต คาวัลโล เตอเกียแร่ และอัลชาอ์ มูอัสซิน ที่ต่างฝ่ายต่างก็นิ่ง ไม่มีใครเอ่ยถ้อยคำใดออกมา

...ยิ่งกว่าทำสงครามเย็นกันเสียอีก...

   โรเบิร์ตถอนหายใจงึมงัม ให้ทะเลาะวิวาทกันยังดีกว่ามาเงียบกันแบบนี้ อัลชาอ์ก็ไม่ยอม คาวัลโลก็ไม่ยอม แล้วแบบนี้มันจะลงเอยกันได้อย่างไรนี่...

คนหนึ่งก็นิ่งไม่พูด อีกคนก็หยิ่ง ทำเฉย...ทั้งที่ต่างฝ่ายก็ร้อนใจแทบตาย "คนภายนอก"แบบเขายังมองออกเลยนะ ว่าสองคนนี้มันต้องมีอะไรแฝงอยู่แหงๆ

...แต่ดูเอาเถอะ...

หนุ่มเมืองผู้ดีคิดในใจอย่างหน่ายระอา...ถ้ายังเอาแต่นิ่งกันแบบนี้ ก็คงไม่มีวันจะได้รักกันหรอก..

        แผ่นกระดาษที่มีตัวเลขเขียนอยู่สองสามแถวถูกวางไว้ตรงหน้า เมื่อชีคหนุ่มเสียบปากกาเก็บเข้าที่เดิม คาวัลโลขมวดคิ้วน้อยๆ มองตัวเลขนั้นอย่างกังขา หากเมื่ออัลชาอ์ชี้ไปที่เก้าอี้บุนวมสีมะเกลือที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะที่วางโทรศัพท์อยู่ เขาก็เข้าใจได้ไม่ยาก..

       "...ให้คุยตรงนี้? "คาวัลโลเอื้อมมือหยิบกระดาษแผ่นนั้นมามอง แล้วออกปากถาม

       " ใช่ " อัลชาอ์พยักหน้ารับ ....แต่คนฟังถอนหายใจเฮือก ไม่ได้ลืมหรอกว่าชีคหนุ่มตั้งข้อกำหนดไว้อย่างไรบ้างเกี่ยวกับการจะติดต่อกับคนทางนั้นของเขา แต่ว่า....มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องมาคุยให้คนอื่นฟัง ?

    มันไม่จำเป็นจะต้องคุยให้ ไอ้คุณโรเบิร์ต ชอว์ตันฟังนะเว้ย! ไม่มีอยู่ในข้อตกลง อย่ามาทำนิ่งทำเฉย เรื่องตอนสอบสวนเจ้าราฟาเอลโร่ก็ทีแล้ว  เมื่อวานเขายอมลงให้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตลอดไปเสียหน่อย.. อย่ามาทดสอบความอดทนของเขาด้วยเรื่องงี่เง่าแบบนี้ได้ไหม?

       " คุณก็จำได้ดีถึงข้อตกลง..." ใช่ ข้อตกลงที่ว่าต้องคุยต่อหน้า ต้องให้ฟังด้วย ต้องไม่มีความลับ....ใช่เลย

        " แล้วมีข้อไหน ที่บอกว่าผมต้องคุย...." คาวัลโลเลิกคิ้ว เขาไม่เอ่ยคำว่าคนนอก คนอื่นหรืออะไรแบบนั้นออกมา เพราะไม่อยากจะได้ยินคำประเภทที่ว่าโรเบิร์ตไม่ใช้คนอื่นหรืออะไรทำนองนั้น...จะเป็นคนสำคัญของใครก็เรื่องของพวกมัน แต่สำหรับเขามันไม่ใช่..

        ".....งั้นผมขอตัว..." โรเบิร์ตรีบแทรกขึ้นพลางลุกพรวด เขายิ้มออกมาด้วยสีหน้าจืดเจื่อน " ผมคุยธุระเสร็จแล้ว ขอตัวไปก่อนแล้วกัน "

        " ..คุณยังพูดไม่จบไม่ใช่เหรอ? ร๊อบ...." อัลชาอ์พูด...ดึงแขนหนุ่มต่างชาติที่ตั้งท่าเดินลิ่วออกไปแบบไม่เห็นหัว เพราะแน่นอนว่าหนุ่มอังกฤษคนนั้นไม่เสียสติพอจะนั่งอยู่ให้คนอื่นเขาทะเลาะกันอีกเป็นครั้งที่สอง

       สีหน้าของมาเฟียหนุ่มที่มองภาพการยื้อยุดระหว่างชายหนุ่มสองคนเบื้องหน้ากระตุกวูบ นัยน์ตาสีน้ำทะเลฉาบฉายไปด้วยความไม่พอใจและความรวดร้าวเพียงชั่วครู่ ก่อนเจ้าตัวจะกรอกตาขึ้นมองเพดานห้องเม้มปากแน่น..

        " ผมจะไปคุยที่อื่น " คาวัลโลขมวดคิ้ว ไหวไหล่ "  ห้องไหนก็ได้ที่ติดไอ้เครื่องดักฟังหรือกล้องวงจริปิดเอาไว้ ไม่งั้นก็ฟังจากโทรศัพท์นี่ก็แล้วกัน "

        "  ไม่อนุญาต "

        " .........." คาวัลโลไม่พูด อะไร หากนัยน์ตาสีน้ำทะลคู่สวยเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างน่ากลัวว่าจะตบะแตกเมื่อไหร่ มาเฟียหนุ่มหรี่ตาลงช้าๆหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กระดาษในมือตัวเองอย่างไม่อยากจะมองต้นเหตุแห่งความหงุดหงิดนั้นให้อารมณ์ขุ่นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

       " คุณจะไว้ใจคนเป็นร้อยเป็นพันก็เรื่องของคุณ   คุณจะอนุญาติให้ใครเขารู้เรื่องนั้นเรื่องนี้เหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญก็ตามใจคุณ....แต่ผมไม่....ผมไม่อยากจะทะเลาะกับคุณด้วยเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมามันก็น่าหงุดหงิดมากพอแล้ว .... " นัยน์ตาสีน้ำทะเลเหลือกขึ้นมองเพดานห้องพลางถอนหายใจแรงๆอย่างคนกำลังควบคุมอารมณ์

        " และคุณที่มีเรื่องจะคุยกับคนสำคัญ ก็คงไม่มีเวลาจะมานั่งจับผิดผมทางโทรศัพท์หรอก เดี๋ยวจะมีสัญญาณรบกวน "

ปัง !!

        ประตูห้องที่ปิดลงแล้ว ทำให้โรเบิร์ตมีสีหน้ายอกแแสยงปรากฏขึ้นทันควัน ชายหนุ่มหันมามองหน้าอดีตคนรักที่ขมวดคิ้วแน่นสีหน้าเจ็บปวดที่ปรากฏขึ้นทำให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแผ่วเบา

         "...เพราะผม...."

         " ไม่ใช่.."ชีคแห่งเซเนียยาระบายลมหายใจเบาๆสีหน้าเริ่มกลับมาเป็นปกติ อัลชาอ์จ้องมองใบหน้าและดวงตาแดงก่ำของอดีตคนรัก เขาถอนหายใจแผ่วเบา ประสานมือสอดเข้าใต้คางช้าๆ

         "...เล่าเรื่องของคุณมาดีกว่า... ตัดสินใจซะ ร๊อบ..ว่าจะเอายังไงกับราเซย์กันแน่....."


      คาวัลโลจ้องมองโทรศัพท์แบบตั้งโต๊ะเครื่องหรูในมือด้วยสีหน้าเรียบเฉย มาเฟียหนุ่มกดหมายเลขโทรศัพท์และรหัสสำหรับโทรออกของที่นี่จากกระดาษในมือ ขณะที่นั่งเงียบอยู่ในห้องทำงานของอัลชาอ์...ฮาซานมาตามตัวเขาให้กลับไปที่นั่น และเมื่อมาถึงก็ไม่มีร่างของตัวกวนโมโหตัวไหนนั่งอยู่อีกแล้ว  ซึ่งก็ถือว่าดี เพราะถึงจะเป็นอัลชาอ์นั่งอยู่คนเดียว สภาพอารมณ์หงุดหงิดของตนเองก็คงทำให้คาวัลโลอาละวาดใส่ท่านชีคแห่งเซเนียยาได้ไม่ยาก

  ...ริมฝีปากเม้มแน่นเข้าหากันยามเงี่ยหูฟังเสียงรอสาย หัวคิ้วย่นเข้าหากัน กดลึกอย่างบ่งชัดว่าไม่พอใจ...ไม่พอใจอย่างมาก

      เหนือกว่าความไม่พอใจเรื่องที่โรเบิร์ตเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ มากกว่าความไม่พอใจที่อัลชาอ์ไม่เห็นว่าเรื่องของเขาสำคัญเขา...แต่ที่เขาไม่พอใจกว่านั้น คือการพบว่าตัวเองที่เสียที่อยู่ตรงนี้ไปแล้ว ไม่มีพื้นที่ยืนใน"หัวใจ"ของอัลชาอ์เหมือนเดิม มันทำให้เขาหงุดหงิดเสียจนน่าตกใจ..

      เรื่องความเฉยชา หรือความยากลำบากในการจัดการอะไรต่างๆซึ่งจะไม่ง่ายเหมือนในตอนที่อัลชาอ์โอนอ่อนผ่อนตามเขาไปเสียทุกเรื่องเพราะความรักนั้นแน่ชัดอยู่แล้ว เขาก็เข้าใจดี..

    แต่นึกไม่ถึง ว่าจะกลายเป็นแบบนี้

 นึกไม่ถึง ว่าสิ่งที่เสียไป นอกจากจะเป็นหัวในของอีกฝ่ายก ก็ยังเป็นความรู้สึกของตัวเองด้วยเช่นกัน...

   ....อิจฉา...

    ...เขากำลังนึกอิจฉาหมอนั่น อิจฉาโรเบิร์ต ชอว์ตันคนนั้น อิจฉาที่หมอนั่นได้ในสิ่งที่ตัวเองทิ้งไปแล้ว อิจฉาที่คนๆนั้นกลายเป็นคนสำคัญ...ทั้งที่คาวัลโลก็ทำตัวเองแท้ๆ..

    ถ้าหากเป็นคาวัลโล วาลกัสคนเดิม คนที่อยู่ในตำแหน่งมาเฟีย คนที่จะเป็นบอสของวาลกัส เขาคงไม่ลังเลเลยที่จะกำจัดตัวเสี้ยนหนามที่รกหูรกตานี้ออกไปไกลๆ

  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เพราะตอนนี้ไม่ใช่ เขาถึงได้ซาบซึ้งว่าการถูกเมินและความรู้สึกที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนน่ะมันเป็นยังไง

....ทั้งที่ทำตัวเองแท้ๆ ก็ยัง...


      " ครับ "

       " พี่...นี่ผมเองนะ "  เสียงตอบรับจากปลายสายปลุกให้หลุดจากภวังค์ คาวัลโลกรอกเสียงไปตามสายอย่างกระตือรือล้น เขาแว่วเสียงขยับตัวแกรกรากจากปลายสายเบาๆก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเอ่ยพูดออกมาอีกครา

      " หายหัวไปนานเลยนะแก เป็นไงมั่ง " เสียงของพี่ชายออกจะรีบร้อนปนลนลานแปลกๆ แต่คาวัลโลก็ทำเมินไปเสีย เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังโทรไปขัดจังหวะธุระสำคัญอันใดของพี่ชายอยู่..

       "...ก็ดี.....เออ จริงสิ อเล็กซี่...พี่ได้ข่าวจากทางโน้นเรื่องพวกเรกาโซ่บ้างมั้ย? "

       " หรือว่าข่าวที่พวกมันไป UAE จะจริง " อเล็กซิสฟังคำพูดของน้องชายก็เบิกตาโพลงอย่างตกใจไม่น้อย

       " อืม....ตอนนี้พวกมันถูกจับ อยู่ที่นี่ "

       " พวกมันมาตามล่าแกเหรอ? มันรู้ได้ยังไง " อเล็กวิสใจหายวาบ รีบถามกลับ ทราบข่าวนี้คร่าวๆจากซิลเวียแล้วก็จริง ทว่าเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้

       " นั่นฉันก็อยากรู้เหมือนกัน " คาวัลโลหัวเราะหึ มุมปากกระตุกอย่างเย้ยหยัน "พวกโง่ที่รี่เข้ามาติดกับเองน่ะ พอได้ข่าวก็คงจะรีบมา เพราะกระสันอยากจะแก้แค้นเสียจนตัวสั่นล่ะมั้ง "

       " แกอย่าประมาท "เสียงเตือนจากปลายสายทำให้คนฟังพ่นลมหายใจพรู

    " รู้เแล้ว "รับคำเบาๆ พลางคิดไปถึงสีหน้าท่าทางของคนพูด...คาวัลโลสูดหายใจลึกบอกตัวเองให้ใจเย็นเช่นเดียวกับคำเตือนนั้น เพราะหากเขาวู่วามก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ในเมื่อตำแหน่งบอสแทางนั้นเป็นเพียงหนึ่งเดียวในความหวังของเขา เป็นที่ยืนที่สุดท้ายที่เหลืออยุ่เขาย่อมต้องปกป้องมันด้วยชีวิตและให้ใครมาพรากเอาไปไม่ได้เด็ดขาด

           "..แล้วทางนั้นว่ายังไง? " อเล็กซิสออกปากถามน้องชาย ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น สีหน้ายุ่งยากใจไม่น้อย ยิ่งเมื่อ....นึกถึงเรื่องที่เจ้าน้องชายคนนี้มันไม่รู้ด้วยแล้ว เขาก็ยิ่ง...

          " ....ก็โดนจับไง ตอนแรกทางนี้จะฆ่าทิ้งให้สิ้นเรื่อง แต่ฉันขอไว้...รู้สึกว่าพวกมันจะมีสายแถบนี้ด้วย เพราะเจ้าราฟาเอลโร่มันบอกว่ามีพรรคพวกเป็นชีคประเทศแถบนี้ ลองตรวจเรื่องนี้หน่อยก็ดี "

         " อืม"

         " แล้วดูความเคลื่อนไหวของพวกมันด้วย ข่าวที่ราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้โดนจับน่าจะไปถึงแล้ว..." คาวัลโลขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อสดับฟังความเงียบผิดปกติจากปลายสาย...ปลายนิ้วเรียวหมุนปากกาปากเกอร์สีทองที่วางอยู่ใกล้ๆจับหมุนเล่นแก้เบื่อ ขณะที่จดจ่อกับบทสนทนาและครุ่นคิดกับปฏิกริยาประหลาดของพี่ชาย

        "...อืม.."

       " สินค้าที่จะส่งมาที่นี่ล๊อตล่าสุดจะมาถึงอีกกี่วัน?  ให้คนของเราแฝงเข้าไปในขบวนด้วย " เพราะอาการที่รับฟังคำสั่งอย่างเชื่อฟังซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยของพี่ชาย ทำให้เขายิ่งขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่เข้าใจ และเริ่มร้องจิ๊กจักในลำคออย่างหงุดหงิด

        "อืม..."

        " นี่พี่เป็นอะไร? " ที่สุดแล้วคาวัลโลก็หมดความอดทน นี่ถ้าจำเสียงไม่ได้ เขาคงสงสัยว่ามันไม่ใช่พี่ชายตัวเองแน่ๆ มีที่ไหนที่อเล็กซิสจะทำตัวเชื่อฟังไม่ถามไถ่อะไรแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกัน

        " ...เปล่า "อเล็กซิสกระแอมเบาๆในลำคอ พี่ใหญ่ของตระกูลวาลกัสมองเอกสารบนโต๊ะทำงานก่อนจะเสมองหน้าต่างที่สะท้อนภาพสวนหน้าบ้าน ซึ่งมีร่างของชายในชุดสูทหลายคนยืนตรวจตราอย่างขันแข็ง...

ทั้งที่บ้านของเขาไม่เคยอนุญาตให้คนพวกนี้เข้ามาแสดงตนอย่างชัดเจนขนาดนี้

ทั้งที่พ่อของเขายืนยันว่าตนคือนักธุรกิจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางมาเฟีย...

ทว่าตอนนี้ ทุกอย่างมันกลับ...


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 
      "...ฉันกำลังคิด " น้ำเสียงเคร่งขรึมของพี่ชายดังลอดจากปลายสาย ทำให้คนฟังถอนหายใจแรง...สีหน้าข้องใจ

         " หรืองว่าที่บ้านมีอะไร? " คิดได้อย่างเดียวว่าเรื่องที่ทำพี่ชายเครียด ก็มีแค่...เรื่องของฝาแฝดตัวเองเท่านั้นล่ะ

         "....คาล...." อเล็กซิสเอ่ยชื่อน้องชายเบาๆ เขามองรูปถ่ายครอบครัวที่ใส่กรอบเล็กๆวางตรงหัวโต๊ะ และมองภาพถ่ายของตนและฝาแฝดอีกครั้ง...ริมฝีปากเม้มแน่น...ลังเล ที่จะพูดออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น

...ไม่อยากจะบอก ว่าเจ้าตัวไม่เป็นที่ต้องการแล้ว ไม่อยากจะพูดว่าคนที่น้องชายของเขาเคารพรักไม่แพ้ผู้เป็นพ่อทำอะไรลงไป..แต่ว่า...

...จะปิดไปก็ไม่ได้ประโยชน์..จะทำนิ่ง เฉย ก็ยิ่งส่งผลเสียมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับเขา เพียงแค่มันมีชีวิตอยู่ เพียงแค่มันยังอยู่ในโลกใบนี้...

ตรงไหนก็ได้ ยังไงก็ได้ ไม่ต้องเป็นบอสมาเฟียก็ได้ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ ไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อให้ความรักของเขากับแฝดน้องกลายเป็นความจริง ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้...

เพียงแค่น้องชายมีชีวิตอยู่ ก็พอแล้ว...

...แต่ทว่า อเล็กซิสก็รู้เช่นกัน...ว่าสำหรับคาวัลโล การ"ไม่มี"ตำแหน่งบอสนั้นไม่ต่างจากเจ้าตัวตายไปจากโลกนี้...

แลกกับการบอกความจริง กับการปล่อยให้เฝ้าพยายาม เพ้อฝันถึงอิสระ และตำแหน่งของตน..ทั้งที่ความจริงมันไม่มี เขาจะเลือกทางไหนได้เล่า

        "....เงียบทำไม พี่ " คาวัลโลขมวดคิ้วแน่น ออกปากซักอย่างเริ่มจะหงุดหงิดใจมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งกว่านั้น เขาเริ่มรู้สึก สังหรณ์ร้ายขึ้นมารางๆ

...มันต้องเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ...

          "....ซิลเวียมาหาที่บ้าน "ที่สุดแล้วอเล็กซิสก็ยังไม่กล้าจะเอ่ยปาก เขาจึงได้แต่พูดเรื่องอื่นดึงความสนใจของน้องชายไปพลางๆก่อน...

        "...แล้ว....ทำไม....เขามีอะไรรึเปล่า " คาวัลโลเลิกคิ้วงงๆกับคำพูดของพี่ชาย พลันนึกถึงประโยคนั้นของราฟาเอลโร่อีกครั้ง...

 Mi chiederai tu, morto disadorno,d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo? ?

...บทกวีนี้เอ่ยถึงความรักไว้ด้วย...หรือราฟาเอลโร่มันจะหมายความถึงซิลเวียกัน

...หรือมันจะบอกว่าซิบเวียทรยศเขา?

     มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วโคลงศรีษะช้าๆ...ระหว่างรอคำตอบของพี่ชายที่ชักจะนานขึ้นทุกที ไม่ทราบว่าเพราะระยะทางไกลรึเปล่า คำตอบมันถึงได้ดีเลย์ขนาดนี้..
แต่ว่า เรื่องที่กราดอนจะทรยศวาลกัส...นั่น...เป็นเรื่องงี่เง่าเรื่องสุดท้ายที่น่าจะเกิดขึ้นได้

ไม่ใช่ว่าเพราะกราดอนจงรักภักดีหรือเป็นมิตรอะไรกับเขาจริงจังหรอก แต่ว่า...มันเป็นเพราะกราดอนไม่มีทางจะไปดีกับพวกเรกาโซ่หรือเซเคนีได้ต่างหาก..

...แล้วซิลเวีย ก็ไม่ได้สิ้นคิดขนาดจะปล่อยให้พ่อตัวเองทำเรื่องแบบนั้นเสียด้วย

          "...ก็มาถามเรื่องแก...แล้วเอาข่าวของพวกเรกาโซ่มาบอก "

          " เห? " คำตอบนั้นชวนงงไม่น้อย เอาข่าวจากพวกเรกาโซ่...ที่ประกาศเป็นศัตรูกันนี่นะ ยัยนกมรณะนั่นไปทำอะไรท่าไหนถึงได้รู้กัน

          " ซิลเวียบอกว่าได้ข่าวจากโรซาลน่า ดีไลว่า " อเล็กซิสบอกน้องชาย เขาขมวดคิ้ว ถอนหายใจเฮือก ปลายนิ้วแตะกระจกกรอบรูปที่เย็นเฉียบ..

          "....อ้อ.....งั้นเหรอ..." พอฟังว่าได้ข่าวจากใครคาวัลโลก็หัวเราะหึ นึกอยู่แล้วว่าซิลเวียคงไม่ได้เจอราฟาเอลโร่หรือคนอื่นๆในแกงค์นั้นหรอก แต่ถ้าเป็นแม่โรซาลน่านั่นก็ไม่แน่ ยัยสาวพิการเก็บกดนั่นคงจะพูดพล่ามหลุดปากออกมาแบบไม่ทันคิดซะล่ะมั้ง...

            " จริงสิ อเล็กซิส... Mi chiederai tu, morto disadorno,d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo?  พี่เคยได้ยินหรือเปล่า? "คาวัลโลเอ่ยถามพี่ชายถึงบทกลอนกวนประสาทของเจ้าราฟาเอลโร่ เขาแว่วเสียงครางงงึมงัมของคนฟังอย่างสังสัยจัด ชวนให้หัวเราะขำ เพราะพี่ชายคงไม่นึกว่าอย่างเขาจะมาสนใจบทกลอนอะไรพวกนี้ได้

              " ของ ปาซีโลนี (Paolo Pasolini) " อเล็กซิสเอ่ยถึงนักประพันธ์และผู้กำกับภาพยนต์ชาวอิตาเลียนเจ้าของบทกลอนนี้ " ทำไม...นึกอะไรขึ้นมาถึงถาม "

              " อยากรู้ความหมายของมันไง...ไม่ใช่ความหมายปกติน่ะ แล้วก็ไม่ใช่ความหมายแบบกวีด้วย " คาวัลโลตอบกลับ พลางโคลงศรีษะเบาๆ  " พอดีได้ยินมาจากปากไอ้คนน่าโมโหคนนึง เลยมาถามเพื่อพี่จะคิดอะไรออกบ้าง "

             " หืม? ก็ความหมายในภาษิตของมาเฟียไง  Mi chiederai tu, d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo ระวังจะตายเพราะคนที่รักทรยศ..." อเล็กซิสเอ่ยตอบไปตามปกติ...หากพอพลั้งปากออกไปคนพูดกลับต้องนิ่ง...เงียบไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย...

             "...อา....งั้น..เหรอ.." คาวัลโลก็นิ่งงันไปเช่นกัน มาเฟียหนุ่มเผลอเม้มปากแน่นอย่างเผลอไผล..เมื่อกวีบทนี้มัน...

             " ใคร " อเล็กซิบกำโทรศัพท์แน่น เอ่ยปากถามน้องชายเสียงห้วน " ใครเป็นคนพูดให้แกได้ยิน คาวัลโล ! "

             "...เอ๊ะ...." คาวัลโล ชะงักไปกับน้ำเสียงห้วนจัดของพี่ชายที่โพล่งขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว " อะไรกัน "

            "...ฉะ....ฉันแค่อยากรู้ว่าใครพูด " อเล็กซิสตะกุกตะกักเสียงอ่อนเมื่อรู้ตัวว่าเขาเผลอแสดงอารมณ์ออกไปชัดเจนเกินจะควบคุม...และส่วนหนึ่งหัวใจก็ร้อนเร่าด้วยความสงสัย และความอยากรู้

...ใคร...

ใครที่พูด...ราวกับรู้ รู้ทันว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ใครที่มันพูดเหมือนรู้ว่าคาวัลโลมันจะถูก....


             " ราฟาเอลโร่ " คาวัลโลตอบพี่ชายเสียงเบา....ชายหนุ่มนิ่งไปสักพัก ขณะที่ขมวดคิ้วแน่นอย่างลืมตัว ปากกาที่เขาถือเอาไว้คลึงเล่นแก้เบื่อ หลุดจากมือที่นิ่งค้างหล่นไปกองบนพื้นพรมตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

            "...แต่ก็เท่านั้นล่ะ ฉันก็ลืมนึกไปเลยเรื่องภาษิตของพวกเรา...มันพูดเรื่องนี้ คงรู้สิ ว่าในหมู่ของพวกเรามีคนทรยศ หรือกระทั่งรูเรื่องที่ฉันถูกพวกนั้นมันล่อให้มาติดกับ.. ฮ่ะๆ "

             "............" เสียงพูดเจื่อเจื่อนและรัวเร็วของน้องชายไม่ได้ทำให้อเล็กซิสรับคำแต่อย่างใด...พี่ใหญ่ของตระกูลวาลกัสยกมือกุมขมับครางในลำคอเบาๆอย่างเครียดขึง...

ไม่ได้แล้ว..จะปิดมันไม่ให้รู้ จะปล่อยให้มันตะเกียดตะกายพยายามแบบนี้ทั้งที่มันต้องกลายเป็นสิ่งไร้ค่า เขา...ทนไม่ได้...

    ....ยังไง ก็ต้องพูดออกไป...เพื่อจะไม่ให้มันต้องลำบากมากกว่านี้...

             "....แกถูกจับอยู่ที่ไหน...คาล "คำถามเสียงเข้มจากพี่ชายทำให้คนฟังขมวดคิ้ว...คาวัลโลอ้าปากหวออย่างลืมตัว พลางขมวดคิ้วแน่น หลังจากพยายามปัดเรื่องคำพูดของราฟาเอลโร่ให้หลุดไปจากสมอง

           ".....ฉันบอกไม่ได้...พี่ก็รู้ " แน่นอนว่าเขาไม่ลืมเรื่องที่ตกลงกับอัลชาอ์เอาไว้ อีกทั้งไม่จำเป็นจะต้องผิดคำสัญญาโดยเปล่าประโยชน์

            "...ฉันจะรีบส่งคนไปช่วยแกไง ทำไมจะบอกไม่ได้ คาล " อเล็กซิสขมวดคิ้วแน่น ถามกลับ

           " จะบ้ารึไง ฉันบอกแล้วว่าดูแลตัวเองได้ พี่ส่งพวกมันมาตายเปล่ารึไง ? " คาวัลโลขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดของพี่ชายสักนิด " ฉันจะหาคนทรยศของเราและคนทรยศของคนที่จับฉันไว้ พอสำเร็จพวกเขาก็จะปล่อยฉันไป ฉันก็กลับไปอย่างสมสักดิ์ศรีไงพี่  ตามที่ตกลงกันไว้แต่...."

           " พอแล้ว ศักดิ์ศรีบ้าบอพวกนั้นมันกินได้รึไง !!!! " อเล็กซิสลุกพรวดฝ่ามือทุบโต๊ะเสียงตึงใหญ่ เขาขมวดคิ้ว ปวดหัวจัดแล้วเริ่มเดินว่อน

           "....ฉันจะให้พวกมันไปช่วยแก แล้วให้แกไปอยู่ที่ปลอดภัยจนกว่าฉันจะจัดการทางนี้ได้ ไม่ต้องสนใจเรื่องจะหนีออกมายังไงแล้ว ฉันจะ...."

          " นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? " ที่ทีแปลกๆของพี่ชายกับประโยคคำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากคนๆนี้ก็บอกได้ชัดเจนพออยู่แล้วว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นทางโน้นแน่ๆ คาวัลโลโพล่งถามพี่ชายออกไปอย่างรวดเร็ว " พี่ตกลงกับฉันไว้แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจ? แล้วยังจะให้ฉันหลบไปอยู่ที่ปลอดภัยอีก ที่บ้านเรามันไม่ปลอดภัยรึไงหือ ทั้งพ่อแม่ทั้งคุณลุงอีก จะมีอะไรมาทำฉันได้ ให้พี่รับมือไปก่อนแล้วฉันจะรีบกลับไปรับช่วงต่อไงเล่า "

            "....คาล.... "อเล็กซิสเม้มปากแน่น ครางงึมงัมในลำคอ " ...แก ....ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะให้คนไปรับแก แล้วพาแกไปซ่อนตัวก่อน ฉันจะจั...."
           " ไม่ !!! บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น "คาวัลโลเขวี้ยงปากกาในมือลงบนพื้นทันควัน มาเฟียหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อลางสังหรณ์และสัญาชาติญาณของตนกำลังกรีดร้องบอกเขาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันต้องร้ายแรง...และ ส่งผลกระทบกับเขามากมายแน่ๆ

           "บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ !!! "

             ".....ไอ้..... " อเล็กซิสกัดฟันกรอด เขาขบริมฝีปากแน่น หัวสมองวิ่งวนดิ้นพล่านอย่างว้าวุ่นหากแต่สุดท้ายพี่ใหญ่ของตระกูลวาลกัสก็ตัดสินใจจะบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปตรงๆ

            " Mi chiederai tu,d'abbandonare questa disperatapassione di essere nel mondo!! แกถูกทรยศ!! เข้าใจรึยัง ที่นี่ไม่มีใครต้องการแกแล้ว ลุงกับพวกผู้บริหารระดับสูงในแกงค์ให้ฉันเป็นบอส งานศพแกเราจะจัดอย่างเร่งด่วนที่สุด ส่วนโครงกระดูกจอมปลอมนั่นเขาก็สั่งให้ผลการตรวจออกมาแล้วว่าเป็นศพแก ....ลุงจะฆ่าแกถ้าแกกลับมา เพราะแกที่พลาดท่าไม่มีคุณสมบัติจะเป็นบอสอีกแล้ว พอใจรึยัง !!  ลุงเฟรดี้ไม่ต้องการแกแล้ว เข้าใจมั้ย !! "

         ตื้ด....ตื้ด......ตื้ด......

            " อ่ะ....เฮ้...!! คาล....เดี๋ยวสิ แกอย่าเพิ่ง......คาล !!.... คาวัลโล!! แก......" อเล็กซิสตะโกนใส่โทรศัพท์เสียงดังเมื่อพบว่าปลายสายเงียบไปแล้ว แต่ตะเบ็งจนเจ็บคอก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ....พี่ใหญ่ตะกูลวาลกัสกัดฟันกรอด อเล็กซิสคำรามในลำคอเสียงห้วน เขายกมือขึ้นลูบหน้ากุมขมับอย่างเครียดเคร่งด้วยรู้สึกหงุดหงิดและเสียใจเป็นที่สุดที่พลั้งปากไป...

          " ให้ตาย.....นี่ฉัน........." ชายหนุ่มกำหมัดแน่น สีหน้าซีดเผือก

เขาก็แค่...อยากให้มันมีชีวิตอยู่...

เขาแค่อยากให้น้องชายตัวเองปลอดภัย...อยากให้มันมีชีวิตรอดกลับมา...


เพล้ง !

       ฝ่ามือที่ตั้งใจจะวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ กลับเผลอปัดใส่กรอบรูปจนมันหล่นลงบนพื้น....อเล็กซิสก้มมองกรอบรูปขนาดเล็กที่เศษกระจกแตกกระจาย...ชายหนุ่มใจหายวาบ...เมื่อพบว่ามันเป็นรูปน้องชายคนสุดท้องของตนนั่นเอง...

  คาวัลโล....

      พี่ใหญ่ตระกูลวาลกัสครางเสียงสั่นแทบจะไม่หลุดออกมาจากลำคอ...


..........................

       แอ๊ด....

          เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาแทบจะไม่ได้รับการสนใจเลยเมื่ออัลชาอ์พบว่าคาวัลโลยังคงนิ่ง ชีคหนุ่มมองร่างของหนุ่มอิตาเลียนตัวแสบเบื้องหน้าด้วยสีหน้างวยงงไม่น้อย เมื่อคาวัลโล วาลกัส ยังคงยืนนิ่ง...มือซ้ายกำหูโทรศัพท์ทิ้งลงข้างกาย อัลชาอ์มองเห็นกระดาษโน๊ตที่เขาจดรหัสสำหรับโทรออกและเบอร์โทรให้เมื่อครู่ถูกขยำจนยับยู่...ปากกาปากเกอร์ด้ามสีทองกลิ้งอยู่บนพื้นพรมไม่ไกลนัก และ....สายโทรศัพท์ที่ถูกกระชากออกจากเครื่องเมื่อใดก็ไม่ทราบได้...

          "คาวัลโล ? " ฝ่ามือหนาแตะลงบนไหล่....ให้ร่างที่นิ่งเงียบงันจนผิดวิสัยหันมาหา

          ปึก !

         "............" ร่างของมาเฟียหนุ่มหมุนตัวกลับมาให้เห็นเพียงชั่วครู่ กระแทกหัวไหล่เข้ามาชนกับแผ่นอกของตนไม่เบานัก ก่อนร่างเพรียวนั้นถลาวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเสียจนคว้าไว้ไม่ทัน

      ชีคหนุ่มยืนนิ่ง ขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งขึ้นมาทันควัน แรงกระแทกที่ได้รับไม่ได้มากมายอะไรหากเทียบกับไหล่ผอมบางที่สั่นระริกซึ่งตัวเขาได้สัมผัสมันเมื่อครู่...อีกทั้งแววตา....นัยน์ตาสีน้ำทะเลคู่นั้นที่แดงก่ำ...ประกายความรวดร้าวที่แสดงออกมาอย่างแจ่มชัดแม้จะเป็นการสบตาเพียงชั่วครู่ แต่ก็ทำให้แน่ใจ...ว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกแน่ๆ

       อัลชาอ์มองนาฬิกาซึ่งบอกเวลาเที่ยงสิบห้า ชีคหนุ่มก้าวเข้าไปเก็บเศษกระดาษและเก็บหูโทรศัพท์พ่วงเครื่องให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย...ปลายนิ้วแตะลงบนปากกาด้ามหรูที่กลิ้งโค่โร่อยู่บนพื้นพรม สีหน้ายิ่งเคร่งเครียดหนัก...

.....วางมันลงบนโต๊ะวางโทรศัพท์เครื่องเดิม ชีคหนุ่มแห่งเซเนียยาหลับตาครุ่นคิด....ถอนหายใจยาว...

   เกิดอะไรขึ้น?....

และควรจะเข้าไปถามเจ้าตัวตอนนี้รึเปล่า...

       เศษกระดาษที่ถูกขยำจนยับยู่ถูกปาลงในถังผง...อัลชาอ์สูดหายใจลึก...ขณะก้าวขาออกจากห้องทำงาน ไปยังห้องอาหารเพื่อทานอาหารเที่ยงตามปกติ..
ถึงจะยังห่วงใย...ถึงจะอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงมีท่าทีแปลกไปเช่นนั้น...แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็บ่งชัด ว่าการเข้าไปคุยกับเจ้าตัวในยามพื้นอารมณ์ไม่มั่นคง ไม่มีอะไรดีขึ้น...

   การพูดคุยกับคาวัลโลในยามที่หงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่ต่างกับเอาเหล็กร้อนไปเผาไฟ ยิ่งมีแต่จะร้อนกับร้อน มีแต่เสีย...กับเสีย

เวลาเจ้าตัวหงุดหงิด จะพลั้งปากพูดจาอะไรที่ทำร้ายตัวเขาได้อย่างง่ายดาย..

เวลาที่คาวัลโลอารมณ์ร้าย...เจ้าตัวจะทำร้าย คนที่ห่วงใยอย่างเขาได้หน้าตาเฉย

และเพราะเป็นแบบนั้น...การปล่อยให้อยู่คนเดียวไปจนกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้บ้าง....ก็คงดีกว่าการแล่นเข้าไปชนเจ้าตัวตรงๆ

   เพราะไม่มีมนุษย์คนไหน จะดื้อด้านอดทนต่อความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้นาน

      "ชีคครับ ! " หากเมื่อเปิดประตูออกไปกลับพบร่างขององค์รักษ์รายหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาหา อัลชาอ์ฟังคำรายงานนั้นแล้วเบิกตากว้าง ชีคหนุ่มสถบเบาๆในลำคอ เมื่อพบว่าการรอเวลาเหมาะสมที่จะเข้าไปถามหาเหตุผล การจะไม่เอาตัวเข้าไปพัวพันกับอารมณ์คลุ้มคลั่งของพ่อหนุ่มมาเฟียตระกูลวาลกัสนั้นไม่เป็นผลเสียแล้ว..



  ปึง !!!

     " เฮ้ !!! คุณจะทำอะไร !! " เสียงร้องเรียกของฮาซานไม่ได้เข้าหุ ไม่ได้ทำให้สนใจไปมากกว่าร่างของเจ้านักโทษที่เขาเกลียดชังเบื้องหน้า ฝ่าเท้าของเขาแตะเข้าไปที่ลูกกรงที่มันนอนอยู่เต็มแรงจนร่างนั้นสะดุ้งเฮือก หากเมื่อมันลืมตา เมื่อมันมองเห็นเขา เจ้าตัวกลับหัวเราะเบาๆ เปล่งเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจออกมาจากลำคอซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

      " แก........" เขาได้ยินเสียงตัวเองคำรามออกมาผ่านลำคอที่ตีบตัน ฝ่ามือเขย่าลูกกรงสีดำสนิทแรงๆราวกับคนบ้า....คนที่บ้าไปแล้ว...

      ...ไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกของฮาซาน ไม่ได้ยินเสียงมันห้าม ไม่สนใจมันที่ออกแรงดึงตัวเขาให้ออกห่าง

     ไม่สนใจเสียงตะโกนเพรียกพร่ำน่ารำคาญของพวกมัน และเพราะไม่อยากได้ยิน เขาจึงใช้ฝ่าเท้าแตะเข้าไปที่ร่างนั้นเต็มแรง อีกทั้งระดมซัดกำปั้นลงไปซ้ำๆ เอาให้รุนแรงเหมือนกับว่าเจ้าคนนั้นมันยืนอยู่ต่อหน้า

คนที่มันยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ไม่หยุดหย่อน คนที่มันถูกล่ามโซ่อยู่ในคุก ทั้งที่มันกำลังลำบาก ทั้งที่มันกำลังเข้าตาจน แต่ทำไม ทำไม....

ทำไมมันถึงหัวเราะ แล้วทำไมเป็นเขา ทำไมเป็นคาวัลโล วาลกัส คนนี้ที่ต้องทุรนทุรายเหมือนคนบ้า...

      " รู้อะไร !!! แกรู้อะไร !!! บอกฉัน บอกฉันมา !!!!!!!!! " ลำคอของเขาเจ็บแสบเพราะเสียงตะโกนของตัวเอง ฝ่ามือเขย่าลูกกรงสีดำนั้นแรงๆจนมันสั่นไหว จ้องมองใบหน้าของมันผ่านม่านน้ำตาที่เรือนลาง คาวัลโลแว่วเสียงหัวเราะนั้นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคำที่เขาเกลียดชังมันสุดใจ..

       "  " Mi chiederai tu, , d'abbandonare questa disperatapassione  di essere nel mondo?  ฮ่ะๆ...ทรยศไง คาวัลโล ทรยศ " ราฟาเอลโร่จ้องมองภาพความโกรธเกรี้ยวของศัตรูตนอย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ขบขัน กับอาหารทุรนทุรายเช่นนี้เหลือเกิน

          "....แกมันรู้จัก"มาเฟีย"น้อยไป คาวัลโล....ฉลาดงั้นเหรอ? เก่งงั้นเหรอ? เรื่องแบบนั้นมันเทียบอะไรได้บ้าง ในเมื่อแกก็แค่เบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง..." เขาลุกขึ้นจากพื้น เดินเข้าไปใกล้ร่างของมันที่จ้องมองตนเองด้วยดวงตาวาววับหากแดงก่ำ...มองภาพนี้ให้ตราตรึง มองและหัวเราะออกมาด้วยความสาแก่ใจ..

          "....แกคิดว่าที่ตัวเองทำอยู่มันเป็นอะไรที่เกินสติปัญญาของพวกเราหรือ..แผนการณ์ตื้นๆโง่ๆ...ที่ทำให้เกียรติของตระกูลถูกเหยียดหยามจนป่นปี้..." ราฟาเอลโร่หัวเราะออกมาพลางจ้องมองสีหน้าร้อนรนทุรนทุรายนั้นอย่างพึงใจ

        "...ตั้งแต่แกถูกจับมา แกก็ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว....ต่อให้ดิ้นรนแค่ไหน กลับไปก็ไม่มีใครต้องการ !!!! "   ราฟาเอลโร่จ้องมองสีหน้าและแววตาของศัตรูตัวฉกาจอย่างพึงใจ...เขาหัวเราะเบาๆในลำคอ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนพื้น มองดูสีหน้าพ่ายแพ้ มองดูความคุ้มคลั่งไร้ทางออกของมันให้สาใจ...

แต่เสี้ยวหนึ่งของความพึงใจ กลับเสียดแทรกความเจ็บร้าว สิ้นหวัง...

...เขาก็กลายเป็นหมากที่กำลังจะถูกทิ้งเช่นกัน เพราะเขาก็พลาด ...พลาดพลั้งเช่นเดียวกัน

...ระหว่างเขากับมันต่างถูกทิ้ง ต่างไม่เป็นที่ต้องการ หากทว่า....เพราะมันมีคนๆนั้นอยู่ข้างกาย...เขาจึงได้แต่รู้สึกพ่ายแพ้ แพ้อย่างที่เป็นมาตลอด...

ต่อให้เสียอะไร มันก็ยังมีเธออยู่ใกล้ๆ...

ต่างกับเขา ที่ต่อให้พยายามแค่ไหน เธอก็ไม่มีวันหันกลับมาอีกแล้ว...

  Mi chiederai tu, morto disadorno, d'abbandonare questa disperatapassione  di essere nel mondo?

ต่อให้ตายก็ทิ้งความรักนี้ไปไม่ได้...

บทกวีนี้...เป็นของเขาที่พ่ายแพ้นั่นเอง..

             มองนัยน์ตาสีควันบุหรี่คู่นั้นที่ฉายแววเย้ยหยันและพึงพอใจ ริมฝีปากทาบรอยยิ้มขบขันมองดูสีหน้าเย้ยเยาะและรับฟังถ้อยคำที่ประหนึ่งจะตราตรึงอยู่ในสมองของตัวเอง...เรี่ยวแรงที่เคยมีราวกับจะจางหาย ราวกับถูกดึงออกไปจากร่าง...

    ไม่มีใครต้องการ....อีกแล้ว....

ที่ๆเคยยืน บัดนี้ ไม่เหลืออีกแล้ว..

ไม่มีใครอยากให้เขามีตัวตนอยุ่ ไม่มีค่า ไม่มีความสำคัญกับใครอีก...


       "....คาวัลโล นี่มันเกิดอะไรขึ้น !! " เสียงตะโกนแฝงแววเกรี้ยวกราดร้อนรนที่เคยคุ้น...ใบหน้าแสนคุ้นตาที่ฉายแววสับสนปนเครียดเคร่ง ทำให้เขาละมือจากลูกกรงสีเข้มทันควัน  มองสบนัยน์ตาสีนิลคู่นั้นอย่างอ่อนล้า....ริมฝีปากที่สั่นระริกไหวคล้ายจะเอ่ยพูดขึ้นมา หากแต่ท้ายที่สุดก็นิ่ง...ไม่เอ่ยคำ..

   ...มือที่ยื่นมาหา...ก็ปัดทิ้ง...เพราะยึดมั่นกับความต้องการบ้าๆ ความเพ้อฝันโง่ๆของตน

     ....ที่ๆเคยยืน...ที่ๆเคยอยู่ ตอนนี้กลับหายไป ไม่ใช่ของเขา...

      เมื่อตัดใจทิ้งมันแล้วก็ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องเอากลับคืนมา เมื่อยืนยันว่าจะไม่รัก ก็ไม่มีสิทธิจะออกปากว่าเสียดาย

...ถึงตอนนี้จะเสียใจภายหลัง ก็สายไปเสียแล้ว...

รอบกายเหลือเพียงทางเดินที่มืดมิด แสงสว่างที่หลอกตัวเองว่าเคยมีอยู่บัดนี้ดับหาย

ผืนดินปลายเท้าที่เคยเหยียบย่ำ มันสั่นไหว แตกร้าว และพังทลายลงอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ร่างของเขาดิ่งลงเหวลึกที่ไม่มีทางไป..


ไร้....ที่ยืน


..............................


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
......ตอนนี้คาวี่กลับมาเรียกคะแนนสงสารหลังจากโดนคนอ่านเซ็งมาหลายตอน  :laugh:   สำหรับคาวี่ที่เหลือที่อยู่แค่ที่เดียวก็คือตำแหน่งบอสนั่น การที่ถูกพี่อเล็กซิสดึงพรวดเดียวนี่ทำเอาพ่อเหยี่ยวปีกหักของเราถึงกับหล่นตุ๊บ...เอาจริงถ้าจะเล่นงานคาวี่มันต้องซัดโครมเดียวเลยนะค่ะ เพราะถ้าแบบค่อยเป็นค่อยไปหมอนี่มันจะฟื้นตัวได้ แต่พอซัดไปโครมเดียว ก็เล่นเอาเจ็บหนักจนลุกไม่ไหวเลยเชียว (นี่คือ how to เล่นงานคนแบบคาวี่ ? )

   อเล็กซิสก็เครียดแทนเหมือนกัน เพราะรายนั้นเหมือนรับเละ น้องก็โยนปัญหามาให้จัดการเสียโครมใหญ่ แล้วลุงก็ยังจะมาตามคาดคั้น แถมเอาชีวิตคนรักเป็นตัวประกันกลายๆอีก..จะว่าไปแนวทางที่อเล็กซิสว่ามามันก็โอเคนะค่ะ คือให้คนช่วยคาวี่ออกมาแล้วมากบดานเงียบๆซักที่ รอให้พี่แกจัดการทางนี้เรียบร้อยก่อน(จริงๆคือเชือดลุงตัวเอง)แล้วค่อยให้คาวี่กลับมาเป็นบอส จะทำอะไรก็ว่ากันไป  ตามประสาพี่ที่เห็นความปลอดภัยของชีวิตสำคัญที่สุด แต่สำหรับคาวี่มันไม่ใช่...
 
   และประโยค   " Mi chiederai tu, morto disadorno, d'abbandonare questa disperatapassione  di essere nel mondo? "  จากตอนที่แล้วซึ่งทำเอาหลายคนอยากจะกรี้ดใส่พี่กู(เกิ้ล) ก็เฉลยแล้วนะจุ๊ มันเป็นบทกวีค่ะ  ปุ้ยตัดตอนออกมาจากบทกวี ของลุงปาซิโลนี(ผุ้โด่งดังจากหนังโหด เรื่องร้อยกว่าวันที่โซดอม*-*จริงๆคือร้อยหนึ่งหรือร้อยสองไม่แน่ใจ เลยเรียกร้อยกว่าวันมาตลอด 555+ ) เพราะงั้นแปลภาษาปกติจะไม่ค่อยเกท อันนี้ปุ้ยก็เอามาจากหนังสืออีกที ถ้าแปลภาษากวีก็จะได้อย่างที่คาวี่มันคิด และถ้าตัด morto disadorno ซึ่งหมายถึงเรื่องรักๆใคร่ๆออก นัยยะประโยคนี้ก็จะเป็น คนที่รักทรยศจนตายค่ะ แบบนี้ ปุ้ยเลยเอามาใส่เป็นภาษิตมาเฟียเสียเลย (ตั้งเองนะค่ะ เพราะงั้นไม่รับประกันว่าจะใช้ต่อได้ )

     จอร์จิโอ้....พ่อคนดีที่ตายแล้ว ( :laugh:) ไม่ใช่กิกเก่าคาวี่นะค้า เป็นเพื่อนสนิทสุดน่ารักของจริงค่ะ หุหุ เสียดายจริงคนดีตายเร็ว เหลือคนเกรียนให้ปุ้ยแกล้งเล่น

ตอนนี้ยาวมาก เหนื่อย ...ส่วนตอนหน้า.... o18
ปล. วันนี้อัพสองเรื่องรวด ฮู่วววว
ปล.2 แปะ sd คาวี่กะร๊อบ

 โรเบิร์ต พ่อคนดี ที่ไม่มีใครเอา ( :z6:)

    

   กะคาวี่ เวอร์ชั่นน่ารัก จะโกรธเขาลงจริงอ๊ะ?

      

... แค่ความปราณีตของเส้นกับวิธีลงสีก็บอกได้ล่ะว่ารักใครมากกว่ากัน  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2011 19:12:12 โดย Serin »

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่ไหวแล้ว ๆ บีมหัวใจมากอ่ะ ทำไมทำร้ายกันขนาดนี้ล่ะ
เข้มแข็งไว้นะคาวี่ ๆ

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
 :z3: :o12: :o12:  สงสารคาวี่อะ
โดนทรยศ อ้ากกกกก  อยากฆ่าอิลุงบ้านั่นจังเลยเว้ยยย :m31:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เรื่องนี้มาลงพร้อมกะอีกเรื่องเลย

แหมไรเตอร์ใจดีจริงๆ :L1:

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


....ไร้คำบรรยาย .....มาต่อเร็วๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อ๊ายยยยยยยยยยยย สุดยอดดดดดดด ตอนนี้สงสารคาวี่มาก โถ....อุตส่าทิ้งความรักเพื่อตำแหน่งสุดท้าย...ก็ไม่เหลืออะไรเลยTT^TT

ชีวิตน่าเศร้างี้นี่เอง...แต่ลุงอะไรนั่น เลวว่ะ!

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
 :o12: :a5: o22
บรรยายไม่ถูกเลยตอนนี้
อยากร้องไห้ให้คาวี่ แต่ร้องไม่ออก
ขอให้คาวี่กลับมายืนหยัดได้เร็วๆ
 :call:
และขอตอนต่อไปเร็วๆน๊า
แบบนี้ยิ่งห่วงคาวี่มากกว่าเดิม :เฮ้อ:

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สงสารคาวี่อะ
เหมือนทุกอย่างประดังเข้ามาพร้อมๆกัน
 :monkeysad:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
โอยยยยยยย เจ็บปวดแทนโดนคนใกล้ตัวทรยศนี่มันสุดแสนจะทรมาน แล้วจะเป็นยังไงต่อละนี่ คาวี่น้อย  :o12:

ออฟไลน์ Saffron

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
*กอดน้องคารวี่*


โอ๊ยยยยยยยยยย ทิ้งทิำฐิ ศักดิ์ศรีลงไปบ้างงง

TT^TT



แต่จริงๆ เรื่องแบบนี้จะให้ละง่ายๆ ก็ยากอ่ะนะ


แต่การโดนคนใกล้ตัวทรยศนี่มันเลวร้ายที่สุดแล้วจริงๆ อ่ะ


ออฟไลน์ lasnorches

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอียยย ไม่ไหวแล้วดราม่ามาก!!!!!!!! อ่านแล้วเจ็บแทนคาวี่ *กรีดร้อง
ตะ ตายแล้ว แล่วแบบนี้จะทำยังไงเนี่ยเห้ยยย

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
น้ำตาไหล

ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆ

ค้างเติ่ง สงสารคาวี่ อัลชาปลอบหน่อยเร็ว

คาวี่เคว้งคว้างไม่มีที่ยืนแล้วว โฮ

มาต่อโต้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเด้อ  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

KaZuKi

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดดดด เจ็บปวดอ่ะ คาวี่จะเป็นยังไงบ้างเนี้ย เห็นใจคาวี่อ่ะ จู่ๆทางเดินที่เคยมีทั้งหมดก็หายไป จู่ๆก็ไม่เป็นที่ต้องการและไม่ใช่คนสำคัญ แต่ว่าเห็นด้วยกับอเล็กอ่ะว่า ทิ้งศักดิ์ศรีลงไปก่อนได้มั้ย คือตอนนี้คาวี่หนูไม่ใช่ไม่เหลือใครนะลูก หนูยังมีท่านชีคอยู่นะ แค่เพียงเปิดใจ...แต่มันคงง่ายไปใช่มั้ยค่ะ ฮือออ รอตอนต่อไปนะค่ะ มาๆไวๆเน้ออ

littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
จนได้อะคาวี่ สงสารอ่า... โอยยย...อ่านตอนนี้มันบีบหัวใจ ขอตัวไปกินใบบัวบกแก้ช้ำในก่อนแล้วกัน ฮือ...

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
เจ็บปวด :monkeysad: ว่าอ่านตอนที่ลุงพูดก้อว่าแย่แล้ว แต่ยังไม่เท่าตอนที่พี่อเล็กซิสพูดกับนู๋คาวี่เลย
สนับสนุนให้กลับไปเชือดลุงด่วนๆเลย หนอย... กล้าเขี่ยนู่คาวี่ทิ้ง  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
คุณพี่ซิสกระชากซะคาวี่ดิ่งลงเหวเลย
คนอ่านกะจิตตกตามคาวี่ไปแล้ว :sad4:

สงสารคาวี่
สงสารซิส-เซย์
 :m15:

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
 :o12: ว่าแล้วเชียวววว

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้คาวี่น่าสงสารง่า
แง้ กลัวใจคาวี่จะทำอะไรบ้าๆขึ้นมา

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
คาวี่  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
ลองใหม่ไม่ได้เหรอท่าน พยายามอีกครั้งไม่ได้เหรอท่าน คาวี่กำลังแย่นะ
ตอนที่คาวี่เคาะประตูแล้วเข้ามาเลยนะ FCคาวี่อย่างเรา แทบจะเขวี้ยงป้ายไฟใส่ท่านนะ  :m16: ทำอย่างนี้ได้ยังไง มันเกินไปแล้วนะท่านชีค  :fire: :fire: :fire: :fire:
ร๊อบจะเอาอย่างไงกันแน่เนี่ย มันมีปัญหาอะไรกับราเซย์นักหนา ถึงแก้ไม่ได้ซักที แล้วยังมาทำแบบนี้อีก  :m31:
อเล็กซิสทำถูกแล้วล่ะพี่ พูดตรงๆ ไปเลย คาวี่จะได้เตรียมตัวหาที่ทาง ก็คนแถวนั้นเค้าไม่ไยดีกันขนาดนี้  :angry2:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

dea

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกก

อ่านตอนนี้แล้วเจ็บแทนเลยอ่ะ คาวี่ที่ผ่านมาเค้าขอโต๊ด ดดด   :sad4:

ท่านชีคเลิกเมินคาวี่ได้แล้วนะ สงสารมันง่ะ  :m15:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สงสารคาวี่  เจ็บเจียนตายกับเส้นทางที่ตัวเองเลือก
ทั้งที่คิดไว้แล้วว่าดี  เอาหัวใจของตัวเองเข้าแลก
แต่สุดท้ายแล้วกลับโดนทรยศจากคนที่ไว้ใจที่สุด  
เจ็บลึก  เจ็บนาน  เจ็บเจียนตาย

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
คาวี่น่ารักออก ใครจะไปโกรธลงล่ะเฮ้ยยย

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เศร้าเลยอ่ะ...คงไม่ใช่ว่าเป็นลุงนั่นหรอกนะที่วางแผนมาโดยตลอดน่ะ :m15:
คาลจะเอายังไงต่อล่ะ...ฆ่าให้หมดแล้วยึดอำนาจเลยมะเล็กซิสต์ก็จะได้ไม่ต้องเป็นบอสด้วย :laugh:

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
กรี๊ดดด ได้ฉากรู้ความจริงสมพรปากตัวเอง
จี๊ดใจจริงจัง อ่านซ้ำ อ่านย้อน อ่านวนลูปไม่ยอมจบ

เจ็บแต่สะใจ อิ๊นนอิน

ไม่รู้ทำไมแต่อยาก  :z6: อัลชาห์จังเลย -*-

ฉากหมาไนเลียแผลใจจะเป็นยังไงหนอ?
แล้วฉากไหนที่จะหมายถึงกระจกรูปคาวี่ที่ตกแตกหนอ

แอร๊ยยยส์ ตื่นเต้น
 :impress2:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
บอกตรงๆนะว่า เราเหมือนจะสะใจเลยอ่ะ
แต่ตอนนี้ คาลกำลังทุกข์
ท่านชีครีบทำคะแนนเร็ว  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด