Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1006572 ครั้ง)

butajang

  • บุคคลทั่วไป
เเวะมาส่อง โอ้ ยังค้างกับการฝากรอยบนเเก้มคาวี่ ....คุณปุ้ยคะ มาต่อไม๊คะ วันนี้ คิดถึงมากมายยยยยย

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
อยากอ่านต่อเล้วอ่ะค่ะ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
คนเขียนติดสอบค่า ประมาณวันที่สิบจะอัพค่ะ

dea

  • บุคคลทั่วไป
รอจ้าา ขอให้ประสบความสำเร็จในการเด้อ สู้ๆ  :z2:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
ความเดิมจากหนังสือ "ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต" มันมีอยู่ว่า

...........
เมื่อรักใครคนหนึ่ง
จึงไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้กอดกันหรือไม่
...
ความรักบางอย่างในชีวิตคนเราเอื้อมไม่ถึง
สัมผัสไม่ได้
เหมาะสำหรับเอาไว้มองดู...
ไว้ชื่นชมอยู่ไกลๆ
....
ดวงไฟประภาคารสวยล้ำค่า
ยามเราล่องเรืออยู่ในทะเลลึก
จนหาทางกลับไม่ได้
...
เราจ้องมองดวงไฟ
เพียงให้รู้ว่าควรเดินหน้าไปทิศทางใด
ใช่จะต้องเบนหัวเรือ..เพื่อมุ่งไปจอดเทียบท่า
หน้าประภาคารเสียเมื่อไหร่
....
ได้รักเธอ...ประภาคารก็ดูสวยดี
คนที่ฉันกอดได้
ก็ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว
....
อย่าสนใจเลยนะคนดี
ว่ารักเธอแล้ว ฉันคนนี้จะกอดใคร
แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป
เพียงพอแล้ว

,,,,,,,,,,,,,,,

*รักเธอ...กอดคนอื่น" เป็นงานขียนชิ้นหนึ่งจากพ็อคเก็ตบุ๊ค "ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต" ของคุณปราย พันแสง

.......
   เอามาแปะค่ะ ช่วงนี้อารมณ์ไม่คงที่ ซีเรียสชอบกล
เปิดคอมพ์มาเช็คเมล์แป๊ปเดียวก็ต้องกลับไปดุหนังสือแล้ว  :m15: แอบเศร้าแฮะ..
ชอบงานของคุณปรายมาก โดยเแพาะบทกวีที่แปลออกมาได้สวยงามละเมียดละไม...แต่ช่วงนี้"รักเธอ กอดคนอื่น"คงพีคที่สุดล่ะ..
..อ่านๆแล้วคิดถึงความรู้สึกอัลชาอ์แล้วก็.. :เฮ้อ:
แต่มีหลายคนบอกว่าสงสารคาวัลโลมากกว่า เพราะเขาคนนั้นไม่เคยรู้จักรัก ไม่เคยรู้จักความรัก และไม่คิดว่าตัวเองจะรักใคร...
...คนแบบนั้นอาจจะต้องเสียใจภายหลังในสักวันหนึ่งก็เป็นได้
บางทีมันอาจจะจบแบบนี้...แต่ไม่จำเป็นว่าต้องเศร้าเสมอไป

บางครั้งความรักก็ไม่ได้หมายถึงการได้ครอบครอง
ฉันรักเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องมารักฉัน เสียเมื่อไหร่
ปัจจัยที่ทำให้เราได้รักกันมันมีหลายอย่าง
คำว่า "รัก" ของแต่ละคน ย่อมมีนิยามที่แตกต่างกัน
รักเธอ กอดคนอื่น
คงจะเสมือน
ฉันรักเธอ แต่ฉันก็ไม่สามารถเคียงข้างเธอได้ อย่างนั้นกระมัง
แต่เราก็มีความสุขกับการได้มองเห็นเขาอยู่..ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม..

มาเพ้อนิดๆแล้วจากไป..สวัสดีทุกคนค่ะ ไม่กี่วันจะกลับมาอัพ  :กอด1:
อยากเขียนนิยายต่ออ่ะ แต่ทำไม่ได้ ไม่อ่านแล้วสอบไม่ได้แหงๆ :monkeysad:
*นิดนึง แค่เพ้อ ไม่ได้เกี่ยวกับอนาคตของนิยายเรื่องนี้นะ บอกไว้ก่อนเดี๋ยวตกใจกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2011 10:50:43 โดย Serin »

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
^

แอบตกใจ คิ้วขมวดไปสี่วิ
อ่านถึงบรรทัดสุดท้ายแล้วตบอกปุปุ

ฟู่ว~

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตกใจไปแล้วค่าา าาา  :serius2:
อ่านแล้วเศร้าอ่ะ ,,ความรักแบบนี้  ..ทนได้ยังไงกันนะ

แต่นิยามความรักของคนเรามันไม่เหมือนกันจริงนั่นแหละค่ะ  o13
ชอบๆ

สู้ๆนะค่าไรเตอร์ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แล้วจะเป็นยังไงต่อไปคะเนี่ย คาวี่โดนตบ เหอๆ

หวังว่าคงไม่คิดโกรธคนตบจนหนีไปนะ

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะคุณปุ้ยที่มาเเจ้งข่าว  เเล้วจะคอยค่ะ เรื่องสอบก็สู้ๆนะคะ อนาคตเราสำคัญกว่าอื่นใด เเล้วก็ ดีเเล้วค่ะที่นิยายไม่ได้จบเหมือนอย่างมที่คุณปุ้ยลง เพราะไม่งั้นอาจจะวิ่งออกไปเลยก็ได้ คุคุคุ พอดี ชอบ มาโซ มากกว่า มาม่า นิ คุคุคุ เรื่องอารมณ์ใจเย็นๆนะคะ เป็ฯธรรมดา ขึ้นๆลงๆ ยิ่งกว่าคลื่นในทะเล เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ

ปล. บทความจากหนังสือที่มาลง เศร้ามากค่ะ เเต่มันไม่ซึ้งสำหรับเรา คุคุคุ ถ้าสนใจวิจารณ์บทความกันได้นะคะ คุคุคุ   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2011 10:16:40 โดย butajang »

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
เต็มๆๆๆๆโดนเต็มๆหน้าเลยอ่ะ


เง้อช็อคไปเลยอ่ะ



รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
พึ่งได้เข้ามาอ่าน อ่านไปอ่านมาติดเลยอะ ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คาวี โดนซะบ้างก็ดี ท่านชีคเป็นห่วงขนาดนี้ยังจะออกมาอีก  ไม่เคยฟังกันบ้างเลย  :เฮ้อ:


  แอบสะใจนิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2011 16:34:20 โดย konnarak »

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
พอดีไปเจอมา





ข้อมูล

ชีคฮัมดัน บิน โมฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มักตูม... (Sheikh Hamdam Bin Mohammad Bin Rashid Al Maktoum)

เป็นมกุฏราชกุมารแห่งดูไบค่ะ ทรงรั้งตำแหน่ง crown prince (รัชทายาท) ด้วย
แถมเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกอันดับที่ 5 อีก

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[








ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
Re: Stone rose's line : กุหลาบทรายใ
«ตอบ #972 เมื่อ08-03-2011 19:02:07 »

กริ๊ด~~~~~~~ชีคตบน่าคาลเหรอ แถมทิ้งอีกต่างหาก ถ้าคาลหายอย่ามาตามน่ะ

ถ้าคาลไม่มาสงสัยว่าท่ายชีคโดนเก็บเเน่ๆ *555*

รอมาต่อน่ะค่ะ


*fcคาลจังที่รัก 555*

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
konnarak

สุดยอดคะ !!! ขนตาท่านซีคเหมือนวาดมาเลยนะเนี่ย >,<

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
เข้ามารอคาวี่กะอัลชาร์ค่ะพี่ปุ้ย :))

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line : 23  ด้วยรักและไม่เข้าใจ

       เม็ดทรายปลิวคลุ้งกระทบกระจกหน้าเป็นระยะ ทัศนวิสัยกล่าวได้ว่าค่อนข้างแย่เพราะฝุ่นผงที่ปลิวคลุ้งไม่ขาดสายจากรถคันหน้า ขณะที่รถจี๊ปคันย่อมแล่นตามขบวนรถที่มาทำภารกิจพิเศษตามคำสั่งของผู้นำตน และกำลังพากันเดินทางกลับจารเซ ห้องโดยสารขนาดเล็กมีร่างของชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ หนึ่งชายหนุ่มชาวต่างชาติผมสีน้ำตาลทองนัยน์ตาสีน้ำทะเลมีท่าทีหงุดหงิดไม่พูดไม่จา เขายังอยุ่ในชุดโธปสีดำที่ใส่ขึ้นลวกๆ ใบหน้าปรากฏรอยเลือดและรอยขีดข่วนเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ได้"ชัด"อะไรถ้าเทียบกับรอยแดงรูปนิ้วที่พาดตรงแก้มซ้าย...

    ไม่มีคำพูดอะไรในบทสนทนา มีเพียงเสียงแกร่กกรากของวิทยุสื่อสารแบบตามตัวที่ติดอยู่ในรถ ขณะที่ชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ข้างกายก็นิ่ง เขาทำเพียงขับรถตามหน้าที่ของตนเท่านั้น...

      "ผมบอกคุณแล้วว่าจะทำให้หลายคนลำบากใจ "...คงเพราะทนความทเงียบได้ไม่นานนัก...เสียงของฮาซานจึงดังเข้าหูในที่สุด แต่มันดูจะเป็นการเริ่มบทสนทนาที่ค่อนข้างแย่ เพราะมันทำให้  ทำให้คาวัลโล วาลกัส ผู้ฟังหน้านิ่ว ชายหนุ่มนั่งกอดอกสีหน้าตึงอยู่บนเบาะรถจี๊ปคันเดิมที่นั่งมา โดยมีผู้โดยสารคนเดิม คนขับคนเดิม..เท่าเดิมเป๊ะ...

      "...อ้อ...งั้นฉันควรจะนอนสบายอยู่บนเตียง  แล้วรอข่าวเจ้านายแกถูกเป่าสมองสินะ " ริมฝีปากบางเหยียดออกเป็นรอยยิ้มแสยะ นัยน์ตาที่จับจ้องไปยังเส้นทางที่มีฝุ่นคลุ้งเบื้องหน้าฉายแววไม่พอใจแจ่มชัด..

      "...เรื่องนั้นมันก็อีกเรื่อง...เรื่องที่คุณฝ่าฝืนคำสั่งมันก็อีกเรื่อง...คุณอย่าเอามารวมกันสิ" องค์รักษ์หนุ่มออกปากแก้ตัวให้เจ้านายตน

      "...คนละเรื่องตรงไหน? ในเมื่อมันเป็นผลต่อเนื่องกันอยู่แล้ว จะบอกว่าถ้าฉันไม่ไป พวกแกจะจับราฟาเอลโร่ได้งั้นเหรอ? ฉันไม่เห็นทางจะเป็นไปได้ เห็นแต่พวกคนสะเพร่า....หยักสมองตื้นกันทั้งนั้น " คาวัลโลเม้มปากแน่น ริมฝีปากสีอ่อนกราดด่าออกไปอย่างหงุดหงิด  " ไม่พอใจนักก็ปล่อยฉันทิ้งไว้กลางทะเลทรายสิ จะลำบากพามาอีกทำไม "

       คำกล่าวนั้นทำให้ฮาซานรู้ว้าคนตรงหน้าหงุดงหงิดและขัดเคืองที่ถูกทิ้งไว้กลางทะเลทรายไม่น้อย...ไม่นับรอยแดงบนแก้มที่มาจากฝีมือของคนที่ก็รู้ๆกันอยู่..ตอนนี้คาวัลโล วาลกัสก็เพิ่มแผลที่หัวคิ้วอีกแผลและแผลที่ฝ่ามือ...ซึ่งรู้สึกว่าเลือดจะเริ่มไหลซึมออกมาอีกครั้งเพราะปากแผลที่เปิดกว้าง..

        " มือคุณเป็นยังไงบ้าง? "ฮาซานออกปากถามเบาๆ

        " ไม่เป็นไร แค่มือเจ็บ ฉันไม่ได้จะตาย " คาวัลโลเท้าศอกลงบนประตูรถพลางหรี่นัยน์ตาลงน้อยๆ มองรถที่นำขบวนบดล้อลงบนถนนจนทรายคลุ้ง เขาก้มมองแผลที่ฝ่ามือซ้ายตัวเองอีกครั้ง...ก่อนจะถอนหายใจพรู

        "....บอกว่าไม่จำเป็น.แต่พูดไปก็เท่านั้น...ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครคิดจะเข้าในเรื่องที่ตัวเองไม่เห็นด้วย...ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว....." คำพูดนั้นทำให้องค์รักษ์หนุ่มหน้านิ่ว  สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม....

        " คุณหมายถึงอะไร..."" เขาได้ยินเสียงตัวเองถามกลับเบาๆ นัยน์ตาเหลือบมองเสี้ยวหน้าที่ก้มลงน้อยๆ เปลือกตาสีอ่อนหรุบต่ำลงมองรอยแผลบนมือตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจพรู

        " ก็เปล่าหรอก...แค่คิดว่าการสื่อสารกันด้วยคำพูดมันไม่ได้ทำให้อะไร"ชัดเจน"พอ..คงเพราะฉันกับเจ้านายแกต่างกันเกินไป..."

                  วาจานั้นทำให้ผู้ฟังขมวดคิ้วอย่างนึกแปลกประหลาดใจนัก ฮาซานไม่แปลกใจที่คาวัลโลดิ้นรนนักหนาที่จะไปร่วมรบกับชีคของตน ไม่แปลกใจนักที่อีกฝ่ายจะโมโหเมื่อถูกลงโทษ...แต่เขาแปลกใจ กับคำพูดที่ออกมามากกว่า..

        "...แล้วมันมีปัญหาอะไร...." ชายหนุ่มเลิกคิ้ว สีหน้าข้องใจไม่น้อย...

         "............" คาวัลโลชะงัก มาเฟียหนุ่มหันไปมองหน้าผู้พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ...

         "..คนที่เหมือนกันอยู่ด้วยกันนานไปก็น่าเบื่อ...แต่คนที่ต่างกันเกินไป อยู่ด้วยกันนานเข้าจะยิ่งไม่เข้าใจกัน..." คาวัลโลโคลงหัวก่อนจะพ่นลมหายใจพรูลดอาการหงุดหงิด

        " ชีคเป็นห่วงคุณมาก.." ฮาซานขัดเสียงเรียบ สีหน้าเริ่มเคร่งขึ้นเรื่อยๆ..

         " ก็รู้..."

        "...แล้วนี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนความห่วงใยของคนๆหนึ่งงั้นเหรอ?...ทำไมคุณไม่...."

        " นั่งอยู่กับที่แล้วทำตามคำสั่งซะ.." คาวัลโลต่อประโยคให้จบอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าระอาใจไม่น้อย นัยน์ตาสีน้ำทะเลพราวระยับไปด้วยแววของความขบขันริมฝีปากบางอ้ากว้างเปล่งเสียงหัวเราะสยองขวัญออกมาอย่างเริ่มจะอดกลั้นกับความทื่อ งี่เง่า และเผด็จการของผู้คนที่นี่ไม่ไหว..

      องค์รักษ์หนุ่มขยับตัวยุกยิกแล้วเหลือบมองร่างของมาเฟียตัวแสบข้างกาย..เเน่นอนว่าฮาซานจำได้ไม่ลืมถึงประสบการณ์การถูกรัดคอ กระทืบท้อง หรือแก้วจี้ไปที่ลำคอของตนด้วยฝีมืออีกฝ่าย...และแน่นอนเขาคิดว่าหากคาวัลโลนึกบ้าจะถีบเขาตกรถรึฆ่ายัดกระโปรงรถด้วยความหงุดหงิดแล้วล่ะก็ตัวเองก็คงมีทางรอดยาก..

         " ฉันมีมือ มีเท้า มีสมอง มีแข้งขา อวัยวะใช้งานได้ทุกส่วน ฉันเป็นผู้ชายคนนึงที่มีไอ้นี่ไอ้นั่นเหมือนกับแกและผู้ชายทุกๆคนบนโลกนี้ แล้วเรื่องอะไรว่ะฉันถึงต้องหดหัวอยู่ในกระดองเพียงเพราะมือเป็นรูน่ะ หา?...... พวกแกก็สักพูดแต่จะล้างแค้น เอาแต่เห่าหอนว่าถูกหยามเกียรติจนรับไม่ได้..แล้วชั้นล่ะว่ะ ฉันล่ะ " ริมฝีปากนั่นอ้าออกตะโกนใส่เขาเสียงดังลั่นเสียจนฮาซานแทบอ้าปากค้าง สีหน้ามืดทะมึนและเต็มไปด้วยความไม่พอใจทำให้ฮาซานนึกผวาอยู่ไม่น้อย มองเห็นฝ่าเท้าในรองเท้าบู๊ตออกแรงกระทืบแรงๆลงบนคอนโซลรถด้านหน้าอย่างอารมณ์เสีย

        "  ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกัน เรื่องอะไรฉันต้องมาหดหัวอยู่ในกระดองด้วย ! อย่ามาคิดว่าฉันเป็นพวกไม่มีสมองไม่มีเรี่ยวแรง ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอที่ต้องให้ใครมาปกป้อง...ฉันดูแลตัวเองได้ดีกว่าพวกแก แก และ แกที่นั่งฟังฉันพูดอยู่ด้วยซ้ำ...ห่าเอ๊ย! อย่าคิดนะว่ากูไม่รู้ว่าวิทยุสื่อสารมันเปิดทิ้งไว้นะ !! "

        ".............." แว่วเสียงโครมครามโวยวายและเสียงซ่ายาวเหยียดจากวิทยุสื่อสารประจำรถแล้วรามิลก็ได้แต่ชักสีหน้าเหย ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปรับสัญญาณ แต่ฝ่ามือของชีคหนุ่มแตะไว้ แล้วเจ้าตัวก็กดปิดมันจนเหลือเพียงความเงียบอวลอยู่ในตัวรถ..

   แต่แน่นอนล่ะว่าประโยคสุดท้ายของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ยังดังก้องอยู่ในสมอง... รามิลอดยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองหน้าชาวาบ...ด้วยความอายและความอึ้งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันชนิดไม่ทันให้ตั้งตัว..

   ยอมรับว่าการจับหนึ่งในตัวการได้ทำให้พวกเขาลำพองใจ จนนึกไม่ถึงว่าพวกนี้จะมีลูกเล่นอื่นอยู่มากกว่านั้น...

   ....ก็ปล่อยปละละเลยแบบที่คาวัลโลพูดนั่นล่ะ..ทั้งที่อีกฝ่ายเตือนแล้วเตือนเล่าให้ระวังตัวให้ดี บอกซ้ำๆเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่นรู้ว่า"มาเฟีย"นั้นร้ายกว่าที่คิด..
ทว่าสุดท้ายก็ยังพลาด...เป็นการพลาดที่หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆแล้วพวกเขาคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

... แต่ที่อึ้งกว่านั้น คงเป็นเรื่องความโกรธของคนข้างกายมากกว่า

   ชีคอัลชาอ์รู้ถึงการมาของคาวัลโลนับแต่เจ้าตัวขึ้นรถมาแล้ว เพราะวิทยุสื่อสารที่มีประจำอยู่ในรถทุกคัน และฮาซานก็จงใจเปิดทิ้งไว้ ทำให้พวกเขาทราบความคืบหน้า และทราบถึงความโกรธเคืองซึ่งปะทุขึ้นมาอย่างเชื่องช้าของผู้นำของตน..

แต่ถึงยังไง การ"ลงมือ"ของอัลชาอ์ก็ยังทำให้เขาอึ้ง...

อีกทั้งยังเป็นการตบหน้าแล้วสั่งให้รถขับจากไป ทิ้งให้คาวัลโลยืนนิ่งอยู่กลางทะเลทราย ปล่อยให้นั่งรถคันเดิมกลับกับฮาซานอย่างไม่สนใจเสียอีก..

   ...แน่นอนล่ะว่าฝ่ายนั้นต้องโมโหแทบคลั่ง...แต่แตกต่างกันก็ตรงที่ฝ่ายนี้ก็โมโหไม่ต่างกันเลยน่ะสิ..

รามิลเหลือบมองเสี้ยวหน้าเคร่งขรึมของชีคหนุ่มข้างกายแล้วถอนหายใจพรู....ต่างฝ่ายต่างก็เป็นแบบนี้...วันนี้กลับไปทัสคานี จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็สุดจะคาดเดา..
     "คุณก็ทำเกินไป" ราเซย์เคาะกระจกรถเบาๆพลางเปรยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย..

     "........." รามิลเหลือกตามองพี่ชายตัวเอง..กับการกระทำที่บ่งชัดว่าหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ หากแต่ราเซย์ที่นั่งหน้าเฉยอยู่บนเบาะหลังก็ไม่ได้มีท่าทีจะสะดุ้งสะเทือนอะไรกับใบหน้าที่ตึงขึ้นและลมหายแรงของอัลชาอ์

    "..ผู้ชายเราน่ะถือศักดิ์ศรีเหนือกว่าสิ่งอื่นใด...อย่างที่เขาพูดนั่นล่ะ เราก็มีศักดิ์ศรี เขาก็มีเช่นกัน...เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะทนงอมืองอเท้าอยู่ข้างหลังใครได้ คุณก็น่าจะรู้...."

      "............" ยังไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากของชีคแห่งเซเนียยา บรรยากาศอึมครึมในรถก็ยังดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน..

      " การที่หวังดีแบบนี้กับเขา นอกจากจะไม่ได้รับความร่วมมือแล้ว ยังพาลจะทำให้"ค่า"ของตัวเองลดลงอีก...แถมอีกฝ่ายยังเป็นมาเฟียคู่แข่ง ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกที่เขาทำแบบนี้.." ราเซย์ทอดสายตามองออกไปนอกรถ ก่อนจะหันมาสบตาอัลชาอ์ทางด้านกระจกมองซ้าย...

      "...เอาเถอะ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องสอดมือเข้าไปยุ่ง...ถ้าคิดว่าทำแบบนี้ดีแล้วก็เป็นสิทธิ์ของคุณ......."

              ราเซย์เอนตัวพิงผนังเบาะอีกครั้ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงเล็กน้อยราวกับครุ่นคิดบางสิ่ง ขณะที่อัลชาอ์จ้องมองทิวทัศน์เบื้องหน้าด้วยสีหน้านิ่งขรึม แต่หัวคิ้วกดลึก บ่งชัดว่าเขาก็ครุ่นคิดกับคำพูดนั้นไม่น้อย..

  ...............................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
            ข้าวของส่วนตัวถูกจัดเก็บเรียบร้อย อยู่ในขบวนเดินทางที่พร้อมจะออกจากจารเซกลับสู่ทัสคานี  หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้วขบวนก็จะเริ่มออกเดินทางกลับอีกครั้ง แน่เสียยิ่งกว่าแน่ว่าคาวัลโลไม่ได้ไปเสนอหน้าทานข้าวร่วมกับใคร คนที่ใครๆต่างก็เหม็นขี้หน้า ก็ยังคงมีแต่คนเหม็นขี้หน้าอยู่วันยังค่ำ.. 

        แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ต้องเสียเวลามานั่งปั้นหน้ายิ้มร่าหลอกใคร เพราะตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากๆอยู่....แถมยังเป็นอารมณ์หงุดหงิดที่หาทางระบายออกไม่ได้เสียด้วย คาวัลโลอยากจะเดินไปหาเรื่องกระทืบราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้เเก้เครียดเสียหน่อย แต่เพราะที่นี่คือจารเซ ตัวเขาที่เป็นไอ้ตัวขวางหูขวางตาจึงไม่มีสิทธิจะไปเดินท่อมๆเข้านอกออกในได้ขนาดนั้น..

       นั่งทำหน้าเมื่อยอยู่บนชุดรับแขกเล็กๆในห้องนอนของท่านชีคอัลชาอ์ ด้านหน้าของคาวัลโลมีถาดอาหารที่ทานเสร็จแล้ววางอยู่ ชายหนุ่มจิบน้ำในแก้วขณะที่นัยน์ตาก้มมองฝ่ามือของตนเองที่มีผ้าพันแผลอันใหม่พันไว้เช่นเดิม หลังจากที่แผลปริแตกไปไม่น้อยจากที่เขาไปร่วมละเลงเลือดด้วยวันนี้...

      มาเฟียหนุ่มถอนหายใจเบาๆพลางยกมือแตะหัวคิ้วที่มีรอยเลือดซึม  ร่างกายบาดเจ็บจากการวิวาทครั้งนี้เพียงเล็กน้อยแผลพวกนี้ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับเขา...และ....รอยแผลแค่นั้นก็ยังไม่เท่าที่หน้าของเขาหรอก...

     คาวัลโลขยับบิดตัวคลายเมื่อยขบขณะที่สมองแล่นฉิว ปลายนิ้วแตะลงบนผิวแก้มซ้ายที่แดงเห่อเป็นรอยมือขึ้นมาอย่างชัดเจน ยันกายขึ้นไปหยิบกระจกขนาดเล็กที่อยู่ตรงโต๊ะแต่งตัว มาเฟียหนุ่มเพ่งมองรอยนิ้วที่ประทับบนผิวแก้ม...ริมฝีปากเม้มแน่น...

   ...ยิ่งนานวันยิ่งไม่เข้าใจ...ยิ่งพยายามจะ"เข้าใจ"มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่เข้าใจขึ้นมากเท่านั้น..

      เช่นเดียวกับที่เขาพูดออกมาในรถวันนี้...ความแตกต่างทั้งวัฒนธรรม ประเพณี ลักษณะนิสัย หรือแม้กระทั่งการแสดงออก ความแตกต่างเหล่านี้มากเกินไป มากเสียจนพยายามจะเข้าใจมันอย่างไรก็ยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้น..

       ....ไม่เข้าใจว่าทำไมอัลชาอ์ถึงได้ชื่นชอบการปกป้องที่ไร้สาระนี่นัก และยิ่งไม่เข้าใจ ว่าในสายตาของอัลชาอ์แล้ว คาวัลโล วาลกัส คือผู้ชายที่ไม่ต่างกับตัวเองรึเปล่า..

พฤติกรรมของฝ่ายนั้นทำให้เขาสงสัย...กระทั่งรอยตบนี่...ก็ยังคงนำพาความสงสัยมาให้..

 อัลชาอ์คิดว่าเขาคืออะไร  ผู้ชายคนหนึ่ง มาเฟีย คนที่ตัวเองหลงรัก หรือเป็น "สมบัติ" ส่วนตัวที่ได้มาและต้องปกป้องรักษาหวงแหนยิ่งชีวิต
คาวัลโลขมวดคิ้ว หน้าเบ้ พลางลูบแก้มตัวเองอีกครั้ง...เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องหน้าตาตัวเองนักหรอกว่าจะเป็นแบบไหน ยังไงรอยตบ มันก็แค่รอยบตบ แต่ขณะเดียวกัน มันก็ยัง"เป็นถึง"รอยตบ

....คาวัลโลไม่ได้โกรธที่ถูกทำร้าย ไปมากกว่าโกรธที่อีกฝ่ายเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขาจนแทบติดดิน..

เขาโกรธและอึ้งที่ถูกทำร้ายร่างกาย...แต่ไม่เท่ากับสภาพของเรื่องราวตอนนั้น...อัลชาอ์ที่ตบเขาท่ามกลางสายตาขององครักษ์ ทหาร และที่สำคัญ ต่อหน้า "ราฟาเอลโร่และฟิลิเป้"

.....ทำแบบนี้มันต่างอะไรกับการจับเขาไปแห่ประจานรอบเมือง หรือออกข่าวให้กระฉ่อนไปทั่วโลกกัน??

   แค่เรื่องที่อัลชาอ์ทิ้งให้เขาอยู่โยงเฝ้าวัง คาวัลโลก็เคืองมากพอแล้ว แม้เขาจะเริ่มทำใจว่าเป็นเพราะความห่วงของอีกฝ่ายอย่างที่ฮาซานมันพล่ามให้ฟังตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถ...แต่ทว่า พอมาถึง เขาที่อุตส่าห์มาช่วยกลับได้รับผลตอบแทนเช่นนั้น..

หรือต่อให้ไม่นับเรื่องมาช่วย...อัลชาอ์มีสิทธ์อะไรจะมาประนามเขากลางสมรภูมิรบ ให้ได้อับอายกันไปข้าง...โดยเฉพาะต่อหน้าเจ้าคู่แข่งคนนั้น...คนที่เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้เด็ดขาด..

    คาวัลโลเม้มปากแน่นพร้อมกับกัดฟันกรอด ไม่ใช่ว่าจะไม่พยายามหาเหตุผลต่างๆมาหักล้างเพื่อไม่ให้ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แม้พยายามเต็มที่ที่จะเข้าใจ แต่อย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ...

....เขาอึดอัดกับการถูกปฏิบัติด้วยไม่ต่างกับผู้หญิง อึดอัดกับสายตาที่แฝงนัยยะล้อเลียนของผู้คนโดยรอบ และอับอาย..กับแววตาเยาะหยันของราฟาเอลโร่ที่สาดเข้าหาแม้เพียงชั่วครู่...

    คาวัลโล วาลกัส เป็นผู้ชาย ผู้ชายคนหนึ่ง คนที่กำลังจะเป็รบอสมาเฟีย ....คนที่พบเจออะไรมามากมายและเเข็งแกร่งไม่แพ้ใคร..

เขาไม่ใช่ ผุ้หญิงอ่อนแอบอบบางให้ต้องปกป้อง เขาไม่พวกห่วยบรมที่ทำอะไรไม่เป็น...และที่สำคัญ เขาไม่ใช่โสเภณีที่ยอมทอดกายให้ใครก็ได้เพื่อความอยู่รอด..

นี่เขากำลังพยายามจะรักษาตัวตนของตนเองไว้...เขาพยายามจะทำให้ทุกคนรู้ว่า คาวัลโล วาลกัส ไม่ได้มีหน้าที่ หรือบทบาทอะไรแบบที่พวกมันหยามหยัน..

....แต่ทำไม อัลชาอ์ถึงไม่เข้าใจ...

   เขาไม่ชอบถูกทะนุถนอม ไม่ชอบถูกหวงแหน ไม่ชอบจะถูก"ห่วง"เสียจนทำอะไรไม่เป็น นั่นไม่ใช่ตัวเขา เขาไม่ใช่ไม้เลื้อยที่มีชีวิตอยุ่ได้ด้วยการเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ใหญ่ เขาคือไม้ที่กำลังยืนต้นเติบโตด้วยตนเอง..

...ไม่จำเป็นจะต้องทำหลักให้เกาะยึด ไม่จำเป็นจะต้องมาสร้างเพิงบังแดดบังฝน..

     ถ้าแค่ยอมรับและเชื่อมั่นในตัวตนของเขายังทำไม่ได้...แล้วจะเข้าใจกันได้ยังไง..

   ถ้าหากต้อการเขาที่เป็นชายหนุ่มแสนดีเชื่อฟังแสนสุภาพแล้วล่ะก็...สิ่งที่อัลชาอ์มองเห็นและหลงไหล มันเป็นแค่เปลือกสวยๆงามๆที่เขาสร้างขึ้นเพื่อหลอกล่อคนอื่นเท่านั้น ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงเลย..

แกร๊ก...

     " เคาะประตูบ้างจะตายไหม? "คาวัลโลโพล่งออกไปโดยไม่หันไปมอง มาเฟียหนุ่มวางกระจกลงบนโต๊ะ หน้านิ่ว..

      " อ่ะ....ขอโทษครับ..."น้ำเสียงกวนประสาทและกวนใจแบบนี้คือรามิลไม่ผิดแน่ คาวัลโลหันไปมองหน้าวิศวะกรหนุ่มเขาเลิกคิ้ว สีหน้างวยงง

      "... ห้องนี้นี่เข้านอกออกในกันง่ายเหลือเกินนะ " มาเฟียหนุ่มบ่น "ห้องนอนของผู้นำประเทศแท้ๆ เห็นมีแต่คนนั้นคนนี้วุ่นวายเยอะแยะ.."

      " ก็มีแค่ผมกับราเซย์ และฮาซานกับคนที่ได้รับคำสั่งเท่านั้นเองจะเข้ามาได้..ไม่มีใครกล้าพรวดพราดเข้ามาหรอกน่า " รามิลเอ่ยพลางทรุดตัวลงตรงข้ามร่างของมาเฟียหนุ่มชาวต่างชาติเบื้องหน้า " ผมจะมาบอกว่าให้เตรียมตัวไว้ อีกยี่สิบนาทีเราจะออกเดินทางกันแล้ว "

        " อ้อ....."เขารับคำ ก่อนจะหรี่ตามองหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้า "ที่ว่า"เรา"นี่หมายถึงคุณก็ด้วยงั้นสิ "

        "ใช่...แต่ผมไปแค่สองสามวันแล้วกลับนะ พอดีทางรัฐจ้างสถาปนิกมาออกแบบอาคารหอสมุดแห่งชาติ ผมจะไปคุยเรื่องการก่อสร้างอะไรนิดหน่อย.." รามิลรับคำหน้าระรื่น ก่อนจะมองเลยไปยังฝ่ามือของชายตรงหน้า "แล้วคุณเป็นไงบ้าง แผลโอเคไหม? "

         " อืม...แค่นี้เอง ไม่มีอะไรมากมายหรอก.." คาวัลโลยักไหล่ สีหน้าไม่หยี่ระ

         " เห?...แต่ก็ท่าจะเจ็บน่าดูนี่ แผลตรงนั้น..." นัยน์ตาของคนมองทอดเลยมายัง"ตรงนั้น"ทำให้หัวคิ้วขมวดเข้าหากันฉับ

         " ถ้าจะมาหาเรื่อง ...ไสหัวออกไปไกลๆ " เขาไม่คิดจะคุยเรื่องงี่เง่าในตอนนี้..โดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีวันเข้าข้างตัวเองแน่ๆอยู่แล้วอย่างเจ้านี่..

         "  ...ผมแค่ถาม ไม่ได้จะมาโวยวายอะไร...ก็มันเรื่องส่วนตัวนี่.." รามิลยักไหล่ พลางส่ายหัว

          "..........." คาวัลโลหรี่ตาลง ไม่พูดอะไร ขณะที่สมองกำลังประมวลผลออกมาอย่างรวดเร็วว่ามันไม่มีทางเป็นเรื่องส่วนตัวในสายตาคนอื่นแหงเเซะ

          "..แล้วเจ็บมากไหม...มันแดงเห่อจนน่ากลัวเลย " รามิลมองด้วยสีหน้าแสยงอยู่ไม่น้อย คาวัลโลฟังแล้วพ่นลมหายใจแรง...นี่ขนาดเรื่องส่วนตัวนะ เหอะ

          " ...เคยเจ็บกว่านี้เยอะ ...ที่มันเห็นชัดเพราะสีผิวต่างหาก.." คาวัลโลตอบสั้นๆ...เพราะฤทธิ์ของรอยตบมีแค่ความเจ็บชาแล้วจางไป ..แต่ความโกรธและไม่พอใจยังคงอยู่อย่างชัดเจน..

          "...ผมก็ไม่คิดจะพูดอะไรซ้ำๆซากๆหรอกนะ..แค่อยากจะบอกว่าคนนอกอย่างผมขำแทบแย่...ที่พวกคุณทะเลาะกันเพราะต่างฝ่ายต่างก็หัวดื้อซะขนาดนั้น..." ใช่ คาวัลโลไม่อยากจะฟังอะไรประเภทเพราะห่วงคุณ หรือเพราะอยากปกป้องคุณ..นอกจากรำคาญแล้วเขายังไม่ต้องการมันสุดๆ..

           "...กรณีนี้ผมบอกได้ว่าพอๆกัน...คุณมันประเภทะไม่ยอมใครอยู่แล้ว...ส่วนอัลชาอ์ก็เป็นพวกขี้ห่วงจนเกินกว่าเหตุ..ถึงจะมีสาเหตุว่ามันเป็นเพราะสภาพแย่ๆของคุณที่เขาไม่อยากเห็นอีกก็เถอะ..."คำพูดนั้นทำให้คาวัลโลขมวดคิ้ว...หากเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำแล่นขึ้นมา...กับประโยคหนึ่งในยามที่เขาเคยเสียท่าถูกจับได้....."ผมจะไม่ปล่อยให้คุณคลาดสายตาอีกแล้ว" ....คำพูดนั้นยังแจ่มชัด...

           "...โตๆกันแล้วก็คุยกันเอง..." รามิลหัวเราะขำในลำคอ จ้องมองสีหน้ามาเฟียหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มขัน " เอาล่ะ...ผมมาแจ้งข่าวแล้วก็ขอตัว อยู่กับคุณมากๆจะได้ซวยทุกทีไป "

           "........." คาวัลโลส่งนิ้วกลางไปให้คนพูดที่หัวเราะขัน มาเฟียหนุ่มบ่นงึมงัมในลำคอ มองตามแผ่นหลังของรามิลด้วยดวงตาหรี่เล็กลงอย่างครุ่นคิด..

....คนรั้นกับคนที่ขี้ห่วงเกินไป...งั้นหรือ?

จะดีกว่าไหมนะ ถ้าจะลองลดนิสัยแย่ๆส่วนนั้นแล้วหันมาใส่ใจคนอื่นเสียบ้าง..

คาวัลโลถอนหายใจแผ่วเบา มาเฟียหนุ่มจ้องมองแสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่พาดผ่านตัวอาคารอย่างครุ่นคิด เขาได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาเงียบๆและฝีเท้ามั่นคงก้าวสวบสาบอยู่เบื้องหลัง ความนิ่งสงบแบบนี้ไม่ต้องเดาให้ยากก็รู้ว่าเป็นใคร..นัยน์ตาสีน้ำทะเลหันกลับไปจ้องมองร่างของชีคแห่งเซเนียยาที่เดินมายืนข้างหลังเขาเงียบๆ..แล้วค่อยเลิกคิ้วขึ้นอย่างเนิบช้า...

    นัยน์ตาคู่นั้นสะท้อนสิ่งใดออกมาเขาไม่แน่ใจ...และเพราะไม่เข้าใจถึงได้เริ่มฉุนกึก ชายหนุ่มพ่นลมหายใจพรู....

     " จะมาตบหน้าผมอีกข้างรึไง...ถึงศาสนาของผมจะมีหลักว่า"ถ้าเขาตบแก้มซ้ายของเจ้าก็จงยื่นแก้มขวาให้เขาตบ"ด้วย...แต่ผมไม่คิดจะยอมหรอกนะ..."

       " อย่าหาเรื่อง...." น้ำเสียงที่ตอบกลับมามีแววขุ่นเคืองพอตัว แต่ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็ไม่ได้ขยับออกห่างไปไหน คาวัลโลขมวดคิ้ว อยากจะถามกลับนัก ว่าที่ทำนี่มันไม่ใช่การยั่วโมโหเขารึไง

       "....แล้วมีอะไร? " เสหลบตาไปมองขอบหน้าต่างสีทองวาววับสะท้อนสงอาทิตย์...ยอมรับว่าตอนนี้เขายังเคืองอยู่ ถ้าไม่อยากให้โวยวายโมโห มีทางเดียวเท่านั้นคือไม่มองหน้าเสีย

       "...กลับทัสคานีได้แล้ว " อัลชาอ์เอ่ยสั้นๆ พลางออกแรงดึงข้อมือของชายหนุ่มตรงหน้าให้ก้าวตามหลัง คาวัลโลขมวดคิ้วมุ่น อ้าปากค้างอยากจะโวยวายให้ลั่นสมกับการชากลากถูที่มากไปทุกที แต่เพราะสีหน้าเฉยเสียจนน่าแปลกนั่น ทำให้เขาต้องหุบปากเงียบแล้วยอมจ้ำตามแผ่นหลังนั้นไปอย่างไร้ปากเสียง...

....ยามที่มองแผ่นหลังสะท้อนแสงอาทิตย์ เสี้ยวหนึ่งเขาเริ่มคิด...ว่าหากคาวัลโล วาลกัส ไม่ใช่บอสมาเฟียแล้ว จะรักผู้ชายคนนี้ได้ไหม?

         .............................

    สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง...

   คาวัลโลย้อนนึกไปถึงความคิดของตัวเองเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้  สถานการณ์ปัจจุบันนอกจากจะไม่ชวนให้เขาคิดจะลองปรับลดนิสัยรั้นๆแล้วยังทำให้ความหัวดื้อของเขาพุ่งทะลุปรอดไปได้ง่ายๆ...

     นัยน์ตาสีน้ำทะเลตวัดมองร่างสูงข้างกาย ผ่านบทสนทนาไร้สาระของสองพี่น้องตระกูลเซฮามัคที่ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น สีหน้านิ่งเฉยและท่าทีเงียบขรึมนั้นทำให้คาวัลโลพ่นลมหายใจออกจากจมูกอีกรอบ......พอเคืองทีไรก็เป็นแบบนี้ทุกที..

      หลังจากเดินเข้ามาลากแขนเขามานั่งในรถ อัลชาอ์ก็ไม่เปิดปากพูดอะไรกับเขาอีกเลย และดูเหมือนเจ้าตัวจะอยุ่ในอารมณ์ที่ไม่ต้องการจะพูดอะไรออกมาโดยสิ้นเชิง กระทั่งราเซย์อ้าปากคุยด้วยก็ยังแทบไม่หือไม่อือ..

      นึกว่าจะได้คุยอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราว...แต่เปล่าหรอก ไม่มีอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีอะไร"เคลียร์"ทั้งนั้น...อาจจะเพราะถ้าคุยกับที่จารเซ เกิดเรื่องวิวาทใหญ่โตแล้วจะทำให้อะไรแย่ลงไปในสายตาคนภายนอกอีก...แน่นอนว่าตอนนี้อัลชาอ์ก็เคือง คาวัลโลก็เคือง และไม่มีใครเป็นฝ่ายอ้าปากพูด...เพราะแน่นอน..เขาคิดว่าตัวเองไม่ผิด...ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องขอโทษ

    เขาไม่จำเป็นจะต้องปรับตัวเข้าหาใคร ทุกคนมีหน้าที่ต้องปรับตัวเข้าหาเขา...นั่นเป็นสิ่งที่คาวัลโลคิดมาตลอด เพราะฉะนั้น...นี่ก็ต้องเป็นแบบนั้นอีกครั้ง

  ถ้าไม่ทำก็ใช้ชีวิตอยู่กับความเงียบและเป็นละครใบ้อยู่อย่างนี้จนกว่าจะจบเรื่องเถอะ...

       นาฬิกาดิจิตอลที่หน้าคอนโซลรถบอกเวลาสองทุ่มสี่สิบ...เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงแล้วที่ออกมาจากจารเซ ตอนนี้คาราวานเดินทางออกมาจากถนนทางหลวงเส้นหลักสู่เส้นทางเดินรถในทะเลทรายกว้าง โอเอซิสขนาดเล็กที่มองเห็นต้นไม้ขึ้นเป็นเงาตะคุ่มอยู่ไม่ไกล และรถทหารหลายคันที่นำจอดไปก่อนแล้วทำให้รู้ว่าเวลาพักผ่อนกำลังมาถึง คาวัลโลมองกระจกข้างกายที่สะท้อนภาพท้องทะเลทรายมืดมิดและดวงดาวเปล่งประกายระยับ....หัวคิ้วกดลึก....ไพล่คิดไปถึงตอนขามา...ที่มีบรรยากาศแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง..

      จำได้ว่า...มีใครบางคนบอกไว้...ว่าขากลับอาจจะได้นั่งดูดาว

    .....ชายหนุ่มเพ่งมองท้องฟ้ากว้างที่มีดวงดาวพราวพร่างด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาได้กลิ่นกาแฟและมองเห็นแผนที่ขนาดใหญ่บนตักของรามิล...ขณะที่ตัวเขาและชีคอัลชาอ์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งต่างก็พากันนิ่งเงียบ ไม่มีอะไรสักอย่าง..

  ...คาวัลโลเบือนหน้าหนีจากภาพแผนที่บนตักของรามิล เซย์ฮามัค นัยน์ตาสีน้ำทะเลตวัดมองท้องฟ้าสีดำประดับดาวนอกกระจกรถอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วเข้าหากันและพยายามสนใจขมับที่ปวดหนึบของตนเอง มากกว่าอาการวาบลึกในอก...ที่เสียดแทงขึ้นมาภายในใจอย่างเงียบงัน...

         " คุณจะพักที่ไหน? "คำถามจากราเซย์ทำให้คนฟังเลิกคิ้ว คาวัลโลมองหน้าคนถามเป็นเชิงสงสัยไม่น้อย ฝ่าเท้าในรองเท้าบู๊ทสีดำเหยียบลงบนผืนทรายที่ยังทิ้งรอยอุ่น แม้อากาศรอบด้านจะเริ่มหนาวยะเยือก มีสายลมหวีดหวิวพัดเอาฝุ่นผงปลิวกระจายรอบกาย

         "....ที่ไหนก็ได้ " คาวัลโลตอบสั้นๆ แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาไม่มีสิทธิ์เลือก แต่ก็เข้าใจดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงถาม เพราะดูจากสภาพการณ์แล้ว สองพี่น้องเซย์ฮามัคคงคาดว่าอัลชาอ์ที่นิ่งเงียบอารมณ์ขุ่นจะเคืองจัดจนไม่อยากเห็นหน้าเขา...หรือไม่ พวกมันสองคน คงกลัวว่าถ้านอนที่เดียวกัน เขาสองคนอาจจะฆ่ากันตาย

        " ที่เดิม " เสียงของท่านชีคแห่งเซเนียยาดังขึ้นเรียบๆพร้อมกับพ่นลมหายใจแรง รามิลและราเซย์เลิกคิ้วสงสัย แต่ก็ไม่คิดจะค้าน ขณะที่คาวัลโลพยักหน้ารับ แล้วหันหลังเดินเตร่ไปยังโอเอซิสเล็กๆด้านหลัง..

            ไม่มีเสียงบ่นว่าระวังพวกงูหรือตัวอะไรเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปหา และมองเห็นเพียงแผ่นหลังคุ้นตาเดินก้าวยาวๆเข้าไปในกระโจมเท่านั้น...

            คาวัลโลพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ก้าวเท้าเดินแหวกพงหญ้าไปยังโขดหินเล็กๆที่เป็นต้นกำเนิดของตาน้ำที่นี่ แสงไฟที่สาดมาจากรถโฟร์วีลคันใหญ่ส่องกระทบเหล่าพรรณไม้จนเกินเงาดำวูบไหว คาวัลโลเอื้อมมือไปวักน้ำใสสะอาดจากตาน้ำเล่นอย่างใจลอย จากมุมที่เขาอยู่นี้พอเงยหน้าขึ้นก็สามารถเห็นดวงดาวนับล้านกระพริบอวดแสงบนฟากฟ้าสีดำได้อย่างชัดเจน..

          ทรุดกายนั่งลงบนพื้นหญ้า ขณะที่ใบหน้าแหงนเงยมองท้องฟ้าพร่างดาว คาวัลโล วาลกัสถอนใจออกมาอีกครั้งด้วยความรู้สึก.....เหนื่อยหน่ายชอบกล...

        " คุณไม่ควรมาอยู่ตรงนี้..." ไม่รู้ฮาซานมันเป็นผีห่าซาตานหรือตัวอะไรรึเปล่า มันถึงได้สามารถตามเขาเจอได้ทุกที่ คาวัลโลชักสีหน้าหงุดหงิดใส่องค์รักษ์ของอัลชาอ์...ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นผีประจำตัวเขา...

        "....เดี๋ยวแมงป่องไม่ก็งูทะเลทรายจะกัดเอานะคุณ...แค่นี้ยังมีแผลไม่พออีกหรือ? "

        " ฉันไม่โง่ซ้ำซากหรอกน่า "คาวัลโลบ่นอู้ เขาไม่ใช่ประเภทไม่รู้จักจำเสียหน่อย ที่ถูกกัดไปก็เพราะรีบร้อนบวกกับไม่เห็นต่างหาก ไม่อยางนั้นอย่าหวังว่าตัวอะไรจะมาทำอันตรายเขาเอาได้

        "...แล้วนี่ไปทำอะไรมา? "  เลิกคิ้วถามเจ้าองค์รักษ์ที่หายหน้าไปนับแต่กลับมาถึงจารเซ ฮาซานมองหน้าเขา ก่อนเจ้าตัวจะส่ายหน้า

        " ผมบอกแล้วไง...ว่าการกระทำของคุณทำให้ใครหลายคนลำบากใจ...และ เดือดร้อน "

        "ทำไมไม่บอกไปว่าฉันบังคับแก...ฮาซาน...." นัยน์ตาคนฟังหรี่ลงช้าๆ สีหน้าขึงตึงไม่พอใจ...

        "...ผมไม่ชอบโบ้ยความผิดไปให้คนอื่น...และอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้เสียใจกับการกระทำของตัวเอง " ฮาซานตอบเสียงเรียบ นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองสีหน้าของหนุ่มต่างชาติที่บ่งชัดถึงความไม่พอใจอย่างเคร่งขรึม "และคนที่คุณควรจะขอโทษ ไม่ใช่ผม "

      " นี่......."

      " ...... "

       " จะเอาเรื่องตัวเองมาเป็นข้ออ้างรึไง...หา? "คาวัลโลยกมือขึ้นเสียผม สีหน้าหน่ายเหนื่อย..

       " ......" ฮาซานไม่ตอบ องค์รักษ์ร่างใหญ่จ้องมองใบหน้าขาวจัดนั้น สบตาสีนิลเงียบๆ ก่อนจะผินกายหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว..

....ทำไมถึงมีแต่คนว่าเขาเป็นคนผิดกันนะ ! คาวัลโลมองตามแผ่นหลังของฮาซานด้วยสีหน้าไม่พอใจ
............


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Re: Stone rose's line : กุหลาบทรายใ
«ตอบ #977 เมื่อ11-03-2011 01:40:07 »

      ก้าวเท้าเข้าไปในกระโจมที่แสนคุ้นตา กวาดตามองเห็นม้านอนตัวเดิมที่เขามักจะใช้นั่งๆนอนๆกางอยู่บนนั้น ขณะที่อัลชาอ์นั่งเปิดอ่านเอกสารด้วยตะเกียงแสงสีนวลที่แขวนไว้ลวกๆ  มองเห็นเงาของผิวหน้าตกกระทบบนโต๊ะสะท้อนภาพใบหน้าคมเข้มภายใต้แสงตะเกียงที่ดูเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ...

        คาวัลโลนั่งลงบนม้านอนตัวโปรดนั่งกระดิกเท้าได้ครู่เดียวทหารก็เดินเอากล่องยามาให้....ทำให้เขานึกได้ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนผ้าพันแผล

    แกะเอาผ้าก๊อซสีขาวออกจากฝ่ามือ อย่างชำนาญ คาวัลโลจ้องมองฝ่ามือตัวเองผ่านแสงตะเกียงสีนวลมองเห็นรอยบวมแดงของแผลจากตะปูบนฝ่ามือ ลองขยับมือดูก็พบว่ามันตึงแน่นขึ้นกว่ายามเช้าที่เขาปรี่ไปร่วมสหบาทาราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้มาก และบวมช้ำขึ้นกว่าเดิมด้วยอาจจะเป็นเพราะยังไม่หายดีเขาก็ไปทำอะไรที่มันกระเทือนแผล ยังโชคดีที่ไม่อักเสบไปมากกว่านี้...

      ไม่แน่ใจว่าแผลแบบนี้จะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนกว่าจะหาย ผ่านมาสามวันแล้วมันก็ยังบวมอยู่ไม่น้อย..บางทีอาจจะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยล่ะมั้ง...

          วางกล่องปฐมพยาบาลลงกับพื้นเมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อยากรู้ว่ามันกี่โมงแล้วแต่ก็ไม่ได้ออกปากถามออกไป คาวัลโลสอดแขนตัวเองเข้าไปหนุนศรีษะ..เขาหลับตาลงช้าๆครุ่นคิดถึงสารพัดสารพันคำพูดของผู้คนที่ผ่านหู...และ...นั่งคิดถึงเหตุผลของคนที่เขาบอกว่ารับไม่ได้...อย่างจริงจังอีกครั้ง...

      ...ทำไมต้องห่วงเกินไป...

คำตอบนั้นเขาก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว...เพราะรัก....เพราะว่ารักถึงได้...ห่วง

..ไม่ใช่ว่าเขายอมรับความรักของอัลชาอ์ไม่ได้ ถึงได้ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายห่วงใยตนเอง เพียงแต่ว่า ความห่วงใยของอัลชาอ์นั้น ควรจะอยู่ในระดับ"พอรับได้เสียบ้าง"

สลับกัน หากเป็นตัวเองที่ถูกทำแบบนี้บ้างล่ะ จะดีใจหรือ?

...ไม่เข้าใจ...เพราะต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน ดังนั้นจึงมีแต่เรื่องที่ทำให้ขัดเคือง โกรธกันอยู่แบบนี้

ระหว่างพวกเขาไม่ได้เป็นแค่ คาวัลโลและอัลชาอ์  ความแตกต่างที่ว่า ไม่ได้เป็นเพียงเพราะคนสองคนเท่านั้น

 เส้นทางและระยะห่างของชีคและมาเฟีย...มันมีมากแค่ไหน เขาก็เพิ่งรู้วันนี้เอง...

       "....ลงโทษฮาซานทำไม? "เสียงขยับกระดาษเงียบลงไปนานแล้ว ทำให้คาวัลโลอ้าปากถามในที่สุด

       "........"

      " ให้ตอบ ไม่ได้ให้เงียบ..." ความเงียบมันน่าโมโหเสียยิ่งกว่าอะไร " ฮาซานมันถูกผมบังคับ...กระทั่งชีคอาเหม็ดที่ปล่อยให้ผมไป นั่นก็เพราะถูกขอร้องไม่ใช่เพราะอยากจะให้ไปเสียหน่อย"

      "....คำสั่งก็คือคำสั่ง " อ้อ...เคร่งกฏเสียยิ่งกว่ามาเฟียแบบเขาอีก แต่ทำไมกฏที่ตัวเองสมควรจะจำใส่กะลาหัว อย่างห้ามรักผู้ชายนี่ ไม่จำมันไว้เสียบ้างล่ะ

      "...ถ้าคนพวกนั้นไม่ขัดคำสั่ง คุณก็ได้ไปนอนในโลงแล้ว...กฏเกณท์ศักดิ์ศรีบ้าบออะไร พล่ามมาได้..."คาวัลโลแสยะยิ้ม ก่อนจะหันไปเผชิญหน้าชายที่นั่งอ่านเอกสารอยู่เบื้องหน้า...เพราะเขารู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะคุยกันให้จบๆไปเสียที

...คาวัลโลเกลียดความเงียบ เกลียดการเลี่ยงบทสนานาด้วยการเพิกเฉย...แต่ที่เขาเกลียดยิ่งกว่า คือการต้องมานั่งอึมครึมโดยมีอะไรขัดข้องให้ให้โมโหอยู่แบบนี้...

       "....คุณห่วงทุกคน...ยกเว้นตัวเอง...." คำพูดนั้นทำให้คาวัลโลเลิกคิ้วคล้ายฉงน จำไม่ได้ว่าตัวเองไป"ห่วง"ใครเสียจนออกนอกหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจำได้ก็แต่ว่าทำอะไรคนอื่นไว้..และเขาก็ต้องรับผิดชอบการกระทำที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ

       "....ผมห่วงตัวเองมากกว่าที่คุณคิด....หวงแหนชีวิตตัวเองและคิดสารพัดสารพันวิธีแล้วที่จะเอาชีวิตรอด...ถ้าคุณจำไม่ได้ "คาวัลโลจ้องมองนัยน์ตาสีเข้มผ่านแสงนวลของตะเกียงที่แกว่งไกวเพียงแผ่วเบา "...ไม่จำเป็นเลยที่จะให้ใครมาห่วงว่าผมจะเป็นอะไร...ไม่จำเป็นเลย...โดยเฉพาะในกรณีที่ผมใช้สมองของตัวเองเลือกแล้วว่าจะทำอย่างไร "

       " คุณไม่ต้องมาพูดว่าเพราะตัวเองคิดแบบนั้นแบบนี้ ....อย่างที่ผมบอกกับฮาซานและที่คุณได้ยินตอนเช้า...ผมมีสมอง มีศักดิ์ศรีของผม...ผมไม่จำเป็นต้องทน และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาแก้แค้นแทน อัลชาอ์...ถ้าแค่เรื่องเล็กๆแบบนี้คุณยังคิดไม่ได้ ก็เลิกมายุ่งย่ามวุ่นวายกับชีวิตผมเสียทีเถอะ..."

       "................." นั่นอาจจะเป็นคำด่าว่าหรือตัดรอนที่รุนแรง แต่คาวัลโลก็แสร้งไม่เห็นนัยน์ตาที่ฉายแววเจ็บปวดขึ้นมาคู่นั้น...รู้ว่าร้าย แต่บางครั้งก็จำต้องเด็ดขาดเสียบ้างเพราะนี่คือทางของเขา คือศักดิ์ศรีและชีวิตของเขา...ทุกอย่างเป็นของเขาและเขาจะตัดสินใจทำทุกอย่างเอง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมายุ่ง ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาปกป้อง...

ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาคอยพยุง เพราะเขามี"ขา"ที่จะเดินเอง...

       "......ผมไม่คิดจะสนใจว่าคุณตบหน้าผมด้วยความรู้สึกแบบไหน เพราะนั่นมันเป็นเรื่องของคุณ...แต่ผมจะบอกว่าที่ผมตามไป...นอกจากเพราะศักดิ์ศรีของตัวเองแล้วก็เพราะผมเป็นห่วงคุณ....เป็นห่วงคุณอย่างที่ผมเคยบอก..." คาวัลโลหัวเราะหึ รอยยิ้มที่เผยออกมาทางมุมปากบิดเบี้ยวด้วยความขมปราที่แล่นวาบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ " ......แต่ถ้าผลของมันกลายเป็นแบบนี้ ก็ต่างคนต่างอยุ้เสียเถอะ...ผมไม่คิดจะยอมให้คุณหยามไปมากกว่านี้หรอกนะ "

       "...แล้วทำไมไม่คิดบ้าง ว่าผมก็คิดเหมือนกับคุณ...." อัลชาอ์จ้องมองนัยน์ตาสีน้ำทะเลที่สั่นไหว...มองเห็นรอยยิ้มเยาะหยันตรงมุมปากบางเด่นชัด..
.
       " คำว่าห่วงของเรามันไม่เหมือนกัน...อัลชาอ์....ผมมานั่งคิด ถึงรู้ว่ามันเป็นเพราะคุณกับผมต่างกันเกินไป...คุณไม่เข้าใจผม ผมไม่เข้าใจคุณ.....คุณไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่ต้องการให้คุณห่วงใยผมจนเกินไป ขณะที่ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าคุณจะห่วงอะไรผมนักหนา..."คาวัลโลเสยผมด้วยท่าทีหงุดหงิด แม้จะดีใจว่านี่คือการทะเลากันด้วยเหตุผล ทุ่มเถียงกันด้วยสาเหตุของตัวเองแทนที่จะวิวาทโวยวายกันเหมือนครั้งก่อน...ดีแล้ว จะได้รู้ถึงลิมิตของตัวเอง จะได้รู้เสียทีว่าใครจะต้องการแบบไหน

...รู้ และตัดสินใจกันให้เด็ดขาดไปเลย ว่าจะเลือกทำอะไร แบบไหน..

    "อย่างที่ผมบอก ผมเป็นผู้ชาย ผมเป็นมาเฟีย ผมเป็น"คน"ที่มีทุกอย่างครบถ้วน ไม่มีความจำเป็นจะต้องหลบอยู่ในเกราะกำบัง ตามที่คุณบอก...คุณอย่ามาถนอมผมเหมือนผมไม่มีปัญญาใช้ชีวิตได้เองเลย มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า "

      "...ผมแค่ไม่อยากให้คุณเป็นอะไรไป...คาวัลโล วาลกัส "ชีคแห่งเซเนียยาเปรยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับอ่อนแรงนักหนา " เหตุผลของผมมีเพียงเท่านั้น ผมห่วงคุณ ผมดูแลคุณ เพราะผมไม่ต้องการให้คุณต้องมาเจ็บ..ผมบอกแล้วว่าผมจะปกป้องคุณ...แต่คุณไม่เคยเห็นค่าของมัน....คุณคิดแต่ว่าการปกป้องของผมทำให้คุณเสียเกียรติ...แต่เหตุผลมันอาจจะเป็นอย่างที่คุณพูด....ไม่มีใครผิด เพียงแค่เราต่างกันเกินไป..."

       ".........ก็คงเป็นอย่างนั้น..." คาวัลโลกระซิบบอกเสียงเบา...ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายพูดพล่าม แต่พอได้ยินจากปากอีกฝ่าย ทำไม...เขาถึงได้เจ็บ กับคำพูดที่ว่าต่างกันเกินไปนั่น...

... นี่อาจจะเป็นความรู้สึกที่อัลชาอ์ต้องเจอเมื่อได้ยินมันมาจากปากของเขา.. ใช่ไหม?

       "....แล้วจะให้ผมทำยังไง...ต้องทำแบบไหนถึงจะได้อย่างใจคุณ? ห้ามผมห่วง ห้ามผมรักงั้นหรือ คิดว่ามันง่ายขนาดนั้นรึไง!   " นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นวาววับขึ้นราวกับทนไม่ไหว...อัลชาอ์กัดฟันกรอด จ้องมองนัยน์ตาสีน้ำทะเลอย่างร้าวไหว...ก่อนจะหัวเราะฝืดเฝื่อน ถามไป ทั้งที่รู้คำตอบของมันดีอยู่แล้ว...

       ...ทำแบบไหน ถึงจะได้อย่างที่ใจต้องการ...

พยายามทุกทางแล้ว ทั้งรัก ทั้งห่วง แสดงออกทุกอย่าง เพียงเพื่ออยากให้อีกฝ่ายรับรู้ รู้สึกถึง"รัก"ในใจตนเสียบ้าง..

แต่นอกจากคนๆนี้จะไม่รับรู้...ไม่รู้สึกถึงมันแล้ว ยังตั้งท่าปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย...

...หากเป็นอย่างที่คาวัลโลพูด ว่าต่างคนต่างมีศักดิ์ศรีของตัวเอง...ศักดิ์ศรีที่มีมาตลอดในฐานะชีคแห่งเซเนียยา ฐานะผู้นำประเทศ และศักดิ์ศรีในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง กำลังพังทลาย

มันค่อยๆหมดลงไปทีละเล็กละน้อย เพราะเขายอมทุกอย่าง...ยอมทุ่มเทและทำทุกทางเพียงเพื่อจะขอความรักจากชายหนุ่มตรงหน้า..

จะมีความรักที่ไหนที่ไร้ศักดิ์ศรีและน่าสังเวชเท่านี้ไหม...อัลชาอ์อยากรู้นัก

ทำทุกอย่าง ทุกทาง จนน่าสังเวช  น่าสมเพช ราวกับว่าเขาไม่มีหนทางไป

ทุ่มเททุกสิ่งจนตัวตนแทบหล่นหาย แต่สิ่งที่ได้มา ก็ยังเป็นความว่างเปล่าอย่างนั้นหรือ?

...ถ้าเลิกง่ายขนาดนั้น...โลกนี้จะมีคนที่ยังคงจ่อจมอยุ่ในความผิดหวัง...ทรมารอยู่กับความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้หรือ?

     "....เลิกรักผมเสียที "

         คำตอบไม่ผิดจากที่คิด...

....สบมองนัยน์ตาที่ยังคงไร้ซึ่งความรู้สึก มองใบหน้าที่ยังคงเฉยชา....คำว่า"ผมเป็นห่วงคุณ"ของชายหนุ่มตรงหน้า ที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจที่แห้งผาก ก็หายวับไปราวกับเศษผง...

อัลชาอ์จ้องมองใบหน้าที่ตนเองหลงรัก...หลงไหล...

เขาเฝ้าถามตัวเองอย่างไร้หนทางว่าทำไม...ทำไมถึงได้รัก ทำไมถึงได้หลงไหลเสียจนยอมทำทุกอย่างราวกับคนไร้ศักดิ์ศรี ไร้หนทางไป..

...รักที่ท่มเทลงไปหมดหัวใจก็ยังไม่ได้อะไรตอบแทน...อัลชาอ์หรุบตาลงช้าๆ...ชีคหนุ่มก้าวเข้าไปหาร่างของคาวัลโล วาลกัส จ้องมองใบหน้าเปี่ยมสเน่ห์น่าหลงไหลของอีกฝ่าย มองดวงตาที่สะท้อนภาพของตน หากยังไร้ความรู้สึกใด มองสีหน้าที่ยังชาเฉยจนน่าใจหาย และมองดูรอยแผลที่เขาทิ้งไว้บนใบหน้าของฝ่ายนั้น

เขาทาบฝ่ามือลงบนผิวแก้มขาวที่เป็นรอยแดงของชายหนุ่มตรงหน้า...ยังระลึกได้ถึงความรู้สึกที่ประเดประดังมายามที่ลงมือทำร้าย"หัวใจ"ของตัวเองชัดเจน

...ทั้งโกรธ ทั้งห่วง ทั้งไม่เข้าใจ...ไม่รู้ว่าทำไมคาวัลโล วาลกัส ถึงไม่คิดจะฟังคำพูดของเขา ไม่คิกจะสนใจความห่วงใย และทุกสิ่งที่ตนมีให้บาง..

หากแต่ตอนนี้ความสงสัยทุกอย่างกระจ่าง...ย้ำชัด

ความจริงที่ตนเฝ้าปฏิเสธ และยายามจะสร้างความหวังมาบดบังมันครั้งแล้วครั้งเล่า..

      ชีคหนุ่มกดริมฝีปากของตนทาบลงบนเรียวปากอีกฝ่ายเพียงแผ่วเบา...หากย้ำชัด...

ร่างสูงผุดรอยยิ้มขื่น....อัลชาอ์ผินกายลุกขึ้นและเดินออกจากกระโจม ปลายนิ้วแตะเรียวปากตนเอง ยังรู้สึกถึงรอยจูบอุ่นร้อน ทว่าชืดชาของตน

....จูบที่ขมปราและเย็นชืด...ราวกับ...เป็นคำบอกลา...


      "...จะให้ผมเลิกรัก...แล้วให้ความหวังผมทำไม? "คำถามที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า...กับรอยจูบแผ่วเบา...หากเจ็บแปลบ เพราะปลายฟันที่ขบเข้ากับริมฝีปากของเขาจนเลือดซิบ...ทำให้เจ็บ แต่ไม่เจ็บเท่ากับแววตารวดร้าวของชีคหนุ่มเบื้องหน้า...

    คาวัลโลทำได้เพียงแต่นิ่ง เขาปล่อยให้สีแดงสดของเลือดไหลเปื้อนริมฝีปากแดงก่ำของตัวเอง...เสี้ยวหนึ่งเขาก็คิด ว่ามัน"สาสม"ดีแล้ว

....เพราะคำว่าห่วงของเขาให้ความหวังกับอัลชาอ์...ทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บกับคำพูดของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

ทั้งที่สุดท้ายคำตอบมันก็เป็นแบบนี้...

นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองตามแผ่นหลังที่จากไป เขาหรุบตาลงช้าๆ...จ้องมองฝ่ามือตนเองแล้วนิ่งเงียบ...

จากเรื่องความไม่เข้าใจ สุดท้ายก็วกกลับมาเรื่องนี้..

คาวัลโลเคยเยาะหยัน พวกที่ว่ารักคือทุกสิ่งอย่างเช่นพี่ชายของเขา...หากตอนนี้ เขากลับต้องนิ่งคิด..

การกระทำของอัลชาอ์....สาเหตุความโกรธแค้นของราฟาเอลโร่ ...หรือกระทั่งการตามตัวเขาราวกับคนบ้าของฟิลิเป้ ทุกอย่างนั้นก็มาจากสาเหตุเดียวกัน..

ความรัก...คือคำตอบของการกระทำทุกอย่าง จริงหรือ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2011 02:05:54 โดย Serin »

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Re: Stone rose's line : กุหลาบทรายใ
«ตอบ #978 เมื่อ11-03-2011 02:03:48 »

    หากรักแล้วต้องทิ้งศักดิ์ศรีของตนมากองแทบเท้าอีกฝ่าย หากรักแล้วต้องยินยอมทุกสิ่งจนไม่เหลือตัวตนของตนเอง...หากรักแล้ว..ต้องทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง..
...ก็ไม่ต้องการ

นั่นเป็นคำจตอบที่ชัดเจนของคาวัลโล วาลกัส ซึ่งเป็นคำตอบที่อัลชาอ์มีอยู่ในใจตนเช่นเดียวกัน..

  อัลชาอ์เดินออกมาจากกระโจมพัก นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองทิวทัศน์รอบกาย ที่มีเพียงความมืดและแสงดาวระยับบนฟ้า กับสายลมที่พัดหวีดหวิวให้ลมหนาวบาดผิวจนเจ็บแปลบ...

รอยเลือด....กลิ่นคาวขมปร่า และความเจ็บปวดที่ทิ้งรอยสลักอยู่ในหัวใจ...ยังคงเด่นชัด..

เขาทิ้งเดิมพันทุกสิ่งไว้กับประโยคคำพูดอันน่าอดสูไร้ทางไปของตน คำพูดที่ถามว่า "....แล้วจะให้ผมทำยังไง...ทำแบบไหนถึงจะได้อย่างใจคุณ  " อันน่าสังเวชนั่น..

เขาไม่ได้ถามในฐานะชีคแห่งเซเนียยา แต่ถามในฐานะของอัลชาอ์ ถามในฐานะของผู้ชายคนหนึ่งที่รักใครบางคนอย่างหมดหัวใจ

ถาม...เพียงเพื่อจะอยากได้คำตอบที่ทำให้ได้หัวใจนั้นมาครอง...

แต่ผลตอบแทนของมัน คือคำตอบให้เลิกรัก...

 เพราะพวกเขาต่างกันเกินไป..

เพราะที่สุดแล้ว ชีคกับมาเฟียก็ไม่อาจจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้..

ระยะห่างของคนสองคนมันกว้างเกินจะหยั่งถึง...

ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกัน...ก็ควรทิ้งคำรักนั้น...แล้วบอกลากันโดยไร้คำพูดให้ระคายใจ

....คนโง่ที่ยังคงเฝ้าหลงรักงมงาย ควรจะตัดใจ เสียที.....


...........................................

...อะแฮ่ม..จบตอนแล้วค่ะ (เขย่าคนอ่านให้ได้สติ )
     กลับมาแล้วค่ะ เพิ่งสอบเสร็จ ช่วงสอบกังวลจนนอนหลับไม่สนิททุกคืนเลยค่ะ คืนที่แล้วนี่ไปใหญ่เล่นตาค้างทั้งคืน ประมวลกฏหมายตีกันในสมองอย่างเมามันส์ ย้ำคิดย้ำทำแต่ว่าถ้ามาตรานี้มาXX มันจะXXX แล้ว @#$#&^ ไปเยอะมาก ผลคือสอบเสร็จแล้วกลับห้องนอนสลบเลยค่ะ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนห้าโมงเย็น แต่ตื่นสามทุ่มครึ่ง ! โทรศัพท์ปิดเครื่องมิสคอลมาสามสี่สิบสาย แบบว่าเปิดเครื่องมาโดนด่ากระเจิงเลย 5555
  ส่วนชื่อตอนนี้ ด้วยรักและไม่เข้าใจ 55+ คือว่ามันก็จริงนะ รักก็จริงแต่ไม่เข้าใจกัน ด้วยรักและไม่เข้าใจ มีจริง แต่ขึ้นอยุ่กับว่าจะทนไม่เข้าใจอีกฝ่ายไปได้นานแค่ไหน และในเมื่อคาวี่ทนไม่ได้ อัลชาอ์ก็ทนไม่ได้ ผลของมันก็จะกลายเป็น = ไม่ต้องรักดีกว่าว่ะ เหนื่อยแล้ว อะไรประมาณนั้น
   สำหรับตอนนี้ยืนยันว่าไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก มีแต่"คนไม่เข้าใจกัน"เท่านั้นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนแอบหมั่นไส้คาวี่ ทำไมเอ้งมันเอาแต่ใจแถมไม่สนใจคนอื่ยนได้ขนาดนี้ฟ่ะ ไอ้ XXXX นี่ถ้าไม่ติดน่ารัก (ฮ่า) และเป็นนายเอกนะ ตูเกลียดเอ็งไปแล้วเฟ้ยยยย แถมตอนนี่ยังถึงขั้นขึ้นกูมึงเลยทีเดียว 555+ ไอ้คำหยาบของพวกฝรั่งนี่แปลออกมาเป็นไทยคงได้อารมณ์แบบนั้น ประมาณว่าอารมณ์ขึ้นสุดๆ
ส่วนอัลชาอ์ตอนนี้ก็หมดท่าแบบน่าใจหาย (เอื้อมมือไปตบไหล่อัลชาอ์ปุๆ) ตอนนี้อัลชาอ์ไม่ใช่ชีค ไม่ใช่ผู้นำประเทศ เป็นแค่ผู้ชายคนนึงที่ผิดหวังในความรัก เท่านั้นเองล่ะค่ะ...
ก่อนจากเอารูปนี้มาแปะเรียกเรทติ้งคาวี่ ...เชิญลวนลามแมวมาเฟียได้ตามสบาย 555+


ปล.แบดกายกำลังปั่น อาจจะทันคืนนี้ ไม่ทันก็คืนพรุ่งนี้นะจุ๊
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2011 02:11:40 โดย Serin »

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
 :z13:
ตามติดขอบจอแบบช๊อดต่อช๊อด
รีเฟรชหลายรอบในหน้าเดียว
ยิ่งกว่าระครช่องหลายสีอีกวุ้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
เฮ้อ!!! คนอ่านก็เข้าใจนะ แต่เมื่อไหร่เขาสองคนจะเข้าใจกันซะที
คนอ่านรอลุ้นกันจะแย่ อยากได้น้ำตาลบ้างหลังจากเสียน้ำตาไปหลายตอนแล้ว

dea

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก หมั่นไส้มันแล้วนะคาวี่อ่ะ :angry2:

อ่านแล้วเสียอารมณ์ นายเอกไม่ได้ดั่งใจ

ใจนึงก็อยากเชียร์ท่านชีค ให้เลิกรักมันซะ เมินมันเลย  :angry2:

แต่ก็ทำใจไม่ได้   :m15:

อุตสาห์คลิกเข้ามาอย่างว่อง กลายเป็นเข้ามาทำร้ายจิตใจตัวเองเล่นๆซะงั้น (อินจัดอ่ะ)

รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ  :monkeysad:

ปล.พี่โตเค้าก็ยังรออยู่น๊า าาา

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
สงสารทั้งสองคนอ่ะ
ต่างคนก้ต่างไม่เข้าใจกัน ยิ่งคาวี่นี่ออกแนวเห็นแก่ตัวไปนิดอ่ะ

ออฟไลน์ cho_co_late

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดราม่าาาา :sad4: :sad4:
ทะเลาะกันคราวนี้จะคืนดีกันยังไงล่ะเนี่ย  :serius2:

morphinelike

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดคาวี่น้อยก็กลับมาแล้ว   :mc4:

สงสารอัลชาอ์จังเลย เมื่อไหรี่คาวี่จะใจอ่อนสักทีนะ

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ป๊าดดโธ่ๆๆ ด้วยรักแต่ก็ไม่เข้าใจกันจริงๆนั่นแหละ
ถึงรักแทบตาย แต่ถ้าไม่มีความเข้าใจกันก็จบ :z3:
ปล ยาวจริงอะไรจริง o13

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:เป็นเพราะไม่เข้าใจกัน ก็เลยต้องถึงกับให้เลิกรักเลยหรอคะ การที่จะให้เลิกรักใครสักคนมันไม่ง่ายอย่างนั้นนะคะ :z3:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
 :เฮ้อ:

เข้าใจกันทีเถอะ   เเบบนี้มันทรมานทั้งสองฝ่ายนะ   :m15: :m15: :m15: :m15:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
อ่านแล้วกดดันหัวใจดีแท้
สงสารอัลชาอ์ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของคาวี่
ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าจะรักกัน แต่ถ้าความรู้สึกยังไม่ตรงกันแบบนี้
อยู่ไปก็รั้งแต่จะเสียใจไปเปล่าๆ รักไปก็มีแต่เจ็บ สู้ถอยห่างเสียจะดีกว่า

แต่แบบนี้ก็ไม่เอานะ อยากให้สองคนรักกัน หวีดหวานกัน อย่าทะเลาะกันเลยน้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด