ปัง...
เสียงปิดประตูดังขึ้น ทำให้ความเงียบลอยอวลอยู่ในบรรยากาศ คาวัลโลจ้องมองสีหน้าเคร่งขรึมของชีคหนุ่มข้างกายแล้วถอนหายใจแผ่วเบา เขาละมืออกจากแขนหนา สีหน้าครุ่นคิด
" ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อผม แต่แบบนี้มันไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย "...เปรยออกมาเบาๆ ทำให้คนฟังชะงัก
" ไม่ใช่แค่คุณ แต่เพื่อตัวผมและประเทศของผม...การที่ผม"ยอม"ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รู้ คาวัลโล บางทีเราก็ต้องทำอะไรเพื่อให้พวกมันรู้เสียบ้าง " อัลชาอ์ถอนหายใจ พลางออกปาก
"คุณบอกว่าสิ่งสำคัญที่มาเฟียรักษาไว้ได้ด้วยชีวิตคือเกียรติของตนเอง แต่กับผม...สิ่งสำคัญทีต้องปกป้องรักษา ไม่ใช่แค่เกียรติของตน แต่เป็นเกียรติของประเทศด้วยเช่นกัน ผมในฐานะเจ้าของประเทศ ผู้ปกครองประเทศนี้ จะต้องปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรตามอำเภอใจ เซเนียยาแม้จะไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่อย่างไรนี่ก็คือประเทศของผม เรามีกฏหมายของเรา มีกฏระเบีบให้ปฏิบัติตาม ไม่ใช่เป็นที่ๆใครก็ได้จะมาทำอะไรตามอำเภอใจ "
" .............." คาวัลโลชะงัก...มาเฟียหนุ่มหรี่ตาลงน้อยๆด้วยท่าทีครุ่นคิด
" ก็ถูกของคุณ " เขารำพึงออกมาเบาๆ "แต่ว่า การจะลงทุนด้วยเรื่องนี้....ไม่เห็นจะต้องเอาชีวิตเจ้าพวกนั้นมาอ้าง " มาเฟียหนุ่มส่ายหัว
" ผมไม่ได้อ้าง แต่พวกเขาทำผิดจริง เกียรติภูมิของประเทสถูกเหยียบย่ำ ด้วยน้ำมือคนต่างชาติ..ผมไม่มีสาเหตุอะไรจะต้องปราณี..."
" ถ้าพูดถึงเรื่องประเทศ...อัลชาอ์ คนพวกนั้นเป็นคนของประเทศผม...เช่นเดียวกับที่คุณมีหน้าที่ปกป้องประเทศ รัฐบาลของผมก็มีหน้าที่ปกป้องชีวิต
ประชาชน ยิ่งกับเจ้าพวกที่มีฐานเสียงในสภาด้วยแล้ว.." คาวัลดลขมวดคิ้ว ครางออกมาเบาๆ "ผมกลัวมันจะถุกแทรกแทรงด้วยอิทธิพลของประเทศอื่นน่ะสิ..."
" นั้นเป็นเรื่องของการฑูต..กับ เรื่องของการตกลงผลประโยชน์ " อัลชาอ์หรี่ตาลงช้าๆ สีหน้าครุ่นคิดพอกัน " เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ผมปล่อยมันไปไม่ได้.."
"...แต่บางที ถ้า....."
" หรือคุณ เป็นห่วง? อัลชาอ์เลิกคิ้ว สีหน้าประหลาดใจพอควร " ห่วงคนที่ทำแบบนี้กับคุณเหรอ? คาวัลโล "
ฝ่ามือหนาเอื้อมจับมือซ้ายที่มีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้แน่น สีหน้าไม่เข้าใจของชีคหนุ่มทำให้คนมองส่ายหัว คาวัลโลวางมือขวาลงบนฝ่ามือหนาที่กุมมือของตนไว้เขาบีบมันเบาๆ และสบมองนัยน์ตาสีนิลของคนตรงหน้า..
" ไม่.....ผมเป็นห่วงคุณ..."
"......"
" ราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้มันจะเป็นจะตายผมไม่สนหรอกนะ แต่อย่าลืม...พวกมันไม่ได้มีแค่ตัวมันสองคน คุณยังไม่รู้จัก"ความแค้น"ของคนพวกนี้ดีพอ...อัลชาอ์..." นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองสบอย่างแน่แน่ว หากไม่ได้คิดไปเอง อัลชาอ์ก็บอกตัวเองว่าเขาเห็นแววตาที่แฝงความห่วงหาไว้อย่างชัดเจน " คนๆหนึ่งตายในประเทศของคุณ ต่อให้พวกเขาทำผิดจริง คุณก็ยังไม่มีสิทธิจะตัดสินยังไม่มีสิทธิ์จะจับตายพวกมันอย่างที่ใจคุณอยาก ใครว่าผมไม่เเค้น แต่ถ้าพวกนั้นตายไปแล้วคนของพวกเขาตามมาเอาเรื่องคุณ อะไรจะเกิดขึ้น "
".....เรื่องนั้นผมรู้..." อัลชาอ์รับคำเสียงเบา " แต่การปิดข่าว..."
"...คุณก็รุ้เรื่องการแทรกแทรงระหว่างประเทศดี พวกสายลับที่เข้ามาก่อข่าว ก่อเรื่องสร้างความแตกแยกสร้างความวุ่นวายจนเกิดจลาจล...ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น คุณรุ้จักความร้ายการจของมาเฟียน้อยไป อัลชาอ์ ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงโดยเฉพาะในตอนที่ประเทศของคุณยังมีพวกหนอนบ่อนไส้อยู่แบบนี้.."
"....จะบอกให้ผมยอมปิดตาลงข้างหนึ่ง...แล้วให้พวกเขาลอยนวลไปง่ายๆงั้นหรือ? ..." ชีคหนุ่มพ่นลมหายใจลงช้าๆ
"...แค่พวกมันสองคนก็พอ..." คาวัลโลเผยรอยยิ้มร้าย " ผมไม่ได้ห้ามคุณจับ แต่ขอแค่จับเป็น ต่างคนก็ต่างเป็นคนสำคัญของแกงค์นั้นทั้งคู่ คุณก็แค่จับตัวมาขังไว้ เราเรียกร้องอะไร ต้องการอะไร พวกเขาเหรอจะไม่กล้าให้ ในเมื่อมีคนของตัวเองอยู่ตั้งสองคน"
" หือ?...ร้ายกาจ " คาวัลโลฟังแล้วหัวเราะเบาๆ ดีใจที่ในที่สุดเขาก็ทำให้อัลชาอ์กลับมาอารมณ์ดีได้อีกครั้ง
" แน่นอน ก็ผมเป็นมาเฟียนี่ "
"...แล้วคุณกับคนพวกนั้นมีความสัมพันธ์กันยังไง? "อัลชาอ์ออกปากถามเมื่อนึกขึ้นได้ สีหน้าคาดคั้น
" ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร " คาวัลโลเหลือกตาขึ้นมองเพดาน
" อย่าปิดผม " นัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นตามมาจ้อง คาวัลโลครางเบาๆในลำคอย่างสิ้นหวัง เมื่อรู้ว่าในที่สุดแล้วตนเองก็ต้อง...ยอมแพ้...
" ฟิลิเป้มัน....เอ่อ....ว่าไงดี หลงรักผม ล่ะมั้ง..." ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มก็ทำหน้าแสยง แต่คนฟังชะงัก ใบหน้าดำทะมึน
"...หลงรัก "อัลชาอ์ทวนเสียงครียด พลันก็คิดได้ว่าดีแล้วที่เขาไม่จับตายมันเสียเดี๋ยวนั้น และกำลังคิดว่าเขาจะ"ลงโทษ"เจ้าคนๆนั้นอย่างไรดีถึงจะสาสม
" ผมไม่สนหรอกน่า..." คาวัลโลบ่น ก่อนเจ้าตัวจะถอนหายใจเบาๆ
"แล้วอีกคน..." อัลชาอ์ถามซ้ำอย่างไม่ยอมละความสนใจ..
" ผมไม่คิดว่าคุรอยากจะรู้เรื่องนี้ "คาวัลดลมองเสี้ยวหน้าคมที่อยุ่ใกล้ หรุบตาลงช้าๆ...
" หรือมีเรื่องอะไรร้ายแรง " ชีคหนุ่มเอ่ยถามกลับ..
" ก็......" คาวัลโลบ่นพึมพัม สีหน้าเคร่งขรึม เขามองสบนัยน์ตาสีนิลก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา...
" นั่นสินะ ยังไงคุณก็ต้องรู้อยู่ดี...ไม่วันใดก็วันหนึ่ง " น้ำเสียงเปรยเบาๆนั้นทำให้คนฟังขมวดคิ้ว กับ...ลางสังหรณ์บางอย่าง. "..จำได้ไหมที่ผมเล่าเรื่องแกงค์ของผม " คาวัลโลเอ่ย ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนัก แล้วพ่นลมหายใจลงช้าๆ " ผมเล่าว่าตระกูลเรกาโซ่ กับกราดอนอยากจะกระชับความสัมพันธ์กัน แต่ทำไม่ได้แล้ว คุณเคยถามว่าเพราะอะไร แต่ผมไม่ตอบ "
" แล้ว...." อัลชาอ์ทวนคำ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างเริ่มจะสังหรณ์ใจ ถึงอะไรบางอย่างที่เริ่มเด่นชัด..
"..สาเหตุที่ราฟาเอลโร่ตามมาฆ่าผมถึงที่นี่ เพราะผม...ไปแย่งคนรักของมันมา..."
"
ซิลเวีย กราดอน คือคู่หมั้นของผม "
"............." อัลชาอ์นิ่ง ชีคหนุ่มไม่พูดอะไรนอกจากจะจ้องมองแววตาสีน้ำทะเลคู่นั้นที่มันจริงจังและมองมาอย่างไม่หลบ บ่งชัด ว่านี่คือความจริง
ชีคหนุ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งค้าง อยากจะยกริ้มฝีปากมาแสยะยิ้มล้อเลียนตนเอง แต่ก็ทำได้เพียงขยับมุมปากที่สั่นระริกและแแข็งทื่อ
...พลันรู้สึกสมองว่างเปล่า และบางสิ่งบางอย่างในอกพังครืนลงมาต่อหน้าต่อตา..
คำหวาน..จูบและอ้อมกอดยามนิทรา
มันคือคำหลอกลวงดีๆนี่เอง..
" ผมขอโทษ " คาวัลโลหรุบตาลงต่ำ ไม่สบมองแววตารวดร้าวคู่นั้น มาเฟียหนุ่มเสมองไปอีกทาง พลางเอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากที่แข็งชืดของตน
" ผมบอกแล้ว ว่ามันเป็นไปไม่ได้ "
" ไม่ใช่ความผิดของคุณ.." ผ่านโมงยามแห่งความเงียบงันเพียงชั่วครู่ อัลชาอ์ก็เอ่ยปากตอบสั้นๆ ชีคหนุ่มลุดพรวดขึ้นจากเตียงนุ่มที่ตนเองเอนตัวลงไปนั่งอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าคมเข้มทอดมองไปยังบานประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแววตาร้าวไหว แจ่มชัด...
" เรื่องแผนที่คุณเสนออมา ผมจะลองคิดดู "
"เดี๋ยว! " ฝ่ามือขาวจัดพลันคว้าชายเสื้อโธปสีเข้ม คาวัลโลลุกพรวดขึ้นจากเตียง ร่างกายโซเซไปูบหนึ่งเพราะกำลังมึนงงและยังมีอาอารไม่สบาย แต่อัลชาอ์ก็รีบถลามาคว้าตัวไว้อย่างเร่งร้อน สีหน้าของชีคหนุ่มยังแฝงแววห่วงใยและอาทรไม่จาง แม้จะถูกอีกฝ่ายทำร้ายจิตใจมากเพียงไหน
นั่นทำให้คนมองรู้สึกปวดแปลบในหัวใจไม่น้อย คาวัลโลเอื้อมมือกำโธปสีเข้มแน่น เขาพยุงตัวขึ้นมาจากพื้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง สบมองแววตาสีนิลที่พยายามซ่อนความรวดร้าวไว้อย่างยากเย็น เสี้ยวหนึ่งส่วนใดในหัวอกพลันเจ็บร้าว เสียจนทนไม่ไหว..
เขาจ้องมองใบหน้าหล่อเหล่าที่พยายามมองไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ใบหน้าของตน พลันความสงสารและปวดร้าวก็แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ
....อัลชาอ์...อัลชาอ์
คนโง่ คนงี่เง่าที่มัวแต่หลงรักเขาอยู่ข้างเดัยว
ฝ่ามือขาวจัดสัมผัสผิวหน้าทำให้ชะงัก อัลชาอ์ขมวดคิ้ว แม้พยายามเตือนตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ว่าอย่างปล่อยใจให้หลงยินดี หรือปลาบปลื้มกับท่าทางห่วงใยแต่ไม่ได้แฝงสิ่งใดมากกว่านั้นของเจ้าตัวเอีก
บอกตัวเองว่าอย่าไหวหวั่น..มิฉะนั้นก็จะเจ็บร้าว...เจ็บปวด เช่นที่รู้สึกตอนนี้...
หากแววตาสั่นไหวที่มองมาอย่างห่วงหานั้น กลับทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำ...
"...ผมมีเขา แต่ตอนนี้ ผมเป็นห่วงคุณ..."
ผมเป็นห่วงคุณ....
ห่วงใยคุณจากใจจริง....
สีหน้าของผู้ฟังวูบไหวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะระบายลมหายใจหนักอัลชาอ์ก้มไปหาร่างของมาเฟียหนุ่มเบื้องหน้า ขณะที่สมองมีแต่คำว่า"ผมเป็นห่วงคุณ"ก้องสะท้อนไปมา
... วงแขนหนาโอบรัดร่างเพรียวเข้าหาตัว คาวัลโลหลับตาลงช้าๆเป็นฝ่ายเงยหน้ารับจูบแสนหวานจากชีคหนุ่มตรงหน้าอย่างเต็มใจ
ผมมีเขา...
แต่ผมเป็นห่วงคุณ...
มีเขาอยู่ทั้งคน...แต่ก็ห่วงใย...
คุณ ที่อยู่ตรงหน้า...
อัลชาอ์ปรือตาขึ้นมองวงหน้าที่หลับตาพริ้มของชายในอ้อมแขน ดวงใจเสี้ยวหนึ่งรวดร้าว หากอีกเสี้ยวหนึ่งแสนยินดี เต้นสลับกันไปมา
ทั้งทุกข์ ทั้งสุข...
เจ็บปวด หากแต่ก็สุขสม...รวดร้าว แต่ก้เต้มไปด้วยความยินดี...
เป็นดั่งรสชาติอันขมปร่าแต่หอมหวานของคำว่ารัก..
ชีคหนุ่มโอบกอดร่างของมาเฟียตัวร้ายในอ้อมแขนแน่นขึ้น ราวกับจะพยายามเหนี่ยวรั้งและฉุดดึงให้คาวัลโล วาลกัสอยู่ข้างกายตนตลอดไป...
ดวงตาสีนิลปิดลงช้าๆ ขณะที่ก้มลงช่วงชิงลมหายใจจากชายหนุ่มในอ้อมกอด ชายที่มีคนรักแยู่แล้ว มีคู่หมั้นอยุ่แล้ว แต่ยังห่วงใย เป็นห่วงตนที่อยู่ตรงหน้า...
...คนๆหนึ่ง จะทนกับความปวดร้าวได้มากแค่ไหน..อัลชาอ์อยากรู้นัก
คนหนึ่งคน จะทนรักและรับความเจ็บปวดจากความรักนี้ได้มากแค่ไหน...ตนอยากรู้ และได้วางเดิมพันไว้กับชายหนุ่มตรงหน้า..
....จะอดทน"รัก"คุณแบบนี้ได้นานแค่ไหนกัน..
คาวัลโล วาลกัส
หวังเพียงว่าเมื่อในวันหนึ่งถึงจุดสิ้นสุดของความอดทนนี้ ทั้งคุณและผม จะไม่มีใครต้องเสียใจภายหลัง...
...............................................................................
อืมมมมมมมมม.... จะว่าไงดี
ออกอาการตื้อๆตันๆเมื่อเขียนตอนท้ายๆนี้ เฮ้ออออ...จะว่าสงสารท่านชีคมั้ย สงสารสิ มากด้วย ท่านชีคอัลชาอ์ช่างเป็นผุ้ชายที่แสนดีหนักหนา ส่วนคาวี่มันก็...นะ เอ็งนี่มัน..เฮ้อ...เลี้ยงไข้นี่หว่า...ประเภทที่ไม่รัก แต่ก็ยังให้ความหวัง .แต่จะว่าอะไรมากนักก็ไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ขึ้นอยุ่กับคนสองคน.. แต่ก็ยังดีน่า ที่คาวี่มันยัง"ห่วง"ได้บ้างแล้ว ไม่ใช่ทำร้ายจิตใจเขาก็นิ่ง ทำคนอื่นเขาเสียใจก็เฉย มันแอบมีพัฒนาการอยุ่ในความเจ็บปวดของท่านชีคล่ะนะ..
มีเขาอยู่ แต่ผมเป็นห่วงคุณ
อารมณ์อาจจะเหมือน "ฉันรักคุณแต่ประภาคารก็สวยดี"ของคุณปราย"พันแสง ล่ะมั้ง ( อย่าทำหน้าเหมือนไม่ได้อ่านนะ บอกมาเซ่ว่าอ่านนนนน ) ประมาณว่าฉันรักคุณนะ แต่คนที่ฉันอยู่ด้วยตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน จะเป็นไรไปล่ะถ้าเราไม่ได้อยู่ในประภาคารแต่ได้จ้องมองแสงของมันเพียงไกลๆก็รู้สึกดีแล้ว อารมณ์ประมาณ "รักเธอแต่กอดคนอื่น" หวานปนขมกล้ำกลืนเหลือประมาณสำหรับคนที่เจอคนแบบนี้ (ซวยแท้ท่านชีค)
....ซิลเวีย กราดอน...โผล่มาแค่ชื่อก้ทำช๊อคได้ ฮ่าๆเป็นสาวอีกคนที่ปุ้ยชอบมากมายในเรื่องนี้ (รองมาจากคุณแม่อลิซล่ะมั้ง)สมน้ำหน้าราฟามันซะแบบนั้น ถือว่าการที่ซิลเวียมาหมั้นกับคาวี่ ก็เออ สาสมดี เพราะแกทำตัวเองล่ะ ราฟา (สปอยล์ 555+) แต่ประเด็นที่คาวี่มันทำแบบนี้กับคนอื่น อันนั้นไม่นับ
ตอนนี้อาจจะเครียดๆบ้างนิดหน่อย รู้สึกว่าไม่มีใครเกิด"รักแรกพบ"กับคาวี่แบบท่านชีคสักเท่าไหร่ อารมณ์ประทับใจหน้าตาคงใช่แต่กับนิสัย คาวี่เจอกับใครก็ฉะกับชาวบ้านเขาตลอด ตั้งแต่ฮาซาน มารามิล แล้วก็ราเซย์ กระทั่งอัลชาอ์เองก็เถอะ ตอนแรกก็วิวาทฟาดปากกันไปมิใช่น้อย คาวี่อาจจะเป็นพวกที่นานๆไปถึงจะนึกชอบมาได้ล่ะมั้ง 555+
เอาเอ็มวีนี้มาฝาก ไปเจอมาจากบอร์ดดราม่า
ดูแล้วร้องเหยยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คลิ๊กแทบจะเขย่าจอคอมพ์ ท่านชีคโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เอ็งไม่ได้อยู่ตรงนั้นใช่ม้ายยยยยยยย
อยู่ในนี้ต่างหาก 555+
คลิ๊ก(ชอบเอ็มวีนี้มากมายค่ะ )
ย้ำว่าคนที่อ่านเรื่องนี้ ต้องดูเอ็มวีนี้ให้ได้ โฮะๆๆๆๆ