Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1058635 ครั้ง)

kwa

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้หวานบาดใจ โอ๊ยโอ๊ยยย ><
นับวันยิ่งหลงรักคู่นี้มากขึ้นทุกทีๆ โฮกกกก
เวลาตีกันก็เครียดตาม แต่เวลาหวานใส่กัน คนอ่านนอนตาย เอิ๊กกกก

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย โอ้ย


หวานไปไหนเนี่ย ให้ตาเถ๊อะ



มดยังบอกว่า  หวานเกินไม่เอา เลยยย ย ย

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
มารอคอยน้องคาวี่คนดีของท่านชึค  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

moony

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักสุดๆๆ

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
รอด้วยคนคร๊าบบบบบบบ~ ^^
อยากอ่านต่อมากมายเลย!!!

ออฟไลน์ yakusa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
จัดเต็ม น้องคาวีหวานๆ เลยได้ไหม ชอบอะ :กอด1:

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
 :oo1: :-[ :z3:  หวานนนนนนนนนน  น้ำตาลทะลักแล้วตอนนี้   
คาลกลายเปงไอ่แมวน้อยไปแล้ว  น่ารักกกกกก  :กอด1:  อัลชาห์เลยใจอ่อนอีกตามเคย :m20:

ออฟไลน์ lasnorches

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยย อ่านแล้วร้องไห้ด้วย โฮกกก บีบคั้นน้ำตาา
สงสารคาวี่ ฮือๆๆๆ ตอนแรกๆอ่านแล้วน้ำตาคลอเลยอ้าก เจ็บปวดรวดร้าวที่สุด ฮืออ

zombiepe

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้ว มีวูบนึงคิดว่าเข้ามาผิดเรื่อง 555
รึจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น..แม้ทรายยังหวานนะตัวเธอ...
ความเจ็บปวดของท่านอัลนั้นเรารับรู้แล้ว แหม อยากจะเอาหัวพุ่งทะลุจอเข้าไปซบอก
ตอนที่แล้วหลงฉากทรมานคาลจัง ตอนนี้หลงฉากอ้อนของคาลจังสุดตัว
แมวมาเฟียมีขายที่ไหน อยากได้มาลวนลามสักตัว โฮะๆๆ
ลางสังหรณ์อันเลือนลางบอกว่าคนแต่งนั้นคงไม่ให้หวานกันในตอนหน้าไงไม่รู้ 55
หวานกันต่อไปนะ
ปล. คิดถึงฮาซานเล็กๆ พ่อทาสผู้ซื่อสัตย์หายไป


TO.EYEz

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้หวานกันจนแทบลมจับ!
อะไรมันจะเปลี่ยนโหมดไวขนาดเน้! กรี๊ดดดดดด ด ฮ่าๆๆ
ตอนที่แล้วแบบบู๊ระห่ำ น้องคาวี่มาในโหมดอ่อนปวกเปียกจนอยากปล้ำ เหอๆๆ
ตอนปัจจุบันยิ่งแล้วใหญ่! .. ไหงน้องคาวี่กลายมาเป็นลูกแมวน้อยขี้อ้อนขนาดเน้.. ฮ่าๆ
จะว่ามันน่ารัก มันก็..อืมม น่ารักน่าปล้ำอยู่นะ แต่แอบน่าถีบนิดนุงด้วยอ่ะ =_=;;
มันชักจะแฮ่ดสะบัดเกินหน้าเกินตา(เรา)มากไปแระ กร๊ากกกกก ก
เราแฮ่ดได้คนเดียวเฟร้ย อุอุ..
แต่ก็แอบชอบนะคะ.. น้องคาวี่ตอนนี้โคตรปลุกใจเสือป่า(?)อัลชาอ์ของแท้ 55555
เป็นแมวน้อยที่น่าขย้ำ(?) ปู้ยี่ปู้ยำอารายแบบนี้อ่ะนะ ๕๕๕๕ (ยอมรับว่าหลงเหมือนกัน)

ชอบตอนบอกราตรีสวัสดิ์มากอ่ะค่ะ TvT
เป็นวิถีแฮ่ดที่มันแบบ.. ไม่น่าถีบนะเออ เป็นแ๋ฮ่ดแบบน่าร๊ากก แอ๊บแบ๊ววว ว..
ช๊อบชอบบ บ อิอัลชาอ์ก็ยิ้มแก้มแตก เออ.. อิสองคนนี้มันผลัดกันหวานแฮะ
น้องคาวี่ก็แบบ.. กรูหวานเอง เขินเอง =_=;; โดนตัวเอง (ไม่น่าเลยเอ็ง..)

Ps. ไรเตอร์คงจะสงสัยว่าแฮ่ดมันคือ..? อิรีดเดอร์คนนี้มันนั่งพล่ามอะไรของมันไม่รู้ ฟังบ่ออก =_=;;
แฮ่ดมันเป็นคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศษบ้านเกิดรีดเดอร์นี่เอง โฮ๊ะๆๆๆ มันแปลว่าแรดจ่ะ TvT
(/โดน FC คาวี่ถีบ) ฮือออ อ  ถึงน้องจะแฮ่ดแต่ก็รักน๊า... TwT

เป็นกำลังใจให้ค่าไรเตอร์... มาต่อไวไวนะค๊า จะครบสัปดาห์แล้วเน้ออออ.. >*<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2011 21:30:11 โดย TO.EYEz »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
เข้ามารอคาวี่ค่า  :impress2:

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เข้ามาเล่นบอร์ทนี้ เพราะมาตามนิยายเรื่องนี้โดนเฉพาะเลยค่ะjavascript:void(0);javascript:void(0);
ทนรออ่านในเด็กดีไม่ไหว

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาทวงตอนต่อไปจ้า :impress2:

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
รออย่างใจจดจ่อกำลังต้องการความหวานอีกซะตอน...อิอิ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
คืนนี้อัพค่า
(อาจจะหลังเที่ยงคืนมั้ง ถ้าทันก้อาจจะก่อนเที่ยงคืน )

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เข้ามารอค่า าา
><

dea

  • บุคคลทั่วไป
มาปูเสื่อรอจ๊า  :z2:


ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เตรียมตัวให้พร้อมมมม
...รอ ๆๆ ^^ (เป็นเอามาก..อยากอ่านที่สุดเรื่องนี้)

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
 :กอด1: ขอกอดคนเขียนหน่อนะ  :กอด1:


ให้ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์มากอ่ะ


ทั้ง มันส์ ดิบ เถื่อน ความรักแบบพี่น้อง คาวมรักของชีค กะ มาเฟีย


สรุปว่า สนุกมาก ชอบมาก


ขอบคุณครับ  o13

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line  21 เอาคืน

    สิ่งที่คนป่วยควรทำคือการนั่งๆนอนๆพักผ่อนจนกว่าจะหายดี

ข้อนั้นเป็นสิ่งที่คาวัลโลรู้ และรู้ดีว่าจะคิดขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะอัลชาอ์กำชับไว้อย่างหนักแน่นว่าอย่าคิดจะดื้อรั้นทำตัวงี่เง่าถ้าไม่อยากถูก "ลงโทษ "แบบเมื่อคืนอีก...

แต่ว่า...แต่ว่านะ การเจ็บมือ มันเกี่ยวอะไรกับขา..

     นั่นเป็นสิ่งที่คาวัลโลข้องใจมากๆ ไอ้ข้อที่ว่าคนป่วยไม่สบายควรพักน่ะเขาไม่ขัด แต่ทำไมคนที่เจ็บมืออย่างเขา ต้องมานอนแบ่บอยู่บนเตียงด้วยความเชื่อแบบนั้นด้วย มีใครใช้มือเดินต่างเท้ารึไง หรืออัลชาอ์คิดว่าเขาเป็นคนประเภทที่ทำเรื่องแบบนั้นได้ ถึงได้บังคับให้อยู่บนเตียงตลอดเช้า ไม่ให้ออกไปทำอย่างอื่นเสียบ้าง ไม่อนุญาตกระทั่งให้เขาลุกออกไปจากเตียงซะด้วยซ้ำ !

   มาเฟียหนุ่มถอนหายใจเฮือกพลางบ่นงึมงัมอย่างหงุดหงิด ขณะที่เอนตัวนั่งพิงหัวเตียง ภายในห้องนอนสุดหรูของท่านชีคอัลชาอ์ในคฤหาสถ์ที่จารเซ  ขณะที่นาฬิกาเดินติกๆบอกเวลาสิบเอ็ดโมงเช้าแล้ว แสงแดดจ้าเบื้องนอกสะท้อนอยู่ภายใต้หน้าต่างกรุกระจก ขณะที่ในห้องเย็นฉ่ำน่านอนด้วยเครื่องปรับอากาศ คาวัลโลอ้าปากหาวพลางวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะตรงหัวเตียงเมื่อพบว่าไม่สามารถใช้มันเป็นเครื่องมือแก้ไขความน่าเบื่อหน่ายนี้ได้
 
    มาเฟียหนุ่มโคลงหัวถอนหายใจเฮือกอย่างหงุดหงิด และเริ่มยกปลายเท้าถีบผ้านวมบนร่างเป็นการระบายความอัดอั้น คาวัลโลจ้องมองฝ่ามือตนเองที่มีอ
าการตึงและเจ็บหนึบเขาลองกระดิกปลายนิ้วและกำมือเข้าออกไปพลางๆ แม้มันจะเจ็บใช่เล่นเวลาทำแบบนั้น แต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่ไม่ได้มีเส้นเอ็นเส้นประสาทตัวไหนเสียหรือใช้การไม่ได้ขึ้นมา แผลฟกช้ำที่เกิดจากการถูกกระสุนถากหรือร่องรอยจากการวิ่งล้มลบุกคลุกคลานก็มีอยู่ประปราย ทว่าก็ไม่ได้มากเสียจนขยับไม่ไหว มันก็แค่เจ็บเวลาแตะโดนและหางคิ้วที่ฉีกไปเล็กน้อยก็ถูกเย็บเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว ทั้งตัวมีแค่อาหารเคล็ดขัดยอกเล็กน้อยและตรงกล้ามเนื้อบางส่วน อาการปวดหัวและมึนหัวนั้นหายไปแล้ว เขาเพียงแต่รู้สึกหน้ามืดและมึนๆเป็นบางครั้งเวลาที่ขยับตัวเร็วๆก็เท่านั้นเอง

     สำรวจร่างกายตัวเองแล้วมาเฟียหนุ่มก็ส่ายหัวบ่นพึมพัม มันไม่ได้เป็นอะไรที่หนักหนาขนาดห้ามลุกออกจากเตียงเสียหน่อย ไม่ได้หนักหาขนาดที่ต้องมียามมาเฝ้าหน้าห้องและตรวจดูยากับอาหารที่หมอและคนรับใช้เอามาให้ แผลพวกนี้ยังน้อยนักหากเทียบกับสิ่งที่เขาเคยเจอเมื่อตอนฝึกหรือตอนมีเรื่องกับเเกงค์อื่นๆ ไม่จำเป็นต้องห่วงนักก็ได้..

     ...แต่พุดไปก็เท่านั้น สำหรับคนห่วงแล้ว...ไม่ว่าจะมีอาการอย่างไรฝ่ายนั้นก็เอาแต่ระวังระแวงแทนเขาหมดทุกอย่าง ยอมรับว่าการดูแลแบนี้มันก็ชวนให้เบาใจและลดความตึงเครียดลงไปบ้าง แต่ว่า มากเกินไปมันก็ทำให้คนถูกเฝ้าอย่างเขาเบื่อหน่ายขึ้นมาเหมือนกัน

 อีกอย่าง ทำแบบนี้มากๆเข้า เกิดเขาติดนิสัยลดคงวามระแวงระวังลงไปและติดสุขสบายแบบเด็กๆไปเสียแล้ว จะทำยังไงล่ะ..

     ถอนหายใจพลางโคลงหัวช้าๆ คาวัลโลขยับตัวจะก้าวเท้าลงจากเตียง การอุดอู้อยู่ในนี้นอกจากจะไม่ใช่นิสัยของเขาแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าตัวเองป่วยหนักใกล้จะตายจนต้องมีคนคอยเฝ้าเสียด้วย พาลให้นึกอยากจะนอนหลับตาไปตลอดกาลเลยสิไม่ว่า
 
  แอ๊ด....
 
     ประตูห้องที่เปิดออก ทำให้คนป่วยที่ตัดสินใจจะออกไปทำอะไรแก้เบื่อชะงัก คาวัลโลชักขาตัวเองขึ้นและสอดตัวกลับไปนั่งเอนหลังอย่างสงบบนเตียงทันควัน แน่นอนว่าเขาไม่อยากถูก"ลงโทษ"อย่างที่อัลชาอ์ขู่อีก...ถึงแม้มันจะเอ่อ...รู้สึกดี แต่ว่า ยังไงก็มีฤทธิ์ทำให้สมองเบลอคิดอะไรไม่ออกและพาลจะถูกทำอะไรๆง่ายขึ้นสิไม่ว่า เขายังไม่อยากจะใช้ชีวิตเป็น"เมีย"ใครนะเฮ้ย

 คนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่อัลชาอ์ คาวัลโลจ้องมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดโธปสีขาวสวมกุตราห์สีเดียวกัน ใบหน้ามีรอยยิ้มเยือนอันเคยคุ้น...พร้อมทั้งดวงตาสีน้ำตาลพราวระยับกับใบหน้าที่เขารู้จัก...หมอนี่ รามิล เซฮามัค !

        "........" คาวัลโลเลิกคิ้วมองคนที่เข้ามา เขาไม่พูดอะไร ขณะที่ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีน้ำทะเลหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อสบมองแววตาและท่าทางของอีกฝ่าย...

รูปร่างหน้าตานั้นบอกว่าคือรามิล แต่ว่า...บุคลิคท่าทางที่พยายามจะให้"เหมือน"ยังไงก็ไม่ใช่..

...หมอนี่ไม่ใช่รามิล...แต่เป็น...เจ้าคนที่พาเขาหนีออกมาจากพวกของราฟาเอลโร่และฟิลิเป้...คนที่เป็นลูกน้อง หรือไม่ก็ปลอมตัวเป็นลูกน้องของฟิลิเป้ที่อยู่ในรถคันนั้น
 
       " สวัสดีครับ คาวัลโล เป็นยังไงบ้าง? " รอยยิ้มและท่าทีของคนที่"พยายาม"เป็นรามิลตรงหน้าทั้งดูแข็งๆและโกหกแบบซึ่งหน้า คาวัลโลพ่นลมหายใจออกจากริมฝีปากเบาๆ แล้วเหล่ตามองเจ้าคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย
 
        "...ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น เจ้าคนที่ไม่ใช่รามิล .." คำพูดนั้นทำให้คนฟังชะงัก และพลันรามิล เซย์ฮามัคตัวปลอมตรงหน้าก็หัวเราะออกมาเบาๆ
 
        "..สวัสดีครับ คาวัลโล วาลกัส ผม ราเซย์   ทาร์คาน เซฮามัค...ผมเป็นพี่ชายของวิศวะกรรามิลยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...Mafie..." ชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าลุกขึ้นและโค้งตัวต่ำ รอยยิ้มเยือนในใบหน้านั้นหายไป มีเพียงแววตาวาววับที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ และรอยยิ้มมุมปาก อันเป็นตัวตนที่แท้จริงๆของชายตรงหน้า..
 
         "....ครับ ยินดี.....ที่ได้รู้จัก .." คาวัลโลยิ้มออกมาอย่างชาเฉย เขาเอ่ยปากรับถ้อยคำแนนะนำตัวสั้นๆ ขณะที่ดวงตาฉายแววไม่พอใจขึ้นมาวูบหนึ่งกับคำว่า"มาเฟีย"ที่ออกมาจากปากชายตรงหน้า
 
        "...อืม...เห็นได้ชัดว่าคุณก็สบายดี...และ....ถือว่าฉลาดมากนะที่มองออกว่าผมกับรามิลไม่ใช่คนเดียวกัน " คำชมนั้นไม่ได้ทำให้คนฟังดีใจแต่อย่างใด คาวัลโลหรี่ตาลงช้าๆ อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อจับน้ำเสียงประชดประชันและแฝงแววไม่พอใจจากชายตรงหน้าได้ชัดเจน โดยเฉพาะกับคำชม ที่เขาไม่เคยดีใจที่ได้รับนั่น
 
        " ...ขอบคุณ...." คาวัลโลรับคำสั้นๆ ขณะที่ลอบสังเกตใบหน้าของชายตรงหน้าและมองเห็นได้ถึงความแตกต่างของสองพี่น้องตระกูลเซฮามัคได้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ใบหน้าของรามิลและราเซย์จะคล้ายคลึงกัน ทว่าราเซย์.... ชายตรงหน้าเขานั้นมีรูปหน้าที่คมเข้มกว่าผู้เป็นน้อง เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำตาลแดงและหยักศกเล็กน้อย ผิดกับเส้นผมของรามิลที่เป็นสีน้ำตาลเข้มและเหยียดตรง ดวงตาของเขาคมปลาบและมีสีเข้มกว่าดวงตาของผู้เป็นน้อง รอยยิ้มและลักษณะท่าทางก็แตกต่างกันค่อนข้างมากเพราะราเซย์มีท่าทีแข็งกร้าวกว่ารามิลอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากอาชีพของตน หรือไม่ก็เพราะบุคลิกพื้นฐานที่มีมาก่อนหน้า
 
      "....สายลับ...." คาวัลโลหรี่ตามองหลางเอ่ยปากออกไปสั้นๆ เขาสบมองแววตาคมปลาบของราเซย์พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น " ทำยังไง พวกนั้นถึงยอมรับคุณเป็นพวก "
   
    " อ่า...เข้าใจอะไรง่ายดีนี่..." ราเซย์ยักไหล่ มองไปยังใบหน้าอ่อนวัยของมาเฟียหนุ่มตรงหน้า "แต่ก่อนอื่น..เราควรจะตกลงหันก่อนไหม ว่าจะให้ผมถามคุณ รึให้คุณถามผม "
   
     "...คุณจะสอบถามผมเรื่อง อะไรไม่ทราบ " คาวัลโลจ้องหน้าราเซย์เขม็ ง " ผมเป็นนักโทษของคุณรึไง? "
   
     "...เอ๋? รึตอนนี้คุณไม่ใช่? "ราเซย์เลิกคิ้ว ทำสีหน้างวยงงหนัก
 
      " ไม่ใช่นักโทษ "ของคุณ"..." คาวัลโลจ้องตากลับ ตอบเสียงสั้น
 
      " อืม...เรื่องนั้นผมไม่เถียง เพราะเป็นนักโทษของฝ่าบาทอัลชาอ์ย่อมได้รับความดูแลและ"เอ็นดู"มากกว่าอยู่แล้ว " คำพูดนั้นทำให้คาวัลโลจ้องมองราเซย์ด้วยดวงตาวาวโรจน์ ใบหน้าตึง บ่งชัดว่าไม่รู้สึกขำกับถ้อยคำของบุรุษหนุ่มตรงหน้าสักนิด
 
       "..อ้า...ขออภัยเป็นอย่างสูง..คุณ.....คาวัลโล วาลกัส..." ราเซย์ยกมือสองข้างขึ้นอย่างบ่งชัดว่ายอมแพ้กับท่าทีเอาเรื่องนั้น "...เอาเป็นว่า มาคุยรายละเอียดอะไรกันหน่อยดีไหม? ถึงสาเหตุของคุณ และเหตุผลที่ทำให้ชีคต้องไปโยนระเบิดใส่พวกนายพลข้างนอกนั่น "
 
      " พวกนายพลที่ทำงานไม่ได้เรื่องพวกนั้น เป็นญาติฝ่ายไหนของคุณรึไง? " คาวัลโลกอดอก ยิ้มให้อย่างไม่นึกขัน " ถึงได้มาหาเรื่องผมน่ะ หือ?"
 
        " ก็เปล่า...แค่ผมข้องใจ " ราเซย์ลากเก้าอี้บุนวมที่อยู่ปลายเตียงมานั่งลงยังข้างเตียงคนป่วย
   
     "............."
 
       " ทั้งข้องใจว่า...ทำไมและเพราะอะไรคุณ..ที่เป็นถึงมาเฟียตระกูลดังถึงได้มาเที่ยวเล่นให้โดนจับอยู่แถวนี้ สงสัยกระทั่งว่าเพราะอะไรอดีตนายจ้างของผมทั้งสองคน ถึงได้"ชื่นชอบ"คุณนักหนา...อยากได้ตัวกระทั่งยอมทำการใหญ่ท้าทายชีคของผมซะขนาดนั้น.."ราเซย์ยิ้ม หากแววตาคมปลาบที่จ้องมองมาแฝงไว้ด้วยความกร้าวเเข็งชัดเจน "..และยังสงสัย ว่าคุณทำยังไง ให้ท่านชีคของผมหลงเสียขนาดจะลากกองทัพไปถล่มคนพวกนั้น "
   
     " หือ? ก็สาสมแล้วนี่ " คาวัลโลเลิกคิ้ว อย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่

        "...โอ.....ก็ใช่สินะ ในเมื่อคุณคิดแต่เรื่องการแก้แค้นนี่ แล้วจะทำเองในสภาพไม่มีมือเท้ารับใช้ แถมยังพิการแบบนี้ก็คงไม่ได้ " ราเซย์เอียงคงมองฝ่ามือขาวที่มีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้อย่างแน่นหนา เลิกติ้วขึ้นช้าๆพลางสบมองแววตาของชายตรงหน้า

        "....นั่นมันเป็นเรื่องที่คุณควรจะสนใจงั้นเหรอ? มิสเตอร์ราเซย์...ถ้าว่างนัก ทำไมไม่ลองตอบคำถามผมบ้าง ว่าคุณทำยังไงให้พวกนั้นรับคุณเป็นพวก " คาวัลโลจ้องมองแววตาคู่นั้นอย่างไม่ยอมหลบ  " เพราะจะว่าไปแล้ว...เรื่องราวที่แสนพอเหมาะพอดีนี่...ก็ชวนให้คิดได้หลายๆแง่นะ ว่าท้ายสุดแล้ว มันเป็นฝีมือใครกันแน่ ว่าไหม? "

         " คุณสงสัยผม? "ราเซย์หน้าตึง

         " ผมยังไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย... "คาวัลโลยักไหล่ "ส่วนเรื่อง..ผมไปทำอะไรยังไง..ไม่จำเป็นต้องบอกคุณให้เสียเวลา "

          " คุณเป็นสายลับนี่...ก็สืบเองสิ...ใช่ไหม? "

             สายลับหนุ่มหน้าเคร่งเมื่อฟังคำพูดออกมาจากปากของมาเฟียชาวอิตาเลียน ราเซย์จ้องมองใบหน้าของคาวัลโลที่ยังคงยิ้มน้อยๆให้เขาอย่างอวดดีปนท้าทาย อีกทั้งคำพูดไม่สะทกสะท้านนั่นเล่า ยิ่งชวนให้อารมณ์ขุ่นยิ่งนัก สายลับหนุ่มพ่นลมหายใจพรูด้วยสีหน้าหน่ายระอา คนประเภทนี้...ประเภทมาเฟียที่ทำทุกอย่างเพื่อความต้องการของตน ถือว่าเป็นอะไรที่ยากจะต่อกรที่สุดสำหรับเขา ราเซย์ทำงานเป็นสายลับก็ด้วยคำสั่งของผู้นำของตน เขาถือว่านี่เป็นการทำงานเพื่อชาติ การจะเข้าพวกใคร จะกลับกลอกหลอกลวงเพื่อประเทศชาตินั้นในความคิดของตนมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด ต่างกับคนอย่างคาวัลโล วาลกัส ที่ขนาดป่วยอยู่ก็ยังพ่นพิษเสียขนาดนี้ ไม่ได้นึกด้วยซ้ำว่าเขานี่แหละเป็นคนช่วยออกมาจากการถูกทารุณ และยังมีหน้ามาสงสัยกันเสียด้วย...

... จะยังไงก็ไม่ยอมให้ข่มเลยจริงๆ

  จ้องสบแววตาที่มองมาอย่างไม่ยอมหลบอย่างหน่ายเหนื่อย  สำหรับเขา ยอมรับว่าออกจะตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เมื่อทราบว่าผู้นำของตนนั้นกำลังทั้งรักทั้งหลงชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ รู้ว่าเป็นชายแทนที่จะเป็นหญิงว่าแย่แล้ว แต่ยังเป็นชายที่เป็น"มาเฟีย" ในตระกูลใหญ่ของอิตาลีนั้นแย่ยิ่งกว่า แต่ที่แย่ที่สุด คงเป็นการที่ตนเองพบว่าระหว่างสองคนนี้ยังไม่ได้เป็น"ความรัก" อย่างที่ร่ำลือกัน กลายเป็นว่าชีคของเขาเป็นฝ่ายรักข้างเดียวไปเสียมากกว่า ...แต่ก็อดจะยอมรับไม่ได้ว่าคาวัลโล วาลกัสที่นั่งอยู่บนเตียงเบื้องหน้า ช่างสมเป็นบุรุษที่ทำให้ผู้ชายตกหลุมรักโดยแท้...

      มาเฟียหนุ่มตรงหน้ามีรูปร่างหน้าตาผิดแผกกับนิสัยโดยสิ้นเชิง ทั้งใบหน้าอ่อนวัยไม่ได้หล่อเกลาองอาจหากแต่เปี่ยมไปด้วยสเน่ห์...สเน่ห์ที่แฝงความอันตรายเอาไว้เต็มเปี่ยม ทั้งดวงตาวาววับไม่ยอมใคร ริมฝีปากเหยียดรอยยิ้มร้ายและจมูกเชิดรั้นเอาแต่ใจ ดวงตาสีน้ำทะเลตัดกับเส้นผทสีอัลมอนด์..รวมกันเป็นชายหนุ่มที่ทรงสเน่ห์อย่างร้ายกาจเหลือล้น น่าหลงไหลเสียจนเขาก็พอจะเข้าใจหัวอกของอัลชาอ์หรือกระทั่งฟิลิเป้..มาเฟียโรคจิตที่"เคย"เป็นเจ้านายของตน..ว่าเพราะเหตุใดจึงได้หลงไหล ต้องการ เสียขนาดนั้น...

    ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่มีสิ้นสุด ยิ่งถูกปิดไว้ ยิ่งคว้าไม่ได้ ยิ่งยากเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากเป็นเจ้าของ..

และกับสิ่งที่น่าครอบครองมากขนาดนี้..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

           แอ๊ด....


   ประตูห้องเปิกออกอีกครั้ง ครานี้เป็นร่างของชีคอัลชาอ์ซึ่งอยู่ในชุดโธปสีดำสนิท ร่างที่ก้าวเข้ามาชะงักฝีเท้าเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย นัยน์ตาคู่นั้นตวัดมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงและร่างของสายลับหนุ่มญาติสนิทของตนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงแล้วพ่นลมหายใจลงช้าๆ ราเซย์โคลงศรีษะแล้วรีบลุกให้ผู้นำของตนโดยไว แต่ทว่าอัลชาอ์กลับไม่ได้มีท่าทีสนใจที่ว่างของเก้าอี้นั้น ชีคหนุ่มเดินอ้อมไปอีกฝั่งและเอื้อมคว้าร่างของคนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงให้เอนมาหาตนและจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากทันควัน

     คาวัลโลชะงักค้าง อ้าปากหวอกับพฤติกรรมอันอุกอาจของท่านชีคหนุ่ม เขาอ้าปากจะโวย แต่ทำได้ยากนักด้วยริมฝีปากหนาที่โฉบลงมาไล้เลียริมฝีปากแห้งผากของตน มาเฟียหนุ่มครางฮึ่มในลำคอ ทำได้เพียงออกแรงเหวี่ยงหมัดสะเปะสะปะใส่ร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าเท่านั้น

     แน่นอนว่าอัลชาอ์ไม่ได้มีท่าทีสะดุ้งสะเทือนใดๆสักนิด ตรงกันข้ามกลับทำให้นึกอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ ดวงตาสีนิลสบมองแววตาสีน้ำทะเลคู่งามอย่างหลงไหล ร่างสูงโน้มกายเข้าหาร่างเพรียวพร้อมกับตวัดอ้อมกอดรัดรึงไว้ไม่ให้ห่าง ดวงตาคู่นั้นเหลือบเเลข้ามสีผมสีน้ำตาลทองไปยังร่างของญาติหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ชีคหนุ่มเห็นร่างของราเซย์ยืนเตร่หันหลังให้ตนอย่างไม่ประสงค์จะแอบดู นั่นทำให้อารมณ์ขุ่นมัวจากความหึงหวงของอัลชาอ์ลดลงช้าๆ

       "....นี่...หยุดนะ...." เสียงกระซิบห้วนจัดพร้อมกับดวงตาวาววับราวกับแมวจอมแปรปรวนทำให้ร่างสูงของชีคหนุ่มจำต้องละริมฝีปากและอ้อมแขนออกอย่างเสียดายหนัก  ใบหน้านิ่วเล็กน้อยเมื่อฝ่าเท้าของคนป่วยออกแรงยันโครมเข้าให้
 
      "...คุณดื้อด้านเองนี่...บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าไม่ทำตามจะเจออะไร " แววตาวาววับแสนเจ้าเล่ห์ของอัลชาอ์ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก เสียแต่ตอนนี้คนมองไม่ได้ปลาบปลื้อมกับมันสักเท่าไหร่ คาวัลโลตาขุ่น เขาออกแรงผลักร่างสูงของท่านชีคให้ผละห่างเอ่ยเสียงห้วน

       " อะไร? ความผิดผมเหรอ? โน่น...คนของคุณลากผมออกจากผ้าห่มให้มานั่งสอบสวนหรอก " คำพูดนั้นทำให้ราเซย์ชะงัก ร่างของสายลับหนุ่มหันตัวกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ
   
    " ...ตอนผมเข้ามา คุณกำลังจะออกไปพอดี "สายลับหนุ่มชี้หน้าของคนป่วยมากฤทธิ์ทันควัน คาดโทษที่อีกฝ่ายโยนความรับผิดชอบมาให้ตนเฉยๆ

       " ไม่ต้องมามองหน้า ผมจะเข้าห้องน้ำ....แล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมเดิน " เมื่อท้ายสุดตัวเองก็เป็นฝ่ายละเมิดข้อห้าม คาวัลโลจึงตวัดเสียงห้วน กอดอกทำหน้าไม่สนใจใครเสีย บ่งชัดว่าในเมื่อเขาไม่คิดว่าเป็นการทำผิด ก็อย่าคิดว่าจะมาไล่เบี้ยเอาอะไรกับตนเองได้

       "........."  ชีคหนุ่มส่ายหัวอย่างระอาใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ผมคนป่วยด้วยความหมั่นไส้เสียทีหนึ่ง คาวัลโลหน้าบูดแยกเขี้ยวใส่ แต่คนทำไม่สนใจ แถมยังทรุดกายลงไปนั่งบนเตียงข้างกายคนป่วยได้หน้าตาเฉย..

       "........" ราเซย์มองท่านชีคของตนด้วยแววตาหน่ายระอา สายนลับหนุ่มชักสีหน้าไม่ถูกเมื่อพบเจอชีคหนุ่มผุ้เคร่งขรึมและองอาจของตนในมุมที่ใกล้เคียงกับคำว่าปัญญาอ่อน จะหันหน้าหนีไม่มองเสียก็คงเป็นการเสียมารยาท แต่ทว่าการจ้องมองซึ่งหน้าเขาก็คิดว่ามันคงจะเป็นการเสียมารยาทกว่า สุดท้ายจึงได้แต่เงยหน้ามองเพดานห้องไปเรื่อยเปื่อย..

        แอ๊ด...
 
      " อ้อ....อยู่ที่นี่กันนี่เอง " รามิล เซย์ฮามัคเดินเข้ามาในห้อง พลางออกปากทักแต่พลันคิ้วของวิศวะกรหนุ่มก็ผุกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคลายลงและเลิกขึ้นข้างหนึ่งอย่างไม่รู้จะแสดงกริยาอาการอย่างไรดีกับหนึ่งคนป่วยจริงที่นั่งอยู่บนเตียง กับหนึ่งชีคที่นั่งเอนกายอยู่ข้างๆคนป่วยด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สา และอีกหนึ่งสายลับที่เงยหน้ามองเพดานห้องด้วยสีหน้าสุดจะพรรรณนา...
มันมั้งชวนขำ..ทั้งน่าขัดเขิน และหน่ายระอาพอๆกัน
 
      "...ฮาซานไม่มาอีกคนล่ะ จะได้ครบ " คาวัลโลบ่นออกมาพลางดิ้นขยุกขยิกใส่คนข้างกายที่ยังคงนั่งข้างกายเขาด้วยสีหน้าแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเห็นได้ชัด
 
      " ฮาซานถูกยิง.." คำตอบเบาๆจากคนข้างกายทำให้คาวัลโลชะงักมาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจปนตกใจเล็กน้อย เพราะอย่างไร องค์รักษ์หนุ่มผุ้เคร่งขรึมคนนั้นก็เป็นคนที่เผชิญอันตรายร่วมกันมาและหากไม่ได้ความช่วยเหลือของฮาซาน เขาอาาจจะแย่กว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
 
      " ตายแล้วเหรอ? " นี่เป็นคำถามจากคนที่เป็นฝ่ายตกใจ
 
       " ยัง...โดนยิงกระสุนถากใส่เอว กับที่ไหล่ ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ " อัลชาอ์ตอบพลางส่ายหัวระอากับคนปากร้าย ชีคหนุ่มมองเห็นร่างของผู้ร่วมแผนการณ์มาครบแล้ว จึงได้ขยับกายออกจากเตียงนุ่ม รามิลลากเก้าอี้อีกสองสามตัวมาวางไว้ข้างเตียงอย่างรู้งาน ขณะที่ราเซย์ลุกพรวดจากโต๊ะ สมัครใจเป็นฝ่ายยืนฟังมากกว่าจะอยู่ใกล้ๆ
 
       คาวัลโลมองเห็นท่าทางเตรียมพร้อมของเหล่าผู้เฝ้าไข้ กับบรรยากาศที่เป็นทางการขึ้นมากะทันหัน ก็ขยับตัวเล็กน้อยด้วยสีหน้าแสดงความสนใจ

      "...ยังปวดหัวหรือเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?" อัลชาอ์ออกปากถามคนป่วยเสียงอ่อน คาวัลโลเหลือกตาขึ้นพลางถอนหายใจเฮือก แอบระอาใจกับคน"ห่วงนัก"

      " ไม่...ผมดีขึ้นแล้ว คุยเรื่องอื่นดีกว่า...อย่างเรื่องที่คุณไปโยนระเบิดใส่พวกนายพลแก่ๆข้างนอกนั่น " คาวัลโลว่า พลางโบ้ยปากใส่ราเซย์ที่ยืนอยู่เบื้องหลังชีคของตน ให้รู้ว่าเขาได้ข่าวสารทั้งหลายมาจากไหน

      "...ก็ทำงานพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย..." อัลชาอ์ตอบเสียงสั้น ด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน ชีคหนุ่มกวาดตามองใบหน้าของมาเฟียหนุ่มที่ดูดีขึ้นภายใต้แสงสว่างของดวงอาทิตย์ในยามกลางวัน ผิดกับดวงหน้าซีดเซียวเมื่อคืนวานแล้วก็เริ่มเบาใจ ชายหนุ่มกระเเอมเบาๆ ตบเก้าอี้ว่างข้างกายให้สายลับหนุ่มที่ยืนอยู่มานั่งข้างๆ

        " แนะนำตัวกันก่อนแล้วกัน...คาวัลโล นี่ราเซย์ เซฮามัค  พี่ชายของรามิล เขาทำงานให้กับผม เป็นสายลับสืบข่าวอยู่ที่นี่..." ชีคหนุ่มเอ่ยพลางผายมือไปยังร่างสูงใหญ่ของราเซย์ที่ค้อมหัวให้เขาเล็กน้อยแล้วทรุดตัวลงบนเก้าอี้บุนวมข้างกายชีคแห่งเซเนียยาและน้องชายของตนตามคำสั่งกรายๆของผู้เป็นนาย

       " ...ยินดีที่ได้รู้จัก ผมคาวัลโล วาลกัส " คาวัลโลแสยะยิ้มมุมปากให้เป็นคำทายทัก แน่นอนว่ากับราเซย์ที่รู้เชื่อจริงนามสกุลจริงหรือแม้แต่ฐานะจริงๆของเขาแล้ว จะโกหกไปก็เท่านั้น อีกอย่างสายลับหนุ่มคนนี้ก็เพิ่งจะมาทายทักเขาด้วยไมตรีจิตเมื่อครู่นี้เอง

     มาเฟียหนุ่มจะหรี่ตาลงน้อยๆ คาวัลโลกวาดสายตามองร่างของชายหนุ่มสามคนเบื้องหน้า ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง
 
     " ตรวจดูห้องรึยัง? ไม่ใช่ว่าจะมีพวกกล้องวงจรปิดอยู่อีกหรอกนะ "
 
      " ผมสั่งให้ค้นดูตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว วางใจได้ "อัลชาอ์รับคำเบาๆ ก่อนจะเหยียดยิ้มเครียด
 
     " เอาล่ะ ในเมื่อมากับพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลยดีกว่า....ราเซย์ ช่วยเล่าเรื่อง"ทั้งหมด" ที่เกิดขึ้นด้วย "

        ราเซย์พยักหน้ารับผู้เป็นนาย สายลับหนุ่มมองหน้ามาเฟียตัวร้ายตรงหน้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยช้าๆ


      " ตามที่ผมได้รับคำสั่ง ให้มาประจำที่นี่..." ราเซย์ออกปากเล่าเสียงเรียบ "..ตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้...พบการเคลื่อนไหว...อย่างผิดปกติในหลายจุด ตามที่ผมได้แจ้งกับฝ่าบาทไปแล้ว "

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสบมองแววตาของชีคหนุ่ม อัลชาอ์พยักหน้ารับช้าๆสีหน้าครุ่นคิด

       " และประมาณสองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ มีกลุ่มคนหลายพวกที่แทรกตัวเข้ามาในเซเนียยา ตามที่ผมตรวจสอบ พวกเขามี "สิ่งนี้" แจกจ่ายและป่าวประกาศไปทั่ว รวมทั้งส่งไปให้บรรดาผู้นำประเทศเเถบนี้ดูด้วย " ราเซย์ดึงเอากระดาษขนาดเอสี่สีซีดขาวออกมา คาวัลโลมองมันแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ มาเฟียหนุ่มไพล่นึกไปถึงกระดาษที่ราฟาเอลโร่ถือเมื่อตอนที่เขาพบเจอกับมันครั้งแรกนั่น

       อัลชาอ์รับแผ่นกระดาษจากมือของเรเซย์ หากทว่ามองแล้วชีคหนุ่มไม่ได้มีสีหน้าแปลกประหลาดใจแต่อย่างใด เขาพยักหน้ารับเงียบๆ ก่อนจะส่งไปให้คาวัลโลที่จ้องมองมันตาวาวอยู่ก่อนแล้ว

       คาวัลโลรับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับครางในลำคอเบาๆ เมื่อในกระดาษแผ่นนั้นมีรูปของตนเด่นหรา ข้างใต้มีตัวอักษรภาษาอารบิกเรียงพรืด และมีภาษาอังกฤษกำกับด้านล่าง เป็นข้อความว่า"พบเห็นบุคคลในรูป กรุณาแจ้ง...มีรางวัลให้ " อะไรประมาณนี้

        " นี่มันแพร่ไปถึงไหน " คาวัลโลขมวดคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่ากลับไปแล้วเขาควรจะสั่งลงโทษหรือขึ้นเงินเดือนให้คนพวกนี้ดี พวกที่ทำงานได้เกินประสิทธิภาพนี่  คิดว่าตัวเอง"เร็ว"กว่าเเล้วเชียว แต่ผู้ช่วยของลุงก็ทำงานได้ดีเกินคาด

         " แถบนี้ก็ได้กันหมด ที่ผมก็ด้วย "อัลชาอ์รับคำสั้นๆด้วยสีหน้าปกติ " ได้วันแรกตั้งแต่ที่คุณ...."

          "..........." คาวัลโลทำตาขุ่นใส่คนพูดอย่างเคืองๆกับสิ่งที่เขาไม่ได้รู้ ถ้าอัลชาอ์รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาเป็นใคร แล้วนี่เขาจะแสดงละครไปให้เหนื่อยทำไมกันนะ

          " แต่และมาณสัปดาห์ให้หลังพวกนี้ก็ถอนตัวออกไป " ราเซย์เริ่มรายงานต่อ คาวัลโลฟังแล้วก็พยักหน้ารับช้าๆ แน่สิ ถ้าพวกมันไม่ถอนตัวออกไปตาม"แผน"ของเขาแล้วล่ะก็ คงได้วุ่นวายปั่นป่วนอีกเยอะ " และมีพรรคพวกใหม่เข้ามา คนพวกนี้ป่าวประกาศหาคนในพื้นที่ ที่เชี่ยวชาญไปทำงานกับพวกเขาและ"แอบอ้าง"ว่าเป็นงานที่ได้นับอนุญาติจากชีค.."
 
         "........." อัลชาอ์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าเครียดขึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

          " ...ผมได้แจ้งข่าวมาทางจารเซแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ " ราเซย์รายงานต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท " จึงตัดสินใจเข้าร่วม คนพวกนี้แบ่งเป็นสอง
กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกมีไม่มากนำโดยชายที่ชื่อราฟาเอลโร่ พวกนี้ไม่เชี่ยวชาญด้านการรบมากนัก แต่มียุทธวิธีที่ดีเยี่ยม และอีกกลุ่ม นำโดยชายที่ชื่อฟิลิเป้ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านการรบมาก คาดว่าคงฝึกมาอย่างหนัก พวกเขาซุ่มรออยุ่ที่ชายแดนและลงมือตามที่ได้รับข่าวมา...หลังจากเกิดเรื่อง ผมลองค้นหาข้อมูลของพวกเขา แต่ก็ได้ไม่มากพอ..คาดว่าคงต้อง... "

         "  ราฟาเอลโร่ บอนต์เต้กับ ฟิลิเป้ เรากาโซ่  " คาวัลโลเท้าคางออกปากอธิบายเรื่องราวของสองมาเฟียด้วยสีหน้าเฉยชา " ราฟาเอลโร่เป็นหลานชายของบอสตระกูลเรกาโซ...ส่วนอีกคน ฟิลิเป้ เรกาโซ่ ลูกชายของบอสเรกาโซ่.."

         "คุณรู้จักพวกเขา ? "ราเซย์เอ่ยปากถามกลับ สีหน้าข้องใจ

          "หา?....ไม่รู้จักแล้วพวกมันจะมาลากคอผมไปทำไม " คาวัลโลพ่นลมหายใจสีหน้าเหนื่อยหน่าย เขาจ้องมองแผลที่ฝ่ามือตัวเองแล้วหน้านิ่ว " ยังไงก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว ด้วยหลายๆสาเหตุล่ะน่า... ที่น่าสงสัยน่ะ คือพวกมันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ต่างหาก ...จะว่ารู้จากไอ้ป้ายประกาศนี่....มันก็....ออกจะ Non sense ไปหน่อย ยิ่งกับราฟาเอลโร่ มันมีมีทางเชื่อของพรรคนี้หรอก ถ้าไม่มีข่าว..อะไรจริงๆจังๆ มันก็คงไม่มารนหาที่ถึงที่นี่.."
 
        " คุณรู้จักพวกเขาดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่ลองเดาสาเหตุดูล่ะ " ราเซย์ถามกลับ
 
        " ผมพูดตอนไหนว่ารู้จักดี " คาวัลโลเลิกคิ้ว ถามกลับ " แค่รู้จักมันไปอย่างนั้นเอง คนที่อยู่ในวงการเดียวกันก็ต้องรู้จักกันไว้บ้าง อย่างน้อยก็เอาไว้ยิงแสกหน้าได้ถูกคน "
 
        " อย่างนั้นพวกเขามีความแค้นอะไรกับคุณรึเปล่า? " รามิลขมวดคิ้ว ออกปากถามบ้าง
 
         " เยอะแยะ " มาเฟียหนุ่มผู้มีศัตรูอยู่ทั่วทุกสารทิศยักไหล่ตอบสั้นๆ

          "......แล้วพฤติกรรมของ..ฟิลิเป้ที่มีต่อคุณนี่...." ราเซย์ยังข้องใจ กับลักษณะท่าทางที่บ่งชักว่าพิศวาสบาดจิตแค่ไหนของฟิลิเป้

          "......มันโรคจิตไง " คาวัลโลแบะปาก มุ่ยหน้า " แค่นั้นล่ะเหตุผล ผมไม่เคยคุยกับมัน นอกจากครั้งที่ไปบุกเผาบ้านมันทิ้งแล้วลากลูกน้องมันไปลงนรกยี่สิบกว่าคนมื่อสองสามปีก่อน...ก็แค่นั้น "

          "นั่นมันก็มากเกินพอแล้ว " ...ที่ใครสักคนจะแค้นมากเสียจนอยากตามฆ่า รามิลนึกต่อในใจ

           " พวกคุณไม่เข้าใจ "คาวัลโลถอนใจแล้วส่ายหัว "ตอนนั้นน่ะมันสงครามนะ ... ในเมื่อฝ่ายนั้นโต้ตอบมา เราก็ต้องบุกกลับไป จะแน่นิ่งให้พวกมันทำฝ่ายเดียวเหรอ?แล้วฟิลิเป้มันยังกล้ามาแหกกฏ "โอเมอร์ตา"เป็นยังไงมันก็รู้ดี ยังกล้าคาบเรื่องไปบอกตำรวจ ไม่จับมันถ่วงลงทะเลก็ดีเท่าไหร่ "

          "...เอาเถอะน่า โลกเบื้องหลังก็มีสังคมของคนเบื้องหลัง เรื่องที่จะมาคิดน่ะ ไม่ใช่ว่าเพราะอะไรพวกมันถึงทำ แต่เป็น เพราะอะไร พวกมันถึง"กล้า"ทำต่างหาก "

          "....รวมถึงเรื่องคนของเราด้วย "อัลชาอ์เอ่ยสั้นๆ พลางถอนหายใจแผ่วเบา บอกปัดตัวเองไม่ให้สนใจเรื่องราวโชกเลือดของมาเฟียหนุ่มตรงหน้ามากนัก เพราะมันชวนให้รู้สึกแย่ มากกว่าอะไร และยิ่งอีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาด้วยแล้ว...

          " ที่ผิดสังเกต ..."ราเซย์สูดหายใจลึกพลางออกปากอีกครั้ง "คือหนึ่ง... พวกเขาแจ้งว่าได้รับการสนับสนุนจากทหารของเรา รวมทั้งตัวชีคเองด้วย...สอง พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา ให้เข้าไปหลบหนี  สาม นายทหารที่นี่จงใจปิดบังข่าวสารและปล่อยผ่านให้พวกเขาเข้าเมืองมาง่ายๆ และสี่..มีคนที่รู้กำหนดการของชีค รู้กระทั่งว่าชีคค้างที่หมุ่บ้านทั้งที่ไม่มีแจ้งไว้ล่วงหน้าและอยู่เบื้องหลังทั้งหมด "

          " ....ราฟาเอลโร่..." คาวัลโลเปรยออกมาเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด "บอกผมว่า พวกมันมีความสัมพันธ์อันดีกับผุ้นำประเทศในแถบนี้ ...และ....บอกว่าผู้นำที่อ่อนแอ เขาไม่สนใจ "

          "........." อัลชาอ์ไม่พุดอะไร แต่สีหน้าเคร่งขึ้นถนัดใจ คาวัลดลไหวไหล่พลางถอนหายใจเบาๆ

         " ก็นั่นมันในสายตาคนอื่น ..." มาเฟียหนุ่มเอ่ยช้าๆ พลางพ่นลมหายใจ "แต่ว่าที่มันพูดก็น่าคิด พวกเขาพูดเรื่องอาวุธ...เรื่องผู้นำ...และเรื่องที่ได้รับการสนับสนุน "

          "...คุณจะบอกว่า มีคนติดต่อกับพวกเขา ในนามของผู้ที่ต้องวการสนับสนุนและ...ต้องการตำแหน่งผู้นำ..." รามิลถามกลับ วิศวะกรหนุ่มขมวดคิ้วเคร่งพลางสบตากับพี่ชายที่นั่งข้างกายอยู่ครุ่นคิด

          ".....สนับสนุนน่ะใช่ ส่วนเรื่องตำแหน่งผู้นำ พวกคุณก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ?.." คาวัลโลสบมองแววตาเคร่งขรึมของชีหนุ่มแล้วถอนหายใจเบาๆ " เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับคุณ อัลชาอ์..."

           ".....ผมพอจะเดาได้..ว่าฟิลิเป้ไปหลบอยู่ที่ไหน " ราเซย์เอ่ยปากพูด หลังจากความเงียบโรยตัวลงมาสั้นๆ หลังคำพูดของคาวัลโล

           " หือ? " มาเฟียหนุ่มออกปากซักอย่างเริ่มจะสนใจ

            " ..ถ้าชีคช่วยจัดการเรื่องทหารรักษาการแถบชายแดนให้...และเรื่องคนของเราที่ให้ความคุ้มครอง....ผมคาดว่าพวกมันยังไปไหนไม่ได้ไกล เพราถูกคนของเราล้อมไว้ " ราเซย์รายงาน

            " แล้วอีกคน " ชีคหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ

            " เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ พวกเขาอาจจะแยกกันไป "

            " ถ้าจะจับก็คงต้องจับทั้งสองคน ไม่งั้นเรื่องที่ผมอยู่ที่นี่ก็คงปิดไม่มิด " คาวัลโลครางเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด

            "....จับตาย ถ้าจำเป็น "ชีคหนุ่มบอกเสียงห้วน ทำให้ทุกคนชะงัก

             " แต่ว่า......." รามิลออกปากค้านขึ้นมา

             " เรื่องนี้มันอาจลุกลามเป็นปัญหาระหว่างประเทศ.." ราเซย์มีสีหน้าลังเล ไม่แน่ใจ

             "...สั่งให้ทหารรักษาการชายแดน ตามจับมาให้ได้ ต่อให้ได้แค่ศพก็ตาม การเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายมีโทษไม่มาก แต่ในเมื่อกล้าจะก่อการกบฏ..." ชีคหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น กวาดตามองสองพี่น้องข้างกาย " มีโทษฐานเดียวคือประหารชีวิตเท่านั้น ! "

           " อัลชาอ์ นี่มัน....."

           " หรือคุณพอใจจะถูกทำร้ายโดยไม่ตอบโต้ "อัลชาอ์สบมองดวงตาสีน้ำทะเล ถามกลับเสียงเรียบ

            "มันไม่ใช่...แต่ผม....." คาวัลโลผงะไปกับแววตาสีนิลที่วาวโรจน์ มาเฟียหนุ่มอ้าปากอธิบายอย่างเร่งร้อน ไม่ใช่ว่าเขาหายโกรธหรืออะไร แต่ว่า ยามนี้ที่มีสติพอจะคิดอะไรได้ถี่ถ้วน การทำแบบนี้ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตายชัดๆ

            "...ใครที่ไม่ทำตามคำสั่ง จะเจอโทษเดียวกับพวกที่กล้าเข้ามาก่อความวุ่นวายในนี้..." อัลชาอ์ลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าเรียบสนิท " ผมมีคำสั่งนี้ไปยังผู้บังคับการทุกหน่วยของเราแล้ว"
 
           "....เรื่อง....."

           " ไม่ทำตามคำสั่ง  มีโทษประหารชีวิต "

                 คาวัลโล ชะงัก อ้าปากค้างกับอัปกริยาหันกันแบบไม่คิดชีวิตของชีคหนุ่ม ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจที่มีคนมาโกรธแค้นแทนตนเองและคอยดูและขนาดนี้ แต่กับปัญหานี้น่ะ มันจะเกินไปรึเปล่า
 
            หมับ
 
        " ผมขอคุยกับคุณสองคน " มาเฟียหนุ่มคว้าแขนหนาพลางออกแรงกระชากเบาๆ ทำให้ร่างสูงชะงัก

          ".....ผมกำลัง..." อัลชาอ์มีสีหน้าเคร่ง ออกปากท้วง

   
        " เรื่องสำคัญ..." คาวัลโลจ้องสบแววตาสีนิลเขม็ง ให้คนมองชะงัก..
 

         "...ก็ได้.....รามิล ราเซย์ ออกไปก่อน " อัลชาอ์ยอมนั่งลงในที่สุด ขณะที่สองพี่น้องตระกูลเซฮามัคค้อมตัวลงและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
ปัง...

        เสียงปิดประตูดังขึ้น ทำให้ความเงียบลอยอวลอยู่ในบรรยากาศ คาวัลโลจ้องมองสีหน้าเคร่งขรึมของชีคหนุ่มข้างกายแล้วถอนหายใจแผ่วเบา เขาละมืออกจากแขนหนา สีหน้าครุ่นคิด

         " ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อผม แต่แบบนี้มันไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย "...เปรยออกมาเบาๆ ทำให้คนฟังชะงัก

         " ไม่ใช่แค่คุณ แต่เพื่อตัวผมและประเทศของผม...การที่ผม"ยอม"ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รู้ คาวัลโล บางทีเราก็ต้องทำอะไรเพื่อให้พวกมันรู้เสียบ้าง " อัลชาอ์ถอนหายใจ พลางออกปาก

         "คุณบอกว่าสิ่งสำคัญที่มาเฟียรักษาไว้ได้ด้วยชีวิตคือเกียรติของตนเอง แต่กับผม...สิ่งสำคัญทีต้องปกป้องรักษา ไม่ใช่แค่เกียรติของตน แต่เป็นเกียรติของประเทศด้วยเช่นกัน ผมในฐานะเจ้าของประเทศ ผู้ปกครองประเทศนี้ จะต้องปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรตามอำเภอใจ เซเนียยาแม้จะไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่อย่างไรนี่ก็คือประเทศของผม เรามีกฏหมายของเรา มีกฏระเบีบให้ปฏิบัติตาม ไม่ใช่เป็นที่ๆใครก็ได้จะมาทำอะไรตามอำเภอใจ "  

        " .............." คาวัลโลชะงัก...มาเฟียหนุ่มหรี่ตาลงน้อยๆด้วยท่าทีครุ่นคิด

         " ก็ถูกของคุณ " เขารำพึงออกมาเบาๆ "แต่ว่า การจะลงทุนด้วยเรื่องนี้....ไม่เห็นจะต้องเอาชีวิตเจ้าพวกนั้นมาอ้าง " มาเฟียหนุ่มส่ายหัว

         " ผมไม่ได้อ้าง แต่พวกเขาทำผิดจริง เกียรติภูมิของประเทสถูกเหยียบย่ำ ด้วยน้ำมือคนต่างชาติ..ผมไม่มีสาเหตุอะไรจะต้องปราณี..."

         " ถ้าพูดถึงเรื่องประเทศ...อัลชาอ์ คนพวกนั้นเป็นคนของประเทศผม...เช่นเดียวกับที่คุณมีหน้าที่ปกป้องประเทศ รัฐบาลของผมก็มีหน้าที่ปกป้องชีวิต
ประชาชน ยิ่งกับเจ้าพวกที่มีฐานเสียงในสภาด้วยแล้ว.." คาวัลดลขมวดคิ้ว ครางออกมาเบาๆ "ผมกลัวมันจะถุกแทรกแทรงด้วยอิทธิพลของประเทศอื่นน่ะสิ..."

         " นั้นเป็นเรื่องของการฑูต..กับ เรื่องของการตกลงผลประโยชน์ " อัลชาอ์หรี่ตาลงช้าๆ สีหน้าครุ่นคิดพอกัน " เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ผมปล่อยมันไปไม่ได้.."

         "...แต่บางที ถ้า....."
 
       " หรือคุณ เป็นห่วง? อัลชาอ์เลิกคิ้ว สีหน้าประหลาดใจพอควร " ห่วงคนที่ทำแบบนี้กับคุณเหรอ? คาวัลโล "

          ฝ่ามือหนาเอื้อมจับมือซ้ายที่มีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้แน่น สีหน้าไม่เข้าใจของชีคหนุ่มทำให้คนมองส่ายหัว  คาวัลโลวางมือขวาลงบนฝ่ามือหนาที่กุมมือของตนไว้เขาบีบมันเบาๆ และสบมองนัยน์ตาสีนิลของคนตรงหน้า..

          " ไม่.....ผมเป็นห่วงคุณ..."
 
           "......"

            " ราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้มันจะเป็นจะตายผมไม่สนหรอกนะ แต่อย่าลืม...พวกมันไม่ได้มีแค่ตัวมันสองคน คุณยังไม่รู้จัก"ความแค้น"ของคนพวกนี้ดีพอ...อัลชาอ์..." นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองสบอย่างแน่แน่ว หากไม่ได้คิดไปเอง อัลชาอ์ก็บอกตัวเองว่าเขาเห็นแววตาที่แฝงความห่วงหาไว้อย่างชัดเจน  " คนๆหนึ่งตายในประเทศของคุณ ต่อให้พวกเขาทำผิดจริง คุณก็ยังไม่มีสิทธิจะตัดสินยังไม่มีสิทธิ์จะจับตายพวกมันอย่างที่ใจคุณอยาก ใครว่าผมไม่เเค้น แต่ถ้าพวกนั้นตายไปแล้วคนของพวกเขาตามมาเอาเรื่องคุณ อะไรจะเกิดขึ้น "

           ".....เรื่องนั้นผมรู้..." อัลชาอ์รับคำเสียงเบา " แต่การปิดข่าว..."
 
         "...คุณก็รุ้เรื่องการแทรกแทรงระหว่างประเทศดี พวกสายลับที่เข้ามาก่อข่าว ก่อเรื่องสร้างความแตกแยกสร้างความวุ่นวายจนเกิดจลาจล...ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น คุณรุ้จักความร้ายการจของมาเฟียน้อยไป อัลชาอ์ ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงโดยเฉพาะในตอนที่ประเทศของคุณยังมีพวกหนอนบ่อนไส้อยู่แบบนี้.."

          "....จะบอกให้ผมยอมปิดตาลงข้างหนึ่ง...แล้วให้พวกเขาลอยนวลไปง่ายๆงั้นหรือ? ..." ชีคหนุ่มพ่นลมหายใจลงช้าๆ

           "...แค่พวกมันสองคนก็พอ..." คาวัลโลเผยรอยยิ้มร้าย " ผมไม่ได้ห้ามคุณจับ แต่ขอแค่จับเป็น ต่างคนก็ต่างเป็นคนสำคัญของแกงค์นั้นทั้งคู่ คุณก็แค่จับตัวมาขังไว้ เราเรียกร้องอะไร ต้องการอะไร พวกเขาเหรอจะไม่กล้าให้ ในเมื่อมีคนของตัวเองอยู่ตั้งสองคน"

           " หือ?...ร้ายกาจ " คาวัลโลฟังแล้วหัวเราะเบาๆ ดีใจที่ในที่สุดเขาก็ทำให้อัลชาอ์กลับมาอารมณ์ดีได้อีกครั้ง

           " แน่นอน ก็ผมเป็นมาเฟียนี่ "

           "...แล้วคุณกับคนพวกนั้นมีความสัมพันธ์กันยังไง? "อัลชาอ์ออกปากถามเมื่อนึกขึ้นได้ สีหน้าคาดคั้น

           " ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร " คาวัลโลเหลือกตาขึ้นมองเพดาน

            " อย่าปิดผม " นัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นตามมาจ้อง คาวัลโลครางเบาๆในลำคอย่างสิ้นหวัง เมื่อรู้ว่าในที่สุดแล้วตนเองก็ต้อง...ยอมแพ้...

            " ฟิลิเป้มัน....เอ่อ....ว่าไงดี หลงรักผม ล่ะมั้ง..." ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มก็ทำหน้าแสยง แต่คนฟังชะงัก ใบหน้าดำทะมึน

           "...หลงรัก "อัลชาอ์ทวนเสียงครียด พลันก็คิดได้ว่าดีแล้วที่เขาไม่จับตายมันเสียเดี๋ยวนั้น และกำลังคิดว่าเขาจะ"ลงโทษ"เจ้าคนๆนั้นอย่างไรดีถึงจะสาสม

           " ผมไม่สนหรอกน่า..." คาวัลโลบ่น ก่อนเจ้าตัวจะถอนหายใจเบาๆ

           "แล้วอีกคน..." อัลชาอ์ถามซ้ำอย่างไม่ยอมละความสนใจ..

           " ผมไม่คิดว่าคุรอยากจะรู้เรื่องนี้ "คาวัลดลมองเสี้ยวหน้าคมที่อยุ่ใกล้ หรุบตาลงช้าๆ...
 
           " หรือมีเรื่องอะไรร้ายแรง " ชีคหนุ่มเอ่ยถามกลับ..

            " ก็......" คาวัลโลบ่นพึมพัม สีหน้าเคร่งขรึม เขามองสบนัยน์ตาสีนิลก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา...

           " นั่นสินะ ยังไงคุณก็ต้องรู้อยู่ดี...ไม่วันใดก็วันหนึ่ง " น้ำเสียงเปรยเบาๆนั้นทำให้คนฟังขมวดคิ้ว กับ...ลางสังหรณ์บางอย่าง. "..จำได้ไหมที่ผมเล่าเรื่องแกงค์ของผม " คาวัลโลเอ่ย ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนัก แล้วพ่นลมหายใจลงช้าๆ "  ผมเล่าว่าตระกูลเรกาโซ่ กับกราดอนอยากจะกระชับความสัมพันธ์กัน แต่ทำไม่ได้แล้ว คุณเคยถามว่าเพราะอะไร แต่ผมไม่ตอบ "

          " แล้ว...." อัลชาอ์ทวนคำ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างเริ่มจะสังหรณ์ใจ ถึงอะไรบางอย่างที่เริ่มเด่นชัด..

            "..สาเหตุที่ราฟาเอลโร่ตามมาฆ่าผมถึงที่นี่ เพราะผม...ไปแย่งคนรักของมันมา..."
 
           " ซิลเวีย กราดอน คือคู่หมั้นของผม "

            "............." อัลชาอ์นิ่ง ชีคหนุ่มไม่พูดอะไรนอกจากจะจ้องมองแววตาสีน้ำทะเลคู่นั้นที่มันจริงจังและมองมาอย่างไม่หลบ บ่งชัด ว่านี่คือความจริง
 
 ชีคหนุ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งค้าง อยากจะยกริ้มฝีปากมาแสยะยิ้มล้อเลียนตนเอง แต่ก็ทำได้เพียงขยับมุมปากที่สั่นระริกและแแข็งทื่อ

...พลันรู้สึกสมองว่างเปล่า และบางสิ่งบางอย่างในอกพังครืนลงมาต่อหน้าต่อตา..

   คำหวาน..จูบและอ้อมกอดยามนิทรา

 มันคือคำหลอกลวงดีๆนี่เอง..

              " ผมขอโทษ " คาวัลโลหรุบตาลงต่ำ ไม่สบมองแววตารวดร้าวคู่นั้น มาเฟียหนุ่มเสมองไปอีกทาง พลางเอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากที่แข็งชืดของตน
 

            "  ผมบอกแล้ว ว่ามันเป็นไปไม่ได้ "
  

           " ไม่ใช่ความผิดของคุณ.." ผ่านโมงยามแห่งความเงียบงันเพียงชั่วครู่ อัลชาอ์ก็เอ่ยปากตอบสั้นๆ ชีคหนุ่มลุดพรวดขึ้นจากเตียงนุ่มที่ตนเองเอนตัวลงไปนั่งอย่างรวดเร็ว

         ใบหน้าคมเข้มทอดมองไปยังบานประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแววตาร้าวไหว แจ่มชัด...

            " เรื่องแผนที่คุณเสนออมา ผมจะลองคิดดู "
 
           "เดี๋ยว! " ฝ่ามือขาวจัดพลันคว้าชายเสื้อโธปสีเข้ม คาวัลโลลุกพรวดขึ้นจากเตียง ร่างกายโซเซไปูบหนึ่งเพราะกำลังมึนงงและยังมีอาอารไม่สบาย แต่อัลชาอ์ก็รีบถลามาคว้าตัวไว้อย่างเร่งร้อน สีหน้าของชีคหนุ่มยังแฝงแววห่วงใยและอาทรไม่จาง แม้จะถูกอีกฝ่ายทำร้ายจิตใจมากเพียงไหน

   นั่นทำให้คนมองรู้สึกปวดแปลบในหัวใจไม่น้อย คาวัลโลเอื้อมมือกำโธปสีเข้มแน่น เขาพยุงตัวขึ้นมาจากพื้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง สบมองแววตาสีนิลที่พยายามซ่อนความรวดร้าวไว้อย่างยากเย็น เสี้ยวหนึ่งส่วนใดในหัวอกพลันเจ็บร้าว เสียจนทนไม่ไหว..

     เขาจ้องมองใบหน้าหล่อเหล่าที่พยายามมองไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ใบหน้าของตน พลันความสงสารและปวดร้าวก็แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ
 
  ....อัลชาอ์...อัลชาอ์

  คนโง่ คนงี่เง่าที่มัวแต่หลงรักเขาอยู่ข้างเดัยว
 
         ฝ่ามือขาวจัดสัมผัสผิวหน้าทำให้ชะงัก อัลชาอ์ขมวดคิ้ว แม้พยายามเตือนตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ว่าอย่างปล่อยใจให้หลงยินดี หรือปลาบปลื้มกับท่าทางห่วงใยแต่ไม่ได้แฝงสิ่งใดมากกว่านั้นของเจ้าตัวเอีก

บอกตัวเองว่าอย่าไหวหวั่น..มิฉะนั้นก็จะเจ็บร้าว...เจ็บปวด เช่นที่รู้สึกตอนนี้...

    หากแววตาสั่นไหวที่มองมาอย่างห่วงหานั้น กลับทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำ...
 
        "...ผมมีเขา แต่ตอนนี้ ผมเป็นห่วงคุณ..."
 
      ผมเป็นห่วงคุณ....

ห่วงใยคุณจากใจจริง....

     สีหน้าของผู้ฟังวูบไหวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะระบายลมหายใจหนักอัลชาอ์ก้มไปหาร่างของมาเฟียหนุ่มเบื้องหน้า ขณะที่สมองมีแต่คำว่า"ผมเป็นห่วงคุณ"ก้องสะท้อนไปมา

...   วงแขนหนาโอบรัดร่างเพรียวเข้าหาตัว คาวัลโลหลับตาลงช้าๆเป็นฝ่ายเงยหน้ารับจูบแสนหวานจากชีคหนุ่มตรงหน้าอย่างเต็มใจ

ผมมีเขา...

แต่ผมเป็นห่วงคุณ...

  มีเขาอยู่ทั้งคน...แต่ก็ห่วงใย...

คุณ ที่อยู่ตรงหน้า...

     อัลชาอ์ปรือตาขึ้นมองวงหน้าที่หลับตาพริ้มของชายในอ้อมแขน ดวงใจเสี้ยวหนึ่งรวดร้าว หากอีกเสี้ยวหนึ่งแสนยินดี เต้นสลับกันไปมา

 ทั้งทุกข์ ทั้งสุข...

เจ็บปวด หากแต่ก็สุขสม...รวดร้าว แต่ก้เต้มไปด้วยความยินดี...

เป็นดั่งรสชาติอันขมปร่าแต่หอมหวานของคำว่ารัก..

     ชีคหนุ่มโอบกอดร่างของมาเฟียตัวร้ายในอ้อมแขนแน่นขึ้น ราวกับจะพยายามเหนี่ยวรั้งและฉุดดึงให้คาวัลโล วาลกัสอยู่ข้างกายตนตลอดไป...

ดวงตาสีนิลปิดลงช้าๆ ขณะที่ก้มลงช่วงชิงลมหายใจจากชายหนุ่มในอ้อมกอด ชายที่มีคนรักแยู่แล้ว มีคู่หมั้นอยุ่แล้ว แต่ยังห่วงใย เป็นห่วงตนที่อยู่ตรงหน้า...

...คนๆหนึ่ง จะทนกับความปวดร้าวได้มากแค่ไหน..อัลชาอ์อยากรู้นัก

คนหนึ่งคน จะทนรักและรับความเจ็บปวดจากความรักนี้ได้มากแค่ไหน...ตนอยากรู้ และได้วางเดิมพันไว้กับชายหนุ่มตรงหน้า..

....จะอดทน"รัก"คุณแบบนี้ได้นานแค่ไหนกัน..

 คาวัลโล วาลกัส

   หวังเพียงว่าเมื่อในวันหนึ่งถึงจุดสิ้นสุดของความอดทนนี้ ทั้งคุณและผม จะไม่มีใครต้องเสียใจภายหลัง...
...............................................................................

อืมมมมมมมมม.... จะว่าไงดี
 
    ออกอาการตื้อๆตันๆเมื่อเขียนตอนท้ายๆนี้ เฮ้ออออ...จะว่าสงสารท่านชีคมั้ย สงสารสิ มากด้วย ท่านชีคอัลชาอ์ช่างเป็นผุ้ชายที่แสนดีหนักหนา ส่วนคาวี่มันก็...นะ เอ็งนี่มัน..เฮ้อ...เลี้ยงไข้นี่หว่า...ประเภทที่ไม่รัก แต่ก็ยังให้ความหวัง .แต่จะว่าอะไรมากนักก็ไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ขึ้นอยุ่กับคนสองคน.. แต่ก็ยังดีน่า ที่คาวี่มันยัง"ห่วง"ได้บ้างแล้ว ไม่ใช่ทำร้ายจิตใจเขาก็นิ่ง ทำคนอื่นเขาเสียใจก็เฉย มันแอบมีพัฒนาการอยุ่ในความเจ็บปวดของท่านชีคล่ะนะ..

มีเขาอยู่ แต่ผมเป็นห่วงคุณ
    อารมณ์อาจจะเหมือน "ฉันรักคุณแต่ประภาคารก็สวยดี"ของคุณปราย"พันแสง ล่ะมั้ง ( อย่าทำหน้าเหมือนไม่ได้อ่านนะ บอกมาเซ่ว่าอ่านนนนน ) ประมาณว่าฉันรักคุณนะ แต่คนที่ฉันอยู่ด้วยตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน จะเป็นไรไปล่ะถ้าเราไม่ได้อยู่ในประภาคารแต่ได้จ้องมองแสงของมันเพียงไกลๆก็รู้สึกดีแล้ว อารมณ์ประมาณ "รักเธอแต่กอดคนอื่น" หวานปนขมกล้ำกลืนเหลือประมาณสำหรับคนที่เจอคนแบบนี้ (ซวยแท้ท่านชีค)
 ....ซิลเวีย กราดอน...โผล่มาแค่ชื่อก้ทำช๊อคได้ ฮ่าๆเป็นสาวอีกคนที่ปุ้ยชอบมากมายในเรื่องนี้ (รองมาจากคุณแม่อลิซล่ะมั้ง)สมน้ำหน้าราฟามันซะแบบนั้น ถือว่าการที่ซิลเวียมาหมั้นกับคาวี่ ก็เออ สาสมดี เพราะแกทำตัวเองล่ะ ราฟา (สปอยล์ 555+) แต่ประเด็นที่คาวี่มันทำแบบนี้กับคนอื่น อันนั้นไม่นับ
   ตอนนี้อาจจะเครียดๆบ้างนิดหน่อย รู้สึกว่าไม่มีใครเกิด"รักแรกพบ"กับคาวี่แบบท่านชีคสักเท่าไหร่ อารมณ์ประทับใจหน้าตาคงใช่แต่กับนิสัย คาวี่เจอกับใครก็ฉะกับชาวบ้านเขาตลอด ตั้งแต่ฮาซาน มารามิล แล้วก็ราเซย์ กระทั่งอัลชาอ์เองก็เถอะ ตอนแรกก็วิวาทฟาดปากกันไปมิใช่น้อย คาวี่อาจจะเป็นพวกที่นานๆไปถึงจะนึกชอบมาได้ล่ะมั้ง 555+
    เอาเอ็มวีนี้มาฝาก ไปเจอมาจากบอร์ดดราม่า

ดูแล้วร้องเหยยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
        คลิ๊ก
แทบจะเขย่าจอคอมพ์ ท่านชีคโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เอ็งไม่ได้อยู่ตรงนั้นใช่ม้ายยยยยยยย
อยู่ในนี้ต่างหาก 555+
    คลิ๊ก
(ชอบเอ็มวีนี้มากมายค่ะ )
ย้ำว่าคนที่อ่านเรื่องนี้ ต้องดูเอ็มวีนี้ให้ได้ โฮะๆๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2011 02:49:41 โดย Serin »

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
ปล. ด่วนๆๆๆๆ ค่ะ ประกาศๆ

ในฐานะที่ตอนนี้ใกล้วา่เลนไทน์ขึ้นมาทุกที อยากถามว่าใครอยากได้ ตอนพิเศษเกี่ยวกับวาเลนไทน์บ้างค่ะ
คู่ไหนก้ได้ไม่เกี่ยง ใครมีไอเดียดีๆลองเสนอมาได้ค่ะ หุหุ (แบบสมมุติสถานการ์ณก็ได้ )
เรื่องเรทไม่เอา Nc นะฮ้าฟฟฟ เอาแบบว่าเกือบๆน่ะพอได้ (555+)
อยากได้คุ่ไหนก็บอกกันมาได้ค่ะ ไอเดียใครเจ๋งๆจะแต่งออกมาซักตอนส่งท้ายวาเลนไทน์ (ไม่ได้บอกว่าต้อนรับ เพราะคาดว่าจะแต่งไม่ทัน 14 กุมภา :laugh:)

dea

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกก ค้างง่ะ

ตอนจบของตอนนี้จะสื่อไรมั๊ย ไม่หรอกนะ อิคนอ่านหมกหมุ่นไปเอง  :haun5:

ไม่เข้าใจ พี่คนเขียนจะสปอยล์ทำไม มันอยากรู้นะเฟ้ย  :angry2:

ตอนมีชื่อนางคู่หมั้นออกมา คิดอย่างเดียวว่าหมั้นแต่ไม่ได้รัก (บอกเค้าหน่อยว่าไม่ได้รัก)

ตอนนี้คาวี่ ดูเจ้าชู้มาก ให้ท่าเขามากนะอิหนูน่ะโคดให้ความหวังเลย เริ่มหมั่นไส้จริงๆจังๆแล้วนะ ฮ่าๆ

ปล.เรื่องตอนพิเศษ ขอ....ราเซย์ รามิล ฮาซาน 3P ได้ม่ะ ??


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2011 02:37:11 โดย dea »

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
มีลางว่ามาม่าจะอืดดดดดดดด :z3:
สงสารชีค  :m15:
คาวี่ไม่รักก็อย่าให้ความหวังสิอิหนู :serius2:
เจ็บอมขนกลืนจริงๆ :o12:

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



   กระซิกๆๆ เจ็บแค่ไหนก็ยังทน เจ็บแค่ไหนก็ยังรัก น่าสงสารคุณชีคจริงๆ
   ว่าแต่ว่ามิสเตอร์คาวัลโลคะ นั่นคือคุณได้พยายามไม่ให้ความหวังแล้วใช่ไหม

   แต่ก็ว่าจะ คนมานเสน่ห์แรง ขนาดไม่ได้ให้ความหวัง ให้แต่ความเกลียดก็ยังมีมิสเตอร์ฟิลิเป้คอยตาม




sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



   เรื่องตอนพิเศษวาเลนไทน์ กลางทะเลทรายอย่างเซนียาคงไม่มีการฉลองวาเลนไทน์หรอกมั้งคะ คนละศาสนาเลยอ่า
   แต่ถ้าเป็นคุณคู่แฝด คงฉลองกันชัวร์!!




ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เจ็บปวด ดด  :serius2: :serius2:
สงสารชีคอ่ะ ไม่คิดว่าคาลจะมีคู่หมั้น เฮ้อ อ อ อ :z3:

เราว่าตอนนี้คาวี่มันชอบชีคแล้วล่ะ ฮ่าๆ ๆๆๆ
ถ้าไม่ชอบ ไม่สนใจ มันจะรู้สึกแบบนั้นเหรอ??
แต่ตอนจบมันจะเป็นแบบไหนก็ยังเดาไม่ออกเลยจริงๆ

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
โห ท่านชีคหนุ่ม
ตกบ่วงเสน่ห์ของคาวี่ไปไหนไม่รอดซะแล้ว
ไม่ว่าจะมองทางไหน ก็เป็นไปไม่ได้สักทาง
มีทางเดียว
กักขังด้วยกุญแจมือ ล่ามไว้ด้วยโซ่
ฮึฮึ  o18ชั่วพอมะ
หรือไม่ก็เป็นฝ่ายทำให้คาวี่รักเท่านั้นล่ะมั้ง :เฮ้อ:

lolilo

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสงสารอัล
ทำไมว่ะ แมร่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
 :serius2: :serius2: :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด