ในยามที่รถของแขกในงานวิ่งออกจากลานจอดด้านหน้า นั่นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเริ่มเตรียมตัวรับมือ คาวัลโลลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ มองไปที่หมอนข้างซึ่งบัดนี้ถูกจับใส่ชุดโธปของเขาและคลุมโปงอยู่ ชายหนุ่มเดินอย่างระมัดระวังท่ามกลางความมือสลัว เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า และแทรกกายอยู่ในนั้นอย่างเงียบเชียบ
ปืนที่วางอยุ่ถูกหยิบขึ้นมาประกอบอย่างช้าๆขณะที่สายตาจ้องมองไปยังเบื้องนอก ผ่านช่องระบายอากาศเล็กๆ..
แกร๊ก...
ขึ้นไกปืนเสร็จเรียบร้อย หน้าต่างที่ปิดอยู่ก็ถูกเปิดออก คาวัลโลมองเห็นเงาดำค่อยๆแทรกกายเข้ามาในห้องของตน ร่างนั้นคลุมตัวด้วยผ้าสีดำสนิทเป็นการพรางกาย เขามองเห็นมันเดินวนรอบเตียงช้าๆ ก่อนจะยกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงไว้ และจรดไกปืนลงบนเตียง..
ปุ ปุ ปุ
" ผลั่ก !! "
คาวัลโลเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกไปและกระโจนเข้าไปหาอย่างรวดเร็วในจังหวะเดียวกับที่ชายคนนั้นลั่นไกลงบนเตียง สิ่งแรกที่เขาทำ คือการเหวี่ยงฝ่าเท้าฟาดเข้าที่ปลายคางของมือปืนรายนั้นอย่างแรง ร่างหนาทิ้งตัวลงบนพื้นเพราะไม่อาจจะตั้งตัวทัน และเขาก็ไม่ปล่อยให้มันมีโอกาส ปลายเท้าจึงตวัดเตะมือที่ถือปืนไว้ ให้กระบอกปืนกลิ้งไปไกล หมัดสองหมัดซัดลงที่ลิ้นปี่จนมันจุกแน่น และเขาจึงค่อยคว้าลำคอเจ้าตัวให้ลุกขึ้นยืนโดยเร็ว
" เงียบ !! "คาวัลโลกระซิบเสียงเหี้ยม เขาจ่อปืนเข้าที่กระหม่อมของมัน ขณะที่เเขนรัดลำคอหนาไว้แน่น..
.
ขยับกายเดินเข้าไปใกล้เตียง หากแสงวาบที่หางตาซึ่งสะท้อนจากเครื่องเงินที่อยู่ใกล้หน้าต่างทำให้สะดุด คาวัลโลใจหายวาบ เขาดึงร่างของมือปืนที่ถูกจับไว้บังกายทันที..
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงรัวปืนกลดังลั่น ขณะที่ร่างของมือปืนหนุ่มผู้ถูกคุมตัวไว้สะท้านเฮือก ร่างกายสั่นไหวไปมายามที่ถูกกระสุนปืนสาดใส่อย่างไม่บันยะบังยัง ส่งผลให้เลือดไหลออกมาจากร่างของเจ้าตัวราวกับสายน้ำ สาดกระเซ็นเปื้อนร่างของเขาไม่น้อย คาวัลโลเหวี่ยงร่างนั้นลงบนเตียงหนา ส่วนตัวเองรีบทรุดกายลงคลานบนพื้น ขยับตัวอย่างรวดเร็วเข้าไปหลบอยู่ใต้เตียงทันที...
เสียงเอะอะดังขึ้นเเว่วๆพร้อมกับประตูที่ถุกเปิดออก แสงไฟถูกเปิดขึ้นจนสว่างจ้าทำให้เห็นสภาพห้องที่เต็มไปด้วยร่องรอยกระสุน มีกลิ่นดินปืนและกลิ่นฝุ่นผงโชยคลุ้งปะปนกับกลิ่นเลือดทำให้หลายคนผงะ เลือดสีเข้มที่หลั่งรินออกมาจากร่างที่พาดกายอยู่บนเตียงทำให้หลายคนเบิกตามองด้วยความตกใจ ขณะที่เสียงกรีดร้องดังมาจากลำคอของสาวรับใช้..
"......." คาวัลโลหมอบคู้ตัวอยู่ภายใต้เตียงหนา เขานึกเบาใจที่ทุกอย่างจบลงแล้ว ทว่าร่างที่จะขยับออกไปกลับต้องชะงัก ...เมื่อรู้สึกถึงแรงกดทับบริเวณด้านหลังของเหล้ดเสริมพื้นเตียงที่แข็งทื่อ...ซึ่งเป็นด้านใต้ของเตียงและตัวเขาก็กระโจนพรวดเข้ามาทับบนลังไม้ที่วางไว้ก่อนหน้าและใต้เตียงนี้ไม่ได้สูงอะไรนักหนา การที่คนหนึ่งคนกระโจนพรวดทับกล่องขนาดที่ยัดใส่ของได้..มันก็ถือว่าสอดตัวทับไปได้..มาก...เกินพอแล้ว..
คาวัลโลกระพริบตาปริบๆ...แผ่นหลังที่ครูดไถเริ่มออกอาการแสบร้อน เขาลองขยับตัวสองสามครั้งแต่ผลที่ได้รับก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
...อย่าบอกนะว่า....
ร่างสูงก้าวเท้ายาวๆขึ้นบันไดมาตามหลังองค์รักษ์ของตนที่วิ่งนำหน้า อัลชาอ์ยังอยู่ในชุดงานเลี้ยง ใส่โธปสีขาวมีมิชลาฮ์สีทองคลุมทับเดินตามหลังคนของตัวเองอย่างร้อนรน เมื่อเสียงรัวปืนกลดังลั่นขึ้นภายในคฤหาสถ์...แต่ที่ชีคหนุ่มต้องใจหายวาบ นั่นคือห้องที่เกิดเรื่องนั้น มันเป็นห้องพักของคาวัลโล วาลกัส !!
หน้าประตูห้องมีคนรับใช้และเหล่าทหารยืนมุงอยู่ จนต้องออกแรงผลักให้หลีกไปด้วยความร้อนรน ร่างกระหืดกระหอบของผู้เป็นลุงเดินตามหลังออกปากเรียกเสียแต่อัลชาอ์ไม่ได้นึกจะสนใจ และสภาพห้องนั้นทำให้ชีคหนุ่มชะงัก...นิ่งอึ้ง...
ทั้งห้องเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกห่ากระสุนซัดสาด กระจกหน้าต่างแตกออกและตกลงบนพื้น ม่านสีเข้มมีรอยปุปะและขาดวิ่น ขณะที่ในห้องมีกลิ่นคละคลุ้งของดินปืนลอยอยุ่ปะปนกับกลิ่นของฝุ่นผง ชีคหนุ่มมองเห็นรอยเลือดที่ไหลเอ่อเป็นวงกว้าง จากร่างที่หมอบนิ่งอยู่บนเตียง....ที่ทำให้หัวใจกระตุกสั่น..
" อย่าแตะต้อง !!! " ตะโกนสั่งทหารนายหนึ่งซึ่งกำลังจะเดินไปดู น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลนั้นทำให้ผุ้คนโดยรอบต่างสะดุ้งเฮือก กับโทสะที่ตนไม่เคยได้พบ..
"...ฮาซาน !!...ไปดูที่หน้าต่าง " อัลชาอ์ตะโกนสั่ง และตนเป็นฝ่ายก้าวยาวๆเข้าไปในห้อง มือหนาเอื้อมไปยังร่างในชุดสีดำที่คุลมกายแน่นหนา หัวใจเย็นยะเยียบด้วยความหวาดหวั่น...
..ขอเถอะ...อย่า...อย่าเป็นคนๆนั้น....
พรึ่บ !
ใบหน้าที่ไม่เคยคุ้นปรากฏขึ้นในสภาพตาเหลือกกว้าง มีเลือดไหลอาบหน้าเพราะกระสุนเจาะตรงกะโหลกศรีษะ หากแต่ภาพสยองขวัญนั่นก็ทำให้ใจที่หวาดหวั่นค่อยลดความหวาดหวั่นลงไม่น้อย..เพราะ..มันไม่ได้เป็นร่างของคนๆนั้น ไม่ใช่ร่างไร้วิญญาณของเจ้าของห้องที่ตนกำลังร้อนรน ..ตามหา...
นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองทั่วห้อง มองเห็นกระเป๋าสัมภาระที่คุ้นตาดีวางอยู่ หากแต่ไม่มีเงาของคนที่ควรจะอยู่ในนี้
" คาวัลโล ?" อัลชาอ์เอ่ยปากเรียก...หากแต่ทุกอย่างก็ยังเงียบกริบ " คาวัลโล !! คาล...."
" ชีคครับ" ฮาซานเรียกนายเหนือหัวตนเบาๆ ทำให้ผุ้ฟังชะงัก นัยน์ตามองไปยังร่างที่นอนตาเหลือ แต่สิ่งที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วและใจหายวาบ คือใต้ร่างนั้น มีผ้านวมที่ถูกทับอยู่มันนูนขึ้นคล้ายกับมีร่างของใครอยู่ข้างใต้ ชีคหนุ่มขมวดคิ้ว หากพลันลมหายใจก็สะดุดหยุดลงยามที่ได้เห็นร่องรอยของกระสุนปืนที่ฝังตัวลงไป..และมีรอยเลือดสีเข้มปรากฏอยู่...
มองเห็นโธปสีดำคุ้นตาโผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ทำให้หัวใจเย็นวาบ...ชีคหนุ่มรู้สึกว่าลมหายใจของตนสะดุดไหว หัวใจพลันเย็นเฉียบราวกับหนาวเหน็บ..
นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองร่างของผู้คนที่ยืนอยู่ที่ประตูด้วยนัยน์ตาวาววับด้วยความไม่พอใจ ทำให้ต่างที่สบมองก็ต้องสะดุ้ง ตัวแข็งทื่อ...กับแววตาอันวาวโรจน์และเคืองแค้น ฮาซานนิ่ง เม้มปากแน่น เมื่อมองเห็นร่องรอยความเจ็บปวดแฝงอยู่ชัด มันเป็นแววตาของราชสีห์...ราชสีห์ผู้สูญเสียสิ่งของอันเป็นที่รัก...คนที่ตนให้ความสำคัญ...
ฮาซานมองไปยังฝ่ามือของเจ้านายตนซึ่งค่อยๆยกผ้าห่มหนาขึ้นช้าๆ ในหัวของเขากำลังพร่ำภาวนาของพรต่อองค์อัลเลาะห์ ขอให้ทรงคุ้มครองชายคนนั้น คนที่เป็นดั่งหัวใจของชีคแห่งเซเนียยา ขอให้รอดปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายเช่นทุกครั้ง ขอเถิด...อย่าจากไป อย่าให้คนๆนั้นจากไปพร้อมกับหัวใจของเจ้านายตน...
"........." ผ้าห่มหนาเปิดออกช้าๆ หากแต่เบื้องล่างคือหมอนข้างซึ่งถูกจับใส่ชุดโธป อัลชาอ์กระพริบตาช้าๆราวกับจะทดสอบว่านั้นไม่ใช่ความฝัน ชีคหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาอย่างเผลอไผล และเกือบจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพดังกล่าว เมื่อแน่ใจว่าใครเป็นคนทำมัน
" คาวัลโล... คาวัลโล !!! "อัลชาอ์ออกปากเรียกหาด้วยท่าทีเเช่มชื่นขึ้น หากแต่ก็ยังมีท่าทีเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อย เพราะยังไม่พบตัวคนที่หายไป คิ้วเข้มขมวดดมุ่นด้วยความหวั่นผวา หากว่าถูกจับไปเล่า?...
" คาวัลโล !!! อยู่ไหน !!! " ชีคหนุ่มตะโกนลั่น เมื่อยังไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวจะโผล่มาตรงไหน หัวใจที่สงบลงเพียงชั่วครู่เริ่มเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดหวั่นอีกครา อัลชาอ์กวาดสายตามองทั่วห้อง อย่างหวังให้เจ้าตัวออกมาจากที่ใดที่หนึ่งแล้วยิ้มแป้นด้วยท่าทีกวนประสาทเช่นเคย...
........ หากแต่ไม่มี..
"....นี่...." เสียงคุ้นหูดังขึ้นเบาๆ เบาจนนึกว่าตนองอาจจะหุฝาด แต่สำเนียงที่คุ้นหูทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันช้าๆ
" ผม...อยู่นี่......" อัลชาอ์กวาดตามอง พลันก็ต้องสะดุดกับแขนขาวจัดที่โผล่ออกมาจากใต้เตียงหนา ชีคหนุ่มรีบถลาไปยังจุดนั้น ก้มศรีษะลงมองใต้เตียง และพบกับใบหน้าอันขมุกขมอมหากคุ้นเคยยิ่งนัก จนอดจะยิ้มออกมาไม่ได้
" คาวัลโล..."อัลชาอ์ออกปากเรียก ยื่นมือไปดึงเจ้าตัวออกมาด้วยความยินดี.. " ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม? "
" ผมไม่เป็นไร...." คาวัลโลตอบ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดไม่น้อยยามถูลากออกมาจากใต้เตียทำเอาคนมองใจหายวาบ
อัลชาอ์ใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดร่างของคนที่ถูกดึงออกมาจากใต้เตียงชีคหนุ่มมองใบหน้าที่มอมแมมเต็มไปด้วยรอยเลือดและเศษฝุ่นแล้วอดจะยิ้มออกมาไม่ได้...หากคนที่มีท่าทีอ่อนเปลี่ยนและกำแขนตำไว้แน่นกลับถลึงตาใส่ราวกับรู้สึกเคืองที่ถูกล้อ
" เจ็บตรงไหนรึเปล่า?" ถามออกมาพร้อมกับยกชายเสื้อเช็ดใบหน้าขาวที่มีรอยเลือดอย่างอ่อนโยน..
"ไม่...ผมไม่เป็นไร แค่ออกจากใต้เตียงไม่ได้..." คาวัลโลออกปากสารภาพออกมาด้วยสีหน้าอ่อนระโหย..พลางเกาะแขนหนาไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม
" ออกไม่ได้? "อัลชาอ์ทวนขำ ยิ้มมุมปาก แต่ไม่คิดจะหัวเราะออกมาให้เจ้าตัวโมโห ชีคหนุ่มเลื่อนมือไปโอบเอวบางไว้ และคองเจ้าตัวออกมาช้าๆด้วยท่าทีรักใคร่ยิ่ง..
" อัลชาอ์ " น้ำเสียงสั่นๆของผู้เป็นลุงที่ออกปากเรียก ทำให้ผู้ได้ยินชะงัก ชีคหนุ่มเงยหน้าขึ้นกวาดตามองผู้คนโดยรอบด้วยสายตาอันแข้งกร้าวและเย็นยะเยือก...จนผุ้ที่สบมองต่างตัวสั่นระริก..
" หวังว่าผมจะได้นับคำตอบที่ฟังได้....เกี๋ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ...ท่านลุง" น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยช้าๆ...
" เรื่องนี้......."
" ฮาซาน ! เก็บข้าวของของคาวัลโลออกมาแล้วนำไปที่ห้อง จาฟา...ตรวจสอบหลักฐานและสืบหาเรื่องทั้งหมด ผมต้องการได้รับผลการสืบสวนอย่างเร็วที่สุด !! " อัลชาอ์สั่งการลุกน้องของตน โดยไม่สนใจท่าทีของผู้เป็นลุงซักนิด...
" ท่านพี่อัลชาอ์....." ฟาติมะห์ก้าวเท้าออกมาพยายามจะเอ่ยกับอีกฝ่าย ทว่าดวงตาเฉยชาที่มองมาทำให้ร่างพลันนิ่งงัน..
" หลีกก่อน ฟาติมะห์ พี่จะพาคนรักของพี่ไปทำแผล..." วาจาแสนเย็นชานั้นเอ่ย ขณะที่อัลชาอ์ก้มตัวลงช้อนกายคนรักหนุ่มชาวต่างชาติมาแนบอก ฝ่ามือขาวจัดของอีกฝ่ายกระตุกเสื้อคลุมมิชลาฮ์ช้าๆให้ใบหน้าคมก้มลงมาฟังสิ่งที่เจ้าตัวอยากจะบอก
" หิวข้าว..วันนี้ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย " น้ำเสียงกระซิบนั่นแม้จะไม่เข้าเรื่องแต่ก็ทำให้คนฟังขมวดคิ้ว อัลชาอ์หันไปกวาดตาสบมองใบหน้าของญาติสาวอีกครั้งด้วยแแววตาแฝงความตำหนิเอาไว้อย่างไม่ปิดบัง
" ช่วยจัดอาหารให้คนรักของพี่ด้วย ฟาติมะห์ เพราะวันนนี้เขายังไม่ได้ทานอะไรเลย"
เอ่ยแล้วชีคหนุ่มก็อุ้มร่างของคนรักตนไว้ในอ้อมแขน เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ฟาติมะห์มองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยแววตารวดร้าว หญิงสาวยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาเบาๆ ด้วยท่าทีหัวใจสลาย นอกจากจะไม่ได้แก้แค้น ให้สมกับที่ถูกทำลายศักดิ์ศรีและสมกับควสามเจ็บปวดใจแล้ว หล่อนยังต้องถูกมองด้วยสายบตาตำหนิ สูญเสียภาพของสตรีผู้งดงามและเพียบพร้อมในสายตาของบุรุษผู้ที่เธอหลงรักไปแล้ว
หญิงสาวสบตาบิดาที่นิ่งอึ้งด้วยความร้าวราน ก่อนจะผินกายจากไปเพื่อเตรียมอาหารให้คนรักของผู้ชายที่เธอหลงไหลด้วยความร้าวรานใจ..
..........................
กะละมังใบเล็กวางอยู่บนโต๊ะเล็กๆบนหัวเตียง ขณะที่ร่างของมาเฟียหนุ่มผู้เเป็นเป้าถูกสังหารนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ใบหน้าที่เปื้อนฝุ่นผงและหยุดเลือดนั้นถูกเช็ดออกด้วยผ้าขาวสะอาดในมือหนา ร่างของชีคหนุ่มเเห่งเซเนียยานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ลากมาข้างเตียง และกำลังขมักเขม้นเช็ดใบหน้าของคนที่นอนอยุ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างอ่อนโยน...ดูแปลกตา...
...ชีคแห่งเซเนียยาที่เคร่งขรึม เงียบงัน และเย็นชาจนเกือบจะเเข็งกร้าว..
เขากำลังโน้มกายเหนือร่างของมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลี ผู้ซึ่งบัดนี้มีฐานะเป็นทั้งคนรักกำมะลอ และยังเป็นดั่งนักโทษในกำมือ...
นัยน์ตาสีน้ำทะเลปรือขึ้นช้าๆ สบมองแววตาสีนิลที่ล้ำลึกและยากจะหยั่งถึง หากแต่เขาก็มองเห็นความห่วงใยที่แฝงมากับท่าทีอันอ่อนโยนได้ไม่ยาก...
คาวัลโล วาลกัส สะดุ้งและนิ่วหน้านิดๆยามความเย็นเฉียบแตะลงที่หางตา นิ่วหน้าหากแต่ก็ยังนอนนิ่งให้อีกฝ่ายนั้นเช็ดหน้าอย่างไม่ปริปาก..
....คาวัลโล วาสกัส มาเฟีย ที่ไม่เคยไว้ใจใคร...และไม่เคยจะสนใจใครนอกจากตัวเอง...
....พวกเขาทั้งสองต่างแสดงบทบาทที่ตนเองไม่เคยมี ..และไม่เคยคิดว่าจะมี หรือจะยอมให้มันเกิดขึ้น...จุดชนวนความสงสัยและสะกิดความอยากรู้เพียงเล็กน้อยในหัวใจ..
...เพราะอะไร?
คาวัลโลหรี่ตาลงมองผ้าสีขาวในมือหนา เขากำลังอ่อนเพลีย ทั้งยังเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ภาวะเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าความระแวดระวังหรือเกราะป้องกันตัวจะลดน้อยถอยลง ตรงกันข้าม มันกลับหนาแน่นขึ้นมากกว่าปกติด้วยซ้ำ..
หากทว่า...ทำไม...ถึงได้วางใจ...ทำไม ถึงได้...ไว้ใจ..
...คนที่ออกปากว่าจะฆ่าเขาเมื่อทำงานไม่สำเร็จ... ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนแบบนั้น...
ทำไมกัน?
จับจ้องวงหน้าขาวจัดที่เปื้อนเลือดและฝุ่นผง ที่บัดนี้ถูดผ้าเช็ดหน้าในมือเช็ดมันจนไม่มีอะไรเปื้อนติด หากแต่ปลายนิ้วยังคงจุ่มผ้าลงกับอ่างน้ำใบเล็ก บีบออกช้าๆและเริ่มต้นเช็ดที่ลำคอบ้าง...
นัยน์ตาสีน้ำทะเลคู่นั้นเบือนมาสบ ไม่มีคำพูดใด หากแววตานั้นถูกส่งมาราวกับคำถาม..
อัลชาอ์หรุบตาลงและยังคงไล้ผ้าขาวในมือเช็ดบนลำคอขาวต่อไปอย่างไม่เอ่ยคำ..
เพราะไม่มีคำตอบ...
เหตุใดจึงห่วงใย...ใกล้ชิด...
ไม่มีคำตอบใดที่สามารถเอ่ยออกมาได้..ไม่ไม่คำพูดใดจะสามารถสื่อถึงสิ่งที่ในใจกำลังประสบและครุ่นคิด..
อัลชาอ์วางผ้าขาวในมือลงบนขอบอ่าง ชีคหนุ่มยังคงโน้มกายเหนือร่างของคาวัลโล วาลกัส ไม่ผละห่างไปไหน..
ปลายนิ้วที่เคยเช็ดหยดเลือดออกไปบัดนี้แตะลงบนเปลือกตาที่ปิดพับลงเบาๆ ทำให้สีสันของน้ำทะเลในดวงตาคู่นั้นเปิดเผยขึ้นให้ได้พบเจออีกครา..
" เป็นอะไรมากรึเปล่า?" น้ำเสียงถามไถ่ดังขึ้นเบาๆ ด้วยความห่วงหา ฝ่ามือทาบลงบนผิวแก้มซ้ายส่งผ่านความอบอุ่นไปหา..
" ไม่ครับ...ผมไม่เป็นไร " คาวัลโลตอบรับ เขาสบมองแววตาคู่นั้นด้วยรอยยยิ้มอ่อนจางตรงริมฝีปาก ไม่ได้หลบหลีกไปไหน...และเป็นฝ่ายทาบฝ่ามือลงบนมือหนาของอีกฝ่ายเบาๆ..
" จริงๆหรือ?...ไม่มีอะไรจริงนะ" อัลชาอ์ยังคงออกปากถามเช่นเดิม คาวัลโลเลิกคิ้ว ปกติแล้วคำถามพวกนี้มันน่ารำคาญ แต่สำหรับตอนนี้การถูกถามคำถามเดิมจากคนๆเดียวซ้ำไปซ้ำมา มันกลับไม่ดูน่าหงุดหงิดสักนิด ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เสี้ยวหนึ่งของหัวใจนึกยินดีขึ้นมา...
เพราะห่วงใย...เพราะห่วงหา...จึงได้เอ่ยถาม สนใจ และคอยดูแล..เพราะ...มีความสำคัญ....
" ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ...อัลชาอ์...." ริมฝีปากสีจางขยับเอ่ยคำตอบที่ทำให้หัวใจที่เต้นเร่าด้วยความหวาดหวั่นสงบลงช้าๆ...ขณะที่นัยน์ตาสีเข้มยังจับจ้องใบหน้านั้นไม่ห่างหาย มองมันราวกับจะจำหลัก จารึกภาพนั้นไว้ในหัวใจ บอกให้รู้ว่าคนๆนี้ยังมีชีวิตอยู่...ยังเอ่ยปากพูดคุย ยังยิ้มแย้ม ยังหัวเราะเช่นเดิม
ไม่ได้จากไป...ไม่ได้หายไปไหนเช่นที่เคยหวาดหวั่น...
" ดีแล้ว..." ฝ่ามือที่ทาบบนผิวแก้มเลื่อนเข้ามาวางบนศรีษะ ลูบไล้เส้นผมนุ่มเบาๆ ด้วยท่าทีอาดูร.. " ดี....ที่ไม่เป็นอะไร "
"..............." ริมฝีปากหนาแตะลงบนหน้าผากมนช้าๆ แผ่วเบาราวกับสัมผัสปุยนุ่น คาวัลโลชะงัก เขารู้สึกถึงลมหายใจที่กระตุกไหวยามที่ชีคหนุ่มปฏิบัติกับตนเช่นนี้ ทั้งทะนุถนม ทั้งอ่อนโยน ปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นสิ่งล่ำค่าของอีกฝ่าย ราวกับว่ากลัวเขาจะแตกสลายหายไปต่อหน้า..
นัยน์ตาสีน้ำทะเลเกลื่อนไปด้วยความงวยงงเพียงชั่วครู่ เพราะเมื่อสัมผัสนั้นทาบลงไปเรียกเสือดให้มารวมตัวกันบนใบหน้าจนอุ่นวาบ มันทำให้รู้สึกดี...และดีเสียจนไม่อยากจะคิดหาเหตุผลอะไร..
ฝ่ามือขาวเอื้อมไปกำเสื้อคลุมขลิบทองของอีกฝ่ายแน่น คาวัลโลหลับตาพริ้ม และยังเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปกอดรัดแผ่นหลังหนาของอีกฝ่ายราวกับจะออดอ้อน..
...อุ่นวาบกับอ้อมแขนที่โอบอุ้มไว้...ไม่รู้เเพราะเหตุใดมันจึงคล้ายกับอ้อมแขนที่ไฝ่หา ...ความอบอุ่นเอื้ออารีไร้รอยหวาดผวาที่ต้องการเสมอมา...
และคนที่ยื่นมือเข้ามาหากลับเป็นคนๆนี้..คนที่กำลังเล่นละครหลอกลวงผุ้คนอยุ่กับเขางั้นหรือ?
ก๊อกๆ...
เสียงเคาะประตูเบาๆ ทำให้สองหนุ่มหลุดจากภวังค์ นัยน์ตาที่สบมองกันอย่างเผลอไผลเกลื่อนไปด้วยความเคอะเขินเพียงชั่ววูบก่อนจะกลับเป็นปกติ อัลชาอ์หยัดกายลุกขึ้น แต่เขาก็ยังคงเอื้อมมือไปกุมมือของอีกฝ่ายไว้ และพามานั่งยังหน้าเก้าอี้ในห้องทำงานของตน...
ฮาซานก้าวเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ ด้านหลังคือร่างของจาฟา และองค์รักษ์อีกสองนาย พวกเขาหิ้วปีกร่างของชายคนหนึ่งในชุดผ้าโพกหัวสีดำ และชุดโธปสีเดียวกันเข้ามา และที่รออยู่ด้วยสีหน้าซีดเผือกและเป็นกังวลคือชีคอาเหม็ดและบุตรสาว..
ทั้งสองหันมามองสบตากันช้าๆ...คาวัลโลเลิกคิ้วขึ้นคล้ายจะสงสัยกับผลของการปฏิบัติงานที่แสนรวดเร็ว หรือท่าทีของคนทั้งหลาย หากแต่เขาไม่รู้ว่าที่ทุกคนยั่งเงียบนิ่งไม่ออกปากอันใด มันเป็นเพราะฝ่ามือของทั้งสองยังเกาะกุมกันไว้ไม่ห่างเสียมากกว่า..
ทว่าก็ป่วยการที่จะเอ่ยปากพูดถึงสิ่งนั้น ฮาซานทำได้เพียงกระแอมเบาๆ แล้วเดินนำเข้ามาด้วยสีหน้าปกติแม้ในใจจะไม่คิดแบบนั้นก็ตาม..
.........................................................
กว่าจะอัพได้ เหอๆ ตอนนี้ลำบากมากค่ะ อยากจะร้องไห้ นั่งเขียนไปแล้ว จบแล้ว ทำไปทำมาเซฟหน้าว่างได้หน้าตาเฉย โอยยยย ไม่ไหวจะเคลียร์ ต่อไปนี้ชั้นจะเซพสำรองไว้อีกไฟล์นึงเลยคอยดู้ววววววว(โหยหวน
)
อ่านแล้วเป็นไง คึคึ เรื่องกำลังเริ่มวุ่นแล้วค่ะ คาวัลโลเริ่มจะรู้ตัวแล้ว...พอๆกับชีค แต่รู้ตัวไปในทางที่ต่างกันนะ คาวี่ยังคิดว่าชีคเป็นแค่"คนรู้จัก""คนไม่สำคัญ"อยุ่เลย..ซึ่งรับรองว่าการรู้ตัวแบบนี้คงจะพาเรื่องยุ่งมาแน่ๆ เพื่อปลอบใจ ตอนท้ายๆเลยมีหวานๆให้อิจฉากันนิดนึง..ไม่หรอก อิจฉามากกกก หวานแบบไม่รู้ตัว หวานแบบอารมณ์พาไป..น่ากรี้ดดีค่ะ
เพลงที่คาวัลโลท่องในตอนต้น คือเพลง lilium ค่ะ เป็นบทสวด ทำนองหดหู่ขวัญผวาอย่างแรง แต่คนเขียนชอบนะคะ คิดว่าเพราะดีถูกใช้เป็นเพลงเปิดอนิเมเลือดสาดเรื่อง Elfen Lied ด้วย (เปิดในห้องตะกี้ เพื่อนมาหาแล้วทักว่า"...นี่แกเปิดเพลงแบบนี้ตลอดเลยเหรอ" ด้วยสายตาแบบว่า....
)
ตอนนี้มีการเปรียบว่าอัลชาอืเหมือนกับสิงโต คิดแบบนั้นล่ะค่ะ แลถ้าอัลชาอ์เป็นสิงโต คาวัลโล..ในสายตาอิชั้นคงเป็นเหยี่ยว ไม่ก็ไฮยีน่า...(แต่เอนไปชื่อหลังนิดๆ)เพราะมันทั้งเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ แต่ก็เท่ห์เหลือหลาย
ส่วนท่านอาเหม็ด...คิดจะเล่นกับไผไม่เล่น งานนี้รับรองยาวค่ะ..
ปล. ตอนหน้าฝาแฝดจะมาพร้อมน้องสี่ผู้ที่ยังไม่เคยออก(และหลายคนอยากให้เขาเป็นบอส แต่จะได้เร้อออ)
ปล.2 พี่โตอัพพรุ่งนี้ วันนี้มีคอลเลคชั่นหนังสือมาอัพที่ในเด็กดี ไปตามลิ้งค์นี้โลดดดดด
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=524334&chapter=80 (ก๊อปวางนะเออ)