เสียงสวดมนต์ที่แสนจะคุ้นหูแม้ไม่อยากจะคุ้น ดังขึ้นเป็นทำนองสวดอันรื่นหู ทำให้เปลือกตาที่ปิดพับลงเริ่มขยับไหวระริก และสิ่งแรกที่นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองเห็น คือเพดานห้องสีครีม และแสงอาทิตย์ที่เรื่อเรืองทอจับผืนฟ้าและทอดเงาลงมายังบานหน้าต่างกรุกระจกอย่างงดงาม...
ความคิดต่างๆยังกระจัดการะจายในสมอง ทำให้ต้องปิดเปลือกตาลงและนิ่งคิดทบทวนสักครู่...พลันดวงตาที่ง่วงงุนก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีน้ำทะเลวาววับและริมฝีปากสีจางก็เริ่มเม้มเข้ามาหากันช้าๆ...ตามมาด้วยหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว...
...ความคิดทั้งหมดจดจ่อไปยังคนๆนั้นคนเดียว..
อัลชาอ์ !
คาวัลโลสูดหายใจลึกด้วยความไม่สบอารมณ์ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่จะลืมได้ง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องที่นอนหลับไปตื่นหนึ่งแล้วจะหายเคืองโกรธ...ถ้าทำแบบนั้นได้จริงเขาก็คงไม่มานั่งหน้านิ่วอยู่แบบนี้หรอก
มาเฟียหนุ่มถอนหายใจฟึดฟัด ยกมือขึ้นมาสะบัดลูบลำคอตัวเองลวกๆด้วยอารมณ์หงุดหงิด กระจกตรงปลายเตียงสะท้อนให้เห็นภาพชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาท่าทางหัวเสียและอยู่ในสภาพเสื้อผ้าค่อนข้างหลุดลุ่ยชัดเจน...ชัด ....เสียจนเขานึกอยากจะหาอะไรเขวี้ยงใส่ให้รู้แล้วรู้รอด
คาวัลโลสะบัดผ้าห่มออกจากตัว เขาหันไปมองข้างกายที่หมอนใบโตยังทิ้งรอยไว้ นัยน์ตาวาววับขึ้นชั่วครู่ จากนั้นฝ่ามือก็เอื้อมไปหามันอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับการจิกมือลงไปด้วยสีหน้าเคียดแค้นและหงุดหงิดจนยากจะแก้ไข...
บ้าที่สุด !!!
เหวี่ยงหมอนลงบนเตียง ขณะที่ความทรงจำเมื่อคืนยังเด่นชัด ...ชัดพอๆกับสภาพของตนเองและรอยขบสีจัดที่ประดับอยู่บนลำคอ นัยน์ตาคู่สวยถลึงเบิกกว้างอย่างไม่สบอารมณ์ แม้จะรู้ดีว่าระบายไปกับหมอนมันก็เท่านั้น แต่คาวัลโลก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจิกทึ้งมันต่อไปอยู่ดี
ยิ่งจับยิ่งทุบก็ยิ่งนึกถึงเจ้าคนนั้น ยิ่งนึกถึงมันก็ยิ่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ภาพเหล่านั้นมันวนเวียนในหัวไม่ยอมหลุดไปเสียที...
....บ้าไปแล้ว...หมอนั่น..
คาวัลโลเข่นเขี้ยว เขาทิ้งตัวลงบนเตียง ขณะที่สมองไพล่คิดไปถึงบนสททนาเมื่อคืน หลังจากการพุดคุยที่ไม่ได้อะไรไปมากกว่าการวิวาทของพวกเขาสองคนนั่น...
ภายในห้องนอนอันใหญ่โตโอ่โถงของชีคหนุ่มแห่เซเนียยา เตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องนั้นรองรับร่างของบุรุษหนุ่มสองคนไว้ หนึ่งในนั้นคือมาเฟียจอมหาเรื่องและอีกหนึ่งก็คือชีคเจ้าของห้องนั่นเอง
เสียงเครื่องปรับอากาศครางเบาๆ ขณะที่อากาศภายในห้องเย็นสบายน่านอน แต่บรรยากาศภายในห้องยังไม่สงบ มันกำลังคุกรุ่นและรอที่จะปะทุขึ้นหลังจากการถกเถียงกันนั้นจบลงด้วยความไม่พอใจในคำพูดของแต่ละฝ่าย
คาวัลโลนอนหน้าบึ้ง เขาขดตัวกินที่บนเตียงอย่างไม่สนใจคนข้างกาย พยายามระงับความโกรธด้วยการนอนหลับ แต่เหมือนว่าตอนนี้พื้นอารมณ์ที่ไม่แจ่มใสจะทำให้อะไรก็แย่ไปหมด เสียงอะไรก็ดังน่ารำคาญไปซะทุกอย่าง ทั้งเสียงครางของเครื่องปรับอากาศ เสียงนาฬิกาแขวนผนังดังติ้กๆ หรือกระทั่งเสียงลมหายใจของคนข้างตัวที่บัดนี้ยังเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงอ่านหนังสือเงียบๆ..
...เงียบ...แต่น่ารำคาญ
ถอนหายใจแรงๆอีกสามสี่ทีแล้วขยับตัวพลิกอย่างหงุดหงิด คาวัลโลเอาผ้าห่มคลุมศรีษะตัวเองเขาถอนหายใจเฮือกๆขยับตัวยุกยิกอย่างอารมณ์ขุ่น.
.
" เงียบสักทีได้ไหม? " ในที่สุดชีคหนุ่มก็เป็นฝ่ายหมดความอดทน อัลชาอ์หันไปมองคนข้างกายที่นอนพลิกไปพลิกมาหลายตลบจนตนเองนึกรำคาญใจ
".............." ไม่มีคำตอบ
" หยุดทำตัวไร้สาระเสียที "น้ำเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นมาทำให้คาวัลโลแยกเขี้ยวหงุดหงิด เขาพลิกตัวกลับมาอีกรอบจ้องตาชีคหนุ่มที่นอนเอนๆอยู่ข้างกายด้วยสายตาเฉยชา...
" เรื่องของผม "
" งั้นไปนอนโซฟา "ชีคหนุ่มเอ่ยปากไล่
" ก็ได้..." คาวัลโลกระชากผ้าห่มและหมอนพรวดลงจากเตียง พลางเดินลงไปที่โซฟายาวในห้องนอน พร้อมๆกับทิ้งตัวลงบนนนั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด
" ทำอะไรโง่เง่า " อัลชาอ์ปรายตามองก่อนจะพับหนังสือลงวางข้างโคมไฟตรงหัวเตียง
" หุบปากไปเลย จะนอนก็นอนไปสิ ! " คาวัลโลตวัดเสียงใส่ห้วนๆ " จะทำแบบนี้ ใครจะทำไม งี่เง่านักก็สั่งทหารคุณลากคอผมไปที่อื่นไป ! "
เหมือนว่าอีกฝ่ายจะรอเปิดประเด็นในการถกเถียงด้วยความไม่พอใจที่ถูกปิดบังเรื่องราวมาตั้งแต่เมื่อครู่ คาวัลโลผุดลุกจากโซฟา จ้องหน้าชีคหนุ่มด้วยท่าทางเอาเรื่อง
" อย่ามาหาเรื่องประชด "และเหมือนว่าอัลชาอ์ก็ไม่ได้ท่าทีอารมณ์ดีอะไรเสียเท่าไหร่นัก
" ใครจะมาประชดประชัน คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้นรึไง " นัยน์ตาสีน้ำทะเลปรายมอง พร้อมกันนั้นเจ้าตัวก็เหยียดรอยยิ้มตรงมุมปาก"...ก็แค่ไอ้คนที่ไม่มีปัญญาจัดการกับปัญหาของตัวเองจนต้องให้คนอื่นมาช่วย......"
" นี่......" อัลชาอ์หันขวับ นัยน์ตาลุกโพลงกับคำพูดแสนจะบาดหู
" ทำไม? รึไม่จริงล่ะหา?...ทำอะไรก็ไม่ชัดเจน มีอะไรก็จัดการไม่ได้ กระทั้งคำถามสั้นๆก็ยังตอบไม่ได้...คนแบบคุณนี่มัน......"
" อย่าคิดว่ารู้เรื่องของผมแล้วผมจะไม่กล้าโยนคุณไปในคุกใต้ดินนะ... อยากตายตอนนี้มากนักใช่ไหม? " อัลชาอ์คำรามเสียงต่ำในลำคอ ด้วยท่าทีไม่พอใจ
" เหอะ !! อย่ามาพูดดีไปเลย อัลชาอ์....เอะอะอะไรก็ขู่จะฆ่า มีอะไรมากกว่านั้นไหม ผมดูเหมือนคนที่กลัวจนหัวหดรึไง !! " คาวัลโลลุกพรวดจากโซฟา จ้องมองใบหน้าของชีคหนุ่มที่ถมึงทึงด้วยสายตาเอาเรื่อง เขากอดอก เดินเข้าไปหาร่างสูงด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนเป็นอาการหยามหมิ่นที่ชวนให้คนมองหนาววูบไปทั้งใจ
"....อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร...เลิกคิดไปซะ !! ผมไม่โง่พอจะไม่รุ้ว่าคุณกำลังคิดบ้าๆอะไรอยู่!! " คาวัลโลจ้องหน้าคนพูดพลางเอ่ยออกมา เขามองเห็นสีหน้าตื่นตะลึงของชีคหนุ่มด้วยสีหน้าอันเหยียดหยามอย่างร้ายกาจ " น่าเศร้าเป็นบ้าที่คนอย่างคุณคิดได้แค่เรื่องพวกนี้ แผนอะไร...เรื่องอะไรที่จะให้ผมทำน่ะมันโกหกทั้งเพ ! อย่าคิดว่าผมไม่เห็นท่าทีของคุณ ไม่เห็นว่าคุณกำลังมองผมด้วยแววตาแบบไหน!! ไม่รู้ว่าที่คุณ"เงียบ" กับคำถามของผมเพราะอะไร...เห็นไอ้แววตาหวานเลี่ยนของคุณแล้วมันทำให้ผม
คลื่นไส้ ! "
" ปากก็บอกว่าทำไม่ถูกใจจะส่งผมไปโยนไว้ในคุก ...เหอะ !! แล้วไอ้โง่ที่ยอมทำตามคำสั่งผมยังกับคนไม่มีสมองนั่นมันอะไร..หลายวันมานี่ผมสังเกตท่าทีของคุณแล้วขนลุกว่ะ....ทั้งตอนที่อยู่ในรถ ตอนที่พัก หรือแม้กระทั่ง ที่นี่...คุณไม่กล้ากระทั่งจะบอกว่าตัวเองไม่พอใจคำพูดที่ผมพูด ไม่อยากฟังที่ผมบอกว่าคุณมัน "ไม่สำคัญ" " เป็นแค่คนอื่น"หรือกระทั่งที่ผมบอกว่าจะไป...มันอะไรกัน....คนที่ผมเคยเจอตอนแรกๆน่ะมันหายไปไหน.. เป็นพวกเกย์วิปริตมาตั้งแต่แรก หรือว่าว่างงานนักจนอยากเปลี่ยนรสนิยมกันน่ะ หา !? ...แล้วที่น่าผิดหวังที่สุด...."คาวัลโลจ้องมองร่างของคนตรงหน้าเขม็ง " คุณเป็นคนสั่งให้คนพวกนั้นมันมาโจมตีผม !!"
".........." นัยน์ตาของชีคหนุ่มเบิกขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่ร่างของคนตรงหน้าเดินเข้ามาประชิดและมองมายังเขาด้วยแววตาหยามหยันปนรังเกียจชัดเจน
" น่าทุเรศ...ที่อยากจะรั้งผมไว้ด้วยเรื่องแบบนี้...คิดจะให้ผมหวาดกลัว หรือว่าซาบซึ้งในตัวคุณจนร้องไห้รึไง คิดว่าคนแบบผมมันจะคิดอะไรแบบนั้นงั้นเหรอ หา? คุณสั่งคนเอาไว้แล้วว่าให้ทำตามแผน !! คุณสั่งการมาตั้งแต่มาถึงเพราะต้องการจะรั้งผมไว้ด้วยวิธีแบบนี้...คุณมันเป็นคนสร้างเรื่องเองทั้งหมด โง่เง่าบ้าบอที่สุด !! "
ผลั่ก!!
ร่างของคาวัลโงถูกผลักไปกระแทกลงบนเตียง ขณะที่ร่างสูงใหญ่ของชีคหนุ่มคร่อมทับไว้ อัลชาอ์จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสับสนและเคืองโกรธ รวมทั้งความผิดหวังและเสียใจที่ยังไงก็ปิดไม่มิด...
" ....รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่...." เขาถามด้วยน้ำเสียงเบายิ่งกว่ากระซิบ
"....ตั้งแต่ฮาซานมันลากไอ้คนนั้นเข้ามาในห้อง..." คาวัลโลแสยะยิ้มหยัน " ผมไม่โง่พอจะไม่เห็นว่าไอ้หมอนั่นถูกคุณเรียกตัวไปคุยตอนอยู่ในงานเลี้ยง...และไม่งี่เง่าพอจะไม่เห็นว่าคุณปฏิบัติตัวยังไงกับสองพ่อลูกนั่น.."
"..........." อัลชาอ์ไม่พูดอะไร นอกจากจะกำแขนขาวจัดของอีกฝ่ายไว้แน่น ทว่าคาวัลโลรู้สึกอย่างชัดเจนว่ามันสั่นไหว...เขาพยายามสะบัดตัวออกไป ทว่าก็ไม่เป็นผล...
"....ปล่อยผมไป..." เขาเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าเฉยชา
" ไม่....." อัลชาอ์ออกแรงกดแนบลำแขนขาวลงกับผ้าปูสีครีมแน่นขึ้นไปอีก
" คุณจับผมไว้ตลอดไปไม่ได้..." คาวัลโลจ้องสบแววตาสีนิลที่มองจ้องมา และคราวนี้มันสะท้อนความรู้สึกชัดเจนจนชวนหนาวเยือกในอก
" ผมทำได้..."
" ผมไม่ได้รักคุณ...ผมไม่เคยคิดจะรักคุณ...คุณไม่เคยเป็นอะไรนอกเหนือกจาก"คนอื่น"ในสายตาของผม " แรงบีบที่แขนมีมากขึ้นพร้อมกับสีหน้าอันแฝงแววเจ็บปวดที่สะกดกลั้นไว้อย่างยากเย็น หากทว่ามองแล้วคาวัลโล วาลกัสก็เพียงแต่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างนึกรังเกียจ
"...กลับมาเป็นคนเดิมซะ...แล้วผมจะยอมตกลงเรื่องนี้กันแบบ"คนมีสติ" อีกครั้ง ...และจะไม่จำเรื่องบ้าบอของคุณอีก เข้าใจไหม?..."
" คาวัลโล..."
"....ผมเคยบอกคุณแล้วไง ว่าคิดยังไง แบบไหน ....มันไม่ใช่ความรัก...." มาเฟียหนุ่มถอนหายใจแผ่วเบา..เบือนหน้าหนีไม่สบมองนัยน์ตาที่อ่อนแอแพ้พ่ายซึ่งเขาคิดว่ามันน่าสมเพชเสียเหลือเกิน
" คาวัลโล วาลกัส "
" มันเป็นความผิดปกติ...คุณแค่หลงไหลกับสิ่งที่ไม่เคยเจอแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ......."
" เงียบ !! " น้ำเสียงตวาดลั่นดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ขัดคำพูดทุกอย่างให้กลืนหายลงไปในลำคอ คาวัลโลจ้องมองใบหน้าที่ฉายแววสับสนปนเปสลับกับความเคียดขึ้งของชายตรงหน้า และเเรงบีบที่ข้อมือก็มากขึ้น....มากขึ้นทุกที...
" อย่ามาคิด...ตัดสินความรู้สึกของผม.." อัลชาอ์เอ่ยเสียงเรียบ นิ่ง...
" ผมรู้ดีว่าแววตาของคุณไม่เคยมีความครัก..หรือสิ่งที่ใกล้เคียงคำว่ารัก...ท่าทางทุกอย่างนั่นด้วย คุณทำเพราะอยากเล่นสนุกเพราะควาเอาแต่ใจตนเองแท้ๆ.." ชีคหนุ่มส่งเสียงหัวเราะในลำคอแผ่วเบา " คุณรู้ตัวพอๆกับที่ผมรู้นั่นแหละ...คาวัลโลคุณมันช่างเป็นคนที่เลือดเย็นและน่ารังเกียจ..."
"....แล้วไง? "ยกยิ้มตอบรับราวกับคำพูดนั้นไม่ได้ทำให้หัวใจเจ็บขึ้นมาวูบหนึ่ง..
" ผมไม่ได้หวังความรักจากคุณเลย.. หลงตัวเองมากไปรึเปล่า? "อัลชาอ์เอื้อมมือที่เย็นเยียบของตนบีบลงบนสันกรามของอีกฝ่ายเบาๆ "...และรู้ไหม? ต่อให้ผมชอบคุณแค่ไหน นั่นไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะสามารถมาเหยียดหยาม...หรือเยาะเย้ยผมขนาดนี้..."
" ถ้าคุณปล่อยให้ผมชอบคุณเงียบๆ เรื่องมันคงจะจบดีๆ...แต่นี่คุณพลาดเองนะ คาวัลโล...พลาดเพราะคุณเป็นฝ่ายพูดออกมา...พลาดเพราะคุณดูถูกผม...และผมจะไม่ทนให้มันเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว.."
" หา.....อ๊ะ........."
คาวัลโลสะดุ้งเฮือก เมื่ออีกฝ่ายก้มลงบดเบียดริมฝีปากกับเรียวปากของเขาอย่างรุนแรง แรงเสียจนกลิ่นคาวเลือดอบอวลและสัมผัสนั่นมันไม่ได้ชวนเคลิ้มสักนิด เขาเบิกตากว้าง มองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจของอีกฝ่ายได้ชัดเจน จนรู้สึกหนาววูบ
พยายามดิ้นเพื่อจะเอาตัวรอด แต่แรงของเขาไม่สามารรถสู้กับอีกฝ่ายได้เลย โดยเฉพาะเมื่ออัลชาอ์ยังคงมีท่าทีโกรธเคืองจนเกือบจะไร้สติยั้งคิดแบบนี้..ผิวเนื้อขาวจัดสะดุ้งไหวยามที่ริมฝีปากลากลงมาทีลำคอเพื่อกดย้ำมันแรงๆจนเข้าต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ...ชุดนอนถูกกระชากกระดุมเม็ดบนออกแรงๆจนมันยับยู่ทั้งชุด คาวัลโลเริ่มดิ้นหนักขึ้น เขาพยายามสะบัดมือให้หลุดจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง
“ แค่ปล่อยให้ผมรักอยู่เงียบๆ มันยากเกินไปรึยังไง? “ น้ำเสียงของอีกฝ่ายที่พึมพำออกมานั้นช่างสั่นเสียจนน่าเห็นใจ แต่คาวัลโลก็ยังคงมีสีหน้าราวกับมีอะไรที่ไม่พึงประสงค์มาจ่ออยู่ตรงจมูก มาเฟียหนุ่มฉวยโอกาสจากจังหวะนั้น เขากระชากแขนตนเองออกจากมืออีกฝ่ายสุดแรง!
เพี๊ยะ!
" ทำบ้าอะไรอยู่ " เขาสะบัดมือฟาดเข้ากับมือของอีกฝ่ายแรงๆพร้อมกับถามเสียงเย็น
" สั่งสอน ว่าอย่าดูถูกความรู้สึกของคนอื่น..." อัลชาอ์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะปล่อยมือของอีกฝ่ายออกหจากตัว " ชัดเจนแล้วว่าคุณรังเกียจ และชัดเจนแล้วว่าผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหน...นอนหลับซะ คาวัลโล..."
" นี่คุณจะบ้า..."
" แล้วคุณจะรู้...ว่าผมบ้าได้มากกว่านี้เยอะ..." ชีคหนุ่มเผยรอยยิ้มเย็นชาตรงมุมปาก...เขามองสบตาอีกฝ่ายพร้อมกับสลัดความห่วงหาในแววตาออกไปได้อย่างรวดเร็ว
" .....แล้วอยากบอกอะไรคุณสักอย่าง....ผมไม่ได้เป็นพวกหลงไม่ลืมหูลืมตาแบบที่คุณคิด "
".........แล้วมันต่างกันมากนักรึไง ? "คาวัลโลยิ้มออกมาเหยียดๆ พลางเอนกายพิงพนักเตียง เขามองดูอัลชาอ์เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้ากระด้างเย็นชา..
" พวกโง่เง่า " ชายหนุ่มสถบออกมาอย่างเหลืออด...
...........................................
" หึ..." คาวัลโลพ่นลมหายใจออกจากจมูกแรงๆ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน และใช่จะไม่เห็นว่าอัลชาอ์เริ่มมีท่าที "หลงไหล" เขาออกนอกหน้านับแต่วันที่ออกปากอนุญาติให้เขาติดต่อกับพี่ชายได้แล้ว...ทั้งที่มันไม่จำเป็นสักนิด ไม่จำเป็นเลยที่จะให้เขาได้ทำตามใจ และนานไปมันก็ยิ่งมากขึ้น...มากขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องตัดสินใจพูดออกมาตรงๆ
....หลงรัก...เรื่องโง่เง่าพรรคนั้นทำไมต้องเกิดกับเขาประจำก็ไม่ทราบ..
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก ไม่ใช่ว่าไม่เห็นหรอกกับสายตาแฝงความเจ็บปวด หรือท่าทีของอีกฝ่าย ยอมรับด้วยว่าที่เขาทำตัวออดอ้อนหรือให้ความหวังอีกฝ่ายก็เพื่อดูท่าที...และที่จริง จะบอกเองก็ยังได้ว่าเพราะแบบนั้น เพราะเขาจงใจทำเช่นนั้น อัลชาอ์ถึงได้หลงเขามากขึ้นเรื่อยๆ..
แน่นอนว่าเขาเป็นคนร้ายกาจที่ชอบทำร้ายคนอื่น แต่ทว่า การปล่อยให้คนๆหนึ่งพร่ำเพ้อกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้น มันไม่ยิ่งแย่กว่าเหรอ เพราะหวังดีหรอก ถึงได้ทำแบบนั้น เขาถึงกระชากให้ชีคหนุ่มออกมาจากความหวังพร่ำเพ้อด้วยการตีแรงๆให้ตื่นเสียที...
ความรักที่อีกฝ่ายพูดพร่ำ..มันช่าง..ไร้สาระสิ้นดี
มาเฟียหนุ่มเอนตัวพิงขอบเตียงพลางจ้องมองประตูห้องที่ปิดสนิทด้วยแววตาชาเฉย...คนประเภทที่เขาเกลียดมากที่สุดคือคนจำพวกคลั่งรัก...และอัลชาอ์ก็แสดงออกมาอย่างน่าสมเพชพออยู่แล้วว่าหมอนั่นมันหลงรักเขาเสียจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้มาอยู่เคียงข้าง กระทั่งสร้างเรื่องให้เขาโดนโจมตีเพื่อจะดึงเอาหัวใจเขาไปเป็นของอีกฝ่าย...ช่างเป็นคนขี้ขลาดและน่าผิดหวัง...ที่กระทั่งคำพูดจะพูดออกมาตรงๆยังไม่ได้ อ้อมค้อมไปมาเพื่อจะไม่เผยมันออกมา กระทั่งเขาเตือนไปตรงๆก็ยังไม่ยอมรับ...
โง่... คนแบบนี้ทั้งโง่ทั้งน่ารำคาญทั้งนั้น...
เพราะเป็นแบบนั้น เพราะเขาหวังดีกับอีกฝ่าย ถึงต้องปลุกให้ชีคหนุ่มตื่นมามองโลกรอบๆตัวบ้างให้ตื่นจากห้วงรักอันน่าขยะแขยงนั่นออกมาสู่โลกแห่งความจริง..โลกที่ไม่ได้มีแต่เขากับคำรักโง่ๆ...แต่มีคนเป็นล้านที่พร้อมจะไม่ยอมรับและขับไล่ไสส่ง...
...คนโง่เง่าที่คิดว่ารักคือทุกสิ่งทุกอย่างน่ะ...ขอให้มีแค่พี่ชายทั้งสองคนของเขาก็เกินพอ..
มาเฟียหนุ่มหรุบตาลงช้าๆ...พลันได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเหวี่ยงหมอนปาใส่หน้าอีกฝ่ายแบบจังๆ...
อัลชาอ์ก้มลงหยิลบมันขึ้นมาพลางมองหน้าคนที่อยุ่บนเตียง อีกฝ่ายมีสีหน้าเฉยสนิทราวกับไม่ได้ทำอะไรลงไปมากกว่าอยู่นิ่งๆ
คาวัลโลเป็นฝ่ายคาดถูกว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะทำอันตรายอะไรเขาอยู่แล้ว ทว่าแววตาที่มองมานั้นมันกลับทำให้เขาต้องชะงัก..
....เพราะมันเย็นชาราวกับเป็นคนล่ะคน
...............................................................................
ทำไมครึ่งแรกกับครึ่งหลังมันยังกะหนังคนล่ะม้วน? เหอๆ
อย่าทำร้ายคนแต่งนะเธอ...เพราะเรื่องมันมาแบบนี้จริงๆ อิหนุคาวี่ของอิชั้นฮีเป็นคนใจร้ายแบบนี้ล่ะเออ...เจอตรงๆแล้วก็เจ็บ อั่ก อั่ก อั่ก...
คาวี่ใจร้ายอ่ะ แต่ก็รักนะ 555+ จะว่าไปอัลชาอ์ช่วงนี้ก็มากไปนั่นแหละท่านชีคล่ะชัดเจนเกิน....จนเกินไปแล้วจริงๆ สังเกตุได้ชัดเลยล่ะคะ เหมือนเป็นคนละคนกับตอนแรก เพราะท่านชีคหลงคาวี่จนไม่ลืมหูลืมตาแล้วบอกตามตรงว่าหลงจนอาจจะทำให้หลายๆเรื่องพังได้...เพราะทำกระทั่งวางแผนนี้ไปแล้วนี่ สังเกตว่าเตี้ยมกันมาอย่างดีเชียว เลยต้องถูกอัปคัทสักที ...คาวี่น่ะหวังดีนะ เพียงแต่การกระทำของเจ้าตัวนั่นมัน.... ![เฮ้อ :เฮ้อ:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/sang.gif)
ไม่รู้จะมีใครเข้าใจคาวี่รึเปล่าว่าการกระทำของเขาหมายความว่ายังไง การที่จู่ๆก็มาใจร้ายแบบนี้นี่คะแนนนิยมคงตกพรวดๆ(ฮ่า) แต่ในจุดนี้อิชั้นก็ว่าอัลชาอ์มันเกินไป ทั้งรักทั้งหลงเกินลิมิต จนต้องเจอของเเข้งแบบนี้ล่ะ
แต่เอาเถอะทำแบบนี้ไม่นานเธอนั่นแหละจะเจอดี...มาเฟียก็มาเฟียเถอะ งานนี้มีเจ็บหนักแน่ๆ (ฮ่าๆ)
ส่วนคาร์โลกับพี่อเล็กเซย์ เขาไม่ได้รักแบบพิศวาสอะไรนะค่ะ แต่รักประมาณน้องหวงพี่ หุหุ
-- ตอบคำถามคุณ Rukkie เรื่องนี้กับแบดกายอันไหนยาวกว่ากันไม่แน่ใจ เพราะโครงเรื่องว่ากันไปแล้วแบดกายยาวกว่า แต่เนื้อหาของตอนนี่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ยาวกว่า ท่าจะได้วัดเป็นหน้าซะล่ะมั้ง 555+
... ขอโทษทุกคนด้วยค่ะที่อัพช้า นอกจากจะยุ่งกับการส่งของแล้วยังเฟลหลายๆเรื่อง บอกตามตรงว่าช่วงนี้ไม่มีสมาธิกับการสอบเลย ไม่ใช่เพราะแค่ยุ่งเรื่องหนังสือ แต่เป็นเพราะรู้สึกไร้แรงบันดาลใจขึ้นมาดื้อๆเหมือนกับว่าไอ้สิ่งที่เราคาดหวังงว่าจะทำและจะเป็นเมื่อเข้ามาเรียนเนี่ย ตอนนี้มันถูก"ปลายเท้า"ของใครหลายคนขยี้ลงต่อหน้าต่อตา ไอ้ที่เราพยายามร่ำเรียนมากลายเป็นแค่กระดาษเปล่าในสายตาของคนอื่น ได้นั่งคุยกับอาจารย์เรื่องตุลาการภิวัฒน์แล้วเหนื่อยใจ อยากจะกรีดร้องว่า"สิ้นหวังแล้ว" ดังๆเสียจริงๆ...พูดตามตรงว่ากระบวนการยุติธรรมไทยสมัยนี้ ทำให้อิชั้นคิดอยากจะไปขายกล้วยแขกมากกว่าเป็นผู้พิพากษาเสียแล้วสิ
เฮ้อ..... ว่าแล้วก็ตรอมตรมต่อไป..
.
* แก้นิดหน่อย ไม่เกี่ยวกับประเด็นซีวิคนะ คุยเรื่อง Lagal Positivisim ของไทยแล้วมันปวดขมองจริงๆ