Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1004997 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาทวงตอนต่อไปจ๊ะ o18

pha

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากค่ะ
อ่าน ๆ ดูแล้ว สงสัยว่าบอสคนต่อไป
จะกลายเป็น ซานดร้า หรือเปล่าคะนี่
ในเมื่อพี่ ๆ น้อง ๆ ทำผิดกฎกันหมดแน่ อิอิ

เป็นกำลังใจให้นะค้า

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มรีบน  :z13: :z13:
บอสคนต่อไปเป็นซานดร้าเลยเหรอ ผู้ชายก็ยังเหลืออีกคนนึงนี่  :z2:
แต่บอสหญิงก็เท่ดีแฮะ แอบหนับหนุนนิดหน่อย
เซย์น่ารักค่ะ  :กอด1: :กอด1:

dea

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้ 13 เเล้วน๊าา


(คุณพี่คนเขียนบอกมีธุระถึง 12 นะค่ะ o18)


รอจ๊ารออ  :z2:

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
มารอด้วยคนจร้า^W^

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
  T T
จะอัพตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว..
แต่คาวี่มัน...ฮือ ร้ายกาจนักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คาวี่มันแกล้งแอิชั้นิอ่ะค่ะ กำลังแก้คำสัพทือยู่ดีๆ ดันเกิดปัญหาทางเทคนิค(ปบบง่าวๆ) สุดท้ายจบลงที่เซฟหน้าเปล่าแทนนิิยายทั้งตอนซะง้านนนน
ฮืออออออออออออ เอานิยายช้านคืนม๊าาาาาาาาาาาาาาาา (คนเขียนกำลังทำใจอยู่ ณ ที่นี้)

Dangerous_patz

  • บุคคลทั่วไป
  T T
จะอัพตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว..
แต่คาวี่มัน...ฮือ ร้ายกาจนักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คาวี่มันแกล้งแอิชั้นิอ่ะค่ะ กำลังแก้คำสัพทือยู่ดีๆ ดันเกิดปัญหาทางเทคนิค(ปบบง่าวๆ) สุดท้ายจบลงที่เซฟหน้าเปล่าแทนนิิยายทั้งตอนซะง้านนนน
ฮืออออออออออออ เอานิยายช้านคืนม๊าาาาาาาาาาาาาาาา (คนเขียนกำลังทำใจอยู่ ณ ที่นี้)

โอ๋ๆๆๆๆ

เดว เค้าปลอบใจ น้าาาา


555

แต่ ขอพ่นไฟ ใส่ก่อน  :m31: :m31: :m31:



เดว เค้า จา ยิงคาวี ทิ้งๆๆๆๆๆๆ อิอิ ล้อเล่นน้า



 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ :กอด1:

แต่ขอทวงอีกรอบ :impress2:

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
มะ...มะ...ไม่น๊า!!!! :serius2:

Very Sad~

 :seng2ped:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






butajang

  • บุคคลทั่วไป
เเวะเข้ามารอเเละ คราง หงิง หงิง หงิง  นิยายหายตอนกำลังทำ น่าสงสารอะ เเต่เราก็อยากอ่านอะ (ตึง ตึง ตึง (เสียงทุบโต๊ะ รออย่างทรมาน)55+)

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาดูอีกรอบ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
อัพวันนี้จ๊ะ ขอตรวจสอบตัวสะกดก่อน (และหวังวา่าจะไม่ลงอิหรอบเดิม) น่าจะประมาณ 4 ทุ่มค่า

dea

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาปู่เสื่อรอค๊า :call:

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
 :m21: เลยไปหน่อยไม่เปงรัย

ป๊อปคอร์นหมดไปสามกล่อง

แต่ยังรอต่อไปน๊า

สู้ๆ :L2:

 :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2010 22:28:50 โดย toffee245 »

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
แปปนึงค่าาาาาาา พอดีคุยเรื่องหนังสือกับโรงพิมพ์อยู่ กำลังตรวจสอบคำสัพท์ รอสักครู่(ใหญ่ๆ)

นั่งดู USA vich ให้ฮาเบาสมองเคล้าป๊อปคอร์นก่อนก้ได้นะค่ะ

ปล. จองงงงงงงงงง ที่ลง
ปล.2 เอาเนื้อเพลงประกอบเรื่องมาแปะ


เนื้อเพลง ศัตรูที่รัก - บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์

เธอเป็นหมือนศัตรู อยู่เหมือนหนามยอกใจ
ใกล้กันคงไม่ได้ ต่อให้ใจนั้นจะไหวหวั่น
คงเป็นเหมือนศัตรู เป็นยอดชู้ในฝัน
ไม่มีทางรักกัน แต่ผูกพันยิ่งกว่ารักใด

แต่ก็ไม่อาจจะยอมรับ และไม่อาจจะลืมเรื่องเธอไป
ต่อให้ฉันทำยังไง แต่ความจริงที่ฉันมีคงหลุดพ้นมันไม่ได้
เปรียบดังเส้นขนาด แบ่งโลกฉันกับเธอ
ไม่มีวันได้เจอะเจอ ไม่มีวันที่จะรักกัน
ห้ามใจมากเท่าไหร่ มันกลับยิ่งผูกผัน
เหมือนหัวใจเธอและฉัน อยู่ตรงข้ามแต่เข้าใจ

แต่ก็ไม่อาจจะยอมรับ และไม่อาจจะลืมเรื่องเธอไป
ต่อให้ฉันทำยังไง แต่ความจริงที่ฉันมีคงหลุดพ้นไปไม่ได้
ต่อให้หนีอย่างไร ไปให้แสนสุดไกล
แต่สุดท้ายเธอก็ยัง อยู่ในความคิดและหัวใจ
อยากจะหนีอย่างไรก็คงทำไม่ได้
ต้องยอมรับเธอใช่ไหม ศัตรูที่รัก...ที่รักของฉัน

แต่ก็ไม่อาจจะยอมรับ และไม่อาจจะลืมเรื่องเธอไป
ต่อให้ฉันทำยังไง แต่ความจริงที่ฉันมีคงหลุดพ้นไปไม่ได้
ต่อให้หนีอย่างไร ไปให้แสนสุดไกล
แต่สุดท้ายเธอก็ยัง อยู่ในความคิดและหัวใจ
อยากจะหนีอย่างไรก็คงทำไม่ได้
ต้องยอมรับเธอใช่ไหม ศัตรูที่รัก...ที่รักของฉัน

โอ้ว โอว ศัตรูที่รัก
ศัตรู ศัตรู ศัตรูที่รัก....



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2010 22:45:12 โดย Serin »

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
แล้ววันนี้ไรท์เตอร์จะอัพพี่โตและน้องเนมหรือป่าวจ๊ะ  :impress2:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
ุุู^

พี่โตน้องเนมพรุ่งนี้ค่ะ วันนี้อัพปกอัพรูปเล่มที่เด็กดีนะค่ะ อยากเห็นตามไปดุได้

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line : 15

     บนฟากฟ้ายังมีสีดำและมีแสงดาวปรากฏหากที่เส้นขอบฟ้ากลับมีแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ฉาบฉาย เมฆก้อนใหญ่บดบังแสงสีทองไว้เจือสีแปลกตา ท่ามกลางทะเลทรายกว้างเวิ้งว้างมีเสียงสวดดังขึ้นเบาๆ ในบรรยากาศเงียบสงบ มันดูเข้ากันได้ดีกับทะเลทรายกว้าง ซึ่งเม็ดทรายบนพื้นกำลังจะส่องประกายขึ้นมาอีกครั้งด้วยแสงของดวงอาทิตย์..

    คาวัลโล วาสกัสโผล่หน้าออกมาจากกระโจมด้วยท่าทีง่วงงุน เส้นผมสีน้ำตาลอัลมอนด์ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง และเจ้าตัวก็ยิ่งไปเพิ่มให้มันดูยุ่งขึ้นอีกด้วยฝ่ามือที่ออกแรงเกาศรีษะเบาๆ นัยน์ตาสีน้ำทะเลซึ่งหรี่ปรือลงต่ำราวกับยังไม่ตื่นนั้นทอดมองไปยังกระโจมพักที่เขาได้ยินเสียงสวดดังขึ้น  ก่อนจะตวัดมองไปยังต้นปาล์มที่ยืนทอดเงาตะคุ่มอยู่ริมบ่อน้ำ..

     บ่นที่กว้างไม่ถึงเมตรนี้เป็นตาน้ำซึ่งมีน้ำไหลออกมาตลอดปี อย่างที่ถูกเรียกว่า"โอเอซิส" ท่ามกลางทะเลทรายซึ่งมีภูมิประเทศอันแห้งแล้งและโหดร้ายทารุณต่อสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ เพียงบ่อน้ำเล็กๆก็เปรียบเหมือนดั่งสวรรค์ ของทั้งสรรพสัตว์ พืชพันธ์ไม้ หรือแม้แต่นักเดินทาง ดังนั้นมันจึงไม่แปลกเลย ที่ ณ โอเอซิสแห่งนี้จะมีต้นไม้และต้นหญ้างอกเงยขึ้นทั่วบริเวณ..

      คาวัลโลนั่งลงบนก้องหินทรงกลมขนาดไม่ใหญ่นัก เขาก้มมองเงาตนเองในน้ำใส ก่อนจะเอื้อมมือวักน้ำนั้นมาล้างหน้า สร้อยกางเขนเงินที่แขวนไว้บนลำคอทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วงสะท้อนอยู่บนพื้นน้ำ และลำแสงของดวงอาทิตย์ที่เริ่มทอดยาว คาวัลโลหันไปมองท้องฟ้าด้านทิศตะวันออก ขมวดคิ้วน้อยๆอย่างนึกแปลกใจ เพราะเมื่อครู่เขาเดินออกมา ดวงอาทิตย์ยังเพิ่งจะขึ้น และกำลังทาบเงาเริ่มฉายแสง หากแต่เมื่อเดินออกมานั่งตรงนี้ได้แค่ไม่นาน มันกลับโผล่พ้นขอบฟ้าปรากฏเป็นลูกกลมๆสีส้มที่ดูใหญ่โตมากกว่าทุกที่ ที่เคยได้พบและฉายแสงออกมามากขึ้น...

....คำกล่าวที่ว่าดวงอาทิตย์ในทะเลทรายมักจะขึ้นเร็วนี่ท่าจะจริง..

    คาวัลโลหรี่ตามองดวงอาทิตย์ดวงโตก่อนจะยกชายเสื้อมาเช็ดหน้าตัวเองลวกๆ ขณะที่เสียงสวดมนต์ภาษาอาหรับ หรืออีกชื่อก็คือกิจกรรมทางศาสนายามเช้านามว่า"ละหมาด"ยังดำเนินต่อไป เขาเงี่ยหูฟังเสียงที่ดังกังวานไปกับทะเลทรายกว้าง มันเป็นท่วงทำนองสูงๆต่ำๆ ไพเราะราวกับกำลังร้องเพลงอยู่...ยามที่ดังขจรกระจายอยู่ในท้องทะเลทรายนี้ ช่างดูเหมาะสมกันเสียจริงๆ..

     "..The Mouth of the just shall meditate wisdom       
        and his tongue shall speak judgment...."

      ฮัมเพลงสวดออกมาเบาๆบ้างราวกับจะเอาเยี่ยงอย่าง เสียแต่คาวัลโลไม่ได้เคร่งขนาดนั้น แม้คาทอลิคจะเป็นคริสต์นิกายที่เรียกว่าเก่าแก่และเคร่งครัดที่สุด ทว่าตัวเขาก็ไม่ได้ไปโบสถ์ทุกวันหรือรับศีลทุกเช้าเช่นที่มารดาของเขาได้ทำ..อาจจะเพราะไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น...และอีกสาเหตุหนึ่งที่ใหญ่กว่า นั่นคือก่อนจะทำพิธีมิสซารับศีลมหาสนิทนั้น..จะกินข้าวก่อนทำพิธีไม่ได้ กับคนอื่นมันอาจจะเป็นสาเหตุเล็กๆ แต่กับตัวเขาแล้ว นั่นล่ะ...เรื่องใหญ่...

      เสียงฝีเท้าที่ย่ำใกล้เข้ามาทำให้ชะงัก...คาวัลโลหันไปมองหน้าเจ้าของฝีเท้า พบว่าอัลชาอ์กำลังเดินเข้ามาหา เสียงสวดมนต์เงียบลงไปแล้วและคาดว่าพวกทหารคงจะเริ่มเก็บข้าวของกันอยู่..

  " อรุณสวัสดิ์..." คาวัลโลอ้าปากทักทาย ขณะที่ร่างในชุดโธปสีน้ำตาลเข้มก้าวเท้ามาหาและทรุดกายลงข้างๆ

  " เช่นกัน.." อัลชาอ์รับคำ ทอดมองเงาของตนเองและคนข้างกายที่สะท้อนอยู่บนแอ่งน้ำ ขณะที่คาวัลโลเอียงหน้ามองเสี้ยวหน้าคมของชายผู้อยู่ข้างกาย คิดไปถึงเรื่องของเมื่อคืน...ที่เขาออกปากระบายความอัดอั้นให้ได้รู้...ทั้งที่อีกฝ่ายมีฐานะเป็น"คนอื่น"สำหรับเขา...แต่ทำไมกันนะ...ถึงได้...

   " มีอะไรรึ? " คำถามนั้นทำให้คาวัลโลชะงัก และพบว่าตัวเองกำลังตจ้องหน้าของชีคหนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย คาวัลโลยิ้มออกมาแทนคำตอบ และหันกลับไปมองยังแอ่งน้ำเบื้องหน้าเช่นเดิม

   " ไม่มีอะไร" เขาตอบ พร้อมๆกับได้ข้อสรุปว่า..ที่พูดกับคนอื่น..เพราะคนอื่น ไม่ใช่คนที่สำคัญกับเรายังไงเล่า เพราะอย่างไรอัลชาอ์กับเขาก็คงได้อยู่ด้วยกันไม่เกินสามเดือน...จากนั้นก็คงไม่มีธุระอะไรกันอีก..เพราะอย่างนั้นล่ะ ถึงได้ออกปากพูดคุยได้อย่างสบายใจ เพราะไม่มีทางที่จะถูกเปิดโปงหรือถูกพูดให้ใครหัวเราะเยาะ..

    " เมื่อกี้ผมได้ยินเพลงสวด..." อัลชาอ์ออกปากถามสั้นๆ ทำให้คนฟังขมวดคิ้วน้อยๆ พลางหัวเราะหึ

    " เพลง  Lilium  ..." มาเฟียหนุ่มออกปากบอกสั้นๆ " เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึงดอกลิลี่..สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ บทสวดมันค่อนข้างหดหู่นะ..แต่ผมชอบ..."

      คาวัลโลเอ่ยก่อนจะท่องเนื้อเพลงนั้นขึ้นมาเบาๆ..

                  The Mouth of the just shall meditate wisdom
                (ปากที่เอื้อนเอ่ยแต่คำสอน)
                and his tongue shall speak judgment.
                (ซิวหาพร่ำพรรณนาแต่การพิพากษา)
                Blessed is the man that endureth temptation
                (พรอันประเสริฐย่อมเป็นของผู้อดทนต่อสิ่งเย้ายวน)
                For when he hath been proved, he shall receive the crown of life
                (เมื่อคนผู้นั้นผ่านการยืนยันว่าตนจักได้รับซึ่งมงคลแห่งชีวา)
                Lord, fire divine, have mercy
                (พระผู้สร้าง เพลิงแห่งทวยเทพ ได้โปรดเมตตา)
                Oh how holy, how serene
                (โอ ช่างศักดิ์สิทธิ์ ช่างสงบ)
                how benevolent, how pleasant
                (ช่างเมตตา ช่างน่ายินดี)
                Oh Lily of purity
                โอ ลิลลี่แห่งสัญลักษณ์บริสุทธิ์


      "...ความหมายดี..." อัลชาอ์ออกปากชมสั้นๆ

      " ก็นะ....ผมชอบแค่ท่อนแรกๆน่ะ..." คาวัลโลยิ้มมุมปาก  "คิดว่ามันดูสมจริงดี เสียดสี...สันดานดิบของมนุษย์...ปากที่เอาแต่พูดพร่ำ บอกไปแต่ใจคิดอีกอย่าง...แต่พูดแบบนี้ไปก็โดนด่าเละ เห็นว่าทำบทสวดเขาเสียหายหมด.."

      "หึ..." อัลชาอ์ส่ายหัว นิ่งฟังเจ้าคนมีปัญหาเล่าเรื่องพฤติกรรมแปลกๆของตัวเอง..

      "...ผมศรัทธาในพระเจ้า แต่ไม่เชื่อเรื่องการสวดอ้อนวอนหรอก"คาวัลโลยักไหล่ มือก้มลงถอนวัชพืชใกล้ตัวออก " ถ้าอธิฐานแล้วสมหวังไปเสียทุกอย่าง โลกนี้จะมีคนผิดหวัง คนที่โศกเศร้างั้นเหรอ?..และสิ่งที่ได้มาด้วยการวอนขอ ไม่ได้มาด้วยกำลังของตัวเอง มันน่าภูมิใจหรือยังไง...การทำความต้องการให้เป็นจริงด้วยมือของตนเอง นั่นต่างหากที่ดีที่สุด.."

       " รสชาติของผลไม้ที่ลงแรงปลูกเองและดูแลมัน ย่อมหอมหวานและอร่อยกว่าเสมอ" อัลชาอ์เอ่ยขึ้นบ้าง นั่นทำให้คนข้างตัวพยักหน้าแรงๆอย่างเห็นด้วย..
      " นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องพยายามไง.." คาวัลโลยิ้มร่า ก่อนจะออกปากพุดเรื่องความไฝ่ฝันของตัวเอง "ฟังนะ ...นี่เป็นความลับสุดยอดของผม...บอกคุณคนเดียวนะ ดีใจไว้ซะล่ะเรื่องที่ผมตั้งใจจะทำถ้าได้ขึ้นเป็นบอสน่ะ.."

      " หือ?...แค่ผม..." อัลชาอ์เลิกคิ้ว..ออกปากถามคล้ายไม่มั่นใจกับสิ่งที่ได้ยิน

      " คุณ ..... คนแรก..." คาวัลโลตอบรับ ก่อนจะทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง "...ถ้าผมได้เป็นบอส...สิ่งแรกที่จะทำคือเชือดไอ้คนที่คิดจะหักหลังผมซะก่อน...เสร็จแล้วก็จะปรับปรุงเรื่องการทำงานของคนในแกงค์ และถล่มไอ้พวกเซเคนีให้ยับ....ผมจะทำให้แกงค์ของตัวเองเป็นแกงค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์..จะทำให้มาเฟียทั่วอิตาลีเป็นหนึ่งเดียว...."

       " .........." อัลชาอ์พยักหน้ารับช้าๆ นัยน์ตาที่มองเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มข้างกายที่เอ่ยถึงความฝันของตนอย่างหมายมาดและมีความสุขด้วยแววตาครุ่นคิด..

       "...ถ้าคุณทำงานนี้ให้ผมเสร็จนะ.."

       "... แหม...ก็เสร็จอยู่แล้ว...ผมไม่ยอมให้พลาดหรอกน่า..." คาวัลโลยักไหล่ ก่อนจะผินกายลุกขึ้น " หิวแล้วล่ะ มีอะไรกินบ้าง.."

      " มีแต่กาแฟ...ทานรองท้องไปก่อน อีกสองชั่วโมงก็ถึงจารเซแล้ว..." อัลชาอ์ตอบอีกฝ่ายสั้นๆ

       " โหยยยย ฟังแล้วหมดแรงเลย..." คาวัลโลบ่นอู้ พร้อมกับเดินเซมาเกาะแขนชีคหนุ่มไว้ แล้วเอาคางพาดลงกับแขนหนาทันที...

       "  เดินดีๆ" อัลชาอ์ถอนหายใจ ออกปากบ่น..

       " ไม่มีแรงแล้ว...เฮ้อ...."คาวัลโลบ่นงึมงัมและออกแรงเกาะอีกฝ่ายแน่นกว่าเดิม อัลชาอ์ส่ายหัวอย่างระอา ชีคหนุ่มพยายามเอื้อมมือไปเเงะเเขนตนเองออกจากมือขาวจัดที่เกาะกุมไว้ แต่ก็ทำได้เพียงสะกิดให้เจ้าตัวครางงงึมงัมใส่เท่านั้น

       " จะเหนื่อยอะไรนัก เมื่อกี้ยังมีแรงนักหนาอยู่ไม่ใช่รึ..." ชีคหนุ่มเอ่ย ในที่สุดตนก็ต้องเป็นฝ่ายเดินไปยังกระโจมด้วยสภาพมีร่างของหนุ่มชาวอิตาเลียนตามติดไม่ยอมห่าง..

       "....ก็ร้องเพลงไง เหนื่อยยยยย" คาวัลโลลากเสียง

       " ...คาวัลโล...เพื่อนเล่นรึไง" อัลชาอ์ออกปากเตือนเจ้าตัวด้วยน้ำเสียงต่ำๆ..

       " เปล่า...คนรู้จัก..." คำตอบนั้นทำให้ฝีเท้าชะงักงัน อัลชาอ์ยิ้มมุมปากด้วยความสมเพชตัวเอง ที่ได้ฟังคำตอบเช่นนั้นแล้วถึงกับนิ่งงันไปด้วยความรู้สึกชาวาบทั้งกาย...

       " หือ? " ใบหน้าที่ซุกลงกับไหล่หนาเงยขึ้นมามอง พลันขมวดคิ้วช้าๆเมื่อรู้สึกว่าเสี้ยวหน้าคมนั้นฉายแววเจ็บปวดขึ้นมาวูบหนึ่ง..
..นัยน์ตาคนมองหรี่ลงเล็กน้อย...

       " ถามอะไรหน่อยสิ.." อัลชาอ์ก้าวเท้าเดินอีกครั้ง และยังพกพาเจ้าคนที่ออกปากว่าหมดแรงไว้ด้วยเช่นเดิม " อะไร...ที่จะทำให้คุณเลิกคิดจะเป็นบอสมาเฟีย.."

       " ไม่มี " คำตอบสั้นๆ กระชับ ทำให้ผู้ฟังสมหายใจสะดุด อัลชาอ์สบตาสีน้ำทะเลที่เงยหน้ามามอง เขาจ้องตาคู่นั้น ออกปากถามออกไปอีกครั้ง..

       " ไม่มีจริงๆหรือ..? "

      " เมื่อผมตาย " คาวัลโลยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเย็นชา ใบหน้าที่ซุกซบกับแขนหนาผละออกและเดินเข้าไปทันควัน ราวกับท่าทีหมดแรงเมื่อครู่ไม่มีอยู่.. ขณะที่ชีคหนุ่มนิ่ง...ค่อยก้าวเท้าเข้ามาในกระโจมอย่างเชื่องช้า...

...ไม่มีทาง...จะล้มเลิก

    อัลชาอ์ขยับยิ้มเบาบาง กับคำตอบที่ได้รับ....ชีคหนุ่มมองใบหน้าที่กำลังก้มลงเก็บของรู้สึกถึงฝ่ามือที่เย็นเฉียบ...และความคิดร้ายๆที่พุ่งขึ้นมาราวกับสายน้ำหลาก..

....จะเก็บไว้...ไม่ให้ได้ไปไหน..

จะกักขังไว้...

จะซุกซ่อน ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน...

....เพื่อ...สิ่งที่ต้องการ...

   อัลชาอ์เม้มปากแน่น สะบัดหน้าบ่ายไปดูข้าวของของตนเองบ้าง พยายามสะบัดทิ้งความคิดอันชั่วร้ายของตนให้ทิ้งตัวตกตะกอนอยุ่ภายในใจ..ไม่ให้โผล่ออกมาอีก..

......เพราะมันเป็นไปไม่ได้....

     ...และอีกด้าน คาวัลโล วาสกัส กำลังจัดการข้าวของตนเองด้วยท่าทีไม่รู้เรื่องราวอะไร หากที่จริงเขาหรี่ตาลงมองเสี้ยวหน้าคมอีกคราด้วยท่าทีสังเกตสังกา.. ทำท่าทีเป็นกำลังเก็บของ แต่มองเห็นแววตาของชีคหนุ่มที่มองมายังตนได้อย่างชัดเจน..

...ริมฝีปากสีจางเม้มเข้าหากันช้าๆ... เมื่อมองเห็นประกายวาบในดวงตาคู่นั้น..

   ...อย่าบอกนะ...ว่า...

............................................................................

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 
    เสียงเครื่องยนต์คำรามดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับรถยนต์ที่เคลื่อนที่ออกไปจากโอเอซิสอันเป็นที่พัก ทิ้งไว้เพียงรอยล้อรถและฝุ่นควันจางๆ ที่อีกไม่นานก็คงปลิวหายไปกับสายลมและถูกฝุ่นทรายกลบทับจนมิดเช่นเดิม  และยังทิ้งเยื่อใยความรู้สึกบางๆที่ถักทอขึ้นอย่างเชื่องช้าไว้เช่นกัน เพราะในรถยนต์ที่เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ ร่างของชายหนุ่มสองเชื้อชาติที่เคยสนิทสนมชิดเชื้อ ตอนนี้กลับห่างเหิน...นั่งเอนกายบนเบาะรถคนละฝั่ง..

       นานเท่านานที่ความเงียบอวลอยู่ในห้องโดยสาร มีเพียงวิทยุสื่อสารด้านหน้าคอนโซลรถที่ส่งรายงานมาเป็นระยะ ขณะที่ร่างของชีคหนุ่มนั่งเงียบ จิบกาแฟไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และกำลังก้มอ่านหนังสือพิมพ์อยู่อย่างสงบ อีกฝั่งของที่นั่งคือร่างของชายหนุ่มชาวต่างชาติที่มาฐานะเป็นคนรัก...เจ้าตัวนั่งมองทิวทัศน์ของทะเลทรายเงียบ ไม่มีคำถามหรือท่าทีจะพูดคุยอะไรเช่นเมื่อวาน..

      ฮาซานสูดหายใจลึกๆด้วยท่าทีอึดอัดไม่น้อยยามที่ห้องโดยสารมีแต่ความเงียบ กระทั่งรถได้เดินทางมาถึงทางเข้าตัวเมืองจารเซ บรรยากาศคึกคักภายในเมืองนั้นสมเป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองและถูกปกครองโดยชีคผู้มีอำนาจ ประชาชนชาวเซเนียยาเหมือนจะได้ทราบข่าวว่าประมุขของประเทศได้เดินทางมา ตามรายทางจึงมีประชาชนคอยโบกธงให้การต้อนรับอยู่ไม่น้อย..

      คาวัลโลมองเมืองที่ค่อนข้างทันสมัยทัดเทียมกับเมืองหลวงด้วยสายตาอยากรู้ แต่เมื่อเห็นคนที่เฝ้ารออยู่รอบทางเขาก็ชะงักและพยายามทำตัวให้โดดเด่นน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากมีใครรู้จักหรือสนใจในตัวเขา มันคงไม่ดีเท่าไหร่..

  อัลชาอ์เหลือบมองท่าทีของคนข้างกาย เขายกรอยยิ้มเหมือนจะขบขัน หากแต่ก็ไม่พูดอะไร อาจจะเพราะบรรยากาศที่หนักอึ้งซึ่งดำเนินมานั้นทำให้ความคิดที่จะพูดคุยลดน้อยลง แม้จะอยากรู้สาเหตุที่ความเงียบเกิดขึ้น และท่าทีเปลี่ยนไปเป็นเงียบนิ่งของคนข้างกายก็ตาม..

      " ชีคครับ...ท่านอาเหม็ดแจ้งมาว่าจะรอรับเสด็จอยู่ที่วังครับ.." ฮาซานเอ่ยกับนายเหนือหัวตนเบาๆ อัลชาอ์พยักหน้ารับคำเงียบๆ

      " ผมต้องไปรึเปล่า ? "จู่ๆ คำถามก็ดังมาจากคนที่เคยนิ่งเงียบ อัลชาอ์หันไปมองคนพูดและเขายังพบว่าเจ้าตัวมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม

       " หมายถึงอะไร ?" ชีคหนุ่มออกปากถามกลับ

       " ก็พวกกินข้าว...รึอะไรประมาณนั้น..." คาวัลโลตอบ

       " ไม่ต้องหรอก...ผมไม่ได้แจ้งว่าจะพาคุณมาด้วย...." อัลชาอ์ตอบ เพราะที่ตนมาก็เพื่อจะพุดคุยเกี่ยวกับเหตุการ์ณเมื่อครั้งที่แล้วกับอาเหม็ดผู้เป็นลุงและฟาติมะห์ ดังนั้นจึงไม่ควรพาคาวัลโลไปไหนมาไหนให้ขุ่นข้องใจ เพราะที่พาเจ้าตัวมาด้วยก็ถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากพออยู่แล้ว..

        " ดี..ผมจะได้ไม่ทำร้ายจิตใจผู้หญิง " คาวัลโลยักไหล่ พลางหันไปมองหันไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง

         " ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าก่อเรื่อง...หรือทำตัวโดดเด่นให้มันมากนัก.."

          " เข้าใจแล้ว" น้ำเสียงรับคำเรียบเรื่อยนั้นทำให้ผู้ฟังชะงัก อัลชาอ์หันไปมองเสี้ยวหน้าของเจ้าตัวที่ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทั้งที่คำตอบรับเมื่อครู่นั้นแสดงให้เห็นว่าเข้าใจดีถึงสถานะและการทำตัวของตน หากแต่มันกลับให้ความรู้สึกหนักอึ้งและชวนหดหู่อย่างน่าประหลาด..

     ชีคหนุ่มขมวดคิ้ว อยากจะออกปากถามถึงอาการที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย แต่ทว่า...เสี้ยวหน้าที่ชาเฉยนั้นทำให้ต้องนิ่งคิด..และในที่สุด ตนจึงเป็นฝ่ายผละไปและหันหน้ามองตามข้างทางบ้าง..

....เพราะมัน ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจ..

    ขบวนรถเข้าไปในตัวเมืองด้วยความเร็วปกติ ผ่านทางเข้าคฤหาถ์ของชีคอาเหม็ดที่มีต้นปาล์มน้ำมันถูกปลูกไว้นับร้อยไร่ คาวัลโลชะโงกมองอย่างนึกสนใจ เขาหันไปอ้าปากจะพูดคุยกับอัลชา ทว่ารถก็จอดลงและร่างของชีคหนุ่มเเห่งเซเนียยาก็ก้าวลงไปทันควัน..

     นัยน์ตาสีน้ำทะเลหรี่มองบุคคลต่างไที่เข้าให้การต้อนรับ ทั้งคนที่เขารู้จักอย่างอาเหม็ดหรือแม่สาวฟาติอมะห์คนงาม อีกทั้งยังมีร่างของชายในชุดนายทหารชั้นสูงอีกหลายราย เข้าแถวยืนรอรับเสด็จอยู่ ขณะที่ตนเองนั่งนิ่งอยู่ในรถที่กำลังเคลื่อนตัวไปช้าๆ

         "....การมาครั้งนี้ ไม่ควรจะทำให้ท่านอาเหม็ดขุ่นเคืองใจ.." ฮาซานที่นั่งอยู่ด้านคนขับออกปากบอก ซึ่งคาวัลโลก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะการจะพาเขาซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งไปด้วยมันคงเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง..

รถจอดลงที่ลานด้านข้างของตัวคฤหาสถ์ ฮาซานปลดเบครมือและใส่เกียร์ว่าง และกำลังจะปิดเครื่อง..

       "ฮาซาน.." น้ำเสียงเรียบเฉยออกปากเรียก

      " มีอะไรหรือครับ? "ฮาซานรับคำเบาๆ

       "...สวนปาล์มข้างหน้าเป็นของท่านอาเหม็ดใช่ไหม?" คาวัลดลออกปากถามสั้นๆ ทำให้คนฟังชะงัก

      " ใช่ครับ"

     " งั้นเหรอ....มิน่า คนยืนเล็งปืนอยู่เต็มเชียว.." คาวัลโลเอ่ย ก่อนจะเปิดประตูรถและเดินลงไป..

         คำพูดนั้นทำให้ผุ้ฟังชะงัก ฮาซานขมวดคิ้วนัยน์ตาเกลื่อนไปด้วยความประหลาดใจ เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นเช่นที่อีกฝ่ายว่า เขาคงต้องไปตรวจสอบ ก่อนจะเกิด "เหตุ" อะไรขึ้นมาจริงๆ..

...

     ...ก็ไม่ใช่จะไม่รู้หรอก..

    คาวัลดลยืนมองห้องพักของตนก่อนจะสรุปกับตัวเองเงียบๆ กับคำพูดของอัลชาอ์ที่ว่าไม่มีใครทราบว่าพาเขามาด้วย..จะบอกว่าสายข่าวของอาเหม็ดดีพอสมควรก็ได้ เพราะห้องที่เขาอยู่นี่มัน...จะว่าไงดีล่ะ

      ชายหนุ่มกวาดตามองทั่วห้องขนาดเล็กที่สาวใช้พาเขามาเมื่อครู่  สัมภาระวางอย่างปลายเตียง ขณะที่เขากวาดตามองห้องที่ตนต้องพัก...

     ห้องสี่เหลี่ยมเล็กแคบที่มีเตียงขนาดกลางตั้งอยู่ ในห้องมีพัดลมปรับอากาศที่เพดาน ห้องน้ำเล็กจนไม่มีทางยัดอ่างอะไรเข้าไปได้เลย...จะว่าไงดีล่ะ...มันก็เป็นห้องที่ออกจะ โกโรโกโสไปหน่อยสำหรับแขกของชีค..

...รึแม่คนนั้นนึกว่าเขาเป็นแค่ทหารติดตามกันนะ...

       คาวัลโลเดินย้ำไปมาสำรวจทั่วห้อง เขามองเห็นตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงผนัง ชายหนุ่มเดินไปเปิดมันช้าๆ ขมวดคิ้วเมื่อเจอเสื้อคลุมเก่าๆแขวนอยู่ เขาเอื้อมมือจับมันแล้วลองดมกลิ่นดู พลางเบ้หน้า...แต่ก็เอาเถอะ จัดห้องแบบนี้จะมีโครงกระดูกหรือศพโผล่มาก็ไม่แปลกใจหรอก...

    มาเฟียหนุ่มเริ่มสำรวจข้าวของในห้องอีกครั้งด้วยความสนอกสนใจ พบว่าในห้องโกโรโกโสแบบนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดหรือเครื่องดักฟังอะไรอยู่ตามคาด แต่ของที่เขาพบนี่สิ มันน่าสนใจเสียจริงๆ..

  นอกจากเสื้อเก่าๆที่อยู่ในตู้แล้ว เขายังพบ"กล่อง"อะไรซักอย่างที่มีขนาดพอให้ใครซักคนยัดตัวลงไปได้สบาย และยังพบเครื่องเงินที่ดูหรูหราเกินกว่าจะเอามาประดับห้องโทรมๆแบบนี้อีกหนึ่งอัน..

    ริมฝีปากบางยกรอยยิ้มขึ้นมาช้าๆเมื่อสามารถคาดเดาได้ว่า...กำลังจะเจอกับอะไร...

....แบบนี้ต้องเล่นกันเสียหน่อย...

  คาวัลโลเดินไปเปิดสัมภาระของตัวเอง หยิบโธปสีดำขึ้นมามองแล้วยิ้มออกมาช้าๆ เขาเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกายด้วยอารมณ์ระรื่นผ่องใส การถูกหมายหัวแล้วมีความสุขนี่จะเรียกว่าโรคจิตรึเปล่านะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ เพราะชีวิตของเขามันต้องพบเจอกับเรื่องน่าสนุกแบบนี้สิถึงจะดี...

   ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินไปยังหน้าต่าง รูดปิดม่านลงช้าๆให้เหลือแสงส่วงลอดออกมาแต่เพียงน้อย ก่อนจะหยิบเครื่องเงินในมือไปวางไว้ใกล้หน้าต่าง อย่างประสงค์จะให้มันเป็น"เป้า"ชั้นดี

มองนาฬิกาที่เดินไปช้าๆ..ด้วยรอยยิ้มสนุกสนานที่พาดลงบนริมฝีปาก..

เลือดในกายเดือดพล่าน...กับความสนุกที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า..

  แต่ที่สำคัญกว่าตอนนี้คือ...อาหารของเขา ทำไมยังไม่มีซักที..

...

     โต๊ะยาวสำหรับงานเลี้ยงอาหารกลางวันมีชีคหนุ่มเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ และตรงข้ามก็คือผู้เป็นลุงที่นั่งอยู่ ด้านซ้ายของตนคือฟาติมะห์และถัดไปเป็นบรรดานายพลและภรรยาที่มาร่วมงานเลี้ยงรับรองต้อนรับการเดินทางมาครั้งนี้ของตน อัลชาอ์นึกโล่งใจที่ท่าทีของผู้เป็นลุงและฟาติมะห์ไม่ได้เคืองโกรธตนเองมากมายนักทั้งคู่ยังคงยิ้มแย้มและพุดคุยกับเขาอย่างปกติ หากแต่เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ หัวใจจึงยังขุ่มมัวด้วยความกังวลแปลกๆถึงท่าทีของผู้เป็นลุง..

       อัลชาอ์กวักมือเรียกฮาซานที่ยืนอยู่เบื้องหลังให้โน้มกายเข้ามาหา ออกปากสอบถามสั้นๆ

       " อยู่ไหน ?" ไม่บอกก็คาดเดาได้ว่าเป็นใคร ฮาซานโน้มตัวลงกระซิบตอบ ขณะที่สายตากวาดมองคนรอบด้าน

        " ที่ห้องครับ กำลังพักผ่อน "

        " คอยจับตาดูไว้ล่ะ อย่าให้ออกมาเพ่นพ่าน" อัลชาอ์สั่งการสั้นๆ

        " ครับ" รับคำเบาๆ ขณะที่สายตากวาดมองผู้ร่วมงานและทหารรักษาการเบื้องนอก ฮาซานครุ่นคิดถึงคำพูดของคนรักของชีคที่บอกกับตน แม้จะยังนับถืออีกฝ่ายได้ไม่สนิทใจ หากสิ่งที่ได้ยินมาใช่จะละเลยกันได้ง่ายๆ

      งานเลี้ยงกลางวันนี้ มีผู้มาร่วมงานมากมายและส่วนใหญ่ก็เป็นนายพลที่ประจำอยู่ที่นี่ หรือเหล่าบุคคลคนสำคัญของเซเนียยาก็ดี แต่ทว่า นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องมีการประจำการ ตรึงกำลังคงไว้มากเสียขนาดนั้น เพราะคฤหาสถ์ที่นี่ก็เป็นดั่งปราการเหล็ก มีทหารรักษาการอยู่มากมาย และรอบนอกก็เป็นบ้านของเหล่านายพลต่างๆซึ่งก็มีการรักษาความปลอดภัยมากกว่าปกติอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่จะเข้ามาปองร้ายก็ย่อมต้องผ่านกำแพงมนุษย์เหล่านั้นมาให้ได้ก่อนจะถึงบคฤหาสถ์ การวางกำลังมากมายขนาดนั้นมันไม่จำเป็นเลย...

..... องค์รักษ์หนุ่มเม้มปากแน่น ดูท่าเขาต้องรีบทำการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเสียแล้ว ก่อนจะมีอะไรเกิดขึ้น...

...........................................................

        แสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงตามเวลาที่ผ่านผัน เสียงละหมาดยามเย็นดังอยู่ทั่วเมืองและสะท้อนก้องไปในทะเลทรายอันเวิ้งว้าง แต่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่งในคฤหาสถ์ของชีคผู้ครองเมืองกลับมีชายชาวต่างชาติผู้กำลังใกล้จะคลั่งตายด้วยอาการหิวโหย..

   ให้ตายสิ !!!

    คาวัลโลกัดฟันกรอด เดินวนไปมารอบๆห้องด้วยอารมณ์ขุ่นมัวอย่างยิ่ง นับแต่เช้าวันนี้ที่กินกาแฟไปแค่นั้นแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ทานอะไรอีกเลย อาหารกลางวันก็ไม่มาถึง อาหารเย็นก็หายจ้อย

   อยากจะเดินไปเปิดประตูและโวยวายให้สมกับความหงุดหงิด แต่เพราะสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ก่อนกวน เขาจึงต้องนิ่ง เงียบและรออยู่อย่างนั้น แต่เมื่อทนไม่ไหว จะเดินออกไปกลับพบว่าห้องที่ตัวเขาพักอยู่ ลูกบิดประตูกลับถูกล็อค ซึ่งก็หมายความตรงตัวว่าเขาถูก"ขัง"

     อยากจะถีบประตูโครมออกไปโวยวาย แต่เพราะถูกสั่งไว้เขาถึงได้เงียบ เงียบ และพยายามเงียบให้ได้มากที่สุด แม้ว่าความหงุดหงิดโมโหที่คั่งค้างอยู่ภายในจิตใจมันจะใกล้ระเบิดขึ้นมาแล้วก็ตามที....คอยดูเถอะ ถ้านี่อีกห้านาที ไม่มีใครเอาข้าวมาให้กินล่ะ จะถีบโครมออกไปโวยให้พังกันเป็นแถบๆเลยคอยดู...

       ไม่รุ้ว่าคนพวกนี้ถึงฤดูอดอาหารกันอีกรึเปล่า ถึงได้ไม่สนใจกันขนาดนี้ หรือนี่มันเป็นวิธีทรมารคนที่ฮิตมากๆกันฮึ อัลชาอ์ก็ทำแบบนี้ทีแล้ว นี่ก็ยังมาเจออีก ผอมกระหร่องไปหมดแล้วน่ะเฟ้ย !!

      แกร๊ก...

         ประตูถูกเปิดออกพ้อมกับร่างของสาวใช้เดินถือถาดอาหารเข้ามา เหมือนเธอรู้ว่าจะถูกนินทา เจ้าหล่อนจึงพูดอะไรออกมาสักอย่างแล้วเดินเอาถาดอาหารมาวางและเดินจากไป..

คาวัลโลกระโจนเข้าหาอาหการในถาดด้วยท่าทีกระตือรือล้น หากแต่มือที่คว้าแก้วน้ำจะเข้าปากกลับชะงักลง ชายหนุ่มเขม้นมองอาหารในถาดและน้ำทับทิมคั้นในแก้วของตน พลันขมวดคิ้วออกมาช้าๆ

  ความหิวมันไม่ได้บังสติมากขนาดที่จะไม่รู้สึก"สงสัย"

    ...ทำแบบนี้เพื่ออะไร?

ไม่ได้ลืมว่ามีเขาอยู่ ไม่ได้จงใจแกล้งให้อดอยากเพราะความไม่พอใจที่เขาไปแย่งอัลชาอ์มา  ทำเหมือบตบหัวแล้วลูบหลัง หรือทำเหมือนหวัง..และกำลังวางแผนอะไรอยู่..

   สมองของมาเฟียหนุ่มกำลังคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เขาไม่ใช่คนโง่ และยิ่งกับวิถีทางในโลกของมาเฟียนั้นยังสอนอะไรเขามากมาย..เรื่องแบบนี้....มันทำให้เขาสามารถเดาตอนจบมันได้ง่ายๆ

...วางแผนอะไรไว้?

   เมื่อคิดคำนวนถึงข้าวของที่ได้พบแล้ว เขาก็เข้าใจได้ไม่ยาก...ตอนนี้เป็นเวลาเย็น ...เท่าที่เห็นรถรามากมายเข้าออกก็เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะมีงานเลี้ยงต้อนรับอัลชาอ์ที่นี่...เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายนั้นจะยุ่งจนไม่มีเวลามาสนใจเขา และหากเขาอยู่ในห้องแบบนี้เงียบๆไปซักชั่วโมงสองชั่วโมง..และมาถูกพบอีกครั้งว่ากลายเป็นศพไปแล้ว...มันก็คงจะไม่แปลก..

   ช่างเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ...

       คาวัลโลยิ้มบางๆ เขายกแก้วน้ำขึ้นมาอีกครั้ง หเากครั้งนี้ทดลองจิบมันเข้าไปอึกหนึ่ง...

       " เฮ้อ..."    ว่าแล้วเชียว...

           ประสาทสัมผัสไม่ได้ตายด้าน จนไม่รู้สึก"มึน" กับน้ำที่ลองจิบไป คาวัลโลสถบพึมพัมพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถ่มน้ำลายออก บ้วนปากกลั้วคอด้วยอารมณ์ขุ่นๆ เขาเทน้ำทิ้งไปในชักโครกอย่างรวดเร็ว ขณะที่เดินดุ่มๆเข้ามาในห้องอีกครั้ง และมองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาพิจารณาใคร่ครวญมากขึ้น..

      แม้ท้องจะส่งเสียงร้องโครกคราก แต่ยังไงชีวิตก็สำคัญกว่า ยาสลบที่ไร้รส ไร้กลิ่น และสีมีมากมาย..วิธีการตรวจสอบขั้นต้นนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก...แต่การลองชิมมันไม่ใช่ทางที่เขาเลือก มันไร้ประโยชน์ที่จะลองเสี่ยงเลือกหาอาหารที่ไม่มียาแล้วกินมัน..แบบนั้นมันเสี่ยงเกินไป...

     อาหารในถาดเป็นซุปและแกงอะไรบางอย่างข้นๆ สองสิ่งนี้เป็นน้ำ สามารถตัดออกไปได้เลย คาวัลโลเดินถือมันเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เขาเทมันลงไปในชักโครกอย่างละพอสมควร ช้อนก็ต้องคนๆมันและปล่อยคาเอาไว้ ขนมปังในถาดมีลักษณะแห้งชืดไม่นุ่มหอมอย่างที่อบใหม่ๆ แสดงว่าปลอดภัยและทานได้อยู่ เพราะหากเป็นขนมปังที่อบใหม่แล้ว คงไม่แคล้วจะมีอะไรแปลกๆผสมมาด้วย แต่ที่เป็นแบบนี้ คาดว่าคนทำคงคิดว่ามันเกินพอแล้วล่ะมั้ง..

   บิดเอาขนมปังนั้นออกมาพอประมาณและรีบยัดลงท้องแก้หิวไปก่อน คาวัลโลวางอาหารทั้งถาดลงบนโต๊ะเตี้ยๆไปลายเตียง...เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะเอนกายลงบนโต๊ะ และหลับตาลงช้าๆ...

แกร๊ก...

  ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง คาวัลโลเห็นชายผ้าคลุมสีสวยและปลายเท้าที่โผล่พ้นออกมาก็วางไจว่าคนที่มาคงเป็นหญิง เขาหลับตาลง รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวรอบๆกาย..

    "@#$%^&*()" น้ำเสียงคุยกันภาษาอาหรับดังอยุ่บนศรีาะ ขณะที่ถาดอาหารถูกยกออกไป เขาได้ยินเสียงถ้วยกระทบกันดังกริ๊ก..

     "+@#$%^&*(" น้ำเสียงอีกเสียงที่คุ้นหูไม่น้อยดังขึ้น พร้อมกับที่เขารู้สึกว่าร่างของตนถูกยกลากขึ้นไปบนเตียงโดยแรงของหญิงสาวประมาณสามสี่คน คาวัลโลรู้สึกอยากจะหัวเราะให้ลั่น เพาะแม่สาวสอิสลามนี่ได้ชื่อว่าหวงเนื้อหวงตัวนักหนา ขนาดจะมองยังต้องแอบมองเจ้าหล่อนเลย แล้วนี่อะไร เป็นฝ่ายมาถูกเนื้อถูกตัวผู้ชายอย่างเขาเอง รับรองแม่พวกนี้กลับไปต้องได้ล้างตัวตั้วแต่หัวจรดเท้าล้างราคีคาวแน่ๆ

      "@#$%^&*() " ประตูตู้เสื้อผ้าถูกแง้มเปิดและปิดเบาๆ... เสียงพูดคุยกันดังขึ้นรอบตัวเขาอีกสองสามประโยค แล้วทั้งหมดก็เงียบลงพร้อมกับเสียงปิดประตูที่ดังขึ้นเบาๆ...

          นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลค่อยๆเปิดขึ้นมาครั้ง คาวัลโลพบว่าตัวเองกำลังนอนนิ่งห่มผ้าเรียบร้อยบนเตียง ชายหนุ่มยกรอยยิ้มขบขัน พยุงตัวขึ้นมาบนเตียง และยิ้มมุมปากออกมาช้าๆ...

แผนที่สมบูรณ์แบบ...

....แต่ใช้ผิดคน...

     หากเป็นไอ้โง่ไอ้บ้าคนอื่น คนไม่พ้นต้องนอนตายอนาถอยู่ในห้องแบบนี้ เสียแต่คนๆนั้นเป็นเขา คาวัลโล วาลกัส ที่ถูกลักพาตัวมานับแต่จำความได้ ถูกลอบสังหารมาอีกมากกว่าสิบครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งนั้นวิธีการของมันซับซ้อนปและเหนือกว่านี้นับสิบเท่า..

......แล้วนับประสาอะไรกับ...แผนของเด็กอนุบาลหัดเดินแบบนี้เล่า...

     ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ คนที่ตั้งใจจะเดินบนทางสายอันตรายอย่างมาเฟียในโลกมืด มีหรือจะไม่ถูกฝึกให้ระวังตัว ไม่ถูกฝึกให้ชำนาญให้ฉลาดและเก่งกล้า รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงสารพัดของมนุษย์.....

         หากคนพวกนี้รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วล่ะก็ คงจะรู้ตัวและไม่เลือกใช้วิธีเด็กๆเช่นนี้ แต่เพราะพวกเขาไม่รู้นั่นล่ะ จึงได้เลือกใช้วิธีลอบสังหารง่ายๆ พื้นๆ และยังวางใจมากขนาดที่รอเวลาได้อย่างไม่ระหยี่..

คิดผิดเสียแล้ว...

  มาเฟียจอมเจ้าเล่ห์ขยับรอยยิ้ม คาวัลโลลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เขามองเห็นกระบอกปืนที่ถูกวางลงบนพื้นตู้ชัดเจน...

   ..ไม่ผิดไปจากที่คิด...

    คาวัลโลเดินไปที่เตียงอีกครั้ง เขาทิ้งกายลงนอนบนเตียง เมื่อรู้แผนทั้งหมดแล้ว ที่ต้องทำก็คือรอให้เวลานั้นมาถึง ลิ้มรสชาติของ"ภัย"ที่มาถึงตัวอีกครั้ง หลังจากไม่ได้เจอมันมาเสียนานเพราะในอิตาลีนั้น ถือได้ว่าคนในวงการนั้นรู้จักพิษสงของเขาดีเกินพอแล้ว การจะมาปองร้ายหรือทำอะไรจึงมีไม่บ่อยนัก เพราะมีชีวิตทื่น่าเบื่อเช่นนั้น เขาจึงได้ออกมารับงานวัดกับพวกกลุ่มโจรให้หายเบื่ออย่างไรเล่า

แต่ใครจะนึก ว่ามันกลายเป็นว่าตกหลุมพรางไปเสียให้ได้...

    บ่นงึมงัมในลำคอกับความผิดพลาดที่เขาไม่คิดจะให้อภัยตัวเองเด็ดขาด ...คาวัลโลกลิ้งตัวนอนบนเตียง มองนาฬิกาที่บอกเวลาหกโมงครึ่ง น่าจะอีกสองสามชั่วโมงแผนการ์ณนี้ถึงจะเริ่มขึ้น

ดังนั้น...ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร..

  มาเหียหนุ่มยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาหนุนศรีษะ นัยน์ตาสีน้ำทะเลวาววับไปด้วยความคาดหวัง และความรื่นรมย์ที่รอคอย...การใช้ชีวิตสงบสุขก็ดี...แต่ชีวิตที่มีสีสันแบบนี้ มันน่าสนุกยิ่งกว่า..

น่าสงสาร ที่เจ้ามือลอบสังหารคนนั้น..มันไม่รู้ว่ามันจะเจออะไรในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า...

..ถ้ามันรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น อาจจะอยากวิ่งเเจ้นไปขอถอนตัวก็ได้...

.................................................................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
  
     ในยามที่รถของแขกในงานวิ่งออกจากลานจอดด้านหน้า นั่นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเริ่มเตรียมตัวรับมือ คาวัลโลลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ มองไปที่หมอนข้างซึ่งบัดนี้ถูกจับใส่ชุดโธปของเขาและคลุมโปงอยู่ ชายหนุ่มเดินอย่างระมัดระวังท่ามกลางความมือสลัว เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า และแทรกกายอยู่ในนั้นอย่างเงียบเชียบ

       ปืนที่วางอยุ่ถูกหยิบขึ้นมาประกอบอย่างช้าๆขณะที่สายตาจ้องมองไปยังเบื้องนอก ผ่านช่องระบายอากาศเล็กๆ..

แกร๊ก...

    ขึ้นไกปืนเสร็จเรียบร้อย หน้าต่างที่ปิดอยู่ก็ถูกเปิดออก คาวัลโลมองเห็นเงาดำค่อยๆแทรกกายเข้ามาในห้องของตน  ร่างนั้นคลุมตัวด้วยผ้าสีดำสนิทเป็นการพรางกาย เขามองเห็นมันเดินวนรอบเตียงช้าๆ ก่อนจะยกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงไว้ และจรดไกปืนลงบนเตียง..

ปุ ปุ ปุ

   " ผลั่ก !! "
     คาวัลโลเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกไปและกระโจนเข้าไปหาอย่างรวดเร็วในจังหวะเดียวกับที่ชายคนนั้นลั่นไกลงบนเตียง สิ่งแรกที่เขาทำ คือการเหวี่ยงฝ่าเท้าฟาดเข้าที่ปลายคางของมือปืนรายนั้นอย่างแรง ร่างหนาทิ้งตัวลงบนพื้นเพราะไม่อาจจะตั้งตัวทัน และเขาก็ไม่ปล่อยให้มันมีโอกาส ปลายเท้าจึงตวัดเตะมือที่ถือปืนไว้ ให้กระบอกปืนกลิ้งไปไกล หมัดสองหมัดซัดลงที่ลิ้นปี่จนมันจุกแน่น และเขาจึงค่อยคว้าลำคอเจ้าตัวให้ลุกขึ้นยืนโดยเร็ว

    " เงียบ !! "คาวัลโลกระซิบเสียงเหี้ยม เขาจ่อปืนเข้าที่กระหม่อมของมัน ขณะที่เเขนรัดลำคอหนาไว้แน่น..
.
         ขยับกายเดินเข้าไปใกล้เตียง หากแสงวาบที่หางตาซึ่งสะท้อนจากเครื่องเงินที่อยู่ใกล้หน้าต่างทำให้สะดุด คาวัลโลใจหายวาบ เขาดึงร่างของมือปืนที่ถูกจับไว้บังกายทันที..

ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสียงรัวปืนกลดังลั่น ขณะที่ร่างของมือปืนหนุ่มผู้ถูกคุมตัวไว้สะท้านเฮือก ร่างกายสั่นไหวไปมายามที่ถูกกระสุนปืนสาดใส่อย่างไม่บันยะบังยัง ส่งผลให้เลือดไหลออกมาจากร่างของเจ้าตัวราวกับสายน้ำ สาดกระเซ็นเปื้อนร่างของเขาไม่น้อย คาวัลโลเหวี่ยงร่างนั้นลงบนเตียงหนา ส่วนตัวเองรีบทรุดกายลงคลานบนพื้น ขยับตัวอย่างรวดเร็วเข้าไปหลบอยู่ใต้เตียงทันที...

      เสียงเอะอะดังขึ้นเเว่วๆพร้อมกับประตูที่ถุกเปิดออก แสงไฟถูกเปิดขึ้นจนสว่างจ้าทำให้เห็นสภาพห้องที่เต็มไปด้วยร่องรอยกระสุน มีกลิ่นดินปืนและกลิ่นฝุ่นผงโชยคลุ้งปะปนกับกลิ่นเลือดทำให้หลายคนผงะ  เลือดสีเข้มที่หลั่งรินออกมาจากร่างที่พาดกายอยู่บนเตียงทำให้หลายคนเบิกตามองด้วยความตกใจ ขณะที่เสียงกรีดร้องดังมาจากลำคอของสาวรับใช้..

     "......." คาวัลโลหมอบคู้ตัวอยู่ภายใต้เตียงหนา เขานึกเบาใจที่ทุกอย่างจบลงแล้ว ทว่าร่างที่จะขยับออกไปกลับต้องชะงัก ...เมื่อรู้สึกถึงแรงกดทับบริเวณด้านหลังของเหล้ดเสริมพื้นเตียงที่แข็งทื่อ...ซึ่งเป็นด้านใต้ของเตียงและตัวเขาก็กระโจนพรวดเข้ามาทับบนลังไม้ที่วางไว้ก่อนหน้าและใต้เตียงนี้ไม่ได้สูงอะไรนักหนา การที่คนหนึ่งคนกระโจนพรวดทับกล่องขนาดที่ยัดใส่ของได้..มันก็ถือว่าสอดตัวทับไปได้..มาก...เกินพอแล้ว..
  คาวัลโลกระพริบตาปริบๆ...แผ่นหลังที่ครูดไถเริ่มออกอาการแสบร้อน เขาลองขยับตัวสองสามครั้งแต่ผลที่ได้รับก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
  ...อย่าบอกนะว่า....

     ร่างสูงก้าวเท้ายาวๆขึ้นบันไดมาตามหลังองค์รักษ์ของตนที่วิ่งนำหน้า อัลชาอ์ยังอยู่ในชุดงานเลี้ยง ใส่โธปสีขาวมีมิชลาฮ์สีทองคลุมทับเดินตามหลังคนของตัวเองอย่างร้อนรน เมื่อเสียงรัวปืนกลดังลั่นขึ้นภายในคฤหาสถ์...แต่ที่ชีคหนุ่มต้องใจหายวาบ นั่นคือห้องที่เกิดเรื่องนั้น มันเป็นห้องพักของคาวัลโล วาลกัส !!

     หน้าประตูห้องมีคนรับใช้และเหล่าทหารยืนมุงอยู่ จนต้องออกแรงผลักให้หลีกไปด้วยความร้อนรน ร่างกระหืดกระหอบของผู้เป็นลุงเดินตามหลังออกปากเรียกเสียแต่อัลชาอ์ไม่ได้นึกจะสนใจ และสภาพห้องนั้นทำให้ชีคหนุ่มชะงัก...นิ่งอึ้ง...

         ทั้งห้องเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกห่ากระสุนซัดสาด กระจกหน้าต่างแตกออกและตกลงบนพื้น ม่านสีเข้มมีรอยปุปะและขาดวิ่น ขณะที่ในห้องมีกลิ่นคละคลุ้งของดินปืนลอยอยุ่ปะปนกับกลิ่นของฝุ่นผง ชีคหนุ่มมองเห็นรอยเลือดที่ไหลเอ่อเป็นวงกว้าง จากร่างที่หมอบนิ่งอยู่บนเตียง....ที่ทำให้หัวใจกระตุกสั่น..

        " อย่าแตะต้อง !!! " ตะโกนสั่งทหารนายหนึ่งซึ่งกำลังจะเดินไปดู น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลนั้นทำให้ผุ้คนโดยรอบต่างสะดุ้งเฮือก กับโทสะที่ตนไม่เคยได้พบ..

        "...ฮาซาน !!...ไปดูที่หน้าต่าง " อัลชาอ์ตะโกนสั่ง และตนเป็นฝ่ายก้าวยาวๆเข้าไปในห้อง มือหนาเอื้อมไปยังร่างในชุดสีดำที่คุลมกายแน่นหนา หัวใจเย็นยะเยียบด้วยความหวาดหวั่น...

..ขอเถอะ...อย่า...อย่าเป็นคนๆนั้น....

      พรึ่บ !

       ใบหน้าที่ไม่เคยคุ้นปรากฏขึ้นในสภาพตาเหลือกกว้าง มีเลือดไหลอาบหน้าเพราะกระสุนเจาะตรงกะโหลกศรีษะ หากแต่ภาพสยองขวัญนั่นก็ทำให้ใจที่หวาดหวั่นค่อยลดความหวาดหวั่นลงไม่น้อย..เพราะ..มันไม่ได้เป็นร่างของคนๆนั้น ไม่ใช่ร่างไร้วิญญาณของเจ้าของห้องที่ตนกำลังร้อนรน ..ตามหา...

   นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองทั่วห้อง มองเห็นกระเป๋าสัมภาระที่คุ้นตาดีวางอยู่ หากแต่ไม่มีเงาของคนที่ควรจะอยู่ในนี้

       " คาวัลโล ?" อัลชาอ์เอ่ยปากเรียก...หากแต่ทุกอย่างก็ยังเงียบกริบ " คาวัลโล !! คาล...."

      " ชีคครับ" ฮาซานเรียกนายเหนือหัวตนเบาๆ ทำให้ผุ้ฟังชะงัก นัยน์ตามองไปยังร่างที่นอนตาเหลือ แต่สิ่งที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วและใจหายวาบ คือใต้ร่างนั้น มีผ้านวมที่ถูกทับอยู่มันนูนขึ้นคล้ายกับมีร่างของใครอยู่ข้างใต้ ชีคหนุ่มขมวดคิ้ว หากพลันลมหายใจก็สะดุดหยุดลงยามที่ได้เห็นร่องรอยของกระสุนปืนที่ฝังตัวลงไป..และมีรอยเลือดสีเข้มปรากฏอยู่...

       มองเห็นโธปสีดำคุ้นตาโผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ทำให้หัวใจเย็นวาบ...ชีคหนุ่มรู้สึกว่าลมหายใจของตนสะดุดไหว หัวใจพลันเย็นเฉียบราวกับหนาวเหน็บ..
นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองร่างของผู้คนที่ยืนอยู่ที่ประตูด้วยนัยน์ตาวาววับด้วยความไม่พอใจ ทำให้ต่างที่สบมองก็ต้องสะดุ้ง ตัวแข็งทื่อ...กับแววตาอันวาวโรจน์และเคืองแค้น ฮาซานนิ่ง เม้มปากแน่น เมื่อมองเห็นร่องรอยความเจ็บปวดแฝงอยู่ชัด มันเป็นแววตาของราชสีห์...ราชสีห์ผู้สูญเสียสิ่งของอันเป็นที่รัก...คนที่ตนให้ความสำคัญ...

      ฮาซานมองไปยังฝ่ามือของเจ้านายตนซึ่งค่อยๆยกผ้าห่มหนาขึ้นช้าๆ ในหัวของเขากำลังพร่ำภาวนาของพรต่อองค์อัลเลาะห์ ขอให้ทรงคุ้มครองชายคนนั้น คนที่เป็นดั่งหัวใจของชีคแห่งเซเนียยา ขอให้รอดปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายเช่นทุกครั้ง ขอเถิด...อย่าจากไป อย่าให้คนๆนั้นจากไปพร้อมกับหัวใจของเจ้านายตน...

   "........."  ผ้าห่มหนาเปิดออกช้าๆ หากแต่เบื้องล่างคือหมอนข้างซึ่งถูกจับใส่ชุดโธป อัลชาอ์กระพริบตาช้าๆราวกับจะทดสอบว่านั้นไม่ใช่ความฝัน ชีคหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาอย่างเผลอไผล และเกือบจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพดังกล่าว เมื่อแน่ใจว่าใครเป็นคนทำมัน

     " คาวัลโล... คาวัลโล !!! "อัลชาอ์ออกปากเรียกหาด้วยท่าทีเเช่มชื่นขึ้น หากแต่ก็ยังมีท่าทีเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อย เพราะยังไม่พบตัวคนที่หายไป คิ้วเข้มขมวดดมุ่นด้วยความหวั่นผวา หากว่าถูกจับไปเล่า?...

     " คาวัลโล !!! อยู่ไหน !!! " ชีคหนุ่มตะโกนลั่น  เมื่อยังไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวจะโผล่มาตรงไหน หัวใจที่สงบลงเพียงชั่วครู่เริ่มเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดหวั่นอีกครา อัลชาอ์กวาดสายตามองทั่วห้อง อย่างหวังให้เจ้าตัวออกมาจากที่ใดที่หนึ่งแล้วยิ้มแป้นด้วยท่าทีกวนประสาทเช่นเคย...

 ........ หากแต่ไม่มี..

     "....นี่...." เสียงคุ้นหูดังขึ้นเบาๆ เบาจนนึกว่าตนองอาจจะหุฝาด แต่สำเนียงที่คุ้นหูทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันช้าๆ

     " ผม...อยู่นี่......" อัลชาอ์กวาดตามอง พลันก็ต้องสะดุดกับแขนขาวจัดที่โผล่ออกมาจากใต้เตียงหนา ชีคหนุ่มรีบถลาไปยังจุดนั้น ก้มศรีษะลงมองใต้เตียง และพบกับใบหน้าอันขมุกขมอมหากคุ้นเคยยิ่งนัก จนอดจะยิ้มออกมาไม่ได้

     " คาวัลโล..."อัลชาอ์ออกปากเรียก ยื่นมือไปดึงเจ้าตัวออกมาด้วยความยินดี.. " ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม? "

    " ผมไม่เป็นไร...." คาวัลโลตอบ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดไม่น้อยยามถูลากออกมาจากใต้เตียทำเอาคนมองใจหายวาบ

         อัลชาอ์ใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดร่างของคนที่ถูกดึงออกมาจากใต้เตียงชีคหนุ่มมองใบหน้าที่มอมแมมเต็มไปด้วยรอยเลือดและเศษฝุ่นแล้วอดจะยิ้มออกมาไม่ได้...หากคนที่มีท่าทีอ่อนเปลี่ยนและกำแขนตำไว้แน่นกลับถลึงตาใส่ราวกับรู้สึกเคืองที่ถูกล้อ

     " เจ็บตรงไหนรึเปล่า?" ถามออกมาพร้อมกับยกชายเสื้อเช็ดใบหน้าขาวที่มีรอยเลือดอย่างอ่อนโยน..

      "ไม่...ผมไม่เป็นไร แค่ออกจากใต้เตียงไม่ได้..." คาวัลโลออกปากสารภาพออกมาด้วยสีหน้าอ่อนระโหย..พลางเกาะแขนหนาไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม

      " ออกไม่ได้? "อัลชาอ์ทวนขำ ยิ้มมุมปาก แต่ไม่คิดจะหัวเราะออกมาให้เจ้าตัวโมโห ชีคหนุ่มเลื่อนมือไปโอบเอวบางไว้ และคองเจ้าตัวออกมาช้าๆด้วยท่าทีรักใคร่ยิ่ง..

      " อัลชาอ์ " น้ำเสียงสั่นๆของผู้เป็นลุงที่ออกปากเรียก ทำให้ผู้ได้ยินชะงัก ชีคหนุ่มเงยหน้าขึ้นกวาดตามองผู้คนโดยรอบด้วยสายตาอันแข้งกร้าวและเย็นยะเยือก...จนผุ้ที่สบมองต่างตัวสั่นระริก..

     " หวังว่าผมจะได้นับคำตอบที่ฟังได้....เกี๋ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ...ท่านลุง" น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยช้าๆ...

       " เรื่องนี้......."

      " ฮาซาน ! เก็บข้าวของของคาวัลโลออกมาแล้วนำไปที่ห้อง จาฟา...ตรวจสอบหลักฐานและสืบหาเรื่องทั้งหมด ผมต้องการได้รับผลการสืบสวนอย่างเร็วที่สุด !! " อัลชาอ์สั่งการลุกน้องของตน โดยไม่สนใจท่าทีของผู้เป็นลุงซักนิด...

       " ท่านพี่อัลชาอ์....." ฟาติมะห์ก้าวเท้าออกมาพยายามจะเอ่ยกับอีกฝ่าย ทว่าดวงตาเฉยชาที่มองมาทำให้ร่างพลันนิ่งงัน..

       " หลีกก่อน ฟาติมะห์ พี่จะพาคนรักของพี่ไปทำแผล..." วาจาแสนเย็นชานั้นเอ่ย ขณะที่อัลชาอ์ก้มตัวลงช้อนกายคนรักหนุ่มชาวต่างชาติมาแนบอก ฝ่ามือขาวจัดของอีกฝ่ายกระตุกเสื้อคลุมมิชลาฮ์ช้าๆให้ใบหน้าคมก้มลงมาฟังสิ่งที่เจ้าตัวอยากจะบอก

       " หิวข้าว..วันนี้ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย " น้ำเสียงกระซิบนั่นแม้จะไม่เข้าเรื่องแต่ก็ทำให้คนฟังขมวดคิ้ว อัลชาอ์หันไปกวาดตาสบมองใบหน้าของญาติสาวอีกครั้งด้วยแแววตาแฝงความตำหนิเอาไว้อย่างไม่ปิดบัง

      " ช่วยจัดอาหารให้คนรักของพี่ด้วย ฟาติมะห์ เพราะวันนนี้เขายังไม่ได้ทานอะไรเลย"

         เอ่ยแล้วชีคหนุ่มก็อุ้มร่างของคนรักตนไว้ในอ้อมแขน เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

  ฟาติมะห์มองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยแววตารวดร้าว หญิงสาวยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาเบาๆ ด้วยท่าทีหัวใจสลาย นอกจากจะไม่ได้แก้แค้น ให้สมกับที่ถูกทำลายศักดิ์ศรีและสมกับควสามเจ็บปวดใจแล้ว หล่อนยังต้องถูกมองด้วยสายบตาตำหนิ สูญเสียภาพของสตรีผู้งดงามและเพียบพร้อมในสายตาของบุรุษผู้ที่เธอหลงรักไปแล้ว

    หญิงสาวสบตาบิดาที่นิ่งอึ้งด้วยความร้าวราน ก่อนจะผินกายจากไปเพื่อเตรียมอาหารให้คนรักของผู้ชายที่เธอหลงไหลด้วยความร้าวรานใจ..

..........................

      กะละมังใบเล็กวางอยู่บนโต๊ะเล็กๆบนหัวเตียง ขณะที่ร่างของมาเฟียหนุ่มผู้เเป็นเป้าถูกสังหารนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ใบหน้าที่เปื้อนฝุ่นผงและหยุดเลือดนั้นถูกเช็ดออกด้วยผ้าขาวสะอาดในมือหนา ร่างของชีคหนุ่มเเห่งเซเนียยานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ลากมาข้างเตียง และกำลังขมักเขม้นเช็ดใบหน้าของคนที่นอนอยุ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างอ่อนโยน...ดูแปลกตา...

     ...ชีคแห่งเซเนียยาที่เคร่งขรึม เงียบงัน และเย็นชาจนเกือบจะเเข็งกร้าว..

เขากำลังโน้มกายเหนือร่างของมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลี ผู้ซึ่งบัดนี้มีฐานะเป็นทั้งคนรักกำมะลอ และยังเป็นดั่งนักโทษในกำมือ...

     นัยน์ตาสีน้ำทะเลปรือขึ้นช้าๆ สบมองแววตาสีนิลที่ล้ำลึกและยากจะหยั่งถึง หากแต่เขาก็มองเห็นความห่วงใยที่แฝงมากับท่าทีอันอ่อนโยนได้ไม่ยาก...

คาวัลโล วาลกัส สะดุ้งและนิ่วหน้านิดๆยามความเย็นเฉียบแตะลงที่หางตา นิ่วหน้าหากแต่ก็ยังนอนนิ่งให้อีกฝ่ายนั้นเช็ดหน้าอย่างไม่ปริปาก..

    ....คาวัลโล วาสกัส มาเฟีย ที่ไม่เคยไว้ใจใคร...และไม่เคยจะสนใจใครนอกจากตัวเอง...

....พวกเขาทั้งสองต่างแสดงบทบาทที่ตนเองไม่เคยมี ..และไม่เคยคิดว่าจะมี หรือจะยอมให้มันเกิดขึ้น...จุดชนวนความสงสัยและสะกิดความอยากรู้เพียงเล็กน้อยในหัวใจ..

...เพราะอะไร?

       คาวัลโลหรี่ตาลงมองผ้าสีขาวในมือหนา  เขากำลังอ่อนเพลีย ทั้งยังเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ภาวะเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าความระแวดระวังหรือเกราะป้องกันตัวจะลดน้อยถอยลง ตรงกันข้าม มันกลับหนาแน่นขึ้นมากกว่าปกติด้วยซ้ำ..

หากทว่า...ทำไม...ถึงได้วางใจ...ทำไม ถึงได้...ไว้ใจ..

  ...คนที่ออกปากว่าจะฆ่าเขาเมื่อทำงานไม่สำเร็จ... ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนแบบนั้น...

       ทำไมกัน?

         จับจ้องวงหน้าขาวจัดที่เปื้อนเลือดและฝุ่นผง ที่บัดนี้ถูดผ้าเช็ดหน้าในมือเช็ดมันจนไม่มีอะไรเปื้อนติด หากแต่ปลายนิ้วยังคงจุ่มผ้าลงกับอ่างน้ำใบเล็ก บีบออกช้าๆและเริ่มต้นเช็ดที่ลำคอบ้าง...

นัยน์ตาสีน้ำทะเลคู่นั้นเบือนมาสบ ไม่มีคำพูดใด หากแววตานั้นถูกส่งมาราวกับคำถาม..

   อัลชาอ์หรุบตาลงและยังคงไล้ผ้าขาวในมือเช็ดบนลำคอขาวต่อไปอย่างไม่เอ่ยคำ..

เพราะไม่มีคำตอบ...

    เหตุใดจึงห่วงใย...ใกล้ชิด...

ไม่มีคำตอบใดที่สามารถเอ่ยออกมาได้..ไม่ไม่คำพูดใดจะสามารถสื่อถึงสิ่งที่ในใจกำลังประสบและครุ่นคิด..

  อัลชาอ์วางผ้าขาวในมือลงบนขอบอ่าง ชีคหนุ่มยังคงโน้มกายเหนือร่างของคาวัลโล วาลกัส ไม่ผละห่างไปไหน..

      ปลายนิ้วที่เคยเช็ดหยดเลือดออกไปบัดนี้แตะลงบนเปลือกตาที่ปิดพับลงเบาๆ ทำให้สีสันของน้ำทะเลในดวงตาคู่นั้นเปิดเผยขึ้นให้ได้พบเจออีกครา..

       " เป็นอะไรมากรึเปล่า?" น้ำเสียงถามไถ่ดังขึ้นเบาๆ ด้วยความห่วงหา ฝ่ามือทาบลงบนผิวแก้มซ้ายส่งผ่านความอบอุ่นไปหา..

       " ไม่ครับ...ผมไม่เป็นไร " คาวัลโลตอบรับ เขาสบมองแววตาคู่นั้นด้วยรอยยยิ้มอ่อนจางตรงริมฝีปาก ไม่ได้หลบหลีกไปไหน...และเป็นฝ่ายทาบฝ่ามือลงบนมือหนาของอีกฝ่ายเบาๆ..

       " จริงๆหรือ?...ไม่มีอะไรจริงนะ" อัลชาอ์ยังคงออกปากถามเช่นเดิม คาวัลโลเลิกคิ้ว ปกติแล้วคำถามพวกนี้มันน่ารำคาญ แต่สำหรับตอนนี้การถูกถามคำถามเดิมจากคนๆเดียวซ้ำไปซ้ำมา มันกลับไม่ดูน่าหงุดหงิดสักนิด ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เสี้ยวหนึ่งของหัวใจนึกยินดีขึ้นมา...

   เพราะห่วงใย...เพราะห่วงหา...จึงได้เอ่ยถาม  สนใจ และคอยดูแล..เพราะ...มีความสำคัญ....

       " ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ...อัลชาอ์...." ริมฝีปากสีจางขยับเอ่ยคำตอบที่ทำให้หัวใจที่เต้นเร่าด้วยความหวาดหวั่นสงบลงช้าๆ...ขณะที่นัยน์ตาสีเข้มยังจับจ้องใบหน้านั้นไม่ห่างหาย มองมันราวกับจะจำหลัก จารึกภาพนั้นไว้ในหัวใจ บอกให้รู้ว่าคนๆนี้ยังมีชีวิตอยู่...ยังเอ่ยปากพูดคุย ยังยิ้มแย้ม ยังหัวเราะเช่นเดิม

ไม่ได้จากไป...ไม่ได้หายไปไหนเช่นที่เคยหวาดหวั่น...

       " ดีแล้ว..." ฝ่ามือที่ทาบบนผิวแก้มเลื่อนเข้ามาวางบนศรีษะ ลูบไล้เส้นผมนุ่มเบาๆ ด้วยท่าทีอาดูร.. " ดี....ที่ไม่เป็นอะไร "

       "..............." ริมฝีปากหนาแตะลงบนหน้าผากมนช้าๆ แผ่วเบาราวกับสัมผัสปุยนุ่น คาวัลโลชะงัก เขารู้สึกถึงลมหายใจที่กระตุกไหวยามที่ชีคหนุ่มปฏิบัติกับตนเช่นนี้ ทั้งทะนุถนม ทั้งอ่อนโยน ปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นสิ่งล่ำค่าของอีกฝ่าย ราวกับว่ากลัวเขาจะแตกสลายหายไปต่อหน้า..

       นัยน์ตาสีน้ำทะเลเกลื่อนไปด้วยความงวยงงเพียงชั่วครู่ เพราะเมื่อสัมผัสนั้นทาบลงไปเรียกเสือดให้มารวมตัวกันบนใบหน้าจนอุ่นวาบ มันทำให้รู้สึกดี...และดีเสียจนไม่อยากจะคิดหาเหตุผลอะไร..

         ฝ่ามือขาวเอื้อมไปกำเสื้อคลุมขลิบทองของอีกฝ่ายแน่น คาวัลโลหลับตาพริ้ม และยังเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปกอดรัดแผ่นหลังหนาของอีกฝ่ายราวกับจะออดอ้อน..

     ...อุ่นวาบกับอ้อมแขนที่โอบอุ้มไว้...ไม่รู้เเพราะเหตุใดมันจึงคล้ายกับอ้อมแขนที่ไฝ่หา ...ความอบอุ่นเอื้ออารีไร้รอยหวาดผวาที่ต้องการเสมอมา...

     และคนที่ยื่นมือเข้ามาหากลับเป็นคนๆนี้..คนที่กำลังเล่นละครหลอกลวงผุ้คนอยุ่กับเขางั้นหรือ?

            ก๊อกๆ...

     เสียงเคาะประตูเบาๆ ทำให้สองหนุ่มหลุดจากภวังค์ นัยน์ตาที่สบมองกันอย่างเผลอไผลเกลื่อนไปด้วยความเคอะเขินเพียงชั่ววูบก่อนจะกลับเป็นปกติ อัลชาอ์หยัดกายลุกขึ้น แต่เขาก็ยังคงเอื้อมมือไปกุมมือของอีกฝ่ายไว้ และพามานั่งยังหน้าเก้าอี้ในห้องทำงานของตน...

     ฮาซานก้าวเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ  ด้านหลังคือร่างของจาฟา และองค์รักษ์อีกสองนาย พวกเขาหิ้วปีกร่างของชายคนหนึ่งในชุดผ้าโพกหัวสีดำ และชุดโธปสีเดียวกันเข้ามา และที่รออยู่ด้วยสีหน้าซีดเผือกและเป็นกังวลคือชีคอาเหม็ดและบุตรสาว..

      ทั้งสองหันมามองสบตากันช้าๆ...คาวัลโลเลิกคิ้วขึ้นคล้ายจะสงสัยกับผลของการปฏิบัติงานที่แสนรวดเร็ว หรือท่าทีของคนทั้งหลาย หากแต่เขาไม่รู้ว่าที่ทุกคนยั่งเงียบนิ่งไม่ออกปากอันใด มันเป็นเพราะฝ่ามือของทั้งสองยังเกาะกุมกันไว้ไม่ห่างเสียมากกว่า..

  ทว่าก็ป่วยการที่จะเอ่ยปากพูดถึงสิ่งนั้น ฮาซานทำได้เพียงกระแอมเบาๆ แล้วเดินนำเข้ามาด้วยสีหน้าปกติแม้ในใจจะไม่คิดแบบนั้นก็ตาม..

.........................................................


กว่าจะอัพได้ เหอๆ ตอนนี้ลำบากมากค่ะ อยากจะร้องไห้ นั่งเขียนไปแล้ว จบแล้ว ทำไปทำมาเซฟหน้าว่างได้หน้าตาเฉย โอยยยย ไม่ไหวจะเคลียร์ ต่อไปนี้ชั้นจะเซพสำรองไว้อีกไฟล์นึงเลยคอยดู้ววววววว(โหยหวน :serius2:)
  อ่านแล้วเป็นไง คึคึ เรื่องกำลังเริ่มวุ่นแล้วค่ะ คาวัลโลเริ่มจะรู้ตัวแล้ว...พอๆกับชีค แต่รู้ตัวไปในทางที่ต่างกันนะ คาวี่ยังคิดว่าชีคเป็นแค่"คนรู้จัก""คนไม่สำคัญ"อยุ่เลย..ซึ่งรับรองว่าการรู้ตัวแบบนี้คงจะพาเรื่องยุ่งมาแน่ๆ เพื่อปลอบใจ ตอนท้ายๆเลยมีหวานๆให้อิจฉากันนิดนึง..ไม่หรอก อิจฉามากกกก หวานแบบไม่รู้ตัว หวานแบบอารมณ์พาไป..น่ากรี้ดดีค่ะ
เพลงที่คาวัลโลท่องในตอนต้น คือเพลง lilium ค่ะ เป็นบทสวด ทำนองหดหู่ขวัญผวาอย่างแรง แต่คนเขียนชอบนะคะ คิดว่าเพราะดีถูกใช้เป็นเพลงเปิดอนิเมเลือดสาดเรื่อง Elfen Lied ด้วย (เปิดในห้องตะกี้ เพื่อนมาหาแล้วทักว่า"...นี่แกเปิดเพลงแบบนี้ตลอดเลยเหรอ" ด้วยสายตาแบบว่า.... :o)
  ตอนนี้มีการเปรียบว่าอัลชาอืเหมือนกับสิงโต คิดแบบนั้นล่ะค่ะ แลถ้าอัลชาอ์เป็นสิงโต คาวัลโล..ในสายตาอิชั้นคงเป็นเหยี่ยว ไม่ก็ไฮยีน่า...(แต่เอนไปชื่อหลังนิดๆ)เพราะมันทั้งเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ แต่ก็เท่ห์เหลือหลาย
ส่วนท่านอาเหม็ด...คิดจะเล่นกับไผไม่เล่น งานนี้รับรองยาวค่ะ..
ปล. ตอนหน้าฝาแฝดจะมาพร้อมน้องสี่ผู้ที่ยังไม่เคยออก(และหลายคนอยากให้เขาเป็นบอส แต่จะได้เร้อออ)
ปล.2 พี่โตอัพพรุ่งนี้ วันนี้มีคอลเลคชั่นหนังสือมาอัพที่ในเด็กดี ไปตามลิ้งค์นี้โลดดดดด http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=524334&chapter=80 (ก๊อปวางนะเออ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2010 03:30:18 โดย Serin »

zombiepe

  • บุคคลทั่วไป
แล้วไอ้อลูมิเนียมใต้เตียงนั่นคืออันใด ?
อ่านแล้ว อ่านซ้ำตรงที่ท่านชีคแกตะโกนเรียกคาลจัง
ดูห่วงหามากกว่าที่คิด 555
เปลี่ยนชื่อตอนเป็นดวงใจราชสีห์
ฆ่าม้านนนนน ฝีมือนังคู่หมั้นคนนั้นแน่

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนแรกว่าจะเข้ามาทวง ฮ่า ๆๆๆ
แต่พอเห็นว่าได้อัพแล้วแทบกรี๊ดด  ดดดด

คาลเริ่มหวั่นไหวแล้ววว วว
ตอนนี้มันน่ารักอ่ะ ชอบบ
เท่ห์ด้วยอีกต่างหาก ฮ่า ๆๆๆ
เห็นแววว่าต่อไปชีคเราจะน่าสงสาร เหอๆๆๆ
ดูจากท่าทีของคาวี่ตอนนี้แล้วช่างง...(?)
อัลชาอ์นี่ถ้าต้องจากกับคาวี่ไปดูท่าจะอยู่ไม่ไหว จิตคงหลุด
เข้าขั้นรักไปแล้วนะน่ะ ไม่ใช่แค่ชอบแล้วว ว

ฟาติมะห์ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นคนเยี่ยงนี้
โหดมากนะเธอว์ แต่คาวัลโล โหดกว่า

เอามาอีกก กก ก  รอตั้งสิบวันแน่ะ!
เอามาอีกตอนเลยนะ ฮุๆๆๆๆ

เห็นด้วยกับzombiepe
แล้วอะลูมิเนียมใต้เตียงคืออะไร๊??

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
ู^
เป็นพื้นเตียงแหละค่ะ แบบว่าเตียงที่มีท่อนๆใส่ไว้ให้เอาฟุกลง แต่ใต้เตียงมันจะมีลังไม้อยู่แล้ว คาวี่โดดไปใต้เตียง = ขึ้นไปเกาะป๊าบบนลังไม้ ใต้เตียงมันใช่จะสูงนักเล่นซ้อนสองอย่างนี้เลยออกไม่ได้ค่ะ

ปล. อาจจะบรรยายไม่ชัดเจน เดี๋ยวจะลองแก้ดูค่ะ

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
^
เรากำลังจะมาอีดิทเลยว่า พอไปอ่านอีกรอบแล้วมันก็เข้าใจมากขึ้น
แล้วไรเตอร์มาบอกอีกทีก็แสดงว่าเราเข้าใจถูกแล้ว แฮ่ๆ

อาจเป็นเพราะเรารีบอ่านด้วยอ่ะค่ะ
มันเลยไม่เข้าใจ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
^
(คุณNutsuki)
ของแบบนี้มันต้องค่อยๆอ่าน ไม่งั้นจะหาไม่เจอว่าตอนนี้คาวี่มันเอ๋อเเค่ไหน (ฮ่าๆ)

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
 :เฮ้อ: แอบสงสารฟาติมาห์เหมือนกันนะ
 :m3: :m11: แอร้ยยยยย  ตอนนี้หวานไปมั้ยยยย
คาลทำท่านชีคแอบปวดใจนะเนี่ย  เมือ่ไหร่จะรุ้ตัวซักที :z3:

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
คุ้มค่ากับที่รอคอยจิงๆ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
สวีทปนโหดนะเนี่ยคู่เนี้ย ดูเหมือนทั้งคู่จะเิริ่มหวั่นไหวกันแล้วล่ะซิ

อยากรู้เร็ว ๆ จังว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด