.
.
.
.
.
.
ผมไม่ยอมให้มันเข้ามาวุ่นวายที่บ้านในวันธรรมดา แต่จะยอมคุยโทรศัพท์กับมันตอนกลางคืน
มันพูดอยู่คนเดียว และไม่ยอมให้ผมวางหู ซึ่งผมก็หลับคาโทรศัพท์ทุกวัน มึงมันวิกลจริตทางจิตใจไอ้ไท...
ส่วนวันหยุด มึงอยากมาก็ตามสะดวก ญาติกูอยู่เยอะแยะ555
แล้ว....มึงจะสนิทกับเพื่อนกูมากไปมั้ย?
ผมรู้ครับ ว่าผู้ชายมันสนิทกันง่ายถ้าใจ และคอเดียวกัน แต่เดี๋ยวนี้เพื่อนผมจะทำอะไร ไปไหนก็ต้องรอมันก่อน ชวนมันเข้าก๊วนด้วยตลอด
พวกมึงรู้มั้ย? ว่ามันจ้องจะล่อตูดกูอยู่ ไม่ป้องกันดูแลตูดให้กูกันบ้างเลย...
กูยังไม่อยากขรี้คล่องดำเนินสะดวกนะ กูยังชอบมองสาว ๆ อยู่ ถึงแม้โอกาสที่จะได้มองมันริบหรี่ก็เถอะ
.
.
.
“พิ เสาร์นี้ไปไหนปล่าว กูจะชวนไปไร่ป้ากูที่เขาใหญ่ พวกมึงด้วย ไปกันหมดนี่แหละ ไม่ได้เที่ยวกันนานละ ไท ไปด้วยกันนะ” ผมกำลังจะตอบไอ้วิน
“วันหยุดนี้ผมไปไม่ได้ เอาไว้คราวหน้านะ ผมไปด้วยแน่ ๆ “...ไอ้ไท มึงไปไม่ได้แล้วจะต้องให้กูตกที่นั่งเดียวกับมึงเหรอ... อย่ามามองกูแบบนี้นะ...
“...กูขอตาก่อน แล้วจะบอกมึงอีกที” ก็ผมต้องขอตาจริง ๆ นี่ครับ อย่ามาขำผมนะ!!!!
สรุปสุดท้าย พวกมันก็แฮปปี้ดี๊ด๊ากันที่เขาใหญ่ ส่วนผมก็รับแขกบ้านแขกเมืองที่มาจากญี่ปุ่นด้วยความ....เต็มใจ!!!! เหมือนเดิมล่ะครับ มาแต่เช้า...กว่าจะยอมกลับก็มืด ทั้งที่ก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะถึงเนื้อถึงตัวผมได้ มันก็ยังอยากมาบ้านผม
มัน...ชอบผมจริง ๆ ใช่มั้ยครับ?
แล้วผมล่ะ ?...
ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยคิดจะถามตัวเอง..ว่าผมชอบมันรึเปล่า
ผมไม่ได้รังเกียจไออุ่นจากตัวมัน
ผมไม่ได้อึดอัดที่มันมาอยู่ใกล้ ๆ
ผม...เริ่มชินที่จะต้องฟังมันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังทางโทรศัพท์
แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..ว่าทุกวันนี้ ผมกับมัน...คบกันในฐานะอะไร ?
ถึงมันจะหยอดผมทุกครั้งที่มีโอกาสก็เถอะ
ผม...ทำใจไม่ได้ซักที เฮ้อ...
.
.
เช้านี้ตา ผม กับพี่ช้างขับรถออกมารอรับเพื่อนตา คนที่ตาไปดูรถไถคันเล็กน่ะครับ แกโทรมาบอกตาว่าจะมาเยี่ยม ผมมารอตั้งแต่ 9 โมงเช้า นี่ 11 โมงแล้วเพื่อนตายังไม่โผล่มาเลยครับ ไอ้ไทมันก็โทรหาผมตลอดว่าจะมาหา แล้วมึงจะมาให้ตากูสงสัยทำไม จะตัวติดกูเกินไปม๊าง
ผมสัญญากับมันว่าถ้าผมถึงบ้านแล้วจะโทรบอก แล้วค่อยมาหาผมที่บ้านแทน
เพื่อนตามาแล้วครับ หึหึ มาตอน 11 โมงครึ่ง...มากับลูกสาวแกครับ น่าจะรุ่นพี่ผมหลายปีเหมือนกัน
ผมยกมือไหว้เพื่อนตา และพี่สาวคนนั้น แล้วก็พาไปทานข้าวเที่ยง
พวกผู้ใหญ่ก็คุยกันไป ผมกับพี่ช้างก็ชวนพี่สาวคุย พี่เค้าคุยเก่งเหมือนกันครับ พี่ช้างก็คุยเก่ง ผมเลยให้เค้าคุยกันสองคน5555 ดูเค้าคุยกันถูกคอกันมากเลยครับ มันมีอะไรมากกว่านั้นรึเปล่าวะ? อ๊ะ ๆ มองกันแล้วยิ้มเขิน พี่ช้างงงงง จะหาแม่ใหม่ให้อินล่ะสิ555
เราใช้เวลาที่ร้านอาหารพักใหญ่เลยครับ แล้วก็ขับรถมาที่บ้านผม ผมขับรถมาเองครับ ส่วนพี่ช้าง...ขับรถให้เพื่อนตา555 มาถึงบ้านผมก็พาแขกมานั่งที่เรือนกระจกศาลาท่าน้ำครับ บรรยากาศดี แล้วก็จะได้คุยกันได้สะดวกด้วย ป้าอร กับอินก็หาขนมกับน้ำมาให้แขก ผมเองก็นั่งฟังอยู่ด้วย จนเพื่อนตาขอตัวกลับนั่นล่ะครับถึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน ตาทานข้าว ทานยาแล้วก็เข้านอนเลย ผมเหลือบดูเวลา มัน 6 โมงเย็นแล้วก็เลยไม่โทรหาไอ้ไท เดินให้อาหารปลา ทำโน่นทำนี่ก็เริ่มมืด ผมเดินเข้าบ้านมาก็ต้องตกใจ
ไอ้ไท...มันนั่งคุยกับป้าอรอยู่ มันเหลือบตามามองผมนิดหนึ่ง แล้วก็หันไปคุยกับป้าอรต่อ
เออ...กูผิด แต่มันเย็นแล้วมึงน่าจะอยู่บ้านนะ พรุ่งนี้ก็เจอกันแล้วอ่ะ ผมนั่งลงข้างป้าอร มันก็ไม่เปิดปากทักผมซักคำ เอาเข้าไป...
จนป้าอรขอตัวกลับ มันเดินออกไปส่ง เดินกลับมามันก็ยังเหมือนเดิม หน้าเป็นตูดอยู่เหมือนเดิม
“.........” มึงเป็นอะไรไอ้ไท มองหน้ากูแล้วก็ไม่พูด หน้างอได้อีก ปากเบะเหมือนเด็กโดนขัดใจ ใครเค้ากำตดป้ายหน้ามึงมารึไง กูจะไปขอบใจแถมกราบแทบเท้าเค้าด้วย
“..เป็นไร? ใครทำไรให้? บอกได้นะ”ผมพยายามพูดเพราะ ๆ กับมัน มันมองหน้าผมนิดหนึ่ง...นิดเดียวจริง ๆ ครับ
“.....................” เฮ้อ...เงียบเป็นเป่าสาก เอาใหม่ เอาใหม่
“กินข้าวมายัง ป้าอรทำแกงเทโพปลาสวายให้ไทด้วยนะ ไปกินข้าวกัน” ยังคงเงียบ...
มึงเป็นเหี้ยไรไอ้ไท กูเดาไม่ออกหรอกนะ!!!! ไม่ได้ ไม่ได้ มันยิ่งอารมณ์ไม่ปกติอยู่ ผมต้องพูดดี ๆ กับมัน
ใช่แล้ว...ใส่ความง๊องแง๊งลงไปในน้ำเสียงแบบที่มันชอบทำด้วยดีกว่า
“งั้นดูหนังกัน พิได้หนังใหม่มาด้วยนะ กินข้าวเสร็จเราดูหนังกันเนอะ ไทชอบดูหนังไทยไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้พิก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน เอาขนมไปนั่งกินด้วยดีกว่าเนอะ”... ทำไมมันทำแล้วดูเหมือนง่ายจัง ผมทำแล้วเมื่อยหลอดลมครับ
แต่ก็ดี...มันยอมขยับตัวแล้ว
เอ้า! ไม่เดิน ๆ เข้าล่ะ กูอุ้มมึงไม่ไหวหรอกนะไอ้เหี้ย ขัดใจชิบหายยยย
ผมแตะแขนมันเป็นสัญญาณให้เดิน มันหันมามองหน้าผม ผมก็ยิ้มพิมพ์ใจให้มันไปหนึ่งที
เสือกถอนหายใจใส่หน้ากูอีก...ผมอยากกระทืบมัน
เดินเข้าไปในครัวมันก็นั่ง...เฉยได้อีก ไอ้สัตว์เอ้ยยย
“กินข้าวกันเนอะ พิยังไม่ได้กินเหมือนกัน เดี๋ยวตักข้าวให้นะ” .... เป็นอะไรนักหนาวะ กูอึดอัดแล้วนะไอ้ไท
ครวยยยยยยย
กินข้าวเสร็จมันก็นั่งหน้าหงิกอยู่ที่เดิม ผมนั่งท้าวคางมองมันอยู่แบบนั้น เฮ้อ...
ผมถอนหายใจเฮือกยาว เลื่อนเก้าอี้ออก และเดินดิ่งไปหามัน
“โกรธเรื่องที่ไม่โทรบอกรึเปล่า” ..นั่นไง ใช่จริง ๆ ด้วย
“แขกกลับไปตอนห้าโมงเย็น เราก็เห็นว่าเย็นแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เจอกันที่โรงเรียนอยู่ดี...ก็เลยไม่ได้โทร
ขอโทษ...หายโกรธซะทีเหอะ จะง้อไม่ไหวแล้วนะ”...มันถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ผมรอโทรศัพท์จากพิทั้งวันนะ พิบอกจะโทรหา...ผมก็ไม่อยากจะโทรตามให้รำคาญ แต่สุดท้าย...พิก็ไม่โทร ช่างเถอะ ดูหนังกันก็ได้ เรื่องไรอ่ะ แล้ว..ดูที่ไหนอ่ะ” ผมผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะพามันเดินมาที่ห้องตัวเอง
“มึงยังไม่เคยมาห้องกูใช่มั้ย เข้าห้องกูมึงต้องล้างเท้าในห้องน้ำก่อน แล้วก็เช็ดให้แห้งค่อยเดินบนพื้น เข้าใจ๋”มันพยักหน้าและมองสำรวจห้องผม เดินไปล้างเท้าเสร็จมันก็หยิบโน่นหยิบนี่ดู
ผมเลือกหนังไว้สองเรื่อง เดินไปหยิบขนม น้ำเปล่าขวดหนึ่ง เบียร์อีกสองกระป๋องออกมานั่งกับพื้นกินระหว่างดูหนัง ไอ้ไทมันขำดังมากครับ แต่ผมว่าบางมุขมันก็แป๊กนะ ก็นะมันก็พอดูได้ ดูหนังจบเรื่องหนึ่งผมก็ให้มันดูเรื่องที่สองไปก่อน เพราะเหนียวตัวเลยจะอาบน้ำ ผมเอาเสื้อผ้าเข้ามาผลัดในห้องน้ำครับ ยังไงมันก็ยังช่วยเซฟได้ แล้วมันก็จะได้ไม่คิดว่าผมให้ท่ามันด้วย พอก้าวเท้าออกจากห้องน้ำก็เห็นมันนั่งขำอีกแล้วครับ ผมได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักของมัน หย่อนตูดลงนั่งข้างมันแล้วก็ถาม
“มึงอาบน้ำยังไอ้ไท?”...ตามันมองหนัง แต่หน้ามันส่ายไปมา อ่อ...ยังไม่ได้อาบ เห็นมันตั้งใจดูหนัง ผมก็ไม่อยากชวนมันคุย หลังผมพิงเข้ากับเตียง ตาผมเริ่มจะปิดลงเรื่อย ๆ แล้วครับ แอร์ก็เย็น มีหนังเปิดกล่อมให้นอนอีกต่างหาก ผมก็เลยหลับไปครับ
รู้สึกตัวอีกที ไอ้ไทมันเขย่าตัวปลุกผมให้ตื่น มันปิดทีวีให้เรียบร้อยแล้วครับ
“ผมจะกลับแล้วนะ มันดึกแล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะพิ” มันลุกขึ้นยืน ผมก็นั่งมึนอยู่แป๊บนึง คว้าน้ำมาดื่ม แล้วก็เดินไปส่งมัน เดินเกือบถึงประตุมันก็หยุด ผมก็ชะงัก ถามมันว่าลืมอะไร มันหันหน้ามายิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบมันแบบงง ๆ มันก้มมาฉกจูบผมที่แก้ม ผมก็กระพริบตาปริบ ๆ มองหน้ามัน มันก็ยังยิ้มอยู่ ผมหัวเราะไปเขินไปเลยครับ สมกับเป็นมันแฮะ
มันก้มลงมาหอมแก้มอีกข้างผมก็ปล่อยให้หอม เพราะมันคงเก็บกดอยู่เหมือนกันที่ไม่มีโอกาสได้แต๊ะอั๋งผมมาทั้งอาทิตย์
ผมเองก็ไม่ทันคิด...ถ้ามันเก็บกดที่ไม่ได้หอม
แล้วตัวผมล่ะ...เก็บกดที่ไม่ถูกหอมบ้างรึเปล่า ?
มันกดปลายจมูกลงที่แก้มผมแล้วก็ฟัดแบบมันเขี้ยว ผมก็หัวเราะเพราะหนวดที่เริ่มขึ้นมันตำแก้มผม จั๊กกะจี้มากครับ มันถอนหน้าออกมาแล้วก็หัวเราะเพราะผมขำตลอด
มันสอดมือเข้ามาใต้รักแร้ดึงผมมากอดแบบหลวม ๆ เอาคางมาเกยที่ไหล่ และกระชับให้แน่นขึ้น
“ผมรักพิจัง”...หา? มันว่าอะไรนะครับ ผมดันตัวเองออกมามองหน้ามัน
ไอ้ไทหน้าแดง!!! ผมจะหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเป็นหลักฐานว่ามันยังเป็นมนุษย์มียางอายอยู่ แล้วเอาไปขายใบละ 1,000 เป็นภาพหายาก เหมือนสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ของโลก และมันจะเป็นชิ้นที่ 8 ครับ 555
“เรื่องที่ผมเคยถาม พิคิดรึยัง ผมไม่รีบก็จริง...แต่ผมก็อยากรู้เร็ว ๆ เหมือนกัน
คบกับผมนะ...” ผม...ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้คิดนะ แต่ผม...ไมรู้อ่ะ
ผม....ไม่กล้า
มันเห็นผมเงียบมันก็กอดผมไว้กับอกมัน มือหนึ่งลูบหลังผมเบา ๆ อีกมือก็โอบเอวไว้
ผม...สบายใจจังครับ มันอุ่นใจ ที่รู้ว่าใครซักคน...ไม่ใช่สิ ที่รู้ว่ามันเองก็ยังคงรอคำตอบจากผมเสมอ มันคลายอ้อมกอด แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ แต่หยุดเอาไว้ เหมือนจะขออนุญาตผมก่อน ผมยิ้มบาง ๆ แล้วหลับตาลง
ปากมันแตะลงที่ริมฝีปากผม แล้วผละออก
ก่อนจะจูบประทับริมฝีปากบน
ปลายลิ้นตวัดริมฝีปากล่าง และดูดเบา ๆ
เคลื่อนริมฝีปากเชื่องช้า คลอเคลียไม่ห่างกับริมฝีปากผม
ค่อย ๆ สอดลิ้นเข้ามาดูดชิมปลายลิ้นผมอย่างนุ่มนวล
ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ...และดูเหมือนว่ามันจะรู้
มันจับมือผมมาประทับที่หน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจของมัน
มันใจเต้นแรงกว่าผมหลายเท่า เหมือนอีกนิดเดียวก็จะหลุดออกจากขั้ว...
ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียวหรอกเหรอ ? ผมลืมตาช้า ๆ อยากรู้ว่ามันมองผมตอนจูบรึเปล่า
โชคดีของผมที่มันหลับตา เพราะถ้าสบตากันเวลาจูบ...ผมคงไม่อยากให้มันหยุดอยู่แค่....จูบ
มันถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ผมกับมันลืมตาขึ้นพร้อม ๆ กัน
เราสบตากันเนิ่นนาน...มันไม่ได้โกหกหรอกครับ
ผมเชื่อว่ามันรักผมเข้าแล้ว...จริง ๆ
แต่ผมล่ะ...ผมรู้สึกเหมือน หรือเท่ากันกับมันรึเปล่า
มันดึงผมเข้ามากอดให้แน่นขึ้น และพิงหลังลงกับประตู
หน้าผากผมอยู่ตรงปากมันพอดีครับ ถึงได้รับรู้ว่ามันหายใจแรง...และกำลังพยายามห้ามตัวเองอยู่ มันแหงนหน้าขึ้น หัวแตะกับประตู ท่าทางเหมือนคนยอมแพ้ต่อโชคชะตา ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองมัน มันเองก็ก้มมาสบตากับผม
“พิ...
คบกับผมเถอะนะ
ผมจะคลั่งตายอยู่แล้ว...”
.
.
.
ผม...
ผมจะทำยังไงดีครับ...หรือถ้าคุณเป็นผม...คุณจะทำยังไง กับสถานการณ์แบบนี้...
แต่ผมยังไม่ทันได้ตอบ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดขึ้นซะก่อน
“พิ ยังไม่นอนเหรอลูก
ตาเห็นเปิดไฟข้างล่างทิ้งไว้..” ผมกับมันผละออกจากกันแทบจะทันที เราหันมาสบตากัน มันตะโกนบอกตา
“ผมมาหาพิน่ะครับตา..”แล้วมันก็เป็นคนเปิดประตูออก ยกมือขึ้นไหว้ตา
“ดูหนังกันสองสามเรื่องน่ะครับ นี่ก็ดึกแล้ว...ผมขอตัวกลับก่อนนะครับตา
พิไม่ต้องส่งหรอก เดี๋ยวผมปิดประตูให้เอง สวัสดีครับ”มันพูดม้วนเดียวจบ ตายิ้ม รับไหว้และลูบหัวมัน
ผมเห็นภาพนี้แล้วมันสบายใจครับ อย่างน้อยตาผมก็ยังรัก และเอ็นดูมัน
“ตานอนไม่หลับเหรอครับ” ผมถามตาเมื่อไอ้ไทเดินลับไปแล้ว
“หลับ แต่ตื่นขึ้นมากลางดึกน่ะ...ตาฝันเห็นน้าโย แต่เป็นฝันดีนะ น้าโยดูมีความสุขดี
พิเองก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน เดี๋ยวจะไปง่วงนอนในห้องเรียนนะลูก
ตาจะเข้าไปสวดมนต์ห้องพระ เดี๋ยวตาเข้านอนเอง” ผมยิ้มให้ตา ปิดประตู เก็บกวาดห่อขนมลงถังขยะ และล้มตัวลงนอน
มือแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ แล้วกระหวัดนึกไปถึงคนที่ทำให้ริมฝีปากผมบวมเห่อขึ้นมา
ถ้าคราวหน้า..มันถามผมอีก
ผม...
ผมอาจจะลองคบกับมันดู
ถ้ามันถามน่ะนะ
ยิ้มอะไรกันครับ...ผมแค่คิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง
วันนี้พระจันทร์ก็ยังสวยเหมือนเดิม..ถึงจะไม่เต็มดวงเหมือนเมื่อวันก่อน แต่มันก็ยังคงความสวยอยู่ดี...
ผมนอนมองพระจันทร์..และเผลอหลับไป
หวังว่าวันพรุ่งนี้...
ผมจะมีคำตอบดี ๆ ให้มันนะครับ
.....................................................